โบอา งูยักษ์ (2549/2006) คุณจะไม่มีวันลืม ความสยองขวัญครั้งใหม่ ที่รอกลืนกินทุกคนอยู่ในความดิบเถื่อนของพงไพร “โบอา งูยักษ์” …ท่ามกลางธรรมชาติแห่งขุนเขาและพงไพร มีบางอย่างเร้นกายภายใต้ป่าลึกนั้นอย่างเงียบๆ… “พนา” ชายหนุ่มที่รักการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจ เขาชอบเดินทางไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ เพื่อเก็บภาพความสวยงามไว้เป็นที่ระลึก วันหนึ่งพนาได้ไปท่องเที่ยวในป่าแห่งหนึ่งแถวเขตชายแดน ขณะที่เพลิดเพลินกับการเก็บภาพธรรมชาติที่สวยงามอยู่นั้น โดยไม่ทันตั้งตัว เขาโดนบางอย่างลากไปกินอย่างน่าสยดสยอง กลุ่มเพื่อนสนิทของพนาที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง คือ “คิน, โก้, เสิด, ก๋อย, สีดา” และ “แพร” แฟนสาวของพนา ทราบข่าวที่พนาหายไปอย่างลึกลับ จึงตัดสินใจที่จะเข้าไปตามหาพนาด้วยตัวของพวกเขาเองในป่า โดยการโดยสารไปกับบอลลูน ด้วยเหตุผลที่ว่าจะได้เห็นวิวด้านล่างของป่าอย่างชัดเจน แต่แล้วพวกเขาก็ต้องมาผจญกับลมพายุฝนรุนแรงจนทำให้บอลลูนตกกลางป่าลึกแห่งหนึ่ง ในค่ำคืนที่ฝนตกกระหน่ำ ทั้งหมดมาหลบฝนที่ใต้รูปปั้นแกะสลักพญานาค ทุกคนประหลาดใจจึงเดินขึ้นไปตามทางบันไดหินจนพบปากถ้ำ ทั้งหมดตัดสินใจเข้าพักแรมในถ้ำลับกลางป่าแห่งนั้น โดยหารู้ไม่ว่าพวกเขาได้ย่างกรายเข้าสู่อันตรายที่ยากจะต้านทานได้ …บางสิ่งกำลังเลื้อยออกจากการแฝงกายภายในถ้ำ เพื่อรับการมาเยือนของแขกผู้ไม่ได้รับเชิญโดยเฉพาะ… “งูยักษ์” ที่อาศัยอยู่ในถ้ำลับนั้น ไม่รีรอที่จะออกมาต้อนรับเหล่าหนุ่มสาวกลุ่มนี้ด้วยการกลืนกินพวกเขาทีละคนๆ ไม่ต่างจากเหยื่ออันโอชะ ผู้รอดตายจากคมเขี้ยวงูยักษ์ของค่ำคืนสยองนั้น จำเป็นต้องกระเสือกกระสนหาทางออกและวิธีทำลายงูยักษ์นั้น ก่อนที่มันจะคืบคลานเข้าใกล้พวกเขาอีกครั้งหนึ่ง แต่เมื่อสุดทางหนี พวกเขาจึงต้องเผชิญหน้าสู้กับมันแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน นี่ดูเหมือนจะเป็นทางเดียวเท่านั้น ที่จะทำให้พวกเขา…รอดชีวิต
มนต์ผีบอก (2547/2004) เมื่อวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งคิดแก้แค้นเพื่อนด้วยวิธีลึกลับทางไสยศาสตร์ โดยการนำดินจากป่าช้า 7 แห่ง ตามตำรา "เจ็ดป่าช้า" มาปลุกเสกด้วยมนต์ผีบอก แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่านอกจากความสะใจที่ได้แล้ว "หายนะ" กำลังไล่ล่าอยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย เมื่อความน่าสะพึงกลัวปนสยดสยองของ "เงา" ลึกลับที่มองไม่เห็นได้ตามไล่ล่าอย่างไม่ลดละ พวกเขาจะลบ "อาถรรพ์" นี้ลงได้อย่างไร..??
ทวิภพ (2547/2004) มณีจันทร์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษระดับ 6 สาขาประวัติศาสตร์ ประจำกงสุลไทยนครปารีส ถูกเรียกตัวด่วนในคืนนั้น ในฐานะตัวแทนผู้เกี่ยวข้องกับประเทศสยาม อันเป็นที่มาของบันทึกนั้น วัวอิยา ถูกจัด ระดับความสำคัญเพียง “นิยายไร้สาระ” แต่ในความคิดของ มณีจันทร์ มันเป็นสิ่งที่น่าค้นหา …เธอได้ล่วงล้ำเข้าไปในดินแดนแห่งความลับที่ถูกกำหนดไว้จากบันทึกนี้ ดินแดนที่เธอไม่เชื่อว่าเป็นจริงเมื่อแยกจากโลกปัจจุบัน ..หญิง สาวต้องกลับประเทศไทยด้วยเหตุผลบางประการ ที่บ้านเกิดในเมืองไทย มณีจันทร์ สับสนและแยกแยะไม่ออกว่า ตัวเธออยู่ในความเป็นจริงอันใด.. “วันนี้คืออดีตของพรุ่งนี้ ? หรือ วันนี้คืออนาคตของเมื่อวาน ?” “มณีจันทร์” จะอยู่ในตำแหน่งไหนของตัวเธอเอง หลายครั้งที่เธอคิดอยู่เสมอว่า เธอเป็นต้นเหตุของบันทึกเสียเองหรือไม่ ? และการเดินทางครั้งใหม่ของ มณีจันทร์ ก็เริ่มขึ้น เมื่อภาวะสมดุล ความจริงกึ่งฝัน นำ มณีจันทร์ สู่ดินแดนที่แปลกหน้าทีละน้อย ดินแดนนั้นคือบ้านเกิดเมืองนอนของเธอนั่นเอง แต่เธอเป็นคนแปลกหน้าของที่นั่น…เธอได้กลับไปสู่บ้านเมืองของเธอเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว กลับไปสู่ “สยาม” แห่งการเริ่มต้นของอารยธรรมใหม่ กลับไปสู่ รัชสมัยพระจอมเกล้าฯ ยุคแห่งการเอาตัวให้รอดจากการล่าอาณานิคมของตะวันตก ยุคที่ต้องยอมรับว่า “ภาษาอังกฤษคือภาษาอนาคต” “การกลับไปได้เห็น” ของมณีจันทร์เหมือนความฝันที่มีอยู่ในตัวเราทุกคน แต่อย่างไรก็ตาม คำว่า “ไม่มีที่ไหนเหมือนบ้าน” ก็ยังเป็นสิ่งเตือนใจเสมอ ..แต่ที่ไหนล่ะคือบ้านที่แท้จริงของเธอ ? ที่ใดคือปัจจุบันของเธอ ? ความรักอยู่ที่ภพไหน ? การเสียดินแดนครั้งสำคัญที่สุดในสยาม หรือ “วิกฤตการณ์ ร.ศ. 112”..คือบทสุดท้ายของเรื่องราว รวมทั้งเป็นวิกฤตสำคัญของเธอด้วย เหตุการณ์ที่ปากน้ำ ใน “วิกฤต ร.ศ. 112” ทำให้มณีจันทร์ต้องเสียสละความรัก เพื่อ คงอดีตที่ถูกต้องไว้ มณีจันทร์ ได้เข้าใจว่า “ความทุกข์ที่เกิดจากความรัก ไม่ใช่เพราะมันจากไป หากแต่เพราะมันยังอยู่ต่างหาก”
คนสั่งผี (2546/2003) เรื่องราวของชายหนุ่มผู้มีวิถีชีวิตต่างจากคนทั่วไป เมื่อเขามีอำนาจที่สามารถควบคุมสิ่งที่มีพลังเร้นลับเหนือธรรมชาติให้เข้ามาอยู่ในการปกครองได้ โดยอาศัยเทคโนโลยีใหม่บวกกับพลังทางไสยศาสตร์มาเป็นเครื่องมือ ปิโรญาณ เป็นชายหนุ่มเจ้าของเวบไซต์ชื่อ www.ผีหลอก.com มีอุปนิสัยสันโดษ และไม่เคยรู้จักความหมายของคำว่ารัก ทุกๆ วันเขาจะออกตามล่าหาดวงวิญญาณใหม่ๆ มาไว้ใช้งานในการรับจ้างหลอกตามคำสั่งของลูกค้าทางอินเตอร์เน็ต จนกระทั่งวันหนึ่งโชคชะตาได้นำเอาผีสาวมาเข้ามาเกี่ยวพันกับชีวิต ทำให้ ปิโรญาณ รู้จักกับคุณค่าของคำว่ารักเป็นครั้งแรก แต่ก็ต้องเผชิญกับศัตรูที่คาดไม่ถึง แม้ด้วยพลังใจที่แข็งแกร่งบวกกับอานุภาพของความรัก ทำให้เขาฝ่าฟันอุปสรรคครั้งนี้ไปได้ แต่ปิโรญาณยังต้องเผชิญกับปัญหาสำคัญที่ทำให้เขาต้องใช้การตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ และจุดจบของเรื่องราวทั้งหมดคือบทสรุปทุกๆ อย่างในชีวิตของเขา
แก้วขนเหล็ก (2546/2003) นฤดม (คงกะพัน แสงสุริยะ) ทายาทคนเดียวแห่งบ้านประชานาถ ซึ่งสำเร็จการศึกษามาจากประเทศอินเดีย และกำลังมีโครงการจะแต่งงานกับ โชติรส (พรทิพย์ วงศ์กิจจานนท์) แฟนสาว แต่เมื่อเขาได้รับมรดกตกทอดเป็นบ้านหลังใหญ่ที่ถูกขนานนามว่า ปราสาทพยับเมฆ นฤดมเข้าไปสำรวจปราสาทพยับเมฆ ชายหนุ่มผู้แสนดีก็มีอุปนิสัยและวิถีการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป นฤดม เอาแต่ฝังตัวอยู่กับปราสาท เขานำคัมภีร์เร้นลับบรรจุคาถาชีวิตวัฒนะที่ได้มาจากองค์ลามะแห่งทิเบตมาไว้ที่ปราสาท แล้ววันหนึ่ง นฤดม ก็กลายเป็นผู้ชุบชีวิตแห่งจอมปีศาจร้าย เมฆินทร์ (วินัย ไกรบุตร) ให้ลุกขึ้นมาโลดแล่นในโลกยุคปัจจุบัน นับแต่นั้น กลิ่นไอของเลือดสด ๆ และความตายก็คละคลุ้งไปทั้งปราสาทพยับเมฆ วิทวัส ( นินนาท สินไชย) รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลที่เกิดกับเพื่อนรักจาก โชติรส เขากับ รมณีย์ (ภิสสรา อุมะวิชนี) แฟนสาวจึงตัดสินไชยเดินทางไปยังปราสาทพยับเมฆเพื่อหาทางหยุดยั้งเหตุการณ์ร้าย ๆ ทั้งหลาย แต่ดูเหมือน นฤดม จะไม่สนใจรับฟังเขาเหมือนเก่า วิทวัส พยายามหาทางขโมยคัมภีร์ชีวิตวัฒนะจาก นฤดม เพื่อสวดคาถาย้อนกลับหวังจะให้ความสงบสุขกลับคืนสู่ที่นี่ดุจเดิม แต่ดูเหมือนทุกอย่างไปไกลเกินกว่าจะหยุดยั้งได้แล้ว ตรงกันข้ามทั้ง วิทวัส กับ รมณีย์ กลับกลายเป็นส่วนแห่งปมรักปมแค้นที่ฝังลึกอยู่ในใจจอมผีดิบ เมฆินทร์ไปเสียอีก นฤดม ที่ตอนนี้กลายเป็นสาวกคนสำคัญภายใต้อำนาจบัญชาของของ เมฆินทร์ พยายามทำทุกอย่างเพื่อหาเหยื่อสาว ๆ สวยๆ มาให้ เมฆินทร์ ดูดเลือดเพื่อดำรงชีวิตอันเป็นอมตะที่เปี่ยมด้วยพลังอำนาจไม่สิ้นสุด ชีวิตบริสุทธิ์จากสิบคนเป็นร้อยคนและมากขึ้น ๆ เรื่อย ๆ กลายเป็นกองกำลังปีศาจร้ายที่ทรงพลานุภาพซึ่งคืบคลานขึ้นมาเพื่อยึดครองทุกอณูพื้นที่แห่งปราสาทพยับเมฆ เป็นเสมือนกำแพงเหล็กกล้าที่พร้อมพิทักษ์รักษาเจ้านายของพวกเขาคือ เมฆินทร์ ไม่ให้ใครมาแตะต้องทำร้ายได้ เมื่อ วิทวัส รมณีย์ เมฆินทร์ ประจัญหน้ากันโดยมีปมแห่งความหลังของหนี้รักหนี้แค้นแต่ชาติปางก่อนเป็นแรงผลักดัน เรื่องราวอันเข้มข้นยิ่งทวีขึ้น
สาบเสือที่ลำน้ำกษัตริย์ (2545/2002) ต้นรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ “ปีเตอร์ เบย์น” (Peter Bain) อดีตนายทหารอังกฤษจากเมืองมัณฑะเลย์ถูก “เจ้าสัวหยาง” พ่อค้าของป่าชาวจีนเมืองบางกอกจับได้ว่าเอาปืนชำรุดมาหลอกขาย จึงถูกบังคับให้ร่วมคณะไปกับพรานป่าของเจ้าสัวหยางเพื่อล่าเสือด้วยปืนชำรุดเหล่านั้นให้ได้ หรือไม่ก็ถูกเสือฆ่าตาย ขณะเดียวกัน “วัน” ภิกษุหนุ่มอดีตพรานป่าก็ลาสิกขา เพราะถูกวิญญาณอาถรรพ์ของเสือร้ายตัวหนึ่งคุกคามทุกๆ ครั้งที่เขาพยายามจะนั่งกรรมฐาน วันและปีเตอร์ต่างเดินทางสู่หมู่บ้านกลางดงลึกใกล้แดนพม่า และพบกับ “จูเลีย” พรานสาวเลือดอเมริกัน-กะเหรี่ยงโดยไม่รู้ว่าชะตากรรมกำลังพาเขาทั้งสามไปพบกับนางเสือร้ายตัวหนึ่งซึ่งพร้อมจะเอาชีวิต วันเข้าร่วมกับปีเตอร์ จูเลีย และพรานของเจ้าสัวหยางออกตามล่าช้างงายาวตัวหนึ่งซึ่งเชื่อกันว่ามี “เสือสมิง” ให้ความคุ้มครอง ทั้งหมดพลัดเข้าสู่อาณาจักรของช้างงายาวและนางเสือร้ายที่มีดวงวิญญาณของ “เนียน” หญิงสาวผู้ถูกฆ่าตายอย่างทารุณ ระหว่างสงครามลำน้ำกษัตริย์เมื่อเกือบร้อยปีก่อนสิงอยู่ และได้เข้าถึงใจกลางป่าลำน้ำกษัตริย์ซึ่งเต็มไปด้วยอาถรรพ์ลี้ลับก่อนที่ช้างจะถูกพวกพรานยิงบาดเจ็บ ความอาฆาตของวิญญาณเนียนซึ่งสิงอยู่ในร่างของเสือร้ายรุนแรงถึงขนาดแปลงร่างเป็นมนุษย์ตามไปเล่นงานผู้คนในหมู่บ้านกลางป่าอันเป็นที่ตั้งสถานียิงสัตว์ของเจ้าสัวหยาง และเมื่อจวนตัว เนียนก็อาศัยพลังจิตอันแก่กล้าเข้าครอบงำวันและพาวันจากไป ปีเตอร์และจูเลียตามไปช่วยวัน เมื่อวันคืนสติ เขาพยายามจะปลดปล่อยเนียนจากแรงอาฆาตของอดีต ขณะที่พวกพรานของเจ้าสัวหยางมุ่งจะกำจัดเนียน และฆ่าช้างงางาม ความโลภ ความอาฆาต และกรรมเก่าจากอดีตชาติเข้ามาพัวพันระหว่างคนเหล่านั้น จน “ป่าลำน้ำกษัตริย์” คาวคลุ้งไปด้วยเลือดและความตายอีกครั้ง…
ขุนแผน (2545/2002) เรื่องเล่าจากปากชาวบ้านขับขานเป็นวรรณกรรมราชสำนัก ว่าด้วยเรื่องของหนึ่งหญิงสองชาย ซึ่งมีชะตาแผลงให้อุตริคิดเล่นเป็นโจรแย่งชิงเมียผัวแต่วัยเยาว์ ใครเล่าจะรู้ว่า เมื่อกาลเติบใหญ่ เหตุคราวนั้น กลับเป็นลางบอกถึง โศกนาฎกรรมแห่งความรักแสนสะเทือนใจ ขุนแผน (วัชระ ตังคะประเสริฐ) ชายผู้ต้องการจะเป็นยอดคนด้วยการเป็นเจ้าของอำนาจวิเศษทั้งสามสิ่ง คือ ดาบฟ้าฟื้น ม้าสีหมอก และกุมารทอง เขาผ่านช่วงชีวิตที่รุ่งโรจน์ และตกต่ำจนถึงขีดสุด ชะตาพลิกพันทำให้ต้องจากพิมพิลาไลยคนรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยเป็นชายหนุ่มรูปงาม ทำให้มีสาวงามมาพัวพันสม่ำเสมอ จวบเมื่อถึงวันที่เขาเข้าใจได้ว่าอำนาจอันยิ่งใหญ่มิได้นำมาซึ่งความสุข และต้องการละทิ้ง ทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ด้วยกิเลส และวังวนแห่งตัณหาที่สร้างมา เขาจึงต้องทำใจยอมรับผลกรรม ที่ก่อไว้ ขุนช้าง (อภิชัย นิปัทธหัตพงศ์) ชายร่างอ้วนใหญ่ เกิดมาพร้อมหน้าตาอัปลักษณ์ แต่ไม่ได้อาภัพจนเกินไป ด้วยมีฐานะร่ำรวย เป็นพ่อค้า และคนรับใช้ใกล้ชิดกษัตริย์ เขาหลงรักพิมพิลาไลยด้วยใจที่บริสุทธิ์ ทั้งที่รู้ว่านางมีใจรักมั่นคงให้กับพลายแก้ว แต่แล้วความรักกลับทำให้เขาพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อช่วงชิงนางมาเป็นของตน ไม่ว่าจะด้วยทรัพย์สิน หรือเล่ห์กล จนท้ายที่สุดต้องระทมทุกข์ เพราะความรักที่มากเกินไป พิมพิลาไลย (บงกช คงมาลัย) สาวงามผู้ตกเป็นที่หมายปองของสองชาย จนทำให้ท้ายที่สุดต้องถูกตราหน้าว่าเป็นหญิงสองใจ นางมีใจรักแท้ต่อพลายแก้ว แต่แล้วกลับต้องทุกข์ใจในความมักมากไม่รู้จักพอ จนเมื่อหลงเล่ห์กลจำต้องตกเป็นของ ขุนช้าง ขุนช้างเฝ้าดูแลทะนุทะนอมนางเป็นอย่างดี แต่ทั้งคู่กลับแก่งแย่งนางไปมา จนนางถูกหาว่าเป็นเหตุ แห่งความโกลาหลจนต้องโดนพิพากษา เมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกระหว่างชายสองคนนี้ นางจึงใช้ทางเลือกเป็นเครื่องเตือนสติแก่คนทั้งสอง สุดท้ายชะตากรรมจะนำพาคนทั่งสามไปอย่างไร ติดตามได้ใน “ขุนแผน”
Krai Thong ไกรทอง (2544/2001) ชาละวัน (เจ็ท ผดุงธรรม) เป็นจระเข้พันธุ์ใหญ่โตมโหฬาร ซึ่งมีความยาววัดจากปลายจมูกถึงปลายหางได้ 7.60 เมตร สามารถกินคนที่มีความสูง 1.90 เมตรได้ถึง 4 คน หรือเท่ากับวัว 2 ตัวได้อย่างสบาย จระเข้ชาละวันได้อาศัยอยู่ใต้แม่น้ำแห่งเมืองพิจิตร เมื่ออยู่ในถ้ำใต้น้ำ จะแปลงร่างเป็นมนุษย์ชายรูปหล่อ เจ้าชู้ จึงมีจระเข้สาวสวยเป็นเมียอยู่ถึง 2 คนคือ วิมาลา (แชมเปญ เอ็กซ์) และ เลื่อมลายวรรณ (ชุติมา เอฟเวอรี่) ซึ่งเมืองอยู่ในร่างมนุษย์ จะมีรูปโฉมงดงาม ผิวพรรณผ่องใส น่าลุ่มหลง แต่ชาละวันเป็นจระเข้ที่มีนิสัยโหดเหี้ยม อันธพาล ชอบขึ้นมาอาละวาดกินคนเป็นว่าเล่น จนซากศพเกลื่อนกลาด มีทั้งหัว แขน ขา อวัยวะต่างๆ กระจัดกระจายแยกส่วนไป ทั่วริมตลิ่งและท้องน้ำ จนชาวบ้านไม่กล้าลงเล่นน้ำ ความดุร้ายของจระเข้ชาละวัน ได้โจษจันไปทั่วหัวเมืองท้ายเมือง จนท่านเศรษฐีแห่งเมืองพิจิตร (สามารถ แสงเสงี่ยม) ได้ตกลงใจที่จะทำพิธีปัดรังควาญ โดยการนำหญิงสาวพรหมจารี 8 คน นุ่งชุดขาว บนแพที่ใส่ดอกไม้ และตุ๊กตาจำนวนมาก นำไปลอยแพกลางน้ำ ซึ่งพิธีนี้เรียกว่า "พิธีเสียบกระบะ" โดยให้ลูกสาว 2 คน เป็นผู้นำขบวนพิธีคือ ตะเภาแก้ว (ปรายฟ้า สิริวิชชา) ผู้เป็นพี่สาว และ ตะเภาทอง (วรรณษา ทองวิเศษ) ผู้เป็นน้องสาว แต่ในระหว่างที่พิธีกำลังดำเนินไปยังไม่เสร็จ พญาจระเข้ชาละวันก็โผล่ขึ้นมา ด้วยหางที่ใหญ่โต ฟาดแพในพิธีแตกหักกระจายเกลื่อนแม่น้ำ หญิงสาวพรหมจารีทั้ง 8 คน ต่างตกใจ แหวกว่ายน้ำหนีอลหม่าน ท่านเศรษฐีสั่งให้ชาวบ้านลงไปช่วยเหลือ ก็ถูกชาละวันใช้ปากและฟันอันแหลมคมกริบ งับร่างชาวบ้านผู้เคราะห์ร้าย ฉีกกระชากจนตัวขาดสองท่อน จนเลือดนองเต็มท้องน้ำ ฉับพลัน พญาจระเข้ชาละวันก็พุ่งตัวมา คาบเอาร่างตะเภาทอง แล้วมุดลงน้ำหายไปต่อหน้าต่อตาทุกคน ท่านเศรษฐีถึงกับโมโห ประกาศลั่นว่า หากใครสามารถฆ่าพญาจระเข้ตัวนี้ได้ และช่วยตะเภาทองขึ้นมาได้ จะให้แต่งงานกับลูกสาวทั้งสองคนทันที ในที่สุด หนุ่มหน้ามาดหล่อเหลาคมเข้ม ท่าทางทะมัดทะแมงสมชายชาตรี ชื่อ ไกรทอง (วินัย ไกรบุตร) เดินทางมาจากเมืองนนทบุรี ขึ้นมาที่เมืองพิจิตร เพื่อปราบจระเข้ และช่วยเหลือลูกสาวเจ้าเมืองพิจิตร ไกรทองเป็นพรานจับจระเข้ ที่เก่งจนหาตัวจับยาก ทั้งเรียนวิชาอาคมมาจากอาจารย์ชื่อดัง จึงนำเทียนมาระเบิดน้ำแหวกเป็นช่อง ดำลงไปถึงใต้บาดาล ซึ่งไม่เคยมีมนุษย์คนไหน สามารถดำมาถึงได้ ไกรทองได้เข้ามาในถ้ำใต้น้ำ แต่กลับเจอวิมาลาและเลื่อมลายวรรณ ซึ่งเป็นจระเข้สาวสวยมีเสน่ห์ ทำให้ไกรทองหลงรัก จนมีสัมพันธ์สวาทด้วยกัน ซึ่งทั้งวิมาลาและเลื่อมลายวรรณ ก็หลงรักไกรทอง อย่างเต็มใจด้วยกันทั้งคู่ เพราะต้องมนต์สะกดของไกรทองนั่นเอง หลังจากนั้น ไกรทองก็หาตะเภาทองเจอ จึงช่วยเหลือพาขึ้นบนผิวน้ำ ท่ามกลางความอาลัยอาวรณ์ ของวิมาลาและเลื่อมลายวรรณ ซึ่งตามขึ้นมาไม่ได้ เพราะเมื่อออกจากถ้ำเมื่อไร ร่างมนุษย์จะกลายเป็นจระเข้ทันที ฝ่ายท่านเศรษฐีเจ้าเมืองพิจิตร ก็ทำตามคำพูดทุกอย่าง โดยจัดพิธีแต่งงานให้กับไกรทอง และลูกสาวทั้งสองคนอย่างใหญ่โต ระหว่างนั้น พญาจระเข้ชาละวันกลับมาถึงใต้น้ำ รู้เรื่องจากวิมาลาและเลื่อมลายวรรณ ก็แค้นเคืองยิ่งนัก ด้วยความลุ่มหลงและรักตะเภาทอง จึงตามขึ้นมา เพื่อมาเอาตะเภาทองคืน ชาละวันขึ้นมาอาละวาด ฟาดหางจนเรือและแพที่ลอยอยู่กลางน้ำ ถึงกับล่มและแตกพังทลาย ทำร้ายคนที่ตกน้ำ ทั้งกัดและกิน แล้วยังใช้หาดฟาดโดนบ้านเรือน ที่ปลูกอยู่ริมน้ำพัง ทั้งคนและบ้านเรือนจมหายไปในน้ำทันที ชาละวัน อาวะวาดด้วยความโมโหเกรี้ยวกราด และรุนแรงจนรู้ไปถึงหูไกรทอง จึงคว้าหอกอาวุธคู่ชีพ กระโดดลงแพไปต่อสู้กับพญาจระเข้ชาละวันทันที..
มัจจุราชตามล่าข้าไม่สน (2541/1998) นัท อ้น และวิช นักศึกษาหนุ่มคณะสถาปัตย์กรรมปีสุดท้ายในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ทั้งสามเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก พวกเขาเช่าอยู่คอนโดร่วมกันชั้นที่ 23 ใกล้บ้านแว่นเพื่อนซี้อีกคน บ้านแว่นเป็นศาลเจ้าจีนเก่าแก่ บรรพบุรุษของแว่นเป็นคนเฝ้าศาลเจ้ามาหลายชั่วอายุคน ซึ่งตกทอดมาเป็นของแว่นเป็นคนสุดท้าย ด้วยความน่ากลัวของ ศาลเจ้า ทำให้กลุ่มของนัทและเพื่อนๆไม่ชอบมาบ้านแว่นนัก นอกจากมีงานปาร์ตี้ที่นานๆ จะจัดสักครั้ง ลึกลงไปในความมืดมิด ฝ่ายสุวรรณและสุวาลย์สองยมทูตที่ส่งตัวมาตามล่าวิญญาณของ “นัทพงษ์” และเพื่อนอีก 2 คน ตามจุดตาย แต่ด้วยความบังเอิญที่ชื่อของ “นัท ” ไปพ้องตรงกับชื่อผู้ตาย นัทและเพื่อนจึงถูกกระชากวิญญาณ นำไปนรกภูมิ ทั้ง 3 คน เมื่อรู้ว่าเกิดความผิดพลาดขึ้น แต่ก็ได้ล่วงรู้ความลับของสวรรค์อย่างหนึ่งว่า อีกสามวันข้างหน้าพวกเขาจะต้องตายพร้อมกัน และยังแอบดูบัญชีตายของแว่นเพื่อนรักอีกด้วย วันและเวลาตายของแว่น ก็คือวันเกิดของเขาปีนี้เอง เมื่อท่านมัจจุราชปล่อยตัวพวกเขากลับไป นัทจึงหลอกล่อให้สองยมทูตบอกที่ตายของพวกตน ยมทูตหลงกลจึงพาไปดูที่ตาย เป็นที่หน้าตึกสูงแห่งหนึ่งกลางใจเมืองกรุงเทพฯ ทั้งสามจำสถานที่แห่งนั้นได้อย่างแม่นยำ ก่อนที่สองยมทูตจะพานัทและเพื่อนกลับไปส่งคืนร่าง พวกเขาได้พบกับชายอ้วนผู้หนึ่งร้องไห้โหยหาแฟนที่เพิ่งตายจากไป เมื่อนัทและเพื่อนผ่านเหตุการณ์ในนรก จึงหาวิธีที่พวกเขาจะผ่านพ้นความตายไปได้โดยความช่วยเหลือจากแว่น แว่นทำให้นัทและเพื่อนไม่ไปยังที่จุดตาย ดังนั้นทุกคนจึงผ่านความตายมาได้อย่างหวุดหวิด เมื่อเรื่องราวรู้ถึงท่านมัจจุราชจึงโกรธแค้นและออกคำสั่งอย่างเด็ดขาดโดยให้ลูกน้องทั้งสองไปล่าชีวิตทั้งสามคนมาให้ได้ก่อนสามเดือน ในขณะที่พวกเขากำลังสับสนกับชีวิตก็ได้พบกับพิม นางเอกละครของชมรมที่นัทและเพื่อนร่วมทำกันอยู่ทำให้พวกเขาดูชีวิตชีวาขึ้น ฝ่ายแว่นก็พยายามหาทางติดต่อกับยมทูตเพื่อที่จะถาม จุดตายของตนบ้างเพราะว่าแว่นรู้แค่วันตายของตนเองเท่านั้น ทั้งสองฝ่ายต่างตามล่ากันอย่างเฉียดฉิว เรื่องราวความสนุกสนานดำเนินมาจนถึงวันเกิดของแว่น ซึ่งทุกคนรู้ว่าวันนั้นเป็นวันฉลองวันเกิดครั้งสุดท้ายของเพื่อนรัก ทุกคนฉลองวันเกิดด้วยรอยยิ้มปนคราบน้ำตาเพราะรู้ว่าต้องเสียเพื่อนไปแน่ๆ และก็ไม่มีอะไรมาหยุดการตามล่าของยมทูตได้แว่นจึงต้องตาย ฝ่ายมัจจุราชก็สั่งให้สองยมทูต สุวรรณและสุวาลย์ ขึ้นไปนำตัวเด็กหนุ่มทั้งสามไปยังจุดตายให้ทันเวลา 10 โมงเช้าของวันรุ่งขึ้น เพราะจะครบกำหนดสามเดือน ถ้าเกิดความพิดพลาดอีกครั้งพวกเขาทั้งสามจะไม่มีวันตายอีกเลย ทั้งสามตกลงเล่าความจริงให้พิมทราบพิมเห็นใจไม่ให้พวกนัทออกจากบ้านตอนสิบ โมงเช้า เรื่องนี้ท่านมัจจุราชเห็นทีไม่ได้การณ์ จึงใช้กำลังของตนจัดการเสียเองเพราะเกรงว่าจะพลาดเหมือนทุก ๆที่ที่ผ่านมา ความสนุกจึงเกิดขึ้น
อุแว้สวรรค์ มหัศจรรย์ข้ามโลก (2540/1997) ณ โรงเรียนฝึกหัดกามเทพบนสวรรค์ อันเป็นที่พำนักของเหล่าเทวา มีนางฟ้า มินนา (ช่าชา อัลเทอร์แมท) เป็นผู้สอนและดูแลเทวดาตัวน้อย ทางด้านโลกมนุษย์แก๊งวัยรุ่น 2 แก๊งทะเลาะวิวาทกันตลอดเวลา ยีนส์ (ฌัชฌา รุจินานนท์) หลงรัก อาร์ม (อัษฏา พานิชกุล) ซึ่งอยู่คนละแก๊ง วันหนึ่งอาร์มไปพบ ไอม่อน (ธัญญลักษณ์ ภักดี) กามเทพจอมซนพลัดหลงจากสวรรค์ลงสู่โลก เรื่องวุ่นๆ จึงเกิดขึ้น เมื่อนางฟ้ามินนาลงมาตามหาไอม่อน จึงเกิดรัก 3 เส้าระหว่างมนุษย์กับนางฟ้า บนสวรรค์ที่พักพิงของเหล่าเทพเทวาทั้งหลาย มีโรงเรียนสอนการใช้เวทมนต์ โดยการสอนของครูมินนา หนึ่งในนักเรียนของเธอนั้นก็มี ไอม่อน กามเทพน้อยจอมซน ด้วยความซุกซนทำให้ไอม่อนพลัดตกสวรรค์หล่นลงไปในเมืองมนุษย์ทันที ที่โลกมนุษย์แสนวุ่นวาย มีแก็งค์วัยรุ่น 2 แก็งค์ แก็งค์แรกเป็นฝ่ายคนดี สมาชิกในกลุ่มได้แก่ อาร์ม,โจ้, กอล์ฟ, แด็ก, เอ, กวาง, และสาวคนเดียวในกลุมนี้คือแอล ส่วนอีกแก็งค์หนึ่งมีสมาชิกคือ ไมค์, บอย, เอ็ม, แจ๊ค, แม็ค, โก้, และขวัญใจประจำกลุ่ม ยีนส์ ทั้งสองแก็งค์นี้ไม่ค่อยถูกกัน แต่ก็มีเรื่องแปลกอยู่อย่างหนึ่งคือ ยีนส์นั้นหลงรักอาร์ม และอาร์มก็มีใจให้เสียด้วย อยู่มาวันหนึ่งกลุ่มของอาร์มได้เจอเด็กทารกซึ่งก็คือ ไอม่อนนั่นเอง กลุ่มอาร์มจึงตัดสินใจนำไปคืนตำรวจแต่ระหว่างที่นำไปคืน ก็มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นด้วยเวทมนต์ของไอม่อน…กลับมาที่สวรรค์ ก็เกิดโกลาหล วุ่นวายเมื่อนักเรียนกามเทพหายไป คุณครูมินนาจึงต้องลงมาหาตัวกลับขึ้นสวรรค์ ที่โลกมนุษย์ทั้ง 2 แก็งค์นัดแข่งฮ็อกกี้ แต่สุดท้ายกลายเป็นยกพวกตีกัน เมื่อไอม่อนเห็นดังนั้นจึงใช้เวทมนต์ให้ทั้ง 2 แก็งค์เข้าไปอยู่ในสนามรบจริงๆ จากที่เคยตีกันกลับมาเป็นช่วยเหลือกันให้พ้นจากสงคราม ขณะนั้นมินนาก็ลงมาโลกมนุษย์และช่วยทั้ง 2 แก็งค์ให้กลับมาโลกปัจจุบันได้ แล้วทั้ง 2 แก็งค์ก็คืนดีกัน ความวุ่นวายไม่จบแค่นั้นเมื่อไอม่อน แผลงศรไปโดนอาร์มกับมินนา ทำให้ทั้งสองรักกัน ย้อนไปบนสวรรค์เมื่ออาจารย์ใหญ่และแม่นมสวรรค์เห็นว่านางฟ้ามินนาให้เวลามาตามไอม่อนนานเกินไปจึงลงมาตามเอง จนในที่สุดก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันถึงขั้นเมื่ออาร์มโดนยิงตาย มินนาเลยพาอาร์มขึ้นมาบนสวรรค์เพื่อจะอยู่ด้วยกัน แต่แล้วมินนาก็ได้ถูกเตือนสติว่ามนุษย์จะอยู่กับน้างฟ้าไม่ได้ มินนาจึงคืนชีวิตให้กับอาร์ม ในที่สุดอาร์มกับยีนส์ก็เข้าใจกันเหมือนเดิม
เรือนมยุรา (2539/1996) ช่วงกรุงศรีอยุธยากำลังจะแตก บิดาของนกยูงได้ร่ายมนต์บดบังเรือนเอาไว้ก่อนไปออกรบ เพื่อไม่ให้คนเห็น ทำให้เธออยู่ดูแลบ้านเพียงลำพัง โดยไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยมายังปัจจุบันแล้ว วันหนึ่ง นกยูงจำเป็นต้องออกจากบริเวณบ้านเพื่อหาเสบียง และได้มาพบกับ พระนาย จนเกิดเป็นความรักความผูกพันระหว่างคนทั้งสองซึ่งอยู่คนละยุคสมัย นกยูง หญิงสาวในสมัยอยุธยาตอนปลาย ผู้อาศัยอยู่ใน "เรือนมยุรา" เรือนไม้ที่ลงคาถากำบังไม่ให้ใครเห็น และเวลาในเรือนไม้จะเดินช้ากว่าเวลาภายนอก ทั้งนี้ก็เพื่อหลบไฟสงคราม เวลาในเรือนมยุราผ่านไปสองปีแต่เวลาภายนอกกลับผ่านไปสองร้อยปี! นกยูงออกจากเรือนเพื่อมาพบกับโลกใหม่ที่เธอไม่คุ้นเคย และได้พบกับ พระนาย ชายหนุ่มผู้ทีหน้าตาและชื่อคล้ายกับคนที่เธอรู้จักในอดีต เหตุการณ์นำไปสู่ความรักข้ามภพข้ามชาติที่ทั้งสองต้องฝ่าฟันและแก้ปัญหา เมื่อคนมากมายต่างต้องการเข้ามาหาประโยชน์จากการข้ามเวลาของนกยูง
ภูตพิศวาส (2538/1995) ข้อความบนใบปิด กรีนพิคเจอร์ GREEN PICTURE เสนอ ขอร่วมฉลอง 72 ปี “รพีพร” ศิลปินแห่งชาติ นี่คือบทประพันธ์ที่เป็นภาพยนตร์ท้ายสุด ภูตพิศวาส ศิริพจน์ เจนวัฒน์ กวินนา สุวรรณประทีป นิออน อิศรา วีนัส มีวรรณ, อรุโณทัย นฤนาท, เกรียง ไกรมาก, ปฐมชัย ชมศรีเมฆ, กล้วย เชิญยิ้ม, ซานโต๊ส กลิ่นสี, ตรีนุช ทิมเจริญ, สุชาดา อีแอม, สงัด เหงือกงาม, ประยูร ศรีแสงทิม, เอก อัครชัย, ช้องมาศ พลับพลา รพีพร บทประพันธ์ ป้อง พรานนก ศิลปกรรม ธนศักดิ์ อัศวิน ผู้ช่วยถ่ายภาพ สุทัศน์ อินทรานุปกรณ์ ถ่ายภาพ พีระพล เธียรเจริญ, เอก วงษ์ชื่น ผู้ช่วยผู้กำกับ ตามใจ กำกับบท เอก ติกฤษณเลิศ ผู้จัดการกองถ่าย สิทธิชัย พัฒนดำเกิง ลำดับภาพ เรวัตร ภาพนิ่ง สุรินทร์ ชะอุ่มพานิช ดำเนินงานสร้าง สุภชัย วีระภุชงค์ อุปการะ สุนันท์ ชะอุ่มพานิช อำนวยการสร้าง จิรเดช หาญศิริการ กำกับการแสดง (ที่มา :Thai Movie Posters)
เกิดอีกทีต้องมีเธอ (Dark Side Romance) (2538/1995) แทน (ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง) และ เพียง (กุลสตรี ศิริพงษ์ปรีดา) เสียชีวิตโดยอุบัติเหตุทางรถยนต์ทั้งคู่ขณะเดินทางไปเชียงใหม่ ทำให้ทั้งคู่ต้องเปลี่ยนจุดมุ่งหมายการเดินทางเสียใหม่ โดยภายใน 7 วัน ต้องไปถึงประตูแห่งการเกิดใหม่ให้ได้ ซึ่งต้องฝ่าฝันอุปสรรรคนานัปการจากวิญญาณร้ายต่าง ๆ ในโลกแห่งความตาย เพราะวิญญาณร้ายตามดูดพลังชีวิตของเพียงไป มีแต่แทนเท่านั้นที่จะปกป้องเธอได้
งูเก็งกอง (2538/1995) ข้อความบนใบปิด เอส.เอ็น.เอนเตอร์เทนเมนท์ เสนอ จากตำนานอันลี้ลับ เมื่อนางพญางูมาสิงสู่กับคน จึงเป็นข้อกังขาของชาวบ้านว่า พยานรักที่เกิดมาเป็นคนหรือปีศาจงูกันแน่ นี่แหละคือที่มาของ... งูเก็งกอง ภาคพิเศษ ขวัญภิรมย์ หลิน วิทิต แลต ท้วม ทรนง, ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา, อตินุช ช่างแก้ว, ด.ญ.เวล ทราช, ดารารับเชิญ วิลเซ็น พลู, เหม่ยหลิน, เหอเจียจวี้, หงฟง ลิขิตศิลป บทภาพยนตร์ เสกศิลป์ จิตตกิจ-ออด ทองผาภูมิ ธุรกิจ ณรงค์ ทองทิว ดำเนินงานสร้าง สมศักดิ์ ลิขิตศิลปะกุล อำนวยการสร้าง จรินทร์ พรหมรังสี กำกับการแสดง เอส.เอ็น.เอนเตอร์เทนเมนท์ จัดจำหน่าย (ที่มา :Thai Movie Posters)
นายระบือหวานมันส์ฉันคือควาย (2537/1994) “วีระ” หนุ่มนักเรียนนอกที่กลับมารับมรดกของผู้เป็นพ่อที่เพิ่งถูกฆาตกรรมถูกไล่ยิงจนต้องหนีหัวซุกหัวซุนเพราะไปล่วงรู้ข้อมูลที่พ่อของเขาถูกโกง แต่เขาก็หนีคมกระสุนไปไม่พ้น วีระถูกยิงจังๆใกล้ๆกับควายตัวหนึ่งที่ถูกลูกหลงล้มลงทั้งคู่ และเมื่อฟื้นขึ้นมาก็พบว่าวิญญาณของพวกเขาสลับร่างกันเสียแล้ว ควายจะทำอย่างไรเมื่อต้องอยู่ในร่างของมนุษย์? แล้ววีระจะใช้ประโยชน์จากร่างควายๆของเขาได้อย่างไรบ้าง ทั้งที่เรื่องมรดกและพ่อที่ถูกฆาตกรรมยังอิรุงตุงนัง? และมีทางไหมที่ในชาตินี้วีระจะได้กลับมาเป็นคนอีกครั้ง? ต้องติดตาม… มออออออออออ
คู่แท้สองโลก (2537/1994) เรื่องราวความรักต่างสายพันธ์ของ ชายหนุ่มผู้มีอาชีพเป็นสตันท์แมนในกองถ่ายภาพยนตร์ ซึ่งได้บังเอิญช่วยเหลือหญิงสาวแปลกหน้าคนหนึ่งเอาไว้ในคืนฝนตก จนเกิดเป็นความรักความผูกพันที่ยากจะสมหวัง เมื่อแท้จริงแล้ว เธอคือผีดิบดูดเลือด หรือ แวมไพร์ การต่อสู้เพื่อความรักอันบริสุทธิ์จึงเกิดขึ้น เมื่อหญิงสาวที่เขารักกำลังถูกเจ้าแห่งแวมไพร์ตามล่า