ตุ๊กตาผี 2562

ตุ๊กตาผี (2562/2019) แป้งร่ำ (ด.ญ.ทิพย์รดา ไมเออร์) เด็กหญิงวัยเจ็ดขวบ ไม่ยอมพูดจากับใครนอกจาก ตุ๊กตาวาวา ตุ๊กตาที่ ธาดา (เอกพงศ์ จงเกษกรณ์) พ่อของเธอ ซื้อให้ก่อนจะถูก พิชิต (ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ) ชายชั่วที่แทรกตัวเข้ามาเป็นทนายประจำบริษัท ทิพย์พิมาน ของธาดา ฆ่าตายต่อหน้าต่อตา และเด็กหญิงก็จำพิชิตได้แม่นยำ แม้เห็นเพียงเสี้ยวใบหน้า เมื่อสิ้นธาดาแล้ว นวลทิพย์ (อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) ซึ่งขวัญเสียเพราะสามีจบชีวิตอย่างมีเงื่อนงำกะทันหัน ซ้ำลูกสาวตัวน้อยยังตัดขาดจากโลกภายนอก เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ทำให้เธอตัดสินใจแต่งงานกับพิชิตด้วยหวังว่าพิชิตจะช่วยบริหารงานในบริษัท ทว่านวลทิพย์คิดผิด แท้ที่จริงแล้ว พิชิตไม่ได้ร่ำรวยอย่างที่เธอเข้าใจ ซ้ำยังมี พุด (นึกคิด บุญทอง) พ่อที่ติดการพนันงอมแงมจนหมดตัว และ จัน (อภิรดี ภวภูตานนท์) แม่ที่ติดหรูจมไม่ลง ผลาญเงินทองจนหมดสิ้น อีกทั้ง พิชัย (กิตติธัช ประดับ) น้องชายเพียงคนเดียวก็หลักลอย นวลทิพย์ที่เริ่มล้าทั้งสภาพร่างกายและจิตใจขอร้องให้ ลุงเทพ (สมชาย ศักดิกุล) พนักงานเก่าแก่ของบริษัท พา อติรุจ (จรณ โสรัตน์) หลานชายที่เรียนจบด้านออกแบบผลิตภัณฑ์จากมหาวิทยาลัยชื่อดัง มาช่วยงานในบริษัท และขอร้องให้ ธนิดา (สุชาร์ มานะยิ่ง) หลานสาวของธาดา เข้ามาช่วยงานออกแบบเครื่องประดับ โดยให้มาอยู่ที่บ้านของเธอ ด้วยหวังว่าแป้งร่ำที่เคยรักและไว้ใจธนิดามาก บางทีอาจทำให้แป้งร่ำมีอาการดีขึ้น แต่แป้งร่ำก็เอาแต่พูดคุยกับตุ๊กตาราวกับตุ๊กตาเหล่านั้นมีชีวิตจิตใจเหมือนคน กระทั่งคนในบ้านพากันหวาดกลัว ต่างกล่าวขานกันว่าตุ๊กตาในห้องของแป้งร่ำคือ...ตุ๊กตาผี วิญญาณของธาดาที่ยังห่วงกังวล มาปรากฏตัวให้แป้งร่ำกับนวลทิพย์เห็นบ่อย ๆ เมื่อรู้ว่าพิชิตตั้งใจมาผลาญสมบัติของตน ธาดาจึงปรากฏตัวที่โรงงานทิพย์พิมานบ่อย ๆ จนพนักงานในบริษัทหวาดกลัว ในที่สุดพิชิตได้นำหมอผีชื่อดัง นามว่า อาจารย์สมิง มาสะกดวิญญาณของธาดาได้สำเร็จ ร่มไทร (วริษฐ์ ทิพโกมุท) นักธุรกิจเจ้าของกิจการโรงงานเฟอร์นิเจอร์ คู่แข่งสำคัญของบริษัท ทิพย์พิมาน ต้องการครอบครองตุ๊กตาหยก ซึ่งเป็นสมบัติประจำตระกูลของธาดา ด้วยเชื่อว่าตุ๊กตาหยกจะทำให้กิจการของเขารุ่งเรืองเอาชนะบริษัทของนวลทิพย์ได้ จึงส่ง ม่านฟ้า (รักษ์ณภัค วงศ์ธนทัศน์) เมียลับ ๆ ของเขา เข้ามาในชีวิตของพิชิต พิชิตหลงม่านฟ้ามาก พยายามเกลี้ยกล่อมให้นวลทิพย์ขายตุ๊กตาหยกแต่นวลทิพย์ก็ไม่ยอมขาย พิชิตจึงหมดความเกรงใจพาม่านฟ้าเข้ามาทำงานในตำแหน่งหัวหน้าพนักงานขาย โดยอ้างว่าเป็นน้องสาวของเพื่อนสนิท จากนั้นก็ร่วมมือกับม่านฟ้าวางแผนให้ ธง (กันติพัส นาคปั้น) เข้ามาปล้นบ้านนวลทิพย์ เพื่อนำตุ๊กตาหยกไปขายให้ร่มไทร โดยหารู้ไม่ว่าธงคือลูกน้องของร่มไทร ทว่าในวันที่เข้าปล้นบ้านนั้น ธงพลั้งมือฆ่านวลทิพย์ตายต่อหน้าแป้งร่ำ ป้าสาย (อำภา ภูษิต) ญาติสนิทของนวลทิพย์ และ ปลา (รุ้งลาวัลย์ โทนะหงษา) เด็กรับใช้ในบ้าน วิ่งเข้ามาเห็นเหตุการณ์พอดี แต่ก็เห็นหน้าคนร้ายไม่ชัด เพราะมัวแต่ตกใจ พิชิตโกรธมากที่ธงพลั้งมือทำเกินคำสั่ง ซ้ำยังไม่ได้ตุ๊กตาหยกอย่างที่ต้องการ ธนิดาช็อกที่นวลทิพย์ต้องมาตายอย่างกะทันหัน แต่โชคดีที่เธอยังมีอติรุจคอยช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และ ระวิวรรณ (ภัสธรากรณ์ บุษราคัมวดี) เพื่อนสนิทสมัยมัธยมเรียนจบปริญญาโทกลับมาจากอเมริกาพอดี คอยช่วยปลอบ ก่อนตายไม่กี่วัน นวลทิพย์นำตุ๊กตาหยกมอบให้แป้งร่ำโดยยัดไว้ในตุ๊กตาวาวา และกำชับให้แป้งร่ำเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ พร้อมทั้งให้ลุงเทพซึ่งเป็นผู้จัดการโรงงานกับอติรุจเข้าไปลงชื่อเป็นพยานในพินัยกรรมฉบับใหม่ ยกทุกอย่างให้แป้งร่ำโดยมีธนิดาเป็นผู้จัดการมรดก ทำให้พิชิตซึ่งได้หุ้นในทิพย์พิมานเพียงเล็กน้อยไม่พอใจ หลังการตายของนวลทิพย์ วิญญาณของเธอออกจากร่างแล้วก็ถูกดูดเข้าไปในตุ๊กตาหยก เธอพยายามจะออกมาจากตุ๊กตาหยกแต่ออกมาไม่ได้ กระทั่งแป้งร่ำอุ้มตุ๊กตาวาวาออกไปใส่บาตรที่หน้าบ้าน พระท่านมีอภิญญาสูงมองเห็นว่านวลทิพย์กำลังทุกข์ทรมานอยู่ในตุ๊กตาหยก จึงเทศน์สอนนวลทิพย์ จนนวลทิพย์สามารถออกมาจากตุ๊กตาหยกได้สำเร็จ แต่นวลทิพย์ก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าทำไมจู่ ๆ วิญญาณของเธอจึงถูกดูดเข้าไปในตุ๊กตาหยกอยู่บ่อย ๆ ออกมาได้ไม่ได้บ้างโดยไม่ทราบเหตุผล แต่เธอก็อุ่นใจว่าการติดอยู่ในตุ๊กตาหยกก็คือการได้อยู่ใกล้ชิดแป้งร่ำ ลูกสาวสุดที่รักของเธอนั่นเอง หมวดคมสัน (ฆนัท โรจนัย) เพื่อนของอติรุจ เข้ามารับผิดชอบคดีของนวลทิพย์ เกิดชอบธนิดาทันทีที่ได้พบหน้า และขอให้อติรุจช่วยเป็นพ่อสื่อด้วยไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วอติรุจตามจีบธนิดามาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว ส่วนร่มไทรก็ประทับใจในตัวธนิดา อยากได้มาทำงานด้วยและอยากได้เป็นภรรยา ม่านฟ้าพอจะเดาได้ ยิ่งทำให้ม่านฟ้าไม่ชอบธนิดามากขึ้น เมื่อนวลทิพย์ตาย พิชิตแต่งตั้งม่านฟ้าให้คุมแผนกออกแบบและขายทันที ท่ามกลางความไม่พอใจของทุกฝ่าย ม่านฟ้าแต่งตั้ง แววตา (อาภัสสรา อินทร์ตลาดชุม) เป็นเลขาฯ ส่วนตัว คอยเป็นหูเป็นตาให้เธอในทิพย์พิมาน ทำให้วิญญาณนวลทิพย์ไม่พอใจมาก ออกอาละวาดแต่ก็แค่ให้หวาดกลัว ไม่ได้ทำอันตรายผู้ใด ม่านฟ้าเริ่มโลภ อยากครอบครองสมบัติของนวลทิพย์ทั้งหมด ต่อมาพิชิตนำม่านฟ้าเข้ามาอยู่ในบ้านของนวลทิพย์ และสั่งให้ธนิดากับแป้งร่ำลงไปอยู่ห้องข้างล่าง ขณะที่แป้งร่ำไม่ยอมเปิดใจกับผู้ใด แม้แต่ธนิดา แต่เด็กหญิงกลับเข้ากับอติรุจได้ดี ทำให้ธนิดาต้องใกล้ชิดกับอติรุจไปโดยปริยาย นอกเหนือจากเรื่องงานที่ต้องทำโปรเจกต์สำคัญร่วมกัน ส่วนม่านฟ้าเริ่มบีบธนิดาให้ทำงานยากขึ้น แต่เมื่ออยู่ที่บ้าน ม่านฟ้ากลับตกเป็นรอง เพราะนวลทิพย์สามารถควบคุมตุ๊กตาทั้งหมดของแป้งร่ำได้แล้ว และใช้ตุ๊กตาออกอาละวาดหลอกหลอนม่านฟ้า ร้อนถึงพิชิตต้องพาสมิงมาปราบนวลทิพย์ ม่านฟ้าเริ่มสงสัยจึงแอบเข้ามาในห้องแป้งร่ำ พบตุ๊กตาหลายตัวแต่งชุดเหมือนผีที่หลอกหลอนเธอ จึงวางแผนเผาตุ๊กตาทั้งหมดของแป้งร่ำทิ้ง โดยใช้ไฟอาคมจากสมิง พิชิตพยายามเกลี้ยกล่อมให้ธนิดามาเป็นพวกเพื่อโอนสิทธิ์การดูแลมรดกมาให้เขา แต่ก็ล้มเหลว ธนิดาไม่หลงกล ที่โรงงานยังมี ไข่หวาน, หมูตุ๋น และกุ้งเต้น สามสหายเป็นพวกของธนิดาและอติรุจ ทั้งสามคอยช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้ ส่วนม่านฟ้าร่วมมือกับละม่อม คนรับใช้ที่ม่านฟ้าจ้างมาคอยดูแลและเป็นหูเป็นตาให้เธอ รวมถึงญาติ ๆ ของพิชิตจับแป้งร่ำมัดไว้กับสวนในคืนที่ฝนตกหนักและมีพายุลมแรง เด็กหญิงหวาดกลัวมากร้องหาตุ๊กตาวาวา นวลทิพย์พยายามจะช่วยก็ช่วยไม่ได้ เพราะม่านฟ้าเอาของขลังของอาจารย์สมิงป้องกันไว้ แป้งร่ำหวาดกลัวกรีดร้องแล้วหมดสติไป ธนิดากับอติรุจกลับมาบ้านรีบเข้าไปช่วย และนำร่างไร้สติของเด็กหญิงส่งโรงพยาบาล แป้งร่ำเริ่มมีความเปลี่ยนแปลงในด้านบวก แม้จะยังพูดจาสื่อสารผ่านตุ๊กตาวาวาก็ตาม ทุกคนต่างยินดีกับการที่แป้งร่ำมีอารมณ์แจ่มใสขึ้น อติรุจกับธนิดาตัดสินใจพาแป้งร่ำเข้าเรียนหนังสือในระบบการศึกษาปกติ ซึ่งทุกคนก็เห็นด้วย ม่านฟ้าใช้ข้ออ้างที่ธนิดาต้องคอยรับ-ส่งแป้งร่ำบีบธนิดา แต่ธนิดาก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้ บริษัทของร่มไทร ที่เคยเป็นรองทิพย์วิมาน บัดนี้เริ่มผงาดขึ้นเป็นคู่แข่งคนสำคัญ ซ้ำยังแย่งลูกค้าหลัก ๆ หลายรายของทิพย์วิมานไป พิชิตไม่มีทางเลือก จำต้องยอมทำตามข้อเสนอของธนิดากับอติรุจ ผลิตสินค้าล็อตใหม่เพื่อดึงลูกค้าเดิมกลับมา ต่อมาธนิดาพบว่า ม่านฟ้าเรียกรับเงินคำนายหน้าจากผู้ส่งวัตถุดิบป้อนให้ทิพย์พิมานเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก จึงนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมและขู่จะใช้วิธีการทางกฎหมาย พิชิตเองก็ไม่อาจช่วยได้ พิชิตใส่ร้ายว่าอติรุจคือคนที่ทรยศทิพย์วิมาน ขโมยวัตถุดิบพร้อมนำแบบงานไปขายให้คู่แข่งจนบริษัทเกิดความเสียหาย พิชิตไล่อติรุจออกจากงาน ธนิดาจึงปรึกษาเรื่องนี้กับลุงเทพ คมสันและระวิวรรณให้ช่วยกันหาหลักฐานมาช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ โดยธนิดายอมใกล้ชิดกับพิชิต จนถูกม่านฟ้าอาละวาด แต่สุดท้ายนวลทิพย์ก็สั่งตุ๊กตาเล่นงานม่านฟ้ากระเจิงไป และยอมให้อติรุจกลับมาทำงานในทิพย์พิมานได้อีกครั้ง ท่ามกลางความดีใจของพนักงานทุกคน ร่มไทรวางแผนให้ธงฉุดธนิดามาให้เขา ทว่าม่านฟ้ากลับติดสินบนธง ให้ธงฉุดธนิดาไปข่มขืนแล้วฆ่าทิ้ง แต่นวลทิพย์และเหล่าตุ๊กตามาช่วยไว้ได้ทัน ทำให้ธนิดาได้มีโอกาสสื่อสารกับวิญญาณของนวลทิพย์ตรง ๆ เป็นครั้งแรก ร่มไทรตัดสินใจว่าถึงเวลาที่เขาจะต้องครอบครองทิพย์พิมาน แต่พิชิตไม่ยอมขายเพราะเชื่อว่าเขาจะพลิกฟื้นทิพย์วิมานให้กลับมายิ่งใหญ่ดังเดิมได้ ร่มไทรไม่ยอมแพ้ ทิ้งข้อเสนอขอเพียงเป็นแค่ผู้ร่วมทุนเท่านั้น พิชิตปฏิเสธ และให้พิชัยเข้ามาช่วยงานในบริษัท นอกจากพิชัยจะช่วยงานอะไรแทบไม่ได้เลย เขากลับหาทางยักยอกเงินของทิพย์พิมานอีกคน ธนิดามัวเครียดกับงาน จนอาการของแป้งร่ำที่ดีขึ้นเริ่มแย่ลง อติรุจแนะนำให้พาแป้งร่ำไปเที่ยวทะเล ธนิดาได้พบกับพ่อแม่ขออติรุจคือ อารักษ์ กับ รจนา ท่านทั้งสองดีใจมากที่อติรุจพาธนิดา และแป้งร่ำไปที่รีสอร์ตเล็ก ๆ ของครอบครัว เด็กหญิงแป้งร่ำสดใส ร่าเริง ราวกับเด็กที่ไม่ได้มีปัญหาใด ๆ ทำให้ทั้งอติรุจและธนิดาดีใจมาก ร่มไทร เสนอออร์เดอร์ให้ทิพย์พิมาน ด้วยโรงงานของเขาไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทันตามกำหนด โดยมีข้อแม้ว่าจะส่งคนของเขาเข้ามาทำงานทั้งกลางวันและกลางคืน พิชิตไร้ทางเลือก ยอมทำตามข้อเสนอของร่มไทร แต่โชคร้าย ที่จู่ ๆ ตำรวจก็เข้าทลายโรงงานทิพย์พิมานเพราะร่มไทรใช้แรงงานเด็กและแรงงานผิดกฎหมาย ซ้ำยังบังคับให้ทำงานเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ถูกคำสั่งให้หยุดกิจการชั่วคราว ทุกคนเสียใจมาก ขณะที่โรงงานยังถูกปิดอยู่นั้น ร่มไทรก็ใช้ทิพย์พิมานเป็นที่เก็บยาเสพติด รปภ.เตี้ย ซึ่งเป็นคนเก่าแก่ รายงานเรื่องนี้ให้ธนิดาทราบ อติรุจกับธนิดาสืบค้นความจริงเรื่องนี้ จึงไม่มีเวลาดูแลแป้งร่ำ แป้งร่ำถูกม่านฟ้าผลักตกบันไดจนแขนหัก โดยที่นวลทิพย์ช่วยไว้ไม่ทันจึงแค้นมาก ออกอาละวาด ทั้งพิชิต, พิชัย, จัน, พุด และละม่อม ต่างถูกหางเลขไปตาม ๆ กัน แต่ก็โชคดีที่มีของขลังจากสมิงคอยช่วยไว้ ทำให้ทุกคนรอดพ้นมาได้อย่างหวุดหวิด แต่นวลทิพย์ก็ไม่ยอมรามือ ยิ่งตามรังควานม่านฟ้าไปทุกหนแห่ง แม้ว่านวลทิพย์จะสู้อำนาจของหมอผีสมิงไม่ได้ก็ตาม แต่เมื่อใดที่แป้งร่ำพาตุ๊กตาออกไปที่ไหน นวลทิพย์ก็จะแผลงฤทธิ์ได้เต็มที่ พิชิตและม่านฟ้า รวมถึงพุด, จัน, พิชัย กลัวว่าจะถูกวิญญาณของนวลทิพย์ตามล่า ม่านฟ้าขอลี้ภัยไปอยู่กับร่มไทรอ้างว่ากลัวนวลทิพย์ แต่พิชิตไม่ยอมไปไหน ด้วยมั่นใจว่ามีของดีที่ได้รับมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษ นั่นก็คือ พระเครื่ององค์หนึ่ง กระนั้นเขาก็อดหวั่นไหวไม่ได้ จึงดื่มเหล้าย้อมใจจนเมามาย และจะข่มขืนธนิดา แป้งร่ำได้ยินเสียงร้องจึงวิ่งออกมาดู แล้วตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภาพในอดีตที่คนซึ่งเธอรักทั้งพ่อและแม่ตายไปต่อหน้าต่อตาผุดขึ้นมาในห้วงคิดของเด็กหญิง แป้งร่ำกรีดร้อง นวลทิพย์และเหล่าตุ๊กตาออกมาช่วยธนิดาจนรอดพ้นเงื้อมมือพิชิต และเกือบฆ่าพิชิต แต่ด้วยความรัก นวลทิพย์จึงให้โอกาสพิชิตกลับตัวกลับใจ แต่พิชิตกลับถูกร่มไทรใช้ไม้ตายยัดเยียดข้อหาบริหารงานผิดพลาดให้พิชิตจนเกิดหนี้สินมากมาย พิชิตรู้ว่าพลาดทำเสียรู้ให้ร่มไทร แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ซ้ำยังถูกขู่ยึดหุ้นทั้งหมด โดยร่มไทรยื่นข้อเสนอให้พิชิตนำตุ๊กตาหยกมาใช้หนี้ ไม่งั้นพิชิตกับครอบครัวจะต้องตายอย่างกับหมาข้างถนน และพร้อมจะเปิดเผยความลับที่พิชิตจ้างฆ่าธาดาและนวลทิพย์ พิชิตกลัวมาก ยอมเป็นหุ่นเชิดให้ร่มไทรด้วยความคับแค้นใจ พิชิตพยายามหาทางเอาคืนร่มไทร และยังอยากยึดทุกอย่างมาเป็นของตน รวมถึงตามหาตุ๊กตาวาวา โดยพิชิตกับม่านฟ้าจับแป้งร่ำไปเป็นตัวประกัน นวลทิพย์ และเหล่าตุ๊กตาผีจะให้โอกาสพิชิต และคนชั่วอีกครั้งหรือไม่ และความเร้นลับของตุ๊กตาวาวานั้นคืออะไร

นางสิบสอง 2562

เรื่องย่อ : นางสิบสอง (2562/2019) นานมาแล้วมีเศรษฐีคนหนึ่งชื่อ นนท์ และภรรยาของเขาชื่อ พราหมณี ทั้งสองมีลูกสาวถึง 12 คน ด้วยความที่ลูกเยอะฐานะทางบ้านจึงค่อย ๆ ตกต่ำลง เงินทองที่เก็บไว้ก็หายไปหมดเนื่องจากต้องเลี้ยงดูลูกสาวทั้งสิบสองคน อยู่มาวันหนึ่งพ่อของนางสิบสองก็ได้คิดอุบายว่าจะนำลูก ๆ ทั้งสิบสองคนไปปล่อยป่า โดยหลอกลูกของตนว่าตนจะไปเยี่ยมญาติจะพาลูก ๆ ไปด้วย เมื่อมาถึงกลางป่าเขาก็บอกกับลูกว่าจะไปหาผลไม้มาให้กินให้ลูก ๆ เมื่อได้โอกาสเขาก็หนีไปโดยหวังว่าจะมีคนที่ดีกว่านี้มารับเลี้ยงดู นางสิบสองรอบิดาของตนจนเหนื่อย โชคดีที่นางเภาน้องคนสุดท้องที่มีความฉลาดมากกว่าพวกพี่ ๆ ได้นำข้าวตากโรยตามทางที่เดินมา พวกนางทั้งสิบสองจึงกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย เมื่อบิดาและมารดาเห็นลูกของตนกลับมาได้ก็ตกใจมากและได้คิดว่าจะนำลูกของตนไปปล่อยป่าอีกครั้ง และวันนั้นก็มาถึง พ่อของนางสิบสองได้นำลูกของตนไปปล่อยป่าอีก คราวนี้โชคร้ายนางเภาไม่ได้เอาข้าวตากมาทำให้นางทั้งสิบสองติดอยู่ในป่า นางทั้งสิบสองได้อยู่ในป่าจนรุ่งเช้าของอีกวัน นางเภาได้บอกกับพี่ของตนว่าควรจะหาทางกลับบ้านใหม่ แต่เดินไปเท่าไหร่ก็ไม่ถึงสักที จนในที่สุดก็มาเจอกับนางยักษ์สันตราพอดี นางยักษ์สันตราพอได้เห็นนางทั้งสิบสองก็เกิดความรักและเอ็นดูเนื่องจากตนไม่มีลูกและสามีของตนก็ตายไปแล้ว นางยักษ์จึงนำนางทั้งสิบสองมาเลี้ยงไว้ในวังโดยสั่งให้ทุกคนในเมืองทานตะวันแปลงกายเป็นมนุษย์ให้หมดเนื่องจากกลัวว่านางทั้งสิบสองจะหวาดกลัวและเกลียดตน ส่วนตนเองก็ได้เปลี่ยนชื่อจากสันตราเป็นสันธมาลา นางทั้งสิบสองใช้ชีวิตอยู่ในวังอย่างสุขสบายจนกระทั่งโตเป็นสาว นางเภาก็เกิดสงสัยขึ้นมาว่าเมืองนี้เป็นเมืองยักษ์เพราะว่าตนนั้นไม่เคยเห็นสัตว์ตัวไหนในเมืองในเมืองนี้เลยและพี่ของตนก็ได้เจอกับกองกระดูกที่พวกยักษ์กินไว้ทางท้ายวังซึ่งนางสันธมาลาห้ามไม่ให้ไปอีกด้วย นางเภาจึงพาพวกพี่หนีจากเมืองยักษ์จนนางสันตราตามมา แต่มองไม่เห็นนางทั้งสิบสองเพราะเทวดาในป่าคุ้มครอง นางสันตราจึงกลับเมืองไปด้วยความอาฆาตแค้น นางทั้งสิบสองดีใจที่หนีจากนางยักษ์มาได้และก็เดินทางไปโดยไร้จุดหมาย จนมาถึงเมืองกุตลนครซึ่งมีราชารถสิทธิ์เป็นผู้ปกครองเมือง ท้าวรถสิทธิ์ เมื่อได้เห็นนางเภาที่รูปงามและพวกพี่ ๆ ของนางแล้วก็เกิดความรักใคร่ โดยรักนางเภามากที่สุด ท้าวรถสิทธิ์ได้นางทั้งสิบสองเป็นมเหสี อยู่มาวันหนึ่งนางทั้งสิบสองคนก็ได้ตั้งครรภ์ อีกด้านหนึ่งในขณะเดียวกันนางยักษ์สัตราได้ใช้มนต์วิเศษของตนดูภาพพวกนางทั้งสิบสองผ่านกระจก นางสันตราจึงได้เห็นและรู้ว่านางสิบสองอยู่ที่เมืองกุตลนครและได้เป็นมเหสีของราชารถสิทธิ์ ก็ได้ตามไปจนมาถึงเมืองกุตลนครและได้พบกับท้าวรถสิทธิ์ นางจึงเป่ามนต์สะกดให้ท้าวรถสิทธิ์รักใคร่และแต่งตั้งให้ตนเป็นพระมเหสีเอกแทนนางทั้งสิบสอง เมื่อนางสิบสองรู้ข่าวว่าพระสวามีตนมีมเหสีใหม่จึงโมโหและอยากรู้ว่าเป็นใคร พอดีนางยักษ์สันตราผ่านมาพอดีนางสิบสองจึงได้รู้ว่าเป็นนางยักษ์สันตราก็ตกใจกลัว และร้องขอว่าอย่าทำอะไรตนเลย นางยักษ์สันตราไม่ยอมจึงเป่ามนต์ให้ท้าวรถสิทธิ์เกลียดนางทั้งสิบสองและสั่งนางทั้งสิบสองไปขังไว้ในถ้ำ นางทั้งสิบสองต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในถ้ำขณะที่ท้องของนางก็เริ่มโตขึ้นทุกวัน ฝ่ายนางยักษ์สันตรายังไม่หยุดแค้นนางสิบสองจึงออกอุบายว่าตนป่วยเป็นโรคประหลาดและได้เป่ามนต์ใส่หมอหลวงให้พูดว่าต้องใช้ลูกตานางทั้งสิบสองมาทำยาให้กินจึงจะหาย พระรถสิทธิ์จึงรีบให้จัดการควักลูกตานางสิบสองมาถวายทันทีโดยนางยักษ์ได้สั่งให้วิรุฬและจำบัง สมุนเอกของตนรับหน้าที่นี้ เมื่อมาถึงถ้ำทั้งสองได้ควักลูกตานางสิบสองทันทีโดยเรียงจากพี่ไปน้อง ด้านนางค่อมผู้ซื่อสัตย์ต่อนางสิบสองได้อ้อนวอน ขอให้พระรถสิทธิ์สั่งไม่ให้ควักลูกตานางสิบสองอยู่พักใหญ่ก็ได้นำราชโองการมาให้วิรุฬและจำบังดูแต่ด้วยตนเองแก่แล้วและหลังก็ค่อมอีกด้วย จึงมาไม่ทันโดยวิรุฬจำบังได้ควักลูกตาไปทั้ง 11 คนแล้ว เว้นแต่นางเภาโดนควักไปเพียงข้างเดียวเพราะตนมาทันที่นางเภาพอดี วิรุฬจำบังจึงได้นำลูกตาของนางสิบสองใส่โถไปถวายให้นางสันธมาลา นางค่อมได้โมโหตัวเองที่มาไม่ทัน นี่ก็เป็นเพราะเวรกรรมของนางทั้งสิบสองที่ตอนเด็กได้ควักตาปลาออกมาเล่นแต่นางเภาควักออกมาเพียงข้างเดียว จึงไม่โดนควักลูกตาทั้ง 2 ข้าง นางทั้งสิบสองต้องทุกข์ทรมานเข้าอีกปวดทั้งตาและท้องแก่ที่ใกล้คลอดโดยหากบเขียดแถวนั้นมาย่างกินประทังชีวิตและข้าวที่นางค่อมคอยแอบนำมาถวาย เวลาผ่านไปจนกระทั่งพวกนางคลอดลูกมาแต่ลูกของนางทั้ง 11 คนตายหมด เพราะพวกนางอดอยากจึงกินลูกตัวเองเหลือแต่นางเภาที่ให้กำเนิดพระโอรสและตั้งชื่อว่า รถเสน รถเสนเป็นเด็กฉลาดและรูปงามมากและเป็นหัวแก้วหัวแหวนของแม่และป้าทั้ง 11 คน

ขวานฟ้าหน้าดำ 2562

เรื่องย่อ : ขวานฟ้าหน้าดำ (2562/2019) ขวานฟ้าหน้าดำ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชะตากรรมของ "สุทธาเทพ" เทวดาชั้นผู้น้อยซึ่งทำหน้าที่ล้างเท้าให้แก่บรรดาเทวดาผู้มาเข้าเฝ้าพระอิศวรและถูกกลั่นแกล้งเป็นประจำ พระอิศวรจึงได้ประทานขวานฟ้าให้สุทธาเทพใช้เป็นอาวุธป้องกันตัว ทว่าสุทธาเทพกลับใช้อาวุธดังกล่าวเพื่อล้างแค้นและข่มเหงรังแกเทวดาองค์อื่นที่ไม่ยอมสยบต่อตนเอง พระอินทร์ในฐานะผู้ดูแลสรวงสวรรค์จึงใช้ให้พระอาทิตย์ไปปราบสุทธาเทพจนสุทธาเทพพ่ายแพ้และได้รับแผลไหม้เกรียมที่ใบหน้า จากนั้นพระอินทร์จึงสาปซ้ำให้สุทธาเทพจุติลงไปเกิดบนโลกมนุษย์โดยที่ยังคงมีใบหน้าดำไหม้ติดตัวเพื่อชดใช้กรรม ต่อเมื่อทำความดีจนเป็นที่ประจักษ์แล้วเท่านั้นจึงจะกลับมามีใบหน้าปกติตามเดิมและได้ขวานฟ้ากลับคืนไปเป็นสิทธิ์ของตนเองโดยสมบูรณ์ สุทธาเทพได้จุติลงมาเกิดเป็น "ขวาน" ลูกของ "นายอุทัย" กับ "นางสำลี" ผู้มีฐานะยากจน อาศัยอยู่นอกหมู่บ้านแห่งหนึ่งชานเมืองบุรีรมย์ เหตุที่ขวานที่ได้ชื่อนี้เพราะมีขวานฟ้าติดตัวมาตั้งแต่เกิด เมื่อวันแรกเกิดนั้นหมอตำแยได้เห็นขวานมีหน้าดำเป็นแถบผิดจากเด็กธรรมดา ซ้ำยังถูกขวานฟ้าเล่นงานเนื่องจากคิดจะยักยอกขวานฟ้าไปเป็นของตัวเอง หมอตำแยจึงแพร่ข่าวไปว่าขวานเป็นเด็กปีศาจ ทำให้ชาวบ้านต่างเกลียดชังและหวาดกลัวครอบครัวของขวานมาก มีเพียง "ทิดแก้ว" ซึ่งเป็นเพื่อนของนายอุทัยและ "จ้อย" ลูกชายของทิดแก้วเท่านั้น ที่ยังคงคบหาและคอยให้ความช่วยเหลือครอบครัวของขวานอยู่เสมอ แม้จะเติบโตขึ้นมาท่ามกลางความรังเกียจเดียดฉันท์จากสังคมรอบข้าง แต่ขวานก็เป็นเด็กดี มีความอดทนอดกลั้น เชื่อฟังพ่อแม่ ขยันขันแข็งช่วยงานบ้านทุกอย่าง เวลาเห็นใครเดือดร้อนก็พยายามเข้าไปช่วยเหลือเต็มที่ ยามที่ขวานมีภัยถึงชีวิต ขวานฟ้าก็จะลอยมาให้ความช่วยเหลือทุกครั้ง ทั้งยังได้ "เจ้าพ่อเขาเขียว" เทพารักษ์ประจำภูเขาในแถบหมู่บ้านที่ขวานอาศัยอยู่ คอยให้ความช่วยเหลือในยามคับขันอยู่เสมอ ชีวิตของขวานเริ่มตกอยู่ในอันตรายเมื่อขวานได้ช่วยเหลือเศรษฐีคนหนึ่งให้หนีรอดจากการถูก "อำมาตย์แสงเพชร" ขุนนางโฉดผู้ทรงอิทธิพลและมีจิตใจทะเยอทยาน จับตัวไปเรียกค่าไถ่เพื่อใช้เป็นทุนในการก่อกบฏต่อพระเจ้ากรุงบุรีรมย์ และต่อมาขวานได้ช่วยเหลือจ้อยซึ่งถูกลูกชายของอำมาตย์แสงเพชรและเด็กรับใช้รุมทำร้าย จนกลายเป็นว่าทำให้ลูกชายของอำมาตย์แสงเพชรได้รับบาดเจ็บสาหัส ครอบครัวของขวานจึงถูกอำมาตย์แสงเพชรคุกคามอย่างหนัก ทั้งหมดต้องแยกย้ายกันหนีไปอยู่ที่อื่นเพื่อเอาชีวิตรอด ขวานได้ออกเดินทางไปด้วยกันกับจ้อย มุ่งหน้าสู่การผจญภัยเพื่อปราบปรามคนชั่ว อภิบาลคนดี และค้นหาหนทางต่อสู้กับอำมาตย์แสงเพชร เพื่อช่วยเหลือพระเจ้ากรุงบุรีรมย์ให้พ้นจากเงื้อมมือของพวกอำมาตย์แสงเพชร และเพื่อพาครอบครัวของตนเองกลับมาอยู่พร้อมหน้ากันอย่างสงบสุขอีกครั้งให้จงได้

ยามป่วนกวนหัวใจ 2562

เรื่องย่อ : ยามป่วนกวนหัวใจ (2562/2019) เมื่อทายาทอดีตเจ้าของโรงงาน เข้ามาสมัครเป้นยามในโรงงานของตัวเอง เพื่อสืบหาสาเหตุการตายของพ่อและตามหาสมบัติที่พ่อซ่อนไว้ เขาต้องพบกับความวุ่นวายตั้งแต่วันแรก เมื่อได้เจอกับคู่ปรับสมัยเด็กอย่างเจ้าหน้าที่สาวฝ่ายบุคคล เธอหาสารพัดวิธีมาแกล้งเขา โดยมีลูกชายเจ้าของโรงงานที่หมั่นไส้เขาเป็นกองหนุน ความอลหม่านของหนุ่มสาวโรงงานจึงเกิดขึ้นไม่เว้นวัน แต่กลับก่อเกิดเป็นความผูกพันระหว่างเขากับเธอโดยไม่รู้ตัว จากลูกเจ้าของโรงงานกลับกลายต้องมาเป็นยาม...ซะงั้น และดันต้องมาอยู่ร่วมโรงงานเดียวกัน กับสาวที่เป็นรักแรกในวัยเด็กแต่ทำไงได้ ชีวิตต้องอดทน...เพราะความจนมันน่ากลัว!!! สตางค์ (พระเอก) หนุ่มหล่อมาดกวน มีชีวิตที่ต้องดิ้นรนด้วยตัวเองมาตลอด ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนสมัยสตางค์ยังเด็กชีวิตเคยสุขสบายมาก ๆ พ่อเป็นถึงเจ้าของโรงงานใหญ่ แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น เมื่อพ่อของเขาคิดสั้น ผูกคอตายด้วยสาเหตุอะไรสตางค์ก็ไม่เคยรู้ และอยู่ ๆ โรงงานก็ตกเป็นของเพื่อนสนิทของพ่อที่ชื่อคุณนายนุ้ย ชีวิตสตางค์พลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ เขาต้องอยู่ในความเลี้ยงดูของคุณนายนุ้ย แต่ด้วยความอึดอัดใจ เขาตัดสินใจหนีคุณนายนุ้ยมาอยู่กับยาย และรอเวลาที่เขาจะกลับมาหาความจริง ว่าพ่อคิดสั้นเพราะอะไรและทำไม โรงงานของพ่อถึงมาอยู่ในมือคุณนายนุ้ยได้...และสตางค์ก็ได้มาพบกับความลับอีกอย่างหนึ่งของพ่อที่ทิ้งเอาไว้ นั่นก็คือสมบัติซึ่งพ่อของตนฝั่งเอาไว้บริเวณโรงงาน ทำให้สตางค์ต้องหาให้พบว่าพ่อทิ้งสมบัติอะไรเอาไว้และอยู่ที่ไหนของโรงงานแห่งนี้กันแน่... ณ โรงงานแสงสมุทร เหล่าพนักงานกำลังวุ่นวายกับการเตรียมงานต้อนรับการปรากฏตัวครั้งแรกของลูกชายเจ้าของโรงงาน โดยเฉพาะมาลี (นางเอก) เธอถูกนางฤดีแม่ของเธอกำชับว่าต้องต้อนรับเป็นพิเศษ ให้สมกับเป็นลูกสาวผู้จัดการ ซึ่งมาลีเองก็ดำรงตำแหน่งเป็นฝ่ายบุคคลที่ใคร ๆ ก็ให้ความเกรงใจ ฤดีเป็นเพียงคนเดียวที่เห็นรูปของลูกเจ้าของโรงงาน แต่ใครจะรู้ว่ารูปใบนั้น เธอดันหยิบสลับมากับรูปที่ใช้สมัครงานของยามคนใหม่ ฤดีกลัวลูกสาวไม่สวยเลยสั่งให้มาลีไปเติมหน้า ซึ่งมาลีเองก็ต้องทำตามคำสั่งแม่ แต่พอมาลีออกไป รถแท็กซี่ก็แล่นเข้ามา พร้อมกับรถมอเตอร์ไซค์วินอีกคัน เหล่าพนักงานพากันไปหาผู้ชายแต่งตัวดีที่ลงจากรถแท็กซี่! ฤดีดูรูปเพื่อความมั่นใจและคิดว่านี่แหละใช่แล้วลูกเจ้าของโรงงาน ทันทีที่นายสตางค์ลงจากรถแท็กซี่ เขาก็ตกใจกับการต้อนรับ แถมยังเอาพวงมาลัยมาคล้องคอ ฤดีก็รีบออกหน้าออกตาต้อนรับสตางค์มากกว่าใคร คนอื่นมองก็รู้ว่าฤดีขี้ประจบสุด ๆ ! ส่วนอีกด้านนายโทนี่ที่ลงจากมอเตอร์ไซค์วินสภาพเซอร์เพราะแฟชั่นที่ล้ำเกินไป โทนี่แปลกใจที่ไม่มีใครเข้ามาต้อนรับเขาเลยสักคน เว้นแต่ยามโดดกับยามเด่นที่คิดว่านายโทนี่คือยามใหม่ ก็เลยลากตัวมาปฏิบัติงานทันที โทนี่จะอ้าปากพูดก็ถูกยามเด่นสั่งให้เงียบ! แต่โทนี่พยายามขัดขืน จึงถูกยามเด่นที่ถึงแม้จะเป็น รปภ. แต่เคร่งครัดวินัยทหารมาก สั่งลงโทษเอาเทปมาปิดปากและวิดพื้นต่อหน้าสตางค์ เพราะโทนี่ไม่ทำความเคารพ หนำซ้ำยังแสดงความก้าวร้าวอีกต่างหาก ขณะที่ทุกคนกำลังเอาใจสตางค์ อยู่นั้นมาลีก็เดินออกมาหลังจากไปเติมหน้า พอมาลีเห็นสตางค์ เธอก็จำได้แม่นว่านายสตางค์คือเพื่อนสมัยเรียน สตางค์เองก็จำมาลีได้ มาลีกำลังอ้าปากจะทัก สตางค์ก็รีบลากตัวมาลีออกมาคุยเป็นการส่วนตัว มาลีและสตางค์เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนประถม มาลีจำสตางค์ได้แม่นเพราะเขาคือคนที่เธอเกลียดที่สุด สมัยก่อนมาลีทั้งอ้วน สิวเต็มหน้า เรียกได้ว่าไม่มีความสวยหลงเหลืออยู่เลย และคนที่ชอบล้อเธอแกล้งเธอก็คือนายสตางค์ แต่นายสตางค์ก็เป็นคนที่ทำให้เธออยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง จนปัจจุบันเธอทำสำเร็จ จากสาวอ้วนดำ สิวเต็มหน้า ตอนนี้เธอสวยหุ่นดี ไม่มีภาพความขี้เหร่หลงเหลืออยู่อีกเลย แต่ที่ยังมีอยู่ก็คือความเกลียดที่เธอมีต่อสตางค์ เรียกได้ว่าชาตินี้อย่าได้เจอหน้ากันอีกเลย แต่ตอนนี้เขากลับมาอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง มาลีรู้ว่านายสตางค์เป็นลูกเจ้าของโรงงานเก่าที่นี่ก่อนที่คุณนายนุ้ยจะมารับช่วงต่อ สตางค์บอกมาลีแค่ว่าตอนนี้เขามาเป็นยามใหม่ ชีวิตเขาไม่มีทางเลือก อาชีพไหนเขาก็ทำได้หมด ขอแค่มาลีอย่าบอกใครว่าอดีตของเขาเคยเป็นใคร เพื่อแลกกับที่สตางค์ก็จะไม่เอาความหลังน่าเกลียด ๆ ของมาลีมาเปิดเผยเช่นกัน มาลีตกลงทันทีเพราะเธอก็ไม่อยากจะให้ใครรู้ว่าเมื่อก่อนเธอรู้จักกับสตางค์ และเมื่อก่อนเธอน่าเกลียดขนาดไหน แต่ลึก ๆ มาลีก็คิดอยากจะกำจัดนายสตางค์ให้พ้นจากโรงงานนี้ ส่วนสตางค์นั้นที่จริงแล้วต้องการมาหาความจริงของสาเหตุที่พ่อผูกคอตายและสมบัติของพ่อเขานั่นเอง คุณนายนุ้ยที่เป็นเจ้าของโรงงานมาถึงก็ถามหาลูกชายที่ฝากให้ฤดีต้อนรับพอดีกับสตางค์ มาลีกลับเข้ามาสตางค์บอกให้ทุกคนรู้ว่า เขาไม่ใช่ลูกชายเจ้าของโรงงาน แต่เขาคือยามใหม่! ฤดีแทบเป็นลม เพราะเอาหน้าไปเกินเบอร์มาก ๆ เอาไงล่ะทีนี้ แล้วลูกชายเจ้าของโรงงานตัวจริงอยู่ที่ไหน? โทนี่ที่เป็นลูกชายข้าวของโรงงานตัวจริงกำลังถูกยามโดดกับยามเด่น สั่งสอนเรื่องกฎระเบียบของการจะเป็นยามที่ดีของโรงงานแห่งนี้อย่างละเอียด ซึ่งวินัยเหมือนทหารอย่างกับถอดแบบออกมา ยามเด่นอยากทดสอบร่างกายของยามใหม่ ก็เลยให้โทนี่ถอดเสื้อ และฝึกโหดเหมือนโกรธกันมาแต่ชาติปางก่อน จนกระทั่งมินนี่ (นางรอง) น้องสาวของโทนี่ที่มาฝึกงานวันแรกเข้ามาเห็น และบอกพวกยามว่าโทนี่เป็นพี่ชายตนและเป็นลูกคุณนายนุ้ย แต่ยามโดดกับยามเด่นกลับหัวเราะเพราะไม่เชื่อเด็กฝึกงานที่มาใหม่ แต่คุณนายนุ้ยก็เข้ามาพบพอดีก็แทบเป็นลม ที่เห็นลูกชายตัวเองกำลังถูกทรมานเหมือนแรงงานทาส งานนี้ไม่ใครก็ใครต้องถูกไล่ออกแน่ ๆ เพราะโทนี่นี่แหละ คือลูกชายเจ้าของโรงงานที่แท้ทรู และเด็กฝึกงานที่มาใหม่ก็คือลูกของคุณนายนุ้ยเช่นกัน มินนี่มาฝึกงานบริหารตามที่เรียนมา จึงมาเป็นเลขาฯ ให้กับคุณนายนุ้ยแม่ของตน แต่มินนี่เป็นคนไม่ถือตัวและมีเหตุผล แถมยังช่วยพูดแก้ตัวให้ยามทั้งสองอีกด้วย มาลีเป็นตัวแทนพนักงานขอโทษโทนี่ที่เข้าใจผิด ฤดีเองก็ขอโทษและหันมาโทษสตางค์ที่มาสวมบทเป็นลูกเจ้าของโรงงานจนเธอเข้าใจผิด ดีที่คุณนายนุ้ยไม่เอาเรื่อง เพราะเป็นเหตุสุดวิสัยและมินนี่ก็ช่วยพูดอธิบายให้กับสตางค์อีกแรงด้วย ซึ่งมินนี่เองเมื่อพบกับสตางค์ครั้งแรกก็ชอบในหน้าตาที่โดนใจ แต่สิ่งที่ทำให้ตกหลุมรักสตางค์ก็คือนิสัยของสตางค์ที่ทำให้มินนี่ประทับใจ เพราะสตางค์ทำขนมมาขอบคุณมินนี่ อีกทั้งสตางค์ยังเป็นคนมีน้ำใจอีกต่างหาก มินนี่จึงตกหลุมรักสตางค์แต่ไม่กล้าบอกตั้งแต่นั้นมา แต่ในโรงงานมีหนึ่งคนที่มินนี่ต้องหัวเสียเมื่อต้องเจอ นั่นคือต้า (พระรอง) เด็กฝึกงานแผนกวิศวกรซึ่งต้าเป็นคนพูดน้อยแต่ถ้าพูดออกมาทีมีกระแทกใจ ซึ่งมินนี่โดนไปเต็มๆ เพราะต้าพูดเหน็บเชิงสั่งสอนในเรื่องที่มินนี่ชอบมองโลกในแง่ดีเกินไป ซึ่งต้ามองโลกในความเป็นจริงมากกว่า จึงทำให้ทั้งคู่มักต่อล้อต่อเถียงกันตลอดที่พบกัน โดยถึงแม้ว่าต้าจะรู้ว่ามินนี่เป็นลูกคุณนุ้ยก็เถอะ แต่ในสายตาต้า มินนี่ก็คือเด็กฝึกงานเช่นเดียวกับตน ส่วนยามโดดกับยามเด่นยังคงรู้สึกผิดขั้นสุด กลัวโดนไล่ออก เลยขอถวายตัวเป็นลูกน้องโทนี่จะใช้อะไรขอให้บอก โชคดีที่โทนี่ไม่เอาเรื่องเพราะคุณนายนุ้ยช่วยพูดเกลี้ยกล่อม แต่ถึงยังไงเรื่องนี้ก็ต้องมีแพะรับบาป โทนี่จึงหาเรื่องโทษแต่นายสตางค์ ซึ่งเขารู้สึกไม่ถูกชะตา เพราะเป็นยามแท้ๆ แต่กลับหล่อและเท่กว่า แถมเป็นต้นเหตุเรื่องทั้งหมดอีกด้วยโทนี่จะไล่ออกแต่ติดที่คุณนายนุ้ยมีเหตุผลพอเพราะสตางค์ก็ไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ โทนี่รู้สึกเสียหน้ามาก เลยอยากที่จะหาทางเอาคืนให้ได้! งานนี้ทั้งโทนี่และมาลี เลยต้องหันมาจับมือกัน หาทางให้สตางค์ออกไปจากโรงงานนี้!!! และแผนแรกของมาลีกับโทนี่ก็เกิดขึ้น เมื่ออยู่ ๆ ท่อระบายน้ำในโรงงานดันมาตัน แถมอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจความเรียบร้อยของโรงงานด้วย งานนี้คุณนายนุ้ยยิ่งต้องการผู้กล้ามาแก้ไขโดยด่วน โทนี่ต่อรองกับคุณนายนุ้ย ถ้านายสตางค์แก้ไขเรื่องท่อระบายน้ำตันไม่ได้ ก็ขอให้สตางค์ออกจากที่นี่ แต่ถ้าเขาทำได้ โทนี่จะยอมให้นายสตางค์เป็นยามที่นี่ต่อไป ซึ่งคุณนายนุ้ยก็ตกลงเสียอะไรก็ได้แต่คุณนายนุ้ยไม่ขอเสียเงิน เด็ดขาด!! สตางค์จึงจำใจต้องไปทำแถมถ้าทำไม่ได้ก็โดนไล่ออก งานนี้เขาจะโดนไล่ออกไม่ได้แต่โชคดีที่นัท ที่เป็นวิศวกรของโรงงานมาพบเข้า จึงให้ความช่วยเหลือสตางค์ทางด้านเครื่องมือ และช่วยสตางค์ในส่วนที่ช่วยได้ซึ่งต้าที่เป็นเด็กฝึกงานในการดูแลของนัทก็มาช่วยด้วย จนทั้งสามคนทำสำเร็จ สตางค์รู้สึกประทับใจนัทและต้ามากที่ช่วยตน ตนจึงบอกทั้งสองว่าถ้ามีปัญหาอะไร ให้ตนช่วยได้ตลอดด้านยามโดดยามเด่น ที่ไม่คิดว่าสตางค์จะทำสำเร็จ ทำให้โทนี่กับมาลีไม่พอใจ นอกจากนี้ ในโรงงานยังมียามเก่าอีกสองคน คนแรก ยามเปี๊ยก เป็นยามแต่ไม่ชอบสู้กับใครไม่ชอบมีเรื่องเป็นผู้ชายสายอ่อนโยน อะไรยอมได้ก็ยอม จึงมักถูกเอาเปรียบจากเพื่อนยามด้วยกัน นั่นก็คือยามแว่น เก่งแต่ปาก งานลำบากไม่ทำ อยู่มานานแต่ไม่ได้เป็นหัวหน้าซะที ออกจะค่อนข้างขี้เกียจ งานหลักชอบหลับในเวลางาน งานอดิเรกชอบใช้เพื่อนร่วมงานอย่างยามเปี๊ยก ยามโดดกับยามเด่นวางมาดเป็นหัวหน้ายามที่โหดดุ เพื่อให้สตางค์กลัวทั้งสองบ้าความเป็นทหารมาก แม้แต่จะกินข้าวก็ต้องขัดฉากก่อนทำให้สตางค์นึกว่าอยู่ในค่ายทหารซะอีกและทั้งสองก็อยากจะรับน้องขึ้นมา เลยสั่งให้วันนี้สตางค์อยู่จนมืด และต้องคอยปิดโรงงานจนกว่าพนักงานจะกลับจนหมด การมาของสตางค์ ทำให้สาว ๆ ในโรงงานหัวใจพองโต ยามอะไรหน้าตาโคตรดี ซูกัสลูกสาวยามเด่นที่เห็นยังอดใจไม่ไหว อยากจะจับจองเป็นเจ้าของหัวใจ เว้นแต่ถูกแม่ไฉไลสั่งห้าม เจ๊ไฉไลเป็นเมียของยามเด่น เปิดร้านขายอาหารตามสั่งอยู่ในโรงงาน วัน ๆ ไม่ค่อยชอบขาย ชอบจับกลุ่มเม้าท์นินทากับ เจ๊สว่าง ที่เป็นสาวโรงงานอยู่ฝ่ายผลิต ยามโดดตามจีบเจ๊สว่างมาหลายปี แต่ก็ไม่มีทีท่าจะสำเร็จ แต่ก็ไม่เคยท้อใจ หมั่นมาหยอดความรักให้ทุกครั้ง หวังว่าสักวันเจ๊สว่างจะใจอ่อน สตางค์ต้องอยู่เวรจนดึก ยามโดดกับยามเด่นคิดแผนแกล้ง ด้วยการหลอกผี แต่คนไม่กลัวผีอย่างสตางค์ทำอะไรเค้าไม่ได้ แถมจับได้ว่าสองหัวหน้ายามเป็นคนแกล้ง สตางค์เลยเอาคืนหลอกผีสองหัวหน้ายามกลับ และสองหัวหน้ายามดันเชื่อ กลัววิ่งหนีกลับบ้านแทบไม่ทัน สตางค์สะใจและตั้งใจจะกลับบ้าน แต่เห็นไฟในออฟฟิศเปิดอยู่ เลยเดินเข้าไปดู ก็เห็นว่ามาลีนั่งหลับคาโต๊ะทำงาน สตางค์มองมาลีจากไกล ๆ แล้วคิดถึงครั้งที่ทั้งสองเคยเรียนอยู่ด้วยกัน แต่ตอนนี้สตางค์กลับรู้สึกหวั่นไหวภายในใจ สตางค์พยายามข่มใจว่าตนต้องไม่มีทางชอบมาลีอย่างแน่นอนสตางค์กำลังจะเข้าไปปลุกมาลี แต่นัทเข้ามาปลุกมาลีซะก่อน ซึ่งนัทแอบชอบมาลีตั้งแต่มาลีเข้ามาทำงานที่นี่แรก ๆ แต่มาลีไม่เคยรับรักนัทเลย เพราะมาลีรู้ดีว่าเพื่อนของเธอที่ชื่อชมพูฝ่ายวิจัยห้องแลปในโรงงานชอบนัท เพราะมีอุดมการณ์เดียวกันในเรื่องการใช้ชีวิตตามบทเพลงเพื่อชีวิต มาลีจึงไม่เคยคิดเกินเลยกับนัทไปมากกว่าเพื่อน นัทมาส่งมาลีที่บ้าน ซึ่งแค่นี้นัทก็ดีใจแล้ว หลังจากมาลีเข้าบ้านไป นัทกำลังจะกลับก็ตกใจที่เห็นสตางค์ จึงรู้ว่าสตางค์เช่าบ้านอยู่ถัดจากบ้านของมาลีไม่กี่หลัง ทำให้นัทอยากมาบ้านสตางค์บ่อย ๆ เพราะจะได้หาเรื่องเพื่อมาหามาลีนั่นเอง ด้านโทนี่ก็ถูกคุณนายนุ้ยสั่งให้ไปเป็นเด็กฝึกงานกับทุกแผนก หรือเรียกว่าต่อไปนี้โทนี่มีตำแหน่งเป็นแค่พนักงานธรรมดา ไม่ใช่ลูกชายเจ้าของบริษัท เพราะคุณนายนุ้ยอยากให้โทนี่ได้เรียนรู้ระบบทุกเรื่องของโรงงาน จากลูกชายเจ้าของโรงงานกลับต้องไปเป็นพนักงานธรรมดาโทนี่รับไม่ได้ แถมยังมีนายสตางค์ที่ดูเก่งกว่าตนไปทุกอย่าง ทั้ง ๆ ที่นายสตางค์เป็นแค่ยาม ทำให้โทนี่คอยหาวิธีกำจัดสตางค์ออกไปให้ได้ ไม่ว่าวิธีนั้นจะสกปกรกแค่ไหนก็ตาม ส่วนคุณนายนุ้ยเจ้าของโรงงานแสงสมุทร เธอเป็นเพื่อนสนิทของพ่อสตางค์ชื่อนายพงษ์ คุณนายนุ้ยช่วยงานพงษ์มาตลอด แต่พอพงษ์หรือพ่อของสตางค์เสียชีวิต คุณนายนุ้ยก็มารับช่วงต่อดูแลบริษัทนี้ ทำให้สตางค์เข้าใจว่าคุณนายนุ้ยมาแย่งบริษัทของพ่อไป แต่ความจริงแล้วคุณนายนุ้ยอยากจะสานต่อบริษัทของพงษ์ให้อยู่รอดและเติบโตอย่างที่พงษ์ต้องการ และสัญญากับพงษ์ว่าจะดูแลลูกชายให้ แต่พอเธอมีลูกของตัวเองเธอก็ละเลยคำสัญญา จนสตางค์ต้องหนีไปอยู่กับยาย คุณนายนุ้ยตามหาแต่ก็ไม่พบ จนปล่อยให้มันเป็นไปตามโชคชะตา ซึ่งคุณนายนุ้ยมีความจริงเรื่องการตายของพงษ์อยากจะบอกกับลูกของพงษ์ แต่ชาตินี้เธอคิดว่า คงจะไม่ได้เจอกับลูกของพงษ์อีกแล้ว และวันนี้ วันที่สตางค์กลับมา คุณนายนุ้ยกลับจำสตางค์ไม่ได้เลย ถึงแม้ว่าเธอจะเคยเลี้ยงดูมา แต่ก็แค่ไม่กี่เดือน แถมตอนนั้นสตางค์เองก็เด็กมาก ๆ แต่ตอนนี้เธอกลับถูกชะตาสตางค์อย่างบอกไม่ถูก และยิ่งทำให้โทนี่ไม่ชอบขี้หน้าสตางค์ทวีคูณ เรื่องราววุ่นวายในโรงงานเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน วันดีคืนดีพนักงานก็ต่างพากันคิดว่าโรงงานนี้มีผี ทำเอาพนักงานแห่กันลาออก จนสตางค์ มาลี โทนี่ มินนี่ ต้า นัท และชมพู ต้องมาร่วมมือกันกอบกู้โรงงานให้พนักงานกลับมาทำงานอีกครั้ง ไหนจะเรื่องทะเลาะวิวาทของพนักงาน พนักงานแอบสร้างอาชีพเสริมในเวลางาน รับจ้างเป็นหมอดูซะงั้น ทำเอาคุณนายนุ้ยถึงกับกุมขมับอีกทั้งเรื่องราวความรักที่ยากจะลงเอย ระหว่างยามสตางค์กับดอกฟ้ามาลีที่มันจะเป็นไปได้หรือไม่ และนายสตางค์จะหาความจริงเรื่องพ่อของเขาได้สำเร็จมั้ย ติดตามได้ในซิทคอมวายปวงสุดชุลมุน เรื่อง.....ยามป่วน กวนหัวใจ

มัจจุราชฝึกหัด 2562

เรื่องย่อ : มัจจุราชฝึกหัด (2562/2019) “ท่านพญามัจจุราช” แห่งเมืองนรกยุค 2019 ที่ขึ้นชื่อว่า มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ล้ำยุค กว่าสวรรค์ซะอีก แต่ด้วยการที่ท่านพญามัจจุราชเริ่มแก่และไม่ค่อยทันยุคแล้ว จึงคิดที่อยากจะวางมือ ให้เด็กรุ่นใหม่ไฟแรง “มัจโจ” ลูกของตน ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งสืบต่อช่วงการครองบัลลังก์ ขณะนี้มัจโจมีอายุ 200 ปี ซึ่งถ้าเทียบกับโลกมนุษย์เท่ากับว่ามัจโจก็จะอายุ 20 ปี ส่วนท่านพญามัจจุราชอายุครบ 2,000 ปี มัจโจอ้างว่าตนยังไม่พร้อมที่จะรับตำแหน่งเพราะยังเด็กเกินไป ท่านพญามัจจุราชไม่สนคำอ้างของมัจโจและได้ดึงตัวมัจโจมาฝึกงานเพื่อเรียนรู้ก่อนที่จะขึ้นครองบัลลังก์ โดยมี “ สุวรรณ ” กับ “ สุวาลย์ ” ยมทูตคนสนิทซ้าย ขวาคอยเป็นพี่เลี้ยงสอนงานมัจโจ แต่มัจโจก็แอบอู้และแอบหนีเที่ยวตลอด ส่วนที่โลกมนุษย์ก็วุ่นวายไม่แพ้กัน เพราะในชุมชนรวยเลิศ “ ราณี ” เจ้าของชุมชนแห่งนี้ อยากจะขายที่ใจจะขาดเพราะอยากไปอยู่เมืองนอก แต่ติดที่ชื่อเจ้าของโดยแท้จริงคือ “ พิฑูรย์ ” สามีของตนที่ไม่อยากขาย และมักทะเลาะกันตลอดเวลา “ รวีวรรณ ” ลูกสาวคนสวยต้องคอยมาห้ามทัพอยู่ทุกครั้ง รวีวรรณมีดีกรีเป็นถึงดาวมหาลัยและเรียนเก่งอีกต่างหาก รวีวรรณเรียนอยู่คณะวิทยาศาสตร์จึงมักไม่ค่อยเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติเท่าไหร่ ที่บ้านหลังนี้ยังมี “แจ๋ว” สาวรับใช้คนสนิทของราณี ลูกคู่ชั้นดีที่คอยคิดแผนการบีบบังคับให้พวกชาวบ้านหาทางย้ายออกไปจากชุมชนรวยเลิศ และแล้วก็ถึงเวลาที่มัจโจต้องลงไปเรียนรู้การใช้ชีวิตที่โลกมนุษย์ แต่ท่านพญามัจจุราชไม่ได้ทิ้งให้มัจโจอยู่ที่โลกมนุษย์เพียงลำพัง ท่านพญามัจจุราชกล่าวกับมัจโจว่า “นี่คือบททดสอบของมัจโจที่จะต้องผ่านไปให้ได้ก่อนที่จะขึ้นครองบัลลังก์ เจ้าจะได้เจอ “มัจจา” พี่ชายต่างมารดาของเจ้า เขาจะคอยดูแลและเป็นพี่เลี้ยงให้กับเจ้าในโลกมนุษย์นี้” หลังจากพูดจบ ท่านพญามัจจุราชก็กลับไปในนรกทันที เหลือทิ้งไว้แต่ความสงสัยให้กับมัจโจ ขณะที่มัจโจกำลังเดินมึนงงกับโลกมนุษย์อยู่นั้น ก็เกือบจะมีเรื่องกับพ่อค้าขายปลา เพราะมัจโจเห็นปลานอนอยู่ในกาละมังแล้วรู้สึกสงสาร ก็เลยเอากาละมังนั้นไปเทลงคลองข้าง ๆ แผงขายปลา พ่อค้าปลาโวยวายจะเอาเรื่อง แต่ “ เวทิต ”เข้ามาช่วยไว้ได้ทัน ทำให้มัจโจ รอดไปได้อย่างหวุดหวิด เวทิตพามัจโจไปพักที่บ้านตนก่อน แท้จริงแล้วเวทิตก็คือมัจจา พี่ชายต่างมารดาของมัจโจที่พญามัจจุราชได้บอกไว้ สาเหตุที่มัจจาถูกส่งมายังโลกมนุษย์ก่อนก็เพื่อฝึกฝนให้มีความพร้อมที่จะปกป้องมัจโจได้ และเป็นแรงสนับสนุนช่วยให้มัจโจได้เป็นพญามัจจุราชในอนาคตนั่นเอง เวทิตบอกว่า นอกจากความสามารถในการมองเห็นวิญญาณที่มัจจุราชทุกคนต้องมีแล้ว มัจโจยังมีพลังพิเศษที่มากกว่าคนอื่นคือ การได้ยินเสียงความคิดของคนจากการได้สัมผัสตัว เวทิตย้ำว่า เรื่องสำคัญที่สุดในการมาโลกมนุษย์ครั้งนี้คือ มัจโจจะต้องเรียนรู้จิตใจของมนุษย์ หาสาเหตุว่าทำไมคนถึงทำดีกันน้อยลง ทำชั่วเยอะขึ้นจนขุมนรกจะแตกอยู่แล้ว และที่สำคัญคือ ต้องตามหาอัญมณีอเวจีที่หลุดหายไปจากยมโลก โดยมีเวทิตเป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลตลอดเวลาที่มัจโจอยู่บนโลกมนุษย์แห่งนี้ มัจโจถามว่าต้องอยู่ถึงเมื่อไหร่ แต่เวทิตเองก็ตอบไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะเสร็จสิ้นภารกิจนี้ ทำให้มัจโจเซ็งมากที่ต้องทำไปอย่างไม่รู้กำหนด แต่ก่อนอื่นมัจโจต้องเปลี่ยนชื่อก่อน เวทิตจึงตั้งชื่อในโลกมนุษย์ให้มัจโจว่า “โจ” วันที่สองของโลกมนุษย์ที่โจได้มาอยู่นั้น โจก็ได้พบกับรวีวรรณและตกหลุมรักในทันที เพราะตนไม่เคยพบมนุษย์ที่สวยตรงใจขนาดนี้มาก่อน โจจึงไปขอร้องให้เวทิตคอยช่วยตนจีบรวีวรรณ เวทิตเตือนว่าให้ทำใจไว้บ้าง เพราะความรักของพวกเรากับมนุษย์มันเป็นไปได้ยาก ถึงอย่างไร โจก็ยังชอบรวีวรรณอยู่ดี แต่ยังมีสิ่งที่มาขัดขวางความรักของโจอีก เพราะพิฑูรย์ได้หาคู่ไว้ให้รวีวรรณแล้ว นั่นก็คือ “ ก่อกุศล ” เจ้าของโชว์รูมรถเช่าชื่อดังไฟแรงเฟอร์ ที่มีพาวเวอร์รู้จักคนใหญ่คนโตมากมาย แถมยังนิสัยขี้โม้ ขี้เก๊กอีกต่างหาก จึงทำให้รวีวรรณไม่ชอบก่อกุศลอย่างแรง และพยายามหาทางหนีตลอดเวลาที่ก่อกุศลมาหา โดยมีตัวช่วยอย่าง “ โศรดา ” เพื่อนสาวที่เป็นยูทูปเปอร์คลิปล่าท้าผี คอยช่วยเหลือพาหนีตลอด แล้วโศรดาก็ต้องบังเอิญไปเจอเวทิตทุกครั้งที่มาหารวีวรรณ ซึ่งโศรดาเองก็ไม่ได้ชอบหน้าเวทิตสักเท่าไหร่นัก เพราะปากเวทิตค่อนข้างจะสุนัขไม่รับประทาน แต่ด้วยความที่เวทิตเป็นคนดี มีเมตตาชอบช่วยเหลือคนอื่น โดยบางทีก็ไม่ห่วงตัวเอง จากจุดนี้เองจึงทำให้โศรดาแอบหวั่นไหวอยู่บ้าง แต่คอยเตือนตัวเองเสมอว่าตนไม่มีทางชอบเวทิตเด็ดขาด ความสวยพราวเสน่ห์ของรวีวรรณยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ แต่ยังลามไปถึงแก๊งวินมอเตอร์ไซค์ประจำชุมชนอย่างวินรวยเลิศ ที่มีหัวหน้าวินคือ “ โหน่ง ” ซึ่งตกหลุมรักรวีวรรณอย่างหักปักหัวปำ และหวังที่จะเด็ดดอกฟ้ามาเชยชมให้จงได้ จึงพยายามไปเข้าหาทางผู้ใหญ่อย่างราณี เพราะโหน่งมีคติที่ว่า เข้าตามตรอก ออกตามประตู แล้วเนื้อคู่จะเข้ามาเอง แต่นอกจากจะไม่ได้ผลแล้ว ยังถูกราณีหลอกใช้ทำเรื่องเสีย ๆ หาย ๆ ให้กับชุมชนอยู่เสมออีกด้วย แต่โหน่งก็ไม่สน เพราะมีคติประจำใจอีกว่า น้ำหยดลงหินทุกวัน หินมันยังเปียก เฮ้ย...หินมันยังกร่อน!!! สักวันคุณนายราณีก็ต้องหันมาเห็นความดีกันบ้าง (แต่วันไหนถึงจะเห็นล่ะ) โหน่งมีลูกสมุนซ้ายขวาภายในวินที่พร้อมจะทำชั่วไปด้วยกันนั่นคือ “ เหน่ง ” กับ “ หน่อย ” ซึ่งทั้งสองคนไม่เพียงแต่เป็นลูกน้องที่มีลูกพี่คนเดียวกัน แต่ดันรักผู้หญิงคนเดียวกัน นั่นก็คือ โศรดานั่นเอง ทั้งคู่จึงมักทะเลาะกันเองอยู่บ่อย ๆ และทั้ง 3 คน ก็ไม่ถูกชะตากับโจลามไปถึงเวทิตด้วย เพราะเป็นศัตรูหัวใจกัน แต่ความวุ่นวายในชุมชนนี้ยังไม่หมด เพราะยังมี “ แดง ” แม่ค้าขายน้ำที่มีคำนำหน้าในบัตรประชาชนว่า “นาย” ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรในชุมชนเจ๊แดงรู้หมด แต่มักจะไม่เก็บไว้รู้คนเดียวซะด้วยสิ แดงรู้โลกก็รู้ เรื่องแดงแน่นอน!!! ด้วยความที่ชอบสอดรู้สอดเห็นของแดง จึงทำให้ “ สมชาย ” พ่อค้าขายอาหารตามสั่งไม่ค่อยชอบขี้หน้าสักเท่าไหร่ เพราะชอบมายุ่งเรื่องของตนเองด้วย จึงมีปากเสียงทะเลาะกันอยู่เป็นประจำ และคนที่ต้องมาคอยห้ามประจำเช่นกันก็คือ “ สมหญิง ” ลูกสาวสุดเซ็กซี่ ที่คอยขยี้ใจชายภายในชุมชน และเป็นคนเรียกลูกค้าชั้นดี จนเหมือนแทบจะแจกฟรียังไงยังงั้นก็ว่าได้ แต่สมหญิงไม่ค่อยชื่นชอบกับชื่อตัวเองเท่าไหร่ จึงมักให้ทุกคนเรียกว่า หญิงหญิง ซะมากกว่า และเมื่อหญิงหญิงได้พบกับโจ ก็ตกหลุมรักอย่างหัวปักหัวปำ ต้องจับมาทำสามีให้จงได้ ทำให้โจไม่ค่อยอยากจะผ่านร้านของหญิงหญิงสักเท่าไหร่เพราะกลัวโดนจับทำสามีนั่นเอง ยิ่งนานวันไปโจก็ยิ่งได้เรียนรู้มากขึ้น ได้ฝึกความเป็นผู้นำ การใช้สติเหตุผลมากกว่าการใช้กำลังเรียนรู้วิเคราะห์จิตใจมนุษย์ ไม่ตัดสินคนแต่เพียงภายนอกและด้านเดียว โจและเวทิตเริ่มทำงานเข้าขากันมากขึ้น พร้อมทั้งยังเรียนรู้สั่งสมประสบการณ์ไปพร้อม ๆ กัน นอกจากความก้าวหน้าในเรื่องภารกิจแล้ว เรื่องความรักก็ไม่น้อยหน้า หลายครั้งรวีวรรณและโศรดาก็จับพลัดจับผลูเข้าไปร่วมภารกิจกับโจและเวทิตซะอย่างนั้น จากที่รวีวรรณไม่เคยเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติมาก่อน ก็เริ่มไม่แน่ใจ เพราะเจอกับตัวเองเต็ม ๆ เจอวิญญาณครั้งแรกถึงกับลมจับ กลับบ้านแทบไม่ถูก แต่โจก็คอยดูแลอยู่ไม่ห่าง จึงทำให้รวีวรรณแอบหวั่นไหวภายในใจอยู่บ้าง ผิดกับโศรดาที่ชื่นชอบกับการได้เจอวิญญาณ และมุ่งมั่นจะถ่ายคลิปไปโพสต์ลงช่องยูทูปของตัวเอง โศรดาจึงชอบลากรวีวรรณมาตามติดเวทิตและโจอยู่บ่อย ๆ ยิ่งอยู่ใกล้กันเท่าไหร่ โจก็ยิ่งหลงรักรวีวรรณมากขึ้นเท่านั้น แต่ติดตรงที่ทั้งคู่อยู่ต่างภพจึงดูไม่มีทางไหนที่จะสมหวังเอาซะเลย ซึ่งก็ไม่ต่างจากคู่ของเวทิตกับโศรดา ถึงแม้ปากจะไม่ตรงกับใจ แต่ใครจะไปคิดว่าลึก ๆ แล้ว ทั้งคู่ก็ต่างมีใจให้กันนั่นแหละ แต่ปากแข็ง!!! และแล้วในที่สุด ท่านพญามัจจุราชก็เห็นว่ามัจโจน่าจะพร้อมขึ้นรับตำแหน่งแล้ว มัจโจได้ทำภารกิจสะสมบารมี ฝึกความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และที่สำคัญฝึกความเป็นมัจจุราชที่ดี ไม่ใช้แต่อำนาจ แต่ใช้ใจในการบริหารดูแล แต่มัจโจกลับรู้สึกเสียใจมากและไม่อยากกลับไปเป็นพญามัจจุราช เพราะตนรักรวีวรรณไปหมดหัวใจซะแล้ว แต่ความรักของทั้งสองคนไม่มีทางเป็นไปได้ เช่นเดียวกับมัจจาที่ต้องกลับไปคอยช่วยดูแลมัจโจที่ยมโลก ซึ่งตนก็หลงรักโศรดาไปแล้วเช่นกัน แต่ถึงยังไงมัจโจกับมัจจาก็ต้องกลับไปทำหน้าที่อยู่ดี โดยมัจโจกลับไปรับตำแหน่งพญามัจจุราช โดยมีมัจจาคอยเป็นที่ปรึกษาและเฝ้ามองรวีวรรณกับโศรดาอย่างเป็นห่วงอยู่ไกล ๆ ที่ยมโลก โดยหวังว่าสักวันหนึ่งคงได้พบกันเหมือนเช่นตอนที่ทั้งคู่ยังเป็น...มัจจุราชฝึกหัด

โรงพัก...รักไม่จำกัด 2562

เรื่องย่อ : โรงพัก...รักไม่จำกัด (2562/2019) เมื่อผู้หมวดหนุ่มหน้าเป็นต้องมาปิ๊งรักกับสัตวแพทย์สาวหน้าหวาน แต่หนทางความรักของทั้งเขาและเธอกลับไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เมื่อต้องเข้ามาอยู่ในโรงพักสุดป่วนกับเหล่าบรรดาโปลิศสุดฮา...พร้อมด้วยเหล่าบรรดาเมียผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่สุดเฮี้ยบ...ชีวิตรักที่กำลังจะลงล๊อค...ก็เลยต้องมาพลิกล๊อค...เรื่องราววุ่นวายอลเวงของความรักของหนุ่มหน้าเป็นกับสาวหน้าหวานที่จะทำให้คุณครื้นเครงจนขากรรไกรค้าง.. ร.ต.ท.ปรัชญา ผู้หมวดจอมทะเล้นน่ารักน่าหยิกและเป็นขวัญใจของสาวๆ กำลังตื่นเต้นกับการที่ต้องมารับราชการอยู่ที่ สภ. เชิญสำราญ สภ.ที่ร่ำลือกันหนาหูว่าตั้งอยู่ในเขตพื้นที่สีแดงที่กำลังร้อนแรงจากอันตรายของเหล่าอาชญากร ปรัชญาตื่นแต่เช้ารีบออกจากบ้าน และด้วยความรีบร้อนก็ทำให้เขาไปชนท้ายกับรถคันหนึ่งเข้า จะด้วยสวรรค์บันดาล กามเทพแผลงศรหรืออย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เขาได้พบกับนางฟ้าบนดิน...หนูนา เจ้าของรถที่ถูกปรัชญาชนท้าย แต่หนูนากลับไม่คิดแบบนั้น เธอวีนใส่เขาแต่ยิ่งวีนเท่าไหร่ปรัชญาก็ยิ่งตกหลุมรักเธอมากขึ้น จนหนูนาคิดว่าปรัชญาท่าทางจะสติไม่ค่อยดี หนูนาไม่เอาเรื่องเพราะต้องรีบไปทำงาน แล้ววินาทีที่หนูนาจากไปทำให้ปรัชญาหันมาขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้เขารู้ว่า...นางฟ้ามีจริง... และเพราะอุบัติเหตุรักก็ทำให้ปรัชญามารายงานตัวสาย แต่ทันทีที่เขาก้าวเข้ามาที่โรงพักเขาก็ต้องปะกับ พ.ต.อ.สันติ ( ผู้กำกับแผนสูง เป็นที่ยำเกรงของลูกน้อง แต่ตัวเองยำเกรงภรรยา ) สารวัตรองอาจ (สารวัตรหนุ่มใหญ่ เท่ห์ สมาร์ท และปากหวาน ) จ่าอ้วน ( จ่าปากหมา เก็บความลับไม่อยู่ ทางเพื่อนตำรวจจึงพร้อมใจกันอยากให้จ่าอ้วนไปสมัครเป็นสุนัขตำรวจจริงๆ) จ่าดำ ( จ่าตัวผอม กลัวเมียขึ้นสมอง แต่กลัวเจ้านายยิ่งกว่า สิ่งที่ทำให้บรรเทาความกลัวลงได้ก็คือการได้ร้องลิเก ) จ่าพุธ ( ผู้ธรรมะธรรมโม มักจะจับผู้ร้ายด้วยธรรมะมากกว่ากระสุนปืน) และ ส.ต.ต.ก้ำกึ่ง ( หมู่หน้าละอ่อน ไม่ค่อยทันคนอื่น แต่เป็นผู้รักเสียงเพลงทุกชนิดบนโลกใบนี้ ) ทั้งหมดคือตำรวจที่อยู่ที่ สภ.เชิญสำราญแห่งนี้ ปรัชญาเข้าไปรายงานตัวกับ พ.ต.อ.สันติ ที่กำลังโกรธจัดเรื่องที่ปรัชญามาสาย แต่ยังไม่ทันที่ปรัชญาจะรายงานตัวก็มีวิทยุแจ้งเข้ามาว่ากำลังมีการสกัดจับผู้ต้องหาลักลอบค้าสัตว์ป่า ทุกคนจึงพร้อมใจกันรับน้องใหม่อย่างปรัชญาโดยให้ปรัชญาจับกุมผู้ต้องหาลักลอบค้าสัตว์ป่ารายนี้มาให้ได้ แต่ระหว่างที่ปรัชญากำลังขับรถไปอยู่นั้น ด้วยความใจลอยทำให้เขาไปชนท้ายเข้ากับรถของหนูนาเข้าอีกครั้ง ปรัชญาถึงกับตะลึงเพราะไม่คิดว่าเขาจะได้พบกับนางฟ้าของเขาอีกเป็นครั้งที่สอง แล้วทันใดนั้นสายตาของปรัชญาก็เหลือบไปเห็นสรรพสัตว์ที่อยู่ท้ายรถ ของหนูนาเข้า ทำให้ปรัชญาคิดว่าหนูนาต้องเป็นพวกลักลอบค้าสัตว์แน่นอน ขณะที่หนูนาเองก็คิดว่าปรัชญาต้องเป็นพวกโรคจิตที่แอบชอบเธอและแอบขับรถสะกดรอยเธอแน่ๆ หนูนาตัดสินใจหนีปรัชญาทันทีเพราะคิดว่าปรัชญาเป็นคนบ้า เมื่อปรัชญาเห็นหนูนากำลังจะหนีจึงตัดสินใจทำสิ่งที่จะทำร้ายหัวใจตัวเองคือการจับเธอใส่กุญแจมือในข้อหา...ลักลอบค้าสัตว์!!! ทั้งหมดถึงกับทึ่งปรัชญาที่ทำผลงานตั้งแต่มาปฏิบัติหน้าที่ในวันแรกซะแล้ว ปรัชญายิ้มกริ่มเพราะคิดว่าผลงานครั้งนี้คงจะทำให้ พ.ต.อ.สันติ หายโกรธ แม้ว่าการจับกุมหนูนาจะเป็นการทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับหัวใจก็ตาม ปรัชญาพาตัวหนูนาผู้ต้องหาทำการลักลอบค้าสัตว์เข้ามาให้ทุกคนดู ทุกคนถึงกับอ้าปากค้าง..ง..ง โดยเฉพาะ พ.ต.อ.สันติ เพราะหนูนาผู้ต้องหานั่นคือสัตวแพทย์ผู้เป็นลูกสาวสุดรักสุดหวงของเขานั่นเอง เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ปรัชญาถูก พ.ต.อ.สันติ เฉ่งเป็นการใหญ่ รวมทั้งหนูนาที่คิดว่าปรัชญานั่นเป็นผู้ชายกวนตีน จึงเกลียดขี้หน้าและไม่ขอเจออีกต่อไป แต่ตรงข้ามกับปรัชญาที่กำลังยิ้มอย่างโล่งใจที่หนูนา นางฟ้าของเขาไม่ได้เป็นพวกคนร้ายอย่างที่เขาคิด แต่เรื่องวุ่นวายยังไม่หมดเมื่อ ร.ต.ต.หญิงแตงโม ผู้ที่คิดว่าตัวเองสวยเซ็กส์บาดใจชาย (แต่ที่ไหนได้ความจริงกลับตรงกันข้าม) กำลังทะเลาะกับ ส้มเช้ง ( ลูกสาวเจ้หวีที่คิดว่าตัวเองเป็นซินเดอเรล่าตกยาก ) ที่ขึ้นมาส่งอาหารแดกด่วนหรือข้าวแกงนั่นเองบนโรงพัก ทั้งคู่เป็นคู่กัดกันมาตั้งแต่ไหนไม่มีใครทราบได้ รู้แต่ว่าทั้งคู่มักจะมีกรณีพิพาทเรื่องผู้ชายอยู่เสมอ และเมื่อทั้งคู่พบกับปรัชญา สงครามชิงตัวผู้หมวดรูปงามจึงปะทุขึ้น ปรัชญากลุ้มใจอยากจะทำให้ พ.ต.อ.สันติ และหนูนาหายโกรธ บรรดาจ่าและหมู่ต่างเห็นใจผู้หมวดหน้าใหม่จึงช่วยกันออกอุบาย ในเมื่อเข้าหน้าบ้านไม่ได้ก็ต้องเข้าหลังบ้านล่ะวะ หลังบ้านที่ว่านั้นก็คือบรรดาสมาคมแม่ (บ้าน) ตำรวจที่ประกอบด้วย คุณนายพจมาน ภรรยาผู้แสนดีแต่แฝงไปด้วยเขี้ยวเล็บของสันติ วีณา ภรรยาสาวสวยของสารวัตรองอาจ เจ้หวี แม่ค้าขายอาหารตามสั่งหลังโรงพักที่ชอบแต่งตัววาบหวิวจนแทบน้ำหมากกระจาย และแล้วเวลาแห่งภารกิจเสี่ยงตายก็มาถึง ปรัชญาเตรียมตัวเตรียมใจทั้งใส่เสื้อกันกระสุน อาวุธครบมือยังกับแรมโบ้ยังไงยังงั้น แต่สุดท้ายสิ่งที่เขาเห็นก็ถึงกับทำให้เขางงเป็นไก่ตาแตก เมื่อสารวัตร จ่าอ้วน จ่าดำ จ่าพุธ และหมู่ก้ำกึ่ง บอกเขาว่าให้เข้าทางหลังบ้านหมายถึงให้เข้าทางแม่ของหนูนานั่นคือคุณนายพจมานนั่นเอง เรื่องนี้ทำให้ร.ต.ต.หญิงแตงโมถึงกับทนไม่ได้ที่จะปล่อยปรัชญาไปอยู่ในมือของหนูนา เธอจึงต้องรีบแจ้นไปฟ้อง พ.ต.อ.สันติทันที ขณะที่ปรัชญาก็ได้รับการต้อนรับจากคุณนายพจมานเป็นอย่างดี แต่ยังไม่ทันที่ปรัชญาจะฝากเนื้อฝากตัว พ.ต.อ.สันติและหนูนาก็รีบรุดเข้ามาในบ้าน พอ พ.ต.อ.สันติได้ยินเสียงหัวเราะต่อกระซิกของพจมานกับปรัชญาก็เข้าใจผิดว่าทั้งสองแอบเป็นชู้กัน แต่ก่อนที่เรื่องจะวุ่นวายไปกันใหญ่ พ.ต.อ.สันติผู้เกรงใจเมียก็ถูกคุณนายพจมานหมายหัวเอาไว้ว่าถ้าทำอะไรปรัชญาคนที่จะตายก็คือสันตินั่นเอง เรื่องราวจึงเริ่มต้นขึ้นเมื่อปรัชญาพยายามที่จะพิชิตใจหนูนาโดยมีพ.ต.อ.สันติคอยเป็นก้างขวางกระเดือกตลอดเวลา แต่สันติก็ทำอะไรได้ไม่มากนักเพราะมีคุณนายพจมานที่คอยถือหางปรัชญาอยู่ ความแค้นจึงสุมอกสันติขึ้นไปเรื่อยๆแทบระเบิด แล้ววันที่ปรัชญาได้ทำคะแนนพิชิตใจหนูนาก็มาถึงเร็วกว่าที่คิดเมื่อ “เจ้าสายฟ้า” เต่าญี่ปุ่นที่มีคนฝากมาให้หนูนาดูเรื่องการฟิตร่างกายเพื่อลงแข่งวิ่งเต่าเกิดหายไป เดือดร้อนถึงปรัชญาต้องหาเจ้าสายฟ้าเอามาคืนให้ได้ เป็นจังหวะเดียวกับเรื่องที่จะมีตำรวจชั้นผู้ใหญ่เดินทางมามอบนโยบาย สารวัตรองอาจจึงสันนิษฐานว่าหรือว่าคนร้ายมันจะขโมยเต่าไปเพื่อใส่ระเบิด เพราะคนจะได้ไม่สงสัย เป็นแผนการลอบวางระเบิดแน่ๆ ทุกคนพยายามตามหาเจ้าสายฟ้าทุกหนทุกแห่ง แต่ก็ไม่พบจนกระทั่งทั้งหมดพบว่าที่แท้เจ้าของสายฟ้าเอากลับไปตอนที่หนูนาไม่อยู่ แล้วลืมบอกหนูนานั่นเอง ส่วนองอาจก็โดนสันติตำหนิไปตามระเบียบเพราะข้อสันนิษฐานที่เกินจริง ทำให้ยกเลิกการเดินทางมาของตำรวจชั้นผู้ใหญ่นั้นเอง หลังจากเรื่องวุ่นวายผ่านไป หนูนาจำเป็นต้องมาสัมมนาที่กรุงเทพฯ สันติกลัวว่าหนูนาจะไม่ปลอดภัยจึงต้องหาบอดี้การ์ดไปคอยดูแล แล้วคนนั้นจะเป็นใครไปได้ถ้าไม่ใช่ปรัชญา ปรัชญาพยายามจะทำคะแนนให้หนูนาชอบ หนูนาพยายามไล่ให้ปรัชญากลับไป แต่แล้วทั้งสองคนแทนที่จะไปเข้าห้องสัมมนา หนูนากลับไปโผล่ให้ห้องลับที่พวกมาเฟียกำลังตกลงซื้อขายยากัน ปรัชญาเองก็อยากจะจำพวกมันหรอก แต่ให้ตำรวจคนเดียวจับผู้ร้ายสิบคนก็คงไม่ไหว ทางเดียวที่จะทำได้ก็คือ หนี ! ปรัชญาพาหนูนาวิ่งหนีพวกแก๊งมาเฟียมาตามทางก่อนที่ทั้งคู่จะหลบเข้าไปอยู่ในห้องแช่แข็ง ปรัชญากับหนูนากอดกันกลมด้วยความหนาว ทั้งสองพยายามทำร่างกายให้อบอุ่นทั้งการออกกำลังการกอดกันก่อนที่จะมีคนมาพบทั้งคู่ พร้อมกับความจริงเปิดเผยว่าที่ปรัชญากับหนูนาเข้าใจว่าเป็นแก๊งมาเฟียนั้น ที่แท้เป็นการถ่ายละครนั้นเอง ขณะที่โรงพักก็จัดประกวดธิดาเชิญสำราญ บรรดาตำรวจหญิง แม่ค้าและบรรดาสมาคมเมียตำรวจต่างลงประกวดกันครบ ความวุ่นวายจึงเกิดขึ้นเพราะใครก็รู้ว่า ผู้หญิงเรื่องอื่นน่ะยอมกันได้ แต่เรื่องความสวย ยอมกันไม่ได้แน่นอน แต่จากปัญหาของผู้หญิง ก็เริ่มจะบานปลายกลายเป็นปัญหาของพ่อบ้าน เพราะต้องคอยถือหางภรรเมียของตน จนทำให้โรงพักแทบจะกลายเป็นสงคราม จนในที่สุดสันติทนไม่ไหวจึงได้ประกาศยกเลิกการประกวด เพราะรางวัลหรือตำแหน่งไม่สำคัญเท่ากับความสามัคคีของพวกเรา หลังจากที่ปรัชญาช่วยหนูนาผ่านเรื่องราวต่างๆมา ทั้งสองต่างก็สนิทกันมากขึ้น แต่ดูเหมือนว่าคราวนี้ปรัชญาจะไม่ค่อยอยากสนิทกับหนูนาเท่าไหร่ นั่นก็เพราะระหว่างที่หนูนาเอาสุนัขปอมปอมชื่อจิงจิงไปคืนให้เจ้าของ ปรัชญาแกล้งหนูนาโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ ทำให้กรงของเจ้าปอมปอมหล่นแตกออก ก่อนที่เจ้าจิงจิงจะวิ่งหนีเข้าไปในบ้านร้างหลังนึง ปรัชญากับหนูนาตามเจ้าจิงจิงเข้าไปในบ้านหลังนั้นก่อนที่ทั้งคู่จะตกใจเมื่อเห็นว่าภายในบ้านหลังนั้นมีผี ปรัชญากับหนูนารีบวิ่งกันออกมาแทบไม่ทัน ก่อนที่หนูนาจะบอกว่ายังไงก็ต้องเข้าไปช่วยจิงจิง ปรัชญาจึงต้องเตรียมอาวุธยุทโธปกรณ์พร้อมสรรพก่อนจะยกพลพรรคตำรวจเข้าไปช่วยกัน แต่ผีอะไรจะกลัวตำรวจ มีแต่ตำรวจที่กลัวผี ผลก็คือ วิ่งกันป่าราบออกมาแทบไม่ทัน ทั้งหมดสงสัยว่าผีบ้าอะไร ทำไมไม่กลัวหมอผี ไม่กลัวข้าวสารเสก ไม่กลัวน้ำมนต์ ก่อนที่จ่าอ้วนจะพูดขึ้นว่า หรือว่ามันจะเป็นซอมบี้ ทั้งหมดคิดว่าใช่ ปรัชญาและทุกคนจึงเตรียมอาวุธครบมือ ก่อนจะบุกเข้าไป ก่อนที่ทุกคนจะถึงบางอ้อ ว่าที่เจ้าผีในบ้านนั้นไม่กลัวผีก็เพราะเขาไม่ใช่ผี แล้วก็ไม่ได้เป็นซอมบี้อะไร เขาเป็นแค่คนจรจัดที่มาอาศัยอยู่ในบ้านร้างหลังนั้นนั่นเอง ชุมชนเชิญสำราญทำท่าว่าจะสงบ แต่แล้วกลับมีเด็กแว้นมาสร้างความรำคาญขึ้นไม่เว้นแต่ละคืน จนทำให้ชาวบ้านต่างพากันไม่ได้หลับไม่ได้นอน เดือดร้อนถึงขั้นที่สันติต้องเรียกประชุมตำรวจเพื่อจัดการกับเด็กแว้นให้ได้ ก่อนที่ปรัชญาจะเสนอแผนให้ส่งหนอนบ่อนไส้เข้าไปสืบข่าวแล้วรายงาน เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่มีทางจับพวกเด็กแว้นได้แน่ๆ ปรัชญาจึงต้องกลายเป็นเด็กแว้นเพื่อสืบข่าว เพราะปรัชญาเป็นคนเสนอความคิด ก็ต้องรับผิดชอบกับไอเดียนี้ แต่กลับผิดพลาดก็ตรงที่ภารกิจนี้ดันเป็นความลับ ปรัชญาจึงโดนตำรวจจากอีกโรงพักจับ เพราะดันไม่ได้บอกกล่าวกัน ผลก็คือปรัชญาโดนจับเดือดร้อนตรงที่หนูนาต้องมาประกันตัวเพราะเอากระต่ายมาส่งให้ตำรวจบนโรงพักพอดี ตำรวจในโรงพักนั้นจึงได้รู้ว่าที่แท้ปรัชญาเป็นตำรวจจริง แต่กว่าจะรู้ความจริง ก็แทบจะเป็นไข้เลือดออกเพราะโดนยุงหามทั้งคืน สาโรจน์...พ่อของปรัชญาแอบมาเซอร์ไพรซ์ไอ้ลูกชาย พร้อมกับบอกข่าวร้ายว่าคงจะอยู่ได้อีกไม่นานเพราะเป็นมะเร็ง ปรัชญาอึ้งไปก่อนที่สาโรจน์จะบอกว่า ก่อนที่เขาจะตาย เขาอยากอุ้มหลานสักครั้ง ปรัชญาจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะพิชิตใจหนูนาและขอมีลูกกับเธอให้ได้ ซึ่งสาโรจน์เองก็ถูกชะตากับหนูนาเป็นที่สุด แต่ก็เกลียดขี้หน้าสันติเป็นที่สุดเช่นกัน เพราะสันติคือก้างชิ้นใหญ่ที่ขวางคอไอ้ปรัชญาลูกชายสุดเลิฟไม่ให้รักกับหนูนา แต่แล้วเมื่อสันติรู้เรื่องที่สาโรจน์จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน ก็ยินดีให้หนูนาแต่งกับปรัชญา แต่ความดันมาแตกก็ตรงที่แม่ของปรัชญาโทรมาถามว่าพ่อเอ็งหายไปจากบ้าน ไม่รู้ว่าหายไปไหน จึงทำให้ทั้งหมดได้รู้ว่าสาโรจน์แต่งเรื่องที่ตัวเองเป็นโรคร้ายขึ้นมาเพื่อให้ปรัชญาแต่งงานซะที สาโรจน์จึงต้องกลับนครสวรรค์ไปอย่างไม่เต็มใจ แต่ก่อนกลับก็ยังไม่วายสั่งปรัชญาว่า ขอลูกชายนะ ทำเอาปรัชญากับหนูนาถึงกับไปไม่ถูกเลยทีเดียว หนูนาทำท่าจะใจอ่อนกับความพยายามของปรัชญาเข้าให้แล้ว นั่นก็เพราะเธอเห็นความตั้งใจและความดีของปรัชญาที่ต้องการกวาดล้างพวกลักลอบค้าสัตว์ป่า โดยสันติเองก็ยอมให้แต่งกับปรัชญาเพื่อให้ความฝันของปรัชญาสำเร็จ แต่แล้วปรัชญาก็เฉลยความจริงว่าทั้งหมดเป็นแผนเพื่ออยากรู้หัวใจของหนูนานั่นเอง หนูนาโกรธที่ปรัชญาเล่นอะไรพิเรนทร์แบบนี้ ปรัชญาขอโทษหนูนาว่าจะไม่เล่นแบบนี้อีก ปรัชญากับหนูนาจะยิ้มให้กันอย่างมีความสุข ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของเพื่อนตำรวจที่ดีใจกับทั้งคู่

รักนี้ บุญรักษา 2562

เรื่องย่อ : รักนี้บุญรักษา (2562/2019) “กมฺมุนา วตฺตตีโลโก” สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม แต่ว่ากรรมใดหนอที่ทำให้ชีวิตของ บุญ ภาวนาดี เต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่คาดคิดอย่างกับอยู่ในละครซิทคอม เล่ากันว่า...ชีพ พ่อของบุญ คือลูกชายของ ชัยชนะ มหาเศรษฐีใหญ่ ที่เกิดพบรักกับแม่ค้า แล้วพ่อบุญก็พาแม่มาเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยไม่นำสมบัติของปู่ติดตัวมาแม้แต่ชิ้นเดียว ซึ่งถ้าเรื่องเล่านี้เป็นจริง บุญคงแอบคิดในใจ ว่าพ่อก็หยิ่งเกิ๊น น่าจะนำสมบัติติดตัวมาสักหน่อย ครอบครัวจะได้ไม่ลำบากขนาดนี้... ...หรือเรื่องความร่ำรวยของพ่อ จะเป็นแค่เรื่องเล่า... หลังจากที่พ่อแม่ของบุญรถคว่ำตาย ยายบัว จึงให้บุญบวชเรียนตั้งแต่ 10 ขวบและศึกษาธรรมะจนได้นักธรรมเอก แต่เมื่อโตขึ้นบุญตัดสินใจสึกออกมาดูแลยายเพราะต้องการตอบแทนบุญคุณ และคิดว่าในโลกนี้ นอกจากยายบัว บุญก็ไม่มีญาติที่ไหนอีก แต่ใครจะคิดว่า ตำนานรักลูกชายมหาเศรษฐีของพ่อจะเป็นจริง เมื่อ อาแจ่ม เลขาคนสนิทของปู่ มาพบกับบุญและยายบัวพร้อมพินัยกรรมที่ระบุว่า ปู่ที่ตายไป ได้มอบ หอเกียรตินิยม หอพักนักศึกษา ให้กับพ่อของบุญที่ตายไปแล้วเช่นกัน ซึ่งเท่ากับว่าหอพักตกเป็นของบุญ ที่ยังอยู่... บุญที่เคยบวชเรียนและใช้ชีวิตสงบมาตลอด เดาออกว่ามรดกนี้จะต้องมาพร้อมกับความวุ่นวายจึงไม่อยากรับ แต่เมื่ออาแจ่มเล่าถึงความตั้งใจของปู่ ที่ได้สร้างหอพักที่แสนสะดวกสบาย ไว้ให้นักศึกษาเช่าในราคาถูกแสนถูก โดยมีข้อแม้ว่า เด็กที่จะเช่าอยู่ที่นี่ได้ จะต้องมีเกรด 3.00 ขึ้นไป บุญก็เริ่มเข้าใจเจตนาของปู่ ที่อยากส่งเสริมการศึกษาให้กับอนาคตของชาติ พอดีกับ ยายบัว ที่ถูกเซเว่นมาเปิดดักทางเข้าร้านขายของชำ ยายบัวจึงกล่อมให้ บุญ รับมรดกหอพัก เพื่อที่ยายจะได้ไปเปิดร้านชำใต้หอเพื่อความอยู่รอดอีกที บุญยอมตกลงโดยมีเงื่อนไขว่า อาแจ่ม จะต้องเข้ามาช่วยเป็นผู้จัดการหอ และเมื่อทุกอย่างลงตัว บุญจะตัดสินใจอีกที ว่าจะดูแลหอต่อไป หรือจะยกหอพักให้ ช้างเผือก ลูกชายคนสุดท้องของ ปู่ชัยชนะ ที่มีนิสัยขี้งก เห็นแก่ตัว และจงเกลียดจงชังพ่อของบุญมาตลอด และเมื่อพ่อไม่อยู่ ช้างเผือกก็โอนความเกลียดมาลงที่บุญเต็มๆ เพราะ ช้างเผือกอยากได้ที่หอพัก มาสร้างคอนโดที่ทำกำไรได้มากกว่า จนตามมากลั่นแกล้ง สร้างเรื่องวุ่นวายให้คนในหออยู่เสมอ ที่หอเกียรตินิยม บุญยังต้องรับมือกับ ชมจันทร์ เด็กปี 4 การโรงแรม ลูกสาวสุดสวย ที่อาแจ่มหอบมารับจ๊อบให้เป็นผู้ช่วยผู้จัดการหอ แต่ด้วยความดื้อ กวนประสาท และคิดว่าพ่อถูกเอาเปรียบ ชมจันทร์ก็มักจะทะเลาะกับบุญ และสร้างปัญหา ไม่แพ้นักศึกษาที่มาเช่าหออย่าง มาร์ค ที่ชื่อเดิมตอนอยู่ต่างจังหวัดว่ามาก เด็กบริหารปี 2 ใจร้อน ขาลุย ใช้กำลังและเงินแก้ปัญหามากกว่าใช้สมอง ถึงเรียนไม่เก่ง แต่มาร์คต้องทำทุกวิธี ที่จะให้ได้เกรด 3.00 เพื่อที่จะได้อยู่ที่หอเกียรตินิยม ให้สมกับความคาดหวังและความกดดันของพ่อ โดยอีกเหตุผลหลักที่ทำให้มาร์คอยากอยู่ที่หอนี้ ก็เพราะ ตกหลุมรัก ปิ๊งปิ๊ง เด็กนิเทศปี 2 สวยและแคร์สื่อมาก ติดโซเชี่ยล อยากให้ทุกคนรัก หลงหมกมุ่นกับตัวเอง มีความฝันอยากเป็นดารา ใช้ชีวิตอยู่กับโซเชี่ยลและตามหาฝันมากกว่าเข้าเรียน ทั้งมาร์คและปิ๊งปิ๊งต่างก็ถูกรุ่นน้องเรียนแซงไปแล้วหลายรุ่น แต่ทั้งคู่ก็หาแคร์ไม่ ตรงข้ามกับ สุด เด็กปี 1 วิศวะคอมพิวเตอร์ เนิร์ดๆหลอนๆ พูดน้อยไม่สนใจใคร เข้าสังคมไม่เป็น มีเป้าหมาย อยู่กับการสอบชิงทุน หมกมุ่นกับการเรียน และเมื่อผิดหวังเรื่องเรียน สุดก็มักจะสติหลุดจนเกิดเรื่องวุ่นวายสุดๆอยู่เสมอ น้ำวน เด็กบัญชีปี 2 ใช้ความฮา เล่นใหญ่ กลบเกลื่อนความไม่มั่นใจ ทั้งที่ตัวเองไม่ชอบบัญชี และอยากเป็นนักเขียนนิยาย แต่ไม่กล้าบอกความจริงกับพ่อแม่ ชีวิตน้ำวน ก็วนสมชื่อ เพราะลังเล ตัดสินใจอะไรไม่ได้ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เพี้ยนๆขึ้นในหอพัก น้ำวนก็มักจะโวยวายใส่ไข่ มโนแจ่ม จนคนอื่นวิตกจริตไปด้วย นอกจากนี้บุญยังรับ รักชาติ รปภ. ผู้มีความฝันอยากเป็นหน่วยซีล ปฏิบัติงานได้อย่างสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก มาดูแลหอ ทุกภารกิจที่ถึงมือรักชาติ ไม่ว่าจะเป็น อยู่เวร โบกรถ แลกบัตรผู้มาติดต่อ หรือช่วยเหลือผู้เช่าตามแต่จะร้องขอ รักชาติก็จะเล่นใหญ่ ทำเรื่องง่ายให้กลายเป็นยากสาหัส จนน่าปวดหัว ส่วน อาแจ่ม ที่แม้จะเข้ามาช่วยบุญดูแลหอพักด้วยความซื่อสัตย์และเต็มใจ แต่ก็ไม่ทิ้งมาดกวน และใจร้อน ปฏิบัติต่อผู้เช่าแบบดีมาดีไป ร้ายมาร้ายไป ไม่โกง และมักอ้างความเป็นผู้ใหญ่มาตัดสิน จนมักทะเลาะกับผู้เช่าเด็กๆ อยู่เสมอ โดยมี ยายบัว ที่คอยดูแลร้านชำในหอพัก คอยติดตามเรื่องราว และมาเม้าเว่อร์ๆ ให้ บุญหนักใจ เป็นกิจวัตร แต่นอกจากปัญหาป่วนๆภายในหอ ปัญหาที่ทำให้บุญลำบากใจที่สุดคือ “ความรัก” เพราะนอกจากบุญจะหลงรักชมจันทร์ตั้งแต่แรก แต่ไม่ได้บอกไป เพราะใช้เวลาทะเลาะกันบ่อยกว่า ชมจันทร์เองก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเซ็งในความบื้อ เฉิ่ม ดูไม่น่าพึ่งพาได้ของบุญ โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าบุญตัดสินใจไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัย แต่เลือกที่จะเรียนทางไกลด้วยตัวเอง เพื่อนำเวลามาดูแลหอพัก ก็ทำให้ชมจันทร์ยิ่งดูถูกว่าบุญไม่มีความรู้ ต่างจาก พีท นักเรียนนอกไฮโซ ลูกชายของช้างเผือกที่ชมจันทร์แอบปลื้มอยู่ แม้ปัญหาหัวใจยังแก้ไม่ได้ แต่บุญก็พยายามแก้ปัญหาในหอพักด้วยหลักธรรม ลงมือทำ และใช้ธรรมที่ร่ำเรียนมาปรับใช้กับทางโลก จนหอเกียรตินิยม เริ่มเข้ารูปเข้ารอย แถมยังช่วยเตือนสติให้เหล่านักศึกษาผู้เช่าหอ ได้มองเห็นเส้นทาง (สายกลาง) ของตัวเอง ถึงแม้จะต้องพยายามอยู่หลายครั้ง ด้วยความเฮฮาจนน้ำตาแทบไหล แต่ก็ทำให้... มาร์คยอมตั้งใจเรียน เพื่อจะกลับไปช่วยพ่อพัฒนาโรงงานให้พ้นจากสภาวะหนี้สิน ที่มีสาเหตุมาจากการส่งเสียให้มาร์คเรียน ความดีของมาร์คชนะใจปิ๊งปิ๊งที่หันมาเรียนให้จบ และเพลาลงกับโลกฉาบฉวยแลกไลค์ในโซเชี่ยล ก่อนที่ปิ๊งปิ๊งจะออกมาฝึกๆๆและหาประสบการณ์จริงจังเพื่อมีอาชีพนักแสดง ที่ไม่ใช่หวังเป็นได้แค่ดารา น้ำวนบอกความจริงกับพ่อแม่ ว่าอยากเป็นนักเขียน แม้พ่อแม่จะไม่เห็นด้วย แต่น้ำวนได้พิสูจน์ตัวเองด้วยการลงมือเขียนนิยายออนไลน์ขาย และช่วยครอบครัวดูแลธุรกิจไปด้วย ในขณะที่ สุด ได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกับคนอื่นด้วยความมีน้ำใจ แทนที่จะมุ่งมั่นแค่การเอาชนะ และได้นำความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ สร้างประโยชน์ให้กับคนอื่น แต่ปัญหาในหอเกียรตินิยม ใช่จะจบลงง่ายๆ เมื่อช้างเผือก ไม่ยอมเลิกราที่จะยึดหอมาเป็นของตัวเอง ความดีของบุญ จะเอาชนะใจ ชมจันทร์ และ ป้องกันเล่ห์เหลี่ยมเพี้ยนๆของช้างเผือกได้หรือไม่ ติดตามได้ใน ซิทคอม ขำ-ดี-มีธรรมะ... “ รักนี้ บุญรักษา”

จันทร์กระจ่างที่กลางทุ่ง

เรื่องย่อ : จันทร์กระจ่างที่กลางทุ่ง (2562/2019) เมื่อ เดือนเด่น ว่าที่เจ้าสาวสุดไฮโซ ถูกลักพาตัวมาตกระกำลำบาก แถมยังต้องเป็นไม้เบื่อไม้เมากับ ทองนพคุณ หนุ่มบ้านนาดีกรีปริญญา แต่การได้ช่วยเขาฟื้นฟูคณะลิเกของพ่อ และการต้องหนีอันตรายจากผู้มีอิทธิพล ทำให้ทั้งคู่ต่างเห็นแง่มุมดี ๆ ของกันและกัน จนเดือนเด่นเผลอใจรักทองนพคุณโดยไม่รู้ตัว

เจ้าสัวมั่วนิ่ม 2562

เรื่องย่อ : เจ้าสัวมั่วนิ่ม (2562/2019) เพราะใบหน้าที่เหมือนกันราวกับแฝด ทำให้ พรต หนุ่มแสนดีความจำเสื่อม จับพลัดจับผลูมาเป็น พารณ ทายาทคนเดียวของเจ้าสัวใหญ่ แม้จะไม่คุ้นเคยกับชีวิตไฮโซ แต่ด้วยความดี ทำให้คนรอบข้างพอใจ โดยเฉพาะ สุธาสินี คู่หมั้นพารณที่เขาตกหลุมรัก แต่เรื่องวุ่นวายขึ้น เมื่อเขายังถูกตามฆ่าพร้อมความทรงจำที่กลับมา เขาจึงทำทุกทางเพื่อแก้ไขความผิดพลาด โดยไม่รู้เลยว่ายังมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่

สี่ไม้คาน 2562

เรื่องย่อ : สี่ไม้คาน (2562/2019) เขาว่า คบเด็กคือนิพพาน ขึ้นคานคือตายทั้งเป็น ชายในฝันเด็กหรือไม่เด็ก ก็จะยอมอยู่บนคานทำไมกันเล่า แต่เมื่ออีกคนอยากให้ขึ้น แต่อีก 4 คน อยากจะลง เรื่องวุ่น ๆ ฮา ๆ จึงบังเกิด เรื่องวุ่น ๆ เกิดขึ้นเพราะ ตารงค์ (โย่ง-พิเชษฐ์ เอี่ยมชาวนา) ไม่ทิ้งลายเจ้าชู้แอบมีเมียน้อย แถมยังเล่นจ๋ำจี้จนช็อกตายคาอก นังชวนชม (หมิว-สิริลภัส กองตระการ) ทำให้ ยายลำดวน (ตุ๊ก-ดวงตา ตุงคะมณี) อับอายขายขี้หน้าชาวบ้านอย่างหนักถึงขั้นไม่อยากเผาผี แต่ทำไงได้?! ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นไอ้ผู้ชายหลายใจ นิสัยไม่ดี ยายลำดวนยิ่งเกลียดนัก! ก่อนหน้านี้ลูกสาวคนเล็กก็ตรอมใจตายเพราะถูกสามีนอกใจไปมีเมียใหม่ทิ้งลูกสาวทั้ง 4 ให้ยายลำดวนเลี้ยงดู ส่วนลูกชายคนโต ยี่สุ่น (ซ้ง-ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์) หลังจากเมียตายก็หันหน้าเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ตัดสินใจบวชตลอดชีวิต ทิ้งลูกสาว ซ่อนกลิ่น (กิ๊ฟซ่า-ปิยา พงศ์กุลภา) ไว้ให้ลำดวนเลี้ยงอีกคน...ไม่ได้เรื่องจรืง ๆ ผู้ชายพวกนี้! เมื่อหลาน ๆ โตเป็นสาวซ่อนกลิ่นก็ได้ เจ้ากอบ (ร็อคกี้-สุรบดินทร์ สมบัติเจริญ) เป็นสามี วันดีคืนพอเหล้าเข้าปากก็เห็นซ่อนกลิ่นเป็นกระสอบทรายเตะเอาซ้อมเอา ทุบตีทำร้ายอยู่บ่อยครั้ง ตั้งแต่นั้นมายายลำดวนก็สาปส่งมนุษย์ผู้ชายเห็นแก่ตัว ชอบทำร้ายและเอาเปรียบผู้หญิง เท่านั้นไม่พอเพราะไม่อยากให้ประวัติศาตร์ซ้ำรอยแถมยังเป็นห่วงหลานสาว ยายลำดวนจึงประกาศลั่นออกกฏห้ามยิ่งกว่าอัยการศึกห้ามหลานสาวที่เหลือทั้ง 4 มี ผอ สระอัว ผัว เป็นอันขาด! ชาวบ้านเลยเมาท์กันแซ่ด ห้ามคนไม่ให้มีความรักอย่างงี้ก็ได้หรอ ?! ยายลำดวนหัวเราะเยาะ...ฉันนี่แหละจะทำให้ดู!! งานนี้ แก้ว (มะเหมี่ยว-พรชดา วราพชระ) หลานสาวคนเล็กที่รับนิสัยของยายลำดวนยังกะโขกกันออกมาเห็นดีเห็นงามด้วยอย่างมาก เพราะเป็นคนแก่นเซี้ยว ห้าว ๆ ชอบพึ่งพาตัวเองแถมมีเพื่อนผู้ชายเป็นฝูง แก้วเลยไม่ได้สนใจเรื่องความรัก แถมพยายามหารายได้พิเศษโดยการขายบัตรเติมเกมส์ เลยทำให้ ผู้กองศรุต (โก้-วศิน อัศวนฤนาท) นายตำรวจสุดเท่แห่งหน่วยปราปรามยาเสพติดที่เพิ่งย้ายมาประจำการ ณ บ้านหนองดินแตกอดีตคู่อริเก่าของแก้วเข้าใจผิด คิดว่าแก้วเป็นเด็กส่งยา ศรุตกับแก้วไม่ถูกกันตั้งแต่เด็กเพราะเขาเป็นหลานของ เศรษฐีใหญ่ (ปุ๊-มนตรี เจนอักษร) ศัตรูตัวฉกาจของยายลำดวน เศรษฐีใหญ่เกลียดผู้หญิงเพราะที่ผู้หญิงเขาเคยเจอล้วนแต่โกหกหลอกลวงทั้งนั้น ฉนั้นเมื่อเศรษฐีใหญ่ไม่ถูกกับยายลำดวนเพราะต่างฝ่ายต่างเหยียดเพศกัน เศรษฐีใหญ่เสี้ยมให้ศรุตเกลียดผู้หญิง ยายลำดวนก็เสี้ยมให้หลานทั้งสี่เกลียดผู้ชาย ศรุตจึงเป็นศัตรูกับแก้วตั้งแต่เด็ก ๆ แถมแก้วก็ชอบล้อว่า “ศรุตเป็นตุ๊ด” ด้วย ส่วน ผกา (ลิเบีย-ณัฐรินทร์ สุวรรณเลิศ) พี่สาวคนโต กลับไม่เห็นด้วยกับคำสั่งเคอร์ฟิวของยาย เพราะผกาแอบคบอยู่กับ วิทย์ (ไต้ฝุ่น ตากเพชร) ปลัดหนุ่มรูปหล่อ เอาการเอางาน มุ่งหมั่นพัฒนาชุมชน วิทย์เป็นลูกคนโตรับหน้าที่ดูแลครอบครัวเหมือนกัน เขาจึงเข้าอกเข้าใจและเห็นใจผกาเสมอ แต่ถึงอย่างนั้นเพราะทั้งคู่มีนิสัยประนีประนอมเหมือนกัน บางครั้งที่มีเรื่องเข้าใจผิดกลับไม่ยอมพูดคุยกันให้เคลียร์และเลี่ยงพูดคุยจนเป็นปัญหาสะสมภายหลัง ด้าน พิกุล (แก้วใส คริสตัล) พี่สาวคนที่สองหลังจากเรียนจบครูจากกรุงเทพก็ตัดสินใจกลับมาสอนที่บ้านเกิดและได้เจอกับ พุฒิ (ภูมิ-เกียรติภูมิ บันลือชัยฤทธิ์) เด็กช่างหนุ่ม น่ารัก สดใส เพื่อนซี้ของแก้ว เจ้าของร้านซ่อมรถมอเตอร์ไซค์หลานชายอีกคนของเศรษฐีใหญ่ พุฒิเดินหน้าจีบพิกุลเต็มกำลังเพราะพี่พิกุลเป็นรักแรกที่เคยช่วยเหลือเขาตั้งแต่เด็ก แม้จะเป็นรักต่างวัยที่อายุห่างกันถึง 6 ปี เขาก็ไม่แคร์ ถึงแก้วจะยังไม่สนใจเรื่องความรักแต่ก็เห็นใจพี่ ๆ จึงวางแผนจ้างหมอดูร่างทรงให้มาดูดวงถึงบ้าน หมอดูเก๊บอกว่าถ้าสาว ๆ ทุกคนไม่แต่งงาน ยายลำดวนจะต้องล้มหมอนนอนเสื่อไปเฝ้ายมบาลทั้ง ๆ ที่ยังไม่ถึงเวลาอันควรเป็นแน่ เหอะ!...ฝีมือระดับยายลำดวนมีหรือจะเชื่อ แค่แกล้งชักกระตุกฟาดขาใส่ต้นคอหมอดูพลัวะๆ ก็ยอมเผยออกมาหมดเปลือกว่าถูกจ้างมา ยายลำดวนเลยรู้ได้แน่ชัดว่าหลาน ๆ กำลังมีความรัก ถึงได้คิดเป็นปฏิปักษ์กับยาย ยายลำดวนพยายามทำทุกอย่างเพื่อขัดขวางความรักของหลานสาวทั้งยืดมือถือ ปิดอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิดติดกล้องวงจรทั่วบ้านเพื่อให้เห็นความเคลื่อนไหวเท่านั้นยังไม่พอ เมื่อรู้ว่าผกากำลังปลูกต้นรักกับปลัดวิทย์ ยายลำดวนก็ไปจ้าง เมี้ยว (โม-อมีนา พินิจ) ให้สวมบทเมียหลวงจอมโหดมาข่มขู่ผกาให้อับอายขายขี้หน้า ผกาทั้งโกรธทั้งแค้นที่วิทย์มาหลอกลวงให้อับอายและช้ำใจ ตั้งแต่นั้นมาผกาก็เกลียดผู้ชายหันมาเข้าข้างยายลำดวน เพราะไม่อยากให้น้อง ๆ ช้ำใจเหมือนตัวเอง เห็นมั้ย?! ยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว ด้าน กล้วยไม้ (กิฟท์-สุพิชฌาย์ ศรีสวัสดิ์) ก็ทนเสียงเรียกร้องของหัวใจไม่ไหว ยิ่งเมื่อเอาเงินไปฝากแบงค์แล้วได้สบตาวิ๊งค์ ๆ ของ พิชัย (อั๋น-ชยพล บุนนาค) หนุ่มธนาคารรูปหล่อ เจ้าสำอางค์ หัวใจของเธอก็อ่อนยวบคิดเป็นปฏิปักษ์กับยาย แต่มีหรือคนอย่างยายลำดวนจะไม่สังเกต เพราะกล้วยไม้ขยันไปธนาคารบ่อยเป็นพิเศษ ยายลำดวนจึงรู้ว่ากล้วยไม้ฝากเงิน แต่ดันได้ดอกเบี้ยเป็นหนุ่มธนาคาร เท่านั้นระเบิดก็ลงบ้านยายลำดวนพิโรธหนักมากตามอาละวาดถึงธนาคาร แต่เมื่อเอาผิดไม่ได้ยายลำดวนจึงวางแผนให้กล้วยไม้รู้สึกผิด ด้วยการแกล้งป่วยชนิดล้มหมอนนอนเสื่อ กินไม่ได้นอนไม่หลับ เหมือนคนตรอมใจใกล้ตาย เมื่อเห็นยายป่วยทรุดหนัก กล้วยไม้รู้สึกผิดมากตัดสินใจเลิกรากับพิชัย ทั้ง ๆ ที่พิชัยรักจริง และเป็นคนดี ยายลำดวนดีใจมากแต่ยังแกล้งป่วยต่อไปเพื่อความแนบเนียนสมบทบาท แต่บังเอิญโป๊ะแตกถูกแก้วจับได้ว่าตกกลางดึกยายลำดวนแอบกินข้าว กินขนม กินผลไม้อย่างเปรมปรี แตกต่างจากกล้วยไม้ที่ผอมตรอมใจลงทุกวันเพราะอกหัก แก้วจึงดัดนิสัยยายด้วยบอกกล้วยไม้...ว่าจริง ๆ แล้วยายไม่ได้ป่วย ปฏิบัติการซ้อนแผนยายลำดวนจึงเกิดขึ้นกล้วยไม้ทำทีเป็นป่วย ตรอมใจ เหมือนคนใกล้ตายจริง ๆ ด้วยความเป็นห่วง ยายลำดวนรีบมาดูแลกล้วยไม้แต่การแกล้งป่วยของยายลำดวนทำให้หลาน ๆ เริ่มไม่แน่ใจว่าป่วยปลอมหรือป่วยจริง แก้วคิดแผนปลอมตัวเป็นปอบ ขโมยไก่ทั้งหมู่บ้านเอาไปฝากให้หลวงลุงยี่สุ่นเลี้ยงที่วัด หลังจากนั้นก็เอาไส้ไก่ปลอม ๆ ชุบเลือดสร้างสถานการณ์ปอบลง ชาวบ้านแตกตื่นกันมาก ตกใจกลัวปอบ แห่กันไปแจ้งความที่โรงพัก ผู้กองศรุตกับ จ่าผ่อง (โยกเยก-อัครเดช รอดวินิจ) ลูกน้องคู่ใจจำต้องล่าท้าปอบ แก้วมาไซโคแกล้งปรึกษากับพี่ ๆ “ถ้ายายเป็นปอบจริง ๆ จะต้องถูกชาวบ้านจับไปเผาไฟจนตายทั้งเป็น ทิ้งมรดกไว้ให้หลาน ๆ ดูต่างหน้าเท่านั้น” ยายลำดวนได้ยินกลัวชาวบ้านแห่มารุมจับตัวไปเผาไฟเลยหายป่วยทันที หลาน ๆ ดีใจมากแต่ยายลำดวนก็โกรธมาก เพราะหมวดศรุตจับได้ว่าปอบที่สร้างความอลหม่านให้กับชาวบ้าน คือ แก้วหลานสาวตัวแสบนั่นเอง เรื่องกล้วยไม้ยังไม่ทันเคลียร์ยายลำดวนก็จับได้ว่า พิกุลพบรักกับพุฒิหนุ่มนักเรียนช่าง ลำพังความรักธรรมดาก็ยากแล้ว นี่ ”รักต่างวัย” อย่างนี้! จะเหลือรึ ?! ยายลำดวนเลยต้องหายจากการป่วยอย่างเด็ดขาด ลุกมาอาละวาดพิกุลกับพุฒิ แต่พุฒิไม่ได้กลัวเขาเป็นเด็กช่างถึงไหนถึงกันอยู่แล้ว แถมยังประกาศกร้าวจะทำให้คนทั้งโลกรู้ว่าเขารักและจริงจังกับพิกุลแค่ไหน พุฒิพร้อมพิสูจน์ให้เห็นว่ารักของเด็กหนุ่มครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ - - เจอความเป็นลูกผู้ชายแมน ๆ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะของพุฒิ พิกุลก็ฟินเฟ่อร์ แต่ยายลำดวนกับเศรษฐีใหญ่ลมแทบจับทุกวัน เศรษฐีใหญ่ไม่อยากให้พุฒิมีแฟนโดยเฉพาะเธอคนนั้นเป็นหลานยายลำดวน - - นี่เป็นครั้งแรกที่สองผู้ใหญ่จำต้องยอมจับมือกันเพื่อปฏิวัติยึดอำนาจไม่ให้หลาน ๆ หืออือ แต่ก็ไม่อาจต้านแรงแห่งความรักได้ พุฒิแอบลักลอบเจอพิกุลเสมอ เศรษฐีใหญ่ให้ศรุตจับตามองพุฒิไม่ให้ไปยุงเกี่ยวกับพิกุล ทำให้แก้วไม่พอใจที่ศรุตคิดจะงัดข้อ พิกุลขอให้พุฒิเลิกเกกมะเหรกเกเร ทำตัวเป็นเด็กแวนซ์เที่ยวมีเรื่องกับคู่อริแล้วตั้งใจเรียน พุฒิรับปากเขาจะเป็นลูกผู้ชายเพื่อพิสูจน์รักแท้ที่มีต่อพิกุล ยายลำดวนจึงจ้างผู้หญิงมาสวมบทบทเมียหลวงอีกครั้ง แต่ไม่เนียนเลยถูกจับได้และพาลรู้ไปถึงเหตุการณ์ในสมัยก่อนที่ยายลำดวนจ้างเมี้ยวมาเป็นศัตรูหัวใจของผกา เมื่อรู้ความจริง ผกาเสียใจมากที่เข้าใจวิทย์ผิดมาตลอด ปฏิบัติการทวงพื้นที่หัวใจของสาว ๆ สี่ไม้คาน จึงเริ่มต้นอีกครั้ง!! ยายลำดวนโกรธมากที่หลาน ๆ คิดจะงัดข้อ จึงพยายามจะทำให้เห็นว่า ผู้ชายมันไม่ดีจริงๆ ดูอย่างเจ้ากอบ ที่เปลี่ยนนิสัยไม่ได้และยังทำร้ายซ่อนกลิ่นกับ เจ้ายอด (น้องอินเตอร์-รุ่งรดา รุ่งลิขิตเจริญ) ลูกสาว แก้วลากคอเจ้ากอบไปโรงพักแล้วแจ้งความว่าเจ้ากอบทำร้ายเมียกับลูก ซ่อนกลิ่นร้องไห้เข้าข้างสามี แก้วจึงกรอกเหล้าเข้าปากแล้วทำเส้นกระตุกเตะปากกอบคืนบ้าง สน.จึงสุดอลหม่านเกิดการทะเลาะวิวาทบนโรงพัก จ่าผ่องคู่ปรับของแก้วและพุฒิมาห้ามก็ถูกลูกหลง ผู้กองศรุตจะจับแก้วเข้าคุกข้อหาดื่มแต่จริง ๆ แล้วคือน้ำแร่ ผู้กองศรุตปวดหัวหนักมาก เคยทำแต่คดีใหญ่ ๆ เป็นหน่วยปราบปรามยาเสพติดแต่ตอนนี้ ทำแต่คดีเล็ก ๆ ขี้หมูขี้หมา จับวงไพ่จับคนเมา หนักเข้าสุดคือจับปอบ แต่ละคดีชวนละเหี่ยใจจริงๆ แต่คดีเหล่านั้นก็ไม่ทำให้ศรุตปวดหัวเท่ากับการที่ โฉมเฉิดฉาย (เฟิร์น-เกษรา วัฒนสังข์) คนรักเก่าของเขากลับมาหา ในขณะที่ศรุตรู้ตัวว่ากำลังมีใจให้กับแก้ว รู้ว่าใจเขาวันนี้ไม่มีโฉมเฉิดฉายแล้ว แต่แก้วเข้าใจผิดคิดว่า ศรุตเป็นเหมือนผู้ชายทุกคนที่หลงใหลได้ปลื้มในความสวยของผู้หญิง แก้วทำตัวเหินห่างศรุตไม่สร้างปัญหาอะไรให้ แต่ศรุตกลับกังวลใจที่แก้วไม่มายุ่งวุ่นวายเหมือนเดิม เศรษฐีใหญ่เองก็ปวดกะโหลก พุฒิยืนกรานจะคบกับพิกุลที่ผ่านมาพิกุลทำให้พุฒิกลับมาตั้งใจเรียนหนังสือ ไม่เป็นเด็กเกเรให้ชาวบ้านระอา ถ้าเศรษฐีใหญ่ห้ามพุฒิจะกลับไปแวนซ์เหมือนเดิม รับรองศรุตได้จับพุฒิเข้าคุกแน่! เศรษฐีใหญ่ใจอ่อนเพราะที่ผ่านมาพุฒิเป็นเด็กดีขึ้นจริง ๆ แก้วขอร้องยายลำดวนให้โอกาสหลาน ๆ ได้มีคู่บ้าง ยายก็เห็นด้วย แต่ด้วยความที่รักหลาน ๆ มากห่วงมากเลยกังวลไปเสียทุกอย่าง ยายลำดวนจึงล้มป่วยตรอมใจจริง ๆ ยายลำดวนยอมเข้าใจความรักของหลาน ๆ แต่ยายทำใจไม่ได้ถ้าหลานๆ ถูกผู้ชายทำร้าย เพราะมนุษย์ผู้ชายเป็นเพศแห่งความโลเลหลายใจ หลาน ๆ ทุกคน เห็นความรักของยาย ก็ยอมตัดใจจากคนรักและพร้อมจะเชื่อฟังยาย ประตูบ้านสี่ไม้คานจึงปิดตายสำหรับผู้ชายตั้งแต่วันนั้น วิทย์ พิชัย พุฒิ รวมทั้ง ศรุตเสียใจมากจนเศรษฐีใหญ่ยอมบากหน้า พาสี่หนุ่มมาขอพบเพื่อเจรจากับยายลำดวน เศรษฐีใหญ่บอกผู้ชายไม่ได้เลวร้ายหลายใจไปหมดทุกคน เพราะเขาเองยังรักภรรยาของเขาอยู่ถึงแม้เธอจะทิ้งเขาไป และก็หวังว่ายายลำดวนจะเข้าใจ มนุษย์ทุกคนต้องเรียนรู้ชีวิตด้วยตัวเอง หากเขาเสียใจ เจ็บปวดผิดหวัง เราเป็นพ่อแม่ เป็นปู่เป็นย่า มีหน้าที่ประคับประคองและให้กำลังใจ ไม่ใช่ไปปิดประตู บงการชีวิตเขา หากจะรัก...ไม่ต้องกลัวคำว่า”เสียใจ” ศรุตบอกแก้วเขาเลิกรักโฉมเฉิดฉายนานแล้วและสารภาพว่ารักแก้ว แก้วโวยวายเธอไม่ได้คิดอะไรกับศรุต ผู้หญิงกับตุ๊ดจะไปแต่งงานกันได้ยังไง? ศรุตหน้าเสียเขารักแก้วจริง จะทำให้แก้วเลิกมองเขาเป็นตุ๊ดและรักเขาให้ได้ งานนี้ภารกิจพิชิตหัวใจสาว ๆ สี่ไม้คานจะสำเร็จหรือไม่?! ยายลำดวนจะยอมใจอ่อนยกหลานสาวให้ สี่หนุ่มดูแลหรือเปล่า ? งานนี้ลุ้นหนักมาก...พูดเลย!!

มาดามบ้านนา 2562

เรื่องย่อ : มาดามบ้านนา (2562/2019) เรื่องราวของมหาบัณฑิตสาวบ้านนา ที่ตกกระไดพลอยโจนสวมรอยเป็นคู่หมั้นของว่าที่นักการทูตหนุ่ม เพื่อสืบคดีการตายอย่างมีเงื่อนงำ ของนักวิทยาศาสตร์ที่เธอเคารพรัก ขณะเดียวกันเธอก็ถูกทดสอบอย่างหนักเพื่อพิสูจน์ว่าเหมาะสมกับตำแหน่งภรรยาของนักการทูตหรือไม่ การสืบหาความจริงจึงเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ท่ามกลางความรักของทั้งคู่ที่ค่อย ๆ ก่อตัว

ณ. ใจกลางมหานครกรุงเทพ คฤหาสถ์หลังงามคราคร่ำไปด้วยไฮโซทั่วฟ้าเมืองไทย นักข่าวอีกหลายสำนัก ทุกคนถูกเชิญมางานเปิดตัว ฟ้าคราม หนุ่มหล่อ เท่ห์ ปากจัด เลขาฯท่านทูต และกำลังเป็นเซเลบดังในฐานะเป็นว่าที่ท่านทูตอนาคตไกล ลูกชายเพียงคนเดียวของ ตระการ และ พวงคราม นางามเลิศ สองสามีภรรยานักธุรกิจยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย การเปิดตัวของฟ้าคราม ทำให้เค้าเป็นที่หมายปองของสาวน้อยสาวใหญ่ในทันที ขณะที่งานเลี้ยงดำเนินไป ข้าวปั้น หรือ ปัญชรี นาสุดไกล กับ พีรพงศ์ เพื่อนสนิท ปลอมตัวเข้ามาเป็นพนักงานเสิร์ฟในงานเพื่อสืบเรื่องบางอย่าง นั่นก็คือ...

การตายของ ดร.ปิตินันท์ อรุณพรรค ผู้ที่ทำการวิจัยเรื่องสายแร่ ที่ถูกคนร้ายฆ่าทั้งครอบครัว คดีนี้เป็นที่รู้กันทั่วประเทศเมื่อ 10 ปีก่อน ข้าวปั้นแอบทำวิจัยเรื่องสายแร่นี้เงียบๆ ไม่เคยบอกให้ใครรู้ และอีกเหตุผลคือ ข้าวปั้นต้องการหาตัวร้ายตัวจริงที่สั่งฆ่าดร.ปิตินันท์และครอบครัวอย่างโหดเหี้ยม ไม่ใช่แพะรับบาปอย่างที่เป็นอยู่นี้ ข้าวปั้นรู้มาว่า ตระการเป็นหนึ่งในทีมวิจัยของดร.ปิตินันทร์ที่ไปทำวิจัยเกี่ยวกับดินที่ภาคอีสานก่อนที่ดร.ปิตินันทร์จะถูกฆ่ายกครัว ข้าวปั้นจึงคิดว่าการได้เข้ามาในบ้านหลังนี้ อาจจะทำให้เธอพบเบาะแสเกี่ยวกับงานวิจัยเรื่องสายแร่ และข้อมูลเกี่ยวกับคนร้ายตัวจริง

ระหว่างที่ข้าวปั้นกับพีรพงศ์แยกกันไปทำงาน ข้าวปั้นดันไปเห็นฟ้าครามกับ แพตตี้ เซเลบเน็ตไอดอล กำลังพลอดรักกัน ข้าวปั้นตกใจมาก แต่ฟ้าครามดันหันมาเห็นเข้าพอดี จึงได้โอกาสผละจากแพตตี้ที่พยายามลวนลามเค้า แต่ข้าวปั้นดันเข้าใจผิดไปแล้ว ข้าวปั้นตกใจรีบวิ่งหนี ฟ้าครามรีบตามไป ทำให้แพตตี้โมโหมาก ข้าวปั้นถูกฟ้าครามจับตัวเอาไว้ได้ ข้าวปั้นพยายามปิดหน้าปิดตา ประกอบที่ตรงนั้นค่อนข้างมืด ทำให้ฟ้าครามไม่เห็นหน้า จังหวะนั้น ข้าวปั้นจัดการเตะผ่าหมากฟ้าครามและหนีออกมาได้สำเร็จ ฟ้าครามทั้งเจ็บทั้งจุก

ข้าวปั้นรีบฉุดพีรพงศ์ให้ออกจากงาน ฟ้าครามรู้ว่าข้าวปั้นปลอมตัวเข้ามาเพราะพนักงานเสิร์ฟตัวจริงสองคนถูกขังอยู่ในห้องเก็บของ ฟ้าครามสงสัยว่าข้าวปั้นเป็นใครกันแน่!!!

ณ ทุ่งบ้านนา... ข้าวปั้นเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านเกิด แต่กลับต้องช็อกตะลึงงัง เมื่อ เพิ่มบุญ กับ ลาวัลย์ พ่อและแม่ขอร้องให้ข้าวปั้นไปสวมรอยแต่งงานกับลูกชายเจ้าของธุรกิจชื่อดัง เพื่อปลดหนี้จากการเสียรู้หลงกลเล่นแชร์ข้าว ไม่ให้ที่นาผืนสุดท้ายของครอบครัวต้องถูกยึด!!!

สาเหตุของเรื่องวุ่นๆเกิดจากคำสัญญา !!! ระหว่าง ครอบครัว “นาสูงส่ง” กับ ครอบครัว “นางามเลิศ” ที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาแต่อดีต จนรักใคร่กัน ถึงกับสัญญากันว่าหากมีลูกเป็นชายและเป็นหญิงก็อยากจะให้ลูกทั้งสองครอบครัวได้แต่งงานกัน แต่ปัญหาก็คือ ปานรวี สาวใจแตก รักสวยรักงาม ใฝ่ฝันอยากเป็นดารา ลูกสาวคนเดียวของ ประเดิม-มาลี นาสูงส่ง กลับมีคนรักชอบพออยู่แล้ว คือ กำลาภ ลูกชาย เสี่ยกำพล ตั้งสติธรรม นายหน้าค้าที่ดิน แต่เบื้องหลังประกอบธุรกิจผิดกฎหมายทั้งเปิดบ่อน เปิดซ่อง ค้ายา ฯลฯ ปานรวีจึงเหวี่ยงวีนอาละวาดไม่ยอมถูกจับคลุมถุงชนเด็ดขาด หากพ่อแม่บังคับเธอจะฆ่าตัวตาย ประเดิมและมาลีกลัวลูกสาวจะคิดสั้นจริงๆ และก็ไม่อยากผิดคำสัญญาต่อเพื่อน จึงคิดจะส่งลูกสาวคนอื่นไปสวมรอยเป็นปานรวีแทน โดยคิดว่าหากฝ่ายชายเป็นคนปฏิเสธการแต่งงานครั้งนี้เอง ตนทั้งคู่ก็จะไม่ผิดคำพูด ไม่เสียเพื่อน ไม่เสียลูก..ดังนั้น ประเดิมกับมาลีจึงมาใช้อำนาจการเป็นเจ้าหนี้บีบบังคับให้เพิ่มบุญและลาวัลย์ส่ง ข้าวปั้น ไปทำภารกิจแต่งงานแทนลูกสาวตนนั่นเอง

เพิ่มบุญและลาวัลย์พยายามชักแม่น้ำทั้งห้ามาทำให้ข้าวปั้นยอมแต่งงานล้างหนี้ ทั้งขอร้อง กราบกราน บีบบังคับ ข่มขู่ อาละวาด แต่ยังไงข้าวปั้นก็ไม่ยอมแต่งงาน ข้าวปั้นยืนกรานว่าจะหาเงินด้วยวิธีอื่นมาใช้หนี้ แต่พอข้าวปั้นได้รู้ว่าผู้ชายที่เธอจะต้องไปสวมรอยแต่งงานด้วยนั้น คือ ฟ้าคราม ข้าวปั้นจึงตอบตกลงรับภารกิจสวมรอยแต่งงานทันที

ข้าวปั้นบอกพ่อแม่ว่าจะยอมสวมรอยเป็นปานรวีไปแต่งงาน เพื่อรักษาที่นาของพ่อแม่ มีข้อแม้ว่าพ่อกับแม่จะต้องปกปิดความจริงเรื่องการศึกษาที่แท้จริงของเธอ ข้าวปั้นจะแสร้งทำตัวเป็นสาวใจแตกแบบเดียวกับที่ปานรวีเป็น เพื่อไม่ให้ฟ้าครามและครอบครัวรู้

ฟ้าครามขัดใจพ่อกับแม่ไม่ได้ จึงตั้งเงื่อนไขขึ้นมาเพราะคิดว่าข้าวปั้นที่ปลอมตัวเป็นปานรวีทำไม่ได้แน่นอน นั่นก็คือ

“ในเวลา 3 เดือนที่เขาพักร้อนอยู่ที่เมืองไทย ถ้าข้าวปั้นไม่ผ่านบททดสอบคุณสมบัติของการเป็นมาดามท่านทูตทุกข้อ ก็จะไม่มีงานแต่งงานเกิดขึ้น”

เพราะจริงๆแล้วฟ้าครามก็หาทางที่จะหลีกเลี่ยงการคลุมถุงชนของพ่อแม่ในครั้งนี้เช่นกัน แต่เป็นการเลี่ยงแบบไม่ให้พ่อแม่ต้องเสียหน้าและเสียใจ

ข้าวปั้นยอมรับการทดสอบทุกอย่าง เพื่อให้ได้แต่งงานกับฟ้าคราม มันจะได้สะดวกต่อการทำภารกิจของเธอ ข้าวปั้นจำต้องทำตามบททดสอบบ้าๆบอๆที่ฟ้าครามตั้งขึ้นมาให้ดีที่สุด เพราะกลัวว่าจะถูกขับไล่ แล้วจะอดได้หลักฐานหรือเบาะแส

คนที่ช็อคกับเรื่องนี้มากที่สุดก็คือ พีรพงศ์ เค้าค้านหัวชนฝา เพราะแอบรักข้าวปั้นมานาน และเค้าก็เข้าใจว่าฟ้าครามเป็นเพลบอย จึงเป็นห่วงข้าวปั้นมากกว่าปกติ แต่ข้าวปั้นบอกว่าไม่ต้องกังวล เธอเตรียมทั้งเครื่องช๊อตไฟฟ้า น้ำตาเทียม พริกไท เอาไว้จัดการฟ้าคราม ถ้าหากฟ้าครามเกิดหน้ามืดตามัวทำอะไรเธอขึ้นมา

ข้าวปั้นย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของฟ้าคราม เธอทำตัวเป็นพวกบ้านนอกเข้ากรุง หลงแสงสี พูดจาเสียงดังจนทำให้ฟ้าครามรำคาญ ผิดกับพ่อและแม่ของฟ้าครามที่ดูจะชอบอกชอบใจในตัวข้าวปั้น

บททดสอบเริ่มต้นขึ้น ข้าวปั้นถูกฟ้าครามออกคำสั่งให้รับหน้าที่ดูแลเรื่องอาหารการกินทุกมื้อในบ้าน ถูกทดสอบทำอาหารไทย-จีน-ฝรั่ง-นานาชาติ ทดสอบทำงานบ้านงานเรือน ส่งไปเรียนภาษาอังกฤษ...แต่แรกๆ ข้าวปั้นต้องเล่นเนียนว่าเป็นเพียงสาวบ้านนาจบม.6 ทำให้ต้องแกล้งทำทุกอย่างออกมาอย่างกระท่อนกระแท่น ทำตัวเป็นคนโง่ เพื่อตบตาฟ้าคราม.....ฟ้าครามทำเป็นโมโห ประกาศเส้นตาย....ถ้าการทดสอบมารยาทในการเข้าสังคมของข้าวปั้นยังไม่ได้เรื่อง งานแต่งงานจะถูกยกเลิก!!!!! แต่เป้าหมายของข้าวปั้นยังไม่บรรลุ เพราะฉะนั้นการทดสอบนี้.....ต้องเริ่ด!!!!เพื่อต่อเวลาให้ได้อยู่ที่กรุงเทพและใกล้ชิดฟ้าครามต่อไป ฟ้าครามเล่าเรื่องนี้ให้ ญาดา เพื่อนสนิทของเค้าฟัง ญาดาต่อว่าฟ้าครามว่าใจร้าย รังแกได้แม้กระทั่งผู้หญิง ฟ้าครามว่าเค้าไม่เคยวางใจผู้หญิงคนไหนในโลกยกเว้นญาดา เพราะอดีตเค้าเคยผิดหวังจากรักแรก เค้าจึงไม่คิดจะมีผู้หญิงคนอื่นอีก

ฟ้าครามพาข้าวปั้นไปงานเลี้ยงปาร์ตี้นักเรียนนอก เพราะไม่คิดว่าคนที่จบการศึกษาแค่มัธยม 6 จะสามารถทำได้ หารู้ไม่ว่าข้าวปั้นทำได้ทุกอย่าง เลือกชุดใส่ได้อย่างมีรสนิยม วางตัวดีจนเป็นที่ประทับใจของเพื่อนๆ และในงานเลี้ยงนั้น ทำให้ญาดาอดที่จะขำไม่ได้ เพราะแผนของฟ้าครามทำท่าว่าจะล้มเหลว ฟ้าครามใช้ไพ่ใบสุดท้าย คือพาข้าวปั้นออกไปเต้นรำ และนั่นเป็นสิ่งเดียวที่ข้าวปั้นไม่ถนัด ข้าวปั้นกลายเป็นตุ๊กตาที่ถูกลากไปลากมาทั่วทั้งฟลอร์ จนในที่สุด ข้าวปั้นเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง ฟ้าครามต่อว่าตอกย้ำความเป็นเด็กบ้านนอกใจแตกของข้าวปั้นต่อหน้าเพื่อนๆในงานเลี้ยง แต่ฟ้าครามกลับถูกญาดาและเพื่อนๆประณามว่าแล้งน้ำใจซะเอง ทำให้ฟ้าครามรู้สึกผิด

ข้าวปั้นเอ็นข้อเท้าอักเสบ ถูกหมอสั่งห้ามเคลื่อนไหว ตระการรู้สึกโกรธลูกชายมากจึงสั่งให้ชายหนุ่มต้องดูแลข้าวปั้นจนกว่าขาจะหายดี ข้าวปั้นแอบยิ้มเยาะที่ฟ้าครามต้องกลายมาเป็นคนรับคำสั่งของเธอ จึงแกล้งเป็นนั่นเป็นนี่อยู่บ่อยๆ อยากกินนู้นกินนี่ โดยเฉพาะส้มตำปูล้าร้า ลาบ น้ำตก ซึ่งข้าวปั้นก็ไม่คิดไม่ถึงว่าหนุ่มนักเรียนนอกว่าที่ท่านทูตอย่าง ฟ้าครามจะมีสายเลือดพ่อครัวอีสานอยู่เต็มตัว แต่ในระหว่างที่ฟ้าครามต้องดูแลข้าวปั้นนั้น ฟ้าครามได้เห็นเอกสารงานวิจัยของ ดร.ปิตินันท์ ที่ซุกอยู่ในตู้เสื้อผ้าของหญิงสาว ฟ้าครามไม่เข้าใจว่าเด็กใจแตกที่เรียนจบแค่ม.6 อย่างข้าวปั้นจะสนใจอ่านงานวิชาการด้วย ข้าวปั้นเกรงความลับเกี่ยวกับการสลับตัวระหว่างเธอกับปานรวีจะแตกก่อนเวลาอันควร จึงโกหกไปว่าไม่ได้เอามาอ่าน แต่จะเอาไปชั่งกิโลขาย

ฟ้าครามต้องพาพ่อกับแม่ออกไปทานอาหารเที่ยงกับภริยาทูต ข้าวปั้นอ้างว่าขาเจ็บ ขออยู่เฝ้าบ้าน แต่จริงๆแล้วเธอหาโอกาสจะเข้าไปค้นในห้องทำงานและห้องนอนของตระการมากกว่า ระหว่างที่กำลังรื้อหาเบาะแส อยู่ๆตระการกลับเข้ามา ข้าวปั้นหาทางหลบซ่อน และเผลอทำกิ๊บติดผมหล่นในห้อง เมื่อฟ้าครามมาพบกิ๊บนั้น จึงคิดเอาว่าข้าวปั้นแอบเข้าห้องนอนพ่อ คงคิดจะรวบหัวรวบหางพ่อของตนด้วย กลายเป็นเรื่องวุ่นวายใหญ่โต ยิ่งทำให้ฟ้าครามจับตาดูพฤติกรรมของข้าวปั้นมากยิ่งขึ้น.....

ด้านพีรพงศ์บังเอิญช่วยญาดาจากการที่โดนคนร้ายลวนลาม เธอให้ค่าตอบแทนเค้า แต่พีรพงศ์ไม่รับ ยิ่งทำให้ลูกคุณหนูที่แวดล้อมไปด้วยคนที่เข้ามาหาผลประโยชน์กับเธอ...ประทับใจในตัวพีรพงศ์ ญาดาให้นามบัตรพีรพงศ์เอาไว้ และบอกให้โทรหาเธอได้ทุกเมื่อถ้าพีรพงศ์เดือดร้อน

ท่านบดี นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ สนใจอยากร่วมลงทุนกับตระการ แต่ฟ้าครามรู้มาว่าท่านบดีไม่ใช่นักธุรกิจที่มือสะอาด จึงเตือนพ่อ ทำให้ตระการหาทางเลี่ยง ท่านบดีไม่พอใจ แต่ยังไม่กล้าทำอะไรวู่วาม เสี่ยกำพลเสนอตัวจะจัดการตระการให้ แต่ท่านบดีห้าม ทำให้เห็นว่าเสี่ยกำพลทำงานให้กับท่านบดี

ฟ้าครามเริ่มไม่ไว้ใจในตัวข้าวปั้นมากจากพฤติกรรมลับๆล่อๆหลายอย่าง ฟ้าครามจึงว่าจ้าง ไอ้บ่อน ลูกชายวัยรุ่นตัวแสบของป้าใย แม่ครัวประจำบ้านคอยจับตาดูข้าวปั้นทุกฝีก้าว และคอยรายงานให้เขารับรู้ตลอด ด้านแพตตี้รู้ข่าวว่าฟ้าครามจะแต่งงานกับข้าวปั้นก็หัวเสีย เธอกับพิ้งกี้ เพื่อนสนิท แทคทีมกันไปหาเรื่องข้าวปั้น ตอนแรกเธอคิดว่าข้าวปั้นจะเป็นสาวบ้านนาคนซื่อ แต่ที่ไหนได้ แพตตี้กับพิ้งกี้กลับโดนข้าวปั้นจัดการซะจนวิ่งหนีกลับไปแทบไม่ทัน ทำให้แพตตี้แค้นใจมาก

ไอ้บ่อนเห็นข้าวปั้นออกจากบ้าน จึงรายงานฟ้าครามให้สะกดรอยตามไป ฟ้าครามตามไปจนพบว่า ข้าวปั้นแอบนัดพบกับพีรพงศ์ ฟ้าครามเข้าใจผิด คิดว่าสองคนนี้แอบรักกันลับหลังตน ฟ้าครามทั้งเจ็บแปลบทั้งโมโหที่ถูกสาวใจแตกสวมเขา ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีคุณค่าพอจะเป็นมาดามทูตอย่างเขา โดยไม่รู้เลยว่า แท้จริงแล้วข้าวปั้นขอให้พีรพงศ์ช่วยหาข้อมูลเกี่ยวกับงานวิจัยสายแร่อย่างลับๆ ข้าวปั้นจับได้ว่าไอ้บ่อนแอบตามเธอ และไอ้บ่อนก็ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเธออย่างจริงจัง ข้าวปั้นสืบจนรู้ว่าไอ้บ่อนแอบหลงรักน้องอ้อย สาวใช้ข้างบ้าน จึงช่วยไอ้บ่อนทำให้น้องอ้อยประทับใจ ข้าวปั้นจึงซื้อใจไอ้บ่อนได้สำเร็จ และให้ไอ้บ่อนโกหกฟ้าครามว่าข้าวปั้นไม่มีอะไรน่าสงสัย

ด้านพีรพงศ์เอางานวิจัยเล่มที่สองของดร.ปิตินันท์มาให้ข้าวปั้น ซึ่งเล่มที่ได้มานั้นบางและเหมือนเป็นงานที่ทำค้างอยู่ เนื้อหาบอกเพียงว่าดินที่ดร.ปิตินันท์และคณะนักศึกษาของเขาศึกษานั้นมีดินจากทุ่งบ้านนาที่พบว่ามีสายแร่ ส่วนพิกัดและแผนที่นั้นเป็นเพียงหัวข้อที่ขึ้นต้นไว้ แต่ไร้เนื้อความ ข้าวปั้นสงสัยเรื่องพิกัดของสายแร่ และอยากรู้ว่าคณะนักศึกษาของดร.ปิตินันท์นับสิบคนนั้น หายไปไหนกันหมด ข้าวปั้นคิดหาตัวกลุ่มนักศึกษาเหล่านั้นให้เจอ!!!

ข้าวปั้นเดินทางไปที่บ้านพักของดร.ปิตินันท์ที่ปัจจุบันปิดตายเป็นบ้านร้างเพียงลำพัง มีเพียง ตาเชื่อม คนเฝ้าบ้านเก่าแก่อยู่คนเดียว แต่ในบ้านนั้น ไม่มีหลักฐานอะไรหลงเหลืออยู่ ราวกับว่าใครบางคนเข้ามาเก็บกวาดหลักฐานต่างๆออกไปหมดเรียบร้อยแล้ว ข้าวปั้นไม่ได้เบาะแสอะไรกลับไป และยังไม่รู้ตัวเลยว่า การมาที่บ้านนี้ได้ถูกบันทึกภาพเอาไว้โดยใครบางคนแล้ว

ฟ้าครามไม่พอใจที่ข้าวปั้นแอบติดต่อกับพีรพงศ์ตลอดเวลา ฟ้าครามจึงจงใจบังคับข้าวปั้นให้ไปร่วมงานแถลงข่าวเกี่ยวกับการจัดประกวดนางงามครกทองคำ ที่จัดขึ้นโดยชมรมนักธุรกิจชาวอีสาน พวงครามในฐานะประธานชมรมรับผิดชอบการจัดงานทุกอย่าง โดยที่ในงานนั้น ฟ้าครามวางท่าเป็นเจ้าข้าวเจ้าของข้าวปั้นอย่างออกหน้า จนมีปากมีเสียงกับข้าวปั้นตลอดทั้งงาน แล้วข้าวปั้นก็ได้เจอกับปานรวีที่มารับจ๊อบเป็นพริตตี้ของงาน ปานรวีประทับใจในความสง่าและ ดูดีของฟ้าคราม ยิ่งพอรู้ว่าคือชายหนุ่มที่ตนปฏิเสธ ยิ่งเสียดาย ถึงกับคิดอยากจะเลิกกับกำลาภที่ไม่เอาไหน วันๆก็เอาแต่อวดเบ่งทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของเธอต่อหน้าทุก ๆ คน

ปานรวีลากข้าวปั้นแยกออกมาจากในงานเพื่อบอกว่าเธออยากจะเฉลยความจริง เธออยากแต่งงาน อยากเป็นเมียทูต จะไม่พึ่งข้าวปั้นอีกต่อไป ข้าวปั้นพยายามขอร้องว่าอย่าเพิ่งรีบบอก เพราะเธอยังไม่ได้เบาะแสอะไรเลย แต่ปานรวีไม่ฟัง คิดจะไปบอกความจริงกับฟ้าคราม แต่มีเหตุให้ปานรวีบังเอิญได้ยินฟ้าครามต่อว่าข้าวปั้นเสียก่อน ฟ้าครามตำหนิข้าวปั้นเสียๆหายๆ และเผยความในใจว่า เขาไม่เคยพิศวาสในตัวปานรวีเลย ทั้งน่าเบื่อและน่ารำคาญที่สุด ไม่ใฝ่เรียน ทำตัวไร้ค่า ฟ้าครามยังพูดเปรียบเทียบปานรวีกับข้าวปั้น บอกให้ดูข้าวปั้นเป็นตัวอย่าง ได้ทุนเรียนต่อได้ดิบได้ดีไปถึงไหนต่อไหนแล้ว...ข้าวปั้นรู้ได้ทันทีว่าฟ้าครามแอบมีใจให้เธอมาตั้งแต่เด็ก เช่นเดียวกับที่เธอก็มีใจให้เขาเช่นกัน ข้าวปั้นอยากจะบอกความจริง ว่าเธอไม่ใช่ปานรวีที่เขาเกลียด เธอคือข้าวปั้นที่เขารักต่างหาก แต่อยู่ๆปานรวีกลับเดินเข้ามาแนะนำตัวเองว่าชื่อข้าวปั้น (ปานรวีสวมรอยเป็นข้าวปั้น) ข้าวปั้นตัวจริงได้แต่อึ้ง กล้ำกลืน

ปานรวี(ที่หลอกฟ้าครามว่าคือข้าวปั้น)เข้ามาในชีวิตของฟ้าคราม สวมรอยว่าตนเองก็ประทับใจฟ้าครามมาตั้งแต่เด็ก แม้จะต้องมั่วบ้าง แถๆไปบ้าง แต่ก็ทำให้ฟ้าครามประทับใจได้ และฟ้าครามก็ดูจะชอบปานรวีอย่างเปิดเผย (เพราะเข้าใจว่าคือดญ.ข้าวปั้น) ผิดกับพ่อแม่ฟ้าคราม ป้าใยและไอ้บ่อนที่ไม่ถูกชะตาปานระวีอย่างมาก เพราะพออยู่ต่อหน้าฟ้าคราม ปานระวีจะทำตัวเป็นนางเอกผู้แสนดี แต่พอลับหลัง ก็จะกลายร่างเป็นนางร้าย ฟ้าครามเล่าเรื่องปานรวีที่โกหกว่าเป็นข้าวปั้นให้ญาดาฟัง ทำให้ญาดารู้ว่าผู้หญิงที่เป็นรักแรกของฟ้าครามคือข้าวปั้น ญาดาสงสารข้าวปั้นที่โกหกว่าเป็นปานรวีอย่างมาก นั่นทำให้ญาดากับข้าวปั้นได้มีโอกาสคุยกัน และญาดาก็ได้รู้ว่าพีรพงศ์เป็นเพื่อนสนิทกับข้าวปั้น ข้าวปั้นพอเดาออกว่าญาดาแอบชอบพีรพงศ์จึงหาทางช่วย แต่กลับเจอพีรพงศ์ต่อว่า เค้าเสียใจที่ข้าวปั้นพยายามจะเป็นแม่สื่อเค้าให้กับผู้หญิงอื่น ทั้งๆที่พีรพงศ์ชอบข้าวปั้น ข้าวปั้นอึ้งที่ได้รู้ความจริง

กำลาภเข้ามาเห็นฟ้าครามนั่งสวีทกับแฟนของตนอยู่ก็เข้ามาจะมีเรื่องกับฟ้าคราม จนปานรวีต้องพากำลาภออกไปก่อนความแตก ปานรวีหลอกกำลาภว่ายังรักกำลาภเหมือนเดิม ส่วนฟ้าครามก็แค่เรื่องเส้นสายในการเข้าสู่วงการ กำลาภเชื่อและไว้ใจปานรวีหมดใจ ปานรวีโล่งอก โดยไม่รู้ว่าพีรพงศ์อยู่บริเวณนั้น และได้ยินสิ่งที่ปานรวีโกหกทั้งหมด ปานรวีข่มขู่พีรพงศ์ว่าถ้าปากโป้งเรื่องนี้แม้แต่นิดเดียว ตนจะให้พ่อยึดที่นาของข้าวปั้น แล้วรับรองว่าจะไม่มีใครได้มีความสุขกันสักคน พีรพงศ์รักข้าวปั้นมาก จึงไม่เผยเรื่องนี้กับใคร

ในที่สุด ฟ้าครามก็คบกับปานรวีอย่างเปิดเผย (ฟ้าครามเข้าใจว่าคือข้าวปั้น) โดยไม่สนใจว่าพ่อกับแม่จะว่ายังไง ปานรวีคอยยุให้ฟ้าครามยกเลิกสัญญาในอดีตของพ่อแม่ แล้วมาแต่งงานกับตนแทน ข้าวปั้นพยายามไม่ใส่ใจเรื่องฟ้าครามกับปานรวี แต่ก็ออกอาการจนพีรพงศ์จับสังเกตได้ พีรพงศ์เตือนให้โฟกัสที่ภารกิจเพื่อส่วนรวมก่อน เพราะมีข่าวมาบอก เกี่ยวกับ ดร.วนัส เปี่ยมกิตติ อาจารย์ธรณีวิทยาที่เคยสอนอยู่ในจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ เป็นนักศึกษาหนึ่งในสิบคนที่สมัครใจไปวิจัยดินที่ภาคอีสานกับดร.ปิตินันท์

ข้าวปั้นกับพีรพงศ์เดินทางไปที่บ้านของดร.วนัส ปานรวีรู้ จึงใส่ไฟข้าวปั้นให้ฟ้าครามฟัง แต่ฟ้าครามดันหึง จึงรีบตามไปสมทบ

บ้านของดร.วนัสนั้นอยู่ในป่าลึก เหมือนจะหลบซ่อนตัวจากสังคม กว่าข้าวปั้นจะเข้าไปถึงได้แทบกระอักเลือด ทีแรกดร.วนัสปฏิเสธไม่ต้อนรับผู้ใด ยิ่งพอรู้ว่าข้าวปั้นมาด้วยเรื่องงานวิจัยดินทุ่งบ้านนาดร.วนัสก็ถึงกับลนลาน วิ่งหนี จนกลายเป็นเรื่องวุ่นวาย เพราะดร.วนัสลื่นไถลหล่นไปในชั้นหิน จนเกือบจะตาย โชคดีที่ข้าวปั้นมาช่วยเอาไว้ได้ทัน สุดท้าย ดร.วนัสก็ไว้ใจข้าวปั้นกับพีรพงศ์ ยอมเล่าความจริงว่างานวิจัยของดร.ปิตินันท์ ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากท่านบดี แต่เมื่อหัวหน้าทีมเขียนรายงานให้เจ้าของทุนทราบในเบื้องต้นว่าค้นพบที่ดินที่มีสายแร่ ด้วยความละโมบโลภมาก ท่านบดีเร่งรัดจะเอาแผนที่พิกัดที่มีสายแร่ แต่ดร.ปิตินันท์เห็นว่าทรัพย์ในดินนั้นเป็นสมบัติของแผ่นดิน เขาจึงประกาศหยุดงานวิจัยนี้และคืนเงินทุนที่เหลือครึ่งหนึ่งให้กับท่านบดี ตั้งแต่นั้นมา ชีวิตของ ดร.ปิตินันท์ก็หาความสุขไม่ได้เลย มีคนตามราวีข่มขู่ตลอด จนสุดท้ายก็ถูกฆ่าล้างครัว กลุ่มนักศึกษาทั้งสิบคนก็ถูกตามราวีจนหลายคนต้องเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ย้ายที่อยู่ บางคนก็หนีไปเรียนต่างประเทศ ดร.วนัสถึงต้องมาหลบอยู่ในป่าเช่นนี้ ทุกคนคาดเดาว่าเป็นฝีมือของท่านบดี แต่ไม่มีใครกล้าออกมาพูดหรือให้ข้อมูลใดๆ.....

ข้าวปั้นอยากจะไขความกระจ่างในคดีนี้ แต่ดร.วนัส ห้ามไม่ให้ข้าวปั้นรื้อฟื้นเรื่องนี้ขึ้นมาอีก เพราะจะเป็นอันตราย ข้าวปั้นดื้อดึงจะต้องทำให้สำเร็จ เพราะถ้ามีนายทุนจ้องจะตะครุบสายแร่ที่ทุ่งบ้านนาจริง ข้าวปั้นก็จะต้องปกป้องสมบัติของแผ่นดิน และจะต้องคืนความยุติธรรมให้คนที่ทำเพื่อส่วนรวมอย่างดร.ปิตินันท์ด้วย

ในระหว่างทางขากลับ ข้าวปั้นกับพีรพงศ์ถูกคนร้ายขี่มอเตอร์ไซค์ประกบเพื่อข่มขู่ว่าจะเอาชีวิต ทั้งสองคนต้องสู้และพากันหนี เกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่โชคดีที่ฟ้าครามซึ่งขับรถตาม เข้ามาช่วยเอาไว้ได้ทัน ข้าวปั้นรู้ว่านี่คือการข่มขู่ เป็นสัญญาณเตือนว่าให้หยุดสืบเรื่องสายแร่ทุ่งบ้านนาเพราะครั้งหน้าคงไม่ไว้ชีวิต แต่ข้าวปั้นกลับฮึกเหิม ยิ่งต้องทำให้สำเร็จ ในขณะที่ ฟ้าครามโวยวายว่าข้าวปั้นกับพีรพงศ์ทำอะไรกันอยู่ ทำไมมีคนร้ายไล่ตาม ข้าวปั้นบอกว่าเป็นผัวเก่าที่ตามมาราวีเพราะยังตัดใจจากตนไม่ได้ ฟ้าครามไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ

นอกจากข้อมูลที่ได้จากดร.วนัสแล้ว ข้าวปั้นยังรู้มาอีกด้วยว่าเวลานี้ชาวบ้านทุ่งบ้านนาหลายครอบครัว ได้ขายที่ดินให้กับนายทุนไปแล้ว ผ่านนายหน้าอย่างเสี่ยกำพลกับกำลาภนั่นเอง และนายทุนใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังการกว้านซื้อที่ดินทุ่งบ้านนาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ท่านบดี นั่นเอง...ยิ่งทำให้ข้าวปั้นต้องเข้าถึงตัวดร.บดีให้ได้!!!

ฟ้าครามลากข้าวปั้นกลับมาบ้าน ทั้งสองคนทะเลาะกันบ้านแทบแตกอย่างไม่มีใครยอมใคร ญาดารู้เรื่องจากฟ้าครามจึงบอกว่าฟ้าครามรักข้าวปั้น และกำลังทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ฟ้าครามปฏิเสธว่าไม่ได้คิดอะไรกับข้าวปั้น ทั้งๆที่เริ่มไม่แน่ใจ

ข้าวปั้นถูกลอบทำร้ายอีกหลายครั้ง และในแต่ละครั้ง ก็มักมีฟ้าครามอยู่ด้วย จนฟ้าครามชักไม่เชื่อว่าข้าวปั้นจะโดนราวีจากผัวเก่า เค้าพยายามคาดคั้น แต่ข้าวปั้นไม่ตอบ ฟ้าครามสงสัยว่าข้าวปั้นจะทำอะไรที่ผิดกฎหมาย จึงเริ่มหวาดระแวง

การประกวดนางงามครกทองคำ ที่จัดขึ้นที่ทุ่งบ้านนามีทั้งประเภทสวยงามและประเภทตลกขบขัน ปานรวีตั้งใจจะเข้าประกวดประเภทสวยงาม ฟ้าครามสนับสนุน แต่ก็แอบบังคับใส่ชื่อข้าวปั้นขึ้นประกวดด้วย เพราะเจตนาจะให้ข้าวปั้นขายหน้า ทีแรกข้าวปั้นจะขอถอนชื่อ แต่เมื่อรู้ว่าผู้ชนะและรองจะได้รับการเลี้ยงแสดงความยินดีจากสปอนเซอร์ของการจัดงาน ซึ่งก็คือ ท่านบดี ทำให้ข้าวปั้นมุ่งมั่นในการประกวด เพื่อเข้าใกล้ท่านบดี เพราะเธอเชื่อลึกๆว่าท่านบดีต้องอยู่เบื้องหลังการฆ่ายกครัวของดร.ปิตินันท์แน่นอน

ข้าวปั้นจึงมุ่งมั่นตั้งใจฝึกซ้อมเพื่อเป็นนางงามอย่างเต็มที่ โดยมีฟ้าครามคอยมาช่วยสอน

ในระหว่างการฝึกเป็นนางงาม ข้าวปั้นได้รับการติดต่อจากเพิ่มบุญและลาวัลย์ ที่หนีหัวซุกหัวซุนออกจากทุ่งบ้านนาเพราะมีคนลอบทำร้าย เผาบ้าน พ่อแม่บอกว่าให้เห็นแก่ความปลอดภัยของตัวเอง หยุดสิ่งที่ทำอยู่ซะ อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเลย แต่ข้าวปั้นบอกว่าตอนนี้สิ่งที่เป็นปริศนา คือ แผนที่พิกัด ที่ระบุตำแหน่งที่แน่ชัด ว่าบริเวณไหนของทุ่งบ้านนามีสายแร่อยู่ ถ้าหาแผนที่พิกัดเจอและส่งให้ทางราชการ สายแร่ที่ถือว่าเป็นสมบัติของชาติของแผ่นดินก็จะไม่ตกไปอยู่ในมือคนละโมบ และข้าวปั้นมั่นใจว่าแผนที่พิกัดอยู่ที่ท่านบดีแน่ หากเธอชนะการประกวดนางงาม เธอก็จะได้เข้าไปในบ้านของท่านบดี ข้าวปั้นรู้สึกว่าถอยหลังไม่ได้อีกแล้ว

ในการประกวด แพตตี้ที่ถูกเชิญมาเป็นคณะกรรมการ เห็นข้าวปั้นลงประกวดก็ไม่พอใจ หาทางกลั้นแกล้ง ขังข้าวปั้นเอาไว้ในห้อง แต่สุดท้ายฟ้าครามก็ตามมาช่วยเอาไว้ ทำให้ข้าวปั้นขึ้นประกวดได้ทัน ทำให้แพตตี้ประหลาดใจอย่างมาก ข้าวปั้นตอบคำถามได้อย่างเฉลียวฉลาดมีไหวพริบและที่สำคัญภาษาอังกฤษของเธอดีราวกับนักเรียนนอก ในขณะที่ปานรวีพูดภาษาได้อย่างสเน็คๆฟิชๆ สร้างความฉงนสงสัยให้ฟ้าครามมาก เพราะเขารู้สึกว่า ข้าวปั้น(ที่เขาคิดว่าคือปานรวี) คนนี้ไม่เหมือนคนที่จบแค่มัธยมปลาย แต่เหมือนระดับด็อกเตอร์เลยทีเดียว...แล้วผลการตัดสินที่ออกมา ข้าวปั้นได้เป็นรองอันดับหนึ่ง ปานรวีคือผู้ชนะตัวจริง แต่ความเฉลียวฉลาดของข้าวปั้นโดนใจท่านบดีที่มานั่งเป็นกรรมการอย่างมาก ถึงกับเรียกให้มาพบเป็นการส่วนตัวหลังเวที ข้าวปั้นทำใจดีสู้เสือ แต่ทันทีที่เข้ามาถึง ท่านบดีก็ทำเจ้าชู้ใส่ เข้ามากอดข้าวปั้นอย่างถือวิสาสะ ข้าวปั้นโปรยเสน่ห์และออดอ้อนจะขอไปที่บ้านท่านบดีให้ได้ แต่อยู่ๆฟ้าครามโผล่มาเห็นภาพนั้น ผลุนผลันชกท่านบดี จนกลายเป็นเรื่องใหญ่ ฟ้าครามประกาศว่าข้าวปั้นคือว่าที่ภรรยาตน ท่านบดีไม่มีสิทธิ์ทำอย่างนี้

ข้าวปั้นต่อว่าฟ้าครามว่าไม่มีสิทธิประกาศว่าตนเป็นภรรยา เพราะฟ้าครามเองก็ยังมีปานรวีอยู่อีกคน ไม่ได้คิดจะยกย่องให้เธอเป็นมาดามอยู่แล้ว ฟ้าครามสับสนในตัวเอง ว่าเขารักใครกันแน่ ระหว่างข้าวปั้น(ที่เขาเข้าใจว่าคือปานรวี) กับปานรวี(ที่เขาเข้าใจว่าคือข้าวปั้น)

ในงานเลี้ยงต้อนรับนางงามที่บ้านท่านบดี ข้าวปั้น ปานรวี นางงามอันดับ3-4-5 และสื่อบางคน ถูกเชิญมาร่วมงาน ฟ้าครามตามมาด้วยในฐานะผู้ดูแลจากชมรม ข้าวปั้นหลอกให้ท่านบดีที่หลงเสน่ห์ พาเข้าไปในห้องทำงานด้านใน เพื่อหาหลักฐานที่ยืนยันการกระทำผิดของท่านบดี ข้าวปั้นหลอกให้ท่านบดีเข้าไปรอในห้องนอน เพื่อจะได้โหลดข้อมูลออกมาจากคอมพิวเตอร์ส่วนตัว แต่ก็เจอแต่ภาพวาบหวิวของสาวญี่ปุ่น ไม่มีอะไรที่ใช้งานได้เลย จนกระทั่ง ข้าวปั้นแอบเข้าไปในห้องนอน แต่อยู่ๆฟ้าครามสะกดรอยตามเข้ามา ซักถามว่าข้าวปั้นคิดทำอะไร เป็นโจรหรือไง ข้าวปั้นสั่งให้ฟ้าครามเงียบๆ และค้นจนเจอช่องลับที่มีตู้เซฟซ่อนอยู่ ข้าวปั้นพยายามจะเปิดเซฟแต่ไม่รู้รหัส จึงใช้เสน่ห์ยั่วยวนท่านบดี หวังจะให้ท่านบดีโชว์บารมี เปิดตู้เซฟให้ดู แต่หารู้ไม่ว่า ท่านบดีเห็นพฤติกรรมของ ข้าวปั้นทั้งหมดผ่านวงจรปิด ข้าวปั้นและฟ้าครามถูกจับได้ ไม่สามารถหนีรอดไปได้ ฟ้าครามเพิ่งรู้ความจริงว่าข้าวปั้นกำลังสืบเรื่องดร.ปิตินันท์ และตนเองก็พลอยมาตกระกำลำบากไปด้วย

ท่านบดีคิดกำจัดข้าวปั้นและฟ้าคราม แต่ก็กลัวเป็นคดีความเพราะฟ้าครามเป็นถึงว่าที่ทูต จึงคิดจะกักตัวเอาไว้ก่อน โดยจะพาไปขังที่บ้านร้างของดร.ปิตินันท์ แต่ระหว่างนั้น อยู่ๆก็มีกลุ่มคนบุกเข้ามาช่วยเหลือข้าวปั้นและฟ้าครามออกไปได้ ท่านบดีแค้นและคิดตามตัวข้าวปั้นมาให้ได้

ข้าวปั้นกับฟ้าครามพบว่าคนที่ช่วยเหลือพวกตนออกมานั้นก็คือ เพิ่มบุญ ลาวัลย์ ดร.วนัส และ กลุ่มนักศึกษาที่เคยอยู่ในทีมของดร.ปิตินันท์นั่นเอง ทั้งหมดรวมตัวกันอยู่ในเซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่ง ข้าวปั้นสับสนแปลกใจไปหมด เพิ่มบุญจึงเล่าที่มาที่ไปให้เข้าใจว่า พวกตนเป็นทีมของดร.ปิตินันท์ในอดีต ดร.ปิตินันท์รู้ดีว่าตัวเองกำลังมีอันตรายจึงได้ฝากฝังลูกสาวคนเล็กให้พวกตนช่วยดูแล พาหนีไปอยู่ที่ทุ่งบ้านนาเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล เพราะไม่อยากให้มาข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ อยากให้ช่วยเลี้ยงดูให้เติบโตมาอย่างปลอดภัย และลูกสาวคนที่ว่าก็คือ ข้าวปั้น นั่นเอง..ข้าวปั้นไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของเพิ่มบุญกับลาวัลย์ แต่ข้าวปั้นคือลูกสาวของดร.ปิตินันท์ต่างหาก..และการที่ข้าวปั้นสนใจในคดีดร.ปิตินันท์ถือเป็นความผูกพันทางจิตวิญญาณของพ่อลูกอย่างที่อธิบายไม่ได้ ข้าวปั้นย้อนคิดทบทวน และค้นพบว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอได้รับการดูแลห่วงใยอย่างอ้อมๆจากคนต่างๆเหล่านี้มาตลอด ข้าวปั้นได้เข้าใจชาติกำเนิดของตัวเอง ในขณะเดียวกัน ฟ้าครามก็ได้รู้ความจริงว่าข้าวปั้นคนนี้คือข้าวปั้นจริงๆที่เขาเคยแอบรักในวัยเด็ก แต่ที่ต้องสวมรอยเป็นสาวใจแตกเพราะต้องการปลดหนี้แทนครอบครัว

ฟ้าครามบอกเลิกกับปานรวี!!!

ปานรวีอกหัก เกลียดชังข้าวปั้นที่เป็นมารความรัก เธอจึงหันไปหลอกใช้กำลาภอีกครั้ง ให้ส่งคนไปจัดการข้าวปั้น แต่ปานรวีก็ทำไม่สำเร็จ กำลาภถูกฟ้าครามจับตัวส่งตำรวจ ร้อนถึงเสี่ยกำพลต้องมาประกันตัวออกไป กำลาภจึงได้ตาสว่างว่าโดนปานรวีหลอกใช้ กำลาภซ้อมปานรวีจนอาการปางตาย ข้าวปั้นผ่านมาเห็นและช่วยเอาไว้ ทำให้ปานรวีสำนึกผิด และขอโทษข้าวปั้น

ข้าวปั้นวางแผนจะจัดการท่านบดี โดยใช้งานเลี้ยงต้อนรับคณะทูตและภริยาเป็นฉากบังหน้า ขอให้ฟ้าครามเปลี่ยนแปลงสถานที่จัดงานมาเป็นที่ทุ่งบ้านนาเพื่อให้ได้บรรยากาศแบบไทยๆ ทุกคนแต่งตัวสวยงามอลังการท่ามกลางบรรยากาศขุนเขาและท้องนา แต่ความจริงแล้ว ข้าวปั้นปล่อยข่าวว่าค้นพบแผนที่พิกัดของดร.ปิตินันท์ และจะเปิดเผยตำแหน่งสายแร่ในงานครั้งนี้ เพื่อตั้งใจลวงให้ท่านบดีมาติดกับ ท่านบดีทราบข่าว รีบตอบตกลงจะไปงานเลี้ยงต้อนรับทูตทันที คิดจะชิงแผนที่พิกัดและคิดจะจัดการกับกลุ่มนักศึกษาของดร.ปิตินันท์ รวมถึงทายาทที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ให้เป็นหนามแทงใจอีกด้วย

ในงานเลี้ยงนั้น ข้าวปั้น ฟ้าคราม พีรพงศ์ ญาดา (ที่ตอนนี้รู้ความจริงทั้งหมดแล้ว) ช่วยกันซ้อนแผน หลอกล่อให้ท่านบดีเผยความจริงเรื่องในอดีตออกมา ว่าเขาคือคนสั่งฆ่าครอบครัวดร.ปิตินันท์เอง รวมถึงลูกศิษย์ของดร.ด้วย เพราะดร.ไม่ยอมให้แผนที่พิกัดกับเขา และขู่จะแฉเรื่องของเขาอีกด้วย และตอนนี้ที่ดินทุ่งบ้านนากว่าครึ่งก็เป็นของเขาแล้ว ถึงไม่มีแผนที่พิกัด แต่ถ้าที่ดินเป็นของเขาทั้งหมด สายแร่มันก็ต้องเป็นของเขาอยู่ดี และเขาจะกลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆของประเทศ แต่หารู้ไม่ว่า การเผยไต๋ครั้งนั้น ได้ถูกต่อออกจอทีวียักษ์ของงานเลี้ยงเรียบร้อยแล้ว ท่านบดีหลงกลสารภาพความจริงด้วยตัวเอง หมดโอกาสพลิกลิ้นใดๆอีก ท่านบดีชักปืนออกมา เค้าไม่ยอมถูกจับ ท่านบดีส่ายปืนไปทั่ว และยิงฟ้าคราม ข้าวปั้นกระโดดเข้าขวางจนตัวเองถูกยิงล้มลงและสิ้นสติไป ท่านบดีถูกจับ!!! ความจริงถูกเปิดเผยพร้อมหลักฐานในกล่องเหล็กที่เพิ่มบุญไปเอามาจากบ้านที่ทุ่งบ้านนาคือสมุดบันทึก และของประจำตัวเด็กคือสายรัดข้อมือเมื่อแรกคลอด ใบแจ้งเกิดและภาพถ่ายของเด็กหญิงข้าวปั้นตั้งแต่แรกเกิดจนถึงภาพสุดท้าย4วันก่อนที่ดร.ปิตินันท์และภรรยาจะถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม

คดีเก่าถูกรื้อฟื้นขึ้นมา กลุ่มนักศึกษาที่เคยติดตามดร.ปิตินันท์พ้นข้อกล่าวหาที่ท่านบดีใส่ร้ายว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมยกครัว ทุกคนเป็นอิสระ ฟ้าครามดูแลข้าวปั้นจน

เจ้าสาวแก้ขัด 2562

เรื่องย่อ : เจ้าสาวแก้ขัด (2562/2019) กุลชาแต่งงานกับปพนเจ้าของธุรกิจก่อสร้างที่ฝันอยากเป็นนักการเมือง จนมีลูกคือสายฝนและสายรุ้ง จู่ๆปพนก็พาบงกช ดนุวัศและศุภานัน เมียน้อยและลูกๆเข้าบ้าน กุลชายอมเพราะสามีอยากได้ลูกชาย แต่สุดท้ายเธอก็ทนไม่ไหวจนต้องย้ายมาอยู่เรือนเล็กและทำตัวห่างหายจากสังคม ปล่อยให้บงกชออกหน้าจนผู้คนต่างเข้าใจว่าภรรยาปพนคือบงกช ถึงกระนั้นบงกชก็ยังไม่พอใจที่สามีไม่หย่าทำให้เธอและลูกยังเป็นได้แค่เมียน้อยและลูกนอกสมรส หลายปีที่กุลชาและลูกไม่เคยได้รับความเป็นธรรม ดีที่ปพนยังเกรงใจ บงกชจึงไม่กล้าระรานเธอ 2บ้านแม้อยู่ในรั้วเดียวกันก็เหมือนต่างคนต่างอยู่ กุลชาพยายามหารายได้เองแต่เพราะป่วยเป็นโรคหัวใจ ทำให้ยังต้องยอมรับความช่วยเหลือเรื่องค่ารักษาพยาบาลจากปพนอยู่ ดนุวัศติดหนี้พนัน ตนุภัทรช่วยใช้หนี้ให้แลกกับการขอเป็นเขยปพน แต่เพราะข่าวว่าเป็นมาเฟีย บงกชห่วงศุภานัน จึงโยนภาระให้สายฝน ปพนมีเงินใช้หนี้เองได้ แต่ไม่อยากยุ่ง เพราะกลัวกระทบชื่อเสียงจึงรับข้อเสนอ แล้วมาบังคับสายฝนให้แต่งงานโดยขู่ว่าถ้าไม่ยอมจะไม่ช่วยค่ารักษากุลชา สายฝนเสียใจ สายรุ้งโกรธมากและคิดหาทางช่วยพี่ 2พี่น้องปิดเรื่องนี้เพราะกลัวแม่เครียด แต่กุลชาก็รู้จากบงกชและศุภานันที่มาบอกเพราะอยากแกล้งให้อาการเธอทรุด สายรุ้งไปเจรจาให้ตนุภัทรเลือกศุภานันแทนพี่สาว แต่ถูกตนุภัทรหลอกสลับตัวกับธนิตจนเธอเข้าใจผิด ตนุภัทรถูกใจสายรุ้ง จากที่จะแต่งงานหลอกๆเพื่อใช้เป็นข้ออ้างพากุลชาผู้มีพระคุณในอดีตมาดูแล เมื่อพบสายรุ้งความคิดก็เปลี่ยน งานนี้นอกจากไม่ยอมเปลี่ยนเจ้าสาว เขายังแกล้งเลื่อนวันแต่งให้เร็วขึ้นด้วย ธนิตแนะให้ตนุภัทรไปทำความรู้จักสายฝนว่าที่เจ้าสาว แต่ไปเจอสายรุ้งจึงจำใจเล่นบทธนิตต่อ สายรุ้งหลอกถามเรื่องตนุภัทรๆก็พูดอวยตัวเอง ทั้งคู่คุยกันถูกคอและต่างก็รู้สึกดีต่อกัน โดยสายรุ้งไม่รู้ว่าธนิตที่เธอคุยด้วย ความจริงก็คือ ตนุภัทร เมื่อเจรจาไม่เป็นผลสายรุ้งจึงวางแผนให้สายฝนหนี โดยความช่วยเหลือของป้าน้อยและป้าบุญ จนได้อยู่บ้าน วรเมธ ในฐานะผู้ดูแลข้าวโอ๊ตหลานวัย6ปี วรเมธเป็นนักกฎหมายหนุ่มโสด พนิดาน้าของข้าวโอ๊ต หลังพี่ตายเธอก็อ้างหลานเพื่อมาอยู่บ้านวรเมธแล้วหาโอกาสเข้าหา จนวรเมธต้องคอยหลบ ส่วนพนิดานับวันยิ่งวางอำนาจ บุญก็อายุมากแล้ว วรเมธจึงรับสายฝนมาคานอำนาจพนิดาและช่วยดูข้าวโอ๊ต บุญที่รู้ฐานะสายฝนจึงเอ็นดูขณะที่พนิดาไม่ถูกชะตาเพราะสายฝนไม่ลงให้เธอ วรเมธหาเหตุใกล้ชิดจึงมอบงานแม่บ้านพ่วงงานเลขาให้ นอกจากดูแลบ้านและหลาน สายฝนยังต้องช่วยงานเอกสารของเขา บุญสงสัยว่าวรเมธที่ไม่ชอบให้ใครยุ่งเรื่องส่วนตัวอาจถูกใจสายฝน ขณะที่พนิดาหมั่นไส้จึงคอยหาเรื่อง แต่ก็ไม่เคยชนะสายฝนได้ ที่บ้านปพนหลังสายฝนหนี ตนุภัทรที่รู้ทันให้ธนิตขับรถตามจนรู้ที่อยู่สายฝน ก่อนทำทีมาขอพบเจ้าสาว สายรุ้งแกล้งตกใจมาบอกว่าพี่สาวหนีไปแล้ว ศุภานันเห็นตนุภัทรหล่อรีบเสนอตัวจะแต่งเอง แต่ตนุภัทรขอเลือกสายรุ้ง โดยขู่ว่าถ้าเธอไม่ยอมเขาจะตามไปเอาตัวสายฝน เมื่อปฏิเสธไม่ได้สายรุ้งจึงตกลง โดยมีข้อแม้ว่าต้องจดทะเบียนสมรสและพาแม่ไปด้วย ตนุภัทรตกลงก่อนจะพาสายรุ้งและแม่ออกจากบ้านไป โดยที่ปพนขวางไม่ได้ ตนุภัทรกราบกุลชาพร้อมสัญญาจะดูแลสายรุ้ง กุลชาคุ้นหน้าแต่นึกไม่ออก ท่าทีนอบน้อมของตนุภัทรทำให้สายรุ้งสงสัยว่าเขาอาจรู้จักแม่แต่ยังไม่ทันถามตนุภัทรก็ให้ธนิตพากุลชาแยกไปพักที่อื่นเพื่อรอผ่าตัด ส่วนสายรุ้งถูกพาไปสัตหีบเพื่อรู้จักกับศจีแม่บุญธรรมของเขา โซเฟียและโดมินิกอริของตนุภัทร ส่งนักฆ่าตามล่าจนตนุภัทรต้องพาสายรุ้งหนี ศจีเล่าเรื่องตนุภัทรและโซเฟียให้สายรุ้งฟัง เริ่มที่ตนุภัทรทำธุรกิจกับฟิลิปส์เจ้าพ่อท่าเรือสามีโซเฟีย ก่อนจะมารู้ว่าภรรยาชอบตนุภัทร ฟิลิปส์เสียใจก่อนจะตายอย่างมีเงื่อนงำ โซเฟียคิดว่าตนุภัทรฆ่าฟิลิปส์จึงโกรธแค้นตามรังควาญและเล่นงานผู้หญิงที่เข้าใกล้เขา รวมถึงเรเชลเพื่อนตนุภัทรก็ถูกฆ่าตายด้วย หลังสายฝนมา วรเมธก็อยู่ติดบ้าน ข้าวโอ๊ตที่เคยซึมเศร้าก็ดีขึ้น พนิดาโกรธจนไปลงกับหลาน ต่อหน้าดี ลับหลังทำร้าย ข้าวโอ๊ตร้องไห้ก็โยนให้สายฝนผิด วรเมธรู้ทันพนิดาจึงไม่ต่อว่าสายฝนแต่ก็จำต้องไว้หน้าพนิดาในฐานะญาติ สายฝนสงสัยจึงสำรวจร่างกายจนพบว่าข้าวโอ๊ตถูกทำร้าย เธอตัดสินใจซ่อนกล้องไว้เพื่อเก็บหลักฐานว่าใครทำร้ายเด็ก ตนุภัทรและวรเมธนัดพบกันเพื่อมอบเอกสาร สายฝนและสายรุ้งที่ตามไปต่างก็สงสัยความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ที่ร่วมงานกันลับๆเพื่อสืบเรื่องเรเชลและธุรกิจใต้ดินของโซเฟีย รวมถึงตนุภัทรยังให้วรเมธสืบหาสาเหตุที่ปพนไม่หย่ากับกุลชาด้วย พนิดากับดนุวัศรู้จักกันในบ่อนและมีสัมพันธ์กัน วันนี้บังเอิญนัดที่เดียวกัน สายรุ้งเห็นดนุวัศจึงให้สายฝนหลบ ดนุวัศเห็นสายรุ้งก็มาหาเรื่อง แถมบอกพนิดาว่าสายรุ้งเป็นลูกเมียน้อย สายรุ้งโกรธจนเกือบมีเรื่องกัน ตนุภัทรมาทันจึงขวางไว้ ดนุวัศเห็นตนุภัทรก็หน้าซีด สายรุ้งรู้สึกขอบคุณตนุภัทรที่มาถูกเวลา เปรี้ยวกับต้อมเพื่อนพนิดาเห็นสายฝนอยู่กับวรเมธรีบฟ้องพนิดาๆ โกรธ ชวนเพื่อน ไปรอหาเรื่องอยู่ที่บ้าน สายฝนเกือบถูกรุม ดีที่ข้าวโอ๊ตมาขวางไว้ พนิดาเจ็บใจที่ไม่ได้ทำร้ายสายฝนอย่างที่ตั้งใจไว้ ตนุภัทรนัดเจรจาร่วมงานกับหว่องนักธุรกิจชาวจีนซึ่งหากสำเร็จจะลดอิทธิพลของโซเฟียได้มาก โดยไม่รู้ว่าหว่องเล่นตุกติก เจรจาสองฝ่ายหวังได้ประโยชน์มากที่สุด ดีที่สายรุ้งช่างสังเกต จึงท้วงไว้ วรเมธและสายฝนช่วยหาข้อมูลก็พบว่าหว่องไม่น่าไว้ใจ ตนุภัทรจึงรอดจากการเสียรู้ ส่วนหว่องถูกโซเฟียที่เจ้าเล่ห์กว่าดัดหลังต้องเสียทั้งธุรกิจและชีวิต โดมินิกเข้าหาศุภานันจนมีความสัมพันธ์กัน หวังใช้เธอเป็นสะพานให้เข้าถึงอำนาจของปพนอีกทางหนึ่ง งานแต่งตนุภัทรกับสายรุ้ง ปพนมางานหวังได้พบนักธุรกิจใหญ่ๆ โซเฟียและโดมินิกมาป่วนหวังจะขู่แต่สายรุ้งไม่กลัว ดนุวัศแนะนำให้ปพนรู้จักโดมินิกในฐานะนักลงทุน โดมินิกทักศุภานันอย่างสนิทสนมจนถูกชลิตนักข่าวจับตามอง เหตุการณ์วันนี้ทำให้ปพนคิดหาเสียงด้วยการกวาดล้างผู้มีอิทธิพลรวมถึงตนุภัทรด้วย ดนุวัศรู้ก็รีบเตือนโดมินิกให้ระวังตัว โดมินิกส่งคนมาวางเพลิงแพปลา ธนิตพาตนุภัทรที่บาดเจ็บเล็กน้อยจากการต่อสู้กลับมาบ้าน สายรุ้งมาดูแล ตนุภัทรรู้สึกดีที่มีคนคอยห่วงใย หลังยึดธุรกิจหว่อง โซเฟียมีอิทธิพลมากขึ้นและลงมือกวาดล้างผู้ที่ขัดผลประโยชน์รวมถึงทำลายธุรกิจของตนุภัทร โดมินิกและโซเฟียส่งคนมาทำร้ายสายรุ้ง กุลชาโกรธตนุภัทรที่ผิดสัญญาเรื่องจะดูแลลูกสาว จนตนุภัทรเผยความจริง กุลชาจึงรู้ว่าเขาเป็นใครและมีจุดประสงค์อะไร ตนุภัทรขอหย่า และไปเจรจากับโซเฟียยอมแลกธุรกิจกับความปลอดภัยของสายรุ้ง สายฝนเครียดที่น้องถูกทำร้าย พนิดาออกอุบายชวนเที่ยวแล้ววางยาให้เพื่อนข่มขืน ต้อมบอกวรเมธจนมาช่วยได้ทัน เหตุการณ์นี้ทำให้สายฝนเห็นความเป็นสุภาพบุรุษของวรเมธและวรเมธตัดสินใจไล่พนิดาออกจากบ้าน พนิดาเบนเข็มมาเกาะดนุวัศ แล้วแอบถ่ายคลิปนำไปเรียกเงินจากบงกชๆโมโหต่อว่าดนุวัศ ขณะเดียวกันก็เริ่มหวั่นใจว่าหากเรื่องพนิดาทำให้นักข่าวสนใจครอบครัวเธอ เรื่องที่เป็นเมียน้อยก็จะถูกขุดคุ้ยไปด้วย บงกชเริ่มคิดจะกำจัดกุลชา ดนุวัศพาโดมินิกมาเจรจากับปพน โดยจะให้ข้อมูลผู้มีอิทธิพลเพื่อให้ปพนสร้างผลงาน แต่ต้องไม่ยุ่งกับธุรกิจของเขา ปพนตกลง ผู้กองทิพย์ ตำรวจที่ทำงานให้โซเฟีย เสนอตัวช่วยปพน ก่อนนำกำลังเข้าจัดการบ่อนจนดนุวัศถูกยิงตายส่วนโดมินิกหนีไปได้ ทั้งหมดเป็นแผนโซเฟียที่จะกวาดล้างผู้มีอิทธิพลและเตือนโดมินิกที่คิดจะชิงอำนาจเธอ วรเมธรู้ว่าทิพย์เป็นพวกโซเฟียตั้งใจใช้กฎหมายจัดการกับเธอ เหตุการณ์นี้ทำให้ปพนได้หน้า แม้ต้องแลกกับชีวิตลูก จนมีปากเสียงกับบงกช ศุภานันท้องแต่โดมินิกไม่สนจึงคิดทำแท้ง ธนิตช่วยเตือนสติไว้ เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ ทำให้ปพนห่างจากครอบครัวมากขึ้น บงกชไปทำร้ายกุลชาหวังลบภาพเมียน้อยแต่ไม่สำเร็จแถมถูกจับ ชื่อเสียงปพนตกฮวบ ปพนล้มป่วย รู้ว่าเป็นโรคร้ายต้องตายในไม่ช้า หลังธุรกิจไปอยู่ในมือโซเฟีย กำลังใจจากสายรุ้งทำให้ตนุภัทรฮึดสู้อีกครั้ง ทุกอย่างควรจะดี แต่โซเฟียกลับไม่เลิกลา จนทำให้ธนิตเสียชีวิต ตนุภัทรวางแผนกับวรเมธทำทีว่ายอมแพ้โซเฟียและยอมเลิกกับสายรุ้ง ขณะเดียวกันก็เป็นสายให้ตำรวจโดยส่งข้อมูลผ่านวรเมธจนสามารถจัดการกับโซเฟียได้ กุลชารู้ข่าวว่าปพนป่วย จึงให้ลูกๆ ไปบอกลา ศุภานันได้เห็นน้ำใจและการให้อภัยของกุลชา จึงไปโน้มน้าวปพนให้ยอมมอบหัวใจให้กุลชาหลังจากเสียชีวิต แต่ปพนยังคงไม่ยอมและเห็นแก่ตัว จนมีปากเสียงกับศุภานันจนอาการทรุด แม้ไม่ได้หัวใจปพน ก็มีผู้บริจาค กุลชาได้รับการผ่าตัดและมีอาการดีขึ้น จากหัวใจของธนิตที่ตั้งใจจะทำเพื่อตนุภัทรเป็นครั้งสุดท้าย วรเมธมาช่วยดูแลกุลชาและได้ใกล้ชิดกับสายฝน จนตัดสินใจขอเธอแต่งงาน งานแต่งสายฝนกับวรเมธถูกจัดขึ้น ศุภานันยอมรับความจริงได้และกลับเข้ามาในสังคมอีกครั้ง เธอไปกราบขอโทษกุลชา และขอให้กุลชาเป็นแม่ทูนหัวของลูกเธอ สายรุ้งดีใจกับพี่สาวพร้อมๆ กับได้รับข่าวดีเรื่องการกลับมาของตนุภัทร ๆ ตัดสินใจขอสายรุ้งแต่งงานอีกครั้งและขอให้เธอเป็นเจ้าสาวจริงๆ ของเขา

ขิงก็รา ข่าก็แรง 2562

เรื่องย่อ : ขิงก็รา ข่าก็แรง (2562/2019) เมื่อความต้องการของผู้ใหญ่ คือจุดเริ่มต้นของ วิวาห์สายฟ้าแลบ ระหว่างนักข่าวสาวสุดมั่น กับ นักธุรกิจหนุ่มปากร้าย การปะทะคารมของสามีภรรยากำมะลอจึงเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน แต่ความผูกพันธ์จากการใกล้ชิด เปลี่ยน คู่กัด ให้กลายเป็น คู่ใจ โดยไม่รู้ตัว

ปิศาจหรรษา 2562

เรื่องย่อ : ปิศาจหรรษา (2562/2019) เพราะความผิดพลาดทำให้วิญญาณ ปราชญ์ (ชวินทร์วุฒิ ก้องธรนินทร์) ผู้บริหารรุ่นใหม่ดาวรุ่งพุ่งแรง ชายในฝันของหญิงสาวหลายคน แต่สาวผู้โชคดีที่ได้ครอบครองหัวใจของเขาคือ มณฑิชา หรือ เอ๋ (ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ) ซึ่งในคืนที่ปราชญ์ตั้งใจจะขอเอ๋แต่งงาน เขาประสบอุบัติเหตุอย่างไม่คาดฝันวิญญาณออกจากร่างก่อนสิ้นอายุขัย ยมทูตจึงให้เขาอาศัยร่างใหม่ของ อภิรมย์ (จุติ จำเริญเกตุประทีป) เกย์หนุ่มทายาทเศรษฐีลูกชายคนเล็กของ บุหรง (รชยา รักกสิกรณ์) เศรษฐีนีสาวใหญ่เจ้าของโรงแรมหรู The Palace ที่เพิ่งเสียชีวิตเพราะกินยานอนหลับเกินขนาด

แต่การกลับมาครั้งนี้ต้องแลกกับการทำภารกิจตามหาดวงวิญญาณที่สำคัญที่สุดให้ทันตามกำหนด ซึ่งเมื่อกบฟื้นขึ้นมา กบขอบุหรงไปทำงานที่โรงแรม The Palace ในตำแหน่งพนักงานเสิร์ฟ โดยอ้างว่าอยากจะเรียนรู้งาน เพื่อให้พร้อมสำหรับการสืบทอดกิจการ แต่ที่จริงแล้วกบตั้งใจใช้โอกาสนี้สืบหาดวงวิญญาณที่ต้องช่วยเหลือตามเงื่อนไขของยมบาลนั่นเอง

โดยระหว่างที่เขาเริ่มสืบหาวิญญาณที่ได้รับมอบหมาย เขายังต้องผจญกับเหล่าวิญญาณ ที่มาขอความช่วยเหลือแล้ว เขายังต้องตามแก้ไขปัญหาให้อภิรมย์ ถึงแม้ปราชญ์ในร่างกบจะสนุกกับการทำงานที่โรงแรม แต่เขายังคงระลึกถึงครอบครัวเก่าจึงแอบแวะไปเยี่ยม โดยแนะนำตัวเองว่ากบเป็นเพื่อนสนิทต่างวัยของปราชญ์ กบกลายเป็นที่รักของ คุณหญิงศรีสมร (นัฎฐา ลอยด์) แม่ของปราชญ์และ ปวิดา (ภัณฑิรา พิพิธยากร) น้องสาวอย่างรวดเร็ว คุณหญิงศรีสมรถูกชะตา และคิดว่ากบกับปราชญ์มีความคล้ายคลึงกันอย่างบอกไม่ถูก ปวิดาเองก็รู้สึกชื่นชอบเขาเกินกว่าฐานะเพื่อนของพี่ชาย มีเพียง ปรมินทร์ (พสธร ทรงถาวรทวี) น้องชายที่รู้สึกชังขี้หน้าของกบอย่างบอกไม่ถูก

กบต้องรับมือกับปัญหารอบด้านมากมาย ยังดีที่มีกำลังใจจาก บังอร (คริษฐา สังสะโอภาส) สาวสวยสู้ชีวิตที่ทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดู มานะ (วีระชัย หัตถ์โกวิท) ผู้เป็นพ่อที่สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง กับ อุไร (กัญญกร พินิจ) พี่สาวที่กำลังท้องแก่ทำงานไม่ได้ แม้กบกับบังอรจะเป็นคู่ปรับกันในครั้งแรกที่เจอ แต่กบได้ใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองกับบังอรและ ป๋อง (ณัฐพล ไรยวงค์) พนักงานเสิร์ฟประจำ Coffee Shop จนได้รับการยอมรับ มิตรภาพ และเรื่องราวต่าง ๆ กำลังดำเนินไปได้ด้วยดี แต่ภารกิจการช่วยเหลือดวงวิญญาณครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ หรือเขาจะต้องจากไปจริง ๆ ร่วมเป็นกำลังใจให้กับ อภิรมย์ ในละคร ปิศาจหรรษา

สะใภ้นางรำ 2562

เรื่องย่อ : สะใภ้นางรำ (2562/2019) เรื่องราวนางรำของละครเร่ ที่ชะตาชีวิตต้องพบเจอกับอุปสรรคมากมาย ...เรื่องหัวใจ เธอไม่เคยอาภัพเพราะได้รับความรักทั้งจากคุณชายผู้สูงศักดิ์ และเพื่อนชายคนสนิท สองหนุ่มพร้อมทำทุกอย่างเพื่อหญิงที่รัก แต่มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่จะได้ครอบครองหัวใจเธอ ไพรำ (พีพี พัชญา เพียรเสมอ)เป็นนางรำละครเร่ และอาศัยอยู่กับเพลิน(ขวัญฤดี กลมกล่อม)แม่ของเธอที่สลัมเล็กๆแห่งหนึ่ง กับน้องสาวของเธอคือพันไร(ชนัญญา พงษ์นาค) พร้อมด้วยตาของเธอคือตาพงษ์(ครูมืดประสาท ทองอร่าม) ซึ่งขาพิการเดินกระโผลกกระเผลก พ่อนั้นเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่เธอยังเด็กด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่บ้านมีเพิ่มกับพวงซึ่งเป็นเด็กที่ตาพงษ์ รับเลี้ยงดูมาตั้งแต่สมัยเป็นเด็กเพราะพ่อแม่ของทั้งสองเสียชีวิต พร้อมกับพ่อของไพรำ ไพรำมีเพื่อนชายที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่เด็กคือบดินทร์(ณทรรศชัย จรัสมา)ที่คอยดูแล เอาใจใส่และคอยเป็นห่วงเป็นใยเธอเสมอมา ขณะเดียวกันในสลัมแห่งนั้นก็ยังมีคณะละครของป้าผ่อน(กรองทอง รัชตะวรรณ) ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากับคณะแม่ของเธอ และนั่นทำให้ทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่ค่อยที่จะลงรอยกันเท่าไหร่นัก ป้าผ่อนมีลูกชายคนหนึ่งคือไอ้ศักดิ์ ซึ่งเป็นนักเลงหัวไม้และมักจะเกะกะระรานชาวบ้านเขาไปทั่ว โดยมีคู่หูคือไอ้โตกับไอ้เมฆซึ่งเป็นคนในสลัมเหมือนกัน วันหนึ่งไพรำถูกจ้างไปรำแทนนางรำที่ศาลพระพรหมกลางกรุงเทพ ในขณะที่เธอกำลังรำอยู่นั้นเอง คุณชายไปรเวศน์(แอมป์ พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์ ) ที่เพิ่งกลับมาจากการไปศึกษาต่างประเทศ ได้มาสักการะท้าวพระพรหมเพื่อความเป็นสิริมงคลเพราะเขาไปจากเมืองไทย ไปศึกษาต่างประเทศหลายปี ก่อนที่เขาจะเจอกับไพรำ ซึ่งกำลังรำแก้บนอยู่ ทั้งสองสบตากัน ไพรำรู้สึกแปลกๆเป็นครั้งแรกตามประสาสาวรุ่น และเช่นเดียวกับคุณชายไปรเวศน์ที่ตัวเขาเองก็รู้สึกว่าภาพของไพรำนั้นติดตรึงเขายิ่งนัก เมื่อมาถึงบ้านคุณชายไปรเวศน์ก็รีบไปกราบรูปหม่อมพ่อของเขาซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน พ่อของคุณชายไปรเวศน์หรือหม่อมเจ้าพีระเดช ซึ่งเป็นนายทหารยศพลเอกและเคยเป็นถึงผู้บัญชาการระดับสูงของกองทัพไทยในอดีต และมักจะบอกทุกคนเสมอว่าเขาเป็นหนี้ชีวิตใครบางคน พร้อมกับสอนคุณชายไปรเวศน์ ตั้งแต่เด็กว่าคนทุกคนเท่าเทียมกัน อย่าคิดว่าตัวเราสูงส่งกว่าใคร เพราะไม่แน่ว่าวันหนึ่งเราอาจจะต้องการความช่วยเหลือจากคนที่ดูเหมือนจะต่ำต้อยกว่าเราก็ได้ นั่นจึงทำให้คุณชายไปรเวศน์เป็นคนง่ายๆ ไม่มีพิธีรีตองหรือถือเนื้อ ถือตัวแต่อย่างใด และนั่นก็เป็นเสน่ห์ที่หลายคนที่ได้อยู่ใกล้ต่างประทับใจในความสมถะและความเรียบง่ายของคุณชายไปรเวศน์ ซึ่งค่อนข้างจะแตกต่างจากปิยะวรรณ หรือหญิงวรรณ (กชกร ส่งแสงเติม) น้องสาวคนเดียวของเขาที่นิสัยจะคล้ายกับคุณหญิงจีริสุดา (ดวงใจ หทัยกาญจน์)ซึ่งมักจะถือยศ ถือศักดิ์ ข้าวของเครื่องใช้สอยส่วนตัวก็จะเป็นของหรูหรา ยี่ห้อดังและราคาแพง เพื่อนฝูงที่เธอคบจึงมักแต่เป็นพวกคนรวย หรือคนชั้นสูงของสังคมเป็นส่วนมาก และในงานนี้ยังมีอุษา (พิมพ์ชนก แก้วลุ่มใหญ่)ซึ่งเป็น ลูกของคุณนายไฉนวงศ์(ไปรมา รัชตะ)ไฮโซใหม่ ที่รู้กันว่าพยายามที่จะเป็นสะใภ้ของคุณหญิงจีริสุดาเพื่อทางขยับฐานะวงศ์ตระกูล และอุษาเองนั้นก็เป็นเพื่อนสนิทของหญิงวรรณ ลูกสาวคนเล็กของคุณหญิงจีริสุดาน้องสาวคนเดียวของคุณชายไปรเวศน์ แต่ดูเหมือนว่าคนที่คุณหญิงจีริสุดาจะถูกใจที่สุดกลับเป็นนาฎนดา (ใจบัว ฮิดดิง) ลูกสาวของเนื้อนวล(น้ำทิพย์ เสียมทอง)ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นน้องของคุณหญิงจีริสุดาเอง เนื่องด้วยคุณหญิงจีริสุดาเป็นผู้มีบุญคุณกับเนื้อนวล มารตี (ชัชฎาภรณ์ ธนันทา)ของเธอ เป็นคนที่เหมาะกับคุณชายมากกว่า เพราะในอดีตทั้งสองเคยคบหากัน ก่อนที่จะห่างเหินกันไปเมื่อคุณชายไปเรียนต่อต่างประเทศ และมารตีเองก็เป็นหญิงสมัยใหม่ ไม่ง้อ ผู้ชาย รักสนุก และ สนใจทำงานมากกว่าอย่างอื่น วันหนึ่งคุณชายไปรเวศน์ก็มีโอกาสได้เจอกับไพรำเมื่อเขามาคุยธุระที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งไพรำเองก็มาแสดงรำโชว์ในห้องอาหาร คุณชายไปรเวศน์เมื่อพบไพรำก็อาสาไปส่งเธอ แม้ไพรำจะปฎิเสธก็ตาม แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ลดละความพยายาม จนในที่สุดไพรำก็ตกลงยอมให้เขาไปส่งเธอ คุณชายไปรเวศน์ถือโอกาสพาเธอไปทานข้าวและพูดคุยสอบถามความเป็นมา ไพรำกับคุณชายไปรเวศน์คบหาดูใจกันจนกระทั่งวันหนึ่ง มารตีแอบเห็นความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง เธอจึงนำเรื่องมาบอกให้เนื้อนวลผู้เป็นแม่ของเธอฟังและแล้วเรื่องก็ถึงหูคุณหญิงจีริสุดาและยิ่งเมื่อเธอรู้ว่าลูกชายของเธอกำลังคบอยู่กับนางรำละครเร่ เธอห้ามคุณชายเด็ดขาดที่จะไปเกี่ยวข้องกับไพรำ แม้คุณชายจะคัดค้านและบอกว่าตัวเองโตพอที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้วก็ตาม แต่คุณหญิงจีริสุดาก็ไม่ฟังและยื่นคำขาดว่าเขาจะต้องเลิกติดต่อกับไพรำอีกต่อไป แต่ก็ดูเหมือนว่าคุณชายเองก็ตัดใจจากไพรำไม่ได้ ในที่สุดคุณชายไปรเวศน์ก็ตัดสินใจบอกกับไพรำว่าอยากจะพาเธอไปกราบแม่ของเขา เพื่อแอบหวังว่าคุณหญิงจีริสุดาอาจจะเมตตาไพรำเมื่อได้สัมผัสตัวตนที่แท้จริงของเธอ แต่แล้วเหตุการณ์ก็ไม่เป็นดังคิดเมื่อคุณหญิงจีริสุดาพบหน้าไพรำก็ดูหมิ่นและถากถางว่าไพรำกำลังจะเกาะลูกชายเธอกิน และกำลังตัดอนาคตของเขาและจะทำลายชื่อเสียงวงศ์ตระกูลที่สร้างสมกันมา คำพูดของคุณหญิงจีริสุดาทำให้ ไพรำเสียใจมาก เธอพยายามตัดใจจากคุณชายไปรเวศน์เพราะรู้ดีว่าเธอกับเขานั้นไม่มีทางที่จะลงเอยด้วยกันได้ คุณชายไปรเวศน์จึงพาไพรำหนีไปต่างจังหวัดและเมื่อตาพงษ์รู้ว่าไพรำไปค้างคืนกับคุณชายไปรเวศน์สองต่อสอง ก็ถามถึงความรับผิดชอบกับคุณชายว่าจะเอาอย่างไรและตนจะไม่ยอมให้หลานสาวของตัวเองเป็นดอกไม้ริมทางอย่างแน่นอน และนั่นเองทำให้คุณชายไปรเวศน์ต้องกลับไปคุยกับแม่ของเขาว่าตัวเองได้ไพรำเป็นเมียแล้ว และบอกว่าตนจะแต่งงานไม่ว่าคุณหญิงจีริสุดาจะยอมหรือไม่ก็ตามเพราะครอบครัวของไพรำคงไม่ยินยอมแน่ แต่คุณหญิงจีริสุดาก็วางแผนว่า ตนขอให้นำไพรำเข้ามาในบ้านเพื่ออบรมให้เป็นกุลสตรีก่อนเรื่องงานแต่งค่อยว่ากันอีกที เมื่อไพรำเข้ามาในบ้านเธอก็ถูกปฎิบัติไม่ต่างจากบ่าวไพร่ แม้ว่าคุณชายไปรเวศน์จะบอกว่าเธอไม่ต้องทำงานบ้านต่างๆก็ตาม แต่ไพรำก็ยืนยันว่าตนยินดีทำ คุณหญิงจีริสุดาแอบมาบอกไพรำว่าลำพังตัวคุณชายเองก็เพิ่งจะทำงาน และต้องฝึกวินัยเรื่องการเงิน ถ้าเป็นไปได้ไพรำไม่ควรรับเงินที่คุณชายให้ ไพรำรับปากคุณหญิงจีริสุดาว่าตนจะไม่มีวันแบมือรับเงินจากใครทั้งสิ้น เพราะตนก็มีอาชีพอยู่แล้ว ทำให้ไพรำยังคงไปทำงานตามปกติของเธอเพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัวของเธอ และปฎิเสธเงินที่คุณชายพยายามจะให้เธอจนคุณชายไปรเวศน์รู้สึกแปลกใจ คุณชายไปรเวศน์เองก็พยายามจะเอาเงินแอบมาให้เพลินกับตาพงษ์แต่เพลินและตาพงษ์ก็ปฎิเสธไม่รับเงินเหมือนกัน จนคุณชายไปเวศน์เห็นถึงความเด็ดเดี่ยวและหยิ่งในศักดิ์ศรีในตัวของไพรำและครอบครัวของเธอ คุณหญิงจีริสุดาบอกกับหญิงวรรณว่าตนจะไม่มีวันจัดงานแต่งอย่างแน่นอนแต่จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ไพรำออกไปจากบ้านให้จงได้ คุณชายไปรเวศน์แอบตามดู และตามเฝ้าไพรำอยู่ไม่ห่าง บางครั้งเธอก็เห็นเขาแอบนอนหลับอยู่ในรถ จนเพลิน ต้องเรียกไพรำมาคุยว่า บางทีไพรำกับคุณชายอาจจะเป็นคู่แท้กันก็ได้ เพลินบอกให้เธอเห็นแก่อนาคตของลูกที่กำลังจะเกิดมา ก่อนที่จะให้ไพรำลองคิดดู ส่วนตาพงษ์นั้นได้แต่เฝ้าดูอยู่เงียบๆ จนในที่สุดไพรำก็กลับเข้าบ้านพร้อมกับคุณหญิงจีริสุดา คุณชายไปรเวศน์เมื่อเห็นลูกเมียก็รีบเข้าไปกอดไพรำและลูกน้อยแน่น เหมือนประหนึ่งกลัวว่าไพรำและลูกจะจากเขาไปอีก คุณหญิงจีริสุดามองไพรำอย่างเบาใจและสุขใจเป็นครั้งแรกในชีวิตของเธอ

เรื่องย่อ : ตะกรุดโทน (2562/2019) เมื่ออานุภาพของตะกรุดโทน และเหล็กไหล รวมไปถึงทองคำเถื่อน นำมาซึ่งความโลภและการตามล่าเพื่อครอบครอง ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เช่นเขา จึงต้องร่วมมือกับอดีตนักโทษหนุ่มเพื่อกำจัดเหล่าร้าย โดยมีชีวิตและหัวใจเป็นเดิมพัน กรุงเทพฯ พ.ศ.2505 มีการขนย้ายนักโทษจากเรือนจำที่กรุงเทพ ไปยังเรือนจำที่นครราชสีมาซึ่งเป็นเรือนจำที่มีความปลอดภัยสูงสุด มีนักโทษคดีอุกฉกรรจ์ถูกขนย้ายไปหลายคน "มะฮาแว" "อุสมาน" "ไข่นุ้ย" เป็นกลุ่มนักโทษปล้นฆ่าพื้นเพมาจากพัทลุง "สยุมภู" นักโทษฆ่าเจ้าหน้าที่รัฐหลายคดี และยังมี "แทน ปากน้ำโพ" นักโทษคดีลักเล็กขโมยน้อยที่ฝากไปขึ้นศาลที่นคราชสีมากับเที่ยวนี้ด้วย แต่เมื่อขบวนรถขนนักโทษมาถึงดงพญาไฟ มีกลุ่มชายฉกรรจ์ปิดบังใบหน้าเข้ามาโจมตี เพื่อชิงตัวมะฮาแว อุสมาน และไข่นุ้ย เกิดการจลาจลและยิงต่อสู้กัน สยุมภูแสดงตัวว่าเป็นตำรวจ เขาปลอมเป็นนักโทษปะปนเข้ามาเพื่อรักษาความปลอดภัย เขาตามล่ามะฮาแว แล้วลั่นกระสุนใส่มะฮาแว ปรากฏว่ามะฮาแวหนังเหนียว เขาอาบน้ำว่านเป็นไสยเวทย์ สายพัทลุง และอย่างทันที มะฮาแวยิงเข้าใส่สยุมภู กระสุนทะลุอกตกลงไปในหุบเหว แทนใช้จังหวะชุลมุนหนีเข้าป่าไปได้ เขตป่าดงพญาไฟเป็นป่าที่รกทึบ มีอันตรายทั้งจากสัตว์ร้ายและไข้ป่า ยากที่ใครจะดำรงชีวิตอยู่ได้ นอกจาก "เสือสัก" และกลุ่มโจรในชุมเสือ อันได้แก่ "เสือฝ้าย" ผู้คงกระพันจากเขี้ยวเสือ และหนังหน้าผากเสือ "เสือเคียว" "เสือแคน" หลังจากเกิดเหตุแหกคุกหนึ่งวัน "เนตรทราย" ลูกสาวเสือสัก ไปพบสยุมภูนอนบาดเจ็บสาหัสอยู่ จึงช่วยนำตัวมารักษา โดยมี "บุญรอด" "มะไฟ และ "ตาชื้น" ดูแล เสือสักยอมให้สยุมภูอยู่ที่ชุมเสือเพราะคิดว่าสยุมภูเป็นนักโทษแหกคุก "ผู้การประเสริฐ" "หมวดสยุมภู" "หมวดประชา" รีบเดินทางมาตั้งหน่วยเฉพาะกิจไล่ล่าพวกมะฮาแว นอกจากนี้ยังไล่ล่าเสือสักด้วย เสือสักเป็นโจรที่ทางการตามล่ามาเกือบ 20 ปี แต่ยังจับไม่ได้ เพราะจริง ๆ แล้วเสือสักเป็นคนดีปล้นคนรวยช่วยคนจนปราบคนโกง ชาวบ้านถึงรักใคร่กันทุกคน ครั้งนี้ "นวลพรรณ" ลูกสาวผู้การประเสริฐ และ "ผ่องพรรณ" ภรรยาเดินทางมาเที่ยวพักผ่อนด้วย โดยมี "เบญจรงค์" ลูกชาย "นายตัน" นายธนาคารใหญ่ซึ่งรักใคร่ชอบพอกับนวลพรรณ กับนายตัน และลูกน้อง คือ "สำอาง" ผู้ที่คงกระพันด้วยยันต์มหาอุตม์ และ "อาจารย์ไพรวัลย์" จอมขมังเวทย์ที่สะสมเดียรัจฉานวิชาไว้เต็มร่างกาย จุดประสงค์คือต้องการล่าเอาเหล็กไหลและตะกรุดโทน มาไว้ในครอบครองเพื่อความคงกระพัน แทนหนีมาตามป่าเจอกับพระธุดงค์ และ "กร กระบือบิน" เขาเกือบเอาชีวิตไม่รอดจากไข้ป่า และช่วยชีวิตพระธุดงค์ไว้ พระธุดงค์จึงมอบมีดเทพศาสตราและงากำจัด ให้ทำให้แทนเป็นคนคงกระพัน และมีมีดศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถทะลวงฟันเรียกเลือดจากคนที่คงกระพันหนังเหนียวได้ แทนมาทำงานกับ "ชุนเซ้ง" ซึ่งป็นบริษัทรับขนส่งสินค้า แล้วได้พบกับ "หมวยลี่" ลูกสาวของชุนเซ้ง หมวยลี่ชอบแทนและพยายามจีบแทน แต่แทนทำเป็นหยิ่ง ซึ่งในที่สุดทั้งคู่ก็รักกัน สยุมภูอยู่ในชุมเสือสักในฐานะนักโทษแหกคุก ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นตำรวจ และที่เองเขาได้พบตะกรุดโทน ศรีสุทโธโสฬส ที่ว่ากันว่าเป็นของขลังที่มีอาคมสูงสุด สยุมภูจึงคงกระพันขึ้นมา มะฮาแว อุสมาน และไข่นุ้ย หนีมากบดานกับ "สิน" เพื่อนนักโทษด้วยกันที่แก่งคอย จริง ๆ แล้วเขากับพวกถูกนายตันใส่ร้าย ในวันที่นายตันจ้างพวกเขามารับขนของที่เป็นทองเถื่อนลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน นายตันสั่งให้ผู้การประเสริฐกับตำรวจล้อมจับ แต่หลังจากจับกุมได้ ทองครึ่งหนึ่งหายไป นายตันคิดว่ามะฮาแวไปซ่อน จึงพยายามจับกุมตัวมาคาดคั้นเอาความจริงเพื่อตามหาทองชุดนั้นคืน ความรักระหว่างสยุมภูกับเนตรทรายเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในชุมเสือ แต่ในที่สุดสยุมภูก็ต้องทำตามหน้าที่ โดยเป็นสายให้ผู้การประเสริฐกับ "สารวัตรดำเกิง" นำกำลังตำรวจมาบุกชุมเสือ นอกจากนี้ เสือฝ้าย เสือเคียว และเสือแคน ก็แปรพักตร์มาอยุ่กับนายตันเพื่อผลประโยชน์หลายอย่างรวมทั้งส่วนแบ่งจากทองเถื่อนที่ค้นหาได้ด้วย เมื่อเสือสักถูกจับ ความรักของเนตรทรายที่มีให้สยุมภูจึงกลายเป็นความแค้น เนตรทรายรวบรวมผู้คนในชุมเสือไล่ล่าสยุมภูและช่วยเสือสัก แทน กร ชุนเซ้ง และหมวยลี่ กลายเป็นผู้ต้องหาคดีปล้นรถขนเงินของธนาคารนายตัน เพราะถูกซ้อนแผนปล้นโดยที่ไม่รู้เรื่อง มะฮาแว อุสมาน ไข่นุ้ย ตัดสินใจเดินสู้ทวงความเป็นธรรมคืน สยุมภูช่วยเสือสักจากการถูกสังหารได้ และนำเหล็กไหลที่นายตันเอาไปคืนมาได้ ทั้งหมดมารวมตัวกันเพื่อทำสงครามมหากาพ์แห่งคงกระพัน นายตัน อาจารย์ไพรวัลย์ สำอาง ชัย กริชเงิน เบญจรงค์ เสือฝ้าย ผู้คงกระพันสายอำมหิตฝ่ายอธรรม บุกเข้าโรมรันต้อสู้กับพวกเสือสัก จนในที่สุดความจริงก็เปิดเผย นายตันเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการหักเหลี่ยมปล้นทองในคราวนั้น ผู้การประเสริฐจำใจต้องเป็นพวกนายตันเพราะถูกนายตันแบล็คเมล์ การต่อสู้ในสงครามคงกระพันเริ่มต้นขึ้น ของขลัง เครื่องราง ความเชื่อ ความศรัทธา ความกล้าบ้าบิ่น โหมเข้าใส่กันอย่างบ้าคลั่ง ฟ้าทะลาย ดินกระจาย และในที่สุดธรรมะก็ชนะอธรรม ความดีฆ่าไม่ตาย ความดีคือความคงกระพัน แม้ร่างกายสลาย ความดีก็ยังยืนหยัดอยู่ เฉกเช่นตะกรุดโทน มะฮาแวกับพวกพิสูจน์ความจริงได้และกลับมาบริสุทธิ์อีกครั้ง เขาพบกรักแท้กับนวลพรรณ แทนได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม เขาไม่มีความผิดเพราะเขาเป็นแพะในคดีนี้ แทนกลับไปอยู่ปากน้ำโพกับหมวยลี่ เปิดบริษัทรับขนส่งสินค้า ทั้งทางน้ำและทางบก สยุมภูได้กลับเข้ารับราชการอีกครั้งหลังจากที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกเสือสัก เสือสักพ้นมลทิน และยกเนตรทรายให้สยุมภูดูแล ตัวเองออกบวชและธุดงค์ไปทั่วเขตแดนอีสาน