ลูกผู้ชายไม้ตะพด 2555

เรื่องย่อ : ลูกผู้ชายไม้ตะพด (2555/2012) ไม้ (ศรัณย์ ศิริลักษณ์) ถูกทิ้งไว้บนเบาะหลังของรถขนส่ง คนที่เก็บเขามาเลี้ยงคือ เมฆ (เคลลี่ ธนะพัฒน์) คนขับรถร่วมบขส.ขาเป๋ มีข่าวลือว่าเมฆเคยเป็นนักเลงมาก่อน แต่หันหลังให้วงการแล้วอย่างสิ้นเชิง ไม้พยายามหาความจริงเรื่องอดีตเมฆแต่เมฆไม่เคยปริปาก คนที่รู้ประวัติของเมฆ คือ ผู้พันเทพ (นภัสกร มิตรเอม) นายทหารนอกราชการเจ้าของวินรถตู้ที่ตั้งตนเป็นใหญ่ ขับทับเส้นสัมปทานรถร่วมบขส ของ เจ๊กี (อภิรดี ภวภูตานนท์) เจ้าของสัมปทานอย่างไม่สนใจ ผู้พันเทพเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงนักเลงหัวไม้ว่าเป็นผู้ครอบครองไม้ตะพดเลือดที่ทำมาจากแก่นไม้จันพันปี ลากข้ามน้ำมาจากพม่า แต่เดิมเป็นของฤๅษีตาไฟองค์หนึ่งที่ใช้ไม้นี้เฆี่ยนเสือสมิงจนตายเมื่อคราวที่ท่านธุดงค์ปราบโอปาติกะเหล่าสัมภเวสีอยู่แถบเทือกเขาตะนาวศรี ว่ากันว่าหมาเฝ้าบ้านตัวที่ว่าดุแสนดุ เมื่อได้กลิ่นสาบเสือจากเนื้อไม้ถึงกับวิ่งหางจุกตูดเลยทีเดียว ถึงแม้จะมีทั้งเงินทอง อำนาจบารมี แต่สิ่งที่ผู้พันเทพโหยหาอยู่ในใจตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา มันคือไม้ตะพดวิญญาณจากตำราบนหนังเสือ ผู้พันเทพเห็นภาพการเอาไม้ตะพดสองอันมาเชื่อมต่อกันมันจะทรงอานุภาพ ธนูเป็นหมื่นดอกยังไม่สามารถยิงผ่านตะพดคู่ที่หมุนควงอยู่ได้ เป็นเกราะแก้วกำแพงเพชรคุ้มภัยผู้ครอบครอง ผู้พันเทพรู้มาว่าเมฆเป็นผู้ครอบครองไม้ตะพดวิญญาณจึงมักส่งคนมาราวีเมฆอยู่เสมอ เมฆไม่สู้ และไม่ยอมรับว่าตนมีตะพดที่ว่านั่น เดือดร้อนถึง ศรนารายณ์ (ชาติชาย งามสรรพ์) อดีตนักมวยที่เป็นเอเยนต์ส่งน้ำแข็งหลอดอยู่ละแวกนั้นต้องคอยช่วยเหลือเมฆ ไม้ รู้สึกศรัทธาศรนารายณ์มาก เมฆเตือนไม้ว่าหนทางของนักเลงมีแต่ความเจ็บปวดไม่อยากให้ไม้เลือกเดินเส้นทางนี้ แต่ไม้ก็ยังอยากเรียนมวยกับศรนารายณ์ เมฆขัดใจไม้อยู่เสมอต่างกับ อบเชย (ปริยฉัตร ลิ้มธรรมมหิศร) ลูกสาวจอมแก่นของศรนารายณ์ที่อยากจะให้ไม้มาเรียนมวยกับพ่อของตน จะได้สร้างความใกล้ชิดผูกกันมากขึ้น ผู้พันเทพมีลูกสาวฝาแฝดที่นิสัยต่างกันราวฟ้าดิน ชื่อว่า แพรวา (ณัฐชา นวลแจ่ม) กับ ราตรี (ณัฐชา นวลแจ่ม) แพรวาคนพี่มีนิสัยดีเรียบร้อยมีจิตใจเมตตาอารี ต่างจากราตรีจะมีนิสัยร้ายกาจไม่แพ้ผู้พันเทพผู้เป็นพ่อเลยทีเดียว แต่ราตรีที่ว่าร้ายยังไม่เท่ากับ ทิวา (มิกค์ ทองระย้า) ลูกชายคนโตของผู้พันเทพที่ถอดแบบความเป็นนักเลงหัวไม้จากพ่อมาทุกกระเบียดนิ้ว ไม้แอบชอบแพรวา แต่ไม่กล้าบอกใครเพราะเจียมเนื้อเจียมตัวที่ตัวเองต้อยต่ำเป็นแค่ลูกคนขับรถเทียบอะไรไม่ได้เลยกับ ไกร (ธันวา สุริยจักร) ลูกชายของเจ๊กีที่เป็นคนดีและแอบหมายปองแพรวาอยู่เช่นกัน ผู้พันเทพออกอุบายยุให้แพรวาสนิทสนมกับไม้เพื่อสืบความจริงเรื่องของเมฆว่าเป็นคนที่ครอบครองไม้ตะพดวิญญาณหรือเปล่า หลายครั้งที่ไม้เองก็สงสัยว่าทำไมแพรวาจึงให้ความสนิทสนมกับเขา อบเชย เตือนไม้อย่างน้อยใจอยู่บ่อยๆ เรื่องแพรวา แต่ไม้ไม่ฟัง เข้าใจว่าอบเชยยังเด็กเอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่ นอกจากกลุ่มรถบขส. ของเจ๊กี กับกลุ่มรถตู้ของผู้พันเทพแล้ว ที่ตัวอำเภอยังมีอีกกลุ่มที่ตั้งตนเป็นใหญ่ไม่แพ้กันคือกลุ่มรถทัวร์ปรับอากาศของ เต็กกง (เลิศพร อารยะโกศล) ซึ่งคิดจะฮุบรวมกิจการขนส่งทั้งหมดในตัวจังหวัดเอาไว้เป็นของตนเอง จึงได้ให้ลูกชายหัวไม้คือ โจ พาพวกไปป่วนเจ๊กีอยู่บ่อยๆ โดยหวังจะให้เจ๊กีขายสัมปะทานให้ตนเสีย จากนั้นเต็กกงก็จะไปจัดการกับผู้พันเทพทีหลัง บ่อยครั้งที่เต็กกงพาพวกมาตะลุมบอนกับพวกของเจ๊กีก็มักจะมีชายลึกลับปิดหน้าปิดตามาช่วย ไกรกับเจ๊กีอยู่เสมอ ไม้มั่นใจมากว่าชายลึกลับคนนั้นจะต้องเป็นศรนารายณ์ ไม่ใช่เมฆอย่างที่หลายคนสงสัยเพราะชายคนนั้นขาไม่เป๋เหมือนเมฆ และเหนืออื่นใดชายคนนั้นใช้ไม้ตะพดวิญญาณเป็นอาวุธ ข่าวรู้ไปถึงหูของผู้พันเทพจึงวางแผนเล่นงานไม้เพราะต้องการให้ชายลึกลับที่ผู้พันเทพมั่นใจว่าต้องเป็นเมฆออกมาช่วยพร้อมตะพดในตำนาน แต่ปรากฏว่าไม่มีใครมาช่วย ไม้รอดตายอย่างสะบักสะบอมไปได้ด้วยการแอบช่วยเหลือของแพรวาที่รู้สึกดีกับความซื่อของไม้ขึ้นมา ทิวามีใจให้กับอบเชยแต่อบเชยไม่สนใจ ทิวาคิดฉุดอบเชยแต่แพ้ทางมวยของศรนารายณ์ ทิวากลับบ้านไปเอาไม้ตะพดเลือดของผู้พันเทพมาตีศรนารายณ์จนเสียมวยและฉุดอบเชยไป ไม้ใช้อุบายช่วยอบเชยมาได้แต่อบเชยกลับคิดว่าเป็นไกรมาช่วยเลยพยายามตัดใจจากไม้มาชอบไกร ผู้พันเทพคิดฮุบกิจการของเจ๊กีอีกทางหนึ่ง จึงส่งราตรีไปหลอกไกรว่าเป็นแพรวาและใช้มารยาหญิงปั่นหัวไกรอยู่บ่อยๆ จากไกรคนดีของชาวบ้าน เขาก็เริ่มถูกด้านมืดครอบงำทีละน้อย ด้านอบเชยแยกไม่ออกระหว่างราตรีกับแพรวา เธอจึงเข้าใจว่าแพรวาพยายามแย่งผู้ชายทุกคนที่ตนชอบ แพรวารู้เรื่องจึงต่อว่าราตรีฝาแฝดของตน ราตรีบอกว่าอย่าว่าแต่ไกรเลย เธอจะแย่งไม้มาจากแพรวาด้วย เมฆล้มป่วย จังหวะเดียวกับที่ไม้ได้พบกับชายลึกลับพร้อมไม้ตะพดวิญญาณมาสอนวิชาการต่อสู้ให้เป็นประจำ ชายลึกลับขอข้อแม้เพียงข้อเดียวว่าอย่าให้ไม้ไปมีเรื่องกับใคร ไม้รับปากแต่แล้วก็ผิดสัญญาจนได้เมื่อพวกของโจมารังแกแพรวา ไม้ต่อสู้ด้วยคันเกียร์จนหลายคนอ้าปากค้าง จากนั้นไม้ที่ยังฝึกวิชาไม่สมบูรณ์ก็ไม่ได้เจอชายลึกลับอีกเลยเพราะไม้ผิดสัญญา ทิวาแอบเห็นการฝึกสอนของชายลึกลับที่สอนไม้ ด้วยพื้นฐานที่ทิวามีทำให้เขาพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่ผู้พันเทพเองก็คิดไม่ถึง ทิวาเอาตะพดเลือดของพ่อมาจัดการตีเมฆจนแขนหัก แล้วท่ารถในตลาดก็ลุกเป็นไฟเมื่อรถบขส.ของเจ๊กีถูกวางเพลิง เจ๊กีเข้าใจผิดคิดว่าแก๊งผู้พันเทพเป็นคนมาเผารถตนเพราะการสร้างสถานการณ์ของเต็กกง เจ๊กีจึงไปจ้างแก๊งมอเตอร์ไซค์วินในฐานะนักรบรับจ้าง ไปจัดการกับผู้พันเทพ แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะผู้พันเทพเอาเงินฟาดแก๊งมอเตอร์ไซค์รับจ้างด้วยเงินที่มากกว่าให้หวนกลับมาทำร้ายเจ๊กีแทบกระอักเลือดดีแต่ว่าชายลึกลับมาช่วยเอาไว้อีก แต่คราวนี้ ชายคนนั้นก็ได้รับบาดเจ็บกลับไป ไม้เริ่มคิดว่าอาจเป็นเมฆที่ครอบครองตะพดวิญญาณเอาไว้ เขาพยายามหาจนทั่วบ้าน ทั่วรถคันที่เมฆขับก็ไม่เจอ กลับกลายเป็นว่าศรนารายณ์พยายามสร้างเรื่องว่าตนเองคือชายลึกลับคนนั้นเพราะอยากได้เจ๊กีเป็นเมีย แต่ความเกิดแตกเพราะไม้ตะพดวิญญาณของปลอมเปราะบางเกินกว่าตะพดในตำนาน อบเชยอับอายที่พ่อของตนเป็นเช่นนั้น แล้วไม้ก็ได้รู้ความจริงว่าเมฆนั่นเองคือชายลึกลับคนนั้น เมฆแกล้งเดินขาเป๋มาโดยตลอดและที่เมฆยอมสอนวิชาให้ไม้เพราะรู้ว่าตนกำลังจะตาย ไม้พบไม้ตะพดถูกซ่อนอยู่ในคันเกียร์รถอยู่คู่มือของเมฆมาตลอด ยี่สิบปีที่ผ่านมาเมฆจับด้ามตะพดเอาไว้ตลอดแม้ยามที่เขาปลอมเป็นคนขับรถขาเป๋ ไม้เสียใจที่เข้าใจผิดเมฆผู้เป็นพ่อมาตลอด เมฆขอร้องให้ไม้อยู่คอยช่วยเจ๊กี แต่ไม่ให้เปิดเผยตัวเพราะหากไม้ตะพดวิญญาณซึ่งมีมนตร์ดำบางอย่างที่ตนเองก็ไม่รู้ว่าคืออะไรสิงอยู่ตกไปอยู่ในมือคนชั่วเมื่อไหร่ทุกคนก็จะเดือดร้อน แล้วเมฆก็เส้นโลหิตในสมองแตก หมดสติ ต้องนอนหลับไหลอยู่กับที่ ด้วยอุบายของผู้พันเทพทำให้สามารถแย่งชิงตะพดวิญญาณมาจนได้ เขาหวังว่าจะประกอบมันเข้ากับตะพดเลือดที่ตนมีอยู่ในครอบครอง แต่ปรากฏว่าเมื่อกลับไปบ้านแพรวาได้ขโมยตะพดเลือดเอากลับไปคืนให้กับไม้เพราะไม่เห็นด้วยกับการกระทำของพ่อ ผู้พันเทพจะใช้ให้ทิวาไปจัดการฆ่าเมฆที่นอนเส้นโลหิตในสมองแตกอยู่ โดยที่ทิวาไม่รู้เลยว่าตนเองเป็นลูกของเมฆที่หายไปและผู้พันเทพเป็นคนเอาลูกของตนเองไปเปลี่ยนให้เมฆเลี้ยงดู เพื่อหวังที่จะให้สายเลือดของตนเองได้ครอบครองไม้ตะพดวิญญาณ คัมภีร์มนต์ดำอยู่กับผู้พันเทพนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเขาจึงอยากได้ตะพดนั่นมาโดยตลอด ไกรเองตอนนี้ก็ทรพีแม่ตัวเองมาเป็นพวกผู้พันเทพอย่างลับๆ ไม้ตกลงแลกตะพดเลือดกับชีวิตของเมฆ แต่ด้วยความชุลมุนทำให้ทิวาได้ตะพดเลือดไปแต่ผู้พันเทพก็สูญเสียตะพดวิญญาณคืนให้ไม้ไปเช่นกัน แท้จริงแล้วไม้เป็นลูกของผู้พันเทพนั่นเอง แต่ไม้ไม่ยอมเดินตามรอยพ่อถึงแม้ว่าท้ายที่สุดแล้วเขาจะได้ครอบครองตะพดเลือดและวิญญาณตามความต้องการของผู้พันเทพผู้เป็นพ่อที่แท้จริง ไม้เลือกเดินทางบนวิถีทางแห่งความดีและถูกต้อง เลือกที่จะเดินตามรอยทางของเมฆผู้ที่ไม่ใช่พ่อแท้ๆ แต่ก็เลี้ยงเขามา ส่วนทิวาตายในหน้าที่คนเลวอย่างไร้ศักดิ์ศรีเช่นเดียวกับผู้พันเทพ

อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว 2555

เรื่องย่อ : อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว (2555/2012) โดยทำนายว่าโลกเวทมนตร์จะพังทลายตั้งแต่กำเนิดเด็กมาร ผู้นำได้สั่งว่าเด็กทุกคนที่เกิดในวันนั้นถูกฆ่าตาย แต่แม่มด (แม่มด) ฐหิรา รู้สึกเสียใจกับพี่เลี้ยงเด็กที่ถูกทิ้งไว้ในกระท่อมและไม่สามารถพาตัวเองไปฆ่าเธอได้ Tahira ตัดสินใจส่งพี่เลี้ยงไปใช้ชีวิตบนโลกกับมนุษย์ พี่เลี้ยงแม่มดน้อยนิสัยเสีย เติบโตขึ้นมากับดาร์คาผู้อ่อนแอ Dar-Ka ก็ถูกรับเลี้ยงเช่นกัน

ดุจตะวันดั่งภูผา 2555

ดุจตะวันดั่งภูผา (2555/2012) เสียงปืนแผดเสียงดังลั่นบ้านร่างของ เทอด ธัญธรณี (นาท ภูวนัย) ข้าราชการป่าไม้ระดับสูงฟุบลงบนโต๊ะ ศีรษะเต็มไปด้วยกองเลือด ในขณะที่เขากำลังเขียนข้อความลงในหนังสือ เพื่อมอบให้ลูกชายวัยกำลังโตว่า ดุจตะวันดั่งภูผา มันเป็นภาพที่หลอกหลอนจิตใจของ ไท (ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์) มานานกว่า 10 ปี เพราะพ่อของเขาถูกลอบยิงตาย โดยไม่มีใครรู้สาเหตุ ต่อมา แม่ (รชยา รักกสิกรณ์) ก็ตรอมใจตาย ทรัพย์สินทุกอย่างที่มีอยู่ถูกธนาคารยึดไปหมด ไทต้องต่อสู้ชีวิตมาลำพังตั้งแต่เด็ก งานแต่ละอาชีพได้หล่อหลอมความแข็งแกร่งให้กับเขา ไม่ว่าจะเป็นด้านนักเลง ด้านคุณธรรม และความทระนง สิ่งสำคัญที่เขาสาบานต่อหลุมศพของพ่อคือ เขาต้องตามหาคนที่ฆ่าพ่อให้ได้ ในที่สุด..ไทมาทำงานในตำแหน่งหัวหน้าดูแลสัตว์ที่สวนสัตว์ Zoo World ปลายฟ้า (ณัฐชา นวลแจ่ม) นักศึกษาวิทยาลัยดนตรีเกิดว่างงาน เพราะหมดคอร์สสอนพิเศษให้กับเด็กนักเรียน จึงคิดไปหางานทำที่สวนสัตว์ แต่ แป้ง (กัญญาพัชญ์ ธนันต์ชัยกานต์) เพื่อนที่เช่าห้องอยู่ด้วยกันบอกว่า งานสวนสัตว์ไม่น่าจะตรงกับบุคลิกของเธอ แต่ปลายฟ้าไม่เชื่อจึงลองไปสมัครดู ด้วยความคล่องแคล่วและความฉลาด เจ้าของสวนสัตว์จึงรับเข้าทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยของไท แต่ปลายฟ้าไม่รู้เรื่องอะไรเลย จึงสร้างความปวดหัวและเพิ่มภาระให้กับไท หนูเอม (ชรัฐฐา อิมราพร) เป็นลูกบุญธรรมของ น้าฉัตร (เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง) ตำรวจ DSI จอมปรัชญา โดยมี น้าแป๊ด (ยุพ ข่าน) คนขายพิซซ่า หน้าโหดแต่ใจดีช่วยเลี้ยงดูด้วย หนูเอมเป็นคนที่ไทรักเหมือนน้องสาว ปลายฟ้าจึงคอยแอบถามเรื่องของไท แต่หนูเอมบอกได้เท่าที่รู้ เพราะบางเรื่องก็ไม่รู้เหมือนกัน นันณภัส หรือ พัด (ปัณฑิตา ภูวิจารย์ เคาวเวลล์) ลูกสาว บุ๊น (ชูชัย บุศราคัมวงศ์) นักธุรกิจใหญ่ระดับประเทศ ได้มาตรวจงานและหาไอเดีย ในการตกแต่งห้างสรรพสินค้า ซึ่งเธอกำลังสร้างที่เกาะสีชัง และได้พบกับไทที่มารับงานพิเศษเป็นช่างเครื่องเรือ ไทแอบมองเธอด้วยความชื่นชม ว่าเป็นผู้หญิงที่สวย เก่ง และยังมีจิตใจดี มันเป็นความประทับใจแรกที่เขามีต่อเธอ พัดตั้งใจจะสร้างสวนนกในห้างสรรพสินค้า จึงมาเที่ยวชมสวนสัตว์บ่อย ๆ ทำให้เธอรู้จักกับไท แต่ไม่ได้บอกความจริงว่าเธอเป็นใคร บอกแต่เพียงว่าเป็นพนักงานบริษัทเท่านั้น เพราะไม่อยากให้ฐานะมาเป็นช่องว่าง ระหว่างมิตรภาพของเธอกับไท แม้ว่าพัดอายุจะไม่มาก แต่เธอก็บริหารงานแทนพ่อได้อย่างดีเยี่ยม ผิดกับ พีท (พิชยดนย์ พึ่งพันธ์) น้องชายที่ไม่เอาไหน และใช้ชีวิตแบบเพลย์บอยไปวัน ๆ สร้างความปวดหัวให้กับบุ๊นมากแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร อาฮวด (ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์) เป็นลูกน้องคนสนิท ที่ติดตามบุ๊นมาตั้งแต่เขายังไม่มีอะไร น้อยคนที่จะรู้ว่าบุ๊นร่ำรวยมาจากอะไร นอกจากนี้ยังมี เรียว (พูลภัทร อัตถปัญญาพล) เป็นบอดี้การ์ดมือดี ที่ซื่อสัตย์และภักดีต่อเขาด้วย เมื่อหลายปีก่อนภรรยาของบุ๊นเสียชีวิต เพราะรถถูกวางระเบิดและจับมือใครดมไม่ได้ ทำให้บุ๊นระแวงไปต่าง ๆ นานา เขาจึงให้เรียวคอยเป็นบอดี้การ์ดติดตามพัด ส่วนพีทชอบบินเดี่ยวแต่เอาตัวรอดมาได้ทุกครั้ง บุ๊นมีน้องชายร่วมสาบานชื่อ มังกร (นึกคิด บุญทอง) เขาใช้เวลา 30 กว่าปีสร้างธุรกิจจนใหญ่โต โดยไม่มีใครรู้ว่าเบื้องหลังมีความเป็นมาอย่างไร นอกจาก บุ๊น อาฮวด และ อาเพียว (จรินทร์ พรหมรังสี) คนติดตามมังกรเท่านั้น พีทได้พบปลายฟ้าซึ่งมารับงานเล่นดนตรีที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เขาตกหลุมรักเธอทันที แต่ปลายฟ้าไม่สนใจ และไม่ชอบหน้าพีทตั้งแต่แรกเห็น แต่เพลย์บอยอย่างพีทต้องตามจีบให้ได้ และสืบจนรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน พีทมานั่งดื่มเหล้าใกล้ที่พักของปลายฟ้า และมีเรื่องกับเจ้าถิ่นจนชีวิตเกือบไม่รอด โชคดีที่ไทมาช่วยไว้ทัน อาฮวดมาพบพอดีจึงขอให้ไทช่วยดูแลพีท จนกว่าแผลของพีทจะหาย ถ้ากลับบ้านสภาพนี้บุ๊นคงไม่พอใจแน่ ไทรับปากด้วยความเต็มใจ พัดมีความสนิทสนมกับไทมากขึ้น และมักจะสั่งให้เรียวอยู่ห่าง ๆ เวลาที่เธอมาพบกับไท ส่วนพีทก็พยายามทำคะแนนเพื่อให้ปลายฟ้ารัก และไม่รู้ว่าไทรู้จักกับพี่สาวของตัวเอง พีทรู้เพียงว่าแฟนของไทเป็นพนักงานบริษัทเท่านั้น โอตี่ (ศิระ รัตนโภคาสถิต) ลูกชายโรคจิตของมังกร ทำธุรกิจแบบไม่ถูกกฎหมาย โดยมี เบ็ตตี้ (วันวิสา ศรีวิไล) นักฆ่าสาวเป็นมือขวา มังกรรู้แต่ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเขาต้องมีธุรกิจแบบนี้หนุนหลังการเป็นมาเฟีย บุ๊นไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน มังกรคบนักการเมืองและพยายามจะลงเล่นการเมือง เพราะจะทำให้ฐานอำนาจขยายขึ้นและอยู่เหนือบุ๊น ในที่สุดความโลภและความไม่รู้จักพอ ทำให้เขาคิดเนรคุณบุ๊นที่ฟูมฟักเขามา ตั้งแต่เป็นเด็กเที่ยวขโมยของกินตั้งแต่ 40 ปีก่อน จึงทำให้บุ๊นกับอาฮวดถูกลอบยิงแถวชายทะเล พอดีไทผ่านมาพบจึงช่วยบุ๊นไว้ได้ก่อนจะพลาดท่า บุ๊นจึงขอให้ไทไปทำงานเป็นบอดี้การ์ดของพีท เพราะอาฮวดจำไทได้ แต่ไทบอกว่าเขาทิ้งสวนสัตว์ไปไม่ได้ เพราะสวนสัตว์กำลังจะถูกยึด บุ๊นยอมจ่ายหนี้ทั้งหมดให้ ไทจึงยอมตกลง ไทได้พบพัดในฐานะคุณนันนภัส รองประธานกรรมการใหญ่ ไทรู้ตัวว่าเขากับเธอกลายเป็นเส้นขนานไปแล้ว พีทตกใจเมื่อรู้ว่าทั้งคู่เคยคบกันมาก่อน แต่พีทบอกไทว่าฐานะไม่เกี่ยวมันอยู่ที่หัวใจ แต่ไทคิดว่าพัดสูงเกินกว่าที่เขาจะเอื้อมถึง ปลายฟ้ารู้สึกสงสารไท แต่อีกใจก็ดีใจซึ่งเธอก็ไม่รู้เหตุผล ไทยังปฏิบัติหน้าที่อย่างดีเช่นเดิม ลิลลี่ (ขวัญกวินท์ ธำรงรัฐเศรษฐ์) น้องสาวไฮโซของโอตี่ เคยเป็นแฟนเก่าของพีทแต่เลิกรากันไป เพราะเบื่อความเพลย์บอยของพีท แต่ลิลลี่สนิทกับพัดจึงทำงานร่วมกันในฐานะหุ้นส่วน พัดเริ่มเศร้าเมื่อไทเริ่มทำตัวเหินห่างเธอ แต่พัดไม่เคยรู้เลยว่า เรียวแอบรักและภักดีต่อเธอมาโดยตลอด น้าฉัตรกับคู่หูมาสืบคดีที่เกิดขึ้นกับครอบครัวบุ๊น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่พัดและบุ๊นถูกลอบยิง พีทถูกลอบทำร้าย และได้พบหลักฐานว่ามังกรอาจอยู่เบื้องหลัง แต่บุ๊นรู้ความจริงอยู่แล้วว่า มังกรต้องการเป็นใหญ่ และอยากได้ที่ดินพันกว่าไร่ที่ปากช่อง ซึ่งที่ดินผืนนี้ได้มาโดยทุจริตและเลือดของผู้บริสุทธิ์ มนัสเป็นหนึ่งในผู้ที่ร่วมทุจริต แต่กลับใจจึงถูกมังกรสั่งฆ่า มนัสไม่ตายแต่พิการตลอดชีวิต โดยมีบุ๊นช่วยรักษาจนอาการดีขึ้น และจะส่งตัวไปอยู่กับ แพรไหม (ปริยานุช อาสนจินดา) ลูกสาวที่ต่างประเทศ มังกรกับโอตี่พยายามจะฆ่าปิดปากอีกครั้ง เพราะมนัสสามารถเป็นพยานเอามังกรเข้าคุกได้ แต่ไทกับเรียวช่วยกันวางแผน จนมนัสกับลูกสาวหนีรอดไปได้ แต่เรียวถูกยิงในขณะที่พาพัดหนี ก่อนสิ้นลมหายใจเรียวได้พูดบอกรักพัดเป็นครั้งสุดท้าย น้าฉัตรเข้ามาค้นห้องทำงานของบุ๊น จึงรู้ความจริงบางอย่างเกี่ยวกับการตายของเทอด แต่ยังไม่มีโอกาสบอกให้ไทรู้ ก็ถูกอาเพียวฆ่าตายเสียก่อน มังกรรู้ความจริงว่าไทคือลูกของเทอด จึงเข้ามาตีสนิทแล้วบอกไทว่า คนที่อยู่เบื้องหลังการตายของเทอดก็คือบุ๊น ไทนำเรื่องมาปะติดปะต่อกัน แต่ยังไม่รู้เรื่องที่แท้จริง มังกรจึงใช้แผนยืมดาบฆ่าคน เพราะหลักฐานหลังโฉนดได้ระบุชื่อของบุ๊น ไทแค้นมากจึงเข้าไปหาบุ๊น บุ๊นสารภาพและบอกว่า เขาไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริง แต่เขาก็เก็บที่ดินผืนนี้เอาไว้เพื่อคืนให้กับทางการ ไทไม่เชื่อคิดว่าบุ๊นพูดเอาตัวรอด จึงใช้ปืนจี้บังคับให้บุ๊นไปเคารพหลุมฝังศพพ่อกับแม่ของเขา อาอวดและพัดมาพบพอดี ทำให้ไทต้องยิงบุ๊นโดยไม่มีทางเลือก แต่พัดเอาตัวเองเข้ารับกระสุนแทน อาฮวดจะตามไปฆ่าไทแต่บุ๊นห้ามไว้ เพราะคิดว่าสิ่งที่เขาเคยทำไว้มันกำลังตามสนอง บุ๊นขออย่างเดียวอย่าให้พัดเป็นอะไร ในขณะที่หลบหนีทำให้ไทได้รู้ความจริงบางอย่าง ไทจึงมาพบบุ๊นและพัดเพื่อขอโทษ บุ๊นได้เล่าความจริงทั้งหมดให้ไทฟังว่า ที่ดินบริเวณนั้นเป็นแหล่งแร่ทองคำ แต่มันเป็นที่ดินสาธารณะ เทอดกลัวว่าที่ดินจังหวัดจะเซ็นเท็จ ว่าการสำรวจไม่พบอะไร จึงรับรองการออกโฉนดที่ดินผืนนั้นให้กับบุ๊นไว้ เพราะเทอดเห็นว่ามังกรเป็นคนละโมบ ทำให้มังกรไม่พอใจและบุ๊นเชื่อว่า มังกรน่าจะให้อาเพียวมาลอบยิงเทอด เพราะคนที่อยากได้ผืนดินนั้น และอยู่เบื้องหลังทั้งหมดคือมังกร ไทจึงเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด ปลายฟ้าถูกมังกรและโอตี่จับตัวไปเพื่อแลกกับโฉนด ไทจึงขอความช่วยเหลือจากบุ๊น บุ๊นรับปากแต่มีข้อแม้ว่า ไทต้องมาดูแลพัดที่เป็นอัมพาตครึ่งตัวไปตลอดชีวิต ไทตกลงเพราะในใจลึก ๆ แล้วเขารักปลายฟ้า เมื่อถึงเวลานัดหมายไทซุ่มยิงลูกน้องที่โอตี่วางเอาไว้ ทำให้แผนของมังกรพังพินาศ ทั้งสองฝ่ายจึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น อาฮวดฆ่าอาเพียว ส่วนไทฆ่าโอตี่ มังกรถูกจับ เมื่อเรื่องร้าย ๆ จบลงด้วยดี แต่...ความรักของไทที่อยู่ตรงกลางระหว่าง...พัดหญิงสาวผู้พิการ เพราะเขาเป็นต้นเหตุ กับปลายฟ้าเด็กสาวสู้ชีวิตจน ๆ...ไทจะตัดสินใจอย่างไร?

ป่านางเสือ 2 2555

ป่านางเสือ 2 (2555/2012) หลังจากที่นายใหญ่ได้หนีรอดไปได้ในภาคที่แล้ว ครั้งนี้จึงกลับมาในรูปแบบของการปลอมตัวเป็นบุคคลที่มีตำแหน่งสูงในองค์กรต่าง ๆ เพื่อวางสายงานของตนให้บรรลุผลสำเร็จ และด้วยฝีมือการปลอมแปลงตัวที่เหนือชั้น ทำให้ตบตาทุกคนได้อย่างแนบเนียนไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นใครกันแน่ บ้าน ตะวันแดง คือกองบัญชาการลึกลับขององค์กรที่มีชื่อรหัสว่า Black Evil ศัตรูเก่าของนางเสือ ที่นี่มีการคุ้มกันอย่างหนาแน่น เพราะเป็นขุมกำลังที่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ร้ายแรงมากมาย นายใหญ่ปลอมตัวเป็น ท่านรองก้องเกียรติ และติดต่อขายความลับและพื้นที่ทรัพยากรของประเทศให้ชาวต่างชาติจนถูกทางการจับ หลักฐานมัดท่านรองก้องเกียรติ (ตัวจริง) อย่างแน่นหนาจนไม่สามารถดิ้นหลุดได้ ฤทธิชัย อดีตผู้กองมือหนึ่งของวงการตำรวจกับดาว เชื่อว่าต้องมีแผนการที่ซับซ้อนบางอย่างเกิดขึ้น ดาวให้ไผ่กับจันจิราช่วยระวังเหตุการณ์ที่บ้านดอนเสือ ก่อนที่ดาวกับฤทธิชัยจะมุ่งหน้าไปกรุงเทพฯ เพื่อหาความกระจ่างและหาทางพิสูจน์ว่าท่านรองก้องเกียรติ (ตัวจริง) บริสุทธิ์ ขบวนรถคุมตัวท่านรองวิ่งไปตามทางจากกรุงเทพฯ เพื่อไปยังค่ายนเรศวร แต่แล้วก็มีขบวนรถของคนร้ายเข้าสกัดและชิงตัวท่านรองไปได้ มีเจ้าหน้าที่รอดตายหนึ่งคนให้การว่าเป็นพวกของท่านรองเองที่มาพาท่านรองหนีไป ฤทธิชัยกับดาวนัดพบกับอภิชาตและจักจั่น ที่สำนักงานของอภิชาต เพื่อปรึกษาหาความกระจ่างของเรื่องนี้ ขณะที่ทั้ง 4 คน ปรึกษากันอยู่นั้น ก็มีกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาเชิญตัว อภิชาตกับฤทธิชัย ไปสอบสวน ด้วยเหตุผลว่าทั้งสองคนเคยใกล้ชิดกับท่านรอง และมีหลักฐานบางอย่างที่บ่งบอกว่า อภิชาตและฤทธิชัยอาจเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับท่านรองด้วย จักจั่นไม่พอใจคิดจะอาละวาด แต่ดาวห้ามไว้บอกว่าเรื่องนี้ต้องเป็นหน้าที่ของนางเสือ เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวฤทธิชัยและอภิชาตไปที่กรมบังคับการตำรวจ ทั้งคู่ได้พบกับ ท่านรองศักดา ซึ่งถูกแต่งตั้งให้ทำหน้าที่แทนท่านรองก้องเกียรติ ท่านรองศักดาเสนอให้อภิชาตและฤทธิชัย สารภาพเพื่อโทษจะได้เบาบางลงแต่ อภิชาตกับฤทธิชัยไม่ยอมรับในสิ่งที่ตนเองไม่ได้กระทำ ขบวนรถคุมตัวฤทธิชัยกับอภิชาตเป็นไปอย่างแน่นหนา เพื่อไม่ให้เกิดการชิงตัว แต่แล้วรถเจ้าหน้าที่คุ้มกันก็ถูกขบวนรถของคนร้ายสกัด ความจริงพวกมันคือเจ้าหน้าที่ปลอมที่ต้องการเก็บทั้งสองคน แต่แล้วเสียงเหยี่ยวสายลมดังก้องขึ้น พร้อมเงาดำสองร่างปรากฏ เป็นนางเสือที่สาดกระสุนใส่พวกมันจนแดดิ้น ช่วยฤทธิชัยกับอภิชาตไว้ได้ เป็นดาวกับจักจั่นนั่นเอง ดาวกับจักจั่นพาฤทธิชัยและอภิชาตกลับมาซ่อนตัวที่บ้านดอนเสือ ในค่ายของลุงเดชและแสง ทั้งหมดลงความเห็นว่าจะต้องหาต้นตอว่าใครเป็นคนอนุญาตให้บริษัทต่างชาติมาเปิดสัมปทาน จัดสรรป่าไม้ครอบคลุมพื้นที่ป่าไม้เกือบครึ่งของประเทศไทย รวมทั้งแหล่งทรัพยากรที่สำคัญอื่น ๆ ของประเทศด้วย ความจริงแล้วที่ผู้ใหญ่ของกรมกองต่าง ๆ เซ็นอนุมัติให้นั้นเป็นผู้ใหญ่และรัฐมนตรี (ตัวปลอม) ที่นายใหญ่ปลอมแปลงตัวเป็นทุกคนด้วยฝีมือการปลอมตัวขั้นเทพที่แนบเนียน ส่วนตัวจริงนั้นถูกลักพาตัวไปคุมขังไว้ในค่ายใหญ่ของพวกมัน ฤทธิชัยกับอภิชาตพบว่าการอนุมัติทุกอย่างอยู่ภายใต้การดำเนินของนักธุรกิจไทยคนหนึ่ง ที่เป็นนายหน้าจัดการแทนชาวต่างประเทศทั้งหมด เป็นบุคคลที่มีคอนเนคชั่นมากมายกับกรมกองต่าง ๆ บุคคลผู้นั้นคือ ณุพันธ์ นามมงคลดี (ซึ่งความจริงก็คือนายใหญ่ปลอมตัวมานั่นเอง) และตัวจริงก็ถูกองค์กร Black Evil จับตัวไปเช่นกัน ดาวพบว่าคราวนี้องค์กรร้ายใช้แผนสูง แทนที่จะใช้กำลังยึด ขับไล่หรือบังคับชาวบ้านเหมือนครั้งก่อน พวกมันกลับใช้เงินซื้อใจชาวบ้าน ทั้งเปิดค่ายตัดไม้ที่ถูกต้อง เปิดบาร์แหล่งสำราญสารพัด มีสวัสดิการอย่างดี ดูเหมือนว่าพวกมันกำลังสร้างรายได้และความเจริญให้แก่ชุมชนจนคนในชุมชนไม่ได้เฉลียวใจ และนางเสือก็ไม่เป็นที่ต้องการของชาวบ้านอีกต่อไปแล้ว อภิชาตและฤทธิชัย ลอบเข้าไปหาณุพันธ์ที่บ้านพักเพื่อสอบถามว่าใครอยู่เบื้องหลังการขอสัมปทานทั้งหมด แต่พบว่าณุพันธ์ถูกยิงตายแล้ว (นายใหญ่เอาสมุนของมันมาปลอมตัวเป็นณุพันธ์แล้วยิงทิ้ง) ทั้งสองพบเครื่องบันทึกข้อมูลขนาดเล็กที่ใช้ดาว์นโหลดข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ตกอยู่ใต้โต๊ะ จึงเก็บไว้ตรวจสอบ ขณะที่กำลังจะหลบหนีออกมา ก็พบว่าท่านรองศักดา และผู้กองสัตยา (รองศักดาและผู้กองสัตยา รับเงินจากนายใหญ่จนยอมขายชาติ) ได้นำกำลังตำรวจพร้อมหน่วยพิเศษมาไล่ล่าล้อมจับอภิชาต และฤทธิชัยเกิดการต่อสู้อย่างดุเดือด อภิชาตและฤทธิชัยหนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิด ท่านรองศักดาจัดแถลงข่าวว่าผู้สังหารณุพันธ์คือ อภิชาตและฤทธิชัยนั่นเอง ฤทธิชัยกับอภิชาต ถูกตามล่าอย่างดุเดือดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้การนำของผู้กองสัตยา อีกทั้งยังถูกกลุ่มของนายใหญ่ตามล่าด้วย ดาวต้องการให้กลับไปบ้านดอนเสือเพื่อตั้งรับ แต่ทั้งสองไม่ยอมกลับ เพราะเกรงว่าพวกมันจะนำกำลังทั้งหมดไปถล่มบ้านดอนเสือ ลุงเดชและพวกนางเสือคงไม่อาจต้านทานได้ รวมทั้งไม่อยากให้นางเสือต้องฆ่าเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางด้วย ในขณะเดียวกัน ป่าไม้เริ่มถูกตัดโค่นลง แก๊สธรรมชาติถูกขน นาข้าวมีคนควบคุมให้ชาวบ้านทำนาและส่งออกไปยังที่ใดไม่มีใครรู้ นางเสือไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะทุกอย่างเป็นไปอย่างถูกกฎหมาย มีผู้มีอำนาจ (ตัวปลอม) คอยสั่งให้เจ้าหน้าที่คอยระวังดูแลและอำนวยความสะดวกให้ทุกประการ ในที่สุดกำลังของนายใหญ่ก็ตามมาพบฤทธิชัยกับอภิชาต พวกมันยิงสาดกระสุนเข้าใส่ทั้งสองรวมทั้งชาวบ้านอย่างไม่ปราณี ทุกคนถูกกระสุนปืนล้มตาย ฤทธิชัยกับอภิชาตถูกกระสุนบาดเจ็บสาหัส พวกมันเข้ามาหมายยิงซ้ำเพื่อจบชีวิตคนทั้งสอง ทันใดนั้นเสียงเหยี่ยวสายลมก้องมา รถจิ๊ปเข้ามาจอดพรวด ร่างของดาวกับจักจั่นไผ่และจันจิรา ในชุดรัดกุมแบบปฏิบัติการดีดตัวขึ้นมาจากรถ ยิงกราดพวกมันจนล้มคว่ำไปหมด ดาวพาฤทธิชัยกับอภิชาตที่บาดเจ็บสาหัสไปยังหุบเขา เพื่อขอพรพระภิกษุให้ช่วยเหลือ โดยมีลุงเดชและแสงนำสมาชิกโจรมาช่วยนำร่างของทั้งสองเข้าไปในหุบเขา ดาว จักจั่น ไผ่ คุกเข่าลงยกมือพนมภาวนาให้พระภิกษุช่วย ทันใดนั้นก็มีแสงสีทองปรากฏครอบคลุมร่างของ ฤทธิชัยและอภิชาตจนเต็มไปหมด ลุงเดช แสง และพวกสมาชิกโจร ต่างตื่นเต้นเมื่อเห็น ทั้งหมดออกมาจากถ้ำ โดยที่ฤทธิชัยและอภิชาตดูเป็นปกติไม่มีแม้แต่รอยข่วน ณ. เวลานี้ ทั้งฤทธิชัยและอภิชาต พลอยได้พลังศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองเช่นเดียวกับ ดาว จักจั่น และไผ่ ดาวตัดสินใจปล้นเพื่อยึดไม้ทั้งหมดคืน ทำให้เกิดความระส่ำระสายต่อค่ายตัดไม้ จนต้องมีการหยุดปิดค่ายชั่วคราว ทำให้พวกชาวบ้านไม่พอใจพวกนางเสือมาก แต่ดาวไม่สนใจออกปล้นทำลายทุกอย่างของพวกมันจนเสียหายยับเยิน นายใหญ่แค้นใจมาก นำอาจารย์ผู้มีอาคมชื่อ คายะมัง มาเพื่อกำจัดนางเสือกับพวก คายะมัง เอารูปปั้นของงูเก็งกองที่มีอาถรรพ์มาตั้งแต่โบราณ มาปลุกเสกจนมีชีวิต และยังปลุกเสกมีดหมอที่มีพลังสามารถกำจัดนางงูเก็งกองขึ้นมาด้วยหนึ่งเล่ม หากนางงูเก็งกองมีพลังมากเกินไป จนเป็นอันตรายต่อตนเองก็จะได้กำจัดเสีย หลังจากนั้นก็สั่งให้นางงูเก็งกองออกตามล่าและทำลายนางเสือกับพวกของนางเสือทุกคน นางงูเก็งกองมีพลังฝีมือร้ายกาจฆ่าทุกคนด้วยการปล่อยงูไปกัดศัตรูจนตาย เนื่องด้วยตามตำนานดั้งเดิม นางงูเก็งกองผิดหวังในความรักเพราะถูกผู้หญิงด้วยกันกลั่นแกล้งแย่งความรักของตนไป ทำให้เห็นผู้หญิงทุกคนเป็นศัตรู เมื่อพบนางเสือก็เกิดความแค้นมุ่งสังหารไม่ยอมเลิกรา นางงูเก็งกองมีฝีมือร้ายกาจและอาวุธทำร้ายไม่ได้ (นอกจากมีดหมอของคายะมัง) นางเสือแม้มีฝีมือก็ไม่สามารถปราบนางงูเก็งกองได้ ต้องหลบหลีกและหลบหนีอยู่ตลอดเวลา คายะมังส่งนางงูเก็งกองไปจัดการเก็บฤทธิชัย แต่นางงูเก็งกองกลับไปหลงรักฤทธิชัย แม้จะมุ่งฆ่านางเสือ แต่ก็ปกป้องฤทธิชัยจากพวกของนายใหญ่ ด้วยการเอาตัวฤทธิชัยไปซ่อนไว้ในถ้ำที่พำนักของตน ทำให้นายใหญ่โกรธมาก ส่วนดาวกับทุกคนแม้ว่าจะไม่รู้ว่านางงูเก็งกองเอาตัวฤทธิชัยไปซ่อนไว้ที่ไหน เพราะแม้แต่เหยี่ยวสายลมก็ยังมองไม่เห็น เพราะพลังของนางงูเก็งกองที่ก่อเป็นกำแพงสกัดไว้ แต่ดาวก็มั่นใจว่าฤทธิชัยจะไม่เป็นอะไร เพราะรู้ว่านางงูเก็งกองหลงใหลในตัวฤทธิชัย จึงใช้เวลาทั้งหมดบุกทำลายค่ายย่อยของพวกมันจนระส่ำระสาย สร้างความแค้นใจให้นายใหญ่เพิ่มเป็นหลายเท่าทวีคูณ นายใหญ่คิดกำจัดนางงูเก็งกอง แต่ก็กลัวว่าจะไม่มีใครจัดการกับนางเสือ สุดท้ายคิดแผนร้ายใช้ฤทธิชัยบีบบังคับนางงูเก็งกอง โดยให้สมุนไปล้อมถ้ำของนางงูเก็งกอง แล้วให้คายะมังใช้คาถาเรียกนางงูเก็งกองออกไป พอนางงูเก็งกองออกไปพวกสมุนก็เข้าไปจับตัวฤทธิชัยเอาตัวไปขังไว้ในสถานที่ลับแห่งหนึ่ง คายะมังใช้อาคมเรียกนางงูเก็งกองมาเพื่อใช้คาถาเปลี่ยนร่างนางงูเก็งกองให้กลับเป็นหุ่นดังเดิมและหาทางบังคับทีหลัง แต่นางงูเก็งกองไหวตัวทัน จึงเกิดการต่อสู้กัน ลูกศิษย์ทั้งสามคนกับคายะมังช่วยกันรุมนางงูเก็งกอง แต่สู้นางงูเก็งกองไม่ได้ คายะมังถูกนางงูเก็งกองฆ่าตาย จากนั้นก็ใช้พลังทำให้ถ้ำถล่มฝังร่างคายะมังพร้อมมีดหมอไว้ในถ้ำ เพราะรู้ว่ามีดหมอสามารถทำลายตนได้ แต่ลูกศิษย์คนที่บาดเจ็บรอดตายหนีออกมาได้ นำเรื่องมีดหมอมาบอกนายใหญ่ นายใหญ่จึงให้คนไประเบิดถ้ำเอามีดหมอที่สามารถฆ่านางงูเก็งกองมาเก็บไว้ รอจังหวะสังหารนางงูเก็งกองภายหลังจากที่นางงูเก็งกองหมดประโยชน์กับตนแล้ว นายใหญ่ใช้ตัวฤทธิชัยเป็นตัวประกัน บอกถ้านางงูเก็งกองไม่สามารถจัดการกับพวกนางเสือได้ ก็จะฆ่าฤทธิชัยเสีย นางงูเก็งกองแค้นใจแต่ไม่มีทางเลือก จึงตามล่านางเสือกับพวกอย่างดุเดือดเพื่อความรักของตน พวกนางเสือเผชิญหน้ากับนางงูเก็งกองก็จำเป็นต้องถอย เพราะแม้ว่าจะรวมพลังกันแล้ว แต่ยังสู้พลังของนางงูเก็งกองไม่ได้ ในที่สุดพระภิกษุก็บอกให้รู้ว่ามีมีดหมอของคายะมังเท่านั้นที่จะกำจัดนางงูเก็งกองได้ ด้วยสายตาของเหยี่ยวสายลมทำให้นางเสือกับพวกสืบรู้ว่านายใหญ่จับฤทธิชัยไปไว้ที่ไหน จึงบุกเข้าไปช่วยฤทธิชัยไว้ได้ พร้อมกันนั้นก็บุกเข้าทลายรังของพวกนายใหญ่ พร้อมกับพยายามค้นหามีดหมอของคายะมังที่นายใหญ่เก็บซ่อนไว้ แต่แล้วนางงูเก็งกองก็ปรากฏตัวขึ้น นางเสือเผชิญหน้ากับนางงูเก็งกอง เกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือด พวกนางเสือสู้ไม่ไหว ขณะกำลังจะถูกนางงูเก็งกองทำร้าย ฤทธิชัยได้เข้ามาขวางไว้ทำให้นางงูเก็งกองชะงัก พวกสมุนนายใหญ่ตามเข้ามาพอดี ยิงสาดกระสุนใส่ถูกฤทธิชัยทรุดลงไป นางงูเก็งกองคิดว่าฤทธิชัยตายจึงเกิดอาการคลุ้มคลั่งอาละวาดฆ่าสมุนนายใหญ่ตายระเนระนาด แต่สุดท้ายก็พลาดท่าถูกสมุนมือขวาของนายใหญ่ใช้มีดหมอขว้างปักเข้าทางด้านหลังทะลุอก ทำให้นางงูเก็งกองสลายตัวตายไป เมื่อนางงูเก็งกองตาย พวกนางเสือก็ได้โอกาสบุกเข้าไปในขณะที่นายใหญ่ ศักดาและผู้กองสัตยาที่มีส่วนรู้เห็น ต่างพยายามทำลายหลักฐานและคิดฆ่ารัฐมนตรีตัวจริงที่ถูกคุมขังทุกคน แต่นางเสือและฤทธิชัยเข้าไปขัดขวางช่วยไว้ได้ นายใหญ่และท่านรองศักดารวมทั้งสัตยาฉวยโอกาสหนีไปได้ ในที่สุดดาว จักจั่น อภิชาตและฤทธิชัย ก็บุกถึงตัวนายใหญ่จนได้ แต่พอนายใหญ่หันมา ก็ทำเอาทุกคนตะลึงอย่างคาดไม่ถึง เพราะนายใหญ่คือท่านรองก้องเกียรติ (ตัวปลอม) นั่นเอง ท่านรองก้องเกียรติ (ตัวปลอม) ยิงสาดกระสุนเข้าใส่ทุกคนและหนีไป จากนั้นทุกคนก็เห็นไผ่ จันจิรา และ งิ้วเอาตัวท่านรองก้องเกียรติ (ตัวจริง) กับผู้มีตำแหน่งต่าง ๆ ทุกคนที่ถูกจับตัวในสภาพมอมแมมออกมา ดาว จักจั่น ฤทธิชัยและอภิชาต รีบตามนายใหญ่ไป แต่ถูกสัตยาและมือปืนที่รออยู่ สาดกระสุนเข้าใส่ ทุกคนหลบและยิงต่อสู้ จนสัตยาและมือปืนตายหมด แต่พอตามออกไปทันก็พบนายใหญ่ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่รออยู่แล้ว บินห่างออกไป แต่ทันใดนั้นก็มีจรวด อาร์ พี จี พุ่งเข้าใส่เสียงระเบิดดังตูม เฮลิคอปเตอร์แหลกเป็นจุล เป็นฝีมือของท่านรองก้องเกียรติ (ตัวจริง) นั่นเอง มีวัตถุหนึ่งลอยลงมาจากอากาศ อภิชาตรีบเข้าไปคว้าวัตถุที่ค่อย ๆ ลอยลงมาแล้วยกให้ทุกคนดู เป็นหน้ากากยางรูปใบหน้าของท่านรองก้องเกียรตินั่นเอง องค์กรของพวกมันถูกพวกนางเสือทำลายลงอีกครั้ง ท่านรองก้องเกียรติแถลงข่าวให้สื่อมวลชนรู้ว่า สัญญาต่าง ๆ ที่ทำกับบริษัทต่างชาติล้วนเป็นโมฆะ เพราะเป็นแผนของพวก Black Evil ภายใต้การนำของนายใหญ่นั่นเอง แม้จะไม่พบศพของนายใหญ่ และนายใหญ่อาจจะกลับมาอีก แต่ท่านรองก็บอกว่าทุกคนพร้อมรับมืออยู่เสมอ ทั้งหมดต่างแสดงความยินดีต่อกันที่งานสำเร็จและนำความสงบสุขกลับมาได้อีกครั้งหนึ่ง

ชิงนาง 2555

ชิงนาง (2555/2012) วงเดือน (คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์) เป็นเด็กกำพร้าที่ นายแพทย์อนุต (ตฤณ เศรษฐโชค) อุปการะ เพราะพ่อ-แม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ทั้งที่ ศรีเรือน (พิศมัย วิไลศักดิ์) แม่ของเขาคัดค้าน เพราะคำทำนายว่าวงเดือนนำความวิบัติมาสู่ “ครอบครัวแสนสมุทร” อนุตกับ ศรีดารา (สุพรรษา เนื่องภิรมย์) ภรรยาขัดแม่ไม่ได้จำใจให้วงเดือนเป็น เด็กรับใช้ แต่ชดเชยโดยส่งให้เรียนหนังสือจนจบพยาบาล วงเดือนตอบแทนบุญคุณด้วยการดูแลทุกคนในแสนสมุทรอย่างดี เธอโตมาพร้อมลูกชาย 4 คน ของตระกูล พฤกษ์ (วัชรบูล ลี้สุวรรณ) พี่ชายคนโตหัวไม่ดี แต่ขยันขันแข็ง พ่อ-แม่วางตัวให้สืบทอดกิจการเรือประมง ขณะที่ ภูผา (อรรคพันธ์ นะมาตร์) ลูกชายคนรองเก่ง-กล้าแต่ใจร้อนไม่ยอมใคร ยิ่งไม่ผิดภูผาสู้หัวชนฝา ผิดกับ เมฆา (กันต์ กันตถาวร) ลูกชายคนที่สามฉลาดและมั่นใจในตัวเองกว่าใคร พ่อส่งให้เรียนหมอเพื่อรับช่วงกิจการคลินิกต่อ และคอยรักษา อรุณ (วศิน อัศวนฤนาท) น้องชายคนเล็กขี้โรคตั้งแต่เกิด ทุกคนในบ้านตามใจเขามากเป็นพิเศษ รวมถึงวงเดือนก็เป็นเพื่อนเล่น และดูแลอรุณเต็มที่ ตลอดมา 4 หนุ่ม รักกันมาก แต่พอรู้ว่าหลงรักผู้หญิงคนเดียวกัน คือ วงเดือน การแย่งชิงจึงเกิดขึ้น!! พี่-น้องต่างหาทางพิชิตใจเธอเต็มสูบ กระทั่งวงเดือนถูกฉุด! ภูผาไปช่วยสู้ไม่คิดชีวิตพลั้งมือยิงคนร้ายตาย อนุตโกรธมากคิดว่าภูผาเป็นอันธพาลชอบหาเรื่อง ถึงกับไล่ลูกชายออกจากบ้าน ศรีเรือนเป็นห่วงภูผาแอบยกที่ดินร้าง จ.เชียงราย ให้ไปบุกเบิก เขามุ่งมั่นพิสูจน์ตัวเองก่อนกลับแสนสมุทร ภูผาชวนวงเดือนหนีไปด้วยอรุณได้ยิน แกล้งป่วยหนักถ่วงเวลาไม่ให้วงเดือนไปตามนัด ทำให้ภูผาช้ำรักเข้าใจผิดคิดว่าเธอไม่มีใจ เมื่อถึงเชียงราย หนูนา (พิชญาภร สุวรรณวุฒิพิจัย) หลานสาวจอมห้าวของ นายสว่าง (กลศ อัทธเสรี) คนดูแลไร่ที่ย่าศรีเรือนไว้ใจรอรับภูผาที่สถานีรถไฟ หนูนาไม่ถูกชะตามาดขรึมของภูผา แต่ไม่นานความเสียสละ ตั้งใจจริงของภูผาก็ทำให้หนูนาแพ้ใจแอบรักเขาจนได้ ร้อนถึง พ่อเลี้ยงเหนือฟ้า (มิกค์ ทองระย้า) ลูกชายผู้มีอิทธิพลกับ วันชัย (ธีร์ วณิชนันทธาดา) ลูกพี่ลูกน้องยกพวกไปบุกไร่ภูผาเพื่อประกาศศักดิ์ดา ภูผาไม่หวั่นแต่หนูนาเป็นห่วงออกนอกหน้า เหนือฟ้ารู้ทันทีว่าน้องหนูนาสุดที่รักมีใจให้ภูผา แถมชาภูผายังคุณภาพดีเป็นคู่แข่งกับชาเหนือฟ้า วันชัยเลยยุเหนือฟ้ากำจัดภูผาให้พ้นทาง โดยวันชัยอาสาลงมือเอง แต่ยิงพลาดถูกม้าตัวโปรดของหนูนาตาย เธอเสียใจแทบคลั่งเกลียดชังเหนือฟ้าเพิ่มทวีคูณ โชคดีมีภูผาปลอบใจจนรู้สึกดี ยิ่งทำให้หนูนาหลงรักเขามากขึ้นด้วย แม้ภูผาจะมี คนรัก!! แล้ว และนำชื่อเธอมาตั้งชื่อไร่ชาเป็นที่ระลึกว่า “ไร่วงเดือน” แต่หนูนาก็หวังจะชนะใจภูผาให้ได้ ส่วนวงเดือนเศร้าใจคิดถึงภูผาทุกเวลา หนำซ้ำยังโดนกดดันจากย่าศรีเรือน และ โฉมไฉไล (พิมพ์นิภา จิตตธีรโรจน์) ไฮโซตกอับกิ๊กเก่าเมฆามาหาเรื่อง เพราะคิดว่าวงเดือนเป็นแฟนใหม่ทำให้เมฆาไม่สนใจตน อนงค์ (กรองทอง รัชตะวรรณ) แม่โฉมไฉไล เจ้าของภัตตาคารหรู แต่ติดการพนันจนหนี้ท่วมตัว คิดวางแผนให้ลูกสาวจับลูกชายคนอื่นในตระกูลแสนสมุทรแทน โฉมไฉไลเปลี่ยนเป้าหมายยั่วพฤกษ์จนมีอะไรกัน อนงค์บังคับให้พฤกษ์แต่งงานกับลูกสาว พร้อมกับงานแต่งของอรุณกับวงเดือน ก่อนถึงวันงานย่าศรีเรือนป่วยหนัก มีวงเดือนคอยดูแลอย่างดี จนศรีเรือนรู้สึกผิดที่ทำไม่ดีกับเธอ จึงมอบจดหมายที่ภูผาเขียนหาวงเดือนให้ก่อนตัวเองสิ้นใจ ทำให้วงเดือนยอมหนีจากแสนสมุทรไปตามหาภูผาจนพบ และสัญญาจะรักกันจนวันตาย หนูนาอกหักส่งข่าวไปบอกเมฆาเรื่องวงเดือนแต่ภูผาจับได้ ทั้งคู่ทะเลาะกันรุนแรงหนูนาหนีจากไร่ไปเจอเหนือฟ้ากับพวก วันชัยยุให้ปล้ำ! แต่เหนือฟ้าทำไม่ลง วันชัยชกเหนือฟ้าสลบแล้วข่มขืนเอง เหนือฟ้าฟื้นขึ้นมาเห็นความชั่วของวันชัย เขาต่อสู้ช่วยหนูนาจนตกหน้าผาตาย ภูผาตามมาเจอจึงไล่ล่าวันชัยแต่มันหนีไปได้ หนูนาเสียใจ และอายมาก แต่ต้องรับสภาพอุ้มท้องลูกวันชัยไว้ ไม่นานเมฆาก็มาหาภูผาถึงเชียงราย เขาขอร้องให้พี่ชายปล่อยวงเดือนไปแต่งงานกับอรุณที่ป่วยหนัก ภูผาจำใจยุติความรักกับวงเดือนเพื่อต่อชีวิตให้น้องชาย ระหว่างทางกลับแสนสมุทรรถที่วงเดือนนั่งคว่ำ วงเดือนอาการสาหัส ภูผาขอร้องให้เมฆาช่วยชีวิตเธอ เมฆาได้ทียื่นข้อเสนอให้ภูผาเลิกยุ่งกับวงเดือน ถึงจะยอมทำตามที่พี่ชายขอ ภูผายอมเพราะไม่มีทางเลือก หลังอาการวงเดือนดีขึ้นเมฆาพาเธอกลับแสนสมุทรทันที เมฆาโกหกทุกคนที่บ้านว่าภูผาลักพาตัววงเดือน ทำให้อรุณเกลียดภูผามาก ทันทีที่อรุณเจอภูผาแอบมาเยี่ยมวงเดือนที่บ้าน เขาโกรธจัดต่อว่าภูผารุนแรงจนอาการกำเริบช็อก! เสียชีวิต เมฆารู้สึกผิดที่โกหกทำให้พี่-น้องทะเลาะกันจนตาย เขาสารภาพเรื่องนี้กับพฤกษ์แต่ถูกซ้ำเติม ทำให้เมฆาเครียดเมาเหล้าพลาดมีอะไรกับโฉมไฉไล เมื่อเรื่องฉาวกระฉ่อนทำพฤกษ์ช็อก! ผิดหวังเมาไร้สติ ลอบเข้าหาวงเดือนแต่เมฆาช่วยไว้ วงเดือนไว้ใจยอมแต่งงานปลอมๆ กับเมฆาโดยดี เพราะไม่อยากให้พฤกษ์มาวุ่นวาย โดยไม่รู้ว่ากำลังถูกเมฆาหลอก เมื่อภูผารู้ข่าวเสียใจมาก ยอมตัดใจไปแต่งงานกับหนูนาทันที เมฆาไปแสดงความยินดีกับภูผา-หนูนาในวันแต่งงานด้วย อยู่ๆ วันชัยประกาศกลางงานว่าเป็น “พ่อ” เด็กในท้องเจ้าสาว ก่อนลั่นไกใส่ภูผาแต่หนูนารับกระสุนแทนอาการสาหัส เมฆายื้อชีวิตหนูนาเต็มที่แต่ช่วยได้แค่เด็กในท้อง ส่วนหนูนาตาย! ในอ้อมกอดภูผา สุดท้ายวันชัยหนีไม่รอดถูกภูผายิงด้วยความโกรธแค้นตายคาที่ ที่บ้านแสนสมุทรพฤกษ์เอาแต่เมา-เล่นการพนัน ไม่ดูแลกิจการเรือประมง อนุต-ศรีดาราจึงตามภูผามาทำแทน แต่ไม่พบเพราะภูผาติดคุกคดีฆ่าวันชัย เมฆาจึงปิดคลินิกมาดูแลธุรกิจประมงกับวงเดือน ทำให้พฤกษ์ไม่พอใจทวงทุกอย่างคืนจากเมฆา และเปิดโป่งความชั่วที่เมฆาหลอกวงเดือนแต่งงาน ทำให้ภูผาตัดใจไปแต่งงานกับหนูนา วงเดือนโกรธมากตัดขาดเมฆา อนุตถึงกับช็อก! เป็นอัมพฤกษ์ วงเดือนดูแลหมอเพื่อทดแทนบุญคุณ ส่วนพฤกษ์ถูกโฉมไฉไลวางยาจนพิการ หลังพ้นโทษภูผากลับไปดูแลพ่อ และพี่ชาย เมฆาไม่อยากให้วงเดือน-ภูผารักกันอีก จึงใส่ร้ายว่าพี่ชายเป็นต้นเหตุทำให้บ้านแสนสมุทรตกต่ำ โฉมไฉไลหึงเมฆาถือปืนปรี่มายิงวงเดือน ภูผา-เมฆาปกป้องเธอสุดชีวิต

เกิดเป็นหงส์ 2555

เกิดเป็นหงส์ (2555/2012) ครอบครัวของ "หม่อมราชวงศ์หญิงมานศรีโสภาคย์" กำลังจะล้มละลาย แต่แล้ว "เทพ" เจ้าของไร่อ้อย เทพบุตรในสายตาสาวๆ ก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งยังช่วยหางานโดยให้คุณหญิงมาเป็นเลขาของตน ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วเทพร้ายยิ่งกว่าซาตาน เขาอยากแต่งงานกับคุณหญิงเพื่อยกระดับตัวเองและยังฆ่าได้แม้กระทั่งเพื่อนรักเพื่อแย่งสมบัติ ทำให้ "ทิว" ลูกชายเจ้าของไร่ที่แท้จริงแค้นใจ

กระบือบาล 2555

กระบือบาล (2555/2012) พบกับ เรื่องราวของการอนุรักษ์และพิทักษ์ควาย ของกระบือบาลหนุ่ม ใจเด็ด รับบทโดย (นิว-วงศกร ปรมัตถากร) ข้าราชการกรมปศุสัตว์ ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจสูงต่อสิ่งที่ทำจนดูเหมือนไม่ยอมใคร กับการปลูกฝังให้คนในท้องถิ่นรักควายและใช้ชีวิตร่วมกับควาย โดยเฉพาะในการทำนาที่จะไม่พึ่งพารถไถ เขาจึงเป็นนักต่อต้านรถไถ จนได้รับฉายา “แม่ทัพควาย” และมีวลีที่ใช้รณรงค์ในการต่อต้านก็คือ “อย่าปล่อยให้เพื่อนควายตกงาน” จนได้มาเจอและปะทะกับ สรนุช รับบทโดย (ยุ้ย-จีรนันท์ มะโนแจ่ม) ที่มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง เลือดร้อน เดิมเป็นวิศวกรโรงงาน เธอถูกวางตัวให้เป็น “แม่ทัพรถไถ” คนใหม่เพื่อไปเจาะตลาดรถไถที่อีสานใต้ ถึงกับลงทุนปลอมตัวเข้าไปสืบความลับในพื้นที่ของใจเด็ด โดยเป็นทีมถ่ายทำสารคดีเรื่องควาย สุดท้าย สรนุชจะปฏิบัติหน้าที่สำเร็จหรือไม่ แล้วใจเด็ดจะต่อต้านและพิทักษ์ควายของเขาได้แค่ไหน โปรดติดตามชมความสนุกปนอลเวงใน กระบือบาล

ปางเสน่หา 2555

ปางเสน่หา (2555/2012) ร.ต.อ.เตชิต นายตำรวจหนุ่มหล่อ ฝีมือดี ขับรถเร็วอย่างน่ากลัวตามแรงอารมณ์ ซึ่งกำลังโกรธและแค้นใจที่สุด เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น นายเจียงซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่จึงถูกปล่อยตัว ของกลางที่ได้มากลับหายไปอย่างไม่น่าเชื่อ คดีนี้เตชิตตั้งใจและทุ่มเททำงานอย่างหนักมานานกว่าสองปี วางแผนล่อซื้อจนจับกุมตัววายร้ายได้แล้ว ทว่าทุกอย่างกลับล้มเหลวเพียงข้ามคืน ที่ร้ายกว่านั้นคือผู้กำกับเสนา ผู้บังคับบัญชาของเขาสั่งให้เขาถอนตัวจากคดีนี้โดยเด็ดขาด และให้หลบไปซ่อนตัวสักระยะหนึ่ง ทั้งผู้กำกับเสนาและเตชิตรู้ดีว่า การที่เจียงถูกปล่อยตัว พวกมันต้องตามล่าเขาแน่ ชายหนุ่มอยากจะอยู่ลุยกับพวกมันตามประสาคนเลือดร้อน แต่ผู้กำกับเตือนสติให้เขาใจเย็น ๆ รอโอกาสในวันข้างหน้าจะดีกว่า เตชิตจึงต้องเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าขับรถเร็วราวกับจะบินได้ไปหาที่ซ่อนตัวตามคำสั่งอย่างไม่เต็มใจ บ่ายมากแล้วเมื่อเขามาถึงไร่สุขศรีตรัง รีสอร์ตเล็ก ๆ ของเพื่อนสาว เตชิตกับศรีตรังเจ้าของไร่และรีสอร์ตคนสวยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ทั้งสองคนฝันอยากเป็นตำรวจเหมือนกัน เมื่อเตชิตสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจได้ ศรีตรังมุ่งมั่นเรียนกฎหมายจนจบปริญญาตรี เธอสอบเข้ารับราชการเป็นตำรวจจนได้ ทว่าทำงานที่รักได้ไม่นานเธอก็ต้องลาออกเมื่อบิดาและมารดาเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุพร้อมกัน ทิ้งไร่ข้าวโพดหลายสิบไร่และรีสอร์ตสวยให้เธอดูแลต่อไป ศรีตรังจึงต้องเปลี่ยนจากการไล่จับผู้ร้ายมาเป็นเจ้าของไร่และรีสอร์ตแทน โดยที่ยังมีสัญชาติญาณของการเป็นตำรวจเต็มตัว หญิงสาวต้อนรับเตชิตอย่างเต็มใจ ศรีตรังสบตาเพื่อนนิดเดียวก็รู้ว่าเขากำลังมีปัญหา แต่ไม่ว่าจะเรื่องอะไรเพื่อนต้องช่วยเพื่อนเสมอ เธอให้เขาพักอยู่ที่บ้านหลังสุดท้ายเหมือนทุกครั้ง ศรีตรังให้ ป้าจุรี แม่บ้านของรีสอร์ตนำกุญแจไปเปิดบ้านให้ เตชิตจึงเดินไปพร้อมกับนาง บ้านหลังนี้ปลูกอยู่บนเนินจึงเห็นวิวสวยได้ไกลสุดสายตา เขาชอบที่นี่มาก มันสวยและสงบเหมาะกับการพักผ่อนและการหลบซ่อนที่สุด ชายหนุ่มเดินเข้าบ้านอย่างคุ้นเคย ส่วนจุรีรีบขอตัวกลับทันที ท่าทางนางหวาดกลัวอะไรสักอย่างแต่เขาไม่สนใจมากนัก เดินไปได้ไม่กี่ก้าว เตชิตต้องชะงักนิดหนึ่งเขารู้สึกแปลก ๆ เหมือนไม่ได้อยู่คนเดียว สัญชาติญาณตำรวจทำให้เขาเดินตรวจดูรอบบ้านอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ยิ่งสถานการณ์ที่ทำให้เขาต้องมาซ่อนตัวอย่างนี้ทำให้เขาต้องระวังตัวมากขึ้นไปอีก ชายหนุ่มถอนใจยาวเมื่อไม่พบใครหรืออะไรที่ผิดสังเกต เตชิตเปิดกระเป๋าเสื้อผ้า แล้วต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงหวานใสเรียก "คุณ" เขาเดินออกมาดูหน้าบ้านแต่ก็ไม่พบใคร เตชิตขำตัวเองที่ระวังระแวงจนหูแว่ว เขาหยิบผ้าขนหนูผืนใหญ่ขึ้นมาผลัดเสื้อผ้าเตรียมอาบน้ำ ขณะที่เขากำลังถอดเสื้อผ้า เสียงใส ๆ ร้อง "ว้าย" ขึ้นมาทันที คราวนี้ชัดเจนจนเตชิตมั่นใจว่าเขาหูไม่ฝาดแน่นอน เขาวิ่งพรวดพราดออกมาจากบ้านพักตั้งใจจะจับสาวถ้ำมองให้ได้ เธอท้าทายตำรวจอย่างเขามากเกินไปแล้ว เตชิตลืมตัววิ่งออกมาทั้งที่นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว เดินดูรอบบ้านไม่พบใครย้อนกลับมาอีกครั้งจึงพบลุงสม คนสวนของรีสอร์ตที่คุ้นเคยกันดี แกมองเขาแปลก ๆ เตชิตจึงเล่าให้แกฟังขำ ๆ ว่ามีผู้หญิงมาแอบดูเขา และต้องการจับตัวเธอให้ได้ ชายหนุ่มถามลุงสมว่าเห็นใครวิ่งหนีออกไปจากแถวนี้หรือเปล่า แต่ลุงสมยืนยันว่าไม่เห็นใคร เตชิตจึงย้อนกลับเข้าบ้านอย่างหงุดหงิด ผู้หญิงคนนี้น่าสงสัยมาก หนีได้รวดเร็วราวกับหายตัวได้ เกือบค่ำแล้วเมื่อเตชิตเดินไปที่อาคารรับรองอีกครั้ง เนื่องจากว่าในรีสอร์ตนี้มีร้านอาหารอยู่ร้านเดียวที่อาคารรับรอง แขกทุกคนจึงต้องมารับประทานอาหารที่ห้องอาหารนี้ ศรีตรังจัดโต๊ะไว้แล้วในส่วนที่ห่างจากคนอื่น ด้วยรู้ดีว่าทั้งเธอและเตชิตมีเรื่องต้องคุยกันจนดึก ดื่มกันจนใครสักคนไม่ไหวจึงจะได้กลับไปนอน นั่งดื่มกันไม่นานศรีตรังล้อเขาเรื่องวิ่งทะเล่อทะล่าออกมาตามหาสาว เธอขู่เพื่อนว่าที่นี่ไม่มีหรอกจะมีก็แต่ผีแม่ม่ายให้เตชิตระวังตัวให้ดี ชายหนุ่มหัวเราะลั่นเขาเป็นคนรุ่นใหม่ที่ไม่เชื่อเรื่องวิญญาณ ผีสางใด ๆ ทั้งสิ้น โดยอาชีพแล้วเป็นตำรวจด้วยจะกลัวอะไรง่าย ๆ ไม่ได้อยู่แล้ว เตชิตจึงพูดขำ ๆ ว่ามาจริงก็ดีเขาจะได้มีเพื่อนนอนคุยแก้เหงา เวลาผ่านไปจนค่อนคืน ศรีตรังเดินเซขึ้นห้องพักไปนานแล้ว ชายหนุ่มดื่มต่ออีกพักใหญ่จึงลุกขึ้นเดินโซเซถีบจักรยานกลับที่พัก ลุงสมมองตามอย่างเป็นห่วง กลัวว่าชายหนุ่มจะมึนจนตกข้างทางเสียก่อนถึงบ้านพัก เตชิตถีบรถถึงบ้านจนได้ เขายังประคองสติไปได้จนถึงเตียงนอนก่อนจะล้มตัวลงและหลับไปในทันที เขารู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงหวานใสเรียก "คุณ"

หยกเลือดมังกร 2555

เรื่องย่อ : หยกเลือดมังกร (2555/2012) เจ้าสัวเล้ง มังกรหนุ่มทายาทรุ่นที่สองของ มังกรวารี เจ้าของธุรกิจขนส่งทางน้ำที่ได้ ชื่อว่าเป็น มังกรวารีแห่งท้องทะเล กำลังจัดงานเลี้ยงฉลองเปิดตัวโครงการท่าเรือน้ำลึกขนาด ใหญ่มูลค่านับพันล้านที่ตนเองเป็นผู้ริเริ่มโครงการ โดยไม่ฟังคำทักท้วงของ โหงว มือขวาคนสนิทของเตี่ยที่ร่วมก่อร่างสร้างตัวกันมาว่าไม่ให้เดินหน้าโครงการใหญ่โตเกินกำลัง ซึ่งแท้จริงแล้วโหงวริษยาและต้องการกำจัดเจ้าสัวเล้ง เพราะกำลังถูกเด็กหนุ่มรุ่นลูกมาลดบทบาทความ สำคัญในธุรกิจที่ร่วมสร้างมากับมือ โดยโหงวรู้เรื่องที่จะถูกลดบทบาทมาจาก ดวงแข คู่ขานักร้องสาวในไนท์คลับที่ส่งไปบำเรอเจ้าสัวเล้งจนหลงรักหัวปักหัวปำและยกตำแหน่งเมียน้อย ให้อย่างลับ ๆ จนกระทั่งในระหว่างงานเลี้ยงอันใหญ่โตนั้นเอง ปรากฏกลุ่มมือปืนบุกมากราดยิงผู้คนในงาน จนเมียและลูกของเจ้าสัวเล้งถูกลูกหลงตายคางาน เจ้าสัวเล้งเกือบจะถูกมือปืนสังหารตามลูกเมีย แต่โชคดีได้รับการช่วยเหลือจาก พราวแสง สาวเสิร์ฟที่อยู่ในเหตุการณ์นองเลือดครั้งนี้ เจ้าสัวเล้งเลยจำเป็นต้องรักษาชีวิตตัวเองไว้ด้วยการหนีไปกับพราวแสง

พราวแสงพาเจ้าสัวหนุ่มมารักษาตัวที่เรือนแพริมน้ำที่เป็นบ้านพักของเธอ โดยปล่อยให้เรือนแพล่องไปตามลำน้ำกับเรือส่งข้าวเพื่อปกปิดร่องรอยไม่ให้มีใครตามได้ พราวแสงช่วยดูแลเจ้าสัวจนดีวันดีคืน ความใกล้ชิดทำให้เจ้าสัวหลงรักและมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งจนเธอตั้งท้อง แต่แล้วกลุ่มมือปืนก็ตามแกะรอยจนรู้ที่กบดาน เจ้าสัวไม่ต้องการให้พราวแสงเป็นอันตรายจึงให้หนีไปก่อน โดยได้มอบหยกแดงรูปมังกรสมบัติประจำตระกูลที่ตกทอดมาจากเตี่ยให้เก็บไว้ และสัญญาว่าจะกลับมารับไปอยู่ด้วยเมื่อจัดการกับคนที่คิดร้ายเอาชีวิตเขาได้ แต่พราวแสงก็หนีไปไม่รอดถูกพวกมือปืนตามล่าและยิงจนตกน้ำหายไป ส่วนเจ้าสัวรอดตายอย่างหวุดหวิด เพราะดวงแขพาตำรวจมาช่วยชีวิตไว้ได้ทัน โหงวถูกตำรวจรวบตัวและโดนข้อหาจ้างวานฆ่า เจ้าสัวจนต้องติดคุกตลอดชีวิต โดยมีดวงแขเป็นคนหักหลังเอาหลักฐานไปให้ตำรวจ เพราะเธอต้องการให้ มานพ ลูกชายวัย 5 ขวบที่เกิดกับโหงวแต่ไปหลอกให้เจ้าสัวเล้งหลงเชื่อว่าเป็นสายเลือดมังกรของเจ้าสัว มานพจะได้เป็นทายาทรับมรดกสมบัติของเจ้าสัวแต่ผู้เดียว

20 ปีต่อมา หยก เด็กหนุ่มอนาคตไกลใกล้จะเรียนจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ทั้งที่เป็นเด็กกำพร้าจากตรอกศาลเจ้า ย่านชุมชนแออัดริมน้ำที่มีทั้งคนไทยและคนไทยเชื้อสายจีนอยู่รวมกัน เสมือนเป็นแหล่งรวมของคนสู้ชีวิต หยกอาศัยอยู่กับ คมทวน อดีตนักมวยขาเป๋ที่หันมาเปิดโรงเรียนฝึกสอนศิลปะมวยไทยเล็ก ๆ ริมน้ำ สอนให้เด็กฝึกมวยไว้แสดงโชว์นักท่อง เที่ยวเพื่ออนุรักษ์ศิลปะและวัฒนธรรม คมทวนเลี้ยงหยกมาตั้งแต่เกิดร่วมกับเพื่อน ๆ นักมวยที่มี หนวก นักมวยหูหนวก และ สลึง นักมวยสติไม่เต็มบาท ทั้งหมดล้วนเป็นนักมวยรุ่นเก่าแต่ยังมีฝีมือเก๋าอยู่ คมทวนได้เล่าให้หยกฟังว่าพบแม่ของหยกได้รับบาดเจ็บเลยช่วยชีวิตไว้ แต่แม่หยกไม่ยอมบอกว่าพ่อของเด็กเป็นใครและตายเมื่อคลอดหยกทันที มีเพียงหยกแดงรูปมังกรที่เป็น สมบัติติดตัวชิ้นเดียวที่แม่ทิ้งไว้ให้ นั่นเลยเป็นที่มาของชื่อหยก ชายหนุ่มผู้ที่แม้ชะตาต้องพลิกผันไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ให้กำเนิด แต่ก็เหมือนฟ้าได้ ลิขิตไว้แล้วว่าเขาคือลูกมังกร

ชาวบ้านในตรอกศาลเจ้าทุกคนต่างก็รักหยกเพราะมักจะคอยช่วยพวกเขาจากแกงค์ เด็กแว้นท์ของ กิจชัย นักเลงหนุ่มหัวไม้ที่เข้ามาข่มขู่เรียกค่าคุ้มครอง โดยเฉพาะกับ กิ่งเหมย หลานสาวคนสวยของ อาม่า คนดูแลศาลเจ้าที่มีแผงขายของในตลาด กิ่งเหมยนิสัยใจเด็ดไม่ยอมแพ้ใครง่าย ๆ เมื่อถูกพวกกิจชัยหาเรื่องกลั่นแกล้งที่ไม่ยอมจ่ายค่าเช่าที่ขายของ เพราะพวกมันโก่งราคาอย่างหน้าเลือด แถมยังพังร้านและทำให้อาม่าบาดเจ็บ เธอจึงบุกไปเอาเรื่องกับกิจชัยถึงโต๊ะสนุกเกอร์ที่พวกมันสุมหัวอยู่และถูกพวกมันจับตัวไว้ หยกเลยตามไปเล่นงานพวกกิจชัย แต่กลายเป็นเหตุบานปลายเพราะมีคนตายจากการต่อสู้ หยกถูกจับและจะต้องถูกดำเนินคดีหมดอนาคตที่จะได้เป็นตำรวจ แต่ยังไม่ทันที่หยกจะถูกส่งตัวเข้าคุกหยกก็ได้พบกับ ผู้การสมิง นายตำรวจมือปราบจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งมาพร้อมกับแฟ้มประวัติของหยกและข้อเสนอให้หยกเข้าไปเป็นสายสืบอยู่ในแกงค์มาเฟียของ เสี่ยตง เสี่ยนักธุรกิจราตรี เอนเตอร์เทนเม้นต์ชื่อดัง หลังจากที่ผู้การสมิงต้องเสียนายตำรวจฝีมือดีที่แฝงตัวไปเป็นสายสืบแล้วหลายคน หยกตกลงรับงานนี้เพื่อแลกกับการได้บรรจุเป็นตำรวจอย่างที่หยกตั้งใจ

หยกจำเป็นต้องแกล้งตีสนิทกับกิจชัยจนมันไว้ใจและพาไปพบกับเสี่ยตง หยกแสดงฝีมือให้เสี่ยตงเห็นจนถูกใจและรับเข้าทำงานเป็นนักเลงในแกงค์ หยกจำเป็นต้องทำงานผิดกฏหมายหลายอย่างเพื่อปกปิดฐานะที่แท้จริง นั่นเลยทำให้หยกต้องคอยหลบหนีการจับกุมของ ธงรบ นายตำรวจหนุ่มใจร้อนยึดมั่นในตัวบทกฏหมายหลานชายของผู้การสมิงซึ่งธงรบไม่รู้ว่า หยกเป็นสายสืบและเป็นตำรวจ หยกจึงต้องเอาตัวรอดจากธงรบและต้องพยายามปกปิดตัวเองไม่ให้ถูกเปิดโปง หยกต้องโกหกกิ่งเหมยกับคมทวนว่าได้งานเป็นพนักงานส่งเอกสารในบริษัท อสังหาริมทรัพย์ธุรกิจบังหน้าของเสี่ยตงที่เปิดให้ ดุจแพร นักเรียนนอกหัวดื้อ ลูกสาวคนสวยของเสี่ยตงที่ทั้งรักและหวงเลี้ยงดูอย่างไข่ในหินมาตลอด โดยไม่เคยให้รู้ถึงเบื้องหลังธุรกิจมืดที่ตนทำอยู่ และต้องการกันดุจแพรให้ห่างจากอันตรายในแวดวงมาเฟีย จึงพยายามบังคับให้แต่งงานกับลูกชายนักการเมืองทั้ง ๆ ที่ดุจแพรไม่รักไม่ชอบ ด้วยความน้อยใจจึงหาเรื่องหนีออกจากบ้าน แต่เพราะโตที่เมืองนอกมาตลอดเลยไม่รู้จักใคร นอกจากตรอกศาลเจ้าที่เคยไปกับหยก เสี่ยตงโกรธลูกสาวแต่ก็ยังไม่คิดจะไปพาตัวกลับเพราะต้องการดัดนิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจ เลยสั่งหยกให้ทำเป็นเออออยอมทำตามที่ดุจแพรขู่ ที่สั่งไม่ให้พ่อรู้ไม่อย่างนั้นเธอจะหาเรื่องไล่หยกออกจากงาน และที่สำคัญเสี่ยตงกำชับให้หยกดูแลดุจแพรให้ดีและห้ามแตะเนื้อต้องตัวลูกสาวเด็ดขาด

หยกจำเป็นต้องให้ดุจแพรไปอาศัยอยู่กับกิ่งเหมย และบอกให้ช่วยสอนทอดปาท่องโก๋ ทำซาลาเปาหวังดัดนิสัยคุณหนูที่เขาแอบหมั่นไส้ในความเชิดหยิ่ง แต่ทำไปทำมาดุจแพรกลับรู้สึกสนุก จนสองสาวสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว และดุจแพรก็สังเกตเห็นว่ากิ่งเหมยหลงรักหยก มาตั้งแต่เด็กแต่ไม่กล้าบอกให้หยกรู้ ดุจแพรคิดจะทำตัวช่วยเป็นแม่สื่อแต่กิ่งเหมยอ้อนวอน ขอร้องไว้เพราะมีเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถบอกรักหยกได้ นั่นก็คืออีกเพียงแค่ไม่ถึงปีเธอจะต้องกลายเป็นคนตาบอดเพราะโรคอาร์พี (Retinitis Pigmentosa) โรคถ่ายทอดทางพันธุกรรม ที่จะทำลายจอประสาทตาอย่างช้า ๆ จนบอดในที่สุด กิ่งเหมยกลัวว่าเมื่อถึงเวลานั้นเธอจะกลายเป็นภาระให้หยกต้องคอยดูแลเมื่อวันที่ช่วยตัวเองไม่ได้ และที่สำคัญมีความลับเกี่ยวกับชาติกำเนิด ของเธอที่ต้องค้นหาความจริงให้รู้ก่อน มันเป็นอดีตที่เกี่ยวข้องกับเสี่ยตงและอาม่าของเธอ

กิ่งเหมยเดินหน้าสืบหาความจริง จนในที่สุดก็ค้นพบว่าเธอคือสายเลือดของเสี่ยตง เพราะในอดีตเสี่ยตงข่มขืนและฆ่าแม่ของเธอที่เป็นหญิงตาบอดและทำงานในภัตตาคารของเสี่ยตง ด้วยความโกรธแค้นของอาม่าที่คิดจะไปแก้แค้น แต่ดันเกิดอุบัติเหตุอาม่าพลาดพลั้ง เผาโกดังของเสี่ยตงทำให้เมียของเสี่ยตงตายในกองไฟ เสี่ยตงจึงตามล่าแก้แค้นมาจนทุกวันนี้ และเกือบที่จะฆ่าอาม่ากับกิ่งเหมยหลังจากตามจับตัวมาได้ แต่อาม่าได้ขอร้องและสารภาพความจริงห้ามไม่ให้เสี่ยตงฆ่าลูกในไส้ของตัวเอง ดุจแพรมารู้เรื่องนี้จากปากของอาม่าจึงทำให้เธอรู้ว่าพ่อโกหกเธอมาตลอด เธอคือลูกสาวมาเฟียที่ชั่วร้าย ด้วยความเสียใจทำให้ดุจแพรหันไปหาหยกและสารภาพรักกับเขาอย่างหมดหัวใจ กิ่งเหมยได้รับรู้เข้าก็ตัดสินใจยอมกล้ำกลืน ความเสียใจตัดใจจากหยกแล้วช่วยสนับสนุนให้ดุจแพรสมหวังในรักกับหยก โดยมีหมวดธงรบเข้ามาช่วยดูแลเธอ ทำให้หยกเข้าใจผิดคิดว่ากิ่งเหมยเลือกธงรบมากกว่าเลือกเขา

ในระหว่างนั้นเอง ขณะที่หยกต้องแฝงตัวทำงานผิดกฏหมายร่วมกับกิจชัยตามที่เสี่ยตง สั่งแต่กิจชัยถูกธงรบตามรังควาญเลยคิดจะเล่นงาน หยกรู้เข้าเลยเข้าไปขัดขวางทำให้ธงรบรอด ได้หวุดหวิดและทำให้ธงรบรู้ความจริงว่าหยกเป็นสายสืบให้กับผู้การสมิง แต่กิจชัยแอบเห็นว่าหยกรู้จักกับตำรวจอย่างธงรบจึงไม่ไว้ใจและเอาไปบอกเสี่ยตงหาว่าหยกเป็นสายตำรวจ หยกไม่อยากให้แผนการของผู้การสมิงเสียหายจึงยอมพิสูจน์ให้เสี่ยตงเห็นว่าเขาไม่ได้เป็นสาย หยกแอบเปลี่ยนลูกปืนเป็นลูกซ้อมแล้วลอบยิงธงรบจนรถคว่ำต้องพักฟื้นโรงพยาบาล กิ่งเหมยไปเยี่ยมธงรบจนหยกไปเห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกันและได้ยินกิ่งเหมยยอมรับรักธงรบ หยกเจ็บใจและเสียใจมากจึงหันไปตอบรับรักดุจแพรเพื่อประชดกิ่งเหมย

ด้านเสี่ยตงยอมเชื่อว่าหยกไม่ใช่สายตำรวจและไว้ใจจนหยกสามารถเข้าถึงเบาะแส สำคัญได้ว่าผู้ที่ชักใยอยู่เบื้องหลังให้แกงค์คู่อริส่งคนมาเล่นงานเสี่ยตงก็คือ มานพ นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงลูกชายคนเดียวของเจ้าสัวเล้ง ที่กำลังสร้างอิทธิพลร่ำรวยจากธุรกิจผิดกฏหมาย ด้วยการกว้านซื้อแกงค์ต่าง ๆ เข้ามาอยู่ในมือ สาเหตุเพราะเจ้าสัวเล้งได้รู้ความจริงแล้วว่ามานพไม่ใช่สายเลือดแท้ ๆ ของตน จึงไล่ตะเพิดทั้งมานพและดวงแขออกจากตระกูล ดวงแขพยายาม อ้อนวอนขอร้องให้เห็นแก่มานพที่เลี้ยงมาตั้งแต่เกิดแม้จะไม่ใช่สายเลือดมังกรที่แท้จริง แต่ก็รักเจ้าสัวเหมือนพ่อแท้ ๆ แต่เจ้าสัวก็ไม่ฟังจนทะเลาะกันรุนแรงและพลาดท่าผลักดวงแขตกบันได จนเป็นอัมพาต มานพจึงแค้นฝังใจว่าเป็นความผิดของเจ้าสัว หันไปร่วมมือกับโหงวพ่อที่แท้จริง ตั้งหน้าตั้งตาทำทุกอย่างเพื่อล้างแค้นเจ้าสัว ใช้กลโกงทางธุรกิจที่ตัวเองเคยทำงานอยู่กับเจ้าสัว ยักยอกเงินของเจ้าสัวแล้วมาสร้างอิทธิพลทางมาเฟียในชื่อกลุ่ม พยัคฆ์เมฆา หวังทำลายล้าง มังกรวารี อย่างเจ้าสัวเล้งให้ได้

เสี่ยตงไม่ยอมก้มหัวให้พยัคฆ์เมฆาเหมือนกับแกงค์มาเฟียรายอื่น ๆ ที่พ่ายแพ้อำนาจเงินของมานพ ความแค้นใจอยากล้างโคตรโค่นตระกูลมังกรวารีของมานพเพื่อตอบโต้เอาคืนบ้าง จึงสั่งให้กิจชัยลอบเข้าไปสังหารมานพ ส่วนหยกก็สั่งให้ไปลอบสังหารเจ้าสัวเล้งในโรงแรมที่มานพนัดพบกับเจ้าสัวเล้งเพื่อเคลียร์ปัญหา หยกจึงส่งข้อมูลของมานพและเสี่ยตงไปให้ผู้การ สมิงเพื่อให้ตำรวจบุกเข้ามาปิดคดี แต่ข้อมูลสำคัญนั้นกลับส่งไปไม่ถึงมือผู้การสมิง เพราะผู้การอยู่ในอาการโคม่าจากเหตุรถถูกวางระเบิด นั่นเป็นเพราะก่อนหน้านี้มานพได้สืบในทางลับ จนรู้ว่าตนกำลังถูกหน่วยสืบสวนคดีพิเศษเพ่งเล็งอยู่ มานพจึงส่งคนไปวางระเบิดรถของผู้การสมิง ทำให้หยกตกอยู่ในสภาพโดนลอยแพจากตำรวจและกลายเป็นพวกอาชญากรอย่างเต็มตัว เพราะมีเพียงแค่ผู้การสมิงคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าหยกเป็นสายให้ตำรวจ สถานการณ์ที่โรงแรมพลิกผันเมื่อมานพรู้ตัวว่ากำลังถูกลอบสังหาร กิจชัยทำพลาดและหนีเอาตัวรอด เหลือหยกที่ต้องไล่ตามสังหารเจ้าสัวเล้งไปจนเกือบลั่นไกฆ่าบุพการีโดยไม่ตั้งใจ แต่เจ้าสัวเล้งเกิดฮึดสู้แย่งปืนกับหยกจนบังเอิญไปเห็นหยกแดงรูปมังกรที่หยกห้อยคอติดตัวไว้ตลอด ธงรบพากำลัง ตำรวจตามมาช่วยเจ้าสัวไว้ได้ทัน ส่วนหยกต้องหนีเอาตัวรอดไปได้หวุดหวิดที่จะถูกธงรบจับ

หลังเหตุการณ์วันนั้น เจ้าสัวเล้งได้ออกติดตามหาข่าวหยกจนได้เบาะแส และตามมาหาถึงตรอกศาลเจ้า ซึ่งชาวชุมชนกำลังเดือดร้อนอย่างหนักจากการถูกพวกมาเฟียไล่ที่ เพราะพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่ที่มานพต้องการเข้ามายึดครองไปทำธุรกิจบังหน้า ชาวบ้านหลายรายต้องอพยพหลบหนีเพราะถูกขู่ฆ่า บ้างก็ถูกเผาไล่ที่ แม้แต่ศาลเจ้าที่เป็นที่เคารพของชุมชนก็ตกเป็นเป้าการรุกไล่ เจ้าสัวเล้งได้พบกับคมทวนหลังแนะนำตัวเองและได้ฟังคมทวนเล่าถึงอดีตของหยก เจ้าสัวก็มั่นใจว่าหยกคือสายเลือดมังกรของตน แต่หยกได้หนีไปจากตรอกศาลเจ้าพร้อม กิ่งเหมยก่อนหน้าที่เจ้าสัวจะมาถึงไม่เท่าไหร่ สาเหตุเพราะศาลเจ้าถูกลอบวางเพลิงโดยพวกมาเฟียพยัคฆ์เมฆา หยกพยายามปกป้องศาลเจ้าเอาไว้จนปลอดภัย แต่เพราะกิจชัยรู้ความลับแล้วว่าหยกเป็นสายสืบให้กับตำรวจมาตลอด เสี่ยตงจึงสั่งกิจชัยให้มาล่าตัวหยก กิจชัยอาศัยช่วงที่หยกกำลังช่วยรักษาศาลเจ้ามาจับกิ่งเหมยไปเพื่อล่อให้หยกไปติดกับ แต่หยกก็ตามไปช่วย สู้จนสามารถช่วยกิ่งเหมยได้ และหนีไปด้วยกันเพื่อไม่ให้คนที่ตรอกศาลเจ้าได้รับความเดือดร้อนอีก

ดุจแพรสงสัยเรื่องธุรกิจของพ่อมานานจนความลับมาแตกที่เรื่องหยก เพราะไปแอบได้ยินพ่อสั่งการให้กิจชัยตามล่าตัวหยก ดุจแพรทะเลาะกับพ่อจนคิดจะขอความช่วยเหลือจากธงรบ แต่ครั้งนี้เสี่ยตงไม่ยอมตามใจลูกอีก จึงบังคับให้ดุจแพรแต่งงานกับมานพ เพราะเสี่ยตงไม่สามารถต้านทานอิทธิพลพยัคฆ์เมฆาของมานพได้อีก จึงต้องหันมายอมร่วมมือโดยใช้ลูกสาวเป็นเครื่องมือในการผูกสัมพันธ์ ดุจแพรได้แต่ร้องไห้เสียใจไม่ยอมทำตามที่พ่อสั่ง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะถูกขังไว้ที่บ้าน ธงรบไม่เห็นดุจแพรมาตามที่นัดพบไว้ก็เกิดเป็นห่วงจะตามมาช่วย แต่ถูกมานพใช้อิทธิพลแทรกแซงทำให้โดนคำสั่งย้าย แต่ธงรบไม่ยอมก้มหัวให้อิทธิพล จึงตัดสินใจทิ้งอาชีพตำรวจ แล้วไปตามหาหยกเพื่อช่วยเหลือหยกอีกแรง หลังจากที่ได้พบกับเจ้าสัวเล้งและได้รู้เรื่องของหยกอย่างละเอียด

หยกพากิ่งเหมยหนีมาอยู่ที่เรือนแพริมน้ำและใช้เป็นที่พักล่องไปตามลำน้ำกับเรือส่งข้าว ซึ่งคมทวนเคยเล่าให้ฟังว่าเป็นที่ ๆ แม่ของหยกเล่าให้ฟังถึงความสุขเมื่อครั้งได้ใช้ชีวิตร่วมกับพ่อของหยก และที่นี่เองที่หยกได้รู้ว่าที่ผ่านมากิ่งเหมยพยายามผลักไสเขาออกไปจากชีวิตเพราะไม่ ต้องการให้เขาต้องมาดูแลคนพิการตาบอดอย่างเธอ หยกสัญญาว่าจะเป็นดวงตาคอยนำทาง ให้กิ่งเหมยไปตลอดชีวิตและได้เสียกันในคืนอันสวยงาม แต่วันรุ่งขึ้นพวกกิจชัยก็ไล่ล่าตามมาจนพบ หยกสู้พวกมันอย่างสุดกำลัง แต่เมื่อต้องคอยปกป้องกิ่งเหมยด้วยก็เลยทำให้พลาดท่าถูกกิจชัยจับตัวไปได้ ส่วนกิ่งเหมยถูกกิจชัยจับโยนน้ำจนเกือบจะจมน้ำตาย แต่ก็ได้รับการช่วยชีวิตไว้ได้ทันจากธงรบและเจ้าสัวเล้งที่ตามมาพบ

กิจชัยพาหยกมาพบกับเสี่ยตงที่ต้องการทรมานให้ได้รับความเจ็บปวดและตายช้า ๆ เพราะหลอกเสี่ยตงให้เหมือนเป็นไอ้โง่มาตลอด ดุจแพรรู้ว่าพ่อจะทำร้ายหยกจึงตัดสินใจขอ ร้องให้ปล่อยหยกไป โดยมีข้อแลกเปลี่ยนว่าเธอจะยอมแต่งงานกับมานพไม่อย่างนั้นเธอจะฆ่าตัวตาย เสี่ยตงยอมทำตามข้อตกลงของลูกสาว ให้กิจชัยซ้อมหยกจนหนำใจแล้วปล่อยตัว หยกบอกดุจแพรว่าไม่ต้องเอาตัวเข้าแลกเพื่อชีวิตคนไร้ค่าอย่างเขา แต่ดุจแพรเต็มใจทำเพื่อให้หยกได้กลับไปหากิ่งเหมย แต่กิจชัยกลับไม่ยอมทำตามคำสั่งเสี่ยตงคิดจะฆ่าหยกระหว่างพาตัวไปปล่อย หยกเลยสู้กับกิจชัยจนสามารถจัดการสางหนี้แค้นทั้งหมดส่งกิจชัยลงนรกได้สำเร็จ แล้วย้อนกลับไปช่วยดุจแพรออกมาจากงานแต่งงาน จนกลายเป็นเหตุการณ์ยิงกันสนั่น หยกพาดุจแพรออกมาได้ทั้งชุดเจ้าสาว แต่ดุจแพรก็เลือดไหลออกมาไม่หยุดเพราะโดนลูกหลงจากปืนของมานพ ดุจแพรกำลังจะตายและขอร้องให้หยกจูบลาเธอเป็นครั้งสุดท้าย หยกทำตามความต้องการของเธอโอบกอดดุจแพรเอาไว้จนกระทั่งลมหายใจสุดท้าย เสี่ยตงเจ็บปวดที่ลูกสาวต้องมาตาย เพราะมานพเลยตัดสินใจเปิดศึกกับมานพอย่างหลังชนฝา และสุดท้ายเสี่ยตงก็โดนมานพยิงตาย

หลังการตายของเสี่ยตงแกงค์พยัคฆ์เมฆาของมานพเหมือนเสือติดปีกแผ่อิทธิพลไปทั่ว ขณะที่เจ้าสัวเล้งก็มั่นใจแล้วว่าหยกคือสายเลือดมังกรของเจ้าสัวโดยแท้จริง เจ้าสัวจึงยกสมบัติทั้งหมดของตระกูลมังกรวารีให้หยก และหาหมอฝีมือดีมาช่วยรักษาอาการตาบอดของกิ่งเหมย ด้วยการบริจาคดวงตาของดุจแพรที่ทำไว้ก่อนตาย เมื่อมานพรู้เข้าก็ยิ่งสุมไฟแค้นประกาศล้างโคตรตระกูลมังกรวารีของเจ้าสัวไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว มานพสบโอกาสลักพาตัวเจ้าสัวเล้งมาได้ หยกจึงต้องตามไปช่วยชีวิตพ่อบังเกิดเกล้า โดยเผชิญหน้ากับมานพตัวต่อตัว แม้หยกจะสามารถคว่ำมานพได้เพราะฝีมือที่เหนือกว่า แต่หนทางที่จะพาเจ้าสัวหนีออกจากรังของมานพ ซึ่งมีลูกน้องนับร้อยนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่เพราะผู้การสมิงที่รู้สึกตัวพ้นจากโคม่าในช่วงเวลาสำคัญ กำลังตำรวจจึงบุกเข้ามาช่วยหยกและเจ้าสัวเล้งได้อย่างหวุดหวิด มานพกับโหงวถูกตำรวจจับตายเพราะพยายามขัดขืนการจับกุม ดวงแขหัวใจวายตายคารถเข็นหลังรู้ข่าวว่าลูกชายถูกยิงตาย

ผลการรักษาตาของกิ่งเหมยประสบความสำเร็จ กิ่งเหมยกลับมามองเห็นอีกครั้ง หยกจึงพากิ่งเหมยนั่งเรือออกไปกลางทะเล พร้อมเถ้าอัฐิของดุจแพรที่สละชีวิตเพื่อให้หยกกับกิ่งเหมยได้มีความสุขด้วยกัน หยกสัญญาด้วยคำมั่นของลูกผู้ชายว่าจะทำทุกอย่างเพื่อให้กิ่งเหมยมีความสุข จะเป็นสายน้ำแห่งความรักที่หล่อเลี้ยงให้กิ่งเหมยผลิดอกเป็นดอกเหมยที่สวยงาม

ไฟมาร 2555

เรื่องย่อ : ไฟมาร (2555/2012) กรรณนรี หรือกาว(ปริยฉัตร ลิ้มธรรมมหิศร) นักข่าวสาวสวยสุดห้าว ด้วยหน้าที่การงานทำให้เธอต้องแอ็คทีฟตลอดเวลา กรรณนรีชอบแต่งตัวทะมัดทะแมง ขี่มอเตอร์ไซค์ไปทำงาน ไม่ชอบทำตัวอ่อนหวานแบบผู้หญิงทั่วไป ทั้งยังตรงไปตรงมา กล้าต่อสู้เพื่อความถูกต้อง แต่ในความเข้มแข็งทั้งหมดนั้น จิตใจของกรรณนรียังคงอ่อนแอและบอบช้ำจากการขาดแม่ ลึกๆ แล้วกรรณนรียังคงโหยหาความรักจากผู้เป็นแม่ ไม่ต่างจากพี่ชายคือกาวินทร์ หรือแก้ว ชายหนุ่มอ่อนโยน รักกรรณนรีและพ่อ แต่ปมปัญหาจากอดีตส่งให้กาวินทร์กลายเป็นคนไม่เชื่อในความรัก และคบผู้หญิงเรื่อยไปไม่จริงจังกับใคร

สองพี่น้องเหลือพ่ออยู่เพียงคนเดียว เกริก เคยเป็นพ่อและสามีที่ดี อ่อนโยน รักชีวิตสงบเรียบง่าย แต่เมื่อ ภาพิศ(นุสบา ปุณณกันต์) ทิ้งไป ชีวิตของเกริกก็เปลี่ยน หลังจากถูกกลั่นแกล้งโยกย้ายตำแหน่งข้าราชการจนต้องลาออก เกริกกลายเป็นคนติดเหล้าอย่างหนัก เศร้าซึม เจ็บป่วยทั้งกายและใจ แม้เวลาจะล่วงเลยเป็นสิบปีแล้ว แต่เกริกก็ยังคงคิดถึงแต่ภาพิศ กรรณนรีกับกาวินทร์ต้องคอยประคับประคองสภาพจิตดูแลด้วยสงสารและเห็นใจผู้เป็นพ่อ โดยมีเพื่อนที่แสนดีอย่างนายแพทย์บุญยิ่ง(วสุ แสงสิงแก้ว) นายแพทย์รุ่นใหญ่ผู้ใจดี สุขุม สนิทสนมกับครอบครัวของเกริกมาตั้งแต่นุดียังอยู่เป็นครอบครัว เป็นผู้คอยดูแลอาการทางร่างกายของเกริกจากการติดเหล้า และยังเปรียบเหมือนญาติสนิทที่คอยให้คำปรึกษาแก่กรรณนรีและกาวินทร์อยู่เสมอ

สำหรับกาวินทร์นั้น ความผิดหวังของเกริกราวกับตอกย้ำไม่ให้กาวินทร์ไว้ใจผู้หญิงคนไหนอีกต่อไป ถีงกระนั้น มาลินีหรือมด(ณิชานันท์ ฝั้นแก้ว) เป็นเพื่อนที่คบกับกาวินทร์มานาน นิสัยเรียบร้อย อยู่ตัวคนเดียวไม่มีญาติพี่น้อง ฐานะไม่ร่ำรวย ขยันขันแข็งพยายามสร้างตัว ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน แม้กาวินทร์จะบอกเสมอว่า นี่เป็นเพียงความสัมพันธ์ชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้น แต่มาลินีก็ยังหวังว่ากาวินทร์จะยอมรับ และแต่งงานกัน มาลินีเชื่อว่าความรักของตนจะเปลี่ยนความคิดความแค้นของกาวินทร์ได้สักวัน มาลินีจึงเก็บใจไว้รอกาวินทร์เพียงคนเดียว

กรรณนรีเคยได้ยินชื่อของมาลินีอยู่เหมือนกันและเห็นใจมาลินี เพราะพี่ชายยังฝังใจว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่ไม่มีดี กรรณนรีแนะนำแกมต่อว่าพี่ชายเรื่องนี้ แต่กาวินทร์เพียงรับฟังไปอย่างนั้น ส่วนกรรณนรีแม้จะไม่หมดศรัทธาในความรัก แต่ก็ยังไม่เคยเปิดใจรักใคร มีเพียง ภรต(วีรดนย์ หวังเจริญพร) ผู้เดียวที่คอยวนเวียนตามจีบกรรณนรีมานาน แต่ไม่เคยกล้าบอกความในใจเสียที เขาเป็นวิศวกรหนุ่มหล่ออนาคตไกล มองโลกในแง่ดี สนุกสนาน จริงใจและเป็นห่วงกรรณนรีมาก ภรตใกล้ชิดและรู้เรื่องราวความหลังของครอบครัวนี้เพราะเขาเป็นลูกชายคนเดียวของนายแพทย์บุญยิ่งเพื่อนของเกริกนั่นเอง ภรตจึงเป็นเพื่อนรับฟังปัญหาที่ดีของกาวินทร์และกรรณนรีได้

หลังจาก นุดี ตัดสินใจหันหลังให้กับครอบครัวของเธอ เพื่อมาเป็นเมียเก็บของพลตรีอารักษ์ ผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งของประเทศ นุดีใช้เสน่ห์ความสวยความอ่อนหวาน แลกกับความสุขสบายที่ท่านพลตรีฯ มอบให้

แม้นุดี ซึ่งตอนนี้เธอคือ ภาพิศ อนุของท่านพลตรีฯ ที่มีชีวิตสุขสบายอยู่ในบ้านหลังใหญ่ แต่แท้จริงแล้วภาพิศยังรู้สึกผิดและคิดถึงลูกๆของตนอยู่เสมอ แต่ท่านพลตรีฯ สั่งเด็ดขาดไม่ให้ติดต่อกลับไปหาครอบครัวเก่าอีก ภาพิศอยากพบลูกที่สุด แต่ความห่างเหินก็ทำให้ภาพิศกลัวอยู่ไม่น้อย ว่าลูกจะโกรธและไม่ยอมรับตน ความโศกเศร้าเรื่องลูกนี้มีเพียง น้อย(รุจิเรข พักตระเกษตริน) คนรับใช้คนสนิทที่รับรู้ ซึ่งซื่อสัตย์และภักดีกับภาพิศเสมอมา และทุกครั้งที่ภาพิตกังวลว่าท่านพลตรีฯ จะไม่มาหา ผู้ที่ภาพิศมักจะปรับทุกข์ปรึกษาก็คือ แฉล้ม(แวร์ โซว์) ช่างเสริมสวยประจำตัวภาพิศ มีเบื้องหลังเป็นคนคอยจัดหาสาวสวยให้ผู้มีอิทธิพล ซึ่งเป็นผู้แนะนำภาพิศให้กับท่านพลตรีฯ แฉล้มช่างพูดช่างจา แต่ไม่มีความจริงใจเท่าไรนัก แฉล้มแนะนำให้ภาพิศดูแลตัวเองให้สาวสวยอยู่เสมอ

ภาพิศได้ให้กำเนิดลูกสาวให้กับท่านพลตรีฯ ท่านพลตรีฯ ปลื้มมาก แต่นั่นไม่ได้ทำให้ท่านพลตรีฯ ผู้มากรักจะหยุดอยู่ที่ภาพิศได้ ภาพิศต้องคอยเอาใจท่านพลตรีฯ และยังต้องต่อสู้กันอย่างเงียบๆ กับ คุณหญิงสุดา ซึ่งเป็นภรรยาของท่านพลตรีฯ คุณหญิงสุดามียศศักดิ์และชื่อเสียงในวงสังคมชั้นสูง เก่งงานสังคมสงเคราะห์ แต่เอาใจสามีไม่เป็น ทำให้พาลทะเลาะกันอยู่บ่อยๆ และยิ่งมีภาพิศเข้ามาสร้างความร้าวฉานให้กับครอบครัว ยิ่งทำให้คุณหญิงรังเกียจภาพิศยิ่งกว่าสิ่งใด แต่ภาพิศไม่กลัวคุณหญิงสุดา เกิดความรู้สึกอยากเอาชนะ พยายามดิ้นรนจะยกระดับฐานะตนเองซึ่งนั่นรวมถึงการพยายามทำความรู้จักและผูกสัมพันธ์กับสรวง ในฐานะที่มีน้องสาวคนเล็กให้สรวงด้วย

สรวงลูกชายคนเดียวของท่านพลตรีอารักษ์และคุณหญิงสุดาเพิ่งเรียนจบปริญญาโทจากต่างประเทศได้กลับมาถึงเมืองไทย คุณหญิงปลาบปลื้มและตื่นเต้นมากคอยเอาใจลูกชายใกล้ชิดทั้งวัน สรวงเองก็เข้าใจความเหงาของผู้เป็นแม่ จึงยอมอยู่เป็นเพื่อนรับฟังความทุกข์ แต่กับท่านพลตรีฯ นั้นได้เกิดสงครามเงียบขึ้นระหว่างพ่อลูก ความมึนตึงและถ้อยคำเสียดสีของสรวงทำให้ท่านพลตรีฯ ลำบากใจไม่น้อยที่ลูกชายคนเดียวที่ท่านรักและให้ความหวังโกรธตน ท่านอยากให้สรวงยอมรับภาพิศและน้องสาวต่างแม่ แต่นั่นไม่มีวัน เพราะสำหรับสรวงแล้วภาพิศเป็นผู้หญิงแพศยาและน่ารังเกียจที่สุด

สรวง(ศรัณย์ ศิริลักษณ์) ชายหนุ่มหน้าตาดี มาดสุภาพบุรุษ เป็นที่หมายปองของผู้หญิงทั่วไป แต่คุณหญิงได้วางตัวสุขหฤทัยไว้แล้ว สุขหฤทัย(อรลีฬ์ โสตถิวันวงศ์)เป็นสาวไฮโซ สวย เปรี้ยว การศึกษาชาติตระกูลดี ที่คุณหญิงมองแล้วว่าเหมาะสมกับสรวงที่สุด สุขหฤทัยเองก็พอใจสรวงอยู่ไม่น้อยเช่นกัน สรวงจึงต้องยอมไปไหนมาไหนกับสุขหฤทัยตามใจผู้เป็นแม่ หลังจากสรวงกลับมาได้ไม่นาน ภาพิศโทรศัพท์มาหาสรวงเพื่อขอเลี้ยงต้อนรับสรวง แต่นั่นทำให้สรวงยิ่งรังเกียจภาพิศมากขึ้น และตอบกลับไปอย่างเจ็บแสบ เรื่องนี้ทำให้คุณหญิงสุดาถึงกับร้องไห้ให้สรวงเห็นเจ็บแค้นภาพิศที่กล้าท้าทายตนขนาดนี้ แต่สรวงกลับนึกสนุก คิดว่าเมื่อภาพิศเริ่มตอแยก่อน แทนที่จะหนี ตนน่าจะหาวิธีตอบรับกลับ เพื่อเป็นการแก้แค้นภาพิศ

งานเลี้ยงต้อนรับสรวงถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โต ท่ามกลางแขกเหรื่อและนักข่าวมากมาย สรวงกับสะดุดกับสายตาและท่าทางของนักข่าวสาวคนหนึ่งที่มองมาที่ตน ที่แท้ก็คือกรรณนรีนั่นเอง สรวงสนใจจึงเดินตามกรรณนรีไป จนบังเอิญชนกันที่หน้าห้องน้ำ เครื่องอัดเสียงในมือกรรณนรีหล่นแตกกระจาย สรวงจะชดใช้ค่าเสียหายให้ กรรณนรีรีบปฏิเสธ สรวงจึงทิ้งนามบัตรไว้ให้กรรณนรี ทั้งแววตาและลีลาของกรรณนรีกวนโมโหสรวงเป็นที่สุด ส่วนท่าทางยโสของสรวงก็ทำให้กรรณนรีหมั่นไส้สุดๆ กรรณนรีมาบ่นเรื่องสรวงกับภรตเช่นเคย ภรตรู้สึกไม่ไว้ใจผู้ชายชื่อสรวงเอาเสียเลย

กรรณนรีภาวนาว่าชีวิตนี้คงไม่ต้องพบเจอกับภาพิศอีก แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลก กรรณนรีได้รับมอบหมายจากหัวหน้าให้ไปสัมภาษณ์ภาพิศที่ยอมเปิดบ้านให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เป็นครั้งแรกด้วยหวังให้ตัวเองเป็นที่รู้จักในวงสังคมมากขึ้น กรรณนรีเป็นห่วงความรู้สึกของพ่อ จึงตกลงกับกาวินทร์ว่าจะไม่บอกให้เกริกรู้เรื่องนี้ เมื่อวันนัดสัมภาษณ์มาถึง แวบแรกที่ได้เห็นหน้ากรรณนรี ภาพิศชะงักไปทันที เพราะนักข่าวสาวตรงหน้าละม้ายลูกสาวของตนมาก ส่วนกรรณนรีต้องกลั้นน้ำตาไว้ขณะในใจเรียกร้องหาแม่ ผู้ซึ่งวันนี้งามสง่าเหลือเกิน ภาพที่ภาพิศกอดปลอบทารกหญิงทำให้ทั้งคู่ต่างต้องเบือนหน้าหนีเพื่อซ่อนน้ำตา กระทั่งการสัมภาษณ์เสร็จสิ้นลง เมื่อกรรณนรีลากลับไปแล้ว ภาพิศจึงร้องไห้โฮ สับสนว่านักข่าวคนนั้นใช่กรรณนรีหรือไม่ ด้านกรรณนรีเสียใจอย่างยิ่งที่แม่จำลูกแท้ๆ ของตนเองไม่ได้ กาวินทร์ได้แต่ปลอบน้องสาว

ในวันนั้นภาพิศโทรศัพท์กลับไปบ้านเก่า เบอร์โทรศัพท์ที่ภาพิศไม่เคยลืมเหมือนกับบันทึกอยู่ในความทรงจำของเธออยู่ไม่เปลี่ยนแปลง กาวินทร์รับสาย แต่ภาพิศรีบวางเสียก่อน ภาพิศจึงตัดสินใจลองขับรถผ่านบ้านเก่าหลังเดิม แต่ไม่ได้พบกรรณนรีหรือกาวินทร์อย่างที่หวัง ภาพิศบังเอิญพบสรวงกับสุขหฤทัยในร้านอาหาร จึงถือโอกาสไปแสดงตัวกับสรวงทันที และยังย้ำชัดว่า ตนนามสกุลอริยะวรรต เช่นเดียวกับสรวง สรวงรู้สึกเหมือนถูกฉีกหน้าและเพิ่งได้เห็นวันนี้นี่เองว่า ภาพิศอ่อนหวานและมารยาเก่งอย่างไรจึงได้มัดใจพ่อของตนไว้ได้ สุขหฤทัยไม่ชอบภาพิศเช่นกัน จึงเอาหนังสือเล่มที่ภาพิศให้สัมภาษณ์ให้สรวงดู สรวงอ่านจบพร้อมกับความโกรธ สรวงมาเอาเรื่องกับพลตรีอารักษ์ ซึ่งก็ตกใจเพราะเพิ่งเห็นหนังสือเช่นกัน แต่ยิ่งท่านพลตรีฯ ออกปากปกป้องภาพิศเท่าไหร่ สรวงยิ่งก้าวร้าวด่าว่าภาพิศรุนแรงขึ้นเท่านั้น ก่อนที่ท่านพลตรีฯ จะทนไม่ไหวและเผลอตบหน้าลูกชายอย่างลืมตัว

สรวงกับพบกรรณนรีกับมอเตอร์ไซค์คู่ใจ จึงเข้าไปถามเรื่องค่าเสียหายที่ตนทำเครื่องอัดเสียงของกรรณนรีพังหลายวันก่อน สรวงอดพูดจายียวนกรรณนรีไม่ได้ กรรณนรีบังเอิญทำกระเป๋าเอกสารใบเล็กหล่นโดยไม่รู้ตัว สรวงเก็บได้นำกลับมาเปิดดูและมาสะดุดกับรูปถ่ายของกรรณนรีในวัยเด็ก ที่อยู่ในอ้อมกอดของผู้หญิงคนหนึ่ง สรวงรู้สึกคุ้นหน้าผู้หญิงคนนี้อย่างประหลาด พอดีกับกรรณนรีโทรมาขอกระเป๋าเอกสารคืน สรวงแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น กรรณนรีคิดว่ากระเป๋าไม่ได้อยู่ที่สรวงจริงๆ จึงรีบวางสายไป สรวงทั้งขำทั้งหมั่นไส้ที่กรรณนรีชอบทำท่ายโส สรวงเริ่มสนใจในตัวกรรณนรี ทั้งยังเริ่มสงสัยเรื่องหญิงในรูปอาจจะเป็นภาพิศ ซึ่งนั่นก็แปลว่ากรรณนรีเป็นลูกสาวของภาพิศนั่นเอง

มาลินีบอกกาวินทร์ว่าตนกำลังท้อง กาวินทร์ช็อคไปชั่วครู่เท่านั้น แล้วก็บอกมาลินีอย่างง่ายดายว่าให้ไปเอาเด็กออก มาลินีผิดหวังมาก จึงขอความช่วยเหลือจากกรรณนรี กรรณนรีรับปากว่าจะช่วยพูดกับกาวินทร์ให้ และเย็นนั้นกรรณนรีก็เปิดฉากโต้เถียงครั้งใหญ่กับกาวินทร์ กรรณนรีขู่ว่าจะรับมาลินีเข้ามาอยู่ด้วยกันในบ้านจนไม่อาจทนเถียงกันต่อไปได้อีกต่อไป กรรณนรีเล่าปัญหาที่เกิดขึ้นให้เกริกฟัง และยืนยันจะรับเลี้ยงหลานลูกของกาวินทร์ เกริกรู้นิสัยของลูกสาวดีว่าค้านไปก็ไม่มีประโยชน์ มาลินีซึ้งในน้ำใจของกรรณนรีมาก มาลินียังตั้งใจจะทำงานหาเงินช่วยค่าใช้จ่ายในบ้าน เกริกเองก็ต้อนรับมาลินีอย่างเมตตา และตื่นเต้นอยู่ไม่น้อยที่จะได้เป็นปู่ บ้านที่เงียบเหงาดูมีชีวิตชีวาขึ้น กาวินทร์รู้เรื่องก็โมโหต่อว่ากรรณนรี แต่ก็ไม่สามารถห้ามน้องสาวได้

สรวงโทรนัดกรรณนรีให้มารับกระเป๋าคืน สรวงมองกรรณนรีอย่างดูถูก เพราะมั่นใจว่ากรรณนรีคือลูกของภาพิศ สรวงอยากจะแกล้ง จึงยื่นข้อเสนอให้กรรณนรีไปกินข้าวต่อด้วยฟังเพลงกับตนเพื่อแลกกระเป๋า กรรณนรีอยากได้กระเป๋าคืนเป็นที่สุดจึงตอบตกลง อาหารมื้อนั้นเต็มไปด้วยคำสนทนายียวนกวนอย่างเจ็บแสบ กรรณนรีไม่เข้าใจว่า สรวงลดตัวลงมากินข้าวกับตนเพื่ออะไร สรวงลากกรรณนรีขึ้นรถไปกับตน แล้วเลี้ยวรถเข้าไปจอดในโรงแรมม่านรูด กรรณนรีตกใจเป็นอันมากสรวงนึกดูถูกในใจ ส่วนกรรณนรีเดินตามสรวงเข้าไปในห้องและมองสรวงด้วยสายตาเหยียดแคลน สรวงคืนกระเป๋าให้กรรณนรี คิดว่าที่แท้กรรณนรีก็ถนัดหากินทางลัดเหมือนภาพิศ แต่กรรณนรีกลับสาดเบียร์ใส่หน้าสรวงเป็นการสั่งสอน สรวงแค้นมากที่ถูกหยามอย่างนี้ สรวงคิดจะแก้เค้นกรรณนรี เพื่อที่ภาพิศจะได้รู้สึกเจ็บปวดเสียบ้าง ในฐานะที่มาวุ่นวายและทำลายครอบครัวตน คุณหญิงได้แต่เตือนสรวงให้ระวังหากจะเล่นกับไฟและต่อว่าสรวงทำเหมือนไม่สนใจสุขหฤทัย สรวงบอกปัดว่าขอเวลาศึกษากันไปก่อน

กาวินทร์วางท่าทางเย็นชาและทำเหมือนมาลินีเป็นคนอื่นในบ้าน มาลินียืนยันว่าต่อให้กาวินทร์ไล่ตนก็จะไม่ไปจากบ้านหลังนี้ กาวินทร์โกรธจนตบหน้ามาลินีฉาดใหญ่ ย้ำว่าตนไม่คิดเรื่องแต่งงาน และความคิดนี้ก็บอกมาลินีไปแต่แรกแล้ว มาลินีช็อคน้ำตาไหล รู้ซึ้งวันนี้เองว่ากาวินทร์ไม่มีหัวใจ รักใครไม่เป็น ซ้ำยังเก็บกดอีกด้วย แรงฮึดทำให้มาลินีท้ากาวินทร์กลับด้วยการย้ำว่าตนจะอยู่เป็นหนามตำใจของกาวินทร์เช่นนี้ กาวินทร์ทำอะไรไม่ได้พาลหาเรื่องกับกรรณนรี กรรณนรีมาบ่นกับเกริกที่ตนกับกาวินทร์กลายเป็นคู่กัดกันเสียแล้ว เกริกให้กำลังใจรู้ว่าลูกสาวตั้งใจทำในสิ่งที่ดี

สรวงโทรศัพท์มาประกาศศึกกับกรรณนรี กรรณนรีเริ่มเครียดกับการเตรียมรับมือกับสรวง กรรณนรีเริ่มเดาได้ว่าสรวงอาจรู้แล้วว่าตนเป็นลูกสาวภาพิศ ที่สุดสรวงก็บอกกรรณนรีว่าเขาสืบมาอย่างดีและรู้แน่แล้วว่ากรรณนรีเป็นลูกใคร กรรณนรีทนได้ยินคำว่าเมียน้อยจากปากสรวงไม่ได้จึงด่าว่าสรวงรุนแรงไปยกใหญ่ และไม่ยอมรับว่าภาพิศเป็นแม่ของตน สรวงวางหูไปในใจคิดหาทางแก้แค้นกรรณนรีให้ได้ คุณหญิงมองออกว่าลูกชายกำลังมีเรื่องกังวลใจและปิดบังตนอยู่

สรวงมาดักรอกรรณนรีและเอาชื่อภาพิศมาแกล้งยั่ว และยังเข้าใจว่ากรรณนรีกำลังวางแผนร่วมมือกับภาพิศสร้างความวุ่นวายให้ครอบครัวตน แถมยังพูดย้ำใส่ว่ากรรณนรีจะต้องหาทางรวยทางลัดด้วยการนอนกับผู้ชายเหมือนแม่ กรรณนรีเหวี่ยงมัดชกแต่สรวงหลบทัน ซ้ำยังหัวเราะเยาะใส่ กรรณนรีรู้สึกบีบคั้น ด้านสรวงรู้สึกสะใจที่ได้แก้แค้น และเป็นความบังเอิญที่สุขหฤทัยเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด สุขหฤทัยได้แต่เก็บความสงสัยเกี่ยวกับผู้หญิงอีกคนซึ่งก็คือกรรณนรีไว้ในใจ ขณะที่คุณหญิงพร่ำพรรณนาถึงคุณสมบัติของสุขหฤทัย สรวงกลับคิดถึงแต่ภาพปอนๆของกรรณนรี และสรวงจะให้คุณหญิงรู้เรื่องการแก้แค้นนี้ไม่ได้

ภาพิศโทรศัพท์มาหากรรณนรีนัดกรรณนรีพบเพื่อแสดงตัวเสียที ภาพิศยื่นกล่องของขวัญให้ แต่กรรณนรีรีบเดินหนีออกมาเสีย สรวงเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างและแน่ใจว่าภาพิศกับกรรณนรีกำลังวางแผนกัน สรวงลากกรรณนรีขึ้นรถ ระหว่างที่รถติดไฟแดงนั้น สรวงก็หาเรื่องกรรณนรีตลอดทาง ทั้งคู่ต่อสู้กันในรถ และยังตามมาวิ่งไล่กันต่อริมถนน ที่สุดกรรณนรีทำแสบด้วยการร้องตะโกนว่าสรวงไล่ปล้ำตน สรวงหน้าซีดชะงักไปด้วยความอับอาย แต่เมื่อกลับถึงบ้าน สรวงกลับนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาด้วย ความรู้สึกขบขัน ท่านพลตรีฯ เรียกสรวงมาคุย เพราะรู้ข่าวว่าสรวงกำลังยุ่งกับกรรณนรีอยู่ สรวงตอบกลับอย่างสะใจว่านั่นเป็นเพราะตนอยากได้กรรณนรี ท่านพลตรีฯ สั่งห้ามไม่ให้ไปเกลือกกลั้วกับคนชั้นต่ำกว่า ความเฮี้ยวของกรรณนรีกำลังดึงดูดให้สรวงสนใจและอยากจะตามราวีกรรณนรีต่อไปเรื่อยๆ

พลตรีอารักษ์ติดต่อเรียกกรรณนรีไปพบ กรรณนรีตัดสินใจที่จะไปเพราะอยากยืนหยัดเปิดอกคุยกับผู้ชายคนนี้เสียที คนที่พรากแม่ไปและทำลายครอบครัวของกรรณนรีเสียย่อยยับ กาวินทร์ รีบมาปรึกษาขอความช่วยเหลือจากภรต กาวินทร์ไม่พอใจที่ภาพิศกลับเข้ามายุ่งจนนำพาความวุ่นวายมาสู่กรรณนรี ภรตรีบมาปรึกษาผู้เป็นพ่อ แต่นายแพทย์บุญยิ่ง กลับไม่เดือดร้อนใจที่กรรณนรี จะไปเผชิญหน้ากับ ท่านพลตรีฯ ทั้งยังแนะนำให้ลูกชายกล้าเผชิญหน้าบ้าง ด้วยการบอกความในใจและขอแต่งงานกรรณนรีเสียที

พลตรีอารักษ์กับกรรณนรีนั่งคุยกันที่ร้านอาหาร ท่านพลตรีฯ ออกตัวว่าตนไม่เคยบังคับให้ ภาพิศมาอยู่ด้วย ราวกับจะปัดความรับผิดชอบที่ทำให้ครอบครัวกรรณนรีต้องพังทลาย แต่ กรรณนรีโต้เถียงกลับ ว่า ท่านพลตรีฯ เป็นส่วนสำคัญของเรื่องนี้ ระบายความขมขื่นของครอบครัวตลอดสิบปีที่ผ่านมา แม้จะสะอึกกับคำพูดของกรรณนรี แต่สิ่งที่ท่านพลตรีฯ ต้องการคือ ให้กรรณนรีออกห่างจากสรวง เพราะไม่อยากให้ชีวิตสรวงตกต่ำ และที่สรวงมายุ่งกับกรรณนรี ก็เพื่อแก้แค้นเท่านั้น แต่กรรณนรีกลับเกิดความรู้สึกอยากเอาชนะขึ้นมาทันที จึงบอกท่านพลตรีฯ ออกไปว่าตนรักสรวงเสียแล้ว ท่านพลตรีฯ อึ้งไป กรรณนรี ยิ้มในใจแบบผู้ชนะ เพราะนี่คือหนทางที่ตนจะได้ใช้ สรวง เป็นเครื่องมือแก้แค้นท่านพลตรีฯ ผู้ชายที่กรรณนรีเกลียดที่สุด และกรรรณนีรู้สึกปวดร้าวกับความจริงที่ว่า สรวง ต้องการใช้ กรรณนรี เป็นเครื่องมือแก้แค้นภาพิศเท่านั้น กรรณนรี ไม่อาจปัดสรวงออกไปจากความคิดได้เลย มาลินีเห็นกรรณนรีดูกังวลก็ห่วงใย และให้กรรณนรีระบายกับตนได้เสมอ

สรวงหาเรื่องเจาะยางรถมอเตอรไซค์กรรณนรีเพื่อเธอจะได้ขึ้นรถเขา สรวงไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมจึงได้คิดถึงและอยากเห็นหน้ากรรณนรีจนต้องตามมาดักรอเช่นนนี้ ด้านกรรณนรียิ้มเยาะในใจกับโอกาสที่จะทำให้สองพ่อลูกเจ็บปวดเสียบ้าง กรรณนรีบอกสรวงเรื่องที่ท่านพลตรีฯ จ้างกรรณนรีให้เลิกยุ่งกับสรวง สรวงตกใจแล้วก็ต้องงงอย่างที่สุดเมื่อกรรณนรียอมขึ้นรถสรวงอย่างว่าง่าย และถึงกับชวนสรวงเข้าโรงแรม กรรณนรีระเบิดอารมณ์ที่เก็บกดไว้และประชดแกมท้าทายด้วยการดื่มเหล้าอย่างหนัก ระบายออกมาจนหมดว่าตนเกลียดพ่อของสรวง ที่มาเป็นชู้กับแม่ของตนและทำลายครอบครัวเสียพังทลาย ความรู้สึกของสรวงที่มีต่อกรรณนรีตอนนี้มันอ่อนไหวอย่างประหลาด สรวงเชื่อแล้วว่ากรรณนรีไม่ได้ร่วมมือกับภาพิศอย่างที่ตนคิด สรวงพากรรณนรีมาที่บ้านพักส่วนตัวของเขา และคอยดูแลด้วยความห่วงใยตลอดทั้งคืน ขณะเดียวกันที่บ้านสรวง คุณหญิงสุดากำลังกระวนกระวายใจอย่างหนัก เพราะทราบเรื่องแล้วว่าสรวงไปติดพันอยู่กับลูกสาวของภาพิศ คืนนั้นสรวงยังหายหน้าไปไม่กลับบ้าน กรรณนรีรู้สึกตัวในเช้าวันรุ่งขึ้น สรวงไปส่งกรรณนรีถึงบ้าน ซ้ำยังคอยโทรมาถามอาการกรรณนรีอย่างห่วงใย แต่ยังไม่ทิ้งมาดยียวนในคำพูด

ภาพิศอึดอัดกับเรื่องที่เกิดขึ้นจนต้องระบายให้น้อยฟังถึงเรื่องที่กรรณนรี ตอนนี้สิ่งที่ภาพิศต้องการเพียงได้เห็นกรรณนรียอมรับตนเป็นแม่เท่านั้น ภาพิศตัดสินใจมาที่บ้านเก่าอีกครั้ง พบมาลินีที่เริ่มสวมชุดคลุมท้องแล้ว ภาพิศดีใจมากที่รู้ว่ากำลังจะมีหลานลูกของกาวินทร์ ภาพิศขอพบเกริก ต่างคนต่างนิ่งกันไปนาน ภาพิศ เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดท่วมท้นในใจ เอ่ยขอโทษเกริก เกริกไม่เหลือความรู้สึกค้างคาอะไรกับภาพิศอีกแล้ว เกริกเล่าเรื่องกาวินทร์ที่เกลียดผู้หญิงเพราะภาพิศเป็นต้นเหตุ ขอให้ภาพิศหาวิธีช่วยเยียวยาจิตใจอันบอบช้ำของลูกทั้งสองคน ด้านกาวินทร์ยังยืนยันแข็งขันกับเกริกว่าจะไม่ยอมรับภาพิศ ด้านคุณหญิงสุดาขอร้องให้สรวงรีบหมั้นกับสุขหฤทัย สรวงปฏิเสธและตกใจที่รู้ว่าคุณหญิงทราบเรื่องของตนกับกรรณนรีแล้ว สรวงจึงรีบบอกผู้เป็นแม่ว่านั่นเป็นส่วนหนึ่งในแผนการแก้แค้นของตน คุณหญิงยังอดกลัวไม่ได้ ว่ากรรณนรีจะจับสรวงไว้และสรวงจะดิ้นไม่หลุดเข้าสักวัน

กรรณนรีใจวูบเมื่อเห็นสรวงอยู่กับสุขหฤทัย สุขหฤทัยเดินหนีไปปล่อยให้คนทั้งคู่ไว้ ไม่ทันไรภาพิศกับท่านพลตรีฯ ก็ควงกันมาอีกคู่ ทำให้บรรยากาศนั้นน่าอึดอัดยิ่งขึ้นไปอีก สรวงแกล้งท่านพลตรีฯ ด้วยการเล่นบทจู๋จี๋โอบเอวกรรณนรีอย่างสนิทสนม ภาพิศเป็นห่วงกรรณนรีที่สุด ว่าสรวงจะไม่จริงใจกับกรรณนรี ภาพิศจึงมาเตือนกรรณนรี กรรณนรีแกล้งตอบไปว่าตนกับสรวงรักกันและจะคบกัน

กรรณนรีโมโหที่สรวงมาดักรออีกแล้ว สรวงพากรรณนรีมาที่คอนโดหรูของตน แกล้งยื่นข้อเสนอยกคอนโดนี้ให้แลกกับการเป็นเมียเก็บของตน กรรณนรีโกรธจัดตบหน้าสรวงเต็มแรง สรวงได้จังหวะก้มลงจูบอย่างรุนแรง กรรณนรีตกใจ รู้สึกโดนดูถูกเหยียดหยามจึงระบายความขมขื่นออกมาเสียสิ้น กรรณนรีล้มลงหมดสติ เมื่อรู้ตัวอีกครั้งก็พบสรวงกุมมือตนอยู่ข้างๆ สรวงบอกว่าจะไม่มีใครทำร้ายกรรณนรีอีกแล้ว สรวงพากรรณนรีไปหาหมอและอุ้มกรรณนรีมาส่งถึงข้างในบ้าน เกริกตกใจและแปลกใจ กาวินทร์พรวดพราดเข้ามาชกสรวงจนล้มคว่ำกรรณนรีไล่สรวงกลับไป เกริกมองออกว่าสรวงดูมีความจริงใจกับกรรณนรี

สรวงขอแหวนของคุณหญิงมาสวมให้กรรณนรี รอยยิ้มของสรวงทำให้กรรณนรีกลัวใจตัวเอง กาวินทร์ว่าสรวงคงชอบกรรณนรีจริง ๆ และให้กรรณนรีระวังตัวจะหนีสรวงไม่พ้น สรวงเองก็ถูก ท่านพลตรีฯ ซักเรื่องสุขหฤทัย สรวงจึงได้โอกาสยืนกรานว่าตนไม่ได้รักสุขหฤทัย ท่านพลตรีฯ ขอให้คุณหญิงรวบรัดการแต่งงานเพราะกลัวกรรณนรีจะมาจับสรวง และยังเห็นว่าสุขหฤทัยควงฝรั่งสนิทสนมหน้าตาเฉย ท่านพลตรีฯ ยังไปย้ำกับภาพิศให้แยกกรรณนรีกับสรวงออกจากกันให้ได้ ภาพิศไม่พอใจที่ท่านพลตรีฯ ดูถูกกรรณนรีจึงได้เถียงกลับอย่างที่ภาพิศไม่เคยกล้ามาก่อน ท่านพลตรีฯ ตบหน้าภาพิศฉาดใหญ่ แต่ภาพิศต้องการเพียงอย่างเดียวคือปกป้องกรรณนรี ท่านพลตรีฯ ยังเห็นภาพิศและกรรณนรีเป็นชนชั้นต่ำกว่าพวกตน ภาพิศโกรธมากที่ท่านพลตรีฯ ตัดสินคนเอาง่ายๆ เช่นนี้ ท่านพลตรีฯ พลั้งปากไล่ภาพิศไป ภาพิศไม่คร่ำครวญร้องไห้แม้แต่น้อย ตอนนี้ภาพิศต้องการเป็นเพียงนุดี แม่ของกรรณนรีกับกาวินทร์แม่ที่พร้อมจะปกป้องลูกให้ถึงที่สุดเท่านั้น ภาพิศอยากพบกาวินทร์ เพราะรู้ว่าตนเป็นสาเหตุทำให้กาวินทร์เกลียดผู้หญิงไปหมดทั้งโลก ภาพิศมาช่วยดูแลมาลินี และเมื่อพบกับกาวินทร์ ภาพิศพยายามอ้อนวอนกาวินทร์พยายามขอโทษ กาวินทร์ยังใจแข็ง มาลินีเข้าช่วยพูดแต่กลับถูกผลักจนล้มลงไป กาวินทร์รู้สึกตัวรีบเข้าไปประคองมาลินี แต่เขาต้องตกใจแทบบ้าเมื่อเห็นเลือดไหลเป็นทางยาว วินาทีที่กาวินทร์เกือบสูญเสียลูกไปทำให้กาวินทร์ได้คิด กาวินทร์สำนึกและขอโทษที่ทำร้ายจิตใจมาลินี มาลินีอภัยให้กาวินทร์ ทั้งสองจึงได้เข้าใจกันและกัน ในที่สุดสรวงกับกรรณนรีมาถึงพอดี ภาพิศมีโอกาสได้ต่อว่าสรวงตามลำพัง สรวงตอกกลับว่าที่ตนทำก็เพราะแค้นภาพิศ ที่มาทำลายความสุขของครอบครัวและกรรณนรีก็คงไม่ต่างจากแม่ กรรณนรีได้บังเอิญได้ยินก็อึ้งแต่ก็เงียบไว้ กรรณนรีชวนสรวงให้ออกไปด้วยกัน โดยไม่ฟังเสียงห้ามของภาพิศ

ภาพิศนั่งรถกลับมากับเกริก เจ็บปวดที่ไม่มีลูกคนไหนยอมรับตนเป็นแม่ ซ้ำยังไม่รู้จะปกป้องกรรณนรีจากสรวงได้อย่างไร เกริกมองออกว่ากรรณนรีรักสรวง ภาพิศตกใจที่รู้เช่นนั้น ด้านสรวงเห็นว่ากรรณนรีซึม ๆ ไปจึงพากรรณนรีมาที่บ้านพักริมทะเลเพื่อคลายเครียด ทั้งสองต่างชัดเจนในความรู้สึกที่มีให้กันและกัน ด้วยบรรยากาศก็ทำให้ทั้งคู่เผลอปล่อยตัวปล่อยใจไปตามความปรารถนาลึก ๆ แต่สำหรับกรรณนรีนี่จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย เพราะจากนี้กรรณนรีจะหนีไปให้ไกล ไม่กลับมาพบหน้าสรวงอีก สรวงตื่นมาไม่พบกรรณนนรี มีเพียงโน้ตบอกลา พร้อมกับแหวนที่สรวงเคยให้วางทิ้งไว้ สรวงถึงกับทรุดลงกับพื้น รู้ตัวแล้วว่ารักกรรณนรีเต็มหัวใจ

ภาพิศมากราบลาท่านพลตรีฯ เป็นครั้งสุดท้าย ฝากขอโทษคุณหญิงสุดา และฝากลูกสาวตัวน้อยให้ท่านพลตรีฯ ดูแล ท่านพลตรีฯ ยังอาลัยในตัวภาพิศแต่ก็ยินดีกับทางที่ภาพิศเลือก ภาพิศตัดสินใจบวชชี กาวินทร์รู้สึกผิดอย่างมากและเป็นครั้งแรกที่เอ่ยเรียกภาพิศว่า “แม่” ทำให้หัวใจของภาพิศเต็มตื้นที่สุด เธอต้องการเพียงเท่านี้จริง ๆ กรรณนรีมาหาภรตเพื่อบอกเรื่องที่ตนลาออกและจะไปอยู่เชียงใหม่กับเพื่อน ภรตขอกรรณนรีแต่งงาน แต่กรรณนรีรักภรตอย่างพี่ชายเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังดีใจที่ได้บอกความรู้สึกของตนเองให้กรรณนรีได้รู้ กรรณนรียังมีความรู้สึกดีๆ ให้ภรตเสมอ ถึงแม้จะไม่ใช่ในฐานะที่เขาหวังไว้ก็ตาม

ทุกคนในบ้านตกใจกับการไปของกรรณนรี ขณะเก็บข้าวของกรรณนรีสารภาพกับเกริกว่าตนรักสรวง และนั่นทำให้กรรณนรีต้องไปเสีย พอดีกับที่เพื่อนของเกริกจะขึ้นไปเชียงใหม่ เกริกจึงให้กรรณนรีติดรถไปด้วย กรรณนรีร้องไห้ขณะเกริกอวยพรลูกสาวให้โชคดี กาวินทร์กับมาลินีมาแปลกด้วยการอวยพรน้องสาวอย่างยิ้มๆ ในรถคันนั้นบนที่นั่งคนขับปรากฏเป็นชายสวมหมวกใบใหญ่และแว่นกันแดดปิดบังหน้า กรรณนรีก้าวขึ้นนั่งด้านหลังรถ ปล่อยตัวเองให้ร้องไห้สะอึกสะอื้น ชายผู้นั้นยื่นผ้าเช็ดหน้ามาจากด้านหน้าพร้อมกับเสียงที่คุ้นเคย กรรณนรีสะดุดกับเสียงนั้น เมื่อเงยหน้ามองก็พบว่าเป็นสรวงนั่นเอง สรวงจอดรถและดึงกรรณนรีมากอดเสียแน่น สรวงสัญญาต่อกรรณนรีว่าต่อไปนี้จะไม่มีไฟจากมารอีกแล้ว จะมีก็แต่เพียงไฟรักที่มันจะหล่อหลอมหัวใจของเขาและกรรณนรีเข้าด้วยกันเท่านั้น กรรณนรียิ้มทั้งน้ำตา

แสบสลับขั้ว 2555

เรื่องย่อ : แสบสลับขั้ว (2555/2012) เมื่อโชคชะตาเล่นตลกจับ “ตัวแสบขาแวนซ์ระดับเทพ” สลับร่างกับ “คุณชายจอมเนี้ยบตัวพ่อ” ความสุดขั้วของ 2 ตัวแสบ ทำให้เกิดเรื่องโกลาหลอลหม่านทั้งเรื่องการงานและความรัก

ณ ชุมชนพัฒนาสู่สุขาวดี ชุมชนเล็กๆที่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ เป็นที่สิงสถิตย์ของ เซียน (ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์) ชายไทยวัยเกือบ ๓๐ แต่มีพฤติกรรมราวกับทีนเอจเจอร์ (Teenager) หรือเรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่า “ผู้ใหญ่ไม่รู้จักโต”

วันๆ เซียนเอาแต่แต่งรถมอเตอร์ไซค์ ค่ำๆ ก็ออกแวนซ์กับเด็กแถวบ้าน ถึงแม้อายุจะต่างกันเกือบเท่าตัว แต่เซียนก็ไม่หวั่น ตะบี้ตะบันไร้สาระไปวันๆ เป็นที่หนักใจของ ป้าสายไหม (ราตรี วิทวัส) พี่สาวพ่อผู้รับหน้าที่อุปการะเซียน หลังจากกำพร้าพ่อแม่จากอุบัติเหตุทางเรือตั้งแต่เด็ก สายไหมต้องปากเปียกปากแฉะกับการพร่ำบ่นเซียนตลอดเวลา ตอนเป็นนักเรียนก็เรียนไม่เอาไหน โตขึ้นก็ไม่หางานทำเป็นเรื่องเป็นราว เปลี่ยนงานเป็นว่าเล่น จนสุดท้ายมาลงเอยอยู่ที่วินมอเตอร์ไซค์หน้าปากซอยเป็นงานอดิเรก สายไหมเหนื่อยใจกับความไม่รับผิดชอบของหลานชายคนเดียวอย่างสุดระอา อยากจะไล่ออกจากบ้านหลายครั้ง แต่หลานชายตัวดีใช้คารม บวกอารมณ์ขัน ทำให้สายไหมใจอ่อน ต้องยอมเลี้ยงดู (มัน) ต่อไป

นอกจากสายไหมที่หลงคารมเซียนแล้ว สายพิณ หรือ พิณ (อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) เด็กสาวรุ่นน้องข้างบ้านที่โตตามกันมายังเป็นอีกหนึ่งคนที่แอบปลื้มกับอารมณ์ขันของเซียน สายพิณเป็นหญิงสาววัยใส แสนดี อ่อนหวาน ตัวเล็กๆ น่ารัก เป็นเหมือนดอกไม้แสนสวยที่แอบซ่อนอยู่ในชุมชนแออัด สายพิณเป็นเด็กกำพร้าเหมือนเซียน อาศัยอยู่กับ ยายปิ่น คู่หูคู่ฮาของป้าสายไหม สายพิณอยู่บ้านติดกับเซียน ด้วยความใกล้ชิดทำให้สายพิณคิดกับเซียนเกินพี่ชาย แต่เซียนกลับไม่เคยเห็นเธอเป็นอื่น นอกจากน้องสาวแสนน่ารัก น่าทะนุถนอม สายพิณจำต้องเก็บความรักไว้ในใจไม่เคยบอกใคร ด้วยความไม่เจียมกะลาหัว เซียนดั๊นไปแอบชอบ น้ำเพชร (ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์) ลูกสาว เติมศักดิ์ หรือ เฮียเติม (พิพัฒน์พล โกมารทัต) และ เจ๊กิมฮวย (ณหทัย พิจิตรา) ผู้ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น สมรศรีมณีฉาย ในภายหลัง

น้ำเพชรเป็นลูกสาวร้านทองหน้าชุมชนหมอเล้ง จบการบริหารมาจากออสเตรเลีย ปัจจุบันเป็นเลขานุการให้กับ ปลาใหญ่ หรือ คุณใหญ่ (ธันวา สุริยจักร) นักธุรกิจหน้าใหม่ไฟแรง (มั่กๆ) อายุยังไม่ทันก้าวข้ามมาเลข ๒ จำต้องมารับช่วงกิจการของตระกูลมหาทรัพย์รุ่งเรืองกิจ น้ำเพชรเป็นเลขาหน้าใหม่ เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้ไม่นาน น้ำเพชรแอบชอบปลาใหญ่เจ้านายหน้าใส แต่ด้วยวัยที่ต่างกัน ประกอบกับความเคร่งขรึม จริงจัง เฮี้ยบ เนี้ยบ กริบ ทำให้น้ำเพชรไม่กล้าแสดงออก ได้แต่เก็บอาการแอบชอบอยู่ในใจลึ๊ก…ลึก !!

ถ้าเทียบระหว่างเซียนและปลาใหญ่ มันช่างแตกต่างและห่างไกลราวกับสรวงสวรรค์และแกนโลก ไม่ว่าเซียนจะพยายามตามจีบน้ำเพชรสักแค่ไหน แม้แต่ปลายหางตาเธอยังไม่เคยจะแลมาสักครั้งเดียว ปลาใหญ่เป็นลูกชายคนเดียวของ เกรียงไกร มหาทรัพย์รุ่งเรืองกิจ (วันชัย เผ่าวิบูลย์) เจ้าของโรงงานทอผ้าไหมรายใหญ่ของประเทศไทย เกรียงไกรเสียภรรยาตั้งแต่ปลาใหญ่มีอายุได้เพียง ๓ ขวบ เขาส่งลูกชายคนเดียวไปอยู่โรงเรียนประจำที่ประเทศอังกฤษ และกำลังจะเข้าศึกษาปริญญาตรี ปลาใหญ่ถูกเรียกตัวกลับมาประเทศไทยอย่างกะทันหัน เพราะเกรียงไกรเส้นโลหิตในสมองแตกจากความเครียด เขาเสียชีวิตหลังจากที่เห็นหน้าลูกชายเพียงไม่กี่นาที การจากไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของปลาใหญ่พบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ

ปลาใหญ่ต้องรับตำแหน่งประธานกรรมการบริหารบริษัทมหาทรัพย์รุ่งเรืองกิจกรุ๊ป ในขณะเพียง ๑๙ ปี ไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้จักใครสักคน คนที่เขาพอจะไว้ใจได้คือ พ่อบ้านครรชิต (เกริก ชิลเล่อร์) คนเก่าแก่ผู้ซื่อสัตย์ที่คอยดูแลปลาใหญ่และพ่อ ครรชิตเป็นเสมือนพี่เลี้ยงที่อยู่เคียงข้างปลาใหญ่ในขณะขึ้นชกในสังเวียนธุรกิจที่แสนจะโหดร้าย โดยเฉพาะต้องคอยรับมือกับการสกัดดาวรุ่งของ เกริกก้อง (อัมรินทร์ สิมะโรจน์) น้องชายพ่อ ที่ต้องการฮุบกิจการเป็นของตัวเอง เกริกก้องไม่พอใจที่พี่ชายแต่งตั้งหลานชายปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมมาดูแลธุรกิจที่ก่อร่างสร้างกันมา เขาพยายามกลั่นแกล้ง และบีบบังคับให้ปลาใหญ่ขายหุ้นให้เขา แต่ไม่สำเร็จ ปลาใหญ่ยืนยันที่จะดูแลธุรกิจของพ่อด้วยตัวเอง เกริกก้องยิ่งไม่พอใจ หาทางดัน รัญญา หรือ รัน (ฐิตินันท์ สุวรรณถาวร) ลูกสาวคนเดียวขึ้นมาเทียบชั้นกับปลาใหญ่

รัญญาเป็นสาวเก๋ที่เพียบพร้อมทุกอย่าง จบการศึกษาด้วยคะแนนดีเยี่ยม เรียนรู้งานมาตั้งแต่เด็ก รัญญาได้เปรียบปลาใหญ่ในทุกๆ ด้าน นอกจากปลาใหญ่ต้องเจอกับการเปรียบเทียบกับรัญญาแล้วยังต้องปวดหัวกับ จันทร์ทิพย์ ภรรยาของเกริกก้องที่คอยสร้างความปั่นป่วนภายในบ้านไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งจ้างคนใช้สืบข้อมูลส่วนตัวของปลาใหญ่ และคอยสาระแนตีสองหน้าทำเป็นหวังดี แต่จริงๆ ร้ายสุดขั้ว ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองและครอบครัวได้เป็นใหญ่

ปลาใหญ่ต้องต่อสู้กับตัวเอง และต่อสู้กับศัตรูที่อยู่ในครอบครัวเดียวกัน ทำให้เขาเป็นเจ้านายที่สุดแสนเคร่งขรึม และอารมณ์ร้ายได้อย่างง่ายดาย ต่อมเหวี่ยงทำงานดีเป็นพิเศษ จนได้รับฉายา “คุณหนูอารมณ์เหวี่ยง” เลขากี่คนๆก็ไม่เคยรอด ภายในเวลาแค่ ๓ เดือน เปลี่ยนเลขามา ๑๒ คน และน้ำเพชรเป็นคนที่ ๑๓ หมายเลขสุดอาถรรพ์ แต่ด้วยความประทับใจส่วนตัวที่มีต่อเจ้านายสุดหล่อหน้าใส ทำให้น้ำเพชรกัดฟันทนทุกสิ่งอย่าง เข้าทำนองถึงร้ายก็รัก เซียนมีโอกาสได้เจอกับปลาใหญ่โดยบังเอิญ เพราะน้ำเพชรลืมเอกสารสำคัญไว้ที่บ้าน กิมฮวย เลยต้องจ้างเซียนให้เอาเอกสารไปให้ แวบแรกที่เจอกัน เซียนสุดหมั่นไส้ (แกมอิจฉา) เพราะปลาใหญ่ทั้งหล่อ ใส รวย และยังได้ทำงานใกล้ชิดน้ำเพชรอีกต่างหาก

เซียนแอบหึงทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นแฟน ปลาใหญ่เห็นว่าเซียนมีท่าทีสนิทสนมกับน้ำเพชร จึงเข้าใจผิดคิดว่าทั้งสองคนเป็นแฟนกัน ปลาใหญ่เตือนให้น้ำเพชรอบรมสั่งสอนแฟน เพราะเซียนแสดงความรุ่มร่ามแอบทรามเล็กน้อยออกมาโดยไม่รู้ว่าปลาใหญ่เป็นเจ้านาย น้ำเพชรแทบกรี๊ดและพยายามจะอธิบายความจริง แต่ปลาใหญ่ไม่สนใจฟัง ทำให้น้ำเพชรยิ่งเกลียดเซียนเข้าไส้สั่งให้เขาอยู่ห่างจากเธอมากที่สุด เซียนถึงกับน้ำตาตกในและหมั่นไส้ (ไอ้) เจ้านายขี้เก๊กมากเป็นทวีคูณ เซียนกลับมาระบายกับสหายเลิฟที่วินมอเตอร์ไซค์ด้วยความแค้นใจ สหายของเซียนประกอบไปด้วย ป๋อง (ชูษี เชิญยิ้ม) ชายไทยวัยเกือบ ๒๐ ร่างใหญ่ มีน้ำใจ กลัวผี มีฝีมือด้านทำอาหารเป็นเลิศ มอมแมม (วิชญ จารุจินดา) ชายไทยร่างเล็ก ขี้ท้า…ท้าไปทั่ว แต่จริงๆเป็นคนขี้กลัวที่สุด ชายสี่ (นพพล พิทักษ์โล่พานิช) เป็นคนที่ดูดี มีหลักการ แต่จริงๆแล้วมั่ว ทั้งสามคนเป็นน้องรักของเซียน ขอให้เป็นเรื่องไร้สาระเข้าไว้…ถึงไหนถึงกัน!

หลังจากระบายความเคียดแค้นจนสาแก่ใจ เซียนประกาศอย่างกึกก้องว่าชาตินี้จะไม่ขอไปเหยียบที่ทำงานปลาใหญ่อีก และถ้ารวยกว่าเมื่อไหร่จะซื้อกิจการของปลาใหญ่ให้หมด !! ป๋อง มอมแมม และชายสี่ หรือแม้แต่ตัวเซียน รู้ว่ามันเป็นคำท้าทายที่สุดแสนจะห่างไกลความเป็นไปได้ ต่อให้เซียนเกิดใหม่อีกร้อยกว่าชาติก็ไม่มีทางจะรวยกว่าปลาใหญ่เด็ดขาดแต่แล้ว..เหตุการณ์สุดพิลึกพิลั่นก็พลันเกิดขึ้น…

เมื่อปลาใหญ่มีเหตุต้องรีบขับรถออกจากบ้านเพื่อไปงานสำคัญ ในขณะที่เซียนต้องมาส่งเอกสารให้กับลูกค้าในบริเวณใกล้เคียงกัน เซียนบิดมาอย่างเร็ว ทันใดนั้นเอง มีเด็กขี่รถจักรยานพรวดออกมานอกถนน และล้มลงตรงหน้าเซียนในระยะกระชั้นชิด เซียนตัดสินใจหักรถหลบออกโดยไม่ระวัง รถที่ตามหลังมาชนเข้าอย่างจัง ร่างเซียนลอยละลิวปลิวมาตกลงข้างถนน สลบเมือดไปทันที !! ในเวลาเดียวกัน ปลาใหญ่ขับรถอยู่อีกถนนด้วยความเร็วสูง ทันใดนั้นก็มีรถออกปาดหน้าเข้ามาอย่างเร็ว ทำให้ปลาใหญ่ต้องรีบหักหลบกะทันหัน รถเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า ทั้งปลาใหญ่และเซียนอยู่ในอาการโคม่า และถูกพาส่งโรงพยาบาลเดียวกัน !! ในวินาทีแห่งชีวิตที่คาบเกี่ยวระหว่างความเป็นกับความตาย ทั้งสองคนถูกเครื่องกระตุ้นหัวใจกระชากจิตและวิญญาณเข้าสู่ร่าง…ฟึ่บบบบบ !!

เซียนและปลาใหญ่รู้สึกตัวขึ้นในเวลาเดียวกันอย่างปาฏิหาริย์ แต่สิ่งที่มหัศจรรย์พันลึกยิ่งกว่านั้น คือ ทั้งสองคนค้นพบว่าร่างที่ตัวเองกำลังดำรงอยู่นั้น…มันไม่ใช่ร่างของตัวเอง วิญญาณของปลาใหญ่ดั๊นอุตริเข้าไปอยู่ในร่างของเซียน และวิญญาณของเซียนทะลึ่งเข้าไปอยู่ในร่างของปลาใหญ่

ทันทีที่ทั้งสองคนรู้สึกตัวและค้นพบความจริงอันแสนพิสดาร ทั้งเซียน (ที่อยู่ในร่างของปลาใหญ่) และปลาใหญ่ (ที่อยู่ในร่างของเซียน) สุดแสนจะช้อค !! (โอ้ว..แม่เจ้าเป็นไปได้อย่างไร???)

ปลาใหญ่รีบบุกมาหาเซียนทันที ในขณะที่เซียนยังมึนๆ อยู่ ปลาใหญ่พยายามจะเขย่าให้วิญญาณของเซียนออกจากร่างตัวเอง ทันใดนั้น น้ำเพชรเข้ามาเห็นพอดี๊…พอดี รีบเข้ามากระชากปลาใหญ่ออกจากเซียน พร้อมกับด่ากระจายไล่ให้ปลาใหญ่ออกไปไกลๆ จากเซียน (เพราะไม่รู้ว่าทั้งสองคนสลับร่างกันอยู่) ปลาใหญ่พยายามจะอธิบาย แต่ยิ่งพูด น้ำเพชรยิ่งคิดว่าเขาบ้า เซียนได้ทีรีบสวมรอยเป็นปลาใหญ่ทันที และไล่ปลาใหญ่ออกไป ทำให้ปลาใหญ่แค้นสุดๆ เขาจะต้องหาทางกลับคืนสู่ร่างเดิมให้ได้

หลังจากการสลับร่างที่สุดแสนพิลึกกึกกือเริ่มต้นขึ้น ชีวิตของเซียน (ในร่างปลาใหญ่) และชีวิตของปลาใหญ่ (ในร่างเซียน) ก็ต้องพบกับความโกลาหลอลหม่านมากมาย เรียงหน้ากระดานเข้ามาจนรับแทบไม่ไหว เซียนตื่นเต้นกับความรวยได้ไม่นาน เขาก็ค้นพบว่าชีวิตมหาเศรษฐีหมื่นล้านสุดแสนจะน่าเบื่อ งานก็หนัก ต้องมีประชุมมากมาย ประชุมแต่ละทีก็มีแต่เรื่องเครียด คิดหัวแตกก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้สักอย่าง เอกสารที่ต้องเซ็นก็มีนับไม่ถ้วน และไม่ว่าเขาจะเซ็นสักกี่ครั้ง ก็เซ็นไม่เหมือน เช็คไม่ผ่าน ทั้งบริษัทวุ่นวายไปหมด ยิ่งไปกว่านั้น…ทั้ง เกริกก้อง จันทร์ทิพย์ (ชัชฎาภรณ์ ธนันทา) และ รัญญา ยังหาเรื่องเขาไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งเรื่องทำให้เสียหน้า ทำให้เสียชื่อเสียง เสียความน่าเชื่อถือ จนเซียนแทบจะอยากออกจากร่างเศรษฐีหมื่นล้าน แล้วกลับไปเป็นไอ้เซียนคนเดิม

สิ่งเดียวที่ทำให้เซียนมีความสุข คือการได้อยู่ใกล้น้ำเพชร ราวกับความฝันที่เขาไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นจริง เซียนใช้ความเป็นปลาใหญ่หาโอกาสอยู่กับน้ำเพชรสองต่อสอง ใช้หน้าที่การงานไปหาเธอที่บ้าน อ้างว่ามีงานด่วน แล้วไปโชว์รวยต่อหน้าเติมศักดิ์และกิมฮวยด้วยความสะใจ แรกๆน้ำเพชรก็ตื่นเต้นที่เจ้านายสุดที่รักดูเหมือนจะมีใจให้อย่างคาดไม่ถึง แต่หลังๆ เธอเริ่มรู้สึกว่ามันมากจนผิดสังเกต ประกอบกับบุคลิกภาพก็แตกต่างราวกับคนละคน ยังไง๊…ยังไง มันก็ไม่ใช่คุณปลาใหญ่ที่เธอเคยรู้จัก แต่มันช่างคลับคล้ายคลับคลากับ (ไอ้)เซียนเสียเหลือเกิ๊น…(ยังไงกันเนี่ย?) แต่ในความต่างมันกลับทำให้เธอมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ทั้งอารมณ์ขันและคารมที่สุดแสนจะลื่นไหล ทำให้เธออารมณ์ดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ทางด้านปลาใหญ่ (ตัวจริง) พยายามจะหาทางบอกความจริงกับทุกคนที่อยู่รอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นป้าสายไหม ยายปิ่น สายพิณ มอมแมม ชายสี่ ป๋อง ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า “เซียนสมองเสื่อม” หลงว่าตัวเองเป็นเศรษฐีหมื่นล้าน เจ้าของโรงงานผ้าไหมอันโด่งดัง ยิ่งปลาใหญ่อธิบาย ทุกคนก็ยิ่งคิดว่าสมองเขาผิดปกติ เขาจึงเลือกที่จะหยุดและหาทางพิสูจน์ด้วยวิธีอื่น ปลาใหญ่พยายามติดต่อน้ำเพชรที่บ้าน และขอให้เธอช่วย แต่น้ำเพชรกลับไล่ตะเพิดราวกับเขาเป็นไอ้โรคจิต ทำให้เขารู้ว่าน้ำเพชรไม่ได้เป็นแฟนกับเซียนแต่เธอแอบชอบเขา และปลาใหญ่ก็ต้องช็อกหนักเมื่อรู้ว่าเซียนแอบชอบน้ำเพชร และใช้ร่างของเขาตามจีบน้ำเพชร ปลาใหญ่อาละวาดใส่เซียน พยายามจะให้เซียนยอมรับว่าเกิดการสลับร่าง แต่เซียนทำเนียนไม่ยอมรับ แถมยังด่าว่าปลาใหญ่เพี้ยน น้ำเพชรยิ่งไม่พอใจและไล่ปลาใหญ่กลับไป พร้อมทั้งให้ตำรวจมาเฝ้าหน้าบ้านเพื่อป้องกันไม่ให้เขาเข้าใกล้เธอ

ปลาใหญ่เปลี่ยนเป้าไปที่ครรชิต เขาพยายามขอพบครรชิตเพื่อบอกความจริง แต่โดนเซียนกลั่นแกล้งสารพัด ทำให้ทั้งสองคนไม่ได้เจอกัน เซียนติดรูปตัวเองไว้หน้าโรงงาน และหน้าบ้าน ห้ามไม่ให้เข้ามาใกล้ทุกคนที่อยู่แวดล้อมและครรชิตอย่างเด็ดขาด ความแสบของเซียนทำให้ปลาใหญ่สุดเครียด โดยเฉพาะเวลาเห็นข่าวความเสียหายของบริษัทที่ออกมาไม่เว้นแต่ละวัน ปลาใหญ่รู้ทันทีว่าเป็นฝีมือของเกริกก้อง จันทร์ทิพย์ และรัญญา แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหนก็ไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นแม้แต่คนเดียว เว้นแต่…สายพิณ

เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่รู้ว่าเซียนเปลี๊ยนไป ดูเงียบ ขรึม จริงจัง และไม่ออกไปไร้สาระกับสามสหาย ที่สำคัญ ยังมีความรู้และมีรสนิยมดีอย่างแปลกประหลาด ปลาใหญ่สุดดีใจ ถึงแม้สายพิณพูดได้ไม่เต็มปากว่าเธอเชื่อเรื่องการสลับร่าง แต่เธอยินดีจะช่วยเขาค้นหาความจริง และกลับคืนสู่ร่างเดิม ด้วยวัยที่ใกล้เคียงกัน และความอ่อนหวานบวกกับน้ำใจอันดีของสายพิณ ทำให้ปลาใหญ่รู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ได้คุยกับเธอ และทุกครั้งที่เขามีเรื่องกลุ้มใจ คนแรกที่เขาคิดถึง คือเธอ ผู้หญิงแสนธรรมดา ฐานะค่อนข้างยากจน คนที่เขาคงไม่มีโอกาสได้พบ ถ้ายังคงเป็น “คุณปลาใหญ่” ไฮโซฯ หมื่นล้าน แต่ปลาใหญ่ต้องแอบจ๋อยๆ …เมื่อรู้ว่าสายพิณแอบชอบพี่เซียน และที่เธอช่วยเขาเพราะต้องการได้พี่ชายสุดเลิฟคนเดิมกลับคืนมา

ทางด้านเซียน เริ่มเครียดหนักพอกัน เพราะตลอดเวลาที่อยู่ในร่างปลาใหญ่ เขาไม่สามารถทำงานที่ปลาใหญ่เคยทำได้ ประกอบกับน้ำเพชร ครรชิต เกริกก้อง รัญญา และจันทร์ทิพย์ เริ่มระแคะระคายว่าเขาเปลี๊ยนไป ในขณะที่เซียนกำลังเครียด เขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าสายพิณเข้ามาทำงานเป็นพนักงานของโรงงานผ้าไหม เซียนลืมตัว แสดงความดีใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด ทำให้สายพิณยิ่งปักใจ แต่เมื่อเธอซักไซ้ เซียนกลับไม่ยอมรับและเอาตัวรอดไปอย่างกะล่อน สายพิณยอมเข้าไปทำงานในโรงงานเพื่อหาช่องทางช่วยปลาใหญ่ และเธอยังพยายามอธิบายให้สามสหาย ป๋อง มอมแมม และชายสี่ รวมทั้งสายไหมและปิ่น เห็นใจปลาใหญ่ จนทุกคนเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงด้วยตัวเอง เพราะความเฮฮาไร้สาระไม่เคยปรากฏหลังจากเซียนประสบอุบัติเหตุ แถมยังพูดจาดูดีมีการศึกษาหลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะตอนบอกทางฝรั่งด้วยภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว ทุกคนปักใจทันทีว่า…คนที่ยืนอยู่ข้างหน้า ไม่ใช่เซียนแน่นอน !!

ปลาใหญ่เปิดใจเล่าทุกเรื่องให้ทุกคนฟัง โดยเฉพาะเรื่องอันตรายที่เซียนอาจจะได้รับจากเกริกก้องและรัญญา เพราะทั้งสองคนร้ายกาจมากพอที่จะคิดกำจัดเขาเพื่อหวังฮุบโรงงาน ทั้ง ๕ คนจึงตัดสินใจช่วยปลาใหญ่ลากตัวเซียนมายอมรับความจริงและหาทางสลับร่างคืนดั่งเดิม ด้วยความร่วมมือของสายพิณ มอมแมม ป๋อง และชายสี่ ทำให้พวกเขาได้ตัวเซียนมา และเค้นจนเซียนต้องยอมรับอย่างหมดสภาพ พร้อมกับขอร้องให้ปลาใหญ่ช่วยเทรนด์ให้ตัวเองเป็น “คุณปลาใหญ่” ให้ได้ แต่ปลาใหญ่ไม่ยอม เขาต้องการกลับคืนร่างดังเดิมเท่านั้น เซียนจำใจต้องยอมเพราะไม่มีทางออกอื่น

ปิ่น (ปนัดดา โกมารทัต) และสายไหมเป็นเจ้าภาพฝ่ายพิธีการ ทั้ง ๒ คน พยายามหาวิธีเพื่อเรียกวิญญาณกลับคืนร่าง ทำหมดทุกวิธี ทั้งไสยศาสตร์ พุทธศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ (ชาวบ้าน) แต่ไม่สัมฤทธิ์ ไม่ว่าจะใช้ศาสตร์ทางด้านไหน ทั้งสองคนก็ไม่ยอมกลับคืนร่างตัวเอง จนยายปิ่นสรุปปิดท้ายว่า “มันคงเป็นเวรกรรมที่ทำให้เป็นแบบนี้ ไม่มีวิธีอื่น เมื่อหมดกรรมแล้ว ก็คงจะได้กลับคืนร่างเดิม” บทสรุปยายปิ่น ทำให้ปลาใหญ่ถึงกับอึ้ง มึน และหมดหวัง ต่างกับเซียนที่ใช้ความกะล่อนหว่านล้อมให้ปลาใหญ่ยอมรับสภาพ แล้วช่วยเขาสวมบทบาทคุณหนูหมื่นล้านให้แนบเนียนที่สุด เพื่อดำเนินธุรกิจที่สุดป่วนอยู่ในตอนนี้ พร้อมทั้งหาทางกำจัดครอบครัวเกริกก้องที่จ้องจะฮุบสมบัติอยู่ทุกลมหายใจ

ปลาใหญ่จำใจต้องยอมรับข้อเสนอ โดยเข้าไปทำงานเป็นที่ปรึกษาเซียนอย่างใกล้ชิด สร้างความงุนงงให้กับทุกคน โดยเฉพาะน้ำเพชร…เธอสงสัยอย่างแรง ที่จู่ๆ ไอ้บ้าเซียนก็เข้ามาทำงานเป็นที่ปรึกษานายใหญ่ ข้ามหัวใครต่อใครอีกมากมาย เซียนพยายามให้เหตุผลชื่นชมเซียนต่างๆนานา เพราะหวังว่าถ้าได้กลับร่าง น้ำเพชรจะชอบตัวเองขึ้นมาบ้าง แต่ไม่ว่าจะชื่นชมแค่ไหน น้ำเพชรก็ไม่มีทางเชื่อว่าเซียนจะทำงานได้จริง

น้ำเพชรพยายามจับผิดปลาใหญ่ในขณะที่ทำงานให้เซียน แต่ยิ่งเธอจับผิดมากเท่าไหร่ เธอยิ่งแปลกใจมากเท่านั้น เพราะเซียนทำงานได้อย่างดี ไม่มีที่ติ และบางครั้งมันทำให้เธอคิดถึง “คุณปลาใหญ่” เจ้านายหน้าใสที่เธอเคยทำให้ใครกลัวจนตัวสั่น ขณะที่ปลาใหญ่ช่วยงานเซียน เขาต้องเทรนด์เซียนในทุกๆเรื่อง ทั้งบุคลิกภาพ การออกงานสังคม การวางตัว การพูดจา และจ้างครูมาสอนภาษาแบบตัวต่อตัว แต่อย่างเดียวที่เขาไม่ยอมสอน คือปลอมลายเซ็น เพราะฉะนั้น เอกสารทุกฉบับ ปลาใหญ่เป็นคนเซ็นเองทั้งหมด และต้องแอบเซ็นแบบลับๆ เซียนต้องคอยกันไม่ให้น้ำเพชรและครรชิตรู้ แต่แล้วครรชิตก็ล่วงรู้จนได้ เพียงเวลาไม่นานที่ปลาใหญ่เข้ามาช่วยงานเซียน ครรชิตก็รู้ทันทีว่า คุณหนูตัวจริงของเขากลับมาแล้ว!!

เกริกก้อง จันทร์ทิพย์ และรัญญาไม่พอใจที่จู่ๆก็มีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มาช่วยกอบกู้สถานการณ์ให้ศัตรู จันทร์ทิพย์ยุให้ใช้ไม้แข็งเพื่อกำจัดปลาใหญ่ (ที่อยู่ในร่างเซียน) เกริกก้องอนุมัติ แต่ย้ำว่าอย่าให้เรื่องบานปลาย ปลาใหญ่ถูกทำร้ายอาการสาหัส เซียนเห็นสภาพปลาใหญ่แล้วก็เป็นห่วงร่างกายตัวเอง เขาตัดสินใจจ้างมอมแมม ป๋อง และชายสี่มาเป็นบอดี้การ์ดให้กับเซียนและตัวเอง วันแรกที่ชายสี่มาทำหน้าที่บอดี้การ์ดให้เซียน เขาได้เจอกับรัญญา และตกหลุมรักในทันที ในขณะที่รัญญาทั้งรังเกียจและดูถูกอย่างเห็นได้ชัด แต่ชายสี่ก็ยังหลงละเมอเพ้อพกอย่างไม่เจียมตัว

ในระหว่างที่ปลาใหญ่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เซียนกลับไปแก้แค้นเกริกก้อง จันทร์ทิพย์ และรัญญาด้วยวิธีที่สุดแสนกะล่อน โทษฐานที่ทำให้ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาต้องมีอันต้องบวมช้ำ เซียนฉีกหน้าทั้ง ๓ คน กลางงานสังคมหรู ทำให้ทุกคนรู้ว่าเกริกก้องอิจฉาหลานชายตัวเองและต้องการจะฮุบสมบัติ กลายเป็นข่าวดังกระฉ่อนไปทั้งวงการ สร้างความสะใจให้กับปลาใหญ่อย่างแรง ปลาใหญ่ขอบใจเซียนที่ตอบโต้คนพวกนั้น ในขณะที่เซียนก็ขอโทษปลาใหญ่ที่เขาเคยไม่ชอบขี้หน้า อีกทั้งยังฉวยโอกาสจากร่างของเขา ปลาใหญ่ให้อภัยแต่ห้ามไม่ให้ทำอีก โดยเฉพาะการใช้ความเป็นเขาตามจีบน้ำเพชร ข้อห้ามที่แสนยาก เซียนอึกอัก ไม่รับปาก และขอร้องให้ปลาใหญ่ช่วยเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ เขาไม่อยากให้เธอรู้ว่า จริงๆแล้วเขาไม่ใช่ปลาใหญ่ เซียนรู้ว่าเมื่อความจริงปรากฏ น้ำเพชรคงจะกลับไปเกลียดเขาเหมือนเดิม

เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะคืนสู่ความจริง เขาขอฝันหวานแบบนี้ไปอีกสักพัก ปลาใหญ่รับปากด้วยความเข้าใจ เพราะเขาเองก็ตกอยู่ในสภาพไม่ต่างกัน ถ้าเขากลับสู่ร่างเดิม สายพิณก็คงจะไม่สนใจเขาเช่นกัน ท่ามกลางม่านหมอกของความรักที่ไม่ลงตัว พายุแห่งความคลั่งแค้นก็เริ่มก่อตัวขึ้น… หลังจากการโดนฉีกหน้ากลางสาธารณะชน เกริกก้องแค้นสุดแค้น เขาสั่งให้จันทร์ทิพย์กำจัดไอ้หลานชายจอมวายร้ายให้สิ้นซาก!!

ในขณะที่เกริกก้องกำลังหน้าดำคร่ำเครียดกับการแก้แค้นเซียน รัญญาเริ่มเอะใจกับการเปลี่ยนไปของปลาใหญ่ ตั้งแต่เล็กจนโต เธอไม่เคยเห็นเขาตอบโต้แม้แต่น้อย ไม่ว่าจะโดนรังแกแค่ไหน เขาจะเอาแต่เก็บกด และกดดันตัวเอง แต่จะไม่ใช้วิธีสกปรกแบบนี้เด็ดขาด ประกอบกับบุคลิกที่ดูหลุกหลิก คำพูดคำจาที่ดูไม่ค่อยมีการศึกษา และเฮฮาผิดปกติ ทำให้เธอเริ่มสงสัย รัญญาอาศัยชายสี่เป็นเครื่องมือ เธอทำทีเป็นสนใจชายสี่ หาโอกาสอยู่กันสองต่อสอง และแอบล้วงความลับทุกครั้งที่มีโอกาส ชายสี่หลุดจะบอกหลายครั้ง แต่ก็ยั้งปากไว้ได้ทุกที น้ำเพชรเองก็เริ่มสงสัยมากขึ้น เธอรู้สึกว่าเซียน ปลาใหญ่ ครรชิต มอมแมม ป๋อง และชายสี่ รวมหัวกันทำอะไรบางอย่างลับหลังเธอ อีกทั้งจู่ๆก็มีสายพิณโผล่มาดูแลเซียน (ที่จริงๆแล้วเป็นปลาใหญ่) อย่างใกล้ชิด และเซียนก็ดูจะไม่สนใจเธอเหมือนเมื่อก่อน ด้วยความสงสัยทำให้น้ำเพชรแอบตามสืบว่า จริงๆแล้ว อะไรคือต้นเหตุของการเปลี๊ยนไป…ทำให้ปลาใหญ่และเซียนต้องระวังตัวเองอย่างมาก ในขณะเดียวกันก็ต้องแก้ไขปัญหาภายในโรงงานที่เกริกก้องพยายามสร้างขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน และจันทร์ทิพย์ยังส่งนักเลงคอยสะกดรอยตาม หวังกำจัดเซียนตามคำสั่งของสามี

รอบตัวเซียนและปลาใหญ่มีความวุ่นวายและอันตรายรายล้อมอยู่ เท่านั้นยังไม่พอ เรื่องของหัวใจยังสร้างความปวดสมองไม่น้อยไปกว่ากัน เมื่อสายพิณได้ล่วงรู้ว่าเซียนชอบน้ำเพชร และพยายามจะใช้ความเป็นปลาใหญ่เพื่อเอาชนะใจเธอ สายพิณไม่พอใจอย่างแรง เพราะผิดศีลธรรม และแอบหึงเล็กๆ สายพิณพยายามจะเปิดโปงความจริงให้น้ำเพชรรู้ แต่เซียนอาศัยความกะล่อนเอาตัวรอดหลบเลี่ยงไปได้อย่างหวุดหวิด ในขณะเดียวกัน ทุกครั้งที่น้ำเพชรพยายามเข้าใกล้ปลาใหญ่เพื่อสืบความจริง เซียนก็ต้องคอยกีดกัน เพราะกลัวว่าน้ำเพชรจะรู้ความจริง และกลับไปชอบปลาใหญ่เหมือนเดิม

ยิ่งเซียนแสดงอาการหวงน้ำเพชรมากเท่าไหร่ สายพิณก็ยิ่งเสียใจมากเท่านั้น และยิ่งสายพิณเสียใจมากเท่าไหร่ ปลาใหญ่ก็ยิ่งจ๋อยมากเท่านั้น…เป็นวงเวียนของรักสี่เส้าที่แสนเศร้าและน่าเห็นใจ ป้าสายไหมและยายปิ่นอาศัยความเป็นผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนมาก่อน มองปุ๊บก็รู้ปั๊บว่าเกิดอะไรขึ้น ยายปิ่นพยายามให้กำลังใจปลาใหญ่ และสารภาพว่าเธอยินดีจะมีเขาเป็นหลานเขยมากกว่าไอ้เซียน ถึงแม้เขาจะยังเด็ก แต่เป็นคนจริงจังและจริงใจ ในขณะเดียว กันก็พยายามจะให้หลานสาวได้รู้ตัวสักทีว่า จริงๆแล้ว เธอไม่ได้ชอบเซียน แต่มันเป็นเพียงความผูกพันและฝังใจ แต่ปลาใหญ่ก็ยังไม่กล้าพอจะสารภาพรัก ในขณะที่สายพิณก็ยังไม่รู้ใจตัวเองดีพอ ยายปิ่นก็ได้แต่ท้อใจ…พูดยังไงก็ไร้ประโยชน์ (เฮอ!) ป้าสายไหมเองก็พยายามจะให้เซียนยอมรับความจริงว่าน้ำเพชรไม่ได้ชอบเขาที่ตัวตนของเขาอย่างแท้จริง การปิดบังต่อไปก็เท่ากับหลอกตัวเองไปวันๆ แต่เซียนเองก็ยังไม่กล้าพอที่จะสารภาพความจริงกับเธอและแล้ว…การปิดบังก็เดินทางมาถึงสุดทาง

เมื่อน้ำเพชรจับได้ว่า…แท้จริงแล้ว เซียนและปลาใหญ่สลับร่างกันตามที่เธอสงสัย และทุกคนรู้ความจริงหมดแล้ว ยกเว้นเธอ น้ำเพชรอาละวาดใส่เซียน (ที่อยู่ในร่างปลาใหญ่) อย่างแรง ทั้งด่า ทั้งตบตี ด้วยความโกรธ และอายสุดจะบรรยาย น้ำเพชรเสียฟอร์มอย่างหนักที่ตัวเองสารภาพว่าชอบปลาใหญ่ ในขณะที่เขาอยู่ร่างของเซียน แล้วยังแสดงกริยาดูถูกเพราะเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นเซียน น้ำเพชรตัดสินใจลาออกทันที และเก็บตัวเงียบอยู่ในบ้าน ถึงแม้เซียนจะตามง้อ ตามขอโทษ แต่น้ำเพชรก็ไม่ยอมพูดด้วย แถมยังไล่ตะเพิดจนเปิดเปิง ปลาใหญ่ลงทุนมาขอโทษแทนเซียน น้ำเพชรก็ยังไม่ยกโทษให้ แถมด่ากลับ และประกาศว่าเธอเลิกชอบเขาแล้ว เพราะตอนนี้เธอรู้ตัวแล้วว่าไม่ชอบเด็ก !! และจะไม่มีวันกลับไปทำงานอีกเด็ดขาด เซียนสุดแสนเสียใจ ได้แต่เก็บตัวเงียบ สายพิณถึงได้รู้ว่าเซียนรักน้ำเพชรมาก และไม่ว่าเธอจะทำอย่างไรก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจเขาได้ สายพิณตัดใจจากเซียน และคืนสภาพกลายมาเป็นน้องสาวดังเดิม

รัญญาแอบมอมเหล้าชายสี่ พร้อมกับใช้เสน่ห์หญิงเย้ายวนจนเขาเคลิ้มและบอกเรื่องสลับร่างอย่างหมดเปลือกโดยไม่รู้ตัว รัญญารีบนำความจริงมาบอกเกริกก้องและจันทร์ทิพย์ทันที พร้อมกับถีบหัวชายสี่ทิ้งอย่างไม่ไยดี ทั้งสองคนแทบไม่อยากเชื่อว่ามันจะเป็นจริง แต่จากการทดสอบ และนึกย้อนกลับไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากอุบัติเหตุ ทั้งสองคนเริ่มเชื่อว่ามันมีความเป็นไปได้สูง เกริกก้องจึงเปลี่ยนเป้าหมายจากการกำจัดเซียน (ในร่างปลาใหญ่) มาเป็นกำจัดปลาใหญ่ (ในร่างเซียน) ทันที เพราะถ้ากำจัดวิญญาณเซียนที่อยู่ในร่างปลาใหญ่ แต่วิญญาณปลาใหญ่ที่อยู่ในร่างเซียนก็ยังอยู่ และเขาอาจจะกลับมาแก้แค้นได้ แต่ถ้ากำจัดวิญญาณของปลาใหญ่ในร่างเซียนได้ เขาจะใช้เงินซื้อเซียนและสั่งให้ใช้ความเป็นปลาใหญ่ทำทุกอย่างตามที่เขาต้องการได้ไม่ยาก

ทั้ง ๓ คน วางแผนชั่วร้ายอย่างเลือดเย็น โดยไม่ได้รู้ว่าเลยว่าน้ำเพชรแอบมาได้ยินโดยบังเอิญ ขณะที่เธอเข้ามาเก็บของในที่ทำงานตอนกลางคืน น้ำเพชรรีบหนีกลับบ้านด้วยความตื่นเต้นและหวาดกลัว แผนการสั่งเก็บปลาใหญ่ดังกึกก้องในสมอง น้ำเพชรลังเลว่าจะยื่นมือเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ดี หรือจะวางเฉยแล้วปล่อยให้มันเป็นไป เพื่อเป็นการแก้แค้นที่โดนหลอกมาตลอด แต่แล้วความดีงามก็ชนะ น้ำเพชรมาหาปลาใหญ่และบอกสิ่งที่รับรู้มา ปลาใหญ่ขอบใจและดีใจที่น้ำเพชรเห็นใจและให้ความร่วมมือ ในแวบนั้นเอง…น้ำเพชรเริ่มรู้ว่า จริงๆแล้ว คนที่เธอเป็นห่วงไม่ใช่แค่ปลาใหญ่แต่เป็นเซียน ผู้ชายที่เธอไม่เคยสนใจแม้แต่นิดเดียว น้ำเพชรเริ่มค้นเข้าไปในใจของตัวเอง จนพบว่าเธอมีความสุขทุกครั้งเวลาที่อยู่กับเซียน เขาคือผู้ชายคนเดียวที่ทำให้เธอหัวเราะได้อย่างสุดเสียง คนที่เธอชอบ คือผู้ชายที่สุดแสนจะเฮฮา…ไม่ใช่ปลาใหญ่ เด็กน้อย หน้าใสผู้เคร่งขรึม น้ำเพชรรู้ใจตัวเอง แต่มันสายเกินไป เพราะเซียนแวะมาหาป้าสายไหมที่บ้าน และเห็นตอนน้ำเพชรคุยกับปลาใหญ่พอดี ด้วยความสนิทสนมของทั้ง ๒ คน ขณะกำลังคุยกัน ทำให้เซียนเข้าใจผิดคิดว่าน้ำเพชรยังคงชอบปลาใหญ่อยู่เหมือนเดิม เซียนถึงกับจ๋อย และยอมทำตามที่ป้าสอน คือรับสภาพความจริง เลิกตอแยน้ำเพชร พยายามจะตัดใจจากเธอ ถึงแม้จะเศร้าแต่เขาก็ต้องทำให้ได้

หลังจากที่ปลาใหญ่ล่วงรู้แผนการของสามคนพ่อแม่ลูก และชายสี่มาสารภาพเรื่องที่โดนมอมเหล้าล้วงความจริง ชายสี่ทั้งรู้สึกผิดและเสียใจที่โดนหลอกใช้ เขาน่าจะเชื่อมอมแมมและป๋องที่พยายามเตือนว่ารัญญาไม่จริงใจกับเขา จากความรักกลายเป็นความแค้น ชายสี่ประกาศว่าจะต้องหาโอกาสสั่งสอนรัญญาให้ได้ !! ปลาใหญ่เรียกทุกคนมาประชุมระดมหัวสมอง ทั้งครรชิต เซียน สายพิณ มอมแมม ป๋อง และชายสี่ โดยมีน้ำเพชรเป็นสมาชิกใหม่เข้าร่วมก๊วน เซียนดีใจที่น้ำเพชรมา แต่ดีใจได้ไม่นานก็กลับมาเศร้าเหมือนเดิม เพราะคิดว่าน้ำเพชรมาเพราะต้องการช่วยปลาใหญ่ ในขณะที่น้ำเพชรเองก็แปลกใจที่เซียนดูเงียบๆ ผิดปกติ

ในการสุมหัวเพื่อเตรียมรับมือกับแผนการร้ายครั้งนี้ เซียนอาศัยความเจ้าเล่ห์และแสนกล คิดแผนที่คนอื่นคิดไม่ได้ ทำให้ทุกคนต้องอึ้ง ไม่เว้นแม้แต่น้ำเพชรยังต้องยอมรับในความฉลาดของเซียน เซียนวางแผนให้น้ำเพชรเป็นนกต่อ ขอเข้าพบสามคนพ่อแม่ลูก โดยทำทีเป็นร้องห่มร้องไห้ พร้อมทั้งเล่าความจริงเกี่ยวกับการสลับร่างให้พวกนั้นฟัง และบอกว่าแค้นใจที่โดนเซียนหลอก จึงขอมาอยู่ด้วยเพราะต้องการแก้แค้นทั้งเซียนและปลาใหญ่ รัญญาเป็นคนแรกที่เชื่อเพราะจำได้ว่าตอนเมา ชายสี่เผลอพูดเรื่องที่น้ำเพชรโกรธออกมา เกริกก้องและจันทร์ทิพย์เลยเชื่อตามไปด้วย

น้ำเพชรยังบอกอีกว่าเซียนขอร้องให้เธอกลับมาทำงาน และเธอตัดสินใจกลับมาเพราะจะทำให้การแก้แค้นง่ายขึ้น น้ำเพชรเล่นละครได้อย่างแนบเนียนจนทุกคนยอมรับ เกริกก้องมอบหมายให้น้ำเพชรเป็นคนขับรถพาเซียนและปลาใหญ่ขึ้นเขาไปทางเชียงราย โดยให้อ้างว่าจะพาไปดูแหล่งผลิตไหมที่ใหม่ เพื่อนำมาใช้ในโรงงาน น้ำเพชรยอมทำแต่โดยดีเธอขับรถพาเซียนและปลาใหญ่ไปตามคำสั่ง และจอดรถไว้ในจุดที่เกริกก้องบอกไว้ หลังจากจอดรถแล้ว น้ำเพชรเดินลงจากรถโดยปล่อยให้ปลาใหญ่และเซียนนั่งอยู่บนรถเหมือนเดิม และไม่กี่นาทีต่อมาก็มีรถบรรทุกคันโตขับพุ่งพรวดมาอย่างเร็ว ตรงเข้ามาที่รถของน้ำเพชร พร้อมทั้งชนเข้าอย่างจัง ลากยาวต่อไปจนรถตกเขา น้ำเพชรได้แต่ยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก ทันใดนั้นเอง คนขับรถบรรทุกก็วิ่งลงจากรถและหนีไปอย่างรวดเร็ว

ที่กรุงเทพฯ…เกริกก้องและจันทร์ทิพย์รับโทรศัพท์รายงานจากคนขับรถด้วยความสะใจ ที่รู้ว่าแผนการสำเร็จ ทั้งเซียนและปลาใหญ่ตกเหวลงไปพร้อมกัน รับประกันว่าตายชัวร์ รัญญารู้ข่าวก็ดีใจ เตรียมชุดดำสำหรับไปงานศพทันที แต่ทั้งสามคนก็ดีใจได้ไม่นาน…เมื่อเซียนแล

ขุนเดช 2555

เรื่องย่อ : ขุนเดช (2555/2012) นายเดื่อง หัวหน้าคนงานขุดแต่งโบราณสถาน รับปาก อาจารย์ประทีป หัวหน้า คณะศึกษาโบราณคดีของกรมศิลป์ว่าจะปักหลักเฝ้าพระศิลา พระพุทธรูปที่ถูกค้นพบ ในถ้ำศิลาบนเขาหลวง สุโขทัย ให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของพวกโจรใจบาปที่จ้องจะมา ลักตัดเศียรพระศิลา โดยเฉพาะกับ กำนันบุญ สุโขทัย ซึ่งมีนิสัยขี้โกงชอบสะสมและ ลักลอบซื้อขายวัตถุโบราณ เมื่อกำนันบุญรู้เรื่องพระศิลาที่ถูกค้นพบ เลยอยากมาได้ไว้ ในครอบครองจึงเดินทางจากสุโขทัย มาศรีสัชนาลัยบ้านของนายเดื่อง เพื่อขอให้ นายเดื่องเปิดทางให้เข้าไปลักตัดเศียรพระ แต่กำนันบุญ ถูกนายเดื่องปฏิเสธและไล่ ตะเพิดอย่างไม่เกรงกลัวอิทธิพล นายเดื่องเป็นห่วงพระศิลาเลย จำเป็นต้องฝาก ขุนเดช ลูกชายวัย 10 ขวบไว้กับ คำปัน หญิงสาวที่แอบชอบพ่อของขุนเดช แต่ขุนเดชแอบขึ้นรถของอาจารย์ประทีปตาม ไปหาพ่อที่ถ้ำศิลา เสือแชนกับเสือชิดที่ได้รับคำสั่งจากกำนันบุญให้มาจัดการเดื่อง เดื่องใช้ดาบดำต่อสู้จนดาบหักและถูกฆ่าตัดคอ ขุนเดชเห็นพ่อถูกฆ่าต่อหน้าก็คว้ากาบดำที่หักหนีไป ดีที่ได้หลวงพ่อสุขช่วยไว้ จ่าแท่นคิดว่าขุนเดชน่าจะยังมีชีวิตอยู่จึงออกตามหาแต่ไม่พบ 10 ปีต่อมา ขุนเดชสามารถสอบเข้าเรียนเป็น นักศึกษาในคณะโบราณคดีด้วยคะแนนสูงสุด ลุงเถินให้ขุนเดชดูอาบดำที่ตีกับเดื่องสมัยเป็นหนุ่ม ลุงเถินกลัวว่าตัวเองตายจึงถ่ายทอดวิชาเชิงดาบ เชิงมวยคาดเชือกและการตีดาบให้ดาราลูกสาวไม่ได้จึงสอนขุนเดชกับยงยุทธเพื่อเด็กวัดที่โตมาพร้อมกับขุนเดชและดารา

ฉันรักเธอนะ 2555

เรื่องย่อ : ฉันรักเธอนะ (2555/2012) ฉันรักเธอนะ เป็นเรื่องราวของ ไอยูกิ หรือ ยูกิ (ปู-ไปรยา สวนดอกไม้) นักร้องสาวสวยซูเปอร์สตาร์ชื่อดังจากแดนปลาดิบ เป็นศิลปินไอดอลของวัยรุ่นทั่วทั้งเอเชีย รวมถึงประเทศไทยด้วย ไอยูกิ กำลังจะมีโปรเจ็คท์คอนเสิร์ตสุดอลังการครั้งแรกในเมืองไทย โดยได้ เป็นไท (สเตฟาน-ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์) กรรมการผู้จัดการหนุ่มเจ้าของบริษัทออร์แกไนซ์เป็นผู้รับจัดทำงานชิ้นใหญ่ นี้ นอกจากนี้ยังมี องอาจ (ตั้ม-วิชญ จารุจินดา) โปรดิวเซอร์กึ่งเลขาส่วนตัว เป็นผู้ช่วยในการจัดงาน

เป็นไทคบหาอยู่กับ แพรวไพลิน (แซมมี่-ปัณฑิตา เคาวเวลล์) คุณหนูไฮโซผู้เอาแต่ใจ ลูกสาวเจ้าของศูนย์วัฒนธรรม เป็นไทคบกับแพรวไพลินด้วยความไม่เต็มใจนัก แต่เพราะแพรวไพลินคอยช่วยเหลือทางด้านการเงินในการประมูลโปรเจ็คท์คอนเสิร์ต ของไอยูกิ จนบริษัทของเป็นไทชนะการประมูล แพรวไพลินตั้งเงื่อนไขในความช่วยเหลือครั้งนี้ว่าเป็นไทต้องเป็นแฟน กับเธอ จนกว่าเป็นไทจะหาเงินมาคืนได้ครบ นั่นจึงทำให้แพรวไพลินถือว่าตัวถือไพ่เหนือกว่าเป็นไทเสมอมา นับดาว (ปู-ไปรยา สวนดอกไม้) สาวน้อยโก๊ะกัง ผู้ที่ไม่มีรสนิยมในการแต่งตัวสักเท่าไหร่ เธอมักจะปล่อยให้ผมกระเซอะกระเซิง ทำให้บ่อยครั้งผู้คนทั่วไปมักจะมองเธอแปลกๆ นับดาวพิการหูขวาหนวกแต่กำเนิด เธอจะได้ยินชัดเจนหากมีคนมาพูดทางฝั่งซ้ายเท่านั้น เธอเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกพ่อแม่ทิ้งไว้ให้ รจนา (ดร.ปัฑมาฆะ สุคนธมาน) ผู้เป็นย่า อดีตนักร้องเพลงลูกกรุงวงสุนทรีภรณ์ ที่ทุกวันนี้ได้รับจ้างให้ไปร้องเพลงตามงานเลี้ยงบ้าง ถึงแม้นับดาวจะน้อยใจในโชคชะตาของเธอและย่า แต่สองย่าหลานอยู่กันด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดมา นับดาวมีความฝันว่าจะเป็นซูเปอร์สตาร์สักวันหนึ่ง เพื่อถีบตัวเองจากฐานะที่เป็นอยู่ ถึงแม้รจนาจะคอยเบรคฝันเธอตลอด แต่นับดาวก็ไม่ล้มเลิกที่จะหยุดฝันถึงแม้มันจะริบหรี่ รจนาได้รับจ้างให้ไปร้องเพลงในงานศิลปะวัฒนธรรมที่บริษัทของเป็นไท เป็นผู้จัดงาน ด้วยความรีบร้อนนับดาวถึงขนาดลืมตัวสวมเสื้อกั๊กมอเตอร์ไซค์วินเพื่อไปส่ง รจนาไปร้องเพลงให้ทันเวลางาน เมื่อไปถึงนับดาวบังเอิญชนกับเป็นไท เป็นไทคิดว่านับดาวเป็นมอเตอร์ไซค์วิน เพราะสภาพที่เห็นคือ ผมเผ้ายุ่งเหยิง แถมยังลืมถอดเสื้อกั๊กที่ยืมมอเตอร์ไซค์วินมาอีก นับดาวเจ็บใจที่เป็นไทมองเธออย่างเสียๆ หายๆ จึงปฏิญาณว่าสักวันเธอจะเป็นซูเปอร์สตาร์ของเมืองไทยให้ได้ นับดาวมีเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวคือ วราพรรณหรือนุ้ย (กุญแจซอล-ป่านทอง บุญทอง) ปาปารัสซี่สาวของหนังสือเอเชี่ยนฮิต นิตยสารบันเทิงแนวกอสซิปดารามี สังวรณ์ (แซม โชติบันฑ์) หรือผู้ที่อุปโลกน์ชี่อตัวเองให้ใหม่ว่า ซีซังวอน เป็นเจ้าของหนังสือและสื่อสิ่งพิมพ์ นับดาวได้ทำงานเป็นประชาสัมพันธ์ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เพียงวันแรกก็ต้องถูกไล่ออก เพราะความที่ได้ยินเพียงข้างเดียวจึงให้ข้อมูลลูกค้าผิดๆ ถูกๆ เข้ากับเพื่อนร่วมไม่ได้ แถมยังถูกเป็นไทขับรถเฉี่ยวเธออีก เป็นไททิ้งเพียงนามบัตรของเขาไว้แล้วจากก็ไป นับดาวโทษว่าเป็นความผิดของเป็นไททั้งหมดที่ทำให้เธอถูกไล่ออก ตามเพื่อจะไปทวงเงินที่ทำให้เจ็บตัว แต่เป็นไทไม่ให้ คิดว่านับดาวเป็นเพียงคนบ้า นับดาวโกรธตบบ้องหูเป็นไทจนเสียศูนย์ไปหลายวัน วราพรรณเห็นว่านับดาวดูคล้ายๆ กับดาราใครใดคนหนึ่ง จึงคิดว่าถ้านับดาวโมดิฟายตัวเองซะใหม่ วราพรรณอาจจะพอฝากรูปให้กับโมเดลลิ่งหรือนิตยสารที่เธอทำงานอยู่ก็ได้ นับดาวพอจะมองเห็นความฝันของเธอเลือนลาง วราพรรณจัดแจงปรับปรุงบุคลิคของนับดาวใหม่เริ่มจากการเก็บแว่นใหญ่เท่าหน้า ใส่คอนแทคเลนส์บิ๊กอาย ซื้อเสื้อผ้าใหม่ ทำผม แต่งหน้าเสร็จสรรพ ไม่น่าเชื่อว่านับดาวในลุคใหม่ ทำให้เธอค้นพบว่าตนเองหน้าตาคล้ายกับไอยูกิมากราวกับเป็นฝาแฝด ไอยูกิเดินทางมาเมืองไทยก่อนกำหนดการอย่างเงียบๆ เพื่อมาพักผ่อนก่อนที่จะมีการจัดคอนเสิร์ต ข่าวนี้รู้ถึงหูของ ซีซี (กระติ๊บ-ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล) ดาราลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นตกอับ ที่ตอนนี้ถูกไอยูกิแย่งพื้นที่ความโด่งดังจนเธอไม่มีงานเข้าเลย ก็เป็นเพราะความวีน เหวี่ยงของตัวเธอ ไม่อยากให้ใครได้ดีกว่าเธอนั่นแหละที่ทำให้ไม่มีใครอยากจะจ้างเธอ ซีซีเกลียดไอยูกิเข้าไส้ ถึงขึ้นว่าจ้าง ยามาดะ(นิว-เชื้อชาติ วงษ์สวัสดิ์) ยากูซ่าหนุ่มให้มาลักพาตัวไอยูกิ เพื่อจะเขี่ยให้พ้นทาง ซึ่งยามาดะเองก็คือคนที่เคยตกหลุมรักไอยูกิมาตลอดตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ถึงขั้นเขียนจดหมายบอกรัก แต่เมื่อไอยูกิหันไปคบกับ ไคคุง (เชน-ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัฒน์) ลูกชายเศรษฐีเจ้าของอุตสาหกรรมอาหารทะเลส่งออกที่ดูจะมีภาษีดีกว่า ยามาดะจึงได้แต่เก็บความผิดหวัง จนกลาย เป็นความชิงชัง ยามาดะวางแผนลักพาตัวไอยูกิตั้งแต่ลงจากเครื่องที่สนามบิน แต่ก็พลาดเพราะซีซีโทร.มาผิดจังหวะ ทำให้ยามาดะพลาดโอกาสไป เป็นไทและองอาจเดินทางไปรับถึงสนามบิน เป็นไทพาไอยูกิเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ของกรุงเทพฯ ด้วยความที่ไอยูกิรักเมืองไทยมาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้ไอยูกิประทับใจในประเทศไทยและเป็นไทมากยิ่งขึ้น เป็นไทเองก็ชื่นชมและประทับใจในความน่ารักและความเป็นกันเองของไอยูกิอยู่ ไม่ใช่น้อย ยามาดะเข้าพักที่โรงแรมเดียวกับไอยูกิ และเข้ามาผูกมิตรตีสนิทจนไอยูกิวางใจ โดยที่ไอยูกิจำยามาดะไม่ได้เลยสักนิด ยามาดะวางยาในน้ำให้ไอยูกิดื่ม ไอยูกิหมดสติลง ภาพสุดท้ายที่เธอเห็นคือใบหน้าที่เย็นชาของยามาดะ ระหว่างนั้นเป็นไทมารับไอยูกิที่โรงแรมตามที่นัดกันไว้ เมื่อมาถึงก็พบว่าไอยูกิหายตัวไป ไอยูกิตื่นขึ้นมาในบ้านพักริมทะเลหลังหนึ่ง ซีซีอยู่ที่นั่นด้วย ไอยูกิไม่เข้าใจว่าทำไมซีซีต้องทำอย่างนี้ ซีซีกล่าวโทษว่าไอยูกิเป็นคนแย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเธอ สั่งให้ยามาดะคุมขังเธอไว้เหมือนตกนรกทั้งเป็น ไอยูกิพยายามหนีเมื่อมีอยู่หลายครั้งก็ไม่เป็นผลสำเร็จ ทำหนีก็ยิ่งทำให้ยามาดะโกรธยิ่งขึ้น เป็นไทกับองอาจตามหาไอยูกิไปทั่ว ตามสถานที่ที่คิดว่าไอยูกิจะไป แต่ก็ไม่พบวี่แวว เป็นไทเริ่มท้อแท้ หมดหวังที่จะตามหา ไอยูกิหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย นับดาวบังเอิญเจอเป็นไท หมายจะเข้าไปหาเรื่อง เมื่อเป็นไทเห็นนับดาวที่หน้าตาเหมือนไอยูกิอย่างกับแกะ ก็คิดว่าเจอไอยูกิแล้ว และคิดว่าไอยูกิคงโกรธเรื่องปาปารัสซี่ของเธอกับเขา และบอกว่าจะยอมทำทุกอย่างเพื่อเป็นการขอโทษ นับดาวงงๆ ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องที่เป็นไทพูดเท่าไหร่ เธอพูดทีเล่นทีจริงว่าถ้าเธออยากเป็นดาราจะทำให้ได้ไหม เป็นไทงง ก็ในเมื่อเธอเป็นดารา แถมยังเป็นซูเปอร์สตาร์อยู่แล้ว แถมยังบอกว่าในงานแถลงข่าวพรุ่งนี้เธอจะได้เป็นดาราใหญ่สมใจ นับดาวคิดว่าเป็นไทพูดหลอกเด็กเท่านั้น วันรุ่งขึ้นนับดาวแทบไม่เชื่อสายตาว่าเป็นไทมารับถึงบ้านนับดาวที่ เป็นไทนึกว่าไอยูกิออกมาอยู่โฮมสเตย์ เพื่อที่จะไปแถลงข่าวงานคอนเสิร์ต นับดาวถึงไม่ค่อยเชื่อใจเป็นไทนัก แต่ก็ยอมไปกับเป็นไท เมื่อไปถึงโรงแรมทุกคนเข้าใจว่าไอยูกิกลับมาแล้ว ก็กรูกันเข้าไปแต่งหน้า แต่งตา ดูแลเธอเหมือนซูเปอร์สตาร์ นับดาวงงมากเพราะใครๆ ก็เรียกเธอว่ายูกิ นับดาวเริ่มปะติดปะต่อเรื่องได้ ก็พยายามจะบอกทุกคนว่าไม่ใช่ไอยูกิ แต่เมื่อได้เห็นแฟนคลับที่ตามมาเชียร์เธอด้วยความรัก เป็นสิ่งที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อน นับดาวจึงรับสมอ้างว่าเป็นไอยูกิโดยที่นับดาวก็รู้สึกผิดในใจอยู่เล็กๆ ระหว่างที่ไอยูกิตัวจริงถูกขังอยู่ที่เกาะร้าง ซึ่งไม่ได้รับรู้ความเป็นไปที่เกิดขึ้นอีกมุมหนึ่ง ก็ยังคงพยายามหนียามาดะ แต่ก็โดนจับได้ทุกครั้ง ไอยูกิทรมานตัวเองจนเป็นไข้สูง ไม่ได้สติ ยามาดะเริ่มเป็นห่วง คอยเช็ดตัว ทำให้ไข้ลดลง อย่างไรก็ตามยามาดะยังคงรักไอยูกิอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย รจนาเกิดป่วยเป็นเส้นเสียงอักเสบ หากไม่ผ่าตัดรักษาเส้นเสียง รจนาอาจไม่มีทางกลับมาร้องเพลงได้อีก นับดาวกลุ้มใจเพราะไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายค่าผ่าตัด ในขณะนั้นเป็นไทก็แจ้งกับเธอว่าเช็คล่วงหน้าจำนวนหนึ่งล้านบาทออกแล้ว ให้ไปรับได้ นับดาวรู้จำนวนเงินก็ตาโต แต่ด้วยสำนึก ก็ยังอุตส่าห์รอเผื่อว่าจะมีใครมารับเช็คแทนไอยูกิ แต่เมื่อไม่มานับดาวจึงตัดสินใจไปรับเช็คด้วยตัวเอง แต่ความก็เกือบแตก นับดาวดันเซ็นชื่อเช็คผิดเป็นชื่อนับดาว พนักงานเห็นผิดสังเกตจึงแจ้งให้เป็นไททราบ เป็นไทลงมาดูเห็นเป็นชื่อนับดาว นับดาวเกื อบจะสารภาพผิดอยู่แล้ว แต่ทางเป็นไทเข้าใจว่าไอยูกิกำลังหัดเขียนภาษาไทย ไม่มีใครเอะใจ ครั้งนี้นับดาวจึงรอดตัวไป ในที่สุดนับดาวก็สามารถนำเงินไปจ่ายค่าผ่าตัดของย่าได้สำเร็จ นับดาวรู้สึกขอบคุณไอยูกิอยู่ในใจ นับดาวตัดสินใจว่าเมื่อมาถึงจุดนี้แล้วต่อไปนี้จะไม่มีนับดาวคนเดิม เธอก็จะเป็นไอยูกิ ซูเปอร์สตาร์ระดับเอเชียที่ใครๆ ต่างชื่นชม นับดาวจัดการเก็บของทุกอย่างที่เป็นตัวเองทิ้ง และเริ่มศึกษาประวัติไอยูกิ เพื่อที่จะเป็นไอยูกิให้ได้มากที่สุด แต่หนทางก็ยากเย็นเหลือเกิน นับดาวชวนวราพรรณไปห้างเพื่อเลือกซื้อซีดีไอยูกิ เพื่อที่จะหัดร้อง หัดเต้นให้เหมือน วราพรรณสงสัยว่าทำไมอยู่ดีๆ นับดาวถึงนึกจะฟังเพลงสากล โดยเฉพาะเพลงของไอยูกิ เป็นจังหวะที่ซีซีเดินมาช้อปปิ้งที่เดียวกัน นับดาวแอบได้ยินเรื่องที่ซีซีคุยเกี่ยวกับการจับตัวไอยูกิ นับดาวชักสงสัยว่าซีซีอาจเป็นตัวการในการหายตัวไปของไอยูกิในครั้งนี้ก็เป็น ได้ การเป็นไอยูกิทำให้นับดาวกับเป็นไทใกล้ชิด สนิทสนมกันมากยิ่งขึ้น ทำให้นับดาวได้รับรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเป็นไทว่าไม่ได้เลวร้าย แถมยังจิตใจดี นับดาวเริ่มปลื้ม รู้สึกดีกับเป็นไทมากขึ้นทุกวันๆ เป็นไทเองก็เริ่มชอบนับดาวในคราบไอยูกิในแบบเป็นตัวของตัวเองอย่างที่เป็นไท ไม่เคยเจอมาก่อน สังวรณ์พยายามที่จะทำข่าวสัมภาษณ์ไอยูกิ แต่ก็เพียงข้ออ้าง ความจริงสังวรณ์หวังใกล้ชิดและจีบไอยูกิให้ได้ แต่ก็ถูกนับดาวบ่ายเบี่ยงหลายครั้งเพราะกลัวความแตก ด้วยนิสัยของนักข่าวทำให้สังวรณ์เริ่มระแคะระคายเรื่องตัวตนที่แท้จริงของไอ ยูกิขึ้นมา ต้นสังกัดของไอยูกิไม่พอใจกับข่าวของไอยูกิ จึงโทร.ทางไกลจากญี่ปุ่นเพื่อให้เป็นไทและไอยูกิไปที่สำนักงานใหญ่ เพื่ออธิบายถึงภาพปาปารัสซี่ที่ลงหนังสือถึงสองฉบับ เป็นไทจึงจำเป็นต้องพานับดาวไปญี่ปุ่น นับดาวดีใจเพราะเป็นครั้งแรกที่จะได้ไปต่างประเทศ เมื่อไปถึงสำนักงานนับดาวก็ถึงเจ้าของค่ายซักถามด้วยภาษาญี่ปุ่นที่เธอไม่ เข้าใจสักนิด แต่ก็สามารถเอาตัวรอดไปได้ นับดาวตื่นตาตื่นใจกับทุกอย่างในญี่ปุ่น ทำเหมือนกับเธอไม่ใช่คนที่เกิดในประเทศญี่ปุ่น อย่างไงอย่างงั้น จนเป็นไทเริ่มแปลก แพรวไพลินตามขัดขวางเป็นไทไปถึงญี่ปุ่นจนได้ สมทบกับไคคุงที่คอยพยายามตามนับดาวแจ เมื่อทั้งคู่กลับจากญี่ปุ่นเพื่อเริ่มงานคอนเสิร์ตไอยูกิ เป็นไทเริ่มปรึกษากับองอาจเรื่องความผิดปกติดของไอยูกิที่เขาเจอ ถึงแม้จะมั่นใจว่าไอยูกิต้องปิดบังเรื่องอะไรไว้แน่ แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด เป็นไทจึงได้แต่เก็บความสงสัยและสังเกตนับดาวต่อไป หลังจากที่ความพยายามจีบไอยูกิไม่เป็นผล สังวรณ์เป็นเป้าหมายใหม่ หันไปวางแผนล่มคอนเสิร์ตไอยูกิ เพื่อทำลายชื่อเสียงของบริษัทเป็นไท แพรวไพลินร่วมด้วยเพราะไม่อยากเสียเป็นไทไป สังวรณ์เคยเห็นนับดาวจากงานที่รจนาไปร้องเพลง และรู้ว่านับดาวหน้าคล้ายไอยูกิมาก จึงเกิดไอเดียให้นับดาวปลอมตัวเป็นไอยูกิ โดยใช้รจนาและวราพรรณเป็นหมากเดินเกม เกลี่ยกล่อมให้นับดาวทำตามแผน เพื่อเห็นแก่ย่าและเพื่อน นับดาวยอมทำตามแผน ทั้งๆที่ก็เสียใจอยู่ไม่น้อย เป็นไทชักมั่นใจว่าไอยูกิคนนี้เป็นตัวปลอมจึงซักประวัติเกี่ยวกับไอยูกิ นับดาวจนด้วยหนทางเอาตัวรอด หวังตอบมั่วๆ เผี่อจะถูกบ้าง ปรากฏว่าผิดหมดทุกข้อ เป็นไทได้คำตอบที่ต้องการแล้ว เป็นไทเสียใจมากที่นับดาวโกหกเรื่องที่ผ่านมา ถึงแม้จะไม่อยากเจอหน้า แต่สิ่งดีๆ ที่เคยเกิดขึ้นระหว่างเป็นไทกับนับดาวก็ทำให้เขาสับสน แต่ก็ปากแข็งว่าที่ยังต้องเจอนับดาวเพราะงานคอนเสิร์ตที่กำลังจะเกิดขึ้น เท่านั้น จากที่ยามาดะเคยโกรธแค้นยูกิด้วยเรื่องสมัยอดีต เมื่อยูกิบังเอิญได้รู้ว่าแท้จริงแล้วยามาดะก็คือคนที่เขียนจดหมายให้เธอ เมื่อสมัยมัธยม แต่สิ่งที่ยามาดะไม่รู้คือ ยูกิเองก็มีใจให้ยามาดะเช่นกัน แต่เข้าใจว่ายามาดะเพียงให้ความหวังยูกิเท่านั้น ยามาดะเขินเมื่อได้รู้ความจริงทั้งหมด ทั้งสองได้ปรับความเข้าใจกันแล้ว ยูกิชวนยามาดะหนีไปด้วยกัน ยามาดะเห็นด้วย วันงานมีทแอนด์กรีท นับดาวขึ้นเวทีร้องเพลงได้อย่างไพเราะสมบูรณ์แบบจนคนทั้งฮอลล์เคลิ้ม ระหว่างนั้นพิธีกรเปิดโอกาสให้แฟนคลับได้ถามคำถามไอยูกิได้ สังวรณ์ยกมือ เป็นโอกาสให้สังวรณ์ได้เปิดโปงนับดาว สังวรณ์บอกความจริงกับทุกคนในฮอลล์ว่าที่แท้ไอยูกิก็คือนับดาวที่ปลอมตัวมา หลอกทุกๆ คน เป็นไท และทีมงานต่างก็หน้าเสีย ที่สังวรณ์มาทำลายงานแบบนี้ สังวรณ์สร้างคำถามเป็นภาษาญี่ปุ่นกดดันให้นับดาวตอบ แต่ก่อนที่นับดาวจะพูดอะไร วราพรรณเข้ามาขัดจังหวะ ตลบหลังที่เคยถูกสังวรณ์หลอกใช้ว่า ที่นับดาวปลอมตัวมาเป็นแผนของสังวรณ์ทั้งหมด พร้อมหลักฐานที่วราพรรณแอบอัดเสียงแผนการของสังวรณ์เอาไว้ สังวรณ์ถูกวราพรรณหักหน้า แต่คนในฮอลล์ก็ยังกังขา ต้องการที่จะรู้ความจริง นับดาวทนความกดดันไม่ไหว จึงสารภาพความจริงว่าเธอไม่ใช่ไอยูกิ ในที่สุดงานก็ล่ม สังวรณ์ถูกตำรวจจับ เขาพยายามซัดทอดแพรวไพลิน แต่แพรวไพลินมีเส้นใหญ่ทำให้ทำอะไรเธอไม่ได้ สังวรณ์ได้แต่เจ็บใจและสาปแช่งเธอ ไคคุงเริ่มคลั่งที่หายูกิตัวจริงไม่เจอ จึงใช้ปืนบังคับซีซีที่รู้ที่อยู่ที่พายูกิ รวมทั้งวราพรรณและนับดาวติดร่างแหไปกับเขาด้วย เมื่อซีซีพาไคคุงไปยังโกดังร้างที่ขังยูกิ กับยามาดะไว้ แต่ก็ไม่พบคนทั้งคู่แล้ว เมื่อตามหายูกิไม่เจอ วราพรรณกับนับดาวก็แยกย้ายจะกลับบ้านเหมือนว่าพวกเธอไม่ได้ถูกจับเป็นตัว ประกัน ไคคุงยอมปล่อยไปแต่ก็หมายหัวเอาไว้หากพวกเธอตุกติก ไคคุงจะตามไปฆ่า ในที่สุดนับดาวได้กลับมาเป็นนับดาว คนที่คนมักมองข้ามเหมือนเดิม แต่เธอก็โล่งใจที่ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิมซักที นับดาวได้แต่แอบเป็นห่วงเป็นไท ที่งานคอนเสิร์ตต้องยกเลิกเพราะเรื่องที่เกิดในงานมีทแอนด์กรี๊ดที่เธอเป็น ต้นเหตุ เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้เป็นไทเสียใจ ข่าวคอนเสิร์ตล่มแพร่สะพัด เป็นไทต้องหลบไปเชียงใหม่อยู่พักใหญ่ นับดาวได้ตามไปเจอ เหตุการณ์ได้ทำให้ทั้งคู่มาพบกัน ด้วยความรักและโชคชะตาทำให้นับดาวและเป็นไทปรับความเข้าใจกันได้เสียที สุดท้ายสังวรณ์ถูกหนังสือพิมพ์เล่นข่าวซะเละเทะ ไม่มีหน้าอยู่ในสื่อได้อีกต่อไป ไคคุงถูกจับได้ว่าเป็นพ่อค้ายาเสพติดที่เอาธุรกิจอาหารทะเลส่งออกบังหน้า ยูกิขอเลิกกับไคคุง วราพรรณได้เลื่อนขึ้นมาเป็นผู้ประกาศข่าวและเริ่มเปิดใจมององอาจ ยูกิกับยามาดะสมหวัง หลังจากกลับมาจากญี่ปุ่น เป็นไทได้พบกับยูกิตัวจริงเสียที งานคอนเสิร์ตยังคงมีขึ้นต่อไป ยูกิขอให้นับดาวขึ้นคอนเสิร์ตด้วย และขอให้ทุกคนเรียกนับดาวว่า “ซูเปอร์สตาร์” นับดาวตื้นตันอย่างที่สุด สิ่งที่เธอใฝ่ฝันมาตลอดชีวิต บังเกิดขึ้นกับเธอตรงหน้าเธอแล้ว

ดุจดาวดิน 2555

เรื่องย่อ : ดุจดาวดิน (2555/2012) ดุจดาวดิน เป็นเรื่องราวของ “ทินภัทร” หรือ “บุญทิ้ง” ทายาทมหาเศรษฐีที่หายสาบสูญไปเพราะความริษยาและอาฆาตของพี่น้องในตระกูล บุญทิ้งระเหเร่ร่อนท่ามกลางความโหดร้ายจนได้เข้าไปอยู่ในคณะลิเกจนกลายเป็น ลิเกเด็กขวัญใจมหาชน สายเลือดที่สูงส่งดุจดาวที่พราวฟ้ากลับต่ำต้อยและด้อย ค่า ทว่าสวรรค์ยังมีตาที่นำพา “ภาคิน” กับ “ปานฟ้า” สองหนุ่มสาวผู้มีใจรักต่อกันและมีอุดมการณ์อันแรงกล้าช่วยเหลือให้เขาได้ กลับสู่ฟ้าดังเดิมดั่งดาวดิน ละครโทรทัศน์แนวดราม่าเข้มข้น ที่ปลุกปลอบหัวใจผู้คนให้เชื่อมั่นว่าความดีย่อมคงทนดุจดั่งดาวที่เจิด จำรัส แม้ว่าจะเป็นเพียง “ดาวดิน” แต่ศักดิ์ศรีแห่งดาวก็ย่อมพราวพร่างอยู่บนฟ้าในที่สุด ยามดึกสงัด ขณะที่ชีวิตของผู้คนกำลังหลับใหล แต่ชีวิตน้อยๆ ของเด็กชาย “บุญทิ้ง” ต้องทำงานเป็นเด็กเช็ดรองเท้าตามร้านค้าริมทางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเขาถูกพ่วง หัวหน้าแก๊งเด็กเร่ร่อนบังคับให้หาเงิน ด้วยผิวพรรณสะอาดผิดเด็กเร่ร่อนอื่นๆ ดวงตาแสนเศร้า และท่าทีฉลาดเหมือนลูกผู้ลากมากดี ทำให้ใครเห็นก็สงสาร บุญทิ้งจึงเป็นเด็กที่ทำเงินให้พ่วงมากที่สุด แต่แล้วสวรรค์ของพ่วงก็ถูกทลายลงเมื่อภาคิน เจ้าหน้าที่มูลนิธิคุ้มครองเด็กร่วมมือกับร้อยตำรวจโทตุลย์ จับกุมแก๊งขอทานในค่ำคืนหนึ่ง พ่วงถูกจับทำให้เด็กๆ หลายชีวิตต้องมาอาศัยอยู่ที่มูลนิธิของภาคิน รวมถึงบุญทิ้งด้วย หลายวันต่อมา ภาคินได้นำเด็กๆ ไปแข่งขันวาดภาพที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่กลางกรุง ขณะที่เด็กๆ กำลังวาดรูปกันอยู่นั้นภาคินเกิดมีปากเสียงกับปานดาว ผู้บริหารของห้างสรรพสินค้า ปานฟ้า ซึ่งเป็นแม่งานห้าม แต่ก็ไม่เป็นผล ภาคินนำเด็กๆ กลับมูลนิธิ ผลการประกวดปรากฏว่าบุญทิ้งได้รับรางวัลชนะเลิศ ปานฟ้าจึงนำเงินรางวัลมามอบให้ที่มูลนิธิ โดยมีก้องภพ คู่หมั้นของเธอไปด้วย ปานฟ้าเกิดความศรัทธาการทำงานของภาคินเป็นอย่างมาก ทำให้ก้องภพไม่พอใจ การมาของปานฟ้าทำให้เฟื่องแก้ว เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิ ซึ่งแอบรักภาคินอยู่หวั่นเกรงว่าจะเสียภาคินไป จึงแอบน้อยใจเงียบๆ แต่ตุลย์ ซึ่งทำงานประสานกับมูลนิธิได้เข้ามาปลอบใจ ก้อง ภพกับภาคินเป็นพี่น้องต่างมารดากัน แม่ของก้องภพคือคุณหญิงวิมลวรรณ ตั้งข้อรังเกียจที่ภาคินเป็นลูกที่เกิดจากนางเอกลิเกนามว่าบุษบา ซึ่งมาได้เสียกับอานนท์ ผู้เป็นสามีในงานแสดงที่บ้าน วิมลวรรณยึดลูกของบุษบาไว้ แล้วไล่บุษบาออกไปจากบ้าน ก้องภพจึงมักแสดงท่าทีข่มภาคินเป็นประจำ ทำให้ภาคินมุ่งมั่นทำงานมูลนิธิ โดยไม่ใส่ใจสมบัติของครอบครัว ส่วนบุษบายึดอาชีพลิเกเหมือนเดิม โดยเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “กัญญา” ทำหน้าที่ฝึกสอนและแสดงด้วย คนในคณะเรียกเธอว่าแม่ครูกัญญา บุษบาติดตามความเคลื่อนไหวของครอบครัวอานนท์อยู่เป็นประจำ เธอจึงทราบว่าลูกชายของเธอเป็นใคร อยู่ที่ไหน จุดประสงค์ของปานฟ้า ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการทำงานของภาคินก็คือการตามหา “ทินภัทร” ลูกชายของปานเดือน พี่สาวคนกลางซึ่งสูญหายไปตั้งแต่อายุเพียงหนึ่งขวบ ปานเดือนเสียสติจนต้องอยู่ในความดูแลของจิตแพทย์ ปานดาวกับภูวดล ผู้สามีพยายามตอกย้ำว่าปานเดือนเป็นบ้า ทำลูกหาย อาการของปานเดือนมีแต่แย่ลง ทำให้ปานดาวกับภูวดลเชื่อมั่นว่าธัญวิทย์หรือน้องธัญ ลูกชายของตนจะเป็นผู้ครอบครองมรดกมหาศาลของตระกูลเพียงคนเดียว ปานฟ้าพาปานเดือนมาที่มูลนิธิ ปานเดือนถูกชะตากับบุญทิ้ง จึงขอเติมบุญกับสายอุษา ผู้เป็นพ่อแม่ว่าจะอุปการะบุญทิ้งในฐานะลูกที่หายไป อนิรุทธิ์ สามีของเธอก็เห็นว่าบุญทิ้งอาจช่วยเยียวยาอาการป่วยของปานเดือนได้ ปานดาวเกรงว่าธัญวิทย์ ลูกชายตนจะถูกแบ่งสมบัติจึงให้พิม คนเลี้ยงธัญวิทย์หาทางกำจัดบุญทิ้งเสีย พิมใช้ให้ก้าน สามีที่เพิ่งออกจากคุกมาลักพาตัวบุญทิ้งไปจากมูลนิธิ แต่บุญทิ้งหนีไปได้ โชคชะตานำพาให้บุญทิ้งไปพบแม่ครูกัญญา ต่อมาไม่นาน แม่ครูก็สอนให้บุญทิ้งร้องรำลิเกจนกลายเป็นลิเกเด็กขวัญใจคนดูไปในเวลาไม่ นาน การหายตัวไปของบุญทิ้งทำให้ปานฟ้ากับภาคินร่วมมือกันตามหา เฟื่องแก้วกับตุลย์ร่วมติดตามไปด้วย ก้องภพขัดขวางและหาทางนำตัวปานฟ้ากลับ ทำให้ข้อขัดแย้งระหว่างภาคินกับก้องภพมีเพิ่มมากขึ้น ภาคินสารภาพกับปานฟ้าว่าเขาตระเวนดูลิเกเพราะต้องการตามหาแม่ ซึ่งเป็นนางเอกลิเกนามว่าบุษบา แต่ก็ยังไม่เคยพบ ปานฟ้าขอติดตามภาคินไปดูลิเกบ้าง เผื่อว่าจะได้พบกับบุญทิ้งด้วย ปาน เดือนมีอาการทรุดลงหลังจากที่บุญทิ้งถูกลักพาตัวไป ปานดาว ภูวดลและพิม พยายามหาทางทำร้ายปานเดือนทุกวิถีทาง ต่อมาปานฟ้ากับภาคินได้พบกับลิเกคณะแม่ครูกัญญา ทั้งสองจำบุญทิ้งได้ จึงขออุปการะบุญทิ้ง แต่แม่ครูกัญญาจำภาคิน ลูกชายของเธอได้เช่นกัน แม่ครูกัญญาจึงพาบุญทิ้งหนีไปอีก ปานเดือนยิ่งมีอาการทรุดหนัก บุษบา หรือแม่ครูกัญญาไม่ยอมรับงานการแสดงในที่ชุมชนใหญ่ ๆ ทำให้ชาวคณะลิเกลาออกไปอยู่คณะอื่น ต่อมาด้วยความยากจน และความกตัญญู บุญทิ้งแต่งชุดลิเกร้องรำขอเงินคนเดินผ่านไปมาเป็นที่น่าสงสาร ผู้คนบริจาคเงินให้แก่บุญทิ้ง แม้ว่าบุษบาจะขอให้บุญทิ้งเลิกเป็นลิเกแต่บุญทิ้งก็ไม่สนใจ บุษบาพยายามทำงานหลายอย่างเพื่อทดแทนอาชีพลิเก ตุลย์ได้พบกับบุษบาและบุญทิ้ง จึงส่งข่าวให้ปานฟ้ากับภาคินทราบ ระหว่างที่ปานฟ้าพาเติมบุญกับสายอุษามารับตัวบุญทิ้งนั้นเอง ปานดาวก็ให้ก้านฆ่าบุญทิ้งเสีย แต่เติมบุญมาเห็นเข้า ก้านจึงจับตัวเติมบุญไปด้วย โดยเรียกค่าไถ่เป็นเงินมหาศาล ปานดาว สั่งตำรวจให้จัดการกับก้าน แล้วพาตัวเติมบุญกลับมาให้ได้ พิมโกรธที่ปานดาวหักหลังจึงขู่ว่าจะเปิดโปงเรื่องที่ปานดาวเป็นตัวการที่ทำ ให้ทินภัทรหายไปและจะเปิดเผยว่าเด็กชายธัญวิทย์ไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของปาน ดาว เพราะภูวดลสามีของปานดาวเป็นหมัน ธัญวิทย์คือลูกชายของพิมซึ่งภูวดลนำมาอุปโลกน์ว่าเป็นลูก ปานดาวตกใจมาก เสนอเงินมหาศาลให้ก้านปล่อยตัวเติมบุญกลับมาได้ และสัญญาว่าธัญวิทย์จะได้รับมรดกคนเดียว แต่เมื่อเติมบุญกลับมาก็ยังไม่ลืมบุญทิ้ง ชายชราป่วยหนัก พร่ำเพ้อแต่บุญทิ้ง ปานฟ้ากับภาคินจึงต้องติดตามบุญทิ้งมาให้ได้ แม้ว่าก้องภพจะขัดขวางอย่างไรก็ตาม ปานฟ้าปฏิเสธความรักที่ก้องภพมีต่อเธอ ยิ่งทำให้ก้องภพแค้นใจในตัวภาคินมากยิ่งขึ้น พิมเริ่มมีอำนาจเหนือปาน ดาว บังคับปานดาวให้ทำทุกอย่างตามที่ตนต้องการ ปานดาวเครียดจัด ยิ่งรู้ว่าภูวดลมีเมียน้อยก็เกิดปากเสียงกันขึ้น ปานดาวลุแก่โทสะฆ่าภูวดลตาย ถูกจับติดคุก พิมหนีไป โดยลักพาตัวธัญวิทย์ไปด้วย ภาคินกับตุลย์และปานฟ้าออกติดตามคนร้าย ซึ่งรู้ในเวลาต่อมาว่าคือก้านสามีของพิมนั่นเอง ตำรวจวิสามัญ ฆาตกรรมก้านตาย พิมแค้นเคืองมากจึงยิงปานฟ้า แต่ภาคินช่วยไว้ได้ และทั้งหมดช่วยเหลือธัญวิทย์กับบุญทิ้งมาได้ บุญทิ้งมาทันดูใจเติมบุญ ตุลย์กับเฟื่องแก้วนำพ่วงมาดูตัวพิม พ่วงยืนยันว่าพิมคือผู้หญิงที่นำเด็กชายบุญทิ้งมาขายให้ตนในราคาถูกๆ เพื่อให้บุญทิ้งเป็นเครื่องมือหากินของตน ทุกคนจึงรู้ว่าบุญทิ้งคือทายาทที่แท้จริง ความสุขสงบกลับคืนมาอีกครั้ง ปานดาวซึ่งติดคุกอยู่ขอร้องให้ปานฟ้าอย่าบอกความจริงว่าธัญวิทย์ไม่ใช่ลูก ของเธอ ปานฟ้ารับปากและสัญญาว่าจะรักธัญวิทย์เหมือนเคย แม้ว่าธัญวิทย์จะไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลก็ตาม บุญทิ้งกลับมาเป็น “ทินภัทร” ปานฟ้าแต่งงานกับภาคิน ส่วนตุลย์แต่งงานกับเฟื่องแก้ว โดยพิธีแต่งงานเป็นไปอย่างเรียบง่ายมีการเลี้ยงอาหารแก่เด็กเร่ร่อนที่ มูลนิธิ ก้องภพยอมรับความพ่ายแพ้และมุ่งมั่นจะบริหารงานของครอบครัวต่อไป บุษบามาเป็นแม่บ้านให้แก่มูลนิธิ ภาคินดีใจที่ได้แม่ของตนกลับคืนมา หลังจากที่ตามหามาเป็นเวลานาน ทินภัทรหรือบุญทิ้ง เด็กชายผู้มีชาติตระกูลสูงส่งต้องระเหเร่ร่อนอย่างยากลำบาก ไม่ต่างจากดาวที่เคยพราวพร่างอยู่กลางฟ้าต้องตกลงมาบนดิน แต่แสงแห่งดาวก็ยังเจิดจ้าดั่งดาวดินที่ไม่มีวันสิ้นแสง ดุจเดียวกับภาคินและปานฟ้า ซึ่งเกิดมาสูงส่งแต่ก็ได้ใช้แสงแห่งดาวให้ความสว่างไสวแก่ผู้ยากไร้ให้ดิน ได้มีแสงสว่างเช่นเดียวกับดาวบนฟ้านั่นเอง