ภูผาแพรไหม 2555

ภูผาแพรไหม (2555/2012) "ภูผา" ชายหนุ่มที่มีสาวงามล้อมรอบกายถึงสามคน "แพรไหม" "ปรางแก้ว" "เจ้าแสงมณี" หากเขามีหัวใจดวงเดียวมอบให้แพรไหม แต่เพราะความเข้าใจผิดว่าเธอคือคนที่ฆ่าพี่ชาย ทำให้ภูผาต้องห้ามความรู้สึกลึกซึ้งในใจ โดยใช้ความโกรธ เกลียด และความเย็นชา ปิดหัวใจตนเอง "แพรไหม" ผู้ยึดมั่นในความกตัญญู จึงยอมหมั้นหมายกับเจ้าชายหนุ่ม "แสงฉาย" หากในหัวใจกลับผูกพันห่วงใย... "ภูผา" ทุกสิ่งที่เธอทำ เพียงเพื่อเขา เพราะคำว่า "รัก" เพียงคำเดียว ทว่า...เมื่อแรงแค้นและความเข้าใจผิดยังเกาะกุมใจอยู่ อีกหนึ่งก็ต้องกตัญญู ท้ายที่สุดใจทั้งสองดวงจะมีวันได้มาเกี่ยวพันกันหรือไม่? เอาใจช่วยพวกเขาพร้อมกัน

บ่วง 2555

บ่วง (2555/2012) ศามน(โฬม พัชฏะ) หนุ่มวัยทำงานที่พร้อมด้วยรูปสมบัติ คุณสมบัติ และทรัพย์สมบัติ เขาได้แต่งงานกับ รัมภา(ศรีริต้า เจนเซ่น)สาวสวยที่มีความเพียบพร้อมคู่ควรกับ เขาทั้งสองพบรักกันที่อเมริกาแต่งงานกันจนมีลูกแฝด2คน ชื่อศรุท (กาย ภัทรกร) และศรัย(ใยไหม ชินารดี) ศามนได้รับมรดกจากคุณทวด (เหมียว ชไมพร )ที่เสียชีวิตไปเป็นบ้านสวนเก่าๆ มีตาหล้า(เดียร์ ชุมพร) กับยายคำ(ป๋อง พิมพ์แข)ที่เป็นข้าเก่าของคุณทวดคอยดูแลให้ ศามนจึงขอย้ายงานจากอเมริกามาประจำสาขาที่เมืองไทยแล้วย้ายมาอยู่ที่บ้านสวน ศพของคุณทวดนั้นยังไม่ได้รับการเผ่าใส่โลงตั้งไว้บนเรือนใหญ่ ศามนจึงไม่อยู่เรือนใหญ่ แต่ไปปรับปรุงเรือนเล็กทางด้านหลังบ้านเป็นที่อาศัยแทนซึ่งเรือนเล็กหลังนี้มีความหลังแต่ไม่มีใครรู้ เดือนแรม (ใหม่ สุคนธวา)เพื่อนบ้านเปรี้ยวจี๊ดเข้ามาพัวพันกับครอบครัวของศามน จนได้เป็นเมียของศามน ด้วยบ่วงกรรมที่เคยผูกพันมาแต่ชาติก่อน ศามนเคยเกิดเป็นคุณพระภักดีบทมาลย์(โฬม พัชฏะ) ลูกเขยของคุณทวดเจ้าของบ้าน รัมภาเคยเกิดเป็น ชื่นกลิ่น(ศรีริต้า เจนเซ่น) ลูกสาวของคุณหญิงอบเชย(เหมียว ชไมพร) ซึ่งเป็นคุณทวดเจ้าของบ้านสวนหลังนี้มีลูกสาวหนึ่งคนชื่อ ชิดศรี ชื่นกลิ่นมีต้นห้องชื่อ แพง(นุ่น ศิรพันธ์) อายุไล่เลี่ยกับชื่นกลิ่นคอยอิจฉาชื่นกลิ่นที่ได้ดีกว่าตน แพงแอบหลงรักคุณพระ ขณะที่ชื่นกลิ่นไปนอนโรงพยาบาลเพื่อคลอดลูก คุณพระไปราชการเมากลับบ้าน แพงสบโอกาสจึงร่วมหลับนอนกับคุณพระ แต่เมื่อคุณชื่นกลับมาคุณพระก็ไม่สนใจแพง แพงจึงไปหาหมอเพื่อทำคุณไสยใส่คุณพระ คุณพระหลงแพงหัวปักหัวปำ เรื่องที่แพงทำเสน่ห์ใส่คุณพระรู้ถึงหูคุณหญิง คุณหญิงพาคุณพระไปหาท่านเจ้าคุณ เพื่อช่วยแก้คุณไสย การแก้ไขมนต์ดำในตัวคุณพระทำให้ถึงแก่ความตาย ของกลับเข้าตัวแพง แพงจึงกลายเป็นคนเสียสติ คุณหญิงจึงสร้างเรือนเล็กเพื่อขังแพงและเฆี่ยนตีจนถึงความตาย อกุศลกรรมปัจจุบันแพงจึงเป็นวิญญาณร้ายตามอาฆาตแค้น ทำให้ศามนหลงผิดเป็นชอบไม่สนใจลูกเมีย วรรณศิกา(พุดเดิ้ล ปาจรีย์) อนุกูล(โป๊ป ธนวรรธน์) และ พัชนี(เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา)เพื่อนที่ทำงานคุณศามนสงสารรัมภาจึงพาไปหา ลุงช่วง(เผ่าทอง ทองเจือ) ผู้ที่สามารถมองเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น ลุงช่วงบอกกับรัมภาว่า บ้านสวนของเธอมีวิญญาณสถิตอยู่ เรือนใหญ่เป็นวิญญาณดีไม่ยอมไปเกิดใหม่เพราะเป็นห่วงลูกหลาน แต่ที่เรือนเล็กมีวิญญาณร้ายวนเวียนอยู่เพื่อต้องการจองเวรรัมภา วรรณศิกา อนุกูลและพัชนีจึงพารัมภาไปนั่งสมาธิกับแม่ชีที่วัด ทำให้ได้รู้เรื่องราวในอดีต รัมภาปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิ และแผ่บุญกุศลให้กับแพง เมื่อแพงได้รับกุศลจากรัมภาในชาติปัจจุบันจึงเลิกจองเวร ยอมไปตามชะตากรรม และเมื่อศามนสำนึกได้จึงขอลาบวชเพื่ออโหสิกรรม

รักประกาศิต 2555

รักประกาศิต (2555/2012) ภูชิชย์ บริรักษ์กิจเกษตร หรือที่ทุกคนเรียกว่า พ่อเลี้ยงภู เป็นพี่ชายคนโตของ วิทวัส และ สุพัฒนา หรือ คุณเล็ก หลังจากที่พ่อแม่ของสามพี่น้องได้เสียไปตั้งแต่วิทวัสและคุณเล็กยังไม่จบมหาวิทยาลัย ทำให้ภูชิชย์ต้องดูแลธุรกิจของครอบครัว ซึ่งก็คือ ไร่และฟาร์มชื่อ สุพัฒนา ซึ่งพ่อและแม่ของภูชิชย์ ตั้งชื่อตามลูกสาวคนเล็กที่ทั้งสองรอคอยลูกสาวมานาน ด้วยความที่คุณเล็กสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงมาตั้งแต่เด็ก จึงทำให้ทุกคนในบ้านดูแลประคบประหงมเธอไม่ต่างอะไรกับเจ้าหญิงน้อยๆของที่บ้าน ไม่ว่าจะอยากได้อะไรอยากจะทำอะไร ไม่มีใครกล้าขัดใจคุณเล็ก เพราะถ้าขัดใจเธอเมื่อไหร่ คุณเล็กจะป่วยหอบและอาละวาดขึ้นมาทันที สาเหตุจากสุขภาพของคุณเล็กนี่เองที่ทำให้ก่อนตายพ่อกับแม่จึงขอให้ภูชิชย์กับวิทวัสดูแลน้องอย่างดี อย่าทำให้พ่อแม่ต้องเป็นห่วงอีก และนี่ก็คือข้ออ้างไม้ตายทุกครั้งที่ภูชิชย์กับวิทวัสตั้งท่าจะเริ่มขัดใจคุณเล็ก ซึ่งก็ทำให้เธอได้ทุกอย่างจากพี่ชายทั้งสองมาจนโต ยิ่งนานวันนิสัยเอาแต่ใจ โวยวาย ขี้โมโหของคุณเล็กก็หนักขึ้นเรื่อยๆจนลามไปถึงเรื่องส่วนตัวทั้งของภูชิชย์และวิทวัส เพราะคุณเล็กไม่ชอบหน้า เจ้าน้อย หรือ เจ้าทิพย์ดารา บุตรสาวคนเดียวของ เจ้าเทพมงคลและเจ้าดาระกา เจ้าของไร่เทพมงคล และเป็นเพื่อนสนิทกับพ่อแม่ของภูชิชย์มาตั้งแต่สมัยเป็นหนุ่มๆจนชวนกันมาซื้อที่ทำไร่อยู่ข้างกัน ทั้งสองครอบครัวสนิทกันมากจนแทบจะกลายเป็นญาติกัน ถ้าหากภูชิชย์ได้แต่งงานกับเจ้าน้อย แต่การณ์ก็ไม่เป็นดังที่ทุกคนหวัง เมื่อเจ้าเทพมงคลประสบปัญหาสะดุดทางธุรกิจในช่วงที่ภูชิชย์กับเจ้าน้อยกำลังจะแต่งงานกัน คุณเล็กจึงบังคับให้ภูชิชย์เลิกกับเจ้าน้อยเพราะคิดว่าเจ้าน้อยต้องการจะมาฮุบสมบัติของครอบครัวเธอ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เจ้าน้อยเสียใจมาก เจ้าเทพมงคลกับเจ้าดาระกาก็โกรธภูชิชย์ จึงส่งเจ้าน้อยไปอยู่ที่อังกฤษและประกาศตัดความสัมพันธ์กับครอบครัวของภูชิชย์ ส่วนเรื่องของวิทวัสก็ไม่แพ้กัน เมื่อคุณเล็กรู้ว่าวิทวัสมีคนรักตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย คือ รัชนิดา หรือ ดา และทั้งคู่ตั้งใจว่าเรียนจบจะแต่งงานกัน คุณเล็กก็เข้าจัดการไล่รัชนิดาออกไปจากชีวิตทันที เพราะเธอสืบรู้มาว่ารัชนิดาเป็นเพียงผู้หญิงที่มาจากครอบครัวธรรมดา ซึ่งคำว่าธรรมดาไม่สามารถจะรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับครอบครัวเธอได้ วิทวัสเสียใจมากกับการกระทำของคุณเล็กจึงคิดจะเอาเรื่อง แต่ภูชิชย์ไม่อยากให้พี่น้องทะเลาะกันจึงเข้าไกล่เกลี่ย วิทวัสไม่เห็นด้วยกับการกระทำของภูชิชย์จึงขอย้ายตัวเองไปดูแล บริษัท สุพัฒนาการเกษตร ที่กรุงเทพฯ เพื่อลดการปะทะกับคุณเล็ก วันเวลาผ่านไป คุณเล็กมีความสุขอยู่กับการควบคุมพี่ชายทั้งสอง โดยอ้างว่าเธอต้องการให้คนที่จะมาเป็นพี่สะใภ้เป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์ที่สุด ทั้งหน้าตา ชาติตระกูล และฐานะ เมื่อเงื่อนไขเยอะขนาดนี้ ภูชิชย์กับวิทวัสจึงตัดสินใจเป็นโสด เพราะรู้ว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนในโลกที่จะดีพอสำหรับคุณเล็ก แถมคุณเล็กยังตั้งกฎห้ามรับผู้หญิงที่หน้าตาสวยเข้าทำงานทั้งในไร่และบริษัทที่กรุงเทพฯ โดยอ้างว่าจะทำให้คนงานชายเสียสมาธิในการทำงาน แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าคุณเล็กตั้งกฎนี้เพราะไม่ต้องการให้ภูชิชย์กับวิทวัสติดกับดักพวกผู้หญิงที่จะมาขุดทองจากสมบัติของครอบครัว เธอจึงคอยกลั่นแกล้ง ทำทุกวิธีทางเพื่อที่ไม่ให้ผู้หญิงเข้ามาใกล้ชิดกับพี่ชายทั้งสองของเธอ และเธอเองจะสามารถกีดขาวง และกลั่นแกล้งได้ตลอดไปหรือไม่ เรื่องจะเป็นอย่างไรห้ามพลาดกับละคร “รักประกาศิต”

มุกเหลี่ยมเพชร 2555

มุกเหลี่ยมเพชร (2555/2012) อะดอเรลลา เพชรสีชมพูหยดน้ำสวยที่สุดในโลก ถูกซื้อมาโดย พัชระ หรือ เพชร(พัชฏะ นามปาน) เจ้าของ Star Diamond ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง กำหนดการแสดงโชว์อะดอเรลลาจะมีขึ้นในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ระหว่างนั้นเพชรถูก มรกต(ภัสสร บุณยเกียรติ) ผู้เป็นแม่จัดแจงให้ไปดูตัว มุกดา หรือ มุก( ซูซี่ สุษิรา ) ลูกสาวของ ประไพ(ปานเลขา ว่านม่วง) เพื่อนรัก มุกทำทุกอย่างให้ตัวเองเหมือนสาวสวย ใส ไร้สมอง ทั้งที่จริงแล้วมุกเป็นตำรวจสากลหญิงที่อเมริกา การดูตัวแทบพังเพราะมุกแกล้งทำตัวน่ารำคาญ คมกฤช(วริษฐ์ ทิพย์โกมุท) เจ้าของบริษัทรักษาความปลอดภัยและเป็นพี่ชายของมุกต้องรักษาความปลอดภัยของเพชรอะดอเรลลาให้กับ Star Diamond ได้ชวนน้องสาวออกไปซ้อมยิงปืน โดยมีเงื่อนไขใครแพ้ ต้องยอมทำทุกอย่าง ที่สนามซ้อมคมกฤชแนะนำน้องสาวกับ พันตำรวจตรี ธีรพัฒน์(ศิววัชร์ ทรัพย์ภิญโญ) เพื่อนรัก ธีรพัฒน์หลงรักมุกทันที วันนั้นคมกฤชยิงปืนชนะ มุกจึงต้องไปงานการกุศลกับพี่ชายตามที่แพ้พนัน ที่งานเต้นรำหน้ากาก ไฮไลท์การประกวดเต้นแทงโก้ อากัปกิริยาและแววตาของสาวในชุดสีแดงเพลิงที่ชนะเลิศทำให้เพชรถึงกับอยากทำความรู้จัก แต่กลับไม่ได้เห็นหน้าของหญิงสาว ทิ้งไว้เพียงน้ำหอมกลิ่นกุหลาบที่ทำให้เพชรกลับไปเพ้อ เขาไม่เอะใจเลยว่าเธอคือคนเดียวกับมุกดาผู้หญิงสมองกลวงที่เขารังเกียจ หนึ่งวันก่อนงานโชว์ อะดอเรลลาถูกย้ายจากเซฟธนาคารมาเก็บไว้ในโรงแรม คนรู้เรื่องนี้มีเพียง เพชร ชนินทร(พศิน เรืองวุฒิ) เพื่อนร่วมงานที่เป็นผู้จัดการร้าน เจนจบ(เจสัน ยัง) ฝ่ายการตลาด และธีรพัฒน์ ตำรวจผู้ควบคุมการขนย้าย ไม่ทันข้ามคืนเกิดการโจรกรรมขึ้นจากโจรมืออาชีพที่มี ภูผา(ชลัฏ ณ สงขลา) เป็นหัวหน้ากับลูกน้อง แมงมุม(สุนันทา ยูรนิยม) บลู(มนสิชา เกิดโกสุม) ขุนพล(วัทนพร พึ่งเพียร) และ เนส โจรทั้ง 5 หลบกล้องวงจรปิด ฝ่าด่านแสงอินฟราเรด สลับวางหินแทนอะดอเรลลา แต่เกิดความผิดพลาดเมื่อเนสถูกผลักตกจากสลิงโรยตัวตายคาที่ ข่าวอะดอเรลลาหายกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ การสืบหาเป็นไปอย่างเข้มข้น มุกตัดสินใจอยู่ช่วยพี่ชายสางคดี เลยโทร.ลางาน เจอรี่(เคน สตรุทเกอร์) หัวหน้าหน่วยที่อเมริกา เลยได้รู้ว่าเป็นเครื่องประดับเก่าแก่ประจำตระกูลโจนส์ที่ถูกขโมยมา มุกเริ่มแผนด้วยการสวมบทบาทเป็น มุกดา สาวหน่อมแน้ม ขอไปทำงานบริษัท Star Diamond เพชรที่วุ่นวายเรื่องตามหาอะดอเรลลาถึงกับเครียดหนักเมื่อแม่จัดแจงให้มุกมานั่งเป็นเลขาในห้องทำงาน มุกโดนเลขาหวงนาย สาลินี(ปณิตา พัฒนาหิรัญ) ริษยาขึ้นมาทันที มุกไปสำรวจร้านคู่แข่งของเพชร SK Jewelry ที่มี สงคราม(สุเชาว์ พงษ์วิไล) กับ ศักดา(ดานิเอล เบล็สซิ่ง) เป็นเจ้าของ ศักดาจับตาทันทีเมื่อรู้ว่ามุกเป็นเลขาของเพชร รุจา หรือ บี(สุนิสา เจทท์) ลูกสาว บรรพต(กลศ อัทธเสรี) เจ้าของหนังสือพิมพ์ใหญ่ ถูกส่งมาทำข่าวอะดอเรลลา เธอขอสัมภาษณ์ธีรพัฒน์ ด้วยความเฟอะฟะ รุจาเข้าใจผิดเลยวิ่งตามคมกฤชและทำเขาเจ็บตัว การเจอกันครั้งแรกของรุจากับคมกฤชจึงไม่น่าจดจำในสายตาชายหนุ่ม ชนินทรดูเป็นคนเคร่งขรึมเอาจริงเอาจังกับงานมากกว่า พาที(โพลาร์ อิศวร์)และเจนจบ แต่ลับหลังชนินทรตบตีเมีย นิจนันท์(วิรากานต์ เสณีตันติกุล)ด้วยปมด้อยในใจที่ชนินทรไม่เคยลืมว่านิจนันท์เคยหลงรักเพชรตอนเรียนมหาวิทยาลัย เพชรพามุกไปงานแสดงเครื่องประดับของร้านสงคราม สงครามพยายามดิสเครดิตการเงินบริษัทเพชรต่อหน้าแขกทุกคน ด้วยการปล่อยข่าวเรื่องบริษัทเพชรง่อนแง่น จนแกล้งทำอะดอเรลลาหายหวังเงินประกัน สงครามพยายามใส่ร้ายด้วยการหย่อนเพชรสีฟ้าที่โชว์อยู่ใส่ในสูทของเพชร แต่มุกเห็นเหตุการณ์จึงแก้เผ็ดกลับคืน จนทำให้สงครามโมโหที่แผนใส่ร้ายคู่แข่งอย่างเพชรพังไม่เป็นท่า เพชรเริ่มสงสัยว่าเลขาอย่างมุกดา คงไม่ใช่หญิงเปิ่นเหมือนที่ผ่านมาเสียแล้ว เพชรถูกกลุ่มภูผาตามประกบ มุกต้องแกล้งช่วยเขาให้รอดแบบเปิ่นๆ ทั้งๆที่ใจอยากบู๊เต็มที่ ทำให้พวกภูผาต้องถอยหลายครั้ง รุจาตามสัมภาษณ์ธีรพัฒน์ เลยต้องเจอคมกฤชกับมุกอีกครั้ง รุจาชนพนักงานเสิร์ฟจนแก้วน้ำหกใส่คมกฤช คมกฤชโกรธจัดลากรุจาไปล้างเสื้อให้เขาในห้องน้ำชาย นักข่าวคนหนึ่งเห็นจึงเอาไปลงกอสซิปว่าคมกฤชเปลี่ยนรสนิยมมาชอบทอม พ่อรุจาไม่ยอมให้เรื่องเงียบเลยวางแผนนัดให้คมกฤชกับรุจาเจอกันและวางยาสลบในน้ำ คมกฤชต้องรีบโอบเธอไว้ก่อนจะร่วงไปกองที่พื้นและถ่ายรูป ตรงตามแผนที่บรรพตคาดไว้ เพื่อเอามาบังคับให้คมกฤชหมั้นเพื่อรับผิดชอบชื่อเสียงลูกสาว มุกติดเครื่องดักฟังตามโต๊ะทำงาน ดักฟังจนรู้แผนที่ศักดาจะลอบฆ่าเพชร มุกดัดเสียงโทร.ไปเตือนเพชร แล้วให้แอนดี้สะกดรอยตามชนินทรที่อ้างว่าไปพบลูกค้า แอนดี้เห็นชนินทรไปพบขุนพล คมกฤชกับธีรพัฒน์ตามเรื่องต่อจนจับขุนพลได้ ภูผากลัวเรื่องสาวมาถึง เลยส่งแมงมุมไปจัดการแต่แมงมุมทำไม่ลงเพราะแอบรักขุนพลอยู่ ขุนพลเกือบรอดแต่บลูจัดการปิดปากขุนพลเสียเอง ศักดาทำลายชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือจน Star Diamond ไม่มีลูกค้าแน่นร้านเหมือนเก่า เพชรถือโอกาสพาพนักงานไปเที่ยวหัวหิน มุกดาได้โอกาสสืบประวัติเพื่อนทุกคนของเพชรมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องเก่าที่นิจนันท์แอบชอบเพชร แต่เพชรกลับชอบ ปานตา ว่าที่เจ้าสาวแต่สุดท้ายก็ต้องยกเลิกงานแต่งกะทันหัน ไม่มีใครพบปานตาหลังจากนั้นเลย กลางดึกเพชรและมุกโดนลอบทำร้ายโดยกลุ่มภูผา มรกตรู้เรื่องเข้าก็วางแผนส่งเพชรกับมุกไปพักผ่อนที่กระบี่ ในบ้านพักหรู มุกอยู่กับเพชรตามลำพัง เพชรแกล้งทำเป็นลวนลาม มุกเผลอตัวฟันเข้าสันคอ เพชรจับได้ทันทีว่ามุกไม่ใช่หญิงเปิ่น มุกจึงยอมรับและเล่าเรื่องทุกอย่าง ขณะที่เพชรกับมุกยังไม่กลับจากกระบี่ ชนินทรนัดเจอสงครามและขู่เรื่องที่รู้ว่าศักดาวางแผนฆ่าเพชร ชนินทรหักหลังจ่อปืนที่หัวสงคราม จะเอาเพชรอาถรรพ์ที่ตัวเองร่วมวางแผนปล้นมาตั้งแต่ต้น ทั้งคู่โต้เถียงกันรุนแรง ชนินทรพลั้งมือยิงสงครามตายและหนีเตลิดแต่รถเบรกแตกพลิกคว่ำตายคาที่ ธีรพัฒน์ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้พบเบาะแสมากขึ้นและพบอะดอเรลลาอยู่ในกระเป๋าเสื้อชนินทร ธีรพัฒน์เจอทั้งสมุดบัญชีที่สงครามจ่ายให้ชนินทรทุกเดือนและ DVD การรักษาความปลอดภัยงานโชว์อะดอเรลลาทั้งหมดที่ชนินทรก็อปปี้ไว้ให้โจร ทุกอย่างดูจะคลี่คลาย แต่กลายเป็นว่าอะดอเรลลาที่ได้จากชนินทรนั้นคือ ของทำเลียนแบบ ขณะที่ทุกคนงุนงงว่าเพชรอาถรรพ์ของจริงอยู่ที่ไหน อะดอเรลลาถูกส่งจากธีรพัฒน์มาถึงมุกที่บริษัทต่อหน้าทุกคน แถมลงท้ายกำกับว่า แทนรักจากใจ ธีรพัฒน์และมุกกลายเป็นผู้ต้องสงสัยทันที เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร ธีรพัฒน์และมุกจะคลี่คลายปมสงสัยนี้ได้หรือไม่ และใครเป็นผู้บงการใหญ่ ติดตามชม ใน มุกเหลี่ยมเพชร

คุณสามีกำมะลอที่รัก 2555

คุณสามีกำมะลอที่รัก (2555/2012) เมื่อ ผู้หญิงในฝัน หล่นตุ๊บมาตรงหน้า เขาจะแปรเปลี่ยนคู่รักกำมะลอ เป็นความรักที่แท้จริงอย่างไร ฤชวี (โฬม พัชฏะ) หนุ่มหล่อแสนดีนักเขียนระดับเบสท์เซลเลอร์ ได้มาพบกับ พิมภา (ชมพู่ อารยา) ด้วยความบังเอิญ เมื่อฤชวี ได้เจอ พิมภา ก็ทำให้เขารู้จักกับคำว่าตกหลุมรัก แต่เพราะรู้จักความรักโดยที่ยังไม่ได้ตั้งตัว ทำให้เขาได้ปล่อยผู้หญิงในฝันของเขาไป แต่เหตุการณ์ไม่ได้จบเพียงเท่านั้น แต่ด้วยความบังเอิญหรือ กามเทพลิขิต ทำให้ทั้ง ฤชวี และ พิมภา ต้องมาทำงานร่วมกัน และ ต้องมาแต่งงานกัน แบบกำมะลอ แต่ด้วยความที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ทำให้เขาและเธอเริ่มตกหลุมรักกัน แต่ด้วยทิฐิ และความหีงหวง ทำให้ทั้งคู่ไม่ยอมเปิดใจให้กันสักที เรื่องราวความรักกำมะลอ ของสามีภรรยาคู่นี้จะเป็นอย่างไร ติดตามชมได้ใน คุณสามี(กำมะลอ)ที่รัก

แรงเงา 2555

แรงเงา (2555/2012) มุตตา หญิงสาวผู้มีนิสัยอ่อนหวาน ดูบอบบาง ทำงานเป็นเสมียนเล็กๆที่กระทรวงแห่งหนึ่งหล่อนหายหน้าไปนับจาก นพนภา ภรรยาของหัวหน้ากอง เจนภพ มาด่าประจานหล่อนที่กระทรวงเรื่องแย่งสามี ด้วยความที่เป็นคนอ่อนแอ ไม่กล้าสู้รบปรบมือกับใคร ทำให้ มุตตา ไม่สามารถอดทนต่อความอับอายได้ จึงหลบหนีไปอยู่ที่อื่นเป็นเวลา 1 เดือน ช่วงที่มุตตาหายไป วีกิจ หลานชายของเจนภพ ซึ่งมีใจให้กับมุตตาห่วงใยมุตตา และติดตามข่าวคราวของ มุตตา อยู่เสมอ เมื่อ มุตตา กลับมา นพนภา รู้ข่าวเข้าก็กลับมาด่าประจานอีกมุตตาหมดอดทนได้อีกจึงตบหน้านพนภาไปหนึ่ง ครั้ง เมื่อเจนภพรู้เข้าก็โกรธ เรียกให้มุตตามาขอโทษนพนภา มุตตาปฏิเสธพร้อมกับยื่นใบลาออก ทำให้เจนภพโกรธมากขึ้นไปอีก เหตุการณ์นี้สร้างความ ลำบากใจให้กับมุตตาเป็นอย่างมาก มุตตา จึงตัดสินใจย้ายที่พักเพื่อหลบหนีจากผู้คน เมื่อ วีกิจ รู้เข้าก็ออกตามหา มุตตา แต่ไม่พบ เจนภพ ได้รับโทรศัพท์จากมุตตาเพื่อขอนัดพบด้วยความรัก และปรารถนาที่ยังมีอยู่ในตัวเธอ เจนภพจึงไปพบกับมุตตาตามนัด และขอให้เธอกลับไปทำงานด้วยอีก แต่เธอปฏิเสธหลังจากนั้นมุตตาก็นัด เจอกับเจนภพบ่อยครั้งขึ้นพร้อม กับโทรศัพท์ไปหานพนภาด้วยการปลอมตัวเป็นผู้หวังดี บอกว่า เจนภพกำลังอยู่กับผู้หญิงทำให้นพนภาเกิดอารมณ์หึงอย่างรุนแรง และไปอาละวาดกับเจนภพมุตตาใช้มารยายั่วยวนเจนภพจนเขาคลั่งไคล้ในตัวเธอ มุตตาจึงยื่นข้อเสนอให้เจนภพหย่ากับนพนภาเมื่อวีกิจรู้ถึงความสัมพันธ์ ระหว่างมุตตาและเจนภพ ก็ขอร้องให้เธอเลิกคบกับเจนภพเสีย วีกิจยังสงสัยในตัว ของมุตตามาก เพราะเธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จึงนำลายเซ็นไป ให้เพื่อนที่กองพิสูจน์ หลักฐานตรวจสอบ ผลปรากฎว่าไม่ใช่ลายมือจากคนคนเดียวกัน วีกิจจึงโทรไปหา มุตตา ตามเบอร์ที่เคยให้ไว้ ก็ไม่มีคนชื่อ มุตตา หากแต่เป็นศูนย์วิจัยคอมพิวเตอร์ทำให้ วีกิจกลับสงสัยหนักขึ้นไปอีก สถานการณ์ ของเจนภพ และนพนภาเลวร้ายลงทุกวัน เจนภพ ตัดสินใจพาครอบครัวไปพักผ่อนที่พัทยา มุตตา แอบตามไป และพักอยู่ห้องข้าง ๆ เจนภพ นพนภาอาละวาดหนักหาว่าเจนภพนัดมุตตามาด้วย และ นพนภา ก็เริ่มมีอาการเป็นโรคประสาทอ่อน ๆ วีกิจกลุ้มใจมากเพราะสงสารหลาน ๆ ที่ต้องทนรับสภาพปัญหาครอบครัว เขาตัดสินใจไปดักรอ มุตตา ที่ห้องพักอีกครั้ง และขอร้องให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับเจนภพ มุตตา ปฏิเสธแต่กล่าวว่าจะยอมทำตามถ้านพนภาจะยอมคุกเข่าขออโหสิกรรม คำตอบของ มุตตา ทำให้วีกิจเกิดอารมณ์โกรธมาก และพาลใช้กำลังทำให้มุตตาตกเป็นของเขาด้วยความที่ทั้งคู่แอบมีใจให้กันใน ส่วนลึกทำให้ทุกอย่างเลยตามเลย แต่กระนั้นมุตตาก็ยังไม่เลิกราที่จะราวีกับครอบครัวของเจนภพ วีกิจพบเบาะแสว่ามุตตาอาจมีฝาแฝด ชื่อ มุนินทร์ มุตตานัดเจอกับเจนภพเพื่ออำลา แต่เพื่อนของนพนภาเห็นเข้าจึงโทรบอกนพนภา ทำให้หล่อนช็อคหกล้มศีรษะฟาดพื้นเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง และกลายเป็นอัมพาต เหตุการณ์ ครั้งนี้ทำให้ เจนภพ หันมาสนใจภรรยา และครอบครัวมากขึ้น เพราะสำนึกผิดว่าเขาเป็นคนทำลายครอบครัว ของเขาเอง วีกิจ เดินทางไปจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อหาความจริงเกี่ยวกับพื้นเพของมุนินทร์ เขาสืบเสาะจนพบบ้านของมุตตา มุนินทร์พาเขาไปพบกับมุตตา เขาจึงรู้ความจริงว่ามุตตาได้ตายจากโลกนี้ไปแล้ว และเป็นวันครบกำหนดร้อยวันที่ต้องเผาศพเธอพอดีวีกิจรู้ความจริงที่น่า สะเทือนใจอีกว่า มุตตาผูกคอตายขณะตั้งครรภ์ได้ 2-3 เดือน มุนินทร์เรียนจบกลับมาจากอเมริกา พบว่าน้องสาวตายอย่างน่าสลดใจ จึงหาทางแก้แค้น และปลอมตัวเป็นมุตตาท้ายสุดแล้ว เมื่อเจนภพรู้ความ จริงจึงเดินทางมาเพื่อกราบศพและขออโหสิกรรมกับมุตตา หลังงานฌาปนกิจ ศพของมุตตาเรียบร้อย วีกิจก็ขอเริ่มต้นใหม่กับมุนินทร์ แต่มุนินทร์ลังเลในความรักของวีกิจ ไม่แน่ใจว่าเขารักที่ตัวเธอหรือมุตตากันแน่ มุนินทร์ไม่ต้องการเป็นเงาของกัน และกันกับมุตตา เธอต้องการให้วีกิจรักเธอที่ความเป็นตัวของเธอเอง วีกิจ จะสามารถเอาชนะใจของมุนินทร์ได้หรือไม่

แม่ยายที่รัก 2555

แม่ยายที่รัก (2555/2012) วันรบ (ชาคริต แย้มนาม) สถาปนิกป้ายแดง ของบริษัท พชรอาคิเทค รักอยู่กับมัทรี (รณิดา เตชสิทธิ์)สถาปนิกสาว เพื่อนร่วมคณะฯ จนวันรบมั่นใจว่า มัทรีคือแม่ของลูกเขาในอนาคตมัทรีก็รักและชื่นชมในตัววันรบ แม้เธอจะเพียบพร้อมสมบูรณ์ทุกอย่าง แต่มีคุณสมบัติส่วนเกินหนึ่งอย่าง ที่เป็นอุปสรรคขวางทางรักของวันรบอย่างยิ่ง นั่นคือ มัทรีมีแม่ที่หวงลูกสาวที่สุด โหดที่สุด เค็มที่สุด อย่างคุณนาย ติรกา (ลลิตา ศศิประภา) เจ้าของกิจการค้าโอ่งชื่อดังของจังหวัดราชบุรี จนวันรบต้องมอบฉายา “ไหน้ำปลาปิศาจ” ให้ว่าที่แม่ยายด้วยความเต็มใจ คุณนายติรการักและหวงแหนมัทรียิ่งกว่าไข่ในหิน เมื่อวันรบเข้ามาพัวพันกับลูกสาวนางสิงห์ สงครามความรักชนิดนองเลือด ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ระหว่างว่าที่แม่ยายอย่างติรกา และว่าที่ลูกเขยอย่างวันรบจึงเกิดขึ้น แต่วันรบก็ไม่ย่อท้อ เขาพยายามทำทุกอย่างตามคำเรียกร้องของติรกาเพราะความรักที่มีต่อมัทรี ติรกาไม่ต้องการให้วันรบกับมัทรีคบกัน จึงหาเหตุต่าง ๆ นานาให้ทั้งคู่แยกกัน และดึงตัว ธงฉาน (บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ)เศรษฐีจากราชบุรี ที่ชอบพอมัทรีเป็นทุนเดิม เข้ามาแทรกกลางระหว่างวันรบกับมัทรีอยู่เสมอ แต่ธงฉานก็ไม่สามารถทำลายกำแพงรักของทั้งสองได้ วันรบเอาเรื่องกลุ้มใจของศึกรักครั้งนี้ ไปปรึกษา รชานนท์ (สหรัถ สังคปรีชา) เพื่อนรุ่นพี่สมัยมหาวิทยาลัย กับ พชร (จักรกฤษณ์ อำมรัตน์) เจ้านายและมีศักดิ์เป็นพี่เขยของรชานนท์ ด้วยความคะนองของฤทธิ์แอลกอฮอล์ พชรและรชานนท์แนะนำให้วันรบรวบรัดมัทรีเป็นของตัวเอง เพื่อหักหน้าติรกา ให้ยอมยกลูกสาวโดยไม่มีข้อแม้ วันรบไม่เห็นด้วย แต่มัทรีกลับใช้แผนนี้แทน มัทรีวางยานอนหลับวันรบ เซ็ทแผนหลอกติรกาว่าได้เสียกับวันรบแล้วทั้งที่ความจริงไม่มีอะไรกันเลยแม้แต่ปลายเล็บ ติรกาโกรธและเจ็บแค้นที่วันรบทำลายพรหมจรรย์ของลูกสาวสุดที่รัก เพราะเคยมีอดีตขมขื่น ฝังใจ ที่เธอเคยมีความรักและพลาดพลั้งตั้งท้องกับผู้ชายคนหนึ่ง เมื่ออายุยังน้อย แต่ผู้ชายคนนั้นกลับไม่รับผิดชอบและหนีไปเรียนต่อเมืองนอก ติรกาเสียใจและคิดทำร้ายตัวเอง แต่หมอพล ผู้ชายแสนดี เข้ามาช่วยเหลือ รับเป็นพ่อของลูกในท้องเธอ ตราบาปในอดีตกลับมาหลอกหลอนติรกา ทำให้ติรกาสาบานกับตัวเองว่าจะไม่ยอมให้ วันรบได้แต่งงานกับมัทรี จึงเรียกร้องเงินสินสอดสิบล้านเพื่อแลกกับการแต่งงาน ได้ไม่ครบสิบล้านไม่มีวันให้แต่ง!!! แต่ความจริงติรกาต้องการยื้อเวลาและหาทางแยกมัทรีกับวันรบออกจากกันเท่านั้น วันรบกลับมาปรึกษารชานนท์ กับพชรอีกครั้ง ขณะทั้งสามกำลังกึ่มได้ที่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ วันรบระบายความสุดเขี้ยวของว่าที่แม่ยาย ที่แสนอัดอั้นให้รุ่นพี่ทั้งสองฟัง พชรยุให้รชานนท์ไปจีบติรกา เพราะรชานนท์ยังหนุ่มโสด และวัยใกล้เคียงกับว่าที่แม่ยายยังสาวของวันรบ เมื่อรชานนท์เป็นพ่อเลี้ยง จะได้ยกมัทรีให้วันรบง่าย ๆ รชานนท์รับปากด้วยความคะนองเพราะความเมา วันรบขอให้รชานนท์ไปเป็นเพื่อนเพื่อเจรจาต่อรองเรื่องสินสอด ทันทีที่รชานนท์และติรกาเจอหน้ากัน ก็เกิดความโกลาหล เมื่อติรกาคว้าปืนลูกซองออกมาไล่ยิงรชานนท์ จนรชานนท์กับวันรบแตกกระเจิง ต้องหนีกระสุนเพื่อรักษาชีวิตแทบไม่ทัน สร้างความงุนงงให้กับ มัทรีเป็นอย่างมาก ว่าอะไรทำให้ติรกาเลือดเดือดขึ้นหน้าขนาดนี้รชานนท์เองก็ตกใจจนพูดไม่ออก ไม่ว่าวันรบจะถามถึงสาเหตุอะไร ก็ไม่ได้รับคำตอบใด ๆ จากรชานนท์ จนวันรุ่งขึ้นรชานนท์ชวนวันรบกลับไปที่บ้านติรกาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ติรกาบันดาลโทสะ ยิงรชานนท์ จนวันรบต้องหามรชานนท์ส่งโรงพยาบาล เตือนใจ(ดวงตา ตุงคะมณี)แม่ของติรกา และ พุทรา(ปาจารีย์ ณ นคร) เลขาของติรกา ก็ตกใจไปตามๆกันนลินี (พิมลวรรณ หุ่นทองคำ)พี่สาวของรชานนท์จะแจ้งตำรวจจับติรกา แต่รชานนท์ปฏิเสธ มัทรีตกใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้ และพยายามซักไซ้ไล่เลี่ยงกับติรกาว่าทำไมถึงกับต้องยิงรชานนท์ ติรกาตอบเพียงแค่ว่า เธอเสียดายที่ยิงรชานนท์ไม่ตาย แล้วติรกาก็หนีหน้าทุกคนกลับราชบุรีทันที ท่ามกลางความงุนงงของวันรบ มัทรี พชร นลินี รชานนท์บอกความจริงกับทุกคนว่า เขาคือผู้ชายที่เคยรักกับติรกาเมื่อครั้งอดีต และเขาสังหรณ์ใจว่า มัทรีคือลูกสาวของเขา มัทรีตกใจ ไม่ยอมรับ เพราะเข้าใจว่าหมอพลคือพ่อของเธอมาตลอด มัทรีตามไปถามความจริงจากติรกา แรก ๆ ติรกาไม่ยอมบอกอะไร จนแม่ลูกมีปากเสียงกันรุนแรง ติรกาจึงหลุดปากเล่าความจริงทั้งหมด ว่ารชานนท์ คือคนที่ทำให้เธอท้องและทอดทิ้งเธอกับลูกไปเรียนต่อเมืองนอกอย่างไม่เหลียวแล มัทรีเจ็บปวดและเสียใจแทนแม่ เมื่อรู้ความจริงในอดีต ทำให้มัทรีไม่ยอมรับรชานนท์เป็นพ่อ รชานนท์บอกกับทุกคนว่าจะตามง้อขอคืนดีกับติรกา และจะทวงสิทธิ์ความเป็นพ่อในตัว มัทรีกลับมา เมื่อวันรบรู้ความลับของติรกาจึงคิดว่าเหนือกว่า แต่ติรกาบอกว่าถ้าวันรบยังยุ่งเรื่องของเธอ เธอจะคิดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นถ้าไม่จ่าย จะล้มเลิกงานแต่งงานทันที ซึ่งคราวนี้มัทรีเห็นด้วยกับแม่อย่างเต็มที่ สร้างความกลุ้มใจให้กับวันรบยิ่งนัก ที่จู่ ๆ คนรักพลิกกลับไปเข้าข้างว่าที่แม่ยายซะงั้น ที่ราชบุรี ติรกามีสมภพ (โจโจ้ ไมอ๊อกซิ)นักธุรกิจหนุ่มใหญ่มาติดพัน สมภพเป็นคนเจ้าชู้ และมีทรงสุดา(นฤมล พงษ์สุภาพ)เป็นภรรยาอยู่แล้ว แต่แสร้งตีหน้าเป็นคนดี หลอกให้ติรกาสงสารว่าครอบครัวมีปัญหาอยู่เสมอ สมภพมีศักดิ์เป็นอาของธงฉาน วันรบ ไม่พอใจที่ธงฉานมาเกาะแกะเอาใจมัทรี ทำให้วันรบและธงฉานมีเรื่องกันทุกครั้งที่เจอ ธงฉานใช้ความกะล่อนเจ้าเล่ห์ หลอกให้ติรกาเข้าใจผิดวันรบอยู่บ่อย ๆ ทำให้ในสายตาติรกาเห็นว่า วันรบไม่คู่ควรกับมัทรีทั้งนิสัยใจคอและฐานะ ถ้าเทียบกับธงฉาน หนุ่มนิสัยดีและฐานะดี เพียบพร้อมคุณสมบัติทุกอย่าง ติรกา แอบไปต่อรองกับรชานนท์ถึงบริษัท พชรอาคิเทค ให้เลิกความคิดเรียกร้องสิทธิ์ความเป็นพ่อกับมัทรี ขณะที่ติรกากับรชานนท์มีปากเสียงและโทษกันเรื่องความผิดของอีกฝ่ายที่ทอดทิ้ง รุจี(พรรณชนิดา ศรีสำราย) น้องเมียของสมภพก็เข้ามาเจอ รุจีชอบรชานนท์มานาน และแสดงความในใจให้รชานนท์รับรู้อยู่เสมอ เมื่อเจอติรกาอยู่กับรชานนท์ จึงเกิดอาการหึงหวง พร้อมแสดงความเป็นเจ้าของรชานนท์ ทำให้ติรกาและรุจีเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง ติรกาผลุนผลันออกมาจากบริษัทด้วยความฉุนเฉียว จึงถูกรถยนต์เฉี่ยว หัวกระแทกพื้นอย่างแรง รชานนท์ตกใจมากรีบพาตัวติรกาส่งโรงพยาบาลทันที มัทรีตกใจเมื่อรู้เรื่อง โทษว่า รชานนท์เข้ามาทำให้ชีวิตแม่ของเธอต้องเจอกับเรื่องร้าย ๆ และยิ่งไม่ยอมรับรชานนท์ แถมพาลงอนและโกรธวันรบด้วย เมื่อติรกาฟื้นขึ้นมาพร้อมกับอาการสูญเสียความทรงจำ ท่ามกลางความสับสนและจำอะไรไม่ได้ แต่กลับจำรชานนท์ได้ว่าเป็นคนที่เธอรักมาก รชานนท์จึงถือโอกาสใช้ช่วงเวลานี้ใกล้ชิดกับติรกา แต่ทำให้มัทรีไม่พอใจที่รชานนท์ใช้โอกาสนี้แต๊ะอั๋งลวนลามแม่ของเธอ รชานนท์ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านติรกาตามความต้องการของติรกา ทำให้มัทรีคอยขวางไม่ให้แม่เสียเปรียบรชานนท์ ร้อนถึงวันรบต้องคอยเข้ามาช่วยแยกมัทรีออกจากติรกา มัทรีทะเลาะกับวันรบเพราะกลัวแม่จะเสียเปรียบ ถ้าติรกาถูกรชานนท์ล่วงเกินทางเพศ แต่ติรกากลับมองว่าเป็นเรื่องปรกติของคู่สามีภรรยา ยิ่งทำให้วันรบชอบใจ มัทรีแอบรู้แผนที่รชานนท์จะวางยาติรกาเพื่อรวบรัด มัทรีจึงย้อนเอายานอนหลับของ ติรกาให้รชานนท์กินด้วย ทั้งคู่จึงหลับไปด้วยกันในที่สุด กำนันเรือง(สุเทพ ประยูรพิทักษ์)และ วันทนีย์(ดารณีนุช โพธิปิติ) พ่อแม่ของวันรบมาเยี่ยมลูกชายจากต่างจังหวัด วันทนีย์ไม่ชอบมัทรี เพราะรู้ว่ามัทรีเป็นต้นเหตุให้ติรกาหาเรื่องแกล้งลูกชายตัวเอง วันทนีย์ ต้องการให้วันรบแต่งงานกับกระถิน (สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย) เด็กสาวขัดดอกที่วันทนีย์ถูกใจ กระถินคอยแสดงตัวกับมัทรีว่าเป็นคู่หมายของวันรบ ทำให้มัทรีไม่พอใจ และมีปากเสียงกับวันรบบ่อยครั้ง วันรบ ฉวยโอกาสที่ติรกาจำอะไรไม่ได้ แสร้งเล่นละครชีวิตรันทด เล่าเรื่องความลำบากอดมื้อกินมื้อ เพื่อเก็บออมเงินเอามาจ่ายค่าสินสอดให้ติรกา ติรกาภาคความจำเสื่อมสงสารและเห็นใจในความรักที่วันรบมีต่อมัทรี จึงยอมให้มีพิธีแต่งงานเกิดขึ้น ท่ามกลางความเสียใจของ ธงฉานกับกระถิน และความไม่พอใจของวันทนีย์แต่พิธีหมั้นก็เกิดขึ้นจนได้ แม้ว่าสมภพกับธงฉานจะแกล้งผีเข้า เพื่อล้มเลิกงานหมั้นแต่ก็ทำไม่สำเร็จ พิธีหมั้นผ่านไปด้วยดี แต่แล้วอยู่ดีๆ ความทรงจำของติรกาก็กลับคืนมาอีกครั้ง แต่เธออยากพิสูจน์ใจของรชานนท์ จึงไม่ได้แสดงออก มีเพียงเตือนใจ และ พุทราที่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ความจริงใจของรชานนท์ ทำให้ติรกาใจอ่อน และเมื่อวันรบแกล้งวางแผนการอยากให้ติรกากับรชานนท์เข้าใจกันจริงๆ โดยให้โจรจับตัวไป ท่ามกลางความวุ่นวาย รชานนท์สารภาพเรื่องราวทั้งหมดว่ายังรักติรกาเสมอมา ตอนไปเรียนต่อเมืองนอกก็ตั้งใจจะให้ติรกาตามไปแต่อยู่ดีๆ ก็ได้ข่าวว่าติรกาตั้งท้อง จึงเสียใจมาก ไม่เคยคิดมีใครใหม่เลย ที่สุดพ่อแม่ลูกก็เข้าใจกันเป็นครอบครัวที่มีความสุข แต่แล้ววันทนีย์โทรสายด่วนด้วยความดีใจมาบอกวันรบว่า ให้กลับมาจัดการเรื่องกระถินท้องกับวันรบ มัทรีตกใจและเสียใจมากขอล้มเลิกงานหมั้นกับวันรบ วันรบปฏิเสธว่าไม่ได้ทำแต่มัทรีไม่เชื่อ รชานนท์ขอให้มัทรีใจเย็น ๆ และให้วันรบกลับไปพิสูจน์ไม่ใช่พ่อของลูกในท้องกระถิน วันรบ มัทรี รชานนท์ ติรกา เดินทางมาพิสูจน์ความจริงถึงบ้านวันทนีย์ที่สุพรรณ รวมทั้งมือที่สามอย่างธงฉานด้วย กระถินอ้ำอึ้งเมื่อถูกซักฟอกเรื่องเด็กในท้อง ทั้ง ๆ ที่วันทนีย์คอยถือหางให้บอกต่อหน้าทุกคนว่าวันรบคือพ่อเด็ก แต่เหตุการณ์กลับโอละพ่อวุ่นวาย เมื่อกระถินไม่ได้ท้อง วันรบพ้นข้อกล่าวหา แต่สมภพและธงฉาน ยังไม่ยอมเลิกรา ร่วมมือกับรุจี และวริษรา(ณัฐณิชา สกุลจารุพงศ์)ผู้หญิงสองคนที่หลงรักรชานนท์ และ วันรบ วางแผนแย่งชิง ใส่ร้ายป้ายสีให้สองหนุ่มตกหลุมพราง ทำให้ติรกาและมัทรีเข้าใจผิด เรื่องราวความรักของสองคู่ชู้ชื่น จะลงเอยอย่างไร ก็ต้องติดตามชมดู...

หงส์สะบัดลาย 2555

หงส์สะบัดลาย (2555/2012) เนติมา อิสราวัชร กับ ศิวัช กิตติธร ทั้งสองคนเติบโตมาด้วยกันที่ต่างประเทศ และทั้งคู่รักกัน เนติมาและศิวัชหวังว่าจะกลับมายังเมืองไทยทำงานเพื่อประเทศและแต่งงานกัน แต่ฝันของทั้งคู่ไม่อาจสำเร็จได้อย่างง่าย ๆ เนติมาดูภายนอกเหมือนคนที่มีพร้อมทุกอย่าง แต่ภายในเต็มไปด้วยรอยแผลแห่งความเจ็บปวดเมื่อวัยเด็ก เพราะภาพพ่อกับแม่ของตนถูกปลิดชีพลงต่อหน้าต่อตา พงษ์เลิศ ชัยธวัช มาเฟียระดับชาติที่ทำงานให้กับคนมีอำนาจในประเทศ ไม่พอใจที่ วิเชียร อิสราวัชร นักธุรกิจใหญ่ถอนตัวจากการสนับสนุนงานของเขา เพราะวิเชียรได้สืบรู้มาว่า มีการคอรัปชั่นในการประมูลและการซื้ออาวุธเพื่อมาขายให้คนต่างชาติ พงษ์เลิศจึงสั่งลูกชาย อิทธิหาญ ไปสังหารครอบครัวของเขาทั้งหมด แต่วิเชียรไหวตัวทันด้วยความเป็นห่วงลูก เนติมาลูกสาวคนโต และยศวีร์ลูกชายคนเล็ก เขาจึงขอความช่วยเหลือจาก ธำรง กิตติธร นักธุรกิจเดินเรือ และคำเที่ยง อดีตคนขับรถของพงษ์เลิศ ให้ช่วยชีวิตเนติมาและยศวีร์ โดยวิเชียรและพรรณศรีผู้เป็นภรรยายอมที่จะถ่วงเวลาอิทธิหาญไว้เพื่อให้ลูก ๆ ได้หนี ติดตามต่อได้ใน หงส์สะบัดลาย

เล่ห์ร้อยรัก 2555

เล่ห์ร้อยรัก (2555/2012) ญา ดา หรือ ตาล (เข็มอัปสร สิริสุขะ) สาวสวยนักต้มตุ๋น เพราะต้องหาเงินมาใช้หนี้ให้ เจ๊อ้อย (ณหทัย พิจิตรา) แม่ของเธอที่ติดพนันงอมแงม ตาลตัดสินใจมอมยาและขโมยของมีค่า รวมทั้งแหวนประจำตระกูลของ ภูบดี วริทธิวรนันท์ (วรินทร ปัญหกาญจน์) หนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์ทายาทเศรษฐีพันล้าน และเพราะเธอทำให้ภูบดีถูกทำร้ายจนสูญเสียความทรงจำ ทำให้เธอตกกระไดพลอยโจนมาเป็นภรรยากำมะลอของของเขา โดยที่ไม่รู้จักมาก่อน เพราะต้องการเงินสิบล้าน มาใช้หนี้พนันให้แม่ ภูบดี เพิ่งมาจากอเมริกา หลังจากที่ ปรารภ (จักรกฤษณ์ อำมรัตน์) ทนายความประจำตระกูล วริทธิวรนันท์ ได้ติดต่อไปว่า เขาเป็นทายาทมรดกพันล้าน เพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ของตระกูล แต่ยังไม่ทันที่ภูบดีจะได้พบหน้า พิพัฒน์ (เศรษฐา ศิระฉายา) ปู่ของเขา ซึ่งเป็นประมุขประจำตระกูล ภูบดีกลับมาถูกทำร้ายจนความจำเสื่อมเสียก่อน เมื่ออาการดีขึ้น ถึงแม้ความทรงจำยังไม่กลับมา ภูบดีกับปรารภก็ตัดสินใจที่จะไม่บอกพิพัฒน์เรื่องถูกทำร้าย เกรงว่าปู่จะไม่สบายใจ เนื่องจากพิพัฒน์เพิ่งเสีย ภาคิน ลูกชายผู้ซึ่งเป็นอาของภูบดีไป ติดตามต่อได้ใน เล่ห์ร้อยรัก

ขุนศึก 2555

ขุนศึก (2555/2012) ในช่วงปี พ.ศ. 2127 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งในตอนนั้นยังดำรงพระยศเป็นพระมหาอุปราชวังหน้า ยังไม่ได้ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ ได้หลั่งอุทกธาราประกาศเอกราชให้ชาติไทยไม่ขึ้นต่อกรุงหงสาวดีอีกต่อไป ท่ามกลางเสียงโห่ร้องกึกก้องของกองทัพไทย และความดีใจของคนไทยที่ไม่ต้องเป็นเมืองขึ้นอีกต่อไป

เสมา ลูกชาย มั่น ช่างตีเหล็ก ซึ่งปรารถนาจะใช้วิชาความรู้ในเชิงรบที่ได้ร่ำเรียนมารักษาแผ่นดินเกิดไว้ มั่นเห็นลูกชายมีความตั้งใจจริง และฝีมือในเชิงรบโดยเฉพาะดาบสองมือก็ไม่เป็นสองรองใคร มั่นจึงพาเสมาไปฝากตัวเป็นลูกบุญธรรมของ พันอินทราช เพื่อนสนิทของมั่น พันอินเห็นเสมามีหน่วยก้านดี และเป็นศิษย์เอกของ พระครูขุน ภิกษุแห่งวัดพุทไธสวรรย์ ซึ่งเป็นอดีตแม่ทัพกองอาทมาตที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ เลยพาเสมาไปฝากกับ ขุนรามเดชะ เพื่อนและเจ้านายของพันอิน ซึ่งมีหน้าที่รับและฝึกสอนทหารใหม่ ขุนรามต้องการทดสอบฝีมือเสมา เลยให้ประลองดาบสองมือกับ ขัน หัวหน้าที่ฝีมือดีที่สุดแต่ขันประมาทเลยแพ้จึงทำให้ขันเจ็บใจว่าตนสู้เสมา ไม่ได้ ขันเลยอิจฉาเสมา แต่เหตุการณ์ครั้งนี้เอง ทำให้เสมาได้เจอกับ เรไร ลูกสาวคนสวยของขุนราม ซึ่งเป็นนางข้าหลวงอยู่ในวังแต่กลับมาเยี่ยม ลำภู มารดาที่ไม่สบายพอดี เสมาหลงรักเรไรตั้งแต่แรกพบ เช่นเดียวกับที่เรไรก็แอบชอบเสมาเช่นกัน จนวันที่เสมาได้รับเครื่องแบบทหาร ทั้งคู่จึงได้เจอกันอีกครั้ง ในขณะที่เรไรกำลังเก็บดอกจำปีอยู่เสมาเก็บได้ เสมาขอดอกจำปีดอกนั้นเอาไว้เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจของตน ซึ่งขันได้เข้ามาเห็นพอดี เลยรู้ว่าเรไรผู้หญิงที่ตนแอบชอบอยู่มีใจให้เสมา ทำให้ยิ่งริษยาเสมาหนักขึ้น แต่ สมบุญ ทาสของขุนรามซึ่งนับถือเสมาตั้งแต่วันที่ทดสอบดาบกับขัน ได้เอาแผนการของขันมาบอกเสมา เสมาโมโหเลยไปท้าดวลดาบกับขัน ขุนรามกลับมาเห็นเข้าเลยไม่พอใจ เพราะการกระทำของเสมาเหมือนกับการกระด้างกระเดื่องกับผู้บังคับบัญชา ขุนรามเลยสั่งจำคุกเสมาเอาไว้เพื่อเป็นการสั่งสอน เรไรสงสารเสมาเลยแอบมาเยี่ยม เสมาดีใจที่เรไรมีใจให้ตน เรไรบอกเสมาให้ขยันหมั่นเพียรสร้างเนื้อสร้างตัว ภายภาคหน้าจะได้มียศถาบรรดาศักดิ์ไม่น้อยหน้าคนอื่น เสมารับปากและมีเรไรเป็นกำลังใจตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา พอครบกำหนดโทษออกมา ก็เกิดศึกพระเจ้าเชียงใหม่ทัพมา ทำให้เสมาได้เข้าสู่สมรภูมิการรบเป็นครั้งแรก พอถึงเวลาไปศึก เรไรเป็นห่วงเสมากลัวจะเป็นอันตราย เลยถอดแหวนทองของตนมอบให้เสมาเพื่อเป็นกำลังใจ เสมาดีใจมากและสัญญาว่าจะเอาแหวนวงนี้กลับมา คืนให้เรไรให้ได้ ศึกที่ 1 พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงได้ให้พระเจ้าเชียงใหม่ กับ พระยาพสิม ยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนเรศวร กับ สมเด็จพระเอกาทศรถ ได้ยกกองทัพเข้าต่อสู้ โดยเสมา ขัน สมบุญ ขุนราม อยู่ในกองทัพของ พระราชมนู แม่ทัพของสมเด็จพระนเรศวร เสมากับขันได้ท้าทายกัน ว่าใครจะตัดหัวขุนศึกฝ่ายตรงข้ามได้มากกว่ากัน ขันแกล้งไม่ยกทัพเข้าช่วยเสมา ทำให้เสมาต้องถูกคู่ต่อสู้รุมตี แต่เสมาก็เอาตัวรอดพาทหารหักฝ่ามาได้ ในขณะที่ขันไปเจอกองทัพใหญ่ของคู่ต่อสู้ เลยถูกตีจนเกือบตาย เสมาพาทหารบุกเข้าไปช่วยขันกับลูกน้องออกมาได้ แถมยังตัดหัวขุนพลของข้าศึกได้อีกต่างหาก แต่เสมาไม่รู้ว่า ที่ต้องเอาผ้าโพกหัวของข้าศึกไปเป็นหลักฐานยืนยันความดีความชอบ ขันเลยเอาผ้าโพกหัวของขุนพลพม่ากลับไปรับความดีความชอบแทน เสร็จศึก พระเจ้าเชียงใหม่พ่ายแพ้กลับไป เสมาได้กลับมาและเอาแหวนทองของเรไรมาคืน และตนจะพยายามก้าวหน้าเป็นใหญ่เป็นโตให้ได้ เพื่อที่เรไรจะได้ไม่น้อยหน้าใคร เรไรปลื้มใจที่เสมารักตน โดยหลังจากศึกครั้งนี้เสมาขึ้นเป็นหัวหมู่โดยมีสมบุญเป็นศิษย์เอกคอยฝึกหัด ทหาร แต่ขันได้ตำแหน่งเป็น พันฤทธิ์รณรบ และได้ย้ายสังกัดไปอยู่ที่ดีขึ้น แต่ขันก็ยังริษยาเสมาอยู่ตลอด เลยวางแผนจีบ จำเรียง น้องสาวของเสมา จำเรียงหลงขันมากและยิ่ง บุญเรือน แม่ของตนเห็นดีเห็นงามด้วย ขันก็ยิ่งได้ใจ กลั่นแกล้งเสมาตลอดแถมยังเอาเรื่องที่เสมาจีบเรไรไปนินทา จนเสมาเป็นตัวตลกเหมือนหมาวัดที่คิดหมายปองดอกฟ้า ศึกที่ 2 พระเจ้าหงสาวดีทรงกริ้วที่พระเจ้าเชียงใหม่รบแพ้ เลยให้รบแก้ตัว โดยครั้งนี้เป็นศึกใหญ่เพราะพระเจ้าเชียงใหม่ยกทัพมานับแสน สมเด็จพระนเรศวรเลยรับสั่งให้เกณฑ์คนจากหัวเมืองเป็นจำนวนมากเพื่อช่วยรับ ศึก เสมาเลยสมัครเข้าเป็นทหารหัวเมืองช่วยรบ จนมีความดีความชอบได้อภัยโทษเก่า และได้ตำแหน่งเป็น หมื่นศึกอาสา แถมได้เจอกับ สิน ซึ่งได้กลายเป็นลูกน้องคู่ใจอีกคน เสมากลับมาอย่างภาคภูมิใจ แต่ก็ได้รู้ว่าขันกลับไปจีบเรไรอีกครั้ง โดยทิ้งจำเรียงน้องสาวตน เพราะดูถูกที่ครอบครัวตนยากจน เสมาห่วงกลัวเรไรจะเปลี่ยนใจ เลยแอบลอบพบเรไร เสมาปลื้มใจที่รู้ว่าเรไรยังคงรักตนไม่เปลี่ยนแปลง เลยตั้งใจจะหาทางก้าวหน้าในราชการเพื่อยกฐานะให้เทียมหน้าเทียมตาเรไรให้ได้ แต่เรื่องนี้รู้เข้าถึงหูขุนราม ทำให้ขุนรามไม่พอใจแถมยังได้ลูกยุจากขัน พุฒ อีกขุนรามเลยยิ่งรังเกียจเสมาและกลัวว่าถ้าเสมาเป็นใหญ่เป็นโตขึ้นมาแล้วจะ ล้างแค้นตน เสมามีแต่ตำแหน่งอย่างเดียว และจะได้เงินก็ต่อเมื่อออกรบเท่านั้น (ประมาณทหารรับจ้าง) ขุนรามชอบขันเพราะบ้านขันร่ำรวยมาก แถมขัน พุฒ ยังช่วยกันประจบทั้งขุนราม เสมาเลยต้องไปตีเหล็กหาเงินใช้ ทำให้ได้เจอกับ เอื้อยแตงเพื่อนสมัยเด็ก ทั้งคู่สนิทกันมาก แถมเอื้อยแตง ยังแอบชอบเสมา เลยมีคนเอาไปนินทา ทำให้ เรไรเข้าใจผิดคิดว่าเสมานอกใจ จนทั้งคู่ทะเลาะกัน ในขณะที่พุฒเห็นบัวเผื่อน ก็เลยจีบเพื่อหวังจะใช้บัวเผื่อนเป็นเครื่องมือในการยุแยงเรไรให้โกรธกับ เสมา เสมาตามมา ง้อเรไรที่บ้าน แต่บัวเผื่อนแอบเห็นเข้าเลยฟ้องขุนราม ขุนรามโกรธมากเลยไล่เสมาออกจากบ้านแล้วจับเรไรล่ามโซ่ขังไว้เป็นการลงโทษ (สมัยก่อน ถ้าผู้หญิงผู้ชายทำผิดประเพณีถือเป็นเรื่องร้ายแรง แม้ว่าจะไม่มีอะไรเสียหายก็ตาม) เสมาเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก แต่เกิดศึกใหญ่เข้ามาประชิดพระนครซะก่อน เรื่องวุ่นวายทั้งหมดเลยต้องพักเอาไว้ก่อน ศึกที่ 3 พระเจ้าหงสาวดีทรงพิโรธมากที่รบแพ้ไทยถึงสองครั้ง เลยกรีธาทัพใหญ่เป็นทัพกษัตริย์ มีรี้พลถึงห้าแสนมาบุกเข้าตีกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนเรศวรเห็นเป็นศึกใหญ่มาก สมเด็จพระนเรศวรรับสั่งให้ส่งทัพออกตีค่ายทุกวัน โดยรบแบบกองโจร โดยออกรบปล้นค่ายด้วยพระองค์เองแม้จะถูกอาวุธบาดเจ็บหลายครั้งก็ไม่ทรงหวาด เกรง ทำให้ทัพไทยมีขวัญดีเยี่ยม เสมาเองก็เข้าตีค่ายหลายครั้งจนมีความดีความชอบมากมาย จนในที่สุดทัพหงสาวดีก็ต้องแตกพ่ายไป เสมาได้เลื่อนยศเป็น ขุนศึกอาสา แต่ยังคงไม่มีเงินเหมือนเดิม แถมยังโดนขันกลั่นแกล้ง จนครอบครัวตนต้องติดหนี้ และถูกบีบเอาจำเรียงไปเป็นทาส เสมาเจ็บใจมาก พยายามหาเงินมาใช้หนี้ก็ยังได้เงินไม่มากนัก ในขณะที่เรไรได้รับการปล่อยตัวออกมา พ่อแม่ของเรไรเลยยิ่งอยากจะยกเรไรให้ขันมากขึ้น แต่เรไรไม่ยอมเพราะตนรักเสมา ขุนรามโกรธลูกมาก ลำภูเองก็กลุ้มใจจนไม่สบาย เรไรเลยยิ่งรู้สึกผิดเหมือนตนเป็นลูกอกกตัญญู เสมารู้ข่าว เรไรเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ขุนรามจับได้ว่าเสมาลอบมาพบเรไร เลยกะเกณฑ์คนจะทำร้ายเสมา เรไรไม่อยากให้พ่อกับชายคนรักต้องสู้กัน เลยขอร้องพ่อและรับปากว่าจะทำตามที่พ่อสั่งทุกอย่าง เพื่อไม่ให้มีเรื่องกัน ขันฉวยโอกาสช่วงนี้จะขอหมั้นเรไรไว้ แต่พอเสมารู้ข่าวก็แอบทำลายพิธีหมั้นด้วยการเผาเรือนขุนรามจนเสียฤกษ์ แต่ขันเจ็บใจมากที่ไม่ได้หมั้นและยังโดนหักหน้า เลยวางแผนจะรวบหัวรวบหางจำเรียงเป็นเมียน้อยเพื่อแก้แค้นเสมา เสมารู้ข่าวเข้าเลยแอบขึ้นเรือนขันตอนกลางคืนเพื่อช่วยจำเรียงออกมา แต่จังหวะชุลมุน เสมาเลยหลงเข้าห้อง ดวงแข น้องสาวคนสวยของขัน เสมาเจ็บใจขันเลยแกล้งลวนลามดวงแขเพื่อแก้แค้น ทำให้ดวงแขทั้งรักทั้งเสมาตั้งแต่บัดนั้น ศึกที่ 4 พระมหาธรรมราชา พระราชบิดาของสมเด็จพระนเรศวรเสด็จสวรรคต สมเด็จพระนเรศวรเลย ขึ้นครองราชย์ โดยให้สมเด็จพระเอกาทศรถขึ้นเป็นพระมหาอุปราชวังหน้า พระเจ้าหงสาวดีเห็นไทยกำลังผลัดแผ่นดิน เลยรับสั่งให้พระมหาอุปราชายกทัพใหญ่มาตีไทยอีกครั้ง และในการรบครั้งนี้เอง สมเด็จพระนเรศวรและสมเด็จพระเอกาทศรถ ได้หลงเข้าไปในกองทัพพม่า จนเกิดการยุทธหัตถี ขึ้น สมเด็จพระมหาอุปราชาสิ้นพระชนม์ ทำให้กองทัพไทยได้รับชัยชนะอย่างงดงาม รวมทั้งเสมาที่ได้ตามช้างของสมเด็จพระนเรศรวรด้วย จนได้ความดีความชอบเป็น หลวงโจมจัตุรงค์ ขุนรามกลับจากศึก โดยได้รับความช่วยเหลือจากขัน พุฒ ทำให้รอดชีวิตมาได้ เลยยิ่งไว้ใจ ขัน พุฒมากขึ้น ไม่ว่าทั้งคู่จะพูดอะไรก็เชื่อตลอด โดยขันใส่ร้ายเสมาว่าการที่พวกตนต้องโดนโทษ น่าจะเป็นเพราะเสมาไปเป่าหูขุนนางผู้ใหญ่เพื่อล้างแค้น ขุนรามเลยผูกใจเจ็บ เอาเรื่องนี้มาเล่าให้ลูกเมียฟัง เรไรกำลังหึงหวงเสมาก็เลยพลอยเชื่อไปด้วย จนถึงกับยอมรับปากจะหมั้นและแต่งงานกับขันแต่โดยดี ทำให้เสมาเสียใจสุด ๆ เสมาลอบมาพบเรไรและทะเลาะกันรุนแรง ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เสมาเสียสมาธิจนทำการรบผิดพลาดเกือบเอาชีวิตไม่ รอด ศึกที่ 5 สมเด็จพระนเรศวรทรงแค้นเคืองเมืองละแวกที่ชอบทำร้ายไทยลับหลังเลยให้พระราช มนูยกทัพ ไปตีเมืองละแวก โดยมีเสมาเป็นรองแม่ทัพแต่เพราะเรื่องเรไร เสมาเลยเสียสมาธิ ไม่รอบคอบ และทำให้ทัพไทยพ่ายแพ้ สมเด็จพระนเรศวรพิโรธมาก สั่งประหารพระราชมนูและเสมา แต่สมเด็จพระเอกาทศรถทูลขอไว้พระราชมนูเลยได้ไปตีเมืองปัตบอง (พระตะบอง) และเมืองโพธิสัตว์เป็นการแก้ตัว ส่วนเสมาโดนถอดยศริบทรัพย์และส่งไปเป็น ตะพุ่นหญ้าช้าง ชีวิตตกต่ำสุด ๆ แถมเรไรยังหมั้นกับขันซึ่งตอนนี้ได้ยศเป็น หมื่นชาญณรงค์ พุฒเป็น หมื่นทรงเดชะ ขุนรามเป็น หลวงรามเดชะ รุ่งเรืองขึ้นกว่าเดิม เสมามางานหมั้นด้วยใจที่เจ็บปวด และเอาพานใส่ดอกจำปีมาให้เป็นของขวัญ เรไรเห็นดอกจำปี ก็รำลึกความหลัง จนร้องไห้เสียใจ แต่ต้องหักใจ เสมากลับไปเกี่ยวหญ้าให้ช้างกินตามหน้าที่ต่อไป แต่เพราะเรื่องนี้เอง ทำให้เสมาเจอคนมากขึ้นจนเข้าใจระเบียบการรับราชการ เลยรู้ว่าที่ตน ไม่มีเงินซักทีเพราะขุนรามกลั่นแกล้งนี่เองแถมเรื่องที่เสมาเที่ยวไปเจ้าชู้ ก็ยังเป็นที่โจษจันไปทั่ว เพราะขัน พุฒ เที่ยวไปใส่ไฟ จนไม่มีใครรับเสมาเข้ากรมกองจนกระทั่งเสมาได้พบกับ พันจิตรเสน่หา นายทหารรับใช้ประจำวังจันทร์เกษมของสมเด็จพระเอกกาทศรถ เสมาเลยรู้ว่าจะมีการประลองหน้าพระที่นั่งเพื่อคัดคนเข้าเป็นทหารประจำวัง เสมาเลยเข้าประลองด้วย โดยได้สู้กับ ขุนจำนงรักษา ยอดฝีมือเพลงทวนประจำวัง แต่เสมาก็ใช้เพลงทวนเอาชนะ ขุนจำนงได้ จนมีโอกาสร่วมทัพไปต่อสู้เพื่อไถ่โทษ ศึกที่ 6 หลังจากพระมหาอุปราชาสิ้นพระชนม์ หัวเมืองต่าง ๆ ที่เคยขึ้นกับหงสาวดีก็กระด้างกระเดื่องเพราะเห็นว่าหงสาวดีไม่มีน้ำยาแล้ว ไม่สามารถเอาชนะไทยได้ ทำให้พระเจ้าหงสาวดีต้องส่งทัพไปปราบปรามจนขาดแคลนคน จึงรับสั่งให้ พระเจ้าแปร ไปกะเกณฑ์ผู้คนตามหัวเมืองมาเป็นกำลัง พระเจ้าแปรไปจัดการตามรับสั่ง แต่เกิดรบกับทัพไทยที่เฝ้ารักษาชายแดนและเอาชนะได้อย่างง่ายดาย จนฮึกเหิมยกทัพบุกเข้ามามากขึ้น ทำให้สมเด็จพระนเรศวรต้องทรงออกรบ ใน ขณะที่สองทัพประจันหน้ากัน สมิงมะตะเบิด ทหารเอกพระเจ้าแปรได้ออกมาท้ารบทหารกรุงศรีฯ แต่ทัพอยุธยาไม่มีใครสามารถสู้สมิงมะตะเบิดได้ซักคน เสมาเลยออกรบ ทั้งรบบนหลังม้าด้วยเพลงทวน และลงมารบพื้นราบด้วยดาบสองมือ จนสามารถตัดคอสมิงมะตะเบิดได้สำเร็จ ทำให้กองทัพไทยมีกำลังขวัญ บุกตะลุยทัพแปรจนแตกพ่ายไป เสมามีความดีความชอบมาก ได้พ้นโทษและได้ยศเป็น ขุนแสนศึกพ่าย รับใช้สมเด็จพระเอกาทศรถ ทำให้เสมามั่งมีร่ำรวยขึ้นมากจนใช้หนี้ขันได้หมด ในขณะที่พวกขันเริ่มแตกคอกัน เพราะพุฒซึ่งหลงรักดวงแขอยู่ แต่ดวงแขไม่เล่นด้วย ทำให้พุฒผูกใจเจ็บหาว่าขันไม่ยอมช่วยเหลือ ส่วนขันก็เร่งรัดจะแต่งงานกับเรไร แต่ก็เกิดเหตุ ขุนรามป่วยจนเลื่อนไป ทำให้ขันเริ่มระแวงว่าขุนรามเดชะจะไม่อยากได้ตนเป็นเขยเพราะเห็นเสมาร่ำรวย ขึ้น จนทั้งสามคนเริ่มมึนตึงใส่กัน ในขณะที่เรไรรู้เรื่องจากบัวเผื่อนและพันอินว่าเข้าใจเสมาผิดไป และในการรบครั้งล่าสุด เสมายังช่วยชีวิตพ่อของตนด้วย แต่ขุนราม มีทิฐิเลยไม่ยอมเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง เรไรเลยปรับความเข้าใจกับเสมาได้สำเร็จ แต่เมื่อพ่อแม่รับปากขันแล้ว ตนก็เลยไม่สามารถถอนหมั้นขันได้ เสมาเองก็เข้าใจเลยได้แต่บอกตัวเองว่าตนกับเรไรคงสิ้นวาสนากันแต่เพียงเท่า นี้ และพยายามหักใจจากเรไร ศึกที่ 7 สมเด็จพระนเรศวรต้องการแก้แค้นเมืองละแวก เลยรับสั่งให้พระราชมนูกับเสมาที่เคยพ่ายศึกเมืองละแวก ทำการยกไปตีแก้ตัว ทั้งคู่สามารถตีเมืองละแวกและจับตัวพระยาละแวกมาถวายสมเด็จพระนเรศวรได้ สำเร็จ ทำให้พระราชมนูก็เป็นเจ้าพระยามหาเสนาบดี สมุหพระกลาโหมคุมอำนาจสูงสุดในหัวเมืองฝ่ายเหนือ แต่ยังไม่ทันที่จะยกทัพกลับ ก็เกิดศึกขึ้นที่เมืองตะนาวศรีตามมาทันที ศึกที่ 8 พระยาศรีไสยณรงค์ที่ถูกส่งไปปกครองเมืองตะนาวศรีเป็นกบฏขึ้น สมเด็จพระเอกาทศรถเลย ยกทัพไปปราบโดยมีเสมาเป็นทัพหน้า เสมาเลยได้เลื่อนเป็น จมื่นแสนศึกสะท้าน องครักษ์ประจำพระองค์ ทำให้ชีวิตของเสมาดีกว่าเดิมมาก แถมสังกัดสมเด็จพระเอกาทศรถโดยตรง ไม่ต้องมีมูลนายอื่นทำให้มีศักดินามากมายกว่าขุนราม ซึ่งตอนนี้เป็น พระรามเดชะ และมีเงินมากกว่าขันที่เป็น ขุนณรงค์วิชิต หรือพุฒที่เป็น ขุนวิเศษสรไกร ต่อมา ขันได้เลื่อนเป็น หลวงณรงค์วิชิต พุฒเป็น หลวงวิเศษสรไกร ทำให้ทั้งคู่หลงตัวเอง ไม่ยำเกรงขุนรามเหมือนแต่ก่อน ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสามคนเลวร้ายลงไปอีก ต่างกับเสมาที่รอบคอบสุขุม ไม่บุ่มบ่ามเถียงคำไม่ตกฟากเหมือนเมื่อก่อน ทำให้ก้าวหน้าในหน้าที่การงานเป็นอย่างดี ศึกที่ 9 สมเด็จพระนเรศวรมีพระราชดำริจะตีกรุงหงสาวดีคืนบ้าง เพราะตอนนี้กรุงหงสาวดี ไม่เป็นปึกแผ่น แตกแยกกันไปหมด เลยจะยกทัพบุกกรุงหงสาวดีเพื่อเป็นพระเกียรติยศ พระเจ้าตองอูได้ข่าว เลยแกล้งทำเป็นสวามิภักดิ์อยุธยา แล้วเข้าไปจับตัวพระเจ้า หงสาวดีมาที่ตองอูรวมทั้งขนสมบัติ ไพร่พลราษฎรมากมายมาด้วย แล้วเผาหงสาวดีจนราบเป็นหน้ากลอง กว่าสมเด็จพระนเรศวรจะเสด็จไปถึงก็ไม่เหลืออะไรแล้ว ทำให้สมเด็จพระนเรศวรทรงพิโรธมาก เพราะตั้งใจจะทำศึกเพื่อเป็นพระเกียรติยศสืบไป แต่พระเจ้าตองอูกลับใช้อุบายหลอกพระองค์แล้วยังเผาเมืองทิ้งอีก สมเด็จพระนเรศวรเลยสั่งทัพไปบุกตองอูแทน ประกอบกับ ทัพไทยไม่ได้เตรียมเสบียงมาเผื่อตีตองอู เสบียงเลยขัดสนทำให้เสียหายหนักจนต้องยกทัพกลับ และศึกครั้งนี้เอง ที่ขัน พุฒ ทำงานผิดพลาดจนถูกลงโทษให้ออกจากราชการ ตรงข้ามกับเสมาที่ได้ขึ้นเป็น พระยามหาสงคราม ขันได้ก่อเรื่องอีกหลายอย่างแถมยังทำร้ายพี่ชายของขุนรามเดชะเพราะความโกรธ ด้วย ขุนรามเลยถอนหมั้นขันกับเรไรซะ เสมาเลยได้โอกาสทูลขอเรไรจากสมเด็จพระเอกาทศรถ ทั้งคู่จึงได้แต่งงานกันสมกับที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคร่วมกันมานาน หลังจากแต่งงานไม่นาน พันอินทราชซึ่งตอนนี้เป็น หลวงพิมานมงคล ได้เสียชีวิตลงและฝากฝังให้เสมาดูแลศรีเมืองแทนตนด้วย เรไรเลยอนุญาตให้เสมารับศรีเมืองไว้เป็นภรรยาน้อยได้ ส่วนขันกับพุฒก็ทะเลาะกันรุนแรง เพราะพุฒใช้เส้นน้าชายไปสังกัดกรมกองใหม่โดยไม่บอกขัน แม่ของขันทนสงสารลูกไม่ได้ เลยไปขอให้เสมาช่วย เสมาลืมเรื่องเก่า ๆ ทำให้ขันซึ้งใจ ยอมรับผิดและทั้งคู่ก็กลายเป็นเพื่อนกัน ผ่านมาอีกไม่กี่ปี สมเด็จพระนเรศวรเสด็จสวรรคต ทำให้สมเด็จพระเอกาทศรถขึ้นครองราชย์ เสมา ได้เลื่อนเป็น พระยารามจัตุรงค์ มีชีวิตความเป็นอยู่รุ่งเรืองสุขสบายอยู่หลายปี จนสมเด็จพระเอกาทศรถเสด็จสวรรคต เสมาจึงต้องออกจากราชการเพราะ เจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์ กษัตริย์พระองค์ใหม่ไม่โปรด แต่ถึงอย่างงั้น เสมาก็ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง จนซึ้งถึงความไม่แน่นอนของชีวิต และรู้ว่าคนเราในขณะที่มี ชีวิตอยู่ ควรตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด โดยมีความกตัญญูกตเวทีเป็นที่ตั้งของชีวิต
ต้มยำลำซิ่ง 2555

ต้มยำลำซิ่ง (2555/2012) ทูนอินทร์ เจ้าของ ไร่อินสรวง ที่สระบุรี มีความรู้ความสามารถในการแต่งเพลง และร้องลูกทุ่งในระดับอาชีพ แต่ด้วยความเป็นคนขี้อาย เพราะเคยมีประสบการณ์เลวร้ายมาตั้งแต่วัยเด็ก 12 ขวบเมื่อต้องออกไปร้องเพลงในการประกวดลูกทุ่งเยาวชน ทูนถูกเด็กหญิงวัยห้าขวบหน้าฝรั่งที่เป็นคู่แข่งในงาน แกล้งใส่ตุ๊กแกยางลงไปในกางเกง ทูนช็อค กลางเวที ร้องไม่ได้ และฉี่ราดกางเกง กลายเป็นตัวตลกของงาน นับแต่นั้นทูนไม่กล้าร้องเพลงให้ใครฟังอีก จนเมื่อเขามีความรักกับนักร้องสาวที่เขากำลังปลุกปั้นอย่าง ฟ้าใส ทูนแต่งเพลงให้ฟ้าใสหลายเพลง และฟ้าใสเยียวยาให้ทูนหายประหม่า และช่วยให้เขาออกมาร้องเพลงในผับคู่กับเธอได้ ทั้งสองตกลงจะออกเพลงลูกทุ่งโดยร้องร่วมกัน แต่แล้วเมื่อโครงการใกล้เสร็จสมบูรณ์ ฟ้าใสก็ทิ้งทูนไปซบกับค่ายเพลงใหญ่ของ เสี่ยดำรง แถมยังขโมยทำนองบางท่อนของทูนไปด้วย แถมยังรู้ว่าฟ้าใสเป็นเมียน้อยของเสี่ยเข้าอีก ยิ่งทำให้ทูนจิตตกและป่วยใจอยู่เป็นปี เขาไม่สามารถออกมาร้องเพลงต่อหน้าผู้คนได้อีกเลยเป็นการถาวร ร้องทีไรก็สะอื้นไห้เมื่อนึกถึงฟ้าใส ด้วยความรักในเสียงเพลงไม่เสื่อมคลาย ทำให้ทูนลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง เมื่อ พี่เมธ นักร้องนักดนตรีระดับครู และเคยร่วมกันทำบริษัทผลิตรายการมาก่อน มาเปิดร้านอาหารกึ่งผับที่สระบุรี และชักชวนทูนมาเล่นดนตรีให้ที่ร้าน ทูนตั้งวงดนตรีขึ้นโดยมีสมาชิกคือ อินทร น้องชาย และสมุนสองนาย หนวนอู้ และ หนานอิน ชื่อวงว่า “ต้มแซ่บ” งานนี้พี่เมธยังช่วยทูนแต่งเพลงอยู่หลายเพลงแล้วร้องเล่นกันเองในร้าน ทูนหวังว่าสักวันนึงเพลงและวงของเขาจะออกไปฮิตเหมือนวงดังๆทั้งหลายและเขาจะต้องดังสู้กับฟ้าใสให้ได้ แล้ววันหนึ่งทูนก็ติดใจเสียงร้องของสาว รุ้งระวี ศรีแอลเอ สาวลูกครึ่งไทยอเมริกันอยู่ที่แอลเอ กำลังดังจากเพลง “ฝากจิ้มแจ่วไปแอลเอ” ทูนได้เห็นมิวสิคของเธอ และหลงไหลกิริยาอ่อนช้อย แต่ทูนจับพิรุธได้ว่ารุ้งโกหกประชาชน เพราะทูนบังเอิญเจอเธอเดินเล่นอยู่ที่ตลาดน้ำ ทั้งๆ ที่ค่ายเพลงประกาศว่ารุ้งยังเดินทางมาไม่ถึงเมืองไทย ทูนอยากรู้ความจริงถึงกับปลอมตัวไปรับรุ้งที่สุวรรณภูมิพร้อมกับทร และจับได้ในที่สุดว่ารุ้งโกหกจริง เขาช่วยรุ้งพ้นจากการแฉความจริงของนักร้องร่วมค่ายขี้อิจฉาอย่าง จุ๊บแจง แตงร่มใบ, ขวัญข้าว สาวอีสาน กับหนุ่มหน้ามนรูปงาม อาชา อาชาไนย ที่เป็นเกย์ในคราบหนุ่มหล่อล่ำ โดยมีพี่เลี้ยงรุ้งอย่าง จี่หอย และ มะปราง เป็นกำลังสนับสนุน ทูนไม่รู้ว่าที่รุ้งมาเมืองไทยก่อน เพราะเธอคิดถึงเมืองไทยมาก และเธออยากมาตามหาแม่ที่ไม่เคยเจอเธออีกเลยนับสิบปี แม้จะรู้ว่ารุ้งโกหกแต่เพราะหลงเสน่ห์สาวรุ้งเข้าแล้ว ทูนประกาศว่ารุ้งนี่แหละจะเป็นคนที่ร้องเพลงของเขาสู่สาธารณะ ซึ่งพี่เมธและอินทรเห็นว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะรุ้งสังกัดอยู่กับค่ายเพลงยักษ์อิทธิซาวนด์ของ นายอิทธิ พลกำแหง มาเฟียใหญ่ของวงการเพลงลูกทุ่ง และรุ้งเป็นหวานใจคนใหม่ของนายอิทธิเสียด้วย แต่ทูนไม่สนเขาพร้อมจะเสี่ยง และก่อนอื่นเขาจะสืบประวัติรุ้งให้ถ่องแท้ เพราะเขาเชื่อว่ารุ้งปลอมแปลงอดีตตัวเองทั้งหมด ด้านนายอิทธิสั่งให้โปรโมทรุ้งในฐานะหลานสาวไฮโซเด็กนอก แต่ด้วยเลือดความเป็นไทยทำให้เธอหัดพูดแล้วร้องเพลงจากชุมชนคนไทยที่นั่น จนร้องเพลงลูกทุ่งระดับอาชีพ รุ้งกลายเป็นดาวดังในทันที แต่ในความจริงแล้วเธอคือสาวลูกครึ่งจนๆในย่านสลัมของโคราช แม่เป็นนักร้องบาร์ชื่อ นางแสงหล้า ได้เสียกับชายอเมริกันแล้วทิ้งเธอกับลูกไป แสงหล้าสอนลูกสาวร้องเพลงและพาตระเวนประกวดเกือบทุกเวที จนกระทั่งนางได้สามีใหม่จึงส่งลูกสาวไปอเมริกาเมื่อเธอได้เก้าขวบและขาดการติดต่อนับแต่นั้น ทูนได้โอกาสใกล้ชิดกับรุ้งอีก เมื่อบริษัทผลิตรายการของพี่เมธรับโปรเจคท์ถ่ายทำมิวสิค และสารคดีบันทึกเบื้องหลังการแสดงของรุ้งและศิลปินในค่ายของอิทธิ ทูนเสนอตัวเป็นตากล้องให้ โดยมีอินทรเป็นผู้ช่วยกล้อง ทั้งสองเข้ามาในทีมถ่ายทำ ทูนได้ใกล้ชิดรุ้งเต็มที่ และเริ่มสงสัยว่ารุ้งเป็นฝรั่งดองอย่างที่เป็นข่าวลือรึเปล่า เพราะบางครั้งรุ้งก็หลุดบท ทานส้มตำปลาร้าเผ็ดจัดหน้าตาเฉย เมื่อเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน ทูนต้องช่วยรุ้งจากการกลั่นแกล้งของกลุ่มจุ๊บแจง โดยเฉพาะตัวจุ๊บแจงเองที่เคยเป็นเมียลับๆ ของอิทธิ และเกลียดรุ้งที่มาแย่งทั้งความรักและเพลงดังๆ ไปจากเธอ งานนี้พี่เลี้ยงอย่าง เจ๊จวงใจ สาวใหญ่หน้าเหี้ยมคอยเสี้ยมอยู่ตลอดเวลา ทั้งทูน อินทร พี่จี่หอย และน้องปราง ต้องคอยปกป้องรุ้ง ในการออกทัวร์คอนเสิร์ทสี่ภาค รุ้งไปร้องเพลงที่โคราช ทูนแอบตามรุ้งและจี่หอยที่ออกไปเที่ยวย่านสลัมกลางเมืองและรู้ว่าที่แท้รุ้งมาตามหาแม่แต่ไม่พบ ทูนแน่ใจแล้วว่าเธอเป็นแหม่มตัวปลอม ไม่ได้ไปอยู่แอลเอตั้งแต่สามขวบแน่ๆ ระหว่างที่รุ้งและกลุ่มนักร้องของค่ายไปโชว์ตัวแจกลายเซ็นและซีดีเพลงที่ตลาด รุ้งพบหญิงชราเข้ามาขอลายเซ็น นางขอร้องให้รุ้งร้องเพลงเพลงหนึ่งที่รุ้งเคยร้องประกวดสมัยเด็ก รุ้งร้องให้ฟัง นางร่ำไห้จนรุ้งสงสัยว่านางเป็นใคร แต่นางก็หลบออกไปเสียก่อน ทูนเองก็สงสัยเช่นกัน เพราะเขาจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าสมัยเด็กที่แข่งประกวดกับเด็กแหม่มคนนั้น เขาก็เคยได้ยินแม่ของเด็กร้องเพลงนี้ให้ได้ยิน ทำให้ทูนเริ่มสงสัยว่าเด็กแหม่มตัวร้ายนั้นจะคือรุ้งนั่นเอง และเขาจะต้องสืบความจริงจากรุ้งให้ได้ รุ้งไม่รู้เลยว่าหญิงชราคนนั้นคือนางแสงหล้า แม่แท้ๆ ของรุ้งนั่นเอง ที่นางต้องส่งรุ้งไปอยู่เมืองนอกก็เพราะ นายคำรณ สามีใหม่ที่เป็นนักเลงคุมบ่อนและซ่อง ที่ทั้งซ้อมและรีดไถนางอยู่ตลอด ทำท่าว่าจะล่วงเกินรุ้งถึงขั้นขู่จะส่งรุ้งไปขายตัวที่ชายแดน นางจึงรีบส่งรุ้งไปอยู่กับญาติที่กำลังไปทำงานที่แอลเอ ทูนสนิทกับรุ้งมากขึ้นและพยายามล้วงความลับของรุ้ง รุ้งปรับทุกข์แต่เรื่องที่อิทธิบังคับให้เธอแต่งงานกับเขาโดยที่เธอไม่ได้รัก รุ้งสารภาพประวัติแท้จริงทั้งหมด แต่สิ่งที่รุ้งยังไม่รู้ก็คือทำไมแม่ต้องทิ้งเธอ รุ้งเข้าใจว่าเพราะแม่รักชายชู้คนใหม่ จึงคิดกำจัดเธอเสีย …ทูนเห็นใจ และเริ่มมีความหวังว่ารุ้งอาจจะรักเขาบ้าง รุ้งโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ และคนที่จำรุ้งได้ก็คือนายคำรณพ่อเลี้ยงนั่นเอง ในคอนเสิร์ทครั้งหนึ่ง แสงหล้าตามมาแอบดูรุ้งร้องเพลง แสงหล้าตกใจที่เห็นนายคำรณเข้ามาแสดงตัวกับรุ้ง คำรณขู่รุ้งว่าถ้าไม่จ่ายเงินหลักล้านให้ตน ตนจะเปิดโปงเรื่องการปลอมประวัติของรุ้ง ทั้งเรื่องแม่ที่เป็นหญิงบาร์และขายตัวอยู่ที่โคราช ทูนเข้าปกป้องรุ้ง และขู่กลับนายคำรณไม่ให้มายุ่งกับรุ้งอีก งานนี้ทูนจ่ายนายคำรณไปเยอะ แต่หารู้ไม่ว่าจุ๊บแจงและเจ๊จวงเห็นเหตุการณ์ และเรียกนายคำรณไปซักฟอก และเริ่มแผนการทำลายรุ้งอย่างต่อเนื่อง ด้วยความที่อยากอยู่ใกล้และปกป้องลูกสาว แสงหล้าเสนอตัวมาเป็นแม่ครัวของทีมงานเวลาออกคอนเสิร์ท อิทธิ จวง จุ๊บแจง ขวัญข้าว และอาชาแสดงท่าทางรังเกียจแสงหล้า มีแต่รุ้งเท่านั้นที่ขอให้อิทธิรับแสงหล้าเข้าทำงาน อิทธิเร่งรัดเรื่องการแต่งงานกับรุ้งเพราะเห็นรุ้งสนิทกับทูนเกินเหตุ แต่รุ้งยังไม่พร้อม เธอต้องตาม หาแม่ให้เจอ อิทธิเลยสร้างหลักฐานปลอมว่าแม่ของรุ้งตายแล้ว รุ้งเสียใจมากจนเกิดภาวะซึมเศร้า ร้องเพลงไม่ได้ ทูนช่วยปลอบจนรุ้งคลายใจ อิทธิยิ่งไม่พอใจจะเลิกจ้างทูนแต่ติดขัดที่เซ็นสัญญาไว้แล้ว อิทธิวางแผนจะให้รุ้งเข้าใจผิดทูนและเลิกคบกับทูน จังหวะนั้นฟ้าใสและจุ๊บแจงเข้ามาเสนอแผนกับอิทธิ อิทธิร่วมมือด้วยเพราะเป็นแผนที่แยบยลที่สุด ส่วนความรักระหว่าง ทูน กับ รุ้ง กลับต้องมาผิดใจกันเมื่อฟ้าใสมาหาทูนถึงที่ไร่อินสรวง ฟ้าใสแกล้งให้ทูนดูรอยแผล อ้างว่าเกิดจากการซ้อมของเสี่ยดำรง และตอนนี้เธอกำลังท้องอ่อนๆ ฟ้าใสกลัวว่าจะแท้งลูก เธอทำท่าจะเป็นลม จนทูนต้องเข้ามาประคองกอด และอุ้มฟ้าใสไปนอนในห้องด้านใน รุ้งเห็นภาพในระยะห่าง เธอใจคอไม่ดี ไม่แน่ใจว่าทูนพูดความจริงกับเธอรึเปล่า เพราะเมื่อรุ้งถามทูนว่านัดพบใครวันนี้ ทูนกลับปฏิเสธ รุ้งยิ่งแคลงใจมากขึ้น ความรักระหว่าง ทูน กับ รุ้ง จะเป็นเช่นไร และทั้ง สอง จะล่วงรู้แพ้ร้ายของอิทธิ ได้อย่างไร รุ้งจะได้พบแม่ หรือไม่ ต้องติดตามใน “ต้มยำลำซิ่ง”

คุณพ่อจำเป็น 2555

เรื่องย่อ : คุณพ่อจำเป็น (2555/2012) มีคนนำเด็กฝาแฝดสี่คนที่เกิดจากไข่คนละใบมาทิ้งไว้ที่หน้าบ้านของอาทิตย์ นักแต่งเพลงเจ้าสำราญในเวลา เช้า สาย บ่าย และเย็น ทำให้อาทิตย์จำต้องรับเป็นพ่ออุปถัมภ์ของเด็ก ๆ ตั้งชื่อให้ว่า อรุณเช้า-ตะวันสาย-บ่ายเพลา-นภาเย็น อาทิตย์ต้องเอาบ้านหลังใหญ่ที่เป็นของตนเองให้ฝรั่งเช่า เพื่อนำเงินมาเลี้ยงดูเด็ก ๆ แล้วพาเด็ก ๆ ไปอยู่บ้านเช่าหลังเล็กในชุมชนซอยร่วมสามัคคี ชื่นชอบกับชัยชม เป็นลูกนางชวน ซึ่งเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวในซอย ชัยชมเป็นทหารอยู่ชายแดนทางเหนือจึงรู้เรื่องลับของการขโมยเด็กที่มีชาติตระกูลสูง ถูกพาข้ามแม่น้ำสาละวิน มายังฝั่งไทยก่อนจะหายไปอย่างลึกลับ ชื่นชอบเป็นครู เมื่ออาทิตย์นำเด็ก ๆ สี่คนมาเข้าโรงเรียนจึงคิดว่าเด็ก ๆ เป็นลูกของอาทิตย์ซึ่งเป็นม่าย ต่อมาเกิดปัญหาเด็กเร่ร่อนเข้ามาอาศัยอยู่ในซอยร่วมสามัคคี และกลายเป็นที่รังเกียจของชาวซอยร่วมสามัคคี ทำให้ชื่นชอบและอาทิตย์ต้องร่วมมือกันหาบ้านอุปถัมภ์ และช่วยเด็กเร่ร่อนจากเหตุร้าย จนกระทั่งความพยายามกลายเป็นความรัก ทั้งนี้ ขวัญดี ซึ่งหมายปองอาทิตย์อยู่จึงเป็นปฏิปักษ์กับชื่นชอบ โดย เช้า-สาย-บ่าย-เย็น ต่างรักและต้องการให้ชื่นชอบแต่งงานกับอาทิตย์พ่อของตนเอง ต่อมา..มีผู้มาอ้างสิทธิ์ว่าเป็นพ่อแม่ของเด็ก ๆ แต่อาทิตย์และชื่นชอบหาทางพิสูจน์ไม่ได้ว่าคนเหล่านี้เป็นพ่อแม่ที่แท้จริงของเด็ก ๆ หรือไม่ ทำให้มีเรื่องโกลาหล สนุกสนาน ตื่นเต้น และเรียกน้ำตาจากปัญหาของเด็ก ๆ ที่เกิดขึ้นมากมาย จนในที่สุดพ่อแม่ที่แท้จริงของเด็กสี่คนก็ปรากฏตัวขึ้น เป็นบุคคลผู้มีฐานะสูงส่งและมีข้อพิสูจน์ได้ว่าเป็นพ่อแม่ที่แท้จริงของ เช้า-สาย-บ่าย-เย็น อาทิตย์จะตัดสินใจอย่างไร อรุณเช้า-ตะวันสาย-บ่ายเพลา และนภาเย็น จะทำอย่างไร ในเมื่อเด็ก ๆ ต่างรักคุณพ่อจำเป็นคนนี้เสียแล้ว ติดตามชมความสนุกสนานของ ละครคุณพ่อจำเป็น ได้ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 18.00 น. ทางช่อง 7 สี

สวนอาหารบานใจ 2555

เรื่องย่อ : สวนอาหารบานใจ (2555/2012) “สนุกสนานครื้นเครง อลเวงอลหม่าน กับสวนอาหารสุดสำราญบานตะไท” กำนันบุรุษชาติ (โน๊ต-วัชรบูลย์ ลี้สุวรรณ) กำนันหนุ่มรุ่นใหม่นักพัฒนา แห่งตำบลทางเสือผ่าน ผู้ที่มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาท้องถิ่นตามอุดมการณ์เดียวกับบิดา ซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้ว และได้ทิ้งมรดกไว้ให้บุรุษชาติมากมาย ทำให้กำนันบุรุษชาติตกเป็นที่หมายปองของบรรดาสาวน้อย สาวใหญ่ ลามไปจนถึงบรรดาแม่หม้ายทั้งหลายในตำบล บุรุษชาติมีเพื่อนร่วมงานอย่าง นายขลุ่ย (เหม-เหมวรรษ นิตยารส) สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยคนสนิทของกำนันบุรุษชาติ เป็นผู้ที่มีความรู้เรื่องการเกษตรเป็นอย่างดี นายขลุ่ยแอบหลงรัก หนูหวานแหว๋ว (มะนาว-ศรศิลป์ มณีวรรณ) ลูกสาวนายอำเภอแสวง (ปรินทร์ วิกรานต์) หวานแหว๋วเป็นหญิงสาวที่หลงใหลในวัฒนธรรมเกาหลีมาก ทั้งดนตรี เสื้อผ้า หน้า ผม รวมถึงอาหาร หวานแหว๋วหลงรักกำนันบุรุษชาติ โดยมี คุณนายรื่นวจี (กบ-ปภัสรา เตชะไพบูลย์) ผู้เป็นแม่ที่คอยวางแผนให้ลูกสาวได้มีโอกาสใกล้ชิดกับกำนัน เพราะคิดอยู่เสมอว่าลูกสาวของตนจะต้องได้คนที่ดี ร่ำรวย มีชื่อเสียงในสังคมเท่านั้น ถึงจะเหมาะสม บานใจ (ทับทิม-อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) สาวแก่นแก้ว ก๋ากั่นวัย มีบุคลิกห้าวหาญคล้ายผู้ชาย จบการศึกษาจากสถาบันอาชีวศึกษา ด้านเครื่องยนต์ มีความใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถไถนา มีเบื๊อก (โบกัส- ธีระธันญ์ ขจรชัยเดชาวัฒน์) น้องชายตัวแสบที่คอยช่วยเหลือ และตามร่วมวีรกรรมพิทักษ์ความถูกต้องให้เกิดขึ้นในตำบลทางเสือผ่าน บานใจไม่ถูกกับ นายดั้ง (เขต-ธาราเขต เพ็ชรสุกใส) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ ผู้ใหญ่บ้านยมโดย (หมู-กลศ อัทธเสรี) นายดั้งชอบตั้งตัวเป็นนักเลงใหญ่ประจำท้องถิ่น บานใจกับนายดั้ง ไปบังเอิญเจอกันที่ร้านอาหารสร้อยสวรรค์ โดยมี สร้อยสวรรค์ (เมษ์- บัณฑิตา ฐานวิเศษ) เป็นเจ้าของ ทั้งสองเผชิญหน้ากันแบบไม่มีใครยอมใคร เวลาไม่นานทั้งบานใจและนายดั้งได้สร้างความพังพินาศให้แก่ร้านอาหารสร้อยสวรรค์ สร้อยสวรรค์โมโหมาก สั่งให้ นายแหว่ง (ปราบ ยุทธพิชัย) ตามไปเรียกเก็บค่าเสียหาย จากนางเบิก (ต้อม รัชนีกรณ์ พันธ์มณี) ผู้เป็นแม่และ นายห้อย (จิ๊บ เฉลิมพร) ผู้เป็นพ่อ ประเมินค่าความเสียหายนับแสน พ่อแม่ของบานใจแทบเป็นลมเมื่อรู้เรื่องวีรกรรมที่เบื๊อกกับบานใจไปก่อขึ้น ร้านอาหารสร้อยสวรรค์ที่ตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับสำนักนางชีด้วยความเงียบสงัด เพราะเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างนายเบื๊อกและนายดั้ง ทำแขกกลัวโดนลูกหลงจนไม่กล้าเดินผ่าน การทำร้านอาหารถ้าไม่เคยทำ ไม่รู้หรอกว่าปัญหามันมีมากมายขนาดไหน เด็กเสิร์ฟทำหน้าหงิกเพราะหึงแขก นักร้องท้องแล้วท้องอีก เผลอไม่ได้เผลอเป็นท้องกับนักดนตรี แม่ครัวที่คิดว่าตัวเองหล่นมาจากฟากฟ้าทำอาหารรสชาติแล้วแต่อารมณ์ ปัญหาต่างๆ มากมายที่มีอยู่ตลอดเวลา.....สร้อยสวรรค์จึงท้าให้บานใจมาบริหารงานสวนอาหาร ภายในเวลาสามเดือนบานใจจะต้องบริหารสวนอาหารให้ได้ โดยไม่เจ๊งและนำเงินมาชดใช้ค่าเสียหาย.....แต่ถ้าบานใจไม่สามารถบริหารร้านอาหารได้ ที่นาครอบครัวนางเบิกจะถูกยึดและตกเป็นของสร้อยสวรรค์ทันที และ “สวนอาหารบานใจ” ถูกเนรมิตขึ้นภายในสามวัน พร้อมทีมงานที่ประกอบไปด้วย...พ่อที่เคยแต่ต้อนควายเข้าคอก มาทำหน้าที่พนักงานต้อนรับ..แม่ที่เคยแต่ตำน้ำพริก ผักต้ม ต้องมาเป็นแม่ครัวใหญ่…น้องชายจอมซนอีกคน มารับตำแหน่งเด็กเสิร์ฟ พี่แรมจันทร์ (อ้อม- ประถมาภรณ์ รัตนภักดี) อดีตนักร้อนลูกทุ่งสาวเสียงดี เซ๊กซี่ ที่ตัดสินใจวางไมค์ไปแล้ว กับ นายเชิด (เอเอ- ปัญญาพล เดชสงค์) อดีตนักดนตรีหนุ่ม มาดเซอร์ สายตาเจ้าชู้ แฟนเก่าของแรมจันทร์ ถูกบานใจตามตัวมา เพื่อหวนกลับขึ้นบรรเลงดนตรีในสวนอาหารอีกครั้ง และ จ่าดับ (กล้วย เชิญยิ้ม) มาคอยดูแลความปลอดภัยให้กับสวนอาหารบานใจ “สวนอาหารบานใจ” จึงเปิดขึ้นอย่างทุลักทุเลและดำเนินกิจการไปอย่างสับสนอลเวง ภายใต้เสียงวิพากษ์โจษจันของชาวบ้านทั้งตำบลว่าบานใจนั้นหาเรื่องหมดตัว หนูหวานแหววสนใจในตัวกำนันบุรุษชาติเป็นอย่างมาก หากกำนันหนุ่มนั้นเพียงแค่ให้เกียรติหญิงสาวในฐานะลูกสาวท่านนายอำเภอเท่านั้น ท่าทางสุขุมฉลาดล้ำของบุรุษชาติจึงทำให้หนูหวานแหววและคุณนายรื่นวจีให้ความสนใจอยู่ไม่น้อย ขณะเดี๋ยวกันสร้อยสวรรค์ก็หลงใหลในตัวกำนันบุรุษชาติเช่นกัน....นายขลุ่ยเองได้ตกหลุมรักหนูหวานแหว๋วอย่างถอนตัวไม่ขึ้น แต่สำหรับหนูหวานแหว๋วกลับมองนายขลุ่ยเป็นเพียงหนุ่มข้าราชการต๊อกต๋อย บ้านนอกเท่านั้น แต่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจจริงของบานใจ อีกทั้งแนวคิดด้านการปรุงอาหารไทยอันเลิศรส เสริมด้วยสมุนไพรที่ถือเป็นองค์ประกอบในการปรุงอาหาร เพื่อสุขภาพอย่างหลากหลาย จนเป็นที่รู้จักโด่งดังไปทั่ว ทั้งแนวการบริหารสวนอาหารที่แปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร ทำให้กำนันบุรุษชาติ ได้กลายมาเป็นแขกประจำของสวนอาหารอย่างไม่รู้ตัว กำนันหนุ่มนักพัฒนาผู้มีแบบแผนในการทำงานและการใช้ชีวิต ที่พร้อมอุทิศให้กับลูกบ้านเพื่อมุ่งพัฒนาตำบลของตนให้มีความเจริญ มีอาชีพทำมาหากินไม่เป็นหนี้ และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างพอเพียง แต่ชีวิตทุกย่างก้าวไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หรือเพราะเหตุผลใดที่เกินจะคาดเดา เมื่อได้มาพบกับเจ้าของสวนอาหารบานใจ ทำให้กำนันบุรุษชาติที่เป็นนักวางแผนชั้นยอด ต้องมาคิดวางแผนเรื่องหัวใจของตัวเองเพื่อพิชิตหัวใจหญิงสาวอย่างบานใจ และตัวบานใจเองผู้รับหน้าที่เป็นผู้บริหารสวนอาหารจะสามารถบริหารหัวใจตัวเองได้หรือไม่ !? ต้องติดตามชม..

ทนายสื่อรัก 2555

เรื่องย่อ : ทนายสื่อรัก (2555/2012) ปอย ทนายสาวเพิ่งเรียนจบจากกรุงเทพฯ กลับมาช่วยงาน ยิ่งยง ทนายรุ่นเก๋าผู้เป็นพ่อที่เปิดบริษัท ยิ่งยงทนายความ โดยมีสโลแกน "ว่าความตามวงเงิน" สามารถพลิกคดีดำเป็นขาว ผิดเป็นถูกได้เสมอ โดยที่เธอยังไม่รู้ความจริงในข้อนี้ ปอย ลูกสาวที่แสนจะรักความยุติธรรมของ ยิ่งยง สืบรู้และเสียศรัทธาในตัวผู้เป็นพ่อ จึงคิดเปิดโปง เมื่อควบคุม ปอย ไม่ได้ ยิ่งยง จึงไล่ปอยออกจากบริษัท แถม ปอย ยังเกิดน้อยใจผู้เป็นพ่อที่มีแม่ใหม่ จึงหนีออกจากบ้าน คนแสบเข้าเส้นอย่าง ปอย ไม่ออกจากบ้านมามือเปล่าแน่ เธอหอบเอาสมบัติทุกอย่างที่ผู้เป็นแม่ทิ้งไว้ให้ รวมถึงกรรมสิทธิ์ในที่ดินอันเป็นที่ตั้งของ บริษัท ยิ่งยงทนายความ ด้วย… ปอย จงใจจะสร้างความคับแค้นให้กับ ยิ่งยง ซึ่งเธอทำสำเร็จ ปอย ประกาศอุดมการณ์ที่จะพิสูจน์ว่า "กฎหมายมีไว้ป้องกันคนดี ไม่ใช่เปลี่ยนผิดให้เป็นถูก ช่วยคนชั่วให้ลอยนวล" และยังเชื่ออีกว่า แม้จะมีกฎหมายเป็นแนวทางในสังคม แต่กฎแห่งความดี ไม่เบียดเบียน ยอมรับในผิดชอบชั่วดี ก็เป็นกฎที่แข็งแรงในสังคมเช่นกัน ปอย ย้ายมาอยู่ที่ร้านเสริมสวยของ ป้าเม้า เพื่อนสุดที่รักของ แม่ปอย ป้าเม้า รัก ปอย เหมือนกับลูกแท้ ๆ ของตัวเอง ปอย เลือกร้านเสริมสวยของ ป้าเม้า เป็นแหล่งข้อมูล ป้าเม้า มี กิ๊ฟ เป็นลูกเลี้ยงที่ถอดแบบความซ่ามาจากเธอ ทุกคนจึงเรียก กิ๊ฟ ว่า กิ๊ฟซ่า เพราะเธอสวยซ่า เซ็กซี่ เร้าร้อน จนดับความเย็นของร้านชานมไข่มุกที่เธอเป็นเจ้าของ กิ๊ฟซ่า จะซ่าเป็นพิเศษกับ ลาเต้ เธอมีเป้าหมายสูงสุดที่จะเป็น แฟนลาเต้ ชายหนุ่มในอุดมคติที่เธอแอบรัก และแน่นอนว่า กิ๊ฟซ่า ไม่พอใจ ปอย ปอย แวะเวียนมาขอคำปรึกษาจาก มหาแม่น ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของแม่ปอยและเป็นอาจารย์ด้านกฎหมายคนแรกของเธอ มหาแม่น เป็นทนายความเก่าชื่อดังจากกรุงเทพฯ ที่อดีตเคยว่าความผิดพลาด จึงเกิดเป็นปมในใจ เขาละทางโลกและผันตัวมาเป็นมัคคทายก โดยมี หลวงพ่อเมตตา เป็นผู้ปรึกษาทางธรรม ปอย เกิดไอเดียที่จะทำให้ชาวบ้าน อำเภอยิ่งจะรวย อยู่ในกฎแห่งความดี ไม่เบียดเบียนกัน และยอมรับความผิดชอบชั่วดีได้ด้วยตัวเอง จึงเปิด บริษัท ทนายสื่อรัก เพื่อรับปรึกษาและคลี่คลายปัญหาของคนใน อำเภอยิ่งจะรวย บ้านเกิดของเธอ ซึ่งชาวบ้านทุกคนหวังจะรวยสมชื่อ พวกเขาทำทุกอย่างโดยไม่คำนึงถึงหลัก กฎหมาย และ ศีลธรรม เธอหวังเพียงว่า บริษัท ทนายสื่อรัก จะทำให้ อำเภอยิ่งจะรวย กลับมารักและสามัคคีกันดังเดิม การกระทำครั้งนี้ของ ปอย เกิดผลสองประการตามมาคือ 1.ทนายยิ่งยงผู้ยิ่งใหญ่ได้โอกาสแก้เผ็ด ปอย ด้วยการประกาศท้าทาย ปอย ว่า หนึ่งปีหลังจากนี้ไป ให้ปอยทำให้ชาวบ้านอยู่ร่วมกันอย่างสันติด้วยสิ่งที่ ปอย เรียกว่า "กฎแห่งการอยู่ร่วมกัน" และเป้าหมายใหญ่ของการเดิมพันในครั้งนี้ก็คือ "การเปลี่ยนแปลง เสี่ยอ๋า ให้กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี" ถ้าปอย ทำไม่สำเร็จ ปอยจะต้องยกสมบัติของแม่ที่หอบหิ้วออกจากบ้านไป ซึ่งรวมถึงที่ดินอันเป็นที่ตั้งของบริษัท ยิ่งยงทนายความ ให้กับ ยิ่งยง ด้วย ปอยรับคำท้าของ ยิ่งยง ศึกสายเลือดจึงเกิดขึ้น ชื่อของ ปอย เข้าหู จะเด็ด ใจเพชร ปลัดหนุ่มหน้าใหม่ไฟแรง ลูกศิษย์ก้นกุฏิของ หลวงพ่อเมตตา แห่ง วัดยิ่งศรัทธาธรรม ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน เขากลับมาเป็นปลัดที่ อำเภอยิ่งจะรวย เนื่องจากทราบข่าวว่า อิทธิพลมืดกำลังครอบงำชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านเห็นแก่ตัวและเกิดเรื่องมโนสาเร่ต่าง ๆ มากมาย ผลประการที่ 2. การเปิด บริษัท ทนายสื่อรัก ทำให้ จะเด็ด เกิดความไม่ไว้ใจเพราะไม่เชื่อว่า ลูกไม้จะหล่นไกลต้น เขาจับตาเฝ้าระวังและต้องการค้นหาความจริงว่า ปอย ต้องการอะไรจากชาวบ้านกันแน่ จึงร่วมมือกับ จ่าเฉย ตำรวจคนสนิทที่รักความยุติธรรม ให้ช่วยคอยสอดส่องดูแลความเรียบร้อยภายในอำเภอ เมื่อเกิดเรื่องมโนสาเร่ที่เกินกว่า ปอย จะแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้เอง เธอจึงขอความช่วยเหลือจาก มหาแม่น และพยายามพิสูจน์ว่าตัวเองต่างจากผู้เป็นพ่อ จนสามารถทำให้ จะเด็ด เห็นความตั้งใจจริงของเธอ ทนายสาวและปลัดหนุ่มจึงร่วมมือกันปกป้องหมู่บ้านจากผู้ไม่หวังดี จนค่อย ๆ เกิดเป็นความรัก ส่วนบุคคลที่เป็นอันตราย หวังผลประโยชน์จากชาวบ้าน กลับเป็นผู้มีอิทธิผลมืดอย่าง เสี่ยอ๋า และ ตระกูลสูบโลหิต ของ คุณนายชะอ้อน นั่นเอง การทำงานของทนายสาวและปลัดหนุ่มอย่างเที่ยงตรง ขัดผลประโยชน์ของ เสี่ยอ๋า มหาอิทธิพล เจ้าพ่อคุมวินมอเตอร์ไซค์เถื่อน อดีตลูกศิษย์วัดของ หลวงพ่อเมตตา ที่ความโลภเข้าครอบงำ ทำงานสกปรกทุกชนิด เขาใช้อิทธิพลของตัวเองกดขี่ชาวบ้าน เสี่ยอ๋า รัก อ๋อง ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด ใครทำอ๋องเจ็บ ต้องเจ็บกว่าสองเท่าอ๋อง คิดว่าตัวเองหล่อ เท่ห์ เก่ง และแกร่งเหมือนพระเอกนักบู๊ เขามักทำทุกอย่างตามอำเภอใจโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้อื่น ไม่มีใครสามารถขัดขวางเขาได้ ยกเว้น ปอย ผู้หญิงที่ อ๋อง หลงรักแบบหัวปักหัวปำ เขาเห็นว่าเธอ สวย เผ็ด ดุ น่าจะเหมาะกับเขา และเขาจึงกลายเป็นคู่ปรับคำสำคัญของ ลาเต้ (ชื่อเดิม แต้ แต่เปลี่ยนเป็นลาเต้เพราะรู้สึกว่ามันคลาสสิคกว่า) ลาเต้ ทายาทคนเดียวของ เฮียต็อก เจ้าของร้านฮ่อเจี๊ย ร้านกาแฟเก่าแก่ชื่อดังของอำเภอ ลาเต้ เป็นหนุ่มขี้อาย ไม่ค่อยพูด และชอบผู้หญิงที่เป็นผู้นำ เขาแอบหลงรัก ปอย และคอยช่วยเหลือเธอในการคลี่คลายเรื่องราววุ่นวายต่าง ๆ ของชาวบ้าน คุณนายชะอ้อน สูบโลหิต เจ้าของตลาดยิ่งจะรวย คือคนแรก ที่ ปอย เลือกจะผูกมิตรด้วย เพราะนอกจาก คุณนายชะอ้อน จะเป็นผู้ทรงอิทธิผลฝ่ายหญิง ที่สามารถคัดง้างกับ เสี่ยอ๋า ผู้มีอิทธิพลฝ่ายชายได้ ปอย ยังรู้จุดอ่อนว่า ตั้งแต่สามีคนที่สามของ คุณนายชะอ้อน ตายไป คุณนายชะอ้อน ทั้งเล็ง ทั้งเล็ม ทั้งตอด มหาแม่น มาตลอด แต่ มหาแม่น ก็ปฏิเสธ เหตุผลหลักคือ กลัวตาย เพราะสามี คุณนายชะอ้อน ตายไปแล้วทั้งสามคน ปาดุ๊ก ปาลิม่า และเปี๊ยก ลูกของ คุณนายชะอ้อน เป็นผลผลิตของสามีทั้งสามคน คนละพ่อ การเข้าไปผูกมิตรสร้างฐานกำลังกับครอบครัว คุณนายชะอ้อน… ปอย ได้รับความร่วมมือจาก ดุ๊ก ที่สมาคมคนเกลียดความเค็มของ คุณนายชะอ้อน ชอบเรียกด้วยความสะใจว่า ปลาดุก เมื่อมี ปอย ในชีวิต ดุ๊ก ที่มีอาการเรียบร้อยจนมีพิรุธ ก็รู้สึกอุ่นใจ ที่มีพี่สาวห้าว ๆ แรง ๆ อย่าง ปอย มาดูแล เปี๊ยก ลูกชายจอมซนคนสุดท้อง มีความสามารถพิเศษคือ นำความหายนะมาให้ครอบ ครัวสูบโลหิตไม่เว้นแต่ละวัน เปี๊ยก ก็รักและชื่นชม ปอย ไม่แพ้กับ ดุ๊ก แต่ความรู้สึกแบบนี้ ไม่มีในใจของ ปาลิม่า ลูกสาวคนกลางที่ไม่สวย และยังขี้วีนของ คุณนายชะอ้อน เพราะข้อหารุนแรงคือ ปอย รวยและสวยกว่า และอาจเป็นคู่แข่งที่แย่ง จะเด็ด ไปจาก ปาลิม่า ได้ ยิ่งนานวัน ยิ่งมีเรื่องมโนสาเร่เกิดขึ้นในอำเภอ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องยืมเงินแต่ไม่ใช้ , เรื่องขโมยเงินแม่ยาย , เรื่องปืนรั้วแอบดูลูกสาวชาวบ้าน , เรื่องวิวาทไล่ที่ , เรื่องที่จอดรถหน้าบ้าน , เรื่องแซงคิวซื้อกล้วยทอด ฯลฯ ก็จะได้รับการไกล่เกลี่ยและแก้ไขโดยความสามารถของทนายสาวและปลัดหนุ่ม ปอย จะเด็ด และ มหาแม่น จะร่วมมือกันช่วยชาวบ้านให้หลุดพ้นจากอิทธิมืดที่ครอบงำจิตใจโดยใช้ กฎหมาย และ ศีลธรรม ได้หรือไม่ ความรักของทนายสาวและปลัดหนุ่มจะลงเอยอย่างไร ติดตามได้ใน ละครทนายสื่อรัก ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 13.00 น. ทางช่อง 7 สี

เก็บหอมออมรัก 2555

เรื่องย่อ : เก็บหอมออมรัก (2555/2012) ปากซอยแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาและหลากหลายอาชีพ อาทิเช่น มอเตอร์ไซค์วินหน้าปากซอย ร้านสะดวกซื้อ ธนาคารเพื่อการเกษตร แม่ค้าขายกล้วยปิ้ง หวยบนดิน ฯลฯ ลึกเข้ามาในซอยนั้นมีบ้านกลางเก่ากลางใหม่หลังหนึ่งของลุงหวิน เจ้าหนี้เงินกู้ชาวหนองบัวดีหมี จังหวัดมหาสารคาม ที่ซื้อให้ติ๊กหรือพี่ติ๊กของสาว ๆ ลูกชายสุดหล่อมาเรียนหนังสือ และให้ไอ้เข่ง มอเตอร์ไซค์วินหน้าปากซอยซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานห่าง ๆ ของลุงหวินมาอยู่เป็นเพื่อนติ๊ก ซึ่งพอเรียนจบติ๊กก็หางานทำมีรายได้เดือนละ 20,000 เป็นเกียรติเป็นศรีแก่วงศ์ตระกูลที่เด็กจบใหม่มีรายได้ดีขนาดนี้ เมื่อถึงวันรับปริญญาของติ๊ก ลุงหวินจึงพาคำหล้า เมียรัก ตุ๊ต๊ะ ลูกสาวคนสุดท้อง และย่ากิ้งมาจากหนองบัวดีหมี เพื่อแสดงความยินดีแก่ติ๊กและตั้งใจที่จะอยู่เที่ยวกรุงเทพฯ 2 อาทิตย์ ทุกคนตั้งใจจะเที่ยวกันอย่างเต็มที่เพราะนานแล้วไม่ได้มา โดยเฉพาะคำหล้าที่ตั้งใจจะมาซื้อของจากกรุงเทพฯ ไปเย้ยเพื่อนบ้าน และตุ๊ต๊ะที่ตั้งใจจะมาหากิ๊กเก่าที่ตอนนี้หนีหน้ามาเรียนที่กทม. แต่เมื่อลุงหวินมาอยู่กรุงเทพฯ สมาชิกในบ้านต่างรู้สึกผิดหวังไปตาม ๆ กัน โดยเฉพาะติ๊กที่ถูกเอ็ดตั้งแต่เปิดประตูเข้าบ้าน เมื่อลุงหวินเห็นว่าติ๊กใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินตัว ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าราคาแพง ทีวีสี 40 นิ้ว เครื่องเสียงอย่างดี รถยนต์ ฯลฯ แม้ติ๊กจะอ้างว่าของทุกอย่างเป็นเงินผ่อน และที่สำคัญติ๊กมีบัตรเครดิตไว้คอยใช้จ่ายหนี้อยู่เกือบ 10 ใบ ลุงหวินกับย่ากิ้งก็ไม่พอใจเพราะนั่นหมายถึงติ๊กเอาเงินในอนาคตมาใช้ และไม่รู้จักอดออม ส่วนคำหล้าและตุ๊ต๊ะก็โดนไม่แพ้กัน เพราะลุงหวินเล่นคำนวณจดค่าใช้จ่ายตั้งแต่ขาเหยียบกรุงเทพฯ ตามประสาคนขี้เหนียว เมื่อต้องการซื้อสิ่งของสองแม่ลูกจึงต้องหาวิธีต่าง ๆ นานามาเม้มเงิน ลุงหวิน ไม่ว่าจะอ้างโน่นหมดอ้างนี่หมด แต่ลุงหวินก็ไม่เคยหลงกล เพราะค่าใช้จ่ายทุกอย่างแกจดลงสมุดหมด มีไอ้เข่งคนเดียวที่ไม่โดนลุงหวินเอ็ด เพราะไอ้เข่งเล่นทำงานหามรุ่งหามค่ำ หายใจเข้าออกเป็นเงิน ๆ ๆ ๆ เพราะต้องการเอาเงินไปซื้อของเอาใจบุญหลาย น้องนางบ้านนาที่รออยู่ที่หนองบัวดีหมี โดยไม่ได้สนใจสุขภาพร่างกายของตัวเองแม้แต่นิดเดียว มีแต่ย่ากิ้งคนเดียวที่คอยเอ็ดไอ้เข่ง เพราะยังไงสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงย่อมสำคัญกว่าเงิน ย่ากิ้งสอนให้ไอ้เข่งรู้จักการเดินทางสายกลาง ติ๊กโดนคำสั่งเด็ดขาดให้กลับไปรายงานตัว (และสถานะทางการเงิน) ที่บ้านทุกสัปดาห์ ติ๊กก็วางท่าเป็นหนุ่มกรุงกลับไปอย่างเข้าใจว่าเท่เสียเต็มประดา และได้พบกับยาหยี คู่อริเก่าตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ ยาหยีเห็นติ๊กอวดข้าวของเครื่องใช้แพง ๆ ทันสมัยก็อดแขวะไม่ได้ว่าฟุ่มเฟือย ใช้เงินเกินตัว ติ๊กก็สวนกลับว่าเป็นเพราะยาหยีอิจฉาที่ไม่มีข้าวของพวกนี้ล่ะสิ เป็นพนักงานธนาคารบ้านนอกเงินเดือนคงสู้เขาไม่ได้แน่ หารู้ไม่ว่ายาหยีมีเงินเก็บยอดรวมมากกว่าหนี้สินที่ติ๊กมีด้วยซ้ำ เพราะเป็นคนประหยัดเก็บออมแต่เด็ก และฉลาดเลือกซื้อแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง แตกต่างกับสำลี แม่ค้าขายเสื้อผ้าในตลาดที่ฟุ้งเฟ้อโดยไม่ดูกำลังของตัวเอง บ้าเห่อเครื่องสำอางเพื่อผิวขาวจากประเทศแถบเอเชียตะวันออก แถมยังอยากเป็นคนกรุงเสียเต็มแก่ ถึงขั้นเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็นเชอรี่ให้ดูไฮโซ และบังคับให้ทุกคนเรียกตัวเองว่าเชอรี่ด้วย สร้างความอิดหนาระอาใจให้คนทั้งตลาด รวมทั้งหนูนา แม่ค้าลูกชิ้นปิ้งแผงติดกันที่ทะเลาะกันตลอด หนูนาเป็นเพื่อนรักของยาหยีที่มีความคิดตรงกันเรื่องประหยัดอดออม หนูนากำลังเก็บหอมรอมริบเพื่อเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเอง ดังนั้นจึงรำคาญเวลาสำลีมาเสนอขายอะไรไร้สาระ บางทีถึงขั้นมาหยิบยืมเงินก็มี แต่โดนหนูนาตะเพิดไปทุกครั้ง ติ๊กกลับมาคราวนี้กลายเป็นขวัญใจของสาว ๆ เพราะหน้าตาก็ดี ท่าทางจะรวยด้วย สำลีเห็นติ๊กก็กรี๊ดสลบ สเป็กชัด ๆ จากนั้นจึงตามหว่านเสน่ห์ใส่ติ๊กทุกครั้งที่ติ๊กกลับบ้าน แต่เป้าหมายของติ๊กกลับอยู่ที่ พี่ฟ้า ลูกสาวร้านทองที่สวยจนไม่มีใครไม่มองเหลียว จะยกเว้นก็แต่สมหมาย หรือที่ทุกคนเรียกกันอย่างเอ็นดูว่า เฉิ่ม เกษตรตำบลคนดีคนขยันที่เหมือนไม่มีความรู้สึกใด ๆ กับผู้หญิงคนไหนเลย เน้นธรรมะธัมโมตลอด ติ๊กเพียรจีบพี่ฟ้าโดยมีคู่แข่งสำคัญคือ จอน หรือ จอห์นนี่ ลูกชายกำนันแจ่ม ต่างคนต่างงัดลูกไม้สารพัดมาเอาชนะใจพี่ฟ้าให้ได้ ทั้งคารม สิ่งของเงินทอง แต่พี่ฟ้าที่มีพร้อมอยู่แล้วทุกอย่างก็ไม่เคยชายตาแลใครเลย ยกเว้นสารวัตรพิพัฒน์ หรือ พัฒน์ ที่ทั้งหน้าตาและฐานะเพียบพร้อมกว่าใคร ๆ ในตำบล ติ๊กจึงต้องอกหักไปตามระเบียบ โดนยาหยีหัวเราะเยาะเข้าจนได้ ความขี้เหนียว ขี้งกไม่รู้จักผ่อนปรนของลุงหวินทำให้ทุกคนในบ้านลำบากใจ เพราะแกเล่นประหยัดไฟจนย่ากิ้งตกบันได และยังมีนโยบายในการเข้าห้องน้ำห้ามชักโครกจนกว่าจะมีการใช้ครบสามครั้งเพื่อเป็นการประหยัดน้ำ ทั้งลูกทั้งเมียร่วมใจบอกให้ลุงหวินรู้จักหาความสุขใส่ตัวซะบ้าง เอาแบบย่ากิ้งที่ถึงแม้จะแก่แต่ก็ยังมีความสุข เพราะย่ากิ้งรู้จักผ่อนปรนแต่ลุงหวินก็ยังยืนกรานที่จะประหยัดและงกเช่นเดิม ทั้งนี้เพื่อฐานะการเงินที่จะมั่นคงในอนาคต แต่การกระทำของลุงหวินก็ถูกย่ากิ้งตำหนิ เพราะถึงตัวลุงหวินจะขี้เหนียวชนิดตดก็ไม่ให้มาดม แต่ลุงหวินยังไปปล่อยเงินกู้ให้ชาวบ้าน อ้างว่าได้ดอกเบี้ยเยอะดี ย่ากิ้งจึงแนะนำถ้าลุงหวินอยากได้เงินเยอะ ๆ น่าจะเอาเงินไปซื้อสลากออมทรัพย์แบบย่ากิ้งเพราะดอกเบี้ยก็ดีแถมเผลอ ๆ ยังถูกรางวัลใหญ่อีกด้วย แต่ลุงหวินก็ยังยืนยันความคิดของตัวเองเป็นกระต่ายขาเดียว เพราะลุงหวินมีความสุขกับการที่เห็นยอดเงินในบัญชีเพิ่มเมื่อไปเช็คยอดบัญชีกับยาหยี แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเมื่อไอ้เข่งอดนอนจนขับรถชนเสาไฟฟ้าหน้าปากซอยจนบาดเจ็บสาหัสต้องเข้าโรงพยาบาล ติ๊กก็ตกงานเพราะบริษัทปิดตัวกะทันหันกลายเป็นหนี้บัตรเครดิตและสินค้าเงินผ่อนมากมายมหาศาล ส่วนลูกหนี้เงินกู้ของลุงหวินก็พร้อมใจกันโกงหน้าตาเฉย และเมื่อถึงเวลาจำเป็น ข้าวของเครื่องใช้ที่คำหล้ากับตุ๊ต๊ะแอบไปช้อปก็แปรสภาพเป็นเงินไม่ได้ ทุกคนในบ้านทุกข์หนักเพราะคำว่าเงินตัวเดียว แต่ก็ยังดีที่ย่ากิ้งถูกรางวัลจากสลากออมทรัพย์และพอจะมีเงินฝาก เงินเก็บอยู่บ้างจากการเป็นเกษตรกรตอนอยู่ต่างจังหวัด จึงพอจะบรรเทาทุกข์ของคนในครอบครัว ติ๊กกลับมาช่วยลุงหวินเรื่องลูกหนี้จึงได้รู้ว่าเหตุที่ลูกหนี้เบี้ยวไปเสียเฉย ๆ เพราะถูกกำนันแจ่มใช้แผนชิงตัวลูกหนี้ไปพร้อมกับทิ้งระเบิดใส่ลุงหวินด้วย งานนี้ติ๊กจึงต้องมาร่วมมือกับยาหยีในการช่วย ลุงหวิน มีหนูนากับเฉิ่มที่มาจับคู่กันได้อย่างไรก็ไม่รู้เป็นกองหนุนอีกแรง ติ๊กได้เรียนรู้เรื่องการใช้เงินกับยาหยีจนคิดได้ว่าที่ตัวเองเอาแต่ใช้บัตรเครดิตนั้นมันเป็นเพียงความสะดวกสบายชั่วคราวเท่านั้น ติ๊กกับยาหยีกำลังจะลงเอยกันด้วยดีแล้วถ้าจอนไม่มาขวาง เพราะสำลียอมให้ติ๊กลงเอยกับใครไม่ได้นอกจากตัวเอง จึงไปหลอกจอนให้หลงรักยาหยีแทนแล้วคิดแย่งยาหยีไปจากติ๊ก ติ๊กจะได้กลับมาซบอกสำลี งานนี้สำลีมีพันธมิตรสำคัญคือคำพา แม่ของยาหยีที่เป็นลูกค้าประจำ สำลีโน้มน้าวให้คำพาเห็นจอนดีกว่าติ๊กตรงที่จอนรวยกว่าติ๊ก แม้ยอดผู้เป็นพ่อของยาหยีจะเตือนคำพาไม่ให้ไปยุ่งกับเรื่องของหนุ่มสาวแต่คำพาก็ไม่สนใจ เพราะจริง ๆ แล้วคำพาก็ไม่อยากได้ติ๊กเป็นเขย ไม่อยากไปเกี่ยวดองกับคำหล้า คู่อริตั้งแต่สมัยสาว ๆ เฉิ่มแนะนำให้ติ๊กใช้แผนทำเป็นเออออกับสำลีไปก่อน แล้วทำตัวจน ซอมซ่อทำให้สำลีเลิกตอแยแล้วหันไปตื๊อจอนแทน ติ๊กหันไปปรับความเข้าใจกับยาหยี ท้ายสุดทุกคนก็ได้ผ่านบทเรียนชีวิต ถึงการใช้ชีวิตแบบพอเพียงและการรู้จักอดออม ลุงหวินเลิกปล่อยเงินกู้ ไอ้เข่งก็หันมารักษาสุขภาพตัวเอง ติ๊กก็เลิกใช้เงินในอนาคตหันมาหางานทำใหม่ รู้จักอดออมเพื่อการใช้หนี้ ตุ๊ต๊ะก็ตั้งใจเรียนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่ดี คำหล้าก็เลิกบ้าช้อปปิ้ง หันมาช่วยย่ากิ้งและลุงหวินปลูกผักขายทำมาหากิน ทุกคนในครอบครัวมีความสุขพร้อมหน้า เมื่อรู้จักการอดออมและการใช้ชีวิตแบบพอเพียง โดยเฉพาะติ๊กที่ได้รู้ว่าความสุขไม่ได้อยู่ที่เงินทอง แต่อยู่ที่มีใครรักและเข้าใจอยู่ข้าง ๆ ต่างหาก ความสนุกสุดป่วนชวนขำใน ละครเก็บหอมออมรัก จะเป็นอย่างไรคงต้องติดตามกัน ทุกวันเสาร์ เวลา 13.00 น. ทางช่อง 7 สี

ป่าแห่งศรัทธา (2555/2012) มะนาว (ฉัตร ปริยฉัตร) บัณฑิตป้ายแดงแห่งคณะวนศาสตร์ ถูกบรรจุเข้าทำงานในป่าต้นน้ำแห่งหนึ่งซึ่งเป็นบ้านเกิดของเธอ ด้วยความรู้สึกดีใจที่ได้ทำงานที่ไฝ่ฝันมาตั้งแต่เล็ก แต่ สุทิน (ป๊อป พลรัตน์) พ่อของเธอซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ใกล้ปลดระวาง ไม่พอใจนักที่ลูกสาวต้องมาทำงานเหมือนตนเอง เพราะเป็นงานที่เหนื่อย ลำบากและอันตรายมากด้วย มะนาวเข้ามาทำงานโดยไม่ต้องปรับตัวมากนัก ก้าวแรกที่เข้ามาเธอก็ได้เข้าไปสักการะพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ติดอยู่หน้าหน่วยซึ่งเป็นแรงบันดาลใจสำหรับเธอในการทำงานนี้มาก มะนาวออกสำรวจพื้นที่รับผิดชอบและไปเจอกับนักธุรกิจหนุ่ม รัฐ (วีรภาพ) ในเขตพื้นที่ป่า มะนาวบอกว่ารัฐบุกรุกป่าจะเอาเรื่องให้ได้ แต่ทั้งสองคนไม่มีใครยอมใคร เพราะรัฐก็บอกว่าที่ตรงนี้เป็นที่ของตนซึ่งซื้อมาเพื่อปลูกยางพารา มะนาวเอาเรื่องนี้ไปรายงานหัวหน้า เขม (นิว วงศกร) แต่หัวหน้าก็บอกให้มะนาวลืมเรื่องนี้ไปซะ ไม่อย่างงั้นทุกคนที่นี้จะเดือดร้อน รัฐขยายธุรกิจยางพาราครบวงจรโดยไม่รู้เลยว่าเป็นที่ดินที่ได้มาโดยผิดกฎหมายและอยู่ใกล้กับป่าเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่างที่มะนาวเดินออกตรวจป่าก็พบกับ สันติ (ภัทรเดช สงวนความดี) เพื่อนของเธอกำลังลักลอบเข้ามาตัดไม้ เธอตกใจมากและอึดอัดใจมากที่ชาวบ้านที่เธอคุ้นหน้าคุ้นตามาแต่เล็ก ไม่ยอมให้จับตัวสันติไป ครูปิ่น (ขวัญ อุษามณี) สาวจบใหม่ไฟแรงที่ย้ายมาสอนหนังสือที่บ้านป่า รีบขี่จักรยานมาบอกข่าวที่หน่วย สุทินตกใจมากรีบไปช่วยลูกสาวออกมาจากวงล้อมของชาวบ้าน แถมยังต้องปล่อยตัวสันติไปอีก มะนาวเสียใจมากที่ความถูกต้องที่เธอมีเจตนาจะรักษาผลประโยชน์ให้กับแผ่นดิน แต่ต้องมายอมแพ้ให้คนกระทำผิด เธอจึงถามพ่อของเธอว่าในเมื่อทำอะไรคนผิดไม่ได้จะมีข้าราชการไว้ทำไม สุทินโชว์แผลที่ถูกยิงให้ดู บอกไม่อยากให้มะนาวทำงานนี้ แต่มะนาวยิ่งมีไฟบอกจะรักษาป่าต้นน้ำนี้ให้ดีที่สุด มะนาวได้ครูปิ่นเป็นแนวร่วมเพราะทั้งสองคนมีอุดมการณ์เดียวกันในทุก ๆ เรื่อง มะนาวส่งเมล์ไปขอรับบริจาคหนังสือจาก ป้อ (อุ่น ปรียานุช) เพื่อตนเองและครูปิ่นจะช่วยสอนและรณรงค์ให้เด็ก ๆ มีความเข้าใจที่ดีธรรมชาติต่อป่าไม้ โดยมะนาวยอมสละเงินตนเองมาทำโครงการและให้ความรู้กับชาวบ้าน เมื่อชาวบ้านเห็นประโยชน์ของโครงการที่มะนาวทำอยู่ก็มาเข้าร่วม แต่ก็ยังเป็นส่วนน้อยถ้าเทียบกับชาวบ้านที่ไปเป็นลูกจ้างสวนยางพาราของรัฐ รัฐบอกว่ากิจกรรมที่มะนาวทำล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงเพราะไม่สามารถทำให้ชาวบ้านรวยขึ้นมาได้ แต่มะนาวก็ไม่ย่อท้อและยังทำต่อไป มะนาวและครูปิ่นได้แนวร่วมเพิ่มขึ้นอีกคนเมื่อนักข่าวสาว นริศรา (ฝ้าย ณิชานันท์) เข้ามาทำข่าวเกี่ยวกับการทำลายป่าต้นน้ำ เพื่อต้องการสื่อบอกเล่าเรื่องราวของป่าแห่งนี้ให้ทั้งประเทศได้รู้แต่ก็ถูกขัดขวางจาก เฮียหยู (จีรศักดิ์ ปิ่นสุวรรณ) อยู่เสมอ มะนาวรู้ถึงข่าวที่จะมีกลุ่มคนเข้าไปลักกลอบตัดไม้พยุงจึงจัดกำลังเข้าไปจับ สุทินตามไปช่วยลุกสาว ขณะเดียวกันรัฐที่อยากรู้ความจริงในเรื่องป่าที่มะนาวพยายามต่อสู้อยู่ก็แอบตามขึ้นไปเช่นกัน พวกเฮียหยูจุดไฟสกัดไม่ให้พวกของมะนาวขึ้นไป มะนาว นริศรา และพวก เข้าไปดับไฟอย่างไม่คิดชีวิต ครูปิ่นเข้าไปต่อว่าหัวหน้าเขมที่ยืนดูลูกน้องอยู่เฉย ๆ จนหัวหน้าเขมรู้สึกผิด ติดต่อหน่วยทำฝนหลวงมาช่วย จนไฟบริเวณนั้นดับหมด มะนาว รัฐ สุทิน นริศรา รอดกลับมาได้อย่างสะบักสะบอม มะนาวถูกหัวหน้าเขมให้พักงาน เธอเปิดดูคลิปพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่ที่ตรัสเกี่ยวกับป่าไม้หลายรอบ มะนาวเดินขึ้นไปบนป่าโดยมีรัฐตามขึ้นไปปลอบเพราะรัฐรู้ความจริงเกี่ยวกับชุมชนนี้แล้ว ทั้งสองคนหลบฝนอยู่ในป่า ได้ยินเสียงดินถล่ม จึงเข้าไปช่วยชาวบ้านที่ถูกดินโคลนซัดบ้านพังไปหลายหลัง กำนันหยูวิ่งตามหาหลานสาวสุดที่รักที่หายตัวไปตอนดินถล่ม มะนาวเข้าไปช่วยออกมาจากซากปรักหักพังได้ ส่วนรัฐได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทกคนในชุมชนรู้ผลกระทบจากการตัดไม้ทำลายป่า รัฐพาคนงานของตนไปปลูกต้นไม้ทดแทนบนป่าเฉลิมพระเกียรติ มะนาว นริศรา และครูปิ่น พาชาวบ้านขึ้นไปเอากล้าไม้ปลูกป่าทดแทนด้วย ส่วนทางด้านกำนันหยูก็เลิกคดโกงแผ่นดินหันมาปลูกต้นไม้ในป่าเฉลิมพระเกียรติกับชาวบ้านอย่างเต็มใจ สุทินไม่ห้ามมะนาวที่จะทำหน้าที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ต่อไป และมอบเหรียญบาทรุ่นเก่าที่เลี่ยมคล้องคอเอาไว้ ใส่ให้มะนาวเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เธอต่อไป