เพลงรักข้ามภพ 2552

เรื่องย่อ : เพลงรักข้ามภพ (2552/2009) นกยูง เป็นลูกสาวคนเดียวของ ก้องหล้า เกรียงไกร อดีตราชาเพลงลูกทุ่งที่เสียชีวิตบนเวทีเพราะเมาเหล้าอย่างหนัก นกยูงและศรีนวลผู้เป็นแม่จึงระเหเร่ร่อน แต่ได้ มังกร ครูใหญ่ของโรงเรียนมาอุปการะไว้ในฐานะภรรยาใหม่และลูกบุญธรรม หลายปีผ่านไป นกยูงซึ่งชอบร้องเพลงเหมือนพ่อโตขึ้น แต่การเรียนของนกยูงไม่ดีเลย เมื่อจะจบ ม.6 เกรดของนกยูงไม่ดี เพราะชอบหนีไปร้องเพลง มังกรก็ตามไล่ตีเพราะไม่ต้องการให้นกยูงเหมือนก้องหล้า โดยที่ศรีนวลพยายามห้ามแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ขณะเดียวกัน นำทาง หนุ่มเจ้าของธุรกิจโรงแรมหมื่นล้าน บิดมอเตอร์ไซด์หนีการตามล่าจากมือปืนที่ถูกจ้างจาก มาร์ค ผู้เป็นญาติและหุ้นส่วนโรงแรม และ มารวย และ มุตตา คู่หมั้นสาวของตัวเองและพ่อของมุตตาตามฆ่าเนื่องจากต้องการมรดกของตระกูล นำทางพลาดไปชนต้นลั่นทมใหญ่ที่หน้าบ้านของ ทินกร เกริกไกร ครูแต่งเพลงลูกทุ่งที่กำลังตกอับ อาการบาดเจ็บโคม่าปางตาย ไม้ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทและลูกน้องที่ซื่อสัตย์ของนำทางได้พาร่างของนำทางที่นอนสลบเป็นเจ้าชายนิทราส่งโรงพยาบาลเพื่อหลบหนี แต่ปิดบังทุกคนเอาไว้ไม่ให้รู้ว่านำทางอยู่ที่ไหน ครอบครัวของนำทางจึงเหลือแต่ ตามพร น้องสาวของนำทางคนเดียวเท่านั้นที่ยังเหลืออยู่ และไม่มีใครรู้ว่านำทางตายแล้วหรือยัง นกยูงซึ่งกำลังเคว้งคว้างอยู่กับชีวิตว่าจะเอาอย่างไรดี ก็มาเจอกับกายทิพย์ของนำทาง แต่นำทางจำไม่ได้แล้วว่าตัวเองเป็นใคร ชื่ออะไร และมีที่มาที่ไปอย่างไร ขอติดตามนกยูงไปด้วย เพราะติดตามมาตลอด มีแต่เพียงนกยูงเท่านั้นที่มองเห็นนำทาง นำทางสามารถทำอะไรที่คนทั่ว ๆ ไปทำไม่ได้ เพียงแต่ไม่สามารถหยิบจับอะไรได้และปรากฏกายได้เฉพาะเวลากลางคืนเท่านั้น ต่อมาที่งานวัดมีการประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง นกยูงด้วยความช่วยเหลือของศรีนวลให้หนีมังกรที่กำลังตามล่าอย่างหนักไปร้องเพลงลูกทุ่งจับพลัดจับพลูคู่กับนำทาง โดยใช้ชื่อว่า นกแก้ว นกขุนทอง ชนะเลิศขึ้นมา ศรีนวลขอฝากนกยูงไว้ให้อยู่กับครูทิน เพราะศรีนวลเคยเป็นทั้งคนรักเก่าและหางเครื่องในวงของครูทินมาก่อน เมื่อมาอยู่กับครูทินจริง ๆ นกยูงต้องเผชิญกับวิบากกรรมอีกรอบ เพราะถูกทั้ง มะปราง ลูกสาวของครูทินที่อยากเป็นราชินีลูกทุ่งแต่เสียงไม่ได้เรื่อง ส้มจี๊ด นักร้องเพลงลูกทุ่งที่น้ำเสียงใช้ได้แต่อายุมากแล้ว และบรรดาหางเครื่องทั้ง 4 คน กบ เขียด เชอรี่ กิ๊ปซี่ ของวงครูทินกลั่นแกล้งรังแกตลอด เพราะอิจฉานกยูงที่ร้องได้ดีกว่า ในขณะที่ครูทินเองเมื่อรู้ว่านกยูงคือลูกสาวของก้องหล้า ก็เกิดอคตินึกรังเกียจเพราะมีอดีตฝังใจกับก้องหล้ามาก่อน เพราะถูกก้องหล้าหักหลังทั้งเรื่องงานและความรัก จึงห้ามนกยูงร้องเพลงในบ้านและตีนกยูงอยู่บ่อย ๆ เพราะได้ยินเสียงนกยูงคุยกับผู้ชายคือ นำทาง แต่ไม่เห็นตัวจึงคิดว่านกยูงเอาผู้ชายมาซ่อนไว้ในบ้าน และไล่ให้นกยูงไปนอนในครัวแทน มีแต่เพียง น้อยหน่า ลำไย มังคุด 3 ตลกของวงเท่านั้นที่เห็นใจ ต่อมาทาง มาร์ค มารวย และมุตตาได้เดินทางมาที่บ้านของครูทินเพื่อสืบหาการตายของนำทาง ทางบ้านของครูทินจึงคิดว่าต้นลั่นทมนี้มีผีสิง เพราะมักได้ยินเสียงร้องเพลงที่ไพเราะบ่อย ๆ ตอนกลางคืนจากต้นลั่นทมนี้โดยที่ไม่เห็นตัวคนร้อง ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นเสียงของนกยูงที่ร้องเพลงคู่กับนำทาง มีแต่เพียงครูทินเท่านั้นที่คิดว่าเพราะและสงสัยว่าใครเป็นคนร้อง ขณะที่นำทางพยายามรื้อฟื้นความทรงจำว่าตัวเองเป็นใคร โดยมีนกยูงคอยช่วยเหลือ ขณะเดียวกันไม้ก็พยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้ร่างของนำทางฟื้นมาให้ได้ ทางมาร์คเองก็พยามยามจะจับตัวตามพรไปเรียกค่าไถ่เพื่อใส่ความไม้ และขจัดไม้ที่เป็นตัวขวางออกไป ต่อมานกยูงได้เข้าประกวดร้องเพลงเพื่อหานักร้องหน้าใหม่ที่เจ้าของบริษัท เพทาย และ พาที ผู้เป็นพ่อของเพทาย เป็นเจ้าของ นกยูงได้เป็นนักร้องแต่ก็ถูกเพื่อนนักร้องรุ่นเดียวกันกลั่นแกล้ง ขณะที่นำทางได้สืบหาจนรู้เค้าว่าตัวเองเป็นใครและเกี่ยวพันอะไรกับโรงแรมแม่น้ำ รามาด้า ที่ตัวเองเป็นเจ้าของ นกยูงติดต่อกับนำทางในเวลากลางวันได้ด้วยเสียงเพลงที่ร้องหากัน ในเวลากลางคืนที่ต้นลั่นทม จากแผนของมาร์คที่จับตัวตามพรไปเพื่อใส่ความไม้ แต่นำทางก็ได้ตามไปช่วยได้สำเร็จ และนกยูงก็ได้รู้จักกับตามพรโดยโกหกตามพรว่าเป็นตัวเองเป็นจิตแพทย์ ตามพรชอบนกยูงและขอให้นกยูงมาเป็นผู้ดูแลตน พร้อม ๆ กับไม้ที่ขอให้นกยูงไปร้องเพลงในโรงพยาบาลเพราะนำทางเมื่อได้ฟังเพลงของนกยูงแล้วอาการดีขึ้น และนำทางและนกยูงรู้ตัวแล้วว่าตัวเองเป็นใคร แต่ยังตามหาร่างของตนไม่พบ ต่อมาได้มีการประกวดแข่งขันเพลงลูกทุ่งในรายการ เส้นทางดาว นกยูงได้ตัดสินใจเข้าประกวด แต่ก็ยังเป็นห่วงครูทินที่นอนป่วยอยู่ นกยูงได้แอบส่งเงินไปช่วยเหลือโดยไม่ให้บอกว่าเป็นเงินใคร จึงรู้แต่เพียงว่าเป็นเงินของนำทาง ในรายการเส้นทางดาวนกยูงถูกกลั่นแกล้งสารพัด แต่ก็ผ่านเข้ารอบมาได้

ดำขำ 2552

เรื่องย่อ : ดำขำ (2552/2009) กาฬมณี หรือ หนูดำ สาวน้อยจอมซ่าแห่งบ้านนาปี จังหวัดเลย ตกใจมากเมื่อรู้ว่ากำนันแดง พ่อของเธอได้ตกลงหมั้นหมายเธอให้แต่งงานกับลูกชายของเพื่อนรักเอาไว้ตั้งแต่เล็ก คู่หมั้นของเธอคือทุติยะ หนุ่มโสดเนื้อหอมลูกชายคนเดียวของ ทิวา และพวงแก้ว ทุติยะเพียบพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตาฐานะชาติตระกูล เขาจึงปฏิเสธการแต่งงานกับสาวบ้านนอกที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อน เพราะเค้าเองก็มีดาววดี สาวเซ็กซี่เป็นคู่ควงอยู่แล้ว กำนันแดงกับทิวาเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่เด็ก ทั้งคู่มีสัญญาใจจะให้ลูกชายกับลูกสาวของตนแต่งงานกัน โดยมีของขวัญงานแต่งงานเป็นที่ดิน 1,000 ไร่ ทิวาไม่อยากเสียคำพูดจึงบังคับให้ทุติยะไปดูตัวหนูดำที่บ้านนาปี ส่วนหนูดำเมื่อรู้ว่าทุติยะเป็นคนกรุงที่เย่อหยิ่ง เอาแต่ใจ เจ้ายศเจ้าอย่าง รังเกียจความบ้านนอก หนูดำเลยแกล้งทาตัวจนดำปี๋ ทำตัวไร้รสนิยม ไร้การศึกษาให้ทุติยะรังเกียจ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องแต่งงานกัน ทุติยะรังเกียจหนูดำตามความคาดหมาย เขาประกาศไม่มีวันยอมแต่งงานกับผู้หญิงอย่างหนูดำเด็ดขาด ขณะเดินทางกลับรถของทุติยะเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ หนูดำไปพบเข้า จึงเอาตัวไปรักษา เมื่อทุติยะฟื้นขึ้นมา หนูดำรู้ว่าทุติยะความจำเสื่อม เลยได้ทีแก้แค้นผู้ชายที่ดูถูกเธอ ด้วยการเอาตัวทุติยะไปเก็บไว้ในไร่ เธอหลอกทุติยะว่าเขาเป็นคนงานในไร่ของเธอ ชื่อ นายทุย หนูดำกลั่นแกล้งนายทุยสารพัด ให้ทำงานหนักอยู่กับดินกินกับทราย มีป้าถนอม แม่ครัวในไร่ของหนูดำเพียงคนเดียวที่รู้ว่านายทุยคือใคร ป้าถนอมจึงได้แต่แอบช่วยนายทุยเป็นบางครั้ง หนูดำส่งข่าวในนามของทุติยะ หลอกทางบ้านว่าเขาหนีไป และจะไม่กลับบ้านจนกว่าพ่อจะยกเลิกการแต่งงานกับหนูดำ ดาววดีร้อนใจมากเมื่อทุติยะแฟนหนุ่มหายไป บังเอิญเธอมีเหตุต้องเดินทางผ่านมาแถวจังหวัดเลย เธอเห็นคนหน้าตาคล้ายกับทุติยะ แต่อยู่ในสภาพของคนงาน เธอจึงมาตามสืบ แต่ปรากฏว่านายทุยจำดาววดีไม่ได้ ดาววดีเองก็รังเกียจนายทุยที่มีฐานะเพียงคนงาน แต่ดันไปติดใจ ธงรบ พัฒนากรรูปหล่อที่มาหลงรักหนูดำ ในขณะเดียวกันนั้นนายทุยก็มี บัวตอง คนงานสาว ในไร่มาแอบชอบ บัวตองตามเอาอกเอาใจนายทุย ไม่ว่านายทุยจะถูกหนูดำกลั่นแกล้งยังไง บัวตองก็อาสามาช่วย จนหนูดำชักจะหมั่นไส้บัวตองอยู่เหมือนกัน หนูดำซ่อนนายทุยไว้ได้ไม่นาน ก็โดนกำนันแดงจับได้ คุณพวงแก้วจึงให้ดาววดีมารับตัวทุติยะกลับไปรักษาจนหาย เมื่อทุติยะจำความได้ รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง ก็ทั้งโกรธทั้งหมั่นไส้หนูดำ ทุติยะจึงหาทางเอาคืน ทุติยะประกาศตกลงแต่งงานกับหนูดำ เพราะจะหาทางแก้แค้น ตอนแรกหนูดำไม่ยอม แต่กำนันแดงขู่ว่าถ้าผิดสัญญาที่ดินมรดกทั้งหมดจะต้องยกให้กับทุติยะ หนูดำจึงจำใจต้องเข้าพิธีแต่งงาน หนูดำเข้าพิธีแต่งงานในสภาพของสาวบ้านนอกตัวดำปิ๊ดปี๋ และลงมาอยู่กับบ้านทุติยะที่กรุงเทพฯ หนูดำเสี้ยมให้บัวตองที่ติดตามมากรุงเทพฯ อาละวาดกับดาววดี ส่วนตัวเองก็พยายามทำทุกวิถีทางให้ทุติยะหย่ากับตน ทั้งทำตัวสนิทสนมกับคนรับใช้ในบ้าน อาทิ มะลิ, ป้าหอม และไอ้ไม้ คนขับรถ หนูดำนำทีมเปิบข้าวเหนียว จกปลาร้า เว้าอีสานฯลฯ อย่างไม่เห็นแก่หน้าใคร เมื่อมีการประกวดเดินแบบหนูดำก็ไปสมัคร แต่ดันทาตัวดำขึ้นเดินแบบ ทำให้ตระกูลทิชาพันธ์อับอายขายหน้าไปทั่วสารทิศ ทุติยะเริ่มสงสัยเมื่อเห็นหญิงสาวหน้าตาเหมือนหนูดำแต่ตัวขาว แต่งตัวสวยงามทันสมัยมาคอยสะกดรอยตามเค้ากับดาววดี เขาพยายามจะจับให้ได้ แต่หนูดำก็เอาตัวรอดไปได้ทุกที ธงรบขอให้หนูดำเลิกปลอมตัว หนูดำบอกจะทำทุกอย่างจนกว่าจะได้ที่ดินคืน ทิวากับกำนันแดงเห็นว่าการแต่งงานของหนูดำกับทุติยะท่าทางจะไปไม่รอด จึงวางแผนหลอกทั้งคู่ไปหย่าขาดกันซะ แล้วจะเอาที่ดินไปขายให้กับเสี่ยดำเกิง ที่มาติดต่อขอซื้อที่เพื่อทำสนามกอล์ฟ คุณพวงแก้วดีใจใหญ่ เพราะรังเกียจลูกสะใภ้บ้านนอกคนนี้เต็มที หารู้ไม่ว่าความจริงแล้วสาเหตุที่ทิวาต้องการจะให้ทุติยะแต่งงานกับหนูดำ เพราะครอบครัวทิชาพันธ์กำลังจะล้มละลาย หนูดำกับทุติยะจึงจำเป็นต้องหันหน้าเข้าหากัน เพราะรู้ดีว่าหากมีการสร้างสนามกอล์ฟ จะต้องมีการทำลายธรรมชาติขนานใหญ่ ทั้งยาฆ่าแมลงจำนวนมาก และยังแย่งน้ำดิบจากชาวบ้านมาใช้เลี้ยงหญ้าในสนาม ทำให้ชาวนาชาวไร่บ้านนาปีต้องเดือดร้อนแน่ๆ หนูดำกับทุติยะจึงบอกกำนันแดง และทิวาไปว่าตกลงจะอยู่ด้วยกันต่อ แต่พ่อของทั้งคู่ก็มีข้อแม้ต่อว่าทั้งหนูดำกับทุติยะจะต้องมีลูกด้วยกัน เป็นจังหวะเดียวกับที่บัวตองเกิดพลาดท่าเสียทีไอ้ไม้คนขับรถจนมีท้องขึ้นมา บัวตองไม่อยากมีลูก เพราะไม่ได้รักไอ้ไม้ หนูดำจึงแกล้งท้อง และรับเอาลูกของบัวตองมาเป็นลูกตน แม้กำนันแดงและทิวาจะสงสัย แต่ก็อยากรู้ว่าทั้งคู่จะมาไม้ไหน จึงปล่อยเลยตามเลย หนูดำกับทุติยะจึงต้องเล่นบทเป็นพ่อแม่จำเป็น สร้างความวุ่นวายไปทั้งบ้าน แต่พอได้มาเล่นเป็นพ่อแม่ลูกความรู้สึกดีๆ ก็ค่อยๆ เกิดขึ้น แต่การณ์กลับตาลปัตร เมื่อไอ้ไม้กับบัวตองทนละอายแก่ใจไม่ไหว จึงแต่งงานกันแล้วขอลูกกลับไปเลี้ยงเอง พอโดนจับได้ว่าทั้งสองรวมหัวกันโกหก กำนันแดงจึงมีคำสั่งให้หนูดำกับทุติยะกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านนาปีเพื่อจะได้ดูแลใกล้ๆ แต่คุณพวงแก้วกลับส่งดาววดีตามไปเพื่อชิงลูกชายจากสะใภ้ตัวดำกลับมา ดาววดีบุกไปรังควานถึงบ้านนาปี แต่หนูดำก็สู้ไม่ถอย เสี่ยดำเกิงเห็นเรื่องที่ดินมีปัญหายืดเยื้อ จึงส่งคนมาทำร้ายข่มขู่หนูดำ แต่ทุติยะช่วยไว้ทัน หนูดำกับทุติยะเริ่มรู้สึกดีต่อกัน ทิวาสารภาพความจริงกับพวงแก้ว พวงแก้วเลยรวมหัวกับดาววดี หาทางทำให้หนูดำได้รู้ความจริงว่า ที่ทุติยะยอมแต่งกับเธอก็เพราะหวังสมบัติ เมื่อหนูดำรู้ความจริงก็เสียใจมาก จึงขอหย่าขาดจากทุติยะ และเดินทางกลับจังหวัดเลยคนเดียว สุดท้ายความรักระหว่างทุติยะกับหนูดำจะลงเอยเช่นไร?

กุหลาบเหนือเมฆ 2553

กุหลาบเหนือเมฆ (2552/2009) ไอริณ (พัชราภา ไชยเชื้อ) ชักชวนเพื่อนซี้อย่าง อรนุช (วรนุช วงษ์สวรรค์) ลูกสาว เจ้าสัวเจริญ (ไกรสีห์ แก้ววิมล) มหาเศรษฐีพันล้านมาร่วมหุ้นด้วยหวังว่าจะทำให้นิตยสาร Working Women มีชื่อเสียงไปด้วย แต่มันกลับไม่ใช่อย่างที่เธอคิด เพราะอรนุชกลับกลายเป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด วางแผนให้ อรนิช (กรรณาภรณ์ พวงทอง) แย่ง พีรเทพ (ธีร์ วณิชนันทธาดา) คู่หมั้นของไอริณและฮุบกิจการนิตยสารไปครอบครอง ไอริณเคียดแค้นมากเลยประกาศก้องว่าจะล้มนิตยสาร Working Women ให้ได้พร้อมกับจะทำให้อรนุชและอรนิชจนปวดอย่างที่สุด หลังจากนั้นเธอเลยคิดที่จะเปิดตัวนิตยสาร Chic Women มาแข่งกับอรนุช แต่ติดตรงที่เธอไม่มีเงินลงทุน ดังนั้นเพื่อนสนิทอย่าง เลอลักษณ์ (ณัฎฐินี เจียรวนนท์) จึงยืนมือเข้ามาช่วย หลังจากที่ คุณหญิงดาริกา (ดวงดาว จารุจินดา) ป้าแท้ ๆ ของไอริณทราบเรื่องเลยขอร่วมหุ้นด้วย ทำให้ไอริณมีเงินไปคืนเลอลักษณ์ได้ เพียงสองปีนิตยสารของไอริณก็มีชื่อเสียงขึ้นมา แต่อรนุชกับอรนิชกลับเล่นลูกไม้สกปรกโดยใช้ชื่อเจ้าสัวแย่งเอาลูกค้าที่ซื้อแอดโฆษณาในนิตยสารเธอไป ทำให้เธอต้องทำงานหนักยิ่งขึ้น วันหนึ่งเธอได้มีโอกาสพบกับ อนาวิน (ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์) ชายหนุ่มที่อรนุชรักโดยบังเอิญกับอุบัติเหตุเดินชนกันจนกาแฟหกรดราดเสื้อผ้าของอนาวินทำให้เขาไม่พอใจ เพราะเขาต้องรีบไปพบลูกค้า ทำให้ไอริณเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นเซลล์แมน เลยแสดงความรับผิดชอบโดยการพาเขาไปเปลี่ยนชุดที่ห้องของเลอลักษณ์แล้วยืมเสื้อผ้าของ คิมหันต์ (นพพล พิทักษ์โล่พานิช) มาให้เขาใส่ ต่อจากนั้นเธอก็ไปเจอเขาอีกครั้งที่ร้านอาหาร ขณะที่เขากำลังนั่งคุยกับ คุณอาทร (พงษ์ประยูร ราชอาภัย) พ่อของเขาที่หนีแม่คือ คุณบุปผา (เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์) ออกมา ส่วนไอริณที่เห็นเหตุการณ์ก็คิดว่าเขากำลังพยายามขายสินค้าอยู่ เลยหวังดีเข้าไปช่วยพูดขายสินค้าให้ แล้วก็เรียกอนาวินว่าคุณกาแฟ ซึ่งอนาวินจำใจให้ไอริณเรียก เพราะไม่อยากทำให้เธอหน้าแตก หลังจากนั้นไอริณก็ได้รู้จักชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของเขา จากนั้นไม่นานไอริณทราบข่าวว่านิตยสาร Working Women จะจัดงานครบรอบ 3 ปี โดยมีแผนจะประกาศความสำเร็จด้วยการเซ็นสัญญาขายโฆษณาให้กับห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ซึ่งมี วาริรินทร์ (อังคณา ทิมดี) เป็นเจ้าของและมีแผนประกาศหมั้นของอรนุช ซึ่งไอริณประกาศจะทำลายทั้ง 2 แผนการ เธอพยายามติดต่อสร้างความสัมพันธ์กับวาริรินทร์แต่ก็ไม่เป็นผล โดยสืบรู้มาว่าวาริรินทร์แอบมีความสัมพันธ์ลับรักต่างวัยกับนายแบบหนุ่ม นิค (วินเซนต์ คินนี่) ซึ่งไอริณปล่อยข่าวว่าอรนิชสนใจนิคเป็นการส่วนตัว แล้วก็เดินหน้าสร้างความแตกแยกให้อรนิชและพีรเทพแตกคอกัน โดยหลอกให้พีรเทพมาเจอที่ผับแล้วส่งสาวโคโยตี้เซ็กซี่ไปประกบ พร้อมกับส่งข่าวให้ปาปารัชซี่ทำให้อรนิชเสียหน้าและโกรธมากต้องการประชดพีรเทพด้วยการทำท่าทีสนใจนิคออกนอกหน้า สร้างความไม่พอใจให้กับวาริรินทร์จนถึงกับยกเลิกการเซ็นสัญญาโฆษณาแล้วไปซื้อโฆษณากับชิค วูแมนแทนในวันก่อนหน้าที่จะมีงานฉลองครบรอบ 3 ปี นั่นก็ทำให้แผนการไอริณสำเร็จไป 1 ข้อ ต่อจากนั้นไอริณก็สั่งให้ เรวัติ (ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัฒน์) สืบเรื่องของแฟนอรนุชซึ่งเรวัติหนักใจมาก เพราะแฟนอรนุชก็คืออนาวินเพื่อนรักสมัยเรียนของเขา เรวัติจึงพยายามโน้วน้าวใจให้ไอริณเปลี่ยนใจแต่ไม่เป็นผล เรวัติเลยตัดสินใจบอกไอริณว่าแฟนอรนุชชื่อวิน เป็นรองประธานบริษัทไนน์อาร์คิเทค ซึ่งข้อมูลแค่นี้ก็ทำให้เธอมั่นใจว่าสามารถจัดการได้เลยวางแผนไปดักพบที่ไซต์งานเพื่อหว่านเสน่ห์ให้เขามาตกหลุมรักและประกาศเลิกหมั้นกับอรนุช แต่เธอดันซุ่มซ่ามเดินชนกับอนาวินล้มลงก้นกระแทกพื้น อนาวินเลยต้องพาไปส่งบ้าน พอไอริณรู้ว่าอนาวินทำงานในบริษัทไนน์อาร์คิเทคก็เลยมัดมือชกโดยให้อนาวินร่วมแผนการด้วย ซึ่งอนาวินก็อยากรู้ว่าไอริณจะมีแผนการอะไรต่อไป จนอนาวินรู้เรื่องราวทั้งหมดจากเรวัติเลยวางแผนซ้อนแผนใช้ วิทวัส (เจจินตัย อันติมานนท์) มาปลอมตัวเป็นอนาวินแทน โดยให้ข้อเสนอว่าจะได้เลื่อนตำแหน่งถ้าผ่านการทดสอบในครั้งนี้ซึ่งเขาก็รับข้อเสนอนั้น แผนการเลยเริ่มต้นขึ้นมาเรื่อย ๆ จนทำให้ทั้งคู่เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น จู่ ๆ ไอริณก็เริ่มสงสัยพฤติกรรมแปลก ๆ ของอนาวินและเรวัติ เธอเลยตัดสินใจสืบจนรู้ว่าอนาวินคือแฟนของอรนุช ทำให้เธอคิดว่าอนาวินและอรนุชร่วมมือกันหลอกเธอ เธอเลยคิดกลั่นแกล้งทั้งคู่ โดยโทรศัพท์ไปหาอนาวินด้วยน้ำเสียงน่าสงสารขณะอยู่กับอรนุช ด้วยความเป็นห่วงอนาวินเลยไปพบไอริณที่บ้าน ไอริณรู้ตัวว่าตัวเองคงแพ้อรนุชแล้วเลยวางแผนตั้งกล้องถ่ายคลิปตัวเองกับอนาวินส่งไปให้อรนุชดู แต่ทว่าด้วยความเศร้าเสียใจที่โดนหลอก ไอริณกลับร้องไห้ออกมาเพราะคิดว่าสิ่งที่อนาวินทำดีกับตนเป็นการหลอกลวง อนาวินพยายามปลอบทำให้เขาเผลอจูบเธอ ไอริณโกรธมากเลยไล่เขาออกไป โดยไม่ยอมพูดคุยปรับความเข้าใจแม้แต่นิดเดียว ส่วนอรนิชก็หลงใหลนิคมากเลยคิดวางแผนที่จะครอบครองเขาคนเดียวพร้อมทั้งเขี่ยพีรเทพทิ้ง โดยการแอบนำคลิปที่นิคถ่ายวาริรินทร์อย่างวาบหวามออกมาปล่อยว่อนเน็ต จนวาริรินทร์เสียชื่อเสียง นิครู้ความจริงเลยต่อว่าอรนิชและประกาศว่าตนเองรักวาริรินทร์ทำให้อรนิชเสียหน้า แล้วพีรเทพที่โดนอรนิชเขี่ยทิ้งก็หมดตัวเลยคิดที่จะหาเงินโดยการนำคลิปลับของอรนิชไปขายแต่ได้ราคาไม่ดี เลยนำไปต่อรองกับไอริณ พอได้ดูคลิปก็สงสารอรนิชเลยหลอกล่อเอาคลิปวิดีโอจากพีรเทพมาโดยการแกล้งกลับมาคืนดีด้วย พีรเทพย่ามใจจูบไอริณขณะเผลอ จนอนาวินมาเห็นเลยเข้าใจผิดเขาเลยพยายามตัดใจจากไอริณ ส่วนเลอลักษณ์กับเรวัติกำลังจะแต่งงานกัน เพราะเลอลักษณ์เกิดตั้งท้องกับแฟนเก่าอย่างคิมหันต์ แต่คิมหันต์ไม่รับผิดชอบแถมปล่อยข่าวว่าเลอลักษณ์เป็นผู้หญิงใจแตก สร้างความเสื่อมเสียให้เลอลักษณ์จนไม่อยากจะแต่งงานเพราะอับอาย ไอริณจึงสืบหาคนปล่อยข่าวจนรู้ว่าเป็นอรนุชและอรนิช เลยไปหาคิมหันต์เพื่อจะให้มาแถลงข่าวขอโทษที่ปล่อยข่าวทำให้เลอลักษณ์เสียหาย โดยขู่ว่าถ้าไม่ยอมจะให้ตำรวจไปทลายปาร์ตี้ยาอีแล้วออกข่าวว่าคิมหันต์เป็นสายให้ตำรวจ เขาเลยจำใจตกลง นอกจากนั้นไอริณก็นัด 2 สาวมาพบก่อนแถลงข่าว แล้วนำภาพวิดีโอลับของพีรเทพและอรนิชมาคืนเพื่อแสดงความจริงใจและขอให้อรนุชอยู่ร่วมงานแถลงข่าวต่อเพื่อช่วยแก้ข่าวให้เลอลักษณ์ อรนิชซาบซึ้งใจที่ไอริณไม่คิดจะทำลายตนแต่อรนุชไม่ยอมเพราะการออกมาขอโทษเท่ากับยอมรับว่าเป็นคนปล่อยข่าว ไอริณจึงจำใจโชว์ภาพเธอกับอนาวินให้อรนุชดู จนอนาวินแอบได้ยินเลยน้อยใจที่ไอริณแอบถ่ายคลิปเอาไว้เพื่อนำมาแก้แค้นอรนุชเท่านั้น ซึ่งคงต้องคอยลุ้นกันต่อไปว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้จะทำให้อนาวินตัดสินใจเลือกใครระหว่างไอริณกับอรนุช แล้วอรนุชจะแก้เกมส์รับมือกับไอริณอย่างไรต่อไป

บ่วงร้ายพ่ายรัก 2552

บ่วงร้ายพ่ายรัก (2552/2009) ปารมี หรือ ปาล์ม (เขมนิจ จามิกรณ์) เดินทางกลับจากต่างประเทศหลังเรียนจบปริญญาโท ด้วยความหวังว่าจะได้แต่งงานกับ เชน (กันต์ กันตถาวร) แฟนหนุ่มซึ่งรักกันมาก ตามสัญญาที่ เดช (ไพโรจน์ สังวริบุตร) พ่อของเธอได้ให้ไว้ก่อนที่จะไปเรียนต่อ แต่เดชไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น เพราะเดชรู้สึกว่าเชนมีเบื้องหลังในการเข้ามาตีสนิทกับลูกสาวของเขา และไม่ได้จริงใจกับเขาและครอบครัวเลย ซึ่งความจริงก็เป็นเช่นนั้น เชน เชื่อเสมอว่า เดชเป็นต้นเหตุทำให้ ไกรฤกษ์ (เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์) พ่อของเขาเส้นโลหิตในสมองแตกตายตอนเขาอายุ ๑๐ ขวบ และฮุบกิจการห้างสรรพสินค้าที่พ่อก่อร่างสร้างมากับมือไปอย่างเลือดเย็น ทำให้ กัลยา (คนางค์ ดำรงหัด) ผู้เป็นแม่ต้องตรอมใจตาย เชนสาบานต่อหน้าหลุมศพบิดาว่าจะต้องทวงทุกอย่างคืนมาให้ได้ไม่ว่าเงิน ชื่อเสียง ธุรกิจและความสุข แผนการของเขาเริ่มต้นจากการเข้าไปตีสนิท เอมิกา หรือ เอม (สเตฟานี เลอร์ช) ลูกสาวคนเล็กของเดช เชนใช้ความฉลาด ช่างเอาใจ เอาชนะใจเอมิกาได้ในเวลาไม่นาน เชนตั้งใจจะหลอกให้เอมิการักและพาเข้าใกล้เดช โดยหวังว่าจะได้เป็นลูกเขยของตระกูล แต่แผนการต้องพลิกผัน เมื่อเขาได้รู้จักกับปารมีพี่สาวผู้เพียบพร้อมไปด้วยความสวย สง่า ในขณะที่เอมิกาเริ่มป่วยหนักด้วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) ที่รักษาไม่หาย ทำให้ร่างกายอ่อนแอ เรียนไม่จบ อนาคตในการบริหารธุรกิจของตระกูลจึงดับวูบไป เชนจึงเปลี่ยนเป้าหมายมาทางปารมีทันที เขาใช้เวลาไม่นานเอาชนะใจเธอได้อย่างง่ายดาย

รุกฆาต 2552

รุกฆาต (2552/2009) 3 ปีผ่านไป…นับตั้งแต่การสลายลงของอาณาจักรราชสีห์ แผ่นดินเมืองพลแห่งอีสานสงบสุขอีกครั้งกัลป์ (ณัฐวุฒิ สะกิดใจ) กับ อัญชัญ (วรนุช วงษ์สวรรค์) เตรียมจัดพิธีแต่งงานที่เรียบง่ายแต่สมฐานะและความรักที่ทั้งสองมีให้กัน เพลิง (ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์) กับ ตะเภา (ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์) ต่างดื่มด่ำไปกับความรักและความเข้าใจ ขณะที่ องอาจ (อนุชิต สพันธุ์พงษ์) และ กระรอก (ปุณยาพร พูลพิพัฒน์) พร้อมจะสร้างครอบครัวอันอบอุ่นและจริงใจ หากแต่เมฆหมอกแห่งความเลวร้ายกำลังก่อตัวขึ้นใหม่…โดยไม่มีใครรู้ตัว

เสาร์ ๕ 2552

เสาร์ ๕ (2552/2009) ก่อนที่เด็กชายทั้ง 5 คน ซึ่งเกิดในวันเดียวกัน คือ วันเสาร์ที่ 5 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 จะมาอยู่ในความอุปการะของ อธิบดีอภิชัย เด็กทั้งหมดได้เข้าพิธีรับพระ และรับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นพระประจำตัวคนละองค์จากพระผู้ใหญ่ เพื่อเสริมบารมีให้อยู่ยงคงกระพันธ์ นอกจากเด็กทั้ง 5 จะถูกส่งไปเรียน และฝึกวิชาป้องกันตัวเพื่อปกป้องบ้านเมืองแล้ว ทุกคนยังมีความสามารถพิเศษที่แตกต่างกันออกไป เดี่ยว สมเด็จ มีประสาทหูที่ยอดเยี่ยม สามารถได้ยินเสียงต่างๆ ในระยะไกล เทอด ยอดธง สามารถกลั้นลมหายใจแล้วหายตัวได้ ดอน ท่ากระดาน สามารถใช้สมาธิมองเห็นสิ่งต่างๆ ในรัศมีที่เกิดเหตุ ยอด นางพญา สามารถเดินผ่านสิ่งกีดขวาง และกำแพงได้ กริ่ง คลองตะเคียน สามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็วจนสายตามองไม่เห็น และปลอมตัวเป็นคนอื่นได้

แม่หญิง 2552

แม่หญิง (2552/2009) หม่อมเจ้าหญิงอุณาโลม รังษี หรือ ท่านหญิงใหญ่ ทรงทำให้เสด็จในกรมผู้เป็นบิดาทรงกริ้ว เพราะลอบหนีออกจากวังรังษี เพื่อยุติการแต่งงานที่เสด็จพ่อ และหม่อมวาปี ชายาเอกของบิดา ได้ให้เธอหมั้นหมายกับหม่อมเทวัญวิชัย แม้กระทั่งคุณนมจีบเองก็ไม่ทราบในการหายตัวของเธอ เธอไม่สามารถแต่งงานกับใครได้นอกจาก เอื้อ อิศรา นักร้องนักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียง คนที่เธอรักสุดหัวใจ อุณาโลม และ เอื้อ ตัดสินใจที่จะแต่งงานกัน แต่ต้องยอมยุติความรักครั้งนี้ เมื่อเธอได้รู้จากหม่อมเจ้าอุณหิศ น้องชายต่างมารดา ได้ยินเสด็จพ่อจะสั่งฆ่าเอื้อ ถ้าทั้งสองยังคงคบหากัน อุณาโลม จึงหนีไปอยู่บ้านป้าแก้ว ญาติของนมจีบ และเปลี่ยนชื่อเป็น อร อิศรา สาวชาวสวนรับจ้างจัดดอกไม้ โดยมี เพลิน จิ๋ว และโด่ง แฟนเพลินเป็นเพื่อนอยู่ที่บ้านสวน การหายตัวของอุณาโลม ทำให้เอื้อโดนทำร้าย อาการสาหัส รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล สุดท้ายเอื้อก็เสียชีวิต เงื่อนงำการตายทำให้ พราหมณ์ เทพราช สนใจ และต้องการไขปริศนาการตายของเพื่อนรัก และคนที่ ปารวตี พี่สาวของพราหมณ์ที่เชื่อว่าเอื้อรักเธอ พราหมณ์ได้ทราบจาก มาลา มนต์ทิพย์ ว่าก่อนเอื้อโดนทำร้าย มีผู้หญิงได้ฝากจดหมายไว้ให้เอื้อ พราหมณ์จึงคิดว่าหญิงสาวคนนี้น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเอื้อ หลังจากนั้น จักร ธรงค์เวทย์ ได้ลอบเข้าวังรังษี เพื่อทวงเงินกับหม่อมวาปี เรื่องที่เขากำจัดเอื้อให้เรียบร้อย หม่อมวาปีปฏิเสธว่าตนแค่เปรยๆ ไม่ได้ว่าจ้างจักร เลยขู่ว่าถ้าหม่อมวาปีไม่ให้เงิน จะแฉว่าหม่อมวาปี คือ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด ตั้งแต่แผนกำจัดหม่อมมาลาพรรณ อดีตชายาเอกของเสด็จ ให้ออกจากวังรังษี ด้วยข้อหาคบชู้กับจักร หม่อมวาปี จึงยอมมอบเครื่องเพชรที่อุณาโลมไม่ได้เอาติดตัวไปด้วยมอบให้แทนเงิน ที่บ้านสวน พราหมณ์ เจอ อร อิศรา ในวันที่เขาติดต่อให้เธอจัดช่อดอกไม้ให้ปารวตีพี่สาวตน ทั้งคู่เป็นคู่กัดตั้งแต่แรกพบ แต่มีจิ๋วเป็นผู้ไกล่เกลี่ยให้ พราหมณ์ สงสัยในตัว อร อิศรามาก ทั้งกริยาคำพูดที่ดูดีเกินสาวชาวสวน และยังใช้นามสกุล อิศรา เหมือนเอื้ออีก เขาได้เฝ้าคอยมอง และจับผิดอร ว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการตายของเอื้อ ที่โรงพิมพ์ พนัส เป็นคนดูแลสำนักพิมพ์แทนพราหมณ์ตลอด เขาอยากให้พราหมณ์มาทำงานจริงจังสักที แต่พราหมณ์ก็ปฏิเสธ พราหมณ์ได้เจอจักรที่สำนักพิมพ์ เพราะพนัสรับจักรเข้าทำงานเป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการบันเทิง ทั้งสองไม่ค่อยชอบหน้ากัน งานศพเอื้อ นักร้องยอดนิยม มาลา มากับ พราหมณ์ ทั้งสองใกล้ชิดกัน จนทำให้จักรพยายามหาโอกาสเข้าไปคุยกับมาลา แต่มาลาบ่ายเบี่ยง เพราะเธอรู้ดีว่าเธอเคยตัดสินใจพลาดมาครั้งหนึ่ง จนทำให้เธอทิ้งลูกสาวที่เธอรักไปใช้ชีวิตกับจักร แต่สุดท้ายเธอเองก็เป็นเครื่องมือของจักรกับหม่อมวาปีเท่านั้น พราหมณ์รับรู้เรื่องเธอจึงเห็นใจมาลาเป็นอย่างมาก ปารวตีชื่นชมฝีมือของอร จึงขอร้องให้พราหมณ์ไปตามอรมาสอน พราหมณ์ยินดีที่จะบอกให้ เขาเริ่มรู้สึกชอบอรโดยไม่รู้ตัว วันหนึ่งเขามีโอกาสไปงานวัดกับอร และจิ๋ว พราหมณ์บอกอรว่า เขาเป็นเพื่อนสนิทกับเอื้อ เขารู้จักเอื้อดี เอื้อไม่มีญาติที่ไหน นอกจากแม่ที่ต่างจังหวัด อรเลยยอมรับว่าเธอไม่ใช่น้องสาว แต่เธอไม่ได้มีเจตนาจะโกหกใคร เธอมีเหตุผลของเธอ วันหนึ่งมาลาได้เจออร เธอคุ้นหน้าหญิงสาวคนนี้มาก แต่อุณาโลมจำได้ดีว่า มาลาคือคนที่รับปากว่าจะส่งจดหมายบอกเลิกให้เอื้อ หม่อมเจ้าหญิงภาณุกา รังษี หรือ ท่านหญิงเล็ก ลูกสาวของหม่อมวาปีกลับจากเมืองนอก มาเป็นอาจารย์สอนมหาวิทยาลัยที่เดียวกับปารวตี พอทราบข่าวว่าท่านหญิงใหญ่หนีตามผู้ชายไปก็ตกใจ และไม่เชื่อที่หม่อมวาปีบอก ภาณุกาได้เจอกับพราหมณ์ก็ชื่นชม โดยหม่อมวาปีได้คอยสนับสนุน ภาณุกาไปเที่ยวบ้านพราหมณ์ และได้เจอกับหม่อมเจ้าหญิงอุณาโลมก็จำได้ทันทีว่าคือพี่สาวของตน แต่ไม่ได้บอกความจริงกับพราหมณ์ จักรตามตื้อมาลาไม่เลิก จน เรวัต เพื่อนสนิทของพราหมณ์ที่รู้เรื่องนี้มาตลอด บอกกับมาลาให้มาแต่งงานกับตน จักรจะได้เลิกตื้อสักที แต่มาลาพูดเรื่องอายุที่ค่อนข้างห่าง เรวัตจึงเงียบไป พราหมณ์ให้พนัสสืบเรื่องราวของจักรจากลูกน้องที่ทำงานให้จักร ว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเอื้อ พราหมณ์ตามตื้ออรเพื่อหาความจริงจากเธอ แต่เธอก็ไม่มีอะไรจะตอบเขา ทั้งสองใกล้ชิดกันมากขึ้นจนพราหมณ์เริ่มจะตกหลุมรักเธอเข้าแล้ว มาลาได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำ เธอได้รับข่าวร้ายที่จักรบอกเธอว่าได้จับลูกสาวเธอไป จักรต้องการให้เธอประกาศกับหนังสือพิมพ์ว่าเธอจะแต่งงานกับเขา แล้วจะปล่อยอุณาโลมไป พราหมณ์ตาม มาลาไปช่วยอุณาโลม หม่อมวาปีตามมาดูความสำเร็จที่กำจัดอุณาโลมได้ แต่กลับต้องเจอกับภาณุกา ลูกสาวของตนที่อยู่ด้วยกันกับอุณาโลม ภาณุกาบอกแม่ว่า จริงๆ แล้วที่จักรทำไปเพราะต้องการให้มาลาแต่งงานด้วย ไม่ได้ทำเพื่อวาปี จักรจึงยอมรับว่ารักมาลา วาปีโกรธเข้าไปแย่งปืน ปืนลั่น จักรยิงไปโดนหม่อมวาปี จนถึงเสียชีวิต จักรโดนตำรวจจับ พราหมณ์ช่วยชีวิตอุณาโลมไว้ พร้อมกับบอกรักอร อิศรา สาวชาวสวน เสด็จในกรมรับรู้เรื่องราวให้หม่อม เจ้าหญิงอุณาโลมกลับเข้าวัง หม่อมเจ้าหญิงภาณุกา กับหม่อมเจ้าอุณหิศต่างดีใจ หม่อมมาลาพรรณ ตัดสินใจไม่กลับเข้าวัง เธอมีความสุขกับการเป็นนักร้องที่ได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำ พราหมณ์หันกลับไปทำงานสำนักพิมพ์ของตัวเอง ทั้งเขาและอุณาโลมไม่ได้บอกกับปารวตีว่าคนที่เอื้อรักที่สุดไม่ใช่เธอ คนที่พราหมณ์รัก และเป็นแม่หญิงของเขาคือ หม่อมเจ้าหญิงอุณาโลม รังษี แม่หญิงคนเดียวในหัวใจของเขา

เมียหลวง 2552

เมียหลวง (2552/2009) ดร.วิกันดา พันธ์ภากร แต่งงานกับ ดร.อนิรุทธิ์ ศัลวิทย์ ทุกคนต่างชื่นชมว่าทั้งคู่โชคดีที่เป็นคู่กัน เพราะมีพร้อมทั้งหน้าตา สมบัติและความรู้ ตอนที่ทั้งคู่ไปฮันนีมูนที่ปีนัง อนิรุทธิ์ได้ย้ำกับวิกันดาเสมอว่ารัก และบูชาวิกันดามากวิกันดา มีเพื่อนสนิทสองคน คือ อนงค์นารถ และฉวีเพ็ญ ทั้งหมดต่างมีครอบครัวแล้ว แต่ละคนพบเจอปัญหาที่แตกต่างกัน อนงค์นารถมีสามีคือ พลเวทย์ ซึ่งชื่นชอบในการอ่านหนังสือมาก เหมือนไม่มีปัญหา แต่ทำให้อนงค์นารถเบื่อ ส่วนฉวีเพ็ญดูเหมือนจะหนักสุด เพราะสีหนาทสามีของเธอนั้น เสพติดทุกอย่างที่เป็นการพนัน แต่ฉวีเพ็ญสามารถยิ้มได้เมื่ออยู่ต่อหน้าเพื่อน เพราะมีความอดทนสูง แม้จะจนก็ตาม หลังแต่งงานใหม่ๆ วิกันดากับอนิรุทธิ์ใช้รถคันเดียวกัน คือ อนิรุทธิ์ไปส่งวิกันดาที่กระทรวงศึกษาธิการ ก่อนไปทำงานที่มหาวิทยาลัย แต่ช่วงหลัง วิกันดาจำเป็นต้องไปทำงานนอกกระทรวง ทั้งคู่จึงใช้รถคนละคันทำให้อนิรุทธิ์ และวิกันดายิ่งห่างกัน วิกันดาอยู่กับอนิรุทธิ์ได้สามปี มีลูกด้วยกันสองคน คือ โหน่งลูกชายคนโต กับนุ่น ลูกสาวคนเล็ก ฉวีเพ็ญเห็นอนิรุทธิ์อยู่กับผู้หญิงที่ภัตตาคาร จึงมาบอกวิกันดา แต่อนิรุทธิ์โกหกวิกันดาว่าไปกินข้าวกับสิทธิชัยซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงาน เมื่อวิกันดาถามเรื่องนี้อีกครั้ง อนิรุทธิ์กลับไม่ปฏิเสธ และฉลาดที่จะพูด ผู้หญิงคนนั้นเป็นสาวเสิร์ฟ ชื่อ นงคราญ วิกันดารับไม่ได้ แต่ อนิรุทธิ์อยากให้วิกันดาเข้าใจผู้ชาย และผู้หญิงอื่นเป็นเพียงทางผ่านเท่านั้น อนิรุทธิ์รักวิกันดาคนเดียว แม้วิกันดาจะระวังตัวมากขึ้น แต่ก็ไม่สามารถตาม อนิรุทธิ์ได้ทันเพราะอนิรุทธิ์มักมีข้ออ้างในการกลับบ้านดึกเสมอนงคราญมาหา วิกันดาที่บ้าน พร้อมกับบอกว่าท้องกับอนิรุทธิ์ขอให้วิกันดาช่วยเหลือวิกันดา บอกเพียงว่าจะลองพูดกับอนิรุทธิ์ก่อน เมื่ออนิรุทธิ์รู้เรื่องก็จะจัดการเอง และเชื่อว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกตนเองแน่นอน วิกันดาบอกอนิรุทธิ์ว่าตนเองเห็นเรื่องหย่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่อนิรุทธิ์มั่นใจว่าวิกันดาไม่กล้าหย่า สุดท้าย นงคราญก็หายไป เพราะอนิรุทธิ์ให้เงิน และเลิกยุ่งกับนงคราญทันที นงคราญจึงเป็นรายแรกที่ทำให้วิกันดา ชาชินกับรายต่อๆ ไปของอนิรุทธิ์ วันหนึ่งอ้อมคนดูแลลูกของวิกันดาขอลากลับบ้าน และพานวลรัตน์ หรือนวล มาดูแลแทน อ้อมสัญญาจะไปไม่นาน เมื่อนวลได้พบอนิรุทธิ์ อนิรุทธิ์ก็มีท่าทีสนใจทันที แม้วิกันดาจะเตือน แต่วิกันดาก็รู้ว่า เรื่องผู้หญิงห้ามยาก วิกันดาจึงวางเฉย ตั้งแต่นวลเข้ามาทำงาน อนิรุทธิ์จะกลับบ้านเร็วกว่าเดิม และไปเล่นกับลูกเกินจำเป็น นวลทำงานดี เมื่ออ้อมไม่กลับมา วิกันดาจึงจ้างนวลต่อ โดยมีเตื้องช่วยเลี้ยงอีกคน ส่วนเรื่อง อนิรุทธ์ วิกันดาทำเป็นไม่ใส่ใจ แม้วิกันดาไม่อยากให้อนิรุทธิ์มีอะไรกับพี่เลี้ยงเด็กเพราะเกรงจะเสียการปกครอง แต่อนิรุทธิ์ก็ไม่ใส่ใจถึงจะรู้สึกผิดบ้างก็ตาม

เหลี่ยมรัก 2552

เรื่องย่อ : เหลี่ยมรัก (2552/2009) วิภู (ดิลก ทองวัฒนา) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ คุณหญิงวิไลเลขา (ภรไดย สุวรรณรัฐ) กำลังวิตกกังวลอย่างหนัก เพราะถูกผู้เป็นแม่บังคับให้แต่งงานกับ ภัทรวดี (มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) แต่วิภูไม่ได้รักเธอ เขาจึงขอต่อรองกับแม่ด้วยการหมั้นกับภัทรวดีไว้ ก่อนไปปฏิบัติหน้าที่ตำรวจที่ปัตตานี และที่นั่นเองที่ทำให้วิภูได้พบกับ แขไข (ดารัณ ฐิตะกวิน) หญิงสาวบ้านนอก ที่จิตใจดี และ ช่วยดูแลวิภู เมื่อครั้งที่วิภูถูกนักเลงในหมู่บ้านรุมทำร้าย ความใกล้ชิดกันของทั้งคู่ ก่อตัวเป็นความรัก วิภูตัดสินใจพาแขไขมากรุงเทพ เพื่อเข้ามาอยู่ที่บ้านในฐานะภรรยา คุณหญิงวิไลเลขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่ขัดขวางลูกชายไม่ได้ จึงสั่งห้ามไม่ให้วิภูยกแขไขเป็นเมียออกหน้าออกตา และสัญญากับภัทรวดี ว่าจะหาทางกำจัดแขไขให้พ้นจากบ้านไปเร็วที่สุด จนเมื่อเวลาผ่านไป แขไขคลอดลูกเป็นฝาแฝดลูกสาวคนโตชื่อ ปาณิศา หรือ ตะวัน (อุษามณี ไวทยานนท์) ส่วนแฝดผู้น้องชื่อ ปาลิตา หรือ ฟ้า (อุษามณี ไวทยานนท์) แม้เด็กทั้งสองคนจะเป็นหลานแท้ๆ แต่คุณหญิงวิไลเลขา ก็ไม่เคยแสดงความรักต่อหนูน้อยทั้งสองเลยสักนิด พร้อมวางแผนให้วิภูเข้าใจผิด ว่าแขไขแอบคบชู้กับ โอภาส (นึกคิด บุญทอง) ญาติสนิทของเธอ ที่มักจะคอยมาช่วยเหลือแขไข ทุกครั้งที่ถูกภัทรวดี และ คุณวิไลเลขารวมหัวกันกลั่นแกล้งเธอ วิภูหลงเชื่อออกปากไล่แขไขออกจากบ้าน แต่แขไขไม่ยอมทิ้งลูกทั้งสองไว้ เธอกับโอภาสจึงแอบพาตะวัน และ ฟ้า หนีออกมาจากบ้านหวังจะหลบไปพักอยู่ที่บ้านญาติใน จ.เชียงใหม่ แต่วิภูมาพบจึงออกตามล่า และไล่ยิงโอภาสจนได้รับบาดเจ็บ แขไขรีบพาโอภาส และ ตะวันหนีเพื่อเอาชีวิตรอด ทิ้งไว้เพียงน้องฟ้าที่อยู่กับวิภู วันเวลาผ่านไป 20 ปี บัดนี้ ตะวัน หรือ ปาณิศา และ ฟ้า หรือ ปาลิตา ต่างเติบโตเป็นสาวแรกรุ่น ที่มีชีวิตต่างกันอย่างลิบลับ ตะวัน เติบโตด้วยความรักจากแม่แขไข และ พ่อโอภาส แม้ว่าจะต้องดิ้นรนทำงานหนัก แต่ตะวันก็มีความสุข เธอเติบโตมาพร้อมกับ ดนัย (ตะวัน จารุจินดา) เพื่อนเล่นข้างบ้านที่คอยช่วยเหลือ และเป็นกำลังใจ แต่ลึกๆ แล้วดนัย กลับรักตะวันมากกว่าเพื่อน ส่วน ปาลิตา หรือ ฟ้า กลับสุขสบายดั่งนกน้อยในกรงทอง ตั้งแต่ที่วิภูยอมแต่งงานกับภัทรวดี เพื่อแลกกับการให้คุณหญิงวิไลเลขายอมรับว่าปาลิตาเป็นหลานในไส้ ฟ้าจึงมีชีวิตที่เพียบพร้อมทุกอย่าง แต่เธอกลับซ่อนความอึดอัดใจที่ไม่สามารถเป็นตัวเองได้ แถมยังถูก ภัทรมน (อลิษา วิลล์) หลานสาวนิสัยเสียของภัทรวดีกลั่นแกล้งอยู่เสมอ ที่เชียงใหม่ในคืนวันลอยกระทง ตะวัน ไปประกวดนางนพมาศเพื่อล่าเงินรางวัล ทำให้เธอมีโอกาสได้พบกับ ภากร (วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) พร้อมแฟนสาว พิมพ์นภัส (พรรัมภา สุขได้พึ่ง) แต่การพบกันครั้งนี้ กลับทำให้ทั้งคู่ต้องทะเลาะ และ กลายเป็นคู่กัดกันตั้งแต่นั้นมา ส่วนฟ้าถูกคุณหญิงวิไลเลขา ผลักดันให้ไปพบกับ ภาคิน (สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์) หนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์ ลูกชายของคุณภัสสร (นวลปรางค์ ตรีชิต) แต่เพราะพฤติกรรมเจ้าชู้ เสเพลของภาคิน ก็ยิ่งทำให้คุณภัสสร เร่งเร้าอยากให้เขาแต่งงานกับฟ้าโดยเร็ว แม้ว่าภาคินจะไม่พอใจ แต่เขากลัวถูกตัดออกจากกองมรดก ภาคินจึงต้องยอมหมั้นกับฟ้าไว้ก่อน แม้ความจริงชายหนุ่ม จะกำลังหลงใหลสาวร้อนแรงอย่าง ภัทรมน พร้อมๆ กับมีผู้หญิงที่เขาแอบเลี้ยงดูไว้อีกคนคือ ปริณดา (ชัชฎาภรณ์ ธนันทา) หลังจากเรียนจบ ตะวัน ตัดสินใจเข้ากรุงเทพเพื่อหางานทำ และเธอก็ได้พบกับ ภากรอีกครั้ง พิมพ์นภัสเริ่มรู้สึกว่าภากรมีท่าทีเปลี่ยนไปต่อตะวัน ทำให้เธอยิ่งจงเกลียดจงชังตะวันมากขึ้นเรื่อยๆ และ วันหนึ่งโชคชะตาก็ทำให้พี่น้องฝาแฝดที่จากกันมา 20 ปี ได้กลับมาเจอกันโดยบังเอิญ ทั้งตะวัน และ ฟ้า ต่างตกใจที่ได้พบหญิงสาวหน้าตาเหมือนตนเอง ทั้งคู่ไม่มีโอกาสพูดคุยกัน แต่ทั้งสอง ไม่ยอมปล่อยให้ความสงสัยถูกเก็บงำอีกต่อไป ฟ้านำเรื่องนี้ไปถามวิภู วิภูดีใจที่รู้ว่าลูกสาวของเขาอีกคนยังมีชีวิตอยู่ แต่กลับถูกวิไลเลขาขัดขวางไว้ ในขณะที่ โอภาส และ แขไข บอกความจริงทุกอย่างให้ตะวันได้ฟัง รวมทั้งความจริงที่ว่า โอภาสนั้นไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของเธอ ด้วยความโกรธแค้นวิภู กับ คุณวิไลเลขา ตะวันจึงตัดสินใจชวน ดนัย ไปที่บ้านวิภู เพราะอยากเห็นหน้าคนที่ทำร้ายแม่ของเธอ ในวันงานหมั้นของฟ้ากับภาคิน แต่แล้วงานหมั้นกลับต้องถูกยกเลิก เพราะภาคินหายตัวไปอย่างลึกลับ ในขณะที่ความบังเอิญทำให้ตะวัน มีโอกาสได้ช่วยเหลือ ภากร ออกมาจากโรงแรมม่านรูด ที่เบื้องหลังมีพิมพ์นภัสวางแผนรวบรัดให้ภากรแต่งงานกับเธอ ภากรโกรธที่พิมพ์นภัสกล้าทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้ ตัดสินใจบอกเลิกกับพิมพ์นภัสอย่างไร้เยื่อใย และทำให้ชายหนุ่มยิ่งรู้สึกประทับใจในตัวตะวันมากขึ้น ในค่ำคืนที่วุ่นวายนั้น ความจริงก็ถูกเปิดเผยว่า ตะวัน กับ ฟ้า เป็นพี่น้องกัน วิภูดีใจ และต้องการไถ่บาปที่เคยทำร้ายแขไข เขาจึงขอร้องให้ตะวันมาอยู่ด้วยกันที่บ้าน วิไลเลขา และ ภัทรวดี รีบออกตัวขัดขวางสุดชีวิต ตะวันนึกถึงความเจ็บปวดที่แม่เคยเจอมาในอดีต เธอต้องการแก้แค้น และทวงความยุติธรรม จึงตอบตกลงย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านพร้อมกับดนัย การแก้แค้นของตะวันจึงเริ่มต้นขึ้น แต่ปลายทางของเรื่องนี้ จะจบลงอย่างไร? เมื่อการแก้แค้นครั้งนี้ มีความรักเข้ามาเกี่ยวข้อง การสลับตัวกันของพี่น้องฝาแฝดในคืนวันแต่งงาน จะทำให้เรื่องราวความรักของ “ตะวัน และ ฟ้า” จบลงอย่างไร? ตามชมได้ในละครแนวดราม่าเรื่อง “เหลี่ยมรัก”

รหัสโลกันตร์ 2552

เรื่องย่อ : รหัสโลกันตร์ (2552/2009) รหัสโลกันตร์ เล่าถึง แดน โปรแกรมเมอร์หนุ่ม, ไอริณ ศัลยแพทย์สาว,แนท ลูกสาวของ เสี่ยกำจรเจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลและเป็นคู่หมั้นของแดนซึ่งจะคอยกลั่นแกล้งไอ ริณไม่ให้เข้าใกล้แดนและอัศนัยอดีตนายทหารเรือหนุ่มที่ถูกแก๊งอินทรีใส่ความ จนถูกจับเข้าคุกทั้ง 4 จึงต้องสืบหาข้อมูลของแก๊งอินทรีไปสักพักจะทำให้ทั้ง 4 ได้รู้ความจริงว่าแท้ที่จริงแล้วเดวิลก็คือหมอพิสุทธ์นั่นเองและนอกจากนี้ หมอ พิสุทธ์หรือเดวิลยังได้สร้างกองทัพนักรบปีศาจขึ้นมาเพื่อจัดการกับทุกคนที่ มาเกี่ยวข้องกับแก๊งอินทรีโดยมี เทพี และ เคออส ซึ่งก็คือหมอมาร์ค หรือหมอมาคีหมอในศูนย์การแพทย์นั่นเองแต่เนื่องจากเขาได้เห็นหน้าที่แท้จริง ของเดวิลจึงต้องเป็นสมุนของเดวิลและเดวิลยังมีหัวหน้านักรบปีศาจที่แข็ง แกร่งซึ่งแท้ที่จริงแล้วเขาก็คือ จิว เพื่อนและลูกน้องของแดนนั่นเองในที่สุดเดวิลก็ถูกจัดการแต่แล้วเรื่องราวก็ ยังไม่จบ เมื่อมีสมาชิกแก๊งอินทรีจากต่างประเทศอีก 2 คนคือ แอนนา และ มาเรีย ได้เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อช่วยฟื้นคืนชีพเดวิลหรือหมอพิสุทธิ์ขึ้นมาอีก ครั้งจึงทำให้ทั้ง 4 ต้องกลับมาจัดการกับแก๊งอินทรีให้สิ้นซาก

ดอกบัวขาว 2552

เรื่องย่อ : ดอกบัวขาว (2552/2009) ตำนาน การกำเนิดดอกบัวขาว มาจากเศรษฐีนีสาว ผู้มีจิตใจงดงาม เธอเสียสละทรัพย์สินทุกอย่างให้แก่ผู้ยากไร้ จนเธออดอาหารเสียชีวิตอยู่ริมบึงน้ำ ร่างกายของเธอกลายเป็นดอกบัวขาวสวย พิสุทธิ์ที่ใช้บูชาพระ เช่นเดียวกับอรนุชหญิงสาวสวยผู้มีจิตใจสะอาดบริสุทธิ์ราวดอกบัวขาว เธอเสียสละทุกอย่างให้กับพี่น้องร่วมบิดา แม้แต่หัวใจรักของตัวเอง แต่ความเสียสละของเธอดูเหมือนจะจบสิ้นต่อเมื่อชีวิตของเธอจบลงเท่านั้น ประมุขของบ้านเทพทัตคือร้อยโทอภิชาต เทพทัต (เก่ง-ชาติชาย งามสรรพ์)มีคู่หมั้นที่พ่อแม่หาให้คือ สุชาดา (วรรณษา ทองวิเศษ) ในวัยหนุ่มอภิชาตจีบชบา (นิกัลยา ดุลยา) สาวใช้ แข่งกับนายเสริฐคนสวนของบ้าน แต่อภิชาตใช้กำลังจนได้ชบาเป็นเมียก่อนวันแต่งงานวันเดียว นางรำเพย (ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา)แม่ ของชบาซึ่งเป็นแม่ครัวของบ้านเมื่อรู้ข่าวก็ด่าว่าและจะจับชบาแต่งงานกับนาย เสริฐ แต่ชบาตั้งท้องซะก่อน เมื่อสุชาดารู้ก็มาอาละวาดด่าว่าชบาแต่สุชาดาก็ตั้งท้องเหมือนกัน ลูกสาวของสุชาดาเกิดก่อนชื่อกุลธิดา(น้อย) (ณิชานันท์ ฝั้นแก้ว) ลูกสาวของชบาชื่อ อรนุช(นุช) (ปู-ไปรยา สวนดอกไม้) อภิชาต ลอบเข้าหาชบาอีกจนชบาตั้งท้องลูกสาวคนที่สอง สุชาดาอาละวาดและยื่นคำขาดให้ลูกของชบาอยู่ในฐานะคนใช้เท่านั้น อภิชาตตกลง และเมื่อชบาคลอดลูกคนที่สอง ก็ล้มป่วยด้วยโรคร้ายจนเสียชีวิต ก่อนตายชบาสั่งเสียให้นุชรักพี่รักน้องและเสียสละโดยเฉพาะกับน้อยพี่สาวต่าง แม่ เพื่อไถ่บาปในการเป็นเมียน้อยของแม่ด้วย โดยมีนางรำเพย คอยเลี้ยงดู ทั้งนุชและแก้วอย่างเข้มงวด ให้เจียมตัวและอย่าเผยอขึ้นเทียมคุณนายเรือนใหญ่ น้อยมักแอบมาเล่นกับนุชและแก้ว (นัยนา ปามี) เสมอ แม้สุชาดาจะคอยห้าม น้อยมีนิสัยค่อนข้างเอาใจตัวเอง และถืออำนาจว่าเป็นพี่ ส่วนนุชนั้น เป็นเด็กรักดี จิตใจงาม แก้วดื้อรั้น ขี้อ้อนประสาน้องคนเล็กที่มีนุชคอยปกป้อง นุชจึงต้องรองรับอารมณ์ทั้งจากพี่และน้องด้วยความอดทน ไม่ว่าความผิดใดใดที่เกิดขึ้น คนที่ถูก ทำโทษจะเป็นนุชเสมอ ถ้าไม่เป็นสุชาดาก็เป็นยายรำเพย ซึ่งนุชก็ไม่เคยปริปาก โชคดีที่มีรังสี (เชน-ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์) ลูก ชายนายเสริฐคนสวนของบ้าน เป็นเพื่อนที่นุชสนิทสนมและปรับทุกข์ทุกอย่างด้วยได้(หลังจากอกหักจากชบา นายเสริฐแต่งงานไปกับสาวใช้อีกคนและเลิกรากันหลังรังสีเกิดไม่นาน) ครอบครัวศราชัย ครอบครัวนักธุรกิจใหญ่ ฐานะร่ำรวยมั่นคง ซึ่งสามีภรรยาเจ้าของบ้านคือ นายไพศาล (โดย ทนงศักดิ์ ศุภการ) และนางวารี (กชกร นิมากรณ์) ได้พาลูกชายพนา (นิว-วงศกร ปรมัตถากร) และศวัส (พูลภัทร อัตถปัญญาพล) มา ทำความรู้จักกับครอบครัวเทพทัตเนื่องจากได้ย้ายครอบครัวมาอยู่บ้านติดกัน เด็กทั้งห้าเป็นเพื่อนเล่นกัน แต่นุชมักปลีกตัวออกมาเล่นกับรังสีมากกว่า ทำให้พนาหมั่นไส้ ค่อนขอดตลอด นุชไม่ชอบหน้าเขาที่สุด วันหนึ่งรังสีทำให้น้อยบาดเจ็บ อภิชาตเลยไล่เสริฐและรังสีออกจากบ้าน พ่อลูกตัดสินใจกลับบ้านนอก เมื่อรังสีต้องจากไปทำนาบ้านนอก ทั้งสองสัญญากันว่าจะเขียนจดหมายติดต่อกัน โดยใช้ดอกบัวขาวเป็นสัญลักษณ์แทนตัวนุช สิบปีต่อมาหนุ่มสาวทั้งห้า เติบโต เป็นสาวสวย และหนุ่มรูปงาม ทั้งหมดยกเว้นแก้วที่อยู่ ม.5 สอบติดมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ทั้งหมด น้อยติดคณะอักษรศาสตร์ พนากับนุชสอบติดคณะวิทยาศาสตร์ และศวัสสอบติดวิศวะ ส่วนรังสีก็สอบติดคณะประมงด้วย สำหรับพนานั้นตั้งใจมาเรียนคณะเดียวกับนุชเพื่อจะได้ใกล้ชิดกัน นุชระอาที่พนาแกล้งเอาเปรียบในการเรียน แต่เมื่อถึงคราวคับขันพนาก็แก้ปัญหาทุกอย่างได้ดีจนนุชทึ่ง เมื่อพนานัดนุชจะไปเที่ยว นุชมักปฎิเสธแต่กลับใช้เวลาส่วนใหญ่ติวหนังสือให้กับรังสี เพราะเขาต้องทำงานพิเศษส่งเสียตัวเองเรียน ทำให้พนาโกรธและหมั่นไส้มาก พนาเริ่มรักนุชแต่ไม่รู้ใจตัวเองแสดงออกด้วยการด่าว่ากระแหนะกระแหน ทำให้นุชเกลียดขี้หน้าพนาที่สุด ศวัสน้องชายพนาแอบชอบนุชเหมือนกัน แต่ด้วยความที่ศวัสเงียบขรึม พูดน้อย จึงได้แต่มองดูนุชและคอยช่วยเหลืออยู่ห่างๆ ที่สำคัญศวัสรู้ว่าพี่ชายชอบนุชแม้จะควงน้อยเป็นแฟนอย่างเปิดเผยก็ตาม ส่วนรังสีผู้เจียมตัวและอดทนได้แต่แอบรักแอบบูชาเพราะเจียมตัวว่าจนไม่คู่ ควรกับนุช เขาต้องออกจากการเรียนตั้งแต่ปี1 และจากไปเป็นเกษตรกรต่างจังหวัด ตลอดการเรียนในมหาวิทยาลัย นุชต้องรับศึกหนัก ทั้งเรื่องเรียน เรื่องทางบ้าน เพราะสุชาดามักคอยหาเรื่องให้นุชต้องไปเรียนไม่ทัน บางครั้งก็เกือบขาดสอบ ไหนจะต้องดูแลความประพฤติของแก้วที่เหลวไหล ติดเพื่อนที่ชวนเที่ยว จนเกือบจะติดยาเสียคน ไหนจะต้องคอยรับใช้น้อยที่ มีนุชเป็นเบ๊ในทุกเรื่อง แต่ความอดทนและเสียสละของนุชก็ทำให้พนาและศวัสยิ่งประทับใจนุชมากขึ้น เมื่อ จบการศึกษา พนาทำเซอร์ไพรส์ขอให้พ่อแม่มาสู่ขอนุช บ้านเทพทัตต่างแปลกใจเพราะพนาสนิทสนมไปไหนมาไหนกับน้อยมากกว่า น้อยอาละวาดเสียใจ โดยมีแม่มาปลอบใจและยุแยงว่านุชแผนสูงจะแย่งพนาไป น้อยมาต่อว่านุชที่แย่งของรักของตัว นุชปฎิเสธและให้สัญญาว่าจะไม่มีทางแย่งของรักของน้อย พนามาหานุช นุชไม่ยอมมาพบ พนาบุกเข้าไปแล้วลวนลามจะจูบ แก้วกับน้อยมาเห็นโกรธนุชว่าไม่รักษาสัญญา นุชพยายามจะอธิบายแต่ไม่มีใครฟัง แก้วถูกน้อยยุยงให้เกลียดนุช นุชเสียใจมาก วันหมั้นนุชปฎิเสธการหมั้นกับผู้ใหญ่ พนาโกรธมาก มาอาละวาด ขอคำตอบว่าทำไมปฎิเสธเขา นุช ยืนยันว่าเกลียดคนอย่างพนาที่สุดและจะไม่มีวันรัก พนาถึงกับอึ้งเสียใจกินเหล้าเมายา มีน้อยมาคอยปลอบใจ ศวัสเมื่อเห็นนุชปฎิเสธพนาจึงพาตัวมาใกล้ชิดนุช ทำให้แก้วซึ่งแอบชอบศวัสเกลียดนุชไปด้วย พนาเห็นศวัสมาจีบนุชก็หึง ด่าว่าและพยายามลวนลาม น้อยมาเห็นทำให้ยิ่งเกลียดนุชเข้าไส้ เข้าใจว่านุชมารยา หน้าไหว้หลังหลอก นุชหาทางออกโดยโกหกกับพนาว่ารักรังสีและจะต้องแต่งงานกันให้ได้ พนาอาละวาดและประชดนุช กลับไปควงน้อยออกนอกหน้า ให้สัมภาษณ์เปิดตัวแฟนใหม่ในนิตยสารไฮโซ ส่วนนุชเมื่อเห็นข่าวก็ปวดใจเริ่มรู้ตัวว่าแอบรักพนาจึงหาทางหนีไปจากบ้าน เพื่อปิดกั้นใจตัวเอง ครูสุรีย์ได้ขอร้องให้นุชมาช่วยสอนหนังสือชั่ว คราวที่ปราณบุรี นุชได้พบรังสี ที่มาเป็นชาวประมงอยู่ที่นี่ รังสีมาช่วยงานโรงเรียนบ่อยๆ และสารภาพว่ารักนุช แต่นุชให้ได้เพียงแค่ความเป็นเพื่อน รังสีเสียใจแต่ยอมรับได้ ทั้งสองสนิทสนมไปไหนมาไหนด้วยกัน จนคนที่นี่คิดว่าทั้งคู่เป็นแฟนกัน พนาเริ่มงานที่บริษัทของไพศาล ต้องมาดูงานแถวปราณบุรีและเจอนุชโดยบังเอิญ เข้าใจว่านุชหนีมาหารังสีจริงๆทั้งหึงทั้งโกรธ พนาท้ารังสีกินเหล้า ทั้งสองเมาอย่างหนัก แล้วท้าดวลต่อยกัน สุดท้ายทั้งคู่จับมือเป็นเพื่อนกัน รังสีกลับบ้านไปหาเสื้อผ้าให้พนา ระหว่าง นั้น พนาด่าว่าดูถูกนุช นุชตบหน้า พนาใช้กำลังปลุกปล้ำนุช พนาพร่ำขอโทษสารภาพว่าทำเพราะรักไม่ใช่ความใคร่ และสัญญาว่าจะส่งผู้ใหญ่ไปสู่ขอ รังสีมาเจอภาพบาดตา อกหักกลับไป รุ่ง เช้า นุชหนีกลับกรุงเทพ หลบหน้าทุกคนและเข้าไปกราบอภิชาต พ่อได้มอบเครื่องประดับให้นุชในวันเกิดและมอบจดหมายที่ชบาฝากไว้ให้นุชอ่าน ใจความในจดหมายขอให้นุชรักพี่รักน้องและเสียสละให้ทั้งสอง น้อย มาดักพบนุชคุกเข่าอ้อนวอนขอร้องให้ยกพนาให้กับตน นุชให้สัญญาอีกครั้งว่าจะทำให้พนาหันไปรักน้อย พนามาหานุชที่บ้านเพื่อกำหนดวันแต่งงาน นุชหัวเราะใส่หน้า ไม่ยอมแต่งงานบอกว่าตัวเองรักรังสีลักลอบได้เสียกันมาหลายครั้งแล้ว ขอให้พนาออกไปจากชีวิต พนาเสียใจและเจ็บแค้นมากประชดแต่งงานกับน้อยภายในอาทิตย์นั้น น้อยยุยงให้แก้วหนีตามเอสเพื่อนนิสัยเลวของตัวเองไป นุชออกตามหาแก้ว แต่ไม่เจอ ในวันแต่งงาน นุชเป็นลมล้มลงทับเค้กแต่งงาน เพราะท้อง น้อยโกรธมาก ศวัสพานุชไปหาหมอเลยรู้ว่านุชท้อง รังสีมาเยี่ยมนุชและบอกศวัสว่าพนาเป็นพ่อของเด็กในท้อง ศวัสมาขอนุชแต่งงานเพื่อรักษาเกียรติให้เทพทัตและเพื่อให้เด็กมีพ่อโดยสัญญา ว่าจะไม่แตะต้องตัวนุชถ้านุชไม่ยินยอม พร้อมทั้งยินดีเซ็นใบหย่าควบคู่กับทะเบียนสมรสเพื่อให้นุชได้เป็นอิสระเมื่อ ต้องการ พนากับน้อยมีชีวิตคู่ที่หวานอมขมกลืน เพราะ พนาไม่ยอมมีความสัมพันธ์กับน้อย สุชาดาจ้างคนมาฆ่านุชแต่นุชก็แคล้วคลาดได้ตลอด เมื่อนุชย้ายมาอยู่ร่วมกันในบ้านศราชัยและต้องเผชิญหน้ากัน นุชพยายามหลบ พนาหาโอกาสเข้าใกล้ชิด กวน ประสาทนุช ซึ่งศวัสเข้ามาขวางได้ตลอด วารีเห่อลูกในท้องนุชมากจนน้อยอิจฉา วันหนึ่งน้อยมาแอบได้ยิน พนาต่อว่านุชและแสดงความรู้สึกว่ายังรักนุชอยู่ น้อยเจ็บแค้นมาก แต่น้อยแสร้งทำไม่รู้ ร่าเริง ดูแลนุชด้วยความหวังดีแต่แท้จริงเจตนาทำร้ายให้เด็กแท้งแต่ไม่สำเร็จ นุชแคล้วคลาดไปทุกครั้ง รังสีรู้เรื่องนุชแต่ง งานเลยมาเยี่ยมและแสดงความยินดี รังสีกลับไปที่พักก็กินเหล้าเสียใจ น้อยสะกดรอยตามมาเสนอเงินให้พานุชหนีไปตั้งตัวที่อื่น ให้พ้นจากพนา รังสีไม่ยอม น้อยทั้งดูถูกรังสีและด่าว่านุช ทำให้รังสีโมโหปลุกปล้ำน้อยจนตกเป็นของตน น้อยแค้นใจมาก สุชาดาเริ่มติดการพนันถูกเฮียเส็งเจ้าของบ่อนทวงเงิน น้อยได้ยินศวัสคุยกับนุชเลยรู้ว่า เด็ก เป็นลูกของพนา เลยเอาเรื่องไปปรึกษาสุชาดา ทำให้พนารู้เรื่องไปได้ พนาฉุดนุชไปบ้านที่ปราณบุรี แต่เกิดอุบัติเหตุเสียก่อน น้อยมาช่วยทั้งคู่และทำให้นุชแท้งลูก นุชเสียใจมากขอหย่ากับศวัส และกลับมาอยู่บ้านเทพทัต อภิชาตได้ยินที่น้อยมาเล่าให้สุชาดาฟังว่าเป็นคนทำให้นุชแท้ง อภิชาตจึงเห็นใจนุชมากขึ้น เอสหลอกแก้วให้ไปเป็นเมียเก็บของไพศาล ไพศาลติดใจแก้ว เอสมาขู่เลยถูกลูกน้องไพศาลเล่นงานจนขาเป๋ ส่วนแก้วก็ทิ้งเอสมาอยู่กับไพศาล พนามาดักฉุดนุชไปอยู่เพนท์เฮาส์ โดยสัญญาว่าจะขอใช้เวลากับนุชแค่ 4 วันแล้วจะปล่อยนุชเป็นอิสระ จะไปทำหน้าที่สามีที่ดีให้กับน้อย นุชใจอ่อนตกลง ที่นี่ ทั้งสองมีความสุขมาก น้อยติดใจรังสีแอบมาหาบ่อยๆ ทำให้ศวัสผิดสังเกต พยายามจับผิด แต่จับไม่ได้ น้อยท้องกับรังสี แต่มาขู่ว่าเป็นลูกพนา พนาไม่ยอมรับ น้อยเลยไปบอกนุช นุชหนีไป น้อยแค้นร่วมมือกับเอสหาทางเล่นงานนุช รังสีรู้ว่าเด็กในท้องเป็นลูกของตัวเอง มาทวงสิทธิ์ น้อยเลยฆ่ารังสี แต่รังสีรอดชีวิตมาได้ ศวัสเพิ่งรู้ว่าแก้วเป็นเมียน้อยไพศาล ศวัสทะเลาะกับไพศาลเรื่องแก้ว จนไพศาลโรคหัวใจกำเริบเข้าโรงพยาบาล วารีขอให้แก้วเลิกยุ่งกับศวัสอีก เอส น้อย สุชาดา วางแผนกันเรื่องนุช บ่เติงแอบมาได้ยินเรื่องทั้งหมดเลยถูกจับตัวไป ไพศาลต้องเข้ารับการผ่าตัด น้อยแอบเห็นพินัยกรรมแล้วรู้ว่าพนาจะได้สมบัติทั้งหมด จึงแอบถอดเครื่องช่วยหายใจของไพศาลออก ไพศาลเสียชีวิตลง น้อยมาขอหย่ากับพนาโดยแบ่งทรัพย์สินกันคนละครึ่ง พนาไม่ยอม ใน งานศพนุชมาที่งาน พนามาปลอบนุชเรื่องแก้ว น้อยเห็นมาอาละวาดหวังให้ทุกคนในงานคิดว่านุชมาแย่งพนาไปและจะได้ฟ้องหย่า พนา แต่รังสีเข้ามาเปิดโปงเรื่องทั้งหมดเสียก่อน น้อยโกรธแค้นมากวางแผนให้เอสจัดการกับนุชและแก้ว สุชาดาเผาเรือนเพื่อไล่นุชกับแก้วออกไปจากบ้าน แก้วพานุชไปพักที่ เพนท์เฮาส์ของไพศาล และทั้งคู่เตรียมจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน เอสปลอมตัวเข้ามาที่เพนท์เฮาส์จับนุชไปขังไว้กับบ่เติง เอสส่งจดหมายมาขู่แก้ว แก้วเป็นห่วงนุชมากไม่รู้จะทำยังไง พนาไปตามหานุชแต่มาเจอแก้ว และรู้เรื่องราวทั้งหมด ทั้งคู่ต้องรอให้เอสติดต่อมา อภิชาตจับได้ว่าสุชาดาติดพนัน จึงไล่สุชาดาออกจากบ้าน สุชาดาแค้นมาก ไปหาน้อยกับเอสและร่วมมือกันจัดการกับนุช นุชกับบ่เติงพยายามหาทางหนี แต่พวกน้อยมาเห็นเสียก่อน บ่เติงโดนยิง เอสโทรหาแก้วให้เอาเงินไปไถ่ตัวนุช พนาจับสัญญาณได้ว่านุชถูกขังอยู่ที่สตูดิโอของเอส พนาพาแก้วรีบไปช่วยนุช แต่ พนาก็โดนจับตัวไป แก้วไม่รู้จะทำยังไงรีบบอกศวัสกับรังสี เอสให้แก้วเอาเงินมาไถ่ตัวนุชแต่แก้วก็ถูกจับไปอีกคน ศวัสกับรังสีรีบมาช่วยพวกพนา เกิดการต่อสู้กันขึ้น น้อยพลาดท่าเกือบถูกเหล็กแทง แต่นุชก็เอาตัวบังไว้ทำ ให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส เอสถูกตำรวจจับตัวไป สุชาดาถูกพวกเฮียเส็งข่มขู่จนเป็นบ้า น้อยแท้งลูกและเป็นอัมพาตเพราะคอไปกระแทกกับแท่งเหล็ก พนากับนุชก็คอยดูแลน้อยที่พิการอยู่ตลอด น้อยละอายใจสำนึกผิดถึงความเสียสละที่นุชมีให้น้อยเสมอมา แก้วไปปฏิบัติธรรมเพื่อชดใช้ความผิดที่เคยทำไว้กับครอบครัวศวัส พนาขอนุชแต่งงาน ในที่สุดความดีที่นุชทำด้วยความอดทนก็ส่งผล

วงเวียนหัวใจ 2552

เรื่องย่อ : วงเวียนหัวใจ (2552/2009) ทันทีที่บุปผชาติ (สาวิกา ไชยเดช) สาวสวยนักเรียนนอก เดินทางเหยียบแผ่นดินไทย เธอก็ได้รับข่าวร้ายว่า วราพงษ์ (พูลภัทธ อัตถปัญญาพล) แฟนหนุ่มที่รักกันมายาวนาน ตัดสินใจแต่งงานกับวิธนี (กัญญา รัตนเพชร) น้องสาวของทศ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) มหาเศรษฐีเจ้าของไร่องุ่นไปเสียแล้ว บุปผชาติพกพาหัวใจที่บอบช้ำไปนั่งปล่อยอารมณ์คนเดียวในผับแห่งหนึ่ง และถูกมิจฉาชีพในคราบหนุ่มนักธุรกิจแอบใส่ยาในเครื่องดื่ม เพื่อล่อลวงเธอไปถ่ายคลิปเพื่อแบคเมล์

ระหว่างที่บุปผชาติครองสติไม่อยู่ เจียนถูกพาออกไปจากผับ ทศ พี่ชายของวิธนี เข้าไปช่วยเหลือได้ทันเวลา แต่บุปผชาติเมายาจนพูดจาไม่รู้เรื่อง ทำให้ทศต้องเปิดห้องพักในโรงแรมให้หญิงสาวนอนพักชั่วคราว

ฤทธิ์ยาทำให้บุปผชาติ ร้องห่มร้องไห้คร่ำครวญถึงคนรักที่ทอดทิ้งไป แถมยังอาละวาดใส่ทศสารพัด จนชายหนุ่มปั่นป่วนต้องคอยจัดการให้หญิงสาวหมดฤทธิ์นอนหลับไปได้ในที่สุด ท่ามกลางค่ำคืนอันแสนสั้น ความรักถูกจุดขึ้นในหัวใจของทศอย่างรวดเร็ว เขารู้ตัวว่าได้ตกหลุมรักผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้เสียแล้ว

บุปผชาติ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ เสื้อเชิ้ตของทศที่สวมอยู่บนเรือนร่างของเธอ ทำให้บุปผชาติหลงเข้าใจผิดว่าได้เสียตัวให้กับทศเสียแล้ว ยังไม่ทันที่ทศจะได้อธิบายอะไร บุปผชาติก็รีบวิ่งหนีออกจากโรงแรมด้วยความอับอาย ไม่กล้าแม้แต่จะเล่าเรื่องนี้ให้กับบุศยาภรณ์ พี่สาวที่เธอไว้วางใจ

หญิงสาวได้แต่เก็บความระทมทุกข์นี้ไว้เพียงผู้เดียว และอยากให้ผู้ชายคนนี้ตายไปจากโลก

วราพงษ์ เป็นผู้ชายอ่อนแอ และโลเลไม่แน่นอน เมื่อรู้ข่าวว่าบุปผชาติกลับมาเมืองไทย จึงพยายามนัดเจอ ทันทีที่ได้พบกันบุปผชาติขอเลิกกับวราพงษ์ แต่ความรักที่ยาวนานทำให้เธอหวั่นไหวไปกับคำแก้ตัวของคนรัก เขายืนยันว่ายังรักเธอไม่เสื่อมคลาย แต่เพราะ บุปผชาติไปเรียนต่อต่างประเทศความห่างไกลทำให้เขาเผลอไผลมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับวิธนี จนตั้งครรภ์ เขาจำเป็นต้องแต่งงานกับวิธนีเพื่อแสดงความรับผิดชอบ และวิงวอนอย่างน่าสงสารให้บุปผชาติรอเขา

ในวินาทีที่บุปผชาติแข็งใจจะบอกเลิกให้เด็ดขาด วิธนีสะกดรอยตามมาเจอและด่าทอ ตบหน้าบุปผชาติ พูดจาเสียดแทงใจว่าบุปผชาติเป็นได้แค่เมียน้อย แย่งสามีชาวบ้านอย่างไม่มียางอาย อารมณ์โกรธทำให้บุปผชาติอยากเอาชนะ จึงสวนกลับว่าวิธนีต่างหากคือเมียน้อยตัวจริง เพราะมายื้อแย่งวราพงษ์ไป วิธนีโรคหัวใจกำเริบจนวราพงษ์ และบุปผชาติต้องรีบพาส่งโรงพยาบาล

ทศ รีบตามมาดูน้องสาว และได้เห็นภาพวราพงษ์น้องเขย จับมือบุปผชาติอย่างสนิทสนม ความผิดหวังแล่นจู่โจมหัวใจของทศ ผู้หญิงคนแรกในชีวิตที่เขาเฝ้าคิดถึง คือ บุปผชาติ ผู้หญิงที่กำลังจะเข้ามาทำลายครอบครัวของน้องสาวคนเดียวที่เขารักมากที่สุดในชีวิต คำบอกเล่าของวิธนีหลังออกจากโรงพยาบาล ยิ่งยืนยันแน่ชัดว่า บุปผชาติคิดจะแย่งวราพงษ์คืนไป

วิธนีโทรศัพท์มาหาบุปผชาติ แต่คุณหญิงบุษบา (ดวงดาว จารุจินดา) มารดาของบุปผชาติ เป็นคนรับสาย วิธนีด่าคุณหญิงให้อบรมสั่งสอนลูกอย่าให้มาแย่งสามีชาวบ้าน จนคุณหญิงตกใจเป็นลม นายพลเริงศักดิ์ (ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์) บิดาของบุปผชาติโกรธมาก คิดว่าลูกสาวจะไปแย่งสามีคนอื่นจริง จึงต่อว่าบุปผชาติด้วยถ้อยคำรุนแรง บุปผชาติน้อยใจพ่อ ความเป็นคนนิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจจึงประชดประชันว่าตนเองรักวราพงษ์ และจะไม่เลิกกับเขาเด็ดขาด (พูดด้วยอารมณ์แต่ไม่ได้ทำจริง) ความอดทนของนายพลขาดผึงจึงหลุดปากตัดขาดกับบุปผชาติ หญิงสาวหอบเสื้อผ้าออกจากบ้าน โดยไม่ฟังคำทัดทานเตือนสติของบุศยาภรณ์ผู้เป็นพี่สาวที่ไม่อยากให้น้องสาวทำผิดศีลธรรม ทำลายครอบครัวคนอื่น

คอนโดหรูหราใจกลางเมือง กลายเป็นที่หลบซ่อนตัวของบุปผชาติ เธอตั้งใจจะหลบหน้าวราพงษ์แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น วราพงษ์บุกไปหาบุปผชาติถึงห้องพัก ร้องไห้เสียใจที่ไม่สามารถพรากจากบุปผชาติไปได้ ความผูกพันที่เคยมีต่อกันทำให้หญิงสาวใจอ่อนตัดใจจากวราพงษ์ไม่ขาด

ทศสืบหาตัวบุปผชาติจนตามมาเจอที่คอนโดแห่งนี้ เขาเห็นเธอเดินลงมาส่งวราพงษ์ เข้าใจผิดว่าสองคนมาเช่าห้องอยู่ด้วยกันแล้ว

ทศคิดได้ว่าเขาควรทำอะไรสักอย่างเพื่อแยกบุปผชาติ และวราพงษ์ออกจากกันให้ได้ เพื่อช่วยน้องสาว และหลานที่กำลังจะเกิดขึ้นมาให้มีครอบครัวที่สมบูรณ์ และที่สำคัญที่สุดเขาไม่อาจปฏิเสธหัวใจตัวเองได้เลยว่า เขาหวงแหนบุปผชาติ และไม่อาจทนเห็นผู้หญิงคนนี้ตกเป็นเมียน้อยของน้องเขยตัวเอง

แต่บุปผชาติเป็นคนดื้อรั้น และเอาแต่ใจ เขาจะเปลี่ยนหัวใจเธอได้อย่างไร ??

ชัย (วิชญ จารุจินดา) เพื่อนสนิทของทศ คุ้นเคยกับครอบครัวของบุปผชาติเป็นอย่างดีเป็นผู้ที่ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับครอบครัวของบุปผชาติแก่ทศ ทศจึงตัดสินใจบุกไปพบนายพลเริงศักดิ์บิดาของบุปผชาติในทันที พร้อมรับสารภาพอย่างลูกผู้ชายว่า ตนเองได้รู้จักกับบุปผชาติโดยบังเอิญ ความมึนเมาด้วยกันทั้งคู่ทำให้เกิดได้เสียกันในคืนนั้น เขาจึงมาเพื่อแสดงความรับผิดชอบด้วยการขอแต่งงานกับลูกสาวคนเล็กของนายพลฯ อย่างลูกผู้ชาย นายพลเริงศักดิ์ชกหน้าทศด้วยความแค้นเคือง และจะแจ้งความดำเนินคดีกับทศให้ถึงที่สุด แต่บุศยาภรณ์ลูกสาวคนโต รีบห้ามปรามไว้เพราะเกรงว่าน้องสาวจะเสียชื่อเสียง นายพลจึงตวาดไล่ทศออกจากบ้านไป

ทศไม่ลดละความพยายาม ไปขอร้องให้คุณเรือง (อนุสรณ์ เดชะปัญญา) พ่อของชัยซึ่งรู้จักกันดีกับนายพลฯ ไปทำหน้าที่สู่ขอบุปผชาติ

ท่านนายพล และคุณหญิงฯ กำลังร้อนใจเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบุปผชาติกับวราพงษ์ เพราะรู้จากลูกสาวคนโตว่า บุปผชาติไปเช่าคอนโดอยู่เพียงลำพัง นายพลฯ กลัวว่าลูกสาวจะแอบอยู่กินกับวราพงษ์ในฐานะภรรยาน้อย ขณะกำลังกังวล และหมดหนทางอยู่นั้น คุณเรืองก็มาสู่ขอบุปผชาติให้ทศและหว่านล้อมให้นายพลฯ คิดได้ว่า ไหนๆ ข้าวสารก็กลายเป็นข้าวสุกแล้ว การให้บุปผชาติแต่งงานกับทศ ย่อมดีกว่าปล่อยลูกสาวไปเป็นเมียน้อยชาวบ้าน ต้องระทมทุกข์ชั่วชีวิต

(อีกทั้งนายพลรู้จากคุณเรืองว่า ทศเป็นลูกชายคนเดียวของเพื่อนเก่าแก่ที่เคยสนิทกันมากของนายพลฯคือ คุณสุทน และดาราศรี เจ้าของธุรกิจพันล้าน ทั้งเหมืองแร่ทางใต้ และไร่องุ่นใหญ่โต แต่พ่อแม่ของทศเสียตั้งแต่ทศยังเด็ก ในด้านฐานะของทศก็เพียบพร้อม ที่สำคัญที่สุดคือยังไม่มีพันธะ ทศย่อมมีคุณสมบัติเหนือกว่านายวราพงษ์ )

แต่ปัญหาก็คือ บุปผชาติ ไม่ยอมรับว่าได้มีสัมพันธ์กับทศ และจะไม่ยอมแต่งงานกับทศเด็ดขาด !

เพราะความรักที่มีต่อลูก นายพลจึงตัดสินใจเลือกทางที่จะให้บุปผชาติไปอยู่กับทศที่ไร่องุ่น ส่วนคุณหญิงต้องทำใจแข็งเพื่ออนาคตของลูก

บุศยาภรณ์ทำตามแผนของบิดา ด้วยการชวนบุปผชาติไปดูที่ดินในต่างจังหวัด โดยอ้างว่ามารดาอยากซื้อที่ตรงนี้ไว้เพราะเป็นแปลงที่สวยมาก บุปผชาติยินยอมไปเป็นเพื่อน แต่เมื่อเดินทางไปถึงกลับกลายเป็นไร่องุ่นของทศ บุศยาภรณ์ตัดใจทิ้งน้องไว้ที่นี่ ก่อนหนีกลับกรุงเทพฯ ด้วยน้ำตา

บุปผชาติโกรธมาก และเสียใจเมื่อรู้ว่าพ่อแม่ และพี่สาวรู้เห็นกับทศ จึงแผลงฤทธิ์ด้วยการอาละวาดขว้างปาข้าวของในกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอ จนเกลื่อนไปทั่วห้อง แต่ทศไม่ว่าอะไร กลับช่วยจัดเสื้อผ้าใส่ตู้ให้อย่างดีจนบุปผชาติแปลกใจ แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ทศง่ายๆ

ระหว่างอยู่ที่ไร่องุ่น ทศต้องอดทนกับความเอาแต่ใจ และหยิ่งผยองของบุปผชาติ ที่คอยแกล้งให้เขาหัวปั่นอยู่ตลอดเวลา แถมยังต้องคอยระวังไม่ให้เธอหลบหนีออกจากไร่ไปได้ และยื่นคำขู่ว่าถ้าเธอคิดหลบหนี หรือพูดเรื่องเขาฉุดเธอกับคนอื่นๆ เขาจะนำเรื่องที่เธอเมามายจนเสียตัวให้เขา ประจานไปให้ทั่ว

แม้บุปผชาติจะแสดงท่าทีเกลียดชังเขาหนักข้อขึ้นทุกที แต่ชายหนุ่มกลับยิ่งรักเธอมากขึ้น และคอยหึงหวงเมื่อคิดว่าบุบผชาติแอบคิดถึงวราพงษ์คนรักเก่า

ระหว่างนี้ นายพลเริงศักดิ์ ได้รู้ความจริงว่า ภรรยาของวราพงษ์ก็คือน้องสาวของทศ นายพลโกรธจัดที่โดนทศปกปิดความจริง จึงเรียกตัวทศมาพบถึงกรุงเทพฯ ทศยอมรับผิดโดยให้เหตุผลว่าถ้าทุกคนรู้ว่าวิธนีคือน้องสาวเขา นายพลคงไม่ยอมยกบุปผชาติให้อย่างแน่นอน แต่เขายืนยันหนักแน่นว่ารักบุปผชาติจริง นายพลจึงยกโทษให้เพราะเชื่อสายตาตัวเองว่าทศคือลูกผู้ชายตัวจริงคนหนึ่ง

การปรากฏตัวของใบตอง (คีตภัทร อันติมานนท์) ลูกสาวของประสิทธิ์ (ตฤณ เศรษฐโชติ) นักธุรกิจค้าไวน์ในท้องถิ่น ทำให้บุปผชาติเกิดความคิดที่จะเป็นแม่สื่อแม่ชักให้ใบตองกับทศ เพราะเธอสังเกตเห็นว่าใบตองชื่นชอบทศ และแวะมาเยี่ยมเยือนทศอยู่เสมอ ใบตองแอบเกลียดชังบุปผชาติเมื่อรู้จากปากทศว่า บุปผชาติเป็นคนที่ทศจะแต่งงานในอีกไม่ช้า บุปผชาติเองก็หลงไว้ใจใบตอง จนบางครั้งเผลอระบายความในใจเรื่องคนรักเก่า และสารภาพว่าเธอไม่ได้รักทศเลยแม้แต่น้อย แต่ก็ไม่กล้าเล่าว่าโดนทศฉุดมา

ความเป็นหญิงที่สุภาพเรียบร้อย พูดน้อย และจิตใจดี ทำให้บุปผชาติ และทศดูไม่ออกเลยว่า ใบตองซุกซ่อนความร้ายกาจไว้ภายใน เธอวางแผนกลั่นแกล้งบุปผชาติหลายอย่างเพื่อให้ทศเข้าใจบุปผชาติผิด จนเกิดความระหองระแหง ปั้นปึ่งใส่กันหลายครั้ง แต่ด้วยความรักที่ทศมีต่อบุปผชาติ เขาก็ต้องเป็นฝ่ายงอนง้อเธอทุกคราวไป ความดีของทศทำให้บุปผชาติเริ่มหวั่นไหว และรู้สึกหัวใจแปลบๆ เวลาที่เห็นทศแสดงความสนิทสนมกับใบตองเพื่อประชดประชันที่เธอพยายามผลักไสเขาให้คนอื่น

ส่วนทศเอง ก็ไม่อาจเสแสร้งฝืนใจรักใบตองได้ จึงปฏิเสธใบตองอย่างละมุนละหม่อมว่าเขารักใบตองแบบน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น ใบตองเสียใจอย่างรุนแรง ด้วยความรักที่มีต่อทศ เธอจึงตัดสินใจจ้างไอ้เม่น (ธรรมลักษณ์ ตระกูลโชคดี) คนงานในไร่ ฉุดบุปผชาติไปข่มขืน แต่ทศตามมาช่วยได้ทันเวลา ส่วนไอ้เม่นหลบหนีไปได้

ทศเฝ้าดูแลบุปผชาติซึ่งล้มป่วยเพราะพิษไข้ ความห่วงใยของทศทลายกำแพงแห่งความเกลียดชังของหญิงสาวจนพังทลาย บุปผชาติเริ่มรู้ตัวว่า เธอลืมวราพงษ์จนสิ้นเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกับทศ

บัดนี้….บุปผชาติมั่นใจแล้วว่า เธอรักผู้ชายคนนี้

ในวันที่บุปผชาติ ตัดสินใจจะตอบตกลงแต่งงานกับทศ และเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน ใบตองสืบรู้ว่าคนรักเก่าของบุปผชาติก็คือ สามีของน้องสาวทศ จึงส่งข่าวให้น้องสาวทศรู้ ว่าทศพาผู้หญิงแปลกหน้ามาซุกซ่อนไว้ที่ไร่ ถึงขนาดจะแต่งงานด้วยกัน วิธนีซึ่งหวงแหนพี่ชายอยู่แล้ว รีบสั่งให้วราพงษ์พาเธอเดินทางมาที่ไร่ในทันที

การปรากฏตัวของวิธนี และวราพงษ์ เหมือนสายฟ้าฟาดกลางใจบุปผชาติ เธอได้ยินการทะเลาะกันระหว่างวิธนีกับทศ วิธนีต่อว่าพี่ชายที่มาวุ่นวายกับคนที่เธอเกลียด แต่ทศกลัวน้องสาวโรคหัวใจกำเริบจึงพยายามอธิบายให้น้องสบายใจว่าที่ไปยุ่งเกี่ยวกับบุปผชาติ เพราะต้องการกีดกันผู้หญิงคนนี้ออกจากวราพงษ์ บุปผชาติเสียใจหนักวิ่งร้องไห้หนีออกจากไร่ วราพงษ์ตามไปทันรีบอาสาพาบุปผชาติกลับกรุงเทพฯ วิธนีแทบคลุ้มคลั่งที่รู้ว่าสามีไปกับบุปผชาติ

ความยุ่งยาก รอทศอยู่เบื้องหน้า ผู้หญิงใจแข็งอย่างบุปผชาติจะยอมให้อภัยเขาหรือไม่

ที่กรุงเทพฯ บุปผชาติขอให้วราพงษ์เลิกยุ่งเกี่ยวกับเธอ และกลับไปหาครอบครัว โดยไม่กล้าบอกว่าเธอรักทศแต่วราพงษ์ก็ยังคงเห็นแก่ตัว ไม่ยอมเลิกกับบุปผชาติ ใช้ลูกตื้อว่าถึงไม่ได้อยู่ด้วยกัน ก็ขอได้พบได้คุยกันบ้าง บุปผชาติใจอ่อนสงสาร ยินดีจะคบกันแค่เพื่อน

บุศยาภรณ์ รู้ข่าวว่าน้องสาวหนีกลับมากรุงเทพแล้ว รีบพาแม่ไปหา ความสงสารแม่ทำให้หญิงสาวโกรธแม่ไม่ลงเรื่องทศ แต่ก็ไม่อยากกลับบ้านเพราะไม่พอใจที่พ่อร่วมมือกับทศ และมองความรักความปรารถนาดีของพ่อเป็นเรื่องของการห่วงชื่อเสียงของตนเอง

นายพลรู้ข่าวว่าแผนล้มเหลว จึงยื่นคำขาดให้ทศต้องหาทางแต่งงานกับบุปผชาติให้เร็วที่สุด

ทศ ตามงอนง้อบุปผชาติ แต่ไม่สำเร็จ ขณะเดียวกันวราพงษ์เกิดรู้ความจริงว่า วิธนีไม่ได้ตั้งท้องจริง ที่ผ่านมาเป็นแค่คำหลอกลวงเพื่อหาทางผูกมัดเขาเท่านั้น วราพงษ์โกรธมากประกาศขอเลิกกับวิธนีและคิดกลับไปขอคืนดีกับบุปผชาติ วิธนีหัวใจวายถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล

วราพงษ์ รีบมาแจ้งข่าวดีกับบุปผชาติ ว่าเขาตัดสินใจจะหย่าขาดกับวิธนีแน่นอนแล้ว ขอคำมั่นจากบุปผชาติให้ตกลงแต่งงานกับเขา บุปผชาติเกิดความสับสนขอเวลาคิดดูก่อน เธอตัดสินใจแอบไปดูอาการป่วยของวิธนี แต่ความจริงแล้วอยากเห็นหน้าทศมากที่สุด วิธนีพอเห็นหน้าบุปผชาติ รีบร้องห่มร้องไห้น่าสงสาร อ้อนวอนขอวราพงษ์คืน ถึงกับจะคุกเข่าขอร้องบุปผชาติ จนต้องถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉินอีกครั้ง

ทศ คิดว่าบุปผชาติมาหาเรื่องวิธนี เขาด่าทอเธออย่างเจ็บแสบ และกล่าวหาว่าเธอเป็นคนทำให้ครอบครัวของน้องสาวเขาแตกแยก

แต่แล้วคำตอบของบุปผชาติทำให้ทศถึงกับหัวใจหยุดเต้น !!

บุปผชาติประกาศตกลงแต่งงานกับทศ เธอปรารถนาให้วราพงษ์ตัดใจจากเธอ และกลับไปทำหน้าที่ดูแลภรรยาที่กำลังเจ็บหนัก บุปผชาติรู้สึกสุขใจเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้รู้จักคำว่าเสียสละทำเพื่อคนอื่น เธอกลับบ้านไปกราบขอโทษพ่อ ความสงบสุขกลับคืนสู่ครอบครัวของบุปผชาติอีกครั้ง ส่วนวราพงษ์เสียใจอย่างหนักเมื่อรู้ว่าบุปผชาติจะแต่งงานกับทศ แต่ข่าวการป่วยหนักของภรรยาก็ทำให้เขาไม่อาจทอดทิ้งไปอย่างคนแล้งน้ำใจได้

หลังการแต่งงาน ทศ และบุปผชาติ พาวิธนีมาพักรักษาตัวฟื้นฟูสุขภาพที่ไร่องุ่น วราพงษ์ต้องรับผิดชอบดูแลงานของทศทางกรุงเทพฯ แต่ก็ยังหมั่นเดินทางไปคอยดูแลภรรยาบ่อยครั้ง ความโลเลของวราพงษ์ทำให้เขาอดใจไม่ไหวพยายามเข้าไปพัวพันกับบุปผชาติ จนทำให้ทศเกิดอาการหึงหวงบุปผชาติ เพราะบุปผชาติแม้จะยอมแต่งงานด้วย แต่ไม่ยอมนอนเตียงเดียวกับทศ เพราะยังคาใจคิดว่าทศแต่งงาน เพราะช่วยน้องสาว ส่วนทศก็น้อยใจที่บุปผชาติยืนยันตลอดเวลาว่าแต่งงานกับเขาเพราะไม่อยากถูกคนประณามว่าเป็นฆาตกรทำให้วิธนีหัวใจวายตาย

ชีวิตคู่ของคนทั้งสองเกิดรอยร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อใบตองก้าวเข้ามาเป็นตัวยุแยง

บุปผชาติ พยายามเอาใจใส่วิธนีด้วยความห่วงใยเหมือนอยากจะชดเชยความผิดที่เคยทำร้ายหัวใจวิธนีโดยไม่ตั้งใจ แรกทีเดียววิธนีเริ่มใจอ่อนเพราะเริ่มสังเกตเห็นความรักที่พี่ชายมีต่อบุปผชาติ แต่เมื่อโดนใบตองยุแหย่ใส่ร้ายบุปผชาติว่าพยายามยั่วยวนวราพงษ์ วิธนีหลงเชื่อจึงแกล้งสำออยให้พี่ชายเห็นว่าพี่สะใภ้เกลียดชังตน และคอยกลั่นแกล้งตนตลอดเวลา อีกทั้งคอยเป่าหูทศว่าบุปผชาติยังรักวราพงษ์อยู่ อ้อนวอนให้พี่ชายหย่ากับบุปผชาติ เพราะเธออยากให้ใบตองมาเป็นพี่สะใภ้มากกว่า

วราพงษ์เบื่อหน่ายวิธนีที่อารมณ์ฉุนเฉียว และหาเรื่องหึงหวงตลอดเวลา จึงระเบิดอารมณ์ทะเลาะกับวิธนีรุนแรง สุดท้ายวิธนีโกรธจัดจนเป็นลมต้องเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ทุกคนได้รับข่าวดีว่าวิธนีตั้งครรภ์ ทศจึงขอร้องให้วราพงษ์อดทนเพื่อลูกที่กำลังจะเกิดมา และที่สำคัญที่สุดบุปผชาติยอมเปิดใจ สารภาพกับวราพงษ์ว่าเธอมั่นใจแล้วว่ารักทศ และไม่คิดรักใครได้อีก ขอร้องให้วราพงษ์เริ่มต้นชีวิตใหม่สร้างครอบครัวที่มีความสุข เหมือนอย่างที่เธอตั้งใจเช่นกัน วิธนีแอบได้ยินโดยบังเอิญจึงเลิกคิดแค้นต่อบุปผชาติ และนำไปสู่การตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยว

ความรักที่มีต่อลูกเปลี่ยนหัวใจที่รุ่มร้อนของวิธนีให้เกิดสติ วิธนีขอหย่ากับวราพงษ์ด้วยเหตุผลว่าเธอไม่อยากให้ลูกเกิดมาเห็นพ่อแม่ไม่รักกัน วราพงษ์ไม่ได้รักเธอ อยู่ร่วมกันต่อไปจะส่งผลเสียต่อลูกในอนาคต ทศ และบุปผชาติพยายามทัดทานแต่ไม่เป็นผล ทศจึงขอให้แยกกันอยู่สักระยะ ถ้าวิธนีสามารถอยู่ได้ จึงค่อยหย่าขาดจากกัน แรกทีเดียววราพงษ์เต็มใจแยกทาง แต่หลังจากเขาไม่เจอหน้าวิธนี และเป็นห่วงลูก ทำให้รู้สึกขาดอะไรบางอย่างในชีวิตไป สุดท้ายวรพงษ์ก็ได้คำตอบให้ตัวเองว่า วิธนีคือความผูกพันที่เขาไม่อาจตัดขาดจากชีวิตได้ เขาจึงกลับไปงอนง้อวิธนี แต่คราวนี้วิธนีกลับใจแข็งไม่ยอมคืนดีง่ายๆ เพราะคิดว่าวราพงษ์คิดคืนดีเพราะลูกเท่านั้น ทำให้บุปผชาติต้องคอยเป็นกองกำลังสนับสนุนช่วยเหลือวราพงษ์หาทางให้วิธนีใจอ่อน มีการแอบปรึกษากัน ให้กำลังใจกัน ให้ทศแอบเห็นหลายครั้ง

จุดนี้เอง… ใบตองเอามายุแหย่ให้ทศเข้าใจผิดว่าบุปผชาติกับวราพงษ์จะหวนมาคบกัน

ความพยายามของวราพงษ์เป็นผลสำเร็จ เขาสารภาพรักวิธนีในวันที่เธอคลอดลูก เธอจึงยอมให้อภัย ใบตองเห็นเหตุการณ์นี้ ยิ่งหวาดกลัวว่าตัวเองจะสูญเสียทศไปในไม่ช้า

ใบตองจำเป็นต้องจัดการบุปผชาติขั้นเด็ดขาด!!ด้วยการฆ่าวิธนี

ใบตอบเชื่อว่า…ถ้าไม่มีวิธนี วราพงษ์จะต้องกลับไปหาบุปผชาติอย่างแน่นอน

แผนร้ายเกิดขึ้นในวันที่ทศกับวราพงษ์ต้องเข้าเมืองไปคุยธุรกิจไวน์กับพ่อของใบตอง ใบตองปรากฏตัวในห้องวิธนี แกล้งทำทีจะบีบคอเด็กให้ตาย วิธนีเข้าไปยื้อแย่งจนหัวใจวายเสียชีวิต แล้วใส่ร้ายป้ายสีว่าตนเองเข้ามาเห็นวิธนีกับบุปผชาติทะเลาะกันเรื่องวราพงษ์ จนเห็นวิธนีล้มฟุบลง

การตายของวิธนี สร้างความสะเทือนใจให้ทศอย่างรุนแรง เขาไม่เชื่อว่าผู้หญิงจิตใจดีงามอย่างใบตองที่รู้จักมายาวนานจะสร้างเรื่องโกหกดังที่บุปผชาติยืนยัน ความสับสนดังกล่าวทำให้ทศเก็บตัว และหมางเมินกับบุปผชาติ ความหยิ่งทะนงทำให้บุปผชาติขอหย่า แต่ทศไม่ยินยอม อ้างว่าจะไม่ยอมให้บุปผชาติสมหวังกับวราพงษ์ให้เป็นขี้ปากชาวบ้านเด็ดขาด หากแท้ที่จริงแล้ว…ทศไม่อาจทนสูญเสียบุปผชาติได้

วราพงษ์ขออนุญาตทศพาลูกไปอยู่เมืองนอก แถมยังแอบได้ยินบุปผชาติปรับทุกข์กับพี่สาวที่แวะมาเยี่ยมเยือนว่าอยากไปเรียนต่อ ทำให้ทศคิดไปเองว่าวราพงษ์กับบุปผชาติจะไปอยู่ต่างประเทศด้วยกัน ทศพยายามตัดใจจากอดีตภรรยา ยอมตกลงหย่าให้บุปผชาติเพื่อให้คนรักได้สมหวัง แม้ตัวเองจะต้องเจ็บปวดมากเท่าใดก็ตาม เขาก็รู้ว่าการตายของน้องสาวคงไม่สามารถทำให้รอยร้าวในหัวใจของเขากลับมาเหมือนเดิมได้อีก

ในวันที่บุปผชาติเดินทางออกจากไร่เพียงลำพัง ทศหมกตัวอยู่ในไร่ เขาเจอกับไอ้เม่นอดีตคนงานที่เคยฉุดบุปผชาติไปข่มขืน มันย้อนกลับมาตัดองุ่นในไร่ และถูกคนงานจับตัวได้

ทำให้ทศรู้ว่าตัวบงการที่จ้างคนงานมาทำร้ายบุปผชาติ และฆ่าน้องเขา ก็คือ ใบตองนั่นเอง

ทศ แจ้งความจับใบตอง แต่ใบตองไหวตัวทันหลบหนีไปเจอกับบุปผชาติในระหว่างเส้นทางเข้าเมือง ใบตองไม่มีอะไรจะสูญเสียอีกแล้วเธอชักปืนที่ขโมยมาจากบิดาจะยิงบุปผชาติ ทศ และศุภชัยพ่อของใบตองตามมาช่วยได้ทันเวลา ใบตองยอมมอบตัวกับตำรวจเพราะน้ำตาของพ่อที่อ้อนวอนลูกด้วยความรัก และโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองคนเดียวที่คอยบังคับใบตองในทุกเรื่อง (ศุภชัยชอบดูถูกลูกตัวเองว่าโง่ และไม่เอาไหนโดยเฉพาะเรื่องทศ)

หลังมรสุมร้ายผ่านไป ทศพาบุปผชาติมาอยู่ที่ไร่องุ่นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้บุปผชาติมั่นใจว่า…วงเวียนหัวใจที่แสนสับสนของเธอ จะมีเขาเป็นจุดศูนย์กลางที่ทำให้ชีวิตรักเปี่ยมด้วยความสุขที่แท้จริง

บ่วงหงส์ 2552

เรื่องย่อ : บ่วงหงส์ (2552/2009) บ่วงหงส์ เป็นเรื่องราวของ พิมพ์ลภัส (แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์) ลูกสาวคนเดียวของ ตรัย (ต้น ตระการ พันธุมเลิศรุจี) นักธุรกิจที่ล้มละลายและฆ่าตัวตายเพื่อหนีหนี้ ความที่เป็นลูกสาวคนเดียว เกิดมาบนกองเงินกองทอง และกำพร้าแม่ทำให้ถูกตามใจจนเหลิง ใช้ชีวิต อย่างหรูหราสุขสบายมาตลอด หนังสือก็เรียนไม่จบ เจ้าอารมณ์ และเอาแต่ใจตัว ความตายของพ่อทำให้ชีวิตของเธอต้องพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ เนื่องจากคนที่ได้เงินทองจากตรัยไปมากที่สุดคือ มาธวี (น้ำฝน กุณณัฏฐ์ กุลปรียาวัฒน์) แม่เลี้ยงซึ่งแก่กว่าเพียงไม่กี่ปีของเธอ พิมพ์ลภัสต้องออกจากบ้านที่ถูกยึดมาเช่าคอนโดเล็ก ๆ อยู่ แถมยังถูก ยศพล (นัส อานัส ฬาพานิช) ผู้เป็นคู่หมั้นถอนหมั้น ตรงกันข้ามกับมาธวีซึ่งชิงหย่ากับตรัยก่อนหน้านี้ และเรียกร้องค่าเลี้ยงดูอย่างมหาศาล แถมถีบตัวขึ้นมาจนมีชื่อเสียงในสังคมด้วยการเปิดห้องเสื้อมาธวี ซ้ำยังเป็นนางแบบเสียเองอีก มาธวีมีคนสนิท 2 คน คือ กระเทยปากร้ายชื่อ หนูดี (หนุ่ม สุรวุฑ ไหมกัน) และหญิงแท้ชื่อ เป็ด (ต่าย ชัชฎาภรณ์ ธนันทา) ทั้งสองเป็นเหมือนคอหอยกับลูกกระเดือกของเจ้านาย ถึงแม้ชีวิตจะตกต่ำ ลง แต่พิมพ์ลภัสก็ยังมีนิสัยเสียชนิดแก้ไม่หาย งานเดินแบบที่เคยทำก็ห่างหายไป ไม่ค่อยมีใครอยากจ้างเพราะถึงแม้จะสวยจัดอย่างไร แต่ทุกคนต่างเอือมระอากับการผิดนัด โทษโน่นโทษนี่ของเธอโดยไม่เคยมองข้อเสียของตัวเองเลย ถึงกระนั้นพิมพ์ลภัสก็ยังหยิ่งไม่ง้อใคร ยิ่งนานวันทรัพย์สินเงินทองก็ร่อยหรอลงทุกที หากแต่มีสิ่งเดียวที่เธอไม่ยอมขายซึ่งก็คือ เข็มกลัดประดับเพชรรูปหงส์ที่เตรียมจะโผบินขึ้นฟ้า เข็มกลัดนี้พ่อได้มอบให้เป็นของขวัญเมื่อพิมพ์ลภัสอายุ 15 เจ้าของ คอนโดที่พิมพ์ลภัสเช่าอยู่ชื่อ กิตติชัย (โอลิเวอร์ พูพาร์ท) ทั้งกิตติชัยและ อรอุษา ผู้เป็นภรรยาต่างมีนิสัยเจ้าเล่ห์ ทั้งสองเฝ้าสังเกตเธอตลอดมา จนกระทั่งเห็นว่าเธอกำลังจนตรอกจึงเสนองานที่มีค่าตอบแทนสูงให้นั่นคือให้ไป ขโมย และทำลายเทปลับกับจดหมายที่เกี่ยวกับอรอุษาจาก รเมศ (วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) เจ้าของโรงแรมเชียงรายจารวี สองสามีภรรยาสร้างเรื่องว่าอรอุษาหลงผิดไปมีความสัมพันธ์กับรเมศ รเมศได้อัดเทป และเก็บจดหมายซึ่งอรอุษาเขียนติดต่อไปไว้แบล็คเมล์ทั้งสองคน ครั้งแรกพิมพ์ลภัสก็ไม่ยอมทำ แต่อรอุษามาร้องไห้วิงวอนขอร้องให้เห็นหัวอกลูกผู้หญิงด้วยกัน ซึ่งพิมพ์ลภัสก็ยังลังเลอีก จนกระทั่งได้อ่านข่าวสังคมว่ามาธวีกำลังจะไปจัดแฟชั่นโชว์ที่โรงแรมเชียงราย จารวี เธอจึงตัดสินใจรับงานเพราะเชื่อมั่นว่ารเมศต้องเป็นคนเลวแน่จึงคบกับมาธวี ได้ พิมพ์ลภัสเดินทางมาถึงโรงแรมโดยกิตติชัยรับรองความปลอดภัยหากรเม ศจับได้ อีกทั้งยังออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างระหว่างที่พักอยู่โรงแรมนั้นด้วย ระหว่างที่อยู่ที่นั่นพิมพ์ลภัสกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนรวมทั้งรเมศ ด้วยความที่เป็นคนสวยมาก รเมศเข้ามาทำความรู้จักซึ่งเธอก็ให้ความสนิทสนมตามแผนทันที รเมศดูจะหลงรักพิมพ์ลภัสขึ้นทุกวัน ทั้งยังบอกว่าจะให้เธอเดินแบบกับห้องเสื้อมาธวีด้วย เขาตามใจ และเอาอกเอาใจทุกอย่าง ความที่พิมพ์ลภัสเอาแต่ใจตัว เย่อหยิ่ง ดูถูกคนอื่น ทำให้เธอสร้างศัตรูในโรงแรมไว้หลายคน โดยเฉพาะกับบรรดาพนักงานเสริฟ รเมศพาพิมพ์ ลภัสเที่ยวดูงานในโรงแรม และพาไปเที่ยว รเมศทุ่มเทใจให้เธอมากมายในขณะที่พิมพ์ลภัสก็จ้องแต่จะขโมยเทป และจดหมายอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่เพราะไม่คุ้นกับงานเช่นนี้จึงเผลอทำพิรุธให้รเมศสงสัย รเมศภาวนาขออย่าให้ที่เขาสังหรณ์เป็นความจริง ในที่สุดรเมศก็จับได้ คาหนังคาเขา ขณะที่พิมพ์ลภัสเข้ามาขโมยเทปกับจดหมายในห้องทำงาน พิมพ์ลภัสตกใจมากที่ถูกจับได้ แต่ก็ไม่วายเถียงว่ารเมศเป็นคนไม่ดี เป็นชู้กับเมียคนอื่นแถมยังเก็บหลักฐานไว้แบล็คเมล์ รเมศจึงเปิดเทปให้ฟัง และยังให้อ่านจดหมาย พิมพ์ลภัสรู้ความจริงรู้สึกอับอายมาก แต่ก็ยังไม่มากเท่ากับความเสียใจที่รเมศมาหมางเมินกับเธอ อย่างไรก็ตามพิมพ์ลภัสก็คือพิมพ์ลภัสที่โทษคนอื่นมากกว่าตัวเอง เธอโทรบอกกิตติชัยให้ส่งเงินมาจ่ายค่าที่พัก และอาหารในโรงแรม แต่กิตติชัยไม่ยอมโดยอ้างว่าเธอทำงานไม่สำเร็จ ทำให้เธอทั้งร้อนใจ และตกใจมาก สำหรับรเมศ เขาทั้งผิดหวัง และเสียใจที่มองพิมพ์ลภัสผิดไป รเมศรักเธออย่างแท้จริง ฉะนั้นเขาจึงรู้สึกเหมือนถูกหลอก ถูกทรยศ ฉะนั้นเมื่อพิมพ์ลภัสไม่มีเงินจ่ายค่าโรงแรม เขาจึงให้เธอทำงานชดใช้โดยให้เป็นพนักงานเสริฟ ครั้งแรกพิมพ์ลภัสจะขายเข็มกลัดรูปหงส์เพื่อเอาเงินมาใช้หนี้ แต่ด้วยความเสียดายจึงตัดสินใจรับงาน พิมพ์ลภัสต้องแต่งเครื่องแบบ พนักงานเสริฟซึ่งเป็นชุดพื้นเมืองที่เธอเคยดูถูก ต้องย้ายออกจากห้องพักหรูหรามาอยู่ห้องพักของพนักงานซึ่งต้องอยู่ร่วมกัน ห้องละสองคน ซึ่งห้องก็ทั้งแคบและไม่มีแอร์ ซ้ำร้ายเพื่อนร่วมห้องก็คือพนักงานเสริฟที่เธอเคยวีนใส่ นับ จากนั้นพิมพ์ลภัสมีสภาพไม่ต่างอะไรจากหงส์ปีกหัก เธอเห็นทุกคนเป็นศัตรูไปหมด งานหลายๆ อย่างในชีวิตที่ไม่เคยทำก็ต้องทำโดยเฉพาะงานบริการ ตลอดเวลาเหล่านี้รเมศเฝ้าจับตาดูอยู่ด้วยความสะใจแต่บางครั้งก็อดใจอ่อนไม่ ได้ ฤทธิ์เดชของพิมพ์ลภัสเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว เธอมีเรื่องกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพื่อนพนักงานเสริฟด้วยกัน ลูกค้า หรือแม้กระทั่งหัวหน้าผู้ดูแลรับผิดชอบ ความเย่อหยิ่ง และเอาแต่ใจตัวทำให้ทุกคนไม่ชอบพิมพ์ลภัส หลายๆ คนถึงกับนินทา บ้างก็เยาะเย้ยซึ่งๆ หน้า พิมพ์ลภัสไม่ใช่จะร้ายเสียทีเดียว ความดีในตัวเธอยังมีพอสมควร ซึ่งเธอก็ได้แสดงออกมาเพื่อปกป้องเพื่อนร่วมงานจากลูกค้าบ้ากามทำให้ความ รู้สึกของเพื่อนร่วมงานดีขึ้น การได้ทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขกันนานเข้า ประกอบกับความไม่สะดวกสบายทั้งหลายแหล่ทำให้เธอเริ่มเห็นสัจธรรมของชีวิต และพยายามทำใจยอมรับถึงแม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม และแล้วมาธวีกับคณะ แฟชั่นโชว์ก็มาถึง ทั้งสองได้พบกัน มาธวีรู้สึกสะใจมากที่เห็นลูกเลี้ยงตกต่ำละไม่รีรอที่จะเยาะเย้ยซ้ำเติม ขณะเดียวกันมาธวีก็พยายามจะจับรเมศให้ได้ ด้วยความช่างสังเกตมาธวีก็รู้ว่ารเมศนั้นรักพิมพ์ลภัส เธอจึงคอยสร้างเรื่องให้ทั้งสองเข้าใจผิดกัน แถมยังแกล้งใส่ร้ายพิมพ์ลภัสให้ต้องกล้ำกลืนฝืนทน ในที่สุด มาธวีก็คิดจะกันพิมพ์นภัสให้ห่างจากรเมศโดยเด็ดขาด เธอจึงโทรศัพท์ติดต่อให้ เสี่ยสมาน (พิพัฒน์พล โกมารทัต) ซี่งหลงรักพิมพ์ลภัสมานานให้มาพักที่โรงแรม เสี่ยดีใจมากรีบมาหา และยื่นข้อเสนอจะเลี้ยงดูพิมพ์ลภัสอย่างดี แต่กลับถูกตอกหน้าอย่างไม่เกรงใจ เสี่ยเริ่มท้อแต่มาธวีพยายามให้กำลังใจโดยบอกแผนการณ์ที่จะทำให้พิมพ์ลภัสตก เป็นของเสี่ย ถึงแม้จะยังลังเลกลัวว่าพิมพ์ลภัสจะไปบอกเมียของเขา แต่ความต้องการมีมากกว่า เสี่ยจึงยอมทำตามแผนโดยเข้าไปรอในห้องมาธวี มา ธวีมาแต่งเรื่องบอกรเมศว่าเธออยากจะใช้เงินแทนพิมพ์ลภัสเพื่อเห็นแก่สาย สัมพันธ์ที่เคยเป็นแม่เลี้ยงเธอ แต่ก็กลัวพิมพ์ลภัสจะไม่ยอมรับ ดังนั้นเธอจึงขอร้องให้เขาบอกให้พิมพ์ลภัสมาพบเธอบนห้องเพื่อจะได้ปรับความ เข้าใจกัน รเมศหลงเชื่อจึงสั่งให้คนไปบอกพิมพ์ลภัสให้ไปพบเขาที่ห้องมาธวี พิมพ์ ลภัสทำท่าจะไม่ไปในตอนแรก เพราะรู้ว่าห้องนั้นเป็นห้องมาธวี แต่แล้วก็เปลี่ยนใจจะไปเผชิญหน้า และเมื่อเข้าไปทุกอย่างก็เข้าแผนการณ์ของมาธวี เสี่ยสมานพยายามปลุกปล้ำพิมพ์ลภัส แต่เธอก็เอาตัวรอดจนได้ พิมพ์ลภัสเจ็บใจ และแค้นใจมากด้วยนึกว่ารเมศหลอกเธอมาให้เสี่ยสมาน จึงไปตัดพ้อต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรง รเมศตกใจ และปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นเรื่องราวทั้งหมด พร้อมกันก็ไปเอาเรื่องมาธวี มา ธวีร้องห่มร้องไห้ปฏิเสธ และแก้ตัวจนรเมศเกือบจะเชื่อถ้าไม่พบหลักฐานบางอย่างในห้องนั้นที่มาธวี พยายามกลบเกลื่อน รเมศไล่มาธวีออกจากโรงแรมทันที มาธวีโกรธแค้นด่าว่ารเมศ แต่ก่อนไปได้คายพิษครั้งสุดท้ายโดยบอกกับพิมพ์ลภัสว่ารเมศมีคู่หมั้นแล้ว ชื่อ นารา (ฐิตินันท์ สุวรรณถาวร) ซึ่งพิมพ์ลภัสก็เคยเห็นความสนิทสนมของคนทั้งสองอยู่บ่อยๆ ทำให้พิมพ์ลภัสเสียใจมาก ส่วนรเมศนั้นก่อนที่จะไล่เสี่ยสมานออกไปได้ เรียกค่าทำขวัญไว้ให้พิมพ์ลภัส เสี่ยจำใจให้เพราะกลัวเรื่องจะอื้อฉาวทำให้ครอบครัวเสื่อมเสีย และถูกเมียเอาเรื่อง เงินจำนวนนั้นมากพอสมควร แต่รเมศไม่ได้ให้พิมพ์ลภัสในทันทีเพราะเกรงว่าเธอจะมีเงินใช้หนี้ และกลับกรุงเทพฯไป ด้วยเขายังหวังว่าจะทำความเข้าใจกับเธอได้เพราะหลังจากมีเรื่องเขาได้ขอโทษ เธอ และยอมรับผิดทุกอย่าง ซ้ำยังให้มาธวีกราบขอโทษพิมพ์ลภัส และพิมพ์ลภัสได้ถ่ายรูปเก็บไว้ด้วยความสะใจ วัน รุ่งขึ้น พิมพ์ลภัสตัดใจไปขายเข็มกลัดรูปหงส์ถึงแม้จะเสียดายใจแทบขาด เพื่อจะได้พ้นจากโรงแรมเชียงรายจารวีโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้เพราะเธอเข้าใจว่ารเมศมีคู่หมั้นแล้ว แต่ก็ยังมาหลอกเธอด้วยการทำท่าทีเหมือนมีใจด้วย ก่อนไปพิมพ์ลภัสได้มอบของที่ระลึกให้เพื่อนๆ พนักงานเสริฟ เพราะทุกคนต่างได้ให้บทเรียนอันมีค่ากับเธอ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังได้ค้นพบความจริงใจของพวกเขาเหล่านั้นที่มีต่อเธอ เมื่อ พิมพ์ลภัสเอาเงินมาใช้หนี้ รเมศใจหายแต่ในเมื่อเธอยืนยันจะไปก็ไม่สามารถขัดขวางได้ รเมศยังได้มอบเงินค่าทำขวัญของเสี่ยสมานให้เธอด้วย พิมพ์ลภัสยิ่งโกรธมากเพราะเข้าใจผิดว่าเขาเก็บเงินจำนวนนั้นไว้ไม่ยอมให้เธอ เพราะจะแกล้งกักตัวไว้ทำงานต่อไป หลังจากพิมพ์ลภัสจากไปแล้ว รเมศเสียใจมาก และซึมลงไป เมื่อพิมพ์ลภัสมาถึงกรุงเทพฯ เธอได้รับบทเรียนเรื่องการมีชีวิตพอเพียงจึงไปเช่าคอนโดเล็กลง ขายข้าวของแบรนด์เนมเนื่องจากไม่มีความสำคัญในชีวิตอีกต่อไป หลังจากนั้นก็ออกหางานเดินแบบทำ แต่ทุกแห่งที่ไปจะปฏิเสธหมด เพราะมาธวีใช้อิทธิพล และความสนิทสนมส่วนตัวกับบรรดาเอเจนซี่ให้ปฏิเสธเธอ ซึ่งพิมพ์ลภัสกลับคิดว่าเธอเองก็มีส่วนผิดด้วย เพราะยามรุ่งเรืองเธอเคยเบี้ยวงานบ้าง ไปช้าบ้างอยู่เป็นประจำ ในที่สุดเธอจึงตัดใจหางานอื่นทำแต่ก็ยากเต็มทีเพราะพิมพ์ลภัสเรียนไม่จบ หรือถ้าที่ไหนรับที่นั่นก็มักจะมีเจ้านายประเภทหัวงู ความทุกข์ยากหลายเดือนที่ผ่านมาสอนไม่ให้ท้อ จนกระทั่งวันหนึ่ง พิมพ์ลภัสได้พบกับนาราโดยบังเอิญ นารามากับ สิหนาท (เอกรัตน์ สารสุข) ซึ่งเป็นคู่หมั้น และเป็นหุ้นส่วนของรเมศ แต่พิมพ์ลภัสก็ยังเข้าใจผิดเหมือนเดิม นาราพยายามจะให้ความช่วยเหลือแต่พิมพ์ลภัสปฏิเสธ นาราจึงให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้ พิมพ์ลภัสไม่สามารถหางานได้ จึงตัดสินใจโทรไปหานารา นาราพาพิมพ์ลภัสไปบ้านของรจนา ซึ่งกำลังหาครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษให้ลูกสาวกับลูกชาย พิมพ์ลภัสซึ่งถึงแม้จะเรียนไม่จบแต่ด้านภาษาอังกฤษดีด้วยเพราะเป็นนักเรียน นอก รจนาดูจะดีใจ และเอ็นดูพิมพ์ลภัสผิดปกติ ขณะเดียวกันพิมพ์ลภัส ก็รู้สึกว่าหน้าของรจนาดูคุ้นๆ หลังจากสนิทสนมกันพอสมควร จนกระทั่งพิมพ์ลภัสเล่าเรื่องอกหักของเธอให้รจนาฟัง รจนาซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ ของรเมศจึงแน่ใจว่าพิมพ์ลภัสก็รักน้องชายของเธอ จึงวางแผนนัดรเมศมาพบ พิมพ์ลภัสตกใจ รเมศจึงเล่าความจริงเรื่องของนารากับสีหนาทให้ฟัง ทั้งสองจึงเข้าใจกันในที่สุด สำหรับมาธวีก็ถูกกรรมตามสนองเพราะรเมศรู้ว่ามาธวีกลั่นแกล้งพิมพ์ลภัสไม่ เลิก จึงส่งทั้งรูป และคำขออภัยเมื่อครั้งถูกจับได้ว่าหลอกพิมพ์ลภัสไปให้เสี่ยสมานปล้ำเอาลง หนังสือพิมพ์ เมื่อความจริงเปิดเผยจึงไม่มีใครในวงการคบหาสมาคมด้วย

มือนาง 2552

เรื่องย่อ : มือนาง (2552/2009) มือนาง เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ หมอดนัย อุดมแพทย์ (ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) แต่งงานกับ ทิพวรรณ (ชฎาพร รัดนากร) มีบุตรสาวด้วยกันหนึ่งคนอายุประมาณ 7 ขวบ ชื่อ เมษยา (น้องเมย์) ครอบครัวอบอุ่นของทั้งสามเป็นที่อิจฉาของภารดา (รชนีกร พันธุ์มณี) เพื่อนสนิทของทิพวรรณที่หลงรักหมอดนัยมามานานแล้ว ภารดาวางแผนจะชิงหมอดนัยมาเป็นของตน ด้วยการตัดสายเบรกรถทิพวรรณ แต่หมอดนัยกลับเดินทางไปด้วย เมื่อรถเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ ทิพวรรณเสียชีวิต และโดนกระจกบาดข้อมือจนมือขาดกระเด็น ก่อนที่ตำรวจจะมาพลิกศพ ขณะที่หมอดนัยที่บาดเจ็บเล็กน้อยกอดลูกร้องไห้อยู่ เขาเหลือบไปเห็นมือของทิพวรรณที่ขาด นิ้วมือยังกระดิกได้ หมอดนัยจึงแอบเก็บมือนั้นไว้โดยไม่ให้ใครรู้เห็น ภาร ดาเริ่มเอาตัวมาแทนที่ทิพวรรณ ด้วยการดูแลหมอดนัยและทำดีกับเมษยา สองพ่อลูกหลงเชื่อในคำพูด และการกระทำที่เสแสร้งของภารดาจนสนิท ในที่สุดหมอดนัยก็ตัดสินใจแต่งงานกับภารดา โดยหวังว่าภารดาจะดูแลเมษยาแทนทิพวรรณ หมอดนัยเก็บมือของทิพวรรณไว้ในตู้ลับในห้องทำงานส่วนตัว โดยไม่รู้ภารดาแอบสะกดวิญญาณทิพวรรณไว้ด้วยยันต์สีแดงที่ซ่อนอยู่ใต้ฝ้า เพดาน หลังจากภารดามีลูกสาวกับหมอดนัยหนึ่งคน คือ มุดา (ณัฐวรา หงส์สุวรรณ) เธอก็ทวีความเกลียดชัง เมษยา (อุษามณี ไวทยานนท์) มากขึ้น เมษยามักถูกภารดาและบริวารในบ้านกลั่นแกล้งบ่อยๆ เวลาที่หมอดนัยออกไปทำงาน วันหนึ่งเมษยาถูกจับขังในห้องทำงานหมอดนัย เธอไปเจอมือนาง (มือของทิพวรรณ) โดยบังเอิญ เมษยาทำยันต์สะกดวิญญาณหลุด ทำให้วิญญาณของทิพวรรณเป็นอิสระ และออกมาปกป้องลูกอยู่เสมอ เมื่อเมษยาถูกกลั่นแกล้ง ภีมภพ วัฒนานนท์ (กฤษณกันท์ มณีผกาพันธ์) นักศึกษาหนุ่มหล่อนิสัยดี ได้มีโอกาสรู้จักเมษยาโดยบังเอิญตอนเธอไปทำบุญให้แม่ที่วัดประทวน พ่อของภีมภพตกลงกับภารดาว่า จะจับคู่ให้ภีมภพกับมุดา แต่ภีมภพแสดงออกว่าสนใจเมษยา ยิ่งทำให้ภารดาไม่พอใจ มุดาวางแผนให้ ภิรัตน์ (ดนัย สมุทรโคจร) เพื่อนชายมาตีสนิทกับเมษยา เพื่อให้ภีมภพเข้าใจผิด ภีมภพน้อยใจและโกรธที่เห็นเมษยาสนิทกับภิรัตน์ ภารดาหาทางทำลายมือนางด้วยการจ้าง พยัคฆ์ (เอก โอรี) หมอผีมาทำพิธี เมษยาต้องการปกป้องแม่จึงขโมยเอามือนางหนีออกจากบ้านหลบไปอยู่กับฟ้างาม (ณิชานันท์ ฟั่นแก้ว) เพื่อนสนิท แต่ภีมภพเข้าใจผิดคิดว่าเมษยาหนีไปอยู่กับผู้ชายคนอื่น จึงตามไปจับตัวมาขังไว้ที่บ้านสวน ระหว่างนั้นภีมภพเริ่มเห็นใจเมษยาซึ่งมิชีวิตน่าสงสาร แต่ยังไม่ทันปรับความเข้าใจ มุดาก็ตามมาอาละวาด ยื่นคำขาดให้แต่งงาน ภีมภพจำต้องตกลงเพราะถูกพ่อกดดัน ภารดาถูกพยัคฆ์ใช้มนต์สะกดจนมีอะไรกัน ดนัยมาเห็นเข้าและล่วงรู้ความลับว่าภารดาเป็นคนตัดสายเบรกรถทิพวรรณ จึงบอกให้เธอไปมอบตัว ภารดาตัดสินใจจะฆ่าปิดปากดนัย ภีมภพมาช่วยทัน แต่โดนเข้าใจผิดว่าเป็นคนทำร้ายจึงโดนตำรวจจับ ส่วนดนัยก็เป็นอัมพาตพูดไม่ได้ ภิรัตน์หลอกเมษยาว่ามีหลักฐานเกี่ยวกับคนที่ทำร้ายดนัย แต่มีข้อแม้ให้เมษยายอมแต่งงานด้วย วิญญาณของทิพวรรณรู้ความจริงว่าใครเป็นคนทำ และรู้ว่าเมษยาโดนหลอก จึงพยายามหาทางช่วยจนภีมภพมาขัดขวางการแต่งงานได้ทัน และพาเมษยาหนีไป ภาร ดากับพยัคฆ์เอามือนางไปทำพิธีที่โกดังร้าง เมษยากับภีมภพตามไปช่วย เกิดการไล่ล่ากัน พยัคฆ์โดนยิงตกเขาตาย ภารดากับมุดาโดนตำรวจจับ แต่ระหว่างทางรถคว่ำ กรรมตามสนองภารดาโดนกระจกบาดมือขาด ส่วนมุดาเสียโฉม ทั้งสองคนรับไม่ได้เลยกลายเป็นบ้า ดนัยตกลงกับเมษยาว่าจะเอามือนางไปทำพิธีทางศาสนาส่งวิญญาณทิพวรรณไปสู่สุคติ ภีมภพกับเมษยาก็ปรับความเข้าใจกัน ลงเอยกันด้วยความสุข

ปอบผีฟ้า 2552

เรื่องย่อ : ปอบผีฟ้า (2552/2009) เจ้าหลวงภูคำมีเจ้านางสององค์คือ แสงหล้ากับละอองทอง ภูคำรักแสงหล้ามากกว่า ละอองทองใช้ผีที่ตนแอบเลี้ยงทำร้ายแสงหล้าจนตาย ก่อนตายแสงหล้าสาปแช่งให้ละอองทองไม่มีความสุข ละอองทองจึงอาฆาตว่าจะตามจองเวรจองกรรมแสงหล้าทุกภพทุกชาติ ภูคำเสียใจที่แสงหล้าตาย สั่งประหารชีวิตละอองทอง แต่ผีของละอองทองทำร้ายภูคำจนตายก่อน ละอองทองเก็บศพของภูคำไว้ในโลงศพซ่อนไว้ในห้องหนึ่งเพื่อใช้ทำพิธีให้ตนมีอำนาจ และเป็นอมตะ เจ้าอุปราชหอหน้ากลับจากทำศึกสงคราม ละอองทองให้เจ้าอุปราชเป็นเจ้าหลวง แต่เจ้าอุปราชสั่งฆ่าละอองทอง ผีของละอองทองฆ่าเจ้าอุปราชตาย ละอองทองจึงขึ้นครองภูคำเป็นเจ้าหลวง สั่งให้ทุกคนเรียกตนว่าเจ้าหลวง ต่อมาหลังจากเป็นเจ้าหลวง ละอองทองละเลยการเลี้ยงดูผี แม้ว่าโสภี บ่าวคนสนิทจะเตือนแล้วก็ตาม ในที่สุดผีที่ตนเลี้ยงก็เข้าสิงละอองทอง และทำให้นางกลายเป็นปอบไปในที่สุด โดยมีโสภี บ่าวผู้ซื่อสัตย์ ซึ่งมีสภาพกึ่งผีกึ่งคนคอยรับใช้ต่อมาอีกหลายร้อยปี ผ่านไปหลายศตวรรษอาณาจักรภูคำล่มสลาย อุปราชหอหน้ามาเกิดเป็นภูวนัย นักโบราณคดีหนุ่มหล่อ เขาหมกมุ่นอยู่กับการสืบค้นเรื่องราวของอาณาจักรภูคำ ปาลิน คนรักของภูวนัยได้รับเลือกแสดงภาพยนตร์เรื่องดังตัดหน้าอรดี นางเอกละครโทรทัศน์ชื่อดังซึ่งเป็นตัวเก็ง ทำให้อรดีหาเรื่องปาลินจนเป็นข่าวใหญ่โต การที่อรดีไม่ได้งานแสดงภาพยนตร์ ทำให้ธนัญชัย คู่ขาของเธอไม่มีเงินใช้หนี้พนันบอล ธนัญชัยโกรธมาก ส่วนภูวนัยฝันถึงอาณาจักรภูคำ เขาจึงชวนชัยยะเพื่อนรักขับรถไปสำรวจหาอาณาจักรโบราณในตำนาน แสงหล้ามาเกิดเป็นลิ้นฟ้าทำหน้าที่เป็นผีฟ้ารักษาคนเจ็บป่วยที่หมู่บ้านชายแดนไทยกัมพูชา ลิ้นฟ้ามีลูกสาวสองคนคือนวลกับมณี ส่วนสามีเสียชีวิตไปนานแล้ว ลิ้นฟ้าใช้การร่ายรำอัญเชิญผีฟ้าให้ช่วยรักษาคนป่วย ซึ่งก็มักถูกปอบของละอองทองเข้าสิง ปอบพ่ายแพ้กลับไปฟ้องละอองทอง ทำให้ละอองทองโกรธมาก ยิ่งจำได้ว่าลิ้นฟ้าคือแสงหล้า ศัตรูของตนในอดีตชาติจึงใช้ปอบเข้าสิงลิ้นฟ้า ขณะรักษาคนป่วย ละอองทองจะบันดาลให้คนป่วยเห็นหญิงชราหน้าตาน่ากลัวจนขาดใจตาย ในที่สุดข่าวก็แพร่ไปว่าลิ้นฟ้ากลายเป็นปอบผีฟ้า ตกกลางคืนลิ้นฟ้าจะถูกละอองทองเข้าสิงออกจับไก่ และของสดๆ คาวๆ ในหมู่บ้านกิน นวลกับมณีขอให้ลิ้นฟ้าเลิกการเป็นผีฟ้า และย้ายไปอยู่หมู่บ้านอื่น แต่ลิ้นฟ้าไม่ยอม คมเพิ่งเรียนจบจากกรุงเทพฯ กลับมาที่หมู่บ้าน เขาหลงรักมณีจึงหาทางช่วยเหลือครอบครัวของมณี แสงจันทร์ลูกสาวของกำนันสิงห์แอบรักคมอยู่จึงยุยงให้พ่อขับไล่ครอบครัวลิ้นฟ้าออกไปจากหมู่บ้าน ภูวนัยกับชัยยะขับรถผ่านมาพอดีจึงเข้าช่วยเหลือ แสงจันทร์เห็นภูวนัยที่หล่อ และรวยกว่าก็หันไปสนใจภูวนัยแทน เมื่อกำนันสิงห์รู้ว่าทั้งสองจะไปคุ้มภูคำจึงขอตามไปด้วย เพราะตนเคยได้ยินคำเล่าลือเรื่องสมบัติมีค่าที่นั่น แสงจันทร์ขอตามพ่อไป โดยมียอด ลูกน้องคนสนิทของกำนันสิงห์ไปคอยรับใช้ เจ้าหลวงละอองทองเสนอให้นวลไปเป็นทายาทของตนที่คุ้ม นวลยินดีไปเพื่อให้แม่พ้นจากการถูกรังควานจากละอองทอง แม้ใครจะทัดทานแต่นวลก็ไม่ยอม คมกับมณีรับปากจะดูแลลิ้นฟ้าให้ดีที่สุด เมื่อไปถึงทางเข้าคุ้มภูคำ โสภีก็มารอรับทุกคนอยู่ที่ปากทาง นวลได้พบกับกลุ่มของภูวนัยที่ล่วงหน้าไปก่อนหน้านั้นแล้ว ละอองทองใช้ปอบออกไปตามค้นหาทายาทของตนตามที่ต่างๆ เพื่อลวงให้มาที่คุ้ม หวังจะใช้คนโลภเป็นบริวารเซ่นไหว้ตน พิธีกรรมของละอองทองทำให้เกิดอาเพศ สุริยุปราคาเกิดขึ้น ในความมืดขณะที่เกิดสุริยุปราคานั้นเอง ดาวหางก็ปรากฏขึ้น ผู้ที่มีกรรมเกาะเกี่ยวกับละอองทองจะเกิดนิมิตให้ต้องมาที่คุ้มละอองทอง ในจำนวนนี้มีอรดีกับธนัญชัย ซึ่งหนีอันธพาลตามล่าหนี้พนันบอลจนคิดจะฆ่าตัวตาย และยังมีครอบครัวของปาลิน อันได้แก่ ประเดิม พ่อของเธอ วรรณา ผู้เป็นแม่ และโฉม อดีตนางเอกลิเก เมียใหม่ของพ่อรวมอยู่ด้วย ที่คุ้มภูคำ เจ้าหลวงละอองทองจำภูวนัยได้ว่าเขาคืออุปราชหอหน้า แต่ภูวนัยไม่มีความทรงจำในอดีตชาติหลงเหลืออยู่ เรื่องวุ่นๆ ภายในคุ้มภูคำเกิดขึ้นทุกวัน อรดีไม่พอใจที่ได้พบปาลินที่นี่ และเธอก็ยังตามหึงหวงธนัญชัยที่หาทางล่วงเกินปาลิน นวล และแสงจันทร์ ส่วนนวลก็เสียใจที่รู้ว่าปาลินเป็นคนรักของภูวนัย ผู้ชายที่แสนดี ซึ่งเธอแอบรักเขาตั้งแต่แรกเห็น คมกับมณีได้พบพระธุดงค์ ท่านแนะนำให้ทั้งสองปฏิบัติธรรมเพื่อหาทางช่วยเหลือทุกคนที่คุ้มภูคำ พระธุดงค์บอกความลับแก่ทั้งสองว่าต้องใช้ตะกรุดทองคำตอกลงไปที่หน้าผากศพของเจ้าหลวงภูคำ ทุกสิ่งทุกอย่างจะคืนสู่ความสงบสุข ท่านได้มอบตะกรุดทองคำแก่คม เพื่อหาทางนำไปให้ภูวนัยที่คุ้มให้ได้ โสภีให้ยอดเข้าไปพบเจ้าหลวงละอองทองเป็นคนแรก เขากลับออกมาพร้อมกับสมบัติหนึ่งกำปั่น โสภีบอกว่ายอดไม่ใช่ทายาทของเจ้าหลวง ยอดกลับมาที่หมู่บ้าน และทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับละอองทองคือเซ่นไหว้ละอองทองด้วยของสดของคาวทุกคืนวันเพ็ญ ทำให้ในหมู่บ้านยังมีสัตว์ และทารกตายอยู่เป็นประจำ ชาวบ้านเพ่งเล็งไปที่ลิ้นฟ้าเช่นเคย แต่คมกับมณีปกป้องลิ้นฟ้าไว้ได้ทุกครั้ง ธนัญชัยเข้าพบละอองทองเป็นคนต่อมา เขาได้สมบัติหนึ่งกำปั่น และไม่ยอมบอกใครว่าพิธีพิสูจน์ทายาททำอย่างไร อรดีให้ธนัญชัยรอตัวเองก่อน แต่โสภีไม่ยอม ธนัญชัยจึงต้องกลับไปก่อน คืนต่อมาอรดีได้เข้าพบละอองทอง และได้สมบัติกลับมากรุงเทพฯ เธอทะเลาะกับธนัญชัย เพราะธนัญชัยไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับเจ้าหลวง อรดีหวั่นใจว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับเธอ และธนัญชัย คนที่เข้าพบละอองทองเป็นคนต่อมาคือโฉม แต่โฉมตกใจพิธีกรรมน่ากลัวจึงเป็นบ้าวิ่งหนีกระเซอะกระเซิงออกไปจากคุ้ม ท่ามกลางความตกใจของทุกคน โฉมเป็นบ้าร้องลิเกไปตลอดทาง จนถึงหมู่บ้านของลิ้นฟ้า คมและมณีช่วยเหลือโฉมไว้ ลิ้นฟ้าพยายามถามเรื่องราวที่คุ้มภูคำ โฉมเล่าตามที่ตนจำได้ ยอดไม่พอใจ และหาทางทำร้ายโฉม ร้อนถึงคมกับมณีต้องหาทางช่วยเหลือ คมบอกกับมณีว่าจะไปที่คุ้มภูคำเพื่อมอบตะกรุดให้แก่ภูวนัยให้ได้ มณีไม่ยอมแต่ก็ห้ามคมไม่ได้ นวลรอคอยที่จะได้พบละอองทอง แต่โสภีไม่ให้พบ นวลเล่าให้ภูวนัยฟังเรื่องละอองทองนัดให้ตนมาเป็นทายาท แสงจันทร์เห็นนวลคุยกับภูวนัยก็หึง และอาละวาดจนละอองทองต้องปรากฏตัวขึ้น ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน นวลทวงสัญญา และพร้อมทุกอย่างที่จะเป็นทายาท ขออย่างเดียวว่าละอองทองจะต้องไม่รังควานแม่ของเธอ ละอองทองโกรธสั่งโสภีจับนวลขัง ภูวนัยกับชัยยะออกตามหานวลเพื่อช่วยเหลือ ทั้งสองออกไปนอกคุ้มในเวลากลางคืน และได้พบกับคมโดยบังเอิญ คมให้ตะกรุดแก่ภูวนัย สั่งว่าให้ตอกตะกรุดที่หน้าผากศพเจ้าหลวงภูคำในคืนวันเพ็ญเท่านั้น โสภีมาพบเข้าเรียกปอบมาทำร้ายคม แต่คมก็รอดพ้นมาได้ เมื่อคมกลับมาถึงหมู่บ้าน จึงร่วมมือกับมณีเร่งทำบุญเพื่อส่งบารมีมาช่วยทุกคนที่คุ้มภูคำ แต่แล้วละอองทองก็ปล่อยนวลออกมา แต่นวลต้องรับปากว่าจะไม่ทรยศต่อละอองทอง เพื่อจะได้เป็นทายาทเมื่อถึงเวลาอันควร และแม่กับน้องของเธอก็จะปลอดภัย นวลเชื่อฟังละอองทองทุกอย่างเพราะต้องการให้แม่พ้นจากการถูกรังควานจากละอองทอง ภูวนัยกับชัยยะออกค้นหาห้องเก็บศพจนพบ วิญญาณของเจ้าหลวงภูคำดีใจมาก แต่ก็ปรากฏตัวให้ทั้งสองเห็นไม่ได้ โสภีมาพบเข้าจึงไปฟ้องละอองทอง ละอองทองโกรธมากฆ่าชัยยะตาย การหายตัวไปของชัยยะทำให้ภูวนัยเป็นกังวล ภูวนัยกับปาลินออกตามหาชัยยะไปทั่วบริเวณคุ้ม ถูกผีของละอองทองทำร้าย แต่อำนาจของตะกรุดช่วยทั้งสองไว้ได้ ภูวนัยกับปาลินหลงอยู่ในป่าด้วยกัน ช่วยเหลือกัน ทำให้ทั้งสองคนยิ่งรักกันมากขึ้น ที่คุ้มภูคำ วรรณาเป็นห่วงปาลินที่หายตัวไป จึงอ้อนวอนขอให้ประเดิมออกค้นหา หากไม่พบก็ให้พาตนกลับไปบ้าน ประเดิมไม่ยอม เมื่อปาลินกับภูวนัยกลับมาถึงคุ้มภูคำ โสภีก็สั่งให้วรรณากับประเดิมเข้าพบละอองทองพร้อมกัน ทั้งสองได้สมบัติมาคนละหนึ่งกำปั่น วรรณาชวนปาลินกลับบ้านด้วยกัน แต่โสภีไม่ยอม ไล่ประเดิมกับวรรณาให้รีบกลับไป มิเช่นนั้นปาลินจะต้องตาย นวล ซึ่งหลงรักภูวนัยเห็นปาลินกับภูวนัยหายไปด้วยกัน ก็เกิดความหึงหวง น้อยใจ แต่ก็ได้คิดว่าตนมาที่นี่เพื่อแม่ มิใช่เพื่อความรัก จึงขอให้โสภีนำตนเข้าพบละอองทองเพื่อตนจะได้เป็นทายาทตามที่ตกลงกันไว้เสียที แต่ละอองทองยังไม่ยอมให้เข้าพบ เพราะรู้ข่าวจากปอบของตนว่ายอดถูกคมกับมณี และพวกชาวบ้านจับได้ว่าเป็นตัวการทำให้สัตว์ และทารกในหมู่บ้านตาย ชาวบ้านช่วยกันจับยอดขังไว้ในยุ้งข้าว แล้วใช้สายสิญจน์ล้อมไว้ ยอดซึ่งมีสภาพกึ่งผีกึ่งคนจึงออกมาไม่ได้ ระหว่างนี้เองที่ลิ้นฟ้าร่ายรำอัญเชิญผีฟ้าให้มาช่วยทำให้หมู่บ้านสงบสุขเสียที ละอองทองจึงปรากฏตัวให้ลิ้นฟ้าเห็น และขู่ว่าจะฆ่านวล หากลิ้นฟ้ายังใช้อำนาจของผีฟ้าผีแถนมาต่อสู้กับตน ลิ้นฟ้าเป็นห่วงลูกจึงรับปาก ว่าจะไม่อัญเชิญผีฟ้าผีแถนอีกต่อไป แม้ว่าคมกับมณีจะขอร้องอย่างไรก็ตาม ละอองทองเรียกนวลเข้าพบ ขู่ว่าจะฆ่าลิ้นฟ้า ฆ่ามณี และฆ่าทุกคนที่นวลรัก เว้นแต่ว่านวลจะนำตะกรุดทองคำมาจากภูวนัยมาได้ นวลรับปาก ทั้งที่ไม่อยากทำ แต่เมื่อเห็นว่าภูวนัยมิได้มีเยื่อใยกับตนอย่างที่ตนมีให้เขา นวลจึงทำทุกวิถีทางที่จะนำตะกรุดมาให้ได้เพื่อแลกกับชีวิตของแม่ และเป็นการแก้แค้นที่ ภูวนัยไม่รักตนเหมือนกับที่ตนทุ่มเทหัวใจให้แก่เขา กำนันสิงห์กับแสงจันทร์เบื่อหน่ายการรอคอยจึงชวนกันค้นหาสมบัติ สิงห์ถูกละอองทองฆ่าตายอย่างทารุณ แสงจันทร์กลัวตายจึงอ้อนวอนขอชีวิต และรับปากว่าจะยอมเป็นทาสเหมือนโสภีไปตลอด ละอองทองทำให้แสงจันทร์มีสภาพกึ่งผีกึ่งคนไม่ต่างจากโสภีเท่าใดนัก มีมนตราบางบทที่ละอองทองมอบให้เพื่อไว้ป้องกันตัว แต่ความทรงจำขณะเป็นคนยังไม่หมดไป แสงจันทร์จึงยังเฝ้าลุ่มหลงภูวนัยอยู่ และตามหึงหวงปาลิน หาทางทำร้ายปาลินด้วยมนตรา ภูวนัยมอบตะกรุดทองคำไว้ให้ปาลินป้องกันตัว แสงจันทร์จึงทำร้ายปาลินไม่ได้ ที่กรุงเทพฯ ธนัญชัยนำสมบัติไปขายให้แก่นักค้าของเก่า สมบัติเก่าแก่ทำให้นักค้าของเก่าอยากได้ จึงขอให้ธนัญชัยพาพวกตนมาที่คุ้มของละอองทอง อรดีเตือนธนัญชัยเรื่องที่ไม่ยอมเซ่นไหว้ละอองทอง แต่ธนัญชัยไม่เชื่อ คืนต่อมาธนัญชัยก็ถูกฆ่าตายอย่างปริศนา อรดีเล่าเรื่องนี้ให้นักข่าวฟัง ทำให้เกิดเป็นข่าวแพร่ไปทั่ว มีคนอยากจะมาที่คุ้มภูคำกันมากมาย อรดีคิดว่าเป็นโอกาสที่จะได้แก้แค้นให้ธนัญชัย จึงรับปากว่าจะนำคนดีมีวิชาจำนวนมากมุ่งหน้ามาที่คุ้มภูคำ ในคืนที่ปาลินได้เข้าพบละอองทอง เป็นคืนเดือนเพ็ญ ปาลินหาทางถ่วงเวลาเพื่อให้ภูวนัยค้นหาศพของเจ้าหลวงภูคำให้พบ โดยลืมไปว่าตะกรุดทองคำยังอยู่ที่ตน ผีที่เฝ้าโลงศพเจ้าหลวงภูคำมาบอกให้ละอองทองทราบว่าภูวนัยบุกรุกเข้าไปในห้องเก็บศพ ละอองทองสั่งล่ามปาลินไว้ สั่งให้นวลตามเข้าไปกับภูวนัย เพื่อหาทางเอาตะกรุดมาจากภูวนัยให้ได้ ระหว่างนั้นปาลินสวดมนต์เพื่อขอให้บารมีช่วยภูวนัย และช่วยตนให้ปลอดภัย เป็นจังหวะเดียวกับที่ทางหมู่บ้าน ลิ้นฟ้า มณี และคม ช่วยกันทำพิธีอ้อนวอนผีฟ้าผีแถนให้มีอำนาจคุ้มครองทุกคน ละอองทองกับโสภีมาขัดขวางภูวนัยแล้วใช้มนตราทำให้ภูวนัยย้อนคืนสู่ภพแห่งอดีต เพื่อให้เขาหลงใหลในตำแหน่งเจ้าหลวงแห่งนครภูคำ และจะได้ครองรักกับนางในภพแห่งนิมิตชั่วนิรันดร์ นวลค้นหาตะกรุดในตัวของภูวนัยแต่ไม่พบ การสวดมนต์ของปาลินทำให้ตะกรุดมีพลังจนแสงจันทร์ทนอยู่ไม่ได้ ต้องไปผุดไปเกิด ปาลินจึงรีบมาช่วยภูวนัย ระหว่างทางปาลินถูกขัดขวางจากโสภี แต่ตะกรุดก็สามารถเอาชนะโสภีได้ นวลตกใจที่เห็นปาลินรอดมาได้ และยิ่งตกใจมากขึ้นเมื่อรู้ว่าตะกรุดทองคำอยู่ที่ปาลิน นวลเข้าแย่ง แต่ปาลินไม่ยอม โสภี ในสภาพใกล้หมดพลังรีบไปบอกละอองทอง ซึ่งกำลังต่อสู้กับลิ้นฟ้าที่มาถึงหน้าคุ้มพอดี โสภีเข้าช่วยละอองทอง แต่ก็ต้องพ่ายแพ้จนสิ้นฤทธิ์ไป คมกับมณีเข้าไปในคุ้ม และไปถึงห้องเก็บโลงศพของเจ้าหลวงได้สำเร็จ นวลเมื่อได้เห็นน้องสาวก็ได้สติ จึงหันกลับมาร่วมมือกับทุกคนทำพิธีตอกตะกรุดลงที่หน้าผากศพของเจ้าหลวง ทำให้ละอองทองกลายเป็นวิญญาณหายไปในทันที กลุ่มของอรดีซึ่งนำคนมาจากกรุงเทพฯ มาถึงที่หน้าคุ้มพอดี แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าบริเวณที่เคยเป็นคุ้มนั้น กลายเป็นป่าหญ้าโล่งๆ กว้างใหญ่ เหมือนไม่เคยมีสิ่งก่อสร้างใดๆ อยู่เลย อรดีถูกพวกนักข่าวด่าว่าเป็นดาราที่ชอบพูดจาโกหกไม่เลิก ภูวนัยแต่งงานกับปาลิน เช่นเดียวกับคมและมณี นวลทำพิธีรับเป็นร่างทรงผีฟ้าผีแถนแทนแม่ เธอร่ายรำผีฟ้าได้อ่อนช้อยและงดงามไม่ต่างจากลิ้นฟ้า ส่วนลิ้นฟ้าเลือกเส้นทางไปบวชชีปฏิบัติธรรมเพื่ออุทิศบารมีให้แก่ละอองทอง