โก๊ะซ่า ท้ามิติ 2552

เรื่องย่อ : โก๊ะซ่า ท้ามิติ (2552/2009) เปิดเรื่องต่อจากภาคสอง เมื่อพรานโก๊ะ (วุธ-อัษฏาวุธ เหลืองสุนทร) และเหล่านักศึกษาช่วยให้ชาวท่าแพชนะศึก และเหล่านักศึกษาพากันเดินทางกลับไปยังมิติเวลาของตัวเอง ทำให้บ้านท่าแพกลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง แต่นายกองจอระแน (ค่อม ชวนชื่น) และทหารข้าศึก รวมทั้งเล่าอู (ชูษี เชิญยิ้ม) ที่พ่ายแพ้กลับไปได้ถูกแม่ทัพใหญ่ (ถั่วแระ เชิญยิ้ม) สั่งลงโทษและสืบสวนหาความจริงว่าทำไมถึงสู้ชาวบ้านที่มีเพียงหยิบมือเดียวไม่ได้ เมื่อรู้ว่าทหารต้องพ่ายแพ้กับกลุ่มหนุ่มสาวที่เรียกตัวเองว่านักศึกษา และยังได้เห็นรูปถ่ายของจ๋อมหรือจอมขวัญ (จิลล์ โรเจอร์) ที่เล่าอูนำติดตัวมา แม่ทัพก็เกิดความสนใจเพราะจ๋อมมีหน้าตาคล้ายกับภรรยาของตัวเองที่เสียชีวิตไปแล้ว จึงสั่งให้นายกองจอระแนทำการแก้ตัวใหม่ยกทัพมาพร้อมกับมังสอยู (จุ๊บ-อิทธิกร สาธุธรรม) ผู้เป็นบุตรชาย ไปบุกบ้านท่าแพอีกครั้ง ซึ่งพรานโก๊ะกับชาวบ้านไม่มีพวกนักศึกษาคอยช่วยเหลือก็สู้ไม่ได้ บ้านท่าแพจึงถูกตีทำลายแหลก และทำให้บุญหลายกับดาวเรืองถูกทหารฆ่าศึกฆ่าตาย ส่วนพรานโก๊ะก็ถูกทำร้ายจนสลบไป ส่วนเฒ่าหอม (ชุมพร เทพพิทักษ์) กับบุญชู (นราธิษณ์ ภรธนเดช) หนีไปได้ และได้กลับมาช่วยพรานโก๊ะให้ฟื้น แต่ปรากฏว่าพรานโก๊ะความจำเสื่อม จำใครไม่ได้ทั้งนั้น สองตาหลานจึงพยายามหาทางรักษาและได้ขอความช่วยเหลือจากดอกรัก (ยิ่งยง ยอดบัวงาม) กับ รานี (ฮาย อาภาพร นครสวรรค์) ที่กลับไปยังดินแดนของตัวเอง รวมทั้งไปหาหาญที่บ้านท่าสร้าง แต่กลับพบ เหิน (ปราบปฏล สุวรรณบาง) ที่เป็นน้องชาย แต่ไม่มีใครรักษาพรายโก๊ะได้ ทุกคนจึงตัดสินใจพาพรานโก๊ะทะลุมิติสู่เวลาปัจจุบันด้วยหวังว่าพวกนักศึกษา หรือหลวงตามั่น (นงค์ เชิญยิ้ม) อาจหาทางรักษาพรานโก๊ะได้ ส่วนพวกนายกองจอระแนและเล่าอูแม้จะมีชัยแต่ก็ไม่ได้อะไรมานอกจากมือเปล่า แม่ทัพใหญ่จึงสั่งให้ทุกคนติดตามพวกนักศึกษามาให้ได้ เพราะเล่าอูเสนอว่าพวกเขาอาจจะหาทางไปยังโลกของนักศึกษาได้ จึงติดตามขบวนพวกพรานโก๊ะมา เฒ่าหอมและบุญชูพาพรานโก๊ะทะลุมิติเวลามาพบกับบุญเรือน (เมย์ อรวรรษา ฐานวิเศษ) พรานสาวชาวกระเหรี่ยงที่มีใบหน้าเหมือนบุญหลาย แต่นิสัยขี้โมโหคล้ายกับพรานโก๊ะ บุญเรือนไม่ยอมเชื่อว่ามีอะไรเกี่ยวข้องกับบุญหลาย และรู้สึกตลกเมื่อถูกเด็กหนุ่มอย่างบุญชูมาเรียกว่าแม่ แต่ก็จับพลัดจับผลูตามทุกคนเข้ากรุงเทพฯ เช่นเดียวกับพวกนายกองจอระแนและเล่าอูที่เดินทางเข้ากรุงอย่างทุลักทุเล เพราะไม่ค่อยรู้เรื่องในกรุงเทพปัจจุบันสักเท่าไหร่ จึงสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับทุกคนที่พบเห็นรวมทั้งพวกของตนเองด้วย โดยเฉพาะเมื่อเหล่านายกองจอระแนและพวกข้าศึกไปเห็นปืนใหญ่ที่หน้ากระทรวงกลาโหม และพยายามจะเอาไปเป็นอาวุธสำคัญ ทุกคนที่เห็นเลยนึกว่าพวกนี้เป็นคนบ้าหรือไม่ก็เมายาจนเพี้ยนไป ขบวนของพรานโก๊ะตามมาจนพบ โอสถ (เอ๊าะ กีรติ เทพธัญญ์) ก็ทราบว่าโอสถเรียนจบแล้ว และได้เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย แต่ด้วยความจนของโอสถ จึงเป็นเหตุให้พ่อแม่ของจอมขวัญสาวคนรักกีดกันความรัก และบังคับให้จอมขวัญหมั้นหมายไปกับเทพวิมาน (นัท อติรุจ สิงหอำพล) หนุ่มหล่อพ่อรวย ที่ตนเองไม่เต็มใจและจู้จี้ (โยโย่ ศิมลมาศ) น้องสาวก็ไม่ชอบหน้าเทพวิมานเหมือนกัน โอสถพยายามรักษาพรานโก๊ะแต่ก็ยังไม่ได้ผล ซึ่งพอดีกับพวกของนายกองจอระแนและเล่าอูได้บังเอิญพบกับจอมขวัญและจู้จี้ จึงจับตัวทั้งสองและหาทางกลับไปสู่มิติเวลาของตนเอง โอสถจึงตัดสินใจชวนพรรคพวกออกตามหา เพราะพ่อแม่ของจอมขวัญให้คำมั่นว่า ถ้าใครพาจอมขวัญกลับมาได้ ย่อมเหมาะที่จะดูแลชีวิตจอมขวัญตลอดไป ส่วนอีกทางหนึ่งก็เพื่อรักษาความจำของพรานโก๊ะ เพราะคิดว่าถ้าได้เห็นบรรยากาศเก่า ๆ ความจำของพรานโก๊ะอาจกลับมา ขบวนการตามล่าตามรักจึงเกิดขึ้น โอสถจะช่วยสาวคนรักได้หรือไม่ จอมขวัญในเงื้อมือของแม่ทัพใหญ่ที่คิดว่าภรรยาของตนกลับชาติมาเกิดจะเป็น อย่างไร และพรานโก๊ะจะหายจากความจำเสื่อมได้หหรือไม่ และเมื่อหายจะทำอย่างไรเมื่อรู้ว่าบุญหลายเมียรักเสียชีวิตไปแล้ว พบความตื่นเต้นสนุกสนานนี้ได้ ในละครโก๊ะซ่า ท้ามิติ เริ่มวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2552 เวลา 18.45 น. ทุกวัน ทางช่อง 7 สี

โคกอีเลิ้งหรรษา 2552

เรื่องย่อ : โคกอีเลิ้งหรรษา (2552/2009) โอมชนะ (วัชรบูล ลี้สุวรรณ) ขับรถมาตามถนนลูกรังของโคกอีเลิ้ง ฝ่าย ตะโพน (สุรชัย สมบัติเจริญ) กมล (รพีภัทร เอกพันธ์กุล) พร (รุ้งรดา เบญจมาธิกุล) และ ชาวบ้านก็ขับรถมาตามทางพร้อมกับร้องเพลงอย่างสนุกสนาน จู่ๆ ก็มีรถมอเตอร์ไซต์ตัวป่วน แซงรถของพวกโพนขึ้นไป โอมชนะเห็นเข้าก็หักรถหลบตกลงข้างทาง ฝ่ายรถของโพนก็หักหลบเช่นกัน ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ที่โรงพยาบาล โอมชนะซึ่งเจ็บหนักกว่าใครได้รักษาเป็นคนสุดท้าย เพราะ กำนันคง (สุเทพ ประยูรพิทักษ์) กับ เส้นใหญ่ (นันทศัย พิศลยบุตร) สองพ่อลูกแซงคิวให้ชาวบ้านที่เป็นฐานเสียงของตนก่อนโดยไม่ฟังคำค้านของ ผู้ใหญ่ถึก (เอกพัน บันลือฤทธิ์) ที่เห็นโอมเลือดไหลอาบหน้า เมื่อ พบู (กัญญา รัตนเพชร์) เย็บแผลให้โอม โอมร้องลั่นโรงพยาบาล ทั้งๆ ที่ การบูร (กัณจนาณัฏ พัฒนะสิริกุลชัย) ฉีดยาชาให้โอมแล้ว พบูกับการบูรจึงฉีดยานอนหลับให้โอม แล้วตอนหลังการบูรก็พบว่าตัวเองหยิบน้ำเกลือไปฉีดให้โอมแทนยาชา พบูอยู่เวรกลางคืน โอมห่อตัวด้วยผ้าห่มเพราะหนาวไปขอน้ำพบูกิน แต่พบูที่กลัวผีขึ้นสมอง นึกว่าโอมเป็นผี จึงตีด้วยเครื่องวัดความดันโลหิตแบบไม่ยั้ง เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ต้องรีบมาห้าม วันรุ่งขึ้น พบูหวิดเกือบขี่รถชนโอมที่ทางแยก โอมจึงเรียกพบูว่านางยมมะบาลแทนนางพยาบาล รัฐมนตรีแจ้งว่าต้องการมาเยี่ยมโคกอีเลิ้ง ทุกคนต่างวุ่นวายกับการต้อนรับรัฐมนตรี พรต้องสอนให้ ดช.จ๊อบ อ่านหนังสือให้ออก เรื่องมันคงไม่ยาก หากจ๊อบเหมือนเด็กคนอื่นๆ แต่..ขณะที่พรสอนหนังสือ กุมารทองก็เกิดเข้าร่างจ๊อบ กุมารทองในร่างจ๊อบสั่งให้พรปล่อยเด็กๆ กลับบ้าน พรไม่ยอม แต่ ครูดวงใจ (อ้อ ช่อมะดัน) เข้ามาบอกให้พรปล่อยเด็กๆ กลับบ้านตามคำขอของกุมารทองในร่างจ๊อบ พรจำต้องทำตามที่ครูดวงใจบอก พรกับกมลหาวิธีปราบกุมารทอง หลายวันต่อมา ขณะที่พรตรวจการบ้าน จ๊อบไม่ได้ทำการบ้านมา พรจะตีจ๊อบ แล้วกุมารทองก็มาเข้าจ๊อบอีก กุมารทองร้องห้ามไม่ให้พรตีจ๊อบ พรแกล้งสลบไปแล้วลุกขึ้นยืนตาขวาง พรตีกุมารทองในร่างจ๊อบ กุมารทองในร่างจ๊อบร้องโวยวาย สุดท้าย พรก็บอกว่า “ทำไมจะตีไม่ได้ ก็ข้านี่แหล่ะ แม่กุมารทอง ข้าอนุญาตให้ครูตีไอ้ลูกกุมารทองจอมขี้เกียจเองแหล่ะ” ตั้งแต่นั้นมา ดช.จ๊อบก็ไม่มีกุมารทองมาเข้าสิงอีกเลย วันที่รัฐมนตรีมา ทุกคนยืนรอรับที่หน้าโรงพยาบาล ภาพที่พบูเห็นบอกถึงความสามัคคีของคนในหมู่บ้านจริงๆ โดยเฉพาะทรงผมของผู้หญิงในหมู่บ้านตั้งแต่สาวรุ่นไปจนถึงสาวใหญ่ ทุกคนล้วนทำผมตีโป่งฟูฟ่อง ทรงยอดฮิตยอดถนัดของเจ๊น้อยช่างเสริมสวยคนเดียวของโคกอีเลิ้งนั่นเอง แสงแดดเริ่มร้อนขึ้นทุกที เสียงมอเตอร์ไซต์แล่นมาแต่ไกล กำนันคงส่งเสียงว่า“ท่านมาแล้วๆ” ทุกคนยืดตัวตรงเตรียมพร้อม มอเตอร์ไซต์วิ่งฝ่าฝุ่นตลบมาจอดตรงหน้ากำนันคง บุรุษไปรษณีย์นั่นเอง เขาส่งซองโทรเลขให้กำนันคง แล้วขี่มอเตอร์ไซต์ออกไป กำนันคงเปิดอ่าน แล้วเป็นลมไป โอมรับโทรเลขมาอ่านแล้วพูดกับทุกคนว่า “ท่านรัฐมนตรีเลื่อนการตรวจเยี่ยมออกไป อย่างไม่มีกำหนด” ชาวบ้านที่ยืนอยู่เริ่มทยอยล้มลงราวกับใบไม้ร่วงที่เกรียมแดด เมื่องานกาชาดจังหวัดมาถึง กำนันคงกับผู้ใหญ่ถึกตกลงจะเอาควายไปขายเป็นสินค้าโอท็อป โอมรีบห้ามและอธิบายเรื่องสินค้าโอท็อป ทุกคนตกลงเอาเนื้อเค็มไปขายเป็นสินค้าโอท็อป พบูกับพรต่างก็เป็นห่วงเพราะคิดว่าอีเผือกควายแสนรู้ของที่บ้านจะต้องถูกแปร รูปเป็นเนื้อเค็ม โคกอีเลิ้งได้รางวัลโอท็อปยอดเยี่ยม กำนันคงขึ้นไปรับรางวัลด้วยใบหน้าซีดเซียว สร้างความสงสัยให้ทุกคน กำนันคงบอกว่าคุณนายผู้ว่าจะไปดูงานทำเนื้อเค็มที่โคกอีเลิ้ง ทุกคนดีใจ แต่พอกำนันคงบอกว่าเนื้อเค็มที่เอามาขายนั้นครูกมลไปหาซื้อมาจากตลาดกลาง ทุกคนก็หน้าซีดตามกำนันคงไปโดยปริยาย ชาวโคกอีเลิ้งต้องหาทางไม่ให้คุณนายผู้ว่ามาดูการทำเนื้อเค็มได้ โอมกับกมลจับเจ้าแต้มแมวของพบูไปแห่นางแมวขอฝนเพื่อจะได้ทำการตากเนื้อเค็ม ไม่ได้คุณนายผู้ว่าก็จะได้ไม่มา พบูไม่พอใจจึงไปเอาเจ้าแต้มกลับบ้าน แต่ฝนเกิดตก กมลกับโอมดีใจที่ขอฝนสำเร็จ แต่แล้วการบูรก็บอกว่าเป็นฝนเทียม เพราะเมื่อวานโทรทัศน์ออกข่าวการทำฝนเทียม โอมกับกมลหน้าแตก เจ๊น้อย (กรุณา มอริส) ขอให้พบูประกวดนางสงกรานต์ พบูพาการบูรไปให้เจ๊น้อยส่งประกวดแทน การบูรปฏิบัติงานพยาบาลไปก็ต้องทำตัวเป็นนางงามไปด้วย พบูเห็นแล้วขัดตา ผู้ใหญ่ถึกรู้ว่าการบูรจะประกวดนางสงกรานต์ก็ห้าม เพราะไม่อยากให้ลูกสาวเสียใจที่ตกรอบแรก พบูจึงพา แก้ว (ธัญ ญรัศม์ จิราภัทร์ภากร) มาประกวด แก้วคว้ารางวัลชนะเลิศไปได้ เจ๊น้อยดีใจมาก คิดพาแก้วไปประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส พบูห้ามเจ๊น้อยไม่ให้พาแก้วไป เจ๊น้อยโกรธคิดว่าพบูอิจฉาแก้ว และแล้วเมื่อเจ๊น้อยกลับมาจากกองประกวดก็โวยวายใส่พบูที่ไม่ยอมบอกว่าแท้ จริงแล้วแก้วเป็นกระเทย กำนันคงเป็นไข้หวัด 2009 เมื่อกำนันคงหายดีแล้วก็ไปหาเสียงเลือกตั้งสส. แต่ปรากฏว่ามีแต่คนรังเกียจ เมื่อโนเอมี่ (พลอยมณี ศุภเวทย์เวหน) ดารานางแบบอินเตอร์กลับมาเยี่ยมบ้านที่โคกอีเลิ้ง กำนันคงก็วางแผนให้เส้นใหญ่ไปชวนโนเอมี่มาช่วยหาเสียง โนเอมี่ยินดีช่วย พบูไม่พอใจที่โนเอมี่กลับมาที่โคกอีเลิ้ง เพราะคิดว่าโนเอมี่ได้ดีแล้วกลับมาเยอะเย้ยเธอ ย้อนอดีตไปตอนที่พบูยังเป็นเด็ก ตอนนั้นโนเอมี่ เป็นแค่ยัยดำขี้กาที่เดินตามหลังก้นเธอเฉิบๆ แต่บัดนี้กลับได้เป็นดารานางแบบอินเตอร์ไปซะแล้ว โนเอมี่ บอกว่าที่เธอดังขึ้นมาเพราะเธอเปลี่ยนชื่อตามที่หมอดูบอก พบูกับเจ๊น้อยจึงเปลี่ยนชื่อตามที่โนเอมี่ แนะนำหลังจากนั้น เจ๊น้อยได้โชคทองจากฝาน้ำอัดลม ส่วนพบูได้โทรศัพท์มือถือจากซองบะหมี่ ชาวบ้านที่รู้ข่าวก็พากันเปลี่ยนชื่อจนปลัดโอมสับสนว่าใครชื่ออะไร นาโอมี่เริ่มเอาวัฒนธรรมในตัวเมืองเข้ามาทั้งแฟชั่นเสื้อผ้าสายเดี่ยวทรงผม ต่างๆ และล่าสุดคือโทรศัพท์มือถือ เส้นขายโทรศัพท์มือถือให้ชาวบ้านในระบบเงินผ่อน ชาวบ้านอยากมีไว้ใช้ก็ซื้อกันใหญ่ แม้กระทั่งบ้านอยู่ใกล้กันอย่าง โกแฉะ (แฉ่ง ช่อมะดัน) กับเจ๊น้อย เจ๊น้อยใช้โทรศัพท์มือถือโทรสั่งกาแฟอาโก อาโกขายของดีขึ้นนับตั้งแต่มีมือถือ ส่วนกำนันคงเมื่อไปหาเสียงกับโนเอมี่ ก็ถูกมองข้ามความสำคัญไป เพราะชาวบ้านต่างก็อยากเจอโนเอมี่ เมื่อถึงวันเลือกตั้ง ปรากฏว่ากำนันคงสอบตก ส่วนโกแฉะก็เริ่มเหงา เพราะทุกคนอยู่บ้านแล้วโทรสั่งกาแฟให้ไปส่งที่บ้าน อาโกจึงยกเลิกการขายกาแฟแบบเดลิเวอรี่ สิ่งที่ชาวโคกอีเลิ้งได้รับจากการใช้มือถือก็คือ ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายให้เส้น และค่าโทรศัพท์ที่แพงหูฉี่ ปลัดโอมให้ทุกคนอยู่อย่างพอเพียงจะได้ไม่มีหนี้ ทุกคนเชื่อ ยกเว้นเจ๊น้อย วันหนึ่งมีโจรเข้ามาในหมู่บ้านแล้วเห็นเจ๊น้อยใช้โทรศัพท์มือถือและจำนาโอ มี่ได้ จึงเข้าไปจี้นาโอมี่กับเจ๊น้อย จนหมดตัว ปลัดโอมนำมาเตือนให้ทุกๆ คนในหมู่บ้านฟังและถือโอกาสให้ทุกคนกลับมาใช้ชื่อเดิมกัน เพราะขนาดเจ๊น้อยกับนาโอมี่เปลี่ยนชื่อแล้วก็ยังมีโจรมาจี้เลย ทุกคนเชื่อคำแนะนำของปลัดโอม กำพล (มณฑล ปริวัตร) เพื่อนของเส้นแนะนำให้คงกับเส้นเล่นแชร์ข้าวเปลือก ทั้งคู่ลงเล่นแชร์และได้เงินตอบแทนมากมาย เส้นไปอวดคนที่ตลาดเรื่องแชร์ข้าวเปลือก ชาวโคกอีเลิ้งต่างก็มาลงแชร์กัน รวมถึงเจ๊น้องกับอาโกแฉะด้วย โอมเตือนทุกคนแต่ไม่มีใครฟัง สุดท้ายทุกคนไม่เว้นแม้แต่เส้นกับคงถูกพลโกง กำนันคงเจ็บใจคิดมากจนเข้าโรงพยาบาล โอมแจ้งตำรวจนำกำลังจับกำพล กำพลมาดักจับพรกับพบูไปเป็นตัวประกัน กมลช่วยพรไว้ได้ กำพลไล่ตามไปจับพบูที่วิ่งหนีเข้าป่า กำพลยิงพบู แต่โอมกับเส้นใหญ่เอาตัวกำบังกระสุนปืนให้พบู ทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บ ผู้ใหญ่ถึกกับกำนันคงมาถึงที่เกิดเหตุพอดี จึงยิงกำพลเสียชีวิตก่อนที่กำพลจะฆ่าโอมกับเส้นใหญ่ โอมกับเส้นถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล พบูมาดูแลโอมด้วยความเป็นห่วง การบูรไม่สบายใจที่เส้นไม่ยอมฟื้น หมอมานะบอกว่าถ้าเส้นไม่ฟื้น เส้นก็จะเป็นเจ้าชายนิทราไปตลอดชีวิต การบูรร้องไห้เรียกเส้น เส้นฟื้นขึ้นมาเห็นการบูรร้องไห้ก็งง เส้นเห็นพบูพยาบาลโอมอย่างมีความสุขก็รู้ตัวว่าพบูไม่ได้รักตัวเอง จึงเศร้า การบูรมาปลอบเส้น เส้นถามว่าการบูรทำใจเรื่องโอมได้แล้วเหรอ การบูรบอกว่าการที่ได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข เราก็มีความสุขแล้วล่ะ เส้นคิดตาม เมื่อเห็นรอยยิ้มของพบู เส้นก็เห็นด้วยกับคำพูดของการบูร หลังผ่านเรื่องราวร้ายๆไปได้ โคกอีเลิ้งก็มีข่าวดี การบูรได้รับพระราชทานปริญญาบัตร การบูรดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเส้นใหญ่แอบชอบการบูร กำนันคงกับผู้ใหญ่ถึกมีลุ้นให้เส้นใหญ่กับการบูรรักกัน และเลิกทะเลาะกันไปโดยปริยาย ส่วนโอมแต่งงานกับพบู และพรแต่งงานกับกมล ด้วยความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวของคนในชุมชน โคกอีเลิ้งจึงกลายเป็นโคกอีเลิ้งหรรษาและสงบสุขตราบเท่าทุกวันนี้

สะใภ้ใจเด็ด 2552

เรื่องย่อ : สะใภ้ใจเด็ด (2552/2009) ภาวินี (กรรณาภรณ์ พวงทอง) รีบ​เดินทางมากรุง​เทพทันทีที่​ได้รับข่าวอา​การป่วยของ ศรีกานดา (มรกต กิตติสาระ) ​ซึ่ง​เป็นพี่สาว ​เธอ​ไม่​ได้พบพี่สาวนานหลายปีตั้ง​แต่​เรียนจบ ศรีกานดา​เป็นสาวสวย งาม​ทั้งกาย​และ​ใจ ภาวินีจำ​ได้ว่าวันที่ศรีกานดา​เข้าประกวดนางงามประจำจังหวัด​และ​ได้ตำ​แหน่งสาวงามที่สุดของจังหวัดนั้น พ่อของ​เธอดี​ใจมาก​แค่​ไหน พ่อ​เป็นคนที่ชาวบ้านนับถือ ยิ่งศรีกานดานำชื่อ​เสียงมา​ให้วงศ์ตระกูล พ่อของ​เธอ​ก็ยิ่งภูมิ​ใจ​ในลูกสาวคน​โตมาก ปีนั้น​เป็นปีที่พ่อ​เธอมี​ความสุขที่สุด ​เพราะภาวินีลูกสาวคน​เล็กสอบ​เข้า​เรียน​ในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อ​เสียง​ในกรุง​เทพ​ได้ ภาวีนี​เข้ามา​เรียน​ได้​ไม่นานทางบ้าน​เกิด​เรื่องยุ่ง​เมื่อศรีกานดาตัดสิน​ใจหนีตาม นพนัยน์ (อัษฎาวุธ ​เหลืองสุนทร) วิศวกรหนุ่มที่มาคุมงานสร้างทาง​ในจังหวัด ​ทั้งคู่พบกัน​ไม่นาน​แต่​ก็รักกันมาก พ่อของศรีกานดากีดกันทุกทาง​ไม่​ให้ลูกสาวพบคนรัก ทว่ายิ่งห้าม​เหมือนยิ่งยุ ​ไม่มี​ใครคิดว่าศรีกานดา กุลสตรีที่งามพร้อมจะกล้าหอบผ้าหนีตาม​ผู้ชายต่างถิ่น​ไป​ได้ พ่อของ​เธอ​เสีย​ใจมาก ​ทั้งรัก​ทั้ง​แค้นลูกสาวคน​โต​ถึงขั้นตัดพ่อตัดลูก​เด็ดขาด

​เวลาผ่าน​ไปก่อนภาวินี​เรียนจบ​ไม่นาน ศรีกานดามาพบ​เธอที่มหาวิทยาลัย ภาวินีพูด​ไม่ออก​เมื่อ​เห็นพี่สาว ศรีกานดา​เปลี่ยน​ไปมากจนจำ​แทบ​ไม่​ได้ ศรีกานดา​เล่า​ให้น้องสาวฟังว่า หลังจากจดทะ​เบียนสมรส​แล้ว นพนัยน์พา​เธอ​ไปกราบ คุณหญิงนวลสมร (ดวงดาว จารุจินดา) ​ผู้​เป็นมารดา ​แต่​ทั้งคุณหญิง​และ ​ไฉ​ไล​เรือง (ณัฐวรา พงษ์สุวรรณ) ​ซึ่ง​เป็นน้องสาวนพนัยน์​ไม่ยอมรับว่า​เธอ​เป็นภรรยาของนพนัยน์ ซ้ำยัง​ไล่​ให้​เธอ​ไปอยู่​เรือนคน​ใช้​ไม่ยอม​ให้อยู่บนตึก​ใหญ่ นพนัยน์​เสีย​ใจมาก​จึงพา​เธอตาม​ไปทุก​แห่งที่​เขา​ไป​ทำงาน นพนัยน์รัก​เธอมาก ​เมื่อศรีกานดาท้อง นพนัยน์​จึงต้องพา​เธอกลับมาอยู่บ้าน​เพราะห่วง​เธอ​และลูกจะ​ได้อยู่​ใกล้ๆ หมอ ส่วนตัว​เขาต้อง​ไป​ทำงานต่างจังหวัด ​แต่กลับกรุง​เทพทุกครั้งที่มี​โอกาส ภาวินีกลั้นสะอื้น​เจ็บ​ใจ​แทนพี่สาว ​เมื่อศรีกานดา​เล่าว่าคุณหญิงนวลสมร​และ​ไฉ​ไล​เรืองร้ายกับ​เธอ​แค่​ไหน ศรีกานดาบอกว่า​เธอ​เป็น​เพียงสะ​ใภ้ทาส ถ้านพนัยน์อยู่​ก็จะพอมี​ความสุขบ้าง ​แต่​เมื่อ​เขาต้อง​ไป​ทำงานต่างจังหวัด ศรีกานดารู้สึก​เหมือนตกนรก​ทั้ง​เป็น ภาวินี​เคยชวน​เธอกลับ​ไปอยู่บ้าน ​แต่ศรีกานดาปฏิ​เสธ ​เธอย้ำว่าสามี​และลูกอยู่ที่​ไหน​เธอต้องอยู่ด้วย​เสมอ ​เหตุผลของศรีกานดา​เป็น​เรื่องที่ภาวินี​ไม่​เข้า​ใจ สองสาวพี่น้องนิสัยต่างกันมาก​แม้จะหน้าตาคล้ายกัน ศรีกานดาสวยอ่อนหวาน ​เรียบร้อย​เป็น​แม่บ้าน​แม่​เรือน ภาวินีสวย​เข้ม ดู​เหมือนคนอารมณ์​เย็น ​แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าภาวินีนั้น​โม​โหร้ายมาก ตั้ง​แต่​เด็กจน​โต คนที่​ทำ​ให้ศรีกานดา​เสีย​ใจ ภาวินีต้องทวงคืนจน​เจ็บยิ่งกว่า ตลอด​การ​เดินทางภาวินีภาวนา​ให้พี่สาวปลอดภัย ​ทั้งที่รู้สึก​ไม่สบาย​ใจอย่างบอก​ไม่ถูก ​เมื่อ​ถึงกรุง​เทพ​เธอตาม​ไปที่​โรงพยาบาลทันที ภาวินี​ใจสั่น​เมื่อ​เข้า​ไป​ในห้อง​ไอซียู ​เธอพบนพนัยน์นั่งจับมือศรีกานดาด้วย​ความ​โศก​เศร้า สภาพศรีกานดาที่นอนนิ่ง ลมหาย​ใจ​แผ่ว​เบา อุปกรณ์ทาง​การ​แพทย์ระ​โยงระยางรอบตัว​ไปหมด ​ทำ​ให้ภาวินีรู้สึก​โกรธ​แค้นนพนัยน์มาก ​เธอมอง​เขาอย่าง​เกลียดชังก่อนจะขออยู่​เฝ้าพี่สาว​เอง

​เธอ​ให้นพนัยน์กลับ​ไปดูลูก ภาวินีอด​ไม่​ได้ที่จะต่อว่า​เขาที่​ทำ​ให้ศรีกานดา​เป็นอย่างนี้ ​เมื่อ​ถึงบ้าน​หรือ​เรือน​เล็กหลังบ้าน ​แม้จะปรับปรุงจนน่าอยู่ ​แต่​เมื่อ​เทียบกับตึก​ใหญ่งดงามข้างหน้า​แล้วต่างกัน​โดยสิ้น​เชิง นพนัยน์ก้าวขึ้น​เรือนภาพ ​แป๊ะซะ (ด.ช.ชญานิน ​เต่าวิ​เศษ) ลูกชายวัยขวบ​เศษที่​เล่นกับ พิม (อมีนา พินิจ) พี่​เลี้ยงอย่าง​ไร้​เดียงสา​ทำ​ให้นพนัยน์ต้อง​เข้า​ไปอุ้ม​ไว้ ​เขา​ทั้งรัก​และสงสารลูกสุดหัว​ใจ ขณะ​เดียวกัน​ก็รู้สึกผิดที่ทิ้งศรีกานดา​ไว้กับ​แม่​และน้องสาวที่​ใจร้าย​เหลือทน ​เขา​เล่นกับลูก​ไม่นานนัก คุณหญิงนวลสมร​ให้พิมมาตาม​เขา​ไปพบบนตึก​ใหญ่ นพนัยน์​เดินขึ้นทางหลังตึก​จึง​ได้ยิน​เสียง​แม่กับน้องสาวพูด​ถึงศรีกานดาอย่าง​ไม่น่าฟัง ​แถมยัง​แช่ง​ให้ตาย​เสียอีก ​เขาสงสารภรรยาจับ​ใจ นพนัยน์กลับ​ไปที่​เรือน​เล็กทันที​โดย​ไม่ยอมพบคุณหญิงนวลสมร ส่วนภาวินีนั่ง​เฝ้าพี่สาวจนฟุบหลับอยู่ข้าง​เตียง ​เธอกุมมือพี่สาว​ไว้ตลอด​เวลา ดึกมาก​แล้ว​เมื่อภาวินีรู้สึกว่าศรีกานดาขยับมือ​เบาๆ ​เธอสะดุ้งตื่นทันที ศรีกานดามองน้องสาวด้วย​แววตาห่วง​ใย ภาวินีดี​ใจที่พี่สาวรู้สึกตัว ​เธอบอกศรีกานดาว่าออกจาก​โรงพยาบาล​แล้ว​เธอจะพาศรีกานดา​และลูกกลับบ้าน​ไป​ให้พ้นจากครอบครัวนี้​เสียที ศรีกานดาพูดราวกระซิบว่าฝากลูกด้วย ภาวินีรับปากทันที ศรีกานดายิ้มบางๆ ก่อนหลับตาลงอีกครั้ง ส่วนภาวินี​เองฟุบหลับตาม​ไปด้วย​ใน​ไม่นานนัก ​เธอสะดุ้งตื่นอีกครั้ง​เมื่อรู้สึกว่ามือของศรีกานดา​เย็น​เฉียบ ภาวินีผวาลุกขึ้นทันที อุปกรณ์ทาง​การ​แพทย์ส่ง​เสียง​เตือนผิดปกติ ​ทั้งหมอ​และพยาบาล​เข้ามาทันที ทุกอย่างชุลมุนวุ่นวาย ภาวินีถูกขอ​ให้ออก​ไปนอกห้อง ​เธอร้อง​ไห้​เสีย​ใจที่สุด สภาพของศรีกานดา​ทำ​ให้ภาวินี​ใจหาย ​เธอ​ได้​แต่อธิฐาน​ให้พี่สาวปลอดภัย ทว่าศรีกานดาอา​การหนัก​เกิน​ไปกว่าที่หมอจะช่วย​ไว้​ได้ ​เธอ​เสียชีวิต​ใน​เช้านั้น​เอง ​เมื่อนพนัยน์พา​แป๊ะซะมา ภาวินีรับหลานมาอุ้ม ​เธอกอด​เด็กชาย​ไว้​แน่น ​และ​ให้นพนัยน์​ไปดูศรีกานดา​เป็นครั้งสุดท้าย ​เขารีบ​เข้า​ไป​ในห้อง​ไอซียูทันที นพนัยน์ตรง​ไปกอดร่าง​ไร้วิญญาณของศรีกานดาด้วย​ความรัก​และอาลัยที่สุด ​ทั้งสงสาร​และรู้สึกผิด​เต็มหัว​ใจ

นพนัยน์พาภาวินีมาพักที่บ้านระหว่างจัดงานศพ​ให้ภรรยา ภาวินี​เองอาสา​เลี้ยงหลานชายตัวน้อย ​เธอ​แทบ​ไม่ปล่อย​ให้​เด็กชายห่างสายตา​เลย นพนัยน์น้อย​ใจ​แม่​และน้องสาวที่​ไม่ยอม​ไปร่วมพิธีศพ​แม้กระทั่งวันฌาปกิจ ​เมื่องานศพผ่าน​ไป ภาวินีพูดกับนพนัยน์ว่า​เธอจะพา​แป๊ะซะกลับ​ไปอยู่กับ​เธอ​เพราะศรีกานดาสั่ง​ไว้ก่อนตาย ​แต่นพนัยน์​ไม่ยอม ​เขา​เอง​ก็รักลูกมาก ยิ่ง​ไปกว่านั้นลูก​เป็น​เหมือนตัว​แทนของศรีกานดาด้วย ​ทั้งคู่​เถียงกันอยู่นาน จน​ในที่สุดภาวินียื่นคำขาดถ้านพนัยน์ต้อง​การ​ให้ลูกอยู่ด้วย​เขาต้อง​แต่งงานกับ​เธอ จดทะ​เบียนสมรสถูกต้องตามกฏหมาย ​เธอจะยอมอยู่ที่นี่​เลี้ยงหลาน​ในฐานะ​แม่​แทนศรีกานดา ส่วน​เขา​และ​เธอผูกพันกัน​เพียงนิตินัย​เท่านั้น วัน​ใดที่นพนัยน์​แต่งงาน​ใหม่​เธอจะหย่ากับ​เขา​และพา​แป๊ะซะกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ​และ​เขาจะหมดสิทธิ์​ใน​การดู​แล​แป๊ะซะอีกต่อ​ไป ภาวินีอึ้ง​เมื่อนพนัยน์ตอบตกลงทันที ​เขารักลูกชายมาก ​ทั้งรัก​และห่วง ตอนนี้คนที่​เขามั่น​ใจว่าจะดู​แล​เด็กชาย​ได้ดีที่สุดคือภาวินี ส่วนตัว​เขายังติดงานที่ต่างจังหวัด​ซึ่งกันดาร​เกินกว่าจะรับลูก​ไปอยู่ด้วย ​เขา​ไม่​ไว้​ใจ​แม่​และน้องสาว​เขาอีก​แล้ว คุณหญิงนวลสมร​และ​ไฉ​ไล​เรือง​โกรธจนพูด​ไม่ออก​เมื่อนพนัยน์มาบอก​ในวันหนึ่งว่า​เขา​แต่งงานกับภาวินี​แล้ว ​เธอกับลูกจะอยู่ที่​เรือน​เล็ก​เหมือน​เดิม ​ในช่วง​เวลาที่​เขาต้อง​ไป​ทำงานที่ต่างจังหวัด​และจะขอย้ายกลับมากรุง​เทพ​เร็วๆ นี้ นพนัยน์กลับ​ไป​ทำงานสายวันนั้น​เอง คุณหญิง​ให้พิมมาตาม​เธอ​ไปพบ ​แต่ภาวินี​ไม่​ไป​แถมยังบอกอีกว่าถ้าอยากพบ​เธอ​ก็ลงมาที่​เรือนนี้​ได้ทุก​เวลา พิมดี​ใจที่ภาวินี​เข้ม​แข็งกว่าพี่สาวมาก พิมรัก​และสงสารศรีกานดาที่ถูก​ใช้งานยิ่งกว่าคน​ใช้อย่าง​เธอ​เสียอีก ​ทำงานหนัก ถูกดุด่า​ไม่​เว้นวัน ​แต่ศรีกานดา​ไม่​เคยบ่นจนล้มป่วย พิมกลับ​ไปบอกคุณหญิงทันที ​เธอมองคุณหญิง​และ​ไฉ​ไล​เรืองที่​โกรธ​แทบคลั่งอย่างสะ​ใจ

พิม​ใจหาย​เมื่อ​เห็นสอง​แม่ลูกลง​ไปที่​เรือน​เล็ก พิมรีบวิ่ง​ไป​เตือนภาวินี​ให้ระวังตัวอย่างห่วง​ใย ​แต่ภาวินีกลับยิ้น​เย็น ​แววตา​เหี้ยมอย่างน่ากลัว ​เธอ​เองรอ​เวลานี้มานาน​เช่นกัน ดังนั้น​เมื่อคุณหญิงนวลสมร​และ​ไฉ​ไล​เรืองมา​ถึง​เริ่มด่าทออาละวาด​จึง​โดนภาวินีตอบ​โต้อย่าง​ไม่​เกรง​ใจ ​ไฉ​ไล​เรืองปราด​เข้า​ไปจะตบหน้าภาวินี ​เธอ​เข้า​ใจว่าภาวินีจะอ่อน​เหมือนศรีกานดา ทว่าตรงกันข้าม มือที่​เงื้อง่าของ​ไฉ​ไล​เรืองถูกภาวินีจับบิดอย่าง​แรง​และผลักตัวทุ่ม​ไฉ​ไล​เรืองกระ​แทกพื้นอย่าง​แรง ​ไฉ​ไล​เรืองร้องกรี๊ด​ทั้ง​เจ็บ​ทั้งอาย ภาวินีมองอย่างสะ​ใจก่อนจะบอกว่า​เธอ​เป็นนักกีฬายู​โดสายดำ​และยิงปืน​แม่นมาก ถ้า​ทั้งคู่จะมาที่นี่มาระราน​เธออีก​เจอดีกว่านี้​แน่ นพนัยน์กลับมาจากต่างจังหวัด คุณหญิงนวลสมร​และ​ไฉ​ไล​เรืองฟ้อง​ใส่ร้ายภาวินี​และ​ให้​เขา​ไล่​เธอ​ไปจากบ้าน ​แต่นพนัยน์กลับ​ทำ​ให้​ทั้งคู่​เจ็บ​ใจมากขึ้น​เมื่อ​เขาย้ำว่า​เขา​ไม่​ไป​ไหน ​และ​ไม่​ให้​ใครพาลูก​เขา​ไป​ไหน​เด็ดขาด ภาวินี​เป็นภรรยา​เขาต้องอยู่ที่นี่ ​เหตุ​การณ์ที่​เกิดขึ้น​ก็​เพราะคุณหญิงกับ​ไฉ​ไล​เรืองลง​ไปหา​เรื่อง​เอง​แท้ๆ ถ้าต่างคนต่างอยู่​ก็​ไม่มี​เรื่อง นพนัยน์กลับ​เรือน​ไป​แล้วสอง​แม่ลูกยังคลั่ง​แค้น​ไม่หยุด คุณหญิงนวลสมรกับ​ไฉ​ไล​เรืองติดต่อ ลลิตา (อาริษา วิลล์) สาวสวย ​โฮ​โซ อดีตคู่หมายของนพนัยน์​ให้มาช่วยอีกคน ลลิตานั้น​เคย​เสีย​ใจ​เพราะศรีกานดามา​แล้ว คราวนี้​เธอ​จึงยอมตกลงมาช่วยกำจัดภาวินีอีกคน ลลิตารักนพนัยน์มานาน ​แต่​เขา​เห็น​เธอ​เป็นน้องสาว​เท่านั้น ลลิตามั่น​ใจ​ใน​ความสวยของตัว​เองว่าต้องชนะ​ใจนพนัยน์สักวัน ​เธอ​จึงมาอยู่กับคุณหญิงนวลสมรระหว่างที่ คุณหญิงผองจิต (ปนัดดา ​โกมารทัต) ​ซึ่ง​เป็นมารดา​ไปต่างประ​เทศ ลลิตามา​ในช่วง​เวลาที่นพนัยน์​ได้ย้ายมากรุง​เทพ​แล้ว ​เธอพยายามหว่าน​เสน่ห์ออดอ้อนนพนัยน์ต่อหน้าภาวินี​เพื่อยั่ว​ให้หญิงสาว​โกรธ ทว่าลลิตากลับคลั่ง​เสีย​เอง​เมื่อภาวินีพูดจาอ่อนหวานกับนพนัยน์​เป็นพิ​เศษ ​เธอสงสารลลิตาที่อยาก​เป็น​เมีย​เขา​เหลือ​เกิน​แม้จะ​เป็น​เมียน้อย​ก็ตาม นพนัยน์ดี​ใจที่ภาวินี​เข้ม​แข็ง สู้ กับ​เรื่องบ้าๆ ​ในบ้าน​ได้ ​เขา​เฝ้ามองภาวินี​เลี้ยง​แป๊ะซะ​เงียบๆ ภาวินี​เลี้ยง​เด็กชายราวกับลูก​ไม่​ใช่หลาน ​เวลาผ่าน​ไปยิ่ง​ใกล้ชิดภาวินี​ก็ยิ่ง​ทำ​ให้นพนัยน์​แปลก​ใจ ​เธอดู​เหมือนกระด้าง ​เย็นชา ​แต่​ก็​เป็น​แม่บ้าน ​แม่​เรือน ​ทำกับข้าวอร่อย ฝีมือ​ไม่ผิดกับศรีกานดา​เลย ​เขาชอบดู​เวลา​เธอ​เผลอตัว​เล่นกับ​แป๊ะซะ ภาวินีจะน่ารัก อ่อน​โยน ​ไม่มีมาดดุ​เข้มๆ อีก​เลย

วันหนึ่ง ถมทวี (นพพด พิทักษ์​โล่พานิช) ​เพื่อนชายคนสนิทของภาวินีมา​เยี่ยม​เธอที่บ้าน ถมทวี​เคยรักกับศรีกานดา ​เมื่อศรีกานดา​แต่งงาน​ไป​เขา​ก็มีภาวินีคอยปลอบ​ใจ จนมี​ความรู้สึกดีๆ ต่อกัน ​แต่​แล้วภาวินีกลับ​แต่งงานกับพี่​เขยตัว​เอง ถมทวีตามมา​เยี่ยมด้วย​ความ​เป็นห่วง ​เขารู้ว่าภาวินี​เป็นคนมี​เหตุผล ​และรักพี่สาวมาก ​การมาของถมทวี​ทำ​ให้นพนัยน์หงุดหงิดอย่างบอก​ไม่ถูก ยิ่ง​เห็นรูปถมทวีบน​โต๊ะหัว​เตียงของภาวินี ​เขาหึง​เธอ​โดย​ไม่รู้ตัว ​แต่ภาวินี​ไม่​เคย​ทำอะ​ไร​เสียหาย ​เมื่อ​เขาถาม​ถึง​ความสัมพันธ์ระหว่าง​เธอกับถมทวี ภาวินีกลับตอบอย่างมั่น​ใจว่า ทุกอย่าง​เป็นอดีต​ไป​แล้ว ​เธออยู่กับปัจจุบัน ​และรอวันที่​เขา​แต่งงาน​ใหม่​เธอพร้อมจะพาหลาน​ไปจากที่นี่ ภาวินี​ไม่รู้ว่านพนัยน์​ไม่​เคยรักลลิตา​เลย ​เขาระวังตัวมาก​เมื่อต้องอยู่กับ​เธอตามลำพัง วันหนึ่งถมทวีมารับภาวินี​และ​แป๊ะซะ​ไปซื้อของ ระหว่างทาง​ทั้งคู่​เห็น​ไฉ​ไล​เรืองนั่งรถออกจาก​โรง​แรมม่านรูด​แห่งหนึ่งพร้อม​ผู้ชายคนหนึ่ง ภาวินีสัง​เวช​ใจ​และอยากรู้ว่าถ้าคุณหญิงนวลสมรรู้​เข้าจะว่าอย่าง​ไร วันหนึ่งคุณหญิงนวลสมร​และ​ไฉ​ไล​เรืองตัดสิน​ใจ​ใช้​แผนทรมาน​เหมือนศรีกานดา ​แต่​เพียง​แค่อาหาร​เย็น ภาวินีย้อนรอยอย่าง​เจ็บ​แสบ ​ไฉ​ไล​เรืองทน​ไม่​ไหว​เธอวาง​แผน​ให้ ทรัย หนุ่มหล่อ​ไฮ​โซคนรักหนุ่มหลอกภาวินี​เข้า​โรง​แรม​เพื่อ​ให้นพนัยน์​เข้า​ใจผิด ทว่าภาวินีกลับ​ทำ​ให้ทรัยกลัว​เธอ ​เมื่อภาวินีพูดจริงจังว่า​เธอสู้​เต็มที่​แน่นอน ​และพร้อม​เป็นข่าวหน้าหนึ่ง​ในหนังสือพิมพ์ถ้าทรัย​ไม่พา​เธอออก​ไปจากที่นี่ สีหน้า​แววตาของภาวินี​ทำ​ให้ทรัยต้องยอม ​และ​ไม่กล้ายุ่งกับ​เธออีก ​เขากลับสน​ใจลลิตา​แทน

​แล้ววันหนึ่งทรัยหลอกลลิตา​เข้า​โรง​แรมจน​ได้ ​เธอตก​ใจมากสู้สุดฤทธิ์​แต่ทรัยชกท้อง​เธอจนหมดสติ ก่อนที่ลลิตาจะ​เสีย​ใจ​ไป​ทั้งชีวิต ถมทวี​ซึ่งผ่านมา​และ​เห็นทรัยกับลลิตา ​เขาตาม​ไป​ได้ยิน​เสียงร้องของลลิตา ​จึง​เข้า​ไปช่วย​ไว้ทัน ​เขาชกทรัยจนต้องหนี​ไป ถมทวีนั่งรอจนลลิตาฟื้นขึ้นมา ​เธอช็อค​และ​เข้า​ใจว่าถมทวี​ทำร้าย​เธอ กว่าจะพูดกันรู้​เรื่องถมทวีอ่อน​ใจ​เต็มที ​เขาพา​เธอ​ไปส่งที่บ้าน ลลิตาหมดฤทธิ์สำนึกดีกลับมาจนถมทวี​เริ่มสน​ใจ​เธอ ​เขามา​เยี่ยม​เธอบ่อยๆ จนผูกพันกันมากขึ้น ​ความสัมพันธ์ของ​ทั้งคู่​เป็น​ไปด้วยดี ส่วน​ไฉ​ไล​เรือง​ทำ​ให้คุณหญิงนวลสมร​เสีย​ใจ​เมื่อรู้ว่า​เธอปล่อยตัว​ไปกับทรัย ​และ​ไม่คิดจะ​แต่งงานกับ​เขาด้วยซ้ำ ​เรื่องวุ่นวาย​เมื่อ​ไฉ​ไล​เรือง​ไปฮ่องกงกับทรัย​และถูกจับ​เพราะลักลอบขนยา​เสพติด ทรัยหลอก​ไฉ​ไล​เรือง​ให้หิ้วกระ​เป๋าบรรจุยา​โดย​ไม่รู้ตัว ​ทั้งคู่ถูกจับที่ฮ่องกง หนังสือพิมพ์ลงข่าวละ​เอียด คุณหญิงนวลสมร​เสีย​ใจจนล้มศีรษะฟาดพื้นอย่าง​แรง คุณหญิงป่วยหนัก​เป็นอัมพาต ขณะที่นพนัยน์ยุ่ง​เรื่อง​ไฉ​ไล​เรือง ภาวินี​เข้ามาช่วยดู​แลคุณหญิงนวลสมร ​เธอพูดน้อย ​แต่ดู​แลปรนนิบัติคุณหญิงด้วย​ความ​เมตตา สงสาร ภาวินีอ่อน​โยน จริง​ใจ จนคุณหญิงละอาย​ใจ ​เธอยอม​แพ้น้ำ​ใจภาวินี ​และ​เสีย​ใจที่​ทำร้ายศรีกานดาจนตรอม​ใจตาย

​เวลาผ่าน​ไปทรัยถูกดำ​เนินคดี ส่วน​ไฉ​ไล​เรือง​ได้​แต่คลุ้มคลั่ง นพนัยน์หาทางช่วย​เหลือจน​โทษหนัก​เป็น​เบา ​แต่​เธอต้องจำคุกอยู่ดี ​เรื่องร้ายๆ ที่​เกิดขึ้น​ทำ​ให้​เขารักภาวินี​โดย​ไม่รู้ตัว กว่าจะรู้​เขา​ก็รัก​เธอมาก​เหลือ​เกิน ​ในคืนที่ถมทวี​แต่งงานกับลลิตา ​เมื่อกลับจากงาน​แต่งงาน นพนัยน์ตัดสิน​ใจสารภาพรักกับภาวินี ​เขาบอก​เธอว่า​เขา​ไม่​เคยลืมศรีกานดา ​แต่ภาวินีคือตัวจริง​ในวันนี้ ​แม้​เธอ​ไม่พูดอะ​ไร​แต่​แววตาที่อ่อนหวานของ​เธอบอก​เขา​ได้มากกว่าคำพูด นพนัยน์ดึง​เธอมากอด​แนบอก ​เขาสัญญาว่าจะดู​แล​เธอ​ให้ดีที่สุด ภาวินีซุกตัว​ในอ้อมกอด​เขา ​แขนของ​เธอกอดตอบ​เขา​ทำ​ให้นพนัยน์ยิ้มอย่างมี​ความสุข ภาวินีมีวิธีบอกรัก​เขาอย่างอบอุ่น อ่อนหวาน น่ารักที่สุด

หัวใจไร้มลพิษ 2552

เรื่องย่อ : หัวใจไร้มลพิษ (2552/2009) พาย (ฐิตินันท์ สุวรณถาวร) ไฮโซสาวฮอตฮิตติดชาร์ตสังคมก็อดซิป ต้องรับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตจนแทบทนไม่ได้ เมื่อธุรกิจหลายร้อยล้านของ สงกรานต์ (เวนย์ ฟอลโคเนอร์) ผู้เป็นพ่อกำลังสั่นคลอนพร้อมจะล้มครืนลงไปพร้อมกับเศรษฐกิจตกต่ำ และราคาน้ำมันสูงลิบ

จากที่เคยฟู่ฟ่าอยู่ในแวดวงสังคม ชีวิตฉาบสีสันเปรี้ยวจี๊ดบาดตา ถูกใจเสื้อผ้าแบบไหนต้องซื้อทุกสี อยากกินบะหมี่ฮ่องกง พายไม่เคยแลร้านบะหมี่ริมทาง เซเลบอย่างเธอต้องบินไปกินถึงฮ่องกงเท่านั้น งานปาร์ตี้กลางคืน พายต้องเป็นคนที่เด่นที่สุดในงาน หลายครั้งที่พายแอบส่งสายตาโลมเลียดีเจ และผู้จัดการผับ เพียงแค่นั้นสปอร์ตไลท์ และเพลงเปิดตัวพายจะดังกระหึ่ม ทุกสายตาต้องหยุดมองยามพายเยื้องกรายเข้ามา

ในวันที่พายรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นซูเปอร์เซเลบ แมกกาซีนทุกหัวต้องถ่ายรูปเธอลงปก พายกลายเป็นสาวสังคมที่ถูกบันทึกไว้ว่าติดขนตาปลอมที่วัดได้ยาวที่สุด เดินไปทางไหนมีแต่คนมารุมขอถ่ายรูป แต่แล้วชะตาถึงคราผกผัน ระหว่างที่พายกำลังหลงระเริงในเงินทอง และถือตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง วันนั้นเธอกำลังเดินแบบชุดฟินาเล่ราคาแพง จู่ๆ มีข่าวด่วนเรื่องการฟ้องล้มละลายบริษัทของสงกรานต์ ช่างภาพ และนักข่าวยิงคำถามรัวทันที พายช๊อค เจ็บปวดยิ่งกว่าคมกระสุนพุ่งผ่านอก เธอวิ่งหนีนักข่าวทั้งที่อยู่ในชุดฟินาเล่ ทำให้โดนแจ้งความจับข้อหาลักทรัพย์อีก พายเข้าตาจนวิ่งหนีนักข่าวจากห้างดังมาจนมุมในตลาดสด แม่ค้าพ่อค้าอึ้งกิมกี่สภาพนางฟ้าชุดฟินาเล่ที่วิ่งร้องไห้มาน้ำตาอาบแก้ม นักข่าว เจ้าของงานเดินแบบ ตำรวจแห่ตามมา พายตัดสินใจซื้อผ้าถุง และเสื้อคอกระเช้าจากร้านโชว์ห่วยแถวนั้นเปลี่ยน และฝากชุดไว้กับเจ้าของร้าน ก่อนจะหนีขึ้นแท็กซี่ไป หลังจากนั้น นักข่าวตามสัมภาษณ์ทุกที่ที่พายไป

พายทนกับกระจิบข่าวไฮโซที่ตอกย้ำถามคำถามซ้ำไปมาเรื่องฐานะอันง่อนแง่นไม่ไหว ตัดสินใจหลีกลี้หนีสังคมไฮโซไปหาเพื่อนรัก ทองหยอด (อธิชนัน ศรีเสวก) ที่ทำธุรกิจเล็กๆ เซอร์วิสรักษาความสะอาดให้กับฝรั่งในแถบพัทยา ตั้งใจจะนอนพักอาบแดดให้สาแก่ใจสักหลายๆ เดือนจนกว่าพ่อจะผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจ หรือไม่ก็จนกว่าเธอจะทำใจได้กับเรื่องแสนรันทดที่กำลังจะผ่านเข้ามาในชีวิต

ทองหยอดเป็นเฟมินิสต์สาววัยเดียวกันกับพาย พายอึ้งกับการกดขี่ทางเพศของทองหยอดที่มีต่อเพศชาย เพราะถึงจะไม่ใช่ทอมบอยแต่ทองหยอดก็เป็นพวกบ้าสิทธิสตรีแบบสุดโต่ง ทุกอย่างในบริษัทของทองหยอดต้องมีสโลแกนว่า “ผู้หญิงมาก่อน” ผู้หญิงได้พักกลางวันก่อน ผู้หญิงขึ้นลิฟต์แต่ผู้ชายต้องขึ้นบันได ผู้หญิงลาหยุดหากปวดท้องประจำเดือนได้ แต่ถ้าผู้ชายป่วยจะถือว่าอู้ ถ้าพนักงานชายในบริษัทถูกเนื้อต้องตัวพนักงานหญิงจะโดนปรับเพราะถือว่าลวนลามทางเพศ แต่พนักงานหญิงสามารถตบตีหรือแตะตัวพนักงานชายได้ เพราะถือว่าเป็นเพศแม่ ทองหยอดนั้น เชื่อมั่นว่าพระเจ้าสร้างสตรีมาให้อยู่เหนือบุรุษ ยึดถือคติหงส์ย่อมอยู่เหนือมังกรในทุกกรณี ซึ่งในช่วงแรกๆ พายก็เห็นด้วยกับทองหยอด เพราะเธอกำลังอยู่ในสภาพอกหักรักคุดจาก ลลิต (เขตต์ ฐานทัพ) ไฮโซหนุ่มเพลย์บอย ที่สลัดรักจากเธอไปหาดาราสาวอกตู้มแบบไม่เหลือเยื่อใยเมื่อรู้ข่าวการตกต่ำของครอบครัวพาย

ในขณะที่กำลังอยู่กับทองหยอดที่พัทยานั้น พายใช้เวลาว่างไปนั่งเล่นที่สำนักงานรักษาความสะอาดของทองหยอด ได้พานพบกับชีวิตพนักงานรักษาความสะอาดหลากหลาย ด้วยความไฮโซของเธอจึงอดส่งสายตาเหยียดหยามไปโดยไม่รู้ตัว เลยต้องปะทะคารมกับ ป๋าเดช (อนันต์ บุนนาด) โฟร์แมนคุมงานรักษาความสะอาด ผู้กร่างกล้าด่าทุกคนแม้แต่เจ้านายถ้าสั่งไม่ถูกใจ

เหตุการณ์วันนั้น เกิดขึ้นเพราะพายเห็นป๋านั่งฟุบหน้าอยู่กับพื้น พายไม่รู้ว่าป๋าเดชทำอะไรอยู่ แต่เพราะเห็นท่าทางสะเงอะสะงะเหมือนยังไม่สร่างเมา พายหลุดปากพูดลอยๆ เป็นเชิงดูถูก แต่หารู้ไม่ ป๋าเดชกำลังบรรจงขูดซากหมากฝรั่งออกจากพื้นอย่างแข็งขัน ป๋าเดชทนไม่ได้ ขูดเศษหมากฝรั่งอย่างแรงจนกระเด็นโดนพาย หลังจากนั้นศึกน้ำลายจึงเกิดขึ้น

พายโดนป๋าเดชกระแนะกระแหนสารพัด ด่ากันไปมาจนร้อนถึงชายหนุ่มหัวหน้าคนงาน นายสะอาด (ตะวัน จารุจินดา) ต้องเข้ามาห้ามทัพ ไม่อย่างนั้นคงมีสงครามตบตีระหว่างป๋าเดชกับสาวพายเป็นแน่แท้

นายสะอาดเป็นชายหนุ่มยิ้มแย้มร่าเริงอยู่เสมอ ทำงานคล่องแคล่วในทุกๆ เรื่อง เป็นที่รักของพนักงานทำความสะอาดทุกคนแม้แต่คนปากจัดอย่างป๋าเดช

นายสะอาดลากตัวพายมานั่งสงบสติในวัดเชิงเขาใกล้กับบริษัท พายโดนหลอกให้นั่งฟังพระเทศน์กว่าชั่วโมง คนอย่างพายวีนแหลกแหกกระเจิงได้ทุกคน ยกเว้นพ่อกับพระ เธอจึงนั่งบิดตัวปวดขาพลางนึกก่นด่านายสะอาด นายสะอาดรู้สึกยังไม่สาแก่ใจแอบซุบซิบกับหลวงพ่อเพื่อออกอุบายให้พายได้ชำระจิตใจ หลวงพ่อออกปากบิณฑบาตพายให้ล้างส้วมวัด คำพ่อสงกรานต์ที่เคยสอนพายคือ “สิ่งใดที่พระขอบิณฑบาต ถ้าเต็มไปด้วยกรรมดี และการทำดี ขอให้ปฏิบัติทุกครั้ง” คำพูดนั้นลอยอยู่เหนือหัวเธอ และมีน้ำหนักมากพอจนทำให้พายก้มหน้ารับคำพระ

พายล้างส้วมไป มีเสียงเทศน์จากนอกห้องน้ำ พายนึกว่าเป็นพระมาเทศน์ระหว่างทำงาน ที่ไหนได้เป็นนายสะอาดมาหลอกด่า

แค้นฝังหุ่นระหว่างพายกับนายสะอาดครั้งนี้ ทำให้พายเอาเรื่องมาฟ้องทองหยอด แต่ทองหยอดผู้ยึดมั่นสิทธิสตรีกลับถือว่าดีซะอีกที่ผู้หญิงอย่างพายจะได้ขึ้นสวรรค์เพราะทำงานได้บุญกว่าผู้ชายมากนัก

ความสัมพันธ์ระหว่างพายกับนายสะอาดไม่น่าจดจำนัก เพราะนายสะอาดเข้ามายั่วเย้าทักทายพายในฐานะไฮโซที่กำลังจะตกอับ นายสะอาดบอกว่าแม้เขาจะเป็นแค่หัวหน้าคนทำความสะอาด แต่รักการอ่านข่าวก๊อดซิปเป็นชีวิตจิตใจตามข่าวพายมาโดยตลอด

นายสะอาดแกล้งประจานพาย เมื่อสบโอกาสวันหนึ่ง อาคารที่ต้องไปทำความสะอาดอยู่ระหว่างการทาสีตัวอาคาร นายสะอาด ป๋าเดช และชาวคณะมีหน้าที่ทำความสะอาดกระจก จึงต้องใช้หนังสือพิมพ์มาปิดกระจกเพื่อไม่ให้ถูกสีกระเด็นใส่ แต่หนังสือพิมพ์ที่นายสะอาดและพรรคพวกหามาแปะคือหนังสือพิมพ์ข่าวกอสซิปของพายล้วนๆ ผู้คนในพัทยาเดินผ่านไปมาได้อ่านข่าวซุบซิบที่เหมือนบิลบอร์ดขนาดใหญ่ พายเดินมาเจออย่างจัง ชาวบ้านเห็นหน้าพายเป็นคนๆ เดียวกับในข่าว ต่างอื้ออึง พายพยายามรื้อหนังสือพิมพ์ทิ้ง แต่ไม่ทันใจจรวด พายฉวยไม้ขีดก้านเดียวจากแผงไก่ย่างใกล้ๆ โยนไฟใส่หนังสือพิมพ์จนวายวอด อาการวีนแตกตูมใหญ่ยังความสยองให้กับนายสะอาดเป็นอย่างยิ่ง

พายวางตัวเย่อหยิ่งสูงกว่าทุกคนในสำนักงานเพราะถือว่าเป็นเพื่อนเจ้าของ บางครั้งยังจิกตีชี้นิ้วสั่งยิ่งกว่าทองหยอดซะอีก สร้างความหมั่นไส้ให้กับพนักงานทำความสะอาดทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ป๋าเดช กระท้อน (ต๋อง ชวนชื่น) และ ส้มฉุน (อุ่นเรือน ราโชติ) ยังดีที่มีนายสะอาดคอยห้ามทัพไม่ให้สาวพายโดนรุมประชาทัณฑ์จากทุกๆ คน โดยทำให้เป็นเรื่องน่าขบขันในความไฮโซของสาวพาย พนักงานรักษาความสะอาดทุกคนต่างจดจำฝังใจ แค้นฝังหุ่นสาวไฮโซเป็นอย่างยิ่ง เข้าทำนองความแค้นนี้...สิบปีค่อยสะสางก็ยังไม่สาย

เมื่อจัดการต่อหน้าไม่ได้ กระท้อน และส้มฉุนแอบปั้นหุ่นดินเผาเป็นตัวพาย พยายามสวดแช่งพาย ซึ่งบางครั้งเหมือนจะได้ผล เช่นส้มฉุนหักขาหุ่น ปรากฏว่าพายตัวจริงใส่ส้นสูงเดินตกร่องจนขาแพลง ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเพราะป๋าเดชแอบเซาะร่องที่พื้นแล้วปูกระดาษทับไว้เป็นกับดักจัดการพาย

เมื่ออยู่กับทองหยอดไปเรื่อยๆ พายเห็นความน่ารักของนายสะอาดมากยิ่งขึ้น เขาสามารถรับลูกค้าได้ทุกรูปแบบ ถ้าเป็นลูกค้าฝรั่ง นายสะอาดจะมีโปรโมชั่นพาไปเที่ยวบาร์เบียร์หลอกล่อให้ลูกค้าเซ็นสัญญาร่วมงานต่อ ถ้าเป็นลูกค้าจีนนายสะอาดจะพาไปเที่ยวสวนเสือ และให้กินซุปตัวเดียวอันเดียว ลูกค้าจีนต่างประทับใจจ้างงานต่อ ซึ่งในการเอนเตอร์เทนลูกค้าทุกครั้งนายสะอาดจะหลอกล่อพายจนติดกับ และติดแหง่กไปกับเขาด้วยทุกครั้ง

ที่บาร์เบียร์พายโดนหลอกให้แต่งตัวเป็นเด็กเชียร์เบียร์ ที่สวนเสือ พายโดนหลอกให้ไปอยู่ในกรงเสือ พายร้องไห้จะปีนกรงหนี แต่ปรากฏว่ากรงนั้นเป็นกรงลูกเสือ ทำให้พายเริ่มมีความสุข เห็นความน่ารัก และน่าหมั่นไส้ของนายสะอาดมากขึ้น นายสะอาดทำงานเก่งจนทองหยอดเองถึงกับเอ่ยปากชม ช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานในทุกระดับชั้นตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ นายสะอาดชอบผันตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้องกับพายอยู่เนืองๆ สร้างทั้งรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ แม้ว่าเขามักจะโดนเธอด่าแบบใส่คะแนนไม่ทันทุกครั้ง

แต่แล้วเหมือนชะตาเล่นตลก เมื่อ สงกรานต์ พ่อของพายถึงคราวตกอับต้องถูกเทคโอเวอร์ธุรกิจทั้งหมดโดย งานศิลป์ (ตะวัน จารุจินดา) นักธุรกิจหนุ่มจากบริษัทข้ามชาติ ไม่เหลือแม้แต่ตึก พายสแควร์ อาคารสำนักงานที่สงกรานต์ตั้งชื่อเพื่อเป็นที่ระลึกให้กับพายลูกสาวคนเดียว สมบัติชิ้นสุดท้ายของสงกรานต์ต้องถูกยึดไปเป็นทรัพย์สินของงานศิลป์

เมื่อเรื่องราวเข้าตาจนถึงเพียงนี้ พายถึงกับฉุนขาดกลับกรุงเทพฯ ทันที บันดาลโทสะพาตัวเองเดินเข้าไปเอาเรื่องงานศิลป์ถึงในออฟฟิศ เพราะเชื่อว่าเขาต้องใช้เล่ห์กลจนทำให้พ่อของเธอต้องขายธุรกิจให้ การบุกเข้าอาละวาด และวีนแหลกครั้งนี้ทำเอาพนักงานในบริษัทงานศิลป์แตกตื่นกันเป็นแถว เพราะพายเล่นบุกมาในวันที่บริษัทกำลังทำพิธีตัดริบบิ้น พายเดินขึ้นเวที ฉวยกรรไกรมาตัดเอง แล้วคว้าไมค์จากโพเดียมประกาศท้าทายงานศิลป์กลางเวที

แต่การบุกไปเอาเรื่องของพายครั้งนี้กลับไม่เป็นผล งานศิลป์ไม่ยอมออกมาพบ เพียงแค่ยอมให้คุยกับ ดีดี้ (ณัฐฐา ลอยด์) เลขาส่วนตัววัยป้าของเขา สิ่งหนึ่งที่พายรู้สึกในทันทีที่เจรจาธุรกิจกับดีดี้ก็คือ งานศิลป์เป็นผู้บริหารที่มีนิสัยใจแคบ คิดแต่จะเอาชนะในเกมธุรกิจอย่างเดียวเรื่องอื่นไม่สน ดีดี้บอกพายว่างานศิลป์ สบประมาทพายว่าเป็นได้แค่ไฮโซลืมตัวไม่เห็นหัวคน ชีวิตนี้ไม่มีทางประสบความสำเร็จในการทำงานได้แน่สงกรานต์ทำธุรกิจเจ๊งก็เพราะมีลูกสาวไม่เอาถ่านอย่างพาย พายโมโหจัดสรรหาคำมาก่นด่างานศิลป์สารพัด จนคิดว่าสาแก่ใจแล้ว เธอจึงกลับบ้านไปปลอบสงกรานต์ผู้เป็นพ่อ

หลังจากนั้นเพียงวันเดียว พายได้รับการติดต่อจากดีดี้อีกครั้ง แจ้งว่างานศิลป์ยื่นคำท้า ต้องการให้พายเข้ามาทำงานเป็นพนักงานรักษาความสะอาดของตึกพายสแควร์ร่วมกับบริษัทรักษาความสะอาดของทองหยอด โดยไม่มีอภิสิทธิ์ใดๆ ทั้งสิ้น ต้องทำงานในระดับล่างสุด

หากพายทำได้นานเกินหนึ่งปี และมีผลงานเป็นที่พอใจ งานศิลป์จะพิจารณาแบ่งหุ้นบริษัทในเครือของสงกรานต์คืนให้จำนวนหนึ่ง แต่ยังไม่วายลงท้ายว่าไฮโซเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่ออย่างพาย นิสัยจับจดจนไม่มีทางลดตัวลงมาเป็นเมททำความสะอาดตึกแน่ๆ

พายโกรธจนลมแทบออกหู รู้สึกเหมือนโดนดูถูกครั้งยิ่งใหญ่ เธอจึงตกปากรับคำไปอย่างไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง !

พายเข้ามาเป็นพนักงานรักษาความสะอาดร่วมกับบริษัททองหยอดในตึกพายสแควร์ที่เป็นชื่อตัวเอง จากที่เคยใส่ชุดหรูราคาแพง พายต้องเปลี่ยนมาใส่ชุดพนักงานรักษาความสะอาด มีผ้าโพกผม ใส่ถุงมือยาง รองเท้าบู๊ตชาแนลเปลี่ยนเป็นบู๊ตหนีน้ำท่วมรับประกันยี่ห้อโชว์ห่วย พายเดินผ่านกระจกแทบเป็นลม สาวสวยหลุดจากแค๊ตวอล์กบัดนี้มีสภาพไม่ต่างจากสาวไร่อ้อย ต้องคอยวิ่งหลบนักข่าวไม่ต่างจากแรงงานต่างด้าววิ่งหนีตำรวจ การทำงานแต่ละวันไม่ได้ผ่านไปอย่างสงบสุข มีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย บริษัทที่เช่าพื้นที่อาคารแต่ละบริษัทก็มีปัญหาแตกต่างกันออกไป

ปัญหาแรกที่พายต้องประสบคือการเอาคืนจากเพื่อนร่วมงานโจทย์เก่าที่เคยจิกตีเอาไว้ เริ่มจากป๋าเดชที่ถือว่าขณะนี้พายเป็นลูกน้องโดยตรง จึงชี้นิ้วสั่งงานทุกอย่างตั้งแต่ล้างห้องน้ำ เทขยะ ขัดโถส้วม โดยไม่ยอมให้ใครช่วย แม้แต่ทองหยอดก็ไม่กล้าขัดเพราะการทำงานทุกครั้งโดนตรวจสอบโดยดีดี้อย่างใกล้ชิด พายต้องอดทนทำไปทั้งน้ำตา...เศร้ายังไงก็ไม่อยากให้ใครเห็น

กระท้อนกับส้มฉุนเริ่มมาตรการเอาคืนอย่างสาสม เมื่อแกล้งให้พายต้องอยู่เวรทำงานใน กะสุดท้ายก่อนตึกจะปิด แล้วปิดล็อกขังสาวพายไว้ในอาคารพร้อมๆ กับสร้างเรื่องโกหกเกี่ยวกับฆาตกรโรคจิตที่แอบแฝงตัวอยู่ในตึกแห่งนี้ ทำเอาสาวไฮโซที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะกลัว กลับต้องหวาดผวาวิ่งหนีกระเจิดกระเจิงจนต้องมาล้มอยู่ในอ้อมกอดของนายสะอาด ทำเอาพายต้องทั้งเจ็บใจ และเจ็บข้อเท้าแทบพลิกในตอนที่วิ่งหนีในกลางดึก

นอกจากนี้...พายยังต้องกล้ำกลืนฝืนทนกับสายตาดูถูกของคนที่เคยรู้จักสมัยยังไฮโซ แต่ในตอนนี้มองเธอด้วยสายตาเหยียดหยามราวกับไม่ใช่เพื่อนร่วมโลก พายกลั้นน้ำตาแห่งความเจ็บช้ำไว้เพื่อพิสูจน์ตนเองจากคำสบประมาทของงานศิลป์เจ้าของอาคารคนใหม่ที่เธอไม่เคยเห็นหน้า และเพื่อสัญญาที่งานศิลป์เซ็นไว้ว่าจะยอมให้สงกรานต์กลับมาเป็นหุ้นส่วนบริษัทฯ อีกครั้ง

ท่ามกลางความเศร้า และกดดันสารพัด พายได้กำลังใจจาก นายสะอาด หนุ่มอารมณ์ดีชี้ชวน พามองโลกที่พายเคยคิดว่าสีดำให้กลายเป็นสีเทาที่สดใสอยู่บ้าง...

เงินที่ต้องใช้อย่างอดออม ทำให้พายต้องเลิกไปกินข้าวตามร้านอาหาร พายทำกับข้าวใส่ปิ่นโตมากินตอนกลางวัน แต่ไม่มีเพื่อนร่วมงานคนไหนยอมกินกับพายเพราะความรังเกียจ และตั้งแง่ ยกเว้น...นายสะอาดคนเดียว นายสะอาดมักมีปิ่นโตที่มีอาหารดีๆ แปลกๆ ชนิดคนธรรมดายังหากินไม่ได้ สะอาดอ้างว่าได้มาจากของเหลือประชุมจากบริษัทที่เช่าตึกนี้ และทุกครั้งสะอาดนำอาหารมาแบ่งพายกินด้วยเสมอ

นายสะอาดมีส่วนช่วยพายในการทำงานอยู่ไม่น้อย เรียกได้ว่าเป็นทั้งพี่เลี้ยง เป็นทั้งเพื่อน รวมทั้งเป็นกระโถนท้องพระโรงให้พายคอยลับฝีปากยามว่าง ความสัมพันธ์ของทั้งคู่งอกเงยมากขึ้น

ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวพาย มักจะเกิดจากบุคคลต่างๆ อันได้แก่

อนงค์ ผู้จัดการอาคารสาวซึ่งคอยตามหาเรื่องพายอยู่ตลอดเวลาราวกับได้รับคำสั่งโดยตรงจากงานศิลป์ หลายครั้งที่อนงค์ใช้ไม้เด็ด แต่งตัวเหมือนพายสมัยก่อน ทำหน้าทำตาเหมือนพายสมัยก่อน และทำกิริยาเหมือนพายเมื่อสมัยก่อน คือวีนแตก ไม่พอใจปัดข้าวของทิ้ง ช้าไม่ทันใจเจอด่า พายน้ำตาตกในเหมือนได้เห็นตัวเองในกระจก แต่ก็อดหมั่นไส้ไม่ได้เพราะอนงค์ดูท่าจะตามจองล้างจองผลาญผิดสังเกต

เฟียซ (ชมพูนุช ปิยะธรรมชัย) แฟนสาวไฮโซของงานศิลป์ซึ่งคอยใช้อำนาจข่มเหงเธอสารพัด รวมทั้งทำตัวเป็นเจ้าของทรัพย์สินทุกอย่างของงานศิลป์ ชี้นิ้วออกคำสั่งในทุกเรื่อง เฟียซเคยมองพายว่าเป็นคู่แข่ง สมัยที่ทั้งสองคนยังเป็นเซเลบริตี้คนดังของสังคม แต่เมื่อพายตกอับ เฟียซจึงกลั่นแกล้งพาเพื่อนไฮโซที่เคยรู้จักพาย นักข่าว หรือไม่วายกระทั่งหนังสือไฮโซมาทำคอลัมน์ที่ตึกพายสแควร์ เพื่อตอกย้ำฝังดินไม่ให้พายได้ผุดได้เกิด

มะขาม (วรเชษฐ์ นิ่มสุวรรณ) และ กาแฟ คนสนิทของคุณป้าดีดี้ที่คอยตามแกล้งไม่ให้พายทำงานอย่างสงบสุข พายจึงต้องระวังตัวเอง การทำงานและการพิสูจน์ใจตัวเองยากขึ้นเป็นทวีคูณ

แต่จนแล้วจนรอด พายไม่เคยพบหน้างานศิลป์จังๆ เลยสักครั้ง ระหว่างเขาและเธอเหมือนเป็นแม่เหล็กคนละขั้ว อยู่คนละทิศละทางเสมอ...

วันใดที่เธอเข้าทำงานเช้า งานศิลป์ก็จะเข้ามาทำงานในตอนกลางคืน ครั้นวันไหนที่เธอทำงานตอนกลางคืน เขาก็จะเข้าทำงานในเวลากลางวัน ยังความแปลกใจให้กับพายอยู่ไม่น้อย...

เมื่อมาทำงานทำความสะอาดในตึกพายสแควร์ พายพบว่าความจริงแล้วกิจการของงานศิลป์ไม่ได้อยู่ในอำนาจการตัดสินใจของเขาคนเดียว หลายๆ เรื่องมีการขัดแย้งกันรุนแรงกับ ไทธวัช (สิริคุปต์ เมทะนี) ผู้เป็นอา ซึ่งสังคมไทยกำลังตั้งคำถามอยู่เสมอว่าใครกันแน่ที่เป็นคนกุมอำนาจที่แท้จริงในกิจการข้ามชาติของงานศิลป์ และไทธวัชดูเหมือนจะสนิทสนมกับเฟียซมากกว่างานศิลป์เสียอีก เพราะลับหลังงานศิลป์ ไทธวัชคือชู้รักของเฟียซผู้ซึ่งหวังจับปลาสองมือ ถ้าไม่ได้หลานก็ต้องได้อา ยังไงก็รวยทั้งคู่ ส่วนไทธวัชเองก็คบเฟียซเพื่อสืบความลับของงานศิลป์ไปในตัวด้วย

งานศิลป์ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้ความสัมพันธ์ลับนี้ แต่เขายังหาทางเปิดเผยไม่ได้ เพราะภารกิจ”ฟอกหัวใจขาวสะอาด”ของเขานั้นสำคัญยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น

เมื่อกลั่นแกล้งพายไปเรื่อยๆ เหล่าพนักงานรักษาความสะอาดกลับต้องรู้สึกเห็นใจสาวไฮโซอย่างพาย บางครั้งป๋าเดชแอบไปเห็นสาวพายนั่งร้องไห้คนเดียว กระท้อนกับส้มฉุนแอบเห็นพายต้องเป็นลมล้มทั้งยืนกลางแดดบนดาดฟ้าหลายครั้ง เมื่อโดนทั้งคู่แกล้งให้ทำความสะอาดพื้นตอนเที่ยงคนเดียวซ้ำๆ ซากๆ

นายสะอาดทนไม่ได้ต้องเรียกคนทั้งหมดมาอบรม และตามพายมาเปิดใจขอโทษเพื่อนร่วมงานถึงเรื่องความผิดในอดีต ตอนแรกพายไม่ยอมทำตามคำแนะนำของนายสะอาด แต่ต่อมาเธอจำใจต้องทำเพราะไม่มีทางเลือก เมื่อเห็นแววตากดดัน และเศร้ากับชะตากรรมของพาย ทำให้เหล่าผู้พิทักษ์ความสะอาดรู้สึกผิดขึ้นมาบ้าง รู้ตัวว่าเล่นงานพายแบบเอาคืนมากจนเกินไป

หลังจากนั้นรอบตัวพายจึงมีมิตรภาพเกิดขึ้น พายไม่ต้องกินข้าวปิ่นโตกลางวันคนเดียวอีกต่อไป เธอมีเพื่อนที่พร้อมจะแบ่งกับข้าว แม้ว่ากับนั้นจะมีเพียงไข่ต้มก็ตาม เธอมีโอกาสรู้จักชีวิตส่วนตัวของเพื่อนพนักงานทำความสะอาดหลายคน ซึ่งต่อมากลายเป็นเหมือนมิตรแท้ พายเรียนรู้บุคลิกซ่อนเร้นของคีย์แมนผู้พิทักษ์ความสะอาดคนสำคัญอย่าง...

ป๋าเดช เธอรู้ว่าเขาเป็นโฟร์แมนคุมงานรักษาความสะอาดที่ชอบทำตัวกร่างไปอย่างนั้นเอง แต่ความจริงมีจิตใจดี ขี้โม้ปากจัดชอบด่าประชดแต่มีจุดอ่อนอยู่ที่บ้ายอ พายสร้างมิตรกับป๋าเดชได้โดยไม่ยาก เมื่อวันหนึ่งป๋าเดชไม่มาทำงาน ทุกคนเป็นห่วงจนต้องตามไปดูที่บ้าน พายอึ้งกับสภาพบ้าน และชีวิตตัวคนเดียวของป๋าที่แม้ยามล้มป่วยก็ไม่มีใครดูแล พายเช็ดตัวให้ป๋าเดชอย่างไม่รังเกียจ นายสะอาด ส้มฉุน และกระท้อนที่มาด้วยกันถึงกับศรัทธาน้ำใจของพาย และเมื่อรู้จักชีวิตป๋าเดชมากขึ้น...เธอกลับเห็นใจเพราะรู้ว่าป๋าเดชโดนลูกสาวคนเดียวตัดขาดไม่ใยดี เพราะเกลียดพ่อที่ทำให้แม่ตาย

ส่วน กระท้อน และ ส้มฉุน มีจุดเด่นที่มักจะเอาชนะอุปสรรคทุกอย่างด้วยรอยยิ้ม… มีเงินก็ยิ้ม… ไม่มีเงินก็ยิ้ม… โดนด่าก็ยิ้ม… หรือแม้แต่ป่วยไข้อาการปางตายยังยิ้ม ! แต่คนทั้งคู่มักมีปัญหายามสิ้นเดือน เพราะรายได้ชักหน้าไม่ถึงหลัง เดือนๆ วุ่นวายสาละวนไปกับการเสี่ยงโชคซื้อสารพัดหวย หวังจะรวยเพื่อเอารายได้ไปจุนเจือพ่อแม่ที่อยู่บ้านนอก

การทำงานที่ผ่านไปแต่ละวันทำให้พายเรียนรู้ชีวิตมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ในมิตรภาพ ความเข้มแข็ง การไม่ทำตัวเอาแต่ใจ และการเอาชนะความใจร้อนของตัวเอง

สงกรานต์พ่อของพายเองเมื่อชีวิตตกต่ำทำให้เขารู้จักชีวิตมากยิ่งขึ้น เขาผันตัวเองมาเปิดแผงก๋วยเตี๋ยวต้มยำข้างตึกพายสแควร์อย่างไม่เคอะเขิน ยินดีที่จะใช้ชีวิตพอเพียง ทำงานหาเงินแบบคนติดดินโดยไม่รู้สึกว่าตัวเองไร้เกียรติเลยแม้แต่น้อย

แผงก๋วยเตี๋ยวของสงกรานต์เป็นที่ชุมนุมของเหล่าบรรดาพนักงานรักษาความสะอาดของอาคารสำนักงานต่างๆ โดยรอบพายสแควร์ เป็นเหมือนสภาคนจนย่อมๆ ที่มีผู้ใหญ่รู้จักคิดอย่างสงกรานต์ให้คำปรึกษาที่ดีในทุกเรื่อง มีนายสะอาดวางแผนชีวิตที่ดีให้กับทุกคน พายเองเมื่อเสร็จจากงานรักษาความสะอาดภายในตึก เธอก็มาช่วยพ่อขายก๋วยเตี๋ยว เสิร์ฟน้ำ ล้างชาม และแน่นอนจะต้องมีนายสะอาดอยู่เคียงข้างเสมอไม่ห่าง

พายกับนายสะอาดมีโอกาสช่วยปัญหาชีวิตพนักงานทำความสะอาดอย่างป๋าเดช ให้เลิกหมกมุ่นกับการกินเหล้าเพื่อลืมปมความทุกข์ในชีวิต สร้างโอกาสทำให้ป๋าเดชมีโอกาสปรับความเข้าใจกับ ปิ่น ลูกสาวคนเดียวที่หนีออกไปจากบ้านเพราะคิดว่าแม่ตายเพราะพ่อ แต่ความจริงแล้วป๋าเดชแสดงความรักกับคนใกล้ตัวไม่เป็นต่างหาก เหตุการณ์นี้สร้างความประทับให้กับป๋าเดชเป็นอย่างมาก ประกาศว่าพายกับสะอาดเป็นมิตรแท้ของป๋าจริงๆ

กระท้อนกับส้มฉุนได้รับความช่วยเหลือจากพาย และสะอาด แก้ปัญหารายได้ชักหน้าไม่ถึงหลังไม่รู้จักจบจักสิ้น ทั้งพาย และสะอาดสอนให้กระท้อนกับส้มฉุนรู้จักเก็บเงิน ส้มฉุน และกระท้อนรับลูกชิ้นจากร้านสงกรานต์ไปปิ้งขาย ใส่ถาดเดินเดลิเวอรี่ในย่านตึกพายสแควร์หลังเลิกงาน กลายเป็นรายได้เสริมจนมีรายได้เพิ่มเป็นกอบเป็นกำมีเงินเก็บมากขึ้นเรื่อยๆ

ช่วงนี้เองที่ระหว่างนายสะอาดและพายได้เรียนรู้ใจซึ่งกัน และกัน โดยทั้งคู่ยังไม่ยอมรับใจตัวเองเลยแม้แต่น้อย...

พายเอาเรื่องนายสะอาดมาปรึกษาทองหยอดที่ย้ายออฟฟิซมาอยู่ในกรุงเทพฯ อยู่บ่อยๆ ทองหยอดบอกให้พายยอมรับใจตัวเองว่ารู้สึกลึกซึ้งกับนายสะอาดเพียงใด แต่พายบ่ายเบี่ยงยังทำใจไม่ได้ที่จะรักคนต้อยต่ำอย่างนายสะอาด และอีกประการหนึ่งก็คือ...พายรู้สึกว่านายสะอาดมีอะไรบางอย่างที่ดูลึกลับ ต้องค้นหาอยู่ตลอดเวลา

นอกจากพายจะมีทองหยอดเป็นที่ปรึกษาซึ่งเป็นเพศเดียวกันแล้ว เธอยังมีเพื่อนใหม่ในโลกอินเตอร์เนต ไซเบอร์สเปซ “มิสเตอร์แปะแป๊ะ” หนุ่มใหญ่ชื่อประหลาดที่ไม่ยอมเปิดเผยตัว คอยให้คำแนะนำกับเธอในทุกๆ เรื่อง ตอนแรกพายคิดว่ามิสเตอร์แปะแป๊ะเป็นอาแป๊ะแก่ๆ แต่พอคุยกันนานเข้าจึงได้รู้ว่าแปะแป๊ะเป็นภาษาจีนที่แปลว่า “ข๊าวขาว” หรืออีกนัยหนึ่งคือ “ขาวสะอาด” นั่นเอง

พายปรึกษามิสเตอร์แปะแป๊ะจนสนิทสนมกันมากแม้จะไม่เคยเห็นหน้า เธอกล้าปรึกษาทั้งเรื่องการงาน และเรื่องของหัวใจ นับวันเธอยิ่งรู้สึกผูกพันกับมิสเตอร์แปะแป๊ะเหมือนเป็นญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง...

นายสะอาดมีโอกาสช่วยไฮโซหนุ่มลลิตจากการคิดฆ่าตัวตายโดยบังเอิญ ลลิตต้องหมดสภาพเพลย์บอยเพราะกิจการครอบครัวล้มละลาย โดนเพื่อนรอบข้าง และสาวที่เคยติดพันเฉดหัวทิ้ง จากข้อคิดของนายสะอาดเกี่ยวกับความรักทำให้ลลิตได้คิด ถึงกับยกให้นายสะอาดเป็นเพื่อนแท้คนหนึ่ง

วันหนึ่งลลิตมาเยี่ยมนายสะอาดที่บริษัทรักษาความสะอาดทองหยอด ลลิตพบกับพายอีกครั้ง ภาพความสัมพันธ์อันหวานชื่นระหว่างเขา และเธอ กลับเข้ามาในความทรงจำลลิต เขาตระหนักว่าไม่เคยลืมความรักที่มีให้พายเลย ตั้งแต่นั้นลลิตพยายามตามง้อพายอยู่ตลอดเวลา หวังจะฟื้นความสัมพันธ์เก่าระหว่างเขา และเธอกลับมา

จิตใจพายแกว่งไปไม่น้อยเมื่อคิดถึงอดีตระหว่างเธอกับลลิต ร้อนถึงทองหยอดต้องมาออกโรงตีกันลลิตอยู่บ่อยๆ ยังความโกลาหลให้กับทุกสถานที่หน่วยรักษาความสะอาดไปปฏิบัติงานทุกครั้ง เพราะเพลย์บอยต้องปะทะกับเฟมินิสต์สาวอย่างดุเดือดเลือดพล่าน

แต่ใครจะรู้ว่าในความดุเดือดเลือดพล่าน...สร้างปมประทับใจภายในหัวใจให้กับเพลย์บอยหนุ่มกับเฟมินิสต์สาวโดยไม่ได้ตั้งใจ

ลลิตขอร้องให้นายสะอาดช่วยเชียร์เขากับพาย โดยไม่รู้เลยว่าความจริงแล้วนายสะอาดมีใจให้กับผู้หญิงคนนี้เหมือนกัน นายสะอาดพยายามทำตัวเป็นเพื่อนที่ดี คิดวางแผนทำให้พายใจอ่อนกับลลิตหลายครั้ง แต่ดูเหมือนทุกครั้งโชคชะตาจะดลบันดาลให้เขากับพายสัมพันธ์กันแนบแน่นมากยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะครั้งหลังสุดที่นายสะอาดวางแผนให้ลลิตกับพายไปติดในถ้ำใหญ่แห่งหนึ่งกลางป่าปากช่อง แต่กาลกลับกลายเป็นสะอาดเองที่ต้องไปติดกับพายท่ามกลางบรรยากาศอันแสนโรแมนติกนั้นแทน

คืนวันนั้นนายสะอาดกับพายจึงรู้ซึ้งถึงหัวใจตัวเอง...สารภาพความในใจที่มีให้กัน นายสะอาดเอ่ยปากกับพายว่ามีความลับอย่างหนึ่งจะบอก แต่ก่อนจะเอ่ยปากเสียงกรี๊ดก็แผดขึ้นดังลั่นป่า... เฟียซแฟนสาวไฮโซของงานศิลป์นั่นเอง

เฟียซปราดมากระชากพายออกจากอ้อมกอดของนายสะอาด พร้อมทั้งประกาศว่า นายสะอาด กับ งานศิลป์ คือคนๆ เดียวกัน เธอยอมไม่ได้ที่พายจะมาแย่งคนรักของเธอ

พายหน้าชา โลกทั้งโลกหมุนติ้วเหมือนหัวใจกำลังจะหลุดออกจากร่าง ผู้ชายคนที่เธอเพิ่งรู้ว่ารักเขากลับกลายเป็นผู้ชายคนที่หลอกลวง เข้ามาทำงานรักษาความสะอาดก็เพื่อจับผิดเธอ

“นายสะอาด” ก็คือ “งานศิลป์” ผู้สร้างปัญหาให้เธอกับพ่อมาโดยตลอด หนำซ้ำพายยังรู้อีกว่า “มิสเตอร์แปะแป๊ะ” ที่ปรึกษาของเธอในอินเตอร์เนต ไม่ใช่ใครที่ไหน...ก็คือ “นายสะอาด” นั่นเอง

พายร้องไห้จนแทบจะไม่เหลือน้ำตา แม้ลลิตจะเข้ามาปลอบโยน และอาสาเป็นคนรักษาแผลหัวใจนี้ให้เธอ แต่เธอจำต้องปฏิเสธอย่างไม่เหลือเยื่อใย เพราะหัวใจของเธอไม่เหลือให้ใครอีกแล้ว นอกจากผู้ชายอารมณ์ดีที่ชื่อ นายสะอาด เพียงคนเดียว

งานศิลป์ หรือ นายสะอาด ทำงานทุกอย่างตามคำสั่งในพินัยกรรมของพ่อ โดยไม่ได้คิด และเฉลียวใจเลยว่าทุกอย่างที่เขากำลังทำอยู่ถูกชักใยโดย ไทธวัช อาต่างมารดาของพ่อ ผู้ที่คอยหวังจะฮุบสมบัติทั้งหมดมาอยู่ในมือ

ในที่สุดงานศิลป์กับพายต่างรู้ว่าขาดกันไม่ได้ เขา และเธอมีทั้งความต่าง และความเหมือน เป็นส่วนผสมที่ลงตัว งานศิลป์ตัดสินใจจะคืนทุกอย่างให้พายโดยไม่ฟังคำคัดค้านของเฟียซ และไทธวัชเลย เขานัดพายมาเคลียร์ปัญหาต่างๆ ที่ถ้ำเดิมซึ่งเขา และเธอเรียนรู้ใจซึ่งกัน และกัน

แต่แล้วโดยที่ไม่คาดคิด งานศิลป์ถูกไทธวัชกับเฟียซร่วมมือกันลอบทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสที่ถ้ำนั้น โชคดีที่พายตามมาช่วยชีวิตงานศิลป์ไว้ได้อย่างหวุดหวิด หลังจากพายช่วยชีวิตงานศิลป์ และคอยเฝ้าดูแล ความรู้สึกดีที่ทั้งคู่มีให้กันกลับมาสู่หัวใจอีกครั้ง งานศิลป์ และพายเริ่มลดทิฐิที่มีต่อกัน ยอมรับความรู้สึกที่มีต่อกัน และกันว่าคือ....ความรัก

ท้ายที่สุดงานศิลป์ร่วมมือกับพายเอาผิดไทธวัช และเฟียซได้ในที่สุด กำแพงระหว่างความคิดและทิฐิพังทลายลง

กิจการของสงกรานต์ที่งานศิลป์ยึดมาเป็นของตัวได้รับการต้อนรับผู้บริหารคนใหม่ ซึ่งก็คือคนเดิมที่สร้างกิจการนี้มา...

สงกรานต์กลับมาพร้อมกับผู้ช่วยลูกสาวสวย

พาย...วันนี้เปลี่ยนเป็นคนใหม่ รู้จักชีวิต ให้เกียรติกับคนรอบข้างแม้ว่าจะมีฐานะต่ำชั้นกว่าเธอพร้อมใจจะเคียงข้างกับผู้บริหารหนุ่มไฟแรง...ผู้ทำให้เธอรู้จักชีวิต รู้จักใช้ชีวิตในมุมมองที่สวยงาม

“นายสะอาด” ... “มิสเตอร์แปะแป๊ะ” ... หรือ “งานศิลป์” ผู้ชายสารพัดชื่อแต่มีใจเดียวที่มอบให้เธอจนหมดแล้ว

ชีวิตไฮโซสาวแสนสวยกับนักธุรกิจหนุ่มอารมณ์ดี มีบทสรุปสวยงาม

ความรักที่สดใส...มีค่ามากกว่าสิ่งใด

สวย แสบ ซิ่ง 2552

เรื่องย่อ : สวย แสบ ซิ่ง (2552/2009) เปรียวปราย กำลังเรียนปริญญาตรี สาขาบริหารธุรกิจ เปรียวเป็นขาลุยที่มีอุดมการณ์ของการเป็นแท็กซี่ ยามว่างวันเสาร์-อาทิตย์ เธอก็จะเอารถแท็กซี่ไปขับหาเงินเพื่อช่วย นางลำไย แม่ของเธอ ซึ่งเปิดร้านชำเล็กๆ เพื่อหารายได้ไปวันๆ และชอบมีขาเมาท์ประจำหมู่บ้านหลายคนมาชุมนุมหน้าบ้านของเปรียว หนึ่งในจำนวนนั้นก็คือ เจ๊สมร อยู่ด้วย เจ๊สมร ชอบมานั่งที่ร้านเพื่อรับแทงหวย และเดินโพยหวยให้กับนายทุนใหญ่ที่ชื่อ อภิเดช เปรียวมี สิบตำรวจตรีทนง ตำรวจสังกัดงานจราจรประจำสำนักงานแห่งหนึ่งเป็นคู่ปรับ ทนง กำลังเรียนด้านกฎหมายและใกล้จบ โดยวางแผนจะสอบเป็นนายร้อยตำรวจ เขามีคู่ปรับคือ เชิงชาย ซึ่งเป็นนักข่าวอาชญากรรม และแอบชอบเปรียว พ่อแม่ของ ทนง คือ นายเส และนางมูล ทั้งสองเป็นหนี้ธนาคาร และหนี้นอกระบบอีกมากมาย จึงทำให้ทนงต้องเร่งเรียนให้จบเพื่อจะได้เลี้ยงพ่อกับแม่ ซึ่งทนงเองก็สามารถสอบเลื่อนยศได้เป็นร้อยตำรวจตรี ทนงได้มีโอกาสเข้ามาปฏิบัติการลับของทางราชการ โดยมี จ่าสมศรี เป็นบัดดี้คู่ใจ ส่วน ธารินี น้องสาวของทนงกลับเที่ยวเตร่ไม่สนใจเรียน วันหนึ่งขณะที่เปรียวขับรถแท็กซี่ เธอได้รับ อภิเดช ไปส่งที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เมื่อถึงที่เขาให้ค่ารถ 2,000 บาท ซึ่งเปรียวบอกว่ามากเกินไปหลังจากนั้นเธอก็เอาเงินไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อจึงรู้ว่าแบงค์ที่ได้มาเป็นแบงค์ปลอมทั้งสองใบ สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะอภิเดชเป็นลูกชายเจ้าของร้านทอง โกลเด้น มายร์ ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากพ่อ คือ นายใต้สูน เท่านั้นยังไม่พอ อยากจะรวยอีกเลยดำเนินกิจการผิดกฎหมายทั้งเป็นเจ้ามือหวย และพิมพ์แบงค์ปลอมอีกด้วย นางกิมไล้ แม่ของอภิเดชรู้เรื่องทั้งหมด เธอเลยอยากให้ลูกชายหยุดพฤติกรรมชั่วร้ายเหล่านั้น จึงพยายามหาเมียให้ ซึ่งเป็นลูกสาวนักการเมือง และเป็นไฮโซชื่อ สาวิกา แต่คู่ขา และคู่ควงของอภิเดชที่ใครๆ เห็นประจำ คือ อรอนงค์ เด็กเสิร์ฟที่มีรู้ร่างหน้าตาดี จนสามารถไต่เต้าขึ้นมาเป็นโคโยตี้ และอภิเดชรับเลี้ยงเป็นเมียเก็บ ส่วนผู้หญิงอีกคนหนึ่งของอภิเดชคือ ธารินี น้องสาวของทนงนั่นเอง แต่คนที่อภิเดชรักจริงๆ นั่นคือ เปรียว เมื่ออรอนงค์รู้เรื่องจึงส่งนักเลงไปทำร้ายข่มขืนเปรียว แต่ทนงก็ช่วยไว้ได้ทุกครั้ง ซึ่งทนงก็เริ่มที่จะหลงรักเปรียว และได้ลองใจเปรียวโดยหลอกว่าตัวเองไม่ได้เป็นตำรวจแล้ว แต่หันเหไปทำอาชีพค้ายาเสพติดแทน เพราะไม่อยากให้เปรียวรู้เรื่องว่าตนกำลังตามจับอภิเดชอยู่ เปรียวจึงโกรธมาก และคอยตามสืบเรื่องของทนงอยู่ตลอดเวลาว่าค้ายาเสพติดจริงหรือไม่ ส่วนทนงก็คอยถามถึงเรื่องของอภิเดชกับเปรียวเป็นประจำ แต่อภิเดชรู้ทันเรื่องนี้จึงวางแผนต่างๆ เพื่อสืบความเคลื่อนไหวของทะนงโดยให้อรอนงค์เข้ามาตีสนิท และวางยาพาทนงเข้าโรงแรม แล้วก็ไปแจ้งความว่าโดนทนงข่มขืนทำให้ทนงถูกพักงานชั่วคราว แต่ทนงรู้ตัวว่าไม่ผิดเลยฝ่าฝืนคำสั่งออกมาทำงานต่อ จนเปรียวเริ่มเข้าใจว่าทนงไม่ได้ค้ายาเสพติด จึงให้ความร่วมมือกับทนงในการสืบเรื่องของอภิเดช โดยไปสืบจาก บักเคน และ นางวอน สองพี่น้องขายข้าวเหนียวไก่ปิ้ง ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลชั้นดี จนสามารถทลายแหล่งพิมพ์แบงค์ปลอมได้สำเร็จ แต่เขาก็ต้องจับธาริณีน้องสาวของเขาด้วย เพราะอยู่ในสถานที่เกิดเหตุ ระหว่างที่ธาริณีโดนควบคุมตัว อภิเดช ส่งลูกน้องมาข่มขู่ทุกวัน จนธาริณีทนไม่ไหวยอมบอกความจริงกับทนงว่าตัวการที่แท้จริงคือ อภิเดช ทะนง และเปรียวจึงร่วมมือกันออกตามล่าอภิเดชที่กำลังจะหลบหนีออกนอกประเทศ ระหว่างการจับกุมได้เกิดการยิงต่อสู้กัน อภิเดชถูกยิงจนเสียชีวิต ส่วนทนงได้รับบาดเจ็บสาหัส อาการโคม่า เปรียวเองก็พยายามยื้อชีวิตของทนงเอาไว้จนสุดความสามารถที่เหลือก็รอแค่ปาฏิหาริย์เท่านั้นว่าจะทำให้ทั้งคู่สมหวังในความรักหรือไม่

รักข้ามรั้ว 2552

เรื่องย่อ : รักข้ามรั้ว (2552/2009) เกื้อ ได้รับมอบบ้านในหมู่บ้านริมแม่น้ำนครชัยศรี จากก้อยซึ่งเป็นพี่สาว โดยก้อยมีข้อแม้ว่าเกื้อต้องดูแลศรรัก สุนัขของเธอ และเธอจะจ่ายค่าเลี้ยงศรรักให้ เดือนละหมื่นห้า วันแรกที่เกื้อมาถึงบ้านพี่สาว ก็ถูกแม่พลอย ถูกเจ้าศรรัก และซอนย่า สุนัขของแม่พลอยตามกวด และถูกคนทั้งหมู่บ้านวิ่งไล่ตามเป็นพรวน จน พ.ต.ต. อมรศักดิ์ จับใส่กุญแจมือ เกื้อถูกปล่อยตัว เพราะแม่พลอยอ่านจดหมายในกล่องที่เขาทำตกไว้หน้าบ้าน และบอกทุกคนว่า เขาคือเกื้อ น้องชายพี่ก้อย เจ้าของบ้านหลังที่ติดกับเธอ และเป็นเจ้าของศรรัก เย็นวันหนึ่ง เกื้อกับพลอยตกใจที่เห็นคุณนายรัชนี ร้องไห้ โดยมีคุณโชติคอยปลอบใจ คุณนายรัชนีบอกซันนี่ สุนัขของเธอหายไป เข้าใจว่าเร้กเก้ ที่ชอบแกล้งสุนัขของเธอจะขโมยไป พลอยรีบกลับมาบ้าน และร้องไห้โฮ เมื่อศรรักกับซอนย่าไม่อยู่บ้าน ระหว่างที่ทุกคนพากันปลอบใจคุณรัชนีที่คิดถึงซันนี่มาก รุจน์หนุ่มหล่อก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเจ้าเร็คคอร์ดสุนัขแสนรู้ของเขา โชติบอกทุกคนว่ารุจน์เป็นลูกชายของเขา รุจน์ฝากโชติดูแลเร็คคอร์ดเพราะเขาต้องเก็บของย้ายมาอยู่เป็นเพื่อนโชติ โชติไม่เคยเลี้ยงสุนัขจึงปฏิเสธ พลอยรับอาสาดูแลเร็คคอร์ดให้ รุจน์ขอบใจพลอย เกื้ออดหมั่นไส้รุจน์กับพลอยไม่ได้ เกื้อ พลอย ตามด้วยคุณนายรัชนี วิภา คุณโชติ ย่องตามเข้ามาหยุดอยู่หน้าบ้านเร้กเก้ เร้กเก้เลี้ยงฉลองกับเพื่อนๆ ด้วยการเล่นเพลงร็อคดังสนั่นหวั่นไหว เร้กเก้บอกเพื่อน สบายใจที่เล่นดนตรีแล้วไม่มีเสียงหมาหอนรับ เกื้อ พลอย และทุกคนยิ่งมั่นใจ รุจน์ หนุ่มหล่อเดินเข้ามาพอดี ทุกคนหันมอง นิก เป้ พาคนรับซื้อสุนัขมา สุนัขทั้ง 3 ตัวกำลังถูกอุ้มขึ้นรถ ขณะที่พลอย รุจน์ เกื้อเดินมาถึง พลอยมองสุนัข 3 ตัว ที่ถูกอุ้มขึ้นรถอย่างสงสัย ศรรัก กับซอนย่า พอเห็นนายมาก็เห่าและดิ้น จนสีที่พ่นสุนัขไว้เปื้อนเนื้อตัวคนอุ้ม แม่พลอยจำสุนัขทั้ง 3 ตัวได้ จึงเอะอะว่าขโมย นิก กับ เป้ รีบหายไป หมอภัทรินดามาตรวจอาการของสุนัข 3 ตัวที่ถูกลักพาตัวไปอีกครั้ง เกื้อทำท่าจะจีบหมอดา แต่น้องส้มจุกก็มาพอดี ส้มจุกคิดว่าหมอดาคือแม่พลอย ที่อยู่ข้างบ้านเกื้อ จึงออกอาการหึง ดึงเกื้อมาต่อว่า ที่แกล้งบอกเธอว่า สาวข้างบ้านแก่ทึนทึก ปากมาก แม่พลอยได้ยินเข้าก็ฉุน น้องส้มจุกพาน้องหมาชื่อน้องเชอรี่มาเล่นกับศรรัก ศรรักฟัดน้องเชอรี่จนขนหลุดติดปาก ความตกใจทำให้เกื้อตะโกนว่า “ไอ้จุกไปงับเขาทำไม” น้องส้มจุกโกรธ ร้องไห้ที่ตนเองมีชื่อเหมือนหมา คุณนายรัชนีตามหาปลาทองหัววุ้นหรือน้องชมพู่ของเธอที่ซันนี่ซุ่มซ่ามทำโถปลา ตกแตก เกื้อพบศพน้องชมพู่นอนแอ้งแม้งอยู่หลังบ้าน ศรรักหรือเจ้าจุกกระดิกหางอวดนาย เกื้อรีบทำลายหลักฐานก่อนคุณนายรัชนีจะเอาเรื่อง เร็กเก้วางแผนกับนิก และเป้ว่าจะต้องหาเงินเพื่อซื้อกลองชุดใหม่ให้ได้ เพื่อเข้าแข่งขันร็อคชิงถ้วยเยาวชน นิกบอกนึกออกแล้ว เกื้อกลับจากที่ทำงาน พบเร็กเก้พานิกกับเป้ที่พันแผลทั้งตัวเข้ามา เรียกค่าเสียหายที่ถูกเจ้าจุกกัด หมอดามาหาแม่พลอยพอดี หมอดาขอดูแผล แต่นิกกับเป้ไม่ยอม วิ่งหนี เร็กเก้บอกถ้าเพื่อนเขาเป็นอะไร เกื้อเข้าคุกแน่ รุจน์กับเกื้ออาสาจะสืบเรื่องนี้เอง เกื้อ รุจน์ พลอย หมอดา ไปดักซุ่มที่บ้านเร็กเก้ นิกกับเป้เอาผ้าพันแผลออกเพราะร้อน หมอดาเอากล้องถ่ายไว้ พ.ต.ต.อมรศักดิ์ เข้ามาจับทั้งสี่คน นึกว่าเป็นขโมย เสียงเอะอะทำให้เร็กเก้ นิก เป้ วิ่งออกมาดู โดยไม่ได้พันแผล ทุกคนจึงได้เห็นกับตาว่าทั้งหมดเป็นแผนของเร้กเก้ เป้ นิก พ.ต.ต.อมรศักดิ์ พาน้องมินต์ น้องมายด์ มาฝากแม่พลอยเพราะคุณวิภามีธุระ ส่วนอมรศักดิ์ต้องไปติดต่องานที่อยุธยา เกื้อบอกเขากำลังจะไปที่นั้น เพราะมีธุระตอนเช้า อมรศักดิ์ติดรถเกื้อไป กลางดึกคืนนั้น ไฟดับทั้งหมู่บ้านมีเสียงกุกกักดังอยู่หน้าบ้าน ผู้ร้ายสองคนถือปืนเข้ามา พลอยเงื้อมไม้จะหวด แต่พลาด คนร้ายจับพลอย และน้องมินต์ น้องมายด์มัดไว้ ศรรักเข้ามาต่อสู้กับคนร้าย ซอนย่าออกวิ่งตามคนมาช่วย พ.ต.ต.อมรศักดิ์ลืมเอกสารไว้ที่บ้านจึงขอให้เกื้อพากลับไปเอา เกื้อขับรถเข้ามาพอดีกับซอนย่าวิ่งออกมาตามคนไปช่วย ซอนย่าวิ่งนำเกื้อกับอมรศักดิ์ไปจับโจร โจรถูกจับได้ทั้งหมด พลอยเก็บของเพื่อไปเมืองจันท์กับหมอดา รุจน์จะไปด้วย เกื้อหูผึ่ง เพราะเมืองจันท์นั้นพ่อกับแม่เขาอยู่ เกื้ออาสาขับรถให้จะได้ถือโอกาสกลับไปเยี่ยมพ่อกับแม่ของเขา ทั้งหมดเดินทางไปเมืองจันทร์ เกื้อพาพลอยหลงป่า พลอยไม่โวยวายอย่างที่เกื้อคิด แต่กลับช่วยหาทางกลับ เกื้อเริ่มทึ่ง บอกว่าถ้าเป็นน้องส้มจุกคงกรีดจนเสือเผ่นหมดป่าแล้ว แก๊งค์ลักพาตัวเด็กมาลักตัวน้องมินต์ น้องมายด์ไป พลอยกับเกื้อช่วยกันตามหา ในที่สุดก็เจอและจับแก๊งค์ลักเด็กส่งตำรวจได้ในที่สุด หลังผ่านเรื่องราวต่างๆ มาด้วยกัน เกื้อกับพลอยก็เริ่มผูกพันกันมากขึ้น พลอยได้รับจดหมายจากทางบ้านว่าแม่ป่วย เกื้อรับอาสาไปส่ง ที่บ้านพลอย ทองคำพ่อของพลอยไม่ค่อยชอบเกื้อ เพราะต้องการให้พลอยแต่งงานกับคุณภู ลูกชายพ่อเลี้ยงแสนคำ แต่จันทร์ทิพย์แม่ของพลอยนั้นชอบใจเกื้อ พัฒน์พี่ชายพลอยซึ่งเคยเป็นแฟนกับก้อยพี่สาวเกื้อก็เอาใจช่วยเกื้ออีกแรง ทองคำไล่เกื้อกลับกรุงเทพ พลอยเห็นใจเกื้อจึงกลับมากับเกื้อ หมอดากับรุจน์ และคนอื่นๆ วางแผนให้เกื้อกับพลอยรักกันโดยให้ศรรักแกล้งป่วย แต่แผนการไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะเกื้อกับพลอยยังคงเป็นคู่กัดกันอยู่เหมือนเดิม ทองคำย้ายมาอยู่กันท่าเกื้อที่บ้านพลอย ทองคำทำทุกทางเพื่อให้เกื้อตัดใจจากพลอย แต่แล้วทองคำก็พบว่าพ่อเกื้อเป็นเพื่อนสนิทของตน ทั้งคู่ตัดสินใจให้ลูกชาย และลูกสาวของตนแต่งงานกัน แต่พลอยปฏิเสธ และประกาศว่าจะไม่แต่งงานกับเกื้อ ทุกคนพากันงงไม่รู้สาเหตุ หมอดา รุจน์และคนอื่นๆ พยายามสืบหาสาเหตุที่แม่พลอยไม่ยอมแต่งงานกับเกื้อ ซอนย่าได้ฟังพลอยบ่นกับตัวเองว่าไม่อยากแต่งงานกับเกื้อเพราะเกื้อไม่เคย บอกว่ารักเธอ ซอนย่ารีบไปบอกศรรัก ศรรักกับซอนย่าพยายามบอกเกื้อเรื่องพลอย แต่ไม่รู้จะสื่อสารอย่างไรเพื่อเกื้อเข้าใจ ศรรักเกิดความคิดสื่อสารให้เกื้อรู้เรื่องพลอยโดยเปิดเพลงให้เกื้อฟัง เกื้อได้ฟังเพลงแล้วคิดออก เกื้อรีบไปบอกรักพลอย แต่โอกาสที่จะอยู่กันสองต่อสองนั้นไม่มีเลย สุดท้ายเกื้อก็ไม่ได้บอกรักแม่พลอย ทองคำหมั่นเขี้ยวเกื้อ จึงยื่นข้อเสนอไปว่า ถ้าเกื้อไม่สามารถบอกรักพลอยก่อนพระอาทิตย์ตกดินของวันรุ่งขึ้นก็ไม่ต้องมา แต่งงานกับพลอย เกื้อร้อนใจแต่หาตัวพลอยไม่เจอ เกื้อเหนื่อยจนเผลอหลับไป ตอนเช้าภพเอาจดหมายของพลอยมาให้ เกื้ออ่านแล้วได้รู้ว่าพลอยกลับเชียงรายไปแล้ว เกื้อขับรถตามไปบอกรักพลอย แต่ถูกอมรศักดิ์เรียกเขียนใบสั่งซะก่อนระหว่างทาง เกื้อมองดูเวลาสายมากแล้ว เสียงของทองคำยังดังก้องหูเกื้อ ถ้าเกื้อบอกรักพลอยไม่ทันพระอาทิตย์ตกดินก็จะไม่ได้แต่งงานกับพลอย เกื้อขับรถอย่างร้อนรนจนรถเกือบพลิกคว่ำ เกื้อออกตามหาพลอยตามสถานที่ที่เขาเคยไปกับพลอยเมื่อครั้งมาเยี่ยมบ้านพลอย เกื้อหาพลอยจนเหนื่อยล้า พระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าลงทุกทีทุกที ในที่สุดเกื้อก็ตัดสินใจรวบรวมกำลังที่เหลืออยู่ตะโกนบอกรักพลอยจากเนินผา สูง เสียงตะโกนของเกื้อดังแว่วผ่านมา ศรรักกับซอนย่าได้ยินเสียงเกื้ออย่างชัดเจน ศรรักกับซอนย่ารีบวิ่งไปตามเสียงเพื่อไปหาเกื้อ เมื่อเกื้อเห็นศรรักกับซอนย่า เกื้อดีใจ ซอนย่ากับศรรักรีบพาเกื้อไปพบพลอย ที่นั่นเกื้อได้สารภาพรักกับพลอย ทั้งคู่โผเข้ากอดกันด้วยความรัก ศรรักกับซอนย่าดีใจกับความรักที่สุขสมหวังของเจ้านายของตน

พยัคฆ์ยี่เก 2552

เรื่องย่อ : พยัคฆ์ยี่เก (2552/2009) พยัคฆ์ยี่เก เป็นเรื่องราวของศิลปินกลุ่มเล็ก ๆ ซึ่งยึดการแสดง…ลิเก เป็นอาชีพ แม้ความนิยมของคนดูจะลดน้อยถอยลง แต่พวกเขายังคงต่อสู้ ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด บุญเอก อมรินทร์ พระเอกลิเกหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าคณะ ได้นำเอาวิทยาการสมัยใหม่ รวมทั้งเพลงลูกทุ่งที่กำลังอยู่ในความนิยม เข้ามาผสมผสานในการแสดงบนเวที เพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจ ให้คนดู บางครั้ง บางเรื่อง…เทวดาเหาะลงมาจากฟากฟ้าท่ามกลางหมอกควัน บางครั้ง บางเรื่อง…พระฤษีขี่ช็อปเปอร์ใส่หมวกกันน็อกขึ้นบนเวทีโดยมี อินทิรา น้องสาวของตนเป็นนางเอก เด็ดดวง เป็นตัวโกงประจำคณะและมี น้ำหวาน เป็นดาวยั่วหรือตัวร้าย บุญโอบ ผู้เป็นอาของ บุญเอก คือ ครูฝึกสอน และ ที่ปรึกษานง ภรรยาของ บุญโอบ เป็นผู้ดูแลความเป็นอยู่ของทุกคนในคณะ ลิเกไฮเทคของ บุญเอก อมรินทร์ ไปแสดงที่ไหน บรรดา แม่ยก ก็จะแห่ตามมาดูขวัญใจของตน โดยเฉพาะ นวล ภรรยาของกำนันเทิด ผู้มีอิทธิพล แม้ไม่พอใจ กำนันเทิด ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเกรงใจเมีย กำนันเทิด ได้ส่ง ทำนุ ลูกชายวัยรุ่นที่กำลังสร้างอิทธิพลแข่งกับพ่อตามไปก่อกวน ทำนุ กลับมาถูกใจ อินทิรา จนไม่กล้าป่วน แถม ทับทิม น้องสาวคนสวยของ ทำนุ ซึ่งกล้าแก่นไม่กลัวคนที่ตามมาด้วย กลับไปหลงใหล บุญเอก แข่งกับแม่ กำนันเทิด จึงต้องชอกช้ำทวีคุณ บุญเอก ยังมีลิเกคู่แข่งอีกคณะหนึ่งคือ อนุชิต ศิษย์สำราญ โดยมีน้ำอ้อย ซึ่งสวยไม่น้อยหน้าใครเป็นนางเอก ทั้งสองคณะนี้ไม่มีใครยอมใคร ไปตั้งเวทีประชันกันที่ไหน เป็นต้องงัดไม้ตายออกมาสู้กัน แม้บางครั้งคณะ อนุชิต ศิษย์สำราญ จะมีแผนการร้ายๆ แต่ทำอะไรลิเกไฮเทคของ บุญเอกที่ร้องเพราะ รำสวย ไม่ได้ เป็นธรรมชาติ คนแพ้ต่อย ย่อมชวนตี ลิเกสองคณะจึงยกพวกเข้าห้ำหั่นกันบ่อยครั้ง กำนันเทิด ว่าจ้างลิเกทั้งสองคณะไปเล่นประชันกัน เพื่อฉลองงานวันเกิดให้ นวล ลิเกคณะอนุชิต เดินทางไปก่อน แล้ววางแผนแกล้งลิเกคณะ บุญเอก โดยโรยตะปูเรือใบไว้เต็มถนน รถของบุญเอก คันที่นำหน้ายางแตกทั้งสองเส้น จนต้องใช้รถคันหลังช่วยขนถ่ายอุปกรณ์ฉาก ทางด้าน คน ก็พากันเดินไปเรื่อย ๆ ต้องถือเป็นโชคร้ายที่ฝนลงมาอย่างไม่มีเค้า ทุกคนต้องวิ่งเข้าไปหลบในถ้ำ บุญโอบ ไปพบเป้บรรจุเพชรซุกซ่อนอยู่ จึงเอามาใส่ให้ อินทิราออกแสดงจนวูบวาบไปทั้งเวที ลิเกคณะ บุญเอก จึงชนะ คณะ อนุชิต รับเงินเดิมพันมาทั้งหมด บุญโอบ เองก็ไม่รู้ว่า…เพชร ในเป้ลูกนั้นมาจากไหน ต้นทางของเพชรในเป้นั้นคือ ประเทศไทย ได้จัดให้มีการแสดงเพชรระดับโลกขึ้นที่กรุงเทพ ฯ หลายประเทศได้ส่งเพชรชั้นสุดยอดเข้ามาร่วมงานด้วย เดวิด นักธุรกิจจากต่างชาติผู้จัดแสดง ได้วางแผนโจรกรรมเพชรที่ตัวเองจัดแสดงอย่างแยบยล ทว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือกว่าแผนการปล้น ยังมีการปล้นซ้อนปล้น เชิด เป็นตัวการปล้นซ้อนแผนของ เดวิด โดยมีผู้วางแผนให้ แต่เมื่อปล้นได้ เชิดกลับเปลี่ยนใจไม่ยอมนำเพชรไปให้ผู้ว่าจ้าง เพราะราคาจ้างกับราคาเพชรผิดกันมาก เชิด เอาเพชรไปซุกซ่อนไว้ในถ้ำแล้วฆ่าผู้ร่วมงานทุกคน เชิด จึงเป็นคนเดียวที่รู้ว่า เพชร อยู่ที่ไหน เชิด ติดต่อจะขายเพชรให้กับ เสี่ยอ่าง เจ้าพ่อแห่งวงการเพชรเมืองไทย เมื่อตกลงกันได้ เชิด ก็ย้อนกลับมาเอาเพชรในถ้ำ ปรากฏว่า เพชร ทั้งหมดหายไป เดวิด ส่งการ์ดสาวสามคน สืบหาจนรู้ว่าเพชรตกไปอยู่กับคณะลิเก…เสี่ยอ่าง ก็ส่ง เหว่ย เซียะ และ กัง สามมือพิฆาตของตน ออกติดตามเส้นทางของเพชรเช่นกัน ที่เหนือกว่านั้น…สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งสองนายตำรวจมือปราบแห่งยุค ติดตามคดีอย่างใกล้ชิด เดวิด เสี่ยอ่าง และ เชิด ต่างก็รู้ว่าเพชรไปตกอยู่กับคณะลิเก แต่ยังไม่แน่ใจว่า เป็นลิเกคณะไหน สามการ์ดสาว ของเดวิด ก็บุกเข้าค้นบ้านของลิเกคณะ อนุชิต ศิษย์สำราญ เพื่อจะหาเพชร เหว่ย และ เซียะ บุกเข้าจับคนในคณะลิเกของ บุญเอก เพื่อจะเอาตัวไปซักถาม แต่..ต้องหน้าหงายกลับไป เพราะทุกคนในคณะร่วมมือร่วมใจกันต่อสู้ ที่รุนแรงยิ่งไปกว่านั้น…เชิด นำลูกน้องเข้าปล้นบ้านของ บุญเอก อมรินทร์ เพราะต้องการเอาเพชรคืน ทุกฝ่ายทำไม่สำเร็จเนื่องจาก สองตำรวจมือปราบคือ ร.ต.อ. เดชา และ ร.ต.ท. หญิงบังอร ได้วางแผนป้องกันอย่างรัดกุม ร.ต.อ. เดชา ปลอมตัวไปขอหัดลิเกอยู่กับคณะของ บุญเอก แม้ไม่เต็มใจต้อนรับแต่บุญเอก ไม่อยากขัดใจ อินทิรา น้องสาวผู้มีใจให้ เดชา สำหรับ บุญเอก กับ บังอร ต้องถือเป็นคู่อริตลอดกาลแม้จะมีจิตใจให้กัน แต่ทั้งคู่ต่างก็ซุกซ่อนไม่ยอมเปิดให้อีกฝ่ายรู้เห็น กลุ่มเหล่าร้ายเปลี่ยนแผนการใหม่ โดยหันมาร่วมมือร่วมใจกัน เสี่ยอ่าง ทุ่มเงินจ้างลิเกทั้งสองคณะมาเล่นประชัน..ล้มเงินรางวัลกัน แถมมีเงินรางวัลล่อใจ สำหรับลิเกคณะที่มีเครื่องประดับสวยงาม เพราะคาดหวังว่า..ลิเกคณะใดที่ครอบครองเครื่องเพชรอยู่ จะนำออกมาแต่งโชว์ และก็เป็นไปตามคาดหมาย เมื่อถึงวันงาน บุญโอบ งัดเครื่องเพชรออกมาให้ อินทิรา สวมใส่อีกครั้ง เสี่ยอ่าง…วางแผนให้ เหว่ย และ เซียะ ลักพาตัว อินทิรา พร้อมเครื่องเพชรทันที เดวิด…สั่งสามการ์ดสาวตามประกบไม่ยอมให้คลาดสายตา เชิด…และลูกน้องเตรียมพร้อมที่จะปล้นซ้อนแผนอีกครั้ง ผู้กอง เดชา และ หมู่ชื่น ตาม อินทิรา ชนิดก้าวต่อก้าว บังอร…และ ตำรวจสายสืบ ประกบรอบนอกไว้อีกชั้นหนึ่ง ทว่า…เหตุร้ายก็เกิดขึ้นจนได้ หมอลำซิ่ง ซึ่ง เดวิด จัดมาให้ความครึกครื้นในงานเล่นเสียงดังเกินเหตุ จนลิเกทั้งสองคณะเล่นกันไม่รู้เรื่อง ตุ๊ ตัวโกง ของคณะ อนุชิต จึงร้องกลอนถาม เด็ดดวง ตัวโกงของคณะ บุญเอก ว่าจะเอายังไงดี เด็ดดวง ก็ร้องกลอนตอบเป็นทำนองว่า รวมตีนซะเลย หมอลำซิ่ง กลับถามมาว่า..เก่งแต่ปากหรือเปล่า ลิเกทั้งสองคณะจึงยกพวกเข้าตะลุมบอนกับหมอลำซิ่ง ที่พร้อมจะมีเรื่องอยู่แล้ว เดชา จำต้องโดดเข้าช่วยพวกลิเก เหว่ย และ เซียะ ได้โอกาสก็ตรงฉุด อินทิรา จากหน้าเวที หมู่ชื่น ปราดเข้าขวางก็ถูกยิงทรุด บุญโอบ เข้าช่วยจึงโดนยิงอีกคน เหว่ย และ เซียะ เอาตัว อินทิรา ที่แต่งเครื่องเพชรหนีไปได้ ทว่า เหว่ย และ เซียะ ไปได้แค่ครึ่งทาง ทำนุ ผู้ซึ่งหลงใหล อินทิรา และ ชำนาญเส้นทางกว่าก็มาดักหน้าแย่งชิงตัว อินทิรา ไปได้ แต่ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำนุ กลับนำตัว อินทิรา ไปส่งมอบให้กับ เดวิด รางวัลที่ ทำนุ ได้รับคือ ถูกการ์ดสาว ยิงจนทรุด เดวิด พา อินทิรา มาได้อีกครึ่งทางก็พบกับด่านสำคัญ นั่นคือหมอมนตรี และ สว.ป. มงคล หมอมนตรี ที่คนทั้งตำบลรู้จักคือ..หมอใจบุญที่รับรักษาให้ทุกคน ทุกโรค จะได้เงินหรือไม่ได้เงินไม่เคยสนใจ แต่เบื้องหลังที่ไม่มีใครรู้คือ เขาเป็นผู้วางแผนการปล้นเพชรให้กับ เดวิด เป็นตัวการใหญ่ผู้ค้าอาวุธสงครามข้ามชาติ เป็นผู้วางแผน ยัดยาเสพติดใส่กล่องสินค้าของโอทอป เมื่อเรื่องทำท่าจะเปิดเผยก็หลอก ใหญ่ มาเป็นแพะ เพื่อให้ตัวเองพ้นผิด บุคคลที่คอยช่วยสานงานของ หมอมนตรี ให้ลุล่วงตามเป้าหมายคือ สว.ป. มงคล พ.ต.ต. มงคล เป็นสารวัตรปราบปรามที่ย้ายไปประจำอำเภอชายแดน จ.สระแก้วเพื่อร่วมมือกับ มนตรี อย่างใกล้ชิด มงคล กล้าได้กล้าเสีย กล้าทำในสั่งที่คนอื่นคาดไม่ถึงอยู่เสมอ มงคล และ มนตรี รู้ดีว่า ทุกคนมาชุมนุมกันที่วัดหลังถ้ำเพราะ เครื่องเพชร มงคลและ มนตรี จึงไปดักรอในจุดที่ทุกคนต้องผ่านคือปากทางถนนเข้าวัด เมื่อ เดวิด นำตัว อินทิรา ขึ้นรถหนีเขาก็ไปติดอยู่ที่ปากทางนี้เอง มนตรี ได้สอนวิธีปล้นซ้อนให้ เดวิด รู้จักโดยการฉกตัว อินทิรา ที่ยังใส่ชุดเครื่องเพชรไปอย่างง่ายดาย มงคล และ มนตรี นำตัว อินทิรา มาขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ ซึ่งสถานีปลายทางจัดส่งตู้สินค้า และ ตู้โดยสารที่หมดสภาพเข้าโรงงานซ่อม มงคล จึงใช้รถขบวนนี้ขนยาเสพติด และ อาวุธสงครามในคราวเดียวกัน..เมื่อขบวนรถเคลื่อนออกจากสถานี มงคล และ มนตรี ช่วยกันปลดเครื่องเพชรจาก อินทิรา จนไม่รู้ว่า..บุญเอก และ เดชา ขึ้นมาบนขบวนรถ รวมทั้ง เชิด และ ดารา ขณะที่ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กัน เชิด คว้ากระเป๋าเครื่องเพชรจะโดดลงจากรถไฟ ดารา ก็เข้าขวางไว้ จึงเป็นที่เปิดเผยว่า…ดารา คือคนที่วางแผนให้ เชิด ปล้นซ้อนปล้นบังอร บินพารามอเตอร์ลงบนตู้รถไฟเพื่อบังคับให้ขบวนรถหยุด ทว่า มงคล และ มนตรี วางแผนไว้หลายชั้น ลูกน้อง ที่ขึ้นมาบนขบวนรถตามรายทางระหว่างรถวิ่ง เป็นตัวช่วยที่คอยยิงสกัดกั้นเปิดทางให้ มงคล มนตรี นำ อินทิรา และ เครื่องเพชรทั้งหมดหนีรอดไปอย่างไร้ร่องรอยรวมทั้ง ดารา และ เชิด บังอร บุญเอก เดชา รวมทั้งตำรวจที่ติดตามขบวนรถมา ต่างพากันมึนตึบ ไม่รู้จะไปตามกลุ่มวายร้ายได้ที่ไหน จ่าแม้น บอกมีคนเดียวที่น่าจะรู้คือ กำนันเทิด กำนันเทิด โกรธแค้นเพราะ ทำนุ ถูกยิง รับอาสาพาลุยทันทีเพราะรู้ดีว่า หมอมนตรีมีโรงโม่หินทิ้งร้างอยู่ ทว่า..ก่อนที่ กำนันเทิด จะนำทุกคนไปถึงเชิด ได้นำหน้าพาลูกน้องลุยไปก่อนแล้ว เชิด และ ลูกน้อง อีกหลายคนตายในการต่อสู้ แต่..มงคล และ มนตรี ก็ใช่ว่าจะหนีรอดไปได้ บุญเอก และ เดชา ถล่มอย่างไม่ยั้งมือ จะมีที่โชคร้ายก็คือ อินทิรา ถูกลูกหลงเข้าที่ท้องฟุบจมกองเลือด และเมื่อเคลียร์พื้นที่แล้วจึงรู้ว่า ดารา และ กระเป๋าใส่เพชรหายไปพารามอเตอร์ถูกส่งขึ้นบินทั่วพื้นที่ อ. ชายแดน พอได้รับแจ้งทางวิทยุ บังอร ก็โดดขึ้นรถขับอย่างลืมถอนคันเร่ง เพียงไม่นานนักก็ แซงรถของ ดารา ที่กำลังจะถึงด่านชายแดน..และแล้ว ดารา ก็ได้รับชะตากรรมเช่นเดียวกับ บัลลังก์ อินทิรา หายป่วย เธอประกาศเลิกเล่นลิเกเพื่อแต่งงานกับ ผู้กองเดชา บุญเอก ต้องเสาะหานางเอกคนใหม่ บุญเอกจะได้ ใครเป็นนางเอกลิเก?

ล่องเรือหารัก 2552

เรื่องย่อ : ล่องเรือหารัก (2552/2009) เกียรติ หนุ่มนักเรียนนอก ลูกชายมหาเศรษฐี ถูก พักตร์พริ้ง ผู้เป็นแม่บังคับให้แต่งงานกับ นงค์นาฏ ผู้หญิงที่เลือกให้ ขณะที่ บันลือ ผู้เป็นพ่อไม่เห็นด้วยนักกับความจุ้นจ้านของภรรยา เกียรติบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา ที่สุดก็ทนการรบเร้าไม่ไหว จำใจต้องยอมแต่งงาน แต่แล้วในวันแต่งจู่ๆ เจ้าสาวก็โดนแฉว่าท้องแล้ว พร้อมกับสามีของเจ้าสาวพาพรรคพวกมาขอเมียคืน พิธีจึงต้องยุติลงพร้อมความเสียใจ และการเสียหน้าของบรรดาญาติทั้ง 2 ฝ่าย โดยเฉพาะเกียรตินั้นอับอายขายหน้าแขกเป็นอันมาก ขณะที่พักตร์พริ้งนึกโกรธแค้น ประกาศในงาน ว่าจะหาผู้หญิงที่เหมาะสมกับลูกชายมาแต่งงานใหม่ในเร็ว ๆ นี้ ความอลหม่านวุ่นวายในงาน แม้จะทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกแย่ แต่สำหรับ อรวี เพื่อนสาวของเกียรติ และจรุงจิตสาวใหญ่รุ่นพี่ เรื่องนี้กลับจุดประกายความหวังในใจ ทั้งคู่ต่างหมายมั่นว่าตนเองจะต้องเป็นเจ้าสาวตัวจริงของเกียรติให้จงได้ เกียรติหนีออกจากงานหลบมาเดินเล่นทอดอารมณ์ที่สะพานใกล้ๆ โดยมีคนสวนชื่อบุญธรรม เดิมตามมาห่างๆ ทั้งคู่ได้พูดคุยกันถึงชีวิตในอดีตของบุญธรรม ที่แม้จะยากจนแต่ก็มีความสุข บุญธรรมเล่าว่า แกมีบ้านอยู่ปากน้ำโพ หาเช้ากินค่ำ พออายุใกล้สามสิบเพื่อนบ้านให้เรือมาลำหนึ่ง ก็หาเงินซื้อของใส่เรือ แล้วล่องไปขาย ชีวิตอยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง ค่ำไหนนอนนั่น ขายของหมดที่ไหนก็หาตลาดใกล้ ๆ ซื้อของเร่ขายต่อ ก็สนุกและเป็นอิสระ ได้พบปะผู้คนมากมาย ที่ไม่เคยพบสาว ก็ได้เจอสาวสวยแตกต่างกันไป บุญธรรมเองก็ได้เมียเพราะล่องเรือขายของ แต่เมียของเขามาเสียชีวิตไปก่อน บุญธรรมก็เลยยุติชีวิตล่องเรือแล้วมาเป็นคนสวน คืนนั้นเกียรติปรึกษาพ่อ ขอไปใช้ชีวิตเป็นตัวของตัวเองสักพัก บันลือเห็นใจลูกจึงอนุญาต แต่ก็ไม่วายห่วง จนเกียรติบอกว่าการไปครั้งนี้จะเอาบุญธรรมไปด้วย บันลือจึงคลายวิตกลง เกียรติล่องเรือลำใหญ่ทาสีฉูดฉาดไปตามลำคลอง ข้างเรือมีป้ายเขียนว่า"มินิมาร์ทลอยน้ำ" ในเรือประกอบด้วยสินค้าแทบทุกชนิด ห้อย วาง แขวน อย่างมีระเบียบ บุญธรรมเป็นคนบังคับเรือ เกียรติพูดออกเครื่องขยายเสียงโฆษณาชวนเชื่อ ตลอดที่เรือผ่าน พอมีลูกค้าริมคลองเรียก ก็แวะขายของเป็นรายทางไป บุญธรรมอารมณ์ดีขายไปร้องเพลงไป เกียรติชอบใจบอกให้บุญธรรมสอนเพลงลูกทุ่งให้บ้าง บุญธรรมจึงแนะให้หาเครื่องเสียงมาหัดร้องกันในเรือว่างเมื่อไหร่ก็ร้องไปสนุกๆ เดี๋ยวก็ชำนาญ ด้วยอารมณ์สนุกเรือผ่านบ้านไหนบุญธรรมก็ยุให้ร้องเพลงจีบสาว จนสาวสองฝั่งน้ำหลงรักเกียรติมากมาย บางครั้งจีบผิดไปจีบเอาคนมีสามีแล้วก็ต้องหักหัวเรือหนีแทบไม่ทัน มันเป็นความสนุกแปลกใหม่จนทำให้เกียรติถึงกับลืมบ้าน หลงใหลอยู่กับเรือและธรรมชาติชนบทริมน้ำ โดยเขาเปลี่ยนชื่อใหม่ในฐานะพ่อค้าว่า "รักเร่" วันหนึ่ง รักเร่อยากหัดบังคับเรือ แต่พลาดไปทำเรือข้าวแกงเร่ของ พิมพ์จิต และหอมจันทร์ ลูกสาวล่มหม้อข้าวหม้อแกงจมหายต้องดำผลุดดำว่ายหากันจ้าระหวั่น 2หนุ่มช่วยพา2สาวขึ้นจากน้ำ และชดใช้ค่าเสียหายให้ ทั้งคู่จอดเรือใกล้ ๆ บ้านหอมจันทร์เพื่อช่วยซ่อมเรือ อีกทั้งเป็นโอกาสที่รักเร่จะได้ใกล้ชิดหอมจันทร์ เพราะทั้งคู่สะดุดใจกันตั้งแต่แรกเห็น พิมพ์จิตและลูกเป็นคนจน มีความเป็นอยู่ง่าย ๆ แต่มีน้ำใจ เมื่อทั้งคู่ช่วยซ่อมเรือ 2 แม่ลูกก็จุนเจืออาหารการกินให้ เพราะความไม่ชำนาญงานช่าง รักเร่พลาดถูกเลื่อยบาด บุญธรรมจึงพาไปคลินิกใกล้ๆจนได้รู้จักกับ กันยา พยาบาลสาวพราวเสน่ห์ประจำคลินิก กันยาหลงรักรักเร่ตั้งแต่แรกพบ จึงพยายามตามติดประชิดถึงตัว คอยเอาอกเอาใจ จนหอมจันทร์เข้าใจผิดบ่อยๆ กันยาไม่ถูกชะตากับหอมจันทร์ เพราะรู้ว่ารักเร่ชอบหอมจันทร์จึงทำทุกทางเพื่อให้เข้าใจผิดกัน เพราะหมายมั่นจะแย่งมาให้ได้ คนอย่างกันยาไม่ธรรมดา ชอบใคร หลงใคร ก็จะใช้จริตมารยาเข้าใกล้ แต่ถ้าดูใจไปแล้วไม่ปลื้มก็จะตีห่าง ก่อนหน้านี้เธอเคยคบหาหนุ่มมาหลายราย บางคนมีครอบครัวไปแล้วก็จบกัน บางคนยังแค้นกันยาอยู่ก็มี เช่นขวดนักร้องลูกทุ่งไส้แห้ง ที่หลงผิดคิดว่าเธอจริงใจด้วย เพราะกันยาเข้ามาหาเขาก่อน แต่เมื่ออยู่กันไปแล้วไม่เห็นอนาคตเธอก็ตีจากเขาเอาดื้อ ๆเช่นกัน พักตร์พริ้งต่อว่าบันลือที่ปล่อยลูกชายไป แต่บันลือกลับไม่สน มีแต่ตัวเธอที่ร้อนใจ เพราะได้ไปตกลงกับเพื่อน ขอลูกสาวเอาไว้ให้แต่งกับลูกชายอีกแล้ว แต่เมื่อฝ่ายชายไม่อยู่จึงต้องเลิกล้ม เรื่องการหายตัวไปจากสังคมของเกียรตินั้น คนที่ดูจะร้อนรนพอๆกับผู้เป็นแม่ก็เห็นจะเป็นสองสาวต่างวัย อรวี และ จรุงจิต อรวีเป็นเพื่อนสาวไฮโซรุ่นราวคราวเดียวกับเกียรติ จึงเข้าไปตีสนิท เข้านอกออกในที่บ้านพักตร์พริ้งได้ในฐานะเพื่อนของลูกชาย ส่วนจรุงจิตนั้นเป็นสาวไฮโซรุ่นใหญ่กว่ากันนิด จึงได้แต่พบปะสนิทสนมกันเฉพาะในงานสังคม เมื่อทั้งคู่แอบพอใจเกียรติและหมายมั่นจะเป็นสะใภ้ของพักตร์พริ้ง จึงคอยเงี้ยหูฟังข่าวคราวของเขาเสมอ สายใจ ลูกสาวเศรษฐีสน เศรษฐีที่นา เธอเป็นลูกค้าเรือรักเร่ วันนี้เรือมาจอดที่ท่าบ้านสายใจ เธอจึงลงไปซื้อของ พอเศรษฐีสนเห็นเข้า ด้วยความหวงลูกสาวจึงตะโกนไล่ให้รักเร่ไปจอดที่อื่น ยิ่งเห็นสายใจลงไปในเรือก็ยิ่งโกรธมาก รักเร่อ้อนวอนยังไงเศรษฐีสนก็ไม่ยอม บุญธรรมจึงออกอุบายเชิญเศรษฐีสนลงไปดูสินค้าในเรือ แล้วเอาเหล้าที่มีขายออกมาให้ดู เท่านั้นเองคอสุราอย่างเศรษฐีสนก็ตาลุกเชิญทั้งสองไปกินเหล้ากันบนบ้าน ยิ่งดึกยิ่งเมาเขาก็ยิ่งใจดี เชื้อเชิญให้ทั้งคู่ค้างที่บ้านได้ แต่พอเช้าสร่างเมาก็ลืมหมด แถมโกรธคว้าปืนมาไล่ยิงจนทั้งคู่หนีลงเรือกันแทบไม่ทัน ชะเอม เจ้าของร้านค้าของชำในตลาด แม่หม้ายเรือพ่วง 2 ลำคือ เจ้าชะโอด และเจ้าชะอม กำลังต่อว่า ชะโอด ลูกคนโต ที่ไปหลงรัก น้ำตาล ลูกสาวใหญ่ เจ้าของโรงสีที่ไม่ถูกกัน เพราะขัดผลประโยชน์ทางการค้า แต่ชะโอดรักน้ำตาลจึงไม่ยอมฟัง ยิ่งทำให้ชะเอมโมโหหนัก คาดโทษต่างๆ นานา พาลด่าไปถึงใหญ่และลูกสาว รักเร่ล่องเรือมาจนถึงท่าหน้าโรงสีของใหญ่ เลยได้รู้จักกับน้ำตาล ใหญ่ปล่อยให้รักเร่คุยกับน้ำตาลเพราะหวังจะให้มาซื้อของใส่เรือไปขาย ชะโอดมาเห็นเข้าก็หึงหวงเพราะเข้าใจผิด จนรักเร่ต้องเล่าเรื่องหอมจันทร์ให้ฟังและรับปากจะช่วยชะโอดให้สมหวังกับน้ำตาล ทำให้ชะโอดดีใจ เผยเรื่องของแม่ตนกับพ่อน้ำตาลที่ไม่ค่อยลงรอยกันให้ฟัง รักเร่รู้สึกเห็นใจชะโอดมากขึ้น ระหว่างที่เรือยังซ่อมไม่เสร็จ พิมพ์จิตและหอมจันทร์ต้องขาดรายได้ไป รักเร่จึงแบ่งที่ทางในเรือ ให้ 2 แม่ลูก ล่องเรือค้าขายไปด้วยกัน จนเรือซ่อมเรียบร้อยดี รักเร่จึงได้ความคิด เสนอให้นำเรือข้าวแกง มาพ่วงกับเรือของเขา พิมพ์จิตแม้จะเกรงใจ แต่ก็จนด้วยเหตุผลที่รักเร่เสนอมา จนต้องยอมตามใจในที่สุด มินิมาร์ทลอยน้ำ พ่วงเรือข้าวแกงรสเด็ด ค้าขายดีวันดีคืนทั้ง2 ฝ่าย ใครมาซื้อของใช้ก็แวะซื้อข้าวแกง ส่วนใครมากินข้าวแกงก็ยังแวะลงเรือซื้อโน่นนี่ติดมือกลับบ้าน ขณะที่ความสัมพันธ์ของรักเร่และหอมจันทร์ดูจะแน่นแฟ้นขึ้นเรื่อย ๆ แต่อุปสรรคก็มีมาให้รำคาญใจกันเป็นระยะๆ ทั้ง กันยา ที่หาทางมาใกล้ชิดสนิทสนม เธอทำทีมาขอใช้เรือออกแจกจ่ายยาชาวบ้าน หรือแม้แต่ สองสาวชาวกรุงที่สืบรู้ที่อยู่ ยังแอบตามมาเกาะแกะถึงที่ จนเกิดการขัดแข้งขัดขากันเองในหมู่นางร้าย อรวีอาศัยความสนิทสนมมาขอนั่งเรือล่องท่องเที่ยวบ้าง ขอค้างในเรือบ้าง บุญธรรมก็ช่วยพูดช่วยสกัดเต็มกำลัง ส่วนจรุงจิตนั้นร้ายลึก เพราะแอบสืบหาข้อมูลมาอย่างดีว่ารักเร่รู้จักสนิทสนมกับใครบ้าง เธอทำทีมาเยี่ยมเยือนเขา และตั้งใจจะมาบ่อย ๆ โดยเสนอเป็นค่าปิดปากจนรักเร่ต้องยอมตามใจ แต่ขณะเดียวกัน แฝงตัวมาเป็นลูกค้าข้าวแกงแล้วแอบแกล้งหอมจันทร์ด้วย กว่าจะรู้ตัวหอมจันทร์ก็โดนแกล้งไปแล้วหลายครั้งหลายหน รักเร่รำคาญจะไล่กันยาไปพ้นๆแต่เธอก็มาฟอร์มดีจนออกปากไล่ไม่ออก จะไล่สองสาวก็กลัวจะแฉความจริงเรื่องตัวเอง จึงจำยอมตามใจพวกเธอ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้หอมจันทร์เข้าใจผิดหลายครั้ง รักเร่ต้องตามง้อเธอโดยได้รับความช่วยเหลือจากน้ำตาล ชะโอด และบุญธรรม แต่อรวีและจรุงจิตก็มักมาขวางอยู่เรื่อย บุญธรรมจึงต้องออกอุบายหลอกพาพวกเธอไปผจญภัยอยู่กลางแม่น้ำนานเป็นวัน ๆ พอกลับขึ้นฝั่งได้ อรวีก็ถึงกับลมจับ ดีที่ขวดรับได้ทันแล้วช่วยพาไปส่งโรงพยาบาล การที่อรวีแวะเวียนไปหารักเร่บ่อย ๆ ทำให้ได้รู้จักขวด อรวีช่วยให้ขวดได้เป็นนักร้องด้วยการพาเขาไปฝากกับพ่อเธอที่เป็นเจ้าของค่ายเพลง ขณะที่ขวดแอบหลงรักอรวีอยู่ ทั้งคู่ได้รู้จักกันและเกิดความสัมพันธ์แนบแน่นขึ้นเรื่อยๆ ชะโอดแอบมาพบน้ำตาลแต่ถูกใหญ่จับได้ แล้วกล่าวโทษ แถมด่าฝากไปถึงแม่ เมื่อชะเอมรู้เรื่องเข้า ก็กลายเป็นศึกสองครอบครัวที่ยุติลงไม่ได้ง่าย ๆ ชะเอมแก้เผ็ดใหญ่โดยลดราคาสินค้าทุกชนิดตัดหน้าใหญ่จนลูกค้ามารุมซื้อของชะเอม ทำให้ใหญ่เดือดดาลวางแผนบีบชะเอมโดยยื่นคำขาดกับชาวบ้านที่เป็นลูกหนี้ห้ามไปซื้อของที่ชะเอมขาย ถ้าใครซื้อโดนทวงหนี้แน่และหากไม่มีให้ก็จะยึดบ้านยึดนาให้เดือดร้อน เมื่อรักเร่รู้เรื่องจึงหาทางช่วย โดยไปเชิญเศรษฐีสนมาช่วยขอร้องให้ใหญ่และชะเอมเลิกทะเลาะกัน แต่ไม่ได้ผลเพราะทั้งคู่ไม่เล่นด้วย ความเครียดหลาย ๆ ประการทำให้แม่ชะเอมล้มป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล เศรษฐีสนซึ่งหลงรักแม่ชะเอมมานาน หอบกุหลาบที่ชะเอมชอบไปเยี่ยมหลายครั้ง ชะเอมที่มีใจรักเศรษฐีสนอยู่เช่นกันออกอาการปลื้มสุดๆ ขณะที่ใหญ่อยากไปเยี่ยมแต่ก็ยังมีทิฐิ ได้แต่แอบมอง และหมั่นไส้ทั้งคู่อยู่ลึก ๆ ภัสดา หลานชายเศรษฐีสน กับลูกน้องชื่อ มาร์ค มาเที่ยวและพักที่บ้านเศรษฐีสน ภัสดาเป็นลูกคนมีฐานะดีที่กรุงเทพ ทำให้ทำอะไรตามใจ จีบสาวไม่เลือกหน้า กระทั่งเกิดเรื่องกับน้ำตาล จนมีเรื่องถึงลงไม้ลงมือกัน ชะโอดก็เข้าไปเกี่ยวด้วย เดือดร้อนถึงเศรษฐีสนต้องมาปรับความเข้าใจกับใหญ่และชะเอมอีกครั้ง ภัสดามาพบหอมจันทร์เกิดหลงรัก ทำทุกทางที่จะพบและอยู่ใกล้ แต่พิมพ์จิต น้ำตาล และสายใจ คอยกีดกันไว้ รักเร่กับชะโอดจับมือกันต่อต้านภัสดา จนเกือบมีเรื่องอยู่หลายครั้ง น้ำตาลกับสายใจ เมื่อรู้ว่ารักเร่รักหอมจันทร์ ทั้งคู่ก็ให้ความร่วมมือช่วยเหลือเป็นอย่างดี ชะอมและสายใจซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน เห็นน้ำตาลกับชะโอดแอบนับพบกันหลายครั้ง แต่เก็บความลับนี้ไว้ ไม่บอกแม่เพราะกลัวชะเอมจะตามไปราวีพี่ชาย ทั้งคู่จับมือกันคิดแผนการสร้างความสมานฉันท์ให้กับ 2 ตระกูล เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ระหว่างชะเอมและเศรษฐีสนที่ชะอมแอบสังเกตเห็นอยู่ จึงปรึกษากับสายใจ ร่วมมือกันช่วยให้ความรักของแม่ชะเอมและพ่อสนได้สมหวังเสียที เพราะดูว่าทั้งคู่ แม้ดูใจกันมานานก็ยังไม่ยอมเปิดตัวสักที ทั้งนี้เพราะแม่ชะเอมรู้สึกอายชาวบ้าน ที่ตนเองอายุมากแล้ว ยังมีความรักเหมือนเด็กๆ แผนการทุกอย่างไปได้สวย แต่ก็มาสะดุดเมื่อมารู้ภายหลังว่า ความจริงแล้ว พ่อใหญ่นั้นมีใจแอบรักแม่ชะเอมอยู่เหมือนกัน เรื่องนี้สร้างความร้าวฉานให้กับน้ำตาลและชะโอด เมื่อน้ำตาลโกรธที่ชะโอดไม่ช่วยพ่อใหญ่ ส่วนชะโอดไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อรู้อยู่แก่ใจว่าแม่มีใจให้เศรษฐีสนแล้ว กันยาที่พยายามตามติดรักเร่มานาน แต่ก็ไม่มีทีท่าว่ารักเร่จะสนใจเธอ พอได้เจอคนหน้าตาดีแถมร่ำรวยอย่างภัสดา ก็อดไม่ได้ที่จะหว่านเสน่ห์ใส่ ภัสดาเองก็เจ้าชู้ เขามองกันยาอย่างถูกตาต้องใจอยู่เช่นกัน จรุงจิตคิดแผนร้าย ส่งคนมาขโมยของที่บ้านหอมจันทร์ ก่อนจะทำทีมาเสนองานให้ 2 แม่ลูก ไปขายข้าวแกงที่ร้านของเธอในกรุงเทพ โดยงานนี้เสนอค่าแรงก้อนโต พิมพ์จิตดีใจ ตกลงทันที ขณะที่หอมจันทร์ยังระแวงสงสัย แต่จำใจต้องตามใจแม่ เมื่อรักเร่รู้เรื่องเข้า ก็พยายามขอร้องให้ทั้งคู่คิดใหม่ แต่หอมจันทร์ไม่ฟังเพราะกำลังโกรธรักเร่เรื่องที่เขามีสาว ๆ มาพัวพันหลายคน จรุงจิตขับรถมารับ 2 แม่ลูกไปที่ร้าน แกล้งทำดีด้วยสารพัด ก่อนจะใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกให้พิมพ์จิตเซ็นต์สัญญาเงินกู้ พอมารู้ภายหลังทั้งคู่ก็แทบเป็นลม แต่เมื่อแก้ไขไม่ได้ จึงต้องจำยอมทำงานใช้หนี้ไป ภัสดาไปหาหอมจันทร์ที่บ้านแต่ไม่พบ จึงตามมาเอาเรื่องรักเร่ เพราะคิดว่ารักเร่รู้ที่อยู่ใหม่ของหอมจันทร์ แต่ไม่ยอมบอก จนเกิดมีเรื่องลงไม้ลงมือกัน ก่อนจะเป็นฝ่ายแพ้แล้วกลับบ้านไปด้วยความแค้นเคือง รักเร่ตามสืบจนรู้ที่อยู่หอมจันทร์ จึงไปหา แต่หอมจันทร์ไม่พูดด้วย เธอโกรธเพราะเข้าใจว่ารักเร่ร่วมมือกับจรุงจิต มาหลอกลวงเธอและแม่ รักเร่แก้ตัวอย่างไรก็ไม่ฟัง เขาจึงหันไปอธิบายให้พิมพ์จิตฟังแทน โดยตัดสินใจเล่าเรื่องทุกอย่างให้พิมพ์จิตฟัง และขอร้องว่าอย่าเพิ่งบอกเรื่องที่เขาปลอมตัวมา ให้หอมจันทร์รู้ โดยรับปากจะช่วยพาทั้งคู่มาจากจรุงจิตให้ได้ พิมพ์จิตแอบดีใจแทนลูกสาว เมื่อรู้ฐานะที่แท้ของรักเร่ รักเร่ไปต่อว่าจรุงจิต เรื่องที่เธอทำกับ 2 แม่ลูก จรุงจิตได้ที ยื่นข้อเสนอ ให้รักเร่กลับมาใช้ชีวิตเป็นเกียรติ และคบเธอเป็นคนรัก ขณะเดียวกันก็ห้ามไม่ให้พบหอมจันทร์อีก หากทำตามก็จะยอมปล่อย 2 แม่ลูกไป รักเร่ใช้ความเจ้าเล่ห์ ออกอุบาย จนสามารถช่วยหอมจันทร์และแม่กลับมาได้ หอมจันทร์ได้ปรับความเข้าใจกับรักเร่ ขณะที่จรุงจิตซึ่งรู้ตัวว่าเสียรู้เข้าแล้ว จำใจต้องยอมวางมือจากเกมรักครั้งนี้ไป แต่ด้วยผลกรรมที่ทำไว้ต่าง ๆ นานา กับ2แม่ลูกทำให้เธอต้องจำนน มีสามีเป็นโจรรับจ้าง ที่เธอจ้างไปทำร้ายเค้า..เธอโดนขู่ โดนจ่ายค่าเลี้ยงดู แถมยังต้องพาสามีออกงานที่เชิดหน้าชูตา จึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปโฉม ฐานะ ของผู้ชายคนนี้ขึ้นมาเป็นคนใหม่ที่ยืนข้างๆ เธอได้ น้ำตาลไม่ยอมพูดกับชะโอดอยู่นาน แต่สุดท้ายก็เริ่มคิดได้ ว่าไม่สามารถกะเกณฑ์ให้ใครรักกับใครได้ตามที่ใจต้องการ ส่วนพ่อใหญ่ เมื่อรู้ว่าตนเองเป็นสาเหตุให้ลูกสาวเป็นทุกข์ ก็เริ่มได้คิด พยายามใช้สติไตร่ตรองสิ่งที่ผ่านมา ก่อนจะทำใจได้ และกลับไปใช้ชีวิตเป็นปกติ น้ำตาลดีใจที่พ่อกลับมาเป็นพ่อคนเดิมอีกครั้ง ภัสดายังคงดันทุรัง ดื้อดึง เอาแต่ใจ จะเอาชนะ รักกับหอมจันทร์ให้ได้ ยิ่งรู้ว่ารักเร่มีปมเรื่องเป็นเพื่อนจรุงจิตอยู่ด้วย จึงใช้วิธีสร้างเรื่องให้ไปกันใหญ่ระหว่างรักเร่ หอมจันทร์ จรุงจิต ..รักเร่บอก ลูกผู้ชายควรสู้อย่างลูกผู้ชาย ภัสดาก็เลยท้าแข่งทุกประเภท ให้บอกกฎ กติกา มาเลย ชาวบ้านและเพื่อน ๆ ช่วยกันคิดเกมการแข่งขันมาให้ต่าง ๆ นานา และ 2 คนก็ต้องใช้ทั้งเทคนิคและปัญญา แค่เรื่องตื้นๆ รักเร่ได้เปรียบที่คุ้นเคยธรรมชาติ และมองธรรมชาติได้ชัดเจนกว่าภัสดา จึงสามารถเอาชนะ ทำให้ภัสดากลายเป็นขี้แพ้ชวนตี หัวฟัดหัวเหวี่ยงกับเจ้ามาร์ค เศรษฐีสนเห็นแล้วกลุ้มจนต้องออกแรงออกฤทธิ์ สอนเด็กทั้ง 2 ให้รู้จักใช้ชีวิตให้เป็น ไม่ควรอยู่แบบรกๆ คิดให้เป็น ทำให้เป็น อย่าทำตัวกลายเป็นขยะรกประเทศชาติ ภัสดา เด็กที่เอาแต่ใจ ไม่มีใครปรามมาตลอด เจอทีเด็ดเศรษฐีสนเข้า ถึงกับคุกเข่าขอโอกาสที่จะแก้ตัว..ก็เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ที่จะต้องให้ และคอยตามผล ว่าหลานของตัวเองจะมีพฤติกรรมต่อไปอย่างไร และควรจะให้กำลังใจกันอย่างไร บรรดาคู่รักต่างๆ นานามาพบปะสังสรรค์กันก็ในงานแข่งขันของ 2 หนุ่มนี้ ทำให้มิตรภาพ ความผูกพันและการใช้ชีวิตที่ดำเนินไปด้วยการช่วยเหลือ แบ่งปัน และปลูกฝังความเข้าใจให้เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ควรเร่งมือกันทำให้เห็นเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น พวกเค้าฉลองความรักความสามัคคีครั้งนี้ด้วยเสียงเพลงที่บ่งบอกถึงวิถีชีวิตเรียบๆง่ายๆ และเรื่องราวที่ผ่านมา..พร้อมกับปล่อยเรือมินิมาร์ท ลอยน้ำ ที่เป็นเรือทำมาหากิน เป็นเรือนหอของการมีชีวิตคู่ในรูปแบบที่ รักเร่กับหอมจันทร์เลือกที่จะทำ เลือกที่จะเป็น

รักนี้เคียงตะวัน 2552

เรื่องย่อ : รักนี้เคียงตะวัน (2552/2009) เดือนเต็ม ลูกสาว ผู้ใหญ่ธำรง หวังพัฒนาหมู่บ้าน ทุ่งเพลง หมู่บ้านที่แทบจะไม่มีอะไรเป็นจุดขาย แต่ไปสวนทางกับ กำนันเจิดจรัส ที่ต้องการนำพื้นที่ของหมู่บ้านไปเสนอขายให้นายทุนอย่าง เกรียงไกร เพื่อทำรีสอร์ท เดือนเต็มกับ ไอ้โก๊ะ ลูกน้องมือขวาเลยถูกกำนันเจิดหมายหัวเล่นงาน แต่ก็มักจะรอดตัวเพราะ รุ่งตะวัน ลูกชายคนเล็กของกำนันดันหลงรักเดือนเต็ม แต่ก็ไม่พ้นสายตา อัคคี ลูกชายคนโตจอมโหดของกำนันที่หาเรื่องสั่งสอนเดือนเต็มให้เข็ดหลาบด้วยการหลอกเดือนเต็มว่าจะมีการลักลอบตัดไม้ จนเกือบติดกับแต่โชคดีที่ได้รับการช่วยเหลือจาก ฟ้าฟื้น ช่างภาพอิสระที่มาเก็บภาพป่าไปลงนิตยสาร NATURAL G GRAPHIC เดือนเต็มประทับใจฟ้าฟื้น และพามาที่หมู่บ้าน หวังว่าฟ้าฟื้นจะช่วยเอาภาพถ่ายชีวิตของชาวหมู่บ้านทุ่งเพลงไปตีพิมพ์ เพื่อหมู่บ้านทุ่งเพลงจะได้พัฒนาและรอดพ้นจากอิทธิพลของกำนัดเจิด เดือนเต็มได้ใกล้ชิดกับฟ้าฟื้น ทำให้รู้ว่าฟ้าฟื้นชอบร้องเพลงลูกทุ่ง เพราะว่าเขาเป็นเด็กกำพร้าถูกเอามาทิ้งไว้กับวงลูกทุ่ง นักดนตรีในวงเลยเอาเขามาเลี้ยง และส่งเสียเขาจนได้ดี จนได้เวลาที่ฟ้าฟื้นต้องกลับ ฟ้าฟื้นให้สัญญาว่าจะเอาภาพถ่ายของบ้านทุ่งเพลงไปเผยแพร่ และจะกลับมาแต่งงานกับเดือนเต็ม แต่จดหมายของฟ้าฟื้นก็ถูก พุดจีบ สาวสวยประจำหมู่บ้านที่หมายตาฟ้าฟื้นเหมือนกันแกล้งขโมยจดหมายไปฉีกทิ้งทำให้เดือนเต็มเสียใจที่ฟ้าฟื้นทิ้งเธอไป ซ้ำอัคคียังวางแผนเล่นงานผู้ใหญ่ธำรงให้ไปติดกับอยู่ในป่า เดือนเต็มมาพบว่าพ่อตายเพราะถูกงูพิษกัด เมืองสิงห์ พ่อบุญธรรมของฟ้าฟื้นเป็นเจ้าของกิจการคาเฟ่ใหญ่โต แต่กำลังมีปัญหากับ ไมเคิล มาเฟียหนุ่มที่ส่ง ลิลลี่ นางนกต่อไปติดพันแล้วสร้างเหตุการณ์ให้เมืองสิงห์คิดว่าตัวเองฆ่าลิลลี่ตาย ใช้โอกาสข่มขู่ยึดคาเฟ่มาเป็นของตัวเอง แต่เมืองสิงห์มารู้ความจริงว่าถูกลิลลี่หลอก ไมเคิลเลยฆ่าเมืองสิงห์ตายแถมป้ายความผิดให้กับฟ้าฟื้นว่าเป็นคนฆ่าพ่อเลี้ยงตัวเองเพราะเป็นการหักหลังกันในธุรกิจค้ายาเสพติด !! ฟ้าฟื้นกลายเป็นฆาตกร และพ่อค้ายาต้องหนีจากการจับกุมของ สารวัตรงามตา มือปราบสาวปืนดุที่ต้องมาร่วมทำคดีกับ ผู้กองปกรณ์ ตำรวจผู้หลงใหลในเพลงลูกทุ่งจนหน้าที่การงานไม่รุ่ง คู่นี้จึงเป็นคู่กัดกันเสมอ งามตาจะบุกจับฟ้าฟื้น ขณะที่อยู่กับ บุหงา กะเทยเพื่อนสนิทที่ไม่เชื่อว่าฟ้าฟื้นจะฆ่าเมืองสิงห์ตายอย่างที่เป็นข่าวคิดว่าต้องมีเงื่อนงำซ่อนอยู่ บุหงาช่วยฟ้าฟื้นรอดจากตำรวจอย่างหวุดหวิด ด้วยการจับฟ้าฟื้นปลอมตัวเป็น KENNY CROOK (เคนนี่) แฟนฝรั่งที่ทิ้งเธอไป แล้วพาฟ้าฟื้นหนีมาที่บ้านของนักร้องลูกทุ่ง เพลิน รำไพ ที่บุหงารู้จัก และจะใช้เป็นที่ซ่อนตัวชั่วคราว แต่ดันไปเจอเพลินถูกผู้จัดการวงทำร้าย และโกงเงินฟ้าฟื้นเลยช่วยเพลินไว้ บุหงาบอกเพลินไปว่านายเคนนี่ ฝรั่งหัวทองคนนี้เป็นเพื่อนที่สนใจในวัฒนธรรมไทยโดยเฉพาะกับเพลงลูกทุ่ง ถึงเห็นเป็นฝรั่งแต่ก็ร้องเพลงลูกทุ่งได้หลายเพลง ฟ้าฟื้นต้องเออออไปเพราะต้องการเอาตัวรอดจากการตามล่าของตำรวจ แต่จุดใต้ตำตอก็ดันเกิดขึ้นเมื่อฟ้าฟื้นได้พบกับเดือนเต็มที่เดินทางมาพบกับน้องสาวเพื่อบอกข่าวร้ายเรื่องพ่อที่ตายไป เพลินเลยตัดสินใจเลิกเป็นนักร้องกลับทุ่งเพลงพร้อมพี่สาว บุหงาเห็นเป็นโอกาสหนีเลยขอตามเดือนเต็มไปอยู่ที่หมู่บ้านทุ่งเพลงด้วย โดยที่เดือนเต็มไม่ได้เอะใจสงสัยเลยว่า นายขนมครก ( ชื่อ ฝรั่งเดือนเต็มเรียกยากเลยเปลี่ยนชื่อให้ ) คือ..ฟ้าฟื้น..ชายที่ทำให้เธอต้องเปลี่ยนความรักเป็นความเกลียดชัง เดือนเต็มหวังจะเป็นผู้ใหญ่บ้านคนต่อไปแทนพ่อ แต่มีอัคคีเป็นคู่แข่งเพราะไปได้เงินจากเกรียงไกรมาอัดฉีดแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน ฝรั่งขนมครกเลยหาทางช่วยด้วยการใช้เพลงลูกทุ่งเรียกความสนใจจากชาวบ้าน เอานโยบายมาแต่งเป็นเพลงลูกทุ่งหวังให้ชาวบ้านร้องจนติดปาก ซึ่งก็ได้ผลยิ่งเห็นนายขนมครกเป็นฝรั่งร้องเต้นลูกทุ่งเลยยิ่งชอบใจ แต่เมื่อถึงวันเลือกตั้งผลกลับออกมาว่าอัคคีได้เป็นผู้ใหญ่บ้านคนใหม่ (เพราะการโกงคะแนนเลือกตั้ง) พร้อมกับการมาของไมเคิล ที่มากับเกรียงไกรในฐานะลูกชายหัวแก้วหัวแหวน รุ่งตะวันโกรธที่ถูกพ่อ และพี่ชายหลอกใช้เลยหนีมาอยู่กับเดือนเต็ม และเริ่มหันมาหลงรักเพลินน้องสาวแทน ระหว่างนั้นผู้กองปกรณ์กับสารวัตรงามตาที่จำเป็นต้องปลอมตัวเป็นสามีภรรยากันเพื่อสืบคดี หลายครั้งที่งามตาเกือบจะเผลอใจไปหลงรักปกรณ์เพราะเสียงร้องเพลง และลูกอ้อนจีบ แต่ก็ยังใจแข็งไม่ยอมปล่อยใจให้ไปรัก สองตำรวจแกะรอยเข้ามาในหมู่บ้านทุ่งเพลงได้เห็นฝรั่งเคนนี่ก็สงสัย พยายามที่จะสืบอยู่หลายครั้งแต่ก็พลาดท่าไปซะทุกครั้ง จนมาเจอฟ้าฟื้นขณะที่แอบมาล้างรูปในตัวเมือง แต่รอดได้เพราะเดือนเต็มมาพบเข้า และพาหนีโดยเชื่อว่ากำลังถูกพวกนักเลงท้องถิ่นหาเรื่อง แต่เดือนเต็มมารู้จากไอ้โก๊ะว่าที่จริงพวกที่ไล่ตามฝรั่งขนมครกเป็นตำรวจ เดือนเต็มเริ่มไม่ไว้ใจว่าจะเป็นพวกฝรั่งขายยา ฟ้าฟื้นกลัวความลับจะแตกก่อน ฟ้าฟื้นเลยตัดสินใจจะบอกความจริงให้เดือนเต็มรู้ แต่เดือนเต็มถูกไมเคิลที่หลอกใช้รุ่งตะวันให้ติดกับล่อเดือนเต็มออกมาให้ไมเคิลลักพาตัวไป เพราะเดือนเต็มไปขัดขวางการสร้างโรงงานยาเสพติดของพวกอัคคีที่ร่วมมือกับไมเคิล ฟ้าฟื้นมารู้เรื่องก็รีบหาทางไปช่วยเหลือเดือนเต็ม ฟ้าฟื้นต่อสู้กับไมเคิลจนวิกผมที่ใส่ปลอมตัวหลุดขณะชกกัน ไมเคิลเลยรู้ว่าฝรั่งขนมครกคือฟ้าฟื้นที่หนีมา เดือนเต็มก็เกือบจะรู้ความจริง แต่โดนกระสุนปืนของไมเคิลไปซะก่อน ไมเคิลหนีเอาตัวรอด เพราะงามตาและปกรณ์พาตำรวจบุกเข้ามา งามตาได้ตัวบุหงาไว้ส่วนฟ้าฟื้นช่วยเหลือเดือนเต็มจนถึงมือของปกรณ์ให้รีบพาเดือนเต็มไปโรงพยาบาล เดือนเต็มรอดปลอดภัย ฟ้าฟื้นเป็นห่วงเดือนเต็มที่ต้องมารับเคราะห์เพราะเขา จนรู้สึกว่าเขาหนีเหมือนคนขี้ขลาดจึงตัดสินใจมอบตัวกับปกรณ์ และงามตา เพื่อหวังให้ตำรวจเชื่อว่าเขาไม่ได้เป็นฆาตกรฆ่าพ่อ และเป็นผู้ค้ายา ระหว่างถูกจับฟ้าฟื้นขอร้องให้ผู้กองปกรณ์กับสารวัตรงามตาเชื่อว่าเขาบริสุทธิ์ ผู้กองปกรณ์ขัดแย้งกับสารวัตรงามตา เพราะเชื่อด้วยจิตวิญญาณของคนรักเสียงเพลงเหมือนกันว่าฟ้าฟื้นไม่น่าจะเป็นคนร้าย แต่สารวัตรงามตาไม่เชื่อยังไงก็ต้องเอาตัวฟ้าฟื้นไปลงโทษให้ได้ จนผู้กองปกรณ์ไปเจอว่าไมเคิลร่วมมือกับอัคคีเพื่อสร้างโรงงานค้ายาจริงๆ ผู้กองปกรณ์เลยตัดสินใจยอมปล่อยตัวฟ้าฟื้นให้ร่วมมือกับทางตำรวจหาทางเล่นงานไมเคิล และพวกเกรียงไกร กำนันเจิด ฟ้าฟื้นกับบุหงาปลอมตัวเป็นพวกพ่อค้าไปล่อซื้อยาจากพวกอัคคี และไมเคิล จนเกิดการต่อสู้ เกรียงไกร กำนันเจิดถูกจับตัวไปได้ แต่ไมเคิลกับอัคคีหลบหนีแตกหักกัน ไมเคิลได้ตัวอัคคีไว้แล้วไปจับตัวเพลินมาเป็นตัวประกันเรียกเงินหลบหนีจากเดือนเต็ม ฟ้าฟื้น เดือนเต็มกับงามตา และปกรณ์ เลยพากันไปช่วยเหลือเพลิน แต่ติดกับดักของไมเคิลที่ใช้อัคคีเป็นเป้าล่อแทนตัวเพลิน อัคคีถูกไมเคิลฆ่าตาย ส่วนฟ้าฟื้นกับเดือนเต็ม และงามตากำลังจะถูกไมเคิลบังคับให้ยิงกันเอง ฟ้าฟื้นตัดสินใจเอาปืนจ่อที่หน้าอกตัวเองแล้วยิงเพื่อปกป้องเดือนเต็มคนที่เขารัก ระหว่างนั้นปกรณ์ก็พากำลังตำรวจมาช่วยจนสามารถเล่นงานไมเคิลได้ ฟ้าฟื้นนอนไม่ได้สติอยู่ในโรงพยาบาล เดือนเต็มเฝ้ารอฟ้าฟื้นตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะสัญญาที่จะกลับมาเจอกันอีกครั้งที่ภูเคียงตะวัน แต่ฟ้าฟื้นก็ไม่มีทีท่าจะตื่น พุดจีบเอาจดหมายที่ฟ้าฟื้นเคยเขียนให้เดือนเต็มมาคืน เดือนเต็มเอาจดหมายเก่าๆ มานั่งอ่านให้ฟ้าฟื้นฟังแล้วก็ยิ่งร้องไห้ โดยไม่รู้ว่าระหว่างนั้นฟ้าฟื้นได้ตื่นขึ้นมาแล้วแต่แกล้งทำเป็นยังไม่ตื่นเพราะต้องการจะทำตามคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับเดือนเต็มให้สำเร็จ คือการถ่ายภาพหมู่บ้านทุ่งเพลงลงหนังสือให้ชาวโลกได้รู้จักทุ่งเพลง ซึ่งฟ้าฟื้นก็ทำสำเร็จ ภาพภูเคียงตะวันของฟ้าฟื้นกลายเป็นที่รู้จักเรียกให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาที่ภูเคียงตะวันไม่ขาดสาย ผู้กองปกรณ์ยกความดีความชอบให้สารวัตรงามตาจนได้รับการเลื่อนยศ ส่วนตัวเองลาออกจากอาชีพตำรวจไปเป็นนักร้องที่ตัวเองรักที่หมู่บ้านทุ่งเพลง สารวัตรงามตารู้สึกผิดที่มองผู้กองปกรณ์ผิดมาตลอด และมารู้ใจตัวเองว่าหลงรักสารวัตรนักร้องคนนี้เข้าเต็มเปา จึงตามไปบอกรักเขา และยอมที่จะรับราชการเป็นตำรวจที่หมู่บ้านทุ่งเพลง เดือนเต็มเป็นผู้ใหญ่บ้านคนใหม่ เพลินแต่งงานกับรุ่งตะวัน ฟ้าฟื้นอยู่ที่บ้านทุ่งเพลงกับเดือนเต็มช่วยกันพัฒนาหมู่บ้านทุ่งเพลงให้เป็นที่รู้จัก และกอดประครองความรักของทั้งสองดั่งสัญญาที่เคยให้ไว้ที่ภูเคียงตะวัน

หวานใจยัยต่างดาว 2552

เรื่องย่อ : หวานใจยัยต่างดาว (2552/2009) ต้อม เจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลศิลปินค่ายเพลงลูกทุ่งชื่อดัง จับได้ว่า ดุจดาว แฟนสาวนักร้องชื่อดังแอบไปกิ๊กกับ สิน รองผู้บริหารหนุ่มของค่าย ทำให้ทั้งคู่มีปากเสียงกัน ดุจดาวโกรธจัดจึงขับรถออกไปด้วยความเร็วและชน วีสี่ เข้าอย่างจัง ด้วยความตกใจกลัว ดุจดาวจึงหนีไปและทิ้งให้ต้อมรับผิดชอบแทน โดยหารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้ววีสี่เป็นมนุษย์ต่างดาวที่ถูกส่งมาสำรวจข้อมูล บางอย่างบนโลกมนุษย์ ต้อมพาวีสี่มารักษาตัวที่บ้านของเขาซึ่งอาศัยอยู่กับ ตาชื่น ผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา แต้ม น้องสาวจอมห้าวที่เรียนชั้น ม.ปลาย และ ตั้ม น้องชายวัยกำลังซุกซน ทุกคนไม่เชื่อเรื่องที่วีสี่เล่าว่าเธอเป็นมนุษย์ต่างดาว กลับเข้าใจว่าเธอได้รับบาดเจ็บจนเพี้ยนไป ตั้งแต่นั้นมาวีสี่เลยพักอาศัยอยู่ที่บ้านต้อม โดยต้อมบอกใครๆว่าเธอเป็นสาวใช้คนใหม่ที่เพิ่งมาจากต่างหวัด ทำเอา รัชนี คุณครูสาวที่หลงรักต้อมเกิดหึงหวงวีสี่ จึงแกล้งหาเรื่องเล่นอยู่เป็นประจำ และเกิดรู้ความจริงว่าเธอเป็นมนษย์ต่างดาวเธอจึงหันไปร่วมมือกับ อาจารย์สนธยา ครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ผู้มีเป้าหมายจะใช้วีสี่เป็นหนูทดลองในโครงการของตน เพื่อให้วีสี่ปลอดภัยจาการถูกรังแก ต้อมเลยพาเธอไปฝากงานที่ค่ายเพลงของ เสี่ยสำเริง ที่เขาเป็นพนักงานอยู่ เสี่ยสำเริงจอมหื่นเกิดติดใจในความน่ารักของวีสี่จึงหาโอกาสรวบหัวรวบหางเธอ ทุกวิธี แต่โชคดีที่ โป้ง กับ ลิซ่า เพื่อนซี้ของต้อมคอยช่วยเหลือ ต่อมาไม่นานวีสี่ก็เริ่มไต่เต้าจากพนักงานทำความสะอาด จนกลายมาเป็นแดนเซอร์และจับพลัดจับผลูไปเป็นนักร้องหน้าใหม่ได้ราวปาฎิหารย์ ชื่อเสียง ความน่ารักและนิสัยของวีสี่ทำให้ดุจดาวริษยาหาเรื่องทำลายวีสี่ทุกฝีก้าว เป็นเหตุให้ต้อมต้องคอยออกโรงปกป้องวีสี่อยู่เสมอ จนต้อมและวีสี่เกิดความรักต่อกัน ในขณะเดียวกันวีสี่ก็ได้รับการติดต่อจากดาวแม่ของเธอที่กำลังจะมารับตัวเธอ กลับในเร็ววัน

ธิดาวานร 2 2552

เรื่องย่อ : ธิดาวานร 2 (2552/2009) อิยะวดี (อาเมเรีย จาคอป) ถูกจับบูชายันต์ใส่ชุดออกแนวขอมผสมล้านนา ปล่อยผมสยายถูกตรึงอยู่บนแท่นไม้ มีไฟอยู่ด้านล่าง อิยะวดีใส่เครื่องทับทิมสีแดงเต็มยศ มีบรรดาหญิงสาวสวยมากมายแต่งตัวสวยเช่นกันห้อมล้อมอยู่ มีลิงสองตัวพยายามจะเข้าไปที่แท่นบูชาแต่โดนจับไว้ ที่อิยะวดีบอกกล่าวกับทุกคนในที่นั้นไว้ว่าจะขอเฝ้ารักษาขุมทรัพย์แห่ง สุสานอัญมณีเพื่อป้องกันและทวงคืนอัญมณีจากผู้บุกรุกทุกชาติภพไปตราบจนกว่า ผู้บุกรุกเหล่านั้นจะอ่อนล้าและหมดกำลังไม่สามารถมาปล้นอัญมณีที่สุสานแห่ง นี้ได้อีก ขาดคำเห็น สะมะแอ (ชุมพร เทพพิทักษ์) แสนไท (ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์)เจ้ากุนริกา แห่งรมยนคร และทหารผู้บุกรุกกำลังขนอัญมณีและทำร้ายหญิงสาวทั้งหลาย มีฝูงลิงกำลังช่วยกันต่อสู้ต่างตกตะลึงกับภาพที่เห็น เพราะเกิดไฟลุกท่วมสรรพสิ่งทั้งหลายระเบิดเป็นจุล พวกบุกรุกร้องโอดโอย เห็นหน้าของอิยะวดียิ้มพอใจในกองเพลิง ในที่สุดผู้บุกรุกก็เสียชีวิต นี่คือความฝันของอิยะวดีนั่นเอง

นางกรี๊ด 2552

เรื่องย่อ : นางกรี๊ด (2552/2009) จิระวาตี หรือ แจ๋ม เด็กสาวที่อยู่ในสลัมแห่งหนึ่ง เธออาศัยอยู่กับ จันทรา แม่บุญธรรมตาบอดและ จิราภา หรือ จุ๋ม ลูกสาวจันทราที่เป็นใบ้ จิระวาตีรักจันทรากับจิราภามาก ตั้งแต่จันทราตาบอด นางก็ติดเหล้าและมักด่าทอจิระวาตีเป็นประจำ ส่วนจิราภารักจิระวาตีเหมือนพี่สาวแท้ๆ จิระวาตีหาเงินเลี้ยงดูทั้งสอง โดยการอยู่ในคณะรวมดาวชาวกรี๊ด ของ จรัญ และ ขวัญจิต ซึ่งรับจ้างกรี๊ดทุกงาน จิระวาตีมีเพื่อนในคณะมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แม็กซ์ สาวประเภทสองชาวเหนือ นุ่ม ทอมบอยจากอีสาน ปุ๊กกี้ อ้น โดยจิระวาตีเป็นหัวหน้ากลุ่ม

วันนี้ จิระวาตีและเพื่อนต้องไปกรี๊ดที่คอนเสิร์ตนักร้องสาวคนดัง หลังจากนั้น ทั้งหมดก็ไปรับจ้างร้องไห้คร่ำครวญในงานศพเจ้าสัวเจ้าของร้านเพชร สามีของ กิมลั้ง จิระวาตีได้เจอ ปัญธร ลูกชายคนเล็กของ ทัศวรรณ และ ชัยวัฒน์ ซึ่งมางานศพแทนพ่อแม่ด้วย ปัญธรเข้าใจว่าจิระวาตีเป็นญาติเจ้าสัว ปัญธรจึงเดินเข้าไปปลอบใจจิระวาตี จนจิระวาตีไม่ได้บอกความจริง

ปัญธรเป็นเพลย์บอย ไม่ยอมทำงาน เอาแต่เที่ยว กิ๊กของเขาคือ ศยามล หรือ หม่อน สาวเปรี้ยวที่คิดจะจับปัญธร เพราะความรวยของปัญธร แต่ที่ทำให้ชัยวัฒน์กับทัศวรรณหนักใจก็คือการที่ปัญธรยืนยันว่าจะไม่ยอมสืบทอดกิจการผลิตยาดมของครอบครัว แต่เลือกที่จะเข้าวงการบันเทิงเป็นนักร้อง ชัยวัฒน์โกรธ แต่ก็ยอมให้เวลาปัญธรสามเดือนเพื่อทำตามฝัน แต่หลังจากนั้น ถ้าไม่สำเร็จปัญธรจะต้องกลับมาสืบทอดกิจการ ปัญธรตอบตกลง ชัยวัฒน์จึงต้องให้ ปรีติ น้องชายปัญธรที่เป็นคนทำงานเก่ง ช่วยครอบครัวแบ่งเบาภาระที่บริษัท ปัญธรมักไปเที่ยวกับศยามลเสมอ และหลงคารมหวานของศยามลจนถอนตัวไม่ขึ้น ศยามลจึงยิ่งได้ใจ ทำให้ทัศวรรณยิ่งไม่ถูกชะตาในตัวศยามลมากขึ้น

วันหนึ่งทัศวรรณไปเยี่ยม สะอิ้งทิพย์ เจ้าแม่แห่งวงการนางงาม และได้เจอกับโยษิตา หลานสาวของสะอิ้งทิพย์ โยษิตาเป็นคนเรียบร้อย ใจเย็น แต่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับหัวใจ ทำให้ไม่ค่อยแข็งแรง ทัศวรรณคิดจะให้ปัญธรแต่งงานกับโยษิตา ดังนั้น ในช่วงที่สะอิ้งทิพย์กับโยษิตายุ่งกับการประกวดนางงาม “หนึ่งในสี่ภาค” นี้ ทัศวรรณจึงตัดสินใจส่งปัญธรมาเป็นผู้ช่วยโยษิตา ซึ่งปัญธรตอนแรกก็ปฏิเสธ แต่พอได้พบกับโยษิตา ก็รู้สึกชอบ จึงรีบตอบตกลง

ปัญธรพาศยามลไปดูคอนเสิร์ต บี ยาง ชาง ซึ่งพวกจิระวาตีต้องไปกรี๊ดในงานนี้ด้วย ศยามลไม่พอใจที่พวกจิระวาตียืนกรี๊ดอยู่หน้าเวที จึงขอให้ปัญธรไปต่อว่า แต่ปัญธรกลับไปคุยกับจิระวาตี ศยามลไปพูดเอง จิระวาตีไม่อยากมีเรื่องจึงพาเพื่อนถอยออกมา แต่สุดท้ายก็มีคนอื่นมายืนหน้าเวทีเหมือนเดิม หลังเลิกงานจิระวาตีซื้อกับข้าวไปฝากแม่กับน้อง แต่จันทราก็โวยวายหาว่าจิระวาตีใช้เงินสิ้นเปลือง จิราภามาห้าม แม่จันทราก็ไม่ฟัง จิระวาตีได้แต่ทน

ในคอนเสิร์ต ปัญธรถูกศิลปินเกาหลีเรียกขึ้นบนเวที แล้วขอให้สอนตนร้องเพลงไทยซักประโยคหนึ่งเพื่ออ้อนแฟนๆ ชาวไทย ปัญธรเลยร้องซะเต็มที่ และมี พี่โต้ ยืนปะปนกับคณะชาวกรี๊ด พี่โต้ เป็นอดีตนักร้องขวัญใจวัยรุ่นเมื่อ 20 ปีก่อน ที่สภาพตอนนี้ค่อนข้างตกอับ แต่ยังมีความหวังจะหวนคืนสู่วงการอย่างสง่าผ่าเผย โดยการปั้นใครซักคนขึ้นมาด้วยผลงานการแต่งเพลงและโปรดิวซ์ของตน ในความคิดเขา เขาเชื่อมั่นว่าเขาไม่แพ้ บอยด์ โกสิยพงศ์ เหมือนกัน

พี่โต้จึงรีบแนะนำตัว พร้อมทาบทามปัญธรให้เป็นศิลปินคนแรกที่ตนจะปั้นให้ดังสุดๆ แต่เมื่อพี่โต้พาไปสตูดิโอ หรือห้องอัด ปัญธรก็ได้รู้ว่าสภาพของห้องอัดที่ว่าเป็นบ้านในสลัมรูหนู อุปกรณ์กันเสียงก็เป็นรังไข่ ร้องๆ มีมอเตอร์ไซค์มาบิด มีเด็กร้องไห้ข้างหน้า ดูยากจนมากๆ แต่พี่โต้ก็ตื๊อจนปัญธรใจอ่อน ด้วยการเปิดเพลงที่ตนแต่งไว้ จนปัญธรที่เดินออกไปแล้ว ต้องย้อนกลับมา ใจอ่อนเซ็นสัญญากับพี่โต้

ที่สลัม จิระวาตีมีเพื่อนขาพิการ คือ บูม ที่ใช้ชีวิตไปวันๆ ไม่ยอมขวนขวายหางานทำ อ้างแต่ว่าเพราะตนพิการ จิระวาตีจึงต้องอดทนพูดปลุกปลอบให้กำลังใจ แต่ก็พูดแบบแรงๆ แสบๆ คันๆ ให้บูมได้คิดว่าเกิดมาทั้งที ก็ต้องสู้กับชีวิตให้ดีที่สุด อย่ายอมจำนนกับชะตากรรมหรือความพิการ และเพื่อนที่เรียนจบปวช.มาด้วยกันคือ ปุ๊กกี้ ที่เรียบร้อยขี้อาย และยังหางานทำไม่ได้ จิระวาตีจึงชวนปุ๊กกี้มาอยู่คณะชาวกรี๊ดด้วย และนอกจากนี้ยังทำงานรับจ้างสารพัด ทั้งซัก รีด ส่งของ ต่อทะเบียนรถยนต์ก็ทำ เรียกว่าอะไรที่เป็นเงิน จิระวาตีเอาด้วยทุกอย่าง

กิมลั้งโทรหาจิระวาตีให้ช่วยมาทำความสะอาดที่บ้าน ทำให้จิระวาตีเจอปัญธรกับโยษิตาที่มาติดต่อเรื่องเครื่องเพชรสำหรับใช้ในการประกวด โยษิตาถูกชะตากับจิระวาตีผิดกับปัญธรที่ตั้งท่ารังเกียจจิระวาตี เพรารู้ความจริงที่รู้ว่าจิระวาตีเป็นเด็กสลัม จึงคิดว่าจิระวาตีโกหกและหาเงินไปเที่ยว จิระวาตีไม่ชอบปัญธรเช่นกัน ทั้งคู่เริ่มเป็นคู่กัดและมีปากเสียงกัน ยิ่งเมื่อจิระวาตีรู้ว่าปัญธรกำลังจะออกอัลบั้ม ก็หัวเราะเยาะ ดูถูกสารพัด จนปัญธรประกาศก้องว่าจะพิสูจน์ให้เห็นว่าตนสามารถเป็นนักร้องซูเปอร์สตาร์ได้

ปัญธรเข้ามาช่วยโยษิตาดูแล น้องเอ๋ ผู้เข้าประกวดในนามภาคใต้ซึ่งสะอิ้งทิพย์ไปเจอที่ร้านส้มตำในสลัม โดยน้องเอ๋อยู่กับ นุ่ม เพื่อนทอมบอยที่ขายส้มตำอยู่ด้วยกัน สะอิ้งทิพย์ชอบใจ เสนอตัวเป็นผู้ส่งน้องเอ๋เข้าประกวด ปัญธรเห็นความแปลกในตัวน้องเอ๋ แต่ไม่ได้พูดมันออกมา สะอิ้งทิพย์กังวลว่า น้องเอ๋จะไม่ได้ตำแหน่ง จึงปรึกษาโยษิตา โยษิตาเสนอให้จ้างหน้าม้ามาเชียร์น้องเอ๋ สะอิ้งทิพย์เห็นด้วย โยษิตาจึงติดต่อ จรัญกับขวัญจิต พวกของจิระวาตีจึงรับงานนี้ โยษิตาดีใจมากที่ได้ทำงานกับจิระวาตี แต่ปัญธรไม่ชอบใจ

ปรีติก็ติดสอยห้อยตามทัศวรรณมา ทำให้ได้พบโยษิตา ปรีติปิ๊ง แต่ไม่กล้าทำอะไรตามประสาผู้ชายที่ไม่ประสาเรื่องผู้หญิงอย่างตน ต่อมาพอทราบว่าทัศวรรณผู้เป็นเป็นแม่ พยายามจับคู่โยษิตา กับปัญธรพี่ชายตน ปรีติจึงต้องแอบซ่อนความรู้สึก โดยคุยกับโยษิตาเป็นเพื่อน ไม่สามารถคิดเกินเลยกว่านั้นกับว่าที่พี่สะใภ้ในอนาคตได้

ในการทำงานครั้งนี้ พวกจิระวาตีต้องมาซ้อมเชียร์ที่บ้านสะอิ้งทิพย์ก่อน ซึ่งทุกคนจะได้เบี้ยเลี้ยงในวันซ้อมด้วย ปัญธรเป็นคนขับรถรับส่งพวกจิระวาตีตามที่โยษิตาขอร้อง ปัญธรเข้าไปเหยียบสลัมเป็นครั้งแรกด้วยความขยะแขยง บูมอาละวาดเมื่อรู้ว่า จิระวาตีต้องไปสุราษฎร์ แม้จิระวาตีจะใช้เหตุผล แต่บูมก็ไม่ฟัง เพื่อนๆ จึงพาจิระวาตีไปทันที

เพลงของปัญธรทำเสร็จออกมา และจะประเดิมร้องครั้งแรกบนเวทีประกวดนางงามนั่นเอง พี่โต้พาปัญธรไปขอสปอนเซอร์เพื่อหาทุนโปรโมตอัลบั้ม จาก เสี่ยดิเรก ซึ่งเสี่ยดิเรกเห็นหน้าปัญธรเข้าก็รู้สึกถูกชะตาอย่างแรง จึงยอมช่วยเป็นสปอนเซอร์ให้ เพราะภารกิจล่าฝันของปัญธร ทำให้เขามีเวลาให้โยษิตาน้อยลงไปมากๆ จนโยษิตาเริ่มมาสนิทสนมกับปรีติน้องชายของตน

ก่อนวันประกวด ทุกคนเดินทางไปบูทีค โฮเทลหรูริมชายหาดเพื่อเตรียมความพร้อม ศยามลไม่พอใจที่ ปัญธรทำงานจนไม่สนใจตัวเอง จึงตามไปสุราษฎร์พร้อมกับ คมเดช (อัมรินทร์ สิมะโรจน์) คู่ขาเก่าที่ค้ายาเสพติด และนำยามาปล่อยในสลัม ศยามลต้องการกำจัดโยษิตา ว่าที่คู่หมั้นของปัญธร ส่วนปัญธรเริ่มเบื่อกับงานนี้ ทั้งยังไม่รู้สึกชอบโยษิตาเลย เพราะโยษิตาเรียบร้อยเกินไป ปัญธรตามไปช่วยงานที่สุราษฎร์ตามที่ทัศวรรณต้องการ สะอิ้งทิพย์กังวลเรื่องที่น้องเอ๋พูดน้อยผิดปกติ เอาแต่ยิ้มอย่างเดียว อาจทำให้แพ้เพราะตอบคำถามได้น้อย

จิระวาตีดีใจมากที่ได้มาทะเล จึงออกไปเดินเล่น แต่ก็ต้องอารมณ์เสียเพราะปัญธรเข้ามาหาเรื่อง จิระวาตีขู่จะนำเรื่องศยามลไปบอกโยษิตา ปัญธรจึงเงียบ เพราะกลัวโยษิตาไม่สบายใจ ก๊วนชาวสลัม พอได้มาพักที่หรูหรา ก็เฮฮากันป่วน จนสะอิ้งทิพย์กุมขมับปวดหัว

วันงานประกวดรอบแรก พวกจิระวาตีตื่นเต้นมากแต่ก็ทำได้ดี คมเดชมากับศยามล เขามองออกว่าน้องเอ๋เป็นสาวประเภทสอง นุ่มที่สนิทกับน้องเอ๋ ก็หลุดมีพิรุธ ศยามลจึงไปบอกพี่เลี้ยงตัวแทนภาคเหนือเรื่องน้องเอ๋ เกิดการประท้วงในวันตัดสินรอบสุดท้าย ทำให้สะอิ้งทิพย์เสียหน้ามาก แต่นางไม่ยอมแพ้ เพราะกรรมการให้โอกาสหาคนใหม่มาแทน สะอิ้งทิพย์เลือกจิระวาตี แล้วแปลงโฉมเป็นสาวใต้ โดยจิระวาตีเลือกเต้นฮาวายโชว์ ไม่มีใครเชื่อว่าจิระวาตีจะทำได้ดี พริ้วไหว

โดยเฉพาะปัญธร โยษิตาให้กำลังใจจิระวาตีตลอดเวลา ในที่สุดความจริงใจของจิระวาตีก็ชนะใจกรรมการในรอบสัมภาษณ์จนได้รับตำแหน่งนางงาม “หนึ่งเดียวในสี่ภาค” อย่างไม่คาดคิด สะอิ้งทิพย์ดีใจมาก แต่ก่อนลงจากเวที จิระวาตีเกิดอุบัติเหตุตกบันไดเพราะปัญธรที่เดินร้องเพลงบนเวทีดันไปชนจิระวาตีที่เดินโบกมือรับตำแหน่งอยู่ริมเวที ทำให้จิระวาตี ตกเวที ขาเดี้ยง ต้องกลับไปพักรักษาตัวที่บ้านก่อนที่จะปฏิบัติภารกิจของนางงามต่อไป

จิระวาตีโกรธปัญธรมาก เพราะคิดว่าปัญธรแกล้ง ปัญธรต้องรับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงจำเป็นของนางงามคนใหม่ไปโดยปริยาย เพราะโยษิตามีงานอื่นอีกมากมาย ศยามลเจ็บใจที่เหตุการณ์พลิก แต่คมเดชก็คอยปลอบใจ ทั้งคู่มีสัมพันธ์กันลึกซึ้งโดยปัญธรไม่รู้ ศยามลขอให้คมเดชจัดการโยษิตา

นอกจากภารกิจดูแลจิระวาตี ปัญธรยังจะต้องทำภารกิจการเป็นนักร้องหน้าใหม่ของตน ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องจ้างทีมกรี๊ดของพวกจิระวาตี มาช่วยกรี๊ดในงานแถลงข่าวเปิดอัลบั้ม

ปัญธรไม่ชอบมาที่สลัม แต่ก็ยอมมาดูแลจิระวาตี เขาเห็นจิระวาตีดูแลเด็กๆ ก็หมั่นไส้ จิระวาตีหาว่าปัญธรไม่เคยคิดทำบุญ ปัญธรจึงกลับมาอีกครั้งพร้อมขนมถุงก๊อปแก๊ปมากมาย ปัญธรเชื่อว่าเงินซื้อได้ทุกอย่าง แต่ไม่มีเด็กคนใดรับน้ำใจเขาเลย ปัญธรยังไม่ยอมแพ้ เขาพยายามหาซื้อของเล่น ของกินมาให้ โดยปราศจากความจริงใจ เด็กๆ ไม่ยอมรับ จิระวาตีดีใจที่เด็กๆ เชื่อฟังคำสอนของตน ปัญธรปรึกษาปรีติ ปรีติยืนยันเหมือนจิระวาตีว่า เงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะใจปรีติพิสูจน์ให้ปัญธรเห็นด้วยการเข้าไปคุยดี หาหนังสือที่มีประโยชน์ให้อ่าน พาวิทยากรมาบรรยายเรื่องที่เป็นประโยชน์ จนจิระวาตี เด็กและคนในสลัมต่างยอมรับปรีติ

ที่บริษัทสะอิ้งทิพย์ มีงานด่วนเข้ามาให้นางงาม ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ โยษิตาจึงพาสะอิ้งทิพย์ไปหาจิระวาตีที่บ้าน สะอิ้งทิพย์ได้เจอจันทราก็ตกใจ จึงรีบติดต่อเสี่ยดิเรกทันที เพราะสะอิ้งทิพย์มั่นใจว่า จิระวาตีจะต้องเป็นลูกของ ดวงใจ นางงามคนหนึ่งของสะอิ้งทิพย์ กับเสี่ยดิเรกแน่นอน เสี่ยดิเรกตกใจมากเมื่อได้เจอจิระวาตีด้วยตัวเอง ก็ยิ่งมั่นใจว่าจิระวาตีเป็นลูก แต่เสี่ยดิเรกยังไม่กล้าบอกจิระวาตี จึงได้แต่ตามดูผลงานจิระวาตีอยู่ห่างๆ ปัญธรแอบไปหาศยามลอยู่เรื่อยๆ แต่ศยามลยังกลัวปัญธรหลุดมือ

ความสัมพันธ์ของปรีติกับโยษิตา เริ่มพัฒนาขึ้นไปในทางที่ดี ถึงเวลานี้ปรีติได้เห็นความดีทั้งกริยา วาจา ใจของโยษิตา ทำให้เขาตกหลุมรักโยษิตาเข้าให้แล้ว

เมื่อจิระวาตีหายขาเจ็บ ก็เริ่มทำหน้าที่ของตนเองในฐานะนางงาม ซึ่งถูกควบคุมหลายอย่าง จิระวาตีเบื่อจึงมาบ่นให้เพื่อนฟัง จันทราได้ยินเข้าก็ด่าจิระวาตี หาว่าเรื่องมาก เลือกงาน จิระวาตีเสียใจแต่ก็ไม่เถียงและตั้งใจจะไม่เกี่ยงงานอีก จิราภาสงสารพี่สาวจับใจ ถึงแม้จะเป็นใบ้ ทำได้แค่เขียนข้อความสั้นๆ ให้กำลังใจ แต่ก็ทำให้น้ำตาของจิระวาตีไหลรินออกมาด้วยความปลาบปลื้ม

ปัญธรรู้สึกเฟล ที่อัลบั้มเพลงของตนไม่ฮิตติดชาร์ตอย่างที่คิด ตรงกันข้าม งบประมาณที่ทุ่มให้กับการโปรโมตก็หมดลงไปโดยที่เพลงเขาไม่ฮิตสักเพลง ชัยวัฒน์ผู้เป็นพ่อ ดีใจที่จะได้ลูกชายผู้สืบทอดกิจการของครอบครัวกลับมา ปัญธรจึงบอกกลับพ่อว่า ขอเคลียร์ทุกอย่างหนึ่งเดือน แล้วจะกลับไปช่วยปรีติ ผู้เป็นน้องชาย ดูแลกิจการผลิตยาดมของครอบครัว

ปัญธรต้องพาจิระวาตีไปหา คุณเหม่า เจ้าของบริษัทปลาร้าแปรรูป ซึ่งปัญธรต้องพา ใบเตย หลานของเขาไปด้วย ใบเตยเป็นลูกของ สิทธา กับ มยุรี สิทธาเป็นน้องชัยวัฒน์ พ่อของปัญธร สิทธามีปัญหากับมยุรีบ่อย มยุรีเอาแต่ทำงาน สิทธาไปมีผู้หญิงนอกบ้าน จนใบเตยกลายเป็นโรคประสาท สิทธากับมยุรีมักพามาฝากที่บ้านชัยวัฒน์เสมอ เพราะต่างอ้างว่ามีธุระ ปัญธรทะเลาะกับจิระวาตีบนรถ จนใบเตยทนไม่ได้กรีดร้องร่ำไห้ออกมา ทั้งสองคนจึงต้องช่วยกันปลอบใบเตย

ปัญธร จิระวาตี และใบเตย เข้าไปในบริษัท คุณเหม่า โดยส่วนตัว คุณเหม่าไม่ยอมรับความเป็นอีสานของตัวเอง แต่ทำดัดจริตพูดไทยคำฝรั่งคำ นอกจากนี้ คุณเหม่ายังจะเกิดอารมณ์โกรธรุนแรงหากใครพูดถึงหรือใช้ภาษาอีสาน จิระวาตีไม่รู้เรื่องนี้ จึงส่งภาษาอีสานตามแบบที่นุ่มเคยสอนไว้ คุณเหม่าโมโหมากจึงไม่จ้างจิระวาตีเป็นพรีเซ็นเตอร์ จิระวาตีไม่เข้าใจ สะอิ้งทิพย์กับโยษิตารู้เรื่อง จึงเล่าเรื่องคุณเหม่าให้ฟัง แต่จระวาตีไม่ยอม เพราะเห็นว่าคุณเหม่าไม่มีเหตุผล แม้เพื่อนๆ จะห้ามแต่จิระวาตีก็ไม่ฟัง ปัญธรเล่าเรื่องให้ปรีติฟัง ปรีติชื่นชอบจิระวาตี แต่ปัญธรไม่สนใจ

จิระวาตีบุกไปบริษัทคุณเหม่าอีกครั้ง ซึ่งกำลังมีงานเปิดตัวสินค้าอยู่ จิระวาตีจึงไปพูดภาษาอีสาน ตำส้มตำ จนทุกคนชื่นชอบ แต่คุณเหม่าโกรธมาก รีบโทรบอกสะอิ้งทิพย์กับโยษิตา โยษิตาขอร้องปัญธรให้ช่วย ในที่สุดปัญธรก็ลากจิระวาตีออกจากงาน และเตือนสติจิระวาตีด้วยคำพูดรุนแรง จิระวาตีนิ่งเงียบ แต่ในใจไม่ยอมแพ้ ใบเตยเอาแต่เก็บตัวในห้อง และอาละวาดทำลายข้าวของ ทำให้ปัญธรปวดหัวมาก ศยามลโทรมาตามหลายครั้ง ปัญธรจึงยิ่งเครียด ปรีติบอกให้ปัญธรใจเย็น สักพัก คุณเหม่าโทรหาปัญธร เพื่อขอให้จิระวาตีมาเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้า เพราะลูกค้าชื่นชอบ

ปัญธรขอให้ปรีติช่วยพูดกับจิระวาตี แต่ปรีติไม่รับปาก เพราะมีงานมากมาย ปัญธรจึงต้องไปพูดกับจิระวาตีเอง ระหว่างนั้นปรีติไปเยี่ยมจิระวาตีกับเด็กๆ ที่สลัม และเกริ่นเรื่องการเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้คุณเหม่า ทั้งยังแนะนำเรื่องการเรียกค่าตัวด้วย จิระวาตีดีใจที่ได้งาน เพราะจะได้นำเงินมาปลูกบ้านใหม่ให้จันทรากับจิราภา ปัญธรดูถูกจิระวาตีด้วยความหมั่นไส้ แต่ยังตามประกบเธอตามหน้าที่ บูมไม่พอใจที่จิระวาตีทำงานมากจนไม่มีเวลาสนใจตนเอง จิระวาตีเหนื่อยใจกับเรื่อง

บูมมาก ส่วนศยามลเบื่อปัญธรที่ไม่มาหา จึงอยู่กับคมเดชบ่อยขึ้นและให้คมเดชสืบประวัติของจิระวาตีด้วย เพราะศยามลเริ่มระแวงจิระวาตีมากกว่าโยษิตา

จิระวาตีเตรียมงานทุกอย่างเป็นแบบอีสาน แม้คุณเหม่าจะไม่ชอบ แต่ก็ไม่ว่าอะไร จิระวาตีให้เพื่อนๆ มาช่วย จนงานออกมาสำเร็จไปได้ด้วยดี เสี่ยดิเรกมาร่วมงานด้วย และได้พูดคุยกับจิระวาตี เสี่ยดิเรกเอ็นดูจิระวาตีมาก ส่วนปัญธรกับทัศวรรณพาใบเตยมาด้วย ใบเตยมีความสุขมากขึ้นเมื่อได้ร่วมงานนี้ ใบเตยติดจิระวาตีมาก เพราะจิระวาตีเข้าใจใบเตยมากกว่าคนอื่น จนปัญธรแปลกใจที่ทั้งคู่เข้ากันได้ดี

ปัญธรนำซีดีอัลบั้มของตนที่เหลือเป็นลังๆ มาแจกที่สลัม อย่างน้อยเขาก็ดีใจที่เห็นชาวสลัมกลุ่มเพื่อนจิระวาตีมารุมยื้อแย่งกัน แต่ก็ทราบภายหลังว่า ชาวสลัมเอาแผ่นซีดีของเขาไปร้อยเชือกแขวนไล่แมลง บ้างก็ห้อยท้ายรถจักรยาน ปัญธรถอนใจ คิดว่าดีแล้วที่ตนล้มเลิกความฝันที่จะเป็นนักร้องซูเปอร์สตาร์

จากงานที่ผ่านมา ทำให้มีคนสนใจปลาร้าแปรรูปมากขึ้น มีการสั่งของมากจนโรงงานผลิตเกือบไม่ทัน นอกจากนี้ จิระวาตียังพยามยามทำให้คุณเหม่า มองเห็นคุณค่าความเป็นอีสานด้วย จนคุณเหม่าเริ่มเปลี่ยนใจ จิราภาดีใจที่จิระวาตีได้เงินเยอะ แต่จันทรากลับพูดจาทวงบุญคุณเหมือนเคย จิระวาตีโด่งดังมากขึ้น จนมีงานเข้ามากมาย ขณะที่นายไว ลูกน้องคมเดชสืบเรื่องจิระวาตี นายไว เอาเหล้ามาฝากจันทรา และหลอกถามจนได้ประวัติจิระวาตี ขณะนั้นไฟไหม้แถวสลัมพอดี ทุกคนจึงขนของหนี โชคดีที่ปัญธรตามมาด้วย เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อย จิระวาตีก็ขอบคุณปัญธรที่อยู่เป็นเพื่อน ศยามลได้ประวัติของจิระวาตีก็ดีใจมาก และรอคอยวันที่จะเปิดโปงจิระวาตี

ปัญธรเล่าเรื่องไฟไหม้ให้พ่อกับแม่ฟัง ครอบครับปัญธร เสี่ยดิเรก ต่างพากันช่วยเหลือชุมชนที่ถูกไฟไหม้ จิระวาตีอยากนำเงินที่ทำงานได้ไปช่วยซ่อมบ้านให้เพื่อนบ้าน จนจันทราด่าหาว่าไม่ดูแลคนในบ้าน ทำให้จิระวาตีกลุ้มใจมาก โยษิตาเห็นความจริงใจของจิระวาตี จึงแนะให้จิระวาตีใช้ตำแหน่งนางงามขอความช่วยเหลือจากที่ต่างๆ นอกจากนี้ โยษิตายังพาจิระวาตีไปเปิดบัญชีที่ธนาคารอีกด้วย แต่โยษิตาเริ่มไม่สบาย ทำให้จิระวาตีเป็นห่วง โยษิตาไม่อยากให้คนอื่นกังวลใจไปด้วย จึงไม่บอกความจริงเรื่องอาการป่วย

จิระวาตีทำตามที่โยษิตาแนะนำ แต่ติดที่พื้นที่เหล่านั้นมีเจ้าของที่ดิน ซึ่งอาจไม่ยอมให้ชาวบ้านอยู่ต่อ จิระวารีจึงไปขอความช่วยเหลือจากรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมที่เคยรู้จัก ซึ่งรัฐมนตรีรับปากจะช่วยเต็มที่ ในที่สุด ทุกคนก็สามารถสร้างบ้านอยู่ที่เดิมได้ จิระวาตีมีชื่อเสียงมากขึ้น แต่เธอกลับไม่ชอบเลย

วันหนึ่งปัญธรพาจิระวาตีไปอัดรายการ จิระวาตีระบายความอัดอั้นเรื่องเบื่อตำแหน่งขึ้นมาปัญธรจึงปลอบให้ใจเย็น เมื่อทั้งคู่ไปถึงสตูดิโอ ศยามลก็มาดักไว้ จิระวาตีหมั่นไส้จึงทำหวานใส่ปัญธร จนศยามลทนไม่ได้ ปัญธรต้องแยกศยามลออกมา ศยามลออดอ้อนจนปัญธรใจอ่อนยอมอยู่ด้วย

จิระวาตีตัดสินใจรับงานมอบโล่เกียรติบัตรของรัฐมนตรีวัฒนธรรมเป็นงานสุดท้าย เพราะเธออยากใช้ชีวิตที่สงบสุข โยษิตา ใบเตย ปรีติ และทัศวรรณ มาเที่ยวหาจิระวาตีที่บ้าน ทำให้จิระวาตีรู้ว่าปัญธรอ้างชื่อเธอแต่ไปอยู่กับศยามล จิระวาตีสงสารโยษิตาที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ขณะที่ปรีติไปถามปัญธรเองจนรู้ว่าชายหนุ่มไปอยู่กับศยามล ปรีติเตือนปัญธร ปัญธรรับปากจะหาทางจัดการ เพราะปัญธรก็เริ่มเบื่อศยามลแล้ว ปรีติได้คุยกับโยษิตาก็รู้สึกดีกับโยษิตามากขึ้น

ในงานมอบโล่เกียรติบัตร ผู้คนไปร่วมงานมากมาย รวมถึงศยามลด้วย ปัญธรคอยดูแลจิระวาตีอย่างใกล้ชิด สะอิ้งทิพย์ซื้อสร้อยคอเป็นของขวัญให้จิระวาตี เมื่อถึงเวลา จิระวาตีขึ้นไปรับโล่และกล่าวขอบคุณ ขณะนั้น มีคนแอบแจกใบปลิวบอกประวัติของจิระวาตีที่เป็นลูกโสเภณี และมีอาชีพรับจ้างกรี๊ด จิระวาตีอึ้ง เสี่ยดิเรกจึกออกหน้าแทน และบอกความจริงที่ตนเป็นพ่อของจิระวาตี เรื่องกลับตาลปัตร จิระวาตีดังกล่าวเดิม ศยามลเจ็บใจมาก จึงให้คมเดชจัดการขั้นเด็ดขาดกับจิระวาตี

จิระวาตีดีใจที่เจอพ่อ แต่เธออยากเจอแม่ เสี่ยดิเรกสัญญาว่าจะตามหาแม่ของจิระวาตีให้เจอ เสี่ยดิเรกปรึกษาสะอิ้งทิพย์ ทั้งคู่ขอร้อง ผกามาศ เพื่อนนางงามของดวงใจมาหลอกเป็นแม่ของจิระวาตี จิระวาตีดีใจมากที่เจอผกามาศ เธอขอให้เสี่ยดิเรกไปกับจิระวาตีสองคน เขาเล่าเรื่องที่ทอดทิ้งแม่ของจิระวาตีไปเพราะไม่อยากมีพันธะ และตอนนั้นเสี่ยดิเรกมีเมียแล้ว จึงไม่พาผู้หญิงอื่นเข้าบ้าน จิระวาตีขอร้องเสี่ยดิเรกไม่ให้บอกจันทรา เสี่ยดิเรกตกลง เพื่อนของจิระวาตีต่างดีใจที่จิระวาตีโชคดี ทั้งหมดออกไปทำงานต่างจังหวัดบ่อยขึ้น ทัศวรรณหนักใจเรื่องปัญธร ชัยวัฒน์จึงปลอบใจและปรึกษาเรื่องขอใบเตยมาเลี้ยง ทัศวรรณเห็นด้วย

จิระวาตีไปร่วมกิจกรรมในฐานะนางงามอีกครั้งกับปัญธร คุณเหม่าเข้ามาทักทายด้วยภาษาอีสาน จิระวาตีดีใจมากที่คุณเหม่าเปลี่ยนความคิดได้ คุณเหม่าขอให้จิระวาตีไปเป็นพรีเซ็นเตอร์อีก จิระวาตีตกลง ศยามลโทรหาปัญธร แต่ปัญธรปฏิเสธที่จะไปหาศยามล ทำให้ศยามลโกรธมาก

จิระวาตีไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้คุณเหม่า โดยมีปัญธรไปด้วย แต่เขาทำห่างเหินกับจิระวาตีจนเธอทนแทบไม่ได้ ศยามลมาเห็นสองคนอยู่ด้วยกันก็หาเรื่องทันที ปัญธรเบื่อทั้งคู่จึงไปขึ้นรถ จิระวาตีกับศยามลตามขึ้นรถไปด้วย ปัญธรขับรถเร็วมาก จนไปชนผู้หญิงคนหนึ่ง โชคดีที่ผู้หญิงคนนั้นไม่เป็นอะไร แต่ต้องนอนโรงพยาบาลสักพัก ปัญธรกับจิระวาตีได้รู้ว่า หญิงคนนั้นเป็นคนบ้าเอาแต่ร้องหาลูกที่เป็นตุ๊กตาเก่าๆ ตัวหนึ่ง จิระวาตีมองอย่างเศร้าใจ ส่วนปัญธรไปปรึกษาโยษิตา สะอิ้งทิพย์จึงรู้เรื่องด้วย ปัญธรพาโยษิตากับสะอิ้งทิพย์ไปดูคนป่วย สะอิ้งทิพย์เห็นก็จำได้ทันทีว่า คือ ดวงใจ แม่ของจิระวาตี สะอิ้งทิพย์รีบบอกเสี่ยดิเรก เสี่ยดิเรกทั้งดีใจและเศร้าใจที่ตนเป็นสาเหตุให้ดวงใจมีสภาพเป็นคนบ้าอย่างนี้

จันทรารู้เรื่องที่จิระวาตีเจอพ่อแล้ว จึงทำมึนตึงใส่ และไล่จิระวาตีออกจากบ้าน ส่วนบูมเอาแต่ตัดพ้อจิระวาตี จิระวาตีเสียใจจึงไปอยู่กับเพื่อน เพื่อนของจิระวาตีต่างปลอบใจ และชวนจิระวาตีไปทำงานกรี๊ดอีกครั้ง จิระวาตีตกลง แต่ยังขอให้เพื่อนไปดูแลจันทรากับจิราภา เพราะจิระวาตียังไม่อยากกลับบ้าน

ศยามลแค้นปัญธรจึงส่งภาพความสุขของตัวเองกับปัญธรให้โยษิตา และโทรไปตอกย้ำกับโยษิตา จนโยษิตาเข้าโรงพยาบาล ปัญธรมาเยี่ยมโยษิตาจึงรู้เรื่องศยามลทุกอย่าง ปรีติกับทัศวรรณมาเยี่ยมโยษิตา ปัญธรเล่าให้ปรีติฟัง ปรีติเตือนปัญธรอีกครั้ง ปรีติกลับไปปลอบใจโยษิตา ทำให้โยษิตาเริ่มดีขึ้น

จิระวาตีมาเยี่ยมดวงใจที่โรงพยาบาลจึงได้เจอกับสะอิ้งทิพย์และเสี่ยดิเรก เสี่ยดิเรกจะรับดวงใจไปดูแลที่บ้านสวนของตน จิระวาตีจึงดีใจมาก ในที่สุด ผลดีเอ็นเอก็ออกมา เสี่ยดิเรกกับจิราวะตีเป็นพ่อลูกกันจริงๆ ทั้งคู่ต่างดีใจ จิระวาตีขอไปเฝ้าไข้ดวงใจต่อ และอยากไปพักกับดวงใจที่บ้านสวน เพื่อลืมเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นสักพัก

ปัญธรไปคุยกับศยามล แต่ศยามลใช้มารยาหญิงจนปัญธรใจอ่อนอีกครั้ง ปรีติดูแลโยษิตาแทนปัญธร ทั้งคู่เริ่มมีใจให้กัน ปรีติอยากชวนโยษิตาไปพักผ่อนแต่ไม่กล้า จึงขอให้จิราวะตีช่วย พอดีจิราวะตีกับพวกจะไปกรี๊ดในคอนเสิร์ตที่หัวหิน จิราวะตีจึงไปชวนโยษิตา โยษิตาตอบตกลง ปรีติจึงชวนใบเตยไปด้วย ใบเตยดีใจมาก

ปัญธรจำใจไปหัวหินกับศยามล ศยามลเบื่อปัญธรที่เอาแต่เงียบขรึม จิราวะตีชวนใบเตยไปกรี๊ดด้วย ซึ่งปรีติไม่ขัดข้อง แต่เมื่อปัญธรมาเห็นก็ไม่ชอบใจ จึงเข้าไปต่อว่าจิระวาตี ศยามลเข้าไปหาเรื่องด้วย ใบเตยเห็นศยามลก็อาละวาดทันที เพราะศยามลคือเมียน้อยสิทธา ปัญธรพาศยามลกลับทันที ขณะที่โยษิตาเจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง ปัญธรพยายามถามศยามลเรื่องใบเตย แต่ไม่ได้คำตอบ ศยามลเจ็บใจใบเตย จึงให้คมเดชหาทางจัดการใบเตยอีกคน

สิทธากับมยุรีจะเลิกกัน แต่ยังทะเลาะกัน เพราะต่างก็จะแย่งใบเตยไปเลี้ยง ใบเตยทนฟังไม่ได้จึงวิ่งหนีออกจากบ้านไปหาจิราวะตีทันที จิราวะตีจึงให้ใบเตยอยู่ด้วย และโทรไปบอกปรีติ ปรีติให้สิทธากับมยุรีอยู่เฉยๆ ก่อน จิราวะตีปลอบใจใบเตย และถามเรื่องศยามลจึงรู้ว่า ศยามลเคยเป็นเมียน้อยสิทธา

เสี่ยดิเรกโทรบอกอาการของดวงใจดีขึ้น จิราวะตีจึงรีบไปเยี่ยมทันที โดยบอกให้ปรีติมาอยู่เป็นเพื่อนใบเตยที่บ้าน แต่เมื่อจิระวาตีกลับมาก็รู้จากปรีติว่า ใบเตยกับบูมหายไป ทั้งสองตกใจมากและไม่รู้จะไปตามหาที่ไหน

ศยามลสะใจที่คมเดช กับนายไวจับใบเตยมาได้ และจะเข้ามาตบใบเตยเพราะเคยถูกใบเตยทำร้ายที่หัวหิน แต่คมเดชห้ามไว้ คมเดชโทรบอกสิทธากับมยุรีเรื่องเงินสิบล้านแลกกับใบเตย จิระวาตีรู้เรื่องใบเตยกับบูมถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ เธอจึงคิดถึงศยามลก่อน แล้วรีบโทรหาปัญธรทันที เพื่อคุยเรื่องศยามล ปัญธรไม่อยากเชื่อว่าศยามลเป็นเมียน้อยสิทธา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ ปัญธรมาคุยกับสิทธาจึงรู้ว่าเรื่องที่จิระวาตีพูดเป็นเรื่องจริง ทั้งสิทธากับปัญธรต่างเสียใจที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด

ปัญธรกับสิทธาตัดสินใจถือเงินสิบล้านไป โดยปรีติประสานงานกับตำรวจในพื้นที่เพื่อติดตาม ทางด้านบูมกับใบเตยอึดอัดและอยากหนี แต่ก็ไม่สามารถหนีได้ จิราวะตีเป็นห่วงทั้งใบเตยและบูม ปัญธรจึงตัดสินใจปลอมตัวเป็นสาวกลางคืนนัดปรีติมาถามเรื่องการจับตัว เพราะกลัวว่าจะมีใครตามมา เมื่อรู้ว่าปัญธรเสี่ยงชีวิตเอาเงินไปก็ขอให้ปรีติพาไปช่วย ปรีติจำใจต้องพาจิระวาตีไป

ที่จุดนัดพบ ปัญธรถือเงินครึ่งหนึ่งมาก่อน เพื่อดูว่าใบเตยปลอดภัย จากนั้นสิทธาก็เอาเงินอีกครึ่งตามมาพร้อมกับตำรวจ ปรีติและจิระวาตีก็ตามมา เมื่อได้เงินคมเดช และนายไวไม่ยอมแบ่งให้ศยามล ตำรวจบุกเข้าจับตัวคนร้าย ศยามลกับคมเดชยังทะเลาะกัน คมเดชฆ่าศยามลตายและกำลังหนี จิราวะตีเห็นจึงเรียกตำรวจและขวางเอาไว้ จนเกือบเพลี่ยงพล้ำคมเดช แต่ปัญธรก็มาช่วยไว้ทัน ขณะที่ปัญธรได้รับบาดเจ็บและขอร้องให้จิระวาตีดูแลขณะส่งโรงพยาบาล จิระวาตีตกลง

หลังจากนั้น ปัญธรเริ่มหายดี แต่จิระวาตีไม่มาเยี่ยมเพราะไปหลบอยู่บ้านสวน ทำให้ปัญธรเศร้าใจ ปรีติมาเยี่ยมปัญธร และพูดเรื่องโยษิตากับปัญธร แต่ปัญธรบอกให้ปรีติดูแลโยษิตา เพราะรู้ว่าปรีติชอบโยษิตา

ผกามาศกับเสี่ยดิเรกคุยกันเรื่องดวงใจกับจิระวาตี เพราะผกามาศต้องไปต่างประเทศ ทำให้จิระวาตีที่แอบฟังอยู่รู้เรื่องทั้งหมด จิระวาตีเข้าไปกอดดวงใจและเรียกแม่ เสี่ยดิเรกขอโทษจิระวาตีที่หลอก แต่จิระวาตีไม่โกรธและขอให้เสี่ยดิเรกอย่าโกหกอีก เสี่ยดิเรกกับจิระวาตีจึงช่วยกันดูแลดวงใจอย่างดี

ปรีติชวนโยษิตาไปกินข้าวและขอความรักจากโยษิตา โยษิตาตกลง ขณะที่ปัญธรตั้งใจทำงานมากขึ้น จนทัศวรรณผู้เป็นแม่วางใจ จึงพูดเรื่องแต่งงานของโยษิตากับปัญธร ปัญธรตกลง แต่เมื่อไปคุยกับโยษิตา โยษิตาเตือนสติให้ปัญธรรู้ใจตัวเอง โยษิตาหมั้นกับปรีติท่ามกลางความดีใจของทุกคน สิทธากับมยุรีรับใบเตยไปดูแลและยอมอยู่ด้วยกันต่อไป ทำให้ใบเตยไม่ทุกข์ใจอีก

ชัยวัฒน์ปลื้มผลงานของปรีติที่คิดผลิตภัณฑ์ ยาดมทูทู ที่มีสองหลอดดม และยังดมได้สองข้างพร้อมกัน เพื่อคุณและคนที่คุณเรียกว่า...ที่รัก กลายเป็นสินค้าที่ขายดีจนขาดตลาด เพราะปล่อยออกมาวางขายช่วงวาเลนไทน์พอดี

ปัญธรสุดจะเซอร์ไพรส์ที่ได้ยินเพลงของตนเอง เป็นอันดับหนึ่งในการเคาท์ดาวน์อันดับทางรายการวิทยุ และเมื่อเดินผ่านร้านซีดี ต่างก็เปิดเพลงของเขา ปัญธรนึกว่าตนฝันไป จนได้ยินดีเจของรายการวิทยุอีกคลื่นบอกว่า ตนไปเจอแผ่นซีดีจากตอนไฟไหม้สลัม ถามคนแถวนั้นดู เค้าก็บอกว่าคนแถวนี้มีอัลบั้มนี้กันทุกคน ตนจึงคิดว่ามันต้องมีดีแน่ๆ เพราะเคยฟังเพลงโปรโมตแต่ไม่ชอบ เลยเอามาเปิดฟังให้เล่นๆ อีกที ไม่ได้คิดอะไร แต่กลับไปเจอเพลงหนึ่งในอัลบั้มที่ตนชอบมาก และยังถูกใจคุณผู้ฟังจนรีเควสต์กันเข้ามามากมาย

พี่โต้เองทราบข่าวก็น้ำตาไหลที่ฝันเป็นจริงในที่สุด บอกปัญธรว่าจะจัดคอนเสิร์ตโปรโมตอัลบั้มอีกครั้ง เพราะคราวก่อนดันโปรโมตเพลงผิดเลยไม่ดัง กลายเป็นอีกเพลงในอัลบั้มที่ดังพลุแตก ปัญธรรับปากว่าได้ มีข้อแม้เพียงข้อเดียวคือ ต้องจ้างรวมดาวชาวกรี๊ดมาเกาะขอบเวทีกรี๊ดคอนเสิร์ตตน

จิระวาตีสิ้นสุดภารกิจการเป็นนางงาม “หนึ่งในสี่ภาค” ด้วยการมอบตำแหน่งให้กับนางงามคนต่อไป แล้วจิระวาตีตัดสินใจกลับไปอยู่กับจันทราและจิราภา โดยเสี่ยดิเรกรับซื้อที่ดินตรงสลัมนั้นทั้งหมด จิระวาตีจึงปลูกบ้านหลังใหม่ให้จันทราและจิราภา ปัญธรแวะมางอนง้อ พูดคุย จิระวาตีไม่ได้ให้คำตอบอะไร เพราะคิดว่านาทีนี้ ตนสนใจที่จะช่วยเหลือเพื่อนๆ ในสลัม มากกว่าจะคิดเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ส่วนตัว

ในคอนเสิร์ต ปัญธรได้เป็นนักร้องซูเปอร์สตาร์สมใจ ท่ามกลางเสียงกรี๊ด หลังร้องเพลงฮิตติดชาร์ตจบไป เขาเล่าให้คนดูฟังถึงเรื่องตนกับจิระวาตี และเล่าว่าตนรักจิระวาตีแค่ไหน ก่อนจะดึงนางกรี๊ดมาขอคืนดีบนเวที ทั้งสองจึงร่วมกันสร้างความสัมพันธ์ครั้งใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง

รอยรักรอยบาป 2552

เรื่องย่อ : รอยรักรอยบาป (2552/2009) แม้วันเวลาจะผ่านไปกี่ภพ กี่ชาติ แรงแค้นพยาบาท ก็ไม่มีวันจางหาย จะจดจำเป็นรอยรัก รอยบาป ติดตัวเธอตลอดไป จนกว่าความแค้นในใจจะสิ้นสุด

รัชกาลที่ 5 ราวพุทธศักราช 2450 หรือรัตนโกสินทร์ศก 126 ที่บ้านของพระยาวิสุทธิ์ (อัมรินทร์ นิติพน) เจ้าพระยาที่ได้ขึ้นชื่อว่ารูปงามและร่ำรวยทั้งศักดินาและทรัพย์สิน ซึ่งมีทาสในอาณัติปกครองนับร้อยคน หนึ่งในนั้นคือ จวน (อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) สาวน้อยวัยสิบแปด ลูกของทาสสม (พงษ์ประยูร ราชอาภัย) กับทาสมี (วาสิฎฐี ศรีโลฟุ้ง) ที่เลื่องชื่อกิตติศัพท์เรื่องความงาม จนคุณระย้า (โสภิตนภา ชุ่มภาณี) ภรรยาของพระยาวิสุทธิ์ไม่พอใจเพราะรู้ว่าพระยาวิสุทธิ์ แอบหมายปองจวนอยู่ อีกทั้งคุณระย้าเองไม่มีบุตรสืบสกุล คุณระย้าจึงพยายามหาทางกันไม่ให้จวนเข้ามายุ่งบนเรือนใหญ่ อ้างว่าทาสสมกับทาสมี แก่แล้วและอีกอย่างก็ไม่ค่อยสบาย จวนควรจะอยู่ดูแลพ่อแม่เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณ คุณระย้าให้เงินจวนพาพ่อกับแม่ไปหาหมอ จวนซึ้งใจในพระคุณของคุณระย้ามาก

ภายใต้หน้ากากอันดีงามไม่มีใครรู้ว่าคุณระย้าซ่อนความร้ายกาจเอาไว้ คุณระย้าคิดจะกำจัดจวนอย่างเงียบๆ โดยอาศัยมือของ ทองเกลียว (ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์) ภรรยาคนที่สองของเจ้าพระยาวิสุทธิ์ เพราะ ทองเกลียว ขี้หึงและเป็นคนโผงผาง

คุณระย้าออกตัวว่าเงินทองที่จวนได้ใช้จ่ายอย่างสุขสบายเป็นของกำนัลที่พระยาวิสุทธิ์ให้ เมื่อทองเกลียวรู้ก็โกรธจนตัวสั่น นึกว่าพระยาวิสุทธิ์เสน่หาจวนถึงกับมอบของกำนัลให้ แม้จวนจะปฏิเสธก็ไม่ฟัง คุณระย้ามาปลอบอกปลอบใจจวนพร้อมทั้งบอกให้จวนอย่าไปถือสาคนอย่างทองเกลียว นับวันจวนยิ่งให้ความเคารพนับถือคุณระย้า

คุณระย้าเองก็พอใจมาก ที่ทั้งทองเกลียวและจวนไม่ได้คิดระแวงตน เมื่อมีเรื่องคับข้องใจทั้งสองคนก็จะมาระบายให้คุณระย้าฟัง และคุณระย้าก็จะถือโอกาสยุแยงตะแคงรั่วโดยที่ทั้งทองเกลียวและจวนไม่เคยระแวงสงสัย เพราะภายนอกคุณระย้าคือผู้ใหญ่ที่แสนดี

จวนมีคนรักคือทาสบุญ(นนทพันธ์ ใจกันทา) และเพื่อนสนิทคือ อิ่ม(ปุณยาพร พูลพิพัฒน์) ซึ่งเป็นทาสสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับจวน อิ่มมีคนรักอยู่แล้วคือ ยิ่ง ที่เป็นทาสหนุ่มวัยฉกรรจ์ ทั้งจวนและอิ่มหวังจะใช้ชีวิตอยู่กับคนที่รักในบั้นปลาย

วันหนึ่งพระยาวิสุทธิ์ไปตกปลาที่ลำธาร และบังเอิญได้เจออิ่มเข้า พระยาวิสุทธิ์เกิดความเสน่หาอิ่มจึงใช้กำลังปลุกปล้ำจนอิ่มตกเป็นของพระยาวิสุทธิ์ อิ่มเสียใจมาก พยายามที่จะปกปิดความลับทุกอย่างเพราะกลัวยิ่งจะรู้ความจริง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะพระยาวิสุทธิ์เกิดละอายและยอมรับผิดชอบอิ่มเป็นเมียคนที่สาม อิ่มเสียใจมากที่ไม่อาจรักษาความบริสุทธิ์ของตัวเองและได้ครองคู่กับยิ่งอย่างที่ฝัน นับวันจวนยิ่งมองภาพพระยาวิสุทธิ์เป็นคนใจร้ายและมักมากในกามคุณ

คุณระย้ากับทองเกลียวโกรธมากที่พระยาวิสุทธิ์เลื่อนขั้นให้อิ่มขึ้นมาเป็นภรรยาอีกคน ทองเกลียวเอะอะโวยวายลั่นบ้าน ในขณะที่คุณระย้าเงียบสงบยอมรับอิ่มเข้ามาเป็นภรรยาคนที่สามแต่โดยดี ไม่มีใครรู้ว่าคุณระย้าแอบร้องไห้ราวกับน้ำตาจะออกมาเป็นสายเลือด ด้วยความช้ำใจที่สามีทรยศทั้งที่คุณระย้า คือลูกสาวของเจ้าพระยาน้อยที่สูงศักดิ์ ไม่ใช่ลูกทาสที่ต่ำศักดิ์อย่างทองเกลียว หรือ อิ่ม คุณระย้าวางแผนที่จะกำจัดอิ่มโดยอาศัยมือของทองเกลียวอีกครั้ง โดยอาศัยคนใช้คู่ใจอย่างยายทอง ปากเหม็นเป็นหอกระจายข่าว และยายทองก็ทำหน้าที่กระจายข่าวไปจนทั่วว่าตอนนี้พระยาวิสุทธิ์ทั้งรักทั้งหลงอิ่มมาก

ไม่ใช่เรื่องยากเพราะทองเกลียวเป็นคนโวยวายโผงผางไม่มีสติ ทองเกลียวเชื่อทุกเรื่องที่ยายทองมาเล่าและคุณระย้านำมาปรับทุกข์ ทั้งที่เรื่องอิ่มขอให้พระยาวิสุทธิ์ยกเป็นเมียเดียว เมื่อพระยาวิสุทธิ์ไปว่าราชการต่างจังหวัด ทองเกลียวและพรรคพวกจึงบุกเข้ามาตบตีอิ่ม ทั้งที่ขณะนั้นอิ่มตั้งท้องได้สามเดือน เมื่อจวนเข้าไปช่วยก็ถูกทองเกลียวตบตี และสั่งทาสโบยจวนจนหมดสติ

คุณระย้าให้คนไปดูแลพยาบาลจนจวนฟื้น เมื่อพระยาวิสุทธิ์กลับมา จวนจึงเล่าความร้ายกาจของทองเกลียวให้ฟัง พระยาวิสุทธิ์โกรธมาก สั่งไล่ทองเกลียวออกไปเป็นทาสเหมือนเดิม ทองเกลียวโกรธมากเพิ่งรู้ตัวว่าที่ผ่านมาเป็นตุ๊กตาให้คุณระย้าเชิด

ทองเกลียวพยายามหาทางตักเตือนอิ่มกับจวน ว่าคุณระย้าคิดจะกำจัด แต่อิ่มกับจวนไม่เชื่อทองเกลียว เพราะภายนอกทองเกลียวเป็นคนปากร้ายและเจ้าคิดเจ้าแค้น จวนกับอิ่มจึงหาทางหลบเลี่ยงที่จะยุ่งเกี่ยวกับทองเกลียว และเลือกที่จะเชื่อคุณระย้า ทั้งจวนและอิ่มเอาเรื่องที่ได้รู้มาไปบอกคุณระย้า ว่าคุณระย้าคิดจะฆ่าทั้งสองคน แต่ทั้งสองคนไม่เชื่อคำพูดของคนอย่างทองเกลียว

คุณระย้าเสียอีกที่แค้นฝังหุ่น ทองเกลียว เพราะทองเกลียวเอาความลับของเธอไปโพนทะนา คุณระย้าวางแผนกำจัดทองเกลียว โดยอาศัยมือของอิ่ม โดยการออกอุบายว่า ทองเกลียวเอายาสมุนไพรบำรุงครรภ์มาให้อิ่มกิน ทั้งๆที่ความจริง คุณระย้าเอามาให้เอง ผลปรากฏว่าอิ่มตกเลือด ตั้งท่าจะแท้ง พระยาวิสุทธิ์โกรธมากสั่งโบยทองเกลียวปางตาย ทองเกลียวลั่นปากว่าชาตินี้จะจองล้างจองผลาญคุณระย้าไปจนตาย พระยาวิสุทธิ์ได้ยินจึงสั่งทำร้ายทองเกลียวเพิ่ม จนทองเกลียวเป็นบ้าวิกลจริตไป อิ่มกับจวนยิ่งโกรธทองเกลียวหาว่าให้ร้ายคนดีๆอย่างคุณระย้า

พระยาวิสุทธิ์ยังคงมีใจเสน่หาต่อจวน เมื่อมีโอกาสจึงปลุกปล้ำจวน แต่บุญเข้ามาช่วยได้ทัน บุญขอร้องด้วยชีวิตขอให้พระยาวิสุทธิ์ปล่อยจวนไป พระยาวิสุทธิ์ไม่ยอม บอกสักวันจะเอาชนะใจจวนให้ได้

คุณระย้ารู้เรื่องด้วยความเจ็บปวด เจ็บช้ำ แต่พยายามเก็บกดความรู้สึกเจ็บปวดทุกอย่าง คุณระย้าไปยุแหย่อิ่มบอกว่า จวนกำลังจะเข้ามาแทนที่อิ่ม เพราะพระยาวิสุทธิ์คิดจะยกย่องจวนเข้ามาเป็นเมียอีกคน ถ้าอิ่มอยากให้ลูกที่เกิดมาเป็นลูกคนเดียวของพระยาวิสุทธิ์ อิ่มควรจะขัดขวาง อิ่มไม่ทำเพราะรักจวนมากและรู้ดีว่าจวนไม่มีวันยอมเป็นเมียพระยาวิสุทธิ์ แต่โชคร้ายที่ในปีนั้นเองทาสสมกับทาสมีรวมทั้งยิ่งและทาสอีกจำนวนมาก เป็นโรคห่าตาย ก่อนตายทาสสมกับทาสมีขอให้พระยาวิสุทธิ์รับปากว่าจะไม่ทอดทิ้งจวน พระยาวิสุทธิ์รับปากและขอให้อิ่มเกลี้ยกล่อมให้จวนยอมเป็นภรรยาของตนอีกคน ไม่อย่างนั้นจะไล่ให้อิ่มกลับไปเป็นทาสเหมือนเดิม ด้วยกลัวลูกที่จะเกิดมาลำบาก อิ่มลำบากใจจึงเอาเรื่องไปปรึกษากับคุณระย้า คุณระย้าแกล้งทำดีด้วยการบอกไม่ให้อิ่มวิตก คุณระย้าจะไปพูดกับพระยาวิสุทธิ์เองว่าไม่ให้ยุ่งกับจวนเอง

คืนนั้นทั้งคืน คุณระย้าคิดหาหนทางกำจัด อิ่มและจวนไปให้พ้นทาง แต่ก็ทำไม่ได้เมื่อพระยาวิสุทธิ์มาสารภาพและขออนุญาตคุณระย้า ขอมีจวนเป็นภรรยาอีกคนและจะเป็นคนสุดท้าย คุณระย้ารู้ดีว่าไม่มีทางขัดขวางพระวิสุทธิ์ได้แน่ อีกทั้งหากบุ่มบ่ามทำอะไรลงไป ก็คงจะได้รับโทษทัณฑ์หนักเหมือนทองเกลียว คุณระย้าจึงตกลง และคิดแผนที่จะให้เพื่อนรักห้ำหั่นกันเอง

คุณระย้าออกอุบายบอกว่าตนเองไม่สบายมาก ขอให้อิ่มไปบอกให้จวนมาดูแล ด้วยความเป็นห่วงและต้องการตอบแทนบุญคุณ จวนเข้ามาดูคุณระย้าบนเรือนแต่กลับโดนพระยาวิสุทธิ์ขืนใจ จวนเสียใจมาก คุณระย้าบอกว่า ทั้งหมดเป็นอุบายของอิ่มที่ล่อหลอกจวนมาให้พระยาวิสุทธิ์ขืนใจเพราะไม่เช่นนั้น อิ่มกับลูกจะถูกไล่ลงจากเรือนกลับไปเป็นทาสเหมือนเดิม จวนเสียใจมากที่เพื่อนทรยศ ยิ่งเสียใจหนักที่ทำให้บุญคนรักเสียใจ คุณระย้าได้ทีบอกอิ่มว่าทั้งหมดเป็นแผนการของจวน เพราะจวนอยากมีอำนาจวาสนาได้ดิบได้ดีอย่างอิ่ม แต่อิ่มไม่เชื่อ อิ่มเริ่มรู้ว่าภายใต้ท่าทางอันใจดี คุณระย้าซ่อนความร้ายกาจเอาไว้

อิ่มเอาเรื่องทั้งหมดไปบอกบุญ ตั้งใจที่จะให้บุญเตือนจวนถึงความร้ายกาจของคุณระย้า เคราะห์ร้ายที่จวนมาเห็น จวนยิ่งเข้าใจผิดคิดว่าอิ่มคิดจะทรยศแย่งความรักของบุญไปจากจวน

ตั้งแต่นั้นมาเพื่อนรักสองคนก็แตกคอกัน จวนโกรธชนิดไม่เผาผีอิ่ม ในขณะที่อิ่มรู้สึกผิดตลอดเวลาที่เป็นต้นเหตุให้จวนต้องตกเป็นของพระยาวิสุทธิ์ ทางฝ่ายพระยาวิสุทธิ์ก็หลงใหลจวนมาก ด้วยความแค้นในใจจวนพยายามเอาอกเอาใจพระยาวิสุทธิ์จนพระยาหนุ่มหลงใหลจวนเป็นอย่างมาก ไม่นานจวนก็ตั้งท้อง คุณระย้าทนไม่ไหวที่คิดการณ์ผิด ทั้งอิ่มทั้งจวนกำลังจะมีลูกให้กับพระยาวิสุทธิ์ จึงคิดแผนการที่จะกำจัดทั้งอิ่มและจวน

คุณระย้าแอบเอายาพิษใส่ในจานอาหารของทั้งคู่ แต่เคราะห์ดีคนที่กินยากลับกลายเป็นจวนแต่เพียงผู้เดียว จวนแท้งลูกด้วยความเข้าใจผิดว่าอิ่มเป็นคนวางยา พระยาวิสุทธิ์โกรธมาก จึงขับไสไล่ส่งอิ่มกลับไปเป็นทาสเหมือนเดิม บุญเข้ามาปลอบใจอิ่มและต่อว่าที่จวนใจร้ายไม่เหลือคราบหญิงสาวที่จิตใจดีคนก่อน จวนยิ่งโกรธมาก ยิ่งโกรธที่บุญบอกว่าตอนนี้รักอิ่มไม่ใช่จวน จวนยิ่งรู้สึกว่าถูกทรยศจากทั้งเพื่อนและคนรัก บุญตัดสินใจอยู่กินกับอิ่มและรับเป็นพ่อของเด็กในท้อง

คุณระย้าสะใจที่อิ่มกระเด็นไปเป็นทาสเหมือนเดิม และตอนนี้ก็มีจวนคนเดียวที่เป็นหอกข้างแคร่ คอยทิ่มแทงให้เจ็บใจ คุณระย้าคิดจะกำจัดจวน ด้วยความที่คุณระย้ามีพระคุณคุ้มหัว จวนไม่ระแวงสงสัยคุณระย้าเลย ไม่นานพระยาวิสุทธิ์ก็ผิดคำสัญญา ด้วยการมีคุณพริ้ง(พรรัมภา สุขได้พึ่ง)ลูกของเศรษฐีกล่ำเข้ามาเป็นภรรยาอีกคน และเช่นเคยพระยาวิสุทธิ์หลงใหลคุณพริ้งจนลืมทุกคน คุณระย้าทั้งเสียใจและโกรธมาก จึงอาศัยมือของจวนมาทำร้ายคุณพริ้ง พร้อมทั้งยุแหย่ว่า คุณพริ้งชอบพูดจาให้ร้ายคุณระย้า จนพระยาวิสุทธิ์เกลียดชังคุณระย้า ด้วยกตัญญูและสงสารคุณระย้า จวนจึงออกโรงปกป้องและถือตนเป็นศัตรูกับคุณพริ้ง เหมือนทองเกลียวในครั้งก่อน แต่เช่นเดิมคุณระย้าทำดีกับทุกคนรวมทั้งคุณพริ้งด้วย

อิ่มพยายามเตือนไม่ให้จวนไว้ใจคุณระย้ามาก แต่จวนไม่เชื่อ ในเวลาต่อมาอิ่มคลอดลูกของพระยาวิสุทธิ์ออกมาเป็นผู้หญิงชื่อ แก้ว(ณิชานันท์ ฝั้นแก้ว) และมีลูกกับบุญชื่อ กล้า(ชนะพล สัตยา) ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่คุณระย้าตั้งท้องขึ้นมาซึ่งก็ไล่เลี่ยกับคุณพริ้ง แต่หมอตำแยที่มาตรวจครรภ์บอกว่าคุณระย้าจะได้ลูกสาว และคุณพริ้งจะได้ลูกชาย คุณระย้าโกรธมาก ด้วยอยากให้ลูกของตัวเป็นผู้สืบสกุลเพียงคนเดียว คุณระย้าจึงคิดแผนการชั่วขึ้นมาอีกครั้ง

คุณระย้าบอกให้จวนไปเอาสมุนไพรจากอิ่ม ซึ่งอิ่มก็เอาสมุนไพรบำรุงครรภ์อย่างดีมาให้ แต่คุณระย้าให้ยายทองเปลี่ยนเอาสมุนไพรพิษมาต้ม และให้จวนเป็นคนเอายาไปให้คุณพริ้ง ผลปรากฏว่าคุณพริ้งกระอักเลือดออกมา ส่วนยายทองทำท่าจะปากโป้งว่าจริงๆแล้วคนที่เปลี่ยนยาสมุนไพรคือคุณระย้า จึงถูกคุณระย้าฆ่าตาย คุณพริ้งบอกว่าจวนเป็นคนเอาสมุนไพรมาให้ จวนปฏิเสธบอกว่าสมุนไพรเอามาจากอิ่ม อิ่มปฏิเสธ พระยาวิสุทธิ์สั่งให้คนเข้าค้นที่เรือนของอิ่มซึ่งก็ไม่พบสมุนไพรพิษจริงๆ แต่กลับพบที่ห้องของจวนที่คุณระย้าเป็นคนเอาไปซ่อนไว้ พระยาวิสุทธิ์โกรธมาก หาว่าจวนเป็นคนวางยาคุณพริ้ง เศรษฐีกล่ำก็ไม่ยอมขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด พระยาวิสุทธิ์จึงโบยจวนจนตาย ก่อนตายจวนกล่าวอาฆาตพยาบาทจะจองเวรจองกรรมกับอิ่มและพระยาวิสุทธิ์ให้ถึงที่สุด

ขณะนั้นเอง คุณระย้าเกิดปวดท้องจะคลอดขึ้นมา วิญญาณของจวนจึงลอยเข้าไปอยู่ในท้องของคุณระย้าในทันที อิ่มเสียใจมากแต่บุญบอกไม่ให้คิดมากเราย่อมรู้ตัวดีว่าเราไม่ได้ทำและให้อิ่มพยายามทำบุญให้จวนจะได้ไม่พยาบาทจองเวร คุณระย้าตั้งชื่อลูกสาวว่า หนูยิ้ม(อุษามณี ไวทยานนท์) ขณะที่คุณพริ้งไม่มีบุตรจึงไปขอลูกของพี่สาวคือคุณพร้อมมาเลี้ยง และตั้งชื่อลูกชายที่ขอมาว่า เภา(ธีร์ วณิชนันทธาดา) เภา เป็นเด็กหนุ่มที่สุภาพเจียมตัว แต่หนูยิ้มเป็นเด็กหญิงที่อารมณ์ร้ายเอาแต่ใจตัว เพราะคุณระย้าให้ท้าย และที่สำคัญตั้งแต่จำความได้หนูยิ้มเกลียดพระยาวิสุทธิ์โดยที่ทุกคนไม่รู้สาเหตุ

ปีพุทธศักราช 2454 ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงประกาศเลิกทาส พระยาวิสุทธิ์ปลดปล่อยทาสทุกคน แต่อิ่มและบุญขออยู่อาศัยต่อเพื่อตอบแทนบุญคุณ และสาเหตุที่สำคัญตรงที่อิ่มกับบุญอยากให้แก้วมีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกับพระยาวิสุทธิ์ผู้เป็นบิดาแท้ๆ อิ่มเอา ทองเกลียวที่สติไม่สมประกอบมาอยู่ด้วย

ยี่สิบปีต่อมา ล่วงเข้าสู่รัชกาลที่ 8 ปีพุทธศักราช 2477 เด็กๆแต่ละคนเติบโตเป็นหนุ่มเป็นสาว แก้วอายุยี่สิบสี่ปี กล้าอายุยี่สิบสองเท่ากับเภา และหนูยิ้มอายุได้ยี่สิบปี แก้วได้ทำงานเป็นครูสาวใจดี กล้าและเภาเป็นทหาร ส่วนหนูยิ้มเป็นสาวสังคมจัดนักเรียนนอก

คุณระย้ามีคนใช้ใหม่ชื่อพุดซ้อน ซึ่งมีลูกสาวชื่อรุ้ง(อธิชนัน ศรีเสวก) รุ้งเป็นคนทะเยอะทะยานมาตั้งแต่เด็กเพราะอยากมีความเป็นอยู่สบายอย่างหนูยิ้ม พุดซ้อนเตือนให้เจียมตัวแค่ไหนรุ้งก็ไม่ฟัง พยายามหาทางกลั่นแกล้งหนูยิ้มตลอด แต่หนูยิ้มรู้ทันและเอาคืนรุ้งเสมอ ภาพภายนอกของหนูยิ้มจึงดูเป็นคนอารมณ์รุนแรง เกรี้ยวกราด

ท่ามกลางความสมัยใหม่และสังคมอันศิวิไลซ์เริ่ดหรู สิ่งหนึ่งที่ติดใจหนูยิ้มมาตลอดเวลานั่นคือ ความรู้สึกเจ็บปวด คลั่งแค้น หลายครั้งหลายหนที่ในมโนนึกมีภาพของน้าอิ่มที่เป็นคนใช้เก่าแก่ภายในบ้านและเพื่อนรักที่ชื่อ จวน เมื่อหนูยิ้มบอกคุณระย้า คุณระย้าก็บอกเล่าความหลังให้ฟัง ซึ่งแต่ละเรื่องคุณระย้าเป็นคนถูกกระทำทั้งสิ้น หนูยิ้มสงสารคุณระย้า จึงยิ่งเจ็บปวดชิงชังทุกคน รวมทั้งพระยาวิสุทธิ์ คุณระย้าสอนให้หนูยิ้มมีจิตใจอิจฉาริษยา ดูถูกดูชังคนโดยเฉพาะแก้วและเภา เพราะแก้วคือลูกสาวอีกคนของพระยาวิสุทธิ์ และเภาคือลูกชายที่พระยาวิสุทธิ์หวังจะให้สืบสกุล ในขณะที่อิ่มสอนให้แก้วและกล้าอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตน ทั้งคู่จึงอภัยให้หนูยิ้มเสมอ

กล้าเป็นไม้เบื่อไม้เมากับหนูยิ้ม เพราะกล้าเห็นว่าหนูยิ้มไม่น่ารักและชอบดูถูกคน ที่สำคัญหนูยิ้มชอบจิกหัวอิ่มมาเรียกใช้ พอไม่ถูกใจหนูยิ้มก็เอาไม้เฆี่ยนตี แต่น่าแปลกทุกครั้งที่ทองเกลียวเห็นหน้าหนูยิ้มก็จะตกใจ และเรียกหนูยิ้มว่าจวนตลอด คุณระย้าหาว่าทองเกลียวฟั่นเฟือนให้เอาไปกักขังไว้ แต่ทองเกลียวก็ยังลักลอบออกมาและมาบอกหนูยิ้มว่าให้ระวังคุณระย้า หนูยิ้มไม่เข้าใจ แต่คุณระย้าโกรธมาก สั่งให้คนมาลักตัวทองเกลียวเอาไปฆ่า ทองเกลียวบาดเจ็บสาหัสแต่ขณะที่นอนหายใจรวยริน กล้ามาพบเข้าจึงพาทองเกลียวไปอาศัยอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ไม่นานเรื่องของทองเกลียวก็หายไปจากความทรงจำของทุกคน แต่กล้านึกสงสัย กล้าตกลงที่จะสืบความเป็นไประหว่างความสัมพันธ์ของคุณระย้าและหนูยิ้มอย่างเงียบๆ

แต่ยิ่งค้นหาความจริง กล้ากับหนูยิ้มก็ยิ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน ในขณะที่ มนตรี เพื่อนสนิทของกล้าแอบรักหนูยิ้ม แต่หนูยิ้มไม่ได้สนใจซ้ำยังทำเย่อหยิ่งถือตัว รุ้งหมั่นไส้หนักที่ใครๆ ต่างก็รุมรักหนูยิ้ม จึงแอบให้ พัน หนุ่มชาวบ้านละแวกใกล้เคียงที่มาติดพันรุ้งหาทางลวงหนูยิ้มไปทำร้าย แต่กล้าช่วยได้ทัน กล้าพยายามบอกให้หนูยิ้มมีน้ำใจเผื่อแผ่กับคนอื่น เพราะหนูยิ้มจะได้น้ำใจกลับคืน หนูยิ้มเหมือนจะฟัง แต่ภาพแห่งความหลังอันเจ็บปวดทรมานมันผ่านเข้ามาในมโนนึก ทำให้จิตใจหนูยิ้มร้อนรุ่มเหมือนเดิม

ไม่นานหนูยิ้มก็รู้ว่าที่หนูยิ้มเกลียดชังอิ่มเพราะในอดีตชาติหนูยิ้มคือจวน ที่ถูกเพื่อนรักอย่างอิ่มทรยศหักหลัง หนูยิ้มจึงจงใจที่จะจองล้างจองผลาญอิ่ม และชายโฉดอย่างพระยาวิสุทธิ์ แต่ผู้ที่รับบาปคือแก้ว เพราะหนูยิ้มล่อลวงแก้วไปให้เพื่อนชายขืนใจ โชคดีที่เภาผ่านไปจึงช่วยแก้วได้ทัน เภาเอาเรื่องมาบอกพระยาวิสุทธิ์ หนูยิ้มก็บอกว่าแค่นี้มันยังน้อยไป เพราะอิ่มก็เคยหลอกลวงหนูยิ้มไปให้คนข่มขืนเหมือนกัน ทุกคนตกตะลึงมากเมื่อหนูยิ้มพูดอย่างนี้ โดยเฉพาะคุณระย้า แต่คุณระย้าคิดแค่เพียงหนูยิ้มอาจจะพูดเพ้อเจ้อ แต่ครอบครัวของอิ่มแอบสงสัยในการกระทำของหนูยิ้ม

กล้าโกรธที่หนูยิ้มหลอกแก้วไปให้เพื่อนชายขืนใจทั้งๆที่เคยช่วยหนูยิ้ม จึงดักฉุดหนูยิ้มไปกักขังทรมาน และทำทีว่าขืนใจ แต่หนูยิ้มสลบไปก่อน เมื่อตื่นขึ้นมาหนูยิ้มจึงเข้าใจผิดว่าตัวเองตกเป็นของกล้าแล้ว หนูยิ้มโกรธเกลียดกล้ามาก เภารู้สึกถูกชะตาและชื่นชอบความอ่อนหวานใจดีของแก้ว แต่ก็ถูกหนูยิ้มขัดขวางด้วยความอิจฉาริษยา หนูยิ้มไม่รู้ว่ายิ่งหนูยิ้มพยายามกลั่นแกล้งแก้วเท่าไหร่ เภายิ่งสงสารและเห็นใจแก้วมากขึ้นเท่านั้น ที่สุดก็กลายเป็นความรัก หนูยิ้มรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเภากับแก้วก็ยิ่งโกรธ หาว่า แก้วเป็นสาวแก่ขึ้นคานที่ทอดสะพานให้หญ้าอ่อนอย่างเภา แก้วโกรธมาก แต่อิ่มบอกแก้วไม่ให้ผูกใจพยาบาทต่อหนูยิ้ม เพราะจะเป็นการต่อกรรมกันไม่สิ้นสุด

แก้วกลุ้มใจ จึงระบายปรึกษากับมั่น ที่เป็นคนใช้ในบ้าน รุ้งแอบเห็นก็เอาไปโพนทะนาจนทั่วว่าแก้วกับมั่นมีความสัมพันธ์กัน ทั้งๆที่ความจริงแล้วมั่นแอบชอบรุ้ง เมื่อรุ้งรู้ก็หลอกใช้มั่นในเรื่องต่างๆนานาที่จะทำร้ายหนูยิ้ม มั่นเสียใจมากที่รุ้งเป็นคนไม่ดี จึงเลิกที่จะรักรุ้ง รุ้งยิ่งโกรธเกลียดหนูยิ้มมากขึ้น รุ้งปรึกษาหารือกับพัน จะให้พันทำร้ายหนูยิ้มอีก พันตกลงโดยมีรุ้งเป็นเดิมพัน ที่สุดรุ้งต้องตกเป็นเมียของพัน และพันก็โขกสับรุ้งเยี่ยงทาส ชดใช้บาปกรรมด้วยชีวิตตัวเองตลอดไป

พรรษานั้นเอง กล้าออกบวชและได้นั่งสมาธิ ในฌานสมาธิกล้ารู้ว่าหนูยิ้มคือจวนกลับชาติมาเกิด กล้าได้คุยกับทองเกลียวที่สติดีขึ้นแล้วจากการพึ่งใบบุญของวัด ทองเกลียวพยายามลำดับเหตุการณ์และเล่าความใจร้ายใจดำ ของคุณระย้าให้กล้าฟัง

เมื่อสึกออกมา กล้าเห็นใจหนูยิ้มมากขึ้น เข้าใจว่าทำไมหนูยิ้มจึงเจ็บแค้นพยาบาทอิ่มกับพระยาวิสุทธิ์ ซึ่งก็เนื่องจากความเข้าใจผิด ความสงสารเห็นใจก่อเกิดเป็นความรัก กล้าจึงพยายามบอกเล่าความจริงให้หนูยิ้มฟังว่าอิ่มไม่เคยคิดปองร้ายต่อหนูยิ้มหรือจวนในอดีต แต่หนูยิ้มไม่เชื่อ ยังคงมีใจผูกพยาบาทต่ออิ่มและบุญ หนูยิ้มหาเรื่องมาทำร้ายครอบครัวนี้เสมอ คุณระย้ายิ่งให้ท้ายเพราะรู้ดีว่าใจจริงแล้วพระยาวิสุทธิ์แอบเอ็นดูแก้ว ด้วยกลัวว่าพระยาวิสุทธิ์จะยกทรัพย์สมบัติให้แก้ว คุณระย้าเล่าความเลวร้ายของอิ่มให้ฟัง เป็นต้นว่าทรยศเพื่อน แย่งคนรักของเพื่อน ล่อหลอกเพื่อนให้ผู้ชายข่มขืน เอาสมุนไพรพิษลอบฆ่าคน หนูยิ้มจดจำเป็นข้อมูลและยิ่งเกลียดชังอิ่มและแก้ว หนูยิ้มใช้วิธีที่อิ่มเคยทารุณจวนมาแก้แค้นอิ่มกับแก้ว แต่ทุกครั้ง เภากับกล้าต้องมาช่วยได้ทัน หนูยิ้มกับคุณระย้าโมโหมาก

คุณพริ้งทนไม่ไหว ที่นับวันคุณระย้ากับหนูยิ้มยิ่งร้ายกาจ จึงนำความไปบอกกับพระยาวิสุทธิ์ พระยาวิสุทธิ์เอ่ยปากตักเตือนหนูยิ้มกับคุณระย้า คุณระย้าจึงวางแผนให้หนูยิ้มวางยาคุณพริ้งและโยนความผิดให้อิ่ม หนูยิ้มไม่ทำ คุณระย้าจึงบอกว่าจะทำเอง ที่สุดคุณพริ้งก็แทบตายด้วยน้ำมือของคุณระย้า และคุณระย้าก็โยนความผิดให้อิ่ม หนูยิ้มสับสนเพราะรู้ความจริงว่าคนที่วางแผนฆ่าคุณพริ้งคือคุณระย้านั่นเอง อิ่มถูกโบยแทบตาย กล้ากับแก้วพยายามหาหลักฐานมายืนยันว่าอิ่มบริสุทธิ์ กล้าบอกหนูยิ้มกำลังทำร้ายคนที่บริสุทธิ์ เพราะคนร้ายที่แท้จริงคือคุณระย้านั่นเอง

หนูยิ้มพยายามทบทวนเหตุการณ์ต่างๆและก็ยิ่งสับสนในตัวเอง เพราะคนที่คุณระย้าว่าเลวแสนเลวอย่างอิ่มและทุกคนที่อยู่รอบข้าง แท้จริงแล้วกลับเป็นคนดีมีน้ำใจ ในขณะคนที่ออกตัวว่าดีแสนดีอย่างคุณระย้า แท้จริงแล้วกลับใจร้ายใจดำ หนูยิ้มอยู่กับความสับสนเพราะไม่รู้ว่าความจริงคืออะไร และใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลัง ความเลวร้ายทั้งมวล

ในปีพุทธศักราช2482 ประเทศไทยเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง กล้ากับเภาไปต้องออกสนามรบ ในขณะที่พระยาวิสุทธิ์ก็ต้องไปประจำการกับกองทัพ ที่บ้านเหลือแต่ผู้หญิงคือคุณระย้า คุณพริ้ง แก้ว อิ่ม และหนูยิ้ม คุณระย้ากับหนูยิ้มสั่งให้อิ่มกับแก้วขุดหลุมหลบภัย สองแม่ลูกจำต้องทำตาม ด้วยความทุกข์ลำเค็ญสาหัส ปีนั้นเองเกิดข้าวยากหมากแพง อาหารไม่มี แต่อิ่มและแก้วกลับออกไปหาอาหารขุดเผือกขุดมันมาให้คนในบ้านประทังชีวิต แต่คุณระย้ากลับเก็บไว้กินแค่สองคนกับหนูยิ้ม เมื่อหนูยิ้มแบ่งให้คุณพริ้ง อิ่ม กับแก้ว ก็ถูกคุณระย้าตำหนิ นับวันหนูยิ้มยิ่งเห็นความใจร้ายใจดำและเห็นแก่ตัวของคุณระย้า

ด้วยความเป็นห่วง กล้าแอบหนีกลับมาดูแม่และพี่สาว ในขณะที่เภาก็กลับมาดูพริ้ง เมื่อกล้ากับเภาเห็นว่าอิ่ม แก้ว คุณพริ้งอยู่อย่างทุกข์ทรมานก็โกรธ กล้าดุด่าต่อว่าหนูยิ้ม ว่าหนูยิ้มใจร้ายใจดำ แม้กระทั่งคนที่หวังดีกับหนูยิ้มมาตลอดชีวิตอย่างอิ่ม เภากับกล้าพาพริ้ง อิ่ม แก้ว ไปอยู่ด้วย โดยทิ้งหนูยิ้มกับคุณระย้าอยู่กับภาวะเสี่ยงตาย ด้วยความหวาดกลัว คุณระย้าเริ่มเห็นภาพหลอน ความร้ายกาจต่างๆที่ตนเองเคยกระทำกับคนต่างๆในอดีต ทั้งทองเกลียว อิ่ม จวน และพริ้ง ในขณะเดียวกันคุณระย้าก็คลุ้มคลั่งเข้ามากอดหนูยิ้ม บอกไม่ให้หนูยิ้มทิ้งไป เพราะรักหนูยิ้มมาก

เมื่อความจริงเปิดเผย หนูยิ้มได้รู้ความจริงว่าคุณระย้านั่นเองที่เป็นคนวางแผนทำร้ายคนทุกคน รวมทั้งหนูยิ้ม หรือ จวนในอดีต หนูยิ้มสับสน เพราะยังจำได้ดีถึงคำกล่าวก่อนตายเมื่อชาติที่แล้วว่าจะจองเวรจองกรรมกับคนที่ทำร้ายจวนจนตาย หนูยิ้มสับสนระหว่างความรักกับความเกลียดชังที่มีต่อผู้หญิงที่ร้ายกาจอย่างคุณระย้า หรืออีกนัยหนึ่งคือแม่ของหนูยิ้มเอง เภากับกล้า พาทุกคนไปอยู่ที่วัด บัดนี้ทองเกลียวผู้มีสติครบถ้วนทุกอย่างรวมทั้งเป็นคนทรงศีล ได้บอกให้ทุกคนไปช่วยหนูยิ้มกับคุณระย้า

ที่บ้านของพระยาวิสุทธิ์ ระเบิดลงพอดี คุณระย้าได้รับบาดเจ็บสาหัส วูบหนึ่งแรงแค้นของจวนสั่งให้หนูยิ้มทิ้งคนที่ใจร้ายใจดำอย่างคุณระย้าไป คุณระย้าจะต้องได้รับความเจ็บปวดทุกข์ทรมานก่อนตาย ทองเกลียวพาทุกคนไปถึง และให้สติหนูยิ้ม ว่าบัดนี้หนูยิ้มคือลูกในอุทรของคุณระย้า ไม่ใช่จวนในชาติที่แล้ว หนูยิ้มจะทิ้งคนที่รักหนูยิ้มที่สุดในชีวิตอย่างคุณระย้าไปได้อย่างไร เวรควรระงับด้วยการไม่จองเวร เหมือนสิ่งที่แม่ชีทองเกลียวกำลังทำอยู่ ไม่เช่นนั้นกรรมก็จะต่อกรรมกันไปไม่มีที่สิ้นสุด หนูยิ้มและกล้าตัดสินใจฝ่าดงระเบิดพาคุณระย้าออกมาด้วย

คุณระย้าถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล แต่ถูกตัดขาตัดมือทิ้งทั้งสองข้าง คุณระย้าต้องทนทุกข์ทรมานทั้งที่มีชีวิตอยู่ คุณระย้าขออสิกรรมต่อทองเกลียว อิ่ม คุณพริ้งและจวน หรือหนูยิ้ม รวมทั้งพระยาวิสุทธิ์ แต่พระยาวิสุทธิ์โชคร้ายถูกระเบิดตายระหว่างเดินทางกลับมาเยี่ยมคุณระย้า

หนูยิ้มตัดสินใจบวชชีพราหมณ์เพื่อตั้งจิตสมาธิลืมความเจ็บปวดแต่หนหลังพร้อมที่จะลืมอดีตและทดแทนผู้มีพระคุณอย่างแม่ระย้าสืบไป รวมทั้งขออโหสิกรรมต่อแก้ว อิ่มและ บุญที่ได้ล่วงเกิน แก้วได้แต่งงานกับเภา และกล้าพร้อมจะใช้ชีวิตกับหนูยิ้ม โดยที่ไม่มีอดีตอันเจ็บแค้นต่อไป เพราะหนูยิ้มรู้ซึ้งถึงสัจธรรมของชีวิตที่ว่า เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร

รักแท้แก้ได้ 2552

เรื่องย่อ : รักแท้แก้ได้ (2552/2009) ศรัณย์ ชายหนุ่มรูปหล่อ เจ้าเสน่ห์ ไม่เคยรักใครจริงควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า วันหนึ่งหลังจากที่หนีออกจากบ้าน เพื่อหนี น้ำหวาน ผู้หญิงที่อ้างว่าท้องกับตนและไปประกาศทั่วมหาวิทยาลัย ทำให้ ศรัณย์ และ ครอบครัวเสียชื่อเสียง ศรัณย์ ต้องย้ายมหาวิทยาลัย มาอยู่กับเพื่อนสนิทตั้ง แต่เด็กที่ชื่อ ตุ้ม พอมาถึงกลับพบว่าตัวเองได้กลายเป็นผู้หญิง เพราะคำสาปของ เจ้าแม่แสงจันทร์ ที่สิงอยู่ในร่างของ มะนาว หญิงสาวที่ผิดหวังกับความรักจาก ศรัณย์ ศรัณย์ ในร่างของผู้หญิงนั้นถูกเปลี่ยนชื่อเป็น ศรัณย่า ศรัณย่า ได้เข้าไปเรียนในคณะวิศวกรรมศาสตร์ ถูกเพื่อนผู้ชายกลั่นแกล้งเพราะคิดว่าเป็นกะเทย จน อบเชย เข้ามาช่วยไว้จึงได้เป็นเพื่อนกับ ศรัณย่า และ ตุ้ม อบเชย พา ศรัณย่า มาอยู่ที่บ้านสวนหลังจากที่ ศรัณย่า ถูกครหาว่าอยู่ร่วมห้องกับผู้ชาย จนได้รับความอับอาย ย่าอุ่นเรือน ย่าของ อบเชย ชอบ ศรัณย่า เพราะเป็นคนพูดจาดี เรียบร้อย ภูมิชาย มาทวงสัญญาที่ได้หมั้นกับ อบเชย ไว้ตั้งแต่เด็กๆ แต่ ภูมิชาย นั้นกลับชอบ ศรัณย่า ทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองเป็นเกย์ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงชอบผู้หญิง วันหนึ่ง ศรัณย่า ได้ไปที่ผาแสงจันทร์และพบกับ มะนาว ซึ่งได้บอกกับ ศรัณย่า ว่าถ้าต้องการกลับไปเป็นเหมือนเดิม ศรัณย่า จะต้องตามหารักแท้กับคนที่มีปานแดงรูปหัวใจที่เนินอก ศรัณย่า กับ ตุ้ม ตามหาคนที่มีปานแดงทั่วมหาวิทยาลัย จนถูกผู้หญิงตบและพูดกันว่าสองคนนี้เป็นโรคจิต อบเชย รู้เรื่องจึงช่วยตามหาอีกแรง แต่ไม่มีใครรู้ว่า อบเชย ก็มีปานแดงรูปหัวใจอยู่เช่นกัน เจ้าแม่แสงจันทร์ ในร่าง มะนาว ได้กำจัดผู้หญิงของ ศรัณย์ จนหมด ทำให้ สนิทกับ ลินดา แม่ของ ศรัณย์ ลินดา ไว้ใจ มะนาว ทุกเรื่องและปรึกษาเรื่อง ศรุต สามีจอมเจ้าชู้กับ มะนาว เจ้าแม่แสงจันทร์ ในร่างของ มะนาว วางแผนให้ ลินดา มาเจอ ศรุต กับ มะนาว กำลังมีความสุขกันอยู่ ลินดา โกรธมากทำให้ล้มป่วยเป็นอัมพาตพูดไม่ได้ พอแก้แค้นสำเร็จ มะนาว ก็ตัดสัมพันธ์และหนีหายจากไป ศรุต เสียใจมากจนตรอมใจ เจ้าแม่แสงจันทร์ นัด ศรุต ไปที่หน้าผาแสงจันทร์เพื่อเล่าถึงความเจ็บปวดทุกอย่างที่ตนได้รับจากการกระทำของ ศรุต ศรุต ตกใจที่ได้เห็นร่างของ แสงจันทร์ และได้รู้ว่าที่ แสงจันทร์ หนีหายไป เพราะมาฆ่าตัวตายที่หน้าผาแห่งนี้ ศรุต บอกความจริงกับ แสงจันทร์ ว่าที่ต้องแต่งงานกับ ลินดา นั้น เป็นเพราะผู้ใหญ่จัดการให้ แต่ตนไม่เคยรักใครเลยนอกจาก แสงจันทร์ คนเดียว แสงจันทร์ จึงรู้ว่าตนเข้าใจ ศรุต ผิดมาตลอด คิดว่า ศรุต ไม่รักจึงฆ่าตัวตายและหาหนทางแก้แค้นครอบครัวของ ศรุต จึงทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายต่างๆขึ้น ศรัณย่า ตามหาคนที่มีปานแดงรูปหัวใจจนหมดหวัง จึงตัดสินใจไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย อบเชย ไปช่วยไว้ทัน ทำให้ ศรัณย่า เห็นโดยบังเอิญว่า อบเชย มีปานแดงรูปหัวใจที่เนินอก จึงพยายามทำดีเอาใจ อบเชย เพื่อหวังจะได้รักแท้จาก อบเชย แต่ก็ไม่สำเร็จ ศรัณย่า จะกลับร่างมาเป็น ศรัณย์ ชายหนุ่มรูปหล่อคนเดิม รักของเขาทั้งสองจะเป็นอย่างไร ติดตามชมเรื่องราวความรักวุ่นๆของหนุ่มสาว 2 คู่ ที่โดนสาปจนเกิดเรื่องยุ่งๆได้ใน รักแท้แก้ได้

วังน้ำค้าง 2552

เรื่องย่อ : วังน้ำค้าง (2552/2009) “วังน้ำค้าง สวรรค์ริมทะ​เลที่มี​แต่​ความสงบสุข ต้องกลาย​เป็นอ​เวจีที่​เร่าร้อน ​เมื่อบันลือประมุขของวังต้อนรับลำ​เพาสาวสวย​แสนอาภัพ​เข้ามา​ในหัว​ใจ ​ทำ​ให้​ไฟริษยาลุก​โชนขึ้น​ใน​ใจระรินญาติสาว​ผู้มอบหัว​ใจ​ให้​เขามาตลอด ​และ​ความ​แค้นนั้น​ก็ตกทอดมา​ถึง รัตติกาลลูกติดท้องของลำ​เพา​ซึ่งต่อมา​ก็​ได้ครอบครองหัว​ใจของธนนท์ ชายหนุ่มทายาทคน​เดียวของบันลือที่​ทำ​ให้ระริน​เกิด​ความรักครั้ง​ใหม่ ระริน​ซึ่งกำลังจะสูญ​เสียทุกอย่าง จะ​ทำอย่าง​ไร ​เพลิง​แค้นของ​เธอจะ​แผด​เผา​ให้วังน้ำค้างกลาย​เป็นจุน​หรือ​ไม่……” ลำ​เพา สาวชนบท​แสนสวยรักกับ ​เดียว พลทหารยากจน ​แม่บังคับลำ​เพา​แต่งงานกับ​เศรษฐี​ซึ่ง​เป็นนัก​เลง ​เดียวกลับมาจากรบ​เขาขาพิ​การต้อง​ใช้​ไม้ค้ำ ลำ​เพา​และ​เดียว​ได้​เสียกันวันที่​เดียวกลับมา ​โดย​เดียว​ไม่รู้ว่ารุ่งขึ้นลำ​เพาต้อง​แต่งงาน ลำ​เพาหนี​การ​แต่งงาน ​แต่ถูกกลุ่ม​เศรษฐีตามล่า ​เดียวยิงตาย​ทั้งหมด​เขา​โดนจับ ​โดนตัดสินจำคุกยี่สิบปี ลำ​เพาหนีออกจากบ้าน ระหว่างลำ​เพา​เดินทางทอดอาลัย​ไม่รู้จะ​ไป​ไหน บันลือ มหา​เศรษฐี​เจ้าของ​เกาะวังน้ำค้างขับรถผ่านมา บันลือชอบ​เธอทันที​เมื่อ​แรก​เห็น ​เมื่อรู้ว่าลำ​เพา​ไม่มีที่​ไป บันลือพาลำ​เพา​ไปอยู่ด้วยที่คฤหาสน์ของ​เขาที่ริมทะ​เล ​เขาอยู่กับญาติสาวชื่อระริน ​และชายรับ​ใช้​ผู้ซื่อสัตย์ ชื่อพร ​แม้จะ​เป็นสาวสวย​แต่ระรินยังคงครอง​โสด ​เพราะตั้ง​แต่ที่​เธอต้องมาอาศัยอยู่กับครอบครัวของบันลือ หลังจากพ่อ​แม่​เสียชีวิตด้วยอุบัติ​เหตุ ระริน​ก็​แอบหลงรักบันลือตั้ง​แต่​เด็ก ​แต่​ไม่กล้า​แสดงออก จนกระทั่งบันลือ​แต่งงาน ​และภรรยา​เสียชีวิตลง ทิ้ง​เพียงลูกชาย​ไว้1คน ​ซึ่งบันลือ​ก็ส่ง​ไป​เรียนที่กรุง​เทพฯ ​เมื่อ​เรียนจบมัธยม​ก็ส่งต่อ​ไป​เรียนที่ต่างประ​เทศ ระริน​จึง​ได้อยู่กับบันลือ​ในคฤหาสน์อย่างมี​ความสุขมาตลอด จนกระทั่ง บันลือรับลำ​เพามาอยู่ด้วย ​และ​ให้​ความสนิทสนม​เป็นพิ​เศษ ระริน​จึงริษยาลำ​เพามาก ลับหลังบันลือ ลำ​เพาถูกระรินกระ​ทำต่างๆ นานา ​แต่​เธอ​ก็อดทน​เพราะรู้ตัวว่ากำลังตั้งท้องอ่อนๆ ​ไม่สามารถระ​เห​เร่ร่อน​ไปอยู่ที่อื่น​ได้ ยิ่งนานวัน บันลือ​ก็ยิ่ง​เอ็นดูลำ​เพามากขึ้นจนกลาย​เป็น​ความรัก บันลือขอลำ​เพา​แต่งงาน​และขอรับ​เป็นพ่อของ​เด็ก​เอง ระริน​แค้น​ใจมาก วันหนึ่ง​เมื่อ หนู​แดง ลูกสาวของลำ​เพาอายุยัง​ไม่ครบขวบ ​และ​เป็นวันที่ปลอดคน บันลือ​ไม่อยู่บ้าน นายพรพาหนู​แดง​ไปตัดดอก​ไม้ที่สวนวังน้ำค้างระรินหลอกลำ​เพา​ไปธุระด้วยกัน ที่​เกาะ ​เมื่อ​ถึงกลางทะ​เล ระรินตีลำ​เพาจนตกน้ำ ลำ​เพาว่ายน้ำ​ไม่​เป็น​เธอจมทะ​เลตาย บันลือรู้​เรื่องลำ​เพาประสบอุบัติ​เหตุจมน้ำตาย บันลือรับ​เลี้ยงหนู​แดง​เป็นลูก ​เขาตั้งชื่อหนู​แดงว่ารัตติกาล ​เกือบยี่สิบปีผ่าน​ไป รัตติกาล​โต​เป็นสาวสวย บันลือรักมาก ตรงข้ามกับระรินที่ยังปัก​ใจว่า รัตติกาลมา​แย่ง​ความรักของบันลือ​ไป รัตติกาล​เรียกนายพรที่​เลี้ยง​เธอมาตลอดตั้ง​แต่​เด็กว่าตา บันลือขอร้องระริน​และตาพร​ให้ปกปิดว่า​เขา​ไม่​ใช่พ่อ​แท้ๆ ของ​เธอ​และ​ให้ปกปิดว่าพ่อ​แท้ๆ ของ​เธอ​เป็น​ใคร ​แต่วันที่บันลือ​เข้ากรุง​เทพ​เพื่อ​ไปรับ ธนนท์ ลูกชาย​ซึ่งกลับจากอ​เมริกา ระรินรุกรานรัตติกาล ​และ​เมื่อรัตติกาล​เถียงระริน​โกรธจัด ตบหน้ารัตติกาล​และ​เผย​ความจริงว่า รัตติกาล​ไม่​ใช่ลูกบันลือ​แต่​เป็นลูก​ไอ้ขี้คุก​ผู้ร้ายฆ่าคนตาย รัตติกาล​เสีย​ใจมากวิ่งหนี​เตลิดออกจากบ้าน ​เธอวิ่ง​ไป​เจอ สีมา สาวลูกชาวประมงยากจน สีมา​ทำตัว​เป็นทอม รัตติกาลบอกว่า​เธอจะ​ไปตาย สีมากระชาก​ไว้​ไม่​ให้​ไป ชวนรัตติกาล​ไปอยู่ด้วย บันลือกลับมา ระรินบอกว่ารัตติกาลหนีออกจากบ้าน คงหนีตาม​ผู้ชาย บันลือออกตามทุกวันจน​เจอรัตติกาล ช่วยสีมา​ทำประมง บันลือขอร้อง​ให้รัตติกาลกลับบ้าน สีมาขอตาม​ไปอยู่ด้วย ระริน​แสดง​ความพึงพอ​ใจ​ในธนนท์ ​แบบหญิงชอบชาย ​เพราะธนนท์คล้ายบันลือตอนหนุ่มๆมาก ​เธอหา​โอกาส​เคลมธนนท์ ​แต่ตาพรมาขัดจังหวะทุกครั้ง ธนนท์​เอง​ก็รู้ตัว ​เขา​เลี่ยงอย่างสุภาพกับระริน ธนนท์รักรัตติกาลทันทีที่​เห็น รัตติกาล​ก็​เช่น​เดียวกัน บันลือสนับสนุนอย่าง​ไม่ออกหน้าออกตา​เกิน​ไป ​แต่ระรินหึงหวงริษา ระรินมอม​เหล้าธนนท์ จะปล้ำ​เขา ​แต่ตาพรมาขัด​ไว้​ได้อีก ระริน​โกรธมาก ต่อมาระรินจะฆ่ารัตติกาลขณะนอนหลับ ตาพรมาช่วยทัน ​แก​ไม่​ได้​ทำอะ​ไรระริน ​แค่ยืนมอง​เฉยๆ ​แต่ตาพร​ไม่​เคยพูดกับ​ใคร​เรื่องระรินที่จะ​เคลมธนนท์ ​และจะฆ่ารัตติกาล ระรินยัง​แค้นรัตติกาลที่จะ​ได้ทุกอย่าง​ไปจากวังน้ำค้าง​เพราะรัตติกาลจะ​ เป็นคู่ครองของธนนท์​แน่นอน ระรินลวงรัตติกาลจะ​ไปฆ่ากลางทะ​เล​เหมือนที่​เคยฆ่าลำ​เพามา​แล้ว ​โดยหลอกว่าธนนท์ประสบอุบัติ​เหตุ ​เมื่อ​เรือมา​ถึงที่ที่ลำ​เพา​เคยจมน้ำตาย ระริน​เตรียมฆ่ารัตติกาล​โดยรัตติกาล​ไม่รู้​เลยว่า​เธอกำลังจะถูกฆ่า ​แต่​แล้วระริน​เห็นผีลำ​เพา​โผล่ขึ้นมาจาก​ใต้ทะ​เลมายืนบนผิวน้ำ ​และ​เดินมาหา​เธอ​ใน​เรือ​โดย​ไม่พูดจาอะ​ไร​เลย ​แต่ลำ​เพาจ้องจะ​เอา​เรื่อง ลำ​เพายังสวย​เหมือน​เมื่อครั้ง​เธอยังมีชีวิตอยู่ ระรินกลัวลำ​เพาจน​เป็นลม รัตติกาล​ไม่รู้​เรื่อง ​เมื่อระริน​เป็นลม ​เธอพา​เรือกลับ​เข้าฝั่ง ระหว่างยัง​ไม่ฟื้นระริน​เห็นลำ​เพามารับ​เธอ​ไปด้วยกัน ระริน​ไปด้วยอย่าง​เต็ม​ใจ ​แต่​เมื่อลำ​เพา​ให้​เธอลง​เรือระรินหวีดร้อง​ไม่​ไปด้วย ​เธอตื่นขึ้นมา​เห็นธนนท์กับรัตติกาลนั่ง​เฝ้าอยู่อย่างห่วง​ใย ระรินกอดธนนท์ราวกอดขอ​ความช่วย​เหลือจากชายคนรัก ​เดียวพ้น​โทษ ​ไปหา​แม่ของลำ​เพาที่บ้าน ​แม่ของลำ​เพาสำนึก​ใน​ความผิดที่​ทำ ​แก​เอาจดหมายของลำ​เพา​ให้​เดียวอ่าน ​เดียวรู้ว่าลำ​เพามีลูกสาวกับ​เขา ​และลำ​เพา​ไปอยู่ที่วังน้ำค้างกับชายที่ชื่อบันลือ​เดียว​ไปที่​เกาะวังน้ำ ค้าง พบรัตติกาล รัตติกาลรู้สึกว่าถูกชะตากับชายคนนี้ตั้ง​แต่​แรก​เห็น ​เธอบอกว่าพ่อของ​เธอ​เป็นชายขี้คุกชื่อ​เดียว ​แม่ของ​เธอชื่อลำ​เพา ​แต่​แม่ตาย​ไปตั้ง​แต่​เธออายุยัง​ไม่ครบขวบ​เดียวช็อกที่ลำ​เพาตาย จากนั้น​เดียวมา​แอบดูรัตติกาลทุกวัน ​ไม่คิดจะ​เปิด​เผยว่าตัว​เอง​เป็นพ่อ​เพราะขณะนี้ลูกสาวมีชีวิตที่สูงส่ง กว่า​เขามาก รัตติกาล​ให้ดอกกุหลาบ​แดงของวังน้ำค้าง​แก่ชายพิ​การลึกลับทุกวัน จนวันหนึ่งระริน​เห็น ​และตอกหน้า รัตติกาลต่อหน้าธนนท์ว่า​แอบลักลอบพบชาย​ไม่มีหัวนอนปลาย​เท้าฉันชู้สาว รัตติกาล​แก้ตัว​ไม่​ได้ ​แต่บันลือ​ไม่​เชื่อว่ารัตติกาลจะ​เป็นดังที่ระรินกล่าวหา ระริน​ให้ตาพร​เป็นพยาน ตาพรบอกว่า​ไม่​เคย​เห็นรัตติกาลคุยกับชาย​แปลกหน้าที่​ไหน​เลย ระริน​โกรธที่ตาพร​โกหก​เข้าข้างรัตติกาล​ทั้งๆ ที่ตาพร​ก็อยู่กับรัตติกาลตอนรัตติกาลพบกับ​เดียว รัตติกาลกับธนนท์ร่วมมือกันจับสีมาลอกคราบ​ความ​เป็นทอม​ให้กลับ​เป็นหญิง ​เพราะ​เห็น​แล้วว่าจริงๆ สีมา​เป็นสาวที่สวยมาก ​และพ่อบันลือ​ก็อ้างว้างว้า​เหว่มานาน ควรจะมีคู่​ใจ​เสียที สีมา​แต่งกาย​เป็นสาว​แล้วสวยจริงๆ บันลือถูก​ใจมาก ระรินยังอาฆาตที่จะฆ่ารัตติกาลตลอด วันหนึ่งสบ​โอกาสที่สีมา​เอา​เครื่องดื่ม​ไป​ให้คุณๆ ​แต่ละคน​ในบ้าน ระริน​แอบ​ใส่ยาพิษ​ในนมสดของรัตติกาล ​แต่บันลือ​เกิดอยากดื่มนมสด ​เขา​เอาของรัตติกาล​ไปดื่มก่อน ​ให้สีมา​ไป​ทำ​ให้รัตติกาล​ใหม่ ระรินยินดี​เมื่อ​ได้ยิน​เสียงสีมาหวีดร้อง ​แต่​แล้วกลับตก​ใจ​เมื่อคนดื่มนมผสมยาพิษคือบันลือ หมอล้างท้องช่วยบันลือทัน ​เมื่อบันลือกลับบ้าน​ได้ ​เขาพูดกับระริน ​เขารู้ว่าระรินตั้ง​ใจจะฆ่ารัตติกาลรู้ว่าระรินหลงรักธนนท์ฉันชู้สาว ​แต่​เมื่อระริน​เป็นญาติ​เขา ​เขา​จึง​ไม่​ทำรุน​แรง​ถึงกับจะส่ง​เธอ​ให้ตำรวจ ​แต่​เขาจะตัดปัญหา​ให้ธนนท์​แต่งงานกับรัตติกาล ทุกอย่างจะ​ได้จบลง​เสียที วัน​แต่งงานของธนนท์กับรัตติกาล ​เดียวมา​แอบดู​ความรุ่ง​เรือง​ในชีวิตลูก ระริน​เห็น​แฉกลางงาน​แต่งว่า​เดียว​เป็นชายชู้ของรัตติกาล ​เดียว​เข้ามา​ในงาน บอกว่า​เขาคือชายที่มา​แอบดูรัตติกาลตลอด​เพราะ​เขารักรัตติกาล ​แต่​ไม่​ใช่ฉันชู้สาว ​เพราะ​เขาคือพ่อของรัตติกาล ทุกคนตะลึง​ไปหมด รัตติกาลดี​ใจที่​ได้พบพ่อที่​แท้จริงที่​เธอ​เฝ้าตามหามาตลอด ​เดียว​แฉอีกว่า​เขารู้จากชาวประมงว่าลำ​เพา​ไม่​ได้จมน้ำตาย​เอง ​แต่ระรินฆ่าลำ​เพา ระรินช็อค​ไม่ยอมรับ ​เธอวิ่ง​ไป​ในตึก ค้น​ได้ปืนพก ​แต่ก่อนที่จะกลับออก​ไป ระริน​เห็นภาพวาดของลำ​เพากลาย​เป็นลำ​เพาจริงๆ ​เดินออกมาจากภาพวาด มาชวนระริน​ไปด้วยกัน ระริน​ไม่ยอม​ไปด้วย จะยิงลำ​เพา ตาพร​เข้ามา​ในตึกระรินมอง​เห็นตาพร​เป็นลำ​เพา ยิงตาพรตาย ​แล้วระรินวิ่ง​เตลิดออกนอกตึก ​เธอกำลัง​เสียสติ ระรินวิ่ง​ไปท่าน้ำ ​เจอลำ​เพารออยู่ ลำ​เพาบอก​ให้​ไปด้วยกัน ​ไป​ในที่ที่จะ​ไม่มี​ใครตามระริน​เจอ ระรินดี​ใจว่าจะหนีพ้นที่ฆ่าตาพร ลง​เรือ​ไป ​ไป​ถึงทะ​เลจุดที่ระริน​เคยฆ่าลำ​เพา ระริน​เห็นลำ​เพาลุกลง​ไป​เดินบนผิวน้ำทะ​เล ระรินตก​ใจ ลำ​เพา​เรียกระรินลง​ไป ระรินนึก​ได้ว่าลำ​เพาตาย​แล้วระรินกลัวมาก จะหนี ​ในที่สุดระรินตกทะ​เล จมน้ำ ธนนท์ขับ​เรือพาบันลือมา​ถึง​เรือระรินที่ลอยอยู่ ​แต่หาระริน​ไม่​เจอ​แล้ว บันลือรู้ว่าระรินชด​ใช้กรรมที่ก่อ​ไว้​แล้ว บันลือ​เ​ก็บปืนที่ตกอยู่​ใน​เรือ​ไป ทุกคน​ในงาน​แต่งงานนึก​ถึง​เดียวขึ้นมา​ได้ ​แต่​เดียวหาย​ไป​แล้ว มี​แต่กระดาษพับวางอยู่​ใต้กุหลาบ​แดงดอกหนึ่ง ​เป็นจดหมายที่​เดียว​เขียนฝากฝังรัตติกาล​ให้กลับคืน​เป็นลูกสาวของบันลือ ​และสำนึก​ในบุญคุณของบันลือ ตัว​เขา​เองขอ​เพียงที่น้อยนิดบน​เกาะวังน้ำ-ค้าง​ให้​เขา​ได้อาศัยชมบุญ รัตติกาลทุกวัน รัตติกาลกับธนนท์สังหรณ์ รีบ​ไปที่​เกาะวังน้ำค้าง ร่าง​เดียวนอนคว่ำหน้า​เสียชีวิตอยู่​ในน้ำทะ​เล ​เขากระ​โดดหน้าผาลงมา

แจ๋วใจร้ายกับคุณชายเทวดา 2552

เรื่องย่อ : แจ๋วใจร้ายกับคุณชายเทวดา (2552/2009) ยายแจ่ม (พิศมัย วิไลสักดิ์) ญาติเพียงคนเดียวของ แจ๋ว (พัชราภา ไชยเชื้อ) ไกด์สาวและผู้จัดการ "เสือป่ารีสอร์ท" ที่เคยหาเงินเลี้ยงดูตั้งแต่พ่อกับแม่ของเธอเสียชีวิต และส่งแจ๋วไปอยู่กับ ลุงสิงห์ (ไพโรจน์ สังวริบุตร) และ ป้าพิม (พัณณ์ชยา สิทธิ์เศรษบกุล) เพื่อนสนิทของพ่อเธอที่เสือป่ารีสอร์ท เพราะกำลังป่วยหนักอยู่โรงพยาบาลทำให้แจ๋วต้องมาดูแลเป็นการด่วน ยายแจ่มฝากให้แจ๋วดูแล คุณหนูชาย (อารักษ์ อมรศุภสิริ) ลูกชายคนเดียวที่เอาแต่ใจของครอบครัว "ทัตเทพ" แจ๋วจำใจรับคำยายทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้จัก แจ๋วถึงกับตะลึงกับฤทธิ์ของคุณชายที่กำลังอาละวาดใส่คนรับใช้ หนำซ้ำยังด่าพาดพิงมาถึงแจ๋วที่เพิ่งมาถึงบ้านทัตเทพ แจ๋วโต้กลับทันทีจนทั้งคู่ปะทะฝีปากกัน ใหญ่ (ภาณุ สุวรรณโณ) กับ น้องเล็ก (มาติกา อรรถกรศิริโพธิ์) พี่ชายและน้องสาวลูกติดของ ดุจดาว (สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงศ์) แม่เลี้ยงของชาย ต้องรีบไปบอก ชัชวาล (ตฤณ เศรษฐโชค) พ่อของเขาทั้งหมดจึงได้รู้ว่าแจ๋วเป็นหลานยายแจ่มที่มาที่นี่เพื่อดูแลคุณหนู ชายแผลงฤทธิ์ใส่แจ๋วสารพัดจนทนไม่ไหวจึงไปบอกยายแจ่มเพื่อลาออกจากตำแหน่งพี่เลี้ยงนี้ แต่ยายบอกว่าคุณหนูกำลังจะถูกแม่เลี้ยงที่รวมหัวกับ เชิดศักดิ์ (ภัทรวรรธน์ นาควิลัยโรจน์) ทนายประจำตระกูลโกงสมบัติของทัตเทพ แจ๋วจึงใจอ่อนกลับไปดูแลชายอีกครั้ง แจ๋วได้กลับไปตั้งหลักใหม่ที่รีสอร์ท แต่ เสือ (บัณฑวิช ตระกูลพานิชย์) ลูกชายคนเดียวของลุงกับป้าที่หลงรักพี่แจ๋วเต็มหัวใจ ไม่เห็นด้วยที่แจ๋วจะกลับไปดูแลชายอีก แจ๋วเลยโกหกว่าชายเป็นคนปัญญาอ่อน เสือจึงยอมให้พี่สาวทำภารกิจต่อ ดุจดาวเริ่มแผนทำให้พ่อเกลียดชาย ขณะที่ใหญ่ก็ส่ง หญิงนุ้ย (พิมพ์นิภา จิตตธีรโรจน์) หม่อมหลวงตกยากกิ๊กของเขามาเป็นเลขาฯ ชาย แจ๋วบังคับให้ชายยอมรับบัญญัติ 5 ประการ คือ มีน้ำใจ, ไม่เห็นแก่ตัว, กลัวบาป, ซาบซึ้งกับสิ่งดีๆ รอบข้าง, เปิดใจกว้างเพื่อรับคนอื่น แต่ชายก็แอบนอกกฏบ้าง ซึ่งแจ๋วก็รับมือได้ทุกครั้ง หญิงนุ้ยอึดอัดด้วยความหึงหวงที่เห็นใหญ่ตีสนิทกับแจ๋วเลยระบายความแค้นกับน้องเล็ก น้องเล็กจึงนำเรื่องของชายไปเล่าให้แจ๋วฟัง ขณะนั้นเสือมาหาแจ๋วที่บ้านหญิงนุ้ยเลยยุให้พาแจ๋วกลับรีสอร์ท แต่ชายขอตามไปด้วยเพื่อหวังจะป่วนงานของแจ๋ว แต่กลายเป็นว่าแจ๋วใช้กฏเหล็กที่รีสอร์ททำให้ชายต้องหัดช่วยเหลือตัวเองอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ในเวลาเดียวกันระหว่างที่ชายไม่อยู่ ดุจดาวกับใหญ่ก็เริ่มปอกลอกชัชวาลมากขึ้นโดยมีเชิดศักดิ์ให้ความช่วยเหลือ จนกระทั่งวางแผนร้ายทำให้ชัชวาลกลายเป็นอัมพฤกษ์ เพื่อจะบังคับให้เซ็นยกมรดกให้ นมแจ่มรู้เข้าจึงโทร. ตามชายกับแจ๋วกลับมาขัดขวาง โดยมี แพท (ณัฏฐินี เจียรวนนท์) เพื่อสมัยเด็กของชายคอยร่วมมือช่วยเหลืออีกแรง แจ๋วเริ่มเห็นความสนิทสนมของชายกับแพท เลยเข้าใจว่าทั้งคู่เป็นแฟนกัน จึงเตรียมตัวจะถอยห่างออกจากความใกล้ชิดที่เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หญิงนุ้ยตั้งท้องกับใหญ่แต่ถูกใหญ่สลัดทิ้งอย่างไม่ใยดีจนคิดฆ่าตัวตาย แต่ชายมาช่วยไว้และพูดให้ได้คิด ในที่สุดก็ยอมร่วมมือกับชายและแจ๋วล้วงความลับจากใหญ่มาเป็นหลักฐานเอาผิด ใหญ่กลัวตำรวจจับจึงหนีไปขึ้นรถของชายโดยไม่รู้ว่าเชิดศักดิ์วางระเบิดเอาไว้ ทำให้ถูกระเบิดตายคาที่ ดุจดาวหัวใจสลายและกลายเป็นคนเสียสติเพราะสิ่งที่เกิดขึ้น เชิดศักดิ์แค้นใจที่ตัวเองกำลังจะสูญเสียทุกอย่าง จึงจับตัวชัชวาลที่โรงพยาบาลไปเป็นตัวประกัน แต่ชายกับแจ๋วตามไปช่วยพร้อมกับตำรวจเชิดศักดิ์ยิงชายจนได้รับบาดเจ็บก่อนจะถูกตำรวจจับตาย แจ๋วเป็นห่วงชายมาก จึงบริจาคเลือดเพื่อช่วยชีวิตเขาและเดินทางกลับไปอยู่รีสอร์ทตามเดิมเพราะถือว่างานของตนจบลงแล้ว แต่แล้วเมื่อชายฟื้นขึ้นก็พบว่าขาดแจ๋วไม่ได้จึงออกอุบายล่อให้แจ่วมาหาที่โรงพยาบาลโดยอ้างว่าป่วย โดยไม้รู้ว่าเสือแอบตามมาด้วยความหึงหวงและถูกรถชนจนเสียชีวิตที่กรุงเทพฯ แจ๋วโทษว่าชายเป็นต้นเหตุการตายของเสือ จึงไม่ยอมพบหน้าอีกและหนีกลับไปอยู่ที่รีสอร์ทเหมือนเดิม แพทซึ่งรู้ดีว่าหัวใจของชายมอบให้แจ๋วไปหมดแล้ว จึงยุให้เขาตามไปปรับความเข้าใจกับเธอ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าความดีของแจ๋วเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปในแง่ดีมากเพียงใด เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามได้ในละคร แจ๋วใจร้าย กับคุณชายเทวดา