2549
พี่ชาย (2549/2006) สมชาย(แดน-วรเวช) เด็กหนุ่มวัยกำลังแนว ซ่าและแสบ มีคู่หูร่วมแก๊งค์คือ แจ๊ค(ปอย-ณภัทร) กับ จิล(กวาง-อรการ) ฝาแฝด ชาย-หญิง ทั้งสามคนเรียนอยู่มหาวิทยาลัยศิลปะ มีความฝันร่วมกันคืออยากจะตั้งวงดนตรีของตัวเอง สมชายสูญเสียแม่ด้วยอุบัติเหตุเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เหลือแต่ อานนท์(ต้น-จักรฤกษ์) ผู้เป็นพ่อซึ่งมีอาชีพเป็นเซลล์แมนขายประกัน และต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัดอยู่เสมอ สมชายมักได้รับความช่วยเหลือจาก คุณอ๋อม(นุ่น-รมิดา) สาวใหญ่วัยกลางคนข้างบ้าน วันหนึ่งสมชายได้รับข่าวร้ายว่าอานนท์ประสพอุบัติเหตุรถคว่ำที่พัทยา ระหว่างเดินทางไปทำงาน สมชายรีบเดินทางไปพัทยาทันทีด้วย “ตาหวาน” สกูตเตอร์คู่ใจ ในขณะเดียวกัน หนูนา(บัว-สโรชา) สาวน้อยแสนหวานจากเชียงรายก็รีบเดินทางมาพัทยาทันที เมื่อได้ข่าวว่า สิรี(ขวัญฤดี) ผู้เป็นแม่ประสพอุบัติเหตุ ระหว่างการเดินทางหนูนาเกิดตกรถ สมชายก็ไม่มีเงินทำให้ทั้งคู่ต้องร่วมทางเดินไปด้วยกัน สม ชายและหนูนาจึงได้รู้ว่าอานนท์กับศจีจดทะเบียนกันในเช้าวันเกิดเหตุ อานนท์เริ่มได้สติในขณะที่สิรียังคงอยู่ในโคม่า แม้อานนท์จะบอกว่ามันเป็นความรัก แต่ก็ยากเกินกว่าที่เด็กทั้งสองจะทำใจรับได้ ผล จากอุบัติเหตุทำให้ศจีกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา อานนท์จึงรับหนูนามาอยู่ด้วยที่กรุงเทพฯ ในฐานะลูกสาวคนใหม่ สร้างความไม่พอใจให้กับสมชายมาก สมชายกับหนูนาต่างก็ไม่ยอมพูดกันเลยนับจากวันนั้น อานนท์ส่งหนูนาเข้าเรียนโรงเรียนสตรีเพื่อความปลอดภัย เพื่อหาเงินมาเป็นค่ารักษาพยาบาลของศจี อานนท์จึงต้องรับตำแหน่งใหม่และย้ายไปประจำที่ต่างจังหวัดชั่วคราว เป็นเหตุให้หนูนากับสมชายต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันตามลำพัง สม ชายต้องรับผิดชอบหน้าที่ดูแลหนูนาตามคำสั่งของอานนท์ สร้างความเบื่อหน่ายให้กับสมชายเป็นอย่างยิ่ง สกูตเตอร์ตาหวานที่เคยขับโชว์หญิงต้องมารับวิ่ง-ส่งหนูนาไปโรงเรียน ต้องพาไปจ่ายตลาด กวาดบ้านถูบ้าน ภาพพจน์หนุ่มแสบของสมชายถูกหนูนาทลายจนไม่เหลือชิ้นดี หนูนาก็ไม่ชอบใจที่ต้องเข้าไปอยู่ในโลกแมนๆของสมชาย ต้อง ไปรอสมชายซ้อมดนตรี ต้องไปคอยสมชายแข่งฟุตบอล ต้องซักเสื้อผ้าสกปรกๆ เด็กหนุ่มและเด็กสาวที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกลับต้องมาอยู่ร่วมบ้านกันด้วย ความรู้สึกขมๆ จนวันหนึ่งสมชายได้รู้ความจริงจากจิลว่าแจ๊คกำลังหลงรักหนูนา สมชายรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุและพยายามขัดขวางจนแจ๊คผิดสังเกต ทำให้แจ๊คก็ไม่พอใจสมชายเช่นกัน สมชายและหนูนาเองต่างก็เริ่มรู้ตัวว่ามีความรู้สึกบางอย่างต่อกัน แต่เพราะสถานภาพที่ต้องเป็นพี่น้องทำให้ทั้งคู่พยายามฝืนความรู้สึก สมชายจึงตัดสินใจเก็บข้าวของออกไปละต้องทำงานพิเศษเพื่อหาเงินมาเป็นค่าใช้ จ่าย หนูนาซึ่งเป็นห่วงสมชายก็คอยแอบมาดูแลอยู่ห่างๆ แจ๊ค กับจิลบอกข่าวดีกับสมชายเรื่องการประกวดวงดนตรีที่กำลังจะมีขึ้น สมชายทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูตัวเองจนล้มป่วย และพบความจริงว่าตัวเองป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมองชนิดที่ไม่สามารถรักษาได้ และปิดเรื่องนี้เป็นความลับ พอหนูนารู้จึงทำงานเพื่อหาเงินมารักษาสมชาย ศจีอาการดีขึ้นจนหายเป็นปรกติ การแข่งขันดนตรีมาถึง แต่เป็นวันที่สมชายมีอาการทรุดลง แต่ก็พยายามฝืนตัวเองไปร่วมงานเพื่อทำความฝันของตนและเพื่อนให้เป็นจริง หนูนาแอบทิ้งบัตรเชิญงานประกวดวงดนตรีไว้ให้อานนท์ อานนท์ตัดสินใจไปร่วมงานอย่างเงียบๆ สมชายทำความฝันของตัวเองสำเร็จก่อนที่จะล้มลงกลางเวที อานนท์รู้ความจริงเรื่องอาการป่วยของสมชาย และปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด...... ความรักของสมชายและหนูนาจะดำเนินต่อไปอย่างไร ความสัมพันธ์ของพี่ชายที่แสนดีจะแปรเปลี่ยนเป็นคนรักที่ดีได้หรือไม่
เรื่องย่อ : หนุ่มห้าวสาวใสหัวใจปิ๊ง (2549/2006) เคลลี่ ธนะพัฒน์ เป็น ชานนท์ หนุ่มหล่อนักเรียนนอก บี น้ำทิพย์ เป็น พิมพ์พรสาวสวย บ.ก นิตยสาร PINK เชี่ยวชาญ ด้านงานเขียน อึดเกินชาย แต่ก็อ่อนหวานได้ไม่แพ้หญิงคนไหน กว่า 3 ปีที่นิตยสารแฟชั่นรายปักษ์ชื่อดัง “PINK” โลดแล่นอยู่บนแผงหนังสือ ทีมงานเปลี่ยนมาแล้วหลายรุ่น แต่ พิมพ์พร สาวสวยหัวหน้ากองบรรณาธิการ ซึ่งทำงานที่นี่เป็นที่แรกหลังจากเรียนจบ เธอเป็นหนึ่งในทีมงานรุ่นบุกเบิกตั้งแต่นิตยสารยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ยังคงติดหนึบไม่หนีไปไหน พิมพ์พรเป็นสาวอึด ทนทุกสภาวะ เพื่อข้อมูลในงานเขียนแล้ว เธอลุยได้ถึงไหนถึงกัน ผลงานของเธอจึงโดดเด่น จนมีนิตยสารหลายฉบับพร้อมจะทุ่มเงินซื้อตัวไปเป็นบก. แต่เธอก็ปฏิเสธ เพราะเธอทั้งรัก และผูกพันกับนิตยสาร PINK ชนิดที่เธอกล้าบอกใครๆ ว่า PINK คือส่วนหนึ่งของชีวิตเธอไปแล้ว
ในฝัน (2549/2006) เจ้าชายพิรียพงศ์ รัชทายาทแห่งแคว้นพรหมมินทร์ เสด็จไปทรงศึกษาวิชาสำหรับกษัตริย์กับ เจ้าชายโอริสสาวัฒนา หรืออีกพระนามหนึ่งว่า เจ้าชายเสนาบดี ณ แคว้นกุสารัฐ ที่นั่นเจ้าชายพิรียพงศ์ทรงทราบว่า เจ้าหลวงกุสารัฐ ซึ่งทรงพระชราภาพ มีพระธิดาองค์เดียวซึ่งทรงมีพระสิริโฉมงดงามมากคือ เจ้าหญิงรัชทายาท ผู้ซึ่งจะขึ้นครองบัลลังก์ต่อจากพระราชบิดา เจ้าหญิงเป็นที่หมายปองของเจ้าชายที่เป็นพระญาติพระวงศ์ โดยเฉพาะ เจ้าชายชัยฉัตร ซึ่งจบการทหาร และเจ้าชายบุษกร ผู้ซึ่งศึกษา ณ ประเทศฝรั่งเศส แต่เจ้าหญิงรัชทายาทไม่เคยมีพระเนตรประทานใครอื่นเลย นอกจากเจ้าโอริสสาวัฒนาแต่พระองค์เดียว แม้กระนั้นเจ้าชายโอริสสาวัฒนาก็ไม่เคยแสดงความสนพระทัยในองค์เจ้าหญิง รัชทายาทแม้แต่น้อย เพราะพระองค์สนพระทัยอยู่แต่ภาระและหน้าที่ใน ฐานะเสนาบดีแห่งสมาพันธรัฐ ผู้อยู่เบื้องหลังการปกครองแคว้นกุสารัฐ ซึ่งกำลังระส่ำระสายด้วยการแก่งแย่งอำนาจ โดยฝ่ายของเจ้าชายชัยฉัตรและเจ้าชายบุษกร รวมทั้งขุนนางผู้ใหญ่ที่คิดกบฏ รวมถึงเทวีศุลีพร ที่ราชสำนักกุสารัฐนี่เอง เจ้าชายพิรียพงศ์ทรงเป็นทั้งลูกศิษย์และราชเลขานุการส่วนพระองค์ในเจ้าชายโอ ริสสาวัฒนา ทำให้เจ้าชายพิรียพงศ์ได้ทรงเรียนรู้ถึงพระปรีชาสามารถอันล้ำลึกในการปกครอง ทั้งทางด้านการเมือง การทหาร และการทูตในองค์เจ้าชายโอริสสาวัฒนา ทั้งยังทรงเห็นว่าทรงอุทิศพระวรกายและพระหฤทัยให้แก่หน้าที่เจ้าชายเสนาบดี อย่างเต็มพระกำลัง ทรงเปี่ยมได้ด้วยคุณธรรมและสถิตอยู่ในความยุติธรรม ทำให้ทรงเป็นที่รักและเคารพยำเกรงอย่างยิ่ง ต่อทุกคนที่ประพฤติอยู่ในทำนองครองธรรม และเป็นที่เกลียดชังแก่ทุกคนที่ไม่หวังดีต่อราชบัลลังก์ โดยเฉพาะเจ้าชายบุษกรผู้ทรงวางแผนล้มราชบัลลังก์ร่วมกับ นายพลตรีสุรีเทพ และเทวีศุลีพร สาวผู้มักใหญ่ใฝ่สูง ทำให้เจ้าชายโอริสสาวัฒนาต้องวางแผนรักษาราชบัลลังก์อย่างแยบยล ในช่วงเวลานี้นี่เองที่เจ้าชายพิรียพงศ์ได้ทรงทราบว่า เจ้าชายโอริสสาวัฒนาทรงเป็นสหายวัยเยาว์กับ เจ้าหญิงพรรณพิ ลาศ พระพี่นางของพระองค์ ทั้งคู่ได้ทรงเขียนจดหมายโต้ตอบสื่อสารกันเป็นนิตย์ไม่ขาดระยะ และมักทรงปรึกษาหารือส่วนพระองค์และราชการอยู่เสมอ จนมิตรภาพระหว่างทั้งสองพระองค์กลายเป็นความรักซึ่งฝังรากลึกในพระราชหฤทัย ของสองพระองค์ เจ้าหญิงรัชทายาทก็ได้เสด็จมาปรึกษากับเจ้าชายพิรียพงศ์หลายครั้ง ในความที่ทรงน้อยพระทัยในเจ้าชายโอริสสาวัฒนา เลยทำให้เจ้าชายพิรียพงศ์ทรงสงสารและเห็นพระทัยเจ้าหญิงรัชทายาท จนเกิดเป็นความรักโดยไม่รู้พระองค์ เมื่อมีการประชุมสภาเพื่อเลือกราชทูตไปทำสันถวไมตรีกับประเทศยุโรป เจ้า ชายโอริสสาวัฒนาทรงแสดงท่าทีอย่างชัดเจนในการสนับสนุนเจ้าชายชัยฉัตร เพราะทรงมีคุณลักษณะเหมาะสมกว่าเจ้าชายองค์ใด จนในที่ประชุมเห็นชอบอย่างเอกฉันท์ ทำให้เจ้าชายบุษกรผู้หวังในตำแหน่งนั้นไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ส่วนเจ้าชายชัยฉัตรจึงหันมาสวามิภักดิ์ต่อเจ้าชายโอริสสาวัฒนาอย่างไม่แคลง พระทัยอีกต่อไป สร้างความแค้นใจต่อเจ้าชายบุษกรมากยิ่งขึ้น ในระหว่างนั้นเองที่แคว้นพรหมมินทร์ เจ้าชายโสภณา แห่งแคว้นสาละวัณได้เสด็จประพาสแคว้นพรหมมินทร์ เจ้าหญิงพรรณพิลาศได้ทรงอักษรมาถวายเจ้าชายโอริสสาวัฒนาว่า เจ้าชายโสภณาทรงเป็นเจ้าชายรูปงาม แถมยังโปรดปรานศิลปะเช่นเดียวกับเจ้าหญิง และเจ้าชายยังสนพระทัยเจ้าหญิงอย่างสังเกตได้ชัด เหตุการณ์นี้จึงทำให้เจ้าชายโอริสสาวัฒนาทรงหนักพระทัย ด้วยเกรงว่าความรักจะหลุดลอย ต่อมาเจ้าหลวงกุสารัฐก็ทรงประชวร มีรับสั่งให้เจ้าชายโอริสสาวัฒนาอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงรัชทายาท แต่เจ้าชายโอริสสาวัฒนาทรงปฏิเสธและแสดงความเห็นว่า เจ้าชายพิรียพงศ์มีคุณสมบัตินานัปการคู่ควรกับเจ้าหญิงรัชทายาท ซึ่งเจ้าหลวงกุสารัฐก็ต้องยินยอมตามความประสงค์นั้น สร้างความเสียพระทัยต่อเจ้าหญิงรัชทายาทเป็นอย่างยิ่ง เจ้าชายโอริสสาวัฒนาก็ทรงทูลลาเสด็จไปยังแคว้นพรหมมินทร์เป็นการด่วน เพื่อกีดกันเจ้าหญิงพรรณพิลาสกับเจ้าชายโสภณา เจ้าชายพิรียพงศ์จึงมีโอกาสใกล้ชิดเจ้าหญิงรัชทายาทและเริ่มรู้ใจกัน ที่แคว้นพรหมมินทร์ ท่ามกลางงานเลี้ยงอำลาเจ้าชายโสภณา ข้าหลวงมาทูลเจ้าหญิงพรรณพิลาศว่ามีผู้มาขอเฝ้า ในคืนนั้นเองพระสหายที่รักกันยิ่งก็ได้พบกัน หลังจากทรงจากกันมานานถึงสิบกว่าปี ทั้งสองพระองค์รำลึกถึงวันวานจนสัมพันธภาพลึกซึ้งและหวานชื่นเกินกว่าคำ บรรยาย รุ่ง ขึ้นก่อนเจ้าชายโสภณาจะเสด็จกลับทรงขอเจ้าหญิงพรรณพิลาศทรงเป็นราชินีแห่ง แคว้นสาละวัน แต่เจ้าหญิงทรงปฏิเสธได้อย่างชาญฉลาด เจ้าชายโสภณาเสด็จจากไปด้วยความเสียพระทัย ที่แคว้นพรหมมินทร์เจ้าชายโอริสสาวัฒนาได้เข้าเฝ้าเจ้าหลวงพรหมมินทร์ ทูลข่าวเรื่องงานวิวาห์ของเจ้าชายพิรียพงศ์ และทูลขออภิเษกกับเจ้าหญิงพรรณพิลาศ ซึ่งเจ้าหลวงทรงตอบรับด้วยดี เมื่อเจ้าชายโอริสสาวัฒนาเสด็จกลับกุสารัฐ มรุต ราชองครักษ์ก็ทูลว่ามีการก่อกบฏซ่องสุมกันอยู่ในชนบท เจ้าชายโอริสสาวัฒนาจึงขอเข้าเฝ้าเจ้าหลวงกุสารัฐขอพระราชทานอำนาจให้เจ้า หญิงรัชทายาททรงประกาศกฎอัยการศึกปราบปรามกบฏ ซึ่งคาดว่าเป็นเจ้าชายบุษกรและพรรคพวก แล้วเจ้าชายโอริสสาวัฒนา, เจ้าชายพิรียพงศ์ และมรุตก็ออกเดินทางไปยังหมู่บ้านที่มีสายรายงานว่าเป็นแหล่งซ่องสุม มี การต่อสู้เกิดขึ้นจนมรุตได้รับบาดเจ็บ แต่เจ้าชายบุษกรและพรรคพวกหนีไปได้ และตั้งพระทัยที่จะอาฆาตเจ้าชายโอริสสาวัฒนาถึงชีวิต เจ้าชายชัยฉัตรซึ่งเสด็จยุโรปทรงทราบเรื่องกบฏ ก็รีบกลับกุสารัฐและพร้อมที่จะเป็นกำลังปราบปรามกบฏในครั้งนี้ ในฐานะที่ทรงเป็นชายชาติทหาร แล้ววันอภิเษกของเจ้าหญิงรัชทายาทและเจ้าชายพิรียพงศ์ก็มาถึง เจ้าหลวงแห่งพรหมมินทร์และพระมเหสีเสด็จมาร่วมงาน เพื่อทรงปรึกษาเรื่องวันอภิเษกของเจ้าชายโอริสสาวัฒนาและเจ้าหญิงพรรณพิลา ศต่อสภาสมาพันธรัฐ ซึ่งทุกฝ่ายก็เห็นชอบให้จัดงานขึ้นต่อจากงานอภิเษกของเจ้าหญิงรัชทายาทกับ เจ้าชายพิรียพงศ์ งานอภิเษกของเจ้าหญิงรัชทายาทและเจ้าชายพิรียพงศ์ในครั้งนี้จัดให้มีการ เฉลิมฉลองอย่างมโหฬารรวมทั้งงานซ้อมรบ เจ้าหญิงรัชทายาททรงทำใจเรียนรู้ที่จะรักเจ้าชายพิรียพงศ์ และเจ้า ชายก็ทรงรักเจ้าหญิงแบบพระชายาแทนที่พระองค์จะทรงรักแบบพระสหายเช่นเดิม ในงานซ้อมรบที่จัดขึ้นในวันอภิเษกนั่นเองขณะที่เจ้าชายโอริสสาวัฒนาทรงม้าไป เก็บดอกหยาดฝน อันเป็นดอกไม้ประจำพระองค์เจ้าหญิงพรรณพิลาศ เจ้าชายบุษกรก็ใช้พระแสงปืนสังหารเจ้าชายโอริสสาวัฒนาสิ้นพระชนม์ลงต่อหน้า เจ้าชายพิรียพงศ์และมรุต เจ้าชายชัยฉัตรตามหาตัวคนร้ายอย่างบ้าคลั่ง จนในที่สุดก็สังหารเจ้าชายบุษกรอย่างเหี้ยมโหดสมกับบาปกรรมที่ทรงก่อไว้ เจ้าหลวง พรหมมินทร์เสด็จกลับแคว้นและนำข่าวร้ายมาบอกแก่พระธิดา เจ้าหญิงพรรณพิลาศทรงโศกเศร้าอาดูรสุดจะพรรณนา แต่แล้วก็ทรงพบว่า “สิ่งต่างๆ ที่เราเห็นอยู่นั้นไม่คงทนแน่นอน สิ่งที่เราประสบอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน พอลืมตาขึ้นก็หายไปหมด เหมือนเป็นในฝันนั่นเอง”
ลมหวน (2549/2006) วกุล เป็นลูกสาวบุญธรรมของพยาบาลอเมริกันคนหนึ่งชื่อ มิสโรส เซซิล หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า ม็อม มิสโรสพบแม่แท้ๆ ของวกุลในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ที่บังเอิญท้องกับพ่อซึ่งเป็นจิตรกรมีชื่อเสียง แม่ไม่สามารถเลี้ยงลูกที่เกิดนอกสมรสได้จึงยกให้มิสโรสพยาบาลผู้เป็นโสด วกุลทำงานเป็นแอร์โฮสเตสมีเพื่อนร่วมงานที่สนิทชื่อ ทิพยงค์ วกุลกำลังจะลาออกเพื่อย้ายไปอยู่กับมิสโรสที่แม่ฮ่องสอน กัปตันสายการบินจึงแนะนำให้รู้จักกับน้องชายซึ่งเป็นทนายความประจำอยู่ที่โน่นชื่อ วิเชียร วิเชียรมารับวกุลที่สนามบินเชียงใหม่ แล้วพาไปดูบ้านเก่าของครอบครัวเซซิลซึ่งให้เช่าแล้วซ่อมแซมต่อเติมใหม่ ภายหลังมิสโรสมาอยู่เองแล้วทำพินัยกรรมยกที่ดินและบ้านให้กับวกุลก่อนที่เธอจะเสียชีวิต วิเชียรพาวกุลไปดูบ้านเก่าโบราณของสกุลแบรดเล่ย์ ที่เขาเป็นทนายความดูแลด้านกฎหมายให้กับที่นี่ ซึ่งเคยมีสัมปทานป่าไม้กับพม่าในอดีตและบริษัทน้ำมัน มีเครื่องบินส่วนตัว มิสเตอร์แบรดเล่ย์เจ้าของเดิมแต่งงานกับหญิงสาวชาวเขาเผ่าปะหล่อชื่อ ปันสี แต่ทั้งสองเครื่องบินตกเสียชีวิตทั้งคู่ทิ้งลูกชายวัยขวบครึ่งชื่อ ลมหวน ไว้กับ นายเดช พี่ชายของปันสีแม่ของลมหวน และมี แม่ขาว คนเก่าแก่ที่เป็นใบ้หูหนวกชาวปะหล่อคอยติดตามดูแลปรนนิบัติ นายเดชเป็นผู้จัดการมรดกทั้งหมดจากพ่อของลมหวน เพราะตามพินัยกรรมให้เขาช่วยดูแลรับผิดชอบลูกชายวัยขวบครึ่ง วิเชียรเล่าว่าลมหวนเป็นเด็กปัญญาอ่อน นายเดชจึงสร้างโรงพยาบาลส่วนตัวเล็กๆ ทันสมัย มีคนไข้เด็กปัญญาอ่อน 20 กว่าคนพร้อมแพทย์ นักจิตวิทยา พยาบาล โดยไม่เอาตัวไปเข้าโรงพยาบาลของรัฐ ส่วนนายเดชพิการเพราะอุบัติเหตุ มีลูกชายชื่อ เดโช เป็นเพลย์บอยเจ้าสำราญ มักดูถูกและรังเกียจลมหวนว่าไอคิวต่ำ วิเชียรชวนวกุลไปงานเลี้ยงบ้านนายเดชซึ่งเป็นนายจ้าง ทำให้วกุลได้เห็นภาพความงามของหญิงสาวชาวเขาที่เป็นมารดาของลมหวน และบ้านโบราณของตระกูลแบรดเล่ย์ ที่งดงามแบบล้านนาแท้ๆ มีเครื่องดนตรีของปันสีเป็นกีตาร์เก่า ที่วกุลหยิบมาลองเล่นเพราะเธอเล่นกีตาร์ค่อนข้างเก่ง เธอยังติดใจภาพเขียนของปันสีที่ดูมีจิตวิญญาณคอยเฝ้ามองวกุลเหมือนจะร้องไห้และวิงวอนขอความช่วยเหลือ นายเดชเห็นวกุลเล่นกีตาร์ของปันสีก็ไม่พอใจสั่งเก็บเข้าตู้ทันที วิเชียรพาวกุลไปเดินเล่นจนพบกระท่อมตุ๊กตาที่ปันสีรักมาก ตอนท้องหล่อนคิดว่าจะได้ลูกสาวจึงสร้างบ้านตุ๊กตาขนาดเล็กไว้ให้เล่น แม่ขาวหวงบ้านตุ๊กตานี้มาก ไม่ให้ใครมายุ่มย่ามปล่อยให้เถาวัลย์เลื้อยคลุมจนหมด วกุลไม่ทันได้ดูข้างในแม่ขาวก็มาขัดขวางเสียก่อน วกุลกลับบ้านแล้วได้พบความเสียใจมากที่สุดเมื่อรู้ว่าแม่บุญธรรมเสียชีวิตแล้ว วกุลตัดสินใจรับงานเป็นเลขานุการของเดโช แล้วย้ายไปอยู่ที่คฤหาสน์แบรดเล่ย์ วกุลยังคงสนใจบ้านตุ๊กตาเหมือนเดิม และแอบเห็นแม่ขาวและชายแก่ผมหงอกเครายาวทำพิธีแปลกประหลาดในกระท่อมตุ๊กตาตอนกลางคืน วกุลเริ่มใช้ภาษามือพูดกับแม่ขาวและดูแลเมื่อแกป่วยมีไข้สูง เลขานุการของนายเดชชื่อ สมคิด ย้ายมาอยู่ที่คฤหาสน์อีกคนเพื่อเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของวกุล สมคิดยิงปืนแม่นเพราะเคยเป็นตำรวจและถูกให้ออกเพราะรับสินบน วกุลเล่าให้วิเชียรฟังว่าแม่ขาวร้องไห้เมื่อพูดถึงลมหวนว่าเกิดมาปกติทุกประการ แต่นายเดชเอาตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล วิเชียรยืนยันว่าแม่ขาวสติไม่ดี เวลานี้ลมหวนอายุ 25 ปีแล้วยังไม่รู้ประสา น้ำไหลยืด วิเชียรพาวกุลไปพบลมหวน วกุลได้พบกับ หมอพิชิต ที่ดูแลลมหวนและคนไข้กว่า 20 คน ลมหวนอยู่กับคนดูแลชื่อ ชุบ และสมใจ ผู้ช่วยพยาบาล ลมหวนจะกลัวชุบมากเพราะเป็นคนร่างใหญ่กำยำ วกุลได้รู้จักกับนักจิตวิทยาชื่อ เมธี ทั้งสองเป็นมิตรที่ดีต่อกัน วกุลเสนอจะใช้เสียงดนตรีช่วยลมหวนเมธีเห็นด้วย แม่จันทร์ คนงานเก่าแก่ของโรงพยาบาลมาบอกกับแม่ขาวว่า นายเดชไม่ต้องการให้วกุลมาติดต่อกับแม่ขาว และสั่งให้สมคิดมาบอกวกุล วกุลกับเมธีทดสอบทางจิตกับลมหวนพบว่า ลมหวนมีไอคิวปกติ แต่นายเดชรู้เรื่องเสียก่อนเขาพบรายงานของเมธี จึงสั่งทำลายเอกสารและฆ่าเมธี วิเชียรเชื่อวกุลว่าลมหวนปกติเมื่อดูหลักฐานของเมธี แต่กลัวอันตรายจะเกิดกับลมหวน จึงคิดแผนการพาลมหวนหนีไปที่อื่น เดโชบอกว่านายเดชพ่อของเขากำลังจะย้ายไปอยู่เมืองนอก แต่บังเอิญเกิดไฟไหม้ที่โรงพยาบาลเด็กปัญญาอ่อนเสียก่อน ทำให้ลมหวนหนีไปได้พร้อมกับวกุล โดยการช่วยเหลือของ เกี๋ยงคำ เกี๋ยงคำพาวกุลกับลมหวนหนีไปอยู่หมู่บ้านชาวเขาในป่าลึก วกุลกับลมหวนต้องทำงานบ้าน อาบน้ำที่น้ำตกและลำธาร ทำไร่ หาไม้มาทำฟืน วกุลพยายามรื้อฟื้นการใช้ชีวิตใหม่ให้ลมหวนได้รู้จักความจริง ซึ่งเขาไม่เคยรับรู้มาก่อน สมคิดกับเดโชพาพรรคพวกตามไปถึงหมู่บ้านชาวเขา เพื่อฆ่าลมหวนทิ้งตามคำสั่งของนายเดช แต่พวกชาวเขาช่วยป้องกันลมหวนกับวกุลเอาไว้ ลมหวนไม่อยากอยู่ให้พวกชาวเขาเดือดร้อนก็หนีมากับวกุล ระหว่างทางถูกสมคิดกับพวกตามฆ่า ลมหวนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ แต่ตำรวจได้เข้ามาช่วยไว้ทัน และตำรวจได้ปะทะกับพวกของสมคิด และสมคิดถูกตำรวจยิงตาย นายเดชถูกตำรวจจับสำนึกผิดทุกอย่างและฆ่าตัวตายในคุก ลมหวนเข้าบริหารงานในบริษัทด้วยความช่วยเหลือของหลายคน และเข้ารับการศึกษาตามคำแนะนำของวกุล เวลาผ่านไปไม่กี่ปีลมหวนก็เรียนจบปริญญา และเป็นนักธุรกิจได้อย่างสมภาคภูมิ และวกุลก็ไม่ปฏิเสธที่จะแต่งงานกับเขา
เจ้าสาวกะทันหัน (2549/2006) ดิฐ สารวัตสืบสวนอนาคตไกล กำลังปฏิบัติภารกิจสืบจับขบวนการค้ายาเสพติด ทำให้เขาต้องอยู่ในสภาพสกปรกมอมแมม ทั้งที่ดิฐเป็นลูกชายของอดีตรัฐมนตรี เดช และคุณหญิงดารุณี ครอบครัวที่เด่นดังในแวดวงสังคม ดิฐถูกบังคับให้ต้องแต่งงานกับ เจนนี่ สาวเปรี้ยวที่เพิ่งเรียนจบกลับมาจากลอนดอน โดยการจับคู่ของคุณหญิงดรุณีกับ คุณหญิงเพ็ญจันทร์ เพื่อนคู่ซี้ตามคำสัญญาที่ได้รับปากกันไว้ ดิฐปฏิเสธอย่างแข็งขันแต่คุณหญิงดรุณียืนยันว่าถ้าไม่แต่งกับเจนนี่ก็ต้องหา เจ้าสาวให้ได้ในคืนเดียว ไม่อย่างนั้นจะต้องถูกตัดออกจากกองมรดก มหาศาลสถานเดียว ขณะที่ในคืนนั้น ดุจดาว ซึ่งได้รับการอุปการะเลี้ยงดูในฐานะสาวใช้ในบ้านของ คุณนายพวงผกา น้องสาวของคุณหญิงเพ็ญจันทร์ กำลังจะถูก ทวี สามีจอมหื่นของพวงผกาปลุกปล้ำดุจดาวเสื้อผ้าหลุดลุ่ยวิ่งหนีออกมา ไปเจอกับหนุ่มโฉดนักเที่ยวสองนายจะใช้กำลังฉุดคร่าจนดุจดาวสลบไป ดิฐขับรถผ่านไปเจอจึงรีบช่วยเหลือไว้พร้อมอุ้มร่างที่สลบไสลของดุจดาวไปที่ บ้านพัก ขณะที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สกปรกมอมแมมให้ดิฐเพิ่งสังเกตเห็นความงามของ ดุจดาว ติดตามต่อได้ใน เจ้าสาวกะทันหัน
ภูตพยาบาท (2549/2006) เรื่อง ราวของ เพชร เด็กสาวตาบอดที่ถูกเลี้ยงมาในโรงเรียนคนตาบอดที่ก่อตั้งโดยกลุ่มมิชชันนารี เนื่องจากมีผู้พบถูกทิ้งอยู่ชายป่าจังหวัดกาญจนบุรีและไม่สามารถติดต่อหา ญาติได้ เพชรมีความสามารถทางไวโอลิน แต่ในขณะเดียวกันเธอก็สามารถได้ยินเสียงร่ำร้องของวิญญาณที่เจ็บปวดทั้งจาก คนที่ตายไปแล้ว และคนที่อยู่ในอาการโคม่าที่วิญญาณล่องลอยออกจากร่างในช่วงเวลาอันสั้น เพื่อขอความช่วยเหลือจากคนที่สามารถมีคลื่นความถี่ของจิตที่ตรงกัน แต่ที่ร้ายที่สุด เธอถูกคุกคามอยู่ตลอดเวลาจากเจ็ดพรายตายโหงที่พยายามติดต่อ ขู่เข็ญ บังคับให้เธอทำในสิ่งที่พวกมันต้องการ แต่เด็กสาวไม่เข้าใจ จนทำให้วิญญาณเหล่านั้นโกรธและทำร้ายเธอจนเกิดบาดแผลตามลำตัว แต่ผู้คนรอบข้างของเธอไม่รู้ถึงความจริงข้อนี้และคิดว่าเธอเป็นบ้าชอบทำร้าย ตัวเองและก็มองเธอเหมือนตัวประหลาด ติดตามต่อได้ใน ภูตพยาบาท
รอยอดีตแห่งรัก (2549/2006) ต้นน้ำ(สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว) เจ้าของแม็กกาซีนชื่อดัง กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับ นุสรา(ญดา โชติชูตระกูล) แฟนสาวไฮโซชื่อดัง ในอีก1อาทิตย์ข้างหน้า ในคืนที่ทั้งคู่ไปงานวันเกิดของต้นน้ำ ขากลับต้นน้ำเมามาก นุสรา จึงอาสาขับรถให้ แต่เธอไม่ทันระวังจึงขับรถชน มีน (พีรชยา พิณเมืองงาม) หญิงสาวที่อยู่ร้านขายอาหารตามสั่งใกล้ๆบริษัทของต้นน้ำ นุสราลงมาต่อว่ามีนที่บาดเจ็บ แต่ระหว่างนั้นอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น นุสราโดนรถที่วิ่งมาจากอีกด้านหนึ่งชนจนนุสราเสียชีวิต ต้นน้ำเสียใจกับการจากไปของนุสรามาก จึงฝังใจเกลียด มีน มาตลอด แม้มีนจะพยายามขอโทษต้นน้ำด้วยวิธีการใด ต้นน้ำก็ไม่ยอมให้อภัยเธอ แถมยังต้องการให้คนที่ตายไปในคืนนั้นคือมีน พี่หวาน(อริศรา วงษ์ชาลี) กับ เม่น(อรรถพร ธีมากร) ญาติสนิทของมีนได้แต่เป็นห่วง เพราะมีนเสียใจ และ ผิดหวังที่ต้นน้ำ คนที่เธอแอบชื่นชมเป็นคนแบบนี้ มีนจึงหนีกลับไปอยู่กับแม่(ทัศวรรณ เสนีย์วงษ์) ที่หัวหิน ต้นน้ำพยายามลืมความเศร้าด้วยการเที่ยวเตร่ โดยมี อัญชลี(ปานวาด เหมมณี) เลขาที่จ้องจะจับต้นน้ำคอยดูแลอย่างใกล้ชิด หมอนเรศ(พนมกร ตังทัตสวัสดิ์) เพื่อนรุ่นพี่ของต้นน้ำ จึงเข้ามาช่วยดูแล ย่าใหญ่(พิสมัย วิไลศักดิ์) เลยแนะนำให้ต้นน้ำไปพักผ่อนพร้อมกับทีมงานที่จะไปถ่ายทำวีซีดีที่หัวหิน แต่การมาพักผ่อนของต้นน้ำครั้งนี้ ทำให้เขาได้พบกับมีนอีกครั้ง ต้นน้ำพยายามหาเรื่องมีน แต่หมอนเรศคอยช่วยเหลือมีน ทำให้ต้นน้ำแกล้งมีนได้ไม่เต็มที่ ระหว่างถ่ายแฟชั่น ต้นน้ำและมีนได้มีโอกาสใกล้ชิด และทำความรู้จักกันมากขึ้น ทำให้ต้นน้ำรู้ว่าแท้จริงแล้วมีนเป็นคนมีน้ำใจและเป็นนักสู้ หลายครั้งที่เรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นในกองถ่าย และ อัญชลีก็พยายามเข้ามาช่วยเหลือมีน ทำให้มีนหลงชื่นชมอัญชลี โดยไม่ระแคะระคายในความร้ายกาจของเธอเลย วันสุดท้ายของการถ่ายแบบ นางแบบคนหนึ่งมาไม่ทัน ทีมงานตัดสินใจจับมีนมาแต่งตัว ปรากฎว่ามีนสวยขึ้นทันตาเห็น ต้นน้ำเองก็แอบรู้สึกอยู่ลึกๆ แต่เขากลับแสดงอาการไม่พอใจมีน และยิ่งรู้สึกหมั่นไส้เมื่อรู้ว่า หมอนเรศแอบชอบมีน และชักชวนให้มีนที่เรียนจบผู้ช่วยพยาบาลมาช่วยดูแลย่าใหญ่ เมื่อมีนต้องเข้าไปอยู่ในบ้านต้นน้ำ ต่างฝ่ายต่างได้เรียนรู้นิสัยกันในด้านที่ไม่เคยเห็น แต่ในขณะเดียวกัน มีนก็ต้องปะทะกับ อัญชลี ที่พยายามทำให้ย่าใหญ่ และ ต้นน้ำเข้าใจผิดเธอมาตลอด ย่าใหญ่ได้หลักฐานว่าอัญชลีโกงเงินบริษัทไป แต่อัญชลีก็จัดการย่าใหญ่จนหกล้มต้องเข้าโรงพยาบาล ต้นน้ำเครียดมาก อัญชลีได้ทีเลยใส่ไฟว่าตอนที่ย่าล้ม เห็นมีนคุยอยู่กับเม่น ไม่ยอมมาดูแลย่าใหญ่ ต้นน้ำโกรธมากด่าว่ามีนอย่างรุนแรง จนมีนทนไม่ได้ตัดสินใจขอลาออก ย่าใหญ่รู้เรื่องบอกให้ต้นน้ำไปตามมีนกลับมา แต่พอต้นน้ำไปถึง กลับถูกหวานและเม่นไล่กลับไป ต้นน้ำต้องขอร้องมีนให้เห็นแก่ย่าใหญ่ มีนจึงยอมทำตาม ระหว่างทางต้นน้ำได้ข่าวจากหมอนเรศว่าย่าตกบันไดเสียชีวิต ต้นน้ำถึงกับช็อค หลังจากงานศพของย่า ต้นน้ำพบว่ามีนเก็บข้าวของกลับหัวหินไปแล้ว เขาพยายามมาง้อมีน แต่มีนไม่สนใจ ทำให้ต้นน้ำโกรธเข้าไปลากมีนขึ้นรถเพื่อพากลับกรุงเทพ ทั้งคู่โต้เถียงกันขณะที่ต้นน้ำขับรถ แล้วอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น แต่เหตุการณ์ครั้งนี้จะซ้ำรอยเหมือนตอนที่เขาและเธอได้เจอกันครั้งแรกหรือ ไม่? ติดตามชมเรื่องราวความรักของเขาและเธอได้ในละคร รอยอดีตแห่งรัก
ต่างฟ้าตะวันเดียว (2549/2006) วินดี้ (ฉัตร ปริยฉัตร) พบรักกับปาร์คชองมิน (ไรอัน วงพารัน) ขณะไปเรียนต่อที่สหรัฐฯ อเมริกา เมื่อเรียนจบชองมินชวนวินดี้ไปเที่ยวบ้านเกิดของเขาที่เกาหลี และขอวินดี้แต่งงาน โดยสัญญาว่าจะรีบให้พ่อแม่ไปสู่ขอเธอที่เมืองไทย วินดี้ดีใจมาก แต่ลึก ๆ แล้วแอบกลุ้มใจ เพราะรู้ว่าทุกคนในครอบครัวของเธอ โดยเฉพาะคุณยายพนอจัน (เปียทิพย์) เกลียดคนเกาหลีมาก ซึ่งทั้งแม่ฤทัย (รัชนู บุญชูดวง) และ น้าศจี (ปู นริสรา) ต่างก็พากันบ่ายเบี่ยงทุกครั้งที่เธอถามถึงสาเหตุ ติดตามต่อได้ใน ใต้ฟ้าตะวันเดียว
จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า (2549/2006) วรเทพ สุรสิทธิ์ เศรษฐีเจ้าของรีสอร์ตสุรสิทธิ์กำลังป่วยหนัก จึงเรียกทายาททั้งหมดมาฟังประกาศพินัยกรรม ทุกคนประหลาดใจที่มรดกส่วนหนึ่งตกเป็นของหลานสาวของวรเทพ ที่เกิดกับลูกชายคนสุดท้องของตระกูลคือ บุรินทร์ ที่เสียชีวิตไปแล้ว เป็นเหตุให้ ปรเมศวร์ และปารมี สองพี่น้องที่เป็นญาติฝ่าย สาวิกา ภรรยานายวรเทพ ต้องเดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อตามหาตัวทายาทนิรนามคนนี้ ในที่สุดก็พบ จันทร์เจ้า ลูกสาวของนายบุรินทร์ในบ้านเกสต์เฮาส์ให้ฝรั่งเช่าอยู่อย่างแออัด จันทร์เจ้าอายุ 18 ปีชอบแต่งตัวเป็นทอมบอย และอยู่ในความดูแลของ มะลิ แคลาย นักร้องที่มีอาชีพเสริมคือการเปิดสำนักทรงหลอกชาวบ้านหากินไปวันๆ โดยมีจันทร์เจ้าเป็นลูกมือ บางครั้งจันทร์เจ้าก็ถูกประทับทรงเสียเอง เพราะพูดภาษาอังกฤษและฝรั่งเศสได้ เพราะไปอยู่เมืองนอกตั้งแต่เล็กจนอายุ 10 ขวบ พอพ่อเสียชีวิตก็เลยต้องกลับเมืองไทย หลายครั้งจันทร์เจ้าก็ เห็นภาพนิมิตเข้าจริงๆ และช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากหลายๆ หนจนคนแถวนั้นนับถือ จันทร์เจ้าเองก็กลัวความสามารถพิเศษของตัวเองอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะเมื่อปรเมศวร์และปารมีเข้ามาลองของให้จันทร์เจ้าประทับทรงให้ จันทร์เจ้าเห็นร่างสว่างไสวของคนคนหนึ่งมานั่งร่วมอยู่ด้วย และกระซิบบอกให้จันทร์เจ้าตามปรเมศวร์กลับไปที่ไร่ มะลิไม่ยอมเพราะกลัวจันทร์เจ้าจะถูกหลอก แต่ปรเมศวร์ยืนยันว่าจันทร์เจ้าต้องอยุ่ในความปกครองของเขาตามกฎหมาย จันทร์เจ้าเองก็อยากไปเพราะต้องการรู้เรื่องแม่ที่ตนเองไม่รู้จักมาก่อน จันทร์เจ้าเริ่มเห็นวิญญาณสว่างไสวบ่อยครั้งขึ้น สร้างความหวาดกลัวให้แก่จันทร์เจ้า, มะลิ และข้าวต้มมัด ลูกสมุนวัยเด็กยิ่งนัก ปรเมศวร์พาจันทร์เจ้ากับข้าวต้มมัดไปที่รีสอร์ทสุรสิทธิ์ ปรเมศวร์สั่งให้จันทร์เจ้าทำตัวให้สมกับเป็นทายาทของตระกูลผู้ดี แต่จันทร์เจ้าออกฤทธิ์ออกเดชเต็มที่ทำให้ปรเมศวร์ต้องใช้กำลังกายกำลังใจกำ หราบจันทร์เจ้า ติดตามต่อได้ใน จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า
สะใภ้พาร์ทไทม์ (2549/2006) สะใภ้พาร์ทไทม์ เป็นเรื่องราวของ ณภัทร หญิงสาวที่มีหน้าตาสะสวยหุ่นดี แถมยังมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด แต่น่าเสียดายที่รูปสมบัติมักนำภัยมาสู่ตัว เพราะไม่ว่าจะทำงานที่ใดก็มักพบกับเจ้านายหรือผู้ร่วมงานเจ้าชู้ คอยแทะโลมจนหล่อนเอือมระอา รายไหนที่โดนตอกหน้าไปหนักๆ ก็ปล่อยข่าวว่าหล่อนเสียตัวให้กับหมอนั่นแล้ว บางคนยอมทุ่มไม่อั้นเพื่อเคลมหล่อนสักครั้ง แต่พอเมียที่บ้านรู้เข้าก็ตามมาอาละวาดด่าทอถึงที่ทำงานจนอยู่ไม่ได้ เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเมื่อ สุภา แม่ของณภัทรป่วยเป็นโรคไตต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อรักษา ซ้ำไหนยังค่าเล่าเรียนของ ปรียา น้องสาววัยรุ่นที่กำลังเรียนหนังสือทุกอย่างต้องใช้เงิน จนณภัทรต้องตัดสินใจยอมเป็น 18 มงกุฎต้มตุ๋นผู้ชายที่ร่ำรวยเจ้าชู้เอาเงินมาใช้รักษาแม่และเลี้ยงน้อง โดยมีป้าแผ้ว 18 มงกุฎวัยใกล้เกษียนเป็นปรมาจารย์คอยสอนสั่ง ทั้งปลอมเป็นสาวใจแตกหลอกมอมเหล้านักเที่ยวกระเป๋าหนักแล้วปลดทรัพย์ ทำตัวเป็นสาวแสนซื่อหลอกแต่งงานกับหนุ่มๆ แล้วเชิดเงินสินสอดหนี ฯลฯ ไวทย์ พ่อม่ายนักธุรกิจมาดเคร่งขรึมที่ภรรยาเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่เขาก็ยังครองความเป็นโสดไม่ข้องแวะกับหญิงไหนเพราะความเจ็บปวดจากการเสีย ภรรยาในอดีต แม้แต่ กุลยา น้องเมียแสนสวยที่หลงรักเขามานานก็ไม่ได้ทำให้เขาใจอ่อนลงได้ และเพราะนิสัยที่มักมองโลกในแง่ร้ายของเขาจึงทำให้ไวทย์พยายามเตือน พีระ เพื่อนสนิทที่กำลังจะแต่งงานกับสาวสวยที่เพิ่งเจอหน้ากันไม่ถึงเดือนว่าให้ ระวังให้ดี เพราะอาจจะเป็นพวก 18 มงกุฎ แต่พีระก็ไม่เชื่อเพราะเขานั้นหลงรักณภัทรที่ปลอมตัวเป็น สุมิตรา สาวเหนือผู้อ่อนไหว จนในที่สุดพีระก็โดนดีเพราะณภัทรนั้นเชิดเงินสินสอดของเขาหนีหายเข้ากลีบเมฆ ไปเรียบร้อย หลังจากงานนั้นป้าแผ้วก็ขอที่จะวางมือจากการต้มตุ๋น เพราะรู้สึกอิ่มตัวกับอาชีพนี้จึงเหลือณภัทรเพียงลำพังที่ยังคงจะต้องฝืนทำ เรื่องไม่ดีอย่างนี้ต่อ เพราะอาการป่วยของแม่นั้นยังต้องพึ่งพาเงินจำนวนมากในการไปฟอกไต จนโชคชะตาพาให้ณภัทรได้มาพบกับไวทย์ขณะที่เขาพาลูกค้าไปเลี้ยงในคาราโอเกะ ที่ณภัทรปลอมเป็น น้องจิ๊บ ณภัทรหมั่นไส้ไวทย์ที่ทำตัวเจ้ายศเจ้าอย่าง ไม่ให้เกียรติผู้หญิง จึงจัดการมอมเหล้าหลอกพาเขาเข้าโรงแรมแล้วลอกคราบจนหมดตัว ก่อนที่จะหายเข้ากลีบเมฆไปตามเคย เรื่องนี้สร้างความแค้นให้ไวทย์มากจนตั้งปณิทานไว้ว่าจะต้องตามล่าหล่อนให้ ได้ยัยจิ๊บคาราโอเกะ แต่ณภัทรก็ไม่ได้โชคดีเสมอไปเพราะระหว่างที่กลับบ้านมาเยี่ยมแม่กับน้อง ณภัทรต้องเจอโจทย์เก่าโดยบังเอิญเธอถูกพวกมันไล่ลาจนเกือบซวย แต่ก็โชคดีที่ได้รับการช่วยเหลือจาก วาริท เด็กหนุ่มวัยรุ่นที่ผ่านมาช่วยเธอจนปลอดภัย และเสนอให้ที่พักกับเธอในคอนโดส่วนตัวที่พ่อของเขาซื้อให้ วาริทนั้นหลงรักณภัทรจนถึงขั้นขอแต่งงานกับณภัทรเพื่อให้พ่อเห็นว่าเขานั้น ไม่ใช่เด็กในสายตาพ่อ ณภัทรที่ผ่านโลกมาเยอะอ่านดูก็รู้ว่าเด็กคนนี้กำลังสับสนกับชีวิต เขาแยกความรักกับความหลงไม่ออก ณภัทรจึงพยายามฉีกตัวออกห่าง แต่เรื่องราวกลับไปกันใหญ่เมื่อวาริทพาหล่อนไปที่บ้านเพื่อแนะนำให้พ่อ รู้จัก ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเขาคนนั้นก็คือไวทย์นั่นเอง ไวทย์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อรู้ว่าคนที่ลูกกำลังหลงอยู่คือคนเดียวกับยัยจิ๊บ คาราโอเกะตัวแซบ เขาอยากจะจัดการกับผู้หญิงคนนี้เพราะคิดว่าหล่อนจะมาปอกลอกลูกชาย จึงไม่เห็นด้วยที่วาริทจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ร้อนถึง ปรางมาศ แม่ของไวทย์ที่ต้องมาห้ามทัพเรียกให้ณภัทรเข้าไปคุยเป็นการส่วนตัวกับ ธาริสา น้องสาวของไวทย์ จนปรางมาศได้รู้จักว่าผู้หญิงอย่างณภัทรไม่ได้ร้ายกาจอย่างที่ไวทย์เข้าใจ ท่านจึงได้ชวนให้ณภัทรมาอาศัยอยู่ภายในบ้านด้วยกันดีกว่าให้ออกไปใช้ชีวิต อยู่ข้างนอกกับวาริท ตามประสาที่ผู้ใหญ่อยากให้ทุกอย่างอยู่ในสายตา ส่วนไวทย์ที่โกรธจัดเล่าเรื่องณภัทรให้พีระฟัง เพื่อนรักจึงแนะนำให้ไวทย์ว่าจ้างณภัทรให้เป็นเมียของตัวเองจะดีกว่า เพราะต่อไปวาริทจะได้เห็นธาตุแท้ของหล่อนแล้วก็ตัดสินใจเลิกยุ่งไปเอง ตอนแรกไวทย์ก็แบ่งรับแบ่งสู้แต่เมื่อคิดถึงผลแล้วมันก็น่าจะง่าย เพราะผู้หญิงอย่างณภัทรเขาน่าจะจัดการได้อยู่หมัด พีระนั้นก็สนใจอยากจะเจอผู้หญิงคนนี้เพราะคนที่กล้าทำให้ไวทย์หัวปั่นได้ นั้นไม่เคยมีมาก่อน ไวทย์ยื่นข้อเสนอเรื่องจ้างให้ณภัทรมาเป็นเมียของเขา ตอนแรกรภัทรปฏิเสธแต่เพราะอาการโคม่าของแม่ทำให้ณภัทรจำต้องใช้เงินจำนวนมาก หล่อนจึงตกลงยอมรับข้อเสนอของไทย์ วาริทถึงกับชอกช้ำเมื่อคนที่เขาคิดว่าเขารักนั้นกลายเป็นเมียของพ่อ แต่ณภัทรก็พูดให้วาริทเข้าใจและสัญญากับตัวเองว่าเธอจะต้องช่วยเหลือวาริท ไม่ให้ชีวิตของเขาก้าวผิดพลาด เพราะเด็กคนนี้กำลังมีปัญหากับพ่อที่เป็นเหมือนเส้นขนานไม่ลงรอยกัน ถ้าปล่อยไปวาริทก็คงจะเสียคน แต่ชีวิตในสถานะสะใภ้พาร์ทไทม์ของณภัทรก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะไม่ว่าจะลุกนั่งนอนหรืออยู่ตรงไหนของบ้าน เธอก็มักจะถูกจับตาทุกฝีก้าวเพราะมันเป็นคำสั่งของไวทย์ เล่นเอาเธอไม่พอใจหันไปเล่นงานไวทย์คืนบ้าง ด้วยการป่วนประสาทโดยเฉพาะกับกุลยาที่ออกอาการหมั่นไส้และเกลียดขี้หน้า หล่อนที่ดันมาแย่งชิงตำแหน่งที่เธอปรารถนา จนเกิดเป็นศึกปะทะคารมให้ไวทย์ปวดหัวอยู่บ่อยๆ เท่านั้นยังไม่พอพีระยังได้มาเจอกับณภัทร หล่อนแทบช็อคเพราะพีระคือโจทย์เก่า แต่แทนที่พีระจะเล่นงานหล่อนเขากลับดีใจที่ได้พบกับหล่อนอีกครั้ง เพราะพีระนั้นหลงรักณภัทรอย่างหัวปักหัวปำ เงินที่เชิดเอาของเขาไปเขาก็ไม่ต้องการคืน เพราะสิ่งเดียวทีเขาปรารถนาคืออยากให้เป็นเหมือนช่วงเวลาแห่งความสุขที่ได้ มีกับณภัทร ณภัทรปฏิเสธว่าเป็นไปไม่ได้เพราะที่ทำไปก็เพราะหวังปอกลอก และนับจากนี้ไปจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ทุกอย่างที่ทำจะมีแต่ความจริงใจ พีระได้แต่เศร้าไปแต่เขาก็ยังคงเก็บรักษาความรักที่มีต่อตัวณภัทร และจะเป็นเพื่อนที่ดีกับเธอ ในระหว่างนั้นธาริสาถูกทาบทามให้ไปเดินแบบการกุศล ในงานนั้นเองที่ธาริสาได้มีโอกาสพบกับ เมธัส นักธุรกิจหนุ่มที่เป็นคู่แข่งทางการค้ากับไวทย์ เขาหลงรักธาริสาและพยายามตามจีบแต่กลับถูกกีดกันจากไวทย์ที่ไม่ชอบหน้าเมธัส ณภัทรค่อนข้างหงุดหงิดกับสิ่งที่ไวทย์เป็นคือการพยายามที่จะคุมชีวิตของทุก คนให้อยู่ในมือทั้งลูกทั้งน้องสาว ทั้งๆ ที่พอเธอได้รู้จักกับเมธัสเธอก็พบว่าเมธัสไม่ได้เป็นคนไม่น่าคบอย่างที่ ไวทย์คิด ณภัทรจึงหันมาถือหางสนับสนุนให้เมธัสคบกับธาริสา เพราะเธอไม่อยากเห็นธาริสาต้องคอยซุกอยู่ใต้ปีกพี่ชายอย่างไวทย์ไปตลอดชีวิต งานนี้เล่นเอาไวทย์ถึงกับปวดหัวจี๊ด ซ้ำพีระเพื่อนสนิทยังเข้าข้างณภัทรมาก้อร่อก้อติดกับหล่อนเข้าอีก แถมเจ้าลูกชายตัวดีก็ยังก่อปัญหาให้ไม่จบสิ้น เล่นเอาไวทย์ปวดหัวถึงกับล้มเจ็บ หมอบอกว่าเป็นเพราะความเครียดที่สั่งสมทุกคนจึงลงความเห็นว่าน่าจะไปเที่ยว สมุยเป็นการพักผ่อน การไปเที่ยวด้วยกันครั้งนี้เริ่มทำให้ณภัทรและไวทย์ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น จนทำให้ไวทย์มีโอกาสที่จะได้หยุดมามองณภัทรจนเริ่มเห็นว่าณภัทรไม่ใช่ ผู้หญิงที่สวยแต่รูป แต่มีความฉลาดและน่าค้นหา ไวทย์ไม่แน่ใจว่าที่เขามองหล่อนนั้นจะเรียกความรักได้หรือเปล่า ไวทย์พยายามที่จะสลัดความคิดนั้นเพราะหัวใจของเขานั้นปฏิเสธความรักมาตลอด แต่การไปเที่ยวครั้งนี้ก็ต้องหยุดชะงักลงเพราะปรียาโทรมาบอกณภัทรว่าแม่ถูก ขโมยที่ปีนเข้าบ้านฆ่าตาย ณภัทรเสียใจและคิดว่ามันคงเป็นเวรกรรมที่เธอได้ทำกับคนอื่น จนตอนนี้มันตามทันทำให้เธอต้องสูญเสียแม่จนเหลือเพียงแค่เธอกับน้องสาวเพียง 2 คนไวทย์สงสารณภัทรเมื่อรู้ถึงสาเหตุที่ณภัทรก้าวสู่อาชีพต้มตุ๋น จึงอนุญาตให้ปรียาเข้ามาอยู่ในบ้านทำให้ปรียาได้รู้จักกับวาริทที่วัยใกล้ เคียงกันและเข้าใจกัน ส่วนณภัทรไวทย์ก็ขอให้เธอเลิกยุ่งเกี่ยวกับการต้มตุ๋น หลอกลวงอีกต่อไป ครอบครัวของไวทย์ดูเหมือนว่าจะสงบ แต่อยู่ๆ กลับมีโทรศัพท์ทวงหนี้มาหาวาริท ณภัทรรู้เรื่องจึงเค้นเอาความจริงจากวาริทจนได้รู้ว่าวาริทตั้งใจที่จะ พิสูจน์ความเป็นผู้ใหญ่ให้พ่อเห็น จึงหลงไปเล่นพนันบอลกับเพื่อนแรกๆ ก็ได้แต่ตอนหลังเสียบ่อยจนเป็นหนี้หลายแสนบาท ณภัทรไม่อยากให้ไวทย์รู้เรื่องนี้เพราะถ้าไวทย์รู้คงต้องจัดการกับ วาริทอย่างเฉียบขาดมากกว่าจะช่วยเหลือแน่ เธอจึงปิดเรื่องนี้เป็นความลับแล้วหันหน้าไปยืมเงินจากพีระ เพื่อเอาไปช่วยเหลือวาริทแทน แต่ไวทย์เกิดมาเห็นเข้าและเข้าใจผิดว่าณภัทรจะมาหลอกเงินจากพีระอีก พีระบอกให้ณภัทรไปอธิบายให้ไวทย์เข้าใจแต่ณภัทรว่าไม่จำเป็น เส้นทางชีวิตของเธอกับเขาเหมือนเส้นขนานไม่มีวันที่มาบรรจบกันได้ นี่เองที่ทำให้พีระรู้ว่าคนที่ณภัทรปักใจรักก็คือไวทย์ ไวทย์เจ็บใจหันไปดื่มเหล้ากับกุลยาจนเมามาย จนเผลอพูดเรื่องอดีตของณภัทรให้กุลยารู้ความจริงว่าณภัทรนั้นเป็นพวก 18 มงกุฎ ไวทย์เกือบจะถูกกุลยาพาเข้าโรงแรมแต่โชคดีที่เมธัสมาพบเข้าและพาไวทย์มาพัก ที่คอนโดของเขา เมธัสช่วยพูดให้ไวทย์ได้คิดว่าณภัทรไม่ใช่คนสวยแต่รูปจูบไม่หอม ทำไมไวทย์ไม่ถามณภัทรว่ามีเรื่องจำเป็นอะไรถึงต้องใช้เงิน ไวทย์สะกิดใจอยากจะพบณภัทรแต่ปรากฏว่าณภัทรกับปรียาถูก เสี่ยศักดิ์ชาย ที่เป็นเจ้าหนี้พนันบอลและบังเอิญเป็นโจทย์เก่าที่ณภัทรเคยหลอกเงินมา แล้วจับตัวไปขณะที่กำลังเอาเงินไปใช้หนี้ให้วาริท ส่วนวาริทก็ถูกซ้อมอยู่ที่โรงพยาบาล ณภัทรกับปรียาต้องเอาตัวรอดจากเสี่ยศักดิ์ชายอย่างทุลักทุเล จนสามารถเอาตัวรอดมาได้เพราะความฉลาดของเธอ จนได้มาเจอกับไวทย์ที่พาตำรวจมาช่วยเธอจนได้กลับบ้าน แต่เธอกลับพบว่ากุลยาเอาเรื่องในอดีตของเธอมาแฉให้ทุกคนรู้ โดยเฉพาะกับปรียาที่มองพี่สาวอย่างณภัทรเป็นนางฟ้าที่แสนดีของเธอมาตลอด ณภัทรเสียใจมากที่น้องสาวไม่เข้าใจเธอจึงหนีออกจากบ้านและหายตัวไปอย่างไร้ ร่องรอย ไวทย์เล่าความจริงให้ปรียาฟังถึงความจำเป็นของพี่สาวที่ต้องมาเดินบนเส้นทาง ของมิจฉาชีพ อีกทั้งคุณปรางมาศก็มาปลอบโยนจนทำให้ปรียาเริ่มเข้าใจพี่สาว แต่ตอนนี้ณภัทรได้หายตัวไปแล้วทุกคนอยากจะเจอกับณภัทรแต่ก็ไม่มีใครตามหาพบ จนพีระนึกถึงป้าแผ้วขึ้นมาได้เพราะตอนที่โดนหลอกนั้นก็เห็นป้าแผ้วอยู่กับ ณภัทร ไวทย์จึงตามรอยจนได้พบกับณภัทรที่ไปอาศัยอยู่กับป้าแผ้ว จากหญิงสาวพราวเสน่ห์ที่ใช้มารยาหลอกล่อชายหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ เวลานี้ณภัทรกลับเป็นเพียงแม่ค้าขายดอกไม้หน้าแฉล้ม ไวทย์ขอให้ณภัทรกลับไปกรุงเทพฯ ด้วยกัน แต่ณภัทรปฏิเสธเพราะไม่อยากไปสร้างความเดือดร้อนวุ่นวายให้กับใครอีก ไวทย์นั้นเสียใจอยู่ลึกๆ เพราะตั้งแต่ณภัทรก้าวเข้ามาในชีวิตเขา ผู้หญิงแสนฉลาดคนนี้ก็เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปหลายอย่าง หล่อนทำให้ครอบครัวของเขากลับมาอบอุ่น ทำให้วาริทกับเขาได้กลับมาเข้าใจกัน ทำให้หัวใจห่อเหี่ยวของเขาที่เคยหมองหม่นกลับมามีสีสัน แต่ไวทย์ก็ได้แต่เก็บความรู้สึกนั้นไว้ไม่แสดงมันออกมาให้ณภัทรรู้ เมธัสอ่านความรู้สึกของไวทย์ออกจึงพยายามบอกให้ไวทย์สารภาพความรักกับณภัทร แต่ไวทย์กลับปากแข็งบอกปัดไปว่าพีระต่างหากที่รักณภัทร จนพีระบอกเองว่าเขารักณภัทรแต่ความรักของเขาไม่สามารถที่จะดึงให้ณภัทรกลับ มาได้ คนที่ทำอย่างนั้นได้ก็มีแต่ไวทย์คนเดียวเท่านั้น แต่ไวทย์ก็ยังไม่ตัดสินใจเผยความรู้สึกออกมาให้ณภัทรรู้ เพราะยังคิดว่าวาริทลูกชายของเขานั้นยังรักณภัทรอยู่ โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าเวลานี้วาริทได้ค้นพบความรักที่แท้จริงแล้วกับปรียา ตลอดมาวาริทนั้นต้องการความอบอุ่นที่เสมือนแม่จากณภัทรมากกว่าเรื่องชู้สาว เรื่องนี้ร้อนถึงคุณปรางมาศที่ต้องจัดการให้คนทั้งคู่เข้าใจกัน เพราะไม่อยากเสียสะใภ้ดีๆ อย่างณภัทร จึงแกล้งทำเป็นล้มเจ็บและขอให้ณภัทรมาดูแล แล้วเรียกไวทย์ให้เข้ามาหว่านล้อมจนไวทย์เผยความในใจของตัวเองที่มีต่อณภัทร ให้แม่รู้ โดยที่ณภัทรนั้นอยู่ในห้องน้ำได้ยินได้ฟังทุกคำพูดที่ไวทย์สื่อความรักถึง เธอ เมื่อประตูห้องน้ำเปิดคุณปรางมาศจึงให้หนุ่มสาวได้อยู่กันตามลำพัง หล่อนบอกให้เขารู้ว่าความรู้สึกที่มีให้กับเขานั้นมันแยกแยะไม่ออก บางทีก็อยากจะแกล้งให้เจ็บใจ ที่ชอบดันทุรังไม่เข้าเรื่อง แต่บางทีก็สงสาร บางทีก็อยากหนีไปให้ไกล แต่ขณะเดียวกันก็อยากอยู่ใกล้เพราะเขาเป็นคนเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกว่ามี หลักพักพิง หากเขารู้ว่าความรู้สึกนี้คืออะไรก็ช่วยบอกด้วย สารภาพมาขนาดนี้ถ้าไวทย์ไม่รู้ก็โง่เต็มที เขาจึงขอณภัทรแต่งงานอย่างจริงจัง ณภัทรยิ้มรับทั้งน้ำตา ต่อไปจากนี้เธอกับเขาก็คงไม่ต้องมีเรื่องอะไรมาปิดบัง และหลอกหัวใจให้รักกันไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
วีรกรรมทำเพื่อเธอ (2549/2006) สมชาย เป็นลูกสาวของ สกล และ ม.ร.ว.เพ็ญศิริ ผู้เป็นแม่ซึ่งยอมทิ้งบรรดาศักดิ์ทั้งหลายมาใช้ชีวิตอยู่กับคนขับรถอย่างสกล สมชายเกิดมาท่ามกลางความอบอุ่นของครอบครัวเล็กๆกลางชุมชนเก่าแก่ของเมือง หลวง ที่บ้านของเธอยังมี ย่าเนียม ซึ่งเป็นทั้งญาติผู้ใหญ่และเพื่อนต่างวัยอาศัยอยู่ด้วยอีกคน มาร์ค หนุ่มไฮโซสุดหล่อผู้เกิดมาบนกองเงินกองทอง และเขายังเป็นที่หมายปองของบรรดาสาวๆ ทั้งหลาย สมชายและมาร์คเหมือนฟ้าสูงกับเหวลึกที่ดูอย่างไรก็ไม่มีวันมาบรรจบกันได้ แต่ทั้งคู่ก็โดนชะตาลิขิตให้มาพบกันเมื่อสมชายต้องตกงานบ่อยๆ เพราะนิสัยห้าวๆ ของเธอเอง ติดตามต่อได้ใน วีรกรรมทำเพื่อเธอ
บัวปริ่มน้ำ (2549/2006) ผกามาลิน สาวสวยวัยสามสิบ เป็นนักขายมืออาชีพที่เป็นที่ยอมรับทั้งในแวดวงธุรกิจและแวดวงสังคม เธอคิดว่าตัวเองนั้นช่างโชคดีที่มีรูปเป็นทรัพย์ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย เธอจึงบริหารเสน่ห์เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินและงาน แต่เมื่อใดก็ตามที่เมียและลูกของผู้ชายที่เธอคบหาอยู่เกิดรู้ระแคะระคาย เธอก็จะบอกเลิกความสัมพันธ์ทันที เพราะเธอไม่ต้องการทำลายครอบครัวของใคร โดยเฉพาะกับลูกๆ ของฝ่ายชาย ที่ผกามาลินแคร์ความรู้สึกของเด็กๆนั้น เพราะเธอเองเคยมีลูกมาแล้วกับ มิ่งขวัญ ซึ่งเป็นรักแรกของเธอ แต่ด้วยความไม่พร้อมของทั้งคู่จึงเลิกรากันไป ผกามาลินยกลูกสาวของเธอ ให้เป็นลูกของพี่สาวและพี่เขยของเธอเอง แม้จะเป็นได้แค่น้าแต่เธอก็อยากให้ลูกได้มีภาพความทรงจำที่ดีเกี่ยวกับตัว เธอ ไม่ว่าเธอจะมีความประพฤติที่หมิ่นเหม่ต่อศีลธรรมอย่างไร แต่เธอก็ยังคงเป็น “น้าลิน” ที่สวย เก่ง และแสนดีอยู่เสมอ วันหนึ่งผกามาลินขับรถชนกับ คธา ลูกชายคนเดียวของ เครือมาศ คู่กรณีทางการค้าของผกามาลิน เธอได้รับบาดเจ็บต้องเข้าโรงพยาบาล คธามาดูแลใกล้ชิดเพราะเกิดหลงรักเธอตั้งแต่แรกพบ เครือมาศไม่ยอมให้ลูกชายไปคบกับผู้หญิงสกปรกอย่างผกามาลิน เธอคิดตัดไฟเสียแต่ต้นลมโดยดึง คลีทอง หลานสาวมาต่อกรกับผกามาลินแทนเธอ คลีทองประกาศตัวเป็นคู่หมั้นของคธา และตามไปกันท่าทั้งคู่แต่ไม่เป็นผล เพราะนอกจากเธอจะโดน ผกามาลินตอกกลับแรงๆแล้ว เธอเองก็รู้สึกด้อยค่าที่ต้องวิ่งตามผู้ชายที่ไม่สนใจเธอ คธาบอกกับแม่ว่าเขารักและต้องการแต่งงานกับผกามาลินเครือมาศ ขอร้อง ให้คธาเลิกยุ่งกับผกามาลิน พร้อมทั้งสาธยายถึงความเหลวแหลกที่ผ่านมาของผกามาลิน คธายืนยันที่จะแต่งงาน กับผกามาลินไม่ว่าแม่จะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม ข้างฝ่ายผกามาลินก็คิดแกล้งยั่วให้เครือมาศเจ็บใจเล่น และคธาเองก็เป็นผู้ชายที่น่าสนใจ ความจริงใจและท่าทีสุภาพอ่อนโยนของเขา ก็ทำให้เธอใจอ่อน เครือมาศจ้างคนเอาน้ำกรดไปสาดหน้าผกามาลินหวังให้เสียโฉม แต่พลาดไปโดนเลขาของผกามาลิน ผกามาลินเชื่อว่าต้องเป็นฝีมือของเครือมาศแน่นอน เธอยืนยันที่จะแก้แค้นเครือมาศให้ได้รับความเจ็บปวดเช่นกัน เครือมาศได้จัดการพิมพ์และ แจกการ์ดแต่งงานระหว่างคธาและคลีทองไปทั่ว เมื่อผกามาลินรู้เรื่องก็ตัดหน้าแอบไปจดทะเบียนสมรสกับคธาทันที ในวันแต่งงานของคธาและคลีทอง ผกามาศเข้ามาในงานพร้อมกับแจกแผ่นซีร็อกซ์ทะเบียนสมรสของเธอกับคธาให้แขก เหรื่อได้รับรู้กันทั่ว เครือมาศประกาศตัดขาดลูกชายและขู่ที่จะยกมรดกให้คลีทอง เธอเชื่อว่าถ้าคธาเหลือแต่ตัวผกามาลินคงจะทิ้งคธาแน่ๆ คธาจึงย้ายไปอยู่กับผกามาลิน และออกหางานใหม่ แต่เครือมาศได้สั่งทุกบริษัทห้ามรับคธาเข้าทำงาน คธาอยู่ในสภาพคนตกงานกลายเป็นขี้ปากชาวบ้านว่าเกาะเมียกิน เครือมาศรับรู้สภาพลูกชายอย่างเจ็บปวด เพราะยิ่งเธอมุ่งทำลายผกามาลินมากเท่าไหร่ คนที่ถูกทำร้ายก็คือลูกชายเธอเอง ทำให้สภาพจิตใจของเครือมาศ ย่ำแย่ต้องเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยครั้ง แต่เธอยังรอการกลับมาของคธา แต่แล้ววันหนึ่งมิ่งขวัญสามีคนแรกของผกามาลินกลับมา ทำให้ผกามาลินคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เธอจะส่งคธากลับคืนให้เครือมาศ เธอใช้มิ่งขวัญเป็นข้ออ้างในการขอหย่ากับคธา เพราะถ้าเธอบอกเลิกกับเขาในตอนที่เขากำลังรักและลุ่มหลงเธอมันจะทำให้เขา เจ็บปวดใจไม่น้อย โดยที่ผกามาลินไม่ได้รู้เลยว่า มิ่งขวัญกับคลีทองได้เจอกันและมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน ซึ่งในวันแต่งงานที่ผกามาลินไปอาละวาดนั้น คลีทองหนีเสียใจออกมาและมิ่งขวัญก็บังเอิญมาเจอและพาเธอไปหลบพักจนเกิดเป็น ความสัมพันธ์กันลึกซึ้ง… เครือมาศจ้างผกามาลินด้วยเงิน 30 ล้านให้แยกกับคธา ผกามาลินต้องการล้างแค้นจึงยอมเลิก…แล้วเครือมาศก็จะได้ลูกชายกลับคืนไป อย่างซาก คลีทองเองก็ต้องจากมิ่งขวัญเพราะเข้าใจว่ามิ่งขวัญร่วมมือกับผกามาลินเพื่อ พรากเธอจากคธาเท่านั้น นับเป็นการจบเกมความแค้นของเครือมาศลง โดยไม่รู้ เลยว่าทั้งผกามาลินและคลีทองเองก็ท้องทั้งคู่ ร่วมทั้งเครือมสศเองก็ท้องกับพิศาลเพราะคืนที่เสียใจเรื่องคธา เลยออกไปถูกพิศาล มอมเหล้าจนเมาเช่นกัน คธาจึงหันไปทุ่มเทให้กับการทำงานและดื่มเหล้ามากขึ้น เพื่อให้ลืมผกามาลิน เครือมาศเฝ้ามองลูกชายอย่างทุกข์ระทม เธอรู้แล้วว่าไม่มีวันที่เธอ จะได้คธาลูกชายคนเดิมกลับคืนมา ส่วนผกามาลินเธอเองก็เจ็บช้ำไม่น้อยไปกว่าคธาหรือเครือมาศ เพราะเธอได้ทำร้ายหัวใจตัวเองด้วยทิฐิความแค้น เธอพยายามหลอกตัวเองมาตลอดว่าคธาคือเงาของมิ่งขวัญ ผู้ชายคนแรกที่เธอเคยรัก แต่เมื่อมิ่งขวัญกลับมาจริงๆ เธอก็รู้ว่าไม่ใช่ ทุกอย่างมันจบไปแล้ว ทั้งคู่เป็นได้แค่เพื่อน พิศาลขู่ให้เครือมาศเซ็นเช็ค 20 ล้าน แต่เขาก็ยังตามราวีเธอไม่เลิก เพราะต้องการให้เธอเซ็นยกมรดกทั้งหมดให้ แต่เครือมาศไม่ยอม จึงเกิดการ ต่อสู้กัน ผกามาลินมาหาคธาที่บ้านเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี จึงเข้าขัดขวาง พิศาลผลักเครือมาศตกบันได จากนั้นเขาวิ่งหนีไป คธากลับมาถึงพอดีจึงขับรถไล่ตาม เวรกรรมมีจริง พิศาลขับรถประสานงากับรถบรรทุกเสียชีวิตในทันที เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นทำให้ทั้งเครือมาศรู้ซึ่งหลายๆ เรื่อง ถึงแม้เธอจะไม่ยอมรับว่าผกามาลินเป็นลูกสะใภ้ที่ดี แต่อย่างน้อยที่สุดผกามาลิน ก็คือคนที่คธารัก มิ่งขวัญและคลีทองเองก็ตอบคำถามในใจได้ว่าทั้งคู่คือตัวจริงของกันและกัน ผกามาลินจากรู้แล้วว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอใช้ชีวิตอย่างไร้ทิศทางปล่อยให้เป็นไปตามความวูบไหวของอารมณ์ ทิฐิและความเชื่อมั่นที่เธอยึดติดมันเกือบจะทำร้ายตัวเธอเองกับลูก แต่เพราะคธา ทำให้เธอมีหลัก และรู้ว่าต่อไปควรจะเดินไปในทิศทางใด…นับแต่นี้เธอจะทำหน้าที่เป็นแม่ของ ลูกและเมียที่ดีของเขา เพื่อตอบแทนความอดทน และมั่นคงในรักของคธาที่ทำให้เธอมีวันนี้…วันที่เธอมีครอบครัวที่ครบถ้วน สมบูรณ์…และแล้วดอกบัวที่เคยลอยคลออยู่ปริ่มผิวน้ำ…ก็มีโอกาสชูช่อเบ่ง บานอยู่เหนือท้องน้ำนั้นแล้ว…
อุ้มรัก (2549/2006) ณภัทร (แอน ทองประสม) ดาราสาวไฮโซเอาแต่ใจ เข้าสู่วงการความงามตามคำแนะนำของ แอนนา (เจมี่ บูเฮอร์) นางแบบสาวเพื่อนสนิท ในการถ่ายงานโฆษณาชิ้นหนึ่ง ณภัทร ได้พบกับ ราเชนทร์ (ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) หนุ่มปากจัด เชนต่อว่าต่อขานณภัทรที่ไปสาย ทำให้การพบหน้ากันครั้งแรก จึงจบลงด้วยบรรยากาศของความไม่เป็นมิตรกัน ต่อมา ในปาร์ตี้วันเกิดของนิตยสารชื่อดัง เชนได้รับเชิญมาพร้อมกับ จัสมิน (ตุ๊ก ชนกวนัน) นางแบบที่ตกเป็นข่าวกิ๊กกันอยู่ ในงานนั้น ณภัทรแข่งดื่มเหล้า จนเมามาย ไม่ได้สติ ทำให้ณภัทรต้องพากลับไปนอนที่ห้อง แต่เกิดอุบัติเหตุเมื่อกระเป๋าของ กัญ อุไร กับจัสมิสลับกัน แบงค์ ที่เมามายเช่นกันจึงไขกุญเข้าห้องถูก แล้วคืนนั้นทั้งคู่ก็มีอะไรกัน เมื่อณภัทรตื่นขึ้นมาและพบว่าตัวเองได้มีอะไรกับเชน ก็ร้องไห้เสียใจ ต่อว่าเชนต่าง ๆ นานา เชนก็รู้สึกผิดและขอรับผิดชอบ แต่เธอไม่ต้องการจึงขับไล่เขาออกไป และหลังจาก นั้น ณภัทรก็พบว่าตัวเองตั้งครรภ์ พยายามที่จะเอาเด็กออก แต่ก็ทำไม่ลง จึงพยายามที่จะ หาพ่อให้ลูกในท้องแทน ในขณะที่เชนก็พยายามตื้อที่จะขอเป็นรับผิดชอบโดยตลอด เพราะเขาปมในใจ เมื่อพ่อแม่ของเขาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก ทำให้เชนอยากเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีให้ได้ ณภัทรคิดจะให้ มาร์ค (วริษฐ์ ทิพโกมุท) อดีตกิ๊กเก่ามาเป็นพ่อของลูกในท้อง จึงพยายามที่จะใกล้ชิดมาร์ค แต่แล้วแผนการต่าง ๆ ก็ถูกเชนขัดขวาง ทั้งเชนและมาร์คจึงประกาศตัวเป็นคู่แข่งกัน เพราะความจริงใจของเชน จึงทำให้แอนนาแอบเป็นผู้ช่วยเหลือเชนมาโดยตลอด และอีกเหตุผลสำคัญคือ แอนนาก็ชอบมาร์คเหมือนกัน และแล้วความลับเรื่องท้องของณภัทรก็แตก เพราะจัสมินที่ไปทำงานด้วยกัน จับได้และแจ้งให้นักข่าวทราบ ทำให้เชนต้องประกาศว่าตนเองเป็นพ่อเด็ก และกำลังจะแต่งงาน กับณภัทร ซึ่งในขณะนั้นหนีไปหาพ่อที่ต่างประเทศ หลังจากทราบข่าวการแถลงข่าวของ เชน ทำให้ณภัทรต้องยอมแต่งงาน โดยมีข้อแม้ว่าถ้าเด็กเป็นผู้ชาย เชนจะได้ลูกไป แต่ถ้าเป็นผู้หญิง ลูกจะตกเป็นของเธอ และด้วยความดีและความเอาใจใส่ของเชน ทำให้ณภัทรเริ่มที่จะใจอ่อนกับเชนมากขึ้น ถึงแม้ว่าระหว่างนั้นจะมีทั้ง จัสมิน และ มาร์ค มาเป็นอุปสรรคและสร้างความระหองระแหง ให้กับความรักของเขาทั้งสองอยู่เสมอ แต่ด้วยเหตุการณ์หลาย ๆ อย่าง ทำให้เขาทั้งสองเกิด ความเข้าใจผิดกัน จนณภัทรประกาศว่าจะแต่งงานกับมาร์ค หลังจากคลอดลูก ณภัทรได้ลูกสาว ทำให้เชนไม่กล้าที่จะเข้าไปหาณภัทรอีก เพราะสัญญาที่ให้ไว้ และเข้าใจว่าณภัทรกำลังจะแต่งงานกับมาร์ค ทำให้เชนตัดสินใจไปอยู่ต่างประเทศ เพื่อเป็นการตัดใจจากณภัทรและลูก และเขาได้จัดนิทรรศการภาพถ่าย "อุ้มรัก" เพื่อแสดงความรักที่เขามีทั้งหมดต่อณภัทรและลูก ในวันเดินทาง ณภัทรได้มีโอกาสมาดูนิทรรศการ และได้เจอเชนอีกครั้ง ณภัทรจึงขอร้องให้เชนกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง จึงทำให้ทั้งเขาและเธอกลับมาเป็นครอบครัวที่มีความสุขอีกครั้งหนึ่ง โดยมีน้องโฟโต้เป็นโซ่ทองคล้องใจของเค้าทั้งสอง
ปูลม (2549/2006) สาวน้อยวัย 15 อาศัยอยู่กับตามั่นซึ่งเป็นตาแท้ๆของปูลม ตามั่นแกมีลูกสาวชื่อกลอยซึ่งเป็นแม่ของปูลม เธอโดนผู้ชายหลอกจนตั้งท้อง และคลอดปูลมออกมา และตายจากไป ตามั่นเลี้ยงปูลมแบบเด็กผู้ชาย ปูลมจึงทะโมน ไม่กลัวใครและยังมีโจทย์เป็นจิ๊กโก๋ชื่อเชิดลูกชายของนายชั้นเศรษฐีประจำ ถิ่น วันหนึ่งขณะที่ตามั่นกับปูลมออกเรือหาปลา ได้เกิดพายุรุนแรงตามั่นพยายามช่วยปูลมจนตัวเองพลาดตกเรือจมหายไปในทะเล รุ่งเช้าหน่วยกู้ภัยจาก ฐานทัพเรือสัตหีบซึ่งมีเรือเอกนาวิน ชำนาญนาวินเป็นผู้บังคับการเรือและมีท่านผู้บัญชาการพล
เรือนนารีสีชมพู (2549/2006) เรื่อง ราวของสามสาวกับหนึ่งกะเทย ซึ่งต่างคนต่างที่มาแต่โชคชะตาและมิตรภาพก็ได้นำพาพวกเธอมาอยู่ร่วมกันใน เรือนนารี แก้วตา สาวเรียบร้อยอ่อนต่อโลก ขวัญเรือน นักร้องสาวสวย จอมใจ สาวห้าวนักพัฒนา และสายป่าน กะเทยช่างฝัน แก้วตาออกมาใช้ชีวิตคนเดียวในกรุงเทพ หนีจากครอบครัวที่มีปัญหาและมุ่งหน้าสูกรุงเทพเพี่อชีวิตที่ดีกว่า ได้ช่วยเหลือขวัญนักร้องสาวสวยที่เดินทางมาตามหาแม่ให้พ้นจากการถูกลวนลาม อีกทั้งยังช่วยเหลือจอมสาวห้าวนักพัฒนาให้รอดพ้นจากการถูกเทศกิจจับ ทั้งสามตัดสินใจเช่าบ้านเล็กๆ พักอยู่ด้วยกัน และเริ่มสร้างความ สัมพันธ์ที่ดีให้แก่กันและกัน อีกทั้งยังช่วยเหลือเพื่อนๆ ในชุมชนรอบๆ บ้านที่พวกเธออยู่ จึงเป็นเหมือนที่รวมของเหล่าผู้หญิงที่เข้าใจกัน พวกเธอทาสีบ้านเป็นสีชมพูและตั้งชื่อว่า เรือนนารี แก้วคบ อัคนี เป็นแฟนโดยไม่รู้ว่าเขาเป็นเสือผู้หญิง แก้วถูกอัคนีหลอกพาไปบ้านแต่โชคดีที่แก้วไหวตัวทันและเอาตัวรอดจากอัคนีมา ได้ ป่าน, จอม และขวัญเมื่อรู้ว่าเพื่อนถูกหลอกและถูกลบหลู่เกียรติ จึงร่วมมือกันแก้เผ็ดสั่งสอน พวกเธอใช้วิดีโอแอบถ่ายอัคนีแล้วเอาไปฉายโชว์ในงานเปิดตัวสินค้าของบริษัท อัคนี ด้านขวัญหลงรัก ชัยยศ ผู้จัดการร้านที่ขวัญร้องเพลง แต่ชัยยศต้องปฏิเสธขวัญอย่างนุ่มนวล เพราะตลอดมาเขาไม่เคยมีความรักทำนองชู้สาวกับขวัญเลย แม้จะเสียใจแล้วช็อคไปแต่ก็เข้าใจได้ในภายหลังว่าความรักที่เธอมีให้ชัยยศ นั้น มันเป็นการโหยหาความอบอุ่นจากพ่อที่เธอไม่เคยได้รับ เมื่อเธอกับชัยยศเข้าใจกันชัยยศจึงเอ่ยปากช่วยขวัญให้ไปทานข้าวที่บ้านร่วม กับภรรยาของเขา ที่นั่นขวัญได้พบแม่ของเธอกับสามีใหม่ซึ่งก็คือชัยยศนั่นเอง ส่วนจอมก็ไปก่อเหตุแทง เกรียง อย่างไม่ตั้งใจ เพราะมีปัญหากับพวกของเกรียงซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมาและเกิดการต่อสู้ขึ้น จอม กลายเป็นผู้ต้องหาที่ตำรวจต้องการตัว ในที่สุดทั้งสามก็ตัดสินใจที่จะทิ้งเรือนนารีไว้เบื้องหลังแล้วหนีไปด้วยกัน ขวัญพาเพื่อนหนีไปหาย่าที่นครสวรรค์ ย่าต้องการให้พวกขวัญกลับไปมอบตัวสู้คดีเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองบริสุทธิ์ ย่าให้ช่างเครื่องในหมู่บ้านขับรถไปส่งพวกเธอ ระหว่างทางช่างซ่อมเครื่องคิดจะขโมยเงินของพวกเธอ และคิดที่จะลวนลามขวัญแต่แก้วกับจอมเข้าไปตีหัวจนเลือดอาบ แต่เรื่องราวกลับยิ่งไปกันใหญ่เมื่อช่างซ่อมให้การกับตำรวจว่าพวกเธอขโมยและ ชิงรถไป ทำให้พวกเธอเลยตกเป็นแก๊งค์โจรหญิงเลวไปเลย ปราบ ตำรวจเพื่อนสนิทของแก้วและ พล เพื่อนที่เรียนกับขวัญหาทางช่วยเหลือพวกเธอ รวมถึงพวกชาวบ้านซึ่งพร้อมใจกันให้การกับตำรวจ เพื่อช่วยพวกเธอจนพ้นผิดและรอดมาอย่างหวุดหวิด เรื่องร้ายๆ ผ่านไปจอมเรียนจบอย่างใจหวัง และกลับไปพัฒนาหมู่บ้านของตน ขวัญเป็นนักร้องค่ายเทปแห่งหนึ่ง แก้วกับปราบชอบกันรักกันและกำลังจะแต่งงานกัน ส่วนเรือนนารีพวกเธอทั้งสี่ได้รวมเงินและเปิดเป็นบ้านฟื้นฟูสภาพจิตใจของ ผู้หญิง ที่ถูกสังคมทำลายให้มีกำลังใจมีชีวิตต่อไปอย่างภาคภูมิที่ได้เกิดมาเป็น ผู้หญิง
นรกตัวสุดท้าย (2549/2006) ณ อาณาจักรขอม ปีค.ศ.1524 มีเจ้าชายถือกำเนิดขึ้นในราชวงศ์ของกษัตริย์มีนามว่า เจ้าฟ้าดำ ซึ่งในวันที่เจ้าฟ้าดำเกิดนั้นถือว่าเป็นวันกาลีมหาวิปโยค ชีปะขาวจึงทำนายดวงชะตาว่าเจ้าฟ้าดำนี้เมื่อมีอายุครบ 25 ปีจะได้เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ หากมิได้เป็นตามนั้นก็จะเป็นจ้าวแห่งปีศาจทั้งปวง พระเจ้าศิริวรมัน ผู้เป็นพ่อกลัวว่าเจ้าฟ้าดำจะเป็นภัยร้าย จึงให้สร้างปราสาทบายอนบุเรนทร์ ซึ่งเป็นปราสาทแห่งความดีที่ใช้บูชาพระวิษณุตามคำของชีปะขาวเพื่อแก้เคล็ด เจ้า ฟ้าดำได้แต่งงานกับ เมตาวตี หญิงสาวที่เพียบพร้อมทุกอย่าง ต่อมาพระเจ้าศิริวรมันล้มป่วยลง ก่อนที่จะตายได้กำชับเจ้าฟ้าดำให้สร้างปราสาทให้เสร็จ ก่อนที่จะถึงวันทำพิธีแก้เคล็ดเจ้าฟ้าดำได้ถูก เดวิด ผีดิบที่มากับเรือสำเภาดูดเลือดจนหมด และยังต่อชีวิตให้กับเจ้าฟ้าดำโดยการให้เจ้าฟ้าดำดูดเลือดตัวเองเข้าไปแทน เจ้าฟ้าดำกลายเป็นผีดิบควบคุมตัวเองไม่ได้ จนลืมตัวดูดเลือดเมตาวตีจนเมตาวตีตายและเป็นอมตะ ณ ปัจจุบัน ร้อยตำรวจโทเมษยน และจ่าสีดา ได้รับมอบหมายให้ติดตามผู้ค้าอาวุธสงครามจึงข้ามฝั่งเขมรอย่างไม่ตั้งใจ และเกือบที่จะเอาชีวิตไม่รอด หากไม่เจอ ผู้พันเขียว กับลูกน้องช่วยไว้ พันตรีเขียวถูกชะตากับเมษยนจึงได้ให้สร้อยเครื่องรางไว้ป้องกันตัว ที่บ้านร้างหลังหนึ่งมี หมอผีแขก และจุก ที่คอยสร้างเรื่องใส่พวกชอบลองของ ต่อมาก็มีนายฝรั่งมาซื้อบ้านหลังนี้ไป แต่ทั้งสองก็ต้องประหลาดใจที่นายฝรั่งต้องรับใช้ชายอีกคนเยี่ยงราชา หมวด เมษยนและจ่าสีดาได้รับงานจาก สารวัตรสมเจตน์ ให้คลี่คลายคดีแก๊งมอเตอร์ไซค์ ที่ปล้นและฆ่าเหยื่ออย่างโหดเหี้ยมด้วยการกัดคอและดูดเลือด แขกกับจุกต้องการที่จะได้บ้านคืนจึงได้ปลอมตัวเป็นผีเพื่อหลอกคนในบ้าน แต่จุกถูกเจ้าฟ้าดำฆ่าตาย โชคดีที่หมอแขกหนีตายออกมาได้จึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้เมษยนและจ่าสีดาฟัง ในขณะนั้นเมษยนกำลังมีปัญหากับ จ๋า แฟนสาว เพราะพ่อของเธอไม่ชอบเขาและมองว่าเป็นตำรวจไม่มีอนาคต ไม่มีความ สามารถปิดคดีแก๊งค์มอเตอร์ไซค์ได้ ซึ่งเป็นจังหวะให้เจ้าฟ้าดำที่ปลอมตัวเป็น ดร.ประเทศ เข้ามาแทรกระหว่างเมษยนกับจ๋า เมษยน, จ่าสีดา, แขกได้เจอกับสมุนของเจ้าฟ้าดำและเกิดการต่อสู้กันจนสมุนของฟ้าดำโดนกระสุน เงินยิงตายจนหมด ต่อมาพวกเขาได้เจอกับผู้พันเขียวอีกครั้ง จึงได้รู้ความจริงว่าผู้พันเขียวเป็นหน่วยเฉพาะกิจเพื่อปราบเจ้าฟ้าดำ และมีเพียงกระสุนเงินเท่านั้นที่สามารถฆ่าเจ้าฟ้าดำได้ ซึ่งก็เหลือเพียง 5 นัดเท่านั้น สาร วัตรสมเจตน์และจ่าสีดาทำคดีพลาดท่าโดนดูดวิญญาณไปเป็นสมุนเจ้าฟ้าดำ ส่วนจ่าสีดาถูกฆ่าตาย แล้วพวกเมษยนสืบรู้ว่าแท้ที่จริง ดร.ประเทศก็คือเจ้าฟ้าดำที่ปลอมตัวมาเพื่อที่จะครอบครองตัวจ๋า โดยคิดว่าจ๋าคือเมตาวตีกลับชาติมาเกิด เมษยนจึงพาจ๋าหนีไปยังฝั่งเขมรไปซ่อนตัวอยู่ที่ปราสาทแห่งความดี แต่เจ้าฟ้าดำก็ตามมาเจอจนได้ เจ้าฟ้าดำล่อแล้วหลอกให้เมษายนใช้กระสุนเงินจนหมดและชิงตัวจ๋าจากเมษยนได้ อีกครั้ง เวลานี้เองวิญญาณเมตาวตีปรากฏกายขึ้นและบอกกับเจ้าฟ้าดำว่า จ๋าไม่ใช่ตนที่กลับชาติมาเกิด แล้วยังบอกอีกว่าทุกคนที่โดนเจ้าฟ้าดำฆ่าจะไปเกิดใหม่ไม่ได้สร้างความเสียใจ ให้กับเจ้าฟ้าดำยิ่งนัก เมตาวตีบอกความลับกับเมษยนว่าสร้อยเครื่องรางที่ห้อยอยู่คือกระสุนเงินลูก สุดท้ายที่จะใช้ปราบเจ้าฟ้าดำได้ โดยยิงให้ตรงกลางหน้าผากเจ้าฟ้าดำ เจ้าฟ้าดำก็จะสิ้นชีพลงทันที ติดตามเรื่องราวความสนุกเหล่านี้ได้ในละคร “นรกตัวสุดท้าย”
ลิขิตรัก ลิขิตเลือด (2549/2006) จุดเริ่มต้น เมื่อ 25 ปีก่อน คัตสึ(ต่อ เรืองฤทธิ์) มือสังหารอดีตยากูซ่า พา นิสา ภรรยาชาวไทยและลูกชายทารกฝาแฝดสองคน หนีการตามไล่ล่าของแก๊งค์ยากูซ่า ไปยังบ้านริมทะเล เพื่อหาทางเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ทันทีที่พวกเขาไปถึง ศัตรูของคัตสึก็ตามไปทัน คัตสึถูกฆ่าตาย ส่วนทารกแฝดถูกพลัดพรากไปคนละทาง เคียว(โกวิท วัฒนกุล) เพื่อนร่วมแก๊งค์ยากูซ่าของคัตสึตามมาช่วยไม่ทัน เขาทำได้เพียงช่วยชีวิตทารกน้อยคนหนึ่งเอาไว้ แล้วรีบหนีไปก่อนตำรวจจะมา ฉัตรชัย(สมภพ เบญจาทิกุล) ตำรวจเจ้าของคดีมาถึง พบว่ายังมีทารกชายรอดชีวิตอยู่คนหนึ่ง เขาจึงนำเด็กส่งโรงพยาบาล เนื่องจากเขาและภรรยาไม่มีลูก เขาจึงนำทารกชายคนนั้นไปเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม ทารกฝาแฝดสองคน จึงเติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แฝดผู้พี่คือ ฉัตรเทพ(กัปตัน ภูธเนศ) ถูกเลี้ยงโดยฉัตรชัยนายตำรวจมือปราบผู้ซื่อสัตย์ เขาได้เติบโตขึ้นมาเป็นตำรวจที่มีความสามารถ ส่วนแฝดผู้น้อง ถูกพากลับไป ที่ญี่ปุ่น เขาถูกเลี้ยงดูโดยเคียวนักฆ่ามืออาชีพและถูกฝึกฝนให้เป็นนักฆ่าผู้เชี่ยวชาญเช่นเดียวกับเคียว ชื่อของเขาคือ เคนอิจิ หรือ เคน(กัปตัน ภูธเนศ) ศพปริศนา วันหนึ่งฉัตรเทพถูกเรียกตัวให้ไปทำคดี เมื่อมีผู้พบศพชายชาวญี่ปุ่นที่ถูกซ้อมและสังหารอย่างโหดเหี้ยม ก่อนที่จะนำศพมาทิ้งที่แม่น้ำเจ้าพระยา สภาพศพขึ้นอืดจนไม่อาจระบุได้ว่าเป็นใคร ไม่มีหลักฐานใดๆ นอกจากหมายเลข 4 1 1 3A บนฝ่ามือของคนตาย ฉัตรเทพสั่งให้ จ่าชัย(เหลือเฟือ ม๊กจ๊ก) ตำรวจคู่หูสืบสวนอย่างใกล้ชิด พ่อครัวคนใหม่ เคน หรือ คิมูระ โจ เดินทางไปที่ภัตตาคารกุหลาบขาว เพื่อไปพบกับตั๋ม (ถั่วแระ เชิญยิ้ม) ภารโรงประจำร้าน ตั๋มเป็นนักเลงเก่าที่เป็นหนี้บุญคุณลุงเคียว ตั๋มอ่านจดหมายแล้วจึงพาเคนไปพบกับ เฮเลน (สิรินยา บิชอฟ) ภรรยาสาวสวยของทาคูยะ เจ้าของร้านอาหารแห่งนี้ ซึ่งหายตัวไปอย่างลึกลับ เฮเลนรับเคนเข้าทำงานอย่างง่ายดาย สร้างความไม่พอใจให้กับ ฮะจิ(ปราบ ยุทธพิชัย) ลูกน้องคนสนิทของทาคูยะ ที่ตั้งตนเป็นบอดี้การ์ดของเฮเลนระหว่างที่ทาคูยะหายตัวไป ในวันเดียวกันนั้น เคนได้พบกับ อลิสา(แป้ง อรจิรา) หญิงสาวสวยที่มาที่ร้าน เขาประทับใจในความงาม และความมีชีวิตชีวาของอลิสาตั้งแต่แรกเห็น ไกรลาศ (ดิลก ทองวัฒนา) พ่อของอลิสา และพรรคพวกคือท่าน ศักดา อดีตนักการเมืองที่มีอิทธิพล กับสุวัฒน์ (เอเอ ปัญญาพล) ลูกชาย ได้จัดงานเลี้ยงฉลองกันที่ภัตตาคารกุหลาบขาว เพื่อมาแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อเฮเลน เพราะมีข่าวลือในวงการว่าทาคูยะขัดแย้งกับศักดา ตั๋มชวนเคนกลับไปพักด้วยกันที่แฟลต และมอบโทรศัพท์มือถือให้ เพราะลุงเคียวจะติดต่อเคนผ่านโทรศัพท์เครื่องนี้ เพื่อแจ้งว่าเป้าหมายที่ต้องการฆ่าคือใคร ตั๋มนั้นอาศัยอยู่กับ ต่าย(ฟาง พิชญา) ลูกสาววัยรุ่นเกเรที่จบแค่ชั้นประถม และยึดอาชีพงัดแงะ ฉกชิงวิ่งราวเป็นงานประจำ คืนนั้น ต่ายงัดรถเพื่อขโมยเครื่องเล่นซีดี บังเอิญเป็นรถของฉัตรเทพ ฉัตรเทพจับต่ายได้ แต่โดนต่ายปั้นเรื่องหลอกว่าต้องลักขโมยเพื่อหาเลี้ยงพ่อที่อัมพาตทั้งตัว ฉัตรเทพสงสารเลยปล่อยไปแถมยังโดนต่ายไถเงินไปซื้อข้าว และหลอกให้ไปส่งบ้านอีกด้วย ต่ายแอบประทับใจในตัวฉัตรเทพ เคนไปเริ่มงานวันแรก ก็พบกับการหาเรื่องจากฮะจิ ก่อนร้านเปิด อลิสามาที่ร้านเพื่อถามหารองเท้าบัลเล่ต์ที่เธอลืมเอาไว้ เคนเป็นคนเก็บไว้ให้ และชวนให้เธอกินซูชิ อลิสาปฏิเสธว่าเธอไม่กินปลาดิบเพราะกลัวเหม็นคาว แต่เคนก็ทำซูชิให้เธอกิน จนเธอเปลี่ยนใจ เคนกับอลิสาสนิทสนมกันมากขึ้น อลิสายังบอกอีกด้วยว่า เขานั้นมีหน้าตาละม้ายคล้ายกันกับฉัตรเทพเพื่อนสนิทของเธอมากแต่เคนก็ไม่ได้สงสัยอะไร ฉัตรเทพสืบพบว่าศพปริศนาคือ ทาคูยะ และหมายเลข 14 1 3A บนฝ่ามือคือรหัสตู้คอนเทนเนอร์ เขาและจ่าชัย พากันบุกค้น จนพบว่าในตู้นั้นมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ ฉัตรเทพต้องตกใจเมื่อรู้ว่า บริษัทขนส่งนั้นเป็นของท่านศักดา ปลาตัวแรก เคนได้เจอกับอลิสาอีกครั้ง ในงานนิทรรศการปลาสวยงาม อลิสาเลยรู้ว่าเคนนั้นก็ชอบเลี้ยงปลาเหมือนฉัตรเทพ เธอเลยถือโอกาสนี้แนะนำเคนให้รู้จักกับฉัตรเทพซะเลย แต่ตั๋มดันโทรศัพท์เข้ามาตามตัวเคนกลับบ้านด่วน อลิสาเลยอดแนะนำเคนให้รู้จักกับฉัตรเทพ เคนได้รับโทรศัพท์จากลุงเคียว พร้อมทั้งภาพและข้อมูลของเป้าหมายรายแรก คนนั้นก็คือ ท่านศักดา เคนก็สืบจนรู้มาว่าอีกไม่กี่วันจากนี้ ท่านศักดาจะจัดงานเลี้ยงใหญ่ ฉลองการลาออกจากราชการ เคนคิดว่าเขาจะฉวยโอกาสนั้นลงมือ ในงานนั้น ฉัตรเทพไปรักษาความปลอดภัย ส่วนอลิสาก็ตามไกรลาสและอรทัยไปร่วมงานด้วย เคนฆ่าศักดาสำเร็จ แต่กลับโดนฉัตรเทพยิงบาดเจ็บ ตำรวจปิดล้อมงานเอาไว้ เคนไม่มีทางเลือกจึงจับตัวผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังมาเอาของที่รถเป็นตัวประกัน เมื่อเขาจี้เธอให้ขับรถพาเขาออกไปแล้ว เขาจึงค่อยพบว่าเธอคืออลิสานั่นเอง แต่อลิสาไม่รู้ว่าฆาตกรคือเคน เพราะเคนสวมหมวกอำพรางหน้าไว้ โฉมหน้าฆาตกรลึกลับ เคนใช้ผ้าผูกตาอลิสาเอาไว้แล้วจึงขับรถมาส่งอลิสาอย่างปลอดภัย ยังความสงสัยให้กับฉัตรเทพอย่างมาก รวมทั้งตัวอลิสาเองด้วย ฉัตรเทพถามอลิสาเกี่ยวกับตัวฆาตกรที่พาตัวเธอไป เธออ้างว่าจำอะไรไม่ได้เลย แต่ความจริงแล้วอลิสาแอบซ่อนผ้าผูกตาผืนนั้นเอาไว้ เพราะเธอสงสัยว่าคนที่พาเธอไปคืนนั้นอาจจะเป็นเคน ฉัตรเทพสอบสวนทุกคนในงานเลี้ยง และเขาก็ได้เจอหน้า เคน พ่อครัวซูชิเป็นครั้งแรก ทั้งคู่ต่างตกใจที่หน้าตาคล้ายกัน เคนให้การและเอาตัวรอดไปได้ แต่ด้วยลางสังหรณ์ทำให้ฉัตรเทพแน่ใจว่าเคนโกหก และสงสัยในตัวเคน ฉัตรเทพต้องการจับตาดูเคน เมื่อรู้ว่าต่ายอยู่ห้องติดกับเคน จึงหลอกใช้ต่าย สืบเรื่องเคน ด้วยความที่แอบชอบฉัตรเทพ ต่ายเลยยอมทำให้ ด้านสุวัฒน์ คิดว่าเฮเลนฆ่าศักดาพ่อของเขาตาย จึงตามไปเล่นงาน แต่เฮเลนกลับพูดใส่ร้ายว่าไกรลาสเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้ สุวัฒน์เลยสั่งให้ลูกน้องไปดักจับตัวอลิสามาขังไว้ที่โกดังร้าง เพื่อต่อรองกับไกลาส เคนเห็นเหตุการณ์เลยตามไปช่วยอลิสา และฆ่าสุวัฒน์ตาย ฉัตรเทพเองก็ตามไปช่วยอลิสาเช่นกัน แต่เคนกลับพาอลิสาหายตัวไป แล้วในที่เกิดเหตุเคนได้ทำเหรียญห้อยคอรูปปลาโลมาที่ติดตัวเขามาตั้งแต่เล็กหล่น ฉัตรเทพเก็บเหรียญนั้นได้ เขารู้สึกคุ้นเคยกับเหรียญนั้นอย่างประหลาด สัญญาเลือด อลิสารู้ความลับว่าเคนคือมือสังหาร เธอเสียใจมาก เคนอธิบายให้เธอเข้าใจว่าเขาไม่มีทางเลือก อลิสาเชื่อมั่นในความดีของเคน เธอขอให้เคนเลิกเป็นนักฆ่า เคนกรีดเลือดเขียนคำมั่นสัญญาให้กับอลิสา เพื่อพิสูจน์ความจริงใจ เพราะตามความเชื่อของเขา สัญญาที่เขียนด้วยเลือด หากทรยศไม่ทำตาม จะต้องถึงแก่ชีวิต อดีตที่หวนคืนมา เฮเลนได้ตามตัวเคียวมารับเคนกลับญี่ปุ่นโดยด่วน เพราไม่อยากให้ตำรวจตามกลิ่นเจอ ว่าแท้จริงเธอเป็นผู้อยู่เบื้อหลังเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ลุงเคียวมาปรากฏตัวขึ้น และเตือนเคนว่าเขาไม่อาจยกเลิกสัญญาได้ เพราะผิดจรรยาบรรณของนักฆ่า พร้อมทั้งเตือนเคนว่านักฆ่าไม่อาจมีความรักได้ แต่เคนบอกกับลุงเคียวว่าเขาเลือกความรัก และจะไม่ฆ่าใครอีก ในที่สุดลุงเคียวเข้าใจ และยินยอมปล่อยเคนจากไป เคนไม่รู้เลยว่า ด้วยความรักในตัวเด็กน้อยที่เลี้ยงมา ลุงเคียวได้เดินเข้าไปรับทำงานสุดท้ายให้เฮเลนทำแทนเคน ทั้งๆที่รู้ดีว่าตัวเองอาจไม่รอดชีวิตกลับมา ฉัตรเทพกลับไปหาพ่อที่บ้าน ถามถึงเหรียญที่เขาเก็บมา ฉัตรชัยเห็นแล้วตกใจมาก เขาจำได้ว่านั่นเป็นเหรียญแบบเดียวกับที่ติดตัวฉัตรเทพมาตั้งแต่เล็ก เขาเข้าไปห้อง เอารูปถ่ายที่เก็บได้จากกระเป๋าของนิสามาดูอีกครั้ง ในรูป เด็กทารกทั้งสองสวมสร้อยที่มีเหรียญแบบเดียวกัน ฉัตรชัยแน่ใจว่าเคนคือฝาแฝดของฉัตรเทพ แต่เขาไม่ยอมเผยความลับอะไร วันฆ่าปลาใหญ่ เมื่อถึงวันสำคัญคือวันฉลองวันเกิดของอลิสา เคนมาร่วมงานด้วยจิตใจที่มีความสุข เขามองโลกอย่างสดใสเหมือนคนที่เกิดใหม่ โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าหายนะกำลังคืบคานเข้ามารอบๆตัว ฮะจิอดีตลูกน้องของเฮเลน ได้เข้ามาสวามิภักดิ์กับไกรลาส ทำให้ไกรลาสรู้ว่าที่แท้เฮเลนคือ ตัวการสั่งฆ่าพรรคพวกของตน โดยมีเคนเป็นคนลงมือเมื่อเคนมาถึงในงาน สิ่งที่ไกรลาสต้องการคือให้ฮะจิกาโอกาสหลอกเคนไปฆ่า ฉัตรเทพมาที่งานในฐานะเพื่อนของอลิสา เขาจับตาดูเคนอยู่เช่นกัน เพราะการตายของสุวัฒน์ ทำให้ฉัตรเทพเข้าใจแล้วว่าการฆ่าที่เกิดขึ้น เป็นการแก้แค้นระหว่างมาเฟียไทยกับมาเฟียญี่ปุ่น ซึ่งทุกครั้งจะมีเคนเข้ามาเกี่ยวข้อง กับดัก ฉัตรเทพเกลี่ยกล่อมอลิสาให้ร่วมมือกับตำรวจ ใช้ตัวเธอล่อเคนออกมา ด้วยความเข้าใจผิดว่าเคนผิดสัญญาที่ให้ไว้กับเธอ อลิสาเสียใจจึงตกลงร่วมมือกับฉัตรเทพ เคนออกจากที่ซ่อนมาหาอลิสาตามคาดหมาย แต่ในนาทีสุดท้าย ก่อนที่เคนจะโดนฉัตรเทพจับ ความรักที่อลิสามีต่อเคนก็ชนะทุกสิ่ง อลิสาตัดสินใจเอาตัวเองปกป้องเคน ช่วยให้เคนรอดไปได้ ทั้ง 2 หนีหลบไปอยู่ด้วยกัน เคนจะพาลุงเคียวหนีกลับญี่ปุ่น อลิสาสัญญาจะตามไปหาเขาที่นั่น เฮเลนใช้จรรยาบรรณของนักฆ่าบังคับให้ลุงเคียวต้องไปฆ่าไกรลาสอีกครั้ง แต่คราวนี้ กลับโดนกับดักของไกรลาส ที่ให้ตำรวจมาล้อมจับ ในขณะที่ตัวไกรลาสเอง ไปจัดการกับเฮเลนที่กุหลาบขาว เฮเลนถูกฆ่าตาย ตั๋มพาเคียวหนีจากวงล้อมของตำรวจ ตั๋มโดนตำรวจล้อมยิงจนตาย ต่ายเสียใจมากที่โดนฉัตรเทพหลอกใช้ ต่ายถึงกับช็อกไป ส่วนลุงเคียวถูกยิงและสูญหายไป ทุกคนเชื่อว่าลุงเคียวโดนตำรวจยิงจนตายไปแล้ว เคนเสียใจมากที่ลุงเคียวตายด้วยมือฉัตรเทพ เขาหันมาจับอาวุธอีกครั้งเพื่อแก้แค้นให้กับคนที่เขารักราวกับพ่อ เคนเขียนจดหมายขอโทษอลิสาที่ผิดสัญญา และครั้งนี้ เขา- นักฆ่าผู้ทรยศต่อสัญญาเลือด อาจไม่มีชีวิตรอดกลับไป ฉัตรเทพพาต่ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล หลายๆอย่างที่เกิดขึ้นทำให้เขาหยุดคิด และเอะใจ โดยเฉพาะเรื่องที่เคียวมีโอกาสฆ่าเขาได้ แต่กลับไม่ลงมือ ฉัตรเทพเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆ เข้าด้วยกัน เขาเริ่มสงสัยว่าตัวเองมีความสัมพันธ์อะไรกับเคนและลุงเคียว ฉัตรชัยพ่อบุญธรรมของเขาเป็นคนเดียวเท่านั้นที่จะตอบคำถามนี้ได้ ขณะเดียวกัน เคนขอนัดพบฉัตรเทพ สะสางความแค้น ความลับแห่งสายเลือด ข่าวการนัดพบของฉัตรเทพและเคนรั่วออกไป อลิสาพยายามหาทางไปหยุดเคน ไกรลาสที่รอดตายมาได้ คิดใช้โอกาสนี้ฆ่าฉัตรเทพ เพื่อให้ตัวเองพ้นจากความผิด ที่ทำมา โดยคิดจะป้ายความผิดให้เคน ฉัตรเทพเดินทางไปพบเคนตามที่นัดไว้ จ่าชัยลูกน้องของฉัตรเทพแอบพาตำรวจไปเป็นกำลังเสริม พร้อมจะบุกเข้าลงมือกับเคนทุกเวลา ส่วนเคนเดินเข้าสู่ที่นัดหมายด้วยแรงแค้น เขาพร้อมแล้วที่จะฆ่า เคนบอกตัวเองว่า การฆ่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่เขาเต็มใจ ไม่มีใครในโลกอีกแล้วที่จะหยุดยั้งเขาได้ เค้าต้องการฆ่าฉัตรเทพเพื่อแก้แค้นให้ลุงเคียว ชะตากรรมของสองพี่น้อง ดูเหมือนว่าไม่คนใดก็คนหนึ่งจะต้องตายลงในวันนี้ สุดแท้แต่ว่าใครจะเป็นฝ่ายฆ่าใคร
เรือนรักเรือนทาส (2549/2006) จำลอง หญิงสาวที่เป็นลูกสาวของนักร้องลำตัดชื่อดัง ต้องกลายมาเป็นทาสขัดดอกพร้อมกับ ก้อย พี่ชายในเรือนของ นพ เพราะพ่อของทั้งคู่เสียการพนัน พ่อแม่ของเธอจมน้ำตายก่อนจะมาไถ่ตัวทั้งคู่ไป นพหวังจะเอาจำลองมาเป็นอนุอีกคนแต่จู่ๆ จำลองก็ตั้งท้องขึ้นมา นพสอบสวนจำลองอย่างหนัก โดยมี น้อม ผู้เป็นน้องชายและ ฉายแสง น้องสะใภ้อยู่ด้วย แม้จะถูกเฆี่ยนตีอย่างหนักจำลองไม่ปริปากพูดถึงพ่อของเด็กแม้แต่น้อย จำลองสิ้นใจในวันที่คลอดลูกสาวออกมาโดยทิ้งปริศนาชาติกำเนิดของลูกสาว และทิ้งสมบัติเพียงชิ้นเดียวคือพระพุทธรูปห้อยคอเอาไว้ให้ลูกของตน เมื่อ จำเรียง แตกเนื้อสาวก็ได้รู้เรื่องราวของจำลองแม่ของตนจากลุงก้อย และถูกสอนให้รักนวลสงวนตัวอย่างทำตัวเหมือนแม่ แต่เพราะ พัฒน์ ลูกชายคนเดียวของนพหมายปองในตัวจำเรียง ทั้งคู่ต่างมีใจให้กันและจำเรียงรักพัฒน์จนยอมมอบร่างกายและหัวใจให้พัฒน์ ทั้งคู่แอบนัดพบกันโดยมี มิตร หัวหน้าช่างประจำโรงเหล็กเป็นคนช่วยเหลือ มิตรยอมรับตรงๆ ว่าแอบรักจำเรียง แต่มิตรเต็มใจที่จะหยุดความคิดนั้นเมื่อเจ้านายหมายปอง ฉุน หัวหน้าทาสเรือนนพเป็นคนคอยดูแลความสงบของเรือนทาส ลับหลังฉุนชอบลวนลามทาสสาวๆ และชอบแทะโลมจำเรียง มิตรปกป้องจำเรียงทุกครั้งที่ฉุนจะลวนลามทำให้ทั้งคู่เป็นศัตรูกัน ความรักของพัฒน์และจำเรียงกำลังหวานชื่น แต่แล้วพัฒน์ก็ถูกสั่งให้ไปเมืองน่านกะทันหันเพื่อไปรับตัว โฉมฉาย ลูกสาวของน้อมและฉายแสงมาอยู่อยุธยาสักระยะ เพื่อหวังจะให้ออกห่างจากคนเลี้ยงช้างที่โฉมฉายสนิทสนมเป็นพิเศษ ก่อนเดินทางพัฒน์อดเป็นห่วงจำเรียงไม่ได้จึงสั่งให้มิตรดูแลเป็นอย่างดี มิตรรับคำจะปกป้องจำเรียงด้วยชีวิต การเดินทางไปเมืองน่านเต็มไปด้วยความยากลำบากและใช้เวลานานแรมเดือน ตั้งแต่พัฒน์ไปถึงเมืองน่านโฉมฉายเอาอกเอาใจพัฒน์เป็นพิเศษ อีกทั้งยังทำตัวสนิทสนมจนพัฒน์อึดอัดใจ โฉมฉายออกอุบายต่างๆ ให้พัฒน์สนใจ แต่ด้วยความรักมั่นที่มีต่อจำเรียงทำให้พัฒน์ไม่เคยเผลอใจแม้สักครั้ง ช่วงเวลาที่พัฒน์ไปเมืองน่านจำเรียงเริ่มมีอาการแพ้ท้องจนผู้คนทั่วไปเริ่ม ลือ มิตรรู้ว่าเด็กในท้องจำเรียงต้องเป็นลูกของพัฒน์อย่างแน่นอน แม่ของพัฒน์ให้ฉุนเอาจดหมายไปส่งที่ชัยนาทเพื่อสู่ขอ แววตา ลูกสาวของพี่ชายเป็นสะใภ้ ระหว่างเดินทางกลับอยุธยาโฉมฉายเป็นไข้ป่า พัฒน์จึงต้องแวะที่ชัยนาทบ้านของปู่กับย่าเพื่อรักษาโฉมฉาย และเค้าก็ได้เจอกับแววตาที่นั่นเอง โฉมฉายทำตัวสนิทสนมกับแววตาเพราะมีแผนในใจ เมื่อฉุนกลับมาจากชัยนาทก็รู้ข่าวเรื่องจำเรียงท้อง จึงนำเรื่องไปบอกนพให้สั่งลงโทษข้อหาที่สมสู่กับทาสด้วยกันจนท้อง มิตรออกรับแทนเพื่อปกป้องเมียนายของตนไม่ให้เจ็บตัว แต่ทั้งสองก็ไม่พ้นผิดต่างก็ถูกลงโทษ แต่พอพัฒน์กลับมามิตรกับจำเรียงก็พ้นข้อครหาพัฒน์บอกฉุนว่าจำเรียงท้องกับตน และให้ฉุนสาบานว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร แต่ตอนที่อยู่ที่อยุธยาโฉมฉายและ เรือนแก้ว คนสนิทออกเที่ยวเตร่ทุกวันโดยมีฉุนดูแล ฉุนมีความสัมพันธ์กับเรือนแก้วเพราะหวังเข้าถึงโฉมฉาย ฉุนขอตามโฉมฉายกลับเมืองน่านและบอกความจริงที่พัฒน์เป็นพ่อของเด็กในท้อง จำเรียง ตั้งใจสร้างรอยแค้นแก่โฉมฉาย นวลได้รับข่าวว่าแววตาเสียชีวิตอย่างกะทันหัน มีเพียงโฉมฉายที่รู้ว่าเป็นเพราะยาพิษที่ตนวางเพราะต้องการให้แววตาตาย ฉุนออกอุบายเพื่อแก้แค้นมิตร ขณะที่โฉมฉายต้องการล้างแค้นจำเรียงโดยจับจำเรียงไปมัดไว้ในโรงเหล็ก ตบตีและหวังจะทำให้เสียโฉม แต่ก็พลาดไปโดนเรือนแก้วแทน แต่มิตรและสาหร่ายรู้ทันในอุบายจึงมาช่วยได้ทัน น้อมและโฉมฉายเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด แต่มิตรกลับเล่าความจริงทั้งหมดให้นพฟังโดยไม่พาดพิงถึงโฉมฉายเลย พัฒน์จึงแสดงน้ำใจโดยการไถ่ตัวมิตรกับสาหร่ายเป็นอิสระ พัฒน์บอกกับนพว่าตนเป็นพ่อของลูกในท้องจำเรียง และยื่นกระดาษแผ่นเล็กๆ หนึ่งใบ ซึ่งจำเรียงบอกว่าหล่นมาจากโฉมฉายที่โรงเหล็กและจำเรียงก็เก็บไว้ได้ ข้อความในนั้นบอกว่าน้อมคือพ่อของจำเรียง ปมปริศนาเรื่องใครเป็นพ่อของจำเรียงก็ถูกเปิดเผย นพทราบเรื่องจึงบอกน้องชายน้อมทราบเรื่องก็ยอมรับแต่โดยดี ขณะที่ฉายแสงโกรธมากและต่อว่าน้อมอย่างหนัก น้อมทนไม่ได้จึงไล่เมียและลูกไปอยู่เมืองน่าน สุดท้ายโฉมฉายสำนึกผิดขอให้จำเรียงอโหสิให้ซึ่งจำเรียงก็ยินดี มิตรและสาหร่ายก็ได้รับการไถ่ตัวพร้อมได้รับของขวัญพิเศษจากพัฒน์ จำเรียงแต่งงานกับพัฒน์แล้วคลอดลูกอยู่พร้อมหน้ากับครอบครัวของตนอย่างมี ความสุข
รังนกบนปลายไม้ (2549/2006) ชุมชนแออัด ตั้งอยู่บริเวณริมทางรถไฟ มีครอบครัวของ เหมือนธาร ซึ่งอาศัยอยู่กับตาสมบุญ กับ ยายดวง และน้องสาว หมายทิพย์ ครอบครัวของเหมือนธารอยู่ได้ด้วยเงินบำนาญของยายและการทำงานไปเรียนไปของ เหมือนธาร กระทั่งวันหนึ่งยายดวงประสบอุบัติเหตุหัวฟาดพื้น ต้องนอนไม่ได้สติ ภาระทั้งหมดจึงตกเป็นของเหมือนธาร เพราะตาสมบูรณ์เองก็พิการ ส่วนหมายทิพย์เป็นเด็กใจแตก ไม่ว่าเหมือนธารจะทำงาน หนักแค่ไหนเธอก็ไม่ท้อด้วยความหวังว่าจะดูแลตากับน้องให้ดีที่สุด เผื่อยายฟื้นขึ้นมาจะได้ภาคภูมิใจในตัวเธอ เหมือนธารถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้าง ทำให้เหมือนธารต้องเปลี่ยนงานไปเรื่อยๆ ติดตามต่อได้ใน รังนกบนปลายไม้
เทใจรักนักวางแผน (2549/2006) สี่สาวเพื่อนรักนักวางแผน ชอบจีบผู้ชายเก็บไว้เป็นคอลเล็กชั่น พิม ถูกหนุ่มหล่อไฮโซทอดทิ้ง แล้วเอาแต่ร้องไห้ไม่เป็นอันทำอะไร แอ๊น สาวหวานเจ้าของร้านเบเกอรี่ ปอ สาวหมวยอินเตอร์ทำงานอยู่กระทรวงต่างประเทศ จิ๊บ หมอฟันจอมเฮี้ยว วางแผนให้แอ๊นเป็นเหยื่อล่อหนุ่มไฮโซที่ทอดทิ้งพิม แอ๊นรีบปฏิเสธเพราะ แมน แฟนหนุ่มของแอ๊นเพิ่งจะหมั้นเธออย่างไม่เป็นทางการ เพราะความหวงห่วงกลัวจะมีคนอื่นมาจีบแอ๊นระหว่างที่เขาไม่อยู่ แต่แอ๊นต้องยอมแพ้มติเพื่อนรับงานนี้ สามสาวสืบรู้ว่า ภิมุข หนุ่มไฮโซชอบสาวหวานแบบแอ๊น ในที่สุดภิมุขก็หลงรักแอ๊นจริงๆ พาแอ๊นไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ตัวเองเคยอยู่ก่อนครอบครัวไฮโซพาไปเลี้ยงดู เพราะเขาเคยพาผู้หญิงที่จะแต่งงานด้วยมาที่นี่แต่เธอรับไม่ได้ทิ้งเขาไป ส่วนแอ๊นกลับสงสารเห็นใจไม่รังเกียจทำให้ภิมุขรักแอ๊นมากขึ้น จิ๊บไปหว่านเสน่ห์ใส่ ผู้กองชายชาญ ซึ่งเป็นญาติกับภิมุขเพื่อหลอกถามเรื่องของภิมุข จนผู้กองชายชาญเริ่มมีใจให้กับจิ๊บ พิมและปอบังคับแอ๊นให้บอกความจริงกับภิมุข ทำให้ภิมุขเสียใจมาก ติดตามต่อได้ใน เทใจรักนักวางแผน
เทวดาสาธุ (2549/2006) คุณ ผู้ชมจะสนุกไปกับสถานการณ์ที่เต็มไปด้วย เรื่องราวประหลาด หลากความต้องการของมนุษย์ที่ไม่รู้จักจบจักพอ กับการรับมือของ สาธุ เทวดาหนุ่มมือใหม่ รับบทโดย อ้น-สราวุฒิ ที่บางครั้งถูกบ้าง ผิดบ้าง แต่ก็ค่อยๆ หัดกันไป...แบบใจเย็นๆและคุณจะได้พบว่า วันๆหนึ่งคนเราร้องขอความช่วยเหลือต่อสิ่งศักดิ์มากมาย... บางคำขอ..แปลกพิศดาร อย่างที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนแถมสิ่งศักดิ์ในยุคนี้ ต้องทำตัว up date ทันสมัยสุดๆ ไม่อย่างงั้น จะเอาท์ ไม่รู้เท่าทันคำของ ลูกช้างทั้งหลาย เรื่องราวคำขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (ที่มา: broadcastthai.com)
เพื่อนแซ่บ 4x4 (2549/2006) วันเปิดเทอมวันแรกของการใช้ชีวิตอิสระเป็นครั้งแรกทำให้ เบย์ ชายหนุ่มสุดหล่อ ฟอร์มจัด แต่นิสัยดี ออกอาการตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เมื่อเขาก้าวเข้ามาในรั้วมหาวิทยาลัยสยามรัฐด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม และหวังเอาไว้ว่าในชีวิตนี้คงจะทำให้เขาเรียนรู้ที่จะเลือกหนทางเดินต่อไปในอนาคตได้ เพียงก้าวแรกที่เบย์ได้ก้าวเข้ามาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เมื่อเสน่ห์ของเขาดันเข้าตาสาวๆ ในมหาวิทยาลัยเข้าอย่างจัง มันยิ่งทำให้เขาต้องสลัดความเป็นไอ้หนุ่มบ้านนอกเอาไว้เบื้องหลัง แล้วปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ให้ดูเป็นหนุ่มเมืองกรุง แต่การณ์กลับไม่เป็นดังนั้น...ขณะที่เบย์กำลังถูกสาวๆ รุมล้อม เสียงภูตผีตนใดก็มิทราบมาปลุกความเป็นไอ้หนุ่มบ้านนอกของเขาให้กลับคืนมา ไอ้เบื๊อก สิ้นเสียงเบย์ถึงกลับขนลุกซู่ไปทั้งตัว ใครกันนะบังอาจมาเรียกชื่อเล่นสมัยประถมของเขา ไอ้เบื๊อก ชื่อที่เขาเกลียดแสนเกลียดและเก็บมันไว้ในส่วนมืดสุดของสมอง แล้วเจ้าของเสียงนั้นก็เข้ามาตบหัวเขา อย่างจัง ทันทีที่เบย์หันไปก็ถึงกับอึ้ง.เพราะเจ้าของเสียงนั้นคือเพื่อนสมัยประถมของเขานั่นเอง ตั้งโอ๋ สาวน้อยหน้าตาน่ารัก นิสัยตรงไปตรงมาและปากดี ตั้งโอ๋ดีใจมากที่ได้เจอเบย์เพื่อร่วมถิ่นบ้านเกิด เปล่งภาษาถิ่นออกมาอย่างคล่องปาก แต่เบย์กลับไม่รู้สึกอย่างนั้น เขาทั้งโกรธทั้งอายและรำคาญตั้งโอ๋ ที่นอกจากจะบอกชื่อเล่นที่แสนจะตลกของเค้าแล้ว ยังบอกถึงฉายาไอ้บักดำบักโกรกที่สะท้อนให้เนว่าตอนเด็กๆ เบย์เป็นยังไงอีกต่างหาก และมันก็จะทำให้สาวๆ ที่กำลังรุมล้อมเขาถึงกับขำคิกออกมาอย่างหยุดไม่ได้ เบย์รีบแก้สถานการณ์ทำเป็นว่าไม่รู้จักกับตั้งโอ๋ และเพราะสายตาที่เย็นชาของเขาทำให้ตั้งโอ๋ถึงกับหน้าแตกและอึ้งไปเลย วันแรกของการเปิดภาคเรียนของเบย์เหมือนฝันร้ายที่เขาอยากจบเร็วๆ เพราะต้องมาเจอกับยายตั้งโอ๋จอมแสบ แต่ยิ่งเขาต้องการให้เวลาผ่านไปมากเท่าไหร่ เวลาก็กลับยิ่งเดินช้าลงเท่านั้น และเมื่อถึงเวลารับน้องรวมทุกคณะ เบย์ได้มาอยู่กลุ่มเดียวกับ โอม หนุ่มสุดหล่อเนี๊ยบแต่ฉลาดแกมโกง ชัช หนุ่มจากนาฎศิลป์ ผู้มีท่าทางกระตุ้งกระติ้งแต่แมนโครตๆ มุ้ง หนุ่มหน้าสิว หน้าหม้อ และปากหมา หนุ่มทั้งสี่ต้องมาจับกลุ่มรวมกับสาวอีกสี่คนนั่นก็คือ แพนด้า สาวซื่อสุดสวย รวยน้ำใจ รวยทรัพย์และจริงใจ พีร์ สาวหน้าหวานออกห้าวแต่นิสัยดี ชะเอม สาวสวย รวยหยิ่ง แต่หลงตัวเอง และเพราะความไม่ถูกกันของเบย์กับตั้งโอ๋ ก็ทำให้ทั้งคู่แข่งกันเองจนนำความหายนะมาสู่ กลุ่ม จนทำให้ทั้งกลุ่มของเขาและเธอถูกทำโทษ แต่มีเหรอสาวๆ พวกนี้จะยอม ทั้งสองฝ่ายจึงโทษกันไปโทษกันมาจนโดนรุ่นพี่ทำโทษ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ทั้งสองกลุ่มนี้เป็นไม้เบื่อไม้เมากันในที่สุด และคงยากที่จะหาทางมาบรรจบกันได้อีก แล้วคืนแรกของการอยู่หอก็มาถึง สมเกียรติ คือคนดูแลหอชายจอมขี้เล่น เอื้อมพร คือคนดูแลหอหญิงผู้รักษากฎเหล็กอย่างยิ่งชีพ สองคนนี้เป็นคู่กันกันมาตลอดยี่สิบปี แต่ความจริงแล้วทั้งคู่เคยเป็นอดีตคู่รักกัน แต่สาเหตุที่แตกคอกันนั้นไม่เคยมีใครล่วงรู้ เพราะเป็นความลับที่ทั้งคู่เก็บงำไม่บอกใคร อีกทั้งยังมี นุช แม่บ้านประจำหอที่ทำงานมากกว่ายี่สิบปีจอมจุ้นและขี้เม้าท์ งยิ้ม เจ้าของร้านสะดวกซื้อผู้เจนโลก มีร้านตั้งอยู่ระหว่างหอหญิงกับหอชาย เบย์ได้อยู่ห้องเดียวกับโอม ซึ่งเป็นห้องที่ทัศนะวิสัยดีเยี่ยม เพราะพอมองออกไปนอกหน้าต่างก็จะเห็นวิวคือห้องสาวๆ ของฝ่ายหญิง ที่เต็มไปด้วยสาวๆ สวยๆ จากคณะนิเทศฯ และคณะอักษรฯและนี่คือเรื่องที่ดีที่สุดสำหรับบ์ที่ได้เจอมาในวันนี้ จนทำให้เขาลืมเรื่องยัยตั้งโอ๋ไปซะสนิท มิตรภาพของเพื่อนสองกลุ่มนี้จะลงเอยอย่างไร เมื่อเรื่องราวทำท่าจะบานปลายไปใหญ่โต แล้วไหนจะปัญหาอีกร้อยแปดพันเก้าที่พวกเขาและเธอจะต้องเผชิญ หนุ่มสาวทั้งแปดคนนี้ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัว และค้นหาความหมายของการเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดี โปรดร่วมสนุกไปกับบรรดาเหล่าเด็กหอ ที่จะมาสอนให้วัยรุ่นได้รู้จักการใช้ชีวิต และจะมาย้อนอดีตให้กับวัยรุ่นได้สนุกสนานกันอีกครั้งในละคร เพื่อนแซบ 4x4
อนิลทิตา (2549/2006) อนิลทิตา เจ้าหญิงเขมร จะถูกจับให้แต่งงานกับ เจ้าชัยวิริยะ แต่เธอไม่ยอมเพราะไปหลงรัก สินธุ ผู้ชายไทย เจ้าชัยวิริยะจึงส่งคนไปฆ่าสินธุ อนิลทิตาเสียใจมากจึงใช้มารยาหญิงหลอกฆ่าเจ้าชัยวิริยะเป็นการแก้แค้น แล้วหนีไปเมืองไทยพร้อมกับ บันดาสาเทวี คนสนิท ซึ่งมีวิชาอาคมมนต์ดำแก่กล้าโดยเฉพาะเรื่องการคงความสาวไว้ได้ตลอดไป อนิลทิตาตั้งใจจะรอการกลับชาติมาเกิดใหม่อีกครั้งของสินธุ จึงขอร้องให้บันดาสาเทวีสอนวิชาคงความสาวให้ ด้วยความรักที่บันดาสาเทวีที่มีต่ออนิลทิตาจึงสอนวิชาถอดวิญญาณ และให้เอาเลือดของผู้ชายมาผสมกับสมุนไพรและร่ายคาถา แล้วใช้น้ำเลือดนั้นอาบชะโลมทั่วกายทุกสามวัน ถ้าไม่อาบร่างการจะแก่เฒ่าลงอย่างรวดเร็ว 200 ปีต่อมา ที่เมืองเชียงใหม่มีงานแต่งงานใหญ่โตระหว่าง เจ้าพงษ์สุริยันติ ติดตามต่อได้ใน อนิลทิตา
ผู้พิทักษ์รักเธอ (2549/2006) โบ้ ถูกหน่วยงามเพ่งเล็งเพราะใช้ความรุนแรงในการจับกุมคนร้าย ทั้งๆ ที่ความตั้งใจของโบ้คือการขจัดคนชั่วตามหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎ์ที่ดี โบ้จึงมียศแค่หมวดเพราะความบุ่มบ่าม หัวแข็ง หัวดื้อ และปากหมา แล้วโอกาสของโบ้ก็มาถึงเมื่อได้รับมอบหมายให้ตามจับกุมมือระเบิดคนหนึ่ง โบ้ติดตามความเคลื่อนไหวของมือระเบิดจนรู้วาอยู่ในกรุงเทพฯ จึงสะกดรอยตามไปถึงสวนลุมไนท์พลาซ่าที่กำลังมีงานคอนเสิร์ต โบ้เมือระเบิดหายไปหลังเวทีขณะที่วงดนตรีลูกทุ่งสาวดาวรุ่ง ลูกโซ่ จิราภา กำลังทำการแสดง แต่โบ้ไม่มีทางเลือกจึงตัดสินใจตามเข้าไปและพบว่ากระเป๋าเป้ใบหนึ่งมีระเบิด ซ่อนอยู่ ติดตามต่อได้ใน ผู้พิทักษ์รักเธอ
ลอดลายมังกร (2549/2006) อาเหลียง มีภรรยาชื่อ เหมยหลิง มีลูกชายเล็ก ๆ 2 คนชื่อ อาเทียน กับ แอนดี้ อาเหลียงได้เดินทางจากซัวเถาสู่เมืองไทยด้วยเรือสำเภาพร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน คือ อาจั๊วและหลงจู๊บุ๋น ด้วยความหวังที่จะสร้างเนื้อสร้างตัว อาเหลียงได้เริ่มกิจการเล็ก ๆ จนขยับขยายให้ใหญ่ขึ้น และได้แต่งงานอีกครั้งกับภรรยาชาวไทย ชื่อ เนียม (ซึ่งต้องยุติความฝันในการศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยมาแต่งงานกับอาเหลียง) และมีลูกด้วยกันหลายคน โดยลูกคนโตเป็นลูกชาย ชื่อ นัฐกิจ ต่อมาเหมยหลิงพร้อมลูกได้เดินทางสู่เมืองไทยเพื่อตามหาอาเหลียง ความวุ่นวายในครอบครัวก็เกิดขึ้น พร้อม ๆ กับการขยายตัวของกิจการ ซึ่งมีทั้งประสบความสำเร็จและล้มเหลว ด้วยความยึดมั่นในคุณธรรมและความขยัน ด้วยการเตือนใจด้วยตัวอักษรคำว่า "หงี" (จีน: 义) ซึ่งหมายถึงคุณธรรมที่ติดไว้กลางบ้าน หลายปีผ่านไป ลูกหลานของอาเหลียง เหมยหลิง และ เนียม ก็เติบโตขึ้น หลายคนได้ช่วยขยับขยายกิจการจนประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะแอนดี้บุตรชายคนรอง ในขณะที่อาเทียนบุตรชายคนโตกลับทำอะไรไม่ประสบความสำเร็จเลย ในขณะที่หลาน ๆ ของอาเหลียง แต่ละคนก็มีบุคลิกนิสัยแตกต่างกันออกไป และชาญชัย ลูกชายเพียงคนเดียวของแอนดี้และเป็กกี้ ภรรยาชาวฮ่องกงของแอนดี้ ผู้เป็นลูกสาวของโรเจอร์ เฟย มหาเศรษฐีเจ้าของกิจการเดินเรือชาวฮ่องกง ที่ถูกเลี้ยงมาด้วยการเอาใจมาแต่เล็ก ก็ได้สร้างความหายนะให้แก่กิจการและเสื่อมเสียชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลในบั้นปลายชีวิตของอาเหลียง โดยที่เรื่องราวทั้งหมดถูกบอกเล่าผ่านโดย นภา หลานชายของอาเหลียงที่เป็นลูกชายของ นภ ลูกชายคนรองของอาเหลียงกับเนียม
พ่อครัวหัวป่าก์ (2549/2006) คุณนาย ทองม้วน พร้อมกระติกคนรับใช้คนสนิท มักจะไปเดินตรวจตราตลาดที่เป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษของแก จนได้ชื่อว่าเป็นเศรษฐีนีที่รวยและเขี้ยวลากดินที่สุดในย่านนี้ เพราะแม้แต่อาหารในบ้านแต่ละวันที่ตกถึงท้องก็จำกัดจำเขี่ยเหลือเกิน แม่ครัวคนแล้วคนเล่าต่างพากันลาออก เพราะคุณนายให้ค่าจ่ายตลาดแค่วันละ100 บาทสำหรับ 4 ชีวิตให้ครบทั้งคาวหวาน ใน 3 มื้อ วิกฤต ในบ้านมาถึงจุดแตกหักเมื่อ ทองตรา ลูกสาวสุดที่รักสำเร็จการศึกษากลับมาจากเมืองนอก เงิน 100 บาทถูกสั่งเพิ่มปริมาณและคุณภาพอาหารให้เทียบเท่าภัตตาคาร ขนาดแม่ครัวคนล่าสุดก็มีอันต้องลาออกไป คุณมหาเปรื่อง สามีเลยปิ๊งไอเดียว่า…ในเมื่อหาแม่ครัวไม่ได้ ก็ให้หาพ่อครัวมาแทน ไม่นานก็มีพ่อครัวนับร้อยต่างทยอยมาสอบสัมภาษณ์และสอบปฏิบัติชนิดหัวกระได บ้านไม่แห้ง แต่จนแล้วจนรอด ก็ไม่มีใครผ่านมาตรฐาน ISO 9000 ของคุณนายมาเป็นพ่อครัวสักคนเดียว ติดตามต่อได้ใน พ่อครัวหัวป่าก์
แก้วตาพี่ (2549/2006) ชิษณุ หนุ่มหล่อทายาทคนเดียวของตระกูลนเรศวร เขามีภรรยาสาวสวยชื่อ เลอลักษมี ระหว่างขับรถไปเที่ยวด้วยกันชิษณุและเลอลักษมีเกิดทะเลาะกัน ทั้งคู่ประสบอุบัติเหตุชิษณุตาบอดและเลอลักษมีรับไม่ได้กับสภาพของชิษณุ จึงทิ้งและหนีไปแต่งงานใหม่กับเศรษฐี กำลาภ นาถลดา อาจารย์สาวในมหาวิทยาลัยชื่อดังดีกรีปริญญาโท แต่ชีวิตเธอต้องพังลงด้วย คฑาเทพ ชายที่เพียรจีบเธอมานานจนเธอตกลงจะแต่งงานกับเขา แต่กลับมี เปรอมาศ ภรรยาของคฑาเทพบุกมาเอาเรื่องเธอถึงมหาวิทยาลัยฟ้องร้องจนเธอถูกไล่ออก นาถลดาจึงหนีไปอยู่ที่ทะเลหวังฆ่าตัวตาย แต่ชิษณุเข้ามาชนเธอเกือบตกน้ำ ทำให้เธอรู้ว่าเธอยังไม่อยากตาย นาถลดาขอบใจชิษณุที่ทำให้เธอรู้ใจตัวเอง และนาถลดาก็เข้าใจผิดคิดว่าชิษณุเป็นชาวประมงตาบอด ชิษณุไม่บอกความจริง แต่หลังจากทั้งคู่ได้คุยกันต่างคนต่างเห็นใจซึ่งกันและกัน จากความเห็นใจก็กลายเป็นความรัก ชิษณุจึงโกหกนาถลดาว่าตนเองเคยขอความช่วยเหลือองค์กรการกุศลเพื่อไปผ่าตัดตา ที่ประเทศอังกฤษ อยากให้นาถลดาไปดูแลแต่จะไปได้ก็ต้องเป็นคนที่ใช้นามสกุลเดียวกันเท่านั้น นาถลดาตกใจแต่ไตร่ตรองและต้องการหนีจากเรื่องวุ่นวาย เธอจึงตกลงใจช่วยเหลือชิษณุด้วยการจดทะเบียนสมรสกัน แต่การมาของนาถลดาทำให้ นวล ภรรยาของ เนติวิทย์ ทนายประจำตระกูลนเรศวรและ อมิตตดา ผู้เป็นลูกสาวที่หลงรักชิษณุมาตั้งแต่เล็กไม่พอใจมาก การเดินทางไปอังกฤษชิษณุพานาถลดาและ อมัจจ์ น้องชายอมิตตดาไปด้วย ชิษณุรักอมัจจ์เหมือนน้องแท้ๆ และตั้งใจส่งเสียอมัจจ์ให้เรียนที่อังกฤษเลย ในอังกฤษพวกเขาได้เช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่ด้วยกัน โดยมี พฤกษ์ เพื่อนของชิษณุช่วยดูแล ด้านเลอลักษมีเมื่อรู้ข่าวว่าชิษณุแต่งงานใหม่ เธอตามไปราวีนาถลดาที่อังกฤษเพื่อจะแย่งชิษณุคืนเพราะกำลาภสามีกำลังจะล้ม ละลาย เลอลักษมีทำทุกวิถีทางเพื่อยุแหย่ให้ชิษณุและนาถลดาทะเลาะและเลิกกัน แต่พฤกษ์ก็เป็นกันชนให้เสมอ ยิ่งมีคนช่วยเหลือนาถลดามากเท่าไร เลอลักษมียิ่งริษยามากขึ้นเท่านั้น เลอลักษมีแอบขโมยจดหมายเรื่องการผ่าตัดตาของชิษณุมาโดยที่นาถลดายังไม่เห็น จดหมาย และใส่ร้ายนาถลดาว่าไม่ยอมบอกเพราะไม่อยากให้ชิษณุหาย เพราะกลัวว่าจะเห็นว่านาถลดาหน้าตาน่าเกลียด แต่ชิษณุไม่เชื่อเลอลักษมีจึงบอกว่าอย่าเพิ่งบอกนาถลดาว่าชิษณุรู้เรื่อง จดหมายแล้ว รอดูว่านาถลดาจะบอกชิษณุหรือไม่ ชิษณุรอแต่ก็ต้องผิดหวังเพราะนาถลดาไม่บอก จนจดหมายฉบับที่สองส่งมาชิษณุจึงได้ผ่าตัดตา หลังจากที่ชิษณุมองเห็นเขาก็พบว่านาถลดาน่ารักและสวยงามอย่างที่ทุกคนบอกตอน ที่เขาตาบอดเสมอ แต่ปมในใจก็ยังไม่คลายเรื่องจดหมายที่นาถลดาไม่ยอมบอกเขา ทำให้การอยู่ด้วยกันเป็นไปไม่ราบรื่น วันหนึ่งชิษณุพานาถลดาไปร่วมงานวันเฉลิมฯ ที่สถานฑูตไทย นาถลดาเจอกับคฑาเทพและเปรอมาศ เพราะคฑาเทพย้ายมาเป็นผู้ช่วยทูตทหารคนใหม่ คฑาเทพเบ่งใส่ชิษณุแต่ก็ถูกคนที่รู้จักกับชิษณุตอกกลับจนหน้าเสีย เปรอมาศจึงพาสามีกลับบ้านด้วยความอาย เลอลักษมีสืบจนรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างคฑาเทพและนาถลดาเป็นอย่างไร จึงเกิดความคิดที่จะใช้วิธีนี้หลอกชิษณุให้เลิกกับนาถลดา เริ่มจากการทำดีกับอมิตตดาเพื่อหลอกใช้ และมีข้อแลกเปลี่ยนโดยหลอกว่าจะช่วยให้สมหวังกับชิษณุ อมิตตดาหัวอ่อนเชื่อทันที คฑาเทพมีโอกาสเจอกับนาถลดาและชวนเธอไปดื่มน้ำ คฑาเทพชวนนาถลดาไปหาความสุขด้วยกันแต่นาถลดาก็ด่าเขากลับจนเจ็บแสบ คฑาเทพโกรธจึงยอมร่วมมือกับเลอลักษมีเพื่อทำลายนาถลดา แต่การที่ต้องหลอกนาถลดาเป็นเรื่องยาก จึงใช้อมิตตดาเป็นตัวแทนเนื่องด้วยทั้งสองมีบุคคลิกคล้ายกัน ทั้งหมดเริ่มแผนการด้วยการให้อมิตตดาทำทีแกล้งขอเสื้อผ้าจากนาถลดาเพราะเห็น ว่าเธอจะกลับเมืองไทยแล้ว นาถลดาใจอ่อนพาไปเลือกเสื้อผ้า และเผลอบอกอมิตตดาอีกว่าชุดไหนชิษณุเป็นคนซื้อให้ อมิตตดาเลือกชุดที่ชิษณุซื้อให้ นาถลดาเสียดายแต่ก็สงสารอมิตตดาจึงให้ไป ด้านเลอลักษมีก็เริ่มแผนการต่อไปเมื่อ คุณสุจิตรา ผู้ใหญ่ที่คนไทยในอังกฤษเคารพนักถือจะจัดงานเลี้ยง เลอลักษมีแนะนำให้คุณจิตราเลือกนาถลดาและอมิตตดามาช่วยทำอาหาร เพราะทั้งสองคนทำอาหารเก่ง คุณจิตราก็ขอให้นาถลดาและอมิตตดามาช่วยในคืนงานเลี้ยง เลอลักษมีมาหาชิษณุที่บ้านพร้อมกับเปรอมาศ เปรอมาศบอกชิษณุว่าให้ช่วยพูดกับนาถลดาว่าขอคฑาเทพสามีเธอคืน ชิษณุไม่เชื่อโทรหานาถลดาที่บ้านคุณจิตรา แต่อมิตตดารอรับโทรศัพท์แทนและบอกว่านาถลดาออกไปนานแล้ว หลังจากวางสายอมิตตดารีบออกไปเพื่อปลอมตัวเป็นนาถลดา เพื่อไปจู๋จี๋กับคฑาเทพในผับแห่งหนึ่ง เปรอมาศและเลอลักษมีพาชิษณุไปที่ผับนั้นและเห็นคฑาเทพและอมิตตดาที่ปลอมตัว เป็นนาถลดาจูบกัน แต่นาถลดาตัวจริงกลับอยู่ในงานเลี้ยงตลอดจนเกือบเที่ยงคืน ด้านชิษณุโกรธมากกลับมาขอหย่ากับนาถลดา นาถลดาเสียใจมากและหนีไปพร้อมกับอมัจจ์ และกำชับอมัจจ์ว่าห้ามบอกกับใครว่าเธออยู่ที่ไหน ชิษณุปล่อยตัวเองจมกับความผิดหวัง พฤกษ์พยายามเปิดโปงความชั่วของเลอลักษมี และสืบได้ว่าเธอหลอกชิษณุเรื่องนาถลดาในคืนงานเลี้ยง จึงบอกความจริงกับชิษณุว่านาถลดาอยู่ในงานเลี้ยงตลอดถึงเที่ยงคืน อมิตตดาเริ่มรู้ว่าเลอลักษมีหลอก และอมิตตดาก็กลับมาสำนึกได้ว่านาถลดาดีกับเธอเพียงไร เธอจึงบอกความจริงทั้งหมดกับชิษณุ ปมในใจของชิษณุจึงคลายออกได้ ชิษณุออกตามหานาถลดาตามรอยจดหมายของอมัจจ์ที่แอบเขียนหาพฤกษ์ และเขาก็เจอนาถลดาทั้งสองปรับความเข้าใจกัน และขอร้องให้นาถลดากลับมาเหมือนเดิม เพราะเขารู้แล้วว่าการมองเห็นหรือมองไม่เห็นแค่มีนาถลดาเคียงข้างก็เพียงพอ เพราะความจริงใจของเธอเปรียบเสมือนแสงสว่างที่นำทางชีวิตเขาและเขาต้องการ ให้เป็นแบบนั้นตลอดไป
เขยใหญ่ สะใภ้เล็ก (2549/2006) เขยใหญ่สะใภ้เล็ก เป็นเรื่องราวของ วิศวา หนุ่มรูปหล่อวัยเบญจเพส เกิดความเบื่อหน่ายสังคมเมืองหลวงที่สับสนวุ่นวาย หลังจากผิดหวังในความรักจาก อุบลวรรณ จึงย้ายไปทำงานต่างจังหวัด ซึ่งวิศวาได้ไปอาศัยอยู่กับ นายวงศ์ ซึ่งเป็นลุงของเขา นายวงศ์เป็นนักเลงเก่ามีลูกน้องหลายคน แต่วัยที่ล่วงเลยไปทำให้เขาวางมือและหันมาทำการเกษตร นายวงศ์มีลูกชายชื่อ วันเผด็จ ซึ่งมีนิสัยบ้าระห่ำไม่กลัวใคร วันเผด็จมีเพื่อนหญิงคนเดียวที่คบสนิทสนมด้วยชื่อ ใยบัว ทั้งคู่นิสัยคล้ายกันมาก เรียนหนังสือด้วยกันตั้งแต่มัธยมจนจบมหาวิทยาลัยในจังหวัด ไร่ของนายวงศ์อยู่ติดกับไร่ของ นายสายสมิง ทั้งคู่เป็นศัตรูคู่แข่งกันมาตั้งแต่รุ่นหนุ่ม ต่างก็เป็นนักเลงที่มีประวัติน่ายำเกรง งานในไร่ให้ลูกๆ ดูแลแล้วสอนให้ลูกตนถือลูกของอีกฝ่ายเป็นศัตรูคู่แค้น แต่วันเผด็จกับใยบัวไม่สนใจทั้งคู่เป็นคนหัวแข็งมาตั้งแต่เด็ก เลือกที่จะคบหาเป็นเพื่อนสนิทโดยที่พ่อไม่อาจห้ามปรามได้ คนงานในไร่ต่างยำเกรงคนทั้งสอง เมื่อนายหนุ่มสาวปรองดองกันคนงานก็คบหาสนิทสนมกัน นายสายสมิงไม่พอใจที่ใยบัวขัดใจเขา แต่ ปู่แสบ บิดาวัยแปดสิบของเขา นักเลงตัวจริงเสือที่ถอดเขี้ยวเล็บ หวังให้ลูกชายล้างมือจากการเป็นนักเลงโดยเด็ดขาด และห่วงหลานสาวทั้งสองคน รุ้งไหม เป็นลูกสาวคนโตที่นายสายสมิงภูมิใจแถมเกรงใจ รุ้งไหมเป็นสาวสวย ทำงานเก่ง รุ้งไหมเลือดพ่อแรงในเรื่องเห็นคนไร่โน้นเป็นศัตรู เธอจึงเป็นคู่อริของวันเผด็จมาตั้งแต่เด็ก แต่ใยบัวได้รู้หัวใจตัวเองว่ามีใจให้กับวันเผด็จเกินเพื่อนและเก็บซ่อนไว้อย่างมิดชิด ความใส่ใจที่มีต่อวันเผด็จนั้นมากมายจนทำให้ใยบัวรู้ว่า หญิงสาวคนเดียวที่วันเผด็จแอบสนใจคือรุ้งไหม วิศวาขับรถมาหาวันเผด็จพบรถของรุ้งไหมจอดเสียอยู่ข้างทางจึงช่วยเหลือ พาไปตามช่างมาลากรถไปซ่อมและพาเธอไปส่งที่บ้าน ทำให้รุ้งไหมประทับใจในความเอื้อเฟื้อของเขามาก รุ้งไหมรู้ว่าน้องสาวแอบไปจัดงานเลี้ยงอยู่ในไร่จึงตามมาและเกิดปะทะคารมกับวันเผด็จ รุ้งไหมโกรธจัดขี่จักรยามพุ่งชนเขาล้มลงแล้วจากไปอย่างไม่ใยดี วันเผด็จกระดูกข้อเท้าแตกต้องนอนโรงพยาบาลหลายวัน นางลำดวน แม่เลี้ยงของวันเผด็จเห็นเป็นโอกาสที่จะแนะนำสาวสวย จิระนันท์ ให้มาเฝ้าดูแลวันเผด็จที่โรงพยาบาล วันเผด็จไม่ถูกใจคนเฝ้าไข้คนใด โทรตามใยบัวให้มาคุยแก้เหงากระทั่งให้มานอนเฝ้าตอนกลางคืน รุ้งไหมสานความสัมพันธ์กับวิศวาตามประสาหนุ่มสาวยุคใหม่และมีหัวใจตรงกัน วันเผด็จแนะนำให้วิศวาให้รู้จักใยบัว ใยบัวตกใจที่รู้ว่าวิศวาเป็นหลานของนายวงศ์ วิศวาขอให้ใยบัวปิดเรื่องนี้ไว้ก่อนเพราะกลัวว่ารุ้งไหมจะรับไม่ได้ ถ้าต้องเกี่ยวข้องกับลูกหลานของนายวงศ์ นายสายสมิงได้รับรางวัลพ่อดีเด่นประจำปีหลังจากนายวงศ์ได้ไปเมื่อปีที่แล้ว ใยบัวจัดงานฉลองให้พ่อปู่แสบเชิญนายวงศ์กับนางลำดวนมาร่วมงาน รุ้งไหมเองก็คิดจะเปิดตัววิศวาในงานนี้ นายสายสมิงต้อนรับวิศวาอย่างจำใจและไม่พอใจมากขึ้นที่เห็นวันเผด็จ ต่อหน้าวันเผด็จนายสายสมิงพูดจากับวิศวาด้วยดี ยกเขาขึ้นมาข่มด้วยเห็นว่าวันเผด็จเป็นศัตรูและเป็นเพียงชาวไร่ธรรมดาโดยไม่รู้ว่าทั้งสองเป็นพี่น้องกัน วันเผด็จยังเจ็บแปลบในใจที่รุ้งไหมยอมรับวิศวาจึงออกจากงานไปดื่มเหล้าต่อที่โรงแรมหรูในเมือง จิระนันท์มาพบวันเผด็จที่ดื่มจนเมา เขายังมีสติพอที่เรียกให้ใยบัวมารับ ใยบัวจึงให้พนักงานบริการช่วยพาขึ้นไปที่พักบนห้อง ช่วยเช็ดตัวให้ก่อนที่จะขับรถกลับบ้าน จิระนันท์เห็นใยบัวหายเข้าไปในห้องพักวันเผด็จในโรงแรม จึงโทรศัพท์ไปบอกนางลำดวนและแจ้งให้ทางบ้านใยบัวรู้ เรื่องราวจึงบานปลายแม้ทุกคนไม่พบใยบัวในห้องมีเพียงวันเผด็จเมาหลับไม่รู้เรื่อง แต่ก่อเหตุทะเลาะลงมือใส่กันจนเรื่องไปจบที่โรงพัก จิระนันท์กับนางลำดวนพาลหาว่าเธอเป็นต้นเหตุเป็นคนวางแผนจะปล้ำวันเผด็จตอนเขาเมา วันเผด็จโกรธจนทนไม่ไหวเขาไม่ยอมให้ใครทำให้ใยบัวเสียหาย จึงขอรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับใยบัวด้วยความรัก นายสายสมิงได้ทีให้วันเผด็จยกขบวนขันหมากไปขอใยบัวก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ใยบัวย้ายไปอยู่บ้านนายวงศ์ จิระนันท์ก็ย้ายมาอยู่ด้วยในฐานะหลานของนางลำดวน ใยบัวออดอ้อนเอาใจวันเผด็จเพราะต้องการยั่วจิระนันท์ วันเผด็จคิดว่าเขารักใยบัวและมีความสุขที่มีเธอมาอยู่ร่วมบ้าน เมื่อแน่แก่ใจเช่นนั้นเขาก็ใช้สิทธิ์ของสามีทำให้เธอตกเป็นของเขา ใยบัวยอมเป็นของเขาอย่างเต็มใจและเปี่ยมสุข นายสายสมิงไม่ยอมรับวิศวาทั้งยังพยายามกีดกัน ปู่แสบที่ป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลขอร้องให้รุ้งไหมรีบแต่งงานภายในสามวัน วิศวารีบรับคำแล้วจัดงานอย่างใหญ่โต หลังจากแต่งงานนายสายสมิงให้วิศวาย้ายมาอยู่ที่บ้าน วิศวายอมทุกอย่างเพราะรักรุ้งไหมอย่างใจจริง นายสายสมิงแกล้งวิศวาทุกวิถีทางจน นางดวงดาว ผู้เป็นภรรยาต้องเตือนสามีอย่าได้รังแกเขยใหญ่จนเกินไป ให้คิดถึงลูกสาวที่ไปเป็นสะใภ้เล็กที่บ้านโน้น จิระนันท์วางแผนร้ายจ้าง นายไฟ ให้ลักพาตัวใยบัวไปโดยให้นางลำดวนหลอกพาใยบัวออกมาจากบ้าน นายไฟกลับหักหลังเอาตัวไปกักทั้งสามคนเพื่อเรียกค่าไถ่ วันเผด็จกับวิศวาพร้อมกับตำรวจตามไปช่วยใยบัวกับนางลำดวนออกมาอย่างปลอดภัย นายไฟซัดทอดว่าจิระนันท์เป็นคนจ้างวาน เรื่องร้ายทั้งหมดผ่านพ้นไปสองครอบครัวเริ่มสานสัมพันธ์ที่ผูกกันหลายชั้นจนแยกไม่ออก ใยบัวตั้งท้องวันเผด็จกลายเป็นลูกเขยคนโปรด รุ้งไหมย้ายไปอยู่กับวิศวาที่บ้านพักในเมืองซึ่งสะดวกต่อการทำงาน วันเผด็จยอมเอาใจพ่อตาโดยการแบ่งเวลาพาลูกมานอนด้วย พยายามอยู่ร่วมกันอย่างประนีประนอม และถนอมความรักที่ได้มาอย่างยากเย็น ความแค้นของคนรุ่นพ่อจึงยุติลงเพราะพ่ายต่อความรักของคนรุ่นลูก
คุณนายสายลับ (2549/2006) ณ โรงแรมดังในลำพูน วิชัย เจ้าของโรงแรม กำลังต้อนรับคณะทัวร์กลุ่มใหญ่จากกรุงเทพฯ โดยมี ลิซ่า ภรรยาสาว แต่งหน้าแต่งกายสีฉูดฉาดอยู่เคียงข้าง ทุกสายตาต่างจับจ้อง โดยเฉพาะ สินธพ รุจิกรณ์ ทายาทเจ้าของรีสอร์ต ธุรกิจแปรรูปองุ่นและไร่องุ่น วรพงษ์ ที่เพิ่งกลับจากเมืองนอกหลังจบปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ เขากับวินธัย ลูกชายวิชัย เป็นเพื่อนรักกัน สินธพจึงมาเที่ยวตามคำเชิญของเพื่อนและคิดจะทำงานที่นี่ เพราะอยากได้ประสบการณ์ก่อนกลับบ้าน ลิซ่าหาจังหวะแยกตัวไปที่ห้องทำงานวิชัย เพื่อเซฟข้อมูลลูกค้ายาเสพติดของเขาเป็นหลักฐาน สินธพซึ่งไม่เคยไว้ใจสาวสวยที่แต่งงานกับชายแก่คราวพ่ออยู่แล้วเลยตามมา และหาทางก่อกวน ลิซ่า หรือ ร้อยตำรวจโทหญิง เรขาคณิต รวิปรียา