ภูตพยาบาท (2549/2006) เรื่อง ราวของ เพชร เด็กสาวตาบอดที่ถูกเลี้ยงมาในโรงเรียนคนตาบอดที่ก่อตั้งโดยกลุ่มมิชชันนารี เนื่องจากมีผู้พบถูกทิ้งอยู่ชายป่าจังหวัดกาญจนบุรีและไม่สามารถติดต่อหา ญาติได้ เพชรมีความสามารถทางไวโอลิน แต่ในขณะเดียวกันเธอก็สามารถได้ยินเสียงร่ำร้องของวิญญาณที่เจ็บปวดทั้งจาก คนที่ตายไปแล้ว และคนที่อยู่ในอาการโคม่าที่วิญญาณล่องลอยออกจากร่างในช่วงเวลาอันสั้น เพื่อขอความช่วยเหลือจากคนที่สามารถมีคลื่นความถี่ของจิตที่ตรงกัน แต่ที่ร้ายที่สุด เธอถูกคุกคามอยู่ตลอดเวลาจากเจ็ดพรายตายโหงที่พยายามติดต่อ ขู่เข็ญ บังคับให้เธอทำในสิ่งที่พวกมันต้องการ แต่เด็กสาวไม่เข้าใจ จนทำให้วิญญาณเหล่านั้นโกรธและทำร้ายเธอจนเกิดบาดแผลตามลำตัว แต่ผู้คนรอบข้างของเธอไม่รู้ถึงความจริงข้อนี้และคิดว่าเธอเป็นบ้าชอบทำร้าย ตัวเองและก็มองเธอเหมือนตัวประหลาด ติดตามต่อได้ใน ภูตพยาบาท

เงินปากผี (2549/2006) นักธุรกิจหนุ่มสนใจด้าน ไสยศาสตร์ แต่ปล่อยของพลาด ถูกภรรยาของตัวเองตาย ต่อมาได้ประลองวิชากับอาจารย์ไสยศาสตร์ แต่พ่ายแพ้จึงสะกดวิญญาณตัวเอง โดยใช้เหรียญเงินด้านหนึ่งเป็นรูปดอกไม้ อีกด้านเป็นรูปนกไว้ในโลงศพ และเหรียญทองในลักษณะเดียวกันอีกหนึ่งเหรียญไว้ในปากตัวเอง เพื่อไว้เป็นเงินปากผี แต่เหรียญถูกขโมยไปวิญญาณวิญญาณของเขา จึงกลับมามีอิทธิฤทธิ์ ดุร้าย เพื่อตามเอาเหรียญคืน วันพุธ กับพินทุอร เป็นพี่น้องกัน พินทุอรเป็นคนที่สนใจเรื่องลี้ลับทั้งหลาย พินทุอรต้องการประชด เสริมผู้เป็นพ่อที่นำมาลิน แม่เลี้ยงเข้ามาอยู่ในบ้าน มาลิน มีลูกติดจากสามีเก่าคือเมฆ ซึ่งมีนิสัยเกเร อุไรแม่บ้านเก่าแก่จับได้ว่ามาลินใช้คุณไสย ทำให้เสริมหลง มาลินต้องการครอบครองสมบัติของเสริม และยังนำสมบัติเหล่านั้นไปใช้รัก คือชด นักธุรกิจชื่อดัง ซึ่งมีเบื้องหลังเป็นนักปั่นราคาพระเครื่อง เมฆหาทางล่วงเกินพินทุอร เมื่อพินทุอรฟ้องพ่อ กลับไม่ได้รับความสนใจ เมฆกับวันพุธมีเรื่องชกต่อยกันเสมอๆ วันพุธชนะเมฆทุกครั้ง ทำให้มาลินโกรธ กลั่นแกล้งวันพุธกับพินทุอร ทำทุกอย่างเพื่อกดดันเด็กทั้งสอง แม้ว่าอุไรจะคอยช่วยแต่ก็ไม่เป็นผล มาลินให้เสริมไล่อุไรออก เสริมไม่กล้าไล่ มาลินใช้คุณไสยเล่นงานอุไร แต่ก็ไม่เคยสำเร็จ ติดตามต่อได้ใน เงินปากผี

คนทะเล (2549/2006) รัตตวัลย์ สาวสวยลูกสาว นายรักษา นักธุรกิจใหญ่ของจังหวัดกระบี่ จบการศึกษาบริหารธุรกิจจากออสเตรเลีย กลับมาเพื่อมางานศพของบิดาที่ถึงแก่กรรมด้วยโรคหัวใจ รัตตวัลย์เป็นคู่หมั้นของ ปารเมศร์ นักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ รูปหล่อ เจ้าของผับและโรงแรมในกรุงเทพฯ รัตตวัลย์มีน้องชายคือ ตรีทิพ ทำงานเป็นนักอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าให้กับมูลนิธิแห่งหนึ่ง ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในป่าไม่สนจธุรกิจเหมืองแร่ สวนยาง และหุ้นส่วนกิจการรับซื้อขายรังนก ซึ่งเป็นกิจการของครอบครัว ตรีสุคนธ์ แม่ของวัลย์เดิมเป็นมือขวาช่วยธุรกิจขึ้นมาด้วยกันกับสามี แต่เมื่อสามีมาเสียชีวิตกะทันหันทำให้ตรีสุคนธ์ล้มเจ็บลงกะทันหัน ไม่มีจิตใจจะบริหารธุรกิจ ทำให้วัลย์ต้องมาดูแลกิจการด้วยตัวเอง วัลย์รู้จักกับปารเมศร์มาตั้งแต่เด็ก พ่อแม่ของทั้งสองคนก็เป็นเพื่อนกัน วัลย์จึงไว้วางใจปารเมศร์มาก ติดตามต่อได้ใน ทะเลใจ

บ้านนี้มีรัก 2549-2559

บ้านนี้มีรัก (2549/2006) รัก ลูกชายคนกลาง และก็เป็นเหมือนตัวกลางของบ้านที่แสนจะอบอุ่น และด้วยความที่เป็นลูกคนกลางนี่แหละ ที่ทำให้รักต้องรับกรรมทุกสถานการณ์ เพราะไม่ว่าคนในบ้านจะมีปัญหาอะไร ทุกคนต่างพุ่งมาปรึกษา และให้รักแก้ปัญหาเป็นคนแรกเสมอ และตัวสร้างปัญหาประจำบ้านคือ น้องชายวัยคะนอง ลิงค์ หนุ่มมหาวิทยาลัยปี 1 ที่กวนบาทาทุกสถานการณ์ ปากเสีย ขี้โม้ ไม่มีกาลเทศะ ผู้ที่พร้อมจะพาปัญหาเข้ามาในบ้านตลอดเวลา นอกจากรักจะต้องรับศึกคือ ลิงค์น้องชายตัวแสบแล้ว รักยังต้องเจอกับ ริน พี่สาวจอมโวยวายปากร้าย ที่มีสามีไม่เอาไหน และไม่ได้เรื่องอย่าง แฮงค์ กับ มิค หลานชายขี้สงสัย ที่ไม่เชื่อใจใครนอกจากรัก แต่ก็มักจะโดนสอนอะไรผิดๆ จากลิงค์เสมอๆ แต่รักเองก็ยังมี แม่ คนแก่ที่เชื่อมั่นในตัวเองสูง คิดไปเองว่ายังสวยไม่สร่าง ที่เป็นทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกัน เป็นที่พึ่งในยามที่ท้อแท้ สกล คนสวนจอมซุ่มซ่าม เฟอะฟะเป็นที่สุด เพ็ญ สาวใช้ช่างสอดรู้สอดเห็น ผู้ที่เห็นเรื่องของคนอื่นเป็นเหมือนเรื่องของตัวเอง และยังมีผู้มาแวะเวียนสร้างสีสันให้กับครอบครัวนี้ เบญ แฟนของรัก สาวน้อยจอมจับผิดคิดมาก แต่ปากหวาน เป็นแฟนกับรักตั้งแต่มัธยม เจี๊ยบ เพื่อนร่วมงานของรัก ที่ชอบเข้ามาวุ่นวายในบ้าน เพราะคิดว่าบ้านเพื่อนก็เหมือนบ้านตัวเอง

รวมพลคนแจ๋ว (2549/2006) คุณนายหวาน (ชุ-ชุดาภา) เจ้านายของ เจ๋ง (หลุยส์ สก็อต) กลับมาจากต่างประเทศด้วยความชอกช้ำเพราะเพิ่งเลิกกับสามี เจ๋ง ในฐานะคนใช้ที่ คุณนายหวาน รักเหมือนลูกหลานเลยทำหน้าที่ปลอบใจ พอ สุดสวย (แอน-กรุณา) เห็นก็เข้าใจว่าทั้งคู่มีอะไรกัน ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของ สุดสวย ทำให้เธอหลุดปากเกี่ยวกับเรื่องของ คุณนายหวาน และ เจ๋ง จนทั้งคู่กลายเป็นขี้ปากของคนทั้งหมู่บ้าน ที่สำคัญทำให้ คุณหนูเฟื่องฟ้า (บูม-สุภาพร) สาวสวยที่ เจ๋ง แอบชอบอยู่เข้าใจผิดไปด้วย เจ๋ง คิดว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะ แจ๋ว (เฟิร์น-พิมพ์ชนก) เป็นต้นเหตุ ทำให้ แจ๋ว อยู่นิ่งไม่ได้ต้องลุกขึ้นมาตามหาว่าใครเป็นต้นตอการกระจายข่าวนี้ โดยมี เฟื่องฟ้า อาสาเป็นผู้ร่วมปฏิบัติการครั้งนี้ด้วย...แจ๋ว และ เฟื่องฟ้า จะสามารถจับตัวคนทำผิดได้หรือไม่และทั้งคู่จะทำอย่างต่อไป

หนึ่งมิตรชิดใกล้

หนึ่งมิตรชิดใกล้ (2549/2006) เรื่องของคู่กัดคู่หนึ่งในออฟฟิศที่ผลิตรายการทางคลื่นวิทยุ รวมมิตรเรดิโอ ฝ่ายแรกคือ "แก้มบุ๋ม" (อรจิรา แหลมวิไล) สาวนักเรียนนอกจบใหม่ที่ได้รับมอบหมายให้มาบริหารบริษัทของครอบครัว ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งคือ "นาย" (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) ผู้จัดการทั่วไป ซึ่งเป็นหัวแรงหลักในการผลิตรายการวิทยุแห่งนี้ ทั้งแก้ม และ นาย ไม่ได้เพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรก ทั้งสองเคยเรียนอยู่ห้องเดียวกันสมัยมัธยม โดยนายจะเป็นเด็กนั่งหลังห้อง เป็นนักกีฬาและเดือนประจำโรงเรียน ส่วนแก้มเป็นเด็กสาวที่ตั้งใจเรียน หน้าตกกระ ใส่เหล็กดัดฟัน นั่งอยู่หน้าห้อง ด้วยความที่เป็นคนคนละแบบจึงทำให้เกิดการเขม่นกัน อีกทั้งแต่ละคนยังเคยทำให้ต่างฝ่ายต่างขายหน้ากัน จึงเป็นความไม่ถูกโฉลกที่ฝังใจกันมานาน ไม่เพียงแต่ทะเลาะกันในออฟฟิศเท่านั้น เรื่องราวยิ่งวุ่นไปอีก เมื่อแก้มย้ายเข้าไปอยู่คอนโดห้องตรงข้ามกับนาย ทั้งคู่จึงกลายเป็นคู่กัดทั้งในออฟฟิศและที่บ้าน เวลาที่ทั้งสองคนกัดกันจะเหมือนคนที่ทันกัน ภาษามวยเรียกว่ามวยถูกคู่ คือไม่มีใครยอมใคร จนบางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่า สองคนนี้จะมีความรู้สึกลึกซึ้งต่อกัน แต่นั่นคงเป็นได้แค่ความคิดเท่านั้น เพราะความจริงแล้วทั้งสองต่างก็มีแฟนกันอยู่แล้ว "วี" (ตรีพล พรมสุวรรณ) นักธุรกิจไฮโซเป็นแฟนที่แสนดีจะคอยดูแลแก้มบุ๋มตลอดวเลา ส่วน "อ้อแอ้" (เมย์ เฟื่องอารมณ์) คือแฟนสาวของนาย นิสัยขี้อ้อน รักและเชื่อฟังทุกอย่างที่นายบอก และนอกจากคนทั้ง 4 คนแล้ว ออฟฟิศแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยคนที่ต่างแบบต่างสไตล์มารวมตัวกันแบบไม่น่าเชื่อว่าจะมาอยู่ในที่แห่งนี้ได้ ซึ่งพอมารวมตัวกันแล้วกลับเกิดเป็นส่วนผสมที่น่าสนใจอย่างคาดไม่ถึง "ป้าอุษา" (พิสมัย วิไลศักดิ์) ผู้ก่อตั้งคลื่นวิทยุแห่งนี้ แม้ว่าจะวางมือให้หลานสาวมาบริหารแล้ว แต่แกก็ยังมาคอยป้วนเปี้ยนที่ออฟฟิศเสมอ โดยมี "ลุงอูฐ" (โย่ง เชิญยิ้ม) ดีเจเก่าแก่ที่ถึงจะหมดไฟในการทำงาน แต่ก็ยังคงสร้างสีสันให้กับคนในออฟฟิศ "จูดี้" ตุ้ยตุ่ย พุทธชาด) ดีเจรุ่นพี่ที่ชอบแทะเล็มเด็กหนุ่มๆ เสมอ โดยเฉพาะกับ "ธนา" (ป๊อบ คำเกษม) ดีเจรุ่นใหม่ที่ทั้งหล่อและเป็นที่หมายปองของสาวๆ รวมทั้ง "โก้" (มารุต ยุปานันท์) น้องชายของแก้มบุ๋มซึ่งเป็นดีเจเหมือนกัน แต่มีนิสัยกระล่อน เจ้าชู้ เอาตัวรอดเก่ง และสุดท้าย "ซัน" (สนธยา ชิตมณี) ฝ่ายประสานงานออฟฟิศ นิสัยดี ขี้เล่น จริงใจ ใสซื่อแบบชาวบ้าน

เพื่อนแซ่บ 4x4 (2549/2006) วันเปิดเทอมวันแรกของการใช้ชีวิตอิสระเป็นครั้งแรกทำให้ เบย์ ชายหนุ่มสุดหล่อ ฟอร์มจัด แต่นิสัยดี ออกอาการตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เมื่อเขาก้าวเข้ามาในรั้วมหาวิทยาลัยสยามรัฐด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม และหวังเอาไว้ว่าในชีวิตนี้คงจะทำให้เขาเรียนรู้ที่จะเลือกหนทางเดินต่อไปในอนาคตได้ เพียงก้าวแรกที่เบย์ได้ก้าวเข้ามาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เมื่อเสน่ห์ของเขาดันเข้าตาสาวๆ ในมหาวิทยาลัยเข้าอย่างจัง มันยิ่งทำให้เขาต้องสลัดความเป็นไอ้หนุ่มบ้านนอกเอาไว้เบื้องหลัง แล้วปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ให้ดูเป็นหนุ่มเมืองกรุง แต่การณ์กลับไม่เป็นดังนั้น...ขณะที่เบย์กำลังถูกสาวๆ รุมล้อม เสียงภูตผีตนใดก็มิทราบมาปลุกความเป็นไอ้หนุ่มบ้านนอกของเขาให้กลับคืนมา ไอ้เบื๊อก สิ้นเสียงเบย์ถึงกลับขนลุกซู่ไปทั้งตัว ใครกันนะบังอาจมาเรียกชื่อเล่นสมัยประถมของเขา ไอ้เบื๊อก ชื่อที่เขาเกลียดแสนเกลียดและเก็บมันไว้ในส่วนมืดสุดของสมอง แล้วเจ้าของเสียงนั้นก็เข้ามาตบหัวเขา อย่างจัง ทันทีที่เบย์หันไปก็ถึงกับอึ้ง.เพราะเจ้าของเสียงนั้นคือเพื่อนสมัยประถมของเขานั่นเอง ตั้งโอ๋ สาวน้อยหน้าตาน่ารัก นิสัยตรงไปตรงมาและปากดี ตั้งโอ๋ดีใจมากที่ได้เจอเบย์เพื่อร่วมถิ่นบ้านเกิด เปล่งภาษาถิ่นออกมาอย่างคล่องปาก แต่เบย์กลับไม่รู้สึกอย่างนั้น เขาทั้งโกรธทั้งอายและรำคาญตั้งโอ๋ ที่นอกจากจะบอกชื่อเล่นที่แสนจะตลกของเค้าแล้ว ยังบอกถึงฉายาไอ้บักดำบักโกรกที่สะท้อนให้เนว่าตอนเด็กๆ เบย์เป็นยังไงอีกต่างหาก และมันก็จะทำให้สาวๆ ที่กำลังรุมล้อมเขาถึงกับขำคิกออกมาอย่างหยุดไม่ได้ เบย์รีบแก้สถานการณ์ทำเป็นว่าไม่รู้จักกับตั้งโอ๋ และเพราะสายตาที่เย็นชาของเขาทำให้ตั้งโอ๋ถึงกับหน้าแตกและอึ้งไปเลย วันแรกของการเปิดภาคเรียนของเบย์เหมือนฝันร้ายที่เขาอยากจบเร็วๆ เพราะต้องมาเจอกับยายตั้งโอ๋จอมแสบ แต่ยิ่งเขาต้องการให้เวลาผ่านไปมากเท่าไหร่ เวลาก็กลับยิ่งเดินช้าลงเท่านั้น และเมื่อถึงเวลารับน้องรวมทุกคณะ เบย์ได้มาอยู่กลุ่มเดียวกับ โอม หนุ่มสุดหล่อเนี๊ยบแต่ฉลาดแกมโกง ชัช หนุ่มจากนาฎศิลป์ ผู้มีท่าทางกระตุ้งกระติ้งแต่แมนโครตๆ มุ้ง หนุ่มหน้าสิว หน้าหม้อ และปากหมา หนุ่มทั้งสี่ต้องมาจับกลุ่มรวมกับสาวอีกสี่คนนั่นก็คือ แพนด้า สาวซื่อสุดสวย รวยน้ำใจ รวยทรัพย์และจริงใจ พีร์ สาวหน้าหวานออกห้าวแต่นิสัยดี ชะเอม สาวสวย รวยหยิ่ง แต่หลงตัวเอง และเพราะความไม่ถูกกันของเบย์กับตั้งโอ๋ ก็ทำให้ทั้งคู่แข่งกันเองจนนำความหายนะมาสู่ กลุ่ม จนทำให้ทั้งกลุ่มของเขาและเธอถูกทำโทษ แต่มีเหรอสาวๆ พวกนี้จะยอม ทั้งสองฝ่ายจึงโทษกันไปโทษกันมาจนโดนรุ่นพี่ทำโทษ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ทั้งสองกลุ่มนี้เป็นไม้เบื่อไม้เมากันในที่สุด และคงยากที่จะหาทางมาบรรจบกันได้อีก แล้วคืนแรกของการอยู่หอก็มาถึง สมเกียรติ คือคนดูแลหอชายจอมขี้เล่น เอื้อมพร คือคนดูแลหอหญิงผู้รักษากฎเหล็กอย่างยิ่งชีพ สองคนนี้เป็นคู่กันกันมาตลอดยี่สิบปี แต่ความจริงแล้วทั้งคู่เคยเป็นอดีตคู่รักกัน แต่สาเหตุที่แตกคอกันนั้นไม่เคยมีใครล่วงรู้ เพราะเป็นความลับที่ทั้งคู่เก็บงำไม่บอกใคร อีกทั้งยังมี นุช แม่บ้านประจำหอที่ทำงานมากกว่ายี่สิบปีจอมจุ้นและขี้เม้าท์ งยิ้ม เจ้าของร้านสะดวกซื้อผู้เจนโลก มีร้านตั้งอยู่ระหว่างหอหญิงกับหอชาย เบย์ได้อยู่ห้องเดียวกับโอม ซึ่งเป็นห้องที่ทัศนะวิสัยดีเยี่ยม เพราะพอมองออกไปนอกหน้าต่างก็จะเห็นวิวคือห้องสาวๆ ของฝ่ายหญิง ที่เต็มไปด้วยสาวๆ สวยๆ จากคณะนิเทศฯ และคณะอักษรฯและนี่คือเรื่องที่ดีที่สุดสำหรับบ์ที่ได้เจอมาในวันนี้ จนทำให้เขาลืมเรื่องยัยตั้งโอ๋ไปซะสนิท มิตรภาพของเพื่อนสองกลุ่มนี้จะลงเอยอย่างไร เมื่อเรื่องราวทำท่าจะบานปลายไปใหญ่โต แล้วไหนจะปัญหาอีกร้อยแปดพันเก้าที่พวกเขาและเธอจะต้องเผชิญ หนุ่มสาวทั้งแปดคนนี้ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัว และค้นหาความหมายของการเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดี โปรดร่วมสนุกไปกับบรรดาเหล่าเด็กหอ ที่จะมาสอนให้วัยรุ่นได้รู้จักการใช้ชีวิต และจะมาย้อนอดีตให้กับวัยรุ่นได้สนุกสนานกันอีกครั้งในละคร เพื่อนแซบ 4x4

ในฝัน (2549/2006) เจ้าชายพิรียพงศ์ รัชทายาทแห่งแคว้นพรหมมินทร์ เสด็จไปทรงศึกษาวิชาสำหรับกษัตริย์กับ เจ้าชายโอริสสาวัฒนา หรืออีกพระนามหนึ่งว่า เจ้าชายเสนาบดี ณ แคว้นกุสารัฐ ที่นั่นเจ้าชายพิรียพงศ์ทรงทราบว่า เจ้าหลวงกุสารัฐ ซึ่งทรงพระชราภาพ มีพระธิดาองค์เดียวซึ่งทรงมีพระสิริโฉมงดงามมากคือ เจ้าหญิงรัชทายาท ผู้ซึ่งจะขึ้นครองบัลลังก์ต่อจากพระราชบิดา เจ้าหญิงเป็นที่หมายปองของเจ้าชายที่เป็นพระญาติพระวงศ์ โดยเฉพาะ เจ้าชายชัยฉัตร ซึ่งจบการทหาร และเจ้าชายบุษกร ผู้ซึ่งศึกษา ณ ประเทศฝรั่งเศส แต่เจ้าหญิงรัชทายาทไม่เคยมีพระเนตรประทานใครอื่นเลย นอกจากเจ้าโอริสสาวัฒนาแต่พระองค์เดียว แม้กระนั้นเจ้าชายโอริสสาวัฒนาก็ไม่เคยแสดงความสนพระทัยในองค์เจ้าหญิง รัชทายาทแม้แต่น้อย เพราะพระองค์สนพระทัยอยู่แต่ภาระและหน้าที่ใน ฐานะเสนาบดีแห่งสมาพันธรัฐ ผู้อยู่เบื้องหลังการปกครองแคว้นกุสารัฐ ซึ่งกำลังระส่ำระสายด้วยการแก่งแย่งอำนาจ โดยฝ่ายของเจ้าชายชัยฉัตรและเจ้าชายบุษกร รวมทั้งขุนนางผู้ใหญ่ที่คิดกบฏ รวมถึงเทวีศุลีพร ที่ราชสำนักกุสารัฐนี่เอง เจ้าชายพิรียพงศ์ทรงเป็นทั้งลูกศิษย์และราชเลขานุการส่วนพระองค์ในเจ้าชายโอ ริสสาวัฒนา ทำให้เจ้าชายพิรียพงศ์ได้ทรงเรียนรู้ถึงพระปรีชาสามารถอันล้ำลึกในการปกครอง ทั้งทางด้านการเมือง การทหาร และการทูตในองค์เจ้าชายโอริสสาวัฒนา ทั้งยังทรงเห็นว่าทรงอุทิศพระวรกายและพระหฤทัยให้แก่หน้าที่เจ้าชายเสนาบดี อย่างเต็มพระกำลัง ทรงเปี่ยมได้ด้วยคุณธรรมและสถิตอยู่ในความยุติธรรม ทำให้ทรงเป็นที่รักและเคารพยำเกรงอย่างยิ่ง ต่อทุกคนที่ประพฤติอยู่ในทำนองครองธรรม และเป็นที่เกลียดชังแก่ทุกคนที่ไม่หวังดีต่อราชบัลลังก์ โดยเฉพาะเจ้าชายบุษกรผู้ทรงวางแผนล้มราชบัลลังก์ร่วมกับ นายพลตรีสุรีเทพ และเทวีศุลีพร สาวผู้มักใหญ่ใฝ่สูง ทำให้เจ้าชายโอริสสาวัฒนาต้องวางแผนรักษาราชบัลลังก์อย่างแยบยล ในช่วงเวลานี้นี่เองที่เจ้าชายพิรียพงศ์ได้ทรงทราบว่า เจ้าชายโอริสสาวัฒนาทรงเป็นสหายวัยเยาว์กับ เจ้าหญิงพรรณพิ ลาศ พระพี่นางของพระองค์ ทั้งคู่ได้ทรงเขียนจดหมายโต้ตอบสื่อสารกันเป็นนิตย์ไม่ขาดระยะ และมักทรงปรึกษาหารือส่วนพระองค์และราชการอยู่เสมอ จนมิตรภาพระหว่างทั้งสองพระองค์กลายเป็นความรักซึ่งฝังรากลึกในพระราชหฤทัย ของสองพระองค์ เจ้าหญิงรัชทายาทก็ได้เสด็จมาปรึกษากับเจ้าชายพิรียพงศ์หลายครั้ง ในความที่ทรงน้อยพระทัยในเจ้าชายโอริสสาวัฒนา เลยทำให้เจ้าชายพิรียพงศ์ทรงสงสารและเห็นพระทัยเจ้าหญิงรัชทายาท จนเกิดเป็นความรักโดยไม่รู้พระองค์ เมื่อมีการประชุมสภาเพื่อเลือกราชทูตไปทำสันถวไมตรีกับประเทศยุโรป เจ้า ชายโอริสสาวัฒนาทรงแสดงท่าทีอย่างชัดเจนในการสนับสนุนเจ้าชายชัยฉัตร เพราะทรงมีคุณลักษณะเหมาะสมกว่าเจ้าชายองค์ใด จนในที่ประชุมเห็นชอบอย่างเอกฉันท์ ทำให้เจ้าชายบุษกรผู้หวังในตำแหน่งนั้นไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ส่วนเจ้าชายชัยฉัตรจึงหันมาสวามิภักดิ์ต่อเจ้าชายโอริสสาวัฒนาอย่างไม่แคลง พระทัยอีกต่อไป สร้างความแค้นใจต่อเจ้าชายบุษกรมากยิ่งขึ้น ในระหว่างนั้นเองที่แคว้นพรหมมินทร์ เจ้าชายโสภณา แห่งแคว้นสาละวัณได้เสด็จประพาสแคว้นพรหมมินทร์ เจ้าหญิงพรรณพิลาศได้ทรงอักษรมาถวายเจ้าชายโอริสสาวัฒนาว่า เจ้าชายโสภณาทรงเป็นเจ้าชายรูปงาม แถมยังโปรดปรานศิลปะเช่นเดียวกับเจ้าหญิง และเจ้าชายยังสนพระทัยเจ้าหญิงอย่างสังเกตได้ชัด เหตุการณ์นี้จึงทำให้เจ้าชายโอริสสาวัฒนาทรงหนักพระทัย ด้วยเกรงว่าความรักจะหลุดลอย ต่อมาเจ้าหลวงกุสารัฐก็ทรงประชวร มีรับสั่งให้เจ้าชายโอริสสาวัฒนาอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงรัชทายาท แต่เจ้าชายโอริสสาวัฒนาทรงปฏิเสธและแสดงความเห็นว่า เจ้าชายพิรียพงศ์มีคุณสมบัตินานัปการคู่ควรกับเจ้าหญิงรัชทายาท ซึ่งเจ้าหลวงกุสารัฐก็ต้องยินยอมตามความประสงค์นั้น สร้างความเสียพระทัยต่อเจ้าหญิงรัชทายาทเป็นอย่างยิ่ง เจ้าชายโอริสสาวัฒนาก็ทรงทูลลาเสด็จไปยังแคว้นพรหมมินทร์เป็นการด่วน เพื่อกีดกันเจ้าหญิงพรรณพิลาสกับเจ้าชายโสภณา เจ้าชายพิรียพงศ์จึงมีโอกาสใกล้ชิดเจ้าหญิงรัชทายาทและเริ่มรู้ใจกัน ที่แคว้นพรหมมินทร์ ท่ามกลางงานเลี้ยงอำลาเจ้าชายโสภณา ข้าหลวงมาทูลเจ้าหญิงพรรณพิลาศว่ามีผู้มาขอเฝ้า ในคืนนั้นเองพระสหายที่รักกันยิ่งก็ได้พบกัน หลังจากทรงจากกันมานานถึงสิบกว่าปี ทั้งสองพระองค์รำลึกถึงวันวานจนสัมพันธภาพลึกซึ้งและหวานชื่นเกินกว่าคำ บรรยาย รุ่ง ขึ้นก่อนเจ้าชายโสภณาจะเสด็จกลับทรงขอเจ้าหญิงพรรณพิลาศทรงเป็นราชินีแห่ง แคว้นสาละวัน แต่เจ้าหญิงทรงปฏิเสธได้อย่างชาญฉลาด เจ้าชายโสภณาเสด็จจากไปด้วยความเสียพระทัย ที่แคว้นพรหมมินทร์เจ้าชายโอริสสาวัฒนาได้เข้าเฝ้าเจ้าหลวงพรหมมินทร์ ทูลข่าวเรื่องงานวิวาห์ของเจ้าชายพิรียพงศ์ และทูลขออภิเษกกับเจ้าหญิงพรรณพิลาศ ซึ่งเจ้าหลวงทรงตอบรับด้วยดี เมื่อเจ้าชายโอริสสาวัฒนาเสด็จกลับกุสารัฐ มรุต ราชองครักษ์ก็ทูลว่ามีการก่อกบฏซ่องสุมกันอยู่ในชนบท เจ้าชายโอริสสาวัฒนาจึงขอเข้าเฝ้าเจ้าหลวงกุสารัฐขอพระราชทานอำนาจให้เจ้า หญิงรัชทายาททรงประกาศกฎอัยการศึกปราบปรามกบฏ ซึ่งคาดว่าเป็นเจ้าชายบุษกรและพรรคพวก แล้วเจ้าชายโอริสสาวัฒนา, เจ้าชายพิรียพงศ์ และมรุตก็ออกเดินทางไปยังหมู่บ้านที่มีสายรายงานว่าเป็นแหล่งซ่องสุม มี การต่อสู้เกิดขึ้นจนมรุตได้รับบาดเจ็บ แต่เจ้าชายบุษกรและพรรคพวกหนีไปได้ และตั้งพระทัยที่จะอาฆาตเจ้าชายโอริสสาวัฒนาถึงชีวิต เจ้าชายชัยฉัตรซึ่งเสด็จยุโรปทรงทราบเรื่องกบฏ ก็รีบกลับกุสารัฐและพร้อมที่จะเป็นกำลังปราบปรามกบฏในครั้งนี้ ในฐานะที่ทรงเป็นชายชาติทหาร แล้ววันอภิเษกของเจ้าหญิงรัชทายาทและเจ้าชายพิรียพงศ์ก็มาถึง เจ้าหลวงแห่งพรหมมินทร์และพระมเหสีเสด็จมาร่วมงาน เพื่อทรงปรึกษาเรื่องวันอภิเษกของเจ้าชายโอริสสาวัฒนาและเจ้าหญิงพรรณพิลา ศต่อสภาสมาพันธรัฐ ซึ่งทุกฝ่ายก็เห็นชอบให้จัดงานขึ้นต่อจากงานอภิเษกของเจ้าหญิงรัชทายาทกับ เจ้าชายพิรียพงศ์ งานอภิเษกของเจ้าหญิงรัชทายาทและเจ้าชายพิรียพงศ์ในครั้งนี้จัดให้มีการ เฉลิมฉลองอย่างมโหฬารรวมทั้งงานซ้อมรบ เจ้าหญิงรัชทายาททรงทำใจเรียนรู้ที่จะรักเจ้าชายพิรียพงศ์ และเจ้า ชายก็ทรงรักเจ้าหญิงแบบพระชายาแทนที่พระองค์จะทรงรักแบบพระสหายเช่นเดิม ในงานซ้อมรบที่จัดขึ้นในวันอภิเษกนั่นเองขณะที่เจ้าชายโอริสสาวัฒนาทรงม้าไป เก็บดอกหยาดฝน อันเป็นดอกไม้ประจำพระองค์เจ้าหญิงพรรณพิลาศ เจ้าชายบุษกรก็ใช้พระแสงปืนสังหารเจ้าชายโอริสสาวัฒนาสิ้นพระชนม์ลงต่อหน้า เจ้าชายพิรียพงศ์และมรุต เจ้าชายชัยฉัตรตามหาตัวคนร้ายอย่างบ้าคลั่ง จนในที่สุดก็สังหารเจ้าชายบุษกรอย่างเหี้ยมโหดสมกับบาปกรรมที่ทรงก่อไว้ เจ้าหลวง พรหมมินทร์เสด็จกลับแคว้นและนำข่าวร้ายมาบอกแก่พระธิดา เจ้าหญิงพรรณพิลาศทรงโศกเศร้าอาดูรสุดจะพรรณนา แต่แล้วก็ทรงพบว่า “สิ่งต่างๆ ที่เราเห็นอยู่นั้นไม่คงทนแน่นอน สิ่งที่เราประสบอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน พอลืมตาขึ้นก็หายไปหมด เหมือนเป็นในฝันนั่นเอง”

ทะเลริษยา (2549/2006) พ.ศ. 2524 ภาวินี ม่ายสาวลูกติดได้รับคำสั่งให้ไปเป็นพี่เลี้ยงของ ยัยหนู ทารกน้อยลูกสาวมหาเศรษฐี เอกรินทร์ และ ดุจดาว ที่ จ.พังงา ในงานฉลองครบรอบวันแต่งงานบนเรือยอชท์สุดหรู เอกรินทร์ได้มอบแหวนไข่มุกสีชมพูล้อมเพชรให้เป็นของขวัญแก่ดุจดาว แต่จู่ ๆ เกิดพายุพัดอย่างรุนแรงจนเรือเกือบคว่ำ เอกรินทร์โดนเสาเรือฟาดจนสลบ ส่วนดุจดาวที่อุ้มลูกน้อยไว้ก็ถูกคลื่นซัดจนกระเด็นเกือบตกจากเรือ ระหว่างนี้เธอตะโกนร้องให้ภาวินีช่วย แต่ด้วยความทะเยอทะยานและความอิจฉา ภาวินีตัดสินใจปล่อยมือดุจดาว ร่างของดุจดาวและลูกก็จมหายลงไปในทะเล เมื่อเอกรินทร์ฟื้นขึ้นมารู้เรื่องทั้งหมดก็ตกใจ โดยภาวินีอ้างว่าเธอพยายามช่วยดุจดาวและยัยหนูอย่างสุดความสามารถแล้ว เอกรินทร์จึงสั่งให้คนออกติดตามหาดุจดาวและยัยหนูเต็มที่ แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะพบ เมื่อเวลาผ่านไปทุกคนจึงเชื่อว่าทะเลพังงาคร่าชีวิตสองแม่ลูกไปแล้ว นับจากวันนั้น เอกรินทร์ก็กลายเป็นคนเศร้าสร้อย อมทุกข์ ภาวินีอาศัยโอกาสนี้เข้ามาดูแล จนได้เป็นภรรยาคนใหม่ของเอกรินทร์สมดังความตั้งใจ แต่ความจริงที่ไม่มีใครรู้ คือ ดุจดาวและลูกยังไม่ตาย ร่างของเธอและลูกถูกกระแสคลื่นซัดไปติดเกาะแห่งหนึ่งโดยมี น้ำเงิน ชาวประมงมาพบและช่วยชีวิตสองแม่ลูกเอาไว้ แต่ดุจดาวกลับจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใครหนำซ้ำยังไม่มีหลักฐานใด ๆ ติดตัวมา น้ำเงินเป็นพ่อม่ายมีลูกชายวัยสามเดือนชื่อ สายลม จึงทึกทักบอกกับดุจดาวว่าเป็นเมียและยัยหนูก็เป็นลูกอีกคนของตน โดยน้ำเงินตั้งชื่อให้เธอว่า ไข่มุก และยัยหนูชื่อ ฟ้าใส 25 ปีต่อมา ภาวินีเสวยสุขในฐานะภรรยาคนใหม่ของเอกรินทร์ แต่เพราะความรักที่มั่นคงต่อดุจดาวและลูก เอกรินทร์จึงไม่เคยยกย่องและไม่ยอมจดทะเบียนสมรสกับภาวินี พอภาวินีรู้ว่าเอกรินทร์ป่วยเป็นมะเร็ง เธอจึงเริ่มเป็นกังวลกับอนาคต ส่วนเอกรินทร์เมื่อรู้ว่ากำลังจะตายจึงตัดสินใจเดินทางไปรีสอร์ต ที่พังงาอีกครั้ง เพื่อใช้เวลาในช่วงสุดท้ายใกล้ชิดวิญญาณดุจดาวและยัยหนูมากที่สุด เมื่อภาวินีรู้จึงสั่ง ภัทร ลูกติดของเธอตามไปด้วย โดยหวังว่าเอกรินทร์จะยกสมบัติให้ ส่วนภัทรแม้จะเกลียดเอกรินทร์เข้าไส้ แต่ก็จำใจต้องไปเพราะถูกแม่บังคับ ฝ่าย ตรีคณา น้องสาวของเอกรินทร์ พอรู้ว่าเอกรินทร์ไปพังงา เธอก็ตามไปเพื่อขัดขวางไม่ให้เอกรินทร์ยกสมบัติให้ภาวินี และที่สำคัญเธอเองก็กำลังมีปัญหาด้านการเงินอย่างหนัก จึงหวังจะมาขอสมบัติจากเอกรินทร์ด้วยการพา ตรีนุช ลูกสาวมาประจบเอาใจเอกรินทร์ เหมือนชะตาฟ้าลิขิตให้ฟ้าใสที่เพิ่งเรียนจบมาสมัครงานที่รีสอร์ตของ เอกรินทร์ในวันแรกที่มาทำ งานฟ้าใสก็ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าแม่บ้านให้ดูแลห้องพักของครอบครัวเอ กรินทร์ ฟ้าใสเข้าไปทำความสะอาดและได้พบกับภัทรโดยบังเอิญ แต่เธอเข้าใจว่าเขาเป็นพนักงานของรีสอร์ต ฟ้าใสจึงตำหนิภัทรอย่างรุนแรงที่เข้ามาวุ่นวายในห้องพักของแขก ทั้งคู่ยื้อยุดกันจนภัทรตกลงไปในสระว่ายน้ำเปียกปอนไปทั้งตัว เหตุการณ์นี้ทำให้ภัทรโกรธฟ้าใสมาก รวมถึงภาวินีด้วยที่รู้สึกไม่ชอบหน้าฟ้าใสตั้งแต่วันนั้น วันต่อมาขณะที่เอกรินทร์กำลังเดินเล่นที่ชายหาด จู่ ๆ อาการป่วยก็กำเริบจนทำให้เอกรินทร์ล้มหมดสติอยู่ที่ริมหาด โชคดีฟ้าใสมาเจอและช่วยเหลือไว้ได้ทัน เมื่อเอกรินทร์ฟื้นจึงตอบแทนฟ้าใสด้วยเงิน แต่ฟ้าใสไม่รับทำให้เอกรินทร์รู้สึกประทับใจฟ้าใสมาก ด้านตรีนุชที่ออกไปเดินเล่นชายหาดก็บังเอิญเจอกับสายลม และเข้าใจผิดคิดว่าสายลมจะลวนลาม ตรีนุชเลยวิ่งหนีจนหกล้มขาแพลง สายลมเข้าช่วยเหลือและแบกตรีนุชขึ้นหลังไปส่งที่รีสอร์ต ทำให้ตรีนุชรู้สึกดีกับสายลม ในวันที่ตรีคณาพาเอกรินทร์ไปล่องเรือ เอกรินทร์เกิดอาการกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง และได้รับความช่วยเหลือจากสายลมที่มารับจ้างขับเรือ อาการเอกรินทร์ ทรุดหนักจนต้องไปนอนโรงพยาบาล และต้องการให้ฟ้าใสมาเป็นคนดูแล ส่วนภัทรก็เข้าใจฟ้าใสผิดตามภาวินีว่าเธอต้องการมาปอกลอกเอกรินทร์ แถม ไววิทย์ หนุ่มเพลย์บอยเพื่อนสนิทของภัทรดันมาตกหลุมรักฟ้าใสอีก ภัทรเลยไม่ชอบขี้หน้าฟ้าใสมากขึ้น และมักจะพูดจากระแหนะกระแหนฟ้าใสทุกครั้งที่มีโอกาส เมื่อเอกรินทร์หายป่วยออกจากโรงพยาบาล ก็ให้ลูกน้องไปตามสายลมที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้เพื่อจะตอบแทน เอกรินทร์จึงรู้ว่าสายลมเป็นน้องชายของฟ้าใส เอกรินทร์บอกกับสองพี่น้องว่าจะจัดงานเลี้ยงขอบคุณและให้เชิญพ่อและแม่มา ร่วมงานด้วย ทั้งครอบครัวดีใจมาก ยกเว้นน้ำเงิน เพราะกลัวว่าจะสูญเสียครอบครัวไป วันนั้นน้ำเงินตัดสินใจกระโดดให้รถชนเพื่อให้ตัวเองบาดเจ็บไข่มุกจะได้อดไป งานเลี้ยง ด้านภาวินีเมื่อหมดหนทางจะเกลี้ยกล่อมเอกรินทร์ให้ยกสมบัติให้ เลยงัดไม้ตายด้วยการปลอมลายเซ็นเอกรินทร์และทำพินัยกรรมปลอมขึ้น เมื่อตรีคณารู้ก็พยายามหาทางขัดขวางด้วยการออกตามหาครอบครัวฟ้าใสจนรู้ว่า ไข่มุกคือดุจดาว เธอตั้งใจจะพาไข่มุกไปหาเอกรินทร์ แต่ระหว่างทางเจอภาวินีเข้า ภาวินีพลั้งมือฆ่าตรีคณาตาย และขณะที่กำลังจะฆ่าไข่มุก ภัทร, ฟ้าใส และสายลมก็เข้ามาขัดขวางเสียก่อน ภาวินีจึงต้องรีบหนีไป แต่เธอได้วางแผนร้ายขั้นต่อไปไว้แล้ว ส่วนใครจะเป็นเหยื่อ และสุดท้ายความริษยาของภาวินีจะทำให้เธอสมหวังเหมือนทุกครั้งหรือไม่ ? ติดตามชมได้ในละคร.พ.ศ. 2524 ภาวินี ม่ายสาวลูกติดได้รับคำสั่งให้ไปเป็นพี่เลี้ยงของ ยัยหนู ทารกน้อยลูกสาวมหาเศรษฐี เอกรินทร์ และ ดุจดาว ที่ จ.พังงา ในงานฉลองครบรอบวันแต่งงานบนเรือยอชท์สุดหรู เอกรินทร์ได้มอบแหวนไข่มุกสีชมพูล้อมเพชรให้เป็นของขวัญแก่ดุจดาว แต่จู่ ๆ เกิดพายุพัดอย่างรุนแรงจนเรือเกือบคว่ำ เอกรินทร์โดนเสาเรือฟาดจนสลบ ส่วนดุจดาวที่อุ้มลูกน้อยไว้ก็ถูกคลื่นซัดจนกระเด็นเกือบตกจากเรือ ระหว่างนี้เธอตะโกนร้องให้ภาวินีช่วย แต่ด้วยความทะเยอทะยานและความอิจฉา ภาวินีตัดสินใจปล่อยมือดุจดาว ร่างของดุจดาวและลูกก็จมหายลงไปในทะเล เมื่อเอกรินทร์ฟื้นขึ้นมารู้เรื่องทั้งหมดก็ตกใจ โดยภาวินีอ้างว่าเธอพยายามช่วยดุจดาวและยัยหนูอย่างสุดความสามารถแล้ว เอกรินทร์จึงสั่งให้คนออกติดตามหาดุจดาวและยัยหนูเต็มที่ แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะพบ เมื่อเวลาผ่านไปทุกคนจึงเชื่อว่าทะเลพังงาคร่าชีวิตสองแม่ลูกไปแล้ว นับจากวันนั้น เอกรินทร์ก็กลายเป็นคนเศร้าสร้อย อมทุกข์ ภาวินีอาศัยโอกาสนี้เข้ามาดูแล จนได้เป็นภรรยาคนใหม่ของเอกรินทร์สมดังความตั้งใจ แต่ความจริงที่ไม่มีใครรู้ คือ ดุจดาวและลูกยังไม่ตาย ร่างของเธอและลูกถูกกระแสคลื่นซัดไปติดเกาะแห่งหนึ่งโดยมี น้ำเงิน ชาวประมงมาพบและช่วยชีวิตสองแม่ลูกเอาไว้ แต่ดุจดาวกลับจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใครหนำซ้ำยังไม่มีหลักฐานใด ๆ ติดตัวมา น้ำเงินเป็นพ่อม่ายมีลูกชายวัยสามเดือนชื่อ สายลม จึงทึกทักบอกกับดุจดาวว่าเป็นเมียและยัยหนูก็เป็นลูกอีกคนของตน โดยน้ำเงินตั้งชื่อให้เธอว่า ไข่มุก และยัยหนูชื่อ ฟ้าใส 25 ปีต่อมา ภาวินีเสวยสุขในฐานะภรรยาคนใหม่ของเอกรินทร์ แต่เพราะความรักที่มั่นคงต่อดุจดาวและลูก เอกรินทร์จึงไม่เคยยกย่องและไม่ยอมจดทะเบียนสมรสกับภาวินี พอภาวินีรู้ว่าเอกรินทร์ป่วยเป็นมะเร็ง เธอจึงเริ่มเป็นกังวลกับอนาคต ส่วนเอกรินทร์เมื่อรู้ว่ากำลังจะตายจึงตัดสินใจเดินทางไปรีสอร์ต ที่พังงาอีกครั้ง เพื่อใช้เวลาในช่วงสุดท้ายใกล้ชิดวิญญาณดุจดาวและยัยหนูมากที่สุด เมื่อภาวินีรู้จึงสั่ง ภัทร ลูกติดของเธอตามไปด้วย โดยหวังว่าเอกรินทร์จะยกสมบัติให้ ส่วนภัทรแม้จะเกลียดเอกรินทร์เข้าไส้ แต่ก็จำใจต้องไปเพราะถูกแม่บังคับ ฝ่าย ตรีคณา น้องสาวของเอกรินทร์ พอรู้ว่าเอกรินทร์ไปพังงา เธอก็ตามไปเพื่อขัดขวางไม่ให้เอกรินทร์ยกสมบัติให้ภาวินี และที่สำคัญเธอเองก็กำลังมีปัญหาด้านการเงินอย่างหนัก จึงหวังจะมาขอสมบัติจากเอกรินทร์ด้วยการพา ตรีนุช ลูกสาวมาประจบเอาใจเอกรินทร์ เหมือนชะตาฟ้าลิขิตให้ฟ้าใสที่เพิ่งเรียนจบมาสมัครงานที่รีสอร์ตของ เอกรินทร์ในวันแรกที่มาทำ งานฟ้าใสก็ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าแม่บ้านให้ดูแลห้องพักของครอบครัวเอ กรินทร์ ฟ้าใสเข้าไปทำความสะอาดและได้พบกับภัทรโดยบังเอิญ แต่เธอเข้าใจว่าเขาเป็นพนักงานของรีสอร์ต ฟ้าใสจึงตำหนิภัทรอย่างรุนแรงที่เข้ามาวุ่นวายในห้องพักของแขก ทั้งคู่ยื้อยุดกันจนภัทรตกลงไปในสระว่ายน้ำเปียกปอนไปทั้งตัว เหตุการณ์นี้ทำให้ภัทรโกรธฟ้าใสมาก รวมถึงภาวินีด้วยที่รู้สึกไม่ชอบหน้าฟ้าใสตั้งแต่วันนั้น วันต่อมาขณะที่เอกรินทร์กำลังเดินเล่นที่ชายหาด จู่ ๆ อาการป่วยก็กำเริบจนทำให้เอกรินทร์ล้มหมดสติอยู่ที่ริมหาด โชคดีฟ้าใสมาเจอและช่วยเหลือไว้ได้ทัน เมื่อเอกรินทร์ฟื้นจึงตอบแทนฟ้าใสด้วยเงิน แต่ฟ้าใสไม่รับทำให้เอกรินทร์รู้สึกประทับใจฟ้าใสมาก ด้านตรีนุชที่ออกไปเดินเล่นชายหาดก็บังเอิญเจอกับสายลม และเข้าใจผิดคิดว่าสายลมจะลวนลาม ตรีนุชเลยวิ่งหนีจนหกล้มขาแพลง สายลมเข้าช่วยเหลือและแบกตรีนุชขึ้นหลังไปส่งที่รีสอร์ต ทำให้ตรีนุชรู้สึกดีกับสายลม ในวันที่ตรีคณาพาเอกรินทร์ไปล่องเรือ เอกรินทร์เกิดอาการกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง และได้รับความช่วยเหลือจากสายลมที่มารับจ้างขับเรือ อาการเอกรินทร์ ทรุดหนักจนต้องไปนอนโรงพยาบาล และต้องการให้ฟ้าใสมาเป็นคนดูแล ส่วนภัทรก็เข้าใจฟ้าใสผิดตามภาวินีว่าเธอต้องการมาปอกลอกเอกรินทร์ แถม ไววิทย์ หนุ่มเพลย์บอยเพื่อนสนิทของภัทรดันมาตกหลุมรักฟ้าใสอีก ภัทรเลยไม่ชอบขี้หน้าฟ้าใสมากขึ้น และมักจะพูดจากระแหนะกระแหนฟ้าใสทุกครั้งที่มีโอกาส เมื่อเอกรินทร์หายป่วยออกจากโรงพยาบาล ก็ให้ลูกน้องไปตามสายลมที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้เพื่อจะตอบแทน เอกรินทร์จึงรู้ว่าสายลมเป็นน้องชายของฟ้าใส เอกรินทร์บอกกับสองพี่น้องว่าจะจัดงานเลี้ยงขอบคุณและให้เชิญพ่อและแม่มา ร่วมงานด้วย ทั้งครอบครัวดีใจมาก ยกเว้นน้ำเงิน เพราะกลัวว่าจะสูญเสียครอบครัวไป วันนั้นน้ำเงินตัดสินใจกระโดดให้รถชนเพื่อให้ตัวเองบาดเจ็บไข่มุกจะได้อดไป งานเลี้ยง ด้านภาวินีเมื่อหมดหนทางจะเกลี้ยกล่อมเอกรินทร์ให้ยกสมบัติให้ เลยงัดไม้ตายด้วยการปลอมลายเซ็นเอกรินทร์และทำพินัยกรรมปลอมขึ้น เมื่อตรีคณารู้ก็พยายามหาทางขัดขวางด้วยการออกตามหาครอบครัวฟ้าใสจนรู้ว่า ไข่มุกคือดุจดาว เธอตั้งใจจะพาไข่มุกไปหาเอกรินทร์ แต่ระหว่างทางเจอภาวินีเข้า ภาวินีพลั้งมือฆ่าตรีคณาตาย และขณะที่กำลังจะฆ่าไข่มุก ภัทร, ฟ้าใส และสายลมก็เข้ามาขัดขวางเสียก่อน ภาวินีจึงต้องรีบหนีไป แต่เธอได้วางแผนร้ายขั้นต่อไปไว้แล้ว ส่วนใครจะเป็นเหยื่อ และสุดท้ายความริษยาของภาวินีจะทำให้เธอสมหวังเหมือนทุกครั้งหรือไม่ ? ติดตามชมได้ในละคร ทะเลริษยา

รอยอดีตแห่งรัก (2549/2006) ต้นน้ำ(สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว) เจ้าของแม็กกาซีนชื่อดัง กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับ นุสรา(ญดา โชติชูตระกูล) แฟนสาวไฮโซชื่อดัง ในอีก1อาทิตย์ข้างหน้า ในคืนที่ทั้งคู่ไปงานวันเกิดของต้นน้ำ ขากลับต้นน้ำเมามาก นุสรา จึงอาสาขับรถให้ แต่เธอไม่ทันระวังจึงขับรถชน มีน (พีรชยา พิณเมืองงาม) หญิงสาวที่อยู่ร้านขายอาหารตามสั่งใกล้ๆบริษัทของต้นน้ำ นุสราลงมาต่อว่ามีนที่บาดเจ็บ แต่ระหว่างนั้นอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น นุสราโดนรถที่วิ่งมาจากอีกด้านหนึ่งชนจนนุสราเสียชีวิต ต้นน้ำเสียใจกับการจากไปของนุสรามาก จึงฝังใจเกลียด มีน มาตลอด แม้มีนจะพยายามขอโทษต้นน้ำด้วยวิธีการใด ต้นน้ำก็ไม่ยอมให้อภัยเธอ แถมยังต้องการให้คนที่ตายไปในคืนนั้นคือมีน พี่หวาน(อริศรา วงษ์ชาลี) กับ เม่น(อรรถพร ธีมากร) ญาติสนิทของมีนได้แต่เป็นห่วง เพราะมีนเสียใจ และ ผิดหวังที่ต้นน้ำ คนที่เธอแอบชื่นชมเป็นคนแบบนี้ มีนจึงหนีกลับไปอยู่กับแม่(ทัศวรรณ เสนีย์วงษ์) ที่หัวหิน ต้นน้ำพยายามลืมความเศร้าด้วยการเที่ยวเตร่ โดยมี อัญชลี(ปานวาด เหมมณี) เลขาที่จ้องจะจับต้นน้ำคอยดูแลอย่างใกล้ชิด หมอนเรศ(พนมกร ตังทัตสวัสดิ์) เพื่อนรุ่นพี่ของต้นน้ำ จึงเข้ามาช่วยดูแล ย่าใหญ่(พิสมัย วิไลศักดิ์) เลยแนะนำให้ต้นน้ำไปพักผ่อนพร้อมกับทีมงานที่จะไปถ่ายทำวีซีดีที่หัวหิน แต่การมาพักผ่อนของต้นน้ำครั้งนี้ ทำให้เขาได้พบกับมีนอีกครั้ง ต้นน้ำพยายามหาเรื่องมีน แต่หมอนเรศคอยช่วยเหลือมีน ทำให้ต้นน้ำแกล้งมีนได้ไม่เต็มที่ ระหว่างถ่ายแฟชั่น ต้นน้ำและมีนได้มีโอกาสใกล้ชิด และทำความรู้จักกันมากขึ้น ทำให้ต้นน้ำรู้ว่าแท้จริงแล้วมีนเป็นคนมีน้ำใจและเป็นนักสู้ หลายครั้งที่เรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นในกองถ่าย และ อัญชลีก็พยายามเข้ามาช่วยเหลือมีน ทำให้มีนหลงชื่นชมอัญชลี โดยไม่ระแคะระคายในความร้ายกาจของเธอเลย วันสุดท้ายของการถ่ายแบบ นางแบบคนหนึ่งมาไม่ทัน ทีมงานตัดสินใจจับมีนมาแต่งตัว ปรากฎว่ามีนสวยขึ้นทันตาเห็น ต้นน้ำเองก็แอบรู้สึกอยู่ลึกๆ แต่เขากลับแสดงอาการไม่พอใจมีน และยิ่งรู้สึกหมั่นไส้เมื่อรู้ว่า หมอนเรศแอบชอบมีน และชักชวนให้มีนที่เรียนจบผู้ช่วยพยาบาลมาช่วยดูแลย่าใหญ่ เมื่อมีนต้องเข้าไปอยู่ในบ้านต้นน้ำ ต่างฝ่ายต่างได้เรียนรู้นิสัยกันในด้านที่ไม่เคยเห็น แต่ในขณะเดียวกัน มีนก็ต้องปะทะกับ อัญชลี ที่พยายามทำให้ย่าใหญ่ และ ต้นน้ำเข้าใจผิดเธอมาตลอด ย่าใหญ่ได้หลักฐานว่าอัญชลีโกงเงินบริษัทไป แต่อัญชลีก็จัดการย่าใหญ่จนหกล้มต้องเข้าโรงพยาบาล ต้นน้ำเครียดมาก อัญชลีได้ทีเลยใส่ไฟว่าตอนที่ย่าล้ม เห็นมีนคุยอยู่กับเม่น ไม่ยอมมาดูแลย่าใหญ่ ต้นน้ำโกรธมากด่าว่ามีนอย่างรุนแรง จนมีนทนไม่ได้ตัดสินใจขอลาออก ย่าใหญ่รู้เรื่องบอกให้ต้นน้ำไปตามมีนกลับมา แต่พอต้นน้ำไปถึง กลับถูกหวานและเม่นไล่กลับไป ต้นน้ำต้องขอร้องมีนให้เห็นแก่ย่าใหญ่ มีนจึงยอมทำตาม ระหว่างทางต้นน้ำได้ข่าวจากหมอนเรศว่าย่าตกบันไดเสียชีวิต ต้นน้ำถึงกับช็อค หลังจากงานศพของย่า ต้นน้ำพบว่ามีนเก็บข้าวของกลับหัวหินไปแล้ว เขาพยายามมาง้อมีน แต่มีนไม่สนใจ ทำให้ต้นน้ำโกรธเข้าไปลากมีนขึ้นรถเพื่อพากลับกรุงเทพ ทั้งคู่โต้เถียงกันขณะที่ต้นน้ำขับรถ แล้วอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น แต่เหตุการณ์ครั้งนี้จะซ้ำรอยเหมือนตอนที่เขาและเธอได้เจอกันครั้งแรกหรือ ไม่? ติดตามชมเรื่องราวความรักของเขาและเธอได้ในละคร รอยอดีตแห่งรัก

ผู้พิทักษ์รักเธอ (2549/2006) โบ้ ถูกหน่วยงามเพ่งเล็งเพราะใช้ความรุนแรงในการจับกุมคนร้าย ทั้งๆ ที่ความตั้งใจของโบ้คือการขจัดคนชั่วตามหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎ์ที่ดี โบ้จึงมียศแค่หมวดเพราะความบุ่มบ่าม หัวแข็ง หัวดื้อ และปากหมา แล้วโอกาสของโบ้ก็มาถึงเมื่อได้รับมอบหมายให้ตามจับกุมมือระเบิดคนหนึ่ง โบ้ติดตามความเคลื่อนไหวของมือระเบิดจนรู้วาอยู่ในกรุงเทพฯ จึงสะกดรอยตามไปถึงสวนลุมไนท์พลาซ่าที่กำลังมีงานคอนเสิร์ต โบ้เมือระเบิดหายไปหลังเวทีขณะที่วงดนตรีลูกทุ่งสาวดาวรุ่ง ลูกโซ่ จิราภา กำลังทำการแสดง แต่โบ้ไม่มีทางเลือกจึงตัดสินใจตามเข้าไปและพบว่ากระเป๋าเป้ใบหนึ่งมีระเบิด ซ่อนอยู่ ติดตามต่อได้ใน ผู้พิทักษ์รักเธอ

อนิลทิตา (2549/2006) อนิลทิตา เจ้าหญิงเขมร จะถูกจับให้แต่งงานกับ เจ้าชัยวิริยะ แต่เธอไม่ยอมเพราะไปหลงรัก สินธุ ผู้ชายไทย เจ้าชัยวิริยะจึงส่งคนไปฆ่าสินธุ อนิลทิตาเสียใจมากจึงใช้มารยาหญิงหลอกฆ่าเจ้าชัยวิริยะเป็นการแก้แค้น แล้วหนีไปเมืองไทยพร้อมกับ บันดาสาเทวี คนสนิท ซึ่งมีวิชาอาคมมนต์ดำแก่กล้าโดยเฉพาะเรื่องการคงความสาวไว้ได้ตลอดไป อนิลทิตาตั้งใจจะรอการกลับชาติมาเกิดใหม่อีกครั้งของสินธุ จึงขอร้องให้บันดาสาเทวีสอนวิชาคงความสาวให้ ด้วยความรักที่บันดาสาเทวีที่มีต่ออนิลทิตาจึงสอนวิชาถอดวิญญาณ และให้เอาเลือดของผู้ชายมาผสมกับสมุนไพรและร่ายคาถา แล้วใช้น้ำเลือดนั้นอาบชะโลมทั่วกายทุกสามวัน ถ้าไม่อาบร่างการจะแก่เฒ่าลงอย่างรวดเร็ว 200 ปีต่อมา ที่เมืองเชียงใหม่มีงานแต่งงานใหญ่โตระหว่าง เจ้าพงษ์สุริยันติ ติดตามต่อได้ใน อนิลทิตา

เจ้าสาวกะทันหัน (2549/2006) ดิฐ สารวัตสืบสวนอนาคตไกล กำลังปฏิบัติภารกิจสืบจับขบวนการค้ายาเสพติด ทำให้เขาต้องอยู่ในสภาพสกปรกมอมแมม ทั้งที่ดิฐเป็นลูกชายของอดีตรัฐมนตรี เดช และคุณหญิงดารุณี ครอบครัวที่เด่นดังในแวดวงสังคม ดิฐถูกบังคับให้ต้องแต่งงานกับ เจนนี่ สาวเปรี้ยวที่เพิ่งเรียนจบกลับมาจากลอนดอน โดยการจับคู่ของคุณหญิงดรุณีกับ คุณหญิงเพ็ญจันทร์ เพื่อนคู่ซี้ตามคำสัญญาที่ได้รับปากกันไว้ ดิฐปฏิเสธอย่างแข็งขันแต่คุณหญิงดรุณียืนยันว่าถ้าไม่แต่งกับเจนนี่ก็ต้องหา เจ้าสาวให้ได้ในคืนเดียว ไม่อย่างนั้นจะต้องถูกตัดออกจากกองมรดก มหาศาลสถานเดียว ขณะที่ในคืนนั้น ดุจดาว ซึ่งได้รับการอุปการะเลี้ยงดูในฐานะสาวใช้ในบ้านของ คุณนายพวงผกา น้องสาวของคุณหญิงเพ็ญจันทร์ กำลังจะถูก ทวี สามีจอมหื่นของพวงผกาปลุกปล้ำดุจดาวเสื้อผ้าหลุดลุ่ยวิ่งหนีออกมา ไปเจอกับหนุ่มโฉดนักเที่ยวสองนายจะใช้กำลังฉุดคร่าจนดุจดาวสลบไป ดิฐขับรถผ่านไปเจอจึงรีบช่วยเหลือไว้พร้อมอุ้มร่างที่สลบไสลของดุจดาวไปที่ บ้านพัก ขณะที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สกปรกมอมแมมให้ดิฐเพิ่งสังเกตเห็นความงามของ ดุจดาว ติดตามต่อได้ใน เจ้าสาวกะทันหัน