2548

สะใภ้กาฝาก (2548/2005) ขวัญจิต สาวบ้านนอกไปเป็นนักร้องอยู่ที่ร้านอาหาร เกิดพบรักกับ โรเบิร์ต หนุ่มอเมริกันผิวสีศัลยแพทย์อาสา ขวัญจิตตั้งครรภ์ โรเบิร์ตอยากพาลูกเมียไปอยู่อเมริกา แต่ต้องกลับไปจัดการเรื่องสัญชาติ รอแล้วรอเล่าโรเบิร์ตก็ไม่กลับมา ขวัญจิตถูกคนนินทาหนัก จึงตัดสินใจเก็บของอพยพเข้ากรุงเทพฯ ไปตายเอาดาบหน้า 20 ปีต่อมา รมนีย์ หรือ เรนนี่(เมญ่า-นนทวรรณ)เด็กสาวผิวดำ ผมหยิก เติบโตขึ้นมาในแฟลต ท่ามกลางเสียงครกตำส้มตำ ขวัญจิตย้ายมาที่แฟลตแห่งนี้ หลายคนในแฟลตต่างล้อเลียนเรื่องความดำของเรนนี่ มาตลอด โดยเฉพาะ ดุจดาว ลูกสาวของ เดือนเด่น เจ้าของร้านเสริมสวยที่แฟลต ชอบจิกกัด เรนนี่อยู่ตลอดเวลา ทันทีที่เรียนจบปวส.เรนนี่ก็ออกมาช่วยแม่ขายส้มตำเดลิเวอรี่ แต่บางช่วงก็แอบอู้เล่นโซเชียล กรี๊ดดาราเหมือนเด็กสาวทั่วไป หนึ่งในเซเลปที่เรนนี่ชอบมาก กด follow ทั้ง IGและเฟซบุ๊คนั้นก็คือ ตรัยคุณ(อาร์ต-พศุตม์)ไฮโซทายาท บริษัทสยามโฆษณา หล่อปัง ตังค์หนา ดุจดาวก็ชอบเหมือนกัน ถึงขนาดตั้งรูปตรัยคุณไว้ที่หน้าจอมือถือ แต่ดุจดาวชอบพูดแขวะ มารยาท หรือ เมย์(เบสท์-ชนิดาภา)นางเอกสาวว่าที่ซุปตาร์แฟนของตรัยคุณ แต่เรนนี่กลับชื่นชม เพราะเห็นว่าเป็นนางเอกใสๆ วันหนึ่งขณะกำลังส่งของให้ลูกค้า เรนนี่พบกับ ปีเตอร์(จัสติน)ฝรั่งหนุ่มหล่อเจ้าของเครื่องสำอางจากอเมริกา ลืมโทรศัพท์มือถือไว้บนแท็กซี่ที่พึ่งขับออกไป เรนนี่ให้ปีเตอร์ซ้อนมอเตอร์ไซค์เธอขี่ตาม จนสามารถเอาโทรศัพท์คืนมาได้ ยังไม่ทันที่ปีเตอร์จะขอบใจ เรนนี่ก็รีบบึ่งรถเพื่อเอาส้มตำไปส่งต่อ เรนนี่มาส่งส้มตำที่แองเจิ้ลผับ เห็น แนนนี่(เมทินี)ซ้อมร้องเพลง เรนนี่ชอบมาก จนเผลอร้องและเต้นตาม ชาลี(ลิฟท์-สุพจน์)กะเทยเจ้าของร้านแซวว่าอยากจะเปลี่ยนอาชีพเหรอ เรนนี่เลยถือโอกาสสมัครเป็นนักร้อง ชาลีและแนนนี่ก็ตกลงโอเคให้เรนนี่มาร้องเพลง เรนนี่กลับมาขอขวัญจิตไปร้องเพลง ตอนแรกขวัญจิตไม่ยอม แต่ในที่สุดขวัญจิตก็ต้องยอมใจอ่อน แต่กำชับให้เรนนี่ระวังตัว อย่าไปเชื่อใจใครง่ายๆเป็นอันขาดโดยเฉพาะชาวต่างชาติ ตรัยคุณโต้เถียงกับ สยาม(มนตรี)ผู้เป็นตาและเป็นเจ้าของบริษัท เรื่องงานของลูกค้า ตรัยคุณเถียงไม่ออกนึกถึงเรื่องคราวก่อนที่โดนบริษัทไจแอนท์ แอดเวอร์ไทซิ่ง ของ สมัชชา(ณัฐพล)ทำโฆษณาของสินค้าคู่แข่งออกมาโดยใช้คอนเซปต์ที่เหนือกว่า จนลูกค้ามาโวยวาย คุณสยามพาลมาถึงเรื่องที่อยากให้ตรัยคุณเลิกกับเมย์แล้วมาแต่งงานกับ ริสา(สเตฟานี่) ขณะที่ร้องเพลง เรนนี่เห็นตรัยคุณนั่งดื่มอยู่ กระทั่งใกล้เวลาร้านปิด จึงออกมามองหาว่าใช่เขาไหม ฝรั่งคนหนึ่งเมา เห็นเรนนี่ตรงสเป็ก เลยเข้ามาลวนลาม เรนนี่ถอดส้นสูงออกเพื่อจะตบ แต่ดันหลุดมือ ส้นเข็มไปปักอยู่ที่หัวของตรัยคุณเป็นแผลเลือดอาบ เรนนี่พาเขาเข้ามาปฐมพยาบาลและขอโทษบอกว่าเธอไม่ได้ตั้งใจ แต่ตรัยคุณต่อว่าเธอหาว่าเธอมายืนอ่อยหาลูกค้า เรนนี่โกรธมาก จึงด่าเขากลับ เถียงกันไปมา จนตรัยคุณเกิดความคิดอะไรบางอย่างขึ้น วันรุ่งขึ้นเรนนี่ไปที่บริษัทสยามโฆษณา ตรัยคุณแนะนำกับทุกคนว่าเรนนี่เป็นแฟน สยามไม่พอใจแต่อดสงสัยไม่ได้ จึงขอคุยกับเรนนี่เป็นการส่วนตัว แล้วก็โป๊ะแตกว่าเป็นแผนของตรัยคุณ สยามคิดดัดหลังหลานชาย เลยจ้างเรนนี่ให้ช่วยกำจัดเมย์ออกไป เรนนี่โมโหที่สยามจ้างเธอให้ทำเรื่องไม่ดี เลยต่อว่าไปหลายคำ วันหนึ่งขวัญจิตออกไปขายส้มตำ แต่เกิดอุบัติเหตุ ขวัญจิตต้องผ่าตัดด่วน เรนนี่เซ็นยินยอมให้หมอรักษาให้ดีที่สุด แต่เธอมีปัญหาเรื่องค่าผ่าตัด เรนนี่ก็ไม่รู้จะทำยังไง เรนนี่เหลือบไปเห็นนามบัตรของสยามเลยนึกขึ้นได้ ตัดสินใจไปหาสยาม สยามตกลงช่วยค่ารักษาของแม่เธอ และยินดีจะจ่ายให้อีกจำนวนหนึ่ง ถ้าเรนนี่เขี่ยเมย์ออกไปจากตรัยคุณได้สำเร็จ รวมถึงให้เรนนี่ไปทำงานในฐานะเลขาของตรัยคุณด้วย เรนนี่ลำบากใจเพราะเธอสงสารเมย์ ที่ต้องโดนกลั่นแกล้งทั้งในละครและชีวิตจริงแต่เธอไม่มีทางเลือก

แผ่นดินหัวใจ (2548/2005) โมฬี เป็นสาวชาวกรุงซึ่งเลือกที่มารับราชการที่อำเภอบางส้มเปรี้ยวในตำแหน่ง พัฒนากร ต่อมาเมื่อเธอได้สร้างความคุ้นเคยกับชาวบ้านมากขึ้น ก็รู้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ทางจังหวัดมักจะส่งปุ๋ยมาช้า ทำให้ต้องไปซื้อจากร้านเถ้าแก่ฮงในจังหวัดซึ่งมีอยู่ร้านเดียวและแพงมาก หลังจากนั้นโมฬีก็ร่วมงานกับ กำนันไก่โต้ง หรือ ศรา กำนันของอำเภอบางส้มเปรี้ยว โมฬีและศรามักจะมีปากเสียงกันอยู่เสมอๆ เพราะศราไม่แน่ใจในความสามารถของโมฬี งานแรกที่ทั้งคู่ต้องทำร่วม กันคือเข้าไปเก็บข้อมูลจากแรงงานคืนถิ่น โมฬีให้คำแนะนำเรื่องการปลูกพืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นการเสริมรายได้อีกทาง หนึ่ง จากการปรึกษาเรื่องแรงงานคืนถิ่นทำให้ทั้งสองรู้ว่ามีทัศนคติในการดำเนินการ เรื่องนี้ โดยยึดหลักเศรษฐกิจแบบพอเพียงของในหลวงเหมือนกัน ท่ามกลางความราบรื่นในเรื่องการปรึกษางาน ศราก็อดไม่ได้ที่จะยั่วเย้าให้เกิดการต่อปากต่อคำ และแล้วเมล็ดดอกรักที่เริ่มฝังตัวในหัวใจ รอวันผลิบานโดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ตัว และเรื่องเร่งด่วนที่ทั้งสองคนจะ ต้องรีบทำก่อนคือเรื่องปุ๋ยที่ขาดแคลน ศราสงสัย กำนันเลิศฤทธิ์ ที่แนะนำชาวบ้านให้ซื้อปุ๋ยแพงจากร้านเถ้าแก่ฮงแต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ โมฬีไปตามเรื่องปุ๋ยกับ สืบศักดิ์ เกษตรจังหวัดที่ถูกระบบอิทธิพลกลืนกิน แต่ด้วยความอ่อนหวานและนอบน้อมของโมฬีทำให้สืบศักดิ์รับปากว่าจะเร่งเรื่อง ปุ๋ยให้ ในที่สุดโมฬีก็สามารถทำให้บางส้มเปรี้ยวได้รับปุ๋ยมาใช้ เรื่องที่บางส้มเปรี้ยวได้ปุ๋ยไปใช้ทำให้ ส.ส.พล ผู้มีอิทธิพลใหญ่โกรธมาก เพราะที่ผ่านมาเขาใช้อิทธิพลหน่วงเหนี่ยวการสั่งจ่ายปุ๋ยให้ล่าช้า เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ส.ส.พลเรียกกำนันเลิศฤทธิ์ลูกน้องคนสนิทมา สั่งการ หลังจากนั้นกำนันเลิศฤทธิ์ก็ไปข่มขู่สืบศักดิ์ไม่ให้ขัดขวางการทำงานของระบบ อิทธิพล และรายต่อไปที่เลิศฤทธิ์ต้องจัดการคือศราแต่คนที่รับเคราะห์แทนก็คือโมฬี แต่เธอไม่เป็นอะไรเพราะคนร้ายเพียงแค่ยิงขู่เท่านั้น เรื่องนี้โมฬีไม่กล้าบอกใคร เธอแน่ใจว่าคนที่คนร้ายต้องการขู่นั้นน่าจะเป็นศรามากกว่า เพราะเป็นเจ้าของรถที่เธอขับไป โมฬีสับสนและกลัวจึงกลับบ้านที่กรุงเทพ แต่ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจกลับไปทำงานต่อที่บางส้มเปรี้ยว และเพื่อไปเตือนศราที่กำลังมีคนคิดปองร้าย เมื่อศรารู้ความจริงจาก โมฬีก็ตกใจมาก เขาแสดงความรู้สึกของหัวใจอกมาเป็นคำพูดห่วงใย เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่งโครงการต่างๆที่โมฬีร่วมคิดร่วมทำกับศราก็ สำเร็จเป็นรูปร่างขึ้นทำให้ชาวบ้านที่ตกงานมีรายได้พอเลี้ยงตัว พร้อมกับความสัมพันธ์ของโมฬีกับศราก็แนบแน่น ศรารู้ตัวว่ารักโมฬีแต่ไม่กล้าบอกเธอ ส่วนโมฬีเองก็มีความรู้สึกที่ดีตอบเช่นกัน และเมื่อโมฬีมีปัญหาเรื่องการหาตลาดสมุนไพรไม่ได้เพราะขาดประสบการณ์ ศราแสดงให้โมฬีรู้ว่าเธอจะไม่ต้องเดียวดายเพียงลำพัง เขาพร้อมที่จะโอบอุ้มและฝ่าฟันไปด้วยกันกับเธอ โดยได้รับความช่วย เหลือจาก หลวงตาบูลย์ ผู้ที่ชาวบ้านให้ความนับถือ ทำให้ปัญหาทุกอย่างลุล่วงไปด้วยดี ส.ส.พลวางแผนเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากความสำเร็จของโครงการปลูกพืชผักไว้ เสริมอาชีพของศราและโมฬี โดยแทรกอิทธิพลเข้ามาเพื่อผลประโยชน์ที่จะได้รับอย่างมหาศาล โดยจัดส่งเมล็ดพันธุ์ผักมาให้ทดลองปลูกฟรี แต่ส่งมาเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้นและราคาที่ระบุไว้ก็แพงมาก ศราและโมฬีตัดสินใจให้ลูกบ้านเข้าร้องเรียนรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรโดยผ่านทาง อินเตอร์เน็ต โมฬีกลับบ้านที่กรุงเทพ และขอให้ วิริยา นักข่าวสาวเพื่อนสนิทให้ช่วยทำข่าวความไม่ชอบมาพากลของเมล็ดพันธุ์ผักและ ปุ๋ยราคาแพงที่แพร่ระบาดไปทั่วท้องถิ่น ดร.อนล ติดต่อกับศราว่าท่านรัฐมนตรีได้รับอีเมล์ของชาวบ้านแล้วและไฟเขียวให้ลุยสืบ ข้อเท็จจริงได้ แต่เป็นข่าวร้ายของส.ส.พล ดังนั้นเขาจึงสั่งกำนันเลิศฤทธิ์ให้ไปทำลายหลักฐานที่มีอยู่กับสืบศักดิ์ให้ หมดสิ้น โมฬีไปสืบหาหลักฐานจากสืบศักดิ์และได้พบเอกสารหลักฐานชิ้นหนึ่งโดยบังเอิญ แต่ไม่สามารถนำออกมาได้ ส.ส.พลและคณะมาเยี่ยมชมที่อำเภอบางส้ม เปรี้ยวมีนักข่าวติดตามมาทำข่าวเป็นกลุ่มใหญ่รวมทั้งวิริยาด้วย โมฬีบังเอิญได้ยินกำนันเลิศฤทธิ์ข่มขู่สืบศักดิ์เรื่องให้ทำลายหลักฐาน ทำให้โมฬีฉุกคิดถึงเอกสารที่เห็นในห้องทำงานของสืบศักดิ์ เธอตัดสินใจที่จะไปเอาเอกสารนี้มาให้ได้ เมื่อถึงห้องทำงานของสืบศักดิ์โมฬีก็ลงมือค้นจนเจอเอกสารแล้วรีบโทรหาวิริยา ซึ่งอยู่ที่งาน ขณะกำลังจะกลับโมฬีก็เจอสืบศักดิ์ยืนอยู่ที่หน้าประตู เขาขอร้องไม่ให้โมฬียุ่งกับเรื่องนี้พร้อมกับขอเอกสารคืน เมื่อโมฬีไม่ยอมจึงเกิดการยื้อแย่งขึ้น โมฬีตีศีรษะชายหนุ่มด้วย เซรามิค เมื่อได้หลักฐานมาแล้ววิริยาก็ทำการออกอากาศสดเปิดโปงหลักฐานการฉ้อฉลของ ขบวนการนี้ทั้งหมด โมฬีหนีศรากลับกรุงเทพเพราะความเข้าใจผิด ศราวางแผนไปสู่ขอโมฬีถึงที่บ้านโดยไม่ให้รู้ตัว พร้อมกับโทรไปขอความร่วมมือจากพ่อ-แม่ของโมฬีด้วย วันงานมาถึงโมฬีแปลกใจที่เห็นชาวบ้านกลุ่มใหญ่และขบวนกลองยาวแห่ขันหมาก ศราปรับความเข้าใจกับโมฬีพร้อมทั้งสารภาพว่ารักเธอตั้งแต่แรกพบเลยทีเดียว

รักละมุนลุ้นละไม (2548/2005) เมื่อดาราแถวหน้าอย่าง ชญาณี ( พราว ) ถูกยัดเยียดให้รับบทแม่ ด้วยเหตุผลที่ว่าปัจจุบันนิยมดาราวัยรุ่นมากกว่าดาราคุณภาพ ทำให้พราวต้องออกอาการวีนแตก และประกาศก้องว่าจะออกจากวงการบันเทิง และหนีไปใช้ชีวิตที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มุ่งหาความรู้ด้านบูติกรีสอร์ทเพื่อนำกลับมาพัฒนาโรงแรมของบิดา พราวไปอยู่กับ รสา เพื่อนสนิทมาดเท่ห์ รสามีทัศนคติที่ไม่ดีต่อเพศตรงข้ามเอาเสียเลย ช่วงแรกพราวก็เห็นด้วยเพราะพึ่งอกหักจาก วีรเดช ผู้กำกับหนุ่มที่หันไปคบกับดาราวัยรุ่น ทิ้งเธอไปอย่างไม่เหลือเยื่อใย ในระหว่างที่ศึกษาด้านบูติกรีสอร์ทอยู่นั้น พราวได้พบกับ วิน ชายหนุ่มผู้น่ารักที่ทำงานพาร์ทไทม์อยู่ที่บูติกรีสอทแห่งนี้ เธอเกือบจะตกหลุมรักเขาเสียแล้ว แต่มีเหตุให้ต้องจากกันสียก่อนเพราะวีซ่าของวินหมดอายุจึงต้องเดินทางกลับ เมืองไทย และแล้วก็มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับพราว เมื่อพ่อของเธอตกอับติดหนี้สินมากมาย ทำให้โรงแรมซึ่งเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายถูกยึดไปเป็นของ สายลม เจ้าของโรงแรมคู่แข่ง เมื่อพราวรู้ข่าวก็โกรธจัดบินกลับเมืองไทยทันทีและบุกหาเรื่องสายลมถึงที่ทำ งาน แต่สายลมไม่ยอมออกมาพบพราวส่งเพียง เดือนแจ่ม เลขาออกมาเจรจาเท่านั้น ทำให้พราวรู้สึกว่าสายลมใจแคบคิดจะเอาชนะเรื่องธุรกิจอย่างเดียว นอกจากนั้นเขายังสบประมาทเธออีกว่าคิดที่จะเป็นผู้บริหารต้องรู้จักควบคุม อารมณ์ ไม่เช่นนั้นจะทำงานบริการได้อย่างไร ทำให้เธอโกรธมาก หลังจากนั้นหนึ่งวันพราวก็ได้รับคำท้าจากสายลมให้เธอลองเข้ามาทำงานเป็น พนักงานระดับล่างจนกว่าเธอจะได้รู้ว่าพนักงานที่ดีจะต้องเป็นเช่น ไร พราวโกรธจัดจึงตกปากรับคำอย่างง่ายดาย แต่การเข้ามาทำงานที่นี่ไม่ใช่ง่าย ๆ เพราะแต่ละวันที่ผ่านไปของเธอนั้นมีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย แต่ไม่ว่าจะมีปัญหาแค่ไหนเธอก็ไม่ปริปากบ่นแม้แต่ครั้งเดียว และที่นี่เองทำให้เธอได้พบกับวินอีกครั้ง วินทำงานที่นี่เช่นกัน เขามีส่วนช่วยเธอในการทำงานอยู่ใช่น้อย ความสัมพันธ์ทั้งคู่งอกเงยขึ้นเรื่อยๆ พราวมักระบายความเครียดโดยการแชทและคนที่เข้ามาแชทกับพราวเป็นประจำก็คือวิน แต่เขาใช้ชื่ออื่น พราวเล่าให้วินฟังเรื่องเพื่อนทางอินเตอร์เน็ทที่แสนดี โดยที่พราวไม่รู้ว่าคนนั้นคือวินนั่นเอง ปัญหาในการทำงานของพราวมักเกิดขึ้นจากคนรอบข้างของเธอเองคือ โสพิศ หญิงสาวในแผนก มัสยา แฟนไฮโซของสายลม ป๋อง แลแป๋ง คนสนิทของเดือนแจ่มที่คอยกลั่นแกล้งพราวตลอกเวลา ตั้งแต่ วันแรกของการทำงานจนมาถึงวันนี้ พราวไม่เคยได้พบกับสายลมเลย ต้องมีเหตุให้คาดกันตลอดเวลาจนพราวเริ่มสงสัย ในที่ทำงานพราวได้รู้จักกับเพื่อนใหม่เพื่อนที่แท้จริงคือ ลุงโก๊ะ พ่อครัวห้องอาหาร ลูกชุบ และจุ๊บแจง เพื่อนแผนกเดียวกันที่คอยเป็นที่ปรึกษาเธอ พราวและวินได้รู้ใจกันมากขึ้น แต่ทั้งคู่ก็พยายามปฏิเสธหัวใจตัวเอง รสาเป็นที่ปรึกษาเรื่องวินให้กับพราวแนะนำให้พราวยอมรับใจตัวเองแต่พราว ปฏิเสธ วินได้มีโอกาสช่วยวีรเดชคนรักเก่าของพราวไว้จากการฆ่าตัวตายโดยบังเอิญ ทำให้วีรเดชได้ข้อคิดและนับถือวินเป็นเพื่อนแท้ วันหนึ่งวีรเดชไปหาวินที่โรงแรมและได้พบพราวโดยบังเอิญ ทำให้วีรเดชได้พบกับพรวอีกครั้ง เขาพยายามง้อขอคืนดีกับเธอ ทำให้พราวหวั่นไหวไม่ใช่น้อย ทำให้รสาต้องออกมาปะทะกับวีรเดชอยู่บ่อยๆ วีรเดชขอร้องให้วินช่วยเรื่องพราว แต่ดูเหมือนว่าทุกเหตุการณ์จะทำให้วินและพราวยิ่งมีความสัมพันธ์กันมากขึ้น อีก โดยเฉพาะครั้งหลังสุดเขาและเธอต้องไปติดเกาะอยู่ด้วยกันท่ามกลางบรรยากาศ โรแมนติก แต่แล้วโลกของทั้งคู่ก็ต้องเปลี่ยนไปเมื่อมัสยาปรากฏตัวขึ้น ปราดเข้ากระชากพราวออกจากอ้อมกอดของวิน และประกาศว่าวินกับสายลมเป็นคนเดียวกัน พราวเสียใจมากที่ได้ยินเช่นนั้น วีรเดชอาสาจะรักษาแผลใจให้เธอ แต่พราวปฏิเสธเพราะในใจเธอมีแต่วินเท่านั้น ตอนนี้วินกำลังลำบากเพราะถูก อานนท์ อาของเขาจ้องที่ฮุบสมบัติ ทั้งวินและพราวรู้ความรู้สึกของตัวเองว่าทั้งคู่ขาดกันไม่ได้ วินจึงยินยอมคืนทุกอย่างให้พราว เขานัดพราวออกมาเบื่อเคลียร์ปัญหา แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อมัสยาร่วมมือกับอานนท์ทำร้ายร่าง กายวินจนบาดเจ็บ แต่พราวได้มาช่วยไว้ พราวและวินยอมรับซึ่งกันและกัน ยอมรับความรู้สึกที่มีต่อกันว่าคือความรักนั่นเอง

หนึ่งในทรวง (2548/2005) ข่าวการเดินทางกลับจากประเทศฝรั่งเศสหลังจากการเรียนจบปริญญาโทด้านการฑูต ของ อนวัช พัชรพจนาถ ( หนึ่ง ) ลูกชายนายวิทย์ พัชรพจนาถ อดีตนักการฑูตชื่อดัง ทำให้สาวๆ ให้ความสนใจมากโดยเฉพาะ คุณนายสีสุก และลูกสาวชื่อ ส่องแสง แต่สำหรับ หทัยรัตน์ ราชพิทักษ์ ซึ่งพ่อแม่เสียชีวิตไปแล้วได้รับอุปการะจากนายสุทธิ์ และนางทิพย์ เดือนประดับ เหมือนลูกสาวคนหนึ่งกลับไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเหมือนสาวคนอื่นๆ ทั้งยังไม่ชอบหน้าผู้ชายที่แสนจะเย่อหยิ่ง ไม่ยอมคน เมื่ออนวัชกลับมาถึงเมืองไทยก็แวะเยี่ยมทั้งบ้านญาติๆ ทั้งบ้านคุณนายสีสุก บ้านเดือนประดับ แต่ก็คลาดกับหทัยรัตน์ทุกที อนวัชไปเยี่ยมเพื่อนเก่าคือ พินิจ พนัสพงษ์ แต่ไม่พบเพราะพินิจไปพักฟื้นที่ไร่ของ พินัย พี่ชายเพราะตรอมใจเรื่องคนรักที่ชื่อ หทัยรัตน์ ทำให้อนวัชมีอคติกับหทัยรัตน์ทันที ไม่กี่วันต่อมาอนวัชไปที่บ้านของเดือนประดับ และเขาได้พบสัทธา, สุดา รวมทั้งหทัยรัตน์ด้วย อนวัชรู้สึกโมโหที่หทัยรัตน์ทำท่าไม่ใส่ใจ ทั้งยังตั้งท่ารังเกียจเขาอีกด้วย ซึ่งอนวัชถือว่าเป็นการดูถูกเขาอย่างยิ่ง เลยหมายมั่นไว้ในใจว่าจะต้องเห็นดีกันแน่ สัทธาและสุดาจะจัดงานวันเกิดให้นายสิทธิ์ที่บ้านเดือนประดับเพื่อให้อนวัช คืนดีกับหทัยรัตน์ โดยเชิญญาติสนิทมิตรสหายมาร่วมงานมากกว่าทุกปี เมื่อถึงวันงานส่องแสงถือโอกาสเต้นรำกับอนวัชแทบทุกเพลง ส่วนหทัยรัตน์ก็มีหนุ่มๆ มาขอเต้นรำไม่ซ้ำหน้าเหมือนกัน ซึ่งต่างคนก็ต่างก็เฝ้ามองหน้ากันและกัน แต่สุดท้ายก็จบลงที่ความปั้นปึ่งใส่กัน แม้ปากจะบอกว่าไม่รักหทัยทิพย์แถมเกลียดด้วยซ้ำ แต่อนวัชก็ยังตามกวนโมโหเฝ้าต่อล้อต่อเถียงกับหทัยรัตน์แทบทุกวันไม่นานหมอ ประสงค์บอกข่าวการแต่งงานกับ อุรา อนวัชคิดว่าเป็นหทัยรัตน์จึงรู้สึกผิดหวังเมื่อรู้ข่าว แต่แล้วก็ต้องแปลกใจที่เธอไม่รู้สึกอะไรเลย และเมื่อได้รู้ว่าหทัยรัตน์เป็นเพียงเพื่อนเจ้าสาว จึงทำให้อนวัชโมโหปล่อยให้เขาเข้าใจผิด เลยปลุกปล้ำหทัยรัตน์เมื่อเขาไปส่งเธอที่บ้าน หทัยรัตน์รู้สึกโกรธมาก แต่อนวัชกลับรู้สึกสะใจที่สามารถเอาชนะเธอได้ ส่วนทางด้านพินิจจำต้องยอมแต่งงานกับ จำปี เพราะตามใจแม่ แต่ยังไม่ถึงวันงานแต่งงานพินิจก็ป่วยหนักเสียก่อน และเพ้ออยากเจอหน้าหทัยรัตน์เป็นครั้งสุดท้าย อนวัชจึงชวนหทัยรัตน์ไปเยี่ยมพินิจ แต่พินิจถูกส่งตัวกลับกรุงเทพเสียก่อน ทำให้อนวัชต้องขับรถกลับ แต่รถเสียกลางทางทำให้ต้องอยู่ค้างคืนที่ไร่กันสองต่อสอง เมื่อกลับถึงกรุงเทพฯ จึงโดนทั้งพ่อและคุณสุทธิ์ตำหนิที่ไปค้างอ้างแรมกันสองต่อสอง จึงให้อนวัชหมั้นไว้กับหทัยรัตน์เพื่อเป็นการรับผิดชอบ ด้วยความที่ต้องการเอาชนะคุณนายสีสุกและส่องแสงทำให้หทัยรัตน์ยอมหมั้นกับ อนวัช อนวัชตัดสินใจสารภาพรักกับหทัยรัตน์และขอแต่งงาน แต่ถูกปฏิเสธทำให้เขาเสียใจมาก จนกระทั่งทางบ้านได้รับข่าวว่าอนวัชประสบอุบัติเหตุรถคว่ำที่เชียงใหม่ ทำให้หทัยรัตน์ตกใจรับขึ้นเครื่องบินโดยด่วน เมื่อทั้งสองเจอหน้ากันอีกครั้งต่างคนต่างยอมเผยใจตัวเอง หทัยรัตน์ยืนยันว่าจะรักและดูแลอนวัชไปตลอด ทำให้อนวัชซึ้งใจในรักแท้ที่หญิงสาวมีให้และแต่งงานกันอย่างมีความสุข