บาดาลใจ 2536

เรื่องย่อ : บาดาลใจ (2536/1993) สักการ ธนศักดิ์ ชายหนุ่มที่จมอยู่กับความทุกข์ใจ หลังจากที่คู่หมั้นได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เขาจึงกลายเป็นคนเงียบขรึม โมโหร้าย ทำให้สักการเป็นผู้ชายที่ไร้หัวใจ พฤติกรรมของสักการสร้างความทุกข์ใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก ดำรง และชุลี พ่อแม่และ อาฬวี น้องสาวของเขา และการที่สักการรู้สึกเบื่อหน่ายในชีวิตเพราะต้องการจะอยู่อย่างสงบ จึงขอไปอยู่ที่บ้านย่านชานเมืองตามลำพัง โดยเอา นายเพิ่ม คนรับใช้ชายไปอยู่เป็นเพื่อนเท่านั้น ชุลีแม่ของเขาจึงโทรไปปรึกษา ปริม เพื่อนสนิทที่เชียงใหม่ กับลูกชายและลูกสาวของเขาได้แก่ แพะ และปุริมาน เพราะว่าสามีของปริมเสียชีวิตตั้งแต่ลูกทั้งสองยังเด็ก ปริมจึงเลี้ยงลูกด้วยการทำไร่ลำไย โดยมีบริษัทส่งออกอยู่ที่กรุงเทพฯ ปริมตัดสินใจลงมากรุงเทพฯ กับปุริมานเพื่อมาเยี่ยมชุลี และมาดูงานที่บริษัทส่งออกลำไยกระป๋องด้วย โดยชุลีและอาฬวีพาสองแม่ลูกไปพักผ่อนที่บ้าน แล้วโทรบอกให้สักการกลับมาที่บ้านเพื่อมาหาปริม เมื่อสักการมาถึงบ้านจึงได้เจอแต่ปริมเท่านั้น สักการพูดคุยกับปริมสักพักก็ขอตัวกลับบ้าน

เงารัก 2536
บัวแก้วบัวทอง 2536
โสนน้อยเรือนงาม 2536

เรื่องย่อ : โสนน้อยเรือนงาม (2536/1993) เมื่อครั้งพระราชธิดาของกษัตริย์นครโรมวิสัยประสูติได้มีเรือนไม้เล็ก ๆ ติดมือออกมาด้วย เมื่อพระธิดาเจริญวัยขึ้น เรือนไม้นี้ก็โตขึ้นตาม ดังนั้น พระบิดาจึงตั้งชื่อพระธิดาว่า โสนน้อยเรือนงาม เมื่อโสนน้อยเรือนงามมีอายุ 15 ปี โหรทูลว่านางกำลังมีเคราะห์ ควรให้ออกไปจากเมือง พระบิดาและพระมารดาจึงจำใจต้องให้โสนน้อยเรือนงามออกจากเมืองไปโดยลำพัง ด้านพระอินทร์มีความสงสารนาง จึงแปลงร่างเป็นชีปะขาวมามอบยาวิเศษสำหรับรักษาคนตายให้ฟื้นได้ เมื่อโสนน้อยเรือนงามพบนางกุลาถูกงูกัดตายในป่า นางจึงนำยาของชีปะขาวมารักษานางกุลา ดังนั้นนางกุลาจึงขอเป็นทาสติดตามโสนน้อยเรือนงามไปด้วย ด้านกษัตริย์นครนพรัตน์เมืองใกล้เคียงโรมวิสัยมีพระราชโอรสนามว่า พระวิจิตรจินดา แต่พระวิจิตรจินดาถูกงูพิษกัดจนสิ้นพระชนม์ พระบิดาและพระมารดาเศร้าโศกเสียใจมาก แต่โหรทูลว่า พระวิจิตรจินดาจะสิ้นพระชนม์เพียง 7 ปี แล้วจะมีพระราชธิดาของเมืองอื่นมารักษา พระบิดาและพระมารดาจึงเก็บพระศพของพระวิจิตรจินดาไว้ และประกาศหาคนมารักษา เมื่อโสนน้อยเรือนงามและนางกุลาเดินทางมาถึงเมืองนพรัตน์และได้ทราบจากประกาศ นางจึงเข้าไปในวังและอาสาทำการรักษาพระวิจิตรจินดา โดยขอให้กั้นม่านเจ็ดชั้นไม่ให้ใครเห็นเวลารักษา เมื่อโสนน้อยเรือนงามทายาให้พระวิจิตรจินดา พิษของนาคราชทำให้นางรู้สึกร้อนมาก นางจึงถอดเครื่องทรงพระราชธิดาออกแล้วเสด็จไปสรงน้ำ ระหว่างนั้นนางกุลาได้นำเครื่องทรงของโสนน้อยเรือนงามมาใส่ พอดีกับที่พระวิจิตรจินดาฟื้นขึ้นมา ทุกคนจึงคิดว่านางกุลาเป็นพระราชธิดาที่รักษาพระวิจิตรจินดา แต่ในท้ายที่สุดเมื่อพระวิจิตรจินดาทราบว่า โสนน้อยเรือนงามเป็นพระราชธิดาที่รักษาตน จึงได้สั่งให้ประหารนางกุลาที่โกหกหลอกลวง แต่โสนน้อยเรือนงามได้ขอชีวิตนางกุลาไว้ จากนั้นพระวิจิตรจินดาจึงได้อภิเษกกับโสนน้อยเรือนงามและอยู่ด้วยกันมีความสุข

จันทโครพ 2536

เรื่องย่อ : จันทโครพ (2536/1993) เจ้าชายจันทโครพแห่งเมืองพาราณสี เมื่อเขาเติบโตเป็นหนุ่ม ได้ออกแสวงหาอาจารย์เพื่อรำเรียนวิชา แล้วได้เจอกับพระฤๅษี ได้ร่ำเรียนวิชาจากท่านจนสำเร็จ จากนั้น จึงได้เดินทางกลับบ้านเมืองของตน แต่ก่อนที่จะออกเดินทางฤๅษีได้มอบผอบแก้วให้แล้วสั่งกำชับว่าห้ามเปิดจนกว่าจะถึงบ้านเมือง แต่จันทโครพได้เสียสัตย์แอบเปิดผอบนั้นเสียก่อน ซึ่งในผอบมีนางโมราได้ปรากฏตัวออกมา จันทโครพก็ได้พานางโมราเดินทางต่อไปแต่ ระหว่างทางได้พบกับโจรป่า ซึ่งเห็นนางโมราเข้าจึงคิดแย่งชิง จันทโครพก็ถูกโจรป่าฆ่าตาย แต่จันทโครพยังไม่ถึงความตายพระฤๅษีจึงมาชุบชีวิตให้จันทโครพ แล้วบอกว่าเนื้อคู่ที่แท้จริงอยู่ทางทิศเหนือ แล้วพระฤๅษีก็สาปนางโมราให้เป็นชะนี จันทโครพได้เดินทางไปทางที่พระฤๅษีบอก ก็พบผู้หญิงคนหนึ่งชื่อนางมุจลินทร์จึงอยู่กินกัน แล้วจันทโครพคิดถึงพ่อแม่จึงพานางมุจลินทร์หนี แล้วเดินไปสักพักก็เหนี่อยแล้วเผลอหลับไปทั้งคู่ นางยักษ์จึงนำตัวนางมุจลินทร์ไปฟาดกับต้นไม้แล้วเหวี่ยงไปสุดแรง จากนั้นก็ปลอมตัวเป็นนางมุจลินทร์ไปนอนข้างจันทโครพ เมื่อจันโครพเดินทางมาถึงเมืองก็ขอนอนพักผ่อน แล้วพอตอนกลางคืนนางยักษ์ก็ไปกินวัวของชาวบ้าน โดยหารู้ไม่ว่าเจ้าของวัวดูอยู่ เจ้าของวัวจึงไปบอกพระราชา เมื่อเช้าแล้วจันทโครพได้ปลุกนางมุจลินทร์ปลอม โดยไม่บอกเรื่องคดีแปลกประหลาด แต่นางยักษ์ไม่ได้นอนมาทั้งคืนเลยแสร้งบอกว่าไม่สบาย จันทโครพออกมาเข้าเฝ้าคนเดียว แล้วพระโหราธิบดีก็ตรวจดูดวงให้จันทโครพแล้วบอกว่าพรุ่งนี้ให้จันทโครพพานางมุจลินทร์มาด้วย พอวันรุ่งขึ้นพระโหราธิบดีถามนางมุจลินทร์เกี่ยวกับเวลาที่เกิด แต่นางยักษ์ไม่รู้จึงบอกวันผิดๆไปพระโหราจึงบอกว่า บัดนี้ความจริงเปิดเผยแล้วเจ้าไม่ใช่คนแต่เจ้าเป็นนางยักษ์ นางยักษ์หน้าถอดสี จันทโครพจึงฆ่านางยักษ์ตายแล้วออกตามหานางมุจลินทร์จนพบ และตอนนั้นนางมุจลินทร์ได้คลอดบุตรชายชื่อจันทวงศ์ทั้งสามจึงอยู่กันอย่างมีความสุข

ศีรษะมาร 2536

เรื่องย่อ : ศีรษะมาร (2536/1993) "ปิลันธา" หรือ "ปี๋" หญิงสาวผู้มีนิสัยใจร้าย เจ้าอารมณ์ ประสบอุบัติเหตุจนกระจกใหญ่ตัดศีรษะเธอหลุดออกจากคอ แต่ด้วยความที่เธอมีพลังจิตพิเศษทำให้แม้ว่าศีรษะจะขาดแต่เธอก็ไม่ตาย เธอหิ้วหัวของตัวเองกลับบ้านมาหา "นายแพทย์ปิติ" ลุงของเธอที่ทำการทดลองเกี่ยวกับอำนาจวิเศษของเธออยู่ ปิติพยายามทำการทดลองเพื่อต่อศีรษะของเธอแต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ ร่างกายของปิลันธาเริ่มเน่า ทำให้เธอต้องหาร่างหญิงสาวใหม่ๆ มาเพื่อทำการทดลอง ในเวลากลางวันเธอใช้ผ้าพันคอปิดรอยแผลคอขาดของเธอไว้ และเมื่อในเวลากลางคืนที่ร่างกายหญิงสาวของเธอที่เริ่มเน่า เธอก็จะใช้หัวลอยไปตามหาร่างหญิงสาวคนใหม่จนเกิดเป็นคดีหญิงสาวหายตัวไปอย่างลึกลับ "วิฬารี" ลูกพี่ลูกน้องของปิลันธากลับมาจากต่างประเทศพร้อมคู่หมั้น "สักการ” ปิลันธาเมื่อเห็นสักการก็นึกรักและท้าทายมาก เธอทำการทดลองต่อศีรษะกับร่างหญิงสาวจนสำเร็จแต่แล้วน้ำกรดก็หกรดตัวเธอ จนเธอเหลือแค่ก้อนสมองที่มีพลังจิตเท่านั้น ก้อนสมองนั้นลอยไปลอยมาได้และไปดูดเลือดคนมาเลี้ยงสมองได้อีกด้วย เธอคิดที่จะนำร่างของวิฬารีมาใช้ทำการทดลอง แต่ในอีกใจหนึ่งเธออยากเป็นคนรักของสักการ ก้อนสมองทำร้ายวิฬารีจนเกือบตาย สักการเข้ามาช่วยไว้ และยืนยันว่าจะขอกอดศพของวิฬารีดีกว่าจะต้องเอาสมองของคนอื่นมาใส่ในร่างวิฬารี สุดท้ายแล้วเจ้าก้อนสมองลอยได้นั้นถูกทำลายแต่ทว่าดวงจิตของปิลันธายังคงอยู่ในห้องทดลองแห่งนั้นไม่เคยไปไหน

วันนี้ที่รอคอย 2536

เรื่องย่อ : วันนี้ที่รอคอย (2536/1993) วันนี้ทีรอคอย เริ่มต้นขึ้นเมื่อ เจ้าชายน่านปิงนรเทพ ต้องหนีออกจากคีรีรัฐ เพราะเสด็จพ่อถูกเสด็จอาช่วงชิงบัลลังก์ จนเสด็จพ่อต้องทรงปลงพระชนม์ชีพพระองค์เอง เขาหนีจากเมืองเกิดพร้อมกับเสด็จแม่และม่านฟ้า น้องสาวบุญธรรม มายังเมืองไทย จากนั้นแต่ละคน ก็แยกย้ายกันไปคนละทิศละทางตามชะตาชีวิต น่าน ปิงนรเทพ เติบโตมาโดยการอุปการะของจ้าวฉินเย่ห์ นักธุรกิจฮ่องกง ณ ปัจจุบัน เขาคือจ้าวซัน นักธุรกิจหนุ่มผู้มีอนาคตก้าวไกล ส่วนม่านฟ้า ถูกส่งไปอยู่กับครอบครัวนายทหารทางเมืองเหนือ เธอคือ บราลี ในวันนี้ หญิงสาวจบการศึกษาจากสหรัฐอเมริกา และแวะมาเยี่ยมเพื่อนที่ฮ่องกง แต่คนที่มาต้อนรับเธอกลับเป็น เจ้าซัน ซึ่งทำการค้ากับบิดาของเธอ เจ้าซันรู้มาตลอดว่าบราลีคือม่านฟ้า และเฝ้าติดตามมาตลอดด้วยความห่วงใย เหม่ ยอิง บุตรสาวของเจ้าฉินเย่ห์ ต้องการมีส่วนในการทำธุรกิจของครอบครัว แต่ก็ไม่มีโอกาสเพราะถูกตั้งแง่ว่าเป็นผู้หญิง ในขระที่ฉินเจียง พี่ชายต่างมารดาของเหม่ยอิงก็ได้แต่ใช้ชีวิตแสนสำราญโดยไม่เหลียวแลธุรกิจ เธอกำลังดำเนินแผนการบางประการ ในขณะที่เจ้าชายรัชทายาทคีรีรัฐมีหมายกำหนดการเยือนฮ่องกง และเจ้าซันวุ่นวายอยู่กับการเตรียมงานต้อนรับ รวมทั้งความวุ่นวายหัวใจที่มีต่อบราลี คนสนิทของเจ้าชายรัชทายาท ติดต่อซื้ออาวุธสงครามจากฉินเจียงเพื่อเตรียมก่อกบฏ ในขณะที่จ้าวซันเองก็ถูกจับตาดูว่า เขามีแผนการที่จะทวงบัลลังก์คืนหรือไม่ เขาต้องการกู้ศักดิ์ศรีอันยิ่งใหญ่กลับคืน หรือต้องการเพียงใครคนหนึ่งที่จะคอยเป็นกำลังใจให้และอยู่เคียงข้างกันตลอดไป

นางทาส 2536

เรื่องย่อ : นางทาส (2536/1993) เย็น ถูกพ่อยิ่งกับแม่ล้วนนำมาขายเป็นทาสบ้านพระยาสีหโยธิน ตั้งแต่อายุ 15 ปี ตกอยู่ในความปกครองของทาสหญิงชราชื่อ นางฟัก ดูแลฝึกหัดให้สันทัดงานผู้ลากมากดี ภายหลังคุณหญิงแย้ม ภรรยาเอกของท่านเจ้าคุณ ก็เรียกให้ไปรับใช้บนเรือน เพราะเย็นผิวพรรณหมดจดหน้าตาสะสวย พระยาสีหโยธินเจ้าของเรือนเป็นคนหล่อเหลาเจ้าชู้ ทำให้สาลี่ ภรรยาคนที่สองของท่านเจ้าคุณ กลัวว่าท่านเจ้าคุณจะขอเย็นจากคุณหญิงเป็นภรรยาอีกคน เพราะทั้งตนและคุณหญิง ยังไม่มีใครตั้งครรภ์กับท่านเจ้าคุณทั้งสิ้น สาลี่จึงตัดไฟแต่ต้นลม โดยการพาบุญมี ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องให้เป็นภรรยาท่านเจ้าคุณอีกคน แต่บุญมีก็ไม่สามารถตั้งครรภ์ให้ท่านเจ้าคุณได้ จนคุณสาลี่ได้สมคบกับคุณบุญมีหลอกท่านเจ้าคุณเรื่องแกล้งตั้งท้องสองครั้งเพื่อให้ท่านเจ้าคุณมาหาที่เรือนบ่อยๆและได้แกล้งแท้งโดยครั้งที่สองคุณสาลี่ได้ถีบคุณบุญมีตกบันได้เพื่อแกล้งแท้งเนื่องจากกลัวกลัวท่านเจ้าคุณจับได้ เมื่อเวลาผ่านไป ภรรยาทั้งสามคนของพระยาสีหโยธินไม่มีใครตั้งครรภ์ทั้งสิ้น ท่านเจ้าคุณขอเย็นจากคุณหญิงแย้ม เป็นภรรยาอีกคนหนึ่ง เย็นไม่ลืมว่าตัวตกเป็นของบุรุษผู้มีอายุคราวบิดามารดา เพราะความกลัวเกรงบุญบารมีหาใช่เพราะสมัครรักใคร่ไม่ กระนั้นเย็นก็ตั้งหน้าสามิภักดิ์โดยสุจริต เจ้าคุณเมตตาเป็นพิเศษ จึงก่อให้เกิดริษยาในหมู่เมียน้อยด้วยกัน เย็นอายุน้อยกว่าเขาทั้งนั้น ซ้ำมีชื่อว่าเป็นทาสมาแต่เดิมก็สงบเสงี่ยมเจียมตัว คุณหญิงจึงเอ็นดูกว่าอนุภรรยาคนอื่นๆ แปลกแสนแปลกด้วยเมื่อปีหนึ่งล่วงไป คุณหญิงและเย็นก็มีครรภ์ในเวลาไล่เลี่ยกัน เจ้าคุณตื่นเต้นดีใจเท่าไหร่ เย็นก็ถูกริษยาจากเพื่อนเมียน้อยเท่านั้น เย็นรู้ว่าถ้าเย็นเป็นมารดาลูกของเจ้าคุณ ก็อาจถูกใส่ความว่าประพฤติชั่วกับชายอื่น มันหมายถึงอันตรายยิ่งใหญ่ทีเดียว แต่โชคดีที่คุณหญิงตั้งครรภ์ด้วย หลังจากแต่งงานมานาน เมื่อเวลาใกล้กำหนดคลอด ท่านเจ้าคุณมีราชการต้องไปค้างอยู่ต่างจังหวัดมีกำหนดสามสิบวัน และก่อนหน้าที่จะกลับสิบสองวัน คุณหญิงแย้มก็ได้คลอดลูกชายแต่ทารกเสียชีวิตในวันรุ่งขึ้น ซึ่งพร้อมกับเย็นให้กำเนิดเด็กหญิง โดยมิคาดฝัน นางฟักก็มาบอกว่า คุณหญิงขอเปลี่ยนเอาลูกของเย็นไปเป็นลูกของท่าน ให้เย็นรักษาเป็นความลับไว้ตลอดอายุและจะให้รางวัลอย่างงาม เย็นบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร ใจหนึ่งนั้นหวงแหนเลือดในอก ปรารถนาจะได้โอบอุ้มเลี้ยงดูเองให้สมกับอุ้มท้องมาเกือบเต็มขวบปี แต่อีกใจหนึ่งนั้นหวั่นกลัวอำนาจอันยิ่งใหญ่ของภรรยาหลวง ไม่แน่ว่าการปฏิเสธจะเกิดผลร้ายแก่ตัวสักแค่ไหน แต่นางฟักชักแม่น้ำทั้งห้าหว่านล้อม อ้างว่าเพื่ออนาคตอันสดใสของลูก เป็นลูกคุณหญิงต้องดีกว่าเป็นลูกของนางทาสแน่นอน แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นลูกเจ้าคุณก็ตาม เย็นจึงยอม ค่ำวันนั้นคนในบ้านก็รู้ทั่วกันว่าลูกของเย็นตาย ส่วนลูกของคุณหญิงรอดชีวิตเป็นผู้หญิง มีชื่อว่าอุ่นเรือน เจ้าคุณกลับมาบ้านตามกำหนด ครั้นทราบว่าลูกของเย็นเป็นชายแต่ตายเสียก็บ่นเสียดาย ส่วนคุณหญิงได้รับการเอาใจใส่อย่างดีเลิศ ทารกซึ่งได้ตำแหน่งธิดาคุณหญิงแย้ม เติบโตรวดเร็ว ผิวพรรณผ่องใส เป็นที่รักของเจ้าคุณและคุณหญิงผู้ตั้งตนเป็นมารดาอย่างยิ่ง เย็นได้ให้น้ำนมได้อุ้มชูเลี้ยงดูโดยคำสั่งของคุณหญิงเป็นบางครั้ง ซึ่งทำให้เย็นเก็บความชื่นชมเสน่หาบุตรสาวอยู่กลายเป็นของคนอื่นไว้คนเดียว ท่านเจ้าคุณยังคงรักและเมตตาเย็น พร้อมทั้งมีความหวังว่าเย็นอาจจะมีลูกให้ท่านอีก เพราะอนุภรรยาอื่นๆ ไม่ปรากฏว่าใครจะตั้งครรภ์เลย จนในวันหนึ่ง ยืน พี่ชายของเย็นมาบอกเย็นว่าพ่อยิ่งป่วยหนัก แม่ล้วนให้มาขอขึ้นค่าตัวเย็นไปรักษาพ่อยิ่ง เย็นไม่กล้าให้พี่ชายเอ่ยปากกับท่านเจ้าคุณ จึงให้สร้อยทองพร้อมตะกรุดทองซึ่งเจ้าคุณให้ผูกตอนตั้งท้องไปแทน แต่การณ์กลับเป็นผลร้ายแก่เย็น ด้วยบุญมี อนุภรรยาของเจ้าคุณที่ริษยาเย็นอยู่ บังเอิญมาเห็นเหตุการณ์เข้า จึงกล่าวโทษฟ้องว่าเย็นคบผู้ชายถึงให้เป็นสิ่งของกัน เย็นจึงโดนหวายเฆี่ยนเจียนตาย และถูกถอดลงมาเป็นนางทาสตามเดิม เย็นต้องมาเป็นลูกมือนางในคนครัว ตำน้ำพริก ปอกมะพร้าว ขูดมะพร้าว หุงข้าว ผ่าฟืน ล้างถ้วยชามรามไห แล้วแต่นางในจะใช้ เหนื่อยสายตัวแทบขาด ที่ร้ายที่สุดคือห่างเหินลูกรักชนิดสุดเอื้อม กระนั้นก็ตามเย็นก็คอยหาโอกาสแอบเข้าไปใกล้ชิด อุ่นเรือนอยู่เสมอ จนวันหนึ่ง วันที่เย็นเข้าไปหา นางพุ่ม พี่เลี้ยงคุณแดง อุ้มคุณแดงเชยชม ก็ปรากฏว่าสร้อยข้อเท้าคุณแดงหายไป นางพุ่มระบุว่าเย็นมาอุ้มคุณแดง เย็นจึงถูกเฆี่ยนเป็นครั้งที่สอง จนคุณหญิงสงสารหยิบสร้อยเส้นใหม่ออกมาและบอกว่าหาพบแล้ว เย็นจึงรอดพ้นจากอาญาไปได้ ตั้งแต่นั้นมาเจ้าคุณก็สั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้เย็นเข้าใกล้อุ่นเรือน เวลาผ่านไปตามลำดับอุ่นเรือนโตเป็นสาวแรกรุ่นจำเริญตา ในขณะที่เย็นร่างกายเสื่อมโทรมไปเพราะงานหนัก ผิวพรรณด้านหลังงองุ้ม ผมหงอกเกือบทั่วศีรษะ วันหนึ่งขณะที่เย็นกำลังพักผ่อน หลังจากทำงานในครัวอย่างหนัก ก็ได้ยินเสียงสาลี่ อนุภรรยารุ่นเก่าคนหนึ่งของเจ้าคุณ และอีแอบ นัดแนะกันจะล่ออุ่นเรือนมาให้ คล้อย ซึ่งอดีตเป็นพระนักเทศน์ตัวลือข่มขืน เย็นตกใจแทบสิ้นชีวิต เฝ้าตรึกตรองหาทางป้องกันอุ่นเรือนจนกระทั่งถึงวันนัด เย็นไปดัก ณ ที่นัดพบเพื่อห้ามอุ่นเรือน อุ่นเรือนโกรธจัดถึงกับตบหน้าเย็น แต่เย็นไม่ฟังเสียงเฝ้าวิงวอนจนถึงกับต้องยื่นคำขาดว่า จะขัดขวางถึงตายก็ยอม เมื่อสาลี่มาถึงรู้ว่าความแตก ก็กรีดร้องขึ้นเต็มเสียงว่า เย็นพยายามแย่งกำไลจากอุ่นเรือน อุ่นเรือนวิ่งหนีไป สาลี่จึงขู่เย็นว่าถ้านำเรื่องไปบอกท่านเจ้าคุณ จะกุเรื่องให้อุ่นเรือนถูกโบย ทำให้ท่านเจ้าคุณเข้าใจผิดว่าเย็นขโมยกำไลอุ่นเรือน จึงสั่งโบยเย็น อุ่นเรือนทนไม่ไหวที่เห็นเย็นถูกโบย จึงสารภาพความจริงว่าถูกสาลี่แนะนำให้รู้จักและนัดพบกับคล้อย ท่านเจ้าคุณโกรธมากจึงไปเฆี่ยนสาลี่ที่เรือนจนสลบคาหวาย คุณหญิงพาอุ่นเรือนมาขอโทษเย็นถึงเรือนพัก อุ่นเรือนร้องไห้จนตัวโยน จับมือเหี่ยวแห้งมากำไว้ขณะที่กล่าวคำขอโทษ เย็นจูบปลายเท้าลูกน้ำตาไหลพรากเมื่อตอบว่า ถึงบ่าวจะตายเพราะช่วยคุณก็ไม่เสียดายชีวิต เพราะบ่าวรักคุณเหลือเกิน จากนั้นสาลี่ถูกขังไว้ในห้องอยู่หลายวัน สาลี่โกรธแค้นท่านเจ้าคุณมาก จึงสั่งให้คล้อยฉุดอุ่นเรือนอีกครั้ง แต่คราวนี้ท่านเจ้าคุณจับได้ และทราบความจริงจากคล้อยว่าถูกบงการโดยสาลี่ ท่านเจ้าคุณจึงไล่สาลี่ออกจากบ้าน สาลี่ย้ายไปอยู่บ้านของอีแอบซึ่งเป็นกระท่อมหลังเล็กๆ ขาดข้าวขาดน้ำ จนป่วยหนักและตรอมใจตายในที่สุด หลังจากนั้นไม่นานด้วยเดชะพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่แห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงคุณธรรมอันประเสริฐ ซึ่งมีต่อพสกนิกรแห่งพระองค์ ได้ทรงออกพระราชบัญญัติประกาศให้เลิกทาสทั่วพระราชอาณาจักร ปวงประชาราษฎร์ทั้งหลายต่างชื่นชมโสมนัส สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณนี้เป็นล้นพ้น แซ่ซ้องสรรเสริญทั่วทุกหลังคาเรือน พระอารามทั่วไปเคาะระฆังแสดงความปลื้มปิติ และเป็นความหมายให้สำเนียงนี้อุโฆษขึ้นไปถึงเทพยดาเจ้าเบี้องบนฟากฟ้าโน่น ตามเคหะสถานท่านผู้มีทาสใช้สอย บางรายก็เสียดายอำนาจซึ่งหลุดลอยไป บางแห่งก็ยินดี โดยเฉพาะพระยาสีหโยธิน เจ้าคุณโสมนัสชื่นชมเป็นที่ยิ่ง ประกาศให้ทุกคนในบ้านมีการรื่นเริงได้เต็มที่ ปัจจุบัน เย็นไม่ต้องทำงานหนักตรากตรำแล้ว คุณหญิงให้นั่งดูแลหอนั่ง เย็นค่อยแจ่มใสอ้วนท้วนนุ่งห่มสะอาดนัยน์ตา มีโอกาสได้พบปะใกล้ชิดลูกโดยไม่มีใครรังเกียจ แม้ฝ่ายอุ่นเรือนเองจะไม่รู้จักว่าเป็นแม่ ตามวิสัยของมารดากับบุตร ย่อมมีสัมพันธ์ทางสายโลหิตใกล้ชิดอยู่เสมอ อุ่นเรือนจึงรักเย็นมาก วันที่ความจริงปรากฏขึ้นก็มาถึง เมื่อล้วนกับยืนเดินทางมาหาเย็น หวังจะนำเงินมาไถ่ตัวเย็น พร้อมทั้งนำตะกรุดทองมาคืนท่านเจ้าคุณ ความจริงเปิดเผยว่าผู้ที่เจ้าคุณคิดว่าเป็นชู้ของเย็นเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อนนั้นคือพี่ชาย เจ้าคุณอึ้งไปด้วยสำนึกในความผิด ทั้งเสียใจและเสียดายความหลังเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีทางใดจะแก้ไขให้เหมือนเดิมได้ ได้แต่ขออโหสิต่อเย็นอยู่ในใจ และบุญมี มีความผิดฐานใส่ร้ายเย็นจึงถูกถอดลงจากอนุภรรยามาเป็นบ่าว ทำงานรับใช้ท่านเจ้าคุณ เย็นมีชีวิตเป็นสุขขึ้นมาก ความดีทุกอย่างปรากฏขึ้นแล้ว แต่ความจริงที่อุ่นเรือนคือบุตรสาวที่แท้จริงของเย็นยังไม่ปรากฏ

หน้ากากดอกซ่อนกลิ่น 2536

เรื่องย่อ : หน้ากากดอกซ่อนกลิ่น (2536/1993) แสน ภูมิ รีบกลับจากเมืองนอกทันทีที่รู้ว่า สันต์ เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจวาย เฉียบพลัน ขณะที่ไปเที่ยวทะเลกับภรรยา สาวสวยคนใหม่ที่เพิ่งแต่งงาน เมื่อถึงสนามบิน สกัด เพื่อนสนิทของสันต์กับ มาลีวรรณ ภรรยาของพ่อได้มาคอยต้อนรับ เขาอย่างดี มาลีวรรณจัดการงานศพทุกอย่าง แทนแสนภูมิและบรรจุศพไว้เพื่อรอให้แสนภูมิกลับมา เผาเพราะพินัยกรรม จะถูกเปิดทันทีที่เผาศพในอีก100วันข้างหน้า ซึ่งมาลีวรรณได้บอกแสนภูมิว่าสันต์ ได้ยกทุกอย่างให้กับแสนภูมิ ทำให้แสนภูมิแปลกใจที่พ่อ ไม่ทิ้งสมบัติให้ภรรยาที่ทั้งสวย และแสนดีคนนี้เลยส่วนงานที่บริษัท ก็มีสกัดช่วยดูแลแทนให้อย่างดี

หมูแดง 2536

เรื่องย่อ : หมูแดง (2536/1993) เขาต้องการให้ครอบครัว “ธวัชราพันธ์” หมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง เหมือนครั้งหนึ่งที่ครอบครัวของเขาเคยเป็น แต่เนื่องจากความดีงามของเธอ…”หมูแดง” ทำให้ความแค้นของเขาที่มีอยู่ก็สลายไปเพราะเธอ เพราะพันธะสัญญาที่มริสสาหรือหมู แดงให้ไว้กับมารดาก่อนเสียชีวิตว่าไม่ว่าอย่างไรเธอก็ต้องปกป้องวัชราพันธุ์ เอาไว้ให้ได้ แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจว่าทำไมมารดาต้องยอมให้คนเหล่านี้ดูถูกหยาดหยามทั้งๆ ที่มารดาเธอไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ใครๆประนามเลย และยังต้องอดทนทุกอย่างเพื่อค้ำเกียรติวัชราพันธุ์ แต่สัญญาที่ให้ไว้สำคัญกว่าสิ่งใด ด้วยหัวใจที่ทระนงดั่งเพชรของผู้หญิงตัวเล็กๆทำให้ พันเอกภาคินัย เจ้าหนี้รายใหญ่ของวัชราพันธุ์ต้องวางหัวใจไว้ให้เธอ

เกิดแต่ตม 2536

เกิดแต่ตม (2536/1993) มิ่งโกมุท เด็กหญิงหน้าตาฉลาดเป็นกรดและเอาเรื่อง หรือที่ใครๆ เรียกกันว่า ไอ้มิ่ง เพราะนึกว่าเป็นเด็กชาย ถามหาพ่อแม่มาตั้งแต่รู้ความจนเข้าวัยหกขวบ แต่ทั้งแป๊ะและซิ้มไม่เคยยอมเอ่ยถึง และยังอารมณ์เสียทุกครั้งที่มิ่งถามหรือเมื่อใครอื่นพูดถึงพ่อแม่ของมิ่ง มิ่งได้ยินชื่อ มาลี ครั้งแรกจากปากลุงมานิต ซึ่งพาป้าสะใภ้ อรนุช และน้องต้น ลูกชายอายุสามขวบมาเยี่ยมแป๊ะกับซิ้มซึ่งเป็นพ่อแม่เลย และวันที่แป๊ะกับซิ้มพามิ่งไปมอบตัวที่โรงเรียน มิ่งจึงได้ยินว่าตัวเองเป็นบุตรบุญธรรมของแป๊ะกับซิ้ม และคุณครูอธิบายให้มิ่งฟังว่าบุตรบุญธรรมเป็นอย่างไร และต่อมาญาติจากสวนส้มจึงไขปริศนาเรื่องพ่อแม่ของมิ่งให้มิ่งฟังว่า แม่ของมิ่งชื่อ มาลี เป็นลูกสาวของแป๊ะกับซิ้ม แม่หนีตามพ่อซึ่งเป็นคนขับรถสิบล้อไปตั้งแต่อายุสิบห้า แล้วถูกพ่อมิ่งทิ้ง เมื่อคลอดมิ่งจึงเอามิ่งมาทิ้งให้แป๊ะกับซิ้มเลี้ยงแล้วหายไป ลุงมานิตคือลูกชายคนโตของแป๊ะกับซิ้ม แล้วมิ่งยังมีลุงอีกคน เป็นน้องของลุงมานิต พี่ของแม่มาลีคือ ลุงมารุต แต่ติดยาโดนจับติดคุกแล้วหายหน้าไป ความรู้สึกโหยหาแม่อยู่ในใจมิ่งตลอดเวลา ยิ่งถวิลลูกมือทำอาหารของแป๊ะบอกว่าแม่ของมิ่งทำงานอยู่ในโรงงานแถว พระประแดง ถวิลเคยเจอแม่บ่อยมากที่ตลาด แม่ถามถึงมิ่งด้วย มิ่งยิ่งอยากเจอแม่ พระประแดงอยู่ไม่ไกลจากร้านของแป๊ะเลย แป๊ะและซิ้มซื้อตึกแถวเปิดร้านขายอาหารขายกาแฟอยู่ในย่านหนึ่งของฝั่งธน ในทำเลที่ลูกค้ามาก แต่เป็นทำเลแห่งโลกีย์ สภาพแวดล้อมไม่ดี เป็นแหล่งแฟล็ตเช่าของหญิงขายบริการ จนแม้กระทั่งเศรษฐีนีเจ้าของที่ดินและแฟล็ตเช่าในย่านนั้นคือ อาจารย์วัชรี ยังต้องขายบ้านพาครอบครัวไปอยู่ที่อื่น เพราะเกรงสิ่งแวดล้อมทำพิษต่อลูกๆ มิ่งเลยต้องจากกับเพื่อนสนิทมากรุ่นพี่คือ วัสสา ซึ่งอายุแก่กว่ามิ่งปีหนึ่ง วัสสามีพี่สาวสวยมากอายุสิบขวบคือ วาลุกา กับน้องชาย วณิชชา อายุสามขวบ ภายหลังคนที่ซื้อบ้านอาจารย์วัชรีทำบ้านหลังนั้นเป็นห้องอาหารแบบมีสาวป้อน และขายบริการ มีเวทีเพลงลูกทุ่ง หางเครื่องเต้นเปิดกระโปรงอยู่หน้าห้องอาหารด้วย มิ่งวิ่งขึ้นลงส่งอาหารตามห้องต่างๆ บนแฟล็ตจนคุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมของคนโลกีย์...

ค่าของคน 2536

ค่าของคน (2536/1993) ลักษมณ์เป็นลูกชายของท่านเจ้าพระยานฤนาทไมตรีกับท่านผู้หญิงศรี ท่านเจ้าพระยามีหน้าที่การงานเป็นท่านทูต ด้วยสาเหตุนี้เองทำให้ครอบครัวต้องมีการโยกย้ายไปยังต่างประเทศบ่อยครั้ง เมื่อตอนเด็กๆลักษมณ์พบว่าความสัมพันธ์ของครอบครัวไม่ดีเท่าที่ควรโดยพ่อแม่ของเขามักจะแสดงความเหินห่าง จนกระทั่งเมื่อท่านเจ้าพระยาได้กลับมาที่เมืองไทยความเหินห่างก็ยิ่งปรากฎให้เห็นชัดเจนขึ้น เมื่อพ่อของเขาได้พาผู้หญิงเข้ามาอยู่ในบ้าน หลังจากนั้นลักษมณ์ก็ถูกส่งตัวไปเรียนหนังสือยังต่างประเทศ ไม่นานแม่ของเขาก็ได้ส่งข่าวไปบอกว่า พ่อของเขาป่วยหนัก ดังนั้นลักษมณ์จึงได้กลับมาที่เมืองไทยเพื่อมาดูอาการของพ่อเมื่อกลับมาเขาก็ได้รู้ความจริงว่า คุณแขเป็นภรรยาของพ่ออีกคนหนึ่งและเขาก็ได้มีน้องชายอีกคนชื่อพิมาน หลังจากนั้นพ่อเขาก็ตายโดยก่อนที่พ่อเขาจะตายพ่อได้บอกกับเขาว่าอยากให้เขาเข้าเรียนวิชาการปกครองเพื่อเจริญรอยตาม แต่เนื่องจากเขามีอคติกับพ่อทำให้เขาไม่สนใจในสิ่งที่พ่อเขาบอกกล่าว จากนั้นเขาก็ได้กลับไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ไม่นานคุณหญิงก็ได้ส่งน้องชายต่างมารดาชื่อ พิมาน ให้ไปศึกษาเล่าเรียนกับเขาอีกคน แม้ว่าเขาเองจะชอบที่จะเที่ยวเล่นมากกว่าเรียนหนังสือ แต่เมื่อพิมานไปเรียนด้วยเขากลับเข้มงวดในเรื่องเรียนของพิมานและยังเลือกวิชาเรียนให้เป็นไปตามที่พ่อเขาต้องการ นอกจากนี้เขายังให้ความรักและให้ความดูแลพิมานเป็นอย่างดี อยู่ได้ระยะหนึ่งคุณแขก็ได้ส่งข่าวไปบอกว่าคุณหญิงป่วยหนักให้ลักษมณ์รีบกลับด่วน แต่กระนั้นเขาก็ไปช้าแม่เขาก็ได้เสียไปแล้วก่อนที่แม่เขาจะเสียชีวิตก็ได้ฝากฝังเขาไว้กับคุณแข ซึ่งคุณแขเองก็ได้ให้ความรักฉันผู้ใหญ่ที่มีต่อเด็กรวมถึงให้การยกย่องเกรงใจเป็นอย่างดี ทำให้ความสัมพันธ์ภายในบ้านของเขายังคงราบรื่น เนื่องจากลักษมณ์เป็นคนจัดเจนต่อชีวิตทั้งในด้านดีและด้านเลว ดังนั้นเมื่อลักษมณ์ได้ศึกษาเล่าเรียนจนจบเขาก็ได้ดำเนินการค้าสืบเนื่องมาจากตระกูลของแม่ ด้วยไหวพริบและเล่ห์เหลี่ยมที่เขามีทำให้การค้าของเขาเจริญรุ่งเรือง ในด้านการงานเขาจึงไม่เคยถูกตำหนิจากหมู่ญาติแต่ในเรื่องความประพฤติเขามักตะถูกตำหนิบ่อยๆ ซึ่งคำตำหนิมักจะผ่านมาทางคุณแขตลอด จึงเป็นเหตุผลให้คุณแขพยายามที่จะหาสตรีที่มีความเหมาะสมเพรียกพร้อมในทุกๆด้านมาแต่งงานกับเขาและน้องชาย

นวลนางข้างเขียง 2536

นวลนางข้างเขียง (2536/1993) รายชีวิตของหญิงสาวผู้อยู่กับเขียงหมู แต่ผันแปรไปเป็นนางแบบโฆษณาขายแชมพูเพราะความงามของเส้นผม ความรักของเธอกับจิตกรหนุ่มผู้รักอิสระ

ผยอง 2536

ผยอง (2536/1993) เหินฟ้า เพิ่งได้ประจักษ์ในชาติกำเนิดอันแท้จริงของตนว่าเขาคือ ม.ร.ว.เหินฟ้า จตุรพล ทายาท ม.จ.จอมเทพ จตุรพล และเป็นเจ้าของวังเพลินจิตแต่เพียงผู้เดียวทว่าก้าวแรกที่ก้าวสู่วังเพลินจิตกลับมิได้รับไมตรีจากพระเชษฐภคินีของ ม.จ.จอมเทพ และลูกๆ ของท่านหญิง อีกทั้งยังถูกดูถูกเหยียดหยามจนสุดที่จะอดกลั้นจึงต้องเรียกร้องสิทธิ์อันชอบธรรมของตน เหินฟ้าแสดงให้ทุกคนเห็นว่าทรัพย์มรดกมิได้มีความสำคัญเท่ากับความหยิ่งผยองในสายเลือดจตุรพล และความดี แม้เหินฟ้าได้กลายมาเป็นที่หมายปองของหญิงสาวในกลุ่มสังคมชั้นสูง แต่หัวใจของเขายังมี สวย เด็กสาวที่เป็นเพื่อนเล่นมาแต่เยาว์วัยประทับอยู่ในหัวใจไม่รู้ลืม หากสวยกลับเข้าใจผิดว่าเหินฟ้าหลงระเริงกับสังคมสวยหรูของกรุงเทพฯ จนลืมเพื่อนเก่าเช่นเธอ ความอาฆาตพยาบาทโกรธแค้นจึงปรากฏขึ้นในหัวใจของสวย เหินฟ้าจึงต้องพิสูจน์ความจริงนี้...ด้วยหัวใจรักเท่านั้น

ชิงช้าชาลี 2536

ชิงช้าชาลี (2536/1993) เป็นเด็กวัยรุ่นอีสาน เข้ามาเรียนต่อในกทม. อยู่บ้านญาติ มีเรื่องชกต่อย อิจฉากับญาติๆ ที่ไม่เอาไหน รวย กับ จน คนกรุง กับ คนบ้านนอก นางเอกชื่อ ชาลี พระเอกทำชิงช้า ด้วยเถาวัลล์ให้นางเอก ในเชิงเขา ที่บ้านนอก…และมาเผชิญ ใน กทม. ด้วยกัน

สีวิกา (2536/1993) ละคร "สีวิกา" กลายเป็นละครเรื่องอื้อฉาวเมื่อครั้งออกอากาศในปี 2536 เรื่องราวของหญิงสาวนาม "สีวิกา" ที่มีชีวิตเก่งกล้าเกินตัวมาตั้งแต่เด็ก เมื่อโตขึ้นเธอก็มีพฤติกรรมทางเพศแบบเสรี หลอกใครต่อใครให้ลุ่มหลง จนสุดท้ายได้นำพาเธอไปสู่เรื่องราวโศกนาฏกรรม คุณหญิงสีวิกา (๒๕๓๔) ซึ่งได้รับการดัดแปลงโดยนิดา (หรือทัณฑิกา) เคยตีพิมพ์เป็นตอนๆ ลงในนิตยสารสกุลไทย และกลายมาเป็นละครโทรทัศน์อันแสน "อื้อฉาว" ในปี พ.ศ. ๒๕๓๖ นวนิยายดังกล่าวเล่าเรื่องราวของหญิงสาวที่ชื่อนิสาชล ซึ่งแต่งงานกับมนัสวีร์ มหาเศรษฐีเจ้าของคฤหาสน์พิมานแมน ในตอนแรกนิสาชลเข้าใจผิดคิดว่ามนัสวีร์ยังรักและอาลัยในตัวภรรยาเก่าที่ชื่อ สีวิกา ต่อเมื่อมีการพบศพของสีวิกา นิสาชลจึงรู้ความจริงว่าสีวิกาเสียชีวิตด้วยน้ำมือของมนัสวีร์ เพราะเขาทนความส่ำสอนทางเพศของเธอไม่ไหว นิสาชลเห็นใจและเอาใจช่วยให้มนัสวีร์หลุดพ้นจากข้อหาฆาตกรรม ผลการพิจารณาคดีตัดสินว่าสีวิกาฆ่าตัวตายเพื่อหนีจากความทรมานของโรคมะเร็ง คนใช้เก่าแก่ของสีวิกาเจ็บแค้นแทนเจ้านายเก่า เธอจับนิสาชลขังไว้ในห้องนอนที่สีวิกาเคยใช้และจุดไฟเผาหวังให้ตายตกไปพร้อม กับตน แต่นิสาชลกลับรอดมาได้อย่างหวุดหวิดเพราะชายบ้าคนหนึ่งมาช่วยไว้