ชายสามโบสถ์ 2529

เรื่องย่อ : ชายสามโบสถ์ (2529/1986) ว่าด้วยเรื่องราวความแค้นที่ยากจะระงับของ ผง ชายหนุ่มบ้านสามเรือนซึ่งกำลังบวชเพื่อทดแทนบุญคุณมารดา แต่เหมือนเทวดาจะกลั่นแกล้ง เมื่อ โรย หญิงคนรักถูกพ่อบังคับให้แต่งงานกับ เพียร เศรษฐีใหม่ ทรัพย์ ลูกน้องที่ภักดีรีบนำข่าวร้ายมาบอกผง เมื่อไม่อาจระงับโทสะได้ ผงจึงจำต้องสึกเพื่อมาชำระแค้น ทั้งสองรวบรวมสมัครพรรคพวกบุกไปทำลายเรือนหอของเพียรพินาศย่อยยับ สมุนของเพียรตามล่าตัวผงอย่างบ้าคลั่ง ผงพลาดท่าถูกฟันแผลฉกรรจ์จึงไปกบดานยังบ้านสร้าง

2 ปีผ่านไป โรยลอบเล่นชู้กับทรัพย์และหนีมาพึ่งใบบุญของกำนันบ้านสร้าง แต่เพียรก็ไม่ได้ยี่หระเพราะเวลานี้เพียรหมายมั่นจะเอา รื่น น้องสาวของโรยเป็นเมีย แต่รื่นได้มอบใจให้ผงไปแล้ว เพราะผงเป็นคนเดียวที่คอยออกรับแทนเวลาที่รื่นทำผิดตอนยังเด็ก แม้รื่นจะรู้ว่าผงเอ็นดูเธออย่างน้องสาวก็ตาม ข่าวลือว่าพระที่มาธุดงค์ปักกลดยังบ้านสามเรือนหน้าตาคล้ายผงได้แพร่สะพัดออกไป รื่นรีบจัดแจงนำอาหารไปบิณฑบาตและเล่าข่าวคราวของโรยและตนให้ผงฟัง ว่ากำลังถูกเพียรคุกคามอย่างหนัก ด้วยความแค้นแต่หนหลังจึงง่ายที่ผงจะตัดสินใจลาสึกอีกครั้งเพื่อหาทางช่วยรื่นเวลานี้โรยกำลังลำบากหนักเพราะหมดเงินจึงส่งจดหมายขอความช่วยเหลือจาก กำนันเพลิน ซึ่งเป็นพ่อ เพียรจึงยื่นข้อเสนอกับกำนันเพลินว่าจะรับโรยกลับมายังบ้านสามเรือนโดยมีข้อแม้ว่าจะขอรื่นเป็นเมีย แต่ผงมาชิงตัวรื่นไปได้ทัน ผงกับรื่นมีเวลาอันแสนสุขเพียงสั้นๆ ก่อนที่สมุนของเพียรจะตามตัวทั้งสองเจอและฆ่ารื่นตายต่อหน้าผง ผงอาละวาดหนักฆ่าเพียรและสมุนตายก่อนจะหันหน้าเข้าหาร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้งเพื่อดับความเสียใจต่อการจากไปของรื่น
Placeholder
Placeholder

นางสาวทองสร้อย (2529/1986) เรื่องราววุ่นๆของ ดร.ทองสร้อย อาจารย์มหาวิทยาลัยที่ชื่นชอบวิชาโหราศาสตร์ ปลอมตัวไปเป็นคนรับใช้ในบ้านของสามพี่น้อง และเกิดหลงรัก คุณกลาง ซึ่งมีภรรยาอยู่แล้ว ตามที่ได้ทำนายดวงชะตาตนเองไว้ว่าจะหลงรักคนมีเจ้าของ แถมคุณกลางก็มีใจให้ทองสร้อย ทำให้หญิงสาวต้องพิสูจน์ตัวเองว่าจะยอมให้โชคชะตามาบงการชีวิตหรือไม่

Placeholder
Placeholder
Placeholder
Placeholder

เรื่องย่อ : คนมีคาว (2529/1986) พรต นักธุรกิจก่อสร้างใหญ่อุปการะหญิงสาวสองคนพี่น้อง คนพี่ชื่อ ศีตลา เป็นคนเยือกเย็น เด็ดเดี่ยว และช่วยควบคุมดูแลงานของพรตได้เป็นอย่างดี เธอรู้ดีว่าพรต ไม่ใช่บิดาที่แท้จริงของเธอ ส่วนน้องสาวคือ มลุลีห์ ยังเป็นนักศึกษาอยู่ และไม่เคยรู้ความจริงข้อนี้ ศีลตลาตกเป็นภรรยาของพรตด้วยความจำเป็น โดยไม่มีใครรู้ ศีตลาจำเป็นต้องอดทนทุกอย่างเพื่อให้น้องสาวของเธอเรียนสำเร็จเสียก่อน

พรตเดินทางไปเยอรมันพบหลานชายชื่อ ศาตรา ศรันยู เป็นลูกของน้องชายของเขาซึ่งตายไปแล้ว พรตส่งศาสตรา กลับมาชุบตัวที่เมืองไทยให้ทำงานในบริษัทและตามใจเขาทุกอย่าง ศาสตรารวนศีตลา ทุกครั้งเมื่อมีโอกาส ทำให้ศีตลาไม่ชอบศาสตรามาก ต่างกับ มลุลีห์ ซึ่งพยายามจะผูกมิตรกับศาสตรา

ศาสตรารู้จากพ่อของเขาว่า พรตโกงเอาบริษัทของพ่อเขาไประหว่างที่พ่อเขาลี้ภัยทางการเมือง และไม่ยอมให้ความช่วยเหลือใดๆ เลย ทั้งๆ ที่รู้ว่าน้องชายไม่สบายมาก จนกระทั่งต้องตายไปเพราะไม่มีมีเงินรักษา ศาสตราจึงคิดจะแ้ก้แค้นอยู่ตลอดเวลา เขาจึงเริ่มดำเนินการเมื่อมีโอกาส เมื่อศาสตราได้รับมอบหมายให้ติดต่อกับคุณสุคนธาเพื่อตกลงราคาการต่อเติมโรงแรมสุคนธา เขาก็เริ่มคดโกงพรตทันที ศีตลารู้ทันเขาตลอดเวลาแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

เมื่อศาสตราอยู่เยอรมัน เขารักอยู่กับหมอมนทิรา ผู้วึ่งต้องกลับมาแต่งงานกับหมอพีระ เพื่อทดแทนบุญคุณ พอศาสตรากลับเมืองไทยเขาจึงมาติดต่อกับหมอมนทิราอีก ทั้งสองต่างก็ยังรักกันอยู่ แต่ความผูกพันระหว่างหมอมนทิรา และหมอพีระมีเหนือกว่าความรัก ศาสตราจึงไม่สามารถจะเปลี่ยนใจหมอมนทิราได้

หมอพีระเป็นหมอประจำครอบครัวของพรตอยู่แล้ว ดังนั้นวันหนึ่งศีตลาจึงได้มาหาหมอพีระเพื่อตรวจร่างกาย เพราะเธอรู้สึกอ่อนเพลีย ปรากฎว่าเธอเป็นมะเร็งในเม็ดเลือด เธอขอร้องหมอให้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ส่วนเธอเองก็คิดหาทางช่วยเหลือ มลุลีห์ให้พ้นจากพรต เพราะเธอไม่เคยไว้ใจพรต และน้องสาวของเธอก็ยังเป็นเด็กเกินไป ทั้งยังไม่รู้ระแคะระคายอะไรเลย ศีตลารู้ว่ามลุลีห์กำลังเริ่มรักศาสตรา เธอจึงพยายามกัน มลุลีห์ให้พ้นจากศาสตราด้วยอีกคน โดยทำให้มลุลีห์เข้าใจผิดว่าเธอรักกับศาสตรา การนี้ทำได้แนบเนียนและสมจริง จนมลุลีห์และพรตก็เข้าใจผิดเช่นนั้นไปด้วย

ต่อมา ศีตลา ตั้งท้องกับพรต เพราะความเผอเรอ พรตรู้เรื่องเข้าก็คิดว่าศีตลาท้องกับศาสตรา แต่ศาตรากลับยอมรับที่จะแต่งงานกับศีตลา เพราะได้รู้ว่าเธอเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดและจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน เขาเริ่มสงสารเธอ และยิ่งสงสารมากขึ้นเมื่อรู้ว่าพ่อของเด็กในท้องคือลุงของเขาเอง ศาสตราพยายามจะช่วยศีตลาให้พ้นจากลุงของเขา

ต่อมาศีลตลาค้นพบเอกสารสำคัญในห้องศาสตรา ว่าพ่อของเขาเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในบริษัท เธอจึังรู้ว่า พรตโกงน้องชายของเขา เธอเก็บเอกสารนั้นไว้ เพราะรู้ว่าหากศาสตราทวงสิทธิ์ของเขาขึ้นมาเมื่อไร น้องสาวของเธอก็จะลำบากเมื่อพรตไม่มีอะไรเหลือ ศาสตราโกรธมากเมื่อรู้ว่าศีตลาเอาเอกสารของเขาไป เขาไม่คิดว่าศีตลาจะหักหลังเขาได้ ศาตราจึงพยายามทำให้พรตระแวงศีตลา เพราะคิดว่าศีตลาทำไปเพื่อช่วยพรต ส่วนพรตก็คิดว่าศีตลาช่วยศาสตราเพราะเอกสารลับนั้นอยู่ในตู้เซฟ ซึ่งศีตลาเป็นผู้ถือกุญแจอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม พรตก็ยังรักและต้องการได้ศีตลากลับคืนมาอีก ดังนั้นเขาจึงหาทางกำจัดศาสตราแต่เพียงคนเดียว

ขณะที่ศีตลาไม่อยู่บ้าน พรตก็เข้าหามลุลีห์ แต่ศาสตราเข้าช่วยไว้ทัน และได้พามลุลีห์ไปพักอยู่ที่อื่น ศาสตราสร้างสถานการณ์ให้ศีตลาเ้ข้าใจผิดว่าเขามีความสัมพันธ์กับมลุลีห์ เพื่อเป็นการแก้แค้น

ศีตลาดักพบมลุลีห์จึงได้รู้ความจริงว่า พรตพยายามเข้าหา ศีตลาโกรธมาก เพราะเธอเคยขอให้พรตสัญญากับเธอว่าจะไม่แตะต้องน้องสาวเธอ หากเขาผิดสัญญา เขายินยอมให้เธอทำอะไรกับเขาก็ได้ ศีตลาจึงวางแผนทำเป็นดีกับพรตอีก และชวนพรตไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัดอีก ระหว่างทางเธอตัดสินใจขับรถพุ่งชนกับรถบรรทุกเพื่อยุติปัญหาทั้งปวง ก่อนไปเธอส่งจดหมายถึงศาสตรา มอบเอกสารสำคัญให้เขา บอกฝากมลุลีห์กับเขาพร้อมกบสารภาพว่าเธอรักเขา แต่รู้ตัวดีว่าไม่มีึค่าพอสำหรับเขา

Placeholder
Placeholder

เรื่องย่อ : ความรักแสนกล (2529/1986) ความรักของหนุ่มสาว ๖ คน ที่มีความผูกพันรักใคร่กันมาตั้งแต่เด็ก แต่ความรักของพวกเขาต้องเผชิญกับความไม่สมหวัง อันมีสาเหตุจากการที่ไปรักคนที่เขาไม่ได้รัก สุดท้ายความรักของคู่ไหนจะสมหวัง และจะจบลงเช่นไรไม่มีใครรู้ได้ ต้องปล่อยให้เป็นไปตามเส้นทางของแต่ละคน

กามนิต-วาสิฏฐี 2529
มายาลวง 2529
นางเอก 2529
ต้นส้มแสนรัก 2529

เรื่องย่อ : ต้นส้มแสนรัก (2529/1986) แสน เป็นเด็กชายอายุ 6 ขวบ นิสัยซุกซน ช่างคิดฝัน ชอบเล่นและพูดคนเดียว แม้ว่าจะอายุเพียง 6 ขวบแต่ก็ฉลาดเกินอายุ บางครั้งพูดจาแก่เกินตัว และอ่านหนังสือออกหมดโดยที่ไม่มีใครสอน เขาจดจำตัวอักษร และสระจากพี่ๆ จนสามารถอ่านคำยากๆ ได้หลายคำ ทุกคนในบ้านพากันงง และคิดว่าแสนจะต้องแอบไปให้ใครสอนมา ยกเว้นลุงเอิบเพียงคนเดียวที่เชื่อเรื่องนี้ และรู้ว่าแสนเป็นเด็กฉลาดโตขึ้นจะไปได้ไกล ชีวิตของแสนคับแค้นมาก เพราะพ่อตกงานมาเป็นเวลานาน พ่อหม่นหมองและออกหางานตั้งแต่เช้ายันเย็นแทบทุกวัน ในที่สุดแม่ก็ต้องออกไปรับจ้างทำงานนอกบ้าน พี่สาวคนหนึ่งถูกส่งไปอยู่กับญาติฐานะดี เกด พี่สาวคนโตออกไปงานโรงงาน เหลือแต่แก้ว พี่สาวคนรองอยู่บ้านคอยดูแลน้อง และทำงานบ้านทุกอย่าง แสนรักแก้วมาก เพราะแก้วดีกับแสน และไม่เคยตีแรงๆ เวลาที่แสนทำผิด แสนมีพี่ชายอยู่คนหนึ่งชื่อ ปื๊ด อายุเก้าขวบ เป็นเพื่อนเล่นของแสนมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ก็มักเล่นเอาเปรียบเล็กๆน้อยๆ อยู่เสมอ แต่แสนก็ไม่ถือสา และคนที่แสนรักมากที่สุดคือ อ้น น้องชายคนเล็ก ซึ่งเป็นเด็กน่ารักไม่ดื้อไม่ซน แสนชอบพาอ้นไปเที่ยวรอบๆ บ้าน และสมมติว่าเป็นการเที่ยวเขาดิน พ่อกับแม่ตัดสินใจออกจากบ้านเช่าหลังเก่า ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านของย่าและลุง เพราะหลังใหญ่เกินกำลังเงินค่าเช่า ทั้งหมดได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านเช่าหลังเล็กราคาถูกกว่าเดิม หลังบ้านเป็นป่าละเมาะชายนา มีต้นไม้อยู่หลายต้น พวกเด็กๆ พากันจองต้นไม้คนล่ะต้น แก้วจองต้นมะม่วงเป็นคนแรก ปื๊ดรีบจองต้นมะขาม แสนไม่มีต้นไม้ดีๆ เป็นของตนจึงร้องไห้ แก้วสงสารจึงพาไปจองต้นส้มเล็กๆ ได้ต้นหนึ่ง ครั้งแรกแสนไม่ค่อยชอบต้นส้มนัก แต่ต่อมาแสนก็ยอมเป็นเจ้าของต้นส้ม แสนชอบการพูดคุยปรับทุกข์เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ต้นส้มฟัง แสนสนิทสนมและรักต้นส้มนี้มากที่สุด ในวันหยุดเรียน แสนจะออกไปรับจ้างขัดรองเท้า วันหนึ่งแสนได้พบกับชายขายของเร่ ซึ่งจะมาขายของเฉพาะวันหยุดเท่านั้น แสนไปดูบ่อยๆ จนรู้จักกับลุงสมาน ลุงสมานจะร้องเพลงและขายของไปด้วย ในที่สุดทั้งสองได้กลายเป็นเพื่อนกัน แสนช่วยร้องเพลงขณะขายของ ทำให้มีคนมามุงกันแน่นเพื่อซื้อของ และบางคนก็ให้เงิน แสนได้ของติดมือมาทุกครั้งและเอาไปให้แก้ว วันรุ่งขึ้น แสนป่วย ทุกคนในบ้านสงสารและเอาใจแสนเป็นพิเศษ ย่ากับลุงมาเยี่ยม ลุงมาเล่าเรื่องตลกให้แสนฟัง แต่แสนไม่ยอมหัวเราะ แสนเปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคน ซึมไป และไม่พูดไม่จา ไม่ว่าแก้วหรือปื๊ดจะมาชวนคุยเรื่องสนุกๆ ที่เขาเคยชอบก็ตาม แสนบอกกับทุกคนว่าคามฝันทั้งหมดได้จากเขาไปแล้ว ไม่มีใครรักเขาแม้กระทั่งพ่อ เขาอุตส่าห์เก็บสายนาฬิกาที่พอขายตัวเรือนไปหลังจากตกงานไว้กับตัวตลอดเวลา และเคยอวดลุงปุ๊ยอย่างภาคภูมิว่าพ่อให้เขา แสนคิดว่าตัวเองเป็นที่รังเกียจของทุกๆ คน แสนนั่งซึมอยู่กับต้นส้มเป็นวันๆ โดยไม่พูดจากับใคร มีข่าวร้ายมาอีก ปื๊ดบอกว่าถนนสายใหม่จะตัดผ่านหลังบ้านบริเวณที่มีต้นส้ม ดังนั้นต้นไม้ทั้งหมดรวมทั้งต้นส้มจะต้องถูกโค่นหมด เพราะทางการจะปรับที่ไม่ช้านี้ เขาบอกปื๊ดว่ามันไม่เป็นความจริง เพราะเขาจะไม่ยอมให้ใครมาโค่นต้นส้มของเขาได้ เมื่อได้รับอนุญาตให้ออกนอกบ้านได้แล้ว แสนก็รีบตรงไปหาลุงปุ๊ยที่ร้านอาโก ลุงปุ๊ยต่อว่าที่แสนหายไป แสนเจอหน้าลุงปุ๊ยก็ร้องไห้และขอให้ลุงปุ๊ยพาไปนั่งรถเล่น แสนระบายความทุกข์ของเขาให้ลุงปุ๊ยฟัง และขอให้ลุงปุ๊ยรับแสนเป็นลูก ลุงปุ๊ยบอกว่ารักแสนเหมือนลูก แต่ลุงก็รู้ดีว่าพ่อแม่ของแสนก็รักและห่วงแสนมากเช่นกัน มันจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่ลุงปุ๊ยจะรับแสนเป็นลูก หรือพรากแสนมาจากพ่อแม่ของตนได้ แต่ลุงปุ๊ยก็ตามใจแสนทุกอย่าง จะพาแสนไปนั่งรถเที่ยว ไปตกปลาในวันหยุด ซึ่งเป็นวันที่แสนมีความสุขที่สุด ต่อมาอีกไม่นาน ขณะที่แสนกำลังเรียนอยู่ในโรงเรียน มีคนมาบอกแสนว่า รถของลุงปุ๊ยถูกชนยับเยิน แสนกระโดดพรวดออกจากห้อง รีบวิ่งไปดูที่เกิดเหตุ แสนร้องไห้และพยายามวิ่งเข้าไปหาลุงปุ๊ย แต่ลุงสมานผ่านมาพอดีรีบดึงตัวแสนเอาไว้ ลุงปุ๊ญเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ แสนเดินโซซัดโซเซไปตามถนนและไปนั่งร้องไห้อยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ปื้ดเดินออกมาตามหา และพบแสนตัวร้อนจี๋จึงรีบพากลับบ้าน แสนไม่สบายหนัก อาเจียน ไม่ยอมกินข้าวปลา หมอบอกว่าแสนได้รับความกระทบกระเทืิอนจิตใจอย่างแรง ทุกคนไม่ทราบเรื่องความสัมพันธ์ของแสนกับลุงปุ๊ย จึงเข้าใจว่าเป็นเรื่องต้นส้มที่ถูกตัด ลุงสมานมาเยี่ยมแสน และบอกว่า แสนมีความสำคัญต่อแกอย่างมากในการขายของ อยากให้แสนหายเร็วๆ จะได้ไปช่วยกันขายของในวันหยุด แก้วได้เอาดอกส้มมาให้แสน และบอกว่าต้นส้มของแสน เป็นต้นส้มที่เจริญเติบโตพร้อมที่จะใ้ห้กำเนิดต้นส้มต้นใหม่ได้แล้ว แสนดีใจมาก เก็บดอกส้มนั้นไว้ อาการของแสนดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานต้นส้มก็ถูกโค่นลง ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ แต่แสนก็ได้รับข่าวดีจากพ่อ พ่อได้งานเป็นหน้าคนงานในโรงงานทำรองเท้าแห่งหนึ่ง แต่โรงงานอยู่ต่างจังหวัด ทุกคนจึงต้องย้ายบ้านไปด้วย แสนไม่ค่อยตื่นเต้นกับข่าวนี้นัก จนกระทั่งคนหนึ่ง ต่อหน้าทุกคนในบ้าน พ่อได้อุ้มแสนขึ้นมาบนตักแล้วบอกว่าต่อไปนี้แสนจะได้รับของขวัญปีใหม่ทุกปี สายนาฬิกาที่พ่อรู้ว่าแสนเก็บไว้กับตัวตลอดเวลาก็จะมีนาฬิกาห้อยอยู่ พ่อบอกว่าจะพาแสนไปอยู่บ้านใหม่ ซึ่งมีทุกอย่างที่ต้องการ มีต้นไม้หลายต้น และ่พ่อจะให้แสนเลือกต้นไม้เป็นคนแรก และจะไม่ยอมให้ใครตัดต้นไม้ของแสนเป็นอันขาด แสนร้องไห้กอดพ่อทั้งน้ำตา ทุกคนในบ้านเริ่มมีความสุขและความเข้าใจกันเหมือนเดิม

แว่วเสียงซอ 2529

แว่วเสียงซอ (2529/1986) แว่วเสียงซอ เป็นเรื่องราวของ โชติ เด็กกำพร้าที่ถูกทิ้ง แต่ได้หลวงตาทอง เป็นผู้อุปการะไว้ ซึ่งโชติเป็นเด็กหัวดี เรียนเก่ง เป็นเพื่อนกับ ฉาย และ กุหลาบ ลูกสาวเถ้าแก่กิมเส็ง ซึ่งเอื้อเฟื้อต่อโชติมาตลอด โชติเรียนจบทางด้านกฏหมาย หลวงตาจึงนำไปฝากไว้กับคุณพระเสวก เพื่อหวังจะให้ได้รับราชการที่บางกอก แต่เนื่องจากระยะนี้บ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลง ข้าราชการถูกออกเป็นจำนวนมาก โชติจึงอาศัยอยู่ที่บ้านไปก่อน ซึ่งทำให้คุณหญิงสุดใจ ไม่พอใจเพราะเกรงว่าโชติจะมารักกับลูกสาวของตนคือ อุษา ซึ่งได้หมายมั่นเอาไว้ให้แต่งงานกับอุดม นักเรียนนอก ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษและเจียมตัวของโชติ ทำให้อุษาถูกชะตาโชติมาก และให้ความเป็นกันเอง ต่อมาอุดมได้ไปมาหาสู่บ้านอุษาบ่อยครั้ง และให้พระยาพิชิตผู้เป็นพ่อมาทาบทามขอหมั้น โชติเสียใจที่อุษาจะต้องรับหมั้นอุดม กุหลาบให้ฉายพามาบางกอก เพราะทนคิดถึงโชติไม่ไหว กุหลาบเห็นว่าโชติสนิทกับสนมกับอุษาเกินกว่าฐานะคนรับใช้ของคุณพระ ก็เสียใจ ขอร้องให้โชติกลับไปกรุงเก่าตามเดิม โดยเธอจะให้เตี่ยรับโชติไปทำงาน แต่โชติปฎิเสธบอกว่าอยากเป็นข้าราชการมากกว่า ต่อมาได้เกิดเหตุการณ์ไม่สงบในแผ่นดิน โชติไปเป็นนักหนังสือพิมพ์ และทำให้ชีวิตเขาแขวนอยู่บนเส้นด้ายตลอดเวลา มีเหตุเกิดหลายต่อหลายครั้ง จนใครๆ พากันคิดว่าโชติเสียชีวิตไปแล้ว ฉายรู้ว่าโชติหนีไปทางรถไฟที่ขนนักโทษที่ถูกเนรเทศ ฉายรีบนำข่าวไปบอกอุษาและกุหลาบ อุษาตัดสินใจขัดใจแม่ หนีไปหาโชติ ส่วนกุหลาบขอให้ฉายพาอุษาไปคนเดียว เพราะโชติต้องการอุษา และด้วยแรงแห่งความรักที่โชติและอุษามีต่อกัน ความรักของทั้งสองจึงพบกับความสุขในบั้นปลายของชีวิต

เรื่องย่อ : ไม่มีสวรรค์สำหรับคุณ (2529/1986) เรื่องราวของเด็กกำพร้าคนหนึ่งที่ช่างตัดผมพามาเลี้ยงและให้เรียน เมื่อเรียนเขาได้พบกับนางเอก เขามีความสัมพันธ์กับเธอและติดตามมาบ้านของนางเอก แล้วเขาก็ได้พบกับพี่สาวของเธอ ซึ่งในภายหลังเขาก็เริ่มนิสัยเลวให้เห็น ด้วยการครอบครอง 2 พี่น้อง ก่อนสุดท้ายเขาหวังที่จะฮุบสมบัติจนหมดสิ้น แต่ความเลวก็พ่ายแก่ 2 พี่น้องที่ร่วมมือกันฆ่าชายเลว

เนื้อนาง 2529
จิตรกร 2529
Placeholder
Placeholder
ทองพูน โคกโพ ราษฎรเต็มขั้น 2529

เรื่องย่อ : แหวนทองเหลือง (2529/1986) กฤษฎา ดำรงค์พร กับญาติๆ เดินทางไปเที่ยวดอยติ โดยมีกำนันพ่อของ ดวงใจ คุ้มเกิด เป็นคนต้อนรับขับสู้ และแล้วความรักของกฤษฎากับดวงใจก็เกิดขึ้นที่ดอยติถึงขั้นได้เสียกัน โดยกฤษฎาสัญญาว่ จะไปขอดวงใจกับพ่อกำนัน แต่ว่าพอวันรุ่งขึ้นกฤษฎาก็ได้รับโทรเลขด่วนให้เดินทางกลับกรุงเทพฯ จึงไม่ได้พูดจากเรื่องแต่งงานกันกับพ่อกำนัน แต่กฤษฎาได้มอบล๊อตเก็ตต้นตระกูลให้ดวงใจไว้เป็นประกันความรัก ส่วนดวงใจนั้นก็มีเพียง แหวนทองเหลือง ไร้ราคามอบให้กฤษฎาสวมไว้ โดยกฤษฎาบอกว่า หากเห็นแหวนทองเหลืองที่นิ้ว ก็หมายว่าหัวใจเขามีดวงใจเพียงคน ต่อมาพ่อกำนันรู้เรื่องว่าดวงใจท้องกับกฤษฎาก็โกรธแต่ก็ไม่อาจจะไปสู้หน้าท่านเจ้าคุณ พ่อของกฤษฎาผู้มีพระคุณไม่จึงจับดวงใจขังไว้ในบ้านและจะให้แต่งงานกับผู้มีอันจะกินของหมู่บ้านแทน พอถึงวันแต่งงาน ดวงใจซึ่งถูกมัดล่ามโซ่ไว้ ก็เชือดส้นเท้าตัวเองรูดโซ่ออก กระโดดหน้าต่างหนีไปเพราะรักมั่นในกฤษฎาคนเดียวเท่านั้นระหว่างทางก็แลกชุดแต่งงานกับชุดของชาวบ้านที่กำลังท้องและเพราะไม่มีเงินติดตัวมาเลยก็เลยเดินทางตามทางรถไฟมุ่งหน้าจะไปหากฤษฎาคนรักที่กรุงเทพฯ ระหว่างเดินทางนั้น ดวงใจก็เป็นลมหมดสติ ก็มีนายแพทย์รถไฟเขต ที่นั่งรถโยกมาตรวจสุขภาพเจ้าพนักงานกรมรถไฟที่ชื่อ เมตตา มาพบเข้าและพาไปทำคลอด ออกลูกเป็นผู้หญิงและเมื่อรู้ว่า ดวงใจจะไปตามหากฤษฎาที่กรุงเทพฯ ก็เลยอาสาพาไปด้วย ดวงใจมาพักอาศัยกับนายแพทย์เมตตาซึ่งขณะนั้นกรุงเทพฯ ก็กำลังเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 พอดี ดวงใจตามหากฤษฎานานถึง 3 ปี แต่ก็ไม่พบตัว กระทั่งทราบจากคนรับใช้เก่าแก่ว่า พอกฤษฎากลับมาถึงกรุงเทพฯ ท่านเจ้าคุณพ่อก็สิ้นใจและทิ้งหนี้สินไว้มากมายจนถึงขั้นฟ้องล้มละลาย ส่วนกฤษฎาก็หายสาบสูญไป ไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหน เมื่อดวงใจรู้ความจริง ก็เสียใจและกลับไปบอกนายแพทย์เมตตา นายแพทย์ซึ่งแอบรักแอบสงสารดวงใจอยู่ก่อนแล้ว ก็เลยเอ่ยปาก ขอแต่งงานกับดวงใจเอง แต่ดวงใจก็ปฏิเสธเพราะรักยังมั่นในตัวกฤษฎาคนเดียวเช่นเดิมจึงพาลูกน้อยหลบหนีจากไปและไปเป็นขอทานหาเลี้ยงลูกน้อย กระทั่งแม่เล้ามาพบก็ชักชวนให้ไปเป็นหญิงโสเภณี แต่ดวงใจก็ไม่ยอม แม้เล้าจึงพวกมารุมข่มขืน ดวงใจเมื่อไม่อาจรักษาความบริสุทธิ์ไว้รอกฤษฎาคนเดียวได้ จึงจำยอมต้องเป็นหญิงโสเภณีโดยนำลูกสาวกลับไปฝากนายแพทย์เมตตาให้เลี้ยงดูแทน ต่อมาซ่องโสเภณีถูกเครื่องบินทิ้งระเบิดตายหมด คงเหลือแต่ดวงใจจึงถูกนายทหารญี่ปุ่นนำไปเลี้ยงดูเป็นเมียเช่า แต่เมื่อสงครามโลกสิ้นสุดลง นายทหารญี่ปุ่นก็ต้องเดินทางกลับและเกิดเรืออับปาง ทำให้ดวงใจไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าบ้านจนต้องยกเฟอร์นิเจอร์ในบ้านใช้หนี้ทำให้ค้นพบว่าในห้องใต้ถุนมีทองคำจำนวนมากที่นายทหารญี่ปุ่นยักยอกเอาไว้ ดวงใจจึงกลายเป็นเศรษฐีนีใหม่และเปลี่ยนชื่อเป็น หทัยทิพย์ เกิดนพคุณ โดยได้อุปโลกน์หญิงรับใช้คือ เสาวรศ ที่กอดคอดูแลกันมาเป็นพี่สาวและเปิดบริษัทใหญ่โต ช่วงที่ดวงใจเป็นเศรษฐีนี้เอง สิ่งที่ดวงใจตามหามาตลอดชีวิตก็ปรากฏขึ้น ขณะที่เธอนั่งรถเก๋งคันโตมาทำงาน เผอิญรถไปเชี่ยวชนกับชายคนหนึ่งล้มลง เมื่อคนรถลงไปดู ชายคนนั้นก็รีบบอกว่าไม่เป็นอะไร แล้วจะหันไปขอโทษเจ้าของรถที่ตัวเองเดินไม่ดูตาม้าตาเรือ ดวงใจถึงกับตะลึงเพราะชายคนคือ กฤษฎา คนที่เธอรักและตามหานั่นเอง เธออุทานเบาๆ คุณกฤษฎา สีหน้า แววตา ดูอิ่มเอิบเปี่ยมไปด้วยความสุขเมื่อมองไปเห็นแหวนทองเหลืองของเธอยังคงสวมอยู่ที่นิ้วมือของกฤษฎา แต่กฤษฎานั่นเล่ากลับจดจำเธอไม่ได้เลย เธอไปถึงที่ทำงาน ก็รีบไปบอกเรื่องนี้ให้เสาวรศฟัง และจะหาทางมาพบกฤษฎาให้ได้เพื่อถามหาความจริง กฤษฎาถูกเชิญให้มาทำงานที่บริษัทของดวงใจ และเมื่อมีโอกาสอยู่ตามลำพัง ดวงใจก็พยายามเลียบเคียงถามถึงเรื่องคนรักของกฤษฎา กฤษฎาก็เล่าบอกแบบไม่ปิดบัง เขาบอกว่าความจริงว่า เขาเคยมีภรรยาแล้วชื่อ ดวงใจ เป็นสาวงามแห่งดอยติ รักเรากันมาก แต่ที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันก็เพราะเขาไปเป็นเสรีไทยต่อต้านญี่ปุ่นแล้วถูกจับ กระทั่งพ้นโทษออกมา จึงไปตามหาดวงใจที่ดอยติ ก็ทราบความจริงจากพ่อกำนันว่า ดวงใจตายแล้ว เขาก็เลยเดินทางกลับกรุงเทพฯ แล้วมาถูกรถเชี่ยวชน

รักติดลบ 2529
Placeholder

เรื่องย่อ : พระอภัยมณี (2529/1986) ท้าวสุทัศน์และพระนางประทุมเกสร ผู้ครองกรุงรัตนา มีพระโอรสสององค์ คือ พระอภัยมณี และศรีสุวรรณ ได้รับสั่งให้โอรสทั้งสองไปเรียนศิลปวิทยา ในที่สุดพระอภัยมณีได้เรียนวิชาปี่ ขณะที่ศรีสุวรรณได้เรียนวิชากระบี่กระบอง เมื่อสำเร็จวิชา ก็ได้กลับคืนพระนคร ทว่าพระบิดาทรงกริ้ว ด้วยพระโอรสไปเรียนวิชาชั้นต่ำ ไม่คู่ควรแก่กษัตริย์ จึงไล่ทั้งสองออกจากพระนคร ทั้งสองเดินทางมาถึงชายทะเล ได้พบกับสามพราหมณ์คือ โมรา สานนท์ และวิเชียร ได้สมัครเป็นมิตรกัน แล้วพระอภัยมณีเป่าปี่ให้คนทั้งหมดฟัง ทั้งหมดเคลิบเคลิ้มตามเพลงปี่จนหลับไป เพลงปี่ดังไปถึงนางผีเสื้อสมุทรที่อาศัยอยู่ในทะเล เมื่อตามเสียงปี่มาพบพระอภัยมณีก็หลงรัก จึงลักพาตัวพระอภัยมณีไปอยู่กับนางบนเกาะ แล้วจำแลงร่างเป็นหญิงสาวสวยงาม แม้พระอภัยรู้อยู่ว่านั่นคือนางยักษ์ แต่ก็ไม่สามารถหนีไปไหนได้ ทั้งสองอยู่กินกันมาจนนางผีเสื้อให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง ชื่อว่า สินสมุทร ด้านศรีสุวรรณกับสามพราหมณ์เมื่อตื่นขึ้นมาไม่พบพระอภัยมณีก็เที่ยวค้นหา จนไปถึงเมืองรมจักรพบศึกติดพัน ศรีสุวรรณกับสามพราหมณ์ช่วยรบป้องกันเมืองได้ ได้พบนางเกษราธิดาของเจ้าเมือง ต่อมาศรีสุวรรณได้อภิเษกนางเกษรา มีพระธิดาชื่อนางอรุณรัศมี วันหนึ่งสินสมุทรออกไปเที่ยวเล่นเจอพ่อเงือกแม่เงือก จึงจับตัวมาให้พระอภัยดู พ่อเงือกแม่เงือกวอนขอชีวิตโดยเสนอจะพาพระอภัยมณี หนี พระอภัยจึงออกอุบายให้นางผีเสื้อไปถือศีลบนเขาสามวัน ระหว่างนั้นเขาก็พาสินสมุทรหนี พ่อเงือกแม่เงือกพาพระอภัยและสินสมุทรมาเกือบถึงเกาะแก้วพิสดารแล้ว แต่นางผีเสื้อรู้ตัวติดตามมาทัน จับพ่อเงือกแม่เงือกฆ่าเสีย นางเงือกผู้ลูกพาพระอภัยกับสินสมุทรหนีไปจนถึงเกาะแก้วพิสดารได้สำเร็จ บนเกาะนี้มีพระฤๅษีมีฤทธิ์มาก นางผีเสื้อจึงไม่กล้าทำอะไร ทั้งหมดอาศัยอยู่บนเกาะแก้วพิสดาร พระอภัยได้นางเงือกเป็นภรรยา ฝ่ายท้าวสิลราชกับพระนางมณฑา ผู้ครองเมืองเมืองผลึก มีพระธิดาองค์เดียวคือ นางสุวรรณมาลี ทรงเป็นคู่หมั้นอยู่กับอุศเรน เจ้าชายเมืองลังกา วันหนึ่งนางสุวรรณมาลีเกิดนิมิตฝัน โหรทำนายว่าต้องออกเที่ยวทะเลจะได้พบลาภ ทั้งหมดจึงเดินเรือเที่ยวท่องไป แต่เกิดพายุใหญ่พัดเรือไปถึงเกาะนาควาริน คำทำนายของปู่เจ้าทำให้ท้าวสิลราชพากองเรือมุ่งหน้าไปยังเกาะแก้วพิสดาร ได้พบพระอภัยมณีและรับพระอภัยมณีกับสินสมุทรขึ้นเรือไปด้วยเพื่ออาศัยกลับบ้านเมือง แต่เมื่อเรือออกจากเกาะ นางผีเสื้อสมุทรก็มาอาละวาดอีกจนเรือแตก ท้าวสิลราชกับบริวารส่วนใหญ่สิ้นชีพ สินสมุทรพานางสุวรรณมาลีหนีไปได้ พระอภัยมณีเป่าปี่สังหารนางยักษ์ ทั้งหมดแตกกระจายพลัดพรายจากกัน พระอภัยมณีได้รับความช่วยเหลือจากอุศเรน คู่หมั้นของนางสุวรรณมาลี ที่ออกเรือมาตามหาเพราะหายไปนาน ส่วนสินสมุทรกับนางสุวรรณมาลีได้โจรสุหรั่ง โจรสลัดในน่านน้ำนั้นช่วยไว้ได้ แต่โจรคิดทำร้าย สินสมุทรจึงสังหารโจรแล้วครองเรือมาเอง แล้วได้พบศรีสุวรรณที่ออกล่องเรือเที่ยวตามหาพี่ชาย ทั้งหมดเดินทางไปด้วยกันจนมาพบพระอภัยมณีกับอุศเรน สินสมุทรรักนางสุวรรณมาลีอยากได้เป็นแม่ จึงเกิดวิวาทกับอุศเรน พระอภัยมณีไปเมืองผลึกกับนางสุวรรณมาลีและได้ขึ้นครองเมืองแทนท้าวสิลราช อุศเรนแค้นและกลับเมืองลังกายกทัพมาตีเมืองผลึก แต่แพ้อุบายนางวาลีจนสิ้นชีวิต นางละเวงวัณฬาผู้น้องสาวคิดแก้แค้น จึงใช้รูปของตนทำเสน่ห์ส่งไปหัวเมืองต่าง ๆ ให้ยกทัพมาตีเมืองผลึก ด้านเกาะแก้วพิสดาร นางเงือกให้กำเนิดบุตรชื่อ สุดสาคร เป็นเด็กฉลาดแข็งแรง วันหนึ่งสุดสาครจับม้านิลมังกรได้ พระฤๅษีสอนวิชาให้แล้วเล่าเรื่องพระอภัยมณีให้ฟัง สุดสาครออกเดินทางตามหาพระอภัยมณีจนไปถึงเมืองการเวก ระหว่างทางถูกชีเปลือยหลอกขโมยไม้เท้าและม้านิลมังกรไป แต่พระฤๅษีมาช่วยไว้ เมื่อชิงไม้เท้าและม้านิลมังกรคืนมาได้ ก็เข้าเมืองการเวก กษัตริย์เจ้าเมืองรักใคร่เอ็นดูสุดสาคร จึงเลี้ยงดูเป็นโอรสบุญธรรมอยู่ด้วยกันกับนางเสาวคนธ์และหัสไชยพระธิดาและพระโอรส จนเติบใหญ่ สุดสาครคิดออกตามหาพ่อ เจ้าเมืองการเวกจึงจัดกองเรือให้ โดยมีนางเสาวคนธ์และหัสไชยติดตามไปด้วย ทั้งหมดล่องเรือไปถึงเมืองผลึกขณะถูกทัพลังกาและทัพพันธมิตรล้อมเมือง พระอภัยมณี ศรีสุวรรณ สินสมุทร และสุดสาคร ช่วยเมืองผลึกรบจนสามารถเอาชนะทัพอื่น ๆ ได้ พระอภัยมณีได้รูปวาดนางละเวงที่ลงเสน่ห์ทำให้เมืองต่าง ๆ พากันยกมารบเมืองผลึกตามคำขอนางนาง แล้วเกิดต้องมนต์ของนางละเวงเสียเอง พระอภัยยกทัพตามไปตีเมืองลังกา แต่รบกันเท่าใดก็ไม่แพ้ชนะเสียที ต่อมาพระอภัยมณีลอบติดรถนางละเวงเข้าไปในวัง เมื่อนางละเวงได้พบพระอภัยก็ฆ่าไม่ลง กลับหลงรักจนได้เป็นสามีภรรยากัน ส่วนบริวารอื่นของนางละเวงคือนางยุพาผกา รำภาสะหรี และสุลาลีวัน ใช้เสน่ห์กับฝ่ายพระอภัยมณี ได้แก่ ศรีสุวรรณ สินสมุทร และแม้แต่สุดสาครที่ครองตนเป็นฤๅษีก็ต้องมนต์ไปด้วย จนทั้งหมดหลงมัวเมาติดพันอยู่ในลังกาไม่ยอมกลับเมืองผลึก นางสุวรรณมาลีกับอรุณรัศมีและเสาวคนธ์จึงมาตาม แต่ไม่เป็นผล จนต้องให้หัสไชยช่วยแก้เสน่ห์ให้ลุงและเหล่าพี่ กษัตริย์ทั้งหมดยอมสงบศึกต่อกัน แต่นางเสาวคนธ์แค้นสุดสาครจึงหนีไปเมืองวาหุโลม สุดสาครต้องติดตามไปจนภายหลังจึงได้อภิเษกกัน ด้านกรุงรัตนา ท้าวสุทัศน์สิ้นพระชนม์ พระอภัยมณีกับเหล่ากษัตริย์จึงเดินทางไปทำศพ มังคลาบุตรของพระอภัยมณีกับนางละเวงได้ครองเมืองลังกา แต่ถูกบาทหลวงยุแหย่จึงแค้นเคืองเหล่ากษัตริย์ จับตัวนางสุวรรณมาลีและพระญาติมาขังไว้ หัสไชยกับสุดสาครยกทัพมาช่วยแต่ไม่สำเร็จ แม้แต่นางละเวงผู้เป็นมารดาเองก็ห้ามปรามไม่ได้ พระอภัยมณีกับศรีสุวรรณยกทัพตามมาจึงเอาชนะศึกได้ จบศึกแล้วพระอภัยมณีอภิเษกโอรสทั้งหลายให้ครองเมืองต่าง ๆ แล้วออกบวชพร้อมกับนางละเวงและนางสุวรรณมาลี