นางเอก 2529
Placeholder
เคหาสน์ภูต 2529
Placeholder

เรื่องย่อ : คนมีคาว (2529/1986) พรต นักธุรกิจก่อสร้างใหญ่อุปการะหญิงสาวสองคนพี่น้อง คนพี่ชื่อ ศีตลา เป็นคนเยือกเย็น เด็ดเดี่ยว และช่วยควบคุมดูแลงานของพรตได้เป็นอย่างดี เธอรู้ดีว่าพรต ไม่ใช่บิดาที่แท้จริงของเธอ ส่วนน้องสาวคือ มลุลีห์ ยังเป็นนักศึกษาอยู่ และไม่เคยรู้ความจริงข้อนี้ ศีลตลาตกเป็นภรรยาของพรตด้วยความจำเป็น โดยไม่มีใครรู้ ศีตลาจำเป็นต้องอดทนทุกอย่างเพื่อให้น้องสาวของเธอเรียนสำเร็จเสียก่อน

พรตเดินทางไปเยอรมันพบหลานชายชื่อ ศาตรา ศรันยู เป็นลูกของน้องชายของเขาซึ่งตายไปแล้ว พรตส่งศาสตรา กลับมาชุบตัวที่เมืองไทยให้ทำงานในบริษัทและตามใจเขาทุกอย่าง ศาสตรารวนศีตลา ทุกครั้งเมื่อมีโอกาส ทำให้ศีตลาไม่ชอบศาสตรามาก ต่างกับ มลุลีห์ ซึ่งพยายามจะผูกมิตรกับศาสตรา

ศาสตรารู้จากพ่อของเขาว่า พรตโกงเอาบริษัทของพ่อเขาไประหว่างที่พ่อเขาลี้ภัยทางการเมือง และไม่ยอมให้ความช่วยเหลือใดๆ เลย ทั้งๆ ที่รู้ว่าน้องชายไม่สบายมาก จนกระทั่งต้องตายไปเพราะไม่มีมีเงินรักษา ศาสตราจึงคิดจะแ้ก้แค้นอยู่ตลอดเวลา เขาจึงเริ่มดำเนินการเมื่อมีโอกาส เมื่อศาสตราได้รับมอบหมายให้ติดต่อกับคุณสุคนธาเพื่อตกลงราคาการต่อเติมโรงแรมสุคนธา เขาก็เริ่มคดโกงพรตทันที ศีตลารู้ทันเขาตลอดเวลาแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

เมื่อศาสตราอยู่เยอรมัน เขารักอยู่กับหมอมนทิรา ผู้วึ่งต้องกลับมาแต่งงานกับหมอพีระ เพื่อทดแทนบุญคุณ พอศาสตรากลับเมืองไทยเขาจึงมาติดต่อกับหมอมนทิราอีก ทั้งสองต่างก็ยังรักกันอยู่ แต่ความผูกพันระหว่างหมอมนทิรา และหมอพีระมีเหนือกว่าความรัก ศาสตราจึงไม่สามารถจะเปลี่ยนใจหมอมนทิราได้

หมอพีระเป็นหมอประจำครอบครัวของพรตอยู่แล้ว ดังนั้นวันหนึ่งศีตลาจึงได้มาหาหมอพีระเพื่อตรวจร่างกาย เพราะเธอรู้สึกอ่อนเพลีย ปรากฎว่าเธอเป็นมะเร็งในเม็ดเลือด เธอขอร้องหมอให้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ส่วนเธอเองก็คิดหาทางช่วยเหลือ มลุลีห์ให้พ้นจากพรต เพราะเธอไม่เคยไว้ใจพรต และน้องสาวของเธอก็ยังเป็นเด็กเกินไป ทั้งยังไม่รู้ระแคะระคายอะไรเลย ศีตลารู้ว่ามลุลีห์กำลังเริ่มรักศาสตรา เธอจึงพยายามกัน มลุลีห์ให้พ้นจากศาสตราด้วยอีกคน โดยทำให้มลุลีห์เข้าใจผิดว่าเธอรักกับศาสตรา การนี้ทำได้แนบเนียนและสมจริง จนมลุลีห์และพรตก็เข้าใจผิดเช่นนั้นไปด้วย

ต่อมา ศีตลา ตั้งท้องกับพรต เพราะความเผอเรอ พรตรู้เรื่องเข้าก็คิดว่าศีตลาท้องกับศาสตรา แต่ศาตรากลับยอมรับที่จะแต่งงานกับศีตลา เพราะได้รู้ว่าเธอเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดและจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน เขาเริ่มสงสารเธอ และยิ่งสงสารมากขึ้นเมื่อรู้ว่าพ่อของเด็กในท้องคือลุงของเขาเอง ศาสตราพยายามจะช่วยศีตลาให้พ้นจากลุงของเขา

ต่อมาศีลตลาค้นพบเอกสารสำคัญในห้องศาสตรา ว่าพ่อของเขาเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในบริษัท เธอจึังรู้ว่า พรตโกงน้องชายของเขา เธอเก็บเอกสารนั้นไว้ เพราะรู้ว่าหากศาสตราทวงสิทธิ์ของเขาขึ้นมาเมื่อไร น้องสาวของเธอก็จะลำบากเมื่อพรตไม่มีอะไรเหลือ ศาสตราโกรธมากเมื่อรู้ว่าศีตลาเอาเอกสารของเขาไป เขาไม่คิดว่าศีตลาจะหักหลังเขาได้ ศาตราจึงพยายามทำให้พรตระแวงศีตลา เพราะคิดว่าศีตลาทำไปเพื่อช่วยพรต ส่วนพรตก็คิดว่าศีตลาช่วยศาสตราเพราะเอกสารลับนั้นอยู่ในตู้เซฟ ซึ่งศีตลาเป็นผู้ถือกุญแจอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม พรตก็ยังรักและต้องการได้ศีตลากลับคืนมาอีก ดังนั้นเขาจึงหาทางกำจัดศาสตราแต่เพียงคนเดียว

ขณะที่ศีตลาไม่อยู่บ้าน พรตก็เข้าหามลุลีห์ แต่ศาสตราเข้าช่วยไว้ทัน และได้พามลุลีห์ไปพักอยู่ที่อื่น ศาสตราสร้างสถานการณ์ให้ศีตลาเ้ข้าใจผิดว่าเขามีความสัมพันธ์กับมลุลีห์ เพื่อเป็นการแก้แค้น

ศีตลาดักพบมลุลีห์จึงได้รู้ความจริงว่า พรตพยายามเข้าหา ศีตลาโกรธมาก เพราะเธอเคยขอให้พรตสัญญากับเธอว่าจะไม่แตะต้องน้องสาวเธอ หากเขาผิดสัญญา เขายินยอมให้เธอทำอะไรกับเขาก็ได้ ศีตลาจึงวางแผนทำเป็นดีกับพรตอีก และชวนพรตไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัดอีก ระหว่างทางเธอตัดสินใจขับรถพุ่งชนกับรถบรรทุกเพื่อยุติปัญหาทั้งปวง ก่อนไปเธอส่งจดหมายถึงศาสตรา มอบเอกสารสำคัญให้เขา บอกฝากมลุลีห์กับเขาพร้อมกบสารภาพว่าเธอรักเขา แต่รู้ตัวดีว่าไม่มีึค่าพอสำหรับเขา

ต้นส้มแสนรัก 2529

เรื่องย่อ : ต้นส้มแสนรัก (2529/1986) แสน เป็นเด็กชายอายุ 6 ขวบ นิสัยซุกซน ช่างคิดฝัน ชอบเล่นและพูดคนเดียว แม้ว่าจะอายุเพียง 6 ขวบแต่ก็ฉลาดเกินอายุ บางครั้งพูดจาแก่เกินตัว และอ่านหนังสือออกหมดโดยที่ไม่มีใครสอน เขาจดจำตัวอักษร และสระจากพี่ๆ จนสามารถอ่านคำยากๆ ได้หลายคำ ทุกคนในบ้านพากันงง และคิดว่าแสนจะต้องแอบไปให้ใครสอนมา ยกเว้นลุงเอิบเพียงคนเดียวที่เชื่อเรื่องนี้ และรู้ว่าแสนเป็นเด็กฉลาดโตขึ้นจะไปได้ไกล ชีวิตของแสนคับแค้นมาก เพราะพ่อตกงานมาเป็นเวลานาน พ่อหม่นหมองและออกหางานตั้งแต่เช้ายันเย็นแทบทุกวัน ในที่สุดแม่ก็ต้องออกไปรับจ้างทำงานนอกบ้าน พี่สาวคนหนึ่งถูกส่งไปอยู่กับญาติฐานะดี เกด พี่สาวคนโตออกไปงานโรงงาน เหลือแต่แก้ว พี่สาวคนรองอยู่บ้านคอยดูแลน้อง และทำงานบ้านทุกอย่าง แสนรักแก้วมาก เพราะแก้วดีกับแสน และไม่เคยตีแรงๆ เวลาที่แสนทำผิด แสนมีพี่ชายอยู่คนหนึ่งชื่อ ปื๊ด อายุเก้าขวบ เป็นเพื่อนเล่นของแสนมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ก็มักเล่นเอาเปรียบเล็กๆน้อยๆ อยู่เสมอ แต่แสนก็ไม่ถือสา และคนที่แสนรักมากที่สุดคือ อ้น น้องชายคนเล็ก ซึ่งเป็นเด็กน่ารักไม่ดื้อไม่ซน แสนชอบพาอ้นไปเที่ยวรอบๆ บ้าน และสมมติว่าเป็นการเที่ยวเขาดิน พ่อกับแม่ตัดสินใจออกจากบ้านเช่าหลังเก่า ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านของย่าและลุง เพราะหลังใหญ่เกินกำลังเงินค่าเช่า ทั้งหมดได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านเช่าหลังเล็กราคาถูกกว่าเดิม หลังบ้านเป็นป่าละเมาะชายนา มีต้นไม้อยู่หลายต้น พวกเด็กๆ พากันจองต้นไม้คนล่ะต้น แก้วจองต้นมะม่วงเป็นคนแรก ปื๊ดรีบจองต้นมะขาม แสนไม่มีต้นไม้ดีๆ เป็นของตนจึงร้องไห้ แก้วสงสารจึงพาไปจองต้นส้มเล็กๆ ได้ต้นหนึ่ง ครั้งแรกแสนไม่ค่อยชอบต้นส้มนัก แต่ต่อมาแสนก็ยอมเป็นเจ้าของต้นส้ม แสนชอบการพูดคุยปรับทุกข์เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ต้นส้มฟัง แสนสนิทสนมและรักต้นส้มนี้มากที่สุด ในวันหยุดเรียน แสนจะออกไปรับจ้างขัดรองเท้า วันหนึ่งแสนได้พบกับชายขายของเร่ ซึ่งจะมาขายของเฉพาะวันหยุดเท่านั้น แสนไปดูบ่อยๆ จนรู้จักกับลุงสมาน ลุงสมานจะร้องเพลงและขายของไปด้วย ในที่สุดทั้งสองได้กลายเป็นเพื่อนกัน แสนช่วยร้องเพลงขณะขายของ ทำให้มีคนมามุงกันแน่นเพื่อซื้อของ และบางคนก็ให้เงิน แสนได้ของติดมือมาทุกครั้งและเอาไปให้แก้ว วันรุ่งขึ้น แสนป่วย ทุกคนในบ้านสงสารและเอาใจแสนเป็นพิเศษ ย่ากับลุงมาเยี่ยม ลุงมาเล่าเรื่องตลกให้แสนฟัง แต่แสนไม่ยอมหัวเราะ แสนเปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคน ซึมไป และไม่พูดไม่จา ไม่ว่าแก้วหรือปื๊ดจะมาชวนคุยเรื่องสนุกๆ ที่เขาเคยชอบก็ตาม แสนบอกกับทุกคนว่าคามฝันทั้งหมดได้จากเขาไปแล้ว ไม่มีใครรักเขาแม้กระทั่งพ่อ เขาอุตส่าห์เก็บสายนาฬิกาที่พอขายตัวเรือนไปหลังจากตกงานไว้กับตัวตลอดเวลา และเคยอวดลุงปุ๊ยอย่างภาคภูมิว่าพ่อให้เขา แสนคิดว่าตัวเองเป็นที่รังเกียจของทุกๆ คน แสนนั่งซึมอยู่กับต้นส้มเป็นวันๆ โดยไม่พูดจากับใคร มีข่าวร้ายมาอีก ปื๊ดบอกว่าถนนสายใหม่จะตัดผ่านหลังบ้านบริเวณที่มีต้นส้ม ดังนั้นต้นไม้ทั้งหมดรวมทั้งต้นส้มจะต้องถูกโค่นหมด เพราะทางการจะปรับที่ไม่ช้านี้ เขาบอกปื๊ดว่ามันไม่เป็นความจริง เพราะเขาจะไม่ยอมให้ใครมาโค่นต้นส้มของเขาได้ เมื่อได้รับอนุญาตให้ออกนอกบ้านได้แล้ว แสนก็รีบตรงไปหาลุงปุ๊ยที่ร้านอาโก ลุงปุ๊ยต่อว่าที่แสนหายไป แสนเจอหน้าลุงปุ๊ยก็ร้องไห้และขอให้ลุงปุ๊ยพาไปนั่งรถเล่น แสนระบายความทุกข์ของเขาให้ลุงปุ๊ยฟัง และขอให้ลุงปุ๊ยรับแสนเป็นลูก ลุงปุ๊ยบอกว่ารักแสนเหมือนลูก แต่ลุงก็รู้ดีว่าพ่อแม่ของแสนก็รักและห่วงแสนมากเช่นกัน มันจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่ลุงปุ๊ยจะรับแสนเป็นลูก หรือพรากแสนมาจากพ่อแม่ของตนได้ แต่ลุงปุ๊ยก็ตามใจแสนทุกอย่าง จะพาแสนไปนั่งรถเที่ยว ไปตกปลาในวันหยุด ซึ่งเป็นวันที่แสนมีความสุขที่สุด ต่อมาอีกไม่นาน ขณะที่แสนกำลังเรียนอยู่ในโรงเรียน มีคนมาบอกแสนว่า รถของลุงปุ๊ยถูกชนยับเยิน แสนกระโดดพรวดออกจากห้อง รีบวิ่งไปดูที่เกิดเหตุ แสนร้องไห้และพยายามวิ่งเข้าไปหาลุงปุ๊ย แต่ลุงสมานผ่านมาพอดีรีบดึงตัวแสนเอาไว้ ลุงปุ๊ญเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ แสนเดินโซซัดโซเซไปตามถนนและไปนั่งร้องไห้อยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ปื้ดเดินออกมาตามหา และพบแสนตัวร้อนจี๋จึงรีบพากลับบ้าน แสนไม่สบายหนัก อาเจียน ไม่ยอมกินข้าวปลา หมอบอกว่าแสนได้รับความกระทบกระเทืิอนจิตใจอย่างแรง ทุกคนไม่ทราบเรื่องความสัมพันธ์ของแสนกับลุงปุ๊ย จึงเข้าใจว่าเป็นเรื่องต้นส้มที่ถูกตัด ลุงสมานมาเยี่ยมแสน และบอกว่า แสนมีความสำคัญต่อแกอย่างมากในการขายของ อยากให้แสนหายเร็วๆ จะได้ไปช่วยกันขายของในวันหยุด แก้วได้เอาดอกส้มมาให้แสน และบอกว่าต้นส้มของแสน เป็นต้นส้มที่เจริญเติบโตพร้อมที่จะใ้ห้กำเนิดต้นส้มต้นใหม่ได้แล้ว แสนดีใจมาก เก็บดอกส้มนั้นไว้ อาการของแสนดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานต้นส้มก็ถูกโค่นลง ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ แต่แสนก็ได้รับข่าวดีจากพ่อ พ่อได้งานเป็นหน้าคนงานในโรงงานทำรองเท้าแห่งหนึ่ง แต่โรงงานอยู่ต่างจังหวัด ทุกคนจึงต้องย้ายบ้านไปด้วย แสนไม่ค่อยตื่นเต้นกับข่าวนี้นัก จนกระทั่งคนหนึ่ง ต่อหน้าทุกคนในบ้าน พ่อได้อุ้มแสนขึ้นมาบนตักแล้วบอกว่าต่อไปนี้แสนจะได้รับของขวัญปีใหม่ทุกปี สายนาฬิกาที่พ่อรู้ว่าแสนเก็บไว้กับตัวตลอดเวลาก็จะมีนาฬิกาห้อยอยู่ พ่อบอกว่าจะพาแสนไปอยู่บ้านใหม่ ซึ่งมีทุกอย่างที่ต้องการ มีต้นไม้หลายต้น และ่พ่อจะให้แสนเลือกต้นไม้เป็นคนแรก และจะไม่ยอมให้ใครตัดต้นไม้ของแสนเป็นอันขาด แสนร้องไห้กอดพ่อทั้งน้ำตา ทุกคนในบ้านเริ่มมีความสุขและความเข้าใจกันเหมือนเดิม

Placeholder

เรื่องย่อ : ความรักแสนกล (2529/1986) ความรักของหนุ่มสาว ๖ คน ที่มีความผูกพันรักใคร่กันมาตั้งแต่เด็ก แต่ความรักของพวกเขาต้องเผชิญกับความไม่สมหวัง อันมีสาเหตุจากการที่ไปรักคนที่เขาไม่ได้รัก สุดท้ายความรักของคู่ไหนจะสมหวัง และจะจบลงเช่นไรไม่มีใครรู้ได้ ต้องปล่อยให้เป็นไปตามเส้นทางของแต่ละคน

มายาลวง 2529
Placeholder
แก้วราหู 2529
Placeholder
กามนิต-วาสิฏฐี 2529
สายโลหิต (2529)

เรื่องย่อ : สายโลหิต (2529/1986) สายโลหิต เริ่มเรื่องในช่วงเวลาก่อนเสียกรุงครั้งที่สองเล็กน้อย จับความตั้งแต่ ดาวเรือง ลูกสาว พระสุวรรณราชา่างทองหลวง อายุได้ 10 ปี ในวันแต่งงานของลำดวน พี่สาวกับหลวงเทพ บุตรพระยาพิริยะแสนพลพ่าย ขุนไกร น้องชายหลวงเทพ จับได้ว่า ดาวเรือง แอบถือเพลงยาวของหมื่นทิพ ลูกสาวพระพิชิต จะเอาไปให้แม่เยื้อน น้องสาวขุนไกร จึงได้รั้งตัวมาสอบสวนจนกระจ่าง และกำชับไม่ให้ประพฤติเช่นนั้นอีก โดยมีสัญญาพาเที่ยวชมพระนครเป็นข้อแลก ดาวเรืองเป็นเด็กหญิง แต่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาโดยบุคคลผู้ฉลาดเฉลียว มีความคิดกว่างคือ คุณย่านิ่ม มารดาพระสุวรรณราชา ซึ่งเป็นสตรีที่บริบูรณ์ด้วยยศและสติปัญญา ดาวเรืองจึงเก่งทั้งงานเรือนและฉลาด ช่างคิด อยากรู้อยากเห็น เมื่อได้สมาคมกับขุนไกร ก็กลายเป็นมิตรผู้น้อยที่ไปกันได้อย่างดี ขุนไกรเองก็เป็นคนรอบรู้ กล้าหาญ และมีน้ำใจ ขุนไกร เป็นอริกับหมื่นทิพ เนื่องจากไม่นิยมในนิสัยเจ้าชู้ มักมากในกามของหมื่นทิพ ครอบครัวหมื่นทิพ นับจากพ่อถึงลูกมีแต่เรื่องมากลูกมากเมีย บ้าตัญหาจนคนลือไปทั้งบาง ขุนไกรจึงกีดกันไม่ให้หมื่นทิพ มาเกี่ยวข้องกับน้องสาวตน แต่ตัวแม่เยื้อนเองกลับมีใจให้หมื่นทิพไม่น้อย เพราะหมื่นทิพปากหวาน ช่างกำนัลข้า่วของและตั้งใจทุ่มเทมากด้วยอยากจะเอาชนะขุนไกรให้ได้ หมื่นทิพให้นางปริกมารดาไปจัดการผ่านทางพระสนมเอก เพื่อไม่ให้ใครขัดได้ ประจวบเวลานั้น พม่ายกทัพมาตีหัวเมืองปักษ์ใต้ พระยาพิริยะ หลวงเทพ ขุนไกร ต้องไปทัพ มาดราของหมื่นทิพจึงจัดการสู่ขอโดยสะดวก ศึกพม่ายืดเยื้อและลามมาจนประชิดกรุง แต่แล้วก็เลิกทัพกลับเนื่องจาก พระเจ้าอลองพญา ต้องปืนแตกบาดเจ็บสาหัส การศึกครั้งนี้ยิ่งทำให้ ขุนไกร ชิงชังรังเกียจหมื่นทิพมากขึ้น เพราะได้รู้เห็นนิสัยสอพลอ ขี้ขลาด ข้าราชการผู้ใหญ่ในเวลานั้นแบ่งเป็นหลายฝักหลายฝ่าย หมื่นทิพก็เอาแต่วิ่งเต้นข้างโน้นข้างนี้หาความชอบ และถือโอกาสให้ร้ายทับถมว่าขุนไกรบ้าสงคราม ขุนไกรนั้นได้ประทับภาพอันโหดร้ายไว้ด้วยความขุ่นแค้น เพราะเมื่อออกศึกนั้นเป็นกองหน้า ได้เห็นทั้งบรรดาเหล่าทหารกล้าที่ถาโถมชีวิตเข้าแลกข้าศึกศัตรู กับทั้งได้เห็นความมดเท็จขลาดเขลา ของพวกแม่ทัพนายกองบางคนที่ละทิ้งหนีทัพ และกลับมาลอยหน้าได้ดีอยู่ตำตา และคนพวกนี้ก็ชักจูงให้ผู้คนพาักันลืมความทุกข์ยากเดือดร้อนของสงครามเสียอย่างรวดเร็ว มีเรื่องฉลองสนุกบันเทิงคึกคักดังเดิม ผู้ที่รักและเป็นห่้วงบ้านเมืองได้แต่เฝ้าดูเหตุการณ์ด้วยความห่วงใย ใครทัดทานขึ้นมาก็จะถูกป้ายสีได้ง่าย ขุนไกรจึงคับแค้นยิ่งนัก แล้วก็ถึงที่สุดแห่งความอดทน เมื่อคุณหญิงศรีนวล ผู้มารดารับขันหมากของหมื่นทิพ การแต่งงานจัดอย่างเอิกเกริก พระยาพิริยะสิ้นชีวิตเสียกลางศึก คนที่จะขัดขวางจึงไม่มี หมื่นทิพได้เหยียบย่ำเยาะเย้ยขุนไกรสมใจ ขุนไกรรู้อารมณ์ของตนดี จึงเมื่อสบช่องก็ลาไปรับราชการเสียที่หัวเมืองฝ่ายเหนือ ระหว่างเวลาที่ผ่านมา ความผูกพันระหว่างดาวเรืองกับขุนไกรได้เติบโตเหนียวแน่นยิ่งขึ้น ครั้งนี้พี่เลี้ยงคนสนิทของดาวเรืองได้ออกเรือนไปกับทหารคู่ใจของขุนไกร ติดตามไปเมืองเหนือด้วย ขุนไกรจากไปได้ 3 ปี เหตุการณ์ก็เป็นดังคำขุนไกร หมื่นทิพเที่ยวพล่าผลาญสาวแ่ก่แม่หม้ายทั้งในเรือนนอกบ้าน แม่เยื้อนทนทุกข์จนตรอมใจตาย ในวันรดน้ำศพ คุณหญิงศรีนวลก็สิ้นชีวิตตามไปอีก บรรดาญาติหวั่นกันว่าเมื่อขุนไกรกลับมา จะต้องถึงเลือดแน่นอน เวลาล่วงไปเกือบเดือน หมื่นทิพจึงมิได้เยี่ยมกรายไปในงานศพเลย ด้วยความกลัวสารพัด การตายของแม่และน้องยังความโศกเศร้าแค้นเคืองแก่ขุนไกรใหญ่หลวงนัก แต่ก็ได้ความอ่อนโยนจากดาวเรืองมาทดแทน ขุนไกรได้พบและรู้สึกกับตัวเองว่า เด็กหญิงเล็กๆ ที่วิ่งตามติดตนด้วยความห่วงใยนั้นได้เติบโตเป็นสาวรุ่นที่งดงามจับตา ความผูกพันดั้งเดิมของคนทั้งสองจึงงอกงามเป็นความรักความพอใจ คุณย่านิ่ม จับความรู้สึกของหนุ่มสาวได้ทันที แต่ด้วยความรักและความนิยมความดีของขุนไกร จึงเพียงดูแลปรุงแต่งความสัมพันธ์ให้งดงาม เรื่องนี้กลับยังความร้อนรุ่มแก่หมื่นทิพขึ้นมาอีก หมื่นทิพเห็นดาวเรืองเติบโตเป็นสาวสวยก็หลงใหล ยิ่งรู้แก่ใจว่าไม่มีหวังเพราะคดีแม่เยื้อนเป็นแผลฉกรรจน์นัก แต่ยังไม่วายเกาะแกะเกี้ยวพาตามโอกาสที่จะฉกฉวยได้ เวลานั้น พม่ายกทัพใหญ่มาอีก ขุนไกรต้องกลับไปราชการ แม้นหมื่นทิพก็จำต้องแสร้งอาสาศึกด้วย เพื่อจะได้ยศ ขุนทิพเทวา ไม่น้อยหน้าขุนไกร วันเคลื่อนทัพยังแอบไปก่อเหตุคว่ำเรือฉุดดาวเรือง จนบ่าวผู้หญิงจมน้ำตายไปคนหนึ่ง แต่ไ่ม่มีใครจับได้ คุณย่านิ่ม มีความเชี่ยวชาญทางโหราศาสตร์ลึกซึ้ง พอจะรู้ถึงความวิบัติที่กรายเข้ามาเป็นเงารางๆ และเหตุการณ์ก็เป็นดังคาด ทัพที่ถูกส่งไปยังพม่า ถูกตีถอยร่นมาเป็นรา่ยทาง คนกล้าอาสารบไม่ถอย หลวงเทพ พี่เขยดาวเรือง แม้ต้องอาวุธสาหัสก็ไม่ยอมกลับ แต่ขุนทิพแม้มิทันรบก็รีบให้มารดาวิ่งเต้นสับเปลี่ยนหน้าที่ จนได้มาอยู่กองรักษาประตูเมือง พม่ารุกหนักทั้งทางเหนือและทางใต้ ขุนไกรได้บรรดาศักดิ์เป็น หลวงไกร อาสาศึกอยู่ทางสุโขทัยและได้ส่งตัวนางเยื้อน เมียพันสิงห์ ทหารคนสนิทกลับคืนมาอยู่กับดาวเรือง พร้อมกับข่าวความอาลัยรัก ดาวเรืองเศร้าหมองไปด้วยความวิตกกังวล คุณย่านิ่มผู้รู้อนาคตก็วิตกปานกัน แต่ก็ได้ใช้สติและความแกร่ง เป็นหลักใจของคนทั้งบ้านที่กำลังตื่นกลัวสงคราม กรุงศรีอยุธยาคับขันหนัก หลวงไกร กลับมารับหน้าที่รักษากรุง พบกับขุนทิพ ความเรื่องฉุดดาวเรืองจึงแตก พระสุวรรณราชา จึงพลอยได้ยินด้วย หลวงไกร ร้อนใจจนไม่อาจรอต่อไปได้ และได้พูดจาสู่ขอ ดาวเรืองกับพระมหาสุวรรณราชา ขณะกำลังพายเรือกลับบ้านนั่นเอง การแต่งงานเป็นไปอย่างรวบรัด เพราะเหตุการณ์บ้านเมือง แต่ขุนทิพซึ่งริษยาหนักก็ยังทันได้จัดการยอกย้อนจน หลวงไกร ถูกหมายเกณฑ์ ไปเป็นกองหน้ารักษาเมืองธนบุรี กำหนดการเคลื่อนทัพก็ถูกยักย้ายมาตรงกับเวลาส่งตัวเข้าหอนั่นเอง เมื่อหลวงไกรไปทัพ คุณย่านิ่มได้ตามมาอยู่กับดาวเรืองที่เรือนหลวงไกร และได้สิ้นชีวิตลงที่นี่ ก่อนสิ้นลมยังได้สั่งให้ดาวเรืองเตรียมตัวเตรียมใจเผชิญกับชะตากรรมของบ้านเมืองที่ร้ายแรงยิ่ง ในงานศพ นางปริก มารดาของขุนทิพ ได้เอ่ยอ้างถึงถ้อยคำที่ลูกชายปลอบตนเรื่องทางหนีทีไล่ พระสุวรรณราชาจับความได้เลาๆ ก็สงสัยเมื่อตามสังเกตก็เห็นมอญแปลกติดต่อกับขุนทิพเป็นระยะๆ แล้วก็หายไป เมืองธนบุรีเสียทีแก่ข้าศึก ด้วยความแค้น หลวงไกรไม่ยอมกลับเข้ากรุง แต่ได้ไปสมทบกับพวกบ้านบางระจัน ข่าวชัยชนะของบ้านบางระจันแว่วเข้ามาถึงในกรุงพร้อมๆ กับข่าวความกล้าหาญของหลวงไกร ขุนทิพยิ่งทุรนทุรายดำเนินแผนชั่วยิ่งขึ้น เมื่อหลวงไกรละศึกเข้ามากับขบวนขอปืนใหญ่ ขุนทิพก็ชิงตัดทางกีดให้ หลวงไกรผู้เฝ้ากรุง ตนเองออกไปกับขบวนหล่อปืน แล้วปืนก็แตก บ้านบางระจันก็แตก แต่ไม่ก่อนที่ขุนทิพได้เลี่ยงปลีกตัวเข้ากรุงมาโดยปลอดภัย พิรุธของขุนทิพมากขึ้นทุกที ข้าศึกประชิดติดพันถึงขนาดยิงปืนถล่มเข้ามาทุกวัน พระสุวรรณราชาสิ้นชีวิตบนเชิงเทินป้อมมหาัชัยด้วยปืนข้าศึก ผู้คนหวาดหวั่นระส่ำระสาย ไอ้มิ่ง บ่าวสนิทของขุนทิพ ได้รู้เห็นทุกข์ของบ้านเมืองตำตาจึงได้สำนึก เห็นผิดถูกของขุนทิพ และได้อาศัยความใกล้ชิดนั้นเอง ในวันหนึ่งก็ได้รู้ความลับที่ขุนทิพ กับพวกร่วมกันขายชาติ และนำความมาบอกแก่หลวงไกร แต่ตัวการก็ชิงหนีกรรมไปด้วยคมพร้าของไอ้มิ่งพร้อมๆ กับตัวมันนั่นเอง เมื่อตัวสำคัญตายไปพร้อมพยาน ความที่จะบ่งตัวผู้ทรยศใหญ่ๆ และเวลาที่จะสืบค้นก็ไม่มีอีกต่อไป ไส้ศึกเปิิดประตูเมืองรับพม่า กรุงศรีอยุธยาแตก หลวงไกรพาดาวเรืองกับคนสนิทหนีมุ่งจะไปจันทบุรี หมายจะสมทบกับกองทหารของพระยากำแพงเพชร แต่ถูกจับในระหว่างทาง ถูกต้อนไปยังค่ายเชลยที่โพธิ์สามต้น หลวงไกรคิดหนีอยู่ทุกขณะจิต เมื่อสบโอกาสในวันหนึ่ง ก็พากันหนีสู่อิสรภาพ และได้รอนแรมมาจนพบไพร่พล พระยากำแพงเพชรหลวงไกร ถึงได้เข้าร่วมกอบกู้เอกราชสมความตั้งใจ เมื่อพระยาตากตั้งบ้านสร้างเมือง เสวยราชสมบัติเป็นพระเจ้าตากสิน หลวงไกรได้รับราชการเป็นพระยาไกรสีห์ราชภักดี และครองชีวิตกับแม่หญิงดาวเรืองอย่างเป็นสุข สืบลูกชายหญิงเป็นสายโลหิตถึง 5 คน ครั้งสุดท้ายก็ได้ร่วมรบด้วยพระยาจักรี ในการรับทัพพม่า ณ เมืองพิษณุโลกและสิ้นชีวิตอย่างมีเกีรยติสมชายชาติทหาร

แหวนทองเหลือง

เรื่องย่อ : แหวนทองเหลือง (2529/1986) กฤษฎา ดำรงค์พร กับญาติๆ เดินทางไปเที่ยวดอยติ โดยมีกำนันพ่อของ ดวงใจ คุ้มเกิด เป็นคนต้อนรับขับสู้ และแล้วความรักของกฤษฎากับดวงใจก็เกิดขึ้นที่ดอยติถึงขั้นได้เสียกัน โดยกฤษฎาสัญญาว่ จะไปขอดวงใจกับพ่อกำนัน แต่ว่าพอวันรุ่งขึ้นกฤษฎาก็ได้รับโทรเลขด่วนให้เดินทางกลับกรุงเทพฯ จึงไม่ได้พูดจากเรื่องแต่งงานกันกับพ่อกำนัน แต่กฤษฎาได้มอบล๊อตเก็ตต้นตระกูลให้ดวงใจไว้เป็นประกันความรัก ส่วนดวงใจนั้นก็มีเพียง แหวนทองเหลือง ไร้ราคามอบให้กฤษฎาสวมไว้ โดยกฤษฎาบอกว่า หากเห็นแหวนทองเหลืองที่นิ้ว ก็หมายว่าหัวใจเขามีดวงใจเพียงคน ต่อมาพ่อกำนันรู้เรื่องว่าดวงใจท้องกับกฤษฎาก็โกรธแต่ก็ไม่อาจจะไปสู้หน้าท่านเจ้าคุณ พ่อของกฤษฎาผู้มีพระคุณไม่จึงจับดวงใจขังไว้ในบ้านและจะให้แต่งงานกับผู้มีอันจะกินของหมู่บ้านแทน พอถึงวันแต่งงาน ดวงใจซึ่งถูกมัดล่ามโซ่ไว้ ก็เชือดส้นเท้าตัวเองรูดโซ่ออก กระโดดหน้าต่างหนีไปเพราะรักมั่นในกฤษฎาคนเดียวเท่านั้นระหว่างทางก็แลกชุดแต่งงานกับชุดของชาวบ้านที่กำลังท้องและเพราะไม่มีเงินติดตัวมาเลยก็เลยเดินทางตามทางรถไฟมุ่งหน้าจะไปหากฤษฎาคนรักที่กรุงเทพฯ ระหว่างเดินทางนั้น ดวงใจก็เป็นลมหมดสติ ก็มีนายแพทย์รถไฟเขต ที่นั่งรถโยกมาตรวจสุขภาพเจ้าพนักงานกรมรถไฟที่ชื่อ เมตตา มาพบเข้าและพาไปทำคลอด ออกลูกเป็นผู้หญิงและเมื่อรู้ว่า ดวงใจจะไปตามหากฤษฎาที่กรุงเทพฯ ก็เลยอาสาพาไปด้วย ดวงใจมาพักอาศัยกับนายแพทย์เมตตาซึ่งขณะนั้นกรุงเทพฯ ก็กำลังเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 พอดี ดวงใจตามหากฤษฎานานถึง 3 ปี แต่ก็ไม่พบตัว กระทั่งทราบจากคนรับใช้เก่าแก่ว่า พอกฤษฎากลับมาถึงกรุงเทพฯ ท่านเจ้าคุณพ่อก็สิ้นใจและทิ้งหนี้สินไว้มากมายจนถึงขั้นฟ้องล้มละลาย ส่วนกฤษฎาก็หายสาบสูญไป ไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหน เมื่อดวงใจรู้ความจริง ก็เสียใจและกลับไปบอกนายแพทย์เมตตา นายแพทย์ซึ่งแอบรักแอบสงสารดวงใจอยู่ก่อนแล้ว ก็เลยเอ่ยปาก ขอแต่งงานกับดวงใจเอง แต่ดวงใจก็ปฏิเสธเพราะรักยังมั่นในตัวกฤษฎาคนเดียวเช่นเดิมจึงพาลูกน้อยหลบหนีจากไปและไปเป็นขอทานหาเลี้ยงลูกน้อย กระทั่งแม่เล้ามาพบก็ชักชวนให้ไปเป็นหญิงโสเภณี แต่ดวงใจก็ไม่ยอม แม้เล้าจึงพวกมารุมข่มขืน ดวงใจเมื่อไม่อาจรักษาความบริสุทธิ์ไว้รอกฤษฎาคนเดียวได้ จึงจำยอมต้องเป็นหญิงโสเภณีโดยนำลูกสาวกลับไปฝากนายแพทย์เมตตาให้เลี้ยงดูแทน ต่อมาซ่องโสเภณีถูกเครื่องบินทิ้งระเบิดตายหมด คงเหลือแต่ดวงใจจึงถูกนายทหารญี่ปุ่นนำไปเลี้ยงดูเป็นเมียเช่า แต่เมื่อสงครามโลกสิ้นสุดลง นายทหารญี่ปุ่นก็ต้องเดินทางกลับและเกิดเรืออับปาง ทำให้ดวงใจไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าบ้านจนต้องยกเฟอร์นิเจอร์ในบ้านใช้หนี้ทำให้ค้นพบว่าในห้องใต้ถุนมีทองคำจำนวนมากที่นายทหารญี่ปุ่นยักยอกเอาไว้ ดวงใจจึงกลายเป็นเศรษฐีนีใหม่และเปลี่ยนชื่อเป็น หทัยทิพย์ เกิดนพคุณ โดยได้อุปโลกน์หญิงรับใช้คือ เสาวรศ ที่กอดคอดูแลกันมาเป็นพี่สาวและเปิดบริษัทใหญ่โต ช่วงที่ดวงใจเป็นเศรษฐีนี้เอง สิ่งที่ดวงใจตามหามาตลอดชีวิตก็ปรากฏขึ้น ขณะที่เธอนั่งรถเก๋งคันโตมาทำงาน เผอิญรถไปเชี่ยวชนกับชายคนหนึ่งล้มลง เมื่อคนรถลงไปดู ชายคนนั้นก็รีบบอกว่าไม่เป็นอะไร แล้วจะหันไปขอโทษเจ้าของรถที่ตัวเองเดินไม่ดูตาม้าตาเรือ ดวงใจถึงกับตะลึงเพราะชายคนคือ กฤษฎา คนที่เธอรักและตามหานั่นเอง เธออุทานเบาๆ คุณกฤษฎา สีหน้า แววตา ดูอิ่มเอิบเปี่ยมไปด้วยความสุขเมื่อมองไปเห็นแหวนทองเหลืองของเธอยังคงสวมอยู่ที่นิ้วมือของกฤษฎา แต่กฤษฎานั่นเล่ากลับจดจำเธอไม่ได้เลย เธอไปถึงที่ทำงาน ก็รีบไปบอกเรื่องนี้ให้เสาวรศฟัง และจะหาทางมาพบกฤษฎาให้ได้เพื่อถามหาความจริง กฤษฎาถูกเชิญให้มาทำงานที่บริษัทของดวงใจ และเมื่อมีโอกาสอยู่ตามลำพัง ดวงใจก็พยายามเลียบเคียงถามถึงเรื่องคนรักของกฤษฎา กฤษฎาก็เล่าบอกแบบไม่ปิดบัง เขาบอกว่าความจริงว่า เขาเคยมีภรรยาแล้วชื่อ ดวงใจ เป็นสาวงามแห่งดอยติ รักเรากันมาก แต่ที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันก็เพราะเขาไปเป็นเสรีไทยต่อต้านญี่ปุ่นแล้วถูกจับ กระทั่งพ้นโทษออกมา จึงไปตามหาดวงใจที่ดอยติ ก็ทราบความจริงจากพ่อกำนันว่า ดวงใจตายแล้ว เขาก็เลยเดินทางกลับกรุงเทพฯ แล้วมาถูกรถเชี่ยวชน

น้ำผึ้งขม 2529

เรื่องย่อ : น้ำผึ้งขม (2529/1986) ปุริม ชายหนุ่มผู้เห็นผู้หญิงเป็นเครื่องเล่น กังสดาล สาวน้อยที่ถูกขายให้ปุริม เพียงเพราะเงินตรา..ที่ทำให้เขาและเธอมาพบกัน" ปุริม นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ ฝังใจเจ็บกับความรักครั้งก่อน ที่ทำให้เขา แทบจะเสียคนเพราะโรส ลูกครึ่งสาวสวยไทย-เยอรมัน ทำให้ปุริม กลายเป็นคนที่มองผู้หญิงเพียงของเล่นเท่านั้น เวลาผ่านไป โรสกลับมาพบกับปุริมอีกครั้ง เธอกลายเป็นแม่หม้าย ลูกติด เมียเก็บของข้าราชการระดับล่าง แถมด้วยอาการติดสุราขนาด หนัก โรสต้องการเพียงแค่เงินจนยอมขาย กังสดาล ลูกสาว ให้เป็นเมียของปุริม กังสดาลมาอาศัยกับปุริม โดยที่จวงจันทร์ แม่หม้ายสาวใหญ่ ญาติ ของปุริมไม่เห็นด้วย และตอกย้ำว่ากังสดาลเป็นเพียงนางบำเรอ ของปุริมเท่านั้น แต่กังสดาลไม่มีทางเลือกอื่น จึงจำต้องทนอยู่ต่อไป ปุริมเริ่มค้นพบว่ากังสดาลไม่มีอะไรเหมือนโรสแม่ของเธอเลย ความพยาบาทจึงเริ่มเสื่อมคลายลง ขณะเดียวกัน เจน หลานชายของปุริมลูกชายแท้ๆ ของจวงจันทร์ก็แอบรักกังสดาล ทำให้ปุริมไม่พอใจ จนไล่ เจนออกจากบ้าน แต่ก็ได้กังสดาลคอยไกล่เกลี่ยปัญหา จวงจันทร์ใช้ข้ออ้างที่เธอป่วยเป็นโรคหัวใจ ขอร้องให้กังสดาลยอม ไปจากชีวิตของปุริม กังสดาลจึงหลบไปพักอยู่กับญาติ ที่ต่างจังหวัด ปุริมแอบมาดักพบกังสดาล และเข้าใจผิดว่าเธอกำลังมีรักใหม่ กับ กรกิตผู้เป็นอา ปุริม พบกับแสงดาว หญิงสาวผู้เชื่อมั่นในความรัก ผู้เปรียบเสมือน อาของกังสดาล ทั้งสองคบกันอย่างเปิดเผย แต่ปุริมยังหาโอกาสพบกับ กังสดาล กังสดาลไม่อาจห้ามใจตัวเองได้อีก เธอจึงยอมอยู่กับปุริม อย่างหลบๆ ซ่อนๆ เมื่อความลับถูกเปิดเผย ทุกคนต่างโกรธเคือง การกระทำของเธอ แต่แสงดาวกลับระงับอารมณ์ได้จนน่าแปลกใจ อีกทั้งยังพากังสดาลไป ช่วยเตรียมงานแต่งงาน แต่เมื่อการ์ดเชิญงานแต่งงานถูกแจกออกไป ชื่อของเจ้าสาวแทนที่จะเป็นแสงดาวกลับกลายเป็นกังสดาล เรื่องจึงถูก เปิดเผยว่าเป็นแผนของปุริมและแสงดาว ที่แกล้งคบกันเพื่อให้กังสดาล แสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา จวงจันทร์ ทราบข่าวนี้ โรคหัวใจจึงกำเริบ และเสียชีวิตในที่สุด ปุริมและกังสดาลเริ่มต้นชีวิตคู่อีก ครั้งหนึ่ง ด้วยความรัก และบริสุทธิ์ใจของทั้งสองฝ่าย

มัตติกา 2529
พระอภัยมณี 2529

เรื่องย่อ : พระอภัยมณี (2529/1986) ท้าวสุทัศน์และพระนางประทุมเกสร ผู้ครองกรุงรัตนา มีพระโอรสสององค์ คือ พระอภัยมณี และศรีสุวรรณ ได้รับสั่งให้โอรสทั้งสองไปเรียนศิลปวิทยา ในที่สุดพระอภัยมณีได้เรียนวิชาปี่ ขณะที่ศรีสุวรรณได้เรียนวิชากระบี่กระบอง เมื่อสำเร็จวิชา ก็ได้กลับคืนพระนคร ทว่าพระบิดาทรงกริ้ว ด้วยพระโอรสไปเรียนวิชาชั้นต่ำ ไม่คู่ควรแก่กษัตริย์ จึงไล่ทั้งสองออกจากพระนคร ทั้งสองเดินทางมาถึงชายทะเล ได้พบกับสามพราหมณ์คือ โมรา สานนท์ และวิเชียร ได้สมัครเป็นมิตรกัน แล้วพระอภัยมณีเป่าปี่ให้คนทั้งหมดฟัง ทั้งหมดเคลิบเคลิ้มตามเพลงปี่จนหลับไป เพลงปี่ดังไปถึงนางผีเสื้อสมุทรที่อาศัยอยู่ในทะเล เมื่อตามเสียงปี่มาพบพระอภัยมณีก็หลงรัก จึงลักพาตัวพระอภัยมณีไปอยู่กับนางบนเกาะ แล้วจำแลงร่างเป็นหญิงสาวสวยงาม แม้พระอภัยรู้อยู่ว่านั่นคือนางยักษ์ แต่ก็ไม่สามารถหนีไปไหนได้ ทั้งสองอยู่กินกันมาจนนางผีเสื้อให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง ชื่อว่า สินสมุทร ด้านศรีสุวรรณกับสามพราหมณ์เมื่อตื่นขึ้นมาไม่พบพระอภัยมณีก็เที่ยวค้นหา จนไปถึงเมืองรมจักรพบศึกติดพัน ศรีสุวรรณกับสามพราหมณ์ช่วยรบป้องกันเมืองได้ ได้พบนางเกษราธิดาของเจ้าเมือง ต่อมาศรีสุวรรณได้อภิเษกนางเกษรา มีพระธิดาชื่อนางอรุณรัศมี วันหนึ่งสินสมุทรออกไปเที่ยวเล่นเจอพ่อเงือกแม่เงือก จึงจับตัวมาให้พระอภัยดู พ่อเงือกแม่เงือกวอนขอชีวิตโดยเสนอจะพาพระอภัยมณี หนี พระอภัยจึงออกอุบายให้นางผีเสื้อไปถือศีลบนเขาสามวัน ระหว่างนั้นเขาก็พาสินสมุทรหนี พ่อเงือกแม่เงือกพาพระอภัยและสินสมุทรมาเกือบถึงเกาะแก้วพิสดารแล้ว แต่นางผีเสื้อรู้ตัวติดตามมาทัน จับพ่อเงือกแม่เงือกฆ่าเสีย นางเงือกผู้ลูกพาพระอภัยกับสินสมุทรหนีไปจนถึงเกาะแก้วพิสดารได้สำเร็จ บนเกาะนี้มีพระฤๅษีมีฤทธิ์มาก นางผีเสื้อจึงไม่กล้าทำอะไร ทั้งหมดอาศัยอยู่บนเกาะแก้วพิสดาร พระอภัยได้นางเงือกเป็นภรรยา ฝ่ายท้าวสิลราชกับพระนางมณฑา ผู้ครองเมืองเมืองผลึก มีพระธิดาองค์เดียวคือ นางสุวรรณมาลี ทรงเป็นคู่หมั้นอยู่กับอุศเรน เจ้าชายเมืองลังกา วันหนึ่งนางสุวรรณมาลีเกิดนิมิตฝัน โหรทำนายว่าต้องออกเที่ยวทะเลจะได้พบลาภ ทั้งหมดจึงเดินเรือเที่ยวท่องไป แต่เกิดพายุใหญ่พัดเรือไปถึงเกาะนาควาริน คำทำนายของปู่เจ้าทำให้ท้าวสิลราชพากองเรือมุ่งหน้าไปยังเกาะแก้วพิสดาร ได้พบพระอภัยมณีและรับพระอภัยมณีกับสินสมุทรขึ้นเรือไปด้วยเพื่ออาศัยกลับบ้านเมือง แต่เมื่อเรือออกจากเกาะ นางผีเสื้อสมุทรก็มาอาละวาดอีกจนเรือแตก ท้าวสิลราชกับบริวารส่วนใหญ่สิ้นชีพ สินสมุทรพานางสุวรรณมาลีหนีไปได้ พระอภัยมณีเป่าปี่สังหารนางยักษ์ ทั้งหมดแตกกระจายพลัดพรายจากกัน พระอภัยมณีได้รับความช่วยเหลือจากอุศเรน คู่หมั้นของนางสุวรรณมาลี ที่ออกเรือมาตามหาเพราะหายไปนาน ส่วนสินสมุทรกับนางสุวรรณมาลีได้โจรสุหรั่ง โจรสลัดในน่านน้ำนั้นช่วยไว้ได้ แต่โจรคิดทำร้าย สินสมุทรจึงสังหารโจรแล้วครองเรือมาเอง แล้วได้พบศรีสุวรรณที่ออกล่องเรือเที่ยวตามหาพี่ชาย ทั้งหมดเดินทางไปด้วยกันจนมาพบพระอภัยมณีกับอุศเรน สินสมุทรรักนางสุวรรณมาลีอยากได้เป็นแม่ จึงเกิดวิวาทกับอุศเรน พระอภัยมณีไปเมืองผลึกกับนางสุวรรณมาลีและได้ขึ้นครองเมืองแทนท้าวสิลราช อุศเรนแค้นและกลับเมืองลังกายกทัพมาตีเมืองผลึก แต่แพ้อุบายนางวาลีจนสิ้นชีวิต นางละเวงวัณฬาผู้น้องสาวคิดแก้แค้น จึงใช้รูปของตนทำเสน่ห์ส่งไปหัวเมืองต่าง ๆ ให้ยกทัพมาตีเมืองผลึก ด้านเกาะแก้วพิสดาร นางเงือกให้กำเนิดบุตรชื่อ สุดสาคร เป็นเด็กฉลาดแข็งแรง วันหนึ่งสุดสาครจับม้านิลมังกรได้ พระฤๅษีสอนวิชาให้แล้วเล่าเรื่องพระอภัยมณีให้ฟัง สุดสาครออกเดินทางตามหาพระอภัยมณีจนไปถึงเมืองการเวก ระหว่างทางถูกชีเปลือยหลอกขโมยไม้เท้าและม้านิลมังกรไป แต่พระฤๅษีมาช่วยไว้ เมื่อชิงไม้เท้าและม้านิลมังกรคืนมาได้ ก็เข้าเมืองการเวก กษัตริย์เจ้าเมืองรักใคร่เอ็นดูสุดสาคร จึงเลี้ยงดูเป็นโอรสบุญธรรมอยู่ด้วยกันกับนางเสาวคนธ์และหัสไชยพระธิดาและพระโอรส จนเติบใหญ่ สุดสาครคิดออกตามหาพ่อ เจ้าเมืองการเวกจึงจัดกองเรือให้ โดยมีนางเสาวคนธ์และหัสไชยติดตามไปด้วย ทั้งหมดล่องเรือไปถึงเมืองผลึกขณะถูกทัพลังกาและทัพพันธมิตรล้อมเมือง พระอภัยมณี ศรีสุวรรณ สินสมุทร และสุดสาคร ช่วยเมืองผลึกรบจนสามารถเอาชนะทัพอื่น ๆ ได้ พระอภัยมณีได้รูปวาดนางละเวงที่ลงเสน่ห์ทำให้เมืองต่าง ๆ พากันยกมารบเมืองผลึกตามคำขอนางนาง แล้วเกิดต้องมนต์ของนางละเวงเสียเอง พระอภัยยกทัพตามไปตีเมืองลังกา แต่รบกันเท่าใดก็ไม่แพ้ชนะเสียที ต่อมาพระอภัยมณีลอบติดรถนางละเวงเข้าไปในวัง เมื่อนางละเวงได้พบพระอภัยก็ฆ่าไม่ลง กลับหลงรักจนได้เป็นสามีภรรยากัน ส่วนบริวารอื่นของนางละเวงคือนางยุพาผกา รำภาสะหรี และสุลาลีวัน ใช้เสน่ห์กับฝ่ายพระอภัยมณี ได้แก่ ศรีสุวรรณ สินสมุทร และแม้แต่สุดสาครที่ครองตนเป็นฤๅษีก็ต้องมนต์ไปด้วย จนทั้งหมดหลงมัวเมาติดพันอยู่ในลังกาไม่ยอมกลับเมืองผลึก นางสุวรรณมาลีกับอรุณรัศมีและเสาวคนธ์จึงมาตาม แต่ไม่เป็นผล จนต้องให้หัสไชยช่วยแก้เสน่ห์ให้ลุงและเหล่าพี่ กษัตริย์ทั้งหมดยอมสงบศึกต่อกัน แต่นางเสาวคนธ์แค้นสุดสาครจึงหนีไปเมืองวาหุโลม สุดสาครต้องติดตามไปจนภายหลังจึงได้อภิเษกกัน ด้านกรุงรัตนา ท้าวสุทัศน์สิ้นพระชนม์ พระอภัยมณีกับเหล่ากษัตริย์จึงเดินทางไปทำศพ มังคลาบุตรของพระอภัยมณีกับนางละเวงได้ครองเมืองลังกา แต่ถูกบาทหลวงยุแหย่จึงแค้นเคืองเหล่ากษัตริย์ จับตัวนางสุวรรณมาลีและพระญาติมาขังไว้ หัสไชยกับสุดสาครยกทัพมาช่วยแต่ไม่สำเร็จ แม้แต่นางละเวงผู้เป็นมารดาเองก็ห้ามปรามไม่ได้ พระอภัยมณีกับศรีสุวรรณยกทัพตามมาจึงเอาชนะศึกได้ จบศึกแล้วพระอภัยมณีอภิเษกโอรสทั้งหลายให้ครองเมืองต่าง ๆ แล้วออกบวชพร้อมกับนางละเวงและนางสุวรรณมาลี