ภูตคนอลเวง 2540

เรื่องย่อ : ภูตคนอลเวง (2540/1997) ภูตคนอลเวง เป็นเรื่องราวของการมาอยู่ร่วมกันโดยบังเอิญของนักรบโบราณกับคนในยุคปัจจุบัน คือผู้รับเหมาก่อสร้างหนุ่มที่กำลังผิดหวังในชีวิต การหลงมิติมาในโลกปัจจุบันของนักรบโบราณทำให้เกิดความวุ่นวายอลเวง คนในยุคปัจจุบันไม่รู้ว่านักรบโบราณที่หลงเข้ามานี้เป็นภูตผีหรือคนกันแน่

นิรมิต 2540

นิรมิต (2540/1997) นิรมิต เป็นเรื่องราวของเรื่องราวของภูวงกับจินตนาการของเขา ที่สร้างขึ้นเพื่อทดแทนความต่างในชีวิตซึ่งตนไม่มี ด้วยอำนาจพิเศษที่เขาทำให้ภาพวาดจินตนาการเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาได้ แต่แล้วกลับควบคุมมันไม่ได้ และมันกลับก้าวเข้ามาหาเขาเพื่อที่จะทำลายเขาลงเสียเอ ภูวง เป็นผู้สร้างมนุษย์ 2 คนนี้ขึ้นมา โดยใช้ความสามารถในการวาดรูปของเขาเพื่อสร้าง ภังคี ให้เป็นตัวแทนของเขา ทำในสิ่งที่เขาทำไม่ได้ เป็นไม่ได้ ภูวง สร้าง ภังคี ขึ้นมาจากความโกรธแค้นของเขา จึงทำให้ ภังคี มีแต่ความชั่วร้าย เป็นปีศาจร้าย ที่ไม่มีชีวิตจิตใจ มีแต่ทำลาย ไม่มีชีวิตจิตใจ มีแต่ความโหดร้าย ทารุณ ภูวง จึงเกิดสำนึกผิดคิดสร้างอีกคนนึงขึ้นมาเพื่อปราบ ภังคี แต่ครั้งนี้ ภูวง ได้สร้างจากความรัก ความดี ใส สะอาด บริสุทธิ์ ทำให้เกิดเป็น ไทวัณ

รอยอดีต 2540

เรื่องย่อ : รอยอดีต (2540/1997) แอนดริว รับบท "เดชาชาญ" เป็นลูกกำพร้า และเป็นพี่ชายคนโตที่พ่อแม่บุญธรรมนำมาเลี้ยงจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า คนที่สองคือแมน ศุภกิจเป็นเมธาชาญ ลูกแท้ๆของพ่อแม่ และคนน้องราโมนาชื่อบัว เด็กที่ลูกศิษย์ของแม่ฝากเลี้ยงเนื่องจากท้องระหว่างเรียน ทั้งสามรักกันเหมือนพี่น้อง เดชาชาญเป็นเด็กกตัญญูคอยดูแลเมธาชาญซึ่งขาพิการตั้งแต่เล็กแต่สมองอัจฉริยะ และเป็นโรคมะเร็งที่สมองตอนหลังตาย เดชาเป็นครูและตอนหลังแต่งงานกับบัว ละครเรื่องนี้เป็นละครชีวิตเรื่องแรกที่แอนดริวต้องรับบทชีวิตหนัก

มณีเนื้อแท้ 2540

เรื่องย่อ : มณีเนื้อแท้ (2540/1997) มณีเนื้อแท้ เป็นเรื่องราวของพลอย ไพลิน เด็กสาวผู้มีพร้อมทุกอย่างในชีวิต เธอเป็นทายาทของนายประจวบ ชาเยนทร์ธร มหาเศรษฐีผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ที่มีชื่อเสียงของประเทศ แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ได้เจอกับความผันผวนปรวนแปรในชีวิต และเลือกแก้ปัญหาด้วยการคิดทำตัวเหลวไหลเพื่อประชด หลายครั้งที่เธอได้เจอกับภัยของสังคม และผู้ไม่หวังดีรอบๆ ตัว แต่ขึ้นชื่อว่ามณีแล้ว ไม่ว่าจะเจอมรสุมหนักหนาสาหัสแค่ไหน เธอก็ยังคงรักษาความเป็นมณีเนื้อแท้เอาไว้ได้ ทินภัทร หนุ่มนักเรียนนอก ที่ต้องมามีชีวิตเกี่ยวพันกับ พลอยไพลิน โดยที่เขาเองไม่ได้ตั้งใจ ในตอนแรกเขาคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงก๋ากั่นใจแตก แต่สุดท้ายเขาก็ได้พบความดีในตัวและจิตใจของเธอ

เรื่องย่อ : ลูกที่ถูกลืม (2540/1997) พระ พิมุกเดชาได้ช่วยเหลือแม่เนิ่นจากคนที่รุมทำร้ายและได้พามาให้พักอาศัยและทำ งานอยู่ที่เรือน ลักลอบมีความสัมพันธ์กันจนแม่เนิ่นตั้งท้อง เมื่อแม่เนิ่นคลอดลูกออกมาเป็นชายก็เสียชีวิตและวนเวียนไม่ไปผุดไปเกิดด้วย ความเป็นห่วงลูกที่กลายเป็นใบ้จากสัตย์สาบานว่าจะไม่แพร่งพรายว่าพ่อของลูก เป็นใคร แต่คุณหญิงจุลกา...ภรรยาของพระพิมุกเดชาก็ระแวงว่าเจ้าใบ้เป็นลูกนอกสมรสของ สามีตน คุณหญิงเป็นคนใจคอโหดร้ายก็รังเกียจเดียดฉันท์และถ่ายทอดนิสัยใจคอสู่ ชายใหญ่...ลูกชายคนโต ตรงข้ามกับชายเล็กที่เป็นคนมีเมตตาสงสารใบ้ที่ถูกแม่กับพี่ของตนกลั่นแกล้ง และใช้เป็นที่รองรับอารมณ์เสมอ

สะใภ้ปฏิวัติ 2540
ทัดดาวบุษยา 2540

เรื่องย่อ : ทัดดาวบุษยา (2540/1997) ทัดดาว เป็นลูกสาวของนายเด่น บุษยา เศรษฐีใหญ่มีบ้านอยู่ริมน้ำเมืองนนทบุรี จิตรีแม่ของทัดดาวติดการพนันงอมแงม คุณหญิงบุษย์แม่ของนายเด่นเกลียดชังไม่ชอบ จึงหาทางไล่ออกจากบ้าน โดยไม่รู้ว่าจิตรีมีทัดดาวติดท้องไปด้วย ต่อมานายเด่นซึ่งยังรักจิตรีอยู่มาก พยายามติดตามหาจนพบกับทัดดาวลูกสาวซึ่งโตเป็นสาวแล้ว และนายเด่นได้บอกกับทัดดาวว่าตนจะยกมรดกทั้งหมดให้ทัดดาว แต่ในไม่ช้านายเด่นก็เสียชีวิตไปโดยยังไม่ทันได้ติดต่อบอกทัดดาวอย่างเป็น ทางการ คุณนายเดือน ภรรยาอีกคนซึ่งอยู่กินกับนายเด่น จึงครอบครองทรัพย์สินทั้งหมดของนายเด่นอย่างสุขสำราญ คุณนายเดือนมีลูกกับนายเด่น 2 คน คือ ต้อม ลูกสาว และแต้ม ลูกชาย จิตรีไปคลอดทัดดาวที่เชียงใหม่ และเลี้ยงทัดดาวมาจนอายุ 18 ปี จิตรียังติดการพนันและเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว เจ้าหนี้รายใหญ่ชื่อ เจ้าพัฒนา เศรษฐีใหม่ของเชียงใหม่ เจ้าพัฒนาเป็นคนเจ้าชู้มาก วันหนึ่งเมื่อเห็นทัดดาวก็พอใจ ขอจิตรีให้มาแต่งงานกับตนโดยจะยกหนี้สินทั้งหมดให้ จิตรียินยอมเพราะไม่มีทางเลือก เมื่อบอกกับทัดดาวเด็กสาวเสียใจมากจึงคิดหนีการแต่งงาน เที่ยงคนเลี้ยงทัดดาวมาตั้งแต่ ทัดดาวยังเล็ก รักกับบางซึ่งเป็นคนสนิทของเจ้ายอดขวัญ ลูกชายของเจ้าพัฒนา เจ้ายอดขวัญผู้นี้สนิทสนมกับบ้านบุษยาเป็นอย่างดี เหตุการณ์ประจวบเหมาะเมื่อเจ้ายอดขวัญไม่พอใจเจ้าพ่อที่จะแต่งงานกับเด็กสาว คราวลูก จึงคิดหนีออกจากบ้าน เมื่อเที่ยงรู้ดังนั้นก็วางแผนช่วยทัดดาวให้หนีไปกับเจ้ายอดขวัญ เพื่อว่าเจ้ายอดขวัญจะได้พาทัดดาวเข้าไปในบ้านบุษยาได้ ทัดดาวจะได้ไปสืบเรื่องสมบัติ ทัดดาวตกลงทำตามแผนของแม่เที่ยงโดยปลอมตัวเป็นผู้ชายชื่อ “สุทัศน์” แต่ทั้งทัดดาวและเจ้าน้อย-ยอดขวัญ ต่างก็ไม่รู้จักกันว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ดังนั้นเจ้าน้อยจึงปฏิบัติตนต่อทัดดาวอย่างเด็กหนุ่มชื่อ สุทัศน์ ซึ่งทัดดาวก็อดทนยินยอมทุกอย่าง แม้ว่าบางครั้งจะถูกตบหัว ถูกต่อยบ้าง หรือถูกว่าแรง ๆ บ้าง ที่บ้านบุษยา คุณนายเดือนรู้อยู่เต็มอกว่า เศรษฐีเด่นยกสมบัติให้ทัดดาว บุษยา ลูกสาวคนโตเพราะนายเด่นนั้นรู้ว่าคุณนายเดือนมีต้อมติดท้องมา เมื่อมาเป็นเมียตน ในบ้านบุษยายังมีเต็มดวง น้องสาวของคุณนายเดือน เป็นคนสวย มีเสน่ห์ และนางจันทร แม่ของคุณนายเดือน ซึ่งเป็นคนงกและเค็มจัด นอกจากนี้ยังมีข้าเก่าเต่าเลี้ยงอยู่มานาน คือ นายพ่วง ตาเหมือน และยายมา แม่ครัวเป็นเมียตาเหมือน คนเก่าแก่เหล่านี้เป็นผู้ที่รู้เหตุการณ์ต่าง ๆ ในบ้านบุษยาตลอดมา เจ้าน้อยพาทัดดาวมาขออยู่เรือนหลังเล็กในบ้านบุษยาเพื่อเขียนหนังสือ คุณนายเดือนให้สุทัศน์มาอยู่ได้เพราะเป็นเด็ก ผู้ชาย เนื่องจากบ้านนี้มีกฎไม่รับใครที่เป็นเด็กผู้หญิงอายุไม่ถึง 20 ปี ด้วยเกรงว่าจะเป็นทัดดาวปลอมตัวมา ทัดดาวเมื่อเข้ามาอยู่ก็เริ่มตีสนิทกับคนเก่าแก่ของบ้านบุษยา เพื่อสืบถามเรื่องพินัยกรรม ในบ้านบุษยายังมีวิธูร น้องชายของคุณนายเดือน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับเจ้าน้อย วิธูรเอ็นดูสุทัศน์คอยช่วยเหลือปลอบใจเวลาคุณนายเดือนและเต็มดวงเอ็ดว่า สุทัศน์เสมอ ต้อมลูกสาวของคุณนายเดือน กลับจากโรงเรียนประจำมาอยู่บ้าน ต้อมเป็นเด็กสาวเย่อหยิ่ง นิสัยดูถูกคน เมื่อพบกับสุทัศน์ต้อมไม่ชอบสุทัศน์เพราะสุทัศน์ไม่ลงให้ ต้อมหลงรักเจ้าน้อย จึงกีดกันเต็มดวงที่เจ้าน้อยหมายปองอยู่ ในที่สุดเต็มดวงทนไม่ไหวจึงตัดสินใจแต่งงานกับสินทอง เศรษฐีนักธุรกิจที่มาติดพันอยู่ เจ้าน้อยอกหัก ทัดดาวพลอยหวั่นไหวไปด้วย เพราะความสงสาร และจากความใกล้ชิดกันจึงทำให้ทัดดาวรักเจ้าน้อยจนหมดหัวใจ แต้มน้องชายอายุ 10 ขวบ อยู่โรงเรียนประจำเช่นกัน เมื่อปิดเทอมกลับบ้านได้พบกับสุทัศน์ แต้มถูกชะตากับสุทัศน์เพราะเป็นพี่น้องร่วมบิดาเดียวกัน แต่ต้อมนั้นนายเด่นรู้ตั้งแต่เกิดแล้วว่าเป็นลูกติดท้องคุณนายเดือนมา และแต้มนี่เองที่นายเด่นผู้พ่อสั่งไว้เรื่องสมบัติที่จะยกให้ทัดดาวพี่สาว วันหนึ่งความแตกขึ้นเมื่อเจ้ายอดขวัญคุยกับแต้ม แต้มเล่าให้ฟังว่ามีพี่สาวชื่อ ทัดดาว บุษยา ยอดขวัญตกใจและโกรธมากเมื่อรู้ว่า สุทัศน์ที่หลอกเขาว่าเป็นผู้ชาย จะมาตามหาพินัยกรรมของพ่อนั้นเป็นหญิง และแถมเป็นคนที่เขาเกลียดมากคือ ทัดดาว ลูกสาวคุณนายจิตรี แต่เมื่อยอดขวัญจะมาจัดการกับทัดดาว ก็รู้ว่าทัดดาวหนีไปแล้วพร้อมกับแม่เที่ยง ทัดดาวหนีไปอยู่กับแม่ที่ เชียงใหม่ ยอดขวัญตามไปแต่ทัดดาวไม่ยอมพบ ยอดขวัญเสียใจผิดหวังจนล้มเจ็บ ทัดดาวปล่อยให้ยอดขวัญรอคอยอยู่นานกว่าจะใจอ่อนยอมดีด้วย ขณะที่ทั้งสองกำลังจะเข้าใจกัน คุณนายเดือนซึ่งรู้ความจริงทั้งหมดจาก ตาพ่วงว่าทัดดาวเป็นเจ้าของบ้านบุษยา จึงตามขึ้นมาถึงเชียงใหม่ เพื่อมาบอกว่าเจ้ายอดขวัญนั้นได้ต้อมเป็นภรรยาแล้วในวันหนึ่ง เจ้ายอดขวัญแก้ตัวไม่ตกเพราะคืนนั้นตนเมาและเมื่อรู้ตัวก็นอนอยู่กับต้อมจน สว่าง คราวนี้ทัดดาวโกรธจนไม่ยอมพูดด้วย และไปกรุงเทพฯ ทันทีเพื่อไปครอบครองบ้านบุษยา ที่บ้านบุษยา ทัดดาวแก้แค้นต้อมทุกอย่างที่ต้อมเคยทำไว้กับตน ต้อมไม่ยอมและอาละวาดแต่คุณนายเดือนเกลี้ยกล่อมให้ยอมเพื่อผลประโยชน์ของตน เอง หลังจากทัดดาวสั่งสอนให้บทเรียนกับสองแม่ลูกจน กลับตัวกลับใจเป็นคนดีแล้ ทัดดาวก็อภัยให้ทุกสิ่งทุกอย่าง ยินยอมให้สองแม่ลูกอยู่บ้านบุษยาต่อไปทัดดาวตามไปง้อขอโทษเจ้ายอดขวัญและ ปรับความเข้าใจกันในที่สุด

สิงหไกรภพ 2540

เรื่องย่อ : สิงหไกรภพ (2540/1997) เรื่องราวการเดินทางของ สิงหไกรภพ โอรสที่ยิ่งใหญ่แห่งนครโกญจา ที่เมื่อครั้นยังเล็กถูกพรากไปโดยพราหมณ์จินดา ระหกระเหินมากลางป่าจนกระทั่งพบกับยักษ์ พินทุกุมาร ก็เกิดความรักจึงนำมาเลี้ยงดูเป็นบุตร สิงหไกรภพต้องสู้รบเพื่อชิงเอาพระขรรค์กลับคืนมาจากเพชรพญาทรมา และตามหา เทวี 4 ตา ผู้สามารถมองเห็นได้รอบทิศและสามารถฆ่าเพชรพญาทรได้เท่านั้น

ทองเนื้อเก้า 2540

ทองเนื้อเก้า (2540/1997) สันต์ จ่าทหารเรือรูปหล่อ ลูกชายของแม่ปั้นและพ่อสิน สันต์พลาดท่าได้เสียกับลำยอง แม่ปั้นเมื่อรู้ข่าวว่าสันต์ลูกชายของตนได้เสียกับลำยองก็แทบเป็นลมจับ เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าพื้นสันดานเดิมของบ้านลำยองเป็นเช่นไร ส่วนยายแลเมื่อรู้ว่าลูกสาวจับสันต์ทำผัวได้ก็ดีใจเพราะฝันว่าตัวเองจะสบายไปด้วย แต่พ่อสินและแม่ปั้นต้องจำใจรับลำยองเข้าบ้านในฐานะลูกสะใภ้ เมื่อลำยองตั้งท้องก็ไม่เคยช่วยงานใดๆเลย ทั้งงานบ้านหรืองานขายของอ้างว่าแพ้ท้อง ลำยองยังเรียกร้องความสะดวกสบายทุกอย่างที่อยากได้ สันต์จึงต้องตามใจและหามาให้ สันต์รู้สึกผิดที่พลาดท่าได้ลำยองมาเหมือนเอานรกมาไว้ในบ้านเพราะนับวันสันดานแท้ๆของลำยองก็ปรากฏเด่นชัดขึ้นมาทุกที ลำยองได้คลอดลูกชายในวันมหามงคลจึงตั้งชื่อลูกว่าวันเฉลิม เด็กชายนำสิ่งดีๆมาให้ครอบครัวมากมาย สันต์ก็ได้เลื่อนยศเป็นจ่าและได้รับเลือกให้เข้าเรียนต่อโรงเรียนนายเรือลำยองไม่ยอมเลี้ยงลูกภาระหน้าที่จึงตกเป็นของแม่ปั้นและพ่อสิน ลำยองเริ่มติดยาดองจนอดไม่ได้ สันต์ไม่พอใจจึงมีปากเสียงกันลำยองด่าลามปามไปถึงพ่อแม่สันต์ สันต์เหลืออดจึงตบหน้าลำยอง ลำยองโกรธมากจึงหอบวันเฉลิมหนีไปอยู่บ้านยายแล สันต์สงสารลูกจึงต้องไปง้อลำยอง เมื่อลำยองไปทำงานเครื่องเคลือบจึงเป็นที่ต้องตาต้องใจนายกวง ลูกเจ้าของโรงงาน กวงเอาอกเอาใจลำยองจนออกหน้าออกตา ปรนเปรอลำยองจนลำยองแน่ใจแล้วว่าได้พบเทพบุษตัวจริง นายกวงซึ่งมีครอบครัวอยู่แล้ว และลำยองก็เคยมีผัวมาก่อนเมื่อความจริงปรากฏต่างฝ่ายก็ยอมรับสถานภาพของกันและกันได้ ฝ่ายสันต์เมื่อตัดใจจากลำยองได้ก็พบรักใหม่กับเทวี ซึ่งเป็นครู การศึกษาถึงขั้นปริญญา แต่ถึงจะตัดใจจากลำยองได้ แต่ก็ตัดความสัมพันธ์ระหว่างพ่อ-ลูกไม่ขาด ลำยองตั้งท้องกับกวง แต่ลำยองก็ยังไม่ยอมเลิกเหล้า ทำให้เด็กที่เกิดมาไม่สมบูรณ์ทำให้กวงกลุ้มใจและไม่อยากยุ่งกับลำยอง ประกอบกับทางบ้านกวงรู้ว่ากวงแอบมีเมียน้อยจึงสั่งให้กวงเลิกยุ่งกับลำยองโดยให้กวงเอาเงินฟาดหัวลำยองไปก้อนหนึ่ง เมื่อลำยองได้รับเงินจากทางครอบครัวนายกวงจึงนำเงินมาเข้าบ่อน เล่นการพนัน กินเหล้าตามประสาคนมีเงิน และในบ่อนนั้น ลำยองก็ได้รู้จักกับ เมืองเทพ เป็นเศรษฐีที่ดินแถวนั้น ลำยองก็ได้ตั้งท้องกับเมืองเทพ คลอดออกมาเป็นลูกสาว เมืองเทพไม่สนใจลำยอง ฝ่ายยายแลก็ผิดหวังมากเพราะลำยองเลือกผัวผิดจริงๆ ลำยองเกี่ยงให้ยายแลมาเลี้ยงลูกให้ ยายแลจึงเตือนสติลำยองให้ลดเรื่องการพนัน ลดเหล้าเพื่อเห็นแก่ลูกๆของตนเองบ้าง หลวงตาปิ่นเป็นผู้ที่คอยอบรมสั่งสอนวันเฉลิมในทุกๆเรื่อง เพราะฉะนั้นความสุขของวันเฉลิมคือการได้อยู่ที่โรงเรียนกับการอยู่ที่กุฏิหลวงตาปิ่น เพราะลำยองไม่เคยมีเวลาให้เขาเลย สันต์ได้รับเลือกให้เข้าไปรับการอบรมที่เมืองนอก เมื่อสันต์กลับมาก็ตกใจเมื่อรู้ว่าลำยองทำบ้านเป็นบ่อน ลำยองก็ได้ผัวอีกคนเป็นคนทำงานรับจ้างที่มาเช่าบ้านของลำยอง เวลาผ่านไปจนวันเฉลิมอายุได้ 7-8 ขวบ สันต์ต้องการรับวันเฉลิมไปอยู่ด้วยเพื่อให้วันเฉลิมได้เรียนหนังสือ จึงไปเจรจากับยายแล ซึ่งยายแลก็เห็นด้วยเพราะทนกับพฤติกรรมของลำยองไม่ไหว พ่อสินและแม่ปั้นจึงรวบรวมเงินเพื่อจะเอาตัววันเฉลิมมาอยู่ด้วยแต่เงินก็ไม่พอกับที่ลำยองเรียกมา ลำยองได้พบกับกำนันเสือในบ่อนแห่งหนึ่ง กำนันเสือเกิดติดตรึงใจลำยอง ลำยองจึงยอมเป็นเมียกำนันเสือหวังให้กำนันเสือเลี้ยงดู ลำยองติดพนันบ้านช่องไม่กลับ กำนันเสือกลัวว่าลำยองจะหลวมตัวในบ่อนจึงรับจำนองบ้าน ที่ดินของลำยองเอาไว้ ลำยองนอกใจกำนันเสือพาผู้ชายมานอนด้วยไม่ซ้ำหน้า จนทำให้ตั้งท้องลูกอีกคนหวังมัดให้กำนันเสือเลี้ยงดู แต่ความจริงก็คือกำนันเสือเป็นหมันไม่มีทางมีลูกได้อีกแล้ว แต่เมื่อกำนันเสือรู้ความจริงว่าลำยองท้องจึงปล่อยบ้านให้เป็นของลำยองต่อไปเพราะเห็นแก่วันเฉลิม ลำยองพอใจที่กำนันเสือยกบ้านให้ คราวเคราะห์ไฟไหม้ตลาดริมน้ำติดแพพ่อสินแม่ปั้น แม่ปั้นบอกกับพ่อสินอยากให้วันเฉลิมบวชจะได้พ้นทุกข์ ทุกคนอลม่านกับการดับไฟ ไฟไม่ได้ลามมาถึงเรือนพ่อสินรีบมาบอกข่าวดีแม่ปั้นแต่ก็พบว่าแม่ปั้นสิ้นลมไปแล้วอย่างสงบ วันเฉลิมบวชเณร ทุกคนชื่นชมยินดี เณรวันเฉลิมเจริญรุ่งเรือง เป็นความหวังของท่านพระครูวัดนี้ว่าจะมีสามเณรเหรียญเก้าในอีกไม่ช้า ลำยองก็ยังไม่เลิกกินเหล้าและเล่นการพนัน ทุกคนได้แต่ปลง เพราะลำยองพาชีวิตตัวเองลงสู่นรกทุกที และในที่สุดบ้านก็ถูกยึดไป ลำยองโรคกำเริบขึ้นสมองหนีออกไปจากบ้าน พ่อสินไปเจอลำยองที่โรงลิเกร้างจึงให้ยายแลไปลากตัวลำยองกลับมาก่อนที่เณรจะไปเห็นเข้า เณรว้าวุ่นใจคิดมากและทุกข์หนักจึงตัดสินใจสึกออกมาช่วยทำมาหากินและดูแลแม่ วันเฉลิมแบกภาระทุกอย่างไม่เห็นแก่ความเหนื่อยจนใครๆต่างพากันเวทนา วันเฉลิมทำทุกอย่างเพื่อทดแทนคุณแม่ แต่สุดท้ายลำยองก็หมดโอกาสที่จะได้อยู่เป็นแม่ที่ดีของลูกเพราะจบชีวิตลงด้วยโรคร้าย

กัณหา-ชาลี 2539

เรื่องย่อ : กัณหา-ชาลี (2539/1996) มหาเวสสันดรชาดก เป็นชีวประวัติเรื่องหนึ่งในทศชาติชาดก กล่าวถึงพระชาติสุดท้ายของพระโพธิสัตว์ในการบำเพ็ญทานบารมี ก่อนจะทรงอุบัติเป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "มหาชาติชาดก" ในการเทศนา เรียกว่า "เทศน์มหาชาติ" สำหรับ กัณหาชาลี เป็น พระโอรสนาม "ชาลี" และพระธิดานาม "กัณหา" ของ พระเวสสันดร ต่อมา ชูชกได้ไปขอเด็กมาเป็นทาสรับใช้ซึ่ง พระเวสสันดร ก็ยกให้เป็นทานบารมี "ดูก่อนพ่อชาลีลูกรัก พ่อจงมาเพิ่มพูนบารมีของพ่อให้เต็ม จงช่วยโสรจสรงหทัยของพ่อให้เย็นชุ่มฉ่ำ ลูกรักขอลูกจงทำตามคำของพ่อ ขอลูกทั้งสองจงเป็นดังยานนาวาของพ่อไม่หวั่นไหวต่อสาครคือภพ เมื่อพ่อข้ามฝั่งคือชาติแล้ว จักยังมนุษย์ และเทวดาทั้งหลายให้ข้ามพ้นด้วย"

รัตนโกสินทร์ 2539

เรื่องย่อ : รัตนโกสินทร์ (2539/1996) รัตนโกสินทร์ เป็นเรื่องราวชีวิตของ พ่อฟักหรือฮกลูกคนที่ 2 และเป็นบุตรชายคนโตของเจ้าสัวในเตาซึ่งมีชีวิตอยู่ระหว่าง รัชกาลที่ 1 – รัชกาลที่ 4 ซึ่งในวัยเยาว์ได้ติดตาม แม่ส้มจีน พี่สาวซึ่งแต่งงานกับ หลวงเทพอาญา โดยได้ไปอาศัยอยู่กับพี่สาวและพี่เขยที่เรือนของ คุณพระราชพินิจจัย บิดาของหลวงเทพอาญาและที่แห่งนี้ทำให้ฟักได้พบกับ แม่ช้อง หลานสาวของคุณพระราชพินิจจัย ซึ่งฟักก็ได้หลงรักแม่ช้องในทันทีเมื่อแรกเห็นและเมื่อพ่อฟักอายุได้ 18 ปีก็ได้ขอให้แม่ส้มจีนขอแม่ช้องมาเป็นภรรยา แต่ไม่สำเร็จเนื่องจากถูกผู้ใหญ่ขัดขวางกีดกันจึงทำให้พ่อฟักต้องย้ายกลับไปอยู่บ้านเก่าซึ่งหลังจากนั้น พ่อสน หลานชายคนเดียวของเจ้าพระยามหาเสนาที่สมุหพระกลาโหม ซึ่งมีนิสัยเจ้าชู้ทำตัวเป็นอันธพาลได้มาติดพันแม่ช้องโดยการติดสินบนนางเอี่ยมคนรับใช้คนสนิทของคุณช้อง ซึ่งหลังจากนั้นพ่อสนและแม่ช้องก็ได้เสียกัน ต่อมาพ่อสนจึงพาแม่ช้องหนีออกจากเรือนคุณพระราชพินิจจัย ไปอาศัยอยู่ที่เรือนของตนระหว่างนั้นฟักได้พบกับ แม่เพ็ง บุตรสาวคนเดียวของ พระยาสุเรนทรราชเสนา ระหว่างที่แม่เพ็งจมน้ำฟักได้เข้าไปช่วยทำให้ ท่านผู้หญิงเรียม แม่ของแม่เพ็งนั้น พอใจในตัวของพ่อฟักอยากได้มาเป็นลูกเขย ซึ่งพ่อฟักเองก็หลงรักแม่เพ็งเมื่อแรกเห็น ทางด้านแม่เพ็งหลงรักพ่อฟักเมื่อแรกเห็นเช่นกัน ต่อมา พ่อฟักได้เข้ารับราชการในตำแหน่งทนายไต่สวนคดีความและแม่เพ็งก็ได้โตเป็นสาวแล้วและเมื่อคุณสน ซึ่งมีลูกสาวกับคุณช้องแล้ว 1 คนและไม่สนใจไยดีคุณช้องอีกต่อไป ได้เห็นแม่เพ็งก็หลงรักและเข้ามาจีบแต่แม่เพ็งไม่สนใจคุณสนก็ไม่ละความพยายาม ต่อมาฟักทำความดีความชอบจนได้เลื่อนยศขึ้นเป็นคุณหลวง พ่อฟักได้ขอให้เจ้าสัวในเตาและแม่พลับพ่อแม่ของตนเอง ไปสู่ขอแม่เพ็งจากท่านพระยาสุเรนทรราชเสนาและท่านผู้หญิงเรียม โดยระหว่างนั้นแม่ช้อง,ลูกสาวและนางเอี่ยม ได้หนีออกจากบ้านท่านเจ้าพระยามหาเสนามาอาศัยอยู่ที่เรือนหอของพ่อฟักและแม่เพ็งที่ปากคลองบางลำภู พ่อฟักจึงส่งแม่ช้องไปอยู่กับพี่สาวและพี่เขยที่เมืองกาญจนบุรี ซึ่งพี่เขยของพ่อฟักได้ไปรับราชการที่นั่น โดยพาเมียและลูกอีก 3 คนไปด้วย หลังจากพระราชพินิจจัยบิดาถึงแก่อสัญกรรม และเมื่อคุณสนทราบว่าแม่เพ็งกำลังจะแต่งงานกับฟักก็โกรธมาก บุกไปยังงานแต่งของฟักและแม่เพ็งและถามหาคุณช้องแต่ฟักก็ได้พ่อแจ้งหรือหมื่นจิตรใจหาญคนรู้จักกันช่วยแก้ต่างให้ทำให้คุณสนหัวเสียกลับไป ต่อมาเมื่อท่านเจ้าพระยามหาเสนากำลังจะสิ้นใจ ทั้งแม่ช้อง,ลูกสาวและนางเอี่ยมก็ได้กลับมาดูใจท่านเจ้าพระยาเป็นครั้งสุดท้าย และเมื่อท่านเจ้าพระยาเสนาสิ้นใจ แม่ช้องก็หมดที่พึ่งกลายเป็นทาสในเรือนพ่อสนไปตลอดชีวิต ส่วนพ่อฟักและแม่เพ็งหลังจากแต่งงานก็มีลูกสาวด้วยกันถึง 3 คนและในปี พ.ศ. 2376 พ่อฟักและท่านพระยาสุเรนทรราชเสนา ผู้เป็นพ่อตา ได้ไปรบในสงคราม อานามสยามยุทธแต่ท่านได้สิ้นชีวิตในสนามรบ และจากสงครามครั้งนี้ทำให้พ่อฟักได้เลื่อนยศขึ้นเป็นคุณพระที่พระงำเมือง ต่อมาเมื่อรัชกาลที่ 3 เสด็จสวรรคตลงในปี พ.ศ. 2394 พระภิกษุเจ้าฟ้ามงกุฎ จึงลาผนวชมาขึ้นครองราชย์เป็นรัชกาลที่ 4 ฟัก ก็ได้เลื่อนยศขึ้นเป็นพระมหาวินิจฉัยและได้ย้ายไปทำงานที่วังหน้า หลังจากนั้นพ่อฟักและแม่เพ็งก็มีลูกชายอีก 2 คน และหลานปู่ของพ่อฟักก็ได้บันทึกเรื่องราวของปู่และย่าเอาไว้และได้กลายเป็นเรื่อง รัตนโกสินทร์

ทาสวังหลัง 2539

เรื่องย่อ : ทาสวังหลัง (2539/1996)

(ช) ทาสวังหลังอย่างเรา แม้ใครเขาจะเกลียดชังไม่น้อยใจ กลัวหญิง ตัดเยื่อเสียจนไม่เหลือไย (ญ) หญิงเองเปลี่ยนใจกรุณา (ช) หากทาสจะขอสมัคร จะกุมทาสรักดวงใจ (ญ) แม้หญิงจะปล่อย (ช) ทาสมิยอมไป (ญ) แล้วใครเล่าใครไม่หลงวาจา (ช) แรกรักเริ่มที่วังหลัง (ญ) เหมือนวังรักเราบูชา (ช) อย่าเป็นวังร้าง เสน่หา (ญ) โปรดเมตตานะเจ้าประคุณ (ญ) โอ้พ่อทาสวังหลัง ทั้งชีวิตคงไม่มีใครค้ำจุน (ช) เจียมน้ำ จิตตน ฉันคนมีบาปเป็นทุน (ญ) หญิงจึงแบ่งบุญ จุนน้ำ ใจ (ช) แต่ทาสกลัวช้ำดวงจิต (ญ) พ่อทาสจะคิดทำไม (ช) ชีวิตหญิงเปรียบดังฟ้าเกินไกล (ญ) ฟ้าเอนกิ่งใจให้ถึงมือดิน (ช) วังหลังจะเป็น วังรัก (ญ) สองเราภักดี ชีวิน (พร้อม) ดุจดังฟ้ารักแผ่นดิน ดุจแผ่นดินรักฟากฟ้าเอย

เรื่องย่อ : พันหนึ่งราตรี (2539/1996) พระเอกเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่แห่งกรุงแบกแดด มีมเหสีที่รักยิ่งองค์หนึ่ง แต่วันหนึ่งก็ไปทราบเข้าว่าเธอแอบมีชู้กับพวกคนกระจอกๆมันเป็นอะไรที่หยามศักดิ์ศรีพระองค์อย่างแรง จึงรับสั่งประหารชีวิตทั้งคู่ แล้วเนื่องจากเหตุการณ์นี้ พระองค์จึงทรงเกลียดผู้หญิงอย่างแรง ไม่เชื่อใจ แค้นฝั่งหุ่น ดังนั้น จึงรับสั่งว่า ต่อไปนี้ ให้นำหญิงพรหมจรรย์มาถวายพระองค์คืนละ 1 คน และเมื่อใกล้รุ่งอรุณ ท่านจะทรงประหารเสีย เพราะกลัวว่าเธอๆๆเหล่านั้นจะมีชู้ สู้ตายเสียก่อนดีกว่า อะไรทำนองนี้ ก็มีผู้หญิงหลายคนที่โดน เรื่องรู้ถึงบุตรีของขุนนางใหญ่ๆคนหนึ่ง เธอทั้งสวยและเก่งมากๆ เธอเสนอตัวจะเข้าถวายตัว ทุกคนก็เป็นห่วง ท้วงติงนะ แต่เธอมั่นใจว่าเธอต้องทำได้ และเธออยากช่วยผู้หญิงทุกคนด้วย ในที่สุด คืนถวายตัว เธอมีแผน อาจจะเรียกว่าใช้ความฉลาดบวกมารยาหญิงอีกนิดหน่อย เธอขอร้องให้พาน้องสาวเธอเข้ามาในห้องบรรทมสั่งลาเสียเล็กน้อย น้องสาวก็ทำเป็นอ้อนขอให้พี่สาวเล่านิทานให้ฟังหน่อยเป็นครั้งสุดท้าย เพราะเธอรู้ว่าพรุ่งนี้เช้าพี่เธอจะโดนประหาร เธอจึงนอนไม่หลับ ราชาสงสารก็เออออ ได้สิ แต่สรุป ราชาก็นั่งฟังนิทานไปด้วย ฟังไปฟังมา มันสนุกเล่ากันถึงเช้า นิทานยังไม่จบ ยังติดพันอยู่ พระองค์จึงให้ชีวิตนางเอกอีกวัน และก็อีกวัน อีกวัน... แบบว่านิทานของเธอนั้น ทั้งสนุกและต่อกันไปเรื่อยๆ เหมือนไม่มีวันจบ และสุดท้ายที่นางเอกรอดมาได้ เราตื่นเต้นและงงมากค่ะ ชีท้อง..! เธอเลยรอด ราชาไม่มีคำสั่งประหารผู้หญิงอะไรแบบนั้นอีกแล้ว และทั้งคู่ก็ครองรักกันยาวนาน มีลูกเต็มบ้าน

ดั่งดวงหฤทัย (2539/1996) เป็นเรื่องราวของแคว้นกาสิก พันธุรัฐ และทานตะ เป็นสามแคว้นที่อยู่ติดกัน กาสิกอยู่ด้านเหนือสุด เป็นแคว้นที่ร่ำรวย และมีทรัพยากรมาก แต่ไม่มีทางออกทะเล พันธุรัฐอยู่กลาง ค่อนข้างอุดมสมบรูณ์ และทานตะอยู่ใต้สุด ซึ่งเป็นแคว้นที่ค่อนข้างอ่อนแอ แต่มีทางออกทะเล กาสิกต้องการทางออกทะเลเพื่อขนส่งสินค้า เพื่อการนี้ รังสิมันต์ เจ้าหลวงแห่งกาสิกจึงตัดสินใจอภิเษกกับเจ้าหญิงแห่งทานตะ รังสิมันต์ กริ้วมากเมื่อทรงทราบข่าวจากกองทหารที่ส่งไปรับเสด็จ เจ้าหญิงมณิสรา พระคู่หมั้นจากแคว้นทานตะ ถวายรายงานว่าเจ้าหญิงหายไปที่รอยต่อชายแดน สามแคว้นคือ กาสิก พันธุรัฐ และ ทานตะ และน่าจะเป็นไปได้ว่าเจ้าหญิงหายเข้าไปในพันธุรัฐ แล้วเหตุใดพันธุรัฐถึงไม่ส่งตัวเจ้าหญิงกลับมา นั้นเท่ากับเป็นการหมิ่นพระเกียรติของเจ้าหลวง แห่งกาสิกอย่างยิ่ง เจ้าหลวงจึงตัดสินพระทัยไปสืบข่าวนี้ด้วยพระองค์เอง แท้จริงแล้ว เจ้าหญิงมณิสราได้ตัดสินใจหลบหนีเองเพราะไม่ต้องการแต่งงานกับชายที่ไม่ได้ รัก โดยเฉพาะยิ่งเป็นเจ้าหลวงกาสิก ผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือทางด้านความโหดเหี้ยม เจ้าหญิงควบม้าหนีเข้ามาในชายแดนพันธุรัฐ ด้วยความที่ไม่ชำนาญในการขี่ม้ามากนัก เจ้าหญิงจึงตกจากหลังม้าทำให้ขาแพลง และยังเดินไปติดกับดักตาข่ายล่าสัตว์ของนายพรานถูกแขวนอยู่บนต้นไม้ ขณะที่เจ้าหญิงกำลังสิ้นหวังและอ่อนแรงลงไปเรื่อย ๆ ก็ได้รับการช่วยเหลือจากชายคนหนึ่งนั้นคือ เจ้าชายทยุติธร องค์รัชทายาทของแคว้นพันธุรัฐ เจ้าชายทยุติธรพาเจ้าหญิงมณิสราไปรักษาตัวที่ตำหนักป้อมปืน เจ้าหญิงจึงขอร้องเจ้าชายขอลี้ภัยอยู่ในพันธุรัฐ แต่ถ้าเจ้าชายยังยืนยันที่จะส่งตัวกลับ ก็จะขอให้ฆ่าตัวเองเสียดีกว่า ชายชาติทหารอย่างเจ้าชายทยุติธรจึงจำต้องอนุญาตให้เจ้าหญิงประทับอยู่ชั่วคราว เมื่อเจ้าหญิงทรรศิกา พระขนิษฐาของเจ้าชายทยุติธร ทรงทราบข่าวลับ ๆ ว่าเจ้าชายช่วยเหลือเจ้าหญิงมณิสราไว้ โดยไม่ส่งตัวกลับในกาสิกก็ร้อนใจ เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้อาจทำให้เกิดสงครามตามมาได้ จึงตัดสินใจจะไปที่ตำหนักป้อมปืนเพื่อทูลเชิญ เจ้าหญิงมณิสราเสด็จมาประทับฝ่ายในเพื่อไม่ให้เสื่อมเสียพระเกียรติ แต่ระหว่างทางขบวนเสด็จถูกกลุ่มชายชุดดำซุ่มโจมตี ม้าของเจ้าหญิงเตลิดเข้าไปในป่า พลัดหลงกับองครักษ์ เจ้าหญิงทรรศิกาหนีเข้ามาในป่าเจอกับชายชุดดำ จึงขอร้องให้ช่วยเหลือ แต่ปรากฏว่าเจ้าหญิงกลับถูกวางยาสลบลงในน้ำชา เมื่อฟื้นขึ้น เจ้าหญิงทรรศิกาจึงรู้ว่าถูกเจ้าหลวงแห่งกาสิก ผู้สามารถสั่งตัดหัว ตัดมือนักโทษได้ในระหว่างเสวยโดยไม่สะทกสะท้าน จับตัวมา เจ้าหลวงพยายามสอบถามเกี่ยวกับเจ้าหญิงมณิสรา แต่เจ้าหญิงทรรศิกาก็ไม่ทรงยอมตอบคำถามใด ๆ ซ้ำยังเห็นใจเจ้าหญิงมณิสราที่ต้องโดนบังคับแต่งานกับผู้ชายโหดเหี้ยม ป่าเถื่อนเช่นนี้ เจ้าหลวงโกรธมาก จึงตัดสินใจจับเจ้าหญิงทรรศิกาไว้เป็นตัวประกัน ในขบวนมีแต่ทหารซึ่งเป็นผู้ชายทั้งนั้น เมื่อจู่ๆ ก็มีเจ้าหญิงอยู่ในขบวน เจ้าหลวงจึงสั่งให้ เบนลี ราชองค์รักษ์คู่ใจไปจ้าง กระวาน สาวชาวป่ามาเป็นนางกำนัลชั่วคราวให้เจ้าหญิงระหว่างทาง เจ้าหญิงทรรศิกาหลอกให้กระวานใส่เสื้อของพระองค์ แล้วพระองค์ก็ใส่เสื้อของกระวาน แอบขโมยม้าหนีออกไปนอกค่าย แต่กลับถูกเจ้าหลวงจับได้ ขี่ม้าไล่ตามมา เจ้าหญิงหนีไปจนถึงน้ำตกตัดสินใจกระโดดน้ำตกหนี ขอตายเสียดีกว่าตกอยู่ในเงื้อมือของเจ้าหลวงรังสิมันต์ เจ้าหลวงพาตัวเจ้าหญิงขึ้นมาจากน้ำตกได้ แต่ก็ทำให้ต้องพลัดกับขบวน เจ้าหลวงโมโหมากที่เจ้าหญิงทรรศิกาทำท่ารังเกียจพระองค์ขนาดนี้ทั้ง ๆที่ตอนแรกได้ปฏิบัติอย่างดีกับเจ้าหญิง ต่อแต่นี้ไปเจ้าหญิงจะได้รู้จักความป่าเถื่อนของชาวกาสิกจริง ๆ เสียที เจ้าหลวงรังสิมันต์พาเจ้าหญิงทรรศิกามาสมทบ กับขบวนที่รออยู่ เจ้าหลวงสั่งลงโทษ ตัดมือกระวานที่ปล่อยให้เจ้าหญิงหนีไป เจ้าหญิงเข้ามาช่วยบอกว่ากระวานเป็นคนของพระองค์ ถ้าจะลงโทษกระวานก็ต้องลงโทษพระองค์ด้วย เจ้าหลวงบอกว่าตอนนี้พระองค์ไม่มีสิทธิเพราะอยู่ในฐานะเชลย แต่ตามประเพณีของชาวกาสิก ชีวิตก็แลกด้วยชีวิต ถ้าอยากให้ยกโทษให้กระวานก็ต้องเอาชีวิตมาแลกกัน เจ้าหลวงให้เรียก ราชิด ทหารคู่ใจอีกคนหนึ่ง ยืนมือให้เจ้าหญิงตัดแทนกระวาน แล้วแกล้งโยนดาบวางให้เจ้าหญิงเลือกว่าจะตัดมือใคร เจ้าหญิงอึ้งในความโหดร้ายของเจ้าหลวง จึงตัดสินใจหยิบดาบ เชือดมือตัวเอง แต่เจ้าหลวงจับไว้ทัน เจ้าหลวงพาเจ้าหญิงทรรศิกาเดินทางลึกเข้ามา ในกาสิกเรื่อย ๆ โดยใช้เส้นทางที่ธุระกันดาร แต่เจ้าหญิงก็ไม่ย่อท้อ หรือปริปากบ่นไม่ว่าเจ้าหลวงจะแกล้งด้วยวิธีใด ทั้งคู่เริ่มเรียนรู้นิสัยซึ่งกันและกัน ในขณะที่เจ้าหลวงเริ่มรู้จักทั้งความอ่อนหวานและเด็ดเดี่ยวของเจ้าหญิงทรรศิกา เจ้าหญิงทรรศิกาก็เรียนรู้ว่าเจ้าหลวงผู้เอาแต่ใจ ก็มีความอ่อนโยนซ่อนอยู่เช่นกันและไม่โหดร้ายอย่างที่เห็น สาธิน เสนาบดีมหาดไทยของกาสิก ร้อนใจมากเมื่อไม่สามารถติดต่อเจ้าหลวงได้ มีนา ลูกสาวของสาธิน จึงอาสาไปดักพบเจ้าหลวงที่ตำหนักวสุธรา มีนาเติบโตมาพร้อมกับเจ้าหลวง เบนลี และราชิด เจ้าหลวงเอ็นดูมีนามากเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง ฝึกขี่ม้าและยิงธนูให้ มีนาก็สามารถทำได้ดีเท่ากับผู้ชายคนหนึ่ง มีนาแอบหลงรักเจ้าหลวงมาตั้งแต่เด็ก เมื่อเจ้าหลวงประกาศหมั้นกับเจ้าหญิงแห่งทานตะ เธอเจ็บปวดอย่างยิ่งแต่อย่างน้อยหัวใจของเจ้าหลวงก็ยังไม่มีผู้หญิงคน ไหนครอบครองเพราะการแต่งงานครั้งนี้ เจ้าหลวงทำเพื่อผลประโยชน์ของบ้านเมืองเท่านั้น มีนาไปดักพบเจ้าหลวงที่ตำนักวสุธรา จึงรู้ว่าเจ้าหลวง จับเจ้าหญิงทรรศิกามาเป็นเชลย เจ้าหลวงสั่งให้มีนากลับไปบอกสาธินว่าจะประพาสต่อไปตำหนักอิสินธร เรื่องต่างๆ ในเมืองหลวงให้สาธิน เป็นผู้สำเร็จราชการแทน ส่วนเรื่องเจ้าหญิงมณิสราให้ทางทานตะหาตัวเจ้าหญิงให้พบ ก่อนจึงค่อยพูดเรื่องการอภิเษกอีกที เมื่อกาสิกบีบให้ทางทานตะจัดการเรื่องนี้ เจ้าหลวงแห่งทานตะร้อนใจมากจึงส่งทูตเข้าไปยังพันธุรัฐ เจ้าชายทยุติธรให้เจ้าหญิงมณิสราตัดสินใจเองว่าจะกลับทานตะหรือไม่ เจ้าหญิงฝากจดหมายกลับไปว่าจะขออยู่ที่พันธุรัฐ และ จะไม่แต่งงานกับเจ้าหลวงรังสิมันต์เด็ดขาด ขอให้เจ้าหลวงทานตะคิดเสียว่าไม่มีลูกคนนี้ เจ้าหลวงทานตะถึงกับประชวรเมื่อได้รับจดหมายจากเจ้าหญิงมณิสรา เสนาบดีของพันธุรัฐต่างก็เตือนเจ้าชายทยุติธรว่าทำเช่นนี้อาจเกิดสงครามกับ กาสิกได้ ชาวพันธุรัฐก็ไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวกาสิก แต่เสนาบดีทูลว่าหน่วยข่าวกรองรายงานว่าที่เจ้าหญิงทรรศิกาหายไปอาจถูกทางกา สิกจับตัวไป เจ้าชายทยุติธรยิ่งโกรธ เพราะทำเช่นนั้นเป็นการหมิ่นเกียรติของพันธุรัฐอย่างยิ่ง จึงสั่งให้คนเข้าไปหาทางช่วยเจ้าหญิงทรรศิกาออกมาให้ได้ก่อน พระราชเทวีแห่งพันธุรัฐ เสด็จกลับจากแปรพระราชฐานก่อนกำหนด เจ้าชายทยุติธรพยายามปิดเรื่องที่เจ้าหญิงทรรศิกาหายไป แต่ไม่สามารถปิดเรื่องเจ้าหญิงมณิสราได้ พระราชเทวีจึงสั่งให้เจ้าหญิงมณิสรามาประทับที่ตำหนักฝ่ายใน แทนตำหนักป้อมปืน และสังเกตเห็นว่าเจ้าชายทยุติธรและเจ้าหญิงมณิสรามีกริยาแปลก ๆ ต่อกัน เจ้าหลวงรังสิมันต์พาเจ้าหญิงทรรศิกามายัง ตำหนักอิสินธร และให้เจ้าหญิงปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ พร้อมพระองค์ เจ้าหญิงทรรศิกาเข้าใจว่าทั้งหมดที่เจ้าหลวงทำก็เพราะเห็นเธอเป็นเพียงแค่ ตัวแทนของพระคู่หมั้นเท่านั้น เจ้าหลวงรังสิมันต์ตัดสินใจให้ ราชิด ไปบอกสาธินให้ส่งข้อเสนอใหม่ไปยังพันธุรัฐ นั้นคือพันธุรัฐจะต้องรับผิดชอบในการเสื่อมเสียพระเกียรติของเจ้าหญิงมณิสรา และกาสิกจะรับผิดชอบต่อเจ้าหญิงทรรศิกา แต่สาธิน กลับไม่ยอมส่งสารนี้ และยังลอบวางยา ฆ่าเสนาบดีฝ่ายมหาดไทย โดยใช้มีนาเป็นเครื่องมือ มีนาตกใจมากที่พ่อคิดเป็นใหญ่ครอบครองบัลลังค์กาสิกเสียเอง จึงหนีไปหาเจ้าหลวงรังสิมันต์เพื่อบอกแผนการ แต่เมื่อมาถึงที่อิสินธร ก็พบว่าหัวใจของเจ้าหลวงรังสิมันต์มีเจ้าหญิงทรรศิกา มีนาเสียใจมาก จึงกลับไปเมืองหลวงร่วมมือกับพ่อ ล้มราชบัลลังก์ เจ้าหญิงทรรศิกาแอบได้ยินเรื่องข้อเสนอที่ เจ้าหลวงส่งไป และพร้อมจะทำสงครามถ้าพันธุรัฐไม่ตกลง เจ้าหญิงน้อยใจมากที่เจ้าหลวงรังสิมันต์จะแต่งงานกับตัวเองนั้นก็เพื่อรักษา เกียรติของตัวเอง ไม่ใช่เพราะความรัก เจ้าหญิงทรรศิกาจึงตัดสินใจให้กระวานแอบติดต่อ ราชิด พาหนี เพราะอย่างน้อย ราชิด ก็มีเลือดชาวพันธุรัฐครึ่งหนึ่ง ราชิดซึ่งไม่อยากให้เกิดสงครามอยู่แล้วจึงรับปากพาเจ้าหญิงทรรศิกาหนี แต่โดนเจ้าหลวงจับได้ เจ้าหลวงโกรธมากจนเกือบฆ่าราชิด แต่เจ้าหญิงทรรศิกาทูลขอไว้ ราชิดจึงได้ลดโทษเหลือแค่ขังคุก เจ้าหลวงรังสิมันต์ ทั้งโกรธทั้งน้อยใจที่เจ้าหญิงทรรศิกาทำเช่นนี้ เจ้าหญิงทรรศิกาเองคิดว่าตัวเองจะต้องโดนฆ่าแน่ๆ จากการหนีครั้งนี้ เตรียมตัวยอมรับคมดาบแต่โดยดี แต่ในที่สุดเจ้าหลวงก็หลุดปากสารภาพรักเจ้าหญิงทรรศิกาออกมา ทั้งสองคนเข้าใจกัน เจ้าหลวงตกลงใจจะส่งเจ้าหญิงทรรศิกากลับพันธุรัฐ และมอบมงกุฏแห่งกาสิกให้กับเจ้าหญิงทรรศิกา เพื่อให้เสด็จกลับพันธุรัฐได้อย่างสมพระเกียรติ แต่ระหว่างทางนั้นเอง สาธินก็ส่งคนปลอมเป็นทหารของพันธุรัฐเข้ามาลอบปลงพระชนม์ เจ้าหลวงรังสิมันต์ถูกยิงบาดเจ็บสาหัส เจ้าหญิงทรรศิกาตัดสินใจพาเจ้าหลวงเข้าไปผ่าตัดที่ตำหนักป้อมปืนของแคว้น พันธุรัฐ จึงทราบความจริงว่า เรื่องทั้งหมดไม่ใช่ฝีมือของเจ้าชายทยุติธร แต่เป็นสาธิน คนของเจ้าหลวงเองที่หักหลัง เจ้าหลวง โกรธมาก ในขณะที่เจ้าหลวงรังสิมันต์พักรักษาตัวอยู่ที่ตำหนักป้อมปืน พระราชเทวี มีรับสั่งให้เจ้าหญิงมณิสราไปคอยดูแลเจ้าหลวงรังสิมันต์ในฐานะที่เป็นพระคู่ หมั้น เจ้าหญิงทรรศิกาจึงหลบหน้าไม่ยอมไปเยี่ยมเจ้าหลวงอีก ในขณะที่ เจ้าชายทยุติธรก็มักจะหงุดหงิดเมื่อเห็นเจ้าหญิงมณิสราคอยดูแลเจ้าหลวง ในที่สุด เจ้าหลวงรังสิมันต์ก็ตัดสินใจบุกเข้าไปหาพระราชเทวี ทูลเรื่องความรู้สึกที่มีต่อเจ้าหญิงทรรศิกาและเรื่องราวทั้งหมด ขออภิเษกกับเจ้าหญิงทรรศิกา พระราชเทวีถามถึงเรื่องเจ้าหญิงมณิสรา เจ้าหลวงบอกว่าที่หมั้นกับเจ้าหญิงมณิสราก็เพราะเพื่อผลประโยชน์ที่ต้องการ ขนส่งสินค้าไปยังทางออกทะเลของทานตะ แต่ตอนนี้ตนรู้แล้วว่าตนไม่สามารถแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักได้ และเจ้าหญิงมณิสราก็ขอถอนหมั้นกับตัวเองแล้ว เจ้าหลวงรังสิมันต์ขอให้เจ้าหญิงทรรศิการอ และจะกลับมาหาเมื่อกู้ราชบัลลังก์คืนได้ เจ้าหลวงรังสิมันต์พร้อมด้วยเบนลี ลอบกลับไปที่กาสิกอีกครั้งช่วยราชิดออกมา ร่วมมือกันปราบกบฎ สาธินถูกจับ มีนาขอร้องไม่ให้เจ้าหลวงฆ่าพ่อ เจ้าหลวงก็ยอมเพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์เก่าๆ แต่สาธินกลับคว้าดาบเข้าแทงเจ้าหลวง มีนาจึงกระโดดขวางเข้ารับดาบแทนสิ้นใจตาย สาธินเสียใจมากที่พลั้งมือฆ่าลูกสาวตัวเอง จึงฆ่าตัวตายตาม เจ้าหลวงรังสิมันต์เสด็จกลับไปรับเจ้าหญิงทรรศิกามานั่งบัลลังค์ด้วยกันตามสัญญา เจ้าชายทยุติธรได้ราชาภิเษกขึ้นเป็นเจ้าหลวง เสด็จเยี่ยมทานตะอย่างเป็นทางการ และกำลังจะประกาศหมั้นกับเจ้าหญิงมณิสรา ทั้งสามแคว้นจึงอยู่กันอย่างสงบสุขเรื่อยมานับแต่นั้น

เรื่องย่อ : ด้วยแรงอธิษฐาน (2539/1996) ด้วยแรงอธิษฐาน เป็นเรื่องราวของ วรดา (กบ สุวนันท์) เป็นลูกของวารี สาวใช้ในบ้าน ซึ่งเป็นเมียคนแรกของนายพลประพจน์ (พอเจตน์ แก่นเพชร) หากแต่ว่าแม่ของวรดาเป็นสาวต่ำศํกดิ์ ไม่เท่าเมียที่มาทีหลัง ซึ่งเป็นเมียแต่ง คือ คุณหญิงผกา (คุณเดือนเต็ม) แล้วแม่ก็ตายจากวรดาไป ทิ้งลูกสาวให้อยู่กับพ่อและเมียสมรสของพ่อ ซึ่งมีลูกสาวใหม่อีกคน คือ ผานิต (น้ำทิพย์ เสียมทอง) วรดาอยู่ในฐานะ ลูกกึ่งๆคนรับใช้ แล้วก็มีปีติ (ศตวรรษ ดุลยวิจิตร) ซึ่งเป็นคนที่ทำงานให้พ่อของวรดา มาติดพันวรดา วรดาไม่ได้เรียนหนังสือต่อเพราะคุณหญิงบอกว่าเป็นผู้หญิง เดี๋ยวก็ออกเรือน ก็เลยต้องออกมาอยู่ช่วยงานบ้าน ข้างบ้านวรดามี อีกครอบครัวนึง ประกอบด้วยพี่สาวคนโต คือ เกตุมณี (สุรัตนา ข้องตระกูล) คนกลาง คือ กฤตย์ (ศรัณยู) สถาปนิกหนุ่มไฟแรง และแกมแก้ว (อุษณีย์ รักกสิกรณ์) กฤตย์ก็มาติดพันกับวรดา ทั้งสองเชื่อมโยงความสัมพันธ์กันด้วยวรรณกรรมเรื่องต่างๆ จนเกิดความรักกัน แกมแก้ว มีความสนิทสนมกับ ผานิต มีความริษยาวรดา แล้วสองคนนี้ก็วางแผน ในวันหนึ่งที่วรดานัดกับกฤตย์ โดยวรดาโดนทุบหัว และหมดสติ และถูกจับใส่ในช่องหลุมหลบภัยที่ ในบริเวณบ้านพระเอก ซึ่งเป็นบริเวณที่ไม่มีผู้ใดสนใจ ปล่อยรกร้างไว้ วรดาออกไปไม่ได้ และเข้าใจว่าถูกกฤตย์หลอกมาตลอด และทำกับเธอเช่นนี้ จึงเจ็บแค้นใจมาก และทนทรมาน เลียน้ำ เลียตะไคร่ จนห้วงสุดท้ายของชีวิต ก็อธิษฐานว่า ชาตินี้ยอมเค้ามาตลอด ชาติหน้า ขอเอาคืน แล้วก็ขาดใจตาย ชาติต่อมา วรดามาเกิดเป็นนัทธมน ลูกสาวของมนทิรา (คุณอรัญญา นามวงศ์) ซึ่งมีลูกตอนอายุมาก นัทธมนเป็นเด็กที่มีพลังจิตแข็งกล้า ตั้งแต่เด็ก และสร้างความประหลาดใจให้กับแม่ เช่น ถ้านัทธมน โกรธเด็กชายเพื่อนในห้องคนหนึ่งที่ชอบรังแกเด็กผู้หญิง ก็สามารถทำให้เด็กคนนี้ ล้มลุกคลุกคลานรุนแรงจนหัวแตกได้ด้วยพลังจิตของเธอ หรือตอนที่พ่อของนัทธมน(พ่อในชาติใหม่)ตาย เธอก็รับรู้ตั้งแต่ยังไม่ได้กลับบ้าน เพราะวิญญาณพ่อของเธอมาหา เป็นต้น นอกจากนี้นัทธมนยังเป็นคนที่เกลียดการอยู่ในที่แคบ ๆ เมื่อนัทธมนโตขึ้น ก็ได้มีโอกาสรู้จักกับถุงแป้ง (แอนนี่ ชุติพร) ซึ่งเป็นลูกสาวของเกตุมณี และได้มาทำงานเป็นเลขา ของคุณกฤตย์ น้าของถุงแป้ง ซึ่งตอนนี้เป็นสถาปนิกวัยดึก ที่ยังโสด กฤตย์มีความรู้สึกเหมือนรอใครซักคน และยังเจ็บช้ำกับการจากไปของคนรักเมื่อ 20 ปีก่อน แล้วกฤตย์ก็ได้ถูกชะตากับนัทธมน และก็ได้สนิทสนมกัน ไปไหว้พระธาตุดอยตุงกัน และอีกหลายอย่างๆ ซึ่งกฤตย์ก็มีปณิตา (เปียเช่อร์) เป็นสาวทรงเสน่ห์มาติดพัน ปณิตาชอบตามไล่เบี้ยนัทธมน แต่นัทธมนไม่เคยยอมใคร เธอเก่งกล้าสามารถทุกอย่าง ถึงตาจนเธอก็มีพลังจิตไว้สู้คน ส่วนผานิต ด้วยเวรกรรมทำให้ เกิดอุบัติเหตุ เสียชีวิต แล้วมาเกิดใหม่เป็นลูกของแกมแก้ว ที่ชีวิตมีแต่ปัญหา ผานิตในร่างเด็กกลายเป็นเด็กใบ้ที่พูดไม่ได้ แต่ความทรงจำรับรู้ได้ทุกอย่าง ว่าเคยทำอะไรในชาติก่อนๆมา ส่วนนัทธมนก็จดจำได้ว่า ชาติที่แล้วใครทำอะไรกับเธอ ก็เริ่มแก้แค้น คนที่เคยทำกับเธอไว้ทีละคนๆ ด้วยพลังจิตของเธอ แล้วรอปิดบัญชีกับพระเอก กว่าจะรู้ความจริงก็เกือบสายไป

หักลิ้นช้าง 2539

หักลิ้นช้าง (2539/1996) เขาเข้าไปพัวพันกับคดีฆาตกรรมโดยบังเอิญ กลายเป็นปริศนาลึกลับเกี่ยวโยงกับขบวนการค้าเฮโรอีน จากติดตสมกลายเป็นไล่ล่า และตอบโต้กับทุจริตชนทุกรูปแบบ เพื่อเปิดโปงอาชญากรนั้นให้ได้ แม้ทุกนาทีต้องผจญกับความตาย หักลิ้นช้าง ปฏิบัติการนอกกฏ”บราโว่” โค่นล้มขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่

111 (ตองหนึ่ง) (2539/1996) เป็นเรื่องราว การผจญภัย ในฐานะสายสืบ ที่สนุกสนาน เฮฮา จากความเปิ่น ในการเสี่ยงอันตราย เข้าไปค้นหา ในด้านหลักฐาน และความจริง ของคดี ของหญิงสาว หน้าตาสวยเด่น แต่งตัวนำสมัย ผู้ซึ่งเป็นบุตรสาว ของเอกอัครราชทูต ซึ่งพึ่งเดินทาง กลับจากต่างประเทศ ซึ่งจากการติดต่อ ขอให้เธอนั้น เข้ามาทำงาน ในกรมตำรวจ เป็นกรณีพิเศษ จากการชักชวน โดยตรง ของท่านอธิบดี ผู้เป็นเพื่อนสนิท ของบิดา ที่ล่วงลับ ซึ่งได้ติดต่อ ขอให้หญิงสาว ซึ่งมีความรู้ ในด้านภาษา อย่างเชี่ยวชาญ เข้ามาทำงาน ในด้านเอกสาร ให้กับทางกรมตำรวจ ก็ทำให้หญิงสาวสวย เจ้าของรหัส ประจำตัว ในการทำงาน คือ 111 ที่มีอุปนิสัย เป็นคนใจร้อน และขาดความระมัดระวัง แม้จะมีความหวังดี ให้กับเพื่อนร่วมงาน ทุก-ทุกคน ซึ่งเข้าไปพัวพัน กับการทำงาน นอกสถานที่ ในการสืบราชการลับ ของเหล่าสายสืบ ในหน่วยงานพิเศษ ของทางกรมตำรวจ ได้สร้างความวุ่นวาย และความน่าปวดหัว ให้กับเหล่าสายสืบ ซึ่งเป็นหนุ่มๆ นายตำรวจ ในหน่วยงานพิเศษ ของกรมตำรวจ หน่วยงานนี้ อยู่เสมอ

มงกุฎดอกส้ม 2539

เรื่องย่อ : มงกุฎดอกส้ม (2539/1996) เรื่องราวของสาวเหนือวัยสิบห้า ที่ชะตาชีวิตพลิกผันให้กลายมาเป็น ภรรยาที่ 4 ของเจ้าสัวเชงสือเกียง แห่งตระกูลจีนที่เคร่งครัด ทำให้เธอต้องเผชิญกับเมียร่วมสามีทั้งสาม ประเพณีแปลกประหลาด และ ความขัดแย้งในใจซึ่งเกิดขึ้นเพราะธรรมชาติของวัยสาวเรียกร้อง แต่เธอก็ยังฝันถึง มงกุฎดอกส้ม แม้จะรู้ว่าไม่มีวันได้มันมา.........

ปะการังสีดำ 2539

ปะการังสีดำ (2539/1996) นราธร เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาทางทะเล เขากำลังวิจัยชนิดปะการังร่วมกับปรัชญา อาจารย์สอนถ่ายภาพและไข่มุก นักศึกษาที่เชี่ยวชาญในการดำน้ำและถ่ายภาพ นราธรสงสัยเรื่องที่ภูมิ พ่อของเขาและเมียใหม่ สายรุ้ง ต้องการซื้อที่ดินในเกาะน้อยใหญ่บริเวณทะเลละแวกนั้น อีกทั้งภูมิได้ขอซื้อที่ดินจากเกาะกะลาด้วย มีเรื่องที่ลึกลับคือเมื่อใครได้เข้าไปยังดงปะการังของเกาะกะโหลกมักจะไม่มีชีวิตรอดกลับมา หรือกลับมาได้มักเป็นบ้าหรือสติฟั่นเฟือน ราวกับกลัวบางสิ่งบางอย่าง และได้มีคนกลุ่มหนึ่งที่ระเบิดปะการังนี้เพื่อหวังสมบัติที่อยู่ข้างใน จึงทำให้วิญญาณของ สาหร่าย ถูกปลดปล่อยออกมาซึ่งเธอถูกฆ่าตายอย่างปริศนาและหาร่างไม่เจอ เธอเป็นญาติห่างๆกับสายรุ้ง แต่ในเวลาต่อมาสายรุ้งรู้ว่าสาหร่ายเป็นชู้กับของภูมิสามีของเธอ จึงสั่งให้ลูกน้องฆ่าสาหร่ายอีกทั้งจะได้เอาความลับที่สาหร่ายรู้ว่ามีสมบัติอยู่ในเกาะกะโหลกนี้ไปด้วย หารู้ไม่ว่านี่เป็นข้อมูลเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ลูกของสาหร่ายกับภูมิรอดชีวิตโดยไม่มีใครรู้ วิญญาณสาหร่ายจึงตามหาลูก แต่แล้วเมื่อมีร่างของปาริชาตถูกน้ำพัดเสียชีวิตที่เกาะ สาหร่ายจึงอาศัยร่างนี้และตั้งชื่อตัวเองว่า ปะการัง ปะการังเริ่มค้นหาลูกและคนที่ฆ่าเธอ ซึ่งสงสัยว่าภูมิอาจเป็นคนบงการ ในขณะที่นราธรและไข่มุกถูกชะตากับปะการังมากและมักพบกับเรื่องแปลกประหลาดอยู่บ่อยครั้ง ในขณะที่ปะการังพบกับกั้ง เด็กวัดกำพร้าก็รู้สึกถูกชะตามาก แต่เธอสิ่งอยู่ในร่างคนตายที่ไม่นานผิวพรรณก็แห้งเหี่ยวเกือบมีสภาพเน่าเปื่อย หานทางเดียวที่รู้คือจะต้องดื่มเลือดมนุษย์เพื่อต่อชีวิตตนเองแม้ว่าไม่อยากจะทำก็ตาม ภูมิเริ่มประสบความสำเร็จในการนำพื้นที่อนุรักษ์มาสร้างเป็นรีสอร์ท ทำให้นราธรและภูมิผู้เป็นพ่อเริ่มแตกคอกัน แต่แล้วภูมิก็ได้พบกับปะการังและรู้ว่าสาหร่ายสิ่งอยู่ในร่างนั้น และปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่คนฆ่าเธอ สาหร่ายจึงได้ใช้อำนาจบังคับให้ภูมิหาเลือกมนุษย์มาให้เธอไม่อย่างนั้นเขาจะฆ่าเธอ ภูมิจึงจำใจต้องทำ จนกระทั่งได้สืบรู้ว่าสายรุ้งเป็นคนบงการฆ่าสาหร่าย สายรุ้งกลัวสาหร่ายมากจนหมดสติไป ส่วนกั้งก็คือลูกชายของสาหร่ายนั่นเอง เมื่อสาหร่ายคลายปมในใจได้แล้วเธอก็พร้อมที่จะจากไปอย่างสงบ ได้มีการจัดงานศพให้กับเธอ ส่วนภูมิก็สำนึกผิดและรับกั้งไปเลี้ยงดู พร้อมกับเลิกทำลายธรรมชาติ สายรุ่งเสียสติจนเป็นบ้า ส่วนนราธร เมฆ และไข่มุก ช่วยสืบสานการอนุรักษ์ธรรมชาติให้อยู่คู่กันตลอดไป

แม่นาคพระนคร 2539

แม่นาคพระนคร (2539/1996) แม่นาคพระนคร เป็นภาคต่อของแม่นาคพระโขนง เรื่องราวของแม่นาคที่มีคนหาปลา ทอดแหได้หม้อแม่นาคขึ้นมา จึงทำให้แม่นาคออกมาอาละวาดอีกครั้งหนึ่ง

บ้านสอยดาว 2539

บ้านสอยดาว (2539/1996) บ้านสอยดาว เป็นละครโทรทัศน์ไทย ที่สร้างจากนวนิยายของ โบตั๋น เดิมชื่อเรื่องคือ สุดสายรุ้ง เป็นเรื่องราวของอดีตที่ขมขื่นและเจ็บช้ำ จึงทำให้เขาทำทุกสิ่งเพื่อแก้แค้นคนในตระกูล "สอยดาว" แต่ท้ายสุดใครจะเป็นผู้สูญเสียที่แท้จริง

คุณฉุย 5 2539

คุณฉุย 5 (2539/1996) เด็กหนุ่มคนหนึ่งจากเกาะสมุยที่รูปไม่หล่อ พ่อไม่รวย มีแต่ความซื่อสัตย์เป็นอาวุธ เขาจึงสามารถชนะความรักด้วยความซื่อ

รักเร่ เร่ร้างรัก 2539
เมื่อหมอกสลาย 2538

เมื่อหมอกสลาย (2538/1995) เด็กหนุ่มวัย 20 เศษรูปร่างหน้าตาดี บุคคลิกเป็นคนเรียบร้อย สุภาพรักอิสระ เขาชื่อ ทชา และทชามีเป้าหมายในชีวิตที่แตกต่างไปจากที่พ่อกำหนดไว้ให้ เขาไม่ชอบอาชีพการเป็นตำรวจ จากสภาพที่เขาเห็นแม่ต้องทุกข์ทรมานใจกับการรอคอยพ่อที่ไม่แน่นอนว่าจะกลับบ้านหลังจากที่ออกไปจับผู้ร้าย ทชาเรียนจบทางด้านการเกษตร แต่เขาเกือบจะเป็นผู้ร้ายฆ่าคนเพราะต้องล้มล้างอิทธิพลของเจ้าพ่อ แต่ต่อมามีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น และทำให้เขามีสติยั้งคิดและทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ต่อครอบครัวและส่วนรวม

ผู้ชายไม้ประดับ 2538

ผู้ชายไม้ประดับ (2538/1995) จาร จารึกความรู้สึก ความฝัน หลากหลายของสตรีที่พระพรหมท่านลิขิตชีวิตให้แผกแตกต่างกันมากมาย หากลึกซึ้งถึงก้นบึ้งแห่งหัวใจ สิ่งที่ทุกนางโหยให้หา คือ ความรักแท้ มั่นคงยงยืน จากชายคนรัก แต่ อนิจจา ผู้ชายส่วนใหญ่เป็นได้เพียง “ผู้ชายไม้ประดับ” เท่านั้นเอง

มายาตวัน (2538/1995) มายาตวันเป็นเรื่องราวของ"มัทนา" นักข่าวสาวตัวเล็กๆที่มีความมุ่งมั่นแห่งสำนักพิมพ์สยามสาร ซึ่งได้รับมอบหมายจากบ.ก.ให้ไปสัมภาษณ์ "เขตต์ตวัน" อดีตพระเอกหนุ่มชื่อดัง ที่หันหลังให้กับวงการบันเทิงและหันไปทำธุรกิจเสื้อผ้า ความท้าทายของการสัมภาษณ์อยู่ตรงที่เขตตวันเป็นคนไม่ชอบนักข่าว อีกทั้ง ยังมีอดีตเพื่อนสมัยเด็กของเขตต์ตวันที่คอยส่งข้อมูลเรื่องเขตต์ตวันมีส่วนพัวพันกับการตายของผู้หญิงคนหนึ่งและการค้าโสเภณี มัทนาจึงต้องใช้ความพยายามอย่างสูงกว่าจะได้ขอสัมภาษณ์ ด้วยความตั้งใจจริงและจริงใจของเธอ ทำให้งานเขียนชิ้นดังกล่าวประสบความสำเร็จอย่างมาก และทำให้เธอได้หัวใจอดีตพระเอกหนุ่มมาครองด้วย

เรื่องย่อ : โอ้มาดา (2538/1995) โอ้มาดา เป็นเรื่องราวของ มาดา และครอบครัว มาดาเป็นหญิงสูงวัยที่เอาจริงเอาจังกับการปั้นคนในครอบครัวของเธอให้ได้อย่างใจทุกอย่าง นับตั้งแต่นายพิชิต สามีของเธอเป็นข้าราชการระดับรองอธิบดี ซึ่งเธอยังไม่พอใจในตำแหน่งของเขา จึงคะยั้นคะยอกึ่งบังคับให้เขาลาออกจากราชการ แล้วลงสมัครรับเลือกตั้งผู้แทนราษฎร ซึ่งเมื่อเขาทำตามแต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง เธอก็โทษว่าเป็นเพราะเขาไม่เอาไหน และญาติพี่น้องก็ไม่ช่วยเหลือจริงจัง เมธาวี ลูกสาวคนโตกำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่สี่ในมหาวิทยาลัยชื่อดัง มาดาคาดหวังเกียรตินิยมเหรียญทองจากลูกสาวซึ่งเรียนดีมาตลอดสามปีที่ผ่าน หากด้วยแรงกดดันจากผู้เป็นแม่ การได้รับรู้พฤติกรรมนอกใจของผู้เป็นพ่อ และการไม่มีเพื่อนสนิทในวัยเดียวกัน ทำให้เมธาวีเครียดและผลการเรียนตกต่ำลง และพลาดเกียรตินิยมไปทำให้มารดาผิดหวังมาก จึงบังคับให้เธอแต่งงานกับที่ปรึกษารัฐมนตรีหนุ่มการศึกษาดีท่านหนึ่ง ในคืนส่งตัวนั่นเองเมธาวีก็เกิดอาการเบรคดาวน์จนสามีเธอต้องพาส่งโรงพยาบาล โรคประสาท มีนา ลูกชายคนเล็ก ผู้เก็บตัวเงียบและเรียบร้อยยามอยู่ในบ้าน แต่เมื่ออยู่นอกบ้านกับเพื่อน ๆ ก็เตลิดไปกับสิ่งยั่วยุต่าง ๆ ได้โดยง่าย เขาต้องการเรียนด้านศิลปะ ในขณะที่แม่ต้องการให้เขาเรียนวิทยาศาสตร์ เขาออกจะดูหมิ่นผู้เป็นพ่อที่ไม่เคยทำตัวเป็นผู้นำหรือเป็นแบบอย่างที่ดี ให้ลูก ๆ ได้เลย กำนันพระทอง เป็นญาติผู้น้องของนายพิชิต ซึ่งเป็นกำนันอยู่ในตำบลเล็ก ๆ บ้านเกิดของเขา เขาเฝ้ามองความเป็นไปในครอบครัวของลูกผู้พี่อย่างเป็นห่วง แต่ไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายแต่อย่างใด หากแต่ในที่สุด เขาก็อดไม่ได้เมื่อครอบครัวนั้นต้องพังทลายลงต่อหน้าต่อตา เขาต้องยื่นมือเข้าไปประคับประคองเมธาวีให้เธอหยัดยืนขึ้นอีกครั้ง ด้วยความรักและกำลังใจจากเขา

ความรักของคุณฉุย 2 2538
ขอหมอนใบนั้นที่เธอฝันยามหนุน 2538

ขอหมอนใบนั้นที่เธอฝันยามหนุน (2538/1995) เรื่องราวของเด็กหนุ่มที่เกิดมาพร้อมกับคำว่า”ตัวซวย” วายุ ภูบาลบริรักษ์ หรือ ล่องจุ๊น (ศรราม เทพพิทักษ์) ลูกชายคนกลางของครอบครัวที่พ่อ (ปัญญา นิรันดร์กุล) ไม่เคยให้ความสนใจใยดีเลยแม้แต่น้อย ก็เพราะพ่อคิดว่าล่องจุ๊นเกิดมาเป็นตัวซวยของครอบครัว ทำให้พ่อต้องขาดทุนกับธุรกิจถมที่ พ่อจึงตั้งชื่อให้เขาว่า”ล่องจุ๊น” ซึ่งต่างจากพี่น้องอีก 2 คนนั้นคือ พี่ถม พี่ชายคนโต เป็นคนที่เรียบร้อย เรียนเก่ง และว่าง่าย ส่วนอีกคนหนึ่งคือ กี้ เป็นน้องคนสุดท้อง เป็นเด็กที่ซนและดื้อ ช่างประจบเอาใจ ทั้ง 2 จึงถูกยกย่อง ชื่นชมและได้รับความรักจากผู้เป็นพ่อ ผิดกับจุ๊นที่ได้รับความรักความอบอุ่นจากผู้เป็นแม่ และมีแม่เป็นที่พึ่งในยามที่จุ๊นมีปัญหา จนมาถึงวันหนึ่งครอบครัวของจุ๊นได้เปลี่ยนไปเมื่อพ่อมีรายได้จากบริษัทรับ เหมาก่อสร้างเป็นกอบเป็นกำ พ่อก็พาผู้หญิงคนใหม่เข้ามาในบ้าน ทำให้แม่ทนไม่ไหวจึงหนีออกจากบ้านโดยพาจุ๊นไปด้วย และทิ้งลูกอีก 2 คนไว้เบื้องหลัง แม่พาจุ๊นออกจากบ้านไปอยู่ต่างจังหวัดหลังจากแยกทางกับพ่อ จุ๊นต้องหนีเข้ากรุงเทพฯอีกครั้งเพราะเกิดเหตุวิวาทและทำร้ายพ่อเลี้ยง บังเอิญที่จุ๊นถูกจับพ่อเลยมาประกันตัวให้ การกลับมาของจุ๊นสร้างความไม่พอใจให้กับลูกชายคนเล็ก”ลักกี้” กี้หนีออกจากบ้าน และพ่อก็ประสบอุบัติเหตุระหว่างออกไปตามหากี้ พ่อขอร้องให้จุ๊นไปช่วยงานที่ต่างจังหวัด จุ๊นจะทำสำเร็จหรือไม่ ....ล่องจุ้นจะไปเจอกับอะไรบ้าง เค้าจะได้รับความรักความอบอุ่นที่โหยหาหรือไม่........

คือหัตถาครองพิภพ 2538

เรื่องย่อ : คือหัตถาครองพิภพ (2538/1995) คือหัตถาครองพิภพ เริ่มต้นเรื่องราวของ คุณหญิงศรี (จารุณี สุขสวัสดิ์) เป็นเมียพระราชทานของเจ้าพระยาสมิติภูมิ (ธรรมชาติ แฟร์เน็ต) ที่เป็นฝรั่งมาจากประเทศอังกฤษ แต่งงานโดยไม่เต็มใจเพราะอุปนิสัยตัวเองไม่ชอบผู้ชาย จึงหาเมียบ่าวให้เจ้าคุณอยู่เรื่อยๆ แต่ถ้าหญิงคนไหนตั้งท้อง คุณหญิงจะหาทางกำจัดไปในทันที โดยมี เมี้ยน (อัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ) บ่าวที่จงรักภักดีเป็นคนจัดการให้ สองพี่น้อง สังวร สังเวียน บ่าวผู้หญิงที่อยู่ในบ้าน ก็ไม่พ้นชะตากรรมนั้น จนกระทั่งสบันงา (ปรียานุช ปานประดับ) ก้าวเข้ามาอยู่ในบ้าน ทำให้เกิดปัญหารักสามเส้า ระหว่างศุกล (ทรงสิทธ์ รุ่งนพคุณศรี) น้องชายของคุณหญิง และท่านเจ้าคุณ จนเกิดเป็นเรื่องร้ายแรงต่างๆ ตามมา

กระสือ (2537/1994) มีผู้หญิงคนหนึ่งเป็น กระสือก่อนตายได้เรียกคุณยายสายไปหาและมอบสมบัติให้ แต่ขณะที่ยายสายเผลอผู้หญิงคนนั้นได้บ้วนน้ำลายใส่ในขันกินน้ำให้ยายสายกิน ยายสายก็เลยกลายเป็นกระสือแทนผู้หญิงคนนั้น ยายสายผู้นี้มีบุตรคนหนึ่งแต่งงานและมีลูกสาวหนึ่งคน แต่ทั้งลูกชายและลูกสะใภ้ก็หายหน้าหนี้ไปทิ้งลูกสาวไว้ให้ยายสายเป็นผู้ ดูแล ยายสายก็เลยต้องเลี้ยงหลานสาวกำพร้าโดยลำพัง ใครจะเป็นผู้สืบทอดดวงวิญญาน ของกระสือต่อจากยายสาย

ถนนสายสุดท้าย (2537/1994) ถนนสายสุดท้ายเป็นเรื่องราวการดำเนินชีวิตของ ดิถี นารีนาฎ แตง น้องเล็ก อินทุอรและพรดิษฐา ชีวิตของแต่ละคนเปลี่ยนแปลงไปตามการกระทำไม่ว่าดีหรือชั่ว ดิถี ชายอายุราว 40 ปีเจ้าของโรงงานขายอุปกรณ์ก่อสร้างซึ่งมีอดีตที่แสนลำบากรันทดจนสามารถไต่เต้ามาอยู่ในระดับเถ้าแก่ได้ แต่ดิถียังมีด้านมืด และกิเลสของตัวนารีนาฎ สถาปนิกหญิงสาวผิวคล้ำ หน้าตาสะสวย ผู้เข้ามาเกี่ยวข้องกับดิถีเพราะหน้าที่ แต่กลับหลงรักดิถีเข้าให้ แตง หรือ ประอร สาวชาวร้อยเอ็ดต้องออกจากโรงเรียนเข้ามาทำงานเป็นกรรมกรก่อสร้างในกรุงเทพกับน้าสาวเพื่อเก็บเงินไว้ให้น้องสาวเรียนหนังสือ และเข้ามาเกี่ยวพันกับและดิถีได้เข้ามาเกี่ยวพันกับแตง ซึ่งแตงไม่สามารถหลีกเลี่ยงเขาได้เพราะแตงก็รักดิถีเช่นกัน แม้จะอยู่ในฐานะเมียเก็บน้องเล็ก หรือ วิชชุอร สาวร้อยเอ็ดน้องสาวแท้ๆของแตง เรียนหนังสือเก่ง และได้มาเรียนต่อที่กรุงเทพโดย น้องเล็กเรียนคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ชีวิตของน้องเล็กก็ต้องเปลี่ยนไปโดยการกระทำของดิถีเช่นกัน อินทุอร สาวน้อยผู้อมทุกข์ เสียใจที่แม่จากไปและเป็นไม้เบื่อไม้เมากับดิถีผู้เป็นพ่อ ทำร้ายตัวเองโดยนำสิ่งเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง พรดิษฐา น้องชายฝาแฝดของอินทุอร ชอบการเล่นโลดโผน เป็นเด็กไม่เอาถ่าน ริจีบน้องเล็ก น้องเล็กไม่ชอบคนไม่เอาถ่าน พรดิษฐา จึงตั้งหน้าตั้งตากลับไปเรียนหนังสือต่อ จนได้เรียนต่อคณะวิศวกรรมโยธา ตื้อน้องเล็กจนน้องเล็กเรียนจบ และได้จดทะเบียนสมรสกับน้องเล็กจนได้ แม้ดิถีจะไม่ยอมเพราะมีเหตุผลบางอย่าง และเหตุผลของดิถีนี้ ถนนชีวิตของทุกคนจึงต้องเปลี่ยนไป...