ด้วยแรงอธิษฐาน 2553

ด้วยแรงอธิษฐาน (2553/2010) ก่อนสิ้นลม เธอ อธิษฐานเพื่อให้ได้เกิดมาเพื่อแก้แค้น เขา แต่เขา มีชีวิตอยู่เพื่อรัก และรอเธอคนเดียว ความรัก ความแค้น ข้ามเวลา วรดา ลูกสาวของวารี ภรรยาบ่าวของนายพลประพจน์ หลบออกมาจากงานเลี้ยงวันเกิดของผาณิต ลูกสาวคุณหญิงผกา ภรรยาแต่งของประพจน์ คุณหญิงผกาและผาณิตไม่เคยนับญาติกับวรดา วารีสอนให้วรดาต้องอดทนทุกครั้งเมื่อต้องฟังคำพูดดูถูกของคุณหญิงผกา วรดานั่งอ่านเจนแอร์ นวนิยายเล่มโปรดในสวนใกล้ต้นปีบ กฤตย์เห็นวรดาครั้งแรกก็ชอบทันที กฤตย์ชวนวรดาคุยและสัญญาว่าจะเอาหนังสือนิยายมาให้ วรดาขอบคุณและเป็นสุขใจ เกื้อกับสายพิณมีลูกสามคน คือเกตุมณี พี่สาวคนโต กฤตย์ ลูกชายคนเดียวในบ้าน และแกมแก้ว ลูกคนเล็กที่เอาแต่ใจตัวเองมาก เกื้อมีเชื้อสายจีน เขาย้ายมาอยู่ข้างบ้านประพจน์ คุณหญิงผกาไม่ชื่นชมมากนัก แต่ผาณิตกลับชอบกฤตย์ผาณิตเป็นคนหัวอ่อนขี้กลัว จึงสนิทกับแกมแก้วที่มีนิสัยกระด้าง ชอบเอาชนะ ผาณิตแอบชอบ กฤตย์ ขณะที่แกมแก้วแอบชอบปิติ ซึ่งเป็นนายทหารผู้ช่วยประพจน์ ปิติเป็นสุภาพบุรุษจึงมักไปส่งผาณิตและแกมแก้วซื้อของเป็นประจำ แกมแก้วไม่ชอบวรดาเพราะรู้ว่าปิติชอบวรดา กฤตย์ชวนวรดาไปเดินเล่นในสวนที่บ้านกฤตย์ โดยมุดกำแพงผุที่อยู่ระหว่างบ้านกฤตย์ และบ้านวรดา วรดาถามเรื่องหลุมหลบภัยในบ้านกฤตย์ แต่กฤตย์ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน ทั้งสองคนจึงช่วยกันหาแล้วลงไปในหลุมนั้นด้วยกัน ก่อนกลับบ้าน กฤตย์ขอสัญญาที่จะเจอวรดาอีกแต่วรดาไม่รับปาก ปิติแอบไปหาวรดาที่สวนหลังบ้าน ปรากฏว่าเขาเห็นวรดาอยู่กับกฤตย์ ปิติเสียใจมาก จนขับรถไปชนกับรถเกตุมณี ปิติกำลังโมโหจึงพูดจาไม่ดีกับเกตุมณี เมื่อนึกได้ปิติจึงไปขอโทษเกตุมณี วันหนึ่งแม่ของปิติไปตลาดจึงได้เจอกับเกตุมณี ทั้งคู่ถูกชะตากัน แม่ของปิติเชียร์ให้ปิติจีบเกตุมณี แกมแก้วมาหาผาณิตที่บ้านจึงเห็นว่าวรดายืนคุยกับคนสวน ทั้งสองหาว่าวรดาร่าน จึงไปฟ้องประพจน์กับคุณหญิงผกา แต่เมื่อมาอีกครั้งผู้ชายคนนั้นกลับเป็นกฤตย์ กฤตย์ยอมรับผิดทุกอย่างพร้อมทั้งขอให้เกื้อมาสู่ขอวรดาให้เขา เกตุมณีเล่าเรื่องที่กฤตย์จะแต่งงานกับวรดาให้ปิติฟัง เธอจึงได้รู้ว่าปิติเคยรักวรดา รวมถึงแกมแก้วก็หลงรักปิติเช่นกัน ทำให้เกตุมณีคิดตัดใจ แต่ปิติตามง้อและบอกรักเกตุมณี ในที่สุดเกตุมณีก็ยอมแต่งงานกับปิติ เมื่อแก้มแก้วรู้เธอรับไม่ได้และหาว่าเกตุมณีแย่งปิติไป ปิติกับเกตุมณีจึงตัดสินใจย้ายไปอยู่เพชรบูรณ์ ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องในสวน วรดาไม่ได้เจอกฤตย์เลยเพราะถูกกีดกันจากคุณหญิงผกา แกมแก้ว และผาณิต วรดาทำงานหนักจนไม่สบาย กฤตย์อยากพูดกับวรดาเมื่อเจอหน้ากัน แต่ทุกอย่างแย่ลง คุณหญิงผกาพูดให้กฤตย์คิดว่าวรดาท้อง กฤตย์ไม่อยากเชื่อ วรดาเข้าใจว่ากฤตย์หันไปชอบผาณิต ทั้งสองเข้าใจผิดกัน และวันสุดท้ายที่เจอกันกฤตย์นัดวรดาไปที่สวนหลังบ้านวรดารีบทำงานเพื่อไปตามนัด เมื่อเธอไปถึงกลับไม่พบกฤตย์ แต่โดนคนเอาไม้มาตีคอ วรดาคิดแค่ว่ากฤตย์ทำร้ายเธอ ที่สำคัญเขาจับเธอไปขังที่หลุมหลบภัย จนวรดาขาดอาหาร ก่อนตายเธอตั้งสัตย์อธิษฐาน ขอกลับมาแก้แค้นคนที่ทำให้เธอต้องเจ็บจนตาย มนทิรากับนิกรมีลูกสาวชื่อนัทธมน เด็กสาวเกิดมาพร้อมพลังพิเศษที่สามารถบังคับสิ่งของได้ คืนใดที่นัทธมนฝันร้าย สิ่งรอบตัวของเธอจะลอยขึ้นจนทำให้มนทิรากับนิกรตกใจและเป็นห่วงนัทธมน แต่ทั้งสองยังไม่พานัทธมนไปหาหมอเพราะยังเด็กอยู่วันหนึ่งมนทิราพานัทธมนวัยขวบเศษไปใส่บาตรกับพระธุดงค์รูปหนึ่ง พระรูปนี้เตือนให้มนทิราเลี้ยงนัทธมนให้ดี ให้สอนเรื่องการให้อภัยเพื่ออนาคตของนัทธมน แม้นัทธมนจะโตขึ้นแต่อาการฝันร้ายยังมีเหมือนเดิม มนทิราจึงคอยระวังไม่ให้นัทธมนกลัวและสอนนัทธมนให้อโหสิ แต่ยิ่งโตขึ้น นัทธมนเริ่มไม่เชื่อฟังจนมนทิราหนักใจเมื่อนัทธมนเข้าโรงเรียน เธอไม่ชอบเพื่อนคนหนึ่งชื่อติสรณ์ หรือเต้ย ซึ่งเป็นลูกนักการเมืองใหญ่ ติสรณ์ชอบกระตุกผมเพื่อนผู้หญิง วันหนึ่งติสรณ์กระตุกผมนัทธมนทำให้เธอโกรธและใช้พลังพิเศษจนติสรณ์ได้รับบาดเจ็บมากกว่านัทธมนหลายเท่า มนทิรารู้ว่านัทธมนเป็นคนทำ เธอให้นัทธมนสาบานว่าจะไม่ทำอีก แต่นัทธมนไม่ยอม ทำให้แม่ลูกทะเลาะกัน นิกรเกิดอุบัติเหตุรถชนตาย นัทธมนรู้ล่วงหน้าจึงรีบกลับมาอยู่เป็นเพื่อนมนทิราก่อนที่เพื่อนร่วมงานของนิกรจะโทรมาบอกว่านิกรเสียแล้ว หลังจบมัธยมสาม นัทธมนบอกมนทิราว่าจะเรียนต่อเลขานุการโดยไม่ยอมบอกเหตุผลที่แท้จริงว่า มีอะไรบางอย่างดึงดูดให้เธอต้องไปเรียนที่นี่ มนทิราห้ามไม่ได้จึงปล่อยไป แม้แต่ติสรณ์ที่เดี๋ยวนี้กลายเป็นเพื่อนสนิทของนัทธมนก็เสียดายความรู้ของนัทธมนแทน วันแรกของการเข้าเรียน นัทธมนได้เพื่อนใหม่ชื่อกลิกาหรือถุงแป้ง ลูกของเกตุมณีกับปิติ และนัทธมนก็ได้รู้จักกฤตย์ ซึ่งเป็นน้าชายของกลิกา นัทธมนรู้ทันทีว่าเป็นเขาที่เธอต้องแก้แค้นนัทธมนนั่งอ่านเจนแอร์ ทำให้กลิกางงที่นัทธมนอ่านหนังสือเก่า แต่นัทธมนไม่รู้สึกซาบซึ้งไปกับเนื้อหา เธอเห็นว่าเจนแอร์เป็นผู้หญิงโง่ที่ยอมให้ผู้ชายหลอกแล้วทิ้งไปเหมือนวรดาที่โง่ให้กฤตย์หลอก แล้วก็ตายเพราะเขาเพื่อนของกลิกามักถามถึงกฤตย์ แม้แต่นัทธมนที่ยังไม่เคยเจอกฤตย์ก็ถามถึงจนเพื่อน ๆ งง นัทธมนจึงบอกว่าเธอสนใจกฤตย์ กลิกาอยากให้เป็นจริงเพราะไม่อยากให้กฤตย์ต้องตกลงปลงใจกับปณิตา หม้ายสาวที่ตามตื้อกฤตย์มานาน ที่กฤตย์ยังไม่มีใครเพราะลืมวรดาไม่ได้ กฤตย์มารับกลิกาที่โรงเรียน เขาเห็นนัทธมนแล้วตกใจมากเพราะคิดว่าเป็นวรดา ขณะที่ติสรณ์มารับนัทธมนที่โรงเรียน ติสรณ์สนใจกลิกา นัทธมนจึงช่วยติสรณ์เพราะรู้ว่าทั้งคู่เป็นคนดีนัทธมนแต่งตัวไปงานวันเกิดของกลิกาที่บ้านกฤตย์ เมื่อไปถึงนัทธมนตกใจที่บ้านกฤตย์กลายเป็นบ้านเรือนไทย บ้านเก่าเธอ นัทธมนถามกลิกาจนรู้ว่า กฤตย์ซื้อบ้านหลังนี้มาเพราะทุกคนในบ้านตายหมด ส่วนบ้านอีกหลังกฤตย์ใช้เป็นสำนักงาน นัทธมนยังไม่ได้เจอกฤตย์เพราะเขาไม่สบายจึงลงมาร่วมงานไม่ได้ กฤตย์เห็นนัทธมนเดินอยู่ในสวนแต่เรียกไม่ทัน จนสะดุดโต๊ะที่วางเค้กวันเกิดของกลิกา แกมแก้วโวยวายว่าเป็นความคิดของกลิกา แต่กฤตย์ปกป้องกลิกา นอกจากนี้ เขาถามกลิกาถึงเพื่อนที่มาเดินในสวนจึงรู้ว่าเป็นนัทธมน กฤตย์จึงบอกกลิกาให้ชวนนัทธมนมาทำงานเป็นเลขาที่บริษัท ซึ่งนัทธมนก็ยินดี นัทธมนจะได้มาทำงานเป็นเลขาของกฤตย์โดยตรง และทำงานที่บ้านเรือนไทย ไม่ใช่ที่สำนักงาน กลิกาดีใจที่นัทธมนได้งาน แกมแก้วนำเอกสารขอส่งลินจันทร์ ลูกสาวที่เป็นใบ้ไปเรียนต่างประเทศเพื่อรักษาตัว ลึกๆ แกมแก้วอิจฉาที่กฤตย์จะส่งกลิกาลูกเกตุมณีไปเรียน กฤตย์ขอเวลาตัดสินใจ วันแรกของการทำงาน นัทธมนได้รู้จักกับพิษณุ เลขาเก่าของกฤตย์ ซึ่งจะย้ายไปประจำที่สาขาชลบุรี พิษณุสอนงานให้นัทธมนตอนบ่ายกฤตย์พานัทธมนไปประชุมที่สำนักงานฝั่งตรงข้ามบ้านเรือนไทย นัทธมนได้ทักทายบงกช ซึ่งต้องติดต่องานประจำเมื่อกฤตย์กับนัทธมนไปแล้วบงกชโทรศัพท์บอกเรื่องนัทธมนให้ปณิตารู้ทันที ปณิตาไม่ไว้วางใจจึงคิดหาทางกำจัดนัทธมน ปณิตา เป็นลูกแม่ค้าจน ๆ จึงตัดสินใจแต่งงานเพื่อยกระดับตัวเองถึงสองครั้ง ครั้งที่สองทำให้เธอรวยมาจนถึงทุกวันนี้ และเมื่อปณิตาตั้งใจจะจับกฤตย์แล้วเธอต้องทำให้ได้ แกมแก้วเข้ามาดูเลขาคนใหม่ของกฤตย์ทำให้แกมแก้วตกใจมากที่นัทธมนหน้าเหมือนวรดา หลังจบประชุม กฤตย์พานัทธมนไปยังสระน้ำที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหลุมหลบภัยที่วรดาตาย กฤตย์บอกว่าเคยคิดทำสวน กฤตย์พานัทธมนเดินมาหาลินจันทร์เมื่อนัทธมนเห็นลินจันทร์จึงรู้ว่าลินจันทร์คือผาณิตกลับชาติมากเกิด ลินจันทร์รู้เช่นกัน จึงกลัวนัทธมนจนวิ่งหนีไป มนทิราบอกเรื่องที่คนจะขายรถ นัทธมนสนใจเพราะจะได้ไปทำงานสะดวก หลังจากไปลองนำรถมาใช้ นัทธมนก็ตกลงซื้อ และขับรถไปทำงานทุกวัน ปณิตาชวนกฤตย์ไปทานข้าว แต่กฤตย์นัดนัทธมนและกลิกาไว้แล้ว ปณิตาจึงขอไปด้วย โดยเลือกร้านอาหารทะเล และเหน็บแนมนัทธมนตลอดเวลา สุดท้าย นัทธมนใช้พลังพิเศษทำให้ปูหนีบนิ้วปณิตา ปณิตาถึงกับพูดไม่ออก ไม่มีใครรู้ว่าเป็นฝีมือของนัทธมน วันรับวุฒิบัตร มนทิราได้เจอกับกฤตย์ที่ไปแสดงความยินดีกับกลิกาและนัทธมน ทั้งสี่คนจึงไปทานอาหารเย็นด้วยกัน มนทิราสังเกตเห็นว่านัทธมนไม่ชอบกฤตย์ และแน่ใจว่าผู้ชายที่ลูกฝันถึงเป็นกฤตย์ มนทิราไม่สบายใจที่นัทธมนไม่ตัดความแค้นออกจากใจเสียที ขณะที่นัทธมนนำรูปคู่ระหว่างตนเองกับกฤตย์ไปตั้งบนโต๊ะทำงานตามที่กลิกาของร้อง แกมแก้วมาเห็นจึงไม่ชอบใจนัก กลิกากลับไปเพชรบูรณ์พร้อมของฝากและรูปถ่าย เมื่อเกตุมณีและปิติเห็นรูปนัทธมนทั้งคู่ตกใจว่าทำไมถึงเหมือนวรดามาก ปณิตาเห็นรูปที่ตั้งบนโต๊ะนัทธมน ปณิตาไม่พอใจมาก เธอชวนกฤตย์ไปทัวร์ยุโรปแถมจองตั๋วเผื่อกฤตย์แล้ว แต่กฤตย์ปฏิเสธเพราะติดธุระพอดี ปณิตาช้ำใจมาก ยิ่งเธอชวนนัทธมนไปทำงานที่บริษัทเพื่อให้ห่าง กฤตย์แต่นัทธมนปฏิเสธ ปณิตาก็ยิ่งแค้น เมื่อคนใช้ยกกาแฟมาให้ ปณิตาจะแกล้งทำกาแฟหกใส่นัทธมน ปรากฏว่ากาแฟหกรดตัวเอง ปณิตางงกับเหตุการณ์ที่พลิกผัน แกมแก้วพยายามพาลินจันทร์ไปหากฤตย์ พอดีไพโรจน์มาเยี่ยมลูกสาวคือลินจันทร์ และจะพาไปเที่ยว แต่แกมแก้วไม่ยอมจึงทะเลาะกันรุนแรง คราวนี้ไพโรจน์ไม่ยอมเหมือนครั้งก่อน เมื่อลินจันทร์ไปกับไพโรจน์แกมแก้วจึงมีอาหารเหมือนคนคลุ้มคลั่ง กฤตย์รีบพาแกมแก้วส่งโรงพยาบาลไพโรจน์ขอโทษที่เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น แต่กฤตย์เข้าใจนัทธมนจัดเสื้อผ้าเตรียมไปทำงานกับกฤตย์ที่เชียงราย โดยกฤตย์รับปากมนทิราว่าจะดูแลนัทธมน อย่างดี ตอนขึ้นเครื่องนัทธมนอาเจียนเพราะกลัวความสูงจึงไม่มีแรง เมื่อถึงเชียงรายกฤตย์จึงพาไปพักที่โรงแรมก่อน แต่นัทธมนกลับไม่ยอมขึ้นลิฟต์เพราะกลัวที่แคบและความมืด จนลืมตัวพูดไปว่า กฤตย์จะฆ่าตัวเอง ทำให้กฤตย์สงสัย แต่เขาตัดสินใจพักชั้นล่างและพานัทธมนเดินขึ้นบันไดนัทธมนฝันร้ายจนสิ่งของลอยเหมือนตอนแด็กอีกครั้ง ทำให้กฤตย์คิดว่าแผ่นดินไหวแต่เมื่อไปถามคนอื่น ทุกคนยืนยันว่าไม่มีแผ่นดินไหว กฤตย์คิดว่านัทธมนต้องมีอะไรปิดบังเขาอยู่สิงห์ หรือสีหนาท เป็นคนมารับกฤตย์กับนัทธมนไปยังไร่สัตตบุษย์ที่กฤตย์จะทำโครงการนัทธมนออกปากชมบ้านของสีหนาท แต่สีหนาทบอกว่ากฤตย์เป็นคนออกแบบ นัทธมนจึงเงียบลงไปเพราะไม่ชอบให้ใครชื่นชมกฤตย์ต่อหน้าก่อนที่อำพล วิศวกรร่วมโครงการจะขึ้นมา กฤตย์กับนัทธมนได้ไปเที่ยวฝั่งพม่าพร้อมกับสีหนาทและน้องสาว กฤตย์ซื้อสร้อยคอเส้นที่นัทธมนให้นัทธมน เธอจะไม่รับ กฤตย์จึงบังคับเธอ เมื่อกฤตย์และนัทธมนต้องไปเที่ยวกันตามลำพัง นัทธมนไม่อยากไปจนครั้งหนึ่งเธอทำร้ายกฤตย์ กฤตย์สงสัยในพฤติกรรมแปลก ๆ ของนัทธมนแต่ยังหาคำตอบไม่ได้ เมื่ออำพลขึ้นมา กฤตย์เร่งทำงานส่วนนัทธมนใช้เวลาว่างในการคิดแผนการที่จะจัดการกฤตย์ให้เร็วที่สุด เพราะกฤตย์เริ่มรู้ตัวแล้ว กฤตย์ไปส่งนัทธมนที่บ้านหลังกลับจากเชียงราย มนทิราขอบคุณกฤตย์ เมื่อนัทธมนกลับไปทำงาน กฤตย์ก็ดีต่อเธอทุกอย่าง แต่นัทธมนไม่ต้องการมัน เธอเริ่มดำเนินตามแผนแก้แค้นเริ่มจากการเอากุญแจห้องเก็บของมาไว้ที่ตัวเองนัทธมนเจอปิติก่อนที่เขาจะกลับเชียงรายจึงได้รู้ว่า ประพจน์ขอหย่าจากผกาหลังวรดาตาย แล้วไปบวชเป็นพระออกธุดงค์ไปเรื่อย ๆ คุณหญิงผกากับผาณิตถูกรถชนตาย ประพจน์จึงขายบ้านให้กฤตย์ แล้วออกธุดงค์ต่อ ในที่สุดก็มรณภาพ แกมแก้วเห็นปิติคุยกับนัทธมนจึงเข้ามาหาเรื่อง เมื่อปิติกลับไปถึงเชียงรายก็เล่าเรื่องให้เกตุมณีฟัง ปณิตารู้ว่านัทธมนกลับมาจึงรีบโทรหาสมุนของเธอให้จัดการกับนัทธมน แต่ทุกอย่างผิดแผน เพราะคนร้ายตามรถที่นัทธมนใช้ประจำไปโดยไม่ได้ดูว่าใครขับ ทำให้มนทิราเคราะห์ร้าย เมื่อนัทธมนรู้เรื่อง เธอสัญญาว่าจะต้องจัดการกับคนร้ายให้ได้ แม้มนทิราจะขอร้องแต่นัทธมนไม่รับปาก ปณิตารู้ว่างานพลาดจึงสั่งให้จัดการใหม่อีกครั้ง แต่นัทธมนไม่กลัวเพราะรอชำระความอยู่แล้ว คนร้ายทั้งสองถูกจัดการจนบาดเจ็บสาหัส คนแรกที่นัทธมนจัดการคือบงกช นัทธมนใช้วิธีสะกดจิตให้บงกชเกิดภาพหลอนเห็นหนอนเต็มปาก ส่วนปณิตาเมื่อรู้ว่านัทธมนไม่ใช่คนธรรมดา เธอจึงมาเตือนกฤตย์ แต่กฤตย์ไม่สนใจ นัทธมนสะกดจิตปณิตาให้เห็นปีศาจอย่างที่ปณิตากล่าวหาว่านัทธมนเป็นปีศาจ เมื่อเลิกงาน นัทธมนชวนกฤตย์ไปห้องเก็บของ กฤตย์ยอมไปแต่โดยดีและเดินลงไปในห้องเก็บของตามที่นัทธมนต้องการ กฤตย์รอฟังคำอธิบายจากนัทธมนจึงรู้ว่านัทธมนคือวรดากลับชาติมาเกิด นัทธมนไม่ฟังสิ่งที่กฤตย์จะบอก เธอทำให้กองอุปกรณ์หล่นมทับขากฤตย์หักและขังกฤตย์ไว้ เธอหวังให้เขาร้องขอความช่วยเหลือแต่เขาไม่ร้อง สุดท้ายคนที่แพ้คือนัทธมนอีกครั้ง วันรุ่งขึ้นนัทธมนให้ทุกคนตามหากฤตย์ที่หายไปจนเจอ แกมแก้วจะพากฤตย์ไปหาหมอ แต่กฤตย์ขอคุยกับนัทธมนเป็นการส่วนตัวกฤตย์ส่งแหวนที่เขาเตรียมให้วรดากับนัทธมน วันนั้นกฤตย์ยังไม่ทันออกจากบ้าน แม่ของกฤตย์เกิดหกล้มขาหักเขาจึงพาส่งโรงพยาบาลและให้แกมแก้วไปบอก วรดาแทน แต่วันต่อมาวรดาหายไปไม่มีใครพบ จนกระทั่งวรดาตาย นัทธมนตกใจที่รู้ว่าไม่ใช่กฤตย์ เธอจึงไปหาลินจันทร์และแกมแก้ว นัทธมนคาดคั้นลินจันทร์ให้พูดความจริง ลินจันทร์กลัวมากจึงเล่าว่า แกมแก้วเป็นคนวางแผนทั้งหมด ตั้งแต่ตีหัววรดา และลากวรดาไปซ่อนในหลุมหลบภัย ซึ่งแกมแก้วบอกจะปล่อยวรดาในอีกสองสามวันข้างหน้าแต่แกมแก้วไม่ทำ จนวรดาตาย นัทธมนโกรธมากที่รู้ว่าแกมแก้วทำแกมแก้วไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น ลินจันทร์พูดได้แต่เป็นเสียงผาณิต เมื่อเรื่องทุกอย่างเปิดเผยแกมแก้วจึงยอมรับออกมาและคิดจะฆ่านัทธมนอีกครั้ง แต่นัทธมนใช้พลังจิตทำร้ายแกมแก้วจนแกมแก้วกลัวลนลาน กฤตย์พยายามห้ามไว้แล้วให้นัทธมนอโหสิกรรม หลังจากวันนั้น แกมแก้วเป็นอัมพาต กฤตย์รักษาตัวอยู่โรงพยาบาล และตัดสินใจส่งลินจันทร์ไปเรียนต่างประเทศ นัทธมนหลีกเลี่ยงการพบกับกฤตย์แต่ยังถามข่าวจากกลิกานัทธมนพามนทิราไปเที่ยวชายทะเล จนคิดได้ตามที่แม่สอนว่าคนเราไม่ควรฝืนชะตาความรัก นัทธมนโทรหากฤตย์ แต่กฤตย์ไม่อยู่บ้าน เธอจึงเสียใจ แต่กฤตย์ตามเธอมาที่ทะเล ทั้งสองปรับความเข้าใจกันในที่สุด ทั้งคู่ก็ยอมรับในความรักของกันและกันเวลาผ่านไป กลิกาใกล้เรียนจบ โดยมีติสรณ์รออยู่เมืองไทย ส่วนนัทธมนมีลูกชายหนึ่งคน ชื่อ อธิษฐ์ แม้อธิษฐ์จะดื้อ แต่นัทธมนก็รักเขามาก รวมถึงลูกในท้องที่จะเป็นเด็กผู้หญิง กฤตย์และนัทธมนตกลงจะตั้งชื่อลูกว่า วรดา

สุสานภูเตศวร 2552

สุสานภูเตศวร (2552/2009) สร้อยตรีพักตราสูร …เล่าขานถึงความโหดร้ายของภูเตศวร (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) กษัตริย์ผู้ครองนครภูเตศวร อาณาจักรอันรุ่งเรืองในอดีตกาล แต่ความรุ่งเรืองไม่อาจทำให้อาณาจักรภูเตศวรอยู่เป็นนิรันด์ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างล่มสลายไปตามกาลเวลา เหลือแต่..สร้อยอาถรรพ์ที่มาพร้อมกับคำสาป ไม่ว่ามันจะตกไปอยู่ในมือของผู้ใดมันผู้นั้นย่อมมีอันเป็นไปไม่ตายโหง ก็ต้องตายอย่างทุกข์ทรมาน เพราะความโลภที่ต้องการสมบัติของภูเตศวร หลังจากเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงทำให้ผู้คนเข่นฆ่ากันตาย สร้อยตรีพักตราสูรก็หายสาบสูญไปพร้อมกับร่างของภูเตศวรที่ถูกสาปให้สูญสิ้น ไปพร้อมกับหญิงอันเป็นที่รัก จนกระทั่ง 5,000 ปีผ่านในที่ป่าลึกกลางขุนเขาเทิดณรงค์ ( ณัฐพล ลียะวนิช ) หนุ่มผู้หลงใหลโบราณคดีและการผจญภัยในการค้นหาปริศนาแทงสมบัติ รับการว่าจ้างให้ค้นหากริชโบราณ เทิดณรงค์และจุฑา (สน เดอะสตาร์) ออกเดินทางเข้าป่าเพื่อตามหากริชและได้พบกับ “สร้อยตรีพักตราสูร” เพียงแว๊บแรกที่ได้เห็นสร้อยตรีพักตราสูร เทิดณรงค์เหมือนตกอยู่ในพลังอำนาจบางอย่างที่ดึงดูดให้เขาหยิบมันขึ้นมา โดยหารู้ไม่ว่าความความชั่วร้ายได้อุบัติขึ้นแล้ว ภูเตศวรฟื้นคืนชีพอีกครั้ง นิลพัตรา ไกรรณชิต (ศรีริต้า เจนเซ่น) กับกระแต (กัลยา จิรชัยศักดิ์เดชา)เดินทางกลับจากการร่วมภารกิจแพทย์อาสากับองค์การสหประชาชาติ โดยพา นภศูล (ชลิต เฟื่องอารมณ์) ผู้เป็นพ่อผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีมาพักผ่อนด้วย เทิดณรงค์เอาสร้อยตรีพัตรศูลมาให้นภศูล นิลพัตราเริ่มฝันถึงร้าย ๆ และทำอะไรแปลก ๆ โดยไม่รู้สึกตัว นิลพัตราได้พบหน้ากับเทิดณรงค์อดีตคนรัก ภาพเก่า ๆ ที่เทิดณรงค์ทิ้งพิธีหมั้นไปตามหาสมบัติผุดขึ้นมา จึงพูดจาทำร้ายหัวใจกันทั้งที่ลึก ๆ ยังรักกันอยู่ เทิดณรงค์และจุฑาปะทะฝีมือกับกาฬจักร (ดอม เหตระกูล)ชายลึกลับที่มีอำนาจและพละกำลังเหนือมนุษย์ บุกเข้ามาบีบบังคับให้เทิดณรงค์บอกที่อยู่ของสร้อยตรีพักตราสูร เทิดณรงค์สังหรณ์ว่านิลพัตรา กำลังตกอยู่ในอันตราย กระแต (กัลยา จิรชัยศักดิ์เดชา) ก็สัมผัสถึงพลังอำนาจบางอย่างที่มาก่อกวนและบงการนิลพัตรา อัคคี(ฉัตรชัย เปล่งพานิช) มหาเศรษฐีลึกลับผู้ซึ่งมาพร้อมกับโชคชะตา ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับมะแตนาย (ซอนย่า คูลลิ่ง) เข้ามาตีสนิทกับนภศูลและนิลพัตรา และบอกว่านิลพัตรถูกสร้อยอาถรรพ์ครอบงำ นิลพัตราจะต้องเดินทางไปแก้อาถรรพ์ที่อาณาจักรอโฆราลัยเพียงคนเดียว แต่เทิดณรงค์ไม่ไว้ใจพยายามขัดขวาง ทำให้พลังอำนาจของสร้อยไม่สามารถครอบงำนิลพัตราได้ตลอดเวลา ทำให้อัคคีต้องเปลี่ยนแผน พาทุกคนไปยังอาณาจักรภูเตศวร นิธิเทพินทร์ (ซอนย่า คูลลิ่ง ) สนมของภูเตศวรในภพที่แล้วแค้นใจที่อัคคีให้ความสนใจนิลพัตรามากเป็นพิเศษ นภศูลชวนพรานแก้ว(เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์)พรานป่าผู้เก่งกล้าวิชาอาคมให้ร่วมทีมไปด้วยโดยไม่ให้นิลพัตรา รู้ นิลพัตรา ยศวดี(พรรณชนิดา ศรีสำราญ)แอบติดตามไปแต่ก็ถูกจับได้ นิลพัตราฝันถึงคำสาปและเผชิญหน้ากับอสูรผู้ดูแลนครต้องห้าม และสั่งให้นิลพัตราและคณะกลับไปไม่เช่นนั้นทุกคนจะต้องตาย กระแตเชื่อว่าเป็นลางบอกเหตุ จึงเล่าให้ทุกคนฟังแต่ไม่มีใครเชื่อเรื่องอาถรรพ์ของนครต้องห้ามภูเตศวร ระหว่างทางทีมลูกหาบสาวคนหนึ่งถูกสะกดจิตให้ขโมยแผ่นศิลาไปซ่อน แต่พรานแก้วก็สามารถคลายมนต์สะกดและหาแผ่นศิลาจนเจอ อัคคีรู้ได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่เป็นฝีมือของผีสางธรรมดาแต่มันคือใครคนหนึ่ง ที่พยายามขัดขวางการทำงานของเขา ระหว่างทางนิลพัตรากับเทิดณรงค์เป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอด ทุกคนพบกับความยากลำบากที่อยู่เหนือคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ แต่นั่นก็ทำให้เทิดณรงค์และนิลตราใกล้ชิดและผูกพันกันมากขึ้น อัคคีพยายามทำดีมัดใจนิลพัตราแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะนิลพัตรายังรักเทิดณรงค์อยู่ อัคคีแค้นใจและหาทางแยกทั้งสองจากกัน คณะสำรวจได้พบกับชีวิน(ปีเตอร์ ไมอ๊อคซิ) นักธุรกิจผู้ชอบเข้าป่าล่าสัตว์จัดทีมสำรวจของตัวเองขึ้นโดยมีพรานดำ คู่ปรับพรานแก้วออกเดินทางติดตามทีมของนภศูลไป แต่ถูกอัคคีสะกดจิตและสั่งให้ฆ่าทุกคนในคณะนภศูลยกเว้นนิลพัตรา มะแตนายใช้อิทธิฤทธิ์ทำให้คณะสำรวจของนภศูรผ่านเส้นทางอันตรายทั้ง ดงกระสือ ห้วยกระหัง โค้งกะโหลก จนกระทั่งพลัดหลงไปใต้พิภพ อัคคีตกเหวลึกเพราะช่วยนิลพัตรา ทุกคนเข้าใจว่าอัคคีตาย นิลพัตรารู้สึกผิดต่ออัคคีเพราะก่อนตายอัคคีสารภาพรักกับเธอว่าเขายอมตาย เพื่อเธอ มะแตนายสุดทนกับภาพบาดตาบาดใจระหว่างอัคคีกับนิลพักตรา จึงเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงว่าเธอคือนิธิเทพินทร์เทวีผู้อภิบาลแห่งจอมราชัน อาณาจักรภูเตศวร และกักขังเทิดณรงค์ให้วนเวียนอยู่ใต้พิภพ เผชิญหน้ากับสิงห์โตเขี้ยวดาบ งูยักษ์ และซากกระดูก นิลพัตราเผชิญหน้ากับกาฬจักรเทพแห่งความตายในความฝัน ที่คอยบอกให้นิลพัตราเดินทางกลับไป แต่ก็ไม่เป็นผล ทุกคนเดินทางมาถึงหน้าสุสานก็ได้เจอกับกองทัพปีศาจที่อัคคีส่งมา ขณะที่ทุกคนกำลังเพลี่ยงพล้ำ กาฬจักรช่วยเหลือได้ทันทำให้กองทัพปีศาจของอัคคีล่าถอยไป แท้จริงแล้วกาฬจักรเป็นเพื่อนและทหารคนสนิทของภูเตศวร สามีของของนิลพัตรหญิงสาวที่มักใหญ่ใฝ่สูงในอดีตชาตินั่นเอง แต่เมื่อภูเตศวรเกิดพึงพอใจในตัวนิลพัตรหญิงอันเป็นที่รักของเขา กาฬจักรจึงจำต้องยอมยกเมียรักให้เพื่อน นิลพัตรพอใจที่ความงามของเธอทำให้ผู้ชายหัวแย่งชิงกันกาฬจักรสุดทนลงมือปลิด ชีพภูเตศวรและนิลพัตร และสละชีวิตตนเองเพื่อกักขังวิญญาณชั่วของทั้งคู่ไว้ใต้แผ่นศิลา นิธิเทพินธ์ ปรากฏตัวและบอกว่าภูเตศวรใกล้ฟื้นคืนชีพแล้วและต้องการจะนำนิลพัตราไปสังเวย เพื่อให้นิลพัตรฟื้นคืนชีพอีกครั้ง กาฬจักรขัดขวางไม่ให้แผนการคืนชีพของนิลพัตรสำเร็จ และบอกให้ทุกคนรีบออกไปจากที่นี่ เพราะใกล้ถึงเวลาที่ร่างของเขาจะแตกดับแล้ว กาฬจักรฝากนิลพัตราไว้กับเทิดณรงค์และกาฬจักรดีใจที่ภพนี้นิลพัตราได้เจอกับ คนดีอย่างเทิดณรงค์ จากนั้นร่างของกาฬจักรก็อันตธานหายไป ก่อนจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่พร้อมกับการปรากฏตัวของภูเตศวรซึ่งทำให้ทุกคน ถึงกับช็อกเพราะความจริงภูเตศวรก็คืออัคคีนั่นเอง เขาได้บอกกับทุกคนว่าทุกอย่างเป็นแผนการของเขาทั้งหมดที่ต้องการให้ทุกคน เดินทางมาที่นี่ก็เพื่อให้นิลพัตราเดินทางมาหาเขา เพื่อทำให้นิลพัตรหญิงที่เขารักตื่นจากการหลับใหลกว่าห้าพันปีและครองคู่กับ เขาตลอดไป ทุกคนเพิ่งรู้ถึงแผนอันแยบยลของภูเตศวรแต่ดูเหมือนทุกอย่างจะสายเกินไป ภูเตศวรชุบชีวิตนิลพัตรให้ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง นิลพัตรจะจำภูเตศวรได้หรือไม่ เทิดณรงค์จะทำอย่างไรเมื่อต้องสูญเสียคนรักไปตลอดการ เทิดรณงค์ยอมเอาชีวิตเป็นเดิมพัน นิลพัตราจะทำอย่างไร ติดตามชมบทสุดท้ายของความรักอมตะของเขาและเธอได้ในละคร ผจญภัยแนวแฟนตาซี ตามล่ารักรักข้ามภพ เรื่อง “สุสานภูเตศวร”

หน้ากากดอกซ่อนกลิ่น 2552

หน้ากากดอกซ่อนกลิ่น (2552/2009) หน้ากากดอกซ่อนกลิ่น เป็นเรื่องราวของ แสนภูมิ (อั้ม อธิชาติ) รีบกลับจากเมืองนอกทันทีที่รู้ว่า สันต์ เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน มาลีวรรณ (ธัญญ่า ธัญญเรศ) ภรรยา ของพ่อจัดการงานศพทุกอย่างแทนแสนภูมิ และรอให้เขากลับมาเผา เพราะพินัยกรรมจะถูกเปิดทันทีที่เผาศพ ในอีก 100 วันข้างหน้า แสนภูมิใช้เวลาที่เหลือเที่ยวเตร่จนมาถูกตาต้องใจกับ รมณีย์ (เมจิ พิมพ์อักษิพร) หลานสาวของ สกัด (ชินทัพพ์) ซึ่ง มาลีวรรณเป็นคนแนะนำเพื่อหลอกล่อให้แสนภูมิเข้าแข่งรถที่พัทยา ระหว่างทาง แสนภูมิเห็นอุบัติเหตุรถชน จึงรีบลงไปช่วยจนชายคนนั้นปลอดภัย แต่ไม่ทันได้รับคำขอบคุณจาก ใบเตย (นุ่น ศิรพันธ์) ผู้เป็นลูกสาว ติดตามต่อได้ใน หน้ากากดอกซ่อนกลิ่น

นิทานทะลุมิติ 2552

เรื่องย่อ : นิทานทะลุมิติ (2552/2009) เมื่อเจ้าหญิงแสนสวยจากโลกนิทาน มาเป็นสาวงามในเมืองมนุษย์ จากโลกที่เพ้อฝัน มาเผชิญความวุ่นวายในโลกแห่งความจริง ความอลวนไร้ขอบเขตจึงเกิดขึ้น ร่วมลุ้นและเอาใจช่วยเจ้าหญิงแสนสวยได้ใน…นิทานทะลุมิติ

วังน้ำค้าง 2552

เรื่องย่อ : วังน้ำค้าง (2552/2009) “วังน้ำค้าง สวรรค์ริมทะ​เลที่มี​แต่​ความสงบสุข ต้องกลาย​เป็นอ​เวจีที่​เร่าร้อน ​เมื่อบันลือประมุขของวังต้อนรับลำ​เพาสาวสวย​แสนอาภัพ​เข้ามา​ในหัว​ใจ ​ทำ​ให้​ไฟริษยาลุก​โชนขึ้น​ใน​ใจระรินญาติสาว​ผู้มอบหัว​ใจ​ให้​เขามาตลอด ​และ​ความ​แค้นนั้น​ก็ตกทอดมา​ถึง รัตติกาลลูกติดท้องของลำ​เพา​ซึ่งต่อมา​ก็​ได้ครอบครองหัว​ใจของธนนท์ ชายหนุ่มทายาทคน​เดียวของบันลือที่​ทำ​ให้ระริน​เกิด​ความรักครั้ง​ใหม่ ระริน​ซึ่งกำลังจะสูญ​เสียทุกอย่าง จะ​ทำอย่าง​ไร ​เพลิง​แค้นของ​เธอจะ​แผด​เผา​ให้วังน้ำค้างกลาย​เป็นจุน​หรือ​ไม่……” ลำ​เพา สาวชนบท​แสนสวยรักกับ ​เดียว พลทหารยากจน ​แม่บังคับลำ​เพา​แต่งงานกับ​เศรษฐี​ซึ่ง​เป็นนัก​เลง ​เดียวกลับมาจากรบ​เขาขาพิ​การต้อง​ใช้​ไม้ค้ำ ลำ​เพา​และ​เดียว​ได้​เสียกันวันที่​เดียวกลับมา ​โดย​เดียว​ไม่รู้ว่ารุ่งขึ้นลำ​เพาต้อง​แต่งงาน ลำ​เพาหนี​การ​แต่งงาน ​แต่ถูกกลุ่ม​เศรษฐีตามล่า ​เดียวยิงตาย​ทั้งหมด​เขา​โดนจับ ​โดนตัดสินจำคุกยี่สิบปี ลำ​เพาหนีออกจากบ้าน ระหว่างลำ​เพา​เดินทางทอดอาลัย​ไม่รู้จะ​ไป​ไหน บันลือ มหา​เศรษฐี​เจ้าของ​เกาะวังน้ำค้างขับรถผ่านมา บันลือชอบ​เธอทันที​เมื่อ​แรก​เห็น ​เมื่อรู้ว่าลำ​เพา​ไม่มีที่​ไป บันลือพาลำ​เพา​ไปอยู่ด้วยที่คฤหาสน์ของ​เขาที่ริมทะ​เล ​เขาอยู่กับญาติสาวชื่อระริน ​และชายรับ​ใช้​ผู้ซื่อสัตย์ ชื่อพร ​แม้จะ​เป็นสาวสวย​แต่ระรินยังคงครอง​โสด ​เพราะตั้ง​แต่ที่​เธอต้องมาอาศัยอยู่กับครอบครัวของบันลือ หลังจากพ่อ​แม่​เสียชีวิตด้วยอุบัติ​เหตุ ระริน​ก็​แอบหลงรักบันลือตั้ง​แต่​เด็ก ​แต่​ไม่กล้า​แสดงออก จนกระทั่งบันลือ​แต่งงาน ​และภรรยา​เสียชีวิตลง ทิ้ง​เพียงลูกชาย​ไว้1คน ​ซึ่งบันลือ​ก็ส่ง​ไป​เรียนที่กรุง​เทพฯ ​เมื่อ​เรียนจบมัธยม​ก็ส่งต่อ​ไป​เรียนที่ต่างประ​เทศ ระริน​จึง​ได้อยู่กับบันลือ​ในคฤหาสน์อย่างมี​ความสุขมาตลอด จนกระทั่ง บันลือรับลำ​เพามาอยู่ด้วย ​และ​ให้​ความสนิทสนม​เป็นพิ​เศษ ระริน​จึงริษยาลำ​เพามาก ลับหลังบันลือ ลำ​เพาถูกระรินกระ​ทำต่างๆ นานา ​แต่​เธอ​ก็อดทน​เพราะรู้ตัวว่ากำลังตั้งท้องอ่อนๆ ​ไม่สามารถระ​เห​เร่ร่อน​ไปอยู่ที่อื่น​ได้ ยิ่งนานวัน บันลือ​ก็ยิ่ง​เอ็นดูลำ​เพามากขึ้นจนกลาย​เป็น​ความรัก บันลือขอลำ​เพา​แต่งงาน​และขอรับ​เป็นพ่อของ​เด็ก​เอง ระริน​แค้น​ใจมาก วันหนึ่ง​เมื่อ หนู​แดง ลูกสาวของลำ​เพาอายุยัง​ไม่ครบขวบ ​และ​เป็นวันที่ปลอดคน บันลือ​ไม่อยู่บ้าน นายพรพาหนู​แดง​ไปตัดดอก​ไม้ที่สวนวังน้ำค้างระรินหลอกลำ​เพา​ไปธุระด้วยกัน ที่​เกาะ ​เมื่อ​ถึงกลางทะ​เล ระรินตีลำ​เพาจนตกน้ำ ลำ​เพาว่ายน้ำ​ไม่​เป็น​เธอจมทะ​เลตาย บันลือรู้​เรื่องลำ​เพาประสบอุบัติ​เหตุจมน้ำตาย บันลือรับ​เลี้ยงหนู​แดง​เป็นลูก ​เขาตั้งชื่อหนู​แดงว่ารัตติกาล ​เกือบยี่สิบปีผ่าน​ไป รัตติกาล​โต​เป็นสาวสวย บันลือรักมาก ตรงข้ามกับระรินที่ยังปัก​ใจว่า รัตติกาลมา​แย่ง​ความรักของบันลือ​ไป รัตติกาล​เรียกนายพรที่​เลี้ยง​เธอมาตลอดตั้ง​แต่​เด็กว่าตา บันลือขอร้องระริน​และตาพร​ให้ปกปิดว่า​เขา​ไม่​ใช่พ่อ​แท้ๆ ของ​เธอ​และ​ให้ปกปิดว่าพ่อ​แท้ๆ ของ​เธอ​เป็น​ใคร ​แต่วันที่บันลือ​เข้ากรุง​เทพ​เพื่อ​ไปรับ ธนนท์ ลูกชาย​ซึ่งกลับจากอ​เมริกา ระรินรุกรานรัตติกาล ​และ​เมื่อรัตติกาล​เถียงระริน​โกรธจัด ตบหน้ารัตติกาล​และ​เผย​ความจริงว่า รัตติกาล​ไม่​ใช่ลูกบันลือ​แต่​เป็นลูก​ไอ้ขี้คุก​ผู้ร้ายฆ่าคนตาย รัตติกาล​เสีย​ใจมากวิ่งหนี​เตลิดออกจากบ้าน ​เธอวิ่ง​ไป​เจอ สีมา สาวลูกชาวประมงยากจน สีมา​ทำตัว​เป็นทอม รัตติกาลบอกว่า​เธอจะ​ไปตาย สีมากระชาก​ไว้​ไม่​ให้​ไป ชวนรัตติกาล​ไปอยู่ด้วย บันลือกลับมา ระรินบอกว่ารัตติกาลหนีออกจากบ้าน คงหนีตาม​ผู้ชาย บันลือออกตามทุกวันจน​เจอรัตติกาล ช่วยสีมา​ทำประมง บันลือขอร้อง​ให้รัตติกาลกลับบ้าน สีมาขอตาม​ไปอยู่ด้วย ระริน​แสดง​ความพึงพอ​ใจ​ในธนนท์ ​แบบหญิงชอบชาย ​เพราะธนนท์คล้ายบันลือตอนหนุ่มๆมาก ​เธอหา​โอกาส​เคลมธนนท์ ​แต่ตาพรมาขัดจังหวะทุกครั้ง ธนนท์​เอง​ก็รู้ตัว ​เขา​เลี่ยงอย่างสุภาพกับระริน ธนนท์รักรัตติกาลทันทีที่​เห็น รัตติกาล​ก็​เช่น​เดียวกัน บันลือสนับสนุนอย่าง​ไม่ออกหน้าออกตา​เกิน​ไป ​แต่ระรินหึงหวงริษา ระรินมอม​เหล้าธนนท์ จะปล้ำ​เขา ​แต่ตาพรมาขัด​ไว้​ได้อีก ระริน​โกรธมาก ต่อมาระรินจะฆ่ารัตติกาลขณะนอนหลับ ตาพรมาช่วยทัน ​แก​ไม่​ได้​ทำอะ​ไรระริน ​แค่ยืนมอง​เฉยๆ ​แต่ตาพร​ไม่​เคยพูดกับ​ใคร​เรื่องระรินที่จะ​เคลมธนนท์ ​และจะฆ่ารัตติกาล ระรินยัง​แค้นรัตติกาลที่จะ​ได้ทุกอย่าง​ไปจากวังน้ำค้าง​เพราะรัตติกาลจะ​ เป็นคู่ครองของธนนท์​แน่นอน ระรินลวงรัตติกาลจะ​ไปฆ่ากลางทะ​เล​เหมือนที่​เคยฆ่าลำ​เพามา​แล้ว ​โดยหลอกว่าธนนท์ประสบอุบัติ​เหตุ ​เมื่อ​เรือมา​ถึงที่ที่ลำ​เพา​เคยจมน้ำตาย ระริน​เตรียมฆ่ารัตติกาล​โดยรัตติกาล​ไม่รู้​เลยว่า​เธอกำลังจะถูกฆ่า ​แต่​แล้วระริน​เห็นผีลำ​เพา​โผล่ขึ้นมาจาก​ใต้ทะ​เลมายืนบนผิวน้ำ ​และ​เดินมาหา​เธอ​ใน​เรือ​โดย​ไม่พูดจาอะ​ไร​เลย ​แต่ลำ​เพาจ้องจะ​เอา​เรื่อง ลำ​เพายังสวย​เหมือน​เมื่อครั้ง​เธอยังมีชีวิตอยู่ ระรินกลัวลำ​เพาจน​เป็นลม รัตติกาล​ไม่รู้​เรื่อง ​เมื่อระริน​เป็นลม ​เธอพา​เรือกลับ​เข้าฝั่ง ระหว่างยัง​ไม่ฟื้นระริน​เห็นลำ​เพามารับ​เธอ​ไปด้วยกัน ระริน​ไปด้วยอย่าง​เต็ม​ใจ ​แต่​เมื่อลำ​เพา​ให้​เธอลง​เรือระรินหวีดร้อง​ไม่​ไปด้วย ​เธอตื่นขึ้นมา​เห็นธนนท์กับรัตติกาลนั่ง​เฝ้าอยู่อย่างห่วง​ใย ระรินกอดธนนท์ราวกอดขอ​ความช่วย​เหลือจากชายคนรัก ​เดียวพ้น​โทษ ​ไปหา​แม่ของลำ​เพาที่บ้าน ​แม่ของลำ​เพาสำนึก​ใน​ความผิดที่​ทำ ​แก​เอาจดหมายของลำ​เพา​ให้​เดียวอ่าน ​เดียวรู้ว่าลำ​เพามีลูกสาวกับ​เขา ​และลำ​เพา​ไปอยู่ที่วังน้ำค้างกับชายที่ชื่อบันลือ​เดียว​ไปที่​เกาะวังน้ำ ค้าง พบรัตติกาล รัตติกาลรู้สึกว่าถูกชะตากับชายคนนี้ตั้ง​แต่​แรก​เห็น ​เธอบอกว่าพ่อของ​เธอ​เป็นชายขี้คุกชื่อ​เดียว ​แม่ของ​เธอชื่อลำ​เพา ​แต่​แม่ตาย​ไปตั้ง​แต่​เธออายุยัง​ไม่ครบขวบ​เดียวช็อกที่ลำ​เพาตาย จากนั้น​เดียวมา​แอบดูรัตติกาลทุกวัน ​ไม่คิดจะ​เปิด​เผยว่าตัว​เอง​เป็นพ่อ​เพราะขณะนี้ลูกสาวมีชีวิตที่สูงส่ง กว่า​เขามาก รัตติกาล​ให้ดอกกุหลาบ​แดงของวังน้ำค้าง​แก่ชายพิ​การลึกลับทุกวัน จนวันหนึ่งระริน​เห็น ​และตอกหน้า รัตติกาลต่อหน้าธนนท์ว่า​แอบลักลอบพบชาย​ไม่มีหัวนอนปลาย​เท้าฉันชู้สาว รัตติกาล​แก้ตัว​ไม่​ได้ ​แต่บันลือ​ไม่​เชื่อว่ารัตติกาลจะ​เป็นดังที่ระรินกล่าวหา ระริน​ให้ตาพร​เป็นพยาน ตาพรบอกว่า​ไม่​เคย​เห็นรัตติกาลคุยกับชาย​แปลกหน้าที่​ไหน​เลย ระริน​โกรธที่ตาพร​โกหก​เข้าข้างรัตติกาล​ทั้งๆ ที่ตาพร​ก็อยู่กับรัตติกาลตอนรัตติกาลพบกับ​เดียว รัตติกาลกับธนนท์ร่วมมือกันจับสีมาลอกคราบ​ความ​เป็นทอม​ให้กลับ​เป็นหญิง ​เพราะ​เห็น​แล้วว่าจริงๆ สีมา​เป็นสาวที่สวยมาก ​และพ่อบันลือ​ก็อ้างว้างว้า​เหว่มานาน ควรจะมีคู่​ใจ​เสียที สีมา​แต่งกาย​เป็นสาว​แล้วสวยจริงๆ บันลือถูก​ใจมาก ระรินยังอาฆาตที่จะฆ่ารัตติกาลตลอด วันหนึ่งสบ​โอกาสที่สีมา​เอา​เครื่องดื่ม​ไป​ให้คุณๆ ​แต่ละคน​ในบ้าน ระริน​แอบ​ใส่ยาพิษ​ในนมสดของรัตติกาล ​แต่บันลือ​เกิดอยากดื่มนมสด ​เขา​เอาของรัตติกาล​ไปดื่มก่อน ​ให้สีมา​ไป​ทำ​ให้รัตติกาล​ใหม่ ระรินยินดี​เมื่อ​ได้ยิน​เสียงสีมาหวีดร้อง ​แต่​แล้วกลับตก​ใจ​เมื่อคนดื่มนมผสมยาพิษคือบันลือ หมอล้างท้องช่วยบันลือทัน ​เมื่อบันลือกลับบ้าน​ได้ ​เขาพูดกับระริน ​เขารู้ว่าระรินตั้ง​ใจจะฆ่ารัตติกาลรู้ว่าระรินหลงรักธนนท์ฉันชู้สาว ​แต่​เมื่อระริน​เป็นญาติ​เขา ​เขา​จึง​ไม่​ทำรุน​แรง​ถึงกับจะส่ง​เธอ​ให้ตำรวจ ​แต่​เขาจะตัดปัญหา​ให้ธนนท์​แต่งงานกับรัตติกาล ทุกอย่างจะ​ได้จบลง​เสียที วัน​แต่งงานของธนนท์กับรัตติกาล ​เดียวมา​แอบดู​ความรุ่ง​เรือง​ในชีวิตลูก ระริน​เห็น​แฉกลางงาน​แต่งว่า​เดียว​เป็นชายชู้ของรัตติกาล ​เดียว​เข้ามา​ในงาน บอกว่า​เขาคือชายที่มา​แอบดูรัตติกาลตลอด​เพราะ​เขารักรัตติกาล ​แต่​ไม่​ใช่ฉันชู้สาว ​เพราะ​เขาคือพ่อของรัตติกาล ทุกคนตะลึง​ไปหมด รัตติกาลดี​ใจที่​ได้พบพ่อที่​แท้จริงที่​เธอ​เฝ้าตามหามาตลอด ​เดียว​แฉอีกว่า​เขารู้จากชาวประมงว่าลำ​เพา​ไม่​ได้จมน้ำตาย​เอง ​แต่ระรินฆ่าลำ​เพา ระรินช็อค​ไม่ยอมรับ ​เธอวิ่ง​ไป​ในตึก ค้น​ได้ปืนพก ​แต่ก่อนที่จะกลับออก​ไป ระริน​เห็นภาพวาดของลำ​เพากลาย​เป็นลำ​เพาจริงๆ ​เดินออกมาจากภาพวาด มาชวนระริน​ไปด้วยกัน ระริน​ไม่ยอม​ไปด้วย จะยิงลำ​เพา ตาพร​เข้ามา​ในตึกระรินมอง​เห็นตาพร​เป็นลำ​เพา ยิงตาพรตาย ​แล้วระรินวิ่ง​เตลิดออกนอกตึก ​เธอกำลัง​เสียสติ ระรินวิ่ง​ไปท่าน้ำ ​เจอลำ​เพารออยู่ ลำ​เพาบอก​ให้​ไปด้วยกัน ​ไป​ในที่ที่จะ​ไม่มี​ใครตามระริน​เจอ ระรินดี​ใจว่าจะหนีพ้นที่ฆ่าตาพร ลง​เรือ​ไป ​ไป​ถึงทะ​เลจุดที่ระริน​เคยฆ่าลำ​เพา ระริน​เห็นลำ​เพาลุกลง​ไป​เดินบนผิวน้ำทะ​เล ระรินตก​ใจ ลำ​เพา​เรียกระรินลง​ไป ระรินนึก​ได้ว่าลำ​เพาตาย​แล้วระรินกลัวมาก จะหนี ​ในที่สุดระรินตกทะ​เล จมน้ำ ธนนท์ขับ​เรือพาบันลือมา​ถึง​เรือระรินที่ลอยอยู่ ​แต่หาระริน​ไม่​เจอ​แล้ว บันลือรู้ว่าระรินชด​ใช้กรรมที่ก่อ​ไว้​แล้ว บันลือ​เ​ก็บปืนที่ตกอยู่​ใน​เรือ​ไป ทุกคน​ในงาน​แต่งงานนึก​ถึง​เดียวขึ้นมา​ได้ ​แต่​เดียวหาย​ไป​แล้ว มี​แต่กระดาษพับวางอยู่​ใต้กุหลาบ​แดงดอกหนึ่ง ​เป็นจดหมายที่​เดียว​เขียนฝากฝังรัตติกาล​ให้กลับคืน​เป็นลูกสาวของบันลือ ​และสำนึก​ในบุญคุณของบันลือ ตัว​เขา​เองขอ​เพียงที่น้อยนิดบน​เกาะวังน้ำ-ค้าง​ให้​เขา​ได้อาศัยชมบุญ รัตติกาลทุกวัน รัตติกาลกับธนนท์สังหรณ์ รีบ​ไปที่​เกาะวังน้ำค้าง ร่าง​เดียวนอนคว่ำหน้า​เสียชีวิตอยู่​ในน้ำทะ​เล ​เขากระ​โดดหน้าผาลงมา

เพลงรักข้ามภพ 2552

เรื่องย่อ : เพลงรักข้ามภพ (2552/2009) นกยูง เป็นลูกสาวคนเดียวของ ก้องหล้า เกรียงไกร อดีตราชาเพลงลูกทุ่งที่เสียชีวิตบนเวทีเพราะเมาเหล้าอย่างหนัก นกยูงและศรีนวลผู้เป็นแม่จึงระเหเร่ร่อน แต่ได้ มังกร ครูใหญ่ของโรงเรียนมาอุปการะไว้ในฐานะภรรยาใหม่และลูกบุญธรรม หลายปีผ่านไป นกยูงซึ่งชอบร้องเพลงเหมือนพ่อโตขึ้น แต่การเรียนของนกยูงไม่ดีเลย เมื่อจะจบ ม.6 เกรดของนกยูงไม่ดี เพราะชอบหนีไปร้องเพลง มังกรก็ตามไล่ตีเพราะไม่ต้องการให้นกยูงเหมือนก้องหล้า โดยที่ศรีนวลพยายามห้ามแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ขณะเดียวกัน นำทาง หนุ่มเจ้าของธุรกิจโรงแรมหมื่นล้าน บิดมอเตอร์ไซด์หนีการตามล่าจากมือปืนที่ถูกจ้างจาก มาร์ค ผู้เป็นญาติและหุ้นส่วนโรงแรม และ มารวย และ มุตตา คู่หมั้นสาวของตัวเองและพ่อของมุตตาตามฆ่าเนื่องจากต้องการมรดกของตระกูล นำทางพลาดไปชนต้นลั่นทมใหญ่ที่หน้าบ้านของ ทินกร เกริกไกร ครูแต่งเพลงลูกทุ่งที่กำลังตกอับ อาการบาดเจ็บโคม่าปางตาย ไม้ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทและลูกน้องที่ซื่อสัตย์ของนำทางได้พาร่างของนำทางที่นอนสลบเป็นเจ้าชายนิทราส่งโรงพยาบาลเพื่อหลบหนี แต่ปิดบังทุกคนเอาไว้ไม่ให้รู้ว่านำทางอยู่ที่ไหน ครอบครัวของนำทางจึงเหลือแต่ ตามพร น้องสาวของนำทางคนเดียวเท่านั้นที่ยังเหลืออยู่ และไม่มีใครรู้ว่านำทางตายแล้วหรือยัง นกยูงซึ่งกำลังเคว้งคว้างอยู่กับชีวิตว่าจะเอาอย่างไรดี ก็มาเจอกับกายทิพย์ของนำทาง แต่นำทางจำไม่ได้แล้วว่าตัวเองเป็นใคร ชื่ออะไร และมีที่มาที่ไปอย่างไร ขอติดตามนกยูงไปด้วย เพราะติดตามมาตลอด มีแต่เพียงนกยูงเท่านั้นที่มองเห็นนำทาง นำทางสามารถทำอะไรที่คนทั่ว ๆ ไปทำไม่ได้ เพียงแต่ไม่สามารถหยิบจับอะไรได้และปรากฏกายได้เฉพาะเวลากลางคืนเท่านั้น ต่อมาที่งานวัดมีการประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง นกยูงด้วยความช่วยเหลือของศรีนวลให้หนีมังกรที่กำลังตามล่าอย่างหนักไปร้องเพลงลูกทุ่งจับพลัดจับพลูคู่กับนำทาง โดยใช้ชื่อว่า นกแก้ว นกขุนทอง ชนะเลิศขึ้นมา ศรีนวลขอฝากนกยูงไว้ให้อยู่กับครูทิน เพราะศรีนวลเคยเป็นทั้งคนรักเก่าและหางเครื่องในวงของครูทินมาก่อน เมื่อมาอยู่กับครูทินจริง ๆ นกยูงต้องเผชิญกับวิบากกรรมอีกรอบ เพราะถูกทั้ง มะปราง ลูกสาวของครูทินที่อยากเป็นราชินีลูกทุ่งแต่เสียงไม่ได้เรื่อง ส้มจี๊ด นักร้องเพลงลูกทุ่งที่น้ำเสียงใช้ได้แต่อายุมากแล้ว และบรรดาหางเครื่องทั้ง 4 คน กบ เขียด เชอรี่ กิ๊ปซี่ ของวงครูทินกลั่นแกล้งรังแกตลอด เพราะอิจฉานกยูงที่ร้องได้ดีกว่า ในขณะที่ครูทินเองเมื่อรู้ว่านกยูงคือลูกสาวของก้องหล้า ก็เกิดอคตินึกรังเกียจเพราะมีอดีตฝังใจกับก้องหล้ามาก่อน เพราะถูกก้องหล้าหักหลังทั้งเรื่องงานและความรัก จึงห้ามนกยูงร้องเพลงในบ้านและตีนกยูงอยู่บ่อย ๆ เพราะได้ยินเสียงนกยูงคุยกับผู้ชายคือ นำทาง แต่ไม่เห็นตัวจึงคิดว่านกยูงเอาผู้ชายมาซ่อนไว้ในบ้าน และไล่ให้นกยูงไปนอนในครัวแทน มีแต่เพียง น้อยหน่า ลำไย มังคุด 3 ตลกของวงเท่านั้นที่เห็นใจ ต่อมาทาง มาร์ค มารวย และมุตตาได้เดินทางมาที่บ้านของครูทินเพื่อสืบหาการตายของนำทาง ทางบ้านของครูทินจึงคิดว่าต้นลั่นทมนี้มีผีสิง เพราะมักได้ยินเสียงร้องเพลงที่ไพเราะบ่อย ๆ ตอนกลางคืนจากต้นลั่นทมนี้โดยที่ไม่เห็นตัวคนร้อง ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นเสียงของนกยูงที่ร้องเพลงคู่กับนำทาง มีแต่เพียงครูทินเท่านั้นที่คิดว่าเพราะและสงสัยว่าใครเป็นคนร้อง ขณะที่นำทางพยายามรื้อฟื้นความทรงจำว่าตัวเองเป็นใคร โดยมีนกยูงคอยช่วยเหลือ ขณะเดียวกันไม้ก็พยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้ร่างของนำทางฟื้นมาให้ได้ ทางมาร์คเองก็พยามยามจะจับตัวตามพรไปเรียกค่าไถ่เพื่อใส่ความไม้ และขจัดไม้ที่เป็นตัวขวางออกไป ต่อมานกยูงได้เข้าประกวดร้องเพลงเพื่อหานักร้องหน้าใหม่ที่เจ้าของบริษัท เพทาย และ พาที ผู้เป็นพ่อของเพทาย เป็นเจ้าของ นกยูงได้เป็นนักร้องแต่ก็ถูกเพื่อนนักร้องรุ่นเดียวกันกลั่นแกล้ง ขณะที่นำทางได้สืบหาจนรู้เค้าว่าตัวเองเป็นใครและเกี่ยวพันอะไรกับโรงแรมแม่น้ำ รามาด้า ที่ตัวเองเป็นเจ้าของ นกยูงติดต่อกับนำทางในเวลากลางวันได้ด้วยเสียงเพลงที่ร้องหากัน ในเวลากลางคืนที่ต้นลั่นทม จากแผนของมาร์คที่จับตัวตามพรไปเพื่อใส่ความไม้ แต่นำทางก็ได้ตามไปช่วยได้สำเร็จ และนกยูงก็ได้รู้จักกับตามพรโดยโกหกตามพรว่าเป็นตัวเองเป็นจิตแพทย์ ตามพรชอบนกยูงและขอให้นกยูงมาเป็นผู้ดูแลตน พร้อม ๆ กับไม้ที่ขอให้นกยูงไปร้องเพลงในโรงพยาบาลเพราะนำทางเมื่อได้ฟังเพลงของนกยูงแล้วอาการดีขึ้น และนำทางและนกยูงรู้ตัวแล้วว่าตัวเองเป็นใคร แต่ยังตามหาร่างของตนไม่พบ ต่อมาได้มีการประกวดแข่งขันเพลงลูกทุ่งในรายการ เส้นทางดาว นกยูงได้ตัดสินใจเข้าประกวด แต่ก็ยังเป็นห่วงครูทินที่นอนป่วยอยู่ นกยูงได้แอบส่งเงินไปช่วยเหลือโดยไม่ให้บอกว่าเป็นเงินใคร จึงรู้แต่เพียงว่าเป็นเงินของนำทาง ในรายการเส้นทางดาวนกยูงถูกกลั่นแกล้งสารพัด แต่ก็ผ่านเข้ารอบมาได้

หีบหลอนซ่อนวิญญาณ (2551/2008) พ.ศ. 2532 ณ คุ้มสายคำ จ. เชียงใหม่ แม่เลี้ยงสายคำ เจ้าของธุรกิจทอผ้าไหมผู้มั่งคั่ง ได้จัดงานเลี้ยงขันโตกเนื่องในวันคล้ายวันเกิดของตน โดยในงานมีการแสดงฟ้อนเล็บ ซึ่งหนึ่งในช่างฟ้อนคือเอื้องจันทร์ สาวงามที่หนุ่มๆ หมายปอง รวมทั้งขวัญเมือง สามีของเดือนวาด ลูกสาวคนโตของแม่เลี้ยง ส่วนพิมพ์ดาวลูกสาวคนเล็กของแม่เลี้ยงสายคำมีคู่หมายแล้วคือวรุณ พ่อเลี้ยงหนุ่มรูปงาม ซึ่งแม่เลี้ยงสายคำตั้งใจจะประกาศการแต่งงานของสองคนในงานเลี้ยงนี้ แต่วรุณกลับสารภาพว่าเขารักอยู่กับเอื้องจันทร์ ทำให้แม่เลี้ยงสายคำและพิมพ์ดาวโกรธมาก ในคืนนั้นวรุณแอบนัดกับเอื้องจันทร์เพื่อจะหนีตามกันไป โดยให้จุ่นลูกชายของมาลัยช่างทอผ้าเพื่อนของเอื้องจันทร์ มาบอกให้เอื้องจันทร์ไปรอที่โรงทอผ้าไหม เอื้องจันทร์รีบไปตามนัด แต่แล้วจู่ๆ เธอก็โดนทุบศีรษะจนหมดสติ คนที่ทำร้ายเธอคือแม่เลี้ยงสายคำและพิมพ์ดาว ทั้งสองนำร่างของเอื้องจันทร์ไปกลางป่าเพื่อฆ่าทิ้ง โชคดีเอื้องจันทร์ได้สติหนีรอดมาได้ แต่ก็มาเจอขวัญเมืองฉวยโอกาสจะปลุกปล้ำอีก เอื้องจันทร์เลยต้องหนีลงไปหลบในหีบเก็บผ้าโบราณ ขณะที่ขวัญเมืองกำลังจะเจอเอื้องจันทร์ เดือนวาดที่ตามหาขวัญเมืองอยู่ก็เข้ามาขัดจังหวะ ทำให้เดือนวาดเห็นพิรุธที่หีบเก็บผ้าใบใหญ่ พอรู้ว่าเอื้องจันทร์ซ่อนอยู่ในนั้นก็คิดว่าเอื้องจันทร์ต้องแอบลักลอบมาพบกับขวัญเมืองสามีเธอแน่ๆ เลยแกล้งลั่นกุญแจปิดตาย เอื้องจันทร์ตกใจมากเธอร้องขอความช่วยเหลือสุดเสียงแต่ไม่มีใครได้ยิน เดือนวาดสั่งให้บุญตา คนสนิทขนหีบไปทิ้งบึงน้ำหลังบ้าน ระหว่างที่กำลังขนจุ่นมาเห็นเหตุการณ์จึงร้องให้คนช่วย เดือนวาดเลยสั่งให้บุญตาฆ่าจุ่นแล้วทิ้งศพลงในบึงน้ำ ส่วนเอื้องจันทร์ก็โดนเดือนวาดและพิมพ์ดาวจับกดลงไปในหีบ เอื้องจันทร์ต่อสู้สุดชีวิต แต่ก็สู้แรงสองพี่น้องไม่ไหว ในที่สุดเอื้องจันทร์ก็โดนจับขังในหีบ แต่เฮือกสุดท้ายเอื้องจันทร์คว้าสร้อยทับทิมของเดือนวาดติดมือไปด้วย เดือนวาดสั่งให้บุญตาผลักหีบลงน้ำ เอื้องจันทร์จึงขาดใจตายอยู่ในหีบอย่างทรมาน ส่วนวรุณก็โดนลอบทำร้ายจนหมดสติ เมื่อตื่นขึ้นมาก็ไม่พบเอื้องจันทร์แล้ว แม่เลี้ยงสายคำและพิมพ์ดาวเลยใส่ความว่าเอื้องจันทร์หนีตามผู้ชายไป วรุณเสียใจมากและหายหน้าไปด้วยความตรอมใจ ส่วนมาลัยแม่ของจุ่นก็โศกเศร้าเสียใจที่ลูกชายตายไปจนกลายเป็นคนเสียสติ เรื่องราวในคืนนั้นจึงกลายเป็นความลับดำมืดที่ไม่มีใครรู้ว่าเอื้องจันทร์หายไปไหน มีเพียงอุ๊ยทาชายแก่ขี้เมาคนเฝ้าโรงทอผ้าไหมที่เป็นคนเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แต่ด้วยความกลัวจึงไม่กล้าปริปากบอกใคร หลังเหตุการณ์คืนนั้น แม่เลี้ยงสายคำก็ปิดตายโรงงานทอผ้าไหม แล้วย้ายครอบครัวลงไปทำธุรกิจที่กรุงเทพฯ พ.ศ. 2550 กรุงเทพ สายไหม(พิชญา ศรีเทพย์) ลูกสาวของขวัญเมืองและเดือนวาดที่เพิ่งเรียนจบ เธอเป็นสาวสมัยใหม่ที่มั่นใจในตัวเอง และต้องการจะทำธุรกิจโฮมสเตย์ที่คุ้มสายคำเรือนไทยเก่าแก่ของครอบครัว ซึ่งทุกคนในบ้านต่างพากันคัดค้าน แต่สายไหมก็รั้นไม่ยอมฟัง เธอเลยชวนติ่มซำ เพื่อนสนิทขึ้นไปดูสถานที่ที่เชียงใหม่ ระหว่างเดินทางสายไหมได้พบกับพรรษา นายตำรวจหนุ่มที่เพิ่งย้ายมารับราชการที่เชียงใหม่ พรรษาประทับใจในตัวสายไหมทันที เมื่อถึงคุ้มสายคำ สายไหมและติ่มซำได้พบกับอุ๊ยทา คนดูแลคุ้มที่ป่วยด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง และมาลัยหญิงบ้าที่อุ๊ยทาต้องดูแล บรรยากาศในคุ้มดูวังเวงน่ากลัวจนติ่มซำอยากจะหนีกลับ แต่สายไหมยืนยันว่าจะปรับปรุงบ้านและโรงงานผ้าไหมเก่าแก่ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิปให้ได้ กลางดึกคืนนั้น สายไหมฝันเห็นเด็กมากวักมือเรียกให้ตามไปที่บึงน้ำหลังบ้าน เด็กคนนั้นชวนเธอพายเรือออกไปกลางน้ำ แต่ก่อนที่สายไหมจะลงเรือ เกิดได้ยินเสียงกรี๊ดลั่นของติ่มซำซะก่อน สายไหมเลยรีบวิ่งกลับบ้านไปหาติ่มซำ ติ่มซำละล่ำละลักบอกว่าได้ยินเสียงต่างๆ มากมายในฝัน ทั้งเสียงกลอง เสียงกี่ทอผ้าที่ขยับโครมคราม เสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือเป็นภาษาคำเมือง สายไหมเลยปลอบใจว่า ติ่มซำ คิดฟุ้งซ่านไปเอง วันรุ่งขึ้นเรวัติ พ่อเลี้ยงหนุ่มเจ้าของโรงแรมได้ข่าวว่าสายไหมจะมาพัฒนาคุ้มสายคำและโรงทอผ้าไหมเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เขาจึงมาหาและทำเป็นชื่นชมในความคิดของเธอ แต่ความจริงเรวัติอยากจะเป็นเจ้าของคุ้มสายคำมากกว่า แต่ระหว่างที่สายไหมและเรวัติกำลังเดินดูโรงงานทอผ้าด้วยกัน จู่ๆ เธอก็หลงเข้าไปในห้องเก็บผ้าโบราณ สายไหมลองเปิดดูแล้วเกิดเหตุการณ์ประหลาดคล้ายถูกผลักลงไปในหีบ แล้วสายไหมก็ติดอยู่ในนั้นไม่สามารถออกมาได้ พรรษามาที่คุ้มสายคำเพราะนัดกับติ่มซำ เพื่อแลกกระเป๋าเดินทางที่สลับกันที่สนามบิน ทำให้รู้เรื่องที่สายไหมหายตัวไป เลยช่วยกันออกตามหา แล้วพรรษาก็ช่วยสายไหมออกมาได้ทันก่อนที่เธอจะเป็นอันตราย คืนต่อมาสายไหมได้พบกับเด็กชายอีกครั้ง เด็กพายเรือพาสายไหมออกไปกลางน้ำแล้วจู่ๆ เรือก็คว่ำ เด็กจมน้ำหายไป สายไหมรีบกระโดดลงน้ำตามไปช่วย แต่เด็กกลับดึงสายไหมลงไปใต้น้ำ เธอพยายามดิ้นรนจะเกือบจะหมดสติ แต่จู่ๆ เด็กกลับปล่อยร่างของเธอลอยขึ้นมา พอสายไหมรอดมาได้ก็ไปคาดคั้นจนอุ๊ยทาต้องเล่าความจริงให้ฟังว่า เด็กคนนั้นคือชื่อจุ่น เป็นลูกชายของมาลัยที่หายไปตั้งแต่ยังเด็ก มีคนเห็นวิญญานจุ่นแถวบึงน้ำบ่อยๆ เชื่อกันว่าจุ่นคงไปเล่นซนแล้วตกน้ำตายโดยไม่มีใครรู้ ติ่มซำกลัวจนสติแตกรีบเก็บของจะกลับกรุงเทพให้ได้ แต่สายไหมมั่นใจว่าจุ่นไม่ได้คิดจะทำร้ายเธอ แต่ต้องการให้เธอลงไปใต้น้ำเพื่อเหตุผลอะไรบางอย่าง สายไหมจึงขอให้พรรษามาช่วยเธอค้นหาความจริง พรรษาชวนดาบสนิท นายตำรวจคู่หู มาช่วยกันค้นหาบางอย่างใต้บึงน้ำ แล้วพรรษาก็เจอหีบไม้ขนาดใหญ่จมอยู่ใต้โคลนก้นบึง ซึ่งลักษณะของหีบเหมือนกับหีบใส่ผ้าโบราณในโรงทอผ้าไหม แต่ฝาหีบถูกปิดล็อคไว้อย่างแน่นหนา พอเปิดหีบออกทุกคนก็ตกใจแทบสิ้นสติ เมื่อพบว่าในหีบคือร่างของหญิงสาวในชุดฟ้อนเล็บ ศพนั้นเน่าเปื่อยจนหมดสภาพ เหลือสิ่งที่เป็นหลักฐานคือชุดผ้าไหม เล็บที่ทำจากทองเหลือง และทับทิมสยามเม็ดงามตกอยู่ก้นหีบ ในเมื่อสภาพการณ์บ่งชัดว่าเป็นการฆาตกรรม พรรษาจึงต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง เขาขอเก็บหีบเอาไว้เพื่อเป็นหลักฐาน รวมทั้งทับทิมเม็ดนั้น เพราะเป็นไปได้ว่าอาจเป็นของฆาตกร ข่าวลือแพร่สะพัดออกไป ชาวบ้านต่างเชื่อกันว่าศพในหีบคือผีแม่หญิงเอื้องจันทร์ ประกอบกับมีคนเห็นผีสาวในชุดช่างฟ้อนเล็บ มวยผมสูง หน้าขาวซีด สวมเล็บสีทองออกอาละวาดหลอกผู้คนจนเป็นข่าวลงหนังสือพิมพ์ ทำเอาชาวบ้านหวาดกลัวกันไปใหญ่ เรวัติเห็นเป็นโอกาสดี เลยเสนอซื้อคุ้มสายคำต่อจากสายไหมทันที ติ่มซำเลยช่วยเรวัติกล่อมให้สายไหมขายบ้านและที่ดินเพื่อจะได้กลับกรุงเทพ แต่สายไหมและพรรษารู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล จึงคอยสังเกตการณ์จนในที่สุดก็จับสาวชาวบ้านที่ปลอมเป็นผีเอื้องจันทร์ได้ หญิงคนนั้นสารภาพว่าเรวัติเป็นคนจ้าง ฝ่ายเรวัติพอรู้ว่าโดนจับได้ ก็รีบไปทำลายหลักฐานด้วยการเผาหีบเอื้องจันทร์ทันที แต่เรวัติกลับโดนอิทธิฤทธิ์ผีเอื้องจันทร์ทำร้ายจนตาย ด้านสายไหมก็เริ่มโดนผีเอื้องจันทร์ทำร้ายด้วยวิธีการต่างๆ พอเดือนวาดรู้เรื่องผีเอื้องจันทร์มาทำร้ายสายไหม เธอก็สั่งให้บุญตาหาวิธีปราบจนสำเร็จด้วยการสะกดวิญญาณแล้วเผาทำลายหีบ ทุกคนโล่งใจที่กำจัดผีเอื้องจันทร์ได้ แต่หารู้ไม่ว่าวิญญานของเอื้องจันทร์ได้เข้าสิงสู่ร่างของสายไหมเรียบร้อยแล้ว พรรษาที่กลับกรุงเทพไปกราบหลวงพ่อวรุณที่รับอุปการะเขาตั้งแต่เด็ก และบังเอิญเล่าเรื่องที่คุ้มสายคำให้หลวงพ่อฟัง จึงได้รู้ความจริงบางอย่างเกี่ยวกับเอื้องจันทร์ ทำให้พรรษาเชื่อว่าคนในครอบครัวของสายไหมน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเอื้องจันทร์ และเขาต้องสืบหาความจริงเรื่องนี้ให้ได้ก่อนที่สายไหมจะเป็นอันตรายมากกว่านี้ อาทิตย์ต่อมาในงานเดินแฟชั่นผ้าไหมประจำปีของบริษัท ผ้าไหมสายคำ ที่โรงแรมหรู สายไหมกับติ่มซำเป็นคนจัดงานนี้ งานแฟชั่นโชว์ดำเนินไปอย่างราบรื่น จนมาถึงโชว์ชุดพิเศษที่ติ่มซำเตรียมไว้ แต่แล้วจู่ๆ ทุกคนก็ต้องช็อคเมื่อมีเสียงกลองดังก้องกังวานจนแสบหู มีแสงสว่างจ้าที่กลางเวที ซ้ำร้ายยังมีหีบผ้าไหมขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ท่ามกลางความตื่นตระหนกของทุกคนในงาน สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อฝาหีบเปิดออก ร่างของช่างฟ้อนคนหนึ่งค่อยๆ ก้าวออกมาจากหีบ ทุกคนตกใจมากที่ช่างฟ้อนคนนั้นคือสายไหม ซึ่งนั่นหมายความว่าเอื้องจันทร์ได้ยึดร่างของสายไหม เพื่อจะได้แก้แค้นทุกคนที่ทำร้ายเธออย่างสาสม แล้วจะมีใครบ้างที่ต้องสังเวยความแค้นนี้ด้วยชีวิต? แล้วพรรษาจะช่วยชีวิตสายไหมให้รอดจากเงื้อมมือของเอื้องจันทร์ได้หรือไม่?

ภูตแม่น้ำโขง (2551)

เรื่องย่อ : ภูตแม่น้ำโขง (2551/2008) บัวผัน ชวน ทองมี เพื่อนรักกินข้าวกับไข่ประหลาดที่ได้มาจากริมแม่น้ำโขง แต่ทองมีปฏิเสธ บัวผันกินไข่แล้วเกิดกระหายน้ำอย่างแรง ต้องกระโดดลงเรือไปดื่มต่อกลางลำน้ำโขง ทองมีส่งเสียงให้คนช่วยจับบัวผัน ทิดเคน กระชากตัวบัวผันขึ้นจากน้ำ เธอตวาดเกรี้ยวกราดว่าเธอไม่ใช่บัวผัน และจมลงไปอยู่ใต้น้ำด้วยกัน เฒ่าเชียงหล้า และชาวบ้านได้แต่ภาวนาขอให้พระพุทธรูปพระเจ้าองค์คำคุ้มครองให้ทั้งสอง ปลอดภัย ทิดเคนรอดมาได้จึงบอกชาวบ้านว่าบัวผันถูกจองจำอยู่ที่เมืองใต้น้ำ นายแพทย์อัคนี ได้เดินทางเข้ามาทำวิจัยเรื่อง จิตเวชชุมชน และเข้าร่วมในพิธีเข้าทรงของ นางเทียม ชื่อ คำแพง ผู้ที่จะบอกข่าวบัวผัน พร้อมกับ สมัย และชาวบ้านเพื่อบันทึกวิดีโอ หมออุ่นเงิน ที่แต่งงานกับ เจ้านางโคมคำ อดีตคนรักของหมออัคนี และ เจ้าวรวงศ์ น้องชายของเจ้านาง ได้มาขอพบอัคนีเพื่อชวนไปดูพระธาตุประจำตระกูลที่พังลงมา เจ้าวรวงศ์คิดจะฆ่าอัคนีที่สลัดรักพี่สาว แต่แท้จริงแล้วอัคนีคิดกับเจ้านางโคมคำแค่น้องสาว เจ้าวรวงศ์กับหมออุ่นเงินวางยาพิษอัคนีแล้วทิ้งลงในแม่น้ำโขง ทำ ให้อัคนีได้พบกับ พญาจันหัวจระเข้ และ เจ้าแม่ทอหูก ภูตแห่งแม่น้ำโขง ที่จับตัวบัวผันไป เพราะต้องการแก้แค้นที่ชาติก่อนบัวผันกับหมออัคนีแอบรักกัน ทั้งที่หมออัคนีเป็นคู่สยุมพรของตน เจ้าแม่ทอหูกพยายามจะขังอัคนีไว้อีกคน แต่อัคนีจำเรื่องราวในอดีตไมได้จึงหนีรอดกลับมา บุญเรือน โศกเศร้ามากที่บัวผันลูกสาวหายไป และ หลวงพ่อจูม สามีก็บวชไม่สึก ไม่นานบัวผันก็กลับมาในสภาพที่ถูกเจ้าแม่ทอหูกสะกดจิต เจ้าแม่ทอหูกต้องการให้ทุกคนรวมทั้งหมออัคนีเข้าใจว่าบัวผันเป็นผี เพื่อจะได้เลิกรักบัวผันเสีย แต่หมออัคนีไม่ยอมเชื่อ และพยายามหาทางพิสูจน์ เจ้าแม่ทอหูกยิ่งเหิมเกริมหนัก พาบริวารออกไปอาละวาดฆ่าคน และจับหญิงสาวบริสุทธิ์ลงไปสังเวย พร้อมกับป้ายความผิดให้กับบัวผัน จนชาวบ้านพยายามจะจับบัวผันเผาทั้งเป็น แต่หมออัคนีไปช่วยห้ามปรามไว้ เจ้าแม่ทอหูกจึงจับบัวผันลงไปใต้บาดาลอีกครั้ง และบังคับให้บัวผันดื่มเลือดของนาง จนบัวผันเริ่มมีสภาพครึ่งคนครึ่งภูต และดุร้ายขึ้นกว่าเดิม บัวผันกลายเป็นภูตกลับมาฆ่าคนเพิ่มขึ้น รวมถึงเจ้าวรวงศ์ที่พยายามจะเข้าไปขโมยสมบัติในพระธาตุอีกด้วย เจ้า แม่ทอหูกสั่งให้บัวผันจับตัว จำปา หญิงสาวคนสุดท้ายไปสังเวยเพื่อตนจะได้เป็นอมตะ แต่หมออัคนีเข้าคล้องสร้อยที่คอของบัวผันไว้ จนกระทั่งบัวผันหมดฤทธิ์ ส่วนตัวเองก็ตามลงไปช่วยจำปาที่ใต้บาดาล และพบความจริงว่าที่แท้แล้ว เจ้าแม่ทอหูกเองต่างหากที่เป็นภูตแม่น้ำโขง หมออัคนีรีบกลับขึ้นมารวมกับหลวงพ่อจูม และชาวบ้านสวดอธิษฐานจนวัน เพ็ญเดือนสิบ ที่ประตูสามภพเปิดออก เจ้าแม่ทอหูกพยายามตั้งพิธีบูชายัญจำปาเข้าสู้ แต่วิญญาณของคนที่เจ้าแม่ทอหูกฆ่าตายถูกพระยายมปลดปล่อยออกมา เข้ามาช่วยมนุษย์จัดการกับเจ้าแม่ทอหูก จนในที่สุดเจ้าแม่ทอหูกก็อ่อนแรงและหมดฤทธิ์ลง พร้อมๆ กับเมืองบาดาลที่ถูกทำลายลงไปด้วย 20 ปีผ่านไป หมออัคนีกับบัวผันแต่งงานกัน และให้กำเนิดลูกสาวชื่อ ใบบัว ซึ่งหน้าตาเหมือนบัวผันไม่ผิดเพี้ยน ใบบัวเดินทางมายังนครพนมเพื่อเยี่ยมเยียนบุญเรือน และเผลอออกไปเดินเล่นริมแม่น้ำ จนพบไข่ขนาดใหญ่วางอยู่ โดยไม่รู้ว่าความเคลื่อนไหวทุกอย่าง อยู่ในสายตาอำมหิตของเจ้าแม่ทอหูก ภูตแม่น้ำโขงที่ไม่มีวันถูกกำจัดไปง่ายๆ

มายาพิศวาส (2550/2007) ม.ร.ว.อมรา มหเวช กำลังตั้งครรภ์ได้ 7 เดือนก็พา อิศรา บุตรชายวัย 2 ขวบและ สมวงศ์ คนรับใช้ย้ายตาม จอห์น สามีชาวกรีกมายังประเทศบ้านเกิด จอห์นพาอมรามาอยู่ที่คฤหสาสน์กรีกโบราณที่มีรูปปั้นเมดูซา ผู้หญิงหน้าตาน่ากลัวมีหัวเป็นงู ซึ่งตระกูลของจอห์นบูชามาหลายชั่วอายุคนแล้ว หากใครทำลายจะต้องคำสาปที่น่ากลัว อมราไม่เชื่อลงมือทุบรูปปั้นด้วยมือของตัวเอง ลำแสงจากรูปปั้นเข้าไปที่ท้องของอมรา จอห์นกลัวมากได้แต่สวดมนต์อ้อนวอนให้พระเจ้าช่วย จนถึงวันที่อมราคลอดลูกออกมาเป็นแฝดหญิงชื่อว่า อรชุมา และ อินทิรา อรชุมาเป็นเด็กเรียบร้อย ขณะที่อินทิราเป็นเด็กช่างพูดใจร้อน ในวันเกิดครบ 6 ขวบพี่เลี้ยงก็กรีดร้องเมื่อเห็นอินทิรากลายเป็นปีศาจ มีหัวเป็นงู ตาสีแดง จ้องมองมาที่ตัวเองจนร่างกายเป็นหิน อมรารู้ว่าคำสาปเมดูซาตามมาเล่นงานเธอแล้ว ทำให้เธอเกลียดและกลัวอินทิรามาก และพาอิศรา, อรชุมา และสมวงศ์ หนีกลับเมืองไทย และไม่บอกที่อยู่ให้ใครรู้ จอห์นกับอินทิราเสียใจมาก อินทิราหวาดกลัวและน้อยใจแม่ที่เธอรักเป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอกลายเป็นปีศาจ และทิ้งเธอไป 20 ปีผ่านไปอินทิราเติบโตเป็นสาวอยู่กับจอห์นที่ประเทศกรีก อิศราก็เป็นสูตินรีแพทย์เชี่ยวชาญการรักษาเด็กที่มีโครโมโซมผิดปกติ ส่วนอรชุมาเป็นครูสอนศิลปะในโรงเรียนประถม แม้อิศรากับอรชุมาจะอยู่เมืองไทยแต่ทั้งคู่ยังรักพ่อและน้องสาว ทั้งสองแอบติดต่อกับจอห์นมาตลอดโดยอมราไม่รู้ เมื่อจอห์นเสียชีวิตอินทิราจึงเดินทางมาที่บ้านฟ้าหยาด การมาของอินทิราทำให้อมราตกใจกลัว วางแผนฆ่าอินทิราด้วยดาบเช่นเดียวกับวิธีฆ่าเมดูซา แต่อมราพลาดท่าถูกอินทิราที่โกรธจัดกลายร่างเป็น “กอร์กอน” จ้องมองจนร่างกายเป็นหิน อิศราและอรชุมาตกใจมาก แต่สงสารอินทิรามากกว่า ทั้งคู่สัญญา ว่าจะรักและดูแลอินทิราตลอดไป จึงปิดบังเรื่องอรชุมามีฝาแฝดแล้วให้อินทิราซ่อนตัวอยู่ในห้องใต้ดิน จะออกมาได้ก็ตอนกลางคืนและห้ามออกนอกบ้านเด็ดขาด อิศราไปพบ น.พ.ทรงวิทย์ เวชการเจริญ เจ้าของโรงพยาบาลที่อิศราทำงานอยู่ เพราะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความผิดปกติในเด็กเพื่อหาทางรักษาอินทิรา ทำให้อิศราได้พบกับ มินตรา ลูกสาวคนเดียวของหมอทรงวิทย์ที่เพิ่งเรียนจบมาเป็นเลขาฯ ให้พ่อ มินตราหลงรักอิศราทันที และอาสาช่วยเหลือเรื่องข้อมูลที่อิศราต้องการ มินตรามักหาข้ออ้างให้อิศราพาไปเที่ยวด้วย อิศรารู้ทันแต่ไม่กล้าปฏิเสธ อินทิราทนความอึดอัดไม่ไหวปลอมตัวเป็นอรชุมาออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน จึงรู้ว่าอรชุมามีคนรักคือ กิ่งกวินทร์ สถาปนิกหนุ่ม อินทิรากลัวว่าอรชุมาจะรักกิ่งกวินทร์มากกว่าตน จึงสวมรอยเป็นอรชุมาไปบอกเลิกกับกิ่งกวินทร์ แต่กิ่งกวินทร์ไม่ยอมทำให้อินทิราโกรธจ้องมองกิ่งกวินทร์จนร่างกลายเป็นหิน อยู่ในบ้านฟ้าหยาดนั่นเอง ป้าน้อย เห็นเหตุการณ์เข้าก็เป็นลม อิศราให้สมวงศ์และ เครือ ยกร่างกิ่งกวินทร์ไปเก็บไว้ในห้องลับที่เก็บรูปปั้นหินของอมรา แล้วทำลายหลักฐานทั้งหมด บอกว่าสิ่งที่ป้าน้อยเห็นไม่ใช่ความจริง ทำให้ป้าน้อยเสียสติป้ำๆ เป๋อๆ จำอะไรไม่ได้ เมื่ออรชุมารู้ว่ากิ่งกวินทร์กลายเป็นหินก็เสียใจมาก อิศราและอรชุมารู้ว่าอินทิราหวงพวกตนมากผิดปกติ อิศราสั่งอินทิราห้ามปลอมตัวเป็นอรชุมาอีกเด็ดขาด เมื่อกิ่งกวินทร์หายตัวไป กรพินทร์ ( ก้อย ) น้องสาวของกิ่งกวินทร์จึงชวน ร.ต.ท.วศิน นายตำรวจหนุ่มเพื่อนสนิทของกิ่งกวินทร์ ที่รักก้อยเหมือนน้องสาวแท้ๆ ไปตามหาที่บ้านฟ้าหยาด อิศรากับอรชุมาปฏิเสธแต่ป้าน้อยใส่นาฬิกาของกิ่งกวินทร์เดินผ่านมา แล้วจู่ๆ ป้าน้อยก็สติแตกขว้างนาฬิกาคืนให้ก้อยแล้ววิ่งหนีไป วศินเอาหมายศาลมาค้นที่บ้านฟ้าหยาดแต่ไม่พบอะไร ก้อยคิดช่วยหาหลักฐานจึงมาสมัครเป็นคนรับใช้ อิศราสงสารก้อยจึงรับมาทำงานเลขาฯ ดูเอกสาร ความร่าเริงของก้อยทำให้อิศราหลงรักเธอ แต่ก้อยต้องทำตาม กฎของบ้านคือ ห้ามขึ้นตึกใหญ่และออกมาเดินเพ่นพ่านตอนกลางคืน มินตรามาตีสนิทกับอินทิราจึงได้เจอกับก้อย มินตราแกล้งก้อยทำให้ก้อยได้รับบาดเจ็บ อิศราก็มารักษา มินตราเอาเรื่องอิศราใกล้ชิดกับก้อยไปบอกอินทิรา อินทิราปลอมตัวเป็นอรชุมามาต่อว่าก้อย สมวงศ์เห็นอินทิรามาต่อว่าก้อยก็เป็นห่วงความปลอดภัยของก้อย หาทางไล่ก้อยออกจากบ้าน ป้าน้อยเห็นก้อยคุยกับอรชุมาบ่อยๆ ก็มาบอกก้อยว่าอรชุมาเป็นปีศาจงู ก้อยไม่เชื่อเพราะเห็นว่าป้าน้อยสติไม่ดี วศินมาเจออรชุมาบ่อยๆ เพื่อสืบเรื่องกิ่งกวินทร์ ทำให้ทั้งคู่สนิทกันและมีใจให้กัน อินทิราปลอมตัวเป็นอรชุมาไปสอนหนังสือให้เด็ก แต่เด็กกลัวเลยโมโหจ้องเด็กจนกลายเป็นหินต้องโทร.บอกอิศราให้มาช่วย พ่อแม่เด็กมารับลูกไม่เจอลูกก็ไปแจ้งความ วศินเป็นเจ้าของคดีเรียกอรชุมามาสอบปากคำ แต่มีพยานช่วยเหลือจนรอดมาได้ อรชุมาโกรธอินทิรามากก็ทะเลาะกัน มินตราไปวิ่งเต้นให้ผู้ใหญ่ย้ายวศินออกจากพื้นที่ที่รับผิดชอบ วศินโกรธมากไปโวยวายกับอิศราจนชกต่อยกัน อิศราสั่งให้อรชุมาเลิกคบกับวศิน พี่น้องจึงทะเลาะกัน วศินมาหาอรชุมาแต่พบอินทิราปลอมตัวมา อินทิราหลงรักวศินและคิดว่าวศินรักตน จึงบอกอรชุมาว่าวศินมีใจให้และสั่งห้ามอรชุมาเข้าใกล้วศิน อรชุมาโกรธมากไม่ยอมให้อินทิราพรากคนที่ตัวเองรักไปอีกแล้ว วันหนึ่งมินตรามาที่บ้านฟ้าหยาด เจ้ากี้เจ้าการกับอินทิราจนอินทิราโกรธจ้องร่างมินตราจนกลายเป็นหิน แล้ววิ่งหนีเข้าไปในห้องหนังสือ ก้อยตามไปจนได้เห็นอินทิราบูชาเมดูซา อินทิราเห็นก้อยก็ต่อว่าอย่างรุนแรง อิศราเข้ามาพาก้อยออกไปได้ทันพอดี อินทิราให้อิศราไล่ก้อยออกแต่อิศราไม่ยอม อินทิรายิ่งแค้นปลอมตัวเป็นอรชุมาไปไล่ก้อยออก แต่ก้อยไม่ยอมบอกว่าคนที่ไล่ก้อยได้มีแต่อิศราคนเดียว ก้อยเถียงจนอินทิราโกรธกลายร่างเป็นกอร์กอน เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป และเรื่องราวทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร ติดตามชมได้ในละคร “มายาพิศวาส

สืบลับรหัสรัก 2550

สืบลับรหัสรัก (2550/2007) เพราะการฆ่าตัวตายอย่างมีเงื่อนงำของ แป๋ว (ชลธิชา นวมสุคนธ์) หลานสาวของรัฐมนตรี วิเศษ (ดิลก ทองวัฒนา) ผู้มีอิทธิพล ทำให้ อนนต์ (ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) ตำรวจลับถูกตามมาสืบคดีนี้อย่างเร่งด่วน โดยมี ติณณภพ (เอราวัต เรืองวุฒิ) ชายหนุ่มผู้มีญาณวิเศษซึ่งทำงานช่วยราชการอย่างต่อเนื่องมาเป็นที่ปรึกษาให้ อนนต์และติณณภพสงสัยว่าลัทธิโซเลย ลัทธิบูชาดวงอาทิตย์เป็นพระเจ้าน่าจะอยู่เบื้องหลังการตาย ในขณะเดียวกัน หนึ่งฤทัย (สุนิสา เจทท์) หรือหนึ่ง สาวสวยเจ้าของกิจการเครื่องหอมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศได้ขอความช่วยเหลือให้ ติดตามตัวน้องชาย ธาริต (อติวัฒน์ เที่ยงมงคล) หรือสอง ซึ่งหายตัวไปหลังจากเข้าร่วมเป็นสมาชิกลัทธิ ติดตามต่อได้ใน สืบลับรหัสรัก

ดั่งดวงหฤทัย 2550

เรื่องย่อ : ดั่งดวงหฤทัย (2550/2007) รังสิมันต์ เจ้าหลวงแห่งกาสิก รู้ข่าว เจ้าหญิงมณิสรา พระคู่หมั้นจากแคว้นทานตะ หายตัวไปที่รอยต่อชายแดนสามแคว้น กาสิก พันธุรัฐ ทานตะ เชื่อว่าเจ้าหญิงหายเข้าไปใน พันธุรัฐ จึงตัดสินใจสืบข่าวนี้ด้วยพระองค์เอง เจ้าหญิงมณิสรา ตัดสินใจหลบหนีเอง เพราะไม่ต้องการแต่งงานกับ เจ้าหลวงกาสิก ผู้มีชื่อเสียงด้านความโหดเหี้ยม เจ้าหญิง ควบม้าหนีเข้ามาในชายแดน พันธุรัฐและติดตาข่ายล่าสัตว์ โชคดีได้รับความช่วยเหลือจาก เจ้าชายทยุติธร องค์รัชทายาทแคว้นพันธุรัฐ เจ้าชายพาเจ้าหญิงไปรักษาตัวที่ตำหนักป้อมปืน เจ้าหญิงทรรศิกา พระขนิษฐาของ เจ้าชายทยุติธร ทราบข่าวจึงไปทูลเชิญ เจ้าหญิงมณิสรา มาประทับฝ่ายใน แต่ระหว่างทาง เจ้าหญิงทรรศิกา ถูก เจ้าหลวงแห่งกาสิก จับไปเพื่อเป็นตัวประกัน ทั้งสองมีโอกาสใกล้ชิดและเรียนรู้กันและกัน สาธิน เสนาบดีมหาดไทยของกาสิกร้อนใจเมื่อติดต่อเจ้าหลวงไม่ได้ มีนา ลูกสาวของ สาธิน เติบโตมาพร้อมกับเจ้าหลวง เบนลี และ ราชิด เจ้าหลวงเอ็นดู มีนา เหมือนน้องสาว แต่ มีนา แอบหลงรักเจ้าหลวง มีนา ไปดักพบเจ้าหลวง จึงรู้ว่าเจ้าหลวงจับเจ้าหญิงมาเป็นเชลย พระราชเวที แห่งพันธุรัฐ เสด็จกลับ จากแปรพระราชฐาน ทราบเรื่อง เจ้าหญิงทรรศิกา หายไป จึงสั่งให้ มณิสรา มาประทับที่ฝ่ายใน และสังเกตเห็น ทยุติธร และ มณิสรา มีกิริยาแปลกๆต่อกัน ดั่งดวงหฤทัย ด้าน รังสิมันต์ พา ทรรศิกา มายังตำหนักอิสินธร และให้เจ้าหญิงปฏิบัติ ภารกิจพร้อมพระองค์ เจ้าหลวงตัดสินใจให้ ราชิด บอก สาธิน ให้ส่งข้อเสนอไปยังพันธุรัฐ ให้รับผิดชอบในการเสื่อมเสียพระเกียรติของ เจ้าหญิงมณิสรา และกาสิก จะรับผิดชอบต่อ เจ้าหญิงทรรศิกา แต่สาธิน ไม่ยอมส่งสารนี้ และลอบวางยาฆ่า เสนาบดีมหาดไทย มีนา ตกใจที่พ่อคิดเป็นใหญ่ ตั้งใจจะบอกแผนการต่อเจ้าหลวง แต่เมื่อรู้ว่าเจ้าหลวงรัก ทรรศิกา มีนา เสียใจมาก จึงร่วมมือกับพ่อล้มราชบัลลังก์ เจ้าหญิงทรรศิกา แอบได้ยินข้อเสนอ ที่เจ้าหลวงส่งไปเลยน้อยใจ จึงจะให้ ราชิด พาหนี แต่โดนเจ้าหลวงจับได้ในที่สุดเจ้าหลวง สารภาพรัก เจ้าหญิงทรรศิกา ทั้งสองคนเข้าใจกัน เจ้าหลวงตกลงส่ง ทรรศิกา กลับพันธุรัฐ และมอบมงกุฎแห่งกาสิกให้ ระหว่างทาง สาธิน ส่งคนมาลอบปลงพระชนม์เจ้าหลวง ถูกยิงบาดเจ็บสาหัส ทรรศิกา พาเจ้าหลวงไปผ่าตัดที่ตำหนักป้อมปืน พระราชเวที สั่งให้ มณิสรา คอยดูแลเจ้าหลวงในฐานะพระคู่หมั้น ในที่สุด เจ้าหลวงรังสิมันต์ ตัดสินใจบุกเข้าไปหา พระราชเวที ทูลเรื่องความรู้สึกที่มีต่อ เจ้าหญิงทรรศิกา ขออภิเษกกับเจ้าหญิง ราชิด พา มีนา มาที่พันธุรัฐ รังสิมันต์ คิดว่า มีนา กลับตัวกลับใจ แต่ มีนา กลับจับตัว ทรรศิกา ไป รังสิมันต์ ยกพลไปกาสิก ทันที แต่กลับตกอยู่ในวงล้อมของ สาธิน รังสิมันต์ จะช่วย ทรรศิกา ซึ่งเป็น ดั่งดวงหฤทัย

แสงดาวแห่งหัวใจ 2550

แสงดาวแห่งหัวใจ (2550/2007) แสงดาวแห่งหัวใจ เป็นเรื่องราวของ ธาม พนักงานธนาคารสหัสวรรษ หนุ่มอ่อนโยนอารมณ์ดีมีชีวิตเรียบง่ายเคยชินกับความจำเจไม่กล้าตัดสินใจ ลังเลขาดความเชื่อมั่น ธามแอบมอง นภสร หญิงสาวลูกคนเล็กเจ้าของธนาคารเหมือนหมามองเครื่องบินไม่กล้าเผลอใจไปเด็ดดอกฟ้า ต่างจาก ชนะพล เพื่อนร่วมรุ่นที่ประกาศตัวตั้งแต่ต้นว่าจะพิชิตใจนภสรทำให้เธอยอมรับเขาเป็นคู่รักให้ได้ ชนะพลหาโอกาสใกล้ชิดกับนภสรทุกครั้งที่มีโอกาส ทำให้ธามมองชนะพลด้วยสายตาอิจฉาทุกครั้ง ธามเป็นเด็กกำพร้า พ่อแม่ถูกโจรฆ่าตายต่อหน้าต่อตาตั้งแต่ยังเด็ก มีชีวิตอยู่ท่ามกลางความหวาดผวาและหวาดกลัว ธามอาศัยอยู่กับ ลุงนพ เพื่อนสนิทคนเดียวของพ่อที่เอามาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก ลุงนพพยายามปลูกฝังความเชื่อมั่นและกล้าหาญให้ธามแต่ไม่เป็นผล อาจเป็นเพราะปมความหวาดกลัวที่เห็นพ่อแม่เสียชีวิตต่อหน้าต่อตาก็เป็นได้ ช่วงระยะ 2-3 ปีหลัง ธามซึ่งร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้ว มีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นกับตัวเองอย่างคิดไม่ถึง เขามักปวดหัวจี๊ดๆ บ่อยครั้ง แต่ร่างกายธามกลับมีพลังพิเศษตอบสนองอาการปวดหัวนั้นอย่างผิดมนุษย์ เช่นหลายอาทิตย์ก่อน…ภายหลังอาการปวดหัวจู่ ๆ เขาก็มีอำนาจจิตดึงข้าวของใกล้ตัวได้ด้วยวิธีง่าย ๆ แค่จ้องเขม็งไปที่สิ่งของเหล่านั้น วันต่อมา…หลังปวดหัวเล็กน้อย ธามกลับมีกำลังมาจากไหนไม่รู้ ทำให้ทำงานบ้านได้เป็นชั่วโมง ๆ โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย หนำซ้ำยังรวดเร็วผิดปกติซะอีก อีกวันหนึ่งต่อมา…ธามเกิดอาการแปลกประหลาดอยู่ยงคงกระพันขึ้นมากะทันหัน เผลอทำมีดปาดมือแต่กลับไม่มีแผลเลือดออกเลยสักนิด แต่ความสามารถพิเศษเหล่านี้มาไม่นาน เหมือนกับอาการปวดหัวของธามที่มาเยือน เมื่อธามเล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้เพื่อน ๆ ฟังจึงไม่มีใครเชื่อ หนำซ้ำยังทำให้ความมั่นใจในตัวเองของเขาเสื่อมถอยลงไปอีก เพราะเริ่มคิดว่าตัวเองบ้าเหมือนที่คนอื่นคิดแล้ว ยิ่งสะสมความไม่มั่นใจในตัวเองมากขึ้นเท่าไหร่ ชีวิตของธามยิ่งแย่ลงไปเรื่อย ๆ ธามปล่อยให้โอกาสดีในชีวิตลอยผ่านไปอยู่เสมอ อย่างน้อยก็สองครั้ง… ครั้งหนึ่งธามกับ วินธุ เพื่อนซึ่งรักในเสียงเพลงเหมือน ๆ กัน ต่างกันที่หลายคนบอกว่าธามร้องและแต่งเพลงดีกว่าวินธุเสียอีก วันหนึ่งวินธุชวนธามเข้าสมัครประกวดร้องเพลงชิงแชมป์ประเทศไทย แต่ด้วยความไม่มั่นใจธามกลับปฏิเสธและปล่อยให้วินธุไขว่คว้าความฝันนั้น ไม่นานวินธุกลายเป็นซูเปอร์สตาร์นักร้องดังชื่อก้องของเมืองไทย ในขณะที่ธามยังคงเป็นพนักงานธนาคารนั่งอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์เช่นเดิม ครั้งที่สองเมื่อธนาคารเปิดโอกาสให้พนักงานสอบแข่งขันชิงตำแหน่งผู้บริหารใหม่ ธามเป็นทั้งคนเก่งและคนดีเพื่อนร่วมงานยกให้เป็นตัวเก็งที่จะชนะเลิศ แต่เพราะความไม่มั่นใจในตัวเอง ธามสละโอกาสนั้นให้ชนะพลเหยียบหัวเพื่อนร่วมงานทุกคนไต่เต้าไปสู่ความสำเร็จ หลังจากนั้นไม่นานสาขาของธนาคารสหัสวรรษถูกโจรปล้น และจำเพาะเจาะจงมาปล้นวันที่นภสรพาพนักงานรวมทั้งธามไปเยี่ยมชมกิจการ นภสรถูกจับเป็นตัวประกันเป็นลมล้มพับไปตรงนั้น ส่วนธามจะด้วยเพราะตื่นเต้นหรือตื่นกลัวก็ไม่ทราบได้ เขาปวดหัวรุนแรงมากกว่าทุกครั้ง…หลังจากปวดหัวธามเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขามีความรวดเร็วและมีเรี่ยวแรงพลังดุจช้างสาร ช่วยนภสรรอดจากอันตรายและเล่นงานโจรจนสลบเหมือด แต่หลังจากนั้นตัวเองกลับเป็นลมล้มตึงหมดเรี่ยวแรงไปเสียเฉย ๆ นภสรจึงไม่เห็นความดีในครั้งนี้ของเขา ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนช่วยเธอ ซึ่งสร้างความไม่มั่นใจในตัวเองให้กับธามอีกเป็นทวีคูณ ด้วยตำแหน่งใหม่ชนะพลสามารถเอาชนะใจนภสร เธอเปิดโอกาสให้เขาใกล้ชิดมากกว่าเดิมจนเป็นเหมือนว่าที่แฟนหนุ่มคนหนึ่ง นภสรเป็นสาวเชื่อมั่นในตัวเองมีความรู้บริหารงานคล่องแคล่ว เป็นที่รักของพี่ชายคนโตคือ ดิตถ์ และ กณิศ พี่ชายคนรองเป็นอย่างยิ่ง เธอคือนางในฝันของหนุ่มหลายคน ธามได้แต่เฝ้ามองชีวิตคู่รักสดชื่นสวยงามเหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบระหว่าง ชนะพล กับ นภสร ด้วยแววตาแสนเศร้าและรันทดใจ แล้วเคราะห์กรรมก็กระหน่ำเข้าใส่ชีวิตธาม เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วประเทศ ธนาคารสหัสวรรษขาดทุนอย่างหนัก ดิตถ์ ประธานธนาคารฯ หมดทางแก้ไขปัญหาฆ่าตัวตาย กณิศและนภสรต้องเรียกประชุมผู้บริหารเพื่อแก้ไขปัญหา ทางออกเดียวที่ทำได้คือต้องเลย์ออฟพนักงาน ชนะพลพิจารณารายชื่อพนักงานที่ต้องโดนเลย์ออฟด้วยตัวเอง เดาได้ไม่ยากว่าพนักงานคนแรกที่จะต้องถูกชนะพลกาชื่อพิจารณาให้ออกจากงานก็คือ ธาม พนักงานที่ทำงานมานานแต่อยู่ในตำแหน่งเดิม ๆ โดยตลอด เพราะไม่มีความเชื่อมั่นและไม่กล้าตัดสินใจในทุกเรื่อง “งาน” สิ่งเดียวที่ยืนยันความมีค่าในการมีชีวิตอยู่ของธามต้องสูญสิ้น ธามขอร้องชนะพลแต่ไม่เป็นผล ชนะพลไม่มีวันยอมอ่อนข้อให้กับอดีตคู่แข่งเป็นอันขาด เขายืนยันคำพูดเดียวคือธามจะต้องออกจากธนาคารไปเพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ หนำซ้ำเมื่อกลับมาบ้านธามต้องทุกข์แสนสาหัส เมื่อญาติคนเดียวอย่างลุงนพถูกขี้ยาเมายาบ้าฆ่าตาย เพราะลุงนพเอาตัวเข้าแลกกับเด็กที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ที่จะถูกปาดคอ ธามร้องไห้ปิ่มว่าจะขาดใจ ปวดหัวอย่างรุนแรงเป็นลมล้มคว่ำหมดสติไปคาบ้าน เมื่อฟื้นตื่นขึ้นมาธามต้องพบความจริงที่เจ็บปวด หมอวินิจฉัยว่าธามมีเนื้องอกประหลาดในสมองเหลือเวลาอยู่บนโลกอีกไม่นาน เป็นเนื้องอกที่ขึ้น ณ จุดสำคัญที่สุดอาจทำให้ร่างกายหลั่ง “อาดรินาลีน” มากหรือน้อยกว่าปกติ ซึ่งยังไม่มีใครทราบผลของอาการนี้… ธามสิ้นหวังทุกสิ่งในชีวิตจบสิ้น ด้วยความเสียใจทำให้เขาคิดสั้นวางแผนจบชีวิตอย่างรอบคอบรัดกุม แต่มีอันต้องคลาดแคล้วความตายไปได้ทุกหน ครั้งแรกเมื่อเขาโดดลงมาจากยอดตึกระฟ้า ร่างกระทบกับคอนกรีตด้านล่าง แต่ร่างกายกลับไม่เจ็บปวด เลือดที่ไหลออกมาจากร่างหยุดไหลอย่างรวดเร็ว ร่างกายสามารถรักษาตัวเองกลับเป็นปกติราวปาฏิหาริย์ ครั้งต่อมา…ธามตัดสินใจวิ่งออกไปกลางถนนตั้งใจจะให้รถเทรเลอร์คันใหญ่บดขยี้ให้ร่างแหลกเหลว แต่สิ่งที่แหลกกลับเป็นรถเทรเลอร์ที่พุ่งเข้ามาชน ธามมีร่างกายแข็งแรงขึ้นอย่างมหัศจรรย์ อีกครั้ง…ธามจะไปซื้อปืนมายิงหัวตัวเอง ร้านปืนที่จะไปซื้อกลับโดนโจรปล้น ตำรวจมาปิดล้อมเต็มไปหมด ธามตั้งใจสละชีวิตต่อสู้กับโจรด้วยมือเปล่าจะได้ตายสมใจ แต่เขากลับพบความสามารถพิเศษอีกอย่าง นั่นคือสามารถต่อสู้กับโจรด้วยมือเปล่าด้วยความเฉียบขาดและรุนแรง ปราบโจรนับสิบได้อย่างง่ายดาย ครั้งนี้นอกจากจะตายไม่สำเร็จแล้วธามยังสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะคนดีของสังคม หากแต่ทุกครั้งหลังจากร่างกายธามหลั่งสารพิเศษออกมา เขาจะปวดหัวหนักอ่อนเพลียรุนแรงถึงขั้นยืนไม่อยู่ ต้องนอนนิ่ง ๆ พักให้ร่างกายรักษาตัวเองสักระยะหนึ่งจึงจะกลับมาดำรงชีวิตได้เหมือนคนธรรมดาทั่วไป ธามเบื่อหน่ายกับชะตากรรมที่เล่นตลกกับชีวิตตัวเอง จะตายก็ไม่ได้…ครั้นมีชีวิตอยู่ก็ไร้คุณค่า เย็นวันหนึ่งขณะที่เขาเดินอยู่กลางสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาสูงลิบ ตั้งใจจะจบชีวิต ณ ก้นบึ้งของสายน้ำเบื้องล่าง ยืนเก้ ๆ กัง ๆ นิ่งอยู่นานนับชั่วโมง…ฉับพลันมีรถตู้คันหนึ่งแล่นปราดเข้ามาจอดที่กลางสะพาน ประตูรถตู้เปิดออก ชายลึกลับโยนร่างเด็กชายอายุ 10 ขวบ ลอยร่วงลงสู่พื้นน้ำเบื้องล่าง ธามกลายเป็นฮีโร่จำเป็นอีกครั้ง เขาโดดลงไปช่วยเด็กชายขึ้นมาจากน้ำเด็กชาย แนะนำตัวว่าเขาชื่อ ต้นไม้ ถูกจับมาจากโรงเรียนเพื่อเอามาฆ่า บนรถตู้เขาได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับการแย่งชิงสมบัติของครอบครัว แต่จิตใจของธามยามนี้ไม่มีจะจิตจะใจอยากรับรู้เรื่องอะไรได้แต่พยักหน้า ตั้งใจจะเอาเด็กคนนี้ไปส่งบ้านให้เร็วที่สุด เพื่อจะปฏิบัติภารกิจฆ่าตัวตายให้สัมฤทธิ์ผลเสียที ต้นไม้อ้างว่าไม่อยากกลับไปตายที่บ้าน ทั้งบ่ายเบี่ยง ทั้งวิ่งหนี กระทำตัวน่ารำคาญให้ธามที่เหนื่อยจากการออกแรงมาก ยังต้องเหนื่อยหอบปวดหัวมากกว่าเดิม ธามกัดฟันไล่ตามต้นไม้จนทัน จับมาจ้องหน้าดุ เข้าใส่ด้วยแววตาเหี้ยมเกรียมที่สุดในชีวิตเท่าที่คนเคยอารมณ์ดีอย่างเขาจะทำได้ ทันทีที่จ้องไปยังใบหน้าเด็กชายต้นไม้ ธามถึงกับอึ้งไปชั่วขณะจำได้ทันทีว่าเด็กคนนี้คือทายาทคนเดียวของ ดิตถ์ เจ้าของธนาคารที่เพิ่งฆ่าตัวตาย ต้นไม้เป็นหลานชายแท้ ๆ ของนภสรนางในฝันของเขานั่นเอง เมื่อพักตัวเองหนึ่งคืนจนหายเป็นปกติแล้ว ธามรีบพาต้นไม้ไปส่งบ้านโดยไม่ฟังคำขอร้องใด ๆ เมื่อมาถึงธามต้องปะทะคารมกับนภสรอย่างรุนแรง นภสรคิดว่าพนักงานแบงก์ที่โดนเลย์ออฟจับหลานชายไปเรียกค่าไถ่ กว่าจะเจรจาความกันจนรู้เรื่องก็สร้างความเหนื่อยอ่อนแกมโกลาหลให้กับทั้งเขาและเธอ ธามออกมาจากบ้านหลังนั้นด้วยความน้อยใจนางในฝันที่ด่าว่าอย่างสาดเสียเทเสีย โดยไม่รู้เลยว่ากำลังปล่อยให้นภสรกับต้นไม้ต้องเผชิญกับเพชฌฆาตที่กำลังปิดล้อมบ้านหลังนั้นอยู่ ขณะที่นภสรกำลังไต่ถามเรื่องราวทั้งหมดจากต้นไม้ เสียงปืนกระหน่ำยิงดังลั่น ชายฉกรรจ์หลายสิบคนถล่มคฤหาสน์หวังให้นภสรกับต้นไม้ตายคาที่ ร้อนถึงธามที่ได้ยินเสียงต่อสู้กันภายในบ้านต้องรุดเข้าไปใช้ความสามารถพิเศษของตัวเองอีกครั้ง ธามต่อสู้กับเหล่าร้ายได้อย่างรุนแรงเร้าใจและน่ามหัศจรรย์ในความสามารถพิเศษ ธามสามารถช่วยชีวิตนภสรกับต้นไม้ รอด ได้ด้วยปาฏิหาริย์ส่วนตัวที่มาพร้อมกับอาการเจ็บป่วยในสมอง แต่เช่นเดียวกับทุกครั้ง เมื่อกำจัดเหล่าร้ายหมดสิ้นแล้วธามกลับปวดหัวล้มทั้งยืน หมดสติ นภสรกับต้นไม้ต้องพาธามไปส่งบ้านเพื่อให้พักรักษาตัว ขณะกำลังจะเดินทางกลับมาที่คฤหาสน์ นภสรจะโทรบอกกณิศที่ยังไม่กลับบ้าน แต่ต้นไม้รีบร้องห้ามบอกว่าคนน่าสงสัยที่สุดคืออากณิศ เพราะก่อนตายดิตถ์ผู้เป็นพ่อบ่นบ่อย ๆ ว่ากณิศเปลี่ยนไปแล้ว ตั้งแต่กณิศพบรักกับผู้ช่วยสาวสวยของเขา ตรีนุช กณิศก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน มักจะทะเลาะเบาะแว้งกับครอบครัวอยู่เสมอ และคิดฟังความเห็นแต่เพียงตรีนุชคนเดียว ทั้งสองโซซัดโซเซจะไปแจ้งตำรวจ แต่พอไปถึงหน้าสถานีตำรวจสายตาของต้นไม้ไปปะทะกับ พบธรรม นายตำรวจหนุ่มคนหนึ่งเข้าอย่างจัง พบธรรมกำลังสั่งงานชิ้นสำคัญกับลูกน้องคนสนิท เจษ และ พล อดีตตำรวจรับหน้าที่สายคนสำคัญ ทำหน้าที่แทนเขาในทุก ๆ เรื่อง ต้นไม้รีบดึงนภสรออกมาแทบไม่ทันเพราะ เจษ และ พล เป็นคนไปรับต้นไม้ที่โรงเรียน และโยนร่างเด็กน้อยออกจากรถตู้ลงน้ำด้วยตัวเอง นภสรมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตัดสินใจโทรตามชนะพลคนรักให้มารับเธอกับหลานที่ตู้โทรศัพท์เปลี่ยวแห่งหนึ่ง ด้วยความเหนื่อยอ่อนเธอเอาตัวต้นไม้ไปนั่งพักที่ศาลาริมทาง เพียงเวลาไม่กี่นาทีนภสรก็แทบเป็นลมล้มครืนกับภาพที่ปรากฏต่อสายตา คู่รักคู่หนึ่งเดินเข้าไปในตู้โทรศัพท์ตู้นั้นแทนที่เธอกับต้นไม้ ขณะกำลังพูดโทรศัพท์อยู่นั้นเองรถปิ๊คอัพลึกลับตรงเข้ามากระหน่ำ ยิงร่างทั้งสองพรุนไปทั่วร่างสิ้นใจตายคาที่แล้วหนีไป เด็กชายต้นไม้กับนภสรหมดทางเลือกในชีวิต นภสรเข้าใจว่าต้องมีคนดักฟังโทรศัพท์บ้านของชนะพลแน่ ๆ สองอาหลานเลยต้องหาที่พึ่งใหม่เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง คนเดียวที่ต้นไม้คิดออกขณะนี้คือฮีโร่ในดวงใจ ธาม อดีตหนุ่มแบงก์นั่นเอง ธามฟื้นคืนสติมาในบ้านของตัวเอง ยังคงแปลกใจกับความสามารถพิเศษที่เกิดขึ้นก่อนวาระสุดท้ายของชีวิตจะมาถึง นภสรกับต้นไม้โผล่พรวดเข้ามาในห้องขอให้เขาช่วยเหลือเธอกับหลาน ธามโวยวายกับนภสรอย่างคนสิ้นหวัง เธอจะมาหวังพึ่งอะไรกับคนใกล้ตายอย่างเขา นภสรทนเห็นความอ่อนแอไม่ได้ต้องต่อปากต่อคำกับธามไปบ้าง บรรยากาศภายในห้องโกลาหลเพราะผู้ใหญ่สองคนต่อล้อต่อเถียงกันไปมา ต้นไม้กลุ้มนึกในใจว่าผู้ใหญ่บางครั้งก็ทำตัวยิ่งกว่าเด็กซะอีก เสี้ยวนาทีทันใดนั้นเอง…ธามมองลงไปที่ด้านล่างของบ้านเห็นเจษกับพลนำผู้ชายท่าทางน่ากลัวหลายคนกำลังปิดล้อม สงครามปากระหว่างนภสรกับธามจำต้องสงบลงชั่วคราว ธามใช้อิทธิฤทธิ์ที่มาทุกครั้งยามฉุกเฉิน ต่อสู้กับเหล่าร้ายพาสองอาหลานจอมยุ่งหนีออกไปได้อย่างหวุดหวิดชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด เกือบเสียท่าเหล่าร้ายหน้าเหี้ยมทั้งหลาย จากคนไร้ความหมายและแก่นสารต้องการจบชีวิตตัวเอง นายธามต้องกลายเป็นบอดี้การ์ดให้นางในดวงใจกับเด็กชายวัยสิบขวบโดยไม่ตั้งใจ เฮ้อ…เขาจะทำยังไงต่อไป ในเมื่อความสามารถพิเศษที่เกิดขึ้นนี้มาพร้อมกับโรคร้าย โรคร้ายที่เป็นมัจจุราชพร้อมปลิดชีวิตเขาทุกเมื่อ หากอาการปวดหัวอย่างรุนแรงเกิดขึ้นขณะต่อสู้กับเหล่าร้าย เขาจะทำยังไง ต้นไม้หิวข้าวแสบท้องจนทนไม่ไหว ประกอบกับธามก็มีอ่อนเพลียจนแทบหมดสติ ร้อนถึงนภสรต้องพาทั้งคู่ไปหาข้าวทานในฟาสฟู๊ตห้างสรรพสินค้าพร้อมกับปรึกษาหาทางหนี นภสรสงสัยกณิศพี่ชายมากที่สุด เพราะได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกของดิตถ์ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นดิตถ์เคยบอกว่าจะแต่งตั้งให้เธอเป็นผู้จัดการร่วม ประกอบกับการตายของดิตถ์มีเงื่อนงำ ธนาคารมีทางออกในการแก้ปัญหาแล้วโดยต่างชาติยินดีเข้ามาร่วมถือหุ้น พิธีลงนามการเป็นเจ้าของร่วมระหว่างกณิศกับต่างชาติจะมีขึ้นในเดือนหน้า ขณะที่ทั้งสามคนกำลังคุยอยู่ที่หน้าร้านขายเครื่องไฟฟ้าในห้างฯ นั้นเอง จอโทรทัศน์หลายสิบจอเบื้องหลังเสนอข่าวด่วน เห็นหน้าคนทั้งสามเต็มพรืดไปหมด พบธรรมนายตำรวจมือปราบกำลังให้สัมภาษณ์นักข่าว ระบุว่าเขาสืบพบธามร่วมมือกับนภสรฉ้อโกงธนาคารสหัสวรรษ รวมทั้งมีส่วนเกี่ยวพันกับการฆ่าตัวตายแบบมีเงื่อนงำของดิตถ์ คนในห้างสรรพสินค้าต่างหันขวับมามองธามกับนภสรเป็นตาเดียวกัน ธามรีบกระชากนภสรกับต้นไม้เดินออกมาทันทีหวังจะหนีออกไปให้พ้น แต่ก็ช้าไปแล้วเพราะมีคนแจ้งตำรวจ ศูนย์การค้าถูกปิดล้อมอย่างรวดเร็วดูเหมือนจะสิ้นหนทางสำหรับพวกเขาแล้ว ธามรีบพานภสรกับต้นไม้หลบเข้าไปที่คอนเวนชั่นฮอลล์ห้างสรรพสินค้าซึ่งมีการแสดงคอนเสิร์ตของ วินธุ นักร้องซูเปอร์สตาร์ของเมืองไทย แต่แล้วจะด้วยความเฮงหรือเฮงซวยก็ไม่ทราบได้ กล้องวิดีโอวงจรปิดจับภาพ กลุ่มคนดูเห็นหน้าธามอย่างชัดเจน วินธุซึ่งไม่รู้เรื่องประกาศเชิญเพื่อนรักขึ้นมาร่วมร้องเพลงร่วมกันเพื่อรำลึกความหลัง ธามสุดจะขัดขืนฝูงชนที่เบียดเสียด ร้องกรี๊ด ๆ ดันให้ขึ้นไปร่วมร้องเพลงบนเวที ขณะที่ธามปากสั่นเสียงหลงร้องเพลงอยู่นั้นเอง พบธรรมนำกำลังตำรวจมาปิดล้อมฮอลล์ไว้ ยิ้มรอเวลาที่ธามจะลงมาจากเวทีให้จับกุมโดยไม่มีทางขัดขืน แต่แล้วสมองธามบังเกิดความคิดโลดแล่น เขาประกาศใส่ไมโครโฟนว่ามีการวางระเบิดหอประชุมแห่งนี้ ผู้ชมแตกตื่นลุกฮือวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ธามกระโดดลงจากเวทีคว้ามือนภสรกับต้นไม้หนี แฝงตัวหนีออกไปกับผู้คนได้อย่างหวุดหวิด… ธามตัดสินใจพานภสรและเด็กชายต้นไม้ไปหลบภัยอยู่ที่เกาะคราม รีสอร์ทส่วนตัวสมบัติเก่าของวินธุซึ่งห่างไกลผู้คน วินธุเพื่อนรักมั่นใจว่าธามไม่ใช่คนเลวอย่างที่หลายคนคิดจึงเขียนจดหมายแนะนำตัวธามไปกับ ลุงสิงห์ ผู้จัดการเกาะครามซึ่งเป็นคนดูแลกิจการรีสอร์ทเล็ก ๆ ทั้งหมดแทนวินธุ สมาชิกของเกาะครามประกอบไปด้วยลุงสิงห์ผู้จัดการฯ ป้าผุดผาด แม่ครัวประจำรีสอร์ท นวลฉวี สาวไฮเปอร์หลานสาวแท้ ๆ ของลุงสิงห์ รวมไปถึงเจ้าปุ๊ก กับเจ้าปิ๊ก สองหนุ่มสาวชาวบ้านที่เข้ามารับทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ภายในรีสอร์ท ซึ่งตอนนี้ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยวทำให้การกบดานอยู่ที่นี่ของธามกับนภสรสามารถทำได้โดยไม่เป็นที่สงสัย ที่รีสอร์ท ธามตั้งใจจะบอกความจริงเกี่ยวกับความสามารถพิเศษที่มาพร้อมกับความตายให้นภสรรับรู้ แต่ไม่ได้จังหวะสักครั้งมักจะถูกขัดขวางโดยต้นไม้บ้าง เหล่าสมุนของป้าผุดผาดบ้าง นภสรจึงไม่รู้ว่าวาระสุดท้ายของชีวิตธามใกล้เข้ามาทุกที แรกทีเดียวสมาชิกเกาะคิดว่าธามกับนภสรเป็นสามีภรรยากัน โดยมีลูกชายคือต้นไม้ พวกเขาจัดให้พักอยูในเรือนรับรองและนอนห้องเดียวกัน ยังความโกลาหลและขวยเขินให้กับนภสรเป็นอย่างยิ่ง ธามเองก็เกิดความรู้สึกแปลก ๆ เพราะคราวนี้เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสใกล้ชิดผู้หญิงคนที่แอบชอบมานาน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความสุขชั่วครู่…รอวันลาจากเพราะโรคร้าย แต่มันก็เป็นความสุขใจ เกาะครามเป็นรีสอร์ทที่มีกิจกรรมผจญภัยทางน้ำต่างๆ มากมายให้กับคนมาพัก และด้วยความสามารถพิเศษของธามซึ่งมีเรี่ยวแรงมากกว่าปกติ มีความเร็วมากกว่ามนุษย์ธรรมดา ทำให้กิจกรรมความบันเทิงภายในรีสอร์ทสนุกสนานมากกว่าเดิม ประกอบกับความอารมณ์ดีของธามยิ่งทำให้หลายคนยิ้มได้ รวมทั้งนภสร…จนเวลานี้เกิดดอกรักบานขึ้นภายในใจเธอโดยไม่รู้ตัว ที่รีสอร์ทนั้นเองที่ธามกับนภสรได้มีโอกาสเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ธามเองตระหนักว่าตัวเองมีคุณค่ากับผู้คนรอบข้างได้เสมอถ้ารู้จักคุณค่าของตัวเอง ธามสนิทสนมกับลุงสิงห์ ป้าผุดผาด และ นวลฉวี ต้นไม้เหมือนมีธามเป็นฮีโร่ในดวงใจ นภสรเฝ้ามองธามอย่างชื่นชม เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขชัดเจนสำหรับชีวิตคนทั้งสาม ดูเหมือนธามผู้มีชีวิตธรรมดาสามัญในเมืองหลวงกลับกลายเป็นคนมีค่าสำหรับคนท้องถิ่น ก่อนที่ทุกอย่างจะลงเอยด้วยดี พบธรรมสืบทราบว่าทั้งสามคนหนีไปกบดานที่เกาะคราม เขาส่งทั้งตำรวจ และพลกับเจษออกตามล่าคนทั้งสามอย่างหัวซุกหัวซุน ทั้งสามไม่มีทางออกนอกจากต้องต่อสู้แบบสุดฤทธิ์กับทั้งตำรวจและโจรชั่ว ธามใช้ความสามารถพิเศษที่ออกมาช่วยเขาทุกครั้งยามฉุกเฉิน ต่อสู้กับทั้งเหล่าร้ายและตำรวจจนเกือบจะรอดพ้นเงื้อมือพวกมัน แต่แล้ว…นี่เป็นครั้งแรกที่อาการปวดหัวอย่างรุนแรงของธามเกิดขึ้นในขณะต่อสู้กับเหล่าร้ายเพื่อช่วยเหลือนภสรกับต้นไม้ ธามหมดสติล้มคว่ำหมดแรงไปเสียเฉย ๆ ทำให้พบธรรมจับกุมกับนภสรกับต้นไม้ไปได้ต่อหน้าต่อตา โดยเขาช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย ธามซมซานไปขอความช่วยเหลือจากชาวเกาะคราม ในที่สุดจากการช่วยเหลือของ ลุงสิงห์ ป้าผุดผาด นวลฉวี ปุ๊ก กับ ปิ๊ก ทำให้ธามชิงตัว และพานภสรกับต้นไม้ฝ่าวงล้อมของเหล่าร้ายกับตำรวจออกมาได้โดยเหล่าวายร้ายต้องพบกับความสูญเสียไม่น้อย ธามบอกความจริงให้นภสรรู้ว่าเขาอาจจะมีชีวิตเหลืออยู่บนโลกอีกไม่นาน เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อนำตัวคนผิดมาลงโทษ พิสูจน์ให้เห็นความสุจริตของนภสรว่าไม่ได้เป็นอย่างที่พบธรรมกล่าวหา เด็กชายต้นไม้เกิดความคิดบางอย่าง เขาจำได้ว่าเคยเล่นกล้องดิจิตอลแบบแอบถ่ายกับดิตถ์ในบ้าน ทั้งคู่ซ่อนกล้องไว้ในห้องทำงานเพื่อเล่นเกมนักสืบโดยไม่เฉลียวใจเลยว่าในคืนวันนั้นเองที่ดิตถ์จะฆ่าตัวตาย ในเมื่อทุกคนลงความเห็นว่าดิตถ์ไม่ได้ฆ่าตัวตาย กล้องดิจิตอลต้องถ่ายให้เห็นโฉมหน้าคนร้ายที่แท้จริง นภสรตัดสินใจจะบุกเข้าไปในคฤหาสน์เพื่อไปเอาหลักฐานนี้มาด้วยตัวเอง ทั้งสามคนแอบเข้าไปในคฤหาสน์ของดิตถ์ได้อย่างเงียบเชียบ ต้นไม้ไปยังบริเวณที่ซ่อนกล้องดิจิตอลไว้กำลังจะเปิดดูหลักฐานทั้งหมด ทันใดนั้นกณิศก็เดินเข้ามาในห้อง ความจริงเขาเห็นคนทั้งสามตั้งแต่ก่อนเข้ามาในบ้าน รอเพียงให้ธามพานภสรและต้นไม้มาติดกับเท่านั้น ขณะนี้เขาโทรแจ้งพบธรรมให้มาจับทุกคนไปรับโทษที่ก่อไว้แล้ว กณิศด่าว่านภสรต่างๆ นานา หาว่าเป็นคนโลภหวังทรัพย์สินเงินทอง โดยลืมความถูกต้องฆ่าได้แม้กระทั่งพี่ชายตัวเอง ในขณะที่นภสรก็ประณามว่ากณิศต่างหากที่เป็นฆาตกร ขณะที่ทั้งคู่กำลังปะทะคารมกันอยู่นั้นเองความจริงก็ปรากฏต่อสายตา ภาพในกล้องดิจิตอลเห็นชัดเจนว่าใครเป็นคนทำ… ภาพที่ต้นไม้ฉายออกมาในจอ ดิตถ์กำลังเปลี่ยนแปลงข้อความในพินัยกรรมเพื่อประโยชน์ของธนาคาร ชนะพลเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับพบธรรมตำรวจกังฉินเพื่อนของเขา เมื่อดิตถ์เห็นหน้าชนะพลก็ด่าทอบอกว่าจะไล่ออก เพราะจับได้เรื่องที่ชนะพลร่วมกับตรีนุชใช้อำนาจบริหารโกงธนาคารวางแผนกับต่างชาติจะเทคโอเวอร์ เป็นคู่รักกับนภสรก็เพื่อผลประโยชน์ไม่ได้รักกับน้องสาวเขาจริง ๆ ชนะพลหัวเราะเหี้ยมร่วมมือกับพบธรรมฆ่าดิตถ์ตายอย่างเลือดเย็นในห้องทำงาน แล้วจัดฉากทำให้เหมือนเป็นการฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหา ชนะพลวางแผนต่อไปจะกำจัดทายาทโดยตรงของดิตถ์และผู้บริหารของธนาคาร ที่เหลืออยู่คือ นภสร และ กณิศ เพื่อทำให้ตัวเองมีอำนาจเบ็ดเสร็จในการเจรจากับต่างชาติแต่เพียงผู้เดียว ทุกคนในห้องตกตะลึงเมื่อเห็นหลักฐานชิ้นนี้ ชนะพลกับพบธรรมปรากฏตัวขึ้นในห้องทำงาน ยินดีที่ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า แผนการของเขาจะได้สัมฤทธิ์ผล เขาจะฆ่าทุกคน แล้วโยนความผิดว่าธามกับนภสรเข้ามาในบ้านเพื่อลอบทำร้ายกณิศแต่กณิศต่อสู้ขัดขืนจนในที่สุดต้องตายไปพร้อมกัน แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะเลวร้ายลงไป ธามตัดสินใจเด็ดขาดกระโดดเข้าแย่งปืนจากชนะพลกับพบธรรม ใช้ความสามารถพิเศษเพื่อปกป้องคนรักและคงไว้ซึ่งความยุติธรรม แต่เหมือนชะตากรรมเล่นตลก จู่ ๆ ธามก็ปวดหัวอย่างรุนแรงด้วยอาการประจำตัวอีกครั้ง เขาถูกชนะ พลกับพบธรรมทำร้ายจนล้มกลิ้งชนะพลเบี่ยงปืนในมือกำลังจะลั่นไกเข้าใส่นภสร ขวากหนามสำคัญที่อาจจะทำให้เขาล้มเหลวในชีวิต ธามกระโดดสุดตัวเอาตัวเข้าบังร่างนภสรไว้ เธอรอดชีวิตจากความกล้าหาญของธาม และรู้ความในใจของเขาที่มีต่อเธอตลอดมา… เด็กชายต้นไม้ใช้ความเฉลียวฉลาดร่วมมือกับกณิศ เล่นงานชนะพลกับพบธรรม เสียอยู่หมัด เพราะทั้งคู่ไม่รู้ว่าต้นไม้ซ่อนของเล่นไฮเทคมากมายไว้ในห้อง ๆ นี้ ทุกชิ้นสามารถใช้เล่นงานชนะพลกับพบธรรมให้เสียท่าโดยคาดไม่ถึง ร่างกายของธามแทบทรงตัวไม่อยู่ อานุภาพความสามารถพิเศษหมดสิ้นลงไปแล้ว ร่างกายที่เคยซ่อมแซมตัวเองได้กลับไม่ทำงาน ดูเหมือนวาระสุดท้ายของผู้ชายคนนี้ใกล้เข้ามาทุกขณะ…ธามถูกนำตัวไปส่งโรงพยาบาลในสภาพร่างชุ่มเลือดและอยู่ในอ้อมกอดนภสรตลอดเวลา นภสรร่ำไห้ปิ่มว่าจะขาดใจ เธอกอดร่างผู้ชายที่รักเธอมากและเธอก็รู้ว่ารักเขามากมายเช่นกัน เพียงเวลาเดือนเศษเกิดความเปลี่ยนแปลงในชีวิตของธามและนภสรมากมาย แบบที่ทั้งคู่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน นภสรรู้ว่ามีผู้ชายคนหนึ่งที่แอบรักและรักเธอเรื่อยมาโดยไม่คิดจะหวังสิ่งใดตอบ แทน ได้เรียนรู้ความรักที่บริสุทธิ์ใจ แม้ว่าที่สุดแล้วอาจจะไร้การครอบครอง…ต้องแยกจากกันตลอดชีวิต ธามรู้ซึ้งถึงคุณค่าของชีวิต เรียนรู้ถึงคุณค่าในตัวเองและคุณค่าต่อคนอื่น ถึงวันนี้ เขาอาจจะต้องจบชีวิตไปด้วยโรคร้าย แต่เป็นการจบลงอย่างล้ำค่า…ทำให้ใครหลายคนเรียนรู้ที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อสร้างคุณค่าให้กับตัวเองและคนรอบข้าง…โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน เมื่อถึงโรงพยาบาลหมอนำร่างธามเข้าห้องผ่าตัดฉุกเฉิน ต้องช่วยชีวิตเขาทั้งบาดแผลจากคมกระสุน และต้องพยายามยื้อชีวิตเขาจากเนื้องอกในสมองที่ไม่มีทางรักษาเวลาผ่าน ไปนับสิบชั่วโมง… เตียงผู้ป่วยถูกเข็นออกมาจากห้องผ่าตัด นภสรพุ่งตรงเข้าไปหาหมอเจ้าของไข้ด้วยความเป็นห่วงคนรักอย่างที่สุด เมื่อได้ยินคำพูดออกจากปากหมอทำให้เธอถึงกับแทบล้มทั้งยืนด้วยความปิติ “ผู้ป่วยรอดชีวิตได้ราวปาฏิหาริย์ เนื้องอกในสมองหายไปจนแทบไม่เห็นร่องรอย สาเหตุที่อำนาจพิเศษของธามหายไปก็เพราะเหตุนี้ ไม่ใช่เพราะอาการหนักถึงขั้นโคม่าอย่างที่ใครหลายคนเข้าใจ…” อาจเป็นเพราะอานุภาพแห่งความรัก ธามมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นนับตั้งแต่พบพานคนรักที่แท้จริงอย่างนภสร ปาฏิหาริย์นี้จึงเกิดขึ้นได้…เธอเป็นเหมือนแสงดาวที่ฟ้าประทานลงมาสู่ดวงใจที่กำลังจะแห้งเหือดของผู้ชายคนหนึ่ง ให้มีกำลังใจต่อสู้ไปในโลกที่โหดร้ายใบนี้ ธามกำลังจะมีชีวิตใหม่ในโลกแห่งความเป็นจริง ชีวิตใหม่ที่มีนภสรซึ่งมีเขาอยู่เต็มหัวใจของเธอเสมอ รอยยิ้มและความดีงามที่ธามสร้างไว้ให้นภสรกับต้นไม้เปรียบเหมือนเมล็ดพันธุ์แห่งกำลังใจชั้นดี ที่จะทำให้เธอต่อสู้ยืนหยัดเพื่อความดีงาม…สร้างสรรค์ชีวิตบนโลกใบนี้ให้น่าอยู่และงดงามต่อไป…

คนทะเล (2549/2006) รัตตวัลย์ สาวสวยลูกสาว นายรักษา นักธุรกิจใหญ่ของจังหวัดกระบี่ จบการศึกษาบริหารธุรกิจจากออสเตรเลีย กลับมาเพื่อมางานศพของบิดาที่ถึงแก่กรรมด้วยโรคหัวใจ รัตตวัลย์เป็นคู่หมั้นของ ปารเมศร์ นักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ รูปหล่อ เจ้าของผับและโรงแรมในกรุงเทพฯ รัตตวัลย์มีน้องชายคือ ตรีทิพ ทำงานเป็นนักอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าให้กับมูลนิธิแห่งหนึ่ง ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในป่าไม่สนจธุรกิจเหมืองแร่ สวนยาง และหุ้นส่วนกิจการรับซื้อขายรังนก ซึ่งเป็นกิจการของครอบครัว ตรีสุคนธ์ แม่ของวัลย์เดิมเป็นมือขวาช่วยธุรกิจขึ้นมาด้วยกันกับสามี แต่เมื่อสามีมาเสียชีวิตกะทันหันทำให้ตรีสุคนธ์ล้มเจ็บลงกะทันหัน ไม่มีจิตใจจะบริหารธุรกิจ ทำให้วัลย์ต้องมาดูแลกิจการด้วยตัวเอง วัลย์รู้จักกับปารเมศร์มาตั้งแต่เด็ก พ่อแม่ของทั้งสองคนก็เป็นเพื่อนกัน วัลย์จึงไว้วางใจปารเมศร์มาก ติดตามต่อได้ใน ทะเลใจ

อนิลทิตา (2549/2006) อนิลทิตา เจ้าหญิงเขมร จะถูกจับให้แต่งงานกับ เจ้าชัยวิริยะ แต่เธอไม่ยอมเพราะไปหลงรัก สินธุ ผู้ชายไทย เจ้าชัยวิริยะจึงส่งคนไปฆ่าสินธุ อนิลทิตาเสียใจมากจึงใช้มารยาหญิงหลอกฆ่าเจ้าชัยวิริยะเป็นการแก้แค้น แล้วหนีไปเมืองไทยพร้อมกับ บันดาสาเทวี คนสนิท ซึ่งมีวิชาอาคมมนต์ดำแก่กล้าโดยเฉพาะเรื่องการคงความสาวไว้ได้ตลอดไป อนิลทิตาตั้งใจจะรอการกลับชาติมาเกิดใหม่อีกครั้งของสินธุ จึงขอร้องให้บันดาสาเทวีสอนวิชาคงความสาวให้ ด้วยความรักที่บันดาสาเทวีที่มีต่ออนิลทิตาจึงสอนวิชาถอดวิญญาณ และให้เอาเลือดของผู้ชายมาผสมกับสมุนไพรและร่ายคาถา แล้วใช้น้ำเลือดนั้นอาบชะโลมทั่วกายทุกสามวัน ถ้าไม่อาบร่างการจะแก่เฒ่าลงอย่างรวดเร็ว 200 ปีต่อมา ที่เมืองเชียงใหม่มีงานแต่งงานใหญ่โตระหว่าง เจ้าพงษ์สุริยันติ ติดตามต่อได้ใน อนิลทิตา

นรกตัวสุดท้าย 2549

นรกตัวสุดท้าย (2549/2006) ณ อาณาจักรขอม ปีค.ศ.1524 มีเจ้าชายถือกำเนิดขึ้นในราชวงศ์ของกษัตริย์มีนามว่า เจ้าฟ้าดำ ซึ่งในวันที่เจ้าฟ้าดำเกิดนั้นถือว่าเป็นวันกาลีมหาวิปโยค ชีปะขาวจึงทำนายดวงชะตาว่าเจ้าฟ้าดำนี้เมื่อมีอายุครบ 25 ปีจะได้เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ หากมิได้เป็นตามนั้นก็จะเป็นจ้าวแห่งปีศาจทั้งปวง พระเจ้าศิริวรมัน ผู้เป็นพ่อกลัวว่าเจ้าฟ้าดำจะเป็นภัยร้าย จึงให้สร้างปราสาทบายอนบุเรนทร์ ซึ่งเป็นปราสาทแห่งความดีที่ใช้บูชาพระวิษณุตามคำของชีปะขาวเพื่อแก้เคล็ด เจ้า ฟ้าดำได้แต่งงานกับ เมตาวตี หญิงสาวที่เพียบพร้อมทุกอย่าง ต่อมาพระเจ้าศิริวรมันล้มป่วยลง ก่อนที่จะตายได้กำชับเจ้าฟ้าดำให้สร้างปราสาทให้เสร็จ ก่อนที่จะถึงวันทำพิธีแก้เคล็ดเจ้าฟ้าดำได้ถูก เดวิด ผีดิบที่มากับเรือสำเภาดูดเลือดจนหมด และยังต่อชีวิตให้กับเจ้าฟ้าดำโดยการให้เจ้าฟ้าดำดูดเลือดตัวเองเข้าไปแทน เจ้าฟ้าดำกลายเป็นผีดิบควบคุมตัวเองไม่ได้ จนลืมตัวดูดเลือดเมตาวตีจนเมตาวตีตายและเป็นอมตะ ณ ปัจจุบัน ร้อยตำรวจโทเมษยน และจ่าสีดา ได้รับมอบหมายให้ติดตามผู้ค้าอาวุธสงครามจึงข้ามฝั่งเขมรอย่างไม่ตั้งใจ และเกือบที่จะเอาชีวิตไม่รอด หากไม่เจอ ผู้พันเขียว กับลูกน้องช่วยไว้ พันตรีเขียวถูกชะตากับเมษยนจึงได้ให้สร้อยเครื่องรางไว้ป้องกันตัว ที่บ้านร้างหลังหนึ่งมี หมอผีแขก และจุก ที่คอยสร้างเรื่องใส่พวกชอบลองของ ต่อมาก็มีนายฝรั่งมาซื้อบ้านหลังนี้ไป แต่ทั้งสองก็ต้องประหลาดใจที่นายฝรั่งต้องรับใช้ชายอีกคนเยี่ยงราชา หมวด เมษยนและจ่าสีดาได้รับงานจาก สารวัตรสมเจตน์ ให้คลี่คลายคดีแก๊งมอเตอร์ไซค์ ที่ปล้นและฆ่าเหยื่ออย่างโหดเหี้ยมด้วยการกัดคอและดูดเลือด แขกกับจุกต้องการที่จะได้บ้านคืนจึงได้ปลอมตัวเป็นผีเพื่อหลอกคนในบ้าน แต่จุกถูกเจ้าฟ้าดำฆ่าตาย โชคดีที่หมอแขกหนีตายออกมาได้จึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้เมษยนและจ่าสีดาฟัง ในขณะนั้นเมษยนกำลังมีปัญหากับ จ๋า แฟนสาว เพราะพ่อของเธอไม่ชอบเขาและมองว่าเป็นตำรวจไม่มีอนาคต ไม่มีความ สามารถปิดคดีแก๊งค์มอเตอร์ไซค์ได้ ซึ่งเป็นจังหวะให้เจ้าฟ้าดำที่ปลอมตัวเป็น ดร.ประเทศ เข้ามาแทรกระหว่างเมษยนกับจ๋า เมษยน, จ่าสีดา, แขกได้เจอกับสมุนของเจ้าฟ้าดำและเกิดการต่อสู้กันจนสมุนของฟ้าดำโดนกระสุน เงินยิงตายจนหมด ต่อมาพวกเขาได้เจอกับผู้พันเขียวอีกครั้ง จึงได้รู้ความจริงว่าผู้พันเขียวเป็นหน่วยเฉพาะกิจเพื่อปราบเจ้าฟ้าดำ และมีเพียงกระสุนเงินเท่านั้นที่สามารถฆ่าเจ้าฟ้าดำได้ ซึ่งก็เหลือเพียง 5 นัดเท่านั้น สาร วัตรสมเจตน์และจ่าสีดาทำคดีพลาดท่าโดนดูดวิญญาณไปเป็นสมุนเจ้าฟ้าดำ ส่วนจ่าสีดาถูกฆ่าตาย แล้วพวกเมษยนสืบรู้ว่าแท้ที่จริง ดร.ประเทศก็คือเจ้าฟ้าดำที่ปลอมตัวมาเพื่อที่จะครอบครองตัวจ๋า โดยคิดว่าจ๋าคือเมตาวตีกลับชาติมาเกิด เมษยนจึงพาจ๋าหนีไปยังฝั่งเขมรไปซ่อนตัวอยู่ที่ปราสาทแห่งความดี แต่เจ้าฟ้าดำก็ตามมาเจอจนได้ เจ้าฟ้าดำล่อแล้วหลอกให้เมษายนใช้กระสุนเงินจนหมดและชิงตัวจ๋าจากเมษยนได้ อีกครั้ง เวลานี้เองวิญญาณเมตาวตีปรากฏกายขึ้นและบอกกับเจ้าฟ้าดำว่า จ๋าไม่ใช่ตนที่กลับชาติมาเกิด แล้วยังบอกอีกว่าทุกคนที่โดนเจ้าฟ้าดำฆ่าจะไปเกิดใหม่ไม่ได้สร้างความเสียใจ ให้กับเจ้าฟ้าดำยิ่งนัก เมตาวตีบอกความลับกับเมษยนว่าสร้อยเครื่องรางที่ห้อยอยู่คือกระสุนเงินลูก สุดท้ายที่จะใช้ปราบเจ้าฟ้าดำได้ โดยยิงให้ตรงกลางหน้าผากเจ้าฟ้าดำ เจ้าฟ้าดำก็จะสิ้นชีพลงทันที ติดตามเรื่องราวความสนุกเหล่านี้ได้ในละคร “นรกตัวสุดท้าย”

ธิดาซาตาน 2549

เรื่องย่อ : ธิดาซาตาน (2549/2006) ณ ป่าดงดิบแถบชายแดน นายพรานรามราช กับนายพรายภูไพร เพื่อนร่วมสาบานที่เกิดเวลาเที่ยงคืนของคืนวันจันทรคราส วันเดียวปีเดียวกันตรงตามความเชื่อถือที่สืบต่อกันมาว่า หากใครเกิดวันดังกล่าวผู้นั้นคือทายาทอสูรที่สามารถฝึกฝนมนต์ดำจนบรรลุไสย เวทย์ขั้นสูงได้ ทั้งสองจึงร่วมกันติดตามค้นหาตำราอสูรมานานนับหลายปี แล้วในที่สุดความปรารถนาก็เป็นจริง แต่ด้วยความโลภในใจทำให้รามราชลืมความเป็นเพื่อน อยากจะครอบครองตำราอสูรไว้เพียงผู้เดียว ทั้งคู่หันมาห้ำหั่นแย่งชิงกันเอง รามราชถูกภูไพรเอาไฟจี้จนบาดเจ็บ ฉับพลันเกิดอาเพศถ้ำถล่มรามราชหนีไปได้ ทิ้งภูไพรกับตำราอสูรฝังในถ้ำนั้น

17 ปี ผ่านไป ธารใส, เพลิงพิศ, วายุตา, เอื้องทราย เด็กสาว 4 คนเติบโตขึ้นมาต่างทิศทางที่ต่างนิสัยใจคอและต่างสายเลือด แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือทั้ง 4 คนเกิดในวันที่พรานทั้งสองมอบตัวเป็นทายาทอสูร เพียงแตกต่างกันทำให้แต่ละคนมีธาตุที่ต่างกัน ซึ่งตามตำรามนต์ดำหากธาตุทั้งสี่ได้รวมตัวกันก็จะบังเกิดพลังร้ายแห่งอสูร ที่ไม่มีใครสามารถต้านทานได้ ธารใส เด็กสาวอายุ 16 เป็นลูกกำพร้าได้ แย้ม กับย้อย เก็บมาเลี้ยงดูเป็นลูก แย้มกับย้อยมีอาชีพเป็นพวกต้มตุ๋นหลอกชาวบ้าน และพยายามฝึกฝนให้ธารใสขโมยของในซุปเปอร์มาร์เก็ต ด้วยความที่เป็นคนขลาดกลัวธารใสทำพลาดเกือบทุกครั้ง และล่าสุดก็โดนรปภ.ไล่ตามจับธารใสหนีรอดได้ทัน

แต่กลับไปวิ่งชนเข้า กับ เชนทร์ ลูกชายเจ้าของโรงเรียนมารตีคอมเมิร์ส เชนทร์เข้าใจว่าธารใสเป็นพวกหัวขโมย เพลิงพิศ เด็กสาวผู้แสนอาภัพต้องสูญเสียพ่อที่แสนดีไปตั้งแต่ยังเล็ก ทิ้งให้เธออยู่กับแม่ คุณหญิงแม่แม่เลี้ยงใจร้ายที่ฮุบมรดกของเธอไปจนหมด เพลิงพิศถูกเลี้ยงดูไม่ต่างกับสาวใช้ภายในบ้าน แถมยังโดน ชนก กลั่นแกล้งทารุณทุบตีทำร้ายจากแม่เลี้ยงและ หญิงนิล น้องสาวต่างมารดาอยู่เป็นประจำ ในขณะเดียวกัน วายุตา ลูกสาวมหาเศรษฐีที่โหยหาความรักความเอาใจใส่จากครอบครัวมาโดยตลอดก็มี ดวงเดช พ่อที่ลุ่มหลงอยู่แต่เรื่องกามารมณ์กับเด็กสาวเอ๊าะๆ วัยเดียวกับตน และ นงนุช แม่ที่ทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการช่วยเหลือเด็กกำพร้า

แต่ กลับหลงลืมที่จะกลับมาดูแลเอาใจใส่ลูกสาวคนเดียวของตนเอง จึงทำให้วายุตาไม่ต่างอะไรกับเด็กกำพร้าทางใจ วายุตาแอบหนีไปเทียวเจอกับกลุ่มเพื่อนชายที่พยายามจะลากวายุตาไปข่มขืน แต่วายุตากลับรอดมาได้อย่างหวุดหวิด และคนสุดท้าย เอื้องทราย สาวน้อยชาวเหนือแสนซื่อที่ถูกแม่เล้าหลอกซื้อตัวมาจะเอาเป็นลูกบุญธรรม แต่จริงๆ แล้วกลับบังคับให้มาขายตัว เอื้องทรายตัดสินใจหนีไปตายเอาดาบหน้า แต่ถูกกลุ่มลูกสมุนของแม่เล้าตามล่าเอาชีวิต เอื้องทรายหลบเข้าไปในรถของ มารตี รถพาเอื้องทรายมาถึงบ้านของมารตี และกลายมาเป็นสาวใช้ติดตามเชนทร์ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของมารตีในเวลาต่อมา การพบกันครั้งแรกของสี่สาวทายาทอสูรเกิดขึ้นในวันเปิดเทอมวันแรกของโรงเรียน มารตีคอมเมิร์ส

ธารใสสอบชิงทุนการศึกษาเข้ามาเป็นนักเรียนใหม่ของ โรงเรียน ส่วนวายุตาทนอยู่โรงเรียนเก่าต่อไปไม่ได้จึงลาออกแล้วมาเรียนต่อที่นี่ มารตีเจ้าของโรงเรียนให้เอื้องทรายมาเรียนที่โรงเรียนด้วย เพื่อคอยรับใช้เชนทร์ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอ ธารใส, วายุตา, เอื้องทราย ได้พบกับเพลิงพิศที่เป็นนักเรียนเก่าของที่นี่ แต่แทนที่จะเป็นการพบกันในฐานะเพื่อนใหม่ ธารใสกับเพลิงพิศกลับเป็นได้แค่ศัตรูแปลกหน้าเท่านั้น เพราะธารใสเป็นต้นเหตุให้เพลิงพิศ, วายุตา และเอื้องทราย โดนมารตีทำโทษให้อับอายเพื่อนนักเรียยนในวันแรกของการเรียน ความโชคร้ายของธารใสยังไม่จบลงเท่านั้น เชนทร์พบกับธารใสโดยบังเอิญและจำได้ว่าธารใสเป็นขโมยที่ถูกรปภ.ไล่ตามในห้าง

เชนทร์ ลากตัวธารใสไปหามารตีและบอกให้แม่ไล่ธารใสออก มารตีเชื่อเชนทร์แต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อแย้มกับย้อยโผล่มาในคราบของ เศรษฐีน้ำมันชาวตะวันออกกลาง ซึ่งแย้มกับย้อยตั้งใจปลอมมาเป็นคนรวยเพราะอยากให้ธารใสมีฐานะทัดเทียม เพื่อนๆ มารตีไม่กล้าไล่ธารใสออก แต่จำเป็นต้องคัดชื่อออกจากนักเรียนทุน การมาเยือนของแย้มย้อยแทนที่จะช่วยธารใสกลับทำให้ชีวิตธารใสลำบากมากขึ้น เพราะธารใสต้องไปหางานพิเศษทำอย่างหนักเพื่อเอาเงินมาจ่ายค่าเทอม ธารใสไปขอทำงานเพื่อหารายได้พิเศษในชมรมเชียร์ของโรงเรียน และได้พบกับเพลิงพิศที่มาทำงานพิเศษในชมรมนี้เช่นกัน เพลิงพิศไม่สนใจธารใสแม้ธารใสพยายามหาทางพูดคุยด้วย

ธารใสเห็นการฝึก ซ้อมของทีมเชียร์แล้วรู้สึกทึ่งและสนใจอยากเข้าร่วมบ้าง แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อเชนทร์ในฐานะประธานเชียร์และหญิงนิลหัวหน้าทีมเชียร์ ต่างพากันกีดกันธารใส ธารใสเห็นเพลิงพิศเต้นเชียร์ได้อย่างคล่องแคล่วเลยขอให้เพลิงพิศช่วยสอนให้ แต่เพลิงพิศปฏิเสธและยังไม่หายโกรธธารใส ด้านเพลิงพิศก็พยายามให้หญิงนิลรับเธอเข้าทีมเชียร์อีกครั้ง หญิงนิลเห็นธารใสและเกิดหมั่นไส้เลยสั่งให้ทั้งคู่ไปตั้งทีมเชียร์มาเต้น โชว์ให้ดู ถ้าทำได้ดีถูกใจเธอก็จะรับทั้งคู่เข้าทีมเชียร์ เพลิงพิศไม่อยากร่วมทีมกับธารใส แต่ด้วยความที่อยากเต้นมากเลยจำใจรับปากหญิงนิล เพลิงพิศกับธารใสเลยไปชวนวายุตากับเอื้องทรายมาร่วมทีมเชียร์ด้วย

ทั้ง 4 คน ฝึกซ้อมโดยมีเพลิงพิศเป็นคนสอนท่าเต้น เพลิงพิศแทบบ้าเพราะธารใสไม่มีพื้นฐานการเต้นเลย แถมยังฟังจังหวะดนตรีไม่เป็น เพลิงพิศจึงตกลงใจให้ธารใสเป็นตัวขึ้นไปยืนต่อตัวในช่วงท้ายของการเต้นเท่า นั้นพอ ผลปรากฎว่าเมื่อวันทดสอบมาถึงธารใสกลับเป็นตัวทำให้ความฝันของทีมพังทลาย เพราะเมื่อถึงช่วงต่อตัวธารใสกลับกลัวจนขาสั่น ตกลงมาทับ 3 สาวที่ยืนเป็นฐาน ทำให้ถูกเชนทร์กับหญิงนิลหัวเราะเยาะเย้ย ทำให้เพลิงพิศยิ่งเพิ่มความเกลียดชังธารใสมากขึ้น ชีวิตในโรงเรียนของธารใสกับเพลิงพิศไม่ต่างอะไรกันนัก ในขณะที่ธารใสโดนเพื่อนชายในห้องแกล้งอยู่เสมอๆ เพราะความเป็นคนขี้กลัวและอ่อนแอ ธารใสจึงเหมือนตัวตลกของห้องท่ามกลางความสะใจของเชนทร์และกลุ่มเพื่อนๆ

ส่วน เพลิงพิศก็โดนหญิงนิลคอยข่มเหงรังแก และใช้ความรุนแรงตบตีเพลิงพิศต่อหน้าเพื่อนๆ ให้อาย ความที่เพลิงพิศเป็นผู้หญิงแข็งกร้าว พูดจาดุดัน ผู้ชายต่างพากันไม่กล้าเข้าใกล้ เตอร์ เพื่อนสนิทที่คอยเอาแต่สนันสนุนเป็นลูกคู่ แต่จริงๆ แล้วแอบอิจฉาเชนทร์ ท้าให้เชนทร์นัดเดทกับเพลิงพิศ เชนทร์รับคำท้าทั้งๆ ที่ น็อต เพื่อนสนิทอีกคนที่คอยแอบเป็นกำลังใจให้พวกสี่สาวและเป็นเพื่อนที่จริงใจของ เชนทร์ ไม่เห็นด้วยที่เชนทร์จะคอยแกล้งพวกสี่สาว เพราะไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเคยปฏิเสธเขาเลย และในที่สุดเชนทร์ก็จีบเพลิงพิศสำเร็จ ข่าวนี้รู้ไปถึงหญิงนิลหญิงนิลแทบคลั่งที่เพลิงพิศตัดหน้าแย่งเชนทร์ไป ทั้งๆ ที่ใครๆ ก็รู้ว่าเชนทร์ควงอยู่กับหญิงนิล

หญิงนิลพาเพื่อนไป รุมทำร้ายเพลิงพิศจะกรีดหน้าให้เสียโฉม แต่ธารใสมาเจอและเอาชีวิตเข้าเสี่ยงช่วยเพลิงพิศจนตัวเองบาดเจ็บ วายุตากับเอื้องทรายเข้ามาช่วยเพลิงพิศกับธารใสไว้ได้ทัน ทำให้เพลิงพิศซึ้งในน้ำใจของธารใส มิตรภาพของคนทั้ง 4 จึงเริ่มนับจากนั้น หลังจากจีบเพลิงพิศสำเร็จเชนทร์ก็เลิกสนใจเพลิงพิศทำให้เพลิงพิศไม่เข้าใจ เตอร์เพื่อนสนิสของเชนทร์เลยได้ทีพูดจาเยาะเย้ยเพลิงพิศว่ามันเป็นแค่เกม เท่านั้น ทำให้ธารใสลืมตัวตบหน้าเชนทร์ เชนทร์โกรธมากประกาศตัวเป็นศัตรูกับพวก 4 สาวทันที สี่สาวถูกจำกัดสิทธิ์ต่างๆ ภายในโรงเรียน มีวิธีเดียวที่จะสามารถอยู่รอดในโรงเรียนนี้ได้คือการรวมกลุ่มกันสู้เท่า นั้น 4 สาวจึงจับมือสาบานเป็นเพื่อนตายกันและตั้งชื่อแก็งค์ว่า กุหลาบไฟ

หลัง จากเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นในการเดินทางไปทัศนศึกษาในป่าทึบเขตชายแดน ชีวิตของสี่สาวก็เปลี่ยนไปเพราะธารใสได้พบกับตำราอสูรที่ซ่อนอยู่ในถ้ำด้วย ความบังเอิญ แต่สี่สาวไม่รู้ว่าตอนอยู่ในถ้ำมีเงาดำที่ตามติดสี่สาวออกมาด้วย เงาดำนั้นคือรามราชพรานหนุ่มเมื่อ 16 ปีก่อน ที่บัดนี้กลายเป็นชายแก่หน้าตาอัปลักษณ์ รามราชเฝ้าค้นหาตำราอสูรมา 16 ปีแต่กลับไม่พบ แล้วก็แปลกใจมากที่สี่สาวเจอตำราได้ง่ายดาย รามราชติดตามสี่สาวเข้ากรุงเทพแล้วสมัครเป็นภารโรงในโรงเรียนมารตีคอมเมิร์ส มารตีรับไว้เพราะรามราชไม่ต้องการเงินเดือนแค่อยากได้ที่พักและข้าวกิน 3 มื้อ แต่มีข้อแม้ว่าให้อออกมาทำงานตอนกลางคืนเพราะกลัวเด็กๆ จะตกใจกลัว แต่ก็มีเด็กๆ เห็นจนได้และตั้งฉายาว่าลุงหน้าผี

ธารใสทำผิด กฏของเชนทร์เชนทร์เลยสั่งลงโทษให้ธารใสไปล้างห้องน้ำชาย หลังเลิกเรียนธารใสเห็นลุงหน้าผีออกมาจากห้องน้ำ ธารใสตกใจหวีดร้องจนเป็นลมสลบไป ส่วนเชนทร์ก็รู้สึกว่าตัวเองแกล้งรุนแรงไปจึงแอบมาดูธารใส แต่เห็นธารใสเป็นลมสลบอยู่จึงอุ้มธารใสออกจากห้องน้ำ หญิงนิลมาเห็นเข้าคิดว่าเชนทร์กับธารใสมีอะไรกัน ข่าวนี้กระจายไปทั่วโรงเรียน และเป็นจุดขัดแย้งที่เริ่มประทุในใจของเพลิงพิศ ธารใสเล่าเรื่องชายที่เห็นในห้องน้ำให้เพื่อนๆ ในแก็งค์ฟัง เพลิงพิศคิดว่าน่าจะเป็นลุงเจ้าหน้าที่ภารโรงคนใหม่ของโรงเรียน ธารใสรู้สึกสงสารลุงหน้าผีเลยแอบเอาขนมไปวางไว้หน้าห้องพัก หลังจากเหตุการณ์ที่เชนทร์ช่วยธารใส เชนทร์ก็ดูมีพฤติกรรมแปลกๆ กับธารใสหลายอย่าง

ทั้งยังยกเลิกข้อห้ามต่างๆ ยิ่งทำให้หญิงนิลเกลียดพวกสี่สาวมากขึ้น มีการจัดแข่งขันเต้นเชียร์ประจำโรงเรียนทีมผู้ชนะจะได้เป็นดาวเชียร์ประจำ โรงเรียน แก็งค์กุหลาบไฟไม่กล้าแข่งขันแต่เผลอไปรับคำท้าของหญิงนิลเอาไว้ ทำให้สี่สาวกลุ้มใจหนักเพราะรู้ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางแข่งชนะพวกหญิงนิลได้ ในขณะนั้นเองธารใสพบว่าย้อยสามารถอ่านตำราที่พวกตนได้มาจากป่าได้จึงให้ย้อย แปลให้ฟังได้ความว่า ตำรานี้เป็นตำราอสูรเป็นวิชาไสยเวทย์โบราณ ผู้ฝึกฝนสามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างได้ดังใจปรารถนา แต่ต้องเป็นผู้เกิดในคืนจันทรคราสหรือคืนกำเนิดทายาทอสูร ทั้งหมดช่วยกันหามนต์ดำที่จะช่วยให้ชนะการแข่งขัน การแข่งขันเริ่มต้นระหว่างเต้นทีมกุหลาบไฟเต้นสู้แบบยิบตา

และแอบ ท่องมนต์ดำอสูรให้ตัวลอยกลางอากาศได้ ขณะเดียวกันก็เสกให้ทีมคู่แข่งขันเห็นงูพันคอเพื่อนในทีมจนล้มระเนระนาดไม่ เป็นท่า กุหลาบไฟชนะได้เป็นดาวเชียร์ของโรงเรียน และได้เข้าไปเดินยืดในชมรมเชียร์สมใจ แต่ก็โดนพวกหญิงนิลแกล้งให้เป็นได้แค่ตัวสำรองคอยซักเสื้อผ้าให้ทีมเชียร์ ลุงหน้าผีแอบดูเหตุการณ์ทั้งหมดและวางแผนแย่งตำราอสูรมาครองครอง ด้วยการพยายามหลอกเข้าไปตีสนิทกับสี่สาวและคอยช่วยเหลือสี่สาว จนกลายเป็นคนที่สี่สาวให้ความเคารพเล่าทุกอย่างเกี่ยวกับตำราอสูรให้ลุงหน้า ผีฟัง สี่สาวสามารถท่องมนต์เสกเบื้องต้นได้ เช่น เสกภาพผีในหนังสือให้ออกมาเป็นผีจริงหลอกคนได้ เสกภาพลวงตา ฯลฯ ภารกิจแรกที่แก็งค์กุหลาบไฟจัดการคือ การแก้แค้นบรรดาคนที่เคยข่มเหงรังแกตน

และ มนต์ดำอสูรก็ช่วยให้สี่สาวเต้นเชียร์ได้เก่งขึ้นจนไม่มีทีมไหนสามารเทียบติด ได้ และสามารถคว้าแชมป์มาให้โรงเรียนจนกลายเป็นคนดังประจำโรงเรียน ทำให้พวกหญิงนิลอิจฉามากขึ้นและหาทางกลั่นแกล้งพวกกุหลาบไฟ เพลิงพิศเริ่มหลงระเริงกับชื่อเสียงที่ตนมี และอิจฉาธารใสเรื่องเชนทร์ และความโดดเด่นของธารใสในการเต้นเชียร์ ลุงหน้าผีได้โอกาสยุแหย่ให้สี่สาวแตกกัน และยุให้เพลิงพิศขโมยเอาตำราอสูรมาฝึกฝนคนเดียว และโยนความผิดให้ธารใสว่าเป็นคนขโมย ไป ทำให้ทีมเต้นพ่ายแพ้ทีมของหญิงนิล ธารใสโดนไล่ออกจากแก็งค์กุหลาบไฟ ทุกๆ คนที่ชื่นชอบแก็งค์กุหลาบไฟพากันรังเกียจธารใส ยกเว้นเชนทร์ที่เห็นใจธารใสและคอยดูแลธารใสในตอนที่ไม่มีใครต้องการเธอ

ความ รักของทั้งคู่จึงค่อยๆ ก่อตัวขึ้น ด้านเพลิงพิศเมื่อได้ตำรามาก็แอบฝึกฝนตำราขั้นสูงร้ายกาจและอำมหิตมากขึ้น ทุกที ถึงขนาดต้องใช้เลือดสดๆ มาประกอบพิธีปลุกเสก จนทำให้บรรดาสัตว์เลี้ยงในโรงเรียนตายเกลื่อน ธารใสเห็นความผิดปรกติพยายามสืบหาความจริง การฝึกมนต์ดำปลุกเสกของเพลิงพิศพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เพลิงพิศสั่งให้วายุตาไปเอาเส้นผมของทีมเชียร์ทุกคนมาปลุกเสก เพื่อมัดวิญญานของทุกคนให้เป็นทายาทอสูร ทำให้ทีมเชียร์เต้นกันไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยแข็งแรงเกินมนุษย์ ด้วยท่าเต้นและลีลาที่น่ากลัว เพลิงพิศร้ายกาจมากขึ้นด้วยการจับหญิงแม่และหญิงนิลมาเป็นหนูทดลอง เพลิงพิศเกิดอาการคลุ้มคลั่งเพราะฝึกมนต์ดำจากตำราสลับหน้าผิด เพลิงพิศกลายเป็นอสูรร้ายฆ่าแม่เลี้ยงตายและทำให้หญิงนิลเป็นบ้า

เพื่อนๆ ของหญิงนิลไม่มีหญิงนิลเป็นหัวหน้าทีมแล้ว จึงไปขอร้องให้ธารใสมาเป็นหัวหน้าทีมเพื่อเข้าแข่งขันสู้กับทีมของเพลิงพิศ ธารใสตอบตกลงโดยมีเอื้องทรายหนีจากทีมของเพลิงพิศมาอยู่กับธารใส เพื่อนรักกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตที่ฟาดฟันกันด้วยมนต์ดำอสูร โดยใช้วิธีการแข่งขันเต้นเชียร์เป็นสนามประลองพลังของความดีและความชั่วร้าย ธารใสสู้เพลิงพิศไม่ได้เพลิงพิศได้ใจออกฆ่าคนเพื่อนำเลือดมาฝึกมนต์ดำ ธารใสกับเอื้องทรายพยายามเข้าขัดขวางแต่สู้มนต์ดำปลุกเสกไม่ได้ เชนทร์พิสูจน์รักแท้ที่มีต่อธารใสด้วยการเอาตัวเข้าช่วยธารใส และให้เอื้องทรายพาธารใสที่บาดเจ็บหลบหนีไป ทำให้เชนทร์ถูกเพลิงพิศจับตัวไว้เพื่อล่อให้ธารใสออกมา เพลิงพิศไม่สามารถฝึกมนต์ดำจนจบได้เพราะหน้าสุดท้ายหายไป

เลยปลุกเสก ตัวเองให้เข้าไปอยู่ในร่างกายของลุงหน้าผีทำให้เห็นภาพอดีตทั้งหมด ธารใสกับเอื้องทรายช่วยกันหาวิธีทำลายอำนาจอสูรของเพลิงพิศ และรู้ความจริงจากแย้มและย้อยว่าพ่อของเธอเป็นพรานป่า แอบเข้ามาเป็นแรงงานผิดกฎหมาย มาทิ้งธารใสไว้หน้าบ้านพร้องห่อผ้าเก่าๆ แล้วก็หายสาปสูญไป ธารใสค้นหาห่อผ้าจนเจอมีรูปของ ภูไพร ถ่ายคู่กับลุงหน้าผี และธารใสก็พบสิ่งสำคัญที่ทำให้ธารใสเอาชนะอำนาจอสูรร้ายของเพลิงพิศได้ นั่นก็คือตำราอสูรหน้าสุดท้าย ในคืนวันพระจันทร์ทรงกลดธารใสกับพวกเข้าไปช่วยเชนทร์ และต่อสู้กับเพลิงพิศสามารถเอาชนะเพลิงพิศได้ เพลิงพิศกลายเป็นคนบ้าหน้าตาอัปลักษณ์เพราะตำราอสูรย้อนเข้าตัว ธารใสจึงตัดสินใจทำลายตำราทิ้งเพื่อไม่ให้เป็นพิษภัยกับคนอื่นต่อไป