เกิดแต่ตม 2548

เรื่องย่อ : เกิดแต่ตม (2548/2005) เกิดแต่ตม เป็นเรื่องราวของ มิ่งโกมุท เด็กหญิงหน้าตาฉลาดเป็นกรดและเอาเรื่อง หรือที่ใครๆ เรียกกันว่า ไอ้มิ่ง เพราะนึกว่าเป็นเด็กชาย ถามหาพ่อแม่มาตั้งแต่รู้ความจนเข้าวัยหกขวบ แต่ทั้งแป๊ะและซิ้มไม่เคยยอมเอ่ยถึง และยังอารมณ์เสียทุกครั้งที่มิ่งถามหรือเมื่อใครอื่นพูดถึงพ่อแม่ของมิ่ง มิ่งได้ยินชื่อ มาลี ครั้งแรกจากปากลุงมานิต ซึ่งพาป้าสะใภ้ อรนุช และน้องต้น ลูกชายอายุสามขวบมาเยี่ยมแป๊ะกับซิ้มซึ่งเป็นพ่อแม่เลย และวันที่แป๊ะกับซิ้มพามิ่งไปมอบตัวที่โรงเรียน มิ่งจึงได้ยินว่าตัวเองเป็นบุตรบุญธรรมของแป๊ะกับซิ้ม และคุณครูอธิบายให้มิ่งฟังว่าบุตรบุญธรรมเป็นอย่างไร และต่อมาญาติจากสวนส้มจึงไขปริศนาเรื่องพ่อแม่ของมิ่งให้มิ่งฟังว่า แม่ของมิ่งชื่อ มาลี เป็นลูกสาวของแป๊ะกับซิ้ม แม่หนีตามพ่อซึ่งเป็นคนขับรถสิบล้อไปตั้งแต่อายุสิบห้า แล้วถูกพ่อมิ่งทิ้ง เมื่อคลอดมิ่งจึงเอามิ่งมาทิ้งให้แป๊ะกับซิ้มเลี้ยงแล้วหายไป ลุงมานิตคือลูกชายคนโตของแป๊ะกับซิ้ม แล้วมิ่งยังมีลุงอีกคน เป็นน้องของลุงมานิต พี่ของแม่มาลีคือ ลุงมารุต แต่ติดยาโดนจับติดคุกแล้วหายหน้าไป

ความรู้สึกโหยหาแม่อยู่ในใจมิ่ง ตลอดเวลา ยิ่งถวิลลูกมือทำอาหารของแป๊ะบอกว่าแม่ของมิ่งทำงานอยู่ในโรงงานแถว พระประแดง ถวิลเคยเจอแม่บ่อยมากที่ตลาด แม่ถามถึงมิ่งด้วย มิ่งยิ่งอยากเจอแม่ พระประแดงอยู่ไม่ไกลจากร้านของแป๊ะเลย แป๊ะและซิ้มซื้อตึกแถวเปิดร้านขายอาหารขายกาแฟอยู่ในย่านหนึ่งของฝั่งธน ในทำเลที่ลูกค้ามาก แต่เป็นทำเลแห่งโลกีย์ สภาพแวดล้อมไม่ดี เป็นแหล่งแฟล็ตเช่าของหญิงขายบริการ จนแม้กระทั่งเศรษฐีนีเจ้าของที่ดินและแฟล็ตเช่าในย่านนั้นคือ อาจารย์วัชรี ยังต้องขายบ้านพาครอบครัวไปอยู่ที่อื่น เพราะเกรงสิ่งแวดล้อมทำพิษต่อลูกๆ มิ่งเลยต้องจากกับเพื่อนสนิทมากรุ่นพี่คือ วัสสา ซึ่งอายุแก่กว่ามิ่งปีหนึ่ง วัสสามีพี่สาวสวยมากอายุสิบขวบคือ วาลุกา กับน้องชาย วณิชชา อายุสามขวบ ภายหลังคนที่ซื้อบ้านอาจารย์วัชรีทำบ้านหลังนั้นเป็นห้องอาหารแบบมีสาวป้อน และขายบริการ มีเวทีเพลงลูกทุ่ง หางเครื่องเต้นเปิดกระโปรงอยู่หน้าห้องอาหารด้วย มิ่งวิ่งขึ้นลงส่งอาหารตามห้องต่างๆ บนแฟล็ตจนคุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมของคนโลกีย์

กฎข้อเดียวที่แป๊ะห้าม ฝ่าฝืนเด็ดขาดคือ ห้ามเข้าไปส่งของถึงในห้อง ให้อยู่แค่หน้าห้อง มิ่งคิดเงินทอนเงินเป็นตั้งแต่ยังไม่เข้าเรียน และได้ทิปเศษเงินทอนจากลูกค้าหยอดกระปุกออมสินไว้มากมาย มิ่งตั้งใจแน่วแน่ที่จะเก็บเงินไว้เรียนหนังสือสูงๆ เพราะแป๊ะกับซิ้มชอบว่าว่ามิ่งจะเอาดีไม่ได้ จะเป็นเหมือนแม่ของมิ่ง เมื่อวันที่เข้าโรงเรียนมิ่งเรียกแป๊ะกับซิ้มว่าอากงกับยาย โดยแป๊ะโกรธตวาดลั่นไม่ให้เรียก บอกเรียกอีกจะโดนตี แป๊ะพูดอีกว่ามิ่งจะเอาดีไม่ได้ มิ่งจะเป็นเหมือนแม่ มิ่งบอกว่ามิ่งไม่มีวันเหมือนแม่ มิ่งต่อรองกับแป๊ะว่าตัวเองจะเรียนให้จบสูงสุด แล้ววันที่เรียนจบจะขอแป๊ะกับซิ้มเพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือ ขอเรียกว่าอากงกับยาย แป๊ะตกลง จากวันนั้นเป็นต้นมา เด็กหกขวบตั้งมั่นดำเนินตามปณิธานของตน มิ่งเรียนเก่งกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน ครูจะผ่านชั้นให้ขึ้นไปเรียนประถมแต่มิ่งไม่ไป เมื่อมิ่งขึ้นเรียนชั้นประถม มิ่งได้พบคนที่มิ่งอยากพบมาตลอด คือ แม่มาลี แม่ที่มิ่งเจอโทรม ไม่สวยเหมือนภาพฝันของมิ่ง แต่มิ่งก็ไม่ได้รังเกียจแม่

ความ กะทันหันทำให้มิ่งไม่ได้พูดอะไรกับแม่สักคำ และไม่ได้เรียกแม่ว่าแม่เลย แม่ให้เงินมิ่งหนึ่งพันบาท แม่รู้จากถวิลว่ามิ่งมีเงินฝากออมสิน ให้มิ่งไปฝากไว้เป็นทุนเรียนหนังสือ มิ่งไม่ได้เจอแม่บ่อยนัก แต่เมื่อมิ่งสอบเข้าโรงเรียนมัธยมที่มีชื่อเสียงของรัฐบาลได้ แม่เอาเงินค่าเล่าเรียนมาให้มิ่งอีก มีผู้เช่าหน้าใหม่มาเช่าแฟล็ตห้องใหญ่พิเศษ เธอเป็นสาวลูกครึ่งสวยมาก และอยู่เงียบๆ ไม่สุงสิงกับใคร มิ่งได้ยินว่าเธอเป็นหมอนวดที่กลายมาเป็นเมียเก็บชั่วคราวของเสี่ย และเปลี่ยนเสี่ยไปเรื่อยๆ แต่เธอดูนิ่มนวลอ่อนโยนไม่เหมือนหญิงขายบริการคนอื่นๆ ในแฟล็ต เธอคือ คุณบี หรือคุณโสวรรณ เธอมาอยู่ก่อนที่ครอบครัวอาจารย์วัชรีจะย้ายไปไม่นานนัก เธอเป็นคนเดียวที่ไม่เคยให้เงินทิปแก่มิ่งเลย แต่ให้มิ่งเอาเศษเงินทอนใส่โหลแก้วไว้ทุกครั้ง และเงินในโถแก้วก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มิ่งมองเงินในโถอย่างอยากได้มากทุกครั้ง แต่มิ่งไม่เคยคิดจะหยิบหรือเม้มเอาเงินนั้นมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว คุณบีสังเกตมิ่งทุกครั้ง และรู้ว่าเด็กคนนี้ใจเด็ดไม่ธรรมดา

วัน หนึ่งเงินในโหลแก้วของคุณบีหายไปหมด มิ่งใจหายกลัวโดนว่าขโมยไป เพราะห้องนี้เป็นห้องเดียวที่มิ่งฝ่าฝืนกฎของแป๊ะเข้ามาเล่นในห้อง เพราะคุณบีใจดีและรักมิ่งมาก มิ่งถามหาเงิน คุณบีบอกว่าเอาไปใช้เอง แล้วคุณบีเอาของขวัญห่อสวยให้มิ่ง ของขวัญนั้นคือกระโปรงบานสีแดง ที่มิ่งอยากได้นักหนากับเสื้อแขนยาวสีขาว และรองเท้าถุงเท้าเข้าชุดกัน มิ่งดีใจสุดๆ ที่จะมีชุดสวยใส่ไปงานฉลองปีใหม่ที่บ้านวัสสา และมิ่งยังเก็บชุดนั้นไว้ตลอดมากระทั่งโต ครอบครัวของลุงมานิตย้ายมาอยู่ที่ร้านของแป๊ะเพราะบ้านเจอทางด่วน และไม่ช่วยออกค่าใช้จ่ายใดๆ เลย เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายในบ้านแก่แป๊ะขึ้นหลายเท่าของค่าใช้จ่ายเดิม และป้าสะใภ้ทั้งดูถูกทั้งริษยา และเป็นไม้เบื่อไม้เมากับมิ่งมาก มิ่งไม่ยอมลงให้เลยถูกแกล้งถูกฟ้องถูกใส่ความสารพัด ลุงมานิตพอจะมีสายใยกับครอบครัวเดิมของตนอยู่บ้าน แต่ความที่รักลูกเมียเลยทำให้วางเฉย ไม่นานต่อมาห้องข้างๆ คุณบีมีนักเรียนชายวัยรุ่นจากอีสานมาอยู่ด้วยสองคน สองหนุ่มบุคลิกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

คนหนึ่งคือ โสฬส น้องชายต่างพ่อของคุณบี สูงโปร่ง ขาว หล่อมาก ปากหวานและสำอางหยิบโหย่ง มิ่งติดใจความหล่อของเขาตั้งแต่แรกเจอ เหมือนเด็กๆ ชอบดารา อีกคนชื่อ ปริก เป็นเพื่อสนิทของโสฬส ผิดกันราวฟ้ากับดิน ปริกไม่ถึงกับน่าเกลียดแต่ไม่หล่อ หน้าตาทื่อๆ แถมตัวดำอีก สองคนยังเรียนมัธยมปลาย โสฬสจะเอ็นเข้าคณะนิเทศ เขาใฝ่ฝันจะเป็นนายแบบและดารา ปริกเรียนสายช่างจะเอ็นเข้าวิศวะ คุณบีออกค่าเช่าห้องและค่าเรียนค่ากินอยู่ในห้อง ปริกมาอยู่ด้วย จ่ายค่าห้องให้ครึ่งหนึ่ง ปริกอยู่อย่างกระเบียดกระเสียร ครอบครัวเขาเคยรวยมาก มีที่นาเป็นร้อยๆ ไร่ แต่พ่อเล่นการพนันเสียหมด กลายเป็นคนจนไปในพริบตา ปริกจึงเกลียดการพนันชนิดเข้าไส้ ต่อมาพ่อของปริกโดนยิงตายในบ่อนแม่ผูกคอตายหนีหนี้ น้องๆ ของปริกอีกสามคนญาติพี่น้องรับไปอยู่ด้วย โปรดปรานไปอยู่กับป้า น้ำปรุงไปอยู่กับญาติห่างมาก มีศักดิ์เป็นน้า ส่วน ปัฏ น้องชายคนเดียวไปอยู่กับญาติอีกราย ปริกแทบไม่มีใจเรียน ไม่แน่ใจแล้วว่าจะมีทุนเรียนต่อมหาวิทยาลัยหรือไม่

โสวรรณเป็นกำลัง ใจ บอกให้ปริกพยายามเรียนต่อ เธอจะช่วยเงินบ้างในยามขัดสน และให้ปริกเก็บเงินที่แชร์ค่าห้องไว้ใช้ก่อน ตอนนี้เธอมีแฟนใหม่เป็นญี่ปุ่นกระเป๋าหนัก เธอจ่ายค่าห้องได้สบายๆ ปริกหาเงินส่งเสียตัวเองด้วยการับซ่อมเครื่องไฟฟ้าทุกชนิด และไฟฟ้าตามบ้าน แป๊ะถูกชะตากับปริก เพราะปริกฝีมือดี ไม่เอาเปรียบ คิดค่าซ่อมไม่แพง ทั้งแฟล็ตใช้บริการของปริก แป๊ะฝากปริกให้ทำงานหลังเลิกเรียนที่โรงงานผลิตสายไฟฟ้าของเพื่อนแซ่เดียว กัน มิ่งคุ้นเคยกับปริกแบบเป็นคู่กัดกันกลายๆ ปริกชอบใจเด็กน้อยคนนี้ตอนที่โสวรรณมีเรื่องกับศักดิ์ชาย สามีแมงดาของถมยา ศักดิ์ชายซ้อมถมยาทุกวันจนถมยาทนไม่ไหว โสวรรณช่วยให้ถมยาหนี มิ่งขอให้บุญวงศ์ไปพูดกับป้าแหวนให้รับตัวถมยาไปซ่อนและไปทำงานในสวนส้มด้วย ศักดิ์ชายมาขู่เข็ญและซ้อมโสวรรณ รู้ว่าโสวรรณต้องเป็นคนเอาถมยาไปซ่อน ปริกมาช่วยบู๊กับศักดิ์ชาย ในขณะที่โสฬสไม่กล้า เมื่อปริกจะเสียทีศักดิ์ชาย มิ่งไม่รู้จะทำไงได้ กัดน่องศักดิ์ชายไม่ยอมปล่อย

มิ่งไม่รู้ว่า ปริกประทับใจวีรกรรมของเธอมาก เพราะเขาเป็นคนนิ่งๆ แต่สิ่งที่ปริกไม่นิ่งคือเรื่องการพนัน ปริกเห็นมิ่งเล่นป๊อกเด้งกับเพื่อนๆ เล่นกันเล่นๆ ประสาวัยรุ่น โดยการชักชวนของอรุณี เพื่อนเก่าของมิ่ง ที่ตอนนี้กลายเป็นสาวขายบริการใน มดแดงคาเฟ บ้านเดิมของอาจารย์วัชรี ปริกบอกแป๊ะ แป๊ะเฆี่ยนสั่งสอนมิ่งไปสิบที และคาดโทษว่าหากเล่นอีกจะโดนยี่สิบที มิ่งอาฆาตอาละวาดใช้กำลังกับปริก ปริกขอโทษและปล่อยให้มิ่งทุบตีระบายอารมณ์ใส่ ปริกสอบเข้ามหาวิทยาลัยคณะวิศวะได้ โสฬสสอบเข้าที่ไหนไม่ได้เลย เขาขอโสวรรณไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชนที่โก้มาก และค่าเรียนแพงมาก และที่นี่เขาพบกับสาวสวยที่เขาชอบทันทีเมื่อแรกเห็น ทั้งชอบเพราะเธอสวยมากและเพราะรู้ว่าเธอรวยมหาศาล โสฬสตั้งปณิธานแน่วแน่ว่าจะต้องจับเธอให้ได้ เธอคือ วาลุกา ลูกสาวคนโตของอาจารย์วัชรี โสฬสจีบวาลุกาสำเร็จ แต่เจอก้างชิ้นใหญ่คือ มิ่ง โสฬสช็อกเมื่อเจอมิ่งที่บ้านวาลุกา

มิ่งบอกว่ารู้จักครอบครัว วาลุกามาตั้งแต่เกิด โสฬสอย่าทำรุ่มร่ามก็แล้วกัน เพราะตอนนี้ความลับของโสฬสอยู่ในมือมิ่ง โสฬสโกรธว่ามิ่งจะแบล็กเมล์ มิ่งว่าถ้าจะทำคงทำไปนานแล้ว โสฬสเหม็นหน้ามิ่งมาก สบโอกาสครั้งใดจะพูดให้มิ่งเสียหายในสายตาวาลุกาทุกครั้งว่ามิ่งจีบเขาไม่ ได้เลยร้ายกับเขา และตอนนี้เปลี่ยนไปจีบปริกเพื่อนเขา วาลุกาและอาจารย์วัชรียิ่งมีอคติกับมิ่ง เพราะรู้ประวัติแม่ของมิ่งดี แต่วัสสา วณิชชาและคุณอุษา คุณย่าของสามพี่น้อง ไม่เชื่อว่ามิ่งจะเป็นคนไม่ดีอย่างที่โสฬสว่า วัสสานั้นเกลียดและต่อต้านโสฬสเลย โสวรรณเริ่มมีอาการป่วยแปลกๆ ซีดและไม่มีแรง มารุตลูกชายคนรองของแป๊ะรักษาอาการติดยาหายแล้ว มาขอพักกับแป๊ะ อรนุชรังเกียจว่าเอาขี้ยาเข้าบ้าน ไม่เชื่อว่ามารุตหายแล้วจริง มารุตเห็นโสวรรณ ชอบเธอมาก ฝันจะได้เธอ เช้าวันหนึ่งซิ้มพบว่าเงินเหรียญค่าน้ำขวดในกระป๋องหายไปเกือบหมด เหลือแค่ไม่กี่บาท ความสงสัยเพ่งไปที่มารุต เนื่องจากเขาเคยมีประวัติเข้าตะรางเพราะลักทรัพย์มาแล้ว

มารุตโกรธ ออกจากบ้าน ต่อมาอีกไม่นานเงินหายอีก มิ่งเริ่มเป็นที่สงสัย แต่แป๊ะไม่เชื่อว่ามิ่งจะขโมย เพราะมิ่งไม่เคยขโมย และหาขโมยเมื่อไม่มีมารุตแล้ว ผิดต้องตกที่มิ่งเห็นๆ มิ่งไม่โง่ขนาดนั้น คืนหนึ่งซิ้มเห็นแป๊ะยังไม่เข้านอน ซิ้มลงมาตาม แป๊ะกำลังเคี่ยวน้ำตาใส่ยาแดงแล้วเอามดตะนอยแล้วเอาน้ำตาลมีมดไปใส่กระป๋อง เงิน ตีสี่เสียงลุกลนเปิดประตูห้องแถว แป๊ะและซิ้มลงไปดู มานิตและอรนุชกำลังตกใจที่ต้นโดนตัวอะไรไม่รู้กัดมือ ต้นร้องครวญครางเจ็บปวดมาก มือแดงเถือกด้วยสียาแดง แป๊ะรู้แล้วว่าใครขโมยเงิน แป๊ะขู่ว่าตัวที่กัดเป็นแมงมุมมีพิษร้ายถึงตาย อรนุชเป็นลม ต้นสารภาพว่าขโมยเงิน หมอบอกว่าที่กัดเป็นแค่มดตะนอย มานิตอับอาย คาดคั้นว่าต้นขโมยเงินไปทำอะไร ต้นบอกว่าเอาไปซื้อบุหรี่สูบ เป็นบุหรี่พิเศษใส่แป๊ะหลงจู๊ มานิตใจหายวาบ แป๊ะหลงจู๊คือ ผงขาว ต้นติดผงขาว มานิตส่งต้นไปบำบัดการติดยา และย้ายออกจากบ้านแป๊ะไปอยู่บ้านใหม่ แป๊ะให้ไปตามมารุตกลับมา มารุตรับคำกล่าวขอโทษและช่วยแป๊ะทำอาหารขาย เมื่อว่างจากงานก็นั่งมองห้องโสวรรณคนสวยส่งใจถึงเธอ

โปรดปราน ติดต่อปริกว่าถูกป้าไล่ออกจากบ้าน เพราะหาว่าให้ท่าลุงเขย แต่จริงๆ ลุงเขยเป็นฝ่ายเข้าหาขอมาอยู่กับปริก และจะหางานทำในกรุงเทพ ร้านแป๊ะไม่มีงานให้ทำ เพราะลูกจ้างเต็มแล้ว มิ่งติดต่อป้าวรรณให้โปรดปรานไปทำงานด้วยและให้โปรดปรานพักด้วยระหว่างรอป้า วรรณมารับ เมื่อโปรดปรานมาถึง ทุกคนที่เห็นเธอถึงอึ้ง เธอดูเป็นสาวร้อนสวาทชนิดติดไฟพรึ่บ และเพียงคืนแรกเธอเข้าหามารุตมีสัมพันธ์สวาทกัน และเช้าวันรุ่งขึ้นเธอไปที่ห้องปริก พบโสฬส ชายที่เธอใฝ่ฝันถึงมาตลอด เธอยั่วโสฬสจนได้เสียกับโสฬสอีก และเมื่อป้าวรรณมารับไปอยู่ที่สวนส้ม เธอทำงานไม่เป็นเลย แต่ไปยั่วสวาท สมบัติ หลานป้าวรรณ และ บุญมา พี่ชายบุญวงศ์ กลางคืนนอนกันคนหนึ่ง โปรดปรานไปสมัครงานที่ มดแดง คาเฟ เสี่ยพอใจจะเอาเธอไปเลี้ยง โปรดปรานเก็บเสื้อผ้าจะไปกับเสี่ย โสวรรณห้ามไว้ให้รอพบปริกก่อน โปรดปรานไม่รอผลักโสวรรณอย่างแรง โสวรรณป่วยอยู่แล้วเลยเป็นลมล้มฟาด มารุตมาพอดี พาโสวรรณไปส่งคลินิก

มารุต เอากระเป๋าของเธอไปให้โสฬส โสฬสเห็นผลเลือดของโสวรรณแล้วช็อกไปเลย ผลเลือดของเธอเป็นบวก โสฬสรีบขนเสื้อผ้าทั้งหมดแบบย้ายบ้านแล้วเข้าห้องโสวรรณกวาดเครื่องประดับ เท่าที่เจอทั้งหมดไปมูลค่าเป็นแสนแล้วโสฬสตั้งใจป้ายความผิดให้มารุตเอา กระเป๋าของโสฬสไปให้มารุตเอาไปให้เธอที่คลินิก โสฬสเอารถของโสวรรณไปด้วย โสวรรณกลับมาที่ห้อง ไม่เห็นเครื่องประดับเธอเข้าใจว่ามารุตขโมย เธอเปิดอีกลิ้นชักที่ซ่อนเครื่องประดับที่แพงมากๆ และโฉนดที่ดินไว้ ปรากฏว่ายังอยู่ครบ โสวรรณเก็บความระแวงมารุตไว้ ทั้งๆ ที่เห็นว่าเขาไม่มีพิรุธใดๆ เลย มารุตไม่รู้จักแม้กระทั่งบัตรเอทีเอ็ม ปริกตามโสฬสเจอที่บ้านแฟนเก่าของโสฬส โสฬสพูดเรื่องโสวรรณเป็นเอดส์ เขาไม่มีวันกลับไปอยู่แฟล็ตเดียวกับโสวรรณอีกแล้ว และพูดถึงว่าเขามีเงินแสนที่จะอยู่ไปได้อีกนาน โสฬสพูดเหมือนว่าปริกมีสัมพันธ์ทางเพศกับโสวรรณ ปริกชกโสฬสและด่ากระหน่ำ โสวรรณแน่ใจว่าโสฬสเป็นคนขโมยของเธอไปหลังจากปริกบอกว่าโสฬสขนเสื้อผ้าไปหมด เอารถไปด้วย และโสฬสพูดถึงเงินแสน

มารุตดูแลโสวรรณอย่างดี ขอความรักเธอ โสวรรณบอกเรื่องเธอเป็นเอดส์ มารุตบอกไม่สนใจ ถึงเขาจะติดโรคจากเธอและจะมีชีวิตอยู่ตอไปอีกไม่นาน แต่ถ้าได้อยู่กับความสุขสมหวังที่สุดของชีวิตเขายินดีแลก เขาไม่เสียดายชีวิต โสวรรณรับปากจะแต่งงานกับมารุต ปริกไม่มีเงินพอจะเช่าแฟล็ตต่อ เขาไปนอนที่โรงงาน โสวรรณขายเครื่องประดับที่เหลืออยู่เอาเงินเซ้งตึกแถวใกล้ร้านแป๊ะ เธอเรียกปริกกลับมาอยู่ด้วย ชั้นล่างให้ปริกเปิดหน้าร้านรับซ่อมเครื่องไฟฟ้า วาลุกามีโครงการจะไปเรียนต่อต่างประเทศหลังจากจบปริญญาตรี โสฬสจะไป ด้วย โดยตั้งใจจะใช้เงินของวาลุกา เขาต้องการรวบรัดวาลุกาเป็นของเขาเพื่อผูกมัด แต่วาลุการักนวลสงวนตัวมาก เธอไม่ยอมมีสัมพันธ์กับโสฬสก่อนแต่ง มิ่งแค้นที่โสฬสไม่ดูดำดูดีโสวรรณเลย เธอแฉเรื่องโสฬสกับวัสสา เรื่องรู้ถึงวาลุกา วาลุกาไม่เชื่อมิ่ง แต่เชื่อคำแก้ตัวออดอ้อนของโสฬส อาจารย์วัชรีสะดุดใจ ถึงไม่ชอบมิ่งแต่ก็ฟังหูไว้หู อาจารย์วัชรีสืบเรื่องโสฬสเท่าที่จะทำได้ในเวลาจำกัด และรู้สึกว่าที่มิ่งพูดเกี่ยวกับโสฬสน่าจะจริง

อาจารย์วัชรีจะให้ วาลุกาไปนอกก่อนกำหนด โดยตัวเองจะไปอยู่ด้วย และระหว่างยังไม่ไปก็พยายามกันไม่ให้วาลุกาพบกับโสฬส โดยดึงวาลุกาไปไหนๆ ด้วยจนวาลุกาใจอ่อนยอมไปด้วย โสฬสให้วาลุกาดื่มเบียร์ วาลุกาไม่คุ้นเคยเลยเมา โสฬสปล้ำวาลุกา สติสัมปชัญญะที่ยังเหลือน้อยนิดทำให้วาลุการอดมือโสฬสมาได้ ขับรถมาจนมาถึงหน้าหมู่บ้านแล้วฟุบเป็นลมอยู่แค่นั้น วาลุกานอนซมร้องไห้อยู่หลายวัน ไม่ยอมบอกแม่ว่าจริงๆ เกิดอะไรขึ้น แต่ยอมบอกวัสสา โสฬสพยายามติดต่อวาลุกา ความที่รักเขา วาลุกายอมพูดด้วย และต้องเจอเขาด้วยอยู่แล้วที่มหาวิทยาลัย แต่ไม่ยอมไปไหนด้วย โสฬสต่อว่าวาลุกา กลายเป็นวาลุกาเป็นคนผิดที่ไม่ยอมเสียตัวให้โสฬส วาลุกาผิดที่ไม่ยอมรอเขาไปเมืองนอกด้วย และวาลุกายังผิดอีกทุกเรื่องที่ผ่านมา วาลุกาเห็นแล้วว่าไม่มีอะไรเลยที่โสฬสจะรับว่าเขาเป็นคนผิด เขาโทษคนอื่นทุกเรื่อง แม้ไม่ใช่เรื่องทีเกี่ยวกับวาลุกาก็ตาม วาลุกาเริ่มตัดใจจากโสฬสได้ มิ่งสอบเข้าเรียนแพทย์ได้กับ บุษบงกช เพื่อนสนิท

บุษบงกชโวยที่สอบเข้าได้ที่สอง แพ้นักเรียนชาย เธอเป็นพวกมีอคติต่อเพศชาย มิ่งว่าให้รอเรียนจบไปทำงานพิสูจน์ฝีมือแข่งกับหมอชายก็แล้วกัน แป๊ะกับซิ้มดีใจมากที่มิ่งสอบเข้าแพทย์ได้ แป๊ะเริ่มป่วยกระเสาะกระแสะด้วยโรคถุงลมเพราะสูบบุรี่มากมาตั้งแต่หนุ่มๆ ไม่ค่อยยอมไปหาหมอ มิ่งต้องเอาความเป็นนักเรียนแพทย์มาบังคับไป มาลีมาอยู่บ้านแป๊ะด้วย เพราะสามีทิ้งไปหาผู้หญิงคนใหม่ที่เด็กกว่า ปริกติดต่อกับปัฏได้ ให้ปัฏมาเป็นลูกมือซ่อมเครื่องไฟฟ้า น้ำปรุงมากรุงเทพ น้ำปรุงเหมือนสติลอยๆ และพูดอะไรบางอย่างเหมือนจะว่าน้า ปริกว่าน้ำปรุงต้องไม่อกตัญญูผู้มีพระคุณ ไม่ควรหนีมา ปริกจะให้น้ำปรุงกลับไปช่วยน้าทำร้านเสริมสวยต่อ น้ำปรุงเงียบไม่พูดอะไรกับปริกอีกเลย น้ามาตามน้ำปรุงกลับ น้ำปรุงกลัวมาก หนีไปซ่อนที่ห้องมิ่ง น้ำปรุงเล่าให้มาลีฟังว่าที่หนีเพราะน้าสาวส่งเธอให้เป็นนางบำเรอของน้าเขย แลกกับเงินที่น้าเขยจะเอามาขยายกิจการสถานเสริมความงาม และน้ำเขยทำเลวทรามเอาเธอไปเป็นตัวแลกคู่นอนกับกลุ่มเพื่อน เธอเหลือจะทนจึงหนีมา

มาลีและมิ่งจะพาน้ำปรุงหนี แต่ลงมาเจอน้าสาวน้าเขยยืนรออยู่ ปริกบังคับให้น้ำปรุงกลับไปกับน้า น้ำปรุงไม่ยอม วิ่งเตลิดขึ้นดาดฟ้าแล้วโดดลงมาฆ่าตัวตาย โสวรรณจะฆ่าน้าทั้งสองคน แต่ถูกห้ามไว้ทัน มีดกรีดได้แค่แขนของฝ่ายชาย สองคนชั่ววิ่งหนีไป ปริกจมอยู่กับความรู้สึกผิด เมื่อรู้ว่าน้ำปรุงถูกกระทำอย่างไรมาบ้าง ทุกวันตายของน้ำปรุง ปริกจะหุงข้าวทำกับข้าวด้วยตนเองใส่บาตรอุทิศส่วนกุศลไปให้ ปริกเรียนจบได้บรรจุเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยที่เรียน วาลุกาเรียนจบปริญญาโท กลับมาจากต่างประเทศ เธอตัดใจจากโสฬสได้แล้ว และโสฬสไม่ได้ตามเธอไปต่างประเทศดังที่เขาบอกไว้ เขาเขียนจดหมายติดต่อเธอ ทุกฉบับบอกว่าพยายามทำงานหนักเพื่อเก็บเงินไปหาเธอ แต่เก็บไม่ได้เสียที อรุณีเอาวิดีโอหนังเอ็กซ์มาให้มิ่งดู เป็นหนังปลุกเซ็กซ์อย่างเดียวจริงๆ ไม่มีศิลปะเอาเสียเลย พระเอกของเรื่องคือ โสฬส มีกิจกรรมทางเพศโจ๋งครึ่มกับผู้หญิงนับสิบ โสวรรณว่าอย่างนี้มีหวังเป็นโรคตายก่อนเธอแน่ โสวรรณเข้าโรงพยาบาลบ่อย

มารุต ดูแลเธออย่างไม่รังเกียจ และเขาก็ยังทำอาหารขายด้วย ปริกให้มิ่งพามารุตไปตรวจเลือด และให้พูดให้มารุตเข้าใจว่าเขาควรหยุดทำอาหารขาย ให้ลูกจ้างทำแทน มิ่งรู้ข่าวว่า วาลุกา กลับจากต่างประเทศ และเข้าเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเดียวกับปริก มิ่งรู้สึกใจหาย เธอไม่เคยลืมสายตาของปริกที่มองวาลุกา เป็นสายตาที่นิยมชมชอบมากๆ มิ่งคิดว่าหากวาลุกาตัดใจจากโสฬสได้ ปริกคงมีหวังในตัววาลุกา มิ่งจึงตัดสินใจฝากวิดีโอหนังเอ็กซ์ของโสฬสกับวัสสาไปให้วาลุกาดู วาลุกาได้ดูแต่เธอก็รู้ว่าตัวเองตัดโสฬสได้ตั้งนานแล้ว มิ่งพูดกับปริกอ้อมๆ เรื่องจีบวาลุกา ปริกว่าเห็นกันมาตั้งหลายปีไม่รู้ว่าจริงๆ ปริกรักใคร ปริกอยากจะพูดกับมิ่งให้ชัดเรื่องโครงการชีวิตหลังมิ่งเรียนจบ เขารู้ว่ามิ่งต้องออกไปประจำโรงพยาบาลต่างจังหวัด เขาจึงอยากแต่งงานกับมิ่งเลยเพราะแป๊ะก็ป่วยกระเสาะกระแสะจะตายวันตายพรุ่ง เขาอยากให้แป๊ะอยู่ทันได้เห็นมิ่งและเขาแต่งงานกัน มิ่งสมหวังในรัก และสมหวังที่ได้เรียกแป๊ะและซิ้มว่าอากงกับยายเสียที ทั้งมิ่งและปริกเป็นบัวที่พ้นน้ำชูดอกสวยที่เกิดจากตม โดยไม่ถูกกุ้งหอยปูปลาใต้น้ำกินเป็นอาหารไปเสียก่อน

เจ้าสัวสยาม (2545/2002) ทุกชีวิตต้องต่อสู้... ก่อนอื่น "ใจ" ต้องไม่ยอมแพ้ ขอเพียงมุมานะไม่ท้อถอย แล้วพรุ่งนี้... คุณก็มีสิทธิ์ชนะ ละครที่รวบรวมเรื่องราวของบุคคลสำคัญในประเทศไทยที่เดินทางไกลมาจากเมืองจีน จากที่มีแต่เสื่อผืนหมอนใบได้พากเพียรพยายามจนประสบความสำเร็จในชีวิต และได้กลายเป็น "เจ้าสัวแห่งเมืองสยาม" หนังสือเล่มนี้จะเป็นตัวอย่างความสำเร็จที่น่าศึกษาและนำไปเป็นแบบอย่างใน การดำเนินชีวิตได้อย่างดีที่สุด

สงครามดอกรัก 2544

เรื่องย่อ : สงครามดอกรัก (2544/2001) ป่าน แก้ว เติบโตมาในสภาวะบ้านแตก บัลลพผู้พ่อทิ้งร้าง รัญจวนแม่ของเธอ ซึ่งเป็นเมียน้อยให้ดูแลลูก ๆ ตามลำพัง เธอและน้อง ทักษ์ กับลินจง จึงมีเพียงยายส้านที่คอยดูแล รัญจวนผิดหวังกับความห่างเหินของสามีจนเก็บตัวอยู่แต่ในโลกของตน หลายครั้งที่เธอเรียกร้องความสนใจสามีด้วยการกินยานอนหลับตาย แต่ลูก ๆ ก็พาไปล้างท้องได้ทันทุกครั้ง เมื่อบัลลพรู้เข้าก็ยิ่งโกรธเกรี้ยวและถอยห่างจนไม่เหลียวกลับมามองอีก ป่านแก้วอดทนต่อคำเสียดสีของ คุณใหญ่ลูกสาวคนโตของเมียหลวงในยามที่ไปขอเงินเลี้ยงดูมาตลอด แต่ทักษ์ไม่สามารถทนต่อการดูถูกได้อย่างพี่สาว เขาจึงตั้งใจแน่วแน่จะยืนด้วยลำแข้งของตัวเองให้ได้ ป่านแก้วสู้เรียนจนจบพยาบาลในขณะที่ลินจงกลับไม่สนใจเรียน คิดสบายหาทางลัดโดยการหวานเสน่ห์ให้กับบันเทิง เด็กหนุ่มข้างบ้านหลานคุณนายสุพรรณผู้เห็นเรื่องของคนอื่นเป็นอาหารหวานอัน โอชะ บันเทิงทำงานรับใช้ป้าแลกเงินค่ากินอยู่ ลินจงเองก็ไม่ชอบนักที่เขาต้องมัธยัสถ์ เธอไม่อยากกัดก้อนเกลือกินกับเขาไปจนตาย นางส้านหงุดหงิดกับค่าเลี้ยงดูที่ถูกตัดลงเมื่อป่านแก้วเรียนจบ จึงอาละวาดกับทุกคน แม้กระทั่งโทรไปหาบัลลพที่ทำงาน แต่ไม่ได้ผลเพราะเลขาของบัลลพไม่เคยให้ใครเข้าถึงตัวเขาได้ นางส้านจึงด่าว่ารัญจวนที่ไม่รับรู้อะไร จนรัญจวนเกินทน ตัดสินใจจบความทุกข์ของตนด้วยยาฆ่าแมลง เมื่อแม่ตาย ลินจงกับทักษ์ก็ไม่เห็นประโยชน์ของการต้องทนอยู่ในบ้านอีก ทุกคนโกรธแค้นบัลลพที่ไม่ใยดี บัลลพอับอายที่ถูกนางส้านชี้หน้าด่ากลางงานศพ จึงสั่งคุณใหญ่ตัดค่าใช้จ่าย ทักษ์ออกจากบ้านไปขอพึ่งพิง ตวงใจเพื่อนคนเดียวที่มีอยู่ ตวงแอบชอบทักษ์อยู่มาก จึงช่วยเหลือพาทักษ์ไปรู้จักกับลูกค้าทำผมทำเล็บขาประจำของเธอ คือ รอยและทิมมี่ เศรษฐีฝรั่งใจบุญที่ชอบช่วยเหลือการกุศลต่างๆ ในเมืองไทย ทิมมี่แสดงความสนใจทักษ์และรับเป็นพี่เลี้ยงของเขา ทักษ์เหมือนมีชีวิตใหม่ในสังคมหรูหรา ในขณะที่ลินจงเองก็ใช้บันเทิงเป็นสะพานไปสู่การรู้จักอรรจ์ และยอมเป็นเมียเก็บของเขาด้วยความเต็มใจเพื่อแลกเปลี่ยนกับการกินอยู่ที่ดี ขึ้น ป่านแก้วทำงานพิเศษอยู่กับ ระพี นายแพทย์ที่เป็นอาจารย์ของเธอ ระพีมีลูกสาวคือจุ๊บแจง ซึ่งไม่เคยได้รับความรักอย่างแท้จริงจากแม่ คือ รวยริน สาวสังคม ร่ำรวย เอาแต่ใจ มณีนุช แม่ของรวยรินพยายามหาทางให้ระพีกลับมาคืนดีกับรวยรินหลังการหย่าร้าง เพราะเห็นแก่จุ๊บแจง แต่ก็เป็นไปไม่ได้เพราะทั้งคู่มีชีวิตและความคิดที่ต่างกันอย่างสุดขั้ว จุ๊บแจงเมื่อได้มาที่คลีนิคของพ่อ ก็ติดใจป่านแก้วอย่างมากเพราะความอ่อนโยนของเธอ มณฑาป้าของระพีมองภาพความสนิทสนมของจุ๊บแจงกับป่านแก้วด้วยความพึงพอใจ ระพีพาป่านแก้วไปหาตวงที่บ้านเพื่อถามข่าวคราวทักษ์ ป่านแก้วจึงได้เจอกับบัลลพอีกครั้ง เพราะญาติของตวงคือ น้ำหวาน เป็นเมียน้อยอีกคนของบัลลพ น้ำหวานเต็มใจอยากเป็นเมียน้อยของบัลลพโดยแรงเชียร์จากนางน้อม ผู้เป็นป้าที่พยายามสอนกลเม็ดมัดใจผัวแก่ทุกวิถีทาง ตวงรังเกียจกับสภาพบ้านที่ตนอยู่จึงมาระบายกับป่านแก้วด้วยความสนิทใจ ทักษ์ ถูกทิมมี่แนะนำให้รู้จักกับเพื่อนรักคือแพ็ทซี่และโจ แพ็ทซี่ชอบทักษ์ตั้งแต่แรกเห็น ยิ่งถูกใจเมื่อรู้ว่าเขาไม่เคยผ่านมือใคร ทักษ์ กล้ำกลืนยอมอยู่กับแพ็ทซี่ด้วยบุญคุณที่ทิมมี่เลี้ยงดู ท่ามกลางสายตาเกลียดชังของโจ คู่ขาของแพ็ทซี่ ทิมมี่จึงอาสาปลอบโจด้วยรสสวาท โจซึ่งเป็นผู้ชายขายบริการมาก่อนก็ไม่ปฏิเสธ ป่านแก้ว ตวง และระพี เจอทักษ์เข้าวันหนึ่งขณะที่เขาควงกับแพ็ทซี่ ตวงหัวใจสลายเมื่อรู้ว่าทักษ์ต้องกลายเป็นคู่ขาของสาวใหญ่ ป่านแก้วหนักใจมากที่รู้ว่าน้องสองคนเลือกทางเดินเช่นนี้ ระพีปลอบให้เธอทำใจ ทักษ์บอกตวง ผู้หญิงที่ตนรักว่า เขาจำใจอยู่ในสภาพผู้ชายของแพ็ทซี่เพราะบุญคุณ ทั้งสองเข้าใจกันและสัญญาว่าจะต่อสู้เพื่อมีอนาคตร่วมกันให้ได้ อรรจ์พาลินจงมาฝากงานกับมณีนุช หุ้นส่วนทางธุรกิจ มณีนุชรับลินจงเพื่อให้เป็นสายบอกความสัมพันธ์ของอดีตลูกเขยและป่านแก้ว เพราะเธอเห็นแววตาริษยาพี่สาวของลินจง แต่ลินจงก็สบายได้ไม่นานเมื่ออรรจ์ตายคาอก มณีนุชรับลินจงมาไว้ในบ้านและยุแหย่เรื่องระพี ลินจงจึงไปหาป่านแก้วที่คลีนิค ป่านแก้วพยายามเกลี้ยกล่อมน้องสาวแต่ลินจงดื้อดึง ไม่ยอมกลับไปลำบากอีก และกล่าวอาฆาตแค้นทุกคนโดยเฉพาะพ่อของเธอ บัลลพห่างน้ำหวานไปเป็นระยะเพราะวุ่นอยู่กับการเปิดบริสุทธ์เด็กสาวชาวเขา ที่เอเย่นต์จัดหามาให้ น้ำหวานรู้เข้าจึงคิดมัดใจสามีแก่ด้วยการมีลูก บัลลพที่กลับมาหาน้ำหวานอีกครั้งในสภาพอิดโรย ไม่เห็นด้วยนักกับการมีลูก แต่ก็ไม่ได้ทัดทาน น้ำหวานและนางน้อมสมหวังกับแผนการครั้งนี้อย่างยิ่ง ทักษ์ อยู่ในสภาพสามคนผัวเมียกับแพ็ทซี่และโจ เพราะโจทำท่าเจียนตายเมื่อแพ็ทซี่หลงทักษ์ จนประชดด้วยการมั่วคนอื่น แพ็ทซี่สงสารคู่ขาเก่าจึงกลับมาอยู่ร่วมกันอีก น้ำหวานไปฝากท้อง จึงรู้ว่าตนเองติดเอดส์ ป่านแก้วและระพีพยายามบอกบัลลพ แต่เขาปฏิเสธทั้งที่ร่างกายก็มีอาการผิดปกติเพิ่มขึ้น ด้วยความกลัวเสียชื่อเสียง ลินจงมีเสี่ยอุปการะใหม่จึงมาเย้ยนางส้าน นางส้านด่าว่าลามไปถึงเรื่องบัลลพเป็นเอดส์ ลินจงสะใจอย่างมาก จึงแพร่ข่าวนี้โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์กับเสี่ย และมณีนุช ด้วยความหวาดกลัวอย่างผิดๆ ของสังคมรอบข้าง ทำให้น้ำหวานและนางน้อมถูกรังเกียจจากเพื่อนบ้าน ลินจงเองก็ถูกเสี่ยทิ้งเพราะกลัวลูกหลานติดเอดส์ บัลลพบังคับให้น้ำหวานทำแท้ง ระพีกับป่านแก้วยื่นมือเข้ามาโอบอุ้มพ่อและเมียน้อยด้วยการพาไปอยู่วัดพระ บาทน้ำพุ ลินจงซัดเซจนไปเจอทักษ์ ทักษ์พาน้องมาพักที่คอนโดทิมมี่ ลินจงจึงรู้ว่า ทิมมี่เป็นเอดส์ แพ็ทซี่กลับมาเมืองไทยพร้อมกับข่าว ร้ายว่าโจฆ่าตัวตายเพราะหนีความทรมานจากโรคร้ายนี้ ทักษ์กลัวมากเพราะโจเป็นคนแพร่เชื้อให้กับทิมมี่ แพ็ทซี่พาทักษ์ไปตรวจเลือด รอยติดต่อให้ป่านแก้วและระพีมารอพบทักษ์ แต่ทักษ์หนีไปก่อน ทุกคนออกตามเพราะรู้ว่าทักษ์รับกับสภาพตัวเองไม่ได้ จนพบทักษ์นอนสิ้นเรี่ยวแรงในเรือกลางทะเล รอย ระพีและป่านแก้วเข้าไปขอบริจาคจากมณีนุชที่ตั้งแง่รังเกียจมาตลอด แต่คำพูดของพวกเขาทำให้มณีนุชเปลี่ยนใจได้ ทั้งหมดเดินทางไปวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อพบบัลลพ ทักษ์ท้อแท้อย่างมาก เมื่อรู้ว่าต่อไปตนต้องมีสภาพอย่างพ่อ ป่านแก้วกับตวงอธิบายและเป็นกำลังใจให้ทักษ์ยืนสู้และมีความหวัง ทักษ์จึงตัดสินใจได้ว่าเขาจะเป็นอาสาสมัครเผยแพร่รณรงค์ความรู้เรื่องเอดส์ แก่คนอื่น เพื่อป้องกันไม่ให้ทุกคนก้าวพลาดและหลงอยู่ในกามกิเลสจนนำชีวิตไปสู่จุดจบ เช่นเขาและพ่ออีก

ลูกไม้ไกลต้น 2543

เรื่องย่อ : ลูกไม้ไกลต้น (2543/2000) มนุษย์ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้โดยลำพัง ดังนั้นสถาบันครอบครัวจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะตอบสนองการใช้ชีวิตของมนุษย์ "ลูกไม้...ไกลต้น" เรื่องราวที่สะท้อนถึงความจำเป็นของการมีสถาบันครอบครัว การได้รับการยอมรับซึ่งกันและกันระหว่าง พ่อ แม่ และลูก "รสา" ตัวละครเอกในเรื่องนี้ มีสถานะเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดา ๆ พยายามทุกวิถีทางที่จะพิสูจน์ตนเองให้ชายผู้ที่เธอเชื่อมั่นว่าเป็นพ่อแท้ ๆ ที่เป็นถึงมหาเศรษฐีได้เห็นว่าเป้าหมายของเธอไม่ใช่มรดกมหาศาล แต่มันคือการยืนยันสถานะของตัวเธอ และแม่ของเธอต่างหาก เป้าหมายนั้นมันดูเหมือนห่างไกลเกินฝัน เธอต้องผ่านอุปสรรคมากมาย ต้องพิสูจน์ตนเอง ต้องอดทนต่อสายตาของคนรอบข้างที่มองเธออย่างดูถูก เหยียดหยาม ต้องอดทนฝ่าฟันแม้กระทั่งกับชายคนที่เธอรัก ถ้าจะเปรียบเธอเสมือนลูกไม้ เธอก็เป็นลูกไม้ที่เกิดท่ามกลางพายุถูกพัดกระหน่ำจนกระจัดพลัดพรายจนตกไกลต้นเสียเหลือเกิน ไกลเกินกว่าที่จะอาศัยร่มเงาของกิ่งใบช่วยดูแลได้ ลูกไม้นั้นจึงต้องฝ่าเปลวแดด ลมฝน อุปสรรคเพื่อยืนหยัดอย่างทระนง รอเวลาที่จะหยั่งรากลึกอันแข็งแรงลงสู่ผืนพสุธา เพื่อจะเติบโตขึ้นมาชูช่อ แห่งศรัทธา ความเชื่อมั่น และความดี อย่างกล้าแกร่งและสง่างาม

ทิพยดุริยางค์ 2543

ทิพยดุริยางค์ (2543/2000) นิรัติศียหรือแบงค์ หนึ่งในหลานชายของตระกูลวงศ์ธนากุล ผู้ฝักใฝ่ในศิลปะวัฒนธรรมไทย จนเลือกที่จะสอบเข้าโรงเรียนนาฏศิลป์ โดยมิสนใจว่านิมิตและชาครียา ผู้เป็นพ่อและแม่จะห้าม แต่นิศาชลหรืออาน้องเล็กที่เกลี้ยกล่อมแบงค์ได้ รางวัลที่นิศาชลได้คือได้ไปล่องเรือสำราญ นิศาชลพาหลาน 6 คนไปด้วย โดยนาศานาถหรือเจน ลูกสาวของนิพัทธ์พาเพื่อนสนิทซึ่งเป็นลูกสาวเลขาทูตไปด้วย ด้วยความน่ารักและมีเสน่ห์ทำให้นิรมานหรือจี้ พี่ชายของเจนตามจีบเวฬุริยาหรือไผ่ แต่แบงค์ตั้งข้อห่รังเกียจหาว่าไผ่ไฟเห่อกับวัฒนธรรมของชาวฝรั่ง การเป็นแชมป๋เปียโนคือเปลือกนอก เพราะแบงค์อิจฉาที่ไผ่เป็นที่รักของทุกคน ต่างจากเด็กดื้อ ขี้น้อยใจอย่างเขา ไผ่พยายามพูดให้แบงค์เข้าใจคนอื่นและระงับอารมณ์ แบงค์เริ่มรู้สึกดีกับไผ่ ทั้งคู่ได้พบกันอีกเมื่อไผ่พายายไปดูละครที่โรงละครแห่งชาติ ซึ่งเขากับปัจจันต์ เพื่อนสนิทที่มักไปทุกสุดสัปดาห์

พระจันทร์ลายกระต่าย (2542/1999) เรื่องราวของชีวิตวัยรุ่นที่ถูกหล่อหลอมมาด้วยความรักแต่ทุกสิ่งถูกดำเนินไปด้วยธรรมชาติของชีวิต รัก โลภ โกรธ หลง อำนาจ ศักดิ์ศรี และชื่อเสียง "พระจันทร์ลายกระต่าย" เป็นเหมือนสื่อกลางที่หล่อหลอมให้ทุกคนมีความเชื่อมั่นเกิดขึ้นในจิตใจ..ไม่มีใครเช่ือว่า การอธิษฐานขออะไรบางอย่างจากพระจันทร์ จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นมีแต่ "เข่ง" คนเดียวเท่านั้นที่เชื่อถือ...จิตใจของเขาจึงบริสุทธิ์กับทุกสิ่งทุกอยาง จากการกำกับของ อิทธิสุนทร วิชัยลักษณ์ นำแสดงโดย พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง, ศราวุธ นวแสงอรุณ, ชาช่า อัลเทอร์แมทท์, อินทิรา แดงจำรูญ, นภัสกร มิตรเอม ... ลองแหงนหน้ามองพระจันทร์ แล้วตั้งจิตอธิษฐานสิ่งที่คุณขอนะครับ ขอให้สมหวัง...

ข้ามสีทันดร 2542

ข้ามสีทันดร (2542/1999) ยุพรา เพื่อนสนิทของ เดือนสิบ เห็นเธอเป็นทุกข์เรื่อง ดวล น้องชาย อีกทั้งปัญหาชีวิตมากมายรู้สึกสงสารอยากช่วยผ่อนคลาย จึงชวนเดือนสิบไปเที่ยว แอฟริกา กับคณะทัวร์ ที่มี ชีวาตม์ เป็นหัวหน้าคณะ ระหว่างเดินทางทุกคนในทัวร์ต่างตื่นเต้นกับการส่องสัตว์ ป่า นานาชนิด และ มหาสมุทรแอฟริกา จะมีเพียงแต่ เที่ยงวัน ชายหนุ่มซึ่งมีอดีตเคยติดเฮโรอีนมาเป็นเวลานาน 10 ปี เพียงคนเดียวที่มีทีท่าไม่แยแสต่อสิ่งที่พบเห็น ทำให้ นางสวาท ผู้เป็นแม่เฝ้าคอยดูด้วยความห่วงใยมากเกินปกติ จนเป็นที่ผิดสังเกตของเดือนสิบและทุกคน โดยเฉพาะ นางรื่นเริง ที่มักคอยจ้องจับผิดสองแม่ลูก เพราะนางรู้อดีตของเที่ยงวัน ในระหว่างการเดินทางชีวาตม์ทำตัวเป็นหัวหน้าคณะที่ดี คอยดูแลลูกทัวร์ทุกคน โดยเฉพาะนางสวาทและเที่ยงวันที่มักจะแยกตัวไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร เที่ยงวันรู้สึกอึดอัดกับสายตาแปลก ๆ ของบางคนในคณะทัวร์ แต่ก็พยายามทำใจยอมรับสภาพความเป็นจริง เขาเริ่มสังเกตและทำความคุ้นเคยกับเดือนสิบ และหันมาเอาใจใส่มารดาที่คอยเฝ้าตามตัวเขาด้วยความห่วงใย ครั้งแรกเที่ยงวันรู้สึกหวาดระแวงเดือนสิบ เพราะคิดว่าเดือนสิบเป็นเหมือนคนอื่น ๆ ที่อยากรู้เรื่องการติดยาของเขา แต่เมื่อเห็นความร่าเริงสดใสและความเป็นกันเองของเดือนสิบและยุพรา เที่ยงวันรู้สึกสบายใจและคลายความอึดอัดลง แต่ในบางครั้งเที่ยงวันก็สังเกตเห็นว่าเดือนสิบมีนัยน์ตาที่เลื่อนลอย เคว้งคว้างเหมือนมีเรื่องอยู่ในใจ ยุพราพยายามบอกให้เดือนสิบลืมปัญหาที่บ้านและความกังวลในเรื่องของลำธารคนรักไปก่อน

ธรณีนี่นี้ใครครอง 2541

เรื่องย่อ : ธรณีนี่นี้ใครครอง (2541/1998) เมื่ออาทิจ (แอนดริว เกร้กสัน) เรียนจบวิทยาลัยเกษตร เขาตัดสินใจไม่เรียนต่อ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้น้องๆได้เรียนบ้าง หลังจากที่น้องๆได้หลีกทางเปิดโอกาสให้เข้าแล้ว เขาเป็นลูกชายคนโตในครอบครัวข้าราชการชั้นผู้น้อยที่มีลูกมากถึงสิบคน อาทิจไม่คิดที่จะทำงานราชการ เขาใฝ่ฝันที่จะมีที่ดินเป็นของตัวเองสักแปลง และใช้วิชาความรู้ทั้งหมดที่ได้เรียนมาให้เกิดประโยชน์ พ่อจึงตัดสินใจส่งตัวเขากลับไปหา ย่าแดง (จุรี โอศิริ) เป็นการไถ่โทษที่ในอดีตพ่อของอาทิจ ซึ่งเป็นลูกชายคนโตในจำนวนพี่น้องยี่สิบคน ขโมยเงินย่าแดงหนีออกจากบ้านเพราะไม่ต้องการทำงานหนักในไร่ ย่าแดงยินดีต้อนรับอาทิจเพราะในจำนวนลูกหลานทั้งหมดต่างก็เป็นหลักเป็นฐานไปหมดแล้ว ไม่มีใครรับช่วงต่องานในไร่ซึ่งมีมหาศาล อาทิจต้องทำงานโดยไม่ได้รับเงินเดือน เพราะ ย่าแดงได้ให้เงินก้อนเป็นทุนการศึกษาสำหรับน้องอาทิจ และอาทิจระลึกอยู่เสมอว่าเป็นการทำงานใช้หนี้ให้ย่าแดงทั้งสำหรับอดีตที่พ่อทำเอาไว้ และปัจจุบันที่ย่าแดงให้ทุนการศึกษาน้องสาวเขาถึงสองคน

กิ่งไผ่ 2541

กิ่งไผ่ (2541/1998) ละครเรื่องนี้เป็นละครย้อนยุคประมาณรัชกาลที่ 7-8 จุลจิตต์ เป็นลูกบ่าวในบ้านของท่านองค์พระ เป็นเด็กจีนที่อยู่ในบ้านของผู้ดีชาวไทยแล้วจะโดนคนแกล้งแต่จะมีคุณฟุ้ง ที่เป็นลูกเจ้านายคอยช่วยเหลือ แต่ตอนหลังมีญาติรับไปอยู่ต่างประเทศ ไปเรียนวิศวกรที่อเมริกา และได้สัญชาติอเมริกันแต่ก็ยังไม่ลืมความเป็นไทย ไม่ลืมความกตัญญู พอกลับมาอีกครั้งหนึ่งเป็นวิศวกรชื่อ จอห์น ลี ซึ่งตอนนั้นเหตุการณ์บ้านเมืองเปลี่ยนไป คุณฟุ้งกลายเป็นโจรต้องไปอยู่ในป่า ส่วนจุลจิตน์เป็นวิศวกร แล้วคุณฟุ้งก็มาเป็นลูกน้องในเหมือง วิถีชีวิตของคนสองคนจากบ่าวกลายเป็นวิศวกร แล้วจากลูกเจ้านายกลายเป็นชีวิตอีกแบบหนึ่งตกต่ำผกผัน

มุกมังกร 2541

เรื่องย่อ : มุกมังกร (2541/1998) เป็นเรื่องที่นำมาจากหนังสือ “The Dragon’s Pearl” แต่งโดย สิรินทร์ พัธโนทัย ที่เขียนขึ้นจากชีวิตจริงของเธอ ที่เธอและพี่ชาย ต้องถูกส่งตัวไปอยู่เมืองจีนในฐานะ “ตัวประกันทางการเมือง” ในยุคของจอมพล ป.พิบูลย์ สงคราม ของไทย และ โจว เอิน ไหลของประเทศจีน เป็นการร่วมทุนสร้างระหว่าง เจ เอส แอล ของไทย และ บ. ปักกิ่ง เทียน ฉิน ของจีน ถ่ายทำในประเทศไทย และ ประเทศจีน และฉายในหลายมณฑลของจีน

เสน่หาพยาบาท (2540/1997) เรื่องราวความรักของ ‘คีรี’ ในวัยเยาว์ที่มีต่อ ‘คัทริน’ ได้ถูกหล่อหลอมมาพร้อมกับความเคียดแค้นอาฆาตพยาบาท แล้วใครล่ะที่เป็นผู้ก่อความแค้นนี้ให้แก่เขา เมื่อความรักไม่เป็นไปตามสิ่งที่หวังไว้ มีแต่ความทุกข์ทรมานเข้ามาแทนที่ ‘คีรี’ จะทำเช่นไรจึงจะสมหวัง และความแค้นทั้งหมดจะมลายหายไป

ฟ้าสางที่กลางดง (2540/1997) สัมผัส กับธรรมชาติชีวิตบ้านไร่กลางดง ที่อบอวนไปด้วยอากาศบริสุทธ์ และกลิ่นอายความรักของ "ทิมทอง" บัณฑิตหมาดๆ สาขาสัตวบาลซึ่งได้ไปทำงานในฟาร์มหมูของ "ภาสุรี" ที่ที่ทำให้เธอได้เจอสิ่งใหม่ๆ ผู้คนใหม่ๆ รวมทั้งได้เรียนรู้ชีวิตทั้งด้านการงานและความรัก... เรื่องราวที่หวานอุ่น สำนวนละมุนละไมในหนังสือเล่มนี้ จะทำให้คุณหลีกหนีโลกในชีวิตปัจจุบันที่วุ่นวาย ได้แง่คิดในอีกมุมมองที่จะทำให้มีกำลังใจและมีความหวังมากขึ้น

หัวใจทระนง 2540

หัวใจทระนง (2540/1997) เกือบ เดือนแล้วที่ ชลาธร ดีเจสาวตัดสินใจยุติชีวิตคู่ของเธอกับ อติพัทธ์ บ.ก. หนังสือพิมพ์ชื่อดังทั้งที่อยู่กันมาถึง 9 ปี ชลาธรพาฟ้าลูกสาววัย 7 ขวบ ออกจากบ้านของสามีกลับมาอยู่ที่บ้านของตัวเอง เหตุผลใหญ่คือปมในใจของชลาธรเองย้อนไปสมัยที่พ่อและแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ เธอรู้สึกว่าพ่อของเธอมักแสดงท่าทีก้าวร้าว ข่มเหงแม่ของเธออยู่เสมอจนกระทั่งแม่ต้องตายเพราะความตรอมใจ เธอปักใจว่าแม่ตายเพราะพ่อ สิ่งนี้เองที่ทำให้ชลาธร ไม่ยอมลงให้อติพัทธ์ เธอจะไม่ยอมให้ใครมาข่มเหงเธอเด็ดขาด จนมาถึงจุดแตกหักที่คำว่า ลูกก็ไม่อาจยึดเหนี่ยวชีวิตคู่หของทั้ง 2 ไว้ได้ การแยกทาง ของชลาธรและอติพัทธ์ ทำให้ลูกสาวคนเดียวเริ่มมีปัญหาที่โรงเรียน วีวิน พระเอกหนุ่ม รูปหล่อ พ่อรวย รู้จักชลาธรมาตั้งแต่ทั้ง 2 เรียนอยู่ที่ อังกฤษ ความสนิทสนมทำให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนต่างคาดกันว่าเรียนจบแล้วทั้ง 2 คนจะแต่งงานกัน แต่ผิดคาดชลาธรไม่เคยรักวีวินแบบคู่รักเป็นได้แค่เพื่อนที่รู้ใจกันมากที่ สุด ข่าวพระเอกหนุ่มซับน้ำตาให้ดีเจสาวที่กำลังมีปัญหาครอบครัวจึง ถูกตีพิมพ์ทำ ให้อติพัทธ์ถึงกับเต้นและโทรไปต่อว่าชลาธรในข้อหายังไม่ทันหย่า ก็จะหาพ่อใหม่ให้ลูกสาว และด้วยความผิดพลาดของคนควบคุมเครื่อง เสียงทะเลาะกันของคนทั้ง 2 จึงได้ออกอากาศกลายเป็นข่าวใหญ่อีกครั้ง ในวันรุ่งขึ้น อภิรดี นางเอกวัยรุ่นที่มีข่าวว่าชอบพอกับวีวินโทรไปหาเจ้าของคอลัมน์ซุบซิบเพื่อ แก้ข่าวให้วีวินและชลาธร แต่การแก้ข่าว กลับทำให้ เกิดเรื่องใหญ่กลายเป็นรัก 4 เส้า จนวีวินต้องหาทางยุติข่าวลือทั้งหมดโดยจะขอให้อติพัทธ์กลับไปอยู่บ้านกับชลา ธรเป็นการชั่วคราวอติพัทธ์ทำเป็นว่า ไม่ค่อยอยากกลับมาอยู่กับชลาธรสักเท่าไหร่ทั้งๆที่ใจจริงแล้วเขามีความสุข เขาคิดว่าบางทีสิ่งดีๆอาจเริ่มขึ้นอีกครั้ง แต่ชลาธรซึ่งไม่เคย ยอม ให้เขาเลยบรรยากาศเก่าๆก็กลับมาอีกครั้ง เพียงขวัญ เลขาที่ชอบพอกับอติพัทธ์ไม่ค่อยพอใจที่อติพัทธ์กลับไปอยู่ร่วมบ้านกับชลาธร แต่การแสดงความไม่พอใจของเพียงขวัญก็เป็นได้แค่เงียบ คุณสมบัติข้อนี้เองที่ทำให้เขาพอใจเธอมาก ชลาธรได้รับการติดต่อจาก วีระวัฒน์ นายทุนเงินหนาให้มาเป็นพิธีกร วีวินรู้ข่าวรีบมาอ้างว่ารู้จักนายวีระวัฒน์ดี เขาเป็นเสือหญิงชื่อดังแต่ ชลาธรไม่ยอมเชื่อ เธอเห็นโอกาสที่จะก้าวหน้าไปแนวทางใหม่ แถมยังเชิญวีวินไปเป็นแขกรับเชิญ. ในเทปแรกของรายการ วีระวัฒน์มีแผนร้ายอย่างวีวินคิดไว้จริงๆ วันหนึ่งรถของชลาธรเสียวีระวัฒน์จึงอาสามาส่งที่บ้าน อติพัทธ์โกรธมากจึงยุให้ลูกสาวมาต่อว่าแม่ ทั้ง 2 คนจึงมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง วีวินรู้ว่าชลาธรกำลังมีปัญหาจึงชวนเธอมากองถ่ายแต่อภิรดีก็ตามมาขัดขวาง ทำให้วีวินโกรธ มากโดยไม่ยอมเล่นละครที่มีอภิรดีแสดงเด็ดขาด รายการของ ชลาธรจะต้องเดินทางไปถ่ายที่ฮ่องกงหลายวัน จึงจำใจต้องไปขอให้ อติพัทธ์ช่วยดูแลฟ้าระหว่างที่เธอไม่อยู่ชลาธรทำงานจนล้มป่วยหลับไม่รู้ เรื่องรู้ราว วีระวัฒน์จึงพาตากล้องประจำกองถ่ายมาถ่ายรูปคู่ของเธอกับชลาธร ถึงจะไม่น่าเกลียดแต่ก็ดูออกว่าภาพนั้นเป็นมากกว่าเพื่อน และได้นำภาพที่ถ่ายไปให้กับอติพัทธ์เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้น อติพัทธ์โกรธมากจึงต่อยวีระวัฒน์กระเด็นออกมานอกห้องและบอกว่า ผมมั่นใจในตัวเมียของผม ที่สถานีอติพัทธ์ถือกุหลาบ 1 ดอก มายื่นให้กับชลาธร แต่ชลาธรบอกว่าเกลียดดอกกุหลาบ แต่หลังจากเปิดประตูไปที่ห้องจัดรายการก็ตกตะลึงเมื่อเห็นดอกลิลลี่สีขาว เต็มห้องไปหมด อติพัทธ์โอบชลาธรไว้แน่นชลาธรดิ้นขลุกขลักทั้งคู่เสียหลักล้มลงจนมือของอติ พัทธ์เผลอไปโดนเครื่องควบคุมทำให้ เสียงออดอ้อนงอนง้อของอติพัทธ์จึงดังไปทั่งกรุงเทพฯ... หัวใจทระนง

รักแท้แค่ขอบฟ้า 2540

เรื่องย่อ : รักแท้แค่ขอบฟ้า (2540/1997) แทน ไท บัณฑิตคณะศิลปศาสตร์ กลับรู้สึกไม่ยินดีกับงานเลี้ยงฉลองรับปริญญานักเพราะเพื่อนร่วมรุ่นต่างก็ วางแผนไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ตนไม่สามารถทำเช่นนั้นได้เพราะฐานะครอบครัวไม่ร่ำรวยนัก หลังจากจบการศึกษา แทนจึงเข้าทำงานเป็นผู้ช่วยอาจารย์มหาวิทยาลัย คณะนิเทศศาสตร์ ที่ซึ่งแป้งร่ำนักศึกษาสาวสวยฐานะดี มักจะมีเรื่องปะทะคารมกับแทนตลอดเวลา..... ที่นิวยอร์ก เม้ง เจ้าของร้านอาหารจีน ตัดสินใจไล่เสก พ่อครัวหนุ่มใหญ่ออกเพราะเสกมัวแต่เสียใจกับความรักจนไม่เป็นอันทำงาน แทนตัดสินใจเดินทางไปเสี่ยงโชคเป็นพ่อครัวแทนเสกที่ร้านของเม้ง บังเอิญ เป็นช่วงเดียวกันกับ แป้งแจง และอาร์ม เศรษฐีหนุ่มรูปหล่อ ก็เดินทางไปเรียนต่อที่อเมริกาเช่นเดียวกัน แป้งเบื่อมากที่ต้องพบกับแทนอีกครั้งโดยไม่คาดฝัน หลังจากทำงานไปสักพัก แทนมีเรื่องกับเม้งจนถูกไล่ออก แทนไม่มีเงินไม่มีที่พัก ในเวลานั้นเองแป้งยื่นมือเข้าช่วยเหลือ มิตรภาพของทั้งสองเริ่มถักทอขึ้น อาร์มกลัวแป้งจะมีใจให้กับแทน จึงรีบรายงานเรื่องให้ภูษิต พ่อของแป้งทราบ