ประทีปรักแห่งใจ 2559

แม่ของแผ่นดิน ประทีปรักแห่งใจ (2559/2016) ประทีปรักแห่งใจ เป็นเรื่องราวของ เมลดา คุณหนูไฮโซผู้เกิดมาพร้อมกับความสมบูรณ์ในชีวิต และไม่เคยคาดคิดว่าชีวิตนี้จะต้องตกระกำลำบาก เพราะมัลลิกา ผู้เป็นแม่ปลูกฝังว่าไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมากมาย แค่ใช้ชีวิตหรูหราสุขสบาย และแต่งงานกับผู้ชายรวย ๆ สักคนก็พอ ครั้นคุณหนูเมลดาผู้มีชีวิตแสนสุขสบายต้องกลายเป็น หงส์ปีกหักในชั่วข้ามคืน สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง และต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ตั้งแต่ศูนย์ ซ้ำแม่ที่คิดว่าจะเป็นหลักยึดเหนี่ยว ให้แก่ชีวิตก็หวังพึ่งอะไรไม่ได้ แล้วยังกลายเป็นภาระให้อีก เมื่อเจอปัญหารุมเร้าทุกด้าน คุณหนูเมลดาผู้ใช้ชีวิต ในโลกสีชมพูจะเอาตัวรอดได้อย่างไร นี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่อง ที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนชีวิตของเมลดา ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ คือ แม่ที่ทรงหยิบยื่นดวงประทีปชีวิตให้แก่เธอ เมลดา ศรานุสรณ์ หรือ มินนี่ คือหญิงสาวที่เกิดมาพร้อมกับความสมบูรณ์ในชีวิต ไม่ว่ารูปร่างหน้า ฐานะ ชื่อเสียงในวงสังคม พร้อมกับการปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กว่าผู้หญิงที่เกิดมามีความเพียบพร้อม ไม่จำเป็นต้องขวนขวาย ทำสิ่งใดให้เหนื่อยยากลำบาก แค่รอเวลาให้เหมาะสมแต่งงานกับผู้ชายที่ดีพร้อมก็พอแล้ว ดังนั้นเมื่อจบการศึกษา ในปีนี้แล้วเธอจึงไม่มีเป้าหมายในชีวิตอะไรนอกจากรอเวลาแต่งงานกับ เป็นหนึ่ง เอกนุกูลกิจ ชายหนุ่มที่เมลดา คบหามานานเป็นปี ในขณะที่มีความยินดีกับงานแต่งงานที่จะเกิดขึ้นในเดือนหน้า แต่เธอกลับมีความสับสนและไม่แน่ใจอยู่ด้วยว่า อยากแต่งงานกับเป็นหนึ่งจริงหรือเปล่า หรือว่าจำเป็นต้องแต่ง เมื่อนำเรื่องนี้ไปปรึกษา กับมัลลิกาผู้เป็นมารดา ก็ได้รับคำตอบว่าอยู่กันไปก็เรียนรู้นิสัยกันปรับตัวเข้าหากันได้เอง

ระหว่างที่เมลดาและเพื่อน ๆ นั่งปรึกษาหารือกันเรื่องชุดแต่งงาน ต้องใจ เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยผ่านมา แล้วพูดจากระแทกแดกดัน เมลดาลุกขึ้นตอบโต้จนเพื่อน ๆ ต้องห้ามปรามไม่ให้ไปสนใจกับพวกบ้านนอก ที่ไม่มีเงินพอจะทำอย่างคนรวยเขาทำกันได้ จึงคิดอิจฉาเท่านั้นเอง แล้วเมื่อเพื่อนทั้งสองคนแยกย้ายกันไป คนที่เข้ามา แทนที่คือ แพรวดาว แฟนเก่าของเป็นหนึ่ง ที่แม้จะเลิกรากันไปก่อนที่เป็นหนึ่งจะมาคบหากับเมลดา แต่แพรวดาว ก็ยังพูดจาว่าเมลดานั้นเป็นมือที่สามแย่งคนรักของเธอ อย่างวันนี้ก็เข้ามาพูดจาบอกว่าการที่เป็นเป็นหนึ่งจะแต่งงาน ก็เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจเท่านั้น หาใช่ความรักไม่ เป็นหนึ่งมารับเมลดาไปลองแหวนหมั้นที่ร้านเพชร แต่กลับกลายเป็นว่าแหวนที่เมลดาลองสวมนั้นหลวม เพราะทำผิดไซส์ เพชรประดับ เจ้าของร้านเพชรเผลอหลุดปากบอกว่าแหวนที่ทำมานั้น อาจจะเป็นไซส์นิ้ว ของแพรวดาว ทำให้เมลดาโกรธมาก และสั่งให้เขาทำแหวนให้เธอใหม่ และงอนออกจากร้านกลับบ้านทันที โดยที่เป็นหนึ่งก็ไม่ได้ตามมาง้องอน เมลดาเริ่มรู้สึกว่าเป็นหนึ่งอาจจะไม่ได้รักเธอจริงอย่างที่แพรวดาวบอก และตัวเธอเอง ก็ไม่ได้เจ็บปวดหรือเสียใจอะไรมากมายนอกจากรู้สึกเสียหน้าเท่านั้น ซึ่งตัวเธอเองก็อาจจะไม่ได้รักเป็นหนึ่งมากอย่างที่คิดก็ได้ เมื่อกลับมาปรึกษากับมารดาถึงความไม่แน่ใจในความรัก และอยากจะเลื่อนการแต่งงาน กลับถูกมารดาห้ามปรามไม่ให้เธอคิดมาก และยืนยันว่าไม่มีทางที่เป็นหนึ่งจะไม่รักหญิงสาวที่มีความเพียบพร้อมอย่างเธอ แม้แต่บิดาของเธอก็ไม่ยินยอมให้เธอได้มีโอกาสตัดสินใจสิ่งใด ในขณะที่เป็นหนึ่งก็ตามง้องอน และเปลี่ยนร้านทำแหวนพิสูจน์ ความจริงใจโดยการพาเธอไปเลือกซื้อเพชรใหม่ ทำแหวนวงใหม่จนเมลดาใจอ่อนลืมความขุ่นข้องหมองใจทั้งหมด เพราะรู้ว่าถึงแม้เธอจะเลื่อนการแต่งงานออกไป เธอเองก็ไม่มีแผนชีวิตสำรองด้านอื่น ๆ เลย พิธีหมั้นช่วงเช้าผ่านไปด้วยดี เมลดาเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงในช่วงค่ำ ภาพเจ้าสาวที่เห็นในกระจกนั้นเหมือน ตุ๊กตากระเบื้องเนื้อดีมากกว่าจะเป็นคนจริง เครื่องหน้าที่งดงามอยู่แล้วยิ่งถูกแต่งเติมลงไปอีกก็ยิ่งสวยงามไม่มีที่ติ ระหว่างที่คู่บ่าวสาวกำลังถ่ายรูป และรับแขกที่มาในงานอยู่นั้น แพรวดาวก็เข้ามาในงานด้วยชุดราตรีขาวฟูฟ่อง ประหนึ่งชุดเจ้าสาว ปฏิกิริยาของเป็นหนึ่งเมื่อเห็นแพรวดาวนั้นทำให้เมลดารู้สึกหน้าชา แม้จะเตรียมใจมาแล้วว่าจะต้องเจอสถานการณ์นี้ แต่ไม่สามารถบังคับตัวเองได้ ยิ่งมีเสียงซุบซิบจากแขกเหรื่อว่าแพรวดาวเป็นคนรักเก่าของ เจ้าบ่าวด้วย เมลดาพยายามจะทักทายด้วยดี แต่แพรวดาวกลับทิ้งคำพูดบางอย่างไว้ทำให้เมลดาไม่สบายใจนัก ขณะที่งานเลี้ยงและพิธีการทุกอย่างดำเนินไป ท่ามกลางความไม่แน่ใจของเมลดาที่ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลง อะไรได้อีกแล้ว แม้ว่าตัวเองอยากจะยกเลิกตอนนี้ก็คงจะสายไปแล้ว แต่ปรากฏว่า ชัยพงศ์ บิดาของเป็นหนึ่ง เข้ามาประกาศยกเลิกงานแต่งงานเพราะรู้ข่าวมาว่ากิจการของ ประยุทธ บิดาของเธอนั้นกำลังจะล้มละลาย เมลดาเริ่ม รับรู้ความจริงใจของเป็นหนึ่งเมื่อเขาสลัดมือเธอออกอย่างเมินเฉย แล้วยิ่งรับรู้มากยิ่งขึ้นเมื่อบิดายอมรับความเป็นจริง เรื่องที่กำลังจะล้มละลาย แม้เขาจะยืนยันว่าไม่คิดจะให้ครอบครัว ของเป็นหนึ่งต้องเข้ามาช่วยโอบอุ้มกิจการ แต่ขอร้องไม่ให้ยกเลิกงานแต่งงานเท่านั้น แต่ชัยพงศ์กลับไม่สนใจแล้วพาเป็นหนึ่งกลับออกไปทันที ประยุทธอับอาย และเครียดมากจนโรคหัวใจกำเริบ และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล สองแม่ลูกที่ไม่เคยมีแผนในการดำเนินชีวิตด้วยตัวเอง และไม่ได้เตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต จึงไม่มีเงินออมในธนาคารเหลือมากนัก เงินสดก้อนสุดท้ายที่ต้องจ่ายให้โรงพยาบาล และจัดงานศพอย่างเรียบง่าย มีคนมาร่วมงานอย่างบางตาจน น่าใจหาย เมื่อล้มละลายก็ทำให้ญาติมิตรสหายที่เคยมีมากมายขาดหายไปในพริบตา แม้แต่เพื่อนสนิทร่วมมหาวิทยาลัย ของเมลดาก็ไม่ได้ปรากฏกายขึ้นในงานศพเลย เมลดานัดพบเพื่อนเพื่อจะหางานทำ แต่เพื่อนไม่ได้คิดจะให้ความช่วยเหลือแถมยังพูดจาดูถูกอีก หล่อนจึงแยกออกมาแล้วเดินเล่นเรื่อยเปื่อยในห้าง จนมาพบกับเป็นหนึ่ง และแพรวดาวในร้านเสื้อ เขาจะจ่ายค่าเสื้อผ้าให้ แต่เมื่อแรกเมลดาไม่คิดจะรับความเอื้อเฟื้อนี้ แต่อยากประชดแพรวดาวจึงยอมรับมาทั้งหมด สร้างความขุ่นเคืองให้กับแพรวดาว โดยที่เมลดาก็ไม่รู้ตัวเลยว่าจะมีผลร้ายติดตามมาอย่างไรบ้าง ข่าวไฮโซตกยากอย่างเมลดาดังไปถึงบ้านของ ปองคุณ ชายหนุ่มผู้เคยอกหักจากสาวเมืองกรุง และแบกความเจ็บช้ำไว้จนไม่ยอมชายตามองหญิงอื่นอีกเลย แถมยังมีอคติในใจอีกต่างหาก เขารับรู้ข่าวนี้อย่างไม่มีความเห็นอกเห็นใจนักต่างจาก ใจใส มารดาของเขาที่รู้สึกสงสารเมลดา แล้วเมื่อต้องใจเข้ามาหาแล้วแสดงตัวว่ารู้จักกับไฮโซสาว ผู้ตกยากนี้ แล้วแสดงความคิดเห็นในเชิงสมน้ำหน้า ทำให้ใจใสรู้สึกไม่ชอบใจ ทั้งยังรู้ว่าต้องใจมีความรู้สึกพิเศษ กับปองคุณด้วยแล้ว จึงเอ่ยปากตักเตือนลูกชายโดยที่เจ้าตัวก็ไม่ได้ให้ความสนใจนัก เมลดากลับมาถึงโรงแรมที่เช่าพักอาศัยชั่วคราวอยู่กับมารดา เพราะยังไม่รู้ว่าจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไหน ท่ามกลางความรู้สึกที่ต้องคิดหาทางออกด้วยเงินที่มีเหลืออยู่ไม่มากนัก มัลลิกาผู้เป็นแม่ที่หวังว่าจะเป็นที่พึ่งพิงได้ กลับไม่มีความคิดอะไรเลย นอกจากการคร่ำครวญ และยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม สร้างความหนักใจให้กับเธอยิ่งนัก แถมยัง มีคนโทรศัพท์มาข่มขู่ให้หนี้อีกในจำนวนเงินห้าแสนบาท สองแม่ลูกจึงคิดหาทางหนีออกจากโรงแรม เมลดามืดแปดด้าน ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป มัลลิกาจึงคิดว่าจะไปบากหน้าไปหา มาลัย พี่สาวร่วมสายเลือดที่เธอไม่เคยติดต่อมานานกว่ายี่สิบปีแล้ว ระหว่างที่สองแม่ลูกกำลังคิดจะเดินทางไปหามาลัย ทางด้านมาลัยเองก็ฝันถึงน้องสาว และคิดห่วงใยขึ้นมาบ้าง แต่ต้องใจก็ทักท้วงอย่างไม่เห็นด้วยนัก เพราะหล่อนรู้มาตลอดว่าเมลดานั้นเป็นญาติที่เรียนร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกันมาตลอด แต่ไม่เคยแสดงตัวเพราะรังเกียจที่เมลดาเป็นสาวสวยไฮโซที่ทำตัวเหมือนคนไร้สมอง แม้จะได้รับรู้ข่าวว่า บัดนี้เมลดานั้นกำลังตกยากลำบาก ต้องใจก็ไม่มีความรู้สึกสงสารสองแม่ลูกเลยสักนิด นอกจากจะคิดสมน้ำหน้าเท่านั้น สองแม่ลูกเดินทางมาถึงแถวบ้านมาลัยแล้ว แต่เพราะไม่ได้กลับมานานกว่ายี่สิบปี สภาพบ้านเรือนที่เปลี่ยน แปลงไป ทำให้มัลลิกาไม่มั่นใจ จึงให้เมลดาไปถามหามาลัยกับชาวบ้านแถว ๆ นั้นเอง เมลดาไม่เข้าใจมารดา ตัวเองสักนิดว่าทำไมต้องเป็นตนที่ต้องทำอย่างนั้น แต่ในจังหวะนั้นเองที่หล่อนเห็นชายหนุ่มหน้าเหมือนโจรขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมา แล้วหยุดจะเข้าไปหามัลลิกาที่ยืนทำท่าจะเป็นลมอยู่ข้างทาง เมลดาเข้าใจว่าเขาเป็นโจรจะเข้ามาขโมยข้าวของ ของเธอกับแม่ จึงเข้าไปอาละวาดทุบตีชายคนนั้น จนมาลัยเข้ามาห้ามปรามแล้วจึงรู้ตัวว่าเธอเข้าใจผิด เลยตัดสินใจ แกล้งเป็นลมเพื่อเป็นการแก้หน้าให้ตัวเอง เมื่อมาลัยพาสองแม่ลูกเข้ามาในบ้านแล้ว เมลดาก็แทบช็อกเมื่อรับรู้ว่าต้องใจ เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยที่ชอบพูดกระแนะแหนเธอนั้นกลับกลายมาเป็นญาติกัน เพราะต้องใจ คือลูกสาวของ มาลัย พี่สาวของมารดาเธอนั่นเอง แล้วชายหน้าโจรที่เธอเข้าใจผิดก็คือ ปองคุณ ชายหนุ่มที่ต้องใจหมายปองนั่นเอง เพราะฉะนั้นเมื่อต้องใจรับรู้ว่าสอง แม่ลูกจะมาพักอาศัยอยู่ด้วย หล่อนจึงแสดงความไม่พอใจ และคัดค้านหัวชนฝา มาลัยต้องตัดความรำคาญแล้ว ขอตัดสินใจเอง ด้วยการให้สองแม่ลูกมาอยู่ด้วยกันได้ แต่ต้องทำงานบ้านแลกเปลี่ยน และต้องทำงานเพื่อหาเงินเลี้ยง ชีพเองด้วย แค่วันแรกเมลดาก็แทบจะรับกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นที่หลับที่นอน การต้องทำในสิ่งที่ตนเองไม่เคยต้องหยิบจับทำเลยสักครั้งในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการกวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน แล้วยังถูกบังคับ ให้ทำกับข้าว แถมมารดายังรักสบายหลบเลี่ยงไปปล่อยให้เธอผจญกับสิ่งใหม่ ๆ นี้เพียงคนเดียว ซึ่งระหว่างนี้ เธอยังไปมีเรื่องขัดแย้งกับปองคุณ ที่ต่างคนต่างไม่ชอบหน้ากัน ปองคุณแบกอาการอารมณ์เสียกลับไปถึงบ้าน แต่ในจิตสำนึกก็ยังสงสัยตัวเองว่าทำไมเขาต้องอคติกับเมลดาขนาดนี้ หรือว่าเขาเกิดสนใจเธอขึ้นมา แม้จะไม่มีความเชื่อในเรื่องของรักแรกพบเลยก็ตาม เช้าวันแรกในสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ เมลดาเอาตัวรอดจากอาหารมื้อแรก ด้วยการแอบออกไปซื้อข้าวต้มมาเป็นอาหารเช้าแทนการทำเอง ซึ่งก็ถูกมาลัยจับได้ และคาดโทษเอาไว้ หลังจากนั้นหล่อนก็ต้องมาหัดทำงานจักสาน จึงได้รู้ว่ามาลัยรวบรวมชาวบ้านมาตั้งกลุ่มสมาคมแม่บ้าน เพื่อหารายได้กับการสร้างกลุ่มงานจักสานขึ้นมา เมลดาได้พบกับใจใส ที่จะมาเป็นครูสอนเรื่องงานจักสานให้กับเธอ และมารดา เมื่อเริ่มต้นเมลดาก็ปากเสียวิจารณ์ และอวดรู้จนสร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้าน รวมทั้งใจใสเองที่เมื่อแรกยังมีความเมตตาสงสาร ใจใสสวนคำพูดของเมลดา และสั่งสอนจนหล่อนต้องยอมสงบปากสงบคำลง เมลดาหัดสานปลาตะเพียนอย่างตั้งอกตั้งใจ แต่ก็ต้องมาสะดุดลงอีก เมื่อต้องใจเข้ามาสั่งให้หล่อนไปทำกับข้าว มื้อกลางวัน เมลลาจำต้องอดทนเชื่อฟัง แล้วยังต้องไปทำคนเดียวเพราะดันไปประกาศว่าหล่อนสามารถทำได้ แต่พอมาถึงในครัวหล่อนก็ต้องยืนเคว้ง เพราะไม่เคยทำสิ่งเหล่านี้เลย ข้าวก็หุงไม่เป็น เตาแก๊สก็ไม่รู้จะเปิดยังไง หล่อนหยิบจับทำทุกอย่างไปอย่างคนไม่รู้ จนปองคุณเข้ามาพบวิธีการเปิดเตาแก๊สของหล่อนที่อันตรายมาก เขาตำหนิหล่อนจนร้องไห้ ปองคุณใจอ่อนยอมช่วยเหลือให้หล่อนรอดพ้นมีอาหารมื้อกลางวันสำหรับทุกคน ดูเหมือนทุกอย่างจะผ่านไปได้ แต่ต้องใจที่ตั้งใจจะจับผิดเมลดา จึงทำให้ทุกคนรู้ว่าอาหารมื้อนี้เป็นฝีมือ ปองคุณ มาลัยจึงลงโทษไม่ให้สองแม่ลูกได้กินอาหารกลางวัน เมลดากลัวมารดาจะทนไม่ไหว จึงแอบออกไปซื้อก๋วยเตี๋ยวที่ร้านมาให้ ระหว่างที่นั่งแอบกินอยู่นั้น หล่อนได้ยินเสียงชาวบ้านที่มาทำงานจักสานที่บ้านมาลัย นินทาว่าร้ายหล่อน กับมารดาและดูถูกว่าหุ่นไล่กาในท้องนายังมีประโยชน์เสียยิ่งกว่าตัวหล่อนกับมารดาเสียอีก เมลดาเจ็บปวด และพยายามระงับอารมณ์เต็มที่ หล่อนคิดมากจนต้องหันมาพิจารณาตัวเองว่าหล่อนไร้ค่าถึงเพียงนั้นเชียวหรือ ระหว่างนั้นเมลดาไม่รู้ตัวเลยว่ามีนักข่าวเห็นเหตุการณ์นั้น และแอบถ่ายรูปหล่อนพร้อมกับอัดคลิปเสียงไปด้วย ช่วงบ่ายวันนั้นเมลดาเงียบขรึมจนมัลลิกามองอย่างเป็นห่วง หล่อนโมโหหญิงชาวบ้านที่นินทาหล่อนจนเกิด แรงฮึดจนสามารถสานปลาตะเพียนได้ดี จนใจใสออกปากชมและบอกว่าถ้าหล่อนตั้งใจที่จะทำก็จะทำได้ และยังบอกว่าเห็นแววในตัวหญิงสาวจะสามารถทำงานจักสานได้ดีเหมือนคนอื่น ๆ วันต่อมาเมลดาทำอาหารเช้าได้ดีขึ้น เพราะมัลลิกาเข้ามาช่วยด้วยไม่ได้หลบเลี่ยงไปเหมือนทุกครั้ง แต่ต้องใจก็ ยังหาเรื่องว่าได้อีก แต่ เดช พ่อของต้องใจออกปากปกป้องทำให้ต้องใจไม่พอใจ และออกไปกินข้าวนอกบ้าน จึงได้ไปพบว่ามีข่าวของเมลดาที่ตกยากมานั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่อยุธยา แถมยังลงถึงเรื่องราวที่ชาวบ้านเม้าท์เมลดาด้วย แม้ต้องใจจะสะใจ แต่ก็พยายามจะบอกชาวบ้านที่รู้เรื่องให้ปิดข่าวเรื่องนี้ เพราะกลัวว่าเจ้าหนี้ที่สองแม่ลูกหนีมา จะตามมาถึงที่นี่ แล้วรีบกลับบ้านมาแจ้งข่าวกับมาลัย แต่ไม่อยากให้สองแม่ลูกรู้เรื่องนี้จึงไล่ให้ออกไปซื้อของที่ห้างในเมือง แต่กลับกลายเป็นว่าเมลดาไปเปิดเช็กอีเมล์แล้วทราบเรื่องข่าวทั้งหมดด้วยความอับอาย เมื่อกลับมาถึงจึงไปเก็บตัวอยู่ในห้องเก็บของแล้วไม่ออกไม่ได้ ปองคุณเข้ามาช่วยเพราะเข้าใจผิดว่าหล่อนจะฆ่าตัวตาย หลังจากถกเถียงกันแล้ว เมลดาก็แสดงความคิดว่าอยากจะพัฒนางานจักสาน ที่ป้ามาลัยทำอยู่ให้ดีขึ้น และมีราคามากกว่านี้ ปองคุณจึงแนะนำให้หญิงสาวไปเรียนรู้ที่ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร เมลดาสนใจมากแต่ก็ยังติดที่มารดา จะยอมไปด้วยหรือไม่ ปองคุณจึงรับอาสาว่าวันรุ่งขึ้นเขาจะพาหล่อนและมารดาไปเที่ยวชมที่ศูนย์ศิลปาชีพ ก่อนการตัดสินใจ ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นไม่ค่อยดีนักของสองหนุ่มสาวเริ่มเป็นไปในทางที่ดีขึ้น เมลลาเริ่มนับข้อดีของปองคุณ ได้หลายข้อแล้วที่สำคัญเขาทำให้หัวใจของหล่อนอบอุ่นกว่าผู้ชายคนไหน ๆ ที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต ทางด้านครอบครัวของแพรวดาว และเป็นหนึ่ง มาร่วมเฉลิมฉลองอย่างเป็นทางการหลังงานแต่งงานของเป็นหนึ่ง และเมลดาถูกยกเลิกไป และถือว่าเป็นการฉลองหมั้นระหว่างเป็นหนึ่งกับแพรวดาวด้วย แม้เป็นหนึ่งจะรู้สึกผิดกับเมลดามากแค่ไหน แต่เขาเองก็รู้ว่าใจของเขานั้นมีแพรวดาวอยู่เสมอ ความรู้สึกที่มีต่อเมลดานั้นคือความเป็นพี่น้องกันมากกว่า เพราะความรู้สึกนี้นี่เองที่ทำให้เขายังแสดงความห่วงใย และกังวลว่าป่านนี้เมลดาจะเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อมีการพูดถึงกันในเรื่องของเมลดาทำให้เขาเหม่อลอยคิดมาก และด้วยอาการที่เขาเป็นแบบนี้ทำให้แพรวดาว เข้าใจผิดว่าเขายังมีใจเผื่อให้เมลดาด้วย ทำให้เป็นเป็นภัยไปสู่เมลดาอีกครั้งอย่างไม่รู้ตัว เมื่อแพรวดาวคิดจะตัดบัวไม่ให้เหลือใย หล่อนจึงว่าจ้างนิคมลูกน้องคนสนิทของบิดา ให้โทรไปข่มขู่ว่าประยุทธเคยยืมเงินแล้วไม่คืน โดยตั้งใจจะแค่ข่มขู่เพื่อให้สองแม่ลูกหนีไปอยู่ไกล ๆ เพื่อไม่ให้เป็นหนึ่งติดต่อกับสองแม่ลูกนั้นได้อีกเท่านั้น แต่เมื่อรับรู้ว่าสองแม่ลูกนั้นหนีไปอยู่แค่อยุธยา หล่อนจึงสั่งให้นิคมตามไปจัดการอีกครั้ง ปองคุณพาเมลดา และมัลลิกาไปเยี่ยมชมศูนย์ศิลปาชีพ โดยมีต้องใจตามไปด้วย สร้างความหนักอกหนักใจ ให้กับเมลดาตั้งแต่เริ่มต้นเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่มัลลิกาที่ทำท่าจะไม่ยอมไปด้วย แถมยังมีต้องใจที่อาจจะมาแสดง ลมเพชรหึงใส่เธออีก คิดไปคิดว่าก็เริ่มสงสัยตัวเองขึ้นมาซะอีกว่าตัวเองเริ่มมีใจให้ปองคุณหรือเปล่า ปองคุณใช้จักรยานในการเที่ยวชมศูนย์ศิลปาชีพ เมลดาขี่จักรยานไม่เป็นจึงต้องซ้อนหลังปองคุณ สร้างความขุ่นเคืองให้กับต้องใจยิ่งนัก แต่สำหรับเมลลาแล้วคือความอบอุ่นใจที่บังเกิดขึ้นเงียบ ๆ ในระหว่างที่หล่อนกำลัง ผจญเจอมรสุมชีวิตที่หนักหนาสาหัสนี้ เมลดาเดินชมการฝึกงานวิชาชีพต่าง ๆ ด้วยความสนใจ แต่วิชาชีพที่เมลดาให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือแผนกสอดย่านลิเภา ส่วนมัลลิกาสนใจแผนกศิลปะประดิษฐ์ และนี่เป็นครั้งแรกสนใจสิ่งอื่นนอกเหนือจากการสังสรรค์ และช็อปปิ้ง และหล่อนก็เห็นด้วยที่มารดาจะสนใจในวิชาชีพนี้ หล่อนเริ่มเรียนรู้ว่าที่ศูนย์ศิลปาชีพนี้คือสถานที่ที่นำแสงสว่างที่จะนำความหวังมาสู้ชีวิตต่อไปได้ ระหว่างที่เมลดาเดินเที่ยวชมในศูนย์ศิลปาชีพด้วยความรู้สึกของการเริ่มมีหวังขึ้นมาบ้าง ต้องใจก็ได้ข่าวว่าที่บ้านมีนักเลงบุกมาทวงหนี้สองแม่ลูก พอไม่เจอก็อาละวาดทำลายข้าวของในบ้านของมาลัยด้วย เมลดาจึงคิดว่าจะย้ายหนีไปอยู่ที่อื่นเพื่อตัดปัญหา แต่ปองคุณกลับเสนอให้ย้ายไปอยู่ที่บ้านของเขาเพื่อความปลอดภัย ทำให้ต้องใจเกิดความไม่พอใจและพยายามคัดค้านอย่างมาก แต่ปองคุณยังยืนยันว่าเขาทำเพื่อเพราะมนุษธรรม ไม่สามารถจะปล่อยให้สองคนแม่ลูกออกไปผจญภัยกันเพียงสองคนได้ เมลดานั้นแม้จะดีใจที่มีทางออก แต่หล่อนก็ยังกังวลว่าถ้าย้ายไปอยู่บ้านปองคุณ เธอจะต้องมีปัญหากับต้องใจอีกต่อไปอย่างไม่จบไม่สิ้นแน่ ๆ เมื่อทุกคนไปรวมตัวกันที่บ้านของปองคุณ ต่างก็ปรึกษาหารือกันถึงการแก้ไขปัญหาหนี้สินที่เกิดขึ้น มาลัยนั้น คิดจะใช้หนี้แทนให้จบกันไป แต่พวกนักเลงกลับไม่ยอมรับเงิน ยืนยันว่าจะต้องเป็นเงินของสองแม่ลูกนี้เท่านั้น ทำให้เกิดความสงสัยกันขึ้นมาว่าจริง ๆ แล้ว ประยุทธเป็นหนี้จริง ๆ หรือเปล่า เมื่อสอบถามมัลลิกาผู้เป็นภรรยา ก็ไม่เคยรู้เรื่องของสามีตัวเองเลย ทำให้เมลดาเผลอตัวตำหนิมัลลิกาอย่างรุนแรง จนมาลัยต้องห้ามปราม ในที่สุดปองคุณรับอาสาจะสืบเรื่องหนี้สินของประยุทธให้เพื่อความสบายใจของทุกคน การพักอาศัยในบ้านปองคุณแตกต่างจากการพักอาศัยที่บ้านของมาลัยอย่างคนละขั้ว ที่นี่ห้องพักสะดวกสบาย ข้าวของเครื่องใช้มีพร้อมสรรพ แถมยังไม่ต้องทำงาน ทำอาหารเองอีกด้วย แต่เมลดาก็พยายามจะเข้าช่วยเหลือ หยิบโน่นทำนี่ เพื่อต้องการจะทดแทนพระคุณเจ้าของบ้าน ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยหล่อนกับมารดา ใจใสแนะนำให้ทั้งสอง คนเข้าไปฝึกอาชีพที่ศูนย์ศิลปาชีพ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยจากพวกนักเลงที่สุด แถมยังได้ฝึกอาชีพ ซึ่งสองแม่ลูกก็เห็นดีตามนั้น ทางด้านแพรวดาวรับรู้ว่านิคมทำงานให้ไม่สำเร็จตามที่เธอต้องการ จึงต่อว่าและยังไม่ยอมจ่ายเงินค่าจ้าง เป็นหนึ่งเดินเข้ามาได้ยินโดยไม่ที่แแพรวดาวไม่รู้ตัว เป็นหนึ่งกลับมาบ้านพบว่าบิดามีแขก และไม่ยอมให้ใครเข้ามา รบกวนรวมทั้งตัวเขาด้วย เพราะลูกน้องของบิดาที่กางกั้นห้ามมิให้เขาเข้าบ้าน ครั้นบิดาได้ยินเสียงเขาโวยวาย อยู่ด้านนอกจึงเรียกเขาให้เข้าไปได้ ยิ่งเพิ่มพูนความสงสัยขึ้นอีกมากนักว่าบิดามีลับลมคมในอะไรปิดบังเขา ซึ่งเป็นลูกชายคนเดียวด้วย ในห้องนั้นเป็นหนึ่งได้พบกับ ศุภวัฒน์ พัฒนะกิจกำจร ที่บิดาแนะนำว่าบุคคลผู้นี้จะเข้ามาเป็นหุ้นส่วน ซึ่งเขาพอจะรู้ประวัติชายหนุ่มคนนี้ว่าไม่ค่อยจะขาวสะอาดนัก มีข่าวกับสาวน้อยสาวใหญ่มากมาย หลังจากการหย่าร้างกับสิริมน ภรรยาสาวสวยชื่อดังในวงสังคม แต่แค่ความเจ้าชู้ของเขาไม่ใช่สิ่งที่เป็นหนึ่งจะไม่ชอบใจ แต่เป็นเพราะ ชื่อเสียงที่ไม่ดีว่าเขาเป็นคนเจ้าเล่ห์เพทุบายมากกว่า แต่เป็นหนึ่งก็รักษามารยาทในการพูดจาด้วยเป็นอย่างดี แล้วก็อดเป็นห่วงบิดาไม่ได้จึงเอ่ยปากตักเตือน ซึ่งนอกจากจะไม่สำเร็จแล้วยังทำให้ชัยพงศ์หัวเสียเป็นอย่างมากด้วย เป็นหนึ่งรู้สึกเหนื่อยล้ากับเรื่องราวที่เขาได้รับรู้ทั้งสองเรื่องในวันนี้เป็นอย่างมาก เมื่อนอนครุ่นคิดถึงเรื่องราว ต่าง ๆ แล้วจึงตัดสินโทรหานักสืบที่เขาจ้างไปตามหาที่อยู่ของเมลดา ทำให้ได้รับรู้เรื่องว่าเมลดามีผู้ชายบ้านนอกคนหนึ่งคอยดูแลอยู่ แล้วยังได้ดูคลิปที่มีนักเลงตามไปอาละวาดที่บ้านของมาลัยด้วย เขาจำหน้านิคมได้ จึงรู้สึกผิดหวังกับแพรวดาวมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นทำให้เขาตัดสินที่จะไม่วางมือจากเมลดาแม้จะรู้ว่าเขากำลังนำตัวเองไปสู่ปัญหา และสิ่งที่เขาคาดคิดไม่ถึงเลยว่าการตัดสินใจครั้งนี้ จะนำปัญหาและหายนะมาสู่ครอบครัวของเขาอย่างอเนกอนันต์ วันที่ปองคุณนัดจะพาเมลดากับมารดาไปสมัครเข้าเรียนที่ศูนย์ศิลปาชีพ ต้องใจแวะมาแต่เช้าด้วยบุคลิกที่เปลี่ยนไปจากเดิม หล่อนหันมาใส่กระโปรง แต่งหน้าเข้มจัด หล่อนกลายเป็นตัวตลกของทุกคนแบบไม่รู้ตัว ปองคุณเองก็ไม่กล้าจะพูดตรง ๆ จึงบอกแค่ว่าหล่อนดูสวยแปลกตาดี ต้องใจจึงคิดว่าเมื่อตัวเองหันมาแต่งตัวแต่งหน้าแบบนี้จะ สามารถดึงใจของปองคุณได้ เมื่อเมลดาสมัครเรียนเรียบร้อยแล้ว ต้องใจยังไม่วายแขวะว่ากระทบกระแทกจนมาลัยต้องออกโรงปกป้อง สองแม่ลูกทำให้ต้องใจงอนเดินหนีออกมา เมลดาตามไปพูดคุยเพื่ออยากจะปรับความเข้าใจ โดยไม่รู้ว่าปองคุณเดินตามไปด้วย ต้องใจสารภาพว่ารักปองคุณ และไม่อยากให้ปองคุณต้องมาเสียใจกับสาวไฮโซซ้ำสองอีก แล้วเล่าเรื่องของ สิริมน คนรักเก่าของปองคุณที่ทิ้งเขาไปแต่งงาน ปล่อยให้ชายหนุ่มต้องชอกช้ำใจมากว่าห้าปี เมลดาเองก็เคยรู้จัก สิริมนแต่ไม่สนิท เคยเจอกันตามงานสังคมเท่านั้น หล่อนจึงแสดงความแปลกใจถึงความสัมพันธ์ของปองคุณ กับสิริมน และแม้ว่าตัวเองจะมีความรู้สึกดี ๆ กับปองคุณอยู่มาก แต่ไม่อยากจะมีปัญหากับญาติอย่างต้องใจ จึงพูดรับปากว่าเธอจะไม่ยุ่งเกี่ยว และคิดอะไรเกินเลยกับปองคุณอย่างเด็ดขาด นั่นทำให้ปองคุณซึ่งแอบฟังอยู่รู้สึกเจ็บแปลบในหัวใจคล้ายถูกมีดกรีดซ้ำที่รอยแผลเดิม และคิดว่าจะเปิดใจให้กับต้องใจ ที่เห็นคุณค่าและมั่นคงในรักที่มีต่อเขา เสมอมา ปองคุณพาเมลดากับต้องใจไปไหว้พระ ขณะที่อยู่ในวัดเมลดารู้สึกว่ามีคนแอบมองอยู่ตลอดเวลา เธอเข้าใจว่า เป็นพวกแก๊งทวงหนี้ หลังจากส่งต้องใจลงที่ตลาดแล้วทั้งสองจึงขับรถกลับบ้าน ระหว่างทางปองคุณรู้ว่ามีคนขี่มอเตอร์ไซค์ตามมา เขาจึงหลอกพาไปในที่เปลี่ยวแล้วยิงยางรถจนคนขับไม่สามารถหนีได้ เมื่อใช้ปืนขู่จนมารู้ ทีหลังว่าคนที่ตามมานั้นไม่ใช่แก๊งทวงหนี้ และกลายเป็นเป็นหนึ่งที่แอบติดตามเมลดามาจากวัดนั่นเอง ปองคุณยอมจ่ายค่าเสียหายค่าซ่อมรถ และพาสองคนไปนั่งคุยกันที่ร้านกาแฟ ตามประสงค์ของเป็นหนึ่งที่ร้องขอ เขาแยกตัวออกมานั่งรอโดยมีเมลดามองตามด้วยความไม่สบายใจสร้างความฉุนเฉียวให้กับเป็นหนึ่งเพิ่มขึ้นไปอีก เมื่อรับรู้ได้ว่าบัดนี้เมลดาอาจจะเปลี่ยนใจจากเขาไปเต็มร้อยแล้ว หันมาไปสนใจหนุ่มท่าทางบ้านนอกคนนั้น เขาจึงพยายามพูดจาเกลี้ยกล่อมให้เมลดากลับกรุงเทพฯ โดยเขายินดีจะรับดูแลหล่อนและมารดาอย่างดี และจะจัดการ เรื่องหนี้สินให้ด้วย แต่เมลดาไม่ยอมรับการช่วยเหลือนั้น และยืนยันว่าเธอยินดีจะใช้ชีวิตแบบที่กำลังทำอยู่ ปองคุณอดไม่ได้ที่จะถามไถ่ว่าเมลดาพูดจาสิ่งใดกับคนรักเก่า เมื่อได้รับคำตอบที่เขารู้สึกยินดี เมื่อรู้ว่าเมลดายืนยันจะทำตามเจตนารมย์เดิม คือการเข้าไปเรียนฝึกอาชีพที่ศูนย์ศิลปาชีพ โดยไม่คิดจะกลับกรุงเทพฯตามคำชวนของเป็นหนึ่ง ปองคุณเริ่มสืบเรื่องการเป็นหนี้ของประยุทธจากโทรศัพท์ที่เมลดายังเก็บไว้ ทำให้เขาพบว่าประยุทธมีการติดต่อ กับศุภวัฒน์ เขาไม่อยากจะคิดว่าเป็นคนคนเดียวที่เคยทำลายหัวใจของเขา เขาจึงโทรไปขอให้ศรุต เพื่อนตำรวจช่วยสืบให้ ทำให้เขาโดนเพื่อนแซวว่าเขาคงกำลังจะมีความรักอีกครั้ง ก่อนจะส่งเมลดาและมารดาเข้าศูนย์ศิลปาชีพ ปองคุณจึงพาทั้งสองคนไปห้าง เพื่อซื้อของใช้เตรียมตัวเข้าไปอยู่หอ โดยมีต้องใจตามไปอีกตามเคยเมื่อทานอาหารกลางวันเสร็จ เมลดากับมัลลิกาแยกตัวไปซื้อของกันสองคน แต่ช่วงจังหวะที่มัลลิกาขอไปห้องน้ำ เมลดาถูกชายสองคนใช้มีดจี้ให้เดินออกจากห้าง โชคดีที่มีหญิงอ้วนคนหนึ่ง เข้ามาช่วยเมลดาไว้ได้ แพรวดาวรับรู้ว่าลูกน้องทำงานพลาดด้วยความโมโห จึงตัดสินใจจ่ายเงินปิดปากไป เพราะกลัวจะมีหลักฐานโยงใยมาถึงตัว เพราะเริ่มรู้สึกว่าพักหลัง ๆ มานี้ เป็นหนึ่งเริ่มมาเลียบ ๆ เคียง ๆ ถามถึงนิคม แล้วเป็นหนึ่งคงไม่รู้ตัวว่าหล่อนทราบเรื่องที่เขาตามไปเมลดาถึงอยุธยา หล่อนเก็บความหึงหวงและคับแค้นใจไว้เงียบ ๆ จึงสั่งให้นิคมไปจัดการขั้นเด็ดขาดอีกครั้งแต่ก็พลาดอีกตามเคย ยังดีที่พักหลัง ๆ หล่อนเริ่มไม่ค่อยจะใส่ใจกับเป็นหนึ่งมากเท่าเดิม เพราะความสนใจของหล่อนตอนนี้กำลังอยู่ที่ ศุภวัฒน์ นักธุรกิจหนุ่มพ่อม่ายเนื้อหอม ที่แม้เขาจะไม่ได้หล่อเหลา อะไรมากมาย แต่ก็มีเสน่ห์บางอย่างที่ทำให้แพรวดาวไม่อาจจะละสายตาจากผู้ชายคนนี้ได้เลย เหตุการณ์ที่เกิดกับเมลดาในห้าง ทำให้ปองคุณคิดว่าต้องรีบสืบเรื่องเจ้าหนี้ของเมลดาให้เร็วที่สุด เพื่อนของเขาแนะนำให้ไปแจ้งความไว้ก่อน แต่ปองคุณกลับคิดว่าถ้าย้ายเข้าไปอยู่ในศูนย์ศิลปาชีพแล้วก็น่าจะปลอดภัย ศรุตวิเคราะห์เหตุการณ์นี้มาอย่างมากมาย และมีข้อสงสัยไปถึงแพรวดาวด้วยในเรื่องของการหึงหวง และสิ่งที่ได้รับรู้ อย่างชัดเจนก็คือ ศุภวัฒน์ คือคนคนเดียวกันจริง ๆ ปองคุณจึงตัดสินใจติดต่อกับสิริมนอีกครั้ง เป็นหนึ่งพบยุทธชัย ลูกน้องคนสนิทของประยุทธที่บริษัทของตัวเอง ยุทธชัยกลายมาเป็นคนสนิทของ ศุภวัฒน์แทน ทำให้เขารู้สึกว่าคนนี้ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้บริษัทของประยุทธล้มละลาย เพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ที่มากกว่าจึงสามารถหักหลังเจ้านายตัวเองได้ นี่เป็นจุดเริ่มต้นให้เป็นหนึ่งเริ่มสืบหาเรื่องราวอย่างเงียบ ๆ รวมทั้ง เรื่องที่แพรวดาวใช้นิคมทำด้วย แม้เขาค่อนข้างจะแน่ใจว่าเป็นแผนของแพรวดาวที่ส่งคนไปข่มขู่เมลดา แต่ก็ไม่มีหลักฐานจะจัดการกับหล่อนได้ แล้วเรื่องที่สำคัญคือถ้าเขาแตกหักกับแพรวดาวเรื่องนี้ จะกระทบไปถึงธุรกิจของสองครอบครัวต้องแตกหักลง ซึ่งพ่อของเขาคงไม่ยินยอมให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เมลดากับมัลลิกาย้ายตัวเองจากบ้านปองคุณไปเข้าหอพักในศูนย์ศิลปาชีพ ระหว่างทางที่ปองคุณไปส่งสองแม่ลูก เขาก็มีเรื่องต้องถกเถียงกับเมลดา และแสดงความไม่พอใจเมื่อญิงสาวพูดถึงเป็นหนึ่ง มัลลิกาซึ่งนั่งอยู่เริ่มสงสัยและบอกกับเมลดาตรง ๆ ว่าเธอสงสัยว่าปองคุณจะมีใจให้กับลูกสาวของเธอ เมื่อเจอกับสภาพหอพักที่อยู่ร่วมกับ คนอื่นอีกนับสิบ เมลดาก็แทบจะถอดใจ แต่เมื่อเจอว่ามัลลิกาโอดครวญอย่างหนักหล่อนจึงต้องทำใจให้เข้มแข็ง และคิดว่าต้องยอมรับสภาพนี้ให้ได้ และยังต้องเตือนให้มารดาแสดงสีหน้าให้ดี เพราะกลัวคนอื่นจะเข้าใจผิดแล้วสิ่งที่ทำให้หล่อนดีใจจนลืมนึกเรื่องอื่นไปเลย ก็คือหล่อนได้พบกับหญิงสาวร่างอวบที่เคยช่วยเหลือหล่อนในวันที่ถูกจี้ การเริ่มเรียนวันแรก เมลดารับรู้ว่าแผนกที่เธอเลือกเรียนการสอดย่านลิเภานั้นด้วยอาการใจฝ่อนิด ๆ ว่าหล่อน จะไปรอดไหม เพราะแผนกนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นการฝึกอาชีพที่ยากที่สุด มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะเรียนงานสอดย่านลิเภาได้สำเร็จ และการจะเริ่มเรียนได้ก็ต้องมีการทดสอบก่อน ที่น่าแปลกใจที่สุดคือปองคุณมาช่วยสอนในแผนกนี้ด้วย แค่เริ่มต้นเขาก็เชือดหล่อนเสียไม่มีชิ้นดีแล้ว สิริมน และปองคุณ ไปปรากฎตัวในงานเลี้ยงเปิดตัวหุ้นส่วนระหว่างชัยพงศ์ วินัย พ่อของแพรวดาว และศุภวัฒน์ โดยไม่ได้รับเชิญ แพรวดาวออกอาการเป็นเดือดเป็นร้อนแทนศุภวัฒน์ จนเป็นหนึ่งเริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ ของคนทั้งคู่ ในขณะที่ศุภวัฒน์นั้นเริ่มรับรู้ว่าสิริมนกำลังจะมาเอาคืน เพราะเมื่อตอนที่เขาเป็นแต่งงานกับสิริมนนั้น ได้ถ่ายโอนหุ้นในกิจการห้างสรรพสินค้าของครอบครัวหล่อนไปให้เจษฎา กว่าครอบครัวหล่อนจะรู้ตัวห้างนั้นก็หลุดมือไปแล้ว ยังดีว่าหล่อนยังมีกิจการทางด้านอื่นรองรับอยู่ จึงยังคงอยู่ได้โดยไม่ล้มละลายไปเหมือนกับประยุทธ เพราะปองคุณหายหน้าไป ทำให้เมลดาไม่มีสมาธิพอที่เรียนรู้จนหล่อนแทบจะถอดใจ แต่ได้ครูอย่างผลที่มากล่าวเตือนสติ และบอกว่าแท้จริงแล้วปองคุณเป็นห่วงหล่อนมาก ถึ
นางอาย 2559

นางอาย (2559/2016) อภิรดี อโณทัย หรือ “นาง” สาวน้อยแสนสวยวัย 17ปี ลูกสาวคนเดียวของ เด่นชาติ และเอมอร ถูกส่งตัวไปเรียนโรงเรียนคอนแวนต์หญิงล้วนที่ปีนัง เมื่อเธอเข้าเรียนก็ได้พบกับ จรรยา หัวหน้านักเรียนไทยรุ่นพี่ จรรยาแนะนำให้นางรู้จักกับกลุ่มนักเรียนไทยในชั้นเรียน โดยจรรยาฝากฝังให้ สินีนาฏ สาวไทยแสนเรียบร้อยดูแลนาง นางมีเพื่อนร่วมรุ่นอีก 2 คนที่สนิทกัน คือ ฮองลัน สาวอ้วนที่รักการกินเป็นที่สุด และมาเรีย สาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน-มาเลเซีย ที่ต้องใช้ชีวิตบนรถเข็นเพราะพิการมาตั้งแต่เด็ก นอกจากนี้เธอยังมีนักเรียนไทที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นอีก 2 คน คือ สายสุดา และ มีนา ทั้งสองคนเป็นเพื่อนสนิทกัน มีนาอาศัยบารมีของสายสุดาทำตัวอวดเบ่งกับทุกคน เพราะสายสุดามีดีกรีเป็นถึงน้องสาวคนเดียวของ ธนาธิป กงสุลไทยประจำปีนังที่รับหน้าที่ดูแลนักเรียนไทยที่อยู่ที่ปีนังทั้งหมด เมื่อเจอกันสายสุดากลับไม่ชอบหน้านาง เพราะตั้งแต่นางเข้ามาในโรงเรียนหลายคนให้ความสนใจเธอจนเด่นเกินหน้าเกินตา สายสุดาหาทางแกล้งนางอยู่เสมอแต่กลับโดนนางเอาคืนทุกที ความไม่ลงรอยของนางและสายสุดาเริ่มทวีคูณความแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดเป็นเรื่องราวต่างๆมากมาย วันหนึ่งมีเรื่องราวที่ทำให้นางกับธนาธิปจะต้องมาพบกัน นางตั้งท่าไม่ถูกชะตากับเขาตั้งแต่ยังไม่เจอตัว กระทั่งชนาธิและนางมีโอกาสเจอกัน ชนาธิปรู้ว่ามีชายหนุ่มหมายปองสาวแก่นเซี้ยวอย่างนาง เขาก็แปลกใจไม่น้อยว่าอะไรที่ทำให้คัมพลชอบเธอได้ขนาดนี้ เมื่อธนาธิปยิ่งสงสัย..จึงทำให้เขาก็ยิ่งเข้าใกล้เธอมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว ในขณะที่ธนาธิปเริ่มชอบนางแล้ว เขาไม่พอใจที่ ชัยพงษ์ กงสุลไทยอีกคน ที่ดูแลในส่วนของกิจกรรมประเพณีและวัฒนธรรม มาสนิทสนมกับนางเพราะคิดว่าชัยพงษ์แอบชอบนาง แต่จริงๆ แล้วชัยพงษ์แอบชอบสินีนาฎ และนางเองก็รู้ แถมยังทำหน้าที่เป็นแม่สื่อให้ด้วย แต่สินีนาฎกลับไม่มีใจให้ชัยพงษ์เลยเพราะเธอแอบหลงรักธนาธิปมาตั้งแต่แรกเจอเช่นกัน ช่วงปิดเทอมใหญ่ เด็กนักเรียนประจำที่ไม่ได้กลับบ้านจะได้ไปพักที่บังกะโล “ต้นหยงบุหงา” ธนาธิปทนคิดถึงนางไม่ไหว เลยแสร้งขอติดตามเด่นชาติกับเอมอรที่จะไปเยี่ยมนางที่ตันหยงบุหงาด้วย หลังจากนั้นธนาธิปก็เปิดบ้านพักกงสุลไทยจัดงานเลี้ยงต้อนรับเด่นชาติและเอมอรที่มาพักในปีนัง ในงานธนาธิปถึงกับตะลึงเมื่อเจอนางแต่งตัวน่ารัก สวย สดใส และในคืนนั้น คัมพล ขอเต้นรำกับนาง นางเองไม่ได้คิดอะไรก็ออกไปเต้นรำอย่างสนุกสนาน ธนาธิปเห็นจึงหาจังหวะอยู่ตามลำพังกับนาง เพื่อเตือนนางให้ไว้ตัวบ้าง อย่าปล่อยให้ใครจับมือถือแขนง่ายๆ เพราะเขาหวงนางอย่างไม่รู้ตัว แต่นางกลับรู้สึกว่าธนาธิปไม่ชอบตัวเองจึงหาเรื่องติเธอทุกอย่าง นางจึงประชดด้วยการอยู่ใกล้ คัมพล ตลอดเวลา ยิ่งทำให้ชนาธิปร้อนรุ่ม อึดอัดใจมาก ต่อมา พิทักษ์ เศรษฐีเหมืองแร่ในภูเก็ตซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับพ่อของนาง มาพูดสู่ขอนางให้กับ ทัศนัย ลูกชายคนโตที่กำลังเรียนหมออยู่อเมริกา แทนคัมพลลูกชายอีกคนที่เคยมีเรื่องชกต่อย ช่วงวันหยุดยาวระหว่างคริสมาตส์ถึงปีใหม่ นักเรียนประจำหลายคนเดินทางกลับบ้าน ธนาธิปจึงออกตั๋วเครื่องบินให้สินีนาฏกลับไปเยี่ยมแม่ที่เมืองไทยพร้อมกับนาง ธนาธิปบินมาธุระที่กรุงเทพได้พบกับสินีนาฎและสายสนม แม่ของเธอ สินีนาฎพยายามบอกความรู้สึกของเธอที่มีต่อธนาธิป โดยไม่รู้เลยว่าธนาธิปเปิดเผยความรู้สึกของเขาที่มีต่อนางไปหมดแล้ว ธนาธิปขอนางว่าอย่าเปิดใจให้ผู้ชายคนไหนนอกจากตน นางอึ้งไม่แน่ใจว่าธนาธิปหมายความว่าอย่างไร ธนาธิปบอกไม่ต้องหาคำตอบจนกว่านางจะเรียนจบ ระหว่างนี้แค่ให้นางทำตามที่ตนขอก็พอ สินีนาฏรู้ว่าธนาธิปเตรียมตัวย้ายไปกงสุลไทยในสหรัฐ สินีนาฏใฝ่ฝันจะอยากเป็นภรรยาที่ติดตามธนาธิปไปด้วย แต่ธนาธิปกลับพูดดักคอว่าจะแนะนำสินีนาฏให้ทำงานกับเพื่อนของเขา สายสนมต้องแบ่งรับแบ่งสู้เพราะยังไม่ได้บอกสินีนาฏว่าจะต้องแต่งงานกับชัยพงษ์ ธนาธิปคอยเทียวรับเทียวส่งนางหลายวันติดกัน พร้อมทั้งหมั่นพูดความนัยกับนางตลอดเวลา ซึ่งนางก็เอะใจ แต่ด้วยความความเขินอาย ทำให้ไม่กล้าถามตรงๆ พอเอมอรและเด่นชาติเริ่มรับรู้ในความสัมพันธ์ระหว่างนางและธนาธิป เด่นชาติไม่ค่อยชอบเพราะได้รับปากหมั้นหมายให้นางกับทัศนัยไปแล้ว สินีนาฏเองก็รับรู้เรื่องธนาธิปชอบนางเช่นกันจึงเสียใจมาก ขณะที่สายสนมเตือนสินีนาฏและพูดเรื่องยกสินีนาฏให้ชัยพงษ์แล้ว สินีนาฏเองไม่ยอมแต่งงานกับชัยพงษ์เพราะเธอไม่ได้รักเขา ด้านธนาธิปเริ่มเปิดเผยความในใจกับนาง แทนที่นางจะแก่นแก้วตอบตรงๆ กลับอ้อมค้อม เอียงอายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งธนาธิปสัญญาว่าจะพาผู้ใหญ่ไปสู่ขอนาง เมื่อกลับจากทำธุระที่ต่างจังหวัด ทางเด่นชาติจึงรีบจัดงานหมั้นระหว่างนางกับทัศนัยอย่างรวบรัด นางร้องไห้เสียใจไม่ยอมหมั้นแต่ขัดคำสั่งพ่อแม่ไม่ได้ เมื่อธนาธิปกลับมาจากต่างจังหวัด นางแอบมาหาธนาธิปที่บ้านและเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง ธนาธิปใช้สติคิดหาทางทำให้เขากับนางได้รักกันและแต่งงานกัน ส่วนคัมพลเองก็โกรธที่รู้ว่าพ่อพาทัศนัยไปหมั้นนาง คัมพลชกต่อยกับทัศนัยทันทีที่เจอหน้า และไปหานางที่บ้านเพื่อขอความรักจากนาง ขอให้นางถอนหมั้นจากทัศนัย แต่นางปฏิเสธและบอกว่าเธอรักธนาธิป คัมพลช็อก...ไม่คาดคิดมาก่อนว่าผู้ชายมาดนิ่งอย่างธนาธิป จะแย่งหัวใจนางไปจากเขา ธนาธิปไปหาเด่นชาติกับเอมอรเพื่อยืนยันว่าเขารักนางจริงและพร้อมจะแต่งงานด้วย ติดที่เด่นชาติไม่อยากเสียคำพูดกับเพื่อนรักและจะไม่มีวันยอมให้นางเป็นฝ่ายถอนหมั้นให้เขาเสียหน้าเป็นอันขาด เรื่องราวความรักของนางกับธนาธิปจะมีขวากหนามมากมายขนาดไหน และชีวิตของเขาและเธอจะจบลงเช่นใด ติดตามชมละครเรื่อง “นางอาย”

รองเท้านารี (2562/2019) เรื่องราวของ 4 สาวโสด ทิชา (แก้ว จริญญา) ดีไซเนอร์ประจำร้านรองเท้าแบรนด์ The Shoes สาวสมัยใหม่ที่ดูมั่นใจในตัวเอง แต่อีกมุมหนึ่งเธอคือสาวขี้กลัว รักนวลสงวนตัวและไม่เคยมีแฟน เปรียบเสมือนรองเท้าแตะที่แม้จะสวมใส่สบายแต่สุดแสนจะธรรมดา วริษา (โฟร์ ศกลรัตน์) พีอาร์สาวเปรี้ยวจี๊ด มีความฝันสูงสุดคือการมีแฟนหล่อและรวย เปรียบเสมือน รองเท้าส้นเข็มทรงเสน่ห์ น้ำหนาว (โฟกัส จิระกุล) ศัลยแพทย์สาวมั่น กล้าได้กล้าเสีย เปรียบเสมือนกับ รองเท้าบู๊ทสุดมั่น ที่เคยผ่าตัดให้ทิชาจนกลายเป็นเพื่อนกัน พร้อมทั้ง อุษณา (ยิปโซ อริย์กันตา) สาวอาร์ตติสท์ คล่องแคล่วรักอิสระ เปรียบเหมือนกับ รองเท้าผ้าใบ น้องสาวของน้ำหนาว ที่มาขอเช่าบ้านอยู่ด้วย เมื่อทั้ง 4 สาวโสดต่างสไตล์มารวมตัวกัน เรื่องราวสุดวุ่นวายก็เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของความรักที่วนเวียนเข้ามาพร้อมทั้งปัญหาและอุปสรรคมากมาย สร้างทั้งรอยยิ้ม และน้ำตาให้กับพวกเธอ แต่สุดท้ายแล้ว สาวทั้ง 4 คนจะได้เจอกับคนที่ใช่ เหมือนรองเท้าที่เจอเจ้าของที่สวมได้พอเหมาะและพอดีหรือไม่ ต้องมาร่วมลุ้นและเป็นกำลังใจให้พวกเธอในละคร รองเท้านารี

รัก ชั้น นัย The Underwear 2560

รัก ชั้น นัย The Underwear (2560/2017) ในห้วงเวลาแห่งความมืดที่ทุกคนนอนหลับ แต่ยังมีอีกโลกที่ไม่เคยหลับใหล The Underwearเว็บบอร์ด 18+ ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ให้ผู้คน ที่เหงา เศร้า เบื่อ ว้าวุ่นและกำลังสับสนในตัวเอง ได้เข้าไประบายความสุข ทุกข์ หาเพื่อน หาที่ปรึกษา หรือแม้แต่...หาคนรู้ใจ เหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มต้นในคืนวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ม่อน (มิว MBO) ได้มาร่วมงานปาร์ตี้ Countdown ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ร้าน Small Talk ของ เจ (เอ็มม่า MBO) นักแสดงสาวดาวรุ่งพุ่งแรงสาวรุ่นพี่ที่ม่อนแอบปลื้มมาตลอด ซึ่งเกมส์ที่เป็นจุด Climax ของปาร์ตี้ในคืนนั้น คือการปิดไฟทั้งร้านและให้ เจ เดินไปจูบกับใครก็ได้คนหนึ่งในงานและ ม่อน ก็โดนจูบในคืนนั้น ทำให้ ม่อน คิดว่า เจ มีใจให้กับเขา แต่ด้วยความที่ เจ เป็นดาราจึงไม่กล้ามาบอกรักกับเขาตรงๆ เขาจึงเริ่มความคิดที่จะเป็นฝ่ายจีบ เจ ก่อน แต่ด้วยความที่เป็นหนุ่มอ่อนหัด ไม่เคยผ่านการมีความรัก สาวเพื่อนซี้อย่างถ้วยฟู (จิด้า MBO) จึงอาสาเป็นโค้ช สอนวิชารักให้กับ ม่อน เพราะหวังจะได้ใกล้ชิดกับม่อน เนื่องจากเธอก็แอบมีใจให้ ม่อนเช่นกัน ถ้วยฟู ใช้วิธีการสมัคร Log In ในเวบบอร์ด The Underwear เพื่อหาข้อมูลในการจีบสาวมาบอกเพื่อนสนิทของตน จนได้มาเจอกับที่ปรึกษาในเวบบอร์ด The Underwearอย่าง ดื้อ (ก็อต MBO) นักศึกษาหนุ่มที่ทำงานพิเศษเป็นบาริสต้า ในร้านกาแฟ Small Talkที่กำลังมีปัญหาความรักเช่นเดียวกัน เพราะเขาเริ่มไม่แน่ใจว่า ตัวเองคิดยังไงกับ โคน (ตองMBO) รูมเมทที่เป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่สมัยมัธยม ในขณะเดียวกัน เจ ก็กำลังมีปัญหาชีวิตของตัวเอง เนื่องจากคืนCountdown วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ระหว่างที่อยู่ในงานปาร์ตี้เธอก็ได้รับข่าวร้ายว่า ชิน แฟนหนุ่มของเธอฆ่าตัวตาย หลังจากนั้นเธอก็ถูกคุกคามจากLoginในเว็บบอร์ด The Underwear อย่างหนักแม้ว่าเรื่องนี้จะผ่านไปแล้วหลายเดือนก็ตาม ทั้งการสร้างข่าวเสียๆหายๆ และถูกแฉว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ ชิน ฆ่าตัวตายซึ่ง ยีนส์ (จีน่า.ดี MBO)เพื่อนสนิทที่สุดของ เจ ได้ตั้งข้อสงสัยว่าคนที่ทำเรื่องทั้งหมดน่าจะเป็น จั๊ม (ภีม MBO) เพื่อนสนิทอีกคนในกลุ่มซึ่งเป็นน้องชายของชิน แคท (โบลิ่ง MBO) ก็ใช้เวบบอร์ด The Underwear ในการระบายความเศร้าหลังจากคบกับ จั๊ม ได้เพียง 2 สัปดาห์ก็ถูกโดนบอกเลิกจนไม่เป็นอันทำอะไร แม้แต่ตอนที่เรียนพิเศษกับติวเตอร์อย่าง พี่ต่อ (ไอเฟล MBO) เธอก็ยังคงกระวนกระวายถึงจั๊มอยู่ตลอดเวลา และนอกจาก แคท แล้ว พี่ต่อ ยังมีลูกศิษย์อีกคนหนึ่งคือ นุ่น (นินน่า MBO)สาวมัธยมหน้าสวย หุ่นผอมบาง (จนดูผิดปกติ เป็นที่ถูกตาต้องใจของ โคน หนุ่ม Lolicon จอมหื่นที่เห็นสาวมัธยมเป็นไม่ได้ ต้องเก็บไปเป็นภาพจินตนาการในฝันของเขาตลอด แต่สิ่งหนึ่งที่ โคน ไม่รู้ก็คือ นุ่น มีความลับที่เธอไม่เคยบอกใคร ซึ่งมีแค่ พราว (แพม MBO) เพื่อนร่วมชั้นเรียน ของ นุ่น ที่แอบรู้ความลับนั้น ส่วนตัว พราว เองก็มีความลับที่ไม่สามารถบอกใครได้เช่นกัน เพราะเธอกำลังสร้างความสัมพันธ์ลับๆกับ ครูพี ครูประจำชั้นของเธอ และนำเรื่องราวของตัวเองมาเขียนลงเว็บบอร์ด The Underwear ให้คนได้ติดตาม

ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น 3 2558

ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น 3 The Final Season (2558/2015) รุ่นพี่เรียนจบไปแล้วพวกเขาพ้นจากรั้วโรงเรียนนาดาวบางกอก และทิ้งไว้ซึ่งความทรงจำมากมาย ขณะที่รุ่นน้องยังร่ำเรียนกันต่อไป โดยเฉพาะเรื่อง ชีวิต ของวัยว้าวุ่น... ขนมปัง ซึ่งบาดเจ็บจากเรื่องพี่ต้าดีขึ้นมากแล้ว แต่ก็ยังมีรอยแผลในใจที่พร้อมจะถูกสะกิดได้ทุกเมื่อ ขณะที่ ออย ก็ยังคงดูแลขนมปังอยู่ไม่ห่าง ซัน เมื่อไม่มีต้าแล้ว เขาก็ขึ้นมานำวงซีเสคปต่อไปในแบบเฮี้ยว ๆ ของตัวเอง นน ที่เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับเฟิสต์ และพละ ทั้งสามอยู่ห้องเดียวกัน สนิทสนมเฮฮากันตามประสากลุ่มเพื่อนผู้ชาย ทั้งที่ภายในแล้วแต่ละคนต่างมีนิสัยและชีวิตที่ต่างกันคนละขั้ว ส่วนเภา ย้ายจากโรงเรียนฟ้าบวรสู่นาดาวบางกอก ตามรอยพี่ภู ด้วยเหตุซ้ำรักเลิกกับแฟน ส้มส้ม และกลุ่มเพื่อนสาวของเธอเปรียบเหมือนแก๊งอิทธิพลในโรงเรียนที่น้อง ๆ อย่ามาแหยม ส่วนบอส หนุ่มลุคสะอาดเนี้ยบ ดูเคร่งขรึม จริงจัง มากอุดมการณ์และ ฉลาดในแบบที่ใครยากจะตามเขาได้ทัน ก้อย และดาว เจอกันในวันแรกเปิดเทอมด้วยหัวใจที่ยังแบกเรื่องค้างคาของความสัมพันธ์ และเจน สาวแสบที่ปรากฏตัวอีกครั้งในฐานะนักเรียนใหม่ของนาดาวบางกอก ทุกสายตามองมาที่เจน เหมือนของแปลกแต่เจนไม่แคร์ อีกหนึ่งปีการศึกษานี้ บาดแผล จะค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นผ่านประสบการณ์ชีวิตไม่ว่าจะแลกมาด้วยน้ำตา,รอยยิ้ม หรือ มิตรภาพ อยู่ที่ว่าพวกเขาจะทนพิษบาดแผลกันได้ขนาดไหน แล้วแต่ละคนจะหาทางรักษาร่องรอยที่เกิดขึ้นในชีวิตกันอย่างไร ก็วัยรุ่นนี้มันโคตรจะว้าวุ่นเลยนี่นะ บาดแผล สร้างความเจ็บปวด และความเข็มแข็ง ในเวลาเดียวกัน วัยว้าวุ่นคนไหนที่จะก้าวผ่านช่วงเวลาเหล่านี้ไปได้ ติดตามชมและร่วมลุ้นกันได้ใน Hormones 3 The Final Season

จุด•นัด•ฝัน 2558

จุด•นัด•ฝัน (2558/2015) เรื่องราวของกลุ่มเพื่อนร่วมรั้วมหาวิทยาลัย อดีตดาว-เดือนผู้โด่งดังที่อยากจะออกมาโลดแล่นในชีวิตจริงให้สมกับที่เคยฝันไว้ แต่เมื่อวันนั้นมาถึง...พวกเขาได้พบว่าความจริงโหดร้ายกว่าในตำรามากนัก!! เขาและเธอต้องต่อสู้แข่งขันเพื่อการมีตัวตนในสังคม ความมั่นใจที่เคยคิดว่ามี ความเก่งกล้าที่เคยคิดว่าแน่เริ่มไม่เพียงพอที่จะพาพวกเขาก้าวไปถึงความฝัน แล้วอะไรที่จะทำให้ความฝันของพวกเขาเป็นจริงได้? 4 ปีหลังจบการศึกษา กลุ่มเพื่อนที่สนิทจากชมรมการแสดง อันได้แก่... เอิร์ธ อดีตประธานรุ่น เกียรตินิยมอันดับ1 ไอดอลของรุ่นน้อง ปัจจุบันได้ทำงานเป็นวิศวกรในบริษัทพลังงานแห่งชาติ ที่โรงกลั่นน้ำมันจังหวัดระยอง เต้ย แฟนเก่าของเอิร์ธที่คบกันสมัยเรียน อดีตเจ้าแม่กิจกรรมสุดติสต์ ปัจจุบันเป็นผู้ช่วยผู้กำกับหนัง เฌอแตม สาวฮอตของกลุ่ม ปัจจุบันมีดีกรีเป็นถึง PR Corporate ของบริษัทเครือข่ายมือถือชั้นนำ นิก อดีตนักร้องนำวงดนตรีของมหาวิทยาลัย ปัจจุบันเป็นนักร้องประจำในผับชื่อดัง เจษ Hair Stylish สุดฮิป ลูกชายเสี่ยเจ้าของร้านทองที่มีฝีมืออย่างหาตัวจับได้ยาก ทั้งหมดนัดแนะมาเจอกัน ณ ร้าน ตั้งหลัก ที่สิงสถิตย์ประจำของกลุ่ม เพราะอยู่ดี ๆ เอิร์ธก็ขอย้ายกลับมาประจำที่สำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพ พี่โขม เจ้าของร้านปากจัดสุดแสบสังเกตเห็นว่าเอิร์ธมีแนวคิดบางอย่างเปลี่ยนไป แถมยังช่วยจุดไฟให้เพื่อนทุกคนรีบทำความฝันให้สำเร็จก่อนที่จะสาย ซึ่งทำให้เพื่อนทุกคนระบายอุปสรรคที่กำลังเผชิญอยู่ออกมา

มงกุฎริษยา (2558)

มงกุฎริษยา (2558/2015) ณ สวนตาลจังหวัดเพชรบุรี ชมพู่ กับ ฟ้า กำลังเล่นประกวดนางงาม ฟ้าฝันว่าวันหนึ่งต้องได้มงกุฎจริงมาให้ได้ ดาว เห็นก็หมั่นไส้เข้ามากระชากมงกุฎไป ชมพู่ปกป้องฟ้าเลยเกิดเรื่องทะเลาะกัน วันหนึ่งมีจิ๊กโก๋มาแซวดาวจนเกิดเรื่อง ชมพู่กับฟ้าเลยเข้าไปช่วย จนเกิดเป็นมิตรภาพเพื่อนสนิท เวลาผ่านไป ทั้ง 3 โตเป็นสาว ชมพู่รับจ้างขายตาลเพื่อช่วยเลี้ยงดูพ่อ ส่วนดาวอยู่กับยายปากร้ายที่ต่อว่าดาวเช้า-เย็น และฟ้า อาศัยอยู่กับแม่ แม่ของฟ้าเป็นคนบ้านางงาม หมายมั่นให้ฟ้าเป็นนางงามให้ได้ และแล้วเวทีแรกของฟ้าก็เริ่มขึ้น ฟ้าตัดสินใจลงประกวดนางนพมาศที่วัดแถวบ้านหลังจากที่เฝ้าฝึกซ้อมเก็บตัวมาหลายปี ขณะเดียวกัน สถานีโทรทัศน์ช่อง 88 พุฒิพัฒน์ ผู้อำนวยการช่องหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง และคุณหญิงขจีนุช เจ้าของช่อง แม่ของพุฒ กำลังโต้เถียงกันเรื่องการประกวด Miss Perfect Thailand 2016 ที่ทางช่องกำลังจะจัดขึ้นในปลายปี วันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้ง พุฒิพัฒน์ และดาว-ฟ้า-ชมพู่ มีปากเสียงกัน เพราะความไม่เข้าใจ แต่ลึก ๆ แล้ว ดาวแอบประทับใจในตัวพุฒ วันหนึ่ง เอบี กะเทยแม่เล้า มาติดต่อให้ดาวไปกินข้าวกับ ชูชัย นักการเมืองท้องถิ่นผู้มีอิทธิพล ดาวเห็นว่าจะได้เงินจากการกินข้าว จึงยอมไป โดยชวนฟ้าไปเป็นเพื่อน แต่เมื่อลูกน้องชูชัยพาดาวขึ้นไปบนห้อง ดาวถึงรู้แล้วว่าตัวเองกำลังจะแย่ ชมพู่รู้เรื่องเข้า ก็รีบไปช่วยดาวบนห้อง ชมพู่ตีหัวชูชัยอย่างแรง ทั้งสามสาวหนีการ์ดของชูชัยไปที่สถานีรถไฟ ชมพู่เอาเสื้อดาวมาใส่ ทำให้ลูกน้องชูชัยตามผิดคน ส่วนดาว และฟ้ากระโดดขึ้นรถไฟหนีไป ด้านชมพู่ก็หลบการ์ดชูชัยมาจนรอดพ้น แต่แล้วชมพู่จำใจต้องไปทำงานกับ เอบี เจ้าของร้านคาราโอเกะ ชมพู่ถูกจับแต่งตัวจนสวยเด้ง และเจอกับพุฒที่มาเที่ยวคาราโอเกะ พุฒเข้าใจว่าชมพู่เป็นผู้หญิงอย่างว่า เลยแกล้งออฟชมพู่ ชมพู่อยากได้เงินไปรักษาพ่อ จึงตกลง แต่ก็มีแผนเอาตัวรอด โดยการมอมเหล้าพุฒ แล้วหยิบเงินพุฒหนีกลับบ้าน พุฒตื่นมาพบว่าตัวเองเสียรู้ จึงตามไปที่บ้าน และเห็นชมพู่กำลังดูแลพ่อที่เป็นอัมพาตอยู่ พุฒประทับใจในตัวชมพู่ จึงไม่คิดเอาเรื่อง แต่แล้ว พ่อชมพู่อาการทรุดหนัก ประจวบกับมีการจัดประกวด นางสาวเพชรบุรี ชมพู่สนใจเลยไปประกวด ดวงเดือนมาเป็นกรรมการเวทีนี้ด้วย เพราะผู้ที่ได้ที่หนึ่งจะได้ไปประกวดเวทียอดพธูไทย โดยดวงเดือนจะเป็นพี่เลี้ยงให้ ด้านพุฒเองก็มางานนี้ และได้เห็นความสวยของชมพู่เป็นครั้งแรก และแล้วชมพู่ก็คว้ามงกุฎมาจนได้ และเดินทางเข้ามาประกวดต่อในกรุงเทพฯ ทางด้านฟ้า และดาวที่หนีขึ้นรถไฟมากรุงเทพฯ ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป แถมโดนไล่ลงกลางทางที่ราชบุรี เพราะไม่มีตั๋ว ทั้งสองเลยต้องออกรับจ้างทำงาน หาเงินเข้ากรุงเทพฯ จนมาเจอกับ ชัช ที่กำลังถ่ายงานอยู่ เลยช่วยเหลือให้ทั้งสองติดรถมาที่กรุงเทพฯ ฟ้าชอบชัชเข้าอย่างจัง และเมื่อทั้งคู่มาถึงกรุงเทพฯ เปรมจิต ก็รับฟ้า และดาวเป็นนางงามในสังกัด จัดการแปลงโฉมใหม่จนสะสวย ชัชได้รับมอบหมายจากขจีนุชให้ทำสกู๊ปเกี่ยวกับ เส้นทางนางงาม ทำให้ฟ้าได้ใกล้ชิดชัชมากขึ้น ฟ้าแอบหึงหวงเวลาชัชอยู่ใกล้สาวคนอื่น โดยเฉพาะดาว เพราะดาวช่างพูดจึงดูสนิทกับชัชมากกว่าตัวเอง เมื่อแพรวแพรเจอฟ้ากับดาว ก็จำได้ว่าดาวเป็นคนที่แข่งแทนตัวเองในเวทีนางนพมาศ แล้วยังได้ตำแหน่งไปอีก ก็เกิดไม่ชอบหน้าดาว ปั่นหัวให้คนในบ้านเกลียดทั้งฟ้าและดาว ด้วยความเหนือชั้น เหล่ารุ่นพี่จึงแสร้งทำดีกับทั้งสองในตอนต้น แล้วตลบหลังอีกที ฟ้า และดาวจึงไม่สามารถไว้ใจใครในบ้านนี้ได้เลย ดาวจึงลุกขึ้นสู้ ไม่เกรงใจใคร ในขณะที่ฟ้าจะคอยยอมเสมอ เพราะใฝ่ฝันอยากเป็นนางงาม ไม่อยากมีเรื่องจนโดนไล่ออก นับวันดาวก็โดดเด่นมากขึ้น แม้กระทั่ง ท๊อป แฟนหนุ่มของเปรมจิต ที่ช่วยเปรมจิตดูแลสาว ๆ ในบ้าน เกิดสนใจในตัวดาว และพยายามเข้าหาดาว ทำให้รุ่นพี่คนอื่นในบ้านเกิดความหมั่นไส้เข้าไปอีก ความสวย และเก่งของดาว ทำให้ฟ้ากลายเป็นตัวเปรียบเทียบในฐานะเด็กใหม่ด้วยกัน ไม่ว่าฟ้าจะพยายามหนักแค่ไหน ก็ยังแพ้ให้ดาว ในที่สุดดาวได้เป็นลูกรักของเปรมจิต ฟ้าได้แต่อิจฉาอยู่ลึก ๆ และความริษยา ก็ทำลายทุกอย่าง แม้แต่มิตรภาพความเป็นเพื่อน พบกับการหักเหลี่ยมเฉือนคม ทั้งบนเวทีหัวใจ และเวทีนางงามระดับประเทศ ผลสุดท้ายจะลงเอยอย่างไรต้องติดตามใน ละครมงกุฎริษยา

Gossip Girl: Thailand กอสซิป เกิร์ล ไทยแลนด์

Gossip Girl Thailand กอสซิป เกิร์ล ไทยแลนด์ (2558/2015) กอสซิป เกิร์ล เรื่องราวซุบซิบนินทาของสังคมวัยรุ่น ผ่านกาเกา ทอล์ค (Kakao Talk) แอพพลิเคชั่นชื่อดังของเกาหลี “กอสซิป เกิร์ล ” สื่อโซเชียลชื่อดังที่เม้าท์ทุกเรื่องและรู้ทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องราวที่ทุกคนในสังคมโรงเรียนเอกชนชื่อดังคอนสแตนซ์บิลลาร์ด และเซ็นต์จูดส์สนใจ ก็ไม่พ้นเรื่องราวของ เซรีน่า หรือ เอส (อจิรภา ซาบีน่า ไมซิงเกอร์) สาวสวยสุดแสบ อยู่ในสังคมไฮโซที่กลับมาจากนิวยอร์คหลังจากหายตัวไปนาน และดูเหมือนเธอจะไม่ใช่เซรีน่าสาวแสบคนเดิม เพราะกลับมาคราวนี้เซรีน่าเรียบร้อยขึ้น และพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น รู้จักเห็นอกเห็นใจ และแคร์ความรู้สึกคนอื่น จนครอบครัว และเพื่อนเคยซี้อย่าง แบลร์ หรือ บี (คารีสา สปริงเก็ตต์) ถึงกับงง แบลร์สาวสวยอีกคน อยู่ในครอบครัวที่มีปัญหาแต่ร่ำรวย ถูกเลี้ยงมาแบบเจ้าหญิง อยู่โรงเรียนเธอก็เป็นเหมือนราชินีที่เพียบพร้อม ห้อมล้อมด้วยสาววัยรุ่น และเป็นต้นแบบของสาวฮอตสมบูรณ์แบบที่ใครๆก็อยากเป็น ในตอนแรกความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ค่อยดีนัก เพราะแบลร์ไปรู้ความลับมาว่าเซรีน่าและแฟนหนุ่ม เน็ท (ชานน มกรมณี) เคยมีอะไรกันในคืนก่อนที่ เซรีน่าจะหายตัวไป จึงร่วมมือกับเพื่อนหนุ่มเพลย์บอยอย่าง จักร (ชานนท์ อักขระชาตะ) สืบจนพบว่า เซรีน่าเข้านอกออกในสถานบำบัดอาการทางจิต แบลร์เอาเรื่องนี้ไปประจานต่อหน้าสาธารณชนว่าเซรีน่ากำลังบำบัดอาการติดยาและติดเซ็กส์ ก่อนจะรับรู้ความจริงว่าแท้จริงแล้ว เอริค (ฟาล ปารเนียส) น้องชายของเซรีน่าต่างหากที่เข้ารับการบำบัดอยู่ ทำให้แบลร์รู้สึกผิดและกลับไปคืนดีกับเซรีน่าอีกครั้ง โดยเธอก็ยอมมองข้ามความผิดพลาดเรื่องที่เซรีน่าเคยมีอะไรกับเน็ทไป ฝ่ายเซรีน่าเองก็ได้บังเอิญเจอกับ แดน (ปวรพัฒน์ จารุศักดิ์วีรกุล) หนุ่มอินดี้จากครอบครัวชนชั้นกลางที่แอบชอบเธอมานานแล้ว ทั้งคู่ลองไปออกเดทและคบหาดูใจกัน แต่ก็ยังต้องเจอกับอุปสรรคต่างๆนานา ทั้งความแตกต่างทางฐานะ มุมมองในการใช้ชีวิต การคบเพื่อน และการต้องการการยอมรับในสังคม โดยมี สา (กริยาณี ดาโสม เลน) เพื่อนสาวที่แดนเคยแอบชอบคอยเป็นทั้งตัวสร้างปัญหา และผู้ที่ให้คำปรึกษากับความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ ในขณะเดียวกัน เจนนี่ (ณัฐชา เจกะ) น้องสาวของแดนที่เพิ่งย้ายเข้ามาเรียนที่โรงเรียนคอนสแตนซ์บิลลาร์ด ก็กำลังปรับตัวให้เข้ากับสังคมใหม่ๆ ความทะเยอทะยานผลักดันให้สาวน้อยจากครอบครัวชนชั้นกลางต้องถีบตัวเข้ามาอยู่ในเกิร์ลแก๊งลูกคุณหนูที่มีแบลร์เป็นราชินีครองบัลลังก์ เจนนี่จึงไม่หยุดอยู่แค่การเป็นที่ยอมรับในสังคม แต่รวมไปถึงการทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะและแย่งบัลลังก์ราชินีมาเป็นของตัวเองแบบเนียนๆ แม้ว่าจะต้องแลกด้วยเกียรติยศ ความถูกต้อง ความซื่อสัตย์ ครอบครัว หรือตัวตนของตัวเองก็ตาม ไม่ใช่แค่ฝั่งบรรดาลูกๆที่มีปัญหา พ่อแม่ของพวกเขาเหล่านั้นก็ไม่ต่างกัน โจ้ (พีท ทองเจือ) พ่อของแดนกับเจนนี่ ต้องโคจรกลับมาเจอกับคนรักเก่าที่เป็นรักแรกของเขาอย่าง ลิลลี่ (สิรินยา บิชอพ) เศรษฐินีม่ายสาวเชื้อสายผู้ดีผู้เป็นมารดาของเซรีน่าและเอริค ทั้งคู่รู้ว่าลูกของตัวเองต่างชอบลูกของอีกฝ่าย และพยายามใช้มันเป็นข้ออ้างในการกลับมาโหยหาวันเวลาเก่าๆร่วมกันอีกครั้ง จะติดอยู่ก็ตรงที่ลิลลี่เพิ่งจะเริ่มคบหาดูใจอยู่กับ บูรณ์ (ทูน หิรัญทรัพย์) พ่อของจักรซึ่งเป็นนักธุรกิจอสังหาฯรายใหญ่รวมถึงเจ้าของโรงแรมดิ เอ็มไพร์ (The Empire) ที่ ลิลลี่พักอยู่ด้วย มิหนำซ้ำ แอน (เก็จมณี วรรธนะสิน) ภรรยาเก่าของโจ้ยังกลับมาประสานรอยร้าวที่เกิดขึ้นในครอบครัวให้ดีเหมือนเดิม ทำให้ความรักระหว่างโจ้และลิลลี่กลายเป็นรักที่เป็นไปไม่ได้ยิ่งขึ้นไปอีก ส่วนแม่ของแบลร์อย่าง อารยา วรานนท์ (นวลปรางค์ ตรีชิต) ดีไซเนอร์หญิงชื่อดังที่มีแบรนด์อารยา (ARAYA) เป็นของตัวเอง ก็ต้องรับมือกับความโดดเดี่ยวและการเป็นซิงเกิ้ลมัมหลังจากที่ รัฐภูมิ วรานนท์ (สุเชาว์ พงษ์วิไล) ผู้เป็นสามีทิ้งเธอไปมีความรักใหม่กับนายแบบหนุ่มที่มาเป็นแบบให้คอลเล็กชั่นเสื้อผ้าของตัวเอง หลายครั้งที่แบลร์ต้องรับมือกับแม่จอมจู้จี้และสามีคนใหม่ของแม่ แต่ก็โชคดีที่ได้เซรีน่าเพื่อนรักคอยประคับประคองเรื่อยมา ไม่ใช่แค่เรื่องทางบ้านที่กลายเป็นปัญหาสำหรับแบลร์ เรื่องความรักระหว่างเธอกับเน็ทก็วุ่นวายไม่แพ้กัน เมื่อครอบครัวของฝ่ายชาย กัปตัน - ทรงพล อชิรวัชร (ไบรอน บิชอพ) และ คุณพลอย (อังศณา บุรานนท์) แม่ของเขาพยายามจะหมั้นเธอกับเน็ทไว้ด้วยผลประโยชน์ทางธุรกิจ แบลร์รู้อยู่เต็มอกว่าเน็ทไม่ได้รักเธอและยังลืมเซรีน่าไม่ลง ซ้ำร้ายฝั่งบ้านของเน็ทเองก็กำลังประสบวิกฤติใหญ่หลวงเรื่องที่กัปตันโดนฟ้องข้อหายักยอกเงินและมีสิ่งเสพติดไว้ในครอบครอง แบลร์จึงตัดสินใจสละความบริสุทธิ์ที่อุตส่าห์เก็บรักษาไว้มานานให้กับจักร เพื่อนชายจอมเจ้าชู้แต่ก็อยู่เคียงข้างเธอมาโดยตลอด แต่เธอก็ได้รู้ว่านั่นไม่ใช่การตัดสินใจที่ดีนักและพยายามกลับมาคืนดีกับเน็ท ฝั่งเน็ทเองที่เริ่มรู้ตัวว่าตัวเองรักแบลร์ก็ทำทุกทางเพื่อพิสูจน์ความรักที่มีต่อเธอจนทำให้ถูกพักการเรียน แต่นั่นก็ทำให้แบลร์กลับมาเข้าใจเน็ทอีกครั้ง แต่เขาก็ต้องพยายามหาทางช่วยเหลือทางบ้านไปด้วย ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อจักรทนไม่ได้ที่แบลร์พยายามปกปิดความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอ เลยเปิดโปงเรื่องที่ทั้งคู่เคยมีอะไรกัน สร้างความผิดหวังให้กับเน็ทเป็นอย่างมากและไปมีความสัมพันธ์ใหม่กับสา เพื่อนรักของแดน ข่าวความสำส่อนของแบลร์กระทบต่อชื่อเสียงของเธอจนเธอกลายเป็นราชินีตกบัลลังก์ เจนนี่ใช้โอกาสนี้ขึ้นนั่งแท่นราชินีแทน แต่เธอก็อยู่บนนั้นได้ไม่นาน เพราะแบลร์มีกำลังใจที่ดีจากเซรีน่าเพื่อนรัก ทำให้ชิงบัลลังก์กลับมาเป็นของตัวเองได้สำเร็จ ทิ้งไว้แต่เพียงร่องรอยความอัปยศในใจของเจนนี่ ที่ต้องกลับไปยอมรับความจริงว่าตัวเองเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ส่วนความรักของเซรีน่ากับแดนก็เป็นไปได้ด้วยดี มีไม่เข้าใจกันบ้างในบางเรื่อง แต่ก็ผ่านร้อนผ่านหนาวกันมาได้มากมาย และดูจะจบลงอย่างมีความสุขจนกระทั่งใครคนหนึ่งกลับเข้ามาในชีวิตของเซรีน่า เธอคนนั้นคือ จีจี้ เพื่อนสาวสุดแสบของเซรีน่าที่พยายามจะเปลี่ยนเซรีน่าให้กลับไปเป็นสาวก๋ากั่นคนเดิม เซรีน่ากลัวว่าแดนจะยอมรับอดีตของตัวเองไม่ได้เลยไม่ยอมสารภาพเรื่องนี้กับแดน เกิดเป็นความบาดหมางขึ้นในใจของคนทั้งคู่ และรอยร้าวก็เริ่มลึกขึ้นเรื่อยๆเมื่อความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อนสาวของจีจี้สัมฤทธิ์ผล กลายเป็นภาระของแบลร์ เน็ท และจักรที่จะต้องทิ้งปัญหาของตัวเองชั่วครู่เพื่อมาช่วยเซรีน่าให้พ้นไปจากจีจี้ แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังสายเกินไปที่ความสัมพันธ์ของเธอและแดนจะกลับไปดีเหมือนเดิมอีก ฝ่ายลิลลี่เองนอกจากจะต้องแบกรับปัญหาที่เซรีน่าก่อไว้และความจริงที่ว่าเอริคเป็นเกย์แล้ว เธอยังต้องคอยกำราบหัวใจตัวเองอยู่เสมอ เมื่อโจ้ตัดสินใจเลิกกับแอนเด็ดขาดเพราะพบว่าเธอมีชู้กับหนุ่มข้างบ้าน ทำให้ลิลลี่มีความหวังว่าทั้งคู่จะกลับมารักกันอีกครั้ง แต่บูรณ์กลับชิงขอลิลลี่แต่งงานตัดหน้าก่อน และลิลลี่ก็จำต้องเลือกบูรณ์เพื่อความสบายใจของลูกสาวแม้ว่าทั้งเขาและเธอต่างก็รู้ดีว่ารักอีกฝ่ายมากแค่ไหนก็ตาม และเรื่องราววุ่นวายต่างๆของความสัมพันธ์อันซับซ้อนทั้งฝั่งพ่อแม่และลูกๆวัยว้าวุ่นก็ดูเหมือนจะยังไม่จบด้วยดีแต่ยังไง พวกเขาก็จะยังอยู่ในสายตาของ กอสซิป เกิร์ลสาวช่างเม้าท์ปริศนา ที่พร้อมจะเอาเรื่องฉาวมาเม้าท์ให้เหล่าสาวกฟังกันแบบไม่ตกข่าว ”กอสซิป เกิร์ล ไทยแลนด์ ได้ดัดแปลงมาจากลิขสิทธิ์ โดยยังคงความสนุก มุมมองการเล่าเรื่องเข้มข้นไม่ต่างจากต้นฉบับ โดยเล่าเรื่องปัญหาครอบครัว-สังคม จิกกัด มีมุมมอง ข้อคิด ได้อย่างน่าสนใจและน่าติดตาม ...

ฝันเฟื่อง 2557

ฝันเฟื่อง (2557/2014) อาทิตย์ (ธนทัต ชัยอรรถ) คนขับรถสุดชิลล์ของ รัฐรวี (พุฒิชัย เกษตรสิน) ทายาทเจ้าของธุรกิจจิวเวลรี่เกิดไปตกหลุมรัก วิไลลักษณ์ (มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) สาวใช้คนโปรดของ มณฑิรา (วรัทยา นิลคูหา) สาวสวยรวยทั้งสมองและทรัพย์สมบัติ ความรักครั้งนี้มันควรจะลงตัวเพราะทั้งคู่ดูจะเสมอและเหมาะสมกัน แต่มันไม่เป็นแบบนั้นเพราะอาทิตย์แอบอ้างว่าตัวเองเป็นคนรวย และวิไลลักษณ์ก็แอบอ้างตัวเองว่าเป็นคุณหนูไฮโซกำมะลอเช่นเดียวกัน เมื่อรัฐรวีรู้เรื่องก็ยื่นคำขาดให้อาทิตย์ยุติเรื่องโกหก แต่อาทิตย์ก็ขอร้อง อ้อนวอน จนรัฐรวีคิดหนักยอมช่วยโดยติดตามไปในฐานะคนขับรถของอาทิตย์ที่ชื่อ นายวี ฝ่ายมณฑิราเมื่อจับได้ว่าวิไลลักษณ์แอบเอาเสื้อผ้าของเธอไปหลอกหนุ่ม ๆ ก็เป็นห่วงกลัวว่าวิไลลักษณ์จะโดนหลอก มณฑิราที่เคยแต่ใช้ชีวิตตามประสาคนรวยที่แสนน่าเบื่อจึงนึกสนุกให้วิไลลักษณ์เชิญอาทิตย์มาที่บ้าน โดยมณฑิราจะปลอมตัวเป็นคนใช้ของวิไลลักษณ์ที่ชื่อ มณฑา แล้วพรหมลิขิตก็เล่นตลกอีกครั้งเมื่อนายวีปิ๊งรักมณฑาทันทีตั้งแต่แรกเห็น จากที่รัฐรวีเคยขัดขวางอาทิตย์ก็กลับกลายเป็นติดสอยห้อยตามไปจีบมณฑา พออาทิตย์รู้ว่าเจ้านายเกิดไปตกหลุมรักคนใช้ก็ขัดขวางสุดตัวเพราะกลัวถูก รัฐ (เกรียงไกร อุณหะนันทน์) กับ ภัสสร (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) พ่อแม่ของรัฐรวีและ แม่ชื่น (ปรารถนา บรรจงสร้าง) แม่นมของรัฐรวี ซึ่งเป็นแม่บังเกิดเกล้าของตนแหกอก รัฐรวีไม่ยอมแพ้แอบหนีไปจีบมณฑาด้วยตัวเอง ด้านภัสสรก็เป็นห่วงกลัวลูกชายคนเดียวจะไปคว้าคนไม่เหมาะสมมาเป็นลูกสะใภ้เลยพยายามหาคู่ให้รัฐรวี จับพลัดจับผลูภัสสรดันไปถูกใจมณฑิราหลานสาว คุณหญิงหิรัญญิการ์ (จารุณี สุขสวัสดิ์) จึงจัดการให้รัฐรวีได้เจอกับมณฑิราในงานปาร์ตี้แฟนซีหน้ากากวันเกิดคุณหญิง ซึ่งนั่นทำให้มณฑิราได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว นายวี ก็คือ รัฐรวี ทายาทเจ้าของธุรกิจจิวเวลรี่ชื่อดัง! โชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้ที่มณฑิราดันเข้าใจว่า อาทิตย์ คือ เพื่อนคนรวยของรัฐรวีไปด้วย มณฑิราจึงอยากพิสูจน์รักของนายวี เธอตั้งใจแกล้งคบกับรัฐรวีในฐานะมณฑิราพร้อม ๆ กับคบนายวีในฐานะมณฑาไปพร้อม ๆ กัน โดยขอร้องให้วิไลลักษณ์ช่วยเก็บความลับนี้ วิไลลักษณ์ไม่สบายใจที่ต้องดึงมณฑิราเข้ามาร่วมวงโกหกด้วย เพราะนอกจากจะทำให้มณฑิราเดือดร้อน ยังทำให้ แม่เมียด(ดารัณ ฐิตะกวิน) นายวง(อนันต์ บุนนาค) และ เวก (วราวุธ โพธิ์ยิ้ม) พ่อ แม่ พี่ชายที่ทำงานอยู่บ้านมณฑิราต้องพลอยถูก คุณต๋อย (นรินทร ณ บางช้าง) กุ๊กกิ๊ก (โสรญา ฐิตะวชิร) สมจิตร คนใช้ร่วมบ้านคอยตำหนิไปด้วย อุปสรรคความรักของอาทิตย์ยังไม่จบเพียงแค่นั้น เมื่อ อิงอร (แอริน ยุกตะทัต) สาวไฮโซลูกสาวหุ้นส่วนธุรกิจจิวเวลรี่ของรัฐรวีตกหลุมเสน่ห์ของอาทิตย์เข้าอย่างจังโดยคิดว่าอาทิตย์เป็นคนรวย อิงอรตั้งใจจะจับอาทิตย์ให้ได้ ทำให้วิไลลักษณ์ยิ่งน้อยใจว่าตนไม่เหมาะสมกับอาทิตย์เท่าอิงอร วิไลลักษณ์ตั้งใจจะเลิกกับอาทิตย์ แต่อาทิตย์ไม่ยอม เค้าทำทุกวิถีทางเพื่อจะพิสูจน์รักแท้ที่มีต่อวิไลลักษณ์ แต่กับอิงอรเขาก็ไม่กล้าปฏิเสธ เพราะกลัวว่าจะกระทบกับธุรกิจของรัฐรวี ส่วนมณฑิราก็ต้องวิ่งหนีการตามตื้อของ ภูวเดช (พงษ์พันธ์ เพชรบัณฑูร) เพลย์บอยเจ้าของธุรกิจซูเปอร์คาร์ที่หวังจะใช้สมบัติของมณฑิรา และคุณหญิงหิรัญญิการ์ช่วยค้ำจุนธุรกิจที่กำลังร่อแร่ กระทั่งวันหนึ่งที่อาทิตย์ รัฐรวี วิไลลักษณ์ มณฑาได้ไปพักผ่อนต่างจังหวัดด้วยกัน รัฐรวีทนไม่ไหวสารภาพความจริงกับมณฑาว่าแท้จริงแล้วเขาไม่ใช่คนขับรถของอาทิตย์ แต่เป็นเจ้านายและลูกชายเจ้าของธุรกิจที่ร่ำรวย มณฑิราในคราบสาวใช้มณฑาแกล้งทำเป็นน้อยใจว่ารัฐรวีรังเกียจที่ตนเป็นแค่คนใช้ รัฐรวียืนยันว่าทันทีที่กลับไปถึงกรุงเทพเค้าจะพามณฑาไปแนะนำกับพ่อแม่ แต่เมื่อทั้งคู่กลับมาที่พักก็พบว่าอาทิตย์กับวิไลลักษณ์เก็บข้าวของหนีตามกันไปแล้ว!! อาทิตย์พาวิไลลักษณ์หนีมาจดทะเบียนสมรสและอยู่ด้วยกันในอพาร์ทเมนท์เล็ก ๆ โดยต่างก็ยังไม่กล้าสารภาพฐานะที่แท้จริงของตัวเอง อิงอรที่ถูกอาทิตย์ปฏิเสธความสัมพันธ์ไปก่อนหน้านี้คิดจะแก้แค้นจึงพยายามตามสืบเรื่องของอาทิตย์จนไปรู้จาก หมอฉบัง (กรกันต์ สุทธิโกเศศ(อาร์ม KPN)) เพื่อนรักของรัฐรวีว่าอาทิตย์เป็นแค่คนขับรถ อิงอรโกรธทั้งอาทิตย์และรัฐรวีจึงคิดจะแก้เผ็ดทั้งคู่ ภูวเดชที่ถูกมณฑิราปฏิเสธโดยอ้างว่ากำลังคบหากับรัฐรวีก็ไม่ยอมแพ้ เค้าแอบตามจับผิดรัฐรวีจนไปรู้ว่ามณฑิราก็คือมณฑา สาวใช้ที่รัฐรวีหลงรัก! อิงอรจึงรวมหัวกับภูวเดชวางแผนทำลายความรักของรัฐรวีกับมณฑิราในงานหมั้นที่รัฐรวีกำลังจะจัดขึ้นกับสาวใช้ที่ชื่อมณฑา! มณฑิราจะล่วงรู้แผนการของภูวเดชแล้วชิงสารภาพความจริงกับรัฐรวีได้ก่อนหรือไม่? รัฐรวีจะทำอย่างไรเมื่อรู้ว่าตนถูกคนรักพิสูจน์รักแท้ด้วยการโกหกมาตลอด? อาทิตย์กับวิไลลักษณ์จะทำอย่างไรเมื่อรู้ว่าคู่ชีวิตที่ตนเลือกไม่ได้เป็นคนร่ำรวยอย่างที่ตนฝันเฟื่องไว้ตั้งแต่แรก? แล้วอาทิตย์จะกลับมาช่วยเจ้านายสุดที่รักแก้ปัญหาความรักได้ทันหรือไม่? ความวุ่นวายที่เริ่มต้นจากความฝันเฟื่องของคนขับรถสุดพิเรน แต่กลับทำให้ทั้งเจ้านายและลูกน้องต่างก็ได้พบรักแท้ที่รอคอยครั้งนี้จะผ่านพ้นไปได้อย่างไร? ติดตามกันต่อได้ใน ละครฝันเฟื่อง

เกมริษยา (2557/2014) เกมริษยา Office Syndrome เรื่องราวความสัมพันธ์ของชีวิตคนทำงาน ที่เรื่องงานกับชีวิตทับซ้อนกัน จนหาเส้นแบ่งไม่ได้ ท่ามกลางเมืองใหญ่ที่ทุกคนต้องดิ้นรน และแข่งขันกันเพื่อเอาตัวรอด เรื่องราวเกิดขึ้นในบริษัทอสังหาริมทรัพย์เก่าแก่ ที่กำลังมีปัญหาขาดทุนอย่างหนัก เพราะรองประธานบริษัทยักยอกเงินแล้วหนีหาย ประธานบริษัทเสียใจที่ไว้ใจคนผิด จึงช็อกเข้าโรงพยาบาลเหตุการณ์อ่อนไหวจึงเกิดขึ้นภายในบริษัท ใครคือผู้เหมาะสมจะเป็นรองประธานคนใหม่ การแข่งขันเกิดขึ้นระหว่าง ปัทมน และ พิธาน ปัทมน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด สุดเฉียบ และเนี้ยบไปหมดทุกเรื่อง พนักงานในบริษัทต่างกลัวเธอ และขนานนามให้ว่า "บ้าอำนาจ" แต่เหล่ากรรมการบริษัทกลับรักเธอ เพราะปัทมนรู้จักเข้าหาอย่างถูกวิธี หรือเรียกอีกอย่างว่า "เชลียร์" พิธาน อีกหนึ่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด หนุ่มใหญ่ใจดี เป็นที่รักของพนักงานเพราะทุ่มเท และช่วยเหลือ ลุยงานด้วยกันตลอดราวกับไม่ใช่เจ้านาย แต่มักทำงานช้า เพราะคิดมากเกินไป จนลูกน้องให้ฉายาว่า "ไม่กล้าตัดสินใจ" พิธานกับปัทมน เป็นไม้เบื่อไม้เมากัน รู้ทั้งบริษัทว่าทั้งคู่ไม่ถูกกัน ชิงดีชิงเด่นเรื่องงานกันมาตลอด แต่ที่ทุกคนไม่รู้ก็คือ ก่อนที่จะเป็นคู่ปรับ ทั้งสองคนเคยเป็นคนรักกันมาก่อน! ระหว่างที่พิธานกับปัทมนแย่งชิงตำแหน่งรองประธาน ก็เกิดวิกฤตขึ้นอีกครั้งเพราะประธานได้เสียชีวิตลง พราว ลูกสาววัยรุ่นของท่านประธาน จึงต้องกลับจากเมืองนอกเพื่อขึ้นบริหารแทนพ่อ ด้วยความเป็นลูกท่านหลานเธอ อยากได้อะไรก็ต้องได้ พราวจึงหารองประธานของเธอมาเอง คือ จิมมี่ รุ่นพี่ที่เจอกันที่นิวยอร์ก อายุเพิ่งจะย่างสามสิบ แต่ความสามารถเกินตัวแถมมีดีกรีจบโทจากสถาบันชื่อดังระดับไอวี่ลีค พิธานกับปัทมนจึงต้องหยุดความทะเยอทะยานไว้แค่ตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เหมือนเดิม ด้วยความที่พราวทำงานไม่เป็น วัน ๆ สนใจแต่เรื่องแฟชั่น แต่งตัว ช้อปปิ้ง พราวจึงยกอำนาจการบริหารงานทั้งหมดให้จิมมี่คุม จิมมี่เป็นคนมั่นใจในตัวเองสูงมาก อีโก้จัด จนเหมือนกับตัวเองเป็น "ศูนย์กลางจักรวาล" บริษัทต้องดำเนินงานไปตามแต่จิมมี่จะกำหนด พิธานกับปัทมนก็โดนหางเลขให้รวมทีมกันเพื่อทำโปรเจคท์ยักษ์ใหญ่ อดีตคู่รักจึงได้โคจรกลับมาใกล้ชิดกันอีกครั้ง แอ้ม พนักงานแผนกมาร์เกตติ้ง เพื่อนสนิทที่พราวชวนมาทำงานด้วย จนคนทั่วไปหมั่นไส้ว่าเป็น "เด็กเส้น" ทั้ง ๆ ที่แอ้มไม่เคยใช้สิทธิพิเศษใด ๆ เลย แค่เป็นคนตรงไปตรงมา กล้าพูดกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้องมากเกินไปหน่อยเท่านั้นเอง และด้วยบุคลิกกล้าแสดงความคิด ทำให้แอ้มไปเตะตาจิมมี่เข้า จากเพื่อนร่วมงานก็กลายเป็นความรัก และเป็นรักที่ต้องทรยศเพื่อน เพราะพราวเองก็ชอบจิมมี่อยู่เหมือนกัน ทั้งสามคนจึงตกอยู่ในความอึดอัด ทั้งเรื่องความสัมพันธ์และเรื่องงาน นอกจากพนักงานระดับบริหารแล้ว ก็ยังมีพนักงานธรรมดา ๆ อย่าง บุ๋ม เลขานุการสาว ทรงอึ๋ม สุดเซ็กซี่ของพิธาน ที่มักใหญ่ใฝ่สูง ชอบใช้ร่างกายหากิน จนได้ขนานนามว่า "เต้าไต่" แต่จริง ๆ แล้วบุ๋มแค่ยั่วให้อยากแล้วจากไปเฉย ๆ ไม่มีใครเคยได้กินเธอจริง ๆ "น็อต" อินทีเรียดีไซเนอร์หนุ่มหล่อหน้าทะเล้น ขวัญใจสาวทั้งในและนอกออฟฟิศ น็อตเป็นหนุ่มขี้เล่น อารมณ์ดี เสน่ห์เหลือล้น มีดีเรื่องผู้หญิง แต่เรื่องงานไม่เอาไหน เพราะทำงานไม่เก่ง แถมไม่ค่อยรับผิดชอบจนได้ฉายาว่า "มั่ว" ยิ่งมีจิมมี่ รองประธาน เพื่อนสมัยมัธยมมาเป็นตัวเปรียบเทียบ น็อตจึงยิ่งรู้สึกแย่กับความไม่ก้าวหน้าของตัวเอง แต่ชีวิตเหมือนจะดีขึ้น เมื่อน็อตไปตกหลุมรักพราว ประธานบริษัทเข้าน็อตจึงคิดจะเด็ดดอกฟ้า เริ่มตั้งใจทำงาน เป็นผู้เป็นคนมากขึ้น แต่จะพอทำให้พราวหันมามองรึเปล่า หรือน็อตอาจต้องพยายามไปตลอดชีวิตก็เป็นได้ ชีวิตส่วนตัว กับหน้าที่การงาน จะไปด้วยกันได้ดี หรือจะทำลายซึ่งกันและกัน ร่างกายป่วยยังมียารักษาให้หาย แต่ถ้าจิตใจป่วย ก็คงยากที่จะรักษา และที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้น คือ เราแน่ใจได้อย่างไร ว่าจิตใจเราปกติดีกว่าพวกเขา ติดตามชม ละครเกมริษยา

Love Blood จัดรักให้ตรงกรุ๊ป (2557/2014) ซิทคอมวัยรุ่นแนวโรแมนติกคอมเมดี้ที่จะมาเรียกรอยยิ้มของคนทุกกรุ๊ปเลือด เรื่องราวของเพื่อน ความรักและชีวิตวัยรุ่น ของเพื่อนสาว4คน ซึ่งแต่ละคนมีกรุ๊ปเลือดที่ต่างกัน ทั้ง A O B AB และก็มีนิสัยใจคอที่ต่างกัน

Love Sick The Series รักวุ่น วัยรุ่นแสบ (2557/2014) ฤดูกาลที่ 1 เพราะวัยรุ่น "ผ่าน" อะไรมาเยอะ ชีวิตวัยรุ่นจึงน่าสนใจ มีอะไรให้ได้พูด Love Sick The Series รักวุ่น วัยรุ่นแสบ นำเสนอเรื่องราวแสบๆ วุ่นๆ ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนชายล้วนหญิงล้วนรั้วติดกัน ปุณณ์ คือหนุ่มหล่อเลขาสภานักเรียน มีแฟนเป็นสาวสวยดาวคอนแวนต์ชื่อเอม โน่ ประธานชมรมดนตรีจอมกวน ถูกยูริสาวน้อยลูกครึ่งญี่ปุ่นจากฝั่งคอนแวนต์ มโนว่าเป็นแฟนตัวเอง โดยทั้งเอมและยูริเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน วันหนึ่งงบซื้อกลองของชมรมดนตรีถูกตัด ทำให้โน่ต้องเดินเข้าห้องสภานักเรียนเพื่อขอให้ตรวจสอบงบใหม่ ที่นั่นโน่ได้พบปุณณ์ ทั้งคู่เจรจากัน โน่ขอให้ปุณณ์ช่วย ปุณณ์รับปากแต่มีข้อแม้ว่า โน่ต้องมาเป็นแฟนปุณณ์ โน่เกิดอาการงง ไปไม่เป็น ต่อจากนี้คือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างเด็กชายสองคน ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ มิตรภาพ และรอยน้ำตา จี๊ด ย้ายมาจากโรงเรียนรัฐบาลเข้ามาเรียนในโรงเรียนที่เดียวกับเอมและยูริ จี๊ดพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เพื่อนยอมรับ จี๊ดเจอกับคมเพื่อนโน่ ทั้งคู่ชอบกัน ความรักของจี๊ดและคมทำให้หลายคนอิจฉา แต่ยังมีเรื่องบางอย่างที่ยังไม่รู้ทั้งคู่ แตงโม เด็กคอนแวนต์ กับโมน เด็กอาชีวะ หลานชายอธิการโรงเรียนชายล้วนที่ปุณณ์กับโน่เรียนอยู่ ทั้งคู่อาศัยอยู่ในคอนโดเดียวกัน ใช้ชีวิตแบบผัวเมีย เพื่อนรู้ ทุกคนรู้ แต่พ่อแม่ไม่รู้ ข้างห้องของทั้งสองคนคือกอล์ฟ อริเก่าของโมน ผู้เก็บความลับของทั้งคู่ไว้ แป้ง น้องสาวปุณณ์ เป็นสาวYพันธุ์แท้ ชื่นชอบการจับจิ้นให้ผู้ชายรักกัน แป้งมีเพื่อนสนิทคือมัดหมี่และหวานเจี๊ยบ ทั้งสามคนเรียนพิเศษที่โรงเรียนสอนการแสดงแห่งหนึ่ง ที่นั่นแป้งและเพื่อนๆ ได้พบกับป๊อบและเช แน่นอนว่าทั้งป๊อบและเชถูกสามสาวจับมาจิ้น และพยายามทำทุกอย่างให้ป๊อบกับเชรักกัน แต่มันไม่ง่ายแบบนั้นน่ะสิ หลากหลายเรื่องรักวุ่นๆ กำลังจะเกิดขึ้น อย่าลืมนะว่าเราทุกคนก็เคย "ผ่าน" วัยนี้มา เพราะฉะนั้นเรารู้ว่ามันไม่ธรรมดาแน่นอน

รักต้องอุ้ม 2557

รักต้องอุ้ม (2557/2014) ชีวิตของ ลันตา (ภีรนีย์ คงไทย) กำลังจะประสบความสำเร็จ ได้เลื่อนเป็นบรรณาธิการนิตยสารผู้หญิง แถมความสัมพันธ์กับ อนุชิต (อดิสร อรรถกฤษณ์) ผู้บริหารหนุ่มสุดหล่อก็กำลังคืบหน้า ไปได้ดี โดยมีเพื่อนซี้ ธัญญาเรศ (อริสรา ทองบริสุทธิ์) และ แพท (เจสสิก้า ภาสะพันธุ์) ซึ่งทำงานอยู่ด้วย ช่วยเชียร์ แต่แล้วฝันของลันตาก็สลายเพราะ อรขจี (นาตาลี เดวิส) ภรรยาของอนุชิตมาประกาศตัวที่บริษัท แถมไล่ตบตีลันตา ด้วยความโมโหลันตาขอลาออก ฝันทุกอย่างสลายไปในพริบตา เท่านั้นยังไม่พอ ขณะลันตาจะขับรถกลับบ้าน กลับมีกล่องใส่เด็กหกเดือนอยู่ใต้ท้องรถ ลันตาไม่รู้จะทำอย่างไร จะเอาเด็กกลับบ้านก็กลัว ย่ามาลัย (ดวงตา ตุงคะมณี) จอมเฮี๊ยบ ก็เลยพาตาหนู(น้องเทรย์)ไปที่คอนโดของ สิปาดัน (วรินทร ปัญหกาญจน์) นักบินหนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์ เพื่อนรักเพื่อนซี้ของเธอ สิปาดันพอเห็นเด็กก็โวยวายให้ลันตาเอาไปแจ้งความที่โรงพัก แต่ลันตาห่วงเด็กจะไม่ปลอดภัย ก็เลยอ้อนวอนขอเลี้ยงเด็กที่คอนโดโดยโกหกย่าว่าจะไปทำงานต่างจังหวัด ที่แท้เอาเวลามาช่วยเลี้ยงเด็ก แต่การเลี้ยงเด็กกับสิปาดัน ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเด็กร้องไห้งอแงตลอดเวลา งานนี้ได้เพื่อนบ้านแสนดีอย่าง พอล (ธนกฤต พานิชวิทย์) และ มิ้งค์ (จรินทร์พร จุนเกียรติ) รุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยที่เคยมาฝึกงานกับลันตา มาคอยช่วยดูแล รวมทั้งแพทด้วย ลันตาชวนสิปาดันไปเชียงใหม่ เพราะได้เบาะแสคนที่เอาเด็กมาทิ้ง โดยมีเพื่อนของสิปาดันคือ กีรติ (โกสินทร์ ราชกรม) ซึ่งแอบชอบลันตา และแพท ตามไปด้วยกัน โดยไปพักกันที่บ้าน ย่านวล (ดวงใจ หทัยกาญจน์) คุณย่าของสิปาดัน และ อิทนนท์ (ศานติ สันติเวชกุล) พ่อของสิปาดัน ซึ่งทำให้เจอกับ เอื้องคำ (ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา) และ มะนาว (ภัทรินทร์ เจียรสุข) แฟนเก่าของสิปาดันที่เลิกรากันไป โดยที่มะนาวรู้ว่าสิปาดันเลือกที่จะรักลันตามากกว่า แต่เธอก็พยายามจะกลับมาสานสัมพันธ์ กลายเป็นรักสามเส้า และระหว่างทางที่ตามหาคนทิ้งเด็กก็วุ่นวาย เพราะคนบงการเอาเด็กมาทิ้ง จ้างคนไปปิดปากคนที่อุ้มเด็กมาไว้ท้ายรถลันตา ที่ยุ่งไปกว่านั้นคือทั้งสี่คนไล่ล่าผู้ร้ายจนสลับคู่หลงป่า และที่สุดก็กลับกรุงเทพฯอย่างคว้าน้ำเหลว ลันตาต้องอ่านตำราเลี้ยงเด็ก ประหนึ่งแม่ของเด็กน้อย สิปาดันก็จำใจต้องเป็นคุณพ่อของเด็กด้วย แต่ก็ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่สานต่อใกล้ชิดยิ่งขึ้น สิปาดันที่แอบหลงรักลันตามานานมากแล้ว ก็ค่อย ๆ เผยใจออกมา ความรักของทั้งคู่กำลังจะไปได้ดี แต่ยังไม่ทันเปิดใจกัน ก็มีปัญหา เมื่อ พิธาน (เจสัน ยัง) ปรากฏตัวขึ้นในฐานะเจ้าของผู้ผลิตหนังสือเล่มใหม่ ซึ่งลันตาไปเป็นบรรณาธิการ ซึ่งได้ร่วมทุนกับ สุวิภา (สุรัตนา ข้องตระกูล) และ รัชนี (สุปราณี เจริญผล) การมาครั้งนี้ของพิธานมีเป้าหมายสำคัญคือต้องการที่จะให้ลันตา กลับมารัก เพราะพิธานเป็นอดีตรุ่นพี่มหาวิทยาลัยที่เป็นแฟนเก่าของลันตา แต่เลิกรากันไปเพราะ รู้ดีว่าใจของลันตาอยู่ที่สิปาดัน แต่ครั้งนี้เขาต้องการกลับมาเอาชนะสิปาดันให้ได้ โดยได้ร่วมมือกับมะนาว และธัญญาเรศร่วมวางแผนการร้ายต่าง ๆ เพื่อให้ลันตากับสิปาดันผิดใจกัน ทั้งยังเปิดเผยให้ย่ามาลัยรู้ว่าสิปาดันและลันตาอยู่ด้วยกันในคอนโด ทำให้ย่ามาลัยโมโหมาก สิปาดันและย่านวลและพ่ออินทนนท์ปรึกษากัน จึงได้ไปขอขมาย่ามาลัยที่บ้าน พร้อมกับรับผิดชอบขอลันตาแต่งงาน แต่ย่ามาลัยดื้อแพ่ง ให้พิธานพา น้าวัน (ปริศนา กล่ำพินิจ) พี่สาวเป็นผู้ใหญ่มาสู่ขอแข่งกัน ทั้งยังกดดันลันตา จนต้องยอมตามย่านวลหมั้นกับพิธานด้วยความไม่เต็มใจเรื่องราวความรักวุ่นวายของสิปาดัน และ ลันตา จะเป็นอย่างไร รวมทั้งอนาคตของตาหนู ก็ต้องติดตามชมใน ละครรักต้องอุ้ม

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล 2557

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล (2557/2014) 3 สาว อดีตเพื่อนเคยซี้สมัยมัธยม ต่อเนื่องถึงมหาวิทยาลัย แยกคณะกันไปเรียนตามความชอบและเป้าหมายในชีวิต และกลับต้องผิดใจกันนั่นคือ เมื่อน้ำผึ้งเห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อน !!! เพราะเมเปิลและลินีจับได้ว่าแฟนของเพื่อนรักแอบไปมีกิ๊ก พยายามจะเปิดตาเปิดใจน้ำผึ้งให้เห็นความจริง แต่น้ำผึ้งกลับโกรธเพื่อนแทน สามสาวทะเลาะกันใหญ่โต ขุดปมด้อยปมอดีตมาโจมตีจนความรู้สึกพังยับกันไป ทั้งสามคนตัดสินใจสวมคอนเวิร์สทางใครทางมัน ทั้ง ๆ ที่เสียใจ แต่ทิฐิสร้างกำแพงในใจหนักหนา ไม่อยากเสียหน้าเสียฟอร์ม และในที่สุด…น้ำผึ้งก็ได้พบความจริงว่า เสียงเตือนจากเพื่อนคือสิ่งจริงแท้ น้ำผึ้งบอกเลิกแล้วหันหลังให้กับความรักอย่างสิ้นเชิง น้ำผึ้งเก็บงำความจริงข้อนี้ไม่ให้โลกรู้ว่าเธอพลาดเอง เพราะยังไงฉันก็ไม่เคยผิด ! น้ำผึ้งกล่าว การแตกหักของสามสาว ทำให้ ภัทรวลัย เพื่อสาวคนสนิทในก๊วนอีกคนที่ร้อนรนทนไม่ได้ คอยเป็นกาวใจสมานร้าวให้กลับมาดีดังเดิม แล้วอนาคตที่ภัทรวลัยวาดไว้ก็มาถึง วันที่แต่ละคนอายุอานามปาเข้าไปสามสิบห้า และเป็นวันสำคัญ คือวันแต่งงานของเธอกับคุณเป้ เทรนเนอร์หนุ่มหุ่นล่ำขยำใจชะนีแปลกอย่างภัทรวลัย คู่สร้างคู่สมที่เกิดมาเพื่อคู่กันอย่างแท้จริง ภัทรวลัยบังคับสามสาวให้เป็นเพื่อนเจ้าสาว ตามประสาเสือสามตัวอยู่ในถ้ำเดียวกันเมื่อไหร่ถ้ำย่อมสะเทือน งานหวุดหวิดเกือบล่ม ภัทรวลัยทนไม่ไหวด่ากราดสามสาวทั้งน้ำตาขอร้องขอให้ลดละเลิกทิฐิหันมารักกัน เมเปิ้ล น้ำผึ้ง ลินี รับปากเพื่อน…แต่อย่าหวังว่าในใจของสามสาวจะยอมรับ ใครอย่าพลาด ฉันจะซ้ำเติม !!! ในงานเลี้ยงฉลองสมรสสามสาวก็พลาด เมื่อถูกไต่ถามจากเพื่อนถึงชีวิตรัก เมเปิ้ลคว้าตัวผู้ช่วยหนุ่มรุ่นน้อง กฤษฎา เข้ามาประชิดแล้วแต่งตั้งแบบปัจจุบันทันด่วนว่านี่คือ…ว่าที่เจ้าบ่าวที่กำลังจะแต่งงานกันใน 1 เดือนข้างหน้าเหมือนกัน !!!! กฤษฎาหน้าซีดเมื่อถูกบังคับให้เป็นว่าที่เจ้าบ่าวแบบไม่ทันตั้งตัว !!!!! น้ำผึ้งและลินี ออกตัวแรงเช่นกันว่าฉันก็กำลังจะแต่งงานใน 1 เดือนข้างหน้าเหมือนกัน เพราะปากพาจน…เวรล่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่แต่ละคนสังเกตได้และรู้สึกคือไม่เชื่อว่าเพื่อนจะมีแฟนจริง จึงเกิดการท้าทายและท้าพิสูจน์อีกหนึ่งอาทิตย์เราจะนัดเจอกันเพื่อพาแฟนมาให้ดูตัวว่าแฟนใครจะแซบกว่าใครและเพื่อยืนยันว่าแต่ละคนพูดจริง เมเปิ้ลเครียดเพราะแม้เธอจะเป็น fashion designer ชื่อดังและเป็นบรรณาธิการนิตยสารแฟชั่นของต่างประเทศที่ขยายตลาดในเมืองไทย เธอเป็นคนเจ้าอารมณ์ เหวี่ยงวีนแตก จึงไม่มีผู้ชายคนไหนอยากใกล้เธอ นอกจาก กฤษฎา ควรเวโรจน์ ผู้ช่วยของเธอ และกลายเป็นเหยื่อในที่สุด กฤษฎาอายุอ่อนกว่าเมเปิ้ล 5 ปี กฤษฎามีความฝันอยากเป็นบรรณาธิการและมีนิตยสารเป็นของตัวเอง เขาจึงยอมทนเป็นผู้ช่วยเมเปิ้ลและที่สำคัญ กฤษฎาแอบชอบเมเปิ้ล ดังนั้นเหตุตกกระไดพลอยโจนครั้งนี้ เป็นโอกาสที่กฤษฎาจะได้พิสูจน์ตัวเองกับเมเปิ้ลว่า แม้จะอายุน้อยกว่า แต่ว่าทำให้ฟินได้ แต่คงไม่ง่ายนักที่กฤษฎาจะเอาชนะใจเมเปิ้ลได้ เมเปิ้ลเห็นความล้มเหลวของจิลลา สาวแอร์โฮสเตสพี่สาวคนเดียวที่มีแฟนอายุอ่อนกว่าอย่าง ดรณ์ เมเปิ้ลไม่เคยเห็นว่าความรักของจิลลาจะมีความสุขตรงไหน มีแต่ความหวาดระแวง ไม่มีความมั่นใจเหลืออยู่ ไม่มีความมั่นคง ทะเลาะกันบ่อยยิ่งกว่าบอกรัก แล้วคนที่ต้องมานั่งถ่างตาฟังคำพูดฟูมฟาย ซ้ำ ๆ ซาก ๆ ก็คือเธอ การที่จิลลามีแฟนเด็กหาอนาคตไม่ได้ นำความไม่ปลื้มมาสู้คุณหญิงแสนสุข คุณหญิงย่าผู้เจ้าระเบียบ จู้จี้ เป็นผู้ดีเก่า แต่จิลลาก็ไม่แคร์ ยังคงดันทุรังคบกันดรณ์ต่อไป และเมเปิ้ลก็พร้อมที่จะเป็นอย่างที่คุณหญิงย่าหวัง ดังนั้น ความรักกับเด็กเป็นเรื่องห่วยแตกสำหรับเมเปิ้ลชาตินี้อย่าหวังว่าเธอจะรักเด็ก และอุปสรรคสำคัญอีกประการคือ ตรัยคุณ ว่าที่คู่หมั้นคู่หมายที่คุณหญิงย่าเตรียมเอาไว้ให้แต่งงานกับเมเปิ้ แต่เมเปิ้ลได้กลิ่นบางอย่างที่ผิดปกติ นั่นคือ กลิ่นเกย์ กฤษฎาอ้างว่ามีแฟนแล้ว น้ำฟ้าแฟนของกฤษฎาที่รักกันมาก เมเปิ้ลไม่ยอมแพ้ โดยมีการเลื่อนตำแหน่งมาเป็นผู้ช่วยบรรณาธิการบริหารเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน กฤษฎายอมรับเงื่อนไขอย่างมีความสุข น้ำผึ้งทำได้ เพราะน้ำผึ้งงานลดหดหาย คล้าย ๆ ว่าคิวว่างยาวพรืด หาคิวงานแทบไม่เจอ ความสามารถหรือจะสู้กระแสใหม่ ๆ ตอนนี้ใคร ๆ ก็อยากได้ น้องเมอร์ดี้ ดาราสาววัยแรกแย้ม อายุ 19 ปี ซึ่งอยู่ในสังกัดบริษัท GT บริษัทเดียวกับน้ำผึ้ง ฝีมือของน้องเมอร์ดี้ไม่เท่าไหร่แต่ความใสกินขาด เด็กหน้าใสสร้างภาพใสซื่อตบตาชาวโลกว่าโดนน้ำผึ้งรังแกและตั้งฉายาให้น้ำผึ้งว่า ป้าน้ำเน่า นั่นคือสัญญาณ…ให้น้ำผึ้งรู้ว่าเส้นทางการเป็นนางเอกของตัวเองกำลังริบหรี่ลง ไหน ๆ เธอต้องแต่งงานโชว์เมเปิ้ลและลินีแล้วน้ำผึ้งก็ขอเลือกผู้ชายที่มีคุณสมบัติเลิศหน้าตา เพื่อเป็นเหตุผลว่าเธอออกจากวงการไปเป็นราชินีของมหาเศรษฐีแต่ปัญหาใหญ่คือ…เธอจะหาผู้ชายคนนั้นจากที่ไหน ???? พลันดวงตาคมสวยก็เหลือบไปเห็นหน้าปกนิตยสารธุรกิจ ทายาทนักธุรกิจหนุ่มที่ขึ้นหน้าปกนั้น คือ พีศทรรต โซ่อัมพัน พีศทรรตเป็นพ่อหม้ายป้ายแดง อายุเพียง 36 เป็นเจ้าของบริษัท GT ซึ่งเป็นบริษัท Artist Management หรือบริษัทบริหารและดูแลศิลปิน และน้ำผึ้งก็เป็นหนึ่งในศิลปินที่บริษัท GT ต๊ายย ! ใกล้เกลือกินด่างแท้ ๆ พีศทรรตเพิ่งหย่ากับ ธัญรดา ได้ 6 เดือน โดยทั้งสองมีลูกสาว 1 คน อายุ 7 ขวบ คือ น้องญาดา พีศทรรตกับธัญรดาแต่งงานกันเพราะความเหมาะสมในสายตาของกานดา ผู้เป็นแม่ แต่สุดท้ายชีวิตคู่ของพีศทรรตกับธัญรดาก็ไปไม่รอด เมื่อญาดาขาดความอบอุ่นและการดูแลเอาใจใส่จากแม่ ญาดาจึงกลายเป็นเด็กอ่อนแอเอาแต่ใจชอบทำตัวเป็นเด็กมีปัญหา เพื่อเรียกร้องความสนใจจากแม่ กานดาจึงทำตัวเป็นกาวหาทางปะชีวิตคู่ที่แตกหักของพีศทรรตและธัญรดาให้กลับมาครองคู่กันอีกครั้ง แต่ลูกชายหัวแข็งอย่างพีศทรรตก็ไม่มีวันยอมแม่เขาอีกแล้วเขาต้องการอิสระในชีวิตเขาคืน เขาคือผู้ชายที่ไม่มีผู้หญิงจับเขาได้เกิน 3 วัน แต่น้ำผึ้งหมายมาดว่าเธอนี่แหละจะเป็นผู้หญิงที่เขาอยู่ด้วยเกิน 3 วัน และจะต้องอยากอยู่ต่อไปตลอดชีวิต ด้านพีศทรรตคิดว่าความแรงของน้ำผึ้งจะเป็นกันชนอย่างหนากล้าปะทะกับกานดา เขาจึงร่วมเล่นเกมนี้กับน้ำผึ้งโดยประกาศว่า "ถ้าน้ำผึ้งทนเขาได้ถึง 1 เดือน เขาจะยอมแต่งงานกับน้ำผึ้ง น้ำผึ้งรีบเซย์เยสสสสสสสสส ลินีที่กำลังโกรธตัวเอง เพราะความขาดสติและต้องการเอาชนะ ใคร ๆ ก็รู้ว่าทนายความสาวที่ชื่อ ณัฏฐาลินี เป็นพวกหัวรุนแรงเรื่องการเรียกสิทธิสตรี เธอมีอคติต่อผู้ชาย โดยเฉพาะ วายุบุตร นักธุรกิจหนุ่มเจ้าของธุรกิจสถานที่ท่องเที่ยวกลางคืนสุดหรูกลางกรุง รูปหล่อน่าหลงใหล ในทัศนะของลินี วายุบุตรไม่ต่างอะไรกับเทพบุตรซาตาน จนเป็นที่รู้จักต่อสังคมในฐานะ คู่แค้นสนั่นเมือง วายุกลับได้ยินว่าลินีกำลังตกที่นั่งลำบากเกี่ยวกับหาเจ้าบ่าวแต่งงานโกหกเพื่อน ๆ ด้วยความแค้นและหมั่นไส้ผู้หญิงเฟมินิสอย่างลินีมานาน วายุบุตรไม่รอช้า เขาสั่งสิริมาไปจ้างทำการ์ดแต่งงานลงชื่อระหว่างเขาและลินี แล้วส่งไปให้เมเปิ้ลและน้ำผึ้ง แต่เมื่อเจอคำท้าทายของวายุบุตร ลินีจึงยอมตกกระไดพลอยโจนเออออว่าจะแต่งงานกับวายุบุตร วันนัดดูตัวว่าที่เจ้าบ่าวของสามสาวก็มาถึง สามหนุ่มยิ่งนึกสนุกที่จะได้แกล้งสามสาวจึงหวานเว่อร์เข้าใส่ และแล้ววินาทีพิเศษที่สร้างความหวั่นไหวให้หัวใจของสามสาวอย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน มันคืออะไรนะ สามสาวไม่แน่ใจกับความรู้สึกของตัวเอง เมเปิ้ลดีดตัวปฏิเสธความรู้สึกนี้ก่อนใคร ไม่มีทางที่เธอจะมีใจให้เด็ก กฤษฎาพอจะอ่านใจเมเปิ้ลออก จึงคิดทำอะไรบางอย่างเพื่อดัดนิสัยเมเปิ้ลที่ผิดสัญญา กฤษฎาลาออกโดยให้เหตุผลว่าเขาจะต้องกลับไปแต่งงานกับน้ำฟ้าในเดือนหน้า เมเปิ้ลไม่มีวันยอม เมเปิ้ลประกาศกร้าวว่าจะตามล่าตัวกฤษฎากลับมาแต่งงานกับเธอให้จงได้ เพราะตัวของกฤษฎา กำลังทำให้เมเปิ้ลหวั่นไหวเริ่มเปิดใจให้กับความรัก ในขณะที่น้ำผึ้งเองก็กำลังเจอวิกฤตเช่นกัน เดือนนี้ทั้งเดือนน้ำผึ้งว่างงาน ปิดประตูคอนโดนอนร้องไห้ หมดอาลัยตายอยาก ภัทรวลัยที่ตามมาสืบพฤติกรรมผิดปกติของเพื่อนกลัวว่าน้ำผึ้งคิดสั้น ไม่รู้จะตามใครได้นอกจากเมเปิ้ลและลินี และแล้วคำสารภาพผิดและคำขอโทษของน้ำผึ้งก็พรูออกจากปากสามสาว ทั้งสามคนกลับมาคบกันเหมือนเดิมแต่ก็ยังไม่มีใครกล้าบอกความจริงเรื่องเจ้าบ่าวจัดตั้ง เพราะในขณะนี้ต่างคนต่างหวังจะทำให้มันกลายเป็นความจริงด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันสามสาวจึงเดินหน้าต่อเพื่อพุ่งชนเป้าหมาย เมเปิ้ลเริ่มปฏิบัติการตามล่าตัวกฤษฎาสืบประวัติจนรู้ว่าบ้านของกฤษฎาอยู่เกาะตะวันและเมื่อเมเปิ้ลย่างเท้าถึงผืนดินเกาะตะวันเธอถึงรู้ว่าที่ตัวคิดนั้นผิด เกาะตะวันเป็นเกาะส่วนตัวของนายหัวเดโชผู้มีธุรกิจส่งออกรังนกฟาร์มหอยมุกและเหมืองพลอย อดีตเลขาฯ มือซ้ายของเธอคือลูกชายคนเดียวของนายหัว เมื่อเมเปิ้ลพบกับกฤษฎาสิ่งที่กฤษฎาแสดงออกกับเมเปิ้ลนั้นกลายเป็นผู้ชายแข็งกร้าว เป็นลูกชายของนายหัวที่ไม่เคยกลัวเกรงใคร แทนที่เมเปิ้ลจะเป็นคนสั่งเขาตอนนี้เขากลับกลายเป็นเขาที่ออกคำสั่ง กฤษฎาประกาศกร้าวใส่เมเปิ้ลว่าเขาจะไม่กลับไปทำงานอีกเขาจะอยู่ที่นี่เพื่อรอแต่งงานกับน้ำฟ้าแต่เมเปิ้ลไม่ยอม เธอประกาศกร้าวเช่นกันว่าจะไม่ออกไปจากเกาะจนกว่าจะได้ตัวของกฤษฎากลับไปแต่งงานด้วย นอกจากเจอความใจร้ายของกฤษฎาแล้ว เมเปิ้ลต้องปะทะกับน้ำฟ้าผู้หญิงที่นกสองหัวยังเรียกแม่และเกมนี้จะจบก็ต่อเมื่อเมเปิ้ลยอมรับว่าที่เมเปิ้ลทำนั้นไม่ใช่เพราะแค่เอาชนะแต่เป็นเพราะเมเปิ้ลรักกฤษฎา แต่มันไม่ง่ายอย่างที่กฤษฎาคิด คุณโสนแม่บังเกิดเกล้าของกฤษฎาซึ่งแสดงตัวชัดว่าไม่ยินดีรับเมเปิ้ลมาเป็นสะใภ้ คุณโสนจึงซ้อนแผนให้น้ำฟ้านั้นเป็นแฟนและจะแต่งงานกับกฤษฎาจริง ๆ โดยที่กฤษฎาไม่รู้ เมเปิ้ลล่าถอยกลับกรุงเทพฯ เพื่อไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนสาวที่กำลังหนุนในเรื่องนี้ น้ำผึ้งกำลังจะกลายเป็นน้ำมัน เมื่อพีศทรรตเริ่มปฏิบัติการทำให้น้ำผึ้งหวั่นไหว แต่สิ่งแรกที่เป็นปัญหาของน้ำผึ้ง คือ กานดายายแก่บ้าอำนาจ+ธัญรดาเมียเก่าจอมหวงก้าง+เด็กปีศาจอย่างญาดา ส่วนลินีก็กำลังก่อศึกกับวายุบุตร ลินีกำลังจะคลั่งเมื่อโดยวายุบุตรเข้ามายุ่งวุ่นวายในชีวิตมากขึ้นทุกที และที่สำคัญลินีกำลังรู้สึกว่าตัวเองตกหลุมรักวายุบุตร ลินีจึงหนีไปอยู่กับกุ๊งกิ๊ง เพราะลินีมีคดีสำคัญที่ เสี่ยพิภพ เจ้าของโรงงานสิ่งทอบอกข่าวกับเธอว่าวายุบุตรจะส่งผู้หญิงไปให้นักธุรกิจแต่ดีที่เสี่ยพิภพช่วยไว้ได้ ลินีและกุ๊งกิ๊งต่างชื่นชมในหัวใจที่เป็นพ่อพระของเสี่ยพิภพอย่างมาก แต่เสี่ยพิภพนั้นคือพวกลักลอบค้าผู้หญิงตัวจริง และลินีก็ยิ่งใจอ่อนละลายลงไปอีกเมื่อรู้ว่าส่วนหนึ่งของรายได้ที่วายุบุตรหักต้นทุนแล้วถูกนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิฟ้าหลังฝนที่เธอเป็นอาสาสมัครโดยที่ลินีไม่เคยรู้มาก่อน เพราะวายุบุตรไม่ต้องการจะออกหน้า รวมถึงได้ก่อตั้งมูลนิธิที่สนับสนุนการศึกษาให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลนคุณทรัพย์ ด้านเสี่ยพิภพนั้นได้รับออร์เดอร์จากลูกค้าว่าอยากได้ลินี เพราะต้องการตัดเสี้ยนหนาม ดังนั้นเสี่ยพิภพจึงวางแผนลวงลินีว่าได้ข่าวจะมีการขนผู้หญิงไปพักที่เกาะแถวภูเก็ต ลินีหลงเชื่อเสี่ยพิภพสนิทใจ ลินีจึงรีบเก็บของเพื่อไปภูเก็ต วายุบุตรเป็นห่วงลินี จึงดื้อดึงตามลินีไปด้วย และทั้งสามสาวและสามหนุ่มก็มาที่เกาะตะวัน ด้วยภารกิจที่ต่างกัน แต่ไม่เคยมีอะไรที่ราบรื่นระหว่างทาง กฤษฎาไม่รู้ว่าคุณโสนมีแผนกับเขากับน้ำฟ้าจริง ๆ กฤษฎาจึงเล่นไปตามบทบาทแฟนของน้ำฟ้าเพื่อยั่วเมเปิ้ล เพื่อนรับรู้ได้แค่ว่าเมเปิ้ลกำลังต่อสู้เพื่อเอาชนะใจว่าที่แม่สามี และกำจัดนางมารร้ายหัวใจที่ชื่อน้ำฟ้า ด้านน้ำผึ้งเองก็เจอปัญหาแทบหาทางคลี่คลายไม่ออก เมื่อกานดา ธัญรดา และญาดามาที่เกาะตะวัน ซึ่งเพื่อน ๆ ก็รับรู้ได้แค่ว่า น้ำผึ้งกำลังท้อแท้กับปัญหาถ่านไฟเก่าของว่าที่เจ้าบ่าว ส่วนลินีนั้นกำลังหาทางตัดเยื่อใยบาง ๆ ที่กำลังก่อระหว่างเธอกับวายุบุตร เสี่ยพิภพบอกว่าจะมีการส่งผู้หญิงคืนนี้ ลินีจึงวางแผนจัดปาร์ตี้สละโสด แล้วเล่นเกมมอมเหล้าวายุบุตร วายุบุตรชวนลินีเต้นรำแล้วสารภาพว่าเขารักเธอ ด้านคุณโสนกับน้ำฟ้านั้น คุณโสนจะจัดฉากให้ว่าน้ำฟ้ากับกฤษฎามีอะไรกันจะได้จับแต่งงานกันจริง ๆ แต่เมเปิ้ลซ้อนแผนหลายตลบชิงตัดหน้าสร้างภาพว่ามีอะไรกับกฤษฎา เมเปิ้ลยิ้มย่องว่างานนี้กฤษฎากับตัวเองแต่งงานกันแน่ แต่มันไม่เป็นอย่างนั้น น้ำฟ้ามาบอกกับเมเปิ้ลว่ากำลังท้อง เมเปิ้ลอึ้งแต่เมเปิ้ลกลับพูดผลักไสให้กฤษฎาไปง้อน้ำฟ้า กฤษฎาน้อยใจที่สุดท้ายเมเปิ้ลก็ไม่ได้บอกรักเขา จึงตัดสินใจวิ่งไปตามหาน้ำฟ้า เมเปิ้ลยอมรับว่าเกมนี้เธอแพ้ ดังนั้นเมเปิ้ลจึงบอกความจริงกับน้ำผึ้งและลินี แล้วขอกลับกรุงเทพฯ อย่างยอมแพ้ ส่วนน้ำผึ้งนั้น ตลอดเวลาที่อยู่บนเกาะ น้ำผึ้งพยายามเข้าหาญาดาเพื่อเป็นเพื่อนที่เข้าใจ แต่ญาดานั้นไม่ยอมเปิดใจง่าย ๆ แถมยังดื้อแอบไปว่ายน้ำ ทำให้ญาดาเกิดหอบ น้ำผึ้งไปเห็นทันเลยช่วยชีวิตญาดาไว้ทัน ญาดากลัวถูกดุเลยโทษว่าน้ำผึ้งเป็นคนชวนตัวเองไปว่ายน้ำ พิศทรรตโมโหมากต่อว่าน้ำผึ้งว่านิสัยแย่ ญาดาแอบมาขอบคุณน้ำผึ้งที่หลัง แต่กานดายังคงกรีดกันน้ำผึ้ง กานดาเห็นความอ่อนแอของน้ำผึ้ง จึงฉวยโอกาสนี้ปั้นเรื่องว่าพีศทรรตกับธัญรดาดีกันแล้ว โดยจัดฉากให้น้ำผึ้งเห็นพีศทรรตกับธัญรดาจูบกัน ดังนั้น…น้ำผึ้งตัดใจสารภาพความจริงกับเมเปิ้ลแล้วขอกลับกรุงเทพฯ อย่างผู้แพ้ไปพร้อม ๆ กับเมเปิ้ล ลินีนั้นแอบหนีวายุบุตรออกจากเกาะตะวันไปตามที่เสี่ยพิภพนัดหมาย เมื่อลินีไปถึงเกาะ ก็โดยเสี่ยพิภพจับไว้เพื่อเตรียมส่งให้ลูกค้า แล้วนั้นทำให้ลินีรู้ความจริงว่า เสี่ยพิภพเป็นคนชั่วคอยสร้างข่าวทำให้วายุบุตรเสื่อมเสียชื่อเสียง วายุบุตรพาตำรวจบุกเข้ามาขวาง เสี่ยพิภพโกรธแค้นที่วายุบุตรเข้ามาขัดขวางธุรกิจตัวเองจึงควักปืนทำท่าจะยิง วายุบุตรเข้าไปรับกระสุนแทนลินีอย่างไม่เห็นแก่ชีวิตของตัวเอง ลินีได้ยินวายุบุตรพูดกับสิริมาว่าเขาชนะแล้ว ตอนนี้เขาทำให้ลินียอมรักผู้ชายได้แล้ว 3 สาวสวย เริ่ด เชิด หยิ่ง นั่งอยู่ในร้านอาหารพร้อมหน้าพร้อมตาด้วยใบหน้าซึมเศร้าต่างสารภาพความจริงและยอมรับความพ่ายแพ้ว่าตัวเองเกิดมาเพื่อขึ้นคาน โดยมีภัทรวลัยคอยปลอบใจพลางหวานสวีทกับคุณเป้ไม่ห่างให้เพื่อน ๆ อิจฉาตาร้อน จาก 3 สาวที่เคยเป็นศัตรูตอนนี้กลายเป็น 3 สาวที่จับมือให้กำลังใจกันว่าต่อให้ขึ้นคาน ก็ยังมีเพื่อนนั่งอยู่บนคานข้าง ๆ กัน ความรักนั้นช่างเจ็บจน 3 สาวที่แสนแกร่ง ตอนนี้กอดกันร้องไห้และตัดสินใจวางเรื่องหัวใจ หันไปมุ่งเรื่องงานที่ต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไป ส่วนกฤษฎา พีศทรรต และ วายุบุตร สามหนุ่มจอมกระล่อนชอบวางแผน เมื่อรู้ว่า 3 สาวที่หมายปองยอมแพ้ ต่างรีบตามไปเคลียร์ความรู้สึกเรื่องหัวใจ สุดท้ายสามสาวจะยอมลงจากก๊วนคานทองตกล่องปล่องชิ้นกับแก๊งพ่อปลาไหลหรือไม่ ตามลุ้นกันต่อได้ใน ละครก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล

อุบัติรักข้ามขอบฟ้า (2551/2008) ไมค์ หนุ่มน้อยลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมายังประเทศไทยเพื่อตามหาแม่ โดยที่ตัวเองไม่ได้เตรียมตัวและมีความรู้ความเข้าใจอะไรเกี่ยวกับประเทศไทยเลยแม้แต่น้อย กอล์ฟ หนุ่มน้อยชาวไทย รักธรรมชาติ มีอดีตฝังใจกับการสูญเสียพ่อไปจากการเก็บกู้ซากปะการัง ด้วยความเป็นคนนิสัยแข็งกระด้าง ทำให้กอล์ฟมักจะไม่ยอมลงให้กับใครง่าย ๆ ซึ่งคู่ปรับคนสำคัญของกอล์ฟก็คือ เปิ้ล ผู้ซึ่งคลั่งไคล้วัฒนธรรมญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ เป็นเจ้าของและผู้ดูแลอพาร์ทเมนท์ที่กอล์ฟเช่าอยู่ และเพราะการมาประเทศไทยโดยไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน ทำให้ไมค์ต้องเจอะเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดมากมาย รวมถึงโชคชะตาที่เล่นตลกจนทำให้ไมค์ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ชายคาเดียวกับ แพท สาวที่ทำงานเป็นผู้ประสานงานบริษัทโฆษณา ผู้ซึ่งใช้ชีวิตยามว่างอยู่ในโลกไซเบอร์ สังคมอินเทอร์เน็ตและไดอารี่ออนไลน์ ทั้ง 4 คน ไมค์, กอล์ฟ, เปิ้ล และ แพท ได้มาเจอะเจอและรู้จักกัน ผ่านเหตุการณ์ชุลมุนและบังเอิญ เหตุการณ์ต่าง ๆ ก่อความชุลมุนจนถึงขั้นที่ทำให้ทั้ง 4 คน จำเป็นต้องมาอาศัยอยู่ภายใต้ชายคาเดียวกัน นั่นก็คืออพาร์ทเม้นท์ของเปิ้ล ทำให้ทั้ง 4 ได้รู้จักเรียนรู้และเกิดความใกล้ชิดผูกพันกันมากขึ้น...มากขึ้น การได้โคจรมาเจอกันของสองหนุ่มและสองสาว ก่อความรู้สึกดี ๆ ที่เรียกว่า ความรัก แม้จะเกิดอาการผิดฝาผิดตัวกันอยู่เนือง ๆ กว่าจะเรียนรู้หัวใจตัวเองกันได้ว่าใครรักใคร ใครชอบใคร ก็ทำให้เกิดเหตุการณ์ชุลมุน ไปจนถึงขั้นวุ่นวาย (หัวใจ) แต่ก็ทำให้แต่ละคนได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่าง ไทยกับญี่ปุ่นกันโดยไม่รู้ตัว และภายใต้ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อน ระหว่างกอล์ฟและไมค์นั้น ทั้งคู่ไม่ได้รู้ระแคะระคายเลยว่า แม่ที่ไมค์ตามหาอยู่จริง ๆ แล้วก็คือแม่ของกอล์ฟด้วยนั่นเอง ทั้งคู่เป็นลูกแม่เดียวกันและด้วยความไม่รู้ จึงทำให้ทั้งคู่เกิดปัญหาจนเกือบทำให้พี่น้องต้องเกือบผิดใจกัน เรื่องวุ่น ๆ ของความผูกพันระหว่าง เพื่อน พี่น้อง และคนรัก ที่อุบัติขึ้นท่ามกลางการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนความประทับใจในวัฒนธรรมไทยและญี่ปุ่น จะดำเนินและจบลงอย่างไร ติดตามหาคำตอบได้ใน ละครรัก โรแมนติก แฝงแง่คิดให้กับวัยรุ่นไทยในยุคที่โลกหมุนเร็วกว่าวัฒนธรรม ใน "อุบัติรัก ข้ามขอบฟ้า"

บุษบา 3 ช่า 2546

บุษบา 3 ช่า (2546/2003) ร้อยตำรวจเอกชาวิสาหรืออาหงส์ ตำรวจหญิงสืบสวนสอบสวน กำลังมีปัญหาขัดแย้งกับผู้บังคับบัญชา เพราะเธอต้องการไปสืบการลักลอบส่งหญิงไทยไปค้าประเวณีที่ต่างประเทศ ซึ่งโยงใยกับมาเฟียค้ายาเสพย์ติดรายใหญ่ และผู้กอง บวรรัตน์อาจมีส่วนรู้เห็นเป็นใจกับเจ้าพ่อแก๊งมาเฟียนี้ด้วย ขณะที่หงส์ขับรถกลับบ้าน ได้พบกับภูผาทายาทหนุ่มแห่งตระกูลชนะชัยเจริญ ที่ขับรถเร็วจนถูกจับ สร้างความโกรธแค้นให้กับหงส์เป็นอย่างมาก เพราะไม่สามารถทำผิดอะไรภูผาได้ และหงส์ได้ช่วยจอมขวัญ ที่เกือบจะถูกข่มขืน จอมขวัญจึงตอบแทนหงส์ด้วยการพาไปเลี้ยงอาหารเย็นที่ร้านอาหารของรังรอง จนทั้งสามสาวสนิทสนมกันและทำให้เธอกลายเป็นเพื่อนรักกันในเวลาต่อมาที่บ้านตระกูล “ชนะชัยเจริญ” มี คุณรัตนา พี่สาวเพียงคนเดียวของ ภูษาสามีของ พัชรี ทั้งสองมีลูกชายด้วยกันถึงสามคน คือภูผา(จิม) ,ภูเบศร์ (เจ)และภูวนาถ(โจ) ซึ่งตั้งแต่ภูผาได้พบกับหงส์แล้วเขาก็เริ่มสนใจในตัวตำรวจหญิงคนนี้ทันที เลยชอบแวะเวียนไปหาหงส์ที่ทำงานเสมอ แต่ก็มักถกเถียงกันอยู่ร่ำไป ซึ่งภูผามารู้ภายหลังถึงเหตุผลที่ทำให้หญิงสาวเป็นคนที่จริงจังกับชีวิต เพราะเธอเป็นบุตรสาวคนโตของ วินิต และ กานดา แต่เธอกลับไม่ได้รับความรักจากทั้งสองเลย ซึ่งความลับเหล่านี้ทำให้ภูผาเกิดความรักและความเห็นใจในตัวหงส์มากยิ่งขึ้นส่วนภูเบศร์ได้เข้าไปดูแลกิจการโรงแรมของครอบครัว และได้สัมภาษณ์จอมขวัญเพื่อมาช่วยงานเลขา แต่เธอกลับถูกปฏิเสธ สร้างความกดดันให้จอมขวัญ เพราะอุไรทอง แม่เลี้ยงของเธอ มักบ่นเรื่องภาระค่าใช้จ่ายในบ้านอยู่เสมอ รวมทั้งเรื่องที่เดือนฉายน้องสาวต่างมารดาชอบมาเบียดเบียนเรื่องเงินทองก็คงลดน้อยไปด้วย จอมขวัญตัดสินใจเข้าไปขอพบกับภูเบศร์อีกครั้งในวันรุ่งขึ้นและด้วยความตั้งใจจริง เขาจึงตกลงใจรับเธอเป็นเลขาที่รู้ใจ และเปลี่ยนเป็นความรักในเวลาต่อมา