Bangkok รัก Stories คนมีเสน่ห์ (2560/2017) แม่ค้าขนมไทย ขอดามใจหนุ่มไฮโซโดนเท เธอจะทำให้เขา #รักคนที่ไม่คิดจะรัก ได้หรือไม่ ซีรีส์หวานละมุนชุ่มฉ่ำใจของ “บัวลอย” (กิ้บซี่-วนิดา) หลานสาวแม่ค้าขายขนมไทยย่านเมืองเก่า เธอปากร้ายก๋ากั่นไม่ต่างจาก “ย่าสมร” (แม่แดง-ฉันทนา) เจ้าของสูตรลับขนมไทยร้านดัง เมื่อเธอโคจรมาเจอกับ “ภากร” (เจษ–เจษฏ์พิพัฒ) เศรษฐีหนุ่ม นุ่มนวลชวนฝันดีต่อใจ เป็นที่รักของแม่ “พิมพิลา” (ต่าย-เพ็ญพักตร์) หัวใจภากรพังพินาศกลางงานแต่งกับคู่หมั้น “เมย์” (เทีย-The Face 3) แต่เสน่ห์ต่างขั้วระหว่างเขา 2 คนนั้น กลับดึงดูดให้ทั้งคู่ตกหลุม #รักคนที่ไม่คิดจะรัก เข้าจนได้

โปรเจกต์ เอส เดอะซีรีส์ ตอน Side by Side พี่น้องลูกขนไก่ แบดมินตัน (2560/2017) พบกับพลังความรักของครอบครัวนักกีฬาที่แสนอบอุ่นหัวใจ ผ่านเรื่องราวของแม่ม่ายสองพี่น้อง “แม่ตั้ม” และ “แม่แตง” ที่ต่างมีลูกของตัวเองและช่วยกันเลี้ยงดูเป็นพ่อแม่ให้กับเด็กทั้งสองคน “ยิม” ลูกของแม่ตั้ม เกิดมาเป็นเด็กออทิสติก พัฒนาการช้าทั้งร่างกายและสมองราวกับเด็ก 6 ขวบ ทำให้แม่แตงอดีตนักกีฬาแบดมินตัน จับยิมเล่นแบดมินตันหน้าบ้านกับลูกชายตัวเองคือ “โด่ง” เพื่อฝึกทักษะร่างกายและสมอง ซึ่งทำให้ค้นพบสิ่งมหัศจรรย์ในตัวยิมที่เล่นแบดมินตันเก่งราวกับนักกีฬาทั่วไป รวมถึงโด่งก็มีความสุขกับการเล่นแบดมินตันอย่างมาก แม่แตงจึงจับเด็กทั้งสองเล่นแบดมินตันหน้าบ้านด้วยกันทุกๆวัน นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นความฝันอันยิ่งใหญ่ของสองพี่น้องว่า “วันหนึ่งพวกเขาจะต้องเป็นนักกีฬาแบดมินตันประเภทคู่ที่เก่งที่สุดให้ได้”

ชิงรัก ริษยา 2560

ชิงรัก ริษยา (2560/2017) รณภีณ์ (ธนา สุทธิกมล) นักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงเจ้าของบริษัทประกันยักษ์ใหญ่ ประสบความสำเร็จรอบด้าน ทำเซอร์ไพรส์อินดี้ (อรจิรา แหลมวิไล) คนรักไฮโซด้วยการขอแต่งงานบนเรือยอร์ชกลางทะเล โดยทั้งคู่จะแต่งงานกันทันทีที่กลับเข้าฝั่ง แต่กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่ออินดี้พลัดตกเรือจมหายไปในทะเล แต่รณภีณ์มีความหวังว่าอินดี้ยังมีชีวิตอยู่ จึงพยายามออกตามหาอยู่นานหลายเดือนแต่ในที่สุดก็ไร้วี่แวว ขณะที่วรพร (สาวิตรี สามิภักดิ์) และอั๊ต (วรกร ศิริสรณ์) ป้าและน้องชายของอินดี้เองก็ทำใจกับการหายไปและคิดว่าอินดี้คงเสียชีวิตแล้ว จึงพากันจัดงานศพให้อินดี้ เวลาผ่านไปหลายเดือน รณภีณ์ก็ต้องเจอวิกฤติในชีวิตอีกครั้ง เมื่อสุโขประกันภัยของของรณภีณ์กำลังประสบปัญหาจากสภาพคล่องทางการเงินอย่างหนัก ทำให้ดุรงค์ (ศุกล ศศิจุลกะ) และรัถยา (นัฎฐา ลอยด์) พ่อแม่ของรณภีณ์ ตัดสินใจควบสุโขประกันภัยเข้ากับสหประกันภัยของวิเชียร (สันติสุข พรหมศิริ) และอิสรีย์ (สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ) เพื่อรักษาผลประโยชน์ทางธุรกิจ และการรวมของสองบริษัทประกันภัยครั้งนี้ ทำให้รณภีณ์ได้พบกับม่อน (มารี เบรินเนอร์) ลูกสาวคนโตของวิเชียร ด้วยความใกล้ชิดทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดรณภีณ์ตัดสินใจขอม่อนแต่งงาน ซึ่งม่อนก็ตอบตกลงทันที แต่จู่ ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เมื่ออินดี้มาปรากฎตัวกลางงานแต่งของรณภีณ์และม่อน สร้างความตกตะลึงให้กับรณภีณ์อย่างมาก อินดี้กับม่อนบังคับให้รณภีณ์เลือก รณภีณ์ตัดสินใจเลือกอินดี้เพราะเขาเคยขออินดี้แต่งงานไว้ก่อนอินดี้จะหายตัวไป ทำให้กับม่อนเสียใจเป็นอย่างมาก ม่อนจึงยื่นคำขาดให้รณภีณ์อยู่กับตนก่อน 6 เดือน จึงจะหย่าให้เพื่อเป็นการรักษาชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของตัวเอง อินดี้ดีใจมากเฝ้านับรอวันรณภีณ์กลับมา แต่สุดท้ายอินดี้ก็รู้ว่าม่อนไม่ได้คิดจะหย่ากับรณภีณ์จริง แค่ต้องการยื้อเวลาเพื่อไม่ให้รณภีณ์กลับมาหาตน อินดี้กับม่อนเริ่มเปิดศึกเพื่อแย่งชิงรณภีณ์ ด้วยเหตุนี้ทำให้รณภีณ์ได้เห็นความร้ายกาจของทั้งคู่ซึ่งไม่เหมือนผู้หญิงแสนดีที่เขาเคยรู้จัก สุดท้ายรณภีณ์จึงตัดสินใจไม่เลือกใคร สร้างความเจ็บปวดให้ทั้งม่อนและอินดี้เป็นอย่างมาก แม้ว่ามิ้น (ภัณฑิลา วิน ปานสิริธนาโชติ) น้องสาวม่อนจะพยายามห้าม เพราะไม่อยากให้พี่สาวต้องมาเสียใจภายหลัง หลังหย่าขาดจากรณภีณ์ ม่อนจึงบอกรณภีณ์ว่ากำลังตั้งท้อง และเขาจะไม่มีสิทธิ์ในตัวลูก ทำให้รณภีณ์โกรธมาก แต่ด้วยความรักที่มีต่อลูกจึงหาทางเจรจากับม่อน ด้านอินดี้ที่ยังรักรณภีณ์อยู่เต็มหัวใจ เมื่อรู้ว่าม่อนตั้งท้อง จึงวางแผนกับแอล (เขมรัชต์ สุนทรนนท์) เพื่อนสนิทปล่อยตัวเองให้ตั้งท้องลูกของรณภีณ์เช่นกัน รณภีณ์จึงถูกบีบให้ต้องเลือกอีกครั้ง มิหนำซ้ำยังถูกตราหน้าจากสังคมว่าเป็นผู้ชายที่ไร้ความรับผิดชอบ สุดท้ายความรักที่ต้องแลกมาด้วยการแย่งชิงจะลงเอยอย่างไร? ติดตามชมได้ในละคร ชิงรักริษยา

เธอคือพรหมลิขิต 2560

เธอคือพรหมลิขิต (2560/2017) เมื่อโชคชะตาเล่นตลกให้ ภาวุฒิ (สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว ประธานหนุ่มรูปหล่อแห่งบริษัทผลิตเครื่องอุปโภคบริโภคที่ใหญ่ที่สุด ได้มาเจอกับ วนิดา (เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา) เลขาสาวสุดเฉิ่มในบริษัทกฎหมาย ซึ่งตั้งใจจะกระชับความสัมพันธ์กับ ธนวัฒน์ (กิจเกษม แมคแฟดเดน) แฟนหนุ่มบนเรือสำราญสุดหรูตามคำแนะนำของ ฟ้า (ภคกัญญา เจริญยศ) เพื่อนสนิท ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ภาวุฒิวางแผนจะทำเซอร์ไพรส์ขอ แขไขคุณ (ลัลณ์ลลิน เตจะสา เวศซ์) แฟนสาวนักบัลเล่ต์แต่งงาน แต่แขไขคุณเกิดเปลี่ยนใจเพราะต้องบินด่วนไปเซ็นสัญญากับคณะบัลเล่ต์ที่นิวยอร์ค ขณะเดียวกันภาวุฒิก็โดน เสนาะ (ตี๋ ดอกสะเดา) ผู้จัดการโรงงานที่ภาวุฒิเพิ่งเทคโอเวอร์กับ สมพงษ์ (วราวุธ โพธิ์ยิ้ม) ลูกชาย ร่วมมือกันวางยาจนทำให้ภาวุฒิพลาดไปมีความสัมพันธ์กับวนิดา ที่ดันกินยาแก้ไข้หวัดจนง่วงเดินเข้าห้องผิด ซึ่งกว่าทั้งคู่จะได้สติก็ปาเข้าไปเช้าวันใหม่ ภาวุฒิโกรธมากเพราะเข้าใจว่าวนิดาร่วมมือกับเสนาะและสมพงษ์แบล็คเมล์เขา ส่วนวนิดาที่เพิ่งเสียความบริสุทธิ์ก็ยิ่งช้ำหนัก เมื่อเธอจับได้ว่าธนวัฒน์แฟนหนุ่มไม่เคยรักเธอเลย แถมยังหลอกใช้เธอมาตลอด วนิดาหัวใจสลายร้องไห้ไม่หยุด ด้วยความสงสารภาวุฒิจึงวางแผนทำให้ธนวัฒน์เห็นคุณค่าในตัววนิดา ด้วยการพาเธอไปแปลงโฉมจนสวยราวกับเจ้าหญิง ก่อนจะควงวนิดาไปเย้ยธนวัฒน์ถึงคาสิโน ภาวุฒิหลอกล่อจนธนวัฒน์เสียพนันหมดตัว คืนนั้นระหว่างที่ภาวุฒิและวนิดายืนคุยกันอยู่นั้น พนักงานบนเรือก็จัดเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานให้ภาวุฒิอย่างยิ่งใหญ่ เพราะเข้าใจผิดว่าวนิดาคือแขไขคุณ ทั้งคู่จึงต้องไหลตามน้ำไปด้วยความกระอักกระอ่วนใจ แต่การได้อยู่กับภาวุฒิก็ทำให้วนิดาลืมความทุกข์ไปได้ชั่วขณะ ในใจวนิดาคิดว่าชาตินี้เธอคงไม่มีโอกาสได้พบภาวุฒิอีก โดยไม่รู้เลยว่าความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนจะทำให้เธอตั้งท้อง !! เมื่อ พัชนี (ดวงตา ตุงคะมณี) ย่าของภาวุฒิรู้เรื่องจึงบังคับให้ภาวุฒิแต่งงานกับวนิดาทันที เพราะพัชนีอยากได้ทายาทไว้สืบสกุล ตลอดเวลาภาวุฒิพยายามห้ามใจตัวเองไม่ให้รักวนิดาด้วยการทำตัวแย่ ๆ โชคดีที่วนิดามี ทยา (ภรภัทร ศรีขจร) ดีไซเนอร์หนุ่มคอยปลอบใจ โดยทยามักจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือวนิดาอยู่เสมอ เพราะคิดว่าวนิดาคือน้องสาวที่พลัดพรากจากกันไป ไม่นานเมื่อแขไขคุณกลับมาจากนิวยอร์ค เธอก็รู้ความจริงว่าภาวุฒิแต่งงานกับวนิดาไปแล้ว แขไขคุณจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อแย่งภาวุฒิกลับคืนมา เป็นเวลาเดียวกับที่ภาวุฒิรู้จากหมอว่าตนกำลังป่วยเป็นโรคร้ายไม่มีทางรักษา ภาวุฒิไม่อยากดึงวนิดาให้มาทนทุกข์ทรมานด้วย จึงยิ่งทำร้ายจิตใจวนิดาหนักขึ้น แล้ววันหนึ่งสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อวนิดาเกิดประสบอุบัติเหตุจนสูญเสียลูกในท้อง 3 ปีผ่านไป ภาวุฒิได้เจอวนิดาอีกครั้งในฐานะศิลปินดังเจ้าของนิทรรศการศิลปะ ภาวุฒิอดไม่ได้ที่จะหาทางใกล้ชิดวนิดาด้วยการเอาธุรกิจมาอ้าง แล้วในที่สุดวนิดาก็รู้ความจริงว่าที่ภาวุฒิพยายามผลักไสเธอนั้นเป็นเพราะภาวุฒิกำลังป่วยหนัก วนิดาจะลืมความเจ็บช้ำครั้งเก่าได้หรือไม่ และภาวุฒิจะยังมีค่าในหัวใจวนิดาอยู่อีกไหม ? ติดตามได้ในละครโรแมนติกดราม่า เธอคือพรหมลิขิต

แผนร้ายลงท้ายว่ารัก 2560

แผนร้ายลงท้ายว่ารัก (2560/2017) ในงานแต่งงานของภาณุมาศ หรือตะวัน หลานชายเจ้าสัวอิทธิ ฤทธิ์ลือปราการกับเพชรชมพู ไฮโซชื่อดัง ผู้เป็นธิดาสุดที่รักของเพชรประภาส แห่งตระกูลประกายเพชร ณ อยุธยา เจ้าบ่าวเจ้าสาวต่างก็เหมาะสมกัน เป็นที่กล่าวขวัญของคนในวงการสังคม แต่ทั้งสองฝ่ายรู้ดีว่าการจัดงานที่มีขึ้นอย่างเร่งด่วนนี้ก็เพราะเพชรชมพูท้อง โดยหญิงสาววางแผนทุกอย่างเพื่อจะจับตะวันมาให้เป็นพ่อของเด็กในท้องให้ได้ ตะวันหรือภาณุมาศปฏิเสธไม่ได้ เพราะเขามีความสัมพันธ์กับหญิงสาวจริง แถมยังมีรูปลับเฉพาะส่งไปยังผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายอีกด้วย เจ้าสัวอิทธิก็แสดงออกชัดเจนว่าต้องการได้เพชรชมพูเป็นสะใภ้ งานแต่งงานลวงโลกนี้เองทำให้คคนางค์หรือฟากฟ้า ใส่ชุดคลุมท้องเข้ามาในงาน อ้างสิทธิ์ว่าเป็นเมียของตะวัน แต่แล้วในห้วงนาทีนั้น เพชรแท้ผู้มีศักดิ์เป็นอาของพิ้ง หรือเพชรชมพูกลับประกาศว่าเขาคือสามีตัวจริงของฟ้า แถมยังจูบเธอต่อหน้าแขกทั้งหมด เพื่อยืนยันว่าเขาคือสามีที่แท้จริง ตะวันโกรธมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพชรแท้ทำอย่างนั้นก็เพื่อไม่ต้องการให้ฟากฟ้าทำลายชีวิตสมรสของหลานสาว เธอถูกขังอยู่ในห้องนอนของเขา โดยมีองอาจทำหน้าที่บอดี้การ์ดคุ้มกันมิให้เธอหนีไปได้ ท่านหญิงรัศมี ผู้มีศักดิ์เป็นท่านยายของเพชรแท้ และเป็นประมุขสูงสุดของตระกูลประกายเพชร รับสั่งให้เพชรแท้จดทะเบียนสมรสกับฟากฟ้า โดยมีรับสั่งว่าห้ามหย่าภายในหนึ่งปี ท่านหญิงได้นำทะเบียนสมรสไปทรงเก็บไว้ด้วยองค์เอง แถมยังให้ไปตรวจว่าเด็กในท้องได้รับความกระทบกระเทือนหรือไม่ โชคดีว่าหมอวายุอยู่เวรพอดี เขาคุ้นเคยกับครอบครัวของฟากฟ้า จึงช่วยเท่าที่ทำได้ ทำให้ทุกคนไม่ระแวง ฟากฟ้าตกกระไดพลอยโจนจึงต้องทำทีว่าท้อง ต้องแต่งตัวในชุดคลุมท้องอยู่ตลอดเวลา ย้อนอดีตอันแสนขมขื่น ครอบครัวของฟากฟ้ากับครอบครัวของตะวันอยู่บ้านติดกัน คฑาวุธ พ่อของฟากฟ้าเป็นเพื่อนสนิทของอิทธิพล พ่อของตะวัน แต่ต่อมาอิทธิพลกับสุธาสินี แม่ของตะวันมาเอ่ยปากยกตะวันให้เป็นบุตรบุญธรรม หลังจากนั้นไม่นานอิทธิพลกับสุธาสินีก็ประสบอุบัติเหตุอย่างมีเงื่อนงำว่าถูกตัดสายเบรก และก่อนการตายเพียงหนึ่งวัน บ้านของอิทธิพลก็ถูกวางเพลิง อันตรายที่เกิดขึ้นนี้เองทำให้คฑาวุธกับนิศากรรับตะวันมาเป็นลูกบุญธรรม เด็กทั้งสามอันประกอบด้วยฟากฟ้า ตะวัน และน้องสาวคนเล็ก นับดาว ต่างสนิทสนมกันและสัญญาว่าจะไม่พรากจากกัน เหมือนกับที่ตะวันกับดาวไม่เคยพรากไปจากท้องฟ้า คฑาวุธกับนิศากรเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยจึงอพยพย้ายไปอยู่ที่ภูเก็ต หลังจากนั้นไม่นาน นิศากรก็ล้มป่วย ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตนั้นเจ้าสัวอิทธิได้มารับตัวตะวันไป นิศากรขอให้ตะวันไปอยู่กับตา ไม่นานต่อมา เธอก็เสียชีวิต และอุบัติเหตุร้ายแรงก็พรากชีวิตของคฑาวุธไปในเวลาห่างกันไม่นาน นับดาวถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำ ด้วยความเป็นห่วงฟากฟ้าจึงตามมาอยู่กับตะวันที่บ้านเจ้าสัวอิทธิ แต่เธอทนรับความกดดันภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ไม่ไหว จึงออกมาเผชิญชีวิตทำธุรกิจร้านเวดดิ้งจนประสบความสำเร็จ นับดาวยังไม่ยอมหายโกรธตะวันที่ผิดคำสัญญาว่าจะไม่พรากจากกัน ต่อมาเจ้าสัวอิทธิส่งตะวันไปเรียนต่อเมืองนอก นับดาวอยากช่วยแบ่งเบาภาระพี่สาวจึงเริ่มเข้าประกวดร้องเพลงและกลายเป็นดารานางแบบดาวรุ่งคนหนึ่งของเมืองไทยในที่สุด โดยมีรินเป็นผู้จัดการส่วนตัว ความผูกพันระหว่างฟากฟ้ากับตะวันเป็นเหตุให้ฟากฟ้าต้องมาช่วยน้องชายให้พ้นจากการถูกเพชรชมพูจับเป็นพ่อของเด็กในท้อง ทว่าขณะที่ฟากฟ้าถูกขังอยู่ในห้องนอนของเพชรแท้นั้นเอง เธอได้พบหลักฐานสำคัญคือภาพถ่ายในงานหมั้นระหว่างเพชรประภาสกับสุธาสินี แม่ของตะวัน เธอเชื่อว่าหากอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ต่อไป เธอจะพบเงื่อนงำเกี่ยวกับการตายของอิทธิพลกับสุธาสินี เพชรแท้ไม่ล่วงเกินเธอ ทั้งสองกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน ทะเลาะกันทุกครั้งที่อยู่ใกล้ ฟากฟ้าอดทนทำดีกับเพชรประภาส ยอมให้เพชรชมพูหาเรื่องเธอสารพัด แต่ก็ไม่ได้ความคืบหน้าใดๆ ครั้นครบหนึ่งเดือน เพชรชมพูตามตะวันไปอยู่ในคฤหาสน์ของเจ้าสัวอิทธิ ที่นี่เองเพชรชมพูได้พบกับความวุ่นวายของบรรดาคนที่อยู่ในบ้านหลังนี้ ส่วนฟากฟ้ารู้จักทุกคนในบ้านนี้ดี เพราะเธอเคยเข้ามาอยู่เมื่อครั้งมาดูแลตะวันในช่วงเวลาหนึ่ง เจ้าสัวอิทธิเสียใจที่สุธาสินี ลูกสาวสุดที่รักหนีงานแต่งงานกับเพชรประภาส ยิ่งรู้ว่าผู้ชายที่เธอหนีตามไปคืออิทธิพล เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้า มีสถานภาพเป็นเพียงพนักงานคนหนึ่งในบริษัท เขาประกาศตัดพ่อตัดลูก นั่นเองที่นำมาซึ่งความสะใจของอภิวัตรหลานชายห่างๆ ที่เจ้าสัวอุปการะ เจ้าสัวเคยออกปากว่าจะยกมรดกให้แก่อภิวัตร ทำให้จริยา ภรรยาของอภิวัตรหวังอยู่ลึกๆ และรอคอยเวลาที่จะได้สมบัติมาเป็นของตนแต่เพื่อความไม่ประมาท เธอจึงใช้สมคิด ลูกน้องเก่าของพ่อตามล่าตัวสุธาสินีและอิทธิพล แต่การณ์กลับเป็นว่าเจ้าสัวอิทธิไปรับตะวันมาเชิดชูในฐานะหลาน โดยที่ปานวัตรกับปิ่นคณา ลูกชายหญิงของเธอไม่อยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย สมคิดทำงานสำเร็จ สุธาสินีกับอิทธิพลตายด้วยอุบัติเหตุ แม้ว่าจะมีหลักฐานว่าเป็นการฆาตกรรม แต่ก็ไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ เจ้าสัวอิทธิเคยได้เสียกับสาวใช้ และมีทายาทที่เจ้าสัวไม่ยอมรับคือหทัยรัก เขาคิดว่าแม่ของหทัยรักตั้งใจประจานเขา อิทธิไม่ยกย่องหทัยรักเป็นลูก ซ้ำยังพูดจาให้หทัยรักเสียใจอยู่ตลอดเวลา หทัยรักอยู่ในบ้านหลังนั้นไม่ต่างจากคนรับใช้คนหนึ่งและตกเป็นลูกไล่ของจริยาอยู่ตลอด หทัยรักเคยหนีออกจากบ้าน พบรักกับภารโรงฐานะยากจน ต่อมาสามีของเธอหายสาบสูญไป และเธอก็ถูกชายสองคนข่มขืนขณะที่ตั้งครรภ์อ่อนๆ หทัยรักกลับมาบ้านในฐานะคนใช้ กล้ำกลืนอดทนทุกอย่าง โดยปิดบังมิให้ณัฐวุธ ลูกชายของนางก็ตกเป็นลูกไล่ของปานวัตรกับปิ่นคณา ลูกชายหญิงจริยา เมื่อฟากฟ้าตามเพชรแท้มาที่บ้านเจ้าสัว เธอจึงรู้จักทุกคนเป็นอย่างดี และเริ่มเป็นห่วงพิ้ง การที่พิ้งแพ้ท้อง และเจ้าสัวอิทธิประกาศแต่งตั้งตะหวันหรือภาณุมาศให้เป็นผู้บริหารสูงสุดของบริษัท ทำให้จริยายิ่งแค้นใจ และหาทางทำร้ายพิ้ง รวมถึงริษยาทุกคนที่เป็นที่รักของเจ้าสัวอิทธิ ส่วนพิ้งจำณัฐวุธได้ดี แท้ที่จริงเขาคือพ่อของเด็กในท้อง แต่เธอรับไม่ได้ที่เขามีศักดิ์เป็นเพียงลูกคนใช้ จึงวางแผนจับภาณุมาศผู้เป็นหลานโดยตรงให้เป็นพ่อของเด็กในท้อง การได้มาอยู่ร่วมบ้านเดียวกันทำให้เพชรชมพูยิ่งทุกข์เพราะยังรักณัฐวุธอยู่ แต่เธอต้องทำหมางเมินไม่รู้จัก ทำให้ณัฐวุธเศร้าเสียใจ และน้อยใจในชะตากรรมของตนมากขึ้น นับดาวประสบปัญหากับเพื่อนนางแบบ เธอถูกแย่งชุดและไม่มีช่างแต่งหน้าบริการเธอ หญิงสาวจึงติดต่อขอให้ฟากฟ้าไปแต่งหน้าให้ ฟากฟ้าออกจากคฤหาสน์ประกายเพชรไปยังคอนโดที่ตะวันซื้อไว้ให้ ถอดชุดคลุมท้องและสิ่งที่ยัดอยู่ภายในท้องให้ทุกคนเข้าใจตั้งครรภ์ออกเพื่อไปยังโรงแรมที่ใช้จัดงาน เมื่อไปถึงเธอจึงรู้ว่าพลาดไปเสียแล้ว เพราะงานคืนนั้นผู้เป็นเจ้าภาพจัดงานก็คือบริษัทประกายเพชรนั่นเอง การเข้าไปในงานของฟากฟ้ามิอาจรอดพ้นสายตาของเพชรแท้ไปได้ สามีในนามของเธอสั่งให้สืบหาประวัติของเธอทันทีจนแน่ใจว่าเธอคือเด็กกำพร้าที่เข้ามาหลอกลวงเขา เพชรแท้โกรธมาก เกิดการต่อสู้กันขึ้น แต่ฟากฟ้ากลับเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำจนจับไข้ เพชรแท้สั่งให้เธอทำตามแผนต่อไปเพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยของคนในบ้าน ด้วยความใกล้ชิดกัน ทำให้หัวใจแข็งแกร่งของเพชรแท้เริ่มอ่อนลงและผูกพันกับหญิงสาวเพิ่มขึ้นทุกที ยิ่งเห็นเธอทำดีกับเพชรประภาสพี่ชายของเขา และยังดูแลบ้านช่อง ทำขนมอร่อยๆ ทำให้บ้านมีชีวิตชีวาขึ้น เขาก็ยิ่งแอบรักฟากฟ้า เช่นเดียวกับฟากฟ้าก็เริ่มจะหลงรักเขาเช่นกัน แต่ทั่งสองก็ต้องทำปั้นปึ่งต่อกันและแยกห้องนอนกันอยู่ โดยที่เพชรประภาสเข้าใจว่าทั้งสองต้องการความเป็นส่วนตัว จึงไม่ได้แคลงใจแต่อย่างใด ครอบครัวเจ้าสัวกับครอบครัวของเพชรประภาสไปพักผ่อนที่หัวหิน จึงจำเป็นที่ทั้งสองต้องอยู่ห้องเดียวกัน ตะวันเกรงว่าพี่สาวของตนจะพลาดท่าเสียทีเพชรแท้จึงแอบเอายานอนหลับให้ฟากฟ้าจัดการกับเพชรแท้ แต่กลับเป็นว่าเพชรแท้หลับสนิทอยู่ที่ระเบียงดูดาวนอกห้องกว่าที่ฟากฟ้าจะเอาตัวเขาเข้ามาในห้องได้ก็ทำให้หญิงสาวแทบถอดใจ ซ้ำร้ายความเหนื่อยล้าของเธอกลับทำให้เธอตื่นทีหลังเขาเสียอีก ในระหว่างที่พักอยู่ที่บ้านพักชายทะเลนั้น จริยาวางแผนทำให้เพชรชมพูแท้ง โดยแกล้งผลักกระถางต้นไม้ตกลงมาใส่จากชั้นสอง แต่ณัฐวุธช่วยหญิงสาวไว้ได้อย่างหวุดหวิด จริยายิ่งเครียดที่แผนการล้มเหลวทุกอย่าง ปิ่นคณา พึงใจเพชรแท้ อยากได้เขาเป็นสามี จริยาคิดว่าหากลูกสาวได้แต่งงานกับเพชรแท้ก็หมายถึงความมั่นคงในชีวิต จึงวางแผนกำจัดฟากฟ้า ใช้ลูกน้องของสมคิดขี่จักรยานยนต์ชนฟากฟ้า เพชรแท้พาเธอไปหาหมอ อุบัติเหตุครั่งนี้กลายเป็นทางออกให้ฟากฟ้าบอกกับใครๆ ว่าเธอแท้งแล้ว เธอจึงไม่ได้ใส่ชุดคลุมท้องเหมือนทุกวัน เมื่อจัดการกับฟากฟ้าไม่ได้ จริยาก็วางแผนเล่นงานให้เพชรชมพูแท้งลูก แต่ภาณุมาศมาช่วยไว้ได้ทัน จริยายิ่งแค้นใจที่พลาดหวังอีกครั้ง เพชรแท้พยาบาลฟากฟ้าจนกลายเป็นความรักต่อกัน แต่ต่างก็ใจแข็งไม่เอ่ยปากบอกรักกัน นับดาวรู้ความจริงเรื่องที่ฟากฟ้าปิดบังเธอ ด้วยความน้อยใจจึงเตลิดไป ฟากฟ้ากับภาณุมาศติดตามหาน้องสาวแต่ไม่พบ เพชรแท้ช่วยตามหาจนพบว่าเธอดื่มเหล้าในผับเล็กๆ แห่งหนึ่ง และกำลังถูกลวนลาม ภาณุมาศเข้าห้ามเกิดการต่อสู้กันขึ้น แม้เพชรแท้กับบอดี้การ์ดจะมาช่วยทัน แต่คนร้ายก็ยิงภาณุมาศบาดเจ็บสาหัส คนร้ายทิ้งปืนไว้เป็นหลักฐาน พบว่าเป็นปืนของณัฐวุธ ทำให้ณัฐวุธต้องหนีไป โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเบื้องหลังทั้งหมดนั้นมาจากจริยาซึ่งสวมรอยคนร้ายเพื่อสังหารภาณุมาศ หวังโยนความผิดให้ณัฐวุธ แต่ภาณุมาศก็รอดพ้นได้อีกครั้ง แม้ว่าจะบาดเจ็บสาหัสก็ตาม ก่อนหน้านี้ อภิวัตรติดการพนันและเป็นหนี้สิน จึงหาทางยักยอกเงินของบริษัทแล้วสร้างหลักฐานว่าเป็นความผิดของณัฐวุธ ภาณุมาศเรียกพี่ชายมาซักถาม แต่ณัฐวุธยืนยันว่าเขาไม่ได้เป็นคนทำ ทำให้เป็นข้อสันนิษฐานว่าอาจเป็นแรงจูงใจให้ณัฐวุธปองร้ายภาณุมาศ หทัยรักยืนยันว่าลูกชายเธอไม่ได้เป็นคนทำ แต่ไม่มีใครฟัง เพชรชมพูคลอดลูกแฝด ฟากฟ้าและภาณุมาศรู้ว่าคนที่เป็นพ่อเด็กในท้องคือณัฐวุธ แต่เขาก็ไม่อยู่ให้เธอได้ขอโทษเขา แผนร้ายของจริยาค่อยๆ ถูกเปิดโปงจากคนรอบข้าง สมคิดถูกจับและให้การซัดทอดจริยาและลูกชายหญิง เพชรแท้วางแผนกับภาณุมาศรู้ว่าฟากฟ้าอาจจะไม่ปลอดภัย เพราะปิ่นคณารุกคืบเข้ามาใกล้ชิดเพชรแท้และหาทางแต่งงานกับเพชรแท้ให้ได้ เพชรแท้เกรงว่าฟากฟ้าจะถูกปองร้ายจึงแกล้งทะเลาะกับฟากฟ้าและหย่าขาดจากกัน ระหว่างนั้นเขาก็ตีสนิทกับปิ่นคณา จนครอบครัวของปิ่นคณาตายใจ ในวันแต่งงานระหว่างเพชรแท้กับปิ่นคณานั้นเอง ตำรวจวางแผนให้สมคิดโทรมาขู่เอาเงิน จริยาโอนเงินให้ ทำให้เป็นหลักฐานมัดตัวจริยา ความชั่วร้ายของจริยาถูกเปิดโปงในงานแต่งงานนั้นเอง ปานวัตรแอบเอาปืนติดตัวมา จึงยิงไปยังฟากฟ้า แต่เพชรแท้มารับกระสุนแทน จริยาจับพิ้งหรือเพชรชมพูเป็นตัวประกัน แต่เกิดการต่อสู้กันณัฐวุธที่เข้ามาในงานในฐานะพยานสำคัญได้เข้าช่วยเพชรชมพูจนถูกยิงบาดเจ็บ จริยา ปิ่นคณาและปานวัตรถูกจับ เพชรแท้กับฟากฟ้าสารภาพรักต่อกัน ณัฐวุธรอดตาย เจ้าสัวอิทธิส่งไปเรียนต่อเมืองนอก ใช้ชีวิตกับเพชรชมพูอย่างมีความสุข โดยมีหทัยรักตามไปช่วยเหลือหลานแฝด ขณะที่ภาณุมาศเข้าบริหารบริษัทของเจ้าสัวอิทธิเต็มตัว นับดาวก็กลายเป็นดาราที่มีชื่อเสียงที่สุดของวงการ แผนร้ายของฟากฟ้าที่ต้องการช่วยเหลือน้องชายให้รอดพ้นจากการถูกจับแต่งงานนั้นกลายเป็นชนวนให้หญิงสาวต้องพบกับความรักในท้ายที่สุด “แผนร้าย” ของเธอจึง “ลงท้ายว่ารัก”

พ่อยุ่งลุงไม่ว่าง 2560

พ่อยุ่งลุงไม่ว่าง (2560/2017)

เต็งพิธีกรและโปรดิวเซอร์หนุ่มโสดเจ้าของรายการสารคดีสั้น “1 นาที Happy life” เต็งเช่าเวลาสถานีและหาโฆษณาเอง แม้รายการจะไม่โด่งดังมากมายแต่ก็พอเลี้ยงตัวและลูกน้อง2คน อันได้แก่ เวนิส ตากล้องหนุ่มหน้าตี๋ สมญา “ปากหมาหน้าตี๋” ลูกเจ้าของบริษัททัวร์ที่ทำตัวขัดใจป๊ากับม๊าที่หมายมั่นให้เป็นไกด์และดูแลบริษัททัวร์”ดียิ่งขึ้น” ของตระกูลต่อไป กับทอย ธุรกิจกองกับลุ๊คสาวมาดทะมัดทะแมง พูดจาขวานผ่าซาก ใครเห็นก็คิดว่าทอมบอย แต่จริงๆ นางเป็นผู้หญิงมาก ผู้หญิงแบบร้ายลึกเจ้าแผนการเสียด้วย เจ้าของสมญา “ทอมแอ๊บ” ผู้ให้สมญากันก็ไม่ใช่ใครอื่นก็เวนิสนั่นเอง คู่กัดขาประจำ คู่นี้เหมือนจะเหมาะกันดีถ้าทอยไม่ดันไปแอบรักเต็งเข้าซะก่อน งานคือชีวิตของเต็ง ทุกสิ่งอย่างวนเวียนเป็นกิจวัตร เขียนสคริปต์ ออกกองเป็นพิธีกร คุมตัดต่อ เช็คเทป วนอยู่แบบนี้ แต่แล้วโลกที่เหมือนเป็นเซฟโซนของเต็งก็ถูกวางระเบิดโดยผู้ก่อการร้ายที่คลานตามกันออกมา ไอ้โต๊ด น้องชายแท้ๆ ลูกชายคนโปรดของแม่ที่รักการแทงหวยเป็นชีวิตจิตใจ (สังเกตได้จากชื่อลูกๆ) ครอบครัวก็พอมีฐานะเพราะพ่อมีธุรกิจครอบครัวเป็นร้านขายวัสดุก่อสร้างอยู่ปราจีนบุรี ประกอบกับแม่ที่แพ้แรงอ้อนของโต๊ด เลยต้องส่งโต๊ดไปเรียนต่อปริญญาโทที่อเมริกา ซึ่งเหตุผลที่โต๊ดอยากไปเรียนต่อก็เพราะยื้อไม่อยากทำธุรกิจร้านขายวัสดุก่อสร้างของครอบครัวต่อนั่นแหละ หลังจากเต็งพี่ชายเอาตัวรอดไปทำงานที่ตนรัก โต๊ดเลยกลายเป็นความหวังเดียวที่จะสืบทอดกิจการของครอบครัวซึ่งโต๊ดไม่ชอบ แต่แล้วโต๊ดก็ทำเรื่องงามหน้า ไปต่อโทไม่ทันไรก็ทำพาย สาวไทยลูกสาวไฮโซตระกูลดังท้อง ทั้งที่ครอบครัวพายไม่ชอบไม่ยอมรับโต๊ดแม้จะให้คบเป็นแฟนยังไม่ยอม แต่ด้วยเป็นคนที่พื้นฐานจิตใจดีทั้งคู่เลยไม่คิดทำแท้ง ได้แต่โกหกปกปิดความลับดังกล่าวจนไม่มีใครจับได้ แต่มีท้องก็ต้องมีคลอด ทั้งคู่จึงจำเป็นต้องบินกลับเมืองไทยมาขอความช่วยเหลือจากเต็งพี่ชายปากร้าย ใจอ่อนคนเดียวของโต๊ด เรื่องพายท้องต้องเป็นความลับสุดยอด เพราะพายกลัวครอบครัวตัดหางปล่อยวัดตัดออกจากกองมรดก พายยังรักตัวเองกลัวจนกลัวลำบาก และโต๊ดก็กลัวแม่งดส่งเสียแล้วบีบให้กลับไปขายทรายขายกระเบื้องที่ปราจีน เรื่องทั้งคู่มีลูกจึงต้องเป็นความลับสุดยอด เต็งจำใจช่วยให้ที่พักกับโต๊ดและพายเพื่อคลอดลูกเพราะเห็นแก่หลาน ชีวิตบริสุทธิ์ที่จะเกิดมาลืมตาดูโลก แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น ไอ้น้องชายตัวแสบกับคนรัก ไข่เสร็จก็จะบิน กลับทิ้งให้เต็งช่วยเลี้ยงหลานถึง 2 ปี ทั้งคู่จะได้กลับไปเรียนต่อให้จบเพื่ออนาคตของครอบครัว และจะได้หาทางให้ทางบ้านพายยอมรับโต๊ดและแต่งงานกันก่อนจะเปิดเผยเรื่องลูกทีหลัง เต็งด่าน้องชายไม่ยั้งที่หาเรื่องเดือดร้อนมาให้แต่ก็ใจอ่อนรับเลี้ยงเจ้าหลานตัวน้อย ที่หลงรักตั้งแต่แรกเห็น เต็งได้รับสิทธิ์ตั้งชื่อหลาน เต็งใช้สิทธิ์นั้นทันทีเรียกหลานว่า กาโม่ ซุปเปอร์ฮีโร่ในใจเต็งในอดีต ทั้งโต๊ดและพายไม่ปลื้มนัก แต่มีหรือที่เต็งจะฟัง เต็งต้องรับบท”ลุงหลานอ่อน”จำเป็นอย่างกระทันหันเลยต้องหาผู้ช่วยเลี้ยง หันซ้ายหันขวาก็เห็น “งามพิศ เนอร์สเซอรี่โฮม” เนอร์สเซอรี่ใกล้บ้าน เต็งจึงเข้าไปติดต่อทำให้ได้เจอกับ งามพิศ เจ้าของเนอร์สเซอรี่วัย 40 ปลายๆ สาวใหญ่ไร้คู่เจ้าชู้เผื่อฟลุ๊ค นางถูกตาต้องใจเต็งแต่แรกเห็น หมั่นหยอดขนมจีบเต็ง อารมณ์ประมาณขอความกระชุ่มกระชวยให้ป้านิดนึง ไม่ได้หวังอะไรมาก แต่ถ้าฟลุ๊คได้ก็เอา ลำพังป้าก็พาขำๆ ไม่เท่าไหร่ เต็งพอรับได้ แต่หลานสาวป้าที่จบพยาบาลมาทำหน้าที่พี่เลี้ยงกาโม่ให้นี่สิ มันใช่เลย โจรขโมยหัวใจชัดๆ เต็งถึงขั้นยอมทิ้งชีวิตโสดที่หวงแหนนักหนา ไม่น่าเชื่อว่านี่คือรักครั้งแรกของเต็ง ชิดดาว คือชื่อของผู้หญิงคนนี้ ที่ทำให้จากนี้ชีวิตเต็งจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เต็งอาศัยเรื่องต้องเลี้ยงหลานเป็นขออ้างจนได้ออกเดทกับชิดดาว ความที่ชอบเค้ามากเห็นเขาขี้ขำก็ปล่อยมุกเป็นการใหญ่ แต่มุกกลับด้านชนิดขำไม่ออกเพราะชิดดาวร้องไห้ออกมาแล้วขอตัวออกไปจากร้านอาหารเลย เต็งงงมากรีบตามหาไปทั่วก็ไม่เจอ แต่พอกลับมาที่ร้านอาหารก็เห็นชิดดาวนั่งยิ้มอยู่แล้วและกล่าวขอโทษตนบอกว่าเป็นคนเซนสิทีฟมากไม่มีอะไร เต็งก็ยังงงอยู่ๆ รู้สึกได้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา เพื่อนร่วมงานคนสนิทของชิดดาวคือ ลูกกวาด และลูกกวาดก็เป็นเพื่อนซี้กับทอย ความเคลื่อนไหวของเต็งกับชิดดาว จึงไม่พ้นสายตาทอยไปได้ ทอยได้แต่จับตาดูอยู่ห่างๆอย่าง ไม่พอใจ เพื่อนข้างบ้านคุณชาย กับ คุณหญิง ที่ย้ายมาอยู่ติดกับบ้านเต็งได้ไม่นานนัก ก็เพิ่งได้สมาชิกคนใหม่คลอดไล่ ๆ กันกับกาโม่ ชื่อว่า คุณหลวง ...ที่จริงทั้งสองคนไม่ได้ชื่อนี้หรอกแต่เปลี่ยนเองเพราะอยากให้คนอื่นเรียกว่าคุณชาย คุณหญิง เลยเปลี่ยนชื่อเล่นเป็น ชาย และ หญิง เลยเป็นที่มาของลูกชายที่ชื่อว่า หลวง เต็งเลยเกิดความคิดพิเรนทร์ที่จะตีสนิทเพื่อขอนมแม่มาให้หลานชายตัวเองกินเพราะพายและโต๊ดต้องกลับไปเรียนต่ออาทิตย์หน้า โดยอาศัยรูปร่างหน้าตาของตนตีซี้ทาง น้องหนู หลานสาวคุณชายคุณหญิง แต่หารู้ไม่ความจริงน้องหนูสมอ้างเป็นหลาน จริงๆ คือเด็กรับใช้ตะหาก นั่นเป็นสาเหตุให้เพื่อนบ้านสองหลังต้องกลายมาเป็นคนรู้จักกันทั้งที่ก่อนหน้านี้ต่างคนต่างอยู่ เข้าออกคนละเวลาแทบไม่เคยเจอหน้ากันเลยแบบชีวิตคนกรุงสมัยนี้ ความรักของเต็งเพิ่งจะเริ่มแตกยอดอ่อนไม่นาน ก็ถูกเด็ดยอดทิ้งเพียงแค่ชั่วข้ามคืน เมื่อเต็งไปกินข้าวเย็นบ้านชิดดาวและพบกับคนรักของชิดดาวชื่อ โต้ นายแบบรูปหล่อหุ่นเฟิร์ม โต้เป็นลูกของเพื่อนแม่ชิดดาว เป็นเพื่อนกันแต่เด็ก เพิ่งจะหันมาคบหากันตอนพ่อแม่ของชิดดาวเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทั้งคู่ เต็งและโต้ เขม่นและข่มกันอยู่ในทีนับแต่วันแรกที่เจอกัน และท่าทางของชิดดาวก็จริงจังกับโต้ ปิดประตูตายไม่ให้โอกาสเต็งเลย และแล้วความโกลาหลก็บังเกิดในวันที่โต๊ดและพายพากาโม่กลับจากโรงพยาบาลมาบ้านเต็ง ซึ่งเป็นวันที่พ่อกับแม่มาเยี่ยมเต็งที่บ้านโดยไม่ได้นัดหมาย และจะพักอยู่บ้านเต็ง 1 อาทิตย์!!! เต็งเลยต้องพากาโม่ไปฝากไว้ที่บ้านชิดดาว ส่วนโต๊ดกับพายก็ตัดสินใจเดินทางกลับไปอเมริกาทันทีในคืนนั้น แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็บังเกิดหลังจากฝากฝังหลานชายกันดิบดี จะเป็นเหตุบังเอิญหรือฟ้ากำหนดไม่ทราบได้ เต็งได้หอมแก้มชิดดาวอย่างไม่ได้ตั้งใจ ทั้งคู่ต่างเขินอาย รีบแยกย้ายกันแทบไม่ทัน เต็งแอบไปดูกาโม่ที่เนอร์สเซอรี่ทำให้ได้ความรู้ใหม่ว่าจะเอานมแม่คนอื่นมาให้กาโม่กินสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ต้องผ่านการคัดกรองเชื้อโรค แผนการขอนมจากเต้าจากเพื่อนข้างบ้านเป็นอันต้องพับเก็บไปโดยมีชิดดาวเป็นคนให้คำแนะนำที่ถูกต้องเรื่องนมแม่กับเต็ง ขณะที่เต็งกำลังจะได้อยู่กับชิดดาวตามลำพัง โต้ก็เข้ามาขัดจังหวะพอดี โต้มาบอกชิดดาวว่าตนได้เข้าสังกัด ละออง ผู้จัดการดาราชื่อดัง ตนกำลังจะดัง จำเป็นต้องปิดเรื่องตนมีแฟนแล้ว ขออย่าให้ชิดดาวแสดงตัวว่าเป็นแฟน ให้บอกว่าเป็นญาติห่างๆแทน ถ้าชิดดาวอยากเห็นตนประสบความสำเร็จก็ขอให้ช่วยตน ชิดดาวเต็มใจช่วยอย่างไม่อิดออด โดยไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วโต้เอาตัวเข้าแลกแอบคบหากับละอองอย่างลับๆเพื่อความดังและเงินทอง นอกจากเต็งจะต้องมีภาระเลี้ยงหลาน ยังต้องตั้งรับกับความระแวงของพ่อกับแม่ที่คอยจับผิดแล้ว เต็งยังต้องเผชิญกับปัญหาโฆษณาบริษัททัวร์จะถอนการสนับสนุนเหตุผลเพราะเวนิสไม่ยอมหมั้นกับกิ่งหลิว สาวที่ม๊าหาให้...ทอยเลยไปช่วยขอสปอนเซอร์จากบริษัทชีวิตชีวาโอสถให้แทน แต่โลกกลมเมื่อผู้จัดการฝ่ายการตลาดกลับเป็นเพื่อนรุ่นพี่สุดซี้ของละออง การเป็นสปอนเซอร์ใหม่ให้รายการของเต็งต้องแลกมาด้วยพิธีกรร่วมคนใหม่เพื่อเพิ่มสีสันให้รายการน่าสนใจยิ่งขึ้น พิธีกรหนุ่มคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นไกลคือ โต้ เด็กปั้นคนใหม่ของละอองนั่นเอง ด้วยความที่โต้เขม่นหมั่นไส้เต็งอยู่เป็นทุน เลยมีแผนการจะเขี่ยเต็งออกจากรายการและตนจะเป็นพิธีกรเดี่ยวของรายการเพียงคนเดียวแทนให้ได้ วันหนึ่งคนส่งของใช้เด็กมาส่งของที่บ้านโดยที่เต็งไม่อยู่ แต่แม่เต็งอยู่หน้าบ้านพอดี เลยรู้ความจริงและเข้าใจว่าเต็งมีลูกแต่ปิดบังไว้ แม่ไม่ได้โกรธเรื่องแอบมีลูกอย่างที่สองคนพี่น้องกลัว อาจจะเพราะเป็นเต็ง ลูกชายไม่โปรดก็เป็นได้ แต่แม่กลับกลายเป็นน้อยใจ งอนเต็งตัดสินใจกลับบ้านที่ปราจีนทันทีและบอกเลยว่าจะไม่กลับมาเหยียบบ้านเต็งอีก ด้านโต้ก็กลัวเต็งจะอีโก้ยอมให้รายการเจ๊งดีกว่าให้โต้เป็นพิธีกรร่วม โต้เลยมาออกปากขอให้ชิดดาวช่วยพูดกับเต็ง ให้ทวงบุญคุณที่ช่วยเลี้ยงหลาน ตนจะได้ประสบความสำเร็จมีเงินมาแต่งงานสร้างครอบครัวกับชิดดาว ชิดดาวรู้สึกลำบากใจมากแต่ก็จำต้องพูดเมื่อเต็งมาถามความคิดเห็น เต็งหลุดพูดไปว่าที่ชิดดาวมาพูดแบบนี้ห่วงตนกับหลานหรือแฟนตัวเองมากกว่ากัน และนี่เองก็เป็นจุดร้าวๆเล็กๆในความสัมพันธ์ที่กำลังพัฒนาอยู่ลึกๆแบบช้าๆของทั้งคู่ ด้านลูกกวาดเมื่อเจอเวนิสก็ชอบทันที เรื่องนี้เหมือนเป็นเครื่องพิสูจน์ใจทอยว่าคิดกับเวนิสยังไงกันแน่ และลูกกวาดก็ทำให้เวนิสรู้ความจริงชัดๆว่าทอยแอบชอบเต็งอย่างหมดหัวใจ อยู่ๆ ชิดดาวก็ลาหยุดกะทันหันกลับไปรีสอร์ท”ชิดจันทร์ใกล้ดาว”ของพี่สาว ชิดจันทร์ กับพี่เขย เก่ง ให้เหตุผลว่าพี่สาวท้องใกล้คลอด ไปช่วยงานไม่มีกำหนดกลับ เต็งแอบคิดว่าชิดดาวโกรธตนแน่ๆ ซึ่งด้วยนิสัยชอบหนีปัญหาของชิดดาว ชิดจันทร์ก็จับได้ว่าน้องสาวไม่สบายใจเรื่องผู้ชาย2คนเข้ามาพัวพัน เมื่อชิดดาวไม่อยู่ก็เลยได้โอกาสที่ทอยที่จะเข้ามาดูแลกาโม่และเข้ามาใกล้ชิดช่วยเหลือเต็ง ถึงขั้นนอนค้างบ้านเต็งเพื่อดูแลกาโม่ แล้วทอยก็ห้ามใจตัวเองไม่ไหวแอบหอมแก้มเต็งตอนหลับที่โซฟา แต่หารู้ไม่ว่าเต็งไม่ได้หลับจริงและรู้ตัวตลอดแต่แกล้งหลับหนีความอึดอัดไป นั่นเองเลยทำให้เต็งชัดเจนว่าทอยคิดยังไงกับตน การทำรายการร่วมกันกับโต้และละอองมีปัญหามากมาย ละอองเข้ามาวุ่นวายจนเหมือนเป็นรายการตัวเองเพราะถือว่าตัวซี้กับสปอนเซอร์ เปลี่ยนแปลงรูปแบบรายการตามใจชอบและเน้นโต้ลดบทบาทเต็ง การได้ทำงานด้วยกันนี้เองก็ทำให้เต็งและทอยระแคะระคายถึงความสัมพันธ์ของโต้และละอองที่ลึกซึ้งเกินผู้จัดการกับดาราในสังกัดแต่เต็งสั่งห้ามทอยพูดให้ชิดดาวฟังเด็ดขาดเพราะเต็งกลัวชิดดาวจะเสียใจ ยิ่งสร้างความหมั่นไส้ชิดดาวให้กับทอยมากขึ้น ช่วงที่ชิดดาวยังไม่กลับมา เต็งต้องเลี้ยงกาโม่เอง เต็งกลัวจะหลงรักหลานชายเลยต้อง สั่งใจตัวเองและพูดบอกตลอดเวลาว่าจะไม่ทำตัวผูกพันกับกาโม่ จะรักษาระยะความห่างแบบลุงหลานที่สนิทกันแค่ผิวเผิน เพราะกลัวผูกพันและต้องเสียใจเมื่อถึงเวลาที่ต้องจากกัน แต่ดูท่าทางแล้วเต็งไม่น่าจะทำได้ ความหลงหลานเริ่มก่อตัวขึ้นลึกๆในใจเต็ง 1เดือนผ่านไป ชิดดาวก็กลับมาอย่างไม่คาดฝันหลังจากได้รับคำแนะนำจากพี่สาวว่าผู้หญิงก็มีสิทธิ์เลือกคนที่ดีที่สุดให้กับตัวเองเหมือนกัน ไม่ใช่ต้องเป็นฝ่ายรอให้ผู้ชายเลือกฝ่ายเดียว เต็งดีใจมาก และก็ไม่อยากพลาดโอกาสอีกเพราะรู้ว่าโต้กำลังนอกใจชิดดาว เต็งช่างใจไปมาก่อนจะกล้าเปิดใจพูดตรงๆกับชิดดาวว่าชอบชิดดาวมาก ชิดดาวเงียบไม่ตอบอะไรเลี่ยงกลับบ้านไปเลย เต็งทำใจว่าชิดดาวคงจะหนีไปอีก แต่แล้วผิดคาด ชิดดาวยังอยู่ ทำทุกอย่างเหมือนปกติ ที่แท้ชิดดาวก็กำลังให้โอกาสตัวเองที่จะได้เลือกคนที่เหมาะสมที่สุด ใครกันแน่คือคนที่เธอพูดเต็มปากได้ว่า รัก ไม่ใช่แค่สนิทสนมหรือผูกพันเพราะเพียงแค่คบกันมานาน ผ่านเวลาถึงกาโม่ 8 เดือนก็เกิดปัญหา กาโม่ยังไม่ยอมเดินซะที เต็งกังวลมากเพราะไปเทียบกับลูกคนอื่น ซึ่งพัฒนาการเด็กแต่ละคนไม่เท่ากันและไม่เหมือนกัน ชิดดาวพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยกาโม่ให้เดินแต่ก็ล้มเหลวจนกระทั่งกาโม่ได้ 1 ขวบก็เดินเองเฉยเลยซึ่งเป็นเรื่องของพัฒนาการในเด็กแต่ละคนช้าเร็วต่างกัน แต่ปัญหาต่อมาก็คือกาโม่ไม่ยอมพูดเสียที กาโม่ฉลองวันเกิดขวบแรกกันพร้อมหน้าแม้แต่โต๊ดกับพายก็วีดีโอคอลล์มาอวยพรลูกชาย แต่ความเคลื่อนไหวทั้งหมดของกาโม่ก็อยู่ในสายตาของพ่อแม่เต็งตลอดเพราะมีน้องหนูสาวใช้ข้างบ้านคอยเป็นสายรายงาน แม่เต็งยังงอนด้วยความเข้าใจผิดว่าเต็งปิดเรื่องเมียและลูกกับตน เลยไม่ยอมติดต่อไม่ยอมพูดด้วย ทั้งที่กำลังเห่อและหลงกาโม่มากแม้จะได้เห็นเพียงแค่รูปแอบถ่ายทางโทรศัพท์มือถือก็ตาม ความลับไม่มีในโลก เรื่องโต้และละอองดังเป็นข่าวขึ้นมาเพราะฝีมือละอองเอง เพื่อกระตุ้นกระแสให้โต้ หลังทำพิธีกรกับเต็งมานานก็ยังไม่แจ้งเกิดซะที กระแสละอองคบกับโต้เป็นที่สนใจมากและโต้ก็ได้งานละครเป็นตัวร้ายหลายเรื่อง โต้ขาดการติดต่อกับชิดดาวไปเลย เลยทำให้ชิดดาวสนิทกับเต็งและเปิดใจให้กันมากขึ้นโดยมีกาโม่เป็นสื่อ และในวันเกิดของชิดดาวที่บ้านเต็ง โต้ก็มาปรากฏตัวหน้าตาเฉยเพราะฝีมือไส้ศึกซึ่งก็คือทอย งานวันเกิดกร่อยสนิท แต่ก็เคลียร์ขึ้นทุกฝ่าย โต้ไม่พอใจที่ชิดดาวกับเต็งเริ่มคบหากัน เลยทำตัวเป็นหมาหวงก้างด้วยการไม่ยอมทิ้งงานพิธีกรที่ทำกับเต็งทั้งที่ตัวเองมีงานละครรุม ด้านทอยกับเวนิสก็เปิดใจกันตรงๆ เวนิสสารภาพว่าชอบทอย ทอยปิดโอกาสใส่แบบไม่เหลือเยื่อใย เวนิสเลยยอมเปิดใจให้โอกาสลูกกวาดเข้ามาเป็นคนสนิท ลูกกวาดแฮปปี้มากเพราะนางทอดสะพานรอมานาน แม้รู้ว่าเวนิส ชอบทอยมากกว่าตัวเธอเองก็เถอะ เต็งและชิดดาวกังวลเรื่องกาโม่ไม่ยอมพูดซะทีเลยพาไปปรึกษาหมอเด็กแล้วกาโม่ก็โชว์เรียกชิดดาวว่า”แม่”(แม้จะไม่ชัดนักก็ตาม)ต่อหน้าหมอเลย กาโม่จำมาจากเพื่อนๆที่เนอร์สเซอรี่พูดกันทุกวัน ทำเอาชิดดาวน้ำตาซึมเลยทีเดียว และหลังจากนั้นไม่นานกาโม่ก็เรียกเต็งว่า “ป้อ” เต็งไม่ยอมพยายามให้เรียกลุง แต่ยากเกินไปสำหรับเด็ก เต็งไม่ยอมเพราะพ่อจริงๆอยู่เมืองนอกกำลังจะมารับตัวกาโม่คืนปีหน้าแล้ว พอนึกถึงจุดนี้เต็งก็อดใจหายไม่ได้ อีกปีเดียวก็ต้องจากกันแล้ว เวลาผ่านไปไวมากงานวันเกิด 2 ขวบของกาโม่ งานวันเกิดจัดกันเล็กๆ แค่ชิดดาว เต็งและกาโม่ที่ร้านไอศกรีม มีพนักงานร้านมาร้องเพลงอวยพรให้ แต่ที่ขาดไปคือปีนี้โต๊ดกับพาย ไม่โทรมาอวยพรลูกชายเหมือนเคย เต็งและชิดดาวอดใจหายไม่ได้ที่ใกล้เวลาที่โต๊ดจะมารับ กาโม่คืนไปแล้ว เต็งพยายามเข้มแข็งทำปากดีว่าตนทำใจไว้มานานแล้ว รอวันนี้อยู่ แต่ก็นะปากอย่างใจอย่าง ลับหลังทุกคนตอนกลางคืนก็แอบกอดกาโม่น้ำตาแตกจนได้ เต็งผุดโปรเจ็คถ่ายรายการที่ระยองเพื่อฉลองวันเกิดให้ชิดดาวและเลี้ยงส่งกาโม่ก่อนกลับสู้อ้อมอกพ่อแม่ตัวจริง...โต้ติดคิวถ่ายละครเลยไม่ไป ทอยแอบมาบอกโต้ว่าเต็งถ่ายรายการ บังหน้าที่จริงจะไปเที่ยวระยองกับชิดดาวและจะขอชิดดาวแต่งงานในคืนวันเกิด ระหว่างอยู่ระยอง ทอยก็แอบส่งคลิปมายั่วโมโหโต้ตลอด จนโต้ทนไม่ไหวด้วยอารมณ์หมาหวงก้าง เลยสร้างสถานการณ์ผิดคิวชกพระเอกหน้าแตก จนกองถ่ายต้องยกกอง แล้วโต้ก็รีบไประยองขัดจังหวะเต็งจะให้แหวนเป็นของขวัญวันเกิดชิดดาวพอดิบพอดี แต่ที่คาดไม่ถึงก็คือละอองรู้ทันทุกอย่างแอบตามมาพบกับชิดดาวที่ระยองเช่นกัน งานปาร์ตี้จบลงอย่างกร่อยที่สุดของที่สุด เต็งกลับมาถึงบ้านแทบช็อคเมื่อเจอโต๊ดนั่งรออยู่ที่โถงบ้าน เต็งพยายามเก็บความรู้สึกเตรียมใจรับการจากลาของกาโม่ แต่โต๊ดกลับบอกว่าตนเลิกกับพายแล้วและเรียนไม่จบ ฝากกาโม่ไว้กับเต็งต่ออีก เต็งทำเล่นใหญ่โกรธน้องชาย ด่าแหลกแต่ลึกๆแอบดีใจสุดๆ แต่เต็งดีใจได้ไม่นานเต็งก็ต้องช็อคของแท้ เมื่อชิดดาวลาออกอย่างไม่มีปีมีขลุ่ย เปลี่ยนเบอร์มือถือใหม่ ไม่มีใครติดต่อได้เลย ไม่มีใครรู้ว่าย้ายไปอยู่ไหน มีงามพิศคนเดียวที่รู้แต่ชิดดาวขอร้องป้าให้เก็บเป็นความลับ ชิดดาวกลับมาอยู่ที่รีสอร์ทของชิดจันทร์ด้วยสาเหตุที่ละอองมาคุยแบบเปิดอกที่ระยองว่าเธอคบกับโต้ และสั่งให้ชิดดาวไปให้พ้นจากชีวิตโต้ ขู่จะดับอนาคตในวงการของโต้และจะปิดรายการของเต็งให้ตกงานไปเลย ชิดดาวกลัวทุกคนจะเดือดร้อนเพราะรู้ว่าละอองทำได้จริงๆ เลยเป็นฝ่ายหนีทุกอย่างมา ชิดดาวยอมสารภาพกับชิดจันทร์อย่างเปิดใจว่ารักเต็งชนิดหมด หัวใจไปแล้ว โต๊ดนัดเต็งไปเจอกันที่บ้านพ่อแม่ บอกว่าตนเพื่อสารภาพความจริงทั้งหมดแล้วว่ากาโม่คือลูกชายของตน พ่อแม่อยากเจอหลานมาก พอเต็งไปถึงกลับพบว่าโดนโต๊ดหลอก โต๊ดเผ่นไปแล้วพร้อมเงินไปเรียนต่อให้จบและจะยืมปากเต็งให้สารภาพความจริงเรื่องกาโม่เป็นลูกโต๊ดกับพ่อแม่แทนตน เต็งเจ็บใจน้องชายจอมกระล่อนมากที่ถูกหลอกใช้ แต่ก็สบายใจที่ได้เคลียร์ทุกอย่าง แม่ยื่นข้อเสนอจะเลี้ยงกาโม่ให้ เต็งลังเล แต่สุดท้าย...งานวันเกิดครบ 3 ขวบของกาโม่กาโม่ก็ยังอยู่กับลุงเต็ง นับแต่วันนั้นเลยทำให้แม่งอนเต็งต่อไปอีกระลอก อารมณ์คนแก่อยากเลี้ยงหลาน วันเกิดกาโม่ปีนี้ไม่มีชิดดาว แต่เต็งก็ยังเอาเทียนวันเกิด 3 ขวบไปฝากงามพิศส่งไปให้ชิดดาวด้วยเพราะชิดดาวสะสม ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ จากชิดดาว เต็งเศร้าและพยายามทำใจ ซึ่งก็ดีที่ไม่รู้ข่าวเพราะเก่งพี่เขยชิดดาวได้พาเพื่อนรุ่นน้อง ปั๊ม ชายหนุ่มหน้าตาดี ฐานะดีเจ้าของร้านเบเกอร์รี่ดังในเมือง “ปั๊มขนม” มาแนะนำให้ชิดดาวรู้จักในวันเกิด ด้วยความเป็นคนอารมณ์ดี สุภาพอ่อนโยน ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาจีบเลยทำให้ชิดดาวรับเป็นเพื่อนได้ไม่ยาก แม้มิตรภาพของทั้งคู่จะพัฒนาไปได้ด้วยดีแต่ในใจของชิดดาวก็ยังไม่เคยลืมเต็งได้เลย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าปั๊มคือเพื่อนผู้ชายที่สนิทที่สุดของชิดดาวในตอนนี้ เวลาผ่านไป 1 ปี โต้ได้เป็นพระเอกเรื่องแรกประกบกับ หนมอบ นางเอกวัยรุ่น เน็ทไอดอล ละอองเปิดเกมคู่จิ้นเพื่อสร้างกระแสให้โต้ โต้แอบลักลอบคบหากับหนมอบจริงๆ ด้านทอยเองเมื่อไม่มีชิดดาวร่วม 3 ปี ก็เข้ามาใกล้ชิดกับเต็ง ดูแลเต็งและกาโม่ จนแทบจะเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ทอยถือหลักรักแท้แพ้ใกล้ชิดและดูท่าว่าจะสำเร็จด้วยดีอย่างน้อยกาโม่ก็ติดทอยมากและจำชิดดาวไม่ได้เลยเพราะห่างกันไปนาน ด้านลูกกวาดและเวนิสก็ไปได้สวย ถูกใจป๊ากับม๊า จนวางแพลนจะแต่งงานกันทั้งที่เวนิส ก็รู้อยู่เต็มอกว่ารักทอยแต่มันเป็นไปไม่ได้ก็เลือกอยู่กับความจริง รักคนที่เขารักเราดีกว่า ส่วนลูกกวาดเองก็รู้ว่าเวนิสไม่ลืมทอย แต่ลูกกวาดก็ถือคติแค่ตนรักเวนิสก็พอ เวนิสจะรักคนอื่นมากกว่าก็ไม่สำคัญ เมื่อหาจุดบรรจบกันได้แบบนี้มันก็คือความลงตัวที่จะใช้ชีวิตคู่กันได้ เวลาผ่านไปจนกาโม่อายุ 5 ขวบกว่า กาโม่ติดทอยมาก ไม่มีชิดดาวเหลืออยู่ในความทรงจำเลย เต็งพยายามเล่าเรื่องชิดดาวว่าเลี้ยงกาโม่มาแต่เกิด รักกาโม่มาก ให้ดูรูป เพื่อไม่ให้กาโม่ลืม แต่กาโม่กลับรำคาญและแอนตี้เสียด้วยซ้ำ เบื่อที่เต็งพยายามพูดถึงคนที่ตนไม่รู้จักอยู่ ได้ เต็งเสียใจแต่ก็ไม่ละความพยายาม ด้วยแอบหวังว่าวันหนึ่งชิดดาวจะกลับมา แค่ตนได้พูด ถึงเอ่ยถึงก็สุขใจแล้ว กาโม่เองก็เริ่มมีปัญหาที่โรงเรียน เพื่อนสงสัยตามประสาเด็กไร้เดียงสาว่าทำไมกาโม่ไม่ มีพ่อมีแม่ คุณหลวงเพื่อนสนิทข้างบ้านเดือดร้อนแทนจนเกิดเรื่องผลักกันล้ม จนครูต้องเรียกผู้ปกครองมาพบ คุณชายและคุณหญิงเลยสั่งห้ามคุณหลวงคบกับกาโม่เพราะเป็นเด็กมีปัญหาทำให้คุณหลวงโดนตำหนิและตัดคะแนนความประพฤติเดี๋ยวจะสอบไม่ได้ที่1 ของระดับชั้นเหมือนเดิม กาโม่เลยขอร้องเต็งให้เป็นพ่อตนได้มั้ย เต็งลำบากใจมากเพราะคำขอล่าสุดของ น้องชายที่เต็งไม่ได้บอกใคร โต๊ดกับพายเรียนจบแล้วและกลับมาคืนดีกัน ทั้งคู่ได้งานรายได้ดีทำที่อเมริกา เลยวางแผนจะมารับกาโม่ไปอยู่ด้วยกันช่วงปลายปี โต๊ดกำชับให้เต็งเริ่มบิวท์เรื่องโต๊ดและพายกับกาโม่ และขอให้เต็งปรับตัวห่างๆ กาโม่ อย่าติดกันแจ อย่าให้เรียกพ่อ พ่อใหญ่ อะไรห้ามหมด จากนี้ไปช่วยดูแลแบบห่างๆ เวลาแยกจะได้ไม่ลำบากใจกันทุกฝ่าย และให้เต็งหลอกล่อกาโม่ไปทำวีซ่าไว้แต่เนิ่นๆ เวลาต้องเดินทางฉุกละหุกจะได้ไม่มีปัญหา นับเป็นคำขอที่ยากมากสำหรับเต็ง ยากกว่าตอนขอให้ช่วยเลี้ยงมากมายนัก เต็งเองก็ไม่เคยลืมชิดดาวเลย แม้เจ้าตัวไม่อยู่ เห็นหลังคาบ้านก็ยังดี เต็งแอบปีนเข้าบ้านชิดดาวไปรดน้ำดูแลสวนหย่อมและจ่ายค่าน้ำให้ตลอด3-4ปีที่ผ่านมาด้วยแอบหวังว่าชิดดาวจะกลับมาบ้านซักวัน ทอยแอบรู้เรื่องนี้แม้จะน้อยใจแต่ก็ไม่แคร์ ด้านชิดดาว..ความสัมพันธ์กับปั๊มก็พัฒนามาด้วยดีอย่างต่อเนื่อง จนพี่สาวและพี่เขยยุให้ปั๊มขอชิดดาวแต่งงาน ปั๊มสร้างซิทโรแมนติกตามหนังแอบฝังแหวนในขนมปัง พอชิดดาวเห็นแหวนก็บอกยังไม่พร้อม ปั๊มเข้าใจและขอโทษ บอกว่าจะรอต่อไปจนกว่าชิดดาวจะเปิดใจให้ตน ชิดจันทร์และเก่งเสียดายมาก แต่ก็ยังแอบลุ้นต่อ จนวันหนึ่งมีการ์ดเชิญแต่งงานของลูกกวาดกับเวนิสส่งมาถึงชิดดาวที่รีสอร์ท ป้างามพิศส่งมาให้นอกเหนือจากเทียนวันเกิดทุกปีที่เต็งมาฝากเอาไว้ เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทกัน ชิดดาวตัดสินใจไปร่วมงาน ชิดจันทร์และเก่งกลัวเจอเต็งและถ่านไฟเก่าจะคุขึ้นมาอีก เลยจัดฉากให้ปั๊มได้ตามไปส่งกรุงเทพด้วยซึ่งชิดดาวก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร เต็งยังคงไปรดน้ำต้นไม้ที่บ้านชิดดาวยามวิกาลเหมือนเคยๆ โดยที่ไม่รู้เลยว่าวันนี้ชิด ดาวกลับมาบ้านแล้ว แต่ชิดดาวปิดไฟบ้านทั้งหลังเพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าตนกลับมา ตอนแรกชิดดาวได้ยินเสียงคนโดดเข้าบ้าน ตกใจมากคิดว่าขโมยแต่พอรู้ว่าเป็นเต็งมารดน้ำต้นไม้ให้ตนก็ รู้สึกตื้นตันใจมากได้แต่แอบมองเต็งผ่านหน้าต่างโถง มีเพียงกระจกหน้าต่างบางๆ ขวางกั้น ความคิดถึงเอาไว้ ชิดดาวขาดความมั่นใจเลยพาปั๊มเข้างานแต่งเวนิสกับลูกกวาดด้วย แต่คลาดที่จะเจอ กับเต็ง แต่เห็นกาโม่ที่อยู่กับทอย ชิดดาวดีใจน้ำตาซึมที่ได้เห็นหน้ากาโม่ในรอบหลายปี ทอย บอกกับเต็งหลังเลิกงานว่าชิดดาวมางานและเน้นว่ามาพร้อมกับแฟนใหม่ คืนนั้นเองเต็งก็บุกหาชิดดาวถึงบ้านขณะที่ปั๊มอยู่ด้วย ทั้งคู่ได้เจอกันครั้งแรกในรอบ 3-4 ปี คำแรกที่เต็งบอกชิดดาวทั้งน้ำตาคือประโยคสั้นๆ แต่มาจากก้นบึ้งหัวใจว่า “คิดถึงมาก” แล้วสวมกอดชิดดาวเอาไว้ขอร้องว่าอย่าหนีตนไปไหนอีก ชิดดาวเลือกที่จะนิ่งไม่ตอบคำถามเต็ง ทั้งเต็งทั้งปั๊มและครอบครัวชิดดาวที่รีสอร์ทต่างลุ้นว่าชิดดาวจะตัดสินใจยังไง แต่แล้วปั๊มก็กลับไปรีสอร์ทตามลำพัง ส่วนชิดดาวเหมือนมีระฆังมาช่วยชีวิต จำเป็นต้องอยู่ต่อแบบมีเหตุผลรองรับ นั่นก็คืองามพิศไม่ค่อยสบาย ป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะแรก ช่วงรักษาและดูแลสภาพจิตใจจึงขอร้องให้ชิดดาวมาช่วยดูแลกิจการเนอร์สเซอรี่แทนไปก่อน เต็งเซอร์ไพรส์สุดๆเมื่อเจอชิดดาวไปแอบดูกาโม่ที่โรงเรียน เต็งดีใจมากแนะนำกับ กาโม่อย่างเยอะแยะ แต่ปฏิกิริยาจากกาโม่กลับติดลบ ชิดดาวถึงกลับน้ำตาตก กาโม่วัย5ขวบเศษจำชิดดาวไม่ได้เลยและไม่ยอมรับชิดดาวเข้ามาในครอบครัวไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ตาม เต็งหนักใจมากหลังจากดีใจที่ชิดดาวยอมอยู่กรุงเทพต่อได้ไม่นาน อุปสรรคความรักระหว่างตนกับชิดดาวยังไม่จบลงง่ายๆ นอกจากเรื่องกาโม่แล้ว ยังมีจอมป่วนเจ้าเก่า “โต้ “ที่ยังทำตัวเป็นหมาหวงก้างตามแรงยุยงของทอย ทั้งที่โต้เองก็ไม่ซื่อสัตย์ต่อชิดดาว เจ้าชู้ไปทั่ว แอบนอกใจละออง คบหากับหนมอบอีกตะหาก โต้โกรธมากที่ชิดดาวยอมรับกลายๆ ว่าเลือกเต็งทิ้งตน โต้ร่วมมือกับละอองบีบสปอนเซอร์ถอนตัวและคุยกับทางสถานีให้ระงับการต่อสัญญากับรายการของเต็งที่จะหมดพอดี ขณะเดียวกันเวนิสก็ถูกขอร้องเชิงบังคับจากป๊ากับม๊าให้มาช่วยงานที่บริษัทเพื่อครอบครัวตัวเองลำพังค่าจ้างตากล้องคนเดียวยังเลี้ยงตัวไม่พอเลย ตอนนี้ไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้วถ้ามีลูกอีกจะทำยังไง เวนิสจนด้วยเหตุผลเลยคุยกับเต็งตรงๆ เต็งเข้าใจและทำใจที่รายการของตนจะต้องปิดตัว ลงแล้วจริงๆ ทอยเห็นความสัมพันธ์ของชิดดาวกับเต็งกำลังพัฒนาเลยใช้กาโม่เป็นเครื่องมือ โดยยุแยงว่าชิดดาวจะแต่งงานกับเต็งและมีลูกด้วยกัน กาโม่จะเป็นหมาหัวเน่าเพราะเต็งรักชิดดาวมากกว่า และต้องรักลูกของตัวเองที่เกิดมามากกว่ากาโม่และจะส่งตัวกาโม่คืนให้พ่อ กาโม่เชื่อทอยและทำตามทอยยุทุกอย่างเพื่อไม่ให้ชิดดาวกับเต็งชอบกันเพื่อกาโม่จะได้อยู่กับลุงเต็ง ตลอดไป ทอยปั่นหัวกาโม่และสร้างสถานการณ์ต่างๆ จนกาโม่ทะเลาะกับเต็งเพราะกาโม่แสดงกริยาและคำพูดหยาบคายใส่ชิดดาวอย่างไม่รู้จักเด็กรู้จักใหญ่ เต็งโกรธมากจนเผลอฟาดก้น กาโม่ไปอย่างแรง กาโม่เสียใจมากเพราะเต็งไม่เคยตีตนมาก่อน และด้วยความเครียดเรื่องงานเลยทำให้เต็งหลุดปากไล่กาโม่กลับไปอยู่กับพ่อ กาโม่เสียใจร้องไห้โฮเกลียดชิดดาวที่มาแย่งความรักและโกรธเต็งจนไม่ยอมพูดด้วยไม่ให้เข้าห้องนอน...ชิดดาวไม่สบายใจมาก โทษว่าเป็น ความผิดตัวเอง แต่เต็งยืนยันว่าถึงเวลาที่ตนต้องทำเพื่อตัวเองแล้ว เต็งรักชิดดาวและจะแต่งงานกับชิดดาว...ชิดดาวลำบากใจที่เหมือนอยู่ตรงกลางความขัดแย้ง แต่ความรักของเต็งและชิดดาวที่มีต่อกันมันพิสูจน์ด้วยเวลาหลายปี มันแข็งแรงพอที่จะเปลี่ยนชิดดาวไม่ให้เป็นผู้หญิงที่วิ่งหนีปัญหาอีกต่อไปแล้ว ตัวเต็งเองก็เปลี่ยนไป สุขุมรอบคอบขึ้น มีสติยั้งคิดขึ้น มีเหตุผลและความรับผิดชอบ นั่นก็เพราะที่ผ่านมาเต็งเสมือนได้เป็นพ่อคน ไม่ใช่หนุ่มโสดลอยชายไปวันๆอีกแล้ว ตลอดเวลาที่มีความวุ่นวายเกิดขึ้นในบ้านเต็ง มีเวนิสที่คอยต่อจิ๊กชอว์อยู่ จนได้หลัก ฐานว่าทอยคือคนที่อยู่เบื้องหลังการยุแหย่กาโม่ให้เกลียดชิดดาว และในวันที่รายการของเต็งออกอากาศเป็นเทปสุดท้าย ทุกคนมารวมตัวดูกันที่บ้านเต็ง เมื่อรายการจบทุกคนก็เก็บของ เวนิสพูดตรงๆกับทอยว่าตนรู้เรื่องทุกอย่างขอให้หยุดทำร้ายพวกเขาซะทีและพูดต่อหน้าเต็งด้วย ขณะกำลังดราม่าชิดดาวก็มาที่บ้านเหมือนระฆังช่วยชีวิตทอยไว้ได้ทัน...ทอยเลี่ยงออกไปจากบ้าน เวนิสไม่ยอมจบง่ายๆ ตามไปเคลียร์ ทอยก็ชัดเจนว่าตนรักเต็งและจะไม่ยอมหยุดแค่นี้แน่ ส่วนชิดดาวมาหาเต็งก็เพื่อจะบอกว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอไม่ชัดเจนเรื่องของทั้งคู่ เธอเอาแต่หนีปัญหา แต่ตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะอยู่ที่นี่เพื่อเต็ง เต็งดีใจที่สุดในชีวิตและขอชิดดาว แต่งงาน ชิดดาวตอบรับคำขอของเต็ง ทอยมาดักเจอกาโม่ที่โรงเรียนเพราะเต็งสั่งห้ามกาโม่ติดต่อกับทอยอีก ทอยยุแยงกาโม่ ว่าชิดดาวแต่งงานเข้าบ้านวันไหนวันนั้นกาโม่กระเด็นออกจากบ้านไปอยู่กับพ่อแน่ๆ กาโม่กลัวที่ต้องไปอยู่กับโต๊ด นี่คือโอกาสสุดท้ายของกาโม่ ทอยเลยสั่งให้เชื่อฟังตนทำตามที่ตนบอกทุกอย่าง กาโม่หัวอ่อนอยู่แล้วเลยเชื่อทำตามที่ทอยบงการ เต็งและชิดดาวพากาโม่มากินข้าวนอกบ้านแล้วคุยอย่างเปิดใจ กาโม่ให้ความร่วมมือทุกอย่างเพราะทอยสั่งมาให้นิ่งๆ ว่าง่าย เออออตามน้ำไปก่อน จนกว่าทอยจะสั่งเป็นอย่างอื่น ทุก อย่างเลยดูเหมือนราบรื่น การเตรียมงานแต่งของเต็งและชิดดาวเริ่มเดินหน้า ชิดดาวพาเต็งไปพบพี่สาวพี่เขย ทุกอย่างผ่านฉลุย...เต็งพาชิดดาวไปพบพ่อแม่ที่ปราจีนก็ผ่านฉลุยเช่นกัน แต่แล้วก็เกิดดราม่าเมื่อแม่เต็งพูดโพล่งว่าให้เลือกวันแต่งงานในช่วงโต๊ดจะกลับมาเมืองไทย กาโม่ซึมไปถนัดใจร้องไห้ระหว่างกลับบ้านตลอดทางจนหลับไป ถึงเวลานอนก็ยังร้องไห้กลัวเต็งจะส่งตัวคืนพ่อ กาโม่คาดคั้นให้เต็งรับปากว่าจะเลี้ยงกาโม่ไม่ให้ไปอยู่กับโต๊ด เต็งก็อ้อมแอ้มพูดไม่เต็มปากเพราะตอนนี้โต๊ดกับพายพร้อมทุกด้านและต้องการลูกกลับไปเลี้ยงเองก่อนกาโม่จะโต กว่านี้ รู้เรื่องมากพอที่จะไม่ยอมรับโต๊ดและพาย แล้วจะสายเกินไป และแล้ววันมงคลก็มาถึง..งานเช้าจัดตามประเพณีไทยจัดขึ้นที่บ้านชิดดาว เต็งกับขบวนขันหมากตั้งรอเวลาฤกษ์ที่หน้าบ้านเต็ง ส่วนบ้านเจ้าสาวก็กั้นประตูเงินประตูทองพร้อม แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อกาโม่ผลักชิดดาวตกบันไดบ้านชั้นบน กาโม่กลัวและร้องไห้โฮ ไม่อยากทำแต่ถูกทอยล้างสมองขู่ว่าคือโอกาสสุดท้ายถ้าเต็งแต่งงานกับชิดดาวเมื่อไหร่ กาโม่ก็ต้องไปอยู่กับพ่อเมื่อนั้น กาโม่หลับหูหลับตาทำทั้งที่ไม่อยากทำเ
รักหลงโรง 2560

รักหลงโรง (2560/2017) หลังจากที่ตำรวจบุกทะลายงานปาร์ตีงานหนึ่งก็ได้พบว่าดาราสาวซุปเปอร์สตาร์ผู้โด่งดังก้องฟ้าเมืองไทยนามว่ากีรณา ดรุโณทัย(ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง) ถูกจับในข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองซึ่งก็ทำให้อนาคตที่เคยรุ่งโรจน์ของหญิงสาวดับวูบ ชะตาพลิกผันอย่างที่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน แม้กีรณาจะปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นอย่างไรแต่หลักฐานก็มัดเธอแน่นจนไม่อาจที่จะดิ้นหลุดในข้อหานี้ได้

ภายหลังจากกีรณาถูกจับก็เป็นข่าวใหญ่ครึกโครมไปทั้งประเทศเนื่องจากเธอเป็นคนดังและนอกจากเธอจะไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือแล้วยังได้รับการซ้ำเติมจากคนรอบข้าง เธอแทบไม่มีที่ยืนในสังคมดาราคู่แข่งอย่างโรสิตา(วิรากรานต์ เสณีตันติกุล) และ เนตรดารา(บุศย์สิริ รัตนาไพศาลสุข)ก็สะใจ นุ่มนิ่ม(ดีเจมะตูม) เป็นห่วง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ แม้แต่อารดา(พรนภา เทพทินกร)อาสาวของกีรณาก็ยังขายเธอให้กับท่านบวรฤทธิ์(ศานติ สันติเวชกุล) เสี่ยผู้มีอิทธิพล กีรณาเจ็บช้ำน้ำใจมาก หลังจากประกันตัวออกมา กีรณาต้องหลบๆซ่อนๆ เธอได้พบกับตุลา(จรณ โสรัตน์) ชายหนุ่มที่มาจากต่างจังหวัด พยายามเกลี้ยกล่อมให้เธอกลับไปเยี่ยมยายขวัญ(โฉมฉาย ฉัตรวิไล) ญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ของเธอ ซึ่งเป็นเจ้าของคณะลิเก ซึ่งกีรณาไม่ได้เจอยายเป็นสิบปีแล้ว กีรณาตัดสินใจไปเยี่ยมยายที่ป่วย แต่ยังไม่ทันไปถึงบ้านยาย ก็รู้ว่ายายขวัญได้เสียชีวิตไปแล้ว กีรณาขอให้ตุลาพาไปงานศพเพื่ออำลายายเป็นครั้งสุดท้าย กีรณาเสียใจมากที่ยายตาย แต่ก็ยังปากแข็งจนตุลาหมั่นไส้ ชาวคณะลิเกไม่ว่าจะเป็น มัทรี(สุนารี ราชสีมา) กัณหา(นันทนัช โล่สุวรรณ)ลูกสาวของมัทรี รวมทั้งชาลี(ภูศิลป์ วารินรักษ์) และหยกฟ้า(หทัยชนก สวนศรี) ต่างก็ไม่มีใครชอบกีรณาเท่าไหร่ กีรณามางานรดน้ำศพยายด้วยความเสียใจ เธอรู้สึกใจหาย เพราะในวัยเด็กนั้นเธออยู่กับยายหลังจากที่พ่อแม่เสียชีวิต ซึ่งชีวิตในช่วงนั้นเป็นไปด้วยความคับแค้นยากจน ยายขวัญเป็นเจ้าของคณะลิเก รับการแสดงตามงานวัด ซึ่งแต่ละครั้งก็ได้เงินไม่มากนักซึ่งต้องแบ่งให้กับนักแสดงรวมถึงนักดนตรี แต่ยายก็ยังยึดคณะลิเกเป็นอาชีพซึ่งกีรณาไม่ได้ชอบเอาเสียเลย เมื่อไปโรงเรียนก็ถูกเพื่อนล้อเลียน กีรณาจึงอยากออกจากคณะลิเกไปมีชีวิตที่สุขสบายกว่า มีชีวิตที่หรูหรา แล้ววันหนึ่งความฝันนั้นก็เป็นจริงเมื่ออารดาอาของเธอมารับและบอกว่าจะพาไปอยู่ต่างประเทศเธอจึงตกลงทันทีทอดทิ้งยายขวัญและคณะลิเกเอาไว้ข้างหลังอย่างไม่ใยดีอารดานำกีรณาไปอยู่ด้วยที่ต่างประเทศราว ๆ หนึ่งปีและหลังจากที่กลับมากีรณาก็เดินทางตามความฝันของตัวเองคือไปสมัครเป็นนักแสดง ซึ่งเธอก็ทำได้ดี โด่งดังขึ้นในช่วงเวลาไม่นานและกลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ในปัจจุบัน แต่เมื่อเข้าวงการบันเทิง กีรณาถูกสร้างให้เป็นคนใหม่ ถูกเปลี่ยนชื่อเล่นจากแก้วเป็นแกรนด์ส่วนชีวิตในวัยเด็กนั้นถูกปรับเปลี่ยนว่าเติบโตมาจากต่างประเทศ ซึ่งอารดานั้นก็เต็มอกเต็มใจที่จะให้กีรณาเข้าวงการบันเทิงอย่างเต็มตัวเพราะคือรายได้อันมากมายที่ช่วยให้ชีวิตของทั้งคู่ดีขึ้น โดยอารดาเข้ามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวดูแลให้เรื่องคิว เรียกค่าตัว โดยมีเจ๊แหม่มเป็นผู้หางานให้และกินเปอร์เซ็นต์อีกทีซึ่งในระหว่างที่กีรณามีชื่อเสียงเธอก็ไม่ได้ติดต่อกลับมายังยายขวัญอีกเลย ส่วนยายขวัญเองก็ปล่อยให้กีรณามีชีวิตของเธอแต่ก็ติดตามข่าวอยู่เสมอโดยไม่ติดต่อไปหาเช่นกัน เมื่อจัดงานศพยายขวัญเสร็จ กีรณาก็ถูกตุลาบังคับให้มาจัดการกับคณะลิเก ซึ่งทุกคนต่างก็มีความหวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้น ทั้งลุงเสริม(ครูบุญสร้าง เรืองนนท์) หล่อ(คิง ก่อนบ่าย) รวมทั้งเด็กๆอย่างกุ๊ก(ด.ญ.กานต์พิชชา ชุนหะ) กิ๊ก(ด.ญ.กานต์ชนิต ชุนหะ) และเปี๊ยก(ด.ช.ชนะเดช เขียวเซ็น) ส่วนกัณหา กับ หยกฟ้า ยิ่งไม่ชอบกีรณามากขึ้น ตอนแรกกีรณาคิดว่าไม่ใช่เรื่องของตนแต่เมื่อคิดว่าน่าจะมีอะไรที่พอจะขายและนำรายได้มาสู่เธอได้เธอจึงยอมไปเพราะตอนนี้เธอกำลังตกยาก เมื่อไปถึงกีรณาก็พบว่ายายขวัญได้เลี้ยงคนไว้ในคณะลิเกจำนวนกว่าสิบคน ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นคนเก่าคนแก่ที่เธอเคยเห็นหน้าและอยู่กับยายขวัญมาเป็นสิบปี เมื่อทุกคนเห็นกีรณาก็ดีใจแต่กีรณากลับไม่รู้สึกเช่นนั้น เธอเห็นว่าทุกคนคือภาระจึงประกาศว่าจะยกเลิกคณะลิเก และจะขายทุกอย่างที่ขายได้โดยไม่สนใจเลยว่าการกระทำของเธอนั้นจะทำให้ใครเดือดร้อนหรือขาดรายได้ไปบ้างเพราะคนทั้งหมดหากินกับคณะลิเกมานาน ตุลาซึ่งทนความเห็นแก่ตัวของกีรณาไม่ไหวเอาเอกสารสัญญาที่ยายขวัญได้ทำไว้กับนายจ้างที่มาจ้างการแสดง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานวัดและงานแก้บนมาให้กีรณาดู และบอกว่าหากกีรณายกเลิกจะต้องจ่ายเงินค่ายกเลิกสัญญาเป็นสองเท่าของค่าจ้าง ซึ่งรวมแล้วก็เป็นจำนวนเงินหลายแสนบาทกีรณาตกใจ เธอไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์อย่างนี้จึงปฏิเสธและทำเป็นไม่รับรู้จะกลับกรุงเทพโดยที่ไม่แตะต้องอะไรเลย เคยอยู่กันมาอย่างไรก็ให้อยู่กันอย่างนั้น แต่ตุลาบอกว่าไม่ได้เพราะในสัญญายายขวัญได้ระบุว่ากีรณาจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมดหากยายขวัญมีอันเป็นไปเนื่องจากกีรณาเป็นทายาทคนเดียวอย่าว่าเงินแสน ตอนนี้เงินหมื่นกีรณายังแทบไม่มีเหตุการณ์บังคับทำให้เธอต้องไปบริหารจัดการคณะลิเก กีรณากลับไปอยู่บ้านเดิมเมื่อสมัยที่เธอเป็นเด็กซึ่งเป็นบ้านไม้หลังเล็ก ๆ ยกใต้ถุนสูง ที่นี่มีผู้คนในคณะลิเกอยู่ด้วยกันทำให้เธอไม่มีความเป็นส่วนตัว เวลานอนก็ต้องนอนกับกันหาลูกสาวของมัทรี ซึ่งกันหาไม่ค่อยชอบกีรณานักเนื่องจากนิสัยส่วนตัวที่ขี้วีน ขี้เหวี่ยงของกีรณา ทั้งคู่มีเรื่องทะเลาะกันบ่อยครั้งแต่ก็ยังต้องทนใช้ห้องเดียวกัน คณะลิเกประสบปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายกีรณาจึงคิดจะเอาคนออก แต่ตุลาที่ทนไม่ได้กับความคิดอันเห็นแก่ตัวของกีรณาก็เอาสัญญาอีกฉบับมาให้กีรณาดู ว่ากีรณาต้องเลี้ยงดูคนทั้งหมดหากไล่ใครออกต้องจ่ายเงินชดเชยจำนวนห้าแสนต่อคน ซึ่งกีรณาไม่มีเงินและไม่สามารถที่จะเลี้ยงคนเหล่านี้ได้ตุลาก็ต้องช่วยแก้ปัญหาต่างๆให้กีรณาตลอด ขณะเดียวกันบางครั้งก็มีเสี่ยฮุ่ย(จักรกฤษณ์ อำมรัตน์) ซึ่งหลงรักมัทรีมานานแล้ว และลูกชายชิบ(กันต์ กรวิชญ์) ที่ชอบกัณหาคอยมาป่วน แต่ก็มีหมวดไรวินทร์(ฐากูร การทิพย์) ซึ่งแอบชอบกัณหา มาคอยกันท่า และต่อร้องต่อเถียงกับกัณหาตลอด ชีวิตของกีรณาเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือและเธอก็พบว่าชีวิตที่แสนวุ่นวายนี้ก็มีความสุขได้เหมือนกัน กันหาและกีรณาเริ่มญาติดีกัน และคุยกันมากขึ้นและวันหนึ่งกันหาทะเลาะกับมัทรีเพราะกันหาต้องการออกจากโรงเรียนเมื่อไม่มียายขวัญคอยส่งเสียแล้วซึ่งกีรณาเองก็ไม่เห็นด้วยกับกันหา สุดท้ายจึงขอให้กันหาเรียนต่อโดยเธอจะเป็นผู้ส่งเสียเองแต่มีข้อแม้ว่ากันหาจะต้องคืนเงินเธอทุกบาททุกสตางค์เมื่อเรียนจบเพราะรู้ว่ากันหาเป็นคนที่มีศักดิ์ศรีจะไม่ยอมรับเงินจากเธอฟรี ๆ อย่างแน่นอน เมื่อได้รับข้อเสนอดังนั้นกันหาก็ยินยอม หยกฟ้านางเอกลิเกของคณะหนีไปกับผู้ชาย เป็นปัญหาให้คณะขาดนางเอกละคร กีรณาจึงต้องแก้ปัญหาด้วยการเป็นนางเอกลิเกแทนทั้งที่ไม่เต็มใจโดยมีข้อแม้ว่าเธอจะต้องแต่งหน้าให้หนาไม่ให้มีใครจำเธอได้ เพราะไม่อยากให้ใครมองว่าตกอับจนต้องมาแสดงลิเกในคณะเล็ก ๆซึ่งมัทรีก็รับปากจะทำตามที่กีรณาต้องการ แม้กีรณาเคยเล่นลิเกเมื่อตอนเด็กแต่ในตอนนี้เธอก็จำไม่ได้มัทรีฝึกสอนให้ การเล่นลิเกครั้งแรกของเธอไม่ดีนัก เนื่องจากกีรณาไม่กล้าที่จะร้องจะรำเต็มที่เพราะเธอยังรู้สึกว่าตัวเองเคยเป็นซุปเปอร์สตาร์ งานอย่างนี้ไม่เหมาะกับเธอเลย การแสดงล่มไม่เป็นท่า ถูกคนดูโห่ และเจ้าภาพขอเงินคืนซึ่งหากคืนเงินไปก็จะไม่มีข้าวสารสำหรับวันพรุ่งนี้ไว้เลี้ยงดูผู้คน กีรณาจึงไม่อาจคืนได้สุดท้ายเธอขอแสดงใหม่ในวันพรุ่งนี้ ความเครียด ความกดดันทำให้กีรณาแอบไปร้องไห้ที่ริมคันนา ซึ่งตุลากำลังฉีดสมุนไพรฆ่าแมลงอยู่ในนาข้าวบังเอิญเห็นเข้าซึ่งเขาก็รู้สึกเห็นใจและสงสาร ที่ผ่านมาเขาก็พบว่าเนื้อแท้ใจจริงของกีรณาก็ไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไรนัก เพียงแต่โตมาในสภาพแวดล้อมที่ทำให้เธอกลายเป็นคนเช่นนั้น จึงเขามาพูดเพิ่มแรงใจ “การเป็นนักแสดงไม่ว่าอยู่ในบทบาทไหนก็ต้องทำให้ดีที่สุด” ซึ่งคำพูดของตุลาทำให้กีรณาคิดได้ เมื่อต้องขึ้นแสดงอีกครั้งเธอก็ทำได้ดีและได้รับพวงมาลัยเป็นรางวัลแม้จะไม่มากมายนักแต่กีรณาก็มีความสุขอย่างประหลาด เมื่อรายได้หลักมาจากการแสดง กีรณาจึงคิดว่าจะต้องทำให้มีรายได้มากที่สุด จึงปรับเปลี่ยนบทลิเกให้มีความทันสมัย เดินเรื่องเร้าใจเพื่อเจาะกระแสกลุ่มคนที่ไม่ใช่เฉพาะคนแก่เพราะเวลานี้กลุ่มคนที่ดูลิเกนั้นเหลือน้อยเต็มที ซึ่งชาวคณะต่างก็เห็นด้วยและเมื่อทำเช่นนั้นคณะลิเกก็เริ่มมีงานมากขึ้น เป็นที่กล่าวถึงบ้างในท้องถิ่นและในจังหวัดใกล้เคียง ตุลามองการเปลี่ยนแปลงของกีรณาด้วยความพอใจ อีกทั้งท่าทางของกีรณาไม่เหมือนคนที่ต้องอยู่กับอยู่เสพติดเขาจึงถามไถ่เรื่องราวทั้งหมดเพื่อจะช่วยเหลือเธอ กีรณาจึงเล่าให้ฟังถึงสาเหตุนั่นคือเธอถูกเชิญไปงานเลี้ยงและดื่มเครื่องดื่มตามปกติแต่ไม่รู้ทำไมเมื่อตรวจปัสสาวะออกมาจึงเป็นสีม่วงซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าเธอถูกใส่ร้ายแต่อย่างไรก็ตามเธอไม่มีหลักฐานมาแก้ต่างให้ตนเอง เมื่อได้ยินดังนั้นตุลาเริ่มสืบความเป็นไป หากกีรณาไม่ผิดเธอก็ไม่ควรถูกตราหน้าว่าเป็นดาราขี้ยาและกลายเป็นคนหมดอนาคตอย่างนี้ ตุลาปรึกษา รสิตา(พิมพ์ทอง วชิราคม) เพื่อนสนิทที่เรียนจบมาด้วยกัน เพื่อรื้อคดีของกีรณาขึ้นมาใหม่ กีรณากับตุลาสนิทกันมากขึ้น เพราะเมื่อมีปัญหาในคณะลิเกตุลาก็จะมาช่วยเหลือตลอดเวลาซึ่งกีรณาไม่เคยรู้ว่าตุลาเป็นทนายและเข้าใจว่าเขาเป็นชาวนาเนื่องจากตุลาขอครอบครัวมาอยู่กระท่อมปลายนาเพื่ออ่านหนังสือ กีรณารู้สึกมีความสุข จนกระทั่งเธอถูกว่าจ้างไปเล่นแก้บนในงานหนึ่งซึ่งเป็นงานของลูกสาวผู้พิพากษาที่สอบเนติบัณฑิตได้และในวันนี้เองที่เธอได้รู้ว่าตัวเองเข้าใจเรื่องตุลาผิดมาตลอด ตุลาไม่ใช่ชาวนาอย่างที่เธอเข้าใจหากเป็นว่าที่ผู้ช่วยผู้พิพากษาเพราะเขาสามารถสอบข้อเขียนผ่านเหลือเพียงการสอบสัมภาษณ์เท่านั้น อีกทั้งยังได้รู้ด้วยว่าตุลาเป็นแฟนกับรสิตาลูกสาวของผู้พิพากษาหรือเจ้าภาพในวันนี้ สิ่งที่รับรู้ทำให้กีรณารู้สึกต่ำต้อยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่เมื่ออยู่บนเวทีเธอจำต้องแสดงต่อไปหลังจากแสดงจบเธอก็กลับมาร้องไห้ รู้สึกโกรธตุลาที่ทำเหมือนเธอเป็นตัวตลกจึงไม่ยอมพบและไม่ยอมพูดคุยกับชายหนุ่ม อีกทั้งเห็นว่าเขากำลังจะได้เป็นผู้พิพากษาดังนั้นเขาไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงที่มีคดียาเสพติดติดตัวอย่างเธอเพราะอาจมีผลกระทบต่อหน้าที่การงานของเขาในอนาคตได้ แล้ววันหนึ่งตุลาก็มาหากีรณาพร้อมกับมอบของให้ นั่นก็คือกล่องใบหนึ่งที่ยายขวัญบอกให้เขามอบให้เธอซึ่งความจริงเขาควรจะมอบให้ตั้งแต่วันเผาศพ แต่การกระทำของเธอทำให้เขาไม่อาจมอบให้เธอได้ เมื่อกีรณาเปิดดูก็พบว่าเป็นสมุดที่ยายขวัญตัดภาพของเธอเก็บเอาไว้ตั้งแต่เริ่มเข้าวงการและเก็บสะสมเรื่อยมา ซึ่งก็ทำให้กีรณาร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจที่เธอละเลยยายขวัญและที่ทำให้เธอเสียใจยิ่งกว่าคือสมุดเงินฝาก ซึ่งมีเงินกว่าห้าล้านโดยระบุว่าเงินทั้งหมดมอบให้เธอและอีกสามล้านสำหรับคนในคณะลิเก กีรณากลับไปหาตุลาด้วยความโกรธที่เขาปิดบังเรื่องนี้ เธอตบหน้าเขาที่เขาโกหกปล่อยให้เธอต้องเผชิญเรื่องราวร้าย ๆ หากเธอได้เงินก้อนนี้มาตั้งแต่แรกเธอคงไม่ต้องมาตกระกำลำบากอยู่ในคณะลิเกแต่เมื่อกลับมาย้อนคิดหากเธอได้เงินจำนวนนี้ตั้งแต่ตอนนั้นเธอก็คงจะไม่ได้รู้จักคำว่าครอบครัว ไม่รู้จักคุณค่าของความรัก ไม่รู้จักความสุขจากการให้และการได้รับดังนั้นนี่คือของขวัญที่เธอได้รับจากคชาซึ่งก็ทำให้เธอหายโกรธแต่ถึงอย่างนั้นเธอและเขาก็ไม่ควรจะยุ่งเกี่ยวกันอยู่ดี กีรณาถอนเงินทั้งหมดออกมาเพื่อมอบให้คนในคณะทุกคนเป็นโบนัส ให้ทุกคนได้ทำทุนเพราะคิดว่าทุกคนน่าจะมีงานอย่างอื่นบ้าง เช่นมีที่ดินเป็นของตัวเองหากแก่ตัวไปเมื่ออยู่ในคณะไม่ได้จะได้มีที่ไป ส่วนเธอนั้นจะยังทำลิเกต่อไปและจะฝึกเด็กใหม่ ๆ ขึ้นมาอีกทั้งยังหาโอกาสเสนอช่องทางการแสดงเพิ่มด้วยการออกรายการโทรทัศน์กับช่องเคเบิ้ล วันหนึ่งกีรณาได้รับหมายศาลจากคดียาเสพติดของเธอ ซึ่งเธอไม่รู้ตัวมาก่อนและไม่ได้เตรียมทนายจึงขอให้ทางสภาทนายจัดหาทนายสำหรับคนจนให้เนื่องจากเธอไม่เห็นความสำคัญของการขึ้นศาลครั้งนี้เพราะโทษของเธอไม่ถึงกับติดคุกเนื่องจากมียาเสพติดไม่เกิดที่กฎหมายบอกว่ามีไว้เพื่อจำหน่าย ไม่ว่าจะผิดหรือถูกเธอรู้ตัวเองดีและถึงแม้ชนะไปก็ใช่ว่าจะทำให้เธอมีความสุขมากขึ้น กีรณาไปที่ศาลซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ตุลามาสอบสัมภาษณ์ เธอกับเขาเจอกันหน้าตึก ตุลาเดินจากไปพร้อมกับรสิตาซึ่งก็สร้างความเจ็บปวดให้กับกีรณาอย่างเหลือเกิน ทุกคนในคณะมาให้กำลังใจกีรณาก่อนจะมีการเบิกตัวทนายและกีรณาต้องตกใจเมื่อพบว่าทนายความของเธอนั้นคือ ตุลา เขาละทิ้งโอกาสการสอบสัมภาษณ์มาช่วยเธอต่อสู้คดี ตุลานำหลักฐานต่าง ๆ พร้อมกับเบิกตัวพยานว่ามีผู้นำยาใส่ในแก้วน้ำและในกระเป๋าของกีรณา ซึ่งคนที่ทำก็คือเนตรดารา ดาราร่วมช่องของเธอซึ่งเวลานี้กำลังกลายเป็นดาราดังเพราะงานที่เคยเป็นของกีรณาตกเป็นของดาราผู้นี้ทั้งสิ้น เมื่อความจริงเปิดเผยกีรณากลายเป็นผู้บริสุทธิ์ บริษัทต่าง ๆ ก็ติดต่อกีรณามาให้ร่วมงานเหมือนดังเดิมซึ่งเธอก็ยอมหวนกลับสู่วงการ ไปทำงานเก่าที่ค้างไว้ให้หมด และยิ่งได้กลับมาที่วงการบันเทิงกีรณาก็รู้ว่าที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับเธอ คอนโดหรูกลางใจเมืองที่เธอเคยคิดว่ามันเป็นหอคอยงาช้างในเวลานี้ช่างอ้างว้างและโดดเดี่ยว ไม่เหมือนห้องเล็ก ๆ ที่บ้านยายขวัญแม้จะอึดอัดแต่ก็อบอุ่น กีรณาเฝ้ารอวันที่จะหมดสัญญากับทางบริษัทและกลับไปสู่อ้อมแขนของครอบครัว เมื่อทำงานเสร็จกีรณากลับไปที่บ้านยายขวัญซึ่งเธอมอบหน้าที่ดูแลคณะลิเกที่เติบโตขึ้นให้กับกัณหาช่วยดูแลอีกทางหนึ่ง และเมื่อไปถึงเธอก็อดไม่ได้ที่จะเดินไปยังกระท่อมปลายนาของตุลาซึ่งเธอคิดว่าเขาไม่น่าจะอยู่ที่นี่แล้ว เมื่อเข้าไปเธอก็พบรูปภาพของตัวเอง ข่าวคราวที่ตุลาตัดไว้หลังจากที่เธอพ้นคดี เมื่อประตูเปิดออกตุลามาปรากฏตัว ทั้งคู่ตกใจ ซึ่งกีรณาค่อนข้างมั่นใจว่าตุลาเองก็น่าจะมีใจให้ตนจึงตัดสินใจเปิดคำถามบุก ตุลาตกเป็นผู้ต้องหาที่ถูกไต่สวนหัวใจซึ่งเอาไม่อาจที่จะเก็บซ่อนสิ่งที่มีอยู่ได้จึงสารภาพออกไปว่ารักกีรณากีรณาจึงจัดการพิพากษาหัวใจทนายหนุ่มทันที บอกให้เขาชดใช้การโกหกหลอกลวงเธอด้วยการดูแลเธอไปตลอดชีวิต ทุกคนมีความสุข ขณะที่ตุลากับกีรณา ตัดสินใจแต่งงานกัน สานต่อคณะลิเกต่อไป คู่ของหมวดไรวินทร์ กับ กัณหาก็ลงตัวไม่มีปัญหา เช่นเดียวกันชาลีและหยกฟ้า ซึ่งแสดงเป็นพระเอกนางเอกคณะลิเก สานต่อลิเกกันต่อไป
The Single Mom คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวหัวใจฟรุ้งฟริ้ง 2560

The Single Mom คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวหัวใจฟรุ้งฟริ้ง (2560/2017) เรื่องราวการเอาตัวให้รอดของ “มุลิลา” แม่เลี้ยงเดี่ยวลูกหนึ่งที่ขังตัวเองไว้กับอดีตอันเจ็บปวดและความกลัวต่อความรักและการใช้ชีวิตครอบครัว แต่เมื่อความรักที่แสนจะบริสุทธิ์ใจเข้ามาเคาะประตูหัวใจอีกครั้ง แถมยังมีมาให้เลือกตั้งสองคน แล้วไหนจะอดีตสามีเก่าที่กลับตัวกลับใจและกลับมาขอโอกาสอีกครั้ง.... เธอจะกล้าเปิดใจให้โอกาสตัวเองอีกครั้งหรือไม่ ไม่มีใครให้คำตอบได้...นอกจากตัวเธอเอง “มุลิลา”(จ๊ะ จิตตาภา แจ่มปฐม) เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดสาว วัย 30 ผู้มากความสามารถ มั่นใจในตัวเอง อีโก้มาเต็ม แต่ชีวิตของเธอดั่งสวรรค์ฟ้ากลั่นแกล้งเมื่อเธอได้ถูกไล่ออกจากงานเพียงเพราะหัวหน้างานบอกว่าเธอมีลูก ทำงานไม่เต็มที่ ความวัวยังไม่ทันจะหายความควายก็เข้ามาแทรก เพราะเธอดันจับได้ว่า พงศ์พิศุทธิ์ (คริน สาครินทร์ สุธรรมสมัย) สามีจอบเจ้าชู้ที่แสนไม่เอาไหนของเธอได้พาผู้หญิงแปลกหน้ามานอนบนเตียงนอนที่เธอและสามีได้ให้กำเนิด น้องปลื้ม (ด.ช.เฟรดดริก โซลร์เบิร์ก) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียว ที่เธอรักและอดทนสู้ทำงานเหนื่อยเพื่อลูกมาตลอด มุลิลา จึงตัดสินใจอย่ากับสามี เพราะทนความเจ้าชู้ไม่ไหวที่นอกใจเธอครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ที่ทนมาตลอด ก็เพื่อลูก แต่ครั้งนี้ความอดทนก็ได้สิ้นสุดลง ต้องตา (อาย กมลเนตร เรืองศรี)เพื่อนสาวที่ใจเย็นดั่งน้ำแข็งในห้องแช่และพี่ ยักษ์ (แบด ศิวัช คูสกุลธรรม) แฟนของต้องตาที่คบกันมานานแต่ไม่ยอมแต่งงานกันซักที คอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ หลังจากมุลิลาอย่าขาดกับสามี ทำให้เธอกลายเป็น SINGLE MOM ทันที เพราะเธอไม่ยอมให้สามียุ่งเกี่ยวกับลูก เมื่อไม่มีงานเป็นหลักแหล่งจากชีวิตที่เคยอยู่สุขสบาย บ้านไม่ต้องเช่าข้าวไม่ต้องซื้อ ต้องมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวหาเลี้ยงลูกชายคนเดียว มุลิลาจำต้องหางานใหม่ ยังดีที่ฟ้ายังมีตา เมื่อต้องตาได้โทรมาบอกกับเธอว่า ดนัยเทพ (ก้อง จักรพันธ์ ตัณฑะสุวรรณะ) หรือ ดอลลี่ เพื่อนสนิทตอนมหาลัยที่ตอนนี้กลายเป็นผู้บริหารที่ Wow Shopping TV ที่ต้องการผู้กอบกู้สถานการณ์อันย่ำแย่ของสถานี ที่เพิ่งถูกเทคโอเวอร์โดย M-ONE บริษัทอุปโภคบริโภคยักษ์ใหญ่ มุลิลาจำใจกัดฟันรับงานแลกกับกับเงินอันน้อยนิดเมื่อเทียบกับความสามาถของเธอ เพื่อมีเงินไว้เป็นทุนสำรองและเพื่อหนีการคุกคามจากสามีเก่าที่ขู่เธอว่าหากไม่มีงานทำภายใน สามเดือนเขาจะเอาลูกไปเลี้ยงเอง !! ที่บริษัทWOW TV มุลิลาได้ทำงานในตำแหน่งหัวหน้า A Merchandise Marketing ที่ต้องทำงานกับ อัศวิน (เก้า จิรายุ ละอองมณี)หนุ่มตี๋หล่อใสเกาหลีเรียกพี่ หัวหน้าฝ่ายผลิตฝีมือขั้นเทพ แต่กวนบาทา ทั้งคู่จึงกลายเป็นคู่กัดกัน หากแต่ว่าก็ไม่ได้คลาดจากสายตาอันแหลมคมของ พราวฟ้า(คริสซี่ กฤษณ์สิรี สุขสวัสดิ์) เลขาหน้าหวานประจำตัวดอลลี่ที่แอบชอบอัศวินตั้งแต่แต่ครั้งแรก และ รัชนก (นิวเคลียร์ หรรษา จึงวิวัฒนวงศ์) AE สาว ประจำบริษัทไม่ชอบขี้หน้ามุลิลาเพราะเห็นว่ามุลิลาหน้าใหม่ไฟแรง ด้วยความเก่งของมุลิลาที่ทั้งทำงานและเลี้ยงลูกเพียงคนเดียวไปด้วย ประกอบกับความมั่นใจที่เธอมี ทำให้โดนตาโดนใจ ชิษณุ (วิลลี่ แมคอินทอช) นักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อเจ้าของบริษัท M-ONE ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ และ Wow Shopping TV ที่มี ตรีดาว (หญิง รังสิกานต์ โรจน์ชีวิน) หุ้นส่วนรายใหญ่แสนสวย เพียบพร้อมด้วยฐานะและชาติตระกูล แต่ขี้วีนและวางอำนาจ ที่พ่อแม่หมายมั่นปั้นมือให้แต่งงานกัน ด้วยเหตุผลทางธุรกิจ และตรีดาวยังไม่ใช่สำหรับเขา แต่กลับกลายเป็นมุลิลา แม่ม่ายลูกติดที่ได้เจอเพียงครั้งแรกก็ตกหลุมรักและคิดว่านี้แหละคือคนที่เขารอมานาน เมื่อมุลิลาได้ทำงานใกล้ชิดกับอัศวินมากขึ้น ทั้งคู่ได้เกิดความรู้สึกดีๆต่อกันขึ้นโดยไม่รู้ตัว รวมถึงชิษณุที่ออกตัวว่ารู้สึกอย่างไรกับมุลิลาอย่างออกนอกหน้า ทำให้ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับพราวฟ้าและรัชนกเป็นอย่างมาก ทั้งสองจึงคอยหาทางกลั่นแกล้งมุลิลาโดยการสร้างข่าวลือต่างๆนานา เพื่อให้ทุกคนเข้าใจผิด ความโชคร้ายของมุลิลายังหมดแค่นั้น เพราะยังมีพงศ์พิสุทธิ์สามีเก่าก็ยังคอยมาตามราวีมุลิลาไม่เลิก เพราะเกิดความรู้สึกผิดและเสียดายมุลิลาขึ้นมา เรื่องราวทั้งหมดจะดำเนินไปอย่างไร มุลิลาคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องต่อสู้เพื่อลูกและรับมือกับคนที่คอยอิจฉา รวมทั้งหัวใจที่ถูกปิดเอาไว้เพราะความกลัว จะเปิดรับใครระหว่างอัศวินหนุ่มตี๋ หล่อใส เกาหลีเรียกพี่ หัวหน้าฝ่ายผลิต ที่ใช้ความรักในการเดินทาง หรือ ชิษณุ ผู้ที่เพียบพร้อมทุกอย่าง และพงศ์พิศุทธิ์สามีเก่าที่ยังตามราวีเธออยู่ เธอจะกล้าเปิดใจให้โอกาสตัวเองอีกครั้งหรือไม่ ไม่มีใครให้คำตอบได้...นอกจากตัวเธอเอง !!

พ่อครัวหัวป่าก์ 2560

พ่อครัวหัวป่าก์ (2560/2017) เรื่องราวชุลมุนวุ่นรักเกิดขึ้น เมื่อ “กมลชนก” (หลุยส์ สก๊อตต์) หนุ่มหล่อ มาดเซอร์ ลูกชายคนเดียวของ “กาญจนา” (สาวิตรี สามิภักดิ์) เจ้าของโรงแรมหรู เกิดหมดศรัทธาในความรัก หลังถูกหักอกจาก “แขไขไฉไล” (อัมราภัสร์ วรรธนะกุล) แฟนสาวที่หนีไปแต่งงานกับเจ้าสัวมหาเศรษฐี จนทำให้กมลชนกต้องกลายมาเป็นเพลย์บอยที่ใช้ชีวิตเสเพลไปวันๆ โดยมีเพื่อนซี้อย่าง “ทองทิว” (มิค-บรมวุฒิ) และ “อาเทวา” (เอ-อนันต์) คอยร่วมหัวจมท้ายด้วยกัน แต่แล้วบุพเพสันนิวาสก็ทำให้กมลชนกได้พบกับ “ทองตรา” (รณิดา เตชสิทธิ์) สาวมั่น ดีกรีนักเรียนนอก สาวสวยจิตใจดีที่ได้ช่วยกมลชนกไว้จากการเข้าใจผิดที่คิดว่า กมลชนกกำลังจะทำร้ายตัวเอง ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ทำให้กมลชนกรู้สึกประทับใจในตัวทองตรา และมีความหวังที่จะเริ่มต้นตามหารักแท้อีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะต้องเจอกับอุปสรรคใหญ่อย่าง “คุณนายทองม้วน” (ดวงตา ตุงคะมณี) แม่ของทองตรา ที่ได้รับฉายาจากคนในบ้านว่าเป็นคุณนายจอมเค็ม เขี้ยว ที่เหนียวซะยิ่งกว่าอะไรดี แต่กมลชนกก็ยังคงเดินหน้าพิสูจน์รักแท้ครั้งนี้ต่อไป โดยการปลอมตัวเป็นเกย์ เพื่อทำให้ตนเองได้เข้าไปอยู่ในบ้านของทองตราในฐานะ คนครัวคนใหม่ ที่มีชื่อว่า “นายมลคนครัว” ยิ่งนานวันความสัมพันธ์ของ “นายมล” กับ “ทองตรา” ในฐานะของลูกจ้างกับเจ้านายก็ดูเหมือนเดินไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อ “คุณนายทองม้วน” จับได้ว่านายมลกำลังคิดเกินเลยกับทองตราทำให้คุณนายทองม้วนโกรธจัดจนเอ่ยปากไล่นายมลออกจากบ้าน และทำให้ ทองตราไม่มีโอกาสได้พบกับนายมลอีกถึงแม้ว่าลึกๆ แล้วทองตราเองก็รู้สึกดีกับนายมลเหมือนกัน แต่กลับเป็น “กมลชนก” หนุ่มหล่อเจ้าของโรงแรมหรูที่เข้ามาทำให้ทองตรารู้สึกหวั่นไหว เพราะความที่หน้าตาเหมือนกับนายมลอย่างกับฝาแฝด โดยที่ทองตราเองก็ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว นายมล กับ กมลชนก คือคนคนเดียวกัน บททดสอบการตามหารักแท้ของกมลชนกจึงเริ่มต้นอีกครั้ง แต่งานนี้ไม่ง่าย เมื่อ “เบส” (สวิส เตชภูวนนท์) เพื่อนเก่าของทองตรา ดันกลายมาเป็นคู่แข่งหัวใจคนสำคัญที่กมลชนกต้องรับมือ ตามมาลุ้นต่อกันว่า บททดสอบการตามหารักแท้ของ “กมลชนก” จะทำให้เขาได้พบกับ “รักแท้” ที่ตามหาหรือไม่? ติดตามความสนุกนี้ได้ในละครเรื่อง “พ่อครัวหัวป่าก์”

เหมือนคนละฟากฟ้า 2560

เหมือนคนละฟากฟ้า (2560/2017) เพราะอดีตคือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วและไม่อาจแก้ไขได้ โยทกาจึงต้องมีชาติกำเนิดที่มีแม่เป็นโสเภณีด้วยความจำเป็นเพื่อเลี้ยงดูเธอ แต่ด้วยความรักดีโยทกาจึงพยายามพิสูจน์ตัวเองด้วยการสร้างคุณค่าให้ตัวเองจากความรู้ความสามารถ เมื่อแม่คิดตั้งต้นชีวิตใหม่กับเถกิง สุภาพบุรุษที่มอบรักแท้ให้ นั่นคือการชักนำให้โยทกาได้พบบททดสอบแห่งความรักกับชัชรัณ ผู้มีกำแพงอคติด้วยฝังใจกับความเจ็บปวดจากรักเก่าจนพาลเหมารวมโยทกาให้เลวร้ายไม่ต่างกัน เพื่อความรักโยทกาต้องทำลายกำแพงอคติ และทำให้ชัชรัณวางทิฐิ เปิดใจเพื่อเรียนรู้ปัจจุบัน พร้อมก้าวเดินไปในอนาคตร่วมกัน เพราะสุขแท้ของรักนั้นอยู่ที่ใจสองดวงหลอมรวมเป็นดวงเดียว... เรื่องย่อเหมือนคนละฟากฟ้า ที่ประเทศออสเตรีย โยทกา อรุณชาติ (ภีรนีย์ คงไทย) วางแผนจะเดินทางกลับเมืองไทยทันทีหลังมุ่งมั่นจนจบปริญญาโทด้านการตลาด แต่เพราะคำขอร้องให้ช่วยในงานแสดงผลิตภัณฑ์สปาออแกนิกส์ 10 อันดับที่เข้ามาเจาะตลาดโรงแรมในประเทศ โดยโยทกาต้องรับหน้าที่ในการเป็น พิธีกรดูแลบูธบริษัท Parn จากตัวแทนจัดหางานของ น้านุดี (นฤมล พงษ์สุภาพ) เพื่อนสนิทของมารดาโยทกา ผู้ให้ที่อยู่และดูแลโยทกาในออสเตรียมาตลอดแปดปี ทำให้โยทกาต้องยอมเลื่อนการเดินทางกลับเมืองไทยออกไปเพื่องานนี้ ภายในงานโยทกาแสดงความสามารถในฐานะพิธีกรได้โดดเด่นกว่าทุกคน เมื่อ ชัชรัณ วริศรักษ์ (แอนดริว เกร้กสัน) กรรมการบริษัท ธารา กับ กฤตนัย รสิกาญจน์ (วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์) เพื่อนรุ่นพี่สุดซี้ ที่กินตำแหน่งหุ้นส่วนคนสำคัญที่ได้ยินเสียงการให้ข้อมูลจากโยทกาก็พึงพอใจในความสามารถ ด้านโยทกากำลังหนักใจเมื่อ เวนย์ (สมิทธิ ลิขิตมาศกุล) ผู้จัดการโรงแรม ที่โยทกาเคยไปลงพื้นที่เก็บข้อมูลงานวิจัยตามมาก่อกวนเพราะโยทกาเคยตอบโต้ความหื่นของเวนย์จนเวนย์ถูกไล่ออกจากงานเก่า โยทการีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าหวังจะรีบออกไปจากงาน แต่เวนย์กลับไล่ต้อนโยทกาไปจนมุมในที่ลับตาคนและใช้กำลังจะจัดการโยทกา โยทกาพยายามจะสะบัดให้หลุดแต่สู้แรงของเวนย์ไม่ได้ ชัชรัณที่ผ่านมาเข้าช่วยเหลือไว้ได้ เวนย์ใส่ร้ายโยทกาว่าตกลงซื้อบริการกันแล้วแต่โยทกาขโมยของของเวนย์มา ชัชรัณไม่ยอมเชื่อ แต่เวนย์ที่แอบยัดกระเป๋าเงินตัวเองใส่กระเป๋าถือของโยทกาจนเอามาใช้เป็นหลักฐานทำให้ชัชรัณมองโยทกาในแง่ร้าย โยทกาโกรธมากกับความร้ายกาจของเวนย์แต่ไม่เท่ากับสายตาของชัชรัณที่มองโยทกาอย่างรังเกียจ การจากกันในคืนนั้นทำให้โยทกาเหม็นหน้าชัชรัณนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา โยทกาเตรียมตัวกลับเมืองไทยโดยไม่สนใจคำขอร้องของ บ๊อบ (กิจเกษม แมคแฟดเดน) เพื่อนชายคนสนิท ที่ขอเธอแต่งงานและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เพราะที่เมืองไทย โยทกายังมีแม่ที่เป็นห่วง เซม (บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ) และ เจนจันทร์ (นลิน โฮเลอร์) เพื่อนสาวคนสนิทที่เมืองไทย ติดต่อกลับมาบอกว่า กรรณิการ์ (จินตหรา สุขพัฒน์) แม่ของเธอ กำลังจะแต่งงานกับ พลตรี เถกิง วริศรักษ์ (สันติสุข พรหมศิริ) นักธุรกิจเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง โยทการ้อนใจที่แม่กำลังจะยอมถูกตราหน้าอีกครั้งว่าขายตัวเพื่อเงิน และโยทกาเชื่อว่าการขายตัวครั้งนี้ต้องมีโยทกาเป็นสาเหตุเหมือนตลอดชีวิตที่ผ่านมา ตั้งแต่เด็กโยทกาเห็นแม่ยอมให้ตัวเองเป็นโสเภณีมีเงินเดือนเพื่อให้โยทกาได้มีกินมีใช้ ได้เรียนสูง ๆ ความเจ็บปวดจากการที่แม่ผู้ให้กำเนิดโดนดูถูก เหยียดหยาม เพื่อให้ลูกอย่างโยทกาไม่ต้องพบเจอกับความลำบากทำให้โยทกาสาบานกับตนเองว่าจะต้องได้ดีมีเงินด้วยความสามารถ จะเลี้ยงดูและไม่ให้ใครมาดูถูกแม่ได้อีก โยทกาตัดสินใจจะกลับเมืองไทยก่อนงานแต่งงานของกรรณิการ์ เช่นเดียวกับชัชรัณ ที่รู้ข่าวจาก คุณยายผ่อง วริษรักษ์ (ดวงใจ หทัยกาญจน์) ผู้เจ้าระเบียบและเคร่งครัด บอกมาว่า เถกิง บิดาของชัชรัณ กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับกรรณิการ์ หญิงสาวที่มีประวัติเป็นนักร้องในคลับ มีคนยืนยันว่ากรรณิการ์เคยเป็นเมียน้อยของผู้ชายหลายคนก่อนที่จะมาพบเจอกับเถกิง คำเป่าหูของคุณยายผ่องที่ชัชรัณรักและเคารพที่สุดในชีวิตถึงพฤติกรรมของเถกิงที่ทำให้ สินี (ปรารถนา บรรจงสร้าง) แม่ของชัชรัณ ต้องตรอมใจจนตาย รวมถึงการบอกเล่าความเหลวแหลกของกรรณิการ์ ทำให้ชัชรัณโกรธพ่อและตั้งป้อมรังเกียจกรรณิการ์ตั้งแต่ยังไม่ทันเห็นหน้า โยทการับรู้ความรู้สึกของชัชรัณที่มีต่อแม่ของเธอด้วยความบังเอิญที่ต้องติดรถชัชรัณไปที่สนามบิน โยทกาตั้งใจว่าจะต้องไปขวางการแต่งงานของแม่เช่นกัน เพราะไม่อยากให้แม่เป็นทุกข์มากไปกว่านี้ เมื่อชัชรัณถึงเมืองไทย ก็ร่วมกับคุณผ่อง และ เพ็ญศรี (ไปรมา รัชตะ) ญาติตัวร้ายในบ้าน ต่อต้านไม่ให้พ่อแต่งงาน แต่เถกิงไม่สนใจ ยืนยันที่จะแต่งงานกับกรรณิการ์ให้ได้ โดยไม่สนใจอดีตของเธอ ด้านโยทกาเมื่อเดินทางมาถึงเมืองไทยก็รีบนัดให้กรรณิการ์ออกมาพบ โยทกาขอร้องให้กรรณิการ์ยกเลิกการแต่งงานครั้งนี้ โยทกาสัญญาว่าจะเลี้ยงดูกรรณิการ์อย่างดี ไม่ต้องลำบากอีกต่อไป ในขณะที่กรรณิการ์พยายามจะให้โยทกาเข้าใจว่าการแต่งงานกับเถกิงจะช่วยสร้างประวัติใหม่ให้กับโยทกา ได้สถานภาพเป็นลูกสาวของนักธุรกิจชื่อดัง มีศักดิ์ศรี มีที่ยืนดี ๆ ในสังคม ไม่ใช่ลูกเมียน้อย เมียเก็บ ถูกสังคมกดให้ต่ำต้อยเพียงเพราะโยทกาเลือกเกิดไม่ได้เหมือนที่ผ่านมา โยทกาพยายามจะบอกกรรณิการ์ว่าไม่เคยสนใจคำพูดคนอื่น ไม่ต้องการเกียรติยศ ชื่อเสียง โยทกาต้องการเห็นกรรณิการ์มีความสุข ไม่ต้องรวยล้นฟ้า แต่เราจะไม่มีวันอับจนเพราะความรู้ความสามารถที่โยทกามี โยทกาไม่อยากให้กรรณิการ์ต้องเป็นที่รองรับอารมณ์ผู้ชายมักมาก แต่กรรณิการ์ยืนยันว่าเถกิงเป็นสุภาพบุรุษ เป็นผู้ชายที่ดี โยทกาไม่อยากเชื่อเพราะสิ่งที่เห็นจากชัชรัณทำให้โยทกาคิดว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นแน่ แต่แล้วโยทกาก็หาทางทำความรู้จักกับเถกิง และยอมรับในความรักที่แท้จริงของเถกิงที่มีต่อแม่ของเธอ ก็เลยสบายใจ ก่อนวันงานแต่งงานของกรรณิการ์ โยทกาได้รู้จักกับ กิ่งกาญจน์ รสิกาญจน์ (สุนิสา เจทท์) น้องสาวของกฤตนัย หญิงสาวที่ผู้ใหญ่ของทั้งสองตระกูลหมายจะให้ได้ครองคู่กับชัชรัณ กิ่งกาญจน์รู้สึกถูกชะตา เอ็นดูโยทกาตั้งแต่แรกเห็น มิตรภาพของทั้งคู่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ในวันงานแต่งงานของเถกิง กับ กรรณิการ์ ทาง เพ็ญศรี กับ คุณผ่อง วางแผนกลั่นแกล้งกรรณิการ์ ให้คู่อริเก่าอย่าง อรัญญา (สุรัตนา ข้องตระกูล) มาอาละวาดในงาน แต่กฤตนัย และโยทการู้เรื่องเสียก่อน ก็เลยวางแผนกับเพื่อนเซม และเจนจันทร์ จัดการจนอรัญญาไม่สามารถมาทำลายพิธีแต่งงานของเถกิงและกรรณิการ์ที่บ้านได้ การแต่งงานผ่านไปได้ด้วยดี โยทกา เริ่มต้นทำงานที่บริษัทของชัชรัณ ทำให้ได้ติดต่อกับ ภุชงค์ (ธนกฤต พานิชวิทย์) ผู้บริหารโรงแรมบลูมูน ลูกชายคนเดียวของ ภูมิ (วิวัฒน์ ผสมทรัพย์) และ ชงโค (ปริศนา กล่ำพินิจ) รวมทั้ง กุสุมา (ณัฐวรา วงศ์วาสนา) นักบริหารจัดการคนเก่ง โดยโยทกาพยายามลุยงานเต็มที่เพื่อลบคำสบประมาทของชัชรัณ ขณะเดียวกันโยทกาก็มักจะคอยไปตอแย ไปในสวนพื้นที่ส่วนตัวของชัชรัณ ซึ่งทุกคนในบริษัทไม่มีใครกล้าไปยุ่ง ขนาดกฤตนัย และ กิ่งกาญจน์ ที่สนิท ยังไม่ค่อยที่จะเข้าไปหาชัชรัณ แต่โยทการู้สึกว่าการยั่วเสือยิ้มยากอย่างชัชรัณ เป็นความสุขอย่างหนึ่งในชีวิต แต่ความขัดแย้งในครอบครัว ระหว่างชัชรัณกับพ่อ ส่งผลไปถึงกรรณิการ์ และโยทกา แม้จะอยู่บ้านเดียวกัน เหมือนยิ่งอยู่ห่างไกลกัน ความอดทนของชัชรัณถึงขีดสุด เมื่องานการกุศลที่เขาจัดขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับแม่ที่จากไป ถูกทำลายเพราะอรัญญามาอาละวาดหาเรื่องกรรณิการ์ในงาน ทั้งนี้แม้จะเป็นแผนร้ายของเพ็ญศรี แต่ก็กระทบทำให้งานที่ชัชรัณอุตส่าห์เตรียมงานมานาน ต้องล้มเหลวไป ชัชรัณโมโหจนไปพักผ่อนและดูงานที่เชียงใหม่ ไม่มีทีท่าจะกลับบ้าน โยทกาตามไปขอร้องให้เขากลับบ้าน แต่ชัชรัณไม่สนใจ โยทกาตื๊อและตามเขาไปทุกที่และต้องไปเสี่ยงอันตราย ช่วยเด็กชาวเขาด้วยกัน ชัชรัณและโยทกาต่างมีความรู้สึกดีต่อกัน แม้จะมีคุณยายผ่อง และ กรรณิการ์ ที่ไม่อยากให้ทั้งคู่ชอบกัน แต่ความรักก็ห้ามกันไม่ได้ แต่อุปสรรคความรักของทั้งคู่ก็มีมากมาย ทั้งเรื่องของกิ่งกาญจน์ ที่ทาง คุณหญิงละออง (ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา) แม่บุญธรรมของกิ่งกาญจน์ ก็พยายามบีบบังคับทุกวิถีทางให้ชัชรัณยอมแต่งงานกับกิ่งกาญจน์ แล้วยังมีภุชงค์ที่ตามจีบโยทกาอีก โดยมีกุสุมาคอยช่วยเหลือ ด้านกฤตนัยก็ไม่เห็นด้วยที่ชัชรัณจะทิ้งกิ่งกาญจน์แล้วมารักโยทกา ทั้งที่กฤตนัยเองก็แอบหลงรักกิ่งกาญจน์ น้องสาวบุญธรรม มานานแล้ว เรื่องราวความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวที่วุ่นวายซับซ้อน และความรักของชัชรัณ กับ โยทกา จะลงเอยอย่างไร

สุดรักสุดดวงใจ 2560

เรื่องย่อ : สุดรักสุดดวงใจ (2560/2017) นายสุข อดีตคนงานก่อสร้าง ที่ผันตัวมาขับรถซาเล้งตระเวนเก็บขยะขายไปวันๆ นายสุขมีบาดแผลลึกในใจ จากการที่ต้องสูญเสียเมียและลูกชายวัยแบเบาะจากเหตุการณ์ไฟไหม้บ้าน ตั้งแต่นั้นเขาก็กลายเป็นคนไร้จุดหมายในชีวิต มีเพียงเหล้าที่คอยปลอบประโลมและเพื่อนคู่ใจสี่ขาอย่างเจ้าเก็บตก สุนัขจรจัดแสนรู้ที่จับพลัดจับผลูมาอาศัยอยู่กับเขาเป็นเพื่อนตายเท่านั้น

แต่แล้ววันหนึ่งชีวิตของนายสุขก็เปลี่ยนไปตลอดกาล เมื่อเขาได้พบกับทารกน้อยเพศชายที่ถูกทิ้งไว้ใกล้กองขยะ เขาถูกชะตาและหลงรักเด็กน้อยในทันที จนตัดสินใจว่าจะเลี้ยงดูเด็กน้อยด้วยตัวเอง แม้จะมีเสียงคัดค้านจาก สุพจน์กับ เต็มดวงสองสามีภรรยาอดีตเจ้านายที่กลายมาเป็นกัลยาณมิตรของเขา และนางเหมือนกับตาหวัง เพื่อนบ้านปากร้ายใจดี แต่นายสุขตัดสินใจแล้ว เขาเฝ้าเลี้ยงดูฟูมฟักเด็กทารกน้อยที่เขาตั้งชื่อให้ว่า”สมโชค” คนนี้อย่างดีที่สุดเท่าที่ชายยากจนคนนึงอย่างเขาจะทำได้ สองชีวิตดำเนินไปภายในกระต๊อบโทรมๆไร้ราคา แต่สองหัวใจของนายสุขและสมโชคกลับเป็นสุขยิ่งนัก

วันเวลาผ่านไปสมโชคคือ”สุดรัก สุดดวงใจ”ของนายสุขสมกับความรักที่เขาทุ่มเทให้ สมโชคเป็นเด็กกตัญญูรู้คุณพ่อมากที่สุด แต่สิ่งเดียวที่สมโชคไม่ชอบก็คือเห็นพ่อกินเหล้ากลับมาบ้านทุกวัน แม้สมโชคจะเพียรอ้อนวอนขอร้องพ่อให้เลิกเหล้ามาตลอด แต่นายสุขไม่เคยตัดใจเลิกได้ตลอดรอดฝั่งสักที เพราะเขาใช้มันเป็นเครื่องมือเพื่อให้ลืมอดีตอันเจ็บปวดที่ตามมาหลอกหลอน เพียงแต่เค้าไม่สามารถบอกเหตุผลนี้ให้สมโชครู้ได้ ครอบครัวสุพจน์กับเต็มดวงมีลูกสาวสองคนคือพิมพ์พลอยคนพี่กับเพียงแพรคนน้อง ทั้งสองคนนิสัยแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน พิมพ์พลอยเป็นเด็กเรียบร้อยอ่อนหวานมีเมตตา ผิดกับเพียงแพรที่ได้รับสมญาว่าเป็นขาเฮี้ยวประจำหมู่บ้าน ชอบกลั่นแกล้งใครต่อใครโดยเฉพาะสมโชค

เพียงแพรมีลิขิตลูกชายนายทวนเจ้าของคิวรถสองแถวหน้าปากซอยเป็นลูกมือคอยกลั่นแกล้งรังแกสมโชคต่างๆนานา แต่นายสุขก็สอนลูกชายว่าอย่าโต้ตอบกับอันธพาล หากหลีกเลี่ยงได้ก็จงหลีกไปไกลๆปัญหาจะได้ไม่บานปลาย ยังดีที่บางครั้งสมโชคได้ วิทยา เพื่อนสนิท รวมถึงจ่อยกับเฟี้ยวเด็กขายพวงมาลัยในชุมชนคอยช่วยเหลือไว้ สมโชคเป็นเด็กเรียนเก่งแม้จะเข้าเรียนช้าเพราะยากจน และโดนเพื่อนล้อเสมอว่าเป็นลูกคนเก็บขยะขี้เมา แต่สมโชคไม่เคยอายเลย

วันหนึ่งขณะที่นายสุขขี่รถซาเล้งกลับจากเก็บของเก่า เขาก็ถูกคุณหมอไชยสิทธิ์ขับรถเฉี่ยวจนได้รับบาดเจ็บ คุณหมอรู้สึกผิดมากจึงพานายสุขไปรักษาที่โรงพยาบาล ต่างกับ วงเดือนภรรยาของคุณหมอที่กลัวว่านายสุขหวังจะมาปอกลอกเงินของสามีเธอ ที่โรงพยาบาลคุณหมอได้เจอกับสมโชคที่มาช่วยให้คุณหมอได้เงินที่วางลืมทิ้งไว้โดยบังเอิญคืน พอรู้ว่าสมโชคเป็นลูกของนายสุข คุณหมอก็ยิ่งชื่นชมในความดีและความกตัญญูของสมโชคที่มีต่อพ่อทันที

นายสุขได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง สร้างความทุกข์ใจให้กับสมโชคเป็นอย่างมาก เขาต้องคอยมาเฝ้าพ่อจนนายสุขกลัวว่าลูกจะเสียการเรียน จึงขอร้องให้คุณหมออนุญาตให้กลับไปรักษาตัวที่บ้านด้วยเหตุผลเรื่องสมโชค หมอไชยสิทธิ์จำใจยอม แต่ก็ออกอาการเป็นห่วงนายสุขมาก ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้วงเดือนเป็นอย่างยิ่ง

นายสุขกลับไปก็ลงแดง จนต้องกลับเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง พิมพ์พลอยได้ยินผู้ใหญ่คุยกันว่าสมโชคไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของลุงสุขก็ตกใจมาก แต่เก็บเป็นความลับไว้คนเดียวไม่ยอมบอกให้เพียงแพรรู้

ลิขิตเหม็นขี้หน้าสมโชคขึ้นทุกวัน จึงนำพวกไปรุมซ้อมจนสมโชคสะบักสะบอม เพียงแพรต่อว่าลิขิตว่าทำเกินไป ลิขิตยิ่งแค้นสมโชค เพราะตนเองแอบชอบเพียงแพรมานาน จึงวางแผนแกล้งสมโชคให้ตกเป็นแพะว่าขโมยของจากร้านขายของเก่า สมโชคโดนตำรวจจับตัวเข้าสถานพินิจ นายสุขรู้ข่าวก็เสียใจเป็นอย่างมาก จนสุพจน์กับชาวบ้านต้องช่วยกันเรี่ยไรเงินเพื่อประกันตัวสมโชคออกมา

นายสุขทำโทษสมโชคให้หลาบจำว่าจนแต่ตัวแต่อย่าให้จนความดี สมโชคกราบเท้าพ่อบอกไม่เคยทำให้สุขผิดหวังขอให้พ่ออย่ามองตนเหมือนคนอื่น นายสุขกอดสมโชค เขาทั้งเสียใจทั้งรักสมโชคยิ่งนัก

นายสุขเริ่มสังเกตเห็นตัวเองมีผื่นขึ้นตามตัวแต่ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก วันหนึ่งนายสุขไอเป็นเลือดและเป็นลมสลบอยู่หน้าคลีนิคหมอไชยสิทธิ์ จนคุณหมอต้องช่วยไว้ แววดาวลูกสาวคุณหมอเห็นเข้าก็สงสารนายสุขมาก

ผู้อำนวยการโรงเรียนจะให้สมโชคไปเรียนที่อื่น เพราะสมโชคมีประวัติเสียจากการเข้าสถานพินิจ สมโชคเสียใจมาก เดินหน้าเศร้ากลับบ้าน นายสุขเห็นสมโชคหลบตาก็ถาม สมโชคน้ำตาไหลบอกว่าพ่อจ๋า เขาไม่ให้หนูเรียนที่นี่แล้ว นายสุขบอกไม่เป็นไร จะส่งเสียให้เรียนจนจบปริญญาให้ได้ แม้ต้องเข้าโรงเรียนเอกชนก็ยอม

นายสุขตั้งใจทำงาน ตั้งใจเลิกเหล้า เพื่อจะได้มีเงินส่งสมโชคเรียนโรงเรียนเอกชน เพียงแพรสงสารนายสุขและสมโชคมาก จนไปรู้ความจริงโดยบังเอิญว่าสมโชคโดนแกล้ง เพียงแพรแอบนำหลักฐานไปบอกครู สมโชคจึงรอดพ้นจากการถูกไล่ออกจากโรงเรียน ทำให้ลิขิตโดนไล่ออกแทน ลิขิตจึงยิ่งแค้นใจหนัก

สมโชคบอกพ่อว่าอยากเรียนหมอจะได้มารักษาพ่อให้หาย นายสุขดีใจตั้งใจจะส่งเสียลูกให้ดีที่สุด แต่ก็ไม่วายถูกกลั่นแกล้งเสมอจากลิขิตและพวก จนทำให้เก็บตกต้องตาย นายสุขเสียใจมากจนต้องเข้าโรงพยาบาลอีกรอบ หมอไชยสิทธิ์เมื่อรู้ว่าสมโชคอยากเป็นหมอ ก็ตั้งใจว่าจะสนับสนุนอย่างเต็มที่ วงเดือนกลัวว่าสามีจะส่งเสียสมโชคจึงร้อนใจยิ่งนัก พยายามขัดขวางทุกวิถีทาง

สมโชคเจอแววดาวที่โรงพยาบาลโดยบังเอิญ แววดาวถูกชะตาสมโชคอย่างมาก เพียงแพรมาเห็นก็นึกขัดใจว่าสมโชคริจะมีแฟน สมโชคโดนลิขิตเตือนว่าอย่ามายุ่งกับเพียงแพรแฟนตน ทำให้สมโชคเข้าใจผิดว่าเพียงแพรชอบลิขิต

นายสุขรู้ตัวว่าสุขภาพของตัวเองย่ำแย่ลงจนเกินเยียวยา แผลพุพองที่ตัวก็เริ่มลามมากขึ้น จึงตัดสินใจขอร้องหมอไชยสิทธิ์ให้ช่วยอุปการะสมโชค หมอไชยสิทธิ์รับปากอย่างเต็มใจแต่ก็กังวลเรื่องวงเดือน สมโชคเสียใจมาก คิดว่าพ่อไม่รักแล้วจึงผลักไสเขา

ลิขิตแอบคบกับต๋อย เด็กในร้านเสริมสวยคุณอั้ม ต๋อยเป็นเด็กสาวใจแตก ที่ถูกผัวทิ้งมาจากต่างจังหวัด คุณอั้มจึงพามาทำงานด้วยที่กรุงเทพ ต๋อยคิดว่าลิขิตรักและจริงใจกับตน จึงหวังจับลิขิตเพื่อจะได้สบายไปทั้งชาติ หารู้ไม่ว่าจริงๆแล้ว ลิขิตเห็นตนเป็นของเล่นเท่านั้น สมโชคโดนพวกลิขิตรุมแกล้งจนจับไข้ เพียงแพรสงสารเลยให้สร้อยพระเพื่อปกป้องสมโชคให้แคล้วคลาดจากสิ่งไม่ดีต่างๆ สมโชคซึ้งใจมาก ใส่ติดตัวไว้ตลอดเวลา

นายสุขกลับมาขี่ซาเล้งจนพลาดไปโดนเศษขยะบาดมือเป็นแผลเหวอะ แต่ก็ฝืนทำงานต่อไป สุขต้องขับไปหาของเก่าไกลกว่าเดิม เพราะเริ่มมีรถรับซื้อของเก่าเข้ามาวิ่งในชุมชน หมอเตือนให้สุขต้องรักษาตัวอย่างจริงจังเลิกเก็บขยะได้แล้ว แต่นายสุขรู้ดีว่าคนจนอย่างเขาไม่มีสิทธิ์หยุดทำมาหากิน นอกจากจะตายไปซะก่อน

ที่โรงเรียนเริ่มมีของของนักเรียนหาย หลายคนคิดว่าเป็นฝีมือสมโชค เพราะสมโชคชอบแยกตัวไปทานข้าวกลางวันคนเดียว จริงๆแล้วสมโชคไม่มีเงินซื้อข้าวที่โรงอาหารจึงต้องห่อข้าวมาทานจากบ้าน เพียงแพรไม่คิดว่าสมโชคเป็นคนทำ เธอคิดว่าเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำ จึงลงมือสืบหาความจริง

นายสุขกลับมาบ้านเห็นป้ายประกาศจากเจ้าของที่ให้ย้ายออก เพื่อจะเอาที่ไปทำห้างสรรพสินค้า สุขกลุ้มใจมาก แต่เก็บไว้เป็นความลับไม่ยอมบอกให้สมโชครู้ นายสุขไอเป็นเลือดจนต้องเข้ารพ.อีกรอบ คราวนี้หมอตรวจพบว่านายสุขเป็นวัณโรคและโรคผิวหนังร้ายแรงที่เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง เนื่องจากได้รับสารพิษสะสมจากการเก็บขยะมานาน สมโชคเมือรู้ว่าพ่อป่วยหนักก็อยากจะออกจากโรงเรียนมาดูแลพ่อให้เต็มที่ เพราะรู้ว่ายังไงตัวเองก็หมดอนาคตที่จะเรียนหมอได้แล้ว แต่หมอไชยสิทธิ์เสนอว่าโอกาสยังมีถ้าสมโชคไปอยู่กับตน

สมโชคจำใจต้องไปอยู่ที่บ้านคุณหมอไชยสิทธิ์ วงเดือนยื่นคำขาดว่าสมโชคเข้ามาอยู่ได้แต่ต้องฟังคำสั่งตนทุกอย่าง และถ้าสอบหมอไม่ได้ต้องยอมออกจากบ้านไป เพราะคิดว่าเด็กจนๆอย่างสมโชคไม่มีปัญญาสอบหมอได้อยู่แล้ว เพียงแพรเข้าใจผิดว่าสมโชคตัดช่องน้อยแต่พอตัวทิ้งนายสุขที่ส่งเสียให้เรียนไม่ไหวแล้วไปหาความสุขสบายที่บ้านคุณหมอ จึงไม่พอใจมาก

ที่บ้านคุณหมอไชยสิทธิ์ วงเดือนแอบกลั่นแกล้งสมโชคทุกทาง จนนางแท้แม่บ้านรู้สึกสงสาร จึงหาทางช่วยสมโชคเท่าที่ทำได้ นอกจากนั้น วงเดือนยังเสี้ยมสอนแววดาว ให้เกลียดสมโชคตามเธอไปด้วย แต่แววดาวยิ่งสงสารสมโชคจับใจ

แววดาวให้ความสนิทสนมกับสมโชคมาก ทำให้เพียงแพรไม่พอใจหาว่าสมโชคลืมตัว พิมพ์พลอยต้องคอยบอกน้องว่าสมโชคไม่ใช่คนแบบนั้น แม้ลึกๆเธอเองก็เสียใจที่เห็นเขาทั้งคู่สนิทสนมกัน เพราะพิมพ์หพลอยก็แอบชอบสมโชคมาตลอด วงเดือนคอยกีดกันไม่ให้แววดาวสนิทกับสมโชค แต่สำหรับแววดาว สมโชคเป็นคนเดียวที่เธอรู้สึกไว้ใจและเป็นที่พึ่งในยามทุกข์จากการที่ถูกวงเดือนคอยวางกรอบบีบบังคับเธอเสมอ

สมโชคพยายามขอออกไปเยี่ยมพ่อบ้าง แต่ก็ถูกวงเดือนแกล้งใช้งาน จนไม่ค่อยได้ไปเยี่ยมพ่อ นายสุขเองก็เฝ้ารอลูกอย่างใจจดจ่อ เพียงแพรเริ่มได้หลักฐานว่าพวกลิขิตเอายาเสพติดมาขายในชุมชน จนทำให้สุพจน์โดนทำร้ายจากลูกน้องที่คลั่งยา หมอลงความเห็นว่านายสุขคงไม่สามารถกลับไปเก็บขยะเหมือนเดิมได้อีกแล้ว ถึงแม้อาการจะดีขึ้นบ้าง วงเดือนยิ่งไม่พอใจ ที่แอบเห็นบิลค่ารักษานายสุขที่หมอไชยสิทธิ์แอบจ่ายโดยปิดไม่ให้คนเองรู้ จึงคิดวางแผนหาทางกำจัดสองพ่อลูกออกไปจากชีวิตครอบครัวตนให้ได้

วงเดือนตัดสินใจแอบทำทีไปเยี่ยมนายสุขที่โรงพยาบาล เพื่อบอกนายสุขว่าให้เลือกเอาจะให้หมอไชยสิทธิ์ ช่วยเหลือใครระหว่างสมโชคกับนายสุข เพราะจะให้มาจ่ายเงินช่วยทั้งสองคนคงไม่ไหว นายสุขตกใจมาก ไม่เคยรู้มาก่อนว่าคุณหมอต้องมาออกเงินค่ารักษาให้ เพราะคิดว่าตนเองใช้สิทธิคนไข้อนาถาได้ทั้งหมดมาโดยตลอด นายสุขคิดหนักถึงคำพูดของวงเดือนจนตัดสินใจหนีออกจากโรงพยาบาลเพื่ออนาคตของสมโชค

สมโชคมาเยี่ยมพ่อที่โรงพยาบาลแต่ก็ไม่พบพ่อแล้ว สมโชคเสียใจมากตามหาพ่อจนทั่วก็ไม่เจอ ข่าวลือเรื่องนายสุขหนีออกจากรพ.แพร่สะพัดไปทั่ว เพียงแพรต่อว่าสมโชคว่าเป็นเพราะเขาไม่ค่อยมาเยี่ยมพ่อทำให้นายสุขน้อยใจจนต้องหนีไป แต่หมอไชยสิทธิ์คิดว่ามันต้องมีเหตุผลอะไรมากกว่านั้น

นายสุขหนีไปแอบดูสมโชคอยู่ที่บ้านคุณหมอไชยสิทธิ์โดยที่สมโชคไม่รู้ตัว เขาไม่รู้ว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เห้นหน้าลูกหรือเปล่า นายสุชไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน เลยซมซานแอบไปนอนพักที่บ้านเก่าในเวลากลางคืน จนเพียงแพรแอบรู้เลยพาสมโชคมารอเจอพ่อ พวกลิขิตได้โอกาสหวังกำจัดสมโชคให้สิ้นซาก โดยแอบเอายาเสพติดไปซุกในบ้าน พอเห็นสมโชคมารอเจอพ่ออีก ก็โทรเรียกตำรวจมาเพื่อจับสมโชค

สมโชคตกใจมากเมื่อตำรวจค้นเจอยาเสพติดในบ้าน ในขณะที่ตำรวจกำลังจะพาตัวสมโชคไปที่โรงพัก นายสุขก็เข้ามาสารภาพตำรวจและทุกคนว่ายาเสพติดทั้งหมดเป็นชองเขาเอง สมโชคไม่เชื่อ นายสุขกลัวสมโชคจะทำให้ตำรวจไข้เขวจึงตัดสินใจบอกความจริงว่าสมโชคไม่ใช่ลูกแท้ๆของตน แต่เป็นตัวซวยที่ทำให้ตนเจอแต่เรื่องเดือดร้อน สมโชคตกใจจนสิ้นสติ ตำรวจจับนายสุขเข้าคุก เพียงแพรเข้าใจทันทีว่านายสุขไม่มีทางยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ยอมติดคุกแทนสมโชค เพื่อให้สมโชคไม่เสียอนาคต

สมโชคเสียใจมากที่รู้ความจริง จนอยากจะลืมชื่อนายสุขออกไปจากใจ แต่ได้เพียงแพรกับหมอไชยสิทธืเตือนสติ สมโชคอยากไปเยี่ยมพ่อในคุก แต่นายสุขไม่อยากให้ลูกมาเห็นตนในสภาพนี้ นายสุขขอแค่ให้สมโชคตั้งใจเรียนสอบหมอให้ได้อย่างที่หวังก็พอใจแล้ว วงเดือนหาเรื่องไล่สมโชคออกจากบ้านโดยอ้างเหตุผลว่าเป็นห่วงแววดาว กลัวสมโชคเอายาเสพติดมาไว้ในบ้าน หมอไชยสิทธ์จนปัญญาเลยพาสมโชคออกไปอยู่ที่คลีนิคแทน สมโชคพยายามตั้งใจเรียนอย่างเต็มที่เพื่อพ่อและช่วยงานที่คลีนิคคุณหมออย่างดีที่สุด

หมอไชยสิทธิ์และสุพจน์พยายามหาทางช่วยนายสุขออกมาจากคุก พิมพ์พลอยเป็นห่วงสมโชคมาก จนวิทยาที่แอบชอบพิมพ์พลอยอยู่เข้าใจได้ทันทีว่าพิมพ์พลอยไม่ได้มีใจให้ตนเลย เพียงแพรเองก็รู้สึกได้จึงตัดสินใจถามพี่สาวว่าแอบอบสมโชคใช่หรือไม่ พิมพ์พลอยยอมรับ เพียงแพรอยากจะเอาใจช่วยพี่สาว แต่ก็รู้สึกแปลกๆในหัวใจ เธอไม่เข้าใจเลยว่าความรู้สึกแบบนั้นคืออะไร

ลูกน้องในแก๊งลิขิตถูกจับวิสามัญเรื่องยาเสพติด เพียงแพรแน่ใจแล้วว่าลิขิตกับพวกต้องยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่นอน เฟี้ยวที่เพิ่งหายป่วยเล่าให้เพียงแพรฟังว่าตนเห็นพวกนั้นลับๆล่ออยู่ที่บ้านลุงสุข ก่อนลุงสุขจะถูกจับ แต่ไม่ได้เอะใจอะไรประกอบกับป่วยเพิ่งหายจึงเพิ่งได้มาบอก เพียงแพรเห็นทางรอดของสุขอยู่ไม่ไกล

เฟี้ยวให้การเป็นพยานว่าสุขถูกกลั่นแกล้ง ศาลจึงยกฟ้องทำให้นายสุขพ้นความผิด วันที่สุขถูกปล่อยตัวสมโชคตื่นเต้นมาก ตื่นแต่เช้าเพื่อไปรับพ่อ เมื่อเจอพ่อ สมโชครีบวิ่งเข้าไปกอด ทุกคนซึ้งใจกับความรักของสองพ่อลูก สุพจน์เสนอให้นายสุขไปอยู่ที่บ้านของตน เพราะบ้านนายสุขถูกเจ้าของที่รื้อไปแล้วเหลือเพียงแค่ซาเล้งคู่ใจของนายสุขที่เพียงแพรไปเก็บเอามาคืนไว้ให้ได้เท่านั้น

ครอบครัวสุพจน์พานายสุขกับสมโชคไปพักผ่อนกันที่ชายทะเล เป็นโอกาสให้สองพ่อลูกได้ปรับความเข้าใจกัน เมื่อสมโชคได้รู้เรื่องราวทั้งหมดในชีวิตสุขว่าผ่านความยากลำบากอะไรมาบ้าง ก็ยิ่งรักพ่อสุดหัวใจ สมโชคยิ่งเอาใจใส่ดูแลพ่อไม่ห่าง ทำให้นายสุขมีความสุขยิ่งนัก

พิมพ์พลอยเห็นความดีของวิทยามากขึ้น เพราะได้วิทยามาช่วยดูแลยามไม่สบาย และแน่ใจแล้วว่าสมโชคไม่ได้มีใจให้ตนเลย สมโชคมาเจอแววดาวที่ชายหาดโดยบังเอิญ เพราะคุณหมอพาครอบครัวมาทะเลเช่นกัน เพียงแพรเห็นสมโชคคุยกับแววดาวริมทะเล ก็เจ็บแปลบ เข้าใจหัวใจตัวเองแล้วว่าเธอรักสมโชคมาตลอด

เมื่อกลับจากทะเลนายสุขมาพักอยู่ที่กระต๊อบริมบึงของบ้านสุพจน์ สมโชคอยากจะย้ายมาอยู่ดูแลพ่อ แต่สุขบอกให้อยู่ช่วยงานคุณหมอที่คลีนิคเพื่อตอบแทนบุญคุณ พร้อมทั้งเตือนว่าอย่าสนิทสนมกับแววดาวให้มาก เดี๋ยวคนจะครหาทำให้แววดาวซึ่งเป็นลูกผู้มีพระคุณเสียหาย สมโชคบอกพ่อว่าเขาไม่เคยคิดอะไรกับแววดาวเลย ในใจทั้งหมดของเขาคิดถึงแต่เรื่องพ่ออย่างเดียวเท่านั้น

นายสุขตัดสินใจหนีออกจากกระต๊อบกลางดึก แต่ครั้งนี้เพียงแพรมาเห็นเข้าพอดี เพียงแพรพยายามห้ามนายสุข แต่นายสุขบอกแต่เพียงว่าถ้าเขาอยู่สมโชคไม่มีวันได้เรียนแน่ๆ ขอให้เชื่อว่าที่ทำทุกอย่างนี้ก็เพื่อสมโชค พร้อมกับฝากฝังให้เพียงแพรช่วยดูสมโชคด้วยให้ตั้งใจเรียน อย่าทำให้คุณหมอผิดหวัง เพียงแพรถามว่าเราจะได้เจอกันอีกไหม นายสุขมั่นใจว่าเขาต้องได้เจอกับเพียงแพรอีกแน่นอน

สมโชคเสียใจมากที่พ่อหนีเขาไปอีกแล้ว แต่คุณหมอปลอบใจสมโชคว่าสักวันนายสุขต้องกลับมาอย่างแน่นอน ให้สมโชคตั้งใจเรียนเพื่อพ่อ ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น เพียงแพรเห็นใจสมโชคมากขึ้น วงเดือนอยากไล่สมโชคออกจากคลีนิคจึงวางแผนใส่ร้ายสมโชคแต่ไม่สำเร็จ แต่วงเดือนไม่ยอมแพ้ง่ายๆ

ณัฐกานต์แม่ที่แท้จริงของสมโชคกลับมาจากเมืองนอก เพื่อตามสามีมหาเศรษฐีเจ้าของโครงกรบ้านจัดสรรมาทำงานที่ชุมชนของสมโชค ณัฐกานต์รู้สึกคุ้นเคยกับแถวนี้อย่างประหลาด ฉุกคิดได้ว่าน่าจะเป็นที่ที่เธอถูกพรากจากลูกมาด้วยความไม่ตั้งใจ จึงลองเดินตามหาเด็กผู้ชายที่น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกของเธอ ทันทีที่เห็นสมโชค ด้วยสายสัมพันธ์ของแม่เธอแน่ใจเลยว่า เด็กคนนี้เป็นลูกของเธอ

ณัฐกานต์ว่าจ้างนักสืบจนรู้เรื่องราวของสมโชค เธอตามหานายสุขเพื่อบอกความจริง ณัฐกานต์เจอสุขที่ไปอาศัยอยู่ที่วัด นายสุขไม่เชื่อหาว่าณัฐกานต์มาหลอกลวง เขาจึงตัดสินใจหนีออกจากวัดไปเร่ร่อนอยู่ข้างนอก เพื่อไม่ให้ใครมาพรากลูกไปจากเขาได้อีก

ญัฐกานต์ตัดสินใจบอกความจริงกับหมอไชยสิทธิ์แทน เธอยินดีถ้าคุณหมอจะขอตรวจDNA เพื่อพิสูจน์ความจริง แต่หมอเสนอว่าตอนนี้สมโชคคงจะรับเรื่องแบบนี้ไม่ได้ รอให้สมโชคสอบเข้ามหาวิทยาลัยได่ก่อน น่าจะเป็นจังหวะที่เหมาะกว่า

โครงงานกลุ่มที่สมโชค เพียงแพร และวิทยา ร่วมกันทำ ได้รางวัลชนะเลิศ ทำให้พวกเขาต้องขึ้นไปรับรางวลบนเวทีระดับประเทศ เพียงแพรเจอสุขโดยบังเอิญจึงบอกให้สุขรู้ สุขดีใจมาก เพียงแพรบอกให้สุขไปร่วมแสดงความยินดี สมโชคต้องดีใจอย่างแน่นอน วันงานนายสุขแต่งตัวด้วยชุดที่ดีที่สุดที่เขามี เขาซื้อดอกไม้ที่เขารู้สึกว่ามันสวยที่สุดเพื่อจะนำไปมอบให้กับลูกชายสุดที่รักของเขา

สมโชคตั้งตารอพ่อด้วยความตื่นเต้น แต่จนแล้วจนรอดพ่อก็ไม่มาสักที เพียงแพรเห็นสมโชคร้อนรนจึงออกไปดูนายสุขให้ก็เห็นไกลๆว่านายสุขถูกรปภ.กันไม่ให้เข้างาน พร้อมกับลากออกไปข้างนอก เหลือทิ้งไว้แต่เพียงดอกไม้ที่ตอนนี้เหี่ยวเฉาแล้วตกอยู่เท่านั้น

วงเดือนเสนอเงินแสนให้ ต๋อย แลกกับการช่วยทำลายสมโชค วงเดือนวางแผนให้ต๋อยแอบวางยาสมโชคแล้วลอบเข้าไปจัดฉากให้คนคิดว่าสมโชคทำเรื่องบัดสีกับต๋อยถึงในคลีนิค ลิขิตสนับสนุนต๋อยเต็มที่เพราะหวังทำลายสมโชคอยู่แล้ว คราวนี้แผนของวงเดือนลุล่วงไปด้วยดี แม้สมโชคจะปฏิเสธ แต่คนส่วนมากก็เชื่อไปแล้ว เรื่องนี้ก็ทำให้เขาเสื่อมเสียอย่างหนัก จนถึงกับจะถูกไล่ออกจากโรงเรียน

แต่หมอไชยสิทธิ์และสุพจน์ไม่เชื่อว่าสมโชคจะทำเรื่องแบบนี้จึงตัดสินใจให้คุณณัฐกานต์เข้ามาช่วยเหลือ เนื่องจากสามีเธอเป็นผู้บริจาคที่ดินที่สร้างโรงเรียน สมโชคจึงรอดพ้นจากการถูกไล่ออกมาได้อีกครั้ง คุณหมอพาสมโชคไปกราบขอบพระคุณคุณณัฐกานต์ที่บ้าน คุณณัฐกานต์ตื้นตันใจมากที่ได้เจอสมโชคใกล้ๆ แม้จะยังไม่สามารถบอกความจริงกับสมโชคได้ก็ตาม

สมโชคสอบเข้าเรียนหมอได้สมใจ เพียงแพรสอบติดพยาบาล ส่วนวิทยาสอบเข้าคณะวิศวะ เรื่องราวดูเหมือนจะคลี่คลายไปด้วยดี ถ้าต๋อยไม่พบว่าตัวเองตั้งท้อง คุณอั้มเรียกร้องให้สมโชครับผิดชอบต๋อยกับลูกด้วยการจัดงานแต่งงาน ดีที่ได้คุณณัฐกานต์กับสามีช่วยไว้ ขอให้ต๋อยคลอดลูกออกมาก่อนจะได้ตรวจDNA ถ้าเป็นลูกจริงจะทำตามที่คุณอั้มต้องการทุกอย่าง

ต๋อยรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองตั้งท้องกับลิขิต ลิขิตซ้อนแผนกลับมาแบลคเมล์วงเดือน เพื่อเรียกเงินเป็น2เท่า แต่วงเดือนก็ฉลาดพอที่จะวางแผนแบลคเมล์ลิขิตกลับ โดยขู่ให้ลิขิตทำยังไงก็ได้ที่จะทำให้ผลตรวจDNA ออกมาว่าสมโชคเป็นพ่อของลูกต๋อย ไม่งั้นสมโชคจะกลายเป็นผู้บริสุทธิ์อย่างแน่นอน

สุขกลับมาหาลูก ในสภาพที่ป่วยหนัก เขารู้ว่าในยามนี้สมโชคต้อการกำลังใจอย่างมาก สุขบอกกับลูกว่าจะไม่มีวันทิ้งลูกไปไหนอีกอย่างแน่นอน และไม่เชื่อว่าสมโชคจะทำเรื่องเลวร้ายอะไรได้ ทำให้สมโชคกลับมีกำลังใจยิ่งนัก

คุณหมอพบว่าอาการของสูขเข้าสู่ระยะร้ายแรงจนอาจต้องตัดแขนทิ้ง สุขขอให้หมออย่าเพิ่งบอกสมโชค กลัวลูกจะกลุ้มใจ สมโชคเรียนดีจนทำให้สุขชื่นใจมาก

แววดาวเริ่มแน่ใจว่าแม้จะพยายามทำอย่างไรก็ตามสมโชคก็ไม่เคยมีใจให้เธอ จึงพยายามตัดใจเพื่อหลีกทางให้สมโชคได้สมหวังกับเพียงแพร

วงดือนมีอาการโรคหัวใจกำเริบ แต่สมโชคบังเอิญช่วยไว้ได้ทันพอดี ทำให้วงเดือนซึ้งใจมาก ที่สมโชคช่วยชีวิตตนไว้ จึงตัดสินใจสารภาพเรื่องราวทั้งหมด สมโชคจึงพ้นมลทิน นายสุขกับลูกไม่โกรธวงเดือน สมโชคยืนยันว่าสำหรับเขาครอบครัวคุณหมอทุกคนเป็นผู้มีบุญคุณกับเขาเสมอ

ต๋อยคลอดลูกก่อนกำหนด และสำนึกได้ว่าลิขิตเองไม่เคยมาดูดำดูดีเธอเลย ต๋อยเสียใจมากที่ลิขิตเห็นเธอเป็นแค่เครื่องมือใช้ทำลายสมโชค ในขณะที่สมโชคเองถึงจะถูกต๋อยทำให้ชีวิตเกือบพังแต่ก็ไม่เคยทำไม่ดีกับเธอ ตรงกันข้ามยังมีน้ำใจกับเธอมากกว่าลิขิตด้วยซ้ำ เมื่อลิขิตบังคับให้ต๋อยทำลายสมโชคอีก ต๋อยจึงมีปากเสียงกับลิขิติอย่างรุนแรง จนเผลอแทงลิขิตเสียชีวิต

ต๋อยต้องเข้าไปรับโทษในคุก พ่อของลิขิตเสนอตัวรับอุปการะหลานไปเลี้ยง อั้มรู้สึกผิดมากที่ต๋อยทำให้สมโชคแปดเปื้อน

ในที่สุดสมโชคก็เรียนจบหมอคว้าปริญญาให้พ่อได้สมใจ เขานำใบปริญญามาให้พ่อตามที่ฝัน วันนั้นเป็นวันที่นายสุขและสมโชคมีความสุขที่สุดในชีวิต

สมโชคเรียนเก่งจนได้รับทุนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ แต่สมโชคไม่อยากทิ้งพ่อไปไหน นายสุขพูดให้ลูกชายได้คิดว่าสมโชคต้องเรียนต่อไม่ใช่เพื่อนายสุขคนเดียว แต่เพื่อนำความรู้ที่ได้กลับมาช่วยเหลือคนอีกมากมายในประเทศของเรา หมอไชยสิทธิ์รับปากสมโชคว่าจะดูแลนายสุขเองอย่างดีที่สุด เพียงแพรก็ให้สัญญาว่าจะช่วยดูแลพ่อแทนเขา สมโชคจึงตัดสินใจไปเรียนต่อ

ณัฐกานต์ร่างกายทรุดหนักจากโรคประจำตัว นายสุขจึงตัดสินใจบอกความจริงกับสมโชค ว่าคุณณัฐกานต์ก็คือแม่ที่แท้จริงของเขา ตอนแรกสมโชครับไม่ได้ แต่นายสุขกับคุณหมอก็ช่วยกันพูดให้สมโชคเข้าใจ นายสุขตัดสินใจยกสมโชคให้คุณณัฐกานต์ แต่สมโชคเข้าไปกราบขออยู่ดูแลพ่อเหมือนเดิม แต่จะตอบแทนบุญของคุณณัฐกานต์ไม่ให้บกพร่อง

ในขณะที่สมโชคเรียนต่ออยู่ที่ต่างประเทศ เพียงแพรคอยส่งข่าวให้สมโชครู้เรื่องพ่อไม่เคยขาด แต่อีกเพียง2เดือนก่อนสมโชคจะเรียนจบ นายสุขก็เสียชีวิตลง เพียงแพรตัดสินใจไม่บอกความจริงกับสมโชคเพราะรู้ว่าสมโชคจะเรียนไม่จบแน่ จึงตัดสินใจทำให้สมโชคเข้าใจว่านายสุขยังมีชีวิตอยู่ต่อไป

เมื่อสมโชคกลับมาเขาก็ได้รู้ความจริงทั้งหมด สมโชคเสียใจมาก พาลต่อว่าเพียงแพรที่หลอกลวงเขา สมโชคเสียใจเรื่องพ่อจนไม่มีแก่ใจจะทำอะไรทั้งสิ้น หมอไชยสิทธิ์ต้องเตือนสติว่าเขาเสียพ่อไปแล้วก็จริง แต่เขายังมีคำสอนของพ่อหลวงให้ยึดมั่น ให้เดินตามรอยในการทำคุณประโยชน์เพื่อแผ่นดิน สมโชคจึงคิดได้

ณัฐกานต์ตั้งใจจะเปิดคลีนิคใหญ่โตให้สมโชค แต่สมโชคตัดสินใจแล้วว่าจะเปิดคลีนิคในชุมชนที่เขาเติบโตมา เพื่อรักษาคนยากจน เพียงแพรยินดีไปช่วยสมโชคที่คลีนิค วิทยาขอพิมพ์พลอยแต่งงาน แววดาวไปเรียนต่อต่างประเทศ โดยมีคุณหมอกับคุณวงเดือนตามไปอยู่ด้วย

คุณหมอหนุ่มกับพยาบาลสาวร่วมมือกันเยียวยารักษาคนไข้สุดกำลังมิได้เห็นแก่เงินทองลาภยศ คุณหมอสมโชคบอกกับตัวเองว่าเขาทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อสังคม และเพื่อพ่อที่พร่ำสอนเขามาเสมอว่า...

“สักวันที่เจ้าเติบโต บนทางที่ยาวไกล จำไว้ว่าเจ้าต้องเป็น..คนดี”

อกธรณี 2560

เรื่องย่อ : อกธรณี (2560/2017) รถสามล้อถีบที่ชายหนุ่มชาวกรุง ลอย (เขตต์ ฐานทัพ) นั่ง กำลังผ่านโบสถ์พราหมณ์และหอพระอิศวรมาถึงตลาดท่าม้าและเบรกหยุดลงทันที ทันใดนั้น กำไล (ทับทิม-อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) ที่กำลังรำนำหัวขบวนได้เจอกับลอย ด้วยความดีใจเธอทิ้งขบวนมาหาเขา และบอกว่าลอยมาได้เวลาดอกนุ่นบานพอดี คำพูดนั้นดึงให้ภาพในอดีตหวนกลับมาสู่ลอย คืนดอกนุ่นบานมีความหมายกับเขายิ่งนัก ย้อนกลับไปในวัยเด็ก ลอย บุญลือ เด็กชายผู้ไม่มีพ่อแม่อาศัยอยู่กับ ย่าจันทร์ (เมตตา รุ่งรัตน์) ลอยเป็นคนขี้เกียจเรียน แต่ย่าก็ไม่ได้ให้เลิกเรียน ในชีวิตรั้วโรงเรียนลอยเป็นไม้เบื่อไม้เมากับหัวโจกลูกนายอำเภอ ถวิล วิทยพันธุ์ (อู-ภาณุ สุวรรณโณ) และลูกไล่ 2 คนชื่อ สมพงษ์ (วรพรต ชะเอม) กับ เอียด (ฉัตรมงคล บำเพ็ญ) ตลอดเวลา วันหนึ่ง โฉม (ปิยะดา เพ็ญจินดา) แม่ของลอยจะมารับไปอยู่ด้วย ย่าจึงตัดสินใจเล่าเรื่องของพ่อแม่ให้ลอยฟัง ว่าลอยเป็นลูกนายอำเภอพ่อเดียวกับถวิลทำให้ลอยรู้สึกตกใจมาก ด้านชีวิตการเรียนลอยโชคดีที่มี สารภี (ไอซ์-อธิชนัน ศรีเสวก) พี่สาวของกำไลคอยช่วยติวหนังสือให้ ความสนิทสนมของทั้งคู่กลายเป็นความรักเมื่อทั้งคู่โตเป็นหนุ่มสาว ชีวิตของลอยกำลังดำเนินไปด้วยดี จนวันหนึ่งลอยได้รับข่าวร้ายที่สุดในชีวิตว่าย่าจันทร์ตาย ลอยจึงต้องใช้ความรู้ในการทำขนมจากย่าจันทร์ทำขนมขาย โดยมีสารภีและกำไลเป็นผู้ช่วย ลอยส่งเสียตัวเองจนเรียนจบมัธยม 6 เขาบอกสารภีว่าจะไปเรียนต่อที่โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย กรุงเทพฯ เพื่อให้มีความรู้สูง ๆ จะได้กลับมาสร้างเนื้อสร้างตัวเป็นหน้าเป็นตาแก่สารภี ตลอดเวลาที่อยู่กรุงเทพฯ ลอยและสารภีเขียนจดหมายรักถึงกันเสมอ ณ วันนี้ ลอยกลับมาบ้านเกิด ลอยให้ผู้ใหญ่ไปสู่ขอสารภีจาก ผู้ใหญ่คล้อย (วันชัย เผ่าวิบูล) พ่อของสารภีและกำไล แม้ผู้ใหญ่คล้อยจะไม่เต็มใจแต่ก็ไม่ขัดขวางความรักของลูกสาว ก่อนถึงวันแต่งงาน ครูสมพงษ์ ผู้ที่แอบรักสารภีก็ยังไม่เลิกหาทางช่วงชิงสารภีจากลอยทุกวิถีทาง วันหนึ่งคล้อยมีธุระไม่อยู่บ้านแต่ด้วยความเป็นห่วงภรรยา นางผ่อง (วรารัตน์ เทพโสธร) แม่ของสารภีกับกำไล เพราะเป็นโรคหัวใจเจ็บออด ๆ แอด ๆ อยู่ นายคล้อยจึงย้ำให้สารภีดูแลแม่เพียงคนเดียวเท่านั้น สารภีกีดกันไม่ให้กำไลดูแลแม่ กำไลร้องไห้หนักมากจนเผลอหลับไป กำไลตื่นเพราะเสียงฟ้าร้องเธอจึงเดินไปห้องสารภี เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นในความมืด เมื่อลอยเข้าใจผิดคิดว่ากำไลเป็นสารภีจึงกอดจูบ ซึ่งด้วยความรักที่ฝังลึกในใจทำให้กำไลยินยอมมอบความสาวให้แก่ชายที่เธอรักโดยมิหวังผลตอบแทนใด ๆ และจะไม่มีวันที่ใครจะรู้ นอกจากเธอคนเดียว แต่เมื่อรุ่งสางทันทีที่สารภีเปิดประตูกลับเข้าห้องนอนตนเองภาพที่เห็น คือ ลอยนอนกอดกำไลอยู่บนเตียงของเธอ ! เธอถอดแหวนหมั้นปาใส่หน้าลอย ประกาศตัดขาดลอย ทำให้นางผ่องโรคหัวใจกำเริบเสียชีวิต คล้อยและสารภีโกรธกำไลและลอยมาก ถึงกับประกาศไล่กำไลออกจากบ้านและห้ามมาร่วมงานศพผู้เป็นแม่ กำไลร้องไห้ซบลงกับผืนดินกราบศพแม่ น้าแม้น (ครูมืด-ประสาท ทองอร่าม) มาชวนกำไลให้ไปอยู่ที่บ้านด้วยกัน ลอยรู้สึกผิดขอโอกาสชดใช้สิ่งที่เขาทำด้วยการขอกำไลแต่งงาน กำไลไม่ตกลงและหนีไปโดยทิ้งจดหมายบอกว่าเธอไม่มีวันแต่งงานกับลอยเด็ดขาด กำไลไปอยู่บ้าน เมี้ยน น้องสาวของแม้นอีกหมู่บ้านหนึ่ง วันหนึ่งสารภีรู้สึกตัวว่าท้องจึงต้องยอมแต่งงานกับลอยทั้งที่ความรักกลายเป็นความเกลียดไปแล้ว เป็นช่วงเดียวกับลอยได้งานที่กรุงเทพฯ คล้อยจึงขายที่นาตามลอยและสารภีไปอยู่ที่กรุงเทพฯ ที่กรุงเทพฯ ชีวิตคู่ของลอยกับสารภีไม่สู้ดีนัก เพราะความฟุ้งเฟ้อของสารภี เงินเดือนลอยไม่พอให้เธอใช้ สารภีจึงต้องไปทำงานเป็นพนักงานขายของในห้างสรรพสินค้า ทำให้ได้เจอกับ ถวิล วิทยพันธุ์ หุ้นส่วนใหญ่ของห้างฯ สารภีฟุ้งเฟ้อเผลอใจไปกับถวิล เมื่อสารภีคลอดลูกสาวเธอไม่สนใจลูกเลย ลอยรู้สึกผิดหวังมากเขาขอให้สารภีเลี้ยงดูลูกบ้างเพื่อต่อไปลูกจะได้รัก สารภีหัวเราะเยาะ สารภีบอกจะให้เงินซื้อนมแลกกับใบหย่า และบอกว่าลอยเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหารจะอยู่ได้อีกไม่เกินสองปี ลอยโกรธทำร้ายสารภี แต่เมื่อได้ยินเสียงลูกร้องลอยจึงได้สติ ลอยตัดสินใจหย่าเพื่อลูก สารภีแถมเงินให้หนึ่งหมื่นบาทสำหรับใบหย่า ขณะที่กำไลอธิษฐานขอพรให้ลอยที่พระประธาน เมื่ออธิษฐานเสร็จกำไลได้ยินเสียงเด็กร้องอยู่ด้านหลังพระประธาน แล้วลอยก็ปรากฏตัว ลอยเล่าเรื่องสารภีให้กำไลฟัง ลอยบอกกำไลว่าเขาเป็นมะเร็งจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานกำไลตกใจแทบสิ้นสติ เธอบอกว่าชีวิตลอยมีค่าสำหรับเธอ เธอขอให้ลอยแต่งงานกับเธอ แม้ลอยจะมีชีวิตอยู่ได้แม้อีกเพียงวันเดียวก็มีค่ายิ่งสำหรับเธอ ลอยกอดกำไลร้องไห้ซาบซึ้งในความดีอันเสมอต้นเสมอปลายของเธอ ลูกของลอย หลวงพ่อที่วัดป่าขอมตั้งชื่อให้ว่า ฬุริยา ชื่อเล่น ไผ่ (ชิงชิง-คริษฐา สังสะโอภาส) กำไลเป็นคนทำงานหาเงินเข้าบ้าน วันหนึ่งในขณะกำไลและลูกหลับ ลอยตัดสินใจออกจากบ้านเพราะทนให้กำไลต้องหาเลี้ยงตนเองต่อไปไม่ได้ เขาเขียนจดหมายขอให้กำไลเลี้ยงลูกให้ด้วย การจากไปของคนที่เธอรักทำให้กำไลทุกข์อย่างที่สุด ทุกวันกำไลจะเฝ้าอธิษฐานกับพระประธานที่โบสถ์ และที่รองรับทุกข์อีกแห่งของกำไล คือ ผืนแผ่นดิน กำไลได้แต่ซบหน้าร้องไห้กับแผ่นดิน เหมือนซบหน้ากับอกแม่ แต่นี่คือ อกแม่ธรณี….อกธรณี…ที่คอยซับน้ำตาให้กำไล กำไลเลี้ยงไผ่ด้วยความหวังว่าสักวันลอยจะกลับมา เมื่อไผ่โตเป็นสาว ไผ่มีความแก่นแก้วห้าวเฮี้ยว มีคู่หูเป็นชายรุ่นโตกว่าชื่อ ลออ (เติมมงคล หวังในธรรม) พลตรีมหศักดิ์สุนทร (ตฤณ เศรษฐโชค) และ คุณหญิง (รัตนา ข้องตระกูล) ต่อว่า วิมาน (บิว-วรพล จินตโกศล) ลูกชายที่ไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่เด็กและจบเกษตรกลับมา แต่ยังทำตัวเป็นหนุ่มเจ้าสำราญไม่ยอมทำงาน คุณหญิงต้องการให้วิมานแต่งงานกับ โลมตา (ฟิลม์-ฉัตรดาว สิทธิผล) สาวนักเรียนนอกลูกสาว ถวิล วิทยพันธุ์ วิมานไม่เต็มใจและหนีงานแต่งงานโดยเขียนจดหมายบอกสาเหตุที่หนีพิธีแต่งงานว่า เพราะเขาได้ยินโลมตาพูดกับเพื่อนว่าเธอแต่งงานกับวิมานเพื่อเงิน เพราะตอนนี้บ้านเธอกำลังล้มละลาย วิมานบอกพ่อว่าเขาขอใช้ชีวิตอย่างคนจนอย่างไม่เป็นลูกพลตรี เพื่อจะพบผู้หญิงที่รักตัวเขาไม่ใช่รักเงิน วิมานไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ จ.นครศรีธรรมราช เพราะ นพ.สินสิริ (นคินธร ภาษยวรรณ์) เพื่อนสนิทเป็นแพทย์ประจำอยู่ที่นั่น ที่นี่วิมานได้พบกับ ฬุริยา หรือ ไผ่ เพียงครั้งแรกที่เจอกันวิมานก็คิดถึงเธออย่างฝังใจ เมื่อกำไลได้เจอกับวิมานกำไลรู้สึกทันทีว่าผู้ชายคนนี้กำลังคิดอะไรกับลูกสาวของตนแน่ กำไลได้พูดคุยถามประวัติวิมานว่าเป็นใคร พักที่ไหน วิมานตอบข้อซักถามของกำไลว่าเขาชื่อ ธง มีฐานะยากจนจึงมาขออาศัยอยู่กับพระที่วัดป่าขอม แต่แล้วความจริงของวิมานถูกเปิดเผยขึ้น เมื่อวิมานถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัสต้องเข้ามารักษาตัวที่กรุงเทพฯ ไผ่เป็นห่วงวิมาน จึงหาทางไปเยี่ยมไผ่ที่กรุงเทพฯ ทันทีที่ไปถึงห้องพักของวิมานไผ่พบกับโลมตา โลมตาไม่ยอมให้ไผ่เยี่ยมวิมาน ไผ่จึงบอกว่าเธอเป็นคนรักของเขา โลมตาเหยียดเย้ยไผ่ว่าวิมานไม่มีวันมีคนรักเป็นสาวบ้านนอกเป็นอันขาด ไผ่และกำไลช็อกเมื่อรู้ว่า ธง เด็กวัดคนนั้นแท้จริงเป็นหนุ่มนักเรียนนอกลูกมหาเศรษฐี โลมตาบอกว่าวิมานกับเธอกำลังจะแต่งงานกัน ไผ่ร้องไห้ชวนกำไลกลับ โลมตาเล่าเรื่องไผ่ให้ถวิลและสารภีฟัง สารภีคิดว่าสาวบ้านนอกนั้นเป็นลูกสาวของกำไลน้องสาวของเธอ โดยที่เธอไม่ได้คิดว่าแท้จริงแล้วไผ่คือลูกสาวของเธอที่เกิดกับลอย สารภีจึงช่วยโลมตาลูกเลี้ยงอย่างเต็มที่ โดยให้เอียดคนที่ทำร้ายวิมานไปทำร้ายไผ่และกำไลขั้นรุนแรง กำไลได้งานทำที่บ้านฝรั่ง เอียดลอบวางยาไผ่และกำไลจนหมดสติแล้วราดน้ำมันจุดไฟเผาบ้าน แต่ฝนตกลงมาอย่างหนักดับไฟก่อนที่จะไหม้สองแม่ลูก ทนายของ โฉม (ปิยะดา เพ็ญจินดา) แจ้งสารภีว่าโฉมได้ทำพินัยกรรมยกเงินจำนวนมากให้ลอย สารภีดีใจมากบอกว่าลอยตายแล้ว ทนายบอกว่าสารภีไม่มีสิทธิ์รับเพราะแต่งงานใหม่ ผู้ได้รับมรดกคือ ลูกของลอยเท่านั้น สารภีบอกว่าลอยไม่มีลูก แต่ทนายบอกว่าสืบมาแล้วว่าลอยมีลูกสาวกับสารภีชื่อไผ่ และให้สารภีตามไผ่มายืนยัน สารภีอ้อนวอนขอไผ่คืนจากกำไล แต่กำไลปฏิเสธและด่าอย่างเจ็บแสบ สารภีหว่านล้อมให้เห็นแก่อนาคตของไผ่ กำไลขอสารภีพบพ่อ อยากกราบเท้าขออภัยพ่อ แต่สารภีโกหกว่าพ่อไม่เคยอยากพบกำไล พ่อไม่ยกโทษให้กำไล ทั้ง ๆ ที่นายคล้อยพูดตลอดเวลาที่มาอยู่กรุงเทพฯ ว่าอยากพบกำไล และไม่ถือโทษกำไลแล้ว กำไลตัดสินใจจากไผ่ไปทิ้งจดหมายเขียนด้วยถ้อยคำที่ไร้เยื่อใย และให้นามบัตรของสารภีสั่งให้ไผ่ไปอยู่กับสารภี กำไลเดินทางโดยทางเรือ พายุฝนฟ้าคะนองหนักมาก จนเรือที่กำไลโดยสารถูกพายุพัดจมทะเลเป็นข่าวหน้าหนึ่ง ไผ่ร้องไห้ปิ้มว่าจะขาดใจ สารภีปลอบใจไผ่ ทนายของโฉมบอกไผ่ว่า ไผ่คือลูกของลอยกับสารภีจะเป็นผู้ได้รับเงินมรดกห้าล้านบาท ไผ่ไม่ต้องการเงินทองใด ๆ มากไปกว่าแม่กำไล จึงไม่ยอมรับสารภีว่าเป็นแม่ ทำให้สารภีไม่ได้มรดก สารภีโกรธมากจึงใช้งานหนักสารพัดเพื่อให้ไผ่ทนไม่ได้ และยอมรับว่าเธอเป็นแม่จะได้ไม่ต้องทำงานหนัก แต่ไผ่ขอก้มหน้าทำงานโดยไม่ปริปากบ่นเลย เหตุการณ์รุนแรงขึ้นเมื่อโลมตา สารภี และถวิลไล่ยิงไผ่ สารภีห้ามแต่โลมตาไม่ฟัง สารภีจึงยิงโลมตาโดยไม่ได้ตั้งใจจะฆ่า แต่โลมตาตาย ถวิลจึงยิงสารภี วิมานและถวิลต่อสู้กันถวิลสู้วิมานไม่ได้ ทันใดนั้นลอยปรากฏตัวขึ้น สารภีสำนึกผิดขอให้ลอยบอกว่าไผ่คือลูกของเธอ ลอยบอกว่าไม่ใช่ ไผ่เป็นลูกของกำไล สารภีตายไปทั้งที่ยังพร่ำหาลูก ส่วนถวิลถูกตำรวจจับ ลอยบอกกำไลว่าหลังจากหนีกำไลไป เขาเจอกับพ่อค้าจีนพาไปรักษาตัวที่ไต้หวันและรับเป็นลูกบุญธรรม เมื่อพ่อค้าจีนตายได้ยกมรดกให้ เขาจึงกลับมาหากำไล กำไลแนะนำให้ไผ่รู้จักลอย พ่อลูกโผเข้าหากัน ลอยโอบไผ่ไว้ข้างหนึ่ง โอบกำไลอีกข้างหนึ่ง ครอบครัวมีความครบบริบูรณ์ พ่อ-แม่-ลูก ติดตามชมความเข้มข้นของละคร อกธรณี ได้ทุกวัน เวลา 18.50 น. ทางช่อง 7 สี ละคร อกธรณี เริ่มตอนแรกวันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2560

น้ำเซาะทราย 2560

เรื่องย่อ : น้ำเซาะทราย (2560/2017) ภีม ประการพันธ์ (หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์) วรรณนรี ประการพัฯธ์ (กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง) และพุดกรอง วิบูลย์สิน (เจี๊ยบ-โสภิตนภ ชุ่มภาณี) เพื่อนสนิทที่เธอคบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยพุดกรองกับภีมเคยแอบรักกันมาก่อน แต่พุดกรองคิดว่าถ้าตัวเองเลือกที่จะแต่งงานกับนายพร้อม วิบูลย์สิน (หมู-ดิลก ทองวัฒนา) น่าจะเหมาะสมมากกว่า เลยเลือกที่จะแต่งงานกับนายพร้อม และมีลูกชายคนเดียวชื่อ จ้าน (กรพิพัฒน์ กฤษณะทรัพย์) ซึ่งเรียนอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ส่วนภีมก็ตัดสินใจแต่งงานกับวรรณนรี มีลูกชายหญิงสองคน ลูกสาวชื่อภีทรียา (ปอ-จาร์ดีน่า แฟรงค์) และลูกชายชื่อ ภุมวาร (ป่าน-เซบาสเตียน รัตนกุล) ทั้งสองเติบโตอย่างมีระเบียบ เพราะความเป็นครูของวรรณนรี ต่อมาสามีของพุดกรองเสียชีวิต พุดกรองเลยไว้ทุกข์ให้สามีจนครบปี และคืนนี้ก็เป็นคืนแรกที่พุดกรองออกงานสังคมอีกครั้ง พุดกรองสั่งในคนขับรถขับไปรับ วรรณนรี ภีม และพงษ์สนิท จิตรกรรม (จิม-เจจินตัย แวนคิว) ซึ่งเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ทั้งสี่นั่งรถออกไปงานเลี้ยงพร้อมกัน ซึ่งงานเลี้ยงครั้งนี้คุณหญิงพรรณราย (กีต้า-ศิริพิชญ์ วิมลโนช) เพื่อนไฮโซของพุดกรองได้จัดขึ้น เพราะจะแนะนำด็อกเตอร์พิมุข (บิ๊ก-ศรุต วิจิตรานนท์) สามีที่กำลังเป็นคู่แข่งกับวรรณนรีในการแย่งตำแหน่งคณบดี และเปิดตัวดลฤดี (แพรว-เฌอมาวีร์ สุวรรณภาณุโชค) ลูกสาวคนเดียวที่พึ่งกลับจากอเมริกา งานเลี้ยงครั้งนี้ทำใหพุดกรอง และภีมได้กลับมาพบกันอีกครั้ง ความรู้สึกดี ๆ ในอดีตเริ่มย้อนกลับมา ในขณะที่ภีมเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายในตัวองวรรณนรี ที่ควบคุมทุกอย่างภายในบ้านเหมือนภีมเป็นเด็กนักเรียนของวรรณรีดลอดเวลา ต่อมาพงษ์สนิทมารับพุดกรองออกไปกินข้าว แล้วแวะมาหาวรรณนรีที่บ้าน ทั้งสี่จึงหาอะไรกินที่บ้านของวรรณนรี พุดกรองคุยกับภีมแล้วมีคำพูดที่แทงใจ พุดกรองเลยขอตัวกลับบ้านก่อนเพราะน้อยใจ ส่วนวรรณนรีกับภีมก็มีปากเสียกัน ภีมจึงออกจากบ้านแล้วโทรหาพุดกรองให้ออกมาหา และชวนกันไปเต้นรำต่อ เมื่อบรรยากาศเป็นใจทำให้ทั้งสองสารภาพความในใจว่าแอบรักกันมานานตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเมื่อสิบแปดปีก่อน พุดกรองกับภีมทำทุกวิธีทางเพื่อให้ได้มาเจอกัน ทั้งสองได้หาบ้านเช่าเพื่อใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน พงษ์สินทรู้เรื่องนี้จึงรีบไปบอกวรรณนรีว่าภีมกับพุดกรองเป็นชู้กัน แต่วรรณนรีก็ยังไม่ปักใจเชื่อ แต่ด้วยคำยั่วยุของพงษ์สนิททำให้วรรณนรีเริ่มพูดจาประชดประชันภีม และพุดกรองจนมีปากเสียงกัน เมื่อวรรณนรีรู้ความจริงก็ได้ยื่นคำขาดกับภีมว่าถ้ามีพุดกรองก็จะหย่า ถ้าไม่ยอมหย่าก็จะต้องตัดขาดพุดกรอง แต่ว่าภีมไม่ยอมเลือก พงษ์สินทแค้นพุดกรองมากที่ไม่ยอมเลือกตัวเองเป็นคู่ครอง จึงคิดจะใช้วรรณนรีเป็นเครื่องมือในการแก้แค้น ต่อมาพงษ์สนิทพาวรรณนรีมาบ้านเช่าที่เป็นรังรักของธีม และพุดกรอง แถมยังคอยรายงานข่าวว่าภีมกับพุดกรองหนีไปเที่ยวสงขลาด้วย วรรณนรีเครียดมากถึงขั้นเข้าโรงพยาบาล เมื่อภีม และพุดกรองรู้ทั้งสองก็รู้สึกผิดมาก จึงมาเยี่ยมวรรณนรี แต่วรรณนรีไม่ยอมให้พุดกรองเข้าเยี่ยม เรื่องความสัมพันธ์ของพุดกรองกับภีมก็เป็นข่าวดังในหน้าสังคม ยิ่งพุดกรองกำลังตั้งท้องกับภีม งานนี้วรรณนรีเลยเปลี่ยนแปลงตัวเองให้สวยขึ้น พงษ์สนิทพาวรรณนรีให้มารู้จักกับ ทวยหาญ กาญจนสุรัตน์ (เคลลี่ ธนะพัฒน์) ที่กำลังมองหาคู่เพื่ออยู่เป็นเพื่อนกันในปั้นปลายชีวต ทวยหาญอยากทำความรู้จักกับวรรณนรีมาขึ้นเลยชวนออกไปข้างนอก วรรณนรีจึงพาลูก ๆ ไปด้วย ทั้งสี่คนพากันเที่ยวอย่างสนุกสนาน และกลับมาทำอาหารกินกันที่บ้าน ภีมกลับมาบ้านก็ต้องชะงักเพราะเห็นชายแปลกหน้าเข้ามาอยู่ในบ้าน ภีมไม่พอใจที่เห็นวรรณนรีกับลูก ๆ ดูร่าเริง วรรณนรีไม่อยากทนอยู่แบบนี้จึงขอหย่ากับภีม แต่พอถึงเวลานัดภีมก็ไม่มาตามนัด วรรณนรีเลยตัดสินใจโทรไปที่ทำงานของภีม เลยรู้ว่าเป็นแผนของพงษ์สนิทที่ลากภีมออกไปข้างนอก เพื่อที่จะกลับมาไม่ทันหย่า ต่อมาทวยหาญ และพงษ์สนิทได้มารับวรรณนรี และลูก ๆ ไปเที่ยวที่ระนอง ทวยหาญพาทั้งสี่คนเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ หลังจากที่กลับจากระนองวรรณนรีคุยกับภีมเรื่องหย่าอีกครั้งแต่ภีมก็ไม่ยอม เมื่อถึงวันที่จ้านลูกกของพุดกรองกลับจากอเมริกา พุดกรองต้อนรับลูกชายโดยการเลี้ยงอาหาร แต่ในห้องตกอยู่ในความเงียบเมื่อได้เห็นวรรณนรี ทวยหาญ พงษ์สนิท และนายฝรั่งมาทานอาหารที่ร้านเดียวกัน ภีมรู้สึกกระสับกระส่ายเมื่อวรรณนรีมองตนเหมือนเป็นคนแปลกหน้า ในที่สุดพุดกรองก็ได้คลอดลูกของเธอกับภีม ทั้งสามคนช่วยกันตั้งชื่อน้องชายคนใหม่ว่า ปูจ๋า ปอกลับบ้านก็ไปหาน้องคนเล็กที่บ้านพุดกรองทุกวัน วรรณนรีรู้สึกเหว่ว้า เพราะเหมือนกับว่าพุดกรองแย่งลูก ๆ และสามีของตนเองไป วรรณนรีเลยตัดสินใจคุยกับภีมเรื่องหย่าอีกครั้ง แต่คราวนี้ภีมยอมที่จะหย่าให้ งานนี้เรื่องราวความสนุกสนานเข้มข้นของความรักสามเส้า เราสามคนจะลงเอยอย่างไร ต้องติดตามชมในละคร น้ำเซาะทราย ได้ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.20 น. ทางช่อง 7 สี ละคร น้ำเซาะทราย เริ่มตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 16 เมษายน 2560

มัสยา 2560

มัสยา (2560/2017) เมื่อ ท่านผู้หญิงรัตน์ รัตนมหาศาล (ดวงตา ตุงคะมณี) รู้ว่า ศัลย์ (ราชวัตร ขลิบเงิน) ลูกชายที่หนีการคลุมถุงชนไปรักกับหญิงสาวทางภาคใต้ ได้เสียชีวิต จึงมอบหมายให้ ร้อยโท ลักษณ์ รัตนมหาศาล (มิกค์ ทองระย้า) นายทหารม้า ลูกชายของ คุณหญิงอัครราชเสวี (อังศนา บุรานนท์) ไปรับ มัสยา (มุกดา นรินทร์รักษ์) หลานสาวกลับมา ทันทีที่ลักษณ์เดินทางไปพบมัสยา ลักษณ์เจอฤทธิ์เดชมัสยามากมาย แต่ลักษณ์ก็สามารถปราบพยศ และพามัสยากลับมาที่คฤหาสน์รัตนมหาศาลได้สำเร็จ ตลอดเวลาที่มัสยาอยู่ที่คฤหาสน์รัตนมหาศาล มัสยารู้สึกอึดอัดกับระเบียบที่เข้มงวด และต้องพบกับความอิจฉาริษยาของ คุณศจี (รชยา รักกสิกรณ์) และลูก ๆ คือ พิณทิพย์ (ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ) กับ พงศ์เทพ (พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์) ซึ่งต่างจาก พัณทิพา (พรสวรรค์ มะทะโจทย์) ที่เป็นมิตรกับมัสยา แต่ในความโชคร้ายมัสยาก็ยังมีความโชคดีอยู่ด้วย เพราะมัสยาได้พบกับ เริงใจ (พลอยไพลิน ตั้งประภาพร) น้องสาวของลักษณ์ และ นพพร (ชนกันต์ พูนศิริวัฒน์) เด็กรุ่นราวคราวเดียวกันที่เป็นเพื่อนบ้าน และให้ความเป็นมิตรกับมัสยา ลักษณ์กับมัสยาเป็นคู่กัดขาประจำของกันและกัน แต่เพียงไม่นานจากความขัดแย้งก็กลับกลายเป็นความรัก แต่ความรักของทั้งคู่มีอุปสรรคมากมาย เพราะลักษณ์มี เพ็ญโฉม (สุภาพร มะลิซ้อน) เป็นแฟนอยู่แล้ว แต่ก็มีประกาศิตจากท่านผู้หญิงสั่งให้ลักษณ์แต่งงานกับ นาถระพี (ช้องมาศ ธนพร) หญิงสาวสูงศักดิ์ซึ่งเป็นพี่สาวของนพพร ส่วนมัสยาถูกจับให้หมั้นกับนพพร มัสยาและลักษณ์ต้องพยายามตัดใจจากกัน มีเพียง ท่านชายสดายุ มยุรฤทธิ์ (อานัส ฬาพานิช) ที่รู้ว่าสองคนนี้คิดอย่างไรต่อกัน จึงพยายามช่วยให้ทั้งคู่สมหวัง ในที่สุดลักษณ์กับมัสยาก็ห้ามใจตัวเองไม่ไหว ทั้งคู่ตัดสินใจแอบคบกัน เมื่อเพ็ญโฉมรู้ว่ามัสยาเป็นสาเหตุทำให้ลักษณ์บอกเลิกกับตน เพ็ญโฉมจึงเริ่มวางแผนทำลายความรักของทั้งคู่ และยิ่งเมื่อศจีจับได้ว่าลักษณ์กับมัสยาคบกัน ศจีจึงวางแผนให้ท่านผู้หญิงรู้ด้วย ซึ่งเมื่อท่านผู้หญิงรู้ก็โมโหและกีดกันความรักของทั้งคู่อย่างที่สุด โดยบังคับให้ทั้งคู่แต่งงานกับคนที่ท่านเลือกให้เท่านั้น ท่านชายสดายุจัดการแต่งงานให้ทั้งคู่แบบไม่เป็นทางการ ซึ่งทั้งคู่มีความสุขมาก แต่เมื่อถึงวันที่ทั้งคู่ต้องเผชิญโลกแห่งความจริง คือวันที่มัสยาต้องหมั้นกับนพพร มัสยาตัดสินใจหนีออกจากบ้านรัตนมหาศาล การหายตัวไปของมัสยาทำให้ท่านผู้หญิงเสียใจมาก ลักษณ์ออกตามหามัสยาวันแล้ววันเล่าในทุกแห่งหน เรื่องราวความรักระหว่าง "ลักษณ์" และ "มัสยา" จะลงเอยเช่นไร ท่านผู้หญิงจะเข้าใจและยอมรับในความรักของทั้งคู่หรือไม่

มิติรัก ผ่านเลนส์ รอยเท้าของปูลม (2559/2016) 26 ธันวาคม 2547-26 ธันวาคม 2559 เหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิผ่านมาแล้ว 12 ปี เหตุการณ์ในครั้งนั้นพรากลูกชายคนเดียวของ ญา จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตต่อจากพ่อและสามีของเธอ วันเวลาทำให้จิตใจของเธอให้ดีขึ้น แต่ความคิดถึงยังคงมาตรฐานวันนี้เป็นวันครบการจากไปของ เป้ ลูกชายของเธอ ญาตื่นแต่เช้า เตรียมหุงหาอาหารสำหรับถวายพระ มีอาหารทะเลของโปรดเป้ น้ำพริกปลาทู ขนม และของหวาน ญานั่งขึ้นเรือจากเกาะหมากไปทำบุญที่วัดบนเกาะช้าง หลังเสร็จสิ้นการทำบุญ ญานั่งเรือกลับเกาะหมากตามปกติ ระหว่างที่เธอขึ้นจากเรือ ญาพลัดตกลงไปในน้ำ โชคดีที่ว่ายน้ำเป็น ญาโผล่ขึ้นมาจากน้ำแต่กลับไม่มีเรือ ไม่มีใครอยู่ที่ท่าเรือ มีเพียงเธอคนเดียว ปิ่นโต ตะกร้า รวมทั้งข้าวของจมหายไปในทะเลญาเดินกลับมาบ้าน เนื้อตัวเปียกปอน เมื่อถึงยังบ้าน ญาต้องตกใจสุดชีวิต เมื่อพบกับ เป้ ลูกชายสุดที่รักของตัวเอง กำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่ เป้เห็นแม่กลับมา จึงรีบเก็บหนังสือเหล่านั้นไปซ่อน ญาร้องไห้วิ่งเข้าไปกอดเป้ และคิดว่านี่คงเป็นความฝัน เป้แปลกใจที่ไม่ถูกแม่ตัวเองต่อว่าแต่กลับมีอาการแปลก ๆ เข้ามากอดเป้แน่นจนแทบหายใจไม่ออก ญาเริ่มไม่มั่นใจว่านี่คือความฝันหรือความจริง ความรู้สึกตอนนี้ทั้งดีใจ ตื่นเต้น และอยากให้เวลาหยุดอยู่ตรงนี้ตลอดไป ปฏิทินบอกวันที่ 1 กันยายน 2547 นั่นเท่ากับว่า เธอย้อนเวลากลับมา 12 ปี มันเป็นช่วงเวลาก่อนที่เป้จะเสียชีวิต หากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นซ้ำรอยเดิม นั่นเท่ากับว่าเหลือเวลาอีก 3 เดือนที่เธอจะได้ใช้ชีวิตอยู่กับลูกชาย เกิดเหตุการณ์มากมายในช่วงเวลานี้ ทั้งการเตรียมสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารของเป้ เขาเป็นหนุ่มน้อยวัยรุ่นอนาคตไกล ความฝันอยากสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารเรือ คุณตาของเป้เป็นทหารเรือ เสียชีวิตในประวัติศาสตร์สมรภูมิรบ ยุทธนาวีเกาะช้าง เหตุการณ์แห่งความทรงจำของคนไทย รวมทั้งตัวพ่อของเป้ ทหารนาวิกโยธินประจำเกาะช้าง ต่อมาได้เสียชีวิต ด้วยหน้าที่อันยิ่งใหญ่ จากการเข้าช่วยราชการยังสามจังหวัดชายแดนใต้ เป้ภูมิใจในตัวของตาและพ่อ อยากเดินตามรอยของบรรพบุรุษ ซึ่งญาไม่สนับสนุนในความฝันนี้เลยเพราะไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย กลัวต้องสูญเสียลูกชายไปอีกคน ไหนจะเรื่องความรักของเป้ ที่ญาคอยปิดกั้น บงการ กีดกัน ด้วยความรักที่เห็นแก่ตัวของญา สร้างปมปัญหานี้มาโดยตลอด ญาไม่ชอบผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาในชีวิตของเป้ เพียงเพราะกลัวเป้จะรักคนอื่นมากกว่าตัวเธอซึ่งในขณะเดียวกัน เธอเองกลับกำลังจะแต่งงานใหม่ กับเจ้าของรีสอร์ตเกาะช้าง เป็นช่วงที่ญาและเป้ทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นแตกหัก ญามีอะไรที่อยากแก้ไขมากมายในชีวิต วันนี้เธอได้รับโอกาสนั้น โอกาสที่จะแก้ไขอดีตให้ดีขึ้น ญาเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง แก้ไขอดีตทุกอย่าง ทั้งเรื่องเรียนของเป้ ความรัก และการแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้น ญาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับลูก ไปเที่ยวในที่ที่ยังไม่เคยไป ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ใช้ชีวิตอยู่กับลูก ซึ่งเหตุการณ์ต่อจากนี้ที่เธอจำได้ คือ เป้มาขออนุญาตไปเที่ยวทะเลที่ภูเก็ตกับเพื่อน ๆ แต่เธอไม่ให้ลูกไป เพราะรู้ว่ามีผู้หญิงคนที่เป้รักไปด้วย ญาทะเลาะกับเป้ จนเป้แอบหนีออกไปกับเพื่อน ๆ และเสียชีวิตในเหตุการณ์สึนามิที่หาดป่าตองในเวลาต่อมา วันนี้ เหตุการณ์นั้นมันได้เกิดขึ้นอีกรอบ ญาต้องหาวิธีเปลี่ยนอนาคต เพื่อรักษาชีวิตของลูกไว้ให้ได้