เรื่องย่อ : ดุจเล่ห์ดาวลวง (2567/2024) เมื่อ ดาหวัน (กรรณาภรณ์ พวงทอง) กับ แสงหล้า (ชัชฎาภรณ์ ธนันทา) สองสาวเพื่อนรัก ต้องมาผิดใจกันเพราะเรื่องผู้ชาย และดาหวันยังทำให้แสงหล้าถูกพ่อจับได้ แสงหล้าจึงแก้แค้นดาหวันด้วยการแย่งชายคนรักของดาหวันมาเป็นสามี จนแสงหล้าตั้งท้อง คลอดลูกสาวชื่อว่า ดาวเหนือ (เสฏฐนันท์ ทองสมบุญ) นับตั้งแต่ดาวเหนือเกิด ก็มีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้นกับครอบครัวบ่อย ๆ หมอผาด (สุระ มูรธานนท์) หมอผีประจำหมู่บ้าน บอกว่าดาวเหนือเป็นกาลกิณี ใครเกี่ยวข้องต้องมีอันเป็นไป ทำให้ไม่มีใครกล้ายุ่งเกี่ยว มีเพียงน้าดาหวันที่คอยดูแลเมตตาดาวเหนือ ส่วนแสงหล้าแม่แท้ ๆ กลับไม่เคยดูแล แถมยังไปมีสามีใหม่ และไม่วายหาเรื่องทะเลาะกับดาหวันไม่หยุดหย่อน หนักเข้าก็คิดแผนรวมหัวกับหมอผาด และ จันทร์เพ็ญ (พิมพ์ภัสร์ อภิลพูลลาภ) เพื่อนสนิท กล่าวหาว่าแม่ของดาหวันเป็นผีปอบ จนชาวบ้านหลงเชื่อ ขับไล่ให้ออกจากหมู่บ้าน ทำให้แม่ของดาหวันต้องผูกคอตาย ดาหวันโมโหมาก ตามไปด่ากราดสาปแช่งแสงหล้ากับชาวบ้าน ดาหวันจึงถูกชาวบ้านรุมจับตัวไปมัดไว้กลางลานหมู่บ้าน ต้องอดข้าวอดน้ำ ดาวเหนือจึงเอาข้าวเอาน้ำไปป้อนให้ ผู้ใหญ่บ้าน สุชาติ (วรพรต ชะเอม) สงสาร เลยขอร้องชาวบ้านให้ปล่อยดาหวัน แล้วขอให้ดาหวันออกไปจากหมู่บ้าน

ดาวเหนือเสียใจที่น้าดาหวันจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว จึงแอบไปนั่งร้องไห้ริมคลอง จนได้เจอกับ ฤกษ์ (ตากเพชร เลขาวิจิตร) ซึ่งตอนนั้นทั้งคู่ยังเด็ก ฤกษ์เลยแกล้งบอกว่าเขาชื่อ ดาวโจร เพราะมีพ่อเป็นโจร ทั้งสองคนเลยสนิทสนมกัน แต่แล้วฤกษ์ก็ต้องจากดาวเหนือไปอีกคน เพราะพ่อจะส่งเขาไปเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ เวลาผ่านไป แม้ดาวเหนือจะโตเป็นสาว แต่ชาวบ้านก็ยังรังเกียจ ตราหน้าว่าเป็นกาลกิณีเหมือนเดิม วันหนึ่งดาวเหนือบังเอิญเจอกับฤกษ์อีกครั้ง ดาวเหนือจำพี่ดาวโจรของเธอได้ เข้าไปสวมกอดด้วยความคิดถึง ส่วนฤกษ์กลับเขินอาย เพราะลึก ๆ แล้ว เขารู้สึกดีกับดาวเหนือมากกว่าน้องสาว ต่อมาดาวเหนือจะถูกสามีใหม่ของแสงหล้าปล้ำ จึงชวนพี่ดาวโจรหนีไปหาน้าดาหวันที่กรุงเทพฯ ดาวเหนือเห็นดาหวันแต่งตัวสวย มีเงินเยอะ โดยไม่รู้ว่าดาหวันถูกหลอกบังคับให้มาขายบริการ เป็นหมอนวด ดาหวันไม่กล้าบอกดาวเหนือ กลัวหลานรับไม่ได้

ดาหวันส่งเสียให้ดาวเหนือเรียนต่อ ส่วน ฤกษ์ ดาหวันไปฝากให้อยู่กับ พิทักษ์ (ธิตินันท์ สุวรรณศักดิ์) คนขับรถแท็กซี่ที่หลงรักดาหวัน ไม่รังเกียจที่เป็นหมอนวด เพราะดาหวันเคยช่วยเหลือดูแลค่ารักษาพยาบาลให้เขาจนหายดี สุริยน (ณัฐนันท์ คุณวัฒน์) พ่อของฤกษ์ ออกตามหาฤกษ์ที่กรุงเทพฯ และได้เจอกับแสงหล้า ที่เข้ามาตามหาดาวเหนือเช่นกัน สุริยนพลาดท่าถูกแสงหล้ามอมเหล้า พอฤกษ์รู้ว่าภรรยาใหม่ของพ่อเป็นแม่ของดาวเหนือ จึงไม่กล้าสู้หน้า ขอหนีความวุ่นวายไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ โดยให้เหตุผลกับดาวเหนือว่าแม่ของเขาจะไปเป็นแม่ครัวเลยต้องตามไปด้วย

หลายปีผ่านไปดาหวันฝันอยากเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวชากังราว เธอเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง แต่ดันมีเรื่องไม่คาดคิด เมื่อพบว่าตัวเองป่วยเป็นโรคเอดส์ ดาหวันเป็นห่วง ไม่อยากให้ดาวเหนือรู้ เลยวางแผนกับพิทักษ์ หาทางป้องกันไม่ให้ดาวเหนือมาอยู่ด้วย ดาวเหนือเลยต้องไปอยู่กับแสงหล้าที่บ้านของสุริยน แสงหล้าบอกสุริยนว่าดาวเหนือเป็นหลาน ด้าน ภาคภูมิ (ปริยะ วิมลโนช) น้องชายของสุริยน มีลูกชายชื่อ ภาคิน (เชษฐ์ ฮันเตอร์ เบิร์ก) มีลูกสาวชื่อ เกตุแก้ว (พลอยปภัส อิสระพงศ์พร) ที่ไม่ค่อยลงรอยกับดาวเหนือ ต่อมาฤกษ์กลับมาจากเมืองนอกพร้อมเพื่อนสาวคนสนิทชื่อ ภูรดา (ชนารดี อุ่นทะศรี) ทำให้ดาวเหนือได้รู้ความจริงว่า พี่ดาวโจร จริง ๆ ชื่อว่า ฤกษ์ เป็นลูกชายของสามีใหม่แม่

เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามได้ในละคร “ดุจเล่ห์ดาวลวง” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 19.00 น. เริ่มตอนแรก วันจันทร์ที่ 2 กันยายนนี้ ทาง ช่อง 7HD ดูทีวีกด 35 สดออนไลน์ BUGABOO.TV และช่องทางออนไลน์ Facebook, IG, X, TikTok, YouTube: Ch7HD เว็บไซต์: www.ch7.com

เรื่องย่อ : รอยรักรอยบาป (2567/2024) ในสมัยรัชกาลที่ 5 ขุนวิสุทธิ์ (เกริกพล มัสยวาณิช) ขึ้นชื่อว่ารูปงาม ร่ำรวยทั้งศักดินาและทรัพย์สิน มีทาสในอาณัติปกครองนับร้อยคน หนึ่งในนั้นคือ ทองเกลียว (รัญดภา มันตะลัมพะ) ทาสสาวพราวเสน่ห์ ลีลาเด็ด แต่นิสัยโผงผาง เป็นเมียบ่าวที่ขุนวิสุทธิ์สัญญาว่าจะแต่งงานด้วย แต่หลังจากไปราชการกลับมา ขุนวิสุทธิ์ได้ตกหลุมรัก คุณระย้า (พิจิตตรา สิริเวชชะพันธ์) ลูกสาวคนสวยของ เจ้าพระยาน้อย (วันชัย เผ่าวิบูลย์) ถึงขั้นแต่งงาน หลังจากขุนวิสุทธิ์แต่งงานกับคุณระย้าได้ไม่นาน ก็ได้เลื่อนยศเป็น หลวงวิสุทธิ์ และมีเมียบ่าวอีกหลายคน ในขณะที่ อิ่ม (กุ๊กกิ๊ก กชกร) โดนหลวงวิสุทธิ์บังคับขืนใจเป็นเมียเพิ่ม คุณระย้าแค้นใจมาก จึงวางแผนให้เมียบ่าวอิจฉาริษยากันเอง โดยใช้สมุนไพรพิษเป็นเครื่องมือ คุณระย้าแสร้งทำเป็นคนใจดี มีเมตตา ทองเกลียวจึงตกหลุมพราง ในขณะที่อิ่มไม่เชื่อ และบอกทุกคนว่าคุณระย้าไม่น่าไว้วางใจ แต่ไม่มีใครเชื่ออิ่ม เมื่อหลวงวิสุทธิ์อยากได้ จวน (พัชร์สิตา อธิอนันตศักดิ์) มาเป็นเมียเพิ่มอีกคน คุณระย้าก็วางแผนให้หลวงวิสุทธิ์ขืนใจจวน แล้วโยนความผิดให้อิ่ม จวนโกรธอิ่มและแค้นหนักมาก เมื่อ บุญ (ธาราเขต เพ็ชร์สุกใส) คนรักของจวน เข้าข้างอิ่ม แรงรักแรงหึงทำให้เพื่อนรักแตกคอกัน จวนเกลียดอิ่มชนิดไม่มีวันให้อภัย และยิ่งเกลียดหนักเมื่อ บุญ อดีตคนรักของตัวเอง เปลี่ยนไปรักอิ่ม ขณะเดียวกันนั้นลูกสาวเศรษฐีคือ คุณพริ้ง (กรรณาภรณ์ พวงทอง) ซึ่งแอบรักหลวงวิสุทธิ์มานาน มอมเหล้าหลวงวิสุทธิ์จนได้เป็นเมีย คุณระย้าแค้นมาก แต่ห้ามหลวงวิสุทธิ์ไม่ได้ จึงเสี้ยมจวนซึ่งจงรักภักดีให้เป็นอริกับคุณพริ้ง โดยจวนไม่รู้ว่าถูกหลอกใช้ จนคุณพริ้งแท้งลูก หลวงวิสุทธิ์เสียใจมากเพราะอยากมีลูก จึงโกรธจัดที่จวนใจร้าย อีกทั้งจวนยังด่าหลวงวิสุทธิ์เสีย ๆ หาย ๆ หลวงวิสุทธิ์จึงสั่งโบยจวน โดยไม่คิดว่าจะทำร้ายถึงตาย จวนบาดเจ็บสาหัส ก่อนตายจวนอธิษฐานขอเป็นเจ้ากรรมนายเวรของหลวงวิสุทธิ์กับอิ่ม ในเวลาต่อมาจวนก็กลับชาติมาเกิดเป็น หนูยิ้ม (ชรินพร เงินเจริญ) ลูกสาวของพระยาวิสุทธิ์กับคุณหญิงระย้า คุณระย้าและทุก ๆ คนต่างสงสัยว่าหนูยิ้มจะเป็นจวนกลับชาติมาเกิด เพราะหนูยิ้มมีแผลเป็นทุกอย่างเหมือนกับจวน และหนูยิ้มจะไม่ยอมให้พระยาวิสุทธิ์จับต้องตัวเลย หนูยิ้มเองก็รู้สึกทุกข์ทรมาน เพราะฝันถึงทาสที่ชื่อจวนอยู่เสมอ คุณหญิงระย้ารักและหวงหนูยิ้มมาก กลัวความลับความชั่วที่เคยทำในอดีตจะเปิดเผย จึงเสี้ยมให้หนูยิ้มเข้าใจผิดว่าตัวเองถูกทุกคนทำร้าย หนูยิ้มจึงเกลียดชัง อิ่ม คุณพริ้ง บุญ รวมถึงเกลียด แก้ว (ปัณชญา สุวรรณกูฏ) กล้า (เกียรติภูมิ บันลือชัยฤทธิ์) ลูกของบุญและอิ่ม โดยไม่รู้เลยว่าแก้วนั้นเป็นพี่สาวต่างมารดา  การเปลี่ยนไปของหนูยิ้มจากเด็กหญิงน่ารักกลายเป็นก้าวร้าว ตลอดจนความลับในอดีตเกี่ยวกับตัวตนที่ร้ายกาจของคุณหญิงระย้า ทำให้ กล้า แก้ว และ เภา (สุเมธา รอยสี) ลูกบุญธรรมของพระยาวิสุทธ์และคุณพริ้ง ออกสืบหาความจริง

ลางปริศนา (2567)

เรื่องย่อ : ลางปริศนา (2567/2024) บุญสิตา มีลางพิเศษเห็นอนาคตมาตั้งแต่เกิด แต่เมื่อได้พบเขากลับได้เห็นลางใน ‘อดีต’ วรัชญ์ มักฝันเห็นหญิงสาวคนหนึ่งซ้ำๆ ตั้งแต่เด็ก จากที่ไม่เคยเชื่อเรื่องผีสางกลับต้องเชื่อ และคิดว่า เธอ คือใครสักคนใน ‘อดีต’ อดีตซึ่งถูกปิดบังด้วยคำว่า ‘รัก’ เขาเจ็บปวดด้วยความไม่รู้และโหยหาคำตอบ ใครบางคนกำลังปิดบัง แต่อีกตนหนึ่งกำลังพยายามทำให้ความจริงปรากฏ

รักแท้แซ่บหลาย 2566

เรื่องย่อ : รักแท้แซ่บหลาย (2566/2023) ชมจันทร์ (พัชร์สิตา อธิอนันตศักดิ์) แม่ค้าสาวแห่งตลาดบางสำลี ที่เปิดขายผลิตภัณฑ์ปลาร้านานาชนิด ในชื่อว่า ปลาร้าแซ่บหลาย เธอมีผู้ช่วย 3 คน คือ กลอย (ไรวินทร์ รัศมีนิยมวุฒิ), ปีย่า (อัญรส ปุณณโกศล) และ น้ำพราว (มาริสา โชลล์) เธอภูมิใจกับอาชีพนี้มาก เพราะทำให้เลี้ยงตัวเองได้ แถมยังส่งน้องสาว เมทินี (นิคิต้า กรรณเกตุ) เรียนจบเมืองนอก เมื่อเมทินีส่งข่าวมาว่าจะกลับเมืองไทย ชมจันทร์ดีใจมาก วาดฝันว่าน้องจะกลับมาช่วยทำให้กิจการปลาร้าเติบโต แต่แล้วก็เกิดเรื่องไม่คาดฝัน เมื่อน้องสาวสารภาพว่าโกหก ณกรณ์ หรือ นิค (พอล เดอบ๊อด) แฟนของเธอว่า พี่สาวทำธุรกิจผ้าไหม เพราะกลัวนิคจะรังเกียจที่มีพี่สาวขายปลาร้า ชมจันทร์ไม่คาดคิดว่าน้องสาวจะอับอายพื้นเพของตัวเองแบบนี้ ด้วยความรักน้องจึงยอมตกกระไดพลอยโจน แต่อุปสรรคใหญ่ของชมจันทร์ก็คือ โรงแรมที่ โภคิน (รัฐธีร์ วรโรจน์โยธิน) อาของนิคเป็นผู้บริหารนั้น เป็นหนึ่งในลูกค้าของเธอ ทำให้ชมจันทร์ต้องคอยหลบ ๆ ซ่อน ๆ เวลาที่เอาสินค้ามาส่ง เมทินีรู้ว่าโภคินสงสัยในพฤติกรรมของพี่สาว เลยยุให้ชมจันทร์ไปเช่าบ้านหรูของ เสี่ยมงคล (กัณพล ปรีดามาโนช) เจ้าของตลาดที่ชมจันทร์ขายของอยู่ เพื่อตบตาโภคิน ชมจันทร์เสียดายเงิน แต่ก็ยอมทำตาม เมื่อนิคพาโภคิน กับ ครรชิต (ตวงสิทธิ์ เรียมจินดา) ผู้เป็นพ่อมาหาเมทินีที่บ้าน ครรชิตก็รู้สึกเอ็นดูสองพี่น้อง และพร้อมสนับสนุนถ้านิคจะแต่งงานกับเมทินี แต่นิคขอเวลาสร้างเนื้อสร้างตัวก่อน โภคินเลยชวนนิคไปทำงานที่โรงแรม โดยให้คุมงานรีโนเวทห้องจัดเลี้ยง แต่ด้วยประสบการณ์ที่ยังน้อย ทำให้นิคถูกผู้รับเหมาโกง โภคินกับครรชิตตำหนินิค ทำให้นิคน้อยใจ ประกาศว่าจะไปทำธุรกิจส่วนตัวเอง โดยมีเมทินีเป็นหุ้นส่วน แถมเมทินียังต้องคอยขัดขวาง อินทิรา (ชมพูนุท พึ่งผล) ลูกสาวของเสี่ยมงคล ที่มาแอบชอบนิค ไม่ให้รู้ว่าเธอเป็นแฟนนิค เพราะกลัวว่าอินทิราจะเอาความลับเรื่องครอบครัวมาเปิดเผย เมื่อธุรกิจของนิคกับเมทินีเจ๊ง เพราะถูก กิตติ (ปิติพน พรตรีสัตย์) นักธุรกิจมาดดี แต่จริง ๆ แล้วคือ 18 มงกุฎ หลอกเอาเงินไป เงินที่ชมจันทร์ยืมเสี่ยมงคลมาให้เมทินีลงทุนก็สูญ จนเป็นหนี้ก้อนโต ชมจันทร์จึงต้องทำงานหนัก เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ ทำให้โภคินจับได้ว่าชมจันทร์เป็นแม่ค้าขายปลาร้า ชมจันทร์ยอมเล่าความจริงให้โภคินรู้ โภคินสงสารเลยจะให้โอกาสชมจันทร์ไปสารภาพกับนิคเอง ชมจันทร์คุยกับเมทินีจนเริ่มใจอ่อน แต่พอเมทินีจะบอกก็ถูกนิคขอแต่งงานเลยทำให้ไม่ได้พูด สุดท้ายความลับก็มาแตก เมื่ออินทิราบุกมาบอกความจริงทุกอย่าง นิคโกรธเมทินีมาก ทำตัวสำมะเลเทเมา อินทิราถือโอกาสเข้ามาดูแล แต่ถูก ตะวัน (สุรศักดิ์ สุวรรณวงษ์) หนุ่มไรเดอร์แก๊งเดียวกับชมจันทร์เข้ามาขัด ตะวันพานิคที่เมาไปพักที่บ้าน ทำให้นิคได้เจอกับ น้าพร (สายธาร นิยมการณ์) แม่บุญธรรมของตะวัน นิครู้สึกถูกชะตากับน้าพร เลยแวะเวียนมาหาบ่อย ๆ ด้านเมทินีเสียใจที่ทำไม่ดีกับพี่สาว เลยกลับไปปรับความเข้าใจกับชมจันทร์ แล้วช่วยกันพัฒนาปลาร้าจนขายดิบขายดี เมื่อครรชิตป่วย กิตติเห็นช่องทางหลอกเงินจากนิค เลยเสี้ยมให้นิคกับโภคินทะเลาะกัน จนโภคินลาออก นิคเข้ามาบริหารแทน โดยมีกิตติเข้ามาร่วมทีมบริหารด้วย หลังจากโภคินลาออกก็ไปช่วยงานชมจันทร์ที่โรงงานปลาร้า ชมจันทร์เลยถือโอกาสแก้ปมวัยเด็กที่โภคินไม่ชอบปลาร้าให้หายกลัว โภคินวางแผนร่วมมือกับชมจันทร์พยายามหาหลักฐานมาเล่นงานกิตติ โดยมีณกรณ์กับเมทินีคอยช่วยอีกแรง แต่ภารกิจในครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ แล้วความรักของทั้งสองคู่จะลงเอยแบบไหน มาร่วมลุ้นและเอาใจช่วย กันต่อได้ในละครโรแมนติกคอมเมดี้เรื่อง รักแท้แซ่บหลาย

หมอลำซัมเมอร์ 2565

เรื่องย่อ : หมอลำซัมเมอร์ (2565/2022) เสียงพิณเสียงแคนของวงหมอลำดังไปทั่วสนามบิน โดยมี ยายดวง (สุนารี ราชสีมา) ที่เป็นผู้ก่อตั้งวงหมอลำพิณเพลิน ได้นำวงหมอลำมารับ แอนนี่ (สกาย มาเรีย) หลานสาวแท้ ๆ เป็นสาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ซึ่งบินกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดที่เมืองไทย ด้าน สัตยา (บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ บุตรพรม) ก็มารับ ทัสนา (พลอย รัญดภา มันตะลัมพะ) น้องสาว ที่สนามบินเหมือนกัน แต่ดันเกิดเหตุการณ์หยิบกระเป๋าสลับกับแอนนี่ ทำให้ทัสนากับแอนนี่ต้องโคจรมาเจอกันอีกครั้ง และยังทำให้ทัสนามาเจอกับ เอกราช (ไต้ฝุ่น ตากเพชร เลขาวิจิตร) ซึ่งเป็นเพื่อนของแอนนี่ เอกราชชอบทัสนาตั้งแต่แรกเจอ จึงขอให้แอนนี่คอยช่วยเป็นแม่สื่อ เอกราชเดินหน้าจีบทัสนาโดยเข้าทาง สายทิพย์ (เงาะ กชกร นิมากรณ์) ซึ่งเป็นแม่ของทัสนาและสัตยา ขณะนั้น อินทิรา (ครีมมี่ พลอยปภัส อิสระพงศ์พร) หมอลำประจำวงของยายดวง บาดเจ็บจากการโดนรถชน จึงทำให้ขาดนักร้องนำ ยายดวงจึงขอร้องให้หลานสาวสุดที่รักช่วยเป็นหมอลำไปก่อน โดยตั้งชื่อให้ว่า เดือนเด่น แดนดาว และต่อมาก็กลายเป็นขวัญใจของชาวอุบลฯ สัตยา เจ้าของค่ายเพลง คิตตี้ คีย์ ได้เซ็นสัญญาให้แอนนี่เป็นนักร้องในสังกัด และปั้นแอนนี่จนดังกลายเป็นซุปตาร์ มีซิงเกิลยอดวิวในยูทูบหลักล้านในเวลาอันรวดเร็ว สัตยากับแอนนี่เริ่มสานสัมพันธ์กันเงียบ ๆ เพราะไม่อยากให้แอนนี่มีข่าวเกี่ยวกับความรัก และอยากให้โฟกัสที่งาน หมอลำซัมเมอร์ ด้าน พรีม (มายด์ พัฒนิดา พุ่มชูแสง) แฟนเก่าสัตยา เป็นนักร้องในสังกัด ซอลต้า เรคคอร์ด ค่ายเพลงเบอร์ 1 ของวงการ พรีมอิจฉาที่แอนนี่มียอดวิวที่สูงกว่าเธอ คมกฤช (พล พูลภัทร อัตถปัญญาพล) เจ้าของค่ายซอลต้าฯ จึงได้ปรับลุคใหม่ให้พรีม จากสตริงมาเป็นลูกทุ่งหมอลำเพื่อแข่งกับแอนนี่ โดยตั้งชื่อว่า ยุพา พิณเพลิน แต่ซิงเกิลของพรีมดันแป้กไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้ค่ายเพลงของคมกฤชเริ่มแย่ลง แต่ค่ายเพลงของสัตยากลับรุ่งเรืองเป็นที่นิยมขึ้น คมกฤชแค้นสัตยามากจึงกลั่นแกล้งและทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะสัตยา เช่น ใส่ร้ายแอนนี่ว่าเป็นนักร้องเสพยาบ้าง จ้างคนไปป่วนในงานคอนเสิร์ตแอนนี่บ้าง แต่ก็ไม่สำเร็จ ทำให้คมกฤชยิ่งเครียดและไประบายอารมณ์ทุบตีทำร้ายพรีมที่กำลังท้องลูกของตัวเองอยู่ พรีมหนีมาหาสัตยาให้ช่วย แอนนี่และสัตยาจึงพาพรีมมาซ่อนตัวที่บ้านยายดวงที่อุบลฯ เมื่อเวลาผ่านไปเอกราชกับทัสนาได้แต่งงานกัน ทันใดนั้นคมกฤชได้บุกมางานทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายชุลมุนขึ้น งานนี้คมกฤชจะมีจุดจบอย่างไร งานแต่งของทัสนากับเอกราชจะจัดสำเร็จหรือไม่ พรีมจะกลับตัวเป็นคนดีได้หรือเปล่า และความรักของสัตยากับแอนนี่จะลงเอยเช่นไร ติดตามชมกันต่อได้ในละคร หมอลำซัมเมอร์

เกาะรักกลหัวใจ 2564

เรื่องย่อ : เกาะรักกลหัวใจ (2564/2021) ชีวิตของ ฟากฟ้า (เนย ปภาดา กลิ่นสุมาลย์) เจ้าของ บ้านมุกล้อมรัก รีสอร์ตแนวโฮมสเตย์สุดเรียบง่ายสำหรับสายชิลบนเกาะมุกล้อม กลับไม่ได้สงบเงียบ เรียบง่ายแบบรีสอร์ตของเธอ เพราะเธอต้องคอยปกป้อง จักรวาล หรือ ปลาวาฬ (น้องฟูกะ ด.ช.พลวรรธน์ ลิมป์จันทรา) หลานชายคนเดียวจาก กลทีป์ (ธีร์ วณิชนันทธาดา) พ่อใจร้ายที่เห็นแก่มรดกจนทำทุกวิถีทางเพื่อพาตัวปลาวาฬกลับไปดูแล ปลาวาฬซึ่งเสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก เพราะเธอตรอมใจที่ถูกสามีทำร้ายจิตใจ รักฟากฟ้าและทุกคนบนเกาะมุกล้อมมากจึงไม่ยอมไปกับพ่อ แต่เหตุการณ์ยิ่งวุ่นวายมากขึ้น เมื่อฟากฟ้าต้องรับศึกอีกด้านจาก ไอยคุปต์ (บลิว วรพล จินตโกศล) คาสโนว่าหนุ่ม ลูกชายคนเล็กของ คุณหญิงปิ่นมุก (ใหม่ นัฎฐา ลอยด์) เจ้าของ ศิริวารีกรุ๊ป ที่ต้องการยึดครองพื้นที่ทั้งหมดในเกาะมาทำโครงการเมกกะโปรเจกต์สำหรับลูกค้าระดับวีไอพี ซึ่งแนวคิดตรงข้ามกับการอนุรักษ์ธรรมชาติทุกอย่าง การพบกันทุกครั้งของทั้งคู่ จึงสร้างความปั่นป่วนและสารพันปัญหา แต่ความพ่ายแพ้ก็ตกเป็นของไอยคุปต์เสมอ คุณหญิงปิ่นมุกเหนื่อยใจกับความไม่เอาไหนของไอยคุปต์ จึงวางแผนจับไอยคุปต์หมั้นกับ ดารัล (เจนนี่ ชยิสรา วัฒนะนาวิน) ไอยคุปต์จะปฏิเสธ แต่ถูกขู่ว่าถ้าไม่หมั้นจะตัดหางปล่อยวัด เขาจึงตอบตกลง ทำให้ ขวัญนารี (คะน้า ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ) คู่ควงคนล่าสุดของไอยคุปต์ไม่พอใจ บุกอาละวาดประกาศว่า ตัวเองเป็นเมียของไอยคุปต์ ไอยคุปต์เห็นจังหวะจึงแอบหนีงานแต่งไปเที่ยวตามประสาหนุ่มโสด แต่แล้วเขาก็ถูกมิจฉาชีพลวงไปรูดทรัพย์ทำร้ายร่างกายก่อนโยนทิ้งทะเล เขาฟื้นขึ้นมาเจอกับ ตาคม (สมเล็ก สมชาย ศักดิกุล) ชายแก่สติไม่ดีบนเกาะมุกล้อม เลยคิดว่าเป็นโจร จึงปกป้องตัวเองและทำให้ตาคมตกทะเล ฟากฟ้าและพวกชาวบ้านหาร่างของตาคมไม่พบ เลยจะจับตัวไอยคุปต์ส่งตำรวจ แต่ยังไม่ทันส่ง กลทีป์ก็พาทนายมายื่นฟ้องจะเอาปลาวาฬไปเลี้ยง เพราะฟากฟ้าเป็นสาวโสดทำงานหนักไม่มีเวลาเลี้ยงดูหลาน ทนายของฟากฟ้าจึงเสนอให้รีบแต่งงาน ศาลจะได้เชื่อถือมากขึ้น ฟากฟ้ามืดแปดด้าน เพราะเธอไม่มีแฟน แต่แล้วก็เหมือนสวรรค์มาโปรด เมื่อจู่ ๆ ตาคมก็โผล่ขึ้นมาจากทะเล เธอโล่งใจที่ตาคมไม่เป็นไร พร้อมกันนั้น แผนบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในหัว นั่นคือ แผนการแต่งงานกำมะลอ โดยมีไอยคุปต์เป็นว่าที่สามีนั่นเอง ฟากฟ้ายื่นข้อเสนอกับไอยคุปต์ว่าจะไม่ส่งตำรวจ ถ้ายอมแต่งงานพร้อมจดทะเบียนสมรสกับเธอเพื่อความสมจริง ไอยคุปต์ยอมทำตาม เพราะไม่อยากติดคุก เมื่อคุณหญิงปิ่นมุกรู้เรื่องก็พยายามขัดขวาง ไอยคุปต์จึงต้องหาข้ออ้างโดยบอกจะใช้การแต่งงานนี้สืบข้อมูลเกาะมุกล้อมมาให้ คุณหญิงเลยจำใจยอม ด้านดารัลแอบดีใจที่ไม่ต้องแต่งงานกับไอยคุปต์ เพราะความจริงเธอแอบหลงรัก อนาวิน (โอ๊ต รัฐธีร์ วรโรจน์โยธิน) พี่ชายของไอยคุปต์มาตั้งนานแล้ว ยิ่งเธอได้รับมอบหมายให้เข้ามาเป็นเลขาส่วนตัวของอนาวินแทนไอยคุปต์ ทำให้ดารัลแอบสุขใจ เช่นเดียวกับอนาวิน แต่เขาพยายามปิดกั้นตัวเองเพราะถือว่าเธอเป็นคนที่แม่เลือกให้น้องชาย ขณะเดียวกัน ไอยคุปต์เริ่มค้นพบเสน่ห์ชีวิตเรียบง่ายของชาวเกาะ เขาเลยเข้าใจฟากฟ้ามากขึ้น ที่เธอต่อต้านโครงการของเขา ฟากฟ้ากับไอยคุปต์ช่วยกันรณรงค์และหว่านล้อมไม่ให้ชาวบ้านขายที่ดินกับนายทุน ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก่อตัวขึ้น แต่ปัญหาใหญ่กำลังตามมา เมื่อกลทีป์ไม่เชื่อว่าทั้งคู่แต่งงานกันจริง ประกอบกับเขาได้เจอขวัญนารีและถูกตาต้องใจกัน ทั้งคู่จึงร่วมมือกันสืบหาความจริง พร้อมเปิดโปงความลับที่ฟากฟ้ากับไอยคุปต์ต่างปิดบังกันและกัน ฟากฟ้ากำลังจะสูญเสียทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหลานชายสุดที่รัก รีสอร์ตและที่ดินมรดกจากพ่อแม่ รวมถึงความรักระหว่างเธอกับไอยคุปต์ เรื่องราววุ่นวายจะจบลงอย่างไร ปัญหาความรักหลายเส้าของอนาวินกับดารัล และฟากฟ้ากับไอยคุปต์จะสมหวังหรือไม่ ติดตามชมกันต่อได้ในละคร เกาะรักกลหัวใจ ที่ออกอากาศทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และ Facebook Live : Ch7HD หรือรับชมย้อนหลังได้ทาง BUGABOO.TV ละคร เกาะรักกลหัวใจ เริ่มตอนแรกวันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม 2564

กำนันหญิง 2564

เรื่องย่อ : กำนันหญิง (2564/2021) กำนันผาด และ หยด มีลูกสาว 2 คน ดาหวัน พี่สาวเป็นช่างเสริมสวยในหมู่บ้าน ส่วน ดาวรุ่ง จบเกษตรมาจากมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ กำนันผาดเป็นคนตรง ซื่อสัตย์ จึงเป็นศัตรูของพวก นายทำนบ และ ทะนง ผู้เป็นลูกชาย เพราะขวางเส้นทางอิทธิพลของสองพ่อลูกที่จะทำธุรกิจผิดกฎหมายในท่ากระยาง เป็นที่หวาดกลัวของชาวบ้าน กำนันผาดถูกยิงแต่รอดชีวิตมาได้ จึงมีความคิดที่จะให้ ”ดาวรุ่ง” เป็น “กำนันหญิง” ของท่ากระยางสืบแทน เพื่อที่ตนเองจะได้สืบเรื่องที่นายทำนบลักลอบตัดไม้พะยูงเพื่อส่งไปขายต่างชาติ ดาวรุ่ง ลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านและกำนัน ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของดาหวันพี่สาวและแม่หยด แต่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจเด็ดเดี่ยวที่จะโค่นอิทธิพลของนายทำนบ ทำให้ดาวรุ่งกล้าเสี่ยงที่จะออกหาเสียงเลือกตั้งกับ เปีย คู่หู ธรรณพ ถูกย้ายมารับตำแหน่งปลัดอำเภอที่ "ท่ากระยาง" ในระหว่างทางถูก ปลาแขยง แพงพวย ดอกโศก จอมเกเรประจำหมู่บ้าน ลูกชาย มัคทายกจืด ดักปล้น แต่ถูกดาวรุ่งกับเปียช่วยไว้ได้ ทำให้ธรรณพประทับใจในตัวดาวรุ่ง โดยที่ดาวรุ่งไม่รู้ว่า ธรรณพเป็นปลัดคนใหม่ที่เพิ่งจะเข้ามารับตำแหน่ง จนกระทั่งวันงานประจำปีของวัด ธรรณพ เข้ามาระงับเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างทะนงกับพวกชาวบ้าน ทุกคนจึงได้รู้ว่าธรรณพ คือปลัดอำเภอคนใหม่ นายทำนบ วางแผนเพื่อจะเอาธรรณพเข้าเป็นพวก โดยใช้ทะนงให้เอาเงินไปให้ธรรณพ แต่ธรรณพปฏิเสธไม่ยอมรับของทำนบ และแจ้งความจับทะนงในข้อหาพกพาอาวุธโดยไม่มีใบอนุญาต ทำนบจึงวางแผนใหม่โดยการให้ "แววหวาน" เมียเก็บของทำนบไปยั่วธรรณพ แต่แววหวานก็ทำไม่สำเร็จ ทำนบจึงเชิญธรรณพมาเลี้ยงต้อนรับที่หมู่บ้าน ดาวรุ่ง และเปียเห็นเข้าจึงเข้าใจผิดคิดว่าธรรณพกลายเป็นสมุนรับใช้ของนายทำนบไปแล้ว ยิ่งทำให้ดาวรุ่งมีความรู้สึกเกลียดชังและพยายามขัดขวางไม่ให้ดาหวันพี่สาวติดต่อกับธรรณพ กำนันผาดออกสืบเรื่องไม้พะยูงและธุรกิจผิดกฎหมายของนายทำนบอย่างเงียบ ๆ ขณะที่ดาวรุ่งต้องถูกกลั่นแกล้งในการหาเสียงเลือกตั้งทั้งจากกลุ่มของทะนง และจากพวกของปลาแขยง ดาวรุ่งพยายามทุกทางเพื่อให้ชนะการเลือกตั้ง และสุดท้ายดาวรุ่งก็ชนะการเลือกตั้งได้เป็นกำนันหญิงอย่างใสสะอาด ทำให้ธรรณพยิ่งชื่นชมในตัวดาวรุ่ง และสนิทสนมกับดาหวันเพื่อจะได้ใกล้ชิดกับดาวรุ่ง ทำให้ดาหวันเข้าใจผิดคิดว่าธรรณพมีใจกับตนเอง ดาวรุ่งก็ยิ่งพยายามขัดขวาง และยิ่งเลียดชั่งธรรณพยิ่งขึ้น หลังจากได้รับการแต่งตั้งเป็นกำนัน ดาวรุ่งก็เริ่มลงมือพัฒนาท้องถิ่นด้วยการยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นำวิชาการเกษตรแผนใหม่มาเผยแพร่ให้ลูกบ้าน โดยมี เกื้อกูล ซึ่งเป็นชาวไร่และเป็นพวกของดาวรุ่งมาตลอดร่วมกับ ครูวิภา คอยช่วยเหลือสนับสนุนทุกทาง ทั้งหมดจึงเป็นที่หมายตาของ นายทำนบและทะนง มีคำสั่งให้ฆ่ากำนันดาวรุ่ง แต่ดาวรุ่งก็รอดตายมาได้ และยิ่งต่อสู้เข้มข้นขึ้นเพราะมีชาวบ้านเป็นแนวร่วม แววหวานพยายามทำทุกทางเพื่อเอาชนะจิตใจของธรรณพ แต่ไม่สำเร็จ กลายเป็นปฏิปักษ์กับดาหวันอย่างรุนแรง ดาหวัน บีบบังคับให้ดาวรุ่งใช้ตำแหน่งหน้าที่กำนัน เชิญธรรณพมากินข้าวที่บ้าน เพื่อสร้างความสนิทสนม ธรรณพมาตามคำเชิญเพราะต้องการสนิทสนมกับดาวรุ่ง และธรรณพเริ่มสงสัยว่าดาวรุ่งเกลียดชังเขาเพราะอะไร ปลาแขยง แพงพวย และดอกโศก จอมเกเร พยายามป่วนงานพัฒนาของดาวรุ่งเพราะถือว่าดาวรุ่งเป็นศัตรู ปลาแขยงวางแผนที่จะปลุกปล้ำดาวรุ่ง เพราะต้องการเทครัวทั้งพี่สาวและน้องสาว เป็นเหตุให้ปลาแขยงและพวกต้องบาดเจ็บสะบักสะบอมจากการต่อสู้กับดาวรุ่งและเปีย และยิ่งทำให้ดาวรุ่งเกลียดชังปลาแขยงกับพวกมากยิ่งขึ้น ขณะที่ดาหวันก็ต้องการแต่งงานกับปลัดธรรณพ เพื่อหวังจะเป็นคุณนายมีหน้าตาเกียรติยศในสังคมชนบท โสมโสภา หลานสาว คุณหญิง มารดาของธรรณพ กลับมาจากเมืองนอก รบเร้าให้คุณหญิงพามาหาธรรณพที่ท่ากระยาง คุณหญิงจึงจำต้องพาโสมโสภามาท่ากระยาง ทั้งสองถูกพวกของทะนงดักปล้นและลวนลาม ปลาแขยง แพงพวย และดอกโศก ผ่านทางมาพบจึงช่วยทั้งสองไว้ได้ โสมโสภาไม่พอใจเมื่อรู้ว่าธรรณพสนใจดาวรุ่ง จึงหาทางเข้าพวกกับทะนง เพื่อยืมมือของทะนงและทำนบกำจัดดาวรุ่งให้พ้นทาง แววหวานเองก็ชิงชังโสมโสภาแต่จำต้องอดกลั้นไว้ เพื่อจะใช้โสมโสภาให้เป็นประโยชน์ต่องานผิดกฎหมายของทำนบและทะนง ดาวรุ่งและธรรณพเกิดขัดแย้งกันอยู่เสมอในเรื่องงานพัฒนา ละกวาดล้างยาเสพติด กำนันผาดก็เข้าป่าเพื่อสืบค้นแหล่งตัดไม้และพักไม้พะยูงของทำนบ โสมโสภา พยายามเอาชนะหัวใจของธรรณพแต่ไม่สำเร็จ ธรรณพของให้คุณหญิงทำการสู่ของดาวรุ่งเพื่อแต่งงาน ทำให้โสมโสภาแค้นใจ จึงร่วมมือกับทะนงเพื่อฆ่าดาวรุ่ง โสมโสภา ถูกทะนงจับไว้เป็นตัวประกัน หลังจากที่ธรรณพนำกำลังเข้าช่วยดาวรุ่งจับไม้พะยูงและยาเสพติด ดาวรุ่งบุกเข้าไปช่วยโสมโสภาในที่กักขัง ทำให้โสมโสภารู้ว่ากำนันดาวรุ่งเป็นคนที่มีจิตใจดีงาม และหวังดีต่อโสมโสภา ดาวรุ่งถูกพวกของทะนงและทำนบ ล้อมยิงจนต้องหนีเข้าป่าลึก ผาดเข้าช่วยดาวรุ่งและผาดถูกยิงตาย ธรรณพเข้าไปช่วยดาวรุ่งให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของทะนง แต่ดาวรุ่งบาดเจ็บสาหัส ธรรณพพาดาวรุ่งหนีตายจนไปรวมกับพวกของปลาแขยง ปลาแขยงสละชีวิตเพื่อปกป้องดาหวัน ก่อนที่ดาหวันจะพาตำรวจเข้ามาช่วยดาวรุ่งและธรรณพในป่า ดาหวันเสียใจในการตายของปลาแขยง และรู้ว่าปลาแขยงมีความรักที่แท้จริงต่อตน โสมโสภา น้องใจเสียใจที่ผิดหวังจากธรรณพ จึงเดินทางกลับไปอเมริกา ทะนง ทำนบ และแววหวานถูกจับข้อหาค้ายาเสพติดและค้าไม้เถื่อน ดาวรุ่ง บาดเจ็บสาหัสถูกนำส่งโรงพยาบาล ดาวรุ่งเข้าใจแล้วว่าธรรณพยืนเคียงข้างประชาชนและมีอุดมการณ์ของข้าราชการที่ดี ซื่อสัตย์สุจริต รักษาผลประโยชน์ของประชาชน ทั้งสองต่างรักและเข้าใจกัน ดาวรุ่ง ได้รับรางวัลแหนบทองคำในฐานะกำนันพัฒนาดีเด่นจากกรมการปกครอง ท่ามกลางความตื่นเต้นและปลาบปลื้มของชาวท่ากระยาง

ก่อนตะวันแลง 2563

เรื่องย่อ : ก่อนตะวันแลง (2563/2020) ปี พ.ศ. 2523 งานนมัสการพระธาตุพนม พบทารกเพศหญิงถูกทิ้งไว้ในห่อผ้า พิณ กับ บัวผัน สองผัวเมียแต่งงานกันมานานไม่มีลูก จึงเก็บเด็กมาเลี้ยง ตั้งชื่อว่า เรณู พอเรณูอายุได้ 1 ขวบ ก็เกิดลูกอิจฉา บัวผันตั้งท้อง คลอดลูกสาวออกมาให้ชื่อว่า ช่อแก้ว จากเคยฟูมฟักทะนุถนอมเรณู บัวผันกลับนึกชัง ไม่น่าเก็บเรณูมาเป็นภาระ ครอบครัวก็ฐานะยากจน หากแต่พิณ ผู้เป็นพ่อ รักสงสารเรณูมาก พิณห้ามบัวผันบอกเรณูว่าเป็นลูกที่เก็บมาเลี้ยง 19 ปีต่อมา...เรณูกับช่อแก้วเติบโตเป็นสาวสวย ทว่าสองพี่น้องนิสัยต่างกันอย่างสิ้นเชิง เรณูอ่อนหวาน น่ารัก น้ำใจงาม ช่อแก้วเห็นแก่ตัว ร้ายกาจ เอาแต่ใจ ช่อแก้วมักรังแก จิกใช้เรณูเยี่ยงทาส ซึ่งเรณูก็ก้มหน้าอดทน พงษ์ศักดิ์ ปลัดอำเภอหนุ่มรูปหล่อ ถูกย้ายมาอยู่อำเภอเรณูนคร พงษ์ศักดิ์เกิดตกหลุมรักเรณูที่รำในขบวนฟ้อนภูไท งานลมหนาวเรณูนคร โชคชะตาฟ้ากลั่นแกล้งให้ช่อแก้วดันหลงรักพงษ์ศักดิ์ เรณูยอมหลีกทางให้น้องสาว ปลัดพงษ์ศักดิ์ตามตื๊อรักเรณู สร้างความอิจฉาริษยาให้ช่อแก้วมาก คืนหนึ่ง เรณูถูกคนร้ายดักฉุด พงษ์ศักดิ์มาช่วยไว้ได้ คนที่ดักฉุดเรณูก็คือ บุญหลาย นักเลงประจำหมู่บ้าน ช่อแก้วสั่งให้บุญหลายที่หลงรักตนจับเรณูไปให้ลูกน้องย่ำยี บุญหลายคาดผ้าขาวม้าปิดบังใบหน้า จึงไม่มีใครรู้ว่าเป็นฝีมือบุญหลาย พงษ์ศักดิ์ห่วงความปลอดภัยเรณูมาก จึงพามาอยู่บ้านพักปลัดอำเภอ ชาวบ้านครหาว่าสองคนได้เสียเป็นเมียผัว งานดอง พงษ์ศักดิ์กับเรณูแต่งงานเพื่อลบคำครหา เหนือสิ่งอื่นใดสองหนุ่มสาวรักกัน ช่อแก้วช้ำรักจะผูกคอตาย บัวผันผู้เป็นแม่มาตัดเชือกได้ทัน ความที่ลูกสาวแท้ ๆ เกือบตายเพราะนังเรณู นังลูกชัง บัวผันจึงผิดสัญญาที่ให้ไว้กับผัว ที่จะไม่บอกว่าเก็บเรณูมาเลี้ยง บัวผันด่าทอเรณูรุนแรง "นังเรณู แกมันบ่ใช่ลูกอิพ่ออิแม่ แกสิมันเป็นลูกเก็บมาเลี้ยง" พิณ ผู้เป็นพ่อยอมรับว่าเป็นความจริง เรณูเสียใจมาก พิณปลอบเรณู "แม่แท้ ๆ ของเจ้าสิต้องมีความจำเป็นหลาย ถึงได้ทอดทิ้งเจ้า อย่าไปเคียดแม่แท้ ๆ ของเจ้าเด้อ" (เคียดหมายถึงโกรธ) พิณยังได้มอบของสำคัญให้เรณู แหวนเงินลงยาที่แม่แท้ ๆ ของเรณูทิ้งไว้ในห่อผ้า ตัวแหวนสลักชื่อ ดวงใจ แม่แท้ ๆ ของเรณูชื่อดวงใจ เรณูตามหาผู้หญิงชื่อดวงใจ ที่เอาลูกมาทิ้งในงานพระธาตุพนมเมื่อ 23 ปีก่อน แต่ไม่พบ เรณูไหว้พระธาตุพนม ขอให้ได้เจอแม่ หลังบอกความจริงลูก พิณก็ป่วยตาย เหลือเรณูเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหาเลี้ยงครอบครัว เรณูทอผ้าไหมขาย ฝีมือทอผ้าจัดว่าละเอียดสวยงาม ผ้าไหมของเรณูมีคนมารับซื้อถึงบ้าน เรณูกับพงษ์ศักดิ์ได้ข่าวดี เรณูตั้งท้อง ช่อแก้วยังตามกลั่นแกล้งเรณู ถีบท้องเรณู หมายให้แท้งลูก ถึงเวลาที่เรณูต้องลุกขึ้นสู้ เรณูสั่งช่อแก้วให้ช่วยปั่นเส้นไหม ไม่งั้นจะไม่ให้เงินใช้ ช่อแก้วถูกบังคับให้ทำงาน ยิ่งเกลียดชังเรณู ช่อแก้วประชดรักผิดหวัง อีกทั้งอยากได้คนหาเลี้ยง จึงยอมแต่งงานกับอ้ายบุญหลาย ชีวิตคู่ของช่อแก้วกับบุญหลายหวานอมขมกลืน บุญหลายรู้ว่าช่อแก้วยังรักปลัดพงษ์ศักดิ์ โจรขโมยควายอาละวาด ปลัดพงษ์ศักดิ์ยิงต่อสู้โจร เกิดพลาดท่า ช่อแก้วตามมาช่วย เอาตัวรับกระสุนแทนพงษ์ศักดิ์ ช่อแก้วรอดตาย หากแต่คนที่ตายทั้งเป็นคือบุญหลาย เมียรักยอมเสี่ยงชีวิตช่วยชายอื่น ความแค้นมันสุมอก บุญหลายไปท้าดวลปลัดพงษ์ศักดิ์ยิงปืนหมายให้ตายกันไปข้าง ปลัดพงษ์ศักดิ์ไม่เอาด้วย บุญหลายเล็งปืนไปที่ปลัด พอจะยิงกลับยิงไม่ลง อ้ายบุญหลายมันไม่ใช่ฆาตกรโดยสันดาน ทว่า... ปืนลั่น ปลัดพงษ์ศักดิ์ตาย บุญหลายกลัวความผิดจึงเอาศพไปทิ้ง หลายวันต่อมาชาวบ้านพบศพ เรณูร้องไห้ปริ่มว่าจะขาดใจ จู่ ๆ ผัวรักตายจาก หลังงานศพผัว เรณูก็คลอดลูกชาย เรณูตั้งชื่อลูกว่า พนมกร ตามชื่อพระธาตุพนม เนื่องด้วยพงษ์ศักดิ์ผัวรักไหว้พระธาตุพนมขอให้ได้ลูกชาย ทางด้านคดี ตำรวจสันนิษฐานว่าปลัดพงษ์ศักดิ์โดนโจรขโมยควายยิงตาย แต่จับฆาตกรไม่ได้ บุญหลายเอาปืนที่ยิงปลัดพงษ์ศักดิ์ตายไปทิ้งบ่อน้ำบาดาลหลังบ้าน อ้ายบุญหลาย ฆาตกรตัวจริงลอยนวล ทางการเอาบ้านพักปลัดอำเภอคืน เรณูจึงหอบลูกวัยแบเบาะกลับมาอยู่บ้านแม่ บัวผันไล่ตะเพิดเรณู "มึงสิบ่ใช่ลูกกู กูบ่ให้มึงอยู่ที่บ้านกู" เรณูยืนกรานสิทธิ์ตัวเอง "ก่อนตาย พ่อสิบอกข้อย พ่อยกที่ดินหลังบ้านให้ข้อย ข้อยจะปลูกเฮือนอยู่ที่นี่" เพื่อนบ้านมาช่วยลงแรงปลูกเรือนหลังเล็กให้เรณูอยู่กับลูก เมื่อเป็นแม่คน เรณูก็ยิ่งนึกถึงแม่แท้ ๆ ของตัวเอง อยากให้แม่ได้อุ้มหลาน พอได้ยินว่าคนบ้านใดชื่อดวงใจ เรณูก็ดั้นด้นไปหา "แม่ดวงใจ แม่อยู่ไส ลูกอยากพ้อแม่หลาย" (พ้อหมายถึงเจอ) ช่อแก้วตั้งท้อง ได้ลูกสาว บุญหลายรักลูกมาก ผิดกับช่อแก้วที่ไม่อินังขังขอบลูก เพราะลูกเป็นเหตุให้ช่อแก้วทิ้งบุญหลายไม่ได้ เรณูเวทนาหลาน อุ้ม กัลยา ลูกสาวช่อแก้วมาให้นมแทนแม่ตัว บัวผัน ตกบ่อน้ำบาดาลหลังบ้านตาย ตอนเกิดเหตุไม่มีคนอยู่บ้าน ไม่รู้บัวผันพลัดตกบ่อบาดาลได้อย่างไร ? ความจริงก็คือ บัวผันบังเอิญเจอปืนบุญหลายที่ทิ้งไว้ในบ่อน้ำ บุญหลายยอมรับว่าทำปืนลั่นใส่ปลัดพงษ์ศักดิ์ตาย บัวผันจะไปบอกตำรวจ บุญหลายไม่ยอมให้ไป เกิดยื้อยุดแย่งปืนกัน ทำให้บัวผันเสียหลักพลัดตกบ่อบาดาล มันเป็นอุบัติเหตุ แต่ด้วยกลัวความผิด บุญหลายจึงไม่บอกใคร ปริศนาการตาย 2 ศพถูกปกปิด รอวันกระชากหน้ากากคนเลว 18 ปีต่อมา กรุงเทพฯ... ดวงใจถูกตรวจพบเป็นโรคมะเร็ง มีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ดวงใจปรารถนาอยากเจอลูกที่ทิ้งไปเมื่อ 30 ปีก่อน อดีต..ในขณะนั้นดวงใจอายุ 19 ปี ท้องไม่มีพ่อ กลัวพ่อแม่จะด่าว่า เลยหนีออกจากบ้านไปคลอดลูกที่ต่างจังหวัด ดวงใจไหว้พระธาตุพนมขอให้คุ้มครองลูก แล้วทิ้งลูกแรกเกิดไว้ ส่วนตนเองกลับกรุงเทพฯ กระทั่งเรียนจบ พ่อแม่ตาย ดวงใจจึงมาตามหาลูกที่นครพนมแต่ไม่พบ ต่อมาดวงใจแต่งงาน แต่มีลูกไม่ได้ จึงขอเด็กมาเลี้ยง สามีดวงใจเสียชีวิตแล้ว ทิ้งสมบัติไว้ให้มากมาย ดวงใจร่ำรวยเงินทอง แต่ใจเป็นทุกข์หนักหนา คิดถึงลูกที่ตนทอดทิ้ง ดวงใจให้ เรวัติ คนสนิท จ้างนักสืบตามหาลูกสาว นักสืบได้เบาะแสตามหาจนเจอบ้านเรณู วันนั้นเรณูไม่อยู่ พอช่อแก้วรู้ว่าแม่ที่แท้จริงของเรณูเป็นถึงเศรษฐีนี ความโลภก็เข้าครอบงำ ช่อแก้วสวมรอยเป็นเรณู ช่อแก้วมาหาดวงใจที่กรุงเทพฯ หลอกว่าเป็นลูก กมลชนก ลูกสาวที่ดวงใจรับอุปการะ กลัวช่อแก้วแย่งสมบัติ เลยจับผิดช่อแก้ว "แม่เคยเล่าว่า ทิ้งแหวนเงินไว้ในห่อผ้าเด็กทารก ไหนล่ะแหวน" พอกมลชนกทักท้วง ดวงใจจึงลังเลว่าช่อแก้วอาจไม่ใช่ลูก นครพนม... ช่อแก้วกลับบ้านมาขโมยแหวนของเรณู เรณูมาเห็นแย่งแหวนคืน สองสาวตบตีกัน บุญหลายย่องมาข้างหลัง เอาท่อนไม้ฟาดหัวเรณูสลบ ช่อแก้วทิ้งเรณูไว้แล้วรีบกลับกรุงเทพฯ เมื่อเห็นแหวนเงินลงยาสลักชื่อตนเอง ดวงใจจึงเชื่อว่าช่อแก้วคือลูกสาวตนจริง ดวงใจกอดรับขวัญลูก ช่อแก้วเสแสร้งเล่นบทบาทลูกสาวแสนดี ดูแลแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็ง แต่ในใจช่อแก้วแช่งดวงใจให้รีบ ๆ ตายซะ สมบัติจะได้เป็นของตน เรณูฟื้นขึ้นมาที่โรงพยาบาล มีอาการสูญเสียความทรงจำ (Amnesia ภาวะสูญเสียความทรงจำเกิดจากสมองกระทบกระเทือน หรือเป็นโรคสมองเสื่อม อาจสูญเสียความจำทั้งหมด หรือบางส่วน) เรณูสูญเสียความทรงจำทั้งหมด จำไม่ได้ว่าตัวเองคือใคร จำพนมกรลูกชายไม่ได้ ระหว่างทางกลับจากโรงพยาบาลมีเหตุให้เรณูพลัดกับพนมกร เรณูกลับบ้านไม่ถูก พนมกรตามหาแม่ แต่ไม่พบ เรณูหลงทางจนหวาดกลัว เลยมาขออาศัยแม่ชีที่วัด วันแล้ววันเล่า พนมกรออกตระเวนตามหาแม่ สองแม่ลูกคลาดกันไปมา เกือบเจอกันก็หลายหน พนมกรแสนห่วงแม่ "ค่ำคืนนี้ แม่สินอนไส" พนมกรไหว้พระธาตุพนม "ขอให้เจอแม่ก่อนตะวันแลง" (แลงหมายถึงเย็น ก่อนตะวันแลงคือ ก่อนตะวันตกดินยามเย็น) กัลยา ลูกของช่อแก้ว ช่วยพนมกรตามหาป้าเรณู แต่ก็ไม่พบ พนมกรห่วงหาแม่มากหลาย ร้องไห้ กัลยากอดปลอบพนมกร ด้วยรู้ว่าแม่ไม่ใช่พี่น้องกันแท้ ๆ พนมกรกับกัลยาจึงรักกัน กรุงเทพฯ ช่อแก้วรู้จากกัลยาว่า อาการความจำเสื่อมของเรณูสามารถรักษาหาย ช่อแก้วรีบกลับนครพนม กลายเป็นช่อแก้วที่เจอเรณูก่อนพนมกร ช่อแก้วจะฆ่าเรณู เรณูวิ่งหนีขึ้นรถไฟที่กำลังแล่นออกจากชานชาลาจึงรอดตาย รถไฟขบวนที่เรณูขึ้นมีปลายทางคือกรุงเทพฯ มีคนเห็นเรณูขึ้นรถไฟเข้ากรุงเทพฯ พนมกรกับกัลยาจึงเข้ากรุงเทพฯ มาตามหาเรณู กัลยามาหาช่อแก้วที่บ้านดวงใจ จึงจับได้ว่าแม่สวมรอยเป็นป้าเรณู กัลยาจะบอกความจริงดวงใจ แต่โดนช่อแก้วผู้เป็นแม่ตบหน้า "เจ้าสิจะแฉแม่เหรอนังกัลยา" บุญหลาย พ่อกัลยาติดหนี้พนันหลายล้าน ถ้าดวงใจรู้ว่าช่อแก้วไม่ใช่ลูก ก็ต้องไม่ให้เงิน บุญหลายก็ไม่มีเงินใช้หนี้ ต้องโดนฆ่าตาย กัลยาเห็นแก่พ่อเลยยอมปิดปากเงียบ ดวงใจได้เจอพนมกร รู้สึกเอ็นดูสงสารเด็กคนนี้มาก จะช่วยจ้างนักสืบตามหาแม่เรณูให้ ช่อแก้วระแวงกลัวดวงใจรู้ว่าพนมกรคือหลานที่แท้จริง ช่อแก้วจึงกีดกันทุกวิถีทางไม่ให้พนมกรเจอดวงใจ เรวัติ คนสนิทของดวงใจ สงสารพนมกรที่ต้องอาศัยนอนวัดระหว่างตามหาแม่ จึงให้มาอยู่ด้วยกันที่บ้าน เรวัติยังจ้างพนมกรเป็นผู้ช่วย เรวัติมีหน้าที่เก็บค่าเช่าอพาร์ตเมนต์ ค่าเช่าที่ให้ดวงใจ รวมถึงงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ดวงใจไหว้วาน เป็นเหตุให้ดวงใจกับพนมกรได้เจอกันบ่อย ๆ กัลยาน้ำท่วมปาก บอกไม่ได้ว่าดวงใจกับพนมกรเป็นยายหลานกัน วันหนึ่งพนมกรได้มีโอกาสรู้จัก พ.ต.ท.ปรีชา (รับเชิญ) ญาติคุณดวงใจ พนมกรมีเรื่องติดค้างในใจมานาน ใครฆ่าพ่อ ? คดีฆาตกรรมจะหมดอายุความใน 20 ปี นี่ผ่านมา 18 ปี ยังจับฆาตกรมาลงโทษไม่ได้ พนมกรอยากให้คนที่ฆ่าพ่อได้รับกรรม พ.ต.ท.ปรีชา รับปากจะลองช่วยสืบดู กมลชนก ลูกเลี้ยงของดวงใจ โกรธช่อแก้วมากที่ขอเงินดวงใจหลายล้าน จึงด่าช่อแก้ว ว่าใจคอจะผลาญสมบัติแม่ให้หมด ดวงใจเห็นลูกจริงกับลูกเลี้ยงทะเลาะกันเรื่องเงินก็เศร้าใจ ทั้งสองคนต่างหวังสมบัติตน ไม่มีใครรักห่วงใยตนจริง โรงงานนรกที่เรณูถูกจับมาขายเป็นแรงงานทาส โดนตำรวจทลาย เรณูถูกพาไปโรงพัก อำพล สามีของกมลชนก เจอเรณูก็ประทับใจความสวย เลยจ้างเรณูมาทำงานเป็นแม่บ้านบริษัทตน เรณูยังความจำเสื่อม จำชื่อตัวเองไม่ได้ อำพลจึงเรียกเรณูว่าปริศนา หมายถึงผู้หญิงปริศนาผู้ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร อำพลชอบหนีเมียมาหาเรณูที่บริษัท กมลชนกทะเลาะหึงหวงอำพลกับนังปริศนา โดยกมลชนกไม่รู้ว่าผู้หญิงปริศนาคนนี้ก็คือเรณู แม่ที่พนมกรตามหา พนมกรมาทำธุระให้เรวัติที่บริษัทอำพลหลายครั้ง เกือบได้เจอแม่เรณู แต่มีเหตุให้แม่ลูกคลาดกัน (การคลาดกันของแม่ลูก จะทำให้มีเหตุผลเป็นไปได้) นับวันอำพลยิ่งหลงรักเรณู พาเรณูมาหาหมอรักษาอาการสูญเสียความทรงจำ และที่โรงพยาบาลนี้เอง เรณูเกือบเจอดวงใจ แม่บังเกิดเกล้า ดวงใจมาทำคีโม แต่จนแล้วจนรอด แม่และลูกสาวแท้ ๆ ก็ไม่ได้เจอกัน อาการของดวงใจทรุดหนักเนื่องจากแพ้คีโม ช่อแก้วให้ดวงใจทำพินัยกรรมยกสมบัติให้ตน กมลชนกไม่ยอมให้ ช่อแก้วจึงช่วงชิงสิ่งที่ควรเป็นของตน กมลชนกจ้างคนไปทำร้ายช่อแก้ว หมายขู่ให้กลัว เพื่อจะได้หนีกลับนครพนม คนร้ายมาจับตัวช่อแก้ว กัลยาเข้าช่วยแม่ ทำให้เหตุการณ์บานปลาย คนร้ายยิงกัลยาอาการปางตาย พนมกรมาเฝ้ากัลยาที่โรงพยาบาลทุกวัน ทำให้ช่อแก้วรู้ว่าพนมกรกับกัลยารักกัน ช่อแก้วเกลียดพนมกรมาก ห้ามยุ่งกับกัลยา ลูกสาวตน ตำรวจจับคนร้ายได้และซัดทอดอำพลกับกมลชนก สองสามีภรรยาเป็นผู้จ้างวาน อำพลเสียสละยอมรับผิดคนเดียว อำพลติดคุก เรวัติ คนสนิทของดวงใจมีหลักฐานสาวมาถึงกมลชนก ดวงใจรักกมลชนกเหมือนลูก ไม่มีแม่คนไหนส่งลูกเข้าคุกได้ลงคอ ดวงใจทำลายหลักฐานทิ้ง ทว่าอย่างไรเสีย กมลชนกก็ทำชั่ว ดวงใจตัดแม่ตัดลูกกับกมลชนก !!! เรณูความทรงจำกลับมา เรณูจำได้แล้วว่าตัวเองเป็นใคร และใครทำร้ายเธอจนความจำเสื่อม คือช่อแก้ว กมลชนกแสร้งดีกับเรณู จะเอาคืนนังช่อแก้วให้ได้ ขณะที่กมลชนกจะพาเรณูไปกระชากหน้ากากนังช่อแก้ว เรณูก็หายตัวไป เรณูกลับบ้านที่นครพนม เพื่อตามหาพนมกรลูกชาย ช่อแก้วกับบุญหลายรู้ว่าความจำของเรณูกลับมา จึงตามมาจะฆ่าทิ้ง พนมกรมาช่วยแม่ขณะกำลังจะโดนบุญหลายยิง ช่อแก้วสั่งผัว "อ้ายบุญหลาย ยิงมันทั้งแม่ทั้งลูก" พนมกรบอกน้าช่อแก้ว "น้ารู้ไหม คนที่ฆ่าพ่อผม ผู้ชายที่น้ารักที่สุดคือใคร ก็น้าบุญหลาย ผัวน้ายังไงล่ะ" ก่อนหน้านี้ตำรวจที่พนมกรขอให้ช่วยหาตัวฆาตกรฆ่าพ่อ เจอหลักฐานว่าบุญหลายเป็นคนยิงพ่อของพนมกร วันนี้ความจริงปรากฏ ฆาตกรใจโฉดคือผัวตัวเอง ไอ้เลวบุญหลาย ช่อแก้วแค้นบุญหลายมาก ช่อแก้วยิงบุญหลาย ก่อนตายบุญหลายสารภาพว่าเป็นต้นเหตุให้แม่ของช่อแก้วตกบ่อบาดาลตาย ช่อแก้วไม่อโหสิให้ ขอให้วิญญาณมึงตกนรกหมกไหม้ ช่อแก้วสำนึกได้ บอกความจริงกับดวงใจว่า ลูกที่แท้จริงของดวงใจคือเรณู เวลาของดวงใจเหลืออีกไม่นาน เรณูกราบแม่ สองแม่ลูกร่ำไห้กอดกัน แล้วดวงใจก็เสียชีวิตในอ้อมกอดลูกสาวแท้ ๆ ที่พลัดพรากมา 40 ปี พนมกรกับกัลยาแต่งงานกัน ด้วยความยินดีของเรณู เรณูมาไหว้พระธาตุพนม ขอให้ดวงวิญญาณแม่ไปสู่สุขคติ และขอให้ครอบครัวพบแต่ความสุข อย่าได้พลัดพรากจากกันอีกเลย ติดตามชมความเข้มข้นของละคร ก่อนตะวันแลง ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 19.00 น. ทางช่อง 7 HD กด 35 ละคร ก่อนตะวันแลง เริ่มตอนแรกวันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม 2563

เพลิงเสน่หา 2562

เพลิงเสน่หา (2562/2019) เมื่อพิษรักจาก ขุนสัก ชายผู้เห็นแก่ตัว ทำให้ชีวิตของ เทียนหยดฟ้า สาวผู้เพียบพร้อมต้องสูญสิ้นทุกอย่าง เธอจึงทำทุกทางเพื่อแก้แค้น โดยมี โมก หนุ่มน้อยผู้ซื่อสัตย์คอยช่วยเหลือ โมกเทิดทูนบูชาคุณเทียน จนมองข้ามความรักความหวังดีของ ใบบัว เด็กสาวที่เติบโตมาด้วยกัน นับวันการแก้แค้นยิ่งถลำลึก และกำลังจะทำให้เธอสูญเสียทุกสิ่ง แม้กระทั่งชีวิต!

สวยซ่อนคม 2562

เรื่องย่อ : สวยซ่อนคม (2562/2019) ตระกูลฟังกับตระกูลปึง เป็นเพื่อนกันกันมานานแถมยังเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจอีกด้วย ตระกูลฟังเป็นเจ้าของบ้านเทียนอันซิน โดยมีเจ้าสัวฟัง (จิ๊บ-เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์) เป็นประมุขของบ้าน มีภรรยาหลวงชื่อ เซียะเนี้ย (ฮันนี่-ภัสสร บุณยเกียรติ) มีลูก 4 คน คือ ฟังเสียน (พล-พูลภัทร อัตถปัญญาพล) ลูกชายคนโต ฟังไฉ (ไม้-นนทพันธ์ ใจกันทา) ลูกชายคนรอง อ้ายผิง (เกรซ-กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า) ลูกสาวคนที่ 3 และซูเจ็ง (คุกกี้-ญดา สุวรรณปัฏนะ) ลูกสาวคนเล็ก เจ้าสัวฟังเป็นคนเจ้าชู้เลยมีเล็กเมียน้อยอีก 2 คน คือ อาหง (หลิน-ณุศรา ประวันณา) อดีตพี่เลี้ยงของอ้ายผิง มีลูกกับเจ้าสัว 2 คน คือ ซุนหลิง (พะพาย-รมิดา ธีรพัฒน์) และซุนเหมย (เบลล่า-ไรวินทร์ รัศมีนิยมวุฒิ) ส่วนเมียอีกคนเป็นสาวใช้ในบ้านชื่อ นางเหมย (ดี้-ปัทมา ปานทอง) มีลูกติดผัวเก่าชื่อ เจียอิง (หยก-ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์) ชีวิตของนางเหมยและเจียอิงไม่ได้อยู่สุขสบายในบ้านเทียนอันซินเลย เพราะโดนเซียะเนี้ยกลั่นแกล้งตลอด ทำให้เจียอิงเก็บกดความแค้นนี้มาตลอด ส่วนฝั่งของตระกูลปึงมี เหลาไท่ (ดวงดาว จารุจินดา) เป็นประมุขของตระกูลมีหลานชายฝาแฝดชื่อ สุ้ยไถ่ (พอร์ช-ศรัณย์ ศิริลักษณ์) พี่ชาย และส่งไห้ (พอร์ช-ศรัณย์ ศิริลักษณ์) น้องชาย ซึ่งทั้งสองคนมีนิสัยแตกต่างกันสิ้นเชิง พี่ชายเป็นคนสุขุม นิ่ง ส่วนคนน้อง ร่าเริง มองโลกในแง่ดี แล้วสุ้ยไถ่ได้ถูกจับให้แต่งงานกันกับอ้ายผิง แต่ลึก ๆ แล้วอ้ายผิงกับส่งไห้รักกัน ทำให้สุ้ยไถ่แอบเสียใจอยู่ลึก ๆ หลังจากที่เจ้าสัวฟังล้มป่วย เซียะเนี้ยก็เริ่มจัดการเมียเล็กเมียน้อยของเจ้าสัวให้ออกจากบ้าน เริ่มที่ครอบครัวของนางเหมยและเจียอิงที่โดนไล่ออกจากบ้านอย่างกับหมูกับหมา ทำให้เจียอิงโกรธแค้นครอบครัวนี้เข้ากระดูกดำ แล้วครอบครัวถัดมาคืออาหงและลูก ๆ ในจังหวะที่อ้ายผิงไปเรียนต่อที่ฮ่องกง เพราะถ้าอ้ายผิงอยู่ครอบครัวของอาหงก็จะไม่ถูกไล่ เนื่องจากอ้ายผิงรักและเอ็นดูซุนหลิงมาก ทางด้านเจียอิงและแม่ต่างตกระกำลำบาก ต้องเร่ร่อนไปอยู่ที่ฮ่องกง โดยทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดที่โรงพยาบาล และทำให้เจียอิงได้เจอกับ หมอโซว (ธีร์ วณิชนันทธาดา) หมอศัลยกรรมมาตกหลุมรัก ทำให้ ลู่หลาน (มิ้นท์-บารมิตา สาครจันทร์) แฟนสาวของหมอโซวต้องอกหัก เรื่องราวเหมือนจะจบลงด้วยดี แต่ก็ดันมีเหตุที่ทำให้เจียอิงอยากจะกลับมาแก้แค้นตระกูลฟัง เพราะเธอดันไปเจออ้ายผิงลูกสาวของเซียะเนี้ยประสบอุบัติเหตุนอนเป็นเจ้าหญิงนินทรา ที่โรงพยาบาลที่หมอโซวทำงานอยู่ เลยรบเล้าให้หมอโซวช่วยผ่าตัดศัลยกรรมให้เธอหน้าเหมือนกับอ้ายผิง เพื่อกลับไปแก้แค้น และให้สัญญากับหมอโซวว่าเสร็จภารกิจแล้วจะกลับมาแต่งงานด้วย หมอโซวยอมทำตามข้อเสนอ หลังจากที่เจียอิงผ่าตัดศัลยกรรมเรียบร้อยแล้วก็บินกลับมาที่บ้านเทียนอันซิน เพื่อมาแก้แค้น เริ่มที่เจ้าสัวฟัง ที่นอนป่วยเป็นอัมพาต เจียอิงในคราบอ้ายผิงแอบเปลี่ยนยาให้เจ้าสัวฟังกิน อาการค่อย ๆ แย่ลง แต่โชคดีที่ซุนหลินก็แอบเข้ามาดูแลเจ้าสัวฟังอยู่ตลอด ทั้ง ๆ ที่ถูกอ้ายผิงตัวปลอมจับได้ทั้งด่าและตบตี ทำให้ซุนหลิงตกใจมากที่อ้ายผิงที่น่ารักของเธอเปลี่ยนไปมาก ต่อจากนั้นอ้ายผิงก็หันมาจัดการฟังเสียน โดยส่งให้ไปอยู่ใต้แล้วก็ถูกเก็บโยนทิ้งทะเล ซูเจ็งน้องสาวคนเล็กตั้งท้องไม่มีพ่อ เลยฆ่าตัวตาย ฟังไฉพี่ชายแค้น เลยไปยิง ประพนธ์ (ปาแปง-พรหมพิริยะ ทองพุทธรักษ์) ที่ทำน้องสาวฆ่าตัวตาย ทำให้ฟังไฉติดคุก แล้วอ้ายผิงก็หันมาเล่นงานเซียะเนี้ยต่อโดยวางยาให้ค่อย ๆ ป่วยไม่มีแรง นอนซม แล้วก็หลอกให้เซ็นมอบอำนาจให้กับเธอเป็นคนจัดการเรื่องในบ้านและธุรกิจทั้งหมด อ้ายผิงตัวปลอมที่แอบหลงรักสุ้ยไถ่เมื่อตอนเด็ก ๆ ก็เริ่มตีสนิทหวังจะแต่งงานกับสุ้ยไถ่ตามที่ผู้ใหญ่ทั้งสองตระกูลตกลงกัน ทำให้ส่งไห้เสียใจและแค้นพี่ชายมาก สุ้ยไถ่เล่นไปตามเกมของอ้ายผิง เพื่อจะสืบหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับอ้ายผิง ถึงทำให้เธอเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ แต่ในระหว่างนั้นสุ้ยไถ่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือซุนหลิง ทำให้เกิดเป็นความรักและผูกผัน แต่สุ้ยไถ่ปากแข็ง อ้ายผิงจู่โจมสุ้ยไถ่หนักขึ้น จนทั้งคู่มีอะไรแล้วก็วางแผนแต่งงานกัน อ้ายผิงกลับไปฮ่องกงเพื่อจะไปจัดการฆ่าหมอโซวให้พ้นทาง แต่ไม่สำเร็จหมอโซวแกล้งตาย ระหว่างนั้นอ้ายผิงตัวจริงก็ถูกช่วยออกมาโดยได้รับความช่วยเหลือจากลู่หลาน สุ้ยไถ่พาอ้ายผิงตัวจริงมารักษาที่เมืองไทย แต่ก็ไม่รอด อ้ายผิงตัวจริงเสียชีวิตหลังจากที่ได้ส่งไห้เข้ามาพบ เป็นการร่ำลากันครั้งสุดท้าย ทำให้ทุกคนรู้ความจริงว่าอ้ายผิงตัวปลอมคือใคร แต่ก็ยังเล่นตามเกมของอ้ายผิงตัวปลอมไปเรื่อย ๆ โดยสุ้ยไถ่ยอมแต่งงานกับอ้ายผิงตัวปลอม ในวันแต่งงานหมอโซวบุกเข้ามาบอกความจริงทุกอย่างกับทุกคนว่า ทั้งหมดคือแผนการการแก้แค้นของเจียอิง ที่ผ่าตัดศัลยกรรมเป็นอ้ายผิงเพื่อกลับมาแก้แค้น งานนี้จุดจบของเจียอิง หมอโซว สุ้ยไถ่ ส่งไห่ ซุนหลิง และร่วมถึงอ้ายผิงตัวจริงว่าจะลงเอยกันอย่างไร ต้องติดตามชมกันต่อในละคร สวยซ่อนคม ที่ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น. ทางช่อง 7 HD กด 35 ละคร สวยซ่อนคม เริ่มตอนแรกวันพุธที่ 3 กรกฎาคม 2562

เพลงรักเพลงปืน 2562

เรื่องย่อ : เพลงรักเพลงปืน (2562/2019) เมื่อครั้งบ้านเมืองป่าเถื่อน เสือชงค์ (เตอร์-ปริยะ วิมลโนช) บุกเข้าปล้นบ้านของ หิน (บิ๊กเอ็ม-กฤตฤทธิ์ บุตรพรม) และ ฆ่าพ่อ แม่ พี่สาว แล้วโยนศพลงจากโขดหินสูง ทำให้หินซึ่งซ่อนอยู่หลังกอไผ่ เห็นภาพความโหดเหี้ยมอำมหิตของพวกเสือชงค์ จนเก็บเอามาเป็นความแค้น หลวงตาบุญ (รอง เค้ามูลคดี) ช่วยหินไว้จากความตายและเลี้ยงดูหินอย่างเด็กกำพร้า ขณะเดียวกันหลวงตาบุญก็เลี้ยง หาญ (โหน-ธนากร ศรีบรรจง) เด็กชายที่พ่อแม่มาทิ้งไว้หน้าวัด จนกระทั่งเด็กทั้งสองเติบโตขึ้นและหายไปจากหมู่บ้านโดยไม่มีใครทราบข่าวอีกเลย บ้านโคก เป็นชื่อตำบลเล็ก ๆ ของเมืองชุมโจรในอดีตที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ได้ถูกบูรณะโดยชาวบ้านที่ล้วนประกอบอาชีพเกษตรกรรมและเป็นหมู่บ้านลำตัดอันมีชื่อเสียง หลวงตาบุญ พระภิกษุชราจำพรรษาเป็นเจ้าอาวาสอยู่เพียงรูปเดียว วัดบ้านโคกมี สัปเหร่อฉุย (ชูษี เชิญยิ้ม), ดิน (กระรอก เชิญยิ้ม) และดำ (ต๋อง ชวนชื่น) เป็นทีมสัปเหร่อ ส่วน นายผวน (ธรรมศักดิ์ สุริยน) เป็นมัคทายก หิน ท่าลาด และ หาญ บ้านโคก อดีตเด็กกำพร้าที่หลวงตาบุญเก็บมาเลี้ยงและหายไปจากวัดนานถึง 20 ปี ทั้งคู่ได้กลับมาที่บ้านโคกในวันเดียวกัน หินกลับมาอย่างเงียบ ๆ ฝีมือการยิงปืนแม่นเหมือนจับวาง ส่วนหาญกลับมาพร้อมกับส่งเสียงร้องเพลงมาแต่ไกล หาญร้องเพลงได้ไพเราะมีลูกคอราวกับเสียงระนาด หาญมีเรื่องกับสมุนของ เสี่ยภุชงค์ อดีตคือ เสือชงค์ หินจึงเข้าช่วยหาญ ต่างจำกันได้ว่าอยู่วัดด้วยกันมาและหายหน้าไปจากวัดพร้อม ๆ กัน เมื่อเกิดการยิงกันสนั่นตำบล เปรียว (เปรี้ยว-ทัศนียา การสมนุช) ลูกสาวของ พ่อก้าน (โย่ง เชิญยิ้ม) แม่แก้ว (จอมขวัญ กัลยา) ครูเพลงลำตัด และ บัวบาน (ติ๊กตั๊ก- ภัทรนิษฐ์ แก้วมณี) ลูกพี่ลูกน้อง รีบตามไปจับโจรพบหินและหาญซ่อนตัวอยู่ด้านหลังโขดหิน ทำให้เปรียวและบัวบานทะเลาะกับหินและหาญตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นหน้า เปรียวและบัวบานสงสัยว่าหินและหาญเป็นโจร เสี่ยภุชงค์อดีตเสือร้ายที่ฟอกตัวเองให้เป็นอิทธิพล กลายเป็นเจ้าของท่าข้าวและท่าทราย ชาวบ้านต่างหวาดกลัวอิทธิพลของเสี่ยภุชงค์ เพราะเสี่ยภุชงค์เลี้ยงมือปืนเอาไว้ในท่าทรายเป็นจำนวนมาก ปลัดดนัย (หมู-ภูษณะ บัวงาม) ปลัดปราบปราม เพิ่งถูกส่งตัวมาจากกรมการปกครองเข้ามายังท่าทรายของเสี่ยภุชงค์และขอดูใบสัมปทาน ทำให้เสี่ยภุชงค์วางแผนใช้ สีดา (หยก-ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์) ยั่วยวนดนัยเป็นพวก แต่ดนัยไม่สนใจทำงานเดินหน้าด้วยความซื่อตรง ทำให้แม่แก้วและก้านพ่อขอเปรียวชื่นชมในตัวดนัยมาก น้ำหวาน (แม็กกี้-อาภา ภาวิไล) เป็นหญิงสาวสวย กับ น้ำแข็ง (เป๊บ-เขมิกา สุขประสงค์ดี) ผู้ช่วยของน้ำหวานท่าทางตลก มาจากกรุงเทพฯ 2 คน เปิดแผงขายเครื่องสำอางประเภทอาหารเสริมในบ้านโคก แต่ความจริงทั้งสองเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงที่เข้ามาสืบเรื่องยาเสพติดที่ท่าทรายของเสี่ยภุชงค์ มีแต่ หมวดรำพึง (เวฟ-วิภพ บางยี่ขัน) ตำรวจที่ร่วมมือกับเสี่ยภุชงค์กดขี่ข่มเหงชาวบ้าน และ ทนายผดุง (สุเมธ องอาจ) ทนายของเสี่ยภุชงค์ที่ใช้ช่องโหว่ของกฎหมายทำสัญญาหลอกลวงเอาเปรียบชาวบ้าน เปรียวและบัวบานพยายามต่อต้านชักชวนชาวบ้านลุกขึ้นมาจับสัมปทานเถื่อน เสี่ยภุชงค์โกรธเข้าทำลายเครือข่ายของเปรียวและบัวบาน ทำให้ชาวบ้านพากันหวาดกลัวแต่ทุกครั้งที่มีเรื่อง หินและหาญจะเข้ามาช่วยในเวลาที่บังเอิญทุกครั้ง หินเริ่มสืบคดีโจรปล้นหมู่บ้านชื่อ เสือชงค์ เพราะสงสัยว่าเสือชงค์และเสี่ยภุชงค์จะเป็นคน ๆ เดียวกัน สีดา เป็นเมียน้อยของเสี่ยภุชงค์ เปิดร้านเสริมสวยอยู่ในอำเภอ มี เหล่ (คิตตี้-กัจนฐานียา ศรีโรจน์วัฒนะ) เป็นผู้ช่วย น้ำหวานและน้ำแข็งไปเปิดแผงขายเครื่องสำอางใกล้ ๆ กับร้านสีดา ทำให้เกิดเรื่องทะเลาะวิวาทตบตีอยู่บ่อย ๆ เพราะแย่งลูกค้ากัน เสี่ยภุชงค์ใช้สีดาเป็นเหยื่อล่อให้หินติดกับเพื่อให้หินมาเป็นพวกของตนเอง แต่สีดากลับหลงรักหินจึงแกล้งทำเป็นหว่านเสน่ห์ใช้มารยาหญิง จนเปรียวเข้ามาเห็นเลยเกิดอาการไม่พอใจ เปรียวเข้าใจผิดคิดว่าหินตกเป็นทาสเงินของเสี่ยภุชงค์ ส่วนน้ำหวานและน้ำแข็งพยายามสืบเรื่องของผิดกฏหมายและตั้งข้อสงสัยว่าหินกับหาญเป็นใคร ที่ท่าทรายเสี่ยภุชงค์กับพวกได้จับตัวเปรียวและบัวบานไว้เพื่อจะฆ่าปิดปากด้วยการยิงฝังเรือทรายไว้ น้ำหวานกับน้ำแข็ง หินกับหาญเข้ามาช่วยเปรียวและบัวบาน ทำให้ทั้งสองฝ่ายยิงสู้กัน หินติดตามเสี่ยภุชงค์ไปถึงหน้าผา เป็นที่เดียวกับที่พ่อ แม่ และพี่สาวของหินตาย เสี่ยภุชงค์ยอมรับว่าตนเองคือ อดีตเสือชงค์ ทั้งสองต่อสู้กัน หินยิงเสี่ยภุชงค์ตาย ล้างแค้นให้กับพ่อ แม่และพี่สาวได้สำเร็จ แต่หินก็เกือบจะเอาชีวิตไม่รอด เพราะอดีตเสือชงค์มีวิชาอยู่ยงคงกระพัน หินจึงใช้วิธีโหดเหี้ยมเช่นเดียวกับที่เสือชงค์เคยใช้ฆ่าพ่อของหิน พวกเสี่ยชงค์ถูกจับจนหมด รวมถึงสีดา ทนายผดุง หมวดรำพึงทั้งสามคนยอมมอบตัวกับตำรวจ ส่วนปลัดดนัย โดนยิงเสียชีวิต ความจริงแล้วเป็นพวกเดียวกับเสี่ยภุชงค์ น้ำหวานตกใจที่หาญโดนยิง แสดงความเป็นห่วงแต่หาญก็โดนแค่ลูกปืนเฉี่ยวไปเท่านั้น เลยทำให้หาญรู้ความในใจของน้ำหวาน ส่วนหินกับเปรียวรอดจากเหตุการณ์ครั้งนี้ก็เข้าใจกัน ความจริงแล้วหินกับหาญไม่ได้หายไปติดคุกอย่างที่ชาวบ้านร่ำลือ พวกเขาถูกหลวงตาบุญส่งให้ไปชอบชิงทุน หินกลับมาเป็นนายอำเภอ ส่วนหาญกลับมาเป็น ตำรวจ เพื่อกลับมาปราบอิทธิพลที่บ้านเกิด ติดตามความสนุกเข้มข้นของละคร เพลงรักเพลงปืน ได้ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น. ทางช่อง 7 HD 35 ละคร เพลงรักเพลงปืน เริ่มตอนแรกวันพุธที่ 20 มีนาคม 2562

คุณหนูเรือนเล็ก 2561

คุณหนูเรือนเล็ก (2561/2018) เมื่อสาวนักเรียนนอกต้องกลับเมืองไทยกะทันหันเพราะผู้เป็นพ่อตายอย่างมีเงื่อนงำ เธอจึงต้องหาทางพิสูจน์ความจริง โดยมีสถาปนิกหนุ่มลูกบุญธรรมของทนายความและรุกขเทวดาเด็กหญิงคอยให้ความช่วยเหลือ ความรักค่อยๆก่อตัว พร้อมกับการหาทางคลี่คลาย ทั้งเงื่อนงำการตายและความลับเรื่องชาติกำเนิดของเขา (ที่มา : inter.bugaboo.tv)

สายโลหิต 2561

เรื่องย่อ : สายโลหิต (2561/2018) พ.ศ.2301 ดาวเรืองวัยสิบขวบ บุตรีพระสุวรรณราชาเป็นช่างทองหลวง คุณย่านิ่มเป็นผู้เลี้ยงดู ด้วยกำพร้ามารดาแต่ยังเด็ก ลำดวนผู้เป็นพี่สาวได้ออกเรือนกับหลวงเทพฤทธ์อริศัตรูพ่าย บุตรชายของพระยาพิริยะ กับคุณหญิงศรีนวล ขุนไกร นายทหารกองทะลวงฟัน วัยยี่สิบปี เป็นน้องชายของหลวงเทพ ขุนไกรนั้นจะเอ็นดูดาวเรืองยิ่งนักด้วยเป็นเด็กช่างเจรจา ซักถาม ทั้งขุนไกรและหลวงเทพ นั้นเป็นข้าราชการเก่าในขุนหลวงหาวัด พม่ายกทัพเข้ามาทางทวาย มะริด ตะนาวศรี ขุนไกร หลวงเทพ หลวงเสนาสุรภาค พี่ชายของดาวเรือง ล้วนออกไปทัพ ดาวเรืองชวนพี่เยื้อนพี่เลี้ยงไปดูขุนไกรตอนเคลื่อนทัพ ดาวเรืองให้พระคล้องคอของเธอกับขุนไกร หมื่นทิพ ได้กลับมาแจ้งข่าวว่าทัพไทยพ่าย ขุนไกร หลวงเทพ หลวงเสนา ล้วนเสียชีวิต แต่แท้จริงแล้วเมื่อขุนไกรมาปรากฏตัวที่เรือนคุณย่า ที่แท้ที่ทัพไทยพ่ายครั้งนี้เพราะผู้เป็นแม่ทัพ และคนอย่างหมื่นทิพ ต่างขลาด รักตัวกลัวตาย ทิ้งทัพหนีกลับมา แล้วยังมากุข่าวสร้างความดีความชอบให้ตัวเอง หลวงเสนา และ พระยาพิริยะ ได้เสียชีวิตจากการต่อสู้กับข้าศึก ซึ่งเป็นไปตามที่คุณย่าได้ใช้ความรู้ด้านตำรามหาทักษาของท่านตรวจชะตาก่อนไปทัพ หมื่นทิพนั้นได้มาติดพันแม่เยื้อน น้องสาวขุนไกร แต่ขุนไกรพยายามขวางไว้ ด้วยหมื่นทิพนั้นยังเป็นชายเจ้าชู้ ฝักใฝ่แต่ในเรื่องสตรี ต่อมาขุนไกรไปทัพสู้ศึกพม่าที่ลำน้ำจักราช และหมื่นทิพก็ไปทัพนี้เช่นกัน ที่บ้านคุณย่ามีบ่าวพบทหารมานอนบาดเจ็บอยู่ พันสิงห์เป็นทหารคนสนิทของขุนไกร กลับมาพร้อมดาบคู่กายของขุนไกร ซึ่งเป็นดาบบรรพบุรุษ และมีคู่กันกับหลวงเทพ ต่างมีสัจจะว่า เป็นตายจะรักษาดาบเท่าชีวิต หลวงเทพออกตามหาจนพบขุนไกรบาดเจ็บสาหัส แต่แล้วข้าศึกบุกตีทางท้ายคูเมือง ครอบครัวพันสิงห์เสียชีวิตหมด ขุนไกรทั้งทีเจ็บไม่หายดี ทนไม่ไหว ขอออกอาสาสู้ศึกรักษาเชิงเทินกับพันสิงห์ แต่แล้วทัพพม่ายกกลับ ด้วยมีข่าวพระเจ้าอลองพญาถูกสะเก็ดปืนใหญ่แตกเสียชีวิต ส่วนขุนไกรเมื่อเกินจะทัดทานทั้งมารดาและแม่หญิงเยื้อนเรื่องหมื่นทิพ จึงขอออกไปอยู่พิษณุโลก พันสิงห์และเยื้อนตามไปอยู่ด้วย แม่หญิงเยื้อนหลังออกเรือนแล้วก็ได้แต่ตรอมใจ กับพฤติกรรมของหมื่นทิพ จนเสียชีวิตในที่สุด และคุณหญิงศรีนวลมื่อทราบข่าวก็ตกบันไดเสียชีวิตตาม ขุนไกรกลับมางานศพ ดาวเรืองรู้สึกดีใจที่จะได้เจอพี่ไกรอีก ยามพบกับครั้งนี้เด็กหญิงเล็กๆได้เป็นสาวน้อยแล้ว และความรู้สึกในใจของนายทหารหนุ่มที่มีต่อดาวเรืองก็แปรเปลี่ยน เช่นเดียวกับดาวเรือง ขุนไกรได้เลื่อนเป็นหลวงไกรสรเดช ต่อมาพระเจ้ามังระประกาศสงครามกับกรุงศรีอยุธยา ขุนไกรกลับไปช่วยทัพด้านสุโขทัย เมื่อขุนไกรลงมาราชการด่วน ทราบเรื่องที่มีคนใจหยาบล่มเรือของดาวเรือง และยิ่งรู้ว่าเป็นฝีมือหมื่นทิพ จึงตัดสินใจสู่ขอดาวเรืองด้วยตัวเองกับพระสุวรรณราชา พิธีแต่งงานถูกจัดขึ้นตามมี่คุณย่าจับฤกษ์ยามให้ขุนทิพซึ่งหมายมาดดาวเรืองไว้ แค้นยิ่งนัก หาทางแกล้งขุนไกร และก็มีหมายเรียกตัวให้ออกทัพในวันมงคลนั่นเอง ข่าวทัพกรุงศรีฯ พ่าย ถูกตีเข้าใกล้พระคร คุณย่าเสียชีวิต ขุนไกรกลับมาช่วยเฝ้าป้อมเชิงเทิน พ่อดาวเรืองถูกปืนข้าศึกเสียชีวิตที่กำแพงเมือง ไอ้มิ่ง คนรับใช้ขุนทิพ ลอบบอกหลวงไกรเรื่องขุนทิพและใครบางคนส่งเสบียงออกให้พม่า หลวงไกรพาไอ้มิ่งไปพบขุนทิพ และนายบ่าวแทงกันตายตกตามกันและก็ถึงวันสิ้นกรุงศรีอยุธยา หลวงเทพพาครอบครัวไปคุ้มกันสมเด็จพระมหาอุทุมพร ขุนไกรคิดจะพาลำดวน พันสิงห์ เยื้อน ไปสมทบกับพระยากำแพงเพชรที่ตั้งมั่นอยู่ที่จันทบุรี แต่แล้วทางพวกขุนไกรที่ปลอมเป็นชาวบ้านถูกจับได้ กักเป็นเชลยอยู่ที่ค่ายโพธิ์สามต้น ชาวบ้านที่ค่ายเล่าว่า ขุนหลวงหาวัดและข้าราชบริพารถูกต้อนไปกรุงอังวะ... ในใจของขุนไกรยามนี้ให้หมองนัก พี่น้องคงจะไม่ได้พบกันเสียแล้ว พระนครถูกเผาทำลาย แต่ไทยต้องเป็นไท จะให้ทนเป็นเชลยไปตลอดหาได้ไม่ ขุนไกรคิดหาทางหนีจากค่าย ความตั้งใจที่จะกอบกู้บ้านเมืองนั้นแน่วแน่นัก แต่หนทางนั้นเล่าจะเป็นเช่นใด

เกิดเป็นกา 2560

เรื่องย่อ : เกิดเป็นกา (2560/2017) บุญเพ็ญ (หลิน-นุศรา ประวันณา)เป็นคนรับใช้คนสนิทของคุณหญิงภูรี (จิ๋ม-ปนัดดา โกมารทัต) แอบลักลอบได้เสียกับชายชล (หนุ่ม-สุรวุฑ ไหมกัน) คุณหญิงภูรีจับได้เลยจับให้ชายชลรีบแต่งงานกับกานดา (เอ๋-รชยา รักกสิกรณ์) หลังจากคืนแต่งงานทั้งสองได้เดินทางไปฮันนีมูนที่ต่างประเทศ คุณหญิงภูรีจึงไล่บุญเพ็ญออกจากบ้าน บุญเพ็ญโซซัดโซเซเดินไปตามทางเปลี่ยวแล้วเจอกับหวัง(อ๋อง-กษาปณ์ จำปาดิบ) ที่กำลังเมามาย หวังพยายามข่มขืนบุญเพ็ญ บุญเพ็ญต่อสู้แต่สุดท้ายก็สู้ไม่ไหวตกเป็นเมียหวัง บุญเพ็ญไปอาศัยอยู่กับบุญพา (เดียร์-ปริษา ฑนาวิวัฒน์)น้องสาวของตัวเองในสลัม โดยบุญเพ็ญไม่รู้มาก่อนว่าหวังเป็นสามีของน้องสาว บุญเพ็ญจำหวังได้แต่ไม่อยากพูดถึงเรื่องในอดีต ตลอดเวลาบุญเพ็ญคอยติดตามความเคลื่อนไหวของชายชลและกานดา บุญเพ็ญตั้งท้อง ส่วนกานดาก็ตั้งท้องเช่นเดียวกัน วันที่กานดาเจ็บท้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล บุญเพ็ญที่กำลังท้องแก่ก็พยายามทุบท้องตัวเองเพื่อให้ลูกคลอดออกมาในคืนเดียวกับลูกของกานดา และเมื่อคลอดแล้วก็ลักลอบเปลี่ยนป้ายชื่อของเด็กทั้งสอง ทำให้ชายชลและกานดานำลูกของบุญเพ็ญไปเลี้ยง ส่วนบุญเพ็ญก็ทิ้งลูกของกานดาไว้ที่โรงพยาบาล แต่บุญพากลับไปรับมาเลี้ยงด้วยความสงสาร และตั้งชื่อให้หลานสาวว่ากระแต (พาย-รมิดา ธีรพัฒน์) บุญเพ็ญเกลียดชังและทุบตีกระแตมาโดยตลอด กระแตโตมาในชุมชนสลัมโดยไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะบุญเพ็ญไม่ให้เรียน แต่ให้กระแตไปขายหนังสือพิมพ์ตั้งแต่ยังเด็ก โชคดีที่ยังมีทม (ปาแปง-กุมภ์ ทองพุทธรักษ์) เป็นเพื่อนสนิทกับกระแตมาตั้งแต่เด็กๆ คอยหาหนังสือที่ไม่ได้ใช้แล้วมาให้กระแตอ่าน หาหนทางเพื่อให้กระแตได้เรียนหนังสือ ทมแอบหลงรักกระแตแต่ไม่กล้าบอกเพราะกลัวว่าจะเสียเพื่อน วันหนึ่งบุญเพ็ญเล่นไพ่แล้วถูกตำรวจจับ ทำให้กระแตต้องหาเงินมาจ่ายค่าประกันตัว กระแตเลยใช้วิธีกระโดดตัดหน้ารถของพงษ์วัฒน์ (บอส-โตนนท์ วงบุญ) เพื่อเรียกค่าทำขวัญ พงษ์วัฒน์เป็นหลานชายของกานดาและกานดาก็หมายมั่นจะให้แต่งงานกับเต็มดาว (กุ๊กกิ๊ก-กชกร ส่งแสงเติม) เต็มดาวมีนิสัยก้าวร้าว เย่อยิ่ง เพราะถูกชาดา (ครูอ้วน-มณีนุช เสมรสุต)พี่สาวของชายชลตามใจมาตั้งแต่เด็กๆ กระแตบอกกับบุญเพ็ญว่าจะไปสมัครเป็นพนักงานเสิร์ฟในโรงแรม แต่บุญเพ็ญบอกว่าหางานเอาไว้ให้แล้ว จึงส่งกระแตไปสมัครเป็นสาวใช้ที่บ้านของชายชล บุญเพ็ญใช้ถ่านทาที่ใบหน้าและเนื้อตัวของกระแตให้ดำดูสกปรก กระแตเข้าไปทำงานในบ้านของกานดาและชายชล ทั้งคู่รักและเมตตากระแตมาก กระแตเองก็เกิดความผูกพันต่อทั้งสองอยางแปลกประหลาด พงษ์วัฒน์สงสารกระแตเลยหางานในบริษัทให้ แต่กระแตปฏิเสธเพราะคิดว่าจะอยู่ตอบแทนกานดาที่อนุญาตให้กระแตไปเรียนหลังทำงานเสร็จได้ พงษ์วัฒน์จึงให้ความเมตตากระแต เลยทำให้เต็มดาวเกิดความริษยา หาทางกลั่นแกล้งกระแตอยู่แสมอ วันหนึ่งเต็มดาวตัดน้ำประปาที่บ้าน กระแตจึงไปตักน้ำที่บ่อน้ำหลังบ้าน เต็มดาวแอบเดินมาข้างหลังแล้วผลักกระแตตกลงไปในบ่อ พงษ์วัฒน์ช่วยกระแตออกมาได้ จึงพบว่าแท้จริงกระแตคือเด็กสาวที่พงษ์วัฒน์เคยช่วยเหลือไว้ และเป็นเด็กสาวที่มีใบหน้าสวยงามผุดผ่อง เพราะน้ำในบ่อล้างคราบถ่านดำที่ใบหน้าและเนื้อตัวของกระแต ทั้งสองเกิดความรักความผูกพัน พงษ์พัฒน์ออกหน้าปกป้องกระแต ยิ่งทำให้เต็มดาวเกลียดชังกระแตมากขึ้น เต็มดาวหลอกให้กระแตไปในที่เปลี่ยวเพื่อให้เชิดศักดิ์ (เขต-ธาราเขต เพ็ชร์สุกใส) หนุ่มเพลย์บอยจัดการกับกระแต แต่กระแตหนีรอดออกมาได้ เต็มดาวกลับโดนเชิดศักดิ์รังแกเสียเอง เชิดศักดิ์บีบให้เต็มดาวเป็นหนอนบ่อนไส้ บอกที่ซ่อนและรหัสเปิดเซฟบรรจุเครื่องเพชร แล้วสร้างหลักฐานว่ากระแตเป็นคนร้าย หวังเข้าร่วมมือกับเชิดศักดิ์แล้วได้รับส่วนแบ่งเป็นกำไลเพชร หวังเมากลับมาพบบุญเพ็ญกลางสะพานข้ามแม่น้ำ บุญเพ็ญผลักหวังตกสะพานแล้วช่วงชิงกำไลเพชร เมื่อตำรวจเข้ามาค้นบ้านของบุญเพ็ญและบุญพา บุญเพ็ญเลยแกล้งสารภาพว่ากระแตเป็นคนร้ายขโมยเครื่องเพชรมาให้ กระแตถูกตำรวจจับและส่งฟ้องศาล พงษ์วัฒน์พยายามหาวิธีช่วยกระแตเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ เต็มดาวเกิดอาการแพ้ท้องโดยไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ เชิดศักดิ์เลยขู่เต็มดาวเพื่อที่จะให้เต็มดาวรับตนเป็นสามี เชิดศักดิ์จะได้เข้ามาครอบครองทรัพย์สมบัติในฐานะเขย คุณหญิงภูรีปฏิเสธก็ถูกเชิดศักดิ์ข่มขู่จนหัวใจวายตาย บุญเพ็ญลวงเชิดศักดิ์ไปฆ่าเพราะต้องการช่วยลูก บุญเพ็ญสารภาพกับเต็มดาวว่าตัวเองเป็นแม่ ทำให้เต็มดาวโกรธมากและไม่ยอมรับบุญเพ็ญเป็นแม่ พงษ์วัฒน์หาทนายมาประกันตัวกระแตออกมา กระแตกลับมาอยู่ในสลัมคอยดูแลบุญเพ็ญที่เริ่มมีอาการเจ็บปวด โรคภัยประดังเข้ามา เพราะตรอมใจที่เต็มดาวไม่ยอมรับเป็นแม่ กระแตนำบุญเพ็ญส่งโรงพยาบาล และคอยเฝ้าดูแล บุญเพ็ญขอให้กระแตพาเต็มดาวมาพบ กระแตจึงไปอ้อนวอนเต็มดาวให้มาเยี่ยมบุญเพ็ญ แต่เต็มดาวมีข้อแลกเปลี่ยนไม่ให้กระแตพบกับพงษ์วัฒน์อีก กระแตยินยอม เต็มดาวจึงต้องจำใจมาโรงพยาบาล บุญเพ็ญขอจับมือเต็มดาว แต่เต็มดาวปฏิเสธด้วยความรังเกียจ ถึงแม้จะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตบุญเพ็ญก็ตาม ชายชลและกานดาตามมาที่โรงพยาบาลจึงรู้ความจริงทั้งหมดจากปากของบุญเพ็ญ แล้วเรื่องราวบทสรุปของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป โปรดติดตามชมในละครเรื่อง “เกิดเป็นกา”

เรื่องย่อ : ข้ามาคนเดียว (2559/2016) ครุย อังคาร (นิว-วงศกร ปรมัดถากร) อดีตคือตำรวจผู้ซื่อสัตย์ แต่เพราะถูกปรักปรำใส่ร้าย ทำให้เขากลลายเป็นผู้ต้องหาติดทุก การกลับมาของเขา ทำให้ยันต์ ยมราช (แอนดูรว์-กรเศก โคร์นิน) เจ้าพ่อแห่งโคราช ถึงกับหวาดกลัว เลยสั่งให้สมุนมือเอกไปตามไล่ล่าครุย ซึ่งเป็นวันเดียวกันที่ สาริกา (แก้ม-กวินตรา โพธิจักร) นางเอกหมอลำมาเปิดการแสดงที่โคราชพอดี ครุยหนีการตามล่ากระโดดขึ้นไปบนเวที ทำให้เกิดความโกลาหล สาริกาโกรธครุยมาก ที่เป็นต้นเหตุให้การแสดงต้องพังลง ส่วนครุยได้เดินทางไปหาเพื่อนที่เป็นเจ้าของคณะหมอลำ ดาว ด่านเกวียน (สาธิต ทองจันทร์) แต่ยังไม่ทันได้ทักทายกัน สมุนของเจ้าพ่อก็ตามมาล้อมบ้านดาว ด่านเกวียนไว้ สาริกาลูกสาวเห็นจึงอ้อมไปประตูด้านหลังแล้วเจอครุย พ่อบอกให้พาครุยหนีไปก่อน ทางนี้พ่อจัดการเอง พอครุยหนีออกมาได้ก็ไปเจอกับสัปเหร่อโข่ง (ชูษี เชิญยิ้ม) เพื่อนเก่า เจ้าพ่อสั่งให้สมุนบุกไปจัดการครุยที่โกงดังเก็บศพ แต่ครุยก็รอดพ้นไปได้อีก สัปเหร่อโข่งพร้อมลูกน้อยพาครุยออกจากป่าช้าแล้วเจอหลวงตา (เปรมเกมล พาชีรัตน์) ออกมาบิณฑบาตร โดยมีสามเณรน้อยเดินตามอย่างสงบเสงี่ยม ครุยจำได้ว่าสามเณรคือ สีหมอก (มาร์กี้-อภิรักษ์ ตั้งสถาพรพันธ์) ลูกชายตัวเองกับคำสี (นก-อุษณีย์ วัฒฐานะ) ที่ตอนนี้เป็นบ้า เนื่องจากยันต์ ยมราช จับตัวไปทำทารุณกรรมขนเสียสติ แล้วทุกวันคำสีขะมากราบไหว้ย่าโมขอพรให้ได้เจอลูก และสามี ครุยได้แยกทางเก็บสัปเหร่อโข่ง เพื่อจะไปหา คำม่วน (สามารถ พยัคฆ์อรุณ) เจ้าของค่ายมวย ซึ่งในวันนี้มีการซ้อมใหญ่ของนักมวยหญิงชื่อ มะตูม (เดียร์-ดาริน ดารากานต์) ลูกสาวคนเดียวของคำม่วน เช้าวันรุ่งขึ้นครุยไปดักพบคำสีที่หน้าอนุสาวรีย์ย่าโม แล้วก็พบคำสีในสภาพมอมแมม ส่งเสียงร้องรำทำเพลงร้องเรียกหาลูกกับผัว ครุยเข้าไปหา คำสีจำไม่ได้คิดว่าครุยเป็นสมุนเจ้าพ่อเลยวิ่งหนี จังหวะนั้นสมุนเจ้าพ่อก็มาดักรอครุยแถวนั้นพอดี ทั้งคู่ปิดฉากต่อสู้กัน มะตูมและพวกตามมาช่วยแล้วพาครุยหนี คำสีถูกสมุนเจ้าพ่อจับตัวไป ครุยจะไปช่วยแต่มะตูมห้ามไว้แล้วบอกว่าให้เป็นหน้าที่ของมะตูมเอง ทางด้านอินทร์ ดาวดึงส์ (เอ-เอกราช กฤตสิริทิพย์) ตำรวจป่าไม้ ที่เข้ามาสืบเรื่องไม้เถื่อน เลยได้รู้จักกับ กลอยใจ (หยก-ธัญกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์) ลูกสาวของเสี่ยบุญยิ่ง (ณรงค์ศักดิ์ เลิศวรานุรักษ์) เจ้าของโรงเลื่อยซึ่งเธอมีสาวคนใช้คนสนิทชื่อ กระถิน (ภูษณิสา โชติกิตติมาศ) ทั้งอินทร์ และกลอยใจต่างก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากัน ซึ่งไม่ต่างอะไรกับเขมแข (ฐิสา วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร) ลูกสาวของเสี่ยไหบูลย์ (สมบัติ ขจรไชยกุล) ที่ตกเป็นคู่หมั้นของยันต์ ยมราช แบบหมัดมือชก ส่วนขาล ขุขันธ์ (อานัส พาพานิช) สารวัตรหนุ่มที่ปลอมตัวแทรกซึมเข้าไปร่วมแก็งกับเจ้าพ่อโคราช จนเป็นคนสนิท เมื่อวันเกิดของเจ้าพ่อใกล้มาถึง จำโง่น (โอ๊ต-สุรศักดิ์ โชติพินวัฒน์) ก็วางแผนรีไถ่พ่อค้าเจ้าของธุรกิจ เพื่อเอามาส่งส่วยให้เจ้าพ่อ ขณะที่นั่งปรึกษากับลูกน้องอยู่ที่บ้าน ครุยได้แอบปีนเข้ามาซ่อนตัวอยู่ในห้องนอนจ่าโง่น พอจ่าโง่นเข้ามาให้องก็ถูกครุยขู่บังคับให้เขียนหนังสือว่าที่ครุยติดคุกเพราะเป็นฝีมือของจ่าโง่นกับเจ้าพ่อโคราช แต่ยังไม่ทันจะเขียนจ่าโง่นก็ใช้ปีนตีครุยและต่อสู้กัน แต่ครุยพลาดท่าโดนจับตัวไว้ แล้วจ่าโง่นก็นำตัวครุยไปส่งที่บ้านเจ้าพ่อ ขาล ขุขันธ์ เสนอตัวเป็นคนจัดการครุยเอง ไอ้อ่าง (วิครุต สะราคำ) เห็นเหตุการณ์ว่าครุยโดนจับตัวไปเลยไปเกณฑ์สมัครพรรคพวกไปช่วยครุย ครุยถูกนำตัวไปขังที่บ่อจระเข้ที่มียามคุ้มกันหนาแน่น มะตูมและลูกน้องเดินทางมาช่วย สาริกาก็วางแผนช่วยอีกแรง เพราะเธอต้องไปเปิดการแสดงที่งานวันเกิดเจ้าพ่อพอดี ระหว่างงานเลี้ยง ขาล ขุขันธ์แกล้งทำเป็นมาแล้วหายตัวออกจากงาน เพื่อไปช่วยครุย พอครุยหนีออกมาได้เขาก็แกล้งเมากลับไปที่งานเหมือนเดิม พอได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ทุกคนไปดูเลยรู้ว่าครุยหนีไปแล้ว เจ้าพ่อเลยสั่งให้ลูกน้องตามล่า ครุยหนีเข้าไหลตัวอยู่ในห้องนอนของแขมแข พอแขมแขเห็นก็ตกใจ จนครุยต้องเข้าไปกอดแขมแขไว้ ในมือแขมแขมีปืนอยู่ทำท่าขู่จะยิงครุย พอแขมแขเผลอครุยก็เข้าไปกอดจูบจนแขมแขจนทำปืนหลุดมือ ด้านมไหศวรรย์ (วิน-วาทิต โสภา) นายอำเภอคนใหม่ที่ปลอมตัวมาเป็นพ่อค้าเร่ เพื่อสืบคดีทุจริตของเจ้าพ่อโคราช แล้วก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากับสาริกา แต่ทุกครั้งที่สาริกาตกอยู่ในอันตราย มไหศวรรย์จะเข้ามาช่วยทุกครั้ง ครุยที่หนีออกมาได้ก็ไปรักษาตัวที่ค่ายมวยคำม่วน โดยได้มะตูคอยดูแล มะตูมหลงรักครุย แต่ครุยคิดกับมะตูมแค่น้องสาวเท่านั้น ในวันเกิดของแขมแขได้จัดขึ้นในโณงแรมหรู โดยครุยกับอินทร์มาเป็นแขกในงานด้วย เจ้าพ่อถึงกับตะลึงที่เห็นทั้งคู๋ในงาน มะตูมเป็นห่วงครุยเลยตามมาดู แล้วก็ถูกสมุนของเจ้าพ่อจับตัวไป เจ้าพ่อเข้าไปในห้องแล้วเอาปืนขู่ มะตูมไม่ยอมเกิดการต่อสู้กัน แต่มะตูมสู้ไม่ไหวเลยโดนเจ้าพ่อลวนลาม โชคดีที่อินทร์ตามเจ้าพ่อมาจากงานเลยเข้าไปช่วยมะตูมไว้ทัน แขมแขเริ่มรู้ตัวแล้วว่าตัวเองถูกเจ้าพ่อโคราชหลอกใช้เลยถอนหมั้น แขมแขจะหนีแต่ถูกจับตัวไว้ แล้วก็ย้ายฐานทัพไปกลบดานในป่า ขาล ขุขันธ์แอบเข้าไปในกระท่อมของเจ้าพ่อเพื่อค้นเอกสารลับ จนเจอแล้วขาลก็พาแขมแขหนี พอเจ้าพ่อรู้ก็สั่งให้ลูกน้องตามล่า มไหศวรรย์ชุ่มรออยู่ในรถคอยรับขาลกับแขมแขหนีออกมาแล้วพาไปสมทบกับพวกครุยที่ค่ายมวยคำม่วน แล้วขาลก็เอาหลักฐานเอกสารลับของเจ้าพ่อให้อินทร์ดู อินทร์บอกว่าเจ้าพ่อติดคุกแน่นอน และมไหศวรรย์ ก็เป็นแสดงตัวว่าเขาเป็น นายอำเภอส่วนขาลก็รายงานตัวว่าเขาคือ สารวัตรทุกคนตกใจที่รู้ความจริง แล้วทุกคนก็ร่วมมือกันจัดการกับ ยันต์ ยมราช เจ้าพ่อโคราชเหตุการณ์จะบู๊คุเดือด เลือดพล่านขนาดไหน แล้วบทสรุปสุดท้ายชีวิตของ ครุย อังคาร จะลงเอยอย่างไรต้องติดตามชมกันในละครบู๊แอ็คชั่น ข้ามาคนเดียว ที่ออกอากาศทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 สี ข้ามาคนเดียว เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม 2559

บ้านทรายทอง-พจมาน สว่างวงศ์ 2558

เรื่องย่อ : บ้านทรายทอง-พจมาน สว่างวงศ์ (2558/2015) พจมาน พินิตนันทน์ (มิน-พีชญา วัฒนามนตรี) เดินทางมาอาศัยอยู่กับญาติที่บ้านทรายทองตามคำสั่งของบิดาที่เสียชีวิต เพื่อให้เธอได้เรียนต่อจนสำเร็จการศึกษา พจมานเด็กสาววัยรุ่น มีได้นิสัยหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรี กล้าหาญและเด็ดเดี่ยว จากการอบรมปลูกฝังจากบิดาที่เธอรักและรักเธอยิ่ง แต่วันแรกที่มาถึงเธอไม่ได้รับการต้อนรับอย่างที่หวัง หม่อมพรรณราย (ดวงดาว จารุจินดา) ซึ่งมีศักดิ์เป็นป้าของเธอไม่อยู่ต้อนรับ แม้จะได้รับจดหมายจากแม่ของเธอล่วงหน้า ความอ่อนล้าในการเดินทางทำให้พจมานเป็นลมหมดสติไป ต่อหน้า ม.ร.ว.ภาระดี สว่างวัฒน์ หรือ คุณหญิงใหญ่ (นุสบา ปุณณกันต์) ที่มารับหน้าเธอในวันนั้น ภายนอกหญิงใหญ่ดูเป็นคนเย็นชา อารมณ์ร้อน แต่ลึก ๆ มีเมตตา เมื่อพิจารณาจากจดหมายยืนยันของบิดาพจมานโดยที่ยังไม่เปิดอ่านเธอก็ตัดสินใจให้พจมานพักที่บ้านทรายทองจนกว่าจะพบหม่อมพรรณราย

หม่อมพรรณรายกลับมาจากบ้านตากอากาศพร้อมกับ ม.ร.ว.ภาวิณีจรัสเรือง หรือ คุณหญิงเล็ก (แนท-ณัฐชา นวลแจ่ม) เมื่อทราบว่าหญิงใหญ่รับพจมานเข้ามาในบ้านก็ต่อว่าต่าง ๆ นานา พยายามผูกเรื่องบิดามารดาพจมานในทางลบ แต่เล่าไปเล่ามา หญิงใหญ่ก็แน่ใจว่าพจมานเกี่ยวดองเป็นญาติกับสกุล สว่างวงศ์ จริงกล่าวคือ พจมานเป็นบุตรสาวของ พนา พินิตนันทน์ (น็อต-นุติ เขมะโยธิน) บุตรชายของ คุณปู่สุรพล น้องชายแท้ ๆ ของเจ้าคุณราชาพิพิธ (สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์) ผู้เป็นบิดาของหม่อมพรรณราย มารดาของพจมานเคยติดตามบิดาของพจมานมาอาศัยอยู่ที่บ้านทรายทองและช่วยบริบาลเฝ้าไข้คุณยายของคุณหญิงใหญ่จนวาระสุดท้าย หญิงใหญ่ซาบซึ้งในความดีจึงรับอาสาดูแลพจมาน และเป็นผู้ปกครองให้ขณะอยู่ในบ้านทรายทอง

หญิงใหญ่กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการเรียนของพจมานอยู่บ้าง เธอไม่ได้มีรายได้อะไรนอกจากเงินกองกลางจากมรดกของตระกูล เพราะเธอไม่ได้สำเร็จการศึกษา จึงไม่มีอาชีพ เหตุเป็นเพราะเรื่องความรักสมัยรุ่นสาวทำให้ไม่เป็นที่พอใจของหม่อมพรรณราย หม่อมพรรณรายจึงห้ามสั่งห้ามเธอออกจากบ้าน เธอจึงไม่ได้เรียนไปโดยปริยาย นับแต่นั้นมาจึงกลายเป็นคนเย็นชา หม่นหมอง อารมณ์แปรปรวนและคุ้มดีคุ้มร้ายในสายตาคนอื่น แต่เมื่อถามพจมานจึงทราบว่า บิดาของพจมานได้เตรียมค่าเล่าเรียนไว้ให้ส่วนหนึ่งแล้ว ขอเพียงที่พักและอาหารเท่านั้นหญิงใหญ่จึงดูแลพจมานได้สนิทใจขึ้น นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความคลางแคลงใจในตัวหม่อมพรรณรายว่าเหตุใด จึงกีดกันพจมานไปจากบ้านทรายทอง

ฝ่ายหญิงเล็ก ผู้มีอารมณ์ร้อน หลงใหลความหรูหราฟู่ฟ่า ก็เชื่อคำบอกเล่าของมารดาทั้งหมด ก็รู้สึกว่าพจมานมารบกวนและสร้างความรำคาญให้เธอและผู้คนในบ้าน จึงเกลียดชังพจมานและหาทางกำจัดออกจากบ้านทรายทอง จึงกลายเป็นไม้เบื่อไม้ไม้เมากันเสมอ พจมานอยู่ในบ้านทรายทองท่ามกลางความกดดันและโดนกลั่นแกล้งต่าง ๆ นานา มีเพียง ม.ร.ว.ภาณุทัตสวัสดี หรือ คุณชายน้อย (พีพี-พีรพล เพิ่มเพ็ชร) ลูกชายคนเล็กวัย 14 ปี ของหม่อมพรรณราย ที่มีร่างการพิการ ขาเป๋ ปากเบี้ยว ตัวเล็ก ที่เกิดมาไม่นานบิดาเสียชีวิต หม่อมพรรณราย จึงชิงชังชายน้อยถึงชั้นโยนให้ แม่นมทิพย์ (วาสนา สิทธิเวช) เลี้ยงดู พจมานเอ็นดูสงสารคุณชายน้อย เพราะคิดถึงพจนา (ปลั๊ก-สวีเดน ทะสานนท์) น้องชาย และพจนีย์ (กุ๊กกิ๊ก-กชกร ส่งแสงเติม) น้องสาวคนเล็กของเธอนมทิพย์เองก็มีความเมตตา ใจดีต่อพจมาน นอกจากชายน้อยแล้วพจมานจึงสนิทสนมกับกับนมทิพย์เป็นอย่างดี

พจมานอยู่บ้านทรายทองอย่างผู้อาศัย ทำงานไม่ต่างกับบ่าวไพร่ แต่ก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียนหนังสือ ถึงแม้ว่าการเรียนของเธอจะแย่ลง ต้องแบ่งเวลาช่วยงานบ้านจนแทบไม่มีเวลาทบทวนตำรา พจมานจึงขอแยกห้องจากหญิงใหญ่ไปอยู่เรือนคนใช้เพื่อจะได้ทบทวนตำรายามดึกได้ ขณะเดียวกัน คุณแพรวพรรณ (ปูดำ-สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงศ์) น้องสาวของหม่อมพรรณรายกลับมาจากต่างประเทศและย้ายเข้ามาอาศัยอยู่บ้านทรายทองพร้อมกับ แสงโสม (นิว-ปทิตตา อัธยาตมวิทยา) บุตรสาว สืบศรี (ภูมิ-วรรณภูมิ ทรงสุภาพ) บุตรชายและประสพ (สมิท ธนโชติ) สามี

พจมานทราบว่าเจ้าคุณราชาพิพิธ พี่ชายของคุณปู่สุรพล อยู่ที่ตึกขวางของบ้านทรายทอง จึงเข้าไปกราบเรียนว่าเธอได้เข้ามาขออาศัยบารมีท่านในบ้านทรายทอง เจ้าคุณราชาพิพิธกลับหวาดกลัวเมื่อได้ยินชื่อสุรพล เพ้อออกมาแปลก ๆ และอาการป่วยทรุดหนักลง พจมานจึงถูกห้ามเข้าพบท่านอีก วันหนึ่งพจมานลัดเลาะไปที่ตึกขวางด้วยความสงสัย เธอพบหญิงชราผมขาวถือเครื่องเช่นไหว้ ไปตั้งหน้าโลงศพ เธอตกใจคิดว่าถูกผีหลอกแต่ก็พาสติตัวเองกลับมาฝั่งตึกที่อาศัยอยู่ได้ และชนเข้าอย่างจังกับสุภาพบุรุษท่านหนึ่งเข้า เธอกรีดร้องและหมดสติทันที มรว.ภารดาพัฒน์ระพี หรือ คุณชายกลาง (วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) เพิ่งกลับจากต่างประเทศ ไม่ทราบว่าพจมานเป็นใครแต่เห็นหมดสติจึงพาไปส่งห้องชายน้อยเพื่อให้นมทิพย์ดูแล และได้รับข้อมูลของพจมานจากคนรอบตัวชายกลางกลับมาเปลี่ยนทุกอย่างในบ้านทรายทองให้ดีขึ้น ตั้งแต่คนใกล้ชิดอย่างชายน้อยที่ได้รับการส่งตัวไปรักษาตลอดจนบ่าวไพร่และพจมานด้วย เธอได้รับอนุญาตให้มีห้องพักเป็นของตัวเอง เทียบเท่ากับญาติพี่น้อง และได้อยู่ในความปกครองของชายกลาง เธอและเขาจึงเข้ามามีบทบาทของกันและกันตามลำดับ

เหตุการณ์พลิกผันอีกครั้งเมื่อชายกลางต้องเดินทางไปดูงานต่างประเทศ หญิงเล็กเริ่มวางแผนทำลายพจมานเสียคนโดยการพาเข้าไปรู้จักสมาคมกับบุคคลต่าง ๆ ซึ่งเป็นคนไม่ดี โดยทำทีขอตอบแทนพระคุณชายกลางที่มอบเงินจัดงานหมั้นระหว่างเธอกับ ท่านชายอเนกนพรัตน์ หรือ ท่านต้อม (เขต ฐานทัพ) เจ้าพี่ของ ท่านหญิงปิยะฉัตรโสภา หรือ ท่านติ๋ว (เกี่ยวก้อย-ขวัญกวินท์ ธำรงรัฐเศรษฐ์) สตรีสูงศักดิ์ซึ่งสนิทสนมกับหญิงเล็กเพราะหมายปองชายกลาง เธออาสาเป็นผู้ปกครองให้พจมาน ชายกลางตกลง ให้หญิงเล็กดูแลพจมาน แผนการร้าย ๆ จึงเริ่มขึ้น หญิงเล็กอนุญาตให้นกุล (อั๋น-ชยพล บุนนาค) เพื่อนชายคนสนิทของพจมานมาพบพจมานที่บ้านทรายทองได้ หวังให้เกิดเรื่องไม่ดีไม่งามขึ้น แต่ไม่เป็นไปตามคาดไว้ หญิงเล็กจึงพาพจมานออกงานสมาคมต่าง ๆ

ซึ่งมีท่านต้อมไปด้วยเสมอ คนที่หญิงเล็กชักนำให้พจมานชิดเชื้อด้วยมีแต่คนที่ประวัติไม่ดี ท่านต้อมเห็นใจพจมานจึงคอยปกป้องพจมานอยู่บ่อย ๆ หญิงเล็กยังไม่วางมือง่าย ๆ บังคับให้พจมานไปบางปูกับครูสอนดนตรี ซึ่งเบื้องหลัง คือผู้ผลิตหนังลามก มักล่อลวงเด็กสาวไปถ่ายหนังอนาจาร ท่านต้อมไม่พอมีปากเสียงกับหญิงเล็ก พจมานมาได้ยินเลยรู้ว่าหญิงเล็กไม่เคยหวังดีกับเธอเลย แต่ก็รั้น บางอย่างทำให้เธอตัดสินใจไป ท่านต้อมตามไปช่วยเหลือ จึงรู้ใจตัวเองว่าจริงแล้วรักพจมานไม่ใช่หญิงเล็ก พจมานใช้ไหวพริบโน้มน้าวใจครูสอนดนตรีให้ปล่อยเธอ

ขากลับรถของพจมานพลิกคว่ำ พจมานได้รับบาดเจ็บน้อย นกุลและท่านต้อม จึงรีบไปรับพจมานกลับบ้านทรายทองหลังจากมีปากเสียงกับท่านต้อม หญิงเล็กก็มีปากเสียงกับหญิงใหญ่อีก เรื่องราวบานปลายเกี่ยวกับข่าวเรื่องเจ้าของสิทธิ์ครอบครองบ้านทรายทอง ว่าไม่ใช่ชายกลางอย่างที่เข้าใจ หญิงเล็กไปอาระวาดกับเจ้าคุณราชพิพิธที่ตึกขวาง จนอาการทรุดหนัก เมื่อพจมานกลับถึงบ้านทรายทองก็ถูกเรียกเข้าไปดูใจท่านเจ้าคุณ ท่านเจ้าคุณสารภาพว่าบ้านทรายทองเป็นของสุรพลน้องชายท่าน ซึ่งทายาทที่แท้จริงก็คือ พจมาน นั่นเอง ท่ามกลางความตกตะลึง พจมานก็ปฏิเสธจะรับสิทธิ์นั้น รุ่งเช้าเจ้าคุณราชพิพิธก็สิ้นใจ

หลังจากท่านเจ้าคุณสิ้นบุญไม่นาน พจมานก็ได้รับโทรเลขจากพจนา ว่าที่บ้านมีเรื่อง พจมานจึงกลับไปบ้านและพบว่า พจนีย์หนีตามผู้ชายไป ทรัพย์สินที่บิดาให้ไว้ก็ใกล้หมด มารดาจึงเอาบ้านและที่ดินไปจำนองพจมานรู้สึกท้อแท้ แต่ที่ร้ายกว่าคือ มารดาของเธอพยายามเกลี้ยกล่อมให้แต่งงานกับบุตรชายเศรษฐีท้องถิ่นเพื่อกู้หน้าและพยุงฐานะครอบครัว ขณะที่พจมานกลับบ้าน ชายกลางก็กลับมาถึงบ้านทรายทอง และทราบความจริง จึงตัดสินใจจะย้ายออกจากบ้านทรายทอง เพื่อคืนกรรมสิทธิ์ให้กับพจมานและครอบครัว ท่านต้อมทราบข่าวว่าชายกลางกลับมา ก็ขอนัดเพื่อถอนหมั้นหญิงเล็ก และขอหมั้นพจมานโดยให้ชายกลางเป็นถ้าแก่ พจมานกำลังถูกมารดากดดัน มารดาของฝ่ายชายมาทาบทาบถึงบ้าน รถของชายกลางก็เข้ามาที่หน้าบ้านพจมาน พจมานปลาบปลื้มมาก แต่ข่าวที่ได้รับคือ การคืนบ้านให้เธอและจะย้ายออกไป กับการทาบทามเธอให้กับท่านต้อมพจมานร้องไห้ ชายกลางจึงกลับไปพร้อมกำชับให้เธอกลับบ้านทรายทองในวันถัดไป

พจมานกลับมาที่บ้านทรายทอง ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด หญิงใหญ่ไปรับที่สถานีรถไฟ บ่าวไพร่ยิ้มแย้ม แจ่มใส จัดห้องไว้รับรอง และทานอาหารร่วมโต๊ะกับหญิงใหญ่และชายกลาง พจมานยืนยันจะไม่รับสิทธิ์การเป็นเจ้าของบ้านทรายทอง แต่ชายกลางก็ยืนยันจะย้ายออกไปโดยขอให้สร้างบ้านใหม่เสร็จก่อน ชายน้อยที่ไปรักษากับนายแพทย์ฝรั่ง ผลการรักษาไม่ประสบความสำเร็จถึงขั้นหายขาด แต่ก็เดินเหินสะดวกขึ้น จึงรับตัวกลับมา หญิงใหญ่ไปหาพจมานที่ห้อง เอาสร้อยที่ชายกลางซื้อให้พจมานไปสวมให้และบอกเป็นนัย ๆ ว่าชายกลางรู้สึกพิเศษกับพจมาน จังหวะนั้นบ่าวขึ้นมาตาม แจ้งว่าท่านต้อมมาขอพบพจมาน หญิงใหญ่พูดกับพจมานอย่างหวังดีว่าถึงเวลาแล้วที่พจมานต้องเลือก คนที่เธอรัก

พจมานปรากฏตัวต่อหน้าท่านต้อม มีชายกลางแอบมองอยู่โดยไม่รู้ตัว แต่แล้วนกุลก็ปรากฏตัวขึ้นพจมานดีใจเจอเพื่อนรักลืมตัวตรงไปหานกุล ท่านต้อมถึงกับงงงัน ยอมรับการปฏิเสธ และชายกลางก็ประหลาดใจ และผิดหวังมาก เดินหายไปในห้องสมุด พจมานรู้สึกรีบวิ่งตามชายกลางไป ทำให้ทุกคนรู้คำตอบว่าคนที่เธอเลือกคือชายกลางนั่นเอง แต่นั่นไม่ใช่จุดจบของเรื่อง แต่หากเป็นปมบทแห่งการเริ่มต้มชิตรักระห่าง ชายกลางและพจมาน สว่างวงศ์ แห่ง...บ้านทรายทอง

หลังจากเสร็จพิธีศพของท่านเจ้าคุณราชาพิพิธ ข่าวเรื่องการสมรสระหว่างพจมานและชายกลางยังไม่แพร่ออกไป มีเพียงเสาวรัจ (ตูน-พิมพ์ปวีณ์ โคกระบินทร์) เพื่อนสนิทที่พจมานแจ้งข่าวเป็นคนแรก และเสาวรัจก็ส่งข่าวต่อไปยังเพื่อน ๆ ของพจมาน ท่านหญิงอ้อม (พิมพ์-พิมประภา ตั้งประภาพร) จึงประสงค์จะเลี้ยงก่อนวันฉลองมงคลสมรสให้พจมาน โดยจัดขึ้นที่วังของท่าน ซึ่งภาณี สาวใช้คนใหม่ของวังหญิงอ้อม หรืออีกชื่อคือพจนีย์ น้องสาวพจมานแอบมองพจมานด้วยความอิจฉาริษยาที่พจมานจะได้ครอบครองบ้านทรายทอง

พิธีสมรสระหว่างชายกลางและพจมานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยโดยมีหญิงใหญ่เป็นโต้โผจัดงานให้ ชายกลางและพจมานรู้สึกซาบซึ้งใจ หม่อมพรรณรายมาร่วมงานอย่างไม่เต็มใจนัก แต่ด้วยเกรงใจแขกผู้ใหญ่จึงมา หญิงเล็กลอบไปสงขลาเลี่ยงการมาร่วมงานครั้งนี้ สิริอร (ไอซ์-อธิชนัน ศรีเสวก) ซึ่งอกหักจากชายกลางก็แต่งงานกับ เกริกวิทย์ (นวพล ภูวดล) และไปร่วมงานแต่งพร้อมกับ ท่านผู้หญิงไฉไล (วิไลลักษณ์ ไวงาน) และ หลวงนฤสารวาที (ปริยะ วิมลโนช) พจนีย์ก็ปรากฏตัวขึ้นกลางงานของพจมาน พจมานตกใจระคนดีใจที่จู่ ๆ น้องก็มาปรากฏตัว

แต่พจนีย์ไม่ได้มาร่วมแสดงความยินดีแถมยังต่อว่าพจมานว่าเห็นแก่ตัวไม่เคยแบ่งอะไรให้น้องและยังประกาศว่าตนเองก็มีสิทธิ์อยู่ในบ้านทรายทองเหมือนกัน หลังจากพจนีย์มาอยู่บ้านทรายทองก็ผยองเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของบ้าน ยุ่มย่ามกับของส่วนตัวพจมาน รังเกียจชายน้อย เป็นที่ไม่พอใจของนมทิพย์ คุณหญิงใหญ่เองก็ระอา พจมานจึงสั่งให้พจนีย์มีความเกรงใจต่อคุณหญิงใหญ่และชายกลาง แต่พจนีย์ทำหูทวนลม ชายกลางพาพจมานไปฮันนีมูนที่ศรีราชา ในเวลา 5 วันนี้ พจมานได้พบกับความสงบลืมเรื่องวุ่นวายในบ้านทรายทอง สองคนมีความสุขกับการฮันนีมูนครั้งนี้

ระหว่างนั้นที่บ้านทรายทองก็ได้รับ สายใจ แม่บ้านคนใหม่ซึ่งเป็นคนของหม่อมพรรณราย หลังจากที่คุณหญิงใหญ่ตัดสินใจไปอยู่เพชรบุรี สายใจคอยรายงานเรื่องของคนที่ตึกนอกให้หม่อมพรรณรายรู้ หม่อมพรรณรายมักว่าพจมานเป็นไพร่ ให้สายใจดูแลบ้านให้ดี ทำให้สายใจกระด้างกระเดื่องไม่เคารพพจมานเท่าที่ควร

หลับกลับจากฮันนีมูน พจนีย์มาบอกว่า หม่อมพรรณรายบอกว่าชายกลางแต่งงานกับพจมานเพราะหวังในบ้านทรายทอง ไม่เคยรักพจมานเลย ทำให้พจมานคิดมากเพราะชายกลางไม่เคยบอกรักเธอสักครั้งเธอจึงปั่นปึ่งใส่ชายกลาง เมื่อชายกลางเห็นพจมานเปลี่ยนไปจึงถามตรง ๆ ชายกลางรู้สึกน้อยใจพจมาน ทั้งสองคนเลยมีปากเสียงกัน พจมานไปพูดกับหม่อมพรรณรายให้รู้เรื่อง หม่อมพรรณรายยอมรัว่าพูดแบบนั้นจริง พจมานโกรธไม่ให้คนของหม่อมพรรณรายเข้าไปยุ่งที่ตึกนอกอีก หม่อมพรรณรายเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้หญิงใหญ่ฟัง หญิงใหญ่เฉย และได้นำมาพูดกับพจมานให้คิดได้เรื่องชายกลาง พจมานตั้งใจจะคืนดีกับชายกลางแต่พบชายกลางมากับสิริอรหลังจากดูหนังด้วยกัน เนื้อหาหนังเกี่ยวกับการแต่งงานเพราะเงิน พจมานสะอึกรีบหลบไป ชายกลางตามไปพูดกับพจมานที่ยังงอนอยู่ พจมานอยากได้ยินคำว่ารักจากปากชายกลาง ชายกลางถือว่าการกระทำสำคัญว่าคำพูด แต่ลึก ๆ แล้วพจมานก็รู้ดีว่าชายกลังนั้นรักเธอสุดหัวใจ

ด้านหญิงเล็กพบรักกับนายเติม ธีรวณิช (บิ๊ก-ศรุต วิจิตรานนท์) พ่อค้าผู้มั่งคั่ง และได้ตัดสินใจแต่งงานกับนายเติม หม่อมพรรณรายเห็นด้วยเพราะเห็นว่านายเติมมีฐานะมั่งคั่ง แต่ชายกลางกลบเป็นห่วงหญิงเล็กที่ตัดสินใจแต่งงานปุบปับ พจมานช่วยพูดให้ท่านต้อมพิจารณาหญิงเล็กอีกครั้ง แต่ท่านต้อมไม่ได้รักหญิงเล็กแล้ว แถมยังชื่นชมว่าชายกลางได้ภรรยาที่ดี ขนาดหญิงเล็กเกลียดพจมาน พจมานยังอุตส่าห์ห่วงหญิงเล็ก กำหนดการงานแต่งของหญิงเล็กใกล้เข้ามาทุกที หญิงเล็กอยากได้สร้อยระจำตระกูลของพจมานมาใส่ในวันแต่งงาน หม่อมพรรณรายอ้อนวอนให้ชายกลางไปขอมาให้ ชายกลางบอกให้หญิงเล็กไปขอกับพจมานเอง

หญิงเล็กไม่ยอมไปขอให้เสียศักดิ์ศรี ด้านนายเติมบอกจะหามาให้เอง พอถึงวันงาน สร้อยที่นายเติมหามาให้ดูเก่าคร่ำครึ ไม่เหมาะกับชุดหญิงเล็ก จนใกล้เวลานมทิพย์เอากล่องสร้อยประจำตระกูลมาให้ หญิงเล็กดีใจมาก แต่ไม่ได้รู้สึกดีกับพจมาน งานดำเนินไปอย่างเรียบร้อย โดย หญิงเล็กย้ายไปอยู่บ้านนายเติม นายเติมมีภรรยาอยู่แล้วถึง 2 คน คือ วิภา (มนตะกานต์ ทองขาว) และสมฤทัย (ภัทกัญญา โควสุวรรณ) ต่อหน้านายเติมก็ปฏิบัติกับหญิงเล็กเหมือนไม่มีอะไร แต่ลับหลังก็กระแนะกระแหนหญิงเล็กตลอดเวลา หญิงเล็กได้แต่กล้ำกลืนฝืนทน

ด้านพจนีย์ พยายามเข้าหาชายกลาง ด้วยความอิจฉาที่พจมานได้แต่งงานกับหนุ่มหล่อสูงศักดิ์ ชายกลางมองพจนีย์ก็รู้ว่าเป็นคนประเภทใดจึงพยายามหลีกเลี่ยง พจนีย์ไปเดินตลาดและเป่าประกาศว่าตนเองได้เป็นเจ้าของบ้านทรายทองและเป็นภรรยาชายกลาง ข่าวรู้ถึงหู นิเวศน์ คงเยี่ยมจิต (สุรศักดิ์ โชตีทินวัฒน์) สามีเก่าที่เป็นครูสอนดนตรี นิเวศน์หวังจะไถเงินจากพจนีย์ จึงมาหาที่บ้านทรายทอง พจมานมองแวบเดียวรู้ว่านิเวศน์มีจุดประสงค์ไม่ดี จึงให้เงินไปก้อนหนึ่งและให้นิเวศน์สัญญาว่าจะไม่มายุ่งกับพจนีย์อีก นิเวศได้เงินและรับปากสายใจ แอบเห็นเอาไปซุบซิบนินทาว่าพจมานมีกุ๊ยมาหาแอบให้เงินกันและว่ากันไปในทางชู้สาว พจนีย์เอาเรื่องที่พจมานคบชู้มาบอกชายกลาง พจมานบังเอิญเห็นตอนจะมาบอกข่าวว่าท่านต้อมกับหญิงอ้อมจะหมั้นหมายกัน พจมานเรียกพจนีย์ไปคุย ทะเลาะกันใหญ่โต พจมานเสียใจที่พจนีย์กล่าวหาว่าตัวเองมีชู้เลยเผลอตบหน้าพจนีย์ พจนีย์จึงย้ายไปอยู่ข้างเดียวกับหม่อมพรรณราย

ต่อมาชายน้อยเกิดป่วยหนักและจากไปโดยทุกคนไม่คาดคิด สร้างความเสียใจมากยังบ้านทรายทองหม่อมพรรณรายร่ำให้ปานจะขาดใจ เพิ่งจะมาแสดงให้รู้ว่ารักและอาลัยชายน้อยเมื่อสายไป โดยชายน้อยไม่ได้รับรู้ถึงความรักและเอ็นดูจากแม่ผู้ให้กำเนิด วาระสุดท้ายยังเพ้อถึงแต่นมทิพย์ งานศพชายน้อยจัดขึ้นอย่างเศร้าสร้อยพจมานถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ พจมานเกิดความเหนื่อยหน่ายจึงขอชายกลางกลับไปอยู่บ้านแม่

หญิงเล็กเห็นพจนีย์มาอยู่ข้างเดียวกันจึงใช้ให้พจนีย์ไปค้นห้องพจมานเผื่อเจอหลักฐานคบชู้ แต่ที่เจอคือ จดหมายของนิเวศน์ที่เขียนมาขอบคุณสำหรับเงินรักษาตัว และสัญญาที่นิเวศน์ทำไว้กับพจมานว่าจะไม่มายุ่งกับพจนีย์อีก พจนีย์รู้สึกผิดรีบเอาความจริงนี้ไปบอกกับชายกลางและทุกคนในตึกขวางเพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจพจมาน ชายกลางรู้ว่าพจมานท้องก็ดีใจมากรีบมาหาพจมานที่บ้าน และบอกพจมานว่าเขารักเธอมากแค่ไหน เป็นสิ่งที่พจมานอยากได้ยินมาตลอด ชายกลางและพจมานจะต้องกลับมาเผชิญความจริงที่บ้านทรายทองอีกครั้ง ครั้งนี้ทั้งเธอและเขาจะต้องเจอกับอุปสรรคอะไรอีกบ้าง และทั้งคู่จะผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ ไปได้ด้วยดีหรือไม่ ติดตามชมกันต่อได้ใน ละครบ้านทรายทอง-พจมาน สว่างวงศ์ ที่ออกอากาศทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางช่อง 7 สี ละครบ้านทรายทอง-พจมาน สว่างวงศ์ เริ่มตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน 2558

คู่ปรับฉบับหัวใจ 2558

เรื่องย่อ : คู่ปรับฉบับหัวใจ (2558/2015) มาวิน (ธันวา สุริยจักร), นารา (พิมพ์-พิมประภา ตั้งประภาพร) และอินทร (วิน-วาทิต โสภา) เป็นเพื่อนรักกัน มาวิน เป็นลูกชายของอานนท์ (ทูน หิรัญทรัพย์) นักธุรกิจนำเข้ารถยนต์ยุโรป กับมยุรา (ลูกศร-ธัญญ์ญาฏา วิชญ์ชญธนภรณ์) นักสังคมสังเคราะห์ ทั้งคู่ทำแต่งงาน ไม่มีเวลาดูแลมาวิน ให้แต่เงินเท่านั้น จนทำให้มาวินขาดความรักและดูถูกคุณค่าของคน มีเพียง นงนุช (น้อง-อรุโณทัย จิตรีขันธ์) เลขานุการของอานนท์ เป็นคนคอยดูแลจัดการทุกเรื่องของมาวินแทนอานนท์กับมยุรา ด้านนารา เป็นลูกสาวของจักรี (ภูชงค์ โยธาพิทักษ์) และรุจิรา (ต้อม-ณหทัย พิจิตรา) เจ้าของห้างสรรพสินค้า นาราเป็นความหวังของพ่อและแม่ เพราะนิชา (ฝน-ณธิดา ภัทรชาญไชย) พี่สาวของนารา ทำให้พ่อแม่ผิดหวังที่เรียนไม่จบ วามกดดันทุกอย่างเลยตกมาอยู่ที่นารา ส่วนอินทร เป็นลูกของรัฐมนตรีชื่อ สินชัย (เจ๊ก-ศตวรรษ ตุลยวิจิตร) เมื่อแม่ของอินทรเสีย สินชัยก็มีภรรยาใหม่ชื่อ จริยา (ฝ้าย-นิชานันท์ฟั่นแก้ว) ซึ่งอายุห่างกับสินชัยกว่า 20 ปี จริง ๆ แล้วจริยาสนใจในตัวอินทรเลยยอมแต่งงานกับสินชัย เพื่อหวังจะใกล้ชิดอินทร แต่อินทรไม่เล่นด้วย ขณะเดียวกันอีกมุมหนึ่ง แพรไหม (กรีน-อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล), ชนน (เมฆ-จุติ จำเริญเกตุประทีป) และรตี (ตูน-พิมพ์ปวีณ์ โคกระบินทร์) เป็นเพื่อนรักกันเช่นกัน แพรไหมเป็นลูกของมานี (ปู-นาตยา จันทร์รุ่ง) แม่ค้าขายผัก ทั้งพ่อและแม่ของแพรไหมเลิกกัน แต่ทั้งคู่ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แม้สมศักดิ์ (วีระชัย หัตถโกวิท) จะแต่งงานใหม่กับ รัศมี (อุ้ย-สุธิดา เกตานนท์) และมีลูกสาวชื่อ รังสิมา (ณัชชา-ด.ญ.ชวัลรัตน์ เจนจิตรานนท์) แต่ทั้งสองครอบครัวก็เข้ากันได้ดี แพรไหมมักถูก เสี่ยชาติ (ณรงค์ศักดิ์ เลิศวรานุรักษ์) มากระลิ้มกระเหลี่ย หลายครั้งก็ใช้มานีมากดดันแพรไหมให้ยอมเป็นเมียของตน แต่แพรไหมก็เอาตัวรอดมาได้ทุกครั้ง ส่วนชนนเป็นลูกของ นาชัด (ปรินทร์ วิกรานต์) คนขับรถตุ๊ก ๆ ประจำตลาด ชนนอยู่กับพ่อสองคน เพราะแม่เสียแล้ว ทั้งคู่สนิทสนมกันเหมือนเพื่อน ผิดกับรตี ที่มีทั้งนายน้อม (เอกโอรี) และนางกุล (ต้อม-รชนีกร พันธุ์มณี) เป็นทั้งพ่อและแม่ แต่ขอก็ยังทะเยอทะยานอยากจะสุขสบาย วันหนึ่ง มาวินนำรถไปลองกับอินทร แต่ดันขับไปเฉี่ยวมานี แม่ของแพรไหม ทำให้แพรไหมไม่พอใจ อินทรเห็นแพรไหมก็เกิดหลงรัก ส่วนรตีก็ชอบมาวิน แต่ทั้งคู่ไม่ได้สนใจอินทรกับรตีเลย มัวแต่ทะเลาะกัน ด้านนาราไปเดินซื้อดอกไม้ก็ถูกโจรกระชากกระเป๋า ชนนที่ขับรถตุ๊ก ๆ อยู่แถวนั้นก็เข้ามาช่วย นาราและชนนต่างประทับใจกัน นิชาที่แอบอิจฉาน้องเลยเอาเรื่องนี้ไปฟ้องพ่อกับแม่ทำให้นารา โดนดุที่ไปสนิทสนมกับคนชั้นต่ำอย่างชนน แล้วโชคชะตาก็พาให้ทั้ง 6 คนมาเรียนในคณะเดียวกัน ชนนกับนาราดีใจมาก แต่ชนนก็พยายามเก็บความรู้สึกไว้เพราะรู้ว่าฐานะตัวต่ำต้อย ขณะที่มาวินหาโอกาสแกล้งแพรไหมตลอด จนเป็นที่อิจฉาของอินทรและรตี มาวินเข้าใจผิดคิดว่าแพรไหมมีอาชีพเป็นเมียเก็บเด็กเสี่ย มาวินจึงไม่ชอบแพรไหม จนถึงวันรับน้องนอกสถานที่ ปรากฏว่ามาวินกับแพรไหมหลงป่าไปด้วยกัน ทั้งคู่ทะเลาะกันรุนแรง มาวินจูบแพรไหม แพรไหมไม่พอใจผลักมาวินตกน้ำขาแพลง แพรไหมพยายามจะหาทางออกแต่ด้วยสามัญสำนึกทำให้เธอกลับมาดูมาวินที่เริ่มจะเป็นไข้ป่า แพรไหมกอดมาวินเอาไว้ทั้งคืนจนเช้า จนกลุ่มของชนนออกตามหามาเจอ นาราบอกกับมาวินว่าแพรไหมเป็นคนดูแลมาวิน จนมาวินเริ่มมองแพรไหมดีขึ้น รตีโกรธแพรไหมขณะอินทรกลัวว่าจะสู้มาวินไม่ได้จึงท้าแข่งจีบแพรไหม โดยมีรถของคู่แข่งเป็นรางวัล มาวินไม่อยากแข่งเพราะเริ่มชอบแพรไหมเข้าแล้ว แต่เขากลัวว่าเพื่อนรู้ความจริงเลยตกลง ทั้งคู่เร่งจีบแพรไหม แพรไหมต้องการประชดมาวินจึงรับดอกไม้ของอินทรบ่อย ๆ รตีไม่พอใจที่มาวินสนใจแพรไหมมากกว่าตน นาราเห็นว่าที่บ้านขาดคนสวนจึงชวนชนนมาทำ นิชาเห็นชนนครั้งแรกก็ชอบทันที พอนารารู้ก็ไม่สบายใจ วันหนึ่งแพรไหมได้ช่วยแม่ของมาวินเอาไว้ เลยถูกชะตากับแพรไหมจึงชวนมาทำงานดูแลตนที่บ้าน แพรไหมจะไม่ทำแต่ถูกมาวินท้าทายเลยยอมไม่ได้จึงตอบตกลง พอแพรไหมได้เข้ามาใกล้ชิดครอบครัวมาวินเลยทำให้รู้มาวินเป็นคนขาดความรัก ความอบอุ่น แพรไหมจึงพามาวินไปรู้จักกับครอบครัวของเธอที่ถึงแม้จะแยกกันอยู่แต่ก็มีความสุข มาวินถูกชะตากับมานีจึงไปช่วยขายผัก คามสัมพันธ์ของมาวินและแพรไหมเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ รตีรู้จึงขอเลิกคบกับแพรไหมและพยายามเข้าไปตีสนิทมาวิน ส่วนอินทรรู้ว่าสู้มาวินไม่ได้เลยหันไปติดเหล้า เมายา โดยมือภิชาติ (แพน-สุรเกียรติ บุนนาค) คอยยุยงให้อินทรเกลีดยมาวิน วันหนึ่งอินรเมามายไม่ได้สติ ทำให้จริยา แม่เลี้ยงได้โอกาสเข้าไปคลอเคลียอินทร จนอินทรเคลิ้มยอมมีอะไรด้วย ตราบาปครั้งนั้นทำให้อินทรเกลียดจริยามาก หลังจากนั้นไม่นานแพรไหมก็เริ่มใจอ่อน มีใจให้กับมาวิน พอถึงวันเกิดมาวิน รตีแต่งตัวสวยเพื่อมายั่วมาวิน แต่มาวินไม่สนใจ รติจึงไปยุแม่ของมาวินว่าแพรไหมเป็นคนไม่ดีหวังจะมาจับมาวิน อินทรใช้โอกาสนี้ประกาศกับแพรไหมว่าที่มาวินทำดีทุกอย่างกับแพรไหมก็เพื่อเอาชนะอินทรเท่านั้น ทำให้แพรไหมผิดหวังมยุราสั่งห้ามมาวินยุ่งกับแพรไหมอีก แต่มาวินไม่เชื่อและยืนยันว่าเขารักแพรไหมจริง ๆ รตีเห็นว่าอินทรเมามากจึงเข้าดูแลจนพลาดพลั้งได้เสียกัน จริยาเห็นเข้าก็โกรธแต่พูดอะไรมากไม่ได้เพราะเธออยู่ในฐานะแม่เลี้ยงอินทร อินทรชวนรตีมาอยู่ที่บ้านเพื่อเป็นกันชน เพื่อให้มาวินเลิกยุ่งกับเธอ สร้างความเสียใจให้กับรตีมาก มาวินพยายามแต่ง้อแต่ก็ไม่สำเร็จ ส่วนอินทรดันไปมีเรื่องกับปรัชญา(เติ้ล-ปิติพน พรตรีสัตย์) ถึงขั้นยิงกัน อินทรหนีแล้วเอาปืนไปซ่อนในรถของมาวินแล้วโทรแจ้งความ จนมาวินถูกจับ พ่อแม่ของมาวินอับอายมากเลยไม่ไปประกันตัวมาวิน ชนนกบนารามาให้กำลังมาวิน ขณะที่แพรไหมสับสนเลยไม่พูดกับมาวิน ทำให้มาวินน้อยใจ มานีเตือนสติแพรไหม จนแพรไหมคิดได้เลยกลับไปขอโทษมาวิน แต่ไม่ทันเพราะตำรวจสอบปล่อยตัวมาวินไปแล้ว มาวินรู้ว่าอินทรเป็นคนยิง แต่ด้วยความรักเพื่อนจึงไม่ได้บอกกับตำรวจ แพรไหมพยายามตามง้อมาวิน แต่มาวินก็ยังน้อยใจ ส่วนรตีก็บอกความจริงว่าเธอท้องกับอินทร แต่อินทรไม่สนใจ จริยารู้เรื่องก็หึงหวงจนความลับแตกว่าเธอก็เป็นเมียของอินทรอีกคน ทำให้สินชัยโกรธไล่จริยาออกจากบ้านรวมทั้งอินทร อินทรโกรธตีเลยถีบท้องรตีอย่างแรงจนรตีแท้ง อินทรตกใจมากเลยหนีบออกไป แต่โชคร้ายดันถูกตรวจตามจับได้ ส่วนคู่ของชนนกับนาราก็มีเรื่องเข้าใจผิดกัน เพราะคิดว่าชนนกับพี่สาวของตัวเองมีใจให้กัน ทำให้นาราเสียใจ จนชนนต้องตามมาปรับความเข้าใจ พ่อแม่ของนาราเห็นขณะที่ทั้งคู่กอดกัน จึงเข้าใจผิด ไล่นาราออกจากบ้าน บทสรุปสุดท้ายของทั้ง 6 คน จะเป็นเช่นไร

คุณผีที่รัก 2557

เรื่องย่อ : คุณผีที่รัก (2557/2014) เรื่องราวน่ารัก กุ๊กกิ๊ก โรแมนติก คอเมดี้ของพิธีกรสาว กับหนุ่มข้างบ้าน ที่ก่อตัวขึ้นอย่างไม่ธรรมดา เพราะหนุ่มที่ว่านายนี้ดันเป็น...ผี!

ณ สุสานรถ เวลาดึกสงัด ท่ามกลางซากรถที่พังยับเยินจากอุบัติเหตุ หนุ่มหล่อนายหนึ่ง นอนอยู่กับพื้น เขาฟื้นคืนสติขึ้นมาพร้อมกับความงุนงง เหนือร่างกายของชายหนุ่ม ปรากฎร่างของคามิน ผีร้ายที่ไม่ได้ไปผุดไปเกิดเพราะบาปหนาซ้ำซ้อน เป็นเจ้าพ่อค้ายาเสพติด ฆ่าคนบริสุทธิ์มามากมาย แม้แต่วันสุดท้ายของชีวิตก็ฆ่าตำรวจไปหลายนาย ก่อนจะขับรถหนีมาเสียหลักอัดกับเสาไฟฟ้า จึงต้องมาวนเวียนอยู่ที่สุสานรถ คามินกระชากคอหนุ่มหล่อขึ้นมา จะดูดวิญญาณออกจากร่างเขา

ทันใดนั้น ก็มีชายหนุ่มในสูทสีเทาสุดเนี๊ยบ ปรากฎตัวมาช่วยเขาไว้ พร้อมแนะนำตนเองว่าชื่อ แมนสรวง และเรียกเขาว่า พีระ ทำให้ชายหนุ่มผู้ถูกช่วยเหลือได้รู้ว่าตนชื่ออะไร และได้ตระหนักว่าเขาสูญเสียความทรงจำไปซะแล้ว แมนสรวงย้ำว่าไม่ใช่แค่นั้น จริงๆ แกน่ะ ตายไปแล้ว

น้ำมนต์ นักศึกษาสาวปีสุดท้าย ที่ต้องดิ้นรนปากกัดตีนถีบ เพื่อหาเงินเรียนและยังต้องเลี้ยงดู ข้าวต้ม น้องชายวัย 9 ขวบ งานหลักของน้ำมนต์ก็คือพิธีกรรายการเคเบิ้ลทีวี “คืนผจญผี” รายการที่เล่าเรื่องประสบการณ์เจอผีของผู้ชมทางบ้าน และพาไปพิสูจน์สถานที่ที่ลือกันว่าเฮี้ยน ทั่วราชอาณาจักร ถึงแม้น้ำมนต์เองจะเป็นคนกลัวผีสุดๆ แต่เพื่อหาเลี้ยงชีพ เธอก็จำต้องทน

คืนหนึ่ง ขณะกำลังถ่ายทำรายการ “คืนผจญผี” น้ำมนต์ต้องพาอาสาสมัครหนุ่มบึ้ก หนวดเฟิ้ม มาดเข้ม ผู้ร่วมบุกบ้านร้างที่เล่าลือว่าเป็นบ้านผีดุ เพราะเคยมีคนถูกปล้นฆ่า ไม่ทันได้เจอวิญญาณหลอน แค่แมวกระโจน แขกรับเชิญหนุ่มบึ้กหนวดเฟิ้ม ถึงกับแต๋วแตก กรีดร้อง วิ่งกระเจิง

เอมี่ โปรดิวเซอร์และเจ้าของรายการสาวรุ่นพี่ ที่ถือ ว. นั่งหน้ามอนิเตอร์ถึงกับบ่นอุบ ที่ไม่ได้ภาพผีที่น่ากลัวอย่างที่หวังอีกตามเคย ทำให้รายการ “คืนผจญผี” เรตติ้งไม่ขยับ สปอนเซอร์ก็ไม่ซื้อเวลาโฆษณา เอมี่จึงต้องขอผัดผ่อนเงินค่าตัวพิธีกรของน้ำมนต์ออกไปก่อน ทั้งที่ล่วงเลยมา 4-5 เดือนแล้ว

น้ำมนต์และข้าวต้มอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าของน้า ซึ่งเป็นญาติห่างๆ ของแม่ เมื่อน้ำมนต์กลับไปถึงก็พบว่าข้าวของของเธอและน้องชายถูกเอามากองหน้าห้อง สาเหตุเพราะข้าวต้มเอาปืนของจริงของสามีน้าไปเล่นไล่ยิงลูกของน้า ทำให้น้าโกรธ น้ำมนต์ต้องหอบหิ้วข้าวของและพาข้าวต้มออกจากบ้านของน้าสาวไปหาที่อยู่แห่งใหม่

แมนสรวงพาพีระหนีมาอยู่ที่บ้านร้างแห่งหนึ่ง พีระยังไม่เชื่อว่าตนเองเป็นวิญญาณ จนกระทั่ง รปภ. เจี๊ยบ พนักงานดูแลความปลอดภัยภายในหมู่บ้านของน้ำมนต์ขี่รถจักรยาน ผ่านมาดูแลความเรียบร้อยตามปกติ ยังไม่ทันที่พีระจะตั้งตัว รปภ. เจี๊ยบ ขี่รถทะลุตัวของพีระไปทำให้พีระช็อคมากและรู้ตัวว่าตนเองเป็นวิญญาณ เขาขอให้แมนสรวงช่วยสืบหาว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ แมนสรวงออกตัวว่าตนเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ที่ท่านพญายมส่งตัวมาทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงดูแลพีระเท่านั้น เพราะวิญญาณของพีระไม่อยู่ในบัญชีของผู้ที่ถึงฆาต พีระต้องหาตัวช่วยทางอื่นแล้ว พีระจึงมองออกไปเห็นมีคนย้ายมาอยู่บ้านฝั่งตรงข้ามพอดี จึงคิดว่านี่อาจจะเป็นที่พึ่งของเขาก็ได้

น้ำมนต์ขนของย้ายไปอยู่ที่บ้านของแม่ที่ทิ้งร้างไว้ หลังจากที่ทั้งแม่ และพ่อของเธอเสียชีวิตไปในอุบัติเหตุรถยนต์เมื่อสองปีก่อน โดยมีเอมี่เป็นคนช่วยขับรถไปส่ง ตัวบ้านเป็นไม้เก่าๆ มีบริเวณพื้นที่ค่อนข้างกว้าง บ้านข้างๆ ที่ติดกันก็ถูกปล่อยรกร้าง ทำให้บริเวณนั้นดูเปลี่ยว สงัด น่ากลัว

พีรได้พบน้ำมนต์และข้าวต้มเป็นครั้งแรก เห็นน้ำมนต์กำลังยกของก็มีน้ำใจไปช่วยยก แต่ดันถูกเข้าใจผิดว่าจะขโมยของ เอมี่ได้แต่งง เพราะเอมี่ไม่เห็นว่ามีใครเลย น้ำมนต์นึกว่าพีระหนีไปแล้ว ก็ตั้งแง่ไม่ชอบพีระตั้งแต่แรกเห็น ในขณะที่พีระนั้นเห็นหน้าน้ำมนต์ก็รู้สึกปิ๊ง ถูกใจสุดๆ

ยุทธ กับ เมสินี ติดตามข่าวทางโทรทัศน์เมื่อตำรวจกู้ซากรถปริศนาที่ตกลงไปในริมบึงแห่งหนึ่ง โดยยังไม่พบศพของผู้ขับรถคันดังกล่าว ทั้งสองต่างก็เครียด และร้อนใจ ที่ไม่พบศพของพีระ เมสินียืนยันว่า ถ้ายังไม่พบศพ ก็ต้องตามล่าหาร่างของพีระให้เจอให้ได้ มิฉะนั้นชีวิตคู่ของเรา คงต้อง แยกย้ายไปแก่ตายกันในคุก

ที่มหาวิทยาลัย น้ำมนต์ถูกตามจีบโดย อัฐชัย นักศึกษาหนุ่มหล่อ รวย เนี๊ยบ ลูกชายเจ้าของมหาวิทยาลัย แต่น้ำมนต์ยืนด้วยลำแข้งตัวเองมานาน จึงยังใจแข็ง แต่ก็เริ่มจะโอนอ่อน คล้อยตามอยู่ เพราะทุกคนยุว่าอัฐชัยรักเธอจริง และด้วยฐานะของอัฐชัย ก็จะช่วยดูแลให้ชีวิตเธอกับน้องชายดีขึ้นได้

การที่อัฐชัยมาชอบน้ำมนต์ ก็ทำให้ พิมพ์ดาว เชียร์ลีดเดอร์สาวเปรี้ยว ดาวมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมคณะของน้ำมนต์ เขม่น และคอยหาเรื่องกับน้ำมนต์ เพื่อนในกลุ่มยังมีขาเม้าท์อีกคนคือ ลูกโป่ง ที่พร้อมจะเม้าท์กับทุกคน ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด

ตกค่ำ พีระแวะไปที่บ้านพบว่าข้าวต้มนั่งทำปืนด้วยหนังยางเล่นสนุกอยู่คนเดียว พีระเข้ามาคุยด้วยและสอนให้ข้าวต้มทำปืนของเล่นด้วยไม้ที่ดูดีกว่านี้ให้ อัฐชัยขับรถมาส่งน้ำมนต์ที่บ้าน อัฐชัยขอน้ำมนต์เข้าห้องน้ำ แต่ก็พยายามทำรุ่มร่ามกับน้ำมนต์ พอดีที่ข้าวต้มเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน เพื่ออวดปืนของเล่นที่ทำเอง น้ำมนต์โกรธมากเพราะสั่งข้าวต้มเด็ดขาดว่าไม่ให้เล่นปืน ข้าวต้มเล่าว่าพีระเป็นคนสอนให้ น้ำมนต์ไปที่บ้านร้างเพื่อต่อว่าพีระ แต่ไม่เห็นใคร แล้วก้มๆ เงยๆ แอบมองเข้าไปในบ้าน เจอพีระมายืนอยู่ข้างหลัง แซวว่าจะแอบถ้ำมองผมเหรอ หรือจะแอบขโมยกางเกงใน น้ำมนต์หน้าแตก แต่ก็โวยกลับที่พีระให้ข้าวต้มเล่นปืนแต่พีระโวยกลับว่าแค่ปืนของเล่นเนี่ยนะ และยังยืนยันว่าเด็กผู้ชายก็ต้องเล่นปืนสิ จะให้เล่นตุ๊กตารึไง เขาเองตอนเด็กๆ ก็เล่นปืน แต่ไม่ได้แปลว่าโตมาแล้วต้องไปไล่ยิงคน เด็กจะดีหรือไม่ดี อย่าโทษที่ปืนของเล่น มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับปืนแต่ขึ้นอยู่กับผู้ปกครองจะมีความรับผิดชอบ คอยดูแลปลูกฝังเด็กหรือป่าวต่างหาก อัฐชัยประหลาดใจ เห็นน้ำมนต์ยืนพูดอยู่คนเดียว น้ำมนต์ยืนยันว่าพีระอยู่ตรงนี้ แต่อัฐชัยมองไม่เห็นพีระ อัฐชัยไปปรึกษากับเอมี่ ห่วงว่าน้ำมนต์โดนผีรังควาญ เอมี่จึงแนะนำให้อัฐชัยรู้จักกับ อ. เทพ ชูธง อาจารย์สักยันต์ชื่อดัง หมอดู และหมอผี อ. เทพ เป็นแขกรับเชิญในรายการคืนพจญผีบ่อยๆ พร้อมกับ เกี๊ยง หลานชาย ผู้คอยติดตามรับใช้ อัฐชัยตกลงจ้าง อ. เทพ จัดการสะกดวิญญาณของพีระลงหม้ออาคม

ที่มหาวิทยาลัย พิมพ์ดาวและลูกโป่ง เป็นตัวตั้งตัวตีที่จะทำละครเวทีประจำปีของคณะ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สำคัญ และเป็นหน้าเป็นตาของมหาวิทยาลัย โดยปีนี้ ลูกโป่ง พิมพ์ดาว และน้ำมนต์เป็นทีมสต๊าฟตัวหลัก ลูกโป่งเห็นว่าน้ำมนต์ทำรายการผีอยู่แล้ว คงมีวัตถุดิบและไอเดียมากมาย จึงเสนอว่า ปีนี้จะทำละครเวทีแนวผี สยองขวัญ ทุกคนเห็นดีด้วย อนุมัติทันที คืนนั้นเอมี่ให้น้ำมนต์มาทำรายการที่บ้านร้างที่ลือว่ามีผีเด็กสิงสถิตย์อยู่ โดยมีพิมพ์ดาวมาเป็นผู้ร่วมรายการด้วย ระหว่างถ่ายทำรายการทั้งน้ำมนต์และพิมพ์ดาวถูกผีเด็กในบ้านร้างหลอกให้ของเล่นลอยไปลอยมาได้ น้ำมนต์ พิมพ์ดาว รวมถึงทีมงานต่างหนีกระเจิง น้ำมนต์หนีมาเจอข้าวต้มที่โผล่มาไม่ตั้งตัว โดยที่พีระพามาส่ง พีระโวยวายว่าน้ำมนต์เป็นผู้ปกครองที่แย่มากๆ ทิ้งให้เด็กอยู่ในบ้านตามลำพัง แต่ไม่มีใครมองเห็นพีระเลย นอกจากน้ำมนต์และข้าวต้ม น้ำมนต์เริ่มมั่นใจแล้วว่าพีระไม่ใช่คน

ระหว่างที่พีระและแมนสรวงไม่อยู่ อัฐชัยพา อ. เทพ ชูธงและเกี๊ยงมาทำพิธีปัดเป่าวิญญาณ แต่ อ. เทพ ไม่พบวิญญาณสิงสถิตย์อยู่ จึงกลับไป ให้ยันต์เก้าทวารแก่อัฐชัยให้เอาไปแปะไว้ที่รั้วบ้านน้ำมนต์เพื่อป้องกันวิญญาณ แมนสรวงกลับมาก็เห็นร่องรอยการทำพิธีในบ้านจึงรู้สึกว่าที่นี่ไม่ปลอดภัยสำหรับพีระแล้ว

เมื่อน้ำมนต์แน่ใจแล้วว่าพีระเป็นผี ก็พยายามหนี จนเกิดเป็นสถานการณ์ที่ พี่ระตามตื๊อจะขอความช่วยเหลือ แต่น้ำมนต์เอาแต่จะหนี น้ำมนต์ต้องพึ่งพระเครื่อง สายสิญจน์ ผ้ายันต์ เพื่อรับมือกับพีระ เมื่อพีระจะเข้าไปในบ้านน้ำมนต์ กลับถูกของพลังของยันต์ที่อัฐชัยแอบแปะไว้ช็อตเข้าที่ร่างจนทรุดลงไป น้ำมนต์เห็นจึงรีบวิ่งไปช่วย แต่ไม่สัมผัสร่างของพีระได้ แมนสรวงต้องรีบเข้ามาประคองและต่อว่าน้ำมนต์ที่เอายันต์มาแปะกะจะฆ่าพีระให้ตาย น้ำมนต์ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนทำ เธอสงสารพีระจับใจ

น้ำมนต์รู้ว่าเป็นฝีมือของอัฐชัยก็ไปต่อว่า พิมพ์ดาวกับลูกโป่งแซวว่าผีตนนั้นคงหล่อมากจนคนที่กลัวผีอย่างน้ำมนต์ออกโรงปกป้อง น้ำมนต์พูดแก้เก้อว่าเพราะสงสาร อัฐชัยเริ่มไม่ไว้ใจพีระมากขึ้น

ข้าวต้มเล่นซน จนลูกบอลไปโดนเอา งอแง ที่ขี่จักรยานมา ทำให้จักรยานล้ม งอแงร้องไห้โฮ แต่ร้องไห้เสร็จ ก็กลายเป็นชวนกันเล่นตามประสาเด็ก

บ้านของงอแงเป็นร้านกาแฟ “คอฟฟี่แคท” ที่อยู่ซอยถัดไป โดย เจ๊แมว เจ้าของร้านมีลูกสาวสองคน สองวัย เพราะเกิดจากสองสามี คนโตคือ พิมพ์ดาว และมีน้องเล็กวัย 9 ขวบ จากสามีคนที่สองที่เลิกไปนานแล้ว ก็คือ งอแง เด็กหญิงน่ารัก แต่ขี้อ้อน และขี้แงแต่เด็กจนได้ชื่อนี้

พีระกับแมนสรวงก็ตัดสินใจที่จะไปยังสุสาน เสี่ยงกับผีคามิน เพื่อจะสืบสาวเรื่องราวว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนกันแน่ แต่ก็ต้องผจญกับผีคามิน ที่มีพลังแก่กล้ามากจนพีระกับแมนสรวงต้านทานไม่ไหว พีระกับแมนสรวงหนีมาได้อย่างสะบักสะบอม หวุดหวิดจะถูกดูดวิญญาณไป

พีระมีรูปที่ตนเองถ่ายหน้าบ้านหลังโตหลังหนึ่ง แต่พีระจำอะไรไม่ได้เลย จึงไปขอความช่วยเหลือจากน้ำมนต์ น้ำมนต์ที่ยังตกอยู่ในอาการผวาพีระ ปฏิเสธด้วยความกลัว และเอาสายสิญจน์มาพันรอบบ้าน ทำให้พีระเข้าบ้านน้ำมนต์ไม่ได้ ข้าวต้มเลยแอบตัดสายสิญจน์และเอาด้ายขาวมาผูกแทนโดยที่น้ำมนต์ไม่รู้ ทำให้พีระสามารถเข้าถึงน้ำมนต์ผ่านทางความฝัน ในฝัน พีระขอร้องเพราะน้ำมนต์เป็นหนทางสุดท้ายที่จะช่วยเหลือพีระได้ แต่ไม่ได้ผล พีระได้แต่ปลงและทำใจ

อัฐชัยเห็นว่าน้ำมนต์กลัวผี จึงให้แม่บ้านที่บ้านตนมาอยู่เป็นเพื่อน ช่วยทำความสะอาดบ้าน และช่วยดูแลข้าวต้มที่กำลังจะปิดเทอม น้ำมนต์เกรงใจ พยายามปฏิเสธ แต่คุณอัฐอ้างว่าไม่งั้นแม่บ้านรายนี้จะตกงาน น้ำมนต์จึงยอมให้บ้านหลังนี้มีสมาชิกใหม่เป็นแม่บ้านสาวรุ่นจอมเปิ่นชื่อว่า แจ๊ว แต่เบื้องหลังของแจ๊ว ก็คือคุณอัฐแอบมอบหมายหน้าที่ให้คอยสังเกตการณ์ และรายงานความเคลื่อนไหวทุกฝีก้าวของน้ำมนต์ ทั้งที่แจ๊วเป็นคนกลัวผีมากๆ

ใกล้ช่วงสอบของน้ำมนต์แล้ว น้ำมนต์กลับกลุ้มเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าลงทะเบียน น้ำมนต์พยายามทวงค่าตัวพิธีกรที่เอมี่ค้างอยู่ แต่เอมี่ไม่มีเงินเพราะบริษัทขาดรายได้เนื่องจากรายการไม่เคยเจอผีเลย เอมี่นึกไอเดียออก ให้น้ำมนต์ติดต่อผีมาออกรายการให้ได้แล้วจะเคลียร์เงินค่าตัวให้ทั้งหมด น้ำมนต์ไปขอความช่วยเหลือจากพีระ โดยแลกกับที่น้ำมนต์จะช่วยสืบเรื่องตัวตนของพีระให้ น้ำมนต์กับพีระเอากล้องวิดีโอไปถ่ายผีที่สุสาน ก็ได้เจอคามิน ที่จ้องจะดูดกลืนวิญญาณพีระพอดี น้ำมนต์พยายามช่วยแต่สู้แรงคามินไม่ได้ คามินจับตัวพีระไว้ได้ พีระหมดแรงขัดขืน พีระบอกให้น้ำมนต์หนีไป ทันใดนั้น อ. เทพ ก็เอามีดลงอาคมปาดเฉียดเอาตรงหน้าผากคามิน คามินร้องโหยหวน ใช้อาคมขับไล่คามินไป อ. เทพ กับ เกี๊ยง ก็สะกดวิญญาณของพีระ มาขังไว้ในหม้อดินลงยันต์ แมนสรวงรู้เข้าก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว แต่แมนสรวงและข้าวต้มทำให้น้ำมนต์รู้สึกผิดที่จับพีระไว้แบบนี้ จึงกลายเป็นน้ำมนต์ที่ต้องมาช่วยปลดปล่อยวิญญาณของพีระออกจากหม้อลงยันต์ น้ำมนต์ตามไปที่แม่น้ำที่ อ. เทพ จะเอาหม้ออาคมไปถ่วง น้ำมนต์เข้าไปยื้อแย่งและปาหม้ออาคมจนแตก แมนสรวงพาพีระหนีไปได้ อัฐชัย อ. เทพ และเกี๊ยงพยายามตามหาพีระในบริเวณนั้นแต่ไม่เจอ น้ำมนต์พลอยโล่งใจ

พีระคิดว่าถ้าจะกลับไปที่บ้านร้างหลังเดิมพวก อ. เทพ อาจกลับมาอีกได้ เลยคิดว่าจะไปแอบอยู่ในบ้านของน้ำมนต์ เพราะที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด ตอนแรกน้ำมนต์ปฏิเสธ แต่ด้วยการตื้อของพีระและน้องชายก็ทำให้น้ำมนต์ใจอ่อน

ฝั่งของทาง ยุทธ และเมสินีเอง ก็พยายามตามหาร่างของพีระตามโรงพยาบาลบริเวณนั้น จุดประสงค์คือถ้ายังพบว่ารอดอยู่ จะต้องฆ่าให้ตายสถานเดียว แต่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลสงสัยพฤติกรรมองทั้งคู่ ยุทธและเมสินีจึงหนีไป เฉียดที่จะได้พบร่างของพีระที่นอนไม่ได้สติอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนั้น

ที่มหาวิทยาลัย เอมี่ไปหาเรื่องตำนานผีของมหาวิทยาลัย ก็ได้เจอน้ำมนต์ อัฐชัย ลูกโป่ง และพิมพ์ดาว กำลังปรึกษาเรื่องโปรเจกต์ละครเวทีสยองขวัญ ทั้งสี่คนต่างเล่าเรื่องตำนานสยองที่ได้ยินมาในมหาวิทยาลัยทั้งผีลิฟท์ ผีในห้องน้ำ ผีห้องดนตรีไทย ฯลฯ จนเอมี่พอใจจึงขอตัวกลับ พิมพ์ดาวเลยขอให้เอมี่ช่วยโปรโมตโปรเจกต์ละครเวทีแนวผีเรื่อง “รักข้ามภพ” โดยเป็นเรื่องของความรักระหว่างผีกับคนในยุคสมัยก่อน (ยุคเดียวกับแม่นาค) ในรายการด้วย

คืนหนึ่ง มีโจรเด็กแว๊น สองคน คือ บอย กับ ปื๊ด มาด้อมๆ มองๆ บ้านของน้ำมนต์ เห็นว่ามีแค่ผู้หญิงและเด็กอยู่ ก็คิดจะปล้นหาเงินใช้หนี้พนันบอล แจ๊วลงมาเห็นพวกโจรเข้า จึงถูกพวกโจรจับตัวขังไว้ พีระกับแมนสรวงเห็นว่ามีพวกโจรเข้ามาแต่ไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะทั้งสองไม่มีพลังพอ ปรากฎกายไม่ได้ โจรทั้งสองเข้ามาถึงห้องนอนของน้ำมนต์ ก็เห็นเธอหลับอยู่ หนึ่งในสองโจรก็คิดลามกขึ้นมาทันที ทำท่าจะลวนลามน้ำมนต์ พีระพยายามจะช่วย แมนสรวงแนะนำให้พีระใช้สามสิ่ง คือ ศรัทธา ปรารถนา และสมาธิ เพื่อปรากฏกายแสดงอิทธิฤทธิ์อย่างผีได้ พีระทำตามจนสามารถปรากฏกายได้ พวกโจรเห็นพีระแสดงอิทธิฤทธิ์ ทั้งหลอก ทั้งหลอน ทั้งลงไม้ลงมือ จนสองโจรต้องวิ่งหนีเปิดเปิงออกไป การที่พีระช่วยเหลือน้ำมนต์ ทำให้น้ำมนต์รู้สึกซาบซึ้งและรู้สึกดีๆ กับเขามากขึ้น

เหตุการณ์เรื่องโจรขึ้นบ้านน้ำมนต์และเรื่องผี ถูกแจ๊วแอบโทรรายงานไปถึงอัฐชัย เขาได้ยินก็รีบบึ่งมาทันที อัฐชัยโวยพีระทั้งที่มองไม่เห็นตัว ขอร้องให้อย่ามายุ่มย่ามกับน้ำมนต์ ขอร้องให้ผีอยู่ส่วนผี น้ำมนต์พยายามอธิบายว่าพีระมาดี แต่อัฐชัยไม่ไว้ใจ ไม่คิดว่าผีจะมาอยู่ร่วมโลกกับมนุษย์ได้ อัฐชัยพา อ. เทพ ชูธง และเกี๊ยงมาจัดการพีระ แต่ก็ต้องเจอผีพี่เลี้ยงระดับยมทูตอย่างแมนสรวง ช่วยปกป้อง จนต้องล่าถอยไป อ. เทพ รู้ว่าพลังของตนไม่แก่กล้าพอที่จะกำราบยมทูตอย่างแมนสรวง ทางที่จะชนะได้นั้นต้องอาศัยพลังผีร้ายอย่างคามินมาช่วย

น้ำมนต์คิดจะช่วยพีระเพื่อค้นหาร่างของเขาให้เจอ โดยเริ่มจากการประกาศตามหาเบาะแสผู้ที่รู้จักพีระตามรูปถ่ายที่เขาให้ไว้ ในรายการคืนผจญผี แต่รายการของเธอเป็นรายการเล็กๆ ฉายในเคเบิ้ล แถมยังเป็นตอนดึก ยากที่จะมีคนจำนวนมากมาเห็น มีทางเดียวก็คือ ทำให้รายการโด่งดังขึ้น โดยเริ่มจากการตามล่าผีในตำนานของมหาวิทยาลัยของน้ำมนต์เอง แมนสรวงกับพีระช่วยโดยการแกล้งเป็นผีโผล่ในรายการ แต่ก็ไม่ได้ดูหลอนน่ากลัวอะไรเลย กลายเป็นผีตลกไปเสียมากกว่า น้ำมนต์สบตากับพีระเป็นการขอบคุณที่พีระมาช่วยในรายการ

ที่สุสานรถ อ. เทพ จึงต้องบุกไปหาผีคามิน แต่กว่าที่จะเจรจากันรู้เรื่อง ก็ต้องต่อสู้ ปะทะกันจน อ. เทพ เกือบเพลี่ยงพล้ำ ทั้งสองจึงตกลงกันได้ว่าเป้าหมายคือการกำจัดพีระ และผีคามิน ก็จะได้ดูดพลังจากวิญญาณของพีระไป คามินจึงให้ความร่วมมือ

เช้าวันต่อมา น้ำมนต์รีบตื่นไปสอบแต่เช้า เนื่องจากตรากตำทำงานหนัก ทั้งงานพิธีกร และงานเรียน เธอเป็นลมอยู่บริเวณสนามหน้าบ้าน ก็ได้พีระเป็นคนช่วย อุ้มเข้ามาดูแลในบ้านน้ำมนต์ ระหว่างดูแล ก็อดมองอย่างเคลิบเคลิ้มชื่นชมไม่ได้ พีระรู้ตัวว่ารักน้ำมนต์เข้าแล้ว เมื่อฟื้นขึ้นมากลับกลายเป็นน้ำมนต์โกรธที่พีระไม่ยอมปลุก และรีบผลุนผลันเพื่อไปสอบ แมนสรวงได้แต่ขำที่พีระอยากเป็นฮีโร่ แต่กลับถูกน้ำมนต์โกรธจนได้

ข้ามต้มพางอแงมาเล่นกับพี่ระที่บ้าน งอแงมองไม่เห็นพีระ งอแงกลัวจนร้องไห้ ต้องคอยปลอบให้เข้าใจว่าพีระเป็นผีใจดี งอแงเริ่มใจชื้นขึ้น จนเจ๊แมว ต้องมาตาม เห็นงอแงเล่นลูกบอลกับพีระแต่ไม่มีใครมองเห็นพีระเลยดูเหมือนลูกบอลลอยเองได้ เจ๊แมวเห็นถึงกับผงะ งอแงเลยถูกเจ๊แมวพากลับบ้านอย่างไว รวมถึงแจ๊วที่สยองจนอยู่ไม่ไหวเหมือนกัน

เมื่อแจ๊วไม่อยู่ น้ำมนต์เลยต้องเป็นคนทำอาหาร และเชิญพีระมาทานอาหารค่ำที่บ้านร่วมกัน บนโต๊ะอาหารค่ำ ดูจะเป็นครั้งแรกที่พีระกับน้ำมนต์คุยกันดีๆ บ้าง ถึงแม้ น้ำมนต์ยังสงวนท่าทีพูดจาแข็งๆ ใส่พีระก็ตาม ซึ่งทุกครั้งจะมีแมนสรวงจะแอบเฝ้าดูอยู่ห่างๆ พีระนั่งนิ่ง ไม่กินอะไรเลย เพราะวิญญาณอย่างเขาไม่มีความหิว หรือต้องการพลังงานจากอาหารอย่างคนเป็นๆ น้ำมนต์คิดออก เอาธูปมาปักที่อาหารในจานพีระก็เลยได้กินข้าวกับน้ำมนต์เป็นครั้งแรก

อ.เทพ เกี๊ยง อัฐชัย กับคามิน บุกมาเล่นงานพีระ เจอกับแมนสรวงถึงบ้าน แมนสรวงถูกอ.เทพ และคามินร่วมมือกันทำร้าย แทบปางตาย แต่พีระเข้ามาเจอพยายามเข้าไปช่วยแมนสรวง แต่ก็สู้พลังของคามินไม่ได้ น้ำมนต์เห็นพีระถูกทำร้ายจะเข้าไปขวาง ก็ถูกคามินผลักกระเด็น อัฐชัยตกใจไม่คิดว่าคามินจะ ทำร้ายน้ำมนต์ จึงห้ามอ.เทพ ไม่ให้คามินทำร้ายน้ำมนต์ อ.เทพสั่งคามินหยุดและกลับออกไป น้ำมนต์โกรธอัฐชัยมาก ไล่อัฐชัยกับพวกออกไป อัฐชัยพยายามอธิบาย แต่น้ำมนต์ไม่พร้อมจะคุยกับอัฐชัยตอนนี้ พีระจึงต้องเป็นฝ่ายถูกดูแลโดยข้าวต้มกับน้ำมนต์บ้าง ในสภาพของผีที่บาดเจ็บ และเหลือพลังลดน้อยถอยลงเต็มที (แมนสรวงก็อยู่ในสภาพเดียวกัน)

ยุทธ กับ เมสินี ที่กำลังกังวลเรื่องพีระ ก็บังเอิญได้ดูรายการของน้ำมนต์ที่ประกาศตามหาเบาะแสของพีระ ยุทธตกใจมากที่มีรายการมาประกาศตามหาผู้ที่รู้เบาะแสของพีระ เมสินีจดเบอร์ไว้โดยหวังว่าน้ำมนต์จะเป็นผู้พาไปพบร่างของพีระ และจะได้กำจัดพีระให้สิ้นซากเสียที

ที่สำนักของ อ.เทพ ชูธง ซึ่งยุทธเคยเป็นศิษย์ และเคยมาสักยันต์เก้าทวารกับ อ.เทพ ยุทธเล่าว่ากำลังสืบหาร่างของคนคนหนึ่ง พอบอกว่าชื่อพีระ อ.เทพถึงบางอ้อทันที อ.เทพ เลี้ยงผีคามินอยู่ จะส่งผีตนนี้ออกตามล่า สะกดรอยผีพีระอีกทาง

และในที่สุด เมื่อมีคนโทรมาแจ้งเบาะแสจริงๆ น้ำมนต์กับพีระจึงรีบไปสืบตามแหล่งที่คนโทรบอกเข้ามา โดยผู้แจ้ง ยืนยันว่ารถคันนั้น เป็นรถของบ้านผู้หญิงที่ชื่อเมสินี คืนนั้น น้ำมนต์ไปกับพีระโผล่พรวดเข้าไปกดกริ่งหน้ารั้วบ้าน พอเมสินีออกมา ประหลาดใจ เพราะจำได้ว่าเคยเจอหน้ามาครั้งหนึ่งแล้ว น้ำมนต์บอกว่าพีระยืนอยู่ข้างๆ ตน เมสินีไม่เชื่อ น้ำมนต์ขอร้องให้ยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายรูป เมสินีทำตามด้วยความรำคาญ แต่กลับเห็นร่างรางๆ พอดูออกว่าเป็นพีระยืนอยู่ข้างน้ำมนต์จริงๆ เมสินีก็เป็นลมล้มพับไป ละไม คนใช้ในบ้านวิ่งออกมาดู พอเห็นภาพพีระในโทรศัพท์ก็เอาแต่ร้องผีหลอก ยกมือไหว้ประหลกๆ น้ำมนต์ต้องยืนยันว่าพีระมาดี ไม่ต้องกลัว ละไมจึงจะสงบ ตั้งสติได้

ละไม กับน้ำมนต์ช่วยกันประคองเมสินีที่ยังไม่ได้สติ กลับมาปฐมพยาบาลภายในบ้าน ละไมปากโป้งโดนน้ำหลอกถามความจริง ก็จะพลั้งปากเล่า แต่ยังไม่ทันได้เล่า ยุทธ ก็กลับเข้าบ้านมาพอดี เมสินีฟื้นคืนสติขึ้น ยุทธกับเมสินีตวาดด่าให้ละไมหุบปาก แล้วเมสินีก็บีบน้ำตาร้องไห้คร่ำครวญว่าตนนั้นรักธีระศิลป์ พ่อของพีระรักพีระมากๆ เมื่อเห็นว่าทั้งพ่อทั้งลูกต่างเสียชีวิตไปแล้ว ตนทั้งเหงา ทั้งทรมานเหมือนสูญสิ้นทุกอย่าง จึงให้ยุทธ เพื่อนชายคนใหม่ย้ายเข้ามาแค่วันเดียว แต่เมสินีก็ยืนยันกับพีระที่ตนมองไม่เห็น แต่รู้ว่าอยู่ตรงนี้ว่า ยุทธเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น แต่ลับหลัง ยุทธที่เบื้องหลังก็คือชายชู้ของเมสินี ยุทธบอกเมสินีว่า พีระยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร ในเมื่อเขาจัดการเองกับมือ

ย้อนอดีต เมสินี ก็คือแม่เลี้ยงของพีระ เธออยู่กินกับ ธีระศิลป์ พ่อของพีระ ในช่วงที่พีระไปศึกษายังต่างประเทศ แต่พอคุณธีระศิลป์เสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุรถคว่ำเมื่อสองปีก่อน พีระก็กลับมาจากเมืองนอกเพื่อจัดการเรื่องงานศพ และรับมรดกมูลค่ามหาศาล รวมทั้งบ้านหลังนี้ เพราะคุณธีระศิลป์ มีพีระเป็นทายาทเพียงแค่คนเดียว

และเมื่อราวๆสองเดือนก่อน เมื่อคุณพีระนั่งรถไปกับเมสินี ภรรยาคนใหม่อายุราวลูกของธีระศิลป์ เพื่อไปดูที่ดินแปลงหนึ่งซึ่งเป็นมรดกจากธีระศิลป์ ก็ได้เกิดอุบัติเหตุรถตกบึง และคุณพีระได้หายสาปสูญไปอย่างไร้ร่องรอย จนทุกคนเข้าใจว่าคุณพีระจมน้ำ เสียชีวิตไปแล้ว

ยุทธพร้อมนึกย้อนอดีตนึกย้อน ไปถึงวันที่เมสินีหลอกให้พีระนั่งรถมาด้วย โดยมียุทธปลอมตัวเป็นคนขับรถ (ติดหนวด เครา สวมหมวก ใส่แว่นตาดำ) แล้วแกล้งรถเสียบริเวณใกล้กับบึงแห่งหนึ่ง ยุทธใช้ปืนจี้พีระ บังคับให้ไปริมบึง ในบริเวณที่เปลี่ยวร้างผู้คน ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่เคยสังหารธีระศิลป์นั่นเอง ในวันนั้น พีระสะบัดหลุด วิ่งหนีไปที่ริมบึง เพื่อจะโดดหนี แต่ยุทธเหนี่ยวไกยิงจนพีระตกน้ำไป ก่อนจะยืนคุมเชิงจนแน่ใจแล้วว่าพีระไม่โผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำ และคงตายอยู่ในบึงนั้นแน่ๆ จึงโทรไปตามเมสินี มารับรู้ว่าตนได้ฆ่าพีระสำเร็จแล้ว

ตัดกลับมาเวลาปัจจุบัน เมสินีโวยว่า ยุทธทำงานไม่เรียบร้อย แต่ยุทธก็ยังยืนยันว่าตนทำดีที่สุดแล้วและรีบแก้ตัว ด้วยการฆ่าปิดปากน้ำมนต์ซะ ก็จะไม่มีใครรู้เรื่องนี้ เพราะขืนปล่อยไว้ สมบัติของธีระศิลป์ทั้งหมดอาจจะหลุดมือไป เมสินีสืบรู้มาว่า น้ำมนต์จะไปที่งานละครเวทีของมหาวิทยาลัย จึงกำชับยุทธ ให้ปฏิบัติการปลิดชีพน้ำมนต์ในวันนั้น

ยุทธกับเมสินี แอบซุ่มมา เมสินีแต่งตัวธรรมดานั่งเป็นผู้ชม แต่ยุทธปลอมตัวเป็น รปภ.ของโรงละคร พยายามหาทางเข้าหลังเวที

ที่หลังเวที ยุทธปลอมตัวเป็นรปภ. พกปืน ที่เอว บุกเข้ามาห้องแต่งตัว กระชากเอาน้ำมนต์ให้หันมาพร้อมยกปืนจะจ่อยิง แต่ก็ต้องช็อก เพราะกลายเป็นลูกโป่ง ที่แต่งตัวเล่นเป็นตัวประกอบ ลูกโป่งจะแจ้งตำรวจ เลยโดนยุทธเอาด้ามปืนฟาดจนสลบไป

ละครปิดฉากลง ทุกคนออกมาโค้งคำนับ ขอบคุณผู้ชม พลันมีเสียงปืนขึ้น จากยุทธที่พรางตัวเป็นรปภ.ทุกคนวิ่งหนีกันกระเจิดกระเจิมน้ำมนต์ อัฐชัย และพิมพ์ดาว วิ่งหนีมาด้วยกัน โดยมีพีระติดตามไปด้วย ยุทธตามไล่ล่าไป โดยมีเมสินีตามไปติดๆ การไล่ล่าเริ่มต้นขึ้น ยุทธกับเมสินี ไล่ล่าหวังจะฆ่าพีระ กับน้ำมนต์ให้ได้ พีระกับน้ำมนต์ระหกระเหินหนีไปด้วยกัน โดยมีอัฐชัยกับพิมพ์ดาวติดร่างแห ตกกระไดพลอยโจนมากับเขาด้วย

ทั้งสี่ต้องหนีกันหัวซุกหัวซุน จนทุกคนบ่นที่พีระว่า เป็นผีทั้งที จะมีอิทธิฤทธิ์อะไรสักนิดต่อสู้กับเขาบ้างไม่ได้หรือ พีระเองสวนว่าจะเอาอะไรกับผม เพราะผมเองเกิดมาก็เพิ่งเคยเป็นผี เป็นแค่ผีมือใหม่ ไม่ชำนาญวิธีหลอกหลอนแสดงอิทธิฤทธิ์อะไร ที่แมนสรวงเคยสอนให้บ้างก็ยังฝักหัดไม่คล่อง

ยุทธกับเมสินี ไล่ล่าต่อไป ทั้งสี่กำลังจะจนมุมก็โดดหนีขึ้นรถปิคอัพคันหนึ่งมา คืนนั้น ทั้งสองหนีร้อนไปพึ่งเย็นโดยการหลบไปพักในวัด พีระเดินเข้าเขตวัดมา หมาก็หอนรับกันเกรียว พีระไม่สามารถเข้าศาลาไปได้ ต้องไปนั่งที่บันไดเมรุ หลวงพ่อเทียน มาพบ จัดหาที่พักค้างแรมให้ที่ศาลา โดยแยกชาย และคู่หญิง นอนคนละที่กัน

หลวงพ่อเทียนชี้ทางให้พีระย้อนความทรงจำให้ได้ โดยการนั่งสมาธิในวัด ความนิ่งสงบทำให้ภาพเก่าๆ ย้อนกลับมา พีระนึกออกจนได้ว่าตนถูกยุทธพาไปยิงทิ้งที่บึงแห่งหนึ่ง ซึ่งเส้นทางที่มาก็ผ่านวัดแห่งนี้และยังมีภาพของคนแก่คนหนึ่งซึ่งแนะนำตัวเองบอกว่า เรียกลุงว่า ลุงสน ผุดเข้ามาในภาพความคิด

รุ่งเช้า พีระกับน้ำมนต์จึงรีบมุ่งหน้าไปทางนั้น จนได้พบกับบึงแห่งเดียวกับภาพในความคิดนั้นและในที่สุด หลังจากไถ่ถามผู้คนในย่านนั้น พีระกับน้ำมนต์ก็ได้ทราบว่าบ้านของลุงสนอยู่ที่ไหน พีระกับน้ำมนต์ไปหาลุงสนถึงที่บ้าน ลุงสนประหลาดใจ เมื่อน้ำมนต์บอกว่ารู้จักพีระ และรู้เรื่องราวทั้งหมดจากปากของพีระ ลุงสนยิ่งงง ทักว่ากลับจากโรงพยาบาลแล้วหรือ

ลุงสนเล่าย้อนให้ฟังว่า ตนได้ไปพบร่างของพีระหมดสติอยู่ที่ฝั่งริมบึง มีบาดแผนเสียเลือดไปไม่น้อย จึงเรียกชาวบ้านแถวนั้น ช่วยกันหามไปส่งโรงพยาบาลใกล้ๆ โดยตนจะแวะไปเยี่ยมเยียนแทบทุกวันแต่ก็สิ้นหวัง เพราะเห็นว่านอนอยู่ร่วมเดือนแล้วยังไม่ได้สติ แต่หมอจะขอดูอาการจนครบ 2 เดือน จึงจะตัดสินใจถอนอุปกรณ์ช่วยชีวิตออก น้ำมนต์ถามว่าเมื่อไหร่จะครบ 2 เดือน ลุงสนบอกว่าก็ในวันสองวันนี้แหละ พีระถึงกับช็อกเมื่อได้ยินว่าตนมีโอกาสอีกเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น

ที่อีกโรงพยาบาลหนึ่ง ร่างของพีระนอนไม่ได้สติ มีสายระโยงรยางค์ และอุปกรณ์ช่วยหายใจวิญญาณของพีระกับน้ำมนต์มายืนมอง น้ำมนต์ถึงกับร้องไห้ด้วยความสงสานและเห็นใจ ในขณะที่พยาบาลนางหนึ่งพอเห็นพีระแตะร่างที่นอนบนเตียง แล้วเริ่มเห็นภาพพรางๆ ขึ้นมา พยาบาลก็ขยี้ตางงๆ อย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง แล้วร้องกรี๊ดตกใจ

พีระกับน้ำมนต์ ไม่รู้วิธีที่จะกลับคืนสู่ร่างเดิม จึงต้องโทรตามแมนสรวงให้มาช่วย แมนสรวงรับปากว่าจะรีบไป แต่ตอนนี้ ไปไหนไม่ได้ เพราะโดนเด็กแสบทั้งสอง คือข้าวต้ม และงอแง จับขังไว้ไนห้องเก็บของแล้วเอาสายสิญจน์พันประตูไว้ น้ำมนต์ต้องโทรไปบอกให้เจ๊แมว และแจ๊วช่วยไปแกะสายสิญจน์ ทั้งสองช่วย ทั้งที่กลัวใจจะขาด ประตูเปิดออกมา พีระกับน้ำมนต์ดีใจ นึกว่าเป็นแมนสรวง แต่ปรากฏว่าเป็นยุทธที่แต่งชุดบุรุษพยาบาลปลอมตัวเข้ามา ส่วนเมสินี ย้อนกลับพยาบาลหาทางทำลายร่างของพีระ เพื่อให้กลับเข้าร่างไม่ได้ โดยการจะวางเพลิง แต่อัฐชัยกับพิมพ์ดาวย้อนมาช่วยไว้ แต่ทั้งคู่ไม่ทราบว่าเมสินีพกปืนมาในกระเป๋าถือ แต่วินาทีที่เมสินีกำลังจะเหนี่ยวไก แมนสรวงก็ปรากฏตัวขึ้น มาจับข้อมือแย่งปืน เมสินี ที่ลั่นไก จนลูกกระสุนเฉียด ร่างของพีระไปมาอย่างน่าหวาดเสียว แมนสรวง หลอกหลอนเดินไต่เพดานห้วยหัว หลอกหลอนเมสินี จนช็อก เสียสติไป ก่อนที่หมอและรปภ.ประจำโรงพยาบาล จะมาช่วยเคลียร์สถานการณ์ไว้ เมสินีก็จิตหลุด จนเอ๋อไปซะแล้ว

ที่โรงพยาบาล หมอกำลังตัดสินใจเรื่องการถอนสายเครื่องช่วยหายใจสำหรับร่างของพีระ ที่เลยกำหนดมาแล้ว แต่อัฐชัยกับพิมพ์ดาว ก็มาขอร้องไว้ แต่เหตุผลที่ทั้งสองเล่า ทำเอาหมอและพยาบาล เข้าใจไปว่าสองคนนี้เพี้ยนตามเมสินีไปแล้ว เลยโดนพาเข้ามาอยู่ห้องเดียวกับเมสินีซะ ร่างของพีระจึงอาจจะถูกถอดสายเครื่องช่วยหายใจได้ทุกเมื่อ

หลังจากค่ำคืนของการผจญผีต่างๆกลางป่าลึก พีระและน้ำมนต์ออกมาจากป่า ก็ต้องสู้ขั้นแตกหักกับ อ.เทพ และผีคามิน แมนสรวง อัฐชัยกับพิมพ์ดาวมาช่วย โดยอัฐชัยกับพิมพ์ดาวจัดการ อ.เทพ ส่วนพีระ กับแมนสรวงรวมพลังกันจัดการผีคามินอยู่หมัดจนได้ แต่ก็ยังหายใจได้ไม่ทั่วท้อง ยุทธก็โผล่มาพอดีการไล่ล่าจึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ยุทธต้อนน้ำมนต์ มาจนมุมที่ตลิ่งสูงริมบึงแห่งนั้น ยุทธจ่อเตรียมยิงน้ำมนต์แต่พีระใช้พลังที่ต้องการปกป้องคนรัก ปรากฏตัวขวางหน้าไว้ แต่ยุทธสักยันต์เก้าทวาร ทำให้พีระทำอะไรไม่ได้ ผลักยุทธออกไป จนพลาดเหยียบขอบตลิ่งตกบึงไป แต่พีระยังมีน้ำใจ ช่วยดึงยุทธขึ้นมา แต่แทนที่ยุทธจะซาบซึ้งหรือสำนึก กลับยกปืนขึ้นยิง ไปโดนน้ำมนต์หนึ่งนัด พีระที่ยุทธมองไม่เห็น บิดข้อมือหันปืนเข้าหายุทธเอง ยุทธถอยกรูด กลัวลูกปืน จนพลาดตกบึงไป ศีรษะกระแทกหินนอนแน่นิ่ง สนองผลกรรมที่ตนเคยทำไว้ น้ำมนต์ฟุบอยู่ พีระเสียใจ คว่ำครวญบอกรักน้ำมนต์ น้ำมนต์สะดุ้งเฮือกขึ้นมาบอกฉันยังไม่ตาย แต่มันเจ็บจนพูดไม่ออก กระสุนปืนแค่ถากสีข้างไป ทำแผลที่โรงพยาบาลแป๊ปเดียวก็เสร็จ พีระจึงถามต่อว่า แล้วที่ตนบอกรักไป น้ำมนต์คิดอย่างไร น้ำมนต์อิดออดที่จะพูด แต่พีระถามย้ำว่าทีตนยังกล้าพูดเปิดเผยความในใจ น้ำมนต์จึงบอกรักบอกความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อพีระกลับไปเช่นกัน

พีระ น้ำมนต์ รีบรุกไปดูร่างของตนที่โรงพยาบาล และเมื่อพีระเห็นร่างของตนเองแน่นิ่งอยู่ แต่การกลับเข้าร่าง ไม่ง่ายอย่างที่คิด แมนสรวงให้เหตุผลว่า ร่างของพีระถูกทิ้งไว้นาน เกินวันหมดอายุแล้วอาจจะกลับเข้าร่างไม่ได้อีก

ในที่สุด หลังจากพยายามอยู่หลายครั้ง จนต้องใช้วิธีแผ่เมตตา และใช้จิตที่สงบ และสมาธิ เข้าช่วยพีระ

คมพยาบาท 2557

เรื่องย่อ : คมพยาบาท (2557/2014) อุทัย หนุ่มสังคมรูปงาม ร่ำรวย ลูกผู้ดีเก่า เป็นหนุ่มเนื้อหอมของกรุงเทพฯ สาวๆหลายคนล้วนแต่คิดใจอยากจะได้ชื่อเป็นคนสำคัญของเขา อุทัยมีเมียอยู่แล้ว เมียซึ่งเป็นต้นห้องของมารดาเขาเองคือ เย็น อุทัยตัดสินใจแต่งงานกับ วณี ด้วยความสวยอ่อนหวานและความดีของวณี ทำให้อุทัยทั้งรักและเกรงใจ เขาทอดทิ้งและห่างเหินเย็นเหมือนคนไม่รู้จักกัน เย็นสะสมความอาฆาตแค้นชิงชังและพยาบาทไว้อย่างมากโดยไม่มีใครรู้ กระทั่งวณีท้อง คลอดลูกสาวซึ่งเป็นขวัญใจของคนทั้งบ้าน เอื้อยน่ารักน่าชังนักหนา อุทัยยังคงระแวงเย็นตลอดเวลาด้วยรู้นิสัยดี จนกระทั่งเอื้อยอายุได้ ๖ เดือน โชคก็เข้าข้างเย็น เย็นใช้ความเจ้าเล่ห์ ขโมยเอื้อยไปจนได้ ทุกคนในบ้านมีแต่ความทุกข์ทรมานใจ เหตุการณ์ผ่านไป ๑๘ ปี เย็นกลับมากรุงเทพฯ อีกครั้ง พร้อมเด็กสาว ๒ คน ซึ่งเย็นบอกว่าเป็นหลาน คือ จรรยา หรือ เปีย สวยปราดเปรียว ซน แต่โมโหร้าย ชอบโกหก ส่วน มารยาท หรือน้อย (หรือเอื้อย) เรียบร้อย อ่อนหวาน วันหนึ่ง เย็นบอกเปียว่าเปียนั้นไม่ใช่หลานของตน แต่เป็นลูกของเศรษฐีที่เธอขโมยมา เย็นเล่าความหลังให้เด็กทั้งสองฟัง เปียดีใจจนออกหน้า ขณะที่น้อยรู้สึกน้อยอกน้อยใจและอดสงสัยไม่ได้ว่า เย็นปฏิบัติต่อเธอซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหลานคนเดียวอย่างอยุติธรรมเสมอมา เปียร่ำร้องจะไปหาพ่อแม่ที่แท้จริง แต่เย็นประวิงเวลาไว้ โดยอ้างว่าส่งจดหมายไปแล้ว และรอคำตอบอยู่แล้ว และบอกว่าจะพาจรรยามาหาอีก ๒ วันข้างหน้า แต่จรรยาหรือเปียเก่งกว่านั้น เธอแอบตามเย็นมาจนพบกับอุทัยและวณีจนได้ อุทัยกับวณีพอรู้ว่าเย็นมีหลานสาวอีกคนที่โตมาคู่กับจรรยา จึงขอร้องให้เย็นพามาอยู่ด้วยกัน ท่ามกลางความไม่พอใจอย่างมากของจรรยา จรรยาเคยจุดไฟเผาบ้านนมแส ก็เพราะ นมแสรู้ว่าเธอแอบฆ่าลูกแมวของน้อย และไปบอกอุทัย ทำให้เธอถูกดุ ความผิดปกติทางจิตใจของจรรยามีมากขึ้นทุกที เธอพยายามทำให้อุทัยกับวณีเข้าใจผิดกันเสมอ ด้วยการมาบอกวณีว่า รจนา พยาบาลสาวที่มาอยู่เป็นเพื่อนเปีย และเข้ากันได้ดีกับเปียในบางครั้ง โดยเฉพาะเรื่องของประวิทย์ หลานห่างๆของวณี ที่จรรยาติดใจมาก ชอบยั่ว หลอกให้ประวิทย์พาไปดูหนัง จากนิสัยของเปียและคำบอกเล่าของเย็นที่ว่าน้อยเป็นลูกของ นายโมก กับลำยอง ซึ่งคุณหญิงจำได้ว่ามีโจรชื่อเสือโมกที่สุพรรณบุรีในช่วงเวลาที่เย็นพาเอื้อยไป อุทัยกับคุณหญิงเริ่มสงสัยว่าเย็นวางแผนซ้อนกลเรื่องของเปีย โดยที่น้อยน่าจะเป็นลูกสาวของเขากับวณีมากกว่า วันหนึ่ง เลอสรร ลูกของเพื่อนรักวณีได้ตายไปแล้ว และวณีได้เลี้ยงดูเหมือนลูกแท้ๆ ได้เดินทางกลับจากต่างประเทศ เปียเห่อเลอสรรมาก ตามติดตลอดเวลา ขณะเดียวกัน เลอสรรกลับค่อยๆให้ความสนใจกับน้อยมากกว่า จนเปียรู้สึกได้ เปียโกรธมากถึงขนาดจะพยายามฆ่าน้อย แต่ประวิทย์มาช่วยไว้ทัน จรรยานั้นทั้งหวงและหึงเลอสรรมาก แต่เลอสรรกลับสนใจน้อยมากขึ้นทุกๆวัน จนจรรยาคลั่ง วณีต้องขอร้องให้เลอสรรทำดีกับเธอ ทว่าจรรยาก็ดูจะรู้ทันว่าเขาเสแสร้ง จรรยาออกอุบายชวนทุกคนไปเที่ยวเรือ เมื่อได้โอกาส เธอผลักน้อยตกน้ำในขณะที่ไม่มีใครเห็น เย็นเป็นผู้เอะอะว่าน้อยหายไป เรือจึงวกกลับไปหาอีกครั้ง เลอสรรกระโดดลงไปช่วยน้อยอย่างลำบากเพราะเกิดพายุขึ้นพอดี ที่กรุงเทพฯ เย็นลากตัวเปียมาจัดการชำระโทษ เปียกลัวมาก เพราะเย็นขู่ว่าจะบอกความจริงทุกอย่างกับอุทัยและวณี เปียยิ่งคลั่งแค้นน้อยมากขึ้น แต่เก็บไว้ภายใต้ท่าทีที่นิ่งเฉย เปียเงียบขรึมจนทุกคนเริ่มไม่สบายใจ วันหนึ่ง เปียรู้ว่าเย็นป่วย เธอไปบอกวณี วณีรีบให้คนไปซื้อซุปมาเยี่ยมเย็น แต่ก่อนที่วณีจะนำซุปไปให้เย็น เปียแอบมาโรยยาพิษใส่ลงไปเสียก่อน แต่เลอสรรเห็นเข้าพอดี วณีถือซุปไปเยี่ยมเย็นที่เรือนพัก เย็นตักซุปกินอย่างอร่อยก่อนที่จะล้มตัวลงครวญครางด้วยพิษของยา เย็นเข้าใจว่าวณีวางยา แต่ว่าอุทัยกับเลอสรรมาถึงเรือนเย็นทันเวลาที่จะบอกว่าเปียเป็นคนทำ อุทัยพยายามจะพาเย็นไปโรงพยาบาล แต่เย็นอาการหนักเสียแล้ว ก่อนตาย เย็นยอมบอกความจริงว่าลูกของอุทัยกับวณี ก็คือน้อยนั่นเอง เลอสรรพยายามเรียกเปียซึ่งขังตัวเองอยู่ในห้องตั้งแต่หนีมาจากเรือนเย็น อุทัยตามมาช่วยเรียกอีกคน แต่เปียยังคงเงียบ อุทัยกับเลอสรรตัดสินใจพังประตู ทว่าเสียงปืนดังขึ้นเสียก่อน เมื่อทุกคนเข้าไปก็พบว่าเปียยิงตัวตายแล้ว เธอยอมรับความพ่ายแพ้ และความผิดหวังไม่ได้นั่นเอง เมื่อเหตุการณ์ร้ายผ่านไป น้อยก็ได้พบความสุขตามฐานะที่ควรจะเป็น เลอสรรหมั้นกับน้อยและแต่งงานกันในที่สุด

เล่ห์นางหงส์ 2557

เรื่องย่อ : เล่ห์นางหงส์ (2557/2014) จากเด็กสาวที่กำเนิดในชาติตระกูลที่สูงส่ง ถูกนำมาทิ้งไว้ที่ถังขยะ เติบโตมาในสลัม เส้นทางสู่การเป็น 18 มงกุฎก็ได้เริ่มขึ้น ที่สามารถแปลงโฉมได้หลายหน้า ทั้งนักร้องหมอลำประจำคาเฟ่ดัง เหยี่ยวข่าวสาว ไฮโซสาวลูกครึ่งไทย-สิงคโปร์ แต่แล้วชีวิตที่กำลังสนุกกับการปลอมตัวต้องมาสะดุดพลิกผันอีกครั้งเมื่อโชคชะตาพาให้เธอได้มาเจอกับเขา ชายหนุ่มรูปหล่อทายาทมหาเศรษฐีผู้เป็นที่หมายปองของสาว ๆ ที่ต้องการจะกระชากหน้ากากที่แท้จริงของเธอผู้นี้ แต่กลับทำให้เป็นเรื่องราวกุ๊กกิ๊ก ชวนอมยิ้ม และทำให้เธอได้กลับไปยังชาติกำเนิดที่เป็นหงส์ของเธอ ศินะ (ศตวรรษ ดุลยวิจิตร) และ มนันยา (อุ้ย สุธิตา เกตานนท์) มีลูกสาวหนึ่งคนชื่อ มัทนา (เปรี้ยว ทัศนียา การสมนุช) แต่โดนวิกานดา (แก้ว อภิรดี ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม) ป้าบุญธรรมขโมยไปทิ้งถังขยะและนำ วิศนี (กุ๊กกิ๊ก กชกร ส่งแสงเติม) ลูกสาวของเธอกับเกรียงไกร (ขจรศักดิ์ รัตนนิสสัย) เซลแมนหนุ่มที่เธอผลักให้โดนรถชนและคิดว่าเขาตายไปแล้ว ซึ่งโตมาเป็นเด็กเอาแต่ใจมาก ๆ ส่วนครอบครัวของ สุจินดา (สมิท ธนโชติ) และลักขณา (นัชชา บุตรศรี) มีลูกชายสุดหล่อชื่อ สุรัก (โตนนท์ วงบุญ) และลูกสาวชื่อ หนูพุก (ชวัลรัตน์ เจนจิตรานนท์) ทั้งสองครอบครัวนี้สนิทกันและได้หมั้นหมายให้ลูกสาวและลูกชายของทั้งคู่แต่งงานกัน แต่สุรักไม่ได้รักวิศนีเลย จารุณี (ปู มัณฑนา หิมะทองคำ) โดนสมภพ (โอลิเวอร์ บีเวอร์) สามีทิ้งและโดนบริษัทไล่ออก แล้วดันมาเจอเด็กทารกที่ถูกนำมาทิ้งในถังขยะ เธอเห็นเลยสงสารเก็บมาเลี้ยงเป็นลูก และตั้งชื่อว่ามะนาว (เปรี้ยว ทัศนียา การสมนุช) เธอเติบโตมาในสลัม เป็นสาวแก่น รักความยุติธรรม มี ข้าวเม่า (หมู ภูษณะ บัวงาม) และข้าวปุ้น (โฟน กัญจน์ธนโชติ ปุนบุตรดา) เป็นลูกน้องคนสนิท ทั้งสองแม่ลูกต้องหลบหนีจากการตามล่าของเสี่ยประภาส (ปิง สมพร ปรีดามาโนช) โดยต้องอาศัยการปลอมตัว และได้พบกับสุรัก หนุ่มที่ต้องการกระชากหน้ากากของเธอ มีเพื่อนสนิทชื่อ ชีวิน (บิ๊ก เกียรติศักดิ์ จรัสมาส) ความใกล้ชิด กุ๊กกิ๊กกัน ทำให้ทั้งสองรักกันโดยไม่รู้ตัวและเขาจะช่วยหาหนทางที่ทำให้มัทนาได้เจอกับพ่อแม่ที่แท้จริงอีกครั้ง และเมื่อความจริงใกล้จะถูกเปิดเผยขึ้นมา แรงริษยา ความอาฆาต จากผู้เป็นป้าได้จุดกำเนิดเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อรู้ว่าหลานสาวที่เธออุตส่าห์ขโมยไปทิ้งยังไม่ตาย อีกทั้งสุรักที่พยายามสืบหาตัวจริงของมะนาว แล้วมะนาวจะกลับมาเป็นมัทนาได้ดังเดิมหรือไม่ ติดตามชมได้ใน ละครเล่ห์นางหงส์ ที่ออกอากาศทุกวันจันทร์-วันอาทิตย์ เวลา 18.30 น. ทางช่อง 7 สี ละครเล่ห์นางหงส์ เริ่มตอนแรกวันเสาร์ที่ 25 มกราคม 2557

2548

มนต์รักลูกทุ่ง (2548/2005) ตำนานความรักของคล้าว (ณัฐวุฒิ สะกิดใจ) ที่รักอยู่กับทองกวาว (สุวนันท์ คงยิ่ง) แต่พ่อกับแม่ทองกวาวไม่ชอบเพราะความที่คล้าวจนและโดนยึดที่นาเพราะเป็นหนี้กับพ่อจอม ทองก้อน และ ทับทิม เพราะความยากจนของคล้าวที่เป็นเพียงชาวนาทำให้ผู้ใหญ่ก้อนพ่อของทองกวาวพยายามกีดกัน ทองกวาวจึงเอาเงินที่มีอยู่มาให้คล้าวใช้หนี้ จอมโกรธที่ยึดที่นาของคล้าวไม่ได้ จึงไปต่อว่า ทองก้อน พ่อและแม่ของทองกวาว จึงส่งทองกวาวไปอยู่กับป้าทองคำที่กรุงเทพ โดยให้มีบุปผา (จีรนันท์ มะโนแจ่ม) และหมึก ไปดูแล ทองกวาวได้รู้จักกับธรรมรักษ์ หลานของป้าทองคำ ซึ่งป้าทองคำหวังจะให้หลานทั้งคู่แต่งงานกัน เพื่อสมบัติจะได้ไม่ตกเป็นของคนอื่น คล้าวเศร้าโศกเสียใจที่น้ำท่วมทุ่งนาข้าวเสียหาย ได้พวกคอยปลอบ จึงบอกบุญเย็น ให้ตามหาทองกวาว บุญเย็นพบทองกวาวที่กรุงเทพและบอกเรื่องคล้าว ทองกวาวขอให้บุญเย็นบอกคล้าวว่าทองกวาวอยากให้คล้าวมาสู่ขอแต่พ่อแม่ของทองกวาวกลับเรียกค่าสินสอดสิบหมื่น ธรรมรักษ์เสียการพนัน หวังจะหลอกเอาเงินป้าทองคำจึงทำเป็นชอบทองกวาว โดยให้เพื่อนชื่อ ธีระ หัวหน้าวงดนตรีมากันบุปผา ทั้งหมดเดินทางมาบ้านทองกวาว แต่ด้วยความคิดถึงทองกวาวรีบมาหาคล้าวกลับพบว่าคล้าวอยู่กับสายใจ ทำให้ทองกวาวเข้าใจผิด ทองกวาวจึงตกลงหมั้นกับธรรมรักษ์ แต่ธรรมรักษ์มีฤทัยเป็นภรรยาอยู่ บุญเย็นจึงพาฤทัยมาบ้านทองกวาว ธรรมรักษ์โกรธมาก บอกฤทัยเป็นนักร้องในวงธีระ ฤทัยแกล้งตีสนิทกับคล้าวเพื่อให้ธรรมรักษ์หึง แล้วป้าทองคำจึงไล่ธรรมรักษ์และเมียกลับไป แต่ข่าวการหมั้นของทองกวาวกับธรรมรักษ์ที่ทองก้อนประกาศไปเข้าหูเสือทุม ได้จับตัวทองกวาวและป้าทองคำไปเรียกค่าไถ่ คล้าวและตำรวจตามไปช่วยไว้ทัน คล้าวกับพรรคพวกได้ช่วยเหลือทองกวาวและป้าทองคำให้พ้นจากคนร้าย ซึ่งทำให้พ่อทองก้อนและแม่ทับทิมไม่กล้าปฏิเสธ ทั้งคู่จึงได้แต่งงานกัน

ฟ้าจรดทราย 2556

ฟ้าจรดทราย (2556/2013) ณ โรงเรียนคอนแวนต์ของคณะชีที่มีชื่อในฝรั่งเศสตอนเหนือ มิเชลล์ เดอลาโรนีส์ (ขวัญ อุษามณี) ได้เติบโตขึ้นที่นี่หลังจากพ่อกับแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางเครื่องบิน และญาติพี่น้องไม่มีใครยอมรับเพราะมีแม่เป็นชาวตะวันออกที่ถูกรังเกียจ เธอสำนึกบุญคุณที่คอนแวนต์แห่งนี้รับเลี้ยงดูเด็กกำพร้าเช่นเธอ จึงตั้งใจจะเรียนเป็นชี แต่ แคชฟียา (เอมมี่ มรกต) เพื่อนสาวชาวตะวันออกไกล ได้ชวนมิเชลล์ไปช่วยทำงาน เพราะเธอคิดจะเปิดโรงเรียน แม่อธิการจึงให้ทุนมิเชลล์เข้ามาเรียนในปารีสและพักในอารามของชี ส่วนแคชฟิยา ก็เรียนที่ปารีส แต่อาศัยอยู่กับพี่ชาย - พี่สะใภ้ ของเธอ ซึ่งทำงานในสถานฑูต แคชฟิยามีแฟนชื่อ โรแบร์ (สเตฟาน ฐสิษฐ์) ตั้งใจว่าเรียนจบแล้วจะตามไปทำงานที่เมืองเกซาห์ เมืองท่าของประเทศซูดานของแคชฟียา พี่ชายแคชฟียารู้ก็ก็กีดกันโรแบร์ เพราะต่างชาติต่างศาสนากัน ไม่เป็นที่ยอมรับของชนชาติของเธอ เมื่อเรียนจบ มิเชลล์ กลับมาลาแม่อธิการและบอกว่าจะไปทำงานที่เมืองเกซาห์ โรแบร์ได้งานในบ่อน้ำมันเมืองหลวงของซูดาน และแอบมาพบแคชฟียาที่เกซาห์ เธอขอร้องให้มิเชลล์ช่วย เพราะมิเชลล์เป็นชาวต่างชาติสามารถพบกันอย่างเปิดเผย ซึ่งผิดกับที่เมืองนี้ห้ามหญิงชายพบกันตามลำพังยกเว้นสามีภรรยากัน มิเชลล์ ไม่เห็นด้วยเพราะผิดประเพณีของเกซาหห์ แคชฟียา โกรธที่มิเชลล์ไม่ช่วย และว่ามิเชลล์แอบชอบโรแบร์ ดังนั้นเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ มิเชลล์ จึงต้องทำตามเพราะแคชฟียาเปลี่ยนไปมากหลังจากกลับมายังบ้านของเธอ คือชอบแสดงอำนาจและข่มขู่เหมือนกับที่เคยทำกับพวกทาสในบ้านของเธอ พอนัดพบกับโรแบร์ได้ เขากลับแสดงความรักต่อมิเชลล์ และขอเธอแต่งงาน เพราะระหว่างเขากับแคชฟียานั้นมีอุปสรรคเกินไป แคชฟียาแอบได้ยินทั้งสองคุยกัน หลังจากนั้นเธอก็แสดงตัวเป็นเจ้านายและข่มขู่มิเชลล์ เธอรู้สึกเสียใจที่เพื่อนรักเปลี่ยนไปมาก แม่ของแคชฟียา บอกว่าจะส่งตัวแคชฟีเข้าวังเพื่อเป็นมเหสีขององค์อาหเม็ดที่ 3 (อานัส ฬาพานิช) ของนครฮิลฟารา เพราะโหรหลวงได้ทำนายว่าท่านจะได้มเหสีผู้มาจากแดนไกลและมีความรู้อันหมายถึงแคชฟียาที่เพิ่งกลับมาจากฝรั่งเศสนั่นเอง หญิงผู้นี้จะให้โอรสแก่ราชวงศ์เป็นคนแรก แคชฟียากลุ้มใจมาก เพราะไม่อยากไปอยู่ในฮาเร็ม วันต่อมาแคชฟียาจับเด็กในบ้านคนหนึ่งที่แอบส่งจดหมายนัดของโรแบร์มาให้มิเชลล์ หล่อนลงมือตบตีเด็กอย่างแค้นใจ และมีแผนการใหม่สำหรับมิเชลล์ ที่โฮเต็ลอุลดรารัน ที่นัดพบกับโรแบร์ เขาชวนเธอแต่งงานกลับไปอยู่ฝรั่งเศส แต่มิเชลล์ไม่สามารถรับข้อเสนอได้ และแคชฟียาแอบตามไปด้วย ขณะอยู่ในห้องอาหารได้มีการต้อนรับแขกคนสำคัญขององค์อาหเม็ด ซึ่งมาจากอาฟริกา คืนนั้นเป็นครั้งแรกที่มิเชลล์ได้เห็นทหารองครักษ์ที่มาจากในวังขององค์อาหเม็ด เมื่อกลับมาบ้านเศรษฐีเกซาห์ มิเชลล์พบว่าแคชฟียากำลังขับไล่แม่ลูกจัสปาล ชื่อ ติเยาะ (ฟร้อนท์ มอนโกเมอรี่) กับ มูฮา ซึ่งเป็นเด็กที่แอบมาส่งจดหมายให้เธอนั่นเอง เธอรู้สึกสงสารติเยาะกับมูฮาที่ต้องเดือดร้อนเพราะเธอ มิเชลล์แอบให้เงินแม่คู่นั้นไปเป็นการขอโทษ วันที่ได้ฤกษ์ส่งตัว แคชฟียาหลอกให้มิเชลล์ไปตามที่ทางวังนัดมารับตัว โดยให้เธอปิดหน้าตามประเพณี เมื่อมาถึงทุกคนตกใจที่มิเชลล์กลายเป็นหญิงชาวต่างชาติ เป็นที่กังขาขององค์อาหเม็ดและพระอนุชาองค์โอมาน (ติ๊ก ชีโร่) มิเชลล์ได้เห็นองครักษ์คนนั้นอีกครั้งในวังแห่งนี้ องค์โอมานสั่งให้ประหารชีวิตมิเชลล์ตามกฎของผู้ลักลอบสับเปลี่ยนตัวเข้ามาในวัง แต่เมื่อองค์รักษ์ผู้นี้ทูลถึงสกุลเดลาโรนีล์แก่องค์อาหเม็ดทราบ จึงรับสั่งให้สืบถามข้อเท็จจริง เพราะท่าทางของมิเชลล์เหมือนไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นมาก่อน พันเอกชารีฟ (ตุ้ย ธีรภัทร) ราชองครักษ์รับหน้าที่ไต่สวนมิเชลล์ จนแน่ใจว่าเธอบริสุทธิ์ เมื่อแคชฟียารู้ว่ามิเชลล์ไม่ถูกประหารชีวิต ก็บ้าคลั่งเสียสติจนบิดาต้องพาไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ องค์อาหเม็ด ขอให้มิเชลล์เป็นครูสอนภาษาต่างประเทศในวังต่อไป และต้องถวายตัวเป็นมเหสี เพราะมิเชลล์ ถูกนำตัวเข้ามาในวังตามฤกษ์ดีที่โหรทำนายไว้ มิเชลล์ขอเวลาตัดสินใจ และจะให้คำตอบหลังจาก พระองค์เสด็จกลับจากเมืองอิชฟาอัค เพื่อเยี่ยม เจ้าชายอับดุลลา (โอ๊ต สุรศักดิ์) พระญาติที่นั่น มิเชลล์ ได้พักอยู่กับ เจ้าหญิงฟารีดา (เงาะ กชกร) มเหสีขององค์โอมานและเธอได้รับความเมตตาเอ็นดูจากเจ้าหญิงเป็นอย่างดี เธอมี อะมีนา (ภูษณิศา) คนรับใช้เป็นเพื่อนสนิทและคอยเล่าเรื่องความเป็นไปภายในวังให้ฟังอยู่เสมอ รวมทั้งเรื่องของพันเอกชารีฟ วันที่องค์อาหเม็ดเสด็จกลับจากอิชฟาอัด องค์โอมานได้ก่อการกบฏยึดอำนาจขึ้นอย่างไม่คาดคิด แล้วลอบปลงพระชนม์องค์อาหเม็ด เพราะกลัวจะเสียอำนาจและต้องการเป็นใหญ่ เมื่อเจ้าหญิงฟารีดาทรงทราบก็ผิดหวังต่อการกระทำของสวามี จึงขอเสด็จกลับไปเกซาห์บ้านเกิด เพราะไม่เคยทรงเห็นด้วยกับแผนการทั้งปวงตั้งแต่ต้นแล้ว อะมีนารีบมาส่งข่าวให้มิเชลล์เพื่อนำไปแจ้งพันเอกชารีฟ เรื่องการก่อกบฎโดยด่วน แล้วอะมีนาก็ถูกเจ้าซาอิ๊บ (ทองขาว) สมุนของโอมานฆ่าตาย หลังมิเชลล์จากไปไม่นาน เมื่อไปถึงที่พัก พันเอกชารีฟให้มิเชลล์ปลอมตัวเป็นผู้ชายและเปลี่ยนชื่อเป็นตาฟา แล้วพาลอบหนีออกไปชายแดนจากการตามล่าของซาอิ๊บ และถูกกล่าวหาว่าราชองครักษ์ชารีฟ เป็นศัตรูกับกษัตริย์องค์ใหม่อับดุลเลาะ พ่อค้าชาวเบดูอินได้นำเงินทองมาดักรอชารีฟเพื่อมอบให้จากพ่อแม่ของเขาเอง และให้แฝงตัวอยู่ในคาราวานม้ากับอูฐหนีเข้าไปยังเขตทะเลทรายและมอบทั้งสองให้ ฟูรอ (อมต อินทานนท์) หัวหน้าคาราวานอีกคณะหนึ่งที่ได้รับค่าจ้างจากอับดุลเลาะอีกต่อหนึ่งนำทั้งสองร่วมขบวนไปยังไฮไดดะ แต่ก็แอบขายอาวุธให้กับชีคแห่งคาฟราด้วย เมื่อเดินทางถึงโอเอซีสไฮไดดะ ชารีฟขอซื้อปืนต่อจากฟูรอไว้บางส่วน พร้อมอูฐ แล้วเดินทางต่อไป โดยไม่แวะเข้าไปไฮไดดะ เพราะมีตำรวจทหารลาดตระเวณของโอมานอยู่ ชารีฟกับมิเชลล์ ต้องฝ่าฟันพายุทะเลทรายอยู่หลายวันและเสบียงเริ่มหมด ทั้งสองเริ่มเห็นอกเห็นใจกันและพยายามช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จนรอดพ้นการตรวจจับของทหาร จนมาถึงโอเอซีสกุไวอิยา เป็นที่ห่างไกลจากโอเอซีสอื่นทำให้ไม่มีผู้คนหรือสัตว์อยู่ที่นี่ เมื่อพักกินน้ำทำความสะอาดร่างกายและนอนพักผ่อน จากนั้นก็เดินทางเขาเขตหมู่บ้านกลางทะเลทรายจาอุฟ ซึ่งใช้เวลาถึง 3 วัน ชารีฟมีเพื่อนเป็นชีคอัสมันอยู่ที่นั่น ทั้งสองได้พบพ่อค้าพี่น้อง นะหมัด (กษาปณ์ จำปาดิบ) กับ กาเซ็ม (เวนซ์ ฟอลโคเนอร์) บนถนนในเมืองจาอุฟ เนื่องจากเจ้ากาเซ็มขี้เมา พี่น้องจึงต้องออกไปพักแรมนอกเมือง เพราะในจาอุฟมีการปล้นสดมภ์ และวุ่นวายกันพอสมควร ชารีฟ ได้พบชีคอัสมัน (โอ๋ ฐาปกรณ์) ซึ่งกำลังป่วยเป็นฝี ชารีฟช่วยรักษาจนหาย ทำให้หมอโบราณ (สีเทา) ที่เคยรักษาชีคอัสมันแต่ไม่หายรู้สึกไม่พอใจที่ชารีฟใช้วิชาแพทย์สมัยใหม่เข้ามารักษา ชารีฟเล่าเรื่องกบฎโอมานให้ชีคอัสมันฟัง เขาแนะนำให้รู้จักกับเด็กรับใช้ชื่อดาฟา ยูซุฟ (เต้ ปิติศักดิ์) คนสนิทของชีค และขอให้ชารีฟไปรักษาพ่อของเขาที่ไม่สบายมานาน ชารีฟรักษาพ่อเฒ่าให้หายในเวลาอันสั้น ต่อมาคณะคาราวานสินค้าของชีคอัสมันถูกโจรตูอิค ปล้นทำร้ายขณะเดินทางกลับมาจากตลาดค้าสัตว์ เมืองซากากา ชารีฟกับมิเชลล์ทำหน้าที่ดูแลรักษาคนของชีค ขณะทำแผลผ่าตัด หมอโบราณแอบเห็นเหรียญประจำตัวของราชองครักษ์ของชารีฟ จึงนำไปบอกทหารฝ่ายโอมานให้ตามมาฆ่าสมความแค้นของหมอเฒ่า ผลการรักษาคนบาดเจ็บเป็นไปโดยราบรื่น เป็นที่พอใจของชีคอัสมัน และต้องการชารีฟกับตาฟาเป็นลูกเขย จึงวางแผนให้ยูซุฟ ชารีฟและตาฟาเดินทางไปยังซากากา เพื่อขายแพะและอูฐ และถูกตำรวจทะเลทรายไล่ลาจนไม่มีที่อยู่ และกลับมายังจาอุฟในที่สุด แต่บังเอิญชารีฟได้ช่วยชีวิตยูซุฟจากคนของหัวหน้าโจรตูอิดที่ชื่อ บูชิค จนตายคาที่ ยูซุฟจึงตอบแทนชารีฟด้วยการบอกความจริงเกี่ยวกับแผนซีคอัสมัน ยูซุฟวางแผนให้ชารีฟกับตาฟาแยกออกจากองคราราวาน และให้เดินทางอีกหนึ่งอาทิตย์จึงจะพบกับโอเอซีสแห่งอานาอีซา ซึ่งมีนครกลางทะเลทรายอยู่ที่นั่น มีเบดูอินต่างเผ่าพักรวมกันจึงทำให้ปลอดภัยในการลี้ภัย ถึงอานาอีซาจะใกล้เมืองฮิลฟาราเข้าไปแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะไม่ใช่เมืองการค้าเหมือนซากากา ตำรวจจึงไม่อยากไปวุ่นวายด้วย ก่อนออกเดินทาง มิเชลล์ขอชารีฟไปเดินซื้อของในตลาด และแอบเห็นพี่น้อง นะหมัดกับกาเซ็มกำลังเป็นสายให้ตำรวจเร่งจับตัวชารีฟโดยด่วน เพราะได้เงินค่าจ้างให้มาบอกตำรวจกับหมอโบราณแล้ว มิเชลล์รีบมาบอกชารีฟในตอนกลางคืน ทั้งสองจึงเริ่มเดินทางพร้อมเสบียง ขณะหยุดพักวันที่สามของการเดินทางออกจากซากากา โจรบูชิคกับพวกตามมาทำร้ายและจะฆ่าชารีฟกับมิเชลล์หลังจากตามไปฆ่ายูซุฟมาแล้ว แต่บูชิคเห็นดาบองครักษ์ติดตัวชารีฟจึงไม่กล้าทำอะไร และรีบทำลายข้าวของพร้อมกับปล้นอูฐไปจนหมด ก่อนที่เครื่องบินลาดตระเวรจะมาพบแล้วมันก็จะถูกทำโทษฐานทำร้ายคนของกษัตริย์ ชารีฟเจ็บหนักเพราะถูกซ้อม อูฐ น้ำ และเสบียงถูกปล้น ทั้งสองทรมานต่อความอดทนอย่างมาก ชารีฟเมื่อรู้ตัวก็สารภาพรักกับมิเชลล์จนหมดหัวใจ ทั้งสองมอบรักให้แก่กันท่ามกลางทะเลทรายแห่งนั้น สี่วันผ่านไป ภาวะขาดน้ำและอาหารทำให้มิเชลล์กำลังจะตาย แม้แต่ชารีฟเองก็กำลังจะไม่รอดเช่นกัน เมื่อความมืดมาจึงมีดวงไฟสว่างอยู่ไกล ๆ ทำให้ชารีฟพยายามพาร่างมิเชลล์ไปถึงที่นั่นให้ได้ โชคดีที่เป็นครอบครัวเบดูอินของติเยาะจัสปาลนั่นเอง นางจำมิเชลล์ได้และให้ความช่วยเหลือแต่ อาลี (หมู กลศ) พี่ชายของติเยาะไม่เชื่อเพราะมิเชลล์แต่งกายเป็นชาย ชารีฟจึงต้องบอกว่ามิเชลล์เป็นเมีย เขาจึงเชื่อ แต่ทั้งสองไม่รู้ว่าชารีฟเป็นใคร และให้เดินทางไปโอเอซีสอานาอีซาด้วย ติเยาะเห็นเหรียญห้อยคอที่ชารีฟเหมือนกับผู้มาพักในกระโจมใหญ่บนเนินเขาที่นางเคยพบเมื่อคราวที่แล้ว จึงมาเล่าให้อาลีฟัง และให้อาลีไปแจ้งคนที่กระโจมใหญ่ซึ่งเป็นมิตรกับทุกคน เมื่อไปถึงผู้เฝ้ากระโจมได้นำอาลีกับติเยาะไปพบหัวหน้าใหญ่ แล้วให้รีบนำชายหญิงที่อาลีบอกรูปพรรณสัณฐานมาเข้าพบ เมื่อชารีฟพบหัวหน้าใหญ่ ก็รีบทำความเคารพตามประเพณี เพราะเขาคือองค์อาหเม็ดที่ยังมีพระชนม์ชีพอยู่นั่นเอง ทรงรอดมาได้ด้วย ท่านนายพลมุสคัต (ฤทธิ์ ลือชา) บิดาของอะมีนา ช่วยเหลืออกมาจากวังได้ และยังได้เจ้าชายอับดุลลาแห่งอิชฟาอัคมาประทับอยู่ที่นี่เพื่อช่วยเป็นกำลังด้วย ส่วนมิเชลล์ได้ถูกส่งตัวไปอยู่ในฮาเร็มรวมกับพระชายาขององค์อาหเม็ด (นก อุษณีย์) และจะจัดพิธีแต่งงานกับชารีฟให้เมื่อยึดฮิลฟาราคืนได้สำเร็จ เมื่อได้ทหารเอกกลับมา องค์อาหเม็ดได้วางแผนโจมตียึดราชบัลลังก์คืน โดยวางแผนให้ชารีฟกับการีม (เก่ง ชาติชาย) สับเปลี่ยนตัวศาสตราจารย์โมฮัมหมัด แพทย์ที่จะไปผ่าตัดองค์โอมานที่ประชวร แผนการดำเนินไปอย่างเงียบ ๆ มีสายคอยรายงานความคืบหน้าของการเดินทางของชารีฟและการีมตลอดที่เดินทางโดยรถไฟไปยังด้านฝั่งทะเล ลงเรือสินค้าแอบเข้าเมืองที่ศาสตราจารย์มูฮัมหมัดอยู่และทั้งสองก็ถูกนำตัวเข้าวังในฐานะศาสตราจารย์และผู้ช่วยแพทย์แต่องค์โอมานใช้แผนซ้อนแผนจับตัวชารีฟกับการิมไว้ได้ โดยจับทหารลาดตระเวณมาสอบถามอย่างทารุณ และดักจับวิทยุสื่อสาร แต่กองทัพองค์อาหเม็ดเห็นความผิดปกติจึงรีบยกทัพเข้ามาล้อมเมืองฮิลฟาราได้สำเร็จ เจ้าชายโอมานให้ชารีฟต่อสู้ตัวต่อตัวด้วยวิชามีดวงเดือนที่โอมานเป็นหนึ่งไม่มีใครทาบติด แต่ชารีฟเองก็ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีโดยคำสั่งขององค์อาหเม็ดเช่นกัน องค์โอมานถูกปลิดชีวิตลง กบฎพ่ายแพ้เพราะไม่มีผู้นำ องค์อาหเม็ดจึงจัดพิธีสมรสให้กับชารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่กับมิเชลล์อย่างสมเกียรติ ส่วนองค์หญิงฟารีดา ขอเสด็จไปอยู่เมืองท่านอก

แสงดาวแห่งหัวใจ 2550

แสงดาวแห่งหัวใจ (2550/2007) แสงดาวแห่งหัวใจ เป็นเรื่องราวของ ธาม พนักงานธนาคารสหัสวรรษ หนุ่มอ่อนโยนอารมณ์ดีมีชีวิตเรียบง่ายเคยชินกับความจำเจไม่กล้าตัดสินใจ ลังเลขาดความเชื่อมั่น ธามแอบมอง นภสร หญิงสาวลูกคนเล็กเจ้าของธนาคารเหมือนหมามองเครื่องบินไม่กล้าเผลอใจไปเด็ดดอกฟ้า ต่างจาก ชนะพล เพื่อนร่วมรุ่นที่ประกาศตัวตั้งแต่ต้นว่าจะพิชิตใจนภสรทำให้เธอยอมรับเขาเป็นคู่รักให้ได้ ชนะพลหาโอกาสใกล้ชิดกับนภสรทุกครั้งที่มีโอกาส ทำให้ธามมองชนะพลด้วยสายตาอิจฉาทุกครั้งธามเป็นเด็กกำพร้า พ่อแม่ถูกโจรฆ่าตายต่อหน้าต่อตาตั้งแต่ยังเด็ก มีชีวิตอยู่ท่ามกลางความหวาดผวาและหวาดกลัว ธามอาศัยอยู่กับ ลุงนพ เพื่อนสนิทคนเดียวของพ่อที่เอามาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก ลุงนพพยายามปลูกฝังความเชื่อมั่นและกล้าหาญให้ธามแต่ไม่เป็นผล อาจเป็นเพราะปมความหวาดกลัวที่เห็นพ่อแม่เสียชีวิตต่อหน้าต่อตาก็เป็นได้ ช่วงระยะ 2-3 ปีหลัง ธามซึ่งร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้ว มีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นกับตัวเองอย่างคิดไม่ถึง เขามักปวดหัวจี๊ดๆ บ่อยครั้ง แต่ร่างกายธามกลับมีพลังพิเศษตอบสนองอาการปวดหัวนั้นอย่างผิดมนุษย์ เช่นหลายอาทิตย์ก่อน…ภายหลังอาการปวดหัวจู่ ๆ เขาก็มีอำนาจจิตดึงข้าวของใกล้ตัวได้ด้วยวิธีง่าย ๆ แค่จ้องเขม็งไปที่สิ่งของเหล่านั้น วันต่อมา…หลังปวดหัวเล็กน้อย ธามกลับมีกำลังมาจากไหนไม่รู้ ทำให้ทำงานบ้านได้เป็นชั่วโมง ๆ โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย หนำซ้ำยังรวดเร็วผิดปกติซะอีก อีกวันหนึ่งต่อมา…ธามเกิดอาการแปลกประหลาดอยู่ยงคงกระพันขึ้นมากะทันหัน เผลอทำมีดปาดมือแต่กลับไม่มีแผลเลือดออกเลยสักนิด แต่ความสามารถพิเศษเหล่านี้มาไม่นาน เหมือนกับอาการปวดหัวของธามที่มาเยือน เมื่อธามเล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้เพื่อน ๆ ฟังจึงไม่มีใครเชื่อ หนำซ้ำยังทำให้ความมั่นใจในตัวเองของเขาเสื่อมถอยลงไปอีก เพราะเริ่มคิดว่าตัวเองบ้าเหมือนที่คนอื่นคิดแล้ว ยิ่งสะสมความไม่มั่นใจในตัวเองมากขึ้นเท่าไหร่ ชีวิตของธามยิ่งแย่ลงไปเรื่อย ๆ ธามปล่อยให้โอกาสดีในชีวิตลอยผ่านไปอยู่เสมอ อย่างน้อยก็สองครั้ง… ครั้งหนึ่งธามกับ วินธุ เพื่อนซึ่งรักในเสียงเพลงเหมือน ๆ กัน ต่างกันที่หลายคนบอกว่าธามร้องและแต่งเพลงดีกว่าวินธุเสียอีก วันหนึ่งวินธุชวนธามเข้าสมัครประกวดร้องเพลงชิงแชมป์ประเทศไทย แต่ด้วยความไม่มั่นใจธามกลับปฏิเสธและปล่อยให้วินธุไขว่คว้าความฝันนั้น ไม่นานวินธุกลายเป็นซูเปอร์สตาร์นักร้องดังชื่อก้องของเมืองไทย ในขณะที่ธามยังคงเป็นพนักงานธนาคารนั่งอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์เช่นเดิม ครั้งที่สองเมื่อธนาคารเปิดโอกาสให้พนักงานสอบแข่งขันชิงตำแหน่งผู้บริหารใหม่ ธามเป็นทั้งคนเก่งและคนดีเพื่อนร่วมงานยกให้เป็นตัวเก็งที่จะชนะเลิศ แต่เพราะความไม่มั่นใจในตัวเอง ธามสละโอกาสนั้นให้ชนะพลเหยียบหัวเพื่อนร่วมงานทุกคนไต่เต้าไปสู่ความสำเร็จ หลังจากนั้นไม่นานสาขาของธนาคารสหัสวรรษถูกโจรปล้น และจำเพาะเจาะจงมาปล้นวันที่นภสรพาพนักงานรวมทั้งธามไปเยี่ยมชมกิจการ นภสรถูกจับเป็นตัวประกันเป็นลมล้มพับไปตรงนั้น ส่วนธามจะด้วยเพราะตื่นเต้นหรือตื่นกลัวก็ไม่ทราบได้ เขาปวดหัวรุนแรงมากกว่าทุกครั้ง…หลังจากปวดหัวธามเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขามีความรวดเร็วและมีเรี่ยวแรงพลังดุจช้างสาร ช่วยนภสรรอดจากอันตรายและเล่นงานโจรจนสลบเหมือด แต่หลังจากนั้นตัวเองกลับเป็นลมล้มตึงหมดเรี่ยวแรงไปเสียเฉย ๆ นภสรจึงไม่เห็นความดีในครั้งนี้ของเขา ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนช่วยเธอ ซึ่งสร้างความไม่มั่นใจในตัวเองให้กับธามอีกเป็นทวีคูณ ด้วยตำแหน่งใหม่ชนะพลสามารถเอาชนะใจนภสร เธอเปิดโอกาสให้เขาใกล้ชิดมากกว่าเดิมจนเป็นเหมือนว่าที่แฟนหนุ่มคนหนึ่ง นภสรเป็นสาวเชื่อมั่นในตัวเองมีความรู้บริหารงานคล่องแคล่ว เป็นที่รักของพี่ชายคนโตคือ ดิตถ์ และ กณิศ พี่ชายคนรองเป็นอย่างยิ่ง เธอคือนางในฝันของหนุ่มหลายคน ธามได้แต่เฝ้ามองชีวิตคู่รักสดชื่นสวยงามเหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบระหว่าง ชนะพล กับ นภสร ด้วยแววตาแสนเศร้าและรันทดใจ แล้วเคราะห์กรรมก็กระหน่ำเข้าใส่ชีวิตธาม เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วประเทศ ธนาคารสหัสวรรษขาดทุนอย่างหนัก ดิตถ์ ประธานธนาคารฯ หมดทางแก้ไขปัญหาฆ่าตัวตาย กณิศและนภสรต้องเรียกประชุมผู้บริหารเพื่อแก้ไขปัญหา ทางออกเดียวที่ทำได้คือต้องเลย์ออฟพนักงาน ชนะพลพิจารณารายชื่อพนักงานที่ต้องโดนเลย์ออฟด้วยตัวเอง เดาได้ไม่ยากว่าพนักงานคนแรกที่จะต้องถูกชนะพลกาชื่อพิจารณาให้ออกจากงานก็คือ ธาม พนักงานที่ทำงานมานานแต่อยู่ในตำแหน่งเดิม ๆ โดยตลอด เพราะไม่มีความเชื่อมั่นและไม่กล้าตัดสินใจในทุกเรื่อง “งาน” สิ่งเดียวที่ยืนยันความมีค่าในการมีชีวิตอยู่ของธามต้องสูญสิ้น ธามขอร้องชนะพลแต่ไม่เป็นผล ชนะพลไม่มีวันยอมอ่อนข้อให้กับอดีตคู่แข่งเป็นอันขาด เขายืนยันคำพูดเดียวคือธามจะต้องออกจากธนาคารไปเพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ หนำซ้ำเมื่อกลับมาบ้านธามต้องทุกข์แสนสาหัส เมื่อญาติคนเดียวอย่างลุงนพถูกขี้ยาเมายาบ้าฆ่าตาย เพราะลุงนพเอาตัวเข้าแลกกับเด็กที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ที่จะถูกปาดคอ ธามร้องไห้ปิ่มว่าจะขาดใจ ปวดหัวอย่างรุนแรงเป็นลมล้มคว่ำหมดสติไปคาบ้าน เมื่อฟื้นตื่นขึ้นมาธามต้องพบความจริงที่เจ็บปวด หมอวินิจฉัยว่าธามมีเนื้องอกประหลาดในสมองเหลือเวลาอยู่บนโลกอีกไม่นาน เป็นเนื้องอกที่ขึ้น ณ จุดสำคัญที่สุดอาจทำให้ร่างกายหลั่ง “อาดรินาลีน” มากหรือน้อยกว่าปกติ ซึ่งยังไม่มีใครทราบผลของอาการนี้… ธามสิ้นหวังทุกสิ่งในชีวิตจบสิ้น ด้วยความเสียใจทำให้เขาคิดสั้นวางแผนจบชีวิตอย่างรอบคอบรัดกุม แต่มีอันต้องคลาดแคล้วความตายไปได้ทุกหน ครั้งแรกเมื่อเขาโดดลงมาจากยอดตึกระฟ้า ร่างกระทบกับคอนกรีตด้านล่าง แต่ร่างกายกลับไม่เจ็บปวด เลือดที่ไหลออกมาจากร่างหยุดไหลอย่างรวดเร็ว ร่างกายสามารถรักษาตัวเองกลับเป็นปกติราวปาฏิหาริย์ ครั้งต่อมา…ธามตัดสินใจวิ่งออกไปกลางถนนตั้งใจจะให้รถเทรเลอร์คันใหญ่บดขยี้ให้ร่างแหลกเหลว แต่สิ่งที่แหลกกลับเป็นรถเทรเลอร์ที่พุ่งเข้ามาชน ธามมีร่างกายแข็งแรงขึ้นอย่างมหัศจรรย์ อีกครั้ง…ธามจะไปซื้อปืนมายิงหัวตัวเอง ร้านปืนที่จะไปซื้อกลับโดนโจรปล้น ตำรวจมาปิดล้อมเต็มไปหมด ธามตั้งใจสละชีวิตต่อสู้กับโจรด้วยมือเปล่าจะได้ตายสมใจ แต่เขากลับพบความสามารถพิเศษอีกอย่าง นั่นคือสามารถต่อสู้กับโจรด้วยมือเปล่าด้วยความเฉียบขาดและรุนแรง ปราบโจรนับสิบได้อย่างง่ายดาย ครั้งนี้นอกจากจะตายไม่สำเร็จแล้วธามยังสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะคนดีของสังคม หากแต่ทุกครั้งหลังจากร่างกายธามหลั่งสารพิเศษออกมา เขาจะปวดหัวหนักอ่อนเพลียรุนแรงถึงขั้นยืนไม่อยู่ ต้องนอนนิ่ง ๆ พักให้ร่างกายรักษาตัวเองสักระยะหนึ่งจึงจะกลับมาดำรงชีวิตได้เหมือนคนธรรมดาทั่วไป ธามเบื่อหน่ายกับชะตากรรมที่เล่นตลกกับชีวิตตัวเอง จะตายก็ไม่ได้…ครั้นมีชีวิตอยู่ก็ไร้คุณค่า เย็นวันหนึ่งขณะที่เขาเดินอยู่กลางสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาสูงลิบ ตั้งใจจะจบชีวิต ณ ก้นบึ้งของสายน้ำเบื้องล่าง ยืนเก้ ๆ กัง ๆ นิ่งอยู่นานนับชั่วโมง…ฉับพลันมีรถตู้คันหนึ่งแล่นปราดเข้ามาจอดที่กลางสะพาน ประตูรถตู้เปิดออก ชายลึกลับโยนร่างเด็กชายอายุ 10 ขวบ ลอยร่วงลงสู่พื้นน้ำเบื้องล่าง ธามกลายเป็นฮีโร่จำเป็นอีกครั้ง เขาโดดลงไปช่วยเด็กชายขึ้นมาจากน้ำเด็กชาย แนะนำตัวว่าเขาชื่อ ต้นไม้ ถูกจับมาจากโรงเรียนเพื่อเอามาฆ่า บนรถตู้เขาได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับการแย่งชิงสมบัติของครอบครัว แต่จิตใจของธามยามนี้ไม่มีจะจิตจะใจอยากรับรู้เรื่องอะไรได้แต่พยักหน้า ตั้งใจจะเอาเด็กคนนี้ไปส่งบ้านให้เร็วที่สุด เพื่อจะปฏิบัติภารกิจฆ่าตัวตายให้สัมฤทธิ์ผลเสียที ต้นไม้อ้างว่าไม่อยากกลับไปตายที่บ้าน ทั้งบ่ายเบี่ยง ทั้งวิ่งหนี กระทำตัวน่ารำคาญให้ธามที่เหนื่อยจากการออกแรงมาก ยังต้องเหนื่อยหอบปวดหัวมากกว่าเดิม ธามกัดฟันไล่ตามต้นไม้จนทัน จับมาจ้องหน้าดุ เข้าใส่ด้วยแววตาเหี้ยมเกรียมที่สุดในชีวิตเท่าที่คนเคยอารมณ์ดีอย่างเขาจะทำได้ ทันทีที่จ้องไปยังใบหน้าเด็กชายต้นไม้ ธามถึงกับอึ้งไปชั่วขณะจำได้ทันทีว่าเด็กคนนี้คือทายาทคนเดียวของ ดิตถ์ เจ้าของธนาคารที่เพิ่งฆ่าตัวตาย ต้นไม้เป็นหลานชายแท้ ๆ ของนภสรนางในฝันของเขานั่นเอง เมื่อพักตัวเองหนึ่งคืนจนหายเป็นปกติแล้ว ธามรีบพาต้นไม้ไปส่งบ้านโดยไม่ฟังคำขอร้องใด ๆ เมื่อมาถึงธามต้องปะทะคารมกับนภสรอย่างรุนแรง นภสรคิดว่าพนักงานแบงก์ที่โดนเลย์ออฟจับหลานชายไปเรียกค่าไถ่ กว่าจะเจรจาความกันจนรู้เรื่องก็สร้างความเหนื่อยอ่อนแกมโกลาหลให้กับทั้งเขาและเธอ ธามออกมาจากบ้านหลังนั้นด้วยความน้อยใจนางในฝันที่ด่าว่าอย่างสาดเสียเทเสีย โดยไม่รู้เลยว่ากำลังปล่อยให้นภสรกับต้นไม้ต้องเผชิญกับเพชฌฆาตที่กำลังปิดล้อมบ้านหลังนั้นอยู่ ขณะที่นภสรกำลังไต่ถามเรื่องราวทั้งหมดจากต้นไม้ เสียงปืนกระหน่ำยิงดังลั่น ชายฉกรรจ์หลายสิบคนถล่มคฤหาสน์หวังให้นภสรกับต้นไม้ตายคาที่ ร้อนถึงธามที่ได้ยินเสียงต่อสู้กันภายในบ้านต้องรุดเข้าไปใช้ความสามารถพิเศษของตัวเองอีกครั้ง ธามต่อสู้กับเหล่าร้ายได้อย่างรุนแรงเร้าใจและน่ามหัศจรรย์ในความสามารถพิเศษ ธามสามารถช่วยชีวิตนภสรกับต้นไม้ รอด ได้ด้วยปาฏิหาริย์ส่วนตัวที่มาพร้อมกับอาการเจ็บป่วยในสมอง แต่เช่นเดียวกับทุกครั้ง เมื่อกำจัดเหล่าร้ายหมดสิ้นแล้วธามกลับปวดหัวล้มทั้งยืน หมดสติ นภสรกับต้นไม้ต้องพาธามไปส่งบ้านเพื่อให้พักรักษาตัว ขณะกำลังจะเดินทางกลับมาที่คฤหาสน์ นภสรจะโทรบอกกณิศที่ยังไม่กลับบ้าน แต่ต้นไม้รีบร้องห้ามบอกว่าคนน่าสงสัยที่สุดคืออากณิศ เพราะก่อนตายดิตถ์ผู้เป็นพ่อบ่นบ่อย ๆ ว่ากณิศเปลี่ยนไปแล้ว ตั้งแต่กณิศพบรักกับผู้ช่วยสาวสวยของเขา ตรีนุช กณิศก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน มักจะทะเลาะเบาะแว้งกับครอบครัวอยู่เสมอ และคิดฟังความเห็นแต่เพียงตรีนุชคนเดียว ทั้งสองโซซัดโซเซจะไปแจ้งตำรวจ แต่พอไปถึงหน้าสถานีตำรวจสายตาของต้นไม้ไปปะทะกับ พบธรรม นายตำรวจหนุ่มคนหนึ่งเข้าอย่างจัง พบธรรมกำลังสั่งงานชิ้นสำคัญกับลูกน้องคนสนิท เจษ และ พล อดีตตำรวจรับหน้าที่สายคนสำคัญ ทำหน้าที่แทนเขาในทุก ๆ เรื่อง ต้นไม้รีบดึงนภสรออกมาแทบไม่ทันเพราะ เจษ และ พล เป็นคนไปรับต้นไม้ที่โรงเรียน และโยนร่างเด็กน้อยออกจากรถตู้ลงน้ำด้วยตัวเอง นภสรมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตัดสินใจโทรตามชนะพลคนรักให้มารับเธอกับหลานที่ตู้โทรศัพท์เปลี่ยวแห่งหนึ่ง ด้วยความเหนื่อยอ่อนเธอเอาตัวต้นไม้ไปนั่งพักที่ศาลาริมทาง เพียงเวลาไม่กี่นาทีนภสรก็แทบเป็นลมล้มครืนกับภาพที่ปรากฏต่อสายตา คู่รักคู่หนึ่งเดินเข้าไปในตู้โทรศัพท์ตู้นั้นแทนที่เธอกับต้นไม้ ขณะกำลังพูดโทรศัพท์อยู่นั้นเองรถปิ๊คอัพลึกลับตรงเข้ามากระหน่ำ ยิงร่างทั้งสองพรุนไปทั่วร่างสิ้นใจตายคาที่แล้วหนีไป เด็กชายต้นไม้กับนภสรหมดทางเลือกในชีวิต นภสรเข้าใจว่าต้องมีคนดักฟังโทรศัพท์บ้านของชนะพลแน่ ๆ สองอาหลานเลยต้องหาที่พึ่งใหม่เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง คนเดียวที่ต้นไม้คิดออกขณะนี้คือฮีโร่ในดวงใจ ธาม อดีตหนุ่มแบงก์นั่นเอง ธามฟื้นคืนสติมาในบ้านของตัวเอง ยังคงแปลกใจกับความสามารถพิเศษที่เกิดขึ้นก่อนวาระสุดท้ายของชีวิตจะมาถึง นภสรกับต้นไม้โผล่พรวดเข้ามาในห้องขอให้เขาช่วยเหลือเธอกับหลาน ธามโวยวายกับนภสรอย่างคนสิ้นหวัง เธอจะมาหวังพึ่งอะไรกับคนใกล้ตายอย่างเขา นภสรทนเห็นความอ่อนแอไม่ได้ต้องต่อปากต่อคำกับธามไปบ้าง บรรยากาศภายในห้องโกลาหลเพราะผู้ใหญ่สองคนต่อล้อต่อเถียงกันไปมา ต้นไม้กลุ้มนึกในใจว่าผู้ใหญ่บางครั้งก็ทำตัวยิ่งกว่าเด็กซะอีก เสี้ยวนาทีทันใดนั้นเอง…ธามมองลงไปที่ด้านล่างของบ้านเห็นเจษกับพลนำผู้ชายท่าทางน่ากลัวหลายคนกำลังปิดล้อม สงครามปากระหว่างนภสรกับธามจำต้องสงบลงชั่วคราว ธามใช้อิทธิฤทธิ์ที่มาทุกครั้งยามฉุกเฉิน ต่อสู้กับเหล่าร้ายพาสองอาหลานจอมยุ่งหนีออกไปได้อย่างหวุดหวิดชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด เกือบเสียท่าเหล่าร้ายหน้าเหี้ยมทั้งหลาย จากคนไร้ความหมายและแก่นสารต้องการจบชีวิตตัวเอง นายธามต้องกลายเป็นบอดี้การ์ดให้นางในดวงใจกับเด็กชายวัยสิบขวบโดยไม่ตั้งใจ เฮ้อ…เขาจะทำยังไงต่อไป ในเมื่อความสามารถพิเศษที่เกิดขึ้นนี้มาพร้อมกับโรคร้าย โรคร้ายที่เป็นมัจจุราชพร้อมปลิดชีวิตเขาทุกเมื่อ หากอาการปวดหัวอย่างรุนแรงเกิดขึ้นขณะต่อสู้กับเหล่าร้าย เขาจะทำยังไง ต้นไม้หิวข้าวแสบท้องจนทนไม่ไหว ประกอบกับธามก็มีอ่อนเพลียจนแทบหมดสติ ร้อนถึงนภสรต้องพาทั้งคู่ไปหาข้าวทานในฟาสฟู๊ตห้างสรรพสินค้าพร้อมกับปรึกษาหาทางหนี นภสรสงสัยกณิศพี่ชายมากที่สุด เพราะได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกของดิตถ์ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นดิตถ์เคยบอกว่าจะแต่งตั้งให้เธอเป็นผู้จัดการร่วม ประกอบกับการตายของดิตถ์มีเงื่อนงำ ธนาคารมีทางออกในการแก้ปัญหาแล้วโดยต่างชาติยินดีเข้ามาร่วมถือหุ้น พิธีลงนามการเป็นเจ้าของร่วมระหว่างกณิศกับต่างชาติจะมีขึ้นในเดือนหน้า ขณะที่ทั้งสามคนกำลังคุยอยู่ที่หน้าร้านขายเครื่องไฟฟ้าในห้างฯ นั้นเอง จอโทรทัศน์หลายสิบจอเบื้องหลังเสนอข่าวด่วน เห็นหน้าคนทั้งสามเต็มพรืดไปหมด พบธรรมนายตำรวจมือปราบกำลังให้สัมภาษณ์นักข่าว ระบุว่าเขาสืบพบธามร่วมมือกับนภสรฉ้อโกงธนาคารสหัสวรรษ รวมทั้งมีส่วนเกี่ยวพันกับการฆ่าตัวตายแบบมีเงื่อนงำของดิตถ์ คนในห้างสรรพสินค้าต่างหันขวับมามองธามกับนภสรเป็นตาเดียวกัน ธามรีบกระชากนภสรกับต้นไม้เดินออกมาทันทีหวังจะหนีออกไปให้พ้น แต่ก็ช้าไปแล้วเพราะมีคนแจ้งตำรวจ ศูนย์การค้าถูกปิดล้อมอย่างรวดเร็วดูเหมือนจะสิ้นหนทางสำหรับพวกเขาแล้ว ธามรีบพานภสรกับต้นไม้หลบเข้าไปที่คอนเวนชั่นฮอลล์ห้างสรรพสินค้าซึ่งมีการแสดงคอนเสิร์ตของ วินธุ นักร้องซูเปอร์สตาร์ของเมืองไทย แต่แล้วจะด้วยความเฮงหรือเฮงซวยก็ไม่ทราบได้ กล้องวิดีโอวงจรปิดจับภาพ กลุ่มคนดูเห็นหน้าธามอย่างชัดเจน วินธุซึ่งไม่รู้เรื่องประกาศเชิญเพื่อนรักขึ้นมาร่วมร้องเพลงร่วมกันเพื่อรำลึกความหลัง ธามสุดจะขัดขืนฝูงชนที่เบียดเสียด ร้องกรี๊ด ๆ ดันให้ขึ้นไปร่วมร้องเพลงบนเวที ขณะที่ธามปากสั่นเสียงหลงร้องเพลงอยู่นั้นเอง พบธรรมนำกำลังตำรวจมาปิดล้อมฮอลล์ไว้ ยิ้มรอเวลาที่ธามจะลงมาจากเวทีให้จับกุมโดยไม่มีทางขัดขืน แต่แล้วสมองธามบังเกิดความคิดโลดแล่น เขาประกาศใส่ไมโครโฟนว่ามีการวางระเบิดหอประชุมแห่งนี้ ผู้ชมแตกตื่นลุกฮือวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ธามกระโดดลงจากเวทีคว้ามือนภสรกับต้นไม้หนี แฝงตัวหนีออกไปกับผู้คนได้อย่างหวุดหวิด… ธามตัดสินใจพานภสรและเด็กชายต้นไม้ไปหลบภัยอยู่ที่เกาะคราม รีสอร์ทส่วนตัวสมบัติเก่าของวินธุซึ่งห่างไกลผู้คน วินธุเพื่อนรักมั่นใจว่าธามไม่ใช่คนเลวอย่างที่หลายคนคิดจึงเขียนจดหมายแนะนำตัวธามไปกับ ลุงสิงห์ ผู้จัดการเกาะครามซึ่งเป็นคนดูแลกิจการรีสอร์ทเล็ก ๆ ทั้งหมดแทนวินธุ สมาชิกของเกาะครามประกอบไปด้วยลุงสิงห์ผู้จัดการฯ ป้าผุดผาด แม่ครัวประจำรีสอร์ท นวลฉวี สาวไฮเปอร์หลานสาวแท้ ๆ ของลุงสิงห์ รวมไปถึงเจ้าปุ๊ก กับเจ้าปิ๊ก สองหนุ่มสาวชาวบ้านที่เข้ามารับทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ภายในรีสอร์ท ซึ่งตอนนี้ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยวทำให้การกบดานอยู่ที่นี่ของธามกับนภสรสามารถทำได้โดยไม่เป็นที่สงสัย ที่รีสอร์ท ธามตั้งใจจะบอกความจริงเกี่ยวกับความสามารถพิเศษที่มาพร้อมกับความตายให้นภสรรับรู้ แต่ไม่ได้จังหวะสักครั้งมักจะถูกขัดขวางโดยต้นไม้บ้าง เหล่าสมุนของป้าผุดผาดบ้าง นภสรจึงไม่รู้ว่าวาระสุดท้ายของชีวิตธามใกล้เข้ามาทุกที แรกทีเดียวสมาชิกเกาะคิดว่าธามกับนภสรเป็นสามีภรรยากัน โดยมีลูกชายคือต้นไม้ พวกเขาจัดให้พักอยูในเรือนรับรองและนอนห้องเดียวกัน ยังความโกลาหลและขวยเขินให้กับนภสรเป็นอย่างยิ่ง ธามเองก็เกิดความรู้สึกแปลก ๆ เพราะคราวนี้เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสใกล้ชิดผู้หญิงคนที่แอบชอบมานาน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความสุขชั่วครู่…รอวันลาจากเพราะโรคร้าย แต่มันก็เป็นความสุขใจ เกาะครามเป็นรีสอร์ทที่มีกิจกรรมผจญภัยทางน้ำต่างๆ มากมายให้กับคนมาพัก และด้วยความสามารถพิเศษของธามซึ่งมีเรี่ยวแรงมากกว่าปกติ มีความเร็วมากกว่ามนุษย์ธรรมดา ทำให้กิจกรรมความบันเทิงภายในรีสอร์ทสนุกสนานมากกว่าเดิม ประกอบกับความอารมณ์ดีของธามยิ่งทำให้หลายคนยิ้มได้ รวมทั้งนภสร…จนเวลานี้เกิดดอกรักบานขึ้นภายในใจเธอโดยไม่รู้ตัว ที่รีสอร์ทนั้นเองที่ธามกับนภสรได้มีโอกาสเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ธามเองตระหนักว่าตัวเองมีคุณค่ากับผู้คนรอบข้างได้เสมอถ้ารู้จักคุณค่าของตัวเอง ธามสนิทสนมกับลุงสิงห์ ป้าผุดผาด และ นวลฉวี ต้นไม้เหมือนมีธามเป็นฮีโร่ในดวงใจ นภสรเฝ้ามองธามอย่างชื่นชม เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขชัดเจนสำหรับชีวิตคนทั้งสาม ดูเหมือนธามผู้มีชีวิตธรรมดาสามัญในเมืองหลวงกลับกลายเป็นคนมีค่าสำหรับคนท้องถิ่น ก่อนที่ทุกอย่างจะลงเอยด้วยดี พบธรรมสืบทราบว่าทั้งสามคนหนีไปกบดานที่เกาะคราม เขาส่งทั้งตำรวจ และพลกับเจษออกตามล่าคนทั้งสามอย่างหัวซุกหัวซุน ทั้งสามไม่มีทางออกนอกจากต้องต่อสู้แบบสุดฤทธิ์กับทั้งตำรวจและโจรชั่ว ธามใช้ความสามารถพิเศษที่ออกมาช่วยเขาทุกครั้งยามฉุกเฉิน ต่อสู้กับทั้งเหล่าร้ายและตำรวจจนเกือบจะรอดพ้นเงื้อมือพวกมัน แต่แล้ว…นี่เป็นครั้งแรกที่อาการปวดหัวอย่างรุนแรงของธามเกิดขึ้นในขณะต่อสู้กับเหล่าร้ายเพื่อช่วยเหลือนภสรกับต้นไม้ ธามหมดสติล้มคว่ำหมดแรงไปเสียเฉย ๆ ทำให้พบธรรมจับกุมกับนภสรกับต้นไม้ไปได้ต่อหน้าต่อตา โดยเขาช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย ธามซมซานไปขอความช่วยเหลือจากชาวเกาะคราม ในที่สุดจากการช่วยเหลือของ ลุงสิงห์ ป้าผุดผาด นวลฉวี ปุ๊ก กับ ปิ๊ก ทำให้ธามชิงตัว และพานภสรกับต้นไม้ฝ่าวงล้อมของเหล่าร้ายกับตำรวจออกมาได้โดยเหล่าวายร้ายต้องพบกับความสูญเสียไม่น้อย ธามบอกความจริงให้นภสรรู้ว่าเขาอาจจะมีชีวิตเหลืออยู่บนโลกอีกไม่นาน เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อนำตัวคนผิดมาลงโทษ พิสูจน์ให้เห็นความสุจริตของนภสรว่าไม่ได้เป็นอย่างที่พบธรรมกล่าวหา เด็กชายต้นไม้เกิดความคิดบางอย่าง เขาจำได้ว่าเคยเล่นกล้องดิจิตอลแบบแอบถ่ายกับดิตถ์ในบ้าน ทั้งคู่ซ่อนกล้องไว้ในห้องทำงานเพื่อเล่นเกมนักสืบโดยไม่เฉลียวใจเลยว่าในคืนวันนั้นเองที่ดิตถ์จะฆ่าตัวตาย ในเมื่อทุกคนลงความเห็นว่าดิตถ์ไม่ได้ฆ่าตัวตาย กล้องดิจิตอลต้องถ่ายให้เห็นโฉมหน้าคนร้ายที่แท้จริง นภสรตัดสินใจจะบุกเข้าไปในคฤหาสน์เพื่อไปเอาหลักฐานนี้มาด้วยตัวเอง ทั้งสามคนแอบเข้าไปในคฤหาสน์ของดิตถ์ได้อย่างเงียบเชียบ ต้นไม้ไปยังบริเวณที่ซ่อนกล้องดิจิตอลไว้กำลังจะเปิดดูหลักฐานทั้งหมด ทันใดนั้นกณิศก็เดินเข้ามาในห้อง ความจริงเขาเห็นคนทั้งสามตั้งแต่ก่อนเข้ามาในบ้าน รอเพียงให้ธามพานภสรและต้นไม้มาติดกับเท่านั้น ขณะนี้เขาโทรแจ้งพบธรรมให้มาจับทุกคนไปรับโทษที่ก่อไว้แล้ว กณิศด่าว่านภสรต่างๆ นานา หาว่าเป็นคนโลภหวังทรัพย์สินเงินทอง โดยลืมความถูกต้องฆ่าได้แม้กระทั่งพี่ชายตัวเอง ในขณะที่นภสรก็ประณามว่ากณิศต่างหากที่เป็นฆาตกร ขณะที่ทั้งคู่กำลังปะทะคารมกันอยู่นั้นเองความจริงก็ปรากฏต่อสายตา ภาพในกล้องดิจิตอลเห็นชัดเจนว่าใครเป็นคนทำ… ภาพที่ต้นไม้ฉายออกมาในจอ ดิตถ์กำลังเปลี่ยนแปลงข้อความในพินัยกรรมเพื่อประโยชน์ของธนาคาร ชนะพลเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับพบธรรมตำรวจกังฉินเพื่อนของเขา เมื่อดิตถ์เห็นหน้าชนะพลก็ด่าทอบอกว่าจะไล่ออก เพราะจับได้เรื่องที่ชนะพลร่วมกับตรีนุชใช้อำนาจบริหารโกงธนาคารวางแผนกับต่างชาติจะเทคโอเวอร์ เป็นคู่รักกับนภสรก็เพื่อผลประโยชน์ไม่ได้รักกับน้องสาวเขาจริง ๆ ชนะพลหัวเราะเหี้ยมร่วมมือกับพบธรรมฆ่าดิตถ์ตายอย่างเลือดเย็นในห้องทำงาน แล้วจัดฉากทำให้เหมือนเป็นการฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหา ชนะพลวางแผนต่อไปจะกำจัดทายาทโดยตรงของดิตถ์และผู้บริหารของธนาคาร ที่เหลืออยู่คือ นภสร และ กณิศ เพื่อทำให้ตัวเองมีอำนาจเบ็ดเสร็จในการเจรจากับต่างชาติแต่เพียงผู้เดียว ทุกคนในห้องตกตะลึงเมื่อเห็นหลักฐานชิ้นนี้ ชนะพลกับพบธรรมปรากฏตัวขึ้นในห้องทำงาน ยินดีที่ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า แผนการของเขาจะได้สัมฤทธิ์ผล เขาจะฆ่าทุกคน แล้วโยนความผิดว่าธามกับนภสรเข้ามาในบ้านเพื่อลอบทำร้ายกณิศแต่กณิศต่อสู้ขัดขืนจนในที่สุดต้องตายไปพร้อมกัน แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะเลวร้ายลงไป ธามตัดสินใจเด็ดขาดกระโดดเข้าแย่งปืนจากชนะพลกับพบธรรม ใช้ความสามารถพิเศษเพื่อปกป้องคนรักและคงไว้ซึ่งความยุติธรรม แต่เหมือนชะตากรรมเล่นตลก จู่ ๆ ธามก็ปวดหัวอย่างรุนแรงด้วยอาการประจำตัวอีกครั้ง เขาถูกชนะ พลกับพบธรรมทำร้ายจนล้มกลิ้งชนะพลเบี่ยงปืนในมือกำลังจะลั่นไกเข้าใส่นภสร ขวากหนามสำคัญที่อาจจะทำให้เขาล้มเหลวในชีวิต ธามกระโดดสุดตัวเอาตัวเข้าบังร่างนภสรไว้ เธอรอดชีวิตจากความกล้าหาญของธาม และรู้ความในใจของเขาที่มีต่อเธอตลอดมา… เด็กชายต้นไม้ใช้ความเฉลียวฉลาดร่วมมือกับกณิศ เล่นงานชนะพลกับพบธรรม เสียอยู่หมัด เพราะทั้งคู่ไม่รู้ว่าต้นไม้ซ่อนของเล่นไฮเทคมากมายไว้ในห้อง ๆ นี้ ทุกชิ้นสามารถใช้เล่นงานชนะพลกับพบธรรมให้เสียท่าโดยคาดไม่ถึง ร่างกายของธามแทบทรงตัวไม่อยู่ อานุภาพความสามารถพิเศษหมดสิ้นลงไปแล้ว ร่างกายที่เคยซ่อมแซมตัวเองได้กลับไม่ทำงาน ดูเหมือนวาระสุดท้ายของผู้ชายคนนี้ใกล้เข้ามาทุกขณะ…ธามถูกนำตัวไปส่งโรงพยาบาลในสภาพร่างชุ่มเลือดและอยู่ในอ้อมกอดนภสรตลอดเวลา นภสรร่ำไห้ปิ่มว่าจะขาดใจ เธอกอดร่างผู้ชายที่รักเธอมากและเธอก็รู้ว่ารักเขามากมายเช่นกัน เพียงเวลาเดือนเศษเกิดความเปลี่ยนแปลงในชีวิตของธามและนภสรมากมาย แบบที่ทั้งคู่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน นภสรรู้ว่ามีผู้ชายคนหนึ่งที่แอบรักและรักเธอเรื่อยมาโดยไม่คิดจะหวังสิ่งใดตอบ แทน ได้เรียนรู้ความรักที่บริสุทธิ์ใจ แม้ว่าที่สุดแล้วอาจจะไร้การครอบครอง…ต้องแยกจากกันตลอดชีวิต ธามรู้ซึ้งถึงคุณค่าของชีวิต เรียนรู้ถึงคุณค่าในตัวเองและคุณค่าต่อคนอื่น ถึงวันนี้ เขาอาจจะต้องจบชีวิตไปด้วยโรคร้าย แต่เป็นการจบลงอย่างล้ำค่า…ทำให้ใครหลายคนเรียนรู้ที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อสร้างคุณค่าให้กับตัวเองและคนรอบข้าง…โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน เมื่อถึงโรงพยาบาลหมอนำร่างธามเข้าห้องผ่าตัดฉุกเฉิน ต้องช่วยชีวิตเขาทั้งบาดแผลจากคมกระสุน และต้องพยายามยื้อชีวิตเขาจากเนื้องอกในสมองที่ไม่มีทางรักษาเวลาผ่าน ไปนับสิบชั่วโมง… เตียงผู้ป่วยถูกเข็นออกมาจากห้องผ่าตัด นภสรพุ่งตรงเข้าไปหาหมอเจ้าของไข้ด้วยความเป็นห่วงคนรักอย่างที่สุด เมื่อได้ยินคำพูดออกจากปากหมอทำให้เธอถึงกับแทบล้มทั้งยืนด้วยความปิติ “ผู้ป่วยรอดชีวิตได้ราวปาฏิหาริย์ เนื้องอกในสมองหายไปจนแทบไม่เห็นร่องรอย สาเหตุที่อำนาจพิเศษของธามหายไปก็เพราะเหตุนี้ ไม่ใช่เพราะอาการหนักถึงขั้นโคม่าอย่างที่ใครหลายคนเข้าใจ…” อาจเป็นเพราะอานุภาพแห่งความรัก ธามมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นนับตั้งแต่พบพานคนรักที่แท้จริงอย่างนภสร ปาฏิหาริย์นี้จึงเกิดขึ้นได้…เธอเป็นเหมือนแสงดาวที่ฟ้าประทานลงมาสู่ดวงใจที่กำลังจะแห้งเหือดของผู้ชายคนหนึ่ง ให้มีกำลังใจต่อสู้ไปในโลกที่โหดร้ายใบนี้ ธามกำลังจะมีชีวิตใหม่ในโลกแห่งความเป็นจริง ชีวิตใหม่ที่มีนภสรซึ่งมีเขาอยู่เต็มหัวใจของเธอเสมอ รอยยิ้มและความดีงามที่ธามสร้างไว้ให้นภสรกับต้นไม้เปรียบเหมือนเมล็ดพันธุ์แห่งกำลังใจชั้นดี ที่จะทำให้เธอต่อสู้ยืนหยัดเพื่อความดีงาม…สร้างสรรค์ชีวิตบนโลกใบนี้ให้น่าอยู่และงดงามต่อไป…

ภารกิจพิชิตดอกฟ้า 2549

ภารกิจพิชิตดอกฟ้า (2549/2006) น้องแก้ม ลูกสาวคนเดียวของ พล.ต.ต.จิรายุส ตำรวจมือปราบกับ คุณสินีนาฏ นักธุรกิจสาวใหญ่ กำลังจะไปมหาวิทยาลัยเป็นวันแรก และขอพ่อขากับแม่ขาไปมหาวิทยาลัยเองโดยมีรถของที่บ้านมาส่ง พอลงจากรถเธอหันไปเจอรถขายข้าวเหนียวหมูปิ้งที่อยากกินจนเกือบโดนรถเฉี่ยว แต่สมสนุกมาช่วยไว้ทันสบตาแรกที่ทั้งคู่เจอกัน สมสนุกก็ถูกใจน้องแก้มขึ้นมาทันทีความรู้สึกของหมามองเครื่องบินแวบขึ้นมาทันที สมสนุกมาถึงมหาวิทยาลัยอย่างทุลักทุเล แล้วต้องพบความผิดหวังเมื่อทางมหาวิทยาลัยไม่รับเขาเข้าเรียน เพราะไม่รู้ว่าแชมป์มวยไทยงานวัดจะสร้างชื่อให้สถาบันตรงไหน แต่สถานการณ์มักสร้างวีรบุรุษเมื่อโจรจับอธิการบดีเป็นตัวประกัน สมสนุกช่วยอธิการบดีไว้ อธิการบดียินดีรับสมสนุกเข้าเรียนเป็นกรณีพิเศษ ในมหาวิทยาลัยสมสนุกได้พบเพื่อนร่วมก๊วน วอก หนุ่มหน้ามน สมเสร็จ ที่ชอบลืมตัวหยิบของชาวบ้านมาขายต่อ ฉวน ที่กวนประสาทได้อย่างถึงกึ๋น พี่ประโยชน์ ในมหาวิทยาลัยสาวเพียบและหนึ่งในหญิงที่แอบชื่นชอบวีรกรรมของสมสนุกก็คือ น้ำหวาน สาวหน้าหวานแต่นิสัยสุดห้าว ซึ่ง สิบทิศ ช้อปเปอร์หนุ่มมาดเท่ชอบน้ำหวานอยู่ ที่มหาวิทยาลัยยังมีน้องแก้มและ อนาวิน สาวๆ หลายคนอาจจะชื่นชมอนาวินแต่ไม่ใช่น้ำหวานแน่

ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง 2556

เรื่องย่อ : ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง (2556/2013) ครอบครัววิชเวทย์ เป็นครอบครัวที่ร่ำรวย มีความเป็นอยู่ที่หรูหรา มีบ้านใหญ่โตชื่อ มโนรมย์ และยังเป็นเจ้าของกิจการบริษัท รัตนกิจก่อสร้าง โดยมี นายประสิทธิ์ วิชเวทย์ (เจค-ศตวรรษ ดุลยวิจตร) และ คุณอังกาบ ภรรยา เป็นผู้ดูแลกิจการของบริษัท แต่ต่อมานายประสิทธิ์และคุณอังกาบ ได้ถึงแก่กรรมเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ บุตรทั้ง 3 คนจึงต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิต อสิต (เชน-ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์) ลูกชายคนโตและ ลลิตา (หยก-ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์) ภรรยาจึงได้เข้ามาดูแลกิจการของบริษัท อรชา (นุ้ย-ภัสรภรณ์ เจติยานุวัตร) น้องสาวคนรองช่วยดูแลกิจการในบ้าน ส่วน อนุช (ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่) น้องสาวคนสุดท้องเรียนหนังสืออยู่ที่อังกฤษ แต่เมื่อสถานการณ์ทางการเงินได้เปลี่ยนแปลง อนุชจึงต้องหาผู้อุปการะและได้รับความช่วยเหลือจาก ป๋า ชายสูงอายุคนหนึ่งจากประเทศไทย เพราะลูกสาวที่ตายไปชื่อนุชเหมือนกัน ต่อมาบริษัทรัตนกิจก่อสร้างได้ถูกว่าจ้างจากมหาเศรษฐีหนุ่มชื่อ กร้าว ศุภกาญจน์ (เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ) ให้รับเหมาสร้างโรงแรมมูลค่าหลายร้อยล้านบาท อนุชเดินทางกลับเมืองไทยมาพร้อม กรวิก พัชรกุล (ไอซ์-อธิชนัน ศรีเสวก) เพื่อนรักที่เรียนหนังสือมาด้วยกัน และได้พบกับกร้าวชึ่งไปรับกรวิก เพราะกร้าวและกรวิกต่างก็มีใจให้กัน ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่กร้าวและอนุชจะได้พบกันที่บ้านของกรวิกเสมอ ความรู้สึกที่อนุชมีต่อกร้าวก็คือ กร้าวเป็นคนที่ลึกลับ ประหลาดและเย็นชา แต่ต่อมาเธอกลับคิดถึงแต่กร้าว และทำให้ความรู้สึกของเธอที่มีต่อ ชายธง (แม็ค-วีรดนย์ หวังเจริญพร) คนรักของเธอนั้นเปลี่ยนไป แม้ชายธงจะให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอ อนุชก็ปฏิเสธว่ายังไม่พร้อม ต่อมา นายชาติ นิติชัย (ชลิต เฟื่องอารมมย์) ลุงของกร้าวเกิดล้มป่วย ซึ่งบังเอิญที่นายชาติก็คือป๋าผู้อุปการะของอนุชนั่นเอง อนุชจึงต้องรับหน้าที่เป็นผู้ดูแล โดยเป็นไปตามที่กร้าวได้วางแผนไว้ กร้าวจึงเริ่มทำตามแผนกับผู้หญิงคนต่อไปนั่นคือ อรชาและลลิตา ดังนั้นเวลานี้ผู้หญิงทุกคนในวิชเวทย์จึงเสมือนตกอยู่ในเวทย์มนต์ของกร้าว เหตุการณ์ยิ่งเลวร้ายลงเมื่อสถานการณ์การเงินของอสิตย่ำแย่ขึ้น หากเจ้าหนี้ไม่ได้เงินก็จะยึดบ้านมโนรมย์ กร้าวจึงยื่นมือเข้าช่วยเหลือโดยจ่ายเงินให้ 20 ล้านบาทเพื่อไถ่ถอนบ้าน เพราะฉะนั้นบ้านจึงได้เปลี่ยนมือไปเป็นของกร้าว หนำซ้ำยังเลวร้ายขึ้นเมื่ออสิตถูกรถชนอาการสาหัส เหตุการณ์นี้ทำให้กร้าวมีโอกาสเข้าไปใกล้ชิดกับลลิตา กร้าวทำให้ลลิตาพร้อมที่จะเป็นชู้กับเขา พฤติกรรมระหว่างกร้าวและลลิตามีผู้พบเห็นนั่นคือชายธงนั่งเอง เขานำเรื่องไปบอกกับอนุช อนุชทั้งเกลียดทั้งเศร้าใจต่อพฤติกรรมของทั้ง 2 คน ส่วนอรชานั้น กร้าวทั้งซื้อของให้และป้อนคำหวาน กร้าวได้บอกให้อรชาเลิกคบกับ ปรารภ (โน๊ต-วัชรบูล ลี้สุวรรณ) คนรักของเธอ ซึ่งอรชาก็เชื่อและทำตามคำของกร้าว อนุชรู้เรื่องเข้าจึงได้บอกให้กร้าวเลิกยุ่งกับพี่สะใภ้และพี่สาวของเธอ กร้าวจึงเสนอให้เธอแต่งงานกับเขา เธอตกลงแต่ง เพราะไม่อยากให้อสิตเสียใจ และช่วยอรชาที่เคยบอกว่าเกลียดกร้าว แต่สิ่งที่ตามมาคือลลิตาและอรชาต่างเสียใจและโกรธแค้น อรชาจึงประชดชีวิตด้วยการแต่งงานเงียบ ๆ กับปรารภ ส่วนกรวิกเสียใจมากจึงหนีไปอยู่อเมริกาพร้อมกับครอบครัว ต่อมาระหว่างที่กร้าวอยู่กับอนุช เขาขอเวลา 1 ปีที่จะหย่ากับอนุช แต่เขากลับระงับความต้องการไม่ได้ จึงใช้กำลังข่มขืนอนุชให้เป็นภรรยา โดยให้เหตุผลที่เขาต้องทำกับวิชเวทย์เช่นนี้เพราะแม่ของเขาถูกพ่อของอนุชข่มขืน แม้ว่าแม่จะมีเขาแล้ว แม่เจ็บแค้นเสียจริตและจากโลกนี้ไป ตอนนี้อนุชจึงเปรียบเหมือนลูกไก่ในกำมือของกร้าว ส่วนทางลลิตายังคงคิดถึงความสัมพันธ์กับกร้าว จึงได้หย่ากับอสิตและพยายามยั่วยวนกร้าว แต่กร้าวทั้งโกรธทั้งขยะแขยง จึงด่าว่าลลิตาอย่างรุนแรง ซ้ำยังถามลลิตาว่ายังจำ ชีวิต ได้หรือไม่ คนที่เธอหักอกเขาและทำให้เขาเสียใจจนต้องฆ่าตัวตาย ชีวิตเป็นน้องชายของเขาเอง และกร้าวยังพูดเยาะเย้ยลลิตาว่าเป็นผู้หญิงไม่มีค่าไม่มีราคา ลลิตาทั้งเจ็บทั้งอายและโกรธแค้น จึงใช้ปืนยิงกร้าว แต่อนุชเข้ามารับกระสุนแทน ทำให้ชีวิตของอนุชมีความเป็นและความตายเท่ากัน แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ชีวิตของทุกคนได้เปลี่ยนไป อรชากำลังให้กำเนิดทายาทคนแรก อสิตเดินทางไปอเมริกาเพื่อหาประสบการณ์การทำงาน ลลิตาถูกตัดสินจำคุก ส่วนอนุชได้หายเป็นปกติ และกร้าวก็ได้บอกความในใจของเขาต่ออนุชว่า ความจริงแล้วเขารักนางฟ้าที่ชื่อว่าอนุช ความสนุกเข้มข้น ดราม่า เชือดเฉือนอารมณ์ บีบคั้นทุกฉากทุกตอน ต้องติดตามชม ละครร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 สี ละครร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง เปิดประเดิมตอนแรกวันศุกร์ ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2556

สู่แสงตะวัน 2551

สู่แสงตะวัน (2551/2008) ชีวิตของนภา (ชฎาพร รัตนากร)นักการเมืองหญิงอนาคตไกลมีสร้อย (จารุวรรณ ปัญโญภาส)ผู้เป็นแม่ขีดเส้นทางและเป็นผู้พรากเธอจากลูกฝาแฝดชายหญิงตั้งแต่แบเบาะ แถมยังทำให้พี่น้องต้องพลัดพราก ความเข้าใจผิดว่าแม่ไม่รักผลักดันให้กานต์ (ธนพล นิ่มทัยสุข) ทำทุกอย่างเพื่อแก้แค้น ทั้งเข้าสมัครเป็นส.ส.พรรคคู่แข่งของนภาในนาม จันทรกานต์ และการจับตัวลินิน (เขมนิจ จามิกรณ์) ทายาทนักธุรกิจผู้แสนเย็นชา คู่หมายของชลกร (ชนะพล สัตยา) ลูกติดสามีใหม่ของนภาไปกักขัง แต่ด้วยต่างมีปมเรื่องครอบครัวทำให้หนุ่มสาวเห็นใจกันจนก่อเกิดเป็นความรัก เมื่อกานต์รู้ว่ารวิ (อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) ซึ่งทำงานในบ้านนภาคือพี่สาวฝาแฝดของตนก็พยายามพูดให้รวิเกลียดนภา แต่กลับเป็นรวิที่ให้แง่คิดกับกานต์ แถมเธอยังช่วยให้ชลกรเลิกทำตัวเสเพลหันมาช่วยทำงานและทำให้เขาได้รู้จักรักแท้ กานต์ลังเลในตอนแรกก่อนจะตัดสินใจเดินหน้าเปิดโปงความเลวร้ายที่นภาทอดทิ้งลูกจนเป็นกระแสสังคม แต่แล้วสร้อยก็ออกมายอมรับผิดและทำให้แม่ลูกเข้าใจกัน นภายุติบทบาททางการเมืองมาเปิดมูลนิธิเพื่อเด็กกำพร้าร่วมกับลูกๆ ขณะที่ กานต์ต้องตามง้อลินินอยู่นานกว่าที่ลินินจะหายโกรธเรื่องที่เขาเคยเห็นเธอเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งในเกมแก้แค้น

รักแท้แก้ได้ 2552

เรื่องย่อ : รักแท้แก้ได้ (2552/2009) ศรัณย์ ชายหนุ่มรูปหล่อ เจ้าเสน่ห์ ไม่เคยรักใครจริงควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า วันหนึ่งหลังจากที่หนีออกจากบ้าน เพื่อหนี น้ำหวาน ผู้หญิงที่อ้างว่าท้องกับตนและไปประกาศทั่วมหาวิทยาลัย ทำให้ ศรัณย์ และ ครอบครัวเสียชื่อเสียง ศรัณย์ ต้องย้ายมหาวิทยาลัย มาอยู่กับเพื่อนสนิทตั้ง แต่เด็กที่ชื่อ ตุ้ม พอมาถึงกลับพบว่าตัวเองได้กลายเป็นผู้หญิง เพราะคำสาปของ เจ้าแม่แสงจันทร์ ที่สิงอยู่ในร่างของ มะนาว หญิงสาวที่ผิดหวังกับความรักจาก ศรัณย์ ศรัณย์ ในร่างของผู้หญิงนั้นถูกเปลี่ยนชื่อเป็น ศรัณย่า ศรัณย่า ได้เข้าไปเรียนในคณะวิศวกรรมศาสตร์ ถูกเพื่อนผู้ชายกลั่นแกล้งเพราะคิดว่าเป็นกะเทย จน อบเชย เข้ามาช่วยไว้จึงได้เป็นเพื่อนกับ ศรัณย่า และ ตุ้ม อบเชย พา ศรัณย่า มาอยู่ที่บ้านสวนหลังจากที่ ศรัณย่า ถูกครหาว่าอยู่ร่วมห้องกับผู้ชาย จนได้รับความอับอาย ย่าอุ่นเรือน ย่าของ อบเชย ชอบ ศรัณย่า เพราะเป็นคนพูดจาดี เรียบร้อย ภูมิชาย มาทวงสัญญาที่ได้หมั้นกับ อบเชย ไว้ตั้งแต่เด็กๆ แต่ ภูมิชาย นั้นกลับชอบ ศรัณย่า ทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองเป็นเกย์ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงชอบผู้หญิง วันหนึ่ง ศรัณย่า ได้ไปที่ผาแสงจันทร์และพบกับ มะนาว ซึ่งได้บอกกับ ศรัณย่า ว่าถ้าต้องการกลับไปเป็นเหมือนเดิม ศรัณย่า จะต้องตามหารักแท้กับคนที่มีปานแดงรูปหัวใจที่เนินอก ศรัณย่า กับ ตุ้ม ตามหาคนที่มีปานแดงทั่วมหาวิทยาลัย จนถูกผู้หญิงตบและพูดกันว่าสองคนนี้เป็นโรคจิต อบเชย รู้เรื่องจึงช่วยตามหาอีกแรง แต่ไม่มีใครรู้ว่า อบเชย ก็มีปานแดงรูปหัวใจอยู่เช่นกัน เจ้าแม่แสงจันทร์ ในร่าง มะนาว ได้กำจัดผู้หญิงของ ศรัณย์ จนหมด ทำให้ สนิทกับ ลินดา แม่ของ ศรัณย์ ลินดา ไว้ใจ มะนาว ทุกเรื่องและปรึกษาเรื่อง ศรุต สามีจอมเจ้าชู้กับ มะนาว เจ้าแม่แสงจันทร์ ในร่างของ มะนาว วางแผนให้ ลินดา มาเจอ ศรุต กับ มะนาว กำลังมีความสุขกันอยู่ ลินดา โกรธมากทำให้ล้มป่วยเป็นอัมพาตพูดไม่ได้ พอแก้แค้นสำเร็จ มะนาว ก็ตัดสัมพันธ์และหนีหายจากไป ศรุต เสียใจมากจนตรอมใจ เจ้าแม่แสงจันทร์ นัด ศรุต ไปที่หน้าผาแสงจันทร์เพื่อเล่าถึงความเจ็บปวดทุกอย่างที่ตนได้รับจากการกระทำของ ศรุต ศรุต ตกใจที่ได้เห็นร่างของ แสงจันทร์ และได้รู้ว่าที่ แสงจันทร์ หนีหายไป เพราะมาฆ่าตัวตายที่หน้าผาแห่งนี้ ศรุต บอกความจริงกับ แสงจันทร์ ว่าที่ต้องแต่งงานกับ ลินดา นั้น เป็นเพราะผู้ใหญ่จัดการให้ แต่ตนไม่เคยรักใครเลยนอกจาก แสงจันทร์ คนเดียว แสงจันทร์ จึงรู้ว่าตนเข้าใจ ศรุต ผิดมาตลอด คิดว่า ศรุต ไม่รักจึงฆ่าตัวตายและหาหนทางแก้แค้นครอบครัวของ ศรุต จึงทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายต่างๆขึ้น ศรัณย่า ตามหาคนที่มีปานแดงรูปหัวใจจนหมดหวัง จึงตัดสินใจไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย อบเชย ไปช่วยไว้ทัน ทำให้ ศรัณย่า เห็นโดยบังเอิญว่า อบเชย มีปานแดงรูปหัวใจที่เนินอก จึงพยายามทำดีเอาใจ อบเชย เพื่อหวังจะได้รักแท้จาก อบเชย แต่ก็ไม่สำเร็จ ศรัณย่า จะกลับร่างมาเป็น ศรัณย์ ชายหนุ่มรูปหล่อคนเดิม รักของเขาทั้งสองจะเป็นอย่างไร ติดตามชมเรื่องราวความรักวุ่นๆของหนุ่มสาว 2 คู่ ที่โดนสาปจนเกิดเรื่องยุ่งๆได้ใน รักแท้แก้ได้

เรื่องย่อ : อุบัติเหตุ (2555/2012) วิศนี (พัชราภา ไชยเชื้อ) ลูกสาวคนเดียวของ อำนวย (สถาพร นาควิลัย) เจ้าของบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ กลับจากเมืองนอกเพราะต้องการขัดขวางงานแต่งงานระหว่างพ่อกับ กรแก้ว (ดารัณ บุญยศักดิ์) วิศนีหักหน้าโดยจ้างทีมแดนซ์เซอร์มาเต้นวาบหวิวในงานทำให้กรแก้วต้องขายหน้า อำนวยโกรธมากเรียกวิศนีมาต่อว่า วิศนีประกาศจะไม่กลับไปเรียนต่อจะกลับมาอยู่บ้าน กรแก้วตัดสินใจว่าจะทำหน้าที่แม่เลี้ยงให้ดีที่สุด แม้รู้ว่าความวุ่นวายจะตามมา วิศนีเอารถของกรแก้วไปเยี่ยม แวว (รัชนีกร พันธุ์มณี) ผู้เป็นแม่แท้ ๆ ระหว่างทางรถยางแตกไปเฉี่ยวรถของ อารุม (อรรคพันธ์ นะมาตร์) และ เดชชาติ (กันตพงศ์ บำรุงรักษ์) สองคนเห็นวิศนีหลงทางเข้าใจว่าเธอมาจากต่างจังหวัดจึงพาไปถึงบ้านแวว เธอดีใจมากจึงขอเลี้ยงข้าวตอบแทน แต่ในกระเป๋ามีแต่ธนบัตรต่างประเทศ อารุมจึงต้องเป็นฝ่ายเลี้ยงข้าวแทน วิศนีให้แหวนไว้และสัญญาว่าจะรีบหาเงินมาใช้ให้ วิศนีกลับมาโดนอำนวยด่าเรื่องเอารถไปใช้และคิดว่ากรแก้วฟ้อง รุ่งขึ้นเธอจึงเอารถกรแก้วขับไปหาอารุมอีก แต่เจออารุมอยู่กับ นนทลี (มรกต กิติสาระ) ก็เลยกลับ ระหว่างทางเจอเดชชาติ วิศนีจึงให้เดชชาติพาไปเที่ยวกรุงเทพฯ พาไปเดินตลาด กินก๋วยเตี๋ยวข้างทาง แต่มีเหตุวัยรุ่นตีกัน สองคนพากันหนีเอาตัวรอด เลยสัญญากันว่าจะเป็นเพื่อนตาย เรื่องรู้ถึงหูอำนวย วิศนีเลยถูกว่าอีกและถูกบังคับให้ไปช่วยงานที่บริษัททั้งที่วิศนียืนยันว่าไม่ได้เรียนจบอะไรมาสักอย่าง วิศนีดีใจที่พบอารุมกับเดชชาติที่บริษัท วิศนีฝึกงานกับอารุม นนทลีและ กุสุมา (ปุณยาพร พูลพิพัฒน์) นนทลีไม่ถูกชะตากับวิศนี ยิ่งเห็นอยู่ใกล้อารุมแล้วยิ่งไม่สบายใจ นนทลีแสดงความเป็นเจ้าของอารุม วิศนีนึกสนุกแกล้งตามตื้อยั่วให้นนทลีและอารุมทะเลาะกัน แววชอบใจเมื่อรู้ว่าวิศนีไปทำงานที่บริษัท แววแนะนำ โยธิน (กรเศก โคร์นิน) ให้วิศนี โดยไม่รู้ว่าโยธินเป็นคนไม่ดี แต่วิศนีไม่สนใจโยธินเลย และความสัมพันธ์ของวิศนีกับอารุมก็ดีขึ้น สองคนเล่าเรื่องราวของแต่ละคนให้กันฟัง อารุมเข้าใจถึงปัญหาเรื่องครอบครัวของวิศนี และอารุมแลกเปลี่ยนเรื่องส่วนตัวให้เธอฟัง รวมถึงเรื่องอนาคตกับนนทลีด้วย ด้านนนทลีก็หึงหวงอารุมมากขึ้น กุสุมาจึงยุให้นนทลีไปมีผู้ชายคนอื่นเพื่อยั่วให้อารุมหึง นนทลีก็ทำตามประชดด้วยการควงโยธินออกเที่ยวจนพลาดได้เสียกับโยธินและถูกกุสุมาจับได้ โยธินไหวตัวทันจึงเขี่ยนนทลีทิ้งก่อน นนทลีขอให้กุสุมาเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ กุสุมาแสร้งรับปากและรอแฉให้อารุมรู้อย่างใจเย็น นนทลีกลับมาหาอารุม อารุมรู้ตัวว่าเริ่มหวั่นไหวกับวิศนี จึงคิดขอนนทลีแต่งงานเพื่อตัดปัญหา แต่นนทลีไปเจอแหวนของวิศนีที่เคยฝากไว้เข้าใจผิดว่าอารุมทิ้งเธอจึงตรงไปเล่นงานวิศนี ตบตีเธอกลางบริษัทโดยไม่เกรงใจสายตาคนพร้อมประกาศแต่งงานกับอารุม วิศนีหลุดปากถามความสัมพันธ์ของนนทลีและโยธิน นนทลีระแวงจึงนัดพบกับโยธินเพื่อกำชับความลับนี้ ในขณะที่วิศนีน้อยใจที่อำนวยเรียกไปต่อว่าเรื่องชู้สาวต่อหน้าคนทั้งบริษัท ผลุนผลันขับรถออกไปอย่างเร็วกลางสายฝนโดยไม่สังเกตเห็นนนทลีที่รีบร้อนไปหาโยธิน วิศนีพยายามเหยียบเบรกแต่ถนนลื่นเบรกไม่อยู่ เลยทำให้รถพุ่งเข้าใส่นนทลีอย่างแรงต่อหน้าต่อตาเดชชาติและพนักงานคนอื่น อารุมเข้ามาประคองร่างนนทลีที่จมกองเลือดร้องไห้ไม่อายใคร วิศนีตะลึงไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นฆาตกรตกใจจนเป็นลมไป ระหว่างที่วิศนีอยู่โรงพยาบาลกรแก้ววิ่งเต้นเรื่องการแสดงความรับผิดชอบต่อครอบครับนนทลีและอารุม แต่อารุมยื่นใบลาออก และตั้งทนายฟ้องวิศนีข้อหาฆ่าคนโดยเจตนา โดยมีกุสุมาร่วมเป็นพยานเต็มที่ วิศนีขอร้องให้เดชชาติพาไปเคารพศพนนทลี แต่ก็ถูกขับไล่อย่างหยาบคายออกมา หลังเกิดอุบัติเหตุ วิศนีกลายเป็นคนซึมเศร้า มีเพียงเดชชาติคนเดียวที่เข้าใจเธอ โยธินถือโอกาสเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วย โดยหาทนายมือดีมาสู้คดีให้จนกลายเป็นคนโปรดของอำนวย วิศนีไม่ดีใจที่เธอชนะคดีเพราะเธอเป็นขี้ปากของเพื่อนคุณหญิงคุณนายของกรแก้วที่เม้าท์เธอกันอย่างสนุกปาก วิศนีหมดความอดทนด่าประจานเพื่อนกรแก้วแตกกระเจิงและพาลมาถึงอำนวยด้วย อำนวยตบหน้าวิศนีอย่างแรง วิศนีน้อยใจพ่อย้ายไปอยู่กับแวว แต่กลับถูกแววไล่และด่าที่ไม่อยู่เป็นก้างขวางคอกรแก้ว วิศนีเพิ่งรู้ว่าตัวเองมีค่าเป็นแค่เครื่องมือแก้เผ็ดกรแก้วของแวว วิศนีบากหน้าไปขอโทษอารุมแต่เขากลับไม่ยินดียินร้าย คิดจะไปเริ่มต้นใหม่ที่ต่างจังหวัดเพื่อลืมอดีต วิศนีขอไปด้วยแต่เขาก็ไล่เธอออกจากบ้าน อารุมเตรียมออกจากกรุงเทพฯ เห็นวิศนีนั่งตากฝนอยู่ข้างถังขยะหน้าบ้านและเกือบถูกขี้เมาฉุด อารุมจึงรับวิศนีขึ้นรถแล้วลงใต้ไปด้วยกัน อารุมไปอยู่บ้านที่ชายหาดของ วิโรจน์ (ปริญญา วิโรจน์แสงประทีป) โดยมีฉาย คนเฝ้าบ้านของวิโรจน์ดูแลต้อนรับอย่างดี อารุมปฏิบัติต่อวิศนีอย่างไม่เยื่อใยเพราะเจ็บแค้นที่เธอฆ่าคนรักของเขาตาย แต่วิศนีก็ก้มหน้ายอมรับการโขกสับอย่างอดทน กุสุมาเปิดตัวตามตื้ออารุมแต่ก็ต้องผิดหวังเมื่ออารุมย้ายบ้านออกไป กุสุมาไปตามหากับเดชชาติซึ่งก็ไม่รู้เรื่อง อีกด้านอำนวยก็ตามหาวิศนีเช่นกัน อารุมเริ่มชีวิตใหม่โดยการเป็นชาวประมงโดยไม่สนใจความเป็นอยู่ของวิศนีเลยแม้แต่น้อย แถมยังแกล้งให้อยู่บ้านแกล้งหายไปหลาย ๆ วันพร้อมกับทิ้งบ้านว่าง ๆ ไม่มีแม้แต่อาหาร แววทนไม่ไหวแอบแบ่งของกินมาให้เพื่อประทังชีวิต อารุมได้รับอุบัติเหตุตกเรือและสมอเรือฟาดจนหมดสติ วิศนีคอยดูแลเฝ้าไข้ทั้งคืนจนเป็นไข้ซะเอง เมื่ออารุมหายดีก็ปฏิบัติต่อวิศนีดีขึ้นและเปิดใจให้อภัย กุสุมารู้เรื่องที่อยู่ของอารุมจากวิโรจน์จึงมาตามและพยายามพูดเรื่องเก่า ๆ ให้อารุมนึกถึงเรื่องนนทลี อารุมทนไม่ไหวขอร้องให้กุสุมากลับไป กุสุมาไปบอกกับโยธินว่าวิศนีอยู่กับอารุม อำนวยกับโยธินมาตามวิศนี แต่วิศนีไม่ยอมกลับ ฉายช่วยให้วิศนีกับอารุมหลบไปอยู่บนเกาะนอกชายฝั่ง วิศนีถูกงูกัดแทนอารุมตอนที่อารุมพาไปหาที่พัก อารุมละอายใจที่แบกความแค้นเอาไว้ เขาตัดสินใจทิ้งอดีตทั้งหมด สองคนกลับมาเข้าใจกัน อารุมบอกรักวิศนีท่ามกลางชาวบ้านกลุ่มเล็ก ๆ เป็นพยาน สองคนมีความสุข แต่ภาพหลอนของนนทลีก็เข้ามาในจิตสำนึกของอารุมอีกครั้ง เขาดื่มเหล้าเมามายและต่อว่าวิศนีด้วยเรื่องเดิม ๆ วิศนีรู้ว่าอารุมไม่มีวันให้อภัยเธอ วิศนีหนีออกจากเกาะโดยไม่บอก เธอให้เดชชาติมารับและขออาศัยอยู่บ้านเดชชาติชั่วคราว แต่โยธินมาพบก่อนเลยพาตัวกลับบ้าน อารุมตามหาวิศนีและรู้ว่ากลับมาอยู่บ้านเลยตามไปที่บ้านบอกกับทุกคนว่าวิศนีเป็นภรรยา อำนวยไม่พอใจจึงประกาศว่าวิศนีจะแต่งงานกับโยธิน อารุมตามตื้อวิศนีแต่เธอกลับไม่มีเยื่อใยต่อเขา อารุมเสียใจมากแต่ก็ไม่เลิกตามตื้อ กุสุมาทนไม่ไหววางแผนกับโยธินแยกทั้งคู่ออกจากกันอย่างเด็ดขาด กุสุมาพาอารุมไปอยู่บ้านและบอกกับวิศนีว่ามีอะไรกับอารุม วิศนีจึงตัดสินใจหมั้นกับโยธิน กุสุมาพยายามทอดสะพานให้อารุมแต่ก็ไม่เป็นผล จนในที่สุดกุสุมาก็หมดความอดทนต่อว่าอารุมที่โง่เง่าดักดานและหลุดปากพูดเรื่องนนทลีกับโยธิน อารุมตาสว่างทันที และบุกไปชิงตัววิศนีในวันหมั้น วิศนีขัดขืนหนีอารุมจนถูกรถชนหมดสติ อำนวยจึงได้ตัววิศนีกลับไป ระหว่างที่วิศนีนอนป่วยอยู่ อารุมเป็นห่วงความปลอดภัยจึงพยายามไปเฝ้า แต่ถูกกีดกันตลอด กรแก้วเป็นคนดูแลเฝ้าไข้แทนอำนวย เมื่อวิศนีฟื้นมาจึงมองกรแก้วในทางที่ดีขึ้น อารุมขอร้องกรแก้วจนได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยมวิศนีในที่สุด แต่วิศนีแกล้งความจำเสื่อมเพื่อให้อารุมตัดใจ และตกลงหมั้นกับโยธินอีกครั้ง แต่แล้วงานหมั้นครั้งที่สองก็เกิดวุ่นวายเมื่อเดชชาติพาเหยื่อสาว ๆ ที่ถูกโยธินหลอกมาแฉกลางงานพร้อมทั้งหลักฐานการยักยอกเงินบริษัท โยธินหนีเอาตัวรอด อำนวยกับแววทะเลาะกันจนกรแก้วเอ็ดตะโรให้ทั้งคู่ได้สติ อารุมถือโอกาสพาวิศนีไปรื้อฟื้นความทรงจำที่เกาะ แต่วิศนีขัดขืนจนหลุดความจริงทำให้อารุมรู้ว่าแกล้งความจำเสื่อม ในที่สุดทั้งสองคนก็ปรับความเข้าใจกันได้อีกครั้ง อารุมพาวิศนีมาขอขมาอำนวย อำนวยไม่ยอมรับในตัวอารุม กรแก้วช่วยพูดจนทำให้อำนวยคิดได้ว่าตัวเองเข้มงวดกับลูกมากเกินไป จึงยอมพิจารณาพฤติกรรมอารุมอีกครั้งโดยการให้กลับมาทำงานในตำแหน่งเดิม กุสุมารู้ว่าอำนวยยอมให้อารุมคบวิศนีก็สติแตก บุกมายิงวิศนีในงานครบรอบบริษัทแต่ถูกตำรวจจับได้ ทางด้านแววก็ตกต่ำลง โยธินเสนอให้เรียกค่าไถ่วิศนีจากอำนวยแลกกับเงินก้อนโต แววโลภ หลงเชื่อ ออกอุบายว่าไม่สบายให้วิศนีไปหา จนถูกโยธินจับตัวไปตามแผน และบอกว่าจะไม่ทำร้ายวิศนี อารุมและเดชชาติตามไปช่วย โยธินไม่ทำตามที่ตกลงกับแววไว้จะทำร้ายวิศนี แววจึงออกมาห้ามจนทุกคนรู้ว่าแววอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด แววต้องโทษจากการกระทำของตัวเอง แต่วิศนีถูกโยธินจับตัวไว้ อารุมและเดชชาติจะช่วยวิศนีให้รอดพ้นจากโยธินได้หรือไม่ ชะตากรรมของวิศนีจะเป็นอย่างไรต่อไป ความรักของวิศนีและอารุมจะเดินต่อไปได้หรือไม่ เป็นกำลังใจให้ความรักของทั้งสองคนนี้ได้ใน ละครอุบัติเหตุ ออกอากาศทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 สี ละครอุบัติเหตุ เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม 2555

เรือนซ่อนรัก 2553

เรือนซ่อนรัก (2553/2010) ตระกูลราชศักดิ์มนตรีธรรม เป็นตระกูลที่เก่าแก่ เมื่อ ม.ร.ว.เอกชยา (ดีลก ทองวัฒนา) กับภรรยา คุณสดศรี (จุฑาทิพย์ ครุธามาศ) ถึงแก่กรรมก็ได้ฝากฝังให้ หม่อมดารารุ่ง (สุวนันท์ คงยิ่ง) ลูกสาวคนโตดูแลทรัพย์สมบัติและเกียรติยศแห่งวงศ์ตระกูล โดยคุณรุ่งได้ให้คำสัญญากับพ่อและแม่ไว้ คุณรุ่งทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อ แม่ และพี่ของน้องสาวทั้ง 3 คน ได้แก่ หม่อมดารารัตน์ (อุษณีย์ วัฒฐานะ) หม่อมดาราน้อย (ธัญสินี พรมสุทธิ์) และหม่อมดารานิจ (พีชญา วัฒนามนตรี) ซึ่งคุณรุ่งทั้งรักและหวงน้องมาก ตามใจทุกอย่าง แต่สิ่งที่คุณรุ่งขอร้องน้อง ๆ ก็คือ ไม่อยากให้น้อง ๆ แต่งงาน เพราะไม่อยากให้น้อง ๆ ช้ำใจเหมือนอย่างกับแม่ ที่ถูกพ่อนอกใจไปได้เสียกับสาวใช้ที่ชื่อ สลวย (ปิยะดา เพ็ญจินดา) จนเกิดตั้งท้องแล้วคลอดลูกออกมาเป็นผู้ชายชื่อว่า ฤกษ์ (สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์) ม.ร.ว.เอกชยาแสนจะรักและโปรดปรานลูกชายคนนี้มาก สั่งให้ทุกคนรักและตามใจฤกษ์ พี่น้องทุกคนรวมทั้งคุณรุ่งไม่พอใจ แต่ขัดพ่อไม่ได้ ต่อหน้าคุณรุ่งจึงทำเป็นรักน้องแต่ลับหลังจะคอยกลั่นแกล้งตลอด เมื่อเติบโตเป็นสาว คุณรุ่งพยายามที่จะหาทางออกจากบ้าน เพราะเบื่อความเป็นผู้หญิงที่ถูกผู้ชายกดขี่ทางเพศ เมื่อคุณไกร (เคลลี่ ธนพัฒน์) ลูกชายคนเดียวของ กรุณ การุณพินิตย์ (ฐาปกรณ์ ดิษยนันท์) คหบดีใหญ่มาผูกสัมพันธ์ไมตรีด้วย ความที่คุณไกรเป็นชายหนุ่มรูปงาม พูดจาไพเราะและช่างเอาอกเอาใจ ผิดจากผู้เป็นพ่อ ทำให้คุณรุ่งยอมรับไมตรีได้ไม่ยาก ไม่นานคุณรุ่งก็ตกหลุมรักถึงขนาดยอมหมั้นหมายด้วย แต่คุณไกรกลับทำให้คุณรุ่งช้ำใจ ด้วยการว่านเสน่ห์ให้กับผู้หญิงและเที่ยวมีสัมพันธ์ไปทั่ว ขนาดสาวใช้ในบ้านอย่าง เรไร (ปริษา ตัณทนาวิวัฒน์) ก็ไม่เว้น พอคุณรุ่งจับได้เลยตัดขาด พอคุณไกรมาง้อคุณรุ่งก็ไล่ตะเพิด นับจากวันนั้นคุณรุ่งก็ไม่เคยเชื่อมั่นในความรักอีกเลย เหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ในสายตาของ อรอนงค์ (พิชญ์นาฏ สาขากร) ศัตรูคู่แข่งของคุณรุ่ง เลยถือโอกาสนี้เข้าไปปลอบใจคุณไกร จนเกิดได้เสียกัน เลยถูกบังคับให้แต่งงาน เมื่อคุณรุ่งรู้ข่าวเสียใจเป็นอย่างมาก จากความช้ำใจกลายเป็นความเกลียดแค้น ชิงชัง จนจิตใจของคุณรุ่งเต็มไปด้วยความเก็บกด อิจฉา ริษยา ไม่อยากเห็นใครมีความสุข ส่วนอรอนงค์เองก็ไม่เคยมีความสุขในชีวิตแต่งงานเลย เพราะคุณไกรไม่สามารถลืมคุณรุ่งไปจากใจได้เลย แม้ว่าจะมีโซ่ทองคล้องใจอย่าง ทักษิณาหรือหนูนา (อินทิรา เกตุวรสุนทร) ลูกสาวทั้งคน แต่คุณไกรก็ยังคงพยายามไปตามง้อคุณรุ่งตลอดเวลา มันยิ่งทำให้อรอนงค์ผูกใจเจ็บคุณรุ่งมากขึ้น ในขณะที่คุณรุ่งเองก็รังเกียจการกระทำของผู้ชายแบบคุณหลวงเต็มที คุณรุ่งจึงพร่ำสอน กรอกหูน้องสาวเสมอถึงความชั่วช้าสามานย์ของผู้ชาย แต่คุณรัตน์ไม่เชื่อฟังแอบไปคบกับ ปกรณ์ ชาญบุรี (อรุชา โตสวัสดิ์) ลูกกุลี เมื่อคุณรุ่งรู้เข้าก็โกรธมาก ทั้งด่าและทุบตี พร้อมสั่งห้ามไม่ให้คบกันอีก ซึ่งคุณรัตน์ก็ตัดสินใจหนีออกจากบ้านไปอยู่กินกับปกรณ์ ทำให้คุณรุ่งโกรธมากถึงขั้นตัดขาดจากความเป็นพี่เป็นน้องกัน เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของ มาโนช สุกรมกิจ (นนทพจน์ ใจกันทา) หนุ่มหล่อข้างบ้านของคุณรุ่ง ซึ่งแอบชอบคุณรุ่งอยู่ แต่ถูกคุณรุ่งดูถูกสารพัดหาว่าเป็นขี้ครอก ไม่มีศักดิ์มีตระกูล มาโนชจึงหันไปให้ความสนใจกับคุณน้อยแทน ซึ่งคุณน้อยก็ยอมรับไมตรีอย่างง่ายดาย พอคุณรุ่งจับได้เลยสั่งกักขังบริเวณไม่ให้พบกัน แต่คุณน้อยไม่ยอม ในที่สุดก็หนีออกจากบ้านไปอยู่กับมาโนชทั้งที่ยังเรียนไม่จบ คุณรุ่งเสียใจมาก ความคาดหวังทั้งหมดจึงตกไปอยู่ที่น้องสาวคนสุดท้อง คือ คุณนิจ ที่ถูกกรอกหูตั้งแต่เล็กจนโตเกี่ยวกับเรื่องความเลวของผู้ชาย เลยทำให้ไม่กล้าเข้าใกล้ผู้ชาย ฤกษ์พี่ชายต่างมารดาสุดแสนจะสงสารน้องสาว จึงมาคอยดูแลแต่ทุกครั้งก็จะถูกคุณรุ่งสั่งห้ามตลอด ฝ่ายคุณรัตน์ เมื่อหนีออกจากบ้านมาอยู่กับปกรณ์ ก็พบแต่ความลำบาก เพราะปกรณ์กลายเป็นชายหนุ่มขี้เมา หยาบคาย ชอบทุบตีและใช้กำลัง คุณรัตน์ทุกข์ใจมาก แต่ไม่กล้าย้อนกลับบ้าน เพราะกลัวคุณรุ่ง และอีกอย่างคุณรัตน์ก็มีลูกชายหนึ่งคนชื่อ ชาตรี (พิชยดลย์ พึ่งพันธ์) ด้วยไม่อยากให้ลูกขาดพ่อเลยต้องจำใจอยู่ต่อ วันหนึ่งคุณรุ่งไปตลาดแล้วเจอคุณรัตน์กำลังเข็นผักอยู่ แทนที่คุณรุ่งจะสงสารน้อง แต่กลับหันไปเยาะเย้ยสมน้ำหน้า แล้วก็ไม่แม้แต่จะชายตามองชาตรี ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอมีหลาน ส่วนตัวคุณรัตน์เองก็ไม่กล้าเล่าเรื่องชาติตระกูลให้ชาตรีรู้ เพราะไม่อยากให้ราชศักดิ์มนตรีธรรมต้องเสื่อมเสียเพราะเธอ จะมีก็แต่ปกรณ์ที่เทียวไปเทียวมาที่บ้านราชศักดิ์มนตรีธรรม เพื่อขอเงินบ่อย ๆ แต่ถูกคุณรุ่งไล่ตะเพิดออกมาทุกครั้ง ก็มีแต่คุณนิจที่คอยช่วยเหลือเจือจาน เพราะสงสารพี่สาวและหลานชาย แต่เมื่อถูกคุณรุ่งจับได้เลยถูกทุบตีทรมาน ชีวิตคุณรัตน์ก็เฉกเช่นเดียวกับคุณน้อย ที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับความรัก เมื่อมาโนชเปลี่ยนไป กลายเป็นคนเจ้าชู้ ทั้ง ๆ ที่มีลูกสาว ณชนกหรือหนูนก (กรรณาภรณ์ พวงทอง) เป็นโซ่ทองคล้องใจก็ตาม เมื่อคุณรุ่งรู้ข่าวก็สะใจมากที่ชีวิตน้องสาวแต่ละคนได้รับความทุกข์ ทรมานอย่างแสนสาหัสที่รักไม่เป็นอย่างที่หวัง คุณนิจจึงต้องอยู่ในห้วงแห่งความเกลียดชัง สิบปีต่อมาคุณนิจโตเป็นสาวเต็มตัวเข้าเรียนในวิทยาลัย มีเพื่อนสนิทคนเดียวชื่อ ปรางเชย (กัญญกร พินิจ) ซึ่งปรางเชยเป็นลูกสาวของ ครูเสรี (นึกคิด บุญทอง) ครูที่นักเรียนทุกคนต่างนับถือและยึดเป็นแบบอย่างหนึ่งในนั้นก็มี เมืองใหญ่ (รังสิต ศิรนานนท์) กับ เมืองเล็ก (ธาวิน เยาวพลกุล) สองพี่น้องลูกนายตำรวจใหญ่ เมืองเล็กสนิทกับปรางเชยเลยชอบล้อเลียนปรางเชยกับคุณนิจว่าเป็นพวกวิปริตผิด เพศ คุณนิจรู้เข้าก็ไม่พอใจ เลยทำให้ทั้งคู่เป็นปฏิปักษ์ต่อกัน ในขณะเดียวกันเมืองใหญ่ก็แอบหลงรักคุณนิจอยู่ และคุณนิจก็เผลอหลุดปากเล่าเรื่องของเมืองเล็กให้คุณรุ่งฟัง แทนที่จะเข้าข้างน้อง แต่กลับดุว่าและไม่ให้พูดคุยกับเมืองเล็กอีก ไม่อย่างนั้นจะถูกจับขัง คุณนิจกลัวมากจึงได้แต่หุบปากและจมอยู่กับความคิดของตัวเองเพียงลำพัง คุณนิจไม่กล้าปรึกษาคุณรุ่ง เมื่อปรางเชยมีทีท่าแปลก ๆ ที่เกินเลยคำว่าเพื่อน คุณนิจได้แต่พยายามหนีออกห่าง จนปรางเชยตรอมใจ เมืองเล็กรู้ข่าวก็ตามมาต่อว่าคุณนิจทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกัน เกิดการยื้อยุดฉุดกระชากจนคุณนิจล้มลงไปอยู่ในอ้อมกอดของเมืองเล็ก เลยทำให้ทั้งคู่รู้ว่าตนเองมีใจให้แก่กันแล้ว เมืองเล็กพยายามบุกเข้าไปหาคุณนิจเพื่อขอโทษ แต่ทุกครั้งก็ถูกคุณรุ่งกีดกัน แต่เมืองเล็กก็ไม่ละความพยายามบอกกับตัวเองว่าจะต้องเอาชนะใจของคุณรุ่งและ คุณนิจให้ได้ ในขณะเดียวกัน รตี (ธิดารัตน์ จักรสิงโต) หญิงสาวที่แอบรักเมืองเล็กอยู่ แต่เมืองเล็กไม่สนใจ รตีเลยเปลี่ยนเป้าหมายไปเรื่อย แต่ไม่มีใครสนใจ ด้วยความโกรธเกลียด ริษยา ทำให้รตีหาทางยุแหย่ ให้เมืองเล็กเข้าใจคุณนิจผิด แล้วความมุทะลุดุดันของเมืองเล็กก็ทำให้คุณนิจเดือดร้อน โดนคุณรุ่งทุบตี หนำซ้ำยังเอาแมวตัวโปรดมาเชือดคอต่อหน้าต่อตาคุณนิจเป็นการลงโทษ ทำให้คุณนิจช๊อคจนพูดไม่ออกและหลังจากนั้นก็พูดไม่ได้อีกเลย เมืองเล็กทราบข่าวก็เสียใจที่เป็น ต้นเหตุทำให้คุณนิจพูดไม่ได้เลยตัดสินใจบุกเข้าไปแย่งชิงตัวคุณนิจออกมาแต่ ไม่สำเร็จ พ่อแม่ของเมืองเล็กเลยต้องตัดสินใจส่งไปเรียนต่อเมืองนอก ก่อนไปได้ฝากให้ปรางเชยดูแลและฝากจดหมายให้คุณนิจ ทำให้ปรางเชยได้มีโอกาสกลับมาใกล้ชิดกับคุณนิจอีกครั้ง แต่ปรางเชยไม่ยอมมอบจดหมายให้คุณนิจพร้อมกับแต่งเรื่องว่าเมืองเล็กไปชอบ ผู้หญิงเมืองฝรั่งแล้ว ทำให้คุณนิจเสียใจมาก ทุกครั้งที่ปรางเชยเข้าใกล้คุณนิจ คุณนิจจะทำท่ารังเกียจ โดยที่คุณรุ่งไม่รู้ว่าปรางเชยเป็นพวกผิดเพศ ฉะนั้นปรางเชยจึงมีโอกาสล่วงเกินคุณนิจบ่อย ๆ ในขณะเดียวกันปรางเชยก็ส่งข่าวไปบอกเมืองเล็กว่าคุณนิจตัดใจจากเมืองเล็ก แล้ว เมืองเล็กไม่เชื่อเลยขอร้องให้เมืองใหญ่ช่วยสืบ แม้จะเจ็บปวดใจก็ตาม แต่เมื่อรู้ว่าทั้งสองคนนั้นรักกันจริง ๆ ก็เลยยอมตัดใจ เมืองใหญ่จึงเข้าทางหนูนก หลานสาวของคุณนิจ ให้ช่วยสืบ แล้วทุกครั้งที่เข้าไปที่บ้านก็จะเห็นท่าทีของคุณนิจที่รังเกียจปรางเชยจน น่าสงสัย เลยรีบเอามาบอกเมืองใหญ่ จนเมืองใหญ่สืบรู้ว่าปรางเชยเป็นพวกผิดเพศเลยส่งข่าวบอกน้องชาย แล้วสั่งให้หนูนกหาทางกีดกันไม่ให้ปรางเชยอยู่ใกล้คุณนิจอีก เมืองเล็กทราบข่าวก็รีบกลับมาเมืองไทยแล้วบุกเข้าไปชิงตัวคุณนิจ แต่คุณรุ่งมาขัดขวางไว้ทันเลยยิงเมืองเล็กจนได้รับบาดเจ็บ คุณนิจตกใจกลัว กลายเป็นคนจิตตก หนูนกสงสารน้านิจมาก พยายามปรับทุกข์กับฤกษ์ จนเป็นเหตุให้ฤกษ์ได้รู้จักกับทักษิณา เพื่อนของหนูนก ทักษิณาแนะนำให้ฤกษ์หาทางจัดการห้ามปรางเชยเข้ามาในบ้านอีก ฤกษ์เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้คุณรุ่งฟัง แต่คุณรุ่งไม่เชื่อ จนได้เจอกับตัวเอง เลยไล่ตะเพิดปรางเชยออกจากบ้านไป ฤกษ์โล่งใจมาก แต่คุณรุ่งก็ไม่ยอมรับอยู่ดีว่าเป็นคนเปิดทางให้ปรางเชยมาใกล้ชิดกับคุณนิจ ในเวลาต่อมาฤกษ์ก็ตกหลุมรักทักษิณา แต่ฤกษ์ต้องหัวใจสลายเมื่อรู้ว่าทักษิณาคือลูกของอรอนงค์และคุณหลวง ศัตรูหัวใจของคุณรุ่ง เมื่อรู้ว่าฤกษ์คือน้องชายต่างมารดาที่แม่มีศักดิ์แค่คนใช้ของคุณรุ่ง อรอนงค์ก็ตั้งท่ารังเกียจ จึงบุกไปหาคุณรุ่งที่บ้านแล้วสั่งห้ามไม่ให้ฤกษ์มายุ่งกับลูกสาวของตนอีก คุณรุ่งโกรธมากที่อรอนงค์บุกมาด่าตนถึงบ้าน เลยอาละวาดทุบตีฤกษ์บ้านแทบแตก สั่งไม่ให้ไปยุ่งกับบ้านนั้นอีก แต่ฤกษ์ไม่ยอมกลับยอมให้คุณรุ่งตัดขาดจากความเป็นพี่เป็นน้อง เพื่อขอไปใช้ชีวิตกับทักษิณา คุณรุ่งโกรธมากที่คนว่านอนสอนง่ายอย่างฤกษ์เปลี่ยนไป เลยแกล้งทำใจยอมรับ พร้อมทั้งวางแผนเชิญทักษิณามารับประทานอาหารที่เรือนเล็ก แล้วให้ฤกษ์พาคุณนิจมาด้วย แต่ในใจคิดว่า “ฉันไม่มีวันให้ใครไปจากฉันทั้งนั้น” คุณรุ่งสั่งให้ ป้าพริ้ง (จารุศิริ คชหิรัญ) ไปซื้อยานอนหลับมาให้ แล้วคุณรุ่งก็เอายานอนหลับนี้ไปผสมกับอาหาร โดยที่ไม่รู้ตัวว่าระหว่างจัดสำรับอยู่นั้นสลวยได้มาสลับถ้วยชาไป จนคนที่ดื่มชากลายเป็นคุณรุ่ง ไม่นานยาก็ออกฤทธิ์ ทุกคนเกิดอาการง่วงงุน ยกเว้นคุณนิจที่นั่งเหม่อลอยเพราะไม่ได้กินชา แต่คุณรุ่งก็ไม่ทันเฉลียวใจ ด้วยใจอาฆาตพยาบาทมีมากกว่า จึงจุดไฟเผาเรือนหลังเล็กกะจะให้ทุกคนนอนตายอยู่ในนั้น ขณะที่เปลวไฟกำลังไหม้ คุณรุ่งก็หมดสติไป พร้อม ๆ กับฤกษ์และทักษิณา มีเพียงคุณนิจที่นั่งกอดเข่าด้วยความกลัว เพราะเธอพูดไม่ได้แถมยังสติไม่สมประกอบ เดชะบุญที่เมืองเล็กและเมืองใหญ่บุกเข้ามาหวังจะชิงตัวคุณนิจ จึงพบเห็นเหตุการณ์เลยรีบเข้าไปช่วย แต่ก็ไม่รู้ว่าเมืองเล็กและเมืองใหญ่จะสามารถช่วยคุณนิจ,ฤกษ์,ทักษิณา และคุณรุ่งได้หรือไหม แล้วบทสรุปสุดท้ายของคุณรุ่งจะเป็นหรือตายต้องคอยติดตามชมกันต่อไป ในละคร เรือนซ่อนรัก

เงา (2525/1982) หญิงสาวพลิกตัวอีกครั้ง ซุกมือไว้ข้างหมอน หลังตาลงอย่างมีความสุข ระหว่างที่กึ่งหลับกึ่งตื่น สมองส่วนหนึ่งเตือนให้รู้ว่า มีเงาดำๆ หลายร่างมาก้มชะเงื้อมง้ำอยู่เหนือเตียงนั้น หากแล้วเสียงทุ้มนุ่มนวลไพเราะ แต่ทรงอำนาจก็กังวานขึ้นอย่างเด็ดขาด "กลับไป ยังไม่ถึงเวลา ไม่ใช่หน้าที่ของเจ้า" เงาดำๆ ทั้งกลุ่มชะงัก ถอยกลับไปอย่างลนลาน แล้วร่างดำทะมึนสูงตระหง่านก็กลับปรากฏขึ้นโดยกะทันหัน ส่วนใบหน้าที่อยู่ในเงามืดก้มลงมองอย่างเยือกเย็น พร้อมมีเสียงกระซิบเบาๆ อย่างเหี้ยมเกรียมว่า "หลับให้สบายใจ ฝันถึงความสุขสนุกสบายที่เจ้าปรารถนาให้เต็มที่ แล้ววันหนึ่งเราจะได้พบกับเจ้าโดยสมบูรณ์ เจ้าจะได้รู้ว่า...เราคือใคร!" บางทีเงานั้น ยามนี้กำลังประทับยืนอยู่ใกล้เราแล้วกระมัง

วิมานมะพร้าว 2537

เรื่องย่อ : วิมานมะพร้าว (2537/1994) จุลลา ใจเรือง เพิ่งตกงานเพราะถูกบริษัทจากสิงคโปร์ลอยแพ หลังจากทำงานเป็นวิศวกรประจำโรงงานได้สามปี ตกงานอย่างไม่คาดฝันยังไม่พอ ยังจะเกือบขับมอเตอร์ไซค์ชนกับรถยนต์คันหรู ที่ สืบสาย นักธุรกิจรูปหล่อขับฝ่าไฟแดงมาด้วยความเร่งรีบ เพื่อเดินทางไปต่างประเทศให้ทันเวลา ตอนแรกจุลลาจะไม่เอาเรื่องแต่ความคิดที่เลวร้ายพอ ๆ กับคำพูดของสืบสาย ทำให้จุลลาผู้รักศักดิ์ศรียิ่งกว่าอะไร ยอมค้าความจนกว่าสืบสายจะสำนึกผิดและยอมขอโทษ ถอนคำสบประมาทอันแสดงถึงการกดขี่ทางเพศ จุลลาขับรถกลับบ้านที่แบ่งส่วนหนึ่งของพื้นที่เปิดร้านอาหาร สบายท้อง โดยมีจำรัส พ่อ และ ดารา ผู้เป็นแม่เป็นเซฟประจำร้าน จำรัสให้กำลังใจจุลลาให้ฮึดสู้ ต่างกับดาราที่ต้องการให้ลูกสาวเพียงคนเดียวของตัวเองแต่งงาน และมีพฤติกรรมสมกับความเป็นหญิง จุลลาไม่คิดจะแต่งงานเพราะยังไม่เจอผู้ชายที่ดีเหมือนกับพ่อ แต่ที่สำคัญเหนืออื่นใด ความรักฉันท์ชายหญิงในความคิดของจุลลา ไร้สาระและเสียเวลาชีวิตที่สุด การทำงานต่างหากคือการเติมเต็มชีวิตและหัวใจของเธอ จึงมองข้ามพี่โย้ รุ่นพี่ที่คณะ ทำงานอยู่กระทรวงที่คอยเทียวไล้เทียวขื่อ เป็นลูกค้าขาประจำของร้านที่เมาพังพาบคาร้านทุกคืน

หนี้ชีวิต 2547

เรื่องย่อ : หนี้ชีวิต (2547/2004) ท่ามกลางความมืดมิดของคืนที่ฝนตกลงมาอย่างแรง รถยนต์ใหม่เอี่ยมคันหนึ่งวิ่งฝ่าสายฝนไปด้วยความเร็วสูง แล้วรถคันนั้นก็ต้องเบรคอย่างแรงเมื่อพบว่าได้ชนกับวัตถุหนักๆ เข้าอย่างจัง เมื่อหนุ่มสาวในรถลงไปตรวจสอบก็ได้พบกับความสยดสยองเมื่อพบว่าถนนนั้นมีร่างของหญิงสาวคนหนึ่งนอนจมกองเลือดอยู่ และยังมีอีกร่างเป็นเด็กสาวที่นอนหายใจแผ่วเบาอยู่ไม่ไกลนัก ชายหนุ่มรีบนำตัวเด็กสาวส่งโรงพยาบาลทันที โดยเขาได้พยายามปลอบใจหญิงสาวคนขับรถว่ามันเป็นอุบัติเหตุและเขาจะเป็นผู้รับผิดเพียงผู้เดียว หนุ่มสาวคู่นี้คือ เสวี และธันยา ซึ่งเป็นคนรักกัน อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเขาและเธอกลับจากงานเลี้ยงฉลองการเป็นบัณฑิต เสวียอมรับผิดแทนธันยา เพราะรถเป็นของเขา และเขายังเป็นลูกชายของคุณวิวัฒน์และคุณหญิงสดใสซึ่งมีฐานะและกว้างขวางพอที่จะช่วยลูกชายให้พ้นผิดได้ ซึ่งพ่อของเขาก็สามารถจัดการสิ่งต่างๆ ได้ลงตัวยิ่งนัก วิวัฒน์คิดที่จะอุปการะเด็กสาวคนนี้ไว้ โดยบอกกับเธอว่าเขาเป็นผู้ช่วยชีวิตเธอจากรถที่ชนแล้วหนีไป และสั่งห้ามทุกคนบอกความจริงกับเด็กสาวผู้นี้เด็ดขาด โดยที่วิวัฒน์ไม่รู้เลยว่าเด็กสาวผู้นี้โกรธแค้นผู้ที่ทำให้แม่เธอตายเพียงใด เธอได้สัญญากับวิญญาณของแม่เธอว่าจะทำให้ฆาตกรผู้นั้นชดใช้ด้วยชีวิตทีเดียว เด็กสาวหน้าตาดีที่วิวัฒน์รับอุปการะมีชื่อว่าสรพรรณ เด็กสาวโศกเศร้าเสียใจยิ่งนักจากการจากไปของแม่ แต่เธอก็ได้วิวัฒน์และเสวีเป็นผู้ช่วยปลอบประโลมใจให้เธอรู้สึกดีขึ้น เสวีเป็นเด็กหนุ่มที่สุภาพ อ่อนโยน และรักเธอเหมือนน้อง สรพรรณเองก็รู้สึกผูกพันและรักใคร่บูชาเขายิ่งนัก เพราะเขาคอยห่วงใยและดูแลเธอเสมอ ซึ่งต่างไปจากคุณหญิงสดที่เกลียดเธอยิ่งนัก เธอกลัวว่าสรพรรณจะใช้ความสวยจับลูกชายตน ตัวคุณหญิงสดใสเองนั้นตั้งความหวังไว้สูงว่า ผู้หญิงของเสวีจะต้องเป็นสาวสวยที่พร้อมในทุกด้าน เธอจึงวางแผนที่จะส่งเสวีไปเรียนต่อยังต่างประเทศเพื่อจะได้พบเจอกับลูกสาวเศรษฐีในต่างแดน และยังเป็นการแยกเสวีออกจากธันยาอย่างนิ่มนวลที่สุดด้วย นอกจากนี้คุณหญิงสดใสยังให้เงินกับธันยาก้อนหนึ่งเพื่อเป็นค่าจ้างให้เลิกกับเสวี โดยที่ธันยาเองนั้นก็เต็มใจรับเงินเพราะเธอไม่เคยรักเสวีเลย ที่เป็นแฟนด้วยก็เพราะเงินของเขาเท่านั้น ตัวเสวีเองนั้นรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างมากที่คนรักของเขาหลบหน้าและขาดการติดต่อไป เขาเดินทางไปต่างประเทศด้วยความเศร้าสร้อยและฝากฝังให้สรพรรณช่วยติดตามข่าวเกี่ยวกับธันยาและรายงานให้เขารู้ โดยเขาไม่รู้เลยว่าเมื่อธันยาได้เงินจากคุณหญิงสดใสไปแล้ว เธอก็มีวิธีหาเงินใหม่จากการขายบริการให้กับคนในระดับสูง วิวัฒน์ต้องการให้ลูกของตนตาสว่างจึงได้ซื้อธันยาและเลี้ยงดูให้ความเป็นอยู่อย่างสุขสบาย ส่วนธันยานั้นก็เต็มใจเพราะได้เงินอย่างล้นมือและเธอก็สะใจยิ่งนักที่จะได้เยาะเย้ยคุณหญิงสดใสว่ามีสามีร่วมกัน ตลอดเวลาที่เสวีอยู่ต่างประเทศนั้น สรพรรณได้ปิดบังเขาเรื่องวิวัฒน์กันธันยาอยู่ตลอดเวลาเพราะไม่อยากให้เขาเสียใจและเสียการเรียน เธอไม่แน่ใจเลยว่าเขาจะโกรธเกลียดเธอแค่ไหนถ้าได้รู้ว่าเธอที่เขาไว้ใจก็โกหกเขาเช่นกัน แล้ววันที่สรพรรณกลัวก็มาถึงจิรงๆ เสวีรีบกลับเมืองไทยเมื่อได้รับจดหมายจากธันยาที่โกหกว่าโดนพ่อของเขาบังคับขืนใจให้เป็นเมีย และยังใช้กำลังกับเธอตลอดเวลา เขาโกรธและเกลียดพ่อตัวเองมาก รวมไปถึงการเกลียดสรพรรณด้วย และเขาก็ต้องเสียใจหนักขึ้นเมื่อรู้ว่าธันยายังมีผู้ชายคนอื่นที่นอกเหนือจากพ่อของตนนี้ เขาเฝ้าแต่โทษพ่อของตนที่เป็นต้นเหตุทำให้ธันยาเปลี่ยนไป และเมื่อเขาทราบว่าแม่ของตนเตรียมยกสรพรรณให้เป็นเมียพ่อแทนธันยา เขาจึงคิดจะแก้แค้นวิวัฒน์ด้วยการทำให้สรพรรณบุบสลายเหมือนที่พ่อของเขาทำให้ธันยาบุบสลาย ในคืนนั้นเอง สรพรรณก็ตกเป็นของเสวีเพราะเธอสู้กำลังเขาไม่ไหว เธอผิดหวังเสียใจอย่างมากที่คนที่เคยเฝ้ารักและบูชาทำร้ายเธอได้ถึงเพียงนี้ ส่วนเสวีนั้นเมื่อได้สัมผัสรสรักจากสาวแรกรุ่นอย่างสรพรรณแล้วก็เกิดหลงรักเธอและคิดที่จะพาเธอไปต่างประเทศด้วย แต่สรพรรณเตือนเขาว่าเขามีคู่หมั้นคือ คัคนางค์ คนที่แม่เขาเตรียมไว้ให้แล้ว เสวีรู้สึกลำบากใจยิ่งนักจึงได้กลับไปต่างประเทศและขาดการติดต่อไปเลย เวลาผ่านไปหลายปี สรพรรณเติบโตเป็นสาวสวย เก่ง และปราดเปรียวยิ่งนัก วิวัฒน์พอใจอย่างมากที่สรพรรณได้ดี ซึ่งต่างไปจากคุณหญิงสดใสก็ยังคงเกลียดเธอเหมือนเดิมเพราะคิดว่าสรพรรณตกเป็นเมียของวิวัฒน์แล้วอย่างแน่นอน ไม่มีใครรู้ว่าใจของสรพรรณนั้นยังคงคิดถึงแต่เสวีเสมอ แต่เมื่อวันหนึ่งที่เธอแอบได้ยินคุณหญิงสดใสคุยกับวิวัฒน์ว่าแท้จริงแล้วเสวีเป็นผู้ขับรถชนแม่ของเธอตาย รักหวานที่เคยมีให้ก็กลายเป็นขม เธอคิดว่าความแค้นมีเหนือกว่าบุญคุณ เธอเฝ้านับวันรอคอยเวลาที่เสวีจะเดินทางกลับมาเพื่อจะได้ชดใช้ให้กับแม่ของเธอ แล้วก็ถึงเวลาที่เสวีกลับประเทศไทย เขายังคงหมั้นกับคัคนางค์ แต่เขาดีใจมากที่สรพรรณยังคงไม่มีใคร ซึ่งสรพรรณก็ได้ใช้มารยาให้เสวีหลงใหลในตัวเธออย่างมาก และข่าวการกลับมาของเสวีก็ดังจนเข้าหูของธันยาที่บัดนี้แต่งงานกับชายหนุ่มรุ่นเดียวกับสรพรรณที่มีชื่อว่า สุทัศน์ ธันยาคิดจะกลับมาเป็นคนรักของเสวีอีกครั้ง แต่จะพยายามเท่าใดก็ไม่สามารถแยกเขาจากสรพรรณได้ กลับทำให้เขาถอนหมั้นจากคัคนางค์และเปลี่ยนมาจดทะเบียนกับสรพรรณแทน นอกจากนี้ สรพรรณได้หลอกใช้สุทัศน์ในแผนการแก้แค้นของเธอด้วย โดยเธอมักจะยั่วให้เสวีหึงหวงด้วยการออกไปพบเจอกับสุทัศน์บ่อยครั้ง สุทัศน์เองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะเขาก็เริ่มที่จะหลงรักสรพรรณเข้าแล้ว แผนการของสรพรรณดำเนินไปอย่างราบรื่น เสวีรักเธอมาก และไม่ว่าคุณหญิงสดใสจะเตือนเขาว่าเธออาจจะแก้แค้นเขา เสวีก็ไม่มีท่าทีว่าจะเชื่อใครเลย และวันที่สรพรรณรอคอยก็มาถึง เธอคิดว่าถึงเวลาที่เสวีจะต้องชดใช้ให้กับแม่ของเธอแล้ว เธอบอกกับเขาว่าไม่เคยรักเขาและจะขับรถไปให้เขากับเธอตายพร้อมกัน เสวีพยายามอธิบายให้สรพรรณฟังว่าแท้จริงแล้วธันยาเป็นผู้ขับรถในคืนนั้น แต่เขาก็ยินดีจะรับผิดคนเดียว เขาลงไปยืนกลางถนนเพื่อให้เธอขับรถชน และสรพรรณก็ต้องตกใจเป็นอย่างมากเมื่อมีรถคันอื่นขับมาชนเขาอย่างแรง เธอเสียใจกับการกระทำของตนเอง เธอเฝ้าคอยภาวนาไม่ให้เขาตาย และเมื่อเสวีรอดชีวิตแล้ว เธอก็ได้ย้ายออกจากบ้านเขาด้วยความเข้าใจผิดที่คุณหญิงสดใสบอกเธอว่า เขาเกลียดและขยะแขยงเธอมาก สรพรรณออกมาจากบ้านเสวีมาโดยที่เขาไม่รู้เลยว่าเธอได้อุ้มท้องลูกของเขาไปด้วย เธอได้รับความช่วยเหลือจากสุทัศน์ให้ไปอาศัยที่บ้านเขาในต่างจังหวัด แต่เวียงสาวใช้คนสนิทของสรพรรณอยากให้เสวีได้รู้ข่าว จึงได้แอบเดินทางไปบอกกับเขาเพื่อจะดูว่าเสวีโกรธเกลียดสรพรรณจริงหรือไม่ เมื่อเสวีทราบข่าว เขาดีใจอย่างมากและได้ตามไปง้อให้สรพรรณกลับมาอยู่กับตนเหมือนเดิม สรพรรณเองก็ดีใจมากที่เสวีไม่โกรธเกลียดเธอ เพราะใจจริงแล้วเธอก็ไม่อยากที่จะทำร้ายเขาเลย สรพรรณบอกกับเขาว่าเธอได้รู้แล้วว่าความพยาบาทมีแต่จะทำลายล้าง เธอได้สิ่งดีๆ เสมอตั้งแต่มาอยู่ในบ้านของเขา และเธอให้สัญญากับเขาว่าต่อจากนี้ไปเธอพร้อมเป็นคนที่เดินเคียงข้างเขาชั่วชีวิต