พิภพมัจจุราช 2566

เรื่องย่อ : พิภพมัจจุราช (2568/2025) มัจจุราช (เคลลี่ ธนะพัฒน์) นักปราชญ์โดยกำเนิด เป็นผู้ปกครองนรก เจ้าของความคิดแยบยล และฝีปากที่คมกริบพร้อมที่จะเชือดเฉือนผู้ประพฤติผิดคิดมิชอบให้ได้สำนึก และเป็นผู้ทำหน้าที่ตัดสินความดีงามของมนุษย์ที่ถึงแก่กรรม หรือยังไม่ถึงแก่กรรม แต่มีเหตุต้องเยี่ยมชมขุมนรกก่อนวัยอันควรที่จะถูก ยมนา (บอส ธวัชนินทร์) และ ยมณี (ฟิล์ม ฉัตรดาว) 2 ยมทูตคู่หู ผู้ทำหน้าที่ควบคุมวิญญาณไม่ให้หลงทางหรือหนีกรรมชั่วที่ก่อไว้เมื่อตอนมีชีวิตและถูกตามล่าจากเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายเพื่อนำมาสู่กระบวนการชำระความโดยท่านมัจจุราช ที่จะชั่งน้ำหนักจากบัญชีปกทองคำของ สุวรรณ (เบิร์ด ธราธิป) เจ้าหน้าที่นรกที่อารมณ์ดีตลอดเวลา เพราะสัมผัสแต่ความดีงามของมนุษย์ที่ก่อกรรมดี ผู้บันทึกการทำดีของมนุษย์ตั้งแต่แรกเกิดจนจากโลกนี้ไป และนำมาหักล้างกับความเลวที่มนุษย์ผู้นั้นกระทำที่จารึกอยู่ในบัญชีหนังสุนัขโดยฝีมือของ สุวาน (หรูหรา ปิยะวัฒน์) ซึ่งอารมณ์และคำพูดคำจาของท่านก็สมชื่อเนื่องจากท่านต้องสัมผัสกับความชั่วร้ายที่มนุษย์สร้างขึ้นนับหมื่น ๆ ปี การทำงานของท่านมัจจุราชนั้นจะว่าง่ายก็ง่ายถ้าวิญญาณดวงนั้นเป็นคนดีหรือคนชั่วอย่างชัดเจน เช่น ดีก็ดีราวนางเอกละครหลังข่าว เลวก็เลวเหมือนผู้ร้ายหนังไทยรุ่นเก่า แต่ในความเป็นจริงของสังคมปัจจุบัน มนุษย์ทุกผู้ทุกนามหามีความดีหรือชั่วอย่างชัดเจนไม่ ที่สำคัญ โลกในยุคโซเชียลความเลวที่คนกระทำอาจถูกลากเอามาประจานได้อย่างง่ายดาย ทำให้เกิดมนุษย์ประเภทคนดีประดิษฐ์หรือคนชั่วผู้ประเสริฐขึ้นมา ซึ่งมนุษย์ประเภทนี้ทำให้ท่านมัจจุราชและทีมงานต้องทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะตัดสินพิพากษาส่งให้ผู้นั้นขึ้นไปเสวยสุขบนสวรรค์หรือตกนรกหมกไหม้ลงไปชดใช้กรรม และยังมีผู้คนอีกมากมายที่ต้องตายก่อนวาระที่แท้จริงจะมาถึงด้วยความผิดพลาดในระบบราชการนรกที่ไม่แตกต่างจากโลกมนุษย์ วิญญาณเหล่านั้นยังไม่ควรที่จะถูกตัดสินพิพากษาโดยท่านมัจจุราช ดังนั้นในระหว่างที่วิญญาณเคราะห์ร้ายได้โอกาสดูงานเมืองนรกสลับกับล่องลอยอยู่บนโลกมนุษย์เพราะยังถูกรั้งไว้ด้วยกิเลสทั้งสาม ไม่ว่าจะเป็นความโลภ ความโกรธ ความหลง ในขณะที่ต้องถูกคุกคามด้วยวิญญาณชั่วร้ายต่าง ๆ นานา ยมทูตต้องทำงานหนักเพื่อปกป้องวิญญาณดวงนั้น ในขณะที่ท่านมัจจุราชและทีมงานต้องหาทางแก้ไขไม่ว่าจะให้ขึ้นสวรรค์ก่อนกำหนด ตกนรกแบบทางด่วน หรือมีโอกาสกระทำความดีเพื่อเมื่อถึงเวลาตายอันถูกต้องจะได้ไม่ต้องมาเสียอกเสียใจให้ดราม่าท่วมนรก พิภพมัจจุราช ละครส่งเสริมคุณธรรมให้สังคม ที่จะย้ำให้ผู้ชมได้ตระหนักว่ากฎแห่งกรรมนั้นมีอยู่จริง คนเราทุกผู้ทุกนามเมื่อทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว ไม่มีผู้ใดสามารถหลีกหนีกฎแห่งกรรมไปได้ และเพื่อให้เข้าถึงผู้ชมทุกเพศทุกวัย พิภพมัจจุราชจึงสำแดงชีวิตมนุษย์ในเรื่องราวที่ทุกคนจับต้อง และสัมผัสได้เป็นเรื่องความรักโลภ โกรธ หลง ไม่ซับซ้อน แฝงอารมณ์ขันของการมองโลกของทีมมัจจุราช ผ่านความผิดพลาดของมนุษย์

พิภพมัจจุราช 2566

เรื่องย่อ : พิภพมัจจุราช (2567/2024) มัจจุราช (เคลลี่ ธนะพัฒน์) นักปราชญ์โดยกำเนิด เป็นผู้ปกครองนรก เจ้าของความคิดแยบยล และฝีปากที่คมกริบพร้อมที่จะเชือดเฉือนผู้ประพฤติผิดคิดมิชอบให้ได้สำนึก และเป็นผู้ทำหน้าที่ตัดสินความดีงามของมนุษย์ที่ถึงแก่กรรม หรือยังไม่ถึงแก่กรรม แต่มีเหตุต้องเยี่ยมชมขุมนรกก่อนวัยอันควรที่จะถูก ยมนา (บอส ธวัชนินทร์) และ ยมณี (ฟิล์ม ฉัตรดาว) 2 ยมทูตคู่หู ผู้ทำหน้าที่ควบคุมวิญญาณไม่ให้หลงทางหรือหนีกรรมชั่วที่ก่อไว้เมื่อตอนมีชีวิตและถูกตามล่าจากเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายเพื่อนำมาสู่กระบวนการชำระความโดยท่านมัจจุราช ที่จะชั่งน้ำหนักจากบัญชีปกทองคำของ สุวรรณ (เบิร์ด ธราธิป) เจ้าหน้าที่นรกที่อารมณ์ดีตลอดเวลา เพราะสัมผัสแต่ความดีงามของมนุษย์ที่ก่อกรรมดี ผู้บันทึกการทำดีของมนุษย์ตั้งแต่แรกเกิดจนจากโลกนี้ไป และนำมาหักล้างกับความเลวที่มนุษย์ผู้นั้นกระทำที่จารึกอยู่ในบัญชีหนังสุนัขโดยฝีมือของ สุวาน (หรูหรา ปิยะวัฒน์) ซึ่งอารมณ์และคำพูดคำจาของท่านก็สมชื่อเนื่องจากท่านต้องสัมผัสกับความชั่วร้ายที่มนุษย์สร้างขึ้นนับหมื่น ๆ ปี การทำงานของท่านมัจจุราชนั้นจะว่าง่ายก็ง่ายถ้าวิญญาณดวงนั้นเป็นคนดีหรือคนชั่วอย่างชัดเจน เช่น ดีก็ดีราวนางเอกละครหลังข่าว เลวก็เลวเหมือนผู้ร้ายหนังไทยรุ่นเก่า แต่ในความเป็นจริงของสังคมปัจจุบัน มนุษย์ทุกผู้ทุกนามหามีความดีหรือชั่วอย่างชัดเจนไม่ ที่สำคัญ โลกในยุคโซเชียลความเลวที่คนกระทำอาจถูกลากเอามาประจานได้อย่างง่ายดาย ทำให้เกิดมนุษย์ประเภทคนดีประดิษฐ์หรือคนชั่วผู้ประเสริฐขึ้นมา ซึ่งมนุษย์ประเภทนี้ทำให้ท่านมัจจุราชและทีมงานต้องทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะตัดสินพิพากษาส่งให้ผู้นั้นขึ้นไปเสวยสุขบนสวรรค์หรือตกนรกหมกไหม้ลงไปชดใช้กรรม และยังมีผู้คนอีกมากมายที่ต้องตายก่อนวาระที่แท้จริงจะมาถึงด้วยความผิดพลาดในระบบราชการนรกที่ไม่แตกต่างจากโลกมนุษย์ วิญญาณเหล่านั้นยังไม่ควรที่จะถูกตัดสินพิพากษาโดยท่านมัจจุราช ดังนั้นในระหว่างที่วิญญาณเคราะห์ร้ายได้โอกาสดูงานเมืองนรกสลับกับล่องลอยอยู่บนโลกมนุษย์เพราะยังถูกรั้งไว้ด้วยกิเลสทั้งสาม ไม่ว่าจะเป็นความโลภ ความโกรธ ความหลง ในขณะที่ต้องถูกคุกคามด้วยวิญญาณชั่วร้ายต่าง ๆ นานา ยมทูตต้องทำงานหนักเพื่อปกป้องวิญญาณดวงนั้น ในขณะที่ท่านมัจจุราชและทีมงานต้องหาทางแก้ไขไม่ว่าจะให้ขึ้นสวรรค์ก่อนกำหนด ตกนรกแบบทางด่วน หรือมีโอกาสกระทำความดีเพื่อเมื่อถึงเวลาตายอันถูกต้องจะได้ไม่ต้องมาเสียอกเสียใจให้ดราม่าท่วมนรก พิภพมัจจุราช ละครส่งเสริมคุณธรรมให้สังคม ที่จะย้ำให้ผู้ชมได้ตระหนักว่ากฎแห่งกรรมนั้นมีอยู่จริง คนเราทุกผู้ทุกนามเมื่อทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว ไม่มีผู้ใดสามารถหลีกหนีกฎแห่งกรรมไปได้ และเพื่อให้เข้าถึงผู้ชมทุกเพศทุกวัย พิภพมัจจุราชจึงสำแดงชีวิตมนุษย์ในเรื่องราวที่ทุกคนจับต้อง และสัมผัสได้เป็นเรื่องความรักโลภ โกรธ หลง ไม่ซับซ้อน แฝงอารมณ์ขันของการมองโลกของทีมมัจจุราช ผ่านความผิดพลาดของมนุษย์ 

 

เขมรินทร์ อินทิรา (2540/1997) อินทิรา วัลลภานุรักษ์ ตัดสินใจเดินทางไปทำงานเป็นครูสอนภาษาไทยให้กับเจ้านายเล็ก ๆ ของเขมรที่พนมเปญ เพื่อหลบเลี่ยงการถูก’จับคู่’ โดยมารดาและพี่ชายของเธอ ทั้งนี้ก็เพราะเธอมี ‘ชายในฝัน’ อยู่แล้วในใจของเธอ นับตั้งแต่ที่เธอได้พบกับเขาโดยบังเอิญ ณ ปราสาทเขาพระวิหาร โดยที่เธอไม่มีโอกาสได้รู้จักว่าเขาเป็นใคร… เธอเฝ้าวิงวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้ได้พบกับเขาอีกครั้ง… แต่ เมื่อเธอได้พบกับเขาจริง ๆ เธอกลับรู้สึกเศร้าใจในชะตาชีวิตของตนเองเพราะชายในฝันที่เธอเฝ้าใฝ่ฝันถึงนั้นกลับกลายเป็นเจ้าชายเขมรินทร์ พระนัดดาในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งกรุงกัมพูชา… เจ้าชายเขมรินทร์ทรงแสดงออกอย่างเปิดเผยว่า “โปรด” ครูสาวชาวไทยเป็นพิเศษ และมุ่งมั่นที่จะทำทุกอย่างเพื่อได้เธอมาเป็นคู่ชีวิต แต่ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่ไทยและกัมพูชากำลังมีปัญหาขัดแย้งกันในเรื่องของสิทธิ ครอบครองปราสาทเขาพระวิหารอยู่และเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศไทย อีกด้วย อินทิราจึงตัดสินใจ…ตัดใจอำลาจากเขมรินทร์กลับเมืองไทยก่อนกำหนด เขมรินทร์ติดตามอินทิรามาเมืองไทย ท่ามกลางความไม่พอใจของพระญาติพระวงศ์บางส่วน และทนยอมรับความไม่เข้าใจและความคลางแคลงใจของญาติ ๆ ทางฝั่งอินทิรา… ทั้งสองพบรักกันที่ปราสาทเขาพระวิหาร………ฤาจะต้องพรากจากกันด้วย “เขาพระวิหาร” เป็นเหตุ…?

มหาราชกู้แผ่นดิน (2547/2004) ละครโทรทัศน์ภาคต่อจากกษัตริยา เมื่อพระองค์ดำหรือพระนเรศวรได้เสด็จหนีจากหงสาวดีมา สู่กรุงศรีอยุธยาได้นำชาวไทใหญ่ จำนวนหนึ่งมาด้วย นั่นคือ เจ้านางมณีจันทร์และเจ้านางมณีอิน ตลอดจนขุนแสนกล้า นักรบของเจ้าไทใหญ่ อีกทั้งยังมีเจ้านายของกรุงศรีอยุธยาร่วมมาในขบวนครั้งนั้นด้วยคือ พระองค์หญิงพิจิตรจินดา กับเดือน ซึ่งเป็นพระพี่เลี้ยงและเป็นสนมของพระราเมศวร การกลับมาของพระองค์ดำ ทำให้พระวิสุทธิกษัตรีย์ พระมหาธรรมราชาและพระเอกาทศรถหรือพระองค์ขาว ดีพระทัยเป็นอย่างยิ่ง พระองค์ดำครองรักกับเจ้านางมณีจันทร์ แล้วเสด็จขึ้นไปครองเมืองพิษณุโลก พระองค์ดำทรงคิดอยู่ตลอดเวลาเรื่องที่ กรุงศรีอยุธยาตกเป็นประเทศราชของหงสาวดี จึงได้จัดหาทหารฝีมือดีมาร่วมทัพ แล้วทรงเปลี่ยนกลศึกจากการยกพลจำนวนมหาศาลเข้าปะทะข้าศึก ก็เปลี่ยนมาเป็นการใช้การรบเยี่ยงกองโจร ทหารฝีมือดีนั้น ต่อมาได้ร่ำเรียนพิไชยสงครามกับขุนเมืองผู้เป็นอาจารย์ของพระองค์ดำ มีจำนวน 6 คน คือ มิ่ง เที่ยง บุญ เพิ่ม ขวัญ ขาม และมีขุนแสนกล้าอีกผู้หนึ่ง รวมเป็นทหารเอกคู่พระทัย 7 คน ส่วนทางหงสาวดี ก็ไม่ไว้ใจกรุงศรีอยุธยา เพราะรู้กิตติศัพท์ของพระนเรศวรเป็นอย่างดีว่ามีความกล้าหาญเพียงใด จึงหาทางทำศึกกับกรุงศรีอยุธยา แต่เมื่อยกกองทัพมาก็พ่ายกรุงศรีอยุธยา ทุกครั้ง ทำให้เมืองต่าง ๆ ที่เป็นเมืองประเทศราช ต่างคิดแข็งเมืองกัน มังกะยอชะวาทุบตีตองชเว ผู้เป็นมเหสี ทำให้พระเจ้าอังวะ พระราชบิดาของตองชเวไม่พอใจ แข็งเมืองเป็นขบถ จันทรากับสุวรรณฉัตรสายเครือของอังวะจึงถูกเนรเทศออกไปจากหงสาวดี เมื่อทั้งสองกลับมายังอังวะ พร้อมกับนินตยาวดีมเหสีของสุวรรณฉัตรด้วย นันทบุเรงก็ใช้ให้เมืองประเทศราชทั้งหลายยกทัพไปตีอังวะ พระนเรศวรแกล้งเดินทัพช้าๆ เพื่อรอให้พระเจ้านันทบุเรงทำศึกกับพระเจ้าอังวะถึงแพ้ชนะก่อน มังกะยอชะวารักษาเมืองอยู่ ออกอุบายให้พระยาเกียรติกับพระยาราม ขุนนางมอญมาคอยรับ พระนเรศวรที่เมืองแครงพร้อมทั้งไพล่พล และมีกลศึกว่าทั้งสองคน ลวงพระนเรศวรไปฆ่าให้จงได้ ทั้งสองเคยสนิทกับพระนเรศวรมาก่อน จึงนำความไปเล่าให้พระมหาเถรคันฉ่องฟัง พระมหาเถรคันฉ่องมาเฝ้าพระนเรศวรแล้วทูลให้ทรงทราบ พระนเรศวรโกรธและประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง ไม่ยอมขึ้นต่อหงสาวดีอีกต่อไป พระเจ้านันทบุเรง ส่งกองทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาอยู่หลายครั้ง แต่ก็พ่ายกลับไปทุกครั้ง การพ่ายแพ้ของหงสาวดี ทำให้เมืองประเทศราชทั้งหลายต่างแข็งเมืองขึ้น ภายในเมืองหงสาวดีก็เกิดความวุ่นวาย เนื่องด้วยเจ้ายะไข่ได้ส่งธิดามาถวายพระเจ้านันทบุเรง ทำให้ศุภยา พระอัครมเหสีไม่พอใจมาก รวมถึงเจ้านางสุวนันทาด้วย ยะไข่ได้ใช้ธิดาของตนเป็นสื่อดึงฟิลิป เดอบริโต พ่อค้าชาวโปรตุเกสเข้ามาค้าขายในเมืองหงสาวดี และมีอิทธิพลทางการเมืองต่อหงสาวดีเป็นอย่างมาก ขณะที่พระนเรศวรได้รู้จักกับเซปาสเตียน ฝรั่งชาวสเปน ที่เข้ามาสอนการใช้ปืนไฟให้พระนเรศวร พระมหาธรรมราชาสวรรคต พระนเรศวรขึ้นครองราชย์ แล้วทรงแต่งตั้งพระเอกาทศรถเป็นพระอุปราช มุขมนตรีและเจ้านายชั้นสูงในสมัยพระมหาธรรมราชาได้ถวายหญิงงามเชื้อสาย ราชวงศ์สุพรรณภูมิพระองค์หนึ่ง เป็นพระชายานามว่า “มณีรัตนา” เจ้านางมณีจันทร์น้อยพระทัย แต่ไม่แสดงออก ส่วนราชวงศ์สุโขทัย โดยท้าวศรีจุฬาลักษณ์ ได้ถวายนางที่มีเชื้อสายราชวงศ์สุโขทัยเป็นพระสนมเอก นามว่า “เจ้าแก้วปทุม” ทั้งนี้ท้าวศรีจุฬาลักษณ์คิดแค้นที่มิได้รับความรักจากพระมหาธรรมราชา จึงส่งหลานสาวมาแก้แค้นแทนตนทำให้กรุงศรีอยุธยาวุ่นวาย ส่วนขุนเมือง ได้รับแต่งตั้งเป็น “เจ้าพระยาสุรสีห์” ครองเมืองพิษณุโลกแทนพระนเรศวร

Placeholder

ใกล้ไกลหัวใจเดียวกัน (2542/1999) อมตะ จตุตถี (จุลจักรจักรพงษ์)ลูกชายของพลเอกชาติบดินทร์ (ทูน หิรัญทรัพย์)เอกอัครราชทูตไทยประจำฮังการี กับ คุณหญิงรุ่งรัตนา (ชไมพร จตุรภุช)เดินทางกลับจากเวียนนา ที่ไปศึกษาอยู่กลับมาพักอยู่กับครอบครัวที่กรุงบูดาเปสระหว่างปิดภาคเรียน และที่นี่ อมตะได้พบกับ เชิญตะวัน ฉัพรังสี(อิศริยา สายสนั่น)นิสิตสาวจากคณะสถาปตยกรรมซึ่งเดินทางมาค้นคว้าข้อมูลเพื่อทำวิทยานิพนธ์พร้อมกับเพื่อนคือ ลูกน้ำ (ศรัยฉัตร กุญชร ณ อยุธยา)อมตะได้พบกับเชิญตะวันครั้งแรกในตอนที่เขามาหาเพื่อนนักดนตรี คือ ไมเคิล (แดนนี่ รามณรงค์) กับโจเซฟส่วนเชิญตะวันกับเพื่อนนั้นมาหายายเดสซี่แม่ของ มาธิลดาซึ่งอาศัยอยู่ในละแวกนั้น อมตะเห็นเชิญตะวันครั้งแรกก็สนใจอยากรู้จักแต่ไม่ทันได้ทำความรู้จัก เชิญตะวันก็ไปเสียก่อน แล้วอมตะก็มีเรื่องกับ โธมัสที่มาลวนลามมาธิลดา ทั้งสองต่อสู้กัน อมตะจึงถูกตำรวจจับ ท่านทูตกับคุณหญิงและพี่สาวของอมตะ คือรุ่งอรุณ (พิชชาภรณ์ รัตนานนท์)ไม่พอใจมากที่อมตะไปก่อเรื่อง จึงต่อว่าอมตะตอนที่ไปรับตัวกลับมา แต่อมตะกลับภูมิใจที่ตนเองกับไมเคิลได้ช่วยมาธิลดาไว้ คุณหญิงรุ่งรัตนานั้นได้หมั้นอมตะไว้กับช่อฟ้า(สันธยา จันทเขต)ลูกสาว คุณหญิงเดือนฉาย(อภิรดี ภวภูตานนท์)ตั้งแต่ั้งสองยังเด็ก เมื่อคุณ-หญิงเดือนฉายกับช่อฟ้าจะเดินทางจากปารีส มาเยี่ยมครอบครัวของท่านทูต ที่บูดาเปส อมตะไม่สนใจไปรับที่สนามบิน หนีไปเดินเที่ยวเตร็ดเตร่แทน และได้พบกับเชิญตะวันอีกครั้งในร้านขายของที่ระลึก เชิญตะวันรีบร้อนออกจากร้านทำหนังสือหล่นไว้ อมตะเก็บหนังสือได้และจะตามไปแต่ไมเคิลตามมาขัดจังหวะเสียก่อน เชิญตะวันเมื่อรู้ตัวว่าทำหนังสือหล่นไปก็เสียดายมากเพราะเป็นหนังสือที่จรัลคนรักของตนส่งมาให้จากเมืองไทย ติดตามต่อได้ใน ใกล้ไกลหัวใจเดียวกัน

ซีอุย (2527/1984) ปีพุทธศักราช 2489 หนุ่มชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ชื่อ ลี่ฮุย หรือ ซีอุย ดั้นด้นข้ามน้ำข้ามทะเลมาแผ่นดินไทยเพื่อแสวงหาชีวิตที่ดีกว่า พร้อมมีดเล่มเดียวที่มารดามอบให้เป็นสมบัติติดตัว แต่เมื่อมาถึงทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เขาโดนรังแกถูกเหยียดหยามจากคนรอบข้าง เขาพยายามดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อความอยู่รอด จนเขาเริ่มล้มป่วยเขาเริ่มคิดถึงแม่ เวลาเดียวกันสัญชาติญาณความอยู่รอดก็เริ่มบีบบังคับเขามากยิ่งขึ้น เขาเริ่มฆ่าเด็ก ควักหัวใจ และตับออกมาเพราะความเชื่อว่าตับและหัวใจเด็กจะทำให้เขารู้สึกแข็งแรงขึ้น และเมื่อใดที่เขารู้สึกอ่อนแอเขาจะฆ่าและฆ่าอีก เพื่อให้ตนเองพ้นจากความอ่อนแออีกครั้ง เมื่อเหตุการณ์ดำเนินมาถึงทางตันเขาถูกจับได้และยอมรับสารภาพในการกระทำที่เขาทำ เขาถูกตัดสินประหารชีวิต...... สังคมเริ่มกลับมาสู่ความปลอดภัยอีกครั้ง แต่ทำไมยังคงมีเด็กหายและถูกฆ่าอีก หรือซีอุยที่ตายไปนั้นเป็น.... ซีอุย แซ่อึ้ง มนุษย์กินคนตัวจริง

ไวรัสวัยเลิฟ ชุด หอซ่อนรัก 2564

เรื่องย่อ : ไวรัสวัยเลิฟ ชุด หอซ่อนรัก (2564/2021) คงไม่มีใครอยากโดนกักตัว 14 วัน เพราะโควิด 19 ในหอพักปิดตาย แต่ดันเป็นโชคดีของ คิมหันต์ หรือ คิม (ปีเตอร์ ชลพัชร) หนุ่มน้อยปี 1 คณะบริหารธุรกิจ ที่จะได้ใกล้ชิดถึง 14 วันกับคนที่เขาแอบปลื้มมานาน นั่นก็คือ ถาปัตย์ หรือ ถา (บอส ธวัชนินทร์) หนุ่มคณะสถาปัตย์หล่อเข้มเน็ตไอดอล โดยคิมหารู้ไม่ว่าหอพักแห่งนี้เก็บงำความลับอันดำมืดของโศกนาฏกรรมความรักเมื่อ 10 ปีก่อน ที่ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นหอพักต้องสาปที่เฮี้ยนกว่าใคร นอกจากคิมและถาก็ยังมีผู้ที่จะมาร่วมประสบการณ์ความสยองครั้งนี้ด้วยนั่นก็คือ เจ๊เมษ (ทับทิม ภรัณยา) บิวตี้บล็อกเกอร์สายฮามีคนติดตามเหยียบล้าน ซึ่งเป็นรุ่นพี่สายรหัสของคิม พ่วงด้วยทีมงานอีก 2 คน นั่นก็คือ โจ๊กเกอร์ (เคน ฮาเซกาวา) และ เป่าเปา (แอล ณัฏฐ์พัชร์) ทั้งสามซวยเพราะความโลภโหยหายอดไลก์ เลยมัวแต่ไลฟ์สตรีมเรียกเรตติ้งจากเหตุการณ์อพยพครั้งใหญ่ของชาวหอจนหนีออกไปไม่ทัน ทำให้ต้องติดแหง็กอยู่ที่นี่ และก็มารู้ทีหลังว่าจริง ๆ แล้ว คิม น้องรหัส จะหนีไปตั้งแต่แรกก็ได้แต่ไม่ทำ เพราะจงใจที่จะโดนกักตัวเพื่อที่จะได้ใกล้ชิดนายถาปัตย์ ที่เขามัวแต่ไลฟ์คืนก่อนวันเกิดเหตุยันสว่าง ทำให้เผลอหลับยาว มารู้ตัวอีกทีก็พบว่าหอร้างไปแล้ว เจ๊เมษจอมวางแผนอยากช่วยน้องรหัสให้ได้ใกล้ชิดกับคนที่แอบปลื้ม โดยได้รับความร่วมมือจากโจ๊กเกอร์และเป่าเปา ในการสร้างสถานการณ์หลอกผี เพื่อให้คนทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกัน โดยอิงจากตำนานโศกนาฏกรรมรักสามเส้าของ วิน (เน็ต ธนัฏชา) วิศ (ซัน ชีวานนท์) และ แก้ว (ดารัณ เศรษฐิณิช) รุ่นพี่ที่เคยอยู่หอนี้เมื่อ 10 ปีก่อน ที่ทำให้หอพักแห่งนี้ต้องกลายเป็นตำนานเล่าขานจนถึงทุกวันนี้ ในขณะที่แก๊งเจ๊เมษกำลังปฏิบัติภารกิจพิชิตใจถา โดยการสร้างสถานการณ์หลอกผีเพื่อให้ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกัน ผีพี่วินก็ดันปรากฏตัวขึ้นมาจริง ๆ เล่นเอาชาวแก๊งหวีดลั่นหอจนจับไข้หัวโกร๋น แต่เหตุการณ์นี้กลับทำให้ถากับคิมสนิทกันมากยิ่งขึ้น แต่ยังมีความลับและเหตุผลที่ถาเข้ามาอยู่ในหอพักนี้ที่ทุกคนไม่รู้มาก่อน ในตำนานโศกนาฏกรรมรักสามเส้าที่เล่าลือกันจนกลายเป็นปริศนาของวิญญาณเฮี้ยน สุดท้ายพวกเขาร่วมมือกันค้นหาความจริง ไขความลับปริศนา เพื่อปลดปล่อยวิญญาณไปสู่สุคติ และปลดล็อกปริศนาที่ต้องการหาคำตอบ จนกลายเป็นความผูกพัน มิตรภาพของกลุ่มคนติดหอ ให้เห็นว่าในสถานการณ์เลวร้ายยังมีเรื่องราวและมิตรภาพดี ๆ ซ่อนอยู่เสมอ ติดตามชมซีรีส์ ไวรัส วัยเลิฟ ชุด หอซ่อนรัก ได้ทุกวันอาทิตย์ เวลา 13.30 น. ทางช่อง 7 HD กด 35

วงเวียนหัวใจ 2563

เรื่องย่อ : วงเวียนหัวใจ (2564/2021) หัวใจของเธอ…เหมือนวงเวียนที่ไร้จุดศูนย์กลาง หมุนกระท่อนกระแท่น…วาดวงกลมไม่เต็มวง ความรักของเขา…ทำให้วงเวียนหัวใจของเธอมีจุดศูนย์กลางมั่นคง วงกลมที่วาดขึ้นจากใจสองใจจึงเป็นวงกลมเต็มวง เป็นรักแท้…ที่เติมเต็มหัวใจทั้งสองใจ…. ทันทีที่ โบว์ (นาว ทิสานาฏ) สาวสวยนักเรียนนอก เดินทางถึงไทย เธอก็ได้รับข่าวร้ายว่า วราพงษ์ (ไต้ฝุ่น ตากเพชร) แฟนหนุ่มที่รักกันมายาวนาน ตัดสินใจแต่งงานกับ วิธนี (พลอย รัญดภา) น้องสาวของ ทศ (พอร์ช ศรัณย์) มหาเศรษฐีเจ้าของไร่องุ่นไปเสียแล้ว โบว์พกพาหัวใจที่บอบช้ำไปนั่งปล่อยอารมณ์คนเดียวในผับแห่งหนึ่ง และถูกมิจฉาชีพในคราบหนุ่มนักธุรกิจแอบใส่ยาในเครื่องดื่ม เพื่อล่อลวงเธอไปทำมิดีมิร้าย ระหว่างที่โบว์ครองสติไม่อยู่ กำลังจะถูกพาออกไปจากผับ ทศมาเจอ และเข้าไปช่วยเหลือได้ทันเวลา แต่โบว์มึนยาจนพูดจาไม่รู้เรื่อง ทำให้ทศต้องเปิดห้องพักในโรงแรมให้หญิงสาวนอนพักชั่วคราว ฤทธิ์ยาทำให้โบว์ร้องห่มร้องไห้คร่ำครวญถึงคนรักที่ทอดทิ้งไป แถมยังอาละวาดใส่ทศสารพัด จนชายหนุ่มต้องคอยจัดการให้หญิงสาวหมดฤทธิ์นอนหลับไปได้ในที่สุด ท่ามกลางค่ำคืนอันแสนสั้น ความรักถูกจุดขึ้นในหัวใจของทศอย่างรวดเร็ว เขารู้ตัวว่าได้ตกกหลุมรักผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้เสียแล้ว โบว์รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เสื้อเชิ้ตของทศที่เธอสวมอยู่ ทำให้โบว์หลงเข้าใจผิดว่าได้เสียตัวให้กับทศ ยังไม่ทันที่ทศจะได้อธิบายอะไร โบว์ก็รีบวิ่งหนีออกจากโรงแรมด้วยความอับอาย ไม่กล้าแม้แต่จะเล่าเรื่องนี้ให้กับ แบม (นินิว กัญญารัตน์) พี่สาวที่เธอไว้วางใจฟัง หญิงสาวได้แต่เก็บความทุกข์นี้ไว้คนเดียว วราพงษ์ เป็นผู้ชายอ่อนแอ และโลเลไม่แน่นอน เมื่อรู้ข่าวว่าโบว์กลับมาเมืองไทย จึงพยายามนัดเจอ ทันทีที่ได้พบกันโบว์ขอเลิกกับวราพงษ์ แต่ความรักที่ยาวนานทำให้เธอหวั่นไหวไปกับคำแก้ตัวของคนรัก เขายืนยันว่ายังรักเธอ แต่เพราะโบว์ไปเรียนต่อต่างประเทศความห่างไกลทำให้เขาเผลอไผลไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับวิธนีจนท้อง ทำให้เขาต้องรับผิดชอบโดยการแต่งงาน และขอร้องให้โบว์รอเขาก่อน ในวินาทีที่โบว์แข็งใจจะบอกเลิกให้เด็ดขาด วิธนีสะกดรอยตามมาเจอและด่าทอ ตบหน้าโบว์ พูดจาเสียดแทงใจว่าโบว์เป็นได้แค่เมียน้อย แย่งสามีชาวบ้านอย่างไม่มียางอาย อารมณ์โกรธทำให้โบว์อยากเอาชนะ จึงสวนกลับว่าวิธนีต่างหากคือเมียน้อยตัวจริง เพราะมาแย่งวราพงษ์ไป วิธนีโรคหัวใจกำเริบจนวราพงษ์และโบว์ต้องรีบพาส่งโรงพยาบาล ทศ รีบตามมาดูน้องสาว และได้เห็นภาพวราพงษ์จับมือโบว์อย่างสนิทสนม ความผิดหวังแล่นจู่โจมหัวใจของทศ ผู้หญิงคนแรกในชีวิตที่เขาเฝ้าคิดถึง คือโบว์ผู้หญิงที่กำลังจะเข้ามาทำลายครอบครัวของน้องสาวคนเดียวที่เขารักมากที่สุดในชีวิต คำบอกเล่าของวิธนีหลังออกจากโรงพยาบาล ยิ่งยืนยันแน่ชัดว่าโบว์คิดจะแย่งวราพงษ์คืนไป วิธนีโทรศัพท์มาหาโบว์ แต่ คุณหญิงบุษบา (ขวัญฤดี กลมกล่อม) แม่ของโบว์เป็นคนรับสาย วิธนีด่าคุณหญิงให้อบรมสั่งสอนลูกอย่าให้มาแย่งสามีชาวบ้าน จนคุณหญิงตกใจเป็นลม นายพลเริงศักดิ์ (ตฤณ เศรษฐโชค) พ่อของโบว์โกรธมาก คิดว่าลูกสาวจะไปแย่งสามีคนอื่นจริง จึงต่อว่าโบว์ด้วยถ้อยคำรุนแรง โบว์น้อยใจพ่อ ความเป็นคนนิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจจึงประชดประชันว่าตนเองยังรักวราพงษ์ และจะไม่เลิกกับเขาเด็ดขาด ความอดทนของนายพลขาดผึงจึงหลุดปากตัดขาดกับโบว์ หญิงสาวหอบเสื้อผ้าออกจากบ้านโดยไม่ฟังคำทัดทานเตือนสติของผู้เป็นพี่สาว ที่ไม่อยากให้น้องสาวทำผิดศีลธรรม ทำลายครอบครัวคนอื่น คอนโดหรูใจกลางเมือง กลายเป็นที่หลบซ่อนตัวของโบว์ เธอตั้งใจจะหลบหน้าวราพงษ์แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น วราพงษ์บุกไปหาโบว์ถึงคอนโด ร้องไห้เสียใจที่ไม่สามารถตัดใจจากโบว์ได้ ความผูกพันที่เคยมีต่อกันทำให้หญิงสาวใจอ่อน ทศสืบหาตัวโบว์จนตามมาเจอที่คอนโดแห่งนี้ เขาเห็นเธอเดินลงมาส่งวราพงษ์ เข้าใจผิดว่าสองคนอยู่ด้วยกันแล้ว ทศคิดว่าเขาควรทำอะไรสักอย่างเพื่อแยกโบว์และวราพงษ์ออกจากกัน เพื่อช่วยน้องสาวและหลานที่กำลังจะเกิดขึ้นมาให้มีครอบครัวที่สมบูรณ์ และที่สำคัญที่สุดเขาไม่อาจปฏิเสธหัวใจตัวเองได้เลยว่า เขาหวงแหนโบว์ และไม่อาจทนเห็นผู้หญิงคนนี้ตกเป็นเมียน้อยของน้องเขยตัวเองได้ ชัย (วิน ชวินทร์วุฒิ) เพื่อนสนิทของทศ คุ้นเคยกับครอบครัวของโบว์เป็นอย่างดี เป็นผู้ที่ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับครอบครัวของโบว์แก่ทศ ทศจึงตัดสินใจบุกไปพบนายพลเริงศักดิ์บิดาของโบว์ในทันที พร้อมรับสารภาพอย่างลูกผู้ชายว่า ตนเองได้รู้จักกับโบว์โดยบังเอิญ ความมึนเมาด้วยกันทั้งคู่ทำให้เกิดได้เสียกันในคืนนั้น เขาจึงมาเพื่อแสดงความรับผิดชอบด้วยการขอแต่งงานกับลูกสาวคนเล็กของท่านนายพลฯ อย่างลูกผู้ชาย นายพลเริงศักดิ์ชกหน้าทศด้วยความแค้นเคือง และจะแจ้งความดำเนินคดีกับทศให้ถึงที่สุด แต่ลูกสาวคนโต รีบห้ามปรามไว้เพราะเกรงว่าน้องสาวจะเสียชื่อเสียง ทศไม่ลดละความพยายาม ไปขอร้องให้ คุณเรือง (จิ๊บ วสุ) พ่อของชัยซึ่งรู้จักกันดีกับท่านนายพลฯ ไปทำหน้าที่สู่ขอโบว์ท่านนายพลฯ และคุณหญิงฯ กำลังร้อนใจเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างโบว์กับวราพงษ์ กลัวว่าลูกสาวจะแอบอยู่กินกับวราพงษ์ในฐานะภรรยาน้อย ขณะกำลังกังวลและหมดหนทางอยู่นั้น คุณเรืองก็มาสู่ขอโบว์ให้ทศและหว่านล้อมให้ท่านนายพลฯ คิดได้ว่า ไหน ๆ ข้าวสารก็กลายเป็นข้าวสุกแล้ว การให้โบว์แต่งงานกับทศ ย่อมดีกว่าปล่อยลูกสาวไปเป็นเมียน้อยชาวบ้าน แล้วต้องระทมทุกข์ชั่วชีวิต อีกทั้งนายพลรู้จากคุณเรืองว่า ทศเป็นลูกชายคนเดียวของเพื่อนเก่าแก่ที่เคยสนิทกันมากของท่านนายพลฯ คือ คุณสุทน และ ดาราศรี เจ้าของธุรกิจพันล้าน ทั้งเหมืองแร่ทางใต้และไร่องุ่นใหญ่โต แต่พ่อแม่ของทศเสียตั้งแต่ทศยังเด็ก ฐานะของทศก็เพียบพร้อม ที่สำคัญที่สุดคือยังไม่มีพันธะ ทศย่อมมีคุณสมบัติเหนือกว่านายวราพงษ์ แต่ปัญหาก็คือโบว์ ไม่ยอมรับว่ามีสัมพันธ์กับทศ และดื้อหัวชนฝาไม่ยอมแต่งงานกับทศเด็ดขาด ! แต่ด้วยความรักที่มีต่อลูก ท่านนายพลฯ จึงตัดสินใจเลือกทางที่จะให้โบว์ไปอยู่กับทศที่ไร่องุ่น แผนการจับคู่จึงเริ่มขึ้น... แบมทำตามแผนของบิดา ด้วยการชวนโบว์ไปดูที่ดินในต่างจังหวัด โดยอ้างว่ามารดาอยากซื้อที่ตรงนี้ไว้เพราะเป็นแปลงที่สวยมาก โบว์ยอมไปเป็นเพื่อน แต่เมื่อเดินทางไปถึงกลับกลายเป็นไร่องุ่นของทศ บุศยาภรณ์ทิ้งน้องไว้ที่นี่หนีกลับกรุงเทพฯ ด้วยความเสียใจที่หลอกน้องมา โบว์โกรธมาก และเสียใจเมื่อรู้ว่าพ่อแม่และพี่สาวรู้เห็นกับทศ จึงแผลงฤทธิ์ด้วยการอาละวาดขว้างปาข้าวของในกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอจนเกลื่อนไปทั่วห้อง แต่ทศไม่ว่าอะไร กลับช่วยจัดเสื้อผ้าใส่ตู้ให้อย่างดี จนบุปผชาติแปลกใจ แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ ระหว่างอยู่ที่ไร่องุ่น ทศต้องอดทนกับความเอาแต่ใจและหยิ่งผยองของโบว์ ที่คอยแกล้งให้เขาหัวปั่นอยู่ตลอดเวลา แถมยังต้องคอยระวังไม่ให้เธอหลบหนีออกจากไร่ไปได้ และยื่นคำขู่ว่าถ้าเธอคิดหลบหนี หรือพูดเรื่องเขาฉุดเธอกับคนอื่น ๆ เขาจะนำเรื่องที่เธอเมามายจนเสียตัวให้เขาประจานไปให้ทั่ว แม้โบว์จะแสดงท่าทีเกลียดชังเขาหนักข้อขึ้นทุกที แต่ชายหนุ่มกลับยิ่งรักเธอมากขึ้น และคอยหึงหวงเมื่อคิดว่าโบว์แอบคิดถึงวราพงษ์คนรักเก่า ระหว่างนี้ นายพลเริงศักดิ์ได้รู้ความจริงว่า ภรรยาของวราพงษ์ก็คือน้องสาวของทศ ท่านนายพลฯ โกรธจัดที่โดนทศปกปิดความจริง จึงเรียกตัวทศมาพบถึงกรุงเทพฯ ทศยอมรับผิดโดยให้เหตุผลว่าถ้าทุกคนรู้ว่าวิธนีคือน้องสาวเขา ท่านนายพลฯ คงไม่ยอมยกโบว์ให้อย่างแน่นอน แต่เขายืนยันหนักแน่นว่ารักโบว์จริง ท่านนายพลฯ จึงยกโทษให้ เพราะเชื่อสายตาตัวเองว่าทศเป็นลูกผู้ชายพอ การปรากฏตัวของ ใบตอง (ฟิล์ม ฉัตรดาว) ลูกสาวของ ประสิทธิ์ (ขจรศักดิ์ รัตนนิสสัย) นักธุรกิจค้าไวน์ในท้องถิ่น ทำให้โบว์เกิดความคิดที่จะเป็นแม่สื่อแม่ชักให้ใบตองกับทศ เพราะเธอสังเกตเห็นว่าใบตองชื่นชอบทศ และแวะมาเยี่ยมเยือนทศอยู่เสมอ ใบตองแอบเกลียดชังโบว์เมื่อรู้จากปากทศว่า โบว์เป็นคนที่ทศจะแต่งงานในอีกไม่ช้า โบว์เองก็หลงไว้ใจใบตอง จนบางครั้งเผลอระบายความในใจเรื่องคนรักเก่า และสารภาพว่าเธอไม่ได้รักทศแม้แต่น้อย แต่ก็ไม่กล้าเล่าว่าโดนทศฉุดมา ความเป็นหญิงที่สุภาพเรียบร้อย พูดน้อย และจิตใจดี ทำให้โบว์และทศดูไม่ออกเลยว่า ใบตองซุกซ่อนความร้ายกาจไว้ภายใน เธอวางแผนกลั่นแกล้งโบว์หลายอย่างเพื่อให้ทศเข้าใจโบว์ผิด จนเกิดความระหองระแหง ปั้นปึ่งใส่กันหลายครั้ง แต่ด้วยความรักที่ทศมีต่อโบว์ เขาก็ต้องเป็นฝ่ายงอนง้อเธอทุกคราวไป ความดีของทศทำให้โบว์เริ่มหวั่นไหวและรู้สึกหัวใจแปลบ ๆ เวลาที่เห็นทศแสดงความสนิทสนมกับใบตอง เพื่อประชดประชันที่เธอพยายามผลักไสเขาให้คนอื่น ส่วนทศเองก็ไม่อาจเสแสร้งฝืนใจรักใบตองได้ จึงปฏิเสธใบตองอย่างละมุนละม่อมว่าเขารักใบตองแบบน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น ใบตองเสียใจอย่างรุนแรง ด้วยความรักที่มีต่อทศ เธอจึงตัดสินใจจ้าง ไอ้ต้า (เต้ นันทศัย) คนงานในไร่ ฉุดโบว์ไปข่มขืน แต่ทศตามมาช่วยได้ทันเวลา ทศเฝ้าดูแลโบว์ซึ่งล้มป่วยเพราะพิษไข้ ความห่วงใยของทศทลายกำแพงแห่งความเกลียดชังของหญิงสาวจนพังทลาย โบว์เริ่มรู้ตัวว่า เธอลืมวราพงษ์หมดแล้วเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกับทศ โบว์เริ่มมั่นใจแล้วว่า เธอรักผู้ชายคนนี้ ในวันที่โบว์ตัดสินใจจะตอบตกลงแต่งงานกับทศ และเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน ใบตองสืบรู้ว่าคนรักเก่าของโบว์ก็คือสามีของน้องสาวทศ จึงส่งข่าวให้น้องสาวทศรู้ ว่าทศพาผู้หญิงแปลกหน้ามาซุกซ่อนไว้ที่ไร่ ถึงขนาดจะแต่งงานด้วยกัน วิธนีซึ่งหวงพี่ชายมาก รีบสั่งให้วราพงษ์พาเธอเดินทางมาที่ไร่ในทันที การปรากฏตัวของวิธนี และวราพงษ์ เหมือนสายฟ้าฟาดกลางใจโบว์ เธอได้ยินการทะเลาะกันระหว่างวิธนีกับทศ วิธนีต่อว่าพี่ชายที่มาวุ่นวายกับคนที่เธอเกลียด แต่ทศกลัวน้องสาวโรคหัวใจกำเริบจึงพยายามอธิบายให้น้องสบายใจว่าที่ไปยุ่งเกี่ยวกับโบว์ เพราะต้องการกีดกันผู้หญิงคนนี้ออกจากวราพงษ์ โบว์เสียใจหนักวิ่งร้องไห้หนีออกจากไร่ วราพงษ์ตามไปทัน รีบอาสาพาโบว์กลับกรุงเทพฯ วิธนีแทบคลุ้มคลั่งที่รู้ว่าสามีไปกับโบว์ โบว์ขอให้วราพงษ์เลิกยุ่งเกี่ยวกับเธอและกลับไปหาครอบครัว โดยไม่กล้าบอกว่าเธอรักทศ แต่วราพงษ์ก็ยังคงเห็นแก่ตัว ไม่ยอมเลิกยุ่งกับโบว์ ใช้ลูกตื้อว่าถึงไม่ได้อยู่ด้วยกัน ก็ขอได้พบได้คุยกันบ้าง โบว์ใจอ่อนสงสาร ยินดีจะคบกันแค่เพื่อน แบมรู้ข่าวว่าน้องสาวหนีกลับมากรุงเทพฯ แล้ว รีบพาแม่ไปหา ความสงสารแม่ทำให้หญิงสาวโกรธแม่ไม่ลงเรื่องทศ แต่ก็ไม่อยากกลับบ้านเพราะไม่พอใจที่พ่อร่วมมือกับทศ และมองความรักความปรารถนาดีของพ่อเป็นเรื่องของการห่วงชื่อเสียงของตนเอง ท่านนายพลฯ รู้ข่าวว่าแผนล้มเหลว จึงยื่นคำขาดให้ทศต้องหาทางแต่งงานกับโบว์ให้เร็วที่สุด ทศตามงอนง้อโบว์ แต่ไม่สำเร็จ ขณะเดียวกันวราพงษ์เกิดรู้ความจริงว่า วิธนีไม่ได้ตั้งท้องจริง ที่ผ่านมาเป็นแค่คำหลอกลวงเพื่อหาทางผูกมัดเขาเท่านั้น วราพงษ์โกรธมาก ประกาศขอเลิกกับวิธนี และคิดกลับไปขอคืนดีกับโบว์ วิธนีหัวใจวายถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล วราพงษ์รีบมาแจ้งข่าวดีกับโบว์ ว่าเขาตัดสินใจจะหย่าขาดกับวิธนีแน่นอนแล้ว ขอคำมั่นจากโบว์ให้ตกลงแต่งงานกับเขา โบว์เกิดความสับสนขอเวลาคิดดูก่อน เธอตัดสินใจแอบไปดูอาการป่วยของวิธนี แต่ความจริงแล้วอยากเห็นหน้าทศมากที่สุด วิธนีพอเห็นหน้าโบว์รีบร้องห่มร้องไห้น่าสงสาร อ้อนวอนขอวราพงษ์คืน ถึงกับจะคุกเข่าขอร้องโบว์ จนต้องถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉินอีกครั้ง ทศคิดว่าโบว์มาหาเรื่องวิธนี เขาด่าทอเธออย่างเจ็บแสบ และกล่าวหาว่าเธอเป็นคนทำให้ครอบครัวของน้องสาวเขาแตกแยก แต่แล้วคำตอบของโบว์ทำให้ทศถึงกับหัวใจหยุดเต้น !! โบว์ประกาศตกลงแต่งงานกับทศ เธอปรารถนาให้วราพงษ์ตัดใจจากเธอและกลับไปทำหน้าที่ดูแลภรรยาที่กำลังเจ็บหนัก โบว์รู้สึกสุขใจเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้รู้จักคำว่าเสียสละทำเพื่อคนอื่น เธอกลับบ้านไปกราบขอโทษพ่อ ความสงบสุขกลับคืนสู่ครอบครัวของโบว์อีกครั้ง ส่วนวราพงษ์เสียใจอย่างหนักเมื่อรู้ว่าโบว์จะแต่งงานกับทศ แต่ข่าวการป่วยหนักของภรรยาก็ทำให้เขาไม่อาจทอดทิ้งไปอย่างคนแล้งน้ำใจได้ หลังการแต่งงาน ทศและโบว์พาวิธนีมาพักรักษาตัวฟื้นฟูสุขภาพที่ไร่องุ่น วราพงษ์ต้องรับผิดชอบดูแลงานของทศทางกรุงเทพฯ แต่ก็ยังหมั่นเดินทางไปคอยดูแลภรรยาบ่อยครั้ง ความโลเลของวราพงษ์ทำให้เขาอดใจไม่ไหวพยายามเข้าไปพัวพันกับโบว์ จนทำให้ทศเกิดอาการหึงหวงโบว์ เพราะโบว์แม้จะยอมแต่งงานด้วย แต่ไม่ยอมนอนเตียงเดียวกับทศ เพราะยังคาใจคิดว่าทศแต่งงานเพราะช่วยน้องสาว ส่วนทศก็น้อยใจที่โบว์ยืนยันตลอดเวลาว่าแต่งงานกับเขาเพราะไม่อยากถูกคนประณามว่าเป็นฆาตกรทำให้วิธนีหัวใจวายตาย ชีวิตคู่ของคนทั้งสองเกิดรอยร้าวมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อใบตองก้าวเข้ามาเป็นตัวยุแยง โบว์พยายามเอาใจใส่วิธนีด้วยความห่วงใยเหมือนอยากจะชดเชยความผิดที่เคยทำร้ายหัวใจวิธนีโดยไม่ตั้งใจ แรกทีเดียววิธนีเริ่มใจอ่อนเพราะเริ่มสังเกตเห็นความรักที่พี่ชายมีต่อโบว์ แต่เมื่อโดนใบตองยุแหย่ใส่ร้ายโบว์ว่าพยายามยั่วยวนวราพงษ์ วิธนีหลงเชื่อจึงแกล้งสำออยให้พี่ชายเห็นว่าพี่สะใภ้เกลียดชังตน และคอยกลั่นแกล้งตนตลอดเวลา อีกทั้งคอยเป่าหูทศว่าโบว์ยังรักวราพงษ์อยู่ อ้อนวอนให้พี่ชายหย่ากับโบว์ เพราะเธออยากให้ใบตองมาเป็นพี่สะใภ้มากกว่า วราพงษ์เบื่อหน่ายวิธนีที่อารมณ์ฉุนเฉียวและหาเรื่องหึงหวงตลอดเวลา จึงระเบิดอารมณ์ทะเลาะกับวิธนีรุนแรง สุดท้ายวิธนีโกรธจัดจนเป็นลมต้องเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ทุกคนได้รับข่าวดี ว่าวิธนีตั้งครรภ์ ทศจึงขอร้องให้วราพงษ์อดทนเพื่อลูกที่กำลังจะเกิดมา และที่สำคัญที่สุด โบว์ยอมเปิดใจสารภาพกับวราพงษ์ว่าเธอมั่นใจแล้วว่ารักทศ และไม่คิดรักใครได้อีก ขอร้องให้วราพงษ์เริ่มต้นชีวิตใหม่สร้างครอบครัวที่มีความสุข เหมือนอย่างที่เธอตั้งใจเช่นกัน วิธนีแอบได้ยินโดยบังเอิญจึงเลิกคิดแค้นต่อโบว์ และนำไปสู่การตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยว ความรักที่มีต่อลูกเปลี่ยนหัวใจที่รุ่มร้อนของวิธนีให้เกิดสติ วิธนีขอหย่ากับวราพงษ์ด้วยเหตุผลว่าเธอไม่อยากให้ลูกเกิดมาเห็นพ่อแม่ไม่รักกัน วราพงษ์ไม่ได้รักเธอ อยู่ร่วมกันต่อไปจะส่งผลเสียต่อลูกในอนาคต ทศและโบว์พยายามทัดทานแต่ไม่เป็นผล ทศจึงขอให้แยกกันอยู่สักระยะ ถ้าวิธนีสามารถอยู่ได้ จึงค่อยหย่าขาดจากกัน แรกทีเดียววราพงษ์เต็มใจแยกทาง แต่หลังจากเขาไม่เจอหน้าวิธนีและเป็นห่วงลูก ทำให้รู้สึกขาดอะไรบางอย่างในชีวิตไป สุดท้ายวรพงษ์ก็ได้คำตอบให้ตัวเอง ว่าวิธนีคือความผูกพันที่เขาไม่อาจตัดขาดจากชีวิตได้ เขาจึงกลับไปงอนง้อวิธนี แต่คราวนี้วิธนีกลับใจแข็งไม่ยอมคืนดีง่าย ๆ เพราะคิดว่าวราพงษ์คิดคืนดีเพราะลูกเท่านั้น ทำให้โบว์ต้องคอยเป็นกองกำลังสนับสนุนช่วยเหลือวราพงษ์หาทางให้วิธนีใจอ่อน มีการแอบปรึกษากัน ให้กำลังใจกัน ให้ทศแอบเห็นหลายครั้ง จุดนี้เอง... ใบตองเอามายุแหย่ให้ทศเข้าใจผิดว่าโบว์กับวราพงษ์จะหวนมาคบกัน ความพยายามของวราพงษ์เป็นผลสำเร็จ เขาสารภาพรักวิธนีในวันที่เธอคลอดลูก เธอจึงยอมให้อภัย ใบตองเห็นเหตุการณ์นี้ยิ่งหวาดกลัวว่าตัวเองจะสูญเสียทศไปในไม่ช้า ใบตองจำเป็นต้องจัดการโบว์ขั้นเด็ดขาด !! ใบตองเชื่อว่า...ถ้าไม่มีวิธนี วราพงษ์จะต้องกลับไปหาโบว์อย่างแน่นอน แผนร้ายเกิดขึ้นในวันที่ทศกับวราพงษ์ต้องเข้าเมืองไปคุยธุรกิจไวน์กับพ่อของใบตอง จนเกิดเรื่องเลวร้ายไม่คาดฝัน ใบตองใส่ร้ายทั้งหมดเป็นเพราะโบว์ ครั้งนี้ทศไม่อาจให้อภัยโบว์ได้ และโบว์เองก็มีทิฐิเกินกว่าพิสูจน์ความจริงให้ทศเห็น โบว์ขอห่างจากทศ ทั้งที่ใจของทั้งคู่ยังรักกันมาก ต้องติดตามว่าวงเวียนหัวใจที่แสนสับสนของเขาและเธอจะหาจุดศูนย์กลางที่จะมาบรรจบกันได้อีกครั้งหรือไม่ ? ติดตามชมกันต่อได้ในละคร วงเวียนหัวใจ ที่ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 HD กด 35 ละคร วงเวียนหัวใจ เริ่มตอนแรกวันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม 2564

เงาบุญ 2563

เรื่องย่อ : เงาบุญ (2563/2020) หลายคืนมาแล้วที่ สิตา (พิม พิมประภา ตั้งประภาพร) ต้องตื่นขึ้นกลางดึกเพราะได้ยินเสียงโหยหวนแปลกประหลาด ฟังไม่ได้สรรพเธอติดต่อสื่อสารกับใครไม่ค่อยได้สัญญาณโทรศัพท์อับคลื่นตลอด ฟังวิทยุก็ติด ๆ ดับ ๆ โทรทัศน์ภาพล้ม จนเพื่อน ๆ ต้องเชิญให้สิตาอยู่ไกลจากเครื่องมือสื่อสารทั้งหลาย บางคนลงความเห็นว่า สิตาเป็นตัวป่วนคลื่นระดับ 5 จี

แต่สิ่งที่ทุกคนและรวมถึงสิตาไม่เห็นและไม่รู้ ก็คือ มีเปรตตนหนึ่ง พยายามขอส่วนบุญกับสิตาอยู่ด้วยความทุกข์ทรมาน เปรตตนนั้นก็คือ สุธีร์ (ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง) บิดาของสิตานั่นเอง สุธีร์ทำบาปบางอย่างเอาไว้ ตายไปชดใช้ในนรก มาแสนนานแล้ว ทว่าเวลาในนรกนั้นผ่านไปช้า ต่างกับเวลาบนโลก ทั้งที่สิตาเพิ่งจะสูญเสียพ่อไปได้เพียงเจ็ดวันเท่านั้นเอง แต่สุธีร์ลงไปใช้กรรมในนรกแล้วหลายร้อยปีนรกยังไม่พ้นโทษ ต้องกลายกลับขึ้นมาเป็นเปรต ใช้ชีวิตอยู่ตรงกลางในภพภูมิที่ซ้อนทับอยู่บนโลกใบนี้ นั่นคือสิ่งที่สิตาได้ฟังมาจากปากของ พลู (ชาญณรงค์ ขันทีท้าว) หมอดูผู้กลัวผี แต่ก็มักจะเจอผีอยู่ตลอดเวลา ยิ่งกลัวยิ่งเห็น ยิ่งหลบยิ่งจ๊ะเอ๋ตลอด

สิตา ละทิ้งการเรียนระดับปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษทันทีหลังทราบข่าวร้ายจาก ป้าสายใจ (นริสา พรหมสุภา) ญาติผู้ใหญ่ที่เธอนับถือ ว่าสุธีร์ บิดาของเธอยิงตัวตาย วรชน (อรรคพันธ์ นะมาตร์) ชายหนุ่มที่คบหาดูใจระหว่างศึกษาอยู่ที่อังกฤษรู้สึกการฆ่าตัวตายครั้งนี้มีเงื่อนงำบางอย่าง เขาเป็นห่วงสิตา จึงตัดสินใจสละทุนศึกษาต่อระดับปริญญาเอก เดินทางกลับเมืองไทยพร้อมสิตา

สิตาฝันถึงเด็กหัวจุกอยู่บ่อย ๆ ว่าจะมาขอเป็นลูกซึ่งเด็กหัวจุกตนนั้น เป็นกุมารทองแสนซ่าคิดว่าตัวเองบารมีเก่งกล้าเต็มประดา ทั้งที่ความจริง มีอิทธิฤทธิ์งู ๆ ปลาๆ ได้ผลบ้างไ ม่ได้ผลบ้างอยู่ตลอดเวลา ไอ้จุก (ภคพล ตัณฑ์พาณิชย์) เป็นกุมารทองที่พลูรับอุปการะเอาไว้โดยไม่เต็มใจ เป็นไม้เบื่อไม้เมาทั้งรักทั้งชังกับพลูอยู่ตลอดเวลา

สุธีร์เป็นข้าราชการระดับสูง ถูกสอบสวนคดีคอรัปชั่นที่ดินผืนใหญ่ในเขตปริมณฑล ว่าได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซ้ำยังถูกขุดคุ้ยเรื่องเงินตามน้ำและเงินใต้โต๊ะอีกหลายรายการ รัตติยา (อภิรดี ภวภูตานนท์) ผู้เป็นภรรยาคือตัวการที่ผลักดันให้สามีมัวหมองในชีวิตราชการ ก็เพราะเธอหลงเชื่อ พงศกร (กรเศก โคนินทร์) ชู้รักวัยหนุ่มหน้าตาดี หลังเกิดคดีแล้ว พงศกรก็ยุยงให้รัตติยายักย้ายถ่ายเทสมบัติเพราะหากถูกยึดทรัพย์แล้ว จะได้ไม่ต้องล้มละลายแต่ไม่สำเร็จ เพราะสุธีร์เซ็นพินัยกรรมให้สมบัติทั้งหมดตกเป็นของสิตา สุธีร์รู้เบื้องหลังอันโสมมของรัตติยา เกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง และตัดสินใจยิงตัวตายหนีความอับอาย รัตติยาบีบน้ำตาต่อหน้านักข่าวและโยนความผิดทั้งหมดให้แก่ความโลภของสามี ซึ่งถ้าสิตาไม่ได้ความซุกซนของกุมารทอง เธออาจจะต้องติดร่างแหต้องคดีไปกับพ่อเธอด้วย เพราะหลักฐานเท็จที่มีผู้ไม่หวังดีป้ายผิดให้เธอ ซึ่งยังความประหลาดใจให้กับอรชุดาที่หวังจะจัดการกับคนที่มีสิทธิ์ในกองมรดกของสุธีร์ให้สิ้นซาก ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับแผนการของเธอ ที่จะจัดการสิตากันแน่

สิตา ไม่สามารถติดต่อสื่อสารกับเปรตสุธีร์ได้ เพราะผลกรรมของสุธีร์นั้นใหญ่หลวงนัก พลูล่วงรู้มาว่า ถ้าสิตาสามารถทำบุญอุทิศส่วนกุศลระบุเปรตได้ครบทั้ง 12 ประเภท ผลบุญจึงจะตกถึงสุธีร์ให้พ้นจากการเป็นเปรตได้ สุธีร์นั้นเป็นเปรตที่น่าเวทนามาก ปะทังความหิวโหยอยู่ด้วยการกินน้ำลาย กินเสมหะ กินอาเจียนเป็นอาหาร เรียกว่า วันตาสะเปรต ไอ้จุก พยายามสื่อสารกับใครก็ไม่ได้ผล ไม่มีใครเห็นมันนอกจากพลูคนเดียว ไอ้จุกรู้ดีว่า ถ้าสิตาตกลงปลงใจกับวรชนเมื่อไหร่ มันจะถือโอกาส จองการเกิดเป็นคนอีกครั้ง บ่อยครั้งที่ไอ้จุกว่างจากก่อเรื่องก็จะไปหมั่นว่ายน้ำ พลูสงสัยว่าทำไมไอ้จุกตัวเปียก มันบอกซ้อมว่ายน้ำ เพราะมันต้อง ว่ายแข่งกับลูกอ๊อดตัวอื่นอีกเป็นล้านดวง ถ้าจะเข้าไปเกิดในรังไข่ของสิตา พลูได้แต่เอือมระอา ว่าไอ้จุกเลอะเทอะ ไอ้จุกหมั่นทำความดี พยายามเป็นตัวกลางระหว่างสุธีร์กับสิตาอยู่เนือง ๆ แต่ก็เหมือนจะยิ่งช่วยยิ่งสร้างปัญหา รวมไปถึง ความรักของสิตากับวรชนด้วย ที่มันอยากจะได้เป็นพ่อเป็นแม่ซะเหลือเกินฃ

ขณะที่สิตาอยู่ในงานศพของบิดา โดยมีวรชนคอยปลอบใจอยู่ข้าง ๆ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าสลด อรชุดา (อมีนา พินิจ) ก็ปรากฏตัวขึ้นในงาน พงศกรแนะนำว่าคือน้องสาวแท้ ๆ ของเขา แต่แท้ที่จริงคือภรรยาที่อยู่กินด้วยกันอย่างลับ ๆ มาระยะหนึ่งแล้ว รัตติยารับอรชุดาเข้ามาอยู่ในบ้านอย่างให้เกียรติว่าเป็นน้องสาวของสามี แต่สายใจและบรรดาคนใช้ที่ภักดีต่อสุธีร์ต่างรับรู้กันดีว่าอรชุดาคือเมียที่แท้จริงของพงศกร อรชุดาวางอำนาจบาตรใหญ่ภายในบ้านจนเป็นอิดหนาระอาใจของทุกคน ผู้ที่กล้าต่อกรกับเธอมีเพียงคนเดียวเท่านั้นคือสายใจ สายใจเป็นคนชอบทำบุญ จึงมักแวะเวียนไปทำบุญที่วัดอยู่บ่อย ๆ นางชวนสิตาไปวัดเพื่อทำบุญให้แก่สุธีร์ ทำให้รัตติยาไม่ค่อยพอใจ แต่พงศกรซึ่งหลงรักสิตาตั้งแต่วันแรกที่เห็น กลับเข้าข้างสิตา ทำให้รัตติยาวางใจว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มกับลูกเลี้ยงคงเข้ากันได้ ส่วนอรชุดารู้ทันสามีของตน จึงปรามพงศกรและตั้งตัวเป็นศัตรูของสิตาอย่างเปิดเผย

วรชน ซึ่งไม่ค่อยเชื่อในเรื่องเหนือธรรมชาติเท่าไหร่นัก แต่ก็ขัดไม่ได้กับความต้องการพิสูจน์เพื่อช่วยพ่อของสิตา ทำให้ทั้งคู่ถูกตามรังควานโดยเปรตที่มีฤทธิ์มากและดุร้าย คือ มหิทธิกเปรต พลูและไอ้จุกมักจะเจอกับอิทธิฤทธิ์ของมหิทธิกเปรตอยู่บ่อย ๆ ไอ้จุกเป็นมวยเด็กคนละรุ่นกับเปรตโอปะติกะ จึงทำได้แต่พาไอ้พลูหนีอยู่ตลอด บางทีพาหายตัวหนี แต่ก็หายตัวไปได้แค่เมตรเดียว ประมาณว่า วิ่งหนีเอาเร็วกว่าไหมไอ้จุก

วัดที่สายใจกับสิตาไปทำบุญอยู่บนที่ดินผืนใหญ่ เจ้าปัญหาต้นเหตุที่ทำให้พ่อของเธอเสียชีวิต ซึ่งหลวงพ่ออาวุธ เป็นเจ้าอาวาสอยู่ หลวงพ่ออาวุธ (ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์) ปฏิบัติธรรมมานาน จึงแนะนำให้สิตามาปฏิบัติธรรมที่วัด สายใจตามมาปฏิบัติธรรมด้วย วรชนถือโอกาสตามมาดูแล ตกกลางดึกทุกคนได้ยินเสียงร้องหวีดแหลมของบรรดาเปรตที่ประสานเสียงโหยหวนกันระงม ด้วยปากของเปรตเล็กเท่ารูเข็ม ทำให้เสียงที่ลอดจากริมฝีปากเป็นเสียงแหลมบาดแก้วหู ยามเสียงเปรตหวีดร้อง หมาก็พากันหอนทั้งวัด สร้างความหวาดกลัวให้แก่ผู้มาปฏิบัติธรรมจำนวนมาก ซึ่งเปรตตนนั้นคือ สุจิมุขเปรต เป็นแฟนเก่าของพลู ที่ชอบด่าพระด่าเจ้า และยังคงตามขอส่วนบุญจากพลูอยู่ตลอดเวลา วรชนซึ่งยังไม่มีโอกาสได้เห็นเปรตจัง ๆ ในขณะนี้ จึงถามว่า ถ้าเปรตมีจริง ทำไมหลวงพ่ออาวุธไม่ไล่เปรตไปซะ หลวงพ่อตอบว่า พระไล่ผีได้ แต่ไล่เปรตไม่ได้ เพราะเปรตไม่ใช่ผี แต่เป็นโอปาติกะที่น่าสังเวชและทนทุกข์ทรมานกว่าผีมากนัก สิตายิ่งตั้งใจจะต้อง สร้างกุศลให้พ่อยิ่งขึ้นไปอีก แม้ว่าจะตัดกรรมให้สุธีร์ไม่ได้ แต่อย่างน้อย ก็จะเป็นหนทางที่ปลดปล่อยพ่อของเธอได้

หลวงพ่ออาวุธ สามารถสื่อสารเห็นไอ้จุก และรู้ดีว่า มันกำลังจะได้ไปเกิดกับสิตา ถ้าการสะสมบุญเป็นไปอย่างถูกวิธี อีกทั้งหลวงพ่อยังรู้ด้วยว่า พลูนั้น ถึงจะดูเป็นหมอผีเลอะเทอะ แต่ก็มีกุศลจิตจากชาติก่อน ช่วยให้เป็นคนดีอยู่ตลอดเวลา แม้ว่า ตัวพลูเองจะไม่ได้อยากจะช่วยเหลือใครสักเท่าไหร่ก็ตาม

หลวงพ่ออาวุธสงสัยว่าเสียงหวีดร้องของบรรดาเปรตนั้นดังกว่าทุกครั้งที่มีญาติโยมอุทิศส่วนกุศลให้ จึงนั่งสมาธิตรวจดู ก็พบว่าสุธีร์กลายเป็นเปรตมารอรับส่วนบุญของสิตา และที่ดินกว้างใหญ่ข้างวัดนั้นมีอีกภพภูมิหนึ่งซ้อนอยู่ เรียกกันในภาษาพระว่า เมืองบังบด ซึ่งก็คือภพภูมิของเปรตนั่นเอง ยามกลางวัน ที่ดินรกร้างกลางกรุงนั้นจะเป็นชุมชนเล็ก ๆ บ้านเรือนมีสภาพเก่าโทรมแบบที่พักของคนงานก่อสร้าง และบรรดาเปรตที่อยู่ ณ แห่งนั้นจะปรากฏตัวเป็นคนยากจนเข็ญใจใช้ชีวิตปะปนกับคนทั่วไปได้ แต่ในยามกลางคืนจะกลายสภาพเป็นเปรตมีลักษณะแตกต่างกันไปมา ตามแต่กรรมที่เคยก่อไว้ หลวงพ่ออาวุธแนะนำให้สายใจกับสิตาอุทิศบุญหลังจากปฏิบัติธรรมเสร็จ แต่สุธีร์ไม่ได้รับบุญที่ลูกสาวอุทิศให้เลย เพราะถูกเปรตอื่นแย่งชิงไปหมด ต้องอยู่กับความหิวโหยทุกข์ทรมานซึ่งเปรตที่คอยชิงเศษบุญจากสุธีร์อยู่เป็นประจำก็มีตัณหัฏฏิตเปรต คือ เปรตที่ถูกตัณหาเบียดเบียนจนเกิดทุกข์จากความหิวข้าวหิวน้ำอยู่เสมอสุนิชฌามกเปรต คือ เปรตที่มีตัวดำเหมือนตอไม้ที่ถูกเผาสุตตังคเปรต คือ เปรตที่มีเล็บมือเล็บเท้ายาวและคมราวกับมีดปัพพตังคเปรต คือ เปรตที่มีร่างกายสูงใหญ่เท่าขนาดของภูเขา

พงศกรบังคับรัตติยาให้เอาสมบัติต่าง ๆ ที่สุธีร์ยกให้สิตามาเป็นของตน แต่สิตาไม่ยอมวรชนก้าวเข้ามาปกป้องสิตาอย่างเปิดเผย โดยมี คชา (วรากร ศวัสกร) นายตำรวจหนุ่มคอยช่วยเหลือ คชาเป็นคนรักของ อนงค์นาฏ (บารมิตา สาครจันทร์) ครูสอนพลศึกษาเพื่อนรักของสิตาสมัยมัธยม เมื่อสิตามีพวกพ้องให้กำลังใจทำให้ อรชุดายุยงให้พงศกรหาทางใช้รัตติยาเป็นเครื่องมือด้วยวิธีการต่าง ๆ ด้วยความหลงชู้รักทำให้รัตติยาบังคับจิตใจสิตา จนสายใจต้องออกโรงต่อปากต่อคำด้วย แต่ต่อมาไม่นาน รัตติยาจับได้ว่าพงศกรกับอรชุดานั้นแท้จริงเป็นผัวเมียกัน จึงมีปากเสียงกับพงศกรอย่างรุนแรง รัตติยาตกบันไดคอหักตาย สิตาเสียใจมาก ในงานศพของรัตติยานั้น เสียงเปรตโหยหวนดังระงมทั้งวัด พระอาวุธรู้ว่าต่อไปนี้ จะไม่มีใครอยู่อย่างเป็นสุขอีกแล้ว ซึ่งรัตติยาได้ตายไปกลายเป็นเปรตกุณปาสเปรต คือ เปรตที่มีชีวิตอยู่ได้ด้วยการกินซากศพคนหรือสัตว์ เป็นอาหารภพของเปรตกับมนุษย์ เกิดรอยแยก เพราะความที่ไอ้จุกพยายาม พาสิตาหลบการหลอกหลอนของมหิทธิกเปรต ทำให้สิตาได้มีโอกาสเห็นสภาพที่แท้จริงของสุธีร์ ว่าลำบากและน่าเวทนาเพียงไหน สองพ่อลูกมีโอกาสได้สื่อสารกันเพียงไม่นาน ไอ้จุกก็ต้องพยายามพาสิตากลับไปโลกมนุษย์ให้ได้ ก่อนที่ประตูภพจะเหลื่อมทับปิดซ้อนกัน

รัตติยาตายไปเกิดอยู่ในภพภูมิเปรต ได้พบกับเปรตสุธีร์ เธอสำนึกผิด เปรตสองผัวเมียสัญญากันว่าจะปกป้องสิตาให้รอดพ้นจากอันตราย หลวงพ่ออาวุธพยายามช่วยเปรตทั้งสองแต่ช่วยไม่ได้ เพราะผู้ที่จะทำให้เปรตทั้งสองหลุดพ้นก็ต้องด้วยบุญบารมีของคนที่เป็นลูกเท่านั้น...เนื่องจากดวงจิตของเปรตทั้งสองผูกพันอยู่กับลูกสาวเพียงคนเดียว อรชุดาแสดงออกอย่างเปิดเผยว่าชอบวรชน และจงใจแย่งวรชนมาจากสิตาให้ได้ พงศกรรู้ แม้จะหึงหวง แต่ก็เป็นการเปิดโอกาสให้ตนได้ใกล้ชิดกับสิตา ซ้ำยังพบว่าหลวงพ่ออาวุธได้ทิ้งสมบัติไว้ให้แก่วรชนจำนวนมาก หากอรชุดาแย่งสมบัติมาจากวรชนได้และพงศกรได้ครอบครองสมบัติของสิตา ก็จะทำให้ทั้งสองร่ำรวยไม่มีที่สิ้นสุด พงศกรพยายามล่วงเกินสิตา แต่เปรตรัตติยาก็ขัดขวางทุกครั้งไป ความวุ่นวายทวีมากขึ้น เมื่ออรชุดาต้องอุปการะ ช่วงโชติ (ถิร ชุติกุล) น้องชายของตนที่เมายาเสพติด ทะเลาะวิวาทกับพ่อเลี้ยง จนพ่อเลี้ยงวิ่งหนีและถูกรถชนตาย กลายเป็นคูถขาทกเปรต คือ เปรตที่มีชีวิตอยู่ได้ด้วยการกินอุจจาระต่าง ๆ เป็นอาหาร

นางชดช้อย (ณหทัย พิจิตรา) ผู้เป็นแม่ก็ถูกช่วงโชติทำร้ายจนพิการขาหักอรชุดาจำใจรับแม่พิการมาเลี้ยงดู โดยจ้างสาวใช้ส่วนตัวชื่อสมพิศคอยดูแล แต่สมพิศไม่ค่อยได้ดูแลเท่าไหร่เพราะคอยสืบหาเรื่องราวภายในบ้านจาก แสง (จเร เชิญยิ้ม) และละมุด สาวใช้ผู้เป็นลูกมือของสายใจ ชดช้อยจึงเอาแต่ก่นด่าช่วงโชติที่ทำตนขาหัก ชื่นหทัย (รัญดภา มันตะลัมพะ) ลูกสาวคนเล็กที่หายไปจากบ้านหลายปีกลับมา อ้างว่าจะมาช่วยดูแลแม่ ทำให้อรชุดาจำใจรับน้องสาวเข้ามาอยู่ในบ้านเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่งสายใจกับสิตาจึงอยู่ท่ามกลางศัตรูรอบด้าน วรชนเป็นห่วงมาก ขอร้องให้สิตาออกมาจากบ้านหลังนั้น แต่เธอยืนกรานว่าจะอยู่รักษาสมบัติของพ่อไว้

สิตาซึ่งสามารถพูดคุยกับไอ้จุกได้แล้วตอนนี้ พลูยกให้เป็นลูกบุญธรรมของสิตาไปก่อน ยังความปลาบปลื้มให้กับไอ้จุกเป็นอย่างมาก ที่พลูปลอดปล่อยมันให้เป็นอิสระ สิตาเหมือนเลี้ยงหมาเอาไว้ตัวหนึ่ง ไอ้จุกตามเธอต้อย ๆ บางทีถ้าไปเจอหมาที่เพิ่งตาย มันก็จะเข้าไปสิง เพราะอยากสัมผัสกับความรักของสิตาโดยตรง

ชื่นหทัยแอบมีความสัมพันธ์กับพงศกร แต่รู้ว่าพงศกรชอบสิตาจึงร่วมมือกับช่วงโชติทำร้ายสิตา โดยลวงสิตาไปข่มขืน วรชนตามไปช่วยเหลือ แต่เกือบสายไป สิตารอดพ้นมาได้เพราะเปรตพ่อแม่ที่ตามมาคุ้มครอง ช่วงโชติรอดตายแต่กลายเป็นคนเสียสติ ร่ำร้องพูดแต่เรื่องเปรต อรชุดากับพงศกรเชื่อว่าสุธีร์กับรัตติยาเป็นเปรตมาปกป้องลูกสาว

สายใจเคยเห็นเปรตรัตติยากับเปรตสุธีร์จึงสั่งแสงกับละมุดให้หุงข้าวใส่บาตรทุกเช้า แต่อรชุดาไม่ต้องการให้มีการทำบุญเกิดขึ้นในบ้าน จึงร่วมมือกับชื่นหทัยแอบเอาอาหารใส่บาตรไปทิ้ง และทำลายข้าวของที่จะใช้ทำบุญทุกอย่าง สายใจด่าทอสาปแช่งสองพี่น้อง ทำให้ถูกรุมทำร้าย วรชนมาช่วยไว้ได้ทัน แต่ทั้งสายใจและสิตาก็ยืนกรานว่าจะอยู่ในบ้านนี้ต่อไป เพราะเชื่อว่าจะเป็นเพียงที่เดียวที่ตนจะติดต่อกับพ่อแม่ซึ่งเสวยกรรมเป็นเปรต และจะช่วยให้ทั้งสองหลุดพ้นจากบ่วงกรรมนี้ได้ สิตา วรชน และพลู ต่างร่วมมือกัน พยายามติดต่อเปรตในภพภูมิ เพื่อให้ครบทั้ง 12 ประเภท แต่ก็ถูกตามขัดขวางจากเปรตตัวที่มีฤทธิ์ร้ายตลอดเวลา แต่สิต ก็พอจะรู้รู้ทาง และเห็นช่องอยู่บ้าง แม้จะริบหรี่เต็มที

วรชนตัดสินใจเช่าบ้านใกล้ ๆ บ้านของสุธีร์เพื่อจะได้ดูแลสิตาได้อย่างเต็มที่ คชากับอนงค์นาฏก็แวะเวียนมาเป็นประจำ ชื่นหทัยกับอนงค์นาฏไม่ชอบหน้ากัน จึงมีปากเสียงกันเป็นประจำ วันหนึ่งสมพิศปล่อยให้ชดช้อยอยู่ตามลำพัง จนเกือบตกลงไปในสระน้ำ สิตามาช่วยไว้ได้ทัน ทำให้ชดช้อยซาบซึ้งใจมาก และคอยพูดเตือนสติลูก ๆ นางเสียใจที่นางเลี้ยงลูกไม่ดี ทำให้อรชุดากับชื่นหทัยไม่พอใจแม่เป็นอย่างมาก

ชื่นหทัยออกมาจากห้องของพงศกรในค่ำคืนหนึ่ง สิตาออกมาจากห้องของตนพอดี ทำให้ชื่นหทัยกลัวว่าความลับของตนจะถูกเปิดเผย จึงหาทางทำร้ายสิตา แต่ในคืนเกิดเหตุ เคราะห์ร้ายตกเป็นของอนงค์นาฏ เพราะวันนั้นสิตาออกไปกับวรชน อนงค์นาฏกำลังจะถูกพงศกรข่มขืน เปรตรัตติยามาช่วยไว้ได้ และทำร้ายพงศกร โดยมีเปรตสุธีร์ตามทวงชีวิต พงศกรรอดตายเพราะเข้าไปอยู่ในห้องพระได้เสียก่อน พงศกรจึงจำเป็นต้องหาของดีมาปราบเปรตสองผัวเมียให้ได้ พงศกรใช้ไสยศาสตร์ผิด ๆ ถูก ๆ จนเกิดเรื่องราวเลยเถิดอยู่เป็นประจำ

ช่วงโชติกลายเป็นคนคุ้มดีคุ้มร้าย เผลอพูดเรื่องที่พงศกรเป็นเอเยนต์ใหญ่ส่งยาเสพติดชนิดต่าง ๆ คชาจึงนำกำลังตำรวจมาค้นบ้าน แต่ไม่พบอะไร อรชุดากับพงศกรหาเหตุว่าวรชนเป็นต้นเหตุทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น พงศกรอาฆาตทุกคน และข่มขู่สิตาว่าจะหาหมอผีมาสะกดให้เปรตพ่อแม่ของตนไม่มีวันได้ผุดได้เกิดอีกเลย ชื่นหทัยก็ประกาศและล้อเลียนเย้ยหยันว่าสิตามีพ่อแม่เป็นเปรต สิตาเป็นลูกสาวเปรต ข่าวเริ่มแพร่ไปในวงกว้าง เปรตสองผัวเมียไม่กล้ามาปรากฏตัวอีก เพราะเกรงว่าลูกสาวจะอับอาย วรชนมาปลอบใจถึงบ้าน และสัญญากับสิตาว่าจะรักและดูแลสิตาไปตลอด โดยไม่รู้ว่าตนเผลอกินยานอนหลับที่อรชุดาแอบผสมในน้ำดื่ม สิตาพบว่าวรชนอยู่ในห้องกับอรชุดาก็เสียใจมาก จึงเตลิดออกไปจากบ้าน คชาและวรชนออกตามหาแต่ไม่พบ

สิตาตัดสินใจเข้าไปในเมืองบังบด เปรตพ่อแม่ขอร้องให้ออกไป แต่สิตาไม่ฟัง เธอขออยู่ในภพภูมิของเปรตดีกว่าในเมืองมนุษย์ที่มีความเลวร้าย หลวงพ่ออาวุธพยายามช่วยสิตา แต่ก็ไม่สำเร็จ เปรตสุธีร์กับเปรตรัตติยาได้ขอร้องบรรดาเปรตทั้งหลายให้ช่วยกำจัดคนชั่วออกไปจากบ้านของตนในยามค่ำคืน บรรดาเปรตทั้งหลายจึงได้มาชุมนุมกันที่บ้าน สายใจ พงศกร ชื่นหทัย โชติช่วง อรชุดาและบรรดาคนรับใช้ต่างหวาดกลัวกันมาก จนต้องพากันไปหลบอยู่ในห้องพระ ต่างปิดหูเพราะได้ยินเสียงหวีดร้องโหยหวนแก้วหูแทบแตก อรชุดาหาหมอผีมาปราบ แต่ก็ไม่สำเร็จ ต่างถูกเปรตหลอกจนหนีและบางคนก็ต้องจบชีวิตลงพงศกรได้ปรึกษาพระ แต่หารู้ไม่ว่าคือพระที่เป็น ภิกษุเปรต กลับหลอกหลอนพงศกรจนหนีไปเกือบตาย

สิตาสามารถพบเจอเปรตอื่น ๆ จนได้ 10 ประเภท แต่ยังไม่สามารถทำบุญอุทิศส่วนกุศลเพราะขาดเปรตตัวสุดท้ายอย่างถูกวิธี สุธีร์กับรัตติยาจึงยังคงเป็นเปรตอยู่ การรบกวนภพภูมิของเปรต ทำให้เกิดความปั่นป่วน เปรตบางตัวอิทธิฤทธิ์เพิ่มพูน จนข้ามภพภูมิ ก่อความวุ่นวาย และน่ากลัวอยู่เสมอ ๆ แต่โชคดี ที่เธอมีไอ้จุกคอยช่วยเหลืออยู่ตลอด และพลูที่คอยเป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำอยู่ห่าง ๆ คนใช้พากันลาออกจนหมด เหลือเพียงสายใจคนเดียว ที่ยังรอคอยว่าสิตาจะกลับมาบ้าน วรชนไปปรึกษาหลวงพ่ออาวุธ หลวงพ่อให้เขาไปตามสิตาออกมาจากเมืองบังบด แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะเธอขอร้องให้เปรตพ่อบังตัวเธอไว้ ในขณะที่เปรตอื่น ๆ พากันตามล่าเหล่าคนชั่ว สิตานั่งสมาธิขอร้องไม่ให้พ่อแม่ของตนเพิ่มกรรมด้วยการทำร้ายใครอีก แต่ทั้งสองไม่ฟัง ต้องไปติดตามบทสรุปของคนชั่ว และกรรมดีจะช่วยให้หลุดพ้นได้หรือไม่ ในละคร เงาบุญ ที่ออกอากาศให้ชมกันทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 HD กด 35 ละคร เงาบุญ เริ่มตอนแรกวันพุธที่ 16 กันยายน 2563

ภูตพยาบาท (2549/2006) เรื่อง ราวของ เพชร เด็กสาวตาบอดที่ถูกเลี้ยงมาในโรงเรียนคนตาบอดที่ก่อตั้งโดยกลุ่มมิชชันนารี เนื่องจากมีผู้พบถูกทิ้งอยู่ชายป่าจังหวัดกาญจนบุรีและไม่สามารถติดต่อหา ญาติได้ เพชรมีความสามารถทางไวโอลิน แต่ในขณะเดียวกันเธอก็สามารถได้ยินเสียงร่ำร้องของวิญญาณที่เจ็บปวดทั้งจาก คนที่ตายไปแล้ว และคนที่อยู่ในอาการโคม่าที่วิญญาณล่องลอยออกจากร่างในช่วงเวลาอันสั้น เพื่อขอความช่วยเหลือจากคนที่สามารถมีคลื่นความถี่ของจิตที่ตรงกัน แต่ที่ร้ายที่สุด เธอถูกคุกคามอยู่ตลอดเวลาจากเจ็ดพรายตายโหงที่พยายามติดต่อ ขู่เข็ญ บังคับให้เธอทำในสิ่งที่พวกมันต้องการ แต่เด็กสาวไม่เข้าใจ จนทำให้วิญญาณเหล่านั้นโกรธและทำร้ายเธอจนเกิดบาดแผลตามลำตัว แต่ผู้คนรอบข้างของเธอไม่รู้ถึงความจริงข้อนี้และคิดว่าเธอเป็นบ้าชอบทำร้าย ตัวเองและก็มองเธอเหมือนตัวประหลาด ติดตามต่อได้ใน ภูตพยาบาท

Placeholder

ยอดรักนักรบ (2562/2019) เมื่อนักร้องหนุ่มเลือดอีสาน ต้องจับพลัดจับผลูสวมรอยเป็นนาวิกโยธินหนุ่มที่หายตัวไป เพราะหน้าตาที่เหมือนกันราวฝาแฝด แต่นิสัยและความสามารถที่เปลี่ยนไป ทำให้เขาถูกจับผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก แพทย์หญิง คู่หมายของทหารหนุ่ม เขาจึงต้องฝึกหนักเพื่อให้ได้รับการยอมรับ และสามารถเอาชนะใจเธอได้ แต่ความลับไม่มีในโลก เหตุจำเป็นครั้งนี้ จึงมีชีวิตและหัวใจเป็นเดิมพัน “หัวใจกล้าหาใช่ไร้ความกลัว แต่หัวใจที่เต็มเปี่ยมด้วยความรักนั้นทำให้ไม่ดหลือที่ให้กับความกลัว” นี่คือความจริงที่ยอดรักผู้ที่ชะตากรรมเล่นตลกกับชีวิตของเขาให้ผันตัวเองจากนักร้องมาเป็นเรือเอก นักรบ วีรบุรุษทหารกล้า อดีตนายทหารแห่งหน่วยทำลายใต้น้ำจู่โจม เป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษทางทหาร สังกัดราชนาวีไทยในเวลาเพียงแค่.. 30 วัน ยอดรัก (เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ) เป็นคนอีสาน พ่อแม่ยอดรักคือนักร้องลูกทุ่งในวง ครูสมัย (สุเมธ องอาจ) ครูเพลงชื่อดัง พ่อแม่ยอดรักตกระกำลำบากต้องเอายอดรักมาฝากหลวงพ่อ แห่งวัดหนองอียอให้ชุบเลี้ยง สิ่งเดียวที่ทำให้ยอดรักแตกต่างจากนักร้องคนอื่นๆก็คือน้ำเสียงปี่พระอภัยฯมีมนต์ขลังฉันใด เสียงยอดรักก็มีมนต์ขลังฉันนั้น เมื่อใดก็ตามที่เขาร้องเพลง มนต์สะกดของเสียงเพลงสามารถดลบันดาลให้ผู้ฟังเคลิบเคลิ้ม หลุดลอยออกไปจากโลกแห่งความจริงและไปล่องลอยอยู่ในโลกของมิวสิควิดีโอ เมื่อเสียงเพลงจางหาย ผู้คนทั้งหลายก็จะกลับมาสู่โลกแห่งความจริงอีกครั้ง ยอดรักไปประกวดร้องเพลงจนประสบความสำเร็จ ทางผู้จัดนัดอัดรายการในอีกสามสิบวันข้างหน้า แต่มีข้อแม้ว่าเขาต้องไม่มีภาระผูกพันใดใด และเพื่อให้ฝันของเขาเป็นจริง ยอดรักยอมหักหลัง ซิ่ง (เดี่ยว เสกสรร) เพื่อนคู่ทุกข์คู่ยาก ยอมตัดสายสัมพันธ์ที่ ส้มจี๊ด (เจด้า-ศรัณย่า ชุณหศาสตร์) ลูกสาวครูสมัย และ ชบา (แก้ม-กวินตรา โพธิจักร) ภรรยาใหม่วัยยังสาวของครูสมัยที่ทอดรักเอาไว้ให้กับเขา และเขาแอบเดินทางเข้ากรุงเทพฯ แต่เพียงผู้เดียว เหิม (ต๊อบ-ชัยวัฒน์ ทองแสง) และสหายแอบดักรอยอดรักระหว่างทางและทำร้ายยอดรักจนหมดสติเพื่อส่งไปเป็นแรงงานให้ตายในท้องทะเลกว้างเพื่อล้างแค้น ในวินาทีที่ร่างของยอดรักถูกมัดไร้อิสรภาพถูกโยนใส่เรือสินค้า น.นิลกาฬ อดีตเรือเอกนักรบ มุ่งโรมรัญ (เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ) ก็ได้พาเหล่าอดีตหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ล้วนแล้วแต่เป็นมือพระกาฬของกองทัพเรือที่ประกอบไปด้วย เรือตรีสมุทรยุทธการ (บิ๊ก-ณทรรศชัย จรัสมาส) ,จ่าฉลาม งามลออ (เติร์ก-ณัฐชนน ภูวนนท์) ,จ่าชะลอ ขอเอี่ยว (อั้ม-ถิร ชุติกุล),จ่าหมึก ข้าศึกคร้าม (ไวท์-กุลธวัช บัวเจริญ) ,จ่าจ้อ สาลิกา (ดนฐ์-กณิณ ปัทมนันถ์),จ่าเวช เทพรักษา (เคน ฮาเซกาวา) บุกเรือขนของเถื่อนของ เฮียกวง (หนุ่ม-ชมวิชัย เมฆสุวรรณ) ในการปฏิบัติการในครั้งนี้ ผจญ (โน้ต-วัชรบูล ลี้สุวรรณ) จึงเข้าร่วมมือกับหน่วยพิเศษของพลเรือตรีนาวิน มล้ายอริคล้าม (ทูน หิรัญทรัพย์) อดีตนายทหารเรือเพื่อให้แผนการใหญ่บรรลุเป้าหมาย ผจญได้ลั่นกระสุนใส่ร่างของนักรบเพื่อจบชีวิต ในขณะที่ร่างไร้วิญญาณของอดีตเรือเอกนักรบ ค่อยๆจมลงสู่เบื้องลึกของท้องทะเล ร่างไร้สติของยอดรักหนองอียอก็ลอยสวนทางขึ้นมา ด้วยความละม้ายคล้ายกันของบุรุษทั้งสอง สมุทรลูกน้องคู่ใจช่วยพาเขาขึ้นฝั่งเพื่อรับการรักษา สมุทรคิดว่านักร้องจากแดนอีสานคือ สุดยอดทหารกล้าแห่งราชนาวีผู้บังคับบัญชาของเขา เมื่อยอดรักฟื้นคืนสติ ภาพแรกที่เขาเห็นคือ เรือเอกแพทย์หญิงชลดา (ฐิสา วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร) ลูกสาวคนเดียวของนาวิน ในขณะที่ชีวิตของยอดรักกำลังเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ยอดรักในคราบนักรบได้แสดงความสุดยอดของพลังเสียงและถูกบันทึกไว้ในกล้องของสื่อมวลชนหลายครั้งหลายครา จนสื่อพากันเรียกชื่อทหารกล้านิรนามคนนี้ว่า “ฉลามเสือเสียงทอง” ในวันที่ยอดรักต้องเข้ากรุงเทพฯเพื่อร้องเพลงในโอกาสพิเศษของกองทัพเรือ ยอดรักได้ประกาศต่อหน้ากล้องถ่ายทอดไปทั่วประเทศเพื่อให้ผู้ชมที่กำลังเห่อฉลามเสือเสียงทอง นักร้องขวัญใจคนใหม่ว่าเขามีผู้หญิงที่เขารักแล้วและเขาเปิดตัวหมอชลดาให้ทุกคนได้รับรู้ และมันดีมากสำหรับชลดาเพราะไม่มีผู้ชายคนไหนเคยมอบของขวัญที่สุดแสนจะโรแมนติกให้เธอ แต่จู่ๆยอดรักต้องมาเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิด ทำให้เขาตัดสินใจยื่นใบลาออกจากหน่วยรบพิเศษ สำหรับคนเจ้าเล่ห์อย่างผจญ เขาสืบจนรู้ว่ายอดรักไม่ใช่ผู้กองนักรบแต่นี่คือโอกาสทองที่จะยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว ผจญไดวางแผนทำลายชื่อเสียงของผู้กองนักรบตัวจริงเพื่อทำลายนาวินและหน่วยพิเศษของเขาจนทำให้นาวินและทีมพิเศษได้เดินทางไปจับกุมตัวยอดรักเพื่อมาสอบสวน ในคุกของหน่วยลับ นอกจากยอดรักจะบอบช้ำเพราะเป็นที่ระบายอารมณ์ของหน่วยพิเศษทีเข้าใจผิด เขายังต้องหัวใจสลายที่ทำให้ชลดาโศกเศร้าราวกับจะขาดใจที่เขาหลอกลวงทำให้เธอรักและมีความหวังว่าจะได้แต่งานกับผู้ชายที่เธอรอมานานแสนนาน ด้วยความช่วยเหลือของ ร.ต.อ.หญิงอลิสา (กิ๊ฟซ่า-ปิยา) และ กรุ๊นด์ (คริสโตเฟอร์ เชฟ) ที่ยอมเสี่ยงภัยเข้าไปช่วยยอดรักบุคคลเพียงคนเดียวที่อาจจะสืบสาวไปจนถึงต้นตอของผู้ที่คอยแอบช่วยเหลือกวงออกมาจากคุกลับ ยอดรักจึงได้รับอิสระภาพอีกครั้ง และทั้งสามรู้แล้วว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังแผนร้ายทั้งหมดก็คือผจญนั้นเอง สุดท้ายแล้วยอดรักจะจัดการกับผจญอย่างไร? และ ชลดาจะให้โอกาสยอดรักอีกครั้งได้หรือไม่ ยอดรักจะสามารถกอบกู้ชื่อเสียงของผู้กองนักรบ นาวินและหน่วยพิเศษกลับคือมาได้อย่างไร?

Placeholder

เจ้าสาวของอานนท์ (2542/1999) อานนท์ และตระกล ไปคุมการติดตั้งเครื่องจักรที่คลองน้ำวน และพบกับสุชาดา ซึ่งทั้งสองคิดว่าสุชาดาเป็นเด็กผู้ชาย ซึ่งมาทำหน้าที่ขับเรือรับส่ง ในขณะเดียวกันตระกลก็หลงรักผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่แถวนั้น แต่ไม่ทราบว่า เป็นใคร ในที่สุดอานนท์ก็รู้ว่าสุชาดาเป็นผู้หญิงคนเดียวกันกับที่ตระกลหลงรักและ เป็นบุตรสาวคนเดียวของคุณนายตะวัน เศรษฐีนีหม้ายชาวสวน สุชาดาไม่ถูกกับอานนท์มากนัก เพราะได้ยินกิตติศัพท์ถึงความเจ้าชู้ของอานนท์ รวมทั้งยังเป็นคนหักอกเพื่อนเก่าของเธอด้วย แต่พอนานไป ทั้งคู่ก็เริ่มเข้าใจกัน อานนท์ให้พ่อไปขอสุชาดาให้ตน และเมื่อซักไซ้ประวัติของสุชาดาแล้ว ก็ทำให้ทราบว่าสุชาดาเป็นหลานสาวแท้ ๆ ของตระกลที่เกิดจากคุณนายตะวัน และพระยาสุทธา พี่ชายของตระกลนั่นเอง สวนิต ลูกสาวของคุณหญิงเจริญกับพระยาสุทธา เป็นเด็กสาวใจแตก นัดเทอดเด็กในบ้านให้พาหนี เทอดพามาอยู่กับน้าชาย ซึ่งเป็นคนงานสวนของคุณนายตะวัน สวนิตคบผู้ชายไม่เลือกหน้า ทางบ้านโน้นก็วุ่นวายออกตามหา สวนิตโกหกแม่ว่าเป็นคนรักของอานนท์ ทำให้คุณนายเจริญตามมาอ้าง สุชาดาเสียใจมาก แต่เมื่อตามสวนิตมาจนพบสวนิตก็สารภาพว่าไม่ได้มีอะไรกันกับอานนท์ สุชาดาก็ได้ไปพบพ่อและยอมรับที่จะเป็น

Placeholder
Placeholder

เพชรตาแมว (2542/1999) ณ โลกนี้มีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งมิใช่มนุษย์ได้ประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมา ซึ่งมีอยู่ในเมืองไทย คือ เพชรตาแมว เป็นของวิเศษที่ใครก็อยากได้ ผู้ใดได้ครอบครอง จะทำให้มี เอกลาภตลอดไป จะคิดสิ่งใด หวังสิ่งใดได้แต่สิ่งดีเพชรตาแมวนี้เกิดจากแมว ซึ่งตาเป็นต้อหิน ข้างใดที่เป็นจะมีน้ำเลี้ยงไหลออกมาตลอดเวลา แต่แมวจะไม่มีความเจ็บปวด แต่ข้างที่เป็นต้อจะมองไม่เห็น เมื่อแมวเสียชีวิตตาข้างที่เป็นต้อจะแข็งเหมือนก้อนหิน เรียกว่า เพชรตาแมว ตามความเชื่อโบราณของไทยว่ากันไว้ว่า ใครที่ได้ครอบครองเพชรตาแมวนี้จะมีแต่ความสุขความเจริญร่ำรวย และเพชรจะเป็นคนเลือกเจ้าของเอง หากใครไม่มีวาสนาก็ไม่อาจครอบครองมันได้

Placeholder