แม่คุณเอ๊ย

เรื่องย่อ : แม่คุณเอ๊ย (2556/2013) ยายพิมพ์ กับสารภี หลานสาวกำพร้า และเจ้าไม้ หลานชาย อยู่ร่วมกันในบ้านไม้เก่าริมคลอง สารภีนั้นเรียนจบพละและเก่งกีฬาหลายประเภท รวมถึงศิลปะป้องกันตัว ได้งานพิเศษเป็นเทรนเนอร์ในสปอร์ตเซ็นเตอร์แห่งหนึ่ง ที่นั่นเธอได้รู้จักกับ เอก ลูกศิษย์ที่อยากเรียนว่ายน้ำ แต่กลับถูกส่งมาเรียนเทควันโดแทน ข้างบ้านสารภีเป็นบ้านหลังใหญ่ 2 หลังอยู่ภายในรั้วเดียวกัน หลังหนึ่งเป็นของกรกนก ซึ่งไม่ถูกกับสารภีเพราะไม่พอใจที่ไม่ยอมขายที่ให้ สุดท้ายเลยแกล้งทำรั้วขวางทางเข้าออก จนสารภีและชาวบ้านข้างเคียง ต่างเดือดร้อน แถมช่วงค่ำยังชอบจัดงานเลี้ยงแกล้งเปิดเพลงดัง ๆ จนสารภีทนไม่ไหว เล่นงานกลับด้วยระเบิดไข่เน่า จนแขกเหรื่อหนีกระเจิง กรกนกแจ้งความจับสารภีข้อหาก่อกวน แต่พอสืบสวนจึงรู้ว่ากรกนกต่างหากที่เริ่มก่อน ผู้กองเวไนยนอกจากจะไม่เอาผิดสารภี เขายังประทับใจเธออย่างมาก เวไนยนำเรื่องสารภีมาคุยให้เฟื่องฟ้าฟังด้วยความชื่นชมโดยไม่รู้ว่าเฟื่องฟ้ากับสารภีเป็นเพื่อนรักกัน เฟื่องฟ้าฟังแล้วก็พอจะเดาออกว่าเวไนยชอบสารภี เธอรู้สึกเสียใจเพราะเธอแอบชอบเขาอยู่ เทวัญ เจ้าของบ้านอีกหลังในรั้วเดียวกันกับกรกนก เป็นประธานบริษัท สยามพาเหรด ทำธุรกิจนำเข้าและส่งออกรถยก รถลาก ซึ่งรับช่วงต่อมาจากพี่ชาย (เทพไทพี่ชายเทวัญ เสียชีวิตในอุบัติเหตุพร้อมภรรยาคือ กรณิก (พี่สาวกรกนก) โดยทิ้งลูกชาย คือ เอก ให้ดูแลตั้งแต่นั้นมาเทวัญรับเอกเป็นบุตรบุญธรรม) เพราะมุทำงานจนดึกจึงไม่ค่อยรู้ความเป็นไปในบ้านนัก กรกนกนั้นหลงรักเทวัญพยายามหาทางใกล้ชิดแต่เขาก็ไม่สนใจเธอเพราะในใจมีแต่ วันทิพย์ อดีตคนรักที่จมน้ำเสียชีวิตไปก่อนที่จะได้แต่งงานกัน เรื่องของวันทิพย์ทำให้เทวัญสั่งห้ามไม่ให้เอกอยู่ใกล้น้ำเพราะกลัวจะเสียเอกไป สารภีออกหางาน เห็นประกาศของสยามพาเหรดที่รับสมัครเลขาบุคลิกคล่องตัว เธอไปสมัครแต่เทวัญไม่รับเพราะไม่เชื่อว่าผู้หญิงจะทำได้ ทั้งคู่ปะทะคารมกัน สาวมั่นอย่างสารภีเชื่อในความสามารถของผู้หญิง ถือในสิทธิสตรีที่มีเท่าเทียมชาย ส่วนเทวัญคิดว่าสิ่งที่สารภีพูดเป็นได้แค่ความคิดในอุดมคติเท่านั้น ด้วยความอยากเอาชนะ สารภีตัดสินใจมาสมัครอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น โดยต้องผ่านบททดสอบของเทวัญซะก่อน ในงานเลี้ยงงานหนึ่งเทวัญได้พบชิตพงษ์ อดีตพนักงานที่ยักยอกเงินบริษัทจนถูกเขาไล่ออก ซึ่งปัจจุบันทำธุรกิจ ประเภทเดียวกัน ด้วยความแค้นชิตพงษ์จึงสั่งให้มือปืนตามไล่ยิงจนเทวัญต้องขับรถหนีตาย แต่สุดท้ายรอดมาได้ด้วยความฉลาดมีไหวพริบของสารภี เหตุการณ์นี้ทำให้เทวัญตัดสินใจรับเธอเป็นเลขาสร้างความริษยาให้กับแสงจันทร์เลขาบริษัทและกรกนก ทั้งคู่จึงคอยหาเรื่องแกล้งสารภีอยู่เสมอแต่ก็ถูกสารภีเอาคืนทุกครั้งเช่นกัน วันหนึ่งเอกแอบมาเล่นน้ำกับเด็ก ๆ แถวบ้าน จนพลาดจมน้ำ ดีที่สารภีมาเห็นจึงช่วยชีวิตไว้ได้ หลังจากนั้น เอกจึงตัดสินใจแอบมาเรียนว่ายน้ำกับสารภี โดยไม่ให้เทวัญรู้ เทวัญมอบหมายงานให้สารภีทำ แต่ด้วยภารกิจมากมายทำให้เขาลืมเธอไปสนิท สารภีก็ทำงานเพลินจนค่ำ พอคิดจะกลับก็กลับไม่ได้ เพราะแสงจันทร์แกล้งล็อคประตูไว้ สารภีพยายามติดต่อเทวัญแต่ติดต่อไม่ได้ คืนนั้นชิตพงษ์ให้คนเข้ามาขโมยเอกสาร เลยโดนสารภีจัดการซะหมอบก่อนโทรแจ้งตำรวจ เทวัญตามมาทีหลังเขาอาสาพาสารภีไปส่งจึงรู้ว่าบ้านเธออยู่ติดบ้านกรกนกนั่นเอง สารภีรู้จากเอกว่าอาของเขาคือเทวัญและน้าก็คือกรกนกแต่ไม่บอกเอกว่าเทวัญเป็นเจ้านายเธอ เพราะกลัวเทวัญรู้ว่าเธอทำงานพิเศษแล้วจะมีปัญหากับงานประจำ เวลาเทวัญไปส่งเอก สารภีออกอุบายเอาตัวรอดหนีการเผชิญหน้าได้ทุกครั้ง แต่ก็พลาดจนได้ เมื่อเวไนยพาเทวัญมาหาเธอเพื่อสอบสวนเรื่องคนร้ายที่บุกเข้าไปในตึก ทำให้เทวัญจับได้ว่าสารภีคือครูของเอก เขาตำหนิสารภีว่าไร้สาระที่กลัวเขาจะไล่ออกเพียงเพราะเธอทำงานพิเศษ สารภียังไม่วายต่อล้อต่อเถียง กลายเป็นความเคยชินของคู่นี้ที่มักปะทะคารมกันเสมอ แต่เมื่อเวลาผ่านไปทั้งคู่เริ่มสนิทกัน ความตรงไปตรงมาเป็นหญิงเก่งของสารภี สร้างความประทับใจให้เทวัญโดยที่เขาไม่รู้ตัว เช่นเดียวกับสารภี ท่าทางที่จริงจังและมุ่งมั่นของเทวัญ ทำให้เธอเริ่มรู้สึกนิยมชายคนนี้อย่างบอกไม่ถูก เทวัญต่อว่าสารภี เขาโกรธมากเมื่อรู้ว่าเธอสอนเอกว่ายน้ำ สารภีถามจนรู้ว่าเพราะคนรักของเขาจมน้ำตาย เธอเข้าใจเทวัญแต่ก็อยากช่วยแก้ปมในใจเขา เมื่อสบโอกาสสารภีแกล้งผลักเทวัญตกน้ำแล้วรีบโดดลงไปช่วย เขาต่อว่าเธอที่ทำบ้า ๆ แล้วเธอก็ค่อย ๆ สอนจนเขาว่ายน้ำเป็น เมื่อเทวัญเลิกกลัวน้ำ เขาก็ยินดีที่จะให้เอกเรียนว่ายน้ำกับสารภี เทวัญต้องการให้สารภีมีรถประจำตัว สารภีกลับเลือกมอเตอร์ไซค์ เทวัญนึกสนุกซื้อให้ หลังจากนั้นการไปประชุมต่างบริษัท เขาจึงมีโอกาสซ้อนมอเตอร์ไซค์เลขายามรถติด เลยทำให้สร้างความสนิทให้ทั้งคู่มากขึ้น สร้างความไม่พอใจให้กรกนกอย่างยิ่ง กรกนกจึงยอมให้ชิตพงษ์เข้ามาในชีวิตอีกครั้ง ทั้งคู่วางแผนทำบางอย่างเพื่อประโยชน์ร่วมกัน บริษัทสยามพาเหรดเกิดปัญหา เทวัญกับสารภีสืบจนพบว่าต้นเหตุมาจากคนของกรกนก มีหลักฐานการโกงโดยย้ายเงินเข้าบัญชีชิตพงษ์ เทวัญยื่นคำขาดกับกรกนกให้ชดใช้ความเสียหาย แต่เธอปากแข็งปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ อ้างเรื่องบุญคุณพี่สาวที่ช่วยเทพไทบริหารงานจนบริษัทก้าวหน้า ทำให้เทวัญยอมให้อภัย แต่คาดโทษไว้ กรกนกร้อนใจไปปรึกษาชิตพงษ์ ๆ บอกว่าต้องฆ่าเทวัญ กรกนกกังวลใจไม่น้อย เพราะเธอยังมีใจให้เทวัญอยู่ เทวัญและสารภีกลับจากตรวจงานโรงงาน รถถูกขนาบข้างด้วยมือปืน สารภีขับหนีการไล่ล่าเธอปกป้องเทวัญสุดชีวิต ทั้งคู่รอดมาได้ แต่เทวัญบาดเจ็บเพราะสละตัวเองรับกระสุนแทนสารภี สารภีเริ่มตระหนักในใจว่า ชายคนนี้สำคัญกับเธอมากเพียงใด ความสนิทสนมของทั้งคู่ อยู่ในสายตาของเอก ความรู้สึกกลัวที่จะถูกแย่งความรักผุดขึ้นอีกครั้ง เมื่อกรกนกรู้ว่าเทวัญจะไปขอสารภีกับยาย ก็ยิ่งใส่ไฟกับเอก เขาหนีออกจากบ้านท่ามกลางฝนที่ตกหนัก สารภีเสียใจรีบมาหาเอก เป็นเวลาเดียวกับที่เทวัญมาหาหลาน วันนั้นเอกจับไข้ กรกนกแกล้งทำดี ดูแลเอกต่อหน้าเทวัญ เธอโผกอดเทวัญสารภาพว่าชอบเขาและอยากให้เทวัญให้โอกาส ภาพที่ทั้งคู่กอดกัน อยู่ในสายตาสารภี เธอสะเทือนใจและเข้าใจผิด วิ่งออกจากบ้านไป ฝ่ายสารภีรู้ตัวว่ารักเทวัญ แต่ก็คิดว่าไม่ควรทำตัวเป็นปัญหากับเขา หากกรกนกแต่งงานกับเทวัญทุกอย่างจะลงตัวที่สุด ยายพิมพ์ห่วงหลาน โทรตามเวไนยมาเยี่ยม วันนั้นเวไนยสารภาพรักและขอสารภีแต่งงาน เฟื่องฟ้าได้ยินก็เสียใจมาก พอเฟื่องฟ้ากลับไป สารภีบอกกับเวไนยว่า เธอรักใครไม่ได้เพราะมอบใจให้เทวัญแล้ว เธอขอรักเวไนยแบบเพื่อน แบบพี่ชายที่แสนดี เพราะเธอรู้สึกกับเขาแบบนี้มาตลอด วันต่อมาสารภีไปลาออกจากสยามพาเหรด เทวัญวอนขอให้อยู่ต่อแต่ก็ไม่เป็นผล เขานึกน้อยใจที่สารภีไม่เห็นถึงความผูกพันที่เขามีต่อเธอ สารภีอ้างว่าสิ่งที่ทำไป ดีที่สุดสำหรับทุกคนแล้ว สารภีไปลาเอกที่บ้านกรกนก แต่เอกยังโกรธ ไม่ยอมให้พบ ซ้ำยังด่าว่าเสียหาย แม้สารภีจะเสียใจ แต่เธอก็เข้าใจเอกเป็นอย่างดี คืนนั้น เทวัญเสียใจดื่มเหล้าจนเมา เรียกเอกมาสอนว่า นอกจากพ่อแม่และอาแล้วขอให้มั่นใจว่าไม่มีใครจริงใจกับเอกเท่าครูสารภี เอกถึงกับอึ้ง ภาพความผูกพันระหว่างเขากับสารภีผ่านเข้ามาในความคิด เอกแอบออกจากบ้านจะไปหาสารภี แต่บังเอิญเห็นกรกนกคุยกับชิตพงษ์ บอกว่าล้างสมองเอกแล้ว เอกโกรธมาก ออกไปด่าว่ากรกนก จึงถูกชิตพงษ์จับไปเป็นตัวประกัน สารภีรู้ว่าเอกถูกจับไปก็ร้อนใจรีบตามหา และรู้ว่าชิตพงษ์มีอู่ต่อเรือริมน้ำจึงมาซุ่มรอ ระหว่างนั้นเอกที่ถูกจับกำลังจะหนีมาได้อยู่แล้ว ชิตพงษ์กับกวินมาเห็นก่อน แต่ก่อนที่ชิตพงษ์จะทำร้ายเอก สารภีก็ปรากฏตัวปราดเข้าช่วยเอกไว้ ทั้งสองหนีการไล่ล่าเป็นพัลวัน สารภียอมเสี่ยงเอาตัวบังเอกที่กำลังโดนชิตพงษ์เล็งปืนมา จนเซตกลงในแม่น้ำ เทวัญตัดสินใจกระโดดลงแม่น้ำงมหาร่างสารภีอย่างไม่คิดชีวิต สารภีปลอดภัย กระสุนเพียงเฉี่ยวร่างเธอเท่านั้น ระหว่างไปโรงพยาบาลทั้งคู่กอดพร่ำบอกความในใจที่มีต่อกัน เทวัญรู้ว่ากรกนกร่วมมือกับชิตพงษ์ แต่ไม่อยากเอาผิดเธอเพราะยังไงก็ได้ชื่อว่าเป็นน้าของเอก กรกนกละอายใจมากเธอขอโทษเทวัญสำหรับเรื่องร้ายๆที่ผ่านมา เทวัญยกโทษให้ ในที่สุดชีวิตของเอกก็มีพร้อมหน้าอีกครั้ง แม้สารภีจะเป็นเพียงอาสะใภ้ แต่มั่นใจได้ว่าเธอรักเขาไม่น้อยไปกว่าแม่แท้ ๆ เลย เทวัญเรียนรู้ที่จะรักใครอีกคน สารภีไม่อาจแทนที่คนรักเก่าได้ แต่เธอเป็นผู้หญิงที่เขามั่นใจว่ารักสุดชีวิตเช่นกัน สารภีได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์ เทวัญเป็นทั้งคนรักและผู้ปกครองที่จะนำพาชีวิตเธอให้ก้าวหน้า ไม่ต้องโลดแล่นอยู่บนโลกใบนี้อย่างโดดเดี่ยวต่อไปอีกแล้ว ติดตามชม ละครแม่คุณเอ๊ย ได้ทุกวัน เวลา 18.30 น. ทางช่อง 7 สี ละครแม่คุณเอ๊ย เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม 2556

หมู่บ้านสำราญรัก 2554

เรื่องย่อ : หมู่บ้านสำราญรัก (2554/2011) ณ หมู่บ้านจัดสรรเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีผู้คนมากมาย หลากหลายอาชีพ ปากกัดเท้าถีบ เช่าบ้านอยู่ในหมู่บ้าน ซึ่งคนที่มาอาศัยพื้นเพส่วนใหญ่เป็นคนต่างจังหวัด และเมื่อต่างคนต่างมา การปรับตัวในเมืองใหญ่ และค้นหาความรักในใจจึงเกิดขึ้น เรื่องราวความครื้นเครง อลเวง วุ่นรัก วุ่นวาย วนเวียนอยู่ในวงแคบๆ เพราะเห็นและรู้จักกัน บ้านโน้น หลังคานี้ ... ที่ชุมนุม ก็คงหนีไม่พ้น ร้านชำ ร้านกาแฟ อาหารสด อาหารแห้ง สนาม สวนหย่อมภายในหมู่บ้าน - ลูกชายบริษัทรักษาความปลอดภัย หลงรัก เซลล์สาวขายตรงจอมเขี้ยว - รปภ. กับ แม่ค้าส้มตำ - สาวใหญ่ ไฮโซ ขี้เมาท์ กับ คนจัดสวน 3 คู่ 3 รส เรื่องราวการเกี้ยวพาราสี ต่างรสชาติ บู๊ เผ็ด เด็ด มัน ฮา หันไปดูคู่นั้นก็อย่าง หันมาดูคู่นี้ก็อีกอย่าง ขาเมาท์ ขาแหย่ แส่หาเสี้ยน ก็สร้างความอลวนอลหม่านได้ไม่เบา..แต่ละอาชีพ สาขา ความจัดจ้านในการรุกบทรัก ช่างสรรหา มาให้ได้ครื้นเครง สุขสันต์ รักกระจุ๋มกระจิ๋ม กระแทกกระทั้น บู๊สะบั้น ห้ำหั่น เชิงรุกเชิงรับ ระหว่างคู่ชิงรักหักสวาท จะแวะเวียนให้ขบขัน สุขใจ ไปใน หมู่บ้าน สำราญรัก

ล้างรถตัดขนหมา 2554

เรื่องย่อ : ล้างรถ ตัดขนหมา (2554/2011) บ้านของ “กระเป๋า” (วัชรบูล ลี้สุวรรณ) กับ เยบีร่า (ลลนา ก้องธรนินทร์) มีที่นามากมาย แต่พอมีถนนใหญ่ตัดผ่าน ก็กลายเป็นแหล่งธุรกิจ มีห้างสรรพสินค้าเกิดขึ้น จึงทำให้ 2 บ้านนี้ ซึ่งบ้านหนึ่งมีลูกชาย นายกระเป๋า กับ อีกบ้านที่มีลูกสาว ชื่อ เยบีร่า ต่างก็หาเหตุผลต่างๆ นานา มาเชียร์ให้พ่อกับแม่แบ่งที่ดินที่ติดกัน ทำกิจการ ที่ดูเหมือนว่าจะคล้ายกัน ผิดตรงบริการให้ความสะอาดคนละอย่าง ด้วยเหตุผลที่ลูกต่างก็ยกแม่น้ำทั้งห้ามาสาธยายจนทำให้ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ยอมรับโดยปริยาย ธุรกิจเปิดตัว ความในใจของ 2 บ้าน รุ่นพ่อ รุ่นแม่จึงปุดออกมา เหตุเพราะบ้านของกระเป๋า มีแม่ที่ไม่ชอบหมาเอาซะเลย เนื่องจากเธอโกรธแม่ของเยบีร่า ที่ชื่อ “ยี่หร่า” (ภัสสร บุณยเกียรติ) เคยเลี้ยงหมาไร้มารยาท ขาดการฝึกฝนเรื่องขับถ่าย และ เห่าหอน ซึ่งเป็นปัญหาเช่นเดียวกับอีกหลายๆ บ้านที่ติดๆ กัน เกิดการทะเลาะวิวาท บาดหมาง มองหน้ากันไม่ติด ด้วยความที่ไม่ยอมกัน (ตามความคิดของคนรุ่นเก่า ที่เอาแต่ใจตัวเอง ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมปรับอะไรๆ บางอย่าง ที่ควรจะปรับ) เอาล่ะซี้ 2 ธุรกิจนี้ เปิดตัวก็มีปัญหาซะแล้ว ผู้ใหญ่ 2 บ้านก็จะต้องตะหงิดๆ ขุดมาคิดเรื่องเก่าๆ แถมกิจการก็ดั๊นดำเนินไปได้ด้วยดี ดี๊ ดี ทั้งหมา ทั้งรถ ของลูกค้าชาวบ้าน ที่มีงานทำไม่ขาดมือ ลูกค้าพนักงาน Office ในย่านนั้นๆ และอีกหลายๆ ลูกค้า ที่สลับสับเปลี่ยนกันมาใช้บริการ เป็นลูกค้าผ่าน และลูกค้าประจำในละแวกนั้น ที่สำคัญ หนุ่ม Office สุดเท่ ชื่อ “ตะกู” (พศิน ศรีธรรม) พื้นเพมาจากประทาย จ.นครราชสีมา มาใช้บริการล้างรถที่บ้านของกระเป๋า ก็เกิดมีความฝันปิ๊งๆ กับสาวเยบีร่า อย่างหัวปักหัวปำ เป็นคู่แข่งคู่กัดกับ กระเป๋า ขับเคี่ยวกันตลอด อย่างที่ตะกูก็ไม่รู้ว่า กระเป๋า แอบหลงชอบสาวเจ้าเหมือนกัน เค้าก็สงสัยเสมอ ว่าทำไม เค้าเอารถมาล้าง แล้วขอเดินไปนั่งอุดหนุนกาแฟร้อน ที่ร้านอาบน้ำ ตัดเล็บ ตัดขนหมา ของเยบีร่า ในระยะหลัง รถของตะกูจะได้รับการดูแลลัดคิวเสมอ ทำให้มีเวลาพูดคุยกับเยบีร่าได้น้อย พอรู้ว่ากระเป๋าก็แอบชอบเยบีร่า ตะกูจึงขอท้าแบบลูกผู้ชาย ใครดีใครได้ อย่าใช้วิธีสกปรกกระเป๋าตกลง ฝ่ายหนุ่มล้างรถก็ไม่น้อยหน้า มีสาวเจ้าของร้านขายเสื้อผ้าที่บินไปซื้อหามาขายอยู่บนห้าง แวะเวียนมาใช้บริการ ครั้งแรกที่มา ก็เกิดอาการหวั่นไหว สะทกสะท้านหนุ่มบ้านๆ เจ้าของกิจการ ซึ่งยิ่งรู้ว่าเป็นทายาทลุงกับป้าที่มีที่นายาวเหยียด บนถนนที่ตัดจากถนนสายธุรกิจไปนิดเดียว เธอยิ่งวาดฝันไปไกล ถ้าได้เป็นลูกสะใภ้ เธอก็จะปั่นให้ราคาที่ดิน ของลุง กับ ป้า ที่เป็นเศรษฐีที่ดินชานเมือง กลายเป็นคุณนาย คุณท่าน มหาเศรษฐี มีหน้ามีตาในสังคมชั้นสูง (เศรษฐีใหม่ไฮโซ สำเนียงเหน่อ) ได้ในพริบตา 2 บ้าน 2 กิจการ จะมีเรื่องอลหม่าน การบริการทั้งรถ ทั้งคน และ ทั้งหมา มาทำให้สนุกสนานเฮฮา ปะทะคารมกลมๆ ด้วยเรื่องกลความรักของแต่ละฝั่งที่มีเล่ห์เหลี่ยมหักมุมเอาชนะกันไม่ว่างเว้น แถมปมปัญหาติดพัน ระหว่างรุ่นพ่อ กับ รุ่นแม่ ที่หาเรื่องมาทะเลาะกันได้ไม่ขาดระยะ กว่าหนุ่ม-สาว จะลงเอย มิอาจคาดเดาได้ว่า ชีวิตรักของคนรักรถ กับ คนรักหมา จะหาช่องว่างทางธุรกิจ เพื่อต่อเติมรักใสๆ ของทั้ง 2 ฝ่าย ไปในทิศทางไหนแน่

หวานใจท้ายครัว 2554

เรื่องย่อ : หวานใจท้ายครัว (2554/2011) ปวีณา (เปรี้ยว) กับ อรนภา (อร) เป็นเด็กสาวที่นิสัยต่างกัน โดยเปรี้ยวแก่นไม่ยอมคน ส่วนอรเรียบร้อย สงบเสงี่ยม แต่ทั้ง 2 ก็คบหาเป็นเพื่อนรัก และพร้อมช่วยเหลือกันและกันเสมอ ชีวิตทั้งคู่ไม่ต่างจาก นางซิน เปรี้ยวจบปริญญา ได้งานเลขา แต่เมื่ออยู่บ้านเธอถูกกดขี่ให้ทำงานทุกอย่างโดย กุสุมา แม่เลี้ยง และลูก ๆ คือ กัมปนาท กันตา และ กันทิมา

ประสานพ่อของเปรี้ยวไม่ได้รักกุสุมา แต่เพราะอุบัติเหตุทำให้สามีกุสุมาเสียชีวิตพร้อมภรรยาของเขา กุสุมาเห็นทางสบายจึงให้ประสานรับผิดชอบ เขาจึงรับเธอและลูก ๆ เข้ามาอยู่ในบ้าน กุสุมาอ่อยเหยื่อจนได้เป็นแม่เลี้ยง แต่เธอไม่เคยญาติดีกับเปรี้ยวเลย กุสุมากลั่นแกล้งเปรี้ยวตั้งแต่เด็กโดยทำลับหลังประสาน เมื่อโตขึ้นเปรี้ยวไม่ยอมง่าย ๆ จึงตอบโต้กลับทุกครั้ง แต่เธอก็ยังน้อยใจที่พ่อเอาแต่เชื่อกุสุมา นอกจากนั้นกัมปนาท ลูกชายของกุสุมายังคอยลวนลามเธอ แต่เปรี้ยวก็เอาตัวรอดและเล่นงานเขาให้เจ็บตัวเสมอ

อรจบผู้ช่วยพยาบาล เธอเป็นกำพร้าจึงมาอยู่ในความดูแลของ อนงค์ ผู้เป็นยาย กับน้าสาวและน้าเขย คือ ปรียานุช และสมศักดิ์ อรมีหน้าที่ดูแลยายที่ป่วยต้องนั่งรถเข็น นอกจากนี้ยังต้องทำงานบ้านทุกอย่างให้กับน้าจอมงกด้วย อรเจอชะตากรรมเดียวกับเปรี้ยวเมื่อสมศักดิ์พยายามปล้ำเธอ แต่อรโชคดีที่เอาตัวรอดได้ทุกครั้ง

อรแอบรักพงศธรแฟนกันทิมาอยู่ พงศธรเป็นทายาทโรงงานเพชรพลอยที่จันทบุรี และเป็นเจ้าของร้านเพชรในห้างสรรพสินค้า กันทิมาเป็นคนขี้หึงและเอาแต่ใจ เธอเก็บอารมณ์ไม่อยู่จนมีเรื่องกับ โรส นางแบบสาวที่พยายามจะจับพงศธร แต่โรสนั้นฉลาดกว่าจึงใช้จุดอ่อนของกันทิมามาเรียกคะแนนสงสารให้ตัวเอง เมื่อกันทิมาอาละวาด จึงถูกพงศธรตำหนิ บ่อย ๆ เข้า เขาก็เริ่มทนพฤติกรรมของเธอไม่ได้

หลังจบปริญญาโทจากต่างประเทศ การิน ลูกโทนของเกรียงศักดิ์กับนลินี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แฟนหนุ่มของกันตา ก็เดินทางกลับเมืองไทย และตั้งใจจะไปเซอร์ไพรส์เธอที่บ้าน เช้าวันเดียวกัน เปรี้ยวกับอรชวนกันไปจ่ายตลาด โดยแยกกันซื้อของ อรได้พบพงศธรและขนมผิง หลานสาววัย 5 ขวบ ก็เข้าใจผิดคิดว่าเขามีลูกเมียแล้ว แต่ความจริงขนมผิงเป็นลูกของพี่ชายพงศธรที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ด้านเปรี้ยวที่มารออรที่ป้ายรถเมล์ เห็นหญิงชราข้ามถนนจึงไปช่วย แต่เกือบโดนรถของการินชน โชคดีที่เบรกทัน เปรี้ยวโกรธ ต่อว่าเขารุนแรง การินก็กวนอารมณ์เธอ ก่อนขับรถหนีไป ทำให้เปรี้ยวยิ่งแค้นจะตามไปเอาเรื่อง แต่อรห้ามไว้

กลับจากตลาดเปรี้ยวโดนกุสุมากับกันตาแกล้งให้ซักผ้าอีก แถมตอนซักทั้งคู่ยังตามหาเรื่อง เปรี้ยวโมโหจึงสาดน้ำผงซักฟอกไปหน้าบ้าน จนโดนการินที่โผล่มาเซอร์ไพรส์เข้าเต็ม ๆ ทีแรกเธอรู้สึกผิด แต่พอรู้ว่าเป็นใครก็เลยสะใจ จากวันนั้นทุกครั้งที่เจอทั้งคู่เป็นต้องปะทะคารมกันทุกครั้ง แต่กุสุมากลับหวั่นใจกลัวว่าการินจะไปสนใจเปรี้ยวแทนลูกสาวเธอ

กา รินพากันตาไปแนะนำให้พ่อแม่รู้จัก แต่นลินีไม่ถูกชะตากันตาเลย เมื่อเห็นว่าเป็นสาวสมัยใหม่เกินไป การินพยายามพูดให้แม่เปิดใจรับกันตา แต่ไม่เป็นผล กันตาชวนการินไปเที่ยวพัทยาเพราะการินมีบ้านพักที่นั่น กันทิมาชวนพงศธรแต่เขาขอเอาขนมผิงไปด้วย กันทิมาขัดใจแต่รู้ว่าพงศธรรักหลานมากจึงจำยอม กันตาอยากเล่นงานเปรี้ยวเลยขอเอาเปรี้ยวไปด้วยเพื่อใช้งาน โดยกุสุมาแกล้งพูดกับประสานว่าอยากให้เปรี้ยวพักผ่อน เปรี้ยวรู้ว่า 2 แม่ลูกต้องการอะไร แต่ก็ยอมไปโดยมีข้อแม้ ต้องให้อรไปด้วย ทั้งนี้เพราะอยากให้เพื่อนมีโอกาสใกล้ชิดพงศธร กัมปนาทตามไปอีกคนเพราะมีแผนจะรวบรัดเปรี้ยวเป็นเมีย

อรดีใจเมื่อรู้ว่าขนมผิงไม่ใช่ลูกพงศธรแถมเธอกับขนมผิงยังเข้ากันได้ดี แต่ที่แย่คือถูกกันทิมาอาละวาดใส่ เรื่องที่มาใกล้ชิดแฟนเธอ พงศธรพยายามช่วยอร ฝ่ายการินกับเปรี้ยวก็เหมือนเดิม เจอหน้าก็ฉะกันไม่มีใครยอมใคร ถึงกระนั้นกันตาก็ยังไม่พอใจ เมื่อคิดว่าเปรี้ยวพยายามอ่อยแฟนหนุ่ม

คืนนั้น พงศธรมีโอกาสได้ขอโทษอรเรื่องที่กันทิมาหาเรื่องเธอบ่อย ๆ ทั้งสองคุยกันอย่างมีความสุข อรเขินเมื่อเดินสะดุดทรายจะล้ม พงศธรรับร่างไว้ได้ทันทำให้ความรู้สึกดีเกิดขึ้นในใจทั้งคู่ เปรี้ยวไม่เห็นอรจึงออกตามหา จนถูกกัมปนาทดักปล้ำ แต่เปรี้ยวไม่ยอม แถมเล่นงานเขาจนสะบักสะบอม การินมาเห็นก็เข้าใจผิดคิดว่าเปรี้ยวยั่วกัมปนาท เปรี้ยวโกรธที่โดนดูถูกเลยด่าเขาอย่างเจ็บแสบ การินโกรธจะดึงเธอมาจูบ แต่กันตามาขวางไว้ก่อนแล้วจะตบเปรี้ยวแต่เปรี้ยวหลบทัน จนกันตาล้มก้นจ้ำเบ้าอย่างไม่เป็นท่า

เช้าวันใหม่ พงศธรไปช่วยอรในครัว แต่กันทิมาก็เข้ามาขัดขวางและอาละวาดอีกตามเคย ส่วนกันตาหวังเผด็จศึกการินเลยเช่าเรือเพื่อไปล่องเล่นสองคน เธอให้เจ้าของเรือเอาน้ำมันออกให้เหลือน้อยที่สุดเพื่อจะได้มีโอกาสใกล้ชิด เขา จากนั้นก็สั่งให้เปรี้ยวทำแซนด์วิชให้ แถมเยอะเย้ยว่าเปรี้ยวอิจฉาที่เธอจะได้ใกล้ชิดการิน เปรี้ยวจึงสวนกลับว่าเธอเกลียดการินเข้ากระดูกดำ การินได้ยินจึงโกรธคิดเอาคืน เมื่อเปรี้ยวเอาของขึ้นเรือ เขาจึงถือโอกาสขับเรือออกทะเลทันที กันตาโกรธเปรี้ยวมาก อรพยายามปกป้องเพื่อน กันทิมาเลยเล่นงานเธอไปด้วย ทำให้พงศธรยิ่งเห็นใจอรมากขึ้นอีก

บนเรือ การินเฉลยว่าที่เขาแกล้งเพราะได้ยินเปรี้ยวด่า และต้องการให้เธอขอโทษ แต่เปรี้ยวไม่ทำ ทั้งสองโต้เถียงกัน เปรี้ยวขู่จะกระโดดลงทะเลแล้วว่ายน้ำเข้าฝั่ง การินไม่คิดว่าจะทำจริง จึงท้า จนเปรี้ยวกระโดดจริง ๆ และถูกคลื่นซัดหายไป การินตกใจรีบลงไปช่วย เธอหมดสติ เขาจึงต้องผายปอดแบบเม้าธ์ทูเม้าธ์ เปรี้ยวฟื้นขึ้นมาด้วยความเขินอาย การินแกล้งเธอสะใจแล้วจึงจะขับเรือกลับ แต่น้ำมันหมด ทำให้ทั้งคู่ต้องค้างคืนในเรือ เปรี้ยวได้แกล้งการินบ้างเมื่อกินแซนด์วิชอย่างอร่อยโดยไม่แบ่งให้การินกิน แม้ท้องเขาจะร้อง การินหยิ่งไม่ขอเลยอดกินทั้ง ๆ ที่หิวจนไส้กิ่ว

กลาง ดึก เปรี้ยวนอนสั่นด้วยพิษไข้จากที่ตัวเปียกและอากาศหนาว การินตัดสินใจกอดเธอเพื่อช่วยให้อบอุ่น มันได้ผลเมื่อเธอหายสั่น ส่วนเขาก็มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ทั้งสองนอนกอดกันจนเช้า กันตาที่จ้างเรือออกตามหาจนพบ เห็นทั้งคู่นอนกอดกันก็อาละวาด ตบหน้าเปรี้ยว ๆ ก็ไม่ยอมจึงตบคืน การินและพงศธรต้องห้ามศึก กันตาพยายามคาดคั้นการินเรื่องที่เขาขับเรือพาเปรี้ยวไป แต่การินไม่ตอบ เขาโกรธและเลือกจะกลับกรุงเทพฯ ทันที

กลับมาบ้าน ทุกคนพร้อมใจกันบอกกุสุมาว่าไม่สนุก กันตาบอกเรื่องการินกอดเปรี้ยว กันทิมาบอกเรื่องพงศธรทำท่าสนใจอร ส่วนกัมปนาทก็ฟ้องแม่ที่โดนเปรี้ยวเล่นงาน ทำให้กุสุมาหาเรื่องเล่นงานเปรี้ยวและยื่นคำขาดให้เลิกยุ่งกับการิน เปรี้ยวแกล้งบอกว่าจะแย่งการินมาเป็นของเธอ กุสุมาฟ้องประสาน ทำให้พ่อลูกโต้เถียงกัน เปรี้ยวน้อยใจที่พ่อเชื่อว่าเธอจะแย่งแฟนคนอื่นจริง ๆ

การินรู้สึกแย่กับพฤติกรรมของกันตา ซึ่งนลินีพอใจที่ลูกชายทำท่าเบื่อผู้หญิงที่แม่ไม่ชอบ มากไปกว่านั้นการินยังรู้สึกดีต่อเปรี้ยวจากที่ได้ใกล้ชิด ส่วนเปรี้ยวก็รู้สึกไม่ต่างจากเขา เช่นเดียวกับคู่ของพงศธรและอร วันรุ่งขึ้นพงศธรจึงไปดักรออรที่ตลาด ความสัมพันธ์ระหว่างพงศธรกับอรคืบหน้าขึ้นทุกวัน ยิ่งเมื่อเขาได้เห็นด้านไม่ดีของกันทิมาระยะห่างระหว่างทั้งคู่ก็ยิ่งมาก ขึ้นเรื่อย ๆ

การินทำตัวดีด้วยการรับงานที่บริษัท จนได้พบเปรี้ยวซึ่งทำงานในตำแหน่งเลขาของนลินี และต้องมาเป็นเลขาให้เขาด้วยอย่างไม่มีทางเลือก การินย้ายโต๊ะทำงานเปรี้ยวมาอยู่ในห้องเดียวกัน เขาให้เหตุผลว่ากลัวเธออู้ ทั้งที่จริงอยากอยู่ใกล้ชิด ด้านกันตาที่งอนการินเพราะเขาไม่มาหา แต่เมื่อรู้ว่าเขาอยู่ที่บริษัท เธอจึงบุกไปพบ และต้องตกใจเมื่อรู้ว่าเปรี้ยวเป็นเลขาการิน กันตาอาละวาดหนักจนการินตัดสินใจขอถอยคนละก้าว กันตาโกรธเปรี้ยวที่ทำให้การินเปลี่ยนไปไม่รักเธอเหมือนเก่า

เพราะโดนยุจากอรให้หาโอกาสขอบคุณการินที่เคยช่วยตอนติดอยู่บนเรือ เปรี้ยวจึงทำแซนด์วิชไปให้ เมื่อรู้สึกผิดที่วันนั้นไม่ยอมให้เขากิน เป็นผลให้มิตรภาพระหว่างทั้งคู่งอกงามขึ้น ซึ่งกันตายอมไม่ได้ เธอจ้างคนไปสาดน้ำกรดหวังให้เปรี้ยวเสียโฉม แต่การินเห็นก่อนจึงเอาตัวบังให้ จนโดนน้ำกรดแทน และโชคดีโดนเฉี่ยวแขนเท่านั้น กันตาเจ็บใจที่เปรี้ยวไม่เป็นอะไร กุสุมาบอกให้ใช้วิกฤติเป็นโอกาสโดยรีบไปเยี่ยมแสดงความห่วงใยซึ่งจะนำไปสู่ การปรับความเข้าใจกัน

เปรี้ยว เป็นห่วงการิน และประทับใจที่เขาปกป้องเธอ ทั้งการินและเปรี้ยวต่างสงสัยกันตา แต่ไม่อยากปรักปรำ นลินีมาเยี่ยมลูกชาย การินกลัวแม่จะโทษเปรี้ยวจึงพยายามพูดปกป้อง จนนลินีสงสัยว่าลูกชายคิดอะไรกับเปรี้ยวหรือเปล่า ชกันตามาเยี่ยมการิน และโทษเปรี้ยวว่าเป็นต้นเหตุทำให้การินเจ็บตัว เพื่อเป็นการกลบเกลื่อนสิ่งที่ตัวเองทำ แต่ก็โดนนลินีจับผิดว่ารู้ได้ยังไงว่าการินโดนสาดน้ำกรด กันตาต้องแสร้งบอกว่าเพื่อนของเธอโทรบอก แต่นั่นไม่สามารถทำให้การินเชื่อได้ เขาจึงพูดให้เธอหยุดทำเรื่องชั่วร้าย และระหว่างเขากับเธอขอให้จบแค่นี้ กันตายิ่งเพิ่มความโกรธเกลียดเปรี้ยวที่ทำให้การินเปลี่ยนไป เมื่อกลับถึงบ้าน เธอจึงโกหกว่าการินช่วยเปรี้ยวเพราะต้องการให้ใครๆมองว่าเป็นสุภาพบุรุษเท่า นั้น เปรี้ยวเข้าใจผิดจึงบึ้งตึงต่อการิน ๆ รู้สึกผิดปกติจึงคาดคั้นจนได้รู้ความจริง และอธิบายให้เธอเข้าใจว่าเขาอยากปกป้องเธอจากใจจริง

สมศักดิ์พาปรียานุชไปต่างจังหวัด อรสบายใจเพราะไม่ต้องคอยระวังตัวจากน้าชาย อรนึกถึงพงศธรที่บอกว่าติดใจฝีมือทำอาหารของเธอ จึงโทรบอกว่าจะทำอาหารไปส่งให้ที่คอนโด แต่หลังวางสายกุสุมาโทรหาพงศธรขอร้องให้ไปเยี่ยมกันทิมาที่ตรอมใจจนไม่สบาย แถมขู่จะฆ่าตัวตาย พงศธรไม่อยากไป แต่เมื่อคิดว่าเยี่ยมกันทิมาแล้ว จะแวะรับอรด้วย จึงยอมไป โดยหารู้ไม่ว่ากำลังหลงกลกันทิมาที่วางแผนเผด็จศึกเขา ซึ่งอรแอบได้ยินแผนการตอนเอาขยะมาทิ้งหน้าบ้าน

เมื่อพงศธรมาถึงก็พบกันทิมานอนอยู่แต่ไม่ใส่เสื้อผ้า แถมพยายามปล้ำเขา แต่ก่อนจะพลาดท่า อรก็มาขัดจังหวะพอดี พงศธรสลัดจากกันทิมาแล้วตามอรไป โดยทิ้งให้กันทิมาต้องอารมณ์ค้างและเจ็บใจสุด ๆ กุสุมาและกันตากลับมาบ้านก็พบกันทิมากำลังเกรี้ยวกราดที่แผนไม่สำเร็จ โดยบอกว่าอรเป็นคนขัดขวางทุกอย่าง ดังนั้นเมื่อสมศักดิ์กับปรียานุชกลับมา กุสุมาจึงฟ้องว่าอรแย่งแฟนลูกสาวเธอ อรโดนดุอย่างหนัก ส่วนสมศักดิ์รู้ว่าต้องหาทางรวบรัดอรให้เร็วที่สุด พงศธรรู้เรื่องที่กันทิมากับแม่เล่นงานอร บวกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เขาตัดสินใจบอกเลิกกับกันทิมาเด็ดขาด

โอกาสเหมาะปรียานุชไปทำงานสมศักดิ์ออกอุบายให้อรไปที่ห้องแล้วปล้ำโชคดีที่ ปรียานุชย้อนกลับมาเพราะลืมของ ชสมศักดิ์เอาตัวรอดด้วยการบอกว่าโดนอ่อยเหยื่อ ปรียานุชเชื่อสามีจึงไล่อรออกจากบ้าน กันทิมาสะใจที่อรโดนเล่นงานแต่ดีใจได้ไม่นานเมื่อพงศธรยื่นมือเข้าช่วยโดย รับอรไปอยู่ด้วยในฐานะพี่เลี้ยงหลาน ขนมผิงดีใจ แต่กันทิมานั้นแค้นมาก ส่วนเปรี้ยวก็สบายใจเมื่อเพื่อนพ้นปากเหยี่ยวปากกาแถมมีพงศธรคอยปกป้องดูแล

ความรักของการินและเปรี้ยวต้องเจอบททดสอบ เมื่อ ชาติชาย เพื่อนของเปรี้ยวมาหาเธอเพราะมีปัญหากับคนรัก เปรี้ยวปลอบใจด้วยการกอดเขา การินมาเห็นจึงเข้าใจผิด เปรี้ยวพยายามอธิบาย แต่เขาไม่ฟังแถมต่อว่ารุนแรง เธอเลยประชดด้วยการทำตัวสนิทสนมกับชาติชาย

กันทิมาพบพงศธรกับอรที่ร้านอาหาร เห็นโอกาสที่จะเล่นงานเลยถ่ายรูปทั้งคู่แล้วส่งให้พ่อแม่พงศธรดู โดยบอกว่าผู้หญิงที่พงศธรคบเป็นแค่คนรับใช้ พ่อแม่ของพงศธรไม่พอใจจึงรีบมากรุงเทพ โดยกันทิมาเป็นธุระพาทั้งสองไปที่คอนโด พงศธรตกใจ แต่เมื่อทุกอย่างมาถึงขั้นนี้ก็ไม่อยากปิดบัง จึงบอกพ่อกับแม่ว่าอรเป็นคนดี และเขาก็รักเธอ ขนมผิงก็ช่วยพูดกับปู่ย่าถึงความน่ารักของอร ท่าทีของพ่อแม่จึงอ่อนลง กระนั้นก็ยังไม่ยอมรับอร แต่อยากให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ แค่นี้ทั้งคู่ก็พอใจแล้วที่พ่อแม่ไม่ขัดขวาง แต่คนที่โกรธกลับเป็นกันทิมาที่แผนกลับตาลปัตร

สถานการณ์ ระหว่างการินกับเปรี้ยวยิ่งแย่ลง แม้การินจะขอโทษแต่เปรี้ยวไม่แยแส ทำให้การินโกรธ เลยประชดบ้างด้วยการทำจี๋จ๋ากับกันตา แต่เมื่ออยู่ลับหลังเปรี้ยวการินก็ไม่สนใจกันตาแม้แต่น้อย เปรี้ยวเครียดเรื่องการิน เลยชวนชาติชายเที่ยวผับ การินแอบตามไป กัมปนาทก็เหลือบเห็นจึงรีบโทร.บอกกันตา เปรี้ยวเห็นการินยังตามตอแยเลยแกล้งเขาด้วยการชวนชาติชายไปเต้นรำ พอการินจะเข้าไปขัดจังหวะเธอก็เดินหนี การินโมโหหึงเลยกอดจูบเธอ เปรี้ยวเสียใจคว้าแขนชาติชายหนีออกจากผับไป ส่วนการินก็ได้แต่เศร้าจึงดื่มเหล้าอย่างหนัก สบโอกาสให้กันตาพาเขาเข้าโรงแรมหวังรวบรัด ก่อนจะทำอะไรก็จัดฉากถ่ายรูประหว่างเธอกับเขาเหมือนมีอะไรกันเอาไว้ แต่พอเธอคิดจะปล้ำ เขากลับตื่นขึ้นมาพอดี เขาขัดขืนและหนีไปได้สำเร็จ กันตาผิดหวัง แต่ก็ไม่ได้คว้าน้ำเหลวเมื่อได้ภาพไว้แบลกเมล์ ดังนั้นรุ่งขึ้นเธอเอาภาพนั้นไปเย้ยเปรี้ยวถึงบริษัท ทำให้เปรี้ยวยิ่งเข้าใจการินผิด จากนั้นกันตายังบุกไปที่บ้านการินแล้วเอาภาพให้ดู พร้อมยื่นคำขาดให้เขารับผิดชอบ ไม่อย่างนั้นภาพจะถูกเผยแพร่ตามสื่อ แต่การินไม่มีทางยอมรับเมื่อเขาไม่ได้ทำ แล้วถ้าเธอเผยแพร่รูป ผู้หญิงจะเป็นฝ่ายเสียหายกว่า กันตาเจ็บใจการินแถมนลินียังเอ่ยปากไล่ จากนั้นการินไปอธิบายกับเปรี้ยว แต่เปรี้ยวไม่ฟังกลับขอยุติสัมพันธ์กับเขา และบอกว่าจะแต่งงานกับชาติชาย

นอกจากปัญหาความรักที่ยังไม่ลงตัว เปรี้ยวยังต้องเจอปัญหาครอบครัวเมื่อลูกน้องเสี่ยคนดังบุกมาที่บ้าน และบอกเรื่องที่กุสุมาเอาบ้านไปจำนองเพราะติดหนี้พนัน ซึ่งบ้านกำลังจะโดนยึดหากไม่เอาเงิน 10 ล้านไปไถ่ภายใน 1 เดือน ถึงตอนนี้ประสานจึงรู้ว่าภรรยาเป็นคนแบบไหน เมื่อประสานคาดคั้น กุสุมาก็ยอมรับว่าจริง และประกาศว่าไม่เคยรักประสาน ทุกอย่างที่เธอทำก็เพื่อความสบายของเธอกับลูกเท่านั้น ประสานเสียใจ ไล่กุสุมากับลูกออกจากบ้าน กุสุมาไม่สะทกสะท้านเมื่อยังไงบ้านก็ต้องถูกยึด เธอจึงพาลูก ๆ ไปอยู่บ้านเช่าในสลัม ซึ่งลูก ๆ ต่างรับไม่ได้ แต่มันก็ไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้ หลังจากกุสุมากับลูก ๆ ไปแล้ว พ่อลูกที่เคยบาดหมางก็ปรับความเข้าใจกันได้ ประสานขอโทษเปรี้ยว ๆ ดีใจที่พ่อกลับมาเป็นคนเดิม ยามมีทุกข์ เปรี้ยวก็ได้กำลังใจจากอรเพื่อนที่ไม่เคยทิ้งกัน พงศธรจะช่วยเปรี้ยวเรื่องบ้าน แต่เปรี้ยวไม่อยากรบกวน โดยบอกว่าขอสู้ด้วยตัวเองก่อน เมื่อพงศธรมีโอกาสเจอการินในสภาพเอาแต่กินเหล้าเมาหยำเป พงศธรจึงบอกการินเรื่องบ้านของเปรี้ยวที่จะโดนยึด หวังว่าการินจะช่วยเปรี้ยวได้ แต่ทิฐิทำให้เปรี้ยวปฏิเสธโดยบอกว่าชาติชายจะช่วยเธอ ทำให้การินต้องเศร้าหนักเข้าไปอีก

พงศธรกับอรอยากช่วยการินกับเปรี้ยวที่รักกันแต่มีทิฐิ จึงชวนทั้งคู่มางานวันเกิดขนมผิงโดยชวนชาติชายมาด้วย ความจริงจึงเปิดเผยว่าชาติชายเป็นเกย์ การินง้อสำเร็จ ทั้งสองปรับความเข้าใจกัน เปรี้ยวพาการินไปแนะนำให้พ่อรู้จัก ส่วนการินก็พาเปรี้ยวไปแนะนำกับพ่อแม่ นลินีไม่รังเกียจเปรี้ยวแม้ฐานะจะไม่ทัดเทียม แต่ยอมรับเมื่อเปรี้ยวเป็นคนดี และสัญญาว่าจะช่วยไถ่บ้านโดยให้เป็นเรือนหอของทั้งคู่ ขณะที่ทุกชีวิตกำลังมีความสุข แต่กุสุมากับลูก ๆ ต้องลำบาก กุสุมาที่ได้เงินกัมปนาทจากการปอกลอกสาวใหญ่ก็เอาไปเข้าบ่อนเสียหมดตัว ส่วนกัมปนาทก็โดนสามีนายพลของผู้หญิงคนนั้นสั่งสอนจนสะบักสะบอม กันตาเครียดเมื่อได้ข่าวการินกับเปรี้ยวจะแต่งงานกัน ฝ่ายกันทิมาก็แค้นเมื่อรู้ว่าความรักของพงศธรกับอรคืบหน้า เมื่อต้องอยู่ในภาวะกดดันแม่ลูกจึงวางแผนทำเรื่องชั่วร้าย กัมปนาทลักพาตัวเปรี้ยวกับอรไปที่บ้านเก่าของกุสุมาที่สระบุรี ขณะที่กัมปนาทพยายามปล้ำเปรี้ยว เปรี้ยวขัดขืนเต็มที่และก่อนจะพลาดท่า การิน พงศธร ประสานพร้อมกำลังตำรวจก็บุกมาถึง กัมปนาทจับเปรี้ยวเป็นตัวประกันโดยมีปืนจี้ที่ท้อง กันตาบอกให้พี่ชายยิงเปรี้ยวเพื่อความสะใจ กัมปนาทเตรียมจะลั่นไก การินตัดสินใจเสี่ยงคว้าปืนจากมือตำรวจยิงไปโดนมือกัมปนาท จนปืนหล่นจากมือ กุสุมาและลูกถูกจับเข้าคุก เปรี้ยวและอรปลอดภัยอย่างหวุดหวิด

ผ่าน เหตุการณ์ร้ายจึงมีแต่เรื่องดี ๆ การินกับเปรี้ยวและคู่ของพงศธรและอรตัดสินใจแต่งงานใช้ชีวิตร่วมกัน อรทำให้พ่อแม่ของพงศธรยอมรับในตัวเธอเมื่อใช้เวลาว่างจากการดูแลขนมผิงไป เรียนพยาบาลจนจบได้เป็นพยาบาลสมใจ สองคู่รักแต่งงานพร้อมกันโดยเลือกบรรยากาศริมทะเลเป็นสถานที่แต่งงานแบบสบาย ๆ อย่างมีความสุขจนใคร ๆ ที่เห็นต้องอิจฉา ติดตามชม ละครหวานใจท้ายครัว

คุณหมอ…ม.3 2553

คุณหมอ…ม.3 (2553/2010) ครอบครัว กวี (ตฤณ เศรษฐโชค) กับ บุญรัตน์ (ปนัดดา วรัญญาณ) สืบทอดการนวดแผนไทย และปลูกพืชสมุนไพรมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ กันเกรา (เปรมสินี รัตนโสภา) ลูกคนโต เสม็ด (นันทศัย พิศลยบุตร) คนรอง และ มะก่องแก้ว,แก้ว (มรกต กิตติสาระ) คนสุดท้อง ล้วนศึกษาวิชาด้านนี้จนชำนาญ แต่แก้วกลับเลือกที่จะค้าขาย ทั้งนี้เพราะชาวบ้านมีความเชื่อกันว่าลูกหลานที่สืบทอดอาชีพนวดจะเป็นผีปอบ ทำให้แก้วมักมีปัญหากับเพื่อนที่ชอบล้อเธอมาตั้งแต่เด็ก ประกอบกับลูกค้าหนุ่ม บางคนตีค่าว่าหมอนวดใจง่าย คิดซื้อตัวหลังนวด แถมความสวยของเธอก็ทำให้มีการลวนลามเกิดขึ้น ปัญหาเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุให้แก้วไม่อยากยึดอาชีพนวดตามรอยคนในครอบครัว ตัวเอง หลังจบมัธยม 3 แก้วก็เบนอาชีพไปเป็นแม่ค้าในตลาดกับมะตูม (ญาติ) (กฤษฎี พวงประยงค์) เนื่องจากแม่ต้องดูแลร้านนวด ส่วนพ่อก็ต้องดูแลสวนสมุนไพร ย่าเพียงใจ (ปนัดดา โกมารทัต) ก็ต้องเป็นผู้ผสมตัวยา จึงไม่มีใครนำสินค้าพืชสวนพืชไร่ สมุนไพร และลูกประคบไปขาย แก้วนั้นไม่ค่อยจะยอมนวดให้ใครนัก เว้นแต่เพื่อนหรือคนสูงวัยที่ปวดเมื่อยเป็นบางครั้งเท่านั้น ธัญชยุท (ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์) หนุ่มผู้ร่ำรวย เชื้อสายผู้ดีเก่าตั้งแต่ยุคปู่ย่าคือ หลวงรัชไพสิท กับ ท่านผู้หญิงพจีรัตนา(ปัจจุบันมีชีวิตอยู่) กระทั่งมาถึงยุคพ่อแม่คือ จารุทัศน์ กับ ภัทริน ก็ยังร่ำรวย มีที่ดินมากมาย สองสามีภรรยามีลูก3คนคือ นุสมล (เจมี่ บูเฮอร์) คนโต อิษฏา คนกลาง และธัญชยุทคนเล็ก ซึ่งค่อนข้างติดดินต่างกับพี่ๆเพราะนอกจากเขาจะเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัย เปิด ยังไม่ชอบคบไฮโซฯ แต่เลือกคบเพื่อนฐานะธรรมดาทั่วไป ภัทรินเกรงลูกชายจะไม่ได้ดี จึงพยายามบังคับให้หมั้นกับ จรีย์กร (ภราดา กงทอง) ลูกนักธุรกิจใหญ่ แต่ธัญชยุทไม่ชอบสาวหัวสูง แถมจรีย์กร ยังไม่ชอบเพื่อนๆของเขา โดยเฉพาะ ภูวดล (พิชยดนย์ พึ่งพันธ์) ซึ่ง เป็นพนักงานส่งเอกสาร เพราะมองว่าต้อยต่ำ ภูวดลนั้นมีภาระต้องลางานกลับไปเยี่ยมพ่อที่เป็นอัมพฤกษ์ที่ต่างจังหวัด บ่อยๆ หากบริษัทมีงานธัญชยุทก็อาสาส่งเอกสารแทนเพื่อนบ้าง เมื่อธัญชยุททนครอบครัวกดดันเรื่องจรีย์กรไม่ไหว จึงตัดสินใจหนีไปพักกับภูวดลที่แฟลต เขาต้องปรับตัวเพื่อให้เข้ากับสภาพความเป็นอยู่ติดดินของเพื่อน แต่บางครั้งก็เผลอใช้เงินเลี้ยงเพื่อนบ้าง แม้ภูวดลจะคอยเตือนเพื่อน ให้ใช้จ่ายอย่างประหยัดก็ตาม ทางบ้านส่งข่าวมาว่า ภาคภูมิ พ่อของภูวดล ตอนนี้อาการหนักจน ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ภูวดลกลุ้มใจมาก ตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อกลับไปดูแลพ่อ ธัญชยุทนึกสนุกจึงขอตามไปด้วย ภาคภูมิปลูกผักตามฤดูกาลขาย ดังนั้นภูวดลจึงมีหน้าที่ขับรถนำสินค้าไปส่งยังตลาดสด โดยมีธัญชยุทติดตามไปเสมอ อาชีพค้าขายเป็นชีวิตแปลกใหม่สำหรับชายหนุ่ม เขาสนุกที่ต้องเป็น “นายยุท” หรือ “เจ้ายุท” ของพวกพ่อค้าแม่ค้า เพราะความเป็นคน พูดไม่คิด หยอกคนผิดจังหวะ ธัญชยุทจึงมีปัญหาขัดแย้งกับพวกพ่อค้าหนุ่มๆหรือพวกมอเตอร์ไซค์รับจ้างบ้าง ในช่วงแรกๆ แต่ความเป็นหนุ่มรูปงามก็ทำให้พวกแม่ค้าสาว ๆ พอใจเขาเสียส่วนใหญ่ โดยเฉพาะ วันทนา (ปาริตา โกศลศักดิ์) แม่ค้าปลาร้าปลาส้ม ซึ่งผิดกับแก้วที่ไม่ชอบนิสัยปากพร่อยของนายยุทเอาเลย

ล่องเรือหารัก 2552

เรื่องย่อ : ล่องเรือหารัก (2552/2009) เกียรติ หนุ่มนักเรียนนอก ลูกชายมหาเศรษฐี ถูก พักตร์พริ้ง ผู้เป็นแม่บังคับให้แต่งงานกับ นงค์นาฏ ผู้หญิงที่เลือกให้ ขณะที่ บันลือ ผู้เป็นพ่อไม่เห็นด้วยนักกับความจุ้นจ้านของภรรยา เกียรติบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา ที่สุดก็ทนการรบเร้าไม่ไหว จำใจต้องยอมแต่งงาน แต่แล้วในวันแต่งจู่ๆ เจ้าสาวก็โดนแฉว่าท้องแล้ว พร้อมกับสามีของเจ้าสาวพาพรรคพวกมาขอเมียคืน พิธีจึงต้องยุติลงพร้อมความเสียใจ และการเสียหน้าของบรรดาญาติทั้ง 2 ฝ่าย โดยเฉพาะเกียรตินั้นอับอายขายหน้าแขกเป็นอันมาก ขณะที่พักตร์พริ้งนึกโกรธแค้น ประกาศในงาน ว่าจะหาผู้หญิงที่เหมาะสมกับลูกชายมาแต่งงานใหม่ในเร็ว ๆ นี้ ความอลหม่านวุ่นวายในงาน แม้จะทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกแย่ แต่สำหรับ อรวี เพื่อนสาวของเกียรติ และจรุงจิตสาวใหญ่รุ่นพี่ เรื่องนี้กลับจุดประกายความหวังในใจ ทั้งคู่ต่างหมายมั่นว่าตนเองจะต้องเป็นเจ้าสาวตัวจริงของเกียรติให้จงได้ เกียรติหนีออกจากงานหลบมาเดินเล่นทอดอารมณ์ที่สะพานใกล้ๆ โดยมีคนสวนชื่อบุญธรรม เดิมตามมาห่างๆ ทั้งคู่ได้พูดคุยกันถึงชีวิตในอดีตของบุญธรรม ที่แม้จะยากจนแต่ก็มีความสุข บุญธรรมเล่าว่า แกมีบ้านอยู่ปากน้ำโพ หาเช้ากินค่ำ พออายุใกล้สามสิบเพื่อนบ้านให้เรือมาลำหนึ่ง ก็หาเงินซื้อของใส่เรือ แล้วล่องไปขาย ชีวิตอยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง ค่ำไหนนอนนั่น ขายของหมดที่ไหนก็หาตลาดใกล้ ๆ ซื้อของเร่ขายต่อ ก็สนุกและเป็นอิสระ ได้พบปะผู้คนมากมาย ที่ไม่เคยพบสาว ก็ได้เจอสาวสวยแตกต่างกันไป บุญธรรมเองก็ได้เมียเพราะล่องเรือขายของ แต่เมียของเขามาเสียชีวิตไปก่อน บุญธรรมก็เลยยุติชีวิตล่องเรือแล้วมาเป็นคนสวน คืนนั้นเกียรติปรึกษาพ่อ ขอไปใช้ชีวิตเป็นตัวของตัวเองสักพัก บันลือเห็นใจลูกจึงอนุญาต แต่ก็ไม่วายห่วง จนเกียรติบอกว่าการไปครั้งนี้จะเอาบุญธรรมไปด้วย บันลือจึงคลายวิตกลง เกียรติล่องเรือลำใหญ่ทาสีฉูดฉาดไปตามลำคลอง ข้างเรือมีป้ายเขียนว่า"มินิมาร์ทลอยน้ำ" ในเรือประกอบด้วยสินค้าแทบทุกชนิด ห้อย วาง แขวน อย่างมีระเบียบ บุญธรรมเป็นคนบังคับเรือ เกียรติพูดออกเครื่องขยายเสียงโฆษณาชวนเชื่อ ตลอดที่เรือผ่าน พอมีลูกค้าริมคลองเรียก ก็แวะขายของเป็นรายทางไป บุญธรรมอารมณ์ดีขายไปร้องเพลงไป เกียรติชอบใจบอกให้บุญธรรมสอนเพลงลูกทุ่งให้บ้าง บุญธรรมจึงแนะให้หาเครื่องเสียงมาหัดร้องกันในเรือว่างเมื่อไหร่ก็ร้องไปสนุกๆ เดี๋ยวก็ชำนาญ ด้วยอารมณ์สนุกเรือผ่านบ้านไหนบุญธรรมก็ยุให้ร้องเพลงจีบสาว จนสาวสองฝั่งน้ำหลงรักเกียรติมากมาย บางครั้งจีบผิดไปจีบเอาคนมีสามีแล้วก็ต้องหักหัวเรือหนีแทบไม่ทัน มันเป็นความสนุกแปลกใหม่จนทำให้เกียรติถึงกับลืมบ้าน หลงใหลอยู่กับเรือและธรรมชาติชนบทริมน้ำ โดยเขาเปลี่ยนชื่อใหม่ในฐานะพ่อค้าว่า "รักเร่" วันหนึ่ง รักเร่อยากหัดบังคับเรือ แต่พลาดไปทำเรือข้าวแกงเร่ของ พิมพ์จิต และหอมจันทร์ ลูกสาวล่มหม้อข้าวหม้อแกงจมหายต้องดำผลุดดำว่ายหากันจ้าระหวั่น 2หนุ่มช่วยพา2สาวขึ้นจากน้ำ และชดใช้ค่าเสียหายให้ ทั้งคู่จอดเรือใกล้ ๆ บ้านหอมจันทร์เพื่อช่วยซ่อมเรือ อีกทั้งเป็นโอกาสที่รักเร่จะได้ใกล้ชิดหอมจันทร์ เพราะทั้งคู่สะดุดใจกันตั้งแต่แรกเห็น พิมพ์จิตและลูกเป็นคนจน มีความเป็นอยู่ง่าย ๆ แต่มีน้ำใจ เมื่อทั้งคู่ช่วยซ่อมเรือ 2 แม่ลูกก็จุนเจืออาหารการกินให้ เพราะความไม่ชำนาญงานช่าง รักเร่พลาดถูกเลื่อยบาด บุญธรรมจึงพาไปคลินิกใกล้ๆจนได้รู้จักกับ กันยา พยาบาลสาวพราวเสน่ห์ประจำคลินิก กันยาหลงรักรักเร่ตั้งแต่แรกพบ จึงพยายามตามติดประชิดถึงตัว คอยเอาอกเอาใจ จนหอมจันทร์เข้าใจผิดบ่อยๆ กันยาไม่ถูกชะตากับหอมจันทร์ เพราะรู้ว่ารักเร่ชอบหอมจันทร์จึงทำทุกทางเพื่อให้เข้าใจผิดกัน เพราะหมายมั่นจะแย่งมาให้ได้ คนอย่างกันยาไม่ธรรมดา ชอบใคร หลงใคร ก็จะใช้จริตมารยาเข้าใกล้ แต่ถ้าดูใจไปแล้วไม่ปลื้มก็จะตีห่าง ก่อนหน้านี้เธอเคยคบหาหนุ่มมาหลายราย บางคนมีครอบครัวไปแล้วก็จบกัน บางคนยังแค้นกันยาอยู่ก็มี เช่นขวดนักร้องลูกทุ่งไส้แห้ง ที่หลงผิดคิดว่าเธอจริงใจด้วย เพราะกันยาเข้ามาหาเขาก่อน แต่เมื่ออยู่กันไปแล้วไม่เห็นอนาคตเธอก็ตีจากเขาเอาดื้อ ๆเช่นกัน พักตร์พริ้งต่อว่าบันลือที่ปล่อยลูกชายไป แต่บันลือกลับไม่สน มีแต่ตัวเธอที่ร้อนใจ เพราะได้ไปตกลงกับเพื่อน ขอลูกสาวเอาไว้ให้แต่งกับลูกชายอีกแล้ว แต่เมื่อฝ่ายชายไม่อยู่จึงต้องเลิกล้ม เรื่องการหายตัวไปจากสังคมของเกียรตินั้น คนที่ดูจะร้อนรนพอๆกับผู้เป็นแม่ก็เห็นจะเป็นสองสาวต่างวัย อรวี และ จรุงจิต อรวีเป็นเพื่อนสาวไฮโซรุ่นราวคราวเดียวกับเกียรติ จึงเข้าไปตีสนิท เข้านอกออกในที่บ้านพักตร์พริ้งได้ในฐานะเพื่อนของลูกชาย ส่วนจรุงจิตนั้นเป็นสาวไฮโซรุ่นใหญ่กว่ากันนิด จึงได้แต่พบปะสนิทสนมกันเฉพาะในงานสังคม เมื่อทั้งคู่แอบพอใจเกียรติและหมายมั่นจะเป็นสะใภ้ของพักตร์พริ้ง จึงคอยเงี้ยหูฟังข่าวคราวของเขาเสมอ สายใจ ลูกสาวเศรษฐีสน เศรษฐีที่นา เธอเป็นลูกค้าเรือรักเร่ วันนี้เรือมาจอดที่ท่าบ้านสายใจ เธอจึงลงไปซื้อของ พอเศรษฐีสนเห็นเข้า ด้วยความหวงลูกสาวจึงตะโกนไล่ให้รักเร่ไปจอดที่อื่น ยิ่งเห็นสายใจลงไปในเรือก็ยิ่งโกรธมาก รักเร่อ้อนวอนยังไงเศรษฐีสนก็ไม่ยอม บุญธรรมจึงออกอุบายเชิญเศรษฐีสนลงไปดูสินค้าในเรือ แล้วเอาเหล้าที่มีขายออกมาให้ดู เท่านั้นเองคอสุราอย่างเศรษฐีสนก็ตาลุกเชิญทั้งสองไปกินเหล้ากันบนบ้าน ยิ่งดึกยิ่งเมาเขาก็ยิ่งใจดี เชื้อเชิญให้ทั้งคู่ค้างที่บ้านได้ แต่พอเช้าสร่างเมาก็ลืมหมด แถมโกรธคว้าปืนมาไล่ยิงจนทั้งคู่หนีลงเรือกันแทบไม่ทัน ชะเอม เจ้าของร้านค้าของชำในตลาด แม่หม้ายเรือพ่วง 2 ลำคือ เจ้าชะโอด และเจ้าชะอม กำลังต่อว่า ชะโอด ลูกคนโต ที่ไปหลงรัก น้ำตาล ลูกสาวใหญ่ เจ้าของโรงสีที่ไม่ถูกกัน เพราะขัดผลประโยชน์ทางการค้า แต่ชะโอดรักน้ำตาลจึงไม่ยอมฟัง ยิ่งทำให้ชะเอมโมโหหนัก คาดโทษต่างๆ นานา พาลด่าไปถึงใหญ่และลูกสาว รักเร่ล่องเรือมาจนถึงท่าหน้าโรงสีของใหญ่ เลยได้รู้จักกับน้ำตาล ใหญ่ปล่อยให้รักเร่คุยกับน้ำตาลเพราะหวังจะให้มาซื้อของใส่เรือไปขาย ชะโอดมาเห็นเข้าก็หึงหวงเพราะเข้าใจผิด จนรักเร่ต้องเล่าเรื่องหอมจันทร์ให้ฟังและรับปากจะช่วยชะโอดให้สมหวังกับน้ำตาล ทำให้ชะโอดดีใจ เผยเรื่องของแม่ตนกับพ่อน้ำตาลที่ไม่ค่อยลงรอยกันให้ฟัง รักเร่รู้สึกเห็นใจชะโอดมากขึ้น ระหว่างที่เรือยังซ่อมไม่เสร็จ พิมพ์จิตและหอมจันทร์ต้องขาดรายได้ไป รักเร่จึงแบ่งที่ทางในเรือ ให้ 2 แม่ลูก ล่องเรือค้าขายไปด้วยกัน จนเรือซ่อมเรียบร้อยดี รักเร่จึงได้ความคิด เสนอให้นำเรือข้าวแกง มาพ่วงกับเรือของเขา พิมพ์จิตแม้จะเกรงใจ แต่ก็จนด้วยเหตุผลที่รักเร่เสนอมา จนต้องยอมตามใจในที่สุด มินิมาร์ทลอยน้ำ พ่วงเรือข้าวแกงรสเด็ด ค้าขายดีวันดีคืนทั้ง2 ฝ่าย ใครมาซื้อของใช้ก็แวะซื้อข้าวแกง ส่วนใครมากินข้าวแกงก็ยังแวะลงเรือซื้อโน่นนี่ติดมือกลับบ้าน ขณะที่ความสัมพันธ์ของรักเร่และหอมจันทร์ดูจะแน่นแฟ้นขึ้นเรื่อย ๆ แต่อุปสรรคก็มีมาให้รำคาญใจกันเป็นระยะๆ ทั้ง กันยา ที่หาทางมาใกล้ชิดสนิทสนม เธอทำทีมาขอใช้เรือออกแจกจ่ายยาชาวบ้าน หรือแม้แต่ สองสาวชาวกรุงที่สืบรู้ที่อยู่ ยังแอบตามมาเกาะแกะถึงที่ จนเกิดการขัดแข้งขัดขากันเองในหมู่นางร้าย อรวีอาศัยความสนิทสนมมาขอนั่งเรือล่องท่องเที่ยวบ้าง ขอค้างในเรือบ้าง บุญธรรมก็ช่วยพูดช่วยสกัดเต็มกำลัง ส่วนจรุงจิตนั้นร้ายลึก เพราะแอบสืบหาข้อมูลมาอย่างดีว่ารักเร่รู้จักสนิทสนมกับใครบ้าง เธอทำทีมาเยี่ยมเยือนเขา และตั้งใจจะมาบ่อย ๆ โดยเสนอเป็นค่าปิดปากจนรักเร่ต้องยอมตามใจ แต่ขณะเดียวกัน แฝงตัวมาเป็นลูกค้าข้าวแกงแล้วแอบแกล้งหอมจันทร์ด้วย กว่าจะรู้ตัวหอมจันทร์ก็โดนแกล้งไปแล้วหลายครั้งหลายหน รักเร่รำคาญจะไล่กันยาไปพ้นๆแต่เธอก็มาฟอร์มดีจนออกปากไล่ไม่ออก จะไล่สองสาวก็กลัวจะแฉความจริงเรื่องตัวเอง จึงจำยอมตามใจพวกเธอ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้หอมจันทร์เข้าใจผิดหลายครั้ง รักเร่ต้องตามง้อเธอโดยได้รับความช่วยเหลือจากน้ำตาล ชะโอด และบุญธรรม แต่อรวีและจรุงจิตก็มักมาขวางอยู่เรื่อย บุญธรรมจึงต้องออกอุบายหลอกพาพวกเธอไปผจญภัยอยู่กลางแม่น้ำนานเป็นวัน ๆ พอกลับขึ้นฝั่งได้ อรวีก็ถึงกับลมจับ ดีที่ขวดรับได้ทันแล้วช่วยพาไปส่งโรงพยาบาล การที่อรวีแวะเวียนไปหารักเร่บ่อย ๆ ทำให้ได้รู้จักขวด อรวีช่วยให้ขวดได้เป็นนักร้องด้วยการพาเขาไปฝากกับพ่อเธอที่เป็นเจ้าของค่ายเพลง ขณะที่ขวดแอบหลงรักอรวีอยู่ ทั้งคู่ได้รู้จักกันและเกิดความสัมพันธ์แนบแน่นขึ้นเรื่อยๆ ชะโอดแอบมาพบน้ำตาลแต่ถูกใหญ่จับได้ แล้วกล่าวโทษ แถมด่าฝากไปถึงแม่ เมื่อชะเอมรู้เรื่องเข้า ก็กลายเป็นศึกสองครอบครัวที่ยุติลงไม่ได้ง่าย ๆ ชะเอมแก้เผ็ดใหญ่โดยลดราคาสินค้าทุกชนิดตัดหน้าใหญ่จนลูกค้ามารุมซื้อของชะเอม ทำให้ใหญ่เดือดดาลวางแผนบีบชะเอมโดยยื่นคำขาดกับชาวบ้านที่เป็นลูกหนี้ห้ามไปซื้อของที่ชะเอมขาย ถ้าใครซื้อโดนทวงหนี้แน่และหากไม่มีให้ก็จะยึดบ้านยึดนาให้เดือดร้อน เมื่อรักเร่รู้เรื่องจึงหาทางช่วย โดยไปเชิญเศรษฐีสนมาช่วยขอร้องให้ใหญ่และชะเอมเลิกทะเลาะกัน แต่ไม่ได้ผลเพราะทั้งคู่ไม่เล่นด้วย ความเครียดหลาย ๆ ประการทำให้แม่ชะเอมล้มป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล เศรษฐีสนซึ่งหลงรักแม่ชะเอมมานาน หอบกุหลาบที่ชะเอมชอบไปเยี่ยมหลายครั้ง ชะเอมที่มีใจรักเศรษฐีสนอยู่เช่นกันออกอาการปลื้มสุดๆ ขณะที่ใหญ่อยากไปเยี่ยมแต่ก็ยังมีทิฐิ ได้แต่แอบมอง และหมั่นไส้ทั้งคู่อยู่ลึก ๆ ภัสดา หลานชายเศรษฐีสน กับลูกน้องชื่อ มาร์ค มาเที่ยวและพักที่บ้านเศรษฐีสน ภัสดาเป็นลูกคนมีฐานะดีที่กรุงเทพ ทำให้ทำอะไรตามใจ จีบสาวไม่เลือกหน้า กระทั่งเกิดเรื่องกับน้ำตาล จนมีเรื่องถึงลงไม้ลงมือกัน ชะโอดก็เข้าไปเกี่ยวด้วย เดือดร้อนถึงเศรษฐีสนต้องมาปรับความเข้าใจกับใหญ่และชะเอมอีกครั้ง ภัสดามาพบหอมจันทร์เกิดหลงรัก ทำทุกทางที่จะพบและอยู่ใกล้ แต่พิมพ์จิต น้ำตาล และสายใจ คอยกีดกันไว้ รักเร่กับชะโอดจับมือกันต่อต้านภัสดา จนเกือบมีเรื่องอยู่หลายครั้ง น้ำตาลกับสายใจ เมื่อรู้ว่ารักเร่รักหอมจันทร์ ทั้งคู่ก็ให้ความร่วมมือช่วยเหลือเป็นอย่างดี ชะอมและสายใจซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน เห็นน้ำตาลกับชะโอดแอบนับพบกันหลายครั้ง แต่เก็บความลับนี้ไว้ ไม่บอกแม่เพราะกลัวชะเอมจะตามไปราวีพี่ชาย ทั้งคู่จับมือกันคิดแผนการสร้างความสมานฉันท์ให้กับ 2 ตระกูล เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ระหว่างชะเอมและเศรษฐีสนที่ชะอมแอบสังเกตเห็นอยู่ จึงปรึกษากับสายใจ ร่วมมือกันช่วยให้ความรักของแม่ชะเอมและพ่อสนได้สมหวังเสียที เพราะดูว่าทั้งคู่ แม้ดูใจกันมานานก็ยังไม่ยอมเปิดตัวสักที ทั้งนี้เพราะแม่ชะเอมรู้สึกอายชาวบ้าน ที่ตนเองอายุมากแล้ว ยังมีความรักเหมือนเด็กๆ แผนการทุกอย่างไปได้สวย แต่ก็มาสะดุดเมื่อมารู้ภายหลังว่า ความจริงแล้ว พ่อใหญ่นั้นมีใจแอบรักแม่ชะเอมอยู่เหมือนกัน เรื่องนี้สร้างความร้าวฉานให้กับน้ำตาลและชะโอด เมื่อน้ำตาลโกรธที่ชะโอดไม่ช่วยพ่อใหญ่ ส่วนชะโอดไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อรู้อยู่แก่ใจว่าแม่มีใจให้เศรษฐีสนแล้ว กันยาที่พยายามตามติดรักเร่มานาน แต่ก็ไม่มีทีท่าว่ารักเร่จะสนใจเธอ พอได้เจอคนหน้าตาดีแถมร่ำรวยอย่างภัสดา ก็อดไม่ได้ที่จะหว่านเสน่ห์ใส่ ภัสดาเองก็เจ้าชู้ เขามองกันยาอย่างถูกตาต้องใจอยู่เช่นกัน จรุงจิตคิดแผนร้าย ส่งคนมาขโมยของที่บ้านหอมจันทร์ ก่อนจะทำทีมาเสนองานให้ 2 แม่ลูก ไปขายข้าวแกงที่ร้านของเธอในกรุงเทพ โดยงานนี้เสนอค่าแรงก้อนโต พิมพ์จิตดีใจ ตกลงทันที ขณะที่หอมจันทร์ยังระแวงสงสัย แต่จำใจต้องตามใจแม่ เมื่อรักเร่รู้เรื่องเข้า ก็พยายามขอร้องให้ทั้งคู่คิดใหม่ แต่หอมจันทร์ไม่ฟังเพราะกำลังโกรธรักเร่เรื่องที่เขามีสาว ๆ มาพัวพันหลายคน จรุงจิตขับรถมารับ 2 แม่ลูกไปที่ร้าน แกล้งทำดีด้วยสารพัด ก่อนจะใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกให้พิมพ์จิตเซ็นต์สัญญาเงินกู้ พอมารู้ภายหลังทั้งคู่ก็แทบเป็นลม แต่เมื่อแก้ไขไม่ได้ จึงต้องจำยอมทำงานใช้หนี้ไป ภัสดาไปหาหอมจันทร์ที่บ้านแต่ไม่พบ จึงตามมาเอาเรื่องรักเร่ เพราะคิดว่ารักเร่รู้ที่อยู่ใหม่ของหอมจันทร์ แต่ไม่ยอมบอก จนเกิดมีเรื่องลงไม้ลงมือกัน ก่อนจะเป็นฝ่ายแพ้แล้วกลับบ้านไปด้วยความแค้นเคือง รักเร่ตามสืบจนรู้ที่อยู่หอมจันทร์ จึงไปหา แต่หอมจันทร์ไม่พูดด้วย เธอโกรธเพราะเข้าใจว่ารักเร่ร่วมมือกับจรุงจิต มาหลอกลวงเธอและแม่ รักเร่แก้ตัวอย่างไรก็ไม่ฟัง เขาจึงหันไปอธิบายให้พิมพ์จิตฟังแทน โดยตัดสินใจเล่าเรื่องทุกอย่างให้พิมพ์จิตฟัง และขอร้องว่าอย่าเพิ่งบอกเรื่องที่เขาปลอมตัวมา ให้หอมจันทร์รู้ โดยรับปากจะช่วยพาทั้งคู่มาจากจรุงจิตให้ได้ พิมพ์จิตแอบดีใจแทนลูกสาว เมื่อรู้ฐานะที่แท้ของรักเร่ รักเร่ไปต่อว่าจรุงจิต เรื่องที่เธอทำกับ 2 แม่ลูก จรุงจิตได้ที ยื่นข้อเสนอ ให้รักเร่กลับมาใช้ชีวิตเป็นเกียรติ และคบเธอเป็นคนรัก ขณะเดียวกันก็ห้ามไม่ให้พบหอมจันทร์อีก หากทำตามก็จะยอมปล่อย 2 แม่ลูกไป รักเร่ใช้ความเจ้าเล่ห์ ออกอุบาย จนสามารถช่วยหอมจันทร์และแม่กลับมาได้ หอมจันทร์ได้ปรับความเข้าใจกับรักเร่ ขณะที่จรุงจิตซึ่งรู้ตัวว่าเสียรู้เข้าแล้ว จำใจต้องยอมวางมือจากเกมรักครั้งนี้ไป แต่ด้วยผลกรรมที่ทำไว้ต่าง ๆ นานา กับ2แม่ลูกทำให้เธอต้องจำนน มีสามีเป็นโจรรับจ้าง ที่เธอจ้างไปทำร้ายเค้า..เธอโดนขู่ โดนจ่ายค่าเลี้ยงดู แถมยังต้องพาสามีออกงานที่เชิดหน้าชูตา จึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปโฉม ฐานะ ของผู้ชายคนนี้ขึ้นมาเป็นคนใหม่ที่ยืนข้างๆ เธอได้ น้ำตาลไม่ยอมพูดกับชะโอดอยู่นาน แต่สุดท้ายก็เริ่มคิดได้ ว่าไม่สามารถกะเกณฑ์ให้ใครรักกับใครได้ตามที่ใจต้องการ ส่วนพ่อใหญ่ เมื่อรู้ว่าตนเองเป็นสาเหตุให้ลูกสาวเป็นทุกข์ ก็เริ่มได้คิด พยายามใช้สติไตร่ตรองสิ่งที่ผ่านมา ก่อนจะทำใจได้ และกลับไปใช้ชีวิตเป็นปกติ น้ำตาลดีใจที่พ่อกลับมาเป็นพ่อคนเดิมอีกครั้ง ภัสดายังคงดันทุรัง ดื้อดึง เอาแต่ใจ จะเอาชนะ รักกับหอมจันทร์ให้ได้ ยิ่งรู้ว่ารักเร่มีปมเรื่องเป็นเพื่อนจรุงจิตอยู่ด้วย จึงใช้วิธีสร้างเรื่องให้ไปกันใหญ่ระหว่างรักเร่ หอมจันทร์ จรุงจิต ..รักเร่บอก ลูกผู้ชายควรสู้อย่างลูกผู้ชาย ภัสดาก็เลยท้าแข่งทุกประเภท ให้บอกกฎ กติกา มาเลย ชาวบ้านและเพื่อน ๆ ช่วยกันคิดเกมการแข่งขันมาให้ต่าง ๆ นานา และ 2 คนก็ต้องใช้ทั้งเทคนิคและปัญญา แค่เรื่องตื้นๆ รักเร่ได้เปรียบที่คุ้นเคยธรรมชาติ และมองธรรมชาติได้ชัดเจนกว่าภัสดา จึงสามารถเอาชนะ ทำให้ภัสดากลายเป็นขี้แพ้ชวนตี หัวฟัดหัวเหวี่ยงกับเจ้ามาร์ค เศรษฐีสนเห็นแล้วกลุ้มจนต้องออกแรงออกฤทธิ์ สอนเด็กทั้ง 2 ให้รู้จักใช้ชีวิตให้เป็น ไม่ควรอยู่แบบรกๆ คิดให้เป็น ทำให้เป็น อย่าทำตัวกลายเป็นขยะรกประเทศชาติ ภัสดา เด็กที่เอาแต่ใจ ไม่มีใครปรามมาตลอด เจอทีเด็ดเศรษฐีสนเข้า ถึงกับคุกเข่าขอโอกาสที่จะแก้ตัว..ก็เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ที่จะต้องให้ และคอยตามผล ว่าหลานของตัวเองจะมีพฤติกรรมต่อไปอย่างไร และควรจะให้กำลังใจกันอย่างไร บรรดาคู่รักต่างๆ นานามาพบปะสังสรรค์กันก็ในงานแข่งขันของ 2 หนุ่มนี้ ทำให้มิตรภาพ ความผูกพันและการใช้ชีวิตที่ดำเนินไปด้วยการช่วยเหลือ แบ่งปัน และปลูกฝังความเข้าใจให้เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ควรเร่งมือกันทำให้เห็นเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น พวกเค้าฉลองความรักความสามัคคีครั้งนี้ด้วยเสียงเพลงที่บ่งบอกถึงวิถีชีวิตเรียบๆง่ายๆ และเรื่องราวที่ผ่านมา..พร้อมกับปล่อยเรือมินิมาร์ท ลอยน้ำ ที่เป็นเรือทำมาหากิน เป็นเรือนหอของการมีชีวิตคู่ในรูปแบบที่ รักเร่กับหอมจันทร์เลือกที่จะทำ เลือกที่จะเป็น

เกรดบี พี่กับน้อง 2551

เรื่องย่อ : เกรดบี พี่กับน้อง (2551/2008) นาย ภูมิดี นักศึกษาปริญญาโท ฐานะขั้นมหาเศรษฐี เรียนดีระดับ B+ เพราะมีตุ๊กตาเป็นเพื่อน ต้องการทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับเรื่อง “ทำไม?? เด็กๆ ตั้งแต่เล็กจนโต ถึงชอบตุ๊กตาสารพัดแบบ” และจะเหมือนประสบการณ์ของเขากับตุ๊กตาเพื่อนรักของเขาหรือไม่ จึงคิดที่จะหาคำตอบด้วยวิธีต่างๆ นานา จนได้นักวิชาการ, พ่อ-แม่, ผู้ปกครองถึงกับสนับสนุน ยกบ้านและที่ดินให้เป็นสถานที่ในการค้นหาคำตอบนี้!!! เรื่องราวจึงเกิดขึ้นจากความคิด “ทฤษฎีบ้านเกรดบี” ให้เด็กๆ อยู่กับเด็กด้วยกัน ดูแลกันและกัน ระบบ “พี่กับน้อง” ในช่วงปิดเทอมใหญ่โดยมีกำหนดการเข้าบ้าน 10 วัน 20 วัน 30 วัน หรือจะเบรกกลับบ้าน แล้วกลับเข้ามาใหม่ก็ได้ แต่ต้องให้ครบกำหนดซะก่อน โดยเปิดรับสมัคร รับรุ่นพี่มัธยมกลุ่มหนึ่งจำนวนจำกัด เชิญชวนเด็กนักกิจกรรมในสาขาต่างๆ ยิ่งถ้ามีใบประกาศผ่านการอบรมเข้าค่ายมานำเสนอก็ยิ่งจะมีภาษีดีกว่าใครๆ กลุ่มนี้ก็จะเป็นรุ่นพี่ โดยมีกลุ่ม “ใจแจ๋ว” บางคนก็มาลงอาสาเข้าค่ายกับเค้าด้วยวิธีการที่เป็นกรณีพิเศษเฉพาะ คือ เด็กทุกคนต้องมี “ตุ๊กตาตัวโปรด” และถ้าใครมีเรื่องเล่าเด็ดๆ เคล็ดลับของการอยู่กับตุ๊กตา เปอร์เซนต์การเข้าค่ายก็จะเหนือกว่าใครๆ สาเหตุเพราะจากการหาข้อมูลกับเด็กในหลายๆ กลุ่มอายุของนายภูมิดี “ตุ๊กตา” มีอิทธิพลต่อเด็กๆ หลายๆ ด้าน รวมทั้งตัวเขาด้วย “ตุ๊กตา” เป็นเพื่อนคุย เพื่อนระบายอารมณ์ เป็นพี่ เป็นน้อง และเป็นจินตนาการได้หลายแบบ “ตุ๊กตา” จึงเป็นแรงบันดาลใจให้คิดฝันไปได้ว่า เด็กๆ สามารถอยู่กับตุ๊กตาได้ เพราะดูเหมือนตุ๊กตาจะเข้าใจเด็กไปซะทั้งหมด หรือตุ๊กตาก็คือพลังจิตของคนทุกรุ่น ทุกวัยที่สืบทอดกันมา พวกเราได้ใส่พลังจิตส่วนที่ดีลงไปมากเข้า มากเข้า จนพอที่จะเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของความเชื่อได้ว่า “ตุ๊กตามีพลังนำพาให้พวกเรามีจินตนาการไปในแง่มุมต่างๆได้หลายรูปแบบ” หรือ “จิตของพวกเราเองนั่นแหละที่สั่งการตัวเรา แต่เอาตุ๊กตาเป็นสื่อนำ” กลุ่มนี้จะเป็นเด็กโตระดับมัธยมต้นๆ ประมาณ 7-10 คน ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรให้เข้าบ้านเกรดบีนี้โดยไม่มีข้อแม้ เด็กๆ สามารถถอนตัวออกจากโครงการได้ทุกเมื่อ (ถ้ารู้สึกอึดอัด คิดถึงบ้าน คิดถึงผู้ปกครอง) แต่ในขณะที่เข้าค่ายจะต้องตัดขาดจากการติดต่อสื่อสารกับทางบ้าน นอกจากได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ซึ่งคอยดูแลอยู่ห่างๆ คอยอำนวยความสะดวก ช่วยเหลือในทุกกรณี และเพื่อความสบายใจ “บ้านเกรดบี” มีองค์กรเด็ก เช่น มูลนิธิคุ้มครองสิทธิเด็ก ส่งเจ้าหน้าที่มาอยู่ด้วยตลอดเวลา, รถพยาบาลพร้อมพยาบาล, แม่ครัวครบครัน

ตลาดน้ำดำเนินฯ รัก 2 2551

เรื่องย่อ : ตลาดน้ำดำเนินฯ รัก 2 (2551/2008) เมื่อว่าที่แม่ยายที่แสนจะงก แสบ เด็ด เผ็ด มัน ตาโตกับของกำนัล วางแผนเล่นเอาเถิดกับชายหนุ่มที่จะเข้ามาพัวพันกับลูกเลี้ยงซะจนหัวหมุนไปตามๆ กัน ชีวิตของหนุ่ม-สาว สองคู่ต้องเผชิญ ผจญกับโชคชะตาฟ้าลิขิตที่ทำให้ถูกตาโดนใจ แต่ทำไมส่งปัญหาแสบๆ คันๆ มาให้แก้ได้อย่างไม่ขาดสาย โดยผ่านผู้กุมชะตาที่แสนจะเป็นคนที่พกไว้ด้วยกลเม็ด เล่ห์เหลี่ยม บททดสอบสุดแสบ สุดฮา สุดงก จะว่าตลกก็ไม่ใช่ น้ำตาไหลก็ไม่เชิง พวกเขาจะลงเอยกันแบบไหน ต้องฝ่าฟันกับคู่ปรับในวัยเดียวกันอย่างไร ไม่ธรรมดาแน่ๆ แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวขี้เม้าท์ ที่ชื่อ “แม่กุหลาบ” ถูกฝรั่งจากอเมริกาที่มีลูกสาวติดมาด้วยอีกหนึ่งคน ตามจีบ ตามตื้อ จนบรรดาแม่ค้าท่าเดียวกันต่างก็ยุให้ลงเอยกันไปเถอะ เผื่อโชคดีมีโอกาสไปใช้ชีวิตต่างแดนกับเขาบ้าง ถึงขนาดเพื่อนๆ พาไปไหว้พระ ขอพร ขอให้พ่อฝรั่งรักจริง หวังแต่ง อยู่ครองคู่กันไปนานแสนนาน และก็ได้ผล “พ่อเคลิ๊ก” ทั้งรัก ทั้งหลงสาวไทย วิถีไทยแบบหัวปักหัวปำ ดำเนินชีวิตจนจะเป็นคนไทยไปซะแล้ว ยังความขัดใจมายังแม่กุหลาบเป็นอย่างยิ่ง ดูไม่มีวี่แววจะได้คิดได้ฝัน ไปเปิดร้านอาหารไทยในต่างแดน แม่ลูกสาวตาน้ำข้าวที่พ่วงมากับตาเคลิ๊ก แกก็อุตส่าห์เลี้ยงดูมาตั้งแต่ 9 ขวบ หวังว่าเมื่อโตเป็นสาวก็คงอยากจะกลับถิ่นฐานบ้านเดิม สหรัฐอเมริกากับเขาบ้าง แต่ก็เปล่าเลย “คัทลียา” หรือ “นังดอกเข็ม” ที่แม่กุหลาบเรียกติดปากมากกว่า เพราะหมั่นไส้ว่าไม่สมเป็นชื่อดอกไม้ต่างชาติเลย เหมาะจะเป็นไม้ไทยธรรมด๊า ธรรมดา แถมเห็นหน้าทีไร เป็นเสียบแทงความคิด ความฝันของเธออยู่ร่ำไป “คัทลียา (นังดอกเข็ม)” โตเป็นสาวเต็มตัว ทั้งคล่อง ทั้งไว แถมออกแนวทะโมนไพร เพื่อนฝูงมากมาย ทั้งรัก ทั้งชัง ด้วยเพราะสวย มีเสน่ห์ ปราดเปรียว ฉลาด ทันคน มือไว ปากไว มีส่วนผสมของพ่อฝรั่งกับแม่ใหม่ไทยได้อย่างสุดจะลงตัว หัวตลาด ท้ายตลาด ใครไม่รู้จักก็แย่แล้ว (รุ่นแม่ก็ทำชื่อเสียงเอาไว้ลั่นคุ้งน้ำตั้งแต่สาวๆ เรื่องราวของแม่กุหลาบ ขายก๋วยเตี๋ยว กับแม่อุไร ขายกาแฟ เบาซะที่ไหน) โตเป็นสาว ใครเห็นก็หมายปอง แต่ใครจะมาเป็นคู่ครอง ก็ต้องวัดที่ดวงชะตา ถ้าคู่กันแล้ว ทุกอย่างก็ต้องลงตัว ไม่มีใครเด่น ไม่มีใครด้อยไปกว่ากัน “จุ๊ย” เด็กหนุ่มวัยโตกว่า “ดอกเข็ม” ตอนประถมเคยอยู่โรงเรียนเดียวกัน ชอบเอาใจน้องด้วยการซื้อขนมครั้งละเยอะๆ แต่ต้องมีของแถมต่างๆ นานาตามที่ นายจุ๊ยขอ ดอกเข็มยอมบ้าง แกล้งกลับบ้างตามโอกาส เช่น ให้ถีบจักรยานแล้วตัวเองซ้อนท้าย เพราะเห็นว่าดอกเข็มเป็นเด็กแก่น แต่ก็น่ารัก น่าเอ็นดู ดอกเข็มยอมทำ แล้วก็ไปทำจักรยานล้มกลางทาง ตัวเองกระโดดทัน ส่วนจุ๊ยไม่ทันระวังตัว ทั้งรถ ทั้งคนล้มลงข้างทาง แถมจุ๊ยดันหน้าไปหน้าคว่ำกับโคลนเป็นที่ขบขันให้กับดอกเข็มไม่รู้ลืม หรือครั้งที่ดอกเข็มหลอกให้จุ๊ยไปเอาของแถมที่ปากทางเข้าบ้าน จุ๊ยไปตามนัด พอถึงที่นัดหมายใต้ต้นมะพร้าว ดอกเข็มที่ปีนไปรออยู่ข้างบน ก็ถีบลูกมะพร้าวลงมาตามแผน โดนนิ้วเท้าของนายจุ๊ยบวมตุ่ยไปหลายวัน เรื่องราวแสบๆ คันๆ อันน่าประทับใจของ น้องดอกเข็ม ถูกฝังไว้ในความทรงจำของนายจุ๊ย ว่าวันหนึ่งเรียนจบกลับมาอยู่บ้านจะต้องเอาคืน จบมหาวิทยาลัย ที่ต่างคนก็ต่างตั้งหน้าตั้งตาเรียนๆๆ ให้จบ เพื่อจะได้กลับบ้าน มีใบปริญญาไปแขวนโชว์แต่ละบ้านแถบนี้ ลูก-หลานมีดีกรีกันทั้งนั้น แต่ดูเหมือนว่าถูกปลูกฝังให้รักถิ่นไทยตลาดน้ำฯ จะทำมาค้าขายก็ใช้ผืนแผ่นดินที่มีมาให้เป็นประโยชน์ ไม่ต้องไปหวังใหญ่โตที่ไหนกับเขา จะเป็นพ่อค้า คหบดีซะส่วนใหญ่ ถ้าอยากโตขึ้นไปอีกก็สมัครเล่นการเมืองท้องถิ่นกันไป แต่เช้าตรู่ที่ตลาดน้ำ ความชุลมุนวุ่นวายเกิดขึ้นเป็นปกติ เรือแน่นจนเกยกันเบียดกัน แม่ค้าต่อแม่ค้า แทบจะเอาพายฟาดกันให้ตายไปข้างหนึ่ง ไอ้ที่จอดเทียบท่ากันอยู่แล้ว ก็ไม่แพ้ ไม่น้อยหน้า มีปัญหา ท้าตบ ท้าตี เอาเส้นก๋วยเตี๋ยวโปะหัวกันไปเลย เวลาโกรธหรือโมโห มนุษย์หน้าไหนก็ไม่รู้จักกันแล้ว ดอกเข็ม กับเพื่อนซี้จอมแก่น เช้านี้ถูกแม่ค้ารุ่นเดียวกันแซวหนัก จนต้องเขวี้ยงเส้นหมี่ที่กำลังลวกอยู่ไปสังเวยปาก แล้วก็ขึ้นจากเรือมาตะลุยกันบนบก ชุลมุนวุ่นวายมองไม่เห็นหน้าคนแล้ว บังเอิญ นายจุ๊ยพาเพื่อนมาเที่ยว พลอยฟ้าพลอยฝน โดนลูกหลงจากดอกเข็มเต็มๆ แถมฝ่ายหญิงยังไถเถือกคิดว่านายจุ๊ยเป็นพวกเดียวกับฝ่ายตรงข้ามก็เลยไม่ยั้งมือ นายจุ๊ยหมั่นเขี้ยวสาวเจ้าก็เลยรับมือแบบขับเคี่ยว เผ็ดมัน ผลัดกันรับ ผลัดกันรุก แน่นอน ตัวถึงตัวแบบนี้ แม่ดอกเข็มของเราเสียเปรียบ เสียหน้าแน่นอน ทั้งโดนกอดรัด ทั้งโดนจับเขย่าตัว ถึงแม้จะเอาตัวรอดมาได้ แต่ก็ถูกเนื้อต้องตัวกันไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ชบา แม่ค้าส้มตำ ที่เคยเรียนห้องเดียวกับนายจุ๊ย จำนายจุ๊ยได้รีบปรี่เข้าไปหาแล้วก็แยกตัวออกไปจากกลุ่มชุลมุน ชบากับพวก 2-3 คน ช่วยดูแลบาดแผล หาน้ำ หาอาหาร ให้กลุ่มนายจุ๊ยได้อิ่มหนำสำราญตามประสา เขามาเยี่ยมเยือนเรือนชานต้องต้อนรับ น้ำซุป พ่อค้าหน้าหยก รุ่นเดียวกับนายจุ๊ย พายเรือข้าวมันไก่ลอยอยู่ห่างๆ ชะเง้อมองดู เหมือนเห็นคนคุ้นเคยตีกัน พอแน่ใจว่าเป็นายจุ๊ยก็เลยโทรหา ให้แวะมากินข้าวมันไก่ที่ท่าเรือด้วย คนโต สาวห้าว ขับ Taxi ป้ายดำ ไหว้พระภาวนาเช่นเคยก่อนออกจากบ้าน เพื่อขอให้มีลูกค้าต่างชาติเหมารถไปไกลๆ และเช้านี้ก็โชคดีจริงๆ หน้าโรงแรมเล็กๆ ที่เธอมักไปจอดรอรับลูกค้า มีชาวต่างชาติหนุ่ม-สาวเซอร์ 1 คู่ เรียกให้เธอพาไปตลาดน้ำดำเนินฯ แล้วช่วยพาท่องเที่ยวทางเรือตามหมู่บ้านด้วย คนโตดีใจ ตอบรับทุกอย่างแล้วไปลุยเอาข้างหน้า หวังว่าคงมีคนช่วยได้ นายจุ๊ย รับรู้เรื่องราวของ ดอกเข็ม จาก น้ำซุป จนอ๋อซะทุกสิ่งทุกอย่าง นึกสนุกใจใจว่าต้องตะลุยฝ่าด่านนายเคลิ๊ก กับแม่กุหลาบ แถมแม่อุไรอีกคนให้ได้ ด้วยพอจบม.ต้น เข้าต้องไปอยู่กรุงเทพฯ แล้วก็สอบติดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงห่างหาย ขาดการติดต่อจากรุ่นน้อง รุ่นพี่ตรงนี้ไปซะนาน กลับมาก็ต้องเจอกับสาวคู่ปรับในวัยเด็กอีกรูปแบบ รู้สึกประทับใจน่าค้นหาตามประสาหนุ่มสาวนั่นเอง คนโต แวะมาจอดที่ท่าเรือนายน้ำซุป พอดี 2 ฝรั่ง สนใจข้าวมันไก่ร้อนๆ ดูสะอาด ดูดี ก็เลยพากันสั่งรับประทาน คนโตได้ที ถามถึงท่าเช่าเรือพาฝรั่งเที่ยว น้ำซุปตกตะลึงในความห้าว ความเก๋ของสาวมาดเข้ม ตาโต ผู้มีอาชีพขับรถ Taxi ป้ายดำ ช่างเป็นผู้หญิงที่กล้าน่าดู น้ำซุปนั่งคิด นั่งนึกถึงเรื่องราวคนโตจนเพลิดเพลินว่าทำไมเธอต้องทำงานแบบนี้ แล้วมันมีอะไรอีกตั้งมากมายเป็นภาพคิดขึ้นมา โดยเฉพาะอันตรายต่างๆ ที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะเผชิญ ถ้าเธอไม่แน่จริง คงไม่ตัดสินใจทำงานขับ Taxi แน่ๆ เอาละซิ พ่อค้าข้าวมันไก่ เกิดหลงไหลสาวขับ Taxi เขาจะมีโอกาสเจอะเจอกันอีกแบบไหน ก็ไม่ธรรมดาซะแล้วสำหรับ นายน้ำซุป แม่กุหลาบ แม่อุไร ไหนๆ ก็พลาดหวัง ไม่ได้ไปเมืองนอกตามที่ฝันไว้ว่าจะเป็นหุ้นส่วนเปิดร้านอาหารไทยในต่างแดน ก็หันกลับมาขับเคี่ยวเอากับลูกสาวสุดสวย จอมแก่น จะต้องทำมาหากิน หาผู้ชายรวยๆ มาเป็นคู่ครอง สนองความต้องการที่จะโก้ จะหรู เลิกเป็นแม่ค้าลอยน้ำกับเขาให้ได้ จึงเป็นกลเม็ดเข้าแผนการคัดเลือกว่าที่ลูกเขยที่เหมาะสม จึงเป็นที่มาระหว่างคู่ปรับกับสมญานามที่ว่า ลูกเขยทีเด็ด พิชิตเผ็ดแม่ยาย หลายครั้งที่ แม่กุหลาบ แม่อุไร ช่วยกันคิด อยากได้โน่น อยากกินนี่ นายจุ๊ยก็แสนจะรู้ทันจัดหามาให้ ถูกใจบ้าง ขัดใจบ้าง แต่ก็ปลิ้นปล้อน กะล่อน เอาตัวรอดไปได้อย่างสนุกสนาน โดยมีว่าที่ลูกเขยเรียงคิวเข้าแถวกันส่งส่วยอวยแม่ยายที่ดูจะเป็นแถวหน้าก็มี นายจุ๊ย นายหัวปี คู่ปรับ คู่แข่ง คู่บู๊ คู่ซน ชีวิตของสองหนุ่มเหมือนอยู่บนสนามแข่งรถ ต่างฝ่ายต่างมีชั้นเชิง มีไหวพริบ ชิงดีชิงเด่น เพื่อหวังจะเด็ดดอกเข็มมาไว้ในครอบครอง จะธรรมดาไปได้อย่างไร สำหรับ นายจุ๊ย สาวเจ้าก็เข้ายากพอตัว ด้วยความที่มีวิธีคิดลองใจอันแสนจะพิสดารตามประสาสาวแก่นที่รักความสนุกสนาน ท้าทาย ใครไม่เข้าใจตามไม่ทัน มันก็ต้องยากส์กันหน่อย ด้วยความที่หนุ่มจุ๊ยไปอยู่กรุงซะนาน ทำให้ลืมวิถีชาวตลาดน้ำฯ ไปบ้าง แต่ก็ได้ น้ำซุป คอยลุ้น คอยเชียร์ และบอกพฤติกรรมส่วนตัวของดอกเข็มเป็นการพิเศษได้ นายจุ๊ยก็ได้เปรียบมีการเตรียมตัว และรับมือกับดอกเข็มได้เสมอ ถึงแม้จะเหนื่อยหนัก เลือดตกยางออก แต่เขาก็นึกสนุกไปด้วยแล้ว ชีวิตต้องต่อสู้ และเอาชนะกับอุปสรรค ปัญหา ฮา ฮา ของดอกเข็มให้ได้ “หัวปี” ลูกชายรูปหล่อของ เสี่ยป๊อด ทำฟาร์มกล้วยไม้อยู่ในแถบนั้น ก็ถูกตาต้องใจดอกเข็มมาตั้งแต่เรียนแล้ว แต่โอกาสเข้าหายาก เพราะเพื่อนๆ ของดอกเข็มเป็นกำแพงเต็มไปหมด ความพยายามของหัวปีมีมากขึ้น เมื่อดันมีคู่แข่งเป็นนายจุ๊ยที่หล่อกว่า เก่งกว่าหลายๆ ด้าน หัวปี เอาแต่ใจตัวเอง ออกจะไปรุกเร้าให้พ่อกับแม่ที่มีผู้คนนับหน้าถือตา ลุกขึ้นมาช่วยลูกชายบ้าง สร้างความปวดหัวเวียนเกล้าได้ไม่น้อย ทั้งปัญหาธุรกิจ ปัญหาส่วนตัว ปัญหาของลูก เสี่ยกับซ้อต้องหนีไปเที่ยวไกลๆ ลองใจให้เสี่ยน้อยอย่างนายหัวปีต้องหาวิธีแก้ปมปัญหาชีวิตเอาเองซะบ้าง เพราะกลัวว่าลูกจะอยู่บนโลกใบนี้ไม่ได้ด้วยตัวเอง เมื่อชบา แม่ค้าส้มตำ รู้ว่านายจุ๊ยมีใจให้ดอกเข็ม เธอแกล้งดอกเข็มแบบเนียนๆ หลายครั้ง เช่น ตำส้มตำสูตรพิเศษให้ดอกเข็มกินจนเข้าโรงพยาบาล รวมหัวกับเพื่อนร้านทำผม เป่าหูแม่กุหลาบจนหัวปั่นกับลูกเลี้ยงที่ถูกหาว่าไปมั่ว ทำตัวเป็นฝรั่งกับหนุ่มๆ อย่างหัวปี และเพื่อนๆ อยู่บ่อยๆ ชบาให้ร้ายใส่หลายอย่างด้วยสมองกล สั่งการให้คิด ให้พูดเรื่องเลวร้าย ทำลายดอกเข็มได้สารพัดอย่าง ด้วยรักริษยาของเธอสามารถทำให้ดอกเข็มเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่โชคก็เข้าข้างคนดี ดอกเข็มเอาตัวรอดมาได้ และทำให้คิดได้ว่า ชีวิตมีอะไรมากมายที่ทำเป็นเล่นไม่ได้ ต้องรู้จักโต รู้จักคิด วางแผน รู้ที่จะสู้และเผชิญ แม่กุหลาบ แม่อุไร พายเรือกลับบ้านเพลินๆ ไม่ทันระวังตัว ถูกดักปล้นทองในตัวที่เธอชอบใส่อวดความมั่งมีขึ้นมา บังเอิญอยู่ในคุ้งน้ำใกล้ๆ ที่น้ำซุปขายข้าวมันไก่อยู่ จึงช่วยชีวิต 2 แม่ที่เกือบจะถูกกดน้ำตายอยู่ตรงนั้นไว้ทัน ส่วนทองของนอกกายก็ต้องอุทิศให้โจรเอาไป บทเรียนสาหัสครั้งนี้ทำให้ 2 แม่ เบาเรื่องขี้คุย ขี้อวดลงไปได้ ฟาร์มไก่ ของนายจุ๊ยทำท่าว่าจะมีปัญหา เพราะถูกปล่อยข่าวจอมปลอมจากฟาร์มกล้วยไม้ของนายปี ว่าเกิดโรคระบาด เสี่ยตา พ่อนายจุ๊ยแทบจะล้มทั้งยืน เพราะลงทุนมาตรการป้องกันโรคระบาดไก่มามาก ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้น จะต้องฆ่าไก่ทั้งหมด เท่ากับว่าต้องเริ่มต้นลงทุนกันใหม่ นายจุ๊ยจับได้ว่าเป็นการใส่ความ โดยมีหลักฐานไปยืนยันเป็นเทปที่บันทึกไว้ในวงสุราที่ลูกน้องของนายปี พลาดคุยฟุ้งออกมาเมื่อสุราเข้าปาก ประกอบกับทางหน่วยราชการก็มาตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีโรคระบาดเกิดขึ้นตามคำบอกเล่า เรื่องก็ผ่านพ้นไปได้ แต่นายจุ๊ยไม่ปล่อยนายหัวปีไว้แน่นอน แค้นใหญ่ต้องชำระด้วยวิธีที่แยบยล ซึ่งไม่เกินความสามารถและความร่วมมือร่วมใจของฝ่ายที่เรียกว่า ลูกผู้ชาย อย่างนายจุ๊ย กับ นายน้ำซุป ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนกันไปก่อนระหว่าง นายน้ำซุป กับ คนโต ทำให้เขาสองคนได้มีส่วนช่วยเหลือกัน พึ่งพากันแบบบู๊ๆ ลุยๆ มากกว่าคู่ของนายจุ๊ย กับ ดอกเข็ม เพราะโจทก์ชีวิตต่างกันมาก ข้าวมันไก่บ้านๆ ของน้ำซุป ดูท่าจะมีคู่แข่งที่มีเงิน นึกอยากจะลงทุนทำอะไรก็ทำได้ เอาชื่อสูตรราชวงศ์เข้าข่ม แถมจะตั้งประกบคลองกันอีก คนโต ก็ช่วยไว้ได้ด้วยปัญญาของเขาทั้งสอง ทำให้สูตรบ้านดั้งเดิม ก็ยังคงอยู่คู่คลองดำเนินฯ ได้ต่อไป ส่วนเรื่องของคนโตก็ลำบากลำบนมากขึ้น เมื่อมีปัญหาจี้ปล้น Taxi อิจฉาในสายอาชีพ ถูกกลั่นแกล้งกลางทางด้วยสายตรวจปลอมๆ อยู่เสมอ จนต้องช่วยกันจับตำรวจปลอมชุดนี้ที่มักจะซุกปัญหาจากน้อยไปหามาก ถึงขนาดแจ้งว่าในรถของคนโตมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ กว่าจะเอาตัวรอดมาได้ ต้องอาศัยพวกพ้องของจุ๊ย น้ำซุป และดอกเข็มที่จับได้แล้วว่า มันน่าจะเป็นตำรวจกำมะลอแน่ๆ เขาทั้งสี่ เป็นเพื่อนรักที่คอยช่วยเหลือกันหลายๆ ด้าน เมื่อ คนโตอยู่ลำบากในกรุงเทพฯ เขาทั้งหมดช่วยกันจัดการโยกย้ายให้คนโตพาพ่อที่เป็นอัมพาตกับน้องสาวที่กำลังเรียนอยู่ ให้มาใช้ชีวิตที่ดำเนินสะดวก แล้วทุกอย่างก็สะดวกขึ้นจริงๆ บทพิสูจน์ความรักที่แท้จริงของพวกเขา พิชิตความรู้สึกที่ไม่ดีต่างๆ นานาของผู้คนที่รายล้อม และโยนขวากหนามเข้าไปขวางกั้นเป็นครั้งคราวให้ผ่านพ้นไปได้ในทุกสถานการณ์ เป็นอีกหลายๆ ชีวิตที่พัวพันเกี่ยวเนื่องเรื่องราวกันเอาไว้ในคุ้งน้ำแห่งนี้ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ให้แง่คิดในการมีชีวิตในโลกใบนี้ มีทั้งรอยยิ้ม น้ำตา ปัญหาน้อยใหญ่ ให้ร่วมมือร่วมใจกันแก้ไข และทำให้ตื่นขึ้นมา สูดลมหายใจและเดินหน้าเผชิญต่อสู้ ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยความรักในหลายๆ รูปแบบของทุกคนใน ตลาดน้ำดำเนินฯ รัก

ใจแจ๋วกับเรือจิ๋ว 2550

เรื่องย่อ : ใจแจ๋วกับเรือจิ๋ว (2550/2007) เรื่องของเด็กต่างถิ่น ต่างที่ กลุ่มใหญ่ (เด็กมัธยมปลาย) เข้าค่ายกิจกรรมฤดูร้อนของทหารเรือ ฐานทัพเรือสัตหีบ โดยเข้าฝึกอบรม “เรือใบมด” กับ เรือ โทหนุ่มหล่อ และจ่าทหารเรือจอมตลก แสนสนุกอีก 2 คน ความชุลมุน วุ่นกับนานาความคิด ความชอบ และ ความถนัด ที่ต่างกันของเด็ก เช่น “โอ๋”-“เอ๋” สองพี่น้องหนุ่มหล่อ มาจากสุพรรณบุรี มีตา ยาย เป็นครูลำตัด จึงมีทั้งความสมัยใหม่ในตัวของคนรุ่นใหม่ และแอบมีเสน่ห์ตรงได้นู่นนิดนี่หน่อยจากบรรพบุรุษพื้นเพดั้งเดิมมา โดยที่ทั้ง 2 คนไม่รู้สึกว่าน่าขันเหมือนบางคนที่คิด แต่กลับรู้สึกว่า ทั้งภาษาท้องถิ่น และการร้องลำตัดของเขา เป็นความสามารถพิเศษส่วนตัว ที่มีมากกว่าคนอื่นก็แล้วกัน “นก” เด็กสาวที่ติด “โอ๋” “เอ๋” งอมแงม เป็นเด็กบ้านเดียวกัน สวย น่ารัก แก่นแก้ว เพราะสนิทกับเด็กผู้ชายอย่าง 2 คนนี้มาตลอด จนเหมือนว่า จะเป็นพี่ชายที่น่ารัก และหวงสุดๆ ไม่อยากให้ใครได้มาสนิทหรือ ได้รับความสนใจเท่า “ก้อย” สาวสวยน่ารัก วัยทีนเอจ น่ารัก น่าจีบ น่าสนใจ เพราะเป็นคุณหนูเด็กกรุงเทพฯ (ด้วยกิริยาท่าที) แต่เมื่ออยู่ในค่าย เธอกลับทำให้เห็นว่าเธอไม่เคยหยิบโหย่ง เป็นคนหนักเอาเบาสู้ หนุ่มๆ ต่างก็อยากวิ่งเข้าไปช่วยเหลือ…เธอตกเป็นคู่เขม่นกับ “นก” โดยไม่รู้ตัว แต่สุดท้าย จะสอน “นก” ด้วยซ้ำว่า คิดอะไรอยู่ในวัยของตัวเองที่ควรจะคิดก่อนเรียงลำดับ ควบคุมให้ถูก แล้วจะมีจุดมุ่งหมาย มีความสุขในที่สุด เพราะการจัดระเบียบตัวเอง สำคัญกว่าในสิ่งอื่นใด “โอ๋” กับ “ก้อย” จะเป็นเด็กคู่ที่มีเรื่องราวน่าสนใจ น่าติดตาม ด้วยความต่างของพื้นเพแล้วโคจรมาศึกษาซึ่งกันและกัน ทำให้ได้เรียนรู้ได้แลกเปลี่ยนแนวความคิด ทัศนคติ การเรียน อนาคต ควบคู่ไปกับปัญหาเฉพาะหน้า ที่เกิดขึ้นระหว่างอบรม”เรือใบมด” ทั้งในห้องเรียนและในการปฏิบัติในท้องทะเล เรื่องราวที่ดำเนินไปในค่ายฝึก จะสอน และให้แง่มุมต่างๆ นานา เช่น การปรับตัวให้เข้ากันได้ การช่วยเหลือแบ่งปันน้ำใจแบบบริสุทธิ์ การแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า เพราะการกีฬามีอะไรให้คิด ให้แก้ไข ในมุมต่างๆ มากมาย การแล่นเรือใบจะต้องรู้จักอุปกรณ์ต่างๆ ต้องรู้จักทิศทางของลม รู้จักการคำนวณ สอนให้เด็กใช้ความคิด พิจารณา รอบครอบ และช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุดเมื่ออยู่กลางทะเล “ริน” สาวน้อยร่างท้วม อวบขาว น่าตาหน้าเอ็นดูมากๆ เป็นสีสันในกลุ่มเด็กในค่ายนี้ เธอแต่งตัวสดใส เหมาะสม เธอกินๆๆขนมเก่งมาก โดยเฉพาะ ไอศกรีม “ริน” เป็นเพื่อนซี้สนิทกับ “ก้อย” เธออยากสวยเพรียวเหมือนก้อย แต่ก็กำหนดไว้ในความต้องการลิ้มรสอาหาร ขนม นม เนย ไม่ได้ ก็เลยเลือกที่จะสวยในแบบต้นฉบับของตัวเองมากกว่า…ความอ้วนไม่ได้ทำให้เธอ อุ้ยอ้าย เธอได้รับความคล่องตัว กระฉับกระเฉงมาจากการที่คบอยู่กับ ”ก้อย” เพราะ “ก้อย” เป็นสาวสวยที่พึ่งตัวเองซะส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเข็นรถที่จอดขว้างอยู่คนเดียวได้ ลากเรือลงทะเลคนเดียว เก็บเสา เก็บใบ ล้าง ทำความสะอาดอุปกรณ์ หรือ ครูฝึกสั่งให้ทำอะไรจะต้องช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุด จึงเป็นภาพที่น่าดู น่ามอง เมื่อ “สองสาว กทม.ฯ คู่นี้” ถูกคำสั่งให้ปฏิบัติอะไรก็ตาม…รินจะเป็นภาพของสาวสวยร่างท้วมที่ทำให้ความ น่าสนใจจุดอื่นๆในตัวที่น่าประทับใจและเอาเป็นแบบอย่างได้ ถึงแม้ว่าในบางเรื่อง ดูว่าจะเป็นผู้ตาม “ก้อย” อยู่ แต่ก็เรียกว่าเป็นการเลือกตามที่ถูกต้อง ถ้ามีเพื่อน ก็ควรเลือกเพื่อนที่น่าติดตาม เพราะทิศทางของเพื่อนที่ดูดี “เงี๊ยว” เด็กชายหนุ่มจากแดนอีสาน พูดกลางได้ อีสานได้ ความสามารถพิเศษพื้นบ้าน คือ สวดมนต์ไพเราะเสียงใส น่าฟัง (สำเนียงอีสาน) “ตั๊กแตน” สาวสีแทน แดนอีสาน พูดกลางได้ อีสานได้ ความสามารถพิเศษพื้นบ้าน คือ สวดมนต์ไพเราะเสียงใส เช่นกัน (สำเนียงอีสาน) 2 คนนี้ มาจากคนละจังหวัด แต่อีสานจะเป็นดินแดนศาสนา พ่อ-แม่-ปู่-ย่า-ตา-ยาย เข้าวัด ปฏิบัติธรรม เด็กๆก็จะได้ไปด้วย เสน่ห์ของเด็ก 2 คนก็จะชี้ให้เห็น ความจริงใจ ความซื่อสัตย์ ความกลัว ละอายต่อบาป ปฏิบัติตนอยู่ในกรอบของคำสอน แต่ก็ผสมผสานกับโลก ความทันสมัยได้อย่างลงตัว ไม่น่าเบื่อหน่าย เป็นตัวแทนของเครื่องมือเตือนใจให้ทุกคนสวดมนต์ภาวนาได้อย่างน่ารัก น่าชังที่สุด เพราะตกค่ำขึ้นมา เขา 2 คน จะพร้อมใจกันตะเบ็งเสียงสวดมนต์ เหมือนกับจะให้เทวดาบนสวรรค์รับรู้ จนหลายครั้งเข้า ทุกคนในค่ายต่างก็ต้องสวดมนต์ตามไปโดยปริยาย ความน่ารักของชาวอีสาน ที่มีวิถีชีวิตเรียบง่าย จะกิน จะอยู่ จะทำอะไร เด็ก 2 คนจะมีวิธีการได้น่ารัก น่าชัง เป็นที่รักของเพื่อนๆ และครูฝึกไปหมด แถมยังพาเพื่อนกินผักแปลกๆได้อีกตั้งหลายชนิด ตลอดเวลา 1 เดือน ที่อยู่ด้วยกันในค่าย ทำให้ทุกคนได้แลกเปลี่ยนความเป็นตัวตนของกันและกัน แล้วก็หยิบจับของแปลกที่ดีๆ เข้ามาผสมผสานอยู่ในตัวได้อย่างสนุกสนาน ครื้นเครง ได้แง่คิด ได้คำสอน ได้มุมมองที่ดีไว้เตือนใจ ประกอบกับการเป็นอยู่รับรู้เรื่องราวของครูฝึก “เรือโทหนุ่ม วรศาสตร์ หรือ ครูเอ” ที่เปรียบเป็นพี่ชายคนโตได้เป็นอย่างดี เขาผู้มีประวัติการปฏิบัติตัวจากเยาวชน จนเป็นทหารของชาติ และยังเป็นครูฝึกสอน “เรือใบมด” ให้กับเด็กรุ่นแล้วรุ่นเล่า ส่งเด็ก ส่งทีมเยาวชนนานาชาติมากี่รุ่นแล้ว หัวใจของการเป็นครูฝึกนักกีฬา ยังเปี่ยมล้นไปด้วย พลังผักดันให้เยาวชนหัวใจแจ๋ว มีจุดมุ่งหมาย มีความรักชาติ กษัตริย์ รู้จักใช้ความสามารถตามระดับที่มีอยู่สร้างชื่อเสียงให้กับบ้านเมืองได้ ถึงแม้ว่าอุปสรรคในชีวิตส่วนตัวของ “ครูเอ” ที่มีแทรกเข้ามาต่างๆนานาไม่ว่าจะเป็นสายงาน ความรัก และอนาคต แต่ “ครูเอ”ก็ถูกฝึกมาจากลูกผู้ชายเป็นนายทหารผู้เคร่งครัดกฎระเบียบ วินัย มากกว่าส่วนตัว ประเทศชาติเป็นหลัก และเขาก็ได้รับผลตอบแทนที่ลงตัวได้ในที่สุด “ครูเค” พบรักกับ “สาวทราย” ลูกแม่ค้าขายน้ำเต้าหู้ เบเกอรี่ แสนอร่อยของชาวสัตหีบ ทรายเรียนปี 4 มหาวิทยาลัยดัง คณะเศรษฐศาสตร์ จัดว่าครบสูตรสาวเมืองนี้ ต้องเก่ง กล้า สามารถ เพราะอยู่ในดงทหารเรือ ถ้าจิตใจไขว้เขวไม่หนักแน่น ไม่เป็นของตัวเอง ก็อาจจะจบชีวิตเป็นแม่บ้านทหารเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว “ครูเอ” มีคู่แข่งเป็นลูกชายเจ้าของกิจการมากมายในเมืองพัทยา-สัตหีบ ชื่อว่า “ตริน” ด้วยความที่มีธุรกิจเยอะ ลูกน้องเยอะ (แต่ไม่ถึงกับเป็นมาเฟีย) อุปนิสัยจึงดู”แน่ๆ” ไม่กลัวใคร เพราะไปไหนมาไหนคนเดียวไม่เป็น จึงรู้แต่วิธีที่จะอยู่แบบ “มีเพื่อน” ข้อเสียเปรียบก็คือ เวลาตัวต่อตัว นายทหารหนุ่มของเราก็ได้เปรียบ ด้าน มาด ความสง่างาม ประกอบกับวิชาชีพ เชิงรักหักสวาท ของทั้ง 2 ฝ่าย จะมีชั้นเชิงที่ชวนติดตาม โดยมีฝ่ายสมาชิกพรรคของทั้ง 2 ฝ่ายที่เห็นได้ชัด ในความแก่น เซี้ยว เฮี้ยว เข้ม เด็กๆเหล่านั้นจะนำพา ”ชีวิตในค่ายเยาวชนกับเรือมด” ในแบบฉบับของ “คนหัวใจแจ๋วๆกับเรือจิ๋วๆ” ไปพบกับบรรยายกาศหลากหลาย ล้วนแล้วแต่แทรกแก่นสาร สาระ ชีวิต น้ำตา พึ่งพา แก้ไข บทเรียนสอนใจ จะค้นหาจุดไหนของชีวิต รับไปเลยทุกรส สนุก ขบขัน เฮฮา แง่คิดมุมมองที่ดีๆ

คดีเด็ด...เหตุแห่งรัก 2548

เรื่องย่อ : คดีเด็ด...เหตุแห่งรัก (2548/2005) สนิสา นางเอกสาววัย 20 เธออาศัยอยู่กับ การันต์ น้องชายที่อายุห่างกัน 5 ปี สาต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในบ้าน จึงต้องทำงานหนักไม่มีเวลาดูแลการันต์ จนเขาเข้าไปพัวพันกับยาเสพติด เมื่อสารู้เธอพาน้องไปบำบัดจนหาย แต่จู่ๆ ตำรวจก็มาค้นคอนโดฯ และพบยาเสพติดจำนวนหนึ่ง ขณะที่การันต์ก็หายตัวไปสางุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอพยายามโทรหา พิพัฒน์ ดาราหนุ่มคนรักหวังให้เขาเป็นที่ปรึกษา แต่พิพัฒน์ไม่รับสายจึงตัดสินใจโทรหาเพื่อนเก่าชื่อ นรินทร์ นรินทร์มั่นใจว่าสาถูกใส่ร้าย แต่เธอไม่ได้อยู่ในเมืองไทย เพราะทำงานเป็นดีไซน์เนอร์ในอเมริกา จึงติดต่อ นวีร์ พี่ชายที่ทำรีสอร์ทบนเกาะแสงจันทร์ให้เขาช่วย โดยไม่ได้บอกรายละเอียดเรื่องคดี นวีร์นักเขียนนิยายอิโรติกหนุ่ม เจ้าของนามปากกา “ริชาร์ด รีด” ซึ่งโด่งดังระดับหนึ่ง เขาได้เงินจากงานนี้จนสามารถซื้อรีสอร์ทเล็กๆ บนเกาะที่มีความเป็นส่วนตัวนี้ เขารับสามาพักบนเกาะอย่างลับๆ ตามคำขอของน้องสาว โดยให้เธอพักในบ้าน เรเชล นางแบบสาวเปรี้ยวคู่ควงของเขาไม่เป็นมิตรกับสานัก สาจึงต้องอึดอัดอยู่พักใหญ่ ก่อนที่เรเชลจะเดินทางไปต่างประเทศ โดยขโมยต้นฉบับนิยายใหม่ของนวีร์ไปด้วย นวีร์เข้าใจผิดคิดว่าสาเป็นขโมยจึงต่อว่าเธอ ก่อนที่จะรู้ภายหลังว่าเรเชลต่างหากที่เป็นคนทำ เขาขอโทษสาที่เข้าใจผิด ก่อนจะกลับห้องและบังเอิญได้ดูข่าวภาคดึก เมื่อเห็นข่าวสานวีร์โกรธยื่นคำขาดจะส่งตัวเธอกลับขึ้นฝั่งในตอนเช้า สาเครียดจัดเธอตัดสินใจก้าวลงทะเลเพื่อจบชีวิตตัวเอง แต่นวีร์ไปช่วยไว้ได้เขาเข้ามานอนเฝ้าในห้องเพื่อป้องกันไม่ให้เธอทำร้ายตัว เองอีก ขณะสาหลับนวีร์แอบอ่านไดอารี่ของสาและได้รู้จักเธอมากขึ้น รุ่งขึ้นนวีร์ตัดสินใจโทรหา ผู้กองสินธร ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทและขอให้สืบเรื่องสาจนรู้ว่าเธอบริสุทธิ์ นวีร์จึงเปลี่ยนใจคิดจะช่วยเหลือ โดยสินธรรับปากจะช่วยเรื่องคดี สาเชื่อใจและไว้ใจนวีร์ เรเชลกลับมาอีกครั้งโดยที่นวีร์อภัยให้ เธอกลั่นแกล้งสาต่างๆ นาๆ เพราะริษยาจนนวีร์ทนไม่ไหว ต้องอ้างถึงสัญญาที่เคยให้ต่อกันว่าเขาและเรเชลเป็นเพียงคู่ควงที่ไม่มี สิทธิ์หึงหวง เมื่อใช้ทุกวิถีทางที่จะได้นวีร์มาแต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะไม่เล่นด้วย เรเชลจึงเริ่มท้อและคิดถึงศักดิ์ศรีของตัวเอง เธอก้าวออกจากชีวิตของเขาในที่สุด ด้านการันต์เขาถูกพิพัฒน์กักตัวไว้ที่บ้านลับชานเมืองเพื่อบังคับให้ส่งยา ให้ การันต์ขัดขืนและพยายามหนี จึงถูกพิพัฒน์ทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยๆ นวีร์ตัดสินใจพาสาขึ้นฝั่งตามคำแนะนำของสินธร แต่กลับถูกสินธรจับตัวไปอยู่ในเซฟเฮ้าส์ของกรมตำรวจ เมื่อรินทราบเรื่องเธอเดินทางกลับเมืองไทย และตรงเข้าพบสินธรเพื่อเอาเรื่องเขา รินเป็นคนรักเก่าของสินธร ทั้งคู่รักกันมากแต่ถูกแม่และน้าของรินกีดกัน โดยโกหกว่าสินธรมีเมียอยู่ที่เมืองไทย รินเข้าใจผิดจึงยอมเลิกกับเขา 4 ปีแล้วที่ทั้งคู่ไม่ได้พบกัน รินเคืองเพราะรู้ว่าสินธรจับสาและนวีร์ เธอขอพบนวีร์แต่สินธรบ่ายเบี่ยง รินจึงเล่นสงครามประสาทตามเขาไปทั่ว และสุดท้ายก็ไปอยู่ด้วยที่บ้านซะเลย เมื่อทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกันอีกครั้งจึงต่างก็รู้ว่ายังมีความรู้สึกพิเศษต่อ กัน ด้านพิพัฒน์หลังจากโยนความผิดให้สาเขาหันไปคบหากับ กิ๊ก ดาราคู่แข่งของสา และล่อลวงจนกิ๊กตกเป็นทาสของยาเสพติด เมื่อมารู้จักตัวตนของพิพัฒน์ก็เป็นเวลาสายซะแล้ว กิ๊กติดยางอมแงมเธอโดนบังคับให้ขายและส่งยาอย่างไม่มีทางเลือก สาและนวีร์ใช้ชีวิตด้วยกันในเซฟเฮ้าส์ ขณะที่สินธรแถลงข่าวใหญ่เรื่องการจับกุมสา เขารู้ดีว่าสาไม่มีส่วนรู้เห็นแต่ก็ต้องจับเธอ เพื่อล่อให้พิพัฒน์และตัวการใหญ่ออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง อีกอย่างการเก็บเธอไว้ก็ช่วยให้ปลอดภัยมากกว่า ที่นี่นวีร์และสาต้องนอนร่วมเตียงโดยมีหมอนข้างเป็นกำแพงเล็กๆ กั้นคนทั้ง 2 สารู้สึกอุ่นใจเมื่อมีเขาอยู่ข้างๆ สินธรอธิบายถึงความจำเป็นในการจับตัวคนทั้งคู่ และขอความร่วมมือจากสาในการชี้ตัวผู้ต้องสงสัยจากภาพ สาได้รู้จากสินธรว่าพิพัฒน์คือผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ สายของสินธรรายงานว่าคอนโดฯ ของสาถูกค้น พิพัฒน์พยายามหาของบางอย่างจึงสอบถามจากสา แต่ไม่มีอะไรที่พิพัฒน์เคยให้ไว้นอกจากสร้อยคอที่มีจี้เพชรเล็กๆ เพียงเส้นเดียว สินธรจึงขอตรวจดู การให้ความร่วมมือของสาทำให้ตำรวจได้เบาะแสคนร้ายเพิ่มขึ้น แต่สำหรับตัวการใหญ่ยังมืดแปดด้าน คนที่น่าสงสัยที่สุดในความคิดของสินธรคือ พลตำรวจเอกณรงค์เดช และถ้าใช่คงต้องยุ่งยากขึ้นเมื่อณรงค์เดชพยายามแทรกตัวเข้ามาวุ่นวายกับคดี นวีร์เริ่มห่วงว่าสาจะไม่ปลอดภัยเขาตัดสินใจพาสาหนี ด้วยการแกล้งลวนลามเธอเพื่อให้ผู้คุ้มกันเปิดประตู ก่อนที่ทั้งคู่จะวิ่งหนีออกมาจนสำเร็จ รินช่วยเหลือจนพาทั้งคู่กลับถึงเกาะแสงจันทร์ได้ในที่สุด สินธรถูกณรงค์เดชซึ่งมารับหน้าที่ดูแลคดีต่อว่าหนักเรื่องปล่อยผู้ต้องหาหนี ไป สินธรคิดว่าเรื่องนี้รินต้องมีส่วนรู้เห็น จึงตามติดเธอขณะเดินทางไปเกาะแสงจันทร์ แต่รินรู้ตัวก่อนจึงเตือนให้นวีร์พาสาไปซ่อนได้ทัน นวีร์ให้รินติดต่อ พลตำรวจเอกนิพนธ์ น้าของเขาเพราะเห็นว่าอาจช่วยสาได้ นวีร์ตัดสินใจพาสาขึ้นฝั่งเพื่อรอพบนิพนธ์ แต่ผิดพลาดข่าวรั่วจนมีคนหลายกลุ่มต่างสุ้มชิงตัวสา สมุนของพิพัฒน์ยิงณรงค์เดชแต่สินธรช่วยไว้จนได้รับบาดเจ็บ งานนี้ณรงค์เดชและสินธรเข้าใจกันมากขึ้น ทั้งคู่หันมาร่วมมือกัน นวีร์และสาหนีรอดไปได้และไปอาศัยอยู่กับรินเพื่อรอพบนิพนธ์อีกครั้ง ในที่สุดรินก็สามารถนัดนิพนธ์ได้ แต่สินธรมาชิงตัวทั้งคู่ไปก่อนและพากลับไปอยู่ที่เซฟเฮ้าส์อีกครั้ง ก่อนที่สาจะถูกพิพัฒน์จับตัวไปจากเซฟเฮ้าส์จนได้ เวลาเดียวกัน สินธรได้ทราบจากรินโดยบังเอิญว่าพิพัฒน์สนิทสนมกับนิพนธ์ เมื่อประติดประต่อเรื่องดูสินธรเริ่มวิตกเพราะนิพนธ์ที่กลับกลายเป็นคนที่ อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดมีการ์ดสำหรับเข้าออกเซฟเฮ้าส์ได้ สินธรรีบกดโทรศัพท์หานวีร์เพื่อเตือน แต่สาก็หายตัวไปซะแล้ว สินธร, ริน และนวีร์ ปรึกษากันและคิดว่าสาน่าจะปลอดภัย เพราะคนร้ายต้องการสิ่งของบางอย่างที่อยู่กับเธอ นวีร์ฉุกคิดถึงเกาะแสงจันทร์แล้วก็เป็นอย่างที่คิด พิพัฒน์ต้องการของที่ซ่อนในกล่องสร้อย เขานำเทปทำร้ายการันต์มาให้สาดูและขู่ฆ่าน้องชายถ้าเธอไม่ร่วมมือ สาจำยอมพาพิพัฒน์ไปยังเกาะแสงจันทร์ แต่ก็ถ่วงเวลาให้ช้าที่สุดเพื่อรอความหวังว่านวีร์จะมาช่วย เธอใจชื้นขึ้นเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงที่รีสอร์ท นวีร์ต้องรู้แล้วว่าเธอมาเพราะทุกอย่างถูกเตรียมการณ์ไว้แล้ว สาวประชาสัมพันธ์กลายเป็นคนงานชาย เช่นเดียวกับพนักงานอื่นๆ พิพัฒน์ถูกนวีร์จับได้ในที่สุด ด้านสินธรและรินเริ่มแผนการอีกขั้น รินแอบพาสินธรเข้ามาในบ้านนิพนธ์เพื่อให้ค้นหาหลักฐาน นิพนธ์กลับมาพบสินธร เขาจะยิงแต่สินธรขู่ว่าถ้าเขาไม่ปลอดภัยนวีร์จะนำหลักฐานที่ได้ไปแฉ นิพนธ์ไม่กลัวเขายิงสินธรบาดเจ็บ แต่ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดถูกส่งไปที่หน่วยงานสอบสวนพิเศษด้วยกล้องที่สินธรแอบ ติดไว้ ตำรวจจึงบุกมาช่วยเขาได้ทันนิพนธ์ถูกจับในที่สุด สินธรบาดเจ็บโดยมีรินเฝ้าดูแลไม่ห่างทั้ง 2 ปรับความเข้าใจกันอีกครั้ง ขณะที่นวีร์และสายังคงอยู่ที่เกาะแสงจันทร์ ทั้งคู่นั่งบนชิงช้าท่อนไม้ริมหาดท่ามกลางแสงจันทร์ที่สวยกว่าคืนไหนๆ สาขอบคุณนวีร์สำหรับทุกอย่างที่เขาทำให้เธอ วันรุ่งขึ้นพิพัฒน์หนีไปได้เพราะนวีร์ปล่อยเขาไปเพื่อแลกกับการบอกที่ซ่อน ตัวการันต์ แต่ก็หนีไม่รอดถูกตำรวจจับได้กลางทาง พิพัฒน์ต้องรับโทษจำคุก นวีร์และสาไปในที่ๆ พิพัฒน์บอกและพบศพของการันต์ สาเสียใจโดยมีนวีร์คอยปลอบอยู่ข้างๆ หลังงานศพการันต์นวีร์และสาไปเยี่ยมสินธรที่นอนเครียดอยู่ เนื่องจากจู่ๆ รินก็หายตัวไปเขาเพิ่งรู้จากนวีร์ว่ารินกลับต่างประเทศสินธรทั้งตกใจและไม่ เข้าใจคนรัก เขาไม่มีใจทำงานจึงลาพักร้อนไปพักผ่อนที่เกาะพร้อมกับนวีร์และสา ตอนนี้จิตใจสาดีขึ้นวงการบันเทิงเข้าใจและให้โอกาสเธออีกครั้ง ต่างจากกิ๊กที่ต้องเสียคนไปเพราะยาเสพติดจนต้องถึงขั้นเข้ารับการบำบัดทาง จิต แต่สาก็ตัดสินใจเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่กับนวีร์ที่เกาะแสงจันทร์ ขณะที่คนที่น่าเป็นห่วงคือสินธรที่ดูเศร้าซึมไปมาก และแล้วรินก็กลับมาหาเขาอีกครั้ง เธอสารภาพว่าไปเพื่อเคลียร์งานสำหรับการกลับมาอยู่เมืองไทยเป็นการถาวร แต่ที่ไม่ยอมบอกสินธรเพราะอยากดัดนิสัยที่เขาวางมาดไม่สนใจใยดีเธอมานาน สินธรโผเข้ากอดรินเหมือนคนที่ได้ของรักที่หายไปคืนมาอีกครั้ง และตั้งใจว่าจะไม่ปล่อยให้เธอหลุดมือไปอีกแน่นอน

ตลาดน้ำดำเนินฯรัก 2548

เรื่องย่อ : ตลาดน้ำดำเนินฯรัก (2548/2005) โก้ ชายหนุ่มรูปหล่อมาดดีสมชื่อ ฉลาดทันคน เขาจบปริญญาตรีที่ราชภัฏมาตั้งนานแล้ว แต่ก็ยังหางานทำไม่ได้ โก้ตัดสินใจเอารถตู้ของพ่อออกมารับจ้างตามบริษัททัวร์ พานักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ไปตีกอล์ฟบ้าง รวมทั้งไปตลาดน้ำดำเนินฯ แหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของบ้านเรา ส้มโอ ลูกสาวชาวสวนผลไม้ใหญ่ในอำเภอ เธอมักจะตามแม่พุด มารดาของเธอไปขายผลไม้ที่ตลาดน้ำตั้งแต่ยังเด็กๆโดยมี องุ่น พี่สาวติดสอยห้อยเรือไปด้วย กระทั่งโตเป็นสาว เรียนจบปริญญาตรีแล้วส้มโอกับองุ่นก็ยังพายเรือไปขายผลไม้กับแม่เช่นเดิม ความฝันที่อยากเป็นแอร์โฮสเตส อยากทำงานกรุงเทพฯ ของส้มโอนั้นริบหรี่เต็มทน เพราะพ่อพร้าวบิดาของเธอไม่เห็นด้วยที่จะปล่อยให้ลูกสาวไปทำงานไกลหูไกลตา ทุก ครั้งที่ไปขายของกับแม่ ส้มโอและองุ่นจะมีอาชีพเสริม สร้างรายได้ให้เธอกับพี่สาวไม่ใช่น้อย นั่นก็คือ การยิ้มหวานๆ ถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการอุดหนุนผลไม้ บางทีนักท่องเที่ยวใจดีก็ทิปหนัก วันหนึ่งโก้พานักท่องเที่ยวมาเที่ยวตลาดน้ำ พอเห็นส้มโอยิ้มแย้มแจ่มใสถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยว ด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจเขาก็ปิ๊งถูกใจในมิตรภาพของเธอทันที หารู้ไม่ว่านั่นคืองานถนัดของส้มโอ เธอถูกสอนให้ฉีกยิ้มเป็นงานมาตั้งแต่เด็กแล้ว ตัวจริงน่ะเหรอ..แก่นเซี้ยวเปรี้ยวเข็มฟันไม่เบา ภาพแม่ค้าหน้าหวานของส้มโอ ทำเอาโก้นอนไม่หลับ เขาสืบจนรู้ว่าส้มโอเป็นลูกสาวคนเล็กของพ่อพร้าว เจ้าของสวนจอมตระหนี่ มาดดูดีประมาณผู้ใหญ่บ้าน น้องๆ กำนัน โก้หาช่องทางจีบส้มโอด้วยการเข้าทางผู้ใหญ่ เขาคอยไปดักพ่อพร้าวตามร้านค้า ร้านกาแฟในหมู่บ้าน ทำทีเป็นชวนคุยเรื่องการเมือง เรื่องจิปาถะเพื่อสร้างความสนิทสนมคุ้นเคย แต่ก็เข้ายากเหลือเกิน เพราะพ่อพร้าวทันเกม

หัวใจห่อใบตอง 2547

เรื่องย่อ : หัวใจห่อใบตอง (2547/2004) หัวใจห่อใบตอง เป็นเรื่องราวของนิด นิด เป็นคนขยันและมีน้ำใจ นนท์ พ่อของ นิด มีครอบครัวใหม่ เงินที่เคยส่งให้ สุมน แม่ของ นิด ลดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งหยุดส่ง นิด ตัดสินใจไม่เรียนต่อเมื่อจบ ม.6 เพราะอยากให้ หนุ่ย น้องชาย ได้เรียนสูงๆ ส่วนเธอเลือกเรียน มสธ. แล้วช่วยแม่ทำขนมขาย ธีรชาติ ทายาทคนเดียวของ ชาติ นักธุรกิจชื่อดัง เป็นที่หมายปองของสาวๆ ทำให้มารดาทาบทาม กิ่งแก้ว ลูกสาวเพื่อนรักไว้ให้ แต่ ธีรชาติ คิดกับ กิ่งแก้ว เพียงแค่น้องสาว วันหนึ่ง ธีรชาติ นั่งรถผ่านร้านขนมของ นิด คนขับรถขอแวะซื้อขนม ธีรชาติ นั่งคอยนานจึงตัดสินใจลงไปตาม เมื่อเห็นหน้า นิด รู้สึกประทับใจในความสวยและความมีน้ำใจ เขาจึงแนะนำตัวกับ นิด ว่าชื่อ ขันหมาก เป็นคนขับรถให้กับเศรษฐี และคิดหาวิธีต่างๆเพื่อใกล้ชิดกับ นิด หลังจากนั้น ธีรชาติ กลายเป็นแขกประจำของครอบครัว นิด ซึ่งเธอก็ไม่รังเกียจที่จะคบหาฉันเพื่อน จู่ๆร้านขนมของ สุมน โดนกลั่นแกล้ง ทำให้ยอดขายตก สภาพการเงินแย่ลง ต่อมา นิด ไปส่งขนมที่ร้านของ แพร นางแบบเก่าที่รู้จักมานาน ชักชวนให้เป็นนางแบบ นิด ตัดสินใจลองทำ ทางด้าน ธีรชาติ สืบจนรู้ว่าเป็นฝีมือของ ทิพย์ แม่ค้าขี้อิจฉา จึงช่วยเหลือจนร้าน สุมน กลับมาขายดีอีกครั้ง วันหนึ่ง นิด ไปหา นนท์ ที่ต่างจังหวัด ทำให้ นนท์ ดีใจที่ลูกมาหา ธีรชาติ ตามไปหา นิด และได้ทำความรู้จักกับ นนท์ ความสนิทระหว่างพ่อลูกทำให้ วลี ภรรยาใหม่ของ นนท์ ไม่พอใจจนถึงขั้นมีปากเสียงกัน ชาติ ต้องรีบไปสนามบินเพื่อติดต่อธุรกิจ แต่รถของเขาติดหล่มท่ามกลางฝนตก โชคดี นิด และ หนุ่ย เข้ามาช่วยกันเข็นทำให้ ชาติ สามารถไปติดต่อธุรกิจได้ทัน ชาติ รู้สึกถูกชะตาและพอใจในความมีน้ำใจ จนกระทั่ง ชาติ เล่าให้ ธีรชาติ ว่าเธอผู้หญิงคนหนึ่งที่อยากแนะนำให้รู้จัก แต่ ธีรชาติ ปฏิเสธ เพราะเขามีคนที่เขารักอยู่แล้ว สุมน ทำงานจนไม่มีเวลาพักผ่อน ระหว่างนั้น ชาติ ที่นำของมาให้เพื่อตอบแทนน้ำใจของ นิด มาพบว่า สุมน เป็นลมหมดสติไป ชาติ เป็นธุระพาส่ง รพ. นิด จะตามไปด้วย แต่ สุมน สั่งให้เธอเฝ้าบ้านแทน ธีรชาติ เข้ามาช่วยเหลือ นิด ทำขนม เพราะเห็นว่า สุมน ยังป่วยอยู่ เขาตัดสินใจสารภาพรักกับ นิด และเอ่ยปากขอแต่งงาน นิด ขอให้ ธีรชาติ ไปพูดกับ สุมน ก่อน ต่อมา นนท์ หย่ากับ วลี เพราะมีชู้ นนท์ กับ สุมน มีโอกาสปรับความเข้าใจกันอีกครั้ง ประจวบกับที่ ชาติ มาเยี่ยม สุมน เอ่ยปากขอ นิด ให้ลูกชาย ขณะนั้นเอง ธีรชาติ มาเยี่ยม สุมน เช่นเคย พอเห็น ชาติ ก็ตกใจ ความลับเลยแตก นิด งอนที่ถูกหลอก ธีรชาติ เลยตามงอนง้อจนเข้าใจในที่สุด

กลับบ้านเรานะ...รักรออยู่ 2547

กลับบ้านเรานะ...รักรออยู่ (2547/2004) จอมขวัญ ลูกสาวคนเล็กที่สวยปราดเปรียว ดื้อรัน และเชื่อมั่นในตนเองของกำนันชัย อดีตกำนันผู้ปกครองบ้านไร่พัฒนา เธอไปใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพเพื่อเรียน และทำงานหลายปี จนบริษัทโฆษณาเล็กๆ ที่เธอทำงานอยู่ประสบมรสุมทางเศรษฐกิจ และต้องปิดตัวลง จอมขวัญกลายเป็นคนตกงานอย่างกระทันหัน ในที่สุดก็ตัดสินใจได้ว่าเธอจะกลับบ้านเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ และผันตัวเองไปทำงานเกษตรตามแนวทางเดิมของครอบครัว ทุกคนในบ้านต่างงุนงงไปกับการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงชีวิตแบบพลิกความคาดหมายของจอมขวัญอยู่มาก หลายคนไม่คิดว่าเธอจะทำได้ แต่กำนันชัยเคารพการตัดสินใจของลูก เขาแบ่งที่ดินให้เธอ 1 แปลงเพื่อพิสูจน์ตัวเองกับงานที่เธอตั้งใจ จอมขวัญเริ่มวางแผนการทำงานของเธอด้วยการศึกษาการทำเกษตรผสมผสานตามแนวทฤษฎีใหม่ เธอได้ที่ปรึกษาเป็นเพื่อนเก่าเจ้าเนื้ออย่าง สุพรรณี ลูกเจ้าของร้านหนังสือที่ช่วยเหลือด้านข้อมูลวิชาการ และนัดดา เพื่อนครูแสนเรียบร้อยที่คอยช่วยเหลือในเรื่องการสำรวจตลาด ขณะที่เธอกำลังเล่าความฝันอันบรรเจิดของตนให้สุพรรณีฟังอยู่นั้น เขตรัฐชายหนุ่มร่าสูงใหญ่ผิวเข้มหน้าตาคมคาย ที่ยืนอยู่แผลงหนังสือใกล้ๆ ได้ยินเรื่องราวโดยตลอดและอดหัวเราะออกมาไม่ได้ เพราะมองไม่เห็นทางเลยว่าสาวสวยหุ่นเพรียวอย่างนางแบบแต่งตัวแปลกตาจะเป็นเกษตรกรได้อย่างไร จอมขวัญหันขวับไปมองตามเสียงนั้นด้วยความโกรธ จะตามไปเอาเรื่องแต่สุพรรณีห้ามไว้ เขตรัฐมีข่าวซุบซิบทั่วตลาดว่าเขาเป็นเกย์ หลังอกหักจากแฟนเก่าชื่อชุติมา และเขายังเป็นเพื่อนสนิทกลุ่มเดียวกับ เดชชัย พี่ชายคนหนึ่งของจอมขวัญอีกด้วย จอมขวัญเริ่มวิตกว่าเดชชัยพี่ชายอาจกลายเป็นพวกชอบไม่ป่าเดียวกันไปแล้ว ขณะเดียวกันหนุ่มๆ ในกลุ่มของเดชชัย ก็คอยสังเกตน้องสาวเพื่อนคนนี้อยู่เหมือนกัน แถมยังตั้งคำถามกันว่าสาวสวยที่ชินกับชีวิตเมืองกรุงอย่างเธอจะไปรอดในอาชีพเกษตรกรหรือไม่ ด้านเขตรัฐและผู้กองวรพจน์ 2 หนุ่มโสดในกลุ่ม คิดว่าคนทำจริงอย่างจอมขวัญน่าจะไปได้ตลอดรอดฝั่ง ขณะที่พิชัยอารักษ์ 2 หนุ่มไม่โสด คิดว่าเธอไม่มีทางทำอาชีพนี้ได้นานถึง 1 ปี เมื่อความคิดต่างกันการเดิมพันจึงเกิดขึ้น พิชัยเสนอให้วางเงินคนละ 1 แสนบาท มีระยะเวลา 1 ปี และให้เดชชัยซึ่งเป็นคนวงในทำหน้าที่เป็นกรรมการ โดยที่จอมขวัญไม่รู้เลยว่าเธอคือตัวแปรสำคัญของเกมนี้ จอมขวัญเดินทางไปปรึกษาที่สำนักงานเกษตรอำเภอ และได้พบกับวีรวุธ ในที่สุดจอมขวัญก็ได้ข้อสรุปว่เธอจะปลูกมะนาวที่ยังไม่มีใครปลูก เลี้ยงปลาแรดที่กำลังมีราคาดี และเลี้ยงไก่ไข่เพื่อให้ไร่ของเธอมีเงินหมุนเวียนตลอดทั้งปี แต่โครงการของขวัญจำเป็นต้องไปขอความช่วยเหลือเรื่องรถขุดดินจากไร่สมสมัย ไร่ใหญ่ข้างๆ ที่มีคุณสมสมัยแม่ของเขตรัฐเป็นเจ้าของ และมีเขตรัฐเป็นคนดูแล เมื่อเจอหน้ากันทีไรจอมขวัญมักจะพูดเรื่องคนอกหักบ้าง พวกเบี่ยงเบนทางเพศบ้าง เพราะคิดเอาเองว่าเป็นการพูดจี้จุดเขตรัฐแต่ก็ไม่เคยได้คำตอบจริงจังพอที่จะจับต้นชนปลายได้เลย แถมเขายังมักจะรู้ทันเธอไปซะทุกเรื่องและสวนกลับแบบที่ทำให้จอมขวัญแทบสะอึกอีกด้วย จอมขวัญได้รู้จักตัวตนของเขตรัฐมากขึ้น จากที่จอมขวัญได้เห็นเขตรัฐก็ดูเป็นคนดีแต่ไม่รู้ว่าทำไมเพื่อนๆ ของเธอจึงบอกว่าเขตรัฐน่ากลัว จะเล่าทีไรก็มักจะมีคนเข้ามาขัดอยู่ร่ำไป และรู้สึกว่าลุงชูไม่ชอบคุณนายสมสมัยและลูกๆ ของเธอนัก เขามักจะกันไม่ให้เขตรัฐเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรืออยู่ใกล้ชิดด้วย ซึ่งจอมขวัญไม่รู้ว่าเพราะอะไร หากแต่คนในครอบครัวของเขตรัฐนั้นรู้ดีว่าลุงชูเชื่อว่าการตกบันไดตายของน้องสาวคือแม่แท้ๆ ของเขตรัฐไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุแต่มันคือการฆาตกรรม ดังนั้นอีกคนที่อาจได้รับอันตรายก็คือเขตรัฐหลานรักเพียงคนเดียวของเขา ไร่จากน้ำพักน้ำแรงจอมขวัญรุดหน้าไปด้วยดี ด้วยความช่วยเหลือของเขตรัฐ นิติพงษ์กลับมาอีกครั้งพร้อมกับเพื่อนๆ ของจอมขวัญที่กรุงเทพฯ เธอจึงจัดโปรแกรมพาเพื่อนๆ เข้าไปเที่ยวชมธรรมชาติในป่า โดยขอให้เดชชัยและกลุ่มของเขาซึ่งมีความเชี่ยวชาญการเดินป่านำทางให้ เขตรัฐทำหน้าที่เป็นผู้นำกลุ่มโดยมีประสิทธิ์คนสนิทของเขาซึ่งหลงรักนัดดาติดตามไปช่วยดูแลด้วยเพราะกลุ่มเที่ยวครั้งนี้มีจำนวนมากพอดู เนื่องจากนักรบและระวิขอตามไปแถมยังชวนชุติมา ธนากร และยุวดีเพิ่มเข้ามาอีก ตลอดเส้นทางเขตรัฐคอยดูแลจอมขวัญที่สามารถเดินทันเขา ขณะที่คนอื่นๆ เดินรั้งท้ายเพราะร่างกายไม่สู้ โดยเฉพาะนิติพงษ์ซึ่งอ่อนล้าและดูจะเป็นไข้จากการเดินทางที่ลำบาก เขาไม่ชอบที่เขตรัฐคอยห่วงใยและดูแลจอมขวัญเป็นพิเศษ คืนนั้นอากาศหนาวมาก ด้วยความเซ็งเขตรัฐชวนประสิทธิ์ไปเดินส่องสัตว์ เวลาเดียวกัน นิติพงษ์ออกจากเต็นท์มาเข้าห้องน้ำถูกลอยตีหัวจากทางด้านหลัง ทุกคนสงสัยเขตรัฐ เพราะเขาและประสิทธิ์ไม่ได้อยู่ในเต็นท์อีกทั้งนักรบซึ่งเป็นน้องของเขาเองแท้ๆ กลับคอยพูดให้ทุกคนเข้าใจว่าคนที่ลงมือต้องเป็นเขตรัฐ ผู้กองวรพจน์มั่นใจว่าคนอย่างเขตรัฐไม่มีทางลอบทำร้ายใคร เหตุการณ์ในคดีเดิมนั้นแม้ปืนจะเป็นของเขตรัฐแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นคนยิง วรพจน์และเพื่อนๆ ของเขตรัฐเริ่มรู้สึกไม่ไว้ใจนักรบที่ต่อหน้าก็เป็นน้องชายที่เคารพพี่ แต่ลับหลังกลับพูดจาเหมือนให้ร้ายพี่ชายตัวเอง หลังเกิดเหตุ จอมขวัญเริ่มไม่ไว้วางใจเขตรัฐอีกครั้งเธอไม่ได้พบเขาอีกเลย จอมขวัญเลิกคิดเรื่องต่างๆ และทุ่มเทเวลาให้กับงานอย่างเต็มที่ โดยมีวีรวุธคอยให้คำปรึกษา เขามาหาเธอที่ไร่เกือบทุกวัน เขตรัฐได้แต่แอบมองคนทั้งคู่มาจากไร่ของเขาอย่างอิจฉา เมื่อจอมขวัญทำปั้นปึ่ง เขตรัฐจึงเพียรมาที่ไร่ของเธอบ่อยๆ ทั้งที่รู้ว่าจอมขวัญไม่อยากพูดคุยด้วยนัก เพราะเธอไม่เคยรู้เลยว่า เขานั่นแหละที่เป็นคนให้เงินช่วยเหลือไร่ของเธอ เมื่อตอนที่ไก่ตายยกเล้า จอมขวัญรู้เพียงว่าเดชชัยไปกู้เงินมาให้เท่านั้น จู่ๆ จอมขวัญก็เดินทางเข้ากรุงเทพฯ แล้วจอมขวัญก็กลับมาพร้อมทั้งบอกอย่างภาคภูมิใจว่าเธอได้รับเลือกให้เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาบริษัทโทรศัพท์เรื่อง "กลับบ้านเรานะรักรออยู่" ซึ่งเป็นโครงการที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลให้คนตกงานกลับไปทำมาหากินที่บ้านเกิด ซึ่งต้องการคนตกงานที่กลับบ้านเกิดมาทำเกษตรจนเป็นรูปเป็นร่างสำเร็จจริงๆ และต้องสวยพอที่จะเป็นนางเอกโฆษณาได้ด้วย ซึ่งคนนั้นก็คือ เธอ ที่สำคัญงานของจอมขวัญสามารถรวมแนวคิดหลักของรัฐบาลได้ทั้งสามแนวทางนั่นคือ กลับบ้านเกิด ส่งเสริมอาชีพในท้องถิ่นให้มีผลิตภัณฑ์ เฉพาะตำบลและส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น อาชีพของจอมขวัญทั้งนั้น ตกดึกทั้งเขตรัฐและจอมขวัญนั่งดูดาวอยู่ด้วยกันเพียงสองคน แล้วจู่ๆ เขตรัฐก็บอกกับจอมขวัญว่าเขาชอบเธอและบอกว่าน่าจะลองคบกันดู จอมขวัญแม้จะรู้อยู่เป็นนัยๆ ว่าเขาคิดอะไรกับเธอแต่มาจู่โจมอย่างนี้ก็ตั้งรับไม่ทันเหมือนกัน เธอจึงรีบเดินหนีไปที่กลุ่มทัวร์ด้วยความอาย และพยายามไม่สบสายตาของเขา นักรบมองออกว่าเขตรัฐสนใจจอมขวัญและบอกว่าจะจัดการให้ เขตรัฐห้ามไม่ให้มายุ่งกับเรื่องของตน แต่แล้วก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้เมื่อรถของวีรวุธเจอเรือใบจนยางแตกหลังขับออกมาจากไร่จอมขวัญเขาสังเกตเห็นได้ว่ามีเงาคนมาเก็บเรือใบที่เหลือ เขตรัฐขับรถมาเห็นเข้าเลยลงมาช่วยและถามว่าเขาสนใจจอมขวัญหรือเปล่า วีรวุธกลัวและเข้าใจผิดว่าเป็นแผนของเขตรัฐที่ต้องการจะขู่ตน และเล่าเรื่องราวให้จอมขวัญฟัง จอมขวัญตำหนิเขตรัฐให้เดชชัยฟังแต่แล้วก็โดนเดชชัยโมโหใส่และบอกว่าเขตรัฐไม่ใช่คนอย่างนั้น จอมขวัญถูกลอบยิงขณะนำทัวร์ ประสิทธิ์ซึ่งอยู่ใกล้รีบวิ่งเข้ามาช่วย แต่จอมขวัญกลับคิดว่าเขาเป็นคนยิง เขตรัฐและเดชชัยรีบมาดูอาการจอมขวัญ จู่ๆ ถาวรเจ้าของเรือยางอิสระก็หน้าตาตื่นเข้ามาบอกว่ารู้ข่าวว่าขวัญถูกยิง แต่เมื่อเห็นผู้กองวรพจน์เดินมาก็ผงะรีบกลับไปทันที ซึ่งเป็นที่น่าสงสัยของวรพจน์ยิ่งนัก เมื่อฟื้นขึ้นมาเห็นหน้าเขตรัฐ จอมขวัญถึงกับผวาบอกว่าเธอโดนยิงเพราะไม่คบกับเขา และทะเลาะกับประสิทธิ์ เขตรัฐเสียใจมากและบอกว่าอย่าเอาเหตุการณ์ครั้งนั้นมาตัดสินเขาก่อนที่จะมองอย่างตัดพ้อแล้วเดินออกไป ชุติมาที่มาคอยดูแลจอมขวัญก็บอกว่าเขตรัฐไม่ใช่คนอย่างนั้น เขาไม่เคยฆ่าใคร เมื่อจอมขวัญจะถามต่อชุติมาก็ไม่ยอมพูดแล้วออกไป ผู้กองวรพจน์เริ่มสงสัยท่าทางของนักรบ เพราะมักจะพูดถึงเรื่องร้ายต่างๆ ว่าเป็นฝีมือธนากรได้ราวกับเป็นคนคิดแผนซะเองแต่ก็พยายามสืบทางธนากรด้วยเช่นกัน ธนากรก็ให้คนสืบอยู่เหมือนกัน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีข่าวว่าเขาเป็นคนผิด วรพจน์เริ่มมองมาที่คนในครอบครัวของเขตรัฐ คืนนั้นเองเขตรัฐถูกลอบยิง ลุงชูจึงจัดการหาลูกน้องทหารเก่ามาคอยดูแลเขตรัฐ อารักษ์และเพื่อนมาเลี้ยงปลอบใจและวางแผนให้ได้เจอกับจอมขวัญ ตอนแรกเขตรัฐโมโหแทบบ้าที่จอมขวัญไม่แสดงอาการห่วงใยเขาเลยแถมพูดจาประชด จนวรพจน์ต้องเตือนให้ใจเย็นๆ เขตรัฐอาสาขับรถของจอมขวัญไปส่งเธอที่บ้านและให้อารักษ์เอารถเขาไปส่งที่บ้านท่ามกลางแรงเชียร์ของเพื่อน จอมขวัญเริ่มไม่ไว้ใจเมื่อเห็นเขาหยิบปืนมาด้วย ตลอดทางกลับบ้านเขตรัฐรับรถช้ามาก เขาสารภาพว่าเขารักเธอและไม่เคยทำร้ายใครเพื่อให้ได้เธอมา จอมขวัญหน้าแดงที่จู่ๆ ตาบ้าก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา และหาเรื่องเขาเพื่อกลบเกลื่อนความอาย เมื่อเขตรัฐหยุดรถด้วยความโกรธจอมขวัญก็คว้าปืนเขามาจ่อทันทีด้วยความกลัวและให้เขาออกรถ เขตรัฐไม่คิดจะปัดปืนให้พ้นตัวทั้งๆ ที่เขาทำได้ เขตรัฐบอกให้จอมขวัญระวังตัวเพราะเขาเห็นเงาคนตะคุ่มอยู่และหยิบปืนไปจากมือจอมขวัญพร้อมบอกให้เธอวิ่งหนีไปให้ไกล ท่ามกลางเสียงปืนที่ดังลั่นจากการยิงต่อสู้ เขตรัฐรีบบอกให้เพื่อนตามมาเพราะเขาถูกดักยิงเช่นกัน จากนั้นก็ตะโกนเรียกจอมขวัญ ซึ่งหลบอยู่ในดงไม้ห่างจากถนนห้าหกเมตรเท่านั้น จอมขวัญบอกว่าเธอขาแพลง ช่วงที่รอผู้กองสองคนก็นั่งกอดเข่าหันหน้าคุยปรับความเข้าใจกัน วรพจน์มาบอกข่าวที่ไม่น่าเป็นไปได้กับเขตรัฐ นั่นคือ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดเป็นคนในบ้านเขา วรพจน์บอกเขตรัฐว่าให้ตัดสินใจว่า ระหว่างแม่เลี้ยงกับน้องชายเขาคิดว่าใครหรือว่าทั้งคู่ จอมขวัญไปหาชุติมาที่บ้านพักพยาบาล เธอต้องการให้ชุติมาบอกความลับต่างๆ เพราะผู้กองวรพจน์แน่ใจว่าชุติมาจะเป็นคนที่ไขความลับเรื่องนี้ได้ แล้วเธอก็ได้รู้ว่านักรบเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด แต่ทันใดนั้นเองนักรบก็พุ่งเข้ามาตบชุติมาจนหมดสติ ท่าทางของเขาดูไร้สติไม่มีเค้าความอ่อนโยนเหมือนนักรบคนเดิม ก่อนที่จะเอาปืนตบหน้าจอมขวัญจนหมดสติไปอีกคน เขตรัฐแทบบ้าที่รู้จากชุติมาที่หน้าตาบอบช้ำว่านักรบเอาตัวจอมขวัญไป ขณะนั้นมีจดหมายจากนักรบนัดเขาไปที่อุทยานแห่งชาติฯ สมสมัยขอร้องว่าอย่าฆ่าน้อง เขตรัฐรับปาก ที่ท่าเรือ นักรบให้เขตรัฐลงมาในเรือที่มีถาวรคุมท้าย จอมขวัญนั่งอยู่ตรงกลาง เขาเข้าไปกอดจอมขวัญเอาไว้และได้ฟังนักรบซึ่งดูเหมือนควบคุมสติตัวเองไม่อยู่ ถาวรเห็นท่าไม่ดีกระโดดหนี แต่ก็ถูกนักรบยิงตายอย่างแม่นยำ พร้อมสั่งให้จอมขวัญบังคับเรือ เธอจึงบังคับเรือให้ชนโขดหิน นักรบกระโดดตกจากเรือ เขตรัฐพยายามช่วยน้องชายเอาไว้ลากขึ้นเรือในสภาพที่ได้รับบาดเจ็บจากคมหินใต้น้ำ ท่ามกลางความเหนื่อยล้า จู่ๆ นักรบที่นอนนิ่งก็คว้าปืนจากเอวของวรพจน์ยิงตัวเองตายไปต่อหน้าต่อตา เขตรัฐเสียใจมากที่เขาไม่อาจรักษาสัญญากับแม่เลี้ยงของเขาเอาไว้ได้ ด้านเขตรัฐและจอมขวัญลงเรือยางอีกครั้งเพื่อพูดคุยปรับความเข้าใจและปลอบโยนซึ่งกันและกัน เขาขอเธอแต่งงานอีกครั้งแต่จอมขวัญก็ยังคงดื้อดึงตามแบบของเธอ ครั้งนี้เขตรัฐรู้แล้วว่าเธอคงไม่จากเขาไปไหนอีกอย่างแน่นอน

โฉมตรูครูเถื่อน 2546

เรื่องย่อ : โฉมตรูครูเถื่อน (2546/2003) คุณธรรม และ ความดี ทำให้เขาสามารถพิชิตใจหญิงสาวผู้เพียบพร้อม

กามเทพตัวน้อย 2546

กามเทพตัวน้อย (2546/2003) กามเทพตัวน้อย เป็นเรื่องราวกุ๊กกิ๊กของหนุ่มสาววัยทำงาน ที่มีกามเทพตัวน้อย ๆ คือหลาน ๆ เป็นตัวเชื่อมความรักของคนทั้งคู่ ทุกวันมุทิตามัณฑนากร สาวสวยคนเก่ง จะต้องไปส่งหนูนาที่โรงเรียนอนุบาลเสมอด้วย มอเตอร์ไซค์คันเก่ง แล้ววันหนึ่งเกวลินเพื่อนสนิทของมุทิตาต้องไปต่างจังหวัด จึงเอารถยนต์มาฝากไว้กับมุทิตา เธอจึงเอารถของเกวลินไปรับหนูนาที่โรงเรียน ระหว่างทางได้เกิดอุบัติเหตุชนกับรถของทีเด็ด ชายหนุ่มไฮโซปากจัด ทีเด็ดกับมุทิตาถกเถียงกันอย่างรุนแรง จนนาครหมอหนุ่มเพื่อนสนิทของทีเด็ดที่นั่งรถมาด้วยต้องเข้ามาไกล่เกลี่ย สายสูรย์เจ้านายหนุ่มที่แอบหลงรักมุทิตา ได้ส่งให้มุทิตาไปออกแบบตกแต่งบ้านให้ทีเด็ดซึ่งเป็นญาติของเขา มุทิตาไปถึงที่ทำงานทีเด็ดก็ได้รู้ว่าเกวลินมาทำงานเป็นเลขาให้กับทีเด็ด แต่พอมุทิตาได้พบกับทีเด็ดก็จำได้และปฏิเสธไม่ยอมตกแต่ง บ้านให้กับทีเด็ด แต่ในที่สุดสายสูรย์ก็เกลี้ยกล่อมให้มุทิตายอมรับงานของทีเด็ดจนได้ มุทิตาได้พบทีเด็ดอีกครั้งที่โรงเรียนของหนูนา เพราะทีเด็ดต้องไปรับโชกุนหลานชายซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของหนูนา ทีเด็ดได้ยินหนูนาเรียกมุทิตาว่าแม่มุ ก็เข้าใจผิดคิดว่ามุทิตาเป็นแม่ของหนูนา มุทิตาได้พบกับทีเด็ดบ่อยขึ้น ทีเด็ดเริ่มสนใจในตัวมุทิตามากขึ้นทุกที วันหนึ่งมุทิตามีโอกาสได้พบกับมะลุลีเพื่อนสาวคนสนิทของทีเด็ด มุทิตาจำได้ทันทีว่ามะลุลีคือมะลิอดีต พี่สะใภ้เธอที่วางแผนปอกลอกพี่ชายเธอจนหมดตัว แล้วก็หนีไปกับชู้ ทิ้งหนูนาที่ยังเล็กไว้กับพี่ชายเธอ และพี่ชายเธอก็ช้ำใจจนเสียชีวิตไป ทิ้งให้เธอเลี้ยงดูหนูนาตามลำพัง ต่อหน้าทีเด็ดมะลุลีทำเป็นไม่เคยรู้จักมุทิตามาก่อน แต่ลับหลังก็แอบไปพบมุทิตาเพื่อข่มขู่ ไม่ให้มุทิตาบอกเรื่องของเธอกับทีเด็ด มุทิตาโกรธจัดตบหน้ามะลุลีเต็มแรง พร้อมกับบอกว่าเธอก็ไม่อยากให้ใครรู้เช่นกันว่าหนูนามีแม่อย่างมะลุลี ทีเด็ดไปรับโชกุนหวังเจอมุทิตาอีกครั้ง แต่มุทิตาให้ป้าสีกุนไปรับหนูนาแทน ทีเด็ดเลยอาสามาส่งหนูนากับป้าสีกุนที่บ้าน แล้วหาเรื่องกวนโทสะมุทิตาอย่างสำราญใจ พอดีหนูนาไข้ขึ้นสูงถึงขั้นเพ้อ ทีเด็ดเลยอาสาพาหนูนาไปส่งโรงพยาบาล และยังเฝ้าไข้เป็นเพื่อนมุทิตา ทำให้ ทั้งคู่เริ่มรู้สึกดี ๆ ต่อกัน มะลุลี ด้พบกับบุญเติมอดีตสามีอีกคนที่เป็นนักเลงเจ้าของผับ บุญเติมเพิ่งออกจากคุกมาได้ไม่นาน เมื่อได้พบกับมะลุลีอีกครั้ง บุญเติมจึงคิดที่จะให้มะลุลีมาอยู่ด้วย กันเหมือนเดิม มะลุลีคิดจะหนีจากบุญเติม เลยวางแผนให้แม่บ้านที่ คอนโดทำร้าย แล้วโทรฯไปเรียกทีเด็ดมาหา ทีเด็ดพามะลุลีไปอยู่กับครอบครัวของธีรนันท์พี่สาวของเขา เอกสามีของธีรนันท์เคยมีสัมพันธ์กับมะลุลีมาก่อนที่จะแต่งงานกับธีรนันท์ มะลุลีพยายามขู่ให้เอกช่วยเธอกันทีเด็ดกับมุทิตาให้ห่างกันไม่อย่างนั้นจะแฉ ความจริงให้ธีรนันท์รู้ เอกไม่ยอมช่วย มะลุลีเลยหาทางทำให้เอกกับธีรนันท์เข้าใจผิดกันเรื่องของเธอ แต่ในที่สุด ธีรนันท์และเอกก็กลับมาปรับความเข้าใจกันได้ มะลุลีเป่าหูทีเด็ดเรื่องมุทิตา บอกเธอกับมุทิตาเคยรู้จักกันมาก่อน มุทิตาแค้นใจเรื่องที่พ่อหนูนาหลงรักเธอ เลยคิดจะแก้แค้นด้วย การทำให้ทีเด็ดหลงรัก ทีเด็ดหลงเชื่อ คำของมะลุลี เลยไปต่อว่ามุทิตาอย่างรุนแรง มุทิตาโกรธมากที่เห็นทีเด็ดหูเบาเชื่อมะลุลี มุทิตาเล่าเรื่องมะลุลีให้ทีเด็ดฟัง ทีเด็ดรู้สึกสับสนไม่รู้จะเชื่อใครดี บุญเติมตามหามะลุลีจนพบ เมื่อรู้ว่ามะลุลีคิดจะทิ้งเขาเพื่อไปหาทีเด็ด บุญเติมจึงส่งเทปวิดีโอที่ถ่ายไว้ตอนที่มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับมะลุลีมาให้ที เด็ด ทีเด็ดได้ดูวิดีโอจึงรู้ว่าเรื่องที่มุทิตาเล่าให้ฟังเป็นเรื่องจริง มะลุลีรู้ว่าบุญเติมส่งวิดีโอมาให้ทีเด็ดก็สติแตก เอามีดแทงบุญเติมจนตาย แล้วไปจับตัวหนูนาไว้ที่คอนโด พร้อมกับบังคับให้หนูนากินเค้ก ที่ใส่ยาพิษไว้ ทีเด็ดกับมุทิตาตามมาช่วยไว้ทัน มะลุลีมีอาการทางประสาทจนถูกส่งไปรักษาที่ โรงพยาบาลบ้า หลังจากเหตุการณ์ร้าย ๆ ได้ผ่านพ้นไปแล้ว มุทิตากับเกวลินได้พาป้าสีกุนกับหนูนามาเที่ยวที่ชายทะเล ทีเด็ดตามมาปรับความเข้าใจกับมุทิตา ทั้งคู่ต่างเปิดใจทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ทีเด็ดขอมุทิตาแต่งงาน มุทิตาบอกให้ทีเด็ดไปขออนุญาตหนูนาก่อน หนูนาเอ่ยปากอนุญาตแต่มีข้อแม้ว่าทีเด็ดห้ามทำให้แม่มุเสียใจอีก ทีเด็ดดีใจมากรีบรับปากหนูนาจะไม่ทำให้มุทิตาเสียใจอีกต่อไป

โก๋ ตี๋ กี๋ หมวย 2545

เรื่องย่อ : โก๋ ตี๋ กี๋ หมวย (2545/2002) เมื่อ "โก๋ตี๋" ตื๊อรัก "กี๋หมวย" อุตลุดกันหลายฮา กว่ากามเทพจะแผลงศร

หน้าที่