4 หัวใจแห่งขุนเขา วายุภัคมนตรา 2553

4 หัวใจแห่งขุนเขา วายุภัคมนตรา (2553/2010) ทิชากร หรือ กะทิ ( ราศรี บาเล็นซิเอก้า ) เป็นนักเขียนนิยายโรมานซ์ซึ่งมีนามปากกาว่า “ฮัมมิ่งเบิร์ด”นิยายของ ทิชากรได้รับความนิยมในหมู่นักอ่านเพราะมีบทโรมานซ์หวือหวาเอาใจตลาดแต่ความจริงเธอยัง เวอร์จิ้น และเริ่มจะหมดมุกเลิฟซีนที่จะเขียนเธอเป็นสาวโบฮีเมียนขนานแท้แถมยังชอบทำอะไรโก๊ะๆโดยไม่รู้ตัวอยู่บ่อยๆ และสิ่งที่น้อยคนรู้ก็คือเธอเป็นลูกสาวของหมอไกรฤทธิ์ (สุเชาว์ พงษ์วิไล) อดีตหมอไสยจอมขมังเวทที่ผันตัวมาเป็นแพทย์แผนโบราณเพราะกลัวบาป ทิชากรกำลังจะเขียนนิยายโรมานซ์ซึ่งเกิดในไร่องุ่น ซาร่า (บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ) บก.สาวประเภทสองของเธอจึงเสนอให้หญิงสาวไปใช้ชีวิตในไร่องุ่นสายลม ซึ่งเป็นไร่องุ่นของรุ่นน้องซาร่าเพื่อหาข้อมูล หารู้ไม่ว่าไกรฤทธิ์หวงลูกสาวคนเดียวที่จะต้องจากบ้านไปไกลโดยลำพัง เขาจึงแอบส่งรัก(สุพิชชา มงคลจิตตานนท์)-ยม (ทัศน์พล วิวิธวรรธ์) ให้ไปตามดูแลเธอ ในวันที่ ทิชากรไปถึงไร่องุ่นสายลม เธอประหลาดใจเมื่อเห็นท้องฟ้าเหนือไร่องุ่นเต็มไปด้วยเมฆดำทะมึนปกคลุม เธอรู้โดย สัญชาตญาณของลูกอดีตจอมขมังเวทว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่รวมทั้ง รัก-ยมในกระเป๋าก็ออกมายื่นยันว่ามีสิ่งผิดปกติ สิ่งที่ทิชากรเห็นไม่ใช่ความหล่อบาดใจของเขาที่ผู้หญิงทุกคนเป็นต้องหลงใหล แต่เป็นใบหน้าหมองคล้ำเหมือนถูกของและเงาของ นางโหงพราย(จุฬา ศรีคำมา) ที่เกาะอยู่บนหลังเขาต่างหาก ทิชากรจึงเดินเทิ่งๆไปบอกผู้ชายคนนั้น แต่กลับถูกเขาตอกหน้ากลับมาอย่างไม่เชื่อถือทำให้เธอโกรธมาก หนุ่มหล่อปากร้ายคนนั้นก็คือ วายุภัค หรือ ลม (ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์) หนึ่งในสี่ฝาแฝดตระกูลอดิศวรซึ่งได้รับหมอบหมายให้ดูแลไร่องุ่นของครอบครัวนั่นเอง วายุภัคมีนิสัยไม่ต่างจากลมเพลมพัด รักง่ายหน่ายเร็ว ไม่ชอบทำอะไรซ้ำๆ และมีอารมณ์ศิลปินสูง ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลาบาดใจราวกับเทพบุตรเดินดินและนิสัยรื่นรมย์ช่างยิ้ม วายุภัคจึงมีสาวมากหน้าหลายตาผลัดเปลี่ยนไปมาอยู่ตลอด เมื่อต่างคนต่างรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร วายุภัคกับ ทิชากรจึง ปฎิเสธที่จะเกี่ยวข้องกัน แต่ซาร่าห้ามไว้และเตือนให้เธอเห็นแก่หน้าที่ พร้อมกับลำเลิกบุญคุณกับวายุภัคที่เธอเคยกีดกันสาวๆของเขาสมัยที่ชายหนุ่มไปเรียนปริญญาโทด้านการองุ่นและทำไวน์ ที่ ฝรั่งเศส ชายหนุ่มจึง ปฏิเสธไม่ได้ สองคนจึงต้องอยู่ในไร่องุ่นอย่างเป็นไม้เบื่อไม้เมาต่อไป วายุภัคมีอาการเปลี่ยนไปจากเดิม มักได้ยินภาษาแปลกๆ เห็นเงาวูบวาบ ปวดศรีษะและท้องทรมานอย่างไม่รู้สาเหตุ ทิชากรรู้จากท่านเจ้าที่ว่านางโหงพราย ถูกหมอไสยคนหนึ่งเสกมาเพราะมีความแค้นกับวายุภัคแต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ทิชากรจึงพยายามบอกกับวายุภัค เขายิ่งคิดว่าเธอบ้า ทิชากรกับวายุภัคทะเลาะกันหลายครั้ง ทิชากรโกรธจัดจึงประกาศกร้าวว่าเธอจะทำให้เขาเห็นว่าเขาผิดให้ได้และต้องคลานมาขอโทษเธอ การต่อสู้ห้ำหั่นกันระเบิดขึ้นไปทั้งไร่ เมื่อ ทิชากรบุกสาดน้ำมนต์ใส่วายุภัคไปทุกที่ด้วยวิธีการ ต๊องๆตามประสาเธอ เพื่อให้อาการของคนถูกของแสดงออกมาแต่วายุภัคก็ไวสมชื่อลม เขาสามารถรอดพ้นจากการจู่โจมของ ทิชากรได้ทุกที สาวๆของวายุภัคหายไปเกือบหมดแต่ วายุภัคไม่เดือดร้อนกับการที่ผู้หญิงของเขาหายหน้าไปทีเดี่ยวเกือบหมด ที่สำคัญ วายุภัคแอบประทับใจทิชากรอย่างไม่รู้ตัว เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาไม่เคยนึกเบื่อ หมอไสยดำ(สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์) ส่งคุณไสยครอบงำจิตใจของวายุภัคจนใช้ชีวิตไม่ต่างจากผีดิบ โดยทั้งให้นางโหงพรายถึงสามตนควบคุมเขาไว้ ทิชากรจึงบุกเข้าไปช่วยเขาโดยมี รัก-ยม และเจ้าที่อีกแรงหนึ่ง เมื่อวายุภัคฟื้น เขาโกรธจัด เพราะเสียหน้าที่หญิงสาวบุกเข้ามาถึงในบ้านและกล่อมทุกคนในครอบครัวเขาจนเชื่อว่าเขาถูกคุณไสยจริง พวกเขาจึงมีปากเสียงกันรุนแรง วายุภัคเผลอลวนลามจูบ ทิชากรไปโดยไม่รู้ตัว ทำให้เธอโกรธมากและประกาศว่าจะไม่ช่วยวายุภัคอีกแล้ว วันนั้นเองวายุภัคถูกคุณไสยและผีตายโหงทำร้ายปวดท้องเกือบตาย เขาจึงเริ่มเชื่อเธอในที่สุด เมื่อไปถึงโรงพยาบาลก็พบวัตถุประหลาดที่อยู่ในท้องของวายุภัค ทิชากรเลยจำเป็นต้องช่วยเขาเพราะไม่อยากให้เขาตาย จึงเอาน้ำมนต์ให้ดื่มแล้วอาเจียนออกมาโดยที่ไม่ต้องผ่าตัด วายุภัคพบความจริงว่าเขาหลงรัก ทิชากรเข้าแล้ว วายุภัคยอมให้ ทิชากรช่วยอย่างเต็มใจ เขาหัดสวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำบุญทำทานแผ่เมตตา แม้จะไม่หายขาดเพราะหมอไสยดำยังไม่ยอมรามือแต่อาการของวายุภัคก็ดีขึ้นพร้อมๆกับความสัมพันธ์ของเขากับ ทิชากรที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว ความสัมพันธ์ที่ดีก็สะดุดลงเมื่อ พัชนี(สุมนต์รัตน์ วัฒนาเศลารัตน์) บุตรสาวกำนันทอง(สมชาย ศักดิกุล) ซึ่งหลงรักวายุภัคมาตั้งนาน มาหา ทิชากรและบอกเธอว่าวายุภัคมีลูกมีเมียแล้ว ทิชากรจึงทะเลาะกับชายหนุ่มรุนแรง วายุภัคน้อยใจที่หญิงสาวไม่เชื่อ ความสัมพันธ์ของทั้งสองยิ่งเลวร้ายกว่าเก่าเมื่อ ซองแตล (อเล็กซานดร้า สติเบิร์ท) คู่รักเก่าของวายุภัคและที่ปรึกษาของไร่เดินทางมาจากฝรั่งเศสเพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพไวน์ ความสวยสง่าและมีรสนิยมเดียวกันของลมกับซองแตลตอกย้ำให้ ทิชากรเห็นความแตกต่างระหว่างเธอกับชายหนุ่มมากขึ้นทุกที ทิชากรรู้สึกแปลกแยกทุกครั้งที่ซองแตลพูดเรื่องในอดีตของเธอกับวายุภัค ในเทศกาลเก็บเกี่ยวองุ่นประจำปีของไร่ วายุภัคอธิบายให้นักเขียนสาวได้รับรู้ถึงความรักและจริงใจที่เขามีต่อเธอ และถือโอกาสปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด ทิชากรพยายามสืบหาว่าใครเป็นคนสั่งหมอไสยให้ทำร้ายวายุภัค จึงขอความช่วยเหลือจาก อัจจิมา(อุรัสยา เสปอร์บันด์)ภรรยาของ อัคนี (ณเดช คูกิมิยะ)และ เฌอเอม(ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง)คนรักของ ปฐพี (ปริญ สุภารัตน์)สามสาวจึงบุกบ้านปิ่นมุกรวมทั้งตระเวนทั่วจังหวัดเพื่อหาหมอไสยดำ หมอไสยดำรู้ว่า ทิชากรตามหาเขา เขายังรู้อีกว่างานของเขาถูกขัดขวางจากเธอเขาจึงเบนเข็มมาจัดการทิชากรก่อน หญิงสาวโดนทำคุณไสย ทิชากรฝันร้ายและอาการไม่ดี ในเวลาเดียวกัน ไกรฤทธิ์โทรศัพท์มาบอกว่าเธอกับวายุภัคมีเคราะห์หนักห้ามออกไปไหนเด็ดขาด เธอจึงรีบไปตามวายุภัคแต่ถูก ปฏิเสธและเข้าข้างซองแตลตำหนิ ทิชากรว่าเหมือนเด็กไม่มีเหตุผล ทิชากรโกรธและน้อยใจมากเธอจึงไปสวดมนต์นั่งสมาธิคนเดียวเพื่อช่วยวายุภัค วันนั้น หญิงสาวได้รับจดหมายลับให้ไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ถ้าต้องการช่วยวายุภัคเธอจึงรีบไปเพียงลำพัง ด้วยความเป็นห่วงชายหนุ่ม แต่พบหมอไสยดำที่รอคอยทำร้ายเธอให้กลายเป็นนางโหงพรายรับใช้ วายุภัครู้ข่าวว่า ทิชากรหายตัวไปจากปฐพีและอัคนี อัจจิมากับเฌอเอมเล่าความจริงว่า ทิชากรทำอะไรมากมายเพื่อวายุภัคบ้าง เขาจึงสำนึกผิดและออกตามหา ทิชากรที่บ้านกำนันทองพร้อมพี่น้องของเขาและ เจ้าชายภูวเนศ(อธิชาติ ชุมนานนท์) และองครักษ์ที่มาเมืองไทยพอดีกำนันทองรับสารภาพว่าสะกดรอยตาม ทิชากรจิงแต่ไม่ได้ทำร้าย และบอกตำแหน่งสุดท้ายที่คนของเขาเห็นหญิงสาวทั้งหมดจึงรีบตามไปทันที รัก-ยม บอกชายหนุ่มว่า ทิชากรอยู่ในป่าช้าพวกเขาช่วยเธอออกมาได้โดยมีนางโหงพรายสามตนช่วยอีกแรงเนื่องจาก ทิชากรและวายุภัคแผ่เมตตาให้พวกมันมาตลอด ทิชากรอาการหนักไม่ฟื้นเสียที ไกรฤทธิ์กับภรรยาก็มาถึงโรงพยาบาลอย่างไม่มีใครคาดฝัน และต่อว่าวายุภัคที่ไม่ยอมเชื่อลูกสาวเขา และกีดกันตามประสาคนห่วงลูก หมอไสยดำใช้อำนาจทำร้าย ทิชากรกับวายุภัคอีก แต่ไกรฤทธิ์ไม่ยอมอยู่เฉยจึงใช้อาคมสู้กับหมอไสยดำ จึงช่วยทิชากรและวายุภัคไว้ได้ ส่วนหมอไสยดำก็ถูกนางโหงพรายทั้งสามฆ่าตายด้วยความแค้น ทิชากรฟื้นคืนสติ แต่เธอไม่ยกโทษให้วายุภัคเพราะไม่กล้าเชื่อใจเขาอีกต่อไป ปฐพี อัคนี และ ทิพย์ธารา(คิมเบอร์รี่ แอนโวลเทมัส) คู่แฝดของวายุภัคจึงช่วยกันวางแผนง้องอน จนหญิงสาวยอมใจอ่อนและเปิดเผยความลับที่วายุภัคหมกมุ่นกับการทำไวน์จนละเลยทิชากร ก็เพราะต้องการทำไวน์ที่เหมาะสมกับผู้หญิงสวยเก๋ ห้าวหาญ มุ่งมั่น และไม่น่าเบื่ออย่าง ทิชากร รามทั้งส่งไวน์รุ่น “ทิชากร” นี้ เข้าประกวดรางวัลระดับโลก เพื่อเป็นของขวัญแต่งงานให้กับเจ้าสาวของเขา วายุภัคขอโทษทิชากรและคืนดีกันในที่สุด วายุภัคสัญญากับทิชากรว่าเขาจะไม่เจ้าชู้อีก เพราะเห็นโทษของความเจ้าชู้ที่ทำให้เข้ากับคนที่เขารักเกือบตายมาแล้ว วายุภัคแต่งงานกับทิชากร หลังทำไวน์ที่เหมาะสมกับหญิงสาวได้สำเร็จ โดยกวาดรางวัลมากมายสมความตั้งใจ แต่เขาก็ยังไม่หยุดที่จะพัฒนาไวน์ใหม่ๆและสะสมถ้วยรางวัลให้เต็มห้อง ขณะที่ทิชากรเองก็มีฉากรักไว้เขียนนิยายโรมานซ์ของเธอโดยไม่ติดขัดอีกเลย

ดงผู้ดี 2552

ดงผู้ดี (2552/2009) ตั้งแต่ จำความได้ ขมรู้แต่ว่าโลกแคบๆ ของตัวเองนั้นมีแต่แม่คนเดียงเท่านั้น แขซัดเซพเนจรมากับลูกตั้งแต่ยังแบเบาะ ครูสมพรเจ้าของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด เวทนาจึงรับเลี้ยงแม่ลูกไว้ แขทำงานเป็นภารโรงแลกกับการที่ครูสมพรให้ โอกาสขมได้เรียนหนังสือ แขหวังในสิ่งเดียวคือสักวันความทรงจำว่าตนคือใครจะกลับมา เพราะลูกจะได้ไม่ต้องลำบากอีกต่อไป จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อครูสมพรเรียก ซ้อมวงมโหรีเครื่องสายเพื่อแสดงในงานวันเกิดท่านผู้ว่าฯ พี่ชายของเธอ เสียงเพลงโสมส่องแสงเหมือนปลุกเร้าบางสิ่งในจิตใต้สำนึกของแขแขร้องเพลงโสม ส่องแสงได้อย่างไพเราะ พร้อมๆ กับความทรงจำบางส่วนของแขกลับคืนมา ใน วันงานซึ่งขณะที่แขได้รับเกรียติให้ร้องเพลงโสมส่องแสงนั้นความทรงจำของ แขกลับมาจริงๆ พร้อมกับการปรากฏตัวของ พิทย์ รุ้งพราย ซึ่งก็จดจำแขได้เพราะเสียงเพลงโสมส่องแสงเช่นเดียวกัน แต่ในนาทีสุดท้ายของเพลง แขก็ขาดใจตาย แต่ก่อนจะสิ้นลมหายใจ แขยังได้มีโอกาสฝากฝังขมกับพิทย์ รุ้งพราย ซึ่งใครๆ ก็เข้าใจว่าคือพ่อของขม พิทย์ รุ้งพราย พาขมเข้ากรุงเทพทันที หลังจากฝากฝังเรื่องงานศพของแข ให้ครูสมพรช่วยจัดการ พิทย์ รุ้งพราย หรือจริงๆ แล้วคือ ชวาล สุรบดินทร์ พาขมมาที่บ้านพุทธชาด บอกขมว่า เขามีความจำเป็นที่จะต้องพาขมมาฝากให้อยู่ที่นี่เพียงชั่วคราว เมื่อตนพร้อมเมื่อไหร่จะกลับมารับตัวขมไปอยู่ด้วยกัน รังสรรค์ รัตนเดชากร เผชิญหน้า พิทย์ รุ้งพรายอย่างน้ำท่วมปากและจำเป็นต้องรับคำเรื่องดูแลขมอย่างเลี่ยงไม่ได้ (รังสรรค์เคยเป็นหนี้ชวาลก่อนใหญ่ที่ไม่มีทางมีปัญญาใช้คืนได้) ตั้งแต่วันนี้ขมก็เฝ้าชะเง้อรอคอยการกับมาของพิทย์ รุ้งพราย ทุกวันเพราะชีวิตบ้านพุทธชาดนั้น ความทุกข์มีมากกว่าความสุขแต่ถึงกระนั้นกำลังใจอย่างเดียวที่ขมเฝ้าปลอบ ประโลมใจตัวเองก็คือสักวันพ่อจะมารับตนไปจากที่นี่

หัวใจสองภาค 2552

หัวใจสองภาค (2552/2009) ชัดนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ทำธุรกิจส่งออกอุปกรณ์วัสดุก่อสร้าง กำลังพูดคุยปัญหากับราญ เจ้าของบริษัททัวร์ ทั้งสองยังคงไม่สามารถตกลงกันได้ ทำให้ราญเกิดอาการเครียด ไม่ทันระวังจนประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ กลาง ดึกที่ออสเตรเลียตะวันฉายได้รับโทรศัพท์แจ้งข่าวร้ายจากเมืองไทยว่าพ่อ ของเธอได้รับอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ตะวันฉายตัดสินใจเดินทางกลับเมืองไทยทันที หลังจากลงเครื่องตะวันฉายได้พบกับดนตร์ชายหนุ่มที่กำลังเรียกแท็กซี่ตัดหน้า เธอ ทันทีที่ดนตร์เห็นตะวันฉาย ดนตร์สนใจในตัวของตะวันฉายมากจึงอาสาขอไปส่งตะวันฉายที่บ้าน ตะวันฉายเห็นท่าทางที่เป็นมิตร และฝนทำท่ากำลังจะตกเธอจึงตอบตกลง ตะวันฉายกลับถึงบ้าน พบว่าราญพ่อของเธอยังไม่เสียชีวิต แต่กำลังเล่นไพ่อย่างสนุกสนาน ราญตกใจมากเมื่อเห็นลูกสาวกลับเมืองไทยอย่างกะทันหัน เขาบอกกับลูกสาวว่า เขาได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเท่านั้น เลยแนะนำลูกสาวให้รู้จักกับ อารยะ เจ้าของธนาคารชื่อดัง และชัด ที่มีใบหน้าฟกช้ำจากอุบัติเหตุ ติดตามต่อได้ใน หัวใจสองภาค

บาดาลใจ 2551

บาดาลใจ (2551/2008) สักการ ธนศักดิ์ ( อธิชาติ ชุมนานนท์) ชายหนุ่มทายาทเจ้าของโรงแรมชื่อดัง อยู่ในความทุกข์เมื่อรังสิยา คู่หมั้นของเขาต้องมาเสียชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ในต่างประเทศ นับจากวันนั้นสักการก็ปล่อยให้ความทุกข์ทำลายเขาให้กลายเป็นผู้ชายที่ไร้ หัวใจ

พฤติกรรมของสักการที่นั่งดูรูปของรังสิยาทั้งวันทั้งคืนจนร่างกายซูบผอม ลง และการที่สักการรู้สึกเบื่อหน่ายในชีวิตเพราะต้องการจะอยู่อย่างสงบจึงขอแยก บ้านออกไปอยู่ที่บ้านย่านชานเมืองตามลำพัง โดยเอานายเพิ่ม ( บอล เชิญยิ้ม) คนรับใช้ชายไปอยู่เป็นเพื่อนเท่านั้น สร้างความทุกข์ใจให้กับ ดำรง ( สุเชาว์ พงษ์วิไล) ชุลี ( ดวงตา ตุงคมณี ) พ่อ แม่ของเขา และ อาฬวี ( มนัสนันท์ พันธุ์เลิศวงศ์สกุล) น้องสาวของเขาเป็นอย่างมาก ทุกคนในครอบครัวของเขาจึงพยายามพาผู้หญิงสาวสวยมาให้สักการรู้จัก โดยหวังว่าสักการจะลืมรังสิยาได้ แต่ว่าสักการไม่เคยสนใจผู้หญิงที่สมาชิกในครอบครัวพามาแนะนำให้รู้จักเลย ชุลีโทรศัพท์ไปปรึกษาปริม ( ทัศวรรณ เสนีย์วงษ์ ณ อยุธยา ) เพื่อนสนิทซึ่งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่กับลูกชายและลูกสาว ของเขาได้แก่ แพะ ( พุฒิพงศ์ ศรีวัฒน์) และ ปุริมาน ( ราศรี บาเล็นซิเอก้า) เพราะว่าสามีของปริมเสียชีวิตตั้งแต่ลูกทั้งสองยังเด็ก ปริมจึงเลี้ยงลูกด้วยการทำไร่ลำไยและโรงงานลำไยกระป๋อง โดยมีบริษัทส่งออกอยู่ที่กรุงเทพฯ และมีแพะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงคนสำคัญ ส่วนปุริมานนั้นเพิ่งเรียนจบทางด้านการเกษตร จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ปริมตัดสินใจลงมากรุงเทพกับปุริมานเพื่อมา เยี่ยมชุลี และมาดูงานที่บริษัทส่งออกลำไยกระป๋อง เมื่อปริมและปุริมานมาถึงกรุงเทพและได้พบกับชุลีแล้ว ชุลีแปลกใจเป็นอย่างมากเมื่อพบว่าปุริมานโตเป็นสาวสวย และด้วยความสดใสน่ารักของปุริมาน ทำให้ชุลีและอาฬวีรักและเอ็นดูปุริมานมาก จึงตัดสินใจพาสองแม่ลูกไปพักผ่อนที่บ้าน แล้วโทรบอกให้สักการกลับมาที่บ้านเพื่อมาหาปริม สักการยอมมาเพราะไม่อยากให้ใครไปที่บ้านย่านชานเมืองของเขา เมื่อสักการมาถึงบ้านจึงได้เจอแต่ปริมเท่านั้น สักการพูดคุยกับปริมสักพักก็ขอตัวกลับบ้าน ส่วนปุริมานหนีออกมาจากบ้านเพื่อนำของฝากไปให้นิตยา( ) เพื่อนร่วมชั้นที่สนิทกันโดยบอก ผล ( ) คนรับใช้ในบ้านของชุลีเอาไว้ แต่ว่าด้วยความที่ปุริมานไม่เคยไปบ้านของนิตยา มาก่อนจึงทำให้ปุริมานหลงทางเดินเข้าไปในซอยเปลี่ยว แล้วพบกัยชายวัยรุ่นที่พยายามจะปล้ำเธอ แต่ว่าโชคดีที่สักการขับรถผ่านมาเห็นพอดีเพราะว่าบ้านของเขาอยู่ในซอยนั้น สักการจึงลงไปช่วยเหลือปุริมานได้ทันเวลา ทำให้ปุริมานหลงรักสักการขึ้นมาทันที เพราะว่าสักการเป็นผู้ช่วยชีวิตเธอไว้ หลังจากนั้นปุริมานก็สลบไป สักการจึงจำใจพาปุริมานกลับไปที่บ้านพักของเขา เมื่อปุริมานฟื้นขึ้นมาก็พบว่าสักการกำลังนั่งดูรูปของรังสิยาอยู่ เธอจึงไม่อยากรบกวนเขา ปุริมานจึงไปทำกับข้าวให้เขาเพื่อขอบคุณที่สักการช่วยเหลือปุริมานไว้ ปุริมานสังเกตว่าบ้านของสักการขาดชีวิตชีวา ดังนั้นเมื่อถึงวันตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น ปุริมานจึงนำต้นดอกแก้วมาปลูกที่บ้านของสักการ แต่กลับทำให้สักการไม่พอใจที่ปุริมานทำตาใจตนเอง ถึงแม้ว่าปุริมานจะพยายามพูดให้สักการเห็นถึงข้อดีของการมีต้นไม้อยู่ในบ้าน ว่าจะทำให้บ้านของสักการดูมีชีวิตชีวาขึ้นแล้วก็ตาม สักการก็ไม่ฟังและยังไล่ปุริมานให้กลับบ้านไป เมื่อปุริมานออกมาจากบ้านของสักการ ก็พบกับนิตยาเพื่อนของเธอ นิตยาจึงพาปุริมานมาอยู่ในบ้านของตนเอง ทำให้ปุริมานได้รู้ความจริงว่าบ้านของนิตยาและบ้านของสักการอยู่ติดกัน จากเหตุการณ์นี้ทำให้ปุริมานได้พบกับ วรมิตร ( ตรีพล พรหมสุวรรณ) พี่ชายของนิตยาซึ่งหลงรกปุริมานตั้งแต่แรกเห็น แต่ว่าด้วยความที่เป็นคนขี้อายจึงไม่กล้าที่จะแสดงความรู้สึกออกมา สักการถูกแม่ของเขาบังคับให้ไปทานข้าวที่บ้านเพื่อเลี้ยงส่งปริมและลูก สาว เมื่อสักการไปถึงทำให้เขาได้รู้ว่าปุริมานเป็นลูกสาวของปริม ขณะที่ปุริมานเองก็ตกใจที่รู้ว่าสักการเป็นลูกชายของชุลี ชุลีเห็นความสดใสและน่ารักของปุริมานจึงคิดที่จะสู่ขอปุริมานให้สักการ เพราะเชื่อว่าความสดใสและน่ารักของปุริมานจะทำให้สักการหลุดพ้นจากความทุกข์ ได้ ปริมจึงตอบตกลงและบอกว่าเรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับปุริมานและสักการด้วย ปุริมานตกใจเมื่อรู้ว่าว่าจะต้องแต่งงานกับสักการ แต่ว่าเธอก็ตกลงเพราะว่าเธอรักสักการอยู่แล้ว เมื่อวันแต่งงานมาถึง สักการที่รู้ความจริงว่าตนเองจะต้องแต่งงานกับปุริมานก็โวยวายใหญ่ เพราะว่าไม่ต้องการที่จะถูกจับคลุมถุงชน ชุลีจึงต้องแกล้งป่วยหนัก และขอร้องให้สักการแต่งงาน สักการจึงยอมเข้าพิธีแต่งงานในที่สุด หลังจากที่งานแต่งงานได้ผ่านพ้นไป รังสิตา ( ฉายนันทน์ มโนมัยสันติภาพ) น้องสาวของรังสิยา อดีตคู่หมั้นของสักการก็เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ และรู้ข่าวว่าสักการแต่งงานกับปุริมานแล้ว เธอก็เสียใจมากเพราะว่ารังสิตาแอบหลงรักสักการมานานแล้ว แต่เพราะว่าสักการเป็นคู่หมั้นของพี่สาว เธอจึงต้องเก็บความรู้สึกของเธอไว้ ส่วนด้านสักการเมื่อเขาได้พบกับรังสิตา เขาก็ตกใจมาก เพราะว่ารังสิตามีหน้าตาคล้ายกับพี่สาวมากเหมือนกับเป็นคนๆเดียวกัน หลังจากแต่งงานแล้ว สักการและปุริมานก็ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านย่านชานเมืองด้วยกัน โดยทั้งสองคนนอนแยกห้องกัน ทำให้ปุริมานรู้สึกสับสนว่าเธอตัดสินใจถูกหรือผิดที่ตัดสินใจแต่งงานกับ สักการ เพราะว่าสักการไม่ยอมรับปุริมานเลย แต่ถึงอย่างไรก็ตามในเมื่อปุริมานได้ตัดสินใจไปแล้ว เธอก็จะไม่ถอยและจะพยายามดึงสักการขึ้นมาจากบาดาลของความเศร้าให้ได้ ปุริมานทำหน้าที่ดูแลสักการให้ดีที่สุด โดยที่เธอพยายามทำให้บ้านของสักการมีชีวิตชีวาด้วยการปลูกต้นไม้และรดน้ำต้น ดอกแก้วที่เธอเคยปลูกไว้ และถึงแม้ว่าวันๆสักการจะเอาแต่นั่งมองรูปของอดีตคู่หมั้น ปุริมานก็พยายามเก็บความน้อยใจไว้ และไม่โกรธสักการ เธอพยายามทุกทุกวิธีให้สักการอารมณ์ดีขึ้น จนบางครั้งสักการรู้สึกรำคาญปุริมานมาก รังสิตามาเยี่ยมสักการและปุริมานเสมอ และพยายามทำให้ปุริมานหึง แต่ว่าปุริมานก็ไม่หึงสักการเลยเพราะเธอเข้าใจว่าที่สักการแต่งงานกับตนเอง ไม่ใช่เพราะความรัก แต่เป็นเพราะความจำเป็น ดังนั้นเวลาที่รังสิตามาที่บ้าน ปุริมานจึงไปนั่งเล่นที่บ้านของนิตยาเป็นประจำ วรมิตรจึงได้ใกล้ชิดกับปุริมานมากขึ้น ทำให้สักการไม่พอใจที่เห็นปุริมานทำตัวสนิทกับวรมิตร ดังนั้นสักการกับปุริมานจึงทะเลาะกันบ่อยครั้งในเรื่องของวรมิตร โดยที่สักการไม่ยอมฟังเหตุผลของปุริมานเลยสักนิดเดียว ปุริมานไม่อยากทุกข์ใจ เธอจึงขออนุญาตสักการไปช่วยพี่ชายทำงานที่บริษัทส่งออกลำไยกระป๋อง แต่ว่าสักการไม่ยอมให้ปุริมานไปทำงานเพราะว่ากลัวคนอื่นจะดูถูกว่าเขาดูแล ภรรยาไม่ดี ต้องให้ภรรยาออกไปทำงานนอกบ้าน ปุริมานจึงประชดกลับไปว่าการที่สักการไม่ยอทำงานแล้วเอาแต่นั่งจมอยู่กับ ความทุกข์ เป็นสิ่งที่น่าอายมากกว่า สักการโกรธมากจึงบอกปุริมานว่าเขาจะกลับไปทำงานแล้วโดยที่สักการได้เปิด บริษัทรับออกแบบบ้านของตนเอง แต่ว่ากิจการไม่ค่อยดี ปุริมาน พยายามให้กำลังใจและคำแนะนำกับสักการ แต่สักการก็ไม่เชื่อ ปุริมานจึงทำได้เพียงให้กำลังใจอยู่ห่างๆ ในที่สุดสักการก็ต้องปิดกิจการลง แต่ว่าปุริมานก็ไม่เคยเยาะเย้ยเขาและยังให้กำลังใจสักการเสมอ ทำให้สักการเริ่มมีความรู้สึกดีๆกับปุริมานมากขึ้น ชีวิตรักของทั้งคู่เริ่มไปได้ด้วยดี แต่ว่ารังสิตาไม่พอใจเป็นอย่างมาก เธอจึงคิดวางแผนให้ปุริมานกับสักการบาดหมางกัน โดยรังสิตาทำสำเร็จ ทั้งคู่ทะเลาะกันใหญ่โต ปุริมานเสียใจมากจึงหนีไปอยู่บ้านชุลี ทำให้รังสิตาดีใจมาก อาฬวีกับแพะ สังเกตุท่าทางของปุริมาน จึงรู้ว่าทั้งคู่ต้องมีเรื่องหมางใจกัน จึงชวนทั้งสองไปเที่ยวทะเลเพื่อปรับความเข้าใจกัน โดยมี นิตยา วรมิตร และรังสิตา ตามไปด้วย เมื่อเดินทางไปถึงที่ทะเล อาฬวีกับแพะ พยายามทำให้ปุริมานและสักการได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง ปุริมานพยายามลืมเรื่องที่สักการว่าเธอ แล้วพยายามทำหน้าที่ของภรรยาให้ดีที่สุด แต่ว่าก็ถูกขัดขวางจากรังสิตาเสมอ และนอกจากนั้นรังสิตาได้พยายามสร้างสถานการณ์ทำให้สักการเข้าใจปุริมานผิด ว่าปุริมานกับวรมิตรนัดพบกันตอนกลางคืน ทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกันและบอกว่าเกลียดกัน ปุริมานจึงบอกพี่ชายของเธอว่าอยากกลับบ้านพักแต่ว่าปุริมานก็ไม่ได้กลับไป เพราะว่าอาฬวีกับแพะ เห็นว่าถ้าสักการกับปุริมานยิ่งอยู่ไกลกัน ความสัมพันธ์ก็จะยิ่งลดลงไปด้วย ทำให้ปุริมานต้องกลับไปอยู่ในบ้านของสักการอีกครั้ง แต่ว่าสถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น เพราะว่าทั้งคู่ทะเลาะกันอีก โดยสักการได้บอกกับปุริมานว่า ถ้าเขาได้แต่งงานกับรังสิตาเขาคงจะมีความสุขมากกว่าอยู่กับปุริมาน ปุริมานจึงตบหน้าสักการ แล้ววิ่งหนีออกไปท่ามกลางสายฝน ตอนแรกสักการใจแข็งไม่ยอมไปตามปุริมานกลับมา แต่แล้วในที่สุดสักการก็ฝืนใจของตัวเองไม่ได้จึงวิ่งออกไปตามปุริมานกลับมา พอสักการกับปุริมานเจอกันทั้งคู่ก็ทะเลาะกันอีกท่ามกลางสายฝน ปุริมานต่อว่าสักการที่ใจร้ายกับตัวเองและว่าสักการเรื่องที่สักการมัวแต่ นั่งจมอยู่กับความทุกข์ เมื่อสักการได้ฟังคำต่อว่าของปุริมานก็อึ้งไป จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้สักการดูและปุริมานเพราะเขารู้สึกผิดที่ปุริมานต้องมาเป็นแบบนี้เพราะ ตนเอง ส่วนด้านปุริมานคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดระหว่างเธอกับสักการ ทำให้ปุริมานตัดสินใจหนีกลับบ้านที่เชียงใหม่ตอนที่สักการไม่อยู่บ้าน เพราะว่าปุริมานทนอยู่กับผู้ชายที่ไร้หัวใจอย่างสักการไม่ได้แล้ว เมื่อสักการกลับมาถึงบ้านและรู้ว่าปุริมานหนีไปแล้วจึงคิดจะขึ้นไปตามปุ ริมานที่เชียงใหม่ แต่รังสิตาก็ห้ามไว้ไม่ให้สักการไปตามปุริมานกลับมาและใช้โอกาสที่ปริมานไม่ อยู่พยายามยั่วสักการ แต่ว่าสักการก็ห้ามใจของตัวเองได้ ทำให้รังสิตาไม่พอใจ จึงแกล้งพูดว่าสักการว่าสักการลืมพี่สาวของตนเองไปแล้ว สักการจึงปฏิเสธแต่ว่ารังสิตาไม่เชื่อ เธอจึงท้าให้สักการหย่ากับปุริมาน เพื่อให้วิญญาณพี่สาวของตนเองสบายใจ สักการจึงต้องรับปากรังสิตาอย่างจำใจ เขาจึงขึ้นมาเชียงใหม่เพื่อมาขอหย่ากับปุริมาน ปุริมานตอบตกลงแต่เธอขอให้สักการกลับไปรอที่กรุงเทพ แล้วปุริมานจะตามลงไปเซ็นใบหย่าให้ ทำให้ครอบครัวของสักการโกรธสักการมาก แล้วเรื่องที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อรถของปุริมานระหว่างที่ขับเข้ามากรุงเทพเพื่อมาเซ็นใบหย่าให้สักการ นั้น ตกลงเหว แม้แต่ร่างของปุริมานก็หาไม่เจอ สักการเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนไม่เป็นอันทำอะไร และจมอยู่ในความเศร้าอีกครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่งอาฬวีชาวนสักการไปงานวันเกิดของเพื่อน และที่นั่นเองทำให้สักการได้พบกับแก้ว หญิงสาวที่พึ่งเรียนจบจากต่างประเทศ แก้วกับปุริมานเหมือนกันมาก แต่ว่าต่างกันตรงที่แก้วนั้นชอบแต่งตัว แต่งหน้า ทำผม จัดจ้านสมกับเป็นสาวมั่น ส่วนปุริมานนั้นเธอเป็นเพียงแค่สาวน้อยสดใสและเป็นธรรมชาติ สักการจึงพยายามทำความรู้จักกับแก้วเพื่อดูให้แน่ใจว่าแก้วกับปุริมานเป็นคน เดียวกันหรือเปล่า สักการจึงหมั่นไปหาและทำความรู้จักกับแก้วให้มากขึ้น จนบางครั้งสักการรู้สึกว่าแก้วกับปุริมานเหมือนเป็นคนเดียวกัน เพราะว่าแก้วพูดเสียงโทนเดียวกับปุริมาน และแก้วก็ยังรักและสนใจต้นไม้เหมือนปุริมานด้วย สักการจึงนำเรื่องนี้ไปปรึกษาน้องสาวของเขา แต่น้องสาวของเขากลับบอกว่า ให้เลิกคิกมากได้แล้วเพราะว่า ปุริมานตายไปแล้ว แต่สักการก็ไม่เชื่อเขาพยายามสืบหาความจริงต่อไป จนวันหนึ่งแก้วต้องอยู่กับสักการตามลำพัง เพราะว่าสักการเชิญมางานเลี้ยงสังสรรค์ที่บ้าน แต่เมื่อแก้วมาถึงที่บ้านของสักการแล้วเธอก็พบว่าสักการ ไม่ได้ชวนใครมาเลยนอกจากเธอ ในคืนที่แก้วกับสักการอยู่กันตามลำพัง 2 คน ฝนก็ตกลงมา แก้วกลัวฟ้าร้อง เธอจึงเผลอกอดสักการเหมือนที่ปุริมานเคยทำ ทำให้สักการแน่ใจว่าแก้วคือปุริมาน จึงพยายามถามความจริงกับแก้วว่าแก้วคือปุริมานหรือเปล่า แต่ว่าแก้วไม่ยอมรับ สักการจึงวิ่งออกไปยืนตากฝน และบอกกับแก้วว่าถ้าแก้วไม่ยอมรับความจริง เขาจะยืนตากฝน อยู่แบบนี้ แต่ว่าสักการก็ไม่ได้รู้ความจริง เพราะว่ารังสิตามาเห็นพอดีจึงเข้ามาขัดขวางเสียก่อน จากเหตุการณ์นี้ทำให้สักการไม่พอใจเขาจึงต่อว่ารังสิตา รังสิตาจึงเข้าใจว่าที่สักการใจร้ายกับตนเองแบบนี้เป็นเพราะแก้ว รังสิตาโกรธมากจึงคิดที่จะทำร้ายแก้ว เธอจึงขับรถตามแก้วมาที่บริษัทลำไยกระป๋อง ทำให้เธอได้รู้ความจริงว่าแก้วคือปุริมาน เธอจึงเข้าไปหาแก้วเพื่อคุยเรื่องสักการ ตอนแรกแก้วจะไม่คุยด้วย แต่รังสิตาเอาความลับว่าแก้วคือปุริมานมาอ้าง และสั่งให้ปุริมานออกไปจากชีวิตของสักการ ปุริมานไม่ยอมทั้งสองจึงทะเลาะกันอย่างรุนแรง และตบตีกันจนปุริมานเกือบพลัดลงจากตึก ปุริมานขอร้องให้รังสิตาช่วยแต่รังสิตาไม่ช่วยและยังบอกความจริงกับปุริมาน ว่าเธอรักสักการและทำได้ทุกอย่างแม้กระทั่งฆ่าพี่สาวของตัวเอง ทำให้สักการที่ตามมาได้ยินความจริงทั้งหมด สักการเข้าไปช่วยปุริมาน แต่ปุริมานล้มหัวกระแทกพื้นและเป็นลมแน่นิ่งไป สักการจึงต่อว่ารังสิตาที่ฆ่ารังสิยาและบอกกับรังสิตาว่าเขาไม่มีวันที่จะ รักคนใจร้ายอย่างรังสิตาได้ ที่ผ่านมาเขาเพียงแค่หลอกตัวเองว่าการที่อยู่ใกล้รังสิตาก็เหมือนว่าเขาได้ รังสิยาคนรักเก่าของเขากลับคืนมา แต่ว่าความจริงแล้วไม่มีใครสามารถแทนใครได้ และยังบอกว่าตอนนี้ความรู้สึกที่เขามีต่อรังสิยาเหลือแค่เพียงความรู้สึกดีๆ ต่อรังสิยาเท่านั้น เพราะว่าเวลานี้ผู้หญิงที่เขารักมากที่สุดและเขาจะรักตลอดไปก็คือปุริมาน เท่านั้น สักการพาปุริมานมาที่โรงพยาบาล ขณะที่รังสิตาถูกจับไปดำเนินคดีฆ่าพี่สาวของตนเอง หมอบอกว่าอาการของแก้วเข้าขั้นวิกฤต เมื่อสักการเข้าไปเยี่ยมและมองไปที่หน้าของแก้วที่ไร้เครื่องสำอาง เขาจึงแน่ใจว่าแก้วคือปุริมาน สักการเฝ้าดูอาการของแก้วทั้งวัน ทั้งคืน วันหนึ่งสักการสะดุ้งตื่นขึ้นมา แล้วพบว่าหัวใจของปุริมานหยุดเต้น สักการจึงกอดร่างของปุริมานเอาไว้ แล้วร้องไห้ น้ำตาของสักการจึงตกใส่ร่างของปุริมานทำให้หัวใจของปุริมาน เต้นอีกครั้งหนึ่งราวกับปาฏิหารย์ที่ริมทะเลหัวหิน ปุริมานกับสักการมาฮันนีมูนกันอีกครั้ง สักการขอโทษที่เคยทำให้ปุริมานต้องเสียใจและขอบคุณที่เธอทำให้เขาได้รู้จัก กับแสงสว่างอีกครั้งหลังจากที่ต้องจมอยู่กับบาดาลใจที่เศร้าโศกมานานแสนนาน
เมื่อดอกรักบาน 2550

เมื่อดอกรักบาน (2550/2007) ย้อนเวลาไปเกือบ 50 ปี ท่ามกลางบรรยากาศสวยงามของเมืองเชียงใหม่ กานท์ นักศึกษาหนุ่มหล่อจากบางกอก ไปเรียนที่เชียงใหม่ ได้ตกหลุมรัก สายไหม ทันทีที่ได้เห็นในงานวันสงกรานต์ จึงให้เพื่อนรักร่วมสถาบัน ตะวัน ช่วยค้นหาจนเจอและให้ช่วยชวน สายไหม ไปเที่ยวงานเลี้ยง แต่ สายบัว แม่ของ สายไหม ไม่อนุญาต เพราะจะให้ สายไหม เข้าพิธีหมั้นกับ ชาย โดยที่ สายไหม ไม่รู้มาก่อน หญิงสาวปฏิเสธเพราะไม่ได้รัก ชาย แม่สายบัว เลยเข้าใจผิดว่า สายไหม ชอบอยู่กับ ตะวัน ตะวัน รับปากช่วย กานท์ เรื่อง สายไหม โดยมีข้อแม้ว่า กานท์ ต้องบอกความในใจของ ตะวัน หลงรัก เคลีย สาวที่มาติดพัน กานท์ ให้รู้ เคลีย ช้ำรักจาก กานท์ เลยบอกให้ กานท์ รู้ว่า สายไหม เคยแต่งงานแล้ว แต่ชายหนุ่มไม่สนใจ ยิ่งทำให้ เคลีย เสียใจวิ่งร้องไห้ โดยมี ตะวัน วิ่งตามไป ระหว่างทางฝนตกทั้งคู่ไปหลบที่กระท่อมทำให้ เคลีย ตกเป็นของ ตะวัน ติดตามต่อได้ใน เมื่อดอกรักบาน

วีรกรรมทำเพื่อเธอ 2549

วีรกรรมทำเพื่อเธอ (2549/2006) สมชาย เป็นลูกสาวของ สกล และ ม.ร.ว.เพ็ญศิริ ผู้เป็นแม่ซึ่งยอมทิ้งบรรดาศักดิ์ทั้งหลายมาใช้ชีวิตอยู่กับคนขับรถอย่างสกล สมชายเกิดมาท่ามกลางความอบอุ่นของครอบครัวเล็กๆกลางชุมชนเก่าแก่ของเมือง หลวง ที่บ้านของเธอยังมี ย่าเนียม ซึ่งเป็นทั้งญาติผู้ใหญ่และเพื่อนต่างวัยอาศัยอยู่ด้วยอีกคน มาร์ค หนุ่มไฮโซสุดหล่อผู้เกิดมาบนกองเงินกองทอง และเขายังเป็นที่หมายปองของบรรดาสาวๆ ทั้งหลาย สมชายและมาร์คเหมือนฟ้าสูงกับเหวลึกที่ดูอย่างไรก็ไม่มีวันมาบรรจบกันได้ แต่ทั้งคู่ก็โดนชะตาลิขิตให้มาพบกันเมื่อสมชายต้องตกงานบ่อยๆ เพราะนิสัยห้าวๆ ของเธอเอง ติดตามต่อได้ใน วีรกรรมทำเพื่อเธอ

กุหลาบสีดำ 2548

กุหลาบสีดำ (2548/2005) ชงโค หญิงสาวที่ภายนอกดูเพียบพร้อม ลูกสาวคนเดียวของสุคนธา นักธุรกิจหญิงแถวหน้าของเมืองไทย ถูกแม่เรียกให้กลับมาเมืองไทยจากสหรัฐอเมริกา ทั้งที่เธอไม่ได้อยากกลับมาเลย แต่เมื่อเธอมาถึง ก็ได้พบกับภาพที่แม่ฆ่าตัวตาย ชงโคคิดว่าสาเหตุที่แม่ฆ่าตัวตาย ต้องมีคนอยู่เบื้องหลัง และคนที่น่าสงสัยมากที่สุดคือทรงธรรมผู้ที่เป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจของสุคนธา ความมุทะลุของชงโคทำให้เธอต้องติดคุก จากการบุกไปบ้านนายทรงธรรม เพื่อแก้แค้นให้กับแม่ แต่แล้วเหตุการณ์กลับตาลปัตร เกิดความชุลมุนในขณะที่ชงโคป้องกันตัว ได้เกิดเสียงปืนลั่น ลูกน้องของทรงธรรมตายคาที่ ชงโคถูกดำเนินคดี คนรอบข้างตัวเธอที่เหมือนจะช่วยกลับกลายเป็นพวกทรงธรรมทั้งหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งวรเทพทนายความที่พยายามเข้ามาทำทีเป็นจะช่วยเธอ แต่ก็คือคนที่ทรงธรรมส่งมา มีเพียงลุงบุญส่งคนเดียวที่พร้อมจะช่วยเธออย่างจริงใจ แต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรชงโคได้ ชงโคถูกพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 15 ปี ที่นี้ชงโคได้รู้จักกับ ปัทมานักโทษหญิงที่สอนให้เธอรู้จักปรับตัวไม่เช่นนั้นก็จะไม่มีใครช่วยเธอได้ ปัทมายังได้แนะนำกานต์ ทนายความคนหนึ่งให้ชงโครู้จัก กานต์หลงรักเธอทันที และชงโคก็ได้เพื่อนใหม่ คือ ฟ้ากับขวด ทั้งสองช่วยสอนเทคนิค 18 มงกุฏต่างๆ ให้กับเธอมากมาย ข้างนอกวรเทพต้องแต่งงานกับทรงทิพย์ลูกสาวของทรงธรรมทั้งที่ไม่เต็มใจ แต่เพื่อทดแทนบุณคุณ และทรงธรรมก็ต้องการใช้งานวรเทพต่อไปด้วย ทรงทิพย์รู้ว่าวรเทพคบกับผู้หญิงที่ชื่อกัลยา น้องสาวของกานต์ จึงบอกให้ทรงพล น้องชายของเธอไปจัดการกับกัลยา จนกัลยาตั้งท้อง และคล้ายคนเสียสติ วรเทพจึงรับเป็นพ่อของลูกให้ด้วยความสงสาร แต่กานต์เข้าใจผิดคิดว่าวรเทพทำน้องสาวท้อง ขณะเดียวกันชงโคที่พยายามแหกคุกมาหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ จนครั้งสุดท้ายที่เธอทำ หากเธอไปก็จะออกจากคุกได้สำเร็จแต่เธอตัดสินใจช่วยเอ๋อ เพื่อนที่ตกน้ำแทน เหตุการณ์นี้ทำให้พัศดีทำเรื่องช่วยเธอให้ได้รับการอภัยโทษก่อนกำหนด หลังจากที่ออกจากคุกมาได้ วรเทพก็มารับเธอไปอยู่ด้วย ชงโคไม่รู้จะไปที่ไหนจึงยอมตามไปด้วย ชงโคเริ่มหางานทำพร้อมกับการตามล้างแค้นไปด้วย ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนในคุก ทุกครั้งที่เธอล้างแค้นสำเร็จ ดอกกุหลาบสีดำ 1 ดอก จะถูกส่งให้ปัทมาที่อยู่ในคุก คนที่ชงโคตามล้างแค้นใกล้ตัวทรงพลเข้าไปทุกที จนกระทั่งเป็นทีของทรงพล ที่ถูกตัดอวัยวะเพศจนหมดอาลัยตายอยากในชีวิต ได้กระโดดตึกตาย ในขณะที่ทรงทิพย์ถูกสาดน้ำกรดทำให้เสียโฉมก็ไม่อยากที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป ทรงธรรมสืบรู้มาว่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น มาจากฝีมือของชงโค จึงเกิดการตามล่าชงโค แต่ตำรวจมาช่วยไว้ได้ทัน ทำให้ทรงธรรมได้รับผลกรรมที่ก่อไว้ แต่เธอก็ต้องตกใจเมื่อรู้ว่าคนที่รู้เรื่องทุกอย่างคือปัทมา คนที่เธอไว้ใจมากที่สุด แต่กลับยืมมือเธอเพื่อล้างแค้น และสิ่งที่ทำให้ชงโคสะเทือนใจที่สุดก็คือความลับของแม่เธอเองที่ไม่เคยรู้มาก่อน นั่นทำให้ชงโคเสียใจอย่างที่สุด กานต์ประสบความสำเร็จในชีวิต หลังจากที่เขาสามารถสอบเป็นผู้พิพากษาได้ เขาก็พยายามจะขอชงโคแต่งงาน แต่ชงโคปฏิเสธเพราะเห็นว่ากานต์เป็นคนดีเกินไป เธอหันไปเลือกใช้ชีวิตคู่กับวรเทพคนที่มีภูมิหลังของชีวิตที่แปดเปื้อนไม่แพ้กันแทน

เก่งไม่เก่งไม่เกี่ยว 2547

เก่งไม่เก่งไม่เกี่ยว (2547/2004) ในช่วงเปิดเทอมของทุกปี แป๋ง มีภารกิจต้องเข้าบ่อน ทั้งๆ ที่ตนเองไม่ชอบเล่นการพนัน แต่ต้องการหาเงินมาช่วยเด็กด้อยโอกาส ในชุมชนที่อยู่ในความดูแลของครูสายใจผู้เป็นแม่ โดยทุกอย่างทำไปอย่างลับๆ ครูสายใจอยากได้ที่ทำโรงเรียนให้เด็กแต่ก็เป็นได้แค่ความหวังอันเลื่อนลอย ไม่เหมือนบ่อนที่มีอยู่มากมายทั้งเล็กทั้งใหญ่ ครูสายใจเกลียดบ่อน เกลียดการพนันทุกชนิด โดยเฉพาะ “บ่อนสี่มุมเมือง” เกลียดโดยที่ไม่สามารถอธิบายให้แป๋งเข้าใจได้ แต่วันหนึ่งก็มีเหตุจำเป็นให้แป๋งต้องเดินเข้าบ่อนแห่งนี้ด้วยเหตุผลเพื่อช่วยราชการและเรื่องราวความวุ่นวายก็เลยเกิดขึ้น เดือนเมษายน ของทุกปี แป๋ง (ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) กับหมูยอ (ลีโอ พุฒ) คู่หูวินมอเตอร์ไซด์หน้าปากซอยชุมชนน้ำใสใจดี มีภารกิจสำคัญคือเข้าบ่อน เพื่อใช้พรสวรรค์เรื่องโชคหาเงินจากบ่อน… สิ่งเหล่านี้แป๋งได้มาจากสายเลือดนักพนันผู้เป็นพ่อ “เซียนพนันพันมือ” (สันติสุข พรหมศิริ) และก็ได้ผลเสมอมาอย่างหาตัวจับได้ยาก เหตุผลที่แป๋งทำก็เพราะต้องการช่วยหาเงินค่าเทอมให้กับเด็กๆ ที่เรียนดีแต่ด้อยโอกาสในชุมชน ในความดูแลของครูสายใจ (ดวงใจ หทัยกาญจน์) แม่ของแป๋งและครูผู้ช่วยอย่าง แดงน้อย (พุ?ธชาด พงษ์สุชาติ) สิ่งที่แป๋งคิดอยู่ในหัวตลอดก็คือ “บ่อนในประเทศมีเยอะแยะมากมาย ถ้าเปลี่ยนบ่อนให้เป็นโรงเรียนได้ ประเทศชาติจะเจริญกว่านี้อีกเยอะ” แต่เมื่อโดนถามว่าจะไปไหน แป๋งจะตอบว่าไปบ่อน ไปฟอกเงินและในครั้งนี้ก็เหมือนกับทุกครั้ง แป๋งกับหมูยอก็เดินเข้าไปในบ่อน จังหวะที่แป๋งกับคู่หูหมูยอกำลังดวงขึ้นแป๋งก็ได้ยินเสียงคนคุม บ่อนคุยกันถึงเรื่องจะจัดการกับสายตำรวจคนนึงที่ปะปนเข้ามาทำทีเป็นขาพนัน เขารีบหาวิธีหนีเอาตัวรอด เป็นจังหวะที่แป๋งหลบหนีออกไปพร้อมกับตำรวจหนุ่มชื่อ แมน (ศินะ แพทย์รัตน์) โดนที่แป๋งไม่ลืมสั่งให้หมูยอโกยเงินมาให้หมด ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งของใจกลางกรุงเทพฯ พิม หรือพิมพ์มาดา (รามาวดี สิริสุขะ) ทะเลาะกับพ่ออย่างรุนแรง ไม่เหมือน พัช ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของพ่อ พี่ชายคนเดียวของพิม เธอน้อยใจ สับสนกับความรู้สึกที่พ่อมีต่อเธอ ซึ่งไม่เหมือนตอนที่แม่ยังอยู่ เธอไม่เคยรู้สึกว่าขาดความรักเลย ด้วยเพราะพ่อซึ่งมีเชื่อแบบจีนแท้ๆ ที่ใส่ใจแต่พัชด้วยหวังจะให้สืบทอดกิจการ พิมขับรถออกมาอย่างไม่มีจุดหมายเพื่อหนีปัญหา ด้วยความใจลอย ทำให้เธอเกือบเฉี่ยวครูสายใจ และหักหลบลงคูน้ำข้างทาง รถจมอยู่ในน้ำครึ่งคัน ครูสายใจเห็นแล้วสงสารเลยพามาเปลี่ยนเสื้อผ้าและทำแผลที่บ้าน พิมประทับใจและรู้สึกแปลกๆ ต่อครูสายใจ เพราะตั้งแต่แม่ตายจากไปความรู้สึกแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับพิม ด้าน แป๋ง หมูยอ และหมวดแมนสังเกตเห็นความเฉลียวฉลาดและความเจ้าเล่ห์ในตัวแป๋ง ทุกอย่างน่าจะราบรื่นถ้าหมูยอไม่อวดฉลาดคว้าเอาชิบในบ่อนออกมาแทนที่จะเป็นเงิน แป๋งกุมขมับ..และคิดลงมือหา เงินใหม่ แป๋งกลับมาถึงบ้านและเจอพิมเข้า ตอนแรกนึกว่าเข้าบ้านผิดแต่ดูยังไงๆ ก็เป็นบ้านแป๋งอยู่ดี จะแปลกก็ตรงที่มีผู้หญิงมาอยู่ในห้องนี่แหละ หัวใจแป๋งก็เต้นไม่เป็นส่ำ เพราะความสวยของพิม แต่เขาก็ไม่กล้าพูดไม่รู้เพราะอะไร ครูสายใจบ่นกับแป๋งว่าทำไมปีนี้มูลนิธิที่เคยช่วยยังไม่ส่งเงินค่าเทอมมาให้เด็กๆ อีก แป๋งอึกอักเพราะจริงๆ แล้วทุกอย่างแป๋งอยู่เบื้องหลังแป๋งปกปิดเรื่องเข้าบ่อนเพราะแม่ไม่ชอบ และแม่ก็บอกกับแป๋งเสมอๆ ว่า “บ่อนเป็นสิ่งไม่ดี และพ่อของแป๋งก็ตายในบ่อน” ในที่สุดแป๋งกับหมูยอก็ ตัดสินใจใช้วิธีเดิม คือบ่อน แต่แป๋งต้องเปลี่ยนไปยังบ่อนที่ใหญ่ขึ้น ความเสี่ยงสูงขึ้น ทำให้แป๋งกับหมูยอต้องวางแผนกันเป็นอย่างดีเพื่อความเนียน ความประทับใจระหว่างพิมกับครูสายใจในเรื่องโรงเรียนสอนเด็กในชุมชน พิมเอาเรื่องท่เกิดขึ้นไปเล่าให้พ่อฟัง แต่เหตุการณ์กลับตรงกันข้ามพ่อมองว่าเหลวไหล ซึ่งก็เป็นแรงผลักดันให้พิมลุกขึ้นสู้ เพื่อที่จะแสดงให้พ่อเห็นว่าเธอทำได้ ในขณะที่พิมอยากจะออกงานสังคมที่เพียบพร้อมไปด้วยเงินทอง แต่ เมย์ (คทรีนา กลอส) นักศึกษาสาวลูกป้าส้มเจ้าของร้านขายข้าวแกง กลับอยากที่จะไปอยู่ในสังคมไฮโซเพราะความทะเยอทะยาน เมย์ฝันเพียงแค่อยากแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าหรูๆ ใช้ของราคาแพง เมย์ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอจน เธอรังเกียจสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวเธอรวมทั้งแม่ด้วย นั่นทำให้เมย์ไม่เป็นที่ชื่นชอบของชาวบ้านโดยเฉพาะครูแดงน้อย ยกเว้นหมูยอที่หลงรักเมย์อย่างถอนตัวไม่ขึ้น แล้ววันหนึ่งเมย์ก็พลาดท่าขายตัวให้กับเสี่ยคนหนึ่ง เพียงแค่แลกกับของหรูหราราคาแพง เมย์ติดโรคและคนที่เข้ามาช่วยเหลือเมย์ก็คือแดงน้อย แดงน้อยสอนเมย์ให้รู้จักโลกอีกด้านหนึ่งซึ่งมีแต่สิ่งที่ดีงามกว่า ส่วนหมูยอ เมย์ก็ได้เห็นความจริงใจที่หมูยอมีให้ แต่เมย์ก็รับหมูยอได้แค่เพื่อนเท่านั้น งานอดิเรกอย่างหนึ่งของแป๋งกับหมูยอ ก็คือการไปร่วมเล่นไพ่ตองกับคนแก่ในชุมชน ที่มีขาประจำอย่าง ป้าเอียด ป้าแต๊ว ลุงทอง เพื่อนซี้ต่างวัยของแป๋ง เขามักแกล้งเล่นแพ้เพื่อให้คนแก่เหล่านั้นได้เงิน และไม่ใช่แค่คนแก่เท่านั้นที่เรียกร้องให้แป๋งเล่นด้วย ยังมี เฮียหมง(ซูโม่ เป๊บซี่) นักเลง ประจำซอยที่ชอบรีดไถเงินจากชุมชน ทางด้านพิมก็อยากจะทำตัวให้มีประโยชน์กับชุมชน แดงน้อยเสนอให้พิมมาช่วยสอนหนังสือให้กับเด็ก ๆ แค่วันแรกของการเป็นครูฝึกสอน เด็กๆ ก็ติดกันเกรียว ชื่อเสียงของพิมเลื่องลือระบือไกลจนไปเข้าหูเฮียหมง ทันทีที่เฮียหมงเจอพิมก็ตกหลุมรักในทันที เฮียหมงพยายามทำตัวเป็นคนดีเพื่อพิม และเสนอหน้ามาขอนั่งเรียนด้วย ด้านแป๋งยังคงไม่กล้าพูดกับพิมแต่แอบซ้อมทำเป็นทักทายหน้ากระจก จนกระทั่งวันหนึ่งแป๋งเห็นชายหนุ่ม หน้าตาดีมารับมาส่งพิม ด้วยแรงหึงทำให้แป๋งพลั้งปากกระแหนะกระแหนพิมออกไป ด้วยความหัวเสียบวกที่ไม่ได้พิมมาเป็ยเมียซะที ทำให้เฮียหมงวางแผนฉุดพิม แต่ แป๋ง หมูยอและชาวบ้านมาช่วยพิมได้ทันก่อนที่จะเสียตัว เรื่องไม่ได้หมดแค่นั้น เมื่อครูสายใจถูกรถชนอาการสาหัส ตั้องใช้เงินรักษาจำนวนมาก พิมเอาเงินค่ารักษาครูสายใจมาให้แป๋งในเบื้องต้น แต่ความซวยก็มาเยือนแป๋งกับหมูยอ เมื่อศัตรูจากบ่อนเก่าเจอและจำได้ว่าแป๋งคือคนที่ร่วมก่อปัญหาในบ่อน ทั้งคู่ตกในที่นั่งลำบากแต่ด้วยความฉลาดของแป๋ง แป๋งลากหมูยอเข้าโรงพักมอบตัวให้ตำรวจในข้อหาลักทรัพย์ (แจ้งความเท็จ) เพื่อหนีพวกมาเฟีย ขณะเดียวกันหมวดแมน….ก็กำลังจะถูกปลดเพราะผลงานไม่เข้าตา หมวดแมนออกมาเจอแป๋งกับหมูยอ เขารีบเข้าไปยื่นข้อเสนอการเป็นสายให้ตำรวจกับแป๋ง 2 คู่หูปฏิเสธทันทีเพราะไม่อยากยุ่งกับพวกสีกากี ไม่ว่าหมวดแมนจะพูดยังไงแป๋งก็ไม่ยอม ด้านครูสายใจอาการทรุดหนักต้องผ่าตัดอีก แต่ครั้งนี้ต้องใช้เงินมากกว่าครั้งแรก แป๋งตัดสินใจเป็นสายให้หมวดแมน และแล้วภารกิจสายสืบก็เริ่มขึ้น โดยเริ่มเรื่องจากบ่อนสี่มุมเมือง บ่อนสี่แห่งของเจ้าพ่อกระจับทอง แป๋งไม่ได้ทำให้หมวดแมนผิดหวังเพราะข้อมูลที่เขาสืบมาได้ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ทั้งสิ้น หมวดแมนคิดหนักถึงวิธีที่จะผ่านเข้าไปในบ่อนวิธีที่ดูจะเป็นไปได้มากที่สุดก็คือ ปลอมตัวแป๋งและหมูยอเป็นนักธุรกิจ แป๋งขอร้องให้พิมช่วยปลอมตัวเป็นเลขาเพราะพิมพูดภาษาอังกฤษคล่อง ส่วนหมูยอเป็นบอดี้การ์ด แป๋งรายงานความคืบหน้า หมวดแมนวางกำลังตำรวจเข้าจับกุมบ่อนที่หนึ่ง แต่ทุกอย่างกลับตาลปัตร เพราะเจ้าพ่อกระจับทองไหวตัวทัน เมื่อครั้งนี้พลาด แต่ไม่ต้องห่วง เพราะแป๋งมีแผน “ในเมื่อกฏหมายทำอะไรมันไม่ได้ แต่ลูแป๋งคนนี้ทำได้” แผนของแป๋งก็ คือการทำให้เจ้าพ่อกระจับทองหมดตัว และแผนนี้ลูแป๋งพลาดไม่ได้แม้แต่ครั้งเดียว การปฏิบัติภารกิจของแป๋งดำเนินมาจนถึงบ่อนสุดท้าย นั่นก็คือ “บ่อนกระจับทอง” บ่อนยักษ์ใหญ่ที่มีเงินทุนหนาที่สุด แป๋ง หมูยอ พิม เข้าไปในบ่อนพร้อมกับฝากคำท้าทายไปถึงเจ้าพ่อกระจับทอง ว่าถ้าไม่อยาก ให้บ่อนฉิบหายเป็นแห่งที่สี่ก็ให้ออกมา แต่ด้วยความเก๋าของเจ้าพ่อกระจับทอง จึงส่งตัวแทนออกมาดูฝีไม้ลายมือแป๋งถึงสองคน แต่ทั้งสองคนก็ต้องพ่ายแป๋งราบคาบ เจ้าพ่อกระจับทองตัวจริงจึงโผล่ออกมา แป๋งจะเล่นชนะเจ้าพ่อกระจับทองและทำในสิ่งที่เขาหวังมาทั้งชีวิตได้หรือไม่ แล้วชีวิตของแป๋งยิ่งเรื่องความรักของเขากับคุณพิม และชุมชนน้ำใสใจดีจะเป็นอย่างไรต่อไป ติตตามได้ใน “เก่งไม่เก่ง…ไม่เกี่ยว”

12 ราศี 2546

12 ราศี (2546/2003) เจ๋ง ตำรวจหนุ่มนิสัยมุทะลุ เลือดร้อน จนได้รับฉายาว่า ไอ้หมาบ้า?มี หมวดลาก เพื่อนรุ่นพี่และ ไตรภพ หัวหน้าของเจ๋งคอยปราบเจ๋ง ด้วยความเลือดร้อนของเจ๋ง แม้ว่างานจะเสร็จลงได้แต่เจ๋งก็ต้องโดนไตรภพต่อว่า เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้น จึงโดนพักงาน และโดนย้ายไปหน่วยอบรมอาสาสมัคร เจ๋ง เคยมีคนรักเป็นหมอชันสูตรศพ คือ หมอดา แต่เพราะความห่วงของหมอดาที่มีต่อเจ๋ง หมอดาจึงขอให้เจ๋งลาออกจากการเป็นตำรวจ เจ๋งไม่ยอมลาออก ทั้งคู่จึงเหลือไว้เพียงความเป็นเพื่อนกัน โดยมี หมออี๊ด ซึ่งเป็นเพื่อนของทั้งคู่คอยประสานความสัมพันธ์ไว้ วันหนึ่งไตรภพแนะนำให้เจ๋งรู้จักกับ บราลี ลูกสาว องอาจ นักธุรกิจที่ร่ำรวย โดยบอกว่าจะมาเป็นคู่หูของเจ๊ง บราลีมีความหลังอยู่คือ เธอจะนึกถึงหญิงชายคู่หนึ่งที่เคยถ่ายรูปกับเธอและพ่อ และภาพของคนทั้งคู่นอนตายอยู่บนเตียง ดังนั้นเธอจึงอยากเป็นตำรวจ แม้ว่าพ่อบุญธรรมของเธอจะไม่เห็นด้วย แต่ก็ทนเสียงรบเร้าของลูกสาวไม่ได้ จึงพาบราสีมาฝากกับไตรภพ ไตรภพจึงส่งบราลีให้เป็นคู่หูของเจ๋ง เจ๋งต่อต้านการมีคู่หู เพราะเพื่อนรักของเจ๋งที่เป็นคู่หูในการทำงาน ถูกยิงตายไปต่อหน้าในการไปล่อซื้อยาเสพติด ภาพนี้ฝังใจเจ๋งมาตลอด ส่วนบราลีเมื่อเจอเจ๋งก็ต่อต้าน พร้อมที่จะงัดข้อกับเจ๋ง ทั้งคู่ร่วมกันทำงานแบบคู่หูคู่กัด จนวันหนึ่งเจ๋งถูกพ่อค้ายาจ้างมือปืนมายิง ขณะตามไปช่วยบราลีได้ทัน แต่เจ๋งได้รับบาดเจ็บ เขาจึงปฏิเสธการร่วมงานกับบราลีทันที