รักในรอยลวง 2566

เรื่องย่อ : รักในรอยลวง (2566/2023) รัมภ์รดา (แอนน่า กลึคส์) เด็กสาวที่พยายามตามหาอดีตของตัวเอง หลังจากเธอได้รับการอุปการะจาก ศศิศ (ณัฐนันท์ คุณวัฒน์) หัวเรือใหญ่ของครอบครัวอาสนมนตรี เจ้าของธุรกิจน้ำตาลรายใหญ่ของประเทศ ให้เข้าไปอยู่ในบ้านอาสนมนตรี ในฐานะ “ลูกสาว”

รัมภ์รดารับรู้มาตลอดว่าตนเป็นเพียงเด็กกำพร้า ที่พ่อแม่ตายในอุบัติเหตุไฟไหม้เมื่อสิบกว่าปีก่อน จนทำให้เธอสูญเสียความทรงจำบางส่วนไป ศศิศเข้ามาดูแลให้เธอมีที่อยู่ที่กิน ได้เรียนหนังสือ ภายใต้การดูแลของ แม่ชื่น (สวนีย์ อุทุมมา) อดีตแม่บ้านของอาสนมนตรี จนเรียนจบ และได้เป็นช่างภาพอิสระ ด้วยงานช่างภาพนี้เอง ทำให้เธอได้พบกับผู้ชาย 2 คน คนแรก เป็นคนที่ช่วยเธอจากคนร้ายในระหว่างการทำงาน ณาศิส อาสนมนตรี (อาทิตย์ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์) ลูกชายคนเดียวของศศิศ ที่ไม่ค่อยลงรอยกับพ่อ เพราะคิดว่าพ่อเป็นต้นเหตุทำให้ เณรี (มัณฑนา หิมะทองคำ) แม่ของเขาต้องเจ็บช้ำน้ำใจจากการไม่ซื่อสัตย์และนอกใจ เณรีกับศศิศแยกกันอยู่ แต่ทั้งคู่ไม่ยอมหย่าขาดจากกัน เพราะปัญหามรดก และทรัพย์สินที่ตกลงกันไม่ได้ เณรีพยายามให้ณาศิสเข้าครอบครองบริษัทอาสนมนตรี แต่ดูเหมือนศศิศกับ ชิดจันทร์ (มาริสา อานิต้า) เลขาฯ คนสนิทของศศิศจะล่วงรู้แผนการนี้ ส่วนผู้ชายคนที่สองคือ คณุตม์ เถาศาสตรานนท์ (พงศกร โตสุวรรณ) คนที่ช่วยรัมภ์รดาไม่ให้ถูกรถชน คณุตม์เป็นเจ้าของร้านขายต้นไม้แสนอบอุ่น ที่ต่อมาได้เข้ามาทำงานในบริษัทอาสนมนตรี โดยการชักชวนของ ขนิษฐา (เฌอตินท์นารา พงศ์พีรเดช) เลขาฯ ของณาศิส

เมื่อรัมภ์รดาตัดสินใจตามหาความจริง ว่าอดีตของตัวเองเป็นยังไงกันแน่ การตายของพ่อแม่ตัวเอง เป็นอุบัติเหตุ หรือฆาตกรรม มีใครอยู่เบื้องหลังการตายหรือไม่ และนั่นทำให้เธอพบความผิดปกติ ทั้งจากคำบอกเล่า และความทรงจำอันเลือนรางของเธอ มีเพียงคนเดียวที่ดูเหมือนจะช่วยเธอได้ ก็คือ ชูกลิ่น (สโรชา วาทิตตพันธ์) หัวหน้าแม่บ้านของอาสนมนตรี ที่เป็นเพื่อนสนิทของ ผาด (ชัชฎาภรณ์ ธนันทา) แม่ของรัมภ์รดา และที่สำคัญ ชูกลิ่นยังรู้รายละเอียดของเหตุการณ์ในอดีต ว่าศศิศเคยประสบอุบัติเหตุความจำเสื่อม จนต้องไปอยู่ในการดูแลของ รอง (ภาณุ สุวรรณโณ) พ่อของรัมภ์รดาด้วย ชูกลิ่นยังเล่ารายละเอียดเรื่องผาดกับรอง ว่าเสียชีวิตในกองเพลิง ส่วนตัวรัมภ์รดาก็ได้รับบาดเจ็บ ถูกไฟคลอกอาการสาหัส มีเพียงแต่สร้อยข้อมือที่ติดตัวเพียงเส้นเดียว ที่ยืนยันตัวตนของรัมภ์รดา แต่ยิ่งสืบยิ่งค้น เธอก็ยิ่งพบความผิดปกติของเรื่องราวในอดีต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ราม (วราวุฒิ บราวน์) กับ เงาะ (วรรษพร วัฒนากุล) ผู้เป็นอา และอาสะใภ้ รวมถึง “รุจี” ลูกพี่ลูกน้อง กับ “ยม” คนงานในสวน และยังมี “ผีเด็ก” ฝันร้ายที่คอยตามหลอกหลอนเธอในวัยเด็กจนถึงปัจจุบัน จนกระทั่งความทรงจำของเธอเริ่มปะติดปะต่อ ความจริงเริ่มปรากฏชัด รัมภ์รดาต้องช็อกไปกับเรื่องราวที่จะนำเธอไปสู่คำตอบ ว่าใครเป็นคนฆ่าพ่อแม่ และอยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมอำพราง (ที่มา : bugaboo.tv)

กู้ภัยอาสารัก 2564

เรื่องย่อ : กู้ภัยอาสารัก (2564/2021) เมื่อซุปตาร์หนุ่มผู้เห็นแก่ตัวเป็นที่สุด ต้องมาโดนคำสาปให้เป็นหน่วยกู้ภัยจนกว่าเขาจะรู้จัก “ความรัก” แต่เขาจะรู้จักคำว่า “รัก” ได้จริง ๆ เหรอ เมื่อต้องมาอยู่กับคู่กัดสาวจอมห้าวที่เรียกได้ว่า “เกลียด” จนแทบจะมองหน้ากันไม่ติด “ มือเท้าก็ดี...ทำไมทำตัวเป็นขอทาน ” คำพูดเย็นชาแบบไร้ความรู้สึกดังออกมาจากปากของ แรงกล้า...ดาราหนุ่มที่กำลังมาแรงจากผลงานและชื่อเสียง แรงแค่ไหนก็คิดดูว่าเขาเข้าวงการมาเพียงไม่กี่ปี สามารถมีทุกอย่างอย่างที่อยากได้ แถมงานอดิเรกของเขาคือการสะสมเงินกับเหล่าสาวๆไฮโซ คำพูดของแรงกล้าทำเอา ชูใจ...เจ้าหน้าที่สาวจากมูลนิธิ “ร่วมแรงร่วมใจ” ถึงกับอ้าปากค้าง เธอเสียเวลาครึ่งค่อนวันนั่งรออยู่หน้าห้องแถลงข่าว เพื่อเป็นตัวแทนของมูลนิธิมาถ่ายรูปและรับเงินบริจาคจากแรงกล้าที่บอกว่าจะบริจาคเป็นรถพยาบาลให้กับมูลนิธิ ชูใจพยายามทั้งแคะทั้งเคาะขี้หู คิดว่าหูแว่วที่โดนแรงกล้าด่า เพราะภาพลักษณ์ของแรงกล้าที่เธอรู้และคนทั้งประเทศรู้และเห็นก็คือ ชายหนุ่มสุดเพอร์เฟคที่ใจบุญสุนทาน ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากหากมีโอกาส แถมเธอยังเคยเห็นว่าแรงกล้าเองก็ทำตัวเป็นอาสาสมัครด้วยในบางครั้ง แต่แล้วแรงกล้าก็แววตาอ่อนโยนและรู้สึกผิดขึ้นมา ทำให้ชูใจโล่งอกว่าแรงกล้าคงจะล้อเล่น แต่ที่ไหนได้ แรงกล้าบอกว่า สิ่งที่ชูใจอยากเห็นคืออยากให้เขาแอคติ้งแบบนี้ใช่มั้ย สิ่งที่ชูใจรวมถึงคนทั้งประเทศเห็นว่าเขาเป็นคนดีนั่นคือการสร้างภาพ !!! ชูใจอึ้งเพราะไม่คิดว่าดาราที่เธอสุดปลื้มนั้น นิสัยที่แท้จริงของเขาคือ เห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน ทำทุกอย่างได้ถ้าจะทำให้เขาได้ผลประโยชน์ ชูใจยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ก็โดนแรงกล้าโยนแบงก์ยี่สิบใส่ บอกว่านี่คือเงินทำบุญที่ชูใจอยากได้ นั่นเองจึงเป็นชนวนแห่งความขัดแย้ง เป็นจุดเริ่มต้นแห่งความวุ่นวาย ชูใจสาปส่งหรือจะเรียกว่าแช่งก็ได้ จนแรงกล้าเองต้องเรียกรปภ.หามชูใจออกไป แรงกล้าผู้ยึดตัวเองเป็นศูนย์รวมจักรวาล ด้วยความที่เขาเป็นเด็กกำพร้า เพราะฉะนั้นเขาจึงพยายามทำทุกอย่างให้ตัวเองรอด แม้ว่าจะต้องขายเพื่อนหรือขายจิตวิญญาณก็ตาม หลังจากที่เขาได้ผ่านชีวิตความลำบากจนพลิกผันเข้ามาเป็นดารา ทำให้เขารู้ว่า “เงิน” คือสิ่งที่สำคัญที่สุด แรงกล้าจึงไม่สนคำแช่งของชูใจ สิ่งที่เขาสนใจคงมีแต่เงิน เงิน แล้วก็เงิน แรงกล้าเพียบพร้อมไปด้วยความสุขสบาย และที่สำคัญตอนนี้เขากำลังจะสร้างครอบครัวกับ แคท...สาวไฮโซ ลูกสาวสุดรักสุดหวงของ เสี่ยบารมี...หนึ่งในแปดตระกูลผู้กุมเศรษฐกิจของประเทศนี้ไว้ ถ้าเขาได้แต่งงานกับแคท เขาคงไม่ได้รวยธรรมดา แต่คงเรียกว่ารวยล้นฟ้า เพราะเขาจะกลาย เป็นผู้สืบต่อธุรกิจของเสี่ยบารมีไปโดยปริยาย แล้วนั่นจึงทำให้เขาคิดจะขอแคทแต่งงานในงานวันเกิดของเสี่ยบารมีคืนนี้ ซึ่งถูกจัดขึ้นที่มูลนิธิประจำตระกูล ตัดกลับมาที่ชูใจ นางเอกของเราที่กำลังโดนรปภ.หามลงจากตึกตามคำสั่งของแรงกล้า แต่แล้วระหว่างนั้น ป้าแม่บ้านท้องแก่ที่กำลังทำงาน อยู่ๆก็เหมือนเธอจะคลอดก่อนกำหนดซะงั้น ชูใจรีบสะบัดรปภ.ออกเพื่อที่จะช่วยพาแม่บ้านท้องแก่คนนั้นไปส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด ชูใจจะพาป้าแม่บ้านลงลิฟต์ แต่แล้วกลับโดนแรงกล้าตัดหน้าเข้าไปในลิฟต์ก่อน ไม่เท่านั้น แรงกล้ายังกดปิดลิฟต์เพราะต้องใช้ลิฟต์เป็นห้องแต่งตัวเพื่อรีบไปงานของเสี่ยบารมี ชูใจแทบอยากจะกระโดดงับคอแรงกล้าซะให้ได้ ถ้าไม่ติดว่าต้องช่วยทำคลอดก่อนล่ะก็ แล้วแรงกล้าก็มาปรากฏตัวที่งานวันเกิดของเสี่ยบารมีอย่างทันเวลา ซึ่งเป็นช่วงที่เสี่ยบารมีกำลังนำเทวรูปเทพเจ้าจีนที่เคารพมาทำพิธีที่มูลนิธิเพื่อความเป็นมงคลในวันเกิด โดยมีคณะของหน่วยกู้ภัยคอยอวยพรให้ด้วย ขณะที่ชูใจกลับมาที่มูลนิธิด้วยสีหน้าเศร้า ก่อนที่ชูใจจะพบกับแรงกล้า ชูใจเข้าไปเอาเรื่อง เพราะการที่แรงกล้าตัดหน้าลงลิฟต์ไปนั้นทำให้ป้าแม่บ้านคนนั้นต้องคลอดบนรถมอเตอร์ไซต์อย่างทุลักทุเล ทุกคนต้องเข้ามาห้ามชูใจ ชูใจบอกว่าคนอย่างแรงกล้าจะต้องถูกสวรรค์ลงโทษให้ตกอับอย่างแน่นอน แรงกล้าได้แต่ยิ้มขำ มันจะเป็นอย่างนั้นได้ยังไง ก็ในเมื่อตอนนี้เสี่ยบารมีตอบตกลงให้เขาแต่งงานกับแคทแล้ว โดยที่แรงกล้าไม่เห็นว่าเทวรูปเทพเจ้าที่แรงกล้ายืนพูดอยู่ข้างหน้า อยู่ๆก็เหมือนมีแสงเรืองรองขึ้นมา ไอ้แรงกล้า...ตื่นเว้ย...ตื่นๆๆ แรงกล้าตื่นขึ้นมาที่มูลนิธิก่อนจะตกใจเมื่อเจอกับ เจ็กตง...เจ้าหน้าที่คนเก่าคนแก่ที่ดูแลมูลนิธิ ป้าสวย...แม่ครัวและแม่บ้านของมูลนิธิ แรงกล้ากำลังงงและสงสัยว่าเค้าอยู่ที่ไหน ก่อนจะได้ยินเสียงเข้มดังเข้ามา “เริ่มงานวันแรกก็จะอู้แล้วเหรอ” เมื่อแรงกล้าหันไปตามเสียงนั้นก็ต้องตกใจ เพราะเจ้าของเสียงนั้นก็คือ ชูใจ...หญิงสาวผู้ที่ไม่ได้สวยแต่หน้า แต่จิตใจยังสวยอีกด้วย ชูใจเป็นญาติกับเจ็กตง ช่วงแรกชูใจมาเป็นอาสาให้ที่นี่เพราะอยากจะช่วย แต่พอทำไปทำมาชูใจเริ่มรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ช่วยคนอื่น ประกอบกับปมในใจที่พ่อแม่ประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตเพราะไปถึงโรงพยาบาลช้า จึงช่วยเหลือไม่ทัน ชูใจรู้ซึ้งว่าทุกวินาทีมีค่าและสำคัญกับการช่วยชีวิตคน จึงตัดสินใจมาเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่มูลนิธิร่วมแรงร่วมใจอย่างเต็มตัว แรงกล้าไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเรื่องจริง แรงกล้าวิ่งออกไปจากมูลนิธิเพื่อจะกลับไปยังโลกอันสวยงาม โลกที่กำลังจะเจริญรุ่งเรืองของเขา แต่แล้วแรงกล้าก็ต้องพบกับ ก้ำกึ่ง...อาสาสมัครสุดเนิร์ดที่มีอาชีพหลักเป็นช่างยนต์ ปกติ...อาสาสมัครสุดติสต์ ผู้รักและเข้าใจสัตว์โลกทุกชนิด และ กอหญ้า... อาสาสมัครสาวนักศึกษาปริญญาโท ผู้หลงใหลการขับรถ ทั้ง 3 คน เพิ่งมาถึงมูลนิธิเพราะวันนี้มีนัดเลี้ยงต้อนรับเจ้าหน้าที่มูลนิธิคนใหม่ ซึ่งก็คือแรงกล้านั่นเอง แรงกล้าหมดอาลัยตายอยากที่ชีวิตพลิกจากหน้ามือเป็นหลังเท้าเพียงชั่วข้ามคืน แล้วแรงกล้าก็นึกขึ้นได้ หรือที่เขาต้องมาอยู่ในสภาพนี้เพราะเขาไปพูดจาท้าทายเทวรูปที่ศาลเจ้านั้น แล้วความหวังของแรงกล้าก็เริ่มฉายแสงอีกครั้ง แรงกล้าไม่รอช้ารีบเอาเงินทั้งหมดที่ตัวเองมีอยู่ไปซื้อของเซ่นไหว้มาขอขมาลาโทษ ก่อนที่แรงกล้าจะอึ้งไปเมื่อมาถึงแล้วพบว่าเทวรูปเทพเจ้านั่นไม่อยู่ซะแล้ว เจ็กตงบอกว่าเทวรูปองค์นั้นเสี่ยบารมีอัญเชิญมาจากไต้หวันปีละครั้งเท่านั้น ถ้าแรงกล้าอยากกราบท่าน จะต้องรออีกปีนึง ! แรงกล้าช็อกที่เขาต้องเป็นอาสาสมัครกู้ภัยไปอีกปีนึงจริงๆเหรอ ระหว่างนั้นอยู่ๆก็มีกระดาษคำทำนายลอยเข้ามาแปะที่หน้าของเขา แรงกล้าหยิบมาอ่าน มีใจความว่า แรงกล้าจะต้องอยู่ในโลกนี้ไปจนกว่าแรงกล้าจะได้เรียนรู้ถึงคำว่า “ความรัก” และ “ความเสียสละ” คืนนั้น เจ็กตงกับป้าสวยพาแรงกล้าเข้ามาที่ห้องนอนในมูลนิธิ แรงกล้ามองห้องนอนแล้วก็อยากจะร้องไห้ที่ตัวเองต้องมานอนห้องที่เล็กกว่ารังหนูแบบนี้ ก่อนที่แรงกล้าจะนึกได้ว่า ในเมื่อเซียมซีบอกให้เรามีความรัก ถ้าอย่างนั้นเราก็ต้องมีความรักให้ได้ เช้าวันรุ่งขึ้น แรงกล้าตื่นแต่เช้า เดินออกมาจากมูลนิธิเพื่อหาทางกลับไปยังโลกเดิม แรงกล้าเดินไปเรื่อยๆ จนเกือบโดนรถมอเตอร์ไซต์ชน คนขับรถลงมาโวยวายว่าแรงกล้าเดินไม่ดูตาม้าตาเรือ แต่พอเห็นหน้าแรงกล้าเท่านั้น ติ๊ดตี่...สาวก๊าบไบค์สุดเปรี้ยว ก็ใจละลาย เปลี่ยนโหมดเป็นห่วงใยเข้ามาถามไถ่ทันทีว่าเจ็บตรงไหนหรือเปล่า แล้วชวนไปทำแผลที่บ้าน ติ๊ดตี่พาแรงกล้ามาที่ร้านอาหารตามสั่งใต้หอพัก ซึ่งเจ้าของร้านก็คือ เฮียตุ๊...ผู้ไม่เคยแพ้ใครเรื่องความงก พ่อของติ๊ดตี่เอง ชนะศึก...นักข่าวเคเบิ้ลขี้โม้ ที่คอยหาข่าวอยู่ในละแวกมูลนิธิ จ่าเฉย อาสาสมัครตำรวจเฉิ่ม...ตำรวจสายตรวจในพื้นที่ที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ ก็เกิดสงสัยว่าแรงกล้าเป็นใคร ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ชูใจกับกอหญ้าที่ลงมาจากหอพักได้ยินพอดี ก็เลยเข้ามาแนะนำว่าแรงกล้าเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิคนใหม่ ชนะศึกได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกไม่ไว้ใจ เพราะตัวเองจีบชูใจอยู่ แรงกล้าก็หน้าตาดี ถ้าทำงานที่มูลนิธิด้วยกันก็ต้องใกล้ชิดกันซิ ชนะศึกจึงคิดจะหาเรื่องแรงกล้า แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร เสียงวอของชูใจก็ดังขึ้นว่ามีเหตุด่วนให้รีบไป ชูใจกับกอหญ้ารีบวิ่งออกไป แต่พอเห็นแรงกล้าไม่ตามไป ก็หันกลับมาช่วยกันทั้งผลักทั้งดันให้แรงกล้าออกไปด้วยกัน แรงกล้าถูกลากมาที่รถมูลนิธิ ซึ่งก้ำกึ่งและปกติรออยู่แล้ว กอหญ้าขึ้นนั่งประจำที่คนขับ ชูใจเห็นแรงกล้ายืนงงก็ผลักแรงกล้าขึ้นรถแล้วสั่งให้ออกรถทันที แรงกล้าถึงกับอึ้งไปว่าเขาจะต้องติดอยู่ในชีวิตอย่างนี้จนกว่าเขาจะได้เรียนรู้ที่จะ “รัก” คนอย่างแท้จริงหรือนี่ ถ้านี่เป็นหนทางเดียวที่เขาจะได้กลับไปใช้ชีวิตในโลกเดิม เขาก็คงไม่มีทางเลือกอีกแล้ว แรงกล้าจึงตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งในบทบาทหน้าที่การเป็นอาสาสมัครของมูลนิธิร่วมแรงร่วมใจ ขณะที่แรงกล้าเริ่มออกไปช่วยงานมูลนิธิบ่อยมากขึ้น ทำให้แรงกล้าสังเกตเห็นว่าจะมีนักข่าวมาทำข่าว แรงกล้าจึงคิดว่าถ้าเขาจะกลับไปดังอีกครั้ง เขาจะต้องทำตัวเป็นข่าว แรงกล้าจึงพยายามเสนอหน้าไปทุกงาน แต่ด้วยความซุ่มซ่ามของแรงกล้า จึงทำให้แรงกล้าโดนด่าทุกที แต่สิ่งหนึ่งที่แรงกล้าไม่ทันได้สังเกตตัวเองก็คือ เขาเริ่มสนิทสนมกับชูใจ จากการใช้ชีวิตอยู่ในมูลนิธิและการไปช่วยคนต่างๆ ขณะเดียวกันด้วยความหล่อและการทำตัวเป็นข่าวก็ไปเข้าหูเข้าตาน้องแคท จนทำให้แรงกล้าคิดจะใช้น้องแคทมาเป็นทางลัดที่จะทำให้เขากลับไปอยู่ในโลกเดิม แต่ก็เหมือนมีเสียงในใจมาบอกกับแรงกล้าว่า เขาไม่ควรทำอย่างนั้น แรงกล้าอาจจะไม่รู้ว่าตัวเองเปลี่ยนไป แต่คนรอบข้างต่างรู้ว่าแรงกล้าเปลี่ยนเป็นผู้ชายที่ดีขึ้น มีเคสที่แรงกล้าออกปฏิบัติงานช่วยคน ซึ่งแคทอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย แคทเห็นถึงความเป็นฮีโร่และรู้สึกประทับใจ จนหมายมั่นต้องการเป็นแฟนกับแรงกล้าให้ได้ จึงนัดให้แรงกล้ามาทานข้าวกับเสี่ย โดยที่แรงกล้าไม่รู้เลยว่าแคทวางแผนมัดมือชกให้เขาแต่งงานกับเธอ แต่แล้วระหว่างที่แรงกล้าจะเข้าไปเจอกับเสี่ยบารมี ก็ได้มีเหตุรถชนกัน แรงกล้าอึ้งไปเพราะรถที่เกิดอุบัติเหตุก็คือรถของมูลนิธิที่มีชูใจเป็นคนขับเพราะกอหญ้าติดสอบปริญญาโท รถเกิดเสียหลักพุ่งลงข้างทางและเริ่มมีประกายไฟที่ห้องเครื่อง แรงกล้าจะเข้าไปช่วยชูใจ แต่ทุกคนห้ามไว้เพราะอันตราย แรงกล้าผลักทุกคนออกก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปช่วยชูใจโดยไม่สนใจความปลอดภัยของตัวเอง ก่อนที่เขาจะพบว่าชูใจยังหายใจอยู่ น้ำตาแห่งความดีใจของแรงกล้าไหลออกมาจนหยดลงบนใบหน้าของชูใจ แรงกล้ารู้ทันทีว่าความรักเป็นยังไง ทันใดนั้นเสียงแตรรถพร้อมกับเสียงของไซเรนก็ดังแทรกเข้ามา..... แรงกล้าสะดุ้งตื่นแล้วพบว่าตัวเองสลบอยู่ในลิฟต์ได้ยังไง แล้วแรงกล้าก็ตกใจเมื่อพบว่าตัวเองกลับมาอยู่ในชุดในวันสุดท้ายที่เขาเป็นซุปตาร์ ก่อนที่เขาจะกลายเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัย “ร่วมแรงร่วมใจ” แรงกล้านึกทบทวนถึงความผิดพลาดที่ผ่านมา ขณะที่ชูใจเองก็กำลังช่วยป้าแม่บ้านที่กำลังใกล้คลอดลงลิฟต์มาเรียกแท๊กซี่ที่หน้าตึก แต่แล้วทันใดนั้นรถมูลนิธิ “ร่วมแรงร่วมใจ” ก็ขับเข้ามา ชูใจอึ้งไปเมื่อเห็นแรงกล้าคือคนขับรถนั่นเอง แรงกล้าตัดสินใจเปิดประตูรถลงไป อุ้มคนท้องแก่ขึ้นไปบนรถแล้วรีบขับรถมูลนิธิออกไปทันที แรงกล้าลุ้นอยู่หน้าห้องผ่าตัดกับชูใจ ชูใจเองไม่เข้าใจว่าทำไมแรงกล้าถึงได้กลายเป็นคนละคนกับเมื่อเช้า เพราะเมื่อเช้าแรงกล้าคนที่เธอเจอเป็นคนที่เห็นแก่ตัวที่สุด แต่แล้วหมอก็ออกมาจากห้องผ่าตัดก่อนจะบอกว่าหญิงท้องแก่คนนั้นปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูก ด้วยความดีใจทำให้แรงกล้ากับชูใจเผลอกระโดดกอดกัน ก่อนที่ทั้งคู่จะนึกได้ ชูใจรีบผละออกจากแรงกล้า ก่อนจะขอบคุณแรงกล้าที่พาหญิงท้องแก่มาส่งโรงพยาบาลได้ทัน ชูใจออกไปโดยไม่เห็นว่าแรงกล้ามองตามและกำลังจะตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต แรงกล้ามาหาชูใจที่มูลนิธิท่ามกลางความแปลกใจของชาวมูลนิธิ “ร่วมแรงร่วมใจ” ทุกคนตกใจเมื่อเห็นซุปตาร์มาปรากฏตัว เช่นเดียวกับชูใจที่ตกใจเมื่อเห็นแรงกล้า แรงกล้าจึงได้บอกว่า เขามาที่มูลนิธิเพื่อจะมาตอบคำถามที่ชูใจถามเขาว่า ทำไมเขาถึงได้เปลี่ยนไป แรงกล้าจึงบอกว่า เพราะเขาได้เรียนรู้และรู้จักคำว่า “รัก” แล้ว และคนที่ทำให้เขารู้จักคำว่า “รัก” ก็คือชูใจนั่นเอง ก่อนที่ก้ำกึ่ง ปกติ และกอหญ้าจะแซวชูใจกับแรงกล้าว่า เหมือนมูลนิธิ “ร่วมแรงร่วมใจ” จะตั้งขึ้นเพื่อ “แรงกล้า” กับ “ชูใจ” เลย เพราะเป็นการเอาทั้งสองชื่อมารวมกันนั่นเอง แต่แล้วเจ็กตงก็ได้รับวิทยุว่าตอนนี้มีเหตุเพลิงไหม้ ทันใดนั้นแรงกล้าก็ถอดสูทออกก่อนจะคว้าเสื้อมูลนิธิ ขึ้นมาใส่ แล้วดึงมือชูใจออกไปช่วยคนทันที...

หลงกลิ่นจันทน์ 2564

เรื่องย่อ : หลงกลิ่นจันทน์ (2564/2021) ร.ต.อ. ว่านรัก (อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) สารวัตรสืบสวนคนใหม่ประจำสถานีตำรวจภูธรดอนหินกาบ เธอต้องการพิสูจน์ตัวเองว่าได้ตำแหน่งมาเพราะความสามารถ หาใช่เชื้อความสวยของแม่ หรือบารมีของพ่อที่เป็นนายตำรวจใหญ่ คดีแรกคือการตายของนายผาด เหยื่ออยู่ในสภาพเปลือย อวัยวะเพศถูกตัดขาด และมีดอกไม้จันทน์อยู่ในปากของศพ ! ชาวบ้านลือว่าการตายของผาดเหมือนกับสารวัตรนิติ สารวัตรที่รับผิดชอบคดี สิรินญา หรือ จันทน์ (ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ) สาวสวยที่ถูกข่มขืนแล้วฆ่าตายที่ป่าหลังวัด ว่านรักขอรับผิดชอบคดี โดยมีผู้ช่วยคือ ตรีชัย (ชนกันต์ พูนศิริวงศ์) ผู้หมวดหนุ่มโอปป้าที่เพิ่งย้ายมาได้ไม่นาน ปฏิบัติการนี้ของว่านรักถูก ผู้กำกับพนา (จตุรงค์ โกลิมาศ) ขัดขวาง แต่ว่านรักไม่ยอมแพ้ เธอไปขอข้อมูลศพจาก ปฐพี (ธันวา สุริยจักร) หมอนิติเวชหนุ่มหล่อประจำโรงพยาบาล แต่ปฐพีกลับบอกว่าที่นี่ไม่เหมาะกับว่านรัก มาทางไหนให้ไปทางนั้น คนอย่างว่านรักมีหรือที่จะยอม ก็แค่หมอปากเก่ง ไม่มีทางที่จะทำให้เธอถอดใจได้ง่าย ๆ ระหว่างทำคดีขโมยของวัด ว่านรักได้รู้ข้อมูลสำคัญจากการสอบปากคำเด็กวัยรุ่นเกี่ยวกับคืนที่สิรินญาถูกฆ่าตาย ข้อมูลทั้งหมดชี้ชัดเจนว่า กลุ่มคนต่างด้าวที่สารวัตรนิติสรุปปิดคดีนั้นเป็นแพะรับบาป ว่านรักขอรื้อคดีของสิรินญา แต่พนาค้านเธอหัวชนฝาจนทะเลาะกันอย่างรุนแรง ว่านรักกับตรีชัยสืบจนรู้ว่าพนากับสิรินญาเคยมีสัมพันธ์กัน หรือว่านี่จะเป็นเหตุผลที่แท้จริงที่พนาไม่อยากให้เธอรื้อคดีสิรินญากันแน่ สารวัตรนิติกับนายผาดอาจถูกฆ่าเพื่อพยายามเบี่ยงเบนความสนใจและจัดฉากให้เป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง...ทุกอย่างกำลังเข้ารูปเข้ารอยเพื่อรอการคลี่คลาย แต่แล้วพนาก็ถูกยิงตาย ! ว่านรักทะเลาะกับ ทศภูมิ (กณิณ ปัทมนันท์) แฟนหนุ่ม เพราะมัวหมกมุ่นทำงาน ทำให้แฟนหนุ่มปันใจไปคบสาวอื่นถึงขั้นหมั้นหมาย ว่านรักจึงเลือกตัดขาดคนรัก และกลับมามุ่งเรื่องการทำงานเพียงอย่างเดียว ปฐพีรู้ว่าว่านรักเสียใจ แต่ไม่รู้จะปลอบยังไง จึงกดดันให้ว่านรักเร่งสืบคดีสิรินญาเพื่อลืมความเศร้า ดูเหมือนว่านรักจะไม่เข้าใจการทำคะแนนสไตล์ปฐพี ความไม่ชอบขี้หน้าจึงไม่เคยจางหาย แถมทำท่าจะมีศัตรูหัวใจอย่างตำรวจแสนดีชื่อตรีชัยมาแข่งอีก แต่ปฐพีหารู้ไม่ว่าว่านรักไม่ได้รู้สึกโกรธหรือรำคาญปฐพีเหมือนตอนแรก แต่เธอกลับรู้สึกดีมากกว่า ว่านรักสืบต่อจนรู้ว่าสิรินญามีพ่อเลี้ยง แม่ของเธอแต่งงานใหม่กับ พิพัฒน์ (เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล) ตอนที่สิรินญาเริ่มโตเป็นสาว สิรินญากับแม่อาศัยอยู่กับพิพัฒน์อย่างมีความสุข จนกระทั่งแม่ของเธอจากไปด้วยโรคร้าย เธอก็ย้ายออกไปใช้ชีวิตอยู่ลำพังโดยไม่มีสาเหตุ ทุกคนคิดว่าเป็นเพราะเด็กสาวใจแตก แต่หารู้ไม่ว่าเธอมีความอึดอัดบางอย่างที่ไม่สามารถอยู่ที่นั่นได้อีกแล้ว ข้อมูลสำคัญอีกอย่างที่ว่านรักสืบพบก็คือ...แหวนที่สิรินญารักหายไป แหวนวงนั้นเป็นแหวนคู่ที่สิรินญาซื้อให้พิพัฒน์ คนที่เป็นฆาตกรฆ่าสิรินญาน่าจะเป็นคนเอาแหวนไป และแล้วในเวลาต่อมา ว่านรักก็เจอว่าแหวนของสิรินญาถูกซุกซ่อนอยู่ในบ้านพักของหมอปฐพี !! ความรู้สึกดีที่ว่านรักมีให้ปฐพีกำลังทำให้เธอสับสน หมอนิติเวชที่ช่วยเธอไขปริศนาฆาตกรรมกลับกลายเป็นผู้ต้องสงสัย แล้วทำไมสิรินญาต้องซื้อแหวนคู่ให้พิพัฒน์ ใครกันแน่ที่เป็นฆาตกรฆ่าเธอ... ติดตามและร่วมสืบคดีไปกับสารวัตรว่านรัก ร่วมลุ้นทุกเหตุการณ์ได้ในละคร หลงกลิ่นจันทน์ ที่ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 HD กด 35 และ Facebook Live : Ch7HD หรือรับชมย้อนหลังได้ทาง BUGABOO.TV ละคร หลงกลิ่นจันทน์ เริ่มตอนแรกวันพุธที่ 26 พฤษภาคม 2564

ตะวันอาบดาว 2563

เรื่องย่อ : ตะวันอาบดาว (2563/2020) ศิวัช (หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล) พนักงานบริษัทหนุ่มหล่อแสนดี โรแมนติก ไม่แปลกใจที่บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ต้องการจะครอบครองทั้งตัวและหัวใจของเขา แต่คนที่เอาชนะใจและได้ตัวเขาไปครองก็คือ ช่อแพร เขมวัฒน์ (จีรนันท์ มะโนแจ่ม) สาวใหญ่สวยสะพรั่ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เขมวัฒน์ กรุ๊ป ผู้นำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของเมืองไทย ซึ่งก่อตั้งโดย เจ้าสัวบุญนำ (พงศ์ประยูร ราชอาภัย) หากแต่มันเป็นรักที่ต้องหลบซ่อนเพราะฝ่ายหญิงมีครอบครัวแล้ว

คืนหนึ่งในวันคล้ายวันเกิดของ สีดา (สุปราณี เจริญผล) แม่ของศิวัช เขาถูกล่อลวงให้ไปพบที่ป่ารกร้างแถบชานเมือง ศิวัชยอมไปเพราะบุคคลปริศนานั้นบอกว่าถ้าศิวัชไม่เอาของสำคัญไปให้ แม่เขาจะถูกฆ่าตาย ศิวัชไปตามนัด แต่เขาถูกกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้ายปางตาย เพราะโกรธที่ศิวัชไม่ได้เอาของที่ต้องการมาให้

ศิวกร (หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล) นักข่าวต่างประเทศ แฝดผู้พี่ของศิวัช ผู้ทุ่มเทชีวิตให้กับงานจนไม่มีเวลาให้ครอบครัว เขาตั้งใจกลับมางานวันเกิดแม่ แต่ภาพที่เขาเห็นคือ ศิวัชกำลังจะขาดใจตายตรงหน้า ศิวัชบอกกับศิวกรว่าให้อโหสิกรรมกับคนที่คิดฆ่าเขา แล้วศิวัชก็สิ้นใจตาย ศิวกรคลั่งแค้นมาก สาบานจะหาตัวฆาตกรให้เจอ แม้สีดาจะห้ามเพราะกลัวว่าศิวกรจะต้องเจอกับเรื่องอันตรายแบบเดียวกับศิวัช แต่ศิวกรไม่กลัว เขาต้องล้างแค้นให้น้อง

ศิวกรปิดเรื่องการตายของศิวัชไว้เป็นความลับ เพราะตั้งใจสวมรอยเป็นศิวัชเพื่อจะสืบเรื่องการตายของน้อง เขาศึกษาบุคลิกและความคิดทุกอย่างของศิวัช โดยมี เมฆ (สพล อัศวมั่นคง) เพื่อนสนิทของทั้งคู่ คอยให้คำแนะนำช่วยเหลือในการปลอมตัวเป็นศิวัชให้ได้อย่างแนบเนียนที่สุด

วันหนึ่งขณะที่ศิวกรกำลังนอนอ่านเอกสารการทำงานและรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับบริษัทของศิวัช เพื่อกลับเข้าไปทำงานที่เขมวัฒน์ กรุ๊ป อยู่ ๆ กรอบรูปของศิวัชก็หล่นลงมาที่หมอน ศิวกรเข้าไปดู ก่อนจะสัมผัสเข้ากับอะไรบางอย่าง ศิวกรจึงรีบใช้มีดกรีดดู และสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาก็คือแฟลชไดรฟ์ที่ถูกซุกซ่อนไว้เป็นอย่างดี ศิวกรรีบเปิดดูทันที และเขาก็แทบล้มทั้งยืนเมื่อภาพที่เห็นคือภาพของศิวัชกำลังปรนเปรอความสุขให้กับช่อแพร นักธุรกิจสาวใหญ่ ผู้กุมบังเหียนเขมวัฒน์ กรุ๊ป

ศิวกรมั่นใจว่าช่อแพรเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการตายของศิวัช เพราะช่อแพรอาจจะคิดว่าศิวัชแอบถ่ายคลิปของเธอกับเขาไว้เพื่อใช้แบล็กเมล์ขูดรีดเงินจากเธอ ช่อแพรจึงจ้างคนมาฆ่าปิดปากศิวัชและทำลายคลิปลับนั้นทิ้งเสีย ศิวกรหมายมาดที่จะทำให้ตระกูลเขมวัฒน์ได้พบกับความสูญเสียเฉกเช่นครอบครัวของเขา และเป้าหมายของเขาก็คือ ช่อแพร และ ปราณนท์ (ณัฐนันท์ คุณวัฒน์) สามีของเธอ และ ดาวประดับ (วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร) หลานสาวแท้ ๆ ที่ช่อแพรเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กในฐานะบุตรบุญธรรม ศิวกรกลับเข้าไปทำงานอีกครั้งท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคนเมื่อรู้จากเมฆว่าศิวัชความจำเสื่อม จดจำเรื่องราวในอดีตได้ไม่ทั้งหมดเพราะสมองถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ทุกคนในบริษัทเชื่อสนิทใจ ช่อแพรตื่นเต้นมากที่เห็นชู้รักของเธอกลับมาทำงานตามปกติ แต่เธอก็รู้สึกแปลกใจ เมื่อศิวัชในวันนี้เหมือนไม่ใช่ศิวัชผู้ใสซื่อ อ่อนต่อโลกคนเดิม ศิวัชที่อยู่ตรงหน้าเธอเต็มไปด้วยเสน่ห์แพรวพราว ฉลาด แถมยังทำให้ไฟเสน่หาในตัวของธอพลุ่งพล่านเพิ่มเป็นทวีคูณ

ดาวประดับรีบร้อนบินกลับมาเมืองไทย เพราะปราณนท์โทรศัพท์ไปคร่ำครวญว่าน้าของเธอทอดทิ้งให้คนพิการอย่างเขาต้องอยู่อย่างเดียวดาย เพราะหลงใหลเสน่ห์ของหนุ่มออฟฟิศที่ชื่อ ศิวัช ปล่อยให้ เดชา (พูลภัทร อัตถปัญญาพล) เลขาฯ คนสนิท และพยาบาลพิเศษที่ชื่อ เชิญขวัญ (ฐิตินันท์ สุวรรณถาวร) ทำหน้าที่ดูแลพ่อบุญธรรมของเธอทั้งหมด แม้ว่าดาวประดับจะพยายามถาม ฉัตรชิตา (พัชร์สิตา อธิอนันตศักดิ์) เพื่อนสนิทที่ทำงานในเขมวัฒน์ กรุ๊ป แต่ฉัตรชิตาก็บอกเพียงแต่ว่าให้ดาวประดับกลับมาดูเอง เพราะเธอไม่กล้าตัดสิน บางครั้งสิ่งที่เห็นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่จริงก็ได้ แต่ความรู้สึกของดาวประดับกลับเชื่อไปแล้วว่าช่อแพรนอกใจปราณนท์จริง ๆ เพราะความฝังใจตั้งแต่เด็กที่เธอคิดว่าช่อแพรเกี่ยวข้องกับการตายของ ช่อผกา (ศิรประภา สุขดำรงค์) และ ขจร (พศิน ศรีธรรม) แม่และพ่อแท้ ๆ ของเธอ นั่นจึงทำให้เธอกับช่อแพรไม่ค่อยลงรอยกัน งานเลี้ยงต้อนรับดาวประดับเป็นไปอย่างราบรื่น ดาวประดับตัดสินใจสร้างรอยร้าวให้กับช่อแพรและศิวัช โดยเลือกศิวัชเป็นคู่เต้นรำเปิดฟลอร์เพื่อแนะนำตัวเอง ผลงานของเธอทำให้ช่อแพรรู้สึกหงุดหงิดใจอยู่ไม่น้อยที่เห็นทั้งสองใกล้ชิดกันมากจนเกินไป ดาวประดับนึกลำพองใจที่เห็นศิวัชตกหลุมพรางของเธออย่างง่ายดาย แต่ดาวประดับหารู้ไม่ว่าที่เขายอมใกล้ชิดกับเธอมากขนาดนั้นก็เพื่อจงใจทำร้ายช่อแพรเช่นกัน ซึ่งมันก็สัมฤทธิผล แต่การกระทำครั้งนี้ของดาวประดับก็ได้สร้างความน้อยใจให้กับ ธาดา (ภูษณะ บัวงาม) สารวัตรหนุ่มที่เฝ้าตามจีบเธอมาตั้งแต่ก่อนไปเรียนเมืองนอก

เมื่อได้ประชิดตัวศัตรูหมายเลขหนึ่ง ศิวกรจึงได้รู้ว่าสาเหตุที่ช่อแพรแอบมีสัมพันธ์สวาทกับศิวัชก็เพราะปราณนท์ สามีของเธอ หมดสมรรถภาพทางเพศ เป็นอัมพฤกษ์ครึ่งตัวหลังจากประสบอุบัติเหตุ ทำให้เขาไม่สามารถปรนเปรอความสุขให้กับช่อแพรได้อีกต่อไป และด้วยความสงสารและเห็นใจภรรยาที่ยังคงมีความต้องการเฉกเช่นผู้หญิงทั่วไป ปราณนท์จึงอนุญาตให้เธอมีใครสักคนที่ทำหน้าที่แทนในส่วนที่เขาไม่สามารถทำได้ ผู้หญิงสวย ฉลาด อย่างช่อแพรจึงเลือกศิวัช ชายหนุ่มใสซื่อบริสุทธิ์ผู้มองโลกอย่างสวยงามมาทำหน้าที่แทนสามี เพราะเธอเชื่อมั่นว่าศิวัชจะไม่ลุกขึ้นมาเปิดโปงเรื่องทั้งหมดกับใคร ศิวกรเมื่อรับรู้เรื่องราวก็ยิ่งแค้นช่อแพร เพราะเขามั่นใจว่าศิวัชต้องรักช่อแพรอย่างจริงใจ แต่สุดท้ายเขากลับต้องตายอย่างไร้ค่า

ศิวกรให้ความใกล้ชิดและเป็นกันเองกับสาว ๆ ทุกคน โดยเฉพาะดาวประดับ เพราะรู้ว่านี่คือแผนปั่นหัวช่อแพรที่จะทำให้เธอคลั่ง ศิวกรสะใจที่ช่อแพรมีอาการหึงหวงเขาจนออกนอกหน้า ค่ำวันหนึ่ง ศิวกร ชวน เมทินี (ขวัญกวินท์ ธำรงรัฐเศรษฐ์) เลขาฯ ของช่อแพร ไปกินข้าว ขณะที่ช่อแพรอยู่ในงานเลี้ยงขอบคุณสื่อมวลชนและตัวแทนผู้ค้าปลีกรายใหญ่ มีโทรศัพท์ปริศนาบอกช่อแพรว่าศิวัชกับเมทินีอยู่ด้วยกันที่โรงแรม ช่อแพรสะกดอารมณ์ไม่ไหว เธอตัดสินใจทิ้งงานเพื่อขับรถไปตามหาศิวัช เมื่อช่อแพรบุกมาที่โรงแรม และตามไปพบเมทินีอยู่ในห้องจนเกิดศึกรักแรงหึง แลกตบกันอย่างดุเดือดจนสร้างความปั่นป่วนให้กับผู้ที่มาใช้บริการ ทางโรงแรมจึงเรียกตำรวจมาจับทั้งสองไปดำเนินคดี ช่อแพรและเมทินีโกรธศิวัชมาก แต่ศิวกรก็ใช้เล่ห์ลมปากเอาตัวรอดไปได้ในที่สุด

แล้วคืนหนึ่งศิวกรก็เริ่มลังเลใจว่าช่อแพรอาจจะไม่ใช้ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการตายของศิวัชเพียงคนเดียว เพราะขณะที่ช่อแพรขับรถพาเขาไปที่คอนโดของเธอ ก็มีกลุ่มชายชุดดำมาดักรอทำร้ายเขา ช่อแพรถูกลูกหลงไปด้วยจนได้รับบาดเจ็บ โชคดีที่ธาดาแอบสะกดรอยตามศิวกรและเข้ามาขวาง พวกคนร้ายจึงหลบหนีไป มันบอกกับเขาว่าให้เอาของสำคัญมาคืนเจ้านายของมันภายใน 7 วัน ถ้าไม่อยากเจ็บตัวปางตายเหมือนครั้งก่อน ช่อแพรตกใจคาดคั้นถามเขาถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ศิวกรจึงสร้างเรื่องว่าเขาแอบถ่ายคลิปวิดีโอของแก๊งค้ายาเสพติดเอาไว้ได้ ความห่วงใยอย่างจริงใจที่ช่อแพรมีต่อศิวัชทำให้ศิวกรรู้สึกสับสน แต่เขาก็ยังสงสัยในตัวของช่อแพรอยู่ เพราะเธออาจจะเป็นผู้สร้างสถานการณ์เพื่อเบนความสนใจทั้งหมด ขณะที่ธาดาก็เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของศิวกร จนต้องพยายามเตือนให้ดาวประดับออกห่างจากศิวกร เพราะไม่อยากให้ดาวประดับต้องมีอันตรายเช่นเดียวกับช่อแพรนั่นเอง

ในงานเลี้ยงเปิดตัวโครงการใหม่ของเขมวัฒน์ กรุ๊ป จู่ ๆ ก็มีภาพนิ่งของช่อแพรกับศิวัชปรากฏขึ้นบนจอโปรเจกเตอร์ ทุกภาพเป็นภาพช่อแพรสนิทแนบชิดกับศิวัช เหมือนเป็นคู่รักมากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง ภาพเหล่านั้นสร้างความแตกตื่นให้กับทุกคนในงาน ศิวกรรู้ว่าภาพนั้นไม่ใช่เขาแต่เป็นแฝดผู้น้อง ปราณนท์เห็นถึงกับเป็นลม เดชา ผู้ช่วยคนสนิท จึงรีบไปตามเชิญขวัญให้มาปฐมพยาบาลให้กับผู้เป็นนาย และพาปราณนท์ส่งโรงพยาบาล

ดาวประดับคิดว่าต้องเป็นฝีมือของศิวัชอย่างแน่นอนที่ต้องการฉีกหน้าพ่อของเธอ จึงต่อว่าเขาอย่างรุนแรง แต่ฉัตรชิตาตั้งข้อสังเกตว่าศิวัชไม่มีทางนำภาพขึ้นไปประจานตัวเองแบบนั้น ขณะที่ช่อแพรก็คิดว่าเป็นฝีมือของดาวประดับที่ต้องการทำลายเธอเช่นกัน และนั่นจึงทำให้บรรยากาศระหว่างช่อแพรกับดาวประดับตึงเครียดมากยิ่งขึ้น อาการของปราณนท์ไม่ดีขึ้น ยิ่งทำให้ดาวประดับโกรธศิวัชมากขึ้นเป็นทวีคูณ เธอประกาศกร้าวว่าหากพ่อของเธอเป็นอะไรไป ศิวัชจะต้องรับผิดชอบเรื่องทั้งหมด ส่วนช่อแพรนั้นก็ถูกบรรดาแขกที่มาร่วมงานและญาติสนิทติฉินนินทากันอย่างสนุกปาก

ภาพของปราณนท์ที่นอนบนเตียงผู้ป่วย และข้างกายเต็มไปด้วยสายระโยงระยางของเครื่องมือแพทย์ ทำให้ดาวประดับเห็นใจและสงสารพ่อของเธอเป็นที่สุด ทั้งบอบช้ำทางกายและบอบช้ำทางใจ ดาวประดับว่าจะรีบเปิดโปงช่อแพรกับศิวัชให้เร็วที่สุดเพื่อให้ปราณนท์เห็นธาตุแท้ของช่อแพร แต่ปราณนท์กลับบอกกับดาวประดับว่า เขาเองก็มีส่วนผิดที่ไม่สามารถทำหน้าที่ของสามีและหัวหน้าครอบครัวได้อย่างสมบูรณ์ การที่ช่อแพรนั้นจะหาใครสักคนมาชดเชยในสิ่งที่เขาไม่สามารถให้กับเธอได้มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องผิด สิ่งเดียวที่เขาห่วงมากที่สุดก็คือตัวของดาวประดับ เพราะเขากลัวว่าศิวัชจะมาปอกลอกช่อแพรจนหมดตัว จนไม่เหลืออะไรไว้ให้กับดาวประดับ ความห่วงใยที่ปราณนท์มีให้กับดาวประดับยิ่งทำให้ดาวประดับสงสารและเห็นใจพ่อบุญธรรมของเธอเพิ่มขึ้นอีกเป็นทวีคูณ

ดาวประดับสร้างสถานการณ์ว่าจะฆ่าตัวตายเพราะเครียดเรื่องปัญหาครอบครัว แต่ศิวกรมาช่วยชีวิตไว้ได้ทัน ศิวกรหลงกลดาวประดับ เพราะไม่คิดว่ามันเป็นแผนของเธอ ทำให้ศิวกรเห็นใจดาวประดับขึ้นมา เมื่อดาวประดับรู้ว่าแผนแรกที่ทำให้ศิวัชสงสารในตัวเธอสำเร็จ ดาวประดับสะใจมาก ศิวกรหนีช่อแพรออกมาเที่ยวกับดาวประดับ ต่างฝ่ายต่างก็หยั่งเชิงซึ่งกันและกัน ว่าต่างจริงใจกับตนเองมากน้อยแค่ไหน เมฆและฉัตรชิตารู้ว่าทั้งสองต่างกำลังเล่นเกมกันอยู่ ซึ่งคนที่หนักใจและต้องคอยเตือนสติก็หนีไม่พ้นพวกเขาและเธอสองคนนั่นเอง

คืนนั้นในขณะที่ศิวกรกำลังจะกลับบ้าน มีกลุ่มชายชุดดำกลุ่มเดิมมาดักรอพบเขาอยู่ที่ปากทางเพื่อทวงคลิปลับที่มันต้องการ ศิวกรจึงต่อรองว่าเขาจะเอาให้กับมือนายใหญ่ของพวกมันเท่านั้น แต่คำต่อรองของศิวกรไม่เป็นผล ศิวกรโดนรุมทำร้ายอย่างป่าเถื่อน ทันทีที่ช่อแพรรู้ข่าวว่าศิวัชเจ็บหนัก เธอจึงรีบไปเยี่ยมศิวัชที่โรงพยาบาล แต่เมื่อไปถึงช่อแพรก็แทบจะกระอักเลือด เมื่อเห็นดาวประดับกำลังป้อนยา ป้อนข้าว ป้อนน้ำ ให้กับผู้ชายของเธอ ดาวประดับอ้างว่าที่เธอจำต้องมาดูแลชายหนุ่มก็เพราะเธอรู้สึกผิดที่ปรักปรำเขา คิดว่าเขาอยู่เบื้องหลังภาพฉาวบนจอโปรเจกเตอร์นั้น แต่ความจริงแล้วช่างเทคนิคบอกกับเธอว่า ภาพดังกล่าวมีชายหนุ่มลึกลับคนหนึ่งเอามาให้ โดยอ้างว่าเป็นของขวัญพิเศษสำหรับเธอมาจากกลุ่มผู้ถือหุ้นทั้งหมด

ช่อแพรไม่สามารถลุกขึ้นมาทวงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของในตัวศิวัชได้ เพราะเธอเองก็รู้ว่าดาวประดับต้องการที่จะทำลายเธออยู่ ช่อแพรคิดวิธีที่จะทำให้ดาวประดับเลิกยุ่งกับศิวกรได้ นั่นก็คือ... ธาดาได้รับรูปที่ช่อแพรแอบถ่ายระหว่างดาวประดับกับศิวัช ประกอบกับประวัติของศิวัชที่ธาดาสืบอยู่ก็มีข้อน่าสงสัย ธาดาจึงบุกไปหาดาวประดับด้วยความหวงและห่วง ดาวประดับสารภาพว่าทั้งหมดเป็นแผนของเธอที่จะเปิดโปงความสัมพันธ์ของช่อแพรกับศิวัช ธาดาพยายามเตือนสติดาวประดับ ว่าสิ่งที่เธอกำลังจะทำลงไป เป็นการช่วยปราณนท์หรือเป็นการเอาชนะของเธอกันแน่ ธาดาท้วงให้ดาวประดับได้คิดว่า ถึงแม้ความจริงระหว่างช่อแพรกับศิวัชจะเปิดเผยออกมา แล้วคิดว่าปราณนท์จะดีใจหรือจะเสียใจ ดาวประดับนิ่งคิดแต่ก็ยังดื้อที่จะทำ ดาวประดับยังคงให้ความใกล้ชิดกับศิวกร ช่อแพรได้แต่เฝ้ามองดูอยู่ห่าง ๆ ด้วยความร้อนรุ่มใจ และน้อยอกน้อยใจที่เห็นศิวัชก็ให้ความใกล้ชิดสนิทสนมกับดาวประดับ แต่ช่อแพรคงยังไม่มีโอกาสรู้ว่าทั้งสองนั้นต่างก็กำลังเล่นละครรุมทำร้ายเธอ ด้วยเหตุผลที่ต่างกัน

ช่อแพรกินไม่ได้นอนไม่หลับ เมื่อดาวประดับสนิทสนมกับศิวัชประหนึ่งคู่รัก ส่งผลทำให้เธอเครียด กลายเป็นคนเจ้าอารมณ์ จนทั้งผู้ร่วมงานและบรรดาลูกน้องเข้าหน้าไม่ติด วีระ (นึกคิด บุญทอง) แพทย์ประจำตระกูล ได้ให้ยาบำรุง ยาคลายเครียดและยานอนหลับกับช่อแพรกลับมา แต่อาการของช่อแพรกลับแย่ลง ยิ่งเครียดช่อแพรก็ยิ่งเพิ่มปริมาณยามากขึ้น โดยที่ไม่รู้เลยว่ายาคลายเครียดนั้นได้ถูกสับเปลี่ยนเป็นยากระตุ้นประสาทอย่างแรง

ช่อแพรเสียใจเป็นที่สุดเมื่อเห็นศิวัชปันใจให้กับดาวประดับ ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด จนเธอต้องพึ่งยาที่หมอให้มา แล้วยากระตุ้นประสาทก็โชว์ผลงานของมันอย่างสวยงาม ช่อแพรวิ่งเข้าไปกระชากดาวประดับออกจากศิวัชทันที ทั้งสองตกใจมากเพราะไม่เคยเห็นช่อแพรอารมณ์รุนแรงถึงเพียงนี้ ช่อแพรต่อว่าดาวประดับอย่างสาดเสียเทเสียที่ทำตัวเหลวแหลก ด้วยความน้อยใจดาวประดับจึงยอกย้อนช่อแพรกลับไปเช่นกัน ฤทธิ์ของยากระตุ้นประสาททำให้ช่อแพรไม่สามารถหยุดยั้งอารมณ์เอาไว้ได้จนตบหน้าดาวประดับ ศิวกรตำหนิช่อแพรที่ทำรุนแรง ในใจของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความสะใจ แต่ลึกลงไปกว่านั้นเขาก็รู้สึกสงสารดาวประดับเช่นกัน

ธาดาสืบทราบมาว่าศิวัชมีพี่น้องฝาแฝดคือศิวกร ธาดาจึงได้ตามสืบเรื่องศิวกร แต่ข่าวที่เขาได้ก็คือ ศิวกรกลับมาเมืองไทยตั้งนานแล้ว เรื่องนี้ทำให้ธาดาแปลกใจ เพราะหลังจากที่ศิวกรกลับมาเมืองไทย ก็เหมือนศิวกรหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ธาดาเริ่มปะติดปะต่อจนมีคำถามขึ้นมาในใจว่า หรือว่าคนที่เห็นว่าเป็นศิวัช แท้ที่จริงคือศิวกร

ขณะที่ศิวกรก็นึกลำดับเหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมดอย่างไตร่ตรอง จนเขาก็มั่นใจว่าช่อแพรไม่ได้อยู่เบื้องหลังการตายของของศิวัชอย่างแน่นอน ศิวกรพยายามไขกุญแจแห่งเงื่อนงำทีละดอก ที่สุดเขาก็ถามตัวเองว่าใครจะเป็นผู้ได้ผลประโยชน์มากที่สุดจากคลิปที่ศิวัชแอบซ่อนไว้ และผู้ต้องสงสัยก็มีอยู่สองคนคือ ปราณนท์และดาวประดับ หรือนี่จะเป็นการช่วงชิงมรดกของตระกูล ? เป็นคำถามที่ผุดขึ้นมาในใจเขา แล้วทางเดียวที่เรื่องทั้งหมดจะคลี่คลาย คือเขาต้องใกล้ชิดกับดาวประดับและปราณนท์ให้มากขึ้น

ตะวันอาบดาว แต่แล้วแผนของศิวกรก็ต้องหยุดลงเมื่อธาดาเปิดโปงว่า แท้จริงแล้วคนที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือศิวกร หาใช่ศิวัชไม่ ดาวประดับก็เพิ่งรู้ว่าศิวัชมีพี่น้องฝาแฝด และสิ่งที่จะเป็นเครื่องยืนยันอย่างดีที่สุดก็คือ ศิวัชตัวจริงต้องมีแผลเป็นที่ท้อง แต่เมื่อศิวกรเปิดเสื้อขึ้นมา ทุกคนถึงกับอึ้งไป เพราะที่ท้องของศิวกรมีแผลจริง ๆ ธาดาไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นผิดพลาด ศิวกรบอกกับทุกคนว่าเขาเป็นศิวัชตัวจริง ส่วนศิวกรนั้นเป็นอย่างไร เขาก็ติดต่อไม่ได้เหมือนกัน

ศิวกรโล่งอกที่ความจริงไม่ได้ถูกเปิดเผย แต่ศิวกรก็ต้องรีบลงมือเช่นกัน เพราะธาดาคงกัดเขาไม่ปล่อยแน่ ๆ ศิวกรจึงต้องใกล้ชิดกับดาวประดับมากขึ้น เมทินีสะใจที่เห็นศิวัชกับดาวประดับใกล้ชิดกัน เพราะช่อแพรแทบจะกินไม่ได้นอนไม่หลับ ช่อแพรยิ่งกลุ้มก็ยิ่งดื่มหนักและยิ่งใช้ยามากขึ้น ยาที่ช่อแพรคิดว่าเป็นยาคลายเครียดมาโดยตลอด มันทำให้ช่อแพรกลายเป็นคนอารมณ์รุนแรง จนกลุ่มผู้ถือหุ้น ผู้ร่วมงาน พากันหวาดเกรง ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้

ความสัมพันธ์ของศิวกรและดาวประดับเป็นไปอย่างน้ำซึมบ่อทราย จากความแค้นที่ต้องการจะทำลายอีกฝ่าย กลายเป็นความรู้สึกรักตั้งแต่เมื่อไหร่สองคนก็ไม่รู้เหมือนกัน ศิวกรก็ยังไม่สามารถหาหลักฐานจับผิดปราณนท์ได้ ดาวประดับมั่นใจว่าศิวัชตกหลุมรักเธอแล้วจึงวางแผนกระชากหน้ากากของศิวัชและช่อแพร ศิวกรก็ยอมรับว่าเขาเองก็เริ่มรู้สึกหวั่นไหวเมื่อได้ใกล้ชิดกับดาวประดับ แต่ความแค้นที่สูญเสียศิวัชไปทำให้เขาไม่ยอมตกเป็นทาสหัวใจของตัวเอง

ดาวประดับแสร้งเมาไวน์ และเผลอเนื้อเผลอตัวให้กับศิวัช แต่ก่อนที่เธอจะให้มันเลยเถิด เธอก็ถามเขาถึงความสัมพันธ์ของเขากับช่อแพร ก่อนที่เธอจะยอมคบหากับเขาอย่างจริงจัง ศิวกรจึงบอกกับเธอไปตามความจริงว่า ณ เวลานี้ ช่อแพรกับเขาก็เป็นเพียงแค่นายจ้างกับลูกจ้างเท่านั้น ในอดีตที่ผ่านมาไม่อยู่ในความทรงจำของเขาอีกแล้ว เขาไม่เคยรักช่อแพรเลย ช่อแพรยืนแอบฟังอยู่ตามแผนการของดาวประดับ ช่อแพรเสียใจมาก ดาวประดับเมื่อได้ในสิ่งที่เธอต้องการแล้ว เธอจึงเปิดเผยความจริงให้ศิวัชได้รู้ทั้งหมด และดาวประดับก็ยังบอกกับศิวัชอีกว่า ที่ผ่านมาเธอไม่เคยนึกพิศวาสเขาแม้แต่น้อย หากแต่ในส่วนลึกดาวประดับก็เสียใจที่ได้พูดหักหาญน้ำใจเขาออกไปเช่นนั้น

ศิวกรโดนขู่ทวงคลิปลับอีกครั้ง ศิวกรตัดสินใจท้าชนกับคนที่ฆ่าน้องชายของเขาอย่างเต็มรูปแบบ เขาจึงให้แม่ย้ายขึ้นไปอยู่ที่บ้านเก่าของแม่ที่ต่างจังหวัดเพื่อความปลอดภัย ศิวกรนัดหมายส่งคลิปและตลบหลังไม่มาตามนัด แต่แอบสะกดรอยตามกลุ่มชายลึกลับไป จนศิวกรมั่นใจมากว่าอีกหนึ่งคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คือเดชา แต่เขาไม่เข้าใจว่าเดชาต้องการคลิปลับนี้ไปเพื่ออะไร

ดาวประดับตกใจมากเมื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทต่างพากันลงความเห็นว่าช่อแพรมีอาการคลุ้มคลั่งไม่สามารถบริหารงานบริษัทได้ ซึ่งปราณนท์ พ่อของเธอ ก็เห็นด้วยกับพวกเขา แถมพ่อของเธอยังเสนอให้เลือกผู้บริหารเขมวัฒน์ กรุ๊ป คนใหม่ เพื่อสร้างความมั่นใจกลับคืนมาให้กับผู้ถือหุ้น เหล่าผู้ถือหุ้นลงความเห็นว่าคนที่จะมานั่งตำแหน่งผู้บริหารคนต่อไปควรจะเป็นปราณนท์

ศิวกรเห็นใจดาวประดับที่เธอต้องประสบกับปัญหาอันหนักหน่วง ศิวกรมั่นใจว่าทั้งดาวประดับและช่อแพรไม่มีส่วนรู้เห็นในการตายของศิวัช ศิวกรต้องการคลิปลับคืน เพราะถ้าหากคลิปถูกเผยแพร่ออกไป ช่อแพรจะต้องไม่มีที่ยืนในสังคม ดาวประดับจะต้องเสียใจแสนสาหัส และตัวเขาเองจะต้องเสียใจตลอดชีวิตที่มีส่วนทำลายผู้บริสุทธิ์ ศิวกรพยายามเข้าถึงตัวเดชาเพื่อหาทางนำคลิปกลับคืนมา เขาอยากให้ศิวัชได้นอนหลับอย่างสบาย ไม่อยากให้ศิวัชเป็นคนเลวในสายตาของใคร ๆ อีกต่อไป ศิวกรยอมเสี่ยงตายพาตัวเองเข้าคฤหาสน์เขมวัฒน์เพื่อหาความจริง แต่ปราณนท์ก็รู้ตัว จึงสั่งให้เดชาและลูกน้องไปฆ่าปิดปาก ศิวกรเอาตัวรอดมาได้อย่างหวุดหวิด ศิวกรรู้คำตอบแล้วว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องร้าย ๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในตระกูลเขมวัฒน์และผู้ที่อยู่เบื้องหลังการตายของศิวัช แฝดผู้น้องของเขา ก็คือปราณนท์ แต่ทำไปเพื่ออะไร ศิวกรรู้ตัวดีว่าเขาจะกลับไปที่บ้านและบริษัทอีกไม่ได้แล้ว ปราณนท์ต้องไม่ปล่อยเขาแน่ เพราะยังเข้าใจว่าเขาคือศิวัช

ศิวกรหลบหนีการตามล่าของปราณนท์ เขาพยายามรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อบอกกับธาดาว่า ปราณนท์คือผู้ร้ายที่ฆ่าน้องชายของเขา ธาดาไม่เชื่อ เพราะคิดว่าศิวกรต้องการใส่ร้ายคนอื่นเพื่อให้ตัวเองพ้นผิด เป็นจังหวะที่ปราณนท์สั่งให้เดชาไปฆ่าปิดปากศิวัช เดชาตามหาตัวศิวัชจนเจอ ศิวกรแกล้งบอกว่าเขาจำเรื่องราวในอดีตได้ทั้งหมดแล้ว เดชาสารภาพความจริงทุกอย่างให้ศิวกรฟังว่าเขากับปราณนท์ร่วมมือกันแบล็กเมล์ช่อแพร โดยให้ศิวัชทำให้ช่อแพรหลงรัก เพื่อจะใช้คลิประหว่างศิวัชกับเธอในการฟ้องหย่า แต่ทุกอย่างกลับมาผิดพลาด เมื่อศิวัชโทร. บอกกับเดชาว่าเขารักกับช่อแพรจริง ๆ จึงไม่อยากจะส่งมอบคลิปให้กับเดชาตามที่ตกลง ศิวัชจึงต้องถูกตามล่าและถูกฆ่าตายในที่สุด

ศิวกรอึ้งที่รู้ความจริงว่าน้องชายของเขาต้องตายเพราะกลายเป็นหมากให้กับความโลภของปราณนท์ ที่สำคัญเขาทำร้ายดาวประดับและช่อแพร ทั้ง ๆ ที่ทั้งสองคนไม่มีความผิดใด ๆ เลย เดชาจะฆ่าศิวกรปิดปาก แต่ศิวกรก็หนีไปได้ ปราณนท์ฟ้องหย่าช่อแพร ร้ายไปยิ่งกว่านั้นเธอยังได้เห็นภาพคลิปวิดีโอของเธอกับศิวัชที่แนบมากับเอกสารการหย่า ปราณนท์เรียกร้องขอหุ้นในส่วนของเธอกับดาวประดับทั้งหมด รวมถึงทรัพย์สินทุกชิ้นที่เป็นของตระกูลเขมวัฒน์ ถ้าช่อแพรไม่ยอมเขาจะเผยแพร่คลิปวิดีโอนี้ออกไป ช่อแพรตัดสินใจเซ็นใบหย่าให้กับปราณนท์และยกทุกอย่างให้กับเขา ดาวประดับแปลกใจมากว่าทำไมพ่อของเธอจึงฟ้องหย่าน้าสาวและเรียกร้องเอาทุกอย่าง ความแปลกใจของดาวประดับเพิ่มมากเป็นทวีคูณเมื่อเห็นปราณนท์เดินได้เฉกเช่นคนปกติ วินาทีนั้นช่อแพรจึงรู้ว่าเธอตกหลุมพรางเขามาโดยตลอด และปราณนท์ก็บอกความจริงว่าเขาไม่เคยเป็นป่วยเป็นอัมพฤกษ์เลย เหตุการณ์ทุกอย่างเขาสร้างขึ้นทั้งหมด ดาวประดับจึงเพิ่งรู้ว่าที่เธอกับช่อแพรไม่ถูกกันเพราะถูกปราณนท์เสี้ยมให้พวกเธอเกลียดกันนั่นเอง

ในอดีต เจ้าสัวบุญนำ เจ้าของและผู้ก่อตั้งเขมวัฒน์ กรุ๊ป กำลังกลุ้มใจหลังจากจับได้ว่า ช่อแพร ลูกสาวคนเล็ก แอบหนีไปทำแท้ง เพราะแอบคบกับผู้ชายที่พ่อไม่ชอบและพลาดพลั้งจนท้องขึ้นมา ตอนแรกเจ้าสัวบุญนำตั้งใจจะรอให้อาการตกเลือดของช่อแพรดีขึ้น แล้วจะส่งตัวไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ก็เกิดเหตุ ช่อผกา ลูกสาวคนโต กับสามี ประสบอุบัติเหตุขณะไปตรวจดูไซต์งาน ทิ้งดาวประดับ หลานคนโปรด ให้กำพร้า เจ้าสัวบุญนำจึงได้แนะนำให้ช่อแพรรู้จักกับปราณนท์ นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง บุญนำยื่นข้อเสนอให้ปราณนท์แต่งงานกับช่อแพร และให้เข้ามาช่วยบริหารงานบริษัท โดยมอบตำแหน่งระดับสูง เงินเดือนดี และหุ้นส่วนอีกนิดหน่อย ทั้งคู่ทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ให้ทั้งสองเป็นพ่อและแม่ดูแลดาวประดับ และหากช่อแพรกับปราณนท์มีลูกชายเขาจะเพิ่มหุ้นให้ปราณนท์ แต่เมื่อบุญนำตายไปพร้อมเปิดพินัยกรรมแล้วพบว่า บุญนำยกสมบัติทั้งหมดให้ช่อแพรและดาวประดับ ปราณนท์ก็แค้นใจมาก เขาจึงวางแผนว่าตัวเองประสบอุบัติเหตุเป็นอัมพฤกษ์ และยินยอมให้ช่อแพรไปมีผู้ชายอื่น ก่อนจะตลบหลังเธอทีหลังเพื่อฮุบสมบัติทั้งหมด

ช่อแพรเสียใจมากกับสิ่งที่ได้รับรู้ เธอเตรียมตัวจะเซ็นยกทุกอย่างให้ปราณนท์เพื่อจะจบเรื่องนี้ แต่แล้วศิวกรก็พาธาดาบุกเข้ามาในบ้านพร้อมหลักฐานมัดตัวปราณนท์และเดชาในข้อหาฉ้อโกงและฆาตกรรม ศิวกรเปิดเผยตัวจริงว่าเขาคือพี่ชายฝาแฝดของศิวัช และเขารู้แล้วว่าศิวัชทำเลวกับช่อแพรไว้มากแค่ไหน และตอนนี้เขาต้องการชดใช้ความผิดแทนน้องชาย เดชาฉวยโอกาสยิงฝ่าวงล้อมตำรวจพาปราณนท์หนี ปราณนท์ก็ใช้ดาวประดับเป็นตัวประกัน ดาวประดับพยายามเกลี้ยกล่อมพ่อให้มอบตัวแต่ไม่เป็นผล ปราณนท์เห็นท่าไม่รอดก็คิดจะยิงดาวประดับ ทันใดนั้นศิวกรก็กระโดดรับกระสุนแทนดาวประดับ ธาดาจึงได้รู้ว่าตอนนี้ทั้งศิวกรกับดาวประดับนั้นได้รักกันซะแล้ว โชคดีที่กระสุนของปราณนท์พลาดเป้า ธาดายิงสู้กับปราณนท์ ปราณนท์ถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ขา ส่วนเดชาก็ถูกวิสามัญฆาตกรรมหลังจากที่เขายิงผู้บริสุทธิ์จนได้รับบาดเจ็บไปหลายราย

ตำรวจเฝ้ารอปราณนท์ฟื้นขึ้นมาเพื่อสอบปากคำ แต่เมื่อเขาฟื้นขึ้นมาแล้วรู้ว่าตัวเองจะเดินไม่ได้อีกไปตลอดชั่วชีวิต ปราณนท์ก็ช็อกหมดสติไปในทันใด ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งเขาก็กลายเป็นคนเสียสติ สร้างความเศร้าใจให้กับช่อแพรและดาวประดับเป็นที่สุด

ศิวกร ดาวประดับ ช่อแพร สีดา ฉัตรชิตา เมฆ ไปงานศพของศิวัช ศิวกรขอโทษดาวประดับและช่อแพรที่น้องชายฝาแฝดของเขาคิดจะหลอกลวงเอาสมบัติ จนทำให้เรื่องลุกลามใหญ่โตแบบนี้ ช่อแพรขอโทษดาวประดับกับทุกสิ่งที่ผ่านมา เธอสารภาพกับหลานสาวอย่างไม่อายว่าเธอรักศิวัช แม้มันอาจจะเป็นไปไม่ได้ ดาวประดับตัดสินใจกลับไปเรียนต่อให้จบเพื่อกลับมาช่วยช่อแพรบริหารเขมวัฒน์ กรุ๊ป

แล้ววันที่ดาวประดับกลับถึงเมืองไทยพร้อมกับปริญญาโท สาขาการบริหารธุรกิจ ก็มาถึง ช่อแพรจึงให้ผู้จัดการฝ่ายการตลาดคนใหม่ไปรับดาวประดับแทน ดาวประดับแทบไม่เชื่อสายตาของตัวเองเมื่อคนที่มารับเธอคือ ศิวกร รักแรกและรักเดียวของเธอ ด้วยความน้อยใจที่ศิวกรไม่เคยติดต่อกับเธอเลย ดาวประดับจึงไม่อยากร่วมเดินทางไปกับชายหนุ่มที่ทำให้เธออ้างว้างและเดียวดายอยู่หลายปี เธอจึงเรียกใช้แท็กซี่ของสนามบินเพื่อเป็นการลงโทษเขา แต่ดาวประดับก็นั่งไปได้แค่ครึ่งทางเท่านั้น เพราะศิวกรจะไม่ยอมให้เธอทำโทษเขาอีกต่อไป ศิวกรตัดสินใจขับรถตัดหน้าแท็กซี่ของดาวประดับก่อนจะเดินลงจากรถไปอุ้มให้เธอมานั่งเคียงข้างเขาไปตลอดชั่วชีวิต ติดตามชมความสนุกเข้มข้นของละคร ตะวันอาบดาว ได้ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35 ละคร ตะวันอาบดาว เริ่มตอนแรกวันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม 2563

มัจจุราชฝึกหัด 2562

เรื่องย่อ : มัจจุราชฝึกหัด (2562/2019) “ท่านพญามัจจุราช” แห่งเมืองนรกยุค 2019 ที่ขึ้นชื่อว่า มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ล้ำยุค กว่าสวรรค์ซะอีก แต่ด้วยการที่ท่านพญามัจจุราชเริ่มแก่และไม่ค่อยทันยุคแล้ว จึงคิดที่อยากจะวางมือ ให้เด็กรุ่นใหม่ไฟแรง “มัจโจ” ลูกของตน ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งสืบต่อช่วงการครองบัลลังก์ ขณะนี้มัจโจมีอายุ 200 ปี ซึ่งถ้าเทียบกับโลกมนุษย์เท่ากับว่ามัจโจก็จะอายุ 20 ปี ส่วนท่านพญามัจจุราชอายุครบ 2,000 ปี มัจโจอ้างว่าตนยังไม่พร้อมที่จะรับตำแหน่งเพราะยังเด็กเกินไป ท่านพญามัจจุราชไม่สนคำอ้างของมัจโจและได้ดึงตัวมัจโจมาฝึกงานเพื่อเรียนรู้ก่อนที่จะขึ้นครองบัลลังก์ โดยมี “ สุวรรณ ” กับ “ สุวาลย์ ” ยมทูตคนสนิทซ้าย ขวาคอยเป็นพี่เลี้ยงสอนงานมัจโจ แต่มัจโจก็แอบอู้และแอบหนีเที่ยวตลอด ส่วนที่โลกมนุษย์ก็วุ่นวายไม่แพ้กัน เพราะในชุมชนรวยเลิศ “ ราณี ” เจ้าของชุมชนแห่งนี้ อยากจะขายที่ใจจะขาดเพราะอยากไปอยู่เมืองนอก แต่ติดที่ชื่อเจ้าของโดยแท้จริงคือ “ พิฑูรย์ ” สามีของตนที่ไม่อยากขาย และมักทะเลาะกันตลอดเวลา “ รวีวรรณ ” ลูกสาวคนสวยต้องคอยมาห้ามทัพอยู่ทุกครั้ง รวีวรรณมีดีกรีเป็นถึงดาวมหาลัยและเรียนเก่งอีกต่างหาก รวีวรรณเรียนอยู่คณะวิทยาศาสตร์จึงมักไม่ค่อยเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติเท่าไหร่ ที่บ้านหลังนี้ยังมี “แจ๋ว” สาวรับใช้คนสนิทของราณี ลูกคู่ชั้นดีที่คอยคิดแผนการบีบบังคับให้พวกชาวบ้านหาทางย้ายออกไปจากชุมชนรวยเลิศ และแล้วก็ถึงเวลาที่มัจโจต้องลงไปเรียนรู้การใช้ชีวิตที่โลกมนุษย์ แต่ท่านพญามัจจุราชไม่ได้ทิ้งให้มัจโจอยู่ที่โลกมนุษย์เพียงลำพัง ท่านพญามัจจุราชกล่าวกับมัจโจว่า “นี่คือบททดสอบของมัจโจที่จะต้องผ่านไปให้ได้ก่อนที่จะขึ้นครองบัลลังก์ เจ้าจะได้เจอ “มัจจา” พี่ชายต่างมารดาของเจ้า เขาจะคอยดูแลและเป็นพี่เลี้ยงให้กับเจ้าในโลกมนุษย์นี้” หลังจากพูดจบ ท่านพญามัจจุราชก็กลับไปในนรกทันที เหลือทิ้งไว้แต่ความสงสัยให้กับมัจโจ ขณะที่มัจโจกำลังเดินมึนงงกับโลกมนุษย์อยู่นั้น ก็เกือบจะมีเรื่องกับพ่อค้าขายปลา เพราะมัจโจเห็นปลานอนอยู่ในกาละมังแล้วรู้สึกสงสาร ก็เลยเอากาละมังนั้นไปเทลงคลองข้าง ๆ แผงขายปลา พ่อค้าปลาโวยวายจะเอาเรื่อง แต่ “ เวทิต ”เข้ามาช่วยไว้ได้ทัน ทำให้มัจโจ รอดไปได้อย่างหวุดหวิด เวทิตพามัจโจไปพักที่บ้านตนก่อน แท้จริงแล้วเวทิตก็คือมัจจา พี่ชายต่างมารดาของมัจโจที่พญามัจจุราชได้บอกไว้ สาเหตุที่มัจจาถูกส่งมายังโลกมนุษย์ก่อนก็เพื่อฝึกฝนให้มีความพร้อมที่จะปกป้องมัจโจได้ และเป็นแรงสนับสนุนช่วยให้มัจโจได้เป็นพญามัจจุราชในอนาคตนั่นเอง เวทิตบอกว่า นอกจากความสามารถในการมองเห็นวิญญาณที่มัจจุราชทุกคนต้องมีแล้ว มัจโจยังมีพลังพิเศษที่มากกว่าคนอื่นคือ การได้ยินเสียงความคิดของคนจากการได้สัมผัสตัว เวทิตย้ำว่า เรื่องสำคัญที่สุดในการมาโลกมนุษย์ครั้งนี้คือ มัจโจจะต้องเรียนรู้จิตใจของมนุษย์ หาสาเหตุว่าทำไมคนถึงทำดีกันน้อยลง ทำชั่วเยอะขึ้นจนขุมนรกจะแตกอยู่แล้ว และที่สำคัญคือ ต้องตามหาอัญมณีอเวจีที่หลุดหายไปจากยมโลก โดยมีเวทิตเป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลตลอดเวลาที่มัจโจอยู่บนโลกมนุษย์แห่งนี้ มัจโจถามว่าต้องอยู่ถึงเมื่อไหร่ แต่เวทิตเองก็ตอบไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะเสร็จสิ้นภารกิจนี้ ทำให้มัจโจเซ็งมากที่ต้องทำไปอย่างไม่รู้กำหนด แต่ก่อนอื่นมัจโจต้องเปลี่ยนชื่อก่อน เวทิตจึงตั้งชื่อในโลกมนุษย์ให้มัจโจว่า “โจ” วันที่สองของโลกมนุษย์ที่โจได้มาอยู่นั้น โจก็ได้พบกับรวีวรรณและตกหลุมรักในทันที เพราะตนไม่เคยพบมนุษย์ที่สวยตรงใจขนาดนี้มาก่อน โจจึงไปขอร้องให้เวทิตคอยช่วยตนจีบรวีวรรณ เวทิตเตือนว่าให้ทำใจไว้บ้าง เพราะความรักของพวกเรากับมนุษย์มันเป็นไปได้ยาก ถึงอย่างไร โจก็ยังชอบรวีวรรณอยู่ดี แต่ยังมีสิ่งที่มาขัดขวางความรักของโจอีก เพราะพิฑูรย์ได้หาคู่ไว้ให้รวีวรรณแล้ว นั่นก็คือ “ ก่อกุศล ” เจ้าของโชว์รูมรถเช่าชื่อดังไฟแรงเฟอร์ ที่มีพาวเวอร์รู้จักคนใหญ่คนโตมากมาย แถมยังนิสัยขี้โม้ ขี้เก๊กอีกต่างหาก จึงทำให้รวีวรรณไม่ชอบก่อกุศลอย่างแรง และพยายามหาทางหนีตลอดเวลาที่ก่อกุศลมาหา โดยมีตัวช่วยอย่าง “ โศรดา ” เพื่อนสาวที่เป็นยูทูปเปอร์คลิปล่าท้าผี คอยช่วยเหลือพาหนีตลอด แล้วโศรดาก็ต้องบังเอิญไปเจอเวทิตทุกครั้งที่มาหารวีวรรณ ซึ่งโศรดาเองก็ไม่ได้ชอบหน้าเวทิตสักเท่าไหร่นัก เพราะปากเวทิตค่อนข้างจะสุนัขไม่รับประทาน แต่ด้วยความที่เวทิตเป็นคนดี มีเมตตาชอบช่วยเหลือคนอื่น โดยบางทีก็ไม่ห่วงตัวเอง จากจุดนี้เองจึงทำให้โศรดาแอบหวั่นไหวอยู่บ้าง แต่คอยเตือนตัวเองเสมอว่าตนไม่มีทางชอบเวทิตเด็ดขาด ความสวยพราวเสน่ห์ของรวีวรรณยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ แต่ยังลามไปถึงแก๊งวินมอเตอร์ไซค์ประจำชุมชนอย่างวินรวยเลิศ ที่มีหัวหน้าวินคือ “ โหน่ง ” ซึ่งตกหลุมรักรวีวรรณอย่างหักปักหัวปำ และหวังที่จะเด็ดดอกฟ้ามาเชยชมให้จงได้ จึงพยายามไปเข้าหาทางผู้ใหญ่อย่างราณี เพราะโหน่งมีคติที่ว่า เข้าตามตรอก ออกตามประตู แล้วเนื้อคู่จะเข้ามาเอง แต่นอกจากจะไม่ได้ผลแล้ว ยังถูกราณีหลอกใช้ทำเรื่องเสีย ๆ หาย ๆ ให้กับชุมชนอยู่เสมออีกด้วย แต่โหน่งก็ไม่สน เพราะมีคติประจำใจอีกว่า น้ำหยดลงหินทุกวัน หินมันยังเปียก เฮ้ย...หินมันยังกร่อน!!! สักวันคุณนายราณีก็ต้องหันมาเห็นความดีกันบ้าง (แต่วันไหนถึงจะเห็นล่ะ) โหน่งมีลูกสมุนซ้ายขวาภายในวินที่พร้อมจะทำชั่วไปด้วยกันนั่นคือ “ เหน่ง ” กับ “ หน่อย ” ซึ่งทั้งสองคนไม่เพียงแต่เป็นลูกน้องที่มีลูกพี่คนเดียวกัน แต่ดันรักผู้หญิงคนเดียวกัน นั่นก็คือ โศรดานั่นเอง ทั้งคู่จึงมักทะเลาะกันเองอยู่บ่อย ๆ และทั้ง 3 คน ก็ไม่ถูกชะตากับโจลามไปถึงเวทิตด้วย เพราะเป็นศัตรูหัวใจกัน แต่ความวุ่นวายในชุมชนนี้ยังไม่หมด เพราะยังมี “ แดง ” แม่ค้าขายน้ำที่มีคำนำหน้าในบัตรประชาชนว่า “นาย” ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรในชุมชนเจ๊แดงรู้หมด แต่มักจะไม่เก็บไว้รู้คนเดียวซะด้วยสิ แดงรู้โลกก็รู้ เรื่องแดงแน่นอน!!! ด้วยความที่ชอบสอดรู้สอดเห็นของแดง จึงทำให้ “ สมชาย ” พ่อค้าขายอาหารตามสั่งไม่ค่อยชอบขี้หน้าสักเท่าไหร่ เพราะชอบมายุ่งเรื่องของตนเองด้วย จึงมีปากเสียงทะเลาะกันอยู่เป็นประจำ และคนที่ต้องมาคอยห้ามประจำเช่นกันก็คือ “ สมหญิง ” ลูกสาวสุดเซ็กซี่ ที่คอยขยี้ใจชายภายในชุมชน และเป็นคนเรียกลูกค้าชั้นดี จนเหมือนแทบจะแจกฟรียังไงยังงั้นก็ว่าได้ แต่สมหญิงไม่ค่อยชื่นชอบกับชื่อตัวเองเท่าไหร่ จึงมักให้ทุกคนเรียกว่า หญิงหญิง ซะมากกว่า และเมื่อหญิงหญิงได้พบกับโจ ก็ตกหลุมรักอย่างหัวปักหัวปำ ต้องจับมาทำสามีให้จงได้ ทำให้โจไม่ค่อยอยากจะผ่านร้านของหญิงหญิงสักเท่าไหร่เพราะกลัวโดนจับทำสามีนั่นเอง ยิ่งนานวันไปโจก็ยิ่งได้เรียนรู้มากขึ้น ได้ฝึกความเป็นผู้นำ การใช้สติเหตุผลมากกว่าการใช้กำลังเรียนรู้วิเคราะห์จิตใจมนุษย์ ไม่ตัดสินคนแต่เพียงภายนอกและด้านเดียว โจและเวทิตเริ่มทำงานเข้าขากันมากขึ้น พร้อมทั้งยังเรียนรู้สั่งสมประสบการณ์ไปพร้อม ๆ กัน นอกจากความก้าวหน้าในเรื่องภารกิจแล้ว เรื่องความรักก็ไม่น้อยหน้า หลายครั้งรวีวรรณและโศรดาก็จับพลัดจับผลูเข้าไปร่วมภารกิจกับโจและเวทิตซะอย่างนั้น จากที่รวีวรรณไม่เคยเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติมาก่อน ก็เริ่มไม่แน่ใจ เพราะเจอกับตัวเองเต็ม ๆ เจอวิญญาณครั้งแรกถึงกับลมจับ กลับบ้านแทบไม่ถูก แต่โจก็คอยดูแลอยู่ไม่ห่าง จึงทำให้รวีวรรณแอบหวั่นไหวภายในใจอยู่บ้าง ผิดกับโศรดาที่ชื่นชอบกับการได้เจอวิญญาณ และมุ่งมั่นจะถ่ายคลิปไปโพสต์ลงช่องยูทูปของตัวเอง โศรดาจึงชอบลากรวีวรรณมาตามติดเวทิตและโจอยู่บ่อย ๆ ยิ่งอยู่ใกล้กันเท่าไหร่ โจก็ยิ่งหลงรักรวีวรรณมากขึ้นเท่านั้น แต่ติดตรงที่ทั้งคู่อยู่ต่างภพจึงดูไม่มีทางไหนที่จะสมหวังเอาซะเลย ซึ่งก็ไม่ต่างจากคู่ของเวทิตกับโศรดา ถึงแม้ปากจะไม่ตรงกับใจ แต่ใครจะไปคิดว่าลึก ๆ แล้ว ทั้งคู่ก็ต่างมีใจให้กันนั่นแหละ แต่ปากแข็ง!!! และแล้วในที่สุด ท่านพญามัจจุราชก็เห็นว่ามัจโจน่าจะพร้อมขึ้นรับตำแหน่งแล้ว มัจโจได้ทำภารกิจสะสมบารมี ฝึกความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และที่สำคัญฝึกความเป็นมัจจุราชที่ดี ไม่ใช้แต่อำนาจ แต่ใช้ใจในการบริหารดูแล แต่มัจโจกลับรู้สึกเสียใจมากและไม่อยากกลับไปเป็นพญามัจจุราช เพราะตนรักรวีวรรณไปหมดหัวใจซะแล้ว แต่ความรักของทั้งสองคนไม่มีทางเป็นไปได้ เช่นเดียวกับมัจจาที่ต้องกลับไปคอยช่วยดูแลมัจโจที่ยมโลก ซึ่งตนก็หลงรักโศรดาไปแล้วเช่นกัน แต่ถึงยังไงมัจโจกับมัจจาก็ต้องกลับไปทำหน้าที่อยู่ดี โดยมัจโจกลับไปรับตำแหน่งพญามัจจุราช โดยมีมัจจาคอยเป็นที่ปรึกษาและเฝ้ามองรวีวรรณกับโศรดาอย่างเป็นห่วงอยู่ไกล ๆ ที่ยมโลก โดยหวังว่าสักวันหนึ่งคงได้พบกันเหมือนเช่นตอนที่ทั้งคู่ยังเป็น...มัจจุราชฝึกหัด

ปิศาจหรรษา 2562

เรื่องย่อ : ปิศาจหรรษา (2562/2019) เพราะความผิดพลาดทำให้วิญญาณ ปราชญ์ (ชวินทร์วุฒิ ก้องธรนินทร์) ผู้บริหารรุ่นใหม่ดาวรุ่งพุ่งแรง ชายในฝันของหญิงสาวหลายคน แต่สาวผู้โชคดีที่ได้ครอบครองหัวใจของเขาคือ มณฑิชา หรือ เอ๋ (ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ) ซึ่งในคืนที่ปราชญ์ตั้งใจจะขอเอ๋แต่งงาน เขาประสบอุบัติเหตุอย่างไม่คาดฝันวิญญาณออกจากร่างก่อนสิ้นอายุขัย ยมทูตจึงให้เขาอาศัยร่างใหม่ของ อภิรมย์ (จุติ จำเริญเกตุประทีป) เกย์หนุ่มทายาทเศรษฐีลูกชายคนเล็กของ บุหรง (รชยา รักกสิกรณ์) เศรษฐีนีสาวใหญ่เจ้าของโรงแรมหรู The Palace ที่เพิ่งเสียชีวิตเพราะกินยานอนหลับเกินขนาด

แต่การกลับมาครั้งนี้ต้องแลกกับการทำภารกิจตามหาดวงวิญญาณที่สำคัญที่สุดให้ทันตามกำหนด ซึ่งเมื่อกบฟื้นขึ้นมา กบขอบุหรงไปทำงานที่โรงแรม The Palace ในตำแหน่งพนักงานเสิร์ฟ โดยอ้างว่าอยากจะเรียนรู้งาน เพื่อให้พร้อมสำหรับการสืบทอดกิจการ แต่ที่จริงแล้วกบตั้งใจใช้โอกาสนี้สืบหาดวงวิญญาณที่ต้องช่วยเหลือตามเงื่อนไขของยมบาลนั่นเอง

โดยระหว่างที่เขาเริ่มสืบหาวิญญาณที่ได้รับมอบหมาย เขายังต้องผจญกับเหล่าวิญญาณ ที่มาขอความช่วยเหลือแล้ว เขายังต้องตามแก้ไขปัญหาให้อภิรมย์ ถึงแม้ปราชญ์ในร่างกบจะสนุกกับการทำงานที่โรงแรม แต่เขายังคงระลึกถึงครอบครัวเก่าจึงแอบแวะไปเยี่ยม โดยแนะนำตัวเองว่ากบเป็นเพื่อนสนิทต่างวัยของปราชญ์ กบกลายเป็นที่รักของ คุณหญิงศรีสมร (นัฎฐา ลอยด์) แม่ของปราชญ์และ ปวิดา (ภัณฑิรา พิพิธยากร) น้องสาวอย่างรวดเร็ว คุณหญิงศรีสมรถูกชะตา และคิดว่ากบกับปราชญ์มีความคล้ายคลึงกันอย่างบอกไม่ถูก ปวิดาเองก็รู้สึกชื่นชอบเขาเกินกว่าฐานะเพื่อนของพี่ชาย มีเพียง ปรมินทร์ (พสธร ทรงถาวรทวี) น้องชายที่รู้สึกชังขี้หน้าของกบอย่างบอกไม่ถูก

กบต้องรับมือกับปัญหารอบด้านมากมาย ยังดีที่มีกำลังใจจาก บังอร (คริษฐา สังสะโอภาส) สาวสวยสู้ชีวิตที่ทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดู มานะ (วีระชัย หัตถ์โกวิท) ผู้เป็นพ่อที่สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง กับ อุไร (กัญญกร พินิจ) พี่สาวที่กำลังท้องแก่ทำงานไม่ได้ แม้กบกับบังอรจะเป็นคู่ปรับกันในครั้งแรกที่เจอ แต่กบได้ใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองกับบังอรและ ป๋อง (ณัฐพล ไรยวงค์) พนักงานเสิร์ฟประจำ Coffee Shop จนได้รับการยอมรับ มิตรภาพ และเรื่องราวต่าง ๆ กำลังดำเนินไปได้ด้วยดี แต่ภารกิจการช่วยเหลือดวงวิญญาณครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ หรือเขาจะต้องจากไปจริง ๆ ร่วมเป็นกำลังใจให้กับ อภิรมย์ ในละคร ปิศาจหรรษา

รักสุดปลายนวม 2561

เรื่องย่อ : รักสุดปลายนวม (2561/2018) เฉิน (ตากเพชร เลขาวิจิตร) ลูกชาย อาซู (กัณพล ปรีดามาโนช) ผู้ทำหน้าที่ดูแลศาลเจ้าเหลียงซัน ศาลเจ้าประจำตำบลของตลาดเก่าแห่งหนึ่ง เฉินมีความฝันอยากเป็นดาราดังเหมือนกระด้ง...ดาราไทยที่มีชื่อเสียงที่ฮอลลีวูด แต่อาซูไม่เห็นด้วย เพราะต้องการให้เฉินสืบทอดการเป็นพ่อบ้านดูแลศาลเจ้า เฉินมีเพื่อนสนิทชื่อ ปอ (บัณฑวิช ตระกูลพานิชย์) ผู้มีงานประจำคือ ขี่มอเตอร์ไซค์วิน ปอชอบยกล้อจนผู้โดยสารหงายหลังตกมอเตอร์ไซค์มาแล้วหลายคน ทำให้ ยายปั่น (จอย ชวนชื่น) แม่ครัวโรงเจศาลเจ้าเหลียงซัน แม่ของปอ ดุตลอด ในตำบลนี้มี ค่ายมวย ส.จีราวรรณ ซึ่งมี 2 พ่อลูกคนเก่ง สมศักดิ์ (สมรักษ์ คำสิงห์) พ่อของ พริก (จาด้า อินโตร์เร) สาวน้อยที่เผ็ดสมกับชื่อเป็นเจ้าของ แม่พริกเสียชีวิตตั้งแต่พริกยังเด็ก ค่ายมวยนี้มี ค่อม (สกลรัฐ พันเทศ) หรือ ค่อมน้อย หมัดเดียว เป็นนักมวยในค่าย สมศักดิ์ไม่ค่อยลงรอยกับอาซู เพราะมีเรื่องเข้าใจผิดกันในอดีต แต่ความไม่ลงรอยของผู้ใหญ่ไม่เกี่ยวกับพริกและเฉิน ทั้งสองเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก เพราะเฉินชอบไปลองวิชาหมัดเมาที่ค่ายมวยของพริก ความใกล้ชิดตั้งแต่เด็กทำให้พริกแอบชอบเฉินอย่างไม่รู้ตัว แต่เฉินมีความมุ่งมั่นจะเป็นนักแสดงจึงไม่สนใจเรื่องความรัก พริกได้แต่เก็บความรู้สึกไว้ในใจ พริกมีเพื่อนสนิทชื่อ เกด (ภัทรานิษฐ์ คำกำพุด) ครูสาวฝึกหัดที่ไม่ค่อยทันคน ทั้งคู่ชอบไปไหนด้วยกันเพราะพริกเห็นว่าเกดไม่ค่อยทันคน จนคนคิดว่าทั้งคู่เป็นคู่จิ้นประจำตำบล วันหนึ่ง คุณนายสายหยุด (โซเฟีย ลา) เจ้าของตลาด จะมาว่าจ้างคณะเชิดสิงโตที่ศาลเจ้าเหลียงซัน เพื่อไปแสดงต้อนรับ อรชร (ภัทรานิษฐ์ วิริยะบำรุงกิจ) ลูกสาวที่กำลังจะเดินทางกลับจากต่างประเทศ ยังไม่ทันที่เฉินจะปฏิเสธ อรชรก็โผล่มาเซอร์ไพรส์ เฉินตกหลุมรักอรชรตั้งแต่แรกเห็น เมื่อ เดี่ยว (นิธิศ วงศ์เหรียญไทย) ลูกชายคนเดียวของ นายดูด (วีระชัย หัตถโกวิท) หรือ พ่อดูด...ผู้กว้างขวางประจำตำบล รู้ว่าอรชรเดินทางกลับมาก็ดีใจ เพราะเดี่ยวเคยแอบหลงรักอรชรตั้งแต่ก่อนที่เธอจะบินไปเรียนต่อที่เมืองนอก เฉินแอบเศร้าเมื่อรู้ว่าเดี่ยวเองก็ชอบอรชร พริกได้แต่ให้กำลังใจช่วยเฉินวางแผนจีบอรชร แต่ดูเหมือนว่าอุปสรรคที่สำคัญของเฉินคือ ความฝันของอรชรที่ต้องการเป็นนักแสดง ทำให้เฉินตาสว่างกลับมาทำตามความฝันของตัวเองคือ การเป็นดาราไทยคนที่สองที่ไปดังที่ฮอลลีวูด เหตุนี้จึงทำให้พริกกลับมาร่าเริงอีกครั้ง วันหนึ่งเฉินดีใจมาก เมื่อพริกเอาใบประกาศรับสมัครชายหนุ่มที่สามารถบู๊ได้มาให้ ขณะเดียวกันดูดพยายามกว้านซื้อศาลเจ้ากับค่ายมวย เพราะเขาได้ยินว่าที่ดินของชุมชนแห่งนี้มีสายแร่ทองคำอยู่ และที่ที่คาดว่าจะเป็นบ่อทองก็อยู่บริเวณศาลเจ้าของเฉินนั่นเอง ดูดและเดี่ยววางแผนฮุบที่ดินของศาลเจ้า โดยการยืมมือของสมศักดิ์เพราะเขารู้ว่าทั้งสองบ้านไม่ถูกกัน ทั้งอาซูและสมศักดิ์เดินเข้าแผนของดูดกับเดี่ยว เดือดร้อนถึงเฉินกับพริก ทั้งสองคิดว่าต้องมีใครวางแผนสร้างความร้าวฉานให้แน่ ๆ แต่เฉินและพริกต้องพักเรื่องการป่วนของสองพ่อเอาไว้ก่อน เพราะพรุ่งนี้ถึงวันประกวดแอ็คชั่นโมเดล ซึ่งในวันประกวดเฉินได้เจอกับอรชรและเดี่ยวที่มาคัดเลือกด้วย ผลการตัดสินปรากฏว่า เฉินชนะเลิศการประกวดได้เป็นแอ็คชั่นไอดอลของเมืองไทย โดยเฉินได้สิทธิ์ในการคัดเลือกนางเอกเพื่อร่วมเล่นหนังที่กำลังจะถ่ายทำ การชนะของเฉินทำให้อรชรวิ่งกลับเข้าหาเฉิน เดี่ยวจึงคิดวางแผนการบางอย่างเพื่อกำจัดเฉินและครอบครองศาลเจ้าที่อาซู พ่อของเฉิน ดูแล เฉินจะเลือกใครมาเป็นนางเอกแสดงคู่กับเขา และพริกจะได้เปิดเผยความรู้สึกที่มีต่อเฉินหรือไม่ ความรักสุดปลายนวมของ เฉิน-พริก จะลงเอยอย่างไร เป็นกำลังใจให้เขาทั้งคู่ได้ในละคร รักสุดปลายนวม ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และ Facebook Live Fanpage : Ch7HD หรือรับชมย้อนหลังได้ทาง BUGABOO.TV ละคร รักสุดปลายนวม เริ่มตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน 2561

ทายาททองหยิบ 2561

เรื่องย่อ : ทายาททองหยิบ (2561/2018) เสือ พ่อค้าออนไลน์หนุ่มผู้มีชื่อเสียงในโลกโซเชียลกับการหยิบจับสิ่งต่างๆ ตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ มาขายผ่านทั้งทางเพจหรือการไลฟ์สด การค้าของเขาไปได้ดีขึ้นทุกวันจนเขาคิดการณ์ใหญ่จะกู้เงินเพื่อนำสินค้าล็อตใหญ่จากเมืองจีนเข้ามาขาย ซึ่งถ้าทำสำเร็จ เขาวางแผนไว้ว่าจะขอน้อง หมวยลี่ แฟนสาวเน็ตไอดอลของเขาแต่งงาน ทุกอย่างเหมือนจะไปได้ด้วยดี จนกระทั่งถึงเวลาต้องไปจ่ายเงินค่าของ แต่เงินที่เตรียมไว้กลับอันตรธานหายไปพร้อม ๆ กับน้องหมวยลี่และหนุ่มล่ำขี่บิ๊กไบค์...คนนั้น...คนที่เธอเคยบอกว่าเป็นแค่เพื่อนค่ะ พี่เสือ... จากที่เคยมีทุกอย่าง กลับกลายเป็นไม่เหลืออะไรเลย แถมติดหนี้แบบสุดๆ เสือต้องหนีเจ้าหนี้หัวซุกหัวซุนเปลี่ยนที่นอนไปเรื่อย จนไปขออาศัยอยู่ที่คอนโดของ ศักดา พนักงานธนาคารสุดเนิร์ดผู้ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขาตั้งแต่สมัยเรียน กระทั่งวันหนึ่งเสือได้รับโทรศัพท์เบอร์แปลก ตอนแรกก็นึกว่าเป็นเจ้าหนี้ว่าจะไม่รับ แต่อีกฝั่งก็กระหน่ำโทรจนเขากดรับสายจนได้ กลายเป็นว่าปลายสายนั้นไม่ใช่เจ้าหนี้ แต่เป็นทนายความของยายสารภี ญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวของเขาซึ่งเพิ่งเสียชีวิตไป ความทรงจำที่เสือมีต่อยายนั้นลางเลือน จำได้เพียงว่ายายทำขนมทองหยิบอร่อยมากเท่านั้นเอง โดยทนายบอกว่าเขาเป็นผู้ได้รับมรดกเป็นตึกแถวร้านขนมที่อยู่ชานเมืองพร้อมทั้งทรัพย์สินเป็น เงินสดในบัญชีอีกกว่าสิบล้าน เขาดีใจมากและตั้งใจจะขายร้านเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ให้ได้ ต่อไปนี้จะได้ ไม่ต้องหนีเจ้าหนี้อีกต่อไป ความหวังของเขาลุกโชนขึ้นทันที แต่เรื่องของเรื่องมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เมื่อเขาไปถึงร้านขนมของยาย กลับได้พบ หนูพุก ซึ่งเป็น คนสนิทของยายดูแลร้านอยู่ ทั้งสองกัดกันทันทีตั้งแต่แรกพบ ด้วยหนูพุกเข้าใจผิดว่าเขาเป็นคนที่พวกนายหน้าค้าที่ส่งมาป่วนเพื่อหวังจะกว้านซื้อที่แถวนี้ ส่วนเขาก็เข้าใจผิดว่าเธอเป็นเด็กในร้านที่คิดจะฮุบร้านเอาไว้เอง ทั้งสองเถียงกันอยู่นานจนทนายโทรมาแจ้งความจริงกับหนูพุก เธอตกใจมากที่รู้ว่าคนหน้าเงินอย่างเสือเป็นทายาทของคุณยายจริงๆ แต่ที่ร้ายไปกว่านั้นคือเขามีแผนจะขายร้านทิ้งด้วย! หนูพุกพยายามเกลี้ยกล่อมให้เขาสืบทอดกิจการต่อไปเพราะขนมทองหยิบทองหยอดของคุณยายนั้นเป็นสูตรโบราณ ใส่ใจทุกรายละเอียดขั้นตอน แต่เขาไม่ฟังยืนยันจะขายร้านให้ได้พร้อมทั้งไล่เธอกับ จุ๋มจิ๋มและต๊อกแต๊ก ลูกจ้างสองคนให้รีบไปหาที่อยู่ใหม่ หนูพุกสะเทือนใจมากที่ทายาทของยายสารภีไม่ใส่ใจสืบทอดร้านแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเก็บข้าวของแล้วย้ายออก เสือดีใจที่กำจัดเสี้ยนหนามไปให้พ้นหูพ้นตาได้ แต่ก็ต้องช็อคอีกระลอก เมื่อทนายความเปิดพินัยกรรมของคุณยายสารภีของเขาและบอกเอาไว้ชัดเจนว่า ต้องให้เสือรับช่วงต่อกิจการร้านขนมให้ครบหนึ่งปีถึงจะได้กรรมสิทธิ์ขาด รวมถึงมีเงื่อนไขต้องทำให้ร้านไม่ขาดทุนติดต่อกันสามเดือนอีกด้วย ถ้าเสือทำไม่ได้ เขาจะไม่ได้อะไรเลยสักแดงเดียว! เจอแบบนี้เสือเลยต้องกลายเป็นแมวหงอยคอยตามตื้อ หนูพุก ให้กลับมาช่วยงานที่ร้าน ส่วนหนูพุกได้ทีเล่นตัวไม่ยอมช่วย เสือง้อแล้วก็ง้ออีกแต่ก็ไม่เป็นผลจนโมโหบอกว่าไม่ง้อก็ได้ เสือกลับมาที่ร้านลองทำขนมด้วยตัวเองโดยดูวิธีการจากยูทูป และผลลัพธ์ก็เป็นที่น่าประทับใจมาก แม้แต่สุนัขยังไม่รับประทาน เสือจึงต้องกลับไปง้อหนูพุกอีกครั้ง ร้องขอความเห็นใจสงสารว่าถ้าเขาไม่ได้ร้านและทรัพย์สินมรดกจะต้องโดนเจ้าหนี้เล่นงานแน่ หนูพุกเริ่มใจอ่อน แต่ก็ยื่นเงื่อนไขว่าจะให้เธอกลับไปช่วยก็ได้ เมื่อครบหนึ่งปีแล้วเขาต้องยกแบรนด์ขนมและสูตรขนมให้กับเธอทั้งหมดเพราะไม่อยากให้แบรนด์คุณยายสูญหายไป ส่วนระหว่างนี้เขาต้องมาเป็นลูกมือของเธอ เสือไม่มีทางเลือกนอกจากตอบตกลง ร้านขนมกลับมาเปิดบริการอีกครั้ง โดยมีหนูพุกเป็นคนทำขนม ส่วนเสือก็กลายเป็นลูกมือของเธออีกคนนอกจากจุ๋มจิ๋มและต๊อกแต๊ก โดยเสือโดนหนูพุกโขกสับเป็นพิเศษ ด้วยความหมั่นไส้และเสือก็ทำอะไรไม่ได้เสียด้วย ส่วนคนในชุมชนเมื่อได้ยินว่า หลานยายสารภีมารับช่วงต่อร้านขนม ก็แวะเวียนกันมาเยี่ยมเยียน ทั้ง เจ๊แหม่ม สาวใหญ่สุดเปรี้ยวเจ้าของร้านชำ ซึ่งเป็นร้านที่ขายวัตถุดิบทำขนมให้ด้วย ลุงผวนและไมเคิล คู่ลุงหลานต่างวัยซึ่งเป็นวินมอเตอร์ไซค์เพียงสองคันที่ชุมชนมี เฮียอ๋าเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวขี้งก กับ เบลล่าลูกสาวสุดเอ็กซ์ที่เกิดมาติดใจเสือเข้าเสียอย่างนั้น อย่างไรก็ตามการที่มีสาวเอ็กซ์อย่างเบลล่ามาทอดสะพาน ก็ไม่ทำให้เสือหวั่นไหว เพราะเขาเห็นเธอเป็นแค่น้องสาว และที่สำคัญเขายังไม่ลืมหมวยลี่ คนรักเก่าที่เขายังทั้งรักทั้งแค้นอยู่ แต่การที่เบลล่ามาชอบเขานั้นทำให้ ไมเคิล หนุ่มวินมอเตอร์ไซค์ผู้บูชาเธอดั่งนางฟ้าเกิดเขม่นเสือขึ้นมา เห็นเป็นศัตรูหัวใจ แถมเพื่อนรักของเสืออย่างศักดา ยังมาแสดงทีท่าขายขนมจีบเบลล่าอีกคน แต่ไมเคิลก็เขม่นเสือแค่เรื่อง เบลล่าเท่านั้น เพราะลึกๆ แล้วไมเคิลนับถือที่เสือเป็นคนที่มีความคิดอ่านหลักแหลม และมีความสามารถ เวลามีปัญหาเกิดขึ้นในชุมชนทั้งคู่จึงมองข้ามเรื่องผู้หญิงและจับมือกันแก้ปัญหาได้อยู่เรื่อย กิจการร้านขนมไปได้ดี พร้อมๆ กับการที่เสือได้โอกาสทำความรู้จักกับคุณยายที่เสียไปมากขึ้น หนูพุกเล่าให้ฟังว่าแต่เดิมคุณยายเป็นเจ้าของที่ดินส่วนใหญ่แถวนี้ แต่ก็ขายให้ชาวบ้านไปหมดในราคาถูกๆเพื่ออยู่อาศัยและทำมาหากิน คนในชุมชนแถวนี้จึงรักและเคารพคุณยายสารภีมาก และมักจะมาอุดหนุนขนมของคุณยายเสมอ แต่ไม่ใช่กับกำนันหมู และ ผู้ใหญ่มา สองพี่น้องซึ่งเป็นผู้ทรงอิทธิพลประจำชุมชนที่มักจะปรากฏตัวพร้อมลูกน้องอีกสองคนคือ กา และ ไก่ จนชาวบ้านมักแอบเรียกลับหลังว่า แก๊งหมูหมากาไก่ กำนันหมูและผู้ใหญ่มาหวังจะกว้านซื้อที่ดินแถวนี้ไปขายนายทุน ทั้งสองทั้งเกลี้ยกล่อมทั้งข่มขู่ชาวบ้านให้ยอมขายที่ แต่ก็ได้ผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเพราะชาวบ้านยังคงหวงแหนในที่ทำกินตัวเองอยู่มาก เสือได้ฟังดังนั้นก็แอบคิดว่าเมื่อถึงเวลาครบหนึ่งปี เขาจะเอาร้านไปประเคนขายให้ทันที แต่เหมือนหนูพุกจะรู้ทันแอบดักคอเสือว่า ที่ดินตกทอดจากบรรพบุรุษคงมีแต่ลูกหลานเนรคุณเท่านั้นที่จะขาย เสือสะอึกเพราะรู้ว่าโดนหลอกด่า แต่ไปๆ มาๆ เขาก็เริ่มรู้สึกว่าหนูพุกเป็นผู้หญิงน่ารักอยู่เหมือนกัน ถึงจะดูแข็งๆ แต่จริงๆ เป็นคนอ่อนโยน แถมยังมีดีกรีไม่ธรรมดา เพราะจบคณะคหกรรมศาสตร์ และกำลังต่อโทด้านวิทยาศาสตร์อาหารด้วย เธอเข้ามาอยู่กับคุณยายเพราะอยากเรียนการทำขนม ซึ่งยายก็ยินดีรับไว้และถ่ายทอดวิชาให้เธออย่างหมดเปลือก ถึงแม้ว่าเสือจะไม่เอาอ่าวกับการทำขนมเอาเสียเลย แต่เขาก็มีสกิลทางด้านโซเชียลพอสมควรจนจับจุดได้ว่าถ้าลองโปรโมทร้านผ่านช่องทางนี้น่าจะดี เขาจึงลองไลฟ์ช่วงที่หนูพุกทำขนม ทั้งลีลาและวัตถุดิบที่สวยงามขึ้นกล้อง บวกกับความเก๋าเกมทางโซเชียลของเสือ ทำให้ผู้คนเริ่มหลั่งไหลมาอุดหนุน ยอดขายพุ่งกระฉูดเสียจนทำขนมแทบไม่ทัน แต่ทว่าการเปิดหน้าของเขาลงสื่อออนไลน์ไม่ได้ดึงดูดแค่ลูกค้าอย่างเดียว ยังดึงดูดเจ้าหนี้เก่ามาด้วย เมื่อหนีไปไหนไม่รอด เสือจึงต้องขอต่อรองผ่อนจ่ายหนี้เป็นเดือนๆ โดยหักจากรายได้ของร้านขนม หนูพุกหัวเสียมากที่จู่ๆ ก็ต้องมาหักรายได้ใช้หนี้แทนที่จะได้มาปรับปรุงร้าน แต่อีกด้านหนึ่งเธอก็เริ่มเห็นด้านดีๆ ของเสือมากขึ้นว่าอย่างน้อยเขาก็ไม่ได้เหลวไหลไปวันๆ กลับพยายามใช้ความสามารถตัวเองเพื่อช่วยเหลือร้านให้ดีขึ้น ความสัมพันธ์ของเสือกับหนูพุกค่อยๆ ดีขึ้นในลักษณะคู่กัดคู่หยอก เขาเริ่มพัฒนาฝีมือการทำขนมจนพอทำได้บ้างแล้ว แต่ในขณะที่ทุกอย่างไปได้ดี วันหนึ่งน้องหมวยลี่ตัวดีก็กลับมาหาเขา เพราะแอบสืบรู้ว่าเขาได้มรดกก้อนโต หมวยลี่ทั้งมาออดอ้อนขอให้เสือให้อภัย บอกว่าเธอไม่ได้ตั้งใจเชิดเงินเขาไปแต่ไอ้หนุ่มบิ๊กไบค์คนนั้นต่างหาก ที่หลอกลวงเธอให้ทำแบบนั้น นอกจากเรื่องรักเก่าวุ่นๆ จะกลับมาป่วนใจอีกรอบ แผนการฮุบที่ดินส่งนายทุนของ กำนันหมูกับผู้ใหญ่มา สองพี่น้องผู้ชั่วช้าก็ทวีความรุนแรงขึ้น ขนแผนสกปรกทุกวิถีทางมาบีบให้ชาวบ้าน รวมทั้งเสือขายที่ให้เพราะนายทุนเร่งมาแล้วว่าให้จัดการให้เสร็จโดยไว ชะตากรรมของร้านและชุมชนนี้จะเป็นอย่างไร?

พันธกานต์รัก 2561

เรื่องย่อ : พันธกานต์รัก (2561/2018) ทายาทเศรษฐีหนุ่มผู้เอาแต่ใจ และโหยหาความรักจากพ่อ กับหญิงสาวที่อยู่ในอุปการะของแม่เลี้ยงผู้เป็นศัตรูของเขา เขาจึงพยายามกลั่นแกล้งเธอต่างๆ นานา แต่กลายเป็นว่า นับวันเขากลับยิ่งหลงรักและขาดเธอไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดี เพื่อทำให้ทุกคนโดยเฉพาะพ่อของเขายอมรับ และเพื่อให้เขามีเธอเคียงข้างตลอดไป (ที่มา : inter.bugaboo.tv)

หวานใจนายหุ่นยนต์ 2560

เรื่องย่อ : หวานใจนายหุ่นยนต์ (2560/2017) “ เมื่อหุ่นยนต์ที่เป็นผลงานชิ้นโบแดงสัญชาติเกาหลีดันเครื่องรวนก่อนวันที่จะมาเมืองไทยเพียงวันเดียว หนุ่มน้อยผู้เป็นรองประธานบริษัทจึงต้องปลอมตัวเป็นหุ่นยนต์ แต่ปัญหาไม่จบแค่นั้นเพราะพ่อหุ่นจำแลงของเราต้องมาอยู่กับครูสาวที่เกลียดเทคโนโลยียิ่งกว่าอะไร เรื่องวุ่นๆก็เลยเกิดเมื่อหัวใจของเธอดันไปรักกับหุ่นยนต์จำแลงเข้าเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ” ปรียา หรือ เปรี้ยว...ครูสาว จากโรงเรียนหนองมะเดื่อวิทยาผู้มีอุดมการณ์และ รักความเป็นไทยอย่างแรงกล้า จนได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนจากประเทศไทยมาที่เกาหลี เพื่อดูงานและเทคโนโลยีจากการร่วมทุนระหว่างรัฐบาลไทยกับบริษัท DAI ผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในเกาหลี ณ ขณะนี้ แม้ว่าเปรี้ยวจะไม่เห็นด้วย เพราะขึ้นชื่อว่าการสอนนั้นต้องมาพร้อมกับความรัก และเธอเชื่อว่าหุ่นยนต์ที่ไม่มีชีวิตและจิตใจจะมาทำหน้าที่นี้ได้ดีกว่าคนได้ยังไง แต่ในเมื่อทุกคนเห็นว่ามันเป็นอนาคตของเด็กๆ เธอจึงลองเปิดใจดู แต่ก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้เมื่อเปรี้ยวมาถึงเกาหลีเพียงไม่นาน ด้วยความที่ค่าครองชีพที่สูงกว่าประเทศไทย เธอจึงคิดจะประหยัดงบของประเทศให้ได้มากที่สุด และเมื่อเห็นว่าทางไปโรงแรมไม่ไกลมากนัก เปรี้ยวตัดสินใจเดินเท้าไปยังโรงแรม แต่ด้วยความไกลหรือไม่แน่ใจว่ามาถูกทางหรือไม่ เพราะเดินไปเท่าไหร่ก็ยังไม่เห็นจุดหมายสักที เปรี้ยวตัดสินใจนั่งพักบนกระเป๋าของเธอ ก่อนจะลุกขึ้นใช้ความพยายามอีกเฮือกเพื่อเดินหาโรงแรม แต่ทันใดนั้นกระเป๋าเจ้ากรรมดันไหลเข้ามากระแทกเธอเข้าจังเบ้อเร่อ ก่อนจะเห็นชายคนหนึ่งวิ่งตามเข้ามาแย่งกระเป๋า เปรี้ยวเห็นท่าทางชายคนนั้นท่าทางมีพิรุธจึงแย่งกระเป๋าไว้ จึงเกิดการยื้อยุดกระเป๋ากัน แต่แล้วก็ไปโดนปุ่มเปิดกระเป๋าเข้า ทำให้กระเป๋ากระเด้งหลุดตกกระแทกกับพื้นจนเผยให้เห็นว่าสิ่งที่อยู่ภายในกระเป๋านิรภัยนั่นก็คือ หัวของมนุษย์ !!! เปรี้ยวถึงกับหน้าซีดเผือดนี่เธอต้องมาเจอกับเหตุการณ์วุ่นวายอะไรอย่างนี้ ทำไมเธอต้องมาเจอกับไอ้ฆาตกรหั่นศพในเกาหลีด้วย เปรี้ยวพยายามวิ่งหนีด้วยความกลัวถูกฆ่าปิดปาก แต่ทันใดนั้นชายคนนั้นก็หันมาจะเอาเรื่องเปรี้ยวให้ได้ เร็วเท่าความคิดเปรี้ยวรีบวิ่งหนีทันทีพร้อมร้องให้คนช่วยอย่างไม่คิดชีวิต การไล่ล่าระหว่างเธอกับเจ้าฆาตกรโรคจิต (ที่เธอคิดไปเอง) จึงเริ่มขึ้น เปรี้ยวที่วิ่งไม่ทันระวังก็สะดุดล้มลง ทันใดนั้นชายคนนั้นก็เข้ามาทันแล้วจับเปรี้ยวไว้ เปรี้ยวจึงร้อขอความช่วยเหลือขึ้นด้วยความกลัวจนสุดเสียง แต่โชคยังดีที่ตำรวจได้ยินเสียงของเธอเข้าจึงช่วยไว้ได้ทัน ตำรวจสั่งให้ชายคนนั้นยกมือขึ้น ทันทีที่ชายคนนั้นเผลอหันมองตามเสียงตำรวจ เปรี้ยวสบโอกาสจึงกัดเข้ากับมือของชายคนนั้นอย่างจัง แล้วชี้ตัวกับตำรวจว่าชายคนนั้นคือฆาตกร ตำรวจไม่รอช้า เข้ารวบตัวชายคนนั้นทันที เปรี้ยวจึงรอดพ้นจากเจ้าฆาตกรโรคจิตได้อย่างหวุดหวิด เปรี้ยวรีบบอกกับตำรวจว่าในกระเป๋าเสื้อผ้าใบนั้นมีหัวของมนุษย์อยู่ และนั่นทำให้ชายต้องสงสัยคนนั้นจึงถูกจับทันที เปรี้ยวถึงโรงแรมหายจากความตระหนกก็รีบโทรกลับไปเล่าวีรกรรมให้คนที่เมืองไทยฟังอย่างภาคภูมิใจ โดยไม่รู้เลยว่าเรื่องวุ่นๆกำลังจะเกิดขึ้นเพราะชายต้องสงสัยที่เธอคิดว่าเป็นฆาตกรโรคจิตนั่น แท้ที่จริงเขาคือ ปาร์คจีซุน (แปลว่า..ชายผู้มีชีวิตชีวา) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ของ ปาร์ควังชอง (ผู้มีความพากเพียร) ประธานบริษัท DAI (แปลว่ายิ่งใหญ่) ซึ่งเป็นบริษัทขายเครื่องไฟฟ้าและเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในเกาหลีนั่นเอง ปาร์คจีซุนมีอีกชื่อว่าจีซุน เพราะแท้ที่จริงแล้วเขาเป็นลูกครึ่งไทย – เกาหลี นั่นเอง และหัวมนุษย์ที่อยู่ในกระเป๋านั่นก็คือ หัวเทียมที่หล่อขึ้นจากสารเคมีและวัสดุพิเศษที่ให้ความใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด ปาร์คจีซุนต้องการนำหัวมนุษย์เทียมนั่นมาใส่ให้กับ ME 1 (เอ็ม-อี วัน) ...หุ่นยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่ใช้เวลาในการค้นคว้าและประดิษฐ์ร่วมสิบปี ปาร์คจีซุนเจ็บใจที่อยู่ๆตัวเองก็กลายเป็นฆาตกรโรคจิตไปซะงั้น ดีที่ ฮยอนจา ...เลขาสาวสวยประจำตัวมาประกันตัวและบอกความจริงให้กับทางตำรวจฟัง แต่ยังไง๊ยังไงปาร์คจีซุนก็หมายแค้นเปรี้ยวเอาไว้แล้วว่าชาตินี้อย่าได้เจอกับผู้หญิงสติไม่ดีคนนี้อีกเลย แต่เขาว่าเกลียดอะไรก็เจออย่างนั้นเมื่อวันรุ่งขึ้นที่เปรี้ยวต้องไปงานเปิดตัวนวัตกรรมความร่วมมือกันเพื่อการศึกษาของไทยกับเกาหลีที่บริษัท DAI เพื่อไปดูหุ่นยนต์ที่ทางบริษัทนี้คุยนักคุยหนาว่าเป็นเทคโนโลยีการสอนรูปแบบใหม่ที่โลกต้องตะลึง แต่แล้วเปรี้ยวก็ต้องตะลึงจริงๆเมื่อพบกับปาร์คจีซุนที่เธอคิดว่าเป็นฆาตกรโรคจิตภายในลิฟต์สองต่อสอง เปรี้ยวต่อสู้อย่างสุดชีวิตโดยไม่รู้เลยว่าที่เธอกำลังเตะต่อยอยู่นั่นคือเจ้าหุ่นต้นแบบ ME 1 ที่ถอดแบบทุกอย่างมาจากปาร์คจีซุนนั่นเอง แต่คนที่ต้องตะลึงที่สุดเห็นจะเป็นปาร์คจีซุน เพราะขณะที่แถลงข่าวอยู่นั้นก็เปิดกล้องแทนสายตาของหุ่น ME1 ขึ้น ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นหน้าเปรี้ยวขึ้นเต็มจอ กำลังเขย่าภาพสั่นไปสั่นมา จีซุนจำเปรี้ยวได้ขึ้นใจทันทีจึงรีบวิ่งออกไป ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก สิ่งที่เขาเห็นก็คือเปรี้ยวกำลังทำลายสิ่งประดิษฐ์ที่มีค่าที่สุดในชีวิตของเขา เปรี้ยวเองก็ตกใจไม่น้อยเมื่อรู้ว่าชายที่เธอคิดว่าเป็นฆาตกรโรคจิตนั้นแท้จริงแล้วเป็นรองประธานบริษัทนั่นเอง เปรี้ยวถูกจับเข้าห้องเย็น เธอกำลังจะขอโทษในสิ่งที่เธอทำและเอ่ยปากเพื่อขอชดใช้ให้ แต่ปาร์คจีซุนที่กำลังโมโหกลับดูถูกเธอว่าเป็นพวกป่าเถื่อนไร้วัฒนธรรม ไม่รู้จักเทคโนโลยี ต่อให้เอาทุกอย่างที่มีมากองต่อหน้า ก็ไม่สามารถชดใช้ได้ เปรี้ยวแค้นฝังใจเก็บของกลับประเทศไทยพร้อมกับประกาศเลิกกินกิมจิ และทุกอย่างที่เป็นของเกาหลีตลอดชีวิต แม้ว่าเปรี้ยวจะกลับประเทศไทยไปแล้ว แต่ปัญหาไม่ได้กลับไปกับเธอด้วย เพราะสิ่งที่เธอทิ้งไว้ก็คือความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเจ้า ME 1 จนต้องใช้เวลาในการแก้ไขอีกหลายเดือน แต่จะทำยังไงในเมื่อปาร์คจีซุนมีสัญญาที่จะต้องมอบเจ้าหุ่น ME 1 ให้กับรัฐบาลไทยตามโครงการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี และสารสนเทศภายในอาทิตย์นี้ ปาร์คจีซุนผู้ถือคติว่าเสียเงินไม่ว่าแต่เสียหน้าไม่ได้จึงต้องคิดหาวิธีแก้ไขสถานการณ์นี้ให้ได้ !!! ทางด้านเปรี้ยวก็กำลังระบายอารมณ์ใส่ จักรินทร์ ...ตำรวจหนุ่มอนาคตไกล ที่หมายปองเปรี้ยวไว้ตั้งแต่เห็นเธอเพียงครั้งแรก โดยมีผู้ช่วยอย่าง หมู่หัน กับ ดาบนะ เป็นลูกคู่ แต่โชคยังดีที่เปรี้ยวมี หญ้าหวาน ...สาวชาวสวน ผู้มีนิสัยตรงข้ามกับชื่อ เพื่อนตั้งแต่สมัยเด็กของเปรี้ยว หญ้าหวานคอยทำตัวเป็นก้างระหว่างจักรินทร์กับเปรี้ยวตลอดเวลา นั่นเองจึงทำให้จักรินทร์กับเปรี้ยวจึงกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมาประจำตำบลไป แต่จักรินทร์ก็ไม่หวั่นเพราะยังไง ก็ยังมี เศวต ... พ่อผู้บังเกิดเกล้าของเปรี้ยวคอยสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะเศวตมีความใฝ่ฝันว่าอยากเป็นคนในเครื่องแบบตั้งแต่เด็ก แต่ในเมื่อชีวิตมันเลือกไม่ได้ งั้นขอมีลูกเขยเป็นคนในเครื่องแบบแทนก็ยังดี จักรินทร์ชักชวนเปรี้ยวไปทำเนียบเพื่อพบกับท่านนายกรัฐมนตรี แต่เปรี้ยวกลับไม่สนใจเพราะเวลาที่เสียไปเธอเอาไปสอนหนังสือให้กับเด็กๆยังเป็นประโยชน์กว่า วันรุ่งขึ้นเปรี้ยวไปโรงเรียนตามปกติ แต่แล้วเธอก็ต้องตกใจแทบตกมอเตอร์ไซค์เมื่อพบว่าปาร์คจีซุนมาปรากฏกายที่โรงเรียนเธอได้อย่างไร จักรินทร์รีบเข้ามาห้ามแล้วบอกว่าปาร์คจีซุนที่เปรี้ยวเห็นนั่น ก็คือ หุ่นต้นแบบ ME 1 นั่นเอง และที่เขาชวนเปรี้ยวไปพบท่านนายกก็เพราะมีพิธีมอบหุ่นต้นแบบให้กับทางโรงเรียนของเรามาดูแล เปรี้ยวค้านหัวชนฝาที่จะเป็นคนดูแลหุ่นสัญชาติเกาหลีนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นที่เกาหลีทำให้เปรี้ยวไม่อยากแม้แต่จะมองหน้า แม้จะรู้ว่าเป็นแค่หุ่นยนต์ก็ตาม แต่จักรินทร์กลับบอกว่าเปรี้ยวปฏิเสธไม่ได้เพราะเรื่องนี้มันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเลยทีเดียว แล้วอีกอย่างเด็กๆ ก็เป็นปลื้มทันทีเมื่อรู้ว่าจะมีหุ่นยนต์เสมือนคนมาช่วยสอน แต่คนที่ไม่ปลื้มและอยากจะกลับเกาหลีทันทีที่เห็นหน้าเปรี้ยวก็คือปาร์คจีซุนนั่นเอง เพราะแท้ที่จริงแล้วเจ้าหุ่น ME 1 ที่ทุกคนเห็นอยู่นั่นก็คือ ปาร์คจีซุนตัวจริงเสียงจริง !!! ที่ตกกระไดพลอยโจนปลอมตัวเป็นหุ่นยนต์ของตัวเอง เพราะฮยอนจาเลขาสาวสุดสวยให้คำแนะนำว่าระหว่างที่หุ่นต้นแบบ ME 1 ส่งซ่อมนั่นปาร์คจีซุนต้องปลอมตัวมาเมืองไทยเพื่อรักษาชื่อเสียงของบริษัทเอาไว้นั่นเอง แล้วมันก็เป็นอย่างที่ปาร์คจีซุนกลัวเมื่อเห็นหน้าเปรี้ยว เพราะเปรี้ยวนึกออกว่านี่เป็นทางเดียวที่เธอจะได้แก้แค้นปาร์คจีซุนให้รู้ว่าที่จริงแล้วคนไทยก็มีดีเหมือนกัน ฮยอนจาเองก็กลัวว่าเปรี้ยว จะแกล้งปาร์คจีซุนจนความลับแตกจึงได้ตามมาดูแลจีซุนที่เมืองไทยด้วย โดยเช่าบ้านและดัดแปลงให้เป็นศูนย์บัญชาการรวมถึงห้องแลปเพื่อคอยช่วยเหลือจีซุนอยู่ห่างๆ ก่อนที่เธอจะบอกเงื่อนไขกับเปรี้ยว ว่าหุ่น ME 1 ต้องส่งกลับมาที่ศูนย์ทุกอาทิตย์เพื่อเช็คความผิดปกติต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เรื่องวุ่นๆจึงเกิดขึ้นเมื่อปาร์คจีซุนต้องเล่นเป็นหุ่นยนต์ที่ทำงานใกล้เคียงกับมนุษย์ที่สุด โห...ทำไมมันถึงได้ซับซ้อนเช่นนี้ แต่คนที่ดีใจไม่ใช่เฉพาะเด็กๆอย่าง ชะเอม และ พดด้วง แต่ยังมี บุญเหลือ ...อาจารย์พละบ้าพลัง เป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกันกับเปรี้ยว เพราะทันทีที่บุญเหลือเห็นฮยอนจา บุญเหลือ ก็ตกอยู่ในห้วงภวังค์แห่งรักทันที แต่ก็ติดตรงที่ภาษาวัฒนธรรมและเชื้อชาติที่เป็นอุปสรรครัก ชีวิตในร่างหุ่นยนต์ของปาร์คจีซุนจึงเริ่มต้นขึ้น พ่อหุ่นจำแลงของเราถูกเปรี้ยวแกล้งต่างๆนานา ไม่ว่าจะใช้ให้เขาเดินข้ามตำบลราวกับคนส่งเอกสาร หรือจะให้เขาทำงานภายในโรงเรียนแทนภารโรงทุกคน แม้ปาร์คจีซุนจะไม่พอใจแต่เขาก็ต้องอดทนผ่านสถานการณ์นี้ให้ได้ นี่ยังไม่รวม เสี่ยฉั่ว ...และ ฉ่าย สองพ่อลูกผู้ทรงอิทธิพลในพื้นที่ที่ไม่พอใจกับการมาเยือนของชาวต่างแดนอย่าง จีซุน และยังมีพวกบรรดาครูและภารโรงที่คอยสอดรู้สอดเห็นเป็นงานอดิเรก อย่าง ครูหมวย และกระเต็น ผู้ที่มีหูตาเป็นสับปะรดยิ่งกว่ากล้องวงจรปิดซะอีก เปรี้ยวจะสามารถทำให้จีซุนยอมแพ้แล้วกลับเกาหลีได้หรือไม่ แล้วความลับของจีซุน ที่ต้องปลอมตัวเป็นหุ่นยนต์จะแตกเมื่อไหร่ รวมถึงความรักของหลายคนหลายคู่จะสุขสมหวังกัน หรือไม่ ร่วมลุ้นร่วมเชียร์ร่วมติดตามกันได้ใน MY ROBOT หวานใจนายหุ่นยนต์

สื่อสองโลก 2559

เรื่องย่อ : สื่อสองโลก (2560/2017) ปลายจันทร์ สาวห้าวที่เพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยวัยยี่สิบต้นๆ จิตใจดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ทว่ากลับคิดอยู่เสมอว่าสำหรับครอบครัวเธอแล้ว ต่อให้เธอจะทำดีแค่ไหน เธอก็ยังดีได้ไม่เท่าพี่ชายคนโต ต้นกล้า หนุ่มนักธุรกิจหัวแก้วหัวแหวนของครอบครัว และ กลางใจ พี่สาวคนกลางแอร์โฮสเตสสุดสวยที่เก่งไปเสียทุกอย่าง ไม่มีใครสนใจน้องสาวคนสุดท้องจอมแก่นอย่างเธอ ที่แม้แต่ชื่อยังตั้งว่า ปลายจันทร์ ซึ่งสำหรับเธอฟังดูเป็นอะไรที่เหมือนปลายแถวมากกว่า แถมเรียนจบแล้วเธอก็ยังหางานทำไม่ได้สักที ต้องรับจ็อบเป็นแมสเซนเจอร์คอยขับรถไปเก็บเงินจากลูกค้าของร้านจำหน่ายอาหารสัตว์ที่พ่อของเธอเป็นเจ้าของ เมื่ออยู่บ้านก็ต่อล้อต่อเถียงกับ อากง ที่ไม่เคยพอใจในสิ่งที่เธอทำเลยสักอย่าง ทั้งหมดนี้ยิ่งตอกย้ำให้ปลายจันทร์รู้สึกว่าทุกคนในครอบครัว “ไม่มีใครรักและใส่ใจ” เธอเลยสักคน

แต่แล้ววันหนึ่ง ปลายจันทร์ได้เดินทางไปปฏิบัติธรรมในวันออกพรรษาที่สำนักชีบนเขาตามคำชวนของ อุ้ง เภสัชกรสาวที่เป็นเพื่อนซี้ตั้งแต่สมัยเด็ก อุ้งผู้ซึ่งเป็นคนกลัวผีอย่างมาก แต่ฟ้ากลับบันดาลให้เธอมีความสามารถในการได้ยินเสียงเรียกจากวิญญาณอยู่เสมอซะอย่างงั้น

ที่สำนักชีนั้นเกิดเรื่องราวประหลาดขึ้น เมื่อปลายจันทร์ได้พบกับ ตาอ่อง ชายแก่คนคุ้นเคยที่ปลายจันทร์ช่วยเหลือดูแลเวลาเจ็บป่วย ตาอ่องพาเธอไปดูพิธีตักบาตรเทโวโรหณะ แต่นั่นไม่ใช่พิธีทั่วไปของโลกมนุษย์ แต่เป็นพิธีตักบาตรเทโวโรหณะตอนสองยาม ซึ่งนั่นหมายถึงว่าเป็นพิธีของโลกวิญญาณนั่นเอง ที่นั่น ปลายจันทร์ได้เห็นโลกทั้งสามคือ สวรรค์ นรก และโลกมนุษย์ในเวลาเดียวกัน

ตาอ่องขอร้องให้ปลายจันทร์ช่วยเป็นแมสเซนเจอร์นำสร้อยพระเครื่องของตนที่เก็บซ่อนไว้ ไปให้หลานชายที่ชื่อ โอ่ง ที่ทำงานอยู่ในกรุงเทพ ปลายจันทร์คิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่หนักหนาอะไรจึงรับปากช่วย แต่เมื่อปลายจันทร์ไปเอาสร้อยพระที่บ้านตาอ่องจึงได้รู้ความจริงว่าตาอ่องเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่หลายวันก่อน ตาอ่องที่คุยกับเธอบนเขาคืนนั้นคือ วิญญาณของตาอ่องที่ตายไปแล้ว! ปลายจันทร์ไม่อยากจะเชื่อว่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริง แต่ก็ปฏิเสธสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าไม่ได้ เธอได้แต่ยอมรับและรับผิดชอบเป็นธุระให้ตาอ่องตามที่ได้รับปากไว้ ปลายจันทร์จึงมุ่งหน้าเดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อไปหาหลานชายตาอ่อง

เมื่อไปถึงเวดดิ้งสตูดิโอที่ทำงานของโอ่ง เรื่องเข้าใจผิดก็เกิดขึ้น เมื่อปลายจันทร์เข้าใจว่า กรวีร์ ชายหนุ่มช่างภาพเจ้าของสตูดิโอเป็นหลานชายตาอ่อง จึงรู้สึกไม่พอใจที่เขาไม่ดูแลตาอ่องให้ดีกว่านี้ทั้งๆที่เป็นคนรวยมีฐานะ แถมกรวีร์ยังมีท่าทีกวนประสาท เธอจึงพยายามรีบยัดเยียดสร้อยพระคืนให้เขา ส่วนทางด้านกรวีร์ก็คิดว่าปลายจันทร์เป็นพวกสิบแปดมงกุฏจึงไม่ยอมรับสร้อยพระ ทั้งคู่ทุ่มเถียงกันจนปลายจันทร์ชกกรวีร์เข้าให้ กัลยาพร แม่ของกรวีร์เข้ามาช่วยห้ามทัพ กว่าเจรจากันรู้เรื่องว่า โอ่ง หรือชื่อจริงว่า ทวี ซึ่งเป็นหลานชายของตาอ่องเป็นคนสวนของสตูดิโอนี้ ไม่ใช่กรวีร์อย่างที่ปลายจันทร์เข้าใจ ปลายจันทร์จึงรีบเอาสร้อยพระคืนให้กับโอ่ง ก่อนที่จะรีบหนีออกมาจากบ้านนั้นด้วยความอับอาย และตั้งมั่นว่าจะไม่กลับมาที่นี่อีก ทว่าเธอคิดผิด...

ปลายจันทร์เดินทางกลับมาหาวิญญาณตาอ่องที่สำนักชีเพื่อบอกว่า ได้จัดการธุระที่ทำให้วิญญาณของตาอ่องยังมีห่วงอยู่เสร็จสินแล้ว แต่เหมือนโชคชะตาจะกลั่นแกล้งเมื่อปลายจันทร์ได้พบกับ ชมพร วิญญาณที่ดูเศร้าหมองเพราะต้องการจะยกเงินในบัญชีที่เธอเก็บไว้ให้กับลูกสาวคนสุดท้องซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นก็คือกัลยาพรแม่ของกรวีร์นั่นเอง แม้ปลายจันทร์จะไม่อยากรับงานนี้ แต่ก็ต้องรับไว้เพราะสงสารวิญญาณชมพรที่ไม่สามารถไปสู่สุขคติได้ ปลายจันทร์จึงบากหน้าเดินทางกลับเข้ากรุงเทพเพื่อไปพบกัลยาพร และแน่นอนที่เธอจะต้องพบกับกรวีร์ ชายหนุ่มที่เธอหมั่นไส้จนอยากจะต่อยหน้าเค้าอีกหลายๆครั้ง

การเดินทางไปพบกัลยาพรคราวนี้ ปลายจันทร์ พาอุ้ง และ ซัน ลูกพี่ลูกน้องของปลายจันทร์ พนักงานธนาคารสุดงก ผู้หายใจเข้าออกเป็นเงินทอง ช่วยขับรถพาปลายจันทร์มาที่สตูดิโอของกรวีร์ด้วย เมื่อปลายจันทร์เล่าเรื่องราวทั้งหมดของชมพรให้ฟัง กัลยาพรเหมือนจะเชื่อสิ่งที่ปลายจันทร์พูดแล้วแต่ถูกกรวีร์ห้ามไว้ หาว่าปลายจันทร์กับเพื่อนเป็นนักต้มตุ๋นและไล่ทุกคนกลับไป ยิ่งทำให้ปลายจันทร์ไม่ชอบหน้ากรวีร์เข้าไปใหญ่แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ล่าถอยกลับบ้าน

เมื่อกลับมาถึงบ้านปลายจันทร์ต้องแปลกใจที่พ่อแม่และอากงต่างพูดจาเอาใจเธอ แถมทำอาหารเตรียมไว้ให้อย่างดี จนกระทั่งได้รู้ว่าที่บ้านของเธอชวน ป้องเกียรติ ร้อยตำรวจเอกหนุ่มรูปหล่อลูกเศรษฐีใหญ่ประจำจังหวัดที่เพิ่งได้ย้ายกลับมาประจำที่บ้านให้มาดูตัวเธอนั่นเอง ปลายจันทร์ไม่พอใจอย่างมาก เพราะแค่การเป็นคนที่ครอบครัวไม่รักก็แย่พอแล้ว แต่นี่ยังต้องโดนบังคับให้ดูตัวกับคนแปลกหน้าอยู่เสมอ แต่ป้องเกียรติดูจะถูกชะตาปลายจันทร์อยู่ไม่น้อย หลังจากป้องเกียรติกลับไป ปลายจันทร์ทะเลาะกับอากงที่อยากให้หลานเป็นฝั่งเป็นฝา ทั้งยังบ่นเรื่องเข้ากรุงเทพฯ บ่อยไม่ยอมอยู่บ้านและจะบังคับให้เธอแต่งงานให้ได้ โดยยื่นคำขาดว่าถ้าปลายจันทร์ไม่ยอมแต่งงาน อากงจะตัดหลานและจะไม่ยกมรดกให้ ยิ่งทำให้ปลายจันทร์ทั้งโกรธทั้งน้อยใจหนักเข้าไปอีก

วันรุ่งขึ้น ปลายจันทร์แวะไปหาอุ้งที่ร้านขายยาเพื่อบ่นให้เพื่อนฟัง ที่ร้านขายยาได้เจอ ซันลูกพี่ลูกน้องและลูกไล่ของปลายจันทร์กำลังซื้อยาที่ร้านอยู่พอดี ทั้งสามเลยออกมากินข้าวด้วยกัน ระหว่างที่กินข้าวอยู่นั้นเอง ได้เจอกรวีร์ที่กำลังเซ็งหนัก กรวีร์เล่าให้ทุกคนฟังว่ากัลยาพรตามไปสืบจนเจอเงินบัญชีตามที่ปลายจันทร์เคยเล่าไว้จริง แต่ธนาคารต้องการใบมรณบัตรของชมพรเพื่อเป็นหลักฐานในการถอนเงิน ซึ่งใบมรณบัตรนั้นอยู่ที่ กุณฑล พี่สาวคนโตสุดเค็มของกัลยาพร กัลยาพรเลยต้องกลับมาบ้านที่นี่ และโดนกุณฑลหลอกให้ซื้อของต่างๆให้เพื่อแลกกับเอกสาร แต่แล้วกุณฑลก็ยังไม่ยอมให้ใบมรณบัตรเสียที

อุ้งและซันจึงเสนอไอเดียที่จะเอาใบมรณะบัตรมาให้ได้ ด้วยการให้กรวีร์พากุณฑลกับกัลยาพรไปที่สำนักชี ที่ที่ปลายจันทร์ได้เจอกับวิญญาณชมพร โดยให้ปลายจันทร์แกล้งทำเป็นร่างทรงของชมพรเพื่อสั่งกุณฑลให้มอบใบมรณะบัตรให้ ทั้งหมดเห็นพ้องกัน ยกเว้นปลายจันทร์ที่ไม่ชอบหลอกใคร แต่สุดท้ายก็ต้องยอมเล่นตามแผน

ทว่า พอถึงเวลาจริงทุกอย่างกลับผิดคาดไปหมด เมื่อป้องเกียรติ ที่ดันมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของกรวีร์ดันเดินทางมากับพวกกรวีร์ด้วยในตอนที่กรวีร์กับแม่จะไปรับกุณฑลมาจากบ้าน ด้วยสัญชาติญาณของตำรวจ ป้องเกียรติจึงจับไต๋เปิดเผยแผนเข้าทรงของซัน อุ้ง และกรวีร์ได้ แต่ตกใจที่เห็นว่าปลายจันทร์มีส่วนร่วมด้วย ทางปลายจันทร์เองก็เพิ่งรู้ว่าป้องเกียรติเป็นญาติของกรวีร์ กุณฑลโกรธมากจะให้ป้องเกียรติจับทุกคนเข้าคุกให้หมด แต่ด้วยความช่วยเหลือจากวิญญาณชมพรที่บอกปลายจันทร์เรื่องข้อมูลสำคัญระหว่างเธอกับลูกๆที่ไม่มีใครรู้ โดยเฉพาะพระสมเด็จที่ตั้งใจจะยกให้ป้องเกียรติหลานรัก ทำให้เรื่องราวกลับตาลปัตร กุณฑลที่งมงายอยู่แล้วได้ยินเข้าก็เชื่อสนิทใจว่าวิญญาณแม่ของเธออยู่ตรงนั้น ทำให้เกิดกลัวความผิดที่ฮุบสมบัติหลาน วิ่งหนีเตลิดหายไปในป่าทั้งๆ ที่มืดแล้ว ทุกคนพยายามจะช่วยกันค้นหาแต่ก็หาไม่เจอ อีกทั้งยังทำให้ปลายจันทร์กับกรวีร์พลัดหลงป่าไปด้วยอีกคู่

ระหว่างหลงป่า ปลายจันทร์กับกรวีร์ได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น ปลายจันทร์ได้รู้ว่ากรวีร์ไม่ได้มีชีวิตสุขสบายแบบลูกคนรวยอย่างที่เธอคิด แต่เขาต้องดิ้นรนด้วยฝีมือตัวเองอย่างอยากลำบากกว่าจะลืมตาอ้าปากขึ้นมาได้ ส่วนตัวกรวีร์เองที่ตอนนี้ก็เชื่อแล้วว่าปลายจันทร์ติดต่อวิญญาณได้จริง ก็เพิ่งเข้าใจว่าปลายจันทร์ช่วยเหลือผู้อื่นด้วยใจบริสุทธิ์ ทั้งคู่หลงป่าอยู่พักใหญ่ ปลายจันทร์ก็คิดขึ้นมาได้ว่าควรใช้ความสามารถติดต่อวิญญาณของเธอขอความช่วยเหลือจากเจ้าป่าเจ้าเขา แต่อธิษฐานเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งคู่เริ่มหมดแรง จู่ๆ กรวีร์เริ่มร้องเพลงด้วยเสียงแตกๆ เพี้ยนๆ เพื่อปลุกใจไม่ให้หวาดกลัวความมืดและสิ่งรอบข้าง แล้วก็ดันเป็นผลเมื่อเจ้าป่าออกมาปรากฎตัวเพราะทนหนวกหูเสียงร้องเพลงเพี้ยนๆ ของกรวีร์ไม่ไหว

วิญญาณท่านเจ้าป่าเจ้าเขาอธิบายว่า ที่ปล่อยให้ทั้งสองคนหลงป่าและไม่ออกมาช่วยแต่แรก เพราะพวกปลายจันทร์ไม่รู้จักสัมมาคารวะ ไม่กราบไหว้บูชาท่านในฐานะเจ้าที่เจ้าทาง แถมด้วยตัวปลายจันทร์เองยังเล่นพิเรนทร์หลอกเจ้าเข้าทรงจึงอยากจะสั่งสอน แต่เมื่อเห็นว่าปลายจันทร์คิดได้ก็พอใจแล้ว จึงเลิกบังตาและเปิดทางออกจากป่าให้ กรวีร์กับปลายจันทร์ถามถึงคนอื่นๆ จึงได้รู้ว่าทุกคนออกจากป่าไปได้หมดแล้ว เหลือเพียงกุณฑลที่เจ้าป่าขอกักไว้อีกสามวันเพื่อสั่งสอนคนละโมบแทนชมพรสักหน่อย ทั้งยังสำทับว่ากุณฑลจะไม่เป็นอันตราย อีกทั้งยังมีชมพรคอยตามเฝ้าดูด้วยจึงไม่ต้องเป็นห่วง ทั้งคู่จึงวางใจพากันลงจากเขามา

ที่สำนักชีที่ตีนเขา อุ้ง ซัน ป้องเกียรติและญาติคนอื่นๆ กำลังเป็นห่วงคนที่หลงป่าทั้งสามคน พอเห็นปลายจันทร์กับกรวีร์ลงมาได้ก็เบาใจลงแต่ก็ยังเป็นห่วงกุณฑล ปลายจันทร์กับกรวีร์ไม่กล้าบอกเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าป่า เพราะคิดว่าจะทำให้เรื่องไปกันใหญ่ และตอนนั้นก็ดึกมากแล้วจึงแยกย้ายกันกลับบ้าน

วันรุ่งขึ้น กรวีร์ไปรับปลายจันทร์ที่บ้านแต่เช้า ทั้งคู่นัดญาติๆ ของกุณฑลไว้เพื่อบอกความจริงเรื่องที่หลอกกุณฑลขึ้นไปบนเขา ปลายจันทร์ขอโทษที่เป็นต้นคิดแผนนี้และยินดีรับผิดถ้าใครจะฟ้องร้องเอาความ ทุกคนไม่มีใครติดใจเพราะรู้จักนิสัยกุณฑลดี แถมแต่ละคนยังโดนกุณฑลเอาเปรียบกันมาแล้ว ทางด้านป้องเกียรติเห็นปลายจันทร์กล้าทำกล้ารับจึงยิ่งนึกชอบเธอมากขึ้นไปอีก

หลังจากสารภาพความกันเสร็จ กรวีร์คุยกับแม่ว่าจะต้องรีบกลับไปทำงาน จำเป็นต้องหาช่างแต่งหน้าและลูกมือเพิ่มเพราะแม่ยังติดธุระทางนี้ ปลายจันทร์จึงเสนอตัวช่วยงานเพราะตัวเองแต่งหน้าเป็นและอยากจะหนีจากที่บ้านที่พยายามจะจับเธอคลุมถุงชน โดยระหว่างนั้นเธอจะไปพักอยู่ที่คอนโดกลางเมืองของกลางใจพี่สาวของเธอ

ระหว่างที่ทำงานด้วยกัน กรวีร์แม้จะยังคอยแซวคอยกวนประสาทปลายจันทร์อยู่ตลอด แต่ก็ทึ่งในตัวปลายจันทร์มากขึ้นเพราะลุยงานชนิดไม่มีบ่น แถมฝีมือเรื่องแต่งหน้าก็ไม่ได้โม้ ส่วนปลายจันทร์เองก็สนุกที่ได้ทำงานอื่นบ้างสักที จะรำคาญก็แต่กลางใจที่ดูเหมือนจะชอบหนุ่มหล่ออย่างกรวีร์จึงคอยถามถึงเรื่องกรวีร์บ่อยๆ ในคืนวันที่สองหลังจากเสร็จงานที่สตูดิโอ ปลายจันทร์ได้ยินเสียงฮัมเพลงลูกกรุงเก่าๆ จนจับได้ว่าเจ้าของเสียงเพลงนั้นคือวิญญาณ เด่นเดือน อดีตนักร้องชื่อดังที่ตายตั้งแต่ยังสาว ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่กรวีร์และกัลยาพรเช่าทำสตูดิโอนี่เอง วิญญาณเด่นเดือนดีใจมากที่ปลายจันทร์สามารถสื่อสารกับวิญญาณอย่างเธอได้ เลยทั้งชวนคุยทั้งร้องเพลงให้ฟังเป็นการใหญ่ เพราะถือเป็นคนฟังคนแรกในรอบหลายปี

ครบสามวันตามกำหนดของเจ้าป่า กรวีร์กับปลายจันทร์กลับไปรับกุณฑลที่ชายป่า พร้อมกับร่ำลากับชมพรที่บอกว่าตอนนี้กุณฑลคิดได้แล้ว ลูกๆ ทุกคนก็กลับมารักใคร่ปรองดองเหมือนเดิมเธอจึงหมดห่วง ปลายจันทร์ดีใจที่เรื่องยุ่งๆ จบลงเสียที แต่ชมพรยิ้มและทิ้งท้ายว่ายังไม่จบหรอก ก่อนวิญญาณของชมพรจะสลายข้ามภพไป

ทางด้านกุณฑลฟื้นได้สติขึ้นมาที่โรงพยาบาลก็รีบบอกกัลยาพรว่าซ่อนใบมรณบัตรอยู่ที่ไหน รวมถึงเคลียร์คดีเก่าๆ ที่เอาเปรียบญาติทุกคนไว้จนหมด เพราะตอนนี้กุณฑลคิดและกลับตัวได้แล้วหลังจากหลงป่าอยู่สามวัน ญาติๆ มอบเงินรางวัลที่ตั้งไว้สำหรับคนที่หากุณฑลเจอให้กับปลายจันทร์ กรวีร์ขอบคุณปลายจันทร์ที่ช่วยเหลือจนแม่ได้เงินมรดกตามที่ชมพรตั้งใจไว้ และออกปากว่าถ้ามีอะไรอยากให้ช่วยก็บอกได้ ปลายจันทร์บอกว่า มีแน่ แต่ยังไม่บอกว่าเป็นอะไร กรวีร์หวั่นใจว่าปลายจันทร์จะมาไม้ไหน

ปลายจันทร์พากรวีร์ไปที่บ้าน บอกครอบครัวว่าเธอจะไปช่วยงานแฟนที่กรุงเทพฯ ซึ่งแฟนของเธอคนนั้นก็คือกรวีร์นั่นเอง กรวีร์ตกใจเพราะไม่ได้เตี๊ยมกันไว้ก่อนว่าจะให้เล่นเป็นแฟนของปลายจันทร์ แต่ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษที่ต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับปลายจันทร์จึงได้แต่เออออห่อหมกไป

อากงเขม่นมองกรวีร์อย่างไม่ไว้วางใจ ขณะที่พ่อกับแม่ของปลายจันทร์ดูตกใจแกมงงงวยกับการเปิดตัวแฟนหนุ่มของลูกสาวอย่างสายฟ้าแลบ ทั้งคู่ตั้งท่าจะซักไซ้ไล่เลียงว่ากรวีร์เป็นใครมาจากไหน รู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมก่อนหน้านี้ไม่เคยพามาแนะนำ ปลายจันทร์รีบตัดบทและบอกทุกคนว่าต้องรีบเข้ากรุงเทพฯ โดยไม่เปิดโอกาสให้ครอบครัวได้ถามถึงเรื่องต่างๆ กรวีร์ทำหน้าไม่ถูก ก่อนจะบอกลาผู้ใหญ่แล้วออกจากบ้านไปพร้อมกับปลายจันทร์

ปลายจันทร์มาพักอยู่กับกลางใจที่คอนโด ทันทีที่เจอหน้ากัน กลางใจซึ่งทราบเรื่องแฟนของน้องจากที่บ้าน ก็รู้ได้ทันทีว่าปลายจันทร์กับกรวีร์ไม่ได้เป็นแฟนกันจริงๆ ปลายจันทร์เถียงไม่ออกได้แต่ขอร้องกลางใจอย่าพึ่งบอกครอบครัว กลางใจยอมตกลงช่วยแลกกับให้ปลายจันทร์เล่าเรื่องของกรวีร์มาให้หมดและแสดงความสนใจในตัวกรวีร์อย่างโจ่งแจ้ง จนทำให้ปลายจันทร์เริ่มรู้สึกไม่พอใจที่กลางใจหวังจะโปรยเสน่ห์กับกรวีร์เหมือนกับผู้ชายหลายๆคนที่ผ่านมาอย่างบอกไม่ถูก

ทางด้านกัลยาพรอยากเลี้ยงขอบคุณซันและอุ้งที่มีส่วนช่วยในเรื่องมรดก จึงนัดทุกคนมาทานข้าวที่บ้าน หลังจากทานกันเสร็จกรวีร์ชวนทุกคนไปร้องคาราโอเกะกันต่อที่ร้านอาหารเรือนไม้งามเพราะเขามีบัตรส่วนลด เด่นเดือนได้ยินเข้าจึงขอปลายจันทร์ตามไปด้วย ที่ร้านอาหาร จันนี่ สาวใหญ่ท่าทางเหมือนเจ้าของร้านตั้งแง่ไม่ให้ใช้บัตรส่วนลดโดยอ้างว่าร้านได้ยกเลิกข้อตกลงกับบริษัทที่ออกบัตรไปแล้ว แต่ คำนึง หนุ่มใหญ่วัยกลางคนเจ้าของร้านตัวจริงกลับต้อนรับทุกคนอย่างดีและอนุญาตให้ใช้บัตรได้ พลางอธิบายอย่างเหนื่อยหน่ายว่าจันนี่เป็นแม่เลี้ยง เด่นเดือนได้ยินเข้าก็กรี๊ดลั่นจนอุ้งและปลายจันทร์ตกใจ ก่อนจะเฉลยว่าพ่อของคำนึงเป็นสามีของเธอที่เคยสาบานกันไว้ว่าจะรักกันไปจนตาย แต่ดันหนีเธอไปมีเมียน้อย ที่เธอตามมาที่ร้านแห่งนี้ก็เพราะอยากเจอลูกชายซึ่งคือคำนึงนั่นเอง

ระหว่างที่ทุกคนกำลังร้องเพลงกันอยู่ เด่นเดือนขอเข้าสิงปลายจันทร์เพื่อจะได้ร้องเพลงอีกครั้ง เพลงที่เลือกเป็นเพลงที่ดังที่สุดของเธอสมัยมีชีวิตอยู่ และเมื่อปลายจันทร์เริ่มร้องเพลง เสียงที่ออกมาก็เป็นเสียงสุดแสนจะไพเราะของเด่นเดือน พอคำนึงได้ยินเข้าก็ตกใจว่าเสียงของปลายจันทร์เหมือนแม่ของเขาไม่มีผิด ส่วน จันนี่พอได้ยินเสียงก็จำได้ดีว่านั่นคือเสียงของเด่นเดือนเมียหลวงที่เธอเกลียดนักเกลียดหนา จันนี่เข้ามาอาละวาดโวยวายในห้องส่วนตัวของพวกปลายจันทร์ทันที จนคำนึงต้องพาตัวไปสงบสติอารมณ์ กรกนก ผู้บริหารค่ายเพลงรุ่นใหญ่ที่บังเอิญมาทานข้าวที่นั่นก็เข้ามาหาปลายจันทร์ บอกว่าสนใจอยากจะชวนปลายจันทร์เข้าประกวดร้องเพลงในรายการ The Deva ปลายจันทร์อยากจะปฏิเสธแต่เด่นเดือนร้องขอไว้ รวมไปถึงซันก็คำนวณให้เสร็จสรรพตามประสาคนงกเงินว่าเงินรางวัลคุ้มค่ามาก คำนึงที่ส่งจันนี่กลับบ้านไปได้ก่อนแล้ว เห็นปลายจันทร์คุยกับกรกนกก็เข้ามาร่วมวงหว่านล้อมให้ปลายจันทร์ประกวดด้วย เพราะเขาเองก็อยากฟังเสียงของแม่บนเวทีอีกครั้ง พร้อมทั้งรับปากว่าจะช่วยซ้อมให้ปลายจันทร์ ส่วนเด่นเดือนก็นึกสนุกอยากร้องเพลงให้คนฟังอีกครั้ง ปลายจันทร์ที่โดนทั้งผีทั้งคนหว่านล้อมจนตกปากรับคำชวนของกรกนก

ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน ปลายจันทร์เห็น เฟื่องลดา ผีสาวแต่งชุดโบราณยืนอยู่ข้างเสาไม้ต้นใหญ่หน้าร้าน มองจ้องไปทางกรวีร์ด้วยแววตาอันเศร้าโศกอย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน แต่เนื่องจากเฟื่องลดาก็ไม่ได้ทำอะไรและไม่ได้มีทีท่าอยากจะคุยกับเธอ ปลายจันทร์จึงกลับคอนโดไปพร้อมกับเพื่อนๆ แบบไม่ได้สนใจอะไรมากนัก

วันรุ่งขึ้น ปลายจันทร์ อุ้งและซันเดินทางไปที่ค่ายเพลงของกรกนกเพื่อคุยเรื่องการเข้าประกวด จนได้เจอกับ ธาริน สาวสวยมาดเท่รั้งตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดของค่ายเพลง แถมกรวีร์ก็อยู่ที่นั่นเพราะมีนัดคุยเรื่องการถ่ายภาพงานแถลงข่าว ปลายจันทร์ได้รู้ว่าธารินเป็นแฟนเก่าของกรวีร์ เธอรู้สึกถูกชะตากับธารินที่มีบุคลิกแมนๆ ตรงๆ แถมยังดูเป็นคนเก่งอีกต่างหาก

ก่อนกลับจากค่ายเพลง ปลายจันทร์ได้พบกับวิญญาณ เควิน ผีนักร้องลูกครึ่งชื่อดังในอดีตของค่ายเพลงแห่งนี้ ที่เข้ามาขอความช่วยเหลือให้เธอช่วยสืบความจริงว่าเขาจมน้ำตายหรือเขาโดนฆาตกรรมกันแน่ ปลายจันทร์อยากจะช่วยแต่จำใจปฏิเสธ เพราะตอนนี้ก็มีภาระเรื่องเด่นเดือนอยู่แล้ว

เมื่อกลับถึงสตูดิโอ ปลายจันทร์สังเกตเห็นเฟื่องลดามายืนมองนิ่งอยู่ที่หน้าบ้าน เธอจำได้ว่าเป็นวิญญาณที่เคยพบที่ร้านเรือนไม้งาม จึงแปลกใจว่ามาทำอะไรที่นี่ เข้าไปสอบถามได้ความว่าเฟื่องลดาเป็นคนรักเก่าของกรวีร์ในชาติก่อน และเฝ้ารอเขาอยู่ที่ต้นไม้สักหน้าร้านมาตลอด จนกระทั่งได้พบกรวีร์อีกครั้งเมื่อคืน จึงตามเขากลับมาที่บ้านแต่เข้าไปข้างในไม่ได้เพราะติดเจ้าที่ เฟื่องลดาไม่ต้องการอะไรขอแค่ได้เฝ้ามองกรวีร์ก็พอใจแล้ว เมื่อปลายจันทร์เข้ามาในสตูดิโอก็เห็นว่าคำนึงมารออยู่ คำนึงดีใจมากที่รู้ว่าปลายจันทร์จะร่วมประกวดร้องเพลงแม่ของเขา และเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังว่าพ่อยกร้านอาหารนี้ให้เขา อีกร้านให้จันนี่ดูแล แต่จันนี่ชอบมาวุ่นวายที่ร้านที่เขาดูแล เขามั่นใจว่าปลายจันทร์จะต้องเป็นผู้ชนะแน่นอน และจะพาพ่อไปฟังเสียงของปลายจันทร์ในรอบชิงชนะเลิศด้วย กัลยาพรอาสาดูแลเรื่องชุดให้ ส่วนเด่นเดือนก็จะสอนการเดินและลีลาบนเวทีให้อีก ปลายจันทร์ซ้อมเดินซ้อมเต้นอยู่นานโดยมีกรวีร์ดูอยู่เงียบๆ และแอบขำท่าทาง ก่อนที่จันนี่จะบุกเข้ามาโวยวายให้คำนึงกลับบ้าน เด่นเดือนโกรธแค้นจันนี่ที่บุกมาถึงบ้านและพยายามหลอกหลอน แต่จันนี่กลับหึงคำนึงจนไม่กลัวผีสางที่ไหน ปลายจันทร์เห็นจันนี่มาอาละวาดจึงยิ่งมุ่งมั่นที่จะชนะเลิศเพื่อเด่นเดือนให้ได้ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเอกสารที่ใช้ในการสมัครยังอยู่ที่บ้าน จึงจะรีบกลับบ้านไปเอาเอกสารกลางดึก กรวีร์เป็นห่วงว่าจะเป็นอันตรายจึงอาสาไปส่ง ปลายจันทร์ดีใจที่เขาเป็นห่วงแต่ก็ยืนยันที่จะกลับเอง พอไปถึงตัวจังหวัดนึกกลัวตามคำพูดของกรวีร์ขึ้นมาจึงโทรบอกพ่อให้ออกมารับ ระหว่างทางกลับบ้าน ปลายจันทร์ถามพ่อถึงซีดีเพลงของเด่นเดือน จึงได้รู้ว่าพ่อของตัวเองเคยเป็นนักร้องในคาเฟ่มาก่อนแต่ถูกอากงลากกลับมาสืบทอดกิจการที่บ้าน ปลายจันทร์เลยขอร้องให้พ่อของเธอช่วยสอนร้องเพลงให้ แต่ยังไม่ยอมบอกว่าเพื่อจะเอาไปประกวดร้องเพลง

ในวันประกวดรอบแรก ปลายจันทร์ขึ้นเวทีด้วยชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ที่เธอชอบเพราะบอกทุกคนว่ามั่นใจมากกว่า ทั้งคนดูและกรรมการเห็นเข้าก็หัวเราะแต่พอปลายจันทร์เริ่มร้อง เสียงที่ออกมาก็เป็นเสียงของเด่นเดือนจึงทำให้ทุกคนหันมาสนใจ หลังประกวดรอบแรกเสร็จ ปลายจันทร์โดนวิญณาณเควินตามมาขอร้องให้ช่วยอีก สุดท้ายปลายจันทร์ก็ใจอ่อน ยอมตกลงช่วยเหลือเควินจนได้

ปลายจันทร์ปรึกษาอุ้งและซันให้ช่วยกันวางแผนว่าจะสืบเรื่องการตายของเควินนี้อย่างไรดี กรวีร์ ได้ยินเข้าก็รีบยื่นมือช่วยเหลือ ปลายจันทร์กับกรวีร์ตัดสินใจเริ่มต้นด้วยการไปหาแม่ของเควิน

ที่บ้านของเควิน ปลายจันทร์ได้เจอกับ รัชดา ลูกเลี้ยงของแม่เควินที่โตมาพร้อมกับเควินและ คม สามีของรัชดา แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็คล้ายกับที่ไปหากัลยาพรครั้งแรก คือถูกเข้าใจว่าเป็นพวกสิบแปดมงกุฎ ปลายจันทร์มืดแปดด้าน เพราะในสมัยที่เควินโด่งดัง เธอเองก็ยังไม่เกิด เลยไม่รู้ว่าจะไปหาข้อมูลของเควินได้ที่ไหน แต่เหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะช่วยหนุนให้เธอทำความดีในการช่วยปลดปล่อยวิญญาณทั้งหลายให้ไปสู่สุขคติ เธอจึงพบว่าต้นกล้า พี่ชายของเธอเป็นแฟนคลับตัวจริงของเควินในสมัยที่เควินดังสุดขีด

ต้นกล้าให้ข้อมูลมากมายเกี่ยวกับเควินและแนะนำให้มาคุยกับ ลุงผาง อดีตผู้จัดการส่วนตัวของเควิน แต่ว่าตอนนี้ออกจากวงการไปไม่รู้อยู่ที่ไหน ปลายจันทร์มาขอความช่วยเหลือจากธารินที่ดูเหมือนจะยินดีให้ความร่วมมือกับเธอมากกว่ากรกนกที่หงุดหงิดทุกครั้งที่ได้ยินชื่อเควิน เมื่อได้คุยกับลุงผาง ปลายจันทร์จึงได้รู้ว่า แท้จริงแล้วเควินกับรัชดาไม่ได้คิดกันแค่พี่น้องแต่กลับเป็นคู่รักกัน แถมยังได้รู้ความลับว่า กรกนก เองก็แอบรัก รัชดาอยู่ในตอนนั้นด้วยเหมือนกัน

ด้วยความร่วมมือของธารินที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทเพลง รวมกับข้อมูลเรื่องงานศพของเควินที่แม่ของเควินเล่าให้ปลายจันทร์ฟัง ทำให้ปลายจันทร์และเพื่อนสรุปได้ว่ากรกนกต้องเป็นฆาตกรแน่นอน แต่ก่อนที่เรื่องจะไปถึงตำรวจ กรกนกก็ตามมาจับตัวปลายจันทร์หมายจะฆ่าปิดปากเรื่องเควิน วิญญาณของเควินจึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเขาโดนเพื่อนรักหักหลัง กรวีร์และป้องเกียรติตามมาช่วยปลายจันทร์จนต้องไล่ล่ากัน ก่อนที่ปลายจันทร์จะรอดมาได้อย่างหวุดหวิด ส่วนกรกนกโดนเควินหลอกหลอนจนขับรถตกสะพานตายระหว่างหลบหนี

กลางใจรีบรุดมาดูอาการของปลายจันทร์ที่โรงพยาบาลและได้พบกับป้องเกียรติ ทั้งสองปิ๊งกันทันที วันรุ่งขึ้นปลายจันทร์ออกจากโรงพยาบาลและไปบ้านของเควินเพื่อเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด แม่ของเควิน ขอบคุณปลายจันทร์ที่ช่วยวิญญาณของเควินไปสุ่สุขคติ เมื่อปลายจันทร์กลับไปที่สตูดิโอเพื่อทำงานต่อก็เห็นเด่นเดือนรออยู่แล้ว ปลายจันทร์ตัดพ้อว่าเด่นเดือนไม่ยอมไปช่วยตอนเกิดเรื่อง เด่นเดือนบอกว่าเธอเป็นผีติดที่ไม่ใช่นึกจะไปไหนก็ไปได้ ถ้าจะไปก็ต้องมีสื่ออย่างปลายจันทร์พาไป ปลายจันทร์เห็นว่าคำนึงนั่งคุยอยู่กับ กัลยาพรอีกแล้ว คำนึงเห็นปลายจันทร์มาก็รีบบอกว่ามาเพราะจะช่วยซ้อมร้องเพลง แต่เด่นเดือนกลับแซวว่าลูกชายน่าจะมาหาลูกสะใภ้ให้แม่มากกว่า ปลายจันทร์ที่คุยกับทั้งผีทั้งคนจนทำให้ตอบสลับกันไปหมด ฝ่ายกรวีร์ก็บอกว่าไม่ได้เห็นแม่สดชื่นแบบนี้มานานแล้ว จนทำให้คำนึงและกัลยาพรได้แต่หัวเราะแก้เขิน กรวีร์รับปากว่าพรุ่งนี้จะปิดสตูดิโอไปเชียร์ปลายจันทร์ในรอบชิงชนะเลิศ ทำให้ปลายจันทร์ดีใจมาก

หงส์เหนือมังกร 2560

หงส์เหนือมังกร (2560/2017) "ใกล้รุ่ง ธรรมกุล" หรือ "หลิว" ลูกสาวเพียงคนเดียวของเจ้าพ่ออันดับหนึ่งของเมืองไทย ต้องสืบทอดตำแหน่งเพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ของ "วรชัย ธรรมกุล" หรือ "ตี๋ซุ้ง" บิดาผู้ล่วงลับ เมื่อเป็นลูกสาวเจ้าพ่อผู้เปรียบเสมือนมังกรเหนือมังกร "หลิว"จึงต้องเป็น'หงส์'ผู้อยู่เหนือมังกรให้ได้ บิดาของเธอสั่งสังหาร "ตี๋ซา" ผู้เป็นสหายรักด้วยเรื่องของศักดิ์ศรี "จางเหา" คนครัวผู้ภักดีของ"ตี๋ซา"จึงจัดการล้างแค้นให้ผู้มีพระคุณด้วยการสังหาร"ตี๋ซุ้ง" "หลิว"รู้ความจริงจากสายตาของ"จางเหา"ตอนไปเคารพบิดาของเธอ ในวันที่เธอสืบทอดตำแหน่งอย่างเป็นทางการ หญิงสาวขอซื้อนิ้วชี้ที่ลั่นไกสังหารบิดาด้วยเงินหนึ่งล้านบาท สร้างความคั่งแค้นให้กับ"จางเหา"อีกครั้ง เมื่อเป็นศัตรู...ก็ต้องหาทางห้ำหั่นอีกฝ่ายเป็นธรรมดา "จางเหา"จึงเริ่มวางแผนล้างแค้น ในขณะที่"หลิว"ต้องพยายามรักษาอำนาจที่ได้มา และต้องพยายามที่จะให้คนในวงการนักเลงยอมรับถึงความเป็นหงส์เหนือมังกรของเธอ แต่เหมือนโชคชะตาจะเล่นตลก เพราะเมื่อสบโอกาสที่จะปลิดชีวิต"หลิว"ได้ "จางเหา"กลับทำในสิ่งตรงกันข้าม...เขาช่วยชีวิตเธอ!...

คู่ป่วนก๊วนกวนผี 2559

เรื่องย่อ : คู่ป่วนก๊วนกวนผี (2559/2016) “เมื่อบ้านที่หวังจะเป็นเรือนหอดันกลายเป็นบ้านผีสิง ผีธรรมดาก็จะแย่แล้ว แต่นี่ดันเป็นผีของดาวตลกคาเฟ่อีก งานนี้เลยไม่รู้ว่าจะกลัว หรือจะฮาดีคร้าบบบบบบ” “กรี๊ดดดดดดดดด...!!!” เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังก้องมาจากลานจอดรถภายในโรงแรมชั้นใต้ดินที่เงียบสงัด ถ้าเป็นกลางวันคงมีฮีโร่โผล่เข้ามาช่วยชีวิตเธอแล้วอย่างในละครโทรทัศน์ แต่ทว่านี่เป็นกลางดึกที่ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต มุ่ย... (จาร์ด้า อินโตร์เร) สาวน้อยหัวนอก ที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ เพื่อสานต่อธุรกิจครอบครัว ไม่ใช่เพื่อเอาชีวิตมาทิ้งลงในที่เปลี่ยวแสนโหดร้ายและต้องตายอย่างเดียวดายอย่างนี้ เธอพยายามเอาชีวิตรอดหนีตายขึ้นไปบนดาดฟ้า ก่อนที่มุ่ย จะหลุดหัวเราะออกมาแล้วเฉลยว่าเธอรู้ว่าฆาตกรที่อยู่ตรงหน้าเธอคือ แฟนหนุ่มของเธอที่เป็นลูกชายเจ้าของโรงแรมชื่อดังแห่งนี้ เขานัดเธอออกมาเพื่อจัดฉากเซอร์ไพรซ์ขอเธอแต่งงานนั่นเอง แต่สิ่งที่มุ่ยคิดทั้งหมดกลับไม่ใช่อย่างนั้น เมื่อชายที่อยู่ตรงหน้ากลับเป็น หยวน... (ปรัชญ์ ปรมิณ) ชายหนุ่มช่างซ่อมบำรุงของโรงแรมที่กำลังงงเช่นกัน เพราะแผนการขอแต่งงานกับแฟนสาวดันกลายเป็นยายเพิ้งที่ไหนเนี่ย ก่อนหน้านี้เมื่อ 6 ชั่วโมงที่แล้ว หยวน หนุ่มหน้าใสหัวใจต๊อกต๋อย ตัดสินใจสร้างอนาคตตามฝันของตัวเองโดยขอแฟนสาวที่คบหากันมา 7 ปี แต่งงาน และครั้งนี้หยวน ไม่สนคำห้ามปรามจากเพื่อนสนิทอย่าง แจ๊คกี้... (ปิติพน พรตรีสัตย์) หนุ่มช่างซ่อมบำรุงคู่ซี้ ที่มีหยวนที่ไหน มีแจ็คกี้ที่นั่น แผนทุกอย่างที่ถูกจัดเตรียมไว้อย่างดี หยวน ตั้งตารอแฟนสาวตามเวลานัดบนดาดฟ้าที่ประดับแสงไฟระยิบระยับและป้ายขอแต่งงานที่เขาได้เตรียมไว้ แต่ทุกอย่างก็ต้องมาพังลงเพราะมุ่ยนั่นเอง แต่แล้วเสียงของชิลลี่ก็ดังขึ้น พร้อมกับ จอร์จ...ชายหน้าตาดีที่มีดีกรีถึงลูกชายเจ้าของโรงแรมชื่อดังแห่งนี้ จอร์จกับชิลลี่ เดินมาด้วยกัน ท่ามกลางความตกตะลึงอึ้งย้ง งงงวยของมุ่ย เพราะจอร์จก็คือ แฟนของเธอ แล้วจอร์จเดินมากับชิลลี่ได้ยังไง ก่อนที่จอร์จกับชิลลี่ จะบอกกับมุ่ยและหยวนว่า เขาทั้งคู่กำลังคบหาดูใจกัน หยวนกับมุ่ยยิ่งงงหนัก ก่อนที่ชิลลี่กับจอร์จจะเดินควงแขนกันจากไป ทิ้งให้หยวน ที่ได้แต่นั่งอึ้งเหมือนสูญสิ้นทุกอย่าง ก่อนที่น้ำตาแห่งความเสียใจของลูกผู้ชายจะพรั่งพรูออกมา หยวนพยายามยื้อไม่ให้เสียคนที่รักที่สุดไป มุ่ยเองก็อึ้งไม่แพ้กันได้แต่ยืนงงกับเหตุการณ์ทั้งหมดตรงหน้า แต่แล้วทุกคนก็ต้องตกใจ เมื่อเสียงมุ่ยดังขึ้น ก่อนจะไม่เปิดเวลาให้ทุกคนเตรียมตัวหนี มุ่ยแย่งพลุที่หยวนเตรียมไว้จุดสร้างบรรยากาศมาระดมยิงใส่จอร์จและชิลลี่หมายล้างแค้นที่หักอกเธอ ต่างคนต่างหลบพลุของมุ่ยอย่างไม่คิดชีวิต ทุกคนวิ่งหลบพลุของมุ่ยกันจ้าละหวั่น มีเพียงหยวนที่พยายามเข้าไประงับเหตุ หยวนพยายามแย่งพลุจากมือมุ่ย จึงทำให้ชิลลี่และจอร์จมีเวลาได้หนีกลับออกไป พลุเหมือนจะสงบลงไปพร้อมความเสียใจของมุ่ย แต่แล้วพลุลูกสุดท้ายกลับไปทำให้กล่องของขวัญและป้ายผ้าติดไฟ และกำลังโหมไหม้แรงขึ้นเรื่อยๆ ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทำให้หยวนและแจ๊คกี้ถูกจับขึ้นโรงพัก และพ้นจากสภาพตำแหน่งพนักงานช่างซ่อมบำรุงของโรงแรมทันที ชีวิตหยวนไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มิหนำซ้ำห้องเช่าก็ดันมาถูกยึด เขาไม่มีแม้ที่ซุกหัวนอน ทั้งเนื้อทั้งตัวของหยวน มีเพียงเงิน 500 บาท และกุญแจบ้าน ใช่!! โชคยังเข้าข้าง เพราะหยวนยังมีบ้านที่เขาซื้อไว้เพื่อเป็นเรือนหอของเขากับชิลลี่ เขาจึงไม่ใช่คนไร้บ้านอีกต่อไป หยวนยืนอยู่หน้าบ้านหลังน้อยที่เขาประมูลมากับมือ แม้ว่ามันจะไม่มีชิลลี่อย่างที่หวัง แต่อย่างน้อยตอนนี้เขามีเพียงบ้านหลังนี้หลังเดียวที่จะใช้ซุกหัวนอนได้ หยวนเข้าไปในบ้าน เขารู้สึกเหมือนมีใครจ้องมองเขาตลอดเวลา แต่หยวนก็ไม่คิดมากก่อนที่หยวนจะหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย แต่แล้วในค่ำคืนนั้นหยวนก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา เพราะเสียงคนคุยกันแทบจะได้ยินไปสามบ้านแปดบ้าน แต่อย่าเรียกว่าคุยกันเลย เรียกว่าซ้อมมุกกันมากกว่า หยวนตกใจเมื่อพบว่ามีใครก็ไม่รู้มาอยู่ในบ้านเขาได้ยังไง แต่ทั้งหมดกลับบอกว่าบ้านหลังนี้เป็นของพวกเขา หยวนยิ่งงงตาแตกซิก็ในเมื่อเขาประมูลมาแล้ว แล้วก่อนที่เขาประมูลเขาก็มาดูแล้วเห็นว่าบ้านหลังนี้ไม่มีใครอยู่มานานหลายสิบปีแล้ว แต่คนพวกนั้นก็ยืนยันว่าบ้านหลังนี้เป็นของเขา หยวนที่กำลังหัวเสียเพราะคืนนี้เขาเจอมาหลายเรื่องจึงเปิดศึกกับคนทั้ง 5 ทันที อย่างนี้ต้องเปิดศึกชิงบ้านกันหน่อย แต่ยังไม่ทันที่หยวนจะทำอะไร หยวนก็โดนประตูฟาดหน้าเข้าให้ก่อนที่หยวนจะสลบไป เล่าฝ่ายพระเอกของเรามาก็เยอะแล้ว มาดูฝั่งนางเอกของเราบ้างดีกว่า มุ่ยตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงอันโหยหวนของ เจ๊เล้ง... (สุรางคนา สุนทรพนาเวศ) ผู้ที่เชื่อเรื่องดวงเป็นชีวิตจิตใจ เจ๊เล้งถูกขนานนามว่า เจ๊จอมเค็มปล่อยเงินกู้ขาใหญ่ ที่กำลังจะขยายสาขารองรับการกลับมาของมุ่ย ถูกต้องแล้ว...เพราะเจ้เล้งเป็นแม่ของมุ่ยนั่นเอง เจ๊เล้งเชื่อว่าทุกอย่างมักไม่ได้มาด้วยความสามารถเพียงอย่างเดียวต้องพึ่งดวงด้วย เธอยอมจ่ายค่าตัวหลักหมื่นให้หมอดู เพียงเพราะเชื่อว่าชีวิตดีได้ขนาดนี้เพราะคำทำนาย หมอดูได้ทำนายไว้ว่ามุ่ยจะได้โชคที่ตกลงมาจากฟ้า มุ่ยเล่าเรื่องคำทำนายให้เพื่อนสนิทอย่าง บ๊วย... (ฐิตินันท์ สุวรรณภักดี) เพื่อนรุ่นพี่ผู้มีบุคลิกแสนซื่อและใจอ่อน บ๊วยคอยเป็นที่ปรึกษาที่ดีและส้วมที่ดีให้มุ่ยคอยระบายทุกครั้งเช่นกัน ต่างจากเพื่อนรุ่นน้องจอมโวยวายอย่าง กิมก๊ำ... (อาทิตยา ทองวิชิต) ไม่ว่าจะเรื่องเล็กแค่ไหนกิมก๊ำ มักจะทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ได้เสมอ เมื่อไหร่ที่มุ่ยโดนรุม กิมก๊ำมักจะเป็นด่านหน้าขาลุยเสมอ แม้ว่าจะไม่เคยได้เรื่องเลยก็ตาม เจ๊เล้งได้ข่าวจากเพื่อนบ้านมาว่ามีคนเข้ามาอยู่ในบ้านหลังตลาดแล้ว ทำให้เจ๊เล้งหูผึ่ง เพราะบ้านหลังนั้นเพียงหลังเดียวที่เธอไม่สามารถครอบครองได้ เพราะถ้าเจ๊ซื้อบ้านหลังนั้นได้เมื่อไหร่ เจ๊ก็จะสามารถขายที่ผืนใหญ่ให้กับนายทุนเอาไปทำคอนโดได้ในราคาที่นั่งกินนอนกินได้ไปหลายชาติเลย เมื่อคิดได้อย่างนั้นเจ๊เล้งจึงตั้งขบวนรบออกไปพร้อมกับมุ่ยทันที ขณะเดียวกันหยวนตื่นขึ้นมาพร้อมกับวาดลีลาเต็มที่ แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าไม่มีใครอยู่ในบ้านแล้ว แต่เมื่อคืนเขาเห็นผู้ชาย 4 คน อยู่ในบ้านเขาจริงๆ นะ หยวนรีบแต่งตัวออกจากบ้านเพื่อไปแจ้งความทันที ซึ่งทำให้คลาดกับมุ่ยและเจ้เล้งแบบเส้นยาแดงผ่าแปด หยวนเล่าให้ตำรวจฟังถึงเหตุการณ์เมื่อคืน แต่ทันทีที่หยวนเล่า ทั้งตำรวจและคนที่อยู่รอบบริเวณต่างก็ทำท่าหวาดกลัวและไม่อยากพูดถึงบ้านหลังนั้น ในที่สุดหยวนก็เหลืออดจึงได้ถามชาวบ้านแถวนั้นก่อนที่หยวนจะได้ยินเรื่องสุดสยองเมื่อทุกคนบอกว่าทั้งหมดที่เห็นเป็นผี! หยวนได้ยินแทนที่จะกลัวกลับขำ เพราะมันจะเป็นไปได้ยังไง เพราะเขายังฟัดแบบ 1 ต่อ 5 มาแล้ว หยวนกลับมาบ้านพร้อมกับอุปกรณ์ป้องกันตัวแบบเต็มที่ ตั้งใจว่าคืนนี้เป็นไงเป็นกัน แต่ยังไม่ทันที่ต่อมฮึกเหิมจะทำงานเต็มที่ หยวนก็ดันไปเจอกับกล่องไม้ใบใหญ่ ก่อนที่หยวนจะเปิดออกดูแล้วพบกับรูปถ่ายจำนวนมาก ซึ่งรูปถ่ายเหล่านั้นคือ รูปของพวกมัน 5 คน ! หยวนจะเอารูปของมันทั้ง 5 ไปแจ้งความ แต่แล้วหยวนก็พบกับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งลงข่าวเรื่องที่ตลกคาเฟ่คณะลักยิ้ม ตายยกคณะ ขณะที่กำลังซ้อมการแสดงภายในบ้าน หยวนถึงกับขยี้ตาเพราะตลกคณะลักยิ้มที่บอกมันคือ 5 คน ที่เขาเห็นเมื่อคืนนี่ !!! หยวนเหวอไป หยวนยังไม่ทันจะกรี๊ด เขาก็ต้องพบกับผีทั้ง 5 ที่ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาตัวเป็น แล้วคราวนี้หยวนก็เชื่อแล้วว่าเป็นผีจริงๆ เพราะพวกนั้นผ่านประตูที่เขาวิ่งหนีเข้าห้องล็อกประตูมาได้ซะงั้น หยวนช็อกหมดสติไป หยวนฟื้นขึ้นมาพร้อมกับเจอทั้ง 5 คน เอ๊ะ...เรียกว่า 5 ตนถึงจะถูก ทั้ง 5 บอกให้หยวนไม่ต้องกลัวพวกเขา ก่อนที่ทั้ง 5 จะแนะนำตัวเอง เริ่มจาก โย่ง ลักยิ้ม...(ชาลี ดีเด็ด) ผู้มีความสามารถร้องลิเก ลำตัด ลูกทุ่ง ลูกกรุง ได้หมดในคนเดียว คนที่ 2 คือ ม่อม ลักยิ้ม... (หมวย ชวนชื่น) ผู้ที่เอะอะโวยวายตลอดเวลาเป็นเอกลักษณ์ คนที่ 3 คือ จ้ะเอ๋ ลักยิ้ม...(แม็กก้า จ๊ะเอ๋) ตลกหน้าเป็น ผู้มีความสามารถหลากหลาย ตึ๋ง ลักยิ้ม...(โอโม่ อาร์สยาม) ผู้ที่รักการมอบเสียงหัวเราะให้กับผู้คนเป็นชีวิตจิตใจ คนสุดท้ายคือ เผือก ลักยิ้ม (ฤทธิ์ ดีเด็ด) ผู้มีหน้าที่เป็นทุกอย่างให้คณะตลก ทั้งผู้จัดการ คนขนของ คนขับรถ แม้กระทั่งนักดนตรีประจำคณะ หยวนบอกกับทุกคนว่าบอกกูทำไม กูไม่ได้อยากรู้ ทันใดนั้นทุกคนก็เข้ามาอ้อนวอนหยวนให้ช่วยพวกเขาหน่อย หยวนสงสัยว่าทำไมต้องเป็นเขา ทุกคนจึงบอกกับหยวนว่าเพราะหยวนสามารถเห็นพวกเขา นั่นแสดงว่าหยวนต้องมีอะไรบางอย่างที่สื่อสารกับพวกเขาได้ และที่อยากให้ช่วยก็คือ ทำให้พวกเขาไปเกิดซะที นั่นหมายความว่าหยวนจะต้องช่วยสะสางเรื่องผีๆ ให้ทุกคนนั่นเอง หยวนยังไม่ทันจะรับปากหยวนก็ได้ยินเสียงแหลมแสบแก้วหูที่หน้าบ้าน หยวนออกมาที่หน้าบ้านก่อนที่หยวนจะตกใจเมื่อได้พบกับมุ่ยและเจ๊เล้ง มุ่ยกับหยวนต่างตกใจเมื่อได้พบกันอีกครั้ง เจ๊เล้งเห็นมุ่ยกับหยวนรู้จักกันก็ดีใจ แต่เจ๊ก็ดีใจเพียงแวบเดียว เพราะมุ่ยกับหยวนต่างทะเลาะกันบ้านแทบแตก เพราะฉะนั้นเลิกคิดที่จะให้มุ่ยมาเป็นตัวแทนในการซื้อบ้านของหยวนได้เลย เจ๊เล้งยื่นคำขาดกับมุ่ย หากไม่หาวิธีเอาบ้านนี้มาเป็นของเราตามคำทำนายของซินแส มุ่ยจะไม่มีวันได้ใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการอีกเลย เรื่องนี้จึงเดือดร้อนถึงผีคณะตลกที่ต้องร่วมมือกับหยวนป้องกันบ้านหลังนี้ ไหนหยวนจะต้องเริ่มทำธุรกิจที่มีเจ๊เล้งคอยเป็นก้างตลอด หยวนจะยอมขายบ้านเพื่อให้มุ่ยได้สานฝันอาชีพของเธอหรือไม่ แล้วบทสรุปของมุ่ยและหยวนท่ามกลางความชุลมุนของก๊วนผีจะวุ่นวายเช่นไร แล้วก๊วนผีตลกจะได้ไปเกิดมั้ย ติดตามความรักเฮี้ยนๆ ได้...

คู่วุ่นลุ้นแผนรัก 2559

คู่วุ่นลุ้นแผนรัก (2559/2016) เรื่องราวของขอจันทร์ หญิงสาวที่เคยถูกนที น้องชายของศิลา นักธุรกิจหนุ่มผู้แสนเย็นชาตราหน้าว่าเป็นได้แค่ลูกเป็ดขี้เหร่ แต่เมื่อเธอกลับมาอีกครั้งในมาดสาวสวย นทีก็ตกหลุมรักเธอถึงขั้นจะแต่งงานด้วย แต่ศิลาต้องการให้นทีแต่งงานกับหญิงที่ตนเลือกเพื่อพยุงฐานะบริษัท เขาจึงซ้อนแผนด้วยการบังคับให้ขอจันทร์จดทะเบียนสมรสกับเขาแลกกับเงินค่ารักษาพยาบาลพ่อที่เลี้ยงดูเธอมาและกำลังป่วยหนัก จากนั้น ศิลาก็สร้างสถานการณ์ให้ขอจันทร์ตกหลุมรักเขา แต่ยิ่งอยู่ใกล้กัน ความรักก็ก่อตัวขึ้นมาจริง ๆ ขณะเดียวกัน ศิลาก็พบปัญหาใหญ่ เพราะนทีผิดหวังถึงกับขาดสติจึงไปร่วมมือกับศัตรูตัวฉกาจของศิลา จนบริษัทเกือบตกเป็นของคนอื่น ดีที่ได้ขอจันทร์ซึ่งความจริง คือ ลูกสาวแท้ ๆ ของหุ้นส่วนคนสำคัญในบริษัทยื่นมือเข้าช่วยเหลือ นอกจาก บริษัทจะพ้นวิกฤต พี่น้องกลับมาเข้าใจกันแล้ว ศิลากับขอจันทร์ก็ได้รู้ใจตัวเองและยอมกลับมาปรับความเข้าใจกันในที่สุด

รักล้นดอย 2558

เรื่องย่อ : รักล้นดอย (2558/2015) เมื่อสาวบ้านป่าเข้าเมืองเพื่อตามหาพี่ชาย แต่โชคชะตาดันพาให้เธอต้องพบกับหนุ่มเมืองจอมแสบ เรื่องนี้เลยไม่รู้ว่าสาวบ้านป่ากับหนุ่มเมืองกรุงใครจะแสบแบบพริกกะเหรี่ยงกว่ากัน !!! ที่ชายแดนระหว่างเชียงราย พม่า เสียงผู้คนร้องเอะอะโวยวายจนสัตว์ป่าต่าง ๆ ที่อยู่ในป่าใหญ่บนยอดดอยต่างแตกฮือหนีตายกันโกลาหล ไม่ใช่เพราะเกิดสงครามระหว่างไทยพม่าอะไรหรอก แต่เสียงที่เอะอะโวยวายนั่นคือเสียงของ ดาวน้อย เจ้าหญิงแห่งเผ่าซอเลี๊ยะ กำลังระดมปาอุจจาระเป็ดภูเขาใส่ กษิดิน ผู้บริหารหนุ่มวัย 27 เจ้าของ บริษัท วันเดอร์แลนด์ อีเว้นท์ ออกาไนเซอร์ จำกัด บริษัทที่ผลิตสื่อเพื่อความบันเทิง ชื่อบริษัทฟังแล้วอาจจะดูเหมือนเป็นองค์กรใหญ่โต แต่ที่จริงแล้วบริษัทของกษิดินเป็นบริษัทขนาดเล็กมากถึงเล็กที่สุด เพราะมีพนักงานเพียงสองคนคือตัวเขากับ ยอดชาย เท่านั้น ภายใต้สโลแกนที่ดูดีเกินกว่าบริษัทก็คือ ความสุขของคุณ ความสุขของเรา ที่กษิดินมามอบของบริจาคให้กับ งอแซ หัวหน้าเผ่าซอเลี๊ยะ ชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ระหว่างชายแดนไทยกับพม่า นั่นก็เพราะกษิดินกาลังจะได้รับงานใหญ่ที่ทำให้เขาลืมตาอ้าปาก ด้วยความที่กษิดินอยากได้งานชิ้นนี้มากจึงยอมทำทุกอย่าง แม้กระทั่งคนบอกให้ขึ้นมาไหว้พระธาตุประจำปีเกิด กษิดินก็ต้องมา แถมด้วยความคิดของยอดชายที่บอกให้ทำบุญกับชาวเขาก็น่าจะดี กษิดินก็ไม่ขัด จนกระทั่งเกิดสงครามขึ้นระหว่างดาวน้อยกับเขานั่นเอง นอกจากงอแซจะเป็นหัวหน้าเผ่าแล้วยังเป็นพ่อแท้ ๆ ของดาวน้อยอีกต่างหาก และสาเหตุที่ดาวน้อยกับกษิดินเปิดศึกเหม็น ๆ ใส่กันก็เพราะว่าดาวน้อยดันไปได้ยินกษิดินพูดกับยอดชายถึงความน่ารังเกียจของชนเผ่าของเธอ นั่นเองจึงทำให้ดาวน้อยผู้ไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใครแต่จะทนไม่ได้ทันทีเมื่อมีใครมาดูถูกเผ่าของเธอ เพราะมีคำกล่าวในเผ่าของเธอว่า ดินคือพ่อ น้ำคือแม่ เพื่อนแท้คือพงไพร แม้ว่าเรื่องราวจะจบลงด้วยดีจากการไกล่เกลี่ยของงอแซ แต่ก็ทำให้ทั้งกษิดินและดาวน้อยต่างก็จงเกลียดจงชังกับความเป็นตัวตนของอีกฝ่าย กษิดินรู้สึกขยะแขยงทั้งจากขี้เป็ดที่ดาวน้อยละเลงใส่และความไร้การศึกษาของเธอ ขณะที่ดาวน้อยเองก็ไม่พอใจที่กษิดินมาดูถูกเธอและเผ่าของเธอ ทำไมจะต้องแบ่งชั้นวรรณะในเมื่อทั้งเธอและเขาก็เป็นคนเหมือนกัน จนทำให้ทั้งสองต่างตั้งใจไว้ว่าชาตินี้ขออย่าได้เจอกันอีกเลย ดาวน้อยไม่เข้าใจว่างอแซทำไมถึงได้ปล่อยกษิดินไป ทั้ง ๆ ที่กษิดินเองพูดจาดูถูกทุกอย่างที่นี่ งอแซจึงบอกว่าคนอื่นจะพูดยังไงก็ช่างแต่ถ้าเราไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูดก็ไม่ต้องสนใจ คนในเมืองมักจะคิดว่าตัวเองฉลาดกว่าคนบ้านป่าอย่างพวกเรา แต่ที่จริงแล้วพวกนั้นกลับไม่รู้เลยว่าคนที่โดนหลอก คือคนเมืองนั่นเอง ใช่ว่าพวกเขาอยากจะแต่งตัวเป็นชาวป่าชาวดอย แต่เพราะคนเมืองอยากเห็นอย่างนั้นพวกเขาก็เลยต้องแต่ง ไม่ใช่ว่าต้องการเงินทองจากนักท่องเที่ยวอะไรหรอก แต่ที่งอแซทำเช่นนั้นก็เพื่อความสะใจมากกว่า แม้ว่าดาวน้อยจะใจเย็นลงบ้าง แต่คนที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนยิ่งกว่ากลับเป็น จ่อไม้โป้ หรือ ไม้...ลูกชายของ ยะขิ่น...หมอผีประจำหมู่บ้าน ไม้แอบหลงรักดาวน้อยมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ไม่กล้าบอกดาวน้อยเพราะกลัวจะผิดหวังนั่นเอง แต่อีกสาเหตุนึงที่ไม้ไม่ได้บอกความในใจให้ดาวน้อยฟัง คงเป็นเพราะ กระจง...หนุ่มประหลาดที่สุดในเผ่าซอเลี๊ยะเพราะมีนิสัยตุ้งติ้งเหมือนผู้หญิง จนไม่รู้จะเรียกว่าเพื่อนสาวหรือเพื่อนชายของดาวน้อย ไม่เคยเปิดโอกาสให้ดาวน้อยกับไม้ได้อยู่กันตามลาพัง จนทำให้ไม้กับกระจงกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมาประจำเผ่าไปนั่นเอง แต่คนอย่างดาวน้อยไม่เคยยอมคนอยู่แล้ว ดาวน้อยคิดแก้เผ็ดกษิดินจึงแอบเข้าไปในรถของกษิดินในวันที่กษิดินกำลังจะกลับเพื่อเอาลูกดอกอาบขี้กิ้งกือไปทาให้กษิดินสลบเพื่อจะเอาตัวเขามาสั่งสอนให้สาสม แต่แล้วเจ้าป่าเจ้าเขาหรือโชคชะตากลั่นแกล้งไม่แน่ใจ เมื่อดาวน้อยดันทาลูกดอกจิ้มโดนตัวเอง ดาวน้อยตกใจเพราะเธอรู้ว่าฤทธิ์ของขี้กิ้งกือนั่นแรงแค่ไหน แล้วสิ่งที่ดาวน้อยเห็นเป็นครั้งสุดท้ายก็คือกษิดินกาลังเดินมาที่รถก่อนที่ดาวน้อยจะหมดสติไป ขณะเดียวกันงอแซก็ฝันเห็น ฟ้าลั่น...ลูกชายอีกคน ซึ่งเป็นพี่ชายของดาวน้อยที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพราะดันไปเชื่อคำชักชวนของคนเมืองที่ว่า ชีวิตกรุงเทพฯ...ชีวิตที่ดีกว่า แม้ว่างอแซจะพยายามห้ามปรามเท่าไรแต่ฟ้าลั่นก็ไม่ฟังจนทำให้ทั้งสองทะเลาะกันอย่างรุนแรง จากวันนั้นที่ฟ้าลั่นจากไป เป็นเวลาเกือบสองปีที่งอแซและดาวน้อยไม่ได้ข่าวคราวของเขาอีกเลย แล้วงอแซยิ่งไม่สบายใจเมื่อรู้ว่าดาวน้อยหายตัวไป จะว่าถูกเสือคาบไปกินก็ไม่น่าจะใช่ เพราะสัตว์ในพงไพรแถวนี้ล้วนเป็นเพื่อนกับดาวน้อย หรือว่าดาวน้อยจะตกน้ำ ก็ไม่น่าจะใช่อีกเพราะดาวน้อยว่ายน้ำเก่งยิ่งกว่าปลาเสียอีก แล้วสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ที่งอแซคิดได้ว่าดาวน้อยหายไปไหนนั่นก็คือ ถูกพวกคนกรุงจับตัวไป !!! หลังจากที่กษิดินกลับถึงกรุงเทพฯ ก็ทำการชุบตัวอบสมุนไพรเพื่อล้างกลิ่นอุจจาระเป็ดภูเขาเป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงเวลาที่กษิดินจะได้เดินตามความฝันของตัวเองซะที แล้วอย่างแรกที่เขาต้องทำก็คือการนัด ปริม...สาวสวยผู้เพียบพร้อมทั้งหน้าตาและกิริยามารยาทชาติตระกูลไปด้วย ปริมได้รับการอบรมสั่งสอนมาอย่างดีจาก ประไพศรี...ผู้มีบารมีและอิทธิพลในชุมชน เพราะประไพศรีเป็นเจ้าของบ้านเช่าที่เรียกได้ว่าแทบจะทั้งแถบ แถมยังเป็นเจ้าของร้านอาหารครัวประไพที่ไร้คู่แข่ง ไม่ใช่เพราะรสชาติดีเด่นอะไร แต่ถ้าใครมาเปิดร้านข้าวขายแข่งกับประไพศรีในละแวกใกล้ ๆ แม่จะขึ้นค่าเช่าให้อยู่กันไม่ได้เลยคอยดู แต่ที่สาคัญประไพศรีคือกระดูกชิ้นโตที่คอยขัดขวางไม่ให้กษิดินได้แต่งงานกับปริม จนกว่าเขาจะทำให้ฐานะของเขาเขยิบขึ้นมาทัดเทียมนั่นเอง แค่กระดูกชิ้นเดียวอย่างประไพศรีก็จะแย่แล้ว นี่ยังมี สุทัศน์...ชายหนุ่มเจ้าสำอาง เจ้าของธุรกิจรองเท้าแตะยาง ผู้เพียบพร้อมไปด้วยฐานะและชาติตระกูล เรียกได้ว่าเหมาะสมกับปริมทุกกระเบียดนิ้ว ติดเพียงอย่างเดียวที่ปริมไม่ได้ชอบเขานั่นเอง กษิดินตั้งใจจะเซอร์ไพรส์ปริมเพื่อให้ปริมกับคุณหญิงประทับใจ กษิดินเรียกนักข่าวและปริมไปที่รถเพราะเขาได้เตรียมลูกโป่งและการขอแต่งงานไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ทันทีที่กษิดินเปิดท้ายรถออก นอกจากลูกโป่งจะลอยขึ้นมาแล้ว ฝ่าเท้าของดาวน้อยก็พุ่งตรงเข้าเต็มหน้าของกษิดิน ปริม และคุณหญิง รวมถึงนักข่าวต่างตกใจว่าดาวน้อยเป็นใคร ดาวน้อยเองก็ตกใจเมื่อตัวเองตื่นขึ้นมาในสถานที่ที่ตัวเองไม่เคยรู้จักมาก่อน ความวุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อดาวน้อยพุ่งกระโจนจะหาทางหนี แต่ไม่ว่าจะไปทางไหนดาวน้อยก็ไม่เห็นป่าที่ตัวเองเคยอยู่เลย มีแต่ตึกคอนกรีตล้อมรอบเธอทุกทิศทุกทาง ทันใดนั้นกษิดินก็สั่งให้รปภ. จับตัวดาวน้อยก่อนที่จะเอาตัวดาวน้อยเข้าไปในบริษัท ด้วยความพลิ้วของกษิดินจึงบอกกับทุกคนรวมถึงนักข่าวว่า เขาได้พบกับดาวน้อย ผู้หญิงหลงสำรวจในป่าลึกทางภาคเหนือ และเธอก็คือหนึ่งในผู้ประกวดในโครงการ ฟันนี่ เฟรชชี่เกิร์ล หรือเรียกย่อ ๆ ว่า เอฟเอฟ (FF) เป็นรายการที่นำเอาหญิงสาวจากหลากหลายอาชีพเข้ามาประกวดเพื่อค้นหาผู้หญิงที่มีความสามารถเกินหญิง โดยผู้ชนะจะได้ทั้งเงิน ชื่อเสียง และได้โกอินเตอร์ แม้ว่ากษิดินจะใช้ความพลิ้วเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ดังกล่าวไปได้ แต่ดูเหมือนทุกอย่างกลับยิ่งยุ่งเข้าไปใหญ่เมื่อมีข่าวดาวน้อยออกไปทำให้ผู้หญิงหลายคนเกิดเปลี่ยนใจไม่มาสมัคร ทำให้ทางช่องที่จะทำการถ่ายทอดโครงการเอฟเอฟเกิดเปลี่ยนใจที่จะไม่เอารายการเอฟเอฟ กษิดินพยายามขอร้องอ้อนวอนเพราะโครงการเอฟเอฟคือทุกสิ่งทุกอย่างของเขา ถ้าจะล้มโครงการนี้ก็ฆ่าเขาซะยังจะดีกว่า ทางช่องจึงยื่นคำขาด ถ้าหากผู้สมัครยังไม่ครบในวันนี้จะตัดโครงการนี้ออกจากผังทันที นั่นเองจึงทำให้กษิดินถึงกับต้องมานั่งจุมปุ๊กอยู่ที่บ้านเพราะเขาจะไปหาผู้หญิงจากไหนมาอีกตั้งห้าคน แต่แล้วด้วยความฉลาดหลักแหลมหรือเพราะเข้าตาจนไม่ทราบได้ กษิดินเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แล้วนั่นก็คือ บรรดาเพื่อนบ้านที่อยู่รายรอบเขานี่แหละที่จะเป็นผู้สมัครในโครงการเอฟเอฟ แล้วผู้สมัครเหล่านั้นก็คือ เฮียจู...เจ้าของร้านนวดฝีปากกล้า ผู้ที่อยากขยับฐานะไปเป็นหมอนวดส่วนตัวให้กับกษิดิน คนที่สองคือ นุ้ย หมอนวดในร้านของเจ้จู พื้นเพเป็นคนใต้ ขี้อายผิดกับสาวชาวใต้คนอื่น ๆ แล้วยังมี มะเหมี่ยว...หมอนวดที่มีฉายาว่า หวานซ่อนเปรี้ยวต้องมะเหมี่ยวสิคะ คู่กิ๊กจั๊กจี้หัวใจของเฮียจู ส่วนคนสุดท้ายที่เกือบไม่ได้ประกวด นั่นก็คือ การบูร...แม่ค้าขายส้มตาหน้าหวานที่ครองใจหนุ่ม ๆ ไปทั้งซอย แต่ยังไง้ยังไง เธอก็ยังภักดีและรักแต่ เพชรฉาย...พระเอกลิเกเก่า ที่ไม่รู้ว่ามีดีอะไร นอกจากจะเสียงดังโวยวายแล้วแถมยังชอบแซวสาว ๆ ไปทั่ว กษิดินดีใจที่ทั้งสี่สาวยอมเข้าร่วมในโครงการเอฟเอฟ แต่ยังไงก็ยังขาดอีกหนึ่งคน ยอดชายจึงบอกกับกษิดินว่าก็ดาวน้อยที่อาศัยอยู่กับกษิดินไง เพราะกษิดินได้ออกข่าวไปแล้วด้วยว่าดาวน้อยคือหนึ่งในผู้สมัคร แต่กษิดินมีลางสังหรณ์ว่าถ้าให้ดาวน้อยสมัครจะต้องเกิดเรื่องยุ่ง ๆ ขึ้นมาอีกแน่ แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ กษิดินจึงรีบเสนอชื่อดาวน้อยเข้าไปอีกคนเพราะตอนนี้เขาหมดหนทางแล้วจริง ๆ แล้วในที่สุดดาวน้อยก็ได้เป็นหนึ่งในผู้ประกวดโครงการเอฟเอฟไปโดยไม่ทันตั้งตัว โดยที่ดาวน้อยไม่รู้เลยว่าชะตาชีวิตของเธอกำลังจะพบกับความผกผันต่อจากนี้ ร่วมลุ้นไปกับดาวน้อยว่าเธอจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงได้หรือไม่ แล้วเธอจะได้พบกับพี่ชายที่หายตัวไปเมื่อไหร่ รวมถึงคนในเผ่าที่กำลังส่งคนมาตามหาเธอที่เมืองหลวง และที่สาคัญสาวชาวป่ากับหนุ่มเมืองกรุงจะรักกันได้อย่างไร เชิญร่วมลุ้นร่วมฮากันได้ใน ละครรักล้นดอย ที่ออกอากาศทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00 น. ทางช่อง 7 สี ละครรักล้นดอย เริ่มตอนแรกวันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม 2558

ลีลาวดีเพลิง 2558

เรื่องย่อ : ลีลาวดีเพลิง (2558/2015) บาดแผลในอดีต ฝังลึกจนกลายเป็นแผลเป็นเกาะกินกายและใจมานานกว่าสิบปี บาดแผลที่เกิดจากความรัก ที่ผลักดันให้ทุกคนต้องทำเพื่อคนที่ตนรัก แม้สิ่งที่ทำนั้นจะถูกหรือผิด นักร้องสาวฉายา ลีลาวดีเพลิง เป็นอีกคนหนึ่งที่มีแผลเป็นจากความรักที่พ่อมีต่อเธอ เธอจึงกลับมาเพื่อจะลบรอยแผล เป็นให้กับตัวเอง หากแต่ต้องแลกกับความทุกข์ทรมานของอีกคนหนึ่งที่ตนรัก อาการปวดหัวอย่างรุนแรง เป็นเครื่องเตือนความจำว่า ทิวัตถ์ ถูกคนที่ฆ่า ศุภิสรา แม่ของเขา...ทำร้ายเมื่อสิบกว่าปีก่อน หลังจากที่เขาโดนตีหัวจนสลบไปหลายวัน ความทรงจำต่อเหตุการณ์ในวันนั้นหายไปเกือบหมด ทรงพล ผู้เป็นพ่อ และ ศุภารมย์ พี่สาวของศุภิสราบอกเล่าเหตุการณ์กับทิวัตถ์ว่า แม่ของเขาถูก ปองภพ แฟนเก่าซึ่งเป็นคนรับจัดสวนฆ่าตายและชายหนุ่มเห็นเหตุการณ์จึงถูกทำร้าย แต่ ลิลิน ไม่เชื่อว่าปองภพพ่อของเธอจะเป็นฆาตกร วันนี้ลิลินจึงกลับมาเพื่อทวงความบริสุทธิ์ให้กับพ่อ ศักดิ์สิทธิ์ ลูกเจ้าของโรงแรม Royal Pearl แนะนำให้ทิวัตถ์รู้จักกับนักร้องคนใหม่ของเขา ซึ่งมีฉายาว่า ลีลาวดีเพลิง เพียงแค่ครั้งแรกที่ทิวัตถ์เห็นลิลิน เขาก็เกิดความรู้สึกชอบ ศุภารมย์สั่งให้ กานดา เลขาของทรงพลสืบประวัติของลิลินจนรู้ว่าเธอคือลูกสาวของปองภพ ทรงพลกระวนกระวายจนต้องไปหา ดร.ศรัณย์ ให้ทำการปิดกั้นความทรงจำของทิวัตถ์ด้วยการสั่งจิตใต้สำนึกให้ทิวัตถ์มีอาการปวดหัวทุกครั้งที่พยายามนึกถึงเรื่องในอดีต ขณะเดียวกันก็ได้ประวัติของลิลินจาก ปรมัตถ์ ทนายความอาสา เพื่อนที่แอบหลงรักลิลินอยู่ จึงรู้ว่าหลังจากปองภพถูกจับลิลินถูกส่งตัวไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า มี แม่ดา เข้ามาอุปถัมภ์ส่งเสียให้ได้เรียนหนังสือและให้คำปรึกษามาตลอด แต่ลิลินก็ยังไม่เคยเห็นแม่ดาตัวจริงเลยแม้แต่รูปถ่าย ระหว่างที่ทิวัตถ์กำลังพัฒนาความสัมพันธ์กับลิลิน อนันยช ลูกชายของศุภารมย์ ก็ได้พบรักกับ วรรณิต อนันยชถูกใจและชอบพอวรรณิตเพราะมีหน้าตาเหมือนศุภิสรา...น้าที่เขาแอบปลื้มหลงใหลในเสน่ห์มานาน เดิมทีแม่สื่ออย่าง วาสนา ผู้เป็นทั้งย่าของวรรณิตและยายของทิวัตถ์กับอนันยช ตั้งใจจะให้ วรรณิตแต่งงานกับทิวัตถ์ แต่เพราะทิวัตถ์ฝังใจกับภาพที่ไม่ดีของแม่ทำให้ทิวัตถ์หมดความสนใจในตัวผู้หญิงอื่น ผิดกับอนันยชที่เห็นวรรณิตครั้งแรกก็ตกหลุมรักถึงขั้นขอให้ศุภารมย์จัดงานแต่งงานให้ทันที ทิวัตถ์ถึงกับอึ้งไปเมื่อรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วลิลินคือลูกสาวของปองภพ ฆาตกรที่ฆ่าแม่ของเขา ทิวัตถ์ตั้งท่ารังเกียจลิลินขึ้นมาราวกับคนละคน ยิ่งลิลินพยายามอธิบายเท่าไหร่ อาการปวดหัวของทิวัตถ์ก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น เมื่อแยกจากทิวัตถ์มา ลิลินเผชิญหน้ากับกลุ่มชายฉกรรจ์ที่พยายามจะทำมิดีมิร้ายกับเธอ ยังดีที่ วิทยา...นักออกแบบภูมิทัศน์ มาพบเข้าก่อนจะจัดการกับคนเหล่านั้นจนแตกกระเจิง ลิลินขอบคุณที่วิทยาช่วยเอาไว้ แล้วเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็ทำให้วิทยาเหมือนได้พบกับรักครั้งแรก แม้ว่าทิวัตถ์จะโกรธลิลิน แต่อีกใจก็อยากจะเห็นหน้าเธอนั่นก็เพราะตอนนี้ทิวัตถ์ได้หลงรักลิลิน อย่างไม่รู้ตัว วันหนึ่งลิลินกลับมาที่ห้องพักและโดนผู้ชายสวมไอ้โม่งพุ่งเข้ามาหา ลิลินตะโกนเรียกอย่างสุดเสียงให้คนช่วย เพื่อนร่วมงานที่พักอยู่ห้องใกล้กันต่างพากันมาช่วย รวมถึง วิชนี เชฟคนใหม่ของโรงแรมที่ศักดิ์สิทธิ์จ้างมาด้วยค่าตัวที่สูง ถือกระทะออกมาจากห้องเตรียมฟาดผู้บุกรุกเต็มที่ ทั้งลิลินกับวิชนีสู้มันไม่ไหว ยังดีที่วิทยาแวะมาหาลิลินจึงได้เข้ามาช่วยเอาไว้ ปรมัตถ์คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของทิวัตถ์ที่ไม่ต้องการให้ลิลินรื้อฟื้นเรื่องราวในอดีต ปรมัตถ์จึงบุกไปหาทิวัตถ์ถึงที่บ้านเพื่อเอาเรื่อง เป็นจังหวะเดียวกับที่ทรงพลและศุภารมย์ให้ดร.ศรัณย์มาพบเพื่อทำการสั่งจิตใต้สำนึกให้กับทิวัตถ์ ปรมัตถ์นัดเจอลิลินเพื่อจะบอกเรื่องดร.ศรัณย์ แต่เมื่อไปถึงลิลินก็ต้องช็อกเมื่อเห็นว่าปรมัตถ์ได้ตายแล้ว การตายของปรมัตถ์เสมือนเป็นระเบิดลูกใหญ่ เพราะลิลินเชื่อว่าทรงพลกับศุภารมย์ต้องมีส่วนรู้เห็น ทรงพลกับศุภารมย์ไม่อาจนิ่งเฉยต่อสิ่งที่ลิลินกำลังค้นหาต่อไปได้ พวกเขามองว่าลิลินกำลังนำความเดือดร้อนมาสู่คนในครอบครัวที่อยู่กันอย่างสงบสุขมาหลายปี ศุภารมย์ไปหาลิลินที่ผับเพื่อจะโน้มน้าวให้เลิกรื้อฟื้นคดี แต่เมื่อหญิงสาวยืนกรานจะพิสูจน์ความจริงต่อไป ศุภารมย์จึงเตือนเธอว่าหากทิวัตถ์จำเหตุการณ์และรู้ว่าใครเป็นคนฆ่าแม่ของเขา คนที่จะเจ็บปวดที่สุดก็คือทิวัตถ์ เมื่อไม่สามารถทำให้ลิลินเลิกล้มความคิดที่จะรื้อฟื้นคดีได้ ทรงพลและศุภารมย์จึงเปลี่ยนแผน เสนอให้ทิวัตถ์ชวนลิลินมาอยู่ที่บ้านด้วยกันเพื่อความปลอดภัยของทิวัตถ์และตัวลิลินเอง แต่งงานไม่ทันพ้นเดือน อนันยชรู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตหลังสมรส เพราะวรรณิตไม่ได้มีเสน่ห์น่าหลงใหลเหมือนศุภิสราอย่างที่เขาคาดหวังไว้แม้แต่น้อย ครั้นพอมาได้เห็นลิลินอย่างใกล้ชิด อนันยชก็นึกอิจฉาญาติผู้น้องและรู้สึกว่าตัวเองนั้นแพ้ทิวัตถ์แทบทุกเรื่องแม้แต่เรื่องผู้หญิง หลายครั้งที่อนันยชแสดงออกว่าอิจฉาทิวัตถ์ต่อหน้าภรรยา แต่วรรณิตก็ไม่แสดงท่าทีโกรธหรือหึงหวงสามี เพราะเธอรู้ดีว่าการได้แต่งงานกับอนันยชไม่ได้เกิดจากความรัก แต่เป็นเพราะความจำเป็นบางอย่าง อนันยชยิ่งเพิ่มความหงุดหงิดมากขึ้นเมื่อ ยงยุทธ...ปรากฏตัวขึ้นที่บ้าน วรรณิตตกใจเมื่อได้พบกับยงยุทธ และเมื่ออนันยชถามว่ายงยุทธเป็นใคร วรรณิตจึงบอกว่าเป็นพี่ชาย ส่วนวาสนาก็พา นพกร มาฝากให้เป็นคนขับรถ ศุภารมย์ไม่ชอบใจนักเพราะนพกรดูทะเยอทะยานไม่มีความเคารพเจ้านาย แต่ก็จำใจต้องรับไว้เพราะความเกรงใจวาสนา วันหนึ่ง ศุภารมย์ได้รับจดหมายข่มขู่จาก เจี๊ยบ คนรับใช้เก่า เรียกร้องเงินหลายแสนเพื่อแลกกับการปิดปากเรื่องคดีของศุภิสรา เมื่อทิวัตถ์ทราบเรื่องจึงเดินทางไปหาเจี๊ยบ แต่เจี๊ยบกลับกลายเป็นศพอยู่ที่คลองท้ายสวนแห่งหนึ่ง ทิวัตถ์รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลจึงรีบโทรกลับไปหาศุภารมย์ แต่แล้วทิวัตถ์ก็ต้องตกใจเมื่อรู้ว่าศุภารมย์กำลังนำเงินไปให้กับเจี๊ยบ มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเจี๊ยบถูกฆ่าไปแล้ว จะต้องมีใครสวมรอยเป็นเจี๊ยบเพื่อข่มขู่ศุภารมย์แน่ๆ เมื่อมาถึงที่นัดศุภารมย์ขอดูหลักฐานก่อนจะฉวยจังหวะเอากล่องเหล็กที่ใส่เงินไว้กระแทกเข้าไปที่หมวกกันน็อคของคนที่ขับมอเตอร์ไซค์มาเอาเงิน เขาล้มลงและนั่นทำให้ศุภารมย์เห็นโฉมหน้าคนที่ต้องการแบล็คเมล์หล่อน นพกร...คนขับรถนั่นเอง หลังจากเอาตัวรอดด้วยการทำร้ายศุภารมย์...นพกรกลับมารอรับลิลินที่บ้านแล้วโกหกหญิงสาวว่า ศุภารมย์มีเรื่องสำคัญต้องการให้เธอไปพบ แต่รถที่นพกรขับพาเธอไปนั้น ออกนอกเส้นทางไปไกลมาก นพกรสารภาพว่าเขารักลิลินและต้องการพาเธอไปอยู่ด้วยกัน และเขาเองที่เป็นคนฆ่าปรมัตถ์เพราะรู้ว่าปรมัตถ์ชอบลิลิน เขาจะกำจัดทุกคนที่มาขวางทางรักของเขา ลิลินทำเป็นเข้าอกเข้าใจจนชายหนุ่มตายใจ เปิดช่องให้ลิลินฉวยจังหวะฉีดสเปรย์พริกไทยใส่เข้าเต็มหน้าของนพกรและรีบหนีทันที ทิวัตถ์กับวิทยาออกตามหาลิลิน ทิวัตถ์แทบคลั่งเมื่อเห็นรถของที่บ้านที่นพกรขโมยมาถูกไฟไหม้ทั้งคัน แต่แล้วเสียงหญิงสาวที่เขาคุ้นเคยดีก็ดังขึ้น ลิลินหนีรอดจากนพกรมาได้อย่างปลอดภัย วาสนาขอมาพักอยู่ที่บ้านทรงพลด้วยเพราะกลัวนพกรจะย้อนไปทำร้าย แต่อนันยชไม่พอใจเพราะวาสนาเป็นคนนำนพกรเข้ามาทำร้ายแม่และคนในบ้าน ขณะที่ศุภารมย์กลับเกรงใจยอมให้วาสนาพักอยู่ด้วยกันได้ วาสนาคอยพูดเสี้ยมให้อนันยชหวั่นไหวว่าสุดท้ายแล้วทรงพลต้องเห็นความสำคัญของลูกแท้ ๆ มากกว่าหลานหรือลูกเลี้ยงอย่างอนันยช แล้ววาสนาก็ต้องตกใจเมื่อได้พบกับยงยุทธที่มาขอเงินอีกครั้ง ลิลินได้รับจดหมายจากใครบางคนว่าขอนัดพบเพื่อเปิดโปงความจริงที่ลิลินควรรู้ วิทยารู้เรื่องการนัดพบของลิลินกับคนแปลกหน้าจึงตามไปเพราะความเป็นห่วง แต่ภาพที่วิทยาเห็นก็คือลิลินอยู่กับยงยุทธที่กลายเป็นศพ วาสนากล่าวหาว่าลิลินเป็นฆาตกรทันที วิทยาออกตัวยืนยันความบริสุทธิ์ให้กับลิลิน ลิลิน สงสัยว่าวิทยาช่วยเธอไว้ทำไม วิทยาจึงตัดสินใจสารภาพรักกับลิลิน ลิลินทำตัวไม่ถูก เพราะเธอรู้ตัวเองดีว่าใจของเธอนั่นให้กับทิวัตถ์ไปแล้ว วิทยาเองก็เหมือนจะรู้จนต้องยอมหลีกทางให้ลิลินรักกับทิวัตถ์ เรื่องร้าย ๆ ยังคงเกิดขึ้นกับคนในบ้าน และครั้งนี้เกิดกับทิวัตถ์ที่ถูกโจร 2 คนใช้ไม้ตีเข้าที่ศีรษะอย่างแรงขณะที่เขาไปรับลิลินที่ผับ ทำให้วาสนายิ่งใส่ไฟกับคนในบ้านว่าลิลินเป็นตัวปัญหา ทั้งเปรยว่าเหตุการณ์นี้อาจทำให้ทิวัตถ์จำเรื่องราวในอดีตได้ทำเอาศุภารมย์และอนันยชรู้สึกหวั่นใจ ลิลินไปเยี่ยมทิวัตถ์ที่โรงพยาบาลและสังเกตเห็นความผิดปกติว่าน้ำเกลือกำลังไหลเข้าสู่เส้นเลือดของทิวัตถ์ทั้งที่แพทย์เพิ่งสั่งงดการให้ยา ลิลินสงสัยในพฤติกรรมและอารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของศุภารมย์ จึงโพล่งออกมาว่าศุภารมย์ พยายามจะฆ่าทิวัตถ์ แต่ทรงพลยืนกรานว่าภรรยาของเขาไม่ทำแน่ เพราะหล่อนเป็นแม่อุ้มบุญของทิวัตถ์ เพราะศุภิสรากลัวการมีลูกแล้วจะทำให้รูปร่างเสีย จึงให้พี่สาวทำกิ๊ฟเพื่อตั้งท้องลูกของหล่อนแทน ทิวัตถ์กลับมาพักผ่อนที่บ้าน ลิลินแอบเข้าไปในห้องนอนของทิวัตถ์ และได้ยินเสียงใครบางคนพูดว่า "ตายยากตายเย็นเหลือเกิน" ก่อนที่ทิวัตถ์จะถามขึ้นว่า "ยายน้อยจะทำอะไร" ศุภารมย์บอกว่าสงสัยในตัววาสนามานานแล้วว่าเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของผู้เป็นน้า แม้จะปฏิเสธในตอนแรกแต่สุดท้ายวาสนาก็ต้องยอมจำนน เมื่อศุภารมย์บอกว่าวาสนาทำแบบนี้เพื่อต้องการเงินไปใช้หนี้พนัน และหากทิวัตถ์ตาย อนันยชก็จะได้ทุกอย่างและวรรณิตซึ่งเป็นภรรยาก็จะได้ด้วย และเมื่อนั้นวาสนาก็จะได้เงินจากหลานสาวที่หล่อนผลักดันให้เข้ามาเป็นสะใภ้ในบ้านนี้ อนันยชโกรธที่ตัวเองเป็นคนโง่โดนผู้หญิงหลอก วรรณิตไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ และที่มาแต่งงานกับเขาเพราะวรรณิตต้องการเงินไปช่วยเหลือครอบครัว ซึ่งวาสนาเป็นคนพาเธอไปทำศัลยกรรมใบหน้าให้เหมือนศุภิสรา ด้วยหวังว่าทิวัตถ์จะชอบ และที่สำคัญยงยุทธที่วรรณิตอ้างว่าเป็นพี่ชาย แต่แท้ที่จริงแล้วเขาคือสามีของวรรณิตนั่นเอง การปรากฏตัวของยงยุทธนั้นผิดแผนของวาสนาที่วางไว้ เธอจึงวางแผนฆ่ายงยุทธแล้วนัดลิลินไปเพื่อใส่ร้ายเธอ ภาพที่วาสนาจับลิลินเป็นตัวประกันและพาไปที่ระเบียงทำให้ทิวัตถ์ปวดหัวขึ้นมาทันที ก่อนที่ภาพในอดีตซึ่งเลือนหายไปหลายปีจะกลับคืนมา เขาจำได้แล้วว่าที่แม่ตกลงไปจากระเบียงเป็นเพราะเขาทะเลาะกับแม่เรื่องของอนันยช ที่แม่ชอบพอหลานตัวเองในเชิงชู้สาว ศุภิสราไม่พอใจคว้าแจกันฟาดหัวของทิวัตถ์เมื่อทิวัตถ์คว้าไม้วัดของปองภพที่ตกอยู่ในห้อง ทำให้เลือดของเขาติดที่ไม้จนกลายเป็นหลักฐานสำคัญชี้เป้าไปที่ปองภพว่าเป็นฆาตกร ขณะที่ศุภิสราตกใจที่เห็นร่างของทิวัตถ์เต็มไปด้วยเลือดลุกขึ้นและเดินตรงเข้าไปหาหล่อน...จึงพลัดตกระเบียง แม้ลิลินจะดีใจที่พ่อของเธอพ้นผิด แต่ก็เสียใจมากเมื่อรู้ว่า ชายคนรักคือคนที่ทำให้ศุภิสราตายแต่คนในครอบครัวกลับช่วยกันปิดบัง เพราะความเห็นแก่ตัวรักลูกของตนมากเกินไป จนทำร้ายลูกของอีกคนหนึ่ง ศุภารมย์ขอโทษลิลินแทนทิวัตถ์ เพราะหล่อนต่างหากที่ให้ข้อมูลผิด ๆ กับเขาด้วยความรักที่แม่มีต่อลูก ศุภารมย์บอกกับลิลินว่า หล่อนรู้มาตลอดว่าปองภพไม่ใช่ฆาตกร แต่ความรักและเป็นห่วงลูกอย่าง ทิวัตถ์ที่มีมากกว่า ทำให้ศุภารมย์ไม่สนใจว่าใครจะถูกกล่าวหาอย่างไร แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปหล่อนสำนึกได้และพยายามหาทางช่วยปองภพให้หลุดพ้นจากความผิด แต่เป็นเพราะปองภพรักและเป็นห่วงลูกสาวคนเดียวมากเช่นกัน จึงขอให้ศุภารมย์ช่วยดูแลลิลินแทนการไถ่โทษ โดยแลกกับอิสรภาพของเขา ปองภพป่วยเป็นโรคมะเร็งและคิดว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน และเมื่อตนจากไปแล้วลิลินก็จะไม่เหลือใครอีกแม้แต่ญาติ ๆ ศุภารมย์จึงทำตามเจตนารมย์ของปองภพที่หล่อนได้รับปากไว้ เข้ามาเป็นแม่อุปถัมภ์เพื่อไถ่โทษต่อปองภพและชดเชยสิ่งที่ลิลินขาดไป ความเจ็บปวดที่ติดตัวทิวัตถ์มาสิบกว่าปีสิ้นสุดลงแล้ว เขาตัดสินใจบวชทดแทนบุญคุณพ่อแม่ และเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับศุภิสรากับปองภพ พร้อมให้สัญญากับลิลินว่า วันใดที่เธอทำใจกับเรื่องที่ผ่านมาได้ เมื่อนั้นพวกเขาจะแต่งงานกันทันที ติดตามชม ละครลีลาวดีเพลิง ได้ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 สี และ ช่อง 7 HD ละครลีลาวดีเพลิง เริ่มตอนแรกวันเสาร์ที่ 3 มกราคม 2558

หน้าที่