ชายแพศยา 2566

ชายแพศยา (2566/2023) ยุค 5 G ที่ความถูกใจวิ่งแซงความถูกต้อง ยุคที่ผู้หญิงคือผู้ล่าและผู้ชายมีน้อยใช้สอยอย่างประหยัด ยุคที่วิชาศีลธรรมถูกดีดออกจากวิชาบังคับของเด็กๆ เมื่อมาถึงจุดนี้แล้วก็อย่าถามหาความผิดชอบชั่วดี เพราะ “จิตสำนึก” ไม่ได้สังเคราะห์แสงเองได้เหมือนใบไม้ ทำให้ “วิม” ชายวัยกลางคนที่โชกโชนเรื่องความรัก ผลัดใบสาว ๆ ไม่เคยซ้ำหน้าเป็นผู้ชายลำดับต้น ๆ ที่ผู้หญิงวิ่งเข้าใส่เพราะถูกใจสรรพคุณที่เขาการันตีไว้ว่า หนุ่มใหญ่ใจถึง รักสนุกไม่ผูกพัน พ่วงไม้เด็ดประสบการณ์โชกโชน วิมผ่านการแต่งงานมาไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง แต่ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับใคร แต่เขากลับเป็น “อาวิม” ที่มีหลานสาว 2 คนให้ความรัก นับถือเหมือนพ่อคนที่ 2 ไม่ว่าเขาจะอยู่กับใคร ที่ไหน เมื่อไหร่ ถ้า “อรยานี” เรียกเขาจะต้องทิ้งทุกไลฟ์สไตล์กลับมาหาเธอทันที “อรยานี” เป็นทั้งเพื่อนสนิทสมัยเรียนของวิม และเป็นพี่สะใภ้ของเขาอีกด้วย หลังจาก “ภาคิน” พี่ชายแท้ ๆ ของวิมและเป็นสามีของอรยานีเสียชีวิตลง วิมก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของอรยานี คอยช่วยเหลือดูแลเธอและลูก ๆ ทันที แม้วิมจะรู้ธรรมชาติของผู้ชายดีแค่ไหน แต่เขากลับปกป้องผู้หญิงที่เขารักทั้ง 3 คนไว้ไม่ได้ (ที่มา: ch3plus.com)

สาปซ่อนรัก 2565

สาปซ่อนรัก (2565/2022) อาถรรพ์คำสาปแช่งใด ๆ ไม่น่ากลัวเท่าความรัก โลภ โกรธ หลง ในใจมนุษย์ ตำนานคำสาปของต้นตระกูล “ยินดีพงษ์ปรีชา” ที่เล่าต่อกันมาว่าถูกสาปแช่งให้เหลือเพียงผู้หญิงและแม่หม้าย ที่ดูเหมือนจะกลายเป็นจริงเมื่อ “เจ้าสัวพธู” ลูกชายคนสุดท้ายของตระกูลตกตึกตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ตระกูล “ยินดีพงษ์ปรีชา” ที่เหลือเพียง สะใภ้และลูกสาว จึงเกิดศึกสตรี ห้ำหั่น แย่งชิงสมบัติมูลค่ามหาศาล ที่นำมาซึ่งโศกนาฎกรรมความรักโลภโกรธหลงจากเบื้องลึกของจิตใจมนุษย์อันลึกลับซับซ้อน

ในสวนขวัญ 2557

ในสวนขวัญ (2557/2014) เป็ดปุ๊ก บัวบูชา (ราศรี บาเล็นซิเอก้า) กับ เชียร (ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) ผู้เป็นบิดาเดินทางไปที่หมู่บ้านเสริมขวัญ เพื่อจะไปซื้อบ้านหลังใหม่ไว้อยู่ด้วยกันเพราะต้องการที่จะหนีให้พ้นจากเรื่องร้อนใจภายในบ้านที่เกิดจากลูกชายและลูกสะใภ้ของเชียรเอง ทั้งคู่ได้พบกับ หทัย (ปนัดดา วงศ์ผู้ดี) สาวใหญ่เจ้าของโครงการ และพิกุล (ดีใจ ดีดีดี) พนักงานของโครงการ หทัยได้เสนอบ้านหลังสุดท้ายของโครงการให้กับเป็ดปุ๊ก ในตอนแรกเป็ดปุ๊กกลัวจะเกินงบ แต่พอได้เห็นบ้านเป็ดปุ๊กก็ตกลงซื้อในทันที

ตั้งแต่ที่ลูกชาย ไก่กุ๊ก ไทรงาม (ดนัย จารุจินดา) แต่งงานกับ เก็จ เก็จเกยูร (พิมพ์อักษิพร วินโกมินทร์) มักจะเกิดปัญหาภายในบ้านอยู่ตลอด โดยเฉพาะเวลาที่ไก่กุ๊กทะเลาะกับเก็จเกยูร เก็จเกยูรมักจะด่าถึงเชียรด้วย ทำให้เป็ดปุ๊กและเชียรตัดสินใจที่จะย้ายออกมาเพี่อความสงบสุขของบ้าน แต่ไก่กุ๊กและเก็จเกยูรก็ยังหาเรื่องเป็ดปุ๊กว่าเอาพ่อไปอยู่ด้วยนั้น ต้องการเงินบำนาญและเงินมรดกของพ่อ ก่อนที่เป็ดปุ๊กจะไป เก็จเกยูรยังให้แมวเมี๊ยว และนกจิ๊บ ขอข้าวของเครื่องใช้ของเป็ดปุ๊ก เมื่อ แก้ว แก้วกรพินธุ์ (ภัทรินทร์ เจียรสุข) เพื่อนร่วมงานของเป็ดปุ๊ก และเป็นน้องสาวของเก็จเกยูร รู้ว่าเป็ดปุ๊กจะย้ายบ้านก็เข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง ซึ่งแท้จริงแล้วสวมหน้ากากคนดีแต่มีแผนร้ายอยู่ ในวันที่เป็ดปุ๊กขนของย้ายไปที่บ้านใหม่นั้น เธอได้เจอกับ ไข่มุก (จรรยา ธนาสว่างกุล) เพื่อนบ้านช่างเม้าท์โดย ไข่มุกเตือนเธอว่าให้ระวังโรคจิตนอกกำแพง ทำให้เธอเริ่มระแวงว่าข้างบ้านของเธอที่เป็นสวนรกร้างนั้นเป็นของใคร แต่พิกุลก็ยืนยันว่าเป็นญาติของหทัยเอง เธอรู้สึกชื่นชมต้นไม้ที่ทางโครงการลงให้ พิกุลบอกว่าเป็นฝีมือของคนสวนของโครงการ โอม อลังการ (เปรมมณัช สุวรรณานนท์) ลูกชายของหทัยเข้ามาต้อนรับหญิงสาวเข้าสู่หมู่บ้านแห่งนี้ รุ่งขึ้นเป็ดปุ๊กกลับมาที่บ้านใหม่อีกครั้ง ได้พบกับ ไม้ ตฤณ (ปกณณ์ ฉัตรบริรักษ์) คนสวนของหมู่บ้านที่เอาต้นไม้มาลงเพิ่ม เมื่อเป็ดปุ๊กเข้าไปถามไถ่ก็เจอคำตอบกวนประสาทกลับมา และยังเห็นไข่มุกมีท่าทีหวาดกลัวคนสวนหนุ่มคนนี้ เมื่อถึงวันที่ต้องย้ายบ้าน สองพ่อลูกรู้สึกอาลัยอาวรณ์กับบ้านหลังเก่าที่มีความทรงจำอัดแน่นอยู่อย่างอาลัยอาวรณ์โดยเฉพาะเชียรที่ซึมไป ชีวิตในบ้านหลังใหม่นั่นช่างเงียบเหงา หดหู่ เชียรเศร้าซึมอย่างหนักเพราะคิดถึงบ้านเก่า เป็ดปุ๊กรู้สึกเป็นห่วงผู้เป็นพ่อมาก แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ทั้งความเครียด ความเหน็ดเหนื่อย และปัญหาต่าง ๆ ทำให้หญิงสาวนั่งร้องไห้เพียงลำพงในห้องนอนโดยที่คิดว่าไม่มีใครเห็น แต่หญิงสาวไม่รู้เลยว่าทุกอิริยาบถที่เธอทำมีผู้จับตามองอยู่ เมื่อเป็ดปุ๊กต้องไปทำงาน ก็รู้สึกห่วงพ่อไม่น้อย พิกุลพาไม้มาหาเชียรเพื่อปรึกษาเรื่องทำสวน เมื่อไม้รู้ว่าเชียรอยู่บ้านคนเดียวก็รู้สึกสงสาร จึงมาพูดคุยทำให้เชียรรู้สึกอุ่นใจยิ่งขึ้น ไม้ไม่ใช่แค่คนสวน แต่ยังเป็นเจ้าของร้านต้นไม้ชื่อ สวนขวัญ ตั้งอยู่บริเวณข้าง ๆ หมู่บ้าน ที่ดินข้างบ้านเป็ดปุ๊กก็เป็นของไม้ทั้งหมด ไม้สร้างบ้านบนต้นไม้ไว้เพื่อเป็นห้องนอนและยังเห็นเป็ดปุ๊กร้องไห้เพียงลำพังจากบ้านต้นไม้แห่งนี้ และที่ดินหลังหมู่บ้านก็เป็นของ ย่าขวัญ (พิสมัย วิไลศักดิ์) ย่าแท้ ๆ ที่เลี้ยงดูไม้มาตั้งแต่เด็ก ย่าขวัญอาศัยอยู่กับ ตั๊กแตน (อนุธิดา อิ่มทรัพย์) เด็กสาวผู้กำพร้าที่ย่าขวัญรับมาเลี้ยงไว้ และเอ๋ง สุนัขพันทางหนึ่งตัว ย่าขวัญอยู่ในสวนแห่งนี้มานานรักและผูกพันกับที่ดินผืนนี้มาก เมื่อย่าขวัญบอกไม้ว่าหทัยจะมีกินข้าวด้วย จากที่อารมณ์ดี ๆ ไม้ก็กลับอารมณ์เสียและหนีกลับไปยังบ้านต้นไม้ ระหว่างวันทำงานเป็ดปุ๊กไม่ค่อยมีสมาธิในการทำงานเพราะเป็นห่วงเชียร แก้วบอกว่าทำงานที่เป็ดปุ๊กสั่งเรียบร้อยแล้ว เลยโดนแซวว่าเพราะมีกำลังใจดี แฟนเป็นถึงลูกเจ้าของโครงการบ้านจัดสรร ทำให้เป็ดปุ๊กนึกถึงตัวเองว่าเมื่อไหร่จะมีคนเข้ามาในชีวิตบ้าง เมื่อกลับถึงบ้านเป็ดปุ๊กก็พบกับเศษก๋วยเตี๋ยวอยู่ในถังขยะ เชียรจึงสารภาพว่าคนสวนของหมู่บ้านซื้อมาให้ เป็ดปุ๊กจึงเตือนเชียรว่าอย่าสนิทกับคนแปลกหน้าเกินไป เป็ดปุ๊กถามหาคนงานชื่อไม้กับ ราย และคนสวนในหมู่บ้าน โอมได้ยินก็มาเตือนเป็ดปุ๊กว่าไม้เป็นคนไม่ดี ทำให้เป็ดปุ๊กไม่ไว้ใจไม้ยิ่งขึ้นเป็นกังวลจนกระทบกับงาน ทำให้ พิมพา (แวร์ โชว) หัวหน้าของเธอเรียกเข้าไปตักเตือนให้แยกเรื่องส่วนตัวกับงาน เป็ดปุ๊กซึ่งเครียดจากงานไม่พอ กลับถึงบ้านเจอไข่มุกฟ้องเรื่องที่ไม้ปีนเอามาปลาเค็มมาฝากพ่อของตน ทำให้พ่อไม่สนใจอาหารที่ตนซื้อมา เป็ดปุ๊กยิ่งรู้สึกโกรธไม้มากขึ้น แต่เชียรกลับรู้สึกสนิทกับไม้ขึ้นเรื่อย ๆ จนยอมเล่าเรื่องต่าง ๆ ภายในครอบครัว เมื่อเชียรถามไม้กลับเขาเล่าแค่ว่าอาศัยอยู่กับย่า แม่มีสามีใหม่ หลังจากคุยธุระเสร็จ แก้วก็ชวนเป็ดปุ๊กโดดงานที่บริษัท เป็ดปุ๊กถือโอกาสกลับไปดูหน้าไม้ให้เห็นจะจะ เพราะไม้ชอบหลบหน้าเธอมาตลอด เมื่อกลับถึงบ้านเห็นไม้ง่วนอยู่ในครัวก็เข้าไปต่อว่า และเชียรก็แนะนำให้ทั้งสองรู้จักกันไม้ก็บอกว่าเข้าแนะนำตัวกลับเป็ดปุ๊กตั้งแต่เอาต้นไม้มาลงที่บ้านครั้งแรกแล้ว แม้ว่าเป็ดปุ๊กและเชียรจะย้ายออกมาจากบ้านเก่าแล้ว แต่ก็มีเรื่องร้อนใจของไก่กุ๊กและเก็จเกยูรตามมา เพราะแมวเมี๊ยวโทรมาฟ้องว่าแม่สั่งไม่ให้คุยกับทั้งคู่ เป็ดปุ๊กพยายามหาทางที่จะทำให้เชียรหายเศร้าโดยพาไปซื้อต้นไม้ที่ร้านสวนขวัญ และเพิ่งรู้ว่าไม้ขายต้นไม้อยู่ที่นี่ เป็ดปุ๊กอยากจะซื้อต้นลั่นทมแต่เห็นชื่อไม่เป็นมงคล แต่ไม้ก็บอกว่าบางคนยังไม่ปลูกก็เห็นร้องไห้ขี้มูกโป่ง ทำให้เป็ดปุ๊กรู้สึกสงสัยเหมือนกับไม้เห็นว่าเธอร้องให้เมื่อคืน แมวเมี๊ยวโทรมาร้องไห้กับเป็ดปุ๊กและเชียรว่าแม่ไม่ยอมให้เลี้ยงเจ้ายักษ์เบิ้ม สุนัขพันธุ์ปลั๊กแล้ว ทำให้ทั้งคู่ต้องไปรับเจ้ายักษ์เบิ้มมาอยู่ที่บ้าน เมื่อกลับไปบ้านเก่าก็พบกับ กะรัต ซึ่งเป็นแม่ของเก็จเกยูรที่มาเลี้ยงดูแมวเมี๊ยว กะรัตต้องการให้เชียรขายบ้านหลังเก่า เชียรไม่ยอมขาย กะรัตได้แต่สงสัยว่าที่ดินนี้เป็นชื่อของใคร ไข่มุกมาฟ้องเป็ดปุ๊ก ชี้ให้ดูรั้วสังกะสีที่สูงเท่าหน้าต่างชั้นสองของตน และบอกว่าเป็นฝีมือของคนสวนบ้า จะไปฟ้องหทัยให้มารื้อออก ไม้มาพอดีและสวนกลับไปว่าเป็นเพราะไข่มุกที่โยนขยะข้ามมาบ้านคนอื่น หลังจากย้ายบ้านมาสักพักทั้งคู่เริ่มปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตใหม่ได้ กระทั่งวันหนึ่งมีฝนตกหนัก รถติดมาก เป็ดปุ๊กไม่สามารถติดต่อพ่อได้ เธอตัดสินใจขับรถไปที่ร้านสวนขวัญแล้วขอไม้ปีนข้ามรั้วบ้านไปดูพ่อ ซึ่งสาเหตุที่เชียรไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ เพราะยักษ์เบิ้มนั้นทำสายโทรศัพท์หลุด เหตุนี้เองทำให้เป็ดปุ๊กเห็นความมีน้ำใจของไม้ที่ช่วยเหลือเธอ และเริ่มเปิดใจมากขึ้น แก้วมาปรึกษาเป็ดปุ๊กต้องการออกจากที่ทำงานก่อนเวลาเพราะมีนัดกับแฟนอยากให้เป็ดปุ๊กเลื่อนเวลานัดลูกค้าให้เร็วขึ้น แต่แก้วกลับลืมเอาเอกสารของลูกค้ามา ทำให้เป็ดปุ๊กไม่สามารถกลับไปที่ทำงานได้อีก เธอจึงกลับบ้าน ก่อนกลับเป็ดปุ๊กแวะไปที่ร้านสวนขวัญเพื่อเอาขนมไปฝากไม้กับฝ้าย แล้วจะไปตลาดต่อ ไม้จึงอาสาพาไปเพื่อให้เป็ดปุ๊กได้เลือกชื้อกับข้าวที่เชียรชอบ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มพัฒนาขึ้น ระหว่างทางกลับบ้านเป็ดปุ๊กได้พบกับแก้วและโอม จึงได้รู้ว่าแฟนของแก้วคือโอมนั่นเอง เป็ดปุ๊กได้เจอคนแถวบ้านเก่ามาบอกว่าเก็จกับกุ๊กไก่ตัดต้นไม้ที่อยู่รอบ ๆ บ้านเก่าหมดแล้วรวมถึงต้นกรรณิการ์ความหลังของเชียร ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับแม่ของเป็ดปุ๊กด้วย เป็ดปุ๊กรีบโทรไปถามพี่ชาย เป็ดปุ๊กจึงปรึกษากับไม้ว่าจะไปล้อมต้นกรรณิการ์มาปลูกที่บ้านใหม่ แต่เมื่อไปถึงบ้านกลับพบว่าถูกตัดไปแล้ว ทำให้เก็จกับเป็ดปุ๊กมีปากเสียงกัน และเก็จยังดูถูกเป็ดปุ๊กว่ามีแฟนเป็นแค่คนสวน แต่ก็รู้สึกคุ้นหน้าไม้ ไม้รู้เห็นใจเป็ดปุ๊กและมีความรู้สึกลึกซึ้งกับหญิงสาวขึ้นมา เชียรเศร้าเมื่อรู้ว่าต้นกรรณิการ์ถูกตัดไปแล้ว แต่เป็ดปุ๊กก็สัญญาว่าจะหาต้นใหม่มาให้ แม้รู้ว่าไม่สามารถแทนต้นเก่าได้ ไม้รู้เรื่องดีจึงแอบเก็บเมล็ดจากต้นเก่ามาให้ เชียรรับด้วยความตื้นตันใจ เมื่ออยู่ด้วยกันสองต่อสอง ระหว่างเป็ดปุ๊กกับไม้ไม้รู้สึกถึงหัวใจตัวเองที่เริ่มหวั่นไหว เชียรมาบอกข่าวที่ว่าเก็จจะทำบ้านเก่าเป็นบ้านเช่า เป็ดปุ๊กไม่ยอมจึงไปลุยกับทั้งคู่ สองพี่น้องทะเลาะกัน ไก่กุ๊กเสนอให้เป็ดปุ๊กขายบ้านทิ้งแล้วเอาเงินมาแบ่งกัน เชียรรู้สึกช้ำใจที่ลูกทั้งสองมาทะเลาะกันเพราะแย่งสมบัติ จึงบอกกับทุกคนว่าบ้านถูกโอนเป็นชื่อของเป็ดปุ๊กแล้ว ทำให้เก็จและไก่กุ๊กรู้สึกแค้นใจ ย่าขวัญก็ถามถึงต้นกรรณิการ์ที่ให้ไป ไม้จึงเล่าเรื่องปัญหาที่บ้านของเป็ดปุ๊กให้ย่าขวัญฟัง แล้วนึกถึงปัญหาของครอบครัวตัวเองเหมือนกัน ศักดิ์ ลูกชายคนเล็กของย่าขวัญมักจะแวะเวียนมาหาย่าขวัญ เพื่อให้ยกที่ดินผืนนี้ให้ตน แต่ย่าขวัญไม่ยอมเพราะต้องการอยู่ที่นี่ไปจนตาย ไก่กุ๊กมาหาเชียรที่บ้าน ทำเป็นมาขอโทษและให้เชียรกลับไปที่บ้านเก่าเพราะหลาน ๆ คิดถึง เชียรสงสารหลานจึงยอมไป แต่ตกลงว่าจะไปค้างคืนชั่วคราวเท่านั้น ไก่กุ๊กดีใจ เพราะมีแผนจะให้เชียรยอมยกที่ดินให้ เชียรพยายามโทรหาเป็ดปุ๊กแต่ไม่มีคนรับสาย เลยทิ้งโน้ตไว้ที่หน้าบ้าน ขณะนั้นเป็ดปุ๊กถูกพิมพาเรียกเข้าไปต่อว่าที่โดดงานไปช้อปปิ้ง และอึ้งหนักว่าผู้ที่ใส่ร้ายคือแก้วเพื่อนสนิทของเธอ พิมพาถอดเป็ดปุ๊กออกจากการเป็นหัวหน้าแล้วให้แก้วขึ้นเป็นหัวหน้าแทน เป็ดปุ๊กรู้สึกเสียใจมาก เมื่อกลับถึงบ้านก็เจอโน๊ต บอกพ่อไปค้างที่บ้านเก่าอีก ทำให้น้ำตาเธอไหลรินออกมา เป็ดปุ๊กเล่าเรื่องให้ไม้ฟัง ไม้จึงพาเธอไปกินข้าวที่บ้านย่าขวัญ ทำให้หญิงสาวสบายใจขึ้น เธอได้รับกำลังใจจากย่าขวัญ และรู้สึกว่าไม่ได้อยู่เพียงลำพังบนโลกนี้ แล้วไม้ก็พาเธอไปส่งที่บ้าน ทั้งคู่มอบกำลังใจให้กัน เป็ดปุ๊กรู้สึกอุ่นใจยิ่งขึ้น ในกลางดึกมีโจรขึ้นบ้านเป็ดปุ๊ก เป็ดปุ๊กรู้ตัวจึงโทรแจ้งยามหน้าหมู่บ้านก่อนตะโกนเรียกคนมาช่วย ไม้เป็นคนแรกที่เข้ามาช่วย โอมตั้งข้อสังเกตว่าไม้มาได้อย่างไร ไม้จึงตกเป็นผู้ต้องสงสัยทันที โอมและไข่มุกยังหาว่าไม้เข้ามาในบ้านเป็ดปุ๊กเพื่อทำมิดีมิร้ายแต่หญิงสาวไม่เชื่อ เมื่อตำรวจมาถึงพร้อมกับหทัย โอมบอกให้จับไม้เข้าคุก หทัยจึงบอกว่าแท้จริงแล้วไม้เป็นลูกของเธอ เป็นเจ้าของหมู่บ้านเสริมขวัญและหลานชายของเจ้าของที่ดินแถบนี้ เมื่อเรื่องราวจบลง ไม้ชวนเป็ดปุ๊กไปตักบาตรที่หน้าร้านสวนขวัญ แล้วพาหญิงสาวขึ้นไปดูบ้าน ต้นไม้ที่เขาจับตามองดูเธอตลอด ทั้งคู่ได้ปรับความเข้าใจกัน เป็ดปุ๊กอยากรู้เรื่องของหทัยกับไม้ แต่ไม้ก็ไม่ยอมเล่า ศักดิ์มาหาย่าขวัญเพื่อให้ย่าขวัญยกที่ดินให้ พ่อตนจะได้สร้างหมู่บ้านจัดสรรบ้าง แต่ย่าขวัญไม่ยอม ศักดิ์ก็ยังพาลว่าย่าขวัญจะเก็บไว้ให้ไม้ พอรู้ว่าขโมยขึ้นบ้าน เชียรรู้สึกเป็นห่วงเป็ดปุ๊กจึงขอตัวกลับ แต่ทั้งไก่กุ๊กและเก็จเกยูรก็ขอให้อยู่ต่อ ซึ่งเชียรก็รู้ว่าที่ทั้งสองทำเพราะต้องการให้ตนยกบ้านให้ แต่เขาก็ใจแข็งไม่ยอมยกให้ เป็ดปุ๊กมาทำงานวันแรกหลังจากถูกลดตำแหน่งก็ถูกเพื่อนร่วมงานจับตามองอย่างใกล้ชิด และถูกเยาะเย้ยจากคนที่ได้ชื่อว่าเคยเป็นเพื่อนสนิทแถมยังซ้ำเติมเป็ดปุ๊กถึงเรื่องที่เธอตกต่ำจนต้องไปคบกับคนสวน แต่เมื่อเธอรู้ว่าโอมไม่ใช่ทายาทเจ้าของหมู่บ้านจัดสรรตัวจริง หญิงสาวก็พร้อมตีจากทันที ไม้มาบอกข่าวเรื่องงานทำบุญวันเกิดย่าขวัญ เป็ดปุ๊กอยากช่วยงานจึงร่วมมือกับหทัยพาย่าขวัญไปตัดชุดและทำผมใหม่ หทัยเปิดใจเรื่องของเธอและไม้ให้เป็ดปุ๊กฟังทำให้เข้าใจไม้มากยิ่งขึ้น แต่ไม้กลับงอนเป็ดปุ๊กกับหทัยที่ทำให้ย่าขวัญพอใจได้ ไม้บอกว่าเขาจะทำให้เชียรรักเขามากกว่าเป็ดปุ๊กให้ได้จึงถูกเป็ดปุ๊กย้อนว่าไปทำดีกับแม่ตัวเองดีกว่า เป็ดปุ๊กรู้สึกตัวเองเล่นแรงไปหรือเปล่า ขณะเดียวกัน หทัยก็ทะเลาะกับ อลงกรณ์ ผู้เป็นสามีและโอม อลงกรณ์ต้องการให้ที่ดินหมู่บ้านแต่หทัยไม่ยอม เพราะที่ดินเป็นของ เสริม สามีเก่า พ่อของไม้ ทำให้โอมยิ่งรู้สึกชิงไม้มากขึ้น อลงกรณ์ลามือจากที่ดินพื้นนี้แต่ก็พยายามหาทางขยายหมู่บ้านโดยใช้ที่ดินของย่าขวัญ แต่หทัยไม่สนับสนุน โอมโกรธหทัยมากทั้งที่เขาและพ่อเป็นคนสร้างมันขึ้นมา โอมโทรนัดแก้วออกมาพบ แต่แก้วปฏิเสธโอม จึงรู้ว่าแก้วดีตัวออกห่างเพราะเขาไม่ได้รวยอย่างที่คิด เมื่อเจอหน้าไม้ โอมก็เหวี่ยงใส่ด้วยความหงุดหงิด และพาลไปถึงเป็ดปุ๊กด้วย ทั้งสองมีเรื่องกัน ไม้หนีหทัยขึ้นรถเป็ดปุ๊กกออกไป เป็ดปุ๊กเกลี้ยกล่อมจนไม้ยอมเปิดปากเล่าเรื่องครอบครัวให้ฟัง ไม้นั่งรถเป็ดปุ๊กไปจนถึงบริษัท แก้วเห็นทั้งคู่เข้าก็ตัดสินใจเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นไม้ทันที เมื่อรู้ว่าไม้เป็นเจ้าของหมู่บ้าน จึงวางแผนที่จะเข้าไปตีสนิทกับไม้โดยใช้งานทำบุญวันเกิดของย่าขวัญบังหน้า หทัยหนักใจกับปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น อลงกรณ์เตือนลูกชายอย่าวู่วามเพราะมีแผนการใหญ่อยู่ โดยจะดำเนินการในวันเกิดย่าขวัญ และไม้ก็จะใช้วันนี้สารภาพรักกับเป็ดปุ๊ก พองานวันเกิดมาถึง แขกเหลื่อรู้แปลกใจที่ไม้มาร่วมงาน แล้วยังพาเป็ดปุ๊กมาเปิดตัวด้วย หทัยพาโอมและอลงกรณ์มาร่วมงาน อลงกรณ์รีบประจบย่าขวัญ เพื่อให้ย่าขวัญยกที่ดินให้ ไก่กุ๊ก เก็จ แก้ว กะรัตและศักดิ์ก็ตามมาทำให้ทุกคนแปลกใจ เมื่อเรียงลำดับญาติกันก็รู้ว่ากะรัตเป็นภรรยาศักดิ์ก็คือเป็นสะใภ้ย่าขวัญนั่นเอง แก้วมาตีสนิทกับไม้และเมินใส่โอม โอมยิ่งแค้นใจแม้จะไม่ได้ชอบพอแก้วนัก แต่ไม่อยากให้ไม้ได้ดีกว่า หทัยหนักใจเมื่อเห็นว่าอลงกรณ์กับศักดิ์ซุบซิบกันก็คิดว่าเป็นเรื่องไม่ดีแน่นอน หลังจากงานทำบุญวันเกิดย่าขวัญ ศักดิ์ก็ตามตื้อย่าขวัญเพื่อที่จะเอาที่ดินให้ได้ แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะย่าขวัญยังยืนยันคำเดิมที่ไม่ยอมจะยกให้ แก้วกระหยิ่มใจที่แผนเธอดำเนินไปด้วยดี เก็จจึงอิจฉาน้องสาวเลยบังคับไก่กุ๊กไปคุยกับเชียรให้ยกบ้านหลังเก่าให้ แต่เชียรก็ยังยืนยันคำเดิม ไก่กุ๊กไม่พอใจประกาศตัดพ่อลูกทันที และคิดว่าถ้าเป็ดปุ๊กตาย ทุกอย่างจะเป็นของเขา วันรุ่งขึ้น ศักดิ์ อลงกรณ์ และโอมมาที่บ้านย่าขวัญเพื่อหว่านล้อมอีกครั้ง แต่ไม้เข้ามาขัดขวางทั้งสาม ทำให้ศักดิ์โกรธมากบอกว่าต้องตายกันไปข้าง เชียรก็ครุ่นคิดเรื่องไก่กุ๊กมาพูดเมื่อคืนจึงจะปรับทุกข์กับย่าขวัญ เป็ดปุ๊กกับเชียรไปถึงบ้านย่าขวัญรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ย่าขวัญได้แต่คอยปรับทุกข์กับเชียร แก้วอยากกำจัดเป็ดปุ๊ก เพื่อสมหวังกับไม้ เก็จก็ได้บ้านสมใจ ส่วนอลงกรณ์อยากทำให้ย่าขวัญตาย แต่โอมไม้อยากให้ไม้ตาย ต่างคนต่างอยากให้มีใครบางคนตายเพื่อยุติปัญหา ไม้ต้องการปรับความเข้าใจกับเป็ดปุ๊ก จึงติดรถหญิงสาวไปที่ทำงาน ไม้สารภาพรักและยืนยันไม่ได้คิดอะไรกับแก้ว ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกันได้ เมื่อถึงบริษัทพิมพาก็เรียกเป็ดปุ๊กไปต่อว่าที่มาทำงานสาย แก้วรีบซ้ำเติม แต่เป็ดปุ๊กบอกว่าไปพบลูกค้าที่เป็นเพื่อนพิมพามา พิมพาแปลกใจเพราะแก้วก็บอกว่าไปพบลูกค้าคนเดียวกันมา แก้วอึ้งหาทางโกหกไม่ทัน พิมพาไม่พอใจแก้วมาก แก้วโมโหเป็ดปุ๊กต่อว่าเป็ดปุ๊กอย่างรุนแรง แต่หารู้ไม่ว่าไม้รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ไม้พาเป็ดปุ๊กไปกินข้าวโดยไม่สนใจแก้ว แก้วคั่งแค้น คิดหาทางกำจัดเป็ดปุ๊กให้ได้ อลงกรณ์ปรึกษากับศักดิ์เรื่องที่จะเอาที่ดินย่าขวัญ ทั้งคู่เห็นตรงกันว่าไม้ควรจะต้องกำจัด หทัยได้ยินเข้า อลงกรณ์ตกใจเกิดความรู้สึกผิดขึ้นมา โอมก็คิดจะกำจัดไม้เช่นกัน และลงมือโทรหาใครบางคน ด้านแก้วก็มาปรึกษากับเก็จว่าจะกำจัดเป็ดปุ๊ก เพื่อที่พวกเธอจะได้สมหวัง แต่ทั้งคู่ไม่รู้ว่าไก่กุ๊กแอบได้ยินทั้งหมด จึงเกิดความรู้สึกผิด ไก่กุ๊กจึงโทรหาเชียรเพื่อฝากเตือนให้เป็ดปุ๊กระวังตัว ไม้มาบอกว่าย่าขวัญชวนเชียรไปสวดมนต์ถือศีลที่วัด เชียรตกลงแต่ก็เป็นห่วงเป็ดปุ๊ก ไม้สัญญาว่าจะดูแลเป็ดปุ๊กเอง เชียรจึงไว้ใจ ในคืนที่ย่าขวัญและเชียรไม่อยู่บ้าน แก้วก็ย่องไปหาไม้เพื่อยั่วยวน หทัยกังวลกับคำพูดอลงกรณ์แวะไปดูไม้ให้เห็นว่าปลอดภัย ขณะนั้นมีคนร้ายบุกเข้ามาทำร้ายไม้ แก้วร้องขอความช่วยเหลือ คนร้ายวิ่งตามแก้ว ไม้วิ่งตามคนร้ายมา คนร้ายเห็นท่าไม่ดีจึงเข้าต่อสู้กับไม้ ไม้ถูกแทงเลือดอาบ หทัยเข้ามาช่วยพอดี คนร้ายจึงตามไปจัดการกับแก้ว แต่ก็มีพวกยามจากหมู่บ้านเข้ามาช่วยจนปลอดภัยซึ่งไม้ไม่เข้าใจว่าคนร้ายต้องการสิ่งใด เป็ดปุ๊กได้ยินเสียงแก้วและโทรเรียกยามให้มาช่วย แก้วกลัวความแตกจึงโกหกว่าไม้หลอกมพาเธอมาข่มขืน ไม้อึ้งที่แก้วโกหก และคนร้ายยังพยายามเอาตัวรอดโดยการโกหกว่าได้ยินเสียงผู้หญิงร้องให้คนช่วยเลยบุกเข้ามา อลงกรณ์พยายามกันทุกคนออกและสรุปว่าไม้เป็นคนก่อเรื่อง แต่หทัยจะให้ตำรวจมาสอบสวน แก้วเริ่มร้อนตัว พยายามโทรหาเก็จและกะรัตเพื่อขอให้ทั้งคู่ช่วย แต่เมื่อทั้งคู่รู้ว่าเกี่ยวกับตำรวจด้วยทั้งคู่จึงถอนตัว แก้วรู้สึกเสียใจมาก ด้าน ภูมิ คนร้ายที่บุกเข้าบ้านก็ถูกกดดัน สารภาพว่าเห็นแก้วจะปล้ำไม้และบอกชื่อคนจ้างวาน ไก่กุ๊กมากราบขอโทษเชียรหลังจากสำนึกได้ ตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เชียรกับเป็ดปุ๊กรู้สึกดีใจมาก ที่ไก่กุ๊กคิดได้แล้ว หลังจากถูกจับว่าให้การเท็จ แก้วกลับมาบ้านด้วยหัวใจสลายที่แม่ทิ้งให้เธอเผชิญปัญหาเพียงลำพัง และยังถูกไล่ออกจากบริษัท ความทะเยอทะยานทำให้เธอไม่เหลืออะไรสักอย่าง เช่นเดียวกับหทัยและอลงกรณ์ เมื่อได้รู้ว่าผู้จ้างวานคือโอม โอมจึงคิดจะหนีไปอยู่ที่อื่นแต่ก็พยายามไกล่เกลี้ยให้โอมมอบตัว แม้แต่ย่าขวัญก็ช่วยพูด จนโอมยอมมอบตัวเพราะแพ้ความดีของไม้ เป็ดปุ๊กให้ไม้ปรับความเข้าใจกับหทัย ไม้ได้คืนดีกับแม่และยังเอาชนะใจอลงกรณ์ได้อีกด้วย อลงกรณ์ปรับปรุงตัว หวังว่าลักวันโอมจะออกจากคุกมาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา เมื่อเหตุการณ์ต่าง ๆ คลี่คลาย ไม้มาขอเป็ดปุ๊กบอกว่าเขาอยากดูแลเธอไปตลอดชีวิต ไม้ไม่ต้องการอะไรไปมากกว่านี้ แค่เป็ดปุ๊กรักเขาก็พอแล้ว.... ติดตามชม ละครในสวนขวัญ
สามทหารเสือสาว ฟ้ากระจ่างดาว 2556

สามทหารเสือสาว ฟ้ากระจ่างดาว (2556/2013) หญิงสาวแหงนมองท้องฟ้าด้วยความประหลาดใจนึกถึงคืนหนึ่งเมื่อสิบกว่าปีก่อน วันที่ซมซานหนีออกมาจากบ้านแม่ นึกถึงเมื่อสองคืนก่อนที่ดาวเริ่มส่องแสงแข่งกับเดือน สองคืนนั้นกับคืนนี้แตกต่างกันลิบลับ ต่างแม้ว่าจะเป็นท้องฟ้าเดิม ดาวดวงเดิม หากวินาทีนี้เมื่อก้าวไปกับชายหนุ่ม มีคณากลับไม่รู้สึกเจ็บปวด หวาดกลัวหรือคุมแค้นแต่อย่างไร ทุกย่างก้าวมีแต่ความมั่นใจและอบอุ่น ความมั่นใจแปลก ๆ เกิดขึ้นอย่างที่ไม่เคยรู้สึก ว่าทุกอย่างก้าวต่อไปนี้ เธอคงไม่ต้องเดินอย่างเดียวดาย คงไม่ต้องเดินอย่างอ้างว้าง มีคณา นักข่าวสาวสายอาชญากรรม ตั้งปณิธานว่จะเป็นนักข่าว และจะนำเสนอข่าวเพื่อโค่นล้มพวกหากินกับการค้าผู้หญิงให้ได้มากที่สุด เมื่อมีคณาเรียนจบมหาวิทยาลัย เธอได้เข้าทำงานที่หนังสือพิมพ์สยามสาร และเธอได้เจอกับ มัทนา และสาระวารี ซึ่งมีปณิธานการทำงานเหมือนกัน จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอต้องไปทำข่าวงานแฟชั่นโชว์การกุศลแทนมัทนา เพื่อนรักของเธอ ซึ่งต้องไปทำข่าวที่ต่างจังหวัด มีคณาไม่เคยชอบอะไรที่เธอตัดสินว่าเป็นเรื่องฟุ้งเฟ้อ ไฮโซ เธอพยายามเกี่ยงให้สาระวารีไปทำ แต่สาระวารีก็ติดทำข่าวในต่างจังหวัดเช่นกัน ในงานนี้ทำให้ได้พบกับ "พ.ต.ต.หิรัณย์" นายตำรวจหนุ่มหล่อ เก่งกาจ จากหน่วยงานนอกเครื่องแบบของ ป.ป.ส. และมีเหตุให้ทั้งสองต้องมาร่วมทำงานด้วยกัน พ.ต.ต.หิรัณย์ จึงฉวยโอกาสนี้ เริ่มสานสานความสัมพันธ์กับมีคณา พร้อมทั้งคลายปมในใจที่เธอเกลียดผู้ชายลง

สามทหารเสือสาว มนต์จันทรา 2556

สามทหารเสือสาว มนต์จันทรา (2556/2013) นานครั้งที่พระจันทร์จะโผล่ให้เห็น แต่ทุกครั้งที่เห็นก็มักจะเป็นจันทร์เจ้าแห่งความหลัง จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง กลายเป็น "มนต์จันทรา" เกาะยานกที่ฝั่งทะเลตะวันออก ไกลออกไปถึงเกาะพระฮามในน่านน้ำเขมร เป็นเรื่องระหว่างเขากับเธอ นักข่าวสาว กับ เจ้าพ่อกาสิโน สาระวารี กับ สาระสมา พี่น้องฝาแฝดที่มีความหลังฝังใจตั้งแต่เด็ก ๆ เกี่ยวกับเรื่องการพนันโดยพ่อหลงการพนันอย่างหนักเสียเงินทางทรัพย์สิน จนกระทั่งแม่ไม่สบายสาระวารีไปขอเงินพ่อที่บ่อนเพื่อไปรักษาแม่ แต่พ่อไม่ให้แถมถูกพ่อตลาดไล่ตี "ษมา" ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์เห็นเข้าก็นึกสงสารจึงให้เงินสาระวารี พอสาระวารีกลับถึงบ้านแม่ก็ได้เสียชีวิต ทำให้เธอมีความหลังฝังใจกับเรื่องการพนันอย่างมาก จนเมื่อเป็นนักข่าวแล้ว มีเหตุต้องทำข่าวเกี่ยวกับการเปิดบ่อนคาสิโน่ จึงทำให้สาระวารีกลับมาเจอกับษมาอีกครั้ง แต่เธอกลับจำเขาไม่ได้ ส่วนษมานั้นจำเธอได้แม่นยำ จึงรุกที่จะจีบเธออย่างเต็มที่ และด้วยภารกิจท้าทายที่เสี่ยงตาย จึงเป็นจุดเชื่อมโยงหัวใจของทั้งสอง

สามทหารเสือสาว มายาตวัน 2556

สามทหารเสือสาว มายาตวัน (2556/2013) 2 ปีก่อน วงการบันเทิงได้ต้อนรับดาวรุ่งดวงใหม่ที่แจ้งเกิดจากภาพยนตร์เรื่อง “มายา” เพียงเรื่องแรกและเรื่องเดียวก็ทำให้ เขตต์ตวัน โด่งดังเพียงชั่วข้ามคืน ทั้งงานโฆษณา งานเดินแบบ ถ่ายแบบ งานอีเวนต์ต่างๆ พุ่งเข้าใส่ เขตต์ตวัน ชนิดไม่มีวันให้ได้พัก กลุ่มแฟนคลับของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทุกเพศทุกวัย มัทนา นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ก็เป็นหนึ่งในนั้น มัทนา เป็นแฟนคลับตัวยง ตามกรี๊ดตามเชียร์ ติดตามข่าวสารผลงานทุกอย่าง แม้แต่ตามเถียงตามแก้ข่าวให้เขตต์ตวัน ในทุกสื่อ แม้แต่เว็บไซต์เล็กน้อย ถ้าเธอรู้ก็ตามแก้ข่าวให้พระเอกขวัญใจได้ตลอด ไม่คาดฝันได้มีข่าวช็อกวงการเมื่อเขตต์ตวัน ถูกจับข้อหาฆ่า ยุพิน หญิงขายบริการตาย...ข่าวอื้อฉาวต่างๆนาๆ ถาโถมเข้าใส่เขตต์ตวัน เขาเองก็ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และตั้งทนายต่อสู้คดี มัทนาเองก็ไม่เชื่อตามให้กำลังใจ ช่วยแก้ข่าวให้ศิลปินขวัญใจชนิดไม่เป็นอันเรียน เขตต์ตวัน ถูกถอดจากการเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าหลายชิ้น เนื่องจากภาพลักษณ์ ไม่ดี สำนักพิมพ์ต่างๆ เริ่มขุดคุ้ย เปิดโปงเรื่องส่วนตัวของเขาไม่หยุดหย่อนโดยที่บางเรื่องไม่เป็นความจริงเลย เขตต์ตวัน เลยฝังใจเกลียดชังพวกนักข่าวเข้ากระดูกดำ ไม่นานนักศาลชั้นต้นก็พิพากษาว่า เขตต์ตวัน ไม่มีความผิด ไม่เกี่ยวข้องกับการตายของยุพิน พวกหนังสือพิมพ์หน้าแตกไปตามๆกัน แต่ก็ไม่วายแขวะเขตต์ตวันไม่เลิก แถมแฉว่าเค้ามีแม่เป็นโสเภณี เขตต์ตวัน หมดความอดทน แถลงข่าวอำลาวงการ สร้างความตื่นตะลึงให้กับแฟนคลับชนิดตั้งตัวไม่ทัน มัทนาถึงกับร้องไห้โฮล้มป่วยไปเลย...หลังจากแถลงข่าว เขตต์ตวันก็หายไปจากวงการจริงๆ ไม่มีใครได้ข่าวตัวเขาอีกเลย 2 ปีต่อมา...มัทนา สำเร็จการศึกษาได้เข้ามาทำงานเป็นนักข่าวของหนังสือพิมพ์สยามสาร เธอได้รับมอบหมายจาก ไชยวัฒน์ บ.ก.หนังสือให้ไปทำข่าว เขตต์ตวัน อดีตพระเอกชื่อดัง ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ภูเก็ต เพราะไชยวัฒน์ได้รับข้อมูลมาจากสายข่าวเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตของเขตต์ตวัน ว่าเขาเคยเป็นเด็กที่ถูกเลี้ยงอยู่ที่วัดสวนป่า จังหวัดภูเก็ต โดย หลวงพ่อจรูญ ผู้ใจบุญที่รับเลี้ยงเด็กกำพร้าเป็นจำนวนมาก ทำให้ไชยวัฒน์ต้องการรื้อฟื้นข่าวของเขตต์ตวันขึ้นมาอีก เพราะคิดว่าอย่างไรข่าวของดาราหนุ่มก็ยังเป็นที่สนใจของประชาชนทั่วไป หนังสือสยามสารมีนักข่าวหญิงเหล็กสามคนที่ต่างบุคลิกกันคือ สาระวารี , มีคณา และ มัทนา ทั้งสามสนิทกันมาก มัทนาเป็นรุ่นน้องที่เพิ่งเข้ามาเป็นนักข่าว และได้รับมอบหมายให้ไปสัมภาษณ์เขตต์ตวัน ในขณะที่สาระวารีไปทำข่าวการเปิดบ่อนคาสิโนที่ตราด ส่วนมีคณาทำข่าวการค้าประเวณี บ้านของมัทนาเป็นครอบครัวใหญ่ พ่อกับแม่เป็นอาจารย์ทั้งคู่ พี่สาวคนโต สาวิตรี ก็เป็นอาจารย์ พี่สาวคนรอง ศกุนตลา เป็นนางพยาบาล ส่วนน้องคนสุดท้อง วาสิฐฐี กำลังเรียนมหาวิทยาลัยคณะนิติศาสตร์ แม่ของมัทนามักจะพูดเสมอว่าทำไมมัทนาถึงแหกคอกออกมาทำงานนักข่าวและบอกให้ลาออกอยู่เสมอแต่หญิงสาวก็รักงานนักข่าวมากไม่ยอมลาออกตามที่แม่ขอร้อง เมื่อมัทนาบอกแม่เรื่องจะไปทำข่าวเขตต์ตวันที่ภูเก็ต ศกุนตลาได้ยินเข้าจึงเล่าเรื่องที่ว่าเคยเจอเขตต์ตวันไปเยี่ยมคนไข้ที่โรงพยาบาล ซึ่งคนไข้ผู้หญิงคนนั้นติดยา ศกุนตลาเตือนให้มัทนาระวังตัวด้วย เมื่อมัทนาเดินทางถึงภูเก็ต เธอเข้าพักที่โรงแรมอโณทัย และได้รู้จักชายหนุ่มหน้าตาดีที่เข้ามาแนะนำตัวทำความรู้จักกับเธอ เขาคือ เชน ครอส หรือ เชษฐ์ หนุ่มนักธุกิจค้าไข่มุกอยู่ที่ภูเก็ต หญิงสาวสนิทสนมกับเชนอย่างรวดเร็วเพราะมองเห็นสายตาที่อ้างว้างของเขาแล้วรู้สึกสงสาร มัทนาเริ่มทำงานโดยการเดินไปแอบดูบ้านของเขตต์ตวัน แล้วไปถามร้านค้าแถวนั้น แต่ก็ไม่ได้ข้อมูลมากนัก รู้แต่ว่ามักจะมีหญิงสาวหน้าตาดีเดินเข้าออกบ้านนี้บ่อยๆ มัทนาเดินเลาะชายหาดกลับโรงแรม จนได้พบกับเขตต์ตวันที่ยืนมองพระอาทิตย์ตกดินอยู่ เธอรู้สึกได้ถึงความเหงาโดดเดี่ยวของเขา สักพักมัทนาก็เห็น ลลิสา นางแบบสาวเข้าไปกระแซะเขตต์ตวัน ตามด้วยนางแบบอีกคน ชลบุษย์ ที่ตามมาเรียกเขตต์ตวัน มัทนาจึงสลัดความสงสารออกไป เมื่อมัทนากลับโรงแรม เธอก็ได้รับโน้ตจากเชนซึ่งชวนไปกินมื้อเย็นด้วยกัน เชนคุยเปิดเผยจนมัทนาไม่อยากปิดบังว่าตนเป็นนักข่าวแอบมาสืบเรื่องของเขตต์ตวัน เชนบอกว่าเขตต์ตวันเก็บตัวมากและเกลียดนักข่าว ไม่มีทางยอมให้สัมภาษณ์ เลยแนะให้ปลอมตัวเข้าไปทำงานในบ้านแล้วค่อยๆ สืบหาความจริง มัทนาปิ๊งไอเดียเห็นด้วย มัทนาเริ่มปฏิบัติการสมัครเข้ามาขอทำงานเป็นลูกจ้างบ้านเขตต์ตวัน มัทนาเจอกับ เอกชัย เพื่อนสนิทที่ทำงานกับเขตต์ตวัน เอกชัยรู้สึกถูกชะตาแต่ไม่มีแผนการรับลูกจ้างเพิ่ม มัทนาก็ขอทำงานให้ฟรีพิสูจน์ผลงาน เอกชัยใจอ่อนในความตลกเฮฮาช่างพูดของมัทนายอมให้เข้ามาทำงาน ไม่ทันข้ามวันดี พอเขตต์ตวันกลับมาเจอก็ไม่พอใจ ไล่ตะเพิดมัทนาออกไปจากบ้าน มัทนาเฮิร์ทสุดๆ ฟูมฟายว่าตนเป็นคนจน น่าสงสาร และเคยเป็นแฟนหนังเขตต์ตวัน ทำกับเธอแบบนี้ได้ยังไง มัทนาวิ่งร้องไห้เสียใจออกไปจากบ้านไป เขตต์ตวันและเอกชัยจึงเข้าใจว่าเป็นพวกคลั่งดารา มัทนาเจ็บอกเจ็บใจระบายความร้ายกาจของเขตต์ตวันให้เชนฟัง เชนแนะว่าตื้อเท่านั้นที่ครองโลก มัทนาฮึดสู้อยากเอาชนะเข้าไปสมัครงานใหม่เป็นคนดูแลสวน เอกชัยขำๆ มัทนาตื้อ โชว์ฝีมือทำสวนอีก...เขตต์ตวันออกมาพร้อมนางแบบคู่ใจเจอก็ไล่ตะเพิดออกจากบ้านอีก แถมตำหนิเอกชัยให้ด้วย พร้อมกับขู่ว่าถ้ามัทนาเข้ามาในบ้านจะแจ้งตำรวจจับ ลลิสาเย้ยหยันมัทนาหาว่าเป็นพวกคลั่งดารา มัทนากลับออกด้วยความช้ำใจบ่นกระปอดกระแปดเสียงแรงเคยรัก เคยทำป้ายไฟเชียร์ เธอโทรรายงานบ.ก.พร้อมโทรเม้าท์กับเพื่อนฝูงจนหลับไป พอเช้าอีกวันมัทนาจะไปที่วัดสวนป่าหลวงพ่อจรูญเพื่อเก็บข้อมูลรายล้อมเขตต์ตวันก่อนอย่างน้อยจะได้ไม่มาเสียเที่ยว เธอพบเชนที่กำลังจะออกไปข้างนอกอยู่พอดี เขาชวนมัทนาติดรถไปด้วย ขณะที่อยู่บนรถเชนเล่าเรื่องชีวิตของเขาให้ฟัง มัทนาจึงรู้สึกว่าเขาน่าสงสารและเป็นผู้ชายที่คบได้คนหนึ่ง หลังจากเชนส่งมัทนาลงจากรถที่วัดแล้ว หญิงสาวก็ได้พบกับหลวงพ่อจรูญ เธอชวนคุยไปเรื่อยเปื่อยจนวกมาที่เรื่องของเขตต์ตวัน หลวงพ่อระวังคำพูดไม่เล่าเรื่องอะไรที่ทำให้เขตต์ตวันเสียหาย มัทนามองเห็นเด็กๆ มากมายที่อยู่ในความอุปการะของหลวงพ่อ หลวงพ่อยังบอกอีกว่าเขตต์ตวันมาบริจาคอาหารและทุนค่าเล่าเรียนเด็กๆเป็นประจำ มัทนาก็แอบชื่นชมอยู่ในใจ ไม่เสียแรงที่เป็นแฟนคลับตัวยง หลังกลับจากวัดเธอใจสบายขึ้นเยอะ ภูมิใจความใจบุญของศิลปินในดวงใจ อารมณ์ดีเลยตัดสินใจไปเล่นน้ำทะเล ดำผุดดำว่ายสนุกสนานอยู่ไปมา จู่ๆก็มีวินเซิร์ฟพุ่งเข้าชนที่ศีรษะของเธอ ซึ่งคนที่เล่นวินเซิร์ฟนั้นคือเขตต์ตวันนั่นเอง เขามองไม่เห็นว่ามัทนากำลังว่ายน้ำอยู่ มัทนาโวยวายที่ถูกชนหัว เขตต์ตวันอุ้มเธอไปหาหมอ หมอช่วยดูแผลให้มัทนาและบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก เขตต์ตวันเสนอเงินให้มัทนาเพราะคิดว่าเธอเป็นพวกฉวยโอกาส มัทนาโมโหชกหน้าเขตต์ตวันไปหนึ่งหมัดแล้วยืนกรานจะไปแจ้งความ เอกชัยและเขตต์ตวันกลัวตกเป็นข่าวมากพยายามต่อรอง มัทนายื่นขอเสนอให้เธอเข้าไปทำงานรับจ้างในบ้าน...เขตต์ตวันไม่มีทางเลือกยอมรับข้อเสนอ มัทนาดีใจออกนอกหน้า เขตต์ตวันแอบกำชับเอกชัยให้สืบประวัติ...มัทนาแอบได้ยินเข้าพอดี มัทนาปรึกษากับเชนให้ช่วยจัดฉากหาครอบครัวให้ เอกชัยมาสืบก็หลงกลว่ามัทนาเป็นเด็กฐานะยากจนจริงๆย้ายมาจากจังหวัดอื่นมาหางานทำ คลั่งไคล้เขตต์ตวันเอามากๆ เอกชัยหายสงสัยรายงานเขตต์ตวัน เขาจึงยอมให้มัทนาเข้ามาทำงานเป็นคนรับใช้ในบ้านได้ด้วยความไม่เต็มใจนัก โดยบอกกับเอกชัยว่าจะหาทางบีบให้ออกจากบ้านไปให้เร็วที่สุด มัทนาเข้ามาทำงานในบ้านด้วยความไม่เต็มใจของเจ้าของบ้าน เขตต์ตวันมีเรื่องกับมัทนาไม่เว้นแต่ละวัน สาวๆของเขตต์ตวันทั้งลลิสา และชลบุษย์ อดีตนางแบบที่มาเป็นเลขาของเขตต์ตวัน ก็แสดงอาการไม่ชอบขี้หน้ามัทนานัก แม้ทั้งคู่จะชิงดีชิงเด่นกันแต่พร้อมจะจับมือเล่นงานมัทนาร่วมกันได้ทุกเวลา แต่มัทนาก็ยังมีเชนที่เป็นกำลังใจและคอยช่วยเหลือให้คำปรึกษาอยู่ตลอด ความสัมพันธ์ของเชนและมัทนาก็พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น เวลาจะนัดเจอกันก็ต้องให้เชนปลอมตัวเป็นคนงานรีสอร์ท มัทนากลัวจะมีคนเห็นและจับได้ มัทนายังไม่ละความพยายามในการสืบเรื่องเขตต์ตวัน ทนแรงกดดันต่างๆนาๆ จนรู้ความจริงขณะที่เขตต์ตวันเตรียมงานแฟชั่นโชว์คอลเล็คชั่นใหม่ ว่าแบรนด์เสื้อผ้าหรู “ตะวัน” นั้นเป็นของเขตต์ตวัน และดีไซน์เนอร์ที่ชื่อว่า จันจิรา ก็คือตัวเขตต์ตวันนั่นเอง...มัทนาขอลากลับบ้านเพราะญาติป่วย มัทนามาพบกับเชนและกลับเข้ากรุงเทพไปพร้อมกัน มัทนารายงานข่าวใหญ่ต่อบ.ก.โดยที่ไม่มีภาพไม่มีหลักฐานใดๆ แต่บ.ก.พร้อมจะตีข่าวนี้ในวันที่มีการจัดแฟชั่นโชว์ สื่อแห่ไปงานแฟชั่นโชว์ของ “ตะวัน” มืดฟ้ามัวดินจนมัทนารู้สึกผิด โดนครอบครัวเธอต่อว่าต่างๆนาๆ ด้าน เขตต์ตะวันเองก็เก็บตัวเงียบอยู่ที่โรงแรมเหมือนการจัดแฟชั่นโชว์ทุกครั้ง และหลังจากจบโชว์ทุกครั้งก็จะไม่มีดีไซน์เนอร์เดินมารับช่อดอกไม้อย่างห้องเสื้ออื่นๆ แต่ “ตะวัน” จะจบโชว์ด้วยรูปกราฟฟิคผู้หญิงผมยาวสยายก้มหน้าพร้อมชื่อ แบรนด์ตะวัน เขียนประกบไว้อย่างมีสไตล์...วันนี้ก็เช่นกันลลิสาเดินชุดฟินนาเล่แล้วก็จบด้วยรูปกราฟฟิคเช่นเคย สื่อพยายามสืบจากหลังเวทีก็คว้าน้ำเหลว ไม่มีใครรู้จักดีไซน์เนอร์จันจิรา และไม่มีใครเคยเห็นเขตต์ตะวันเกี่ยวข้องอะไรกับ“ตะวัน” รู้แต่ว่าจันจิราชื่นชอบเขตต์ตะวันมากจนได้แรงบันดาลใจตั้งชื่อแบรนด์ว่า “ตะวัน” แทนที่เขตต์ตวันจะโกรธกลับพอใจที่คอลเล็คชั่นนี้ได้รับความสนใจล้นหลาม แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าความลับรั่วได้ยังไง จึงให้เอกชัยสืบหาเกลือเป็นหนอน เขตต์ตวันรู้สึกติดใจสงสัยมัทนาขึ้นมานิดๆ เพราะเป็นคนใหม่เพียงคนเดียวที่เข้ามาในวงจรชีวิตของตน เอกชัยไม่เห็นด้วยและออกรับแทน เขตต์ตวันและเอกชัยกลับถึงบ้านที่ภูเก็ต มัทนาก็ทำงานรอต้อนรับทำไม่รู้เรื่องรู้ราว เขตต์ตวันพยายามจับผิดว่าเป็นไส้ศึกรึเปล่าแต่มัทนาก็เอาตัวรอดไปได้ทุกที จนกระทั่งแอบตามไปดูตอนมัทนาลากลับบ้านก็เจอครอบครัวจัดฉาก ที่น่ารัก เขตต์ตวันให้ความไว้วางใจมัทนามากขึ้น ความใกล้ชิดทำให้ทั้งคู่สนิทสนมกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนสร้างความไม่พอใจให้ลลิสาและชลบุษย์เป็นอย่างมาก รวมทั้งเชนเองก็แอบหึงมัทนาจนแสดงออกให้มัทนาต้องลำบากใจ ขณะที่ความสัมพันธ์ของเขตต์ตะวันและมัทนากำลังพัฒนาไปด้วยดีก็เกิดความแตก เมื่อมัทนาเจอเพื่อนนักข่าวที่ตลาดขณะที่เขตต์ตวันรออยู่ในรถ เขตต์ตวันไม่ได้ติดใจอะไรแค่รู้สึกสงสัยทำไมมีเพื่อนดูเป็นคนกรุงเทพจัง แต่แล้วเขตต์ตวันหมดข้อสงสัยเมื่อนักข่าวสาวคนนั้นแอบปีนรั้วบ้านตนเพื่อถ่ายภาพบ้านและชีวิตส่วนตัวของตน...เขตต์ตวัน จับตัวได้โกรธมาก โชคร้ายที่เขาจำได้ว่าเป็นเพื่อนมัทนา เขตต์ตวันเอารูปมัทนามาให้นักข่าวสาวดู เธอพูดหมดเปลือกว่ามัทนาคือนักข่าวของนสพ.สยามสาร เขตต์ตะวันโกรธจัดทะเลาะกับมัทนาอย่างรุนแรง ด้วยความรู้สึกผิดหวังและน้อยใจมาก แม้มัทนาจะบอกว่าเธอคือแฟนคลับตัวยง รักและคอยแก้ข่าวให้เขามาตลอดทั้งน้ำตา เธอเข้ามาทำข่าวด้วยเจตนาดีไม่คิดให้ร้ายเขาเลยแต่ เขตต์ตวันก็ไม่ฟังไล่ตะเพิดมัทนาออกไปจากบ้าน ไม่อยากเห็นหน้าเธออีกตลอดชีวิต ทั้งคู่ต่างเสียใจและคิดถึงยามที่ต้องห่างกัน มัทนาทนไม่ไหวกลับมาตื้อขอคืนดี เขตต์ตวันแม้จะดีใจแต่ยังโกรธไม่หายที่ถูกหลอก ไล่ตะเพิดไปอีก...เอกชัย รู้ใจเพื่อนรักดีพยายามทัดทานแต่ยังไงก็ไร้ผล เชนตามมาปลอบใจและให้กำลังใจ ดักคอว่ามัทนาแอบชอบเขตต์ตวัน มัทนาปากแข็งบอกว่าตนเพียงทำหน้าที่ ที่เจ้านายสั่งมาเท่านั้น กลัวตกงาน ไม่ชอบนายนั่นหรอก เชนเลยสารภาพรักมัทนาซะเลย มัทนาอึ้งไปแต่ก็ไม่กล้าหักหาญน้ำใจเชนในทันที เพียงตอบไปว่าขอเวลา ยังไม่พร้อมจะคิดเรื่องนี้กับใครทั้งนั้น ในเมื่อความจริงปรากฏแล้วมัทนาก็เข้าบ้านเขตต์ตวันไม่ได้แล้ว เธอจึงสวมวิญญาณนักข่าวเต็มรูปแบบ มัทนาแอบปีนต้นไม้ที่บ้านของเขตต์ตวัน และแอบถ่ายรูปในบ้านของเขา แต่แล้วจู่ๆ เขตต์ตวันก็ยิงปืนขึ้นฟ้าขู่ มัทนาตกใจหล่นจากต้นไม้ลงมาขาแพลง เขตต์ตวันต้องเข้าไปประคอง ชายหนุ่มโกรธมากยึดกล้องมัทนาไป เธอขอร้องไม่ให้ทำลายกล้องเพราะต้องใช้เวลานานในการเก็บเงินซื้อ เขตต์ตวันเห็นใจจึงแค่ทำลายฟิล์มและคืนกล้องให้หญิงสาว มัทนาขอสัมภาษณ์หน้าด้านๆ เขตต์ตวันยิ่งเดือดดาลไล่เธอไปแต่มัทนาไม่ไป เขตต์ตะวันลากมัทนาไปทิ้งหน้าบ้านทั้งๆ ที่ขาเจ็บ เชนคอยปฐมพยาบาลให้มัทนา ขอให้ถอยกลับกรุงเทพดีกว่า แต่มัทนายังไม่ยอมแพ้แม้ว่าจะปวดหัว ปวดขา และฝนตกพรำๆ เธอตัดสินใจไปเคาะประตูบ้านของเขตต์ตวันเพื่อขอสัมภาษณ์ เอกชัยสงสารบอกให้กลับไปเถอะถึงอย่างไรเขตต์ตวันก็ไม่ยอมให้สัมภาษณ์ มัทนายืนตากฝนรอเป็นเวลา 4 ชั่วโมง จนกระทั่งเอกชัยต้องบอกให้เขตต์ตะวันไปดูมัทนา เขตต์ตวันตัดสินใจไปไล่มัทนากลับ แต่กลับพบว่าหญิงสาวมีอาการไข้ เขาจึงพาเธอเข้ามาในบ้านและให้ดื่มวิสกี้แก้หนาว เขตต์ตวันต่อว่ามัทนาที่ดื้อรั้น เขายืนยันว่าจะไม่ยอมให้สัมภาษณ์เด็ดขาด แต่มัทนาก็ยืนกรานว่าจะไม่ละความพยายาม ทั้งสองเถียงกัน จนมัทนาเป็นลมไปต่อหน้าเขตต์ตวัน เขตต์ตวันไปรับหมอมาดูอาการของมัทนา หมอบอกว่ามัทนาเป็นไข้หวัดและมีอาการขาอักเสบต้องนอนพักเป็นระยะเวลา 3-4 วัน โดยต้องมีคนดูแลอย่างใกล้ชิด เขตต์ตะวันแม้จะโกรธมากแต่ความที่ยังรู้สึกดีๆให้กันจึงตัดสินใจ ให้หญิงสาวพักที่บ้าน เมื่อมัทนาฟื้นขึ้นมาเจอเขตต์ตวันที่คอยดูแลอยู่ เธอก็กล่าวขอโทษและบอกว่าจะกลับโรงแรม พรุ่งนี้เช้า เขตต์ตวันแย้งว่าหมอสั่งห้ามใช้ขาสามวัน ต้องอยู่ที่บ้านเขา โดยเขาจะจ้างพยาบาลพิเศษมาดูแลเธอเอง มัทนานอนป่วยอยู่ที่บ้านของเขตต์ตวัน โดยเวลากลางวันเขตต์ตวันกับเอกชัยจะผลัดกันมานั่งเฝ้าหญิงสาว พอช่วงเวลากลางคืนจะมีพยาบาลที่เขตต์ตวันจ้างมาดูแลแทน การพักอยู่ที่บ้านของเขตต์ตวันทำให้มัทนามีโอกาสพูดคุยกับเขามากขึ้นและเอกชัยก็มักจะเล่าถึงเขตต์ตวันให้ฟัง ทำให้มัทนาเข้าใจชีวิตของเขต์ตวัน มัทนารวมความกล้าขอสัมภาษณ์เขตต์ตวันอีกครั้ง ยืนยันว่าไม่ใช่การแฉทำร้ายทำลายชื่อเสียงเขตต์ตวัน แต่ตนทำหน้าที่ตัวแทนของแฟนๆ ที่รักและคิดถึงเขตต์ตวันอยากรู้ข่าวคราวเท่านั้นเอง คราวนี้ชายหนุ่มตอบตกลง โดยขอให้สัมภาษณ์หลังจากเธอหายเจ็บ มัทนาดีใจมากจนแทบซ่อนน้ำตาไว้ไม่อยู่ ช่วงบ่ายวันหนึ่ง มีชายหนุ่มมาขอพบเขตต์ตวัน เขาเป็นคนที่มาเช่าบ้านอยู่ใกล้บ้านของเขตต์ตวันซึ่งเป็นบ้านหลังเดียวกับที่เจ้าของร้านค้าบอกจะให้มัทนาเช่า ชายคนนี้มาขอพบเขตต์ตวันโดยบอกว่ารู้จักเพื่อนเก่าของเขาดี เขตต์ตวันไปพบ มัทนาเห็นว่าชายคนนี้พยายามเสนอขายอะไรบางอย่าง แต่เขตต์ตวันปฏิเสธไป เมื่อมัทนาอาการดีขึ้นก็อยากออกไปเดินเล่น เขตต์ตวันจำใจพาเธอออกไป เขาเล่าสาเหตุที่ต้องไปอยู่วัดกับหลวงพ่อ และเล่าถึงชีวิตวัยเด็กอันขมขื่น รวมทั้ง จันจิรา น้องสาวที่เขารักมากและตายไปแล้ว และบอกว่าตนสืบสานความฝันของน้องสาวทำห้องเสื้อตะวันขึ้นมา พอพูดถึงน้องสาวเขตต์ตวันก็เศร้ามากทำให้มัทนายิ่งเห็นใจเขามากยิ่งขึ้น... เขตต์ตวันพามัทนาไปหาหลวงพ่อจรูญ และพบเด็กที่อยู่ในความดูแลของท่าน มัทนาตั้งใจจะเขียนสารคดีชีวิตของหลวงพ่อ เธอจึงได้สัมภาษณ์ท่านด้วย ความสัมพันธ์ของเขตต์ตวันกับมัทนาค่อยๆ กลับมาดีเหมือนเก่าหลังจากปรับ ความเข้าใจกันทุกเรื่อง เขตต์ตวันชวนมัทนาไปดูพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพก่อนกลับบ้าน มีหนุ่มสาวจำนวนหนึ่งเข้ามาขอถ่ายรูปกับเขตต์ตวัน มัทนาช่วยขอร้องให้เขาไปถ่ายรูปด้วย ขณะนั้นมีกลุ่มขี้เมาเดินผ่านมาแซวมัทนาว่า ถ้ามีแฟนอย่างเธอจะไม่ปล่อยให้อยู่ห่างๆเลย เขตต์ตวันได้ยินก็จะไปเอาเรื่อง แต่มัทนาห้ามไว้ว่าอย่าไปใส่ใจ เขตต์ตวันแปลกใจตัวเองที่รู้สึกเป็นห่วงนักข่าวสาวคนนี้ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก หลังจากมัทนาหายดีแล้ว เธอทวงสัญญาที่เขตต์ตวันรับปากจะยอมให้สัมภาษณ์ เขตต์ตวันขอให้มัทนาไม่ให้สัมภาษณ์ 2 เรื่องคือเรื่องคดีความเมื่อ 2 ปีก่อน กับเรื่องของแม่และจันจิราน้องสาวที่ตายไป มัทนาตอบตกลง และรับปากว่าจะไม่เขียนเรื่องที่ทำให้เขตต์ตวันเสียหายเด็ดขาด มัทนาถามถึงคนไข้ที่ติดยาที่ไปรักษากับพี่สาวตน จึงรู้ว่าคนไข้นั้นคือชลบุษย์นั่นเอง ถามถึงเรื่องคดีความว่าเขตต์ตวันไม่อยากจับผู้ร้ายตัวจริงได้หรือ เขาเล่าเรื่องของ ยุพิน ที่ตายไปให้มัทนาฟัง ว่าเธอเป็นผู้หญิงลำปางที่ถูกหลอกมาขาย โดยเพื่อนของเขา ยุพินช่วยให้เขาแจ้งจับเพื่อนคนนี้ได้ แต่ยุพินก็ถูกตามล่า จนในที่สุดต้องตายไป วันที่ตายเพื่อนของเขตต์ตวันโทรไปหัวเราะเยาะ เขตต์ตวันได้ยินเสียงยุพินจึงรีบมาช่วย แต่พอมาถึงหญิงสาวก็เสียชีวิตไปแล้ว ตำรวจมาพบเขาในที่เกิดเหตุ แต่เขาพ้นผิดได้เพราะหลักฐานบ่งบอกว่าเขาไม่ได้เป็นคนฆ่า แต่ชีวิตของเขตต์ตวันก็ถูกนักข่าวทั้งหลายขุดคุ้ยขึ้นมาจนแหลกเหลว ทำให้เขาต้องตัดสินใจออกจากวงการแสดง จากเรื่องของยุพิน ทำให้เริ่มได้กลิ่นว่าเพื่อนของเขตต์ตะวันที่วางแผนนี้คือเชนนั่นเอง แต่มัทนาก็ไม่ระแคะระคายแม้แต่น้อย เมื่อกลับมาที่บ้าน ทั้งสองก็ได้พบกับชาวบ้านและตำรวจมายืนอยู่ที่หน้าบ้านเต็มไปหมด เพราะชายแปลกหน้าที่มาเช่าบ้านอยู่ข้างบ้านตายแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าตายอย่างไร แต่ดูเหมือนว่าเขตต์ตวันและเอกชัยจะรู้ ทั้งสองพูดถึงคน คนหนึ่งที่ตามจองล้างจองผลาญเขตต์ตวันอยู่ เขตต์ตวันพามัทนาไปส่งที่โรงแรมโดยบอกว่าจะมารับช่วงเย็น ที่หน้าโรงแรมมัทนาพบกับเชน เชนรีบหลบฉาก ไม่อยากให้มัทนาอึดอัดใจ เชนกำลังจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ แต่เขาเปลี่ยนใจเป็นกลับช่วงเย็น เชนดีใจมากที่เจอมัทนา จู่ๆ เชนก็ให้ไข่มุกดำกับมัทนาเพื่อเป็นที่ระลึก เธอจำใจรับไว้ เย็นวันนั้นเขตต์ตวันไม่ได้มารับมัทนาตามสัญญาเพราะติดธุระด่วน แต่เขากลับมารับอีกวันและพามัทนาไปปิกนิกที่บ้าน มัทนาอัดเทปสัมภาษณ์เขตต์ตวัน เขาบอกว่าอยากเป็นศิลปิน อยากเขียนรูป แต่ต้องเข้าวงการแสดงเพราะต้องการเงินมารักษาน้องที่ป่วย และเล่าถึงชีวิตในวัดสวนป่าที่อยู่กับหลวงพ่อจรูญ มัทนาประทับใจชีวิตของเขตต์ตวันมากขึ้น เขาถามว่าหญิงสาวจะกลับกรุงเทพเมื่อไหร่ เธอตอบว่าพรุ่งนี้เพราะทำงานเสร็จแล้ว เขตต์ตวันอาสาพาเธอไปซื้อของฝาก เพราะอยากอยู่กับมัทนาให้นานกว่านี้ หญิงสาวเลือกของฝากมากมาย จนเจอผ้าบาติกสีสวย เธออยากได้มากแต่เงินจะหมดแล้ว เขตต์ตะวันซื้อให้เป็นที่ระลึก หลังจากซื้อของเสร็จเขตต์ตวันพามัทนาไปกินข้าวที่ร้านบนเขา ซึ่งมัทนาชอบมากเพราะคิดว่าถ้ากลับกรุงเทพไปก็คงไม่มีโอกาสได้เจอบรรยากาศแบบนี้ ทั้งสองคุยกันด้วยความรู้สึกดีๆ เขตต์ตะวันไปส่งมัทนาที่โรงแรมและบอกว่าจะมารับมัทนาพาไปส่งที่สนามบิน เช้าวันรุ่งขึ้นเขตต์ตะวันมาที่โรงแรมก่อนเวลา พบเจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์โรงแรม เจ้าหน้าที่ฝากซองใส่รูปที่จ่าหน้าซองว่า “ภาพถ่ายจากวัดสวนป่าของคุณมัทนา” ให้เขตต์ตะวันไว้ให้มัทนาด้วย เขตต์ตวันรับมาถือนั่งรออดไม่ได้ที่จะแอบเปิดดูเพราะอยากเช็คความเรียบร้อย แต่แล้วเขาต้องตกใจมาก เพราะรูปในซองเป็นรูปโป๊เปลือยของนางแบบที่มาถ่ายเสื้อผ้าให้เขา เขตต์ตวันเข้าใจผิดคิดว่ามัทนาเป็นคนทำ จึงโกรธมัทนามาก ขึ้นไปด่าว่ามัทนาเสียๆหายๆถึงบนห้องพักก่อนจะจากไป มัทนาเสียใจมากพยายามตามไปอธิบายก็ไม่ทัน เธอไปพบเอกชัย เขารู้ว่าไม่ใช่ฝีมือของมัทนาและขอให้เธอใจเย็นๆ เขาจะค่อยๆพูดให้เขตต์ตวันเข้าใจเอง มัทนาจึงเดินทางกลับมากรุงเทพด้วยความเศร้า เมื่อมัทนาถึงบ้าน ก็ได้พบวาสิฏฐีเป็นคนแรก เพราะความซึมเศร้าของมัทนาทำให้วาสิฏฐีถามและจับได้ว่าพี่สาวกำลังมีความรัก วาสิฏฐีรื้อของฝากเจอไข่มุกที่เชนมอบให้จึงขอมัทนา มัทนายกให้เพราะไม่ชอบเครื่องประดับอยู่แล้ว มัทนาไปทำงานด้วยความหดหู่ เชนโทรมานัดพบมัทนาเพื่อพาไปกินข้าวเย็น มัทนาถามไชยวัฒน์ถึงเรื่องรูปภาพที่เขตต์ตวันเจอที่ห้องว่าไชยวัฒน์ได้ส่งไปหรือไม่ ไชยวัฒน์ปฏิเสธ และเริ่มสงสัยว่ามีคนคอยจับตาดูมัทนาอยู่ เชนพามัทนาไปกินข้าวที่ร้านอาหารหรูหรา มัทนาเจอนางแบบที่เป็นเลขาของเขตต์ตวันนั่งอยู่กับเสี่ย ทำให้มัทนานึกถึงข้อความที่ติดมากับรูปว่า นางแบบเสื้อตะวันเรียกได้ทุกคน ขอให้มีเงินพอ เชนถามถึงไข่มุกว่ามัทนาอยากทำเป็นสร้อยหรือกำไลหรือเปล่า มัทนาบอกไม่ต้องการเพราะไม่ชอบ มัทนาพยายามทำงานให้เป็นปกติแต่ข่าวที่เขตต์ตวันกลับมากรุงเทพแล้วพร้อมกับนางแบบลลิสา ทำให้ใจของมัทนาปวดแปลบ สาระวารีพาแขกคนสำคัญคือ ษมา เจ้าของกาสิโนมาที่สำนักงาน พอมัทนาทำความรู้จักแล้วก็ขอตัวกลับบ้าน แต่ขณะที่เดินออกจากสำนักงาน มีมือปืนเข้ามาดักยิง โชคดีที่ษมาผลักมัทนาได้ทัน ปืนเลยแค่เฉี่ยวศีรษะไป สาระวารีพามัทนาไปหาหมอ มัทนานึกถึงเขตต์ตวันว่าใช่เขาหรือเปล่าที่มาทำร้ายเธอ สาระวารีพามัทนากลับบ้าน พบว่าบ้านถูกขโมยงัดแงะเข้ามารื้อข้าวของโดยที่ไม่ได้เอาอะไรไปเลย โดยเฉพาะห้องมัทนาถูกรื้ออย่างหนัก มัทนาโกรธจัดคิดว่าเป็นฝีมือเขตต์ตวันแน่ๆ เธอให้สาระวารีพาไปที่บ้านเขา เมื่อมัทนาไปถึง ก็ต่อว่าเขตต์ตวันทันที เขตต์ตวันตกใจมากที่รู้ว่ามัทนาถูกยิง เขาพยายามอธิบายว่าตนไม่ได้เป็นคนทำ และขอโทษที่เข้าใจผิดเรื่องรูป เขาบอกว่าจะไม่ทำร้ายจิตใจมัทนาอีก มัทนารู้สึกดีใจขึ้นมาทันที สาระวารีพยายามคิดว่าใครกันแน่ที่ปองร้ายมัทนา เขตต์ตวันกับเอกชัยเล่าเรื่องเพื่อนที่โตมาด้วยกัน แต่เพื่อนคนนั้นกลายเป็นคนเลวค้ายา ค้าผู้หญิง หลอกลวงน้องสาวของเขตต์ตวันไปขาย จนเขาต้องแจ้งตำรวจจับทำให้เกิดเป็นความแค้นกันขึ้นมาไม่เลิกไม่รา สาระวารีถามว่าเพื่อนชื่ออะไร เขตต์ตวันบอกว่าชื่อเชษฐ์ เมื่อเล่ามาถึงตอนนี้มัทนาก็หลับไปเสียแล้ว เขตต์ตวันอาสาพามัทนาไปส่งที่บ้าน สาระวารียอมให้ไปเพราะรู้ใจของเขตต์ตวันว่าคงหลงรักมัทนาเข้าให้แล้ว แท้จริงแล้วศัตรูของเขตต์ตวันก็คือเชนนั่นเอง เชนต้องการไข่มุกคืนจากมัทนา เพราะเป็นไข่มุกแท้จากญี่ปุ่น เชนสั่งให้ลูกน้องจัดการเรื่องของมัทนาให้ได้ เขตต์ตวันมาหามัทนาแต่เช้าด้วยความห่วงใย เขาอาสามาเฝ้าหญิงสาวที่บ้านจนกว่าจะหาย และขอมาดูงานเขียนข่าวของมัทนาด้วย ทั้งสองเริ่มกลับมาใกล้ชิดกันเหมือนเดิม เขตต์ตะวันให้เครื่องช็อตไฟฟ้าและสเปรย์พริกไทยกับ มัทนาไว้เพื่อป้องกันตัว และทุกวันหลังจากมัทนาหายแล้วเขาจะไปรับเธอกลับบ้านหรือถ้าเขาไม่ว่างก็จะให้เอกชัยไปรับแทนหนังสือสยามสารที่ลงตีพิมพ์เรื่องของเขตต์ตวันมียอดขายถล่มทลาย ทุกคนต่างสนใจชีวิตของพระเอกสุดหล่อที่หายไปจากวงการนาน 2 ปี นักข่าวสำนักอื่นๆ เริ่มขอสัมภาษณ์เขตต์ตวัน แต่เขตต์ตวันก็ปฏิเสธไปหมด จนนักข่าวอื่นๆต่างหมั่นไส้ลงข่าวว่ามัทนาเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ได้สัมภาษณ์เขตต์ตวัน ตอนนี้มัทนาจึงตกเป็นข่าวในแง่ลบเสียเอง สาระวารีได้รับอุบัติเหตุจากการทำข่าวอยู่ที่ตราด มัทนาต้องไปเยี่ยมด่วน เพราะสาระวารีมีพี่สาวคนเดียวซึ่ง ไม่ว่างมาดูแล เขตต์ตวันมารับมัทนาพอดี จึงขอไปกับมัทนาด้วย เนื่องจากงานแฟชั่นโชว์เสื้อผ้าล็อตใหม่ของตวัน ต้องเลื่อนไปเพราะมีแบบหายไป ทำให้เขตต์ตวันหงุดหงิดมาก แต่ระหว่างเฝ้าอาการสาระวารี เขตต์ตวันกลับคิดแบบเสื้อใหม่ขึ้นมาได้ ซึ่งเป็นแบบเสื้อของมัทนาโดยเฉพาะ ไชยวัฒน์สงสัยเรื่องสาเหตุที่สาระวารีได้รับอุบัติเหตุ ส่วนมีคณาพานายตำรวจหนุ่มชื่อ หิรัณย์ มาแนะนำให้ มัทนารู้จัก หิรัณย์พูดถึงไข่มุกดำที่หายไปจากประเทศญี่ปุ่น ตอนนี้ยังตามจับ

ตะวันยอดรัก 2555

ตะวันยอดรัก (2555/2012) ภาคิน นายตำรวจหนุ่ม ที่ถูกส่งมายังหมู่บ้านปล่อยเกาะ พร้อมวิริยา ตำรวจหญิงผู้ช่วย ทั้งสองต้องปลอมตัวเป็นสามีภรรยากัน เพื่อสืบเรื่องเส้นทางการขนสินค้าเถื่อนและค้ามนุษย์ทางทะเลเข้าสู่ประเทศไทย โดยตัวภาคินปลอมเป็นครูประชาบาลของโรงเรียนประจำหมู่บ้าน แต่ด้วยความลับนี้มีเพียงดนัย สารวัตรประจำหมู่บ้านเท่านั้นที่รู้ความจริงเกี่ยวกับทั้ง 2 คน จึงได้แนะนำให้ภาคินและวิริยาว่าถ้าอยากรู้อะไรเกี่ยวกับหมู่บ้านให้ไปถาม ตะวัน สาวแก่นลูกสาวสัปเหร่อ เพราะเธอจะรู้ความเคลื่อนไหวทุกอย่างของคนในหมู่บ้าน ภาคินจึงเดินเพื่อไปพบตะวันที่บ้านของสัปเหร่อเติมผู้เป็นพ่อ แต่ด้วยเสียงคึกโครมดังออกมาจากภายในบ้าน ภาคินจึงรีบเข้าไปดูด้วยวิญญาณของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ จึงได้พบกับตะวันที่อยู่ในชุดกระโจมอกเพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ด้วยความตกใจตะวันจึงต้อนรับแขกที่ไม่ได้รับเชิญด้วยการต่อยเข้าไปที่เบ้าตาของภาคินหนึ่งหมัด ร้อนถึงสัปเหร่อเติมที่ต้องรีบเข้ามาห้ามและนำตัวภาคินไปรักษา และทำให้ตะวันนั้นไม่ชอบขี้หน้าภาคินมาตั้งแต่นั้น แต่ภาคินก็ยังไม่ละความพยายามที่จะตีสนิทกับตะวัน และแอบชื่นชมในตัวของตะวันในใจเงียบๆ จนกระทั่งวันหนึ่งตะวันได้เข้าแข่งขันประกวดร้องเพลงของหมู่บ้าน ระหว่างรอเวลาขึ้นร้องเพลงประกวด ตะวันกลับได้ยินชายลึกลับ 2 คน แอบมาคุยอย่างมีพิรุธกับผู้ใหญ่สมบูรณ์ ผู้ใหญ่บ้านที่ได้ตำแหน่งหน้าที่มาด้วยความมิชอบ จนทั้ง 3 คนรู้ตัวว่าตะวันอาจได้ยินเรื่องที่คุยกัน จึงหาทางจะฆ่าตะวันทิ้ง แต่ภาคินได้เดินผ่านมาเพื่อตามหาตะวันจึงทำให้ชายลึกลับทั้ง 2 คน ไม่สามารถฆ่าตะวันได้เลยทำได้เพียงขังไว้ในห้องน้ำ ตะวันจึงเข้าใจผิดคิดว่าภาคินเป็นคนแกล้งเธอยิ่งทำให้เธอเกลียดขี้หน้าภาคินมากขึ้น จากนั้นตะวันก็ต้องไปพบภาคินที่บ้านแต่ไม่พบใคร กลับ และเอาเรื่องนี้ไปบอกสารวัตรดนัย แต่สารวัตรดนัยไม่เชื่อ ตะวันจึงพยายามติดตามภาคินและวิริยาเพื่อเปิดโปง ทำให้ภาคินและวิริยาทำงานได้ลำบากมากยิ่งขึ้น จนกระทั้งวันหนึ่ง ภาคินและวิริยาแอบไปซุ่มดูผู้ใหญ่สมบูรณ์และพวกขนสินค้าเถื่อนกัน แต่ตะวันกลับโผล่เข้ามาทำเสียงดังทำให้คนร้ายรู้ตัวและออกตามล่าทั้ง 3 คน จนทำให้ทั้ง 3 คนหลงเข้าไปในป่า และวิริยาก็ติดไข้ป่าจนไม่ได้สติ จากเหตุการณ์ณ์นี้ทำให้ตะวันรู้สึกผิดที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อน ภาคินจึงให้ตะวันหาทางหนีกลับไปยังหมู่บ้านเพื่อตามสารวัตรดนัยให้กลับมาช่วย จนตะวันสามารถพาสารวัตรตะวันกลับมาช่วยภาคินและวิริยาได้ แต่ก็ต้องเกิดการปะทะกับกลุ่มผู้ร้ายอย่างรุนแรง ทำให้ตะวันถูกยิงเพราะเข้าไปช่วยภาคินกับวิริยาไว้ในจังหวะที่ทั้งคู่กำลังจะโดนยิง ส่วนตำรวจสามารถจับคนร้ายและขยายผลไปจนจับผู้ใหญ่สมบูรณ์ผู้อยู่เบื้องหลังเอาไว้ได้ ทางด้านภาคินขออยู่ดูแลรักษาตะวันให้ดีที่สุดเพื่อให้สมกับที่ตะวันเสี่ยงชีวิตช่วยเขา แต่ตะวันกลับเข้าใจผิดคิดว่าที่ภาคินมาทำดีด้วยเพราะเพื่อตอบแทนที่ตนได้ช่วยวิริยาคนรักของภาคินเอาไว้ จึงเกิดอาการน้อยใจแอบหนีออกจากรพ. แล้วไปแอบให้ป่าช้าที่เธอคุ้นเคย ทำให้สัปเหร่อเติมและสารวัตรดนัยที่รู้ว่าภาคินและตะวันต่างแอบชอบกันและกันอยู่จึงวางแผนจัดงานอำลาให้ภาคินและนำข่าวนี้ไปบอกกับตะวัน ตะวันต้องการที่จะเห็นหน้าภาคินครั้งสุดท้ายจึงแอบออกมาซุ่มดูที่งาน ทำให้สารวัตรดนัยแอบจับตัวตะวันขึ้นเวที ภาคินจึงสบโอกาสขอตะวันแต่งงานในทันที ก่อนที่ตะวันจะตอบตกลงยอมรับรัก ภาคินจึงขอเปลี่ยนงานเลี้ยงเป็นงานแต่งงานทันที และทุกคนในหมู่บ้านก็ได้พบแต่ความสุขตลอดมา

รากบุญ 2555

รากบุญ (2555/2012) เจติยาเป็นนักศึกษาปีสุดท้ายคณะนิติศาสตร์ ได้สูญเสียบิดาไปจำต้องหางานพิเศษทำ เพื่อค่าเล่าเรียนของตนเองและน้องชาย แล้วยังมีค่ารักษามารดาที่ป่วยโรคไต จนวันหนึ่งเจติยารับกล่องรากบุญลึกลับที่ได้มาจากลุงทวีซึ่งทำงานที่เดียวกันกับเธอเอง สิ่งที่ต้องทำคือการทำความดี ผลตอบแทนที่เธอจะได้รับคือสิ่งที่เธอปรารถนาหนึ่งอย่าง แต่การทำความดีเพื่อแลกมาถึงสิ่งที่ต้องการ เหมือนเป็นการบังคับและเป็นการทำความดีเพื่อหวังผล การช่วยเหลือคลี่คลายคดีปริศนาเมื่อได้ยินเสียงร้องขอจากคนตาย การที่เธอทำงานเป็นผู้ช่วยตกแต่งศพในบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการจัดการศพและได้ใกล้ชิดกับศพยิ่งทำให้เธอพบเจอศพได้ง่าย แต่มีข้อแม้ว่าต้องทำเรื่องเหล่านั้นให้สำเร็จไม่เช่นนั้นจะต้องตายและไม่สามารถทิ้งกล่องใบนี้จนกว่าจะหาผู้ครอบครองคนใหม่ได้ เจติยาคือผู้รับการสืบทอดถือกล่องลึกลับต่อจากบิดาของลาภินที่เพิ่งตายจากไป ขณะเดียวกันผลพลอยได้จากการคลี่คลายคดีตกอยู่กับหมวดนวัช เพื่อนบ้านซึ่งเป็นตำรวจ หลังจากบิดาของลาภินตาย พิสัย(น้องชายแม่ลาภิน) เป็นผู้ดูแลบริษัทนิราลัยพยายามกีดกันไม่ให้ลาภินทายาทตัวจริงเข้ามายุ่งเกี่ยวกับบริษัทเพื่อหวังกอบโกยผลประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ พิสัยเริ่มยุแยงให้พนักงานประท้วง ลาภินกลับแก้ปัญหาได้หวุดหวิดโดยมีลุงทวีกับเจติยาคอยสนับสนุนอยู่ ทำให้ลาภินมองเห็นในน้ำใจของเจติยา พิสัยได้จ้างมือปืนมาฆ่าลาภิน จนชูจิตมารู้ความจริงว่าพิสัยคิดทำร้ายลูกของตน เลยปลดออกจากตำแหน่งในบริษัท ยิ่งทำให้พิสัยโกรธแค้นจึงหาวิธีการแก้แค้นด้วยการหลอกใช้ ปริม(เพื่อนนักเรียนนอกลาภิน) เป็นเครื่องมือ ปริมเสียใจและกลัวความผิดจึงคิดสั้นฆ่าตัวตาย ปราณที่ถือกำเนิดจากพลังกิเลสมนุษย์ที่สั่งสมจากความปรารถนาของคนนานหลายร้อยปีที่ไม่ยอมให้เจติยาทำความดีช่วยเหลือคนตายได้สำเร็จ จึงพยายามขัดขวางและฆ่าเจติยาเพื่อปลดปล่อยกล่องรากบุญให้เป็นอิสระจะได้มีสิทธิ์หาเจ้าของคนใหม่ พิสัยปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับปืนและความแค้นฝังเต็มหัวใจ เจติยายอมแลกชีวิตเพื่อช่วยน้องชายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสใกล้จะสิ้นลมหายใจ หมวดนวัชจับกุมพิสัยได้สำเร็จ ท่ามกลางความเป็นความตายของเจติยาได้พบกับมัจจุราชเรื่องราวจะเข้มข้นมากแค่ไหน เจติยาจะรอดพ้นจากความตายหรือไม่ เรื่องราวความรักของลาภินกับเจติยาบทสรุปของกล่องลึกลับจะเป็นอย่างไร

หงส์สะบัดลาย 2555

หงส์สะบัดลาย (2555/2012) เนติมา อิสราวัชร กับ ศิวัช กิตติธร ทั้งสองคนเติบโตมาด้วยกันที่ต่างประเทศ และทั้งคู่รักกัน เนติมาและศิวัชหวังว่าจะกลับมายังเมืองไทยทำงานเพื่อประเทศและแต่งงานกัน แต่ฝันของทั้งคู่ไม่อาจสำเร็จได้อย่างง่าย ๆ เนติมาดูภายนอกเหมือนคนที่มีพร้อมทุกอย่าง แต่ภายในเต็มไปด้วยรอยแผลแห่งความเจ็บปวดเมื่อวัยเด็ก เพราะภาพพ่อกับแม่ของตนถูกปลิดชีพลงต่อหน้าต่อตา พงษ์เลิศ ชัยธวัช มาเฟียระดับชาติที่ทำงานให้กับคนมีอำนาจในประเทศ ไม่พอใจที่ วิเชียร อิสราวัชร นักธุรกิจใหญ่ถอนตัวจากการสนับสนุนงานของเขา เพราะวิเชียรได้สืบรู้มาว่า มีการคอรัปชั่นในการประมูลและการซื้ออาวุธเพื่อมาขายให้คนต่างชาติ พงษ์เลิศจึงสั่งลูกชาย อิทธิหาญ ไปสังหารครอบครัวของเขาทั้งหมด แต่วิเชียรไหวตัวทันด้วยความเป็นห่วงลูก เนติมาลูกสาวคนโต และยศวีร์ลูกชายคนเล็ก เขาจึงขอความช่วยเหลือจาก ธำรง กิตติธร นักธุรกิจเดินเรือ และคำเที่ยง อดีตคนขับรถของพงษ์เลิศ ให้ช่วยชีวิตเนติมาและยศวีร์ โดยวิเชียรและพรรณศรีผู้เป็นภรรยายอมที่จะถ่วงเวลาอิทธิหาญไว้เพื่อให้ลูก ๆ ได้หนี ติดตามต่อได้ใน หงส์สะบัดลาย

ขุนศึก 2555

ขุนศึก (2555/2012) ในช่วงปี พ.ศ. 2127 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งในตอนนั้นยังดำรงพระยศเป็นพระมหาอุปราชวังหน้า ยังไม่ได้ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ ได้หลั่งอุทกธาราประกาศเอกราชให้ชาติไทยไม่ขึ้นต่อกรุงหงสาวดีอีกต่อไป ท่ามกลางเสียงโห่ร้องกึกก้องของกองทัพไทย และความดีใจของคนไทยที่ไม่ต้องเป็นเมืองขึ้นอีกต่อไป

เสมา ลูกชาย มั่น ช่างตีเหล็ก ซึ่งปรารถนาจะใช้วิชาความรู้ในเชิงรบที่ได้ร่ำเรียนมารักษาแผ่นดินเกิดไว้ มั่นเห็นลูกชายมีความตั้งใจจริง และฝีมือในเชิงรบโดยเฉพาะดาบสองมือก็ไม่เป็นสองรองใคร มั่นจึงพาเสมาไปฝากตัวเป็นลูกบุญธรรมของ พันอินทราช เพื่อนสนิทของมั่น พันอินเห็นเสมามีหน่วยก้านดี และเป็นศิษย์เอกของ พระครูขุน ภิกษุแห่งวัดพุทไธสวรรย์ ซึ่งเป็นอดีตแม่ทัพกองอาทมาตที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ เลยพาเสมาไปฝากกับ ขุนรามเดชะ เพื่อนและเจ้านายของพันอิน ซึ่งมีหน้าที่รับและฝึกสอนทหารใหม่ ขุนรามต้องการทดสอบฝีมือเสมา เลยให้ประลองดาบสองมือกับ ขัน หัวหน้าที่ฝีมือดีที่สุดแต่ขันประมาทเลยแพ้จึงทำให้ขันเจ็บใจว่าตนสู้เสมา ไม่ได้ ขันเลยอิจฉาเสมา แต่เหตุการณ์ครั้งนี้เอง ทำให้เสมาได้เจอกับ เรไร ลูกสาวคนสวยของขุนราม ซึ่งเป็นนางข้าหลวงอยู่ในวังแต่กลับมาเยี่ยม ลำภู มารดาที่ไม่สบายพอดี เสมาหลงรักเรไรตั้งแต่แรกพบ เช่นเดียวกับที่เรไรก็แอบชอบเสมาเช่นกัน จนวันที่เสมาได้รับเครื่องแบบทหาร ทั้งคู่จึงได้เจอกันอีกครั้ง ในขณะที่เรไรกำลังเก็บดอกจำปีอยู่เสมาเก็บได้ เสมาขอดอกจำปีดอกนั้นเอาไว้เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจของตน ซึ่งขันได้เข้ามาเห็นพอดี เลยรู้ว่าเรไรผู้หญิงที่ตนแอบชอบอยู่มีใจให้เสมา ทำให้ยิ่งริษยาเสมาหนักขึ้น แต่ สมบุญ ทาสของขุนรามซึ่งนับถือเสมาตั้งแต่วันที่ทดสอบดาบกับขัน ได้เอาแผนการของขันมาบอกเสมา เสมาโมโหเลยไปท้าดวลดาบกับขัน ขุนรามกลับมาเห็นเข้าเลยไม่พอใจ เพราะการกระทำของเสมาเหมือนกับการกระด้างกระเดื่องกับผู้บังคับบัญชา ขุนรามเลยสั่งจำคุกเสมาเอาไว้เพื่อเป็นการสั่งสอน เรไรสงสารเสมาเลยแอบมาเยี่ยม เสมาดีใจที่เรไรมีใจให้ตน เรไรบอกเสมาให้ขยันหมั่นเพียรสร้างเนื้อสร้างตัว ภายภาคหน้าจะได้มียศถาบรรดาศักดิ์ไม่น้อยหน้าคนอื่น เสมารับปากและมีเรไรเป็นกำลังใจตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา พอครบกำหนดโทษออกมา ก็เกิดศึกพระเจ้าเชียงใหม่ทัพมา ทำให้เสมาได้เข้าสู่สมรภูมิการรบเป็นครั้งแรก พอถึงเวลาไปศึก เรไรเป็นห่วงเสมากลัวจะเป็นอันตราย เลยถอดแหวนทองของตนมอบให้เสมาเพื่อเป็นกำลังใจ เสมาดีใจมากและสัญญาว่าจะเอาแหวนวงนี้กลับมา คืนให้เรไรให้ได้ ศึกที่ 1 พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงได้ให้พระเจ้าเชียงใหม่ กับ พระยาพสิม ยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนเรศวร กับ สมเด็จพระเอกาทศรถ ได้ยกกองทัพเข้าต่อสู้ โดยเสมา ขัน สมบุญ ขุนราม อยู่ในกองทัพของ พระราชมนู แม่ทัพของสมเด็จพระนเรศวร เสมากับขันได้ท้าทายกัน ว่าใครจะตัดหัวขุนศึกฝ่ายตรงข้ามได้มากกว่ากัน ขันแกล้งไม่ยกทัพเข้าช่วยเสมา ทำให้เสมาต้องถูกคู่ต่อสู้รุมตี แต่เสมาก็เอาตัวรอดพาทหารหักฝ่ามาได้ ในขณะที่ขันไปเจอกองทัพใหญ่ของคู่ต่อสู้ เลยถูกตีจนเกือบตาย เสมาพาทหารบุกเข้าไปช่วยขันกับลูกน้องออกมาได้ แถมยังตัดหัวขุนพลของข้าศึกได้อีกต่างหาก แต่เสมาไม่รู้ว่า ที่ต้องเอาผ้าโพกหัวของข้าศึกไปเป็นหลักฐานยืนยันความดีความชอบ ขันเลยเอาผ้าโพกหัวของขุนพลพม่ากลับไปรับความดีความชอบแทน เสร็จศึก พระเจ้าเชียงใหม่พ่ายแพ้กลับไป เสมาได้กลับมาและเอาแหวนทองของเรไรมาคืน และตนจะพยายามก้าวหน้าเป็นใหญ่เป็นโตให้ได้ เพื่อที่เรไรจะได้ไม่น้อยหน้าใคร เรไรปลื้มใจที่เสมารักตน โดยหลังจากศึกครั้งนี้เสมาขึ้นเป็นหัวหมู่โดยมีสมบุญเป็นศิษย์เอกคอยฝึกหัด ทหาร แต่ขันได้ตำแหน่งเป็น พันฤทธิ์รณรบ และได้ย้ายสังกัดไปอยู่ที่ดีขึ้น แต่ขันก็ยังริษยาเสมาอยู่ตลอด เลยวางแผนจีบ จำเรียง น้องสาวของเสมา จำเรียงหลงขันมากและยิ่ง บุญเรือน แม่ของตนเห็นดีเห็นงามด้วย ขันก็ยิ่งได้ใจ กลั่นแกล้งเสมาตลอดแถมยังเอาเรื่องที่เสมาจีบเรไรไปนินทา จนเสมาเป็นตัวตลกเหมือนหมาวัดที่คิดหมายปองดอกฟ้า ศึกที่ 2 พระเจ้าหงสาวดีทรงกริ้วที่พระเจ้าเชียงใหม่รบแพ้ เลยให้รบแก้ตัว โดยครั้งนี้เป็นศึกใหญ่เพราะพระเจ้าเชียงใหม่ยกทัพมานับแสน สมเด็จพระนเรศวรเลยรับสั่งให้เกณฑ์คนจากหัวเมืองเป็นจำนวนมากเพื่อช่วยรับ ศึก เสมาเลยสมัครเข้าเป็นทหารหัวเมืองช่วยรบ จนมีความดีความชอบได้อภัยโทษเก่า และได้ตำแหน่งเป็น หมื่นศึกอาสา แถมได้เจอกับ สิน ซึ่งได้กลายเป็นลูกน้องคู่ใจอีกคน เสมากลับมาอย่างภาคภูมิใจ แต่ก็ได้รู้ว่าขันกลับไปจีบเรไรอีกครั้ง โดยทิ้งจำเรียงน้องสาวตน เพราะดูถูกที่ครอบครัวตนยากจน เสมาห่วงกลัวเรไรจะเปลี่ยนใจ เลยแอบลอบพบเรไร เสมาปลื้มใจที่รู้ว่าเรไรยังคงรักตนไม่เปลี่ยนแปลง เลยตั้งใจจะหาทางก้าวหน้าในราชการเพื่อยกฐานะให้เทียมหน้าเทียมตาเรไรให้ได้ แต่เรื่องนี้รู้เข้าถึงหูขุนราม ทำให้ขุนรามไม่พอใจแถมยังได้ลูกยุจากขัน พุฒ อีกขุนรามเลยยิ่งรังเกียจเสมาและกลัวว่าถ้าเสมาเป็นใหญ่เป็นโตขึ้นมาแล้วจะ ล้างแค้นตน เสมามีแต่ตำแหน่งอย่างเดียว และจะได้เงินก็ต่อเมื่อออกรบเท่านั้น (ประมาณทหารรับจ้าง) ขุนรามชอบขันเพราะบ้านขันร่ำรวยมาก แถมขัน พุฒ ยังช่วยกันประจบทั้งขุนราม เสมาเลยต้องไปตีเหล็กหาเงินใช้ ทำให้ได้เจอกับ เอื้อยแตงเพื่อนสมัยเด็ก ทั้งคู่สนิทกันมาก แถมเอื้อยแตง ยังแอบชอบเสมา เลยมีคนเอาไปนินทา ทำให้ เรไรเข้าใจผิดคิดว่าเสมานอกใจ จนทั้งคู่ทะเลาะกัน ในขณะที่พุฒเห็นบัวเผื่อน ก็เลยจีบเพื่อหวังจะใช้บัวเผื่อนเป็นเครื่องมือในการยุแยงเรไรให้โกรธกับ เสมา เสมาตามมา ง้อเรไรที่บ้าน แต่บัวเผื่อนแอบเห็นเข้าเลยฟ้องขุนราม ขุนรามโกรธมากเลยไล่เสมาออกจากบ้านแล้วจับเรไรล่ามโซ่ขังไว้เป็นการลงโทษ (สมัยก่อน ถ้าผู้หญิงผู้ชายทำผิดประเพณีถือเป็นเรื่องร้ายแรง แม้ว่าจะไม่มีอะไรเสียหายก็ตาม) เสมาเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก แต่เกิดศึกใหญ่เข้ามาประชิดพระนครซะก่อน เรื่องวุ่นวายทั้งหมดเลยต้องพักเอาไว้ก่อน ศึกที่ 3 พระเจ้าหงสาวดีทรงพิโรธมากที่รบแพ้ไทยถึงสองครั้ง เลยกรีธาทัพใหญ่เป็นทัพกษัตริย์ มีรี้พลถึงห้าแสนมาบุกเข้าตีกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนเรศวรเห็นเป็นศึกใหญ่มาก สมเด็จพระนเรศวรรับสั่งให้ส่งทัพออกตีค่ายทุกวัน โดยรบแบบกองโจร โดยออกรบปล้นค่ายด้วยพระองค์เองแม้จะถูกอาวุธบาดเจ็บหลายครั้งก็ไม่ทรงหวาด เกรง ทำให้ทัพไทยมีขวัญดีเยี่ยม เสมาเองก็เข้าตีค่ายหลายครั้งจนมีความดีความชอบมากมาย จนในที่สุดทัพหงสาวดีก็ต้องแตกพ่ายไป เสมาได้เลื่อนยศเป็น ขุนศึกอาสา แต่ยังคงไม่มีเงินเหมือนเดิม แถมยังโดนขันกลั่นแกล้ง จนครอบครัวตนต้องติดหนี้ และถูกบีบเอาจำเรียงไปเป็นทาส เสมาเจ็บใจมาก พยายามหาเงินมาใช้หนี้ก็ยังได้เงินไม่มากนัก ในขณะที่เรไรได้รับการปล่อยตัวออกมา พ่อแม่ของเรไรเลยยิ่งอยากจะยกเรไรให้ขันมากขึ้น แต่เรไรไม่ยอมเพราะตนรักเสมา ขุนรามโกรธลูกมาก ลำภูเองก็กลุ้มใจจนไม่สบาย เรไรเลยยิ่งรู้สึกผิดเหมือนตนเป็นลูกอกกตัญญู เสมารู้ข่าว เรไรเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ขุนรามจับได้ว่าเสมาลอบมาพบเรไร เลยกะเกณฑ์คนจะทำร้ายเสมา เรไรไม่อยากให้พ่อกับชายคนรักต้องสู้กัน เลยขอร้องพ่อและรับปากว่าจะทำตามที่พ่อสั่งทุกอย่าง เพื่อไม่ให้มีเรื่องกัน ขันฉวยโอกาสช่วงนี้จะขอหมั้นเรไรไว้ แต่พอเสมารู้ข่าวก็แอบทำลายพิธีหมั้นด้วยการเผาเรือนขุนรามจนเสียฤกษ์ แต่ขันเจ็บใจมากที่ไม่ได้หมั้นและยังโดนหักหน้า เลยวางแผนจะรวบหัวรวบหางจำเรียงเป็นเมียน้อยเพื่อแก้แค้นเสมา เสมารู้ข่าวเข้าเลยแอบขึ้นเรือนขันตอนกลางคืนเพื่อช่วยจำเรียงออกมา แต่จังหวะชุลมุน เสมาเลยหลงเข้าห้อง ดวงแข น้องสาวคนสวยของขัน เสมาเจ็บใจขันเลยแกล้งลวนลามดวงแขเพื่อแก้แค้น ทำให้ดวงแขทั้งรักทั้งเสมาตั้งแต่บัดนั้น ศึกที่ 4 พระมหาธรรมราชา พระราชบิดาของสมเด็จพระนเรศวรเสด็จสวรรคต สมเด็จพระนเรศวรเลย ขึ้นครองราชย์ โดยให้สมเด็จพระเอกาทศรถขึ้นเป็นพระมหาอุปราชวังหน้า พระเจ้าหงสาวดีเห็นไทยกำลังผลัดแผ่นดิน เลยรับสั่งให้พระมหาอุปราชายกทัพใหญ่มาตีไทยอีกครั้ง และในการรบครั้งนี้เอง สมเด็จพระนเรศวรและสมเด็จพระเอกาทศรถ ได้หลงเข้าไปในกองทัพพม่า จนเกิดการยุทธหัตถี ขึ้น สมเด็จพระมหาอุปราชาสิ้นพระชนม์ ทำให้กองทัพไทยได้รับชัยชนะอย่างงดงาม รวมทั้งเสมาที่ได้ตามช้างของสมเด็จพระนเรศรวรด้วย จนได้ความดีความชอบเป็น หลวงโจมจัตุรงค์ ขุนรามกลับจากศึก โดยได้รับความช่วยเหลือจากขัน พุฒ ทำให้รอดชีวิตมาได้ เลยยิ่งไว้ใจ ขัน พุฒมากขึ้น ไม่ว่าทั้งคู่จะพูดอะไรก็เชื่อตลอด โดยขันใส่ร้ายเสมาว่าการที่พวกตนต้องโดนโทษ น่าจะเป็นเพราะเสมาไปเป่าหูขุนนางผู้ใหญ่เพื่อล้างแค้น ขุนรามเลยผูกใจเจ็บ เอาเรื่องนี้มาเล่าให้ลูกเมียฟัง เรไรกำลังหึงหวงเสมาก็เลยพลอยเชื่อไปด้วย จนถึงกับยอมรับปากจะหมั้นและแต่งงานกับขันแต่โดยดี ทำให้เสมาเสียใจสุด ๆ เสมาลอบมาพบเรไรและทะเลาะกันรุนแรง ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เสมาเสียสมาธิจนทำการรบผิดพลาดเกือบเอาชีวิตไม่ รอด ศึกที่ 5 สมเด็จพระนเรศวรทรงแค้นเคืองเมืองละแวกที่ชอบทำร้ายไทยลับหลังเลยให้พระราช มนูยกทัพ ไปตีเมืองละแวก โดยมีเสมาเป็นรองแม่ทัพแต่เพราะเรื่องเรไร เสมาเลยเสียสมาธิ ไม่รอบคอบ และทำให้ทัพไทยพ่ายแพ้ สมเด็จพระนเรศวรพิโรธมาก สั่งประหารพระราชมนูและเสมา แต่สมเด็จพระเอกาทศรถทูลขอไว้พระราชมนูเลยได้ไปตีเมืองปัตบอง (พระตะบอง) และเมืองโพธิสัตว์เป็นการแก้ตัว ส่วนเสมาโดนถอดยศริบทรัพย์และส่งไปเป็น ตะพุ่นหญ้าช้าง ชีวิตตกต่ำสุด ๆ แถมเรไรยังหมั้นกับขันซึ่งตอนนี้ได้ยศเป็น หมื่นชาญณรงค์ พุฒเป็น หมื่นทรงเดชะ ขุนรามเป็น หลวงรามเดชะ รุ่งเรืองขึ้นกว่าเดิม เสมามางานหมั้นด้วยใจที่เจ็บปวด และเอาพานใส่ดอกจำปีมาให้เป็นของขวัญ เรไรเห็นดอกจำปี ก็รำลึกความหลัง จนร้องไห้เสียใจ แต่ต้องหักใจ เสมากลับไปเกี่ยวหญ้าให้ช้างกินตามหน้าที่ต่อไป แต่เพราะเรื่องนี้เอง ทำให้เสมาเจอคนมากขึ้นจนเข้าใจระเบียบการรับราชการ เลยรู้ว่าที่ตน ไม่มีเงินซักทีเพราะขุนรามกลั่นแกล้งนี่เองแถมเรื่องที่เสมาเที่ยวไปเจ้าชู้ ก็ยังเป็นที่โจษจันไปทั่ว เพราะขัน พุฒ เที่ยวไปใส่ไฟ จนไม่มีใครรับเสมาเข้ากรมกองจนกระทั่งเสมาได้พบกับ พันจิตรเสน่หา นายทหารรับใช้ประจำวังจันทร์เกษมของสมเด็จพระเอกกาทศรถ เสมาเลยรู้ว่าจะมีการประลองหน้าพระที่นั่งเพื่อคัดคนเข้าเป็นทหารประจำวัง เสมาเลยเข้าประลองด้วย โดยได้สู้กับ ขุนจำนงรักษา ยอดฝีมือเพลงทวนประจำวัง แต่เสมาก็ใช้เพลงทวนเอาชนะ ขุนจำนงได้ จนมีโอกาสร่วมทัพไปต่อสู้เพื่อไถ่โทษ ศึกที่ 6 หลังจากพระมหาอุปราชาสิ้นพระชนม์ หัวเมืองต่าง ๆ ที่เคยขึ้นกับหงสาวดีก็กระด้างกระเดื่องเพราะเห็นว่าหงสาวดีไม่มีน้ำยาแล้ว ไม่สามารถเอาชนะไทยได้ ทำให้พระเจ้าหงสาวดีต้องส่งทัพไปปราบปรามจนขาดแคลนคน จึงรับสั่งให้ พระเจ้าแปร ไปกะเกณฑ์ผู้คนตามหัวเมืองมาเป็นกำลัง พระเจ้าแปรไปจัดการตามรับสั่ง แต่เกิดรบกับทัพไทยที่เฝ้ารักษาชายแดนและเอาชนะได้อย่างง่ายดาย จนฮึกเหิมยกทัพบุกเข้ามามากขึ้น ทำให้สมเด็จพระนเรศวรต้องทรงออกรบ ใน ขณะที่สองทัพประจันหน้ากัน สมิงมะตะเบิด ทหารเอกพระเจ้าแปรได้ออกมาท้ารบทหารกรุงศรีฯ แต่ทัพอยุธยาไม่มีใครสามารถสู้สมิงมะตะเบิดได้ซักคน เสมาเลยออกรบ ทั้งรบบนหลังม้าด้วยเพลงทวน และลงมารบพื้นราบด้วยดาบสองมือ จนสามารถตัดคอสมิงมะตะเบิดได้สำเร็จ ทำให้กองทัพไทยมีกำลังขวัญ บุกตะลุยทัพแปรจนแตกพ่ายไป เสมามีความดีความชอบมาก ได้พ้นโทษและได้ยศเป็น ขุนแสนศึกพ่าย รับใช้สมเด็จพระเอกาทศรถ ทำให้เสมามั่งมีร่ำรวยขึ้นมากจนใช้หนี้ขันได้หมด ในขณะที่พวกขันเริ่มแตกคอกัน เพราะพุฒซึ่งหลงรักดวงแขอยู่ แต่ดวงแขไม่เล่นด้วย ทำให้พุฒผูกใจเจ็บหาว่าขันไม่ยอมช่วยเหลือ ส่วนขันก็เร่งรัดจะแต่งงานกับเรไร แต่ก็เกิดเหตุ ขุนรามป่วยจนเลื่อนไป ทำให้ขันเริ่มระแวงว่าขุนรามเดชะจะไม่อยากได้ตนเป็นเขยเพราะเห็นเสมาร่ำรวย ขึ้น จนทั้งสามคนเริ่มมึนตึงใส่กัน ในขณะที่เรไรรู้เรื่องจากบัวเผื่อนและพันอินว่าเข้าใจเสมาผิดไป และในการรบครั้งล่าสุด เสมายังช่วยชีวิตพ่อของตนด้วย แต่ขุนราม มีทิฐิเลยไม่ยอมเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง เรไรเลยปรับความเข้าใจกับเสมาได้สำเร็จ แต่เมื่อพ่อแม่รับปากขันแล้ว ตนก็เลยไม่สามารถถอนหมั้นขันได้ เสมาเองก็เข้าใจเลยได้แต่บอกตัวเองว่าตนกับเรไรคงสิ้นวาสนากันแต่เพียงเท่า นี้ และพยายามหักใจจากเรไร ศึกที่ 7 สมเด็จพระนเรศวรต้องการแก้แค้นเมืองละแวก เลยรับสั่งให้พระราชมนูกับเสมาที่เคยพ่ายศึกเมืองละแวก ทำการยกไปตีแก้ตัว ทั้งคู่สามารถตีเมืองละแวกและจับตัวพระยาละแวกมาถวายสมเด็จพระนเรศวรได้ สำเร็จ ทำให้พระราชมนูก็เป็นเจ้าพระยามหาเสนาบดี สมุหพระกลาโหมคุมอำนาจสูงสุดในหัวเมืองฝ่ายเหนือ แต่ยังไม่ทันที่จะยกทัพกลับ ก็เกิดศึกขึ้นที่เมืองตะนาวศรีตามมาทันที ศึกที่ 8 พระยาศรีไสยณรงค์ที่ถูกส่งไปปกครองเมืองตะนาวศรีเป็นกบฏขึ้น สมเด็จพระเอกาทศรถเลย ยกทัพไปปราบโดยมีเสมาเป็นทัพหน้า เสมาเลยได้เลื่อนเป็น จมื่นแสนศึกสะท้าน องครักษ์ประจำพระองค์ ทำให้ชีวิตของเสมาดีกว่าเดิมมาก แถมสังกัดสมเด็จพระเอกาทศรถโดยตรง ไม่ต้องมีมูลนายอื่นทำให้มีศักดินามากมายกว่าขุนราม ซึ่งตอนนี้เป็น พระรามเดชะ และมีเงินมากกว่าขันที่เป็น ขุนณรงค์วิชิต หรือพุฒที่เป็น ขุนวิเศษสรไกร ต่อมา ขันได้เลื่อนเป็น หลวงณรงค์วิชิต พุฒเป็น หลวงวิเศษสรไกร ทำให้ทั้งคู่หลงตัวเอง ไม่ยำเกรงขุนรามเหมือนแต่ก่อน ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสามคนเลวร้ายลงไปอีก ต่างกับเสมาที่รอบคอบสุขุม ไม่บุ่มบ่ามเถียงคำไม่ตกฟากเหมือนเมื่อก่อน ทำให้ก้าวหน้าในหน้าที่การงานเป็นอย่างดี ศึกที่ 9 สมเด็จพระนเรศวรมีพระราชดำริจะตีกรุงหงสาวดีคืนบ้าง เพราะตอนนี้กรุงหงสาวดี ไม่เป็นปึกแผ่น แตกแยกกันไปหมด เลยจะยกทัพบุกกรุงหงสาวดีเพื่อเป็นพระเกียรติยศ พระเจ้าตองอูได้ข่าว เลยแกล้งทำเป็นสวามิภักดิ์อยุธยา แล้วเข้าไปจับตัวพระเจ้า หงสาวดีมาที่ตองอูรวมทั้งขนสมบัติ ไพร่พลราษฎรมากมายมาด้วย แล้วเผาหงสาวดีจนราบเป็นหน้ากลอง กว่าสมเด็จพระนเรศวรจะเสด็จไปถึงก็ไม่เหลืออะไรแล้ว ทำให้สมเด็จพระนเรศวรทรงพิโรธมาก เพราะตั้งใจจะทำศึกเพื่อเป็นพระเกียรติยศสืบไป แต่พระเจ้าตองอูกลับใช้อุบายหลอกพระองค์แล้วยังเผาเมืองทิ้งอีก สมเด็จพระนเรศวรเลยสั่งทัพไปบุกตองอูแทน ประกอบกับ ทัพไทยไม่ได้เตรียมเสบียงมาเผื่อตีตองอู เสบียงเลยขัดสนทำให้เสียหายหนักจนต้องยกทัพกลับ และศึกครั้งนี้เอง ที่ขัน พุฒ ทำงานผิดพลาดจนถูกลงโทษให้ออกจากราชการ ตรงข้ามกับเสมาที่ได้ขึ้นเป็น พระยามหาสงคราม ขันได้ก่อเรื่องอีกหลายอย่างแถมยังทำร้ายพี่ชายของขุนรามเดชะเพราะความโกรธ ด้วย ขุนรามเลยถอนหมั้นขันกับเรไรซะ เสมาเลยได้โอกาสทูลขอเรไรจากสมเด็จพระเอกาทศรถ ทั้งคู่จึงได้แต่งงานกันสมกับที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคร่วมกันมานาน หลังจากแต่งงานไม่นาน พันอินทราชซึ่งตอนนี้เป็น หลวงพิมานมงคล ได้เสียชีวิตลงและฝากฝังให้เสมาดูแลศรีเมืองแทนตนด้วย เรไรเลยอนุญาตให้เสมารับศรีเมืองไว้เป็นภรรยาน้อยได้ ส่วนขันกับพุฒก็ทะเลาะกันรุนแรง เพราะพุฒใช้เส้นน้าชายไปสังกัดกรมกองใหม่โดยไม่บอกขัน แม่ของขันทนสงสารลูกไม่ได้ เลยไปขอให้เสมาช่วย เสมาลืมเรื่องเก่า ๆ ทำให้ขันซึ้งใจ ยอมรับผิดและทั้งคู่ก็กลายเป็นเพื่อนกัน ผ่านมาอีกไม่กี่ปี สมเด็จพระนเรศวรเสด็จสวรรคต ทำให้สมเด็จพระเอกาทศรถขึ้นครองราชย์ เสมา ได้เลื่อนเป็น พระยารามจัตุรงค์ มีชีวิตความเป็นอยู่รุ่งเรืองสุขสบายอยู่หลายปี จนสมเด็จพระเอกาทศรถเสด็จสวรรคต เสมาจึงต้องออกจากราชการเพราะ เจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์ กษัตริย์พระองค์ใหม่ไม่โปรด แต่ถึงอย่างงั้น เสมาก็ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง จนซึ้งถึงความไม่แน่นอนของชีวิต และรู้ว่าคนเราในขณะที่มี ชีวิตอยู่ ควรตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด โดยมีความกตัญญูกตเวทีเป็นที่ตั้งของชีวิต
รอยมาร 2554

รอยมาร (2554/2011) คุณหญิงรุจา อัคราชมีหลานสาวสองคน คือ บี - สไบนาง และ เม - เมธาวี อัคราช เมธาวีเป็นบุตรสาวของ ประมุข กับ วิจิตรา อัคราช หญิงสาวเพียบพร้อมทั้งกิริยามารยาทและการศึกษา ขณะที่สไบนาง เป็นบุตรีของ ประจักษ์ กับ ศรีอำไพ ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วทั้งคู่ ปัจจุบันสไบนางอยู่ ในความปกครองของคุณหญิงรุจา สไบนางเป็นเด็กกะโปโล ทุกคนมักจะบอกให้สไบนางทำตัวให้ได้อย่างเมธาวี แม้ว่า ชันษา เพื่อนบ้านคนสนิทจะคอยเตือนสไบนาง เพราะชันษาหลงรักเมธาวี แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่สไบนางทำได้ดีกว่าใคร ๆ นั่นก็คือการรำไทย สไบนางหนีไปเที่ยวบ้านสวนหลังจากสอบเสร็จ พายเรือเล่นในคลองทั้ง ๆ ที่ไม่เคย ระหว่างทางที่ผ่านคฤหาสน์ไทยประยุกต์ ก็เกิดอุบัติเหตุเรือล่มแต่สไบนางว่ายน้ำเป็น สไบนางได้พบกับ ลุงมี หรือ บารมี บุญอนันต์ แท้จริงแล้วบารมีเป็นมหาเศรษฐี และเป็นพ่อของ มาร์ค - อุปมา เจ้าของคฤหาสน์หลังนี้ บารมีรู้สึกถูกชะตากับสไบนางอย่างบอกไม่ถูก เมธาวีพา ร.ต.อ.อาทิตย์ สุริโย เพื่อนชายคนสนิทไปพบคุณหญิงรุจา คุณหญิงเล่าให้อาทิตย์ฟังถึงเรื่องของสไบนาง ทำให้อาทิตย์อยากรู้จักสไบนางขึ้นมา ยายจันทร์ คนเฝ้าบ้านสวนฟ้องคุณหญิงว่าสไบนางพายเรือเล่นคนเดียวจนเรือล่ม ขณะที่อาทิตย์กับเมธาวีไปดูคฤหาสน์และได้พบกับอุปมาเป็นครั้งแรก เมธาวีและอุปมาต่างก็พึงพอใจกันตั้งแต่แรกเห็น ด้านสไบนางก็ขังตัวเองในห้องเพราะถูกคุณหญิงรุจาดุสไบนางไม่ยอมแพ้ปีนหน้าต่างหนีลงมา อาทิตย์เริ่มสนใจในตัวสไบนางขึ้นมา ประมุขเขียนจดหมายส่งมาถึงคุณหญิงรุจาเพื่อส่งข่าวว่าได้พบบารมีที่เมืองนอก คุณหญิงรุจานึกหวั่นกลัวว่าถึงเวลาที่จะต้องชดใช้หนี้กรรมในอดีตให้แก่บารมีแล้ว วันหนึ่งสไบนางกับ หยาดฝน เพื่อนสนิทของสไบนาง เข้าไปที่บริษัทของอุปมาเพื่อสมัครงาน แต่กลับถูกอุปมาไล่ออกมาจากบริษัท สไปนางแผลงฤทธิ์ใส่อุปมา อุปมาได้พบกับ วิมาดา อดีตรักแรก แต่กลับมารู้ทีหลังว่าวิมาดาเป็นเมียน้อยของ ธนู อยู่ก่อนแล้ว เมื่อได้มาพบกันอีกครั้ง วิมาดาก็หวังว่าจะจับอุปมาให้ได้ อุปมาเองวางแผนหวังจะเอาคืนวิมาดา ต้องการเห็นวิมาดาเจ็บเหมือนที่ตนเคยเจ็บ อุปมามาเยี่ยมคุณหญิงรุจาที่บ้านอัคราช สไบนางเอาน้ำสาดไล่ ด้านเมธาวีกับอุปมาก็ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้ง เมธาวีเห็นว่าอุปมาเป็นคนที่คู่ควรกับเธอที่สุดในทุกๆ ด้าน จึงคิดจะสานสัมพันธ์ต่อ สไบนาง หยาดฝน ชันษาและคุณ บังอร ไปพักผ่อนกันที่ระยอง ที่นั้นสไบนางได้พบกับอุปมาซึ่งไปเที่ยวกับ หัสดิน เพื่อนสนิท และ ม.ร.ว.กมลฉัตร ครูสอนพิเศษของสไบนาง สไบนางกับอุปมาทะเลาะกันใหญ่โต ด้านวิมาดาก็ตามตื๊ออุปมาไปถึงพัทยา หยาดฝนจำได้ว่าวิมาดาเป็นเมียน้อยของธนู สามีของ สายทิพย์ พี่สาวของหยาดฝน สไบนางจึงยิ่งรังเกียจอุปมามากยิ่งขึ้นที่ไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงที่มีเจ้าของแล้ว สไบนางน้อยใจบังอรและคุณหญิงรุจาที่ลงโทษที่เธอหาเรื่องอุปมา จึงหนีออกจากบ้านไปอยู่ที่บ้านของหยาดฝน อุปมาขับรถมาตามหาสไบนางจนเจอ ทั้งคู่มีเรื่องกันทะเลาะกันอีก สไบนางตบหน้าอุปมา โกรธจัดจึงดึงตัวสไบนางมาจูบ สไบนางแค้นใจมาก อุปมาบอกว่าบารมีรู้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนที่ดินของเศรษฐีเทียน จนเป็นสาเหตุให้บารมีต้องหนีหัวซุกหัวซุนไปอยู่เมืองนอก ต้องฝากน้องสาวของตนไว้กับคุณหญิงรุจาเมื่อกว่าสามสิบปีก่อนแล้ว และบัดนี้บารมีก็กลับมาพร้อมกับเขาเพื่อทวงคืนทุกอย่างที่เป็นของบุญอนันต์คืน คุณหญิงรุจาบอกความจริงแก่อุปมาว่าสไบนางคือลูกของประจักษ์กับศรีอำไพ ซึ่งเป็นน้องสาวบารมีที่ฝากไว้กับคุณหญิงก่อนที่บารมีจะหลบไปอยู่ต่างประเทศ คุณหญิงจึงออกปากฝากฝังสไบนางไว้กับบารมีและอุปมาหากว่าตนเองมีอันเป็นไป อุปมาขอเมธาวีหมั้น เมธาวียินดีมาก ทว่าเมธาวีไม่รู้เลยสักนิดว่าการแต่งงานครั้งนี้เกิดขึ้นได้ เพราะประมุขติดหนี้พนันกับบารมี บารมีตกลงรับข้อเสนอนั้น บารมีรู้ว่าอุปมาชอบพอเมธาวีจริงจัง ก็ไม่ค่อยเห็นด้วยนัก ในงานวันเกิดของคุณหญิงรุจา สไบนางทำให้ทุกคนประหลาดใจด้วยการรำไทยโชว์บนเวที คุณหญิงรุจาแนะนำให้สไบนางรู้จักกับบารมีว่าเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของศรีอำไพ บารมีก็ให้ความเอ็นดูกับสไบนาง แต่ประมุขก็ยังหวังว่าหลังจากเมธาวีแต่งงานกับอุปมาแล้ว บารมีจะคืนบ้านอัคราชให้ คุณหญิงเปิดเผยความจริงอีกข้อให้บารมีรู้ว่า ทศวรรต เป็นลูกของบารมีกับ ขัตติยา อดีตคู่หมั้นของบารมี แต่ตอนที่บารมีจำเป็นต้องหนีไปต่างประเทศ บารมีไม่เคยรู้ว่าขัตติยาท้องกับตัวเองอยู่ ขัตติยาจึงต้องแต่งงานกับประมุขเพื่อหาพ่อให้ลูกในท้อง ขัตติยาเสียชีวิตหลังคลอดทศวรรตไม่นาน คุณหญิงจึงให้การเลี้ยงดูทศวรรตในฐานะคนของอัคราช ทั้งที่ทศวรรตไม่มีเชื้อสายของอัคราช แต่บารมีก็กลัวว่า ทศวรรตจะไม่ยอมรับตนในฐานะพ่อ ทศวรรตเข้าใจบารมีดี สไบนางแอบได้ยินคุณหญิงรุจาทะเลาะกับประมุขว่าตนเป็นลูกของประมุข คุณหญิงรุจายืนยันสไบนางเป็นลูกของประจักษ์กับศรีอำไพ ในวันแต่งงานอุปมากับเมธาวี เมธาวีหายไปจากบ้าน ประมุขเสนอให้สไบนางแต่งงานกับอุปมาแก้หน้าไปก่อนสไบนางไม่ยอมแต่งงานกับอุปมาอ้างว่าตนกับอุปมาเป็นลูกพี่ลูกน้องใกล้ชิด คำค้านของสไบนางเกือบเป็นผล ถ้าบารมีไม่เฉลยความลับอีกข้อที่ปกปิดมาตลอดชีวิตว่า ศรีอำไพไม่ใช่น้องแท้ ๆ ตามสายเลือดของตน หากแต่เป็นลูกบุญธรรมที่เศรษฐีเทียนเก็บมาเลี้ยง อาทิตย์สืบได้ความว่ามีผู้พบรถซึ่งชันษาและเมธาวีนั่งไป ประสบอุบัติเหตุที่ปากช่อง ชันษาเสียชีวิต เมธาวีบาดเจ็บสาหัส อุปมารีบออกจากพิธีรดน้ำสังข์ไปหาเมธาวีทันที ทิ้งให้สไบนางอับอายแขกเหรื่อ กลายเป็นเจ้าสาวตัวสำรองซึ่งเจ้าบ่าวไม่ต้องการ สไบนางกับอุปมาทะเลาะกันทุกเวลานับตั้งแต่เข้าพิธีจนย้ายมาอยู่ที่บ้านไทย อุปมาเลยแกล้งไม่ยอมหย่าให้ สไบนางยิ่งอาละวาดรุนแรงจนอุปมาเผลอตบหน้าสไบนาง สไบนางเสียใจ จึงหนีไปหลบที่บ้านสวนรุจา บารมีสั่งให้อุปมาตามสไบนางไป อุปมาคิดจะสั่งสอนสไบนางให้หายพยศจึงปลุกปล้ำสไบนาง สไบนางสู้ตายเล่นงานอุปมาจนเจ็บหนักเข้าโรงพยาบาล เมื่อเมธาวีฟื้นขึ้นมาก็รับไม่ได้ที่โลกของเธอพังทลายไม่มีชิ้นดี บ้านอัคราชก็ถูกยึด ซ้ำประมุขก็ยังมาป่วยหนัก เมธาวีแค้นใจ ไม่อยากให้สไบนางได้ดีไปกว่าตัว ชีวิตคู่มีปัญหาไม่หยุดหย่อน วิมาดาก็เข้ามาป่วน สร้างเรื่องสร้างราวทำลายทั้งคู่ตลอดเวลา แต่หารู้ไม่ว่าการสร้างปัญหาของวิมาดากลับช่วยกระชับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ให้พัฒนาไปสู่ความรักเร็วยิ่งขึ้น ทศวรรตกลับมาเมืองไทยทันงานศพของประมุขพอดี คุณหญิงรุจาพาทศวรรตกับบารมีให้มาพบกัน สองพ่อลูกเข้ากันได้ดี ทศวรรตขอร้องบารมีในนามของคนในตระกูลอัคราชว่าจะไถ่ถอนบ้านอัคราชคืน แต่บารมีบอกว่าได้คืนบ้านให้คุณหญิงรุจาไปแล้ว เพราะคุณหญิงมีบุญคุณกับเขาอย่างเหลือล้น เมธาวีตั้งท้องกับชันษา แต่วิจิตราไม่รู้ จึงเรียกร้องให้อุปมารับผิดชอบ แต่อุปมาไม่เคยล่วงเกินเมธาวีเลย สไบนางรู้เรื่องเข้าแอบเสียใจ สไบนางจึงหนีออกจากบ้าน อุปมาร้อนใจที่สไบนางหายตัวไป ออกตามหาทุกที่ๆแต่ก็ไม่พบ ทศวรรตเสนอตัวจะแต่งงานกับเมธาวีเพื่อกลบข่าวฉาว แต่เมธาวีไม่ยอม เมธาวีเป็นคนรักหน้ารักเกียรติยิ่งชีพ เมธาวีเป็นลมหมดสติพลาดตกบันไดลงมา เมธาวีเสียเลือดมากจนแท้งไป อาทิตย์ดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจกับการที่สไบนางหายตัวไปแม้แต่น้อย อาทิตย์รู้เรื่องเมธาวีรู้สึกสงสารในโชคชะตาอดไม่ได้ที่จะหันกลับมาเอื้ออาทรเมธาวีอีกครั้ง อาทิตย์ตัดสินใจบอกทุกคนว่าสไบนางไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหนอยู่ทุกคนจึงตามไปพาตัวสไบนางกลับมาได้ ทั้งคู่ตัดสินใจหย่ากัน บารมีเกลี้ยกล่อมสไบนางให้ไปที่สหรัฐฯ สไบนางตกลงจะไปเมืองนอกสักพัก อุปมารู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็ไม่อาจรั้งสไบนางไว้ได้อีกต่อไป วิจิตรายุให้เมธาวีเข้าไปหาอุปมาเพื่อจัดการให้เรียบร้อย แต่หญิงสาวหยิ่งในศักดิ์ศรีเกินกว่าจะทำเรื่องไร้ยางอายแบบนั้นได้ เมธาวีกลับไปหาคุณหญิงรุจา และได้รู้ความจริงทั้งหมดในอดีตที่ผ่านมา หญิงสาวตัดสินใจจะทำอะไรบางอย่างเพื่อแก้ไขเรื่องราวทั้งหมดให้ถูกต้องเสียที วิมาดาเองก็ยอมถอยเมื่อสัมผัสได้ว่าอุปมามีความรักให้สไบนางแบบไม่รู้ตัว เธอหันกลับไปหาธนูอีกครั้ง ธนูตัดใจได้ไม่คบหากับวิมาดาอีก ธนูหันกลับไปหาครอบครัว แต่สายทิพย์ขอหย่า ธนูยังตามตื้อขอโทษขอโอกาส สายทิพย์แอบใจอ่อนแต่ก็จะทรมานสามีไปซักระยะ...อุปมาตัดสินใจจะโอนคฤหาสน์ทรงไทยประยุกต์ให้เมธาวีเป็นการขอโทษ แต่เมธาวีปฏิเสธไม่ยอมรับไว้ อุปมาสับสน ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร จึงคิดจะแต่งงานกับเมธาวีเป็นการไถ่โทษ เมธาวีกำลังวางแผนจะทำให้สไบนางกับอุปมาคืนดีกันเพื่อหลอกให้สไบนางกลับมาจากเมืองนอกให้ได้ เมื่อถึงวันแต่งงานจริง เมธาวีก็หายตัวไปอีก เมธาวีกำลังจะขึ้นเครื่องที่สนามบินแต่อาทิตย์มาดักรอเจอ ถามเมธาวีเราสองคนยังมีโอกาสเหลืออยู่อีกมั้ย ตนจะรอเมธาวีกลับมา เมธาวีรับน้ำใจอาทิตย์และจากไปอย่างให้ความหวัง เมธาวีทิ้งไว้แต่จดหมายขอร้องให้สไบนางแต่งงานกับอุปมา สไบนางอาละวาดไม่ยอมแต่ง แต่อุปมาก็อธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้สไบนางเข้าใจ สไบนางยอมรับว่าตนเองก็รักอุปมาไม่น้อย เธอจึงไม่ปฏิเสธหัวใจตัวเองอีกต่อไป ติดตามชม ละครรอยมาร

พิมมาลา 2554

พิมมาลา (2554/2011) "รู้จักให้...ในสิ่งที่คนอื่นอยากได้" คือคำขวัญประจำใจของ เพรียว (อธิชาติ ชุมนานนท์) ชายหนุ่มเชื้อสายจีน ลูกชาย เถ้าแก่ชั้น (เหมียว แมคอินทอช) และ นางถม (ศิรินุช เพ็ชรอุไร) เพรียวเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี เชื่อมั่นในตัวเองและทำงานเก่ง เขามีความสามารถเรื่องการดูจิตใจของคนอื่น รู้ในสิ่งที่คนอื่นต้องการและเมื่อเขาให้ในสิ่งที่คนอื่นต้องการเขาก็จะได้รับในสิ่งที่เขาอยากได้กลับคืนมาเสมอ พ่อของเขาเปิดกิจการผ้าทอ โดยมีพี่สาวสองคนคือ สายพร (อัญชิสา เลี่ยวไพโรจน์) กับ ยุพิน (สโรชา วาทิตตพันธ์) ซึ่งเป็นคนดูแลกิจการทอผ้าของครอบครัวเป็นหลักแต่พ่อแม่ไม่เคยเห็นความสำคัญ เพรียวเรียนเก่งแต่ไม่ได้เก่งแบบอัจฉริยะ เป็นเพราะเขารู้ในนิสัยของอาจารย์แต่ละคนว่าชอบอะไรแล้วทำในสิ่งที่อาจารย์ชอบ ผลก็คือผลการเรียนที่ได้รับมากกว่าคนอื่น เมื่อเรียนจบเขาได้ทำงานที่ ห้างเซนซูยา เพราะรู้จักับ ทศกร (นพชัย มัททวีวงศ์) ญาติห่าง ๆ ของ ศรสิทธิ์ (ดิลก ทองวัฒนา) และ ฟ้างาม (จินตหรา สุขพัฒน์) น้องสาวของศรสิทธิ์ เจ้าของห้างเซนซูยา โดยมี ดล (สุรินทร คารวุตม์) และ นาง (คลาวเดีย จักรพันธุ์) เป็นเพื่อนร่วมงาน ซึ่งนางนั้นเกลียดผู้หญิงสวยและแกล้งผู้หญิงสวยทุกคนที่มาทำงานด้วย สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เพรียว คบ ข่ายแก้ว (มรกต หทัยสีวงศ์) เป็นแฟนเพราะช่วยเรื่องการเรียนแต่พอเรียนจบก็ห่างกันไปเพราะเธอไปเรียนต่อต่างประเทศ ในเรื่องความรัก เพรียว มักคบผู้หญิงคราวละ 2 คน เรียกว่าคอยสับหลีก ฟ้างามพาลูกสาวคือ น้ำนวล (ชีรณัฐ ยูสานนท์) มาฝึกงานและให้เพรียวดูแล น้ำนวลมักจะฝันถึง สาวสวยแสนงามคนหนึ่ง ในฝันน้ำนวลรู้สึกคุ้นเคยกับหญิงสาวคนนี้เป็นอย่างดี เธอถามผู้หญิงคนนั้นว่าชื่ออะไรหญิงสาวตอบว่าชื่อ รัมภา น้ำนวลจำภาพรัมภาได้ชัดเจนและคิดว่ารัมภาเป็นนางฟ้า เมลานี (วรันลักษณ์ ศิระมะณีวัฒนา) ลูกสาวของ ศรศิลป์ และ มานิดา (ชนานา นุตาคม) มาฝึกงานที่แผนดประชาสัมพันธ์ เธออาละวาดจน เต็มตา (พรรษชล สุปรีย์) แฟนของเพรียวต้องกระเด็นออกไป น้ำนวลเริ่มมีใจกับเพรียว แต่เพรียวก็ได้มาพบกับ อินทุพร (วิรากรานต์ เสณีตันติกุล) สาวนักเรียนนอกจึงเริ่มสานสัมพันธ์ แถมเซนซูยามีพนักงงานใหม่คือ ดารณี (มิรา โกมลวณิช) เข้ามาเพรียวก็ผิดคำพูดตัวเอง เขาคบทั้ง เต็มตา ดารณี อินทุพร แต่แล้วเขาก้ได้เจอสาวงามคนหนึ่งเธอชื่อว่า รัมภา (ศรีริต้า เจนเซ่น) ก่อนน้ำนวลจะเรียนจบ เพรียวไปดูนิทรรศการงานวิทยานิพนธ์ของน้ำนวล ทันทีที่เพรียวเห็นภาพเขียนของน้ำนวลที่ชื่อ Angelica ความทรงจำของนางฟ้า ซึ่งน้ำนวลเขียนถึงผู้หญิงในความทรงจำ และจู่ ๆ รัมภาสาวงามก็มาปรากฏตัว เธอบอกว่าเธอชอบงานของน้ำนวล ในงานเดียวกันเพรียวได้พบกับข่ายแก้วโดยบังเอิญ ข่ายแก้วยังคงบอกว่ารักเพรียวเหมือนเดิม ในงานเลี้ยงฉลองเรียนจบของน้ำนวล เพรียวได้พบกับ เมลานี เธอดึงเขามากอดจูบกันอย่างไม่อายใคร น้ำนวลผิดหวังและเสียใจ และไปเรียนต่อต่างประเทศ และกลับมาเมืองไทยพร้อมรูปลักษณ์ที่ทันสมัยพร้อมคู่หมั้นหนุ่ม แวน จิตติวัฒน์ สักกะบุตร (รณเดช วงศ์สาโรจน์) หนุ่มหล่อไฮโซลูกชาย คนเดียวของนักการเมืองชื่อดัง ดารณีจับได้ว่าเพรียวคบอินทุพร จึงคิดจะกระโดดตึกเพรียวต้องกล่อมจนเธอใจอ่อน เพรียวถูกฟ้างามเรียกเข้าไปตักเตือน เขาจึงตัดสินใจลาออกจากเซนซูยา เพรียวได้พบกับรัมภาอีกครั้งและเธอก็ชื่อสาปเขากลายเป็นหญิงในชื่อ พิมมาลา เพื่อให้เขาได้รู้ถึงความรู้สึกของผู้หญิง และต้องทำภารกิจตามที่นางฟ้ารำภาให้ ตั้งแต่ทำให้ดารณีตาสว่างเรื่องความรัก ต่อมาคือให้ข่ายแก้วตัดอกตัดใจจากเพรียว และต้องให้อินทุพรยกโทษให้เขาให้ได้ พิมมาลาถูกชายฉกรรจ์ฉุดลากขึ้นรถตู้ไป พิมมาลารู้ทันทีว่าเป็นฝีมือของนันท์ที่ต้องการให้ชายฉกรรจ์ข่มขืนแล้วนันท์จะคลิปไว้แบล็คเมล์ แต่เธอรอดมาได้แถมยังมีหลักฐานมัดตัวนันท์อีกด้วย นอกจากนี้พิมมาลายังช่วยฟ้างามให้เลิกงมงายกับการหาประโยชน์ของ ทวิชา (ประกาศิต โบสุวรรณ) ที่ตั้งสำนักปฏิบัติธรรมหลอกลวงคนอีกด้วย จากนั้นเซนซูยาได้ต้อนรับพนักงานใหม่คือ อนุศร (เอกพงศ์ จงเกษกรณ์) ทายาทของเซนซูยาเขาหลงรักพิมาลาทันที พิมมาลาได้กลับมาเป็นเพรียวและบอกรักน้ำนวลแต่เธอไม่สามารถยกเลิกการแต่งงานกับแวนได้ เพราะแวนรักน้ำนวลมากทำให้เพรียวปวดร้าว ต่อมาน้ำนวลตั้งท้องและคลอดลูกเป็นหญิงชื่อว่า พิมมาลา ต่อมาพ่อของเขาเสียชีวิตลงและได้แบ่งสมบัติให้เพรียวมากที่สุดแต่เขาขอให้แบ่งสามคนเท่ากัน หลังจากนั้นอีกห้าปีชีวิตของทุกคนได้ดำเนินไป เพรียวได้สร้างที่พักของคนติดเชื้อ HIV ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเต็มตาด้วย เพรียวได้รับตำแหน่งเป็นรองกรรมการผู้จัดการส่วนทศกรเป็นอนุศร และเหตุการณ์ร้ายก็เกิดขึ้นเมื่อรถของอนุศรประสบอุบัติเหตุและแวนก็ได้รับบาดเจ็บด้วย แวนรู้ว่าเพรียวคิดอย่างไรกับน้ำนวล แล้วในที่สุดแวนก็เสียชีวิต น้ำนวลและเพรียวได้อยู่คู่กันตลอดไป

เงาพราย 2554

เงาพราย (2554/2011) หลังจากที่ ศักยะ(หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์) ซึ่งเติบโตอยู่ที่นิวซีแลนด์นานนับสิบปี ตั้งแต่อายุ 12 ปี จนถึงปัจจุบัน แต่ต้องเดินทางกลับเมืองไทย สาเหตุเพราะ นาวาโท หลวงสินาดชลยุทธ์ ผู้เป็นปู่เสียชีวิตลง ตาจอน(ไกรลาศ เกรียงไกร) คนรับใช้เก่าแก่ของบ้านสินาดชลยุทธ์ บอกว่าศักยะสนใจแต่เรื่องส่วนตัวจึงกลับมาดูใจปู่ไม่ทันกระทั่งพินัยกรรมถูก เปิดขึ้น ศักยะ และ นิศรา(อภิสรา ฉวีวงษ์) เป็นผู้ได้รับมรดก แต่ยังเหลือ ลพ ปัญจาวร(กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล) เพื่อนรักของหลวงสินาด ที่ได้รับเงินจำนวน 1 ล้านบาทที่ยังหาตัวไม่พบเพราะเวลาผ่านมานานมากแล้ว ส่วนพระเครื่อง เครื่องรางต่างๆ ตกเป็นของศักยะรวมทั้งของขลังต่างๆ ที่หลวงสินาดสั่งให้นำไปทิ้งลงแม่น้ำที่ปากอ่าวทั้งหมด ติดตามต่อได้ใน เงาพราย

สะใภ้เจ้าสัว 2553

สะใภ้เจ้าสัว (2553/2010) เจ้าสัวเทียน ผู้กุมอำนาจของตระกูล เศรษฐกิจเดชากุล และผู้บริหารไหมทองสยาม ผู้ผลิตผ้าไหมไทยระดับแนวหน้าของประเทศ ประสบความสำเร็จเป็นที่กล่าวขานของผู้คนในแวดวงธุรกิจ อาหลิวภรรยาที่สวยมากแม้ลูกชายจะโตเป็นหนุ่มหมดแล้วทั้ง 4 คน แต่ก็ยังสวยราวกับสาวสองพันปี เจ้าสัวเทียนเลือก เรืองริน ลูกสาวเพื่อนในวัยหนุ่มเจ้าของธุรกิจค่ายหนัง ซึ่งเป็นดาราสาวมากฝีมือ มาเป็นภรรยาของ ไตรเทพ ลูกชายคนรอง ซึ่งเขาไม่อาจจะปฏิเสธหญิงที่พ่อจัดให้ได้ หลังจากแต่งงานเรืองรินไม่เคยมีเวลาทำหน้าที่ภรรยาเลย ไตรภูมิลูกชายคนที่สามได้วิชารำมวยไท้เก๊กจากเจ้าสัวเทียน ทุกเช้าจะไปที่สวนสาธารณะเพื่อสอนไท้เก๊กจนเป็นขวัญใจอาม่าอาซิ้ม เจ้าสัวเทียนเลือก วัลลภา ลูกสาวเจ้าของธุรกิจอาหารแช่แข็งเป็นสะใภ้ที่สาม เมื่อได้สะใภ้ที่ถูกใจให้ลูกทั้ง 2 แต่เจ้าสัวก็ยังไม่พอใจ เพราะ ไตรภพ ลูกชายคนโตเป็นคนธรรมะธัมโมชอบพูดปรัชญาสุภาษิตจีนเพื่อให้ข้อคิดกับคนใกล้ตัวจนทุกคนรำคาญ ไตรภพขอทำงานหนักเพื่อแลกกับการที่ไม่ถูกจับแต่งงาน เจ้าสัวเทียนโกรธมากสงสัยว่าลูกชายจะเป็นเกย์ อาหลิวจึงแอบไปจ้าง ซินแสเหวง ให้มาทำนายว่า ถ้าไตรภพแต่งงานธุรกิจระส่ำระสาย แม้เจ้าสัวเทียนจะยอมเชื่อ แต่ก็ไม่ละความพยามที่จะหาภรรยาให้ไตรภพและปัญหาใหญ่คาใจเจ้าสัวคือลูกชายคนเล็ก ไตรวิช ที่ไม่ยอมเดินตามเส้นทางที่เจ้าสัวเทียนขีดไว้ ความอยากเป็นตำรวจทำให้เขาวางแผนหลังจบนิติศาสตร์ ไตรวิชแอบไปสอบเป็นตำรวจอยู่ในอำเภอเล็ก ๆ ที่จังหวัดสกลนครและได้พบกับ ฟ้าใส สาวอีสานบ้านนาคนสวยแห่งหมู่บ้านบึงน้ำงาม ลูกของ นายมิ่ง กับ นางทองสร้อย ที่เรียนจบด้านเกษตร ฟ้าใสมีคู่หูคือ ไอ้ไม้ ญาติผู้น้องวัยรุ่นจอมกวนที่มาอยู่ช่วยงานบ้าน ไตรวิชเกิดความสนใจอยากรู้จักเธอจึงไม่ยอมเปิดเผยตัวเองว่าเป็นตำรวจ ฟ้าใสกับไม้หลงเชื่อจึงเป็นมิตรกับเขา ฟ้าใสรู้สึกประทับใจและให้ความไว้วางใจในตัวเขา แต่วันหนึ่งฟ้าใสก็ต้องหน้าแตกเมื่อรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาคือ ร้อยตำรวจโทไตรวิช เศรษฐกิจเดชากุล ฟ้าใสจึงรวมหัวกับไม้แก้เผ็ดหาทางกลั่นแกล้งเพื่อความสะใจ ความสนิทสนมระหว่างไตรวิชกับฟ้าใสก่อตัวขึ้น ท่ามกลางอุปสรรคคือ ผู้ใหญ่คง พ่อหม้ายวัยดึก กับ เสี่ยไฮ้ หนุ่มใหญ่จอมเจ้าชู้ประจำหมู่บ้านที่ต่างหมายปองฟ้าใสอยู่ ชิดชัย ตามเจอไตรวิชและให้อาหลินมาตาม ไตรวิชตัดสินใจกลับไปบ้านแต่จ้างฟ้าใสให้เป็นเมียเพื่อจะได้มีโอกาสออกมาจากบ้านอีก ฟ้าใสไม่ยอม ไตรวิชบอกว่าจะได้เอาเงินไปเรียนปริญญาโท และจะได้เอา ไหมไปขายให้กับบริษัทด้วย และตกลงว่าจดทะเบียนกันเฉย ๆ ฟ้าใสจึงตกลง ไม้รับปากกับฟ้าใสว่าจะเลี้ยง เจ้านำโชค และ เจ้าน้ำชัย ไก่คู่ที่ไตรวิชรับมาจากชาวบ้านที่ซาบซึ้งในบุญคุณที่ช่วยเหลือ และจะคอยดูแล ดาวเรืองเพื่อนสนิทฟ้าใสที่ต้องอยู่กับ พะยอม ผู้เป็นแม่ตามลำพัง ซึ่งไอ้ไม้แอบหลงรักดาวเรือง ส่วนเจ้าสัวเทียนกังวลว่าก้อนเนื้อเล็ก ๆ เท่าเม็ดถั่วเขียวในสมองที่เคยทำให้เขาปวดศีรษะบ่อย ๆ จะกำเริบ เรื่องนี้เจ้าสัวกับอาหลิวสัญญาว่าจะไม่บอกให้ลูก ๆ รู้เพราะไม่อยากให้เป็นกังวล เจ้าสัวเทียนรู้ว่าฟ้าใสเป็นแค่ลูกชาวนาธรรมดาจึงหาวิธีปราบสะใภ้ให้ออกไปจากตระกูลโดยเร็วที่สุด เจ้าสัวยอมให้ไตรวิชกลับมาแล้วพาเมียมาด้วย เพราะมีแผนจะจับคู่ให้ ไตรวิชกับ อรณิชา หญิงสาวทันสมัยกิริยามารยาทงาม ลูกสาว เจ้าสัวลี และ นางเข็มทอง เจ้าของธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อดัง โดยที่ไม่รู้ความจริงว่าธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังถูกเปลี่ยนมือ หากไม่มีใครมาช่วยพยุงฐานะ ไตรวิชจับได้ว่าพ่อมีกิ๊ก เจ้าสัวเทียนตกใจแต่ไตรวิชบอกถ้าพ่อไม่เลิกแกล้งฟ้าใสเรื่องนี้จะถึงหูอาหลิว เจ้าสัวเทียนจำต้องยอมรับปากเพื่อเอาตัวรอด เมื่อพ่อแม่ฟ้าใสมาเยี่ยมที่บ้านก็ไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากเจ้าสัวไอ้ไม้จึงขออยู่กับฟ้าใสเพื่อช่วยเหลือ อรณิชามี โอห์ม เป็นคนรักอยู่แล้ว แต่ก็ต้องหงุดหงิดรำคาญใจกับไอ้ไม้ที่คอยป่วนกวนใจเพราะเห็นอรณิชาทำตัวใกล้ชิดกับไตรวิชเกินไป ไตรภพได้มีโอกาสไปบึงน้ำงามแต่สิ่งที่ไตรภพให้ความสนใจมากที่สุดคือฝีมือการทอฝ้าไหมของคนในหมู่บ้าน โดยเฉพาะลวดลายที่มาจากฝีมือของดาวเรืองที่ไตรภพชื่นชอบเป็นพิเศษจนไตรภพจ้างเธอให้ไปออกแบบลวดลายผ้าไหมให้กับไหมทองสยาม พะยอมเห็นด้วยให้ไปทำงานกับไตรภพ โดยไม่ห่วงว่าสุขภาพตัวเอง เจ้าสัวเทียนปฏิเสธเสียงแข็งที่จะรับดาวเรืองเข้ามาอยู่ร่วมชายคา แต่เมื่อเห็นฝีมือของดาวเรืองก็ต้องยอมใจอ่อน เจ้าสัวเทียนจึงให้ดาวเรืองเป็นผู้ออกแบบลวดลายผ้าไหมให้กับสินค้าชุดใหม่ของไหมทองสยาม ดาวเรืองเมื่อเข้ามาอยู่ในบ้านก็ช่วยงานฟ้าใสทุกอย่าง ช่วยปรนนิบัติทุกคนที่อยู่ในบ้านโดยเฉพาะไตรภพจนอาหลิวก็อดคิดไม่ได้ว่าดาวเรืองเหมาะที่จะเป็นคู่ชีวิตของไตรภพ เจ้าสัวเทียนเริ่มหลงรักในตัวของฟ้าใส เตรียมให้เธอเข้าไปช่วยงานที่บริษัทเรืองรินยังไม่วายอยากจะกำจัดฟ้าใส ด้วยการใส่ร้ายป้ายสีและสร้างสถานการณ์จนฟ้าใสผิดในสายตาทุกคน จนเธอต้องพ้นจากบ้านเศรษฐกิจเดชากุล แต่สุดท้ายก็พยายามพิสูจน์ความจริงจนได้ แต่เหมือนทุกอย่างจะสายเกินไปเมื่อเธอรู้ว่าอดีตสามีนั้นกำลังตกอยู่ในภาวะกลืนไม่คายไม่ออก กับเรื่องที่จะต้องแต่งงานกับอรณิชา ฟ้าใสหนีกลับบ้านไตรภพชวนดาวเรืองมางานแต่งงานของไตรวิช ดาวเรืองขอให้ฟ้าใสไปเป็นเพื่อน ขณะที่พิธีแต่งงานกำลังจะเริ่มขึ้นนั้น แพนเค้กก็เปิดเผยวามจริงว่าอรณิชาวางแผนจับไตรวิช ให้แต่งงานกับหล่อน เจ้าสัวเทียนและอาหลิวดีใจเป็นที่สุดที่พวกเขาจะได้มีโอกาสรับฟ้าใสเข้ามาเป็นสะใภ้อีกครั้งหนึ่ง เมื่อไตรวิชปรับความเข้าใจกับฟ้าใสได้อีกครั้ง พวกเขาจึงสู่ขอฟ้าใสให้กับไตรีวิช เจ้าสัวเทียนและอาหลิวมีความสุขเพิ่มขึ้นอีกเป็นทวีคูณเมื่อพวกเขามีอากาสได้ต้อนรับสะใภ้เพิ่มอีกหนึ่งคนเข้าตระกูล นั่นก็คือดาวเรืองที่ยอมใจอ่อนตกลงใจจะเป็นภรรยาของไตรภพอย่างถูกต้อง ติดตามชม ละครสะใภ้เจ้าสัว ได้ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 19.00 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครสะใภ้เจ้าสัว เริ่มตอนแรก พฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน 2553

เพียงใจที่ผูกพัน 2553

เพียงใจที่ผูกพัน (2553/2010) มุกพิศุทธ์ (น้องมุก) ที่จากเมืองไทยไปอยู่กับพ่อที่เป็นนักดนตรีที่อังกฤษถึง 10 ปี ได้เดินทางกลับมางานศพของแม่เธอ โดยมีพี่ชายพี่สาวต่างพ่อไปรับที่สนามบิน และในการกลับมาครั้งนี้ พยัคฆ์ (พี่เสือ) ก็ได้เดินทางไปรับเธอด้วย สำหรับน้องมุกนั้นเธอเป็นลูกของตระกูลเก่าแก่ของจังหวัดที่มีธุรกิจมากมาย แม่ของเธอเป็นสส.ที่ได้รับการเลือกตั้งตลอดมา ส่วนพี่เสือเป็นลูกของแม่ที่ใจแตก มีลูกตั้งแต่อายุ 14 ปี กับฝรั่งที่มาสอนหนังสือและมาเที่ยวที่เมืองไทย ที่นำความอับอายมาสู่พ่อแม่ของเธอ จนพ่อตรอมใจกินแต่เหล้า จนเสียชีวิตไปในที่สุด หลังจากที่แม่ของเสือได้คลอดลูกออกมา เธอก็ไม่เคยดูแลเสือเลย เธอได้ยกเสือให้กับน้องชายที่ขาพิการ และก็ให้น้ากับยายของเสือเลี้ยง โดยตัวเธอเอาแต่เที่ยวเตร่คบผู้ชายไม่เลือกหน้า ไม่มีเงินก็มาไถแม่และน้องของเธอ จนกระทั้งเสืออายุได้ 9 ขวบ เขาก็ลงทุนเลี้ยงปลาหางนกยูงแล้วเอาไปขายตามตลาดนัดกับน้าชาย จนกระทั้งวันหนึ่งมีการแข่งขันวาดภาพประกวดประจำจังหวัดโดยเสือเคยได้รางวัล นี้มาตลอด แต่ปีนี้เขากลับได้ที่ 2 เขาแพ้ให้กลับน้องมุกที่เขาร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ทำให้เขาโกรธน้องมุกมากเพราะที่เขาแพ้ไม่ได้แพ้ที่ฝีมือแต่แพ้เพราะเส้นสาย แม่ของน้องมุกเป็นสส.ที่ทางคนจัดเขาเกรงใจ และในการแข่นขันในครั้งนี้ คนที่ได้ที่ 1 และที่ 2 ต้องเข้าค่ายศิลปะ 2 วัน เมื่อเสือรู้เสือจึงไม่ยอม แต่ครูที่เขานับถือได้มาขอร้องไว้ และในการเข้าค่ายครั้งนี้ เสือได้ว่าประชดประชันน้องมุกตลอด จนตอนเช้าของวันสุดท้ายทางค่ายได้พาคณะของค่ายศิลปะไปดูการทำหอยมุก และในตอนกลับทางฟาร์มหอยมุกได้ให้นักเรียนเลือกหอยมุกซีกมาคนละตัว น้องมุกและเสือก็ได้กลับมาด้วยโดยเสือได้มุกสีชมพูมา น้องมุกเห็นอยากได้แต่ไม่กล้าขอกับเสือ จนกลับมาที่ค่ายหลังพักกลางวันเสือก็ได้เห็นพี่เลี้ยงของน้องมุกกำลังแย่ง หอยมุกกับน้องมุกอยู่ เสือเลยเข้าช่วยและพาน้องมุกไปวาดรูปด้วยกัน และที่นี่เองเสือก็ได้รู้ว่า น้องมุกนั้นโดนรังแกตลอด ไม่ว่าจะเป็นจากพี่เลี้ยงจากพี่สาวต่างพ่อ หรือกับแม่ของเธอเอง จึ่งทำให้เสือสงสารน้องมุกขึ้นมา ในการวาดรูปด้วยกันนี้ เสือได้ให้รูปของเขากับน้องมุก แล้วน้องมุกก็ได้ให้หอยมุกกับเสือไป ในการนี้เสือได้ให้สัญญากับน้องมุกว่า พอโตเขาจะคืนหอยมุกให้กับน้องมุกโดยจะให้ตัวสีชมพูอีกด้วย หลังจากนั้นก็ได้แยกกัน ทุกอาทิตย์เสือและน้าต้องไปขายปลาตามตลาดนัด แต่อาทิตย์นี้เสือได้พบกับลูกค้าคนพิเศษที่ชื่อน้องมุก น้องมุกมาหาเสือที่ขายปลาและได้ช่วยเขาขายจนกระทั้งเลิก และในครั้งนี้น้องมุกได้ซื้อปลาบอลลูนไปอีกด้วยโดยตั้งชื่อว่ารถถัง เป็นอย่างนี้ทุกอาทิตย์จนโรงเรียนเปิดเทอม และก่อนจะแยกจากกันเสือได้บอกให้น้องมุกหาแนวทางการเล่นดนตรีเพื่อที่เวลามี ใครว่าจะได้ไม่ต้องสนใจในสิ่งที่ได้ยินอีกด้วย หลังปิดเทอมอีกครั้ง น้องมุกได้มาหาพี่เสือของเธอที่ตลาดนัด และได้มาบอกเขาเกี่ยวกับการเล่นไวโอลิน และยังมาเล่นให้เขาฟังอีกด้วย น้องมุกมาหาพี่เสือของเธอทุกอาทิตย์ จนกระทั่งวันหนึ่งน้องมุกได้มาชวนพี่เสือของเธอไปงานวันเกิด พลอยพิศุทธ์ พี่สาวของเธอ และในงานนี้เองพลอยพิศุทธ์และเพื่อน ๆ ของเธอได้แกล้งเสือ จนน้องมุกมาเห็นเข้าจึงโกรธพี่สาวของเธอมากที่แกล้งพี่เสือของเธอ และในวันรุ่งขึ่นนั้นเองน้องมุกได้มาหาพี่เสือที่บ้าน เพื่อมาขอโทษเขา น้องมุกมาพร้อมกับตุ๊กตาที่เสือให้เป็นของขวัญกับพลอยพิศุทธ์ แต่พลอยพิศุทธ์ไม่เอา พอเสือรู้เข้าเขาก็บอกให้น้องมุกทิ้งไป แต่น้องมุกขอไว้เองเสือเลยตกลงให้ไป น้องมุกมาอยู่เล่นที่บ้านพี่เสือจนบ่ายถึงกลับไป และในวันอาทิตย์นั้นเอง เพชรพิศุทธ์ พี่ชายใหญ่ของบ้านเป็นคนพาน้องมุกมาหาเสือที่ตลาดนัด และในครั้งนี้น้องมุกได้สัญญาว่าจะมาช่วยพี่เสือของเธอขายของทุกอาทิตย์ตลอด ไป แต่อะไร ๆ ก็ไม่แน่นอนในอาทิตย์สุดท้ายก่อนเปิดเทอมน้องมุกได้มาลาพี่เสือของเธอ เมื่อพ่อและแม่ของเธอได้หย่าขาดจากกันโดยให้น้องมุกอยู่กับพ่อ เธอถึงต้องเดินทางไปอยู่ที่ฮ่องกง และในการมาลาในครั้งนี้น้องมุกขอให้พี่เสืออย่าลืมเธอ การจากลาของทั้งคู่ ทั้งน้ำตานี้ที่เป็นเวลาถึง 10 ปีจะเป็นอย่างไรต่อไป พี่เสือจะลืมน้องมุกหรือไม่ แล้วในระยะเวลา 10 ปีนี้จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงของคนทั้งคู่หรือไม่ แล้วเด็กเลี้ยงปลาขายอย่างเสือจะต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อจะเป็นเสี่ยพยัคฆ์ ที่มีธุรกิจมากมายในตอนนี้ มาติดตามชีวิตของ พี่เสือและน้องมุก ได้ใน ละครเพียงใจที่ผูกพัน ผลงานการประพันธ์ของ กิ่งฉัตร ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 20.30 น. เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครเพียงใจที่ผูกพัน เริ่มตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม นี้

จงกลกิ่งเทียน 2553

จงกลกิ่งเทียน (2553/2010) เจ้าบัวเทียน หญิงชราวัย 85 ปี นั่งเล่าเรื่องราวชีวิตของตนเองให้ กอหญ้า หลานชายฟังถึงความอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับตน ชื่อเดิมของเธอคือ “เทียนกันยา” พ.ศ.2495 หลังพ่อแม่เสียชีวิต เทียนกันยากับโกมุทหรือก้องน้องชายได้ดูแลสมบัติของตน ทั้งสองอาศัยอยู่ในบ้านสุจัณยา ร่วมกับ ศล น้องชายบุญธรรมที่พ่อของเทียนกันยาอุปการะเลี้ยงดู ก้องไม่สบายตั้งแต่เด็ก เทียนกันยาเลยจ้าง เรือนใจ พยาบาลสาวมาดูแล จนกระทั่งก้องป่วยหนักเสียชีวิตลง เรือนใจบอกละม่อม ละม่อมสะใจที่ยาลูกกลอนผสมสารหนูที่ฝากเรือนใจไปให้ก้องกินได้ผล เรือนใจตกใจมากที่รู้ว่าละม่อมใช้ตนเป็นเครื่องมือ ละม่อมขู่เอาผิดเรือนใจและจะเปิดเผยเรื่องเรือนใจไม่ได้จบพยาบาลมาจริงๆแต่ปลอมเอกสาร เรือนใจกลัวเลยต้องเป็นพวกละม่อมต่อไป เทียนกันยาเสียใจที่สูญเสียน้องชาย เรือนใจเข้ามาดูแลอย่างดี เทียนกันยาจึงให้เรือนใจเป็นพยาบาลประจำตัวเธอต่อ เพื่อนก้องมางานศพของก้องรวมทั้ง อัพภันดร์ บอกว่าตนเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของก้อง ทุกคนแปลกใจที่อัพภันดร์เข้ามาสนิทสนมกับเทียนกันยา เพราะไม่เคยได้ยินชื่อนี้จากก้องมาก่อนเลย ในงานศพก้องละม่อมเข้ามาทวงสมบัติของตนโดยอ้างสิทธิ์เมียอีกคนของพ่อเทียนกันยา ประทินทนายความของบ้านสุจัณยาว่าละม่อมหมดตัวเพราะผีพนัน ละม่อมโกรธจะเข้ามาทำร้ายเทียนกันยา อัพภันดร์เข้ามาขวาง ทำให้เทียนกันยาชื่นชมอัพภันดร์ การกระทำของอัพภันดร์สร้างความแคลงใจให้กับศล เพราะศลเป็นคนดูแลเอกสารของก้อง แต่ไม่เคยเห็นจดหมายของอัพภันดร์เลยซักฉบับ ศลเตือนเทียนกันยา เทียนกันยาไม่เชื่อและต่อว่าศล ศลจึงได้แต่เฝ้าดูพฤติกรรมของอัพภันดร์อยู่ห่างๆ จรัส ป้าของเทียนกันยาพาชายหนุ่มมาให้เทียนกันยาดูตัวเพราะเป็นห่วงเรื่องคู่ครองของหลาน เทียนกันยาไม่สนใจเพราะแอบชอบอัพภันดร์อยู่แล้ว เมื่องานศพของก้องเรียบร้อยอัพภันดร์ก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านสุจัณยา คอยดูแลเทียนกันยาจนกลายเป็นความรัก อัพภันดร์อ้างว่าสำนักงานทนายความที่เชียงใหม่ซึ่งตัวเองทำงานอยู่ปิดตัวลง ทำให้เขาต้องขึ้นมาทำงานที่กรุงเทพ เทียนกันยาฝากงานให้ที่สำนักงานทนายความของประทิน และให้เข้ามาพักอยู่ในบ้านสุจัณยาแต่เป็นห้องพักที่เรือนเลี้ยงม้า ไม่ได้อยู่บนบ้านใหญ่ อัพภันดร์ไม่ค่อยพอใจนักแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จริงๆแล้วเขาไม่ได้จบทนายความอย่างที่บอกไว้ แต่ปลอมแปลงเอกสารเพื่อหลอกฮุบสมบัติของ เทียนกันยา โดยพยายามตีสนิทประทินทำดีตบตาจนเขาสามารถเข้ามาดูแลทรัพย์สมบัติของเทียนกันยาแทนประณตหลานชายของประทินได้สำเร็จ ความเจ้าชู้ของอัพภันดร์ทำให้เขาได้เสียกับเรือนใจ และอารีเสมียนในสำนักงานของประทิน อัพภันดร์ให้อารีปลอมเอกสารยักยอกเงินของเทียนกันยา แต่ประทินจับได้ อัพภันดร์แก้ตัวโยนความผิดให้ประณต ทำให้ประณตต้องลาออกไปอยู่ชุมพร ภายหลังประทินรู้ความจริงว่าอัพภันดร์ปลอมเอกสารวุฒิการศึกษา และเขาเป็นหลานของละม่อม อัพภันดร์กลัวความลับแตกจึงกำจัดประทินเสียชีวิต เด็กในบ้านเห็นว่าเรือนใจแอบไปเรือนเล็กของอัพภันดร์ จึงไปบอกศล ศลโกรธไปบอกเรื่องนี้กับเทียนกันยา แต่อัพภันดร์กับเรือนใจไม่ยอมรับ และเรียกคะแนนสงสารจากเทียนกันยา เทียนกันยาใจอ่อน สุดท้ายอัพภันดร์ขอเทียนกันยาแต่งงาน ก่อนวันงานอัพภันดร์ให้อารีปลอมจดหมายลายมือเทียนกันยา ส่งหาศลเพื่อไล่ศลออกจากบ้าน ศลเสียใจไม่กลับมาบ้านสุจัณยาอีกเลย อัพภันดร์ให้เรือนใจวางยาเทียนกันยาให้เจ็บอ็อดๆแอ็ดๆเหมือนก้อง ก่อนตายเทียนกันยารู้ความจริงว่าอัพภันดร์คือหลานของละม่อม จึงถูกอัพภันดร์ผลักตกบันได แต่แจ้งกับหมอว่าเทียนกันยาเป็นลมตกบันได เทียนกันยาไม่รู้ว่าตัวเองตายแล้ว วิญญาณของเธอถูกดูดเข้าไปในร่างของเจ้าบัวคำแก้ว เจ้าทางเหนือที่นิสัยเปรี้ยวจี๊ด ก็ประสบอุบัติเหตุหนักเข้ามารักษาพร้อมกัน เทียนกันยาฟื้นขึ้นมาท่ามกลางความดีใจของเจ้าส่องเมือง ละปั๋น สาวใช้ เธอเองก็ตกใจเมื่อพบว่าวิญญาณของตนอยู่ในร่างของเจ้าบัวคำแก้ว หมอสันนิษฐานว่าเธอความจำเสื่อมชั่วคราว เทียนกันยาจำเป็นต้องอยู่ในร่างของเจ้าบัวคำแก้ว และเป็นเจ้าบัวคำแก้วตามที่ทุกคนบอก เมื่อออกจากโรงพยาบาลเธอพบว่าร่างของเธอถูกอัพภันดร์เผาไปเรียบร้อยแล้ว อัพภันดร์เห็นเจ้าบัวคำแก้วก็เกิดหลงรักทันที เทียนกันยาใช้ร่างของเจ้าบัวคำแก้วเพื่อสืบเรื่องของอัพภันดร์ต่อไป เจ้าบัวละวง ย่าของเจ้าบัวคำแก้ว และผกาฟ้าพี่สาวต่างแม่ มาที่อยุธยาเพื่อดูอาการของบัวคำแก้ว เทียนกันยารู้จากเจ้าส่องเมืองว่าบัวคำแก้วไม่ค่อยถูกกับเจ้าย่า และไม่ชอบผกาฟ้า เทียนกันยาจึงเข้าไปไหว้ขอโทษเจ้าย่า ยิ่งใกล้ชิดเจ้าย่าก็ยิ่งมั่นใจว่าวิญญาณที่อยู่ในร่างไม่ใช่บัวคำแก้ว เทียนกันยาตัดสินใจเล่าความจริง เจ้าย่าตั้งชื่อใหม่ให้เทียนกันยาว่า บัวเทียน เจ้าบัวเทียนห่วงศลจึงขอให้เจ้าย่าช่วยอุปการะส่งเสียศลต่อ เจ้าย่าให้ส่องเมืองเป็นธุระติดต่อศลเพื่อขอส่งเสียเรียนจนจบแพทย์ และให้บัวเทียนเป็นตัวแทนเขียนจดหมายติดต่อกับศล เจ้าบัวเทียนเข้ามาให้ห้องเก็บรูปและตกใจมากเมื่อพบว่าแท้จริงแล้วเจ้าย่าเป็นย่าทวดอายุเกือบร้อยปีแล้ว เจ้าบัวละวงรู้ว่าตนเองคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานจึงเลือกผู้สืบทอดตำรายาอายุวัฒนะให้เจ้าบัวเทียน อัพภันดร์โมโห เรื่องเรือนริมสระน้ำที่ก้องเขียนยกให้ศลก่อนตาย จึงพาลใส่อารี อารีขอแยกทางกับอัพภันดร์และขอเงินก้อนใหญ่ อัพภันดร์ยอมให้เพื่อแลกกับความลับและขู่ไม่ยอมให้อารีมีความสุขตลอดชีวิต อารีกลัวจึงเล่าความจริงให้ศลฟัง อัพภันดร์จึงตามมาฆ่าปิดปากอารี เมื่อเรียนจบศลขอไปเป็นแพทย์ประจำอนามัยจอมทอง เพื่อทดแทนบุญคุณเจ้าย่า หลังทุกอย่างเรียบร้อยเจ้าย่าก็สิ้นลม ศลปลอบใจบัวเทียน ส่องเมืองไม่พอใจที่ศลสนิทกับเจ้าบัวเทียน บัวเทียนบอกว่าเธอคิดกับส่องเมืองแค่พี่ชาย เจ้าส่องเมืองจึงเริ่มหันไปมองผกาฟ้า ที่ดีกับตนทุกอย่างและแอบรักตนอยู่ อัพภันดร์ลอบยิงศลเพราะโกรธที่ศลแย่งเจ้าบัวเทียนไป บัวเทียนทำทีมาเยี่ยมอัพภันดร์ที่กรุงเทพ เรือนใจกลัวว่าบัวเทียนจะมาแย่งอัพภันดร์ไปจึงจ้างยอดมาฆ่าบัวเทียนแต่ศลมาช่วยไว้ทัน อัพภันดร์วางยาหวังจะข่มขืนบัวเทียน แต่วิญญาณของเจ้าบัวคำแก้วที่วนเวียนอยู่กับร่างของเธอได้เข้ามาช่วยไว้ เรือนใจขัดขวางไม่ให้แผนของอัพภันดร์สำเร็จ ทั้งคู่ทะเลาะกันรุนแรง อัพภันดร์ยิงเรือนใจ ก่อนตายเรือนใจก็แทงอัพภันดร์อาการสาหัส อัพภันดร์เห็นบัวเทียนเป็นเทียนกันยาจึงพยายามยิงใส่ แต่เขากลับเห็นภาพหลอนวิญญาณของคนที่ตัวเองฆ่าทั้งหมดตามมาทวงชีวิต สุดท้ายอัพภันดร์ก็สิ้นใจตายตามเรือนใจไป เจ้าบัวคำแก้วมาทวงร่างของเธอคืนจากเทียนกันยา แต่เจ้าบัวละวงไม่ยอมและส่งวิญญาณของบัวคำแก้วไปเกิดเป็นลูกสาวของบัวเทียนกับศลแทน ทั้งสองแต่งงานและมาอยู่ที่บ้านสุจัณยา และตั้งชื่อลูกสาวว่า ศรีกัญญา แต่ศรีกัญญาก็เสียชีวิตลงด้วยวัยเพียง 20 ปี จากอุบัติเหตุรถชนเหมือนในชาติที่แล้วที่เธอต้องจบชีวิตลงเพราะอุบัติเหตุรถคว่ำ พ.ศ.2553 กอหญ้าฟังเรื่องราวตำนานของตระกูลตัวเองด้วยความตื้นตันใจ

หน้าที่