มักกะลีที่รัก 2565

มักกะลีที่รัก (2565/2022) แทนคุณ อาจารย์สอนวิชาวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง มีความฝันอยากสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์แบบเพื่อเติมเต็มความรักที่ขาดหายไปในตอนเด็กกับ พราว แฟนสาวของเขาที่คบกันมานาน แต่ทุกอย่างพังพินาศ เมื่อพราวบอกเลิกเขาในวันที่เขาขอเธอแต่งงาน และแอบกินยาทำแท้งลูกของเขากับเธอ เพื่อไม่ให้เป็นมารหัวขนในการไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับผู้ชายคนใหม่ โลกทั้งใบของแทนคุณพังทลาย แทนคุณเข็ดขยาดความรักและผู้หญิงตั้งแต่นั้น เขาเก็บของเดินทางเข้าป่าไปหา สุริยนต์ เพื่อนสนิทเพื่อรักษาแผลใจที่รีสอร์ตเคียงตะวันรีเวอร์แคมป์ การเดินทางครั้งนี้ทำให้แทนคุณได้พบกับ มักกะลีผลสาวตนหนึ่งที่ทะลุประตูมิติรุ้งจันทรา หล่นมาจากป่าหิมพานต์ มักกะลีผลสาวมีนิสัยเหมือนเด็กทารกแต่มีกลิ่นหอมเย้ายวนผู้ชายยิ่งกว่าผู้หญิงทุกคนในโลกนี้ จนแทนคุณเกือบอดใจไม่ไหวหลายครั้ง แทนคุณตัดสินใจเดินทางกลับกรุงเทพฯ ทันที เพราะเขายังเข็ดขยาดต่อความรักและไม่ต้องการผูกพันกับผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น แต่มีสิ่งมีชีวิตจากป่าหิมพานต์ออกมาตามล่ามักกะลีผลสาวเพื่อพาเธอกลับไปเสพสังวาสให้สมดั่งใจ แทนคุณตัดสินใจพามักกะลีผลสาวหนีเข้ากรุงเทพฯ หวังจะให้รอดพ้นจากพวกป่าหิมพานต์ แทนคุณสอนวิถีชีวิตมนุษย์ทั่วไปให้กับมักกะลีผลสาวทุกอย่าง รวมถึงให้คิดชื่อเรียกตัวเองจะได้เหมือนคนทั่วไป ซึ่งมักกะลีผลสาวขอให้แทนคุณเรียกเธอว่า ที่รัก แทนคุณอึ้ง แปลกใจแต่ก็ยอมตกลงเรียกชื่อเธอตามนั้น ตำนานเรื่องเล่าเคยกล่าวไว้ มักกะลีผลมีอายุขัยอยู่ได้เพียง 7 วันในป่าหิมพานต์ แต่ไม่มีใครรู้ว่าเธอจะมีอายุขัยอยู่ได้กี่วันในโลกมนุษย์ ระหว่างนั้น เรื่องราวความผูกพันระหว่างแทนคุณกับที่รักค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น ติดตามชมความสนุกกันต่อได้ในละคร มักกะลีที่รัก

Dare to Love ให้รักพิพากษา 2564

Dare to Love ให้รักพิพากษา (2564/2021) ทิชา ทนายสาวไฟแรงที่ทำงานไม่มีวันหยุด โดยมี คามีเลีย ทนายคู่แข่งคนสำคัญ ทิชาจึงไม่เคยให้ความสำคัญเรื่องความรักสักเท่าไหร่ จนกระทั่ง คิว เข้ามาทำงานที่เดียวกับทิชา คิวคือคนที่ทำให้เธอได้รู้จักว่าความรักเป็นเช่นไร ท่ามกลางความแตกต่างของอายุ หน้าที่การงานสถานภาพทางสังคม ทิชาจะเลือกอะไร ระหว่างความรัก กับเป้าหมายในชีวิตของเธอ

ใต้ปีกปักษา 2561

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา (2561/2018) สาริศา รับทราบข่าวร้ายของบิดา กัปตันสารัตถ์ ด้วยหัวใจที่แตกสลาย อุบัติเครื่องบินตกกลางทะเลอ่าวไทยคร่าชีวิตบิดาของเธอไปทั้งๆ ที่เขาใกล้จะเกษียณอายุแล้ว สาริศาแค้นใจเพราะงานในวันนั้น พ่อของเธอถูกเรียกตัวด่วนเพื่อไปทำงานแทนกัปตันคนอื่นที่ลางานกะทันหัน เธอลงความเห็นว่ากัปตันคนนั้นคือสาเหตุที่ทำให้พ่อของเธอตาย และเธอจะไม่มีทางให้อภัยเขาเลย

กัปตันวิสสุต เพื่อนสนิทของสารัตถ์เห็นใจกัปตันรุ่นน้องอย่าง อคิน เพราะทันทีที่สาริศารู้ว่าเขาคือคนที่พ่อของเธอไปบินแทนในวันนั้นเธอก็มีอาการปั้นปึงต่อเขาทันที วิสสุตรู้ว่าสารัตถ์พอใจในตัวอคินจนอยากให้มาเป็นลูกเขย เขาจึงพยายามสานต่อเพื่อเปิดโอกาสให้ทำความรู้จักและปรับความเข้าใจกัน เขาจัดการนัดหมายให้อคินช่วยขับรถพาสาริศาไปลอยอังคารเถ้ากระดูกของพ่อ เพราะ ป้าสุมาลี พี่สาวคนเดียวของสารัตถ์ก็กลับบ้านที่ต่างจังหวัดทันทีที่เสร็จงานเผาศพ คืนก่อนที่จะไปลอยอังคาร ก่อนที่สาริศาจะหลับไปด้วยความอ่อนเพลียทั้งกายและใจ เธอเห็นร่างโปร่งแสงสีขาวของชายหนุ่มในวัย 25 ปีในชุดโบราณที่ดูแปลกตา ชายคนนั้นมองมายังเธอด้วยสายตาที่เศร้าหมอง เขาบอกเธอว่าเขาไม่ใช่พ่อของเธอ เขามาขอให้เธอช่วย .. ก่อนที่เธอจะได้คำตอบว่าเขาคือใคร มาหาเธอทำไม และจะให้ช่วยอะไร ร่างนั้นก็หายไปต่อหน้าต่อตา ไม่ใช่ครั้งเดียวที่เธอเห็นเขา เธอยังเห็นชายลึกลับคนนั้นพร้อมเสียงร้องขอคำมั่นสัญญาที่จะช่วย เหลือเขา แต่มีเพียงสาริศาที่เห็นและได้ยิน เธอไม่กล้าบอกให้ ป้านิ่ม แม่บ้านเก่าแก่ที่ดูแลเธอมานานจะรู้เพราะกลัวแม่บ้านสูงวัยจะตกใจ ทันทีที่สาริศาเห็นว่าคนที่วิสสุตส่งมาช่วยขับรถพาเธอไปลอยอังคารเถ้ากระดูกของบิดาคือ อคิน เธอก็ปฏิเสธไม่ยอมรับน้ำใจจากเขา แต่เมื่อเขาเอ่ยคำขอโทษจากใจด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง แถมป้านิ่มยังช่วยเร่งให้รีบไป สาริศาจึงไม่มีทางเลือก ตลอดทางแม้จะไม่ได้พูดอะไรกัน แต่เขาก็รับรู้ได้ว่าสาริศาเศร้าเสียใจแค่ไหน เขาสัญญาในใจ บอกสารัตถ์ว่าเขาจะดูแลสาริศาให้ดีที่สุด และราวกับว่าสารัตถ์จะรับรู้ในคำสัญญานั้น เพราะอคินได้กลิ่นน้ำหอมที่สารัตถ์ใช้เป็นประจำลอยมาแตะจมูกอย่างอ่อนโยน ในพิธีลอยอังคาร อคินช่วยจัดการทุกอย่าง ทั้งเรื่องพิธีการและค่าใช้จ่าย เขาอยู่เคียงข้างหญิงสาวที่ร่ำไห้ด้วยความอาดูร เขายังปลุกปลอบใจให้เธอลุกขึ้นยืน เมื่อตั้งสติได้ สาริศาก็พยายามข่มความไม่พอใจในตัวเขา เพราะเธอคิดว่านับจากนี้เขาและเธอคงไม่ต้องเกี่ยวข้องกันอีก เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอคิด ไม่เป็นอย่างที่เธอคิดเลย สิ่งที่ติดค้างอยู่ในความสงสัยของเธอคือ สาริศาคุ้นกับนัยน์ตาของอคินราวกับเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่เธอมั่นใจว่าเธอเพิ่งพบกับเขาเป็นครั้งแรกในชีวิตในงานศพของพ่อนั่นเอง หลังงานศพ สาริศาพบเหตุการณ์แปลกๆ หลายครั้ง เธอฝันถึงฉากในสงคราม เสียงปืน เสียงเครื่องบิน และเห็นเงาร่างของใครบางคนที่มาขอให้เธอช่วย ป้านิ่มแนะนำให้เธอทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ใครก็ตามที่ปรากฏร่างให้เธอเห็น .. ในฝันของสาริศา.. ปี ๒๔๘๓ จังหวัดอุดรธานี อนงค์อร เจ็บท้องใกล้คลอด แต่วันนั้นฝูงบินฝรั่งเศสบุกมาทิ้งระเบิดในตัวจังหวัดอุดร แม้ อัศนี อยากจะขึ้นบินขับไล่ข้าศึก แต่เพราะคำขอของภรรยาที่อยากให้เขาเห็นหน้าลูกก่อนออกรบ ทำให้เขาละล้าละลัง ยิ่งอนงค์อรคลอดยากและใช้เวลานานเท่าไหร่ อัศนีก็ยิ่งกระสับกระสาย แต่เมื่อ สันติ เพื่อนทหารสังกัดกองบินเดียวกันมาตามเขาตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา เขาก็ไม่ลังเลไปจะออกไปทำหน้าที่ป้องกันชาติ เขาชะงักเมื่อได้ยินเสียงลูกที่เพิ่งคลอดร้องดังออกมาให้ได้ยิน เขาบอกกับ ครูอำนวย ผู้เป็นบิดาว่าเขาจะขอไปทำหน้าที่รับใช้ชาติ แล้วจะกลับมาดูหน้าลูกตามสัญญาที่ให้ไว้กับอนงค์อร เขาไปทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ว่าเขาได้ลูกชาย แต่วันนั้นเครื่องของเขาถูกยิงจนไฟลุก อัศนีถูกยิงที่หัวเข่าและถูกไฟคลอก อาการสาหัสจนต้องส่งเข้ารับการรักษาที่พระนคร สาริศาตกใจตื่น และพบว่าในห้องของเธอ บุรุษลึกลับมาปรากฏตัวในเครื่องแบบนักรบแบบเดียวกับที่เธอเห็นรูปของปู่ของเธอ เขาขอบใจที่เธออุทิศบุญกุศลไปให้ แต่เขาก็ยังร้องขอ เขาขอให้เธอช่วยเอาล็อกเก็ตไปให้เมียของเขาด้วย เขาบอกว่าในอดีตนั้น เขาฝากให้สันติเอาล็อกเก็ตไปให้เมียของเขาถ้าเขาเป็นอะไรไป สันติก็คือปู่ของสาริศานั่นเอง วิญญาณตนนั้นคือเพื่อนของคุณปู่ของเธอ และร้องขอให้เธอค้นหาล็อกเก็ตของเขาเพื่อเอาไปให้อนงค์อร สาริศาพบกับอคินโดยบังเอิญ เมื่อเธอออกมาซื้อของยามพักเที่ยง ส่วนเขามาเฝ้าไข้คุณย่าในโรงพยาบาลที่อยู่แถวนั้น แต่เมื่อเธอเห็นว่าเขามากับ อรนิภา สาวสวยเฉี่ยวบาดตา เธอก็รีบฉุด วีรนุช เพื่อนสนิทให้จากมาทันที วีรนุชสงสัยว่าอคินจะมาชอบเพื่อนสนิทของเธอ อรนิภาเถียงเพื่อนคอเป็นเอ็น แต่วิญญาณของปู่อัศนีก็กระซิบบอกสาริศาว่าเขาก็สงสัยเช่นเดียวกัน สาริศาจึงแอบเถียงปู่อัศนี เพราะเธอคิดว่าอรนิภาเป็นแฟนของอัคนี ยิ่งสาริศาทำบุญตักบาตรให้ปู่อัศนีทุกวัน ก็เหมือนเป็นการเติมพลังให้เขามากขึ้นเท่านั้น วิญญาณของเขามักจะตามติดสาริศาไปในที่ต่างๆ จนเธอเองก็เริ่มเคยชินที่จะมีวิญญาณอยู่ใกล้ตัว วิสสุตและญาดาแวะมาเยี่ยมป้านิ่ม และเพื่อหยั่งเชิงว่าป้านิ่มคิดอย่างไรกับอคิน วิสสุตคิดจะสานสัมพันธ์ให้สารัตถ์ได้อคินมาเป็นลูกเขยของสารัตถ์ ทั้งคู่ดีใจที่ป้านิ่มก็มีท่าทีพอใจในตัวอคินไม่น้อย สิ่งที่น่ากังวลมีเพียงสาริศาเท่านั้น ไม่มีใครรู้ว่าเธอยังคิดว่าอคินเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอสูญเสียพ่อไปอยู่อีกหรือไม่ สาริศาได้พบอคินในยามพักเที่ยงอีกครั้ง เธอเห็นเขารีบร้อนเข้าไปในโรงพยาบาล แต่เธอไม่คิดจะถามไถ่ธุระของเขา และไม่คิดว่าจะได้เจอเขาอีก แต่เขากลับมาปรากฏตัวในขณะที่เธอพักรับประทานอาหารกลางวันอยู่ตามลำพัง เพราะวีรนุชลางานไปสอบสัมภาษณ์ แม้ว่าเธอยินดีที่เพื่อนสนิทจะได้งานใหม่ที่เงินดีขึ้นและตำแหน่งดีขึ้น แต่เธอก็อดใจหาย และเก็บเอาคำแนะนำของอคินที่ยุให้เธอเปิดร้านอาหารตามที่เคยฝันไว้กับพ่อของเธอ ตอนนั้นเธอลืมไปแล้วว่าเธอไม่ชอบหน้าเขา เมื่อเลิกงาน สาริศารีบกลับไปค้นแปลนร้านที่เคยคุยกับพ่อ เสียงของปู่อัศนีบอกให้รู้ว่าแบบนั้นอยู่ที่ไหน แถมยังบอกด้วยว่ากล่องใส่ล็อกเก็ตของปู่นั้นอยู่ที่ใด สาริศาพบทุกอย่างที่ต้องการ เธอมองล็อกเก็ตที่จารึกชื่ออนงค์อร-อัศนีด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมปู่สันติถึงไม่สามารถทำตามที่สัญญากับเพื่อนสนิทได้ ปู่อัศนีย้อนรำลึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่เขาฝากฝังให้สันติเพื่อนรักส่งล็อกเก็ตที่เขาตั้งใจทำเพื่อรับขวัญลูกชายถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขา แต่ปู่อัศนีไม่มีรายละเอียดอะไรไม่ได้เลย เขาไม่รู้แม้แต่ชื่อของลูกชาย เพราะปู่ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะได้เห็นหน้าลูกที่เพิ่งเกิดมา สาริศาจึงช่วยค้นหาข้อมูลตระกูลของปู่อัศนีด้วยการค้นหาในอินเตอร์เน็ต ปู่อัศนีทึ่งและสนุกไปกับเทคโนโลยีก้าวหน้าของโลกสมัยใหม่ แม้สาริศาจะค้นเจอบันทึกที่เอ่ยถึงวีรกรรมของปู่อัศนี แต่ไม่มีบันทึกไหนที่จะบอกได้เลยว่าภรรยาและบุตรชายของปู่อัศนีนั้นชื่ออะไรและอยู่ที่ไหน สาริศาพยายามค้นหาชื่อและนามสกุลของอนงค์อร แต่ป้านิ่มขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน ป้านิ่มดีใจเมื่อสาริศาบอกเธอว่าเธอคิดจะลาออกจากงานเพื่อมาเปิดร้านอาหารตามที่เคยฝันกับพ่อของเธอ แต่เธอยืนกรานว่าเธอไม่ใช่ทำตามที่อคินแนะนำอย่างที่ป้านิ่มเข้าใจ อคินแวะช่วยหมาที่ถูกรถชนไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์จนทำให้เขามาตามนัดกับสาริศาสายมาก แต่ความโกรธของเธอก็หายไปเมื่อเห็นเสื้อของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด เธอจึงเชื่อในสิ่งที่เขาบอกเธอ เขาบอกป้านิ่มว่าเขาจะมารับสาริศาไปคุยกับผู้รับเหมาและคุยกับเพื่อนของเขาที่เคยเปิดร้านอาหาร สาริศาหาเสื้อของพ่อให้เขาเปลี่ยนก่อนจะขอให้เขาแวะพาเธอไปดูน้องหมาที่เขาช่วยไว้ด้วยความเป็นห่วง อคินรู้สึกพอใจที่สาริศามีน้ำใจและรักสัตว์ สาริศาเองก็ทึ่งที่เห็นน้ำใจที่อ่อนโยนงดงามของเขาที่มีต่อหมาข้างถนน เขาประทับใจเมื่อเธออาสาจะเอามันไปเลี้ยงที่บ้าน สาริศาบอกเขาว่าเธอไม่อยากทำร้านอาหารที่บ้าน เพราะอยากมีความเป็นส่วนตัว เขาจึงเสนอให้ใช้บ้านย่านกลางเมืองของแม่เขาที่ผู้เช่ากำลังจะย้ายออกพอดี เขาพาเธอไปดูและดีใจเมื่อเห็นเธอยิ้มด้วยความถูกใจ แถมยังรับข้อเสนอที่เขาขอเป็นหุ้นส่วนแทนการจ่ายค่าเช่าร้าน ปู่อัศนีมาแสดงความยินดีกับสาริศา ปู่บอกว่าอคินเป็นคนดีจริงๆ แม้จะเห็นด้วยแต่สาริศาก็ยังติดอยู่ที่เขาเป็นต้นเหตุทำให้เธอต้องเสียพ่อของเธอไป แม้ปู่จะพยายามชี้ให้เห็นว่าอคินคงมีความจำเป็น แต่สาริศาก็ยังไม่พร้อมจะยอมรับ ปู่จึงคิดว่าอนงค์อรคงจะโกรธปู่ที่ไม่รักษาสัญญา ไม่เข้าใจปู่เหมือนที่สาริศาไม่เข้าใจอคินในตอนนี้ สาริศาค้นจนเจอชื่อของอรนิภาที่มีนามสกุลเดียวกับอนงค์อร เธอไม่ลังเลที่จะส่งข้อความไปทาง FB แจ้งความประสงค์ว่าเธอกำลังตามหาคนๆ หนึ่งที่อาจจะเป็นญาติของอรนิภา อรนิภาตอบกลับมาทันทีว่าพร้อมจะช่วย แต่ขอให้เธอส่งข้อมูลมามากกว่านี้ อรนิภารู้จักผู้หญิงที่สาริศากำลังตามหา เพราะอนงค์อรนั้นเป็นคุณย่าใหญ่ของเธอเองแม้เธอจะไม่ใช่สายตรงก็ตาม อรนิภาอยากรู้วัตถุประสงค์ในการตามหาของสาริศาจนแน่ใจก่อนที่จะบอกเรื่องนี้กับสาวแปลกหน้าในโลกออนไลน์คนนี้ สาริศาทุ่มเทเวลาเตรียมร้านจนไม่มีเวลาตามเรื่องของย่าอนงค์อรให้ปู่ สาริศาตัดสินใจถ่ายรูปล็อกเก็ตที่ตอนหลังเธอสวมคล้องคอติดตัวไว้เป็นประจำตามที่ปู่อัศนีบอก แล้วส่งรูปนั้นไปให้อรนิภาดูทางอีเมล์ รายละเอียดในรูปหลายๆ มุมทำให้อรนิภามั่นใจว่านี่เป็นล็อกเก็ตที่เกี่ยวพันกับย่าอนงค์อรของเธอแน่นอน แม้ว่าย่าจะไม่เล่าเรื่องสามีของย่าให้ลูกหลานฟังเพราะมีเรื่องโกรธเคืองที่ผิดสัญญา แต่อรนิภาก็รู้ว่าสามีของคุณย่าใหญ่นั้นชื่ออัศนี เพราะญาติผู้พี่ของเธอที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักบินรบเคยเล่าให้เธอฟังด้วยความชื่นชมในตัวปู่ ความใกล้ชิดสนิทสนมที่ร่วมมือกันสร้างร้านอาหารก่อให้เกิดความผูกพันและความรู้สึกแปลกๆ ในจิตใจของทั้งคู่ แต่สาริศาคิดว่าที่เขามาใกล้ชิดสนิทสนมช่วยเหลือเธอก็เพื่อลบล้างความรู้สึกผิดในใจของ อคิน แต่สำหรับอคินเอง เขาแน่ใจว่าความรู้สึกของหัวใจของเขานั้นชุ่มชื่นเบิกบานเกินปกติธรรมดา อรนิภาแวะเอาของมาให้อคินที่พาสาริศามาตรวจเตรียมร้าน อรนิภาแน่ใจว่าสาริศาที่ติดต่อตามหาคุณย่าใหญ่เป็นคนเดียวกันกับสาริศาที่เป็นหุ้นส่วนร้านของอคินแน่นอน แต่เธอตัดสินใจที่จะยังไม่เปิดเผยตัว เธอแปลกใจไม่น้อยที่เรื่องทุกอย่างวนเวียนใกล้ตัวอย่างน่าแปลกใจ คนที่สาริศาตามหาอยู่ใกล้แค่เอื้อมนี่เอง เธอแปลกใจที่สาริศาไม่รู้ว่าอคินนั้นนามสกุลเดียวกับคนที่เธอตามหาตัว เมื่ออรนิภาแหย่ว่าหุ้นส่วนร้านอาจจะเปลี่ยนเป็นหุ้นส่วนชีวิต อคินก็เล่าให้เธอฟังว่า เพราะเขาเองทำให้พ่อของสาริศาไปบินแทนจนประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตก อรนิภาแย้งว่าอคินมีเหตุจำเป็นจริงๆ เพราะคุณย่าใหญ่ป่วยจนเกือบจะเสียชีวิต ถ้าไม่ใช่อคิน คุณย่าใหญ่ก็อาจจะจากไปแล้วก็ได้ เมื่อเขาแสดงความเห็นใจที่สาริศาลงความเห็นว่าเป็นความผิดของเขา เขาพร้อมจะรองรับอารมณ์ของเธอด้วยความเต็มใจ อรนิภาก็เลยยุให้เลื่อนฐานะจากรองรับอารมณ์ มาเป็นรองรับหัวใจ อคินก็ได้แต่ยิ้มในความคิดของญาติผู้น้อง อรนิภายังไม่อยากจะเผยตัวกับสาริศา เธอจึงรีบปฏิเสธที่จะเข้าไปพบไปรู้จักกับสาริศา เธออ้างกับอคินว่ามีนัด แล้วรีบเผ่นออกไปทันที เธอไม่รู้เลยว่าการปรากฏตัวของเธอ ทำให้สาริศาเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นแฟนของอคิน จนเหม่อลอยเกือบสะดุดล้ม แต่เธอได้สติเมื่อปู่อคินส่งเสียงร้องเตือน ร้านอาหารใกล้เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นเรื่อยๆ สาริศาเปิดรับสมัครพนักงานในตำแหน่งต่างๆ และได้ แหวนพลอย สาวน้อยวัยใกล้เคียงกับเธอมาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการร้าน ซึ่งช่วยแบ่งเบาภาระเธอไปได้มาก อคินแวะไปเยี่ยม คุณย่าใหญ่อนงค์อร ในวัยเก้าสิบปีเศษที่โรงพยาบาลอย่างที่เขาทำเป็นกิจวัตร คุณย่าใหญ่เข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วนเพราะล้มในขณะเดินมาส่งเขาเพื่อไปบิน จนเป็นเหตุทำให้เขาต้องลางานกะทันหัน และทำให้เที่ยวบินครั้งนั้นกลายเป็นเที่ยวบินสุดท้ายของสารัตถ์ อยุทธ์ นักธุรกิจพ่อของอคินบอกให้ลูกชายรู้ข่าวจาก พล.ท.อิสริยะ ผู้เป็นอาที่เตือนเรื่องมีผู้ก่อการร้ายข้ามชาติแฝงตัวเข้ามาโดยยังไม่ทราบวัตถุประสงค์ อาจจะเป็นการวางระเบิดหรือจี้เครื่องบิน อาของเขาฝากให้หลานชายระวังตัวมากขึ้น อคินนั่งคุยเป็นเพื่อนคุณย่าใหญ่ด้วยความเอาใจใส่ เขาเล่าเรื่องการเปิดร้านอาหารกับเพื่อน คุณย่าใหญ่อดไม่ได้ที่จะถามว่าหุ้นส่วนร้านเป็นแค่หุ้นส่วนเท่านั้นหรือ เธออยากเห็นหน้าของสาริศา เพราะคุณย่าใหญ่รู้สึกได้ว่าหลานชายใส่ใจกับเพื่อนหญิงที่เธอยังไม่เคยเห็นหน้านี้มากกว่าธรรมดา และเธอก็อยากให้อคินเป็นฝั่งเป็นฝามีลูกมีหลานให้เธอได้ชื่นชม แต่เพราะอคินฝังใจว่าสาริศาไม่มีทางชอบคนอายุมากกว่าที่เป็นเหตุให้เธอต้องสูญเสียพ่อ ทำให้เขาต้องเบรกตัวเอง แม้จะคิดถึงเธอด้วยความหวานเต็มหัวใจก็ตาม แหวนพลอยโทรหาอคินด้วยความเป็นห่วงเพราะสาริศายังทำงานเพื่อเตรียมเปิดร้านอยู่ตามลำพังแม้จะมืดค่ำแล้วก็ตาม และเธอเห็นผู้ชายมาลับๆ ล่อๆ ไม่น่าไว้วางใจ เธอขอให้อคินรีบไปดูสาริศา ซึ่งชายหนุ่มเองก็แทบจะบึ่งไปทันทีที่รับรู้เรื่องราวน่ากังวลนั้น สาริศารับรู้ถึงความผิดปกติ เธอได้ยินเสียงความเคลื่อนไหว แถมปู่อัศนียังมาบอกให้เธอรับรู้ว่ามีผู้บุกรุกที่กำลังมุ่งหน้ามาเธอ แม้จะมีวิญญาณของปู่อยู่เป็นเพื่อน แต่สาริศาก็รู้ว่าเธอต้องพึ่งตัวเอง ไม้เบสบอลที่อคินทิ้งไว้ให้เป็นอาวุธเพียงอย่างเดียวของเธอในยามนี้ เธอหวดเข้าที่หัวของผู้บุกรุกทันที แต่เธอก็สู้แรงของผู้ชายไม่ได้ ไม่นานเธอก็เสียทีตกเป็นเบี้ยล่าง ปากที่ถูกมือหยาบปิดนั้นร้องไม่ออกเมื่อเสื้อของเธอถูกกระชากทิ้ง ปู่อัศนีแค้นใจที่ไม่สามารถช่วยอะไรสาริศาได้ เมื่อปู่เห็นอคิน ก็รีบส่งเสียงบอกให้เขารู้ว่าสาริศากำลังตกอยู่ในอันตรายบนชั้น 2 อคินไม่มีเวลาคิดว่าเสียงนั้นมาจากไหน ใจเขามุ่งแต่ความปลอดภัยของสาริศาเท่านั้น เขาพุ่งเข้ากระชากร่างของชายแปลกหน้าที่พยายามจะข่มเหงรังแกสาริศา เขากระหน่ำต่อยไม่ยั้งจนสาริศาต้องมาจับแขนเขาดึงเอาไว้ เมื่อเห็นว่าโจรร้ายนั้นแทบจะลงไปกองกับพื้น ตำรวจมารับตัวโจรร้ายไปโรงพัก ส่วนเขารีบพาสาริศาไปรักษาตัวในโรงพยาบาลทันที เขาเจ็บปวดใจเมื่อเห็นสภาพร่างกายที่ถูกทำร้าย เขาอดใจไม่ไหวทีจะดึงร่างที่สั่นเทาด้วยความหวาดกลัวของสาริศามากอดแนบอกเพื่อปลอบใจ เขาสัญญากับเธอว่าจะดูแลปกป้องไม่ให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีก เขาพาเธอมาส่งที่บ้านเมื่อเธอมีอาการดีขึ้น แต่เมื่อเขาบอกป้านิ่มที่พร่ำขอบคุณเขาที่ไปช่วยสาริศาว่าเป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องดูแล สาริศาก็อึ้งไปด้วยความสะเทือนใจ เธอคิดว่าเขาทำเป็นเพราะหน้าที่ที่ต้องลบล้างความรู้สึกผิดในใจของเขา ส่วนเขาก็ยังคิดว่าเธอคงไม่สนใจผู้ชายที่เป็นต้นเหตุของการเสียชีวิตของพ่อตัวเอง ถึงสาริศาจะมีท่าทีแข็งขืน แต่อคินก็ยืนกรานที่จะตามขึ้นมาดูแลเธอบนห้องของเธอเอง ท่าทีงอนของสาริศาทำให้ปู่อัศนีหัวเราะ อคินได้ยินเสียงแปลกปลอมนั้น เขานึกถึงเสียงลึกลับที่ร้องบอกเขาให้รู้ว่าสาริศาอยู่ที่ไหน เขาแน่ใจว่าสาริศารับรู้ถึงความผิดปกตินี้ด้วย แต่เมื่อเธอไม่พูดอะไร เขาก็เลือกที่จะไม่ถาม สาริศาสงสัยเช่นเดียวกับปู่อัศนีว่าทำไมอคินถึงได้ยินเสียงของปู่ .. เมื่ออาการทางกายของสาริศาดีขึ้น เธอก็ร่ำร้องจะกลับไปทำงานเพื่อเตรียมเปิดร้านอาหาร แต่อคินไม่แน่ใจว่าสาริศาจะลืมภาพเหตุการณ์ร้ายในคืนนั้นได้หรือไม่ เขาจึงพาเธอไปตามลำพัง และก็จริงอย่างที่เขากลัว สาริศาร้องไห้เมื่อเข้าไปในห้องนั้น เธอร้องไห้จนลืมตัวโผเข้าสู่อ้อมอกเขาราวกับยึดเป็นเกราะคุ้มครอง สภาพของหญิงสาวทำให้อคินใจอ่อนยวบ เขาอดใจไม่ไหวที่จูบปลอบประโลมก่อนจะบอกความในใจให้เธอรับรู้ว่าเธอคือผู้ที่ยึดครองพื้นที่ในหัวใจของเขา นับจากนี้เขาจะดูแลหัวใจของเขาให้ดีที่สุด สาริศาหวั่นไหวไปกับคำสารภาพ แต่เมื่อโทรศัพท์จากอรนิภาดังขึ้น ความดีใจของเธอก็วูบดิ่งลง เพราะเธอยังเข้าใจว่าอรนิภาเป็นแฟนของอคิน และเธอไม่กล้าพอที่จะเอ่ยปากถามเขาตรงๆ อรนิภาตัดสินใจเอาภาพถ่ายและข้อความที่สาริศาส่งมาให้เธอนั้นไปให้อคิน เมื่ออคินเห็นเอกสารทุกอย่าง เขามั่นใจว่าเป็นรูปของปู่อัศนี วีรบุรุษในใจของเขาแน่นอน แต่เพราะเขามีภารกิจต้องบินไปต่างประเทศ เขาจึงขอให้อรนิภาไปอธิบายให้สาริศาเข้าใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไปแก้ความเข้าใจผิดให้สาริศารู้ซะทีว่าอรนิภาไม่ใช่แฟนของเขา สาริศาจำอรนิภาได้ทันทีที่เห็นหน้า อรนิภาซักถามเรื่องราวที่สงสัยจากสาริศา ซึ่งเธอสามารถตอบได้หมดเพราะปู่อัศนีคอยกระซิบบอกข้างหู จนเมื่ออรนิภามั่นใจ เธอจึงเปิดเผยความจริงมากขึ้นกว่าเดิมว่า หลานสายตรงของคุณย่าอนงค์อรก็คืออคินนั่นเอง และอคินก็ไม่ใช่แฟนของอรนิภา แต่เป็นญาติของเธอเอง เธอยังบอกอีกว่าคุณย่าใหญ่ที่สาริศากำลังไม่สบายนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในขณะนี้ ในขณะที่สาริศารู้สึกโล่งเบาสบายใจเมื่อรับรู้เรื่องราวทั้งหมดที่ทำให้เธอกังวลมาตลอด เที่ยวบินที่อคินเป็นกัปตันก็ถูกสลัดอากาศจี้ เขาลงจอดที่สนามบินในกรุงกัวลาลัมเปอร์และพยายามจะต่อรองกับสลัดอากาศ เขาพยายามที่จะช่วยชีวิตของตัวประกันจนตัวเองถูกยิงจนบาดเจ็บสาหัส สำนึกสุดท้ายก่อนที่เขาจะหมดสติ คือภาพของปู่อัศนีในชุดนักบินรบ เขารู้ทันทีว่าเสียงลึกลับที่คอยช่วยเขาและสานิศาคือเสียงของปู่ วีรบุรุษที่อยู่ในใจเขาตลอดมานั่นเอง ในภวังค์ที่ล่องลอย อคินได้พบและคุยกับปู่อัศนี แต่ปู่บอกให้เขากลับไป ชื่อของสาริศาที่แวบขึ้นมาดึงดูดให้เขาได้สติ จิตของเขาถูกดูดให้กลับเข้าร่าง เมื่อเขาฟื้นขึ้นมาในห้องพักผู้ป่วย คนแรกที่เขาเห็นก็คือสาริศา เธอบอกว่าเธอบินมาทันทีที่ทราบเรื่อง เขาบอกเธอว่าปู่อัคนีมาช่วยเขาไว้ สาริศาเผลอตัวถามด้วยความประหลาดใจ จนเขาสงสัยว่าเธอรู้จักปู่อัศนีได้อย่างไร สาริศาจึงเล่าเรื่องราวน่าเหลือเชื่อให้เขาฟังจนหมด ปู่อัศนีส่งเสียงทักทายหลานชายและสาริศาเมื่อเธอเล่าจบ ปู่ฝากให้อคินไปบอกย่าอนงค์อรว่าปู่เสียใจที่ผิดสัญญา แต่หวังว่าย่าจะให้อภัยเพราะปู่มีหน้าที่ต่อชาติบ้านเมือง อคินรีบบอกปู่ว่าย่าไม่เคยลืมปู่เลยแม้แต่วันเดียว แต่เพราะเสียใจมากจึงไม่เอ่ยเล่าเรื่องราวของปู่ให้ลูกหลานฟัง มีแต่ทวดที่แอบเล่าด้วยความภาคภูมิใจในตัวของลูกเขยวีรบุรุษ จนเขาเองก็อยากเป็นนักบินรบเหมือนปู่ ปู่อัคนีปลอบใจอคินว่าถึงไม่ได้เป็นนักบินรบเพื่อชาติ แต่อคินก็เป็นวีรบุรุษเช่นกัน เพราะเขากล้าที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยชีวิตของคนอื่น ในวันที่สาริศาและอคินเดินทางกลับเมืองไทย เธอรู้สึกตื้นตันที่เห็นเขาได้รับการต้อนรับในฐานะวีรบุรุษ แต่งานของเธอยังไม่เสร็จสิ้น เธอต้องรีบทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับปู่อัคนี เพราะเวลาของปู่เหลือน้อยลงไปทุกที สาริศาและอคินตรงไปหาคุณย่าใหญ่อนงค์อรที่โรงพยาบาลทันทีที่ถึงเมืองไทย ปู่อัคนีปรากฏร่างให้ทุกคนเห็น ทั้งย่าอนงค์อร อยุทธ์ อคินและสาริศา ปู่ขอโทษที่ทำให้ย่าเสียใจเพราะไม่สามารถรักษาคำพูดที่จะอยู่รอดูหน้าลูกก่อนออกไปรบ สาริศาส่งล็อกเก็ตให้ย่าอนงค์อรเปิดออกดูก่อนจะส่งต่อให้อยุทธ์ อยุทธ์บอกกับร่างของพ่อที่เขาเพิ่งได้เห็นหน้าเป็นครั้งแรก ว่าพ่อเป็นวีรบุรุษในใจของเขาตลอดมา ปู่อัคนีบอกให้อนงค์อรอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ลูกหลาน และไม่ต้องรีบร้อนตามเขามา ถ้าเธอจะอยู่รอจนกว่าจะได้เห็นเหลนก็ยังไม่สาย ปู่อัคนีจากไปอย่างสบายใจเมื่อได้ปลดเปลื้องสิ่งที่ตกค้างในใจมาเนิ่นนาน ย่าอนงค์อรจึงตัดสินใจบอกความจริงแก่อคินว่าจริงๆ แล้วเขาสอบติดโรงเรียนเตรียมทหารอย่างที่เขาตั้งใจ แต่ย่าเองที่บอกให้อาของเขาเอาชื่อของอคินออก เพราะไม่ต้องการให้หลานเสี่ยงอันตรายกับการเป็นนักบินรบเหมือนปู่อัคนี ย่าไม่ต้องการเสียเขาไปอย่างที่เธอสูญเสียสามี แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเธอไม่มีสิทธิไปบงการชีวิตของคนอื่น ย่าขอโทษหลานด้วยความเสียใจ แต่อคินบอกว่าเขาไม่โกรธย่าเลยเพราะรู้ดีว่าย่ารักเขา สาริศารู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นชุดที่อคินส่งมาให้เธอสวมไปงานวันเปิดร้าน เพราะชุดนั้นสวยมากจนเธอเกรงว่าจะสวยเกินไปที่จะเป็นชุดฉลองเปิดร้านใหม่ แต่เมื่อเธอเห็นชุดหล่อของเขา รวมทั้งชุดของบรรดาแขกเหรื่อในงาน เธอก็เริ่มตะหงิดใจสงสัย และแล้วความสงสัยของเธอก็เริ่มเป็นจริง เมื่ออคินเอ่ยปากขอเธอแต่งงาน งานเปิดร้านอาหารของเธอกลายเป็นงานแต่งงานของเธอโดยที่เธอไม่รู้มาก่อน สาริศาตอบรับคำขอแต่งงานของวีรบุรุษของเธอด้วยความเต็มใจ เมื่อเขาสวมแหวนให้เธอนั้น เธอก็ได้ยินเสียงอวยพรกระซิบข้างหู เสียงที่เธอไม่มีวันลืมและโหยหาที่จะได้ยินมาตลอด เสียงพ่อของเธอนั่นเอง พ่อมาปรากฏตัวให้เธอเห็นในวันที่เขาหมดห่วง นั่นคือวันที่สาริศาลงเอยกับอคิน ชายหนุ่มที่สารัตถ์มุ่งมาดอยากจะให้มาเป็นเขยนั่นเอง.
เส้นสนกลรัก 2561

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก เส้นสนกลรัก (2561/2018) โขง หนุ่มหล่อหน้าฝรั่งจอมกวน ทำเรื่องขอย้ายกลับมาทำงานเป็นนักสังคมสงเคราะห์ที่บ้านเกิด แม้ว่าถิ่นที่เขาจากไปตั้งแต่เด็กนั้น จะเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ยังเป็นฝันร้ายหลอกหลอนเขาอยู่ทุกคืนวันก็ตาม เขาเลือกกลับมาที่นี่ก็เพื่อท้าทายความกลัวในใจ แต่นับตั้งแต่คืนแรกที่เขากลับมาที่นี่ เขาฝันร้ายยิ่งกว่าเดิม เขาเห็นภาพของผู้หญิงที่ทุรนทุรายอยู่ในกองเพลิง พยายามจะหาทางรอดจากความตายที่ห้อมล้อมเธออยู่ เขาจะสู้กับภาพที่หลอนชีวิตของเขาได้หรือไม่..

ฝันร้ายตามหลอกหลอนเขาจนนอนไม่ค่อยหลับ เป็นเหตุให้เขาตื่นสาย เข้างานหลังเส้นแดงเป็นกิจวัตร จน สุรารัตน์ เพื่อนร่วมงานรุ่นพี่เจ้าระเบียบหมายหัวว่าเขาเป็นคนไม่เอาไหน ยิ่งเขามักจะสวนกระแส ดื้อแพ่งต่อระบบระบบระเบียบที่เยิ่นเย้อยุ่งยากเพื่อช่วยให้คนที่มาขอความช่วยเหลือได้รับความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นถึงจะข้ามขั้นตอน ก็ตาม สุรารัตน์ก็ยิ่งหงุดหงิด เพราะต้องมาตามแก้ไขให้ เธอบ่นว่าโขงไม่เต็มปาก เพราะโขงได้รับความเอ็นดูจาก นารี สาวกลางคนหัวหน้าสายงานด้านสังคมสงเคราะห์ที่เล็งเห็นผลของงานสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากมากกว่าระเบียบพิธีการ จนทำให้เพื่อนร่วมงานที่ทำงานเช้ายามเย็นชามอย่าง เจียรนัย และ มิว หมั่นไส้ รวมหัวนินทาเขาบ่อยๆ ในระหว่างที่พวกเธอทำเป็นง่วนอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ราวกับงานยุ่ง แต่จริงๆ แล้วกำลังเล่น Chat ใน Line และดู Facebook แป๊ะ หนุ่มขาพิการทำงานด้านเอกสารสำหรับผู้พิการนั้น แม้จะแอบชอบมิวอยู่ แต่เขาก็ชื่นชอบในน้ำใจของโขง เมื่อเขาคว้าเอกสารประจำตัวผู้พิการไปถ่ายเอกสารให้คนที่มาทำเรื่อง โดยที่โขงไม่สนใจว่า ป้ามล พนักงานวัยใกล้เกษียณที่ดูแลเครื่องถ่ายเอกสารนั้นจะพยายามขวางไม่ให้เขาเอาเอกสารมาทำสำเนาให้ฟรี และเมื่อพยายามจะเรียกเก็บเงินจากเขา ก็โดนโขงตอกหน้าว่าข้าราชการกินเงินภาษีจากประชาชนจะไปเก็บเงินค่าถ่ายเอกสารเพิ่มได้อย่างไร ถึงสุรารัตน์จะหมั่นไส้ความไร้ระเบียบของโขง แต่บางครั้งเธอก็ยอมหยวน เมื่อการแหกกฎของเขาเป็นไปเพื่อช่วยคนที่มาขอความช่วยเหลือจริงๆ และแก้ต่างให้เมื่อเจียรนัยมาบ่นว่าเขาให้เธอฟัง โขงมาสายประจำ จนสุรารัตน์ต้องรับหน้าที่เข้าประชุมกับหน่วยราชการต่างๆ แทนเขา เธอจึงโยนกรณีของ มณฑา มาให้เขาตามเรื่องและดูแลต่อ สวัสดิ์ พนักงานขับรถช่างพูดช่างโม้บอกเขาตามที่ได้ยินมาว่ามณฑาถูกสามีดักสาดน้ำกรดหน้าโรงงานของมณฑา จนเธอเสียโฉม สวัสดิ์บอกโขงว่ามณฑาหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวราวกับว่าสวัสดิ์เคยเห็นหน้าตาของเธอจริงๆ เมื่อสวัสดิ์ขับรถมาถึงที่ เขาก็ไม่ยอมลงไปเป็นเพื่อนโขง ยืนยันว่าจะอยู่เฝ้ารถเพราะหน้าที่เขามีแค่นั้น แม้โขงจะรู้ว่าเจ้าหน้าที่แก่วัดรู้มากอย่างสวัสดิ์จะหาเรื่องนอน เขาก็ตัดสินใจไม่ดึงดันจะลากสวัสดิ์ไปด้วยเพราะรู้ว่าสวัสดิ์ไม่ไปด้วยแน่ๆ การพบกันครั้งแรกระหว่างโขง นักสังคมสงเคราะห์หนุ่มกับ มณฑา เหยื่อความรุนแรงในครอบครัวเป็นไปอย่างไม่น่าประทับใจ มณฑาไม่ยินดีต้อนรับเขา เธอหลบสายตาพยายามหลบหน้าด้วยการใช้เส้นผมยาวของเธอบังใบหน้าครึ่งซีกของเธอไว้ เธอเบื่อที่จะต้องเล่าเรื่องซ้ำๆ ซาก ยิ่งเธอเห็นว่าโขงไม่อ่านรายละเอียดเรื่องของเธอมาก่อนเลย ก็ยิ่งทำให้เธอพยายามไล่ให้เขาออกไปจากบ้านที่เธอปิดม่านมิดชิด ราวกับต้องการจะตัดขาดจากโลกภายนอก โขงเองก็รู้สึกผิดที่ประมาทกับเรื่องของมณฑา จนไม่ศึกษาเรื่องราวของเธอมาก่อน เขาบอกเธอด้วยท่าทีกวนๆ ของเขาว่า เขาจะมาพบเธออีก โดยไม่สนใจว่ามณฑาจะเอ่ยปากปฏิเสธ และก่อนจะก้าวออกไปพ้นประตู เขาหันกลับมาหาเธออย่างเร็ว จนเขาและเธอเผชิญหน้ากันตรงๆ ในระยะประชิด เป็นโอกาสเดียวที่เขาได้เห็นใบหน้าของมณฑาจังๆ ก่อนที่เธอจะปิดกระแทกประตูใส่หน้าเขาด้วยความโกรธ ระหว่างทางที่นั่งรถสองแถวกลับบ้าน โขงมัวแต่คิดถึงเรื่องของมณฑาจนนั่งเลยป้าย เขาจึงต้องเดินย้อนกลับมาไกล ระหว่างทางที่เขาเดินผ่านซอยวัดเปลี่ยว เขาได้ยินเสียงร้องเรียกขอความช่วยเหลือ แม้จะปอดๆ แต่ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เขาเมียงมองเดินเข้าไปในวัด และได้เห็น ทิชา สาวสวยเจ้าของรถมินิราคาแพง กำลังถูกมารสังคม 2 คนฉุดกระชากให้ลงมาจากรถ เขาถอยหน้าตั้งจนคนร้ายนึกว่าเขากลัว แต่เขากลับย้อนไปฟาดด้วยไม้หน้าสาม จนคนร้ายม่อยกระรอกสลบคาไม้ท่อนใหญ่ ทิชาซาบซึ้งในน้ำใจของโขงที่เสี่ยงอันตรายช่วยเธอ แถมยังอาสานั่งรถมาเป็นเพื่อน มาส่งเธอจนถึงหน้าบ้าน โขงเก็บความประหลาดใจเอาไว้ในใจ เมื่อพบว่าสาวสวยที่เขาเพิ่งช่วยชีวิตเธอนั้นอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่รั้วมหึมา อยู่ข้างๆ อพาร์ตเม้นท์ที่เขาเช่านั่นเอง เขาปฏิเสธเมื่อเธออาสาจะไปส่งเขายังที่พัก เขายังปฏิเสธที่จะบอกเธอด้วยว่าเขาชื่ออะไร ทำงานที่ไหน สุรารัตน์ยั๊วะเมื่อเห็นว่าโขงไม่เขียนความคืบหน้าอะไรบันทึกลงไปในแฟ้มกรณีของมณฑา เธอบอกเขาว่าจะดึงเรื่องกลับมาทำเอง และให้เขาประสานงานเรื่องการประชุมกับหน่วยงานราชการแทน โขงก็รีบปฏิเสธ ยื้อเอาแฟ้มมาถือไว้แน่น และยืนยันว่าเขาจะทำกรณีนี้เอง แลกกับการประสานงานน่าเบื่อแบบนั้น โขงตกเป็นขี้ปากอีกครั้ง เมื่อทิชาตรงเข้ามาทักทายโขงด้วยความดีใจถึงโต๊ะอาหารในงานออกร้านของศาลากลางจังหวัดท่ามกลางสายตาของทุกคน เจียรนัยมองด้วยความหมั่นไส้โขง เมื่อเห็นสายตาของทิชาที่เลือกนั่งลงข้างโขง ส่วนสวัสดิ์มองด้วยความอิจฉา วันรุ่งขึ้น โขงรู้จากปากจิกกัดของคนรอบข้างว่าเขาเหมือนหมามองเครื่องบิน เพราะทิชาคือลูกสาวคนสวยของ คุณหญิงระวี นายกมูลนิธิช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส ซึ่งสนิทสนมกับคุณนายผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นอย่างดี และเป็นหน่วยงานที่ประสานงานกับหน่วยงานสังคมสงเคราะห์ของเขาอยู่เป็นประจำ แต่โขงไม่ได้ใส่ใจนึกถึงสาวสวยที่ทำให้เขากลายเป็นข่าว เขากลับนึกถึงมณฑา โขงกลับไปบ้านของมณฑาอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาพบกับ ทับทิม แม่ปากร้ายอารมณ์บูดของมณฑา ทับทิมไม่ยอมพูดคุยกับเขาแถมยังปิดประตูใส่หน้าเขาอย่างแรงด้วยความหวาดระแวง ประสบการณ์เกือบ 20 ปีบอกให้เขารู้ว่าท่าทีหวาดกลัวนี้หมายถึงการปิดบังอำพรางอะไรบางอย่าง แต่ทับทิมพยายามปิดบังอะไรเขากันแน่ โขงไม่รู้ว่าเขาทำให้เย็นวันนั้น มณฑาถูกทับทิมด่าว่าด้วยความโกรธเกลียดจากคนที่เธอเรียกว่าแม่ แม่ที่กล่าวหาว่าเป็นเพราะเธอที่ทำให้ชีวิตของทับทิมพินาศย่อยยับ ต้องเลิกกับพ่อของมณฑา ถูกทิ้งจนอายแทบจะเอาปี๊ปคลุมหัวเวลาเดินออกไปข้างนอก แม่ที่บอกว่าที่บ้านแตกสาแหรกขาดแบบนี้ก็เป็นเพราะมณฑา เธอจึงต้องไประบายอารมณ์ที่บ่อนไพ่ทุกคืนทุกคืน มณฑาได้แต่เก็บความน้อยเนื้อต่ำใจ เก็บน้ำตาให้ไหลกลับเข้าไปในอกของตัวเอง ในวงเหล้ายามเย็นของเพื่อนซี้ต่างวัย สวัสดิ์เพิ่มเติมเสริมเรื่องเล่าให้โขงฟังว่า มณฑาคงถูก ชัย สามีทำร้ายเอาจนทนไม่ไหว เมื่อเธอขอเลิก ก็เลยโดนดักราดน้ำกรดที่โรงงานจนเสียโฉม สวัสดิ์ส่ายหัวด้วยความระอาตอนที่เล่าให้เขาฟังว่า มณฑาคงรักผัวมากเลยไม่เอาเรื่อง แต่ตำรวจก็ให้แจ้งความไว้ก่อน ยิ่งป้าคนข้างบ้านช่างสอดรู้สอดเห็นของมณฑามากระซิบกระซาบเล่าให้โขงฟังเป็นคุ้งเป็นแควว่ารู้จักเรื่องราวของบ้านมณฑาดี บอกว่าชัยรักมณฑามาก ซักเสื้อซักชุดชั้นในให้ไม่ถือสา ทับทิมก็เอ็นดูลูกเขย แต่ตอนหลังทะเลาะกันบ่อย พอเกิดเรื่องที่ชัยไปดักสาดน้ำกรดจนมณฑาเสียโฉม ชัยก็รีบกลับมาเก็บของ พอชัยไปแล้วทับทิมก็ร้องไห้โวยวายด่ามณฑาที่ก่อเรื่อง จนลูกเขยคนโปรดอย่างชัยต้องหนีไป แถมยังฉกสร้อยกับแหวนของทับทิมไปด้วย โขงเห็นใจมณฑา ที่ชีวิตของเธอตกเป็นขี้ปากของคนรอบข้างไม่ผิดอะไรกับเขา โขงไปดักรอมณฑาอยู่หน้าโรงงาน โดยไม่สนใจเลยว่าสาวโรงงานคนอื่นมองเขาจนเหลียวหลังด้วยความสนใจ แต่มณฑาแสดงความไม่พอใจที่เห็นเขาไม่ลดละที่จะมายุ่มย่ามในชีวิตของเธอ โขงบอกเธอว่าเป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องตามช่วยเหลือตามดูพัฒนาการในชีวิตของเหยื่อถูกทำร้าย มณฑาจึงบอกเขาด้วยความโกรธว่ายังมีคนอีกมากมายที่ต้องการความช่วยเหลือมากกว่าเธอ เธอพร่างพรูบอกเล่าเรื่องราวของคนในครอบครัวที่ถูกทำร้ายในแฟลตเก่าที่เธอเคยเช่าอยู่ โขงรับปากเธอทันทีว่าจะช่วยเหลือคนเหล่านั้น แต่มณฑาต้องช่วยพาเขาไป มณฑาไม่มีทางเลือก ดูเหมือนว่าทางเดียวที่จะไม่ให้เขามายุ่มย่ามถึงบ้านเธอกับแม่คือพาเขาไปที่อื่น โขงแวะกินข้าวมื้อเย็นที่ร้านของ น้อยหน่า แม่ค้าสาวขายส้มตำใจแตกซึ่งมีลูกตั้งแต่ยังเด็ก หลาน สาวของ ยายแจ๊ว แม่ค้าปากกรรไกรประจำซอย คู่หู ยายดา แม่ค้าขายขนม แต่เป็นคู่อริของ ยายไร แม่ค้าขายข้าวแกงประจำซอย แม่ค้ารุ่นยายทุกคนล้วนจดจำโศกนาฏกรรมในครอบครัวของโขงได้ ทุกคนรู้จัก สันต์ พ่อผู้พิการขาขาดเพราะโรคเบาหวาน ที่ก่อเหตุยิง ปราณี แม่ของโขงตายคาบ้านเช่าด้วยความหึงหวง ก่อนยิงตัวเองตายคารถเข็น ภาพที่เด็กชายโขงไม่มีวันลืม ยายแจ๊วบอกว่าโขงหล่อเหมือนพ่อ แต่ยายไรเกทับด้วยการบอกว่าโขงหล่อยิ่งกว่าพ่อ ส่วนน้อยหน่าก็ส่งสายตาหวานให้โขงด้วยความพิศวาส โขงรีบกินรีบเผ่นหนีจากสาวน้อยสาวใหญ่ แต่เขาก็ไปปะทิชาสาวสวยด้วยความบังเอิญหน้าบ้านของเธอเอง ทิชาเข้าใจว่าเขาตั้งใจมาหาเธอ จึงไม่ลังเลที่เอ่ยปากชวนให้เขาเข้ามานั่งกินอาหารว่างเป็นเพื่อนในบ้านหลังใหญ่ วาจาทะเล้นขี้เล่นชวนหัวหยิกแหมหยอกทำให้ทิชาเข้าใจว่าชายหนุ่มผู้มีพระคุณของเธอกำลังจีบเธอ โขมเองก็เริ่มรู้ตัว จึงพยายามจะสงบปากสงบคำมากขึ้น แต่เขาก็ทำให้ทิชาคิดไปไกลกว่าที่เขาคิดซะแล้ว เขาได้แต่คิดว่าจะทำอย่างไรดี เพราะคนทั้งสำนักงานเอ่ยปากห้ามแกมดูถูกว่าอย่าคิดแหยมไปจีบสาวสวยรวยมหาศาลคนนี้ เพราะอาจจะซวยทั้งสำนักงานถ้าคุณหญิงและคุณนายผู้ว่ารู้เรื่องเข้า ทิชาสบายใจเมื่อพูดคุยกับโขง สบายใจและผ่อนคลายมากกว่าตอนที่เธออยู่กับ พีระ หนุ่มธุรกิจเลือดร้อน เจ้าของสถานบันเทิงขนาดใหญ่ที่เธอช่วยดูแลงานด้านบัญชีให้ ทิชารู้ว่าคุณหญิงระวี แม่ของเธอปลื้มพีระที่มักจะบริจาคเงินก้อนใหญ่ช่วยมูลนิธิของคุณหญิงอยู่เป็นประจำ และตั้งใจจะให้เธอกับเขาลงเอยกัน แต่เธอก็ยืนกรานบอกว่าเธอไม่ชอบพีระ เธอมักจะเถียงทะเลาะกับพีระที่มาหาเธอในยามค่ำคืนเสมอๆ โดยไม่รู้ว่าโขงที่อาศัยอยู่บนชั้น 3 ของตึกข้างบ้านของเธอนั้นเห็นเหตุการณ์ด้วย มณฑาพยายามอดทนกับอารมณ์โกรธของแม่ทับทิม แต่เมื่อทับทิมทำร้ายจิตใจและร่างกายของเธอจนเธอทนไม่ไหว มณฑาก็ตัดใจหอบเสื้อผ้าแอบกลับไปอยู่แฟลตเก่าที่เธอเคยอยู่ ดังนั้นเมื่อโขงมาหาเธอที่บ้าน จึงไม่พบใคร เพราะทับทิมก็ออกไปเล่นไพ่อย่างที่ทำเป็นประจำ ทางเดียวที่เขาจะพบเธอคือไปดักรอที่โรงงาน แต่เมื่อเขาไปถึง เขากลับพบว่าเธอลาออกจากงานไปแล้ว ทิชาตั้งใจมาดักพบโขง และตั้งใจชวนเขาไปทานอาหารเย็นกับเธอ แม้ว่าเขาจะบอกเธอว่าเขามีนัดกับสวัสดิ์แล้ว แต่สายตาอ้อนวอนของสาวสวยที่สัญญาว่าใช้เวลาไม่นาน ทำให้โขงใจอ่อนยอมนั่งรถเธอไปนั่งทานอาหารในสวนอาหารบรรยากาศดี แต่ระหว่างที่นั่งรออาหาร สายตาของโขงเห็นมณฑาเดินผ่านหน้าร้านไป ด้วยความดีใจเขาจึงรีบออกมาจากร้าน โดยบอกทิชาว่าเขาไปไม่นาน มณฑาแปลกใจและเบื่อหน่ายที่เห็นหน้าโขงอีก เธอตัดสินใจจะทำตามที่เธอเคยสัญญากับเขา คือพาเขาไปที่แฟลตของเธอเพื่อช่วยเหลือคนที่ต้องการการสงเคราะห์ เมื่อมณฑารับปาก โขงจึงยอมปล่อยให้เธอกลับไป ส่วนเขาก็รีบกลับไปหาทิชา เพราะเพิ่งรู้ตัวว่าเขาปล่อยให้เธอนั่งคนเดียวนานเกินไปแล้ว ทิชาเห็นตั้งแต่ที่โขงหันไปเห็นมณฑา เธอเห็นว่าเขาวิ่งตามสาวคนนั้น แล้วปล่อยให้เธอรอเขาอยู่คนเดียวที่โต๊ะท่ามกลางอาหารมากมายที่เธอตั้งใจสั่งมาให้เขา ทิชากำลังเรียกเก็บเงินด้วยความน้อยใจตอนที่โขงวิ่งหน้าตั้งกลับมา เขาพยายามทำให้เธอสบายใจด้วยการสวาปามอาหารมากมายนั้น และใช้เวลาอยู่กับเธอให้มากขึ้นจนเบี้ยวนัดกับสวัสดิ์ที่ตั้งหน้าตั้งตารอก๊งเหล้าแกล้มหอยดองที่เขาสัญญาว่าจะซื้อไปฝาก สวัสดิ์ไม่รู้ว่าทำไมโขงถึงมักจะหายตัวไปจากสำนักงานทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงเวลาเลิกงาน สุรารักษ์คาดโทษโขงให้สวัสดิ์ฟัง แถมยังขู่คู่หูของโขงอย่างสวัสดิ์ให้ระวังตัวว่าจะไม่ได้ขั้น สวัสดิ์จึงพยายามสอดส่องตามประกบดูแลไม่ให้โขงหายไปจากสายตาก่อนเวลา แต่โขงพริ้วกว่าสวัสดิ์ เขาจึงเร้นกายหายตัวไปได้ทุกที โขงไม่ได้บอกใครว่าเขาออกจากสำนักงานก่อนเวลา เพื่อไปตามกรณีของมณฑาอย่างไม่ลดละ และตั้งใจจะช่วยเหลืออีกหลายกรณีตามที่มณฑาเล่าให้เขาฟัง หลังเลิกงานที่โรงงาน มณฑาจำใจต้องพาโขงที่มาดักรอเธอ พาเขาไปแฟลตเก่าที่เธอหนีแม่มาอาศัยอยู่ ที่นี่เขาได้ช่วยผัวเมียที่ทะเลาะกัน ช่วยเด็กที่ถูกทิ้งไว้ที่ระเบียง พาตำรวจจับผัวที่พาเมียเด็กไปขายตัวเอาเงินมาใช้ สะสางเรื่องป้าตีหลาน ทุกเรื่องที่เขาเข้าไปยุ่งเกี่ยว เขาทำตามนโยบายหยุดความรุนแรงในครอบครัว และตามพรบ.คุ้มครองเด็ก สุรารักษ์หัวหมุนไปงานกับที่โขงทำและนำเข้าสู่สำนักงาน เพราะมีมาอย่างต่อเนื่องและมากมาย เธอได้แต่สงสัยว่าอยู่ๆ พ่อจอมขี้เกียจไม่ได้เรื่องได้ราวอย่างโขง ทำไมถึงได้ขยันเอาจริงเอาจัง เธอคิดว่าเขาต้องการทำงานเอาหน้าหวังเงินเดือนขึ้น อยากเลื่อนขั้น อยากได้ความดีความชอบ ต้องการแข่งขันกับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับรางวัลดีเด่นทุกปีอย่างเธอ สุรารักษ์บ่นให้ รตท.กำชัย แฟนหนุ่มที่ทำงานประสานกันอยู่เป็นประจำว่าเธอไม่ไว้ใจโขง แต่นายตำรวจหนุ่มกลับเริ่มเห็นตัวตนที่แท้จริงของโขงและรู้สึกชื่นชมวีรบุรุษที่ไม่ได้ทำงานเอาหน้าคนนี้ ทิชานัดโขงมาที่ร้านอาหารที่เดิม เพื่อแจ้งกับเขาว่าทางมูลนิธิมีทุนจะมอบให้กับเด็กที่ยากไร้ เธอขอให้โขงหาเด็กที่ต้องการทุนนี้ โขงนึกถึงมณฑา และเด็กๆ ที่แฟลต เขาคิดจะให้มณฑาประกาศข่าวเรื่องทุนนี้ให้คนที่แฟลตได้รู้ แต่แล้วเขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นพนักงานเสริฟคนใหม่คือมณฑา ทิชาเองก็แปลกใจที่เห็นมณฑาที่นี่ เธอจำได้แม่นว่ามณฑาคือคนที่โขงวิ่งตามไปวันก่อน แล้วปล่อยให้เธอคอยเขาอยู่ตามลำพัง แต่เมื่อทิชารู้เรื่องของมณฑาตามที่โขงกระซิบบอก เธอก็รู้สึกสงสารในชะตากรรมของมณฑา ส่วนมณฑาเองรู้สึกว่าหนุ่มหล่ออย่างโขงดูเหมาะสมที่จะเดินเคียงคู่กับสาวสวยอย่างทิชา เธอแปลกใจที่พบว่าเธอรู้สึกอิจฉาทิชาที่สมบูรณ์พร้อมไปทุกอย่าง ทั้งรูปร่างหน้าตา ฐานะ และคนที่รู้ใจ มณฑาพยายามหักห้ามใจที่เริ่มหงุดหงิดเพราะคิดว่าทั้งคู่คงชอบกัน แต่ทิชาเองก็มีปัญหาของเธอ ทิชาต้องเข้าไปที่ผับเพื่อดูแลตรวจสอบการทำบัญชีให้พีระ และต้องคอยระวังตัวไม่ให้เขาหาเศษหาเลยกับเธอ เธอรู้ว่าพีระหมายปองต้องการครอบครองตัวเธออย่างที่คุณหญิงระวีเปิดทางให้ แต่เธอไม่ต้องการเช่นนั้น เธอจำเป็นต้องทำงานให้พีระ แต่คนที่เธออยากทำงานด้วยคือโขงต่างหาก ทิชารู้สึกยินดีกับการทำงานมอบทุนให้เด็ก เพราะเธอได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานของโขงนั่นเอง เมื่อสุรารักษ์รู้เรื่องโครงการให้ทุนของมูลนิธิ เธอก็รู้สึกหมั่นไส้โขงมากยิ่งขึ้น เธอบอกเขาว่ามูลนิธิชอบทำงานเอาหน้า โขงคงชอบทำงานเอาหน้า ส่วนเจียรนัยก็ค่อนแคะว่าเขาต้องการจีบทิชา แต่โขงได้รับไฟเขียวเต็มที่ในโครงการนี้จากหัวหน้านารี จนได้รับอนุญาตให้ใช้รถเมื่อไหร่ก็ได้ แม้สวัสดิ์จะแปลกใจแต่ก็รู้สึกยินดี เพราะขับรถให้โขงนั่งนั้น สบายหูกว่าพาสุรารักษ์ไปไหนต่อไหนตั้งเยอะ โขงให้สวัสดิ์ขับรถไปติดประกาศที่แฟลตของมณฑา สวัสดิ์จำมณฑาไม่ได้ เลยออกลายเจ้าชู้ เขาแปลกใจเมื่อรู้ว่ามณฑาคือคนที่สวัสดิ์บอกโขงเองว่าหน้าตาเละดูไม่ได้ โขงบอกว่ามณฑาไม่ได้โดนน้ำกรด เธอแค่โดนน้ำยาล้างห้องน้ำ แผลที่หน้าก็มีแค่รอยแดงๆ เท่านั้นและอีกไม่นานก็คงจะหาย ถึงจะเห็นว่ามณฑาหน้าตาน่าเอ็นดู สวัสดิ์ก็ยังแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยที่โขงจะผูกสัมพันธ์กับมณฑา สวัสดิ์บอกว่ามีผัวจนเกิดเรื่องมาแล้ว ถือว่าเป็นของมีตำหนิ ส่วนทิชาก็อยู่สูงเกินที่โขงจะเอื้อมสอย โขงได้แต่ส่ายหน้าที่สวัสดิ์คิดเองเออเองกับผู้หญิงที่อยู่ใกล้ตัวเขา งานของโขงไปได้ดีทุกด้านจนหัวหน้าชม เพราะเขาทำให้หน่วยงานมีหน้ามีตามีผลงานได้ออกสื่อเป็นข่าวดัง จนคุณหญิงระวีและคุณนายผู้ว่าขอดูตัว สุรารักษ์เลยพาลหงุดหงิดโดยมีเจียรนัยและมลเป็นลูกคู่ ทิชาบอกกับโขงว่าคุณหญิงระวีอยากให้เขาไปช่วยงานที่มูลนิธิ แต่เมื่อเขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าพาแม่ค้าส้มตำน้อยหน่าหนี จนยายแจ๊วพาพวกมาดักสาดน้ำปลาร้าใส่เขา ภาพพจน์ของเขาในสายตาของสุรารักษ์ก็ยิ่งติดลบ มอร์เตอร์ไซด์รับจ้างที่หมายปองน้อยหน่าอยู่มาบอกยายแจ๊วว่าเห็นน้อยหน่าแอบส่งเบอร์โทรศัพท์ให้โขง ยายแจ๊วก็ยิ่งมั่นใจ ยายไรพยายามช่วยเข้าข้างโขง แต่ดูเหมือนไม่มีใครฟัง ทุกคนในซอยปักใจเชื่อตามที่ยายแจ๊วโพนทะนาไปแล้ว โขงรู้ว่าน้อยหน่าหนีไปทำงานเป็นพนักงานเสริฟในคลับชื่อดังกลางกรุงของพีระ และกำลังจะได้ไปทำงานที่ภูเก็ต แต่เขาก็รู้แค่นั้น เขาไม่รู้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน เขาได้แต่ชื่อของคลับ ไม่ได้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของน้อยหน่าอย่างที่คนอื่นเข้าใจกัน โขงตัดสินใจชวนสวัสดิ์ไปสืบดูลาดเลาในผับของพีระ ที่น้อยหน่าเคยบอกว่าเธอทำงานที่นี่ แต่โขงกลับพบมณฑาในคราบของพนักงานเสริฟสาว เธอแต่งหน้าทาปากแต่งตัวเข้ารูปจนเห็นเรือนร่างสวย เขารู้สึกหงุดหงิดจนต้องแอบไปดักดึงตัวเธอไปถามด้วยความข้องใจ เธอบอกเขาว่าเธอมาตามหาเพื่อนที่หายไปหลังจากเข้ามาทำงานที่นี่ได้ไม่นาน มณฑาตั้งข้อสังเกตว่าพนักงานที่หายไปนั้น เป็นคนที่ไม่มีญาติพี่น้องในกรุงเทพ และหายไปหลังจากทำงานได้เพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น มณฑาสืบเรื่องของน้อยหน่ามาให้โขง เธอบอกว่าน้อยหน่าหายไปหลังจากถูกส่งตัวไปทำงานที่ภูเก็ต โขงตั้งข้อสังเกตเรื่องการค้ามนุษย์ ผับดังของพีระอาจจะมีเบื้องหลัง มณฑาบอกเขาว่าจะช่วยหาหลักฐานในห้องทำงานของพีระให้ แต่ระหว่างที่มณฑาพยายามค้นหาเอกสารอยู่นั้น ทิชาที่มาตรวจบัญชีให้พีระเป็นประจำก็เข้ามาพบเธอ แม้ทิชาจะสงสัย แต่เพราะจำได้ว่าเป็นมณฑา เธอจึงไม่กระโตกกระตาก แถมยังช่วยแก้ต่างให้มณฑาเมื่อพีระเข้ามาในห้องหลังจากนั้นไม่นาน มณฑาได้มีโอกาสช่วยทิชาตอบแทน ในคืนที่เธอแอบขึ้นมาเพื่อพยายามจะหาหลักฐานในห้องของพีระอีกครั้ง เธอพบว่าพีระพยายามจะปล้ำทิชาในห้องนั้น มณฑาตัดสินใจส่งข้อความไปบอกโขง เธอหวังว่าเขาจะมาช่วยหญิงคนรักของเขาได้ทัน แต่มณฑากลัวว่าทิชาจะเสียทีพีระก่อนที่โขงจะมา เธอจึงตัดสินใจเข้าไปในห้องแล้วคว้าโคมไฟตีหัวพีระจนทิชาดิ้นหลุดจากการเกาะกุมของเขาได้ แต่มณฑากลับกลายเป็นเหยื่อ เมื่อพีระคว้าตัวเธอไว้แทน ในขณะที่ทิชาวิ่งหนีออกไปจากห้อง ทิชาวิ่งหนีลงมา เธอโผเข้ากอดโขงทันทีที่เห็นเขา โขงพาตำรวจตรวจยาเสพติดบุกเข้ามาทันทีที่เขาได้รับข้อความจากมณฑา โขงปล่อยให้ตำรวจทำงานตามหน้าที่ ส่วนเขารีบแกะมือของทิชาที่กอดเขาอยู่ออก แล้วพุ่งไปตามทางที่ทิชาชี้บอกเมื่อเขาถามหามณฑา ภาพในห้องของพีระที่เขาเห็นคือมณฑาที่คว้าไม้ยืนอยู่อีกฟากของเตียงโดยมีพีระที่พยายามจะไล่จับตัวเธอให้ได้ พีระตกใจเมื่อเห็นตำรวจที่วิ่งตามโขงเข้ามา เมื่อพีระถูกตำรวจเชิญตัวออกไป โขงก็ไม่ลังเลที่จะดุใส่มณฑาไม่ยั้ง เขาเป็นห่วงเธออย่างเห็นได้ชัด ทิชาที่เดินตามเข้ามาด้วยความเป็นห่วงโขง จึงเห็นแววตาของเขาอย่างชัดเจน ทิชาได้แต่กลืนคำพูดแล้วถอยหลังออกไปจากห้องด้วยความรู้สึกอยากเป็นหญิงสาวที่ถูกโขงดุด้วยความรักความเป็นห่วงอย่างนั้น ข่าวการบุกตรวจผับดังกลางกรุงกลายเป็นข่าวดังที่สืบสาวไปจนถึงเรื่องการค้ามนุษย์และการฟอกเงิน มูลนิธิของคุณหญิงระวีถูกเพ็งเล็งว่ากลายเป็นแหล่งฟอกเงินให้กับขบวนการค้ามนุษย์ของพีระ เพราะพีระเป็นผู้บริจาครายใหญ่ของที่นี่ คนในสำนักงานสังคมสงเคราะห์ทั้งสุรารักษ์ เจียรนัย มล และสวัสดิ์ต่างวิจารณ์ข่าวนี้อย่างเมามันเพราะเกี่ยวพันถึงทิชา ที่ทุกคนเข้าใจว่าโขงพยายามจีบอยู่ ไม่มีใครรู้ว่าโขงมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบุกจับกุมครั้งนี้ด้วย ทิชาปรับทุกข์กับโขงเพราะเธอไม่มีใครอีกแล้ว เธอบอกว่ามูลนิธิของคุณหญิงแม่เสียชื่อเสียงเพราะเข้าไปพัวพันกับพีระ ซึ่งเป็นผู้บริจาครายใหญ่ของมูลนิธิ มีหลักฐานการโอนเงินชัดเจน ชื่อเสียงของมูลนิธิและชื่อเสียงของคุณหญิงระวีฉาวโฉ่จนไม่รู้จะกู้คืนมาได้อย่างไร เมื่อทิชาเอื้อมมือมาจับมือเขา โขงก็บีบมือเพื่อเป็นกำลังใจให้ โดยไม่รู้ว่าภาพนั้นบาดตามณฑาที่เฝ้าดูอยู่ห่างๆ โขงไม่ได้เจอมณฑาหลังจากเหตุการณ์ในคืนนั้น เพราะเขามัวแต่อยู่เป็นเพื่อนปลอบใจทิชา เพราะตั้งแต่ที่มูลนิธิมีข่าวไปพัวพันกับการค้ามนุษย์ คนในซอยโดยการนำของยายแจ๊วก็ตั้งเป้าด่า และรอดักปาปลาร้าใส่ทุกคนในบ้านนี้ ทิชาขอให้โขงพาเธอออกไปจากบ้าน เธอตัดสินใจไปเช่าโรงแรมเหมือนคุณหญิงแม่จนกว่าเรื่องจะเงียบ ทิชาเตือนให้ทั้งเขาและมณฑาระวังตัวเพราะพีระเป็นคนอาฆาตแรง และมีเส้นสายมากมาย โขงได้รับข้อความทางโทรศัพท์ของมณฑาว่าเธอถูกจับตัวไป เขารีบตามไปหาเธอทันทีโดยไม่ฉุกใจคิดเลยว่าเป็นกับดัก เขาได้เห็นหน้ามณฑาที่ถูกมัดมือมัดเท้าในห้องเล็กก่อนที่จะหมดสติไปเพราะถูกตีหัวจากด้านหลัง เมื่อเขาฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง โขงก็นอนอยู่ท่ามกลางสาวๆ ที่ถูกบังคับจับตัวจะส่งไปภูเก็ต ซึ่งก็มีมณฑารวมอยู่ด้วย โขงตะเกียกตะกายลุกขึ้น รีบประกอบมือถือที่ถูกเหวี่ยงจนแบตเตอร์รี่กระเด็นออกจากเครื่องแล้วรีบพิมพ์ส่งข้อความอย่างรวดเร็ว ทันเวลาก่อนที่ชายหน้าเหี้ยมจะเข้ามากรอกน้ำใส่ปาก บังคับให้เขาดื่มยานอนหลับจนหมดสติหลับไป เมื่อเขาฟื้นขึ้นมา โขงพบว่าเขาอยู่ในรถทัวร์ที่เต็มไปด้วยสาวๆ ที่เต็มใจไปทำงานที่ภูเก็ต ส่วนคนที่ไม่เต็มใจนั้น เขาได้ยินชายหน้าเหี้ยมที่คุมมาว่าถูกขังอยู่ด้านล่างของรถ โขงได้แต่หวังว่ามณฑาคงจะถูกขังอยู่ในรถคันนี้เช่นกัน รถทัวร์ถูกเรียกจอดกลางทาง ตำรวจทางหลวงมาดักสกัดได้ทันเวลา เพราะรตท.กำชัยได้รับข้อความแจ้งเหตุจากโขง โขงและสาวๆ ทุกคนได้รับการช่วยเหลือได้ทันท่วงที โขงเป็นผู้อยู่เบื้องหลังผลงานครั้งนี้อีกครั้งโดยที่ไม่มีใครในสำนักงานสังคมสงเคราะห์รู้เลย แม้ตอนหลังรตท.กำชัยจะแอบเปิดเผยให้สุรารักษ์รู้ว่าโขงเสี่ยงชีวิตขนาดไหนในการทำคดีนี้ เขาบอกด้วยว่าโขงทำงานร่วมกับตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์มาแล้วทั่วทุกภาค สุรารักษ์ก็ยังทำใจยอมรับได้ยากอยู่ดี เพราะสภาพของโขงห่างไกลจากภาพของวีรบุรุษที่เธอวาดไว้อย่างไกลลิบ แต่เมื่อเจียรนัยจิกกัดโขงว่าคบกับลูกแม่เล้าอย่างทิชา สุรารักษ์ก็หันไปเอ็ดเจียรนัยทันทีจนทุกคนแปลกใจเมื่อเห็นว่าสุรารักษ์เข้าข้างคู่ปรับของตัวเอง โขงถูกดักยิงขณะที่พูดโทรศัพท์กับมณฑา ต่อหน้าเพื่อนร่วมงานทุกคนที่กำลังกินเลี้ยงฉลองวันเกิดให้สวัสดิ์ สุรารักษ์รีบเรียกรถพยาบาลนำโขงส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ทิชามาเฝ้ารอดูอาการของโขงทันทีที่ทราบข่าว แม้สายตาของสุรารักษ์จะไม่เป็นมิตร แต่ทิชาก็ไม่สนใจ เธอสนใจแต่โขงที่ยังนอนไม่ได้สติในห้องผ่าตัดมากกว่า โขงยังไม่ได้สติ เขาฝันเห็นร่างของหญิงสาวที่บอบช้ำไปทั้งตัว เธอร้องไห้คร่ำครวญพยายามจะหาทางรอดจากห้องที่คุมขัง สภาพของหญิงคนนั้นสะบักสะบอมเหนื่อยอ่อน แต่ไม่ละความพยายามที่จะหาทางหนี จนในที่สุด ในภาพนิมิตนั้น เขาเห็นชาย 2 คนเดินเข้ามาในห้อง แล้วลากหญิงคนนั้นออกไป โขงไม่เข้าใจว่าภาพของหญิงคนนี้มาปรากฏให้เขาเห็นในฝันได้อย่างไร และเขาฝันเห็นเธอบ่อยครั้ง หลังจากที่เห็นภาพนี้เป็นครั้งแรกในวันที่เขาพบกับทิชา ทิชาร้องไห้อย่างหักห้ามใจไม่อยู่เมื่อได้ยินหมอบอกเล่าอาการของโขงว่ายังน่าเป็นห่วง ไม่มีใครรู้ว่าโขงจะรอดหรือไม่ ไม่มีใครรู้ว่าโขงกำลังต่อสู้กับอะไร โขงเห็นในนิมิตว่าเขากำลังขับรถไล่ตามรถอีกคันอยู่ หลังรถคันนั้นคือผู้หญิงที่พยายามร้องขอความช่วยเหลือ ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยเลือด โขงพยายามจะไล่ให้ทัน แต่เมื่อรถคันนั้นวิ่งฝ่าไฟแดงจนชนเข้ากับรถบรรทุกกลางสี่แยก เขาก็ได้เห็นร่างของหญิงสาวคนนั้นตะเกียกตะกายอยู่ท่ามกลางซากรถพยายามจะดิ้นรถหนีตาย แรงระเบิดครั้งแรกทำให้โขงกระเด็นออกมาก่อนที่จะเข้าช่วยดึงตัวหญิงสาวคนนั้นออกมาได้ และก่อนที่จะเกิดแรงระเบิดครั้งที่ 2 เขาก็เห็นภาพที่น่าสยดสยอง หญิงสาวที่มีไฟลุกท่วมตัว เขาเห็นดวงตาของเธอมองมาที่เขาอย่างสิ้นหวัง เมื่อโขงฟื้นขึ้น คนแรกที่เขาเห็นคือทิชาที่ยืนอยู่ปลายเตียง และนับจากนั้นทิชาก็รับหน้าที่เป็นคนดูแลโขง คอยป้อนข้าวป้อนน้ำ แม้ว่าสวัสดิ์จะแสดงความไม่พอใจและพยายามจะแย่งชิงตำแหน่งนั้นมาทำก็ตาม มีคนมาเยี่ยมและส่งของมาเยี่ยมไข้โขงมากมายแต่ไม่มีแม้แต่เงาของมณฑา โขงไม่รู้ว่าเจ้าของถุงส้มราคาถูกๆ ที่เขาชอบกินคนนั้นคือมณฑาที่ตัดสินใจกลับทันทีเมื่อเห็นว่าทิชาดูแลโขงอยู่อย่างใกล้ชิด สวัสดิ์ที่ยึดโยงหน้าที่นอนเฝ้าไข้โขงในยามกลางคืนสามารถจับชัยที่เข้ามาพยายามจะทำร้ายโขง แม้ว่าชัยจะพยายามแก้ตัว แต่โขงจำได้ว่าหนุ่มร่างบางท่าทางเหมือนคนติดยาคือชัย คนที่เคยทำร้ายมณฑานั่นเอง ชัยถูกส่งไปโรงพักและต้องเข้าไปนอนในห้องขังทันที ทิชามาปรับทุกข์เรื่องคดีของมูลนิธิ โขงเล่าให้เธอฟังว่ามีหลักฐานอื่นที่มณฑาถ่ายเอาไว้และส่งมาให้เขา แต่เขายังไม่ส่งตำรวจ เขายังไม่ได้ดูว่าคืออะไร แต่หวังว่าจะช่วยทิชาและคุณหญิงได้ โขงแปลกใจเมื่อตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่ในรถที่ติดเครื่อง จอดขวางกลางถนนสายเปลี่ยว เขาเร่งเครื่องหลบลงข้างทางได้ทันก่อนที่รถบรรทุกใหญ่ที่เร่งเครื่องเต็มอัตราจะโผล่พ้นโค้งมาชนรถของเขา แม้โขงจะยังเจ็บระบมแผล แต่เขาก็สามารถขับรถพาตัวเองกลับมายังโรงพยาบาลได้อย่างปลอดภัย ทุกคนแปลกใจเมื่อเห็นโขงกลับมาได้เองหลังจากหายไปจากโรงพยาบาลโดยไม่มีใครรู้ แต่คนที่แปลกใจยิ่งกว่าคือทิชา คืนนั้นโขงแอบออกจากโรงพยาบาลอีกครั้ง เขามาหาทิชา เขาต้องการมาพิสูจน์เรื่องที่เขาสงสัย ท่าทีของทิชาทำให้เขาบอกเธอว่าเขารู้ความจริงหมดแล้ว ทิชาคิดว่าเขาขับรถไม่เป็น จึงแอบวางยานอนหลับแล้วเอาตัวเขาใส่รถ หวังสร้างสถานการณ์ว่าเขาตายด้วยอุบัติเหตุรถชน เธอกลัวว่าหลักฐานที่เขาบอกเธอจะเปิดเผยเรื่องราวความจริงทั้งหมดว่าเธอ คุณหญิงแม่ และพีระ อยู่เบื้องหลังขบวนการค้ามนุษย์และการฟอกเงิน ท่าทีของทิชาเปลี่ยนไป จากสาวน้อยอ่อนหวานกลายเป็นสาวใจเหี้ยมที่ไร้ความปรานี เธอบอกเขาว่าโขงไม่มีทางทำอะไรเธอได้ เมื่อทิชาขับรถจากไปนั้น ด้านหลังรถของทิชา โขงก็ได้เห็นภาพที่ติดตา ภาพที่หลอกหลอนเขามานาน นับตั้งแต่ที่เขาได้รู้จักเธอ ตอนนี้เขารู้แล้วว่าหญิงสาวที่โชกไปด้วยเลือดซึ่งนั่งอยู่ท้ายรถในนิมิตนั้นต้องการอะไร ทิชาขับรถตามลำพังไปบนถนนกลางดึก เธอจอดรถเมื่อสัญญาณเปลี่ยนเป็นไฟแดง กลางสี่แยกที่ทำให้เธอนึกถึงเหตุการณ์ในคืนสยองคืนนั้น คืนที่เธอขับรถตามลูกน้องที่ต้องเอาหญิงสาวไปส่ง แต่เพราะหญิงคนนั้นต่อสู้ดิ้นรนพยายามจะหลบหนีแม้จะถูกรุมโทรมจนยับเยินแล้วก็ตาม รถของลูกน้องขับไปเกี่ยวกับรถสิบล้อจนพลิกตะแคง ลูกน้องของเธอหนีเอาตัวรอดออกมาได้ เธอบอกลูกน้องว่าไม่ต้องช่วยผู้หญิงคนนั้น สายตาเหี้ยมเกรียมของทิชาประสานสายตากับเหยื่อที่สิ้นหวัง สายตานั้นเปลี่ยนเป็นอาฆาตแค้นก่อนเสียงระเบิดจะดังขึ้นจนรถคันนั้นลุกไหม้เป็นไฟ ทิชาเหยียบคันเร่งเรียกสติกลับคืนเมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นไฟเขียว แต่เหมือนเหตุการณ์ที่เธอเพิ่งนึกถึงจะย้อนกลับมาเล่นซ้ำ รถมินิราคาแพงของเธออัดเข้ารถบรรทุกอย่างจัง ทิชาพยายามควานหาโทรศัพท์เพื่อร้องขอความช่วยเหลือ แต่หญิงสาวในร่างที่โชกเลือดเอื้อมมือมายื้อยุดปิดปากจนเธอส่งเสียงร้องออกมาไม่ได้ เสียงของคนขับรถบรรทุกพูดประโยคเดียวกับที่เธอบอกลูกน้อง ปล่อยให้ตายไป.. คือเสียงสุดท้ายของที่เธอได้ยิน ก่อน
ลมไพรผูกรัก 2561

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ลมไพรผูกรัก (2561/2018) ปภาพินธ์ เดินทางเข้าไปที่หน่วยจัดการต้นน้ำ.... ในอุทยานแห่งชาติแม่วงศ์เพื่อตามหา ปิยวัช หรือ ปิ๊ก นักศึกษาหนุ่ม น้องชายคนเดียวของเธอที่หลงป่าไปกับเพื่อนอีกคน..... เขาหายไปหลายวันแล้ว .....โดยไม่มีใครรู้ว่าชะตากรรมของเขาจะเป็นเช่นไร พนัส หัวหน้าหน่วยจัดการต้นน้ำ มอบหมายให้ อิสระ ซึ่งเป็นผู้ช่วยฯ ให้เข้าช่วยค้นหา อิสระมั่นใจว่าเขาสามารถค้นหาเด็กหนุ่มได้แน่นอน เพราะเขารู้จักผืนป่านี้ดีราวกับเป็นเส้นลายมือของตัวเอง แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดคือ......เขาจะได้พบกับหญิงสาวที่ยึดครองหัวใจเขามาอย่างยาวนานแม้จนกระทั่งปัจจุบัน .....ปภาพินธ์ หญิงสาวที่หักอกเขาอย่างยับเยินเมื่อ 5 ปีก่อนนั่นเอง... เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ปภาพินธ์เคยปฏิเสธที่จะคบหากับอิสระ เพียงเพราะอิสระเลือกที่จะทำงานป่าไม้ แทนที่จะทำงานในเมืองอย่างที่ปภาพินธ์ต้องการ ความห่างไกล และด้วยยังสนุกกับการใช้ชีวิตโสด ทำให้ปภาพินธ์บอกเลิกกับอิสระ สร้างบาดแผลที่เจ็บลึกขึ้นในใจของอิสระตลอดมา และการกลับมาเจอกันในครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสเดียวที่อิสระจะแก้แค้น.... ด้วยท่าทีเย็นชา...อิสระ ยื่นข้อเสนอกับเธอว่าถ้าเขาหาน้องชายของเธอคืนมาได้ เธอจะต้องแต่งงานกับเขา.... ปภาพินธ์ไม่มีทางเลือก เธอสังเกตุได้ว่าบัดนี้ อิสระไม่ใช่อิสระคนเดิมที่เคยอ่อนโยน สุภาพนุ่มนวลเหมือนเมื่อ 5 ปีก่อน อิสระคนนี้ท่าทีเย็นชา สายตาเต็มไปด้วยวี่แววที่ต้องการเอาชนะ ทำให้เธอรู้สึกชิงชังกับการฉวยโอกาส บีบคั้นคนที่ไม่มีทางเลือกอย่างเธอ แต่ที่สุดเธอก็จำใจต้องตอบตกลง อิสระนำทีมพา คณา ลูกน้องคนสนิท บรรจง และ พัฒน์ ลูกน้องที่ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กันเข้าป่าตามหาปิยวัชทันทีในเช้ามืดวันรุ่งขึ้น โดยปภาพินธ์ ขอไปด้วย ระหว่างทางที่ค้นหา พวกเขาพบร่องรอยของการตัดไม้ทำลายป่าเป็นของแถม แต่ภารกิจตามหาคนหายทำให้พวกเขาต้องเดินหน้าต่อไปอย่างเร่งรีบ มีอยู่ช่วงหนึ่ง ปภาพินธ์เห็นหญิงสาวชาวป่าคนหนึ่ง (ชบาไพร) ปรากฏตัวขึ้น ปภาพินธ์ชี้ให้อิสระดู แต่อิสระนิ่งเฉยทำเหมือนผู้หญิงคนนั้นไม่มีตัวตน ปภาพินธ์ไม่เชื่อว่าอิสระจะไม่เห็นชบาไพร และตาเธอต้องไม่ฝาดแน่นอน เมื่อชบาไพรปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ปภาพินธ์ ก็แอบติดตามไปจน ได้รับอุบัติเหตุ ลื่นล้มหมดสติไป.......ในระหว่างหมดสติ ปภาพินธ์ฝันถึงเสือโคร่งตัวหนึ่ง จ้องมองนิ่ง...และพยายามจะไล่ตะครุบเธอ ปภาพินธ์กรีดร้องและได้สติขึ้นมาอีกครั้ง เธอรู้สึกโล่งอก และเต็มไปด้วยความหวาดกลัวแม้ว่าจะเป็นเพียงความฝันเท่านั้น........หลังจากนั้นไม่นาน อิสระก็ค้นหาปิ๊ก น้องของปภาพินธ์จนเจอและบอกให้เธอเลิกเพ้อเจ้อถึงผู้หญิงที่ชื่อชบาไพรเสียที อิสระ ส่ง ปภาพินธ์ และ ปิ๊ก ออกจากป่าไปพร้อมกับลูกน้อง หลังจากนั้น อิสระก็รีบกลับไปตามร่องรอยของพ่อค้าไม้เถื่อน ชบาไพรปรากฏตัวต่อหน้าอิสระ และช่วยชี้เบาะแสเรื่องคนร้าย แต่น่าเสียดาย พวกนั้นขนเลื่อยยนต์และหลักฐานทุกอย่างหนีหายไปได้หวุดหวิด เมื่อหมดหน้าที่ ชบาไพรก็หายเข้าป่าไปอีกครั้ง อิสระมาทวงสัญญา และยื่นคำขาดขอ ปภาพินธ์ แต่งงานด้วยท่าทีแข็งกร้าว ปภาพินธ์รู้สึกชิงชังที่โดนบีบบังคับ เธอขอยืดเวลาไปก่อน และขอเวลาคบหาดูใจกันอีกที (ปภาพินธ์วางแผนที่จะทำตัวร้ายกาจมากๆ เพื่อทำให้อิสระทนไม่ได้ และเป็นฝ่ายบอกเลิกไปเอง).......อิสระตอบตกลง ยอมยืดเวลาที่จะแต่งงานออกไป แต่มีข้อแม้ว่าปภาพินธ์ต้องไปหาที่พักใกล้ๆ กับเขา อิสระหาบ้านพักป่าไม้ที่อยู่ใกล้เขาที่สุดให้ปภาพินธ์ และในคืนแรกของการเข้าพัก....เหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นกับปภาพินธ์อีกครั้ง เพราะจู่ๆ เธอก็ได้ยินเสียงคำรามของเสือแว่วเข้ามา ทั้งๆ ที่ทุกคนยืนยันว่าไม่ได้ยิน เมื่อปภาพินธ์ออกไปยืนที่ระเบียงก็มองเห็นชบาไพร หญิงสาวชาวป่าคนเดิมมายืนมองเธอและเดินหายไปในป่า เธอตัดสินใจที่จะวิ่งตามไป แต่แล้วเสือตัวหนึ่งก็โผล่ออกมา ปภาพินธ์ตกใจเป็นลมพับไป อิสระตามมาพบ และนำเธอไปปฐมพยาบาล ทุกคนยืนยันว่าเธอน่าจะตาฝาดไปเพราะไม่มีร่องรอยของเสือ และเธอก็ไม่ได้มีร่องรอยโดนทำร้ายเลยแม้แต่ปลายเล็บ ปภาพินธ์เริ่มแผนร้ายของเธอด้วยการทำตัวแย่ๆ ร้ายกาจ ทำทุกอย่างที่ตรงกันข้ามกับนิสัยจริง เธอเริ่มเรียกร้องโวยวายต้องการเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อให้อิสระรำคาญ แต่อิสระก็พยายามจัดให้ทุกอย่างเธอด้วยท่าทีเย็นชา และยโสเช่นเดิม ปุ้ม ลูกคนงานซึ่งมีหน้าที่ทำความสะอาดบ้าน แอบชอบอิสระ เมื่อรู้ว่าปภาพินธ์เป็นใคร ปุ้มจึงตั้งตัวเป็นศัตรูคอยกลั่นแกล้ง ก่อความรำคาญใจให้อยู่ตลอดเวลา ครั้งหนึ่งปุ้มหลอกปภาพินธ์ให้ไปเล่นน้ำตก โดยหลอกให้ไปเล่นในวังน้ำวน จนปภาพินธ์โดนน้ำดูดไหลไปที่หน้าผา แต่แล้วชบาไพร หญิงชาวป่าลึกลับก็ปรากฏตัวและช่วยปภาพินธ์เอาไว้ ชบาไพร แต่งตัวด้วยเสื้อผ้ามิดชิด มีผ้าปิดบังใบหน้าราวกับว่ากำลังปกปิดอะไรบางอย่าง หลังจากทำแผลให้ปภาพินธ์เสร็จ ชบาไพรก็หายเข้าป่าไปอีกครั้ง ปภาพินธ์เล่าเรื่องชบาไพรให้อิสระฟัง อิสระนิ่งเฉย ขณะที่ปุ้มบอกว่า ชบาไพรไม่ใช่คน แต่เป็นพวกผีไพรที่อยู่ในป่า แต่ปภาพินธ์กลับเชื่อความรู้สึกตัวเอง เธอเชื่อว่าชบาไพรมีตัวตน และต้องสืบเรื่องของผู้หญิงลึกลับคนนี้ให้ได้ คณา ลูกน้องคนสนิทของอิสระ เล่าตำนานเรื่องบ้านลับแลในป่าให้ปภาพินธ์ฟังว่า บ้านลับแลซ่อนตัวอยู่ที่ผาเวียงวัง จุดชมวิวที่สวยมากแห่งหนึ่งของผืนป่า แต่ยากที่จะเดินทางไปถ้าไม่มีคนชำนาญป่านำทาง คนในบ้านลับแลเป็นพวกกึ่งผีกึ่งคน ไม่ค่อยปรากฏตัวให้ใครเห็น พวกตัดไม้ทำลายป่ามักจะโดนเล่นงานอยู่บ่อยๆ คณาเชื่อว่าผู้หญิงที่ชื่อชบาไพรอาจเป็นคนบ้านลับแล อิสระได้รับทราบจากสายว่ามีคำสั่งล็อตใหญ่เข้ามาในพื้นที่ที่เขารับผิดชอบ และคนที่เขาสงสัยว่าเป็นตัวการคืออดีตผู้แทนราษฎรคนหนึ่งชื่อ ไกรสร โดยมีลูกน้องชื่อ ทัศน์ หัวคะแนนคนสำคัญคอยช่วยเหลือ กรรชิต แฟนของปภาพินธ์ กลับมาจากต่างประเทศ เมื่อรู้ข่าวว่าปภาพินธ์จะต้องแต่งงานกับอิสระ ก็ไม่พอใจ และพยายามกลับมาขอคืนดีกับ ปภาพินธ์ ปภาพินธ์ได้โอกาสเลยแกล้งทำเป็นหวานกับกรรชิตเพื่อยั่วให้อิสระโกรธ แต่อิสระนิ่งเก็บอารมณ์ ทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร เมื่อใกล้วันแต่งงานเข้ามา ปภาพินธ์ต้องการเอาชนะ อยากจะทำให้อิสระเจ็บปวดที่สุด.... เธอ จึงแกล้งวางแผนให้อิสระพาไปเที่ยวผาเวียงวัง โดยมีกรรชิตไปด้วย และวางแผนไว้ว่าจะให้กรรชิตพาเธอหนีการแต่งงาน ขบวนเดินป่าออกเดินทาง โดยมีเป้าหมายที่ผาเวียงวัง ระหว่างทาง อิสระพบร่องรอยพวกตัดไม้ทำลายป่าอีกครั้ง เขาปลีกตัวออกไปลาดตระเวน ...และถ่ายคลิปลงในมือถือเอาไว้เป็นหลักฐานได้สำเร็จ ส.ส.ไกรสร และกลุ่มผู้ร้ายรู้ตัว จึงตามไล่ล่าขบวนเดินป่า อิสระกับพวกมัวแต่สาระวนกับการยิงต่อสู้กับพวกตัดไม้ ปภาพินธ์ได้โอกาสจึงบอกให้กรรชิตพาเธอหนีไป แต่ด้วยความไม่ชำนาญเส้นทางทำให้ทั้งคู่หลงเข้าไปในป่าลึกกว่าเดิม เมื่ออยู่ด้วยกัน สองต่อสองในป่าทุรกันดาร ปภาพินธ์จึงได้เรียนรู้สันชาตญาณเบื้องลึกของกรรชิต เมื่อใช้ชีวิตในเมืองเขาดูเป็นผู้ชายที่เหนือกว่าคนอื่นด้วยฐานะและทรัพย์สินนอกกาย แต่เมื่อต้องเผชิญชีวิตในป่าโดยไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวก กรรชิตกลายเป็นคนที่เธอไม่สามารถพึ่งพาอะไรได้เลย แถมยังเต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัวจนปภาพินธ์รู้สึกได้ ในวันที่หมอกลงจัด ปภาพินธ์และกรรชิตเกิดพลัดหลงกัน ปภาพินธ์หายไป ขณะที่อิสระสะกดรอยตาม และมาช่วยกรรชิตที่กำลังขวัญเสียเอาไว้ได้ แต่แล้วพวกคนร้ายก็ตามมาทันอีกครั้ง อิสระพากรรชิต และลูกน้องหนีการตามไล่ล่า คนร้ายต้องการคลิปในมือถือซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ เมื่อจวนตัว อิสระก็ขว้างมือถือทิ้ง เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ แต่แอบเอาซิมของเครื่องเก็บซ่อนไว้กับตัว จากนั้นก็พาทุกคนออกจากป่าสำเร็จ อิสระเอาภาพวีดีโอนั้นให้พนัสดู แต่เขาก็ต้องประหลาดใจที่พนัสตำหนิเขาอย่างรุนแรง อิสระโกรธและไม่เข้าใจ มุมมองที่เขามีต่อพนัสเริ่มมีความเคลือบแคลงสงสัย อิสระพบร่องรอยการเข้ามาค้นของในบ้านพักของเขา เขามั่นใจว่าคนร้ายเข้ามาค้นหาซิมนั้นแน่นอน อิสระสงสัยว่าพนัสจะรู้เห็นเป็นใจ แต่เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น...ก็ไม่มีเรื่องอะไรด่วนเท่ากับการเข้าป่าอีกครั้งเพื่อตามหา ปภาพินธ์ที่หายไป แต่แล้วขณะกำลังจะเข้าป่า อิสระก็โดนลอบยิงอยู่ในอาการโคม่า ปภาพินธ์ หลงป่า และเริ่มจับไข้ เสียงคำรามของเสือดังใกล้เข้ามาและก่อนที่จะสลบไป เสือตัวนั้นก็ปรากฏตัวขึ้นแล้วพุ่งตรงเข้ามาหาเธอ เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งปภาพินธ์ พบว่าชบาไพรช่วยเธอไว้ และเธออยู่ในหมู่บ้านลับแลที่ซ่อนตัวอยู่กลางหมอกหนาทึบ บรรยากาศของหมู่บ้านเต็มไปด้วยความลึกลับ น่าสะพรึงกลัว ชบาไพรบอก ปภาพินธ์เรื่องอิสระโดนยิงอยู่ในอาการโคม่า เป็นตายเท่ากัน โดยชบาไพรล่วงรู้เหตุการณ์จากการเพ่งกสิณ เมื่อปภาพินธ์รีบโทรไปเช็คเหตุการณ์ก่อนแบตจะหมด ก็ปรากฏว่าเรื่องที่ชบาไพรบอกเป็นความจริง ปภาพินธ์ตกใจไม่คาดว่าเธอกำลังจะสูญเสียอิสระไป เธอเพิ่งรู้ตัวว่าเธอขาดเขาไม่ได้ และนั่นก็แสดงว่าเธอกำลังรักเขานั่นเอง ปภาพินธ์ต้องการหนีออกจากหมู่บ้านเพื่อไปหาอิสระ แต่ทุกครั้งที่ก้าวพ้นเขตหมู่บ้านก็จะพบกับเสือโคร่งที่เฝ้ามองเธออยู่ทุกฝีก้าวเธอจึงกลับมาหาชบาไพรอีกครั้ง ชบาไพร บอกว่าอิสระ อยู่ในภาวะสมองตาย ทำให้จิตของเขาอยู่ในมิติหลังความตาย ทางเดียวที่จะช่วยอิสระให้ฟื้น ก็คือต้องใช้ความรักไปช่วยดึงให้เขาหลุดออกมาก่อนที่จะสายเกินไป และนั่นก็คือปภาพินธ์จะต้องทำให้ตัวเองอยู่ในสภาวะสมองตายเช่นกัน ...ด้วยการกินสมุนไพรเมืองลับแล ปภาพินธ์ตัดสินใจกินสมุนไพรและดิ่งจิตของเธอไปยังมิติหลังความตาย เธอพบว่าอิสระกำลังตกอยู่ในวงล้อมของหญิงสาวที่เป็นกิเลสด้านมืดของผู้ชายและยังไม่อยากกลับไป ปภาพินธ์เข้าไปกระชากให้อิสระหลุดออกมา ทำให้หญิงสาวเหล่านั้นกลายเป็นปีศาจตรงเข้ามารุมทำร้าย แต่แล้วทันใดเสือโคร่งตัวนั้นก็ปรากฏตัว....และพาอิสระขี่หลังเสือ...พุ่งทยานออกจากมิติหลังความตาย แต่ในนาทีสุดท้ายนั้นเอง...ปภาพินธ์กลับหลุดตกจากหลังเสือ ....จมหายไปในความมืด อิสระฟื้นขึ้นมาที่โรงพยาบาล เขาจำเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างสภาวะความเป็นความตายได้ และรู้สึกเป็นห่วงปภาพินธ์ซึ่งบัดนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน นอกจากสัญญาณโทรศัพท์ครั้งสุดท้ายที่เธอมาจากในป่าก่อนแบตจะหมด อิสระรีบออกเดินทางเข้าป่าทันที ส.ส.ไกรสร และ ทัศน์ ทราบข่าวการเข้าป่าของอิสระก็รีบจัดขบวนออกไปเพื่อตามไล่ล่าอีกครั้ง อิสระต่อสู้และหนีเอาตัวรอด แต่ก็โดนตามไล่ล่าไม่ลดละ แต่ก่อนที่อิสระจะจนมุม....ชบาไพร และคนในหมู่บ้านลับแลก็เข้ามาช่วย และพาเข้าหลบหนีหายไปในม่านหมอกหนาทึบ ส.ส.ไกรสร และพวกย่ามใจคิดว่าอิสระตายแล้วจึงพากันกลับออกจากป่าไป ชบาไพร พาอิสระมาพบปภาพินธ์....โดยปภาพินธ์ยังคงนอนไม่ได้สติ จิตของเธอยังกลับมาในมิติปัจจุบันไม่ได้ อิสระปฐมพยาบาลและส่งเสียงเรียกและสารภาพความรู้สึกทั้งหมด ว่า การที่เขายื่นคำขาด บังคับให้เธอแต่งงานด้วย .....แม้ในครั้งแรก จะทำไปเพื่อแก้แค้น......แต่ลึกๆในใจ....ตลอด 5 ปีที่ปภาพินธ์ทิ้งเขาไป เขายังคงลืมเธอไม่ได้ และเมื่อเจอกันอีกครั้ง..... เขาจึงต้องทำทุกวิถีทางที่จะได้ ปภาพินธ์คืนกลับมา ทั้งหมดนี้ก็เพราะ.....เขารักเธอนั่นเอง.............และแล้ว....ความรักความจริงใจก็กลายเป็นสายใยที่ช่วยฉุดรั้งให้ปภาพินธ์ฟื้นขึ้นมาได้สำเร็จ ทั้งคู่ รู้ความในใจของกันและกันในที่สุด อิสระเล่าว่า ชบาไพร และคนในบ้านลับแล เป็นโรคเรื้อน สังคมรังเกียจ พวกเขาจึงพากันมาซ่อนตัวกันอยู่ในป่า ทำตัวลึกลับ เมื่ออิสระรู้เรื่องก็คอยช่วยเหลือ ส่งยา และสิ่งของจำเป็นให้อยู่เป็นประจำโดยไม่บอกใคร ส่วนชบาไพรนั้นเป็นหญืงสาวที่มีความสามารถพิเศษ ล่วงรู้อนาคต และแปลงร่างเป็นเสือได้ ชบาไพรจึงคอยช่วยเหลืออิสระในการคุ้มครองป่า และคอยช่วยเหลือยามที่อิสระมีภยันตราย อิสระ พาปภาพินธ์กลับออกมาจากป่า เขาเป็นห่วงหลักฐานที่เก็บซ่อนไว้กับสัมภาระในรถ.... และสิ่งที่เขากลัวนั้นกลายเป็นความจริง ซิมซึ่งมีภาพวิดีโอหลักฐาน ....หายจากซองแว่นกันแดดที่เขาเอาซ่อนไว้ อิสระเชื่อว่าต้องเป็นฝีมือของ พนัส หัวหน้าของเขา และแล้ว จู่ๆ ก็เกิดไฟป่าลุกลามใกล้เข้ามา อิสระรีบไปช่วยดับไฟ แต่ก็พบว่านี่คือแผนลวงของผู้ร้าย อิสระเสียท่า ถูกทัศน์เอาปืนจ่อหัว ชบาไพรซึ่งรู้เหตุการณ์ล่วงหน้ารีบมาบอกปภาพินธ์ให้รีบไปช่วยอิสระ และขณะที่อิสระกำลังจะเสียที ...พนัสก็เข้ามาช่วยเขาไว้ได้ทันโดยปภาพินธ์เป็นคนไปขอความช่วยเหลือ พนัสยิงทัศน์ที่แขนจนปืนหลุดมือ ยอมให้จับกุม อิสระรอดมาได้ พนัสบอกอิสระว่าคนที่เป็นสายให้กับขบวนการตัดไม้คือ....คณา.....โดยคณาเป็นคนที่แอบเข้าไปค้นหาซิมในบ้านพักของอิสระ แต่หลักฐานที่อิสระได้มาก็เพียงพอที่จะทำให้ตัวการทุกคนโดนจับเข้าคุกทั้งหมด รวมทั้งส.ส.ไกรสร ข่าวการจับส.ส.ไกรสร และพวก กลายเป็นข่าวดัง อิสระกลายเป็นวีรบุรุษผู้ปกป้องผืนป่า ความชื่นชมจากสังคม และคำชมเชยจากหน่วยงานต้นสังกัด ไม่ทำให้อิสระปลื้มใจเท่ากับรอยยิ้มจาก ปภาพินธ์เพียงคนเดียว ..... ตอนนี้เธอเข้าใจเขา เข้าใจงานที่เขาทำ และประทับใจในความเสียสละของเขาและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทุกคน ... เธอบอกเขาว่าเธอพร้อมจะอยู่เคียงข้างและเป็นกำลังใจให้กับเขาตลอดไป เพราะเขาไม่เพียงเป็นวีรบุรุษผู้ปกป้องป่า แต่เขาเป็นวีรบุรุษตัวจริงของเธอด้วยเช่นกัน.

มนตราลายหงส์ 2561

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก มนตราลายหงส์ (2561/2018) พัสกร นักเต้นหนุ่มฝีมือเยี่ยม ตั้งใจเปิดโรงเรียนสอนเต้นให้กับเด็กที่ยากไร้ ตามความฝันของพ่อภากรที่เสียไป

ในอดีต พัสกรอับอายที่มีพ่อเป็นนักบัลเลต์ เขาทะเลาะกับพ่อ ก่อนที่พ่อจะถูกรถชนต่อหน้าต่อตา หลังจากนั้นมา เขาก็ตั้งใจสานฝันของพ่อให้สำเร็จ ด้วยการสอนเต้นฟรีให้กับเด็กๆ ในงานเปิดตัวโรงเรียนของเขา ขณะที่เขากำลังโชว์อยู่บนเวที ท่ามกลางสายตาชื่นชมของครอบครัวบุญธรรม คนรัก และเพื่อนๆ ที่มาร่วมงาน ระเบิดลูกนั้นก็เปลี่ยนแปลงชีวิตเขาไปตลอดกาล พ่อ แม่ที่รับอุปการะเขา รวมถึงน้องสาวต่างสายเลือดเสียชีวิตทันที ขวัญกมลแฟนสาวของเขาได้รับบาดเจ็บ พัสกรฟื้นขึ้นมาในห้องพักผู้ป่วย และรับรู้การจากไปของคนในครอบครัวด้วยหัวใจที่แตกสลาย เขานึกถึงจดหมายข่มขู่ที่ได้รับก่อนหน้า ข้อความบอกว่าหากเขาเปิดโรงเรียนเขาจะต้องเสียใจ พัสกรอดโทษตัวเองไม่ได้ หากเขาเชื่อคำเตือนเรื่องแบบนี้คงไม่เกิด นี่เป็นอีกครั้งที่เขาทำให้คนที่รักต้องจากไป ยิ่งเมื่อเขาได้เห็นบาดแผลจากสะเก็ดระเบิดบนเนื้อตัวของขวัญกมล เขาก็ยิ่งตำหนิตัวเอง เมื่อขวัญกมลฟื้นขึ้นมา เขาบอกเธอว่าเขาจะไม่เต้นอีกต่อไป แหวนพลอย หญิงสาวกำพร้าพ่อแม่ เธออาศัยอยู่กับปู่ที่ต่างจังหวัด เธอเห็นข่าวจากในโทรทัศน์ ทำให้เธอรีบร้อนเข้ากรุงเทพฯทันที เพราะพัสกรไม่ใช่แค่พี่ชายข้างบ้านที่เคยเล่นด้วยกันในวัยเด็ก แต่เขายังช่วยเหลือเธอและปู่ด้านการเงินอยู่เสมอ แม้เธอกับเขาจะไม่ได้เจอหน้ากันหลายปี แต่แหวนพลอยก็ไม่เคยลืมพัสกรจากใจเลย เมื่อแหวนพลอยมาถึง พัสกรขอร้องให้เธอช่วยพาเขาไปที่งานศพ ที่นั่นพัสกรถูกญาติของครอบครัวบุญธรรมขับไล่ ด่าทอว่าเขาเป็นต้นเหตุให้ทุกคนต้องตาย พัสกรเจ็บปวดมาก แหวนพลอยยิ่งเห็นใจ ขณะที่พ.ต.ต.นิรุตต์ ตำรวจผู้รับผิดชอบคดีของพัสกร เริ่มสอบสวนผู้ต้องสงสัยที่มีรายชื่อว่าเป็นแขกคนสำคัญ แต่มาไม่ทันงานเปิดตัวโรงเรียน หนึ่งคือเต้ นักเต้นหนุ่มเพื่อนสนิทของพัสกร สองคือจันทิมา นักเต้นสาวสวยที่เป็นคู่เต้นของพัสกร และกุ๊งกิ๊ง ครูช่วยสอนที่รักสวยรักงามและแสดงออกว่าชอบพัสกรอยู่เสมอ หลังออกจากโรงพยาบาล พัสกรพาขวัญกมลไปพักผ่อนรักษาตัวที่บ้านเกิดของเขา ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านของแหวนพลอย พัสกรคอยดูแลขวัญกมลอย่างดี ขณะที่ในใจของเขาก็ยังเจ็บช้ำ เขาตำหนิตัวเอง อยู่อย่างคนไม่มีความฝัน แหวนพลอยได้เห็นและสงสาร เธอคิดว่าควรทำอะไรบางอย่าง พัสกรได้เจอกับ เด็กชายเพชร ที่นั่งดูคลิปวิดีโอการประกวดของกลุ่มเด็กที่พัสกรเคยสอน เพชรพยายามเต้นตาม แต่ก็ดูเก้ๆ กังๆ มาก พัสกรจึงอดไม่ได้ที่จะเข้าไปแนะนำ ความกระตือรือร้นที่จะเต้นของเพชร เหมือนจุดไฟให้พัสกรอีกครั้ง เขานำเรื่องนี้ไปบอกกับขวัญกมล แต่ขวัญกมลกลับไม่สบายใจ เธอเตือนเขาเรื่องระเบิด เรื่องขู่ฆ่า เพราะแน่ใจว่าคนที่ทำเรื่องนี้ ไม่ต้องการให้พัสกรเต้นอีกต่อไป พัสกรไม่อยากให้ขวัญกมลเป็นห่วง จึงรับปากว่าจะไม่ยุ่งเรื่องนี้อีก แล้วชวนเธอกลับกรุงเทพฯ แหวนพลอยรู้ข่าวด้วยความผิดหวัง เพราะเธออยู่เบื้องหลังการเจอกันของเพชรและพัสกร เธอรู้ว่าเพชรชอบเต้น และคิดว่าหากพัสกรได้สอน เขาจะกลับมามีชีวิตชีวา เลิกโทษตัวเอง เธอพยายามขอร้องให้เขาสอนเพชร แต่เธอก็เปลี่ยนใจเขาไม่ได้ แหวนพลอยเสียใจที่พัสกรไม่สนใจความหวังดีของเธอ กวง เพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเด็กของเธอจึงคอยปลอบ โดยที่แหวนพลอยไม่รู้เลยว่า กวงก็แอบรักเธออยู่เช่นกัน วันที่พัสกรจะเดินทางกลับ พัสกรได้เห็นว่าเพชรถูกเพื่อนๆ รุมล้อว่าเป็นตุ๊ด ถูกรังแกจากเด็กคนอื่น มันเหมือนกับที่เขาเคยโดนมาก่อน พัสกรจึงอดไม่ได้ที่จะเข้าไปโต้เถียง เขาถึงกับประกาศว่าจะเพชรจะได้เรียนเต้น และเป็นนักเต้นประสบความสำเร็จ แหวนพลอยดีใจมาก ขณะที่ขวัญกมลเป็นห่วง เธอกลัวว่าจะเกิดเรื่องร้ายซ้ำอีก แต่เมื่อพัสกรขอร้อง ขอโอกาสสอนเด็กอีกครั้ง แค่ครั้งเดียว ขวัญกมลก็ไม่อาจขัดได้ เธอได้แต่เตือนเขาให้ระวังตัวไว้ ขณะเดียวกัน นิรุตติ์ก็ได้ทำการสืบสวนเหตุระเบิด จากการสอบปากคำและสืบประวัติผู้ต้องสงสัย เขาก็พบว่าทั้งสามคนมีสิทธิ์ทำร้ายพัสกรได้ทั้งนั้น ทั้งจันทิมา ที่สนิทกับพัสกรมาก ตอนเรียนก็มีคนเข้าใจว่าทั้งสองเป็นแฟนกัน จนพัสกรประกาศคบกับขวัญกมล จันทิมาอาจหึงหวงจนนำไปสู่การลงมือ หรือจะเป็นเต้ ที่เป็นเพื่อนสนิท ขณะเดียวกัน ชื่อเสียงของเต้ก็เหมือนอยู่ใต้เงาของพัสกรอีกที ถ้าไม่มีพัสกร เต้ก็จะขึ้นเป็นมือหนึ่ง หรือจะเป็นกุ๊งกิ๊ง ที่มีปัญหาเรื่องเงิน เป็นหนี้บัตรเครดิต และหยิบยืมเงินของพัสกรอยู่บ่อยครั้ง ทุกคนมีแรงจูงใจในการทำร้ายพัสกรได้ทั้งนั้น นิรุตติ์เตือนให้พัสกรระวัง แต่พัสกรก็เชื่อว่าเพื่อนของเขาไม่มีวันทำร้ายเขาได้ พัสกรก็เริ่มฟอร์มทีมเต้นขึ้นมา เขาได้เจอกับเด็กชายปั้น เด็กที่ดูเป็นขาโจ๋ แต่จริงๆ แล้วปั้นไม่ใช่คนหัวรุนแรง แค่คบเพื่อนไม่ดี ทำให้เกือบต้องเล่นยา ปั้นชอบเต้นเหมือนกัน พัสกรจึงชวนเข้ามา แต่ก็มีอุปสรรคจากปัจจัยภายนอกเข้ามารบกวนอยู่เสมอ ทั้งจากชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วย ทั้งผู้ใหญ่ในโรงเรียนที่ไม่สนับสนุน พัสกรต้องคอยตามแก้จนแทบจะถอดใจอยู่บ่อยครั้ง แต่เขาก็ผ่านมันมาได้ พัสกรพาเด็กชาย 2 คนกลับกรุงเทพฯ เตรียมตัวแข่งขันระดับประเทศ เพื่อลบคำสบประมาทของชาวบ้าน ซึ่งเต้ได้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการของการประกวดนั้น (เต้ได้มาทำหน้าที่นี้เพราะพัสกรถอนตัวจากเหตุระเบิด) เต้ไม่สบายใจ เนื่องจากเขาเป็นกรรมการ แล้วพัสกรก็เป็นเพื่อนเขา คนอื่นจะคิดอย่างไร แต่พัสกรกลับบอกเต้ว่าให้ตัดสินตามผลงาน ไม่ต้องสนใจว่าเขาเป็นเพื่อน จันทิมามาให้กำลังใจพัสกร อาสาจะมาช่วยสอนเด็กๆ แต่นิรุตติ์จับตาจันทิมาอยู่ เขาอ้างว่าคดียังไม่ปิด และเธอก็ยังไม่บริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ จันทิมารำคาญที่นิรุตติ์ไม่เลิกสงสัยเธอสักที พัสกรตามหาเด็กเก่าๆ ที่เคยเรียนกับเขามาร่วมทีม ทั้งแตงกวาและน้ำฝน เด็กสองคนอยากกลับมา แต่ผู้ปกครองกลับไม่อนุญาตเพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีอีก พัสกรพยายามชักชวนแล้ว แต่ผู้ปกครองก็ปฏิเสธ แหวนพลอยเลยแอบไปขอร้องผู้ปกครองของเด็กทั้งสองด้วยตัวเอง ด้วยวิธีการตื้อเท่านั้นที่ครองโลก จนในที่สุด ผู้ปกครองก็ยอม เมื่อได้เด็กร่วมทีมครบ ก็เกิดปัญหาอีก เมื่อกุ๊งกิ๊งถูกฉัตรชัย เจ้าของโรงเรียนเต้นคู่แข่งซื้อตัวไป ฉัตรชัยกับพัสกรมีปัญหากันมานานแล้ว เรื่องเด็กของทั้งสองโรงเรียน ที่มักจะเข้าประกวดในโครงการเดียวกัน และแข่งกันอยู่เสมอ ส่วนใหญ่ทีมของพัสกรชนะ ฉัตรชัยเลยหมั่นไส้ ขณะที่นิรุตติ์ก็มองว่าฉัตรชัยเป็นอีกหนึ่งผู้ต้องสงสัย กุ๊งกิ๊งบอกข้อมูลทีมเต้นของพัสกรให้ฉัตรชัยรู้ ทำให้เวลาแข่งขัน ทีมของฉัตรชัยได้คะแนนมากกว่า ฉัตรชัยนัดเต้ทานอาหาร พยายามติดสินบนเต้ให้ทีมของตนชนะ แต่เต้ปฏิเสธ เขาเชื่อว่าเด็กต้องชนะด้วยความสามารถ แนะนำให้ฉัตรชัยเอาเวลาไปฝึกเด็กในทีมตัวเองดีกว่า ฉัตรชัยไม่พอใจ จะทำร้ายเต้ จันทิมาเข้ามาขวาง จนตัวเองโดนอาหารหกใส่เปื้อนเสื้อผ้า เต้จึงให้จันทิมาไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้อง จันทิมาเปิดตู้เสื้อผ้าเต้ เห็นว่าในห้องเต้มีเสื้อผ้ามากมาย มีทั้งวิกผม มีทั้งเสื้อผู้หญิง (ซึ่งดูเหมือนเป็นพร็อบสำหรับเต้น ไม่ได้น่าสงสัยอะไร) ขณะที่พัสกรกำลังฝึกซ้อมเด็กๆ อย่างหนักเพื่อประกวดรอบแรก นิรุตติ์ก็พบหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอจากโทรศัพท์มือถือของน้องสาวพัสกรที่กู้ไฟล์คืนมาได้ พบว่าในงานวันเปิดตัวโรงเรียน ปรากฏหญิงสาวลึกลับรายหนึ่ง เดินวนไปรอบๆ งาน ไม่มีใครรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร การสืบสวนยังคงดำเนินไป เช่นเดียวกับการแข่งขันเต้น อุปสรรคต่างๆ ประเดประดังเข้ามา พัสกรต้องคอยแก้ไข ทุกครั้งที่เขาท้อ ขวัญกมลก็จะเป็นห่วง เธอขอให้เขาเลิกเพราะไม่อยากให้เขาเหนื่อย ขณะที่แหวนพลอยจะช่วยเขาแก้ปัญหา กำลังใจจากแหวนพลอย และรอยยิ้มของเด็กๆ ทำให้เขาอยากสู้ต่อ พัสกรพาทีมฝ่าฝันจนเข้ารอบเรื่อยมา ในวันแข่งขันที่ต้องหาว่าใครเป็น 3 ทีมสุดท้าย ขวัญกมลถูกลอบทำร้าย พัสกรจำต้องทิ้งทีมเพื่อไปหาขวัญกมล เธอร้องไห้หวาดกลัว พัสกรเกือบไปไม่ทันงานแข่งขัน พัสกรตามที่งานประกวดในวินาทีสุดท้าย เด็กๆ ที่เต้นอยู่เริ่มยิ้มออกมา มีกำลังใจ ทำให้ในที่สุดก็ได้เป็น 3 ทีมสุดท้าย โดยเป็นทีมที่มีคะแนนสะสมน้อยสุด ภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นว่าผู้หญิงที่ทำร้ายขวัญกมล ซึ่งเป็นผู้หญิงคนเดียวกับที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ นิรุตติ์พยายามตามหาว่าเป็นใคร ขวัญกมลยังคงหวาดกลัวกับเรื่องที่เกิดขึ้น เธอฝันร้ายแทบทุกคืน เธอขอให้เขาพาเธอไปอยู่ต่างประเทศ เริ่มต้นชีวิตกันใหม่ พัสกรคิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุ เขาจึงไม่สามารถปฏิเสธขวัญกมลได้ พัสกรตั้งใจถอนตัวจากการเป็นครูสอน เขาขอร้องให้จันทิมาดูแลทีมต่อ แหวนพลอยเสียใจมากที่เขาจะทิ้งทีมไปกลางคัน ทั้งคู่ทะเลาะกัน แหวนพลอยหนีเขากลับไปอยู่ต่างจังหวัด พัสกรเองก็เสียใจเช่นกัน แต่เขาก็ไม่ได้ตามเธอไป เพราะถึงแม้การได้ฝ่าฝันอุปสรรคมาด้วยกัน จะทำให้เขาตระหนักว่าเริ่มคิดกับแหวนพลอยมากกว่าน้องสาว แต่เขาก็ไม่อาจรักเธอได้... เขามีขวัญกมลอยู่แล้ว วันแข่งรอบชิงชนะเลิศใกล้เข้ามา แต่ทีมเต้นของพัสกรกลับยิ่งมีปัญหา เด็กๆ เริ่มทะเลาะกันเอง ผู้ปกครองก็มาดึงตัวเด็กกลับไป ปัญหารุมเร้ามากมาย คล้ายว่าทีมจะต้องจบแค่นั้น แหวนพลอยถึงแม้จะเสียใจมาก แต่เธอก็ไม่อาจตัดใจจากพัสกรและเด็กๆ ในทีมได้ได้ แหวนพลอยเช่าห้องถูกๆ อยู่แถวโรงเรียนของพัสกร ด้วยความคิดถึง เธอจึงแอบมาที่โรงเรียนพัสกรตอนกลางคืน ทำให้เจอกับคนร้ายที่เอาเลือดมาละเลงกระจกที่โรงเรียน แหวนพลอยถูกทำร้าย ก่อนที่คนร้ายจะหนีไป พัสกรเป็นห่วงแหวนพลอยมาก แต่เขากลับไล่ให้เธอกลับบ้าน แหวนพลอยยิ่งเจ็บช้ำ แต่พัสกรเจ็บกว่า เขาไม่อยากให้ใครอยู่ใกล้เขา จนเป็นเหตุให้ต้องเดือดร้อนอีก พัสกรขอร้องให้จันทิมาซึ่งมาสอนเด็กๆ ที่โรงเรียน ไปส่งแหวนพลอยที่ท่ารถ นิรุตติ์พบตุ้มหูข้างเดียวในที่เกิดเหตุ เขาเอาให้พัสกรดู พัสกรจำได้ทันทีว่าเป็นของจันทิมา เขาร้อนใจมาก รีบขับรถตามจันทิมาไป เมื่อได้เจอแหวนพลอยที่ท่ารถ พัสกรเข้าไปกอดแหวนพลอยทันทีที่เห็นว่าเธอปลอดภัย ขณะที่จันทิมางงว่าเกิดเรื่องอะไร นิรุตต์จึงเชิญเธอไปที่สถานีตำรวจ จันทิมายอมรับว่าตุ้มหูนั้นเป็นของเธอจริงๆ แต่เมื่อวันก่อนมันหายไปหนึ่งข้าง ตอนที่เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องแต่งตัว ทุกคนมีสิทธิ์ขโมยได้ เพราะทุกคนที่ใกล้ชิดรู้ว่านี่เป็นตุ้มหูที่แฟนเก่าเธอซื้อให้ และเธอใส่ติดหูเป็นประจำ นิรุตติ์ฟัง แต่ยังไม่เชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ จนจันทิมาได้เห็นรูปผู้หญิงที่มาสาดเลือดที่โรงเรียนพัสกร จันทิมาตกใจเพราะจำได้ว่าเคยเห็นชุดแบบนี้ที่ไหน ขณะที่คนของนิรุตติ์ก็รายงานว่า ขวัญกมล อุทินเทพ เปลี่ยนชื่อและนามสกุลใหม่ จากเดิมชื่ออินตรา รื่นทิวา แต่เขายังไม่มั่นใจว่าเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดหรือเปล่า แต่จันทิมาคุ้นๆ หูกับชื่อนี้ แต่ก็นึกไม่ออก ขวัญกมลตกใจมากเมื่อรู้ว่าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับแหวนพลอย เธอสงสารแหวนพลอยที่ต้องมารับเคราะห์ไปด้วย ยิ่งพูด ก็ยิ่งทำให้พัสกรรู้สึกผิด เขาไม่อยากให้ใครใกล้ชิดเขาอีกแล้ว พัสกรหลบไปหาครู คืนนั้นเอง มีคนร้ายลอบเข้ามา ทำร้ายแหวนพลอยที่นอนอยู่ที่โรงเรียน คนร้ายพยายามใช้หมอนปิดปากปิดจมูกไม่ให้แหวนพลอยหายใจ แหวนพลอยเกือบตาย แต่แล้วนิรุตติ์กับพัสกรก็เข้ามาช่วยไว้ได้ นิรุตติ์ประกาศว่ารู้เรื่องทั้งหมดแล้ว เรียกคนร้ายว่าเต้ เต้เองก็ตกใจ ที่ทุกคนรู้ว่าเต้ปลอมตัวเป็นผู้หญิง เต้เป็นคนวางระเบิด เต้รีบดึงแหวนพลอยมาเป็นตัวประกัน เกิดการต่อสู้กัน ในที่สุดเต้ก็ถูกตำรวจจับ พัสกรโผเข้ากอดแหวนพลอยอีกครั้งด้วยความดีใจที่เธอไม่เป็นอะไร โดยที่ขวัญกมลก็เห็นภาพนั้นเต็มตา แต่ขวัญกมลไม่ได้ฟูมฟายเสียใจ เธอถามพัสกรว่ารักแหวนพลอยมากใช่ไหม เธอดูออก เธอไม่อยากรั้งพัสกรเอาไว้ ขวัญกมลพร้อมจะเข้าใจและจากไปอย่างสวยๆ ทุกคนเข้าใจว่าเรื่องจบ แต่แล้วในวันแข่งขันชิงชนะเลิศ แหวนพลอยกลับหายตัวไป พร้อมกับจดหมายที่เขียนขู่ว่าห้ามทีมของพัสกรแข่งขัน ไม่อย่างนั้นแหวนพลอยต้องตาย พัสกรต้องเลือกคนที่เขารัก กับทีมที่เขาปั้นมา ขวัญกมลแนะนำให้พัสกรเลือกแหวนพลอย ไม่อย่างนั้นคนที่เขาต้องตายอีกเพราะเขา นิรุตติ์พยายามสอบปากคำเต้ แต่เขาก็ไม่ปริปากบอกสักคำว่าเขาทำทั้งหมดไปเพราะอะไร นิรุตติ์จึงสืบที่บ้าน ทำให้พบหลักฐานบางอย่าง นิรุตติ์รีบร้อนจะไปหาพัสกร เจอกับจันทิมา จันทิมามาบอกว่าเธอจำได้แล้วว่าอินตราคือใคร สิ่งที่จันทิมาเล่า ยิ่งทำให้นิรุตติ์มั่นใจ อินตราหรือขวัญกมลเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง นิรุตติ์เข้ามาก่อนที่พัสกรจะถอนตัวจากการแข่งขัน ความจริงกระจ่าง อินตรานั้นเคยเป็นนักเรียนเต้นคนหนึ่ง เคยเป็นหนึ่งในผู้มีสิทธิ์สอบคัดเลือกไปเรียนต่อที่อเมริกา แต่ทว่าเธอไม่ผ่าน และสองในสามของคณะกรรมการ ก็คือจันทิมาและพัสกร นิรุตติ์นำหลักฐานว่าขวัญกมลกับเต้เคยคบหากัน ขวัญกมลถูกไล่ต้อนจนโพล่งออกมาว่าเธอเกลียดพัสกรแค่ไหน ไม่ใช่แค่ว่าเขาทำให้เธอพลาดโอกาสไปเรียนต่อ แต่เขาทำลายชีวิตเธอ ก่อนหน้าที่เธอจะออดิชั่น เธอประทับใจในตัวพัสกรมาก เขาเป็นเหมือนไอดอลของเธอ เธอพยายามฝึกซ้อมเพราะหวังจะเป็นแบบเขา แต่เขากลับให้เด็กอีกคนที่เธอคิดว่าเต้นสู้เธอไม่ได้ ผ่านการคัดเลือก ส่วนเธอนั้นเขาบอกว่าให้กลับไปซ้อมมาใหม่ เธอเสียใจมาก แถมยังถูกตำหนิอย่างรุนแรงจากบิดา ความมึนเมาประกอบกับอารมณ์โกรธ ทำให้บิดาของเธอขับรถเสยท้ายรถบรรทุก บิดาเสียชีวิคาที่ ขวัญกมลรอดชีวิต แต่กระดูกขาของเธอก็แตกจนไม่สามารถเต้นได้อีก เธอโทษว่าทุกอย่างเป็นความผิดของพัสกร เธอจึงร่วมมือกับเต้ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มตัวจริงของเธอ ช่วยกันทำลายพัสกรไม่ใช่แค่วางระเบิด แต่อุปสรรคทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับทีมเต้น เป็นฝีมือของเธอทั้งนั้น แต่ทั้งนั้น ขวัญกมลก็ไม่ยอมบอกว่าเธอเอาแหวนพลอยไปไว้ไหน นิรุตติ์จึงพาตัวเต้เข้ามา เต้ขอร้องให้ขวัญกมลกลับใจ โทษหนักจะได้เบาลง เขาสารภาพว่าที่ผ่านมา ถึงเขาจะอิจฉาพัสกรแค่ไหน แต่เขาก็ไม่ได้คิดจะทำร้ายเพื่อน แต่เพราะความรักที่เขามีต่อขวัญกมล ทำให้เขายอมกลายเป็นคนผิด เขาไม่อยากให้เธอเลวไปมากกว่านี้ ขณะที่พัสกรก็ขอร้อง เขาไม่อยากให้ขวัญกมลใช้ความฝันของเด็กๆ เป็นเครื่องต่อรอง เด็กๆ ฝึกซ้อมกันมาหนักเพื่อการประกวดครั้งนี้ ขวัญกมลเริ่มอ่อนลง เพราะเธอได้เห็นความฝันในแววตาของเด็กๆ มันเป็นสิ่งที่เธอเคยมี ขวัญกมลยอมแพ้ เธอยอมที่ซ่อนของแหวนพลอย พัสกรช่วยแหวนพลอยได้ และส่งทีมไปประกวดได้ทันเวลา ทีมของพัสกรชนะ ท่ามกลางความดีใจของทุกคน หลังจากเหตุการณ์ร้ายๆ ผ่านไป พัสกรเอาคลิปวิดีโอการออดิชั่นมาให้ขวัญกมลดู ให้เห็นว่าขวัญกมลพลาดตรงไหน พัสกรไม่ได้ลำเอียง ขวัญกมลเสียใจมาก เธอยอมรับว่าเธอต้องการโทษใครสักคนแต่ไม่อยากโทษตัวเอง พัสกรให้กำลังใจ หากเธอคิดได้ ความฝันก็ยังรอเธออยู่ ให้เธอกลับมาเต้นอีก เมื่อทุกอย่างคลี่คลาย โรงเรียนของพัสกรก็มีเด็กมาสมัครเพิ่มขึ้น เสียงหัวเราะของเด็กๆ ดังไม่ขาดสาย ท่ามกลางรอยยิ้มของพัสกรและแหวนพลอย
มาตุภูมิแห่งหัวใจ 2561

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก มาตุภูมิแห่งหัวใจ (2561/2018) อวัศยา นักออกแบบอัญมณีสาว ได้พบกับ เตชัส หนุ่มหล่อเพลย์บอยครั้งแรกก็ประทับใจในเสน่ห์ของเตชัสทันที แต่เมื่อรู้ว่าเตชัสมากับ มาดามเมย์ทูเอ สาวสวยเฉี่ยว ซึ่งเธอคาดว่าน่าจะเป็นคนรักของเตชัส อวัศยาจึงอดหมั่นไส้ไม่ได้ ยิ่งเมื่อได้รู้อีกว่า อณิมา แม่ของเธอได้หมั้นหมายกับลูกชายเพื่อนสนิทอย่าง เตชินี ผู้บริหารโรงแรมที่เชียงใหม่ ไว้ให้แล้ว และลูกชายของเตชินีก็คือเตชัส ยิ่งทำให้อวัศยาออกอาการไม่ปลื้มมาก เพราะข้อมูลที่เธอได้รับจากแม่คือเตชัสโสดและแสนดีมาก ขัดแย้งกับสิ่งที่เธอเห็นมากับตาสิ้นเชิง ภายในงานแสดงสินค้าระดับชาติที่จัดขึ้นที่โรงแรมของเตชินีที่เชียงใหม่ อันดามัน และ พีรพล พี่สาวและพี่เขยของอวัศยา ต้องวุ่นอยู่กับการเตรียมบู๊ทของร้านเพชรกันสองคน เพราะอวัศยาได้รับมอบหมายหน้าที่พิเศษจากประธานสมาคมอัญมณีให้ดูแลแขกคนสำคัญ คือ พลเอกดร.ทุนอู รมต.กระทรวงเหมืองแร่จากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งกำลังมีปัญหาเรื่องรัฐแสนปุระ ดินแดนที่ร่ำรวยและอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติซึ่งกำลังพยายามแยกตัวเป็นรัฐอิสระ และเมื่ออวัศยาได้พบกับภรรยาของดร.ทุนอูที่มาร่วมงานด้วยก็ต้องช็อก เพราะเธอคนนั้นก็คือมาดามเมย์ทูเอ อวัศยาจึงสรุปได้ทันทีว่าเตชัสไม่ใช่ผู้ชายแสนดีอย่างที่แม่ของเธอและแม่ของเตชัสเข้าใจ แต่เตชัสกำลังเป็นชู้กับภรรยานายพล อวัศยาคิดหาหลักฐานเพื่อยืนยันให้แม่เชื่อว่าเตชัสไม่ใช่ชายโสดแสนดี อวัศยาได้ไปเห็นช็อตเด็ดตอนที่เตชัสกับมาดามเมย์ทูเอคลอเคลียจนแทบจะจูบปากกันในที่ลับตาคน อวัศยาคิดถ่ายคลิปแฉ แต่อยู่ๆ นุนุ สาวใช้คนสนิทของมาดามเมย์ทูเอเข้ามาขวางไว้ก่อน ทำให้อวัศยาไม่ได้คลิป แถมเป้าหมายยังหายตัวไปแล้วเรียบร้อย นุนุสร้างเรื่องมาขออวัศยาให้เห็นใจมาดามเมย์ทูเอ เตชัสคือความผิดพลาดที่มาดามเมย์ทูเอต้องการจบ แต่จบไม่ได้ เพราะเตชัสมีวีดีโอที่ถ่ายเอาไว้แบล็กเมล์มาดามเมย์ทูเอ นุนุขอให้อวัศยาช่วยหลอกดึงเตชัสออกไปจากห้องเผื่อเธอจะได้ไปค้นหาภาพลับนั้นไปทำลาย อวัศยาไม่อยากเชื่อว่ามันคือเรื่องจริง แต่เมื่อได้พบเตชัสที่เข้ามาบอกว่าเขารู้ว่าถูกอวัศยาแอบตามดู และรู้ด้วยว่าอวัศยาหลงเสน่ห์เขาเข้าอย่างจัง เตชัสบอกว่าเขาก็ชอบอวัศยาไม่น้อย ถ้าอยากจะลองเรียนรู้กัน เขาก็พร้อมเสมอ อวัศยาตราหน้าเตชัสเป็นเพลย์บอยหลงตัวเองและบ้ากาม ทำให้เธอตัดสินใจจะช่วยนุนุทันที อวัศยาทำเป็นชวนเตชัสออกมาดื่มที่เล้าจน์เพื่อทำความรู้จักกัน เพื่อที่จะได้เปิดโอกาสให้นุนุเข้าไปในห้องของเตชัสเพื่อหาคลิปลับนั้นออกมาทำลาย อวัศยายั่วยวนหว่านเสน่ห์ใส่เตชัส จนเตชัสคิดเอาจริง แล้วอยู่ๆดร.ทุนอูก็เข้ามาทักทายขอดื่มกับอวัศยาด้วย อวัศยาพยายามเชิญเตชัสร่วมดื่มกับดร.ทุนอูจนผิดสังเกต ทำให้เตชัสรู้สึกได้ว่ามีอะไรผิดปกติ เตชัสรีบกลับห้อง พบว่าห้องของเขาถูกรื้อค้น แต่ไม่พบตัวคนร้าย เตชัสคาดคั้น ข่มขู่อวัศยาหนัก จนอวัศยาต้องขู่ว่าจะบอกดร.ทุนอูเรื่องที่เธอเห็นเตชัสลักลอบคบกับมาดามเมย์ทูเอ ทำให้เตชัสต้องยอมปล่อยอวัศยาไม่ทั้งๆที่ไม่เชื่อว่าอวัศยาจะไม่รู้เรื่อง อวัศยาได้รับเทียบเชิญจากดร.ทุนอูให้ไปร่วมรับประทานอาหารที่ห้องพักส่วนตัว เตชัสพยายามห้าม อวัศยาเพราะเตชัสกลัวว่าอวัศยาจะพลั้งปากบอกเรื่องเขากับมาดามเมย์ทูเอ ซึ่งอาจทำให้ดร.ทุนอูฉุน จนทำให้แผนที่เขาวางไว้ทั้งหมดพัง แต่สำหรับอวัศยา การได้เห็นเตชัสดิ้นพล่านเหมือนถูกน้ำร้อนลวกนั่นคือความสาแก่ใจยิ่งนัก อวัศยาตอบรับคำเชิญของดร.ทุนอูทันที ดร.ทุนอูจีบอวัศยาอย่างเปิดเผย และชักชวนให้ไปลงทุนทำร้านเครื่องประดับเพชรที่ประเทศของตน อวัศยาแบ่งรับแบ่งสู้ อ้างว่าดร.ทุนอูมีภรรยาแล้ว แต่ดร.ทุนอูยืนยันว่ามาดามเมย์ทูเอไม่มีปัญหาแน่นอน ดร.ทุนอูถามว่าอวัศยามีคนรักอยู่แล้วหรือเปล่า? ใช่เตชัสหรือเปล่า? อวัศยาจึงเลียบๆเคียงๆถามเรื่องของเตชัสกับดร.ทุนอู จนเธอสัมผัสได้ถึงความเหี้ยมแบบฉบับนายพลที่ไม่น่าไว้วางใจ พันตรีนพ.อติศักดิ์ มาพบเตชัสเพื่อหารือเกี่ยวกับขบวนการขนยาเสพติดและกองกำลังติดอาวุธกู้ชาติรัฐแสนปุระ ที่ทางการกำลังสงสัยว่าดร.ทุนอูจะมีเอี่ยวในขบวนการนี้ด้วย อวัศยาผ่านมาได้ยินเรื่องที่คุยนั้นพอดีจึงหาโอกาสมาซักเตชัสว่าเขาเป็นใครกันแน่ แต่เตชัสบ่ายเบี่ยงเลี่ยงที่จะตอบด้วยการทำเพลย์บอย ยิ่งทำให้อวัศยาสงสัยและอยากรู้มากขึ้นไปอีก จนอวัศยาไปเห็นดร.ทุนอูออกไปกับขบวนรถยี่ห้อเดียวกับที่ได้ยินนพ.อติศักดิ์บอกกับเตชัส อวัศยาจึงตัดสินใจขับรถสะกดรอยตามดร.ทุนอูไป อวัศยาขับรถตามไปจนออกนอกเมือง สุดท้ายก็คลาดกันกับขบวนรถดร.ทุนอู แต่อวัศยากลับไปเห็นรถของเตชัสแล่นผ่านไปอีกทาง จึงเปลี่ยนเป้าหมายมาตามเตชัส จนไปถึงป่าชายแดน เตชัสรู้ตัวว่าถูกสะกดรอย เลยดักจับอวัศยาได้ แต่อยู่ๆมีกลุ่มคนงานขนยาเสพติดเข้ามายิงกระสุนใส่เป็นห่าฝน เตชัสต้องรีบพาหนี อวัศยาหกล้มขาแพลง เตชัสแบกพาเธอหนีเข้าไปในป่าลึก เตชัสพาอวัศยาไปค้างคืนในถ้ำบนหน้าผา อวัศยาหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน อณิมาร้อนใจที่อวัศยาหายตัวไป ไปขอความช่วยเหลือจากเตชินีและ พลโทอิสริยะ สามีของเตชินี ซึ่งมีตำแหน่งเป็นแม่ทัพภาค รวมถึง ร้อยตำรวจเอกเมธัส ลูกชายคนเดียวของ พลตำรวจเอกมงคล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ พลตำรวจเอกมงคลเป็นห่วงอวัศยามาก เพราะเธอคือหลานสาวคนเดียวที่พี่ชายของเขาฝากฝังไว้ ส่วนเมธัสก็เป็นห่วงเพราะอวัศยาคือคนที่เขารักมาตั้งแต่เด็ก วันรุ่งขึ้น เตชัสแบกอวัศยาที่ยังขาเจ็บขึ้นหลังแล้วพาออกจากป่า เตชัสดูแลปกป้องและให้ความมั่นใจว่าจะพาอวัศยากลับบ้านอย่างปลอดภัยให้ได้ ทำให้อวัศยาเชื่อมั่นในตัวผู้ชายที่เธอหมั่นไส้แต่อยากอยู่ใกล้คนนี้ ระหว่างทางเมื่อเธอถามถึงสาวๆในชีวิตของเขา เตชัสก็เล่าให้ฟังถึง โฮป สาวลูกครึ่งที่เคยเป็นแฟนของเตชัสในสมัยวัยรุ่น แต่เธอตายเพราะถูกลูกหลงของแก๊งค์วัยรุ่นที่ยกพวกตีกันในแอลเอ โดยเฉพาะ ดีน เซแกน ลูกชายหัวหน้ามาเฟียที่เคยเป็นเพื่อนสนิทเขา แต่ดีนกลับข่มเหงโฮปทั้งๆที่รู้ว่าเป็นแฟนของเตชัส จนอวัศยาเข้าใจใจ เห็นใจ และรู้สึกดีกับผู้ชายคนที่เธอเคยหมั่นไส้แบบสุดคนนี้ แต่อยู่ๆกองกำลังติดอาวุธบุกเข้ามาปะทะ อวัศยากลัวตายถึงที่สุด แต่เตชัสสามารถจัดการพวกมันได้หมด เขาปกป้องเธอได้อย่างที่พูดจริงๆ อวัศยาผวาเข้ากอดเตชัสอย่างลืมตัว ความใกล้ชิดและความประทับใจทำให้อวัศยาเผลอตัวและเปิดใจยอมรับเตชัส เตชัสเองก็ห้ามใจไม่ไหว ผืนป่าและสายน้ำจึงกลายเป็นห้องหอของคนทั้งคู่ไปในที่สุด เมื่ออวัศยายอมรับเตชัสแล้ว เตชัสจึงบอกให้เธอรู้ว่าเขาเป็นทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจพิเศษที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและขบวนการกู้ชาติรัฐแสนปุระ เตชัสขอให้เธอปิดเป็นความลับ เพราะผู้ต้องสงสัยบางคนอาจจะเป็นคนที่เธอรู้จักดี เตชัสยังบอกด้วยว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอก็ต้องเป็นความลับด้วยเพื่อความปลอดภัย อวัศยายอมรับอย่างว่าง่าย เมื่อเตชัสพาอวัศยามาส่งบ้านได้อย่างปลอดภัย ระหว่างทางกลับ เตชัสถูกคนของดร.ทุนอูดักรวบตัวไป ดร.ทุนอูรู้ความจริงเรื่องที่เตชัสเป็นทหารหน่วยพิเศษ คาดคั้นเตชัสเพราะอยากรู้สาเหตุที่เตชัสเข้ามาทำทีเป็นนักธุรกิจที่สนใจการลงทุน แต่มาดามเมย์ทูเอออกตัวปกป้องเตชัส บอกว่าตนเองรู้แต่แรกแล้วว่าเตชัสคือทหารหน่วยพิเศษ เพราะข่าวต่างๆที่เกี่ยวกับทางการไทยก็ได้มาจากเตชัสทั้งนั้น แต่ที่ไม่บอกเรื่องนี้ให้ใครทราบเพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหา แต่ดร.ทุนอูหาว่ามาดามเมย์ทูเอหลงเสน่ห์เตชัส อาจจะเป็นพวกเดียวกันที่วางแผนหักหลัง ดร.ทุนอูสั่งฆ่าทั้งเตชัสและมาดามเมย์ทูเอเพื่อตัดปัญหา แต่นุนุเข้ามาห้าม และเปิดเผยให้เตชัสได้รู้ว่าแท้จริงแล้วนุนุคือเจ้าก้อนแก้ว ลูกสาวคนเล็กของ เจ้าอินทร์ ถูกทหารของรัฐบาลกลางแสนปุระยิงตาย เธอมีพี่ชายชื่อ เจ้าแก้วอิน ผู้นำของกองกำลังติดอาวุธกู้ชาติของรัฐแสนปุระคนปัจจุบัน ส่งเสริมการปลูกฝิ่นเพื่อหาเงินสะสมอาวุธไว้ต่อต้านรัฐบาลกลาง เตชัสได้รู้ว่าสิ่งที่ดร.ทุนอูทำทั้งหมด ไม่ใช่แค่การสนับสนุนการขนยาเสพติดเพื่อให้ค้าขายอาวุธให้กับกองกำลังกู้ชาติ มันไม่ใช่แค่เรื่องสร้างรายได้ แต่จริงๆแล้วเป็นเพราะดร.ทุนอูรักและมีใจให้กับเจ้าก้อนแก้วคนเดียว ที่ต้องแต่งงานกับมาดามเมย์ทูเอก็เพื่อผลทางการเมือง แต่ไม่ใช่ความรัก เจ้าก้อนแก้วบอกว่าเราจำเป็นต้องใช้ความสามารถของเตชัสเพื่อสนับสนุนด้านการข่าว ดร.ทุนอูยอมให้โอกาสเตชัสอีกครั้งตามที่เจ้าก้อนแก้วต้องการ แต่มีข้อแลกเปลี่ยนว่าเตชัสจะต้องพิสูจน์ความจริงใจ ดร.ทุนอูบัญชาให้เตชัสไปปล่อยข่าวลวงเพื่อล่อหลอกให้พลโทอิสริยะและนพ.อติศักดิ์มาติดกับ เตชัสรู้ดีว่าถ้ายอมทำตามคำสั่งของดร.ทุนอู เท่ากับเขากำลังจะลากพ่อแท้และเพื่อนรักให้มาตาย แต่เตชัสไม่มีทางเลือก เขาจำต้องปล่อยข่าวลวง โดยแอบแทรกโค้ดลับไปด้วย นพ.อติศักดิ์สังเกตเห็นโค้ดลับ รู้ได้ว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น รีบรายงานพลโทอิสริยะ พลโทอิสริยะรู้ดีว่าทางออกของสถานการณ์นี้มีไม่มากนัก พลโทอิสริยะจึงตัดสินใจไปตามข่าวลวง และถูกยิงจนเสียชีวิต เตชัสและนพ.อติศักดิ์รู้ดีว่าพลโทอิสริยะตั้งใจจะเสียสละตัวเองเพื่อรักษาภารกิจที่เตชัสกำลังปฏิบัติอยู่ มันคือภารกิจเพื่อชาติที่ต้องสำเร็จเท่านั้น เตชัสต้องฝืนทำเย็นชา ไม่รู้สึกรู้สากับการเสียชีวิตของพ่อ เพื่อให้ได้รับความไว้ใจจากดร.ทุนอู อวัศยาที่รู้เรื่อง รีบมาหาเตชัส อยากรู้ความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เตชัสเย็นชาใส่ พยายามกันให้อวัศยาอยู่ห่างจากตน อวัศยาดื้อ เพราะอยากช่วยเหลือเตชัส อวัศยาถึงกับไปหาข้อมูลเกี่ยวกับรัฐแสนปุระมาแล้ว เธออยากช่วยอะไรเตชัสบ้าง ไม่ให้มาใกล้กันอีกเพราะไม่อยากให้มีอันตราย โดยไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนจับตาดูอยู่ จนเมื่อเตชัสแยกออกไปแล้ว เหลือแค่อวัศยาเพียงลำพัง ดีน เซแกนก็ปรากฎตัวมาจับอวัศยาไป เตชัสกลับไปเยี่ยม ครูจันทรา ที่บ้าน ครูจันทราให้สติเตือนใจให้เตชัสโฟกัสที่เป้าหมายของพ่อ และอย่าให้การเสียสละของพ่อเปล่าประโยชน์ จนเตชัสมีกำลังใจดีขึ้น แล้วเตชัสก็ได้รับโทรศัพท์จากดร.ทุนอู ดร.ทุนอู มาดามเมย์ทูเอ และเจ้าก้อนแก้ว แนะนำให้เตชัสรู้จักกับดีน เซแกนที่มาในฐานะพ่อค้าคนกลางในการซื้อขายยาเสพติด เตชัสรู้จักดีนเป็นอย่างดี ยิ่งพอรู้ว่าดีนจับเอาตัวอวัศยามา เตชัสถึงกับตบะแตก คว้าโต๊ะฟาดดีน และวางมวยกันทันที สาเหตุที่ดีนจับตัวอวัศยามา เพราะไม่ไว้ใจเตชัสว่าจะหักหลังประเทศไทยได้ เจ้าก้อนแก้วกับดร.ทุนอูสั่งดีนให้เลิกสนใจอวัศยาแล้วมาเจรจาการค้าก่อน เมื่อเสร็จสิ้นการเจรจาธุรกิจ ดีน เซแกนก็ลักลอบเอาตัวอวัศยาหนีหายไป เตชัสหลบดร.ทุนอู มาดามเมย์ทูเอ และเจ้าก้อนแก้วออกไปเพื่อช่วยเหลืออวัศยา โชคดีที่เมธัสและ นพ.อติศักดิ์ไปถ่วงเวลาดีน เซแกนไว้ก่อน ทำให้อวัศยายังคงปลอดภัย เมื่อเตชัสมาเจอดีน เซแกนอีกครั้ง จึงได้คิดบัญชีครั้งเก่ากัน และผลสุดท้าย ดีน เซแกนพลาดท่าเสียชีวิต เตชัสต้องปิดบังดร.ทุนอูไม่ให้รู้เรื่องการตายของดีน เซแกน เพราะนั่นแปลว่าจะขาดพ่อค้าคนกลางในการสั่งซื้อยาเกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้เตชัสถูกจับได้ว่าไม่ได้ซื่อตรงกับพวกดร.ทุนอู เตชัสหลอกว่าทุกอย่างดำเนินไปตามแผนการอย่างราบรื่น เตชัสส่งข่าวลวงหลอกทหารไทยให้หลงทาง เพื่อเปิดโอกาสให้ลำเลียงขนยามาได้ แต่แล้วทหารไทย นำทีมโดย พันเอกธนา ก็พากองกำลังบุกสกัดเส้นทางการลำเลียงยาเสพติด เกิดการยิงปะทะกันขึ้น ดร.ทุนอูเห็นสถานการณ์ไม่ดี จึงพาเจ้าก้อนแก้วหลบหนีไปที่ช่องทางลับ อามงคลถูกพันเอกธนา อติศักดิ์ และเมธัสหลอกให้เปิดเผยตัวว่าแท้จริงแล้วเขาคือคนที่สนับสนุนขบวนการกู้ชาติของดร.ทุนอูและเจ้าก้อนแก้ว อามงคลถูกจับเพราะเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด เช่นเดียวกับมาดามเมย์ทูเอที่ถูกรวบตัวดำเนินคดีเช่นกัน ทันทีที่ดร.ทุนอูและเจ้าก้อนแก้วโผล่ออกมาจากช่องทางลับ ก็ถูกทหารไทยล้อมเอาไว้ทุกด้าน หมดหนทางหนี เตชัสเห็นใจที่เจ้าก้อนแก้วมีอุดมการณ์เพื่อชาติอย่างแน่วแน่ แต่เขาไม่เห็นด้วยการวิธีการค้ามนุษย์และค้ายาเสพติด เพราะเจ้าพยายามกู้ชาติของตัวเองด้วยการทำลายชาติอื่น สุดท้าย เจ้าก้อนแก้วและดร.ทุนอูยิงปะทะ ดร.ทุนอูได้แสดงความรักปกป้องเจ้าก้อนแก้วจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต เพื่อพิสูจน์ให้เจ้าก้อนแก้วเห็นว่าเขารักเจ้าก้อนแก้วแท้จริงมากเพียงใด ส่วนเจ้าก้อนแก้ววิ่งเตลิดหนีหายเข้าไปในป่าจนตกหน้าผา ไม่รู้เป็นหรือตาย เมื่อทุกอย่างคลี่คลาย อวัศยาปลอบใจเมธัสที่ถูกเรียกสอบเกี่ยวกับการกระทำของพ่อ และคาดว่าจะถูกให้ออกจากราชการ แต่เมธัสก็ยินดีรับผลทุกอย่าง อวัศยาดีใจที่รู้ว่าเตชัสไม่ใช่คนร้าย เขาไม่ใช่คนขายชาติ เธอดีใจที่รู้ว่าไม่ได้มอบหัวใจให้ผู้ชายผิดคนทั้งคู่ปรับความเข้าใจกัน จนในที่สุด เมื่อรักเข้าใจรัก อวัศยาก็ยอมให้เตชัสสวมแหวนหมั้นที่เธอถอดคืน ใส่ลงนิ้วนางข้างซ้ายของเธออีกครั้ง ข่าวการจับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่กลายเป็นข่าวใหญ่ในวันรุ่งขึ้น สำนักข่าวต่างๆ รายงานว่าเป็นความร่วมมือของทางการข่าวของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน หน่วยงานดีเอสไอ หน่วยตชด. และทหารพรานในพื้นที่ ไม่มีใครเอ่ยถึงชุดปฏิบัติการพิเศษ หน่วยงานลึกลับที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในครั้งนี้เลย แต่อวัศยารู้ดีว่าวีรบุรุษที่อยู่เบื้องหลังก็ไม่ต้องการที่จะเปิดเผยตัว แต่พร้อมเสมอที่จะเสี่ยงตาย พร้อมเสมอที่จะปกป้องเธอและประเทศชาติ.. แม้จะไม่มีใครรู้เลยก็ตาม

บุษบาเร่ฝัน 2559

บุษบาเร่ฝัน (2559/2016) “ซุ่ย-บุษบา แก้วเกิด” (มาร์กี้-ราศรี บาเลนซิเอก้า) สาวโลกสีเทา จืดชืด มองตัวเองว่าไร้ความสวย ไม่รวย ขาดเสน่ห์ แต่งตัวเชย ทำงานไม่เก่ง โรส (มะลิ-มาลินี โคทส์) สาวโลกสีแดงสดใส มั่นใจ เป็นนักการตลาดมือทอง สวย รวย ฉลาด ทำงานเก่ง พูดภาษาอังกฤษเป็นไฟ ใครๆ ก็ชื่นชม แวนด้า (จ๊ะจ๋า-พิมพ์รตา เดชอุดม) สาวโลกสีม่วง เซ็กซี่ เย้ายวน แต่มักได้ทุกอย่างจากการเอาตัวเข้าแลก กอหญ้า (พลอย-ภัทรากร ตั้งศุภกุล) สาวโลกสีเขียว สดใส น่ารัก หวาน ลูกคุณหนูที่มองทุกมุมในโลกแง่ดีเสมอ รังสิต (ชาคริต แย้มนาม) หนุ่มนักออกแบบผลิตภัณฑ์เนื้อหอม หล่อ เท่ห์ สมาร์ท ฉลาด เป็นผู้ชายในสเปคของสาวๆ และซุ่ยก็หลงรักตั้งแต่แรกเห็น ชฎา (สุ่ย-พรนภา เทพทินกร) หัวหน้าปากร้าย บ้างาน จอมเหวี่ยง เบลล่า ยาย่า สมบูรณ์ แก๊งค์ขาเมาท์บันลือโลกและนี่ที่ทำงานและคือโลกของซุ่ย...!!! “ซุ่ย” ชอบเปรียบเทียบชีวิตตัวเองกับคนอื่น มองตัวเองด้อยค่าน่าเบื่อ อาม่า (มี้-พิศมัย วิไลศักดิ์), แม่ (ไก่-สุปราณี เจริญผล), หลิว (ชาเล็ต วาศิตา แฮเมเนา) ต้องคอยรั้งความคิดของซุ่ย เฮียป้อง (ไม้-วฤษฐิ์ ศิริสันธนะ) รุ่นพี่ที่ชอบซุ่ยมาตั้งแต่สมัยมัธยม มีอาชีพเป็นอาจารย์พิเศษที่มหาวิทยาลัย แต่มาเช่าที่บ้านซุ่ย ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ตัวเองรัก เพื่อทำธุรกิจร้านต้นไม้ ซึ่งเป็นอีกสิ่งที่เขารักเช่นกัน เฮียป้องเป็นที่รักของทุกคนในบ้าน ยกเว้นซุ่ย ทำให้ คมน์ (อ้น-ศราวุธ มาตรทอง) เพื่อนรักเฮียป้อง อยากให้ป้องปกเลิกรักซุ่ยเสียที ความวุ่นวายระเบิดขึ้น เมื่อ “ชฎา” ให้ทุกคนไปฟังสัมมนา ซึ่งมี ดร.ถ้วยทอง (ตู่-นพพล โกมารชุน) นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ มีพลังพิเศษเหนือธรรมชาติ...ในสัมมนา ซุ่ยโชคดี ได้นั่งติดกับรังสิต หนุ่มที่ตัวเองหลงรัก รังสิตให้ซุ่ยสอนพับดอกไม้ แล้วรังสิตก็พับให้ซุ่ย...แต่ในวันต่อมาซุ่ย กลับเห็นดอกไม้รังสิต เหน็บติดอยู่กับขวดน้ำส้มของโรส ซุ่ยเจ็บหัวใจยิ่งนัก เมื่อรู้ว่า รังสิตชอบโรส...!!! ซุ่ยคิดแต่เรื่องรังสิต ทำงานผิดพลาด ถูกชฎาด่าประจานต่อหน้าทุกคนจนซุ่ยหนีไปร้องไห้ในห้องน้ำ โรสตามไปปลอบ ซุ่ยจึงระเบิดความเหนือกว่าของโรส ทำให้โรส “ท้าแลกชีวิต” ...ดร.ถ้วยทองปรากฏตัว และมอบสิทธิ์นั้นให้ซุ่ย ซุ่ยกลับบ้านดึก เฮียป้องออกตามหา แม่ต่อว่าและเผลอตบหน้า ซุ่ยเสียใจมากโทษทั้งหมดเป็นเพราะเฮียป้อง จึงหนีขึ้นไปนอน... แต่เมื่อตื่นขึ้นมา ทุกอย่างเปลี่ยนไป ซุ่ยพบตัวเองเป็นโรส...ใส่เสื้อผ้าหรูหรา ขับรถแพงไปทำงาน ได้รับการยอมรับจากทุกคน แล้วได้เห็นโรสเป็นตัวซุ่ยใช้ชีวิตกับทุกคนในครอบครัวซุ่ยแทน ที่ประชุมวันต่อมา ซุ่ยในร่างโรส พูดภาษาอังกฤษเป็นไฟ รังสิตปลื้มความเก่งของซุ่ย และซุ่ยก็รู้แล้ว ว่าโรสทำงานเหนื่อยและหนักมาก จนไม่มีเวลาแม้จะสวีทกับรังสิต ฉะนั้น เมื่อกลับจากงานที่ต่างประเทศ เธอก็พยายามให้เวลารังสิต แต่กลับพบว่า รังสิตปันใจไปเสียแล้ว...ซุ่ยเริ่มผิดหวังกับความเป็นโรส ความเจ็บปวดรวดร้าวถาโถม... เธอกลับไปที่บ้านตัวเอง แต่ไม่มีใครรู้จักเธอ โดยเฉพาะเฮียป้อง ซึ่งไม่สนใจความสวยของโรสที่ยืนอยู่ตรงหน้า เธอโมโหมากและเด็ดใบลั่นทม ต้นไม้ที่เฮียป้องซื้อและปลูกให้ซุ่ยเป็นของขวัญวันเกิด ก่อนจะแก้ตัวว่าเป็นใบที่เพลี้ยกิน เฮียป้องแปลกใจ ว่าทำไมโรสนิสัยเหมือนซุ่ย เธอยังแปลกใจว่า ทำไมเฮียป้องไม่สนใจสาวสวย...!!!อย่างโรส ณ ที่ทำงาน...โต๊ะของโรสเปลี่ยนไป ไร้น้ำส้มและดอกกุหลาบพับ ทุกคนซุบซิบ “โรสดวงตก” เสียแล้ว น้ำหวาน (ดาว-พิมพ์ทอง วชิราคมน์) เพื่อนจอมเสียบ เตรียมแย่งทั้งงานและคนรัก ซุ่ยเริ่มตระหนัก “ชีวิตโรสไม่เพอร์เฟคเสียแล้ว” จนต้องพึ่งยานอนหลับ น้ำหวานจับกลุ่มนินทาโรสในห้องน้ำ ซุ่ยได้ยิน... แวนด้า ทนไม่ไหว ออกมาแก้ต่างให้โรส จนทุกคนกระเจิง ซุ่ยชักเริ่มไม่แน่ใจ ว่าโรสใช่คนที่ควรอิจฉาหรือไม่ ??? ระหว่างขับรถกลับบ้าน ซุ่ยคิดถึงแวนด้า สาวสวย-มั่นใจ-ไม่แคร์ใคร อยากเหมือนแวนด้า...!!! เธอเคลิ้มไปกับความคิด สะดุ้งอีกทีเมื่อมีเสียงเรียกจาก เจ๊ซ่า (ปั๋ง-ประกาศิต โบว์สุวรรณ) ผู้จัดการส่วนตัว ที่มาเรียกเธอให้ไปแคสงาน เธอรีบคว้ากระจกมาดูตัวเอง และตกใจ...!!! เมื่อพบว่าตัวเองคือ แวนด้าไปแล้ว ส่วนแวนด้า ก็ไปอยู่ในร่างซุ่ย และโรสก็กลับไปเป็นโรส คนเดิม แวนด้า ได้รับคัดเลือกถ่ายโฆษณาชุดวาบหวิว จากการบริหารเสน่ห์ ใส่เจ้าของผลิตภัณฑ์ ทั้งที่แคสงานไม่ได้เรื่อง...ซุ่ยคิดว่า การเป็นแวนด้า ทำให้ทุกอย่างในชีวิตง่ายขึ้น แม้แต่ขับรถชนท้ายคมน์ ดาราหนุ่มหล่อจับใจ แต่ก็มาหลงเสน่ห์แวนด้าจนได้ ซุ่ยชอบมากในร่างนี้ แวนด้าลาออกจากงาน และจะมีผลในอีก 15 วันถัดไป เพื่อไปเข้าวงการบันเทิง ซุ่ยอิจฉาว่าแวนด้าเป็นคนที่สมหวังในความฝันตัวเอง ระหว่างนี้ ซุ่ยเห็นแวนด้าใช้ชีวิตกลางคืนมากกว่ากลางวัน จนร่างกายเสื่อม ซุ่ยช่วยถนอมร่างแวนด้า และทำให้สวยเซ็กซี่เหมือนที่ผ่านมา ณ กองถ่ายละคร แวนด้ารับบทคู่คมน์ คมน์ส่งสายตากรุ้มกริ่มจีบแวนด้า ขณะเดียวกัน อรรคฒ์ (จาตุรงค์ มกจ๊ก) ผู้บริหารผลิตภัณฑ์ก็ทำตาเจ้าชู้ใส่ ซุ่ยจำต้องเออออห่อหมกไปตามน้ำ...แต่คนเดียวที่เฉยๆ กับความสวยของแวนด้า คือเฮียป้องที่มารับงานตกแต่งต้นไม้ในฉาก อรรคฒ์ตามมาทวงสัญญาที่แวนด้าให้ไว้ ว่าจะมอบกายและใจให้เมื่อได้งาน อรรคฒ์เข้ามากอดจูบ-จับทุกส่วน ซุ่ยในร่างแวนด้ารับไม่ได้ เผลอตีเข่าเขย่าศอกจนอรรคฒ์น่วม ก่อนจะหนีขึ้นแท็กซี่เพียงชุดคลุมบางๆ ไร้เงินติดตัว แท็กซี่จึงอยากได้ตัวเป็นค่ารถ เธอต้องวิ่งหนีอีกรอบ ไปหา รปภ.และได้กลับเข้าบ้านปลอดภัย แต่ภายในบ้าน ยังพบ พ่อ (สมภพ เบญจาธิกุล) นายทหารเฒ่าบ้ากาม รออยู่ ซุ่ยพบว่า แวนด้ามีความลับเรื่องคาวโลกีย์มากมาย และคนที่มีสัมพันธ์สวาทด้วยอีกคนก็คือรังสิต นั่นเองซุ่ยผิดหวังในตัวแวนด้า ส่วนแวนด้าในร่างซุ่ย กลายเป็นคนละคน ไม่ทะเลาะกับเฮียป้องเหมือนเคย แต่แวนด้าในร่างซุ่ย เริ่มอ่อนแอลง หลับนานขึ้น เฮียป้องเฝ้าดูแลใกล้ชิด ซุ่ยกลับมาเยี่ยมแวนด้าในร่างตัวเอง เฮียป้องแปลกใจที่รู้ว่า แวนด้าเป็นเพื่อนกับซุ่ย ซุ่ยในร่างแวนด้า ลองใจยั่วยวนเฮียป้อง แต่เฮียป้องก็ไม่สน ทำให้ซุ่ยย้อนนึกถึงรักครั้งแรกของเธอกับเฮียป้อง ที่เริ่มจากการเป็นพี่น้องรหัส แต่เฮียป้องดูแลเธอและครอบครัวอย่างดี ทั้งคู่จึงตกลงเป็นแฟนกันในวันวาเลนไทน์ เฮียป้องเสมอต้นเสมอปลายมาตลอด ซุ่ยกุเรื่องให้เฮียป้องหึง ว่ามีชายอื่น จนได้เลิกกันจริงๆ ทั้งที่ซุ่ยคือรักเดียวของเฮียป้อง ซุ่ยไม่อยากอยู่ในร่างแวนด้าแล้ว ซุ่ยกลับไปหาโรสที่บริษัท เห็นโรสโยนขวดน้ำส้มที่รังสิตเอามาง้อทิ้ง เพราะสงสัยว่ารังสิตกับน้ำหวานแอบสัมพันธ์กัน ซุ่ยเป็นห่วงโรส คิดถึงเรื่องตัวเองกับเฮียป้อง และเริ่มรู้ใจตัวเองว่า ก็รักเฮียป้อง กอหญ้าปลอบใจ ซุ่ยทึ่งในตัวกอหญ้าและอิจฉาที่กอหญ้าเป็นคนโลกสวย ฟ้าลั่นไฟฟ้าดับซุ่ยตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเองเป็นกอหญ้าไปแล้ว รูปถ่ายรับปริญญาของกอหญ้าทำให้รู้ว่า เป็นห้องของกอหญ้า ซุ่ยเพิ่งรู้ว่า กอหญ้าไม่ได้เป็นลูกคุณหนู แต่เป็นเพียงลูกคนขับรถกับแม่บ้านของคุณหยก (ปุณยวีย์ สุขกุลวรเศรษฐ์) คุณหยกเวทนากอหญ้าเพราะพ่อกอหญ้ากับสามีคุณหยก เสียในเหตุสึนามิพร้อมกัน คุณหยกจึงดูแลกอหญ้าเหมือนลูก...ส่วนกอหญ้าที่ไปอยู่ในร่างซุ่ย เริ่มอ่อนแอมากขึ้นไปอีก เฮียป้องต้องพาไปพบหมอและดูแลอย่างทะนุถนอม เมื่ออยู่ตามลำพังกับร่างตัวเอง ซุ่ยถามความในใจกับร่างนั้น แต่ร่างนั้นก็ตอบอะไรเธอไม่ได้ ทุกคนในครอบครัวซุ่ยรักและเป็นห่วงกอหญ้าในร่างซุ่ย ซุ่ยย้ำกับกอหญ้าในร่างซุ่ย ว่าเฮียป้องรัก “ซุ่ย” ไม่ใช่รัก “กอหญ้า” ซุ่ยในร่างกอหญ้า พยายามรื้อความทรงจำระหว่างเธอกับเฮียป้องด้วยการเขียนข้อความบ่งบอกความรู้สึกไว้ในกระดาษ ตัวเดียวที่ไม่เปิดเผยคือ คิงคอง ที่มีคำขอโทษที่ซุ่ยไม่เคยบอกว่ารักเฮียป้อง เฮียป้องเห็นกระดาษและข้อความทั้งหมด กระซิบข้างหูกอหญ้าในร่างซุ่ย ทำให้ซุ่ยในร่างกอหญ้าอิจฉาเพราะที่ผ่านมาเธอไม่เคยได้สัมผัสแบบนี้จากเฮียป้อง แต่ซุ่ยก็ไม่รู้จะคืนร่างตัวเองอย่างไร จึงตัดสินใจกลับมาตั้งใจทำงาน พบโรสยังบ้างานเหมือนเดิม แวนด้าสวยเซ็กซี่ ใช้ชีวิตเหมือนเดิม โต๊ะกอหญ้าเต็มไปด้วยคำให้กำลังใจ รังสิตง้อโรสแต่โรสไม่ให้อภัยง่ายๆ ซุ่ยในร่างกอหญ้าให้กำลังใจรังสิตเพื่อให้ง้อโรสได้สำเร็จ รังสิตเห็นโรสกับเฮียป้องอยู่ด้วยกัน เกิดอาการหึงต่อยเฮียป้อง ซุ่ยผิดหวังในตัวรังสิต กอหญ้าในร่างซุ่ยหลับนานไม่ได้สติ หมอเกรงว่าจะกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ทุกคนเป็นกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย เฮียป้องอาสาดูแลซุ่ยตลอดชีวิตและขอกอหญ้าในร่างซุ่ยแต่งงาน ซุ่ยในร่างกอหญ้าเสียใจ วิ่งชนเฮียป้องของตกกระจาย เฮียป้องช่วยเก็บและเห็นกระดาษพับรูปคิงคองในกระเป๋าเธอ เข้าใจผิดคิดว่า กอหญ้าในร่างซุ่ย ปิดบังความรู้สึกที่มีต่อเฮียป้อง เฮียป้องก็ยิ่งรักมากขึ้น ซุ่ยในร่างกอหญ้ายอมจำนนต่อชะตาที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ เธอได้รู้ใจตัวเองแล้วว่า เธอเป็นทุกข์เพราะมองแต่สิ่งที่ตัวเองขาด แทนที่จะมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองมี แวนด้า กลับเข้าทำงานเช่นเดิม คุณหยกบอกข่าวดี กอหญ้าสอบชิงทุนได้ไปเรียนต่อโทที่อังกฤษ กำหนดวันเดินทางของกอหญ้ากับวันแต่งของซุ่ย เป็นวันเดียวกัน...หมอให้ซุ่ยกลับบ้านได้ เพราะไม่มีทางรักษาแล้ว ก่อนวันแต่งงาน 1 วัน ซุ่ยในร่างกอหญ้ามาลาทุกคนในบ้านตัวเอง รู้สึกเจ็บแปล๊บที่หัวใจ เผลอพูดเรื่องในอดีต เฮียป้องสับสน ซุ่ยในร่างกอหญ้าพยายามสื่อสารกับทุกคนเพื่อให้รู้ว่า เธอคือซุ่ย แต่ไม่มีใครเข้าใจ เพราะทุกคนเห็นเธอเป็นกอหญ้า ซุ่ยในร่างกอหญ้ายอมรับความจริงว่า เมื่อเธอกลับร่างของเธอไม่ได้ เธอจะอยู่ในร่างกอหญ้า และจะพอใจในร่างนี้ ซุ่ยเดินทางไปอังกฤษ รังสิตมาส่งกอหญ้า เฮียป้องเอะใจ เชื่อว่า กอหญ้าในร่างซุ่ยคือซุ่ยจริงๆ รีบตามไปสนามบินแต่ไม่ทัน... บนเครื่องบิน เธอย้อนคิด และรู้สึกเสียดายความเป็นตัวเอง ที่ตอนนี้ไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้แล้ว ท้ายสุด เธอก็รู้ว่า “คนเราควรจะพอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น และไม่ควรอิจฉาสิ่งที่คนอื่นมี” เรื่องราวของเธอจะจบลงอย่างไร ติดตามชมได้

สายลับสามมิติ 2558

สายลับสามมิติ (2558/2015) เชน (ณัฐวุฒิ สกิดใจ) ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเด็ก ๆ เชนฮีโร่ของเด็กกับลินดา( อมราภัสร์ จุลกะเศียน ) คู่หูสวยสุดเซ็กซี่ช่วยกันจัดการมิสเตอร์โอเค (เดวิด อัชวรานนท์) และสมุนจนราบคาบ ตังตัง(ชาร์เลท วาศิตา แฮเมเนา) นั่งดูหนังเรื่องสายลับเจ้าเสน่ห์หนังยุคขาวดำเรื่องโปรดของคุณปู่อย่างมีความสุข วันปิดภาคเรียนมาถึงตังตังนั่งรอตฤณ(ปีเตอร์ เดนแมน)น้าชายมารับกลับบ้านแต่ไร้วี่แวว ตังตังกลับเอง ตฤณวิ่งตามมาทันบนรถไฟฟ้า แต่พานั่งเลยไปเจอร้านของเก่า ตังตังเห็นแว่นสามมิติหน้าตาประหลาด หยิบมาจะใส่ ลุงเจิด (สมชาย ศักดิ์กุล ) เจ้าของร้านบอกว่าเมื่อสวมแว่นนี้จะทะลุผ่านเข้าไปในหนังได้ แต่อันนี้มีคนสั่งเอาไว้แล้ว จู่ ๆ ดร.อาทิตย์ (ธนากร โปษยานนท์) นักจิตวิทยาคนดังพร้อมสมุนซ้ายขวา นารีนารี(รมิดา ประภาสโนบล) อินทุ (เล้ง ราชนิกร ) จู่โจมเข้ามาในร้าน ตฤณรีบพาตังตังหลบออกไปก่อน ตกใจตังตังวิ่งออกมาทั้งที่แว่นอยู่บนหัว วันเกิดเจนจิรา( มารีน่า บาเลนซิเอก้า) คนรักตฤนเอาดอกไม้ไปให้เจนทั้งที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ค่อยดีเท่าไร ตังตังนั่งดูวีดีโอสายลับเจ้าเสน่ห์เรื่องโปรด นึกสนุกหยิบเอาแว่นมาใส่ ตังตังหลุดเข้าไปในหนังเจอเชนกำลังถูกมัดติดกับระเบิดเวลา แต่เชนมั่นใจว่าลินดาคู่หูสาวทรงเสน่ห์ต้องมาช่วยทัน แต่ผิดคาดกลายเป็นตังตังโผล่มาแทน ตังตังเข้าไปช่วยเชนระเบิดทำงานตู๊ม...!!!! เชนหลุดออกมาจากจอทีวี ตังตังตกใจเชนมาโผล่ที่บ้านตังตัง แต่ตัวเป็นขาว-ดำ เชนกลับไม่ได้ตังตังทำ แว่นพัง เจนแวะมาเก็บของที่บ้านตฤนและบอกเลิกตฤณ บารมี( วริษฐ์ ทิพย์โกมุท )คอยเทคแคร์ดูแล ตฤณช้ำใจ เชนเป็นห่วงลินดา ขอให้ตฤณกับตังตังพากลับไปที่ร้านของเก่าอีกครั้งแต่พบว่าร้านปิดกิจการ อาทิตย์จัดการแสดงโชว์มายากล เจนนัดตฤณไปปิดบัญชีที่ธนาคารพอดี ตกใจธนาคารกำลังถูกปล้น ทุกคนตกเป็นตัวประกัน เชนฮีโร่สู้กับโจรและช่วยทุกคนได้ปลอดภัย หมวดปวัน (พิจักขณา วงศารัตนศิลป์)และจ่าเจี๊ยบ (ฝันเด่น จรรยาธนากร ) รอคำสั่งอยู่ข้างนอกทนไม่ไหว ขัดคำสั่งผู้การธงธิว (เกริก ซิลเลอร์) บุกเข้าไปจัดการผู้ร้าย ทุกคนพาเชนหนีไป หมวดปวันมัวแต่จัดการกับโจเลยไม่รู้ว่าฮีโร่ชายตัวขาว-ดำคือใคร ปวันได้รับคำสั่งจากผู้การให้หาเบาะแสของชายชุดขาวดำและห้ามยุ่งกับคดีปล้นธนาคารอีก เจนจิราจะพาเชนออกทีวี แต่พอรู้ว่าเชนหลุดมาจากในหนังเปลี่ยนใจ กลับช่วยเหลือเชนด้วยการพาเชนไปเปลี่ยนสีผิวที่บารมีคลีนิกของบารมี ตฤณเอาแว่นไปให้ วิศวะ (ภัทร ฉัตรบริรักษ์) ซ่อมแต่ซ่อมไม่ได้ เชนพบสัจธรรมในโลกความจริงว่าในปัจจุบันว่า ผู้คนพูดจากลับกลอก ไม่มีสัจจะ ไม่มีศักดิ์ศรี ตรงข้ามกับความเป็นพระเอกในยุคอดีต ที่ยึดมั่นในความดีและรักษาความถูกต้องเยี่ยงชีวิต ปวันปลอมตัวเป็นปลายฟ้า (พิจักขณา วงศารัตนศิลป์ )มาสืบเรื่องตฤณที่บ้านเช่าของทิวา (ปรารถนา สัชชุกร) ราตรี (ปาริฉัตร ไพรหิรัญ ) โลกปัจจุบันเชนไม่เก่งเหมือนในหนังอดนอนมาหลายวันเชนหมดสติ ปรายฟ้าพาขึ้นห้อง เชนตื่นมาตกใจที่นอนถอดเสื้ออยู่ในห้องของปลายฟ้า เชนคิดว่าข่มแหงน้ำใจปลายฟ้าจึงขอปลายฟ้า วิศวะไปหาเบาะแสที่ร้านของเก่า เจอลุงเจิดกำลังหนีจากการตามล่าของนารีกับอินทุ เชนพาลุงเจิดหนีมาเจอปวันปลอมตัวเป็นชายชุดำขี่บิ๊กไบท์สะกดรอยตาม ปวันจับลุงเจิดมาที่สถานีตำรวเชนตามมาช่วยลุงเจิดหนีไปหาวิศวะ ปวันเริ่มมั่นใจว่าชายฮีโร่ขาว-ดำคือเชน เชนเป็นห่วงลินดาพยายามจะกลับไปในหนังแต่ทำไม่ได้ เชนตัดสินใจที่จะอยู่ในโลกปัจจุบันเพื่อช่วยเหลือทุกคนและดูแลปลายฟ้า ปลายฟ้าพยายามล้วงความลับว่าเชนเป็นใครมากจากไหนแต่ไม่สำเร็จเพราะเชนไม่รู้ ดร.อาทิตย์จัดแสดงโชว์มายากลครั้งใหญ่อลังการเป้าหมายคือปล้นเพชร เจนโดนดร.อาทิตย์สะกดจิตให้บอกที่ซ่อนแว่น เชนกับปวันรู้ทันตามมา แต่เชนพลาดถูกอาทิตย์สะกดจิตจับไปขังเชนไว้ในกล่องคริสตัล ปวันตามไปช่วยเชนหลุดจากการถูกสะกดจิตทั้งคู่หนีรอดหวุดหวิด ดร.อาทิตย์จับตัวทุกคนไปสะกดจิตเค้นหาความลับเรื่องแว่น เชนฝ่าอันตรายตามมาช่วยไว้ได้ทัน ดร.อาทิตย์ดูหนังและเห็นเชนหายไปจากจอ ดร.อาทิตย์สั่งให้สมุนจัดการเชน เชนรู้ตัวจึงหนีไปห้องลับของวิศวะ ลุงเจิดสร้างแว่นสามมิติอันใหม่สำเร็จ ปวันแอบสะกดรอยตามมาแต่ปวันยังไม่เชื่อว่าเชนหลุดออกมาจากจอทีวี วิศวะกับลุงเจิดพิสูจน์ด้วยการสวมแว่นสามมิติและหลุดเข้าไปในหนังต่อหน้าต่อตาปวัน ตฤณถูกบก.ไล่ออกเพราะวาดการ์ตูนล้อเลียนบารมี บารมียั่วโมโหตฤณตฤณทนไม่ไหวต่อยบารมีคว่ำ เชนทึ่งในตัวตฤนที่เริ่มมีเลือดนักสู้ ตังตังหนีออกจากบ้านเชนเตือนสติตฤณให้ปรับความเข้าใจกัน เชน ปวัน วิศวะ ลุงเจิด จ่าเจี๊ยบวางแผนเพื่อไปจัดการดร.อาทิตย์ แต่พลาดลุงเจิดถูกจับตัวไปได้ งานโชว์ Diamond Day ที่เดอะซันฮอลล์ เชนกับปวันปลอมตัวเป็นคู่รักไฮโซเข้าร่วมงานอาทิตย์ใช้มายากลสลับเพชรของจริงกับของปลอม ปวันรู้ทันตะโกนเปิดโปง ดร.อาทิตย์ถูกกระชากหน้ากากว่าแหกตาผู้ชม ดร.อาทิตย์หนีไปปวันตามล่า แต่พลาดโดนดร.อาทิตย์จับเป็นตัวประกันแทน เชนมาช่วยปวันแต่ตัวเองกลับโดนยาพิษของดร.อาทิตย์และถูกแทงสาหัสถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ลุงเจิดกับ วิศวะดักปล้นรถพยาบาล ตฤนอาสาพาเชนกลับไปในหนังเพื่อช่วยชีวิตเชน ในหนังเชนหายเป็นหลิดทิ้ง เชนพาตฤนมาที่คลังอาวุธของเชน ตฤณได้เป็นผู้ช่วยเชนทั้งคู่บุกไปที่คฤหาสน์ของมิสเตอร์โอเคเพื่อช่วยลินดา และเด็กได้สำเร็จ ตฤณได้รับบาดเจ็บ เชนคิดถึงปวันลินดาแอบหวั่นไหวและอยากรู้ว่าปวันคือใคร ดร.อาทิตย์สวมแว่นสามมิติไปในหนังเรียกมิสเตอร์โอเคและสะกดจิตลินดาให้เชื่อฟังและพาออกมาจากในหนัง ลินดากับมิสเตอร์โอเคปล้นรถขนทอง ตฤนกลับมาอาทิตย์จับตฤณ ตังตัง วิศวะ ลุงเจิด มาขังไว้ ตฤณและตังตังหนีออกมาได้ อาทิตย์สะกดจิตให้เจนหมางเมินต่อตฤณ ตฤณย้อนกลับไปช่วยตังตัง วิศวะและลุงเจิดแต่วิศวะกับลุงเจิดไม่รอดถูกสมุนของอาทิตย์จับตัวได้ ดร.อาทิตย์และมิสเตอร์โอเคชอบปืนของลุงเจิดและวิศวะมาก ลุงเจิดตกลงที่จะผลิตปืนให้ดร.อาทิตย์ ลุงเจิดซ้อนแผนจัดการดร.อาทิตย์ โดยขโมยแว่นสามมิติหนีไป ปวันอาสาไปตามเชนในหนัง เชนคิดว่าตัวเองฝันไปที่ได้พบกับปวันอีกครั้ง ดึงปวันมาจูบปวันสวนหมัดกลับไปเชนเห็นดาวรู้ว่านี่คือความจริง ปวันทำแว่นหายจึงออกตามหา ตกหนักปวันทั้งคู่หนีไปหลบในกระท่อม ตฤณพยายามช่วยเจนจากการสะกดจิตแต่ไม่ได้ผล เจนเพ้อเรียกแต่บารมี ดร.อาทิตย์นัดพ่อค้าอาวุธสงครามมาดูการทดสอบปืนซุปเปอร์ซัน แต่คนประดิษฐ์คือลุงเจิดหนีไปแล้วมิสเตอร์โอเครับอาสาทำเอง เชน ปวัน ตฤณ ลุงเจิดและวิศวะปลอมตัวเป็นพยัคฆ์ร้าย5แผ่นดิน แฝงเข้าไปในงานเพื่อขัดขวางการแสดงแสนยานุภาพของปืนซุปเปอร์ซัน จนเกิดการต่อสู้กัน เชนให้ทุกคนหนีไปก่อนเชนจะคุยกับลินดา ลินดาถูกสะกดจิตยิงเชนปางตาย อาทิตย์ส่งลินดาเข้าแฝงตัวในบ้านเช่าตฤณ และส่งมิสเตอร์โอเคและสมุนมาจัดการเชนและทุกคนที่บ้าน ทิวา ราตรี จ่าเจี๊ยบ ไปขอความช่วยเหลือจากจันทร์เจ้า (นก-ศิขรินธาร พลายเถื่อน) จันทร์เจ้าให้ไปพักที่บ้านพักตากอากาศริมทะเล ปวันไม่ไว้ใจลินดา พยายามจะพิสูจน์ให้เชนเห็น แต่เชนไม่เชื่อว่าลินดาจะทำร้ายเชน ลินดาส่งความเคลื่อนไหวของทุกคนให้ดร.อาทิตย์ ดร.อาทิตย์ส่งไซล่าจากในหนังมาจัดการทุกคน ปวันปลอมตัวเป็นปลายฟ้าสารภาพว่าไม่ได้รักเชน ลินดาสะกดรอยตามเชนมา ปรายฟ้าแกล้งทำร้ายเชน ลินดาเผยธาตุแท้ออกมาว่าปรายฟ้ากับลินดาเป็นพวกเดียวกัน ที่จะกำจัดเจน ปรายฟ้าสารภาพนี่คือแผน ลินดาหนีไป เจนอ่านสมุดบันทึกทำให้หลุดจากการสะกดจิต เจนกลับไปกับบารมีแต่แกล้งทำว่ายังถูกสะกดจิต ดร.อาทิตย์ส่งไซล่าร์บุกมาถล่มเชน เชนถูกไซล่าร์แทงทุกคนคิดว่าเชนตายไปแล้ว มิสเตอร์โอเคช่วยเหลือเชน เชนแกล้งเจ็บ ไซล่าทำร้ายดร.อาทิตย์กับลินดา เชนตามหาแว่นสามมิติจนเจอ ลินดาคลายจากการสะกดจิต จำใครไม่ได้ ธงธิวจับตัวดร.อาทิตย์มาตรวจคลื่นสมอง ตฤณขอให้เจนให้โอกาสเจนมาเริ่มต้นกันใหม่ บารมีไม่ยอมเจนเลือกตฤณ เชนรู้ความจริงว่าปลายฟ้ากับปวันคือคนเดียวกัน เชน ปวัน มิสเตอร์โอเค และธงทิวซ้อนแผนหลอกให้ดร.อาทิตย์ใช้พลังจิตแล้วเข้าจับกุม ธงธิวหักหลังจับตัวเชนลินดามิสเตอร์โอเค ขังคุกรับความดีความชอบคนเดียว ปวันมาปล่อยทุกคนแต่ไม่มีใครฟัง เชนตัดสินใจกลับในโลกแห่งหนังขาวดำ ปวันจะทำอย่างไรเมื่อหลงรักฮีโร่ขาวดำเข้าเต็มเปาซะแล้ว จะตามไปในหนังหรือจะเอาเชนออกมาอยู่ในโลกแห่งความจริงตลอดไป

สื่อรักสัมผัสหัวใจ ภาค 2 2556

The Sixth Sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ ภาค 2 (2556/2013) ย้อนกลับไปเมื่อ 6ปีก่อน ญาณิน(จิตตาภา แจ่มปฐม) กรรณา(ณิชารีย์ โชคประจักษ์ชัด) กรรัมภา(ตฤณญา มอร์สัน) สุคนธรส(กมลเนตร เรืองศรี) เนตรสิตางศุ์(กฤษณ์สิริ สุขสวัสดิ์)ได้ช่วยเหลือรุ่นพี่ที่กำลังจมน้ำ ทำให้ทั้ง 5รู้ว่าพวกเธอมีสัมผัสพิเศษสื่อวิญญาณ ญาณินสาวเซอร์ร่างเล็กพี่ใหญ่ของกลุ่มที่มีญาณสมาธิติดต่อดวงวิญญาณได้ด้วยการถอดจิต สุคนธรสสาวห้าว มีอาคม จมูกได้กลิ่นวิญญาณ เนตรสิตางศุ์สาวใสไร้เดียงสา มีดวงตาเห็นผี กรรณาสู้ชีวิตหูได้ยินเสียงผีต้องเอาหูฟังปิดกลบเสียง และกรรัมภาสาวไฮโซบ้านักร้องเกาหลีมีมือสัมผัสสิ่งใดจะเห็นอดีต พลังพิเศษนำพาให้ญาณิณพบรักกับติณห์(หลุยส์ สก๊อต) เนตรสิตางศุ์พบรักกับหมอวรวรรธ(ฐกฤต ตวันพงค์)สุคนธรสแต่งงานกับไตรรัตน์ (วรินทร ปัญหกาญจน์)กรรัมภาเป็นแฟนคลับที่คลั่งไคล้ปาร์คจุนจี

ปาร์คจุนจี/จุนจี(รัฐภูมิ โตคงทรัพย์)นักร้องซุปเปอร์สตาร์เกาหลีหลานชายคนเดียวของพิมพิลาศ(ทาริกา ธิดาทิตย์)จุนจีได้รับเชิญให้มาร่วมแสดงละคร “มายาร้อยใจ” ที่เมืองไทย จุนจีจำใจรับงานนี้เพราะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและร่วมเป็นสักขีพยานแทนพ่อในการเปิดพินัยกรรมมรดกพิมพิลาศ กรรัมภารู้ข่าวการมาของจุนจี ดีใจตามไปกรี๊ดจุนจีถึงสนามบิน กรรณาเดินชน ดร.แผนยุทธ(อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์) ด้วยความบังเอิญกรรณาได้ยินเสียงวิญญาณที่ติดตามแผนยุทธกรีดร้องด่าทอ แผนยุทธถูกวิญญาณร้ายตามรังควานจึงว่าจ้างบริษัทซิกเซ้นส์ของ 5 สาวสืบว่าเป็นวิญญาณของใคร กรรณาต้องรับคดีนี้ไปสืบหาความจริง ที่บ้านเวียงทับ กรรณาได้เจอกับพงอินทร์(จรณ โสรัตน์)หรือโจ้คู่ปรับเก่าสมัยประถมที่ชอบล้อเธอว่าเป็นน้องกรรณแว่วเสียงผี แต่พงอินทร์ยังจำกรรณาไม่ได้คิดว่ากรรณาคืออีหนูคนใหม่ของแผนยุทธจึงไม่ชอบหน้า มิรันตี(จริยา แอนโฟเน่)แม่ติณห์กลับมาถึงเมืองไทย เพื่อดูแลสมบัติของคุณหลวง(อนันต์ บุญนาค )ผู้เป็นพ่อ เจอญาณินกับติณห์หวานชื่นกัน ไม่ถูกชะตาหาว่าจะมาแย่งสมบัติ ญาณินเสียใจขับรถไปชนเบญจา(ชิปปี้-ศิรินทร์ ปรีดียานน์) จนความจำเสื่อม ญาณิณพาเบญจากลับมาที่รีสอร์ทคุณหลวงกับโกเด้นเบบี้(วาศิตา แฮเมเนา )รู้สึกแปลกๆ สุคนธรสทำพิธีเชิญวิญญาณที่ติดตามแผนยุทธเข้าสิงเพื่อสำแดงตัวว่าเป็นใครแต่วิญญาณร้ายกลับทำลายข้าวของด่าว่าแผนยุทธเจ้าชู้ พงอินทร์สงสัยการตายของพิมอร(นิโคล เทริโอ)ที่เป็นพี่สาวเพียงเดียวว่าแผนยุทธคือคนฆ่า ไม่ใช่อุบัติเหตุจึงขอให้หมอวรวรรธกับณัฐเดช(สราวุธ มาตรทอง)รื้อคดีขึ้นมาใหม่ วิญญาณพิมพิลาศก่อกวนจุนจีในกองถ่ายอยากให้จุนจีตามหาฆาตรกรให้เจอ ทำให้กองถ่ายปั่นป่วนถ่ายละครไม่ได้ ลีจองกุ๊ก(นิธิชัย ยศอมรสุนทร ) ผู้จัดการส่วนตัวจึงพาเขามาขอให้บริษัทซิกเซ้นส์ช่วยสืบว่าเป็นวิญญาณของใคร กรรัมภาเจอหน้าจุนจีตัวจริงปลื้มจนเป็นลม แต่จุนจีกล่าวหาว่าพวกเธอไร้สาระต้มตุ๋น กรรัมภาโกรธจุนจีมาก ไตรรัตน์และติณห์ไม่พอใจท้าดวลหมัดกับจุนจี อติเทพ(อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล) สามีเด็กของพิมพิลาศให้อรวี(ณิชชาพัณณ์ ชุณหะวงศ์วสุ )เลขาเอาพินัยกรรมไปให้จุนจีเซ็นต์ยกสมบัติให้เขา จุนจียอมเซ็นต์ให้แต่พออรวีมาเปิดดูกลับไม่ครบเพราะวิญญาณพิมพิลาศดึงออกไป กรรัมภาได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบคดีจุนจี ไตรรัตน์ถูกเคธี่(นาตาลี เดวิส)คนรักเก่าเป่าหูว่าสุคนธรสเป็นทอม ไตรรัตน์หึงสุคนธรสกับกรรัมภา จึงตามมาถามความจริงถึงกองถ่ายจนให้ทำเครนถล่มใส่จุนจี กรรัมภาช่วยเอากระเป๋าบังจุนจีน้อยเอาไว้ได้ ทำให้เป้ย(พริมรตา เดชอุดดม)นางเอกในละครไม่พอใจเพราะแอบชอบจุนจี มิรันตีถูกตะปูเสกเข้าท้องคิดว่าเป็นฝีมือญาณิน ยิ่งเกลียดมากขึ้น เบญจาเอาใจมิรันตีจนมิรันตีรัก ติณห์เริ่มสงสัยว่าเบญจาคือใครกันแน่ ญาณินกับติณห์ถูกมือขมังเวทย์ปลุกซอมบี้มาฆ่าเกือบตาย เบญจาโผล่มาช่วยติณห์ไว้ได้ แต่มิรันตีไม่เชื่อเรื่องซอมบี้หาว่าญาณินกุเรื่องขึ้นมา และหาว่าญาณิณเป็นพวกแม่มดหมอผี สุคนธรสได้กลิ่นประหลาดในบ้านไตรรัตน์ จึงตามไปเจอห้องลับห้องหนึ่ง อาม่า(สิรินาฎ โพธิเวส)เจ๊หญิง(ดวงตา ตุงคะมณี) เสี่ยจำเริญ (อนุสรณ์ เดชะบัญญา) อาอี๊(ดารัณ ฐิตะกวิน)ไม่พอใจที่สุคนธรสพยายามพูดถึงห้องนั้น และเหมือนไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องนี้ขึ้นมา สุคนธรสเรียกโกเด้นท์เบบี้มาช่วยสืบ ที่บ้านเวียงทับ แม่บ้านจารุณี(ดารณีนุช โพธิปิติ)มีท่าทางน่าสงสัย กรรณาจึงให้ก๊อง(มิวสิค-รัชพล แย้มแสง)ตีสนิทล้วงความลับจนได้กุญแจบ้านเวียงทับทั้งหมดมา แผนยุทธคิดจะเคลมกรรณา แต่พงอินทร์เข้ามาขัดจังหวะแผนยุทธไม่พอใจ สุคนธรส กรรัมภา ไตรรัตน์ ปลอมตัวเป็นพนักงานทำความสะอาดเข้ามาหาหลักฐานในบ้านเวียงทับแต่ถูกพงอินทร์จับได้ แต่ปล่อยไปเพราะจำได้ว่าเนตรเป็นแฟนของหมอวรวรรธ ทุกคนยืนยันว่า พิมอรอาจถูกฆาตรกรรมไม่ใช่อุบัติเหตุ ในขณะที่จุนจีกำลังแสดงคอนเสิร์ต วิญญาณพิมพิลาศทำให้จุนจีร้องเพลงไม่ได้ และแสดงความน่าสะพรึงกลัวโดยโผล่หน้าจอมอนิเตอร์ทวงความยุติธรรม ทุกคนวิ่งหนีแตกกระเจิง จุนจียอมจ้าง 5 สาวซิกเซ้นส์ติดต่อกับวิญญาณพิมพิลาศ กรรัมภาเผลอสารภาพว่าที่กรี๊ดจุนจีเพราะจุนจีเป็นคนสู้ชีวิต จุนจีมีเหตุผลขึ้นสุคนธรสทำพิธีเชิญดวงวิญญาณพิมพิลาศเข้าสิง วิญญาณพิมพิลาศอาละวาดจนทุกคนต้องช่วยกันแผ่เมตตา พิมพิลาศบอกว่ามีคนมาปล่อยงูพิษไว้ในสวนมา ต้องการให้จุนจีสืบหาตัวฆาตกร จุนจีเกลียดย่าเพราะฝังใจที่ย่าไล่พ่อกับแม่ออกจากบ้านเมื่อตอนยังเด็ก กรรัมภาขอให้จุนจีลืมอดีตที่เจ็บปวด ณัฐเดชได้รับแจ้งว่าแม่บ้านของพิมพิลาศตายเพราะต้องการติดต่อจุนจี เพื่อนๆ ขอให้กรรัมภาถอนตัวเพราะกลัวถูกฆ่าตายอีกคน กรรัมภารักจุนจีไม่กลัวตาย สุพิชชา/พีช(อมราภัสร์ จุลกะเศียร)กำลังจะฆ่าตัวตาย ณัฐเดชช่วยไว้และสัญญาว่าจะดูแลพีชอย่างดี เนตรรู้สึกว่าพี่ชายเปลี่ยนไปตั้งแต่พีชเข้ามา ติณห์ส่งหลักฐานภาพถ่ายของเบญจาให้ณัฐเดชสืบหาประวัติแต่ภาพเบญจาเบลอทั้งหมด ติณห์แกล้งป่วยเพื่อให้เบญจามาดูแลและเก็บลายนิ้วมือของเบญจา เบญจาเห็นวิญญาณคุณหลวงแต่แกล้งทำเป็นไม่เห็น ติณห์กับญาณิณได้ลายนิ้วมือเบญจา จุนจีมารับกรรัมภาไปหาหลักฐาน เป้ยเห็นจุนจอยู่กับผู้หญิงอื่นจึงพากลุ่มแฟนคลับมาดักจุนจี กรรัมภากลัวจุนจีเสียคะแนนนิยม จุนจีจึงต้องพากรรัมภาหนีแฟนคลับ ลีจองกุ๊กปลอมตัวเป็นจุนจีตบตาแฟนคลับแต่ไม่รอดสายตาเป้ย จุนจีแบกกรรัมภาหนีแฟนคลับรอดหวุดหวิดแฟนคลับโกรธที่จุจีอุ้มผู้หญิงนิรนาม ข่าวจุนจีหนีไปกับสาวนิรนามดังกระหึ่ม เนตรงอนณัฐเดชไม่ยอมกลับบ้านพีชตามมาไกล่เกลี่ย ณัฐเดชตรวจผลลายนิ้วมือเบญจาที่ติณห์ส่งมาให้พบว่าเป็นลายนิ้วมือของฆาตกรโหดที่ตายไปแล้วติณห์ยิ่งสงสัย เบญจาทำใสซื่อบริสุทธิ์แต่ท้าทายติณห์และญาณิณ ติณห์กับญาณิณพาเบญจาไปส่งตำรวจ มิรันตีพยายามขัดขวางแต่ไม่สำเร็จ จึงยิ่งเกลียดญาณินมากขึ้นไปอีก ติณห์กับญาณินกลับบ้าน แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเมื่อพบว่าเบญจากลับมาอยู่กับมิรันตีที่บ้านแล้ว กรรณาเจอไดอารี่ของพิมอร แต่พงอินทร์เห็นก็มาแย่งไปเพราะคิดว่ากรรณารับจ้างแผนยุทธทำเรื่องชั่วร้าย กรรณาพยายามอธิบายแต่พงอินทร์ไม่ฟัง กรรณาจึงแกล้งทำดีแต่พอพงอินทร์เผลอ กรรณาเตะผ่าหมากแย่งไดอารี่มาได้ ทั้งสองนั่งอ่านด้วยกันและรู้ว่าพิมอรต้องทุกข์ทรมานใจเมื่อช่อเพชร(วิรากานต์ เสณีตันติกุล)เลขาคนสวยมีความสัมพันธ์ลึ้งซึ้งกับแผนยุทธจนกระทั่งจดทะเบียนด้วยกัน ช่อเพชรประกาศกร้าวแผนยุทธไม่รักพิมอร ช่อเพชรก่อกวนความสงบของพิมอรและนัดพิมอรออกมาเจรจา พิมอรทนไม่ไหวมาตามนัดและเสียชีวิตลง แผนยุทธต่อว่ากรรณาที่สนิทกับพงอินทร์เกินควร จุนจีและกรรัมภาหนีแฟนคลับไปโผล่ที่อัมพวา กรรัมภาคิดว่าตัวเองฝันไปที่ได้ใกล้ชิดจุนจีไอดอลในดวงใจ จุนจีทำตัวตามสบาย ทั้งคู่นั่งกินขนม ชมตลาดน้ำอัมพวามีความสุข ทำเอากรรัมภาเคลิ้มตกอยู่ในภวังค์คิดไปว่าจุนจีจุ๊บแก้ม จุนจีชวนกรรัมภานั่งเรือชมหิ่งห้อย จุนจีตื่นตาตื่นใจเห็นแสงหิ่งห้อยยามค่ำคืน จุนจีกับกรรัมภาค้างที่โฮมสเตย์ด้วยกัน จุนจีถอดเสื้ออาบน้ำเห็นกล้าม กรรัมภากัดปากจิกแขนตัวเองอดใจไม่ให้ไปซบอกจุนจี จุนจีท้าให้กรรัมภากระทบไหล่ดารา จุนจีกับกรรัมภากลายเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ แต่จุนจียังไม่รู้ตัวพายเรือพากรรัมภาไปเที่ยวร่องสวน อติเทพพาสมุนมาตามล่าจุนจีและบังคับให้จุนจีเซ็นพินัยกรรรม จุนจีไม่เซ็น ลีจองกุ๊กตามมาช่วยทัน เบญจาใช้อาคมบังตาเรือนไทยแล้วแปรสภาพเป็นสปานุ่งน้อยห่มน้อยเรียกลูกค้าระดับเศรษฐี ติณห์กับญาณิณไม่พอใจบุกไปเปิดโปง มิรันตีโกรธมากให้ทนายสมชาติ(ประกาศิต โบสุวรรณ) ขู่ฟ้องติณห์ว่าจิตบกพร่องติณห์หัวเสียทำอะไรไม่ได้ จุนจีพากรรัมภามาที่คฤหาสน์พิมพิลาศ เพื่อสัมผัสข้าวของเครื่องใช้ เห็นภาพพิมพิลาศโต้เถียงกับอติเทพ แต่อติเทพเข้ามาขัดขวางกรรัมภากับจุนจี และทำร้ายจุนจีจนหน้าเป็นแผล แรงรักกรรัมภาทนไม่ได้ตบอติเทพเสียหลัก สุคนธรสปลอมตัวเป็นทอมปะปนลูกค้าสืบหาคนทำอาคมที่เรือนคุณหลวง ไตรรัตน์เห็นสุคนธรสหว่านเสน่ห์ใส่เบญจา เริ่มไม่แน่ใจว่าสุคนธรสเป็นหญิงเพราะตั้งแต่แต่งงานก็ยังไม่ได้อภินิหารกันสักครั้ง สุคนธรสเจอคุณไสยบ้านเรือนไทย สุคนธรสพยายามถอนอาคมแต่ไม่ได้ผล เบญจารับรู้ถึงพลังบุกรุกรีบกลับมาที่เรือนไทย ญาณิณถอดจิตบอกให้สุคนธรสรีบออกมาแต่ไม่ทันเบญจามาพอดี ติณห์ทำแกล้งโวยวาย สุคนธรสกับไตรรัตน์หลบเบญจาออกไปได้ ติณห์ไปพบกำนันพงษ์ในคุกถามเรื่องยันต์อักขระที่บังตา กำนันพงษ์บอกมีสองคนที่ทำได้คือกำนันพงษ์กับหมอสมคิด(ธนากร โปษยานนท์)ซึ่งถูกล้างอาคมไปแล้ว ยกเว้นหมอสมคิดจะมีลูกศิษย์ เมื่อเบญจาเจอกับสุคนธรสก็ปล่อยพลังอำนาจใส่กันจนสะบักสะบอม สุคนธรสกำลังเพลี่ยงพล้ำไตรรัตน์เอาตัวเข้าขวางถูกพลังเบญจาเข้าเต็มๆ ติณห์เข้าขวางเบญจา เบญจาไม่อยากทำร้ายติณห์จึงเสียจังหวะ สุคนธรสอัดคาถาใส่เบญจา เบญจาปล่อยคาถาหอยเม่นทิ่มแทงทุกคน มิรันตีกับทนายสมชาติตามมา เบญจาทำแกล้งร้องโอดครวญ มิรันตีต่อว่าติณห์ยื่นคำขาดให้เลือกระหว่างญาณินกับแม่ ติณห์น้ำตาคลอเก็บข้าวของจะไปจากรีสอร์ทแต่คุณหลวงและญาณินเตือนสติให้คิดถึงมิรันตี กรรณากับพงอินทร์มาสืบเรื่องช่อเพชรที่บริษัทแผนยุทธเจอกับน้ำหนึ่ง(แป้ง-พรรษชล สุปรีย์)คนรักเก่าของพงอินทร์ พงอินทร์เล่าเรื่องพิมอรพี่สาวต้องตายเพราะความเจ้าชู้ให้น้ำหนึ่งฟังเพื่อให้ระวังตัวจากแผนยุทธ ติณห์ส่งญาณินกลับกรุงเทพทั้งคู่ขยิบตาให้แก่กัน เบญจาเกาะแขนติณห์มีความสุข มิรันตีพอใจที่ญาณินไปจากติณห์ คุณหลวงไม่พอใจมิรันตี ติณห์นึกขึ้นได้ว่าตอนที่เบญจามาครั้งแรกมีกระเป๋ามาด้วย ติณห์หาแต่ไม่พบเบญจากลับมาเอากระเป๋ายิ้มเยาะรู้ทัน ญาณินย้อนกลับมาที่เรือนรับรองอีกครั้งเพราะลืมของ มิรันตีต่อว่าญาณิน ป้าออไม่พอใจตบมิรันตี ติณห์เข้าห้าม ญาณินน้อยใจ แต่เบญจาไม่ปักใจเชื่อว่าคือเรื่องจริง น้ำหนึ่งเอาซองจดหมายที่มีที่อยู่ของช่อเพชรมาให้กรรณา กรรณาไปหาช่อเพชรที่คอนโดแต่ไม่พบใคร สุคนธรสได้กลิ่นวิญญาณล่อเข้าไปในห้องต้องห้ามอีกครั้ง ถูกวิญญาณโบตั๋น(ใยไหม-ชินารดี อนุพงษ์พิชาติ)เล่นงาน และได้รู้ว่าโบตั๋นถูกอาคมของหมอสมคิดกักขังเอาไว้ ทุกคนเสียใจที่ไม่เล่าเรื่องนี้ให้สุคนธรสฟัง ติณห์ฟูมฟายเสียใจที่ญาณินทิ้งไป ทะเลาะกับคนงาน มิรันตีให้เบญจาคอยดูแล เบญจาปลอบใจติณห์แต่ติณห์ไม่ฟังผลักเบญจา เบญจาเสียจังหวะล้มตกอยู่ในอ้อมกอดติณห์ ติณห์ใจอ่อนกอดเบญจาแต่สุดท้ายผลักเบญจาออกจากอ้อมแขนเพราะรักญาณินคนเดียว เบญจาแค้นจะทำให้ติณห์หมดรักญาณินให้ได้ พีชเข้ามาช่วยงานบ้านงานครัวทำอาหารทุกอย่างในบ้าน จนเนตรรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนเกิน พีชให้ท่าจนหมออวรวรรธอึดอัด เนตรเริ่มไม่พอใจที่พีชเข้ามาจุ้นจ้าน เบญจาปลุกเสน่ห์พ่องั่งแม่งั่งทั่วเรือนร่าง ติณห์หลงเสน่ห์เบญจาจนไม่เป็นตัวของตัวเอง ปากพร่ำเพ้อรักเบญจาคนเดียว ติณห์พาเบญจาไปขี่ม้าชมวิวอย่างมีความสุข คุณหลวงกับโกลเด้นหาทางช่วยติณห์ มิรันตีดีใจที่ติณห์ลืมญาณินได้ ติณห์โทรหาญาณินบอกว่าถูกเบญจาทำเสน่ห์แต่ผ้ายันต์ที่สุคนธรสให้ไว้ช่วย ติณห์ทำเนียนหลอกเบญจาหากระเป๋า ติณห์ทำแกล้งหึงหวงให้เบญจาตายใจ กรรัมภากับจุนจีมาที่ร้านเพชรรู้ว่าอติเทพกับทนายสมชาย(สมมาตร ไพรหิรัญ)เอาสร้อยจริงของพิมพิลาศมาขาย กรรัมภาขอดูสร้อยเห็นภาพอติเทพกับพิมพิลาศทะเลาะกัน พิมพิลาศไม่ยอมให้เงินอติเทพ จุนจีปักใจเชื่อว่าอติเทพฆ่าพิมพิลาศ กรรัมภาบอกว่าพิมพิลาศเห็นผู้หญิงสวมรองเท้าแดงก่อนตายดังนั้นฆาตรกรจึงไม่ใช่อติเทพต้องหาคนที่เกี่ยวข้องให้เจอ หมอวรวรรธได้หลักฐานรถพิมอรไม่ได้ถูกชนแต่ถูกผลักตกลงไปในน้ำ เนตรเห็นผู้หญิงคนหนึ่งในรถก่อนตกน้ำ พิมอรตายอย่างทรมานพงอินทร์เสียใจมาก กรรณามาที่บ้านพงอินทร์พบของสำคัญในไดอารี พงอินทร์เนียนใกล้ชิดกรรณา วิญญาณพิมอรคุยกับกรรณา พิมอรเล่าเรื่องเกิดขึ้นทั้งหมด ติณห์เศร้าใจที่ไม่ได้อยู่กับคนที่รักแถมยังต้องแสร้งรักผู้หญิงที่ร้ายกาจที่สุดอย่างเบญจา ติณห์พยายามซ่อนของขลังที่สุคนธรสให้ไว้ป้องกันตัว เบญจาใช้เวทย์มนต์ทำร้ายติณห์ญาณินตามมาช่วยเห็นภาพบาดใจติณห์กำลังสวมแหวนให้เบญจาตายใจเชื่อว่าติณห์รักจริง ติณห์พบกับจิตญาณินทั้งสองสัญญาจะเข้มแข็งและช่วยเหลือกัน ความรักเริ่มก่อตัวในใจกรรณา กรรณารอโทรศัพท์พงอินทร์ จนมีเบอร์หนึ่งโทรเข้ามาแต่ปลายสายเป็นเสียงผู้หญิงพร้อมคำอาฆาตขู่ฆ่า ณัฐเดชสืบทราบบ้านเกิดช่อเพชร ปาร์คจุนจีกลับมาแสดงละครต่อแต่ใจพะวงหากรรัมภา เป้ยดีใจจะได้เข้าฉากเลิฟซีนกับจุนจี ในขณะที่กำลังจะจุ๊บปากกัน จุนจีเห็นโกเด้นเบบี้ขี่คอเป้ย ร้องลั่นกองถ่าย กรรัมภาห้ามโกเด้นเบบี้ อติเทพให้อรวีเอาพินัยกรรมมาจุนจีเซ็นต์อีกที่กองถ่าย จุนจีไม่ยอมเซ็นต์ กรรัมภาเผลอตัวจับอรวีเห็นวิญญาณโกลเด้นเบบี้ติดตามอรวี เบญจาออเซาะติณห์ ติณห์หวานใส่เปิดโอกาสให้จิตญาณินเข้าไปค้นหากระเป๋าของเบญจา หมอสมคิดโผล่มาเตือนสติเบญจาอย่าให้ความรักทำให้งานเสีย ญาณินพบพ่องั่งแม่งั่งในกระเป๋า พาสปอร์ตรูปเบญจามีหลายชื่อ ญาณินแอบมาพบติณห์ทั้งสองโผกอดกันด้วยความคิดถึง ญาณินพาติณห์มาบ้านกำนันพงษ์ สุคนธรสให้ติณห์เอาเอกสารในกระเป๋าเบญจามา สุคนธสมอบยันต์เกราะเพชรให้ติณห์ไว้ปกป้องตัวเอง ติณห์วางแผนทำหวานชวนเบญจาดูดาว เบญจามั่นใจเอาติณห์อยู่หมัด ติณห์แอบเข้าไปเอากระเป๋าเบญจามาให้ไตรรัตน์แต่กระเป๋าเปิดไม่ได้เพราะถูกลงอาคมเอาไว้ จิตกำนันพงษ์ใช้อาคมเปิดกระเป๋า ผงอาคมพุ่งใส่ไตรรัตน์ทุรนทุราย เบญจานั่งรอติณห์อยู่นานเริ่มโกรธ ติณห์โผล่มาพร้อมกล้องดูดาว เบญจากลับมาที่ห้องรู้ทันทีว่ากระเป๋าถูกเปิด หัวเราะสะใจที่วางกับดักอาคมสำเร็จ ติณห์แอบออกมาหาทุกคนที่บ้านกำนันพงษ์ ไตรรัตน์ถูกผงวิญญาณหลอนเห็นสุคนธรสเป็นผีทำร้าย บีบคอสุคนธรส ทุกคนจับมัดต้นเสาเอาไว้สุคนธรสพยายามใช้อาคมช่วยไตรรัตน์แต่ไม่ได้ผลไตรรัตน์ทรมานหนักขึ้น เบญจาหงุดหงิดที่ติณห์หายตัวไป ส่งรูปคู่กับติณห์เข้ามือถือญาณิน จุนจีสะกดรอยตามอติเทพ รู้ว่าอติเทพกู้เงินไปเล่นการพนัน อติเทพมาที่คอนโดตบตีอรวีแย่งเอาทองจากมืออรวีไปเล่นการพนันอีก โกลเด้นส์สงสารอรวี ทนายสมชายบอกให้อรวีอดทน กรรณากับพงอินทร์ มาที่บ้านช่อเพชรซึ่งเป็นบ้านร้างไม่มีคนอาศัย เนตรเห็นวิญญาณคนผูกคอตายร้องเรียกเพชรกับพลอย พงอินทร์กับวรวรรธ งัดประตูบ้านเข้าไป กรรณาได้ยินเสียงวิญญาณทะเลาะกันรุนแรง เนตรเห็นผู้หญิงเอากรรไกรแทงผู้ชายตายแล้วตัวเองก็ไปผูกคอตาย ยายคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่าช่อเพชรถูกคนเอาไปเลี้ยง พลอยถูกสถานสงเคราะห์เอาไปเลี้ยง ช่อเพชรเคยกลับมาที่นี่กับแผนยุทธเพื่อบอกขายบ้าน เนตรสงสัยความเป็นมาของพลอยขอให้หมอวรรธสืบหาประวัติ ญาณินหึงติณห์เพราะภาพอินเลิฟติณห์กับเบญจา ติณห์ง้อเผลอจูบญาณิน อ้อนบอกแสนทรมานที่ต้องอยู่กับเบญจา ญาณินเห็นใจและรักติณห์ยิ่งขึ้น มิสเตอร์ร๊อบบี้คิดส์มาเป็นแขกวีไอพีที่รีสอร์ทและหว่านเสน่ห์ใส่มิรันตีจนเคลิ้ม มิรันตีพาติณห์มารู้จักร๊อบบี้คิดส์ ติณห์เหมือนถูกผีหลอกเพราะรู้ว่านี่คือหมอสมคิด ติณห์ส่งข่าวให้ญาณินและทุกคนรู้ว่าเจอศึกหนัก เพราะมิสเตอร์ร๊อบบี้คิดส์จะมาร่วมลงทุนในรีสอร์ท ติณห์ทำเป็นจำไม่ได้และเห็นดีด้วยแต่คุณหลวงขัดใจ จุนจีชักดิ้นชักงอเจ็บปวดเมื่อวิญญาณอาฆาตของพิมพิลาศตะโกนใส่ กรรัมภาขอให้พิมพิลาศสงบ เพราะจุนจีมีพลังพิเศษบางอย่างที่รับรู้ความรู้สึกของพิมพิลาศ จุนจีรับคำขอโทษคุณย่าและสัญญาจะเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ รปภ.ดูภาพโจรขึ้นคอนโด อรวีเห็นจุนจีกับกรรัมภาตกใจรีบบอกอติเทพ อติเทพสั่งให้อรวีจัดการขั้นเด็ดขาด กรรณานัดน้ำหนึ่งที่ร้านอาหาร น้ำหนึ่งกลัวโดนฆ่าเพราะมีโทรศัพท์ขู่ให้เลิกตามหาช่อเพชร พงอินทร์เป็นกำลังใจให้น้ำหนึ่ง กรรณาเล่าเรื่องช่อเพชร น้ำหนึ่งน้ำตาคลอ น้ำหนึ่งสัญญาจะช่วยตามหาช่อเพชร กรรณาน้อยใจที่พงอินทร์สนิทสนมกับน้ำหนึ่ง น้ำหนึ่งบอกช่อเพชรไลน์มาบอกว่าอยู่ที่สวนสนุก กรรณากับพงอินทร์รีบตามไปช่อเพชรเดินหายไปในเมืองหิมะ ทั้งสองตามเข้าไปถูกขังอยู่ในเมืองหิมะ พงอินทร์กอดกรรณาให้ความอบอุ่นก่อนจะแข็งตายกรรณาฝันว่าพงอินทร์บรรจงจูบกรรณาและสารภาพรัก เจ้าหน้าที่มาเปิดประตูกรรณาวิ่งออกไปเจอแดดเป็นลมจับไข้ พงอินทร์รีบพากลับบ้าน ไตรรัตน์คลุ้มคลั่งจากผงอาคมจิตกำนันพงษ์บอกสุคนธรสใช้จิตตามจิตซึ่งวิธีนี้อาจไม่ได้กลับเข้าร่างอีก ญาณินถอดจิตไปกับสุคนธรสสู่ขุมแห่งความมืดดำ ถูกจิตมืดดำไตรรัตน์เล่นงานปางตายกว่าจะช่วยได้สำเร็จ ติณห์กลับมางานปาร์ตี้ไนท์อินเดียแดงที่รีสอร์ท ญาณิน สุคนธรสและไตรรัตน์ แอบตามมา เบญจาเห็นคุณหลวงแต่แกล้งทำเป็นไม่เห็นใช้อาคมทำร้ายคุณหลวงบาดเจ็บ เบญจาบอกติณห์ว่าญาณินมาที่งาน ติณห์รีบไล่กลับไป เบญจาใช้อาคมสั่งผีซอมบี้บีบคอสุคนธรส ญาณินมองไม่เห็น สมคิดรู้ถึงที่มาของเหตุร้ายส่งกรกฏไปช่วย ญาณินถูกคลื่นอาคมของเบญจากระแทกกระอักเลือด สุคนธรสปล่อยอาคม เบญจาเจ็บสาหัส ติณห์ช่วยเบญจา กรกฏร่ายมนต์ใส่สุคนธรส ไตรรัตน์เข้าช่วยจึงทำอะไรสุคนธรสไม่ได้ ญาณินทุกข์ทรมานติณห์เจ็บปวดแต่ซ่อนความรู้สึก มิรันตีเรียกรถพยาบาล งานปาร์ตี้ล่ม ติณห์ขับไล่ญาณินไปให้พ้นหน้า เบญจาทุกข์ทรมานจากอาคม ญาณินไม่รู้สึกตัว กรรัมภาสงสัย อรวีมีอะไรกับอติเทพและทนายสมชาย โกลเด้นไม่พอใจป่วนจุนจี อติเทพกับอรวีช่วยกันโพสต์รูปจุนจีกับกรรัมภาลงโซเชี่ยล โกลเด้นห้ามแต่อรวีไม่ได้ยิน โลกโซเชี่ยลค้นหาประวัติกรรัมภาจนรู้ว่าเป็นใคร ณัฐเดชมาหาอติเทพพร้อมหลักฐานว่าอติเทพมีอะไรกับอรวี วิญญาณพิมพิลาศรู้ความจริงโกรธอติเทพ พงอินทร์ดูแลกรรณาด้วยความห่วงใย กรรณาโวยวายพงอินทร์บังคับให้กรรณากินข้าว วิญญาณพิมอรมาหากรรณา บอกว่าที่ถูกหลอกขังไม่ใช่ฝีมือช่อเพชรเพราะช่อเพชรตายแล้ว กรรณาสื่อสารได้ไม่ดีเพราะป่วย น้ำหนึ่งมาขัดจังหวะวิ่งร้องให้เข้าไปกอดพงอินทร์บอกถูกขู่ฆ่ากรรณาเห็นภาพบาดตา สมาธิแตกไม่ได้ยินเสียงพิมอรบอกว่าน้ำหนึ่งคือฆาตกร เป้ยยุแฟนคลับดักทำร้ายกรรัมภาด้วยการรุมปาไข่ใส่ลอดช่องของหวานใส่หน้ากรรัมภา ผมเผ้าเละยับเยินอติเทพโกรธที่ทุกอย่างถูกเปิดเผย โทษว่าเป็นเพราะอรวี อรวีเสียใจอยากเปิดเผยความสัมพันธ์ พิมพิลาศโกรธอติเทพใช้พลังความโกรธแค้นทำให้อติเทพตกบันได โกลเด้นห์ห้ามพิมพิลาศสงบสติอารมณ์ เนตรสิตางค์รับรู้ถึงอันตรายที่คืบคลานเข้ามา สุคนธรสพาญาณินที่สะบักสบอมกลับบ้านซิกเซ้นส์ ติณห์เป็นห่วงญาณินแต่ไปไม่ได้ เพราะมิรันตีให้ติณห์ดูแลเบญจา สี่สาวรวมพลังญาณพิเศษช่วยเหลือญาณิน อาคมไสยดำสะท้อนกลับเลือดทะลัก เบญจาอาละวาดหมอจับฉีดยาแต่แทงเข็มไม่เข้าติณห์ตะลึง ร่างของญาณินเริ่มเป็นสีดำ หมอสมคิดพาเบญจามาทำพิธีถอนอาคมในอ่าง พงอินทร์ไปต่อว่าแผนยุทธว่ารวมหัวกับช่อเพชรฆ่าพิมอร แผนยุทธปฏิเสธพงอินทร์ต่อยลงไปนอน น้ำหนึ่งใจคอไม่ดีเมื่อได้ยินเรื่องหลักฐานฆ่าพิมอร จุนจีไม่มีกะใจจะถ่ายละคร อยากไปเยี่ยมกรรัมภาแต่ลีจองกุ๊กไม่ให้ไปเตือนสติเสร็จงานต้องกลับเกาหลี จุนจีขับบิ๊กไบท์หนีไปหากรรัมภาจนทั้งคู่ได้เจอกันกอดกันด้วยความคิดถึง พงอินทร์เอารูปแผนยุทธกับช่อเพชรมาให้ดู แผนยุทธไม่พอใจแย่งรูปต่อยพงอินทร์วิญญาณช่อเพชรห้ามบีบคอพงอินทร์เจอพระผงะ พงอินทร์บอกมีหลักฐานเด็ดมัดตัวฆาตรกร น้ำหนึ่งแอบมาได้ยินตกใจ หมอสมคิดใช้อาคมดูดวิญญาณคุณหลวงติดมาด้วยหมอสมคิดบอกเบญจาคือลูกศิษย์ เบญจาขอบคุณสมคิดผู้เป็นพ่อที่ช่วยให้หายและแข็งแกร่งขึ้น ติณห์แกล้งดีใจที่เบญจาปลอดภัย เบญจาจะฆ่าญาณิน กองถ่ายปั่นป่วนจุนจีกลับมา คิมซองซู (บี้-ธรรศภาคย์ ชี) ให้สัมภาษณ์ถึงกรรัมภาไม่ดี จุนจีแก้ต่างให้บอกว่าพ่อกรรัมภาทำธุรกิจร่วมกัน อติเทพโกรธที่จุนจีได้ใจแฟนคลับ มาระบายอารมณ์กับอรวี อรวีหลงคำหวานอติเทพยอมช่วยอติเทพทำให้จุนจีเซ็นต์เอกสาร วิญญาณพิมพิลาศได้ยินอติเทพบอกอยู่กับพิมพิลาศด้วยความฝืนใจจึงบีบคออรวี โกลเด้นท์เบบี้ขอร้องอย่าทำร้ายน้องเลย อติเทพกับอรวีหนีมาขอความช่วยเหลืออาจารย์คง กรรณาใช้พลังมากร่างกายอ่อนแอ พงอินทร์ดูแล อาจารย์คงปราบวิญญาณพิมพิลาศจับขังขวด ติณห์กระดิกตัวไม่ได้เพราะกรกฎตามประกบแจ ติณห์ชวนคุณหลวงไปหาญาณินแต่ไม่รอดสายตากรกฎ น้ำหนึ่งโทรมาบอกพงอินทร์ คนที่ฆ่าพิมอรเกี่ยวของกับช่อเพชร พงอินทร์ผลุนผลันออกไป น้ำหนึ่งตั้งเครื่องอัดเสียงเอาไว้พงอินทร์ตามไป พีชเอากุญแจซ่อนหมอวรวรรษ เนตรเห็นทั้งคู่กอดกัน หมอวรวรรธพยามอธิบายแต่เนตรไม่ฟัง ติณห์กับญาณินได้พบกันโผเข้าหาด้วยความคิดถึงมีความสุขเหมือนฝันไป วิญญาณคุณหลวงกำลังสลาย ติณห์แบ่งผลบุญดึงวิญญาณคุณหลวงกลับก่อนดับสูญ พงอินทร์หลงกลน้ำหนึ่งตามหาช่อเพชรถูกวัยรุ่นรุมตีปางตาย พิมอรเสียใจช่วยน้องไม่ได้ ทั้งหมดวางแผนช่วยมิรันตีออกจากเงื้อมมือหมอสมคิด อรวีจิตตกเจอวิญญาณพิมพิลาศรีบร้อนขับรถชนหญิงบ้านนอกกลายเป็นแม่ตัวเอง วิญญาณพิมพิลาศต่อรองหมอสมคิดบอกมีสมบัติ อาจารย์คงรู้วิธีรีดเงินจากจุนจี เบญจาโกรธที่ติณห์หายไป ติณห์จูบเบญจา จิตญาณินเห็นสุดกลั้นน้ำตา ติณห์ให้ตุ๊กตาหมีเบญจาดีใจ ติณห์เตือนแม่ให้ระวังร็อบบี้คิดส์ แต่มิรันตีไม่เชื่อ ติณห์แอบเข้าห้องหมอสมคิดหาหลักฐานถูกจับได้ เบญจาเพิ่งรู้ว่าติณห์ไม่ได้อยู่ในมนต์ของตัวเอง เบญจาทำร้ายติณห์หนีเข้าวัดปลอดภัย เบญจาสร้างนิมิตหมู่ให้เห็นว่ามิรันตีกำลังถูกรถไฟชน ติณห์ออกจากวัดไปช่วยแม่ เบญจาขวางติณห์ผลักเบญจาแค้นเอามีดจ่อญาณิน ติณห์ช่วยแม่เอาไว้ได้ มิรันตีถูกคุณไสยของหมอสมคิดโหยหาแต่หมอสมคิด แผนยุทธแจ้งตำรวจจับบริษัทซิกเซ้นส์ ลีจองกุ๊กบังคับจุนจีไม่ให้ยุ่งด้วย เจ๊หญิงมาประกันตัวที่โรงพักมิรันตีกลับมาหามิสเตอร์ร้อบบี้ เห็นรีสอร์ทกลายเป็นรีสอร์ทร้าง หมอวรวรรธกับณัฐเดชถูกพักราชการ แก้มมาหาจุนจี เจอกับนักข่าวหาว่าเป็นคนต้มตุ๋น คิมซองซูช่วยแก้ไขสถานการณ์ให้ คิมซองซูมอมยาแก้ม จุนจีตามไปช่วยไว้ได้ทัน กรรัมภาฟื้นเห็นตัวเองนอนอยู่กับจุนจีคิดว่าจุนจีล่วงเกินชกจุนจี ซองซูแอบถ่ายคลิปท์จุนจีกับแก้มอยู่ด้วยกัน พีชทำอาหารที่บ้านณัฐเดชและเต้นรำกัน เนตรทนไม่ได้ เนตรกับณัฐเดชทะเลาะกันรุนแรงพีชสะใจ หมอวรวรรธพาเนตรมาบ้านป้าสุดใจ ผีโบตั๋นอาละวาด ทุกคนเล่าให้สุคนธรสฟังว่า ในวันเกิดไตรรัตน์เมื่อ16ปีก่อน โบตั๋นจะเอาของขวัญไปให้แต่ถูกรถชนตายไม่ได้อวยพรเธอจึงไม่ยอมไปเกิด เบญจามาหาติณห์ที่บริษัทซิกเซ้นส์เพื่อเคลียร์เรื่องหัวใจ ติณห์รักญาณิน เบญจาแค้นหนักจะทำลายทุกอย่างให้พินาศ ไตรรัตน์น้อยใจสุคนธรสไม่ได้อภินิหารกันสักครั้ง ต่างคนต่างงอน น้ำหนึ่งวางยาแผนยุทธเห็นภาพหลอนอาละวาดล้มหัวฟาดหมดสติและตามมาบีบสายอ๊อกซิเจนจนแผนยุทธเกือบตาย หมอวรวรรธยื้อชีวิตกรกฎตามเก็บเนตรสิตางค์ตามคำสั่งของเบญจา หมอสมคิดเปิดสำนักใหม่ยิ่งใหญ่ สุคนธรสกับไตรรัตน์เข้าหน้ากันไม่ติด ต่างคนต่างมีทิฐิ เบญจากลับมาเล่นงานติณห์กับญาณินที่บ้านซิกเซ้นส์ จุนจีแอบมาหากรรัมภา ลีจองกุ๊กเอาภาพที่ซองจูแอบถ่ายให้ทั้งคู่ดู พีชย้ายเข้ามาอยู่บ้านณัฐเดช แผนยุทธเห็นวิญญาณช่อเพชร คลุ้มคลั่งควบคุมตัวเองไม่ได้ แผนยุทธยอมรับว่าช่อเพชรเป็นเมียเก็บของตัวเองจริงๆ กรรณารู้ว่าน้ำหนึ่งเป็นน้องของช่อเพชร น้ำหนึ่งตีหัวกรรณาสลบขังไว้กับศพของช่อเพชร กรรณาจะรอดพ้นเงื้อมมือเพชรฆาตน้ำหนึ่งไปได้หรือไม่ วิญญาณจะพากรรณาไปหาหลักฐานได้หรือไม่ว่าใครกันแน่คือคนที่ฆ่าพิมอรและความรักของเธอกับพงอินทร์จะลงเอยอย่างไร จุนจีจะรู้หรือไม่ว่าใครกันแน่คือคนที่ฆ่าพิมพิลาศ วิญญาณของพิมพิลาศจะพากรรัมภาไปสัมผัสและเปิดเผยตัวฆาตกรได้หรือไม่ และใครกันแน่คือผู้หญิงสวมรองเท้าส้นสูงสีแดง ความรักของเธอกับจุนจีจะผ่านอุปสรรคแฟนคลับไปได้อย่างไร ญาณิณจะช่วยคนรักได้หรือไม่ เบญจาจะโหดเหี้ยมขนาดไหน ความรักที่มีแม่เป็นอุปสรรคจะลงเอยอย่างไร ความรักของเนตรจะลงเอยในรูปแบบใดในเมื่อคนรักของพี่ชายคิดจะเคลมคนรักของเธอ เรื่องราวความรักวุ่น ๆ จะวุ่นวายมากมายขนาดไหน ใคร…คือคนที่จะยุติปัญหาทั้งหมดลงได้ ไตรรัตน์จะได้สมความปราถนาจะได้อภินิหารกับภรรยาตามกฏหมายของตัวเองสมใจหรือเปล่า สุคนธรสจะหาข้ออ้างอะไรเพื่อผ่าด่านแห่งความกลัวในการทำหน้าที่ภรรยาในชีวิตจริง ชีวิตคู่ของแม่หมอจอมขมังเวทย์จะลงเอยอย่างไร ติดตามหาคำตอบได้ใน " สื่อรักสัมผัสหัวใจ ซีซั่น 2 "
The Sixth Sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2555

The Sixth Sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ (2555/2012) 5 สาว 5 สไตล์ เกิดวัน เดือน ปี เดียวกันแต่ต่างช่วงเวลา มีชะตากรรมลึกลับเกี่ยวพันกัน เรียนหาวิทยาลัยเดียวกัน เป็นเพื่อนรักกัน และมีโรคอย่างเดียวกัน คือ กลัวผีขึ้นสมอง แต่ไม่รู้ว่าบุญหรือกรรม ที่ทำให้ทั้ง 5 มีสัมผัสพิเศษที่แตกต่างกัน ญานิน ( จ๊ะ-จิตตาภา แจ่มปฐม) สาวโบฮีเมียน ผู้มีญาณพิเศษ ชอบทำตัวเป็นแม่แก่ มีความสามารถพิเศษสื่อสารกับจิตวิญญาณโดยการเจริญสมาธิถอดจิตได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่หลับตา มีความหวังว่าสักวันจะได้พบรักแท้ เป็นพี่สาวคนโตในกลุ่ม สุคนธรส (อายส์-กมลเนตร เรืองศรี) สาวห้าวหน้าใส ชอบเทคแคร์คนรอบข้าง จนใครๆเข้าใจผิด คิดว่าเป็นทอม มีทั้งสาวน้อยและสาวใหญ่มารุมชอบ ทำให้ไม่มีผู้ชายคนไหนกล้าจีบ มีสัมผัสพิเศษด้วยกลิ่นวิญญาณต่างๆจึงต้องหาหน้ากากอนามัยลายการ์ตูนลงยันต์มาใส่ลดกลิ่น ได้รับการถ่ายทอดวิชาไสยขาวจากพระอาจารย์ปู่ที่อยุธยาไว้ช่วยเหลือผู้คน กรรณา(วาววา-ณิชารีย์ โชคประจักษ์ชัด) สาวหมวย สูงยาวเข่าดี ลูกกตัญญูช่วยครอบครัวค้าขายเพื่อส่งตัวเองและน้องเรียน มีสัมผัสพิเศษด้วยการได้ยินเสียง วิญญาณต่างๆ จึงมักฟัง iPod ติดหูตลอดเวลาเพื่อกลบเสียงวิญญาณ กรรัมภา(แคท-แคธลีน ณิชารัตน์ มอร์สัน)สาวแบรนด์เนมในสังคมสุดไฮโซ หุ่นอวบอั๋น เซ็กซี่ บ้าศิลปินเกาหลีเข้าเส้น มีสัมผัสพิเศษด้วยมือหากสัมผัสคนหรือสิ่งของใดๆเข้า จะสามารถมองเห็นอดีตที่เกี่ยวพันกับสิ่งนั้นๆ แต่เธอมักจะหลีกเลี่ยงการรับรู้โดยการใส่ถุงมือ และ เนตรศิตางศุ์ (คริสซี่-กฤษณ์สิริ สุขสวัสดิ์) สาวหวานที่อายุน้อยสุดของกลุ่ม เป็นแม่ศรีเรือน ชอบคิดค้นทดลองทำสูตรอาหารใหม่ๆอยู่เสมอ รวมถึงเป็นไข่ในหินของครอบครัวและเพื่อนๆในกลุ่มด้วย สามารถมองเห็นดวงวิญญาณต่างๆ แต่กลัวผีเป็นชีวิตจิตใจ มักใส่แว่นดำลงอาคมของสุคนธรสตลอดเวลา สัมผัสที่หกพาจนทุกคนตกงานจึงตัดสินใจเปิด บริษัท ซิกธ์เซนซ์อินทีเรีย จำกัด แต่ลูกค้าที่มาจ้างส่วนใหญ่กลับจ้างให้พวกเธอไปปราบผีหรือติดต่อกับวิญญาณเสมอ ที่โรงละครผีใบหม่อน (รฐาโพธิ์งาม) อาละวาด ทั้ง 5 ห้ามแต่ผีใบหม่อนไม่ยอม ทั้ง 5 จึงสัญญาจะช่วยเหลือไขปมปริศนาการตายให้เธอ ถึงแม้ว่าพวกเธอพยายามจะหลีกเลี่ยงการทำงานปราบผี แต่จำต้องทำเพื่อความอยู่รอดของบริษัท โดยมีกุมารีน้อย โกเด้นเบบี้(ชาร์เลต วาสิตา เฮเมเนา )เป็นผู้ช่วยตัววุ่น กับ ร.ต.อ. ณัฐเดช (สราวุฒิ มาตรทอง) พี่ชายแท้ๆของเนตรศิตางศุ์ มาดเข้ม ดุดัน ที่ทั้งรักและหวงน้องสาวมาก เป็นคนเดียวที่รู้เรื่องความพิเศษของพวกเธอทุกคน รวมทั้งคอยตามแก้ปัญหากับภารกิจที่พวกเธอทำ ทำให้พบกับเรื่องราวน่าตื่นเต้น สยองขวัญอันตราย ตลอดจนเรื่องแปลกพิสดารเกินคาดฝัน และที่สำคัญที่สุด เรื่องรักแสนโรแมนติก ญานิณและเพื่อน ๆ ได้รับว่าจ้างให้ไปออกแบบรีสอร์ทให้ ติณห์(หลุยส์ สก๊อต) หนุ่มไฮโซเศรษฐี ผู้ดีแปดสาแหรกจอมหยิ่ง ขรึม เศร้า เพราะมีปมด้อยจากการเป็นทายาทนักการเมืองในอดีตที่มีประวัติแปดเปื้อนและฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิด ติณห์กลับมาจากเมืองนอกเพื่อมารื้อฟื้นกิจการรีสอร์ทในที่ดินล้ำค่าของครอบครัว เมื่อเข้ามาถึงรีสอร์ททุกคนสัมผัสมนต์ดำอย่างรุณแรง ติณห์ยอมรับว่ามีผีมาหลอกหลอนจนคนงานจนไม่มีกล้าทำ ใครๆ ก็คิดว่าเป็นฝีมือของ ผีหลวงปู่พิชัยภักดี(เอ-อนันต์ บุญนาค) ที่เฝ้าสมบัติบ้านทรงไทย แต่ติณห์ไม่เชื่อ ญานินถอดญาณเพื่อจะสื่อสารกับดวงวิญญาณก่อกวนได้พบกับหลวงปู่พิชัยภักดียืนต้อนรับด้วยความเอ็นดู และขอให้ญานินช่วยติณห์ แต่จู่ๆก็มีผีตายโหงจำนวนมากโจมตีจิตวิญญาณญานินไม่ทันตั้งตัว ร่างญานินอ่อนแรงล้มลงสู่อ้อมแขนของติณห์ชายหนุ่มในฝัน เพนนี(ปาย-ศิตางศุ์ ปุณภพ) ลูกสาว เสี่ยปิยะพันธ์(กระดุม-ธนายง ว่องตระกูล) หญิงสาวที่เข้ามาเกาะแกะติณห์ เพราะอยากได้ที่ดินของติณห์ ทุกคนสงสัยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของเสี่ยปิยะพันธ์ ทั้งกลับกรุงเทพ 4 หาฤกษ์เพื่อทำพิธีกำจัดผีตายโหงที่ถูกส่งมาก่อกวนที่รีสอร์ท ให้ญานินดูแลหน้าไซน์งาน โดยมีป้าวรรณ (มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) แม่บ้านคอยช่วยเหลือ ไตรรัตน์(เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์) หนุ่มนักเรียนนอก ขี้เล่น เพลย์บอย เจ้าสำอาง เป็นเพื่อนสนิทของติณห์ และเป็นคู่ปรับคนสำคัญของสุคนธรส ด้วยความยากลองของ ไตรรัตน์พาสุคนธรสและเพื่อนๆเธอไปที่บ้าน เพื่อไปกราบอาม่า(สินีนาฎ โพธิเวช) ที่ไม่สบาย แต่ทันทีที่เปิดห้องอาม่า สุคนธรสได้กลิ่น กรรณาได้ยินเสียง กรรัมภาสัมผัสได้ถึงวิญญาณของผี 2 ตนที่พยายามช่วยและทำร้ายอาม่าอยู่ ไตรรัตน์ไม่เข้าใจพฤติกรรมของ3สาวที่กำลังต่อสู้กับอะไรบางอย่างที่มีแต่ตนเท่านั้นที่มองไม่เห็น แต่แล้วทั้งหมดก็สามารถช่วยอาม่าไว้ได้ อาการป่วยของอาม่าจึงเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จนเห็นได้ชัด ผีหลวงปู่พิชัยภักดีเล่าให้ญานินฟังว่าเรื่องทั้งหมดในอดีตที่เกิดขึ้น ตนถูกใส่ร้าย บังเอิญติณห์เห็นร่างญานินที่ถอดจิตไปคุยกับหลวงปู่ นั่งอยู่ไม่รู้สึกตัว เรียกก็ไม่ได้ยิน คิดว่าญานินหมดสติจึงผายปอดให้ ขณะเดียวกันกับที่จิตของญานินกลับเข้าร่างพอดี ฟื้นขึ้นมาเห็นติณห์กำลังช่วยผายปอด ด้วยความตกใจจึงสลบไปจริงๆ กุมารทองจึงสั่งสอนติณห์ปรากฏร่างให้เห็น ติณห์ตกใจหมดสติ เมื่อได้สติ ญานินแนะนำกุมารทองให้ติณห์รู้จัก ติณห์จึงติดสินบนกุมารทองด้วยเครื่องเล่น i-Pad เพื่อไม่ให้อยู่เป็นกางขวางคอ กุมารทองก็ยอมทำตามที่ติณห์ขอ ไตรรัตน์พาสุคนธรสมาดินเนอร์เพื่อตอบแทนที่ช่วย แต่ก็ยังไม่วายคิดจะลองของสุคนธรสอีก ด้วยความหยิ่งทะนงสุคนธรสรับคำท้าโดยยอมเป็นร่างทรงเพื่อให้ไตรรัตน์ได้สื่อสารกับดวงวิญญาณที่ติดตามเขาอยู่ เมื่อพิธีเริ่มสุคนธรสเปลี่ยนไปเป็นคนละคน และฉีกเสื้อผ้าตัวเองก่อนหมดสติไป ไตรรัตน์เปลี่ยนเสื้อผ้าให้สุคนธรส ด้วยความเพลียจึงเผลอหลับไป สุคนธรสตื่นมาเห็นตัวเองอยู่ในห้องกับไตรรัตน์จึงเข้าใจว่าไตรรัตน์ทำมิดีมิร้ายตัวเองไปแล้ว เสี่ยจำเริญ (อนุสรณ์ เดชะปัญญา)ผู้เป็นพ่อ เจ๊หญิง (ดวงตา ตุงคะมณี) ผู้เป็นแม่และอาม่าบอกให้ไตรรัตน์ไปดำเนินการให้ถูกต้องตามประเพณี ซึ่งไตรรัตน์ก็ยอมแต่โดยดีทำให้สุคนธรสแปลกใจมาก ติณห์ชวนญานินไปเดินเล่น ญานินสังเกตเห็นความผิดปกติ จึงทำสมาธิเห็นควายธนูจำนวนมากกำลังพุ่งเข้ามา ทั้งสองจึงพากันหนีเข้ากระท่อมหลังหนึ่งและติดยันต์ที่สุคนธรสให้ไว้ทำให้ควายธนูไม่สามารถทำอะไรได้ ทั้งสองจึงติดอยู่ในกระท่อมด้วยกัน สถานการณ์ทำให้ทั้งคู่มีความรู้สึกที่ดีต่อกัน จนรุ่งเช้ากรรัมภาและกุมารทองเข้ามาช่วย เคธี่(นาตาลี เดวิส) สาวนักเรียนนอก ที่จู่ๆก็มาประกาศความเป็นเจ้าของไตรรัตน์ถึงอยุธยา ทำให้สุคนธรสพยายามตีตัวออกห่าง ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์เคธี่ถอดสร้อยพระของไตรรัตน์ออกจากคอ ผีธรรมเข้าทำร้ายไตรรัตน์แต่สุคนธรสเข้ามาช่วยไว้ได้ ญานินสืบค้นเรื่องหลวงปู่ฯ จนรู้ว่าจริงๆแล้วหลวงปู่ฯ ไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่โดนวางยา ด้านเจ๊หญิงก็โดนหมอผีสมคิด(ธนากร โปษยานนท์) ใช้ยาสั่งจนเกือบจะเซ็นเช็คยกเงินทั้งหมดให้ แต่ทุกคนมาช่วยเจ๊หญิงไว้ได้ทัน หลุดพ้นอาคมหมอผีสมคิดได้สำเร็จ ทั้งหมดจึงวางแผนจะจัดการกับ หมอผีสมคิด ที่มีคดีเกี่ยวกับการฉ้อโกงหลอกลวง แต่ไม่สำเร็จ เพราะมีผู้ที่มีอาคมเก่งกว่ามาช่วยรอดไปแบบหวุดหวิด ติณห์ถูกเพนนีทำเสน่ห์ใส่ ติณห์ประกาศว่าจะแต่งงานกับเพนนี ทำให้ญานินพยายามยกเลิกสัญญาทุกอย่างแต่ก็พลาดท่าให้กับ กำนันพงษ์(ศานติ สันติเวชกุล) จอมขมังเวชที่ช่วยหมอผีสมคิดจับจิตไปขังไว้ ทั้งหมดจึงวางแผนช่วยเพื่อนและล้างมนต์ดำให้ติณห์ หลวงปู่บอกที่ซ่อนทองให้กำนันพงษ์รู้ด้วยความละโมบและหยามใจทำให้กำนันพงษ์ไม่ได้ระวังตัว ถูกสุคนธรสล้างอาคมจนหมด ติณห์ตลบหลังนำ ณัฐเดช ไตรรัตน์ หมอวรวรรธและกำลังเจ้าหน้าที่มาจับกุม ๆสำเร็จหรือไม่ ทั้งหมดจะรอดพ้นกระสุนของกำนันพงษ์ได้หรือเปล่า และญานินจะกลับเข้าร่างได้ทันเวลาหรือต้องกลายเป็นจิตวิญญาณเร่ร่อนตลอดไป ต้องติดตามความสนุกสนานชวนขนหัวลุกได้ .o สื่อรักสัมผัสหัวใจ (The Sixth Sense)

มือปราบพ่อลูกอ่อน 2555

มือปราบพ่อลูกอ่อน (2555/2012) ละคร “มือปราบพ่อลูกอ่อน” เป็นเรื่องราวสุดปั่นป่วน วุ่นวาย เมื่อมือปราบหนุ่มหล่อที่ต้องปลอมตัวมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กสุดแสบทั้ง 3 คน โดยมีเป้าหมายเพื่อทลายแก๊งยาเสพติดข้ามชาติ แต่กลับต้องมาตกหลุมรักคุณแม่จำเป็น จนทำให้เกิดเรื่องราวสุดแซบ โกลาหล ลุ้นระทึก พร้อมกับจะทำให้คอละครยิ้มละไมไปกับความน่ารักของเด็กแสบทั้ง 3 คน กริสน์ ตำรวจนอกเครื่องแบบทำงานเป็นสายลับให้หน่วยงานลับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติถูกส่งตัวไปให้เป็นบอร์ดี้การ์ดให้ อธิป มาเฟียใหญ่ ภัทรดนัย นายตำรวจที่เป็นสนิทของ กริสน์ และได้รายงานว่าจะมีการส่งสินค้าล็อตใหญ่ในวัน โอปอ ลูกสาวคนเดียวของอธิป กริสน์ตามไปดูและบังเอิญได้เจอกับ พิมมาดา เจ้าของร้านดอกไม้ที่เข้ามาจัดดอกไม้ในงาน ในงาน อธิปเลยขอให้กสินน์ไปคุ้มกันความปลอดภัยให้ เพราะอธิป กำลังเจรจาธุรกิจกับ สุขสันต์ นักการเมืองผู้ที่เป็นชื่นชอบของคนทั้งประเทศ มาวิน นำกำลังบุกเข้าไปก่อนผิดแผนเลยทำให้การเจรจาระหว่างสุขสันต์ และอธิป ต้องยุติลง สุขสันต์หายตัวไป สถานะที่แท้จริงของกริสน์ ถูกเปิดเผย แถมยังมีความผิดถูกตั้งข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงานอยู่ในระหว่างการจับกุม กริสน์ปฏิวัติตัวเองใหม่และกลับไปเก็บหลักฐานที่บ้าน จีจ้า เด็กน้อยแอบตามกริสน์ไป แต่ดันมีคนมาแอบสุ่มอยู่ที่บ้านกริสน์ กริสน์จึงพาจีจ้าหนีไป ภัทรดนัยมาช่วยทั้งคู่ออกมาไปได้ และบอกกับกริสน์ว่าสุขสันต์มาติดพัน พิมมาดา และสุขสันต์ไม่ได้รักเด็กจึงคิดกำจัดเด็กๆด้วยการเป็นธุระส่งเด็กๆไปเรียนต่อเมืองนอก เด็กๆต่อรองด้วยการทำตัวดีขึ้น แต่ว่าต้องให้กริสน์มาเป็นพี่เลี้ยงภายในหนึ่งเดือน หากพวกเขาไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมก็ให้ส่งไปต่างประเทศ พิมมาดารับข้อเสนอของเด็กๆ แต่ กริสน์ต้องเข้ามาทำงานในร้านดอกไม้ด้วย กริสน์รับปากเพราะเข้าแผนที่จะใช้พิมมาดาเป็นสะพานสืบเรื่องสุขสันต์ กริสน์สะกดรอยตามสุขสันต์ไปโยไม่รู้ว่ามีเด็กแอบตามไปด้วย กริสน์แอบถ่ายคลิปส่งมอบสินค้าของสุขสันต์ ไว้ สมุนสุขสันต์เห็นเด็กๆ แต่กริสน์เข้าไปช่วยไว้และยอมสละมือถือที่มีคลอปวีดีโอเพื่อช่วยเหลือเด็กๆ สุขสันต์เชิญพิมมาดาไปทานอาหารกลางวันที่บ้านกริสน์และเด็กๆตามไปด้วย กริสน์แอบเข้าไปในห้องทำงานของสุขสันต์เพ่อเอาข้อมูลจากฮาร์ดดิสต์แต่ไม่สำเร็จ กริสน์พยายามบอกว่าสุขสันต์เป็นคนไม่ดี แต่พิมมาดาไม่เชื่อกริสน์ ปวดใจเพราะเริ่มรู้ว่าหลงรักพิมมาดาเข้าแล้ว สุขสันต์รู้ว่ากริสน์แอบเข้าไปขโมยข้อมูล จึงคิดจำกัดกริสน์ แต่จีจ้าตามไปด้วยสนมุน สุขสันต์จับจีจ้า กริสน์ขอชีวิตจีจ้าแลกกับชีวิตตน แต่อธิปส่งคนมาช่วยทัน กริสน์ขอให้พิมมาดาเชื่อว่าสุขสันต์เป็นพ่อค้ายาแต่เธอไม่เชื่อ เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต้องติดตามใน “มือปราบพ่อลูกอ่อน”

หัวใจรักข้ามภพ 2553

หัวใจรักข้ามภพ (2553/2010) ปีพุทธศักราช 2310 ชายแดนระหว่างแปดริ้ว-ชลบุรี แม่ลูกจัน สาวน้อยวัย 17 ธิดากำพร้าของ นายบุญมา แม่ทัพคนหนึ่งในสงครามไทยกับพม่า ถูกบิดาส่งตัวออกจากอยุธยาก่อนกรุงแตกไม่กี่วันเพื่อให้ไปแต่งงานกับ ขุนไกร ทหาร ของพระยาพิชัยดาบหัก ขณะที่ขบวนเจ้าสาวกำลังเดินทางไปแต่งงาน ก็มีกลุ่มโจรเข้ามาปล้นขบวนเจ้าสาวและลงมือฆ่าทหารร่วมขบวน แม่ลูกจัน จึงพา แม่นมอั้ม พี่เลี้ยง หนีกระเซอะกระเชิงไม่คิดชีวิต ภาพตัดมายัง ปี พุทธศักราช 2552 โรงถ่ายภาพยนตร์ย่านทาวอินทาวน์ ทหารเข้ามารายงานต่อ องค์ราชาดำทมิฬ ว่าพระธิดาของพระองค์ ที่ส่งไปหัวเมืองถูก โปนจ้น เสียงคัท ดังขึ้น กอล์ฟ ผู้ช่วยผู้กำกับฯเดินเข้ามาตะคอกนักแสดงที่เล่นเป็นทหาร ว่าแค่คำว่า โจรปล้น ก็พูดผิดจนเทคอีก เสียงห้ามดังขึ้น แล้ว มาร์ค ผู้กำกับหนุ่มหล่อบาดใจรุ่นใหม่ไฟแรง ก็เดินออกมาจัดการเอง มาร์คเป็นผู้กำกับที่มีความสามารถทำเงินได้มากมายหลัง จากที่กำกับหนังเรื่องแรก ฝูงนักข่าวกำลังสัมภาษณ์ แพท นางเอกสาวที่กำลังมองมาร์คอยู่ แพท ให้สัมภาษณ์ว่าตนเองกำลังคบหาดูใจกับมาร์คอยู่ แพทโทรมาหามาร์คเพื่อที่จะชวนมาร์คไปร่วมงานแฟนซีเรนโบฟิล์มของ ต้อมเจ้าของบริษัทเรนโบฟิล์ม ซึ่งมี แม่หน่อย ซึ่งถูกชะตากับมาร์คมาก เช้าตรู่วันต่อมาเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นมาร์คสะกิดให้จันหยิบนาฬิกาปลุกให้ที จันงัวเงียหยิบส่งให้มาร์คไปกดเปิด แล้วนึกขึ้นได้ ทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วร้องจ๊าก ทั้งสองคนตกใจมาก โดยเฉพาะแม่ลูกจัน ที่ต้องมาอยู่ในสถานที่ประหลาด แถมร่วมเตียงแปลกๆกับผู้ชายแปลกหน้า เธอโวยวายฟูมฟายว่าหมดแล้วศักดิ์ศรีแห่งสตรีสยาม มาร์คไม่มั่นใจ มาร์คคิดว่า จันคือหญิงสาวในงานแฟนซีที่อยากดังทางลัด เมื่อมาร์คต้องออกไปคุยงานกับลูกค้าที่นัดไว้ที่ห้าง เขาจึงลากจันขึ้นรถเพื่อจะเอาไปปล่อยให้พ้นๆ มาร์คขับรถมาถึงห้างด้วยความทุลักทุเลมาก เพราะแม่ลูกจันอาละวาดหนัก เธอช็อคกับทุกอย่างรอบตัวเมารถอ้วกแตก มาร์คหลอกปล่อยเธอไว้ในห้าง พร้อมเงินสองพัน บอกให้จันไปหาอะไรกิน แล้วก็ขึ้นแท็กซี่กลับบ้านไปซะ แล้วมาร์คก็เข้าไปห้าง แม่ลูกจัน ทำอะไรไม่ถูกคิดว่าตัวเองอยู่บนสวรรค์ มาร์คพาลูกจันไปทำฟันใหม่ไม่ให้ดำ รูปร่างฟิตแอนด์เฟิร์มไร้ไขมัน ผิวพรรณใสกิ๊ง สีหน้าบุคคลิกที่ดูโบราณ สำเนียงการพูดประหลาด เมื่อมาอยู่กับลุคของคนสมัยใหม่ มันเข้ากันอย่างบอกไม่ถูก ทำให้เธองามเก๋เป็นโอเรียนทั่ลที่ไร้ยุคสมัย ดุจนางแบบอินเตอร์ มาร์คเริ่มครื้มใจเหมือนเขาเป็นแมวมองที่ขุดพบดาราหน้าใหม่ที่สังคมจะต้องฮือฮา ในขณะที่หนังเรื่องใหม่กำลังจะปิดกล้องคลิปที่แพทถ่ายไว้กับชิตก็หลุด หนังสือพิมพ์ทุกฉบับโหมข่าวนี้กันมากมาย ทางผู้ใหญ่ ขอเบรกการถ่ายทำโดยด่วน ต้อมซึ่งแอบรักจันอยู่ได้เสนอให้เปลี่ยนบทให้จันเล่นเป็นนางเอกนำของของ เรื่องนี้ไปเลย ลดบทแพทเป็นตัวประกอบไปเพื่อแก้ปัญหา แพทสูญเสียทุกอย่าง เธอโทษว่าเป็นความผิดของจัน ภาพยนตร์ดำเนินการถ่ายทำไปจนเสร็จ และเริ่มออกฉาย จันรับบทหญิงยุคเก่าจนได้ดีเยี่ยมโด่งดังในชั่วข้ามคืน ต้อมได้จัดงานเลี้ยง ฉลองขึ้นบ้าน ทุกคนกินเลี้ยงกันอย่างสนุกสนาน มาร์คยืนมองจันที่ให้สัมภาษณ์อยู่บนเวทีอย่างชื่นชม ที่จันมาได้ถึงขนาดนี้ หลังจากคืนนั้นมาร์คพยายามหาวิธีที่จะย้อนกลับไปในยุคนั้น จนมาคืนหนึ่งเขาทั้งคู่ก็หาวิธีที่จะทำให้ทั้งสองเดินทางย้อนกลับได้แล้ว ทั้งคู่จึงดึงดาบฟ้าฟาดออกมาจากฝักทั้งคู่จึงย้อนเวลากลับไปในอดีตได้ สำเร็จ ทั้งคู่ก็ไปช่วยกันรบในสงครามครั้งนั้นจนได้รับชัยชนะทำให้มาร์คกับลูกจัน รักกันท่ามกลางสงคราม มาร์คชักดาบขึ้นเพื่อที่จะป้องกันลูกจันจึงเกิดเสียงฟ้าร้องดังขึ้น ภาพสุดท้ายที่ทั้งคู่ได้เห็นคือขุนไกรยิ้มส่งเค้า สรุปว่าที่ขุนไกรตัดสินใจทำแบบนี้ เพราะอยากให้เค้าออกไปจากสงครามครั้งนี้ มาร์คจึงกลับมาอยู่ในยุคปัจจุบัน เมื่อเวลาผ่านไป มาร์คและลุกจันได้ยืนอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ ทั้งสองกำลังยืนดูอยู่ตรงที่บู๊ทของพระเจ้าตากสิน เห้นความเก่งกาจของพ่อของเธอ ของพระยาพิชัย และเห็นประวัติศาสตร์ที่เปลี่ยนไป ทั้งคู่ก็ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ ในจดหมายเหตุข้ามภพ

ปีศาจแสนกล 2553

ปีศาจแสนกล (2553/2010) พรต หนุ่มพนักงานธนาคารหน้าตาดีที่มุมานะทำแต่งาน สมถะ และเศรษฐกิจพอเพียง ไม่เคยทำตัวออกนอกลู่นอกทาง จนคนทั้งธนาคารสำนักงานใหญ่ ให้ฉายาว่าหลวงตา มุ่งมั่นจะเก็บเงินแต่งงานกับ ชัชรี แฟนสาวที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ของธนาคาร ที่รักและเข้าใจเขามานานหลายปี พรตจนปัญญาที่จะพิสูจน์ให้ทางบ้านเห็นว่าเขาจะเป็นเขยที่มีอนาคตได้ พรตปรับทุกข์กับ ชัชรี ถึงท่าทีที่สมาชิกในครอบครัวของชัชรีมักจะแสดงอาการรังเกียจว่าเขาจน ชัชรีงอนว่าตนหมดหวังแล้ว จนถึงขั้นทะเลาะ วิ่งหนี จนพรตวิ่งตามแล้วลื่นลงไปหัวกระแทกแท่นหิน แล้วจู่ ๆ ท่าทีของพรตก็เปลี่ยนไป เป็นร่าเริง กรุ้มกริ่ม แววตาเจ้าชู้ฉายชัด เขาชวนเธอกลับไปให้ทันทานข้าวมื้อเย็นกับครอบครัวของชัชรี ทั้ง ๆ ที่เขาพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด พรตพูดจาโต้ตอบกับทุกคนอย่างฉะฉานมั่นใจ ปล่อยมุขกระจายจนทุกคนประทับใจ เขาดูเหมือนจะเป็นพรตคนใหม่ เช้าวันต่อมา พรตก็แปลกใจที่มีเสียงลึกลับดังข้างหูแต่หาตัวเจ้าของเสียงไม่ได้ ทำให้พรตใจหายเมื่อคิดได้ว่านั่นคือเสียงของผี ผีจึงออกมาแนะนำตัวเองว่าชื่อ ทองห่อ เป็นผีในวัง อดีตเป็นขุนนางเพลย์บอย ทองห่ออยากจะสะสมบุญเพื่อจะได้ไปเสวยสุขบนสวรรค์ซะที เขาจึงตั้งใจจะช่วยให้ความรักของทั้งคู่สมหวัง ส่วนผีทองห่อก็อดใจไม่ไหวขอยืมร่างพรตออกเที่ยวอยู่บ่อย ๆ ส่วน ชัชรี ชอบที่เขาเลิกเคร่งขรึมสมถะ และที่เคยทำตัวสุภาพ สำรวมกายใจกับเธอ จนน่าเบื่อ ก็กลับมาเป็นสวีทโรแมนติก หวานแหววหวือหวามากมาย จนถึงขั้นเจ้าชู้ใส่เธอ แต่ไป ๆ เธอก็เริ่มเครียด เมื่อเขากลายเป็นนักเที่ยว มีสาว ๆ แปลกหน้าหลายคนที่เข้ามาทักพรตอย่างสนิทสนม ทำให้พรตเริ่มทะเลาะกับ ชัชรีบ่อยขึ้น พรตจึงต่อต้านทองห่ออย่างจริงจัง พยายามสวดมนตร์ไล่ผีด้วยคาถาต่าง ๆ แต่ก็เหมือนทำให้ทองห่อกล้าแข็งยิ่งขึ้น เขาเข้าสิงพรตบ่อยขึ้น จนสามารถยึดร่างพรตได้ทั้งกลางวันกลางคืน ทองห่อพยายามบอกตอกย้ำกับตัวเองว่าสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อ ชัชรี คือการช่วยให้ความรักของ ชัชรี กับ พรต สมหวัง เขาจะได้ไปสวรรค์ ทองห่อใช้ร่างพรต ไปเที่ยวตีกอล์ฟกับเทพ และแก้ไขปัญหาครอบครัวให้เทพและอมราได้ เทพและอมราขาดเขาไม่ได้จนถึงขั้นต้องขอให้พรตมาเป็นลูกบุญธรรม ที่บ้านจนกว่าจะจัดงานหมั้นเสร็จ หลังจากหมั้น ชัชรีลากพรตไปเคลียร์ในสวนเรื่องหญิงทั้งหลาย พรตไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเปิดเผยความลับให้ชัชรีฟังว่า เขามีเพื่อนเป็นผีที่ช่วยให้เขาถูกล็อตเตอรี่จนมีเงินสำหรับงานหมั้นที่เขาจะยกขันหมากไปขอเธอ ชัชรีไม่เชื่อ จนพรตต้องขอให้ทองห่อออกมาแสดงตัว และทองห่อก็ไม่ขัดข้อง เพราะชอบโชว์อยู่แล้ว ความโลภของมนุษย์ ก็ทำให้ทุกคนยอมรับทองห่อ แล้วต่างขอในสิ่งที่ตนเองหวังจนผีทองห่อเริ่มอึดอัด แต่ถึงอย่างไรทองห่อก็ยังเพลิดเพลินกับของเซ่นไหว้ และการรำถวายของแม่พิไล และสนุกกับการได้แกล้งผู้คน แต่พรตทนเพื่อนผีของเขาไม่ไหวแล้ว เพราะเขามีปัญหากับชัชรีมากขึ้น ๆ ความรักความเข้าใจสมัยเขาจน กลายเป็นความระหองระแหงเข้าใจผิด ร้าวฉานและชัชรีก็ทะเลาะกับผีทองห่อบ่อยจนหมดความเกรงกลัว แถมหาอุปกรณ์ปราบผีต่าง ๆ มาแกล้งทองห่อด้วย พรตคิดจะให้ทองห่อรีบไปเสวยสุขบนสวรรค์เร็วขึ้นด้วยการปลดปล่อยวิญญาณออกจากหลุมศพ พรตจะจัดการผีเจ้าเล่ห์อย่าง ทองห่อ อย่างไร และความรักของเขากับ ชัชรี จะสมหวังหรือไม่ ต้องติดตามชม ปีศาจแสนกล ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 19.00 น. ปีศาจแสนกล เริ่มตอนแรกพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ ศกนี้ ทางช่อง 3

สุสานภูเตศวร 2552

สุสานภูเตศวร (2552/2009) สร้อยตรีพักตราสูร …เล่าขานถึงความโหดร้ายของภูเตศวร (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) กษัตริย์ผู้ครองนครภูเตศวร อาณาจักรอันรุ่งเรืองในอดีตกาล แต่ความรุ่งเรืองไม่อาจทำให้อาณาจักรภูเตศวรอยู่เป็นนิรันด์ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างล่มสลายไปตามกาลเวลา เหลือแต่..สร้อยอาถรรพ์ที่มาพร้อมกับคำสาป ไม่ว่ามันจะตกไปอยู่ในมือของผู้ใดมันผู้นั้นย่อมมีอันเป็นไปไม่ตายโหง ก็ต้องตายอย่างทุกข์ทรมาน เพราะความโลภที่ต้องการสมบัติของภูเตศวร หลังจากเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงทำให้ผู้คนเข่นฆ่ากันตาย สร้อยตรีพักตราสูรก็หายสาบสูญไปพร้อมกับร่างของภูเตศวรที่ถูกสาปให้สูญสิ้น ไปพร้อมกับหญิงอันเป็นที่รัก จนกระทั่ง 5,000 ปีผ่านในที่ป่าลึกกลางขุนเขาเทิดณรงค์ ( ณัฐพล ลียะวนิช ) หนุ่มผู้หลงใหลโบราณคดีและการผจญภัยในการค้นหาปริศนาแทงสมบัติ รับการว่าจ้างให้ค้นหากริชโบราณ เทิดณรงค์และจุฑา (สน เดอะสตาร์) ออกเดินทางเข้าป่าเพื่อตามหากริชและได้พบกับ “สร้อยตรีพักตราสูร” เพียงแว๊บแรกที่ได้เห็นสร้อยตรีพักตราสูร เทิดณรงค์เหมือนตกอยู่ในพลังอำนาจบางอย่างที่ดึงดูดให้เขาหยิบมันขึ้นมา โดยหารู้ไม่ว่าความความชั่วร้ายได้อุบัติขึ้นแล้ว ภูเตศวรฟื้นคืนชีพอีกครั้ง นิลพัตรา ไกรรณชิต (ศรีริต้า เจนเซ่น) กับกระแต (กัลยา จิรชัยศักดิ์เดชา)เดินทางกลับจากการร่วมภารกิจแพทย์อาสากับองค์การสหประชาชาติ โดยพา นภศูล (ชลิต เฟื่องอารมณ์) ผู้เป็นพ่อผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีมาพักผ่อนด้วย เทิดณรงค์เอาสร้อยตรีพัตรศูลมาให้นภศูล นิลพัตราเริ่มฝันถึงร้าย ๆ และทำอะไรแปลก ๆ โดยไม่รู้สึกตัว นิลพัตราได้พบหน้ากับเทิดณรงค์อดีตคนรัก ภาพเก่า ๆ ที่เทิดณรงค์ทิ้งพิธีหมั้นไปตามหาสมบัติผุดขึ้นมา จึงพูดจาทำร้ายหัวใจกันทั้งที่ลึก ๆ ยังรักกันอยู่ เทิดณรงค์และจุฑาปะทะฝีมือกับกาฬจักร (ดอม เหตระกูล)ชายลึกลับที่มีอำนาจและพละกำลังเหนือมนุษย์ บุกเข้ามาบีบบังคับให้เทิดณรงค์บอกที่อยู่ของสร้อยตรีพักตราสูร เทิดณรงค์สังหรณ์ว่านิลพัตรา กำลังตกอยู่ในอันตราย กระแต (กัลยา จิรชัยศักดิ์เดชา) ก็สัมผัสถึงพลังอำนาจบางอย่างที่มาก่อกวนและบงการนิลพัตรา อัคคี(ฉัตรชัย เปล่งพานิช) มหาเศรษฐีลึกลับผู้ซึ่งมาพร้อมกับโชคชะตา ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับมะแตนาย (ซอนย่า คูลลิ่ง) เข้ามาตีสนิทกับนภศูลและนิลพัตรา และบอกว่านิลพัตรถูกสร้อยอาถรรพ์ครอบงำ นิลพัตราจะต้องเดินทางไปแก้อาถรรพ์ที่อาณาจักรอโฆราลัยเพียงคนเดียว แต่เทิดณรงค์ไม่ไว้ใจพยายามขัดขวาง ทำให้พลังอำนาจของสร้อยไม่สามารถครอบงำนิลพัตราได้ตลอดเวลา ทำให้อัคคีต้องเปลี่ยนแผน พาทุกคนไปยังอาณาจักรภูเตศวร นิธิเทพินทร์ (ซอนย่า คูลลิ่ง ) สนมของภูเตศวรในภพที่แล้วแค้นใจที่อัคคีให้ความสนใจนิลพัตรามากเป็นพิเศษ นภศูลชวนพรานแก้ว(เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์)พรานป่าผู้เก่งกล้าวิชาอาคมให้ร่วมทีมไปด้วยโดยไม่ให้นิลพัตรา รู้ นิลพัตรา ยศวดี(พรรณชนิดา ศรีสำราญ)แอบติดตามไปแต่ก็ถูกจับได้ นิลพัตราฝันถึงคำสาปและเผชิญหน้ากับอสูรผู้ดูแลนครต้องห้าม และสั่งให้นิลพัตราและคณะกลับไปไม่เช่นนั้นทุกคนจะต้องตาย กระแตเชื่อว่าเป็นลางบอกเหตุ จึงเล่าให้ทุกคนฟังแต่ไม่มีใครเชื่อเรื่องอาถรรพ์ของนครต้องห้ามภูเตศวร ระหว่างทางทีมลูกหาบสาวคนหนึ่งถูกสะกดจิตให้ขโมยแผ่นศิลาไปซ่อน แต่พรานแก้วก็สามารถคลายมนต์สะกดและหาแผ่นศิลาจนเจอ อัคคีรู้ได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่เป็นฝีมือของผีสางธรรมดาแต่มันคือใครคนหนึ่ง ที่พยายามขัดขวางการทำงานของเขา ระหว่างทางนิลพัตรากับเทิดณรงค์เป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอด ทุกคนพบกับความยากลำบากที่อยู่เหนือคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ แต่นั่นก็ทำให้เทิดณรงค์และนิลตราใกล้ชิดและผูกพันกันมากขึ้น อัคคีพยายามทำดีมัดใจนิลพัตราแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะนิลพัตรายังรักเทิดณรงค์อยู่ อัคคีแค้นใจและหาทางแยกทั้งสองจากกัน คณะสำรวจได้พบกับชีวิน(ปีเตอร์ ไมอ๊อคซิ) นักธุรกิจผู้ชอบเข้าป่าล่าสัตว์จัดทีมสำรวจของตัวเองขึ้นโดยมีพรานดำ คู่ปรับพรานแก้วออกเดินทางติดตามทีมของนภศูลไป แต่ถูกอัคคีสะกดจิตและสั่งให้ฆ่าทุกคนในคณะนภศูลยกเว้นนิลพัตรา มะแตนายใช้อิทธิฤทธิ์ทำให้คณะสำรวจของนภศูรผ่านเส้นทางอันตรายทั้ง ดงกระสือ ห้วยกระหัง โค้งกะโหลก จนกระทั่งพลัดหลงไปใต้พิภพ อัคคีตกเหวลึกเพราะช่วยนิลพัตรา ทุกคนเข้าใจว่าอัคคีตาย นิลพัตรารู้สึกผิดต่ออัคคีเพราะก่อนตายอัคคีสารภาพรักกับเธอว่าเขายอมตาย เพื่อเธอ มะแตนายสุดทนกับภาพบาดตาบาดใจระหว่างอัคคีกับนิลพักตรา จึงเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงว่าเธอคือนิธิเทพินทร์เทวีผู้อภิบาลแห่งจอมราชัน อาณาจักรภูเตศวร และกักขังเทิดณรงค์ให้วนเวียนอยู่ใต้พิภพ เผชิญหน้ากับสิงห์โตเขี้ยวดาบ งูยักษ์ และซากกระดูก นิลพัตราเผชิญหน้ากับกาฬจักรเทพแห่งความตายในความฝัน ที่คอยบอกให้นิลพัตราเดินทางกลับไป แต่ก็ไม่เป็นผล ทุกคนเดินทางมาถึงหน้าสุสานก็ได้เจอกับกองทัพปีศาจที่อัคคีส่งมา ขณะที่ทุกคนกำลังเพลี่ยงพล้ำ กาฬจักรช่วยเหลือได้ทันทำให้กองทัพปีศาจของอัคคีล่าถอยไป แท้จริงแล้วกาฬจักรเป็นเพื่อนและทหารคนสนิทของภูเตศวร สามีของของนิลพัตรหญิงสาวที่มักใหญ่ใฝ่สูงในอดีตชาตินั่นเอง แต่เมื่อภูเตศวรเกิดพึงพอใจในตัวนิลพัตรหญิงอันเป็นที่รักของเขา กาฬจักรจึงจำต้องยอมยกเมียรักให้เพื่อน นิลพัตรพอใจที่ความงามของเธอทำให้ผู้ชายหัวแย่งชิงกันกาฬจักรสุดทนลงมือปลิด ชีพภูเตศวรและนิลพัตร และสละชีวิตตนเองเพื่อกักขังวิญญาณชั่วของทั้งคู่ไว้ใต้แผ่นศิลา นิธิเทพินธ์ ปรากฏตัวและบอกว่าภูเตศวรใกล้ฟื้นคืนชีพแล้วและต้องการจะนำนิลพัตราไปสังเวย เพื่อให้นิลพัตรฟื้นคืนชีพอีกครั้ง กาฬจักรขัดขวางไม่ให้แผนการคืนชีพของนิลพัตรสำเร็จ และบอกให้ทุกคนรีบออกไปจากที่นี่ เพราะใกล้ถึงเวลาที่ร่างของเขาจะแตกดับแล้ว กาฬจักรฝากนิลพัตราไว้กับเทิดณรงค์และกาฬจักรดีใจที่ภพนี้นิลพัตราได้เจอกับ คนดีอย่างเทิดณรงค์ จากนั้นร่างของกาฬจักรก็อันตธานหายไป ก่อนจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่พร้อมกับการปรากฏตัวของภูเตศวรซึ่งทำให้ทุกคน ถึงกับช็อกเพราะความจริงภูเตศวรก็คืออัคคีนั่นเอง เขาได้บอกกับทุกคนว่าทุกอย่างเป็นแผนการของเขาทั้งหมดที่ต้องการให้ทุกคน เดินทางมาที่นี่ก็เพื่อให้นิลพัตราเดินทางมาหาเขา เพื่อทำให้นิลพัตรหญิงที่เขารักตื่นจากการหลับใหลกว่าห้าพันปีและครองคู่กับ เขาตลอดไป ทุกคนเพิ่งรู้ถึงแผนอันแยบยลของภูเตศวรแต่ดูเหมือนทุกอย่างจะสายเกินไป ภูเตศวรชุบชีวิตนิลพัตรให้ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง นิลพัตรจะจำภูเตศวรได้หรือไม่ เทิดณรงค์จะทำอย่างไรเมื่อต้องสูญเสียคนรักไปตลอดการ เทิดรณงค์ยอมเอาชีวิตเป็นเดิมพัน นิลพัตราจะทำอย่างไร ติดตามชมบทสุดท้ายของความรักอมตะของเขาและเธอได้ในละคร ผจญภัยแนวแฟนตาซี ตามล่ารักรักข้ามภพ เรื่อง “สุสานภูเตศวร”

คุณแม่จำแลง 2552

คุณแม่จำแลง (2552/2009) เมื่อ ธันวา แยกทางกับ แอนนา หรือ เอมิกา หลังจากลูกชายลืมตาดูโลกได้ไม่นานด้วยเหตุผลที่ว่าทัศนคติไม่ตรงกัน ธันวาจึงตัดสินใจเดินทางกลับเมืองไทย ในขณะที่แอนนาเลือกใช้ชีวิตนักแสดงละครบรอดเวย์อยู่ที่นิวยอร์คต่อไป เกือบ 8 ปีเต็ม ธันวา เลี้ยงดูลูกชายตัวน้อยด้วยหนังสือคู่มือเลี้ยงเด็ก พร้อมทั้งทำธุรกิจเปิดร้านพิซซ่าเล็กๆ ปอโต้ เติบโตมาท่ามกลางความรักความเอาใจใส่ของพ่อ และลูกจ้างในร้านที่คอยเอาอกเอาใจอย่าง โก๋เทียม และ แม๊กกี้ ทำให้ปอโต้นั้นค่อนข้างซุกซน เอาแต่ใจ และไม่ค่อยยอมคน แต่ปอโต้ก็ยังบ่นถึงแม่เป็นประจำ ดังนั้นในวันเกิดของลูกชายทุกๆปีธันวาจะเลียนเสียงเป็นภรรยาโทรทางไกลมาอวย พร พร้อมกับส่งของขวัญมาให้ เพื่อที่ปอโต้จะได้รู้สึกว่ามารดายังห่วงใยเขาอยู่เสมอ และทุกครั้งที่ลูกชายเขียนการ์ดขอบคุณตอบกลับไปหาผู้เป็นแม่ ธันวาก็จะอาสาเก็บจดหมายและข้อความต่างๆ เหล่านั้นไปอ่านเองด้วยความปลื้มใจ จนวันหนึ่งความสัมพันธ์ของสองพ่อลูกต้องเจอปัญหา เมื่อธันวาได้พบกับ รัญนรี แดนซ์เซอร์สาวซึ่งแวะเวียนมาที่ร้านจนเกิดความสนิทสนม ติดตามต่อได้ใน คุณแม่จำแลง

หน้าที่