บูรพาศิลป์ภาพยนตร์
สายเปล (2510/1967) มิตร-เพชรา ข้อความบนใบปิด บูรพาศิลป์ภาพยนตร์ ฉลองครบรอบ 38 ปี ด้วย สายเปล ของ ป.พิมล มิตร-เพชรา (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี), ทักษิณ แจ่มผล, กิ่งดาว ดารณี, (ชุมพร เทพพิทักษ์), สุดเฉลียว เกตุผล, (บุษกร สาครรัตน์), มาลี เวชประเสริฐ, สมศรี, สมพงษ์ พงษ์มิตร, (ล้อต๊อก), (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม) นำแสดง ขอแนะนำ รองนางสาวไทยปี 2509 อุไรวรรณ งามบุญสืบ และ สรายุทธ เวชชยันต์ สำเภา ประสงค์ผล อำนวยการสร้าง ฉลอง ภักดีวิจิตร ถ่ายภาพ (รังสี ทัศนพยัคฆ์) กำกับการแสดง
ฟ้าเพียงดิน (2510/1967) ข้อความบนใบปิด บูรพาศิลปภาพยนตร์ เสนอ (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) โสภา สถาพร ทักษิณ แจ่มผล (ชุมพร เทพพิทักษ์) พร้อมด้วย จำรูญ หนวดจิ๋ม, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), (สุวิน สว่างรัตน์), สถาพร มุกดาประกร, (ชฎาพร วชิรปราณี), พงษ์ลดา พิมลพรรณ, วงษ์ ศรีสวัสดิ์, ศรีสละ ทองธารา, (อดินันท์ สิงห์หิรัญ), จำนงค์ คุณะดิลก, ด.ช.ตุ๊ดตู่ ทัศนพยัคฆ์, ด.ญ.น้อยหน่า, ด.ช.อาจพิชิต อรรถจินดา, ด.ช.วโรดม เปรมกมล ฟ้าเพียงดิน จากละครวิทยุและบทประพันธ์ของ เสนีย์ บุษปะเกศ พันคำ กำกับการแสดง สำเภา ประสงค์ผล อำนวยการสร้าง ฉลอง ภักดีวิจิตร ถ่ายภาพ จินตนาฟิล์ม จัดจำหน่าย
แม่ยอดสร้อย (2505/1962) มิตร-ปริศนา พรหมสุรางค์ ข้อความบนรูปโฆษณา หนุ่มกร้าว...สาวแก่น...จำให้แม่น...แม่ยอดสร้อย ชมลีลาชีวิตของ ยอดสร้อย เด็กสาววัยรุ่นที่แสนสวย แสนซน และแสนแก่น... แต่ถูกมรสุมชีวิตพัดเข้าไป อยู่ในอุ้งมือของแม่เลี้ยงใจโหด และน้องสาวต่างมารดาใจอำมหิต บูรพาศิลป์ภาพยนตร์ ภูมิใจสร้างเสนอ ด้วยใช้เวลาถ่ายทำอย่างปราณีตบรรจงถึง 1 ปีเต็ม.. แม่ยอดสร้อย จากบทประพันธ์สุดรักของ สันต์ เทวรักษ์ ซึ่งได้รับความนิยมสูงสุดใน เดลิเมล์วันจันทร์ สีวิจิตร สะคราญตา โดยฝีมือ ประเทือง ศรีสุพรรณ (ตากล้องหญิงคนแรกของเมืองไทย) (มิตร ชัยบัญชา) แสดงเป็น ม.ร.ว.ไวพจน์ ชายใจพระของ ยอดสร้อย สมควร กระจ่างศาสตร์ แสดงเป็น ร.ต.ท.ชิตหลี สหายคู่ใจของม.ร.ว.ไวพจน์ ปริศนา พรหมสุรางค์ แสดงเป็น ยอดสร้อย เด็กสาวคนซื่อที่ต้องได้รับความดีตอบสนอง ชไมพร สุรินทร แสดงเป็น นิรมล เด็กสาววัยคะนองที่ลืมตนลืมกาย สุดเฉลียว เกตุผล แสดงเป็น น้องสาวคนซื่อของ ยอดสร้อย พร้อมด้วย (มนัส บุณยเกียรติ) ยุงร้ายกว่าเสือ แต่แม่เลี้ยงร้ายกว่ายุง สิงห์ มิลินทราศรัย แมลงสาบสังคม ที่คอยแทะผู้หญิงสาว สุเทพ เหมือนประสิทธิเวช ดาวร้ายอำมหิต ผู้คะนองฤทธิ์โลกีย์ และ (ล้อต๊อก)น้อย เจ้าแกละจอมทะโทนไพร รัตนะยาวะประภาษ กวีร้อยแก้วของบรรณพิภพ สร้างบทภาพยนตร์ สำเภาประสงค์ผล ผู้สร้างผลงานมแล้ว 31 ปี อำนวยการสร้าง วิชัย ปาลวัฒนวิไชย ผู้กำกับการแสดงตุ๊กตาทอง กำกับการแสดง
นักรักนักสู้ (2501/1958) ลือชัย-ประจวบ-สุรวดี ข้อความบนใบปิด เสือสองตัวจะอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้! แต่...บูรพาศิลป์ภาพยนตร์ ได้ค้านคำกล่าวนั้นแล้ว โดยนำ... (ลือชัย นฤนาท) พระเอกลักยิ้ม พบ (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี) ผู้ร้ายผู้ดี นักรักนักสู้ พรั่งพร้อมด้วย ราชันย์ กาญจนมาศ, ชด ชัชวาลย์, เลอสรรค์ วิรยะศิริ, สมถวิล มุกดาประกร, โชติ พุกกะพันธุ์, ต่อชัย ภู่ชมพู, แดน ดำรงศักดิ์, ปกรณ์ เกษตรชนม์, ดอกดิน กัญญามาลย์, ชูศรี โรจนประดิษฐ์ และขอเสนอ 4 นางเอกสาววัยรุ่น พรพิไล สุขะศิริวัฒน์, คัชรินทร์ นิรมล, ชนินทร เพชรบุญศรี, สุรวดี เบอร์เดน ประเทือง ศรีสุพรรณ-ปรีชา ทรัพย์พระวงศ์ ถ่ายภาพ ถาวร สุวรรณ สร้างบท วิชัย ปาลวัฒน์วิไชย กำกับการแสดง ฉายแน่นอนที่โรงหนังเอ็มไพร์ ปลายเดือนกันยายนนี้ (เสน่ห์ โกมารชุน) กับ จุรี โอศิริ พากย์
แผลเก่า (2497/1954) ในปี พ.ศ. 2496 ณ คฤหาสน์โลจนะรัตน์กำลังจะมีพิธีวิวาห์ในวันรุ่งขึ้น ระหว่าง รังรอง โลจนะรัตน์ (พรทิพย์ โกศลมัชกิช) ลูกสาวสุดที่รักของเจ้าของคฤหาสน์ กับชายที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน รังรองได้แต่มองการ์ดแต่งงานด้วยความเจ็บช้ำ ก่อนจะฉีกมันทิ้งเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แล้วตัดสินใจเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางไปหลบที่ทุ่งวังทองหลางซึ่งเมื่อสมัยเด็กรังรองเคยมาเก็บค่าเช่าที่นากับแม่อยู่บ่อยๆ ค่ำแล้ว รังรองยังไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้จึงลงมาเดินเล่น และได้พบกับหนุ่มนั่งเป่าขลุ่ยอยู่ใต้ต้นไทรหญิงสาวเกิดความสนใจจึงเข้าไปคุยด้วย ก่อนจะตกใจจนสลบไปเมื่อรู้ว่าเขาเป็นวิญญาณ ผัวเมียเจ้าของบ้านจึงเล่าเรื่องราวในอดีตที่ทำให้วิญญาณของชายหนุ่มยังคงสถิตอยู่ที่ต้นไทร เขาชื่อว่า ขวัญ (ชีพ ชูพงษ์) ในอดีตเคยรักอยู่กับหญิงสาวชื่อ เรียม (พรทิพย์ โกศลมัชกิช) ทั้งสองให้สัตย์สาบานต่อศาลไทรว่าจะรักและซื่อตรงต่อกัน แม้นใครผิดคำสาบานขอให้มาตายอยู่ใต้ต้นไทรต้นนี้ แต่เพราะตระกูลของชายหนุ่มหญิงสาวเป็นศัตรูคู่อาฆาตกัน ขวัญจึงถูก เรือง พ่อของเรียมกีดขวางความรักโดยการจับเรียมไปกักขัง ก่อนจะขายเรียมให้คุณนายทองคำ และส่งตัวไปอยู่บางกอกด้วยความเห็นแก่เงิน ขวัญได้แต่นับวันรอคอยการกลับมาของเรียม คุณนายทองคำปฏิบัติต่อเรียมประหนึ่งลูกสาวเพราะคุณนายนั้นเคยเสียลูกสาวไป เมื่อถูกปรนเปรอด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์ราคาแพง เรียมก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นคนละคน รวมทั้งหัวใจของเธอก็เอนเอียงไปให้ สมชาย (ทวนทอง วิมลรัตน์) อดีตว่าที่ลูกเขยของคุณนายทองคำที่มาชอบเรียม ครั้นมีโอกาสได้กลับมาเยี่ยมแม่ที่กำลังป่วยหนัก ขวัญจึงหาโอกาสมาทวงถามความรักต่อเรียม หญิงสาวจึงได้ระลึกถึงความหลังครั้งเก่า และคำสัญญาที่เคยให้ไว้ต่อหน้าเจ้าพ่อไทร แต่ในไม่ช้าสมชายก็กำลังจะพาเรียมกลับกรุงเทพ ความสับสนและความกลัวว่าสาวคนรักจะเปลี่ยนใจทำให้ขวัญบุ่มบ่ามทำลายเรือของสมชายพังยับเยิน สมชายแค้นจัดเป็นตัวตั้งตัวตีนำชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ขวัญ ขวัญพยายามตะเกียกตะกายไปที่ศาลไทรโดยมีเรียมว่ายน้ำตามมา เมื่อเห็นว่าขวัญกำลังจะสิ้นใจเรียมจึงใช้มีดปลิดชีพตนตายตามคนรัก ณ ที่ที่เคยสาบานรักกัน
ชอนกาเหว่า (2489/1946) เพราะความเหลวแหลกของ ประเวศทำให้เขาถูก นายประวัติ ผู้เป็นบิดา เฉดหัวออกไปจากบ้าน ประเวศจึงต้องออกรอนแรมไปยังหมู่บ้านชอนกาเหว่า สถานที่ที่เขาได้พบกับ ผู้ใหญ่ฟื้น เพื่อนของบิดา ทว่าผู้ใหญ่ฟื้นกลับไม่รู้จักประเวศ ประเวศจึงเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น นายเริกษ์ และขอทำงานในไร่ฝ้ายของผู้ใหญ่ฟื้น ฝ่ายนายประวัติ หลังจากไล่ประเวศลูกชายออกจากบ้าน ก็ชักชวน จามรี หลานสาวมาช่วยงาน รวมถึงไปช่วยดูแลไร่ฝ้ายของผู้ใหญ่ฟื้น ทำให้เธอได้พบกับประเวศ แต่เพราะท่าทียียวนของประเวศทำให้เธอไม่อยากจะผูกสมัครรักใคร่ทั้งที่ในใจก็แอบชอบ กระทั่งประเวศรู้ข่าวว่า นายยศ ลูกเขยของผู้ใหญ่ฟื้นกำลังคิดจะโกงฝ้าย และจับจามรีเป็นตัวประกัน ด้วยความรักประเวศจึงเร่งรุดไปช่วยจนเกิดการต่อสู้ขึ้น ในจังหวะเดียวกับที่ประวัติและผู้ใหญ่ฟื้นเดินทางมาพบเข้า จึงช่วยประเวศล้างบางพวกคิดคดทรยศ แต่น่าเสียดายที่ผู้ใหญ่ฟื้นพลาดท่าเสียชีวิต ประเวศและจามรีจึงดูแลไร่ฝ้าสืบไป
กุหลาบพระนคร (2480/1937) 1 เมษายน วันขึ้นปีใหม่ของชาวสยาม ใครๆ ไม่ว่าหนุ่มสาวต่างทำใจเบิกบานต้อนรับความสุข แต่ปีใหม่มิได้เปลี่ยนเอาความจนของปีเก่าของคนจนไปด้วยเลย คงต้องต่อสู้กับความจนต่อไป วินัย สุปานันท์ ถูกความหมุนเวียนเปลี่ยนชีวิตของเขาแทบจะนับครั้งไม่ถ้วน บิดาคือ ร้อยเอกหลวงสัจจาวุธ เสียชีวิตไปก่อนที่เขาจะเป็นหนุ่ม ทิ้งแม่เจียมและ นิจ น้องสาวที่ยังเล็กให้เผชิญชีวิตตามลำพัง บัดนี้ความหมุนเวียนเปลี่ยนให้แม่เจียมที่เคยแข็งแรงทำงานเลี้ยงลูกอย่างขันแข็ง มาเป็นแม่เจียมที่ตามองอะไรไม่เห็นไม่อาจทำงานได้ อนาถหนาครอบครัวเล็กๆ ต้องประสบมรสุม ทำให้วินัยซึ่งอีกสองเดือนกว่าๆ ก็จะจบการโรงเรียน ต้องตัดใจลาออกมาทำงานเลี้ยงแม่และน้อง มาเป็นกรรมกรถีบสามล้อ และได้ ถึก คนถีบสามล้อเป็นเพื่อนรักกัน อีกแห่งหนึ่งในความเป็นอยู่ของชาวพระนครณ บ้านของคนผู้มั่งมีแล้ว คือบ้านของ พันโทพระยาสรรพาวุธ นายทหารนอกราชการ กับ สุณี ลูกสาวผู้กำลังเป็นกุหลาบดอกที่งามเด่นอยู่ในพระนคร จึงมีชายหนุ่มและกระทั่งแก่หลายรายจ้องมองสุณีด้วยความปรารถนาจะได้ครอง แต่ดูเหมือนไม่มีใครได้ใกล้ชิดเกินไปกว่านายเรืออากาศเอกอารี สมัครยุทธ์ ในสังกัดกรมทหารอากาศ สามารถไปมาหาสู่ที่บ้านได้บ่อยๆ ซึ่ง นิ่ม หญิงคนใช้ที่ต้องคอยเปิดประตูบ้านให้รถเข้าคุ้นเคย วันนี้อารีมาหาสุณีเพื่อแจ้งข่าวว่าเขาถูกย้ายไปประจำกองบินที่ 5 ประจวบคีรีขันธ์ แล้วถามถึงเรื่องส่วนตัว แต่สุณีนิ่งเฉยอารีจึงกลับไปอย่างผิดหวังเช่นเคย วันนี้เจ้าคุณพ่อกับสุณีไปธนาคารเพื่อเบิกเงินสด 6 พันบาทสำหรับจะซื้อที่ดินที่มีคนมาบอกขายแต่ระหว่างเดินทางกลับบ้าน รถยนต์เกิดเสียกลางทางเจ้าคุณไม่รอให้คนขับซ่อม เรียกรถสามล้อกลับบ้านกับลูก บังเอิญวินัยถีบสามล้อมาพอดี รับไปส่งถึงบ้าน เจ้ากรรม ท่านเจ้าคุณและสุณีลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ที่เบาะสามล้อ วินัยกลับถึงบ้าน จึงรู้ว่าผู้โดยสารลืมกระเป๋าทีแรกถึกว่าให้เอาไปลงทุนเปิดร้านขายของ แต่แม่เจียมว่าให้เอาไปคืนเขาและขอให้เขา เขาอาจเห็นความดีและหางานดีๆ ให้ทำ ถึกพยายามทักท้วง แต่แม่เจียมบอกว่า ลูกผู้ชายเราควรจะทำตนให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นบ้างชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และรัฐธรรมนูญ สิ่งเหล่านี้อีกที่เราควรรักและหวงไว้ประดุจชีวิตของเรา