บุปผาอาริกาโตะ (2559)

เรื่องย่อ : บุปผาอาริกาโตะ (2559/2016) โรส สาวสวยวัย 20 ผู้เพียบพร้อม มีชื่อจริงว่า บุปผาราตรี จับได้ว่า แม็ค คนรักนอกใจเธอ โรสฆ่าแม็คและหนีไปอยู่ที่เมืองนิเซโกะ ประเทศญี่ปุ่น “ออสการ์ลอดจ์” คือบ้านเช่าที่โรสเข้าไปหลบซ่อนตัว ที่เดียวกันนี้ แน็ก และ แก๊งเพื่อนเข้าพักเพื่อมาถ่ายมิวสิควิดีโอราคาประหยัดสำหรับอัลบั้มใหม่ของแน็ก แน็กหน้าตาเหมือนกับแม็คแฟนเก่าของโรสราวคนเดียวกัน ความแค้นเข้าครอบงำโรสอีกครั้ง รวมทั้งความรักด้วย แต่ครั้งนี้เกิดขึ้นที่บ้านพักที่ร่ำลือกันว่าเป็นที่สิงสถิตย์ของวิญญาณที่เคยบูชารักสุดหัวใจ

ต้มยำกุ้ง 2 (2556)

ต้มยำกุ้ง 2 3D (2556/2013) เมื่อสาเหตุการฆาตกรรม เสี่ยสุชาติ เจ้าของปางช้างผู้กว้างขวาง คือการถูกกระแทกเข้าอย่างจังในจุดตาย 3 แห่งโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้ หลักฐานทั้งหมดบ่งชี้มัดตัว ไอ้ขาม เนื่องจากเขาเป็นคนสุดท้ายที่ถูกพบอยู่ในที่เกิดเหตุกับผู้ตาย ขามจึงต้องหลบหนีจากการจับกุมและการตามล่าเพื่อทวงแค้นจาก ปิงปิง-ซือซือ หลานสาวฝาแฝดของเสี่ยสุชาติ แต่โชคยังเข้าข้างเมื่อระหว่างการหลบหนี ขามได้รับการช่วยเหลือจาก จ่ามาร์ค ตำรวจสากลที่ถูกส่งมาจากซิดนีย์เพื่อจัดการภารกิจบางอย่าง ขามหนีการตามล่าพร้อมกับการตามหา ขอน ช้างตัวเดียวที่เป็นเสมือนทั้งเพื่อนและพี่น้องที่ถูกขโมยไปเมื่อหลายวันก่อน ยิ่งหนีขามก็ยิ่งต้องเข้าไปพัวพันกับองค์กรลึกลับที่ถูกควบคุมโดย แอล ซี นายใหญ่ผู้คลั่งไคล้การสะสมนักสู้จากทั่วโลกอย่างลับๆ ทำให้เหล่านักสู้ที่ถูกตีตราด้วยตัวเลข ไม่ว่าจะเป็น ทเวนตี้ หรือ Number 2 ล้วนแต่มีเป้าหมายอยู่ที่การจัดการไอ้ขามเพื่อวัตถุประสงค์บางอย่างของนายใหญ่

องค์บาก 3 (2553)

องค์บาก 3 (2553/2010) หลังจากพ่ายแพ้แก่ ภูติสางกา (ชูพงษ์ ช่างปรุง) สูญเสียทั้ง 2 บิดา ออกญาสีหเดโช (สันติสุข พรหมศิริ) และ เชอนัง (สรพงษ์ ชาตรี) รวมทั้งบรรดาพี่น้องแห่งชุมโจรผาปีกครุฑ ทุกศาสตร์ยุทธ์ที่ถูกบ่มเพาะฝึกฝนมาทั้งชีวิตของเทียน (ทัชชกร ยีรัมย์) ล้วนถูกทำลายย่อยยับจนหมดสิ้น ต้องโทษฑัณฑ์ถูกทรมานพิการเจียนตาย เหลือเพียงแค่ลมหายใจอันรวยริน ฤาชีวิตทั้งมวลล้วนจบสิ้นลง ดั่งคำทำนาย เมื่อครั้งถือกำเนิด ยามใดจับต้องศาสตรา ชีวิตจักมืดมนต้องโทษทุกข์แสนสาหัส ท่ามกลางบ่วงกรรมที่ยังคงดำเนินเกี่ยวพันสืบเนื่องต่อไป บัดนี้ร่างที่ไร้ชีวิตของบุรุษนักสู้ผู้เป็นตำนานได้รับความช่วยเหลือถูกลำเลียงขนย้ายส่งต่อไปยังหมู่บ้านอโรคยา ที่ในอดีต เทียน และ พิม (พริมรตา เดชอุดม) เคยใช้ชีวิตเติบโตเรียนรู้เรื่องสมุนไพรใบยาบ่มเพาะสมาธิ ซึมซับวิชาโขนนาฏศิลป์ โดยมีเหล่าผู้คนในหมู่บ้านทั้งหมดไม่เว้นแม้แต่เด็กเล็กผู้เฒ่าผู้แก่ หรือกระทั่งคนบ้าที่ไร้สติแต่ไม่เคยมีพิษภัยกับใครอย่าง ไอ้เหม็น (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) ก็ต่างมาร่วมกันหลอมจิต ศรัทธารวมเป็นหนึ่งช่วยกันหล่อพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์ขึ้นเพื่อส่งจิตระลึกให้เทียนฟื้นคืนสติกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ขณะที่พิมเองได้นำเอาท่วงท่าการร่ายรำดัดตัวตามรูปแบบของนาฏศิลป์โขนโบราณ มาช่วยในการรักษาบำบัดร่างกายที่เสื่อมสลายโดยมี ครูบัว (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) ที่ปัจจุบันกลายเป็นพระบัวเปิดทางให้เทียนได้เริ่มต้นเข้าสู่สมาธิเพื่อฝึกควบคุมร่างกาย กล่อมเกลาสภาวะจิตให้นิ่ง เรียนรู้และต่อสู้กับด้านมืดในใจ เพื่อบรรลุถึงจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ที่หลับใหล หลอมหลวมเข้ากับ พลังศรัทธาอันแรงกล้า จากธาตุธรรมชาติทั้ง 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ ผสมผสาน จนก่อเกิดการค้นพบ นาฏยุทธ์ ศาสตร์และศิลปะการต่อสู้อันทรงอานุภาพอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ในขณะที่แผนการณ์ต่าง ๆ ของ พระยาราชเสนา (ศรัณยู วงษ์กระจ่าง) ล้วนแต่บรรลุตามความประสงค์แทบทั้งสิ้น โดยมีเป้าหมายหลักคือ การก้าวขึ้นสู่ความเป็น จอมราชันย์ที่พร้อมสยบทุกสิ่ง และแน่นอนว่าเมื่อรวมเหล่านักฆ่ามากฝีมือ และบรรดาไพร่พลที่มีอยู่รายล้อมรอบตัวอันมากมายมหาศาลด้วยแล้ว ภายใต้ผืนนภา และเหนือพื้นพสุธาอันกว้างใหญ่ไพศาลย่อมไร้ซึ่งผู้กล้ารายใดที่คิดจะต่อกร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ ภูติสางกา ฑูตสังหารที่มาพร้อมกับ ภูติยุทธ์ ศาสตร์การต่อสู้ที่ไร้รูปแบบและร่องรอย อยู่เคียงข้างและรวมเป็นหนึ่งเดียวด้วยแล้ว ดูเหมือนว่าทุกสรรพสิ่งล้วนสยบนิ่งอยู่แทบเท้าเลยทีเดียว และทันทีที่พระยาราชเสนารู้ว่าบัดนี้เทียนได้รับการชุบชีวิตจากชาวหมู่บ้านคณะโขนด้วยแล้ว คำสั่งเลือดและการระดมเหล่าทหารและขุมกำลังทั้งหมดถูกส่งไปเพื่อทำลายร้างและเข่นฆ่าผู้คนในหมู่บ้านที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างทันท่วงที โดยที่ตัวพิมเองถูกทหารจับตัวกลับไปยังพระราชวังเพื่อสำเร็จโทษอาญาคชฑัณฑ์ (ใส่ตะกร้อให้ช้างเตะ) ต่อหน้าหมู่ทาสและกลุ่มประชาชนทั้งหมด ทำให้เทียนที่บัดนี้กำลังเรียนรู้และก้าวเข้าสู่วิถีสมาธิอันสงบนิ่ง ต้องยอมละตัวเองออกจากดวงจิตอันบริสุทธ์เพื่อเผชิญกับวิบากกรรมและขวากหนามที่เป็นอุปสรรคซึ่งถูกลิขิตไว้อย่างไม่จบสิ้น จากเหล่าอริราชแลศัตรูอันชั่วร้ายที่ยังคงหมายที่จะคร่าเอาชีวิตเทียน ไม่ว่าจะเป็น ภูติสางกา หรือ พระยาราชเสนา เอง ในขณะเดียวกันดูเหมือนว่า ความแค้นและพลังจากด้านมืดในจิตของเทียนเอง ก็พร้อมที่จะถาโถมเข้าครอบงำ ทำลายและทำร้ายเทียนตลอดเวลา ทางเดียวที่จะเอาชนะกรรมที่เริ่มก่อตัวขึ้น นั่นคือต้องเผชิญหน้าและเรียนรู้ที่จะควบคุมและเอาชนะจิตใจตนเองให้ได้ เตรียมพบกับการเผชิญหน้าและศึกการต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต กับอภิมหาภาพยนตร์แอ็คชั่นที่คนทั้งโลกรอคอยกับบทสรุปของ องค์บาก 3 จุดกำเนิดขององค์บาก ตำนานการต่อสู้แห่งจิตวิญญาณ หลอมรวมพลังศรัทธาอันมุ่งมั่นที่ไม่เคยดับสูญของบุรุษผู้เกิดมาเพื่อเป็นตำนาน

บุปผาราตรี 3.2 (2552)
เรื่องย่อ : บุปผาราตรี 3.2 (2552/2009) หลังการกลับชาติมาเกิดของ บุปผา (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ในร่างของเด็กหญิงปลา (วีนัส ศักดิ์ศิริ) เด็กน้อยผู้น่าสงสารและโชคร้ายที่ถูกฆ่าตายอย่างทารุณในห้อง 609 ของ ออสการ์อพาร์ตเม้นต์ ฉบับเรโนเวท ที่มาพร้อม บ่อนเถื่อน ซึ่งบริหารงานนับเงินโดยเจ้าของบ่อนอย่าง เจ๊สาม (ฉันทนา กิตติยาพันธ์) และดำเนินการโกงเนียน ๆ โดย เซียนต้อม (อาคม ปรีดากุล) เซียนพนันที่มี ลูกกรอกตัวพ่อ (อุดม ทรงแสง) คอยช่วยเหลือทุกครั้งที่ลงสนามไฮโล ฉับพลันชั่ววูบความตาย ผีปลา ก็ออกอาการร้อนวิชาเฮี้ยนโหด จัดการบรรเลงเพลงเชือดสยองชุดใหญ่ไล่ตั้งแต่ห้อง 609 ยันบ่อนชั้น 3 ที่เหล่าเซียนพนันนานาชาติสิงสถิตย์อยู่ อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่ หรั่ง (มาริโอ้ เมาเร่อ) นักวาดการ์ตูนผีได้ย้ายมาอยู่ที่ออสการ์อพาร์ตเม้นต์แห่งนี้เพียงไม่กี่วัน เขาก็มีโอกาสได้พบกับบุปผา-หญิงสาวที่เขาแอบหลงรักมาตั้งแต่วัยเด็ก โดยไม่รู้ว่าเธอกลายเป็นผีบุปผาไปแล้ว หาใช่พี่บุปผาคนเดิมไม่ เขาตัดสินใจว่าเป็นไงเป็นกัน เขาจะต้องบอกรักพี่บุปผาให้ได้ แต่แล้ว บุพเพสันนิวาส ที่หรั่งเคยคิดเมื่อแรกเจอกัน มันกลับกลายเป็น บุปผาอาละวาด จนกระทั่ง... หรั่งสิ้นสติไป ร้อนถึงเจ๊สามที่ต้องจ้างหมอคง หรือด๊อกเตอร์คง (สมชาย ศักดิกุล), หมอผีเขมร และฤาษีตาไฟ มาร่วมด้วยช่วยปราบผีบุปผาเฮี้ยนรักโดยด่วน! และในขณะที่ การสืบคดีเด็กหญิงปลาถูกฆ่า ของนักสืบเทพ กำลังถูกแก้ปมใหญ่ ไขปริศนาอันน่าสะพรึง ข้างฝ่าย หมวดอังเคิล จ่าบุญถิ่น คู่หูตำรวจสุดป่วนก็ต้องกลับมาเยือนออสการ์อพารต์เม้นต์อีกครั้งด้วยความ (ไม่) เต็มใจอย่างสุดซึ้ง เมื่อพวกเขาได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติการ ดักทลายบ่อนเจ๊สาม เพื่อจับกุมอาชญากรข้ามชาติที่หนีมากบดานที่นี่ให้ได้ โดยงานนี้มี เดวิด เจียง มือปราบพระกาฬ (!?!) แห่งเกาะฮ่องกง มาช่วยกันจ้ำอ้าวหนีผีไม่มีอั้น...ซะงั้น เรื่องราวโกลาหล งงงวยซวยเป็นหมู่คณะออสการ์จะลงเอยอย่างไร กำแพงรักของหนุ่มหรั่งและสาวบุปผาจะถูกฝ่าไปสิ้นสุดตรงจุดไหน เสียงกรีดร้องฉบับดั้งเดิมพร้อมตวัดปลายมีดโกนของ ผีสาวตัวแม่รุ่น 3.2 กำลังรอทุกคนมาขมวดปมส่งท้ายความสยองไปพร้อม ๆ กัน
บุปผาราตรี 3.1 (2552)

เรื่องย่อ : บุปผาราตรี 3.1 (2552/2009) ท่ามกลางความเงียบสงบของอพาร์ตเม้นต์ชื่อดังแห่งหนึ่ง ภายในห้อง 609 มีบางสิ่งบางอย่างกำลังจะถูกปลุกให้กลับมา “เฮี้ยนสยอง...ยกกำลังสาม” ณ ออสการ์อพาร์ตเม้นต์ ยุคเรโนเวท บริหารงานโดย “เจ๊สาม” (ฉันทนา กิติยพันธ์) พี่สาวของเจ๊สี่ที่เสียชีวิตไปแล้ว หลังปรับปรุงใหม่ครั้งใหญ่ เจ๊สามก็เกิดพุทธิปัญญาจัดการเปิดชั้น 3 ของอพาร์ตเม้นต์ให้เป็น “บ่อนพนันเถื่อน” แบบลับๆ มันซะเลย ในขณะเดียวกัน “หรั่ง” (มาริโอ้ เมาเร่อ) หนุ่มนักวาดการ์ตูนเรื่องผีๆ ที่สามารถมองเห็นผีได้จริง ก็ย้ายเข้ามาอยู่ที่ “ออสการ์อพาร์ตเม้นต์” ด้วยเหตุจำเป็นบางอย่าง เพียงแค่ไม่กี่วัน เขาก็มีโอกาสได้พบกับ “บุปผา” (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) หญิงสาวใน “ห้อง 609” ที่เหมือนเป็นรักแรก (ข้ามรุ่น) ของเขา คงเป็นด้วย “ความรักบังตา” หรั่งจึงไม่อาจรู้ได้ว่า “หญิงสาว” ที่เขาหลงรักเป็น “ผีสาวเฮี้ยนรัก” ที่เขาต้องพึงระวังไม่เฉียดกรายเข้าใกล้จะดีกว่า ทันที่ที่เขาก้าวเข้าสู่ห้อง 609 “บุพเพสันนิวาส” ที่หรั่งเคยคิดเมื่อแรกเจอบุปผา มันกลับกลายเป็น “บุปผาอาละวาด” ไปซะงั้น ทันใดนั้นเองเสียงกรีดร้องของ “บุปผา” ผีสาวตัวแม่ก็ดังโหยหวนขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว และแล้วเหตุการณ์ “เฮี้ยนขั้นเทพ-โหดสยองนองเลือด-เชือดไม่เลือกหน้า” ก็ถูกบรรเลงขึ้นชุดใหญ่ไล่ตั้งแต่ห้อง 609 จนแตกตื่นไปทั่วทั้งออสการ์อพาร์ตเม้นต์...อีกครั้ง

องค์บาก 2 (2551)

องค์บาก 2 (2551/2008) เมื่อรอยบากแห่งความแค้นฝังลึกถึงก้นบึ้งแห่งจิตใจ ทุกศาสตร์ยุทธ์แห่งศิลปะการต่อสู้จะถูกหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ดวงชะตากำหนดทุกสรรพสิ่ง ลิขิตชีวิตขึ้นสู่จุดสูงสุด และพร้อมดับทุกชีวิตดำดิ่งลงลึกถึงปลายเหวสู่จุดต่ำสุด บัดนี้มันได้กำหนดชีวิตของ “เทียน” เด็กหนุ่มที่หวังเติบใหญ่เป็นนักรบผู้แกร่งกล้าเฉกเช่นบิดา “ออกญาสีหเดโช” (สันติสุข พรหมศิริ) นายทหารผู้ซื่อสัตย์ซึ่งจงรักภักดีต่อเหนือหัวผู้ซึ่งยอมได้แม้กระทั่งสละชีวิตตนเองเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินจากเหล่าผู้ฉ้อฉลและคนทรยศ แต่จากคำทำนายที่ว่าเมื่อใดที่เทียนซึ่งถือกำเนิดในฤกษ์พระกาฬเติบใหญ่ภายใต้วังวนแห่งคมดาบและกลิ่นคาวเลือด เมื่อนั้นผู้คนจำนวนมากจักต้องล้มตายกันอย่างพร้อมเพรียง ทำให้ออกญาสีหเดโชตัดสินใจส่งเทียนไปให้ “ครูบัว” (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) เพื่อนสนิทซึ่งต่างเป็นลูกศิษย์ของพระครูปั้นมาด้วยกันช่วยบ่มเพาะสมาธิ เรียนรู้การฝึกจิตให้นิ่ง และศึกษาในด้านวิชาโขนนาฏศิลป์ เพื่อหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยจรรโลงจิตใจให้เกิดแต่สิ่งที่ดีงามขึ้น โดยมี “พิม” เด็กสาวที่ครูบัวเก็บมาเลี้ยงคอยให้ความช่วยเหลือ และมี “ไอ้เหม็น” (หม่ำ จ๊กม๊ก) ชายบ้าเสียสติแต่หลงใหลในนาฏศิลป์เป็นเพื่อนเล่น แต่แล้วชีวิตเทียนต้องพบกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต เมื่อ “พระยาราชเสนา” (ศรัณยู วงษ์กระจ่าง) ซึ่งวางแผนขึ้นครองความเป็นใหญ่ในแผ่นดินลงมือส่งเหล่านักฆ่ามือดีมาลอบสังหารออกญาสีหเดโชทั้งครอบครัว และเหล่าทหารหาญให้สิ้นซากด้วยตนเอง โดยมีเทียนเพียงคนเดียวที่เล็ดรอดชีวิตมาได้ท่ามกลางความคลั่งแค้นที่อัดแน่นฝังลึกในจิตใจ โชคชะตาพลิกผันอีกครั้งเมื่อเทียนได้พบกับ “เชอนัง” (สรพงษ์ ชาตรี) หัวหน้ากองโจรผาปีกครุฑผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งช่วยชีวิตจากเงื้อมมือของเหล่าพ่อค้าทาสและยักษ์ขมุจอมโหด เพราะเล็งเห็นถึงจิตวิญญาณความเป็นนักสู้และสัญชาตญาณความเป็นนักฆ่าที่แฝงเร้นอยู่ในแววตาซึ่งพร้อมจะสังหารผู้คนได้ทุกเมื่อ จึงตัดสินใจรับเป็นลูกบุญธรรมเข้าร่วมเป็นหนึ่งในกองโจร ให้การชุบเลี้ยงฝึกฝนเหล่าสรรพวิชาอาวุธในศิลปะการต่อสู้ทุกรูปแบบจากเหล่าปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาวิชา ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ด้วยมือเปล่า หมัดมวย การใช้เวทมนตร์คาถา ไปจนถึงการใช้สรรพวุธทุกชนิด ดาบ กระบี่ กระบอง 3 ท่อน วิชากล การใช้ระเบิด ฯลฯ เมื่อทุกศาสตร์ยุทธ์แห่งศิลปะการต่อสู้ถูกบ่มเพาะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว “เทียน” (จาพนม ยีรัมย์) เติบใหญ่พร้อมพิษสงความสามารถรอบตัวที่ยากจักหาใครทัดเทียม หนำซ้ำยังเป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการปฏิบัติภารกิจทุกครั้งของกองโจรผาปีกครุฑ จนได้รับการยอมรับจากทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสามารถสยบช้างงาดำ ช้างศักดิ์สิทธิ์ที่เหล่าชุมโจรให้ความเคารพและสักการะ ในขณะที่เชอนังเองตั้งใจมอบตำแหน่งหัวหน้ากองโจรให้เทียนรับหน้าที่ผู้สืบทอดต่อไป เพียงทว่า ณ เวลานี้มีเพียงภารกิจเดียวในชีวิตที่เทียนจักต้องกระทำคือการขจัดความคลั่งแค้นที่มันสุมอกอยู่ในจิตใจตลอดมา นั่นคือการมุ่งหน้าเพื่อสังหารเจ้าพระยาราชเสนาด้วยน้ำมือตนเอง โดยมีเป้าหมายในคืนวันสถาปนาเทวเสาวนีย์ครุฑที่เจ้าพระยาราชเสนาจะขึ้นครองอำนาจในฐานะจอมราชันย์อย่างสมบูรณ์ ภายใต้เปลวเพลิงแห่งความอาฆาต เทียนผสมผสานทุกความสามารถในการต่อสู้ที่บ่มเพาะมาทั้งชีวิต แปรเปลี่ยนเป็นพลังแห่งความอำมหิต โหดเหี้ยม เกรี้ยวกราด ดุดัน เพื่อที่จะสังหารทุกผู้คนที่เกี่ยวข้องอย่างไม่กลัวเกรง โดยหารู้ว่าไม่ว่ายังมีเหล่านักฆ่าระดับยอดฝีมือของจอมราชันย์ที่เขาจะต้องเผชิญหน้าและรับมือที่ล้วนแล้วแต่ยากในการต่อกรไม่ว่าจะเป็น “องค์รักษ์เกราะทอง” (ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ), “กลุ่มนักฆ่าลึกลับในชุดดำ” ไปจนถึง “ภูติสางกา” (ชูพงษ์ ช่างปรุง) ที่ถูกส่งมาเพื่อนำเทียนไปสัมผัสกับดินแดนแห่งความตายโดยเฉพาะ หรือนี่คือจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ที่มีต้นกำเนิดจากรอยบากแห่งความคลั่งแค้นที่ต้องแลกมาด้วยชีวิต เลือดเนื้อ และจิตวิญญาณ มีเพียงพลังแห่งศรัทธาอันแรงกล้าเท่านั้นที่จะทำให้ชีวิตของเทียนอยู่รอดได้

ต้มยำกุ้ง (2548)

The Protector ต้มยำกุ้ง (2548/2005) การเดินทางข้ามโลกของ “ขาม” (จา พนม ยีรัมย์) เด็กหนุ่มบ้านป่าที่ชีวิตต้องพลิกผันโดยเงื้อมมือของผู้มีอิทธิพลระดับประเทศที่ลักพาช้างพลายสองพ่อลูก ซึ่งเด็กหนุ่มและ “พ่อของขาม” (โสรธร รุ่งเรือง) เขารักดั่งชีวิต และมีความมุ่งหมายอันสูงสุดที่จะมอบเป็นคชบาทแด่ในหลวง ไปขาย ณ ประเทศออสเตรเลีย ทางเดียวที่จะช่วยเหลือและรักษาชีวิตของช้างอันเป็นที่รักของเขาได้ นั่นก็คือ การบุกตะลุยถึงถิ่นเสือ โดยการเดินทางข้ามโลก เรื่องไม่ง่ายอย่างใจคิด แม้เขาจะได้รับความช่วยเหลือจาก “จ่ามาร์ค” (หม่ำ จ๊กมก) นายตำรวจไทยและ “ปลา” (บงกช คงมาลัย) สาวไทยที่ถูกหลอกมาขายตัวในซิดนีย์ก็ตาม แต่ที่นั่น เขากลับต้องไปพัวพันกับการไล่ล่าของแก๊งมาเฟียที่นำโดย “มาดามโรส” (จิน ซิง) ที่มีลูกสมุนต่างชาติที่เต็มไปด้วยฝีมือทางการต่อสู้อย่าง “จอห์นนี่” (จอห์นนี่ เหงียน) และ “ทีเค” (นาธาน โจนส์) พร้อมลูกสมุนย่อยที่มีฝีไม้ลายมือทางการต่อสู้เหลือรับอย่าง “คาโปเอร่า” (ลาธีฟ คราวเดอร์) และ “วูซู” (จอน ฟู) อย่างไม่ได้ตั้งใจ ณ วินาทีนี้ การต่อสู้ข้ามชาติเพื่อเอาชีวิตรอดของเด็กหนุ่มและเพื่อนพ้อง ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เพื่อตามหาและช่วยเหลือ พ่อใหญ่ และ ขอน ช้างพ่อลูก ที่เปรียบได้กับญาติพี่น้องของเขา นำไปสู่บททดสอบและการต่อสู้ครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตของเขาให้โลกได้ล่วงรู้ถึง อานุภาพของ "ไม้มวยไทยโบราณ" ที่หนักหน่วง รุนแรง และยังไม่เคยได้รับการเปิดเผยมาก่อน โดยเฉพาะ "ตำนานมวยคชสาร"

บุปผาราตรี เฟส 2 (2548)
เรื่องย่อ : บุปผาราตรี เฟส 2 (2548/2005) ออสการ์อพาร์ทเมนต์ ขึ้นชื่อลือชาว่าเฮี้ยนนักเฮี้ยนหนา โดยเฉพาะห้อง 609 ที่เจ้าของอพาร์ทเมนต์ถึงกับปิดตายทั้งชั้น "รับประกันความเฮี้ยน" จะมีก็แต่แก๊งโจรมือใหม่หัดปล้น และ ทิพย์ สาวตาบอด ที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับใครเขา ขอเปิดห้องพักหน้าตาเฉย แต่เมื่อคนอยู่ดีไม่ว่าดีดันไปยุ่มย่ามในที่ของผี เจ้าของห้อง 609 อย่าง บุปผา เลยระเบิดแรงอาฆาตตามคำขอ อพาร์ทเมนต์ผีสิงจึงได้อลหม่านฮาแตกอีกครั้ง!! คณะตลกตกอับ ตัดสินใจผันเปลี่ยนอาชีพมาเป็นโจรปล้นธนาคาร พวกเขาหอบเงินหลบหนีตำรวจไปกบดานอยู่ ณ อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งโดยหารู้ไม่ว่ามันคืออพาร์ทเมนต์ผีสิง ระหว่างที่พวกโจรกำลังจะทำการแบ่งเงินกันนั้น พวกเขาพบว่าเงินก้อนนั้นได้หายไปอย่างลึกลับ... พวกโจรออกค้นหาทุกซอกทุกมุมในอพาร์เมนต์ เหลืออยู่แต่เพียงชั้น 6 ที่เจ้าของอพาร์ทเมนต์ปิดตายไว้ห้ามไม่ให้ใครเข้า โจรทั้งสี่ไม่ฟังคำเตือนออกค้นหาเงินในชั้น 6 จนได้พบว่าเงินซ่อนอยู่ในห้อง 609 แต่พวกเขาก็ไม่สามารถนำเงินออกจากห้องนั้นได้เพราะถูกผีเจ้าของห้องออกมาหลอกหลอน โจรทั้งสี่จึงต้องคิดหาวิธีเอาเงินออกจากห้อง 609 ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้จะกลัวผีเพียงไรก็ตาม ขณะเดียวกัน ตำรวจก็เริ่มระแคะระคายแกะรอยโจรทั้งสี่มาถึงอพาร์ทเมนต์แล้ว
เกิดมาลุย (2547)

เกิดมาลุย (2547/2004) โดยเรื่องราวพูดถึงการเผชิญหน้า กับเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดในชีวิต ที่อยู่นอกเหนือจากความควบคุม อันนำมาซึ่งความเป็นความตายของผู้คนจำนวนมาก เมื่อตกอยู่ภายใต้การจับกลุ่มของผู้ก่อการร้าย ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย ที่ตั้งใจสร้างความปั่นป่วนให้กับประเทศไทย พร้อมกับชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมชายแดน ที่พวกเขาและเธอตั้งใจนำข้าวของมาบริจาค และช่วยพัฒนาหมู่บ้าน วิธีเดียวที่จะรักษาชีวิตของพวกพ้องและชาวบ้าน คือต้องนำเอาความสามารถเฉพาะตัวทางด้านกีฬาในแต่ละประเภท มาผสมผสานในการต่อสู้ด้วยมือเปล่า โดยมีเงื่อนไขของเวลา ในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นให้ได้

เกวียนหัก (2521)

เกวียนหัก (2521/1978) บ้านทุ่งสมิงไม่เคยสงบสุขเพราะความคึกคะนองของนักเลงหัวไม้รุ่นแล้วรุ่นเล่า ไอ้แฝง (สรพงศ์ ชาตรี) เด็กหนุ่มรักดีที่ไม่คิดว่าตนจะต้องไปข้องแวะกับความขัดแย้งใดๆ ก็อดจะกระโจนเข้าไปต่อสู้กับอันธพาลไม่ได้ นั่นเป็นเหตุให้ความรักระหว่างมันและอีเรียง (นันทนา เงากระจ่าง) เป็นไปอย่างไม่ราบรื่น

แฝง นักเลงหัวไม้ประจำบ้านทุ่ง ซึ่งมีใจมั่นรักอยู่กับ เรียง ลูกสาวกำนัน ด้วยฐานะที่แตกต่างกันทั้งสองจึงต้องคบกันอย่างหลบๆ ซ่อนๆ อยู่มาวันหนึ่ง เกิดเหตุปล้นในตำบลนั้น แฝงตกเป็นผู้ต้องสงสัยจึงถูกเรียกตัวมาสอบสวนที่เรือนของกำนัน หลายคนเห็นแผลที่แขนของแฝงก็ปักใจเชื่อว่าแฝงเป็นคนร้าย เรียงจึงช่วยเป็นพยานและสารภาพว่าเป็นคนฟันแขนของแฝงเองทำให้แฝงรอดพ้นจากข้อกล่าวหามาได้หวุดหวิด ท่ามกลางความไม่พอใจของกำนัน รอง พี่ชายของเรียง และ ชื้น ลูกชายผู้ใหญ่บ้านที่หลงรักเรียงอยู่ฝ่ายเดียว

ชื้นเจ็บใจที่เรียงไม่ตอบรับรัก จึงไปฟ้องกำนันว่าเรียงแอบคบหากับแฝง เรียงจึงถูกกำนันเฆี่ยนและจับขังไว้บนเรือน แฝงรู้ข่าวก็ลอบปีนขึ้นเรือนมาฝากรักกับเรียงในคืนนั้น

แฝงกลับมาที่เรือนก็พบว่าพ่อถูกจับตัวไป ทิ้งไว้แต่รอยคราบเลือด แฝงเชื่อว่าทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของรองและชื้น จึงรีบรุดไปยังเรือนกำนันเพื่อเค้นถามความจริง ขณะเดียวกันนั้น รองและชื้นที่เพิ่งฆ่าพ่อของแฝงตายก็ได้จับตัวเรียงขึ้นเกวียนเพื่อพาหนีไปอยู่ที่บ้านญาติต่างหมู่บ้าน เมื่อแฝงได้รู้เรื่องราวทั้งหมด จึงรวบรวมพรรคพวกออกตามล่ารองและชื้น หมายจะล้างแค้นให้พ่อและชิงตัวคนรักของตนกลับคืนมา

เมื่อเกวียนของเรียงมาถึงที่ศาลเจ้าพ่อเกวียนล่ม ซึ่งเป็นที่สักการะของเหล่าผู้เดินทางทั้งหลาย ชื้นบังคับให้เรียงสาบานรักกับตนต่อหน้าศาลเจ้าพ่อ เรียงต้องสาบานด้วยความจำยอม แต่ในใจนั้นแอบอธิษฐานว่า หากแฝงกำลังตามหาตนอยู่ ก็ขอให้เกวียนที่ตนนั่งมาจงหยุดรออยู่ที่นี่ เพื่อให้แฝงตามมาทัน

แฝงกับพรรคพวกตามมาทันตามคำอธิษฐานของเรียง ด้วยความแค้นที่สุมอก แฝงควบเกวียนของตนเข้าพุ่งชนเกวียนที่ชื้น รอง และเรียงนั่งมาอย่างรุนแรง จนเกวียนนั้นหักกระเด็น เมื่อแฝงได้สติก็พบว่าเรียงถูกเกวียนทับขาจนกระดูกหัก ชื้นถูกไม้กงเสียบทะลุอกตายคาที่ ส่วนรองนั้นหนีไปได้

บัดนี้ เรียงกลายเป็นคนพิการที่ขาทั้งสองใช้การไม่ได้อีก แต่ถึงกระนั้น แฝงก็ขอสาบานต่อศาลเจ้าพ่อเกวียนหัก ว่าจะรับเรียงเป็นเมียและขอรักนางตลอดไป

เมืองในหมอก (2521)

เมืองในหมอก (2521/1978) ยิ่งใหญ่ เร้าใจ ตื่นเต้น แนวใหม่ มีคุณค่าสูงสุด เธอต้องดิ้นรน มันจึงนำมาแต่ความตาย..ตาย..และตาย เมืองในหมอก เมืองแห่งความกดดัน ห่างไกลความเจริญ โดนบดบัง และจมปลักอยู่กับความโหดร้าย

ครอบครัวเจ้าของโรงแรมในเมืองไกลแห่งหนึ่ง มีเบื้องหลังเป็นฆาตรกรต่อเนื่องที่มักฆ่าแขกชาวกรุงผู้มาพักแรมเพื่อชิงทรัพย์ ด้วยหวังว่าจะเอาเงินนั้นยกครัวไปอยู่เมืองหลวงอย่างสุขสบาย แต่โชคร้ายที่พวกเขาโดนแก็งค์โจรบุกปล้นและฆ่าพ่อไป เหลือเพียงแม่กับลูกสาวและคนใช้ท่าทีพิกลเท่านั้น ทั้งสามยังคงดำเนินการฆ่าแขกต่อไป โดยไม่รู้ว่าลูกชายที่แอบหนีจากบ้านไปนานจนโตเป็นหนุ่มหล่อ จะมาค้างคืนที่นี่โดยไม่บอกให้ใครรู้

เมืองในชนบทเมืองหนึ่งที่มีหมอกปกคลุมอยู่ตลอด ที่นี่มีโรงแรมเล็กๆ ที่นักเดินทางที่จะไปเมืองหลวงต้องหยุดแวะพัก แต่ทว่าเป้าหมายของโรงแรมนี้มิได้หวังเพียงแค่ค่าที่พัก แต่หมายรวมถึงทรัพย์สินทั้งหมดจนถึงชีวิตของผู้เข้าพัก โดยฝีมือของครอบครัวเจ้าของโรงแรมรวมถึงคนรับใช้ ขาดแต่ลูกชายคนโตที่หนีไปใช้ชีวิตในเมืองหลวง ด้วยเคราะห์กรรมหรือความบังเอิญเมื่อพวกเขาถูกปล้น และสังหารผู้นำครอบครัวไป แต่ด้วยความมุ่งหวังที่จะออกจากเมืองแห่งนี้เพื่อไปตามหาลูกชายที่เมืองหลวง ทั้งหมดที่เหลือจึงดำเนินรอยตามหัวหน้าครอบครัวที่จากไป จะเกิดเหตุใดขึ้นเมื่อลูกชายคนโตเดินทางกลับมาบ้านเกิดที่จากไปเสียนานเพื่อมารับครอบครัวไปอยู่ด้วยกันในเมืองหลวงที่สวยงาม

ณ หลังทิวเขาและหมอกหนา มีเมืองชนบทที่แสนห่างไกล ผู้คนอดอยาก ไร้น้ำใจและมีอาชญากรรมมากมาย แม่จ้างและสามีเปิดโรงแรมเล็กๆ และอาศัยฆ่าชิงทรัพย์แขกที่มาพัก แต่กรรมก็สนองคืน เสี้ยว ลูกชายหนีออกจากบ้าน กลุ่มโจรบุกปล้นโรงแรมฆ่าสามีเธอตายและทำร้าย ฟ่ง ผู้เป็นลูกสาวจนขาพิการ ทำให้แม่จ้างต้องเลี้ยงดูลูกสาวตามลำพังและยังยึดทำกรรมแบบเดิมจนเวลาล่วงเลยไปเกือบ 20 ปี เริ่มมีคนพบศพของแขกที่ตายบ่อยขึ้น ฟ่งยิ่งบ้าคลั่งและเห็นว่าการฆ่าคนเป็นเรื่องธรรมดา ในขณะเดียวกันเสี้ยว ลูกชายที่เติบโตและมีชีวิตที่ดีอยู่เมืองกรุงต้องการกลับมารับแม่ไปอยู่ด้วย แต่แล้วก็ไม่มีใครสามารถหลุดออกไปจากเมืองนี้ได้!

ล่า (2520)

ล่า (2520/1977) ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล-ไพรัช กสิวัฒน์-เชิด ทรงศรี ผนึกกำลังสร้างสรรค์ผลงานยิ่งใหญ่ เพื่อชีวิต อุทิศแด่... แม่ที่รักลูกทั้งหลาย ผู้ร้ายจิตทราม...มากตัณหา ต้องล่า...ลากตัวมาฆ่า...ให้สาแก่ใจ

หลังจากเลิกรากับสามี มธุสรพาผึ้งน้อยลูกสาวมาอาศัยอยู่ที่สลัม จนวันที่แก๊งค้ายาของแป้วถูกตำรวจไล่ล่า พวกเธอได้มาเข้ามารู้เห็น และจะเป็นพยานให้ตำรวจ แป้วจึงพาพรรคพวกบุกมาข่มขืนทั้งสอง จนผึ้งน้อยตกอยู่ในอาการทางประสาท แต่พวกมันกลับได้รับเพียงโทษสถานเบา มธุสรจึงออกตามไล่ล่าฆ่าพวกคนใจโฉดทีละคนด้วยความเคียดแค้น

ลูกเจ้าพระยา (2520)

ลูกเจ้าพระยา (2520/1977) แรงข้าวสุกนี่แหละลูกเอ๋ย ศักดิ์สิทธิ์หนักหนา ลูกเจ้าพระยา จึงเกิดมาสู่ความเป็นไท ผลงานของ ชรินทร์ นันทนาคร ที่ท่านเชื่อถือ มหึมามโหฬารทั้งปริมาณและคุณภาพ 70 ม.ม.ยิ่งใหญ่กว่า เสียงเซนเซอร์ราวด์

หาญ (สมบัติ เมทะนี) ล่องแพมากับลูกเมียแต่พบกับพายุจนแพแตก เขาช่วยไว้ได้แต่เพียง แก้ว ลูกชายและเลี้ยงดูเขาเพียงลำพัง เวลาผ่านไปหาญกลับถูกจับในข้อหาฆ่าคนตาย ทำให้ ครูมาลัย (เพชรา เชาวราษฎร์) ครูของแก้วรับแก้วมาเลี้ยงดูด้วยความสงสาร เมื่อแก้วเติบใหญ่ขึ้นได้เกิดเพลิงไหม้โรงเรียนที่ครูมาลัยสอน ทำให้ทั้งคู่ต้องไปทำงานในเหมืองของ พ่อเลี้ยงบุญล้อม (ทัต เอกทัต) และต้องผจญกับการกดขี่ แก้วพร้อมด้วยพ่อที่เพิ่งออกจากคุกและชาวเหมืองจำต้องรวมตัวกันเพื่อต่อกรกับอำนาจมืดของพ่อเลี้ยงบุญล้อม

หาญ ล่องแพมาพร้อมเมียและลูก แต่เกิดพายุจนแพแตกจนทำให้เขาช่วยชีวิต แก้ว ลูกชายไว้ได้เพียงคนเดียว เวลาผ่านไปเมื่อแก้วเข้าโรงเรียน หาญกลับถูกตำรวจจับ ครูมาลัยเกิดความสงสารจึงรับแก้วไปเลี้ยง ต่อมา เมื่อครูมาลัยลาออกและไปทำงานให้กับพ่อเลี้ยงบุญล้อม เธอถูกข่มเหงจนต้องให้หาญที่เพิ่งออกจากคุกมาช่วยต่อต้านและปลดปล่อยชาวบ้านที่ถูกกดขี่จากพ่อเลี้ยงเช่นกัน

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ