สียามา (2551/2008) พ.ศ. 2307 ในสมัยกรมขุนอนุรักษ์มนตรี แห่งบ้านพูลหลวง ในช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นข่วงภาวะสงครามไทยและพม่า ผู้รุกรานยกทัพ มุ่งตัดกำลังกรุงศรีอยุธยาจากทุกด้าน ด้านหนึ่ง มังมหานรธา เป็นแม่ทัพ ตีหัวเมืองทางทวาย กาญจนบุรี สุพรรณบุรี เข้าล้อมกรุงศรีอยุธยา อีกด้านหนึ่ง เนเมียวสีหบดี เป็นแม่ทัพ ตีหัวเมืองทางเหนือ เรื่อยมาทางใต้เพื่อเข้าตีโอบล้อมกรุงศรีอยุธยา บ้าน สียามา ที่เคยสงบสุข จึงอยู่ในภาวะสงครามเช่นกัน ผู้กล้าแห่งบ้านสียามา ต่อสู้กับผู้รุกรานที่เดินทัพหลงออกนอกเส้นทาง แต่ในระหว่างการต่อสู้ จู่ ๆ รถยนต์ของ อาณา, โบ๊ต และ กิ๊ฟ นั่งอยู่ในรถยนต์ หลงเข้ามาในระหว่างการต่อสู้ ทั้งหมดตกใจกับสิ่งที่เกิด จึงขับรถยนต์หนีเข้าไปหมู่บ้านสียามา พวกเขานำความสามารถเข้าช่วยเหลือหมู่บ้านสียามา
โอปปาติก เกิดอมตะ (Opapatika) (2550/2007) โอปปาติก (โอ-ปะ-ปา-ติ-กะ) สิ่งมีชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งบนโลก ที่ใช้ชีวิตปะปนอยู่กับผู้คนทั่วไป แต่ละคนที่เป็นโอปปาติกนั้น จะได้รับพลังพิเศษบางอย่าง ที่ทำให้มีความสามารถเก่งกาจเหนือคนอื่นๆ หากแต่พลังพิเศษนั้นก็มีขีดจำกัดในการใช้ และจะค่อยๆ หมดไป เมื่อสิ้นอายุขัยในที่สุด ศดก (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) โอปปาติกตนหนึ่งที่ต้องการเป็นอมตะ แต่อุปสรรคอย่างเดียว ที่คอยขัดขวางไม่ให้ความต้องการของศดกเป็นจริงก็คือ จิรัสย์ (สมชาย เข็มกลัด) โอปปาติกลึกลับ และดูอันตราย ศดกจึงหาทางกำจัดจิรัสย์ การตามล่าของเหล่าโอปปาติกจึงเกิดขึ้น ก่อเกิดสงครามครั้งใหญ่ โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ ปราณ (เข็มอัปสร สิริสุขะ) สาวลึกลับที่ดึงดูดเหล่าโอปปาติกด้วยเหตุผลต่างๆ
สุดสาคร (2549/2006) การพบกันระหว่างสุดสาคร กับ ม้านิลมังกร นั่นหมายถึงการจากลาจาก พระเจ้าตา และ แม่นางเงือก และหมายถึงการเริ่มต้นสู่การผจญภัยที่เหนือจินตนาการ เพื่อเดินทางตามหา พระอภัยมณี ผู้เป็นบิดา ไปสู่ดินแดนที่สุดสาครไม่เคยรู้จัก ในขณะเดียวกันทางฝ่าย พระอภัยมณี กับ นางสุวรรณมาลี และสินสมุทร เกิดเรืออับปางลงกลางทะเล นางสุวรรณมาลี กับสินสมุทรลอยคออยู่กลางทะเลและถูกโจรสลัดนามว่า สุหรั่ง จับตัวไว้ หากแต่สินสมุทรผู้มีพลังอำนาจ ได้ปราบโจรสลัดเสียสิ้น สมุนของโจรจึงกลับใจมาช่วยสินสมุทรตามหาผู้เป็นบิดาที่พลัดหลง ส่วนพระอภัยมณี ลอยตามน้ำไปสู่เมืองลังกาและถูกอุศเรนจับไว้เป็นตัวประกันในการทำศึกกับศรีสุวรรณเจ้าเมืองรมจักรผู้เป็นน้องของพระอภัยมณี การผจญภัยของสุดสาครถึงคราวเข้าตาจนอีกครั้งเมื่อพบกับ ชีเปลือย ที่ลวง สุดสาครว่าจะถ่ายทอดวิชาข้ามทะเลน้ำกรดให้ เมื่อหลงเชื่อ ชีเปลือยจึงชิงเอาไม้เท้ากายสิทธ์กับม้านิลมังกรมุ่งหน้าสู่เมืองการเวก และทำให้สุดสาครต้องตกลงไปในก้นเหว ม้านิลมังกรได้จังหวะระหว่างที่ ชีเปลือย เสวยสุขอยู่ในเมืองการเวกนั้น หลบหนีออกมทาช่วยสุดสาคร และด้วยบุญญาธิการสุดสาครจึงรอดตายและขี่ม้านิลมังกรกลับมาเมืองการเวกเพื่อทวงถามความจริงให้กับท้าวสุริโยทัยเจ้าเมืองการเวกและชาวเมือง และเมื่อสุดสาครได้ปราบชีเปลือยจนรู้แพ้ชนะแล้ว จึงออกเดินทางไปปราบเหล่าผีเสื้อยักษ์ ที่คอยก่อกวนชาวเมืองที่ต้องเดินทางค้าขายทางสำเภาเรือ ณ เกาะแห่งหนึ่ง สุดสาครได้ออกไปปราบผีเสื้อยักษ์ ร่วมกับเหล่าทหารผู้กล้าเมืองการเวก แต่ในสำเภา เจ้าชายหัสชัย กับ เจ้าหญิงเสาวคนธ์ แอบซ่อนไปด้วย และเมื่อเจ้าหญิงเสาวคนธ์ขึ้นมาจากท้องเรือก็ถูกผีเสื้อยักษ์โฉบเอาตัวไป สุดสาครจึงขี่ม้านิลมังกรเร่งติดตามไปช่วยเหลือ และปราบผีเสื้อยักษ์เสียราบคาบ และนำตัวเจ้าหญิงเสาวคนธ์กลับมาได้อย่างปลอดภัย ฝ่ายกองทัพอุศเรน เดินทางมาถึงจุดนัดหมายพร้อมกับทำการรบกองทัพศรีสุวรรณ การต่อสู้เป็นไปด้วยความดุเดือด ท่ามกลางการสุมดูของสินสมุทร สุวรรณมาลีที่รอเวลาจะเข้าช่วยเหลือ ทางฝ่ายสุดสาครเดินเรือมาถึงเห็นการรบมาแต่ไกล จึงทราบว่าเป็นการรบกันระหว่างท้าวอุศเรนและศรีสุวรรณผู้เป็นน้าของตน สุดสาครไม่รอช้าจึงตรงเข้าช่วยเหลืออย่างกล้าหาญ ขณะเดียวกันสินสมุทรได้จังหวะจึงนำเหล่าสมุนโจรตรงเข้าช่วยรบ จนในที่สุดความปราชัยเป็นของท้าวอุศเรนแห่งเมืองลังกา สุดสาครแนะนำตนเองกับพระอภัยมณีด้วยการนำปิ่นปักผมจากแม่นางเงือกที่ให้ติดตัวไว้ พระอภัยมณีเห็นดังนั้นจึงทราบเรื่องราวเป็นอย่างดี ทั้งหมดได้พบเจอกันด้วยความปิติสุข
Ocean Butterfly ผีเสื้อสมุทร (2549/2006) คนโบราณเตือนไว้ เวลาอายุครบเบญจเพส ให้หนุ่มสาวพึงระวังตัว แต่คงไม่เคยมีใครเตือน "ว่าน" ให้ระวังตัว อย่าเข้าใกล้... ตู้ปลา ในวันเกิดอายุครบ 25 ปีนี้ "ว่าน" (ต้อง ศุภัชญา) สาวเปิ่น เฉิ่ม เบอะเริ่มได้ยินเสียงพูดคุยที่ไม่รู้ที่มา โดยเฉพาะเวลาว่านอยู่ใกล้ตู้ปลา จะว่าว่านอกหักที่ถูกแฟนหนุ่มบอกเลิกก็ไม่น่าจะมีอาการแปลกประหลาดแบบนี้ ว่านตัดสินใจไปไขปริศนาที่ทะเล เพราะท่าทางตัวเองจะอาการหนักขึ้น แต่ว่านจำต้องร่วมเดินทางไปกับ "แทน" (ธันญ์ ธนากร) ช่างภาพถ่ายรูปธรรมชาติ ตั้งแต่เจอกับแทน เวลาว่านมีปัญหายุ่ง ๆ ทีไร แทนก็มักจะปรากฏตัวอยู่คอยช่วยอยู่ใกล้ ๆ เสมอ เมื่อมาถึงทะเล ว่านรู้สึกคุ้นเคยมีอิสระมากขึ้น ได้สัมผัสท้องทะเล ว่านรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งดำน้ำลงไปใต้ทะเลลึก ยิ่งอัศจรรย์ใจเพิ่มขึ้น ว่านค้นพบว่า ตนมีความสามารถพิเศษเวลาอยู่ใต้น้ำ แทนพาว่านมาพักที่เกาะผีเสื้อ แทน เริ่มสังเกตว่า ว่านโตเป็นสาวเต็มตัว ไม่ใช่เด็กเปิ่น เฉิ่มเหมือนที่เคยเห็น ความรู้สึกดี ๆ ระหว่างว่านกับแทนค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น กิตติ (เอ อนันต์) เจ้าของรายการโทรทัศน์ที่วางแผนจัดฉากถ่ายภาพสัตว์ประหลาดใต้ทะเล หวังสร้างให้เป็นข่าวฮือฮา แต่ระหว่างจัดฉากถ่ายทำกลางทะเลอยู่นั้น กล้องถ่ายติดภาพสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดใต้น้ำ กิตติมั่นใจว่าตนพบขุมทรัพย์เข้าให้แล้ว กิตติตั้งใจจะเอาตัวเป็น ๆ ของผีเสื้อสมุทร มาเปิดเผยให้โลกรับรู้ให้ได้ บนเกาะผีเสื้อ ช่วงเวลาที่ความรู้สึกดี ๆ ระหว่างว่านกับ ทนก่อตัวขึ้นที่เกาะผีเสื้อ ว่านได้พบกับ "เฒ่าโล้" (ชาย เมืองสิงห์) ชายชราแห่งท้องทะเล เฒ่าโล้ คล้ายรู้ความลับของว่าน แต่เฒ่าโล้ก็เพียงแต่เตือนว่านว่า ร่างกายว่านจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างแท้จริงหากโดนน้ำ แทนตัดสินใจจะช่วยว่านค้นหาอาการแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับตัวว่าน แทนไม่รู้เลยว่า ความรักกำลังพาเขาดำดิ่งลงไปสู่ปริศนาลี้ลับแห่งใต้ท้องทะเล
นรก Hell (2548/2005) ทีมงานสารคดีโทรทัศน์ที่มุ่งตีแผ่ความเลวและลงโทษเหล่าคนชั่วในสังคม พวกเขากำลังได้รับความนิยมมากในวงการ ทีมงานประกอบไปด้วย “อาร์ต” (วุฒินันท์ ไหมกัน) ช่างภาพหนุ่มอารมณ์ร้อน, “จ๋า” (ณัฐวรรณ วรวิทย์) ครีเอทีฟสาวอนาคตไกล, “น้าเต๋า” (ค่อม ชวนชื่น) หนุ่มรุ่นใหญ่ฝ่ายข้อมูลตัวกลั่นและเชี่ยวในการหาโลเคชันของรายการ, “ชด” (ปัญญาพล เดชสงฆ์) ผู้กำกับรายการสารคดีหนุ่มที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน, “คิม” (ดลยา โพธิพิภัทรกุล) เด็กสาวลูกครึ่งอังกฤษที่ชีวิตแทบจะไม่เคยทำบาป รับหน้าที่เป็นนกต่อในการถ่ายทำสารคดีแต่ละครั้ง, “อ้น” (สิทธิชัย เหลืองเสรี) เด็กฝึกงานที่อายุน้อยที่สุดในทีมแต่ฝันที่จะเป็นผู้กำกับ และ “เละ” (บวรฤทธิ์ ฉันทศักดา) โชเฟอร์หนุ่มจิตอ่อนนิสัยขี้กลัวที่ไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองชะตาขาด ทั้งหมดเดินทางมุ่งหน้าไปถ่ายทำรายการตามปกติเหมือนเคย กลับต้องมีเหตุให้ตัวเองและพรรคพวกต้องเผชิญหน้าและรับกรรมไปกับโทษมหันต์จากการตก “นรก” เมื่อรถตู้ของกองถ่ายเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำเสียหลักจนทุกคนหมดสติไป หลังจากที่พวกเขาฟื้นขึ้นมาก็ต้องพบและฝ่าฟันกับความน่าสะพรึงกลัวของนรก ทั้งที่จริงแล้วมีเพียงเละซึ่งเป็นคนขับที่ชะตาถึงฆาต ส่วนคนอื่นๆ ติดสอยห้อยตามมา เพราะอุบัติเหตุที่ทั้งหมดร่วมเดินทางมาด้วยกันเท่านั้น ทุกคนมีกรรมหนักกรรมเบากันคนละแบบจึงถูกส่งไปอยู่ในขุมที่ต่างกัน 5 ขุม ประกอบไปด้วย… “นรกขุมฆ่าสัตว์” (ได้รับผลกรรมชดใช้ตามที่เคยทำไว้กับสัตว์อื่น) “นรกพูดปด คิดไม่ดี ทำร้ายบุพพการี” (ถูกทรมานโดยการทุบฝ่ามือ) “นรกลักทรัพย์” (ถูกตัดแขนตัดขา) “นรกสุรา” (เอาน้ำกระทะทองแดงกรอกปาก) “นรกกาเม” (ปีนป่ายต้นงิ้วและอีกาปากเหล็ก) พวกเขาต่างระลึกกรรมในอดีตที่เคยทำกันมา โดยในแต่ละขุมจะมียมทูตคนละชุดกันคอยควบคุมดูแล และพวกเขาจะมองเห็นแต่เฉพาะคนที่มีบาปอยู่ในขุมของตนเท่านั้น เมื่ออาร์ตได้รู้ว่าตนและเพื่อนยังไม่ถึงฆาต พวกเขาจึงยังไม่ใช่คนตายที่ยมทูตจะมองเห็น ดังนั้นพวกเขาจึงพากันหลบหนีไป การติดตามไล่ล่าจากนรกได้เปิดฉากขึ้น พวกเขาจะตัดสินใจอย่างไรระหว่างความเป็นกับความตาย ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในการช่วยเพื่อนหรือเอาตัวรอด เมื่อยังมีคนในกลุ่มที่ยังไม่ถึงฆาต พวกเขาจะฝืนชะตากรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อขึ้นได้อย่างไร…
จอมขมังเวทย์ (2548/2005) ปี 2547 ระหว่างการเคลื่อนย้ายนักโทษพิเศษจากเรือนจำเก่า...ประตูคุกเคลื่อนเปิดออกพราหมณ์ร่ายมนต์พิธีเดินนำขบวนผู้คุมขยับปืน ขยับตัว แววตาหวาดกลัวกึ่งระแวดระวังทุกสายตาจับจ้องไปยังที่ร่างของนักโทษพิเศษที่เดินออกมาเสียงร่ายมนต์ดังกึกก้องสายลมกระโชกพัดกรู เกรียวร่างของนักโทษพิเศษผู้นั้นถูกจองจำด้วยพันธนาการที่แน่นหนาผิดธรรมดาสองเท้าตีตรวนสองมือมัดตรึงกับขื่อไม้ดวงตามีผ้าคาดไว้แน่นหนา กระทั่งปากก็มีผ้ามัดปิดไว้ท่ามกลางเสียงร่ายมนต์ดังกึกก้องสายลมกระโชกพัดกรูเกรียวหากสังเกตสักนิดนักโทษพิเศษที่ถูกปิดตาไว้นั้นเดินตรงทางมั่นคงราวกับตาเห็น !! อิทธิ อดีตนายตำรวจหน่วยพิเศษเคยจับคนร้ายที่แก่กล้าทางอาคมหนังเหนียวฟันแทงไม่เข้ามานับไม่ถ้วน แต่ตัวเองกลับต้องโทษคดีวิสามัญคนร้ายจนกลายเป็นนักโทษถูกขังลืมอยู่ในคุกมืดแดนจองจำพิเศษ 10 ปีผ่านไป อิทธิ หายตัวอันตรธานไปจากห้องขังที่ปิดทึบราวกับล่องหนร้อนถึง พ.ท.ทศพล อดีตเพื่อนนายตำรวจได้ออกคำสั่งจับตายอิทธิ ร้อยตรี สันตินายตำรวจเจ้าของพื้นที่ออกติดตามสืบสาวหาตัวอิทธิแต่กลับพบเจอเหตุประหลาดลี้ลับอิทธิฤทธิ์เหนือมนุษย์ที่ล้วนแต่เคยได้ยินแต่คำร่ำลือ ไม่ว่าจะการเสกตะปูเข้าตัวคนหรือคนร้ายที่คงกระพันหนังเหนียว ฯลฯเส้นทางแห่งอาคมอันน่าสะพรึงกลัวอำนาจเหนือธรรมชาติของอิทธิไม่ได้ทำให้สันติหวาดกลัว กลับเพิ่มความมุ่งมั่นจะจับกุมอิทธิให้จงได้โดยไม่สนใจว่าจะต้องใช้วิธีการใดวิถีทางใด ไม่ว่าจะต้องเปลี่ยนตัวเองขนาดไหน สันติรู้ว่ากำลังเผชิญหน้ากับจอมขมังเวทย์ผู้ครองครอบอาคมเวทย์ทางเดียวที่จะสยบอิทธิคือต้องเป็นให้เหนือกว่าจอมขมังเวทย์
คนหอนขี้เรื้อน ในคืนเดือนเสี้ยว Werewolf in Bangkok (2548/2005) สิงห์ (ทศพร รถกิจ) กับ ใหญ่ (จ๊อด เชิญยิ้ม) กำลังล่าหมาป่าตัวสุดท้ายที่กัด เดือน (ปริญญาทิพย์ หนูเทศ) เมียสาวของสิงห์ที่ท้องแก่ ที่ตึกต้องห้ามมี ตาย้อย(โย่ง เชิญยิ้ม)กับหลาน ชื่อ อนิรุธ (สายัณห์ ดอกสะเดา) อาศัยอยู่ เป็นทายาทหมาป่าตัวสุดท้าย ที่ยังวัยเยาว์จึงถูกตาย้อยกักขังล่ามโซ่ไว้อย่างปลอดภัย ภายในห้องลับ ๆ ภายในตึกจึงเป็นที่มาของตึกต้องห้าม ซึ่งไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้าไป แม้กระทั่งซอยที่เป็นที่ตั้งของตัวตึกก็ยังไม่มีใครกล้าเดินเฉียดเข้าไป คงมีแต่ แฟร้งค์ (โหน่ง ชะชะช่า)หนุ่มคุ้ยเขี่ยเท่านั้นที่หนีการไล่กระทืบจาก น้าแดง(ค่อม ชวนชื่น)กับถั่วดำ (สังข์ ดอกสะเดา)เข้ามาหลบภัยในซอยต้องห้ามและรอดตัวได้ทุกครั้ง แต่แล้วครั้งสุดท้ายนี้เอง ที่แฟร้งค์ไม่สามารถออกจากซอยได้ เนื่องจากน้าแดงกับไอ้ถั่วดำเฝ้าอยู่ปากซอยแฟร้งค์จึงหลบเข้าไปในตัวตึกต้องห้าม และคืนนั้นเป็นคืนที่พระจันทร์เต็มดวง จึงโดนอนิรุธ ผู้กลายร่างเป็นหมาป่ากัดเข้าที่ต้นคอ แฟร้งค์หนีออกมาได้ด้วยความงุนงง ขุนเดช(สมเล็ก ศักดิกุล) หัวหน้าแก๊งค์คุ้ยเขี่ยผู้ฉ้อฉลและมี ขุนหนวก(สุเทพ สีใส)เลขาประจำตัวขุนเดชทราบเรื่องที่น้าแดงกับไอ้ถั่วดำไม่สามารถนำตัวแฟร้งค์มาร่วมแก๊งค์ได้ เนื่องจากแฟร้งค์หนีเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในซอยต้องห้ามทุกครั้ง ขุนเดช จึงมอบหน้าที่นี้ให้กับ ฉู่ฉี่(เดบาร่าห์ ซี)ดำเนินการต่อ ฉู่ฉี่ หญิงสาววัย 18 ปี ที่ทั้งห้าวและบ้าบิ่นมีความสนิทสนมกับแฟร้งค์อยู่แล้ว จึงเข้ามาชักชวนแฟร้งค์ให้เข้าแก๊งค์ แต่แฟร้งค์ไม่ยอมเพราะกลัวขุนเดชขี้โกง ฉู่ฉี่สังเกตเห็นแฟร้งค์มีพฤติกรรมคล้ายหมาขึ้นทุกที จนฉู่ฉี่แปลกใจแต่แฟร้งค์ก็ปฏิเสธทุกครั้งไป สิงห์กับใหญ่ก็ว่าจ้างให้ขุนเดชกับพวกแก๊งค์คุ้ยเขี่ยช่วยสืบหาตัวหมาป่า คืนนี้เดือนเสี้ยวแฟร้งค์ เกิดอาการเจ็บปวดขึ้นตามร่างกายและกลายร่างเป็นหมาป่าในที่สุด แต่สารรูปกลับไม่เหมือนหมาป่าตามตำนาน แต่กลับเป็นหมาป่าขี้เรือน ในขณะที่ฉู่ฉี่โดนพวกน้าแดงกับไอ้ถั่วดำฉุดกระชากหมายจะปลุกปล้ำ พอดีที่แฟร้งค์กลายร่างเป็นหมาป่าขี้เรื้อนและตามไปช่วยฉู่ฉี่ไว้ได้ น้าแดงไอ้ถั่วดำจึงแจ้งพวกขุนเดช สิงห์ใหญ่และพวกแก๊งค์ คุ้ยเขี่ยให้บุกเข้าไปในตึกต้องห้าม และพบตาย้อยกับอนิรุธ แต่อนิรุธหนีไปได้และสวนกันกับแฟร้งค์หมาป่าขี้เรือนสิงห์กับใหญ่และคนอื่น ๆ คิดว่าแฟร้งค์เป็นหมาป่าขี้เรื้อน เป็นตัวที่กัดเดือนจึงตามล่าเอาชีวิตเพื่อควักหัวใจไปให้เดือนกินแต่ขุนเดชไม่ได้ตามไปแต่กลับจับอนิรุธที่ร่างกายอ่อนแอหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณหน้าตึก ต่อมาฉู่ฉี่คิดว่าแฟร้งค์เป็นหมาป่าขี้เรื้อนจึงมาพบตาย้อยเพื่อให้ช่วยรักษา แต่อนิรุธถูกขุนเดชจับตัวไป ฉู่ฉี่กับ ตาย้อย จึงแอบเข้าไปช่วยอนิรุธออกมาได้ ขุนเดชรู้โกรธมากจึงกลายร่างเป็นหมาป่าและตามล่าตัวอนิรุธ ส่วนสิงห์กับใหญ่ก็ตามล่าแฟร้งค์หมาป่าขี้เรือนอย่างกระชั้นชิด แล้วสิ่งที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้นเมื่ออนิรุธที่ร่างกายอ่อนแอกับแฟร้งค์หมาป่าขี้เรือนวิ่งชนกันจังเบ้อเริ่มและกลายร่างเป็นหมาป่าที่ทั้งสูงทั้งใหญ่และน่ากลัว ทำให้ฉู่ฉี่ถึงกับตะลึงกับภาพที่เห็นสิงห์กับใหญ่จำหมาป่าขุนเดชได้และรู้ความจริงว่าขุนเดชคือหมาป่าที่ตัวเองล่าอยู่
ขุนกระบี่ ผีระบาด (2547/2004) เมื่อไวรัส SARS สายพันธุ์ใหม่ แพร่กระจายข้ามทวีปสู่ประเทศไทย ซูเปอร์แมนนอนป่วย สไปเดอร์แมนไม่ว่าง แบตแมนรถเสีย “ขุนกระบี่” (ต๊อก ศุภกรณ์) ฮีโร่รับจ้างสัญชาติไทยแท้ และ “โคตรขุนกระบี่ชาเขียว” (เทพ โพธิ์งาม) จำต้องชักกระบี่ออกปกป้องโลกอีกครั้ง และครั้งนี้มีความฮาและมันส์เป็นเดิมพัน ระหว่าง “ไวรัสซาร์ส์รุ่น 4 / สาวเซ็กซี่ / ผีดิบ / ซอมบี้ / งูยักษ์ / ระเบิดเวลา / รัฐมนตรี” ทั้งคู่จะจัดการกับอะไรก่อน หากทายไม่ถูก ไปหาคำตอบได้ใน “ขุนกระบี่ ผีระบาด” เกิดโรค “ไวรัส SARS รุ่นที่ 4” เป็นไวรัสกลายพันธุ์ร้ายแรงที่สุดที่เคยค้นพบกำลังระบาดอย่างหนักในทวีปแอฟริกา ผู้ที่ติดเชื้อร้ายแรงจะมีสภาพไม่ต่างจากผีดิบหิวกระหาย แมลงสาบตัวหนึ่งนำเชื้อนั้นบินร่อนข้ามน้ำข้ามทะเลจากทวีปแอฟริกามาถึงประเทศไทย “ด็อกเตอร์ไบรอัน ทอมสัน” (แอนดรูว์ บิ๊กส์) ผู้เชี่ยวชาญจากอเมริกาที่กำลังคิดค้นและวิจัยเรื่องวัคซีนแอนตี้ไวรัสในประเทศไทย แต่หมองูตายเพราะงู ดร.ไบรอันจึงพลาดท่าได้รับเชื้อ SARS เข้าไปเต็มๆ “หลิว” (บอลลูน พินทุ์สุดา) ลูกสาวคนสวยของ “เฮียเหลา” (สุเทพ ประยูรพิทักษ์) เจ้าพ่อคนดังแห่งกทม. ถูก “โจรกลุ่มหนึ่ง” (สมเล็ก ศักดิกุล, ปื๊ด แบล็กแคต และสมุนอีก 2 หน่อ) ลักพาตัวมากักขังเอาไว้เพื่อแลกกับเงินค่าไถ่ “อ.เทพลีลา” (เทพ โพธิ์งาม) โคตรขุนกระบี่ชาเขียวฮีโร่ปลดระวางในฐานะเพื่อนเก่าแก่ของเฮียเหลาได้รับการติดต่อให้มาชิงตัวหลิวคืน แต่เนื่องด้วยอ.เทพลีลาได้ประกาศวางมือถอนตัวออกจากวงการแล้ว ฮีโร่รับจ้างนาม “ไอ้ขุน” (ต๊อก ศุภกรณ์) ขุนกระบี่สายพันธุ์ใหม่ในฐานะศิษย์รุ่นสุดท้ายจึงถูกส่งตัวมาที่คอนโดฯ นี้ เพื่อจัดการกับเหล่าโจรกระจอกกลุ่มนั้น และนำตัวหลิวกลับคืน แต่ทว่าสิ่งที่กำลังรอคอยขุนกระบี่ อยู่ในคอนโดฯ แห่งนี้ไม่ได้มีแค่กลุ่มโจรกระจอกเท่านั้น ดร.ไบรอันก็พักอาศัยอยู่ที่นี่ และบัดนี้เชื้อ SARS ที่เขาได้รับทำให้เขากลายสภาพไปเป็น “ผีดิบ” (SARS Zombie) อย่างเต็มตัว ด็อกเตอร์ผีดิบเริ่มแพร่เชื้อสู่ผู้คนที่อาศัยอยู่ในคอนโดฯ เดียวกันนี้อย่างรวดเร็ว คอนโดฯ มรณะถูกทางการสั่งปิดตาย คนในห้ามออกคนนอกห้ามเข้าเพื่อไม่ให้มีเชื้อแพร่กระจายออกมาภายนอก รัฐบาลส่งทีมแพทย์และหน่วยพิเศษในความรับผิดชอบของ “ท่านรองรัตน์สุดา” (เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์) เข้ามาจัดการอย่างเร่งด่วน “ด็อกเตอร์ไดอาน่า” (ลีน่า คริสเตนเซ่น) ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเชื้อไวรัสร้ายแรงซึ่งทำงานในคณะของดร.ไบรอันเป็นหัวหน้าทีมแพทย์และหน่วยพิเศษชุดนี้ ดร.ไดอาน่ามาพร้อมกับปืนบรรจุกระสุนเคมีวัคซีนแอนตี้ไวรัสที่เพิ่งค้นพบของเธอพยายามยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสร้าย แต่ทุกอย่างก็กลับกลายเป็นความผิดพลาดไปหมด เพราะวัคซีนแอนตี้ไวรัสไม่เป็นผล เมื่อทางการไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ คำสั่งสุดท้ายคือ “ระเบิดตึกทิ้ง!!!” ขุนกระบี่กับหลิวยังติดอยู่ในนั้น กลุ่มโจรกระจอกก็ติดอยู่ในนั้น ดร.ไดอาน่าก็ติดอยู่ในนั้น แถมฝูงผีดิบ SARS Zombie ที่กำลังหิวกระหายก็ยิ่งเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ทุกนาที ทุกชั่วโมง สถานการณ์กำลังคับขันสุดๆ ทุกคนกำลังจวนตัวและจนตรอกที่ต้องปะทะทั้งผี ทั้งกลุ่มโจร และระเบิดเวลาของภาครัฐ เพล้ง…งงง กรอบรูปของขุนกระบี่ร่วงตกแตกกระจาย พร้อมๆ กันกับจิ้งจกร้องทักไปทั่วที่พำนักของอาจารย์เทพ-สุดยอดฝีมือโคตรขุนกระบี่ชาเขียวรู้สึกได้ทันทีถึง ลางสังหรณ์บอกเหตุอันตรายที่กำลังจะเกิดกับศิษย์รักและมหาชนผู้บริสุทธิ์ หลังจากปลดระวางล้างมืออำลาวงการไปนาน ในวันนี้เห็นทีอ.เทพลีลาจะอยู่เฉยไม่ได้เสียแล้ว เขาตัดสินใจคืนวงการมุ่งหน้าไปยังคอนโดฯ ที่เกิดเหตุเพื่อไปช่วยขุนกระบี่ศิษย์รักพร้อมกับอาวุธคู่กาย-กระบี่ชาเขียว สุดยอดศาสตราวุธ ชักแล้วต้องมีเจ็บ เก็บแล้วต้องมีตาย ภารกิจนี้ใหญ่หลวงนัก สองขุนกระบี่ฮีโร่แบบไทยๆ ลูกศิษย์-อาจารย์ต้องร่วมมือกันกับดร.ไดอาน่าและหลิวฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย ทั้งฝูง SARS Zombie ผู้หิวกระหาย ทั้งแก๊งโจรกระจอกที่พยายามชิงตัวหลิวไป และระเบิดเวลาจากภาครัฐที่เตรียมทำลายล้างเชื้อไวรัส SARS 4 ผีระบาด และคอนโดฯ นี้ให้พังพินาศสิ้นซากไปพร้อมๆ กัน ใครจะอยู่ ใครจะไป ใครติดเชื้อ ใครไม่ติดเชื้อ เหตุการณ์ทั้งหมดต้องจบลงก่อนรุ่งเช้า!!! ก่อนเวลาที่ระเบิดจะทำงานวี้ด…ดดดบึ้ม!
พระอภัยมณี (2545/2002) ที่เมืองรัตนา ท้าวสุทัศน์ส่ง 2 ราชบุตรคือ "พระอภัยมณี" และ "ศรีสุวรรณ" ให้ออกไปศึกษาหาความรู้เพื่อมาปกป้องบ้านเมือง แต่แล้วเมื่อทรงทราบในภายหลังว่าพระอภัยมณีเรียนสำเร็จวิชาการเป่าปี่และศรีสุวรรณเรียนจบวิชาการต่อสู้ ก็ให้ทรงผิดหวังและทรงกริ้วจนถึงกับสั่งให้เนรเทศ 2 ราชบุตรไปเสียให้พ้นจากราชอาณาจักร ในระหว่างการรอนแรม 2 ราชบุตรได้มีโอกาสพบกับ วิเชียร โมรา และสานนท์ 3 พราหมณ์ผู้มีความเชี่ยวชาญในการใช้ศาสตราวุธและเวทมนต์คาถา เมื่อเสียงปี่ของพระอภัยมณีดังไปจนถึงถ้ำของนางผีเสื้อสมุทรจนก่อให้เกิดจิตปฏิพัทธ์ขึ้นในใจของนางให้หักห้ามได้ นางจึงตัดสินใจลักพาตัวของพระอภัยมณีไปอยู่ด้วยกันในถ้ำ แล้วจำแลงร่างเป็นหญิงสางผู้งามสง่าจนกระทั่งมีบุตรด้วยกันหนึ่งคนนามว่า "สินสมุทร" เมื่อพระอภัยมณีล่วงรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของนางและรีบรุดหลบหนีพร้อมด้วยสินสมุทร โดยที่นางเงือกสาวที่พระอภัยมณีเกิดจิตพิศวาส และครอบครัวเป็นผู้พาให้พ้นจากเงื้อมมือของนางผีเสื้อสมุทร
Sin Sisters ผู้หญิง 5 บาป (2545/2002) “แอน-จอย-ก้อย-แหม่ม-จุ๋ม” ทั้ง 5 คนต่างเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เรียนมัธยมจนจบมหาวิทยาลัยก็แยกย้ายกันไปทำงานในทางที่ร่ำเรียนมา “แอน” ไปเป็นพยาบาลตามฝัน “จอย” เป็นอาจารย์สอนศิลปะ ส่วน “ก้อย” จะโชคดีกว่าเพื่อน ตระกูลรวยก็เลยไม่ต้องทำอะไร นอกจากแต่งสวยไปมา ฝ่าย “แหม่ม” ก้าวขึ้นสู่ระดับผู้บริหารของบริษัทโฆษณาใหญ่แห่งหนึ่ง โดยที่ “จุ๋ม” มีกิจการส่วนตัวจำหน่ายสุกรและเพาะพันธุ์สุนัข ทั้ง 5 สาวได้มีโอกาสกลับมาเจอกันอีกครั้งในงานศพของเพื่อนคนหนึ่ง หลังเสร็จงานแล้วทั้งหมดตกลงค้างคืนกันที่บ้านจุ๋มเพื่อรำลึกถึงความหลังร่วมกัน แม้ว่าพวกเธออดจะแปลกใจไม่ได้ว่าเพื่อนๆ ร่วมรุ่นที่เหลือต่างหายไปกันจนหมด หลังจากช่วยกันทำกับข้าว รับประทานอาหาร และตบท้ายด้วยไวน์พอตึงๆ แอนก็เป็นคนเริ่มต้นตั้งประเด็นสนทนาเกี่ยวกับเซ็กซ์ จนถึงจุดที่ว่าทุกคนต่างต้องมีเซ็กซ์ที่น่าอับอายขายหน้า เป็นเซ็กซ์ที่ไม่อาจเปิดเผยให้ใครล่วงรู้ได้ เป็นบาปที่ทุกคนรู้สึกผิดมาโดยตลอดและเก็บเงียบไว้ไม่เคยบอกใคร เมื่อทุกคนคือเพื่อนรัก คือเพื่อนตาย ก็น่าจะถึงเวลาถ่ายทอดความลับที่สุดของทุกคนให้เพื่อนๆ ได้รับรู้!!!
จัน ดารา (2544/2001) ปี พ.ศ. 2461 พระนคร "จัน ดารา" ได้ถือกำเนิดขึ้นจากความผิดพลาดและความเกลียดชัง... ดารา (วัลภา พรหมนวล) แม่ของจัน เศรษฐีนีสาวสวยถูกจอม (ดนัย ชนะชานันต์) แฟนของน้าวาด (วิภาวี เจริญปุระ) พร้อมกับสมุนสองคน ฉุดไปกระทำชำเรา เมื่อครั้งเดินทางไปเมืองพิจิตรกับบิดาของเธอ บิดาของเธอจึงว่าจ้างให้คุณหลวง (สันติสุข พรหมสิริ) แต่งงานกับดารา โดยยกบ้านและทรัพย์สินให้เป็นการแลกเปลี่ยน ดาราเสียชีวิตทันทีที่คลอดจันออกมา คุณหลวงโกรธเกลียดชังเด็กชายตัวน้อยทันที แม้ยังไม่ได้เห็นหน้า คุณหลวงตั้งชื่อให้ว่า "จัน-จัญไร วิสนันท์" น้าวาดลงมาจากพิจิตรเพื่อร่วมพิธีศพ พบว่าไม่มีใครต้องการจัน น้าวาดจึงรับอาสารับเลี้ยงจัน และเพื่อเป็นการไถ่บาปให้กับจอมคนรักของตน ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดเหตุแห่งเคราะห์กรรมนี้ และแม้ว่าน้าวาดต้องสละตัว ยอมเป็นเมียคุณหลวง เพื่อเธอจะได้มีโอกาสเลี้ยงดูจันได้ตลอดรอดฝั่ง เมื่อจันอายุ 4 ปี (ด.ช. วุฒิชัย สภาพัตร์) ในกลางดึกคืนวันหนึ่ง คุณหลวงเข้ามานอนในห้องที่จันและน้าวาดนอน คุณหลวงนอนกับน้าวาดไม่เกรงต่อสายตาของจัน จันเริ่มสงสัย ในความสัมพันธ์ของตนและคุณหลวง อย่างจริงจังตั้งแต่นั้นมา ต่อมาไม่นาน น้าวาดให้กำเนิด คุณแก้ว-วิไลเรข วิสนันท์ ซึ่งระหว่างที่น้าวาดตั้งครรภ์ คุณหลวงเริ่มใช้ชีวิตสำส่อน หาความสุขสำราญทางเพศรส จากบรรดาสาวใช้น้อยใหญ่ไม่เลือกหน้าในบ้าน คุณหลวงทำร้ายจันอย่างรุนแรง เมื่อครั้งจันอายุได้ 12 ปี (ด.ช.วิสันต์ ทิพย์สุวรรณ) โดยขังจันไว้คนเดียวในเรือนเขียว ซึ่งเคยใช้เป็นที่เก็บศพของ ดารา แม่ของจัน สัญชาตญาณบอกจันว่า คุณหลวงไม่ใช่พ่อที่แท้ของตน แต่ที่จำทนอยู่ในบ้านต่อไป เพราะอย่างน้อยก็เหมือนได้อยู่ใกล้แม่ และอาจจะได้รู้ว่า พ่อที่แท้จริงของตนคือใครในสักวัน ในชีวิตจันมีคุณบุญเลื่อง (คริสตี้ ชุง) ภรรยาคนหนึ่งของคุณหลวง ครอบครองจิตใจจันในเรื่องกามารมณ์ และไฮซินธ์ (ศศิธร พานิชนก) สาวน้อยวัย 14 ปี ที่จันเจอที่โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษภาคค่ำ ไฮซินธ์ เป็นเหมือนดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ ดอกเล็กดอกเดียวในหัวใจของจัน สองปีต่อมา จันได้นอนกับคุณบุญเลื่อง และในปีเดียวกันนั้นเอง จันก็ถูกคุณแก้วใส่ร้าย ให้รับผิดแทนเคน (ครรชิต ถ้ำทอง) จันจึงต้องรับผิดในคดีกระทำชำเราคุณแก้ว จันมองทะลุปรุโปร่งไปในใจคุณแก้ว เห็นความผิดปกติและความเกลียดชังในจิตใจของเธอ
ลับแล คนมหัศจรรย์ (2540/1997) เรื่องราวของเจ้าหญิงที่ถูกจับตัวมาจากเมืองลับแล เมืองที่มีแต่ผู้คนตัวเล็กเท่าหัวแม่มือมนุษย์ทั่วไป ฮะเมือง และ ดอยปา ทหารของเมืองจึงต้องออกตามหาเจ้าหญิง พวกเขาได้รับความช่วยเหลือจากสองพี่น้อง ต้อย และ ติ่ง โดยมีเงื่อนไขว่าต้องรีบหาเจ้าหญิงให้พบและพาเธอกลับเมืองให้ได้ภายในเจ็ดวัน ก่อนที่ประตูมิติจะปิดลง ในป่าแห่งหนึ่งมีเมืองลึกลับที่ชื่อ "เมืองลับแล" ซ่อนตัวอยู่ ทว่ามีนักล่าสัตว์เข้าไปพบโดยบังเอิญ และด้วยความโลภพวกเขาได้ลักพาตัวเจ้าหญิงแห่งเมืองลับแลออกมา เมืองลับแลจึงส่งทหารออกมาติดตามหาเจ้าหญิงโดยเร็ว เพราะเมื่อชาวลับแลอยู่ในโลกภาพนอกจะมีขนาดร่างกายที่เล็กเท่านิ้วมือและจะมีชีวิตอยู่ได้เพียงเจ็ดวัน ในระหว่างตามหาเจ้าหญิงพลทหารสองนายนั้นกลับถูกจับโดยเด็กๆ ชาวมนุษย์โดยบังเอิญ แต่เมื่อรับรู้เรื่องราวทั้งหมด พวกเขาก็ร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับเหล่าร้าย และนำตัวเจ้าหญิงกลับมา
กึ๋ยทู สยึ๋มกึ๋ย 2 (2538/1995) เมื่ออสูรร้ายอย่างผีเถรถูกปลดปล่อยให้ออกมาอาละวาดเหล่าบรรดานักรบทั้งหลายต้องการปกป้องโลกโดยการตามหาผู้กล้า และคอยปกป้องให้พ้นเงื้อมมือของอสูรตนนั้นก่อนคืนพระจันทร์เต็มดวง "คะน้า" และ "ลำเภา" ต้องข้ามการเวลาจากอดีตไปสู่โลกอนาคต เพื่อต้องการค้นหาผู้กล้าให้เจอก่อนผีเถร แต่ด้วยความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงทำให้คะน้าและลำเภาค้นหาผู้กล้าได้ยากลำบากอยู่พอสมควร คะน้าและลำเภาจะต้องหาผู้กล้าให้เจอก่อนที่ผีเถรจะใช้ผู้กล้าเป็นเครื่องสังเวยในการคืนชีพ
นางไม้ (2538/1995) ข้อความบนใบปิด “กลิ่นอายของภูต” “กลิ่นสาบสวาท” “กลิ่นอายของตัณหา” กู๊ดวินโปรดักชั่น เสนอ นางไม้ สุริยา สุริยงค์, จิดาภา ดำรงค์ฤทธิ์, บิลลี่หงัด เหงือกงาม, แพรว พร้อมพงษ์, ยุ้ย ยิ้มสยาม, เปี๊ยก ยิ้มสยาม, สมศักดิ์ อ่อนวิมล, ปาริชาติ คงทอง, เก่ง วัชรา, ทวี จันทิมาธร, กานดา สิมาภรณ์ สายันต์ สินบัว สร้างบทภาพยนตร์-ลำดับภาพ พิภพ สุคันธปรีย์ ผู้ช่วยกำกับการแสดง บุญยัง ผิวงาม ถ่ายภาพ กู๊ดวินโปรดักชั่น อำนวยการสร้าง ชาย อุปัติสิงห์ ดำเนินงานสร้าง สรพล อุระชื่น กำกับการแสดง *ใบปิดวาดโดย ทองดี (ที่มา :Thai Movie Posters)