13 เกมสยอง (2549/2006) มั่นใจได้อย่างไรว่าชีวิตของคุณกำลังตกอยู่ ณ จุดต่ำสุด ในเมื่อจุดสูงสุดในชีวิตก็ยังไม่เคยลิ้มลอง ความตื่นระทึกที่ไม่ว่าคุณหรือใครก็ไม่อาจคาดเดา ถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในแต่ละนาทีข้างหน้าได้ “เกม 13 ข้อ” ที่ต้องเล่น และทุกครั้งที่เล่นจะเกิดผลกระทบก่อเป็นลูกโซ่อย่างไม่จบสิ้น และเมื่อผ่านทั้ง 13 ข้อ เงินสด 100,000,000 บาทจะเป็นของคุณทันที ลืมหนังเขย่าขวัญทุกเรื่องที่คุณรู้จัก เตือนสติตัวคุณให้ดีก่อนตัดสินใจดูหนังเรื่องนี้ “13 เกมสยอง” “13 Beloved” คือ “โอกาส” หรือ “ทางเลือก” ที่ถูกเปิดให้กับใครบางคนที่ได้รับการคัดเลือกว่า “เหมาะสม” หรือ “คู่ควร” เท่านั้น ว่ากันว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเดินเข้าสู่ “13 Beloved” ได้ วิธีการน่ะเหรอ ไม่ต้องหาให้เสียเวลา เพราะเมื่อถึงเวลามันจะเลือกคุณเอง ดูเหมือนว่าสถานการณ์รอบตัวในชีวิตของ “ภูชิต” (กฤษดา สุโกศล แคลปป์) เซลส์แมนขายเครื่องดนตรีกำลังเดินทางมาถึงทางตันของชีวิตแล้วจริงๆ เมื่อจุดจบในหน้าที่การงานกำลังจะถูกหยิบยื่นโดยเจ้านายของเขาโทษฐานที่ไม่สามารถทำยอดขายทะลุเป้าได้ หนำซ้ำคนรักก็ทิ้งไปมีคนใหม่ หนี้สินล้นตัวจากเงินกู้ในฐานะลูกที่ดีที่เข้ามาทำงานในเมืองใหญ่ต้องรับผิดชอบส่งเสียน้องสาววัยเรียนและแม่ที่ต้องเลี้ยงดูเขาและน้องเพียงลำพังตั้งแต่เล็ก เริ่มออกดอกออกผลกลืนกินชีวิตเขาเข้าเต็มที แม้แต่รถยนต์ที่ขาดส่งไป 3 เดือนก็ยังถูกยึดไปต่อหน้าต่อตา แต่แล้วโอกาสสุดท้ายในชีวิตก็ถูกหยิบยื่นให้ตรงหน้าโดยที่เขาเองก็ไม่คาดคิดในฐานะ “ผู้ถูกเลือก” เมื่อโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เสียงลึกลับจากปลายสายดึงเขาเข้าสู่ “13 Beloved” เกมท้าทายชีวิตที่มีโจทย์ 13 ข้อให้เขาค้นหาคำตอบและเล่นโดยมีผลตอบแทนที่ดึงดูดใจ คือเมื่อใดก็ตามที่เขาสามารถผ่านโจทย์แต่ละข้อ มูลค่าของเงินสะสมก็พร้อมที่จะทวีคูณขึ้นไปเรื่อยๆ จะถูกส่งเข้าบัญชีธนาคารที่เขาสามารถตรวจสอบได้ทันที และถ้าเขาสามารถทำได้ครบทั้ง “13 ข้อ” ยอดเงินสะสมที่มีตัวเลขสูงถึง “100 ล้านบาท” จะเป็นของเขาทันที นี่คือผลตอบแทนในฐานะผู้พิชิตที่อุตส่าห์ร่วมบากบั่นในฐานะผู้ร่วมสนุกในเกม โดยมีเงื่อนไขที่ว่าเมื่อใดก็ตามที่เขาหยุดเล่นเงินสะสมทั้งหมดจะถูกยกเลิก หากบอกต่อให้คนอื่นรู้เกมถือว่าเป็นโมฆะ และหากพยายามติดต่อกลับหมายเลขดังกล่าวถือว่าเกมสิ้นสุด เพียงทว่าการเล่นเกมดังกล่าวของเขากลับปลุกอดีตที่หลับใหลให้มาบรรจบปัจจุบันขึ้นอีกครั้ง แน่นอนว่ามันพร้อมที่จะส่งผลต่ออนาคตที่เกิดจากการ “เลือก” และ “ตัดสินใจ” เดินบนเส้นทางนี้ของเขาเองถึงแม้ว่ามันจะเดิมพันด้วยชีวิตของเขาและคนรอบข้างก็ตาม
ผีอยากกลับมาเกิด re-cycle (2549/2006) ถึงแม้ว่าเส้นทางการเป็นนักเขียนนิยายรักโรแมนติกของ “ฉีสิน” (ลีซินเจี๋ย-The Eye) จะประสบความสำเร็จอยู่ในระดับเบสต์เซลเลอร์ ถึงขนาดที่ว่านิยายหลายต่อหลายเรื่องของเธอถูกผู้สร้างภาพยนตร์นำมาดัดแปลงสร้างเป็นภาพยนตร์ก็ตาม แต่การที่จู่ๆ ผู้จัดการของเธอลุกขึ้นมาประกาศว่าฉีสินจะพลิกรูปแบบงานเขียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งให้จับตาดู “Re-Cycle” งานเขียนชิ้นใหม่ที่แตกต่างจากงานเขียนทุกชิ้นที่ผ่านมาของเธอ เพราะเป็นการพลิกรูปแบบงานเขียนจากนวนิยายโรแมนติกมาเป็นนวนิยายตื่นเต้นระทึกขวัญให้สื่อมวลชนได้รับรู้ ทั้งๆ ที่ตัวฉีสินเองยังตัดสินใจไม่ได้เลยว่าเนื้อหาหรือเรื่องราวในนิยายเรื่องใหม่ของตนจะออกมาเป็นอย่างไร กลายเป็นแรงกดดันซ้อนที่ส่งผลให้ฉีสินเองตั้งตัวแทบไม่ทัน ในขณะเดียวกันกับที่ “ห้าวหลัน” (เจตริน วรรธนะสิน) ชายหนุ่มที่เป็นคนรักเก่าซึ่งเลิกรากันไปเมื่อ 8 ปีที่แล้วจู่ๆ ก็กลับมาหาเธอเพื่อขอสานต่อความรักครั้งเก่า หลังจากที่เขาเคยบอกเลิกเธอเพื่อไปแต่งงานกับผู้หญิงอื่น ทันทีที่ฉีสินเริ่มต้นจรดตัวอักษรกับงานเขียนชิ้นใหม่ที่มีชื่อว่า “Re-Cycle” ดูเหมือนว่ามีพลังอำนาจและสภาพบรรยากาศบางอย่างที่ชวนขนลุกเกิดขึ้นกับชีวิตของเธอ เมื่อมีเหตุการณ์เหนือคำอธิบายหลายอย่างเกิดขึ้น จนราวกับว่ามีบางสิ่งบางอย่างกำลังครอบงำความคิดและนำชีวิตของเธอไปสู่เหตุการณ์ประหลาดที่เต็มไปด้วยความลึกลับ และแน่นอนว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่ชวนตื่นตระหนกและเต็มไปด้วยความหวาดสะพรึงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิตของเธอ ไม่ว่าจะเป็นเสียงหอบลมหายใจประหลาดจากโทรศัพท์ลึกลับกลางดึก เงามืดของผู้หญิงผมยาวที่แว่บเข้ามาในทุกจังหวะการเคลื่อนสายตาของเธอ รวมไปถึงกระจุกเส้นผมขนาดยาวบนพื้นในห้องน้ำ ฯลฯ สำหรับจิตวิญญาณของนักเขียนอย่างฉีสินแล้วนี่คือการต่อยอดและขยายขอบเขตแห่งจินตนาการที่ดิบ สด เต็มไปด้วยพลังที่ชวนค้นหาและน่าติดตามอย่างแท้จริง ทำให้เธอตัดสินใจนำรายละเอียดและเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาถ่ายทอดลงในนวนิยายเรื่องใหม่ทันที โดยที่แม้แต่เธอเองก็คงไม่คิดว่า 2 สิ่งที่กำลังก้าวเข้ามาสู่ชีวิตของเธอ ไม่ว่าจะเป็นการกลับมาของอดีตคนรักและการเริ่มต้นเขียนนวนิยายสยองขวัญ คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่ห้วงแห่งความหวาดสะพรึงอย่างที่ไม่เคยมีขอบเขตแห่งจินตนาการใดที่มนุษย์เคยคาดคิดและล่วงรู้มาก่อน เมื่อโลกแห่ง “Re-Cycle” กลับมีตัวตนขึ้นมาจริงและนำตัวเธอเข้าไปยังในที่ที่ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะย่างกราย แต่ละเหตุการณ์ต่างผุดขึ้นตรงหน้าราวดอกเห็ดที่เธอต้องพานพบ ตั้งแต่การเผชิญหน้ากับเหล่าวิญญาณนับพันนับหมื่นที่รายล้อมอยู่รอบตัว อุโมงค์มดลูกสยองสีแดงก่ำ ซากศพที่ตกลงจากฟากฟ้าราวกับห่าฝน สวนสนุกผี ซากสรรพสิ่งที่ถูกละทิ้งในโลกแห่งรีไซเคิล ฯลฯ ว่ากันว่านี่คือสิ่งที่แม้แต่นักเขียนอย่างเธอก็ยากที่จะจินตนาการถึง เมื่อทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นล้วนชวนให้เกิดควมรู้สึกที่ชวนขนลุกแทบทั้งสิ้น
ศพ (2549/2006) บางคนอาจเคยตั้งคำถาม ในขณะที่หลายคนเพียงแค่สงสัย แล้วถ้าเป็นคุณล่ะจะทำอย่างไร เมื่อมองยังร่างที่ปราศจากลมหายใจตรงหน้า ไม่รู้ประวัติ ไม่รู้ที่มา รู้แต่เพียงว่านี่คือร่างกายที่ไร้ชีวิตที่นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 2 ทุกคนต่างให้ความเคารพในฐานะ “อาจารย์ใหญ่” ครูผู้บริจาคร่างกายเป็นวิทยาทานเพื่อให้กับนักศึกษาแพทย์ทุกคนได้เรียนรู้ถึงความซับซ้อนภายในร่างกายมนุษย์ และนำความรู้ที่ได้จากร่างอาจารย์ไปเป็นประโยชน์ในการรักษาผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ต่อไป มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับอาจารย์ใหญ่ แต่สำหรับ “ไหม” (ณัทธมนกาญจน์ ศรีนิกรโชติ) แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นกลับเป็นประสบการณ์จริงที่ชวนขนลุก ซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างที่เธอเข้าเรียนชั่วโมงแรกของวิชากายวิภาคศาสตร์ เมื่อจู่ๆ ร่างของอาจารย์ใหญ่ที่นอนสงบนิ่งก็เงื้อมมือขึ้นมาบีบคอเธอ เหตุการณ์ต่อจากนั้นได้สร้างความหวาดผวามากยิ่งขึ้น เมื่อเธอรู้สึกว่ามีวิญญาณของผู้หญิงที่ไม่รู้จักคอยติดตามเธอไปในทุกที่ ตั้งแต่ชั้นเรียน ห้องน้ำ มุมมืดในห้องพัก รวมทั้งข้างตัวเธอบนเตียงนอนที่บ้าน ในท่ามกลางความสับสน และสถานการณ์ที่กำลังเลวร้ายลง “อาจารย์นายแพทย์ประกิต” (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) ดูเหมือนจะเป็นคนเดียวที่แสดงความห่วงใยไหม และตัดสินใจยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือลูกศิษย์คนนี้ในทุกวิถีทาง ไหมเริ่มตั้งคำถามและค้นหาคำตอบอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน นั่นคือการค้นหาที่มาของอาจารย์ใหญ่ แต่ดูเหมือนยิ่งสาวยิ่งลึก และมีบางสิ่งที่ซับซ้อนเกินกว่าที่ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอจะต้านทานไหว บางอย่างที่เกี่ยวพันและเชื่อมโยงถึงผู้หญิงที่ชื่อ “ดาหวัน” กับร่างของอาจารย์ใหญ่ตรงหน้าเธอ ความจริงในด้านมืดที่ชวนขนลุก และเหตุการณ์ที่เลวร้ายในอดีตได้กลับมาหลอกหลอนเธอขึ้นอีกครั้ง…
โคลิค เด็กเห็นผี (Colic) (2549/2006) คุณเคยรู้จักเด็กหรือมีลูกที่มีอาการอย่างนี้บ้างไหม ร้องไห้เป็นประจำทุกวันและเวลาเดียวกัน ไม่หยุดและรุนแรง ติดต่อกันเป็นเวลานาน ระวัง!!! นั่นคือสัญญาณของความน่ากลัว เตรียมผวากับสิ่งที่จะตามมาหลอกหลอน เมื่อ “แพรพลอย” (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) AE สาวกับ “ป้องภพ” (วิทยา วสุไกรไพศาล) ผู้กำกับหนังโฆษณาหนุ่มไฟแรง ได้ตัดสินใจแต่งงานกันหลังจากที่แพรตั้งท้องโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ทั้งคู่จึงตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตและขยับขยายครอบครัวใหม่ด้วยการย้ายบ้านไปอาศัยอยู่กับแม่และน้าสาวของป้องภพแถบชานเมือง แต่การเริ่มต้นไม่ดีเท่าที่ควรเพราะป้องภพทำแต่งานไม่มีเวลามาสนใจแพรซึ่งกำลังตั้งท้องแก่ขึ้นทุกที ความกดดันต่างๆ จากฝ่ายชายทำให้แพรต้องหันหน้าไปปรึกษาและหาอะไรทำเพื่อลดความเครียดด้วยการวาดภาพประกอบให้กับหนังสือที่ “จีน” (กุณฑีรา สัตตบงกช) เพื่อนสนิทดูแลอยู่ คืนหนึ่งแพรเห็นบ้านน้าเบญซึ่งปลูกอยู่ใกล้ๆ กับบ้านหลังใหญ่ของแม่ป้องภพมีไฟลุกไหม้ จึงเข้าไปดูและพยายามหาทางช่วยน้าเบญออกมา ในขณะที่แพรเองก็เจ็บท้องและกำลังจะคลอดลูกพอดี หลังจากการคลอดลูกกลับมาไม่นาน “น้องปั้น” (ลูก) ก็กลับส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างรุนแรงและน่ากลัว หมอตั้งข้อสงสัยว่าน้องปั้นน่าจะเป็น “โรคโคลิค” ซึ่งเด็กที่เป็นโรคนี้จะร้องไห้อย่างรุนแรงและตรงเวลาเป็นประจำทุกวันโดยไม่สามารถหาสาเหตุและวิธีรักษาได้ แต่โดยปกติโรคนี้จะหายไปเองเมื่อเด็กอายุ 3 ถึง 6 เดือน แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไปน้องปั้นก็ยังไม่หายจากโรคโคลิค ปั้นยังคงร้องไห้อย่างรุนแรงทุกวัน และดูเหมือนจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ทุกคนในครอบครัวและจีนซึ่งเข้ามาช่วยดูแลน้องปั้นต่างก็พบกับเรื่องราวประหลาดๆ มากมาย ทำไมโรคนี้จึงไม่หายไปจากเด็กคนนี้ ทำไมเรื่องต่างๆ จึงเกิดขึ้นทุกครั้งที่เขาเริ่มร้องไห้ อะไรคือสาเหตุที่แท้จริง ร่วมพิสูจน์ความจริงที่มาพร้อมความหลอนนี้ได้ใน “โคลิค เด็กเห็นผี”
โบอา งูยักษ์ (2549/2006) คุณจะไม่มีวันลืม ความสยองขวัญครั้งใหม่ ที่รอกลืนกินทุกคนอยู่ในความดิบเถื่อนของพงไพร “โบอา งูยักษ์” …ท่ามกลางธรรมชาติแห่งขุนเขาและพงไพร มีบางอย่างเร้นกายภายใต้ป่าลึกนั้นอย่างเงียบๆ… “พนา” ชายหนุ่มที่รักการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจ เขาชอบเดินทางไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ เพื่อเก็บภาพความสวยงามไว้เป็นที่ระลึก วันหนึ่งพนาได้ไปท่องเที่ยวในป่าแห่งหนึ่งแถวเขตชายแดน ขณะที่เพลิดเพลินกับการเก็บภาพธรรมชาติที่สวยงามอยู่นั้น โดยไม่ทันตั้งตัว เขาโดนบางอย่างลากไปกินอย่างน่าสยดสยอง กลุ่มเพื่อนสนิทของพนาที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง คือ “คิน, โก้, เสิด, ก๋อย, สีดา” และ “แพร” แฟนสาวของพนา ทราบข่าวที่พนาหายไปอย่างลึกลับ จึงตัดสินใจที่จะเข้าไปตามหาพนาด้วยตัวของพวกเขาเองในป่า โดยการโดยสารไปกับบอลลูน ด้วยเหตุผลที่ว่าจะได้เห็นวิวด้านล่างของป่าอย่างชัดเจน แต่แล้วพวกเขาก็ต้องมาผจญกับลมพายุฝนรุนแรงจนทำให้บอลลูนตกกลางป่าลึกแห่งหนึ่ง ในค่ำคืนที่ฝนตกกระหน่ำ ทั้งหมดมาหลบฝนที่ใต้รูปปั้นแกะสลักพญานาค ทุกคนประหลาดใจจึงเดินขึ้นไปตามทางบันไดหินจนพบปากถ้ำ ทั้งหมดตัดสินใจเข้าพักแรมในถ้ำลับกลางป่าแห่งนั้น โดยหารู้ไม่ว่าพวกเขาได้ย่างกรายเข้าสู่อันตรายที่ยากจะต้านทานได้ …บางสิ่งกำลังเลื้อยออกจากการแฝงกายภายในถ้ำ เพื่อรับการมาเยือนของแขกผู้ไม่ได้รับเชิญโดยเฉพาะ… “งูยักษ์” ที่อาศัยอยู่ในถ้ำลับนั้น ไม่รีรอที่จะออกมาต้อนรับเหล่าหนุ่มสาวกลุ่มนี้ด้วยการกลืนกินพวกเขาทีละคนๆ ไม่ต่างจากเหยื่ออันโอชะ ผู้รอดตายจากคมเขี้ยวงูยักษ์ของค่ำคืนสยองนั้น จำเป็นต้องกระเสือกกระสนหาทางออกและวิธีทำลายงูยักษ์นั้น ก่อนที่มันจะคืบคลานเข้าใกล้พวกเขาอีกครั้งหนึ่ง แต่เมื่อสุดทางหนี พวกเขาจึงต้องเผชิญหน้าสู้กับมันแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน นี่ดูเหมือนจะเป็นทางเดียวเท่านั้น ที่จะทำให้พวกเขา…รอดชีวิต
ลาง หลอก หลอน | BLACK NIGHT (2549/2006) NEXTDOOR – ฮ่องกง กรกฎาคม ตามจันทรคติ เป็นเดือนแห่งเทศกาลของภูตผี ผู้คนจุดธูปเผากระดาษตามท้องถนนเพื่อเซ่นไหว้ผีเร่ร่อน เหตุการณ์น่าสะพรึงกลัวเกิดขึ้นซ้ำๆ ในคืนอาถรรพ์ เมื่อเจนสาวชาวไต้หวัน (แสดงโดย Annie LIU) มาเยี่ยม Joe แฟนตำรวจหนุ่ม (แสดงโดย Dylan KUO) แต่กลับพบว่าเขาเริ่มมีสัมพันธ์สวาทกับเพื่อนบ้าน สาวสวยจากจีนแผ่นดินใหญ่ Hosie (แสดงโดย Race WONG) และเมื่อความรักและความคาดหวังที่แรงกล้า กลับถูกตอบแทนด้วยความหลอกลวง ความหายนะจึงจำต้องเกิดขึ้น. ท่ามกลางเสียงแปลกประหลาดจากการกระทบกันของลูกหิน เสียงประตูถูกเคาะอย่างฉับพลัน เมื่อมองผ่านรูกุญแจประตูเห็นเป็นเงารูปร่างน่ากลัว… เรื่องราวของสามชีวิตในชะตาที่โยงใยกันจนเป็นเงื่อนปมได้คลี่คลายออกอย่างระทึกขวัญ และให้แง่คิดแบบ ขนหัวลุก DARK HOLE – ญี่ปุ่น ว่าที่เจ้าสาว Yuki (แสดงโดย Asaka SETO) ต้องทนทรมานกับฝันร้ายของเธอมาตลอด วันหนึ่งเธอสังเกตเห็นเด็กในชุดสีเหลือง ซึ่งเคยเห็นในฝันบ่อยๆ ได้ปรากฏตัวขึ้นในชีวิตจริง มีแต่เพียงเธอเท่านั้นที่สังเกตเห็นเด็กคนนี้ได้ แต่เมื่อใดที่เธอจำเขาได้จริงๆ เขาก็จะหายไปเหลือเพียงน้ำกองหนึ่ง เธอรู้สึกหวาดกลัวกับเหตุการณ์ประหลาดนี้ คู่หมั้นของเธอ Satoshi (แสดงโดย Takashii KASHIWABARA) จึงแนะนำให้เธอไปพบจิตแพทย์ Dr. Kawai (แสดงโดย Tomorowo TAGUCHI) และในที่สุดจิตแพทย์ท่านนี้ก็สามารถค้นพบสาเหตุของฝันร้ายของเธอได้หลังจากรักษาเธอมาหลายต่อหลายครั้ง เนื่องจากเธอสูญเสียความทรงจำในวัยเด็กเมื่อตอนอยู่ชั้นประถม และบังเอิญช่วงนั้นทั้งเพื่อนและแม่ของเพื่อนเธอได้ตายไปอย่างประหลาดและ เป็นปริศนา Yuki กลัวมากเมื่อเธอพบความเกี่ยวเนื่องกันระหว่างความฝันของเธอและอุบัติเหตุครั้งนั้น หนึ่งระหว่างการรักษาโดยการสะกดจิต เธอได้เปิดเผยความลับถึงเรื่องที่เธอมีสัตว์เลี้ยงที่แสนประหลาด… THE LOST MEMORY – ไทย ปราง (แสดงโดย พิชญ์นาฎ สาขากร) แม่หม้ายและ ซัน ลูกชาย (แสดงโดย เด็กชายอธิพันธ์ ฉันทอภิชัย) ทั้งคู่ ดูน่าจะมีความสุข เว้นแต่ว่ามีชายคนหนึ่งคอยติดตามเธอทุกแห่งหน เธอเชื่อว่าเขาถูกจ้างวานโดย วิทย์ อดีตสามีเธอ (แสดงโดย ขจรศักดิ์ รัตนนิสสัย) เธอเชื่อว่าเขามุ่งร้ายที่จะจับลูกชายเธอไป ชีวิตเธออยู่ท่ามกลางความหวาดผวาจนแทบจะเป็นบ้า ระหว่างการสืบหาความจริงนั้น เธอได้พบห้องเช่าแห่งหนึ่งที่ดูคุ้นตา และเริ่มจำได้ว่า แพรว เพื่อนของเธอ (แสดงโดย นัชชา บุตรศรี) ซึ่งเคยเป็นเพื่อนรักของเธอและวิทย์ ตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย แต่ความทรงจำของเธอเลือนหายไปอยู่ตลอดเวลา ยิ่งนึกก็ยิ่งพบว่าเหตุการณ์น่าสะพรึงกลัวในอดีตนั้นหลอกหลอนเธอเหมือนหนังเก่า ที่ฉายซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้จบ ความทรงจำที่ลึกที่สุดมันเจ็บปวดเกินกว่าที่จะรับได้ มันยังคงสถิตย์ในห้วงลึกของจิตใจเธอ และความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่าง วิทย์ กับ แพรว ก็คือกุญแจไขปริศนาของมรสุมในอดีตเธอ
ไพรรีพินาศ ป่ามรณะ (2549/2006) ในปี 2530 คำกอง ลีซอ และ นาซอ (ตอนเด็ก) เดินทาง เข้าไปในป่าพญาเมฆ เพื่อหาขุมทรัพย์ตามที่ลายแทงบอกไว้ แต่ต้องมาเจอกับงูยักษ์ตามไล่ล่า จนทำให้ลีซอที่เป็นพ่อของนาซอเสียชีวิต ด้วยเหตุการณ์ครั้งนี้เอง จึงทำให้นาซอเข้าใจว่าคำกองเป็นต้นเหตุที่ทำให้พ่อของตัวเองเสียชีวิต จึงเกิดความเค้นต่อคำกอง ในปี 2547 หมวดวุฒิ (วัชระ ตังคะประเสริฐ) กับพรรคพวกจับนักโทษที่แหกคุกออกมาได้คนหนึ่ง สอบปากคำจนรู้ว่าพวกนักโทษที่เหลือนั้นได้หลบหนีไปทางป่าพญาเมฆ ในปัจจุบันนี้ คำกอง ได้บวชเป็นพระอยู่ในวัดแห่งนึ่งใกล้ ๆ กับป่าพญาเมฆ หมวดวุฒิกับพรรคพวกได้เดินทางมายังวัด เพื่อสอบถามร่องรอยของนักโทษกับหลวงพ่อคำกองผู้เป็นพ่อของหมวดวุฒิ หลวงพ่อคำกองได้ดูรูปถ่ายก็รู้ทันทีว่านักโทษที่อยู่ในรูปนั้นคือ นาซอ (ชลัฏ ณ สงขลา) โจรที่ปล้นฆ่าอันโหดเหี้ยม ลูกชายคนเดียวของลีซอเพื่อนเก่า ในคืนนั้นเองนาซอและพรรคพวกที่แหกคุกออกมา ก็ได้กลับมาฆ่าหลวงพ่อคำกอง และได้แย่งลายแทงสมบัติกับพวงกุญแจของหลวงพ่อไป จากนั้นนาซอและ หนานเมือง (สุรชัย แสงอากาศ) ก็ได้เดินทางเข้าป่าพญาเมฆ เพื่อไปหาขุมทรัพย์ตามที่ลายแทงบอกทันที หมวดวุฒิก็ได้ออกตามล่าพวกนาซอที่หลบหนีเข้าป่าทันทีที่รู้ข่าว โดยมีนายพรานกระเหรี่ยงเป็นคนนำทาง และมีการปะทะกันระหว่างตำรวจและกลุ่มโจร ซึ่งต่างฝ่ายต่างได้รับบาดเจ็บด้วยกันทั้งสองฝ่าย พวกนาซอได้หลบหนีเข้าไปในป่าอาถรรพ์ หมวดวุฒิจึงตามไปแต่นายพรานกระเหรี่ยงไม่กล้าเข้าไป จึงนำข่าวนี้ไปบอกพรานเฒ่าแทน พอ พรานเฒ่า (ประทีป หาญอุดมลาภ) รู้ข่าว ก็รู้สึกเป็นห่วงหมวดวุฒิ จึงได้ออกเดินทางตามไปกับหลานสาวชื่อ กระแต (ณัฐนันท์ จันทรเวช) ด้านพวกนาซอนั้นก็ได้เจอกับ ฝูงต่อพญาเสือ นับแสนตัว รุมทำร้ายจนทำให้ลูกน้องคนหนึ่งเสียชีวิต ทางด้านหมวดวุฒิที่ตามมาติด ๆ นั้นกลับมาเจอ ฝูงตุ๊กเข้ ไล่กัด ด้วยเหตุการณ์ณ์ครั้งนี้เองจึงทำให้ทั้งสองฝ่ายต้อง หนีเข้าไปในป่านารีผล ป่านารีผล ในคืนนี้เองทำให้จ่าวีได้เจอกับพวก นารีผลที่เป็นสาวสวย มาหลอกยั่วยวนให้หลงใหล และหลอกดูดพลังชีวิตจนตาย จ่าหมึกผู้ที่เห็นเหตุการณ์ครั้งนี้ ก็เกือบพลาดท่าเสียทีพวกนารีผล แต่โชคดีที่หมวดวุฒิและพรานเฒ่ามาช่วยไว้ทัน นาซอและพรรคพวกที่เหลือโดนหมวดวุฒิจับได้ แต่ว่าหมวดวุฒิและพรรคพวกนั้นก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้รับการช่วยเหลือจากสาวชาวบ้านที่ชื่อว่า สีอ่อน (จิรภัทร์ วงศ์ไพศาลลักษณ์) และ คำแพง (ณัฏฐรี วิบูลย์เลิศ) สีอ่อนและคำแพงนั้นจะคอยช่วยหาสมุนไพรเพื่อมารักษาหมวดวุฒิและพรรคพวก ชาวบ้านในหมู่บ้านของสีอ่อนทำการต้อนรับอย่างดีกับพวกที่สีอ่อนและคำแพงพามา ในคืนนั้นเองพรานเฒ่าได้มอบของสิ่งหนึ่งที่หลวงพ่อคำกองได้ฝากไว้ให้หมวดวุฒิ นั่นก็คือ มีดอาคม กระแตหลานสาวของพรานเฒ่า เริ่มมีความสงสัยกับผู้คนในหมู่บ้านของสีอ่อนว่าต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน เพราะว่าเธอได้อ่านสมุดบันทึกของหลวงพ่อคำกองที่ให้เธอมา แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ ...ความลับของขุมทรัพย์จากเหรียญกาละกำลังรอวันเปิดเผย... ...อดีต ปัจจุบัน อนาคต เกี่ยวข้อง ต่อเนื่อง และส่งผลถึงกัน... ...การเผชิญหน้ากับความจริง และความตาย ที่รอเขาอยู่เบื้องหลังเหรียญกาละ... ...กลายเป็นที่มาแห่งจุดจบที่คาดไม่ถึง...
คำพิพากษาของมหาสมุทร Invisible Waves (2549/2006) เรื่องราวของ คิโยชิ กุ๊กชาวญี่ปุ่นที่ทำงานอยู่ที่ร้านอาหารแถบมาเก๊า เหตุการณ์ได้ผูกเงื่อนตายไว้ตรงที่ เขาเป็นชู้กับ เซ โกะ ภรรยาเจ้าของร้านอาหาร และเรื่องที่ชวนสั่นประสาทก็เกิดขึ้น หลังจากที่ทั้งคู่ดื่มด่ำกับอาหารมื้อค่ำ และเธอก็สิ้นใจตายพร้อมกับแก้วไวน์จิบสุดท้ายที่เธอดื่ม !! ภายหลังเหตุการณ์ฆาตกรรม เรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น… เมื่อผู้หญิงที่ถูกฆ่าตาย ไม่ได้เป็นเพียงแค่เหยื่อเท่านั้น แต่นักฆ่าก็กลับกลายเป็นเหยื่อ ของการฆาตกรรมในครั้งนี้ด้วย!
ล่าค้างคาวพันธุ์อมตะ (2549/2006) ภารกิจเสี่ยงตายของเหล่านักล่า เมื่อต้องเผชิญหน้ากับฝูงค้างคาวปีศาจ ผู้ก่อการร้ายกลุ่มหนึ่งได้ทำการทดลองเกี่ยวกับค้างคาว จนพวกมันกลายพันธุ์เป็นค้างคาวพันธุ์เพชฌฆาต ที่ออกอาละวาดไปทั่วหมู่บ้าน ทำให้ หมวดกฤษ ผู้คอยดูแลหมู่บ้านนี้พร้อมกับเพื่อนตำรวจหญิงต้องออกมาช่วยกันปราบค้างคาว รวมทั้งหาทางจับกุมกลุ่มผู้ก่อการร้ายในครั้งนี้ด้วย.....
ผมอาถรรพ์ (2549/2006) “ ผมอาถรรพ์ ” เล่าเรื่องราวการถ่ายทำรายการ Reality TV. ที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งนำพาให้กลุ่มหนุ่มสาวทั้งผู้เข้าร่วมรายการและทีมงานต้องมาพบกับเรื่องราวสยองขวัญในบ้านที่มีอดีตอันน่ากลัวแฝงอยู่ โดยบ้านหลังนี้เคยมีเจ้าของเป็นหญิงสาวผมสวยที่ชอบกินผมเป็นอาหาร นานวันเข้าเธอไม่กินเฉพาะผม แต่เธอเริ่มจะกัดกินเนื้อบริเวณศีรษะด้วย จนสามีของเธอต้องจับเธอไปขังในห้องลับและฆ่าตัวตายตามกันไป..!! แต่วิญญาณของเธอยังคงวนเวียนอยู่และหลอกหลอนผู้มาเยือน เมื่อทุกคนได้รู้ความจริง พวกเขาต่างหาทางออกจากบ้านหลังนี้ แต่จะมีสักกี่คนที่สามารถมีลมหายใจออกจากที่นี้ไปได้
ปิดป่าล่า (2549/2006) *ปีอาจไม่ตรง* ล่วงล้ำสู่แดนอันตราย ตำนานแห่งป่ามรณะ ที่ไม่เคยมีใครได้กลับออกมา กลุ่มโจรซึ่งแหกคุกออกมาจับเวทไปเป็นตัวประกัน พร้อมกับออลี สาวชาวป่าที่มีความชำนาญด้านสมุนไพรและการเดินป่า พวกโจรต้องการให้ออลีนำทางไปชายแดน และที่นั้นคือจุดเริ่มต้นของความสยองขวัญและความน่าสะพรึงกลัว เมื่อพวกเขาได้ก้าวล้ำเข้าสู่แดนของอสูรกาย สัตว์สังหารที่จู่โจมด้วยคมเล็บและเขี้ยวมรณะ พวกเขาจึงต้องหาทางหนีให้เร็วที่สุดก่อนที่จะไม่มีชีวิตรอดออกไป...
ใยสยองซ่อนตาย (2548/2005) หญิงชราคนหนึ่ง ถูกชาวบ้านกล่าวหน้าว่าเป็นผีร้ายที่คอยจับเด็กไปกินจึงจับเธอเผาทั้งเป็น ซึ่งบริเวณนั้นเป็นบริเวณที่เต็มไปด้วยรังแมงมุม ด้วยความแค้นทำให้ดวงจิตของหญิงชราผู้นั้นได้พุ่งเข้าสู่ตัวแมงมุม และกลับมาแก้แค้นพวกชาวบ้านในร่างของแมงมุมยักษ์ ซึ่งไม่มีใครสามารถปราบมันได้ ชาวบ้านต้องคอยนำเด็กชายมาเซ่นไหว้ทุกปี และทุกครั้งที่แมงมุมยักษ์ได้ลิ้มรสกับเหยื่อของมัน มันจะมีพลังอำนาจมากขึ้น
Scared รับน้องสยองขวัญ (2548/2005) หลายคนอาจเคยผ่านช่วงชีวิตแห่งการรับน้องในมหาวิทยาลัยกันมาแล้ว บางคนอาจสนุกกับการได้เจอเพื่อนใหม่หรือสถานที่เรียนใหม่ แต่บางคนอาจต้องพบกับเหตุการณ์ที่ต้องจดจำไปทั้งชีวิตเหมือนบรรดาน้องๆ เฟรชชีปีหนึ่ง หน้าใสกิ๊กจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ทั้ง 17 คนที่ต้องเจอกับพิธี “รับน้องสยองขวัญ” “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” ร่วมกับ “บาแรมยู” นำเสนอเรื่องราวเขย่าขวัญที่จะพาคุณไปสัมผัสกับความหลอนสั่นประสาทโดยไม่สามารถคาดเดาเหตุการณ์ได้ล่วงหน้ากับภาพยนตร์เรื่อง “รับน้องสยองขวัญ” ผลงานการกำกับของ “ภาคภูมิ วงษ์จินดา” ที่เคยฝากผลงานไว้ใน “ฟอร์มาลีนแมน รักเธอเท่าฟ้า” (2547) กับการนำนักแสดงหน้าใหม่ทั้ง 17 คนมารับบทนักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง โดยความน่าสนใจของโปรเจกต์นี้จะอยู่ที่นักแสดงแต่ละคนไม่สามารถมีโอกาสได้รู้ถึงบทหรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น…
The Remaker คนระลึกชาติ (2548/2005) เรื่องราวของ "ต้อม" (แอนดริว เกร็กสัน) ชายหนุ่มที่ประสบอุบัติเหตุ รถที่เขาขับมาตกจากสะพาน และตัวเขาก็จมดิ่งลงสู่ใต้น้ำพร้อมรถ เขาได้รับการช่วยเหลือจาก "พิม" (พิยดา อัครเศรณี) หญิงสาวคนหนึ่งที่บังเอิญผ่านมา และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจนรอดชีวิตปลอดภัยมาได้ หลังจากเกิดเหตุต้อมก็เห็นภาพและได้ยินเสียงแปลกๆ ราวกับจะมีใครบางคนบอกกับเขาว่า เรื่องที่เกิดไม่ใช่อุบัติเหตุ และการที่มีคนผ่านมาช่วยก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทั้งหมดเป็นกรรม ที่เขาและเธอเคยร่วมกันทำมาตั้งแต่ชาติปางก่อน แต่กรรมในอดีตยังไม่สิ้น และอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้ทุกวันเวลา
ต้มยำกุ้ง (2548)

The Protector ต้มยำกุ้ง (2548/2005) การเดินทางข้ามโลกของ “ขาม” (จา พนม ยีรัมย์) เด็กหนุ่มบ้านป่าที่ชีวิตต้องพลิกผันโดยเงื้อมมือของผู้มีอิทธิพลระดับประเทศที่ลักพาช้างพลายสองพ่อลูก ซึ่งเด็กหนุ่มและ “พ่อของขาม” (โสรธร รุ่งเรือง) เขารักดั่งชีวิต และมีความมุ่งหมายอันสูงสุดที่จะมอบเป็นคชบาทแด่ในหลวง ไปขาย ณ ประเทศออสเตรเลีย ทางเดียวที่จะช่วยเหลือและรักษาชีวิตของช้างอันเป็นที่รักของเขาได้ นั่นก็คือ การบุกตะลุยถึงถิ่นเสือ โดยการเดินทางข้ามโลก เรื่องไม่ง่ายอย่างใจคิด แม้เขาจะได้รับความช่วยเหลือจาก “จ่ามาร์ค” (หม่ำ จ๊กมก) นายตำรวจไทยและ “ปลา” (บงกช คงมาลัย) สาวไทยที่ถูกหลอกมาขายตัวในซิดนีย์ก็ตาม แต่ที่นั่น เขากลับต้องไปพัวพันกับการไล่ล่าของแก๊งมาเฟียที่นำโดย “มาดามโรส” (จิน ซิง) ที่มีลูกสมุนต่างชาติที่เต็มไปด้วยฝีมือทางการต่อสู้อย่าง “จอห์นนี่” (จอห์นนี่ เหงียน) และ “ทีเค” (นาธาน โจนส์) พร้อมลูกสมุนย่อยที่มีฝีไม้ลายมือทางการต่อสู้เหลือรับอย่าง “คาโปเอร่า” (ลาธีฟ คราวเดอร์) และ “วูซู” (จอน ฟู) อย่างไม่ได้ตั้งใจ ณ วินาทีนี้ การต่อสู้ข้ามชาติเพื่อเอาชีวิตรอดของเด็กหนุ่มและเพื่อนพ้อง ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เพื่อตามหาและช่วยเหลือ พ่อใหญ่ และ ขอน ช้างพ่อลูก ที่เปรียบได้กับญาติพี่น้องของเขา นำไปสู่บททดสอบและการต่อสู้ครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตของเขาให้โลกได้ล่วงรู้ถึง อานุภาพของ "ไม้มวยไทยโบราณ" ที่หนักหน่วง รุนแรง และยังไม่เคยได้รับการเปิดเผยมาก่อน โดยเฉพาะ "ตำนานมวยคชสาร"

นรก Hell (2548/2005) ทีมงานสารคดีโทรทัศน์ที่มุ่งตีแผ่ความเลวและลงโทษเหล่าคนชั่วในสังคม พวกเขากำลังได้รับความนิยมมากในวงการ ทีมงานประกอบไปด้วย “อาร์ต” (วุฒินันท์ ไหมกัน) ช่างภาพหนุ่มอารมณ์ร้อน, “จ๋า” (ณัฐวรรณ วรวิทย์) ครีเอทีฟสาวอนาคตไกล, “น้าเต๋า” (ค่อม ชวนชื่น) หนุ่มรุ่นใหญ่ฝ่ายข้อมูลตัวกลั่นและเชี่ยวในการหาโลเคชันของรายการ, “ชด” (ปัญญาพล เดชสงฆ์) ผู้กำกับรายการสารคดีหนุ่มที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน, “คิม” (ดลยา โพธิพิภัทรกุล) เด็กสาวลูกครึ่งอังกฤษที่ชีวิตแทบจะไม่เคยทำบาป รับหน้าที่เป็นนกต่อในการถ่ายทำสารคดีแต่ละครั้ง, “อ้น” (สิทธิชัย เหลืองเสรี) เด็กฝึกงานที่อายุน้อยที่สุดในทีมแต่ฝันที่จะเป็นผู้กำกับ และ “เละ” (บวรฤทธิ์ ฉันทศักดา) โชเฟอร์หนุ่มจิตอ่อนนิสัยขี้กลัวที่ไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองชะตาขาด ทั้งหมดเดินทางมุ่งหน้าไปถ่ายทำรายการตามปกติเหมือนเคย กลับต้องมีเหตุให้ตัวเองและพรรคพวกต้องเผชิญหน้าและรับกรรมไปกับโทษมหันต์จากการตก “นรก” เมื่อรถตู้ของกองถ่ายเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำเสียหลักจนทุกคนหมดสติไป หลังจากที่พวกเขาฟื้นขึ้นมาก็ต้องพบและฝ่าฟันกับความน่าสะพรึงกลัวของนรก ทั้งที่จริงแล้วมีเพียงเละซึ่งเป็นคนขับที่ชะตาถึงฆาต ส่วนคนอื่นๆ ติดสอยห้อยตามมา เพราะอุบัติเหตุที่ทั้งหมดร่วมเดินทางมาด้วยกันเท่านั้น ทุกคนมีกรรมหนักกรรมเบากันคนละแบบจึงถูกส่งไปอยู่ในขุมที่ต่างกัน 5 ขุม ประกอบไปด้วย… “นรกขุมฆ่าสัตว์” (ได้รับผลกรรมชดใช้ตามที่เคยทำไว้กับสัตว์อื่น) “นรกพูดปด คิดไม่ดี ทำร้ายบุพพการี” (ถูกทรมานโดยการทุบฝ่ามือ) “นรกลักทรัพย์” (ถูกตัดแขนตัดขา) “นรกสุรา” (เอาน้ำกระทะทองแดงกรอกปาก) “นรกกาเม” (ปีนป่ายต้นงิ้วและอีกาปากเหล็ก) พวกเขาต่างระลึกกรรมในอดีตที่เคยทำกันมา โดยในแต่ละขุมจะมียมทูตคนละชุดกันคอยควบคุมดูแล และพวกเขาจะมองเห็นแต่เฉพาะคนที่มีบาปอยู่ในขุมของตนเท่านั้น เมื่ออาร์ตได้รู้ว่าตนและเพื่อนยังไม่ถึงฆาต พวกเขาจึงยังไม่ใช่คนตายที่ยมทูตจะมองเห็น ดังนั้นพวกเขาจึงพากันหลบหนีไป การติดตามไล่ล่าจากนรกได้เปิดฉากขึ้น พวกเขาจะตัดสินใจอย่างไรระหว่างความเป็นกับความตาย ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในการช่วยเพื่อนหรือเอาตัวรอด เมื่อยังมีคนในกลุ่มที่ยังไม่ถึงฆาต พวกเขาจะฝืนชะตากรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อขึ้นได้อย่างไร…