งามงอน (2506)
งามงอน (2506/1963) สมบัติ-รัตนาภรณ์ ข้อความบนใบปิด รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง นำขบวนประชันบท สมบัติ เมทะนี มี วิไลวรรณ วัฒนพานิช, อรสา อิศรางกูร, เทียมแข กุญชร, ศรินทิพย์ ศิริวรรณ, จรัสศรี สายะศิลปี ปรียา รุ่งเรือง, ชฎาพร วชิรปราณี, แววตา อาษาสุข, ชั้น พวงวัน 10 ดาราหญิง อีกทั้ง ประจวบ ฤกษ์ยามดี, สาหัส บุญหลง, สังวรณ์ สมพงษ์ พงษ์มิตร, เสน่ห์ โกมารชุน และดารารับเชิญ ชรินทร์ นันทนาคร ใน งามงอน บทประพันธ์ของ หญิงนันทาวดี รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง อำนวยการสร้าง น้อย กมลวาทิน กำกับการแสดง ชเนศร์ จรัสตระกูล ถ่ายภาพ บริษัท วัชรภาพยนตร์จำกัด จัดจำหน่าย
อวสานอินทรีแดง (2506)

อวสานอินทรีแดง (2506/1963) เมื่อใดที่วายร้ายออกอาละวาด สุจริตชนเดือดร้อน มีหรือที่ โรม ฤทธิไกร (มิตร ชัยบัญชา) จะทนนิ่งเฉยอยู่ได้ อินทรีแดง จึงต้องปรากฏกายอีครั้งโดยมีคู่หู ขวัญใจ สาวสวยอย่างวาสนา (เพชรา เชาวราษฏร์) เป็นทั้งแรงใจแรงกาย ช่วยเหลือ แต่การปฏิบัติ หน้าที่ของอินทรีแดง ก็ต้องเจอกับอุปสรรคนานัปการ ทั้งนายตำรวจอย่างหมวดชาติ (พร ไพโรจน์) ที่ตงฉิน มุ่งหมายแต่จะปราบอินทรีแดง และยังมีธำรง (ประจวบ ฤกษ์ยามดี) นักสืบหนุ่มจากเมืองนอกที่ใฝ่ฝันจะกระชากหน้ากากอินทรีแดง และอินทรีแดงจะจัดการกับวายร้ายพร้อมๆ กับหลบเลี่ยงตำรวจและนักสืบที่คอยเป็นเงาติดตามตัวได้อย่าง

ชโลมเลือด (2506)

ชโลมเลือด (2506/1963) ภาพยนตร์ไทยที่เหนือความเกรียงไกร เหนือความยิ่งใหญ่ ใน... ชโลมเลือด จากบทประพันธ์ของ ส.เนาวราช รวมดาราทั่วกรุง ประชันสาวอก 38 คริสติน เหลียง แสดงนำเป็นครั้งสุดท้าย สุดยอด ยิ่งใหญ่! ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ หนังไทยเรื่องใหญ่ สร้างเท่า 35 ดูการรวมดาราที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน จากเหตุการณ์ที่เข้มข้นทุกบททุกตอน ดู..ฉากฟ้าผ่าอันน่าสพรึงกลัว ดู..ฉากระเบิดเขื่อนกั้นน้ำพังพินาศ ดู..ขบวนชาวบ้านต่อต้านศัครูอย่างเลือดเดือด

เก้ามังกร (2506)
เก้ามังกร (2506/1963) ข้อความบนใบปิด โดมฤดีโปรดัคชั่น เสนอ 9 ดาราใหญ่ สมบัติ เมทะนี ประจวบ ฤกษ์ยามดี ไชยา สุริยัน แมน ธีระพล รุจน์ รณภพ ชาติ ชูพงษ์ บุศรา นฤมิตร อุษา อัจฉรานิมิตร วรรณา แสงจันทร์ทิพย์ ใน เก้ามังกร ยอดอาชญนิยายที่เกียงไกรที่สุดของ 3 นักประพันธ์ พนมเทียน-ส.เนาวราช-เกรียง ไกรสร วรุณ ฉัตรกุล กำกับการแสดง บริษัทสหการภาพยนตร์ไทยจำกัด จัดจำหน่าย
กัปตันเครียว ฉลามเหล็ก (2506)

กัปตันเครียว ฉลามเหล็ก (2506/1963) ข้อความบนใบปิด หนังไทยรสเผ็ดเด็ดถึงใจ เรื่องยิ่งใหญ่ทางทะเล... กัปตันเครียว ฉลามเหล็ก ภาพยนตร์ไทยเรื่องเดียวที่ผู้สร้างและดารา ลงทุนดำดิ่งลงไปถ่ายฉากใต้ทะเลงาม ตระการตา.. นำแสดงโดย มิตร ชัยบัญชา เมตตา รุ่งรัตน์ ประจวบ ฤกษ์ยามดี บุศรา นฤมิตร อรสา อิศรางกูร ณ อยุธยา, รุจน์ รณภพ, อภิญญา วีระขจร, สิงห์ มิลินทราศัย และผู้แสดงประกอบนับร้อย คุณาวุฒิ กำกับการแสดง รอย ฤทธิรณ ประพันธ์เรื่อง-สร้างบท โสภณ เจนพานิช ถ่ายภาพ มารุต อำนวยการสร้าง

 
นางสมิงพราย (2506)
นางสมิงพราย (2506/1963) แปลก..มหัศจรรย์..เป็นประวัติการณ์ของหนังไทย จากละครวิทยุที่ตรึงใจประชาชนทั่วกรุง ในเรื่อง...ชีวิตเถื่อน ของคณะ กันตนา เรื่องราวของปัญจนี เด็กสาวผู้ไปกัดเด็กในหมู่บ้านจนเสียชีวิต เป็นเหตุให้ชาวบ้านต้องการจะเผาเธอ เพราะคิดว่าเธอเป็นผีพรายสมิง แต่ภิกษุรูปหนึ่งได้มาเห็นเหตุการณ์และบอกความจริงว่า เธอเพียงถูกวิญญาณพรายสมิงเข้าสิงเท่านั้น พออายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์ก็สูญสิ้นไปเอง ปัญจนีและยายจึงหนีไปอยู่พม่า วันหนึ่ง ยายของเธออยากกลับไปใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายที่บ้านเกิด ปัญจนีจึงจำต้องกลับมา พร้อมด้วยผีพรายสมิงที่ยังสิงอยู่ในตัวเธอ
ใจเพชร (2506)
ใจเพชร (2506/1963) ไหมแก้ว (พิศมัย วิไลศักดิ์) สาวเหนือที่รักกับแฟนหนุ่มซึ่งเป็นทหาร (ชนะ ศรีอุบล) โดยภารกิจของเขาคือต้องปราบปรามผู้ก่อการร้ายบนดอย ซึ่งเขาได้ออกรบขณะที่ภรรยาตั้งท้อง กระทั่งคลอดลูกชาย (มิตร ชัยบัญชา) ซึ่งต้องถูกเพื่อนล้อว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ กระทั่งมาพบกับนางเอก (เพชรา เชาวราษฎร์) ซึ่งเป็นลูกคนมีฐานะในหมู่บ้าน โดยผู้ใหญ่ทางฝั่งนางเอกค้าขายลับๆอยู่กับฝ่ายก่อการร้าย ต่อมาทางผู้ร้ายได้ส่งคนมาจับแม่และคนรักของพระเอกไปเป็นตัวประกัน ทั้งสองพ่อลูกจึงมาเจอและได้ร่วมภารกิจไปช่วยคนรักด้วยกันจนกลับมาปลอดภัย
เพลิงทรนง (2506)
เพลิงทรนง (2506/1963) ครั้งแรก ครั้งสำคัญยิ่ง! เมื่อนำสามสิงห์ ร่วมประชันชั้นเชิง ดารินทร์ สุรลักษณ์ (เอื้อมเดือน อัษฎา) ธิดาคนเดียวของ นายเฟื่อง (สมควร กระจ่าศาสตร์) ผู้เป็นเจ้าของบริษัท ศิลาจำกัด ซึ่งมีกิจการระเบิดหินและย่อยหินขาย เมื่อสำเร็จจากมหาวิทยาลัยดารินทร์ก็รบเร้าต่อบิดาขอเป็นผู้จัดการบริษัทศิลาแทนพ่อแต่นายเฟื่องไม่เห็นด้วยความรักและตามใจก็ปล่อยให้ลูกสาวของตนทำแทน กิจการของบริษัทกลับตกต่ำลงมากเมื่อดารินทร์เข้ารับงานเป็นผู้จัดการบริษัทเพราะ เด่นศักดิ์ (สิงห์ มิลินทราศัย) ผู้ช่วยของเธอคิดารไม่ซื่อเข้าร่วมมือกับนายวีระชาติ (สมพล กงสุวรรณ) เจ้าของบริษัทวีระชาติ ซึ่งเป็นคู่แข่งการผลิตหินออกขายของบริษัทศิลา โดยที่เด่นศักดิ์และวีระชาติก็หมายปองดารินทร์อยู่เช่นกัน สำหรับเด่นศักดิ์มีความหวังว่าถ้าเขาได้กับดารินทร์ เขาก็จะได้ก้าวไปสู่ตำแหน่งเจ้าของบริษัทศิลา ส่วนวีระชาติปรารถนาตัวดารินทร์เพื่อจะรวบรวมการค้าหินเป็นของตัวแต่ผู้เดียว ดารินทร์รู้เรื่องนี้ดีและก็แสร้ง ทำเป็นไม่รู้เพื่อจะหลอกให้คนทั้งสองช่วยกันทำงานของเธอเพื่อความเจริญของบริษัท แต่นับวันงานของเธอก็ยิ่งเลวลง หินทำไม่ทันส่งตามสัญญาถูกปรับจากผู้ซื้อและเครื่องโม่หินก็เสียบ่อยๆผลัดหินไม่ได้ สถานะการณ์ในบริษัทกลับเลวลงทุกวัน แต่เธอปิดเรื่องนี้ไม่ยอมให้ล่วงรู้ถึงพ่อของเธอ นายเฟื่องทราบข่าวเรื่องนี้จึงวางแผนแก้สถานการณ์ โดนส่ง เพลิง ทรนง (มิตร ชัยบัญชา) มาเป็นหัวหน้าคนงานและบอกกับเธอว่า เพลิง เป็นคนงานเก่าของเขาที่เพิ่งออกมาจากคุก เพราะฆ่าคนตาย เมื่อเพลิงเริ่มเข้ามาในสำนักงาน ดารินทร์ ก็ได้เห็นความทลึ่งความอวดดีไม่มีมารยาททำให้เธอเกลียดจึงให้ เด่นศักดิ์ สั่งสอนให้รู้ว่าเพลิงจะมาทำอวดดีกับเธอไม่ได้ แต่เพลิงกลับทำให้เด่นศักดิ์รู้ว่าเขาไม่ใช่หมูที่เด่นศักดิ์จะมาเคี้ยวเล่นง่ายๆ ขณะที่จะเกิดเหตุรุนแรงต่อไป ก็พอดีนายเฟื่องและอำพล (อบ บุญติด) ผู้เป็นหุ้นและจะลงทุนเข้าหุ้นการค้ากับนายเฟื่องมาถึงและพา ดาวไสว (กิ่งดาว ดารณี) ลูกพี่ลูกน้องของดารินทร์มาด้วย เหตุการณ์ก็เลยสงบไป เฟื่องบอกดารินทร์ว่า ดาวไสว อยากจะมาเที่ยวและมาช่วยดารินทร์ ด้วยการทำงานที่นี่ พร้อมทั้งพูดฝากฝังเพลิงต่อดารินทร์ ทำให้ดารินทร์ต้องจำใจรับเพลิงไว้ทำงานด้วยความไม่เต็มใจ เมื่อเพลิงเริ่มเข้ามาทำงานก็เริ่มเปลี่ยนแปลงระบบงานใหม่โดยมี นายแถม (ล๊อต๊อก) คนงานเก่าแก่ของนายเฟื่องเป็นผู้ช่วย จัดการไล่คนงานที่ขี้เกียจซึ่งเป็นลูกน้องบองเด่นศักดิ์ออก ทำให้เด่นศักดิ์ไม่พอใจฟ้องดารินทร์ ดารินทร์ก็ไม่กล้าทำอะไรเพลิง เพราะกลัวว่าเพลิงจะฟ้องพ่อของเธอ ว่าเธอทำให้งานของบริษัทเลวลง พ.ต.ต.กำราบ (วิน วิษณุรักษ์) ซึ่งเป็นเพื่อนกับเพลิงมาพบเพลิงจึงขอร้องให้ร่วมมือในการสืบราชการลับเกี่ยวกับแหล่งผลิตเฮโรอีน โดยไม่บอกให้ใครรู้ว่าเขากับเพลิงเป็นเพื่อนกันมิหนำซ้ำกำราบยังบอกฝากดารินทร์ให้ควบคุมดูแลเพลิงด้วย เพราะ เพลิงเป็นอันธพาลถ้ามีเรื่องเกิดขึ้นหรือไม่เชื่อฟังดารินทร์ก็ขอให้บอกเขา เขาจะจับเพลิงไปขังอีก ทำให้ดารินทร์ได้ใจที่ต่อไปนี้นายเพลิงจะไม่กล้าอวดดีกับเธออีก เมื่อเพลิงเข้ามาขัดขวางงานของเด่นศักดิ์ เด่นศักดิ์จึงใช้ พรเทวี (แววตา อาษาสุข) ซึ่งหลงรักเขาไปลอบยิงเพลิง แต่กระสุนเป็นพลาดไปไม่โดนที่สำคัญ ดาวไสวรู้เรื่องก็เห็นใจเพลิงและไม่ชอบการกระทำของดารินทร์ที่เหยียดหยามเพลิง เพราะเพลิงเป็นคนจริงที่ทำงานให้บริษัทก้าวหน้า พ.ต.ต.กำราบส่ง ธรณี (ประจวบ ฤกษ์ยามดี) มาร่วมกับเพลิงในการสืบหาแหล่งซ่องโจรและแหล่งผลิตเฮโรอีน เมื่อธรณีเข้ามาทำงาน เด่นศักดิ์ก็ยิ่งถูกตัดรอนความยิ่งใหญ่ลงไป จึงวางแผนให้พรเทวีล่อลวงธรณีจนเกิดผิดใจกับเพลิง แต่กำราบก็มาช่วยให้เพลิงและธรณีเข้าใจกันได้และธรณีกลับลวงให้พรเทวีมาเป็นพวกของตนเสียอีก วีระชาติหลอกขายเครื่องโม่หินให้แก่ดารินทร์ ซึ่งดารินทร์ก็รับซื้อไว้ พร้อมทั้งกู้เงินจากวีระชาติ จึงทำให้ดารินทร์ตกอยู่ในฐานะลำบากยิ่งขึ้น เมื่อเพลิงเข้าขัดขวางก็ถูกพวกวีระชาติและเด่นศักดิ์รุมทำร้าย ธรณีพา แผลง (ทักษิณ แจ่มผล) ผู้มีอาชีพทุบหินขายมาช่วยเพลิง และเพลิงก็ขอร้องให้แผลงให้อยู่ช่วยเขาทำงานต่อไป แผลงก็ยอมอยู่ทำ แต่ความจริงแผลงก็มีแผนของเขาที่ต้องการให้บริษัทโม่หินทั้งสองทะเลาะกัน เพื่อาชีพการทุบหินด้วยมือของเขาจะมีโอกาสดีขึ้นแผนการณ์นี้เพลิงรู้เรื่องจึงเกิดขัดใจต่อยกันขึ้น แต่ด้วยความเป็นลูกผู้ชายและธรณีช่วยเกลี้ยกล่อมเพลิงและแผลงจึงจับมือกันร่วมงานต่อไป
ช่อเพชร (2506)
ช่อเพชร (2506/1963) ข้อความบนใบปิด ชัยรัตนาภาพยนตร์ เสนอ ช่อเพชร จากบทประพันธ์ของ ศรีธงชัย มิตร ชัยบัญชา เพชรา เชาวราษฎร์ สมจิตร ทรัพย์สำรวย, ล้อต๊อก, มาลี เวชประเสริฐ, ทองฮะ, ถวัลย์ คีรีวัต, ด.ญ.ศิริพร, ด.ช.ออด ฯลฯ นำแสดง พรรณาราย กำกับการแสดง ฉลอง กลิ่นพิกุล ถ่ายภาพ บริษัทสหการภาพยนตร์ไทย จัดจำหน่าย
เขี้ยวพิษ (2506)
เขี้ยวพิษ (2506/1963) ข้อความบนใบปิด ธาดาภาพยนตร์ ผู้สร้าง สิงห์เดี่ยว เสนอผลงานอันปราณีตตื่นเต้น แปลก แหวกแนว ไม่ซ้ำใคร... ไม่มีภาพยนตร์บู๊เรื่องใดทาบติดนอกจาก... เขี้ยวพิษ บทประพันธ์ของ แก้วฟ้า ส.อาสนจินดา กำกับการแสดง ฉลอง ภักดีวิจิตร ถ่ายภาพ ฐิติรัชต อำนวยการสร้าง นำโดยดาราชั้นนำ มิตร ชัยบัญชา ชนะ ศรีอุบล ประจวบ ฤกษ์ยามดี รุจน์ รณภพ อดุลย์ ดุลยรัตน์ อมรา อัศวนนท์ บุศรา นฤมิต ปรียา รุ่งเรือง วิไลวรรณ วัฒนพานิช ชนะสถิติหนังทุกเรื่องที่ฉายพร้อมกัน ไทยฟิล์ม จัดจำหน่าย
หนึ่งในทรวง (2506)
หนึ่งในทรวง (2506/1963) อนวัช พัชรพจนาถ หรือ หนึ่ง (ไชยา สุริยัน) ลูกชายนายวิทย์ พัชรพจนาถ อดีตนักการทูตผู้มีเกียรติยศและมีฐานะมั่งคั่ง กับหทัยรัตน์ ราชพิทักษ์ (เพชรา เชาวราษฎร์) หลานสาวกำพร้าของนายสุทธิ์ และนางทิพย์ เดือนประดับ เป็นคู่อริกันมาตั้งแต่เด็ก ต่อมาทั้งคู่ต้องห่างกันไปเนื่องจากอนวัชต้องเดินทางไปศึกษาด้านการทูตที่ฝรั่งเศส เมื่ออนุวัชเดินทางกลับประเทศ ทั้งคู่มีโอกาสไปพบกันความขัดแย้งก็กลับมาอีก เพราะหทัยรัตน์มองว่าอนวัชเย่อหยิ่งถือตัวและชอบดูถูกเธอ ส่วนอนวัชก็ถูกเป่าหูจากคุณสีสุกน้องของคุณสุทธิ์ และส่องแสงลูกสาวซึ่งเกลียดชังหทัยรัตน์ที่งดงามและเป็นที่รักของทุกคน หาว่าหทัยรัตน์ชอบหว่านเสน่ห์ให้ผู้ชาย อนวัชคิดจะแกล้งหทัยรัตน์ทำให้ทั้งคู้ต้องไปติดค้างกันตามลำพัง นายวิทย์พ่อของอนวัชซึ่งเอ็นดูหทัยรัตน์อยู่แล้วจึงให้ทั้งสองหมั้นกัน แม้ภายนอกทั้งสองจะแสดงความเป็นอริต่อกันแต่แท้จริงแล้วทั้งคู่ต่างมีใจให้กัน ต่อมาด้วยความเข้าใจผิดและหึงหวงอนวัชจึงขอถอนหมั้นหทัยรัตน์แต่ได้บอกความจริงว่าเขารักหทัยรัตน์ อนวัชเดินทางไปเชียงใหม่และประสบอุบัติเหตุ หทัยรัตน์ทราบข่าวก็รีบเดินทางไปดูแล ทั้งสองจึงมีโอกาสเปิดใจให้กัน
จำเลยรัก (2506)
จำเลยรัก (2506/1963) เรื่องราวของความแค้นของ หฤษฎิ์ (มิตร ชัยบัญชา) พี่ชายที่ต้องสูญเสียน้องชายของตนเอง และเขาโกรธแค้นหญิงสาวต้นเหตุ ถึงกับจับตัวมาลงโทษเพื่อให้หายแค้น โดยไม่รู้ว่าจับมาผิดคน ไปจับโศรยา (พิศมัย วิไลศักดิ์) แต่เกิดความรักกันจึงได้แต่งงานกัน สุดท้ายหฤษฎิ์ยอมรับทุกคำบัญชาของโศรยา นับจากนี้ตราบจนชั่วชีวิต
อำนาจมืด (2506)
อำนาจมืด (2506/1963) ข้อความบนใบปิด ภัทราวุชภาพยนตร์ เสนอ ภาพยนตร์อาชญากรรม..ตื่นเต้น! เขย่าขวัญ! สั่นประสาท! อำนาจมืด! อำนาจมืด! อำนาจมืด!! มิตร ชัยบัญชา บุศรา นฤมิต อุษา อัจฉรานิมิตร ขอแนะนำเอลวิสเมืองไทย ดาวรุ่งดวงใหม่ วิสูตร ตุงคะรัต อำนาจมืด บทประพันธ์ของ อรวรรณ พร้อมด้วย พร ไพโรจน์, ชาลี อินทรวิจิตร, ราชันย์ กาญจนมาศ, ศรินทิพย์ ศิริวรรณ, เมืองเริง ปัทมินทร์, อดินันท์ สิงห์หิรัญ, เทียว ธารา, สมพงษ์ พงษ์มิตร, ล้อต๊อก, สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม, ทองฮะ, แป๊ะอ้วน, สมโภชน์ ชุติมา สุวรรณรัต อำนวยการสร้าง ชเนศร จรัสตระกูล ถ่ายภาพ วิจิต ปักษาวรรณ ที่ปรึกษา บุญส่ง เคหะทัต, ปริญญา ลีละศร กำกับการแสดง ไทยฟิล์ม จัดจำหน่าย
รวงแก้ว (2506)
รวงแก้ว (2506/1963) ข้อความบนใบปิด เพื่อความสุขสมใจในดาราคู่ขวัญจิตของคุณอย่างแท้จริงอีกครั้ง วิชชุทัศนาภาพยนตร์ เสนอ รวงแก้ว จากละครวิทยุที่ออกอากาศพร้อมกันถึง 4 สถานีอย่างลือลั่น มาเป็นหนังดีสีนุ่มตา นำแสดงโดย ยอดดาราขวัญใจ มิตร ชัยบัญชา เพชรา เชาวราษฎร์ อดุลย์ ดุลยรัตน์ สมจิตร ทรัพย์สำรวย พร้อมด้วย ชาลี อินทรวิจิตร, ศรินทิพย์ ศิริวรรณ, ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา, อดินันท์ สิงห์หิรัญ, วลิต สนธิรัตน์, สุลาลีวรรณ สุวรรณทัต, สมพล กงสุวรรณ, ขวัญตา บัวเปลี่ยนสี, ล้อต๊อกและสาหัส บุญหลง สาหัส บุญหลง อำนวยการสร้าง-กำกับการแสดง ปานเทพ กุยโกมุท ถ่ายภาพ สุธี มีศีลสัตย์ ประพันธ์เรื่อง บริษัทสหการภาพยนตร์ไทยจำกัด จัดจำหน่าย
คมพยาบาท (2506)

คมพยาบาท (2506/1963) ภายในบ้านของคุณหญิงอนุรักษ์ธานิน เย็นเป็นสาวใช้ ต้นห้องคุณหญิง เกิดรักกับอุทัยบุตรชายของคุณหญิง จนเกิดได้ เสียกันขึ้น ต่อมาคุณหญิงผู้เป็นมารดาของอุทัยคิดจะให้แต่งงาน กับวณีลูกสาวเจ้าคุณธนากร มิตรสนิทของคุณหญิง เมื่อข่าวนี้รู้ถึง หูเย็น เย็นก็ได้ขอให้อุทัยสาบานว่าจะไม่รักใครนอกจากเธอคนเดียว แม้ว่าจะแต่งงานแล้วก็ตาม ซึ่งอุทัยให้คำมั่นสัญญาดังเช่นเย็น ขอร้อง เหตุการณ์ผ่านพ้นไปจนกระทั่งอุทัยแต่งงานแล้ว จาก ความอ่อนหวานและการเอาอกเอาใจของวณี ซึ่งตรงกันข้ามกับ เย็น บางครั้งก็แสดงความหึงหวงกักขฬะอย่างออกหน้าออกตา จวบกับความมีสมบัติผู้ดีของวณีทำให้อุทัยหลงใหลจนลืมคำมั่น สัญญาที่ให้ไว้กับเย็นเสียสิ้น มาในคืนวันหนึ่ง เย็นเข้าไปหาอุทัย ในห้องทำงานและต่อว่าต่อขานที่เหินห่าง ไม่เหลียวแลเธอ อุทัย ก็บอกว่าเกลียดในการกระทำของเย็นที่แสนจะกักขฬะและแสดง ความไม่สมควรออกมา ท้ายที่สุดอุทัยโกรธมากจนถึงกับขับไล่เย็น ออกไปจากบ้าน และตัดขาดความสัมพันธ์กันแต่วันนั้นเป็นต้นมา เวลาผ่านไปจนกระทั่งวณีคลอดบุตรออกมาเป็นหญิง พออายุได้ 5 เดือน เย็นก็ถือโอกาสที่อุทัยและวณีออกไปทานเลี้ยงบ้าน ผู้บัญชาการทหารในค่ำวันนั้น ปีนตึกเข้าไปขโมยลูกของอุทัยไป ยังความเจ็บช้ำใจให้แก่อุทัยและวณีอย่างยิ่ง ที่ต้องสูญเสียบุตร สาวคนเดียวไป แม้ว่าจะตั้งสินบนนำจับทั่วทุกแห่งหน ก็ไม่สามารถ จะตามหาเย็นได้ แต่ขณะเดียวกัน เย็นได้หนีไปอยู่กับพี่สาวแท้ ๆ ที่มี ลูกหญิงได้ 4 เดือนชื่อลำยองซึ่งเป็นเมียของเสือโมก เสือปล้นนาม กระฉ่อนแห่งแม่น้ำสุพรรณบุรี ในขณะเย็นไปอาศัยอยู่ก็เป็นเวลา เดียวกันกับที่เสือโมกถูกตำรวจตามจับมา ก็เกิดการต่อสู้กันขึ้น ลำยองเมียเสือโมกถูกยิงตาย เสือโมกก็ให้เย็นหนีไป พร้อมทั้งฝาก ลูกของตัวให้เย็นช่วยเลี้ยงดูด้วย กับทั้งมอบเพชรนิลจินดาที่มีอยู่ ให้เย็นไปขายเลี้ยงชีพต่อไป กาลเวลาผ่านพ้นไปจน 18 ปี เย็นก็มีจดหมายมาบอกอุทัยและวณีว่าจะนำลูกมาคืนให้ ยังความดีใจให้แก่คนทั้งสองยิ่ง เมื่อถึงกำหนด เย็นก็นำบุตรสาวมาคืนให้ ซึ่งบัดนี้เป็นสาวชื่อเปีย หรือจรรยา ส่วนเย็นก็ได้รับความเอื้อเฟื้อจากอุทัยให้มาอยู่ในบ้าน พร้อมกับมารยาทซึ่งเย็นบอกว่าเป็นหลานแท้ ๆ ซึ่งเกิดจากพี่สาว และเสือโมก ยิ่งนานวัน อุทัยกับวณีก็ยิ่งสงสัยในนิสัยใจคอของ บุตรสาวของตน ที่มีแต่ใจคอโหดร้ายอิจฉาริษยาและหยาบคาย ตรงกันข้ามกับมารยาทที่เย็นบอกว่าเป็นหลานของตน ลูกของเสือ โมก ที่มีความเรียบร้อยน่ารักน่าเอ็นดูมาก และสิ่งที่อุทัยสงสัยมาก ก็คือจรรยามักจะกลั่นแกล้งรังแกมารยาทอยู่เสมอมา รูปการณ์เข้าขั้นรุนแรงเอาเมื่อ เลอสรรค์หลานชาย ของวณีเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ พร้อมด้วยปริญญาทาง ศิลปช่างปั้น จรรยาแสดงความรักต่อเลอสรรและหึงหวงมารยาท จนออกหน้าออกตา ถึงขนาดทำลายรูปวาดของมารยาทในห้อง ศิลปของเลอสรร เพียงรู้ว่าเลอสรรเอามารยาทมาเป็นแบบเท่านั้น แต่ความเป็นจริงมารยาทก็พยายามหลบหลีกการพบปะกับเลอสรร อยู่เสมอ เมื่อถึงเวลาที่ครอบครัวของอุทัยและวณีได้พากันไป พักผ่อนที่บางแสน เย็นและมารยาทก็ได้รับชวนไปด้วย ที่นั้น มารยาทถูกจรรยาบีบบังคับไม่ให้ติดต่อกับเลอสรร ด้วยการนำขึ้น ไปปล่อยบนยอดเขา แล้วให้เดินกลับมาเอง ทางอุทัยกับมณีรู้ความ ประสงค์ของจรรยา ก็เลยคิดจะหมั้นเลอสรรกับจรรยาเสีย จรรยา ดีใจมากเมื่อพบกับเลอสรร ก็ถามความสมัครใจ หล่อนก็ได้รับการ ปฏิเสธจากเลอสรร เหมือนเพิ่มความอาฆาตในความอิจฉาริษยา ที่มีต่อมารยาทมากขึ้น จรรยาคิดฆ่ามารยาทเสียโดยการขับรถชน แต่มารยาทก็รอดตายได้และมีมือบุรุษลึกลับมาประคองช่วยเหลือ คน ๆ นั้นคือเสือโมก ซึ่งใคร ๆ พากันคิดว่าได้ตายไปในกองเพลิง แล้วนั่นเอง แต่ก็เกิดความเข้าใจผิดขึ้น โดยที่เสือโมกสำคัญผิดคิด ว่ามารยาทเป็นลูกของตนตามคำบอกเล่าที่สืบหา วันต่อมาเลอสรร ก็พยายามพบมารยาทและขอความรัก หนุ่มสาวทั้งสองต่างเข้าใจ ในความรักซึ่งกันและกัน จรรยาซึ่งมาประสบเหตุการณ์เข้า จึงคิด ฆ่ามารยาทเสีย โดยเอาปืนขู่มารยาทให้ขึ้นไปบนยอดเขา เป็นเวลา เดียวกันกับที่เย็นออกมาตามหามารยาท เมื่อเย็นขึ้นมาก็พอดีกับ ที่จรรยาจะฆ่ามารยาท เย็นจึงเข้าขัดขวางและถูกจรรยายิง เสือ โมกซึ่งติดตามดูเหตุการณ์อยู่ ก็ยิงจรรยาตายตกเขาไป เย็นก็เล่า ให้เสือโมกฟัง ที่เสือโมกสำคัญผิด ยิงลูกตัวเอง เสือโมกเสียใจมาก ต่อว่าเย็นนำความฉิบหายมาสู่ตน เสียงปืนดังไปยังอุทัยและวณี ก็ พากันขึ้นมาดู พบเย็นนอนจมกองเลือดอยู่ เสือโมกหลบไปแล้ว เย็นก็เผยความจริงว่า มารยาทคือลูกแท้ ๆ ของอุทัย จรรยานั้น คือลูกของเสือโมก ท้ายสุดเย็นขอให้อุทัยและวณีอภัยในความผิด ที่เป็นผลเนื่องจากความรักที่เย็นมีต่ออุทัยนั้นเอง อุทัยและวณี รับคำก่อนที่เย็นจะสิ้นใจ แล้วเย็นก็สิ้นใจตายไปพร้อมกับความ ชั่วร้ายของตนที่ได้สร้างขึ้น ไกลออกไป เสือโมกประคองศพลูก สุดที่รักลงสู่ท้องทะเลจนหายลับไป

หน้าที่