โรแมนติก
เพลงหวานใจ (2480/1937) เรืออากาศเอกจำรัส เยี่ยมพะโยมนายทหารแห่งกองทัพอากาศสยามประสบอุบัติเหตุขณะขับเครื่องบินตกลงป่าประเทศซานคอสซาร์ โชคดีที่ ลิลิน ลูกสาวช่างปั้นหม้อช่วยเหลือไว้ วันหนึ่ง ขณะที่จำรัสออกไปเดินเล่นในป่า พบสาวงามนางหนึ่งกำลังเล่นน้ำอยู่ในห้วย หญิงสาวอ้างว่าเป็นนางกำนัลของพระราชินีและเชื้อเชิญจำรัสเข้าไปในพระราชวัง แท้จริงแล้วเธอคือพระราชินีแห่งประเทศซานคอสซาร์ ขณะนั้น ประเทศซานคอสซาร์กำลังตกอยู่ในอันตรายเนื่องจากผู้สำเร็จราชการทหารรับสินบนจากประเทศยูราวีในการเช่าเมืองประเทศซานคอสซาร์ต่อ เพียงเพราะต้องการเงินหกแสนเหรียญไปซื้อสร้อยไข่มุกให้ มาลา นางละครผู้โด่งดัง ราชเลขานุการบังเอิญรู้แผนการเข้า จึงขอร้องให้จำรัสช่วย โดยวางแผนออกข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ว่าจำรัสมาติดพันมาลาเพื่อหันเหความสนใจ และใช้ลิลินเบี่ยงเบนความสนใจผู้สำเร็จราชการ โดยให้ปลอมตัวเป็นนางละครเต้นยั่วยวน แผนการของราชเลขานุการมีทีท่าจะเป็นไปอย่างราบรื่น เมื่อผู้สำเร็จราชการเห็นลิลินก็ตกตะลึงในความงามจนลืมมาลาไปชั่วขณะ จนกระทั่งถึงกำหนดวันลงนามสัญญาเช่าเมือง ผู้สำเร็จราชการทหารเผอิญอ่านข่าวหนังสือพิมพ์ซึ่งลงข่าวว่ามาลากำลังรักกับจำรัส ก็หมดรักในตัวมาลา จึงระงับการลงนามสัญญา เมื่อภารกิจลุล่วงไปด้วยดีและเครื่องบินซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว เรืออากาศเอกจำรัสจึงถวายบังคมลาพระราชินีแห่งประเทศซานคอสซาร์กลับสู่ประเทศสยาม
กุหลาบพระนคร (2480/1937) 1 เมษายน วันขึ้นปีใหม่ของชาวสยาม ใครๆ ไม่ว่าหนุ่มสาวต่างทำใจเบิกบานต้อนรับความสุข แต่ปีใหม่มิได้เปลี่ยนเอาความจนของปีเก่าของคนจนไปด้วยเลย คงต้องต่อสู้กับความจนต่อไป วินัย สุปานันท์ ถูกความหมุนเวียนเปลี่ยนชีวิตของเขาแทบจะนับครั้งไม่ถ้วน บิดาคือ ร้อยเอกหลวงสัจจาวุธ เสียชีวิตไปก่อนที่เขาจะเป็นหนุ่ม ทิ้งแม่เจียมและ นิจ น้องสาวที่ยังเล็กให้เผชิญชีวิตตามลำพัง บัดนี้ความหมุนเวียนเปลี่ยนให้แม่เจียมที่เคยแข็งแรงทำงานเลี้ยงลูกอย่างขันแข็ง มาเป็นแม่เจียมที่ตามองอะไรไม่เห็นไม่อาจทำงานได้ อนาถหนาครอบครัวเล็กๆ ต้องประสบมรสุม ทำให้วินัยซึ่งอีกสองเดือนกว่าๆ ก็จะจบการโรงเรียน ต้องตัดใจลาออกมาทำงานเลี้ยงแม่และน้อง มาเป็นกรรมกรถีบสามล้อ และได้ ถึก คนถีบสามล้อเป็นเพื่อนรักกัน อีกแห่งหนึ่งในความเป็นอยู่ของชาวพระนครณ บ้านของคนผู้มั่งมีแล้ว คือบ้านของ พันโทพระยาสรรพาวุธ นายทหารนอกราชการ กับ สุณี ลูกสาวผู้กำลังเป็นกุหลาบดอกที่งามเด่นอยู่ในพระนคร จึงมีชายหนุ่มและกระทั่งแก่หลายรายจ้องมองสุณีด้วยความปรารถนาจะได้ครอง แต่ดูเหมือนไม่มีใครได้ใกล้ชิดเกินไปกว่านายเรืออากาศเอกอารี สมัครยุทธ์ ในสังกัดกรมทหารอากาศ สามารถไปมาหาสู่ที่บ้านได้บ่อยๆ ซึ่ง นิ่ม หญิงคนใช้ที่ต้องคอยเปิดประตูบ้านให้รถเข้าคุ้นเคย วันนี้อารีมาหาสุณีเพื่อแจ้งข่าวว่าเขาถูกย้ายไปประจำกองบินที่ 5 ประจวบคีรีขันธ์ แล้วถามถึงเรื่องส่วนตัว แต่สุณีนิ่งเฉยอารีจึงกลับไปอย่างผิดหวังเช่นเคย วันนี้เจ้าคุณพ่อกับสุณีไปธนาคารเพื่อเบิกเงินสด 6 พันบาทสำหรับจะซื้อที่ดินที่มีคนมาบอกขายแต่ระหว่างเดินทางกลับบ้าน รถยนต์เกิดเสียกลางทางเจ้าคุณไม่รอให้คนขับซ่อม เรียกรถสามล้อกลับบ้านกับลูก บังเอิญวินัยถีบสามล้อมาพอดี รับไปส่งถึงบ้าน เจ้ากรรม ท่านเจ้าคุณและสุณีลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ที่เบาะสามล้อ วินัยกลับถึงบ้าน จึงรู้ว่าผู้โดยสารลืมกระเป๋าทีแรกถึกว่าให้เอาไปลงทุนเปิดร้านขายของ แต่แม่เจียมว่าให้เอาไปคืนเขาและขอให้เขา เขาอาจเห็นความดีและหางานดีๆ ให้ทำ ถึกพยายามทักท้วง แต่แม่เจียมบอกว่า ลูกผู้ชายเราควรจะทำตนให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นบ้างชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และรัฐธรรมนูญ สิ่งเหล่านี้อีกที่เราควรรักและหวงไว้ประดุจชีวิตของเรา
กลัวเมีย (2479/1936) จำรัส เป็นผู้จัดการบริษัทสากลประกันภัย มีภรรยาชื่อ ลาวรรณ ชีวิตการแต่งงานของเขาไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เหตุเพราะเป็นโรคกลัวเมียขึ้นสมอง ผัน เพื่อนของจำรัสแนะนำ หมอแนม ซึ่งมีความสามารถสับเปลี่ยนวิญญาณมนุษย์กับผีได้ รุ่งขึ้นจำรัสจึงไปหาหมอแนมให้ช่วยรักษาโรคกลัวเมีย หมอแนมจัดการเปลี่ยนวิญญาณให้จำรัสและกำชับว่าห้ามยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงที่อายุอ่อนกว่า วิธีรักษาของหมอแนมประสบผลดีเกินคาด ไม่ว่าจำรัสจะทำอะไรลาวรรณก็ไม่ดุด่าเหมือนแต่ก่อน จนจำรัสย่ามใจเผลอไปยุ่งกับ ทองฟู นางบำเรอที่มาขอทำประกันความงามที่บริษัทของจำรัส โรคกลัวเมียจึงกลับมาเยือนจำรัสเหมือนอย่างเคย
จันทร์เจ้าขา (2479/1936) จากเรื่องอ่านเล่นลือชื่อมาเปนลครร้องเรื่องที่ดูไม่น่าเบื่อ จากเรื่องลครที่ดูกันไม่เบื่อมาเปนภาพยนตร์พากย์ชั้นมโหฬาร คือ "จันทร์เจ้าขา" ของ "พรานบูรพ์" (ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพฯ วารศัพท์ พฤษภาคม พ.ศ. 2479)
พญาน้อยชมตลาด (2478/1935) พญาน้อย ราชบุตรของพระเจ้าช้างเผือกมีอุปนิสัยชอบเอาแต่ใจตนเอง เป็นที่กลุ้มใจของพระราชบิดา จึงจัดการอุปภิเษกแต่พญาน้อยก็ยังไม่เลิกนิสัย วันหนึ่ง มะโดด กับ มะดวด มหาดเล็กคู่ใจของพญาน้อยมาถวายรายงานว่าพบสาวงามและเชิญพญาน้อยไปทอดพระเนตร พญาน้อยจึงทำทีเป็นเสด็จเยี่ยมทุกข์สุขของราษฎร เมื่อไปถึงตลาดท้ายเมืองตะเกิง พญาน้อยตรงดิ่งไปยังร้านแป้งน้ำมัน ซึ่ง เม้ยเจิง เป็นเจ้าของและพยายามเกี้ยวพาราสี แต่เม้ยเจิงมีสามีแล้วชื่อ มะเทิ่ง เมื่อเม้ยเจิงปฏิเสธหนักเข้า พญาน้อยผู้เอาแต่ใจจึงข่มขู่ว่าจะทำร้ายมะเทิ่งหากเม้ยเจิงไม่ยอมเป็นสนมเอก เม้ยเจิงจึงต้องตามพญาน้อยเข้าวัง พญาน้อยนำเม้ยเจิงแอบไว้ในห้องหนึ่งและให้คนหว่านล้อมเม้ยเจิง แต่นางก็เอาแต่ร้องไห้รำพันถึงสามีมะดวด กับ มะโดด แนะนำให้พญาน้อยจูบเม้ยเจิง ปรากฏว่าได้ผลดีเกินคาด เม้ยเจิงลืมมะเทิ่งเสียสิ้น ขนาดมะเทิ่งถวายฎีกาต่อพระเจ้าช้างเผือก เม้ยเจิงก็กลับให้การว่าตามพญาน้อยมาโดยสมัครใจ มะเทิ่งจึงต้องกลับบ้านทั้งน้ำตาพร้อมเงินค่าทำขวัญ 50 ชั่ง ปล่อยให้เม้ยเจิงมีความสุขกับพญาน้อย
เลือดจีนต่างด้าว (2478/1935) เปนเรื่องประพันธ์ทางจีน - ไทย รักแกมตลก แกมต่อสู้ครึกโครม แสดงสภาพโคแก่ชอบหญ้าอ่อน สภาพเจ้าชู้ยักษ์ น้ำใจหนุ่มผิวเหลืองผู้รักชาติ ยิ่งชีพ มีระบำโป๊ แลการยั่วยวนร้อยแปด (ที่มา: นิตยสารภาพยนต์สยาม กรกฎาคม พ.ศ. 2478)
สัตตหีบ (2478/1935) เรื่องราวเกิดขึ้นที่ตำบลสัตหีบ สันต์ ชาญชล หนุ่มประมง สมัครรักใคร่อยู่กับ นวล มิ่งทรัพย์ ลูกสาวของนายเพิ่ม วันหนึ่ง สันต์หาปลาได้มากกว่าปรกติจึงเกิดครึ้มใจชวน ชัย เชาว์งาม เพื่อนรักไปเลี้ยงฉลองกันที่ตลาด จำเพาะพอดี เดช ผู้คุมแห่งคุกสัตหีบซึ่งเบื้องหลังประกอบการทุจริต ได้พาลูกน้องอันธพาลมากินเหล้าในร้านเดียวกันนี้ ก็เกิดเขม่นกันขึ้นจนหวุดหวิดมีเรื่องชกต่อย ระหว่างทางกลับ สันต์พบนวลกำลังรีบไปตลาดเพื่อตามหมอมารักษาพ่อที่ล้มเจ็บ สันต์จึงอาสาอยู่เฝ้านายเพิ่มที่บ้าน ลูกน้องของเดชเห็นนวลก็ทำกิริยากักขฬะ นวลเห็นท่าไม่ดีรีบเดินเลี่ยงไปอีกทาง แต่เดชไม่ยอมลดราวาศอก ปาน เพื่อนของสันต์ผ่านมาเห็นเข้า จึงรีบไปเรียกสันต์ให้มาช่วยนวล ที่สุดก็ไม่พ้นมีเรื่องชกต่อยกัน พอดีมีทหารเรือเดินผ่านมา สันต์กับปาน และลูกน้องของเดชบางส่วนจึงถูกจับขังคุกเป็นเวลา 1 เดือน เดชใช้อภิสิทธิ์ในการเป็นผู้คุม ลงโทษสันต์กับปานให้ทำงานหนักกว่านักโทษคนอื่นๆ หนำซ้ำยังตามรังแกนวลจนนวลรำคาญใจ ตัดสินใจหนีไปอยู่ที่อื่น แต่ถูกลูกน้องของเดชฉุดระหว่างทาง เป็นเวลาเดียวกับที่เรือนจำ นักโทษกำลังเฮโลกันแหกคุก เพราะผู้คุมเอาแต่ละเลยหน้าที่มัวแต่ไปก่อกรรม สันต์กับเพื่อนช่วยกันควบคุมสถานการณ์ กระทั่งเหล่าทหารเรือกระจายกันไปตามนักโทษ สันต์จึงขอออกไปช่วยนวลให้รอดพ้นจากอิทธิพลของเดช
กุหลาบเชียงใหม่ (2478/1935) กุหลาบเชียงใหม่ต้องชอกช้ำเพราะหนุ่มโกเสต (ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพฯ วารศัพท์ พฤศจิกายน พ.ศ. 2478)
เรื่องย่อ : กุหลาบขาว (2471/1928) เมื่อ ดอกเตอร์วงจีฮี นายแพทย์หนุ่มจากเมืองจีน เดินทางกลับมาหา แป๊ะบุ้นกุ่ย หรือ นางสาวกุหลาบขาว หญิงคนรักพร้อมกับแร่เรเดียม แร่ที่มีคุณสมบัติในการรักษาโรคได้มากมาย จนเป็นที่หมายปองของบรรดาสี่โจรโฉด เพราะแร่เรเดียมนั้นเป็นแร่ที่มีมูลค่ามหาศาล ดีที่วงจีฮีนั้นเก่งในทางหมัดมวยจึงสามารถรักษาแร่ไว้ไม่ให้ตกไปถึงมือเหล่าโจรร้าย แต่กระนั้นแร่เรเดียมก็ยังไม่ปลอดภัยวงจีฮีจึงต้องนำไปเก็บไว้ในเซฟที่ปิดอย่างมิดชิด แต่บรรดาสี่โจรก็ยังล่วงรู้ จึงวางแผนจับตัวกุหลาบขาวมาเป็นตัวประกันพร้อมกับจ้างให้ เอียวโจโง๋ อดีตโจรงัดแงะตัวฉกาจไปทำการปลดเซฟ แต่เพราะวงจีฮีเคยช่วยเหลือหลานชายของเอียวโจโง๋ให้หายจากโรคร้ายเอียวโจโง๋จึงเอ่ยปากให้เบาะแสแก่วงจีฮี วงจีฮีจึงพาตำรวจเข้าตะลุมบอนกับสี่โจร จับตัวพวกมันไปขังคุก และช่วยกุหลาบขาวคนรักไว้ได้สำเร็จ
เรื่องย่อ : ไม่คิดเลย (2470/1927) พระเศรษฐกิจวิบูลย์ เศรษฐีม่าย มีลูกสาวแสนสวยชื่อ นางสาวประภา หมั้นหมายอยู่กับนายกาหลง บุญชุบ เศรษฐีเหมืองแร่จอมเปิ่น และก็เพราะความเปิ่นนี้เองที่ทำให้นางสาวประภาไม่ผูกสมัครรักใคร่นายกาหลงและพยายามบ่ายเบี่ยงเรื่องการแต่งงาน หารู้ไม่ว่า นายประเสริฐ หลานชายคุณพระหมายจะครอบครองเธออยู่ วันหนึ่งขณะที่นางสาวประภาออกไปขี่ม้าเผอิญเจออุบัติเหตุตกจากหลังม้า ดีที่ได้ นายอำนวย ชายพเนจรช่วยไว้ ครั้นถามไถ่จึงรู้ว่านายอำนวยกำลังตกงาน นางสาวประภาจึงรับนายอำนวยไว้เป็นคนเลี้ยงม้า กระทั่งความใกล้ชิดทำให้ทั้งสองชอบพอกัน นายประเสริฐที่เห็นเหตุการณ์มาโดยตลอดจึงพยายามขัดขวางความรักของทั้งสอง โดยกุแผนขึ้นมาใส่ร้ายให้นายอำนวยกลายเป็นขโมย พร้อมทั้งฉุดตัวนางสาวประภา เมื่อนายอำนวยทราบเรื่องจึงรีบนำความไปบอกนายกาหลง นายกาหลงจึงรีบมาช่วยนางสาวประภาด้วยการตะบันหน้านายประเสริฐลงไปกองกับพื้น ตำรวจจึงสามารถจับผู้ร้ายไว้ได้ นายอำนวยจึงเปิดเผยว่าแท้ที่จริงเขาคือ นายร้อยตำรวจแห่งกองพิเศษปลอมตัวมาจับนายประเสริฐ เพราะนายประเสริฐนั้นสร้างคดีไว้ที่ต่างจังหวัด ทั้งบอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างตนกับประภามิได้มีอะไรจริงจัง นางสาวประภาจึงกลับมามองเห็นความดีของนายกาหลงและยินดีที่จะแต่งงานกับเขา
เรื่องย่อ : โชคสองชั้น (2470/1927) นายกมล มาโนช (มานพ ประภารักษ์) พระเอกของเรื่อง เป็นนายอำเภอหัวเมืองฝ่ายเหนือ ได้รับมอบหมายให้ลงมาสืบจับผู้ร้ายคนหนึ่งซึ่งซ่อนตัวอยู่ในกรุงเทพ นายกมลเข้ามาพักอยู่ที่บ้านพระยาพิชัย (อุทัย อินทร์วงศ์) และมีหลานชื่อว่า นางสาววลี ลาวัณยลักษณ์ (หม่อมหลวงสุดจิตตร์ อิศรางกูร) ซึ่งทั้งสองได้พบรักกันโดยเร็ว แต่นายวิง ธงสี (มงคล สุมนนัฏ) ซึ่งหมายปองนางสาววลีอยู่แล้วและชอบไปมาหาสู่พระยาพิชัยเป็นเนือง ๆ และนายวิงคนนี้ก็คือคนร้ายที่นายกมลกำลังสืบจับอยู่นั่นเอง นายวิงไหวตัวทันเรื่องที่นายกมลตามคนร้าย จากนั้นนายวิงก็วางแผนร้ายโดยส่งพรรคพวกลูกสมุนเข้ามาทำร้ายนายกมล แต่นายกมลมีความชำนาญในการระวังภัยจากโจรจึงต่อกรขัดขวางกำลังได้ จนนายวิงและพรรคพวกต้องหลบหนีไป นายกมลไล่ตามจับแต่เกิดหลงทาง นายวิงได้วกกลับมาที่บ้านพระยาพิชัยและจับนางสาววลีไป แต่นายกมลมีเชาวน์ที่ดี เข้าใจว่าเป็นแผนลวง จึงวกกลับบ้านพระยาพิชัยและได้พบนายวิง นายกมลจึงตามล่านายวิงไปจนสุดทางและเกิดการต่อสู้ขึ้น จนกระทั่งตำรวจที่พระยาพิชัยโทรไปแจ้งมาสมทบร่วมจับนายวิงและสมุนได้ทันเวลา นายวิงจึงถูกตำรวจจับเข้าตะราง ส่วนนายกมลมีโชคสองชั้น นอกจากจะจับผู้ร้ายได้แล้วยังได้นางสาววลีมาเป็นภรรยาอีกด้วย
เรื่องย่อ : นางสาวสุวรรณ (สุวรรณสยาม) (2466/1923) ชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อนายกล้าหาญ เป็นข้าราชการยากจนมีรูปร่างหน้าตางดงาม รับราชการอยู่ในหอพระสมุดประจำพระนครและพักอาศัยอยู่กับบิดาและมารดาเลี้ยงซึ่งเขาเรียกพ่อเย็นกับแม่มะลิ วันหนึ่งแจวเรือกันมาในคลองบางหลวงเห็นสตรีผู้หนึ่งตกน้ำ กล้าหาญ ก็กระโดดลงไปช่วย เธอชื่อนางสาวสุวรรณ เป็นบุตรีของคุณวณิช เหตุการณ์นี้ทำให้คุณวณิชไม่พอใจที่เห็นนายกล้าหาญกอดลูกสาวตัวเองไว้แนบอก หลังจากนั้นนายกล้าหาญก็หลงรักนางสาวสุวรรณแบบหัวปักหัวปำ วันหนึ่งได้พบนางสาวสุวรรณอีกครั้งในวัดพระแก้วแต่นายกล้าหาญก็ถูกผู้ร้ายกีดกันและเขาผู้นั้นคือคู่แข่งนามว่านายก่องแก้ว นายก่องแก้วเองเป็นลูกคนมีฐานะและก็มีใจรักนางสาวสุวรรณเช่นกัน เขาจึงกันท่ากล้าหาญทุกครั้งเท่าที่เขาจะทำได้ ฝ่ายนางสาวสุวรรณก็ถูกกรอกหูอยู่ตลอดเวลาว่ากล้าหาญยากจนแต่ก็หลงรักเข้าไปจนหมดหัวใจแล้ว นายก่องแก้วก็ยังมาตามราวีอยู่ตลอดและดุแคลนเรื่อยมา ทำให้พ่อเย็นกับแม่มะลิจำต้องเปิดเผยความจริงว่าที่จริงแล้วนายกล้าหาญเป็นคนมีตระกูลทางภาคเหนือ พ่อแม่ของนายกล้าหาญพามาเที่ยวบางกอกแต่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตที่บางกอก พ่อเย็นกับแม่มะลิจึงได้เลี้ยงดูเด็กชายกล้าหาญจนเติบใหญ่ นายก่องแก้วรู้เรื่องราวเกรงจะเสียเปรียบจึงได้วางแผนฆ่าโดยหลอกนายกล้าหาญกับพ่อเย็นไปทำงานที่เชียงใหม่ แต่ดันพลาดฆาตกรดันไปฆ่าผิดตัว นายกล้าหาญโดนซัดทอดว่าเป็นคนที่ฆ่าเหยื่อคนนั้นตายจึงถูกจับไปดวย นางสาวสุวรรณเมื่อทราบข่าวจากพ่อเย็นจึงรีบบินไปเชียงใหม่พร้อมกับหลักฐานที่แสดงว่านายกล้าหาญเป็นคนมีชาติตระกูล คหบดีที่เชียงใหม่พอเห็นหลักฐานที่เป็นเสมาทองคำก็รู้ทันทีว่านายกล้าหาญเป็นหลานชายของตัวเอง ทำให้นายกล้าหาญพ้นผิด ขณะเดียวกันตัวฆาตกรก็ยอมรับสารภาพทำให้ผู้จ้างวานถูกจับกุม พ่อของนางเอกตามขึ้นมาที่เชียงใหม่ พอรู้ว่านายกล้าหาญเป็นคนมีชาติตระกูลจึงยอมยกลูกสาวให้ ฝ่ายนายกล้าหาญก็มอบสินสอดทองหมั้นอย่างสมน้ำสมเนื้อ