พันท้ายนรสิงห์ (2558/2015) ในปี พ.ศ. 2231 รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชตอนปลาย ขณะที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชประทับอยู่ที่เมืองลพบุรีและประชวรหนัก หลวงสรศักดิ์ได้จับตัวเจ้าพระยาวิชเยนทร์ไปสำเร็จโทษ และพระเพทราชาได้กำจัดพระปีย์ พระโอรสบุญธรรมในสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมื่อสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เสด็จสวรรคต บรรดาข้าราชการได้อัญเชิญพระเพทราชาขึ้นครองราชย์ ทรงพระนามว่า สมเด็จพระมหาบุรุษวิสุทธิเดชอุดม หรือ สมเด็จพระเพทราชา ในรัชสมัยสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (พระเจ้าเสือ) แห่งกรุงศรีอยุธยา ราว พ.ศ. 2246 – 2252 บ้านเมืองวุ่นวายเพราะพระยาราชสงครามรีดไถประชาชนด้วยการอ้างพระบรมราชโองการในการเกณฑ์ช้างม้าวัวควายไปเพื่อเป็นภาษี ส่วนสาววัยรุ่นจะนำไปถวายพระเจ้าเสือ เพื่อเป็นนางสนมในพระราชวัง ส่งผลให้ชาวบ้านทุกทั่วหัวระแหงได้รับความเดือดร้อน ขณะเดียวกันพระพิชัย เจ้าเมืองวิเศษชัยชาญ ก็ได้ตั้งกลุ่มเพื่อต่อต้านการกระทำของขุนนางที่ฉ้อราษฎร์บังหลวง ด้วยการตั้งตัวเป็นกองโจรเพื่อปล้นเสบียงและผู้หญิงที่ถูกเกณฑ์ไปในวังหลวง ซึ่งหนึ่งในกองโจรนั้นมี สิน ซึ่งชอบช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน สินมีเมียรักชื่อ นวล ที่คอยช่วยเหลือทั้งงานบ้านและการต่อสู้กับทหารที่ฉ้อราษฎร์บังหลวง เธอเคยรบเร้าให้สินเลิกเป็นโจรหลายครั้งแต่ไม่เป็นผลเนื่องจากสินต้องการสร้างความยุติธรรมให้กับชาวบ้าน ต่อมาพระเจ้าเสือได้ทรงพระราชดำเนินไปตกปลากับขุนนางคนสนิทเป็นการส่วนพระองค์ โดยปลอมตัวเป็นสามัญชนชื่อว่า ทิดเดื่อ ซึ่งนัยหนึ่งพระองค์ต้องการทราบถึงความเป็นอยู่ของชาวบ้าน การเสด็จพระราชดำเนินในครั้งนั้นได้ปะฝีมือเชิงมวยกับสินผู้เป็นชาวบ้านธรรมดา โดยไม่รู้ว่าคนที่ตนกำลังชกอยู่ด้วยเป็นพระเจ้าแผ่นดิน แต่ไม่ทันได้รู้ผลแพ้ชนะก็มีขุนนางที่ฉ้อราษฎร์บังหลวงมาอ่านพระบรมราชองค์การในการเกณฑ์ราษฎรชายไปเป็นทหาร ทำให้พระเจ้าเสือได้รับทราบการทุจริตของข้าราชการและได้พูดคุยกับสินอย่างถูกคอ หลังจากพระเจ้าเสือเสด็จกลับพระราชวังได้มีรับสั่งให้สินเข้ารับราชการในตำแหน่งนายทหารคัดท้ายเรือประจำพระที่นั่งเอกไชยและช่วยเหลืองานราชการในการปราบขุนนางที่ฉ้อราษฎร์บังหลวง โดยต่อมาคือ พันท้ายนรสิงห์ จนได้รับคำยกย่องว่าเป็นผู้มีความซื่อสัตย์สุจริต จงรักภักดีและรักษาระเบียบวินัย ครั้นพระเจ้าเสือเสด็จประพาสปากน้ำสาครบุรี ซึ่งจะต้องผ่านตำบลโคกขามซึ่งคลองบริเวณดังกล่าวมีความคดเคี้ยวและแคบ ทำให้พระพิชัย และพระพินิจ ทหารเก่าในสมัยพระนารายณ์ที่เกลียดชังพระเจ้าเสือวางอุบายลอบปลงพระชนม์ได้ ขณะเดียวกันนั้นสินที่ได้ล่วงรู้แผนการนี้จึงให้นวลไปขอร้องกับพระพิชัยแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ตนจึงวางแผนบังคับเรือพระที่นั่งให้ชนกับริมตลิ่งเพื่อไม่ให้พระเจ้าเสือเสด็จพระราชดำเนินไปถึงจุดที่กลุ่มชาวบ้านซุ่มอยู่ เมื่อเรือพระที่นั่งเอกไชยมาถึงตำบลโคกขาม สินพยายามคัดท้ายเรือพระที่นั่งจนชนตลิ่ง ทำให้หัวเรือพระที่นั่งเอกไชยหักตกลงไปในน้ำ สินรู้โทษดีว่าความผิดครั้งนี้ถึงประหารชีวิตตามโบราณราชประเพณีซึ่งกำหนดว่าถ้าผู้ใดถือท้ายเรือพระที่นั่งให้หัวเรือพระที่นั่งหักผู้นั้นถึงมรณะโทษให้ตัดศีรษะเสีย สินจึงกราบทูลขอน้อมรับโทษตามพระราชประเพณี พระเจ้าเสือทรงพิจารณาเห็นว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เป็นเหตุสุดวิสัยมิใช่ความประมาทจึงพระราชทานอภัยโทษให้ แต่สินก็กราบบังคมยืนยันให้ตัดศีรษะตนเพื่อรักษาขนบธรรมเนียมในพระราชกำหนดกฎหมายและเป็นการป้องกันมิให้เกิดข้อติเตียนต่อพระเจ้าอยู่หัวว่าทรงละเลยพระราชกำหนดของแผ่นดิน พระเจ้าเสือไม่ต้องการประหารสินจึงทรงโปรดให้ฝีพายทั้งปวงปั้นมูลดินเป็นรูปสินแล้วให้ตัดศีรษะรูปดินนั้นเพื่อเป็นการทดแทน แต่สินยังคงยืนยันขอให้ตัดศีรษะตน โดยขอให้พระเจ้าเสืออภัยโทษให้แก่กลุ่มผู้ที่ลอบปลงพระชนม์ แม้พระเจ้าเสือจะทรงอาลัยรักน้ำใจพันท้ายนรสิงห์เพียงใดก็ทรงจำพระทัยปฏิบัติตามพระราชกำหนด จึงตรัสสั่งให้เพชฌฆาตประหารพันท้ายนรสิงห์แล้วโปรดให้ตั้งศาลสูงประมาณเพียงตาและนำศีรษะพันท้ายนรสิงห์กับหัวเรือพระที่นั่งเอกไชยซึ่งหักนั้นขึ้นพลีกรรมไว้ด้วยกันบนศาล ทำให้พระพิชัยที่แอบดูอยู่รู้ความจริงว่าพระเจ้าเสือมิได้เลวร้ายอย่างที่คิด จึงถวายตัว รับใช้พระเจ้าเสือด้วยความซื่อสัตย์ตลอดมา
คู่กรรม (2556/2013) โศกนาฏกรรมความรักในช่วงเวลาสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างทหารญี่ปุ่นที่ถูกส่งมาร่วมสงครามที่ประเทศไทย กับนักศึกษาสาวไทยที่เกลียดชังทหารญี่ปุ่น พรหมลิขิตบันดาลให้ทั้งคู่ครองคู่กัน ก่อนจะพรากพวกเขาออกจากกันภายใต้ไฟสงคราม เรื่องราวของโกโบริ นายทหารหนุ่มประจำกองทัพญี่ปุ่นที่เข้ามาตั้งฐานทัพบนแผ่นดินไทยในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง กับ อังศุมาลิน หญิงสาวชาวไทย แม้อังศุมาลินจะเกลียดชังโกโบริตั้งแต่แรกพบ ด้วยอคติเพราะเห็นว่าเป็นคนญี่ปุ่นซึ่งเปรียบเสมือนศัตรูของชาติ แต่ยิ่งเวลาผ่านไป ความรักของทั้งสองกลับก่อค่อย ๆ ตัวขึ้นท่ามกลางความรุนแรงของสงคราม ในปี พ.ศ. 2485 สงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เริ่มต้นขึ้น กองทัพญี่ปุ่นได้เดินทางมาประเทศไทยเพื่อใช้เป็นฐานทัพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในเขตพระนครของกรุงเทพฯ เนื่องจากประเทศไทยได้เซ็นสัญญาร่วมรบกับกองทัพญี่ปุ่นในฐานะพันธมิตร และประชาชนทุกคนต้องให้ความร่วมมือกับกองทัพญี่ปุ่นอย่างเต็มที่ หากผู้ใดฝ่าฝืนจำต้องได้รับโทษ ซึ่งแน่นอนว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นด้วยกับกฎหมายข้อบังคับของรัฐบาล เมื่อเกิด ‘ความรัก’ ขึ้นท่ามกลางสงคราม ระหว่างหญิงสาวชาวไทยนามว่า อังศุมาลิน และทหารญี่ปุ่นนามว่า โกโบริ ความแตกต่างระหว่างเชื้อชาติและเหตุผลทางการเมือง ก็อาจผันเปลี่ยนเป็น ‘รักต้องห้าม’ ไปได้
อารีดัง (2523/1980) ไกลสุดขอบฟ้า กลางสมรภูมิเลือด และความเยือกเย็นของหิมะ รักนั้นร้อนเร่าแสวงหา ระอุอารมณ์สะท้านหัวใจ เกาหลีปี พ.ศ. 2496 เป็นปีแห่งการต่อสู้และการอพยพครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ทหารไทยมาช่วยเกาหลีรบ หน่วยของ ร.อ. พงษ์พันธ์ ถูกฆ่าตายและตัวเขาเองถูกยิงบาดเจ็บ โชคดีได้ หมวดโชติ มาช่วยและพารักษาตัวที่หมู่บ้าน โทนัมดง ตำบลอารีดัง และได้รับการช่วยเหลือจากเด็กสาวในหมู่บ้านชื่อ โอบุนริ ระหว่างที่รักษาตัวอยู่พงษ์กับโอบุนริมีความรัก และแต่งงานกัน เมื่อวันที่ 27 กรกาคม 2496 นายพลวิลเลี่ยม แฮริสัน ผู้นำเกาหลีเหนือ เซ็นสัญญาสงบศึก สงครามสงบ และพงษ์ก็ได้กลับเมืองไทย และไม่สามารถนำครอบครัวโอบุนริกลับมาด้วยกันได้ เขาติดงานราชการไม่สามารถไปหาลูกเมียได้ จน 3 ปีผ่านไป พงษ์ตัดสินใจออกจากราชการ และไปรับโอบุนริที่บ้านบนเขา ในขณะที่หิมะถล่มลงมาทุกคนหนีเอาตัวรอด แต่โอบุนริไม่หนีเธอจึงตายกลางหุบเขาเมื่อพงษ์มาถึง พงษ์ทำศพให้โอบุนริและรับลูกกับพ่อตาไปอยู่ด้วยกัน
คู่กรรม (2516)
คู่กรรม (2516/1973) มีประโยชน์อะไรที่จะตั้งทิฐิเข้าหากัน ทิฐิมานะ ความใจแข็ง เป็นของดี ถ้าหากนำมาใช้ในทางที่ถูก แต่จะมีประโยชน์อะไรที่จะนำมาใช้กับคนที่เรารัก ชีวิตคนเรานั้นไม่ยืนยาวนักหรอก โดยเฉพาะเวลาสำหรับความรักมักผ่านไปเร็วเสมอ ผู้ผ่านเวลานั้นมาแล้ว ย่อมซึมซับในหัวใจ เวลา...ที่ไม่ว่าสิ่งแวดล้อมจะเป็นเช่นไร หัวใจจะยังอบอุ่นด้วยความหวัง แม้...ในยามที่เวลานั้นจะไม่ถอยกลับคืนมาอีก ผู้นั้นก็ยังมีความสุข ด้วยรำลึกถึงความสุขที่เคยผ่านมาแล้วเป็นเครื่องปลอบใจ จำไว้...ถ้าเราเข้าใจคนที่เรารัก ดวงไฟดวงนั้นจะอบอุ่นอยู่ในหัวใจเสมอ ชีวิตจะมีความหมายอะไร ถ้าในครั้งหนึ่งไม่เคยรู้จักความรักอันอ่อนโยน ไม่เคยสัมผัสแม้ความผูกพันอันดื่มด่ำ ที่จะยอมสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างได้หมด เพียงเพื่อคนที่เรารัก
ดอกอ้อ (2511)
ดอกอ้อ (2511/1968) ดอกอ้อ เมื่อตอนยังเล็กๆ อาศัยอยู่และหนีตายข้ามโขงมายังฝั่งไทยกับแม่และป้าแหวน (มนัส บุญยเกียรติ) ซึ่งเป็นแม่นม ระหว่างหลบหนีมานั้น แม่ก็ถูกฆ่าตาย ส่วนป้าแหวนก็ถูกยิงได้รับบาดเจ็บและพลัดหลงกัน แม่ครูพร (ศรินทิพย์ ศิริวรรณ) ซึ่งเป็นเจ้าของโรงเรียนพรพิทยา เห็นเหตุการณ์จึงช่วยนางเอกซึ่งมีชื่อว่า อ๋อ มาเลี้ยงไว้แทน แต่เพราะเห็นว่าชื่อ อ๋อ นั้นไม่ค่อยจะเพราะ แม่ครูพรจึงเปลี่ยนชื่อให้ใหม่ว่า ดอกอ้อ (เพชรา เชาวราษฏร์) ส่วนชื่อจริงๆ ของดอกอ้อ ก็คือ กมลมาศ สิทธิกร ซึ่งสลักไว้ในเหรียญห้อยคอที่ติดตัวดอกอ้อมานั่นเอง 15 ปีต่อมา ดอกอ้อก็โตเป็นสาวและเป็นครูสอนที่โรงเรียนของแม่ครูพร โดยมีเพื่อนซี้อยู่สองคนซึ่งแม่ครูพรเลี้ยงมาพร้อมๆ กันคือ เมี่ยง (ดอกดิน กัญญามาลย์) ทำหน้าที่เป็นภารโรง ส่วน เอื้องคำ (อรสา อิศรางกูร ณ อยุธยา) นั้นเป็นแม่ครัว นอกจากนี้ยังมี ภาณี (ชฎาพร วชิรปราณี) ซึ่งแม่ครูพรเลี้ยงมาแต่เด็กๆ แต่ภาณีไม่ค่อยจะถูกชะตากับดอกอ้อ วันหนึ่ง พิทักษ์ (แมน ธีระพล) ซึ่งได้รับมรดกที่ดินโรงเรียนที่แม่ครูพรเช่าก็ขอขึ้นค่าเช่าที่ดิน ภาณีจึงได้รู้จักสนิทสนมกับพิทักษ์ ต่อมาแม่ครูพรก็มอบสายสร้อยและเหรียญสลักชื่อสกุลให้ดอกอ้อ ทำให้ภาณีไม่พอใจ ดอกอ้อจึงตัดความรำคาญยกสายสร้อยของตนเองให้ภาณีไปโดยไม่รู้ว่านั่นเป็นสร้อยนามสกุลของตนเอง ดอกอ้อ เมี่ยงและเอื้องคำ พานักเรียนไปเที่ยวป่าและหลงป่าจึงได้พบกับผู้การวิคุณ (อดุลย์ ดุลยรัตน์) ที่ไล่ยิงพวกคนร้ายผ่านมา วิคุณสนใจในตัวดอกอ้อ ส่วนภาณีนั้นก็ขโมยเงินแม่ครูหนีเข้ากรุงเทพฯ ดอกอ้อจะไปตามภาณี แต่เกิดการยิงกันและมีชายคนหนึ่งถูกยิงบาดเจ็บมาซ่อนตัวในโรงเรียน เขาบอกแต่ชื่อว่า นายอ่อน (มิตร ชัยบัญชา) ดอกอ้อสงสารจึงช่วยเหลือนายอ่อนจนอาการดีขึ้น แท้จริงแล้ว นายอ่อนก็คือ เจ้าตรีทศวงศ์ นายพลทหารบกลาว ซึ่งหนีภัยการเมืองและกำลังถูกนายพิทักษ์กับพวกที่รับจ้างทหารลาวตามฆ่า ผู้การวิคุณจึงวางแผนให้เจ้าตรีทศวงศ์ไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านของพี่สุทธิ (สุวิน สว่างรัตน์) ในกรุงเทพฯ โดยวางแผนให้เห็นว่า นายอ่อนถูกยิงตายและทหารไทยนำศพไป ทำให้ดอกอ้อซึ่งไม่รู้แผนนี้เสียใจเพราะเริ่มมีใจให้นายอ่อนแล้ว ต่อมาพิทักษ์พูดสู่ขอดอกอ้อกับแม่ครู แต่ครูไม่ชอบนิสัยนักเลงของพิทักษ์ จึงให้ดอกอ้อหนีไปเรียนต่อในกรุงเทพฯ ฝ่ายนายอ่อนเมื่อมาอยู่กรุงเทพฯ ก็ปลอมตัวเป็นคนตาบอดชื่อนายนิ่มและสนิทสนมกับลูกสาวพี่สุทธิซึ่งตาบอดเช่นกันชื่อว่า อ้อย (ด.ญ.จิระวดี อิศรางกูร ณ อยุธยา) ส่วนนายทักษ์เมื่อรู้ว่า แม่ครูกีดกันไม่ให้แต่งงานกับดอกอ้อ ก็ลอบเผาโรงเรียนทิ้ง ครูพรจึงต้องเข้ากรุงเทพฯไปอยู่กับดอกอ้อ
ใจเพชร (2506)
ใจเพชร (2506/1963) ไหมแก้ว (พิศมัย วิไลศักดิ์) สาวเหนือที่รักกับแฟนหนุ่มซึ่งเป็นทหาร (ชนะ ศรีอุบล) โดยภารกิจของเขาคือต้องปราบปรามผู้ก่อการร้ายบนดอย ซึ่งเขาได้ออกรบขณะที่ภรรยาตั้งท้อง กระทั่งคลอดลูกชาย (มิตร ชัยบัญชา) ซึ่งต้องถูกเพื่อนล้อว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ กระทั่งมาพบกับนางเอก (เพชรา เชาวราษฎร์) ซึ่งเป็นลูกคนมีฐานะในหมู่บ้าน โดยผู้ใหญ่ทางฝั่งนางเอกค้าขายลับๆอยู่กับฝ่ายก่อการร้าย ต่อมาทางผู้ร้ายได้ส่งคนมาจับแม่และคนรักของพระเอกไปเป็นตัวประกัน ทั้งสองพ่อลูกจึงมาเจอและได้ร่วมภารกิจไปช่วยคนรักด้วยกันจนกลับมาปลอดภัย
เลือดนาวี (2499)
เลือดนาวี (2499/1956) มานะ และ อุสาหะ เป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่สมัยเด็ก ทั้งสองไปศึกษาต่อที่โรงเรียนนายเรือ เมื่อเรียนจบมานะและอุสาหะได้รับคำสั่งให้ไปประจำการที่กองพันนาวิกโยธิน สัตหีบ วันหนึ่ง คณะคุรุสภาได้จัดทัศนาจรที่สัตหีบโดยมีเพียงจันทร์ ลูกสาวผู้บังคับบัญชากรมนาวิกโยธินเป็นผู้นำ มานะและอุสาหะจำได้ว่าเพียงจันทร์คือเพื่อนสมัยเด็ก ซึ่งในอดีตทั้งสองเคยช่วยเพียงจันทร์ขณะถูกประวิทย์รังแก มานะอาสาพาเพียงจันทร์ไปเที่ยว โดยมีอุสาหะและ วิภา ผู้ช่วยเพียงจันทร์ร่วมด้วย เพียงจันทร์เริ่มรู้สึกถึงความรักที่ทั้งสองมีให้แต่ยังคงรักษาระยะห่างไว้ ในการฝึกของหน่วยคอมมานโด พ.จ.อ.ประวิทย์ซึ่งอยู่กองพันเดียวกันหาเรื่องมานะกับอุสาหะ เพราะแค้นเรื่องในอดีต ทำให้มานะได้รับบาดเจ็บ ขณะนั้นศัตรูรุกรานชายทะเลไทย กองพันนาวิกโยธินได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประเทศชาติ เพียงจันทร์ก็สมัครเป็นหน่วยอาสากาชาด มานะและอุสาหะได้รับบาดเจ็บขณะนำทัพ แต่เพียงจันทร์คอยดูแลมานะคนเดียว ทำให้อุสาหะน้อยใจกลับไปสมรภูมิรบอีกครั้งและเสียชีวิตในเวลาต่อมา วิภาซึ่งแอบรักอุสาหะอยู่ฝ่ายเดียวได้แต่เสียใจในการจากไปของอุสาหะ
สุดฟากฟ้า (2499)
สุดฟากฟ้า (2499/1956) เพราะอุบัติเหตุเครื่องบินตกในสงครามทำให้ รุ่งทิวา แอร์โฮสเตส แฟนสาวของ ระวินทร์ นายทหารหนุ่ม หายไปอย่างไม่ทราบข่าวคราว ระวินทร์จึงเข้าใจผิดคิดว่ารุ่งทิวาเสียชีวิตแล้ว ครั้นเมื่อเดินทางไปสงครามที่เกาหลีเขาจึงพบรักกับ ซิหลิน สาวเกาหลี จึงพาเธอกลับมาหมายจะแต่งงาน ทว่าระวินทร์ต้องพบกับความจริงว่ารุ่งทิวายังไม่ตาย แต่เพราะรุ่งทิวานั้นรักระวินทร์จึงยอมเสียสละระวินทร์ให้ได้แต่งงานกับซิหลิน เขาจึงต้องจำยอม เมื่อถึงวันแต่งงาน ซิหลินกลับรู้สึกว่าเธอคงจะเข้ากับขนบธรรมเนียมไทยไม่ได้จึงจำใจจาก ให้ระวินทร์ได้ครองรักกับรุ่งทิวาตามเดิม
สี่สิงห์นาวี (2498)
สี่สิงห์นาวี (2498/1955) รบ! รัก! ชีวิต เสียสละ (ที่มา: นิตยสารตุ๊กตาทอง ธันวาคม พ.ศ. 2498)
พรานนาวี (2496)
พรานนาวี (2496/1953) หลังเสร็จสิ้นการรบ นาวิน และเชิดชัย สองนักเรียนนายเรือเพื่อนรัก ก็ขึ้นฝั่ง ณ หาดหัวหินเพื่อพักผ่อนกันตามประสา ทว่าทั้งสองกลับต้องมามีเรื่องกินแหนงแคลงใจกัน เมื่อทั้งนาวินและเชิดชัยเกิดไปตกหลุมรักผู้หญิงคนเดียวกัน เธอคนนั้นคือ วันเพ็ญลูกสาว นายบุญลือ พ่อค้าของเถื่อน แต่แล้วนาวินก็เป็นฝ่ายพิชิตใจของวันเพ็ญไปพร้อมกับการได้รับกระบี่เป็นนายเรือ สวนทางกับเชิดชัยที่ช้ำรักจนสอบตกและต้องสอบใหม่จนได้ยศที่ต่ำกว่านาวิน แต่ก็ใช่ว่านาวินจะสมหวังไปทุกอย่าง เมื่อนายบุญลือหมายจะยกวันเพ็ญให้ เสี่ยเส็ง คู่ค้าของตน ด้วยกลัวว่านาวินจะมารู้เห็นการค้าผิดกฎหมายของตน จึงพาวันเพ็ญหนีมาอยู่หมู่บ้านชายทะเลแห่งหนึ่ง เมื่อนาวินกับเชิดชัยเวียนมาพบกันอีกครั้ง แม้ทั้งสองจะเคยบาดหมางใจกัน ก็ยอมร่วมมือเพื่อช่วยวันเพ็ญให้พ้นจากเงื้อมมือของนายบุญลือและเสี่ยเส็ง จนนาวินต้องถูกเหล่าร้ายจับเป็นตัวประกัน การต่อสู้จึงเกิดขึ้น
ลุ่มน้ำเจ้าพระยา (2494)
ลุ่มน้ำเจ้าพระยา (2494/1951) พ.ศ. 2484 เพราะพิษสงครามโลกในยุโรปทำให้ประเทศไทยประสบปัญหาข้าวยากหมากแพง แจ่ม ชาวเมืองกำแพงเพชร พา เดือน ลูกสาวกับนวล เพื่อนสนิท เดินทางมาแสวงโชคที่กรุงเทพ แจ่มเสียชีวิตระหว่างการเดินทางจากระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรเรวัติ กับ ประพาส นายช่างทางหลวงได้ช่วยเหลือเดือนกับนวลไว้ และเกิดเป็นความรักต่อกัน นวลชวนเดือนไปพักบ้าน น้าทิพย์ ญาติสนิทแต่น้าทิพย์เป็นคนเห็นแก่ได้ เดือนจึงต้องยอมสละยารักษาโรคที่พ่อให้มาขายที่กรุงเทพให้น้าทิพย์แลกกับที่พักแล้วจึงไปสมัครงานที่บริษัทน้ำมันพาณิชของ สุขุมตามคำแนะนำของเรวัติ แต่แล้ววันหนึ่ง เดือนได้อ่านหนังสือพิมพ์ซึ่งลงข่าวการเสียชีวิตของเรวัติ สร้างความกระทบกระเทือนใจแก่เดือนจนล้มป่วย ส่วนนวลต้องดิ้นรนหาเงินมารักษาเดือนแม้จะต้องขายตัวก็ตาม เมื่อเดือนหายเป็นปรกติจึงกลับไปทำงานกับสุขุม แต่ถูกสุขุมมอมเหล้าและขืนใจ เดือนหันไปหาเงินทางลัดด้วยการประกอบอาชีพโสเภณีเช่นเดียวกับนวล อยู่มาวันหนึ่ง เรวัติก็มาปรากฏตัวเพื่อขอเดือนแต่งงานตามสัญญา เดือนหนีจากงานแต่งงานกลางคันเพราะคิดว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเรวัติ และเปลี่ยนชื่อเป็นประภา สมัครเป็นอาสากาชาดประจำโรงพยาบาลสนาม ที่นั่นเดือนได้พบเรวัติอีกครั้ง เพราะเรวัติโดนสะเก็ดระเบิดจนตาบอด เดือนปรนนิบัติเรวัติในนามของประภาเมื่อถึงวันที่หมอเตรียมเปิดตาเรวัติ เดือนก็หนีไปจากเขาอีกครั้ง
รบระหว่างรัก (2474)
รบระหว่างรัก (2474/1931) เรื่องราวรักสามเส้า และรักต่างชนชั้น พระเอกเป็นลูกชาวนาที่อาสาไปรบในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 มีแม่เป็นคนตาบอด เมื่ออาสาไปรบจึงไปขอร้องเพื่อนที่มีเสียงเหมือนกับตน ไปดูแลแม่ของตัวเอง พอกลับมาจากสงครามก็พบว่าถูกแย่งคนรักไป พระเอกจึงไปแย่งกลับคืนมา

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 12 รายการ