ฮักเจ้าอีหลี (2565/2022) เคน (เต๋า-ภูศิลป์ วารินรักษ์) ตลกหนุ่มท้ายแถวคณะหมอลำชื่อดัง ฝันอยากจะเป็นพระเอกหมอลำเบอร์หนึ่ง แต่ความฝันของเขาดูจะเป็นแนวเพ้อ-ฝัน เพราะเสียงร้องของเขามันเพี้ยนขั้นสุด จนคนฟังต้องร้องขอให้เลิกเหอะบักเคน แต่เคนไม่ท้อ เมื่อนายห้างค่ายเพลง (อาร์ตี้-ธนฉัตร) ลูกทุ่งหมอลำเมืองกรุงมาออดิชั่นหานักร้องออกซิงเกิลใหม่ เคนก็เสนอหน้าไปออดิชั่นกับเขาด้วย โดยมีคู่แข่งคนสำคัญคือ ท็อป (ท็อป-นรากร กันจันทึก ) พระเอกหมอลำสุดหล่อลูกคอสุดยอดในคณะหมอลำเดียวกัน ความฝันของเคนที่จะเป็นนักร้องและเป็นพระเอกหมอลำ มีเพื่อนร่วมก๊วนตลกหมอลำสามเกลอ (เต๋า-ภูศิลป์ โบ๊ท อนาคามี บินสมัน และ กวาง จิรพรรณ บุญชิต) คอยเป็นทั้งกำลังใจและตัวป่วน แต่แล้ววันหนึ่งการกลับคืนบ้านเกิดของ โดม (ตูมตาม-ยุทธนา เปลื้องกลาง) ผู้จัดการวงคนใหม่ ที่ทั้งหล่อเข้มและเต็มไปด้วยสาระ และเป็นหลานชายเจ้าของคณะหมอลำ (พ่อเอ๊ะ -นายภักดี พลล้ำ แห่งคณะระเบียบวาทศิลป์) ก็มาปลุกใจ เคนให้เริ่มมีความหวังอีกครั้ง แต่โดม และเพื่อนพ้องก๊วนตลกจะพา เคน เอาชนะอุปสรรคและก้าวขึ้นเป็นพระเอกหมอลำตามที่ฝันได้หรือไม่ และพวกเขาจะพาคณะหมอลำผ่านพ้นวิกฤติคนดูหดหายไปฉันพลันได้หรือไม่ ชาวคณะนับร้อยจะปากกัดตีนถีบ ทั้งม่วน ทั้งป่วนกันแค่ไหน ไปติดตามได้ใน “ฮักเจ้าอีหลี” ??
ฮักเถิดเทิง 2563
ฮักเถิดเทิง (2563/2020) 3 ศิลปินดาวรุ่ง ศิลป์ชัย (ก้อง ห้วยไร่), เพชร ชุมแพ (แซ็ค ชุมแพ) และ พิณ ปทุมราช (เบิ้ล ปทุมราช) ที่ตกกระป๋องกลายเป็นดาวร่วง หลังพ่ายแพ้ผลโหวตในงานมหกรรมคอนเสิร์ตแห่งภาคอีสานให้กับเกิร์ลกรุ๊ปแห่งภาคอีสาน นรี (ลำไย ไหทองคำ), เจนนี่ (เจนนี่ รัชนก), กาแฟ (เนสกาแฟ ศรีนคร) และ อาลี่ (อาม ชุติมา) อย่างมีเงื่อนงำ พวกเขาจึงต้องทำทุกทางเพื่อกู้ชื่อเสียงและอนาคตที่รุ่งโรจน์กลับคืนมา แถมยังต้องประคับประคองความรักที่กำลังผลิบานเอาไว้อีก มหกรรมความฮาแบบวายป่วงจึงเริ่มขึ้น! เรื่องวุ่นๆ ในงานมหกรรมการแสดงหมอลำใจกลางเมืองใหญ่ของภาคอีสาน เมื่อก๊วนบอยแบนด์ซุป’ตาร์อย่าง หมอลำผู้คลั่งไคล้เอลวิส ศิลป์ชัย, หนุ่มแหบเสน่ห์ผู้หลงใหลการเต้นมูนวอล์ก เพชร และหมอลำแร็กเก้ พิณ ปทุมราช ต้องมาพ่ายแพ้ผลโหวตให้กับเกิร์ลกรุ๊ปแห่งภาคอีสาน นรี , เจนนี่, กาแฟ และ อาลี่ อย่างมีเงื่อนงำ จากศิลปินดาวรุ่งกลายเป็นศิลปินดาวร่วง ศิลป์ชัย, เพชร และ พิณ จึงต้องทำทุกทางเพื่อเรียกชื่อเสียงและงานกลับคืนมา
หมอลำมาเนีย เขย่าลูกคอ รอให้เธอมารัก (2562/2019) เรื่องราวของ อาจ (ก้องศิลป์ ฟ้าล่วงบน จากวง กู่แคน) ชายหนุ่มผู้คลั่งไคล้หมอลำขนาดหนักประมาณว่าฝังลึกซอดดีเอ็นเอทะลุทะลวง เซลล์เม็ดเลือดแดง มาออกโตขึ้นจอ ขยับลูกคอ เอื้อน ลำกลอนทำนองแปลกใหม่ให้ไทบ้านได้งึด กับความฝันสิสร้างสุดยอดวงหมอลำระดับจักรวาล พร้อม 2 หนุ่มหมู่ฮักแต่เด็กน้อย สเตอ (ทัศนัย สมบัติธีระ) เด็กจบนอกมือกีตาร์จิตใจบอบบาง และ สิน (ทวิทย์ สิทธิ์ทองสี) หมอแคนนักพัฒนา จับมือร่วมกันประสานท่วงทำนองหมอลำให้โลกเขย่าไปตามจังหวะแสนม่วนซื่น แต่ความฝันมันช่างยิ่งใหญ่โพดโพบักโมบักแตง เอาแค่เป้าหมายแรกที่สิขึ้นเล่นอวดฝีมือบนเวทีงานบุญใหญ่ประจำปีของหมู่บ้านล้านกะโป้ก็ยากแท้แล้วน้อพี่น้องเอ้ยยยย ไสสิพบพ้อขวากหนามมากหลาย ทั้งควมฮักของสเตอและครูจัน ความต้องการที่สิยกระดับหมู่บ้านของจารย์สิน และการร้องหมอลำของ อาจกะไปขัดใจพ่ออีก
ฮักแพง 2561
ฮักแพง (2561/2018) หนังอีสานม่วนคักๆ เพลงฮักร้อยล้านวิว อีสานมีวัฒนธรรมประเพณีที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นมากมายที่เหล่าบรมครูสร้างไว้ให้คนรุ่นหลังสืบทอดต่อ ๆ กันมาอย่างยาวนาน โดยวัฒนธรรมที่เด่นชัดคือ "หมอลำ" ที่สามารถให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานนำเอามาเป็นอาชีพเลี้ยงดูชีวิตขอตนเอง ศร (ก้อง ห้วยไร่) หนุ่มอินดี้อารมณ์ดีผู้เป็นพระเอกประจำคณะหมอลำของ ครูพล เรื่องฝีมือไม่เป็นรองใครแต่กลับต้องมาเสียคนเสียงานเพราะความรัก โต้น (เบิ้ล ปทุมราช) ไทบ้านมาดสุขุมผู้รักและนับถือ ศรเสมือนพี่ชายแท้ ๆ แม้จะพูดน้อยแต่เรื่องร้องเรื่องรำ โต้นก็ไม่ธรรมดาเลยทีเดียวโดยกำลังใจที่สำคัญก็ได้มาจาก ไข่มุก (ธัญญ่า อาร์สยาม) ลูกสาวคนสวยของครูพลที่แอบมีใจให้กับโต้น แต่ก็ไม่กล้าบอกออกไป เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าผู้ชายที่เธอรักนั้นมีใจให้กับ พิม (ลำไย ไหทองคำ) ทายาทของผู้ใหญ่ภูและแม่พรผู้ที่ต้องการให้ลูกสาวได้คู่ครองที่สมฐานะกับตนเอง นอกจากจะโดนพ่อแม่ของพิมกีดกันแล้ว อุปสรรคชิ้นใหญ่อีกชิ้นหนึ่งของโต้นก็คือ แสบ (แซ็ค ชุมแพ) หนุ่มบ้านใต้จอมซ่าศึกชิงนางระหว่างสองหนุ่มจึงเกิดขึ้นโดยมี ศร ผู้ที่ทั้งสองให้ความเคารพเป็นกรรมการคอยตัดสินชี้ขาด แต่ในระหว่างสงครามเพื่อแย่งชิงหัวใจของพิมมาครอง ทั้งโต้นและแสบก็พยายามที่จะทำความฝันในการเป็นศิลปินพื้นบ้านของตนเองให้เป็นความจริงแม้จะต้องต่อสู้กับอิทธิพลของ เสี่ยณรงค์ ตลอดเวลาก็ตาม
ผู้สาวขาเลาะ เดอะมูฟวี่อินดี้ (2561/2018) ลำไยกับอาม เป็นเพื่อนรักวัยเรียนระดับม.ปลาย และเพราะฐานะที่ยากจน ทำให้ยามค่ำคืนอามต้องไปร้องเพลงในร้านอาหารเพื่อเป็นรายได้เสริม โดยมีแก้มใสกับพวกเป็นอริอยู่กลายๆ ด้วยความหมั่นไส้ส่วนตัว หาทางกลั่นแกล้ง 2 เพื่อนรักอยู่เนืองๆ แต่ก็ไม่เคยสำเร็จสักที หลายครั้ง ผลกรรมก็ตกมาสู่แก้มใสกับพวกซะเอง อามแอบชอบเนม เพื่อนนักเรียนชายร่วมชั้น ที่เป็นดาวดังประจำโรงเรียน เพราะเสียงดีและมีงานร้องเพลงบนรถแห่ที่เหล่าวัยรุ่นอีสานคลั่งไคล้เป็นอย่างมาก ทุกคนต่างเตรียมลีลาการเต้น”เด้งเด้า”ไว้ประชันกันเมื่อยามมีงาน ไม่เว้นกระทั่งลำไย-อามและพรรคพวก ที่ขนาดแอบหนีโรงเรียนไปร่วมสนุกสนานกับงานรถแห่ในวันหนึ่ง จนโดนครูใหญ่จับได้และลงโทษด้วยการตีก้น จากการฟ้องครูของแก้มใสนั่นเอง แต่ลำไยซะอย่าง เรื่องเอาตัวรอดไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด วันหนึ่งหลังร้องเพลงที่ร้านประจำจบลง มีชายหนุ่มหน้าตาดีนามว่ามอส มายื่นข้อเสนอจะนำงานไปให้ทางบริษัทพิจารณา ขอให้ทำเพลงที่แต่งเองเตรียมไว้ เพื่อให้เจ้านายขึ้นมาดูสดๆ กับตา ลำไยปิ๊งปั๊งในตัวมอสแทบจะทันที และรีบรับคำโดยไม่สนใจเลยว่าอามจะทำได้หรือทันไหม แถมยังขอร้องให้เพื่อนรักช่วยแต่งเพลงโจ๊ะๆ สนุกๆ ให้อีกด้วย โดยมีเจ้าอีส อีสานพาสวบ มาร่วมวงในฐานะผู้ให้คำปรึกษาและช่วยแก้ปัญหาจุกๆ จิกๆ ให้กับทั้ง 2 สาว ทางด้านแก้มใสและพวก ได้ที่ปรึกษาด้านการแกล้งคนอย่างน้าถึกทะลุฟ้ามาเป็นกุนซือให้ ซึ่งแต่ละแผนที่แนะนำมา ถ้าไม่ล้มเหลว ก็ผิดพลาด ส่งผลกับคนลงมืออย่างแก๊งแก้มใสแทบจะทุกทีไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการวางสลอด การยุแหย่ให้ลำไยกับอามแตกคอกัน จนถึงขั้นขโมยมาสเตอร์งานเพลงที่ลำไย-อามเตรียมไว้ให้ค่ายเพลงจากกทม. ซึ่งแผนสุดท้ายนี้เอง สร้างความโกลาหลให้กับทุกคนจนต้องมาลุ้นกันว่า เรื่องราวจะลงเอยกันเช่นไร ยังมีเรื่องของเจ้าเนมอีก ที่วันหนึ่งเกิดสิ้นหวังท้อแท้อย่างรุนแรง เพราะการร้องประชันบนรถแห่ครั้งใหญ่ ไม่มีใครมาดูเขาเลย เพราะทุกคนไปรุมล้อมรถซุปตาร์รถแห่ตัวจริงอย่างออย แสงศิลป์กันหมด
พรจากฟ้า (2559/2016) ภาพยนตร์เรื่อง พรจากฟ้า (A Gift) เป็นภาพยนตร์รักอบอุ่นที่บริษัท GDH ตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และมอบให้กับผู้ชมเป็นของขวัญต้อนรับปีใหม่ปี 2560 นี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวสามคู่กับการมอบของขวัญให้แก่กันและกันด้วยบทเพลงพระราชนิพนธ์ เรื่องราวทั้งหมดในภาพยนตร์จะแบ่งออกเป็นสามส่วน ร้อยเรียงเกี่ยวข้องกัน และรับผิดชอบโดยผู้กำกับ ดังต่อไปนี้ ยามเย็น ผู้กำกับ ชยนพ บุญประกอบ (SuckSeed ห่วยขั้นเทพ, เมย์ไหน..ไฟแรงเฟร่อ) ร่วมกับ เกรียงไกร วชิรธรรมพร (Hormones วัยว้าวุ่น Season 2-3) , Still on My Mind ผู้กำกับ นิธิวัฒน์ ธราธร (Seasons Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย, คิดถึงวิทยา) และ พรปีใหม่ ผู้กำกับ จิระ มะลิกุล (15 ค่ำ เดือน 11, มหา’ลัย เหมืองแร่)
ลูกทุ่งซิกเนเจอร์ (2559/2016) เรื่องราวความรักหลากหลายรสชาติ ผ่านบทเพลงลูกทุ่งคุ้นหูและเนื้อเพลงที่โดนใจ เปิดเผยทุกอารมณ์ความรู้สึกในใจ "CEO กับสาวเมทห้องน้ำ" บอย (กฤษดา สุโกศล แคลปป์) ผู้บริหารหนุ่ม ผู้ต้องมนต์เสน่ห์ในเสียงร้องของ แก้ม (รุ่งรัตน์ เหม็งพานิช) แม่บ้านสาว ทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้าเธอ "ซุป'ตาร์สัมผัสทุ่ง" พีท (ชลาทิศ ตันติวุฒิ) นักร้องขาแดนซ์ ตกกระป๋อง ต้องจำใจหันมาร้องเพลงลูกทุ่งเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของตัวเอง "หนุ่มสะพานลอย" หนึ่ง (ธนนท์ จำเริญ) หนุ่มอกหักที่ต้องการปิดชีวิตตัวเอง กำลังกระโดดสะพานลอยเพื่อฆ่าตัวตาย จู่ ๆ มี สาวน้อยลึกลับ ได้ฝ่าวงล้อมเข้ามา ทำให้ชีวิตของ หนึ่ง เปลี่ยนไป และ "ไหนว่าไม่ลืม" สมพร (สมบัติ เมทะนี) ชายชรา ผู้ที่ไม่เคยลืมรักแรกและสัญญาใจของ โสภา (พิศมัย วิไลศักดิ์) หญิงคนรักได้เลย "แต่งงานกันเถอะ" รปภ. สาว (คนึงพิมพ์ ธนพิชชากรณ์) ผู้รักการร้องคาราโอเกะเป็นชีวิตจิตใจ เธอเพ้อฝันว่าตัวเองเป็นแฟนกับพระเอกในป้ายโฆษณาบนสถานีรถไฟฟ้า "นายเฉาก๊วยกับสาวหน้าผี" ความรักของ อู๊ด (เบญจพล เชยอรุณ) หนุ่มขายเฉาก๊วย กับ สาวหน้าผี (ศิรพันธ์ วัฒนจินดา) ดำเนินไปตามปกติ จนกระทั่งเธอได้รับข้อเสนอให้ทำศัลยกรรมเพื่อออกรายการทอล์กโชว์ "สาวมือระเบิดกับหนุ่มอาร์ต" เรื่องวุ่น ๆ ในกองถ่ายภาพยนตร์ เมื่อ หนุ่มฝ่ายศิลป์ (นวพล ลำพูน) แอบหลงรัก สาวช่างเทคนิคพิเศษมือระเบิด (พัชรี ทับทอง) แต่ดันไม่กล้าบอกรัก แล้วอย่างนี้หัวใจหรือระเบิดจะตูมตามก่อนกัน
รวมพลคนลูกทุ่งเงินล้าน (2556/2013) ณ วัดห่างไกลในชนบทแห่งหนึ่ง พระทศพล (ทศพล หิมพานต์) ปรากฏตัวขึ้น เพื่อชักชวนเหล่าคนลูกทุ่งให้มาร่วมทำบุญบูรณะวัดป่าบ้านหวิวที่กำลังทรุดโทรม ด้วยการจัดผ้าป่าเงินล้านขึ้นมาและแล้วโปรแกรมไลน์ในโทรศัพท์มือถือของเหล่ากลุ่มนักร้องเพลงลูกทุ่งรุ่นใหญ่ รุ่นใหม่ ล้ำยุค ก็ร้องเตือนเป็นระวิง เพื่อส่งข่าวชักชวนกันให้ไปร่วมขบวนทำบุญผ้าป่ารวมพลคนลูกทุ่งเงินล้าน ในวันที่เดินทางไปทอดผ้าป่า บนรถคันใหญ่ที่รวมเหล่านักร้องลูกทุ่งทั่วไทย ทั้งรุ่นใหญ่ยอดนิยม อาภาพร นครสวรรค์ เจ้ใหญ่ของวงการ สุนารี ราชสีมา นักร้องสาวสุดหรู ดาว มยุรี ลิเกเงินล้าน กุ้ง สุธิราช จิ้งหรีดขาว วิรดา หนุ่มติงนัง รุ่ง สุริยา นักร้องเสียงลูกคอ 9 ชั้น มนต์สิทธิ์ คำสร้อย คุณครูสอนร้องเพลงคัฑลียา มารศรี นักร้องสาวเท้าไฟ ปิ๋มซีโฟร์ และเหล่านักร้องลูกทุ่งรุ่นใหม่ที่กำลังมาแรง หญิงลี ศรีจุมพล ไผ่ พงศธร เปาวลี พรพิมล กระแต กระต่าย อาร์สยาม ออม โบว์ หนูเล็ก วงบลูเบอร์รี่ แถมพ่วงด้วยกลุ่มฉิ่งฉับหลังรถ นำโดย ปีเตอร์โฟดิฟาย เอกราช สุวรรณภูมิ โดยเหล่านักร้องลูกทุ่งทั่ววงการมารวมตัวกันเพื่อผ้าป่ามหากุศลครั้งนี้อย่างไม่เคยมีมาก่อน แต่ระหว่างเดินทาง ได้เกิดเรื่องราวไม่คาดฝันมากมายภายในรถคันใหญ่ ตั้งแต่ความสัมพันธ์ทั้งรักสามเส้า เมื่อหนุ่มไผ่ยังอกหักเจ็บไม่หายจากหญิงลีนักร้องสาวเซ็กซี่ฉายาขาขาวสาวลำซิ่ง โดยมีสาวน้อยน่ารักแสนซนเปาวลีแอบเฝ้ามองอยู่ห่างๆ ยังมีอีกความสัมพันธ์แบบคู่กัดของนักร้องรุ่นใหญ่ อาภาพร กับ สุนารี ที่ประลองฝีปากบาดคมเชือดเฉือนไม่ยอมกันตลอดทาง และอีกหนึ่งความสัมพันธ์แบบคู่ปรับหมวดยิ่งยง กับจ่าเสริมเวชที่ติดตามมาด้วย เพื่อตามจับโจรพันหน้าเอกชัย ศรีวิชัย ที่ออกจากคุก และกลับมาเพื่อล้างแค้นที่ถูกจองจำถึง 12 ปี โดยแฝงตัวมาบนรถเพื่อหวังขโมยเงินล้าน และลอบวางระเบิดรถ ทว่าเมื่อโจรพันหน้ากลับมาปรากฏตัวขึ้น เงินล้านที่จะนำไปทำบุญถวายวัดก็อันตรธาน ความอลหม่านก็บังเกิดขึ้น คนลูกทุ่งบนรถทุกคนจึงต้องสามัคคี ร่วมด้วยช่วยกันแก้ปัญหาแบบทุลักทุล ฮาเฮตามประสาคนลูกทุ่ง เพื่อให้ได้ทอดผ้าป่าสามัคคีโดยไม่โดนระเบิดตาย บรรลุเป้าหมายหาเงินล้านให้ได้คืนกลับมา เจ้าโจรพันหน้าจะโดนจับอีกหรือไม่ ปฏิบัติการนำเงินล้านไปให้ถึงวัดจะสำเร็จหรือเปล่า หรือนี่จะเป็นบทพิสูจน์ว่าความรัก ความสามัคคี คือ ความยิ่งใหญ่ของคนลูกทุ่ง
อาฟเตอร์สคูล วิ่งสู้ฝัน (2553/2010) ในโรงเรียนระดับมัธยมมีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง มีเด็กนักเรียนหลายคนที่อยากจะเดิน ตามฝันของตัวเอง พีท (คิริน - อติวิชญ์ เอี่ยมยอดสิน) มีความต้องการจะตั้งวงดนตรีเป็นของตัวเอง เมื่อบังเอิญไปเห็น เกรท (อีฟ - ภรณ์รวี อนันตกุล) เล่นเปียโนในห้องดนตรีของโรงเรียนได้อย่างไพเราะ พีทจึงไปชวน มะนาว (สายป่าน - อภิญญา สกุลเจริญสุข) เพื่อนนักเรียนที่ดูห้าว ๆ เพราะต้องช่วยเหลือตัวเองและทำงานช่วย แม่ (แพร - รัชนี ศิระเลิศ) เพราะ พ่อ (บี๋ - ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์) ได้ทิ้งเธอกับแม่ไปอยู่กับเมียน้อย มะนาวเห็นดีด้วยกับความคิด ของพีท จึงยอมไปบ้านเกรทกับพีทเพื่อขอร้องให้ คุณแม่สุดเผด็จการ (จิ๊ก - เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์) ยอมให้เกรท ร่วมก่อตั้งวงกับเพื่อน ๆ แต่คุณแม่ไม่เห็นด้วยเพราะ มองว่าเป็นอาชีพเต้นกินรำกินและฐานะระดับมหาเศรษฐี อย่างเธอไม่จำเป็นต้องให้ลูกสาวไปทำงานอาชีพนี้ ส่วน คุณพ่อ (เคน สทรุทเคอร์) ไม่ได้คัดค้านอะไรเพราะเข้าใจ ความ รู้สึกของลูกได้ดี ในขณะที่ พ่อของพีท (อี๊ด - สุเทพ ประยูรพิทักษ์) กับ แม่ของพีท (ใหม่ - นัฎฐา ลอยด์) กลับสนับสนุนความคิดของลูกเป็นอย่างดี นอกจากจะซื้อเครื่องดนตรีให้แล้ว ยังยกห้องใต้ดินให้เป็นห้องซ้อม ดนตรีด้วย แต่เพราะใจมันเรียกร้องเกรทจึงหาทางหนีแม่ไปซ้อมดนตรีกับเพื่อน ๆ หลังเลิกเรียนจนได้ ถึงแม้จะ เป็นเวลาอันน้อยนิดแต่ก็มีค่าสำหรับเธอ การตั้งวงดนตรีดูเหมือนจะราบรื่นแต่การหามือกลองเป็นเรื่องใหญ่ ในที่สุดพีทได้ไปเจอ จอห์น นี่ (หลุยส์ เฮสดาร์ซัน) เด็กหนุ่มลูกครึ่งกำพร้าทั้งพ่อและแม่ที่ห้องซ้อมแห่งหนึ่ง จึงชักชวนมาร่วมวงด้วย เพราะเห็นว่าจอห์นนี่ตีกลองได้เก่งและพีทยังได้ไปขอให้ ต้น (ฝุ่น - ตากเพชร เลขาวิจิตร) เพื่อนรุ่นพี่ในโรง เรียนมาช่วยเป็นหัวหน้าวง เพราะต้นเป็นนักดนตรีในผับมาก่อน แต่ต้องลาออกตามคำขอร้องของผู้จัดการ เพราะต้นอายุยังไม่ ถึงเกณฑ์ที่จะทำงานในผับได้ เมื่อทุกอย่างลงตัวทุกคนจึงร่วมกันสานฝันจนเป็นวงดนตรี ขึ้นมาได้และตั้งชื่อวงว่า “AFTER SCHOOL” และวงน้องใหม่วงนี้ก็มีโอกาส ได้โชว์ฝีมือและความสามารถ เป็นครั้งแรกในงาน “MUSIC DAY” ของโรงเรียนจนเป็นที่ถูกอกถูกใจของเพื่อนในโรงเรียน โดยเฉพาะ เชอร์์รี่ (ดิว - อริสรา ทองบริสุทธิ์) นักเรียนสาวสุดเปรี้ยวทายาทเจ้าของธุรกิจชื่อดัง เธอจึงว่าจ้างให้ วง AFTER SCHOOL ไปเล่นในงานวันเกิดของเธอที่บ้านพักตากอากาศที่หัวหิน เพราะเชอร์รี่แอบปลื้มในตัวของจอห์นนี่ จนออกนอกหน้าทำให้มะนาวรู้สึกเจ็บจี๊ดในใจ เพราะมะนาวเองก็แอบชอบจอห์นนี่มากกว่าคำว่าเพื่อนแต่ไม่ แสดงให้ใครเห็น ทีี่หัวหินวง AFTER SCHOOL ไม่ได้แสดงในงานวันเกิดเชอร์รี่เพราะจอห์นนี่เกิดมีเรื่องกับ แจ๊ส (ฟรอยด์ - ณัฎฐพงศ์ ชาติพงศ์) พี่ชายของเชอร์รี่ก่อนที่งานจะเริ่มขึ้น ทั้ง ๆ ที่วันนี้เกรทแอบหนีคุณแม ่ มากับเพื่อน ๆ ได้ เพราะคุณแม่กับคุณพ่อไปติดต่อธุรกิจที่ต่างประเทศพอดี และแจ๊สเองเกิดชอบเกรทขึ้นมาจึง พยายามตามจีบทุกวิถีทางแต่ไม่สำเร็จ พอมีคนนอกเข้ามามีความสัมพันธ์กับคนในวงมากขึ้น จึงส่งผลกระทบต่อการซ้อมของวงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากจอห์นนี่ขาดการซ้อมบ่อยขึ้นเพราะต้องแบ่งเวลาไปให้กับเชอร์รี่จนต้นต้องให้จอห์นนี่ ออกจากวง ส่วนเกรทก็ถูกคุณแม่จับได้ว่าไปซ้อมดนตรีกับเพื่อน ๆ จึงถูกกัก บริเวณทำให้วง AFTER SCHOOL ต้องสะดุดและหยุดวงอย่างน่าเสียดาย แต่พีทก็พยายามที่จะแก้้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ดีที่สุด โดยมีพ่อเป็นคนให้ คำแนะนำและค่อย ๆ แก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ในขณะที่ทุกคนกำลังหาทางออกให้กับตนเองอยู่นั้น ได้เกิดข่าวร้ายขึ้น กับต้นเมื่อจูน ( มิว - ด.ญ. นันท์ภัส เลิศนามเชิดสกุล ) น้องสาววัย 6 ขวบที่ พ่อของต้น (ปั๋ง - ประกาศิต โบสุ- วรรณ) ได้ฝากให้ครอบครัวของมะนาวช่วยดูแล โดนลูกหลงจากการยิงของเด็กวัยรุ่นขณะที่กำลังเล่นตามลำ พังอยู่ที่สนามเด็กเล่น กระสุนฝังลึกเข้าไปในสมองและอยู่ในจุดอันตรายจนไม่สามารถผ่าตัดได้ ส่วนจอห์นนี่ ต้องสูญเสียยายซึ่งเป็นญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ไป โดยที่ไม่มีโอกาสได้รู้ว่าพ่อกับแม่ของเขาอยู่ที่ไหนจอห์นนี่ จึงหันไปพึ่งพายาเสพติดเพื่อเป็นทางออกให้กับตัวเอง พอเชอร์รี่มาเห็นสภาพของจอห์นนี่ที่เปลี่ยนแปลงไปเป็น คนละคนเชอร์รี่จึงทิ้งจอห์นนี่ไปอีกคน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องจูนทำให้มะนาวต้องมาตามจอห์นนี่ เพื่อไปช่วยเป็นกำลังใจให้กับ ต้นแต่กลับมาเจอสภาพที่น่าสมเพชของจอห์นนี่ มะนาวจึงต้องใช้กำลังและคำพูดเข้าสั่งสอนจนจอห์นนี่สำนึก ได้ในขณะที่นั่งรถแท็กซี่ไปโรงพยาบาล จอห์นนี่เกิดคิดไอเดียขึ้นมาได้จึงเข้าไปที่สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งเพื่อ ขอร้องให้ผู้ดำเนินรายการช่วยประกาศข่าวร้ายของน้องจูนให้ผู้ชมทางบ้านรับรู้ พร้อมทั้งช่วยกันส่งแรงใจไป ให้น้องจูน ทำให้มะนาวมีความรู้สึกที่ดีกับจอห์นน่ีมากขึ้น จากข่าวที่ออกอากาศไปทำให้้ผู้ชมช่วยกันภาวนาให้ กับน้องจูน และเพื่อน ๆ ทุกคนก็ได้มาหาต้นที่โรงพยาบาลเพื่อเป็นกำลังใจ เหมือนปาฎิหาริย์มีจริงกระสุนได้ เคลื่อนตัวออกจากจุดอันตราย ทำให้หมอสามารถผ่าตัดช่วยชีวิตน้องจูนเอาไว้ได้ต้นพูดขอบใจมะนาวแต่มะนาว บอกว่าคนที่ทำให้เกิดปาฎิหาริย์กับน้องจูนคือจอห์นนี่ ทำให้ต้นมีความรู้สึกที่ดีกับจอห์นนี่เหมือนเดิม เชอร์รี่มา หาต้นที่โรงพยาบาลและทำตัวเหมือนเป็นแฟนของต้น แต่ถูกมะนาวกีดกันเพราะมะนาวรู้ดีว่าเชอร์รี่เป็นผู้หญิง แบบไหนและแกล้งบอกว่าเกรทเป็นแฟนของต้น ทำให้เชอรี่ถึงกับเสียหน้าเพราะต้นก็ไม่ได้สนใจในตัวเธอเช่น กันมีเพียงพีทเท่านั้นที่ยังมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับเชอร์รี่ เมื่อเพื่อน ๆ ทุกคนมีความเข้าใจกันเป็นอย่างดีวง AFTER SCHOOL จึงกลับมาอีกครั้งและได้รับ การติดต่อให้ไปเล่นโชว์ตามที่ต่าง ๆ รวมไปถึงลานกิจกรรมหน้าสยามดิสคัฟเวอรี่ ทุกคนได้นำเพลงที่ร่วมกันแต่ง และเป็นชื่อเดียวกับวงมาร้องโชว์ โดยมีเนื้อหาสำคัญที่พูดถึง “เวลาหลังเลิกเรียนซึ่งเป็นเวลาอันน้อยนิดแต่มีค่า มหาศาล” ในขณะที่วง AFTER SCHOOL กำลังเล่นอยู่บนเวทีด้วยความสุขสนุกสนานนั้น คุณแม่ของเกรท ได้มานั่งทานอาหารในร้านบริเวณนั้นพอดี จึงมองเห็นลูกสาวเล่นดนตรีอยู่บนเวทีได้อย่างชัดเจน เธอรีบเดินฝ่า ฝูงชนเพื่อไปห้ามลูกสาวทันที.......ำให้เพื่อนๆกลับมาเข้าใจกัน
อีส้ม สมหวัง ชะชะช่า 2552
อีส้ม สมหวัง ชะชะช่า (2552/2009) หากคุณยังจำเรื่องราวความรักของหนุ่มน้อย “สมหวัง” กับ“อีส้ม” แฟนสาวคนสวยจาก “อีส้มสมหวัง” ได้ คุณต้องไม่พลาดติดตามการพิสูจน์รักแท้ของเขาและเธออีกครั้ง ใน“อีส้มสมหวัง ชะชะช่า” ที่คราวนี้เส้นทางความรักของเขาและเธอ ต้องพบกับอุปสรรคต่างๆ นานา ภายหลังจากที่ความรักได้เริ่มก่อตัวใน “อีส้มสมหวัง” ก็ดูเหมือนว่าหนทางความรักระหว่าง ส้ม(สุวนันท์ คงยิ่ง) กับ สมหวัง(ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์) กลับไม่ราบรื่นอย่างที่คิด เมื่อหัวหน้า ยอดรัก เสียชีวิตไป วงดนตรีก็ยุบ ส้ม และ สมหวัง จึงหอบเอาความหวังมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง เพื่อหวังที่จะสร้างอนาคตร่วมกัน เพราะไม่ใช่เพียงแค่สองชีวิตระหว่างเขากับเธอเท่านั้น แต่มันยังมีบางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้น เพื่อเป็นบททดสอบความรักในครั้งนี้ เรื่องราวจะเป็นเช่นไรต่อไป หนังรัก หลากอารมณ์ ที่เจือไปด้วยเสียงหัวเราะเรื่องนี้ มีคำตอบรอคุณอยู่ และเพื่อพิสูจน์ฝีมือการกำกับฯของ “โน้ต จูเนียร์” ลูกชายของตลกมากความสามารถ “โน้ต เชิญยิ้ม” และการกลับมาของนักแสดงจากภาคแรกที่ได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง เรียกได้ว่าเกือบจะครบเซท ไม่ว่าจะเป็น กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง,เต้-ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์,ค่อม ชวนชื่น,ชมพู่ ก่อนบ่าย และ โน้ต เชิญยิ้ม ที่ยกทีมกันมาร่วมสร้างความสนุกให้กับทุกคนอย่างเต็มที่ รวมไปถึงบทเพลงอันไพเราะจากศิลปินลูกทุ่งชื่อดังอีกมากมาย
Super แหบ แสบ-สะบัด (2551/2008) ท่ามกลางกระแสเพลงเกาหลีมาแรง ค่ายเพลง (ใกล้เจ๊ง) ของเจ๊เง็ก ส่งศิลปินหนุ่มลูกผสม ไทย-เกาหลี ผสมญี่ปุ่น-เยอรมัน ตง ลี เฮ นักร้องหนุ่มผู้เลิศเลอเฟอร์เฟคไปซะหมด หน้าตาหล่อโฮก เสียงร้องมหัศจรรย์ แค่ซิงเกิลแรกก็ขึ้นอันดับหนึ่งทุกสถานี ดังระเบิดไปทั่วประเทศ ความดังของ ตง ลี เฮ เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ เจ๊เง๊ก (เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์) คว้างานเพลง ตง ลี เฮ ขึ้นจาก 2 หนุ่มที่มาออดิชั่น ต้อม (รัฐภูมิ โตคงทรัพย์) หล่อใส สไตล์บอยแบนด์ กับ ตึ๋ง (เกียรติศักดิ์ อุดมนาค) หล่อล่ำ หัวใจบอยแบนด์ (หัวใจบอยแบนด์ แต่หน้าบอยแบน) โดยมี สาลี่ (ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์) เลขาเจ๊เง๊ก ช่วยกันปกปิด โฮะ!! ไม่ใช่ซิ ช่วยกันรักษาภาพลักษณ์ ตง ลี เฮ ให้ Cool นิ่ง มาดเท่ห์ ไม่พูดไม่จา ตึ๋ง ได้พบกับ อิ๋ว (เฟี้ยวฟ้าว สุดสวิงริงโก้) สาวช่างฝันผู้มากด้วยจินตนาการ ผู้ก่อตั้งแฟนคลับ อิ๋ว เป็นแฟนเพลงที่เข้าใจบทเพลง ตง ลี เฮ อย่างลึกซึ้ง มองลึกไปถึงเนื้อใน เห็นคุณค่าเสียงเพลงมากกว่าหน้าตา การได้พบ ได้พูดคุยกับอิ๋ว ทำให้ตึ๋งมีกำลังใจมากขึ้น ฝ่าย ต้อม ก็พบรักกับ แก้ว (มด - คุณัชญา ชัยรัตน์) เด็กฝึกงานผู้มีบุคลิกลึกลับ แต่ต้อมต้องพยายามเก็บอาการไม่ให้แก้วรู้ กระแสนิยมที่แฟน ๆ มีต่อ ตง ลี เฮ ยังนำความเดือดร้อนมาด้วย พี่อ้อย (ศิริพร อยู่ยอด) เหยี่ยวข่าวปาปารัสซี่, ลูซี่ เลเซอร์เจท (จันทร์เพ็ญ คงประกอบ) นักร้องคู่แข่ง ที่ต้องตกเป็นเบอร์สอง แฟนเพลงอีกทั่วประเทศ ทุกสายตาจ้องจับผิด ตง ลี เฮ ต้อม + ตึ๋ง ต้องช่วยกันเอาตัวรอดจากการเจาะข่าว และความรัก ความลับ ของ ต้อม + ตึ๋ง จะปกปิดไว้ได้สักแค่ไหน?!? ความจริงของ ต้อม ตึ๋ง ต้องพิสูจน์ด้วย มองเห็นด้วยสายตา หรือรับฟังด้วย หัวใจ เปิดใจให้กว้าง ร่วมค้นหา ความสนุกของสิ่งที่เกิดมาคู่กัน Super แหบ-แสบ-สะบัด
อีส้ม สมหวัง (2550/2007) สมหวัง ชายหนุ่มที่หลงใหลในการร้องเพลงและใฝ่ฝันว่าจะเห็น ยอดรัก สลักใจนักร้องที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในประเทศไทย สมหวังจึงได้เข้าสมัครที่วงดนตรีของยอดรัก ซึ่งมีหางเครื่องสุดสวยประจำวงคือ ส้ม สมหวังเริ่มจากงานเล็กๆน้อยๆในวง และเลื่อนขั้นมาเป็นหางเครื่องประจำวง โดยมีส้มค่อยช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้ ต่อมาเขาได้รับโอกาสอย่างไม่คาดคิด เป็นโอกาสที่จะทำให้เขาก้าวขึ้นเป็นนักร้องอย่างเต็มตัว
เก๋า..เก๋า (2549/2006) พ.ศ. 2512 กรุงเทพฯ ในยุคที่หนุ่มสาววัยทีนเมามายกับแสงไฟดิสโก้ยามค่ำคืน การปรากฏตัวของวงสตริงเครื่องเป่า ผู้ประกาศตัวเป็นคณะปฎิวัติแห่งเสียงเพลงได้พลิกโฉมหน้าวงการไปชนิดที่ไม่มีใครคิดว่าจะเป็นไปได้ Possible คือวงสตริงคอมโบที่จุดระเบิดความฮิตไปทุกหัวระแหง คอนเสิร์ตของพวกเขามีอานุภาพรุนแรงขนาดปลุกวัยรุ่นให้ลุกจากเตียงเพื่อไปฟังเพลงได้ตั้งแต่ตีสี่ ต๋อย (อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต) นักร้องนำ มีฝีไม้ลายมือในการแปลงเพลงระดับเทพ เพลงฝรั่งไม่ว่าเจ๋งแค่ไหน ต๋อยบิดเป็นเนื้อไทยได้แจ๋วกว่า ฝรั่งร้อง Linda Linda I Love You ต๋อยชงเป็น รินมา รินมา ฉันขอรักเธอเมามาย ฝรั่งแดนซ์ You can ring my bell..ell..ll ต๋อยถอดกางเกงเต้น กาง เกง ลิง ลอย ฟ้า อ้า อ้าา สมาชิกในวงไม่ว่า โบ้ (ปิยะ ศาสตรวาหา) มือกีต้าร์ สอง (จักรพงศ์ สิริริน) มือเบส น๊อต (ยุทธนา ธุวะประดิษฐ์) มือคีย์บอร์ด และ เบ๊ (ธนากร ชินกูล) มือกลอง ต่างสนุกสนานกับชีวิตคนดังนิสัยเสียไปวันๆ Possible ถือมติ ไม่ซ้อม มาสาย เมาเหล้า มั่วคิว และหม้อหญิง โอ้ ชีวิตอะไรมันจะน่าอิจฉาขนาดนี้ พวกเขากำลังจะได้เข้าอัดแผ่นเสียงเพื่อบัญญัติความดังไว้เป็นอมตะ Possible จึงหยิ่งผยองในความเป็นหนึ่งและอารมณ์เสียสุดๆ ที่มีวงน้องใหม่ชื่อ The Impossible ผุดขึ้นมาแย่งความสนใจ กระทั่งวันหนึ่ง Possible ได้รับไมค์เด็กเล่นเป็นของขวัญจากแฟนเพลงลึกลับ ต๋อยและเพื่อนๆ สมาชิกหัวเราะให้กับความคิดบรรเจิดนี้อย่างสนุกสนานและถือมันติดมือขึ้นเวทีไปด้วย แล้วสิ่งมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น ในคอนเสิร์ตเปิดโรงภาพยนตร์พระโขนง ซีเนม่า ไมค์สีชมพูหวานจ๋อยอันนั้นส่งพวกเขาข้ามเวลามาปี 2549 พ.ศ.ที่ดนตรีสตริงคอมโบกลายเป็นไดโนเสาร์ และวง Possible สุดมะ มีค่าเท่ากับวงบ่อจี๊ที่ไม่มีใครรู้จัก กรุงเทพฯ ไม่ใช่ที่ทางของพวกเขาอีกต่อไป Possible ต้องรีบหาทางกลับอดีตด่วนจี๋ และวิธีนั้นมีทางเดียวพวกเขาจะต้องระดมแฟนเพลงมารวมตัวกันเล่นดนตรีเพื่อจุดพลังให้ไมค์ทำงานอีกครั้ง แต่ในเมื่อปัจจุบันเทกนิกการแปลงเพลงอันเอกอุกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ ซ้ำร้าย Possible ยังถูกตราหน้าว่าเป็น The Impossible เวอร์ชั่นแผ่นผีเข้าไปอีก แล้วจะให้ Possible เปิดคอนเสิร์ต มันจะเป็นไปได้เหรอเนี่ย
มนต์รักลูกทุ่ง (2548/2005) บุญเย็น (เอกราช สุวรรณภูมิ) ชนะเลิศการประกวดร้องเพลงประจำปี ลุงชื่น (เทพ โพธิ์งาม), แว่น (ยิ่งยง ยอดบัวงาม) และ บุปผา (อาภาพร นครสวรรค์) ต่างพากันดีใจ บุญเย็นได้เข้าไปร้องเพลงในกรุงเทพ เขามาบอกลา คล้าว (นันทวัฒน์ อาศิรพจนกุล) และ ทองกวาว (ลักขณา วัธนวงส์ศิริ) ทั้งคู่ต่างดีใจกับบุญเย็น คล้าวรักอยู่กับทองกวาว แต่กลัวจะไม่สมหวังเพราะคล้าวจน ที่นาก็จำนองกับ จอม (กรุง ศรีวิไล) แต่ทองกวาวยืนยันในรักมั่น คล้าวสัญญาว่าถ้าขายข้าวได้จะไปหมั้นทองกวาว จอมมาทวงหนี้คล้าว คล้าวไม่มีให้ จอมจึงยึดที่นา ทองกวาวจึงเอาเงินที่มีอยู่มาให้คล้าวใช้หนี้ จอมโกรธที่ยึดที่นาของคล้าวไม่ได้ จึงไปต่อว่า ทองก้อน (ไพโรจน์ ใจสิงห์) และ ทับทิม (ดวงชีวัน โกมลเสน) พ่อแม่ของทองกวาว ทองก้อนและทับทิมจึงส่งทองกวาวไปอยู่กับ ป้าทองคำ (น้ำเงิน บุญหนัก) ที่กรุงเทพ โดยให้บุปผาและ หมึก (ตูมตาม เชิญยิ้ม) ไปดูแล ทองกวาวได้รู้จักกับ ธรรมรักษ์ (โอลิเวอร์ บีเวอร์) หลานของป้าทองคำ ซึ่งป้าทองคำหวังจะให้หลานทั้งคู่แต่งงานกัน เพื่อสมบัติจะได้ไม่ตกเป็นของคนอื่น คล้าวเศร้าโศกเสียใจที่น้ำท่วมทุ่งนาข้าวเสียหาย ได้บุญเย็น ลุงชื่น และพวกคอยปลอบ ลุงชื่นบอกบุญเย็นให้ตามหาทองกวาว บุญเย็นพบทองกวาวที่กรุงเทพและบอกเรื่องคล้าว ทองกวาวขอให้บุญเย็นบอกคล้าวให้ไปสู่ขอ ทองกวาวจะได้กลับบ้านซะที คล้าวดีใจไปยืมเงิน หมู่น้อย (เจี๊ยบ เชิญยิ้ม) ซื้อทองสองสลึงไปหมั้น พ่อแม่ทองกวาวไล่ส่ง เรียกค่าสินสอดสิบหมื่น ธรรมรักษ์เสียการพนัน หวังจะหลอกเอาเงินป้าจึงทำเป็นชอบทองกวาว โดยให้เพื่ออนชื่อ ธีระ (โจอี้ บาซู) หัวหน้าวงดนตรีมากันบุปผา ทั้งหมดเดินทางมาบ้านทองกวาว ด้วยความคิดถึงทองกวาวรีบมาหาคล้าว แต่พบอยู่กับ สายใจ (ไอริน จันยดา) ทำให้ทองกวาวเข้าใจผิด ทองกวาวจึงตกลงหมั้นกับธรรมรักษ์ ทองก้อนดีใจรีบไปป่าวประกาศว่า จะหมั้นลูกสาวด้วยเงินและทองมากมาย บุญเย็นพา ฤทัย (ทอฝัน จิตธาราทิต) เมียของธรรมรักษ์มาบ้านทองกวาว ธรรมรักษ์โกรธมาก บอกฤทัยเป็นนักร้องในวงธีระ ฤทัยแกล้งตีสนิทกับคล้าวเพื่อให้ธรรมรักษ์หึง เรื่องจึงแดงออกมา ป้าทองคำไล่ธรรมรักษ์และเมียกลับไป ข่าวการหมั้นของทองกวาวกับธรรมรักษ์ที่ทองก้อนประกาศไปเข้าหู เสือทุม (ฤทธิ์ ลือชา) เสือทุมจึงวางแผนปล้นแต่ไม่ได้อะไร จึงจับตัวทองกวาวและป้าทองคำไปเรียกค่าไถ่ คล้าวและตำรวจตามไปช่วยไว้ ป้าทองคำเป็นเถ้าแก่สู่ขอทองกวาวให้คล้าว ซึ่งพ่อทองก้อนและแม่ทับทิมไม่กล้าปฏิเสธ ทั้งคู่จึงแต่งงานกัน...
ทวารยังหวานอยู่ (2547/2004) ในปี พ.ศ. 2525 ปีแห่งการสมโภชน์กรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี กรุงเทพฯ สดใส ไร้เดียงสาอยู่กับแฟชั่นสีสันหวานแหวว เสียงเพลงจากวงสตริง และหนังทีวีกำลังภายใน กำลังฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง มือกลองหนุ่ม เบ๊ (กฤษดา สุโกศล แคลปป์) ศิษย์โปรด อาจารย์ตึ่งโป๊ะ (ปราณี กี่บุตร) สำนักกลองเทวดา ที่พยายามฝึกวิชากลองเทวดาให้ถึงขั้นที่ 10 แต่ระหว่างนั้น เขากลับพบว่า ตัวเองตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆ่าคนตาย จนต้องหลบหนีการไล่ล่าของนักสืบมือปราบ ไอ้หูดำ (นิพนธ์ ชัยศิริกุล) ที่มี ซื่อบื้อ (ริชาร์ด ออฟ ไลออน ฮาร์ท) สุนัขดมกลิ่นเป็นผู้ชี้เบาะแส เบ๊พยายามพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองให้ทุกคนรู้ โดยมี ต้น (นันทกา วรวณิชชานันท์) ศิษย์พี่ร่วมสำนักกลองเทวดา คอยให้กำลังใจและช่วยเหลือ จนต้นกับเบ๊เกิดความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง ระหว่างหนีเอาตัวรอด เบ๊ได้พบเจอผู้คน และเรื่องราวพลิกผันมากมาย หลายคนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเบ๊ จนกลายเป็นผู้มีชื่อเสียงในยุคนี้
มนต์เพลงลูกทุ่งเอฟ.เอ็ม. (2545/2002) มนต์เพลงลูกทุ่ง เอฟ.เอ็ม. เป็นภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2545 ผลงานร่วมสร้างของ สหมงคลฟิล์ม และ ลูกทุ่ง เอฟ.เอ็ม. และเป็นผลงานกำกับเรื่องแรกของบัณฑิต ทองดี โดยเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในประวัติศาสตร์ของวงการเพลงลูกทุ่ง และภาพยนตร์ไทย ที่รวบรวมไว้มากที่สุด ตั้งแต่นักร้อง นักแต่งเพลง นักจัดรายการลูกทุ่งเอฟ.เอ็ม. รวมถึงบุคคลที่อยู่ในวงการเพลงลูกทุ่งไทย กว่า 200 ชีวิต มาแสดงในภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน และบทเพลงทั้งที่กำลังได้รับความนิยมในช่วงนั้นและที่เคยได้รับความนิยมก่อนหน้านั้น กว่า 30 เพลง มาใช้ประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ รวมทั้งบทเพลงใหม่ที่แต่งขึ้นโดยเฉพาะอีก 1 เพลง

หน้าที่