สามสาวเจ้าเสน่ห์ (2554/2011) เรื่องราวชีวิตและความรักของ 3 เพื่อนสาว อรณิชา รับบทโดย ตอง-ภัครมัย โปรตระนันท์ , พิมลดา รับบทโดย วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภักดีประสงค์ และ นิศามน รับบทโดย โบวี่-อัฐมา ชีวนิชพันธ์ โดยจู่ ๆ ทั้ง 3 สาว ต่างมีเรื่องราวความรักที่เกิดมาอย่างไม่คาดฝัน เริ่มจาก อรณิชา สาวบุคลิกเปรี้ยว มีความมั่นใจในตัวเอง เจ้าของบริษัทรับจัดงานอีเว้นท์ชื่อดัง Dreamer (ดรีมเมอร์) ที่โปรเจ็คใหญ่ของบริษัทคือการดูแลโปรโมทศิลปินซูปเปอร์สตาร์ชื่อดัง หลินเฟยหลง รับบทโดย เต๊ะ-ศตวรรษ เศรษฐกร ที่มาโปรโมทในประเทศไทย จากความสนิทสนมใกล้ชิดก่อตัวเป็นความผูกพัน จนกลายทำเป็นความรักขึ้นมาโดยที่ทั้งสองไม่รู้ตัว ซึ่งทั้งคู่ก็ไม่อาจปฎิเสธเสียงเรียกร้องของหัวใจตัวเองได้ แต่ระหว่างหน้าที่กับความรัก เขาและเธอต้องเลือกระหว่างหัวใจและความรับผิดชอบ ทำให้ต้องตัดสินใจเลือกทางใดทางหนึ่ง ซึ่งความรักของ หลินเฟยหลง ซุปเปอร์สตาร์ชื่อดังและ อรณิชา จะดำเนินและลงเอยเช่นไร ร่วมลุ้นและส่งกำลังใจให้เขาและเธอได้ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ อรณิชา เท่านั้นที่ต้องตัดสินใจเรื่องความรัก เพราะเมื่อ พิมลดา เจ้าแม่จัดงานแต่งงานเจ้าของ Red Rose (เรด โรด) ที่ต้องมารับจัดงานแต่งงานให้ วันชาติ อดีตแฟนเก่าเมื่อครั้งเรียนมหาวิทยาลัย ที่มาใช้บริการให้ดูแลจัดงานแต่งงานให้กับเขาและ อ้อม ว่าที่เจ้าสาวที่เป็นรักปัจจุบัน ซึ่งเมื่อรักหวานในวันวานได้หวนมาอีกครั้ง ทำให้ วันชาติ คิดถึงอดีตและสับสนเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกับ พิมลดา อีกครั้ง แล้ว อ้อม คือ คนที่ใช่จริงหรือไม่ เหตุการณ์รักสามเศร้าจึงได้เกิดขึ้นแต่จะลงเอยอย่างไร มีเพียง วันชาติ, พิมลดา และ อ้อม เท่านั้นที่จะตอบได้ โดยในด้านของ นิศามน สาวสวย สดใส ร่าเริง ที่มุ่งมั่นตามความฝันอยากจะเป็นนักแสดงให้ได้ เธอจึงตัดสินใจใช้เวลาว่างในช่วงซัมเมอร์ลงเรียนคอร์สแอ๊คติ้ง ซึ่งที่นี่ทำให้เธอได้พบกับ ซิว หนุ่มบ้านนอกที่มาเรียนวิชาประมง ที่ดูแล้วช่างตรงข้ามกับเธอทุกอย่าง แต่ความแตกต่างกลับทำให้เกิดความลงตัวที่หัวใจของหนุ่มสาวคู่นี้ เป็นความรัก ความผูกพัน ที่ลึกซึ้งขึ้นมา จนเมื่อถึงเวลาสิ้นสุดลงของซัมเมอร์แคมป์ครั้งนี้ ความรักของ ซิว และ นิศามน จะยั่งยืน หรือเป็นเพียงความทรงจำที่ดี ในช่วงเวลาอันสั้นที่จะอยู่ในใจของเขาและเธอเท่านั้น มีเพียงเขา 2 คน เท่านั้นที่จะตอบได้

ไต้ฝุ่นสุดซ่า สายฟ้าจอมกวน (2554/2011) เนื่องจากสังคมปัจจุบันเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง บ้านเมืองขาดระบบและระเบียบ มีแต่คนคิดเอาผลประโยชน์ส่วนตน ไม่เกรงกลัวกฎหมาย คนมีอำนาจเอาเปรียบผู้ที่ด้อยกว่า ไม่คำนึงถึงชาติ บ้านเมือง เยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติขาดทิศทางและแนวทางปฏิบัติ แม้แต่ในสถานศึกษาก็เริ่มออกนอกลู่นอกทาง ไม่เคารพครูบาอาจารย์ก่อเรื่องให้กับสังคมไม่เว้นแต่ละวันจนบ้านเมืองระส่ำ ระสาย แต่ด้วยอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องคุ้มครองบ้านเมืองในที่สุดสวรรค์ยังมีตา ส่งคนลงมาปราบคนชั่วในที่สุด... ติดตามต่อได้ใน ไต้ฝุ่นสุดซ่า สายฟ้าจอมกวน

Love Therapy บำบัดรัก บำรุงสุข (2554/2011) ภูมิ (บีม กวี) จิตแพทย์หนุ่ม เปิดคลินิก ให้คำปรึกษาแก่ผู้มีปัญหาทางจิตตลอดเวลาที่ให้คำปรึกษาแก่คนไข้ ภูมิก็พยายามค้นหารักแท้ เพื่อมาเติมเต็มความสุขให้แก่ตัวเอง ไลลา (กิ๊ฟซี่ วนิดา) ผู้มีปัญหาโดนแฟนทิ้งตลอดไม่ว่าจะมีแฟนกี่คนก็ตาม เธอไม่เข้าใจว่าตัวเองมีข้อบกพร้องอะไร ทุกครั้งที่เธอคบใครหรือเลิกกับใครก็จะมาปรึกษาภูมิตลอด ทั้งในฐานะของเพื่อนและคนไข้ของภูมิ โดยเธอไม่รู้ตัวเลยว่า ภูมิมีรักแท้รอมอบให้เธอเพียงผู้เดียว พัฒน์ (แบงค์ อธิกิตติ์) น้องชายต่างแม่กับภูมิที่มีปมอยู่ในใจตลอดว่า พ่อรักภูมิมากกว่าตนและแม่ ซึ่งแม่ของพัฒน์ได้เสียไปแล้ว พัฒน์อยู่กับภูมิและพ่อ (แม่ของภูมิเสียแล้วเช่นกัน พ่อของภูมิจึงแต่งงานใหม่กับแม่ของพัฒน์) พัฒน์เปิดร้านขายดอกไม้ และหลงรัก แก้ว (ฟาง ธนันต์ธรญ์) แต่แก้วหลงรักภูมิ ยิ่งเป็นปมในใจให้แก่พัฒน์ จุดเปลี่ยน สำคัญของเรื่องเกิดขึ้นเมื่อภูมิตัดสินใจสารภาพกับไลลาว่าเค้ารักเธอ ทำให้ไลลาหญิงสาวที่หวาดระแวงและไม่ไว้ใจผู้ชายในเรื่องความรักเป็นทุนเดิม อยู่แล้ว ไลลาจึงถอยห่างและไม่ไว้ใจภูมิเหมือนเช่นเดิม ในขณะเดียวกัน พัฒน์ก็ได้รู้ความจริงจากแก้วหญิงสาวที่ตนหลงรักว่าเธอนั้นรักภูมิ ภูมิจะมีวิธีบำบัดรักบำรุงสุขให้กับตัวเค้าเองและคนรอบข้างอย่างไร เรื่องราวความรักของพวกเค้าทั้ง 4 คน จะลงเอยอย่างไร ติดตามได้ใน ละครบำบัดรักบำรุงสุข

หมวดโอภาส ยอดมือปราบ..คดีพิศวง (2554/2011) จับกุมชายเมาแล้วขับ , รวมแก๊งค์ป้าเล่นป๊อกเด้ง , ตะครุบคนวิ่งราว , ช่วยตามหายายหลงทาง คดีเหล่านี้ล้วนถูกคลี่คลายมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ถ้าคดีที่เกิดขึ้นไม่ใช่คดีธรรมดาอย่างที่เคยเป็น พยานอาจไม่ใช่คนที่มีลมหายใจ ที่เกิดเหตุอาจเคยเป็นแดนอาถรรพ์ของกลาง อาจเป็นสิ่งลี้ลับ หรือกระทั่งคนร้ายอาจเป็นสิ่งเหลือเชื่อที่พิสูจน์ไม่ได้! แล้วใครกัน? ที่จะมาคลี่คลายคดีพิศวงเหล่านั้น ขอต้อนรับการกลับมาอีกครั้งของ หมวดโอภาส (เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) ตำรวจหนุ่มสุดซื่อแต่ไฟแรง แห่งหน่วยงานสอบสวนและสนับสนุนคดีพิเศษ (ASI) ที่ครั้งหนึ่งระหว่างปฏิบัติภารกิจเกิดพลาดท่าล้มหัวฟาดกับศาลเจ้าที่สุด เฮี้ยน ..หลังจากนั้นเขาก็สัมผัสกับเรื่องประหลาด ทั้งมองเห็นวิญญาณ คุยกับกุมารและนอนข้าง ๆ ผีแม่ม่าย พอนานเข้า หมวดของเรารู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องปกติ สิ่งที่เห็นอาจไม่มีอยู่จริง ความกลัวจึงผุดขึ้นสมองพร้อมกับเสียงร้องแต๋วแตกยิ่งกว่ากระจั๊วบินมาเกาะคอ เสียอีก! แต่เพราะคนมักว่ากับว่า ยิ่งกลัวสิ่งใดก็ยิ่งเจอสิ่งนั้น คราวนี้หมวดสุดบื้อของเราจึงต้องเข้าพัวพันกับคดีแปลก ๆ ที่ไม่มีตำรวจคนไหนกล้าลืม เพราะต้องมาเจอกับเรื่องพิศวงชวนให้หลับตาปี๋ หมวดโอภาส จึงต้องทำตาเขม็ง เกร็งขาไม่ให้สั่น กลั้นปัสสาวะไม่ให้เล็ด เพื่อปิดคดีให้สำเร็จตามคำสั่งของสารวัตรที่มอบคดีผี ๆ ให้เขาทำเป็นประจำ ทำคดีผีว่าเสียวไส้ พอต้องมาไขคดีหัวใจ หมวดโอภาส ถึงกับร้องปวดตับ เพราะ บัวขวัญ (หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ) สาวมาดเท่ ทันสมัย ที่ไม่เชื่อเรื่องงมงาย แต่ต้องจำใจมาทำรายการเคเบิ้ลที่ผิดกับตัวตน พ่วงด้วย แก้ม (ต่อพงศ์ กุดอ่อน) ตากล้องที่คิดว่าตัวเองมีญาณพิเศษ บ้าคลั่งไสยศาสตร์ และอยากเจอผีเป็นที่สุด ซึ่งทั้งสองดันตกกระไดพลายโจนต้องมาถ่ายทำการสืบคดีของ หมวดโอภาส จึงต้องมาเจอกับผีตัวเป็น ๆ และหลอกกันจริง ๆ และ งานนี้ยังยากกว่าที่คิดเมื่อมีหมวด จอนนี่ (เผือก-พงศธร จงวิลาส) ตำรวจชื่อฝรั่งแต่ดันหน้าตี๋แถมชอบหลีสาว ๆ และเป็นผู้ที่มีความเชื่อทุกอย่างตรงข้ามกับ หมวดโอภาส หมวดจอนนี่จึงมักสรุปคดีโดยอาศัยหลักการและหลักฐาน ขณะที่ หมวดโอภาส มีผู้ช่วยเป็นไสยศาสตร์ล้วน ๆ จึงไม่ต้องแปลกใจที่บัวขวัญจะปลาบปลื้มหมวดจอนนี่และร้องยี้ใส่หมวดจอมบื้อของเรา มาร่วมคลี่คลายคดีพิศวงไปกับ หมวดโอภาส ที่แต่ละคดีทั้งวุ่น ทั้งยุ่งไปด้วยเหล่าผี ๆ มากหน้าหลายตา จนทำให้คุณต้องฮาจนขนลุกซู่ในทีวีซีรี่ส์ หมวดโอภาส ยอดมือปราบคดีพิศวง

โลมากล้าท้าฝัน (2554/2011) ซี (หนูนา-หนึ่งธิดา) นักศึกษาปี 1 ตกกระไดพลอยโจน ต้องดูแล ชมรมโลมา นักศึกษาที่ชอบว่ายน้ำ แต่ไม่มีปัญญาไปเข้าชมรมกีฬาเป็นเรื่องเป็นราว ซีเข้าไปที่ห้องพักของชมรมโลมา ก็เจอ เช (โทนี่ รากแก่น) รุ่นพี่ปี 2 ที่วัน ๆ ไม่ทำอะไร และยังมีสมาชิกกระจอกไม่เอาไหนอีก 2 คน ที่ลงสระว่ายน้ำไม่ได้ เพราะผู้ที่ครองสระคือ ชมรมว่ายน้ำ อันเกรียงไกรของมหาวิทยาลัย ซีเริ่มได้กลิ่นความยุ่งยากวุ่นวายที่จะตามมา ในการรับสมัครและคัดเลือกสมาชิกใหม่ของชมรมว่ายน้ำ มี เคนจิ (เดี่ยว-สุริยนต์) รุ่นพี่ปี 3 หัวหน้าชมรมเป็นคนดูแล มีเฟรชชี่ที่น่าสนใจคือ เมษ (เม้าส์ บี-โอ-วาย), เท็น (เจมส์ บี-โอ-วาย), อาหยวน (เวฟ คูเปยจง) ระหว่างการคัดเลือกทั้ง 3 คนถูกไล่ออก เพราะโดนข้อหาหมั่นไส้จากเคนจิ เลยจำต้องเข้าชมรมโลมาตามคำชวนกึ่งขู่ของซี ในการแข่งกีฬาเฟรชชี่ ชมรมโลมาที่มักเป็นตัวตลกให้ชมรมว่ายน้ำหัวเราะเยาะมาทุกปี แต่ปีนี้กลับสร้างเซอร์ไพรซ์ ด้วยการแข่งที่สูสีมือเก่ง ๆ ของชมรมว่ายน้ำได้ เคนจิเสียหน้ามากจึงพยายามบีบชมรมโลมาให้ยุบชมรมให้ได้ แม้ว่า อาวุธ (วู้ดดี้ นักว่ายน้ำทีมชาติไทย) โค้ชของชมรมว่ายน้ำ กับ อานา (มายด์-นภศศิ) น้องสาวจะไม่เห็นด้วย เคนจิวิ่งเต้นจนทางมหาวิทยาลัยจะยุบชมรมโลมา ซีดิ้นรนทุกทางจนได้พบประวัติการก่อตั้งชมรมโลมาเมื่อ 30 ปีที่แล้ว โดยผู้ก่อตั้งกลุ่มก็คือผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยนั่นเอง ซีจึงเอาเงื่อนไขนี้ไปต่อรองกับทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยชุดปัจจุบันขอไม่ให้ยุบชมรมโลมา แลกกับการพิสูจน์ตัวสร้างชื่อเสียงให้มหาวิทยาลัย ด้วยการแข่งขันในรายการที่ชมรมว่ายน้ำไม่ลงแข่ง เพราะเป็นการแข่งสารพัดกลโกงและทำร้ายกันปางตาย เมษสืบเรื่องของเชจนรู้ว่าที่รุ่นพี่ดูเฉื่อยแฉะ เป็นเพราะสมัยที่เรียนอยู่อเมริกาเชถูกแฟนคนไทยทิ้งไปมีแฟนฝรั่ง เลยตามไปอัดฝรั่งจนเละ เรื่องถึงตำรวจเลยโดนไล่กลับเมืองไทย และไม่ยอมลงสระอีกเลย ขณะเดียวกันเมษกำลังมีปัญหาที่บ้านอย่างหนัก เมื่อต้องหาเงินก้อนใหญ่ไปรักษาพ่อ เมษตัดสินใจตระเวณท้าพนันแข่งว่ายน้ำแบบใต้ดิน ในการแข่งมีทั้งแพ้ ทั้งชนะ โดนโกง กระทั่งมีเรื่องชกต่อยเมษโดนรุมอัด คนที่เข้ามาช่วยก็คือรุ่นพี่เช เมื่อ เชได้ฟังเรื่องเมษก็รู้สึกชอบความเป็นลูกผู้ชาย รับผิดชอบชีวิตตัวเองและครอบครัวทั้งที่อายุน้อยกว่า ทั้งสองคนเริ่มสนิทกัน เชเริ่มคิดที่จะกลับมาลงสระอีกครั้ง เคนจิตามมาหาเรื่องเมษใช้วิชามารออกกฎให้ชมรมโลมาใช้สระได้หลังสองทุ่มเท่านั้น ยังดีที่มีคนลึกลับมาสอนเทคนิคว่ายน้ำให้ คนลึกลับก็คือโค้ชอาวุธเพราะชื่นชมสปิริตของสมาชิกชมรมโลมา ต่อมาอาวุธโดนเคนจิเพ่งเล็ง จึงต้องให้อานาปลอมเป็นผู้ชายมาสอนแทน แฟง (ออม-สุชารัตน์) สาวน้อยที่มีปัญหาเรื่องเอ็นร้อยหวาย แฟงถูกชักชวนให้มาเข้าชมรมโลมา แม้จะไม่สามารถว่ายน้ำได้ แต่ก็มาช่วยซีดูแลงานจัดการ เคนจิปั้นเรื่องใส่ร้ายเมษข้อหาอุกฉกรรจ์ มหาวิทยาลัยจึงตั้งกรรมการสอบสวน ชมรมโลมาตกอยู่ในภาวะคับขัน มีการท้าให้ว่ายแข่งขันเป็นการพิสูจน์ระหว่างชมรมโลมากับชมรมว่ายน้ำ ใครแพ้ก็ยุบไปเลย อานามาคุยกับซีเพราะทนดูสภาพชมรมโลมาเป็นแบบนี้ไม่ไหว บอกให้พากลุ่มไปเก็บตัว แต่เชไม่ยอมไป เพราะเรื่องแฟงที่หายไป หลังเชบอกว่ารู้สึกกับแฟงเหมือนน้องสาว เชรู้สึกผิดกลับมาเฉื่อยแฉะเหมือนเดิม เมื่อ ซี,เมษ,เท็น มาตามที่อานาแนะนำ ทุกคนเห็นโลมาไทยสีเทาดำหลายตัวกำลังเรียนรู้ เพื่อเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพื่อผลัดสีกลายเป็นสีขาว และขาวอมชมพูในที่สุด ทุกคนในกลุ่มมองหน้ากัน สายตาบ่งบอกว่า รู้แล้ว...ทำไมผู้ก่อตั้ง จึงตั้งชื่อชมรมโลมา ตลอดเวลาการเก็บตัวซ้อมเมษพยายามศึกษาเพื่อเข้าถึงความเป็นโลมา ฝึกฝนทักษะการว่ายน้ำแบบโลมา เชทะเลาะกับซีอย่างหนัก และโดนซีดูถูกอย่างถึงที่สุด ตั้งแต่วันนั้นเชโล๋ยโท้ย ก็ตั้งเป้าจะกลับมาเป็นเชผู้เตะตูดฉลามคนเดิม จึงซ้อมหนักทุกวัน ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นแผนหาเรื่องของซีที่ต้องการให้เชกลับมาเป็นคนเดิม เมื่อเมษเห็นซีใส่ใจเชมากขึ้นถึงขั้นยอมทะเลาะด้วย เมษก็เริ่มรู้สึกเจ็บขึ้นมา เมษฝึกท่าโลมาให้เช ส่วนเชก็บอกเคล็ดลับที่มาของฉายาเชผู้เตะตูดฉลาม ทั้งสองแลกเปลี่ยนทักษะกัน และตระเวณไปขอท้าแข่งว่ายน้ำ กับชมรมว่ายน้ำทุกมหาวิทยาลัย เพื่อพัฒนาทักษะ โดยมีซีและชมรมโลมาตามไปดู ซีเริ่มสับสนว่าชายหนุ่มสองคนในสระ เธอเชียร์ใครกันแน่??? ชมรมโลมาเกือบมาแข่งไม่ทัน เพราะเจอแผนสกปรกของเคนจิ และกรรมการกำลังจะตัดสิทธิ แต่แล้ว 4 หนุ่ม เช,เมษ,เท็น,อาหยวน ก็โผล่มาพร้อมลงแข่ง อานาบอกเคล็ดสุดท้ายคือ โลมาไม่เคยอยู่ตัวเดียว โลมาว่ายไปมาเป็นฝูง ชาวชมรมโลมาจะเข้าใจ และสามารถกอบกู้ศักดิ์ศรีของชมรมคืนมาได้หรือไม่ และเรื่องราวความรักระหว่าง เช-ซี-เมษ จะลงเอยอย่างไร ติดตามชมและเชียร์ได้ใน ละครโลมากล้าท้าฝัน

วุ่นนักรักข้างตลาด (2553/2010) นิ พัท (อธิกิตติ์ พริ้งพร้อม) ลูกชายของ คุณนายดุจดาว (เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์) เจ้าของตลาดที่ขึ้นชื่อในเรื่องความเค็ม เป็นที่หมายปองของสาว ๆ เพราะนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อนาคตไกล นิพัทหมั้นกับ มณีริสา(มนัญญา ลิ้มเสถียร) ลูกสาวเสี่ยเล้ง (จิรศักดิ์ ปิ่นสุวรรณ) นักธุรกิจห้างสรรพสินค้า ตามความต้องการของคุณนายดุจดาว ซึ่งมณีริสาเองก็มีใจให้นิพัท เธอเรียนบริหารธุรกิจปีสุดท้าย โดยมี สรกฤต (วิวิศน์ บวรกีรติขจร) เป็นเพื่อนสนิท แพรวา หรือแพร (ศุภรดา เต็มปรีชา) สาวน้อยนักฝัน ที่มักคิดเสมอว่าชีวิตคงจะเหมือนในละครหรือนิยาย และเฝ้ารอว่าจะมีชายในฝันผู้สูงศักดิ์มาพบรักกับสาวน้อยลูกแม่ค้าอย่างเธอ ติดตามต่อได้ใน วุ่นนักรักข้างตลาด

ช็อกโกแลต 5 ฤดู (2553/2010) ฤดูร้อน ฝุ่น (น้ำชา ชีรณัฐ ยูสานนท์) สาวเท่ ที่รักการทำขนมทุกอย่างที่เป็นช็อกโกแลตสุดหัวใจ กำลังออกแบบตกแต่ง เพื่อเปิดร้านช็อกโกแลต กับแฟนหนุ่มหล่อแสนดี เป้ (ฌอห์ณ จินดาโชติ) ทั้งสองตกหลุมรักกัน เพราะช็อกโกแลต ขณะที่ ฝุ่น กำลังดีใจใกล้เวลาร้านเปิด กลับถูก เป้ บอกเลิกแบบฟ้าผ่า ห่างไปไม่กี่ร้อยเมตร ตวัด (แดน วรเวช ดานุวงศ์) หนุ่มเจ้าเสน่ห์ วัยเบญจเพส กำลังทะเล้นแหย่แฟนสาว ทิชา (เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ) ที่มาบอกเลิก ตวัด เป็นครั้งที่ร้อยพอดี เก้าสิบเก้าครั้งก่อนหน้านี้ ทิชา ใจอ่อนทุกครั้ง ที่ ตวัด ทำทะเล้นใส่ แต่ครั้งนี้ ทิชา พูดจริง ทำจริง เพราะทนพฤติกรรมเจ้าสำราญต่อไปไม่ไหว ฝุ่น กลับไปอยู่บ้าน วัน ๆ ได้แต่ลงโทษนั่งด่าตัวเอง จนวันหนึ่งคิดหาเหตุผลด่าตัวเองไม่เจอแล้ว คิดได้ว่าตัวเองไม่ผิดอะไร เลยรวบรวมเรี่ยวแรง กลับไปง้อ เป้ ด้าน ตวัด เองก็ดี๊ด๊าได้ไม่นาน เริ่มเห็นคุณค่าของ ทิชา เลยตั้งใจปรับปรุงตัวใหม่เพื่อไปง้อ ทิชา ระหว่างนั้น เป้ ที่แม้จะเป็นฝ่ายบอกเลิก แต่ก็เจ็บไม่น้อย และโชคชะตาเป็นใจให้ เป้ ได้เจอกับ ทิชา เพื่อนสมัยมัธยมที่มาขอสมัครงานเป็นพนักงานคนแรกและคนเดียวของร้าน ทั้งคู่ต้องทำงานใกล้ชิดกัน แม้ว่าจะยังไม่พร้อมสำหรับรักครั้งใหม่ แต่มันก็มาแบบไม่รู้ตัว ฝุ่น เตรียมใจมาง้อเต็มที่ แต่กลับเจอ เป้ อยู่กับ ทิชา ที่ดูสนิทสนมกันมาก ทำเอา ฝุ่น จี๊ดจัดจนกลายเป็นแค้น บอกตัวเองว่าจะทำทุกอย่างเพื่อเอาแฟนคืนมา ส่วน ตวัด ก็เตรียมตัวมาขอคืนดีกับ ทิชา แต่ต้องหน้าหงายกลับไป เพราะ ทิชา ไม่ยอมคืนดี จึงครุ่นคิดหาทางให้ ทิชา กลับมารักเขาอีกครั้ง ทั้งที่ ฝุ่น วางแผนแกล้ง ทิชา เกือบสำเร็จ แต่ ตวัด ที่กำลังแกล้ง เป้ ก็เข้ามาขัดจังหวะแบบไม่ตั้งใจ ทำให้ไม่ถูกกันอย่างแรง จนทั้งคู่ต่างรู้ว่ามีจุดประสงค์เดียวกัน คือสร้างความร้าวฉาน ระหว่าง ทิชา และ เป้ จึงหันมารวมการเฉพาะกิจ แต่อะไรก็ดูไม่ง่ายอย่างที่คิด ฤดูฝน ร้านช็อกโกแลตของ เป้ ถูกแกล้ง ลูกค้าหาย ทำท่าจะเจ๊ง แต่ดูเหมือนความสัมพันธ์ของ เป้ กับ ทิชา กลับยิ่งแข็งแรง ทั้งคู่ให้กำลังใจกันและกัน จนกลายเป็นความรัก และความรักก็เป็นแรงบันดาลใจให้ทั้งคู่ช่วยกันสร้างสรรค์เมนูขนมช็อกโกแลตใหม่ ๆ ออกมา ทำให้ร้ายขายดี ส่วน ตวัด และ ฝุ่น ที่ร่วมมือร่วมใจกันวางแผน นานวันเข้าก็เกิดความรู้สึกบางอย่างผลิดอกในใจทั้งคู่แบบไม่รู้ตัว และในที่สุดทั้งคู่สามารถทำให้ เป้ กับ ทิชา เลิกรากัน และกลับไปเป็นแฟนสำเร็จ ฤดูหนาว แต่ที่ ฝุ่น กับ ตวัด ไม่รู้ก็คือ หนึ่งเดือนก่อนหน้านั้น ทิชา กับ เป้ รู้ความจริงว่าโดนป่วนจากแฟนเก่า จึงคุยกัน และต่างยอมรับว่ามีถ่านไฟเก่าของแต่ละคนอยู่ในใจลึก ๆ ทิชา จึงวางแผนเพื่อคนทั้งสี่คน โดยการกลับไปคืนดีกันเพื่อพิสูจน์ใจทั้ง ทิชา และ เป้ ว่าสามารถกลบถ่านไฟเก่าในใจให้มอดได้หรือไม่ ฤดูเหงา ทั้งสองคู่ต่างอยู่กันแบบฝืด ๆ ฝุ่น กับ ตวัด ไม่ยอมรับความจริงว่ารักครั้งเก่ามันสต๊าฟไปแล้ว ทิชา และ เป้ ต่างคิดถึงกัน ทั้งคู่กลบถ่านไฟเก่าในใจมอดไปได้แล้ว และตัดสินใจจะกลับไปหากัน แต่จะแน่ใจได้หรือว่ารัก และร้านจะราบรื่น เพราะยังมี ฝุ่น กับ ตวัด อยู่ ฤดูรัก แผนการ...ดีดรัก....ตี....กลับของ ทิชา และ เป้ จึงเกิดขึ้น คือทำทุกวิถีทางให้ ฝุ่น กับ ตวัด ลงเอยก่อนวันวาเลนไทน์ แต่แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว เพราะการจะจับยัยตัวร้ายกับยอดกะล่อนมาดรองกันไม่ธรรมดาแน่ ๆ ตามลุ้น ตามชม ตามเชียร์ รักหวาน ๆ วุ่น ๆ ของทั้ง 2 คู่ได้ใน ละครช็อกโกแลต 5 ฤดู ได้ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 20.40-21.30 น.ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี ละครช็อกโกแลต 5 ฤดู เริ่มออกอากาศครั้งแรก วันเสาร์ที่ 20 พ.ย. 2553

บริษัทสร้างสุข (2553/2010) แทน (เจ เจตริน) และ พิม(นิโคล เทริโอ) คู่สามีภรรยาที่แต่งงานกันมา 6 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คนคือ น้องนาเดีย (น้องลิซซี่) เด็กหญิงวัย 4 ขวบ ผู้น่ารักพอๆกับน่าหมั่นไส้ เนื่องจากนาเดียรู้ตัวว่าเรทติ้งดี จึงเอาแต่ใจพอประมาณ จากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ที่ถูกอิมพอร์ตตรงจากอเมริกามาสั่นสะเทือนเศรษฐกิจไทย กระหน่ำซ้ำด้วยการเล่นกีฬาสีในประเทศ ทำให้ปัญหาที่สาหัสอยู่แล้วกลายเป็นสาหัสมาก แทนถูกให้ออกจากงาน กลายเป็นคนตกงานโดยไม่ได้ตั้งใจ เนื่องมาจากการปรับโครงสร้างองค์กร ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายในบริษัท ส่วนพิมแม่บ้านมืออาชีพ ที่ฝันอยากเป็นนักเขียน แต่ความที่พิมไม่ค่อยมีเวลาให้กับการเขียนมากนัก เธอจึงเป็นได้แค่นักฝันหรือเป็นได้แค่นักอยากเขียนมาตลอด แต่ความฝันยังไม่จางหาย ถึงไม่ได้ตีพิมพ์หนังออกมาเป็นเล่มก็เขียนลงเว็บบล็อกแทน ตะวัน (ตี๋ วิวิศน์) น้องชายคนเดียวของแทน ที่เพิ่งเรียนจบได้ยุยงให้แทนตั้งบริษัทเป็นของตัวเอง เป็นเจ้านายของตัวเอง โดยตะวันอาสาลงแรงช่วยอย่างเต็มที่ (จริงๆคือตะวันหางานไม่ได้) ตะวันรู้ดีว่าพี่ชายมีความคิดสร้างสรรค์มาก มากขนาดที่หลายคนบอกว่าเพี้ยน สำหรับเขาแล้ว พี่ชายไม่ได้เพี้ยน แต่บ้า จึงสนับสนุนพี่ชายให้ทำธุรกิจที่แตกต่าง ด้วยการหันมาออกแบบสร้างความสุขให้กับคนในสังคม ความคิดเปิดบริษัทดังกล่าวได้รับการเห็นดีเห็นงามจากแทนและพิมอย่างง่าย ดาย แทนจึงเปิดบริษัท สร้างสุข ไม่จำกัด ขึ้น เขาหวังว่าบริษัทแห่งนี้จะสามารถสร้างรอยยิ้มให้เกิดขึ้นในสังคม แม้จะเป็นรอยยิ้มเล็กๆของคนไม่กี่คน พิมวาดหวังไว้ว่าคนไม่กี่คนที่ได้รับความสุขไปนั้นจะสามารถไปสร้างความสุข ให้กับคนรอบข้างต่อกันไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด

ไฟอมตะ (2553/2010) อาทิตย์เกือบจะกลายเป็นฆาตกรปลิดชีวิตบิดาบังเกิดเกล้า ด้วยเหตุที่พ่อบันดาลโทสะใช้ปืนยิงหัววิฑิต น้องคนที่สามของเขา แม้ว่าแม่จะบอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเวรกรรมของแม่ แต่สำหรับอาทิตย์แล้วมันไม่ใช่ เรื่องราววุ่นวาย ปัญหาร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นในครอบครัว มันเกิดขึ้นเพราะพ่อเพียงคนเดียว พ่อไม่เคยรู้จักคำว่าพอ มีเมียเล็กเมียน้อยนับไม่ถ้วน พ่อทะเลาะกับแม่ และเมื่อโกรธก็จะเฆี่ยนตีลูกจนปางตาย หากไม่คิดถึงแม่ผู้เป็นที่รักยิ่ง ไม่ห่วงว่าใครจะดูแลน้อง ๆ แล้วล่ะก็ อาทิตย์คงต้องก่อกรรมอันใหญ่หลวง สร้างตราบาปอันฝังลึกที่กี่ปีกี่ชาติก็ไม่มีวันลบเลือนได้....... ย้อนไปในวันที่เด็กชายฟ้งลืมตาดูโลก ที่กาญจนบุรี สร้างความตื่นเต้นดีใจให้แก่พ่อแม่ที่ได้ลูกคนแรกเป็นผู้ชาย ปู่ผูกดวงให้พร้อมทำนายว่า ในอนาคตฟ้งจะเป็นคนเก่ง มีบุญวาสนาทำให้ตระกูลเจริญรุ่งเรือง ครอบครัวคนจีนมักจะสอนให้ลูกทำงานตั้งแต่เด็ก ๆ ฟ้งจึงมีหน้าที่ดูแลน้อง ๆ ที่คลานตามกันออกมาทุกปี แถมยังต้องทำงานบ้าน ช่วยแม่นึ่งปลาทู ทำความสะอาดปลาเค็ม เพื่อเอาไปขายในตลาด พ่อเองก็สอนให้เขารู้จักจัดสินค้า ขายของที่ร้านหน้าบ้าน แม้จะต้องทำงานหนัก แต่ฟ้งก็ไม่รู้จักคำว่าเหนื่อย คงเป็นเพราะความรักที่พ่อแม่ ปู่ย่า ตายายและญาติ ๆ มีให้อย่างเปี่ยมล้นนั่นเอง ฟ้งอยากไปโรงเรียน แต่พ่อก็ไม่เห็นด้วย เพราะเกรงว่าจะไม่มีใครช่วยทำงาน แม่จึงช่วยพูดจนพ่อก็ใจอ่อน แต่มีข้อแม้ว่าฟ้งต้องทำหน้าที่ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ฟ้งดีใจมาก เขาทำงานอย่างขยันขันแข็งตามที่รับปากไว้ ช่วยเตรียมของ ขายสินค้า แถมยังต้องเลี้ยงดูน้อง ๆ ที่กำลังอยู่ในวัยซุกซน ขนาดวิฑิตหนีโรงเรียนแล้วโดนพ่อตี พี่ใหญ่อย่างฟ้งก็เข้ามาปลอบ สอนน้องให้รู้จักรักการเรียน และพาน้องกลับไปส่งที่โรงเรียนประจำ วันตรุษจีน ฟ้งได้เงินแต๊ะเอีย 40 บาท ฟ้งเอาเงินไปฝากแม่ แต่วันที่ไปขอเงินมาซื้อขนมให้น้อง แม่กลับบอกว่าเงินหมดแล้ว แถมยังบอกว่าเงินนั่นก็คือเงินที่แม่ให้ฟ้งกินขนมอยู่ทุกวันนั่นเอง ฟ้งร้องไห้ผิดหวังเสียใจเหมือนฟ้าดินถล่มทลาย เมื่อไม่มีเงิน ฟ้งจึงแอบขโมยเงินย่าที่ซ่อนไว้ใต้ที่นอนไปซื้อขนมให้น้อง ๆ กิน พ่อรู้เข้าก็ดุด่าเฆี่ยนตีฟ้งอย่างสาหัส ฟ้งร้องไห้อย่างเจ็บปวด ทำไมพ่อจึงลงโทษเหมือนเขาไม่ใช่ลูก ภาพความรักที่พ่อเคยมีให้ในอดีต ภาพที่พ่อโอบอุ้มเล่นหัว ภาพที่พ่อพร่ำสอนในไร่ หรือแม้แต่ภาพที่พ่อเอาเขาซ้อนท้ายรถเครื่องไปดูหนังกลางแปลง ภาพความอบอุ่นเหล่านั้นมันเลือนหายไปหมดในทันที......... ตรุษจีนเวียนมาถึงในปีต่อมา ฟ้งไม่ไว้ใจแม่อีกแล้ว เขานำเงินแต๊ะเอียไปฝากธนาคารใกล้ ๆ บ้าน มันปลอดภัยที่สุดแถมยังได้ดอกเบี้ยอีกด้วย ฟ้งกอดสมุดเงินฝากเล่มแรกในชีวิตอย่างมีความสุข และตัวเลขเงินฝากก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อป้าเฮียงย้ายเข้าไปกรุงเทพฯ แล้วยกอุปกรณ์การทำถั่วคั่วให้ ย่าและฟ้งช่วยกันทำถั่วคั่วอย่างแข็งขัน ฟ้งนำถั่วคั่วไปขายที่ลานหนังกลางแปลง เสริมด้วยการขายหนังสือพิมพ์เอาไว้ปูนั่งดูหนัง ฟ้งจึงมีเงินเก็บเพิ่มมากขึ้น เมื่ออายุสิบสอง ฟ้งต้องเข้าไปช่วยพ่อทำไร่ คอยคุมคนงานตัดอ้อย ฟ้งมีน้ำใจให้คนงานเสมอ เขามักจะแอบเอากับข้าวของแห้งในครัวไปแบ่งปันให้คนงานอยู่บ่อย ๆ บางคราวฟ้งก็ต้องขับรถไถเอง แต่ความที่ขับรถไม่เก่งนัก ทำให้วันหนึ่งฟ้งขับรถไถไปครูดกับรถขนอ้อย พ่อโกรธมากใช้กระบอกไฟฉายอันใหญ่ขว้างใส่ฟ้ง กระบอกไฟฉายพุ่งเข้าใส่ขาของฟ้งเต็มแรง ฟ้งทั้งเจ็บปวด และคับแค้นใจ ทำไมพ่อต้องอารมณ์ร้ายขนาดนี้ ถ้ากระบอกไฟฉายมันพุ่งโดนหัวของเขา อะไรจะเกิดขึ้น นอกจากพ่อจะอารมณ์ร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ พ่อยังเจ้าชู้ไม่เลือกหน้า พี่เลี้ยงและสาวใช้ในบ้านคนแล้วคนเล่าต่างก็ตกเป็นเมียของพ่อ พ่อทะเลาะกับแม่ไว้เว้นแต่ละวัน และพ่อก็มักจะระบายอารมณ์ด้วยการเฆี่ยนตีฟ้งแทน แต่ฟ้งก็ไม่เคยปริปากบ่น อะไรที่ทำให้พ่อแม่สบายใจ ทำให้น้อง ๆ มีความสุข ฟ้งจะรีบกุลีกุจอทำให้ แม้งานจะหนัก จะหิว จะเหนื่อยแสนเหนื่อยแค่ไหนก็ตาม เมื่อเรียนจบมัธยมต้น ฟ้งก็เปลี่ยนชื่อเป็น อาทิตย์ เพื่อเตรียมสอบเข้าเตรียมทหาร แต่พอเห็นไถ่ลูกชายป้าเฮียง กลับจากไต้หวันมาเยี่ยมบ้าน ชุดเครื่องแบบนักเรียนของไถ่ดูโก้ สร้างแรงบันดาลใจให้อาทิตย์ไม่น้อย และพ่อเองก็มีความคิดจะให้ลูกชายคนโตมีความรู้มาช่วยกิจการ พ่อจึงตัดสินใจส่งอาทิตย์ไปเรียนที่ไต้หวันบ้าง นั่นจึงเป็นจุดหักเหของชีวิตที่ฟ้งยินดียิ่ง เพราะได้ออกไปจากสภาพซ้ำซากจำเจที่ทำร้ายจิตใจอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ไปสู่การผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ที่ ไต้หวัน ที่นั่น อาทิตย์ต้องเรียนภาษาจีน ปรับตัวกับการอยู่คนเดียว ต้องต่อสู้ อดทน และที่นั่น เขายังได้พบกับ..เคลลี่ เขาพบเธอครั้งแรกที่โต๊ะปิงปอง เคลลี่สวยน่ารัก ไม่ถือตัว มีน้ำใจไมตรี และคอยช่วยเหลือคนต่างถิ่นอย่างอาทิตย์ เคลลี่พาอาทิตย์ไปเที่ยวตลาด ไปเที่ยววัดในวันตรุษจีน ชวนกันขี่จักรยานชมธรรมชาติ ความประทับใจจึงเกิดขึ้น และกลายเป็นความรักทีละเล็กละน้อย เคลลี่เป็นรักแรก และเป็นผู้หญิงคนเดียวที่อาทิตย์ตั้งปณิธานว่าจะแต่งงานด้วย อาทิตย์สอบเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน เขาเติบโตขึ้นเป็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ กำยำ มีเสน่ห์ไม่น้อย อาทิตย์เล่นกีฬาเก่ง เขาได้เป็นนักกีฬาเหรียญทอง และก็มีเคลลี่อยู่ชิดใกล้ แต่อาทิตย์กลับยังมีความเป็นห่วง คิดถึงแม่ และน้อง ๆ เพราะน้อง ๆ เขียนจดหมายมาเล่าว่า ที่บ้านของเขานั้นยังคงขาดความอบอุ่นอยู่เช่นเดิม พ่ออารมณ์ร้ายมากขึ้น ใช้งานและลงโทษน้อง ๆ อย่างหนัก แม่ก็ยังบ่นด่าทะเลาะกับพ่อเป็นประจำ เมื่อจากบ้านไป 3 ปี อาทิตย์จึงกลับมาเยี่ยมบ้าน และได้พบกับเหตุการณ์เดิม ๆ พ่อทะเลาะกับแม่เรื่องผู้หญิงอื่น อาทิตย์ทะเลาะกับพ่ออย่างรุนแรง และเมื่อพ่อเริ่มใช้กำลังทำร้ายเขา อาทิตย์ก็จำต้องตอบโต้ด้วยการชกพ่อเป็นครั้งแรก แต่แล้วเขาเองกลับพลาดท่า กลายเป็นกระสอบทรายให้พ่อถลุง สายใยพ่อลูกจึงขาดผึง เขาจึงจำใจลาพ่อด้วยน้ำตา และตั้งใจว่าจะไม่กลับมาบ้านนี้อีก และนับจากนี้ พ่อจะไม่มีอิทธิพลต่อชีวิตเขาอีกต่อไป เขาต้องกลับไปเรียนต่อและต้องพึ่งตนเอง แม่เอาเครื่องประดับมาให้อาทิตย์ไปขายเพื่อเป็นค่ากินอยู่และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อาทิตย์จึงเกิดความคิดที่จะทำธุรกิจเล็ก ๆ ขึ้น เขาร่วมหุ้นกับจิตรกร เพื่อนคนไทยที่เรียนด้วยกัน ช่วยกันกว้านซื้อเครื่องประดับสวย ๆ จากโรงรับจำนำ แล้วเอาไปขายที่ไต้หวัน กิจการของเขาไปได้สวย มีกำไรงาม อาทิตย์กลับเมืองไทยอีกหลายครั้งในช่วงปิดเทอม เขาติดต่อร้านค้าหลายแห่ง เพื่อสั่งซื้อสินค้าจากไต้หวันมาขายในเมืองไทย แม้จะเหน็ดเหนื่อยที่ต้องขึ้นรถเมล์ เดินท่อม ๆ ทั้งวัน แต่อาทิตย์ก็ไม่ย่อท้อ เพราะเขาตั้งใจจะหาเงินเป็นทุนไปเรียนต่อปริญญาโทที่แคนาดา อาทิตย์นำจักรยานเก่า ๆ ที่รุ่นพี่ที่เรียนจบทิ้งไว้มาซ่อมแซม แล้วขายให้แก่นักศึกษาใหม่ เขาเก็บเงินได้จนซื้อมอเตอร์ไซค์ได้คันหนึ่ง แต่ก็โดนโกง เมื่อนายเฉินเหลยเจ้าของห้องเช่าขอยืมเงิน โดยหลอกให้อาทิตย์นำรถไปจำนำ สุดท้ายเจ้าของบ้านก็หายตัวไป มาสืบรู้ภายหลังว่าเป็นนักพนันตัวยง แถมยังไม่ใช่เจ้าของบ้านที่แท้จริงอีกด้วย อาทิตย์เจ็บใจเป็นที่สุด เสียเงินไม่เท่าเสียรู้คน เมื่อเรียนจบ พ่อก็เรียกให้เขาไปเป็นผู้จัดการโรงงานอาหารสัตว์ที่พ่อเปิดใหม่ ด้วยความรัก ความห่วงใยแม่ เขาจึงตัดสินใจกลับเข้าบ้านและทำงานให้พ่อ แต่แล้วความขัดแย้งก็เกิดขึ้นอีก คราวนี้ เขาตัดใจทิ้งโรงงานของพ่อ และเดินจากมาอีกครั้ง พ่อโกรธมากและประกาศตัดเป็นตัดตาย และในที่สุดโรงงานของพ่อก็ประสบภาวะขาดทุน ก่อหนี้สินรุงรัง และก่อไฟแค้นที่ไม่มีวันดับ ในใจของพ่อ อาทิตย์มุ่งหน้าไปสู้ชีวิตด้วยตนเองที่กรุงเทพฯ เขาทำธุรกิจส่งออกแต่ก็เป็นไปอย่างลุ่ม ๆ ดอน ๆ แต่เขาก็สู้ไม่ถอย บางวัน..ไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว บางวัน..ยังต้องเชิดหน้าทระนงแม้ไม่มีใครให้กู้เงิน แต่บางวันก็ตื้นตันใจยิ่งเมื่อเปิดจดหมายของเคลลี่ที่ส่งมาจากไต้หวันและพบว่ามีเงินดอลล่าสอดอยู่ และวัน..ที่มีความสุขที่สุด คือวันที่เคลลี่ตกลงใจแต่งงานด้วย และย้ายมาอยู่ด้วยกันที่เมืองไทย เขามีใจมุ่งมั่นที่จะสร้างครอบครัวให้เป็นปึกแผ่น เขาจึงทำงานหนัก ธุรกิจดีขึ้นเรื่อย ๆ ได้เป็นตัวแทนขายซอสมะเขือเทศ ส่งปลาทูน่ากระป๋องไปขายยังสหรัฐอเมริกา ขณะเดียวกันกิจการส่งออกแป้งมันก็เจริญก้าวหน้า ทำให้บริษัทมีเงินหมุนเวียนเป็นกอบเป็นกำ แต่แล้ว ความเป็นไปในครอบครัวที่เมืองกาญจน์กลับถึงขีดวิกฤต พ่อยักย้ายเงินกงสีซึ่งเป็นเงินของครอบครัวไปใช้จ่ายส่วนตัว แม่จึงต้องเอาเงินเก็บออกมาใช้ พ่อหาว่าแม่ยักยอกเงินไว้จึงทะเลาะกันใหญ่โต ที่ร้ายที่สุดก็คือพ่อพาเจ๊แอ๊ด เมียใหม่สาวสวย ฐานะดี เข้ามายกย่องในบ้าน เหตุการณ์ในบ้านเริ่มเลวร้ายมากขึ้น เมื่อเจ๊แอ๊ดแสดงอำนาจบาตรใหญ่ แสดงกิริยาไม่ดีต่อแม่ วิฑิตน้องชายคนที่สามอึดอัดใจเป็นที่สุด เขาทะเลาะกับพ่ออย่างรุนแรง แต่ก็พลาดท่าเมื่อพ่อเอาปืนยิงหัว อาทิตย์รู้ข่าวน้องรักถูกพ่อยิง เขาเจ็บแค้นมาก ขับรถห้อตะบึงไปเมืองกาญจน์ด้วยไฟลุกโชน เขาไม่เข้าใจว่าพ่อยิงลูกในไส้ของตนได้อย่างไร พ่อทำร้ายลูก ๆ ตั้งแต่ยังเด็ก และรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนครั้งนี้ถึงกับเอาชีวิต ดังนั้นหนทางเดียวที่จะยุติเรื่องราวเลวร้ายทั้งปวง คือพ่อต้องยุติชีวิตลงด้วยเช่นกัน แต่ระหว่างทาง ภาพชีวิตทุกภาพได้ย้อนกลับมา ภาพความรัก และ ความผูกพันภายในครอบครัว อาทิตย์สับสนใจยิ่ง และแล้วคำว่า ผู้ให้กำเนิดก็แล่นเข้ามาจับความรู้สึกผิดชอบชั่วดี และเข้ามาหยุดอารมณ์อันพลุ่งพล่านของเขาได้ทันท่วงที หยุด..ก่อนที่ทุกอย่างจะเลวร้ายอย่างมิอาจแก้ไข อาทิตย์ใจสงบลง และตั้งสัจจะกับตัวเองว่า ต่อไปนี้เขาจะไม่มีวันทิ้งน้อง ๆ และแม่ เขาจะสร้างบ้านใหม่ บ้านที่ทุกคนจะได้มาอยู่รวมกัน สร้างความรัก ความสุข สร้างครอบครัวอย่างที่ทุกคนเฝ้าฝัน และ เขาจะเป็นผู้สานฝัน โอบอุ้ม ดูแล ให้ความรักแก่ทุกคนด้วยตัวเอง แม้วันนี้จะยังไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่อาทิตย์เชื่อว่า ความมุ่งมั่น ความอดทน ความไม่ย่อท้อจะทำให้เขาสร้างอาณาจักรอมตะในฝันของเขาได้สำเร็จ โชคดีที่ปาฏิหาริย์ก็มีจริง วิทิตรอดชีวิตแต่กลายเป็นคนที่มีร่างกายที่ไม่สมบรูณ์ดังเดิม แม่ยอมหย่ากับพ่อ และพาน้อง ๆ เข้ามาอยู่รวมกันในบ้านเช่าหลังเล็ก ๆ ของอาทิตย์ที่กรุงเทพฯ แต่ชีวิตก็ไม่ได้เป็นดั่งฝัน เขาเริ่มระหองระแหงกับเคลลี่ จนเกิดความเข้าใจผิดที่ไม่อาจคลี่คลาย และจบลงด้วยการหย่าร้าง อาทิตย์ปวดร้าวและอ้างว้าง ภาพรักอันงดงามปลิวหายไปกับสายลม ไกลเกินกว่าจะไขว่คว้า ต่อจากนี้ไปเขาต้องยืนหยัดต่อสู้เพียงลำพัง อาทิตย์จึงมุทำงานอย่างหนักเพื่อให้ลืมรักร้าว แต่แล้วเขาก็ได้พบกับ นรี นักธุรกิจสาว เธอสวย ฉลาด ทำงานเก่ง ให้คำแนะนำเรื่องธุรกิจได้เป็นอย่างดี ทั้งสองจึงกลายเป็นคนใกล้ชิดที่เข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน แต่ความสัมพันธก็ไม่ได้ยั่งยืน อาทิตย์เจ็บปวดอีกครั้ง แต่เขาก็ได้พบ แมว สาวสวยนัยน์ตาคมขำ เธอช่างเอาอกเอาใจ มองโลกในแง่ดี แต่อาทิตย์ไม่ก็กล้ารักใครอีก อาทิตย์ประสบความสำเร็จในธุรกิจ มีความมั่นคงในชีวิต แต่นี่มิใช่ความภาคภูมิใจที่เขาปรารถนา ครอบครัวที่อบอุ่นต่างหากที่เขาเฝ้าฝันมาตลอดทั้งชีวิต เขารับน้อง ๆ คนละแม่ที่พ่อทิ้งขว้างมาดูแล เขาแบ่งงานให้ทุกคนทำตามความถนัด จัดสรรรายได้อย่างยุติธรรม รวมถึงวางแผนอนาคตที่มั่นคงให้น้อง ๆ และหลาน ๆ ทุกคน อาทิตย์เติมสิ่งที่ขาดให้กับทุกคน แต่ทำไม..ในหัวใจของเขาเองกลับยังอ้างว้างนัก.. แต่แล้วเคลลี่ก็กลับมาเยี่ยมเขาในวันหนึ่ง เธอตั้งใจมาขอบคุณที่แม้แยกทางกันไปแต่อาทิตย์ยังช่วยดูแลพ่อและแม่ของเธอเป็นอย่างดี และก็เธอตกใจที่เห็นภาพรักหวานในอดีตยังคงติดอยู่ที่เดิม ทำให้เธอรู้ว่า แท้จริงแล้ว เขายังคงคิดถึงเธออยู่ทุกลมหายใจ เคลลี่เข้าใจทุกสิ่งที่เกิดขึ้น และแม้เส้นทางรักอาจไม่หวนคืน แต่เธอและเขาต่างก็เข้าใจกัน วันที่แม่ป่วยและจากไป เป็นวันที่อาทิตย์เศร้าโศกเสียใจเป็นที่สุด เขาย้อนนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตและครอบครัวของเขา ยังคงเหลือปมระหว่างเขาและพ่อที่ยังไม่คลี่คลาย อาทิตย์รู้ดีว่าพ่อยังคงใช้อารมณ์ และใช้ชีวิตแบบเดิม และเขาก็คงเปลี่ยนแปลงอะไรพ่อไม่ได้ อาทิตย์จึงตัดสินใจบวชเพื่อทดแทนพระคุณแม่ ผู้เป็นที่รักยิ่ง และตั้งจิตอโหสิกรรมทุกอย่างที่พ่อเคยทำ ถึงอย่างไร พ่อก็คือผู้มีพระคุณในชีวิตของลูก เส้นทางชีวิตของอาทิตย์จะเป็นอย่างไรต่อไป..เขาไม่อาจรู้ แต่เขารู้ว่า เขาจะไม่ย่อท้อ เขาจะต่อสู้อย่างเข้มแข็ง.... ไฟแห่งความดีงามในใจของเขาจะไม่มอดไหม้ และจะเป็น ไฟอมตะ เช่นนี้ตลอดไป โปรดติดตามชม ละครไฟอมตะ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.30-21.30 น. ทางช่องโมเดิร์นไนท์ทีวี ไฟอมตะ เริ่มตอนแรก 10 เมษายน 2553

ใต้ฟ้า ตะวันเดียว (2553/2010) วินดี้ (ฉัตร ปริยฉัตร) พบรักกับปาร์คชองมิน (ไรอัน วงพารัน) ขณะไปเรียนต่อที่สหรัฐฯ อเมริกา เมื่อเรียนจบชองมินชวนวินดี้ไปเที่ยวบ้านเกิดของเขาที่เกาหลี และขอวินดี้แต่งงาน โดยสัญญาว่าจะรีบให้พ่อแม่ไปสู่ขอเธอที่เมืองไทย วินดี้ดีใจมาก แต่ลึก ๆ แล้วแอบกลุ้มใจ เพราะรู้ว่าทุกคนในครอบครัวของเธอ โดยเฉพาะคุณยายพนอจัน (เปียทิพย์) เกลียดคนเกาหลีมาก ซึ่งทั้งแม่ฤทัย (รัชนู บุญชูดวง) และ น้าศจี (ปู นริสรา) ต่างก็พากันบ่ายเบี่ยงทุกครั้งที่เธอถามถึงสาเหตุ ติดตามต่อได้ใน ใต้ฟ้าตะวันเดียว

มนต์รักบ้านทุ่ง (2552/2009) เรื่องราวความรักยุ่งๆของอากำนันขาสุดหล่อแห่งบ้านทุ่ง นามว่า ‘ฮันกยอง’ กับน้องนางเมืองกรุง นามว่า ‘ฮยอกแจ’ ที่ย้ายถิ่นฐานกลับมายังบ้านเกิดของแม่ขาสุดสวย(ฮีชอล) และพ่อขาสุดหล่อ(ชีวอน) ชีวิตที่แสนสงบสุขของอากำนันขากลับต้องวุ่นวายตั้งแต่วันแรกที่น้องนางคนงาม เข้ามาในชีวิต กับสารพัดวิธีพิชิตใจอากำนันขาที่น้องนางงัดขึ้นมาใช้แบบไม่รู้จบ พร้อมด้วยเหล่าตัวละครมากมายที่พร้อมจะมาสร้างสีสันให้บ้านทุ่งต้องสะดุ้ง สะเทือน ความรักของน้องนางคนงามกับอากำนันขาสุดหล่อจะสมหวังหรือต้องผ่าฟันปัญหามากแค่ไหน ติดตามได้ใน ‘มนต์รักบ้านทุ่ง’

วีรบุรุษทุ่งดินดำ (2552/2009) “วีรบุรุษทุ่งดินดำ” ละครน้ำดีสร้างสรรค์สังคมแห่งค่าย “ทีวี ธันเดอร์” เขียนบทประพันธ์และบทโทรทัศน์โดย เสือคาบดาบ นำทีมแสดงโดย อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร, ภัครมัย โปตระนันท์, วรุฒ วรธรรม, สุพจน์ จันทร์เจริญ, เจมี่ บูเฮอร์ และดาราสมทบอีกคับคั่ง เป็นเรื่องราวของ แผ่นดิน หนุ่มแก๊งสิบแปดมงกุฎที่หนีมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในจังหวัดอันห่างไกล โดยสวมรอยเป็นตะวันนักวิชาการการเกษตรหนุ่ม ที่จะไปประจำการที่ทุ่งดินดำ ซึ่งตะวันได้เสียชีวิตระหว่างเดินทางมา เวลาผ่านไปแผ่นดินเริ่มผูกพันกับทุ่งดินดำและกระต่าย ลูกสาวผู้ใหญ่บ้าน ทั้งคู่เป็นคู่ปรับที่แอบมีความรู้สึกดีๆ ให้กัน เรื่องราววุ่นๆของการพัฒนาท้องทุ่งที่แห้งแล้ง และนายทุนน่าเลือดที่เข้ามาพัวพันจะดำเนินไปอย่างไร ติดตามชม “วีรบุรุษทุ่งดินดำ”

สายลับเดอะซีรี่ส์ กับ 24 คดีสุดห้ามใจ (2552/2009) ในเมื่อความรักไม่เข้าใครออกใคร ปัญหาผัวเมียละเหี่ยใจจึงเกิดขึ้นได้ทุกหย่อมหญ้า อาชีพนักสืบตามล่าเมียน้อยจึงยังคงเป็นที่ต้องการอย่างสูงในตลาดมืด นอกจากไอ้จ๊อก-สายลับจับบ้านเล็ก ที่เคยสร้างกระแสฮิตเกรียวกราวไปบนจอเงินเมื่อกลางปีที่แล้ว ในมุมเล็กๆ อีกแห่งของกรุงเทพฯ ก็ยังมี “ฉลาม” (แดน-วรเวช ดานุวงศ์) นักสืบหนุ่มรูปหล่อ ที่ใช้ร้านตัดขนหมาเป็นฉากบังหน้ารับอาชีพนักสืบกิ๊กอยู่อีกคน งานนี้ฉลามมี “ขนุน” (แจ็ค-เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์) เด็กแว้น ลูกเสี่ยเจ้าของร้านมอเตอร์ไซค์ที่อยู่บ้านติดกัน เป็นผู้ช่วยที่คอยทั้งผลักทั้งดันงานนักสืบ …แต่ด้วยอุดมการณ์ที่มีมาก (จนล้น) ประกอบกับระดับไอคิวที่กระพร่องกระแพร่ง ทำให้หลายครั้งความหวังดีต่อลูกพี่กลับกลายเป็นเรื่องปั่นป่วนชวนวุ่นวายยิ่งไปกว่าเดิมแถมซ้ำร้าย…นายฉลามดันเป็นโรคแพ้ผู้หญิงสวย อยู่ใกล้ทีไร หัวใจเป็นต้องอ่อนระทวยเป็นช็อกโกแล็ตตากแดด ทำให้เกือบจะละเมิดกฎเหล็กของนักสืบไปตกหลุมรักเป้าหมายหลายต่อหลายครั้งจนกระทั่งวันดีคืนดี ฟ้าก็ส่ง “แอ้ม” (แพท-อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา) เด็กสาวบ้านนา หน้าใสกิ๊งเข้ามาอยู่ที่ร้านมินิมาร์ทข้างๆบ้าน เธอคนนี้อินเลิฟในมาดเท่ยียวนกวนประสาทของนายฉลามตั้งแต่แรกเห็น และขอตามติดพี่ฉลามแบบไปไหนไปด้วย เพราะอยากเป็นผู้ช่วยทั้งเรื่องงาน…และหัวใจ แต่ในสายตาฉลาม แอ้มดูเป็น ‘ภาระ’ มากกว่า ‘ยาบำรุงหัวใจ’ เพราะความใสแบบเด็กกะโปโลที่ไม่เข้าตา แถมงานที่ควรจะเป็นความลับก็เกือบจะไม่ลับเอาง่ายๆ เมื่อแอ้มดันไปพ่วงเอา “หมวดโอภาส” (เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) เข้ามาพัวพันในชีวิต เมื่อนายตำรวจหนุ่มรายนี้ดันมาตามติดแอ้มต้อย ๆ ด้วยความหลงใหล จนกลายเป็นก้างชิ้นใหญ่สำหรับงานลับ ๆ ของนักสืบฉลาม แต่ถึงแม้จะมีเรื่องวุ่นวายมากแค่ไหน สำนักงานนักสืบของนายฉลามก็ยังมีลูกค้าผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาไม่ซ้ำหน้า นำพาให้นักสืบหนุ่มของเราต้องเข้าไปพัวพันกับคดีเมียๆ ผัวๆ …ซึ่งแต่ละคดีก็สร้างความมึนหัวให้ฉลามไม่น้อยอาทิ คดีลูกใครหว่า หน้าไม่เหมือนพ่อที่สามีสงสัยว่าภรรยาลูกครึ่งของตัวเอง (พอลล่า เทย์เลอร์) จะแอบมีชู้ เพราะลูกที่คลอดออกมาหน้าตาขี้เหร่ไม่ละม้ายคล้ายคลึงทั้งพ่อและแม่เลยซักนิด??? หรืออย่างคดีอินเต๊อ…อินเตอร์ จากสาวใหญ่ชาวเกาหลีที่หวั่นใจว่าสามีที่เป็นโค้ชเทควันโด (จตุรงค์ มกจ๊ก) ในมหาวิทยาลัยจะแอบมีนอกมีในกับบรรดาลูกศิษย์สาว ๆ ในชมรม ฉลามกับขนุนเลยต้องอุทิศตนไปเป็นเป้าซ้อมเตะให้กับสาวๆเหล่านั้น แต่แล้วกลับพบว่าผู้ต้องสงสัยหลักกลับกลายเป็นคุณพยาบาลประจำทีม (เจนสุดา ปานโต) หรือสุดยอดเคสหักมุม ที่ผู้ว่าจ้างกลายเป็นฝ่ายเมียน้อยที่สงสัยว่าเมียหลวง (มาช่า วัฒนพานิช) กระทำการฆาตกรรมสามีตัวเองเพื่อหวังเงินประกันก้อนโต! หรือกระทั่งสาวพริตตี้ (คริส หอวัง) ที่ดันทำรถสปอร์ตราคา 7 ล้าน ที่ได้เป็นของขวัญจากเสี่ยหาย ก็เลยต้องใช้บริการนักสืบฉลามเป็นที่พึ่ง เพื่อตามหารถกลับคืนมา รวมไปถึงคดีรัก (เกือบ) โรแมนติก เมื่อฉลามรับ 2 คดีซ้อนในวันเดียวกัน ที่ฝ่ายหนึ่ง เป็นเจ้าบ่าวมาขอให้ตามหาตัวเจ้าสาว (นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา) และอีกฝ่ายเป็นเจ้าสาวที่มาขอให้ตามหาตัวเจ้าบ่าว (โบ-ธนากร ชินกูล) เรื่องชักวุ่นวาย เมื่อคนหายทั้งคู่ดันหนีไปพร้อมกัน เพราะต่างก็มาตกหลุมรักกันในวันจองห้องจัดเลี้ยงสำหรับงานแต่งงานแต่ละคดี ฉลามเกือบจะต้องเอาทั้งตัวและหัวใจเข้าแลก เพราะนายฉลามเองก็มีความลับในหัวใจที่ไม่ได้เผยให้ใครล่วงรู้

Daddy Duo คุณพ่อจอมเฟี้ยว (2552/2009) พัทธ์ (ฟิล์ม-รัฐภูมิ) หนุ่มไฮโซเนื้อหอม เพิ่งเรียนจบจากต่างประเทศ นิสัยใจร้อน เอาแต่ใจตัวเอง เพราะได้รับการเลี้ยงดูอย่างตามใจจากคุณพ่อ เจษฎา (ตฤณ เศรษฐโชค) มาตั้งแต่เด็ก จึงกลายเป็นคนจับจด รักสบาย และที่สำคัญใช้จ่ายเงินเป็นว่าเล่น จนกระทั่งพ่อบังเกิดเกล้ายังทนไม่ไหว ก็เลยจัดการดัดนิสัย ด้วยการไล่ให้ไปอยู่ที่คอนโด พร้อมทั้งระงับบัตรเครดิตทั้งหมด เพื่อสอนให้พัทธ์ ได้รู้จักทำงานหาเงินด้วยตนเอง พัทธ์เริ่มต้นยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง ด้วยการรับงานเป็นอินทีเรีย ดีไซน์ ตามที่ร่ำเรียนมา โดยมี จั๊ดจ้า (จั๊ด-ภีมะ) เพื่อนซี้ คอยให้ความช่วยเหลือ และได้ลูกค้าคนแรกเป็นสาวสวยสุดเซ็กซี่ ที่ชื่อ เคธี่ (เป้ย-ปานวาด) ทอย (แบงค์-อธิกิตติ์) หนุ่มสุดหล่อ ทายาทเพียงคนเดียวของ พิมประไพ แม่เลี้ยงเจ้าของไร่องุ่น (เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์) ด้วยความที่กำพร้าพ่อตั้งแต่เด็ก ทอยจึงได้รับการเลี้ยงดูจากพิมประไพ ผู้เป็นแม่อย่างใกล้ชิด ทอยจึงแลดูเป็นหนุ่มสุภาพ เรียบร้อย แถมแอบเก่งการบ้านการเรือนอีกต่างหาก เมื่อเรียนจบ พิมประไพ วางแผนให้ทอย ช่วยสานต่อกิจการไร่องุ่น แต่ทอย อยากที่จะลองหางานทำด้วยตนเองที่กรุงเทพฯ ก่อน พร้อมกับยกแม่น้ำทั้งห้ามาโน้มน้าวใจพิมประไพ จนในที่สุดผู้เป็นแม่ก็ยอมใจอ่อน แต่ก็มีข้อแม้ว่า เมื่อไปอยู่กรุงเทพฯ ต้องไปพักอยู่กับพัทธ์ พิน (โฟร์-ศกลรัตน์) สาวน้อยผู้มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักเขียน เมื่อเรียนจบ ก็ได้เริ่มต้นงานนักเขียนตามความฝัน ที่สำนักพิมพ์ของ นิวัตร (เอ็กซ์-ธิตินันท์) และได้รับการชักชวนจาก เป็ด ญาติผู้น้อง (ฟาง-วงเฟย์ ฟาง แก้ว) ซึ่งเป็นลูกเจ้าของธุรกิจคอนโดที่พัทธ์และทอยพัก ให้มาอาศัยอยู่ด้วยกัน เรื่องราวเริ่มโกลาหลขึ้น เมื่อพัทธ์กับทอย เข้าใจว่าพินและเป็ด เป็นคู่ทอมดี้ ในขณะที่พินกับเป็ดก็เข้าใจว่าสองหนุ่มสุดหล่อที่พักอยู่ห้องติดกัน เป็นคู่เกย์ แถมความอลหม่านล้านเจ็ดยังเข้ามาเยือนอีกระลอกใหญ่ เมื่อวันหนึ่งมีพัทธ์และทอย ต้องตกกระไดพลอยโจน รับหน้าที่ดูแลเด็กหลง หน้าแป้น ที่ชื่อหนมตาล ซึ่งบังเอิญมาประสบอุบัติเหตุอยู่หน้าคอนโด ทำให้ความจำหายไปชั่วคราว แต่อะไรไม่สำคัญเท่า หนมตาล ยืนยันว่าพัทธ์เป็นพ่อ เรียกว่างานเข้าอย่างจังเลยทีเดียว !!!! ทั้งพัทธ์ และทอย จำต้องรับหน้าที่ "คุณพ่อจอมเฟี้ยว" อย่างไม่มีทางเลือก โดยมี แม่พิน และ น้าเป็ด ช่วยด้วยอีกแรง โดยทั้ง 4 คน จะต้องช่วยกันตามหา และคลี่คลายปมปัญหาของครอบครัวที่น่าสงสารของเด็ก หนมตาล ให้ได้ แต่เรื่องไมได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะทั้ง 4 คน ต้องเผชิญหน้ากับบรรดาผู้ที่มาแอบอ้างเป็นพ่อแม่ของหนมตาลซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อุบัติรักข้ามขอบฟ้า 2 (2552/2009) กอล์ฟ-ไมค์ กลายเป็นนักร้องดูโอคู่พี่น้องที่โด่งดังมาก ทั้งสองมีผลงานเพลงออกมาอย่างต่อเนื่อง อัลบั้มล่าสุด เก็ต เรดี้ กอล์ฟได้แสดงความสามารถแต่งเพลงชื่อ "มาย ซุปเปอร์สตาร์"ด้วย ในงานเปิดตัวอัลบัมกอล์ฟได้บอกว่า คำว่าซุปเปอร์สตาร์ในเพลงหมายถึงบรรดาแฟนเพลงที่กอล์ฟรัก ทำเอาคนรักตัวจริงอย่างแพท น้อยใจ เพราะตลอดการคบหากัน แพทต้องหลบๆ ซ่อนๆ เพราะค่ายเพลงบริษัทต้นสังกัดให้ปิดข่าวกอล์ฟมีแฟน แต่ในเย็นวันรุ่งขึ้น กอล์ฟไปง้อแพทที่ใต้คอนโดที่กอล์ฟและแพทอยู่ แต่ก็ถูกคนถ่ายคลิปและเป็นข่าวใหญ่โต กอล์ฟถูกผู้ใหญ่สั่งให้ปฏิเสธนักข่าว และย้ายออกจากคอนโดไปอยู่ที่บ้าน แพทโกรธกอล์ฟมาก กอล์ฟหลอกแพทว่ากอล์ฟแต่งเพลงให้แพท แพทไปหากอล์ฟที่ห้องอัด แพทรู้ความจริงว่ากอล์ฟหลอกแพท แพทจึงยื่นคำขาดให้ไปหาในเย็นวันนั้นพร้อมกับเพลงที่จะแต่งให้ กอล์ฟแต่งเพลงไม่ทัน จึงรีบไปหาแพท แต่แพทก็ออกมาจากที่นัดก่อนจึงไม่เจอกัน แพทถูกรถเฉี่ยวในเย็นวันนั้นเอง สมองของแพทกระทบกระเทือน ทำให้สูญเสียความทรงจำ แพทจำใครไม่ได้ แม้แต่กอล์ฟ กอล์ฟพยายามติดต่อแพท แต่ติดต่อไม่ได้ กอล์ฟจึงคิดว่าถูกแพทบอกเลิก รู้ไปถึงหูของอร แม่ของกอล์ฟและไมค์ หมอที่ดูแลแพทอยู่บอกภาว่า แพทอาจจำกอล์ฟได้ จึงโทรมาหาอรเพื่อขอเบอร์กอล์ฟ แต่อรไม่ให้ ภากับช่วงจึงไปดักรอหน้าบริษัทของกอล์ฟ-ไมค์ วันหนึ่งโบ้พ่อของเปิ้ลแกล้งป่วย ทั้งกอล์ฟ ไมค์ เปิ้ล อร และโบ้จึงมาที่โรงพยาบาล จึงพบกับช่วงและรู้ว่าแพทความจำเสื่อม หลังจากแพทอาการดีขึ้น ภากับช่วงพาแพทมาอยู่บ้านหลังใหม่ คนรอบข้างพยายามกระตุ้นความทรงจำแพท จนแพทค่อยๆ จำได้ทีละคน ทว่าคนที่แพทจำไม่ได้ คือกอล์ฟ กอล์ฟเลยแต่งเพลงให้แพท ด้วยหวังว่าบทเพลงนี้จะช่วยให้แพทจำกอล์ฟได้ แพทรู้สึกดีที่กอล์ฟดูแลและเอาใจใส่ แพทเปิดเพลงกอล์ฟฟังทุกวัน หวังให้เพลงนี้ทำให้แพทจำความรักที่มีให้กอล์ฟได้ แต่ทุกครั้งที่ฟังเพลงของกอล์ฟ ล้วนเป็นความทรงจำเศร้าๆ แพทกลับไปใช้ชีวิตตามปกติเหมือนก่อนถูกรถเฉี่ยว เป็นชีวิตใหม่ที่ปราศจากกอล์ฟ กอล์ฟเสียใจที่สูญเสียแพท ไมค์ให้กำลังใจกอล์ฟ ว่าวันหนึ่งแพทต้องจำกอล์ฟได้ ไมค์เกิดล้มหมดสติ ก่อนหน้านี้ไมค์มีอาการปวดหัว ตาพร่าบ่อย ๆ หมอตรวจพบเนื้องอกในสมอง จังหวะนั้นเองค่ายเพลงเตรียมส่งกอล์ฟ-ไมค์ โกอินเตอร์ไปทำเพลงที่เกาหลี สองหนุ่มดีใจมาก การโกอินเตอร์เป็นความฝันสูงสุดของทั้งคู่ ไมค์ปกปิดอาการป่วยเพื่อไม่ให้แผนโกอินเตอร์ล้ม เปิ้ล สงสัยว่าที่ไมค์หายตัวไปบ่อยๆ เพราะไมค์แอบมีคนอื่น ไมค์บอกความจริงเปิ้ลไม่ได้ว่าที่หายตัวไปบ่อยๆ นั้น ไมค์ไปหาหมอ หลังเสร็จคอนเสิร์ตใหญ่ อาการไมค์กำเริบ กอล์ฟพาไมค์ส่งโรงพยาบาล ถึงรู้ว่าไมค์เป็นเนื้องอกในสมอง กอล์ฟพับโครงการโกอินเตอร์ แพทย้ายมาอยู่บ้านไมค์เพื่อดูแลไมค์ ไมค์ขอร้องกอล์ฟกับแพทไม่ให้บอกเปิ้ล กลัวเปิ้ลเสียใจ การอยู่บ้านเดียวกับกอล์ฟทำให้แพทค่อย ๆ จำได้ถึงเมื่อครั้งที่อยู่คอนโดเดียวกับกอล์ฟ ความทรงจำเก่า ๆ ย้อนมา แพทจำได้ว่าเคยเป็นคู่กัดกอล์ฟก่อนที่ทั้งคู่จะตกหลุมรักกัน กอล์ฟดีใจมากที่ได้แพทคืนมา ความทรงจำของแพทเดินหน้ามาเรื่อยๆ จนถึงวันที่ แพทโดนรถเฉี่ยว วันนั้นแพทนัดกอล์ฟออกมา เพื่อบอกเลิก แพททำตามความตั้งใจเดิมของตัวเอง คือบอกเลิกกอล์ฟ และลองไปคบกับ มาร์ช หนุ่มน้อยอ่อนวัยกว่า ที่ตามจีบมาระยะหนึ่งแล้ว เปิ้ลช็อกเมื่อไมค์มาบอกเลิก ไมค์ปล่อยให้เปิ้ลเข้าใจไปเองว่าไมค์มีคนใหม่ ความรักความทรงจำที่เปิ้ลมีต่อไมค์อัดแน่นเต็มหัวใจ จนเปิ้ลต้อง ระบายออกมาเป็นตัวหนังสือ ตอนเด็กๆ เปิ้ลฝันอยากเป็นนักเขียน แต่ความฝันนั้นถูกลืมเลือนไป เพราะหน้าที่การงานและชีวิตประจำวันที่วุ่นวาย ขณะเดียวกันไมค์เริ่มเข้ารับการรักษาตัวอย่างจริงจัง หมอไม่รับปากว่าไมค์จะหาย ไมค์อาจตายได้ทุกเมื่อ เพราะเหตุนี้ไมค์ จึงบอกเลิกเปิ้ล นักข่าวระแคะระคายเรื่องไมค์ป่วย ค่ายเพลงปิดข่าวไม่อยู่ จัดงานแถลงข่าวอาการป่วยของไมค์ พร้อมกับเปิดอัลบั้มพิเศษของกอล์ฟไมค์ ที่อาจเป็นอัลบั้มสุดท้ายของทั้งคู่ แฟนเพลงแห่มาให้กำลังใจไมค์ เปิ้ลรู้ความจริง ก็รีบมาหาไมค์ ไมค์ขอใช้เวลาที่เหลืออยู่น้อยนิดกับเปิ้ลให้คุ้มค่าที่สุด เปิ้ล เร่งเขียนนิยาย เปิ้ลอยากให้นิยายรักของเปิ้ลเสร็จก่อนไมค์เข้ารับการผ่าตัด ก่อนผ่าตัดไมค์อยากไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ แบบไม่มีจุดหมาย ที่ไหนสวยก็แวะถ่ายรูป วันเวลาแห่งความสุขผ่านไปไว ไมค์อาการทรุดกะทันหัน ไมค์ถูกนำตัดเข้าห้องผ่าตัดเป็นการด่วน หลังผ่าตัด ไมค์ไม่ฟื้น เปิ้ลเอาหนังสือที่เปิ้ลเขียนมาอ่านให้ไมค์ฟังข้างเตียง หวังว่าไมค์ได้ยินแล้วจะตื่นขึ้นมาร่วมเขียนบทอวสานด้วยกัน คนทั้งประเทศส่งกำลังใจให้ไมค์ กอล์ฟ แพท เปิ้ล ช่วยกันพับนกกะเรียน ไมค์โตที่ญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นเชื่อว่าหากพับนกกะเรียนได้ 1 พันตัว จะทำให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ กำลังใจจากทุกๆ คนจะช่วยให้ไมค์ฟื้นกลับมาหรือไม่ ต้องติดตาม แพทเองยังรักกอล์ฟแต่ถ้ากลับไปแพทต้องทำร้ายจิตใจมาร์ช กอล์ฟ แพท มาร์ชตกอยู่ในสถานการณ์รักสามเส้า ขณะเดียวกันก็มี อุ๊บอิ๊บ ลูกของอาเปิ้ล อุ๊บอิ๊บมาเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ ม.4 นี่อยู่ ม.6 แล้วอพาร์ทเม้นท์ที่อุ๊บอิ๊บเช่าอยู่โดนงัด เพื่อความปลอดภัย แม่อุ๊บอิ๊บเลยพาอุ๊บอิ๊บมาอยู่บ้านเปิ้ล อุ๊บอิ๊บแอบชอบมาร์ช เลยมาคอยช่วยมาร์ชติวหนังสือ เพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย เรื่องราวความ รักทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร ไมค์จะฟื้นหรือไม่ รักสามเส้าของกอล์ฟ แพท มาร์ช จะจบลงเช่นไร ใครจะเป็นผู้เสียสละความรักครั้งนี้ ความฝันโกอินเตอร์ของกอล์ฟ–ไมค์จะเป็นจริงหรือไม่ ความน่ารักความเอาใจใส่ของอุ๊บอิ๊บจะชนะใจมาร์ชหรือไม่ ติดตามชมเรื่องราวความรักผูกพันระหว่างคนรัก พี่น้อง และเพื่อน ได้ใน อุบัติรักข้ามขอบฟ้า 2

Placeholder

รักบ้านเรา (2551/2008) รักบ้านเรา (ละครเทิดพระเกียรติ) เป็นละครโทรทัศน์แนว การอยู่ร่วมกับครอบครัวและสังคมอย่างมีความสุข บทประพันธ์ของ บทโทรทัศน์โดย กำกับการแสดงโดย สราวุธ วิเชียรสาร ผลิตโดย บริษัท ทูแฮนส์ จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์–ศุกร์ เวลา 19.00 - 19.45 น. ทาง สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี นำแสดงโดย ศรราม เทพพิทักษ์, ลภัสรดา ช่วยเกื้อ, ภูริ หิรัญพฤกษ์, อลิชา หิรัญพฤกษ์ และนักแสดงชั้นนำอีกมากมาย เริ่มตอนแรกวันที่ พ.ศ. 2551–พ.ศ. 2551