Love Sick The Series รักวุ่น วัยรุ่นแสบ (2557/2014) ฤดูกาลที่ 1 เพราะวัยรุ่น "ผ่าน" อะไรมาเยอะ ชีวิตวัยรุ่นจึงน่าสนใจ มีอะไรให้ได้พูด Love Sick The Series รักวุ่น วัยรุ่นแสบ นำเสนอเรื่องราวแสบๆ วุ่นๆ ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนชายล้วนหญิงล้วนรั้วติดกัน ปุณณ์ คือหนุ่มหล่อเลขาสภานักเรียน มีแฟนเป็นสาวสวยดาวคอนแวนต์ชื่อเอม โน่ ประธานชมรมดนตรีจอมกวน ถูกยูริสาวน้อยลูกครึ่งญี่ปุ่นจากฝั่งคอนแวนต์ มโนว่าเป็นแฟนตัวเอง โดยทั้งเอมและยูริเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน วันหนึ่งงบซื้อกลองของชมรมดนตรีถูกตัด ทำให้โน่ต้องเดินเข้าห้องสภานักเรียนเพื่อขอให้ตรวจสอบงบใหม่ ที่นั่นโน่ได้พบปุณณ์ ทั้งคู่เจรจากัน โน่ขอให้ปุณณ์ช่วย ปุณณ์รับปากแต่มีข้อแม้ว่า โน่ต้องมาเป็นแฟนปุณณ์ โน่เกิดอาการงง ไปไม่เป็น ต่อจากนี้คือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างเด็กชายสองคน ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ มิตรภาพ และรอยน้ำตา จี๊ด ย้ายมาจากโรงเรียนรัฐบาลเข้ามาเรียนในโรงเรียนที่เดียวกับเอมและยูริ จี๊ดพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เพื่อนยอมรับ จี๊ดเจอกับคมเพื่อนโน่ ทั้งคู่ชอบกัน ความรักของจี๊ดและคมทำให้หลายคนอิจฉา แต่ยังมีเรื่องบางอย่างที่ยังไม่รู้ทั้งคู่ แตงโม เด็กคอนแวนต์ กับโมน เด็กอาชีวะ หลานชายอธิการโรงเรียนชายล้วนที่ปุณณ์กับโน่เรียนอยู่ ทั้งคู่อาศัยอยู่ในคอนโดเดียวกัน ใช้ชีวิตแบบผัวเมีย เพื่อนรู้ ทุกคนรู้ แต่พ่อแม่ไม่รู้ ข้างห้องของทั้งสองคนคือกอล์ฟ อริเก่าของโมน ผู้เก็บความลับของทั้งคู่ไว้ แป้ง น้องสาวปุณณ์ เป็นสาวYพันธุ์แท้ ชื่นชอบการจับจิ้นให้ผู้ชายรักกัน แป้งมีเพื่อนสนิทคือมัดหมี่และหวานเจี๊ยบ ทั้งสามคนเรียนพิเศษที่โรงเรียนสอนการแสดงแห่งหนึ่ง ที่นั่นแป้งและเพื่อนๆ ได้พบกับป๊อบและเช แน่นอนว่าทั้งป๊อบและเชถูกสามสาวจับมาจิ้น และพยายามทำทุกอย่างให้ป๊อบกับเชรักกัน แต่มันไม่ง่ายแบบนั้นน่ะสิ หลากหลายเรื่องรักวุ่นๆ กำลังจะเกิดขึ้น อย่าลืมนะว่าเราทุกคนก็เคย "ผ่าน" วัยนี้มา เพราะฉะนั้นเรารู้ว่ามันไม่ธรรมดาแน่นอน

วีรบุรุษทุ่งดินดำ (2552/2009) “วีรบุรุษทุ่งดินดำ” ละครน้ำดีสร้างสรรค์สังคมแห่งค่าย “ทีวี ธันเดอร์” เขียนบทประพันธ์และบทโทรทัศน์โดย เสือคาบดาบ นำทีมแสดงโดย อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร, ภัครมัย โปตระนันท์, วรุฒ วรธรรม, สุพจน์ จันทร์เจริญ, เจมี่ บูเฮอร์ และดาราสมทบอีกคับคั่ง เป็นเรื่องราวของ แผ่นดิน หนุ่มแก๊งสิบแปดมงกุฎที่หนีมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในจังหวัดอันห่างไกล โดยสวมรอยเป็นตะวันนักวิชาการการเกษตรหนุ่ม ที่จะไปประจำการที่ทุ่งดินดำ ซึ่งตะวันได้เสียชีวิตระหว่างเดินทางมา เวลาผ่านไปแผ่นดินเริ่มผูกพันกับทุ่งดินดำและกระต่าย ลูกสาวผู้ใหญ่บ้าน ทั้งคู่เป็นคู่ปรับที่แอบมีความรู้สึกดีๆ ให้กัน เรื่องราววุ่นๆของการพัฒนาท้องทุ่งที่แห้งแล้ง และนายทุนน่าเลือดที่เข้ามาพัวพันจะดำเนินไปอย่างไร ติดตามชม “วีรบุรุษทุ่งดินดำ”

Placeholder
Placeholder
Placeholder
Placeholder
Placeholder
หัวใจนี้เพื่อเธอ

ช็อกโกแลต 5 ฤดู (2553/2010) ฤดูร้อน ฝุ่น (น้ำชา ชีรณัฐ ยูสานนท์) สาวเท่ ที่รักการทำขนมทุกอย่างที่เป็นช็อกโกแลตสุดหัวใจ กำลังออกแบบตกแต่ง เพื่อเปิดร้านช็อกโกแลต กับแฟนหนุ่มหล่อแสนดี เป้ (ฌอห์ณ จินดาโชติ) ทั้งสองตกหลุมรักกัน เพราะช็อกโกแลต ขณะที่ ฝุ่น กำลังดีใจใกล้เวลาร้านเปิด กลับถูก เป้ บอกเลิกแบบฟ้าผ่า ห่างไปไม่กี่ร้อยเมตร ตวัด (แดน วรเวช ดานุวงศ์) หนุ่มเจ้าเสน่ห์ วัยเบญจเพส กำลังทะเล้นแหย่แฟนสาว ทิชา (เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ) ที่มาบอกเลิก ตวัด เป็นครั้งที่ร้อยพอดี เก้าสิบเก้าครั้งก่อนหน้านี้ ทิชา ใจอ่อนทุกครั้ง ที่ ตวัด ทำทะเล้นใส่ แต่ครั้งนี้ ทิชา พูดจริง ทำจริง เพราะทนพฤติกรรมเจ้าสำราญต่อไปไม่ไหว ฝุ่น กลับไปอยู่บ้าน วัน ๆ ได้แต่ลงโทษนั่งด่าตัวเอง จนวันหนึ่งคิดหาเหตุผลด่าตัวเองไม่เจอแล้ว คิดได้ว่าตัวเองไม่ผิดอะไร เลยรวบรวมเรี่ยวแรง กลับไปง้อ เป้ ด้าน ตวัด เองก็ดี๊ด๊าได้ไม่นาน เริ่มเห็นคุณค่าของ ทิชา เลยตั้งใจปรับปรุงตัวใหม่เพื่อไปง้อ ทิชา ระหว่างนั้น เป้ ที่แม้จะเป็นฝ่ายบอกเลิก แต่ก็เจ็บไม่น้อย และโชคชะตาเป็นใจให้ เป้ ได้เจอกับ ทิชา เพื่อนสมัยมัธยมที่มาขอสมัครงานเป็นพนักงานคนแรกและคนเดียวของร้าน ทั้งคู่ต้องทำงานใกล้ชิดกัน แม้ว่าจะยังไม่พร้อมสำหรับรักครั้งใหม่ แต่มันก็มาแบบไม่รู้ตัว ฝุ่น เตรียมใจมาง้อเต็มที่ แต่กลับเจอ เป้ อยู่กับ ทิชา ที่ดูสนิทสนมกันมาก ทำเอา ฝุ่น จี๊ดจัดจนกลายเป็นแค้น บอกตัวเองว่าจะทำทุกอย่างเพื่อเอาแฟนคืนมา ส่วน ตวัด ก็เตรียมตัวมาขอคืนดีกับ ทิชา แต่ต้องหน้าหงายกลับไป เพราะ ทิชา ไม่ยอมคืนดี จึงครุ่นคิดหาทางให้ ทิชา กลับมารักเขาอีกครั้ง ทั้งที่ ฝุ่น วางแผนแกล้ง ทิชา เกือบสำเร็จ แต่ ตวัด ที่กำลังแกล้ง เป้ ก็เข้ามาขัดจังหวะแบบไม่ตั้งใจ ทำให้ไม่ถูกกันอย่างแรง จนทั้งคู่ต่างรู้ว่ามีจุดประสงค์เดียวกัน คือสร้างความร้าวฉาน ระหว่าง ทิชา และ เป้ จึงหันมารวมการเฉพาะกิจ แต่อะไรก็ดูไม่ง่ายอย่างที่คิด ฤดูฝน ร้านช็อกโกแลตของ เป้ ถูกแกล้ง ลูกค้าหาย ทำท่าจะเจ๊ง แต่ดูเหมือนความสัมพันธ์ของ เป้ กับ ทิชา กลับยิ่งแข็งแรง ทั้งคู่ให้กำลังใจกันและกัน จนกลายเป็นความรัก และความรักก็เป็นแรงบันดาลใจให้ทั้งคู่ช่วยกันสร้างสรรค์เมนูขนมช็อกโกแลตใหม่ ๆ ออกมา ทำให้ร้ายขายดี ส่วน ตวัด และ ฝุ่น ที่ร่วมมือร่วมใจกันวางแผน นานวันเข้าก็เกิดความรู้สึกบางอย่างผลิดอกในใจทั้งคู่แบบไม่รู้ตัว และในที่สุดทั้งคู่สามารถทำให้ เป้ กับ ทิชา เลิกรากัน และกลับไปเป็นแฟนสำเร็จ ฤดูหนาว แต่ที่ ฝุ่น กับ ตวัด ไม่รู้ก็คือ หนึ่งเดือนก่อนหน้านั้น ทิชา กับ เป้ รู้ความจริงว่าโดนป่วนจากแฟนเก่า จึงคุยกัน และต่างยอมรับว่ามีถ่านไฟเก่าของแต่ละคนอยู่ในใจลึก ๆ ทิชา จึงวางแผนเพื่อคนทั้งสี่คน โดยการกลับไปคืนดีกันเพื่อพิสูจน์ใจทั้ง ทิชา และ เป้ ว่าสามารถกลบถ่านไฟเก่าในใจให้มอดได้หรือไม่ ฤดูเหงา ทั้งสองคู่ต่างอยู่กันแบบฝืด ๆ ฝุ่น กับ ตวัด ไม่ยอมรับความจริงว่ารักครั้งเก่ามันสต๊าฟไปแล้ว ทิชา และ เป้ ต่างคิดถึงกัน ทั้งคู่กลบถ่านไฟเก่าในใจมอดไปได้แล้ว และตัดสินใจจะกลับไปหากัน แต่จะแน่ใจได้หรือว่ารัก และร้านจะราบรื่น เพราะยังมี ฝุ่น กับ ตวัด อยู่ ฤดูรัก แผนการ...ดีดรัก....ตี....กลับของ ทิชา และ เป้ จึงเกิดขึ้น คือทำทุกวิถีทางให้ ฝุ่น กับ ตวัด ลงเอยก่อนวันวาเลนไทน์ แต่แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว เพราะการจะจับยัยตัวร้ายกับยอดกะล่อนมาดรองกันไม่ธรรมดาแน่ ๆ ตามลุ้น ตามชม ตามเชียร์ รักหวาน ๆ วุ่น ๆ ของทั้ง 2 คู่ได้ใน ละครช็อกโกแลต 5 ฤดู ได้ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 20.40-21.30 น.ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี ละครช็อกโกแลต 5 ฤดู เริ่มออกอากาศครั้งแรก วันเสาร์ที่ 20 พ.ย. 2553

แม่นากพระโขนง (2564/2021) เรื่องราวของ พ่อมาก กับ แม่นาก ที่สาบานรักต่อกันแต่มีอุปสรรคขวากหนาม จึงต้องจำพรากจากกันชั่วนิรันดร์ ทว่าดวงจิตของแม่นากไม่ยอมไปอยู่ภพภูมิอื่น แต่ยังสถิตย์เคียงข้างคนรัก ทั้งคู่ตกอยู่ในชะตากรรมที่มิอาจเลือกได้…กลายเป็น โศกนาฏกรรมรักอมตะ ตราบถึงปัจจุบัน

Placeholder

สายลับเดอะซีรี่ส์ กับ 24 คดีสุดห้ามใจ (2552/2009) ในเมื่อความรักไม่เข้าใครออกใคร ปัญหาผัวเมียละเหี่ยใจจึงเกิดขึ้นได้ทุกหย่อมหญ้า อาชีพนักสืบตามล่าเมียน้อยจึงยังคงเป็นที่ต้องการอย่างสูงในตลาดมืด นอกจากไอ้จ๊อก-สายลับจับบ้านเล็ก ที่เคยสร้างกระแสฮิตเกรียวกราวไปบนจอเงินเมื่อกลางปีที่แล้ว ในมุมเล็กๆ อีกแห่งของกรุงเทพฯ ก็ยังมี “ฉลาม” (แดน-วรเวช ดานุวงศ์) นักสืบหนุ่มรูปหล่อ ที่ใช้ร้านตัดขนหมาเป็นฉากบังหน้ารับอาชีพนักสืบกิ๊กอยู่อีกคน งานนี้ฉลามมี “ขนุน” (แจ็ค-เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์) เด็กแว้น ลูกเสี่ยเจ้าของร้านมอเตอร์ไซค์ที่อยู่บ้านติดกัน เป็นผู้ช่วยที่คอยทั้งผลักทั้งดันงานนักสืบ …แต่ด้วยอุดมการณ์ที่มีมาก (จนล้น) ประกอบกับระดับไอคิวที่กระพร่องกระแพร่ง ทำให้หลายครั้งความหวังดีต่อลูกพี่กลับกลายเป็นเรื่องปั่นป่วนชวนวุ่นวายยิ่งไปกว่าเดิมแถมซ้ำร้าย…นายฉลามดันเป็นโรคแพ้ผู้หญิงสวย อยู่ใกล้ทีไร หัวใจเป็นต้องอ่อนระทวยเป็นช็อกโกแล็ตตากแดด ทำให้เกือบจะละเมิดกฎเหล็กของนักสืบไปตกหลุมรักเป้าหมายหลายต่อหลายครั้งจนกระทั่งวันดีคืนดี ฟ้าก็ส่ง “แอ้ม” (แพท-อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา) เด็กสาวบ้านนา หน้าใสกิ๊งเข้ามาอยู่ที่ร้านมินิมาร์ทข้างๆบ้าน เธอคนนี้อินเลิฟในมาดเท่ยียวนกวนประสาทของนายฉลามตั้งแต่แรกเห็น และขอตามติดพี่ฉลามแบบไปไหนไปด้วย เพราะอยากเป็นผู้ช่วยทั้งเรื่องงาน…และหัวใจ แต่ในสายตาฉลาม แอ้มดูเป็น ‘ภาระ’ มากกว่า ‘ยาบำรุงหัวใจ’ เพราะความใสแบบเด็กกะโปโลที่ไม่เข้าตา แถมงานที่ควรจะเป็นความลับก็เกือบจะไม่ลับเอาง่ายๆ เมื่อแอ้มดันไปพ่วงเอา “หมวดโอภาส” (เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) เข้ามาพัวพันในชีวิต เมื่อนายตำรวจหนุ่มรายนี้ดันมาตามติดแอ้มต้อย ๆ ด้วยความหลงใหล จนกลายเป็นก้างชิ้นใหญ่สำหรับงานลับ ๆ ของนักสืบฉลาม แต่ถึงแม้จะมีเรื่องวุ่นวายมากแค่ไหน สำนักงานนักสืบของนายฉลามก็ยังมีลูกค้าผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาไม่ซ้ำหน้า นำพาให้นักสืบหนุ่มของเราต้องเข้าไปพัวพันกับคดีเมียๆ ผัวๆ …ซึ่งแต่ละคดีก็สร้างความมึนหัวให้ฉลามไม่น้อยอาทิ คดีลูกใครหว่า หน้าไม่เหมือนพ่อที่สามีสงสัยว่าภรรยาลูกครึ่งของตัวเอง (พอลล่า เทย์เลอร์) จะแอบมีชู้ เพราะลูกที่คลอดออกมาหน้าตาขี้เหร่ไม่ละม้ายคล้ายคลึงทั้งพ่อและแม่เลยซักนิด??? หรืออย่างคดีอินเต๊อ…อินเตอร์ จากสาวใหญ่ชาวเกาหลีที่หวั่นใจว่าสามีที่เป็นโค้ชเทควันโด (จตุรงค์ มกจ๊ก) ในมหาวิทยาลัยจะแอบมีนอกมีในกับบรรดาลูกศิษย์สาว ๆ ในชมรม ฉลามกับขนุนเลยต้องอุทิศตนไปเป็นเป้าซ้อมเตะให้กับสาวๆเหล่านั้น แต่แล้วกลับพบว่าผู้ต้องสงสัยหลักกลับกลายเป็นคุณพยาบาลประจำทีม (เจนสุดา ปานโต) หรือสุดยอดเคสหักมุม ที่ผู้ว่าจ้างกลายเป็นฝ่ายเมียน้อยที่สงสัยว่าเมียหลวง (มาช่า วัฒนพานิช) กระทำการฆาตกรรมสามีตัวเองเพื่อหวังเงินประกันก้อนโต! หรือกระทั่งสาวพริตตี้ (คริส หอวัง) ที่ดันทำรถสปอร์ตราคา 7 ล้าน ที่ได้เป็นของขวัญจากเสี่ยหาย ก็เลยต้องใช้บริการนักสืบฉลามเป็นที่พึ่ง เพื่อตามหารถกลับคืนมา รวมไปถึงคดีรัก (เกือบ) โรแมนติก เมื่อฉลามรับ 2 คดีซ้อนในวันเดียวกัน ที่ฝ่ายหนึ่ง เป็นเจ้าบ่าวมาขอให้ตามหาตัวเจ้าสาว (นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา) และอีกฝ่ายเป็นเจ้าสาวที่มาขอให้ตามหาตัวเจ้าบ่าว (โบ-ธนากร ชินกูล) เรื่องชักวุ่นวาย เมื่อคนหายทั้งคู่ดันหนีไปพร้อมกัน เพราะต่างก็มาตกหลุมรักกันในวันจองห้องจัดเลี้ยงสำหรับงานแต่งงานแต่ละคดี ฉลามเกือบจะต้องเอาทั้งตัวและหัวใจเข้าแลก เพราะนายฉลามเองก็มีความลับในหัวใจที่ไม่ได้เผยให้ใครล่วงรู้

Placeholder

ทองประกายแสด (2522/1979) เรื่องราวของ "ทองดี" หรือ ทองประกาย ที่มีความใฝ่ฝันถึงชื่อเสียง เงินตรา เกียรติยศ มีจุดกำเนิดจากเด็กสาวในร้านขายของชำ มุ่งสู่เมืองหลวง ที่เธอคิดว่ามีสิ่งดีๆ รออยู่ จากเสน่ห์และความสวยงามที่มี จึงมีผู้ชายมากมายเข้ามาในชีวิต เธอใช้พวกเขาเหล่านั้นเพื่อเป็นบันไดแห่งชีวิตสู่การเป็นคุณทองประกายที่เลิศหรูและร่ำรวย

Placeholder

มายา (2524/1981) "มายา" เป็นเรื่องราวของเส้นทางชีวิตที่นำพาหญิงสาวสามคม ต่างชาติกำเนิด ต่างการอบรม ต่างฐานะให้มาเกี่ยวข้องกันก่อนจะแยกจากกันไป เผยให้เห็นถึงธาตุแท้ของผู้หญิงสามแบบผู้เป็นเสมือนตัวแทนของผู้หญิงทุกยุค ทุกสมัย คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะมีชีวิตที่ดีได้ ถ้ารู้จักเข้าใจและมองเห็นคุณค่าในตัวเองอย่างถ่องแท้ โลกนั้นยุติธรรมและมีเหตุผลเสมอ ใครขาดสิ่งใดก็มักจะได้อีกสิ่งมาทดแทน มีแต่ผู้มากด้วยกิเลศเท่านั้นที่กล่าวหาว่าโลกไม่ยุติธรรม นำความคิดนี้มาทำร้ายตัวเองจนตกต่ำ แล้วก็พร่ำพรรณนาโทษฟ้าดิน โทษผู้อื่น แต่ลืม...โทษตัวเอง นี่คือบทสรุปที่ผู้เขียนสื่อผ่านเรื่องราวและตัวละคร เพื่อให้เรารู้จักและเข้าใจมนุษย์ด้วยกันเองมากยิ่งขึ้น

สาวน้อย (2555/2012) สรรค์ บุตรคนเดียวของ พระชาญชลาศัย เสนาบดีกระทรวงการคลัง สรรค์มีความสามารถในการวาดภาพสีน้ำมัน หลังจากเรียนจบจากฟิลิปปินส์ เขาเดินทางกลับมาเมืองไทยพร้อมกับได้หมั้นหมายกับ สุวลี คืนวันหมั้น สรรค์ได้รู้ความจริงว่า พ่อมีภรรยาใหม่ คือ มารศรี นักร้องไนท์คลับ ซึ่งมารศรีได้กลายเป็นสาเหตุให้สรรค์ต้องมีปากเสียงอย่างรุนแรงกับพระชาญชลาศัย ด้วยความน้อยใจ สรรค์จึงหนีไปอยู่กับ บุญมา เพื่อนสนิท แต่ระหว่างทางสรรค์โดนดักทำร้ายจนทำให้เขาสูญเสียความทรงจำ เมื่อสรรค์รู้สึกตัวก็พบว่า ตนเองอยู่ที่ท่าเรือข้ามฟากเกาะสีชัง โดยได้รับความช่วยเหลือจากเถ้าแก่ย่านท่าเรือ และได้ตั้งชื่อใหม่ให้เขาว่า เสียม เสียมทำงานเป็นจับกังในเรือ วันหนึ่งเรือแล่นผ่านเกาะสีชัง เสียมได้ยินเสียงเพลงอันไพเราะและเกิดหลงใหลในความงดงามของเกาะสีชัง จึงแอบหนีลงจากเรือและว่ายน้ำไปที่เกาะสีชังทันที ระหว่างที่เสียมกำลังว่ายน้ำเขาเกิดหมดแรงไปเสียก่อน แต่ก่อนที่เขาจะหมดสติจมลงไปใต้ท้องทะเล นิด หญิงสาวชาวเกาะมาพบเข้า และได้ให้ความช่วยเหลือจนปลอดภัย เสียมหลงรักนิดตั้งแต่แรกพบจึงขออาศัยอยู่ด้วย แต่เขาเปรียบเหมือนคนพเนจร จึงทำให้ นิ่ม แม่ของนิดและเนื่อง พี่ชาย รวมถึงเชิดชายหนุ่มที่หลงรักนิดมานาน รู้สึกไม่พอใจที่เสียมมาอาศัยอยู่ด้วย พวกเค้าจึงคอยตั้งแง่กับเสียมตลอดเวลา แต่ด้วยความดีของเสียม จึงเอาชนะใจของพวกเขาได้ สิ่งที่ทำให้เสียมประหลาดใจ คือการค้นพบว่า ตนเองมีความรู้เรื่องภาษาอังกฤษ และสามารถวาดรูปได้อย่างงดงาม ด้วยเหตุนี้เสียมจึงตั้งใจวาดรูปนิดและตั้งชื่อรูปนี้ว่า สาวน้อย เขาได้มอบรูปนี้ให้กับเธอในวันแต่งงาน ทั้งคู่ใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุขบนเกาะสีชัง แต่แล้วเหตุการณ์กลับตาลปัตร เมื่อพระชาญชลาศัยรู้ว่าสรรค์ความจำเสื่อม และอาศัยอยู่ที่เกาะสีชัง จึงรีบตามมาพบสรรค์และพากลับไปรักษาที่กรุงเทพฯ แต่สรรค์ไม่ยอมถ้าไม่มีนิดกลับไปด้วย เพราะเหตุนี้พระชาญชลาศัยจึงจำใจยอมพานิดไปอยู่กรุงเทพฯ ด้วยกัน ผลการรักษาทำให้ความทรงจำของสรรค์กลับคืนมา แต่โชคร้ายที่ความทรงจำของสรรค์ตอนที่อยู่เกาะสีชังกลับหายไป แม้กระทั่งนิดหญิงสาวที่สรรค์รักสุดหัวใจเขาก็จำเธอไม่ได้ สุวลีกังวลว่าสักวันหนึ่งสรรค์จะจำนิดได้หากทั้งคู่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน เธอจึงออกอุบายให้นิดไปทำงานเป็นข้ารับใช้ของ คุณหญิงมะลิ ภรรยาของ พระยาธรรมนูญ ระหว่างที่นิดเป็นข้ารับใช้ เธอรู้ว่า คุณหญิงมะลิแอบคบชู้กับ หลวงจินดา เธอจึงคิดจะนำเรื่องนี้ไปบอกพระยาธรรมนูญ แต่ไม่ทันจะได้บอกนิดก็ถูกคุณหญิงมะลิจับได้ และหาเรื่องใส่ความ ทำให้เธอมีความผิดต้องติดคุก ทำให้นิดได้พบกับชดนางละคร ซึ่งเคยมีชื่อเสียงโด่งดังในอดีต ในคุกนี้เองนิดกับชดกลายเป็นเพื่อนที่รู้ใจ เพราะทั้งคู่รักในเสียงเพลงและการแสดงเหมือนกัน จากนั้นไม่นาน แก้ว เพื่อนสนิทของนิดที่พยายามหาทางช่วยให้นิดพ้นโทษ ได้นำความจริงที่คุณหญิงมะลิคบชู้ไปบอกกับพระยาธรรมนูญ เมื่อพระยาธรรมนูญรู้ความจริงจึงช่วยให้นิดและชดพ้นโทษออกมา พร้อมกับจัดตั้งคณะละครของชดให้กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง จากนั้นไม่นานนิดก็กลายเป็นนางเอกสาวพราวเสน่ห์ ผู้คนต่างชื่นชมและเรียกขานเธอว่า วนิดา เมื่อมีพร้อมทั้งชื่อเสียงและเงินทองเธอจึงกลับมาหาสรรค์อีกครั้ง เพื่อทวงชายอันเป็นที่รักคืนมาจากสุวลี ในเมื่อสุวลีทั้งสวยและฉลาด เธอหรือจะยอมเป็นผู้พ่ายแพ้ เมื่อไม่มีใครยอมใคร

หนึ่งมิตรชิดใกล้

หนึ่งมิตรชิดใกล้ (2549/2006) เรื่องของคู่กัดคู่หนึ่งในออฟฟิศที่ผลิตรายการทางคลื่นวิทยุ รวมมิตรเรดิโอ ฝ่ายแรกคือ "แก้มบุ๋ม" (อรจิรา แหลมวิไล) สาวนักเรียนนอกจบใหม่ที่ได้รับมอบหมายให้มาบริหารบริษัทของครอบครัว ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งคือ "นาย" (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) ผู้จัดการทั่วไป ซึ่งเป็นหัวแรงหลักในการผลิตรายการวิทยุแห่งนี้ ทั้งแก้ม และ นาย ไม่ได้เพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรก ทั้งสองเคยเรียนอยู่ห้องเดียวกันสมัยมัธยม โดยนายจะเป็นเด็กนั่งหลังห้อง เป็นนักกีฬาและเดือนประจำโรงเรียน ส่วนแก้มเป็นเด็กสาวที่ตั้งใจเรียน หน้าตกกระ ใส่เหล็กดัดฟัน นั่งอยู่หน้าห้อง ด้วยความที่เป็นคนคนละแบบจึงทำให้เกิดการเขม่นกัน อีกทั้งแต่ละคนยังเคยทำให้ต่างฝ่ายต่างขายหน้ากัน จึงเป็นความไม่ถูกโฉลกที่ฝังใจกันมานาน ไม่เพียงแต่ทะเลาะกันในออฟฟิศเท่านั้น เรื่องราวยิ่งวุ่นไปอีก เมื่อแก้มย้ายเข้าไปอยู่คอนโดห้องตรงข้ามกับนาย ทั้งคู่จึงกลายเป็นคู่กัดทั้งในออฟฟิศและที่บ้าน เวลาที่ทั้งสองคนกัดกันจะเหมือนคนที่ทันกัน ภาษามวยเรียกว่ามวยถูกคู่ คือไม่มีใครยอมใคร จนบางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่า สองคนนี้จะมีความรู้สึกลึกซึ้งต่อกัน แต่นั่นคงเป็นได้แค่ความคิดเท่านั้น เพราะความจริงแล้วทั้งสองต่างก็มีแฟนกันอยู่แล้ว "วี" (ตรีพล พรมสุวรรณ) นักธุรกิจไฮโซเป็นแฟนที่แสนดีจะคอยดูแลแก้มบุ๋มตลอดวเลา ส่วน "อ้อแอ้" (เมย์ เฟื่องอารมณ์) คือแฟนสาวของนาย นิสัยขี้อ้อน รักและเชื่อฟังทุกอย่างที่นายบอก และนอกจากคนทั้ง 4 คนแล้ว ออฟฟิศแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยคนที่ต่างแบบต่างสไตล์มารวมตัวกันแบบไม่น่าเชื่อว่าจะมาอยู่ในที่แห่งนี้ได้ ซึ่งพอมารวมตัวกันแล้วกลับเกิดเป็นส่วนผสมที่น่าสนใจอย่างคาดไม่ถึง "ป้าอุษา" (พิสมัย วิไลศักดิ์) ผู้ก่อตั้งคลื่นวิทยุแห่งนี้ แม้ว่าจะวางมือให้หลานสาวมาบริหารแล้ว แต่แกก็ยังมาคอยป้วนเปี้ยนที่ออฟฟิศเสมอ โดยมี "ลุงอูฐ" (โย่ง เชิญยิ้ม) ดีเจเก่าแก่ที่ถึงจะหมดไฟในการทำงาน แต่ก็ยังคงสร้างสีสันให้กับคนในออฟฟิศ "จูดี้" ตุ้ยตุ่ย พุทธชาด) ดีเจรุ่นพี่ที่ชอบแทะเล็มเด็กหนุ่มๆ เสมอ โดยเฉพาะกับ "ธนา" (ป๊อบ คำเกษม) ดีเจรุ่นใหม่ที่ทั้งหล่อและเป็นที่หมายปองของสาวๆ รวมทั้ง "โก้" (มารุต ยุปานันท์) น้องชายของแก้มบุ๋มซึ่งเป็นดีเจเหมือนกัน แต่มีนิสัยกระล่อน เจ้าชู้ เอาตัวรอดเก่ง และสุดท้าย "ซัน" (สนธยา ชิตมณี) ฝ่ายประสานงานออฟฟิศ นิสัยดี ขี้เล่น จริงใจ ใสซื่อแบบชาวบ้าน

My Melody 360 องศารัก (2556/2013) ละครเพลงซีรีส์แนวใหม่ ที่ใช้ดนตรีและเสียงเพลง เป็นตัวนำเสนอการเล่าเรื่อง เพื่อให้เกิดความแตกต่าง ในเรื่องราว ความสนุกสนาน วุ่นวาย กับการแก้ปัญหาวัยรุ่น วัยเรียน ที่เกิดขึ้น ณ โรงเรียนมัธยมต้นนานาชาติแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ที่ใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พ่อแม่ หรือครู ต้องมีส่วนในการเรียนรู้ และแก้ไขปัญหาของพวกเขา ซึ่งเพลงที่นำมาใช้ จะเล่าเรื่องในฉากนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลงเก่า ที่มา แต่ทำนองใหม่ รวมทั้งเพลงใหม่ ที่เข้ามาประกอบเนื้อหา ฉากร้องเพลงของเรื่องนี้ ส่วนใหญ่จะถูกเล่าโดยการเปลี่ยนฉากเข้าไปในจินตนาการเหมือน เช่น ร้อง เต้น เล่น ละครเวที วันเปิดเทอมแรก ของโรงเรียนมัธยมนานาชาติ แห่งหนึ่ง ครูโจ (เจตริน วรรธนะสิน) ครูพละหนุ่มรูปหล่อ เป็นที่ชื่นชมของบรรดาครูสาว ครูแก่ และนักเรียนมากมาย เทอมใหม่นี้ ครูพละผู้ปั้นนักกีฬาจนโด่งดัง ในสายเยาวชนคนนี้ได้มาพบกับครูมารี (แคทรียา อิงลิช) ครูสาวสวย เซ็กซี่ ที่โรงเรียนสั่งตรงจากต่างประเทศ โดยที่เขาไม่รู้เลยว่า ครูมารีเคยเป็นเพื่อนสมัยมัธยม โดยมารี แอบหลงรักครูโจข้างเดียว ซึ่งบัดนี้เธอได้กลับมาเป็นครูสอนหลักสูตรร้องเพลง และดนตรีแนวใหม่ ณ โรงเรียนแห่งนี้ การแก้แค้นของครูมารีจึงเริ่มไปพร้อม ๆ กับการตกหลุมรักครูโจ โดยมี ครูโรส (รฐา โพธิ์งาม) ครูสวยเซ็กซี่ หุ่นดี เข้ามาประชันรักอีกคน ส่วนเทอมใหม่นี้ บรรดานักเรียน ก็มีทั้งที่เข้ามาใหม่และนักเรียนเก่า แต่ละคนเป็นไปตามวัย ที่ไม่หยุดจะสร้างความปั่นป่วนให้ผู้ปกครอง โรงเรียน เพื่อนฝูง และคุณครู อย่างไม่ได้ว่างเว้น โดยมีคุณครูเข้ามามีส่วนสร้างเหตุการณ์ แต่นักเรียนจะมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน นั้นคือการได้เข้าร่วมการแข่งขัน ร้องเพลงชิงถ้วยรางวัล ระดับประเทศ เริ่มด้วย วิน (พีช พชร จิราธิวัฒน์) นักเรียนใหม่ รูปหล่อ หุ่นนักกีฬา ถูกจับจ้อง จากบรรดาสาว ๆ มากมาย รวมทั้งแพร (เพลง ชนม์ทิดา อัศวเหม) นักเรียนสาวแสนเฉิ่ม โก๊ะสวย แต่ซุ่มซ่ามเพราะสายตาสั้น แต่ไม่ชอบสวมแว่น ที่บังเอิญเพราะความซุ่มซ่ามเลยทำให้ภาพแรกที่ทั้งเธอและวินเจอกัน คือภาพทั้งคู่ต้องเดินชนกัน จนทำให้เค้กแสนอร่อยของแพรหลุดมือ จึงเป็นสาเหตุของการไม่ชอบหน้ากัน นายแจ็ค (แจ็ค แฟนฉัน) ลูกเศรษฐี ขี้โอ่ อ้วนหน้าตาดูไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่เก่ง แต่เป็นขาใหญ่ประจำโรงเรียน เพราะตกซ้ำหลายปี พยายามแทรกตัวมาเป็นคู่แข่งความรักกับวินและเอก (วริศ พรพงศา) (ลูกคนใช้ที่บ้าน ของแจ็คมาเรียนด้วย) ลูกน้องจอมแสบคู่ใจ จัดการเรื่องแทนให้ทั้งหมด โดยที่รู้ว่าแจ็คไม่มีทางได้สาวสวยแน่นอน นอกจากนี้ยังมี แจน (เมทัล สุขขาว) เชียร์ลีดเดอร์สาวสวย เซ็กซี่ ดาวโรงเรียน เจ (มงคล กิจแสวง) เด็กเงียบขรึม แต่รักเสียงเพลงเป็นชีวิตและจิตใจ ใส่หูฟังเพลงตลอดเวลา เรื่องราววุ่น ๆ จึงก่อตัวขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านการเรียน ปัญหาทางบ้าน ปัญหาการอยู่ร่วมกันที่เหล่านักเรียนจอมวุ่นประสบ ครูมารี จำต้องดึงนักเรียนแสบทั้งหมดนี้มาเข้าเรียนดนตรีให้ได้ เพื่อกล่อมเกลา และปรับบุคลิกให้พวกเขาก้าวสู่สังคมอย่างภาคภูมิ แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย นอกจากนี้ ยังมีครูใหญ่สมเจตน์ (ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว), ครูอังคณา (วิยะดา โกมารกุล) ฝ่ายวิชาการ และภารโรงเจ๊ชัย (ธงธง ม๊กจก) ที่แอ๊บแมนเพื่อหวังทำตัวใกล้ชิดหนุ่ม ๆ ในโรงเรียนตลอดเวลา รวมทั้ง เจ๊จุ๊บแจง (มัม ลาโคนิก) แม่ค้ากะเทยที่ตั้งบูธขายขนม เครื่องดื่ม กาแฟ ไอศกรีม ในโรงเรียน เป็นแหล่งที่นักเรียนมานั่งกันประจำ ทั้งหมดนี้ที่จะมาสร้างสีสัน ความสนุกและปั่นป่วนร่วมกันใน ละครMy Melody 360 องศารัก

เจ้าจอม (2535/1992) เจ้าจอมเป็นเด็กกำพร้าที่พระเอกของเราสงสาร จึงนำมาเลี้ยงในบ้าน เพราะว่าเจ้าจอมหน้าไปเหมือน ลูกพี่ลูกน้องคนสนิทของพระเอกที่ตายไป โดยพระเอกคิดว่าถูกฆาตกรรม โดยมีปมเกี่ยวเนื่องกับแม่ตัวเอง พระเอกก็ชอบเจ้าจอมมาก ส่วนเจ้าจอมก็ยกให้พระเอกเป็นวีรบุรุษในดวงใจ ที่บ้านพระเอกก็มีแต่คนเกลียดเจ้าจอม มีแต่พระเอกที่เริ่มหวั่นไหว จนกระทั่งพระเอกต้องไปเรียนต่อที่เมืองนอก ตัวแม่เขียนจดหมายไปโกหก ทำให้พระเอกเขียนจดหมายตัดพ้อ นางเอกไม่รูความในที่พระเอกส่งมาก็เลยหนีออกจากบ้าน จนพระเอกกลับมาเจ้าจอมก็หายไปแล้ว และแล้ววันหนึ่ง พระเอกก็ได้พบกับ หญิงสาวงดงาม ตระกูลสูงส่ง ที่หน้าเหมือนเจ้าจอมของเขาอีกทั้งหญิงสาวคนนั้น ยังมาเป็นน้องสาวสุดที่รักของเพื่อนสนิทเขาอีกด้วย

จ่าเริง เซิ้งยับ (2559/2016) ละครซิทคอม ออกอากาศ 2 เมษายน พ.ศ. 2559 - 25 มีนาคม พ.ศ. 2560

Placeholder
Placeholder

คาราบาว เดอะซีรีส์ (2556/2013) คาราบาว เดอะซีรีส์ เป็นละครโทรทัศน์แบบจบในตอน ที่สร้างมาจากบทเพลงแต่ละบทเพลงในแต่ละอัลบั้มของคาราบาว ผลิตโดย บริษัท แฟล็กชิป เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด ของกฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์

Placeholder

มนต์รักบ้านทุ่ง (2552/2009) เรื่องราวความรักยุ่งๆของอากำนันขาสุดหล่อแห่งบ้านทุ่ง นามว่า ‘ฮันกยอง’ กับน้องนางเมืองกรุง นามว่า ‘ฮยอกแจ’ ที่ย้ายถิ่นฐานกลับมายังบ้านเกิดของแม่ขาสุดสวย(ฮีชอล) และพ่อขาสุดหล่อ(ชีวอน) ชีวิตที่แสนสงบสุขของอากำนันขากลับต้องวุ่นวายตั้งแต่วันแรกที่น้องนางคนงาม เข้ามาในชีวิต กับสารพัดวิธีพิชิตใจอากำนันขาที่น้องนางงัดขึ้นมาใช้แบบไม่รู้จบ พร้อมด้วยเหล่าตัวละครมากมายที่พร้อมจะมาสร้างสีสันให้บ้านทุ่งต้องสะดุ้ง สะเทือน ความรักของน้องนางคนงามกับอากำนันขาสุดหล่อจะสมหวังหรือต้องผ่าฟันปัญหามากแค่ไหน ติดตามได้ใน ‘มนต์รักบ้านทุ่ง’

สี่แผ่นดิน (2546/2003) พลอยเกิดในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บิดาของ พลอย ชื่อ พระยาพิพิธ ฯ มารดา ชื่อ แช่ม เป็นเอกภรรยาของพระยาพิพิธ ฯ แต่ไม่ใช่ฐานะคุณหญิง เพราะคุณหญิงท่าน ชื่อ เอื้อม เป็นคนอัมพวา ได้กลับไปอยู่บ้านเดิมของท่านเสียตั้งแต่ก่อนพลอยเกิด เหลืออยู่แต่บุตรของคุณหญิง 3 คน อยู่ในบ้าน คือ คุณอุ่น พี่สาวใหญ่ อายุ 19 ปี คุณชิดพี่ชายคนรอง อายุ 16 ปี คุณเชย พี่สาวคนเล็กแต่แก่กว่าพลอย 2 ปี พลอยมีพี่ชายร่วมมารดาหนึ่งคน ชื่อ เพิ่ม อายุ 12 ปี และมีน้องสาวคนละมารดาซึ่งเกิดจากแวว ภรรยาคนรองจาก แม่แช่ม ชื่อ หวาน อายุ 8 ปี ในบรรดาพี่น้องร่วมบิดา พลอยจะคุ้นเคยกับคุณเชยเป็นพิเศษ เพราะอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ส่วนคุณอุ่นพี่สาวใหญ่นั้น พลอยเห็นว่าเป็นผู้ที่น่าเกรงขาม เพราะเธออยู่บนตึกร่วมกับเจ้าคุณพ่อ ซึ่งเจ้าคุณพ่อก็ไว้วางใจว่าเป็นลูกสาวใหญ่ จึงให้ถือกุญแจแต่ผู้เดียว และจัดการกับการจับจ่ายใช้สอยทุกอย่างภายในบ้าน ส่วนคุณชิดและพ่อเพิ่ม พลอยเกือบจะไม่รู้จักเสียเลยเพราะคุณชิดไม่ค่อยอยู่บ้าน และพ่อเพิ่มนั้นดูจะสวามิภักดิ์คุณชิดมากกว่าพี่น้องคนอื่น ซึ่งพ่อเพิ่มต้องแอบไปมาหาสู่มิให้แม่แช่มเห็นเพราะถ้าแม่แช่มรู้ทีไรเป็นเฆี่ยนทุกที ส่วนหวานน้องคนละแม่ยังเด็กเกินไปที่พลอยจะให้ความสนใจเจ้าคุณพ่อได้ปลูกเรือนหลังหนึ่งให้แม่แช่มกับลูก ๆ อยู่ใกล้กับตัวตึกในบริเวณบ้าน มีบ่าวซึ่งแม่แช่มช่วยมาไว้ใช้ทำงานบ้านต่าง ๆ ชื่อ นางพิศ ตั้งแต่พลอยจำความได้จนถึงอายุ 10 ขวบ พลอยมีความรู้สึกว่า แม่และคุณอุ่นมีเรื่องตึง ๆ กันอยู่เสมอ ซึ่งก่อนที่แม่พลอยจะออกจากบ้าน พลอยสังเกตเห็นว่ามีความตึงเครียดระหว่างแม่และคุณอุ่นมากกว่าปกติ จนกระทั่งคืนหนึ่งแม่ได้เข้ามาปลุกพลอยแล้วบอกว่าจะเอาพลอยไปถวายตัวกับเสด็จ ส่วนพ่อเพิ่มเจ้าคุณพ่อไม่ยอมให้เอาไป คืนนั้นแม่เก็บของอยู่กับนางพิศทั้งคืน พอรุ่งสางแม่ให้นางพิศขนของไปไว้ที่ศาลาท่าน้ำ และให้พลอยไปกราบลาเจ้าคุณพ่อ เมื่อพลอยลาเจ้าคุณพ่อเสร็จแล้วก็เดินมาที่ศาลาท่าน้ำ เพื่อลงเรือโดยมีพ่อเพิ่มนั่งร้องไห้อยู่ที่ศาลาท่าน้ำ พอเรือแล่นออกไป พลอยก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับสิ่งต่าง ๆ ที่เห็น จนกระทั่งมาถึงที่ท่าพระ แม่แช่มก็พาพลอยขึ้นจากเรือแล้วเดินเลาะกำแพงวังไปสักครู่หนึ่งก็เลี้ยวเข้าประตูชั้นนอก พลอยนั้นตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น เพราะภายในบริเวณวังนั้นเต็มไปด้วยตึกใหญ่โตมหึมา ผู้คนยักเยียดเบียดเสียดกันตลอด แล้วเดินเลาะกำแพงวังไปจนของที่วางขายก็มีมากมาย พอมาถึงกำแพงสูงทึบอีกชั้นหนึ่ง จะมีประตูบานใหญ่เปิดกว้างอยู่ คนที่เดินเข้าออกประตูล้วนเป็นผู้หญิงทั้งสิ้น แม่แช่มเดินข้ามธรณีประตูเข้าไปข้างในแล้ว แต่พลอยเดินข้ามธรณีประตูด้วยความพะว้าพะวัง จึงทำให้เท้าที่ก้าวออกไปยืนอยู่บนธรณีประตู พลอยตกใจมากวิ่งร้องไห้ไปหาแม่แช่ม แม่แช่มจึงพาพลอยไปกราบที่ธรณีประตูเสียก็หมดเรื่องพลอยได้รู้มาทีหลังว่า หญิงที่ทำหน้าที่เฝ้าประตูวังและดูแลความสงบเรียบร้อยในวังนั้น ชาววังทั่วไปเรียกกันว่า "โขลน" แม่แช่มพาพลอยเดินไปเรื่อย ๆ ผ่านที่ต่าง ๆ มากมาย ในที่สุดก็มาถึงตำหนักของเสด็จ แม่จะพาพลอยไปหาคุณสายก่อน ซึ่งเป็นข้าหลวงก้นตำหนักของเสด็จคุณสายเป็นข้าหลวงตั้งแต่เสด็จท่านยังทรงพระเยาว์ เสด็จจึงมอบให้คุณสายช่วยดูแลกิจการส่วนพระองค์ทุกอย่าง และดูแลว่ากล่าวข้าหลวงทุกคนในตำหนัก เมื่อพลอยได้พบกับคุณสายแล้ว พลอยก็รู้สึกว่าคุณสายเป็นคนใจดีมาก ไม่ถือตัวว่าเป็นคนโปรดของเสด็จ และยังคอยช่วยเหลือข้าหลวงตำหนักเดียวกันเสมอ คุณสายหาข้าวหาปลาให้แม่แช่มกับพลอยกิน แล้วคุณสายก็จัดการเย็บกระทงดอกไม้เพื่อให้พลอยนำไปถวายตัวกับเสด็จ เมื่อพลอยถวายตัวกับเสด็จเสร็จแล้ว คุณสายก็แนะนำให้พลอยรู้จักกับช้อย ซึ่งเป็นหลานของคุณสาย ช้อยอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับพลอย ช้อยเป็นลูกของพี่ชายของคุณสาย ชื่อ นพ มียศเป็นคุณหลวง แม่ของช้อย ชื่อ ชั้น ช้อยมีพี่ชายอยู่หนึ่งคน ชื่อ เนื่อง ช้อยนั้นเป็นเด็กที่ซุกซนและมีเพื่อนฝูงมาก พลอยจึงเข้ากับช้อยได้ดีทีเดียว พลอยอยู่ในวังได้หลายวันแล้ว ก็ได้รับความรู้ใหม่ ๆ ได้เห็นของใหม่ ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด คุณสายให้พลอยเรียนหนังสือพร้อมกับช้อย และคุณสายก็ได้สอนทำสิ่งต่าง ๆ ให้เสมอ เช่น การเจี่ยนหมากจีบพลูยาว ใส่เชี่ยนหมากเสวยของเสด็จ ตลอดจนดูแลเครื่องทรงต่าง ๆ ตอนกลางคืน คุณสายให้พลอยไปถวายงานพัดเสด็จตามปกติตอนกลางวันเป็นเวลาว่าง นอกจากคุณสายจะมีอะไรมาให้ทำเป็นพิเศษหรืออารมณ์ไม่ดี ซึ่งตอนกลางวันเป็นเวลาที่พลอยจะได้ติดตามช้อยออกไปเที่ยวนอกตำหนักไปหาเพื่อนฝูงหรือวิ่งเล่น ช้อยช่วยทำให้พลอยคลายเหงาและช่วยชักนำสิ่งที่น่าสนใจต่าง ๆ มาให้พบเห็นหรือได้รู้จักอยู่เสมอ ในที่สุดวันที่พลอยเฝ้าคอยด้วยความประหวั่นใจก็มาถึง เมื่อแม่แช่มจะออกจากวังและได้ทูลลาเสด็จแล้ว พลอยเสียใจอย่างมาก แต่เสด็จก็ทรงเมตตาพลอย ฝากให้คุณสายช่วยดูแลพลอย นอกจากนี้ยังมีช้อยที่คอยอยู่เป็นเพื่อนพลอย ทำให้พลอยรู้สึกดีขึ้น ในวันหนึ่งช้อยได้ชวนพลอยออกไปหาพ่อและพี่ชายของช้อย ซึ่งจะมาเยี่ยมทุกวันพระกลางเดือน ทำให้พลอยรู้สึกรักและผูกพันกับครอบครัวของช้อยไปโดยไม่รู้ตัว วันหนึ่งแม่แช่มได้มาเยี่ยมพลอยถึงในวังพร้อมกับของฝากมากมาย แม่บอกว่าแม่กำลังทำการค้าขายอยู่ที่ฉะเชิงเทรากับญาติห่าง ๆ ชื่อ ฉิม และต่อมาพลอย ก็รู้มาว่า แม่แช่มได้แต่งงานกับพ่อฉิมแล้ว ซึ่งแม่ก็ได้ตั้งท้องแล้ว คุณสายได้พาพลอยไปหาเจ้าคุณพ่อ เพื่อคุยเรื่องงานโกนจุกของพลอยที่เสด็จทรงเมตตาโกนจุกประทานให้ ซึ่งเจ้าคุณพ่อก็ไม่ได้ขัดข้องงานโกนจุกนั้นจะจัดขึ้นที่บ้านของช้อย และทั้งพลอยและช้อยก็ได้โกนจุกพร้อมกัน เจ้าคุณพ่อของพลอยก็มาร่วมงานนี้ด้วย งานโกนจุกนั้นผ่านไปได้ด้วยดี เมื่อคุณสาย พลอย และช้อย เดินทางกลับจากบ้านช้อยมาถึงตำหนักของเสด็จ เสด็จก็มีรับสั่งให้คุณสายขึ้นไปเฝ้าบนตำหนักทันที เสด็จจึงบอกเรื่องที่แม่แช่มตายแล้วที่ฉะเชิงเทรา และมอบภาระให้คุณสายเป็นผู้บอกพลอยให้ทราบ ห้าปีให้หลังจากวันที่แม่แช่มตาย พลอยก็ยังอยู่ที่ตำหนักของเสด็จ พลอยอายุได้ 15 ปีเศษแล้ว นับว่าเป็นสาวเต็มตัว และถ้าใครเห็นก็ต้องชมว่าสวยเกินที่คาดไว้ ส่วนช้อยเมื่อเป็นสาวแล้วก็ไม่ได้ทำให้นิสัยของช้อยเปลี่ยนไปได้เลย ช้อยยังคงเป็นคนสนุกสนานร่าเริง และมีความคิดเป็นของตนเองอย่างแต่ก่อน ซึ่งทั้งพลอยและช้อยได้สละความเป็นเด็กย่างเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่อย่างสมบูรณ์ การที่พลอยสนิทสนมกับช้อย ทำให้พลอยนั้นสนิทกับครอบครัวของช้อยด้วย พี่เนื่องซึ่งเป็นพี่ชายของช้อยได้หลงรักพลอยเข้า จึงทำให้พี่เนื่องมักจะตามพ่อนพมาเยี่ยมช้อยกับพลอย เมื่อพี่เนื่องเรียนทหารจบ พี่เนื่องจึงเปิดเผยความรู้สึกที่มีกับพลอยทำให้พลอยเขินอายไม่กล้าที่จะเจอหน้าพี่เนื่องอีก พลอยหลบหน้าพี่เนื่องอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งพี่เนื่องถูกส่งตัวไปรับราชการที่นครสวรรค์ ทำให้พลอยยอมออกมาพบพี่เนื่องเพื่อร่ำลา พลอยจึงเตรียมผ้าแพรเพลาะที่พลอยเคยห่มนอนให้พี่เนื่อง ซึ่งพี่เนื่องได้ให้สัญญากับพลอยว่าจะกลับมาแต่งงานกับพลอย นอกจากครอบครัวของช้อยแล้ว ญาติของพลอยที่ยังติดต่อกับพลอยอยู่ก็คือพ่อเพิ่ม ซึ่งตอนนี้ได้รับราชการอยู่ที่กรมพระคลัง หอรัษฎากรพิพัฒน์ และคุณเชยซึ่งหลังจากที่พี่เนื่องไปนครสวรรค์ได้ไม่กี่วัน คุณเชยก็แวะมาเยี่ยมพลอยที่วัง ซึ่งขณะนั้นในพระบรมมหาราชวังก็จัดให้มีงานขึ้นที่สวนศิวาลัยพอดี ซึ่งงานนี้ได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เพราะพระเจ้าอยู่หัวเสด็จกลับจากประพาสยุโรป การจัดงานจึงเป็นไปตามแบบฝรั่ง พลอยจึงพาคุณเชยไปเที่ยวงานที่สวนศิวาลัย และในงานนี้เองทำให้พลอยได้พบกับ คุณเปรม ซึ่งคุณเปรมก็แอบมองพลอยตลอดเวลาจนทำให้พลอยรู้สึกไม่พอใจ หลังจากวันนั้นคุณเปรมก็ได้สืบเรื่องราวของพลอย จนรู้ว่าพลอยเป็นลูกสาวของพระยาพิพิธฯ มีพี่ชายก็คือ พ่อเพิ่ม คุณเปรมได้ทำความรู้จักกับพ่อเพิ่มจนกลายเป็นเพื่อนกัน ซึ่งพ่อเพิ่มพยายามจะแนะนำคุณเปรมให้กับพลอย แต่พลอยปฏิเสธและไม่สนใจ จนกระทั่งวันหนึ่ง พลอยได้รับข่าวของพี่เนื่องมาว่า พี่เนื่องกำลังจะแต่งงานกับสมบุญ ลูกสาวแม่ค้าขายข้าวแกง พลอยรู้สึกเสียใจมาก แต่ก็สามารถทำใจได้ คุณเปรมได้พ่อเพิ่มช่วยเป็นพ่อสื่อให้ แต่พลอยก็ยังไม่สนใจคุณเปรม คุณเปรมจึงเข้าหาทางผู้ใหญ่ โดยให้พ่อเพิ่มพาไปเที่ยวที่บ้าน จึงได้พบกับพระยาพิพิธฯเจ้าคุณพ่อของพลอย และได้พูดคุยกันอย่างถูกคอ หลังจากนั้นไม่นานคุณอานุ้ยซึ่งเป็นญาติผู้ใหญ่ของคุณเปรมก็ได้มาทาบทามสู่ขอพลอยจากเจ้าคุณพ่อ ซึ่งท่านก็ไม่ได้ปฏิเสธคุณเปรม และนำเรื่องมาปรึกษากับคุณสายให้คุณสายไปทูลถามเสด็จ เสด็จก็ทรงอนุญาต แต่พลอยนั้นกลับปฏิเสธการแต่งงาน เพราะไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี พลอยจึงนำเรื่องนี้ไปปรึกษาช้อย ซึ่งช้อยนั้นอยากให้พลอยแต่งงานตามที่ผู้ใหญ่ต้องการ เพราะช้อยเห็นว่าคุณเปรมนั้นรักพลอยจริง ๆ และอีกอย่างก็เพื่อให้พี่เนื่องรู้ว่า พลอยก็ไม่ใช่คนสิ้นไร้ไม้ตอกด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ จึงทำให้พลอยตัดสินใจยอมแต่งงานกับคุณเปรมตามที่ผู้ใหญ่ต้องการ เมื่อพลอยแต่งงานกับคุณเปรมแล้ว ก็ได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านคลองพ่อยมซึ่งเป็นบ้านของคุณเปรม วันหนึ่งคุณเปรมพาพลอยไปพบกับตาอ้น ซึ่งเป็นลูกชายของคุณเปรมที่เกิดกับบ่าวในบ้านพลอยไม่ได้คิดโกรธคุณเปรมเลย และยังกลับนึกรักและเอ็นดูตาอ้น พลอยจึงขอคุณเปรมรับตาอ้นเป็นลูกของตน พลอยได้เลี้ยงดูตาอ้นเสมือนลูกของพลอยคนหนึ่ง หลังจากนั้นไม่นานพลอยก็ตั้งท้องตาอั้น ซึ่งเป็นผู้ชายและเป็นลูกคนแรกของพลอย แต่หลังจากพลอยคลอดตาอั้นได้ไม่นาน เจ้าคุณพ่อก็ตาย เมื่อสิ้นเจ้าคุณพ่อแล้ว คุณเชยก็ทนอยู่กับคุณอุ่นที่บ้านคลองบางหลวงไม่ได้ จึงตัดสินใจหนีตามหลวงโอสถไป ทำให้พลอยรู้สึกไม่สบายใจเลย เพราะเป็นห่วงคุณเชยเมื่อเสร็จงานศพของเจ้าคุณพ่อแล้ว พลอยจึงพาตาอั้นเข้าวังเพื่อไปถวายตัวต่อเสด็จ และขอประทานชื่อ เสด็จนั้นทรงตั้งชื่อให้ตาอั้นว่า ประพันธ์ พลอยจึงตั้งชื่อให้ตาอ้นว่า ประพนธ์ พอตาอั้นอายุได้ขวบกว่า ๆ พลอยก็ตั้งท้องลูกคนที่สอง แต่ช่วงที่พลอยตั้งท้องลูกคนที่สองอยู่นั้น พระเจ้าอยู่หัวก็ประชวรและเสด็จสวรรคตในเวลาต่อมา ห้าปีต่อมา เมื่อตาอ้นอายุได้ 7 ขวบ ตาอั้นอายุได้ 5 ขวบ และตาอ๊อดลูกชายคนที่สองของพลอยอายุได้ 3 ขวบ พลอยก็คลอดลูกคนที่สาม เป็นผู้หญิงและตั้งชื่อว่า ประไพ ในช่วงนั้นก็มีเหตุการสำคัญคือสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่ตัวพลอยเองก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรมาก นอกจากที่ว่าเป็นเรื่อง “ฝรั่งรบกัน” ที่ทำให้ข้าวของแพง หลังจากนั้นวันหนึ่ง คุณอุ่นซึ่งไม่ได้ติดต่อกันตั้งแต่พ่อของพลอยเสียก็มีขอความช่วยเหลือ พลอยจึงรับปากช่วยเหลืออีกทั้งเสนอให้คุณอุ่นย้ายมาอยู่ด้วยกันทำให้คุณอุ่นซึ้งในน้ำใจและความไม่อาฆาตพยาบาทของพลอยมากจนถึงกับร้องไห้ สองปีต่อมาคุณเปรมก็ส่งอั้นและอ๊อดไปเรียนนอก ส่วนอ้นอยากเรียนทหารจึงไปเรียนโรงเรียนทหาร จากนั้นพลอยก็ได้แต่นั่งคอยที่จะรับจดหมายจากลูก ๆ ในช่วงราชการใหม่นี้พลอยก็ได้สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่าง คุณเปรมนั้นแต่งตัวพิธีพิถันกว่าที่เคยในรัชกาลก่อน และมาวันหนึ่งก็ได้มาบอกให้พลอยไว้ผมยาว เพราะในหลวงท่านโปรด และต่อมาก็บอกให้แม่พลอยนุ่งผ้าซิ่นแทนผ้าโจงกระเบน ทำให้พลอยไม่กล้าออกจากบ้านอยู่นาน จากนั้นไม่กี่ปี ตาอั้นก็เรียนจบ และกำลังจะกลับมาบ้าน ส่วนตาอ้นนั้นออกเป็นทหารต้องไปประจำหัวเมืองต่างจังหวัด แต่พลอยก็ต้องตกใจเมื่อตาอั้นกลับมาจริง ๆ พร้อมกันภรรยาแหม่มชื่อ ลูซิลล์ หลังจากนั้นในหลวงก็ประชวรอยู่ไม่นาน และเสด็จสวรรคตในที่สุด หลังจากรัชกาลที่ 6 เสด็จสวรรคต คุณเปรมก็ล้มป่วยอยู่หลายวัน และความสนใจต่อสิ่งต่าง ๆ ความกระหายที่เป็นแรงผลักดันของชีวิตก็ลดน้อยลง จนพลอยต้องเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายชักชวนให้คุณเปรมสนใจสิ่งต่าง ๆ ผ่านไปไม่นาน ตาอ๊อดก็เรียนจบกลับมาเมืองไทย และไม่นานคุณเปรมก็ออกจากราชการ หลังจากนั้นก็เป็นคนหงุดหงิดง่าย สิ่งที่คุณเปรมพอจะสนใจอยู่อย่างเดียวก็คือการขี่ม้า และมาวันหนึ่งคุณเปรมก็ตกม้าและเสียชีวิตลง ตั้งแต่ที่ตาอั้นกลับมาก็มีความคิดอย่างหนึ่งที่ทำให้แม่พลอยตกใจ ซึ่งก็คือความคิดเกี่ยวกับบ้านเมืองของตาอั้น ซึ่งก็คือความคิดเสรีนิยมและเกี่ยวกับการปกครองแบบประชาธิปไตยที่ได้ไปเรียนรู้ตอนไปเรียนเมืองนอก ในช่วงนั้นผู้คนก็ต่างพูดกันเรื่องเกี่ยวกับคำทำนายที่ว่าพระมหากษัตริย์จะสิ้นพระราชอำนาจ หลังจากนั้นไม่นาน ประเทศไทยก็ได้เปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตย พอเปลี่ยนการปกครองได้สองเดือนเศษ ตาอ้นก็กลับมาเยี่ยมบ้าน และก็มีเรื่องให้พลอยกลุ้มใจ เพราะตาอ้นนั้นมีความเห็นตรงข้ามกับการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองอย่างรุนแรง และคิดว่าตาอั้นเป็นพวกกบฏ ไม่มีความจงรักภักดี จนถึงกับทำให้สองพี่น้องทะเลาะกันใหญ่โตและไม่คุยกัน จากนั้นไม่นาน ตาอ้นก็ไปรบร่วมกับฝ่ายที่ต่อต้านคณะราษฎร และถูกจับ เป็นนักโทษประหาร และรัชกาลที่ 7 ก็สละราชสมบัติ ประไพหมั้นกับคุณเสวีซึ่งเป็นเพื่อนของตาอั้น และแต่งงานกัน หลังจากนั้นตาอ้นก็ถูกส่งตัวไปอยู่เกาะตะรุเตา ตาอ๊อดก็ถูกกดดันโดยพี่น้องทำให้ต้องออกไปทำงานรับราชการ แต่ก็ทำอยู่ได้ไม่นานแล้วก็ลาออก แล้วจึงตัดสินใจไปทำงานที่เหมืองกับเพื่อนที่ปักษ์ใต้ จากนั้นไม่นาน ก็เกิดสงครามโลกครั้งที่สอง แต่พลอยก็ยังไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องใกล้ตัว จนกระทั่งวันหนึ่งที่ทหารญี่ปุ่นเริ่มเข้ามาในเมืองไทย เมืองไทยจึงเจรจาและตกลงเป็นฝ่ายญี่ปุ่น อยู่มาวันหนึ่ง รัฐบาลก็ได้ออกกฎให้ทุกคนใส่หมวกเวลาออกจากบ้าน และห้ามกินหมากพลู รวมทั้งให้เริ่มมีการกล่าวคำว่า สวัสดี เป็นคำทักทาย และใช้คำว่า ฉัน ท่าน จ๊ะ จ๋า เมื่อพูดกับคนอื่น โดยบอกว่าเป็นการมี วัฒนธรรม เพื่อให้ชาติเจริญ ต่อมาไม่นาน พลอยก็ได้รู้ว่าตาอั้นไปมีเมียแล้วชื่อสมใจ และมีลูกสองคนคือแอ๊ดและแอ๊วโดยที่ไม่กล้าบอกแม่พลอยเพราะกลัวแม่จะไม่ถูกใจ แม่พลอยจึงดีใจและรีบไปรับหลานและลูกสะใภ้มาอยู่ที่บ้าน แต่พอมาอยู่บ้านก็อยู่อย่างสงบได้เพียงไม่นานก็เริ่มมีเครื่องบินมาทิ้งระเบิด ทำใหบ้านของแม่พลอยต้องขุดหลุมหลบภัยและต้องคอยระวังตื่นมากลางดึกและไปหลบในหลุมเมื่อได้ยินเสียงเครื่องบิน จนมาครั้งหนึ่งที่พลอยหลบอยู่ในหลุมและรู้สึกถึงความสั้นสะเทือนรุนแรงมาก เมื่อพอพลอยออกมาจากหลุมแล้วก็ได้เห็นว่าบ้านของพลอยเองได้โดนระเบิดเข้าเสียแล้ว จากนั้นพลอยจึงต้องย้ายไปอยู่ที่บ้านคลองบางหลวงซึ่งเป็นบ้านเกิด พอย้ายบ้านมาได้ไม่นานพลอยก็ได้ข่าวว่าตาอ๊อดเจ็บหนักด้วยโรคมาลาเรีย ตาอ้นที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวจึงไปอยู่ดูแลตาอ๊อดและยังไม่ได้กลับบ้าน จากนั้นไม่นานตาอ้นก็กลับมาบ้านพร้อมกลับข่าวร้ายว่าตาอ๊อดได้ตายเสียแล้ว อ้นจึงตัดสินใจบวชให้แก่อ๊อด หลังจากนั้นพลอยก็เจ็บอยู่นานหลายเดือน จนกระทั่ง รัชกาลที่ 8 สวรรคตอย่างกะทันหัน เมื่อได้ทราบข่าวการสวรรคตพลอยก็สิ้นใจไปดุจใบไม้แก่ที่ร่วงโรยหลุดลอยไปกับสายน้ำในคลองบางหลวง ผู้เขียนได้ขมวดปมตรงท้ายว่าสี่แผ่นดินนั้นช่างเป็นเวลาที่ยาวนานเหลือเกินชีวิตพลอยได้ผ่านสิ่งต่าง ๆ มานานานัปการและมากพอแล้วที่จะลาจากโลกนี้ไปเพราะเครื่องยึดเหนี่ยวจิดใจคือองค์พระมหากษัตริย์ได้เสด็จสวรรคตไปอย่างกะทันหัน ติดตามชมละคร สี่แผ่นดิน