2557
Rising Sun รอยฝันตะวันเดือด (2557/2014) รอยฝัน ตะวันเดือด เป็นเรื่องราวของ ริว โซเรียวลำดับที่ 20 แห่งตระกูลโอะนิซึกะ ริวได้รับการยอมรับในเรื่องการทำงาน แต่เรื่องหัวใจเขากลับถูกปฏิเสธการแต่งงานจาก มายูมิ หญิงสาวที่ทางผู้ใหญ่เลือกไว้ให้เป็นคู่ครอง ริว เป็นผู้ชายที่ไม่เคยถูกผู้หญิงปฏิเสธมาตลอดชีวิต เค้าจะยอมให้เธอมาลบเหลี่ยมคงเป็นไปไม่ได้ เมื่อรู้ว่า ยูจิ บุตรชายของผู้บัญชาการตำรวจกำลังให้ความสนใจมายูมิอยู่ด้วย ส่วนมายูมิปฏิเสธริวผู้ยิ่งใหญ่เพราะตลอดเวลา 7 ปี ที่ผ่านมาริวไม่เคยสนใจเธอเลยในฐานะคู่หมั้นที่ควรจะคบกันแบบคู่รัก แต่จริง ๆ แล้วริวแกล้งไม่สนใจเธอตลอดเวลาที่เธอเป็นนักศึกษาแพทย์ เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับเธอ แต่เขาก็ปากแข็งไม่ยอมบอกมายูมิ ทำให้มายูมิเข้าใจผิดมาตลอดว่าเขาไม่เคยสนใจเธอเลย แต่ทำทุกอย่างเพียงแค่ต้องการทำตามผู้ใหญ่เท่านั้น ถึงแม้ในใจมายูมิเองก็เจ็บปวดที่จะต้องตัดใจจากผู้ชายที่เธอรักเขามาตลอดเช่นกัน มายูมิจึงลองเสนอคำท้าให้ริวทำให้เธอรักให้ได้ เพราะเธอจะไม่ยอมแต่งงานกับเขาอย่างเด็ดขาดหากปราศจากความรัก ริวรับคำท้าว่าจะเริ่มต้นสานสัมพันธ์กับมายูมิ ทั้งคู่จึงได้ออกเดทกันที่ใต้ต้นซากุระ แต่เส้นทางความรักของทั้งคู่ก็ติดขัด เมื่อ อาคิโกะ นักแสดงสาวอดีตคู่ควงของริว มาหามายูมิที่โรงพยาบาล ประกาศว่าเธอเป็นคู่รักของริว ทำให้มายูมิเสียใจและตัดรอนริว เมื่อริวรู้จึงยื่นคำขาดไม่ให้ อาคิโกะมายุ่งเกี่ยวกับเขาและมายูมิอีก แต่มายูมิก็ฝังใจว่าริวปันใจให้คนอื่น เธอจึงออกเดทกับยูจิ ซึ่งเรื่องนี้เองที่ทำให้ริวโกรธมายูมิมากที่ทำให้เขาเสียหน้าและคิดว่ามายูมิคงมีอะไรกับยูจิแล้ว ริววางแผนหักหาญน้ำใจมายูมิพาเข้าไปอยู่ในบ้าน อย่างไม่สนใจว่ามายูมิจะรู้สึกยังไงแค่ไหน เขาต้องการแสดงความเป็นเจ้าของเพื่อให้ทุกคนรู้ว่าเธอคือผู้หญิงของเขาคนเดียวเท่านั้น เขาก็ไม่ปล่อยมายูมิกลับบ้านอีกเลย ริวบังคับให้มายูมิมาอยู่กับเขาที่บ้านด้วยการเอาเรื่องครอบครัวเธอมาขู่ นับแต่นั้นมายูมิกับริวก็ได้อยู่ห้องเดียวกัน ริวยังยอมให้เธอไปทำงานที่โรงพยาบาลแต่เขาจะต้องเป็นคนไปรับส่งเท่านั้น ขณะเดียวกัน ปัญหาระหว่างผู้มีอิทธิพล ปัญหาศึกระหว่างสองตระกูล โอนิซึกะ และ มิซาว่า ที่คิดว่าจบสิ้นไปแล้วก็กลับคุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อ ทาคาโอะ ลูกชายที่เกิดจากริกิ ตั้งตนขึ้นเป็นโอะยะบุน (นายใหญ่) คนใหม่ วางแผนร่วมมือกับ มาซารุ ผู้ทรงอิทธิพลที่ต้องการโค่นล้มริวให้ได้ โดยวางแผนให้ ฮารุ มิอุระ เจ้าของไนต์คลับเซเวนซีส์คลับหรูบนถนนราตรีผิดใจกับริวด้วยการป้ายความผิดว่าพวกของริวอยู่เบื้องหลังการตายของคนของฮารุ ริวจึงรีบไปปรับความเข้าใจกับทางฮารุด้วยการพามายูมิไปด้วย แต่กลับกลายว่าเขาถูกลอบทำร้ายอาการสาหัส มายูมิรีบส่งโรงพยาบาลและรู้ใจแล้วว่ารักริวมากแค่ไหนตอนที่กำลังจะสูญเสียเขาไป เธอสัญญากับตัวเองว่าถ้าเขารอดเธอจะแต่งงานกับเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข และแล้วริวก็รอดพ้นวิกฤติการผ่าตัดสำเร็จ ส่วนอาคิโกะยังไม่ยอมเลิกรา ขอให้ไทชิลูกน้องคนสนิทของริวพาไปเยี่ยม ยูจิหลอกใช้ให้เธอมาอัดเสียงริวว่าเจ็บจริงหรือแกล้งเพราะริวปฏิเสธการให้ปากคำกับเขา แต่ริวก็ไม่ยอมใจอ่อนกับเธออีกไม่ยอมให้เข้าเยี่ยมเด็ดขาด ส่วนโคจิพยายามสืบหาตัวบงการว่าใครเป็นคนสั่งฆ่าริว เขาสงสัย มาซารุ กับ ยามาโมโต้ ผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในเวลานี้ แท้จริงแล้วยามาโมโต้ต้องการครองเมืองท่าแห่งนี้ด้วยการสั่งให้กำจัดริว เมื่อริวรอดไปได้และไม่ตายยามาโมโต้จึงสั่งให้สังหาร 3 ที่ปรึกษาอาวุโสของริว ทำให้ คาซุมะ เสียชีวิต ส่วน โคจิ กับ มาซาโตะ อาการหนัก ขณะที่ริวออกจากโรงพยาบาลก็ต้องมารับรู้ข่าวร้าย ริวจึงวางแผนให้ศัตรูตายใจว่าพวกเขากำลังเสียขวัญ ตัดสินใจประกาศแต่งงานเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องต่าง ๆ ให้เบาบางลง ยูจิเก็บอาการริษยาริวอย่างมากที่ได้มายูมิไปครอบครอง จึงใช้อาคิโกะให้หลอกริวขึ้นคอนโดเพื่อถ่ายรูปส่งให้ มายูมิเข้าใจผิด มายูมิทำท่าไม่สนใจกับรูปภาพที่ยูจิเอามาให้ดูและไม่ยกเลิกการแต่งงานกับริว หากแต่ในใจเธอคุกรุ่นและเก็บไปถามกับริวโดยตรง เมื่อริวเห็นภาพเขาอธิบายจนมายูมิเข้าใจ ริวภูมิใจที่มายูมิเป็นผู้หญิงที่หนักแน่นและเชื่อใจเขา ริวอยากให้มายูมิหายแคลงใจทุกเรื่อง จึงได้หยิบหีบเอกสารที่ตกทอดหลายชั่วอายุคนมาเปิดดูเอกสารกรรมสิทธิ์แมนชั่นที่ทำธุรกรรมร่วมหุ้นกับ เซโกะ (แพรวดาว) แต่แล้วเขาก็แทบช็อคเมื่อพบจดหมายหลังกล่องไม้ได้ไขความลับที่เก็บไว้นาน นั่นคือบิดาของริวเป็นบุตรบุญธรรม ดังนั้นริวจึงไม่ใช่โอะนิซึกะทางสายเลือด ทำให้เขาสะเทือนใจมากเพราะได้ทำลายความภูมิใจของเขาจนหมดสิ้น ถึงกับต้องการคืนตำแหน่งนายใหญ่ให้กับทายาทที่แท้จริงคือทาเคชิ มายูมิเห็นริวกลุ้มใจจึงปรึกษากับโคจิ ซึ่งทำให้รู้ว่าแท้จริงแล้วย่าของริวหนีตามคนรักไปเพราะไม่ต้องการแต่งงานกับคนที่ผู้ใหญ่หามาให้ ปู่ทวดของริวโกรธมากจึงประกาศตัดพ่อตัดลูกกับย่าของริว ดังนั้นริวซึ่งมีสายเลือดโอะนิซึกะผ่านทางย่าแต่ที่ไม่ชอบธรรม เพราะย่าของริวถูกตัดออกจากตระกูลไปแล้ว โคจิตัดสินใจโทรหา ทาเคชิ เพื่อให้ช่วยพูดเรื่องนี้กับริวเพราะเป็นเรื่องสำคัญ ทำให้ริวโล่งใจที่อย่างน้อยเขาก็ยังมีสายเลือดโอะนิซึกะจากย่าอยู่ด้วย ต่อมายูจิกับมาซารุ พ่อของเขาใส่ร้ายริวด้วยการเอายาเสพติดใส่เรือของริว และล่อให้ ฮิโระ นายตำรวจมือสะอาด ออกมาฆ่าที่เรือของริว เพื่อป้ายความผิดให้ริวทั้งหมด ริวรู้เรื่องราวผ่านเครื่องโทรศัพท์ดักฟังที่ห้องทาคาโอะคุยกับมาซารุ ทำให้รู้แผนการทั้งหมด ริวรีบเข้าพบฮิโระด้วยการนำการ์ดเชิญแต่งงานบังหน้าเพื่อนำเทปให้เขาฟัง และบอกแผนการทั้งหมดของเขาเพื่อตลบหลังมาซารุ เพื่อให้เขาเตรียมพร้อมที่จะเข้าสู่การกวาดล้างกลุ่มอิทธิพลเถื่อนครั้งสำคัญ ภายในใจของริวรู้ดีว่าศึกนี้ยิ่งใหญ่ เขาตัดสินใจจัดงานแต่งงานเป็นการภายในกับมายูมิก่อนวันเกิดศึกหนึ่งวัน ทำให้มายูมิแปลกใจแต่เธอก็ได้รับแต่งตั้งเป็นโอะคะมิซัง (นายหญิง) อย่างสมเกียรติ ริวตั้งใจปกปิดทุกอย่างเป็นความลับไม่ให้มายูมิกับโคจิ รู้โดยเฉพาะโคจิที่อายุมากแล้ว ลูกน้องทุกคนจึงดำเนินการตามแผนที่วางไว้อย่างเงียบเชียบ จนโคจิและมายูมิผิดสังเกตและเข้าไปค้นโต๊ะทำงานของริวพบกล่องเทป เมื่อเปิดฟังจึงรู้แผนการทั้งหมดของริวที่จะกวาดล้างกลุ่มผู้มีอิทธิพลให้สิ้นซาก มายูมิตกใจที่ริวเอาตัวไปเสี่ยงอันตราย เธอกับโคจิจึงออกเดินทางตามหาริว ถึงแม้จะเพิ่งรู้ว่าตัวเองกำลังตั้งท้องก็ตาม แต่ไม่มีใครห้ามเธอได้ ทุกคนจึงเดินทางตามหาเรือที่ริวต้องไปติดกับตามแผนการที่เขาวางไว้เอง แต่แล้วทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ริววางแผนไว้ เมื่อลูกน้องของเขาถูกควบคุมตัว และเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย ริวถูกรุมทำร้ายโดยยูจิและทาคาโอะจนบาดเจ็บ มายูมิตามมาช่วยได้ทันและร่วมกันต่อสู้จนช่วยริวออกมาจากการโดนทำร้ายได้ เรือถูกเผาทำให้ทุกคนหนีตายกันอย่างชุลมุน ริวและมายูมิปลอดภัย เหล่าคนร้ายทั้งหมดถูกกวาดล้างเครือข่ายอิทธิพลหมดไปจากเมือง โอะนิซึกะจึงช่วยทางการกำจัดอิทธิพลเถื่อนสร้างความสงบสุขให้กับเมืองได้อีกครั้ง เส้นทางความรักของนักรบแห่งตะวัน ริว กับ มายูมิ หญิงที่เค้ารัก ดูจะไม่ราบรื่น หรือโรยด้วยกลีบดอกซากุระ แต่เค้าและเธอก็เดินฝ่าฝันมันไปได้ด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่เข้มแข็ง รอยความรักที่เกิดจากความฝันของนักรบแห่งตะวัน ทั้ง ทาเคชิ และ ริว จะเป็นรอยแห่งความรัก และความฝันที่ไม่มีวันลบเลือนในใจของ แพรวดาว และ มายูมิ ตลอดไป ติดตามชม ละครรอยฝันตะวันเดือด
เสน่หาสัญญาแค้น (2557/2014) นาคินทร์ ไกรตระกูล (ปกรณ์ ลัม) นักธุรกิจหนุ่มหล่อขั้นเทพเจ้าของบริษัท KTK คอร์ปฯ สร้างความปวดร้าวใจให้แก่สาวน้อยใหญ่ทั่วเมืองด้วยการคุกเข่าขอแต่งงานกับสาวสวยผู้โชคดีที่สุด กนกวลี (นาตาลี เจียรวนนท์) แฟนสาวคนแรกและคนเดียวของเขา งานวิวาห์แสนหวานถูกจัดขึ้นอย่างหรูหราสมฐานะ กระทั่งถึงเวลาส่งตัวบ่าวสาวเข้าหอ ขณะที่นาคินทร์อาบน้ำ กนกวลี นึกขึ้นได้ว่าลืมภาพวาดสีน้ำมันรูปชาย-หญิงเดินริมทะเล ที่ตนเตรียมไว้เป็นของขวัญให้แก่เจ้าบ่าวจึงรีบขับรถกลับไปเอาที่บ้านตัวเอง โดยขณะที่กำลังขับรถกลับไปหานาคินทร์ กนกวลีรีบซิ่งสุดชีวิตพร้อมกับคุยโทรศัพท์กับนาคินทร์ไปด้วย ทันใดนั้นภาพเขียนได้หล่นลงจากเบาะรถ กนกวลีรีบก้มลงตะปบไว้จนรถเสียหลักพุ่งไปชน ปานตะวัน (เจนี่ อัศวเหม) พยาบาลสาวที่เดินเมาตุปัดตุเป๋เพราะเพิ่งอกหักอย่างแรงจาก ประดิพัทธ์ (นิธิชัย ยศอมรสุนทร) แฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปีแต่กลับไปแต่งงานกับ มิ้ลค์ (วิรากานต์ เสนณีตันติกุล) กนกวลีหักพวงมาลัยหลบไปชนต้นไม้ใหญ่ข้างทาง กนกวลีถูกเฉี่ยวล้มกลิ้งลงกับพื้นถนน สองฝ่ายต่างแน่นิ่งท่ามกลางความช็อกของนาคินทร์ที่ได้ยินเสียงเจ้าสาวของเขากรีดร้องเป็นครั้งสุดท้ายดังก้องทางโทรศัพท์ นาคินทร์พุ่งไปยังที่เกิดเหตุ สภาพฝนตกหนัก สร้างความโกลาหลอย่างหนัก แต่ถึงอย่างไรก็ไม่หนักเท่ากับความเจ็บปวดหัวใจของนาคินทร์ที่ได้เห็นสภาพผู้หญิงที่เขารักนอนจมกองเลือดอยู่ในซากรถที่ยับเยินไม่เป็นชิ้นดี กนกวลีสิ้นใจตายในอ้อมกอดของนาคินทร์ ขณะที่ร่างของปานตะวันถูกนำส่งโรงพยาบาล นาคินทร์มองตามร่างนั้นด้วยสายตาพร่ามัวด้วยม่านน้ำตาและมืดมัวด้วยอารมณ์โกรธแค้นด้วยเข้าใจผิดคิดว่าปานตะวันคือต้นเหตุ เขาประกาศก้องในใจว่าจะตามพยาบาท อาฆาต ล้างแค้น เอาคืนในทุกรูปแบบ เพื่อให้สาสมกับที่ผู้หญิงขี้เมาคนนั้นทำให้ผู้หญิงที่เขารักต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ขณะที่ชีวิตของเขาก็พังทลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี 2 ปี ผ่านไป ไฟพยาบาทของนาคินทร์ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อ นัครินทร์ (กันต์ กันตถาวร) น้องชายเพลย์บอยของเขาอู้งานออกไปหลีสาว แล้วโยนหน้าที่สัมภาษณ์เลขาฯ คนใหม่ให้แทน นาคินทร์ถึงกับตะลึงเมื่อเห็นว่าผู้สมัครที่นั่งตรงหน้าเขามีชื่อว่า ประกายเดือน พันภพ (ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา) สัญชาตญาณโหดในตัวนาคินทร์ถูกกระตุ้นขึ้นทันทีและวิญญาณซาตานที่แอบซ่อนอยู่ในส่วนลึกสุดของหัวใจนาคินทร์ก็ตัดสินใจจะชำระแค้นกับพี่สาวของประกายเดือนที่ชื่อ ปานตะวัน พันภพ ผู้ที่เขามั่นใจว่าเป็นคนทำให้กนกวลีต้องตายไป นาคินทร์ตัดสินใจจ้างประกายเดือนให้เป็นเลขาฯ นัครินทร์น้องชายของเขาอย่างง่ายดาย สร้างความประหลาดใจให้ประกายเดือนและปานตะวันที่ได้รับรู้ข่าวดีเป็นอย่างมาก แต่ปานตะวันหารู้ไม่ว่าไฟพยาบาทกำลังลุกลามใกล้ตัวเธอเข้าไปทุกทีแล้ว เพราะนาคินทร์ยอมจ้างประกายเดือนก็เพราะต้องการใช้ประกายเดือนเป็นสะพานไปสู่ปานตะวันนั่นเอง แผนร้ายของนาคินทร์ถูกวางไว้อย่างรัดกุม และดูเหมือนนรกจะเป็นใจ เมื่อนาคินทร์รู้จากประกายเดือนว่าปานตะวันมีอาชีพเป็นพยาบาล เขารีบเซ็นเช็คฟาดหัวให้พยาบาลคนเก่าของ นารถนรินทร์ (อัทธนียา เอี่ยมวสันต์) น้องสาวขาพิการจากอุบัติเหตุของเขาออกจากงานทันที และยื่นข้อเสนอจ้างปานตะวันให้เข้ามาทำหน้าที่พยาบาลประจำตัวนารถนรินทร์แทนด้วยเงินเดือนที่สูงถึง 1 แสนบาทต่อเดือน และหากปานตะวันทำให้น้องสาวเขากลับมาเดินได้ ก็จะได้รับเงินสดอีกห้าล้านบาท !! ปานตะวันแปลกใจมาก แต่นาคินทร์อ้างว่าการดูแลนารถนรินทร์เป็นงานหนัก เพราะน้องสาวของเขาเอาแต่ใจตัวเองจนพยาบาลขอลาออกไปหลายคนแล้ว รวมทั้งคนล่าสุดนี้ด้วย จึงต้องตั้งค่าเหนื่อยสูงลิบ ปานตะวันตัดสินใจรับงานนี้เพราะต้องการเงินมาผ่อนคอนโดฯ อีกทั้งรายจ่ายต่อเดือนที่ต้องดูแลตัวเองและประกายเดือน น้องสาวที่ปานตะวันรักและดูแลมาตลอดตั้งแต่ทั้งคู่ต้องกลายเป็นลูกกำพร้าพ่อแม่เมื่อ 18 ปีก่อน แต่ยิ่งไปกว่านั้น อีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้ปานตะวันตัดสินใจรับงานก็เพราะนาคินทร์ที่พยายามทำตัวแสนดีต่อเธอสารพัดจนจิตใจของปานตะวันอ่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นการมาปรากฎตัวที่คอนโดฯ กระจอก ๆ ของเธอในยามวิกาลเพื่อทำอาหารมื้อค่ำแสนโรแมนติกให้ทาน แถมยังล้างจานให้อีกด้วย !! หรือจู่ ๆ ก็ลากเธอไปงานเลี้ยงหรูให้ผู้คนฮือฮาว่านี่หรือคือสาวคนใหม่ผู้กุมหัวใจท่านประธานรวยหล่อเทพแห่ง KTK คอร์ปฯ ?? และไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะทิ้งรถที่ติดยาวเหยียดบนถนนแล้วพาเธอนั่งเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวไปนับดาวที่เขาใหญ่ !!! สุดท้ายปานตะวันก็หลวมใจ และพลาดติดกับดักนาคินทร์ ยอมหิ้วกระเป๋าเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์ของเขาในฐานะพยาบาลคนใหม่ของนารถนรินทร์ โดยแผนร้ายนี้ถูกมัดแน่นด้วย "สัญญาว่าจ้าง" ที่นาคินทร์เขียนขึ้น ปานตะวันแปลกใจว่าทำไมต้องเซ็นสัญญา ? แต่นาคินทร์อ้างว่า เพื่อให้ปานตะวันสบายใจว่าเขาจะไม่เลิกจ้างเธอกลางคัน และมิวายหยอดคำหวานว่าลึก ๆ แล้วเป็นเพราะเขากลัวว่าเธอจะเปลี่ยนใจทิ้งเขาไปกลางคันต่างหาก นั่นทำให้ปานตะวันตวัดปากกาเซ็นสัญญาโดยไม่รีรอและไม่ได้อ่านรายละเอียดสัญญาเลยแม้แต่ตัวอักษรเดียว และแล้ว ปานตะวันถึงกับช็อกเมื่อได้อ่านสัญญาอย่างละเอียด เพราะสัญญาระบุว่า "หากลูกจ้างผิดสัญญาและขอลาออกก่อนอายุสัญญา 1 ปี ลูกจ้างจะต้องจ่ายค่าเสียหาย 10 เท่าของเงินเดือนที่เคยรับไปแล้วให้กับฝ่ายนายจ้างทันที เช่น ทำงานไป 6 เดือนแล้วลาออก ก็ต้องจ่ายคืน 600,000x10 = 6,000,000 บาท" แต่ประกายเดือนปลอบใจว่าสัญญาก็คือสัญญา ผู้ว่าจ้างก็ต้องร่างไว้แบบนั้นเป็นธรรมดา แต่สำคัญอยู่ที่ปานตะวันจะลาออกกลางคันจริงเหรอ ?? ในเมื่อก็เห็นอยู่ว่านายจ้างหล่อรวยและแสนดีราวเทพบุตรซะปานนั้น หนำซ้ำดูเขาจะถูกใจลูกจ้างสาวสวยคนนี้อยู่มิใช่น้อย ปานตะวันแอบเขินและแอบคิดเห็นด้วยกับประกายเดือน โดยหารู้ไม่ว่า...เธอกำลังก้าวเข้าสู่กองไฟพยาบาทที่นาคินทร์ก่อรอไว้และนับจากปานตะวันเซ็นสัญญาพยาบาทฉบับนั้น นาคินทร์หยาบคาย รุนแรง ข่มเหงเธอทั้งทางกาย วาจา และจิตใจ อะไรก็ได้ที่จะทำให้นาคินทร์ได้แก้แค้นอย่างสาสม เขาสามารถทำได้ทุกอย่าง เพื่อให้ผู้หญิงคนนี้ย่อยยับไม่เป็นชิ้นดี ปานตะวันสุดแสนจะมึนงงกับนาคินทร์ที่เปลี่ยนแปลงไปชั่วข้ามคืนโดยที่เธอคิดว่าไม่มีสาเหตุ แต่เพราะสัญญาฉบับนั้น อีกทั้งคนในบ้านไกรตระกูร ทั้งทวยเทพ (ตฤณ เศรษฐโชค), สาวิตรี (มณีนุช เสมรสุต) พ่อแม่ของนาคินทร์ นารถนรินทร์, นัครินทร์ รวมทั้ง อัครินทร์ (ทองภูมิ สิริพิพัฒน์) น้องชายคนเล็กของนาคินทร์ ล้วนรักและเอ็นดูปานตะวัน จึงทำให้เธอยังทนอยู่ในบ้านหลังนี้ได้ต่อไป อีกแค่ 1 ปี ปานตะวันคิดปลอบใจตัวเอง คืนแห่งความโหดร้ายมาถึงเมื่อนาคินทร์พาปานตะวันไปปลุกปล้ำที่เขาใหญ่ และเฉลยสาเหตุของความร้ายกาจของเขาที่มีต่อเธอด้วยการพาไปที่หลุมฝังศพของกนกวลี เจ้าสาวผู้จากไปของเขา ปานตะวันแทบจะล้มทั้งยืน เธอพร่ำบอกว่าเธอไม่ใช่สาเหตุการตายของกนกวลี เธอต่างหากที่เกือบตายเพราะกนกวลีพุ่งรถมาชนเธอในคืนที่เธอถูกคู่รักตัดสัมพันธ์ นาคินทร์ยิ่งขยะแขยงผู้หญิงคนนี้และยืนยันว่าปานตะวันเมา !! เป็นผู้หญิงขี้เมาหยำเป !! ถูกผู้ชายทิ้งจนไร้สติ !! ปานตะวันนั่นแหละที่เมาโซซัดโซเซจนตัดหน้ารถของกนกวลี ปานตะวันเถียงว่าคดีจบแล้ว ปานตะวันไม่ผิด นาคินทร์เถียงว่าเป็นเพราะไม่มีพยานในที่เกิดเหตุ คนเป็นจะขายคนตายยังไงก็ได้ ปานตะวันเป็นผู้หญิงที่ใจร้ายมาก และแม้กฎหมายจะไม่ลงโทษปานตะวัน เขานี่ล่ะจะเป็นคนลงโทษปานตะวันเอง นาคินทร์ผลักปานตะวันจนศีรษะกระแทกป้ายหน้าศพกนกวลีจนเลือดอาบ ตะวันสลบไป นาคินทร์ตกใจรีบพาส่งโรงพยาบาล อัครินทร์ น้องชายนาคินทร์ที่เป็นหมอเข้าดูแลปานตะวันอย่างดี สร้างความไม่พอใจให้นาคินทร์เป็นอย่างมาก ปานตะวันต้องอดทนให้นาคินทร์ใช้ไฟพยาบาทเผาเธอเพื่อชำระแค้นตลอดมา ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายหนุ่มขี้หลี นัครินทร์ กับเลขาฯ สาวเปรี้ยว ประกายเดือน ก็เป็นไปอย่างแซบอีหลี เพราะนัครินทร์จ้องจะกินไก่วัดสวยอึ๋มอย่างประกายเดือนมาตั้งแต่แรกเจอ แต่ด้วยความแซบของประกายเดือนก็ทำให้เธอน็อคเจ้านายหนุ่มได้ซะก่อนทุกครั้งไป ที่สำคัญยังช่วงจัดการกับกิ๊กสาวเกาหลีวีวี่ (สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย) และสาวเซ็กซี่เคที่ (นาตาลี เดวิส) ที่คอยมาสร้างความป่วนในบริษัท จนเป็นที่นินทาของเหล่าพนักงานออฟฟิศ ทั้งจามจุรี (ดีใจ ดีดีดี), มอลลี่ (ศกุนตลา เทียนไพโรจน์), ลูกกอล์ฟ (บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ) และปาริฉัตร (ญาณิกา ทองประยูร) เลขาฯ ของนาคินทร์ ที่หวงเจ้านายเหมือนจงอางหวงไข่ในขณะที่คุณหมออัครินทร์ ก็บังเอิญให้ปิ๊งรักกับ พิงค์ พราวพรรณราย (ปรียาดา สิทธาไชย) สูตินารีแพทย์สาวเพื่อนรักเพื่อนซี้ของปานตะวันเข้าให้ซะงั้น ส่วนนาคินทร์แอบมีสัมพันธ์กับปานตะวันโดยเธอไม่เต็มใจมาโดยตลอด สุดท้ายปานตะวันตั้งท้อง โดยมีหมออัครินทร์ทราบเรื่อง ปานตะวันขอให้หมอปิดไว้เป็นความลับ ทำให้หมออัครินทร์กลุ้มใจมาก ก็เลยคอยดูแลสุขภาพของปานตะวัน พอนาคินทร์มาเห็นก็หึงหวง ทะเลาะกับน้องชาย นาคินทร์ก็มีอาการแพ้ท้องแทนเมียโดยไม่รู้ตัว นาคินทร์แม้บางครั้งจะใจอ่อนเพราะหลงรักปานตะวัน แต่ก็ยังทำปากแข็งหาเรื่องทะเลาะ และพูดทำร้ายจิตใจตะวันตลอด ท่ามกลางความร้อนระอุของไฟแค้น บ้านไกรตระกูลก็มีข่าวดี เมื่อกรวิทย์ (อัครวินท์ อัคราวณิชย์) แฟนของนารถนรินทร์กลับจากอเมริกามาทำเซอร์ไพรส์ขอนารถนรินทร์แต่งงาน นารถนรินทร์ดีใจมาก และตั้งใจจะเดินให้ได้เพื่อเซอร์ไพรส์กรวิทย์ในงานวิวาห์เช่นกัน เธอจึงขอร้องให้ปานตะวันทุ่มเทช่วยเหลือเธอ ทำให้ปานตะวันตัดใจทิ้งนารถนรินทร์ไปไม่ได้ แม้ในวันที่เธอเจ็บปวดหัวใจที่ถูกนาคินทร์รังแกตลอด นาคินทร์ไปงานเลี้ยงประมูลเครื่องเพชรการกุศล เขาต้องตกใจอย่างมากเมื่อเจอกับสาวไฮโซชื่อ กนกรัตน์ (นาตาลี เจียรวนนท์) ซึ่งมีหน้าตาเหมือนกับกนกวลี ราวกับเป็นคนเดียวกัน นาคินทร์ประมูลเครื่องเพชรราคาแพง เพื่อจะได้เต้นรำกับกนกรัตน์ หลังจากวันงานกนกรัตน์พยายามเข้ามาเกี่ยวพันกับชีวิตของนาคินทร์ พร้อมทำตัวให้เหมือนกนกวลีทุกอย่าง เพื่อทำให้นาคินทร์หลงรัก นาคินทร์ควงกนกรัตน์เข้าบ้าน เพื่อให้ปานตะวันหึงหวง แต่กนกรัตน์เห็นว่านาคินทร์ให้ความสำคัญกับปานตะวัน เริ่มไม่พอใจที่นาคินทร์สนใจปานตะวันมากกว่าเธอ กนกรัตน์แสดงความเป็นเจ้าของนาคินทร์ทั้งที่บ้าน และที่ออฟฟิศ ทำให้ทุกคนในบริษัทหมั่นไส้ โดยเฉพาะปาริฉัตร ไม่พอใจมาก พูดจากระทบกระเทียบกนกรัตน์ สองสาวเขม่นกันอย่างแรง นัครินทร์สารภาพกับประกายเดือนว่ารักเธอด้วยใจจริง ยอมสลัดสองกิ๊กอย่างวีวี่และเคที่ทิ้งอย่างไม่ใยดี ประกายเดือนเห็นความจริงใจหลายอย่างยอมจดทะเบียนด้วย แต่ยังไม่กล้าบอกปานตะวัน เพราะกลัวพี่สาวเสียใจ นัครินทร์กับประกายเดือนแอบอยู่ด้วยกันอย่างเงียบ ๆ เหมือนเพื่อน ไม่มีอะไรเกินเลย ยิ่งทำให้ประกายเดือนประทับใจในความจริงใจของนัครินทร์ ปาริฉัตรไปรู้ความลับของกนกรัตน์จากมิ้ลค์ว่ากนกรัตน์ทำศัลยกรรมกับหมอโก้ (วศิน อัศวนฤนาท) ถึงได้หน้าตาสวยแบบนี้ และได้นำเรื่องนี้มาข่มขู่กนกรัตน์ ว่าจะบอกกับทุกคนว่าหน้าเก่าของเธอเป็นอย่างไร ทำให้กนกรัตน์แค้นใจมาก สุดท้ายหาโอกาสแก้แค้น กนกรัตน์ไปหาปาริฉัตรที่ออฟฟิศ ทั้งคู่ทะเลาะกันรุนแรง สุดท้ายกนกรัตน์ทำปาริฉัตรตกระเบียงตึกตาย แต่ยังสรุปสาเหตุการตายไม่ได้ว่าเป็นอุบัติเหตุ ฆ่าตัวตาย หรือฆาตกรรม เป้าหมายต่อไปของกนกรัตน์คือปานตะวัน มารหัวใจของเธอ เรื่องราวความรัก ความแค้น จะลงเอยอย่างไร ติดตามชมกันต่อได้ใน ละครเสน่หาสัญญาแค้น
Love Blood จัดรักให้ตรงกรุ๊ป (2557/2014) ซิทคอมวัยรุ่นแนวโรแมนติกคอมเมดี้ที่จะมาเรียกรอยยิ้มของคนทุกกรุ๊ปเลือด เรื่องราวของเพื่อน ความรักและชีวิตวัยรุ่น ของเพื่อนสาว4คน ซึ่งแต่ละคนมีกรุ๊ปเลือดที่ต่างกัน ทั้ง A O B AB และก็มีนิสัยใจคอที่ต่างกัน
ลูกไม้ของพ่อ แสงดาวกลางใจ (2557/2014) อคิน อคิราห์ (ฐกฤต ตวันพงค์) หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าคนใหม่พาตำรวจตระเวนชายแดน เข้ามาในงานพิธีบวชป่าของหมู่บ้านผาหมอก อคินแจ้งว่าชาวบ้านบุกรุกป่าสงวน และจะต้องถูกจับกุมทุกคนต่างก็หวาดกลัว มีเพียง นับดาว (หยาดทิพย์ ราชปาล) เจ้าของไร่แสงดาวที่กล้าโต้แย้งว่าชาวบ้านทำกินที่นี่มาก่อนที่ทางการจะประกาศเป็นเขตป่าสงวน อคินยืนยันว่าเขาทำทุกอย่างตามกฎหมาย ทั้งสองเถียงกันยังไม่ทันจะได้ข้อยุติก็เกิดเพลิงไหม้ขึ้นที่หมู่บ้าน หลังเพลิงสงบลงนับดาวพบหลักฐานการวางเพลิง นับดาวจึงปักใจเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้เผาไล่ที่ชาวบ้าน เพื่อสร้างผลงาน อคินและอินทร (กันตพัฒน์ เพิ่มพูนพัชรสุข) ลูกน้องคนสนิทของเขาสงสัยว่า ทรงพล (อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์) พ่อเลี้ยงผู้มีอิทธิพล ในพื้นที่จะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลอบวางเพลิง แม้ทรงพลจะปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง แต่พฤติกรรมหลายอย่าง ของเขายิ่งชวนให้สงสัย ต่างจาก พ่อเลี้ยงจอม (สุเมธ องอาจ) ที่เป็นเหมือนพ่อพระ ช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยอย่างเต็มที่อคินเข้าสำรวจป่า เพื่อหาร่องรอยการหายตัวไปของ สมชาย (ทูล หิรัญทรัพย์) หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าคนก่อน ระหว่างทางอคินพบนับดาว และเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นคนร้ายที่ทายาฆ่าหญ้าให้ต้นไม้ยืนต้นตาย แต่เขาก็เอาผิดเธอไม่ได้เพราะไม่มีหลักฐานเพียงพอ นับดาวโกรธที่อคินหาว่าเธอเป็นคนร้าย เหตุการณ์นี้ยิ่งทำให้ทั้งสองคนผิดใจกันมากขึ้น อคินพบไม้ใหญ่ถูกลักลอบตัดทิ้งไว้ในป่า เขาจึงนำกำลังไปตรวจยึด แต่ไม้เหล่านั้นกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย หลังกลับออกจากป่าอคินก็ล้มป่วย อินทรพาเขาไปที่บ้านนับดาวเพื่อให้ คำปาน (สุรชัย สมบัติเจริญ) พ่อของนับดาว ซึ่งเป็นหมอสมุนไพรช่วยรักษาให้ แต่คำปานไม่อยู่ นับดาวจึงช่วยรักษาให้อคินแทน อคินรู้สึกซาบซึ้งใจที่นับดาวช่วยชีวิตเขา ส่วนนับดาวก็ยังคงไม่ไว้ใจอคิน เพราะคิดว่าอคินกำลังทำผลงานมากกว่าคิดที่จะช่วยเหลือชาวบ้านอย่างจริงจัง นับดาวเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครรักษาป่า และไปลาดตระเวนร่วมกับอคิน เมื่อได้ใกล้ชิดกับนับดาว อคินก็รู้สึกว่าชอบนับดาว แต่เขาก็ต้องห้ามใจตัวเอง เพราะเข้าใจว่านับดาวเป็นคนรักของ น่านนที (ณัชชา จันทพันธ์) ตำรวจตระเวนชายแดน ที่เป็นคู่หูของเขาในการลาดตระเวน อคินเข้าไปสำรวจถ้ำภูผาพราย เพื่อหาเบาะแสของสมชายต่อไป โดยไม่ฟังคำคัดค้านของอินทร และบุญตา (ภัณฑิลา ฟูกลิ่น) แฟนสาวของอินทรที่ยืนยันว่าภูผาพรายมีอาถรรพ์ ใครเข้าไปที่นั่นแล้วจะไม่รอดกลับมา อคินสำรวจเข้าไปลึกมากจนพบว่าด้านหลังของภูผาพรายมีไร่ฝิ่นซ่อนอยู่ น่านนทีนำกำลังมาช่วยเหลือ และยิงปะทะกับคนร้ายในไรฝิ่น จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ม่านแก้ว (ณัฐภัสสรา อดุลยาเมธาสิริ) ครูอาสาสมัครเพื่อนสนิทของนับดาวตกใจมากเมื่อรู้ข่าว เพราะเธอแอบรักน่านนทีเกิดเพลิงไหม้ที่ไร่ฝิ่นและลุกลามไปถึงไร่ทรงพลที่อยู่ติดกันอคินสงสัยว่าทรงพลอยู่เบื้องหลังการค้าฝิ่น และอาจจะเผาไร่เพื่อทำลายหลักฐานอคิน และอินทรแอบเข้าไปสืบข้อมูลในไร่ทรงพลแต่ก็คว้าน้ำเหลว หลังจากน่านนทีหายดี เขาก็ออกลาดตระเวนกับอคินอีก ทั้งสองพบคำปานอยู่ในป่า พร้อมห่อฝิ่นดิบในมือ คำปานถูกจับเข้าห้องขัง ต่อมาอคินและน่านนทีจับคนร้ายที่เป็นคนส่งฝิ่นตัวจริงได้แต่คนร้ายก็ถูกฆ่าปิดปาก อคินขอโทษคำปานที่เคยเข้าใจผิดว่าคำปานเป็นคนส่งฝิ่น คำปานเข้าใจและยกโทษให้อคิน หากแต่นับดาวยังโกรธอคินเพราะคิดว่าอคินมีอคติกับพ่อของเธอ อคินรู้ว่านับดาวจะทำเว็บไซต์เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์เขาจึงอาสาถ่ายรูปทำเว็บไซต์ให้ ทำให้ทั้งสองเริ่มมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน อคินรู้จากนับดาวว่าคำปานจะเข้าไปหาสมุนไพรในป่า ในวันเดียวกับที่สายข่าวป่าไม้รายงานว่าขบวนการลักลอบตัดไม้ จะขนอุปกรณ์การตัดไม้ไปไว้ในป่า อคินจึงไปออกลาดตระเวน เขาพบชาวบ้านที่มาหาของป่าจึงสะกดรอยตาม และทักว่าเป็นคำปาน นับดาวเข้าป่ามาส่องนกในวันนั้นพอดีเห็นเหตุการณ์เข้า นับดาวโกรธมากที่อคินยังสงสัยพ่อของเธอ อคินแก้ตัวว่าเขามาหาเบาะแสการหายตัวไปของสมชาย นับดาวไม่เชื่อจึงตามไปด้วย ระหว่างทางนับดาวก้าวพลาดเกือบตกหน้าผาโชคดีที่อคินช่วยไว้ทัน ค่ำวันนั้นฝนตกหนักอคินและนับดาวจึงต้องค้างคืนด้วยกันในป่า ทั้งสองต่างก็รู้ใจตัวเองว่ารักกัน เมื่ออคินและนับดาวหายเข้าป่าไปด้วยกัน ชาวบ้านพากันนินทานับดาวไปในทางเสียหาย คำปานจึงสั่งห้ามไม่ให้นับดาวคบหากับอคิน แต่นับดาวไม่เชื่อและยังแอบไปสำรวจป่ากับอคิน คนร้ายมาซุ่มยิงอคินทำให้นับดาวเกือบถูกลูกหลง น่านนทีลาดตระเวนผ่านมา และช่วยไว้ทัน นับดาวขอร้องไม่ให้น่านนทีบอกคำปานว่าเธอมากับอคิน น่านนทีรับปากโดยมีข้อแลกเปลี่ยนว่านับดาวจะต้องไม่เดินป่ากับอคินอีก นับดาวจำใจรับปาก น่านนทีเริ่มรู้สึกว่านับดาวมีใจให้อคิน น่านนทีมาปรับทุกข์กับม่านแก้ว ม่านแก้วอยากเห็นน่านนทีมีความสุขจึงยุให้เขาบอกรัก และขอเป็นแฟนกับนับดาว แต่น่านนทีก็ไม่กล้า นับดาวนำผลผลิตในไร่มาขายในงานเกษตรแฟร์ ในวันเดียวกับที่คำปานเข้าป่า ไปหาสมุนไพร อคินมาเที่ยวงาน และช่วยเรียกลูกค้าจนนับดาวขายผักผลไม้ได้หมดเกลี้ยง อคินชวนนับดาวไปเที่ยวงานถนนคนเดินต่ออีก น่านนทีช้ำใจมาก เมื่อรู้ว่านับดาวรักอคินมากจนกล้าขัดคำสั่งของคำปาน อคินกับนับดาวแอบไปสำรวจป่าด้วยกันอีก และถูกคำปานจับได้ คำปานโกรธมากที่นับดาวขัดคำสั่ง เขาระงับอารมณ์ไม่อยู่เข้าไปชกหน้าอคิน คำปานกระชากคอเสื้ออคินจนสร้อยขาดติดมือ เมื่อเห็นร็อกเกตพระปางนาคปรกที่อคินสวม เขาจำได้ว่าเป็นร็อกเกตแบบเดียวกับที่สมชายสวม คำปานคิดทบทวนจนแน่ใจว่าอคินเป็นลูกชายของสมชาย คำปานห้ามไม่ให้นับดาวคบกับอคินอย่างเด็ดขาด กักบริเวณและบังคับให้นับดาวแต่งงานกับน่านนทีให้เร็วที่สุด นับดาวไม่เข้าใจว่าทำไมคำปานต้องทำแบบนี้ อคินเสียใจมากเมื่อรู้ข่าวว่านับดาวจะแต่งงาน น่านนทีดีใจมากที่คำปานเปิดทางให้แต่งงานกับนับดาว เขาบอกข่าวดีกับม่านแก้ว และขอคำปรึกษาเธอในเรื่องการขอนับดาวแต่งงาน แม้ม่านแก้วจะเจ็บปวดใจแต่เธอก็ดีใจที่เห็นน่านนทีมีความสุข อคินแอบพานับดาวหนีไปกับเขาในวันแต่งงาน คำปานโกรธมากถึงขั้นประกาศตัดพ่อตัดลูกกับนับดาว อคินพานับดาวไปซ่อนที่บ้านพักป่าไม้ เพราะถือคติว่าที่อันตรายที่สุดคือที่ปลอดภัยที่สุด จอมมาส่งข่าวกับน่านนทีว่าอคินเป็นคนเอาตัวนับดาวไปซ่อนไว้ ในตอนแรกน่านนทีไม่เชื่อแต่เมื่อเขาคาดคั้น ถามอคินว่านับดาวอยู่ที่ไหน อคินไม่ตอบ ทั้งสองชกต่อยกันจนน่านนทีเกือบพลั้งมือยิงอคินแต่ก็ยั้งใจไว้ได้ ต่อมาน่านนทีตัดสินใจบุกไปที่บ้านพักป่าไม้ และพบว่านับดาวมาอยู่กับอคินจริง นับดาวรู้ตัวว่าทำผิดที่หนีมา จึงตัดสินใจกลับไร่แสงดาวเพื่อขอขมาคำปาน แต่คำปานไล่ให้นับดาวไปอยู่กับอคิน และไม่ต้องกลับมาอีก นับดาวจำใจกลับไปพักที่บ้านพักป่าไม้ด้วยความเสียใจ บุญตาบอกเลิกกับอินทร เพราะตอนนี้เธอเป็นเมียเก็บของจอม และมีชีวิตที่สุขสบาย ผู้ใหญ่คง (นิธิโรจน์ สิมะกำธรณ์) พ่อของบุญตาดีใจที่ลูกสาวไม่เลือกคบเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เขาเห็นว่าฐานะไม่ดี อินทรมีความจำเป็นต้องใช้เงิน จึงยอมเป็นสายให้ขบวนการลักลอบตัดไม้ ซึ่งมีจอมเป็นผู้บงการ ต่อมาเจ้าหน้าที่ป่าไม้และตำรวจตระเวนชายแดนลาดตระเวนไปพบกลุ่มคนร้ายลักลอบล่าสัตว์ ทั้งสองฝ่ายปะทะกัน คนร้ายหนีไปคนละทิศละทาง อคินตามคนร้ายสวมหมวกไหมพรมคนหนึ่งไป อคินแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าคนร้ายคนนั้นคือคำปาน เมื่ออคินกลับถึงบ้านพัก นับดาวบอกอคินว่าเธอจะกลับไปขอขมาพ่ออีกครั้งเพราะวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของเธอ อคินไม่ห้ามเพราะทำใจไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น อคินสับสนมาก เมื่อความรักกับอุดมการณ์กลายเป็นเรื่องขัดแย้งกัน อินทรพาตำรวจตระเวนชายแดนมาค้นไร่แสงดาว และพบซากสัตว์ที่จอมใช้ให้เขาเอามาแอบซ่อนไว้เพื่อใส่ร้ายคำปานและเบี่ยงเบนความสนใจ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ระหว่างที่เจ้าหน้าที่วุ่นวายกับคดีซากสัตว์ จอมก็ใช้เวลานั้นขนยาเสพติดล็อตใหญ่ได้สำเร็จ หลักฐานต่าง ๆ ยิ่งมัดตัวคำปานว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าสัตว์ป่า นับดาวรู้ว่าอคินเป็นคนแจ้งให้ตำรวจมาตรวจค้นไร่ ก็คิดว่าอคินทำ เพื่อแก้แค้นที่คำปานห้ามไม่ให้ทั้งสองคบหากัน ส่วนอคินก็หลงเชื่อคำยุยงของจอมที่ว่าคำปานส่งนับดาวมาตีสนิทกับเขา เพื่อหวังจะพ้นความผิด ทั้งสองบอกเลิกกันด้วยความปวดร้าวใจ บุญตายอมกลับมาคืนดีกับอินทร โดยที่อินทรหลงคิดว่าบุญตายังรักตนเอง แต่ความจริงแล้วบุญตาทำตามคำสั่งของจอมที่ให้หลอกอินทรไว้ใช้และเมื่อทำงานสำเร็จ บุญตาก็ได้ยาเสพติดเป็นรางวัล น่านนทีใช้ตำแหน่งของเขาประกันตัวคำปานออกมา นับดาวซาบซึ้งใจมาก น่านนทีขอโอกาสให้เขาได้พิสูจน์ความรักที่เขามีต่อนับดาวอีกครั้ง นับดาวพูดอะไรไม่ออก น่านนทีมีความหวังขึ้นมาอีก เขาบอกกับอคินว่าจะขอแข่งเกมรักกับอคินอย่างลูกผู้ชาย แต่อคินกลับบอกว่าเขากับนับดาวคงไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว ต่อมาลูกน้องของจอมเข้าปล้นรถขนไม้ของกลาง เมืองมิ่ง (กรพสิทธิ์ แสงโสมไพศาล) เพื่อนสนิทของอินทรไม่รู้ว่าทุกอย่างเป็นแผนจึงขัดขืนและถูกยิงตาย อินทรโกรธแค้นมากที่เสียเพื่อนรักไป เขาบุกไปที่บ้านจอมเพื่อประกาศว่าจะเลิกทำงานให้จอม แต่กลับถูกจอมขู่เอาชีวิต และยังได้รู้ความจริงว่าบุญตาตกเป็นเมียของจอมมานานแล้ว อินทรแค้นใจมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เขาอยากสารภาพความจริงกับอคินแต่ก็ไม่กล้า แสงหล้า (นิรุต สาวสุดชาติ) ลูกน้องคนสนิทของจอมจับตัวเด็กนักเรียนหญิงเพื่อส่งไปให้ "ท่าน" ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลใหญ่ที่หนุนหลังจอมอยู่ ระหว่างทางนักเรียนหนีไปได้ แสงหล้ากลัวภัยจะมาถึงตัวและเกิดอาการหลอนจากฤทธิ์ของยาเสพติดจึงขับรถไล่ยิงน่านนที อคินขับรถผ่านมาและเข้าช่วยเหลือน่านนทีจนตัวเองได้รับบาดเจ็บ หลังเหตุการณ์ครั้งนี้น่านนทีนับถือน้ำใจของอคินและทั้งสองก็กลับมาเป็นเพื่อนกัน แสงหล้าทำงานผิดพลาดจอมจึงไล่แสงหล้าไป เพราะกลัวความผิดจะมาถึงตัว แสงหล้าหมดหนทางจึงไปขอพึ่งทรงพล แสงหล้านำหลักฐานมาให้ทรงพลดูว่าจอมเป็นคนบงการวางเพลิงเผาไร่ทรงพลและวางแผนใส่ร้ายทรงพลอยู่ตลอดเวลา ทรงพลยอมรับตัวแสงหล้าไว้เพราะหวังจะให้เป็นพยานเอาผิดจอม จอมเอาเอกสารสิทธิ์ของชาวบ้าน ที่ฝากไว้ไปจ่ายภาษีบำรุงท้องที่ ทำให้ที่ดินของชาวบ้านตกเป็นของจอม โดยมีผู้ใหญ่คงเป็นพยานชี้เขตที่ดินให้จอม เพื่อเตรียมออกโฉนดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ชาวบ้านหมดหนทาง เพราะผู้ใหญ่คงยืนยันว่าทำไปตามหลักฐานที่มีอยู่ จอมอยากได้ตัวนับดาวเป็นเมียจึงสั่งให้ลูกน้องไปจับตัวนับดาวมา บุญตาแอบได้ยินก็หึงหวง จึงโทรศัพท์ส่งข่าวให้อินทรรู้ แต่นับดาวก็พลาดท่า โดนจับตัวไปจนได้ อคินตามมาช่วยนับดาว แต่ก็โดนจับตัวไปด้วยอีกคน ระหว่างที่ถูกจับอคินและนับดาวก็มีโอกาสได้ปรับความเข้าใจกัน จอมนัดส่งมอบไม้ให้ลูกค้ารายใหญ่ โดยไม่รู้ว่าเป็นการล่อซื้อของตำรวจ โดยใช้ทรงพลเป็นนกต่อ น่านนทีนำกำลังมาจับกุมจอมซึ่งทำผิดพร้อมหลักฐานมัดตัว จอมโกรธแค้นมาก เขาบีบคั้นให้คำปานพูดว่าเป็นคนฆ่าสมชาย นับดาวไม่เชื่อพยายามคาดคั้นถามความจริงจากคำปาน คำปานยืนยันว่าตนเองเป็นฆาตรกร นับดาวผิดหวังมาก อคินตกใจที่ได้รู้สาเหตุการตายของสมชายแต่เขาไม่ปักใจเชื่อ เพราะคิดว่าคำปานไม่มีเหตุจูงใจที่จะฆ่าสมชายและนับดาวก็เคารพรักสมชายมาก จอมมั่นใจว่า "ท่าน" จะต้องมาช่วยเขาออกจากคุก จึงทำกร่างไปทั่วโรงพัก แสงหล้าแค้นใจที่ไม่มีใครทำอะไรจอมได้ จึงบุกมายิงจอมถึงโรงพักแต่ตำรวจก็ช่วยกันตัวจอมไว้ได้ ก่อนจะถูกจับแสงหล้ากราบขอโทษคำปานและเปิดเผยความจริงว่าจอมเป็นคนสร้างเรื่องให้สมชายเชื่อว่าคำปานเป็นผู้ลักลอบตัดไม้ แล้วจอมก็หลอกให้คำปานเข้าไปหาสมุนไพรในถ้ำภูผาพรายที่มีไม้เถื่อนจำนวนมาก โดยจอมก็หาเหตุพาสมชายไปเจอคำปานที่นั่น สมชายคิดว่าคำปานเป็นคนร้ายก็จะเข้าจับกุม คำปานหยิบปืนที่อยู่ในถ้ำมาถือไว้เพื่อขู่ไม่ให้สมชายเข้าใกล้ แล้วปืนก็เกิดลั่นสมชายตายคาที่ คำปานคิดมาตลอดว่าเขาเป็นคนฆ่าสมชาย แต่ความจริงแล้วกระสุนที่ปลิดชีวิตสมชายมาจากปืนของแสงหล้าที่ซุ่มอยู่อีกมุมหนึ่ง และยิงสมชายตามแผนการของจอม คำปานโล่งใจที่พ้นมลทินและความรู้สึกผิดบาปในใจเสียที ต่อมาไม่นานจอมก็ถูก "ท่าน" ฆ่าปิดปากด้วยการวางยาพิษในอาหารที่ส่งเข้าไปให้จอมกินในห้องขัง หลังการตายของจอม ผู้ใหญ่คงก็กลับตัวกลับใจ และช่วยเดินเรื่องให้ชาวบ้านได้ที่ดินคืน แต่เขาก็ต้องรับโทษเพราะร่วมมือกับจอมฉ้อโกงประชาชน บุญตาติดยาจนสติฟั่นเฟือน ผู้ใหญ่คงฝากให้อินทรดูแลบุญตา อินทรสัญญาว่าเขาจะรัก และดูแลบุญตาอย่างดี อินทรสำนึกผิดแต่ก็ต้องถูกให้ออกจากราชการ เขามาเป็นลูกจ้างในไร่ของนับดาวและใช้ชีวิตอยู่กับบุญตา น่านนทีขอม่านแก้วแต่งงาน เพราะเขารู้แล้วว่าคนที่เขารักและมีความสุขเสมอเมื่ออยู่ด้วยกันก็คือม่านแก้ว ม่านแก้วตอบตกลง เมื่อเรื่องร้ายผ่านไป อคินกับนับดาวสัญญากับดวงวิญญาณของสมชายว่าจะช่วยกันพัฒนาคุณภาพ ชีวิตของชาวบ้านหมู่บ้านผาหมอก ตามวิถีทางที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ บ้านผาหมอกก็กลับมาสู่ความผาสุกได้เป็นหมู่บ้านใน "โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริ" เพราะคนในชุมชนได้บทเรียนแล้วว่าพวกเขาต่างหากที่เป็นกำลังสำคัญ ในการดูแลป่าและชุมชน พบกับเรื่องราวความรักที่ถักทอขึ้นอย่างสวยงาม และโรแมนติก ท่ามกลางบรรยากาศของพืชไร่เมืองหนาว ตามแนวพระราชดำริการเกษตรที่สูง การรักษาต้นน้ำลำธาร และการอนุรักษ์ป่าไม้ในโครงการพัฒนาป่าไม้ ตามแนวพระราชดำริ ติดตามชม ละครแสงดาวกลางใจ
มายานางฟ้า (2557/2014) ณ สนามเด็กเล่นแห่งหนึ่ง อลิสา หรือ อลิส วิริยะพัทธ (ป๊อปปี้-บุญยิสา จันทราราชัย) เด็กหญิงวัย 6 ขวบ พบกับ ด.ช.ไรวัต พาพบสุข (โย่ง อาร์มแชร์) วัย 12 ปี เด็กกำพร้าที่น่าสงสาร อลิสจึงพาเพื่อนใหม่มาบ้านที่เป็นร้านทำรองเท้าเล็ก ๆ ของ เดช วิริยะพัทธ พ่อของเธอเอ็นดูจึงรับอุปการะไว้ เค้าให้ความรัก และเอ็นดูไรวัตเหมือนลูกแท้ ๆ ส่งเสียให้เรียนจนจบปริญญาวารสารศาสตร์ ไรวัตรับจ๊อบเป็นคอลัมนิสต์นิตยสารต่าง ๆ ส่วนอลิสหลังเรียนจบก็ตั้งใจสานฝันพ่อด้วยการทำรองเท้าแบรนด์ Alice ของตัวเองขายออนไลน์ โดยมี ดีดี้-ฤดีมาศ เพิ่มแสงทรัพย์ (มีน AF7-กาญจ์คณึง เนตรสีทอง) เป็นที่ปรึกษา เพราะเธอทำธุรกิจขายของออนไลน์มาก่อน ดีดี้มักแซวว่าอลิสกับไรวัตกิ๊กกัน ซึ่งมิตรภาพของเด็กทั้งคู่ก็พัฒนาจากเพื่อนกลายเป็น ความรัก!! ไรวัตขออลิสแต่งงานสัญญาว่าจะรัก และดูแลเธอด้วยชีวิตอลิสาตกลง ทั้งคู่วางแผนแต่งงานอีก 1 ปี ข้างหน้า กระทั่งนิตยสาร Queen จัดประกวดหาดีไซเนอร์หน้าใหม่มาออกแบบรองเท้า อลิสตั้งใจออกแบบสุดฝีมือจนผ่านเข้ารอบสุดท้ายสำเร็จ เธอจึงติดต่อช่างภาพนิรนามที่เคยเห็นฝีมือทาง อินสตาแกรม Kismet ทั้งคู่ติดต่อผ่าน IG ตลอดจึงไม่เคยเห็นหน้ากัน จนวันนัดคุยงานอลิสตกใจที่ช่างภาพ คือ รามิล ตันธนะวิไกร (ไมค์-พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล) หนุ่มโรคจิตที่เธอกับดีดี้เคยเจอ กว่ารามิลจะเคลียร์ตัวเองจนอลิสยอมเชื่อว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็เกือบแย่ โชคดีที่ อานนท์ ขุมเพชรพลอย (แต๊บ AF5-ธนพล มหธร) ผู้ช่วยช่างภาพ และเพื่อนสนิทสุด ๆ ของรามิลช่วยกู้หน้าอีกแรง ขณะที่ความรัก และความฝันของอลิสกำลังสวยงาม อยู่ ๆ อาการป่วยของเดชก็ทรุดหนัก แต่เดชไม่มีเงินแม้แต่โฉนดที่ดินก็ติดจำนอง ไรวัตตัดสินใจทำงานประจำที่นิตยสาร Queen เพื่อเอาเงินมารักษาเดช โชคชะตาทำให้ไรวัตเจอกับ อาภา (นาตาลี เจียรวนนท์) บรรณาธิการบริหาร Queen เจ้าของฉายา นางสิงห์แห่งวงการแฟชั่น ขณะเธอเกรี้ยวกราดเพราะรถเสียทั้งที่จะรีบไปงานด่วน ไรวัตอาสาให้อาภาซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ไปส่งจุดหมาย อาภาให้นามบัตรแต่ไรวัตไม่รับเพราะไม่หวังสิ่งตอบแทน อาภายิ่งปลื้มความมีน้ำใจ และความสุขุมของไรวัต อาภาเห็นใบสมัครงานของไรวัตที่ส่งมาที่บริษัทเธอดีใจมาก รีบติดต่อให้มาทำงานที่นิตยสาร Queen ในตำแหน่งรองบรรณาธิการทันที ไรวัตขอเบิกเงินเดือนล่วงหน้าเพื่อไปจ่ายค่ารักษาเดช ทำให้คนในบริษัทมองเค้าเป็นขนมหวานชิ้นใหม่ของอาภา แต่ความหยิ่งในศักดิ์ศรีที่แฝงด้วยท่าทีอบอุ่นของไรวัตเป็นเรื่องท้าทายอาภา เธอเสนอเงิน ตำแหน่ง อย่างที่ทำกับหนุ่ม ๆ คนอื่นไรวัตยังปฏิเสธ ยิ่งทำให้อาภาโหยหาอยากได้เค้าเป็น คนรัก! ตั้งแต่ทำงานที่ Queen ความสัมพันธ์ของไรวัตกับอลิสาก็สั่นคลอนเรื่อยมา จนในที่สุดเธอเห็นข่าวการแต่งงานสายฟ้าแล่บของไรวัตกับอาภา เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้งอลิสา เมื่อหมอแจ้งข่าวร้ายว่าเดชเสียชีวิต อลิสาล้มทั้งยืนกับสิ่งที่เกิดขึ้นเธอสูญเสียคนที่เธอรักที่สุดในชีวิตไปพร้อม ๆ กัน ท่ามกลางความโศกเศร้ายังมีฤดีมาศที่คอยอยู่เคียงข้างเธอ ก็เห็นจะมีแต่รามิล และอนนท์ที่วนเวียนมาหาเพื่อให้กำลังใจ อลิสาได้เห็นรามิลในมุมมองใหม่ เธอรู้สึกดีกับรามิลมากขึ้นแต่ยังไม่พร้อมจะเปิดรับใครเข้ามาในหัวใจ ด้านรามิลก็เริ่มรู้ใจตัวเองว่ารักอลิสาเข้าแล้ว ในขณะที่ไรวัติก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อขออลิสาคืนดีและกลับมาเริ่มต้นใหม่ด้วยกันอีกครั้ง แต่ในเมื่อความรักของอลิลาและไรวัติได้ถูกเปลี่ยนเป็นไฟแห่งความแค้นแล้ว อลิสาจะยอมเปิดหัวใจให้รามิลหรือไม่? ติดตามชมกันต่อได้ใน ละครมายานางฟ้า
พล นิกร กิมหงวน เดอะ มิวสิคัล (2557/2014) หัสนิยายเรื่อง พลนิกรกิมหงวน หรือ สามเกลอ ประพันธ์โดย ป.อินทรปาลิต ถือเป็นบทประพันธ์ขึ้นหิ้ง 1 ในหนังสือดี 100 เล่มที่คนไทยควรอ่าน และถือเป็นรวมชุดหัสนิยายที่เขียนต่อเนื่องยาวนาน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2481-2511 มีทั้งหมดกว่า 1,000 ตอน แทบจะเรียกว่าเป็นเรื่องที่มีผู้อ่านติดตามเป็นแฟนพันธุ์แท้มากมายที่สุดของเมืองไทย แม้ว่าแต่ละเล่มจะเป็นเรื่องชุดจบในตอน ทว่า ตัวละครเหล่านี้กลับโลดแล่นอยู่ในบรรณพิภพยาวนานจนเสมือนเป็นคนคุ้นเคยของนักอ่าน เรื่องราวผจญภัยในแต่ละตอนของบรรดาหนุ่มเนื้อหอมลูกชายคหบดีเศรษฐีที่มีบุคลิกเฉพาะตัวทั้งเจ้าเสน่ห์ทะเล้นทะลึ่งแปลกประหลาดยังกลายเป็นบันทึกประวัติศาสตร์สภาพสังคมวิถีชีวิตคนไทยสมัยก่อนได้อย่างดี เนื้อหาความสนุกขบขันและคลาสสิคของหัสนิยายเรื่องนี้เคยนํามาสร้างเป็นละครทีวีอยู่หลายครั้ง และนี่เป็นครั้งแรกที่ตัวละครชุดเหล่านี้จะมีชีวิตเลือดเนื้อขึ้นจริงบนเวทีละครในรูปแบบละครเพลง เหตุการณ์ที่นํามาประมวลขึ้นสําหรับละครเพลงครั้งนี้ เป็นเรื่องราวในช่วงวัยหนุ่มของ พล นิกร กิมหงวน และ ดร.ดิเรก ที่ได้เข้ามาเกี่ยวดองอยู่ในก๊วนเดียวกัน อันเนื่องจากได้รู้จักพบรักกับแม่เสือสาวทั้งสี่...นันทา ประไพ นวลละออ และประภา ที่ต่างก็แสบพอกับความเจ้าชู้กะล่อนของฝ่ายชาย แถมยังมีท่านเจ้าคุณปัจจนึกพินาศ มาร่วมสร้างความสนุกสนานให้กับเรื่องราวเป็นอย่างดี โดยมีฉากหลังเป็นบรรยากาศรื่นรมย์ของกรุงเทพในอดีตเมื่อ 60 กว่าปีที่แล้ว สิ่งที่ทําให้ละครโทรทัศน์เรื่องนี้มีความโดดเด่น นั่นคือบรรดาเพลงต่างๆที่ใช้ในเรื่องที่ล้วนแต่เป็นเพลงเก่าทั้งสิ้น ที่มีทั้งที่ยังเป็นที่ติดหู และบางเพลงก็เป็นเพลงที่หาฟังได้ยาก แต่ทว่า ถึงแม้เพลงจะถูกประพันธ์ขึ้นเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว ทั้งเนื้อร้องและทํานองที่หลากหลายยังคงสามารถเข้ากับเนื้อเรื่องได้อย่างกลมก ล่อม จะหวานก็หวาน จะขําก็ขํา ถือได้ว่าเป็นมนต์สเน่ห์อีกอย่างของเพลงไทย ที่จะถูกนํามาเรียบเรียงใหม่เพื่อให้ติดหูผู้ชมได้มากขึ้น
รักออกฤทธิ์ (2557/2014) โจ นักสืบหนุ่มเจ้าของฉายาใหม่ที่ตั้งให้ตัวเองว่า โจ แอ็พพันหน้า แต่เป็นที่รู้จักกันในวงการด้วยฉายาที่คนอื่นตั้งให้ว่า โจตัวซวย เพราะที่ผ่านมา โจอยู่กับใครก็สร้างความบรรลัยให้คนที่เขาอยู่ด้วยเสมอ จนโจต้องออกมาอยู่เป็นเจ้านายตัวเองด้วยการเป็นนักสืบอิสระ โจได้รับงานใหม่จาก คุณหญิงจุ๋ม ให้สืบคดีการถึงแก่กรรมของ คุณชายแจ้ น้องชายแท้ ๆ ของเธอ ที่ผู้ต้องสงสัยคือ วนิษา ม่ายสาวสวยรวยเสน่ห์ โจปลอมตัวจนได้เป็นคนขับรถของวนิษา และสืบประวัติของเธอจนรู้ว่าวนิษาแต่งงานมาแล้วสองครั้ง ครั้งแรกคือแต่งงานกับคุณชายแจ้ ซึ่งคุณชายแจ้ก็ถึงแก่กรรมอย่างมีปริศนาในงานแต่งงานนั้นเอง ต่อมาวนิษาแต่งงานอีกกับ เสี่ยปป๊อก เจ้าพ่อแก๊งอิทธิพลในย่านชาวจีน แต่เสี่ยป๊อกก็ตายในห้องหอในคืนแต่งงานเช่นกัน จนวนิษาได้ฉายาว่า ผู้หญิงบริโภคภัสดา สร้างความครั่นคร้ามกึ่งท้าทายต่อผู้ชายคนอื่นที่คิดจะมาจีบม่ายสาวสวยรวย ทรัพย์อย่างวนิษา สามีที่ตายไปทั้งสองคนของวนิษาไม่เพียงแต่จะทิ้งมรดกมหาศาลให้เธอ แต่ยังทิ้งภาระความรับผิดชอบอันหนักหนาให้ด้วย ตอนเช้าวนิษาต้องเป็นผู้จัดการตลาดสดชื่อดังที่เป็นของคุณชายแจ้ พอตกบ่ายวนิษาต้องเป็นสะใภ้จ้าวเพื่อดูแลปรนนิบัติ หม่อมจันจิรา หม่อมแม่ของคุณชายแจ้ที่รักและเอ็นดูเธอ เย็นหน่อยต้องเป็นตั๋วเจ๊ คุมพวกลูกและธุรกิจสีเทาของเสี่ยป๊อกอีกด้วย และที่หนักหนวงสาหัสที่สุดคือเธอต้องรับบทแม่เลี้ยงดูแล ปลายฝน ลูกสาววัยเกรียนคนเดียวของเสี่ยป๊อก โจแปลกใจที่สุดว่าวนิษาชอบทำบุญมาก จนในที่สุดก็รู้ว่าวนิษามีความฝันอันยิ่งใหญ่ที่จะมีครอบครัวที่อบอุ่น นั่นคือสิ่งที่เธอโหยหาเพราะพ่อแม่เธอเลิกกันตั้งแต่เด็ก ความจริงแล้วการแต่งงานสองครั้งที่ผ่านมาของเธอเพราะเชื่อว่าเขาทั้งสองจะช่วยเธอสร้างครอบครัวที่อบอุ่นให้เธอได้ น่าเศร้าที่การแต่งงานทั้งสองครั้งของเธอจบลงด้วยงานศพ วนิษาเชื่อว่าตัวเองเป็นเจ้าของดวงกินผัวจริง ๆ เธอจึงพยายามสร้างบุญกุศลเยอะ ๆ เพื่อจะบรรเทาเบาบางแก้เคล็ดแก้อาถรรพ์ได้ ขณะที่โจเอง พอเกิดมา พ่อก็ถูกจับติดคุก แม่ต้องหนีเตลิดเปิดเปิงไปอยู่ต่างประเทศ ญาติสนิทที่รับโจไปเลี้ยงดูก็เจอแต่เรื่องเดือดร้อนไม่ว่าจะไฟไหม้บ้าน โดนฟ้องล้มละลาย ทุกคนโจษจันกันว่านี้คือเด็กชายตัวซวย ไม่มีใครกล้าเลี้ยงดูโจอีก จนใจที่สุดโจต้องเป็นเด็กวัด อยู่กับ หลวงพ่อสีสุก ซึ่งหลวงพ่อใช้หลักธรรมสอนโจ จนโจไม่เชื่อเรื่องดวง และไม่เชื่อเด็ดขาดว่าเขาเป็นเจ้าของดวงตัวซวย ในความคิดของโจ ถ้าคุณชายแจ้กับเสี่ยป๊อกตายโดยไร้สาเหตุแบบที่เป็นอยู่ก็แสดงว่าวนิษาเป็นผู้หญิงบริโภคภัสดาจริง ๆ แต่ถ้าเขาสืบจนพิสูจน์ได้ว่าทั้งสองคนถูกฆ่า แสดงว่าการวางแผนการฆาตกรรมซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องดวงกินผัวของวนิษา เขาก็จะประกาศให้โลกได้รู้ว่าโลกนี้ไม่มีดวงกินผัว คนทั่วไปก็จะยอมรับได้ว่าไม่มีดวงตัวซวยเช่นกัน เขาก็จะลบมลทินให้ตัวเองได้อย่างสง่างาม แต่โจยิ่งสืบเรื่องของวนิษาได้มากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็รู้ว่าวนิษาไม่ใช้ฆาตกร หนำซ้ำเธอยังเป็นผู้หญิงที่มีจิตใจดี อ่อนโยน จริงใจ มีเสน่ห์ จนเขาแอบตกหลุมรักเธอเข้าจนได้ ในขณะเดียวกัน โจก็ต้องช่วยเพื่อนคนหนึ่งของพ่อ ซื่อ ซูซี่ ไขคดีฆาตกรรม ให้หลุดพ้นมลทินที่ถูกปรักปรำว่าฆ่าคนตาย โดยมี ป๋อง ลูกชายวัยว้าวุ้นของโจเป็นคนคอยช่วยเหลืออีกแรง ในฐานะคนขับรถ โจกลายเป็นคนสนิทกึ่งบอดี้การ์ดให้วนิษา พาเธอไปทำบุญแล้วยังต้องช่วยเธอหลบหนีจาการตามล่าของอริในวงการสีเทา แถมด้วยการเล่นกลปลอบใจยามที่เธอโศกเศร้าด้วย แม้กิตติศัพท์ผู้หญิงกินผัวของวนิษาจะเป็นที่ล่ำลือ แต่ก็หยุดผู้ชายหลายคนไม่ได้ หนึ่งในนั้นคือพระเอกหนุ่มมาแรง ชื่อ กริช กริชช่วยชีวิตของพ่อวนิษาไว้ ทำให้วนิษาซาบซึ้งใจยอมแต่งงานกับเขา งานนี้โจทุ่มสุดตัว ถ้าวนิษาเป็นฆาตกรต่อเนื่อง เธอต้องลงมืออีกครั้ง และเขาจะต้องจับเธอให้ได้ ในที่สุดการแต่งงานของกริชกับวนิษาก็จบลงด้วยงานศพจนได้ กริชตายอย่างปริศนาคาชุดเจ้าบ่าวอีกคน โจงงเป็นไก่ตาแตกทั้ง ๆ ที่คอยจับตาดูวนิษาทุกฝีก้าว ขณะที่วนิษาก็เสียใจโทษตัวเองอีกครั้งว่าเป็นเพราะดวงอาถรรพ์ของเธอ วนิษาตัดสินใจบวชตลอดชีวิตเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับอดีตสามีทั้งสามและเริ่มต้นใหม่ในชาติหน้า แต่โจมองออกว่าวนิษาบวชด้วยความขมขื่นใจและรู้สึกผิดมากกว่าจะบวชเพื่อหาทางสงบ โจจึงสารภาพกับวนิษาว่าความจริงว่าเขาคือนักสืบ และดวงตัวซวยของเขานั้นเองที่เป็นสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้คุณชายแจ้ เสี่ยป๊อก และกริช ต้องตายเพราะทั้งสามคนเป็นเจ้านายของเขา และที่ต้องตายเพราะดวงตัวซวยของเขานั่นเอง หลังจากสารภาพความจริง วนิษาโกรธโจที่หลอกเธอมาตลอดจนโจเข้าหน้าไม่ติด แต่แล้วในที่สุดกลับเป็นวนิษาเองที่กลับมาหาโจ และอนุญาตให้เขาตามประกบติดตัวเธอเพื่อสืบเรื่องของเธอได้อย่างเต็มที่ เมื่อทุกอย่างถูกพิสูจน์ว่าวนิษาไม่ได้เป็นฆาตกร เธอจะได้พ้นมลทินเสียที ในช่วงที่ทั้งคู่ใกล้ชิดกันทำให้สองคนเริ่มมีใจให้กัน รักกัน และเมื่อใดโจพิสูจน์ได้ว่าดวงกินผัวของเธอไม่มีจริง เมื่อนั้นเธอก็กล้าพอที่จะคิดถึงเรื่องครอบครัวอันอบอุ่นอีกครั้ง แต่แล้วก็มีผู้ชายคนหนึ่งก้าวเข้ามาในชีวิตวนิษา เขาชื่อ ภาคย์ เป็นเจ้าของดวงปรมะดวงที่หายากที่สุด ดวงที่แข็งแกร่งที่สุด ดวงที่ไม่มีใครทำอันตรายได้ ไม่ว่าจะเป็นโจตัวซวยหรือผู้หญิงที่บริโภคภัสดาก็ตาม ต้นรักที่โจและวนิษาแอบปลูกกันขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ ผ่านความห่วงใย เอื้ออาทร และปลอบโยนซึ่งกันและกัน ทำให้วนิษาตัดใจจากโจเมื่อภาคย์ขอเธอแต่งงาน นั่นเพราะเธอรักโจและไม่อยากให้เขาต้องมาตายเพราะดวงของเธอ โจขอร้องวนิษาให้โอกาสสุดท้าย เขาจะพิสูจน์ให้ได้ว่าสามีทั้งสามของเธอไม่ได้ตายเพราะดวงกินผัว แต่ตายเพราะใครสักคน โจทำได้สำเร็จ จากคดีของซูซี่ที่ถูกปรักปรำทำให้เขาพบร่องรอยจนเชื่อมโยงเรื่องได้ว่ามีการฆาตกรรมเกิดขึ้นกับสามีของวนิษาทั้งสามคน แต่เขาไม่มีหลักฐานพิสูจน์ ในที่สุดวนิษาก็เลือกที่จะแต่งงานกันภาคย์ เจ้าของดวงเหนือมนุษย์ที่จะไม่ตายในคืนวันแต่งงานเหมือนผู้ชายคนอื่น ๆ ขณะเดียวกันก็มีข่าวร้ายว่าคุณหญิงจุ๋ม นายจ้างคนล่าสุดของโจถึงแก่กรรม นั่นยิ่งตอกย้ำเรื่องดวงตัวซวยของโจให้หนักแน่นยิ่งขึ้น โจท้อแท้และยอมรับในที่สุดว่าเขาเป็นเจ้าของดวงตัวซวยจริง โจวางมือจากทุกอย่างทั้งเรื่องการงานและความรักเพื่อไปเมืองจีน ไปตามหาซินแสที่แก้ดวงให้เขาได้ งานแต่งของวนิษากันภาคย์จะเกิดเรื่องอาภรรพ์อะไรอีกหรือไม่??? โจจะแก้ดวงของเขาสำเร็จไหม??? สามีทั้งสามของวนิษาตายเพราะดวงบริโภคภัสดาของเธอหรือเพราะฆาตกรรม?? …แท้จริงแล้วชีวิตของคนเราขึ้นกับดวงจริงหรือไม่ โจกับวนิษาจะพาเราไปตามหาคำตอบนี้ด้วยกัน… ใน ละครรักออกฤทธิ์
เล่ห์นางฟ้า (2557/2014) ลัลน์ลลิต หรือ บิวตี้ (วิว-วรรณรท สนธิไชย) สาวไฮโซทายาทของ บริษัท ธนบวร จำกัด ผู้ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปรายใหญ่ระดับนานาชาติ บิวตี้ถูก บวร (เพ็ญเพชร เพ็ญกุล) พ่อของเธอตามใจด้วยเงินทองเพื่อทดแทนที่เธอขาดแม่ตั้งแต่ยังเด็ก เธอจึงกลายเป็นคนเอาแต่ใจ ขี้วีน เริ่ดเชิดหยิ่ง และที่สำคัญรักสวยรักงามเป็นที่สุด หลังพ่อของเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต บิวตี้ก็มี กรเทพ (โอลิเวอร์ พูพาร์ท) อาแท้ๆ คอยดูแลมาตลอด นับวันนิสัยแย่ๆ ของบิวตี้ก็ยิ่งหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ จนล่วงรู้ไปถึง นางฟ้าลลิตา (นิโคล เทริโอ) มารดาผู้ล่วงลับที่อยู่ในภพภูมินางฟ้า นางฟ้าลลิตากลัวลูกสาวจะต้องมีชีวิตที่ตกต่ำในอนาคต จึงคิดฝืนกฎสวรรค์ใช้อำนาจช่วยลูก แต่ ปรมะเทวี (นุสบา ปุณณกันต์) หัวหน้านางฟ้ากลับเข้ามาขัดขวาง และเสนอจะให้บทเรียนกับบิวตี้เพื่อให้เธอสำนึก ด้วยการสาปให้บิวตี้เป็นนกหงส์หยกหลังพระอาทิตย์ตกดิน โดยมีเงื่อนไข 3 ข้อคือ 1.ต้องทำความดีให้มากกว่าความชั่ว 2.ต้องนึกถึงผู้อื่นมากกว่าตนเอง และ 3.ต้องรักชายคนหนึ่งยิ่งกว่ารักตัวเอง หากทำสามข้อนี้ไม่สำเร็จภายในสามเดือนร่างของบิวตี้จะกลายเป็นนกหงส์หยกตลอดไป หลังถูกสาปบิวตี้ก็ร้อนใจบินไปขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง แต่เธอกลับได้รู้ว่าไม่มีใครจริงใจกับเธอสักคน แถมเธอยังได้ล่วงรู้ว่ามีคนคิดทรยศบริษัท บิวตี้ทั้งช็อคทั้งเสียใจจึงบินโซซัดโซเซไปถึงบ้านของ ธีภพ (พุฒ-พุฒิชัย เกษตรสิน) ลูกชายของ ธนา (อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์) หุ้นส่วนบริษัทและเพื่อนของพ่อเธอ ธีภพกับบิวตี้เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อนกหงส์หยกบิวตี้ได้รับการดูแลอย่างอ่อนโยนจากธีภพ เธอจึงเริ่มรู้สึกดีกับเขา แม้ในใจจะยังระแวงว่าธีภพอาจจะเป็นคนที่คิดทรยศบริษัท บิวตี้ฮึดสู้เพื่อรักษาบริษัทของพ่อโดยขอให้ธีภพช่วยสอนงาน ธีภพจึงวางเงื่อนไขว่าบิวตี้ต้องฝึกงานทุกแผนกโดยไม่แสดงตัวว่าเป็นใคร บิวตี้ก็ยอมทำตามแม้จะสร้างเรื่องป่วนไม่เว้นแต่ละวันไหนจะต้องปิดบังเรื่องกลายร่างเป็นนกหงส์หยกอีก แต่บิวตี้ก็ฝึกงานสำเร็จจนเป็นที่ยอมรับของทุกคน ยกเว้น พักตร์พิมล หรือ แพ็ต (เอ้ก-บุษกร ตันติภนา) ลูกสาวของกรเทพ แพ็ตริษยาบิวตี้เพราะคิดว่าบิวตี้แย่งทุกอย่างไปจากตน บิวตี้เริ่มปรับปรุงตัวไปในทางที่ดี ทำให้ธีภพเริ่มรู้สึกดีกับบิวตี้มากขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างนั้นบิวตี้ก็ใช้ร่างนกหงส์หยกคอยสืบหาหลักฐานว่าใครที่เป็นคนทรยศ เมื่อบิวตี้ก้าวเข้ามาเป็นประธานบริษัทร่วมกับธีภพ เธอจึงได้รับเชิญไปร่วมงานที่ห้างสรรพสินค้าของครอบครัว อรวิภา (ซี-หทัยภัทร สมรรถวิทยาเวช) ว่าที่คู่หมั้นของธีภพ พอบิวตี้เห็นธีภพให้ความสนใจ อรวิภามากกว่าตน บิวตี้จึงประชดด้วยการหันไปสนิทสนมกับ เจตน์ชาญ(ดิว-ภัทรพล กันตพจน์) เจ้าของบริษัทคู่แข่งของธนบวร นอกจากจะประชดธีภพแล้วบิวตี้ยังหวังจะสืบว่าเจตน์ชาญมีส่วนเกี่ยวข้องในการฮุบบริษัทของเธอหรือไม่ ธีภพหงุดหงิดใจที่บิวตี้ไปสนิทกับเจตน์ชาญแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เจตน์ชาญพาบิวตี้ชมโรงงานยกเว้นห้องลับในแผนกดีไซน์ บิวตี้เชื่อว่าในห้องนั้นต้องมีหลักฐานซ่อนไว้ พอตกกลางคืนนกหงส์หยกบิวตี้จึงแฝงตัวเข้าไป ทำให้เธอเจอหลักฐานแบบเสื้อที่ลอกมาจากบริษัทของเธอ และยังได้พบว่ากรเทพนัดพบกับเจตน์ชาญอย่างลับๆ บิวตี้จึงมั่นใจว่ากรเทพเป็นคนที่ทรยศบริษัท แต่เรื่องราวร้ายๆ ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะสิ่งที่พ่อของบิวตี้และบิวตี้เคยทำไว้กับผู้อื่นในอดีตกำลังย้อนกลับมาทวงคืนถึงขั้นเอาชีวิต แถมเวลาแก้คำสาปของบิวตี้ก็น้อยลงทุกที งานนี้บิวตี้จะรักษาบริษัทไว้ได้หรือไม่? แล้วเธอจะหาทางแก้คำสาปได้อย่างไร? ความรักระหว่างบิวตี้กับธีภพจะลงเอยอย่างไร? ติดตามชมและร่วมลุ้นได้ในละคร “เล่ห์นางฟ้า” 20.25น. ทางช่อง 5
เสือ (2557/2014) ในคืนพระจันทร์เต็มดวง ณจันทร์ (เทย่า โรเจอร์) ในวัยเด็ก ต้องคำสาปและหนีคำแปง (ยุวดี เรืองฉาย) ไปที่กรงเสือ จนเกือบถูกเสือสมิงฆ่า โชคดีที่พรานคำสูรย์ (สมชาย เข็มกลัด) และจรัส (โอลิเวอร์ พูพาร์ท) พ่อของณจันทร์ตามมาช่วยทัน เสืออาละวาดจนสุดแรงก่อนสิ้นใจตาย ณจันทร์ได้เลือดจากรอยเล็บของเสือร้าย แต่จรัสพ่อของเธอเสียชีวิตด้วยกรงเล็บเสือในคืนนั้น ณจันทร์เติบโตมาเป็นเออีสาวสวย ทำงานที่บริษัทโฆษณาแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แต่เหตุการณ์ในวัยเด็กกลายเป็นฝันร้าย ที่ติดตัวมาอยู่เสมอ ทุกวันครบรอบวันตายของพ่อ ณจันทร์กับป้านวล (แอ๊ว อำภา ภูษิต) ญาติผู้ใหญ่คนเดียวที่เหลืออยู่จะขึ้นไปทำบุญให้พ่อที่เชียงใหม่ แต่ปีนี้ คำสูรย์ที่ดูสติไม่สมประกอบหลังจากเหตุการณ์ในอดีต ก็มาอะละวาดว่าใครที่แลกเลือดกับเสือสมิงในคืนวันเพ็ญ ถ้าผ่านไป 20ปี แล้วยังไม่ตายและยังไม่สามารถสะกดวิญญาณเสือได้ ผู้นั้นจะกลายเป็นเสือสมิงแทน คำแปงกลัวว่าคำสาบจะเป็นจริง ส่วนป้านวลบอกเป็นเรื่องเหลวไหล ทั้ง ๆ ที่ลึก ๆ ก็อดหวั่นใจไม่ได้ เมื่อณจันทร์กลับมาทำงานที่กรุงเทพฯ เธอได้รับงานให้ดูแลสินค้าอาหารสัตว์แทนวิฬาร์ (จรีนา สิริสิงห์) ที่ไม่ค่อยถูกชะตากับ ณจันทร์ ทำให้ณจันทร์ได้รู้จักกับปักษะ (นิธิดล ป้อมสุวรรณ) เจ้าของบริษัทหนุ่มที่ไม่สนใจงานบริหาร แต่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและมักไปอยู่ที่มูลนิธิสัตว์ป่ามากกว่า สร้างความไม่พอใจให้ปฏิมา(ชรัส เฟื่องอารมณ์) ผู้เป็นพ่อที่อยากให้เขาสืบทอดกิจการต่อ ในวันเกิดอายุครบ 25 ปี ณจันทร์ ลูกปลา(พิมพ์ลดา ไชยปรีชาวิทย์) และสมชัย (ธนวัฒน์ ประสิทธิสมพร) 3 เพื่อนซี้ ชวนกันไปที่ร้านอาหารประจำ ทำให้เจอกับหมอดูเทพนิมิตร (สุภาพร คำนวลศิลป์) เมื่อหมอดูเทพนิมิตรมาขอดูดวงให้ณจันทร์ ก็ตกตะลึงและหวาดกลัว เมื่อเปิดไพ่และเห็นดวงชะตาของณจันทร์ทั้งหมด เทพนิมิตรเดินจากไปทันที ทิ้งไว้เพียงปริศนาให้กับณจันทร์ หลังจากวันนั้น ณจันทร์เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของตัวเอง จากที่กินมังสวิรัต ก็เริ่มกระหายอยากกินเนื้อสัตว์และของสดดิบ วันหนึ่ง กำแหง (เพ็ญเพชร เพ็ญกุล) ลูกค้าที่ติดต่องานและตามตื๊อณจันทร์มาตลอด ก็มาหลอกพาณจันทร์ไปข่มขืน แต่ณจันทร์ ไม่ยอมและต่อสู้จนหมดสติไป พอฟื้นขึ้นมาก็จำไม่ได้ว่ากลับมาที่คอนโดได้อย่างไร และยิ่งตกใจเมื่อเห็นข่าวการตายของกำแหงในทีวี อาชา (รัชชานนท์ สุประกอบ) ตำรวจหนุ่มผู้รับผิดชอบคดีนี้และเป็นเพื่อนสนิทของปักษะ มุ่งประเด็นไปที่การฆาตกรรม เพราะพบรอยเท้าเสือปรากฏอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อ จนวิฬาร์ให้เบาะแสว่าเห็นณจันทร์ไปกับกำแหงในคืนเกิดเหตุ อาชาจึงเริ่มสงสัยณจันทร์ พอปักษะทราบเรื่องก็รีบออกมาปกป้องณจันทร์อย่างออกหน้า ขณะเดียวกันพรหมพยัคฆ์ (ปรีติ บารมีอนันต์) ชายลึกลับเจ้าของบริษัทผลิตวิสกี้เบงกอล ก็เข้ามาใช้บริการบริษัทโฆษณา และระบุว่าผู้รับผิดชอบงานของเขาต้องเป็นณจันทร์เท่านั้น เมื่อณจันทร์ได้พบกับพรหมพยัคฆ์ เธอสัมผัสได้ถึงแรงดึงดูดบางอย่าง พรหมพยัคฆ์เปิดเผยกับเธอว่าเขาและเธอคือเสือสมิง เขาตามหาเธอเพื่อทำพิธีสมสู่สืบทอดเผ่าพันธ์ในคืนวันเพ็ญเดือน 8 ที่จะมาถึง ณจันทร์ไม่เชื่อ แม้ว่าพรหมพยัตฆ์จะยืนยันหนักแน่น จนกระทั่งคืนวันเพ็ญมาถึง ซึ่งเป็นวันที่บริษัทจัดงานปาร์ตี้ ณจันทร์หวาดกลัวคำพูดของพรหมพยัคฆ์จึงหนีกลับก่อน แต่ก็ถูกวิฬาร์ตามออกมาหาเรื่อง ณจันทร์โกรธจนตาเริ่มเปลี่ยนสีและควบคุมตัวเองไม่ได้ จึงรีบวิ่งหนี วิฬาร์พยายามตามไปหาเรื่องต่อ ก็ต้องช็อคสุดขีดเมื่อพบเสือออกมาจากสวนที่ณจันทร์หายเข้าไป แต่ก่อนที่จะถูกเสือตะปบ ยามที่ได้ยินเสียงร้องของวิฬาร์ก็เข้ามาทำให้เสือเปลี่ยนความสนใจไปที่ยาม พอรุ่งเช้าก็มีข่าวการตายของยาม ณจันทร์ตกใจกลัวมาก แต่ก็พยายามบอกตัวเองว่าไม่ใช่เธอ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปักษะพยายามหาหลักฐานมาเพื่อยืนยันว่าทุกอย่างเป็นฝีมือของเสือ แม้ว่าอาชาจะสงสัยว่า ณจันทร์อาจจะเลี้ยงเสือ และยิ่งสองหนุ่มพยายามหาหลักฐานเท่าไหร่ ณจันทร์ก็ยิ่งแน่ใจว่าตนเองเป็นอะไร เธอจึงตัดสินใจหนีทุกคนขึ้นไปเชียงใหม่เพื่อหาทางแก้คำสาป เรื่องราวต่อไปจะเป็นอย่างไร ใครจะเป็นผู้แก้คำสาปให้ณจันทร์ และณจันทร์จะสามารถล้างคำสาปชั่วร้ายก่อนคืนวันเพ็ญเดือนแปดได้หรือไม่? ติดตามชมกันต่อได้ใน ละครเสือ
ในสวนขวัญ (2557/2014) เป็ดปุ๊ก บัวบูชา (ราศรี บาเล็นซิเอก้า) กับ เชียร (ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) ผู้เป็นบิดาเดินทางไปที่หมู่บ้านเสริมขวัญ เพื่อจะไปซื้อบ้านหลังใหม่ไว้อยู่ด้วยกันเพราะต้องการที่จะหนีให้พ้นจากเรื่องร้อนใจภายในบ้านที่เกิดจากลูกชายและลูกสะใภ้ของเชียรเอง ทั้งคู่ได้พบกับ หทัย (ปนัดดา วงศ์ผู้ดี) สาวใหญ่เจ้าของโครงการ และพิกุล (ดีใจ ดีดีดี) พนักงานของโครงการ หทัยได้เสนอบ้านหลังสุดท้ายของโครงการให้กับเป็ดปุ๊ก ในตอนแรกเป็ดปุ๊กกลัวจะเกินงบ แต่พอได้เห็นบ้านเป็ดปุ๊กก็ตกลงซื้อในทันที
ตั้งแต่ที่ลูกชาย ไก่กุ๊ก ไทรงาม (ดนัย จารุจินดา) แต่งงานกับ เก็จ เก็จเกยูร (พิมพ์อักษิพร วินโกมินทร์) มักจะเกิดปัญหาภายในบ้านอยู่ตลอด โดยเฉพาะเวลาที่ไก่กุ๊กทะเลาะกับเก็จเกยูร เก็จเกยูรมักจะด่าถึงเชียรด้วย ทำให้เป็ดปุ๊กและเชียรตัดสินใจที่จะย้ายออกมาเพี่อความสงบสุขของบ้าน แต่ไก่กุ๊กและเก็จเกยูรก็ยังหาเรื่องเป็ดปุ๊กว่าเอาพ่อไปอยู่ด้วยนั้น ต้องการเงินบำนาญและเงินมรดกของพ่อ ก่อนที่เป็ดปุ๊กจะไป เก็จเกยูรยังให้แมวเมี๊ยว และนกจิ๊บ ขอข้าวของเครื่องใช้ของเป็ดปุ๊ก เมื่อ แก้ว แก้วกรพินธุ์ (ภัทรินทร์ เจียรสุข) เพื่อนร่วมงานของเป็ดปุ๊ก และเป็นน้องสาวของเก็จเกยูร รู้ว่าเป็ดปุ๊กจะย้ายบ้านก็เข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง ซึ่งแท้จริงแล้วสวมหน้ากากคนดีแต่มีแผนร้ายอยู่ในวันที่เป็ดปุ๊กขนของย้ายไปที่บ้านใหม่นั้น เธอได้เจอกับ ไข่มุก (จรรยา ธนาสว่างกุล) เพื่อนบ้านช่างเม้าท์โดย ไข่มุกเตือนเธอว่าให้ระวังโรคจิตนอกกำแพง ทำให้เธอเริ่มระแวงว่าข้างบ้านของเธอที่เป็นสวนรกร้างนั้นเป็นของใคร แต่พิกุลก็ยืนยันว่าเป็นญาติของหทัยเอง เธอรู้สึกชื่นชมต้นไม้ที่ทางโครงการลงให้ พิกุลบอกว่าเป็นฝีมือของคนสวนของโครงการ โอม อลังการ (เปรมมณัช สุวรรณานนท์) ลูกชายของหทัยเข้ามาต้อนรับหญิงสาวเข้าสู่หมู่บ้านแห่งนี้รุ่งขึ้นเป็ดปุ๊กกลับมาที่บ้านใหม่อีกครั้ง ได้พบกับ ไม้ ตฤณ (ปกณณ์ ฉัตรบริรักษ์) คนสวนของหมู่บ้านที่เอาต้นไม้มาลงเพิ่ม เมื่อเป็ดปุ๊กเข้าไปถามไถ่ก็เจอคำตอบกวนประสาทกลับมา และยังเห็นไข่มุกมีท่าทีหวาดกลัวคนสวนหนุ่มคนนี้ เมื่อถึงวันที่ต้องย้ายบ้าน สองพ่อลูกรู้สึกอาลัยอาวรณ์กับบ้านหลังเก่าที่มีความทรงจำอัดแน่นอยู่อย่างอาลัยอาวรณ์โดยเฉพาะเชียรที่ซึมไปชีวิตในบ้านหลังใหม่นั่นช่างเงียบเหงา หดหู่ เชียรเศร้าซึมอย่างหนักเพราะคิดถึงบ้านเก่า เป็ดปุ๊กรู้สึกเป็นห่วงผู้เป็นพ่อมาก แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ทั้งความเครียด ความเหน็ดเหนื่อย และปัญหาต่าง ๆ ทำให้หญิงสาวนั่งร้องไห้เพียงลำพงในห้องนอนโดยที่คิดว่าไม่มีใครเห็น แต่หญิงสาวไม่รู้เลยว่าทุกอิริยาบถที่เธอทำมีผู้จับตามองอยู่ เมื่อเป็ดปุ๊กต้องไปทำงาน ก็รู้สึกห่วงพ่อไม่น้อย พิกุลพาไม้มาหาเชียรเพื่อปรึกษาเรื่องทำสวน เมื่อไม้รู้ว่าเชียรอยู่บ้านคนเดียวก็รู้สึกสงสาร จึงมาพูดคุยทำให้เชียรรู้สึกอุ่นใจยิ่งขึ้นไม้ไม่ใช่แค่คนสวน แต่ยังเป็นเจ้าของร้านต้นไม้ชื่อ สวนขวัญ ตั้งอยู่บริเวณข้าง ๆ หมู่บ้าน ที่ดินข้างบ้านเป็ดปุ๊กก็เป็นของไม้ทั้งหมด ไม้สร้างบ้านบนต้นไม้ไว้เพื่อเป็นห้องนอนและยังเห็นเป็ดปุ๊กร้องไห้เพียงลำพังจากบ้านต้นไม้แห่งนี้ และที่ดินหลังหมู่บ้านก็เป็นของ ย่าขวัญ (พิสมัย วิไลศักดิ์) ย่าแท้ ๆ ที่เลี้ยงดูไม้มาตั้งแต่เด็ก ย่าขวัญอาศัยอยู่กับ ตั๊กแตน (อนุธิดา อิ่มทรัพย์) เด็กสาวผู้กำพร้าที่ย่าขวัญรับมาเลี้ยงไว้ และเอ๋ง สุนัขพันทางหนึ่งตัว ย่าขวัญอยู่ในสวนแห่งนี้มานานรักและผูกพันกับที่ดินผืนนี้มาก เมื่อย่าขวัญบอกไม้ว่าหทัยจะมีกินข้าวด้วย จากที่อารมณ์ดี ๆ ไม้ก็กลับอารมณ์เสียและหนีกลับไปยังบ้านต้นไม้ระหว่างวันทำงานเป็ดปุ๊กไม่ค่อยมีสมาธิในการทำงานเพราะเป็นห่วงเชียร แก้วบอกว่าทำงานที่เป็ดปุ๊กสั่งเรียบร้อยแล้ว เลยโดนแซวว่าเพราะมีกำลังใจดี แฟนเป็นถึงลูกเจ้าของโครงการบ้านจัดสรร ทำให้เป็ดปุ๊กนึกถึงตัวเองว่าเมื่อไหร่จะมีคนเข้ามาในชีวิตบ้าง เมื่อกลับถึงบ้านเป็ดปุ๊กก็พบกับเศษก๋วยเตี๋ยวอยู่ในถังขยะ เชียรจึงสารภาพว่าคนสวนของหมู่บ้านซื้อมาให้ เป็ดปุ๊กจึงเตือนเชียรว่าอย่าสนิทกับคนแปลกหน้าเกินไป เป็ดปุ๊กถามหาคนงานชื่อไม้กับ ราย และคนสวนในหมู่บ้าน โอมได้ยินก็มาเตือนเป็ดปุ๊กว่าไม้เป็นคนไม่ดี ทำให้เป็ดปุ๊กไม่ไว้ใจไม้ยิ่งขึ้นเป็นกังวลจนกระทบกับงาน ทำให้ พิมพา (แวร์ โชว) หัวหน้าของเธอเรียกเข้าไปตักเตือนให้แยกเรื่องส่วนตัวกับงาน เป็ดปุ๊กซึ่งเครียดจากงานไม่พอ กลับถึงบ้านเจอไข่มุกฟ้องเรื่องที่ไม้ปีนเอามาปลาเค็มมาฝากพ่อของตน ทำให้พ่อไม่สนใจอาหารที่ตนซื้อมา เป็ดปุ๊กยิ่งรู้สึกโกรธไม้มากขึ้น แต่เชียรกลับรู้สึกสนิทกับไม้ขึ้นเรื่อย ๆ จนยอมเล่าเรื่องต่าง ๆ ภายในครอบครัว เมื่อเชียรถามไม้กลับเขาเล่าแค่ว่าอาศัยอยู่กับย่า แม่มีสามีใหม่หลังจากคุยธุระเสร็จ แก้วก็ชวนเป็ดปุ๊กโดดงานที่บริษัท เป็ดปุ๊กถือโอกาสกลับไปดูหน้าไม้ให้เห็นจะจะ เพราะไม้ชอบหลบหน้าเธอมาตลอด เมื่อกลับถึงบ้านเห็นไม้ง่วนอยู่ในครัวก็เข้าไปต่อว่า และเชียรก็แนะนำให้ทั้งสองรู้จักกันไม้ก็บอกว่าเข้าแนะนำตัวกลับเป็ดปุ๊กตั้งแต่เอาต้นไม้มาลงที่บ้านครั้งแรกแล้ว แม้ว่าเป็ดปุ๊กและเชียรจะย้ายออกมาจากบ้านเก่าแล้ว แต่ก็มีเรื่องร้อนใจของไก่กุ๊กและเก็จเกยูรตามมา เพราะแมวเมี๊ยวโทรมาฟ้องว่าแม่สั่งไม่ให้คุยกับทั้งคู่ เป็ดปุ๊กพยายามหาทางที่จะทำให้เชียรหายเศร้าโดยพาไปซื้อต้นไม้ที่ร้านสวนขวัญ และเพิ่งรู้ว่าไม้ขายต้นไม้อยู่ที่นี่ เป็ดปุ๊กอยากจะซื้อต้นลั่นทมแต่เห็นชื่อไม่เป็นมงคล แต่ไม้ก็บอกว่าบางคนยังไม่ปลูกก็เห็นร้องไห้ขี้มูกโป่ง ทำให้เป็ดปุ๊กรู้สึกสงสัยเหมือนกับไม้เห็นว่าเธอร้องให้เมื่อคืน แมวเมี๊ยวโทรมาร้องไห้กับเป็ดปุ๊กและเชียรว่าแม่ไม่ยอมให้เลี้ยงเจ้ายักษ์เบิ้ม สุนัขพันธุ์ปลั๊กแล้ว ทำให้ทั้งคู่ต้องไปรับเจ้ายักษ์เบิ้มมาอยู่ที่บ้าน เมื่อกลับไปบ้านเก่าก็พบกับ กะรัต ซึ่งเป็นแม่ของเก็จเกยูรที่มาเลี้ยงดูแมวเมี๊ยว กะรัตต้องการให้เชียรขายบ้านหลังเก่า เชียรไม่ยอมขาย กะรัตได้แต่สงสัยว่าที่ดินนี้เป็นชื่อของใครไข่มุกมาฟ้องเป็ดปุ๊ก ชี้ให้ดูรั้วสังกะสีที่สูงเท่าหน้าต่างชั้นสองของตน และบอกว่าเป็นฝีมือของคนสวนบ้า จะไปฟ้องหทัยให้มารื้อออก ไม้มาพอดีและสวนกลับไปว่าเป็นเพราะไข่มุกที่โยนขยะข้ามมาบ้านคนอื่น หลังจากย้ายบ้านมาสักพักทั้งคู่เริ่มปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตใหม่ได้ กระทั่งวันหนึ่งมีฝนตกหนัก รถติดมาก เป็ดปุ๊กไม่สามารถติดต่อพ่อได้ เธอตัดสินใจขับรถไปที่ร้านสวนขวัญแล้วขอไม้ปีนข้ามรั้วบ้านไปดูพ่อ ซึ่งสาเหตุที่เชียรไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ เพราะยักษ์เบิ้มนั้นทำสายโทรศัพท์หลุด เหตุนี้เองทำให้เป็ดปุ๊กเห็นความมีน้ำใจของไม้ที่ช่วยเหลือเธอ และเริ่มเปิดใจมากขึ้น แก้วมาปรึกษาเป็ดปุ๊กต้องการออกจากที่ทำงานก่อนเวลาเพราะมีนัดกับแฟนอยากให้เป็ดปุ๊กเลื่อนเวลานัดลูกค้าให้เร็วขึ้น แต่แก้วกลับลืมเอาเอกสารของลูกค้ามา ทำให้เป็ดปุ๊กไม่สามารถกลับไปที่ทำงานได้อีก เธอจึงกลับบ้านก่อนกลับเป็ดปุ๊กแวะไปที่ร้านสวนขวัญเพื่อเอาขนมไปฝากไม้กับฝ้าย แล้วจะไปตลาดต่อ ไม้จึงอาสาพาไปเพื่อให้เป็ดปุ๊กได้เลือกชื้อกับข้าวที่เชียรชอบ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มพัฒนาขึ้น ระหว่างทางกลับบ้านเป็ดปุ๊กได้พบกับแก้วและโอม จึงได้รู้ว่าแฟนของแก้วคือโอมนั่นเอง เป็ดปุ๊กได้เจอคนแถวบ้านเก่ามาบอกว่าเก็จกับกุ๊กไก่ตัดต้นไม้ที่อยู่รอบ ๆ บ้านเก่าหมดแล้วรวมถึงต้นกรรณิการ์ความหลังของเชียร ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับแม่ของเป็ดปุ๊กด้วย เป็ดปุ๊กรีบโทรไปถามพี่ชาย เป็ดปุ๊กจึงปรึกษากับไม้ว่าจะไปล้อมต้นกรรณิการ์มาปลูกที่บ้านใหม่ แต่เมื่อไปถึงบ้านกลับพบว่าถูกตัดไปแล้ว ทำให้เก็จกับเป็ดปุ๊กมีปากเสียงกัน และเก็จยังดูถูกเป็ดปุ๊กว่ามีแฟนเป็นแค่คนสวน แต่ก็รู้สึกคุ้นหน้าไม้ ไม้รู้เห็นใจเป็ดปุ๊กและมีความรู้สึกลึกซึ้งกับหญิงสาวขึ้นมาเชียรเศร้าเมื่อรู้ว่าต้นกรรณิการ์ถูกตัดไปแล้ว แต่เป็ดปุ๊กก็สัญญาว่าจะหาต้นใหม่มาให้ แม้รู้ว่าไม่สามารถแทนต้นเก่าได้ ไม้รู้เรื่องดีจึงแอบเก็บเมล็ดจากต้นเก่ามาให้ เชียรรับด้วยความตื้นตันใจ เมื่ออยู่ด้วยกันสองต่อสอง ระหว่างเป็ดปุ๊กกับไม้ไม้รู้สึกถึงหัวใจตัวเองที่เริ่มหวั่นไหว เชียรมาบอกข่าวที่ว่าเก็จจะทำบ้านเก่าเป็นบ้านเช่า เป็ดปุ๊กไม่ยอมจึงไปลุยกับทั้งคู่ สองพี่น้องทะเลาะกัน ไก่กุ๊กเสนอให้เป็ดปุ๊กขายบ้านทิ้งแล้วเอาเงินมาแบ่งกัน เชียรรู้สึกช้ำใจที่ลูกทั้งสองมาทะเลาะกันเพราะแย่งสมบัติ จึงบอกกับทุกคนว่าบ้านถูกโอนเป็นชื่อของเป็ดปุ๊กแล้ว ทำให้เก็จและไก่กุ๊กรู้สึกแค้นใจย่าขวัญก็ถามถึงต้นกรรณิการ์ที่ให้ไป ไม้จึงเล่าเรื่องปัญหาที่บ้านของเป็ดปุ๊กให้ย่าขวัญฟัง แล้วนึกถึงปัญหาของครอบครัวตัวเองเหมือนกัน ศักดิ์ ลูกชายคนเล็กของย่าขวัญมักจะแวะเวียนมาหาย่าขวัญ เพื่อให้ยกที่ดินผืนนี้ให้ตน แต่ย่าขวัญไม่ยอมเพราะต้องการอยู่ที่นี่ไปจนตายไก่กุ๊กมาหาเชียรที่บ้าน ทำเป็นมาขอโทษและให้เชียรกลับไปที่บ้านเก่าเพราะหลาน ๆ คิดถึง เชียรสงสารหลานจึงยอมไป แต่ตกลงว่าจะไปค้างคืนชั่วคราวเท่านั้น ไก่กุ๊กดีใจ เพราะมีแผนจะให้เชียรยอมยกที่ดินให้ เชียรพยายามโทรหาเป็ดปุ๊กแต่ไม่มีคนรับสาย เลยทิ้งโน้ตไว้ที่หน้าบ้าน ขณะนั้นเป็ดปุ๊กถูกพิมพาเรียกเข้าไปต่อว่าที่โดดงานไปช้อปปิ้ง และอึ้งหนักว่าผู้ที่ใส่ร้ายคือแก้วเพื่อนสนิทของเธอ พิมพาถอดเป็ดปุ๊กออกจากการเป็นหัวหน้าแล้วให้แก้วขึ้นเป็นหัวหน้าแทน เป็ดปุ๊กรู้สึกเสียใจมาก เมื่อกลับถึงบ้านก็เจอโน๊ต บอกพ่อไปค้างที่บ้านเก่าอีก ทำให้น้ำตาเธอไหลรินออกมา เป็ดปุ๊กเล่าเรื่องให้ไม้ฟัง ไม้จึงพาเธอไปกินข้าวที่บ้านย่าขวัญ ทำให้หญิงสาวสบายใจขึ้น เธอได้รับกำลังใจจากย่าขวัญ และรู้สึกว่าไม่ได้อยู่เพียงลำพังบนโลกนี้ แล้วไม้ก็พาเธอไปส่งที่บ้าน ทั้งคู่มอบกำลังใจให้กัน เป็ดปุ๊กรู้สึกอุ่นใจยิ่งขึ้นในกลางดึกมีโจรขึ้นบ้านเป็ดปุ๊ก เป็ดปุ๊กรู้ตัวจึงโทรแจ้งยามหน้าหมู่บ้านก่อนตะโกนเรียกคนมาช่วย ไม้เป็นคนแรกที่เข้ามาช่วย โอมตั้งข้อสังเกตว่าไม้มาได้อย่างไร ไม้จึงตกเป็นผู้ต้องสงสัยทันที โอมและไข่มุกยังหาว่าไม้เข้ามาในบ้านเป็ดปุ๊กเพื่อทำมิดีมิร้ายแต่หญิงสาวไม่เชื่อ เมื่อตำรวจมาถึงพร้อมกับหทัย โอมบอกให้จับไม้เข้าคุก หทัยจึงบอกว่าแท้จริงแล้วไม้เป็นลูกของเธอ เป็นเจ้าของหมู่บ้านเสริมขวัญและหลานชายของเจ้าของที่ดินแถบนี้ เมื่อเรื่องราวจบลง ไม้ชวนเป็ดปุ๊กไปตักบาตรที่หน้าร้านสวนขวัญ แล้วพาหญิงสาวขึ้นไปดูบ้าน ต้นไม้ที่เขาจับตามองดูเธอตลอด ทั้งคู่ได้ปรับความเข้าใจกัน เป็ดปุ๊กอยากรู้เรื่องของหทัยกับไม้ แต่ไม้ก็ไม่ยอมเล่า ศักดิ์มาหาย่าขวัญเพื่อให้ย่าขวัญยกที่ดินให้ พ่อตนจะได้สร้างหมู่บ้านจัดสรรบ้าง แต่ย่าขวัญไม่ยอม ศักดิ์ก็ยังพาลว่าย่าขวัญจะเก็บไว้ให้ไม้ พอรู้ว่าขโมยขึ้นบ้าน เชียรรู้สึกเป็นห่วงเป็ดปุ๊กจึงขอตัวกลับ แต่ทั้งไก่กุ๊กและเก็จเกยูรก็ขอให้อยู่ต่อ ซึ่งเชียรก็รู้ว่าที่ทั้งสองทำเพราะต้องการให้ตนยกบ้านให้ แต่เขาก็ใจแข็งไม่ยอมยกให้เป็ดปุ๊กมาทำงานวันแรกหลังจากถูกลดตำแหน่งก็ถูกเพื่อนร่วมงานจับตามองอย่างใกล้ชิด และถูกเยาะเย้ยจากคนที่ได้ชื่อว่าเคยเป็นเพื่อนสนิทแถมยังซ้ำเติมเป็ดปุ๊กถึงเรื่องที่เธอตกต่ำจนต้องไปคบกับคนสวน แต่เมื่อเธอรู้ว่าโอมไม่ใช่ทายาทเจ้าของหมู่บ้านจัดสรรตัวจริง หญิงสาวก็พร้อมตีจากทันที ไม้มาบอกข่าวเรื่องงานทำบุญวันเกิดย่าขวัญ เป็ดปุ๊กอยากช่วยงานจึงร่วมมือกับหทัยพาย่าขวัญไปตัดชุดและทำผมใหม่ หทัยเปิดใจเรื่องของเธอและไม้ให้เป็ดปุ๊กฟังทำให้เข้าใจไม้มากยิ่งขึ้น แต่ไม้กลับงอนเป็ดปุ๊กกับหทัยที่ทำให้ย่าขวัญพอใจได้ ไม้บอกว่าเขาจะทำให้เชียรรักเขามากกว่าเป็ดปุ๊กให้ได้จึงถูกเป็ดปุ๊กย้อนว่าไปทำดีกับแม่ตัวเองดีกว่า เป็ดปุ๊กรู้สึกตัวเองเล่นแรงไปหรือเปล่าขณะเดียวกัน หทัยก็ทะเลาะกับ อลงกรณ์ ผู้เป็นสามีและโอม อลงกรณ์ต้องการให้ที่ดินหมู่บ้านแต่หทัยไม่ยอม เพราะที่ดินเป็นของ เสริม สามีเก่า พ่อของไม้ ทำให้โอมยิ่งรู้สึกชิงไม้มากขึ้น อลงกรณ์ลามือจากที่ดินพื้นนี้แต่ก็พยายามหาทางขยายหมู่บ้านโดยใช้ที่ดินของย่าขวัญ แต่หทัยไม่สนับสนุน โอมโกรธหทัยมากทั้งที่เขาและพ่อเป็นคนสร้างมันขึ้นมา โอมโทรนัดแก้วออกมาพบ แต่แก้วปฏิเสธโอม จึงรู้ว่าแก้วดีตัวออกห่างเพราะเขาไม่ได้รวยอย่างที่คิด เมื่อเจอหน้าไม้ โอมก็เหวี่ยงใส่ด้วยความหงุดหงิด และพาลไปถึงเป็ดปุ๊กด้วย ทั้งสองมีเรื่องกัน ไม้หนีหทัยขึ้นรถเป็ดปุ๊กกออกไป เป็ดปุ๊กเกลี้ยกล่อมจนไม้ยอมเปิดปากเล่าเรื่องครอบครัวให้ฟัง ไม้นั่งรถเป็ดปุ๊กไปจนถึงบริษัท แก้วเห็นทั้งคู่เข้าก็ตัดสินใจเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นไม้ทันที เมื่อรู้ว่าไม้เป็นเจ้าของหมู่บ้าน จึงวางแผนที่จะเข้าไปตีสนิทกับไม้โดยใช้งานทำบุญวันเกิดของย่าขวัญบังหน้าหทัยหนักใจกับปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น อลงกรณ์เตือนลูกชายอย่าวู่วามเพราะมีแผนการใหญ่อยู่ โดยจะดำเนินการในวันเกิดย่าขวัญ และไม้ก็จะใช้วันนี้สารภาพรักกับเป็ดปุ๊ก พองานวันเกิดมาถึง แขกเหลื่อรู้แปลกใจที่ไม้มาร่วมงาน แล้วยังพาเป็ดปุ๊กมาเปิดตัวด้วย หทัยพาโอมและอลงกรณ์มาร่วมงาน อลงกรณ์รีบประจบย่าขวัญ เพื่อให้ย่าขวัญยกที่ดินให้ ไก่กุ๊ก เก็จ แก้ว กะรัตและศักดิ์ก็ตามมาทำให้ทุกคนแปลกใจ เมื่อเรียงลำดับญาติกันก็รู้ว่ากะรัตเป็นภรรยาศักดิ์ก็คือเป็นสะใภ้ย่าขวัญนั่นเอง แก้วมาตีสนิทกับไม้และเมินใส่โอม โอมยิ่งแค้นใจแม้จะไม่ได้ชอบพอแก้วนัก แต่ไม่อยากให้ไม้ได้ดีกว่า หทัยหนักใจเมื่อเห็นว่าอลงกรณ์กับศักดิ์ซุบซิบกันก็คิดว่าเป็นเรื่องไม่ดีแน่นอน หลังจากงานทำบุญวันเกิดย่าขวัญ ศักดิ์ก็ตามตื้อย่าขวัญเพื่อที่จะเอาที่ดินให้ได้ แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะย่าขวัญยังยืนยันคำเดิมที่ไม่ยอมจะยกให้ แก้วกระหยิ่มใจที่แผนเธอดำเนินไปด้วยดี เก็จจึงอิจฉาน้องสาวเลยบังคับไก่กุ๊กไปคุยกับเชียรให้ยกบ้านหลังเก่าให้ แต่เชียรก็ยังยืนยันคำเดิม ไก่กุ๊กไม่พอใจประกาศตัดพ่อลูกทันที และคิดว่าถ้าเป็ดปุ๊กตาย ทุกอย่างจะเป็นของเขาวันรุ่งขึ้น ศักดิ์ อลงกรณ์ และโอมมาที่บ้านย่าขวัญเพื่อหว่านล้อมอีกครั้ง แต่ไม้เข้ามาขัดขวางทั้งสาม ทำให้ศักดิ์โกรธมากบอกว่าต้องตายกันไปข้าง เชียรก็ครุ่นคิดเรื่องไก่กุ๊กมาพูดเมื่อคืนจึงจะปรับทุกข์กับย่าขวัญ เป็ดปุ๊กกับเชียรไปถึงบ้านย่าขวัญรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ย่าขวัญได้แต่คอยปรับทุกข์กับเชียร แก้วอยากกำจัดเป็ดปุ๊ก เพื่อสมหวังกับไม้ เก็จก็ได้บ้านสมใจ ส่วนอลงกรณ์อยากทำให้ย่าขวัญตาย แต่โอมไม้อยากให้ไม้ตาย ต่างคนต่างอยากให้มีใครบางคนตายเพื่อยุติปัญหาไม้ต้องการปรับความเข้าใจกับเป็ดปุ๊ก จึงติดรถหญิงสาวไปที่ทำงาน ไม้สารภาพรักและยืนยันไม่ได้คิดอะไรกับแก้ว ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกันได้ เมื่อถึงบริษัทพิมพาก็เรียกเป็ดปุ๊กไปต่อว่าที่มาทำงานสาย แก้วรีบซ้ำเติม แต่เป็ดปุ๊กบอกว่าไปพบลูกค้าที่เป็นเพื่อนพิมพามา พิมพาแปลกใจเพราะแก้วก็บอกว่าไปพบลูกค้าคนเดียวกันมา แก้วอึ้งหาทางโกหกไม่ทัน พิมพาไม่พอใจแก้วมาก แก้วโมโหเป็ดปุ๊กต่อว่าเป็ดปุ๊กอย่างรุนแรง แต่หารู้ไม่ว่าไม้รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ไม้พาเป็ดปุ๊กไปกินข้าวโดยไม่สนใจแก้ว แก้วคั่งแค้น คิดหาทางกำจัดเป็ดปุ๊กให้ได้อลงกรณ์ปรึกษากับศักดิ์เรื่องที่จะเอาที่ดินย่าขวัญ ทั้งคู่เห็นตรงกันว่าไม้ควรจะต้องกำจัด หทัยได้ยินเข้า อลงกรณ์ตกใจเกิดความรู้สึกผิดขึ้นมา โอมก็คิดจะกำจัดไม้เช่นกัน และลงมือโทรหาใครบางคน ด้านแก้วก็มาปรึกษากับเก็จว่าจะกำจัดเป็ดปุ๊ก เพื่อที่พวกเธอจะได้สมหวัง แต่ทั้งคู่ไม่รู้ว่าไก่กุ๊กแอบได้ยินทั้งหมด จึงเกิดความรู้สึกผิด ไก่กุ๊กจึงโทรหาเชียรเพื่อฝากเตือนให้เป็ดปุ๊กระวังตัว ไม้มาบอกว่าย่าขวัญชวนเชียรไปสวดมนต์ถือศีลที่วัด เชียรตกลงแต่ก็เป็นห่วงเป็ดปุ๊ก ไม้สัญญาว่าจะดูแลเป็ดปุ๊กเอง เชียรจึงไว้ใจในคืนที่ย่าขวัญและเชียรไม่อยู่บ้าน แก้วก็ย่องไปหาไม้เพื่อยั่วยวน หทัยกังวลกับคำพูดอลงกรณ์แวะไปดูไม้ให้เห็นว่าปลอดภัย ขณะนั้นมีคนร้ายบุกเข้ามาทำร้ายไม้ แก้วร้องขอความช่วยเหลือ คนร้ายวิ่งตามแก้ว ไม้วิ่งตามคนร้ายมา คนร้ายเห็นท่าไม่ดีจึงเข้าต่อสู้กับไม้ ไม้ถูกแทงเลือดอาบ หทัยเข้ามาช่วยพอดี คนร้ายจึงตามไปจัดการกับแก้ว แต่ก็มีพวกยามจากหมู่บ้านเข้ามาช่วยจนปลอดภัยซึ่งไม้ไม่เข้าใจว่าคนร้ายต้องการสิ่งใด เป็ดปุ๊กได้ยินเสียงแก้วและโทรเรียกยามให้มาช่วย แก้วกลัวความแตกจึงโกหกว่าไม้หลอกมพาเธอมาข่มขืน ไม้อึ้งที่แก้วโกหก และคนร้ายยังพยายามเอาตัวรอดโดยการโกหกว่าได้ยินเสียงผู้หญิงร้องให้คนช่วยเลยบุกเข้ามา อลงกรณ์พยายามกันทุกคนออกและสรุปว่าไม้เป็นคนก่อเรื่อง แต่หทัยจะให้ตำรวจมาสอบสวน แก้วเริ่มร้อนตัว พยายามโทรหาเก็จและกะรัตเพื่อขอให้ทั้งคู่ช่วย แต่เมื่อทั้งคู่รู้ว่าเกี่ยวกับตำรวจด้วยทั้งคู่จึงถอนตัว แก้วรู้สึกเสียใจมาก ด้าน ภูมิ คนร้ายที่บุกเข้าบ้านก็ถูกกดดัน สารภาพว่าเห็นแก้วจะปล้ำไม้และบอกชื่อคนจ้างวาน ไก่กุ๊กมากราบขอโทษเชียรหลังจากสำนึกได้ ตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เชียรกับเป็ดปุ๊กรู้สึกดีใจมาก ที่ไก่กุ๊กคิดได้แล้วหลังจากถูกจับว่าให้การเท็จ แก้วกลับมาบ้านด้วยหัวใจสลายที่แม่ทิ้งให้เธอเผชิญปัญหาเพียงลำพัง และยังถูกไล่ออกจากบริษัท ความทะเยอทะยานทำให้เธอไม่เหลืออะไรสักอย่าง เช่นเดียวกับหทัยและอลงกรณ์ เมื่อได้รู้ว่าผู้จ้างวานคือโอม โอมจึงคิดจะหนีไปอยู่ที่อื่นแต่ก็พยายามไกล่เกลี้ยให้โอมมอบตัว แม้แต่ย่าขวัญก็ช่วยพูด จนโอมยอมมอบตัวเพราะแพ้ความดีของไม้ เป็ดปุ๊กให้ไม้ปรับความเข้าใจกับหทัย ไม้ได้คืนดีกับแม่และยังเอาชนะใจอลงกรณ์ได้อีกด้วย อลงกรณ์ปรับปรุงตัว หวังว่าลักวันโอมจะออกจากคุกมาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา เมื่อเหตุการณ์ต่าง ๆ คลี่คลาย ไม้มาขอเป็ดปุ๊กบอกว่าเขาอยากดูแลเธอไปตลอดชีวิต ไม้ไม่ต้องการอะไรไปมากกว่านี้ แค่เป็ดปุ๊กรักเขาก็พอแล้ว.... ติดตามชม ละครในสวนขวัญรูมอะโลน 401-410 (2557/2014) ซีรีส์ที่นำเสนอเรื่องราวของคนเหงาในยุคโซเชียล ที่ต่างคนต่างอาศัยอยู่คนเดียวภายในห้องพักชั้นเดียวกันตั้งแต่ห้อง 401 ไปจนถึงห้อง 410 แม้จะมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่เจ้าของห้องทั้ง 10 คนต้องเผชิญเหมือนกัน นั่นคือความเหงา โลกเสมือนบนช่องทางออนไลน์จึงกลายเป็นทางออกสำหรับการมีใครสักคน ไว้พูดคุย ไว้กดไลค์ ไว้ FOLLOW ไว้เพิ่มยอดวิว ไว้แต่เมื่อกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ความเหงากลับไม่ได้ถูกกดปุ่มลบทิ้งไปด้วย พวกเขาทั้ง 10 คน จะรับมือกับความเหงาของตัวเองอย่างไร ติดตามได้ใน รูม อะโลน 401-410 แจกัน (ใบเฟิร์น อัญชลา มงคลสมัย) สาวเจ้าของห้อง 401 ผู้มั่นใจในตัวเองไปซะทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องเดียวคือการสารภาพรักกับ เติร์ก (วิคเตอร์ ชัชชวิศ เตชะรักษ์พงศ์) เพื่อนชายคนสนิทร่วมชมรม แต่เธอกลับพบว่าเติร์กกำลังมีใจให้สาวห้าวรุ่นน้อง มิน (แนน ภัคจิรา กรรรัตนสูตร) แจกันจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เติร์กจีบมินไม่ติด แม้กระทั่งร่วมลงสนามแข่งกันจีบมินไปพร้อมกับเติร์ก ปิดโอกาสทำคะแนนชองเติร์ก และเป็นการยืนยันให้เติร์กรู้ว่ามินเป็นทอมจริง ๆ
เรื่องย่อ : พราว (2557/2014) พราว พิชญดา (อั้ม พัชราภา) นางเอกซุปเปอร์สตาร์ในสังกัดของ แฟรงค์ (เสนาหอย เกียรติศักดิ์) ถูกใครบางคนปองร้ายทางตำรวจจึงส่ง ผู้กองสมชาย (เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ) นายตำรวจหนุ่มผู้สูญเสีย ผู้กองวิทย์ (นัท อติรุจ) ตำรวจหนุ่มคู่หูในตอนที่ช่วยพราวจากโจรค้ายา มาเป็นบอดี้การ์ดทำให้ทั้งคู่กลายเป็นไม้เบื่อไม้เมา ตลอดเวลาขณะเดียวกัน พราว แฟรงค์ และ เอมี่ (บี มาติกา) เลขาของแฟรงค์ต้องคอยแก้ข่าวที่มักจะถูก ส้มจี๊ด (ส้ม ธัญสินี) นักข่าวจอมแฉเขียนโจมตี เนื่องจากได้ จันทร์จรี (หยก ธัญยกันต์) เด็กในสังกัดเดียวกับพราวคอยให้ข่าวเพื่อหวังจะโค่นพราว ระหว่างที่พราวหลบไปซ่อนตัวที่โฮมสเตย์ของ แม่แก้ว (ดาว ดวงดาว) แม่ของสมชายแฟรงค์และเอมี่ได้พบ มีน (อั้ม พัชราภา) เด็กกำพร้าจากมูลนิธิบ้านแสนรัก ซึ่งมีหน้าตาเหมือนพราวราวกับฝาแฝดแฟรงค์จึงให้มีนมาทำหน้าที่สแตนด์อินของพราวระหว่างที่พราวไม่อยู่ แต่ สุดเขตต์ (เอส กันตพงศ์) ตากล้องซึ่งเป็นเพื่อนกับส้มจี๊ดได้รู้ความจริงจึงพยายามปกปิดเรื่องนี้เพราะเขาแอบหลงรักมีนตั้งแต่แรกเห็นขณะเดียวกัน ติณห์ (นัส อานัส) นักธุรกิจหนุ่มได้เข้ามาเป็นมือที่สามในความรักของพราวกับสมชายที่เริ่มก่อตัวและยังมี ประเสริฐ (มิกซ์ ราชวัติ) เทรนเนอร์ในฟิตเนสที่พราวไปออกกำลังกายซึ่งแอบหลงรักพราวนอกจากนี้ยังต้องปวดหัวกับศึกในครอบครัวระหว่าง น้าอร (วรารัตน์ เทพโสธร) น้าแท้ๆ กับ วารี (ปูดำ สรารัตน์) แม่เลี้ยง ทางด้านสมชายได้หลักฐานสำคัญจากสุดเขตต์เขาจึงเริ่มสืบเพื่อหาให้ได้ว่าใครกันแน่ที่คิดปองร้ายพราวระหว่าง ติณห์ กับ ประเสริฐ ส่วนสมชาย และ สุดเขตต์ สงสัยว่าใครเป็น พราวตัวจริง พราวตัวปลอม สุดท้ายความรักของทั้ง 4 จะจบลงอย่างไร
เรื่องย่อ : กุหลาบเล่นไฟ (2557/2014) เรื่องราวของสามสาวเพื่อนรัก ปริตา (ทิสานาฏ ศรศึก) รัญชิตา (เซฟฟานี่ อาวะนิค) และปัทมาศ (ธัญญะสุภางค์ จิรปรีชานนท์)ที่ต้องผิดใจกันเพราะทุกคนต่างหลงรัก ธิปไตย (วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) หนุ่มหล่อเจ้าของบริษัทโฆษณา ธิปไตยรักปริตาแต่มีเหตุจำเป็นให้ต้องแต่งงานกับปัทมาศ รัญชิตาซึ่งถือว่าตนเป็นว่าที่คู่หมั้นของธิปไตยแค้นใจมาก ประกาศเป็นศัตรูกับเพื่อนรักทั้งสอง แต่แล้วก็เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น เมื่อรัญชิตาพลั้งมือผลักปัทมาศตกตึกเสียชีวิตในวันแต่งงาน ปริตาโกรธแค้นเพราะคิดว่า รัญชิตาตั้งใจ จึงตัดสินใจเข้าวงการบันเทิงเพื่อเป็นคู่แข่งของรัญชิตา ทั้งคู่ต้องเฉือดเชือนกันทั้งเรื่องงานและเรื่องของหัวใจ แต่สุดท้าย รัญชิตาก็สำนึกผิดเมื่อพี่ชายของตนยอมสละชีวิตเพื่อช่วยปริตา มิตรภาพของเพื่อนจึงกลับคืนมาอีกครั้ง ปริตาให้โอกาสธิปไตยพิสูจน์ความจริงใจอีกครั้ง เพราะเธอก็ยังรักธิปไตยไม่เปลี่ยนแปลงเช่นกัน
เรื่องย่อ : สงครามนางงาม (2557/2014) ของรางวัลมากมาย มูลค่ากว่า 14 ล้านบาท ถ้าคุณมั่นใจว่าคุณมีมากกว่าความสวย เชิญที่ เวที Miss Beauty And Talent Thailand ด้วยคำพูดจากโฆษณาการประกวด Miss Beauty And Talent Thailand ของ นัสริน (เมทินี กิ่งโพยม) ผู้จัดการกองประกวดคนเก่ง ทำให้ ซัมเมอร์ (พิมพ์จิรา เจริญลักษณ์) สาวลูกครึ่งจาก L.A. ที่บังเอิญมาเที่ยวเมืองไทยแล้วเงินหมด ตัดสินใจเข้าประกวดเพื่อหาเงินเที่ยวต่อ ตอนแรกนั้นเธอคิดเพียงว่าจะประกวดสนุก ๆ ไม่จริงจังอะไร แต่หารู้ไม่ว่าเธอกำลังก้าวเข้าสู่โลกใบใหม่ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตและมุมมองต่อโลกของเธอไปตลอดกาล ที่กองประกวดซัมเมอร์ได้พบกับ เพียงฟ้า (ภคกัญญา เจริญยศ) เด็กสาวแสนเพอร์เฟค ลูกนางงามเก่าที่ถูก รัศมี (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) ผู้เป็นแม่ฝึกฝนให้เป็นนางงามมาตั้งแต่เด็ก ด้วยความจริงใจสนุกสนานของซัมเมอร์ ทำให้ทั้งคู่สนิทสนมผูกพันกันอย่างรวดเร็ว ยิ่งซัมเมอร์ทำหน้าที่เป็นแม่สื่อให้ฟ้ากับ คิว (เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์) ผู้กำกับฯ หนุ่มหล่อประจำกองประกวด ยิ่งทำให้ฟ้ารักและไว้ใจซัมเมอร์มากขึ้น โดยที่ไม่รู้เลยว่าความเป็นไปทั้งหมดอยู่ในสายตาของ ริบบิ้น (เปรมินทร์ ทับแก้ว) เน็ตไอดอล เจ้าแม่โซเชียลแคม ที่ภายใต้ภาพลักษณ์สวยใสไร้สติของริบบิ้น คือสายตาอันแหลมคมที่เก็บข้อมูลฉาว ๆ ของผู้เข้าประกวดทุกคน และ ลูกโซ่ (เรวิญานันท์ ทาเกิด) สาวหน้าสวยที่หนีต้น (ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา) แฟนหนุ่มมาประกวด ลูกโซ่ที่สวยสงบ แต่ภายในใจพร้อมที่จะฟาดฟันผู้เข้าประกวดคนอื่นที่กล้ามาขวางทาง ก้องเกียรติ (ยุกต์ ส่งไพศาล) กรรมการหนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์ ให้ความสนใจกับ ไวน์ (ศรุชา เพชรโรจน์) สาวงามคนหนึ่งเป็นพิเศษ แต่ที่เขาสนใจเธอไม่ใช่เพราะความสวย ความมีเสน่ห์อย่างที่เคยสนใจผู้หญิงคนอื่น แต่กลับเป็นความลับอันมืดดำที่ไวน์ปกปิดไว้ ทำให้ก้องเกียรติต้องทำทุกอย่างเพื่อที่จะรู้ความลับนั้นให้ได้ ซึ่งผู้ที่รู้ความลับเรื่องของไวน์มีเพียง ใบข้าว (จุฑารัตน์ อนุศิลป์) นางงามบ้านนาหน้าซื่อเด็กปั้น ป้าสไบ (ณหทัย พิจิตรา) เจ้าของค่ายนางงามรุ่นลายคราม ที่นอกจากใบข้าวจะชอบสะสมมงกุฏและสายสะพาย ยังชื่นชอบการสะสมแต้มผู้ชายเป็นพิเศษ และ หมอเอย (ดาริน แฮนเซน) แพทย์หญิงที่ลงประกวดเพราะอยากจะพิสูจน์ว่าผู้หญิงสวย ๆ ก็มีสมองเหมือนกัน ถึงแม้ทั้งใบข้าวและหมอเอยจะต้องร่วมมือกันช่วยไวน์ปกปิดความลับ แต่ด้วยทัศนคติ ปูมหลังที่ต่างกันของทั้งคู่ ทำให้ใบข้าวและเอยต้องมาฟาดฝีปากกันทุกครั้งที่เจอ ก้องเกียรติสนใจไวน์เพราะความลับ ต่างจาก ชยุต (โอลิเวอร์ พูพาร์ท) กรรมการหนุ่มใหญ่อีกคนหนึ่งที่เผลอใจมีความสัมพันธ์กับ บีบี (วราไพรินทร์ ลภัสนิธิโรจน์) สาวงามที่สวยด้วยมีดหมอ ทำให้ชยุตต้องแอบให้ความช่วยเหลือบีบีอยู่ตลอดเวลา แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ล่วงรู้ไปถึง เดียร์ (พรพรรณ ฤกษ์อัตการ) สาวห้าว ปากกล้า และลูกหว้า (รัตนาภรณ์ กลิ่นกุหลาบหิรัญ) สาวสวย หัวอ่อน คู่หูพริตตี้ตะกายดาว เดียร์และลูกหว้าจึงพยายามหาทางเปิดโปงบีบี ในขณะที่บีบีก็หาทางเขี่ยทั้งคู่ให้ตกรอบไป ขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายใดจะเพลี่ยงพล้ำก่อน การฟาดฟันของบรรดาสาวงามในกองประกวด Miss Beauty And Talent Thailand ว่าร้อนแรงแล้ว การแข่งขันระหว่างเวทีก็ดุเดือดไม่แพ้กัน เมื่อคุณไก่ (อรนภา กฤษฎี) เจ้าของเวที Miss Thailand Elegant เวทีประกวดสาวงามคู่แข่ง คิดจะทำลายเวที Miss Beauty And Talent Thailand เพื่อที่ว่าเวทีประกวดของตนเองจะขึ้นเป็นอันดับหนึ่งแทนที่ จึงได้ใช้ให้ อลิส (ราศี วัชราพลเมฆ) ผู้ช่วยของนัสรินคอยเป็นคนสร้างข่าวฉาวทำลายเวทีจากภายใน โลกของผู้หญิงสวยและการฟาดฟันเชือดเฉือน โลกของเวทีขาอ่อนที่ซ่อนเขี้ยวเล็บไว้ ใครจะอยู่ใครจะไป ติดตามได้ใน ละครสงครามนางงาม
เป็นต่อ New Season (2557/2014)
เป็นต่อ New Season 2014-15
พี่หมอนเป็นบ้าไปคุยกับหมาที่บ้านแก้เครียดทุกวัน หลังรู้เรื่องความลับชาวบ้านเป็นคนแรกตลอด จนทุกคนสงสัยตลอด เป็นต่อไปชกขั้นเทพ หลังรู้หลักฐานจากพอใจ เป็นต่อกับพอใจไปถามทิพย์ ขั้นเทพจึงแฉว่าเป็นแค่ญาติกัน เป็นต่อต้องเคลียร์กับทิพย์ พอใจไม่รู้สึกผิดที่เอาแต่ด่าเสียหายใส่ขั้นเทพ ยมแฉเรื่องอบคบกับเจ๊มิ้นท์ เจ๊มิ้นท์เผยว่าตนแกล้งหลอกว่าท้องเพื่อให้ยมยอมแฉ จวบเกือบโดนไล่ออก ที่ไปไล่ยม (หุ้นส่วนร้าน) ไปคุยกับหมานอกร้าน เป็นต่อกับพอใจมาแฉทิพย์ พอทุกคนแฉกันเองหมด พี่หมอนก็หายบ้า จึงบอกว่าปิด PEAK (พีค หรืออีกชื่อคือเปี๊ยก) เพราะคุณนิพนธ์โทรมาชวนให้กลับไปถือผู้ถือหุ้นร่วมของ BKL ซึ่งทุกคนใน PEAK กลับไปทำงานที่ BKL ยกเว้นขั้นเทพที่ไปดูงานต่างประเทศก่อน แล้วค่อยกลับมา แต่ตึกที่ทำงานคือตึก PEAK ดังเดิม แต่บอร์ด BKL ย้ายมาทำงานตามด้วย พอขั้นเทพกลับมาเดินหน้าจีบพอใจจริง ๆ จัง ๆ จนพอใจเริ่มใจอ่อน แต่เก็บอาการแกล้งไม่สน หึงที่ขั้นเทพจีบสาว ไปพาลใส่กอล์ฟกับเป็นต่อ เป็นต่อจึงคุยกับขั้นเทพเรื่องพอใจ ขั้นเทพขอเวลา 3 เดือนในการหยุดเป็นเสือผู้หญิง และขอพอใจคบแต่พอใจยังไม่พร้อมให้คำตอบ
เป็นต่อ New Season 2016
BKL จัดปาร์ตี้ที่คอนโดเป็นต่อ ขั้นเทพอ้างไปซื้อของเพื่อง้อพอใจ ทางวอกมัวแต่โทรหาน้องชมพู จนโดนยมแกล้งขังไว้ข้างนอก ผ่านไปชั่วโมงทุกคนนึกว่าลืมวอก จึงขอโทษ แต่วอกเสียใจกับงอนที่โทรไปไม่มีใครรับ พอตอนเช้าวอกตื่นพบว่านอนเปลือยกับออ โดยออทำตัวเป็นเมียวอก จนวอกเครียดเป็นบ้าไปหลายเดือน แท้จริงเป็นแผนเป็นต่อกับออที่แกล้งวอก เป็นต่อคิดบวชก็ขอให้ออบอกความจริงกับวอก แต่พอเป็นต่อสึก ออไม่บอกกับแกล้งหลอกว่าท้อง วอกเป็นบ้า แต่วอกรู้เพราะพี่อู๊ดเมาแฉเรื่องออ วอกคิดเอาคืน แต่ลืมรวมแผนกับน้องชมพู จนโดนพวกเป็นต่อสวนกลับ หมอดูที่ชื่อหมอหมาเข้ามาทำนายชะตาชีวิตของแต่ละคนคือ พี่หมอนจะเสียชีวิตชีวิตถ้าแต่งงานกับคุณมานพในปีนี้ พี่ยมต้องรีบง้อเจ๊มิ้นท์ภายในสิ้นปีไม่งั้นเจ๊มิ้นท์จะมีผัวใหม่ พี่อู๊ดเครียดเรื่องครอบครัวจนเป็นบ้า วอกจะได้เสียกับผู้ชาย และเป็นต่อคืนดีกับทิพย์สำเร็จ แต่มีอุปสรรคคือมีเด็กสาวคราวลูกเข้ามาชอบ จากนั้นไม่นานคำทำนายเริ่มปรากฏทีละเล็กน้อย เมื่อเป็นต่อได้เจอกับน้องตังค์ตังค์ โดยน้องตังค์ตังค์มีใจให้ต่อ ส่วนวอกเกือบได้เสียกับใสใสที่เป็นกะเทย พี่หมอนที่เจ็บตัวรุนแรงใกล้ตายเสมอ แต่พี่หมอนรอดจากคำทนาย เพราะคุณมานพหนีในวันถ่ายพรีเวดดิ้ง จนพี่หมอนที่รอดตาย ที่ถูกผัวทิ้งกลางงานแต่ง ทางพี่อู๊ดที่แม้จะเครียดเรื่องครอบครัวกับงานแต่เคลียร์ไปทีละเรื่องได้ ทางวอกไม่สนผู้หญิงจนกว่าจะยืนยันได้ว่าเป็นหญิงจริง เป็นต่อถูกยมเตือนสติก็เลิกทำแบบทิพย์กับขั้นเทพ จึงลบข้อมูลในมือถือน้องตังค์ตังค์เกี่ยวกับเรื่องของตน ทางยมคิดแผนชั่ว หลอกว่าขายหุ้นบางบาร์ กับจะลาออก ทุกคนเชื่อ จนคุณบิ๊กต้องมาแฉให้พี่หมอนกับวอกรู้ จนเจ๊มิ้นท์ถูกทั้งคู่ต่อว่าให้ไปสารภาพ จนเจ๊มิ้นท์ต้องยอมแม้จะไม่อยากยอม จากนั้นยมก็เริ่มทำตัวดีเหมือนตอนที่เจ๊มิ้นท์หลอกว่าท้อง เป็นต่อเห็นขั้นเทพพาผู้หญิงไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล จึงมีเรื่องกัน พอรู้ว่าแท้จริงขั้นเทพพาแฟนเก่าที่ถูกแฟนทิ้งไปฝากครรภ์ เป็นต่อจึงกำชับห้ามไม่ให้พอใจรู้ เดี๋ยวเป็นเรื่องใหญ่ เพราะพอใจไร้เหตุผล จนพอใจกับพี่กอล์ฟสงสัย เป็นต่อแถได้ตลอด แต่เจ๊มิ้นท์ก่อเรื่องทำแผนพัง จนเป็นต่อแถให้พอใจกับขั้นเทพคบกันได้ จากนั้นยมจับได้ว่าเป็นต่อคือตัวการให้คุณมานพหนีคิดขู่ เป็นต่อจึงกลัวว่าจะแย่กว่าเดิมแฉพี่หมอนก่อน กับบอกสาเหตุกับเหตุผลของคุณมานพ จนพี่หมอนยอมเข้าใจ ทั้งคู่รวมหัวแกล้งยม ว่าเป็นต่อโดนไล่ออก ยมจึงแก้ผ้าประชดลงลิฟท์ไปประจานหน้าตึก จน BKL เกือบเจ๊ง พวกเป็นต่อไปห้ามทัน แต่เพราะทั้งคู่ที่คิดแกล้งยมทำให้ยมเสียโอกาสทำคะแนนเจ๊มิ้นท์ไป พี่หมอนคิดจะลาออกเพราะเศร้าเรื่องผัวทิ้ง โดยจะเป็นเจ้านายอยู่แค่ 3 เดือน
เรื่องย่อ : วัยมันพันธุ์อสูร (2557/2014) ท้องฟ้ามืดครึ้ม เกิดปรากฏการณ์สุริยคราส นี่คือลางร้ายครั้งใหม่ของมวลมนุษย์ อสูรร้ายที่ถูกจองจำใต้บาดาลมานานแสนนานกำลังจะเกิดมาดูโลกจากครรภ์ของหญิงผู้หนึ่ง ไกรสิทธิ์ (บี๋-สวิส) (ทายาทที่สืบเชื้อสายมาจากไกรทอง) รู้ดีว่าชาละวันกำลังจะกลับชาติมาเกิด เขาได้ขโมยทารกมาลงอักขระยันต์แปดเหลี่ยมปิดผนึกวิญญาณชั่วร้ายไว้ และเอาเด็กไปเลี้ยงดูเสมือนเด็กมนุษย์ปกติ ซึ่งในเวลานั้นแสงทอง (เอ๋-รชยา) ภรรยาของไกรสิทธิก็เพิ่งให้กำเนิดทายาทเป็นบุตรชายมาในฤกษ์ยามเดียวกัน เด็กคนนี้คือ ไกรทองกลับชาติมาเกิดนั่นเอง ทั้งไวกูณฐ์ -ไกรทอง (เพชร-ปรัชญ) และนาวิก-ชาละวัน (เขต-ธาราเขต) ถูกเลี้ยงดูเหมือนเป็นพี่น้องคลานตามกันมา พ่อกับแม่มักจะบอกว่าทั้งคู่เป็นฝาแฝดกัน แต่กลับไม่มีสิ่งใดที่เหมือนกันเลยแม้แต่น้อย บุคลิกก็แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ไวกูณฐ์เป็นคนร่าเริง รักสนุก ชอบสังคม เป็นที่ชื่นชอบของเพื่อน ๆ รักกีฬากลางแจ้ง ส่วนนาวิกนั้นมาดนิ่ง ชอบเก็บตัว ขยันเรียนเป็นที่หนึ่งของห้องเสมอ ตรงข้ามกับไวกูณฐ์ที่สอบตกทุกครั้งและกลายเป็นลูกเกเรของพ่อแม่ แต่พี่น้องต่างเผ่าพันธุ์กลับไม่ได้แก่งแย่งความรักกัน ต่างก็รักใคร่กัน ยามเมื่อใครประสบปัญหาอีกคนก็คอยยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออยู่เสมอ ไม่ใช่แต่จระเข้เท่านั้นที่ขึ้นมาบนโลกมนุษย์ลูกเงือกสาวนามว่า มุกดา (แพร-วรภร) ก็ผลัดหลงจากพ่อแม่มาอยู่ที่โลกมนุษย์ด้วย ไกรสิทธิ์ผู้เป็นพ่อรู้ว่าไม่ใช่ปลาธรรมดาจึงถ่ายทอดวิชาแปลงกายให้ แต่มีข้อแม้ว่ามุกดาจะต้องปกปิดฐานะที่เป็นเงือกไว้ มุกดาจึงกลายเป็นเพื่อนสาวคนสนิทของไวกูณฐ์ โรคกลัวน้ำของนาวิกเป็นที่สนใจของหม่อนไหม (โซฟี่- อัปสรสิริ) สาวนิเทศศาสตร์ที่มุ่งมั่นจะเป็นนักข่าวมืออาชีพ เธอคิดหาความจริงว่าเพราะอะไรนาวิกถึงได้กลัวน้ำ ลงทุนไปตามสืบถึงบ้านของไวกูณฐ์ แต่สุดท้ายก็ถูกไวกูณฐ์แกล้งเตลิด ในสายตาของหม่อนไหม ไวกูณฐ์คือคนไม่เอาไหน ทำเรื่องไร้สาระไปวัน ๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น แต่เขากลับเข้ามาทำให้ชีวิตเธอวุ่นวายได้โดยตลอด ซ้ำไวกูณฐ์ยังมาชอบรุ้งแก้ว (ฝน-ณธิดา) เพื่อนสนิทของหม่อนไหมด้วย หม่อนไหมจึงตั้งตนคอยเป็นไม้กันหมาอย่างไวกูณฐ์ไม่ให้ได้สนิทกับรุ้งแก้วผู้อ่อนโยน ซ้ำยังตั้งตำแหน่งศัตรูหมายเลข 1 ให้กับไวกูณฐ์ไปโดยไม่ต้องคิด เมื่ออายุย่างเข้า 18 ปี ไวกูณฐ์และนาวิกถูกทำนายทายทักว่าจะมีเคราะห์หนัก ไกรสิทธิพยายามหาวิธีแก้ไขแต่ก็ไม่เป็นผล ในวันคัดเลือกนักกีฬาของมหาวิทยาลัย จู่ ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นจนไวกูณฐ์เกือบต้องบาดเจ็บหนัก โชคดีที่ไกรสิทธิ์มาช่วยได้ทัน นาวิกกับรุ้งแก้วรู้ข่าวไวกูณฐ์บาดเจ็บก็รีบมาหาทันที ระหว่างทางผ่านสระว่ายน้ำจู่ ๆ ก็มีพลังบางอย่างพุ่งมาจากสระกระชากตัวนาวิกลงไป รุ้งแก้วหวีดร้องตกใจ นาวิกพยายามดิ้นร้นเอาชีวิตรอด แต่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งจมลึกเรื่อย ๆ นาวิกหายใจไม่ออก กำลังจะตาย แต่แล้วก็มีเสียงดังขึ้นบอกให้เขาตั้งสติ น้ำคือชีวิตของนาวิก และนั่นทำให้นาวิกรู้ว่าเขาหายใจในน้ำได้ พลังที่ฉุดนาวิกไว้ก็มลายหายไป อักขระที่ลงไว้ในตัวนาวิกเกิดเรืองแสงวาวเปล่งประกาย อาจารย์มกร (อ่านว่า มะ-กอน แปลว่า มังกร)(อู๋-นวพล) แท้จริงแล้วมกรคือ ครูจระเข้ของชาละวันปลอมตัวเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเพื่อสืบหาเด็กที่มีวิญญาณของชาละวันสถิตอยู่ และครั้งนี้เขาก็ได้พบแล้วว่าคือนาวิก แต่แผนของมกรก็ย่อมมีอุปสรรคเพราะยศสินี (เตย-อรัชมน) ทายาทแห่งพระยมที่ปลอมตัวมาเป็นอาจารย์เพื่อตามหาวิญญาณชาละวันที่หายไปเมื่อ 15 ปีก่อนกลับคืนสู่นรกภูมิเช่นเดียวกัน โดยมี ทัณฑ์ (พอร์ช-อริย์ธัช) ยมทูตด้านเจ้าหน้าที่ข้อมูลเป็นผู้ช่วย นาวิกกลุ้มใจอย่างมาก เขาอยากเล่นกีฬาแต่ก็ไม่อยากทิ้งการเรียน ยศสินีจึงยื่นเงื่อนไขว่าถ้าทำให้การเรียนของไวกูณฐ์ดีขึ้น เธอก็จะยอมให้นาวิกเข้าชมรมว่ายน้ำของมกร ไวกูณฐ์โวยวายว่าทำไมตัวเองต้องมาเดือดร้อนด้วย แต่เพราะเห็นแก่นาวิก ไวกูณฐ์เลยจำยอมต้องเข้าคอร์สพิเศษกับยศสินี โดยมีหม่อนไหม รุ้งแก้วและนาวิกมาร่วมช่วยติว ไวกูณฐ์เซ็งที่ต้องมาเจอหม่อนไหมทุกวัน โชคดีที่มีคู่หูตัวแสบอย่างตะโก้ (ไบเบิ้ล-ภูผา) น้องชายตัวแสบวัย 12 ขวบของหม่อนไหมกับปู่ไม้สน (รอง เค้ามูลคดี) ปู่ของหม่อนไหมที่เป็นอัลไซเมอร์ชอบเล่าเรื่องเหนือธรรมชาติอยู่เสมอจนใคร ๆ หาว่าเพี้ยน แต่สำหรับไวกูณฐ์กลับสนุกที่ได้ฟังเรื่องที่ปู่ไม้สนเล่า หารู้ไม่ว่าเรื่องจระเข้กับเงือกที่ได้ฟังนั้นมันมีอยู่จริงใกล้ ๆ ตัวเขานั่นเอง สุดท้ายความพยายามตั้งใจเรียนก็ส่งผลให้ผลการเรียนของไวกูณฐ์ดีขึ้น แม้ว่าจะไม่ได้ดีระดับท๊อปแต่ก็ถือว่าดีกว่ามาตรฐานของนักเรียนโดยทั่วไป ทำให้ยศสินีต้องยอมปล่อยตัวนาวิกให้กับชมรมกีฬา แต่ยศสินีก็ไม่มีทางวางมือ เพราะเธอรู้เบื้องลึกเบื้องหลังของมกรดี และเธอจะไม่มีวันให้ชาละวันถือกำเนิดอีกแน่ ยศสินีจึงคอยจับผิดการซ้อมของชมรมกีฬาทุกฝีก้าว มกรรู้ดีว่าถูกจับตาจึงใช้จระเข้แปลงศิษย์รักอย่าง วิมล (แพร-แพรอิศรา) กับนันทา (เกรซ-กรกนกภรณ์) คอยขัดขวางยศสินีและคอยช่วยเหลือให้นาวิกได้ความสามารถพิเศษของชาละวันกลับคืน มกรได้ใช้กีฬาต่าง ๆ เป็นเรื่องกระตุ้นสัญชาติญาณของนาวิกให้ตื่นขึ้น ทำให้นาวิกว่ายน้ำได้เร็วและมีพลังเหนือกว่าคนปกติ แต่เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ ปานอักขระในร่างของนาวิกก็ค่อย ๆ หายไปจนนาวิกล้มป่วย ร่างกายของนาวิกเริ่มคล้ายกับจระเข้ ไกรสิทธิ์รู้เรื่องจึงต้องสะกดอักขระไว้ แล้วตัดสินใจบอกความจริงเรื่องชาติกำเนิดของนาวิกให้ไวกูณฐ์รู้ พร้อมกับฝึกเข้มถ่ายทอดวิชาหมอจระเข้เพื่อให้ไวกูณฐ์ได้เป็นไกรทองอย่างเต็มตัว หากเกิดเหตุร้ายไวกูณฐ์จะได้ใช้พลังความสามารถหยุดนาวิกลงได้ การฝึกเข้มของไวกูณฐ์เป็นการฝึกฝนทั้งทางร่างกายและใจ โดยมีบททดสอบอันหนักถ่วงทั้งจากไกรสิทธิ์และยศสินี เพื่อให้ก้าวพ้นขีดจำกัดของมนุษย์ให้ได้ แต่ความเหนื่อยครั้งนี้เขาก็มีกำลังใจอย่างหม่อนไหมอยู่ข้าง ๆ เพื่อให้นาวิกเป็นชาละวันโดยสมบูรณ์มกรจึงใช้วิธีสะกดจิตดึงจิตใต้สำนึกที่ถูกกักขังไว้ในตัวนาวิกออกมา เป็นผลให้นาวิกเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจากผู้ชายที่แสนดีกลายเป็นคนที่แข็งกร้าว อารมณ์ร้อน ชอบใช้กำลัง ใช้ความรุนแรงกับกีฬา จนผู้เข้าแข่งขันบาดเจ็บตาม ๆ กัน แม้ว่านาวิกจะเปลี่ยนไปขนาดไหนรุ้งแก้วก็ไม่เคยห่างนาวิก เธอใช้จิตใจดีในการเตือนสตินาวิก แต่นาวิกก็กลับคลุ้งคลั่งถึงจับตัวหม่อนไหมไว้ พร้อมกับท้าไวกูณฐ์ให้มาแข่งว่ายน้ำกับเขา แต่ไวกูณฐ์ยังไม่พร้อม ซ้ำยังตัดความผูกพันที่โตมาด้วยกันกับนาวิกไม่ได้ มุกดาจึงอาสาลงแข่งแทน นาวิกไม่แข่งกับผู้หญิงส่งให้วิมลกับนันทาแข่งแทน สุดท้ายมุกดาก็ชนะ เธอบอกให้นาวิกปล่อยตัวหม่อนไหมแต่นาวิกปฏิเสธ มุกดาต่อว่าที่นาวิกตระบัดสัตย์ นาวิกโกรธยอมลงแข่งกับมุกดา ศึกความเร็วกลางสายน้ำระหว่างเงือกสาวและจระเข้หนุ่มจึงเริ่มขึ้น แม้มุกดาจะเป็นเงือกแต่เรื่องการว่ายน้ำและการไล่ล่าของเจ้าจระเข้อย่างชาละวันไม่เป็นสองรองใคร จึงทำให้นาวิกชนะมุกดาไปอย่างขาดลอย มุกดาถูกทำร้ายบาดเจ็บ ตราบใดที่ไวกูณฐ์ไม่ลงแข่ง นาวิกก็จะทำร้ายคนขึ้นมากเรื่อย ๆ จนมกรเองก็รู้สึกว่าตัวเองคิดผิดที่ทำให้สัญชาติญาณของจระเข้ในนาวิกกลับคืน ก่อนที่ทุกอย่างจะบานปลายไปกว่านี้ยศสินีจึงหาทางเจรจากับมกรเพื่อที่จะยุติปัญหา จัดให้ไวกูณฐ์ขึ้นสังเวียนแข่งกีฬากับนาวิก โดยแข่งกัน 2 ใน 3 ของกีฬา (มวย/บาสและว่ายน้ำ) ที่เป็นเครื่องทดสอบทักษะต่าง ๆ ของร่างกายว่าระหว่างทายาทชาละวันอย่างนาวิกกับทายาทไกรทอง 2013 อย่างไวกูณฐ์ ใครกันแน่ที่จะเป็นที่หนึ่ง ศึกการแข่งขันกีฬาระหว่างมนุษย์และจระเข้อสูรที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ กำลังจะบังเกิดขึ้น ไวกูณฐ์จะโค่นนาวิกได้หรือไม่ นาวิกจะกลายเป็นชาละวันผู้โหดร้ายต่อไปจริงหรือ ติดตามชมความเข้มข้นของ ละครวัยมันพันธุ์อสูร ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.00 น ทางช่อง 7สี ละครวัยมันพันธุ์อสูร เริ่มตอนแรกวันอังคารที่ 9 กันยายน 2557
เรื่องย่อ : เพลงรักผาปืนแตก (2557/2014) ปี 2514 ท่ามกลางสมรภูมิรบอันดุเดือดตามแนวตะเข็บชายแดน เชน เชิงพระกาฬ ตชด.หนุ่มเลือดร้อน ฝ่าฝืนคำสั่งของหัวหน้ากองร้อยบุกเดี่ยวตลุยเข้าไปดงข้าศึกของพวกกอง กำลังค้าอาวุธสงครามเถื่อน หลังจากที่กองร้อยตัวเองถูกซุ่มโจมตีเพื่อนร่วมกองร้อยบาดเจ็บ และติดกับดักจนมุมยากจะรอดไปได้ เหตุที่เชนตัดสินใจลุยดะอย่างไม่คิดชีวิตเพราะหวังสละ ชีวิตในสนามรบหลังจากได้อ่านจดหมายของคนรักที่ส่งมาถึง ใจความนั้นสร้างความเจ็บปวด รวดร้าวแสนสาหัส เพราะ เนื้อทอง หญิงอันเป็นที่รักที่เชนมีเหตุจำเป็นต้องจากเธอมานั้นกำลังจะเข้าพิธีวิวาห์กับศัตรูผู้เป็นต้นเหตุทำให้เชนต้องหนีจากบ้านเกิดเมืองนอนมาเป็นตชด. เสี่ยงชีวิตอยู่ที่ชายแดน เชนเดินหน้าลุยเดี่ยวพร้อมเอ็ม 16 และน้ำตาอันเจ็บปวดพร้อมคำกล่าว ลาหัวหน้ากองร้อยว่า "ขอไปตายเยี่ยงวีรบุรุษในสนามรบ ดีกว่าต้องกลับไปตายอย่างผู้แพ้ที่บ้านเกิด" แต่ความตายที่เชนพยายามวิ่งเข้าหา กลับวิ่งหนีห่างจากเชนเหมือนไม่ต้องการให้เขามา จบชีวิตในสนามรบ เมื่อเชนบุกตะลุยเข้าไปถึงค่ายของ ฟ้าลั่น คำรามศึก หัวหน้ากองกำลังค้า อาวุธสงครามเถื่อนลูกชายวัยหนุ่มของ ลายเสือ คำลือ ราชาค้ายาเสพติดผู้โหดเหี้ยม เชนสู้ตัว ต่อตัวกับฟ้าลั่นแต่พลาดท่าเสียทีและถูกปืนจ่อยิง แต่กระสุนปืนขัดลำกล้องยิงยังไงก็ไม่ออก จนกระทั่งกำลังเสริมยกพลมาช่วยเหลือ ฟ้าลั่นจึงถูกเชนจับกุมเอาไว้ได้ส่วนกองกำลังก็ถูกตี แตกจนพ่ายยับ ที่รอดตายก็หนีข้ามชายแดนกลับไปสมทบกับลายเสือ คำลือ เชนได้รับความดี ความชอบจากต้นสังกัด หัวหน้ากองร้อยที่เชนเคารพนับถือที่บาดเจ็บสาหัสและกำลังจะตายได้ กล่าวคำสุดท้ายกับเชนขณะที่ช่วยติดเหรียญกล้าหาญให้กับเขา "เมื่อเป็นวีรบุรุษในสนามรบ แล้ว ก็จงกลับไปเป็นวีรบุรุษที่บ้านเกิด"
เรื่องย่อ : คีตโลกา (2557/2014) อัญมา (อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล) คุณหนูแสนสวย ไฮโซ ที่สมบูรณ์พร้อมไปทุกสิ่งในชีวิต ต้องมาพบความผิดหวังแสนสาหัสที่สุดจนทำให้ เธอคิดสั้นไปชั่ววูบ แต่เมื่อเธอคิดได้จะล้มเลิกความตั้งใจกลับเกิดอุบัติเหตุที่นำพาเธอไปยังอีกโลกหนึ่งที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงที่โลกใบนั้น เธอต้องกลายเป็น ไอ้อัญ เด็กติดยาในสลัมที่พัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติด แล้วเธอจะทำอย่างไรต่อไปกับชีวิตที่บิดเบี้ยวบนโลกคู่ขนานใบนี้ ร้อยตำรวจเอก ภควัต (วงศกร ปรมัตถากร) ตำรวจหนุ่มไฟแรงที่ได้รับมอบหมายให้ปราบปรามยาเสพติด เขาอาศัยอยู่กับลุงที่เป็นรัฐมนตรี (วสันต์ โพธิพิมพานนท์) และ คุณหญิงวรจันทร์ (ดวงดาว จารุจินดา) ป้าแท้ ๆ ของเขาซึ่งรับดูแลหลังเกิดเหตุการณ์โหดร้ายกับครอบครัวของภควัตตั้งแต่เขายังเล็ก จากแก๊งค้ายาที่มาล้างแค้นครอบครัวของเขาด้วยการตามฆ่ายกครัว ภควัตรอดมาได้เพราะมีชายหนุ่มพลเมืองดีเข้าช่วย แต่เขาคนนั้นกลับต้องมาถูกฆ่าตายเสียเอง คุณหนูอัญมาลูกสาวคนเดียวของ คุณอรรณพ (วิวัฒน์ ผสมทรัพย์) และ คุณภรณี (รัชนี ศิระเลิศ) เศรษฐีผู้ดีเก่าแถวสุขุมวิท กำลังแต่งองค์ทรงเครื่องให้ดูสวยเด่นที่สุดในงานหมั้นของ สุคนธรส (อรลีฬห์ โสตถิวันวงศ์) เพื่อนสาวคนสนิทที่เหมือนจะชิงดีชิงเด่นกันเสมอ แต่อัญมากลับไปค้นพบความจริงว่าเธอไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของบ้านนี้ แต่เป็นเด็กที่ถูกนำมาทิ้งไว้หน้าคฤหาสน์แห่งนี้ เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน เธอทั้งรู้สึกอดสูและโศกเศร้าจึงรีบไปหา จิรายุ (ธนัฑสอัศน์ ชื่นพันธุ์) แฟนหนุ่มที่บริษัทฯ แต่กลับต้องรู้ความจริงว่า จิรายุมีความสัมพันธ์กับอนุรุท เลขาหนุ่ม และเขาหลอกลวงเธอมาตลอด อัญมาเสียใจในความโง่และหยิ่งผยองของตัวเอง ด้วยอารมณ์ชั่ววูบทำให้เธอเหนี่ยวตัวขึ้นไปบนราวสะพาน แต่เสี้ยวนาทีต่อมาเธอกลับคิดได้ แต่เหมือนโชคชะตาไม่เป็นใจ เกิดมีเหตุให้อัญมากลับเสียหลักลอยละลิ่วดำดิ่งลงสู่ผืนน้ำ แต่เมื่อฟื้นคืนสติ อัญมากลับต้องตกใจเมื่อร่างกายที่เคยสวยงามของเธอกลับกลายเป็นผอมเกร็งดูขี้โรค มือเรียวสวยกลายเป็นกระดำกระด่าง บางนิ้วคล้ายถูกไฟเผาเป็นรอยด้าน แต่ใบหน้านั้นมันคือเธอชัด ๆ อัญมากรีดร้องเมื่อรับรู้ว่าเธอเปลี่ยนไปและชีวิตนี้ไม่สามารถรับตัวเองได้ อีกทั้งคนมากมายทั้ง จ่าเดช (ต๋อง ชวนชื่น) นางอุบล (ปิยะดา เพ็ญจินดา) และ จริยา (วิมลรัตน์ บาลี) ที่เหมือนรู้จักเธอในร่างนี้ดีกลับเรียกเธอว่าไอ้อัญ เธอปฏิเสธหัวชนฝาว่าบ้านเธอคือคฤหาสน์ในซอยสุขุมวิท ไม่ใช่ในสลัมแห่งนี้ แต่ทุกคนกลับยืนยันว่าเธออยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิด นางอุบลหญิงที่แสดงตัวว่าเป็นแม่ของเธอเอื้อมมือมาจับ แต่เธอกลับสะบัดออกอย่างไม่ใยดี จนอุบลชะงักเพราะไม่ว่าจะไปก่อเรื่องที่ไหนแต่ไอ้อัญก็ไม่เคยก้าวร้าวกับแม่ นอกจากนั้นเธอยังต้องเจอกับ สัญชัย (กษาปณ์ จำปาดิบ) พ่อเลี้ยงที่วัน ๆ เอาแต่เมาเหล้า จ้องมองเธอตาเป็นมัน หวังทำมิดีมิร้าย แต่ที่เลวร้ายที่สุดคืออาการอยากบางอย่างที่เธอไม่รู้ว่าคืออะไร จริยาเห็นอาการนั้นรีบพาเธอเข้าไปในห้องน้ำเปิดฝักบัวรดตัวและกดบ่าไม่ให้ดิ้น อัญมารับรู้ว่าเธอกลายเป็นไอ้อัญ เด็กสลัมที่มีชีวิตรันทด ทั้งยังติดยาขั้นรุนแรง ยิ่งทำให้ยากที่เธอจะรับสิ่งเลวร้ายมากมายหลายเรื่องที่ประดังเข้ามาพร้อม ๆ กันไหว อัญมามั่นใจว่าโลกนี้มีหลายอย่างเหมือนโลกที่เธอเคยอยู่ เธอมาได้ก็ต้องกลับได้ด้วยวิธีเดียวกันจึงกระโดดน้ำอีกครั้งแต่ไม่สำเร็จ เธอจึงพิสูจน์ให้ภควัต นายตำรวจปราบปรามยาเสพติด ที่เป็นคนช่วยชีวิตไอ้อัญจากการจมน้ำ คนที่ดูเหมือนจะเป็นที่พึ่งพาให้เธอได้มากที่สุดในโลกใบนี้เชื่อว่าเธอไม่ใช่ไอ้อัญ ด้วยการพูดภาษาอังกฤษไฟแล่บ ทั้งที่ไอ้อัญเรียนไม่จบ ม.3 ด้วยซ้ำ ภควัตจึงเริ่มเชื่อ เมื่อทำใจได้อัญมาจึงเริ่มเปลี่ยนตัวเอง พยายามเลิกยาเสพติดให้ได้ วางแผนชีวิตเรียนหนังสือเพื่อให้ได้คุณวุฒิเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น โดยได้รับความช่วยเหลือจากภควัตที่มักคอยอยู่เคียงข้างเธอเสมอและเธอยังพบความจริงว่าอุบลคือแม่แท้ ๆ ที่เอาเธอไปทิ้งไว้ หน้าบ้านเศรษฐีเพราะอยากให้มีชีวิตที่ดีและสุขสบาย แต่ในโลกคู่ขนานใบนี้อุบลเปลี่ยนใจและเอาเธอกลับมา เลี้ยงดูจนเติบโตเป็นไอ้อัญ ทำให้เธอซึ้งใจในความรักของแม่ และแปรเปลี่ยนความคิดชิงชังว่าถูกทอดทิ้งไปอย่างสิ้นเชิง และโลกใบนี้เธอกลับมีแม่ที่เธอต้องเป็นห่วงและเลี้ยงดู ภควัตเสนอให้อัญมา หรือไอ้อัญเป็นสายให้ตำรวจเพื่อทลายแก๊งค้ายารายใหญ่ของ นายวินิจ หรือ พี่บัง (ภูทฤทธิ์ พรหมบันดล) กับ อธิคม (ลิขิต บุตรพรหม) ลูกชายที่เพิ่งออกจากคุก ไอ้อัญต้องแสดงความสามารถและไหวพริบต่าง ๆ เพื่อให้อธิคมเชื่อใจและรับ เธอเป็นมือขวาเพื่อที่เธอจะเข้าถึงข้อมูลของพวกมันมากขึ้น อธิคมยอมรับในฝีมือไอ้อัญแถมยังเกิดความรู้สึกแปลกอย่างบอกไม่ถูกกับเธอ ทั้งที่รูปร่างของเธอทั้งผอมแห้งและไม่มีความสวยงามเลย ส่วนภควัตปลอมตัวเข้ามาเป็นพ่อค้าพระเครื่องแฟนของไอ้อัญ ทำให้อธิคมเกิดอาการหึงหวง ในเวลาเดียวกันนายวินิจจัดงานเลี้ยงใหญ่ขึ้นเพื่อนัดหมายส่งยา ทำให้ไอ้อัญรู้ว่า เสี่ยใหญ่ผู้ทรงอิทธิพล ฉากหน้าเป็นพ่อพระแต่เบื้องหลังเป็นหัวหน้าขบวนการทั้งหมด และรู้ดีว่าแค่เธอและภควัตไม่มีทางจัดการได้สำเร็จแน่นอน การขนยาล็อตใหญ่เกือบล้มเหลว อธิคมเริ่มสงสัยว่าเกลือเป็นหนอน แต่ไอ้อัญก็แก้ปัญหาจนรอดพ้นการเป็นผู้ต้องสงสัยไปได้ แต่นายวินิจไม่คิดอย่างนั้นจึงจับตาดูความเคลื่อนไหวของไอ้อัญทุกฝีก้าว ภควัตพาไอ้อัญมาหลบที่บ้านของตน ท่ามกลางความไม่ชอบใจของ ขวัญอนงค์ (กัญจน์ณิชา กิตติพรภาณุวงศ์) ลูกสาวของคุณหญิงวรจันทร์ผู้เป็นป้า ที่เห็นอาการอยากยาของไอ้อัญเข้า แต่ที่นี่ทำให้อัญมาค้นพบความจริงว่าพ่อของเธอคือพลเมืองดีที่ เข้าช่วยภควัตให้รอดชีวิตจากการฆ่ายกครัวแต่กลับต้องมาตายซะเอง ขณะเดียวกันนั้นนายวินิจและอธิคมแน่ใจว่าไอ้อัญเป็นสายให้ตำรวจ ยิ่งรักมากยิ่งแค้นมากจึงแก้แค้นด้วยการสั่งเก็บอุบลพร้อมเผาชุมชนให้เกลี้ยง เธอเสียใจมากที่เป็นสาเหตุให้แม่แท้ ๆ ต้องตาย พร้อมกับหนีสายตารังเกียจของคุณหญิงป้าจึงตัดสินใจหนีออก มาและทำแผนกลับเข้าไปหาอธิคมอีกครั้งเพื่อหวังแก้แค้นให้แม่ แต่ในระหว่างนั้นอธิคม และนายวินิจถูกตำรวจตามล่าจนวิ่งหนีมาจนมุมที่บ่อน้ำครำ นายวินิจสั่งให้ไอ้อัญกระโดดลงไปเพื่อหนี แต่จังหวะนั้นเธอกลับหันกระบอกปืนแล้วยิงเข้าใส่นายวินิจแบบไม่ยั้ง ก่อนจะหันปืนไปที่อธิคมแต่เขาหลบได้ เธอจึงวิ่งหนีกระโดดลงไปในแม่น้ำที่เคยคิดฆ่าตัวตาย แต่เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งเธอกลับกลายเป็นอัญมา ที่มีคุณอรรณพ คุณภรณี พ่อแม่มหาเศรษฐีคนเดิมของเธอเฝ้ารอคอยเธอฟื้นกลับมาตั้งแต่วันที่เธอตกน้ำ เธอจะทำเช่นใดกับโชคชะตาที่เล่นตลกเช่นนี้ ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างทำให้เธอไม่ใช่คุณหนูอัญมาคนเดิมที่มีนิสัยเย่อหยิ่ง ดูถูกคนอีกต่อไป และความรักของเธอกับภควัตที่ก่อตัวขึ้นในขณะที่เธอเป็นไอ้อัญจะดำเนินต่อไปได้หรือไม่ เช่นไร และจะไปพบจุดจบแบบไหน เธอจะทำอย่างไรกับทุกสิ่งที่เป็นไป และบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นเช่นไร ติดตามใน ละครคีตโลกา ที่ออกอากาศทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.20 น. ทางช่อง 7 สี ละครคีตโลกา เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม 2557
เรื่องย่อ : คุณผีที่รัก (2557/2014) เรื่องราวน่ารัก กุ๊กกิ๊ก โรแมนติก คอเมดี้ของพิธีกรสาว กับหนุ่มข้างบ้าน ที่ก่อตัวขึ้นอย่างไม่ธรรมดา เพราะหนุ่มที่ว่านายนี้ดันเป็น...ผี!
ณ สุสานรถ เวลาดึกสงัด ท่ามกลางซากรถที่พังยับเยินจากอุบัติเหตุ หนุ่มหล่อนายหนึ่ง นอนอยู่กับพื้น เขาฟื้นคืนสติขึ้นมาพร้อมกับความงุนงง เหนือร่างกายของชายหนุ่ม ปรากฎร่างของคามิน ผีร้ายที่ไม่ได้ไปผุดไปเกิดเพราะบาปหนาซ้ำซ้อน เป็นเจ้าพ่อค้ายาเสพติด ฆ่าคนบริสุทธิ์มามากมาย แม้แต่วันสุดท้ายของชีวิตก็ฆ่าตำรวจไปหลายนาย ก่อนจะขับรถหนีมาเสียหลักอัดกับเสาไฟฟ้า จึงต้องมาวนเวียนอยู่ที่สุสานรถ คามินกระชากคอหนุ่มหล่อขึ้นมา จะดูดวิญญาณออกจากร่างเขา
ทันใดนั้น ก็มีชายหนุ่มในสูทสีเทาสุดเนี๊ยบ ปรากฎตัวมาช่วยเขาไว้ พร้อมแนะนำตนเองว่าชื่อ แมนสรวง และเรียกเขาว่า พีระ ทำให้ชายหนุ่มผู้ถูกช่วยเหลือได้รู้ว่าตนชื่ออะไร และได้ตระหนักว่าเขาสูญเสียความทรงจำไปซะแล้ว แมนสรวงย้ำว่าไม่ใช่แค่นั้น จริงๆ แกน่ะ ตายไปแล้ว
น้ำมนต์ นักศึกษาสาวปีสุดท้าย ที่ต้องดิ้นรนปากกัดตีนถีบ เพื่อหาเงินเรียนและยังต้องเลี้ยงดู ข้าวต้ม น้องชายวัย 9 ขวบ งานหลักของน้ำมนต์ก็คือพิธีกรรายการเคเบิ้ลทีวี “คืนผจญผี” รายการที่เล่าเรื่องประสบการณ์เจอผีของผู้ชมทางบ้าน และพาไปพิสูจน์สถานที่ที่ลือกันว่าเฮี้ยน ทั่วราชอาณาจักร ถึงแม้น้ำมนต์เองจะเป็นคนกลัวผีสุดๆ แต่เพื่อหาเลี้ยงชีพ เธอก็จำต้องทน
คืนหนึ่ง ขณะกำลังถ่ายทำรายการ “คืนผจญผี” น้ำมนต์ต้องพาอาสาสมัครหนุ่มบึ้ก หนวดเฟิ้ม มาดเข้ม ผู้ร่วมบุกบ้านร้างที่เล่าลือว่าเป็นบ้านผีดุ เพราะเคยมีคนถูกปล้นฆ่า ไม่ทันได้เจอวิญญาณหลอน แค่แมวกระโจน แขกรับเชิญหนุ่มบึ้กหนวดเฟิ้ม ถึงกับแต๋วแตก กรีดร้อง วิ่งกระเจิง
เอมี่ โปรดิวเซอร์และเจ้าของรายการสาวรุ่นพี่ ที่ถือ ว. นั่งหน้ามอนิเตอร์ถึงกับบ่นอุบ ที่ไม่ได้ภาพผีที่น่ากลัวอย่างที่หวังอีกตามเคย ทำให้รายการ “คืนผจญผี” เรตติ้งไม่ขยับ สปอนเซอร์ก็ไม่ซื้อเวลาโฆษณา เอมี่จึงต้องขอผัดผ่อนเงินค่าตัวพิธีกรของน้ำมนต์ออกไปก่อน ทั้งที่ล่วงเลยมา 4-5 เดือนแล้ว
น้ำมนต์และข้าวต้มอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าของน้า ซึ่งเป็นญาติห่างๆ ของแม่ เมื่อน้ำมนต์กลับไปถึงก็พบว่าข้าวของของเธอและน้องชายถูกเอามากองหน้าห้อง สาเหตุเพราะข้าวต้มเอาปืนของจริงของสามีน้าไปเล่นไล่ยิงลูกของน้า ทำให้น้าโกรธ น้ำมนต์ต้องหอบหิ้วข้าวของและพาข้าวต้มออกจากบ้านของน้าสาวไปหาที่อยู่แห่งใหม่
แมนสรวงพาพีระหนีมาอยู่ที่บ้านร้างแห่งหนึ่ง พีระยังไม่เชื่อว่าตนเองเป็นวิญญาณ จนกระทั่ง รปภ. เจี๊ยบ พนักงานดูแลความปลอดภัยภายในหมู่บ้านของน้ำมนต์ขี่รถจักรยาน ผ่านมาดูแลความเรียบร้อยตามปกติ ยังไม่ทันที่พีระจะตั้งตัว รปภ. เจี๊ยบ ขี่รถทะลุตัวของพีระไปทำให้พีระช็อคมากและรู้ตัวว่าตนเองเป็นวิญญาณ เขาขอให้แมนสรวงช่วยสืบหาว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ แมนสรวงออกตัวว่าตนเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ที่ท่านพญายมส่งตัวมาทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงดูแลพีระเท่านั้น เพราะวิญญาณของพีระไม่อยู่ในบัญชีของผู้ที่ถึงฆาต พีระต้องหาตัวช่วยทางอื่นแล้ว พีระจึงมองออกไปเห็นมีคนย้ายมาอยู่บ้านฝั่งตรงข้ามพอดี จึงคิดว่านี่อาจจะเป็นที่พึ่งของเขาก็ได้
น้ำมนต์ขนของย้ายไปอยู่ที่บ้านของแม่ที่ทิ้งร้างไว้ หลังจากที่ทั้งแม่ และพ่อของเธอเสียชีวิตไปในอุบัติเหตุรถยนต์เมื่อสองปีก่อน โดยมีเอมี่เป็นคนช่วยขับรถไปส่ง ตัวบ้านเป็นไม้เก่าๆ มีบริเวณพื้นที่ค่อนข้างกว้าง บ้านข้างๆ ที่ติดกันก็ถูกปล่อยรกร้าง ทำให้บริเวณนั้นดูเปลี่ยว สงัด น่ากลัว
พีรได้พบน้ำมนต์และข้าวต้มเป็นครั้งแรก เห็นน้ำมนต์กำลังยกของก็มีน้ำใจไปช่วยยก แต่ดันถูกเข้าใจผิดว่าจะขโมยของ เอมี่ได้แต่งง เพราะเอมี่ไม่เห็นว่ามีใครเลย น้ำมนต์นึกว่าพีระหนีไปแล้ว ก็ตั้งแง่ไม่ชอบพีระตั้งแต่แรกเห็น ในขณะที่พีระนั้นเห็นหน้าน้ำมนต์ก็รู้สึกปิ๊ง ถูกใจสุดๆ
ยุทธ กับ เมสินี ติดตามข่าวทางโทรทัศน์เมื่อตำรวจกู้ซากรถปริศนาที่ตกลงไปในริมบึงแห่งหนึ่ง โดยยังไม่พบศพของผู้ขับรถคันดังกล่าว ทั้งสองต่างก็เครียด และร้อนใจ ที่ไม่พบศพของพีระ เมสินียืนยันว่า ถ้ายังไม่พบศพ ก็ต้องตามล่าหาร่างของพีระให้เจอให้ได้ มิฉะนั้นชีวิตคู่ของเรา คงต้อง แยกย้ายไปแก่ตายกันในคุก
ที่มหาวิทยาลัย น้ำมนต์ถูกตามจีบโดย อัฐชัย นักศึกษาหนุ่มหล่อ รวย เนี๊ยบ ลูกชายเจ้าของมหาวิทยาลัย แต่น้ำมนต์ยืนด้วยลำแข้งตัวเองมานาน จึงยังใจแข็ง แต่ก็เริ่มจะโอนอ่อน คล้อยตามอยู่ เพราะทุกคนยุว่าอัฐชัยรักเธอจริง และด้วยฐานะของอัฐชัย ก็จะช่วยดูแลให้ชีวิตเธอกับน้องชายดีขึ้นได้
การที่อัฐชัยมาชอบน้ำมนต์ ก็ทำให้ พิมพ์ดาว เชียร์ลีดเดอร์สาวเปรี้ยว ดาวมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมคณะของน้ำมนต์ เขม่น และคอยหาเรื่องกับน้ำมนต์ เพื่อนในกลุ่มยังมีขาเม้าท์อีกคนคือ ลูกโป่ง ที่พร้อมจะเม้าท์กับทุกคน ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
ตกค่ำ พีระแวะไปที่บ้านพบว่าข้าวต้มนั่งทำปืนด้วยหนังยางเล่นสนุกอยู่คนเดียว พีระเข้ามาคุยด้วยและสอนให้ข้าวต้มทำปืนของเล่นด้วยไม้ที่ดูดีกว่านี้ให้ อัฐชัยขับรถมาส่งน้ำมนต์ที่บ้าน อัฐชัยขอน้ำมนต์เข้าห้องน้ำ แต่ก็พยายามทำรุ่มร่ามกับน้ำมนต์ พอดีที่ข้าวต้มเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน เพื่ออวดปืนของเล่นที่ทำเอง น้ำมนต์โกรธมากเพราะสั่งข้าวต้มเด็ดขาดว่าไม่ให้เล่นปืน ข้าวต้มเล่าว่าพีระเป็นคนสอนให้ น้ำมนต์ไปที่บ้านร้างเพื่อต่อว่าพีระ แต่ไม่เห็นใคร แล้วก้มๆ เงยๆ แอบมองเข้าไปในบ้าน เจอพีระมายืนอยู่ข้างหลัง แซวว่าจะแอบถ้ำมองผมเหรอ หรือจะแอบขโมยกางเกงใน น้ำมนต์หน้าแตก แต่ก็โวยกลับที่พีระให้ข้าวต้มเล่นปืนแต่พีระโวยกลับว่าแค่ปืนของเล่นเนี่ยนะ และยังยืนยันว่าเด็กผู้ชายก็ต้องเล่นปืนสิ จะให้เล่นตุ๊กตารึไง เขาเองตอนเด็กๆ ก็เล่นปืน แต่ไม่ได้แปลว่าโตมาแล้วต้องไปไล่ยิงคน เด็กจะดีหรือไม่ดี อย่าโทษที่ปืนของเล่น มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับปืนแต่ขึ้นอยู่กับผู้ปกครองจะมีความรับผิดชอบ คอยดูแลปลูกฝังเด็กหรือป่าวต่างหาก อัฐชัยประหลาดใจ เห็นน้ำมนต์ยืนพูดอยู่คนเดียว น้ำมนต์ยืนยันว่าพีระอยู่ตรงนี้ แต่อัฐชัยมองไม่เห็นพีระ อัฐชัยไปปรึกษากับเอมี่ ห่วงว่าน้ำมนต์โดนผีรังควาญ เอมี่จึงแนะนำให้อัฐชัยรู้จักกับ อ. เทพ ชูธง อาจารย์สักยันต์ชื่อดัง หมอดู และหมอผี อ. เทพ เป็นแขกรับเชิญในรายการคืนพจญผีบ่อยๆ พร้อมกับ เกี๊ยง หลานชาย ผู้คอยติดตามรับใช้ อัฐชัยตกลงจ้าง อ. เทพ จัดการสะกดวิญญาณของพีระลงหม้ออาคม
ที่มหาวิทยาลัย พิมพ์ดาวและลูกโป่ง เป็นตัวตั้งตัวตีที่จะทำละครเวทีประจำปีของคณะ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สำคัญ และเป็นหน้าเป็นตาของมหาวิทยาลัย โดยปีนี้ ลูกโป่ง พิมพ์ดาว และน้ำมนต์เป็นทีมสต๊าฟตัวหลัก ลูกโป่งเห็นว่าน้ำมนต์ทำรายการผีอยู่แล้ว คงมีวัตถุดิบและไอเดียมากมาย จึงเสนอว่า ปีนี้จะทำละครเวทีแนวผี สยองขวัญ ทุกคนเห็นดีด้วย อนุมัติทันที คืนนั้นเอมี่ให้น้ำมนต์มาทำรายการที่บ้านร้างที่ลือว่ามีผีเด็กสิงสถิตย์อยู่ โดยมีพิมพ์ดาวมาเป็นผู้ร่วมรายการด้วย ระหว่างถ่ายทำรายการทั้งน้ำมนต์และพิมพ์ดาวถูกผีเด็กในบ้านร้างหลอกให้ของเล่นลอยไปลอยมาได้ น้ำมนต์ พิมพ์ดาว รวมถึงทีมงานต่างหนีกระเจิง น้ำมนต์หนีมาเจอข้าวต้มที่โผล่มาไม่ตั้งตัว โดยที่พีระพามาส่ง พีระโวยวายว่าน้ำมนต์เป็นผู้ปกครองที่แย่มากๆ ทิ้งให้เด็กอยู่ในบ้านตามลำพัง แต่ไม่มีใครมองเห็นพีระเลย นอกจากน้ำมนต์และข้าวต้ม น้ำมนต์เริ่มมั่นใจแล้วว่าพีระไม่ใช่คน
ระหว่างที่พีระและแมนสรวงไม่อยู่ อัฐชัยพา อ. เทพ ชูธงและเกี๊ยงมาทำพิธีปัดเป่าวิญญาณ แต่ อ. เทพ ไม่พบวิญญาณสิงสถิตย์อยู่ จึงกลับไป ให้ยันต์เก้าทวารแก่อัฐชัยให้เอาไปแปะไว้ที่รั้วบ้านน้ำมนต์เพื่อป้องกันวิญญาณ แมนสรวงกลับมาก็เห็นร่องรอยการทำพิธีในบ้านจึงรู้สึกว่าที่นี่ไม่ปลอดภัยสำหรับพีระแล้ว
เมื่อน้ำมนต์แน่ใจแล้วว่าพีระเป็นผี ก็พยายามหนี จนเกิดเป็นสถานการณ์ที่ พี่ระตามตื๊อจะขอความช่วยเหลือ แต่น้ำมนต์เอาแต่จะหนี น้ำมนต์ต้องพึ่งพระเครื่อง สายสิญจน์ ผ้ายันต์ เพื่อรับมือกับพีระ เมื่อพีระจะเข้าไปในบ้านน้ำมนต์ กลับถูกของพลังของยันต์ที่อัฐชัยแอบแปะไว้ช็อตเข้าที่ร่างจนทรุดลงไป น้ำมนต์เห็นจึงรีบวิ่งไปช่วย แต่ไม่สัมผัสร่างของพีระได้ แมนสรวงต้องรีบเข้ามาประคองและต่อว่าน้ำมนต์ที่เอายันต์มาแปะกะจะฆ่าพีระให้ตาย น้ำมนต์ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนทำ เธอสงสารพีระจับใจ
น้ำมนต์รู้ว่าเป็นฝีมือของอัฐชัยก็ไปต่อว่า พิมพ์ดาวกับลูกโป่งแซวว่าผีตนนั้นคงหล่อมากจนคนที่กลัวผีอย่างน้ำมนต์ออกโรงปกป้อง น้ำมนต์พูดแก้เก้อว่าเพราะสงสาร อัฐชัยเริ่มไม่ไว้ใจพีระมากขึ้น
ข้าวต้มเล่นซน จนลูกบอลไปโดนเอา งอแง ที่ขี่จักรยานมา ทำให้จักรยานล้ม งอแงร้องไห้โฮ แต่ร้องไห้เสร็จ ก็กลายเป็นชวนกันเล่นตามประสาเด็ก
บ้านของงอแงเป็นร้านกาแฟ “คอฟฟี่แคท” ที่อยู่ซอยถัดไป โดย เจ๊แมว เจ้าของร้านมีลูกสาวสองคน สองวัย เพราะเกิดจากสองสามี คนโตคือ พิมพ์ดาว และมีน้องเล็กวัย 9 ขวบ จากสามีคนที่สองที่เลิกไปนานแล้ว ก็คือ งอแง เด็กหญิงน่ารัก แต่ขี้อ้อน และขี้แงแต่เด็กจนได้ชื่อนี้
พีระกับแมนสรวงก็ตัดสินใจที่จะไปยังสุสาน เสี่ยงกับผีคามิน เพื่อจะสืบสาวเรื่องราวว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนกันแน่ แต่ก็ต้องผจญกับผีคามิน ที่มีพลังแก่กล้ามากจนพีระกับแมนสรวงต้านทานไม่ไหว พีระกับแมนสรวงหนีมาได้อย่างสะบักสะบอม หวุดหวิดจะถูกดูดวิญญาณไป
พีระมีรูปที่ตนเองถ่ายหน้าบ้านหลังโตหลังหนึ่ง แต่พีระจำอะไรไม่ได้เลย จึงไปขอความช่วยเหลือจากน้ำมนต์ น้ำมนต์ที่ยังตกอยู่ในอาการผวาพีระ ปฏิเสธด้วยความกลัว และเอาสายสิญจน์มาพันรอบบ้าน ทำให้พีระเข้าบ้านน้ำมนต์ไม่ได้ ข้าวต้มเลยแอบตัดสายสิญจน์และเอาด้ายขาวมาผูกแทนโดยที่น้ำมนต์ไม่รู้ ทำให้พีระสามารถเข้าถึงน้ำมนต์ผ่านทางความฝัน ในฝัน พีระขอร้องเพราะน้ำมนต์เป็นหนทางสุดท้ายที่จะช่วยเหลือพีระได้ แต่ไม่ได้ผล พีระได้แต่ปลงและทำใจ
อัฐชัยเห็นว่าน้ำมนต์กลัวผี จึงให้แม่บ้านที่บ้านตนมาอยู่เป็นเพื่อน ช่วยทำความสะอาดบ้าน และช่วยดูแลข้าวต้มที่กำลังจะปิดเทอม น้ำมนต์เกรงใจ พยายามปฏิเสธ แต่คุณอัฐอ้างว่าไม่งั้นแม่บ้านรายนี้จะตกงาน น้ำมนต์จึงยอมให้บ้านหลังนี้มีสมาชิกใหม่เป็นแม่บ้านสาวรุ่นจอมเปิ่นชื่อว่า แจ๊ว แต่เบื้องหลังของแจ๊ว ก็คือคุณอัฐแอบมอบหมายหน้าที่ให้คอยสังเกตการณ์ และรายงานความเคลื่อนไหวทุกฝีก้าวของน้ำมนต์ ทั้งที่แจ๊วเป็นคนกลัวผีมากๆ
ใกล้ช่วงสอบของน้ำมนต์แล้ว น้ำมนต์กลับกลุ้มเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าลงทะเบียน น้ำมนต์พยายามทวงค่าตัวพิธีกรที่เอมี่ค้างอยู่ แต่เอมี่ไม่มีเงินเพราะบริษัทขาดรายได้เนื่องจากรายการไม่เคยเจอผีเลย เอมี่นึกไอเดียออก ให้น้ำมนต์ติดต่อผีมาออกรายการให้ได้แล้วจะเคลียร์เงินค่าตัวให้ทั้งหมด น้ำมนต์ไปขอความช่วยเหลือจากพีระ โดยแลกกับที่น้ำมนต์จะช่วยสืบเรื่องตัวตนของพีระให้ น้ำมนต์กับพีระเอากล้องวิดีโอไปถ่ายผีที่สุสาน ก็ได้เจอคามิน ที่จ้องจะดูดกลืนวิญญาณพีระพอดี น้ำมนต์พยายามช่วยแต่สู้แรงคามินไม่ได้ คามินจับตัวพีระไว้ได้ พีระหมดแรงขัดขืน พีระบอกให้น้ำมนต์หนีไป ทันใดนั้น อ. เทพ ก็เอามีดลงอาคมปาดเฉียดเอาตรงหน้าผากคามิน คามินร้องโหยหวน ใช้อาคมขับไล่คามินไป อ. เทพ กับ เกี๊ยง ก็สะกดวิญญาณของพีระ มาขังไว้ในหม้อดินลงยันต์ แมนสรวงรู้เข้าก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว แต่แมนสรวงและข้าวต้มทำให้น้ำมนต์รู้สึกผิดที่จับพีระไว้แบบนี้ จึงกลายเป็นน้ำมนต์ที่ต้องมาช่วยปลดปล่อยวิญญาณของพีระออกจากหม้อลงยันต์ น้ำมนต์ตามไปที่แม่น้ำที่ อ. เทพ จะเอาหม้ออาคมไปถ่วง น้ำมนต์เข้าไปยื้อแย่งและปาหม้ออาคมจนแตก แมนสรวงพาพีระหนีไปได้ อัฐชัย อ. เทพ และเกี๊ยงพยายามตามหาพีระในบริเวณนั้นแต่ไม่เจอ น้ำมนต์พลอยโล่งใจ
พีระคิดว่าถ้าจะกลับไปที่บ้านร้างหลังเดิมพวก อ. เทพ อาจกลับมาอีกได้ เลยคิดว่าจะไปแอบอยู่ในบ้านของน้ำมนต์ เพราะที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด ตอนแรกน้ำมนต์ปฏิเสธ แต่ด้วยการตื้อของพีระและน้องชายก็ทำให้น้ำมนต์ใจอ่อน
ฝั่งของทาง ยุทธ และเมสินีเอง ก็พยายามตามหาร่างของพีระตามโรงพยาบาลบริเวณนั้น จุดประสงค์คือถ้ายังพบว่ารอดอยู่ จะต้องฆ่าให้ตายสถานเดียว แต่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลสงสัยพฤติกรรมองทั้งคู่ ยุทธและเมสินีจึงหนีไป เฉียดที่จะได้พบร่างของพีระที่นอนไม่ได้สติอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนั้น
ที่มหาวิทยาลัย เอมี่ไปหาเรื่องตำนานผีของมหาวิทยาลัย ก็ได้เจอน้ำมนต์ อัฐชัย ลูกโป่ง และพิมพ์ดาว กำลังปรึกษาเรื่องโปรเจกต์ละครเวทีสยองขวัญ ทั้งสี่คนต่างเล่าเรื่องตำนานสยองที่ได้ยินมาในมหาวิทยาลัยทั้งผีลิฟท์ ผีในห้องน้ำ ผีห้องดนตรีไทย ฯลฯ จนเอมี่พอใจจึงขอตัวกลับ พิมพ์ดาวเลยขอให้เอมี่ช่วยโปรโมตโปรเจกต์ละครเวทีแนวผีเรื่อง “รักข้ามภพ” โดยเป็นเรื่องของความรักระหว่างผีกับคนในยุคสมัยก่อน (ยุคเดียวกับแม่นาค) ในรายการด้วย
คืนหนึ่ง มีโจรเด็กแว๊น สองคน คือ บอย กับ ปื๊ด มาด้อมๆ มองๆ บ้านของน้ำมนต์ เห็นว่ามีแค่ผู้หญิงและเด็กอยู่ ก็คิดจะปล้นหาเงินใช้หนี้พนันบอล แจ๊วลงมาเห็นพวกโจรเข้า จึงถูกพวกโจรจับตัวขังไว้ พีระกับแมนสรวงเห็นว่ามีพวกโจรเข้ามาแต่ไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะทั้งสองไม่มีพลังพอ ปรากฎกายไม่ได้ โจรทั้งสองเข้ามาถึงห้องนอนของน้ำมนต์ ก็เห็นเธอหลับอยู่ หนึ่งในสองโจรก็คิดลามกขึ้นมาทันที ทำท่าจะลวนลามน้ำมนต์ พีระพยายามจะช่วย แมนสรวงแนะนำให้พีระใช้สามสิ่ง คือ ศรัทธา ปรารถนา และสมาธิ เพื่อปรากฏกายแสดงอิทธิฤทธิ์อย่างผีได้ พีระทำตามจนสามารถปรากฏกายได้ พวกโจรเห็นพีระแสดงอิทธิฤทธิ์ ทั้งหลอก ทั้งหลอน ทั้งลงไม้ลงมือ จนสองโจรต้องวิ่งหนีเปิดเปิงออกไป การที่พีระช่วยเหลือน้ำมนต์ ทำให้น้ำมนต์รู้สึกซาบซึ้งและรู้สึกดีๆ กับเขามากขึ้น
เหตุการณ์เรื่องโจรขึ้นบ้านน้ำมนต์และเรื่องผี ถูกแจ๊วแอบโทรรายงานไปถึงอัฐชัย เขาได้ยินก็รีบบึ่งมาทันที อัฐชัยโวยพีระทั้งที่มองไม่เห็นตัว ขอร้องให้อย่ามายุ่มย่ามกับน้ำมนต์ ขอร้องให้ผีอยู่ส่วนผี น้ำมนต์พยายามอธิบายว่าพีระมาดี แต่อัฐชัยไม่ไว้ใจ ไม่คิดว่าผีจะมาอยู่ร่วมโลกกับมนุษย์ได้ อัฐชัยพา อ. เทพ ชูธง และเกี๊ยงมาจัดการพีระ แต่ก็ต้องเจอผีพี่เลี้ยงระดับยมทูตอย่างแมนสรวง ช่วยปกป้อง จนต้องล่าถอยไป อ. เทพ รู้ว่าพลังของตนไม่แก่กล้าพอที่จะกำราบยมทูตอย่างแมนสรวง ทางที่จะชนะได้นั้นต้องอาศัยพลังผีร้ายอย่างคามินมาช่วย
น้ำมนต์คิดจะช่วยพีระเพื่อค้นหาร่างของเขาให้เจอ โดยเริ่มจากการประกาศตามหาเบาะแสผู้ที่รู้จักพีระตามรูปถ่ายที่เขาให้ไว้ ในรายการคืนผจญผี แต่รายการของเธอเป็นรายการเล็กๆ ฉายในเคเบิ้ล แถมยังเป็นตอนดึก ยากที่จะมีคนจำนวนมากมาเห็น มีทางเดียวก็คือ ทำให้รายการโด่งดังขึ้น โดยเริ่มจากการตามล่าผีในตำนานของมหาวิทยาลัยของน้ำมนต์เอง แมนสรวงกับพีระช่วยโดยการแกล้งเป็นผีโผล่ในรายการ แต่ก็ไม่ได้ดูหลอนน่ากลัวอะไรเลย กลายเป็นผีตลกไปเสียมากกว่า น้ำมนต์สบตากับพีระเป็นการขอบคุณที่พีระมาช่วยในรายการ
ที่สุสานรถ อ. เทพ จึงต้องบุกไปหาผีคามิน แต่กว่าที่จะเจรจากันรู้เรื่อง ก็ต้องต่อสู้ ปะทะกันจน อ. เทพ เกือบเพลี่ยงพล้ำ ทั้งสองจึงตกลงกันได้ว่าเป้าหมายคือการกำจัดพีระ และผีคามิน ก็จะได้ดูดพลังจากวิญญาณของพีระไป คามินจึงให้ความร่วมมือ
เช้าวันต่อมา น้ำมนต์รีบตื่นไปสอบแต่เช้า เนื่องจากตรากตำทำงานหนัก ทั้งงานพิธีกร และงานเรียน เธอเป็นลมอยู่บริเวณสนามหน้าบ้าน ก็ได้พีระเป็นคนช่วย อุ้มเข้ามาดูแลในบ้านน้ำมนต์ ระหว่างดูแล ก็อดมองอย่างเคลิบเคลิ้มชื่นชมไม่ได้ พีระรู้ตัวว่ารักน้ำมนต์เข้าแล้ว เมื่อฟื้นขึ้นมากลับกลายเป็นน้ำมนต์โกรธที่พีระไม่ยอมปลุก และรีบผลุนผลันเพื่อไปสอบ แมนสรวงได้แต่ขำที่พีระอยากเป็นฮีโร่ แต่กลับถูกน้ำมนต์โกรธจนได้
ข้ามต้มพางอแงมาเล่นกับพี่ระที่บ้าน งอแงมองไม่เห็นพีระ งอแงกลัวจนร้องไห้ ต้องคอยปลอบให้เข้าใจว่าพีระเป็นผีใจดี งอแงเริ่มใจชื้นขึ้น จนเจ๊แมว ต้องมาตาม เห็นงอแงเล่นลูกบอลกับพีระแต่ไม่มีใครมองเห็นพีระเลยดูเหมือนลูกบอลลอยเองได้ เจ๊แมวเห็นถึงกับผงะ งอแงเลยถูกเจ๊แมวพากลับบ้านอย่างไว รวมถึงแจ๊วที่สยองจนอยู่ไม่ไหวเหมือนกัน
เมื่อแจ๊วไม่อยู่ น้ำมนต์เลยต้องเป็นคนทำอาหาร และเชิญพีระมาทานอาหารค่ำที่บ้านร่วมกัน บนโต๊ะอาหารค่ำ ดูจะเป็นครั้งแรกที่พีระกับน้ำมนต์คุยกันดีๆ บ้าง ถึงแม้ น้ำมนต์ยังสงวนท่าทีพูดจาแข็งๆ ใส่พีระก็ตาม ซึ่งทุกครั้งจะมีแมนสรวงจะแอบเฝ้าดูอยู่ห่างๆ พีระนั่งนิ่ง ไม่กินอะไรเลย เพราะวิญญาณอย่างเขาไม่มีความหิว หรือต้องการพลังงานจากอาหารอย่างคนเป็นๆ น้ำมนต์คิดออก เอาธูปมาปักที่อาหารในจานพีระก็เลยได้กินข้าวกับน้ำมนต์เป็นครั้งแรก
อ.เทพ เกี๊ยง อัฐชัย กับคามิน บุกมาเล่นงานพีระ เจอกับแมนสรวงถึงบ้าน แมนสรวงถูกอ.เทพ และคามินร่วมมือกันทำร้าย แทบปางตาย แต่พีระเข้ามาเจอพยายามเข้าไปช่วยแมนสรวง แต่ก็สู้พลังของคามินไม่ได้ น้ำมนต์เห็นพีระถูกทำร้ายจะเข้าไปขวาง ก็ถูกคามินผลักกระเด็น อัฐชัยตกใจไม่คิดว่าคามินจะ ทำร้ายน้ำมนต์ จึงห้ามอ.เทพ ไม่ให้คามินทำร้ายน้ำมนต์ อ.เทพสั่งคามินหยุดและกลับออกไป น้ำมนต์โกรธอัฐชัยมาก ไล่อัฐชัยกับพวกออกไป อัฐชัยพยายามอธิบาย แต่น้ำมนต์ไม่พร้อมจะคุยกับอัฐชัยตอนนี้ พีระจึงต้องเป็นฝ่ายถูกดูแลโดยข้าวต้มกับน้ำมนต์บ้าง ในสภาพของผีที่บาดเจ็บ และเหลือพลังลดน้อยถอยลงเต็มที (แมนสรวงก็อยู่ในสภาพเดียวกัน)
ยุทธ กับ เมสินี ที่กำลังกังวลเรื่องพีระ ก็บังเอิญได้ดูรายการของน้ำมนต์ที่ประกาศตามหาเบาะแสของพีระ ยุทธตกใจมากที่มีรายการมาประกาศตามหาผู้ที่รู้เบาะแสของพีระ เมสินีจดเบอร์ไว้โดยหวังว่าน้ำมนต์จะเป็นผู้พาไปพบร่างของพีระ และจะได้กำจัดพีระให้สิ้นซากเสียที
ที่สำนักของ อ.เทพ ชูธง ซึ่งยุทธเคยเป็นศิษย์ และเคยมาสักยันต์เก้าทวารกับ อ.เทพ ยุทธเล่าว่ากำลังสืบหาร่างของคนคนหนึ่ง พอบอกว่าชื่อพีระ อ.เทพถึงบางอ้อทันที อ.เทพ เลี้ยงผีคามินอยู่ จะส่งผีตนนี้ออกตามล่า สะกดรอยผีพีระอีกทาง
และในที่สุด เมื่อมีคนโทรมาแจ้งเบาะแสจริงๆ น้ำมนต์กับพีระจึงรีบไปสืบตามแหล่งที่คนโทรบอกเข้ามา โดยผู้แจ้ง ยืนยันว่ารถคันนั้น เป็นรถของบ้านผู้หญิงที่ชื่อเมสินี คืนนั้น น้ำมนต์ไปกับพีระโผล่พรวดเข้าไปกดกริ่งหน้ารั้วบ้าน พอเมสินีออกมา ประหลาดใจ เพราะจำได้ว่าเคยเจอหน้ามาครั้งหนึ่งแล้ว น้ำมนต์บอกว่าพีระยืนอยู่ข้างๆ ตน เมสินีไม่เชื่อ น้ำมนต์ขอร้องให้ยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายรูป เมสินีทำตามด้วยความรำคาญ แต่กลับเห็นร่างรางๆ พอดูออกว่าเป็นพีระยืนอยู่ข้างน้ำมนต์จริงๆ เมสินีก็เป็นลมล้มพับไป ละไม คนใช้ในบ้านวิ่งออกมาดู พอเห็นภาพพีระในโทรศัพท์ก็เอาแต่ร้องผีหลอก ยกมือไหว้ประหลกๆ น้ำมนต์ต้องยืนยันว่าพีระมาดี ไม่ต้องกลัว ละไมจึงจะสงบ ตั้งสติได้
ละไม กับน้ำมนต์ช่วยกันประคองเมสินีที่ยังไม่ได้สติ กลับมาปฐมพยาบาลภายในบ้าน ละไมปากโป้งโดนน้ำหลอกถามความจริง ก็จะพลั้งปากเล่า แต่ยังไม่ทันได้เล่า ยุทธ ก็กลับเข้าบ้านมาพอดี เมสินีฟื้นคืนสติขึ้น ยุทธกับเมสินีตวาดด่าให้ละไมหุบปาก แล้วเมสินีก็บีบน้ำตาร้องไห้คร่ำครวญว่าตนนั้นรักธีระศิลป์ พ่อของพีระรักพีระมากๆ เมื่อเห็นว่าทั้งพ่อทั้งลูกต่างเสียชีวิตไปแล้ว ตนทั้งเหงา ทั้งทรมานเหมือนสูญสิ้นทุกอย่าง จึงให้ยุทธ เพื่อนชายคนใหม่ย้ายเข้ามาแค่วันเดียว แต่เมสินีก็ยืนยันกับพีระที่ตนมองไม่เห็น แต่รู้ว่าอยู่ตรงนี้ว่า ยุทธเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น แต่ลับหลัง ยุทธที่เบื้องหลังก็คือชายชู้ของเมสินี ยุทธบอกเมสินีว่า พีระยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร ในเมื่อเขาจัดการเองกับมือ
ย้อนอดีต เมสินี ก็คือแม่เลี้ยงของพีระ เธออยู่กินกับ ธีระศิลป์ พ่อของพีระ ในช่วงที่พีระไปศึกษายังต่างประเทศ แต่พอคุณธีระศิลป์เสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุรถคว่ำเมื่อสองปีก่อน พีระก็กลับมาจากเมืองนอกเพื่อจัดการเรื่องงานศพ และรับมรดกมูลค่ามหาศาล รวมทั้งบ้านหลังนี้ เพราะคุณธีระศิลป์ มีพีระเป็นทายาทเพียงแค่คนเดียว
และเมื่อราวๆสองเดือนก่อน เมื่อคุณพีระนั่งรถไปกับเมสินี ภรรยาคนใหม่อายุราวลูกของธีระศิลป์ เพื่อไปดูที่ดินแปลงหนึ่งซึ่งเป็นมรดกจากธีระศิลป์ ก็ได้เกิดอุบัติเหตุรถตกบึง และคุณพีระได้หายสาปสูญไปอย่างไร้ร่องรอย จนทุกคนเข้าใจว่าคุณพีระจมน้ำ เสียชีวิตไปแล้ว
ยุทธพร้อมนึกย้อนอดีตนึกย้อน ไปถึงวันที่เมสินีหลอกให้พีระนั่งรถมาด้วย โดยมียุทธปลอมตัวเป็นคนขับรถ (ติดหนวด เครา สวมหมวก ใส่แว่นตาดำ) แล้วแกล้งรถเสียบริเวณใกล้กับบึงแห่งหนึ่ง ยุทธใช้ปืนจี้พีระ บังคับให้ไปริมบึง ในบริเวณที่เปลี่ยวร้างผู้คน ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่เคยสังหารธีระศิลป์นั่นเอง ในวันนั้น พีระสะบัดหลุด วิ่งหนีไปที่ริมบึง เพื่อจะโดดหนี แต่ยุทธเหนี่ยวไกยิงจนพีระตกน้ำไป ก่อนจะยืนคุมเชิงจนแน่ใจแล้วว่าพีระไม่โผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำ และคงตายอยู่ในบึงนั้นแน่ๆ จึงโทรไปตามเมสินี มารับรู้ว่าตนได้ฆ่าพีระสำเร็จแล้ว
ตัดกลับมาเวลาปัจจุบัน เมสินีโวยว่า ยุทธทำงานไม่เรียบร้อย แต่ยุทธก็ยังยืนยันว่าตนทำดีที่สุดแล้วและรีบแก้ตัว ด้วยการฆ่าปิดปากน้ำมนต์ซะ ก็จะไม่มีใครรู้เรื่องนี้ เพราะขืนปล่อยไว้ สมบัติของธีระศิลป์ทั้งหมดอาจจะหลุดมือไป เมสินีสืบรู้มาว่า น้ำมนต์จะไปที่งานละครเวทีของมหาวิทยาลัย จึงกำชับยุทธ ให้ปฏิบัติการปลิดชีพน้ำมนต์ในวันนั้น
ยุทธกับเมสินี แอบซุ่มมา เมสินีแต่งตัวธรรมดานั่งเป็นผู้ชม แต่ยุทธปลอมตัวเป็น รปภ.ของโรงละคร พยายามหาทางเข้าหลังเวที
ที่หลังเวที ยุทธปลอมตัวเป็นรปภ. พกปืน ที่เอว บุกเข้ามาห้องแต่งตัว กระชากเอาน้ำมนต์ให้หันมาพร้อมยกปืนจะจ่อยิง แต่ก็ต้องช็อก เพราะกลายเป็นลูกโป่ง ที่แต่งตัวเล่นเป็นตัวประกอบ ลูกโป่งจะแจ้งตำรวจ เลยโดนยุทธเอาด้ามปืนฟาดจนสลบไป
ละครปิดฉากลง ทุกคนออกมาโค้งคำนับ ขอบคุณผู้ชม พลันมีเสียงปืนขึ้น จากยุทธที่พรางตัวเป็นรปภ.ทุกคนวิ่งหนีกันกระเจิดกระเจิมน้ำมนต์ อัฐชัย และพิมพ์ดาว วิ่งหนีมาด้วยกัน โดยมีพีระติดตามไปด้วย ยุทธตามไล่ล่าไป โดยมีเมสินีตามไปติดๆ การไล่ล่าเริ่มต้นขึ้น ยุทธกับเมสินี ไล่ล่าหวังจะฆ่าพีระ กับน้ำมนต์ให้ได้ พีระกับน้ำมนต์ระหกระเหินหนีไปด้วยกัน โดยมีอัฐชัยกับพิมพ์ดาวติดร่างแห ตกกระไดพลอยโจนมากับเขาด้วย
ทั้งสี่ต้องหนีกันหัวซุกหัวซุน จนทุกคนบ่นที่พีระว่า เป็นผีทั้งที จะมีอิทธิฤทธิ์อะไรสักนิดต่อสู้กับเขาบ้างไม่ได้หรือ พีระเองสวนว่าจะเอาอะไรกับผม เพราะผมเองเกิดมาก็เพิ่งเคยเป็นผี เป็นแค่ผีมือใหม่ ไม่ชำนาญวิธีหลอกหลอนแสดงอิทธิฤทธิ์อะไร ที่แมนสรวงเคยสอนให้บ้างก็ยังฝักหัดไม่คล่อง
ยุทธกับเมสินี ไล่ล่าต่อไป ทั้งสี่กำลังจะจนมุมก็โดดหนีขึ้นรถปิคอัพคันหนึ่งมา คืนนั้น ทั้งสองหนีร้อนไปพึ่งเย็นโดยการหลบไปพักในวัด พีระเดินเข้าเขตวัดมา หมาก็หอนรับกันเกรียว พีระไม่สามารถเข้าศาลาไปได้ ต้องไปนั่งที่บันไดเมรุ หลวงพ่อเทียน มาพบ จัดหาที่พักค้างแรมให้ที่ศาลา โดยแยกชาย และคู่หญิง นอนคนละที่กัน
หลวงพ่อเทียนชี้ทางให้พีระย้อนความทรงจำให้ได้ โดยการนั่งสมาธิในวัด ความนิ่งสงบทำให้ภาพเก่าๆ ย้อนกลับมา พีระนึกออกจนได้ว่าตนถูกยุทธพาไปยิงทิ้งที่บึงแห่งหนึ่ง ซึ่งเส้นทางที่มาก็ผ่านวัดแห่งนี้และยังมีภาพของคนแก่คนหนึ่งซึ่งแนะนำตัวเองบอกว่า เรียกลุงว่า ลุงสน ผุดเข้ามาในภาพความคิด
รุ่งเช้า พีระกับน้ำมนต์จึงรีบมุ่งหน้าไปทางนั้น จนได้พบกับบึงแห่งเดียวกับภาพในความคิดนั้นและในที่สุด หลังจากไถ่ถามผู้คนในย่านนั้น พีระกับน้ำมนต์ก็ได้ทราบว่าบ้านของลุงสนอยู่ที่ไหน พีระกับน้ำมนต์ไปหาลุงสนถึงที่บ้าน ลุงสนประหลาดใจ เมื่อน้ำมนต์บอกว่ารู้จักพีระ และรู้เรื่องราวทั้งหมดจากปากของพีระ ลุงสนยิ่งงง ทักว่ากลับจากโรงพยาบาลแล้วหรือ
ลุงสนเล่าย้อนให้ฟังว่า ตนได้ไปพบร่างของพีระหมดสติอยู่ที่ฝั่งริมบึง มีบาดแผนเสียเลือดไปไม่น้อย จึงเรียกชาวบ้านแถวนั้น ช่วยกันหามไปส่งโรงพยาบาลใกล้ๆ โดยตนจะแวะไปเยี่ยมเยียนแทบทุกวันแต่ก็สิ้นหวัง เพราะเห็นว่านอนอยู่ร่วมเดือนแล้วยังไม่ได้สติ แต่หมอจะขอดูอาการจนครบ 2 เดือน จึงจะตัดสินใจถอนอุปกรณ์ช่วยชีวิตออก น้ำมนต์ถามว่าเมื่อไหร่จะครบ 2 เดือน ลุงสนบอกว่าก็ในวันสองวันนี้แหละ พีระถึงกับช็อกเมื่อได้ยินว่าตนมีโอกาสอีกเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น
ที่อีกโรงพยาบาลหนึ่ง ร่างของพีระนอนไม่ได้สติ มีสายระโยงรยางค์ และอุปกรณ์ช่วยหายใจวิญญาณของพีระกับน้ำมนต์มายืนมอง น้ำมนต์ถึงกับร้องไห้ด้วยความสงสานและเห็นใจ ในขณะที่พยาบาลนางหนึ่งพอเห็นพีระแตะร่างที่นอนบนเตียง แล้วเริ่มเห็นภาพพรางๆ ขึ้นมา พยาบาลก็ขยี้ตางงๆ อย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง แล้วร้องกรี๊ดตกใจ
พีระกับน้ำมนต์ ไม่รู้วิธีที่จะกลับคืนสู่ร่างเดิม จึงต้องโทรตามแมนสรวงให้มาช่วย แมนสรวงรับปากว่าจะรีบไป แต่ตอนนี้ ไปไหนไม่ได้ เพราะโดนเด็กแสบทั้งสอง คือข้าวต้ม และงอแง จับขังไว้ไนห้องเก็บของแล้วเอาสายสิญจน์พันประตูไว้ น้ำมนต์ต้องโทรไปบอกให้เจ๊แมว และแจ๊วช่วยไปแกะสายสิญจน์ ทั้งสองช่วย ทั้งที่กลัวใจจะขาด ประตูเปิดออกมา พีระกับน้ำมนต์ดีใจ นึกว่าเป็นแมนสรวง แต่ปรากฏว่าเป็นยุทธที่แต่งชุดบุรุษพยาบาลปลอมตัวเข้ามา ส่วนเมสินี ย้อนกลับพยาบาลหาทางทำลายร่างของพีระ เพื่อให้กลับเข้าร่างไม่ได้ โดยการจะวางเพลิง แต่อัฐชัยกับพิมพ์ดาวย้อนมาช่วยไว้ แต่ทั้งคู่ไม่ทราบว่าเมสินีพกปืนมาในกระเป๋าถือ แต่วินาทีที่เมสินีกำลังจะเหนี่ยวไก แมนสรวงก็ปรากฏตัวขึ้น มาจับข้อมือแย่งปืน เมสินี ที่ลั่นไก จนลูกกระสุนเฉียด ร่างของพีระไปมาอย่างน่าหวาดเสียว แมนสรวง หลอกหลอนเดินไต่เพดานห้วยหัว หลอกหลอนเมสินี จนช็อก เสียสติไป ก่อนที่หมอและรปภ.ประจำโรงพยาบาล จะมาช่วยเคลียร์สถานการณ์ไว้ เมสินีก็จิตหลุด จนเอ๋อไปซะแล้ว
ที่โรงพยาบาล หมอกำลังตัดสินใจเรื่องการถอนสายเครื่องช่วยหายใจสำหรับร่างของพีระ ที่เลยกำหนดมาแล้ว แต่อัฐชัยกับพิมพ์ดาว ก็มาขอร้องไว้ แต่เหตุผลที่ทั้งสองเล่า ทำเอาหมอและพยาบาล เข้าใจไปว่าสองคนนี้เพี้ยนตามเมสินีไปแล้ว เลยโดนพาเข้ามาอยู่ห้องเดียวกับเมสินีซะ ร่างของพีระจึงอาจจะถูกถอดสายเครื่องช่วยหายใจได้ทุกเมื่อ
หลังจากค่ำคืนของการผจญผีต่างๆกลางป่าลึก พีระและน้ำมนต์ออกมาจากป่า ก็ต้องสู้ขั้นแตกหักกับ อ.เทพ และผีคามิน แมนสรวง อัฐชัยกับพิมพ์ดาวมาช่วย โดยอัฐชัยกับพิมพ์ดาวจัดการ อ.เทพ ส่วนพีระ กับแมนสรวงรวมพลังกันจัดการผีคามินอยู่หมัดจนได้ แต่ก็ยังหายใจได้ไม่ทั่วท้อง ยุทธก็โผล่มาพอดีการไล่ล่าจึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ยุทธต้อนน้ำมนต์ มาจนมุมที่ตลิ่งสูงริมบึงแห่งนั้น ยุทธจ่อเตรียมยิงน้ำมนต์แต่พีระใช้พลังที่ต้องการปกป้องคนรัก ปรากฏตัวขวางหน้าไว้ แต่ยุทธสักยันต์เก้าทวาร ทำให้พีระทำอะไรไม่ได้ ผลักยุทธออกไป จนพลาดเหยียบขอบตลิ่งตกบึงไป แต่พีระยังมีน้ำใจ ช่วยดึงยุทธขึ้นมา แต่แทนที่ยุทธจะซาบซึ้งหรือสำนึก กลับยกปืนขึ้นยิง ไปโดนน้ำมนต์หนึ่งนัด พีระที่ยุทธมองไม่เห็น บิดข้อมือหันปืนเข้าหายุทธเอง ยุทธถอยกรูด กลัวลูกปืน จนพลาดตกบึงไป ศีรษะกระแทกหินนอนแน่นิ่ง สนองผลกรรมที่ตนเคยทำไว้ น้ำมนต์ฟุบอยู่ พีระเสียใจ คว่ำครวญบอกรักน้ำมนต์ น้ำมนต์สะดุ้งเฮือกขึ้นมาบอกฉันยังไม่ตาย แต่มันเจ็บจนพูดไม่ออก กระสุนปืนแค่ถากสีข้างไป ทำแผลที่โรงพยาบาลแป๊ปเดียวก็เสร็จ พีระจึงถามต่อว่า แล้วที่ตนบอกรักไป น้ำมนต์คิดอย่างไร น้ำมนต์อิดออดที่จะพูด แต่พีระถามย้ำว่าทีตนยังกล้าพูดเปิดเผยความในใจ น้ำมนต์จึงบอกรักบอกความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อพีระกลับไปเช่นกัน
พีระ น้ำมนต์ รีบรุกไปดูร่างของตนที่โรงพยาบาล และเมื่อพีระเห็นร่างของตนเองแน่นิ่งอยู่ แต่การกลับเข้าร่าง ไม่ง่ายอย่างที่คิด แมนสรวงให้เหตุผลว่า ร่างของพีระถูกทิ้งไว้นาน เกินวันหมดอายุแล้วอาจจะกลับเข้าร่างไม่ได้อีก
ในที่สุด หลังจากพยายามอยู่หลายครั้ง จนต้องใช้วิธีแผ่เมตตา และใช้จิตที่สงบ และสมาธิ เข้าช่วยพีระ
เรื่องย่อ : รักเต็มบ้าน (2557/2014) 3 พี่น้องสกุล รักทะเล เดินทางจากพ่อแม่เจ้าของกิจการอาหารทะเลแปรรูป จากจังหวัดระยอง อำลาชีวิตหนุ่มสาวลูกน้ำเค็มชั่วคราว ตบเท้าเข้ามาอยู่ในบ้านขนาดอบอุ่นในกรุงเทพมหานคร เพราะแต่ละคนมีเป้าหมายชีวิตที่ต้องพุ่งชนให้สำเร็จ
กด (ชื่อเล่นฉบับเต็มคือ ปลากด ชื่อจริง ปรากฏการณ์) พี่ชายคนโต บัณฑิตใหม่จบหมาด ๆ สาขาบริหารธุรกิจ ไฟแรง อยากจะบริหารองค์กรตามที่ร่ำเรียนมา แต่เขาเพิ่งจะได้บรรจุเป็นพนักงาน Call Center ธรรมดา ๆ ด้วยความร้อนวิชาด้านบริหาร กดจึงเป็นคนที่จัดการ ดูแล บริหารและจัดระเบียบชีวิตของน้อง ๆ อย่างเข้มงวด ตั้งแต่ลืมตาตื่น จนหลับตานอน ชนิดที่ว่าถ้าสามารถเข้าไปจัดระเบียบในความฝันได้ด้วย กดก็คงเข้าไป เพราะสำหรับกด คำว่า วินัย คือ คำศักดิ์สิทธิ์ที่จะละเมิดมิได้ ทุกอย่างต้องมี Timeline ที่แน่นอน ชัดเจน ต้องเป๊ะ
แม้จะเป็นแค่พนักงานระดับปฏิบัติการ ตำแหน่ง Call Center ของบริษัท CMP (ย่อมาจาก Call Me Professional) ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการเป็นศูนย์ Call Center ของเครือข่ายโทรศัพท์ค่ายหนึ่งในประเทศ แต่กดก็ยังไม่ทิ้งฝัน เพราะเป้าหมายชีวิตของเขาคือผู้บริหารระดับสูงให้ได้ เขาสะกดจิตตัวเองทุกวันว่า ด้วยก้าวที่กล้า จากพนักงาน Call Center ที่เพิ่งบรรจุ ไม่นานต้องได้เป็น CEO กดอยากมีฐานะการเงินที่มั่นคง เพื่อให้พ่อแม่ได้เกษียณ วางมือและขายกิจการธุรกิจแปรรูปอาหารทะเลและอยู่อย่างสบาย ความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของเขา ทำให้เขามองข้ามพรสวรรค์พิเศษของตัวเองที่ทำอาหารได้อร่อยเทียบเคียงเชฟมืออาชีพ ที่ต่อมาจะกลายเป็นอาชีพที่ช่วยชีวิตตัวเขาและน้อง ๆ และช่วยรักษากกิจการของพ่อแม่เอาไว้อย่างได้ไม่คาดฝัน
เก๋า (ชื่อเล่นฉบับเต็มคือ ปลาเก๋า) น้องคนกลาง นักศึกษาปีที่สอง คณะบริหารธุรกิจ เอกการจัดการเหมือนพี่กด เพราะไม่รู้จะเรียนอะไร หรืออยากทำงานอะไร ไร้เป้าหมาย เลยเรียนก๊อปปี้พี่ชายมันซะเลย แต่แตกต่างตรงที่ เก๋าเรียนได้เกรดห่วยแตก ต้องยืนปากเหวทุกวิชา เพราะวัน ๆ เก๋าเอาแต่หล่อ คิดแค่วันต่อวัน ว่าวันนี้จะไปจีบใครดี (เพราะจีบเท่าไหร่ก็ไม่มีใครเอา) เก๋าใช้ชีวิตเหมือนไม่รักตัวเอง ติดเพื่อนมาก ถ้ารู้ว่าเพื่อนมีเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องเล็กอย่างสิวหัวช้างแตก หรือตาปลาระบม ขอแค่เพื่อนเรียกร้องต้องการ เก๋าสามารถวิ่งออกจากห้องสอบไปหาเพื่อนได้ทันที จนพี่กดงอนบ่อย ๆ ที่เก๋ารักเพื่อนนอกบ้านมากกว่าคนในครอบครัวซะอีก
การใช้ชีวิตของเก๋าทำให้พ่อแม่และกดเป็นห่วงมาก กลัวจะเรียนไม่จบ กลัวจะเสียคน กดจะให้เก๋ากลับไปแปรรูปอาหารทะเล เก๋าก็ปฏิเสธเด็ดขาด หรือไม่ก็สัญญาปากเปล่าว่าจะทำตัวให้ดีขึ้น แต่สัจจะไม่เคยเกิดขึ้นในหมู่โจรฉันใด ก็จงอย่าหาสัจจะจากตัวเก๋าฉันนั้น เก๋าไม่รู้ร้อน มีที่มาจากชีวิตของเก๋านั่นเอง แต่เก๋าจะรู้สึกดีทุกครั้งที่ถูกพี่ชายหรือน้องสาวด่า หรือพ่อแม่บ่น เพราะเป็นช่วงเวลาเดียวที่เก๋ารู้สึกว่าตัวเองได้รับความสนใจ
นกแก้ว (ชื่อเล่นฉบับเต็มคือ ปลานกแก้ว) น้องสาวคนเล็กของบ้านกำลังเรียน ม.6 อยู่ในช่วงเตรียมเอ็นทรานส์ เอาแต่ใจ ขี้วีน เหวี่ยง จอมวางแผน และมักคิดว่าตัวเองเก่ง เอาตัวรอดได้เสมอ โผงผางเปิดเผย แต่อับอายในชาติกำเนิดตัวเอง ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเป็นเด็กต่างจังหวัด พยายามจะทำตัวเป็นคนกรุงเทพตลอดเวลา เป้าหมายของนกแก้วคือ ต้องการเป็นหมอ เพราะฉะนั้นการเรียนคือสิ่งเดียวที่นกแก้วให้ความสนใจ เรื่องอื่น ๆ นกแก้วไม่สน รวมทั้งเรื่องรักในวัยเรียน มีผู้ชายมารุมจีบ แต่ก็เหมือนถูกถีบจนหน้าหงายไปทุกครั้ง ชอบทะเลาะกับพี่กดเสมอ เพราะไม่ต้องการให้พี่ชายปฏิบัติต่อตัวเองเหมือนเป็นน้องเล็กอยู่ตลอดเวลา นกแก้วต้องการให้พี่ชายเห็นว่าสามารถดูแลตัวเองได้ จนลืมไปว่า วิจารณญาณในการใช้ชีวิตของตัวเองนั้นมันยังไม่โต
กด เก๋า นกแก้ว สามพี่น้องต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ท่ามกลางเรื่องโกลาหลและอลหม่านที่เกิดขึ้นจากความแตกต่าง ๆ และความเห็นที่ไม่ลงรอยกัน บางครั้งก็เกิดจากเราสามคน แต่บางหนก็เกิดจากคนข้างบ้าน ที่แต่ละคนป่วน กวน แสบ ซ่า น่าหยิก น่าตี จนถึงขั้น น่าถีบให้กระเด็นไปไกล ๆ
เป็นเอก ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนวัยรุ่นของบ้านสกุล เป็นเลิศ ครบเครื่องเรื่องความเพอร์เฟ็กต์ทั้งรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาที่หล่อเหลา เกรด 4 ทุกวิชา กีฬาเก่งทุกชนิด นิสัยสุภาพบุรุษสุดเวหา เป็นที่กรี๊ดกร๊าดของสาว ๆ ทั้งโรงเรียน ได้รับรางวัลนักเรียนดีเด่นของโรงเรียนมัธยมสาธิตที่มีชื่อเสียงของประเทศทุกปี สร้างความภาคภูมิใจให้พ่อและแม่เป็นที่ยิ่ง ดูเหมือนชีวิตควรจะมีความสุขแต่เป็นเอกกลับรู้สึกขาดความรัก เพราะพ่อและแม่เอาแต่สร้างความมั่นคงทางด้านการเงินและภาพลักษณ์จนมองข้าม ความมั่นคงทางด้านหัวใจ บทสนทนาของครอบครัวทุกวันคือ หาที่เรียนพิเศษหรือประเทศที่จะส่งเป็นเอกไปเรียนซัมเมอร์ เพื่อปูทางความสำเร็จให้กับเป็นเอก ทำให้บ้าน รักทะเล กลายเป็นที่พักพิงทางใจให้เป็นเอกโดยไม่รู้ตัว เพราะท่ามกลางความวุ่นวายและเสียงทะเลาะของสามพี่น้องเหมือนเสียงดนตรีขับกล่อมให้ชีวิตของ
เป็นเอก เป็นเอกสัมผัสได้ถึงความรักและความเป็นห่วงที่สามพี่น้องมีให้แก่กัน เป็นสัมผัสที่ตัวเองไม่เคยรู้สึกเมื่ออยู่บ้าน และที่สำคัญ การได้เข้าไปใกล้ชิดกับนกแก้ว คือการใช้เวลาว่างที่น่าตื่นเต้นที่ขาดไม่ได้ เพราะนกแก้วถือว่าเป็นเอกเป็นคู่แข่งทางด้านการเรียน และเป็นศัตรูที่ไม่เคยมีวิธีคิดที่ลงรอยกัน เป็นเอกทำได้ดีในทุกเรื่องที่ได้รับมอบหมาย จะการเรียน ดนตรี กีฬา เป็นเอกทำได้ดีหมด แต่เขาไม่รู้ว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร รู้แต่ว่าให้ทำ ก็ทำได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำไม่ได้ คือ การเอาชนะใจนกแก้ว สาวน้อยที่ไม่เคยยอมแพ้ใคร เป็นเป้าหมายที่เป็นเอกต้องพุ่งชน ด้วยวิธีท้าทายนกแก้ว ว่าใครเอ็นติดหมอลำดับที่ดีกว่า คนนั้นคือผู้ชนะ จากศัตรูกลายเป็นผู้ท้าชิงและพัฒนากลายเป็นเพื่อนคู่คิดที่ต้องช่วยกันพาสู่เป้าหมาย
วิยะดา แม่ของเป็นเอก เจ้าของธุรกิจอาหารเสริมเพื่อสุขภาพที่กำลังเร่งสร้างยอดขายและหาดาวน์ไลน์ ธุรกิจกำลังรุ่ง เธอเลยเร่งตัวเองอย่างหนัก ทำงานจนแทบไม่พักผ่อน ยิ่งสามีเห็นดีเห็นงามเธอยิ่งฮึกเหิม เร่งสปีดพุ่งหาเป้าหมายยิ่งกว่าความเร็วของดาวหาง ปล่อยสามีและลูกให้ดูแลตัวเองตามสไตล์บุฟเฟ่ต์ วิยะดาจำได้ทุกอย่างเรื่องธุรกิจ แต่เรื่องครอบครัว เธอลืมหมด ลืมนัด ลืมวันครบรอบ ลืมวันเกิด คาดว่าอีกไม่นานคงจะลืมว่ามีสามีและลูก วิยะดาไม่เคยไว้ใจใคร ไม่ชอบคบใคร ไม่ชอบสุงสิง ไม่ชอบคุยเรื่องส่วนตัว แต่จะเป็นมิตรเฉพาะเวลาคุยธุรกิจ ตามวิธีคิดของคนกรุงเทพ
สุพจน์ พ่อของเป็นเอก ด็อกเตอร์ทางด้านเศรษฐศาสตร์ อาจารย์มหาวิทยาลัยรัฐที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศ คุยกับภรรยาและลูกชายด้วยเหตุและผลตลอดเวลาอย่างมีหลักการ หลักฐาน สมมติฐานทั้งขั้นปฐมภูมิและทุติยภูมิ เขาต่อต้านการใช้อารมณ์ในทุกกรณี เพราะไม่เชื่อว่าจะนำมาซึ่งผลที่มีประสิทธิภาพ บ้าน เป็นเลิศ จึงเป็นบ้านที่มีแต่โครงสร้างแต่ไม่มีจิตวิญญาณ เห็นด้วยกับวิยะดา ที่ไม่ชอบให้เป็นเอกไปสุงสิงกับคนบ้าน รักทะเล เพราะยิ่งสุงสิงกับคนมากก็ยิ่งมีอารมณ์มาก ยิ่งคิดมาก ยิ่งเยอะ
แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ เป็นเอกแอบมาขลุกอยู่ที่บ้าน รักทะเล เป็นประจำลับหลังพ่อแม่ จนวิยะดาและสุพจน์จำต้องยอมให้ไปมาหาสู่ แต่ตัวเองก็แอบมาส่องดูพฤติกรรมของสามพี่น้องเป็นประจำ เพื่อหาทางป้องกันหากเกิดความไม่ชอบมาพากล จนเลยเถิดเป็นการไปสั่งและสอนสามพี่น้องโดยไม่ดูตัวเอง เลยเป็นเหตุให้ไม่ถูกกับกด เพราะกดรู้สึกเหมือนถูกแย่งอำนาจ ในขณะที่เก๋าก็ไม่ต้องการมีพ่อแม่ชุดที่สาม รองจากพ่อแม่แท้ ๆ และพี่กด ส่วนนกแก้วกลับฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกสาวอีกคนของวิยะดาและสุพจน์ เพราะนกแก้วชื่นชมคนเก่งสมควรแก่การเป็นไอดอล
เมื่อหนุ่มข้างบ้านจอมอวดดีเข้ามาใกล้ชิดสนิทสนมกับพี่ชายทั้ง 2 มีหรือที่สาวสวยจอมเอาแต่ใจอย่างนกแก้ว จะทนได้ จึงเป็นเหตุให้เกิดความยุ่งเหยิง ชวนหัว และปวดตับ ชนิดไม่มีที่สิ้นสุด..แม้ว่าเพื่อนสนิทของนกแก้วจะหว่านล้อมให้ปรองดองแค่ไหน ก็ไม่มีทีท่าว่านกแก้วจะลดทิฐิลงเลย
แป้งร่ำ เพื่อนสาวของนกแก้ว เป็นที่ปรึกษาของนกแก้ว นิสัยซื่อ แอ๊บแบ๊ว ดูเหมือนไม่มีพิษมีภัย แต่บางครั้งก็ทำอะไรแสบ ๆ ได้อย่างนึกไม่ถึง ปลื้มในตัวเป็นเอกมาก เพราะทั้งหล่อ ทั้งเก่ง และมีน้ำใจ แต่รู้ว่าเป็นเอกชอบนกแก้ว ก็จำยอมหลีกทางให้เพื่อน และสนับสนุนให้นกแก้วเปิดใจกับเป็นเอก แต่ก็ดูไม่เป็นผล เพราะนกแก้วปากไม่ตรงกับใจ บอกว่าไม่ชอบ แต่ลึก ๆ ก็ประทับใจเป็นเอก จนท้ายที่สุด แป้งร่ำเองก็เผลอใจให้กับเป็นเอกโดยไม่รู้ตัว จึงพยายามสวมรอยเข้าไปใกล้ชิดเป็นเอกแทนนกแก้ว โดยปกปิดไม่ให้เพื่อนรู้ เพราะกลัวความสัมพันธ์ร้าวฉาน แต่มีหรือที่ความลับจะเป็นความลับได้ตลอดไป
สามคนพี่น้องที่ต้องดูแลกันเอง แต่ก็ชอบทะเลาะกันเอง บางเรื่องก็คุยกันได้ แต่บางเรื่องก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาปรึกษากัน จึงเป็นที่มาของผู้ชายคนหนึ่งที่ทั้งสามคนรู้สึกตรงกันว่าเขาเป็นคนที่ปรึกษาได้ทุกเรื่อง นั่นก็คือ
โค้ชเช ครูสอนเทนนิส ที่คิดว่าตัวเองหล่อ เท่ มีเสน่ห์ แต่ความเป็นจริงตรงกันข้ามทุกอย่าง อดีตทีมชาติไทยที่ไปไม่ถึงฝั่งฝัน เพราะเหยียบผ้าเช็ดหน้าของแฟนคลับที่มาเชียร์ ในวันแข่งคัดตัวไปโอลิมปิก ลื่นล้มข้อเท้าแตก ฝันสลาย ต้องผันตัวเองมาเป็นครูสอนเทนนิส ทำหน้าที่เป็นสะพานส่งต่อลูกศิษย์ให้ทำตามฝันแทนตัวเอง โค้ชเชได้รู้จัก คุ้นเคยกับสามพี่น้อง และใช้พื้นที่ร้านกาแฟ ด๊อยดอย ที่ตัวเองเป็นเจ้าของ เป็นคลินิกรับปรึกษาปัญหาครอบครัว ตั้งแต่ปัญหาเล็ก ๆ ระดับจุลภาค ไปจนถึงปัญหามหภาคระดับชาติ คำพูดของโค้ชเชเต็มไปด้วยพลังและแรงบันดาลใจให้สามพี่น้องนำไปใช้กับชีวิตจริง แต่ที่สามพี่น้องไม่รู้ คือ ต่อให้กำชับโค้ชเชหนักแน่นว่าห้ามแพร่งพรายเรื่องสำคัญสักแค่ไหน มันไม่เคยได้ผล เรื่องของกด เก๋ารู้ เรื่องของเก๋า นกแก้วรู้ เรื่องของนกแก้ว รู้ทั้งซอย แต่ก็ไม่มีใครโกรธโค้ชเชลง เพราะทุกคนรู้ว่าโค้ชเชพูดเพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจคนฟัง ไม่ได้ตั้งใจพูดเพื่อเป็นการทำลาย สิ่งหนึ่งที่ทำให้โค้ชเชรู้สึกถึงความภาคภูมิใจในอดีตนั่นคือ แฟนคลับที่เหนียวแน่นหนึบหนับ จนอยากจะจับยัดถังปุ๋ย
ช่อมาลี แม่บ้านขาจรประจำบ้าน เป็นเลิศ ช่างพูด ใครมาปิดปาก ไม่ให้พูด เธอก็ยังจะเขียนอยู่ดี เธอเฝ้าติดตามผลงานของโค้ชเชเมื่อครั้งยังสาว เกาะติดหน้าจอทีวีไม่เคยห่าง เวลาไปทำความสะอาดบ้านบ้านคนรวย ช่อมาลีต้องแอบเปิดทีวีดูการแข่งขันทุกแมทช์ที่โค้ชเชร่วมลงแข่ง ช่อมาลีนับถือในความมุ่งมั่น ความอดทนของโค้ชเช และเอามาเป็นแรงผลักดันให้กับชีวิตตัวเอง ที่ต้องทำงานหนักและอดทนต่อการจิกใช้ กว่าจะได้เงินค่าจ้างแต่ละบาท โดยเฉพาะคำสอนของโค้ชเช (ที่สอนคนอื่น) แต่มาในจังหวะชีวิตที่ช่อมาลีรู้สึกโดนใช่เลย ช่อมาลีรู้สึกเหมือนโค้ชเชสอนตนเรื่องความภาคภูมิใจกับงานที่ตัวเองทำ ที่อาจจะไม่มีเกียรติเท่าเทียมอาชีพอื่นที่ได้ผลตอบแทนสูง แต่ก็เป็นฟันเฟืองที่ขาดไม่ได้ งานใหญ่จะสำเร็จได้อย่างไร ถ้าไม่มีผู้น้อยคอยสนับสนุน ตั้งแต่นั้นมาช่อมาลีจึงยึดเอาโค้ชเชเป็นสรณะ เป็นดั่งองค์บร๊ะศาสดาที่ต้องชาบูอย่างสูงสุด
จนกระทั่งความลับที่ช่อมาลีเก็บงำเอาไว้มานานนับสิบปีเรื่องผ้าเช็ดหน้าที่เป็นต้นเหตุให้โค้ชเชเหยียบลื่นล้มในวันอัปยศนั้นคือ ผ้าเช็ดหน้าของเธอ ได้เข้าหูโค้ชเช ช่อมาลีเสียใจ คิดว่าโค้ชเชคงจะโกรธและตัดขาดกับเธอ ชีวิตเธอคงจะขาดที่ยึดเหนี่ยว แต่โค้ชเชแมนกว่าที่คิด แมนตั้งแต่หัวจรดเท้ารวมทั้งหัวใจ ให้อภัยและไม่เคยถือโทษ ถ้าไม่ล้ม ก็จะไม่มีโอกาสได้เป็นผู้ให้อย่างทุกวันนี้ โอววว หล่อ ไม่ได้มีเพียงแค่ชีวิตในบ้านหรือในซอยของสามพี่น้องที่มีปัญหาให้มาคิดแก้กันได้ทุกวัน ชีวิตนอกบ้านในที่ทำงานของ กด บางครั้งก็โยนระเบิดให้กับชีวิตของสามพี่น้องไม่ใช่น้อย
คุณฝัน ที่เป็นมากกว่าฝันของกด รักแรกพบ ที่ต้องจบตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม เพราะเธอผู้บริหารสูงสุดของบริษัท ที่ได้ตำแหน่งมาเพราะเธอเป็นลูกสาวของเจ้าของ ไม่ใช่ด้วยการไต่เต้าด้วยความสามารถ เผด็จการ เชื่อมั่นในความคิดของตัวเองอย่างสูงสุด ตามประสาลูกสาวเพียงคนเดียวของคนรวยมากที่จบจากเมืองนอก เอาแต่ใจ ชอบเอาชนะ และบ้าพลัง ดังนั้น จึงกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมาของกด แต่เพราะความจริงจังมุ่งมั่นไม่คลอนแคลนของกด ทำให้คุณฝันได้เรียนรู้และเปลี่ยนแปลงตัวเองในทางที่ดีขึ้น และที่สำคัญ หัวใจของคุณฝันเปิดรับกดให้เข้ามาจับจองพื้นที่ทีละน้อย ๆ โดยไม่รู้ตัว
เจ๊พรสวรรค์ ขยันมาก สาวใหญ่หัวหน้าแผนก Call Center ของกด ที่ความสามารถและการทำงานตรงกันข้ามกับชื่อและนามสกุลของเธอ (เห็นไหมว่าชื่ออาจจะไม่มีผลกับดวงชีวิตเท่ากับการกระทำของเจ้าของชื่อเอง ทั้ง ๆ ที่อุตส่าห์ไปให้พระท่านเปลี่ยนชื่อให้) เจ๊พรสวรรค์มีพรสวรรค์เรื่องชวนเม้ามอย ไร้สาระ เจ๊พรสวรรค์ชอบสั่งสอนเรื่องการใช้ชีวิตในเมืองหลวงและ 10 วิธีสู่ความสำเร็จให้กับกด แต่ก็มักชอบโยนปัญหาให้กดแก้แทนเสมอ โดยไม่รู้สึกผิด กดโกรธเจ๊ไม่ลง เพราะเจ๊ไม่ได้รู้สึกผิด แล้วจะไปเอาผิดเจ๊ได้อย่างไรชีวิตดำเนินไป ถูกบ้าง ผิดบ้าง แต่ประสบการณ์ทุกอย่างมีค่า เพราะสร้างบทเรียนที่มีประโยชน์ และเติมเต็มชีวิตที่ขาด ๆ เกิน ๆ ให้พอดี จากคนใกล้ตัว คนไกลตัว หรือคนที่นาน ๆ จะเจอตัว ได้แก่
นายมังกร กับนางเป้า พ่อแม่ของพี่น้อง รักทะเล คนบ้านนอกหัวใจใสซื่อ สู้งาน พอเพียงและรักลูกมาก ความสุขของลูกคือความสุขของพ่อแม่ที่ไม่เคยขัดใจ แต่สิ่งเดียวที่ขัดใจและไม่มีวันยอมนั่นคือ การลืมรากเหง้า การปฏิเสธตัวตน และการลืมตัว
ติวเตอร์ออย ติวเตอร์หนุ่มหล่อ น้องชายของคุณฝัน ผู้มีแผลลึกในหัวใจ เพราะแฟนสาวที่รักกันมากเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ติวเตอร์ออยไม่เคยเปิดหัวใจให้ใคร จนกระทั่งคุณฝันบังคับให้มาช่วยสอนพิเศษให้เก๋า เพื่อให้ออกจากโลกแห่งความซึมเศร้าเสียที และได้เจอกับนกแก้ว ที่ทอดปลาอินทรีย์เค็มมาให้กิน ปลาเค็ม อาหารแห่งความรักความหลัง อาหารสุดโปรดของอดีตคนรัก ต่อมความรักของพี่ออยถูกกระตุ้นขึ้นมาอีกครั้ง การได้มาสอนหนังสือเก๋า ที่บ้าน รักทะเล เหมือนได้มาเติมลมให้หัวใจพองโต แต่ นกแก้วผู้ไม่ประสีประสาในเรื่องนี้ กลับมองว่าพี่ออยเป็นเพียงแค่พี่ชาย และแน่นอน เป็นเอกย่อมมองออก ทำให้ไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่นัก เพราะนี่คือ ศึกแห่งศักดิ์ศรี
ยามเสรี หัวหน้ายาม ที่รักความสงบเป็นที่สุด (โดยเฉพาะมุมสงบ จะรักมากเพราะชอบแอบงีบ) ชอบคุยโม้ถึงอดีตครั้งเป็นทหารเกณฑ์ว่าเป็นทหารได้อะไรมากกว่าที่คุณคิด จิตใจดี ซื่อสัตย์ แต่อาจจะแอบขี้เกียจ ช่อมาลีคือผู้หญิงในฝัน ที่สักวันยามเสจะต้องพิชิตใจสอยเธอมาครองให้ได้
รักจะเต็มบ้านได้ ถ้าทุกคนรักและเข้าใจกัน รักจะเต็มบ้านได้ ถ้าทุกคนอยู่เคียงข้างกัน ทุกวัน..ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ และถ้าทุกคนในประเทศไทย เปิดทีวีช่อง 7ติดตาม ละครรักเต็มบ้าน ที่ออกอากาศทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.10 น. ทางช่อง 7 สี ละครรักเต็มบ้าน เริ่มตอนแรกวันอาทิตย์ที่16 สิงหาคม 2557 เราเชื่อมั่นว่า วันนั้นทั้งวันและอีกหกวันที่เหลือในหนึ่งสัปดาห์ของทุกคน รักเต็มบ้าน แน่นอน
ยีนเด่น (2557/2014) ครอบครัวหนึ่งในสามย่าน ในครอบครัว 4 คน พ่อแม่กับลูกแฝด พ่อคือโค้ชหนึ่ง(นักบอลทีมชาติ)ไปทำแม่แหวนนางงามมิตรภาพท้อง ทั้งคู่จึงผันตัวเปลี่ยนอาชีพ คือ โค้ชนักคือโค้ชคุมทีมแข่งแพ้ทุกที กับแม่แหวนเปิดร้านข้าวแกงในบ้าน โดยลูกฝาแฝดของทั้ง 2 คือ ตะวัน(แฝดพี่ อดีตนักบอลโรงเรียน คือนายแบบตามแม่)หล่อแต่โง่ กับตุ่น(ตัวเอกของเรื่อง แฝดน้อง)อ้วนขี้เหร่แต่ฉลาด โดยตุ่นรับยีนเด่นจากปู่ คือหน้าเหมือนปู่กับชาญฉลาดผิดพ่อที่โง่ ทำงานเป็นITสร้างAppให้บริษัท
ตุ่นมีเพื่อนสนิทคือก๊อง(เนิร์ดเพี้ยนสุดหื่น)เพื่อนมหาลัย กับเบล(สาวสวย)เพื่อนบ้านสมัยเด็ก มีแฟนชื่อพี่ปิ๊ก(หล่อแต่นิสัยแย่ อ้างอะไรเบลเชื่อเสมอ) ที่ตุ่นสร้างเรื่องอลหม่านในบ้านเสมอมา โดยคือเนื้อเรื่องเลียนแบบโฉมงานกับเจ้าชายอสูร ที่ห้ามรักที่หน้าตา แต่เนื้อหานั้นย้อนแย้งคือ ตุ่น(แฝดน้องขี้้เหร่อ้วน)หวังใฝ่สูงรักเบล(เพื่อนบ้านหน้าตาดี นิสัยไม่ทันคน)ที่หน้าตาแต่เบลมีแฟนแล้วคือพี่ปิ๊ก ตุ่นจึงหาทางยุให้เลิกกันกับแย่งแฟนชาวบ้านมาเป็นของตัวเอง แต่แผนพลาดตลอด ในวาเลนไทน์ปี 58 ตุ่นเสียใจที่แผนล้มเหลวมาระบายกับตะวันเรื่องที่แอบชอบเบล ตะวันจึงหาทางช่วยตุ่นแม้ราบรื่นนิดๆ(เช่นตอนสงกรานต์) ช่วงท้ายของเรื่อง เบลมาบอกว่าพี่ปิ๊กขอแต่งงาน ตุ่นเศร้าแอบขอย้ายไปทำงานที่อเมริกาปิดเงียบ มีแค่ก๊องรู้ แล้วเบลเศร้าบอกว่าพี่ปิ๊กขอเลิกเพราะไปทำผู้หญิงท้อง ตะวันพาตุ่น เบล ก๊องไปปาร์ตี้ปลอบเบล(แผนจัดฉากให้ตุ่นบอกรัก) แต่ตุ่นกับเบลเมาหลับกันแทน วันต่อมาตุ่นคอยปลอบเผลอบอกรักเบล ผลเบลหนีตุ่น 1 เดือนต่อมา ตุ่นสภาพปล่อยเนื้อปล่อยตัว บ้านตุ่นเพิ่งรู้เรื่องตุ่นขอย้ายงาน คิดหาทางห้าม เบลมากับหนี ตุ่นเลื่อนนัดย้ายงานจาก เดือนเป็นสัปดาห์ ตะวันกับก๊องไปขอให้เบลมากล่อมตุ่นอีกที ทางบ้านตุ่นถ่วงเวลาหลอกว่าตะวันเป็นเกย์จูบก๊อง ตุ่นก็ไม่เชื่อ ตุ่นจะไปขอวีซ่าพอร้ว่าเบลจะมาก็คิดหนีเหมือนที่เบลทำ เบลผิดเองที่มาช้าก็ทำได้แต่บออกลา วันที่ตุ่นไปขึ้นเครื่อง ตะวันใช้ทางเลือกสุดท้าย ใช้ความโง่ผสานกับกำลังพักตู้ลับของตุ่น(ไม่รู้เลขจึงพังทิ้งเลย)เอาของขวัญที่เบลเคยให้ตุ่น ร่วมมือกับก๊องขนของไปหาเบลกับกล่อมว่าตุ่นคือคนที่อยู่เคียงข้างเสมอ หัดให้เบลรักคนที่จิตใจ เบลเพิ่งคิดได้ตามตะวันกับก๊องไปบ้านตุ่น ร่วมแผนล่อให้ตุ่นกลับบ้านแล้วแกล้งหลอกเบลกลับบ้านเพื่อล่อให้เบลตุ่นกับเบลเจอคุยกันจนรักกันสำเร็จ
เรื่องย่อ : วีรบุรุษกองขยะ (2557/2014) ชาติกล้า ถือกำเนิดขึ้นมาบนกองขยะ ด้วยอาชีพของ อัมพร ผู้เป็นแม่ที่ต้องหาเลี้ยงครอบครัว และ ชัยชนะ สามีขี้เมา กักขฬะ ด้วยการขุดคุ้ยหาสิ่งของจากกองขยะเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นเงิน อัมพรต้องทำงานหนักทั้งที่ท้องแก่ ขณะที่ชัยชนะเอาแต่ฉกเงินที่อัมพรหามาได้ไปกินเหล้า เล่นการพนัน และพาผู้หญิงอื่นมานอนที่บ้าน ชัยชนะทุบตีทำร้ายอัมพรยามไม่ได้ดั่งใจเป็นประจำจนชาวบ้านเอือมระอา สงสารแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ อัมพรกลัวลูกจะเติบโตขึ้นมาก้าวร้าวเหมือนพ่อ จึงกีดกันไม่ให้ชัยชนะแตะต้องลูกจนทำให้ชัยชนะที่ตื่นเต้นและเห่อลูกชายเช่นกันเลิกคิดที่จะรักลูก และเมื่ออัมพรอุ้มลูกชายไปให้ ลุงธรรม ผู้ที่คนในชุมชนนับถือเพราะความเป็นคนธรรมมะธรรมโม โอบอ้อมอารี เป็นคนตั้งชื่อให้เด็ก ทำให้ชัยชนะโกรธจัดลงมือทำร้ายทุบตีอัมพรอย่างหนักและยืนยันที่จะให้ลูกชายชื่อว่าชาติกล้า เสี่ยเฮง เจ้าของธุรกิจรับซื้อขยะและของเก่าเป็นอีกผู้หนึ่งที่เฝ้าดูอัมพรด้วยความเห็นใจ และคอยช่วยเหลือทุกครั้งที่ทำได้เพราะเขาชอบในความดีของอัมพรและแอบหลงรักเธอ ทั้งๆที่ อาม้า แม่ของเสี่ยเฮงพยายามเร่งเร้าให้เสี่ยเฮงไปสู่ขอ กิมหล่าน ลูกสาว อาหยง เพื่อนรักของอาม้ามาเป็นลูกสะใภ้ เพราะคิดว่ากิมหล่านเป็นแม่บ้านแม่เรือน แถมมีรูปร่างหน้าตาสวยงามเหมาะสมกับเสี่ยเฮงลูกชายคนเดียวโดยหารู้ไม่ว่าจริงๆแล้วกิมหล่านเป็นผู้หญิงเกียจคร้าน สกปรกไม่เคยหยิบจับทำงาน แต่ทั้งแม่ทั้งลูกสร้างภาพหลอกตาให้อาม้าเข้าใจผิดมาตลอด เพราะอาหยงอยากได้เสี่ยเฮงมาเป็นลูกเขย เพื่อตนและลูกสาวจะได้อยู่สุขสบาย ชัยชนะไม่พอใจเสี่ยเฮงที่เข้ามาช่วยเหลือครอบครัว และคิดว่าเป็นชู้กับอัมพรจึงพาลทุบตีทำร้ายอัมพรแทบทุกวัน แถมยังขโมยเงินที่อัมพรเก็บซ่อนไว้เพื่อเป็นค่าเล่าเรียนของชาติกล้าไปเที่ยวสำมะเลเทเมา ลุงธรรม เพื่อนบ้าน และเสี่ยเฮงพูดให้อัมพรฟ้องหย่า เธอยังไม่ตัดสินใจจนกระทั่งฟางเส้นสุดท้ายเมื่อชัยชนะเอาสร้อยพระเลี่ยมทอง สมบัติชิ้นเดียวที่อัมพรเก็บไว้จากพ่อแม่ของเธอไปขาย เธอจึงขอฟ้องหย่า ชัยชนะกลัวคำตัดสินของศาลจึงหนีไปและประสบอุบัติเหตุตายอย่างสยดสยอง เสี่ยเฮงจึงขออัมพรแต่งงาน แต่เธอไม่ต้องการให้จัดพิธีแค่ขอเข้ามาอยู่รับใช้อาม้าและเสี่ยเฮงในบ้าน โดยเสี่ยเฮงรับปากจะเลี้ยงดูชาติกล้าเหมือนลูกชายตัวเองและจะส่งเสียให้เรียนหนังสือ แต่ขณะเดียวกันอาม้ากับกิมหล่านไม่ยอม เสี่ยเฮงจึงต้องแต่งงานรับกิมหล่านเป็นเมียอย่างถูกกฎหมาย แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะรักเธอแม้แต่น้อย กิมหล่านเข้ามาอยู่ในบ้านพร้อมกับ หมวย หลานสาวรุ่นเดียวกับชาติกล้า และสั่งให้หมวยคอยเป็นหูเป็นตากลั่นแกล้งสองแม่ลูกอยู่ตลอดเวลา โดยที่อาม้าก็รู้เห็นทุกอย่างแต่ทำเป็นนิ่งเฉย ชาติกล้ามีฝีมือด้านการวาดรูป เขามักจะไปนั่งวาดรูปที่ริมแม่น้ำ โดยไม่รู้ตัวว่า นิด(นิสรา) เด็กสาวหน้าตาน่ารักเฝ้าดูอยู่และชื่นชมเขายิ่งขึ้นเมื่อชาติกล้าเข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่างชาติที่โดนรุมทำร้าย ทำให้ เอก(เอกภพ) นายทหารคู่หมายของนิดไม่พอใจ นิดกลับมาเล่าเรื่องของชาติกล้าให้ น้อย ผู้เป็นแม่ฟัง เธอพอจะรู้ใจลูกสาวแต่ก็หมายมั่นให้นิดได้แต่งงานกับเอก ลูกชายของ อุไร เพื่อนรักของตน ฝ่ายนิดก็ชวน ดอกปีบ เพื่อนสนิทไปตามหาชาติกล้าที่ริมแม่น้ำแต่ไม่เจอโดยไม่รู้ว่าชาติกล้าเองก็แอบมองเธออยู่ห่างๆ กิมหล่านพยายามใส่ร้ายอัมพรและชาติกล้าให้เสี่ยเฮงฟังตลอดเวลา แต่เสี่ยเฮงมั่นใจในความดีของสองแม่ลูกจึงไม่เคยเชื่อและยิ่งรู้สึกแย่กับกิมหล่านมากขึ้น สุดท้ายกิมหล่านร่วมมือกับอาม้าหลอกชาติกล้าว่าเสี่ยเฮงทำธุรกิจขาดทุนจนเป็นหนี้สินทำให้ชาติกล้าตัดสินใจไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัย และเบนเข็มมาเรียนช่างศิลป์ และหาเงินเรียนเองโดยมี เดช เพื่อนที่ไม่ถูกกันตอนเด็กแต่กลับกลายมาเป็นเพื่อนรักคอยให้ความช่วยเหลือกันตลอด ชาติกล้าได้เจอกับนิด และดอกปีบอีกครั้งหลังจากทั้งสองสาวเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย นิดสวยขึ้นผิดตาทำให้ชาติกล้ายิ่งรู้สึกเจียมตัวมากขึ้น เอกรู้ว่านิดชอบชาติกล้าจึงคิดจะหมั้นหมายเธอไว้ก่อน และไปขุดคุ้ยอดีตมาด่าว่าชาติกล้าเป็น “ไอ้ขยะ” นิดโกรธมาก ชาติกล้าหนีกลับมานั่งวาดรูปขาย ระหว่างนั้นมีคนถูกกระชากกระเป๋าชาติกล้าเข้าไปช่วยกลับถูกหาว่าเป็นคนร้ายซะเอง นิดช่วยประกันตัวออกมาจากคุก กิมหล่านได้ทีเข้ามาด่าว่าชาติกล้าเป็นไอ้ขี้คุก และตบตีหมวยที่ไปช่วยเป็นพยานให้ชาติกล้า เพราะหมวยเองแอบหลงรักชาติกล้ามาตั้งแต่เล็ก เมื่อชาติกล้ากับนิดสนิทกันมากขึ้น หมวยจึงไม่พอใจพูดให้นิดเข้าใจผิดคิดว่าตนเป็นคนรักของชาติกล้า ฝ่ายเอกเอาเงินมาเสนอให้ชาติกล้าเลิกยุ่งกับนิดเพราะยังไงนิดก็ต้องแต่งงานกับตน ทำให้ชาติกล้าเสียใจมากจนไปกินเหล้าเมาหนัก หมวยมาช่วยพากลับเข้าห้อง กิมหล่านเห็นเข้าเลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ ชาติกล้าต้องถูกไล่ออกจากบ้านกลับไปอยู่ที่บ้านกองขยะ แต่เขากลับช่วยพัฒนาชุมชนกองขยะให้ดีขึ้นด้วยการชวนชาวบ้านคัดแยกขยะทำให้ทุกคนยอมรับในตัวเขา นิดคิดว่าหมวยและชาติกล้ารักกัน ด้วยความเสียใจจึงยอมตกลงแต่งงานกับเอก ขณะที่โครงการรณรงค์คัดแยกขยะของชาติกล้าเป็นข่าวดังนิดเห็นชาติกล้าทางทีวีก็รู้ว่าตัวเองตัดใจไม่ได้ยิ่งใกล้วันแต่งงานยิ่งหมองเศร้า และเมื่อรู้ว่าตนเข้าใจผิดจึงไปหาชาติกล้าที่บ้านหวังจะเป็นของเขาก่อนที่จะต้องแต่งงานกับเอก แต่ชาติกล้าเป็นสุภาพบุรุษเกินกว่าจะทำได้จึงนั่งเฝ้านิดหลับไปจนเช้า ชีวิตหลังแต่งงานของนิดไม่มีความสุขเลย เมื่อเอกเริ่มเผยตัวเองว่าเป็นคนโมโหร้ายถึงขั้นลงมือตบตีเพื่อให้นิดเลิกคิดถึงชาติกล้า ชาติกล้าและเดชไปสมัครเป็นตำรวจตระเวนชายแดน ช่วยสอนหนังสือและดูแลหมู่บ้านชาวเขา เวียนา สาวชาวเขาแอบชอบชาติกล้า และ ลีซา เพื่อนของเวียนนาแอบชอบเดช แต่ทั้งคู่ไม่ได้คิดในเชิงชู้สาว มุ่งมั่นช่วยพัฒนาหมู่บ้านจนทุกคนให้ความยอมรับ ฝ่ายเสี่ยเฮงรู้ตัวว่าเป็นโรคหัวใจจึงทำพินัยกรรมแบ่งทรัพย์สิน กิมหล่านแอบเห็นอัมพรและชาติกล้าได้ส่วนแบ่งมากกว่าตนจึงเจ็บแค้น เมื่อเสี่ยเฮงอาการกำเริบจึงแกล้งปัดยาทิ้งและคิดว่าเสี่ยเฮงตาย จากนั้นจึงบีบให้อัมพรต้องออกจากบ้านกลับไปอยู่กองขยะ แต่ที่นั่นอัมพรกลับอยู่ได้อย่างมีความสุขเพราะชาติกล้าได้พัฒนาจนชาวกองขยะกลายเป็นชุมชนที่น่าอยู่ เรื่องพลิกผันเมื่อเสี่ยเฮงรอดตายปาฏิหาริย์และไม่คิดเอาผิดกิมหล่านทำให้เธอสำนึกผิดยอมหย่าให้ เสี่ยเฮงรีบกลับไปรับอัมพรมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม เอกได้ยินลูกน้องที่เคยให้ติดตามนิดคุยในวงเหล้าถึงเรื่องก่อนวันงานแต่งที่นิดไปอยู่กับชาติกล้า ทำให้เอกโกรธจนขาดสติตบตีนิดอย่างรุนแรงต่อหน้าน้อย ชาติกล้ารู้เข้าจึงโทรหาด้วยความเป็นห่วง เอกได้ยินนิดบอกรักชาติกล้า จึงโกรธจนหน้ามืดจะเข้าทำร้ายตบตีนิดอีก น้อยกลัวจึงเอามีดขู่ให้เอกออกจากบ้านและจะให้นิดฟ้องหย่า สุดท้ายเอกก็ตัดใจได้เมื่อรู้ว่าตนไม่มีวันจะได้หัวใจของเธอ นิดรีบไปหาชาติกล้าที่ชายแดนพร้อมใบหย่า ทั้งคู่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขจนนิดท้องได้ 2 เดือน ชาติกล้าออกตระเวนชายแดนเจอพวกค้ายาเสพติดเกิดยิงต่อสู้กัน ชาติกล้าใช้อุบายจนพวกมันล่าถอยแล้วจึงแบกร่างเดชที่บาดเจ็บจากการถูกยิงกลับหมู่บ้าน ชาติกล้ากลายเป็นวีรบุรุษ เมื่อสื่อมาสัมภาษณ์เขาเล่าประวัติของตัวเองอย่างไม่อายจนสื่อตั้งฉายาว่า “วีรบุรุษกองขยะ” ท่ามกลางความภาคภูมิใจของอัมพรและนิดที่ไปร่วมอยู่ในเหตุการณ์ แต่แล้วทุกอย่างก็หยุดลงเมื่อเสียงปืนดังขึ้น ชาติกล้าถูกลอบยิงสิ้นใจในอ้อมกอดของอัมพรและนิดที่แทบจะขาดใจตายตามชาติกล้าไป งานศพของชาติกล้าได้รับพระราชทานเพลิงศพพร้อมเลื่อนยศ มีผู้มาร่วมงานแน่นขนัด อัมพรเสียใจจนเป็นลมหลายรอบ ชาวขยะต้องคอยดูแลไม่ห่าง ขณะที่น้อยและดอกปีบก็ต้องคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆนิดไม่ห่างเช่นกัน 4 ปีผ่านไป ขณะที่อัมพรทำงานอยู่ในบ้าน นิดพาลูกชายที่ไปเติบโตอยู่เมืองนอกเข้ามาหาย่า อัมพรนิ่งมองหลานชายที่เหมือนชาติกล้าราวคนเดียวกันอย่างตื้นตัน
ล่ารักสุดขอบฟ้า (2557/2014) เมื่อ คามิน (เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ)ราชองครักษ์หนุ่มแห่งเมืองรายา ถูกส่งมาทดสอบและรับ มัทนา (พีชญา วัฒนามนตรี) ว่าที่พระคู่หมั้นสาวไทยของ เจ้าชายมาคี (หลุยส์ เฮส์ดาร์ซัน)องค์รัชทายาทไปเข้าพิธีหมั้นที่รายา แต่ความแก่นซ่าไม่ยอมใครทำให้มัทนาวางแผนกลั่นแกล้งเขา คามินรู้ทันและปราบพยศเธอได้ ความใกล้ชิดทำให้ทั้งคู่รักกัน แต่คามินเลือกทำตามหน้าที่พามัทนาไปหาเจ้าชายมาคี ขณะเดียวกัน การเมืองภายในของรายาก็ระส่ำระสาย เมื่อ นายพลวิฑูร (ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์) คิดยึดอำนาจ เขาวางแผนให้เจ้าชายมาคีผิดใจกับคามินเพราะมัทนา และเป่าหูองค์ราชินีเรื่องคามินคือ โอรสองค์โตของพระราชา หลังจากนั้น คามินก็ถูกใส่ร้ายว่าเป็นกบฎจนต้องหลบหนีโดยมีมัทนาช่วยเหลือ แต่เพราะทนเห็นชาวบ้านเดือดร้อนไม่ได้ คามินจึงกลับมากอบกู้แผ่นดิน มาคียอมรับความพ่ายแพ้ทั้งเรื่องหัวใจและราชบัลลังก์ แต่คามินปฏิเสธตำแหน่งและขอเป็นเพียงองครักษ์ดูแลหัวใจของมัทนาตลอดไป
เรื่องย่อ : ลูกผู้ชายหัวใจเข้ม (2557/2014) ทิม หนุ่มหล่อมาดเข้มหัวใจสุดซื่อ ทำงานสุจริตทุกรูปแบบเท่าที่ทำได้ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าแผงลอย มอเตอร์ไซค์รับจ้าง คนเก็บตั๋วโรงลิเก เพราะเขาต้องหาเงินช่วยค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวที่มี แม่นวลและ ขวด พี่ชายที่เป็นออทิสติก(เก็บมาเลี้ยง) แต่ถึงจะลำบากแค่ไหนทิมก็ไม่ย่อท้อ เพราะภาระที่ใหญ่หลวงอีกหนึ่งคือการส่งเสีย ไท น้องชายแท้ๆร่วมสายโลหิตให้เรียนมหาวิทยาลัย ไทเองก็รักพี่ชายมากยามว่างจากการเรียนมักจะมาช่วยพี่ชายและแม่ทำมาหากินเสมอ แม่นวลขายกล้วยทอดอยู่ในตลาดมีรายได้แค่หาเช้ากินค่ำไม่พอเก็บแต่พวกเขาก็มีความสุขในครอบครัวจะขาดก็เพียงแต่พ่อที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ได้หายตัวสาบสูญไปจนใครๆคิดว่าถูกนักเลงพนันมวยเก็บไปแล้ว ทิมกัดฟันทำงานทุกอย่างเพื่อจะให้ไทเรียนจบเป็นหน้าเป็นตา ทิม ไท เป็นที่รักของทุกคนในตลาดโดยเฉพาะ โบตั๋น ลูกสาวคนสวยของ เฮียบุ้ง เจ้าของตลาดที่ประกาศตัวเป็นแฟนกับ ทิม แต่ทิมกลับเห็นเธอเหมือนน้องสาว แม้ ทิม ไท จะเป็นที่รักของคนในตลาด แต่ก็มีคนที่ไม่ชอบทั้งคู่เอามากๆกลุ่มหนึ่ง หัวหน้าแก๊งของกลุ่มอันธพาลครองตลาดคือ แดง โค้ก เด็กน้อยวัยโจ๋ (11ขวบ) นักมวยรุ่นจิ๋วที่ต้องเพิ่มพลังด้วยการกินน้ำอัดลม พร้อมด้วยลูกน้องจอมแสบ 2 คนคือ ปุ๊ ระเบิดไข่ บ้านขายไข่ในตลาดเวลาทะเลาะกับใครชอบใช้ไข่ปาใส่ ปุ๊เป็นคู่อริกับขวด เพราะชอบถูกเปรียบว่าขวดฉลาดกว่า ดำ น้ำมันพืช บ้านขายของชำในตลาด สามเด็กจอมแสบชอบรังแกขวดเพราะทำอะไร ทิม ไท ไม่ได้ และสาเหตุหลักที่ทั้งสามไม่พอใจเพราะ ภา เด็กแก่แดดวัย 10 ปี ลูกสาว พี่ติ่ง เจ้าของโรงลิเก ชอบ ทิม ไท แบบออกนอกหน้า ผู้กองวายุ นายตำรวจรุ่นใหม่ไฟแรงมาดขรึม ถูกผู้บังคับบัญชาที่เป็นบิดาของเขาเองส่งตัวเข้ามาเป็นสายสืบในค่ายมวย ครูเขต เพราะสงสัย อำนาจ เจ้าของค่ายมวยจะเป็นพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่อาศัยการชกมวยใต้ดินบังหน้า โดยมี จ่าทอง ตำรวจมือดีรุ่นเก๋าคอยประกบช่วยเหลือ วายุเข้ามาเป็นพี่เลี้ยงนักมวยในค่ายมวยครูเขต ทำให้เขาไปสนิทกับทิม ทำให้กลายเป็นเพื่อนคู่หูคู่หาเรื่อง เพราะเมื่อไรที่คู่นี้อยู่ด้วยกัน มักจะต้องมีเรื่องชกต่อยเป็นประจำ ซึ่งเป็นชนวนให้ทิมต้องไปช่วยวายุสืบคดีโดยไม่รู้ตัว ไท รู้ว่าพี่ชายชอบมวยเพราะเขาเองก็ชื่นชอบเช่นกัน จึงพยายามช่วยเหลือจนทิมได้ไปฝึกมวยโดยแม่ไม่รู้ ครูเขต รู้สึกเอ็นดู ทิม เป็นพิเศษมักมาสอนเทคนิคการชกให้ทิมเสมอ ขวดหายไปเพราะถูกแก๊งอันธพาลครองตลาดแกล้ง ทิม กับ ไท ไปตามหาขวด แต่กลับไปเจอพวกค้ายาเสพติด ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับ ฟ้าใส กับ ยาหยี่ นักศึกษานิเทศฯ แอบไปที่โกดังทำข่าวซีดีเถื่อนขายตลาดนัดส่งอาจารย์แต่กลับเจอคดีใหญ่กว่า ทิม , ไท , ที่จะต้องแค่เข้าไปช่วยพี่ชายจำต้องช่วยสองสาวออกมาด้วย และด้วยความช่วยเหลือจากวายุที่นำกำลังเข้าไปปราบปรามพ่อค้ายาเสพติด ทำให้ ทิม , ไท สามารถช่วย ฟ้าใส , ยาหยี ออกมาได้ แต่ทั้งหมดก็เกือบจะเอาชีวิตไม่รอดที่สำคัญพ่อค้ายาเสพติดเห็นหน้าทิม ทิม กับ ไท ได้รู้จัก ฟ้าใส และยาหยี ทำให้สองหนุ่มพี่น้องที่เคยแต่จะทุ่มเททุกอย่างให้กับครอบครัวเริ่มมีความรักเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว แต่สองพี่น้องเจียมตัวว่าเป็นแค่ลูกแม่ค้าในตลาดไหนจะอาจเอื้อมไปรักลูกสามเจ้าของบริษัทส่งออกชื่อดัง กฤช ว่าที่คู่หมั้นหนุ่มของฟ้าใส ไม่พอใจที่ฟ้าใสให้ความสนใจทิมเป็นพิเศษ อีกทั้ง ไทเองก็มักปกป้องฟ้าใสจากกฤช กฤช ไม่พอใจจึงนำเรื่องทั้งหมดไปฟ้อง ตะวัน (พ่อ) และ นภา (แม่) พ่อแม่ของฟ้าใสเจ้าของบริษัท T & N คอร์เปอเรชั่นฯ ที่ดำเนินธุรกิจนำเข้าและส่งออกผลิตภัณฑ์อาหาร นภาสั่งห้ามลูกสาวไปแถวตลาดอีกโดยเด็ดขาด ฟ้าใส เองก็เริ่มถอดใจแม้เธอจะอยากพบเจอทิม วันรับปริญญาของไท แม่นวลเกิดอุบัติเหตุรถชนเพราะไปช่วยขวด วายุ ฟ้าใส ยาหยี รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ไท โกรธขวดมากที่เป็นต้นเหตุ ทิมทะเลาะกับไท แม่นวลต้องใช้เงินในการผ่าตัดด่วน ทิมจึงยอมไปหาอำนาจเพื่อยืมเงิน และเข้าเป็นนักมวยในค่าย อำนาจพอใจแต่ครูเขตกลับห่วงใยทิม กลัวทิมจะกลายเป็นเหยื่อเหมือนนักมวยคนอื่นๆ อำนาจบอกกับครูเขตว่าเขาชอบทิมเพราะในแววตาที่มุ่งมั่นคู่นั้นมันมีเลือดนักสู้อยู่เต็มเปี่ยมหาตัวจับยาก และนี่แหละคุณสมบัติพิเศษของ นักมวยใต้ดิน ครูเขตเห็นด้วยว่าทิมเป็นคนที่มีพรสวรรค์ ทำให้ครูเขตรู้สึกเสียดายหากทิมจะจบชีวิตนักมวยอยู่กับกลุ่มอำนาจ อำนาจส่งของล็อคใหญ่ ไทสืบรู้โดยบังเอิญว่ามีคนวางแผนให้ทิมต้องตกเป็นแพะรับบาป ไทจะรีบไปบอกทิม แต่ถูกคนของอำนาจตีหัวจนสลบ ทิมรู้ข่าวน้องชายรีบไปหาเป็นจังหวะเดียวกับวายุนำกำลังเข้าจับกุมทำให้วายุจำต้องจับทิม ไทหนีออกมาได้ และบอกความจริงกับวายุ ไท และวายุ วางแผนช่วยเหลือทิมให้พ้นข้อกล่าวหา และหาตัวการใหญ่ให้ได้ เพราะของที่เจอเป็นส่วนน้อยเหมือนวางกับดักไว้แล้ว ไท ,วายุ ช่วยหาหลักฐานทำให้ทิมพ้นผิด แต่ชื่อเสียงของทิมเสียหายไปแล้วไม่สามารถกลับมาชกมวยเวทีได้อีก ส่วนไทยอมที่จะชกมวยเวทีแทนทิม เพื่อจะช่วยวายุสืบหาความจริงเรื่องคนที่ตั้งใจใส่ความทิม ไท สงสัย กฤช และถ้าเป็นจริงแสดงว่า กฤช ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับอำนาจ หลังแม่ผ่าตัดทิม ไท เข้าไปเยี่ยมแม่ในห้อง ICU แม่นวลอาการไม่ดีเพราะแผลติดเชื้อ ทิม, ไท เข้าไปร้องเพลงให้แม่ฟัง ทำให้แม่นวลพ้นขีดอันตรายไปได้ ฟ้าใสดีใจที่เธอได้รักผู้ชายที่ดีและแสนจะอบอุ่น โบตั๋นรู้ว่าตัวเองอกหักอย่างจัง เพราะทิมก็รักกับฟ้าใส ไท ก็รักกับยาหยี โบตั๋นจึงหาทิศทางใหม่คือวายุ วายุต้องปวดหัวเรื่องที่โบตั๋นคอยตามตื๊อตลอดเพราะอยากเป็นคุณนายตำรวจ อำนาจจัดให้ทิมชกกับนักมวยนิโกรที่ขึ้นชื่อการโกงทุกรูปแบบ ครูเขตหนักใจมากถึงแม้จะสอนแม่ไม้มวยไทยให้เข้มอย่างหมดเปลือก ทิมชกชนะด้วยความยากลำบาก ทิมเริ่มหลงใหลกับศิลปะการต่อสู้ ทิมแปลกใจที่คนเก่งอย่างครูเขตทำไมถึงอยู่ในค่ายเล็กๆทั้งๆที่มีความสามารถ แก๊งอันธพาลครองตลาดเล่าให้ฟัง ครูเขตหาวิธีให้ทิมขึ้นชกอีกแต่จำต้อง ชกมวยระดับใหญ่ มีสปอนเซอร์สนับสนุน ฟ้าใสไปคุยกับพ่อแม่ ตะวันตกลงให้บริษัท T & N คอร์ปอเรชั่นฯ เป็นสปอนเซอร์เพื่ออนุรักษ์มวยไทย กฤชไม่พอใจมากหาทางเล่นงานทิม เกียรติ พ่อของกฤช และเป็นนายทุนใหญ่ของอำนาจ บอกให้กฤชใจเย็นเพราะเขาต้องการฮุบบริษัทของตะวันมาเป็นของเขา ส่วนไทเริ่มมีชื่อเสียงด้านการชกบนดิน ครูเขตให้ไทชกต่อไปเพื่อตอนหลังจะได้เป็นแรงผลักดันทิมให้แก้มลทินได้ สองพี่น้องจึงกลายเป็นนักมวยอาชีพ พี่ชายเป็นมวยใต้ดิน น้องชายเป็นมวยเวที คู่ชกของทิมที่อำนาจจัดให้ มีแต่ตัววายร้ายทั้งสิ้นเช่น ชัย เป็นนักมวยที่ราบสูงและเจนเวทีมากร่างกายกำยำ เป็นมวยหมัดหนักชั้นเชิงแพรวพราว อำนาจให้ ชัย โด๊ปยาและเล่นพนันข้างชัย ทิมสู้ชัยไม่ได้โดนยำเละ ทิม ฟื้นตัวครูเขตให้ไปฝึกฝนการต่อสู้อย่างหนัก กฤชคอยมากลั่นแกล้ง แต่แก๊งอันธพาลครองตลาดก็ปกป้องได้ทุกครั้ง ทิม , ไท กลับมาเยี่ยมแม่ที่บ้านสามแม่ลูกมีความสุขกันมาก ขวดแอบเห็น กฤช จับฟ้าใสไปเพื่อคิดจะรวบหัวรวบหาง และยาหยีโดนหางเลขจับไปด้วย ทุกคนเลยไปช่วยฟ้าใส ยาหยี ที่โกดังเก็บของชายทะเลของเกียรติได้ทัน ตะวัน และ นภา โกรธกฤชมากที่หลอกฟ้าใสไป ประกาศตัดความสัมพันธ์กับกฤชไม่ร่วมหุ้นกันอีก ตะวันขอร้องให้ไทช่วยกู้ภาพพจน์ที่ดีของบริษัทว่าอนุรักษ์ศิลปะไทย ไทชกมวยระดับต่างประเทศ พ่อแม่ฟ้าใสเริ่มปลื้มไท และจับคู่ให้ ไท กับฟ้าใส ทิมเองก็เปิดทางให้น้องอีกครั้งแม้ใจจะเจ็บมากก็ตาม ทิมเข้าป่าไปฝึกฝนมวย ครูเขต พาทิมไปหา หนานอิน ครูมวย ทิมผ่านการลองใจของหนานอินจนยอมที่จะสอน ทิมต้องไปเก็บตัวฝึกในป่า ทิมขณะที่ไปฝึกมวยในป่า ได้เจอเส้นทางการเดินยาเสพติด และปะทะกับพวกพ่อค้ายาจนได้รับบาดเจ็บเพราะไปช่วย นาย ลูกสาวชาวป่า ทิมรักษาตัวจนหายดี สลา นายบ้านของที่นี่เป็นพ่อของนาย และที่สำคัญสลาคือนักมวย มวยเม็งรายในตำนานได้ฉายา มวยตีนลิง สลาตอบแทนเข้มด้วยการสอนเคล็ดวิชามวยเม็งราย ที่มีเชิงเตะ คล่องแคล่ว ว่องไว ทั้งซ้ายขวา ไทมาถึงบ้านหนานอิน รับรู้ว่าทิมหายไป ฟ้าใสเป็นห่วงทิมมาก ไทออกตามหาพี่ชาย โดยมี ฟ้าใส และ ยาหยี ตามไปด้วย วายุก็ตามเส้นทางยาเสพติดในบริเวณที่ทิมหายตัวไปเช่นกัน สลา เดินป่าออกมาส่งทิม แต่มีเหตุผิดปกติจึงย้อนกลับไปหมู่บ้านพบหมู่บ้านถูกทำลาย นายถูกจับตัวไป ไทตามไปถึงบ้านสลา ให้ฟ้าใส และ ยาหยี ตามกำลังตำรวจมาช่วย ทิม ไท สลา รีบไปช่วยนาย ฟ้าใส หงุดหงิดที่ทิมห่างเหินเธอ และออกจะห่วงใยนายเป็นพิเศษ วายุ นำกำลังเสริมจากตำรวจตระเวนชายแดนมาจับพ่อค้ายาสำเร็จด้วย นายปลอดภัย เขตเผชิญหน้ากับอำนาจ อำนาจต้องการจัดมวยใต้ดินนัดพิเศษ โดยให้ทิม , ไท ขึ้นชกห้าไฟล์ในวันเดียวและการต่อสู้จะมีทุกรูปแบบ แต่ทิม , ไท ต้องชนะในสายของตัวเองเท่านั้น และท้ายสุดต้องมาชกกันเอง อำนาจถึงจะยอมปล่อยแม่นวลไป เขตรู้ดีว่าครั้งนี้คงเลี่ยงไม่ได้เพราะรู้จักนิสัยอำนาจดี เขตขอต่อรองว่าหลังจากนี้หนึ่งอาทิตย์ เมื่อถ่วงเวลาได้แล้ว วายุ นำกำลังตามสืบที่อยู่ของแม่นวล ครูเขต พาทิม , ไท ครูเขตรู้ดีว่าอำนาจจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ทิม , ไท แพ้ให้ได้ และที่สำคัญต้องการให้สองพี่น้องตายบนเวที ครูเขตกลัวว่า ทิม , ไท อาจไม่ผ่านด่านต่างๆที่อำนาจวางไว้ ณ วันแข่ง ทิม , ไท สู้อย่างถวายชีวิตเพื่อแม่นวล และก็เป็นอย่างที่ครูเขตคิดไว้ว่าการต่อสู้ครั้งนี้ อำนาจต้องการให้ทิมมาแพ้ ทิมเจอทั้งฝรั่งตัวใหญ่ กังฟู และยูโด ทั้งหนึ่งต่อสาม บ้างก็ใช้อาวุธ การแข่งขันถูกจัดในสถานที่แปลกๆ ที่อำนาจเตรียมไว้ แต่ทิมก็ใช้วิชามวยไชยาแก้สถานการณ์เอาตัวรอด แม้จะชนะได้ แต่ทิมก็แทบเอาตัวไม่รอดเหมือนกัน ถึงไฟท์สุดท้ายที่สองพี่น้องต้องชกกันเอง วายุ สืบรู้ที่ขังแม่นวล ครูเขต และ วายุ ไปช่วยนวล ทิม , ไท จำต้องชกแบบเต็มที่จนพี่ติ่งให้สัญญาณว่าวายุเข้าช่วยนวลได้แล้ว สองพี่น้องจะรีบลงจากเวทีเพื่อไปช่วยแม่ แต่ เดชและนักมวยมือดีเข้ามาขวาง สองพี่น้องช่วยกันล้มเดช และนักมวยมือดีจนสำเร็จ อำนาจรู้ตัวว่าจะถูกทลายจึงหลบหนี ทิม , ไท ตามสกัด อำนาจชักปืนขึ้นมาจะยิงแม่นวล แต่ก็ถูกวายุยิงสวนทันที อำนาจล้มลงขาดใจตาย กฤช แอบดูอย่างเจ็บใจ แม่นวลพบกับครูเขต ทำให้รู้ว่าสามียังไม่ตาย แต่ที่ไม่ยอมกลับบ้านเพราะกลัวลูกเมียถูกเล่นงานไปด้วย สี่คนพ่อแม่ลูกได้พบกันพร้อมหน้าพร้อมตา เหตุการณ์ทุกอย่างคลี่คลายมีความสุข กฤชถูกวายุไล่ตามจับ กฤชหนีมาแก้แค้นทิม กฤชยิงทิมแต่ขวดเห็นและเอาตัวเข้าบังขวดถูกยิง แม่นวลตกใจสลบทันที รถพยาบาลรีบพาแม่นวล และขวดถูกส่งโรงพยาบาล กฤชถูกจับกุม ขวดอยู่อาการโคม่า ขวดร้องเพลงที่แม่เคยกล่อมเขาเป็นประจำให้ทุกคนฟัง ทุกคนร่วมร้องเพลงกับขวดทั้งน้ำตา และปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นขวดรอดพ้นจากอาการโคม่า ทิม , ไท เอาเงินรางวัลที่ได้มารักษาแม่นวลจนหายดีเป็นปกติ ปลูกบ้านหลังเล็กๆ ให้พ่อ แม่ ส่วนที่ดินบริเวณข้างบ้าน ทิมก็ทำเป็นค่ายมวยเล็กๆ โดยให้เขตเป็นครูมวยสอนศิลปะมวยไทยแก่เด็กๆ และเยาวชน มีแดงโค้กเป็นพี่เลี้ยงเด็กใหม่ ส่วน ไทก็ไปช่วยงานบริษัทตะวัน และแบ่งเวลามาช่วยพ่อสอนมวยไทยเป็นประจำ หลังจากที่ได้ผ่านความลำบากมา วายุยอมรับกับทุกคนเขาคือตำรวจปลอมตัวมาเพราะตามจับอำนาจ และได้โบตั๋นเป็นหวานใจ พร้อมทั้งได้เลื่อนยศเพราะผลงานที่จับกุมกลุ่มอำนาจสำเร็จ ทิมได้พบรักที่บริสุทธิ์กับฟ้าใส ไท ได้เป็นผู้บริหารบริษัทตะวัน และมียาหยีคอยช่วยงาน แม่นวลรับรู้ว่ามวยไทยทำให้ครอบครัวมีวันนี้ได้ และที่สำคัญทิมตระหนักดีว่า “มวยไทย” เป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีคุณค่า เขาอยากสืบทอดศิลปะมวยไทยให้คงอยู่คู่เมืองไทยตลอดไป
Love On Air 2 ถ้าบอกรัก...จะรักมั้ย (2557/2014) เป็นละคร เป็นละครโทรทัศน์ปี 2557 ผลิตโดยบริษัท เอไทม์ มีเดีย จำกัด ออกอากาศ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 – 27 กันยายน พ.ศ. 2557 ทางช่องวัน 31
Club Friday The Series 4 หรือรักแท้จะแพ้ความต้องการ (2557/2014)
เรื่องราวจาก คุณนิติ
เรื่องราวจาก คุณแอร์
เพราะมีเธอ (2557/2014) ร้านข้าวกับเบียร์ มีเจ้าของคือข้าวเป็นผู้จัดการ กับเบียร์เป็นเชฟ ทั้งคู่เป็นคู่ผัวเมียวัยทอง แต่เพราะเบียร์เจ้าชู้นับไม่ถ้วน ข้าวทนไม่ไหวจึงขอหย่า ในวันหย่าเบียร์เอาแต่อ้างโน่นนี่ แต่พอข้าวบอกเหตุผลเบียร์จึงยอม โดนสาเพื่อนสาวของข้าวหุ่นมนุษย์ช้างชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน หลังแม่เสีย แต่เบียร์ก็กีดกันความรักของข้าวกับกาย (แฟนใหม่ของข้าว) โดยที่ร้านมีบ๋อย คือ บัตเตอร์หลานชายสุดทรพีของข้าวที่ชอบโดดเรียนกับทำตัวเหลวไหล เพราะได้รับอิทธิพลผิดๆของเบียร์ ที่คอยจีบยูริ บ๋อยสาวสวย แต่ยูริไปชอบแชมป์ บาร์เทนเดอร์หนุ่มที่ปกปิด ความรักเรื่องแฟนเก่ามุก แต่มีเพื่อนสนิทคือปูเป้คอยกับ กับคู่แฟนอย่างอีเชอรี่ปากห้อยกับเอ็ม โดยทั้งคู่เป็นบ๋อย จนเกิดเรื่องอลหม่านไปทั่ว วันหนึ่งเบียร์คบกับครูโดนัทที่เป็นครูของบัตเตอร์ กับบัตเตอร์ก่อเรื่องโดดเรียน ใกล้จะซ้ำชั้น เบียร์ปรึกษากับครูโดนัท กับต่อว่าบัตเตอร์ให้กลับไปขยันเรียน พอผ่านไประยะหนึ่ง เบียร์ทนที่ถูกครูโดนัทบังคับไม่ไหวจึงบอกเลิก ทางบัตเตอร์เรียนจบพอดี กับคุณไหมเจ้าของที่ดินจะมายึดที่ดินของร้าน มาเปลี่ยนเป็นร้านให้มาร์คน้องชาย แต่มาร์คดันตกหลุมรักข้าว จึงมาขอทำงานกับปกปิดตัวตน ซึ่งเบียร์จับได้ จึงช่วยกันปิด แต่บัตเตอร์สงสัยจึงก่อเรื่องเอาเงินไปซ่อนในล็อกเกอร์มาร์ค แต่มาร์ครู้ทันจึงเอาคืน บัตเตอร์ที่โดนข้าวต่อว่า กับจับได้ว่ายูริกับแชมป์แอบคบกัน จึงแค้นคิดกีดกันแชมป์ ถึงขั้นล็อกโซ่รถแชมป์ จนมาร์ครถคว่ำเกือบตาย เบียร์จึงมาต่อว่ากับห้ามบัตเตอร์กับขอให้ห้ามทำอีก ทางกายมาบอกเลิกข้าว เพราะรอไม่ไหว กับบัตเตอร์จับได้เรื่องมุกแฟนเก่าแชมป์มีลูกจึงบอกยูริ ในตอนจบแชมป์บอกความจริงว่ามุกมีลูกกับแฟนเก่า โดยที่ติดต่อหากัน เพราะเป็นห่วง จนทั้งคู่ดีกัน สากับกายเริ่มคบกัน ข้าวจับได้เรื่องมาร์ค เบียร์กับข้าวเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เรื่องถูกตัดจบไป ถ้าเรื่องมีต่อคือ มาร์คตัดใจเรื่องข้าว บอกความจริงกับขอโทษ ลาออกไปดูแลกิจการพี่สาวหันไปคบปูเป้(ยังทำงานที่เดิมอยู่) ทุกคนให้อภัย ทางยูริหลังเรียนจบแต่งงานกับแชมป์ แต่บัตเตอร์คิดขวาง แม้ถูกทุกคนห้ามก็ไม่สน ขืนปล่อยไว้ก่อเรื่องแน่ เบียร์จึงแจ้งความจับ จนบัตเตอร์ฉี่แตกกลางงาน ฮาทั้งงาน หลังจบงานแต่งถูกประกันตัว กับถูกไล่ไปอยู่กับยาย เบียร์กับข้าวจึงดูแลร้านต่อไป กับเป็นแค่เพื่อนกัน
เรื่องย่อ : หนีก็ล่า ซ่าก็รัก (2557/2014) วิน หนุ่มมีหลักการ สไตล์ สบาย ๆ หลังจากที่อยู่กับแม่ที่สหรัฐอเมริกามานานในที่สุดก็กลับมาอยู่ที่เมืองไทย พ่อและน้องสาวต่างก็ดีใจที่วินกลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นใหม่ของวินในเมืองไทยและเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่อง วินได้เข้าไปทำงานที่บริษัทโฆษณา เป็นครีเอทีฟตามที่เขาได้เรียนมา แต่ด้วยความเป็นคนตรงไปตรงมาติดนิสัยฝรั่ง จึงทำให้เจ้านายหมั่นไส้และไล่เขาออก
เอ หญิงสาวหน้าตาสวย น่ารัก เป็นลูกสาวคนเดียวของนักธุรกิจใหญ่ชื่อนายประสิทธิ์ร่ำรวยทำแต่งานไม่มีเวลาให้ครอบครัว อีกทั้งเจ้าชู้ ส่วนแม่คุณหญิงอัญชลีไม่พอใจประสิทธิ์ก็เลยหาทางออกด้วยการออกงานสังคมตลอดเวลา ทำให้เอโตมาอย่างขาดความอบอุ่น ดื้อรั้น ฟุ่มเฟือย นายประสิทธิ์จึงตัดความรำคาญด้วยการส่งเอไปเรียนเมืองนอก แต่คาดไม่ถึงว่าเอจะเรียนจนจบและกลับมา
พอเอกลับมาพบว่านายประสิทธิ์มีภรรยาน้อยชื่อแซนดี้ แก่กว่าเอไม่กี่ปีทำให้เอยิ่งโกรธและทำตัวดื้อใช้เงินฟุ่มเฟือยหนักมากขึ้น เอมีแฟนชื่อพอลเป็นนักเรียนจบนอกไฮโซ แต่พอลเป็นคนฉาบฉวยเรียนไปตามเทรนด์ ชอบเที่ยว ชอบคลุกคลีกับวงการบันเทิง ที่คบเอเพราะเอเป็นลูกนายประสิทธิ์นักธุรกิจใหญ่ไม่ได้จริงใจมากมาย และมีนิสัยเจ้าชู้ เอทะเลาะกับนายประสิทธิ์และแซนดี้จึงออกจากบ้านและโทรหาพอลแต่พอลไม่อยู่ โทรหาเพื่อนกลุ่มไฮโซก็ไม่มีใครว่างทำให้ยิ่งเสียอารมณ์จึงขับรถไปตามทางเรื่อยเปื่อย
โจเพื่อนรักที่โตด้วยกันมากับวินเรียนเมืองนอกและพักอยู่ด้วยกันกับวิน พอเรียนจบก็กลับเมืองไทยและเป็นเจ้าของผับที่มีชื่อเสียงติดอันดับของนักท่องเที่ยว โจต้องการให้วินช่วยทำโปรโมชั่นให้ วินจึงแวะมาหาโจ ระหว่างที่วินนั่งดื่มรอโจอยู่ เป็นขณะเดียวกันกับที่เอกำลังขับรถระงับอารมณ์อยู่บังเอิญปวดท้องฉี่ เลยเลี้ยวรถเข้าไปในผับของโจ เอเดินเข้าไปสั่งเครื่องดื่มที่บาร์แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ สักครู่หนึ่งเอก็ออกมานั่งดื่มใกล้ ๆ วิน เวลาผ่านไปครู่หนึ่งเอเริ่มออกอาการตึง ๆ วินสังเกตอยู่แบบเงียบ ๆ ผู้คนเริ่มทะยอยกันเข้ามามีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่งคุยกันเสียงดังและถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน
นายสุชาติ ลูกชายของนักธุรกิจใหญ่ที่ติดอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย นั่งอยู่โต๊ะที่ห่างออกไปมองเอตั้งแต่เดินเข้ามาในผับ พอได้จังหวะก็เดินเข้าไปจีบเอ เอเฉยไม่สนใจแต่นายสุชาติก็ไม่ถอยพยายามชวนคุย วินเห็นเออยู่ในสถานะการไม่ดี จึงแกล้งเดินผ่านเอและกลุ่มนายสุชาติเพื่อสังเกตการณ์ และทำเป็นเดินไปเข้าห้องน้ำ
นายสมภพ ลูกชายเจ้าของธุรกิจคู่แข่งของนายสุชาติพาลูกน้องเข้ามาเที่ยวพอดี เห็นนายสุชาติก็เขม่นใส่ เพราะนายสุชาติเพิ่งประมูลได้งานใหญ่ชนะบริษัทของตนไป ส่วนเอที่เริ่มเมาแล้วก็รำคาญนายสุชาติ จึงบอกว่ามากับแฟนเส้นใหญ่มีระดับให้นายสุชาติรีบถอยไปก่อนที่จะเจอดี นายสุชาติหมั่นไส้ถามว่าแฟนเอเป็นใครใหญ่แค่ไหน วินเดินกลับมาจากห้องน้ำผ่านมาพอดีเอเข้าไปคว้าแขนพร้อมบอกว่านี้ไงแฟนฉันนายสุชาติจึงหมั่นไส้เลยชกหน้าวิน ทำให้เกิดการต่อสู้กันชุลมุล นายสมภพเห็นเหตุการณ์จึงได้โอกาสเข้ามาชกนายสุขาติ แต่ถูกนายสุชาติชกโครมคว่ำไป ด้วยความโมโหนายสมภพกระชากปืนออกมาแล้วยิงนายสุชาติทรุด เซไปคว้าวิน วินเห็นว่านายสมภพเป็นคนยิง นายสมภพเล็งปืนไปที่วินเพื่อจะยิงปิดปาก แต่มีคนวิ่งมากระแทกปืนนายสมภพหลุดจากมือไปอยู่ตรงหน้าเอพอดี เอที่เมาอยู่ก็หยิบปืนขึ้นมายิงกราดไปทั่วทุกคนต่างแตกตื่น วินได้โอกาสรีบพาเอหนีออกมาที่รถ พวกนายสมภพรีบตามออกมาเพื่อจะแย่งปืนจากคืนจากเอและปิดปากทั้งสอง แต่ช้าไปวินขับรถพาเอหนีออกไปซะก่อน
วินขับรถวนไปมาเพื่อป้องกันคนติดตามจนคิดไม่ออกว่าจะพาไปไหนจึงพาเอไปที่บ้าน และอุ้มเอที่หลับแบบไม่ได้สติเข้าไปในบ้านและให้แนนน้องสาวช่วยจัดการเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ส่วนวินก็เอาปืนเก็บซ่อนไว้เพราะรู้ว่าเป็นหลักฐานสำคัญที่จะมัดนายสมภพได้ เพื่อเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง
เช้าวันรุ่งนี้แนนพาพ่อไปหาหมอที่ตอนนี้ป่วยเป็นโรคหัวใจแต่เช้า เอตื่นขึ้นมาเห็นว่าตัวเองอยู่ในห้องผู้ชาย แถมเสื้อผ้าก็ถูกเปลี่ยน พอเดินออกมาข้างนอกเห็นวินถอดเสื้อนอนอยู่ตรงโซฟาก็เอะอะโวยวาย วินสะดุ้งตื่นมือไปถูกรีโมททีวีทำให้ทีวีเปิดขึ้นมา ปรากฏว่าเป็นข่าวนายสุชาติที่ถูกยิงแหล่งข่าวรายงานว่าได้รูปคนที่ยิงมาจากนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่ถ่ายไว้ หน้าจอขึ้นรูปของเอที่กำลังถือปืนอยู่ในผับ มีวินยืนอยู่ข้าง ๆ ทั้งสองถูกกล่าวหาว่าเป็นมือปืนสังหารนายสุชาตินักธุรกิจใหญ่ตาย
ข่าวนี้ทำให้วินกับเอมีคนตามล่าถึงสามกลุ่ม คือกลุ่มนายสมภพที่รู้ว่าวินเห็นหน้าตนแถมยังได้ปืนที่เป็นอาวุธตนไว้เป็นหลักฐาน และกลุ่มนายวิเชียรพ่อของของนายสุชาติที่ต้องการแก้แค้นให้ลูกชายด้วยเงินสินบนนำจับสามล้านบาท และกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ
วินจะพาเอไปหาตำรวจเพื่อชี้แจ้งข้อเท็จจริง แต่เอไม่สนใจจะกลับบ้านท่าเดียว ในขณะที่เถียงกันพอลแฟนเอที่กำลังแคสติ้งงานโฆษณาอยู่เห็นข่าวทางทีวีก็รีบโทรหาเอ เอรับสายแล้วบอกให้พอลมารับแต่วินแย่งโทรศัพท์มาได้กดสายวาง วินยืนยันว่าเอจะต้องไปพบตำรวจเคลียร์เรื่องทุกอย่างก่อน แต่เอไม่ยอมแถมจะเดินออกจากบ้าน วินคว้าตัวไว้ แต่เอไม่ยอมจะไปให้ได้ ในที่สุดวินก็ขังเอไว้ในห้องนอนของเขา เอจึงอาละวาดหนัก พอลตกใจทำอะไรไม่ถูก แต่ผู้จัดการโมเดลลิ่งที่ดูแลพอลอยู่ให้คำแนะนำว่าควรจะใช้เหตุการณ์ของเอสร้างกระแสให้กับตัวเอง พอลจึงเห็นด้วยเพราะอยากดัง
พ่อและแนนกลับมาจากโรงพยาบาลพอรู้เรื่องก็บอกให้วินปล่อยเอไป ก่อนที่จะเดือดร้อนกันหมด วินไม่ยอมและอธิบายว่าถ้าปล่อยเอไปเอต้องถูกฆาตกรตัวจริงฆ่าปิดปาก และเขาก็ต้องเป็นผู้รับเคราะห์ติดคุก มีทางเดียวคือต้องไปเคลียร์กับตำรวจ สุดท้ายพ่อกับแนนต่างก็เห็นด้วย
วินพยายามอธิบายให้เอเข้าใจ แต่เพราะเอไม่เคยไว้ใจใคร เนื่องมาจากคนที่คบด้วยส่วนใหญ่ก็หวังผลประโยชน์จากเอทั้งนั้น อีกอย่างเอคิดว่านายประสิทธ์ก็ต้องแก้ไขเรื่องทุกอย่างได้อยู่แล้ว จึงไม่สนใจคำพูดของวิน แถมยังขู่วินด้วยว่าจะให้นายประสิทธ์ผู้เป็นพ่อฟ้องวิน และจับวินเข้าคุกในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว
วินกับพ่อและแนนฟังแล้วรู้สึกว่าไม่มีทางเลือกจึงต้องขังเอไว้ก่อน โจเพื่อนวินเจ้าของผับโทรมาบอกวินให้ซ่อนตัวให้ดี เพราะตำรวจมาซักถามเกี่ยวกับวินและเอ วินจึงบอกโจเรื่องบาร์เทนเดอร์ใส่ยาในแก้วของเอให้โจคอยดูพฤติกรรมไว้
เวลาผ่านไป เอเริ่มผ่อนคลายเพราะคุยกับแนนจนถูกคอ เพราะเป็นผู้หญิงด้วยกันเริ่มฟังเหตุผลและเข้าใจเหตุการณ์มากขึ้น จึงยอมร่วมมือกับวิน ทีวีออนแอร์ข่าวพอลถูกนักข่าวสัมภาษณ์เรื่องเอ พอลให้ข่าวว่าเป็นแฟนเอทุกคนกำลังเป็นห่วงเอและขอให้เอเข้ามอบตัว เอเห็นข่าวจึงรู้ว่าเรื่องชักบานปลาย ในที่สุดก็ตกลงที่จะให้วินพาไปพบตำรวจ แต่ขอโทรหานายประสิทธ์ก่อนเพื่อหาทนายเตรียมไว้ต่อสู้คดี
นายประสิทธิ์พอได้ยินเสียงเอแทนที่จะเป็นห่วงกลับด่าว่าเอว่าสร้างแต่ความเดือดร้อนจนเป็นข่าวทำให้เสียชื่อเสียง จะส่งกลับไปอยู่เมืองนอก เอโมโหจึงแกล้งบอกว่าตัวเองถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ห้าล้านบาทแล้ววางหู วินตกใจกลายเป็นซวยหนักเข้าไปอีกแต่ก็ต้องปล่อยเลยตามเลย
วันต่อมาวินออกไปโทรศัพท์ที่ตู้สาธารณะเพื่อนัดหมายเอาเงินห้าล้านจากนายประสิทธิ์ตามที่เอสั่ง พอดีกับเพื่อนของพ่อวิน ชื่อนายเอกชัย ชอบเล่นการพนัน ชอบมายืมเงินพ่อวินบ่อย ๆ วันนี้มายืมเงินพ่อวินที่บ้านและได้พบกับเอความที่มีนิสัยสอดรู้จึงถามว่าเอเป็นใคร พ่อวินเลยตอบไม่ถูก เอเห็นพ่อวินิอึกอักจึงบอกว่าเป็นแฟนของวิน เพื่อไม่ให้นายเอกชัยสงสัย
แซนดี้เมียน้อยนายประสิทธิ์ที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนที่เอโทรมารู้เรื่องเอถูกจับไปเรียกค่าไถ่ จึงแกล้งทำเป็นห่วงเอและแนะนำให้นายประสิทธิ์ส่งเงินห้าล้านบาทให้คนร้ายเพื่อไถ่ตัวเอ และห้ามไม่ให้นายประสิทธิ์แจ้งตำรวจ เพราะจะทำให้เอได้รับอันตราย นายประสิทธิ์จึงหลงเชื่อว่าแซนดี้เป็นห่วงเอจริง ๆ ก็เลยส่งเงินไปตามที่วินกำหนด แซนดี้โทรไปบอกบอยแฟนของตัวเอง (ที่แซนดี้โกหกนายประสิทธิ์ว่าเป็นพี่ชาย) ให้บอยไปชิงเงินค่าไถ่มาเพื่อให้โจรเข้าใจผิดว่านายประสิทธิ์ตุกติกจะได้ฆ่าเอ ได้ทั้งเงินและกำจัดเอให้พ้นทางของตน
วินสั่งให้คนของนายประสิทธิ์เอาเงินไปให้ที่โรงงานร้าง โดยให้เอาถุงเงินไปใส่ไว้ในถังขยะตามเวลาที่กำหนดแต่พอถึงเวลาบอยก็เข้าไปขัดจังหวะชิงเงินมาได้และพยายามที่จะฆ่าวินกับเอตามแผน แต่โชคดีที่ทั้งสองหนีรอดมาได้ วินกลับมาถึงบ้านก็บ่นให้เอว่าทำเรื่องบานปลายเกือบเอาชีวิตไม่รอดแทนที่จะได้สารภาพกับตำรวจ เอไม่ยอมหาว่าวินใจเสาะต่างเถียงกันไม่หยุด เอโกรธนายประสิทธิ์คิดว่านายประสิทธิ์ไม่ยอมเสียเงิน จึงวางแผนใหม่ให้วินส่งแหวนของตัวเองเพื่อเป็นการขู่และเรียกเงินเพิ่มเป็นสิบล้าน วินตกใจไม่ยอมทำตาม เอหว่านล้อมจนวินสงบลง เอพูดกล่อมวินว่าพอได้เงินแล้วจะไปอธิบายเรื่องทุกอย่างกับวินให้ตำรวจฟังทันที
นายประสิทธิ์ได้รับนิ้วปลอมของเอถึงกับตกใจเข้าโรงพยาบาล แซนดี้แอบอ่านจดหมายที่เอส่งมาคิดวางแผนให้บอยไปแย่งเงินมาอีก ในขณะเดียวกันมีข่าวของเอออกทีวี โดยมีนายวิเชียรพ่อนายสุชาติสั่งประกาศว่าจะให้รางวัลสำหรับคนที่จับตัวเอกับวินที่ฆ่าลูกชายของตนได้ เป็นเงินห้าล้าน ทำให้มีคนตามล่าเอกับวินมากขึ้น
นายเอกชัยเพื่อนพ่อวินที่เล่นการพนันอยู่เห็นข่าวและรูปเอกับวินทางทีวีจำเอได้ จึงติดต่อไปทางนายวิเชียรพ่อของนายสุชาติเพื่อขอรางวัล นายวิเชียรส่งสมุนชื่ออ๊อดมาติดต่อกับนายเอกชัย และยืนยันว่าได้ตัวเอเมื่อไหร่นายเอกชัยจึงจะได้เงิน นายเอกชัยพาอ๊อดไปบ้านวินและเอ วินกับเอกลับมาบ้านก็ถูกไอ้อ๊อดกับสมุนของมันรุมกับแต่หนีรอดมาได้ วินกับเอต้องหนีไปพักที่โรงแรมที่โจรู้จักและจัดการทุกอย่างให้วินโทรกลับไปหาพ่อและแนนบอกว่าตนปลอดภัยเพื่อไม่ให้ทุกคนเป็นห่วง
เอพาวินแอบไปหาคุณนายอัญชลีผู้เป็นแม่ที่คอนโดหรูฝ่ายนิติไม่ให้เข้าเพราะคุณนายอัญชลีไม่อยู่ไปเที่ยวต่างประเทศอีกหนึ่งเดือนถึงจะกลับ เอโทรไปหาพอลเพื่อให้พอลช่วยจัดการเรื่องที่พัก พอลจึงให้เอไปพักที่บ้านพักของตนที่พัทยา แต่พอลมีแผนที่จะพาเอเข้ามอบตัวเพื่อสร้างกระแสให้กับตนเอง ทั้งหมดได้พบกัน พอลถามว่าเอว่าวินเป็นใคร เอเล่าให้ฟังว่าวินเป็นคนที่ช่วยเอไว้ในผับและติดร่างแหมาด้วย พอลพยายามให้เอเข้ามอบตัว แต่เอขอเวลาอีกสองอาทิตย์ทำธุระให้เสร็จก่อน พอลถามเรื่องธุระของเอ เอไม่ยอมบอก ทำให้พอลไม่พอใจ แต่เอให้สัญญาว่าครบสองอาทิตย์แล้วจะให้พอลพาไปมอบตัว พอลจึงพอใจและกลับไปในที่สุด
วินกับเออยู่ด้วยกันที่บ้านพักของพอลเพื่อรอเวลาให้นายประสิทธิ์หาย ต่างคนต่างวางเชิง แต่เมื่อมีเวลาต่างฝ่ายต่างคุยเรื่องของตนให้ฟัง ต่างเริ่มเห็นใจกัน หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปทั้งสองเริ่มสนิทกันโดยไม่รู้ตัว วินเปิดทีวีฟังข่าวก็พบว่าพอลกำลังให้สัมภาษนักข่าวว่าตอนนี้รู้ว่าเออยู่ที่ไหนและภายในหนึ่งอาทิตย์จะพาเอเข้ามอบตัว เอฟังข่าวแล้วโกรธมาก วินเห็นเออารมณ์เสียเลยชวนไปเดินเล่น ไปเจอชาวประมงกำลังจะออกเรือ ทั้งสองนั่งเรือออกไปกับชาวประมงทำให้ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น
นายสมภพรู้ข่าวส่งคนไปตามพอล นายวิเชียรพ่อของนายสุชาติก็ส่งไอ้อ๊อดไปประกบ พอลเหมือนกัน พอลชะล่าใจแวะไปหาเอเพราะอยากให้เอเห็นว่าตนเป็นห่วง พวกนายสมภพกับพวกไอ้อ๊อดตามพอลมาถึงบ้านพักแต่ไม่เจอวินกับเอ วินกับเอกลับมาเห็นคนที่อยู่หน้าบ้านเลยหนีวินพาเอไปหาโจที่ผับโจให้ความช่วยเหลือจัดที่อยู่แอบซ่อนตัวอยู่ที่ชั้นบนของผับเพราะคิดว่าตำรวจหรือคนอื่น ๆ คงคาดไม่ถึงว่าโจจะกล้าให้เอกับวินพัก
ทีวีออกข่าวเรื่องนายประสิทธิ์นักธุรกิจใหญ่ไม่สบายต้องเข้าโรงพยาบาลซ้ำอีก แต่แล้วก็มีข่าวของพอลให้สัมภาษณ์ว่าเลิกกับเอ เพราะเอไม่ยอมมอบตัวตามสัญญาที่ให้ไว้ ทำให้ตนต้องเสียหาย วินแสดงความเสียใจเรื่องที่พอลเลิกกับเอแต่เอกลับไม่สนใจเอบอกว่าไม่มีใครสนใจตนจริง ๆ อยู่แล้ว พ่อก็มัวแต่หลงเมียใหม่ พอลก็สนใจแต่เงินและชื่อเสียงของเอเท่านั้น ส่วนเพื่อน ๆ ไฮโซของตนก็มีแต่ถลุงเงินพ่อแม่ที่คอรัปชั่นบ้านเมืองมาคบกันด้วยความฟุ้มเฟ้อเพื่อหาคอนเนคชั่นไม่มีใครจริงใจ ทำให้วินเกิดความเห็นใจอยากจะปกป้อง ติดอยู่ที่ว่าตนตั้งใจไว้ว่าจะไม่สนใจและชอบลูกสาวคนรวยที่โกงชาวบ้านอย่างนายประสิทธิ์ ซึ่งก็แปลว่าทำให้วินต้องต่อสู้กับความรู้สึกที่ค้านต่ออุดมการณ์ของตนเองอยู่ตลอดเวลา
เช้าวันรุ่งขึ้นมีข่าวเรื่องนายวิเชียรให้รางวัลนำจับเออีกครั้ง นายวิเชียรกัดไม่ปล่อย ขณะเดียวกันก็มีข่าวธุรกิจการสร้างศูนย์การค้าใหญ่และผู้ที่ได้รับการประมูลให้ก่อสร้างคือบริษัทที่มีนายสมภพนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงเป็นผู้บริหารอยู่ วินเห็นรูปนายสมภพก็จำได้ว่านายสมภพคือคนที่ยิงนายสุชาติ วินจึงคิดว่าจะหาทางเข้าไปหานายวิเชียรแทนที่จะไปหาตำรวจเพื่อบอกความจริง ส่วยนายสมภพคอยติดตามข่าวเรื่องที่นายวิเชียรส่งคนตามล่าวินกันเออยู่ตลอดทุกระยะจึงส่งคนมาประกบคอยติดตามไอ้อ๊อดเพื่อรอโอกาส หากไอ้อ๊อดพบตัวเอกับวินเมื่อไหร่ก็จะปิดปากวินกับเอซะก่อนที่นายวิเชียรจะรู้ความจริงในที่สุด นายสมภพยัดเงินไอ้อ๊อดให้ร่วมมือเก็บวินกับเอไอ้อ๊อดรีบตกลงเพราะงานนี้ได้สองต่อ ไอ้อ๊อดรู้อยู่แล้วว่าเอเป็นลูกสาวนายประสิทธิ์ จึงส่งคนไปดักรอซุ่มที่โรงพยาบาลเพื่อคอยดูเอ
วินให้โจช่วยจัดหาห้องเช่าเก่า ๆ ทั่งสองปลอมตัวเป็นนักข่าวที่จะเข้าไปทำข่าวของนายประสิทธิ์ บังเอิญได้เห็นบอยกับแซนดี้เมียน้อยของนายประสิทธิ์ แอบลงมาคุยกันข้างล่างทั้งสองจำบอยได้ว่าเป็นคนที่พยายามจะฆ่าตนและชิงเงินค่าไถ่ของนายประสิทธิ์ วินกับเอจึงตามไปดูแลถ่ายรูปพฤติกรรมของคนทั้งสองที่แอบกุ๊กกิ๊กกันในรถไว้ได้ และยังได้ยินบอยคุยโม้ว่าเงินห้าล้านยังอยู่ที่คอนโดเรียบร้อยดี เอจึงรู้ว่านายประสิทธิ์ไม่ได้ทรยศ แต่เป็นเพราะบอยและแซนดี้วางแผน
วินกับเอจึงหาทางคิดที่จะเปิดโปงสองคนนี้เพื่อให้นายประสิทธิ์ตาสว่าง จึงดำเนินการตามแผนเรียกค่าไถ่ต่อไปเพื่อล่อให้บอยมาติดกับ ทั้งสองจึงรีบกลับมาที่โรงพยาบาลและเข้าไปในห้องของนายประสิทธิ์ แต่นายประสิทธิ์หลับอยู่วินและเอจึงเขียนใส่กระดาษให้นายประสิทธิ์จัดเงินสิบล้านไว้แลกตัวเอและสั่งให้รอจนกว่าจะได้รับการติดต่อมา พวกไอ้อ๊อดเห็นวินพอดีจึงไล่ตามล่า แต่ทั้งสองขับรถหนีไปได้
นายประสิทธิ์ตื่นมาเห็นจดหมายจึงจัดการเตรียมเงินไว้ แซนดี้รู้เรื่องจึงพยายามติดต่อบอย แต่ติดต่อไม่ได้ แซนดี้คิดไม่ออกเลยเปลี่ยนแผนแจ้งตำรวจเพื่อที่จะให้คนร้ายรู้ข่าวและฆ่าเอ ตำรวจจึงมาที่โรงพยาบาล นายประสิทธิ์โกรธแซนดี้มากเลยไล่ตำรวจกลับไป แต่นักข่าวรู้เรื่องข่าวเลยกระจายไปทั่วว่าเอถูกโจรจับไปเรียกค่าไถ่สิบล้านบาท ตำรวจกลับไปแต่ก็ให้สายคอยประกบ
วินโทรไปหานายวิเชียรพ่อของนายสุชาติผู้ตายและบอกว่านายสมภพเป็นคนยิงมีปืนเป็นหลักฐานพร้อม นายวิเชียรส่งไอ้อ๊อดไปหาวินไอ้อ๊อดพาพวกมาพบวินกับเอ แต่แทนที่จะพาไปหานายวิเชียรกลับแจ้งนายสมภพเพื่อยืนยันขอรับเงิน นายสมภพสั่งให้ฆ่าวินกับเอก่อนแล้วจะจ่ายเงินให้ เอได้ยินรีบบอกไอ้อ๊อดว่าตัวเองมีเงินสิบล้านอยู่ในมือแต่ต้องปล่อยตนกับวินไป ไอ้อ๊อดไม่เชื่อวินรีบเสริมและบอกว่าเงินสิบล้านเป็นเงินที่ตนกับเอวางแผนกันเรียกค่าไถ่จากนายประสิทธิ์ ไอ้อ๊อดเชื่อเพราะได้ยินข่าวซึ่งดังไปทั่ว ไอ้อ๊อดจึงตอบตกลง
ทั้งหมดไปยังจุดนัดหมาย วินจอดรถของตนตามแผนรอคนของนายประสิทธิ์เอาเงินมาให้ตามนัด คนของนายประสิทธิ์มาถึงจอดรถแล้วเปิดฝาท้ายโยนเงินเข้าไปตามคำสั่ง ไอ้อ๊อดคุมตัววินกับเอพาเดินไปที่ท้ายรถเพื่อเอาเงิน แต่ไอ้บอยได้แอบอยู่ท้ายรถพอวินเปิดท้ายรถพวกไอ้อ๊อดเอาปืนจ่อไอ้บอยไว้แล้วให้ลูกน้องมันยึดถุงเงินมาจากไอ้บอย แต่แล้วตำรวจก็แห่มา เกิดการยิงต่อสู้กันทุกคนหลบกระสุนกันวุ่นวาย ตำรวจเข้าจับพวกมันไว้ได้
สุดท้ายทุกอย่างก็กระจ่าง ไอ้อ๊อดให้สารภาพว่านายสมภพได้ว่าจ้างให้ฆ่าวินกับเอเพื่อปิดปากและโยนความผิดเรื่องยิงนายสุชาติให้ทั้งสองคน โดยมีปืนที่ได้มาจากวินเป็นหลักฐาน เอสารภาพว่าบังคับขู่เข็นให้วินเรียกค่าไถ่จากนายประสิทธิ์พ่อของตนเพราะโกรธที่พ่อตนไม่ยอมรับฟัง ไอ้บอยสารภาพว่าชิงเงินห้าล้านมา เพราะคิดว่าจะทำให้โจรฆ่าเอ เพื่อให้พ้นทางของแซนดี้ตำรวจจับนายสมภพกับไอ้อ๊อดเข้าคุกฐานพยายามฆ่าเอและยักยอกเงิน ส่วนเอรอดเพราะเรื่องค่าไถ่เป็นเรื่องระหว่างพ่อกับลูก อีกทั้งนายประสิทธิ์ไม่ได้แจ้งตำรวจ ที่ตำรวจมาเกี่ยวเพราะแซนดี้มีแผนร้ายเพื่อให้โจรฆ่าเอ แต่โชคดีที่งานนี้ไม่มีโจรจริง ๆ
นายประสิทธิ์เปลี่ยนนิสัยดีขึ้นตามใจเอทุกอย่าง แม่เอกลับมาอยู่บ้านตามเดิมเลิกงานกุศลจอมปลอม พ่อของวินได้รับการผ่าตัด แนนเรียนจบได้แสดงละครเวทีสมใจ โจสารภาพว่าชอบแนน วินสนับสนุนเต็มที่แต่ให้ไปจีบแนนเอาเอง เอกับวินต่างรู้ว่ามีใจต่อกันและเข้าใจกันในที่สุด ติดตามชม ละครหนีก็ล่าซ่าก็รัก ได้ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.20 น. ทางช่อง 7 สี ละครหนีก็ล่าซ่าก็รัก เริ่มตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน 2557
ฝันเฟื่อง (2557/2014) อาทิตย์ (ธนทัต ชัยอรรถ) คนขับรถสุดชิลล์ของ รัฐรวี (พุฒิชัย เกษตรสิน) ทายาทเจ้าของธุรกิจจิวเวลรี่เกิดไปตกหลุมรัก วิไลลักษณ์ (มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) สาวใช้คนโปรดของ มณฑิรา (วรัทยา นิลคูหา) สาวสวยรวยทั้งสมองและทรัพย์สมบัติ ความรักครั้งนี้มันควรจะลงตัวเพราะทั้งคู่ดูจะเสมอและเหมาะสมกัน แต่มันไม่เป็นแบบนั้นเพราะอาทิตย์แอบอ้างว่าตัวเองเป็นคนรวย และวิไลลักษณ์ก็แอบอ้างตัวเองว่าเป็นคุณหนูไฮโซกำมะลอเช่นเดียวกัน เมื่อรัฐรวีรู้เรื่องก็ยื่นคำขาดให้อาทิตย์ยุติเรื่องโกหก แต่อาทิตย์ก็ขอร้อง อ้อนวอน จนรัฐรวีคิดหนักยอมช่วยโดยติดตามไปในฐานะคนขับรถของอาทิตย์ที่ชื่อ นายวี ฝ่ายมณฑิราเมื่อจับได้ว่าวิไลลักษณ์แอบเอาเสื้อผ้าของเธอไปหลอกหนุ่ม ๆ ก็เป็นห่วงกลัวว่าวิไลลักษณ์จะโดนหลอก มณฑิราที่เคยแต่ใช้ชีวิตตามประสาคนรวยที่แสนน่าเบื่อจึงนึกสนุกให้วิไลลักษณ์เชิญอาทิตย์มาที่บ้าน โดยมณฑิราจะปลอมตัวเป็นคนใช้ของวิไลลักษณ์ที่ชื่อ มณฑา แล้วพรหมลิขิตก็เล่นตลกอีกครั้งเมื่อนายวีปิ๊งรักมณฑาทันทีตั้งแต่แรกเห็น จากที่รัฐรวีเคยขัดขวางอาทิตย์ก็กลับกลายเป็นติดสอยห้อยตามไปจีบมณฑา พออาทิตย์รู้ว่าเจ้านายเกิดไปตกหลุมรักคนใช้ก็ขัดขวางสุดตัวเพราะกลัวถูก รัฐ (เกรียงไกร อุณหะนันทน์) กับ ภัสสร (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) พ่อแม่ของรัฐรวีและ แม่ชื่น (ปรารถนา บรรจงสร้าง) แม่นมของรัฐรวี ซึ่งเป็นแม่บังเกิดเกล้าของตนแหกอก รัฐรวีไม่ยอมแพ้แอบหนีไปจีบมณฑาด้วยตัวเอง ด้านภัสสรก็เป็นห่วงกลัวลูกชายคนเดียวจะไปคว้าคนไม่เหมาะสมมาเป็นลูกสะใภ้เลยพยายามหาคู่ให้รัฐรวี จับพลัดจับผลูภัสสรดันไปถูกใจมณฑิราหลานสาว คุณหญิงหิรัญญิการ์ (จารุณี สุขสวัสดิ์) จึงจัดการให้รัฐรวีได้เจอกับมณฑิราในงานปาร์ตี้แฟนซีหน้ากากวันเกิดคุณหญิง ซึ่งนั่นทำให้มณฑิราได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว นายวี ก็คือ รัฐรวี ทายาทเจ้าของธุรกิจจิวเวลรี่ชื่อดัง! โชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้ที่มณฑิราดันเข้าใจว่า อาทิตย์ คือ เพื่อนคนรวยของรัฐรวีไปด้วย มณฑิราจึงอยากพิสูจน์รักของนายวี เธอตั้งใจแกล้งคบกับรัฐรวีในฐานะมณฑิราพร้อม ๆ กับคบนายวีในฐานะมณฑาไปพร้อม ๆ กัน โดยขอร้องให้วิไลลักษณ์ช่วยเก็บความลับนี้ วิไลลักษณ์ไม่สบายใจที่ต้องดึงมณฑิราเข้ามาร่วมวงโกหกด้วย เพราะนอกจากจะทำให้มณฑิราเดือดร้อน ยังทำให้ แม่เมียด(ดารัณ ฐิตะกวิน) นายวง(อนันต์ บุนนาค) และ เวก (วราวุธ โพธิ์ยิ้ม) พ่อ แม่ พี่ชายที่ทำงานอยู่บ้านมณฑิราต้องพลอยถูก คุณต๋อย (นรินทร ณ บางช้าง) กุ๊กกิ๊ก (โสรญา ฐิตะวชิร) สมจิตร คนใช้ร่วมบ้านคอยตำหนิไปด้วย อุปสรรคความรักของอาทิตย์ยังไม่จบเพียงแค่นั้น เมื่อ อิงอร (แอริน ยุกตะทัต) สาวไฮโซลูกสาวหุ้นส่วนธุรกิจจิวเวลรี่ของรัฐรวีตกหลุมเสน่ห์ของอาทิตย์เข้าอย่างจังโดยคิดว่าอาทิตย์เป็นคนรวย อิงอรตั้งใจจะจับอาทิตย์ให้ได้ ทำให้วิไลลักษณ์ยิ่งน้อยใจว่าตนไม่เหมาะสมกับอาทิตย์เท่าอิงอร วิไลลักษณ์ตั้งใจจะเลิกกับอาทิตย์ แต่อาทิตย์ไม่ยอม เค้าทำทุกวิถีทางเพื่อจะพิสูจน์รักแท้ที่มีต่อวิไลลักษณ์ แต่กับอิงอรเขาก็ไม่กล้าปฏิเสธ เพราะกลัวว่าจะกระทบกับธุรกิจของรัฐรวี ส่วนมณฑิราก็ต้องวิ่งหนีการตามตื้อของ ภูวเดช (พงษ์พันธ์ เพชรบัณฑูร) เพลย์บอยเจ้าของธุรกิจซูเปอร์คาร์ที่หวังจะใช้สมบัติของมณฑิรา และคุณหญิงหิรัญญิการ์ช่วยค้ำจุนธุรกิจที่กำลังร่อแร่ กระทั่งวันหนึ่งที่อาทิตย์ รัฐรวี วิไลลักษณ์ มณฑาได้ไปพักผ่อนต่างจังหวัดด้วยกัน รัฐรวีทนไม่ไหวสารภาพความจริงกับมณฑาว่าแท้จริงแล้วเขาไม่ใช่คนขับรถของอาทิตย์ แต่เป็นเจ้านายและลูกชายเจ้าของธุรกิจที่ร่ำรวย มณฑิราในคราบสาวใช้มณฑาแกล้งทำเป็นน้อยใจว่ารัฐรวีรังเกียจที่ตนเป็นแค่คนใช้ รัฐรวียืนยันว่าทันทีที่กลับไปถึงกรุงเทพเค้าจะพามณฑาไปแนะนำกับพ่อแม่ แต่เมื่อทั้งคู่กลับมาที่พักก็พบว่าอาทิตย์กับวิไลลักษณ์เก็บข้าวของหนีตามกันไปแล้ว!! อาทิตย์พาวิไลลักษณ์หนีมาจดทะเบียนสมรสและอยู่ด้วยกันในอพาร์ทเมนท์เล็ก ๆ โดยต่างก็ยังไม่กล้าสารภาพฐานะที่แท้จริงของตัวเอง อิงอรที่ถูกอาทิตย์ปฏิเสธความสัมพันธ์ไปก่อนหน้านี้คิดจะแก้แค้นจึงพยายามตามสืบเรื่องของอาทิตย์จนไปรู้จาก หมอฉบัง (กรกันต์ สุทธิโกเศศ(อาร์ม KPN) เพื่อนรักของรัฐรวีว่าอาทิตย์เป็นแค่คนขับรถ อิงอรโกรธทั้งอาทิตย์และรัฐรวีจึงคิดจะแก้เผ็ดทั้งคู่ ภูวเดชที่ถูกมณฑิราปฏิเสธโดยอ้างว่ากำลังคบหากับรัฐรวีก็ไม่ยอมแพ้ เค้าแอบตามจับผิดรัฐรวีจนไปรู้ว่ามณฑิราก็คือมณฑา สาวใช้ที่รัฐรวีหลงรัก! อิงอรจึงรวมหัวกับภูวเดชวางแผนทำลายความรักของรัฐรวีกับมณฑิราในงานหมั้นที่รัฐรวีกำลังจะจัดขึ้นกับสาวใช้ที่ชื่อมณฑา! มณฑิราจะล่วงรู้แผนการของภูวเดชแล้วชิงสารภาพความจริงกับรัฐรวีได้ก่อนหรือไม่? รัฐรวีจะทำอย่างไรเมื่อรู้ว่าตนถูกคนรักพิสูจน์รักแท้ด้วยการโกหกมาตลอด? อาทิตย์กับวิไลลักษณ์จะทำอย่างไรเมื่อรู้ว่าคู่ชีวิตที่ตนเลือกไม่ได้เป็นคนร่ำรวยอย่างที่ตนฝันเฟื่องไว้ตั้งแต่แรก? แล้วอาทิตย์จะกลับมาช่วยเจ้านายสุดที่รักแก้ปัญหาความรักได้ทันหรือไม่? ความวุ่นวายที่เริ่มต้นจากความฝันเฟื่องของคนขับรถสุดพิเรน แต่กลับทำให้ทั้งเจ้านายและลูกน้องต่างก็ได้พบรักแท้ที่รอคอยครั้งนี้จะผ่านพ้นไปได้อย่างไร? ติดตามกันต่อได้ใน ละครฝันเฟื่อง
Club Friday The Series 4 หรือรักแท้จะแพ้ความต่าง (2557/2014) เรื่องราวของคู่รักวัยใส ยู ผู้ชายที่ ออกจะร้ากกกกกกปุ๊กซะเหลือเกิน ยูดูแลปุ๊กทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ แถมขี้หึงและหวงปุ๊กเอามากๆ งานนี้ปุ๊กถึงกับอึ้งกับข้อบังคับต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นห้ามใส่กระโปรงสั้นเหนือเข่า ห้ามเขียนขอบตา ต้องดื่มน้ำ 2 ลิตรทุกวันเพื่อสุขภาพผิว และที่สำคัญห้ามนั่งบนฝาชักโครก ข้อนี้ยูถึงขั้นแอบเข้าห้องน้ำหญิงและก้มมองรอดช่องประตู เพื่อดูว่าปุ๊กทำตามอย่างที่บอกหรือไม่ ความเยอะของยู จึงทำให้ปุ๊กต้องพยายามปรับตัวสุดพลังซึ่งก็ไม่รู้ว่าสุดท้ายจะทนได้หรือไม่ หรือรักครั้งนี้จะเป็นตัวถ่วงใคร จะมีไดโนเสาร์สีม่วงตามมาหลอกหลอนรึเปล่า
เรื่องย่อ : สุสานคนเป็น (2557/2014) ลั่นทม (ยุ้ย จีรนันท์) เจ้าของโรงงานทอผ้าและกิจการต่าง ๆ อีกจำนวนมาก มีฐานะดี หลังจากสามีเสียชีวิตไปแล้วเธอได้แต่งงานใหม่กับ ชีพ (เจมส์ เรืองศักดิ์) ด้วยความรักและลุ่มหลงในตัวสามี เธอจึงมอบหมายกิจการต่าง ๆ ให้เขาดูแล เชื่อว่าเขารักเธอเหมือนที่พร่ำบอก โดยไม่รู้เลยว่าชีพหวังสมบัติของเธอ และลับหลังลั่นทม ชีพจะออกลายเจ้าชู้กับผู้หญิงทั่วไป โดยเฉพาะกับ อุษา (แจน ปาณิชดา) หลานสาวของสามีเก่าลั่นทม ซึ่งอาศัยอยู่ร่วมคฤหาสน์เดียวกัน อุษาทำงานเป็นพนักงานฝ่ายบัญชีในโรงงานของลั่นทม มีคนรักเป็นตำรวจชื่อ ธารินทร์ (อ๊อฟ ชนะพล) ทั้งสองมีโครงการจะแต่งงานกัน แต่อุษาเป็นห่วงลั่นทมที่เจ็บป่วยด้วยโรคประหลาดอยู่เป็นประจำ อาการของโรคคือหายใจไม่ออก แขนขาอ่อนแรง และจะหมดสติในที่สุด มีสภาพเหมือนคนตายไปแล้ว แต่หัวใจยังเต้นเป็นปกติ หมอตรวจแล้วไม่พบว่าเป็นโรคอะไร จึงเข้าใจว่าเธอเครียด พักผ่อนน้อย หวาน (ต้อม รชนีกร) คนรับใช้ประจำตัวของลั่นทมลากลับบ้าน โดยไม่คาดคิด พี่เขยกับพี่สาวฆ่าตัวตายหนีหนี้นอกระบบ จึงจำเป็นต้องรับ รสสุคนธ์ (จั๊กจั่น อคัมย์สิริ) หลานสาวมาอุปการะ ลั่นทมยินดีเพราะอยากตอบแทนความดีที่หวานมีต่อเธอมาตลอด หารู้ไม่ว่ารสสุคนธ์มีนิสัยทะเยอทะยาน หวังมีชีวิตสุขสบายทางลัดจึงยั่วยวนชีพ ส่วนชีพก็ลุ่มหลงรสสุคนธ์ ในที่สุดก็มีความสัมพันธ์กัน อุษารู้เรื่องนี้จึงพยายามหาทางบอกให้ลั่นทมรู้ แต่ไม่มีโอกาส ชีพรับรสสุคนธ์มาอยู่บนตึกใหญ่ ลั่นทมจับได้ แต่ปิดบังไว้เพราะคิดว่าไม่นานชีพก็เลิกรา แต่ลั่นทมคิดผิด ทั้งสองกลับร่วมมือกันฆ่าลั่นทม เพราะเห็นว่าลั่นทมหายใจไม่ออกบ่อย ๆ หากตายจริง สมบัติทั้งหมดจะตกอยู่กับชีพ ลั่นทมเสียชีวิตจริง ๆ ในวันหนึ่ง แต่ก็ฟื้นมาได้อย่างปาฏิหาริย์ หลังจากวันนั้นลั่นทมก็มีความคิดที่จะสร้างสุสานของตนเองไว้โดยปลูกเรือนไทยสวยงาม สั่งให้อุษาและคนรับใช้ทุกคนทราบว่าหากเธอตายให้นำศพของเธอมาไว้ที่สุสานที่สร้างขึ้น ทุกคนไม่เห็นด้วย แต่ไม่กล้าคัดค้าน ชีพไม่ละความพยายาม สอนให้ลั่นทมขับรถ และชวนไปพักผ่อนต่างจังหวัด ลั่นทมต้องการแสดงให้ชีพเห็นว่าเธอไม่ได้ป่วย หวังว่าชีพจะกลับมารักเธอเหมือนเดิม รถประสบอุบัติเหตุ ลั่นทมเสียชีวิต รสสุคนธ์รีบจัดงานศพ ต้องการเผาศพลั่นทมให้เร็วที่สุด แต่อุษากับธารินทร์ออกอุบายให้เก็บศพก่อน โดยเจาะรูให้อากาศผ่านได้ อุษาขโมยศพออกมาจากสุสานของวัด ให้ หมอผัน (อาสมเล็ก สมชาย) พ่อของธารินทร์ ซึ่งมีวิชานำสมุนไพรมาปลุกคนตายให้ฟื้นขึ้นมาได้ หมอผันทำไม่สำเร็จ ลั่นทมไม่ฟื้นขึ้นมา วิญญาณของเธอยิ่งได้พบได้เห็นถึงความทรยศที่ชีพกับรสสุคนธ์มีต่อเธอจึงเกิดความแค้นที่จะสั่งสอนให้ทั้งสองรู้สำนึก ศพของลั่นทมได้อยู่ในสุสานที่เธอสร้างขึ้น หวานและพวกจะต้องนำเครื่องเซ่นไปเซ่นศพของเธอทุกวัน ชีพกับรสสุคนธ์คัดค้านไม่เห็นด้วย ดื้อดึงที่จะเผาศพ แต่ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างระบุไว้ในพินัยกรรม หากชีพไม่ทำตาม ก็ไม่มีสิทธิ์ในกองมรดก ชีพพยายามยักยอกสมบัติเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยมีรสสุคนธ์ร่วมมือ วิญญาณของลั่นทมเจ็บปวดเป็นทวีคูณที่เห็นชีพท้าทายเธอ ในที่สุดลั่นทมก็มิอาจอยู่ในสุสานอย่างปกติสุข เธอจึงออกอาละวาดหวังสั่งสอนให้ทุกคนในบ้านเชื่อว่าเธอยังวนเวียนอยู่ในบ้าน และหวังให้ชีพกับรสสุคนธ์กลับตัวเสียใหม่ จากนั้นเธอจะไปใช้กรรมเหมือนผีทั่วไป รสสุคนธ์นำญาติมาอยู่ในบ้านของชีพ ซึ่งแต่ละคนล้วนไม่เชื่อว่าผีลั่นทมจะทำอะไรได้ ฉลอง (เอ็กซ์ ธิตินันท์) ญาติของรสสุคนธ์ถูกผีลั่นทมหลอกจนเป็นบ้า ส่วน เรวัต (เบิร์ด ธราธิป) ญาติผู้พี่ก็เสียชีวิตจากถูกลั่นทมหลอก นฤมล (แพร พรรัมภา) พี่สาวของรสสุคนธ์ ซึ่งเป็นภรรยาของเรวัตยังคงดื้อที่จะอยู่ในบ้าน เพราะหวังว่าวันที่รสสุคนธ์ได้สมบัติแล้วจะแบ่งให้เธอบ้าง ชีพท้าทายลั่นทมมอยู่บ่อย ๆ ลั่นทมบังคับให้ชีพไปที่สุสานแล้วบังคับให้นอนในโลงศพกับเธอ ทุกคนค้นหาชีพ ในที่สุดก็ได้พบว่านอนอยู่กับลั่นทมในโลงศพ ชีพกับรสสุคนธ์ตัดสินใจหนีไปอยู่ที่อื่น แต่ความจริงแล้วรสสุคนธ์จะหาหมอผีเก่ง ๆ มาปราบลั่นทมให้ได้ ลั่นทมสั่งสอนชีพกับรสสุคนธ์ให้ขับรถวนเวียนไม่ไปไหนเสียที ในที่สุดก็ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล หวานกับอุษาไปหา จรัล (เอ๋ สิทธิพันธ์) ซึ่งสนใจเรื่องวิญญาณ จนสามารถติดต่อกับวิญญาณได้ อุษาต้องการให้จรัลติดต่อกับลั่นทม ขอร้องให้ลั่นทมอย่าทำบาปเพิ่ม แต่ลั่นทมไม่ยอมมาพบ ลั่นทมหลอกชีพในโรงพยาบาล อุษาเห็นว่าวิธีเดียวที่จะทำให้วิญญาณของลั่นทมยุติความแค้นได้ก็คือจ้างรสสุคนธ์ให้ออกไปจากชีวิตของชีพ โดยให้จรัลไปเจรจาให้ รสสุคนธ์อยู่ในภาวะสิ้นไร้ไม้ตอกจึงตกลง แต่แผนเสียเพราะพี่สาวของจรัลคิดว่ารสสุคนธ์ให้ท่าจรัล หลังจากพลาดหวังสมบัติของลั่นทมมา ทั้งสองมีปากเสียงกัน รสสุคนธ์ผิดหวังจึงตัดสินใจกลับไปอยู่กับชีพที่คฤหาสน์ของลั่นทมอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ละพยศเหมือนเดิม ลั่นทมจึงสั่งสอนชีพด้วยการบังคับให้ลงไปอยู่ในโลงศพกับเธออีกครั้งโดยที่ไม่มีใครรู้ ส่วนรสสุคนธ์แอบเอาเครื่องเพชรและทองคำของลั่นทมไปขาย หวังว่าได้เงินจะหนีไป แต่ร้านทองบอกว่าเพชรทองเหล่านั้นเป็นของปลอมรสสุคนธ์ว่าถูกลั่นทมแกล้ง รสสุคนธ์ไปหาจรัลเพื่อขอเงิน จรัลช่วยแต่ไม่ยอมจัดการกับวิญญาณของลั่นทมตามที่รสสุคนธ์ขอร้อง แต่เงินที่จรัลให้มาเมื่อถึงบ้านก็พบว่าเงินเหล่านั้นกลายเป็นกระดาษ รสสุคนธ์ยิ่งแค้น อุษาเห็นชีพหายไปจึงขอให้หมอผันติดต่อกับวิญญาณของลั่นทม จึงรู้ว่าลั่นทมกักขังชีพไว้ แต่ด้วยความสงสารลั่นทมและเห็นถึงความร้ายกาจของชีพจึงไม่ยอมบอกใคร แม้จะมีคนสงสัยว่าชีพน่าจะถูกลั่นทมกักไว้ในสุสานแต่ก็หาตัวชีพไม่พบ เพราะลั่นทมพรางตัวไว้ หมอผันบอกให้ลั่นทมรู้ถึงบาปกรรม ลั่นทมรับปากว่าจะไม่ฆ่าใครอีก เพียงแต่ต้องการให้ชีพสำนึกผิด อุษาสงสัยว่าเครื่องเซ่นที่นำมาไว้หน้าโลงศพของลั่นทมหายไปทุกวัน จึงแน่ใจว่าลั่นทมกักตัวชีพไว้ จึงขอให้จรัลช่วย แต่จรัลได้รับการขอร้องจากลั่นทมอีก จึงไม่ยอมบอกใครว่าชีพอยู่ในสุสาน รสสุคนธ์สงสัยจึงไปหาหมอผีมาจัดการกับลั่นทม แต่ทั้งพระและหมอผีไม่ยอมมาจัดการลั่นทม เพราะต่างก็สำนึกในคุณความดีของลั่นทมเมื่อครั้งเธอยังมีชีวิตอยู่ จึงหันมาเล่นงานอุษากับธารินทร์ให้แยกจากกัน แต่ก็ทำไม่สำเร็จ ลั่นทมหลอกรสสุคนธ์จนแทบบ้า ชีพอ้อนวอนลั่นทมให้ปล่อยเขาไป ลั่นทมต่อรองให้เอารสสุคนธ์มาอยู่ในสุสานแทนชีพ รสสุคนธ์ไม่ยอม ชีพจึงเห็นความเห็นแก่ตัวของรสสุคนธ์ รสสุคนธ์ซมซานออกไปจากบ้านแต่ไม่ยอมละความพยายามที่จะจัดการกับลั่นทมให้ได้ จึงไปพบสัปเหร่อ ขอให้สัปเหร่อหาหมอผีเก่ง ๆ ให้โดยยอมหลับนอนกับสัปเหร่อ แต่หลังจากเสียตัวไปแล้ว สัปเหร่อกลับไม่ช่วย รสสุคนธ์เจ็บใจมาก ใส่พระเครื่องไปในสุสาน ลั่นทมกลัวอิทธิฤทธิ์ของพุทธคุณ แต่ก็ตัดสินใจกระชากสร้อยคอรสสุคนธ์จนขาด รสสุคนธ์ถูกลั่นทมบังคับให้เข้าไปอยู่ใต้โลงศพ น้ำเหลืองจากศพของลั่นทมหยอดลงใบหน้ารสสุคนธ์ จากนั้นลั่นทมก็จัดการขังรสสุคนธ์กับชีพให้อยู่ด้วยกันในโกดังเก็บศพในวัด ทั้งสองหิวโหยต่างแย่งเครื่องเซ่นโลงศพกัน ในที่สุดชีพ ก็ตัดสินใจฆ่ารสสุคนธ์จนตาย ส่วนชีพเป็นบ้า อุษาตัดสินใจเผาศพลั่นทมเพื่อยุติความแค้นทุกอย่าง ลั่นทมปรากฏตัวให้ทุกคนเห็น อวยพรและขอบใจทุกคน พร้อมยกสมบัติทุกอย่างให้แก่อุษา ติดตามชม ละครสุสานคนเป็น ได้ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.20 น. ทางช่อง 7 สี ละครสุสานคนเป็น เริ่มตอนแรกวันเสาร์ที่ 19 เมษายน 2557
เรื่องย่อ : คมพยาบาท (2557/2014) อุทัย หนุ่มสังคมรูปงาม ร่ำรวย ลูกผู้ดีเก่า เป็นหนุ่มเนื้อหอมของกรุงเทพฯ สาวๆหลายคนล้วนแต่คิดใจอยากจะได้ชื่อเป็นคนสำคัญของเขา อุทัยมีเมียอยู่แล้ว เมียซึ่งเป็นต้นห้องของมารดาเขาเองคือ เย็น อุทัยตัดสินใจแต่งงานกับ วณี ด้วยความสวยอ่อนหวานและความดีของวณี ทำให้อุทัยทั้งรักและเกรงใจ เขาทอดทิ้งและห่างเหินเย็นเหมือนคนไม่รู้จักกัน เย็นสะสมความอาฆาตแค้นชิงชังและพยาบาทไว้อย่างมากโดยไม่มีใครรู้ กระทั่งวณีท้อง คลอดลูกสาวซึ่งเป็นขวัญใจของคนทั้งบ้าน เอื้อยน่ารักน่าชังนักหนา อุทัยยังคงระแวงเย็นตลอดเวลาด้วยรู้นิสัยดี จนกระทั่งเอื้อยอายุได้ ๖ เดือน โชคก็เข้าข้างเย็น เย็นใช้ความเจ้าเล่ห์ ขโมยเอื้อยไปจนได้ ทุกคนในบ้านมีแต่ความทุกข์ทรมานใจ เหตุการณ์ผ่านไป ๑๘ ปี เย็นกลับมากรุงเทพฯ อีกครั้ง พร้อมเด็กสาว ๒ คน ซึ่งเย็นบอกว่าเป็นหลาน คือ จรรยา หรือ เปีย สวยปราดเปรียว ซน แต่โมโหร้าย ชอบโกหก ส่วน มารยาท หรือน้อย (หรือเอื้อย) เรียบร้อย อ่อนหวาน วันหนึ่ง เย็นบอกเปียว่าเปียนั้นไม่ใช่หลานของตน แต่เป็นลูกของเศรษฐีที่เธอขโมยมา เย็นเล่าความหลังให้เด็กทั้งสองฟัง เปียดีใจจนออกหน้า ขณะที่น้อยรู้สึกน้อยอกน้อยใจและอดสงสัยไม่ได้ว่า เย็นปฏิบัติต่อเธอซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหลานคนเดียวอย่างอยุติธรรมเสมอมา เปียร่ำร้องจะไปหาพ่อแม่ที่แท้จริง แต่เย็นประวิงเวลาไว้ โดยอ้างว่าส่งจดหมายไปแล้ว และรอคำตอบอยู่แล้ว และบอกว่าจะพาจรรยามาหาอีก ๒ วันข้างหน้า แต่จรรยาหรือเปียเก่งกว่านั้น เธอแอบตามเย็นมาจนพบกับอุทัยและวณีจนได้ อุทัยกับวณีพอรู้ว่าเย็นมีหลานสาวอีกคนที่โตมาคู่กับจรรยา จึงขอร้องให้เย็นพามาอยู่ด้วยกัน ท่ามกลางความไม่พอใจอย่างมากของจรรยา จรรยาเคยจุดไฟเผาบ้านนมแส ก็เพราะ นมแสรู้ว่าเธอแอบฆ่าลูกแมวของน้อย และไปบอกอุทัย ทำให้เธอถูกดุ ความผิดปกติทางจิตใจของจรรยามีมากขึ้นทุกที เธอพยายามทำให้อุทัยกับวณีเข้าใจผิดกันเสมอ ด้วยการมาบอกวณีว่า รจนา พยาบาลสาวที่มาอยู่เป็นเพื่อนเปีย และเข้ากันได้ดีกับเปียในบางครั้ง โดยเฉพาะเรื่องของประวิทย์ หลานห่างๆของวณี ที่จรรยาติดใจมาก ชอบยั่ว หลอกให้ประวิทย์พาไปดูหนัง จากนิสัยของเปียและคำบอกเล่าของเย็นที่ว่าน้อยเป็นลูกของ นายโมก กับลำยอง ซึ่งคุณหญิงจำได้ว่ามีโจรชื่อเสือโมกที่สุพรรณบุรีในช่วงเวลาที่เย็นพาเอื้อยไป อุทัยกับคุณหญิงเริ่มสงสัยว่าเย็นวางแผนซ้อนกลเรื่องของเปีย โดยที่น้อยน่าจะเป็นลูกสาวของเขากับวณีมากกว่า วันหนึ่ง เลอสรร ลูกของเพื่อนรักวณีได้ตายไปแล้ว และวณีได้เลี้ยงดูเหมือนลูกแท้ๆ ได้เดินทางกลับจากต่างประเทศ เปียเห่อเลอสรรมาก ตามติดตลอดเวลา ขณะเดียวกัน เลอสรรกลับค่อยๆให้ความสนใจกับน้อยมากกว่า จนเปียรู้สึกได้ เปียโกรธมากถึงขนาดจะพยายามฆ่าน้อย แต่ประวิทย์มาช่วยไว้ทัน จรรยานั้นทั้งหวงและหึงเลอสรรมาก แต่เลอสรรกลับสนใจน้อยมากขึ้นทุกๆวัน จนจรรยาคลั่ง วณีต้องขอร้องให้เลอสรรทำดีกับเธอ ทว่าจรรยาก็ดูจะรู้ทันว่าเขาเสแสร้ง จรรยาออกอุบายชวนทุกคนไปเที่ยวเรือ เมื่อได้โอกาส เธอผลักน้อยตกน้ำในขณะที่ไม่มีใครเห็น เย็นเป็นผู้เอะอะว่าน้อยหายไป เรือจึงวกกลับไปหาอีกครั้ง เลอสรรกระโดดลงไปช่วยน้อยอย่างลำบากเพราะเกิดพายุขึ้นพอดี ที่กรุงเทพฯ เย็นลากตัวเปียมาจัดการชำระโทษ เปียกลัวมาก เพราะเย็นขู่ว่าจะบอกความจริงทุกอย่างกับอุทัยและวณี เปียยิ่งคลั่งแค้นน้อยมากขึ้น แต่เก็บไว้ภายใต้ท่าทีที่นิ่งเฉย เปียเงียบขรึมจนทุกคนเริ่มไม่สบายใจ วันหนึ่ง เปียรู้ว่าเย็นป่วย เธอไปบอกวณี วณีรีบให้คนไปซื้อซุปมาเยี่ยมเย็น แต่ก่อนที่วณีจะนำซุปไปให้เย็น เปียแอบมาโรยยาพิษใส่ลงไปเสียก่อน แต่เลอสรรเห็นเข้าพอดี วณีถือซุปไปเยี่ยมเย็นที่เรือนพัก เย็นตักซุปกินอย่างอร่อยก่อนที่จะล้มตัวลงครวญครางด้วยพิษของยา เย็นเข้าใจว่าวณีวางยา แต่ว่าอุทัยกับเลอสรรมาถึงเรือนเย็นทันเวลาที่จะบอกว่าเปียเป็นคนทำ อุทัยพยายามจะพาเย็นไปโรงพยาบาล แต่เย็นอาการหนักเสียแล้ว ก่อนตาย เย็นยอมบอกความจริงว่าลูกของอุทัยกับวณี ก็คือน้อยนั่นเอง เลอสรรพยายามเรียกเปียซึ่งขังตัวเองอยู่ในห้องตั้งแต่หนีมาจากเรือนเย็น อุทัยตามมาช่วยเรียกอีกคน แต่เปียยังคงเงียบ อุทัยกับเลอสรรตัดสินใจพังประตู ทว่าเสียงปืนดังขึ้นเสียก่อน เมื่อทุกคนเข้าไปก็พบว่าเปียยิงตัวตายแล้ว เธอยอมรับความพ่ายแพ้ และความผิดหวังไม่ได้นั่นเอง เมื่อเหตุการณ์ร้ายผ่านไป น้อยก็ได้พบความสุขตามฐานะที่ควรจะเป็น เลอสรรหมั้นกับน้อยและแต่งงานกันในที่สุด