พิมมาลา 2554

พิมมาลา (2554/2011) "รู้จักให้...ในสิ่งที่คนอื่นอยากได้" คือคำขวัญประจำใจของ เพรียว (อธิชาติ ชุมนานนท์) ชายหนุ่มเชื้อสายจีน ลูกชาย เถ้าแก่ชั้น (เหมียว แมคอินทอช) และ นางถม (ศิรินุช เพ็ชรอุไร) เพรียวเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี เชื่อมั่นในตัวเองและทำงานเก่ง เขามีความสามารถเรื่องการดูจิตใจของคนอื่น รู้ในสิ่งที่คนอื่นต้องการและเมื่อเขาให้ในสิ่งที่คนอื่นต้องการเขาก็จะได้รับในสิ่งที่เขาอยากได้กลับคืนมาเสมอ พ่อของเขาเปิดกิจการผ้าทอ โดยมีพี่สาวสองคนคือ สายพร (อัญชิสา เลี่ยวไพโรจน์) กับ ยุพิน (สโรชา วาทิตตพันธ์) ซึ่งเป็นคนดูแลกิจการทอผ้าของครอบครัวเป็นหลักแต่พ่อแม่ไม่เคยเห็นความสำคัญ เพรียวเรียนเก่งแต่ไม่ได้เก่งแบบอัจฉริยะ เป็นเพราะเขารู้ในนิสัยของอาจารย์แต่ละคนว่าชอบอะไรแล้วทำในสิ่งที่อาจารย์ชอบ ผลก็คือผลการเรียนที่ได้รับมากกว่าคนอื่น เมื่อเรียนจบเขาได้ทำงานที่ ห้างเซนซูยา เพราะรู้จักับ ทศกร (นพชัย มัททวีวงศ์) ญาติห่าง ๆ ของ ศรสิทธิ์ (ดิลก ทองวัฒนา) และ ฟ้างาม (จินตหรา สุขพัฒน์) น้องสาวของศรสิทธิ์ เจ้าของห้างเซนซูยา โดยมี ดล (สุรินทร คารวุตม์) และ นาง (คลาวเดีย จักรพันธุ์) เป็นเพื่อนร่วมงาน ซึ่งนางนั้นเกลียดผู้หญิงสวยและแกล้งผู้หญิงสวยทุกคนที่มาทำงานด้วย สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เพรียว คบ ข่ายแก้ว (มรกต หทัยสีวงศ์) เป็นแฟนเพราะช่วยเรื่องการเรียนแต่พอเรียนจบก็ห่างกันไปเพราะเธอไปเรียนต่อต่างประเทศ ในเรื่องความรัก เพรียว มักคบผู้หญิงคราวละ 2 คน เรียกว่าคอยสับหลีก ฟ้างามพาลูกสาวคือ น้ำนวล (ชีรณัฐ ยูสานนท์) มาฝึกงานและให้เพรียวดูแล น้ำนวลมักจะฝันถึง สาวสวยแสนงามคนหนึ่ง ในฝันน้ำนวลรู้สึกคุ้นเคยกับหญิงสาวคนนี้เป็นอย่างดี เธอถามผู้หญิงคนนั้นว่าชื่ออะไรหญิงสาวตอบว่าชื่อ รัมภา น้ำนวลจำภาพรัมภาได้ชัดเจนและคิดว่ารัมภาเป็นนางฟ้า เมลานี (วรันลักษณ์ ศิระมะณีวัฒนา) ลูกสาวของ ศรศิลป์ และ มานิดา (ชนานา นุตาคม) มาฝึกงานที่แผนดประชาสัมพันธ์ เธออาละวาดจน เต็มตา (พรรษชล สุปรีย์) แฟนของเพรียวต้องกระเด็นออกไป น้ำนวลเริ่มมีใจกับเพรียว แต่เพรียวก็ได้มาพบกับ อินทุพร (วิรากรานต์ เสณีตันติกุล) สาวนักเรียนนอกจึงเริ่มสานสัมพันธ์ แถมเซนซูยามีพนักงงานใหม่คือ ดารณี (มิรา โกมลวณิช) เข้ามาเพรียวก็ผิดคำพูดตัวเอง เขาคบทั้ง เต็มตา ดารณี อินทุพร แต่แล้วเขาก้ได้เจอสาวงามคนหนึ่งเธอชื่อว่า รัมภา (ศรีริต้า เจนเซ่น) ก่อนน้ำนวลจะเรียนจบ เพรียวไปดูนิทรรศการงานวิทยานิพนธ์ของน้ำนวล ทันทีที่เพรียวเห็นภาพเขียนของน้ำนวลที่ชื่อ Angelica ความทรงจำของนางฟ้า ซึ่งน้ำนวลเขียนถึงผู้หญิงในความทรงจำ และจู่ ๆ รัมภาสาวงามก็มาปรากฏตัว เธอบอกว่าเธอชอบงานของน้ำนวล ในงานเดียวกันเพรียวได้พบกับข่ายแก้วโดยบังเอิญ ข่ายแก้วยังคงบอกว่ารักเพรียวเหมือนเดิม ในงานเลี้ยงฉลองเรียนจบของน้ำนวล เพรียวได้พบกับ เมลานี เธอดึงเขามากอดจูบกันอย่างไม่อายใคร น้ำนวลผิดหวังและเสียใจ และไปเรียนต่อต่างประเทศ และกลับมาเมืองไทยพร้อมรูปลักษณ์ที่ทันสมัยพร้อมคู่หมั้นหนุ่ม แวน จิตติวัฒน์ สักกะบุตร (รณเดช วงศ์สาโรจน์) หนุ่มหล่อไฮโซลูกชาย คนเดียวของนักการเมืองชื่อดัง ดารณีจับได้ว่าเพรียวคบอินทุพร จึงคิดจะกระโดดตึกเพรียวต้องกล่อมจนเธอใจอ่อน เพรียวถูกฟ้างามเรียกเข้าไปตักเตือน เขาจึงตัดสินใจลาออกจากเซนซูยา เพรียวได้พบกับรัมภาอีกครั้งและเธอก็ชื่อสาปเขากลายเป็นหญิงในชื่อ พิมมาลา เพื่อให้เขาได้รู้ถึงความรู้สึกของผู้หญิง และต้องทำภารกิจตามที่นางฟ้ารำภาให้ ตั้งแต่ทำให้ดารณีตาสว่างเรื่องความรัก ต่อมาคือให้ข่ายแก้วตัดอกตัดใจจากเพรียว และต้องให้อินทุพรยกโทษให้เขาให้ได้ พิมมาลาถูกชายฉกรรจ์ฉุดลากขึ้นรถตู้ไป พิมมาลารู้ทันทีว่าเป็นฝีมือของนันท์ที่ต้องการให้ชายฉกรรจ์ข่มขืนแล้วนันท์จะคลิปไว้แบล็คเมล์ แต่เธอรอดมาได้แถมยังมีหลักฐานมัดตัวนันท์อีกด้วย นอกจากนี้พิมมาลายังช่วยฟ้างามให้เลิกงมงายกับการหาประโยชน์ของ ทวิชา (ประกาศิต โบสุวรรณ) ที่ตั้งสำนักปฏิบัติธรรมหลอกลวงคนอีกด้วย จากนั้นเซนซูยาได้ต้อนรับพนักงานใหม่คือ อนุศร (เอกพงศ์ จงเกษกรณ์) ทายาทของเซนซูยาเขาหลงรักพิมาลาทันที พิมมาลาได้กลับมาเป็นเพรียวและบอกรักน้ำนวลแต่เธอไม่สามารถยกเลิกการแต่งงานกับแวนได้ เพราะแวนรักน้ำนวลมากทำให้เพรียวปวดร้าว ต่อมาน้ำนวลตั้งท้องและคลอดลูกเป็นหญิงชื่อว่า พิมมาลา ต่อมาพ่อของเขาเสียชีวิตลงและได้แบ่งสมบัติให้เพรียวมากที่สุดแต่เขาขอให้แบ่งสามคนเท่ากัน หลังจากนั้นอีกห้าปีชีวิตของทุกคนได้ดำเนินไป เพรียวได้สร้างที่พักของคนติดเชื้อ HIV ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเต็มตาด้วย เพรียวได้รับตำแหน่งเป็นรองกรรมการผู้จัดการส่วนทศกรเป็นอนุศร และเหตุการณ์ร้ายก็เกิดขึ้นเมื่อรถของอนุศรประสบอุบัติเหตุและแวนก็ได้รับบาดเจ็บด้วย แวนรู้ว่าเพรียวคิดอย่างไรกับน้ำนวล แล้วในที่สุดแวนก็เสียชีวิต น้ำนวลและเพรียวได้อยู่คู่กันตลอดไป

ทาสรัก 2554

ทาสรัก (2554/2011) ปลายสมัยรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ “เชียงน้อย” เป็นรัฐอิสระขนาดเล็กที่อยู่ระหว่างชายแดนไทยและพม่า ปกครองในระบอบกษัตริย์ มีเจ้าหลวงมหาชีวิต (สมภพ เบญจาทิกุล) ที่ชราและป่วยหนักเป็นผู้ปกครอง เจ้าหลวงมหาชีวิตกำลังรอคอย เจ้าชายตันละวินที่หายไปคราวเกิดสงครามกลางเมืองเมื่อยี่สิบปีก่อน เจ้าหญิงเอยาวดี(เข็มอัปสร สิริสุขะ) ทนดูบิดานอนหายใจรวยรินด้วยความทุกข์ไม่ไหว ตัดสินใจลอบหนีออกไปจากคุ้มหลวง เดินทางเข้ามาในประเทศไทย พร้อมกับ อองดิน(ทฤษฎี สหวงษ์) นายทหารองครักษ์ และนักรบมือฉกาจผู้เงียบขรึม พร้อมด้วย นางติ๊ด (ดารณีนุช โพริปติ) พี่เลี้ยงอารมณ์ดี ข่าวการเดินทางมาในประเทศไทยเข้ามาถึงหูคนใน “วังเขียว” ของหม่อมนวล(ธัญญา โสภณ) ซึ่งมีบุตรชายแสนรักแสนหวงเพียงคนเดียว คือ ม.จ.ดาบปราบศัตรู หรือ ท่านดาบ(กฤษดา พรเวโรจน์) หม่อมนวลให้จัดเสลี่ยงออกไปรับเจ้าหญิง และให้ออกประกาศการต้อนรับเจ้าหญิงอย่างยิ่งใหญ่ที่หัวเมือง ในฐานะเจ้าหญิงผมหอม ผู้ทรงสิริโฉมงดงาม(เกิดจากการอาบน้ำบำรุงสมุนไพรตำรับโบราณทุกวันตั้งแต่เกิด) เจ้าหญิงเอยาวดีคือคู่หมั้นของท่านดาบ ทั้งสองไม่เคยพบหน้ากัน แต่หม่อมนวลก้หวังประโยชน์มหาศาลจากเชียงน้อยจึงสนับสนุนเต็มที่ ในขณะที่ฟ้ากำหนดให้เจ้าหญิงเอยาวดี เกิดท่ามกลางเส้นทางปูด้วยกลีบกุหลาบ มีหญิงอีกผู้หญิง กำเนิดขึ้นอย่างแร้นแค้นในเรือนทาสของคุณ พระพิพิธโอสถ(ภาณุเดช วัฒนสุชาติ) อีวาด(เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ)เป็นทาสตั้งแต่วันที่ลืมตาดูโลก เพราะพ่อแม่เป็นทาสทั้งคู่ วาดเป็นเด็กฉลาด ทะเยอทะยาน สนใจใฝ่รู้ วาดยอมให้คุณโนรี(โชติกา วงศ์วิลาศ)ลูกสาวพระพิพิธตบตี ระบายอารมณ์เพียงเพราะต้องการจะแอบฟังคุณโนรีเรียนเขียนอ่าน และยอมให้พระพิพิธเตะถีบเพียงเพื่อจะได้เข้าไปช่วยงาน และหาความรู้ในห้องเก็บยาของพระพิพิธ พร้อมกับดูแลแม่คือ นางวง (ชุดาภา จันทเขตต์) ระหว่างความลำบากยากแค้นนั้น วาดใช้ความจำอันแสนวิเศษของตน จดจำตำรายาของพระพิพิธจนกลายเป็นผู้มีความสามารถด้านการแพทย์แผนโบราณอยู่เงียบๆ นางวาดถูกขายให้กับโรงโสเภณีที่มี คุณพระพาณิชย์หรือจีนฮง(ประกาศิต โบสุวรรณ)เป็นเจ้าของ จีนฮงมีอาชีพค้าทาส และเปิดโรงโสเภณีใหญ่ที่สุดอยู่ในพระนคร ทนมือทนตีน ทนเจ็บตัวนั้นทนได้ แต่ให้ทนบำเรอกามแก่ผู้ชายทั่วทั้งพระนคร เห็นทีจะไม่ไหว วาดตัดสินใจหนีเข้าป่า เอาตัวรอดไปเจอกับขบวนเสลี่ยงต้อนรับเจ้าหญิงเอยาวดีที่หัวเมือง โดนมีนายขวด(พสิน เรืองวุฒิ) สมุนเอกจอมโหดของจีนฮงวิ่งถือดาบไล่ตามไปติดๆ ข้างฝ่ายเจ้าหญิงเอยาวดีนั้นก็กำลังว้าวุ่นใจอยู่กับขบวนที่มารอต้อนรับตนอยู่หน้าเมืองเจ้าหญิงและคณะ มิปรารถนาที่จะเปิดเผยตน เพราะเกรงว่าหากเข้าไปอยู่ในวังแล้ว ความเป็นเจ้าหญิงจะทำให้ติดตามพี่ชายไม่สะดวก และกลุ่มของเจ้าหญิงเอยาวดีนั้นก็มีศัตรูติดตามอยู่เช่นกัน ศัตรูของเจ้าหญิงเอยาวดี คือทหารของ สมิงสินธู(ศานติ สันติเวชชกุล) อาแท้ๆของเจ้าหญิงที่เป็นกบฏในนครเชียงน้อย ในช่วงเวลาชุลมุนที่หัวเมืองนี่เอง อองดินพบกับวาดและได้ช่วยนางวาดสู้กับนายขวดอองดินขอให้วาดตอบแทนตน ด้วยการใส่ชุดเจ้าหญิงและขึ้นเสลี่ยง เพื่อเป็นตัวล่อกลุ่มศัตรู นางวาดทำตามเพราะเชื่อว่าตนจะหนีเข้าป่ารถข้างหน้า การณ์ไม่เป็นดังนั้น วาดหนีไม่ได้ เพราะหม่อมนวลมาพบเข้าและเข้าใจไปว่านางวาดคือเจ้าหญิงเอยาวดี เวลาเดียวกันนั้น เอยาวดีที่อยู่ในชุดของทาส หลุดออกจากการคุ้มกัน ของอองดินและนางพี่เลี้ยงถูกนายขวดจับตัวไปกับกลุ่มทาสที่ถูกซื้อมาเป็นกลุ่มใหญ่ที่กำลังจะเดินทางไปโรงโสเภณี เอยาวดีในบทบาทของนางทาสวาด เมื่ออยู่ปะปนกับนางมาสต่างๆก็ได้เรียนรู้ชีวิตอดสูของทาสหญิงทั้งหลายมากขึ้น ที่มีค่าเป็นเพียงสมบัติของพ่อหรือของผัว เอยาวดีได้เพื่อนสนิทเป็นทาสด้วยกันชื่อพี่ขาว (ชมพู่ ก่อนบ่าย) ทั้งสองมักมีเรื่องกับทาสหญิงขี้อิจฉา จอมเอาเปรียบ ชื่ออีพริ้ง(สกาวใจ พูนสวัสดิ์) เอยาวดีกำลังถูกทรมานให้รับแขกคนแรก อองดินคิดจะพาทั้งเอยาวดีและนางวาดออกไปจากเมืองหลวงเพื่อตัดปัญหาความวุ่นวายทั้งหมด แต่เอยาวดีกลับปฏิเสธ หล่อนได้เบาะแส พี่ชายแล้ว โสเภณีที่เป็นชาวเชียงน้อยชื่อ นางบาง( ปวันรัตน์ นาคสุริยะ) ที่ทำงานมาก่อนหน้า เล่าให้ฟังถึงกลุ่มแขกชาวเชียงน้อย ที่พูดถึงองค์ชายพลัดถิ่นของเขา เอยาวดีขออองดินอยู่ในโรงโสเภณีต่อไป อองดินไม่ยอม เอยาวดีจีงขอความช่วยเหลือจากสมองอันชาญฉลาดของนางวาด นางวาดจัดสมุนไพร ยาเมา ให้ผู้ชายที่มาใช้งานเอยาวดี จากนั้นก็จะให้นางบางและนางขาวทำหน้าที่นอนกับผู้ชายคนนั้นแทน ตื่นขึ้นมา ชายเหล่านั้นก็จะนึกไปว่าได้นอนกับเอยาวดีเป็นที่เรียบร้อย ด้วยวิธีนี้ เอยาวดีเชื่อว่าตนจะเอาตัวรอดไปได้ เอยาวดีและนางวาดตัดสินใจปลอมเป็นกันและกันต่อไป ทาสยังคงเป็นเจ้าหญิงและเจ้าหญิงยังคงเสี่ยงอันตรายอยู่ในโรงโสเภณีต่อไป วาดสวมบทบาทการเป็นเจ้าหญิง หม่อมนวลจอมงก เอาใจใส่ดูแลเต็มที่ ในขณะที่ ม.จ ดาบปราบศัตรู ไม่ยอมกลับบ้าน ท่านดาบอ้างเหตุราชกิจในหัวเมือง จงใจแสดงความไม่สนใจต่อเจ้าหญิงคู่หมั้น แต่แล้ว ท่านดาบกลับไปพบกับเอยาวดี คู่หมั้นตัวจริงโดยบังเอิญในคืนหนึ่ง สหายของท่านดาบเห็นว่าท่านดาบกำลังเมา จึงคิดจะกลั่นแกล้งท่านดาบปราบศัตรู ด้วยการพานางโลมที่กำลังเลื่องชื่อจากโรงโสเภณีมากำนัล เอยาวดีพบกับท่านดาบโดยไม่รู้ว่าท่านดาบเป็นใคร ท่านดาบตกหลุมรักเอยาวดีทันที แต่เอยาวดีไม่มีเวลาคิดเป็นอย่างอื่น จัดการเอาสมุนไพรยาเมาให้ท่านดาบปราบศัตรูเสวย แม้ทั้งคู่จะไม่ได้มีสัมพันธ์กัน แต่ท่านดาบก็หลงใหลเอยาวดีจนถอนตัวไม่ขึ้น แม้ว่าหม่อมนวลจะพยายามให้ใกล้ชิดกับเจ้าหญิงองค์ปลอมในวัง แต่ท่านดาบก็ไม่สนใจ นายก้าน(เบญจพล เชยอรุณ) ทาสยังรับใช้ใกล้ชิดจอมกะล่อนของท่านดาบ รู้ดีว่าหัวใจของท่านดาบนั้นอยู่ที่ใคร คุณหลวงอรรถ(วิศรุต วิจิตรานนท์) ข้าราชการฉ้อฉล ที่กำลังทรงอิทธิพล เคยมาเที่ยวที่โรงโสเภณี และคิดไปว่าตนได้นอนกับเอยาวดี หลวงอรรถหลงใหลเอยาวดี ทุ่มเงินขอซื้อเอยาวดีจากจีนฮง แต่จีนฮงปฏิเสธ หลวงอรรถจึงจัดสินใจดักฉุดเอยาวดี เดชะบุญที่ท่านดาบมาพบเข้าและช่วยได้ เอยาวดีจึงตัดสินใจหนีไปกบดานในชุมชนของชาวเชียงน้อย ท่านดาบรับรู้เรื่องราวดังกล่าวก็ทำใจทอดทิ้งเอยาวดีไม่ได้ จำใจเป็นผู้พาเอยาวดี เดินทางขี่ม้าเข้าไปในชุมชนของชาวเชียงน้อยด้วยตนเอง อองดินว้าวุ่นใจนัก แม้จะรู้ว่าเอยาวดีปลอดภัย อองดินหลงรักเจ้าหญิงเอยาวดีฉันท์ชู้สาวมาตั้งแต่เด็ก การรับรู้ว่าเอยาวดีรอนแรมสองต่อสองเข้าไปในป่าพร้อมชายอีกคนนั้นทำให้หัวใจอองดินเจ็บปวด นางวาดเองก็เศร้าสร้อยไม่ต่างกับอองดิน หลายวันมานี้นางวาดเริ่มใฝ่ฝันว่าเมื่อตนกับท่านชายดาบผูกสมัครรักใคร่กัน ในวันที่ความจริงถูกเปิดเผย เมื่อได้เป็นเมียเจ้า ตนก็จะปลอดภัยแถมยังพ้นจากสถานะของความเป็นทาส หลวงอรรถเมื่อรู้ว่าเอยาวดีหายไป ภายใต้การปกป้องของท่านดาบไม้เบื่อไม้เมากับตนก็ยิ่งโมโหมากขึ้น เขาพากลุ่มนักเลงออกติดตามท่านดาบไปตามทาง ชีวิตของเจ้าหญิงเอยาวดีและนางทาสวาดซึ่งสลับตัวกันผจญชีวิตและเรื่องราวความรักของสองคู่จะลงเอยอย่างไรก็ต้องติดตามชมใน “ทาสรัก”

ดอกส้มสีทอง 2554

ดอกส้มสีทอง (2554/2011) เรยา วงศ์เศวต(อารยา เอ ฮาร์เก็ต) สาวหน้าตาคมเข้ม หน้าตาออกไปทางแขกมากกว่าไทย เธอเกลียดการเรียนหนังสือตั้งแต่เด็ก วันนี้เธอมาสมัครเป็นแอร์โฮสเตส บริษัทสยามทรานเนชั่นแอร์เวย์ และเข้ารับการสัมภาษณ์โดย สินธร (วรวุฒิ นิยมทรัพย์) ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายบุคคล สินธรคือคนที่เรยาใฝ่ฝัน เขามีเวลาในการสานสัมพันธ์กับเรยาไม่มากนักเพราะต้องกลับบ้านตรงเวลาที่ เด่นจันทร์(อภิษฎา เครือคงคา) ภรรยาของเขาเป็นผู้กำหนด เด่นจันทร์ ชลธี เป็นลูกสาวคนเดียวของ นายเดช ชลธี คหบดีผู้มั่งคั่งและร่ำรวยอิทธิพลแห่งเมืองชลบุรี เขาพบกันเมื่อตอนไปเรียนที่อังกฤษ เวลาผ่านไปสองเดือนเธอยืนกรานที่จะแต่งงานโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น คฤหาสน์เก่าของ ท่านเจ้าสัวเชงสือเกียง(ฉัตรชัย เปล่งพานิช) คือสถานที่เกิดของเรยา มารดาของเธอชื่อ ลำยอง ( ปวีณา ชารีฟสกุล ) ลำยองถูกนำมาฝากให้ ยายพุ่ม (อัญชลี ไชยศิริ ) เลี้ยงดู โดยให้เป็นลูกมือช่วยทำอาหารในครัว ลำยองเป็นเด็กสาวสวยกิริยาเรียบร้อย ยามว่างเธอขึ้นไปรับใช้คุณนายทั้ง 4 ของเจ้าสัว คนแรก เม่งฮวย ( จริยา แอนโฟเน ) คุณนายใหญ่จากเมืองจีน เยนหลิง ( รินลณี ศรีเพ็ญ ) คุณนายที่ 2 หลานสาวท่านทูต เหม่เกว่ หรือโรส ( ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ ) คุณนายที่ 3 อดีตนางเอกคณะอุปรากรจีน คำแก้ว ( วนิดา เติมธนาภรณ์ ) คุณนายคนที่ 4 เป็นชาวเหนือ มีกิริยาอ่อนโยน เรียบร้อย เยนหลิงถูกใจลำยองจึงเอ่ยปากขอลำยองเป็นเด็กรับใช้ประจำตัว นางพุ่มจึงหาอุบายทำให้ลำยองกลับมาเป็นผู้ช่วยในครัวเหมือนเดิม วันหนึ่งลำยองได้พบกับ บังดุล หรือ นายอดุลย์ แขกยามของ คุณหลวงเจริญนิติเวช ชาวอังกฤษ ลำยองรักกับบังดุลในที่สุด เมื่อความรักสุกงอมฝ่ายหญิงได้ตั้งท้องขึ้น บังดุลให้คำมั่นสัญญาว่าจะมาสู่ขออย่างแน่นอน แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดโจรขึ้นขโมยของในตึกนายฝรั่ง นายอดุลย์ถูกแทงตาย ลำยองหัวใจแทบแตกสลาย นางพุ่มจึงขอความช่วยเหลือจากเยนหลิง เพราะเป็นคนเดียวที่ช่วยได้ วันคืนผ่านไปลำยองคลอดบุตรหน้าตาเหมือนแขก ทุกคนจึงเรียกเธอว่าแขก เรยามักเรียกแทนตัวเองว่าฟ้า เพราะใฝ่ฝันจะเป็นนางฟ้าได้ซักวัน ด้วยความกำพร้าทำให้ลำยองเลี้ยงบุตรด้วยความตามใจ บรรดาบุตรสาวและบุตรชายของท่านเจ้าสัว คือ คุณกองแก้ว (ด.ญ. นันท์นภัส เลิศนามเชิดสกุล) และ คุณกรรณิการ์ (ด.ญ. กัญปภัส ฤดีขจรไชย) บุตรสาวของเยนหลิง คุณเกียรติกร(หลุยส์ สก๊อตต์) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของโรส ทุกคนรุมล้อเลียนเรยาว่าเป็นลูกแขก ด้วยความโกรธเรยาจึงตอบโต้ด้วยความรุนแรงและหยาบคาย ทุกครั้งเรยาจะเอาตัวรอดได้เสมอ แต่วันนี้โชคไม่เข้าข้าง เมื่อเยนหลิงเห็นเหตุการณ์พอดีทำให้เรยาโดนตีเจ็บแค้นและเจ็บปวด หลังจากนั้นมามารดาของเธอเรียกเธอว่าฟ้าโดยไม่เรียกแขกอีกเลย ทุกคนต่างตกใจมากที่เจ้าสัวพาคุณนายแหม่ม ซิลเวีย(เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์) ทำให้เกิดความริษยาในหมู่ภรรยาอีกครั้งการศัลยกรรมของเจ้าสัวทำให้ดูดีแต่รูปลักษณ์ภายนอกแต่ภายในยังเป็นชายวัย 60 ปีดังเดิม คุณนายแหม่มชวนไปสังสรรค์ทุกคืนจึงทำให้เจ้าสัวล้มป่วยในเวลาต่อมา เยนหลิงคิดกลอุบายทำไสยศาสตร์จึงสั่งให้ลำยองไปกาญจนบุรีเพื่อให้นำอาคมมาทำลายซิลเวีย ลำยองก็ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร เธอสำนึกในบาปบุญจึงไปพึ่งใบบุญเก่าของสามีด้วยการเข้าไปหานายฝรั่งซึ่งเป็นเจ้านายของบัลดุลเพื่อขอความช่วยเหลือ นายฝรั่งจึงได้ฝากงานให้ลำยอง วันที่ต้องเดินทางไปกาญจนบุรีจึงเป็นวันที่ลำยองพาบุตรสาวออกจากคฤหาสน์นี้อย่างไม่หวนหลับมา เรยาและสินธรลักลอบคบกันอยู่บ่อยครั้งแต่ครั้งนี้โชคไม่เข้าข้าง เมื่อเพื่อนของเด่นจันทร์พบเธอและสินธรที่นิวซีแลนด์จึงทำให้เด่นจันทร์ยื่นคำขาดกับสินธรให้ยุติความสัมพันธ์กับเรยา สินธรยื่นทรัพย์สินให้เรยาเป็นจำนวนมากพร้อมทั้งตำแหน่งงานใหม่ในสายการบินชื่อดังแห่งหนึ่ง เธอย้ายจากคอนโดมาอยู่บ้านกับลำยองโดยที่ลำยองไม่รู้เลยว่าความจริงเป็นเช่นไร ก้องเกียรติ เจนพานิชย์สกุล( วิทยา วสุไกรไพศาล ) ลูกชายคนโตของเจ้าสัว เชงสือเกียง เดินทางเพื่อมาเจรจาธุรกิจที่นิวซีแลนด์ ก่อนบินกลับยุโรปไปรับ ณฤดี ( มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล ) บุตรสาวอัครราชทูตผู้เป็นภรรยาก่อนกลับเมืองไทย เรยาหมายมั่นปั้นมือไว้แล้วว่าจะทำทุกสิ่งให้คุณชายใหญ่แห่งตระกูลเจ้าสัวทิ้งหัวใจไว้ที่นิวซีแลนด์ให้ได้ เรยายื่นข้อเสนอให้ก้องเกียรติเป็นผู้เลี้ยงดูเช่นเดียวกับสินธร ก้องเกียรติก็ยอมรับโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า เมื่อเจ้าสัวล้มป่วยลง เจ้าสัวต้องการให้ ไทรรัตน์ ( โชคชัย บุญวรเมธี ) เป็นคู่ชีวิตของกรองกาญจน์(ณิชชาพัณณ์ ชุณหะวงศ์วสุ) บุตรสาวแต่กรองกาญจน์ชอบใช้ชีวิตโสดและสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยเท่านั้น ท่านเจ้าสัวมักเก็บตัวอยู่ในห้องกุหลาบซึ่งเป็นห้องของโรส คุณนายที่สามผู้ล่วงลับไปแล้ว ซิลเวียเริ่มเบื่อชีวิตในคฤหาสน์แดงที่มีแต่การชิงดีชิงเด่นกัน คนเดียวที่เธอสนใจคือคุณนายที่สี่ อรุณรุ่งเช้าวันหนึ่งท่านเจ้าสัวตื่นขึ้นแต่คว้าหาร่างคุณนายแหม่มไม่เจอ ด้วยอารมณ์หึงหวงที่เกิดขึ้นเองเพราะคิดไปเองว่าคุณนายแหม่มลอบลงไปหาชู้อย่างแน่นอน อารมณ์ร้อนรุ่มอยู่ข้างในทำให้นอนไม่หลับ มีอาการแน่นหน้าอก ประมาณยามสี่เสียงเพลงทำนองหวานเศร้าสร้อยดังกังวานขึ้นท่านลุกนั่ง แม้มีสติเพียงเล็กน้อย ภาพซิลเวียที่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกับไทรรัตน์ในบึงน้ำ ยังคงล่องลอยหลอกหลอนอยู่ตลอด ความหวังของเรยาเป็นจริง เมื่อเธอได้คลอดลูกชายเป็นผู้สืบสกุลคนแรกของตระกูลเรยาขอให้ก้องเกียรติหย่าขาดกับณฤดีแต่ก้องเกียรติรู้สึกไม่รักเรยาแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจกลับไทย เรยาร้องไห้ฟูมฟายแต่แล้วก็กลับเป็นแบบเดิม เรยาได้พบ ซี.เค. จิตแพทย์หนุ่มรูปงาม เธอพยายามสานสัมพันธ์แต่เขาได้รักษาระยะห่างเอาไว้ จึงทำให้เรยารู้สึกถึงความเป็นสุภาพบุรุษของ ซี.เค. เรยาจึงกลับเมืองไทยและตัดสินใจยกลูกให้ณฤดี ซี.เค.กลับมาเมืองไทยเพื่อรักษาคำแก้วโดยไม่ได้บอกเรยา เมื่อเรยากลับไปนิวซีแลนด์เธอรู้ว่า ซี.เค. กลับเมืองไทยไปแล้ว เธอจึงตัดสินใจตามหา จนมาพบที่อยู่ของเขาจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ทำให้คฤหาสน์แดงมีโอกาสต้อนรับเรยาอีกครั้ง และเรยาก็ได้รู้ว่า ซี.เค. คือ คุณชายเล็กหรือก้องเกียรติ แห่งตระกูลเชงนั้นเอง ก้องเกียรติคิดว่าเรยาเป็นเพียงนางฟ้าสวยแต่รูป และเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าเธอจะโตทันเป็นภรรยาน้อยของพี่ชายของเขาเอง เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร เธอและเขาจะได้ครองรักกันและก้องเกียรติจะทิ้งทิฐิที่เคยมีต่อเรยาหรือไม่ ติดตามชม ดอกส้มสีทอง

รหัสทรชน 2554

รหัสทรชน (2554/2011) ศตายุ (สันติสุข พรหมศิริ) เป็นลูกน้องคนสนิทของ พตท.ปฐวี (ทูน หิรัญทรัพย์) และถูกปฐวีสั่งฆ่า แต่ศตายุไม่ตาย ศตายุเก็บความแค้นไว้และรอวันที่ปฐวีได้ลูกสาวคนแรก ศตายุก็มาลักพาตัวลูกสาวของปฐวีไป ทางโรงพยาบาลกลัวความผิดจึงแอบสลับเอาลูกสาวของนายสันต์ซึ่งเป็นชาวไร่มาให้ ทำให้ปฐวีเข้าใจว่าเนติยาคือลูกสาวที่แท้จริง ศตายุเอาลูกสาวปฐวีไปเลี้ยงและตั้งชื่อเธอว่า มัสยา (อารยา เอฮาร์เก็ต) ศตายุสอนวิชาโจรและการต่อสู้ทุกรูปแบบให้มัสยาเพื่อรอเวลาให้เธอกลับไปฆ่า พ่อของตัวเอง ศตายุตั้งตัวเป็นหัวหน้าโจรใช้ชื่อว่าองค์กรสมิงสา สมิงสาลักพาตัวเด็กกำพร้ามาเลี้ยงจำนวนมากและสั่งสอนให้เป็นโจรคอยออกปล้น ให้กับองค์กร ติดตามต่อได้ใน รหัสทรชน

รักปาฏิหาริย์ 2554

รักปาฏิหาริย์ (2554/2011) คืนนั้น ณิชมน ชุติมันต์ ได้พบกับชายคนหนึ่งที่แม้เธอพยายามจะมองเขาแต่กลับเห็นหน้าไม่ชัด อาจเป็นเพราะหมอกที่หนาจัดในฤดูหนาวตอนกลางคืน ยามที่ณิชมนกำลังตกต่ำสุดๆแบบนี้ การได้กำลังใจจากใครสักคนมันทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น แต่การขอแต่งงานหลังจากคำให้กำลังใจทำให้ณิชมนต้องคิดหนัก เพราะถึงแม้เขาจะดูหน้าตาดีและการันตีด้วยทรัพย์สินเงินทองจนถือได้ว่าเป็นชายในฝันที่เธอรอคอยมาตลอด แต่เธอจะตกปากรับคำขอแต่งงานจากคนที่เธอไม่รู้แม้แต่ชื่อมันจะเป็นไปได้อย่างไร

ขณะกำลังครุ่นคิดอย่างหนักนั้น ร่างของณิชมนก็เซไปเหมือนมีใครมาศอกเข้าที่ไหล่อย่างแรง ณิชมนตื่นขึ้นและพบว่าเธอฝันไป และศอกที่ว่าก็มาจากฝรั่งร่างใหญ่ที่นอนกินที่บนเครื่องชั้นประหยัดของเที่ยวบินจากอังกฤษสู่ประเทศไทย ก้าวแรกที่สนามบินสุวรรณภูมิ ณิชมนรู้สึกว่าประเทศไทยที่เธอจากมากว่าสิบปีเปลี่ยนแปลงไปมาก เธอหวังว่าญาติที่พ่อเธอสั่งให้มาตามหาก่อนเขาตาย คงจะยินดีต้อนรับเธอและอภัยในสิ่งที่พ่อและแม่ของเธอเคยทำผิดไว้ ขณะที่ณิชมนลากกระเป๋าใบใหญ่และเป้เก่า ๆ มาที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะ เธอก็ถูกรถเข็นของชายชาวต่างชาติชนเข้าโครมใหญ่ ชายคนนั้นเข้ามาขอโทษขอโพยและช่วยพยุ่งเธอลุกขึ้น ณิชมนคิดว่าเธอไม่เป็นอะไรมากจึงให้อภัยเขา ชายคนนั้นจึงเข็นรถจากไป แต่ภารกิจของณิชมนก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเธอพยายามค้นหากระเป๋าสตางค์ในเป้ แต่พบว่าเป้ถูกรีดขาดไปแล้ว ทั้งเงิน พาสปอร์ต เอกสารสำคัญพร้อมใจกันหายไปหมด ที่สำคัญเบอร์โทรศัพท์ตามหาญาติในเมืองไทย ซึ่งก็คือ นวลแข สุธาสิน ผู้เป็นยาย และ นันทนา คุณป้าแท้ ๆ ของเธอก็หายไปด้วย ที่อยู่กับตัวของเธอตอนนี้ก็คือ บัตรนักศึกษาและเงินไทยที่เพิ่งแลกมาแต่ก็แค่พันกว่าบาท ณิชมนแทบกรี๊ดกับชะตาชีวิตที่ตกต่ำแล้วตกต่ำอีกของตัวเอง แต่ไม่เป็นไร พ่อบอกแล้วลมหายใจยังมีก็ต้องใช้มันประคองร่างกายสู้ต่อ หลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือแบบช่วยอะไรไม่ได้ของเจ้าหน้าที่สนามบิน เพราะกล้องวงจรปิดไม่อาจจับคนร้ายที่ฉลาดพอจะพรางตัวหายไปในฝูงทัวร์กลุ่มใหญ่แล้วถอดเครื่องอำพรางตัวออก แต่ณิชมนยังไม่หมดหวังเพราะอย่างน้อยเธอก็รู้ว่าญาติของเธออยู่ที่ อำเภอเทพสุธาในจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ แต่หลังจากที่จ่ายค่าแท๊กซี่จากสนามบินมาถึงท่ารถ ณิชมนก็มีเงินเหลือไม่พอจะเดินทางไปถึงเทพสุธา เธอจึงซื้อตั๋วที่ไปได้แค่ครึ่งทางแล้วค่อยไปหามุขมั่วนิ่มไปลงที่ปลายทางแล้วกัน แต่แผนแกล้งนอนหลับบนรถก็ไม่ได้ผล เมื่อตั๋วของเธอหมดระยะและดันมีคนซื้อตั๋วที่นั่งของเธอต่อ ณิชมนถูกเด็กรถไล่ลงกลางทางในขณะที่พายุฝนโหมกระหน่ำ ณิชมนนั่งเศร้าอยู่ที่ศาลาริมทางของท่ารถเล็ก ๆ ยามนี้เธอเริ่มท้อแท้เป็นอย่างมาก เพราะถ้าที่นี่เป็นอังกฤษหรือประเทศไหนสักแห่งในยุโรป เธอคงยังจะพอเอาตัวรอดได้ แต่ประเทศไทยที่เธอจากไปตั้งแต่วัยไม่ถึงสิบขวบ เธอควรจะทำยังไงดี คิดแล้วก็ขอตายตามพ่อกับแม่ไปเลยดีกว่า ณิชมนตัดสินใจเดินฝ่าฝนออกไปยืนกลางถนน หวังจะให้รถที่วิ่งมาด้วยความเร็วพาร่างของเธอไปสวรรค์หรือนรกตามแต่ฟ้าจะลิขิต และเป็นจริงสมใจ ไฟหน้ารถกระบะคันหนึ่งพุ่งตรงมาหาเธอ ณิชมนยืนหลับตารอรับความตายท่ามกลางเสียงเบรกดังอย่างแรง ณิชมนลืมตาขึ้นเพราะคิดว่าเธอคงตายแล้ว ที่ไหนได้ตรงหน้าเธอเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา แต่สายตาของเขาโมโหอย่างรุนแรง ชายหนุ่มเปิดฉากต่อว่าณิชมนเสีย ๆ หาย ๆ เพราะชีวิตของเขาก็ต้องพังหากต้องกลายเป็นฆาตกร ณิชมนเองพอเถียงสู้ไม่ได้ก็หัวหมอบอกให้เขาชดใช้เงินค่าที่ทำเธอตกใจ ทั้งสองเถียงกันท่ามกลางสายฝน สุดท้ายชายหนุ่มจะลากณิชมนส่งตำรวจเพราะสงสัยว่าจะเป็นพวก 18 มงกุฎ ณิชมนจึงยอมรามือด้วยความเจ็บใจปล่อยให้ชายหนุ่มออกรถไป ระหว่างที่เธอกำลังเซ็งอยู่นั้น ก็มีรถกระบะอีกคันแล่นมาจอด ชายวัยกลางคนที่เป็นคนขับวิ่งฝ่าฝนลงมาหาเธอแล้วถามว่าเธอคือ ประนอม บุญเสริม ใช่ไหม เขาขอโทษที่มารับช้าเพราะติดฝนอยู่ในไร่ และรีบขยั้นขยอให้ณิชมนรีบไปเพราะคุณผู้หญิงรออยู่ ณิชมนคิดว่าในช่วงวิกฤติอย่างนี้เธอขอที่พักที่กินสักคืน แล้ววันพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน ที่ห้องรับแขกของบ้านในไร่ สรณาลัย ณิชมนได้พบกับ พรรณอร นวพรรษ ประมุขของบ้าน พรรณอรรู้สึกแปลกใจมากที่ ประนอม บุญเสิรม ที่ส่งจดหมายมาสมัครบอกจบ ม.6 อายุ 25 ปี แต่คนที่เธอเห็นไม่น่าจะเกิน 20 ปี ณิชมนจึงโกหกไปว่าอายุเธอถึงแล้วแต่หน้าดูเด็กเอง เมื่อพรรณอรของดูหลักฐาน ณิชมนจึงเพียงแต่ให้ดูว่าเป้ถูกกรีดขาดและทุกอย่างหายหมด พรรณอร ลองเชื่อใจณิชมนดูเพราะเวลานี้เธอต้องดูแลธุรกิจหลายอย่างในไร่ทำให้ไม่มีเวลาดูแลบ้าน หลังจากนั้น พรรณอรก็แนะนำสมาชิกในบ้านประกอบด้วย พรพรรณ ทัศนายุ น้องสาวของเธอที่ไม่ได้แต่งงานและมีหน้าที่เป็นผู้ช่วยของพรรณอร ม.ล.พิมพ์นฤมล นวพรรษ หรือ นมล ลูกสาวคนโตวัย 18 ปี ที่สวย เก่ง แต่ไม่อยากเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ จึงเลือกเรียนมหาวิทยาลัยเพื่อจะได้อยู่ที่ไร่ ม.ล.พันธ์นฤสรร์ หรือ พันสร ลูกชายคนเล็กวัย 5 ขวบที่กำลังเข้าเรียนประถมหนึ่ง ชัยวัฒน์ ครูหนุ่มที่มาคอยดูแลพันสร รวมถึงบริวารทั้งลุงดำเกิง คนขับรถแลคนสวน ป้ารำไพแม่ครัว กันยา สายใจ สองสาวใช้คู่ซี้ และด.ช.สมเจตน์ น้องของสายใจที่พรรณอรส่งให้เรียน ณิชมนได้รู้ว่าสาเหตุที่พรรณอรต้องการแม่บ้านก็เพราะหลังจากที่ ม.ร.ว.นฤสรณ์ สามีของเธอเสียชีวิตลง งานทุกอย่างก็ตกมาอยู่ที่พรรณอร แม้จะตามน้องสาวคือพรพรรณมาช่วย แต่เธอก็ยังไม่มีเวลาดูแลบ้านและลูก ๆ เท่าไหร่ ทำให้ต้องลงประกาศทางอินเตอร์เน็ท แต่ไม่มีใครสมัครมาคงมีแต่ประนอม บุญเสริมคนเดียว ณิชมนพอรู้เรื่องราวก็คิดได้ว่าประนอมคงจะสละงานนี้แล้ว และเธอก็กำลังต้องการงานและเงิน อีกทั้งจะได้สืบหาญาติของเธอด้วย จึงคิดจะสวมรอยไปสักพัก เย็นวันนั้น นมล อาสาพาณิชมนขี่ม้าชมไร่ จนมาถึงท้ายไร่ณิชมนออกอุบายทำเป็นเหนื่อยและให้ณิชมนเดินเล่น เมื่อสบโอกาส นมล ก็แอบเดินแยกไป ณิชมนเดินไปเรื่อย ๆ ก็เกิดหลงทาง ยิ่งตามก็ยิ่งไม่เจอ จนเธอเดินไปพบน้ำตกแสนสวย ใจคิดจะนั่งเล่นสักพัก แต่ยังไม่ทันจะก้าวขาเดินเธอก็พบงูเห่าตัวหนึ่ง ณิชมนคิดจะค่อย ๆ ถอยหนีแต่เกิดพลาดเสียหลักล้ม งูจึงเลื้อยเข้ามาระหว่างนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้นแล้วเจ้างูโชคร้ายก็ตายสนิท ณิชมน หันไปก็เจอชายหนุ่มที่พบกันครั้งอยู่ศาลา เธออยากจะขอบคุณแต่ชายหนุ่มกลับต่อว่าและหาว่าเธอบุกรุก ณิชมนจึงเปลี่ยนใจเป็นต่อว่า ๆ เขาใจร้ายฆ่าสัตว์ที่อาจจะไม่ทำร้ายเธอก็ได้ ทั้งสองเถียงกันเพราะณิชมนเข้าใจว่าเขาเป็นคนงาน จึงบอกจะฟ้องพรรณอร ชายหนุ่มพอได้ยินก็ยิ่งโกรธและไล่ณิชมน ณิชมนไม่ไปเพราะถือว่าอยู่ในไร่ของเจ้านาย เถียงกันไปมาจน นมลวิ่งหน้าตื่นมาพร้อมกับ ม.ล.รวิภาส บุริศร์ หรือ ภาส สองหนุ่มสาวตกใจมากที่เจอกับ คุณชายบุรธัช หรือ ม.ร.ว.บุรธัช บุริศร์ คุณชายธัชไม่พอใจมากจึงลากตัวภาสกลับไป นมล บอกให้ณิชมนรู้ว่าชายทั้งสองคือคุณชายธัชมีศักดิ์เป็น อาแท้ ๆ ของ ภาส ซึ่งภาสเป็นรุ่นพี่ของเธอที่โรงเรียนเก่า ณิชมนเห็นอาการของนมลเล่าด้วยความเศร้าก็รู้ทันทีว่าหนุ่มสาวสองคนรักกัน แต่เมื่อถาม นมล ก็ไม่ยอมรับ แต่ที่ณิชมนไม่เข้าใจก็คือทำไม นมล ปล่อยให้คนอื่นมาวางก้ามในไร่ นมล บอกว่าณิชมนกับเธอต่างหากที่บุกรุก เพราะณิชมนหลุดเข้ามาตรงช่วงที่ ภาศกับนมลแอบตัดรั้วลวดหนามไว้นั่นเอง นมล เล่าอีกว่า เมื่อก่อนสองบ้านก็เป็นเพื่อนกัน เพราะพ่อของเธอและพี่ชายกับพี่สะใภ้ของ คุณชายธัช ซึ่งก็คือพ่อกับแม่ของภาสเคยเป็นเพื่อนรักกัน เพราะเป็นคนชวนกันมาซื้อไร่ที่นี่ แต่วันหนึ่งที่พ่อของเธอและพ่อแม่ของภาสต้องไปเจรจาธุรกิจในตัวจังหวัด ขากลับปรากฎว่าพ่อแม่ของภาสรถคว่ำเสียชีวิต คุณชายธัชต้องถูกเรียกตัวกลับมาจากเมืองนอก และแถมว่าไร่ของภาสก็จะถูกยึดคุณชายธัชจึงต้องมาช่วยแก้ไขสถานการณ์และรับซื้อไร่คืนจากนายทุน ถัดมาอีกสองปีพ่อของเธอก็เสียด้วยโรคมะเร็ง พรรณอรต้องดูแลกิจการเอง ซึ่งกลับโตวันโตคืน ธุรกิจหลายอย่างที่พ่อแม่ของภาสเคยชวนลงทุนกลับมาอยู่ในมือพรรณอร ทั้งโรงสี โรงน้ำแข็ง โรงบ่มยา ฟาร์มแกะ ตั้งแต่นั้นคุณชายธัชก็ไม่ชอบครอบครัวเธอ เพราะคิดว่าพ่อของเธอทำให้พี่ของคุณชายเสียและฮุบกิจการไป ไม่ว่าครอบครัวเธอจะพยายามผูกมิตรอย่างไรตั้งแต่สมัยพ่อเธอยังมีชีวิตจนพ่อเธอไม่อยู่ คุณชายก็ไม่เคยญาติดีด้วย ณิชมนพอได้ฟังเรื่องราวจบก็คิดทันทีว่าคุณชายบุรธัชเป็นคนที่เย่อหยิ่ง ทิฐิและใจแคบจนไม่น่าคบ นมล ขอร้องณิชมนไม่ให้บอกเรื่องกับแม่ของเธอ เพราะไม่อยากให้แม่เสียใจ วันรุ่งขึ้น ณิชมน ต้องเข้าไปซื้อกับข้าวและของใช้ในบ้านที่ตลาดในเมือง นมล ขอตามไปด้วยณิชมนก็ไม่ว่าอะไร แต่เมื่อไปถึงตลาดก็ได้เจอ ภาส รออยู่ณิชมนหลังจากได้คุยกับภาสก็คิดว่าน่าไว้ใจได้จึงปล่อยให้ทั้งสองนั่งคุยกันที่ร้านกาแฟระหว่างเธอไปซื้อของ เมื่อกลับมาก็พบว่า คุณชายธัชกับสาวสวยคนหนึ่งได้แอบตามภาสมา คุณชายไม่พอใจที่เด็กทั้งสองไม่เชื่อคำสั่ง ณิชมนเห็นว่าคุณชายนั่นแหล่ะที่พูดไม่รู้เรื่อง ไม่ควรจะห้ามเด็กทั้งสองคบกันเพียงเพราะโมหะที่ขาดเหตุผลของผู้ใหญ่ คุณชายธัชจึงพูดจาดูถูกณิชมนว่าเป็นเรื่องของเจ้านาย ลูกจ้างอย่างเธอไม่เกี่ยว ณิชมนสวนกลับเรื่องสิทธิมนุษยชนจนคุณชายอึ้งว่าคนใช้ทำไมคิดเรื่องแบบนี้ได้ ณิชมนจึงรีบหุบปากทันที เมื่อคุณชายและภาสกลับไปแล้วณิชมนจึงได้รู้ว่าสาวสวยที่มากับคุณชายชื่อ วนิดา น่าจะเป็นแฟนคุณชายเพราะทุกคนก็เพิ่งรู้จักได้ไม่กี่ครั้ง ณิชมนยิ่งเห็นความเป็นเผด็จการของคุณชายเพราะทีตัวเองมีแฟนได้ แต่กับหลานบังคับควบคุมทุกอย่าง ณิชมนจึงได้แต่ปลอบนมล ว่าถ้ามีโอกาสเธอจะช่วยนมลอย่างแน่นอนทำให้นมลรู้สึกดีขึ้น ทางด้านคุณชายกับภาสหลังจากที่ส่งวนิดาแล้วคุณชายกับภาสก็มีปากเสียงกัน เพราะคุณขู่ว่าถ้าภาสยังดื้อกับเขาอีกเขาจะส่งภาสไปอยู่เมืองนอก ภาสโมโหจึงทวงมรดกที่พ่อกับแม่เขาเตรียมไว้ให้และคิดว่าคุณชายธัชคิดจะฮุบ แต่คุณชายธัชยังไม่ให้ ภาสจึงประกาศว่าเขารัก นมล เขาจะหาทางคบกับ นมลให้ได้ ทำให้คุณชายธัชยิ่งกลุ้มใจ คุณชายธัชตัดสินใจบุกไปหาพรรณอรที่ไร่ ณิชมนกับนมลแอบฟังทั้งสองคุยกันแล้วรู้สึกสงสารพรรณอรที่ถูกคุณชายพูดจาหมิ่นเกียรติต่าง ๆ นานา คุณชายขอให้พรรณอรเลิกความคิดที่จะส่งลูกสาวมาจับหลานชายของเขาโดยใช้ณิชมนมาบังหน้า เพราะสิ่งที่พรรณอรโกงพ่อแม่ของภาสไปก็มากเพียงพอแล้ว พรรณเสียใจที่คุณชายไม่ยอมเข้าใจเธอจึงรับปากว่าจะไม่ให้ นมล ยุ่งกับ ภาสอีก เมื่อคุณชายกลับไปพรรณอรจึงเรียกณิชมนและนมลไปพบ ณิชมนถูกสั่งห้ามยุ่งเรื่องนี้อีก ส่วน นมล ถูกสั่งห้ามพบกับภาส ส่วนภาสติดต่อกับนมลไม่ได้ เขาจึงใช้วิธีขอความช่วยเหลือจากณิชมน ณิชมนพอได้คุยกับภาสแล้วเธอก็ได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วภาสรักนมลมากอย่างจริงใจมาตั้งแต่สมัยเรียน และเมื่อเขาสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ ได้ก่อน แต่ นมล เลือกที่จะอยู่ที่ไร่เป็นเพื่อนแม่กับน้าที่เป็นผู้หญิง ภาสจึงลาออกและกลับมาอยู่ที่ไร่ ทำให้คุณชายยิ่งโทษว่านมลจะทำให้หลานชายคนเดียวเสียอนาคต และตอนนี้ภาสตัดสินใจแล้วว่าเขาจะพานมลหนีไปอยู่ด้วยกัน ณิชมนรีบค้านทันทีเพราะการแก้ปัญหาของภาสมีแต่จะทำให้ทุกอย่างแย่ลง ทางด้านพรรณอรกับพรพรรณก็กลุ้มใจกับเรื่องที่ได้รู้ว่า นมล กับ ภาส แอบคบกัน แม้จะไมได้รังเกียจภาส แต่ก็รู้อยู่เต็มอกว่าอนาคตของหนุ่มสาวคู่นี้ไปไม่รอดแน่ เพราะคุณชายธัชคงต้องขัดขวางทุกวิธีทาง ทั้งสองพี่น้องจึงแก้ปัญหาด้วยการเชิญเพื่อนเก่าที่เป็นคู่ค้าด้วยคือ ครอบครัวของ พาณี – สุเทพ ประภานิช มาพักที่ไร่โดยให้ทั้งคู่พาลูกชายคือ พงษ์เทพ ประภานิช มาด้วย เพราะคิดว่าการที่ นมล ได้เจอคนอื่นบ้างอาจจะทำให้ นมล คิดได้และหันมาชอบคนที่แม่กับน้าสนับสนุน แต่เมื่อครอบครัวประภานิชมาพักที่ไร่ กลับกลายเป็นว่าพงษ์เทพรู้สึกประทับใจการเอาการเอางานและความเก่งของณิชมน ชัยวัฒน์ที่หมายตาณิชมนมาก่อนจึงไม่ค่อยชอบพงษ์เทพ และคอยขวางเวลาพงษ์เทพอยู่ใกล้กับณิชมน ส่วนนมลเองก็รู้เท่าทันความคิดของแม่และน้าจึงพูดตรง ๆ กับพงษ์เทพว่าเธอนับถือเขาเหมือนพี่ชาย ซึ่งพงษ์เทพเองก็สารภาพว่าเขาเองชอบณิชมน นมลจึงอาสาจะเป็นแม่สื่อให้ โดยเปิดโอกาสให้พงษ์เทพกับณิชมนต้องทำงานด้วยกันบ่อย ๆ และหลายครั้งที่คุณชายธัชเองได้เจอกับณิชมนและนมลพร้อมด้วยพงษเทพตามสถานที่ต่าง ๆ ทำให้คุณชายธัชยิ่งคิดว่าณิชมนเป็นผู้หญิงที่ชอบจับคนรวย เมื่อมีโอกาสได้คุยกันคุณชายก็จะคอยกระแนะกระแหนปะทะฝีปากกับณิชมนไปทุกครั้ง จนณิชมนตั้งปณิธานว่าจะไม่มีวันญาติดีกับผู้ชายจอมเผด็จการคนนี้เป็นอันขาด วันเวลาผ่านไปณิชมนเริ่มรักครอบครัวพรรณอรทุกคน ยกเว้นก็เพียงชัยวัฒน์เพราะหลายครั้งชัยวัฒน์มักให้ความรู้แบบที่ไม่ค่อยถูกต้องและชอบอู้งานชวนพันสรกินกับนอนทั้งวัน รวมทั้งชัยวัฒน์เองก็ชอบทำทีเป็นจีบณิชมนอยู่บ่อย ๆ จนเธอรำคาญ จนวันหนึ่งณิชมนทนไม่ไหวกับการสอนของชัยวัฒน์จึงให้ความรู้ที่ถูกต้อง ชัยวัฒน์โกรธที่ถูกหักหน้าต่อหน้าเด็กแต่ก็ทำให้เขาสงสัยว่า ประนอม คนนี้อาจจะไม่ได้จบ ม.6 อย่างที่อ้าง ชัยวัฒน์ขู่จะกระชากหน้ากากของณิชมน ณิชมนจึงสวนกลับว่าเธอก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าชัยวัฒน์จบครูจริงหรือเปล่า ชัยวัฒน์จึงได้แต่เก็บความไม่พอใจไว้ในใจไม่กล้าหือกับณิชมนอีก วันหนึ่งทางหอการค้าจังหวัดจัดงานเลี้ยงต้อนรับหอการค้ายุโรปที่มาดูตลาดสินค้าเกษตร พรรณอรได้รับการขอร้องให้ช่วยเหลืองานร่วมกับทางไร่ของคุณชายบุรธัช แต่พรรณอรอยากปฎิเสธเพราะรู้ว่าคุณชายธัชต้องไม่ร่วมงานกับเธอแน่ แต่ทางจังหวัดก็ขอร้องเพราะถ้าพรรณอรไม่รับงานนี้จะเสียมารยาทและอาจจะมีผลเสียถึงเกษตรกรคนอื่น ๆ ที่จะต้องทำการค้าร่วม พรรณอรจึงมอบหมายให้ณิชมนช่วยเป็นตัวแทนเธอไปทำงานนี้ ณิชมนพอรู้ว่าต้องทำงานกับคุณชายธัชจึงอยากปฎิเสธแต่ก็ทำไม่ได้เพราะเจ้านายบังคับ ในใจก็นึกแต่ว่ายิ่งเกลียดผู้ชายคนนี้แต่กลับยิ่งเจอ เมื่อไหร่ปาฎิหาริย์ชายในฝันจะเกิดขึ้นกับเธอเสียที วันประชุมงาน คุณชายบุรธัชพูดจาเยาะเย้ยดูถูกณิชมนที่กล้ามาเป็นตัวแทนของพรรณอร ณิชมนบอกว่าเธอจะพิสูจน์ให้คุณชายเห็นเองว่าแม่บ้านอย่างเธอก็ทำงานใหญ่ ๆ ได้ ณิชมนเสนอว่าการที่จังหวัดจะเสนออาหารไทยจากผลผลิตท้องถิ่นเป็นสิ่งที่ดี แต่น่าจะนำเสนอวัตถุดิบอื่นที่ทางจังหวัดผลิตได้เพื่อขยายตลาด เช่น เอาหวายที่สานตะกร้าไปทำเสื่อรองจานอาหาร เอากกที่ทอเสื่อไปทำชุดว่ายน้ำ โดยจัดมุมแสดงสินค้ากันให้เต็มที่ ที่ประชุมเห็นดีด้วย และมอบหมายให้ไร่ของพรรณอรและไร่ของคุณชายธัชช่วยประสานงานร่วมกัน ณิชมน ขอทำอย่างอื่นคนเดียวแต่คุณชายรีบรับปากมัดมือชกทันที เพราะคุณบุรธัชเริ่มสงสัยว่าประนอมคนนี้จบ ม.6 แม้จะมีนิสัยเด็ก ๆ ชอบเถียงชอบเอาชนะ แต่มุมมองความคิดกว้างไกลเกินที่จะเป็นคนท้องถิ่นมาจากสังคมแคบ ๆ หลังจากที่ประชุมคุณชายจึงเข้ามาคุยกับณิชมนและท้าว่าณิชมนไม่ควรเก่งแต่ปาก น่าจะลงมือทำให้ดู ณิชมนรับคำท้า และเมื่อต้องมาร่วมมือกัน คุณชายธัชก็คอยแต่จะแกล้งเตะถ่วงณิชมนต่าง ๆ นานา จนสุดท้ายพงษ์เทพจึงอาสามาช่วยแทน คุณชายธัชยิ่งเห็นสองคนทำงานเขาขาก็ยิ่งหมั่นไส้ พูดจาเหน็บแนมแกล้งณิชมนต่าง ๆ นานา จนวันหนึ่งณิชมนทนไม่ไหว้จึงใช้นิสัยฝรั่งขอคุยเปิดอกกับคุณชาย ด้วยความถือทิฐิของคุณชายจึงพูดไปว่าเขารังเกียจผู้หญิงที่ไล่จับผู้ชาย ณิชมนโมโหตบหน้าคุณชายทันทีและบอกให้คุณชายรู้ว่าไม่ว่าจะคนที่อยู่ฐานะไหน ต่างกันอย่างไร ความเจ็บปวดมีเสมอกัน ถ้าคุณชายถือตัวว่ามีการศึกษาชาติตระกูลจะเข้าใจสิ่งที่เธอพูด คุณชายถึงกับอึ้งที่ถูกณิชมนต่อว่าอย่างผู้ดี เพราะไม่คิดว่าสาวบ้านนอกจะพูดจาได้คมคายขนาดนี้ คุณจึงเริ่มคิดว่าจะต้องสืบเรื่องราวของณิชมนให้ได้ ทางด้านวนิดาที่อยู่กรุงเทพฯ แล้วรู้สึกคิดถึงคุณชายเป็นอย่างมาก จึงขออนุญาตแม่ซึ่งก็คือนันทนา (ณิชมนยังไม่รู้ว่าวนิดาเป็นญาติเพราะคนละนามสกุลกับยาย) ไปทำงานที่ไร่ของคุณชายบุรธัช ซึ่งนันทนาก็เห็นดีด้วยเพราะรู้ว่าลูกสาวไม่ชอบชีวิตที่กรุงเทพฯ เมื่อวนิดามาถึงก็อาสาช่วยงานคุณชายและต้องร่วมงานกับณิชมน วนิดารู้สึกถูกชะตากับณิชมนกับนมลเป็นอย่างมากจนคุณชายเริ่มหมั่นไส้ณิชมน เพราะไม่ว่าใครทั้งหญิงทั้งชายดูจะหลงเสน่ห์แม่บ้านความรู้น้อยคนนี้กันหมด ณิชมนพยายามขอร้องให้วนิดาช่วยพูดกับคุณชายเรื่องภาสกับนมลแอบชอบกัน เพราะเธอคิดว่าการที่ผู้ใหญ่ไปขัดขวางจะยิ่งทำให้เด็ก ๆ จะเตลิดไปกันใหญ่ ทั้ง ๆ ที่ นมลและภาส ก็เป็นคนดีเข้าตามตรอกออกตามประตู ไม่เคยคิดเกินเลยต่อกัน วนิดาเข้าใจทั้งหมดและรับปากจะช่วยให้ ดังนั้นก่อนถึงวันงาน วนิดาจึงหาโอกาสพาภาสมาเจอกับนมล และให้ร่วมทำงานกันโดยพยายามไม่ให้คุณชายรู้เรื่อง ภาสกับนมลค่อยรู้สึกสบายใจที่มีผู้ใหญ่อยู่ข้างพวกเขา และรู้สึกรักและขอบคุณณิชมนที่คอยช่วยเหลือ จนทั้งคู่รู้สึกว่าณิชมนในคราบประนอมเป็นเหมือนพี่สาวจริง ๆ จนวันงาน ก็มีการแสดงบนเวที คุณชายธัชโกรธมากที่เห็นว่าภาสกับนมลได้เป็นตัวแทนจังหวัดนำเสนอสินค้าโดยที่เขาไม่รู้เรื่อง คุณชายคิดว่าเรื่องนี้พรรณอรกับพรพรรณต้องมีส่วนรู้เห็น จึงไปเอาเรื่องสองพี่น้อง และประกาศว่าถ้าพวกไร่ สรณาลัย ทำแบบนี้ได้เขาก็จะทำมาตรการรุนแรงบ้างด้วยการส่งภาสไปเมืองนอกในเดือนหน้า ภาสกับนมลแอบได้ยินเรื่องนี้ ทั้งคู่จึงตัดสินใจหนีไปด้วยกันในคืนนั้น รุ่งเช้า คุณชายธัชมาตามหาหลานที่บ้านพรรณอรพร้อมด้วยวนิดา จึงได้รู้ว่านมลก็หายไปด้วย คุณชายโกรธมากจะเอาเรื่องแต่ณิชมนเป็นคนห้ามไว้ เพราะถ้าเรื่องบานปลายใหญ่โตจะยิ่งทำให้เด็กทั้งสองพากันหนีไปไกลแน่ ณิชมนขอเวลาจัดการเรื่องนี้เอง เธอสืบเรื่องนี้จนได้เบาะแสว่า ภาสขับรถหนีเข้าป่าไป ณิชมนจะไปตามโดยจะเอาพงษ์เทพไปเป็นเพื่อน แต่คุณชายธัชยืนยันจะไปด้วยเถียงกันไปเถียงกันมา คุณชายโมโหลากณิชมนขึ้นรถแล้วขับออกไป ทิ้งให้พงษ์เทพกับวนิดาอยู่เฝ้าบ้านด้วยความเป็นห่วง ระหว่างเดินทาง ณิชมน พาคุณชายไปพบกับ ครูมงคล ที่เป็นครูเก่าของภาสและนมล จึงได้รู้ว่าทั้งสองไปหลบอยู่ที่ไร่ของญาติของครูซึ่งอยู่ในภูเขากันดารมาก ณิชมนและคุณชายต้องเดินทางไปกันจนน้ำมันรถไปหมดกลางทาง คุณชายบุรธัชที่ภายนอกดูเข้มแข็งแต่เอาเข้าจริงกลับไม่สมบุกสมบันต้องป่วยเป็นไข้ป่า ณิชมนกลายเป็นคนที่ดูแลและพาไปส่งอนามัย เมื่อคุณชายฟื้นขึ้นก็แปลกใจที่พบว่าณิชมนยังดูแลเขาอยู่ ณิชมนบอกว่าเธอทำไปเพื่อตอบแทนบุญคุณที่ครั้งหนึ่งเขาเคยช่วยชีวิตเธอไว้จากงูเห่า คุณชายเถียงว่าแต่ตอนนั้นณิชมนว่าเขาใจร้าย ณิชมนสารภาพว่าจริง ๆ เธอตั้งใจจะขอบคุณ แต่เห็นความไม่เป็นมิตรของคุณชายก็เลยตะแบงเรื่องซะงั้น เมื่อไข้หายคุณชายกับณิชมนก็เดินทางไปต่อจนพบกับ ภาสและนมล เด็กทั้งสองกลัวคุณชายและคิดจะหนีอีก แต่ณิชมนเตือนสติเด็กทั้งสองว่าทำแบบนี้ก็จะไม่มีความสุขไปอีกนาน และเมื่อมีลูก ๆ ที่เกิดมาก็จะมีปมด้อย เธอเข้าใจความรู้สึกนี้ดี ทางที่ดีทั้งสองคนต้องพิสูจน์ให้ได้ว่ามีความรักความจริงใจต่อกันจนคุณชายและพรรณอรยอมรับ คุณชายบุรธัชแอบมาฟังสิ่งที่ณิชมนเตือนเด็ก ๆ จึงใจอ่อนและยอมให้ทั้งสองคบกัน ขอแค่กลับไปบ้านและตั้งใจเรียนให้จบทั้งคู่ ก่อนจะกลับคุณชายธัชถามณิชมนว่าเธอเป็นใครกันแน่ เพราะเธอดูไม่น่าจะชื่อประนอม บุญเสริม และเรื่องที่ปลอบภาสกับนมลเธอช่างพูดได้ราวกับประสบกับตัวเอง ณิชมนบอกได้แต่เพียงว่า พ่อกับแม่ของเธอก็เคยทำผิดแบบนี้และหนีไปอยู่ที่อื่น เธอจึงรู้ดีกว่าพ่อกับแม่ของเธอไม่เคยมีความสุข ชีวิตจริงไม่ใช่นิยาย และเมื่อวันหนึ่งพ่อกับแม่ของเธอไม่อยู่ เธอจึงรู้สึกว่าเป็นคนเดียวบนโลก คุณชายธัชได้ฟังก็สงสารเข้ากอดณิชมนทันที ณิชมนแม้จะรู้ว่าไม่สมควรแต่เธอก็รู้สึกอบอุ่นจากการกอดของคุณชายธัช เมื่อนำนมลกลับมาบ้าน พรรณอรที่ดีใจเป็นอย่างมากจึงบอกคุณชายว่าเธอจะส่งนมลไปเรียนกรุงเทพฯ แต่คุณชายค้านว่าไม่จำเป็น ถ้าพรรณอรอยากดีกับครอบครัวเขาก็เอาทรัพย์สินส่วนที่โกงไปมาคืนภาสก็พอ เพราะคุณชายคงรับไม่ได้ถ้าภาสจะแต่งงานกับผู้หญิงที่พ่อแม่เคยโกงสมบัติของภาสไป พรรณอรจึงพาคุณชายไปที่ห้องทำงาน และเอาเอกสารให้คุณชายดูทุกอย่าง เพราะแท้จริงแล้ว พ่อแม่ของภาสต่างหากที่บริหารไร่ผิดพลาดจนเป็นหนี้เป็นสิน แต่ด้วยความละอายใจไม่อยากรบกวนทรัพย์สินส่วนของคุณชายบุรธัช จึงมาขอยืมเงินสามีเธอเพื่อไปลงทุน แต่ก็ขาดทุนทุกครั้ง แต่ด้วยความที่สองครอบครัวรักกันมาก พรรณอรจึงรับซื้อกิจการต่าง ๆ ไว้ และวันที่พ่อแม่ของภาสประสบอุบัติเหตุ ก็เป็นวันที่ทั้งสองจะไปเจรจาผ่อนผันหนี้กับหุ้นส่วน ซึ่งสุดท้ายก็เป็นครอบครัวเธออีกนั่นแหล่ะที่ต้องไปรับช่วงซื้อไว้ คุณชายบุรธัชหลังจากที่ได้รู้ความจริงก็ทั้งอึ้งและเสียใจกับการกระทำในอดีตของตน รวมทั้งที่เคยหมิ่นเกียรติของพรรณอรว่าเป็นเพียงลูกพ่อค้าที่หวังจะแต่งกับคนมีเกียรติด้วย หลังจากวันนั้นครอบครัวทั้งสองก็กลับมาเป็นมิตรกันดังเดิม คุณชายธัชมาขอบคุณณิชมนที่ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น พงษ์เทพเองเห็นณิชมนกับคุณชายเข้ากันได้ดี จึงมาปรึกษาคุณชายเรื่องที่เขาชอบณิชมน แต่พ่อแม่ไม่เห็นด้วยจึงอยากให้คุณชายช่วยคุยกับพ่อแม่ของเขา เพราะเขาอยากจะขอหมั้นกับณิชมน คุณชายทำอะไรไม่ถูกได้แต่รับปากไป ส่วนวนิดาเองก็เริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของคุณชายธัช เพราะวัน ๆ คุณชายเอาแต่สนใจที่จะพาตัวไปอยู่ใกล้ณิชมน ซึ่งณิชมนเองก็พยายามพาตัวออกห่างเพราะเกรงใจวนิดา จนวันหนึ่งประนอม บุญเสริม ตัวจริงก็โผล่มาที่ไร่ ประนอมสารภาพผิดกับพรรณอรว่าเธอทิ้งงานเพราะอยากไปอยู่กรุงเทพฯ มากกว่า แต่สุดท้ายโรงงานที่เธอทำงานก็ปลดพนักงานออก เธอจึงอยากขอมาทำงานที่ไร่ พรรณอรเรียกณิชมนมาพบ เมื่อรู้ว่าณิชมนปลอมตัวมาแม้จะสารภาพความจริงทั้งหมดว่าฉวยเอางานประนอมเพราะไม่มีเงินและไม่มีที่ไป แต่พรพรรณและชัยวัฒน์ก็ยุให้ไล่ณิชมนออก ไม่เช่นนั้นจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับลูกน้องคนอื่น ณิชมนรู้ว่าทำให้ทุกคนลำบากใจเธอจึงขอลาออกเอง แต่เธอขออนุญาตไม่ลาใครเพราะไม่อยากเสียใจที่ต้องลาทุกคนที่เหมือนเป็นครอบครัวของเธอไปแล้ว เมื่อภาส นมลรู้เรื่องก็รีบไปบอกคุณชายธัช ทั้งคุณชาย วนิดา พงษ์เทพต่างเป็นห่วงพยายามออกตามหาณิชมน จนวันเวลาผ่านไปสามเดือน วนิดาก็เริ่มทำใจได้กับการที่คุณชายธัชมีแต่ความเศร้าซึม วนิดาถามคุณชายตรง ๆ ว่ารัก ณิชมนใช่ไหม คุณชายยอมรับและขอโทษวนิดา วนิดาเข้าใจทุกอย่างและเธอก็ไม่อยากบังคับใจคุณชาย แต่เธอก็เห็นแก่ตัวเกินกว่าจะอยู่กับความเจ็บปวดที่เห็นคนที่เธอรักไปรักคนอื่น วนิดาขอออกจากงานที่ช่วยคุณชาย ตอนแรกวนิดาตั้งใจว่าจะกลับกรุงเทพฯ แต่ในยามนี้เธออยากกลับไปหาบรรยากาศเก่าที่เคยเติบโตมา จึงเดินทางไปเทพสุธาเพื่อไปดูบ้านเก่าและโรงเรียนเก่าของเธอ ครูดาวเรืองพาเธอเยี่ยมชมโรงเรียนและเล่าว่า ตอนนี้มีครูมาใหม่ภาษาอังกฤษเก่งมาก ฝรั่งเศสก็ได้ แต่เนื่องจากไม่มีหลักฐานอะไรเลยจึงให้เป็นพี่เลี้ยงเด็กไปก่อน วนิดาตั้งใจจะบริจาคเงินช่วยเหลือแล้วกลับแต่ครูดาวเรืองบอกว่าครูคนใหม่คนนี้นามสกุลเดียวกับยายของวนิดาด้วย วนิดาสงสัยจึงขอพบตัว และเธอก็ต้องตกใจที่กลายเป็นณิชมน เมื่อได้ดูบัตรนักศึกษาและรายละเอียดเกี่ยวกับ น้าของเธอที่ชื่อณัชชาแล้ว วนิดาก็แน่ใจว่าณิชมนคือน้องสาวของเธอ ณิชมนเล่าว่า ณ ห้องใต้ดินเก่า ๆ ชานกรุงลอนดอน ณิชมนกลับมาจากทำงานพิเศษเพื่อมาฉลองอายุครบ 20 ปีกับพ่อคือ ชยทัต ชุติมันต์ แต่ภาพที่เธอได้เห็นเป็นของขวัญวันเกิดคือชยทัตนอนไม่ได้สติอยู่ที่พื้น ณิชมนรีบโทรเรียกรถพยาบาลทันที แต่เมื่อไปถึงโรงพยาบาลอาการของชยทัตก็หนักมาก ชยทัตบอกให้ณิชมนหนีไปเมืองไทยโดยให้นาฬิกาโรเล็กซ์ ของแม่ณิชมนที่เขาเคยขโมยไปเพื่อเอาไปขาย แต่มาสำนึกผิดว่านี่เป็นของที่ยายณิชมนให้แม่ติดตัวมาและมันก็เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของเธอ แต่ยังที่ไม่ทันจะเอาไปคืนแม่ณิชมนก็สิ้นใจไปก่อนจากการป่วยและไม่มีเงินไปหาหมอ ชยทัตรู้สึกผิดจึงเก็บนาฬิกาและเรื่องนี้ไว้ แต่ตอนนี้เขาอยากให้ณิชมนเอาไปขายเพื่อซื้อตั๋วเครื่องบินกลับเมืองไทยไปหาญาติ ชยทัตหยิบกระดาษเก่า ๆ ที่แม่เคยเขียนเบอร์ของยายไว้ให้ณิชมน และกล่าวขอโทษที่ทำให้ทุกคนลำบาก แล้วเขาก็สิ้นใจ ณิชมนเสียใจมากแต่ก็ต้องใจแข็งมาติดต่อเคาน์เตอร์เรื่องศพพ่อ แต่ยังไม่ทันได้ติดต่อ เธอก็ถูกพวกเจ้าหนี้ที่เป็นแก๊งคนจีนในลอนดอนตามจับตัว เพื่อจะเอาไปขายใช้หนี้ ณิชมนหนีมาได้หวุดหวิด และตัดสินใจขายนาฬิกาเอาเงินซื้อตั๋วเครื่องบินมาไทย แต่ระหว่างที่ถึงเมืองไทยก็โดนกรีดกระเป๋าและกลายมาเป็นประนอม บุญเสริมอย่างที่วนิดาเห็น วนิดาพอรู้เรื่องต่าง ๆ ก็เสียใจกับชะตาชีวิตของน้องสาว วนิดาบอกว่าต่อไปนี้ณิชมนจะไม่อยู่ตัวคนเดียวแล้ว เธอจะมีทั้งพี่สาวและคุณชายบุรธัช ณิชมนงงง่าคุณชายมาเกี่ยวอะไรหรือหมายถึงเป็นพี่เขย เมื่อคิดได้ว่าวนิดาเป็นแฟนคุณชาย ณิชมนก็รีบแสดงความดีใจทั้ง ๆ ที่เศร้า แต่วนิดาบอกให้ไปกับเธอแล้วจะรู้เอง และที่สำคัญณิชมนก็ยังมีญาติอีกคนคือ คุณปู่โชติ ชุติมันต์ ที่เป็นเจ้าของที่ดินในอำเภอ ชุติมาศ วนิดาพาณิชมนไปพบกับคุณปู่ ๆ ดีใจมาก เพราะชยทัตคือลูกคนเดียวที่คุณปู่เลี้ยงดูตามใจจนเสียคน เมื่อโตขึ้นก็เกเรจนทะเลาะกันจนคุณปู่รับพฤติกรรมไม่ไหวประกาศตัดพ่อตัดลูก และนี่คงเป็นสาเหตุที่ชยทัตไม่ยอมเล่าเรื่องของปู่ให้ณิชมนฟัง คืนนั้นณิชมนกับวนิดานอนหลับอย่างเป็นสุขที่บ้านชุติมันต์ และณิชมนก็ฝันถึงชายหนุ่มที่เคยฝันอีก แต่คราวนี้เธอเห็นหน้าเขาชัด ๆ ว่าเป็นคุณ่ชาย บุรธัช ณิชมนตกใจตื่นขึ้นมาและรู้สึกผิดคิดอยากเขกหัวตัวเองที่ไปฝันถึงผู้ชายของพี่สาว ณิชมนพยายามข่มตาให้หลับแต่สุดท้ายก็แพ้ใจตัวเองที่คิดถึงคุณชายธัช เช้าวันรุ่งขึ้น ที่ไร่บุริศราวัณ คุณชายธัชดีใจมากที่ได้เจอณิชมนอีก และเขาก็ยิ่งดีใจที่รู้ว่าเป็นน้องสาววนิดา ๆ บอกให้คุณชายดูแลน้องสาวให้ดี ณิชมนปฎิเสธที่จะคบกับคุณชายเพื่อพี่สาว แต่วนิดาบอกว่าเธอดูออกว่าอะไรเป็นอะไร พงษ์เทพที่แม้จะผิดหวังกับณิชมนแต่เขาก็มีความสุขที่คนที่เขารักได้สมหวังเจอกับชายในฝัน ส่วนชัยวัฒน์ก็ต้องอึ้งไปเมื่อรู้ว่าณิชมนกลายเป็นคนที่มีทุกอย่าง แม้จะทำดีอย่างไรแต่ณิชมนก็ขอให้สารภาพว่าชัยวัฒน์จบอะไรมาแน่ จนเขาสารภาพว่าใช้วุฒิการศึกษาปลอมมาสมัครงานเพราะไม่อยากทำนา ตัวเขาเองนั้นจบแค่ม.6 พรรณอร และพรพรรณโมโหมากที่บังอาจมาหลอกพวกเธอ จึงคิดจะไล่ออกแต่ณิชมนขอร้องไว้และให้ทำงานในส่วนที่เหมาะสม ส่วนณิชมนตัดสินใจจะเรียนต่อให้จบที่เมืองไทย ซึ่งคุณชายบุรธัชไม่ขัดข้องขอแค่แต่งงานกับเขาเท่านั้น งานแต่งงานของคุณชายบุรธัชกับณิชมนถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่ มีพงษ์เทพและวนิดาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวร่วมกับภาสและนมล ทุกคนต่างยินดีกับณิชมนที่ผ่านความลำบากมาถึงวันนี้ด้วยความดีของตัวเธอ โดยเฉพาะคุณชายบุรธัช เขารู้สึกว่ามันเป็นปาฏิหาริย์ที่เขาได้เจอกับผู้หญิงที่แสนดีคนนี้ ติดตามชม ละครรักปาฏิหารย์ ได้ืทุกวันจันทร์ - อังคาร เวลา 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครรักปาฏิหารย์ เริ่มตอนแรกวันอังคารที่ 25 ตุลาคม 2554
รอยไหม 2554

รอยไหม (2554/2011) เรริน (ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ) เห็นธาตุแท้ของ ธนินทร์(เจสัน ยัง) คู่หมั้นที่หมั้นกันเอาไว้หลายปีแล้วด้วยการจัดการของผู้ใหญ่ เพราะธนินทร์แอบขายผ้าทอผลงานของเธอโดยไม่บอกกล่าว เรรินโกรธมาก เดินทางขึ้นเชียงใหม่ทันที เธอต้องการสงบสติอารมณ์ ที่เชียงใหม่เรรินแวะเวียนไปตามหมู่บ้านต่าง ๆ เพื่อชมการทอผ้า และที่แม่แจ่ม เธอได้พบ สุริยวงศ์ (อธิชาติ ชุมนานนท์) และได้ อาศัยรถของเขากลับเข้าเมืองด้วย เรรินได้ที่พักเป็นรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าของที่อัธยาศัยดีในคืนแรกที่พักเธอได้ยินเสียงเรียกชื่อตน เธอจึงลุกออกมาและได้พบชายคนหนึ่ง เขาพูดคุยกับเธอเหมือนรู้จักคุ้นเคยมานาน เขาแสดงความยินดีที่เธอกลับมาแล้ว สร้างความงงงวยให้เรรินเป็นอย่างมาก เรรินพบว่าสุริยวงศ์เป็นน้องชายวันดารา(อรอนงค์ ปัญญาวงศ์)เจ้าของรีสอร์ตเขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบ และเมื่อรู้ว่าเรรินสนใจงานผ้าโบราณ เขาจึงอาสาพาเรรินไปพบ บัวเงิน(พิสมัย วิไลศักดิ์) ย่าของเขา เพราะบัวเงินครอบครองผ้าโบราณล้านนามากมาย นาทีแรกที่บัวเงินได้เห็นหน้าของเรริน ทุกอย่างกลับตาลปัตร บัวเงินไล่ตะเพิดและด่าทอเรริน รวมถึงแสดงความเกลียดชัง สร้างความงุนงงให้กับเรรินและสุริยวงศ์ บัวเงินรู้ดีว่ามณีรินกลับมาแล้ว เพื่อทวงแค้นของเธอ เรรินได้แวะเข้าชมพิพิธภัณฑ์ผ้า และในบรรดาผ้าตระกูลล้านนา เธอรู้สึกผูกพันกับผ้ากลุ่มไทเขินจากเชียงตุงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผ้าซึ่งเจ้าของเดิมคือ เจ้านางมณีริน(ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ) รวมถึงประวัติเรื่องเล่าชีวิตของเจ้านางมณีรินได้ดึงดูดความสนใจของเรรินเป็นอย่างมากจนเธออยากรู้จัก เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์เมื่อรู้ว่าเรรินสนใจผ้าโบราณ จึงพาเธอเข้าไปชมผ้าผืนหนึ่งที่ยังทอไม่เสร็จและทันทีที่เรรินได้เห็นผ้าผืนนั้น เธอเหมือนตกอยู่ในภวังค์เธอเข้าไปนั่งลงและเริ่มทอผ้าผืนนั้นต่อทันที ช่วงเวลาที่เธอได้อยู่กับการทอผ้า และการได้พบชายแปลกหน้ายามวิกาล ทำให้เธอเหมือนได้หลุดไปสู่อีกมิติหนึ่งและได้รู้จักเจ้านางมณีริน เจ้านางมณีริน เป็นเจ้าหญิงจากแคว้นเชียงตุงที่ถูกส่งตัวมาเชียงใหม่ เพื่อเข้าพิธีแต่งงานกับเจ้าศิริวัฒนา(ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ) ทั้งที่เธอไม่ได้รู้สึกรักเขาเลย เจ้านางมณีรินหนีออกจากคุ้มเจ้าหลวงไปเที่ยวตลาด โดยมีนางคำเที่ยง(สะแกวัลย์ ยงใจยุทธ) พี่เลี้ยงคนสนิทติดตามไปด้วย ที่ตลาด มณีรินได้รู้จัก เจ้าศิริวงศ์ (อธิชาติ ชุมนานนท์)และมิตรภาพเบ่งบานเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ต่างรู้ใจกันและกันจนก่อเกิดเป็นความรัก เมื่อต่างฝ่ายต่างรู้ความจริงเรื่องสถานะของกันและกัน ความรักของคนทั้งคู่จึงกลายเป็นรักต้องห้าม บัวเงินหม่อมของเจ้าศิริวัฒนา เมื่อรู้ว่ามณีรินเดินทางมาเพื่อแต่งงานกับศิริวัฒนา จึงคุมแค้นและต้องการกำจัดมณีรินให้พ้นทาง แล้วโชคเข้าข้างบัวเงินเมื่อ เจ้าหลวง (เผ่าทอง ทองเจือ) และ พระชายา(ชลิดา เถาว์ชาลี ตันติพิภพ) ไว้วางใจให้บัวเงินเป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลมณีริน มณีรินชอบทอผ้า พระชายาจึงมอบหมายให้บัวเงินเป็นครูสอนมณีริน บัวเงินเหยียบย่ำ ถากถางมณีริน ต่าง ๆ นานา แต่ฝีมือมณีรินยิ่งดีวันดีคืน ผลงานผ้าทอของมณีรินเป็นที่ปลาบปลื้มชื่นจิตพระชายาเป็นนักหนา และท่าทางศิริวัฒนาจะรักมณีรินมากขึ้นทุกวัน แต่โอกาสก็เข้าข้างบัวเงินเสมอ ครั้งหนึ่งบัวเงินจงใจผลักมณีรินตกน้ำ โดยตั้งใจจะให้เสียหน้า เฉย ๆ แต่มณีรินกลับจมน้ำเพราะว่ายน้ำไม่เป็น ศิริวงศ์มาช่วยไว้ได้ทันเวลา ยิ่งทำให้ความผูกพันระหว่างมณีรินและศิริวงศ์กระชับแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในงานถวายผ้าห่มพระธาตุ เจ้าหลวงและพระชายาสั่งให้มณีรินและบัวเงินแข่งขันกับทอผ้า บัวเงินใช้กลโกงในการทอ ทำให้มณีรินไม่มีฝ้ายในการทอผ้า แต่ในนาทีสุดท้ายนั้นเองศิริวงศ์ ซึ่งล่วงรู้แผนการของบัวเงิน ก็ขนฝ้ายจำนวนมากมาให้มณีริน ผลการแข่งขันได้หักหน้าบัวเงินอย่างแรง เพราะมณีรินเป็นฝ่ายถูกตัดสินให้เป็นฝ่ายชนะด้วยฝีมือปักผ้าแบบเชียงตุงเพิ่มเข้าไป บัวเงินสะสมความแค้นต่อมณีริน และยิ่งรู่สึกว่าเจ้าหลวงลำเอียงเอ็นดูมณีรินมากกว่า อีเม้ย(ชุดาภา จันทเขตต์) ขี้ข้าคนสนิทของบัวเงิน ออกความคิดช่วยกำจัดมณีรินโดยใส่งูเห่าไว้ในกระชุดอกไม้ หวังให้งูกัดมณีริน แต่คนที่รับเคราะห์ถูกงูกัดคือศิริวงศ์ มณีรินดูดพิษงูจากแขนศิริวงศ์ โดยไม่กลัวความตาย ทั้งคู่รักกันมากขึ้น และอีเม้ยเริ่มสงสัยความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ อีเม้ยถูกจับเฆี่ยนเพราะถูกจับได้ว่าเป็นผู้ต้องสงสัย แต่มณีรินขอชีวิตอีเม้ยไว้ไม่ถือโทษเพราะถือว่าไม่มีหลักฐาน ศิริวัฒนา สนใจในตัวบัวเงินน้อยลงทุกที อีเม้ยออกความคิดทำเสน่ห์ยาแฝด ซึ่งเป็นเรื่องผิดอาญาแผ่นดิน ศิริวัฒนาล้มป่วยเพราะโดนของ ศิริวงศ์และมณีรินล่วงรู้แผนการของบัวเงิน และกำจัดมนต์ดำนั้นได้ เจ้าหลวงไม่ค่อยสบาย แต่อาการดีขึ้นด้วยอาหารที่มณีรินจัดขึ้นถวาย เจ้าหลวงจึงมอบหมายให้มณีรินดูแลเรื่องอาหารตลอดไป บัวเงินคุมแค้นและใช้โอกาสนี้ ยอกย้อนมณีริน โดยใส่ยาพิษในอาหาร หวังจะฆ่าเจ้าหลวง และกำจัดมณีรินไปพร้อม ๆ กัน อีเม้ยยอมเป็นฝ่ายรับเคราะห์แทนบัวเงิน โทษฐานวางยาเจ้าหลวง อีเม้ยฆ่าตัวตาย โดยสั่งเสียบัวเงินไว้ว่าวิญญาณของตนจะอยู่รับใช้บัวเงินตลอดไป บัวเงินล่วงรู้ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของมณีรินกับศิริวงศ์เพราะผีอีเม้ย บัวเงินแฉเรื่องเลวร้ายนี้ หวังให้ศิริวัฒนากำจัดมณีริน ศิริวัฒนาโกรธจัดแต่เมื่อทั้งมณีรินและศิริวงศ์ ยอมรับความจริง และให้ขอศิริวัฒนา เห็นใจในความรักแท้ ศิริวัฒนาก็อ่อนลง วันสงกรานต์ ศิริวงศ์นัดพบมณีริน ผีอีเม้ยเข้าสิงครอบงำศิริวัฒนา ตามไปและพลั้งมือฆ่าศิริวงศ์ มณีรินเสียใจอย่างหนัก ต้องการตายตามชายที่รัก ศิริวัฒนารู้สึกผิดที่พลั้งมือฆ่าน้องชาย แต่ต้องการไถ่โทษด้วยการแต่งงานและดูแลมณีรินอย่างดีที่สุด ศิริวัฒนาออกคำสั่งให้มณีรินทอผ้าตุ๊มเพื่อให้ใช้ในพิธีแต่งงาน มณีรินมิได้ขัดขืน ตั้งใจทอผ้าตุ๊มให้เสร็จโดยหวังจะใช้ผ้าผืนนี้ผูกคอตายตามศิริวงศ์ บัวเงินขัดขวางมณีริน กรอกยาพิษจนมณีรินขาดใจตายคากี่ทอผ้า ศิริวงศ์ตรอมใจและตายตามในที่สุด บัวเงินเหมือนอยู่ในนรกตลอดเวลาเจ็ดสิบปี เมื่อมณีรินกลับมาเกิดใหม่ในฐานะเรริน บัวเงินจึงยังคุ้มแค้น บัวเงินและผีอีเม้ยขัดขวางเรรินทุกวิถีทางไม่ให้เรรินทอผ้าผืนนั้นเสร็จ แต่ด้วยความช่วยเหลือของทั้งศิริวัฒนาและศิริวงศ์ เรรินก็ทอผ้าผืนนั้นเสร็จสมบูรณ์จนได้ บัวเงินสั่งผีอีเม้ย เข้าสิงธนินทร์เพื่อจับตัวเรรินไปฆ่า เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามได้ใน ...รอยไหม

เมียแต่ง 2554

เมียแต่ง (2554/2011) คงไคย (พัชฏะ นามปาน) หนุ่มสังคมที่ใช้ชีวิตเสเพลมาตลอดต้องช็อคสุดขีดเมื่อ คุณหญิงภวัน (ดวงตา ตุงคะมณี) ประธานกรรมการบริหารพีวีเรียลเอสเตท ผู้เป็นแม่บังคับให้แต่งงานกับ อรุณประไพ (อารยา เอ ฮาร์เก็ต) ลูกสาวของอดีตนายอำเภออรุณกับ นางประไพ (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) ที่เคยช่วยเหลือคุณหญิงไว้เมื่อครั้งที่พ่อของคงไคยฆ่าตัวตายเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว คงไคยรับไม่ได้เพราะปักใจเชื่อว่าตนเองนั้นรัก ปรุงฉัตร (พรชิตา ณ สงขลา) นางแบบสาวสุดฮอทลูกสาวคนเล็กของ คุณประกอบ (กฤตย์ อัทธเสรี) และ คุณเนื้อทิพย์ (ภัสสร บุณยเกียรติ) หุ้นส่วนในบริษัทที่มีจำนวนหุ้นมากเป็นอันดับสองรองจากคุณหญิงภวัน แต่คุณหญิงภวันรู้ดีกว่าการเข้ามาของปรุงฉัตรเป็นเพราะคุณประกอบต้องการรวบหุ้นทั้งหมดไว้ในมือเพื่อดันตัวเองขึ้นเป็นประธานบริหาร และผลักดันให้ ณรงค์ (นิธิ สมุทรโคจร) ผู้เป็นลูกชายขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งรองประธานบริหาร ทำให้คุณหญิงภวันพยายามจะขัดขวางเพราะพีวีเรียลเอสเตทคือสิ่งที่คุณหญิงภวันทุ่มเทมาชั่วชีวิตเพื่อเป็นมรดกให้แก่คงไคย คุณหญิงภวันเป็นห่วงคงไคยที่ยังทำตัวเป็นเสือผู้หญิงที่เสเพลเละเทะไม่เป็นท่าไปวัน ๆ และยิ่งนึกถึงเวลาในชีวิตที่เหลืออยู่น้อยเต็มที เนื่องจากคุณหญิงภวันรู้ตัวว่ากำลังเป็นมะเร็งในระยะรุนแรงแต่เพราะเหตุผลทางธุรกิจคุณหญิงภวันจึงต้องปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับและเริ่มวางแผนชีวิตให้กับลูกชาย เธอต้องการให้คงไคยได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ดีสักคนที่ไม่ใช่ผู้หญิงรักสนุกอย่างปรุงฉัตร เพื่อที่จะช่วยประคับประคองชีวิตของคงไคยให้กลายเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาได้และอรุณประไพคือคนที่คุณหญิงภวันเลือก คงไคยไม่เชื่อว่าจะมีผู้หญิงดี ๆ ที่ไหนยอมแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่รู้จัก จึงปักใจเชื่อว่าอรุณประไพคงเป็นผู้หญิงที่หิวเงินจึงรับข้อเสนอได้อย่างหน้าไม่อาย ยิ่งได้รู้ประวัติของอรุณประไพว่ามีพื้นเพเป็นคนต่างจังหวัดและจบทางด้านการเรือน ทำให้คงไคยรู้สึกดูถูกอรุณประไพแม้ยังไม่ได้เห็นหน้า เพราะคิดว่าอรุณประไพช่างเป็นหญิงสาวที่ไร้ศักดิ์ศรีและยอมแต่งงานเพื่อเงิน คงไคยพยายามจะขุดคุ้ยและหาข้อเสียของอรุณประไพเพื่อมาหักล้างและล้มเลิกพิธีแต่งงานให้ได้ คงไคยสืบจนรู้ว่าอรุณประไพเพิ่งเลิกราจาก ภุชงค์ (พิษณุ นิ่มสกุล) ปลัดหนุ่มที่เธอคบหาดูใจมาหลายปี เพราะภุชงค์จำเป็นต้องไปรับผิดชอบลูกในท้องของ เบญ (วรันลักษณ์ ศิริมณีวัฒนา) ผู้หญิงที่เขาเผลอไปมีสัมพันธ์ด้วย ยิ่งทำให้คงไคยผู้คร่ำหวอดกับความสัมพันธ์ฉาบฉวยมั่นใจว่าอรุณประไพไม่ใช่ผู้หญิงรักนวลสงวนตัวแสนดีอย่างที่คุณหญิงภวันเข้าใจ อาการเกเรของคงไคยสร้างความปวดหัวให้กับคุณหญิงภวันจน คุณทองถม (อนันต์ บุนนาค) ทนายความประจำตระกูล ต้องเข้ามาช่วยเกลี้ยกล่อมให้คิดถึงความรักของคุณหญิงภวันที่เลี้ยงดูคงไคยมาเพียงลำพังและพยายามบอกเป็นนัย ๆ ถึงอาการป่วยของคุณหญิงภวัน คงไคยแม้ไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณทองถมพยายามบอกนักแต่ด้วยหัวใจที่รับรู้ถึงความรักของคุณหญิงภวันที่ครองตัวเป็นม่ายมาตลอดเพราะเป็นห่วงความรู้สึกของคงไคย ความจริงที่คุณหญิงภวันคิดถึงความสุขของคงไคยก่อนตนเองเสมอข้อนี้ทำให้คงไคยยอมตกลงเข้าพิธีแต่งงานกับอรุณประไพ ยิ่งใกล้วันแต่งอรุณประไพก็มีแต่ความลังเลไม่แน่ใจในการตัดสินใจแต่งงานครั้งนี้ เพราะลึก ๆ อรุณประไพรู้ดีว่าการยอมแต่งงานครั้งนี้เป็นเพราะอรุณประไพต้องการหนีจากภุชงค์ที่ยังพยายามจะขอคืนดี หนีให้พ้นจากคำว่ามือที่สามที่จะไปทำลายครอบครัวของใคร ประกอบกับอรุณประไพรู้ถึงอาการป่วยของคุณหญิงภวัน อรุณประไพเห็นใจในความทุกข์ของคุณหญิงภวัน แม้จะรู้ว่าสิ่งที่คุณหญิงขอร้องคือการเอาชีวิตไปผูกมัดกับชายแปลกหน้าที่ไม่มีความรักต่อกัน แต่การถูกชายคนรักทรยศก็ทำให้อรุณประไพหมดศรัทธากับความรัก เมื่อไม่เชื่อมั่นในความรักและสถานการณ์ที่ชาวบ้านจับตามองจากคำใส่ร้ายของฝ่ายภรรยาภุชงค์ ผลักดันให้อรุณประไพตัดสินใจเลือกที่จะแต่งงาน แม้ยังไม่รู้ว่าข้างหน้าจะต้องพบเจอกับอะไรบ้างแต่อรุณประไพก็เลือกที่จะเดินหน้าต่อไป แม้คงไคยจะทำเฉยชาไม่รับรู้เพื่อแสดงให้เห็นว่าต่อต้านการแต่งงานครั้งนี้ แต่งานแต่งก็มาถึงจนได้ คงไคยได้พบหน้ากับเจ้าสาวเป็นครั้งแรกในวันแต่งงาน คงไคยทึ่งในความสวยสง่าของเจ้าสาวยิ่งทำให้เขากังขาหนักขึ้นอีกว่าเหตุใด หญิงสาวที่ดูดีแบบไม่มีที่ติเช่นนี้จึงยอมลงเอยใช้ชีวิตคู่กับคนที่ไม่ได้รัก ยิ่งเมื่อคงไคยได้เห็นภุชงค์มาอวยพรหญิงสาวด้วยท่าทีอาลัยอาวรณ์ก็ยิ่งทำให้คงไคยแสดงอาการดูถูกอรุณประไพด้วยการเพิกเฉยและเย็นชาใส่เหมือนว่าเธอไม่มีตัวตนในโลกเพื่อให้สาสมกับที่อรุณประไพยอมขายวิญญาณมาแต่งงานอย่างไม่มีศักดิ์ศรีสักนิด เมื่อเริ่มต้นชีวิตคู่กับคนแปลกหน้า คงไคยพบว่าอรุณประไพนั้นห่างไกลจากผู้หญิงในแบบของเขามากจนไม่อยากจะเชื่อว่าแม่แท้ ๆ ของเขาจะเป็นคนจัดหามาให้ ในสายตาของคนขี้เบื่ออย่างคงไคยนั้นเขารู้สึกว่าอรุณประไพแสนจะเรียบง่าย ไร้เสน่ห์ จืดชืด ไม่มีอะไรท้าทายและกระตุ้นอารมณ์ของเสือผู้หญิงอย่างเขาได้แม้แต่น้อย ด้วยเหตุนี้เขาจึงแยกห้องนอนออกไปและไม่คิดที่จะแตะต้องตัวเธอแม้แต่ปลายก้อย สร้างความโล่งใจให้อรุณประไพอย่างมาก แม้ลึก ๆ อรุณประไพจะเตรียมใจที่จะต้องยอมรับหน้าที่ในการเป็นภรรยาทางพฤตินัยก็ตาม ถึงจะต้องทนกับพฤติกรรมเย็นชาของคงไคยแต่อรุณประไพก็ยังดูแลความเรียบร้อยตลอดจนอาหารการกินให้กับทุกคนในบ้านอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ความละเอียดและเอาใจใส่ค่อย ๆ ซึมลึกกลายเป็นความคุ้นเคยในชีวิตของคงไคยทีละน้อยจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ปรุงฉัตรถูกคุณประกอบเรียกกลับจากเมืองนอกทันทีที่งานแต่งงานของคงไคยผ่านไป ปรุงฉัตรถูกคุณประกอบทำร้ายเป็นที่ระบายความโกรธที่ไม่สามารถรวบคงไคยไว้ได้ทำให้เสียโอกาสทางธุรกิจ แม้สังคมจะรับรู้ว่าปรุงฉัตรคือลูกสาวของคุณประกอบและคุณเนื้อทิพย์ แต่ภายในครอบครัวปรุงฉัตรเป็นเพียงลูกติดของภรรยาลับของคุณประกอบที่ถูกเลี้ยงดูอุ้มชูแบบตามมีตามเกิด และต้องคอยเป็นคนรับใช้ให้กับณรงค์ ลูกชายแท้ ๆ ของคุณประกอบและคุณเนื้อทิพย์ตั้งแต่เด็ก เมื่อโตเป็นวัยรุ่นก็ยังถูกณรงค์ปลุกปล้ำใช้เป็นที่ระบายความใคร่ ปรุงฉัตรพยายามเรียกร้องความเป็นธรรมแต่สิ่งที่ได้รับคือสภาพที่เหมือนทาสที่ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องใด ๆ ทั้งสิ้น ความกดดันและความแค้นที่ถูกกดขี่ผลักดันให้ปรุงฉัตรพยายามสร้างความสำคัญให้ตัวเอง จนได้เป็นนางแบบที่ประสบความสำเร็จ ความเซ็กซี่ของปรุงฉัตรดึงดูดให้ได้มีโอกาสรู้จักกับคงไคย เมื่อคุณประกอบสั่งให้ปรุงฉัตรมัดใจคงไคยจะทำให้ปรุงฉัตรพ้นจากสภาพทาสในเรือนเบี้ยนี้สักที ยิ่งคงไคยมีคุณสมบัติที่เพียบพร้อมและแสดงออกว่าหลงใหลให้ความสำคัญในตัวปรุงฉัตรมาก ทำให้ปรุงฉัตรที่รคิดที่จะแต่งงานกับคงไคยให้ได้ เมื่อคงไคยแต่งงานกับอรุณประไพทำให้ความหวังของปรุงฉัตรพังทลาย ทำให้เธอเจ็บแค้นที่คุณหญิงภวันจัดการเรื่องนี้ทั้งหมดเพื่อกีดกันไม่ให้เธอเข้าไปเป็นลูกสะใภ้ของบ้าน แต่เพราะคงไคยกลับมาสานสัมพันธ์เพื่อต้องการแสดงให้อรุณประไพเห็นว่าคงไคยไม่เห็นความสำคัญที่ต้องเกรงใจอรุณประไพ ทำให้ปรุงฉัตรมั่นใจว่าความร้อนแรงของตัวเองจะมัดใจคงไคยไว้ได้ และพยายามทำทุกทางเพื่อจะประกาศถึงความสำคัญของตัวเองที่มีต่อคงไคยให้อรุณประไพได้เห็น ไม่ว่าจะด้วยคำพูดหรือการกระทำที่หยามเย้ยให้รู้สึกว่าตำแหน่งเมียของอรุณประไพไม่ได้มีความหมายใด ๆ เลย และพยายามทำให้สังคมรับรู้ด้วยการกระจายรูปคู่แบบแนบชิดลงไปในอินเตอร์เน็ต คอยปั่นข่าวให้เกิดกระแสเพื่อบีบให้อรุณประไพอับอายและหย่าขาดจากคงไคย แต่อรุณประไพก็ยังไม่แสดงท่าทีว่าโกรธหรือใส่ใจคนทั้งคู่ด้วยซ้ำ ปรุงฉัตรกลับเป็นฝ่ายทนไม่ได้พยายามจะระรานอรุณประไพจนคุณหญิงภวันต้องคอยปกป้องโดยให้ แฉล้ม (พิสมัย วิไลศักดิ์) คนรับใช้เก่าแก่คอยรับหน้าเป็นปากเสียงแทนจนปรุงฉัตรต้องล่าถอยกลับไปทุกครั้งโดยที่อรุณประไพไม่เคยร้อนตามปรุงฉัตรเลยสักครั้งทำให้คงไคยคิดว่าผู้หญิงอย่างอรุณประไพมีแต่ความเย็นชาเป็นนางชีต่อผู้ชายทุกคนในโลก แต่เมื่อภุชงค์ยังพยายามมาหาอรุณประไพ ความอ่อนหวานของอรุณประไพที่มีต่อภุชงค์ต่างจากความเย็นชาที่แสดงออกกับคงไคย ทำให้คงไคยที่ได้ชื่อว่าเป็นเพลย์บอยเจ้าเสน่ห์ไม่พอใจที่อรุณประไพไม่เคยให้ความสำคัญเหมือนคงไคยไม่มีตัวตน คงไคยคิดจะเอาชนะอรุณประไพด้วยการทำให้อรุณประไพหลงรักให้จงได้ แต่อรุณประไพก็ไม่ได้สะทกสะท้านและให้ความสนใจแต่การทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอจัดระเบียบชีวิตให้กับคงไคยเพื่อแก้นิสัยไร้ระเบียบและมักง่ายของเขา คุณหญิงภวันรู้สึกดีใจที่เห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวลูกชายไปทีละน้อยชนิดที่แม้แต่คงไคยเองก็คงยังไม่ทันสังเกต เพราะคงไคยมัวแต่กำลังสนุกกับการท้าทายเล่นสงครามประสาทด้วยตั้งใจให้อรุณประไพติดบ่วงเสน่ห์ของตนเอง แต่ยิ่งตอแยก็เหมือนคงไคยวิ่งไล่ตามอรุณประไพด้วยความต้องการของตัวเองโดยไม่รู้ตัว มีเพียงคุณหญิงภวันและคุณทองถมที่เฝ้าจับตามองความเป็นไปอย่างพอใจ ปรุงฉัตรประกาศทั้งทางตรงและทางอ้อมว่าตนเป็นเมียของคงไคยมาก่อน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีพิธีรีตรองรองรับ แต่แน่นอนว่า เธอเป็นเมียที่คงไคยรักและใช้ชีวิตอยู่ด้วย ในขณะเดียวกัน ปรุงแตรเริ่มหึงหวง ระรานกับผู้หญิงทุกคนที่มีความสัมพันธ์หรือเข้ามาติดต่อใกล้ชิดกับคงไคย ไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิงที่เข้ามาทำงานกับคงไคย จนเกิดเรื่องตบตีกันในที่ทำงานของคงไคย จนคุณหญิงภวันต้องยื่นคำขาดให้คงไคยจัดการกับปัญหาทั้งหมด คงไคยเริ่มรู้สึกเหนื่อยและรำคาญกับปัญหาที่ปรุงฉัตรก่อขึ้น ปรุงฉัตรสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของคงไคยที่เริ่มหายใจเข้าออกเป็นอรุณประไพ ปรุงฉัตรรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะสูญเสียคงไคยไป ปรุงฉัตรอยู่นิ่งไม่ไหวเดินหน้ารุกหนักขึ้นด้วยการเข้านอกออกในและวางตัวราวกับเป็นคุณผู้หญิงของบ้านโดยไม่สนใจสายตาตำหนิของคุณหญิงภวันสักนิด เมื่อคงไคยต้องเป็นตัวแทนบริษัทไปประชุมที่ญี่ปุ่น ปรุงฉัตรก็ขอตามไปอย่างไม่ลังเล คุณหญิงภวันรู้เรื่องเข้าก็เรียกคงไคยเข้ามาต่อว่า คงไคยเบื่อที่จะต้องปวดหัวกับปัญหารักสามเส้าจึงไปขอหย่ากับอรุณประไพให้สิ้นเรื่อง อรุณประไพยอมตกลงโดยดีแต่มีข้อแม้ว่าคงไคยจะต้องเป็นฝ่ายไปพูดกับคุณหญิงภวันเองซึ่งนั่นทำให้คงไคยรู้ว่าการหย่าคงไม่ง่ายอย่างที่คิด ภุชงค์ย้ายเข้ามาทำงานที่กระทรวงจึงได้มาเยี่ยมอรุณประไพที่บ้านบ่อย ๆ ภุชงค์มาบอกข่าวเรื่องที่แยกกันอยู่กับภรรยาหลังจากเธอแท้งลูก และความแตกต่างระหว่างภุชงค์กับภรรยาทำให้ชีวิตคู่ของภุชงค์กำลังจะจบลงเร็ว ๆ นี้ ภุชงค์ขอโอกาสจากอรุณประไพอีกครั้ง คงไคยแค่เห็นว่าภุชงค์มางอนง้อก็เข้าใจว่าอรุณประไพคงเตรียมจะกลับไปหาคนรักเก่าหลังหย่าจากเขา เขานึกดูถูกอรุณประไพที่ยินดีลดตัวไปเป็นเมียเก็บของผู้ชายคนนั้นมากกว่าจะเป็นเมียแต่งของเขา คงไคยไปบอกเรื่องหย่ากับคุณหญิงภวันตามเงื่อนไขของอรุณประไพ คุณหญิงภวันยื่นคำขาดว่าถ้าจะหย่ากับอรุณประไพ คงไคยจะต้องยอมให้คุณหญิงภวันตัดทรัพย์สินส่วนของคงไคยจ่ายให้อรุณประไพไปเพื่อชดเชยการหย่าอย่างน้อยไม่ต่ำกว่าห้าล้านบาท คงไคยเป็นเดือดเป็นร้อนไม่อยากจะต้องจ่ายให้อรุณประไพสักแดง เพราะเขารู้ดีแก่ใจว่าอรุณประไพยังไม่เคยทำหน้าที่ตามพฤตินัยกับคงไคยเลยสักครั้ง คุณหญิงภวันขีดเส้นตายให้คงไคยจัดการเรื่องหย่าให้เรียบร้อยด้วยตัวเองก่อนไปเรื่องธุรกิจที่ต่างจังหวัด เพราะถ้าให้คุณหญิงเป็นคนจัดการเองเธอจะให้คงไคยจ่ายค่าชดเชยให้อีกเป็นสองเท่า คงไคยรู้สึกเจ็บใจที่ต้องเป็นฝ่ายแพ้ขาดทุนให้กับอรุณประไพอย่างย่อยยับ คืนก่อนไปคงไคยจึงได้เข้าไปตักตวงสิ่งที่เขาควรจะได้จากอรุณประไพด้วยการทำให้เธอตกเป็นภรรยาของเขาอย่างสมบูรณ์ให้คุ้มค่ากับเงินที่เขาต้องสูญไป ความหวานที่คงไคยได้ตักตวงจากอรุณประไพยังคอยตามรบกวนจิตใจของคงไคย แม้แต่ปรุงฉัตรที่แนบกายก็ยังดึงคงไคยจากความคิดถึงอรุณประไพไม่ได้ แม้คงไคยจะพยายามบอกตัวเองว่าอรุณประไพไม่มีคุณสมบัติที่สมควรเป็นภรรยาของคงไคยที่จะเชิดหน้าชูตาในสังคมเหมือนปรุงฉัตร และเป็นได้แค่นางก้นครัวแต่ความคิดของคงไคยก็ต้องเปลี่ยนไป เมื่อคงไคยได้พบกับอรุณประไพที่ตามมาเรื่องงาน ทำให้คงไคยได้รู้ว่าที่เข้าใจว่าอรุณประไพเป็นแค่แม่ครัวหรือคนใช้ประจำบ้านนั้นไม่ใช่เลย เพราะอรุณประไพมาร่วมงานเทศกาลอาหารนานาชาติในฐานะฟู้ด สไตลิสท์ของนิตยสารอาหารชั้นนำของประเทศ คงไคยได้เห็นบทบาทการทำงานของอรุณประไพและได้เห็นสายตาที่แสดงถึงความทึ่ง ได้ยินคำชื่นชมในความเก่งรอบด้านทั้งการงานและการเรือนโดยเฉพาะจากหนุ่ม ๆ ทำให้คงไคยเกิดอาการหึงขึ้นหน้าแสดงตัวเป็นสามีของอรุณประไพอย่างไม่สนใจสายตาจะกินเลือดกินเนื้อของปรุงฉัตรสักนิด คงไคยพยายามตามติดอรุณประไพคอยกันท่าไม่ให้ใครเข้าใกล้ ปรุงฉัตรรู้สึกสงสัยอาการกระวนกระวายของคงไคยที่จะออกไปตามลำพังตลอดเวลา ร้อนถึงคุณทองถมต้องคอยหาข้ออ้างและช่วยแยกปรุงฉัตรออกไป เพื่อให้คงไคยได้มีเวลาอยู่กับอรุณประไพ ยิ่งเมื่อกลับมาบ้านคงไคยก็ตามติดอรุณประไพไม่ห่างตา ความผูกพันของทั้งคู่ยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ปรุงฉัตรก็มีวิธีการทำให้คนหูเบา เจ้าอารมณ์อย่างคงไคยทะเลาะหาเรื่องหงุดหงิดใส่อรุณประไพได้ตลอด ระหว่างเมียแต่งอย่างอรุณประไพ และเมียเก็บอย่างปรุงฉัตร จะเชือดเฉือนบทบาทกันอย่างไร และสุดท้ายคงไคยจะเลือกใครเป็นแม่ของลูกที่แท้จริง

เงาพราย 2554

เงาพราย (2554/2011) หลังจากที่ ศักยะ(หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์) ซึ่งเติบโตอยู่ที่นิวซีแลนด์นานนับสิบปี ตั้งแต่อายุ 12 ปี จนถึงปัจจุบัน แต่ต้องเดินทางกลับเมืองไทย สาเหตุเพราะ นาวาโท หลวงสินาดชลยุทธ์ ผู้เป็นปู่เสียชีวิตลง ตาจอน(ไกรลาศ เกรียงไกร) คนรับใช้เก่าแก่ของบ้านสินาดชลยุทธ์ บอกว่าศักยะสนใจแต่เรื่องส่วนตัวจึงกลับมาดูใจปู่ไม่ทันกระทั่งพินัยกรรมถูก เปิดขึ้น ศักยะ และ นิศรา(อภิสรา ฉวีวงษ์) เป็นผู้ได้รับมรดก แต่ยังเหลือ ลพ ปัญจาวร(กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล) เพื่อนรักของหลวงสินาด ที่ได้รับเงินจำนวน 1 ล้านบาทที่ยังหาตัวไม่พบเพราะเวลาผ่านมานานมากแล้ว ส่วนพระเครื่อง เครื่องรางต่างๆ ตกเป็นของศักยะรวมทั้งของขลังต่างๆ ที่หลวงสินาดสั่งให้นำไปทิ้งลงแม่น้ำที่ปากอ่าวทั้งหมด ติดตามต่อได้ใน เงาพราย

วนาลี 2554

วนาลี (2554/2011) วิชชุดา วิภาดา (วิช) สาวน้อยวัยสิบแปดน้องคนสุดท้องของครอบครัว ด้วยความที่พ่อแม่ตายตั้งแต่เธอยังเด็ก พันตำรวจโทวิชาติ (ใหญ่) และปลัดวีรชาติ (กลาง) พี่ชายทั้งสองคนจึงเป็นคนเลี้ยงดูเธอมา กว่าวิชาติกับวีรชาติจะรู้ว่าได้เลี้ยงน้องสาวกลายเป็นทะโมนแก่นแก้วรักอิสระจนพี่ ๆ ควบคุมไม่ได้ก็สายไปแล้ว และยิ่งวิชชุดาคบหาสนิทสนมกับ ฤทธิรงค์ หนุ่มเจ้าสำราญจอมเจ้าชู้ ก็ยิ่งทำให้วิชาติเป็นห่วงหนัก วิชาติได้โอกาสแก้ปัญหาเมื่อรู้ว่าเพื่อนรัก พันตำรวจตรีโสรัตน์ พิพรรธ แอบหลงรักวิชชุดาอยู่ จึงบีบบังคับให้วิชชุดาแต่งงานกับโสรัตน์ โดยมี สอางทิพย์ คู่รักคอยเป็นกองหนุน แต่วิชชุดาไม่ยอมตกลงด้วย แต่งงานกับจอมโจรอาจจะดีกว่าตำรวจหน้าแหยอย่างโสรัตน์ วิชาติกับสอางทิพย์หาวิธีต่าง ๆ เพื่อให้โสรัตน์ชนะใจวิชชุดา แต่วิชชุดากลับตอกกลับด้วยการประกาศว่าเป็นคู่รักกับฤทธิรงค์ เมื่อถูกพี่ชายบีบบังคับมากเข้าวิชชุดาจึงหนีไปอยู่กับ คุณหญิงสมสวาท เทพวงศ์คุณป้าของเธอที่เมืองนนท์ วิชชุดาออกไปยิงนกตกปลากับ เด็กเด๋อ ลูกสมุน และยิงลูกหินใส่ ร้อยตำรวจเอกศยาม พิพรรธ (นายมืด) ที่เดินหลงเข้ามาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ศยามเห็นความกล้าก๋ากั๋นของวิชชุดาที่ไม่กลัวอะไรเลย จึงหลอกให้ผวาเล่นว่าตัวเองเป็นเสือมืดมาดูลาดเลาว่าปล้นบ้านไหนดี วิชชุดากลัวแต่ทำเป็นใจกล้าขู่ว่าอย่าได้คิดปล้นบ้านคุณหญิงป้าเป็นอันขาด เพราะคุณหญิงมีหลานเป็นนายตำรวจใหญ่ ศยามทำเป็นกลัวรับปากว่าจะกลับเนื้อกลับตัวใหม่ วันรุ่งขึ้นวิชชุดาตกใจแทบช็อค!!!เมื่อรู้ว่าโจรปล้นและทำร้ายคุณหญิงป้า วิชชุดามั่นใจว่าโจรที่ปล้นคือ เสือมืด เธอแค้นใจที่เสือมืดไม่รักษาคำพูด แค้นนี้ต้องชำระอย่างแน่นอน โสรัตน์ขอร้องให้ศยามไปสารภาพความจริงกับวิชชุดาว่าไม่ใช่โจร ก่อนที่เรื่องจะไปกันใหญ่ แต่วิชาติกลับห้ามไว้ วิชาติเกิดความคิดที่จะดัดนิสัยและทำให้โสรัตน์สมหวัง โดยให้ศยามสวมรอยเป็นเสือมืดต่อไปและให้หาจังหวะลักพาตัววิชชุดาไป จากนั้นจัดฉากให้โสรัตน์ไปช่วยได้ทัน เมื่อใดที่วิชชุดาเห็นโสรัตน์เป็นวีรบุรุษเอาชนะโจรได้ วิชชุดาจะต้องยอมแต่งงานด้วยอย่างแน่นอน วิชาติเรียกตัววีรชาติลงมาด่วน โสรัตน์แหยง ๆ กลัวความแตกจะทำให้วิชชุดาเกลียดขี้หน้าหนักกว่าเดิม ศยามเองไม่เห็นด้วยแต่จำใจร่วมขบวนการเพราะเกรงใจวิชาตินายตำรวจรุ่นพี่ ชายหนุ่มทั้งสี่สุมหัววางแผนจนลงตัว จะหลอกให้วิชชุดาไปนครสวรรค์แล้วให้ถูกจับตัวไว้ที่นั่น โดยให้นมคล้ามของศยามอยู่ด้วยกันข้อครหา สามตำรวจใหญ่หนึ่งปลัดวางตำแหน่งเป็นเดิมพัน งานนี้รับรองสำเร็จได้อย่างง่ายดาย สอางทิพย์ไม่เห็นด้วยกับแผนการของวิชาติจึงขอให้คุณหญิงป้าช่วยเกลี้ยกล่อมวิชชุดาให้รับรักโสรัตน์ คุณหญิงป้าเตือนไม่ให้วิชชุดามองคนที่ภายนอก ถ้ายังไม่รู้จักนิสัยใจคอใครดีพอ ก็น่าจะลองศึกษาไว้ก่อน เพชรอาจจะตกอยู่ในตมได้ฉันใด...ดวงใจที่ดีงามน่านับถือก็อาจแฝงอยู่ในรูปชั่วได้ฉันนั้น แต่วิชชุดายังดื้อไม่ฟังใคร วิชชุดาถูกกดดันเรื่องโสรัตน์จนทนไม่ไหว ประกอบกับได้ข่าวมีโจรปล้นอาละวาดที่นครสวรรค์จึงคิดว่าเป็นเสือมืดแน่ จึงแอบหนีวิชาติไปนครสวรรค์โดยหนีบเด็กเด๋อไปเป็นเพื่อนด้วย โดยไม่รู้ว่าเข้าทางของวิชาติไปแล้ว ศยามไปลา สุดถนอม ธนรักษ์ (แหวว) คู่รักที่กำลังจะหมั้นหมายกันไม่ช้า โดยพาโสรัตน์ไปแนะนำตัวด้วย คุณหลวงและคุณหญิงพิศาลพ่อแม่ของสุดถนอมเห็นดีเห็นงามที่สุดถนอมคบหากับศยาม แต่เมื่อได้เห็นโสรัตน์ที่มีตำแหน่งใหญ่โตกว่า คุณหญิงพิศาลก็เริ่มลังเลและหยอดให้โสรัตน์กลับมาเยี่ยมเยียนกันบ่อย ๆ ศยามพาซื่อขอร้องให้โสรัตน์หมั่นมาดูแลคู่รักแทนตน ขณะที่ทุกคนกำลังคุยกันชื่นมื่น สุมาน ก็เข้ามาทำให้วงแตก ศยามเห็นหน้าคู่รักเก่าก็รีบลากลับทันที สุมานตามง้องอนขอคืนดีกับศยาม ทั้งที่สุมานเป็นฝ่ายทิ้งศยามไปเมื่อได้เจอผู้ชายที่ฐานะดีกว่า ศยามไม่แยแสสุมานทำให้เธอแค้นใจจะแย่งศยามคืนจากสุดถนอมให้ได้ สดสวย ภรรยาของวีรชาติมาดักพาตัววิชชุดากับเด็กเด๋อไปที่บ้านพัก เพราะวีรชาติโทรเลขมาบอกล่วงหน้า สดสวยถ่วงเวลาไม่ให้วิชชุดาหนีไปไหนรอจนวีรชาติกับศยามตามมาทัน ศยามจะจับตัววิชชุดาได้หลายครั้งแต่ต้องพลาดไป จนวิชชุดาได้เบาะแสที่ถูกกุขึ้นจากวีรชาติ จึงไปตามหาเสือมืดจนพลาดท่าถูกศยามจับปิดปากมัดตัวขึ้นรถไป โดยไม่รู้ว่าเด็กเด๋อกระโดดเกาะติดรถไปด้วย วิชชุดาโกรธควันออกหูที่รู้ว่าเสือมืดจับตัวมาเพื่อเรียกค่าไถ่ เสือมืดทำเหี้ยมข่มขู่ให้วิชชุดาเชื่อฟังไม่งั้นจะจัดการเชือดเด็กเด๋อให้ดู จนนมคล้ามที่สวมบทบาทเป็นแม่เสือมืดต้องคอยห้ามปราม วิชชุดาค่อยอุ่นใจที่มีนมคล้ามและเด็กเด๋ออยู่เป็นเพื่อน วิชาติให้โสรัตน์เตรียมตัวไปช่วยวิชชุดาตามแผน แต่ต้องรอให้วิชชุดาถูกจับซักสองสามวันจะได้สมจริงหน่อย ระหว่างนี้โสรัตน์จึงไปเยี่ยมสุดถนอมแทนศยาม สุมานรู้เห็นว่าสุดถนอมแอบปลื้มโสรัตน์ คุณหญิงพิศาลก็เล็ง ๆ โสรัตน์เป็นลูกเขยแทนศยาม สุมานมีโอกาสก็ยุยงสุดถนอมและหาทางให้โสรัตน์ได้ใกล้ชิดสุดถนอม จนโสรัตน์เริ่มมีใจเอียงเอนกับสุดถนอม เมื่อได้เวลาตามไปช่วยวิชชุดา ก็มีคำสั่งให้โสรัตน์ไปช่วยราชการที่ชุมพร วิชาติเครียดที่วิชชุดาต้องถูกจับตัวไว้โดยไม่มีกำหนด สอางทิพย์ซ้ำเติมคู่รักที่คิดแผนการพิศดารพันลึกนี้ขึ้น วิชชุดาไม่ยอมแพ้เสือมืดง่าย ๆ เมื่อเสือมืดไม่อยู่ก็แอบไปไปค้นหาปืนในห้องเสือมืดมาป้องกันตัว วิชชุดาพบทั้งปืนทั้งรูปถ่ายของสุดถนอม วิชชุดาเริ่มสงสัยตงิด ๆ ว่าเสือมืดเป็นใคร แอบซักถามนมคล้าม ๆ ได้แต่โกหกแบบไม่เนียน วิชชุดาได้โอกาสพาเด็กเด๋อหนีไป ศยามจับตัวไว้ทันแย่งปืนกลับมาได้ ศยามปวดหัวที่รู้ว่าต้องกักตัววิชชุดาไว้อีกนาน ขณะเดียวกันก็ต้องตามล่าไอ้มหาโจรอย่าง เสือสอน อีก วิชาติตามมาที่นครสวรรค์เมื่อรู้ว่าศยามจะล้มเลิกแผน วิชาติรับปากจะช่วยตามล่าเสือสอนด้วย วิชชุดาใช้ไม้อ่อนเกลี้ยกล่อมนมคล้ามให้เตือนสติเสือมืดยอมมอบตัว นมคล้ามได้แต่เล่นละครบีบน้ำตาว่าลูกคนนี้กู่ไม่กลับแล้ว วิชชุดาโกรธที่เสือมืดทำให้แม่น้ำตาตก จึงสั่งสอนจริยธรรมชุดใหญ่ให้กับศยาม ศยามได้แต่ขำอยู่ในใจ...แต่ทำวางมาดเสืออวดผลงานที่เคยปล้นมา ศยามกับวิชาติได้ข่าวเสือสอนจะปล้นครั้งใหญ่บ้านเศรษฐีปากน้ำโพจึงตามไปดักจับ ศยามถูกยิงบาดเจ็บหนีกลับกระท่อม วิชชุดาได้โอกาสหนีออกมากับเด็กเด๋อ แต่มโนธรรมทำให้กลับมาดูแลพยาบาลศยามจนหายดี ทำให้ศยามซาบซึ้งกับน้ำใจวิชชุดา โดยไม่รู้ตัวความผูกพันเริ่มก่อตัว ศยามต้องเรียกสติตัวเองไม่ให้ลืมว่าวิชชุดาเป็นคนที่โสรัตน์รัก วิชชุดาก็ต้องเตือนตัวเองว่ากำลังให้ใจกับโจรชั่วอยู่ คุณหลวงพิศาลธนรักษ์พาครอบครัวมาเที่ยวนครสวรรค์ โดยมีสุมานตามมาด้วย วีรชาติกับสดสวยคอยดูแลต้อนรับและพาเที่ยว สุมานดีใจที่ได้พบศยาม พยายามเอาชนะหัวใจศยามอีกครั้ง ยุยงให้สุดถนอมบอกความจริงที่หลงรักโสรัตน์ไปแล้ว แต่สุดถนอมไม่กล้า ศยามกับสุดถนอมต่างรู้สึกว่าต่างเปลี่ยนไป ใจศยามอยู่ที่ป่าที่มีวิชชุดาอยู่ วิชชุดาเองก็รอเสือมืดอยู่ ทั้งสองเริ่มใกล้ชิดแบ่งปันเรื่องของกันและกัน ศยามจำใจโกหกปั้นเรื่องไปเรื่อยว่า มีพี่ชายฝาแฝดที่ได้ดิบได้ดีผิดกับตัวเองที่ตกต่ำมาเป็นโจร ทำให้วิชชุดาเสนอช่วยเหลือจะฝากงานให้ ศยามรับปากจะกลับตัวในอีกไม่นาน นับวันศยามก็เห็นหัวใจที่งดงามของวิชชุดา โสรัตน์ขอลาราชการได้รีบตามมาที่นครสวรรค์เพื่อมาดูวิชชุดา วิชชุดากับเด็กเด๋อมาเล่นน้ำกัน วิชชุดากระโดดลงน้ำแล้วไม่โผล่ขึ้นมาเลย โสรัตน์จะกระโดดน้ำไปช่วยแต่ถูกศยามชิงตัดหน้าโดดไปช่วยวิชชุดาได้ก่อน แต่หาตัวไม่เจอ วิชชุดาโผล่ขึ้นจากน้ำอีกที่ ศยามตามจับตัววิชชุดามาลงโทษ ศยามตกใจที่เห็นโสรัตน์แอบมองอยู่กลัวโสรัตน์เข้าใจผิด ศยามจึงต้องกลับมาเป็นเสือมืดผู้แข็งกระด้างเตรียมออกปล้นอีกครั้ง วิชชุดาโกรธที่ศยามกลับคำไม่ยอมพูดกับศยามอีก ศยามไม่มีเวลาปรับความเข้าใจกับวิชชุดาเพราะต้องรีบไปจับเสือสอน ศยามกับวิชาติเข้าลุยจับเสือสอนกับลูกน้องได้ แต่กลับพบว่าเป็นเสือสอนตัวปลอม เสือสอนเปลี่ยนชุดเป็นตำรวจลอบหนีออกไปก่อน ศยามเค้นคอจนรู้ว่าเสือสอนมุ่งไปกบดานแถวกระท่อมเสือมืด ศยามรีบกลับไปหาวิชชุดาทันที ศยามกลับไปเจอแต่นมคล้ามกับเด็กเด๋อที่ถูกมัดปิดปากอยู่ ศยามแทบคลั่งเมื่อรู้ว่าเสือสอนจับตัววิชชุดาไปแล้ว ศยามวิ่งตามจนทันเสือสอนแต่ยังทำอะไรไม่ได้เลยต้องยอมขอเป็นลูกน้องเสือสอนไป วิชชุดายิ่งโกรธเกลียดเสือมืดแต่แล้วก็รู้ว่า เสือมืดพยายามปกป้องตัวเองด้วยการบอกว่าเธอเป็นน้องสาว วิชาติ โสรัตน์ และวีรชาติตามรอยจนเจอเสือสอน ทั้งสองปะทะกัน ศยามเอาตัวปกป้องวิชชุดาจนถูกยิง เสือสอนถูกจับได้ วิชาติรีบพาวิชชุดาไปโดยวิชชุดาไม่ทันเห็นว่าเสือมืดตายหรือเปล่า แผนการของวิชาติล้มเหลว เพราะเสือมืดกลับเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยวิชชุดาแทนที่จะเป็นโสรัตน์ ทุกอย่างผิดแผนไปหมด วิชชุดาแปลกใจที่ไม่มีใครพูดถึงเสือมืด ฤทธิรงค์ช่วยสืบหาแต่ก็ไม่มีข้อมูล วิชชุดาเจอศยามเข้าโดยบังเอิญในงานเลี้ยงของกรมตำรวจ ศยามกลับทำหน้าตายบอกว่าชื่อศิระ (มอด) เป็นพี่ชายฝาแฝดของเสือมืด วิชชุดางุนงงสงสัยแต่แล้วเมื่อเห็นศยามอยู่กับสุดถนอม วิชชุดาจำรูปสุดถนอมที่อยู่ในห้องเสือมืดได้ วิชชุดาเริ่มปะติปะต่อเรื่องได้ วิชชุดาโกรธมากที่ถูกทุกคนหลอก จึงตลบหลังกลับประกาศยอมแต่งงานกับโสรัตน์ ทั้งที่รู้จากสุมานว่าโสรัตน์กับสุดถนอมแอบรักกันอยู่ ฤทธิรงค์อกหักอย่างแรง โสรัตน์ต้องรีบสารภาพกับศยามและวิชาติว่าตกหลุมรักสุดถนอมไปแล้ว ศยามกลับไม่โกรธโสรัตน์เพราะตัวเองก็มอบหัวใจให้วิชชุดาไปเช่นกัน วิชาติปวดหัวไม่รู้จะแก้ไขเรื่องนี้ยังไงดี คู่รักผิดฝาผิดตัวไปหมด วิชชุดาดื้อแพ่งยืนยันที่จะแต่งงานกับโสรัตน์คนเดียว ไม่งั้นชาตินี้จะไม่แต่งงานกับใคร ศยามอกหักเสียใจขอย้ายไปอยู่จังหวัดชายแดน วิชชุดาแอบปวดใจแต่ก็ยังมีทิฐิไม่ยอมเปลี่ยนใจ วิชาติกับวีรชาติสุมหัวคิดแผนการกันอีกครั้ง ยอมจัดงานแต่งงานให้กับวิชชุดาอย่างเร่งด่วน วิชชุดาตกใจที่พี่ชายทั้งสองเอาจริง เธอรีบหนีก่อนที่งานแต่งงานจะเริ่มขึ้น แค่ก้าวออกจากบ้านวิชชุดาก็ถูกรวบตัวมัดมือปิดตาอุ้มขึ้นรถไป และแล้ววิชชุดาก็รู้ว่าได้ถูกเสือมืดจับตัวมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้จับมาเพื่อคนอื่น แต่เพื่อให้ได้หัวใจของวิชชุดากลับคืนมา วิชชุดาสิ้นฤทธิ์ถูกเสือมืดปราบได้ในที่สุดที่กระท่อมกลางป่าที่ชื่อ วนาลี ละครวนาลี ออกอากาศทุกวันจันทร์ –อังคาร เวลา 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครวนาลี เริ่มตอนแรกวันอังคารที่ 12 เมษายน 2554

รักไม่มีวันตาย 2554

รักไม่มีวันตาย (2554/2011) เรื่องราวความผูกพันอันลึกซึ้งคำสาปและการปลดปล่อยที่ถูกเก็บไว้อย่างลึกลับ กว่า 400 ปี เริ่มปรากฏขึ้น ในงานประมูลเครื่องประดับของขุนนาง และหญิงชั้นสูงของจีนที่ขุดพบใน ถ้ำมังกรอมตะ วัตถุโบราณชุดสำคัญมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ถ้ำมังกรอมตะ เป็นถ้ำเก่าแก่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน ตามตำนานอ้างว่ามีสมบัติของราชวงศ์หมิงที่ถูกขโมยมาเก็บซุกซ่อนไว้ แต่ยังไม่ทันที่หัวขโมยจะได้แบ่งสมบัติถ้ำเกิดถล่มฝังทุกสิ่งไว้อย่างมิดชิด จนกระทั่งในปีพ.ศ. 2140 มีนักล่าสมบัติกลุ่มหนึ่งสามารถเปิดปากถ้ำเข้าไปได้ สมบัติล้ำค่าจำนวน 117 ชิ้นจึงถูกนำออกมาจำหน่ายจ่ายแจกกระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่าง ๆ ทั่วโลก ติดตามต่อได้ใน รักไม่มีวันตาย

ดวงตาสวรรค์ 2554

ดวงตาสวรรค์ (2554/2011) แพน หรือ พันพร เทพประทาน หญิงสาวนาฏศิลป์สาวผู้มากด้วยฝีมือ แสดงละครรำได้อย่างประทับใจผู้ชม ขนาดเพื่อนชาวต่างประเทศของ ม.ร.ว. ราชาณัต เทวพันธุ์ขอสั่งภาพจิตรกรรมรูปแพนใส่เครื่องรำขนาดเท่าตัวจริง ชายใหญ่ปลาบปลื้มไปกับแพนจนถึงกับหลงรักและขอแต่งงานกับแพนในที่สุด โดยท่านชายผู้เป็นบิดาของชายใหญ่ก็ยินยอม อันที่จริงชายใหญ่เคยรู้จักแพนมาตั้งแต่ทั้งคู่ยังเป็นเด็กครั้งที่ชายใหญ่ได้อพยพหนีภัยสงครามโลกไปอยู่ที่ผักไห่ แต่เมื่อสงครามยุติ กลุ่มเด็กชาวกรุงฯ ได้แก่ ชายใหญ่ หญิงออนและหลานในไส้ คือ เอียดและเล็ก ลูกของราศี พี่สาวของประภากับพลตรี โภคา พากันกลับกรุงเทพฯ วันนั้นเองแพนได้ลอบขึ้นเรือมาจนกระทั่งเล็กมาสังเกตเห็น แพนได้ขอติดตามไปเรียนที่กรุงเทพฯ ประภายินยอมรับอุปถัมภ์แพน และราศีก็ช่วยฝากแพนเข้าเรียนนาฏศิลป์พร้อมกับตั้งชื่อให้ใหม่ว่า พันพร เทพประทาน การที่แพนตกลงใจยอมแต่งงานกับชายใหญ่ทำให้เทิน หนุ่มจากผักไห่ ซึ่งเป็นเพื่อนของแพนมาตั้งแต่เด็ก หัวใจแตกสลาย แพนทำท่าทีเหมือนว่าไม่ได้เคยรักเขามาก่อน เทินพ่ายแพ้แก่ชีวิตและหนีเตลิดไป ระหว่างทางน่านและหทัยได้พบกับเทินที่กำลังป่วยทั้งทางใจและกาย ทั้งสองจึงพาเทินมารักษาตัวที่บ้านพักตากอากาศของตระกูลที่ห้วยทราย ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านพักตากอากาศของโภคา ที่นั้นเทินได้พบภาพถ่ายของตนสมัยเด็กจึงได้รู้ว่า น่านก็คือหนึ่งในเด็กชาวกรุงที่เคยอพยพหนีสงครามมาอยู่ที่ผักไห่ ทั้งน่าน และ หทัยต่างดีใจและอนุญาตให้เทินอาศัยอยู่ที่บ้านได้โดยไม่มีกำหนด ผู้ที่เดือดร้อนที่สุดต่อการหายไปของเทินคือเอียด พี่สาวของเล็ก หญิงออน เริ่มจะสงสัยว่าเอียดจะแอบรักเทิน เพราะเทินเข้ามาสนิทสนมกับครอบครัวตั้งแต่ที่ผักไห่ เมื่อเข้ามาศึกษาต่อในกรุงเทพฯ ทั้งเทินและเล็กก็ยังได้เรียนอยู่ด้วยกันอีก เล็กและหญิงออนกลัดกลุ้มใจ เพราะเอียดไม่เปิดปากบอกใครในเรื่องของความรัก แต่อาการของเอียดก็แย่ลงจนถึงขั้นล้มป่วย แพนเข้าไปมีบทบาทอยู่ในวังสวนทิพย์ ท่ามกลางความไม่พอใจของเหล่าคนเก่าแก่ ในขณะเดียวกัน หทัยซึ่งได้เคยเห็นแพนมาก่อน ก็หมายมั่นว่าจะเชิญแพนมาเป็นนางเอกหนังเรื่องใหม่ ลมลวง หทัยได้ติดตามไปทำความรู้จักกับแพน โดยมี น่าน พาไปพบ และได้รื้อฟื้นความหลังที่เคยรู้จักกันมาก่อนกับหญิงออนด้วย อาการป่วยของเอียดไม่ดีขึ้น ประภาจึงพาเอียดไปพักผ่อนที่ห้วยทรายโดยมีเล็กและหญิงออนไปส่ง ที่นั่นเอียดได้พบกับเทินโดยบังเอิญและทั้งสองได้แสดงมิตรภาพที่ดีต่อกัน ความสุขของคู่อื่น ๆทำให้แพนเดือดร้อนอยู่ในใจ และยิ่งแพนรู้ว่าชายใหญ่ ซึ่งโหมทำงานหนักล้มป่วยลง ด้วยวัณโรคปอด แพนยิ่งร้อนใจ แต่ก็ต้องพยายามรักษาหน้าของตนเองโดยการทำหน้าที่ของสะใภ้วังสวนทิพย์ที่ดี แต่มันขัดกับความรู้สึกที่แท้จริงของตน ในที่สุด แพนจึงติดต่อไปยังหัสดินทร์ภาพยนตร์ เพื่อตกลงยอมแสดงหนังเรื่องลมลวง ทำให้ชายใหญ่ไม่มีความสุขและเกิดปัญหาครอบครัวอย่างแรง ลมลวงประสบความสำเร็จอย่างสูงกลายเป็นหนังยอดนิยมเงินล้านและแพนเองก็ได้มีชื่อเสียงเป็นดาราดวงใหม่ แพนอยากจะหย่ากับชายใหญ่แต่ชายใหญ่ไม่ยอม จึงกลับไปอยู่กับประภา ในวันที่เล็กกลับจากงานเลี้ยงและแพนเป็นคนคอยเฝ้าปิดประตูให้ แพนวางแผนทำเป็นถูกเล็กปลุกปล้ำ เล็กจำเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ แต่ก็เล่าให้หญิงออนฟัง ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเล็กกับหญิงออนมีปัญหากัน แพนรีบวางแผนที่จะกำจัดหญิงออนออกจากเล็กตลอดไป เมื่อหญิงออนกลับเข้าบ้านสะอึ้งบอกว่าอาจารย์วีระโทรมาว่าชายใหญ่ป่วยอยู่ที่บ้านอาจารย์วีระ และจะให้รถมารับที่วังพาหญิงออนไปบ้านอาจารย์วีระ เล็กได้ทราบข่าวจึงโทรศัพท์ไปเช็คที่บ้านอาจารย์วีระ พบว่ายังไม่กลับจากต่างจังหวัด และชายใหญ่ไม่ได้เป็นอะไร เล็กรีบไปที่วังสวนทิพย์ และออกไปตามหา ระหว่างนั้นเอียดกับหญิงออนกำลังต่อรองกับเชนเพื่อจะให้หลุดพ้นออกมา จนในที่สุดเชนยอมปล่อยตัวทั้งสองคนและขอให้สัญญาว่าจะไม่เอาความ หญิงออนและเอียดกลับมาแล้ว เล็กจึงรีบออกจากบ้านไปรับขวัญ พบแพนยืนขวางอยู่หน้าบ้าน และเล็งปืนขู่จะฆ่าเล็กด้วยปืนของเทินที่แพนแอบขโมยไป ระหว่างนั้นนักข่าวมาที่บ้าน พร้อมตำรวจ ตามที่ราศีแจ้งไป เรื่องหญิงออนและเอียดหายตัวไป แพนจึงตัดสินใจยิงเล็ก แพนรู้สึกผิดมากเกิดกลัวนักข่าว จึงวิ่งหนีออกไปจากบ้านและฆ่าตัวตายตาย ขณะที่โภคารีบพาเล็กไปส่งโรงพยาบาล ก่อนหน้านั้นแล้ว เทินมีหน้าที่ต้องนำกระดูกของแพนกลับไปลอยน้ำที่บ้านเกิด สถานที่ๆ แพนทอดทิ้งไปเพราะคิดว่า ที่นี่ไม่ดีพอ แพนได้ก้าวไปสู่จุดสูงสุดสวยงามด้วยความสามารถของเธอเอง แต่ความที่แพนไม่หยุดที่จะไขว่คว้า และไม่เคยพอเพียง ไม่พอใจกับสิ่งที่ตนมี ทำให้แพนต้องจบชีวิตลงในที่สุด

หมู่บ้านสำราญรัก 2554

เรื่องย่อ : หมู่บ้านสำราญรัก (2554/2011) ณ หมู่บ้านจัดสรรเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีผู้คนมากมาย หลากหลายอาชีพ ปากกัดเท้าถีบ เช่าบ้านอยู่ในหมู่บ้าน ซึ่งคนที่มาอาศัยพื้นเพส่วนใหญ่เป็นคนต่างจังหวัด และเมื่อต่างคนต่างมา การปรับตัวในเมืองใหญ่ และค้นหาความรักในใจจึงเกิดขึ้น เรื่องราวความครื้นเครง อลเวง วุ่นรัก วุ่นวาย วนเวียนอยู่ในวงแคบๆ เพราะเห็นและรู้จักกัน บ้านโน้น หลังคานี้ ... ที่ชุมนุม ก็คงหนีไม่พ้น ร้านชำ ร้านกาแฟ อาหารสด อาหารแห้ง สนาม สวนหย่อมภายในหมู่บ้าน - ลูกชายบริษัทรักษาความปลอดภัย หลงรัก เซลล์สาวขายตรงจอมเขี้ยว - รปภ. กับ แม่ค้าส้มตำ - สาวใหญ่ ไฮโซ ขี้เมาท์ กับ คนจัดสวน 3 คู่ 3 รส เรื่องราวการเกี้ยวพาราสี ต่างรสชาติ บู๊ เผ็ด เด็ด มัน ฮา หันไปดูคู่นั้นก็อย่าง หันมาดูคู่นี้ก็อีกอย่าง ขาเมาท์ ขาแหย่ แส่หาเสี้ยน ก็สร้างความอลวนอลหม่านได้ไม่เบา..แต่ละอาชีพ สาขา ความจัดจ้านในการรุกบทรัก ช่างสรรหา มาให้ได้ครื้นเครง สุขสันต์ รักกระจุ๋มกระจิ๋ม กระแทกกระทั้น บู๊สะบั้น ห้ำหั่น เชิงรุกเชิงรับ ระหว่างคู่ชิงรักหักสวาท จะแวะเวียนให้ขบขัน สุขใจ ไปใน หมู่บ้าน สำราญรัก

ล้างรถตัดขนหมา 2554

เรื่องย่อ : ล้างรถ ตัดขนหมา (2554/2011) บ้านของ “กระเป๋า” (วัชรบูล ลี้สุวรรณ) กับ เยบีร่า (ลลนา ก้องธรนินทร์) มีที่นามากมาย แต่พอมีถนนใหญ่ตัดผ่าน ก็กลายเป็นแหล่งธุรกิจ มีห้างสรรพสินค้าเกิดขึ้น จึงทำให้ 2 บ้านนี้ ซึ่งบ้านหนึ่งมีลูกชาย นายกระเป๋า กับ อีกบ้านที่มีลูกสาว ชื่อ เยบีร่า ต่างก็หาเหตุผลต่างๆ นานา มาเชียร์ให้พ่อกับแม่แบ่งที่ดินที่ติดกัน ทำกิจการ ที่ดูเหมือนว่าจะคล้ายกัน ผิดตรงบริการให้ความสะอาดคนละอย่าง ด้วยเหตุผลที่ลูกต่างก็ยกแม่น้ำทั้งห้ามาสาธยายจนทำให้ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ยอมรับโดยปริยาย ธุรกิจเปิดตัว ความในใจของ 2 บ้าน รุ่นพ่อ รุ่นแม่จึงปุดออกมา เหตุเพราะบ้านของกระเป๋า มีแม่ที่ไม่ชอบหมาเอาซะเลย เนื่องจากเธอโกรธแม่ของเยบีร่า ที่ชื่อ “ยี่หร่า” (ภัสสร บุณยเกียรติ) เคยเลี้ยงหมาไร้มารยาท ขาดการฝึกฝนเรื่องขับถ่าย และ เห่าหอน ซึ่งเป็นปัญหาเช่นเดียวกับอีกหลายๆ บ้านที่ติดๆ กัน เกิดการทะเลาะวิวาท บาดหมาง มองหน้ากันไม่ติด ด้วยความที่ไม่ยอมกัน (ตามความคิดของคนรุ่นเก่า ที่เอาแต่ใจตัวเอง ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมปรับอะไรๆ บางอย่าง ที่ควรจะปรับ) เอาล่ะซี้ 2 ธุรกิจนี้ เปิดตัวก็มีปัญหาซะแล้ว ผู้ใหญ่ 2 บ้านก็จะต้องตะหงิดๆ ขุดมาคิดเรื่องเก่าๆ แถมกิจการก็ดั๊นดำเนินไปได้ด้วยดี ดี๊ ดี ทั้งหมา ทั้งรถ ของลูกค้าชาวบ้าน ที่มีงานทำไม่ขาดมือ ลูกค้าพนักงาน Office ในย่านนั้นๆ และอีกหลายๆ ลูกค้า ที่สลับสับเปลี่ยนกันมาใช้บริการ เป็นลูกค้าผ่าน และลูกค้าประจำในละแวกนั้น ที่สำคัญ หนุ่ม Office สุดเท่ ชื่อ “ตะกู” (พศิน ศรีธรรม) พื้นเพมาจากประทาย จ.นครราชสีมา มาใช้บริการล้างรถที่บ้านของกระเป๋า ก็เกิดมีความฝันปิ๊งๆ กับสาวเยบีร่า อย่างหัวปักหัวปำ เป็นคู่แข่งคู่กัดกับ กระเป๋า ขับเคี่ยวกันตลอด อย่างที่ตะกูก็ไม่รู้ว่า กระเป๋า แอบหลงชอบสาวเจ้าเหมือนกัน เค้าก็สงสัยเสมอ ว่าทำไม เค้าเอารถมาล้าง แล้วขอเดินไปนั่งอุดหนุนกาแฟร้อน ที่ร้านอาบน้ำ ตัดเล็บ ตัดขนหมา ของเยบีร่า ในระยะหลัง รถของตะกูจะได้รับการดูแลลัดคิวเสมอ ทำให้มีเวลาพูดคุยกับเยบีร่าได้น้อย พอรู้ว่ากระเป๋าก็แอบชอบเยบีร่า ตะกูจึงขอท้าแบบลูกผู้ชาย ใครดีใครได้ อย่าใช้วิธีสกปรกกระเป๋าตกลง ฝ่ายหนุ่มล้างรถก็ไม่น้อยหน้า มีสาวเจ้าของร้านขายเสื้อผ้าที่บินไปซื้อหามาขายอยู่บนห้าง แวะเวียนมาใช้บริการ ครั้งแรกที่มา ก็เกิดอาการหวั่นไหว สะทกสะท้านหนุ่มบ้านๆ เจ้าของกิจการ ซึ่งยิ่งรู้ว่าเป็นทายาทลุงกับป้าที่มีที่นายาวเหยียด บนถนนที่ตัดจากถนนสายธุรกิจไปนิดเดียว เธอยิ่งวาดฝันไปไกล ถ้าได้เป็นลูกสะใภ้ เธอก็จะปั่นให้ราคาที่ดิน ของลุง กับ ป้า ที่เป็นเศรษฐีที่ดินชานเมือง กลายเป็นคุณนาย คุณท่าน มหาเศรษฐี มีหน้ามีตาในสังคมชั้นสูง (เศรษฐีใหม่ไฮโซ สำเนียงเหน่อ) ได้ในพริบตา 2 บ้าน 2 กิจการ จะมีเรื่องอลหม่าน การบริการทั้งรถ ทั้งคน และ ทั้งหมา มาทำให้สนุกสนานเฮฮา ปะทะคารมกลมๆ ด้วยเรื่องกลความรักของแต่ละฝั่งที่มีเล่ห์เหลี่ยมหักมุมเอาชนะกันไม่ว่างเว้น แถมปมปัญหาติดพัน ระหว่างรุ่นพ่อ กับ รุ่นแม่ ที่หาเรื่องมาทะเลาะกันได้ไม่ขาดระยะ กว่าหนุ่ม-สาว จะลงเอย มิอาจคาดเดาได้ว่า ชีวิตรักของคนรักรถ กับ คนรักหมา จะหาช่องว่างทางธุรกิจ เพื่อต่อเติมรักใสๆ ของทั้ง 2 ฝ่าย ไปในทิศทางไหนแน่

วิวาห์...ฮาเฮ 2554

เรื่องย่อ : วิวาห์...ฮาเฮ (2554/2011) ที่ Marry Me กับกลุ่มคนอารมณ์ดี ที่จะมาทำให้บ่ายวันหยุดของคุณมีสีสัน สารพันความเฮฮา Marry Me เป็นบริษัทรับจัดการเรื่องงานวิวาห์แบบครบวงจร ทั้งถ่ายภาพคู่วิวาห์ เช่าและสั่งตัดชุดแต่งงาน ตลอดจนเนรมิตงานวิวาห์ในฝันให้กับคู่รักทั้งหลาย โดยมี คุณปุ๊กกี้ (ท๊อป ดารณีนุช) สาวใหญ่ เค็มปี๋ จอมตระหนี่ ถี่ถ้วน เป็นเจ้าของ แต่คนที่คอยจัดการทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง เปลี่ยนความชุลมุนวุ่นวาย ให้กลายเป็นความประทับใจแก่ลูกค้า คือ แจง (เจี๊ยบ ลลนา) สาวเนี้ยบ รักความสมบูรณ์แบบ เลยทำให้เป็นคนเจ้ากี้เจ้าการ ในหัวมีแต่เรื่องงาน จึงโสดสนิท เพราะนิสัยทำงานตรงไปตรงมาของแจง จึงไปขัดแย้งกับ ความเอ้อระเหย เรื่อยเปื่อยของ เข้ม (ไผ่ พาทิศ) ช่างภาพประจำ Studio เข้มเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ อารมณ์ดี ขี้เล่น ทำงานสบาย ๆ เหมือนเป็นเล่นไปซะหมด เข้มเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน รวมไปถึงว่าที่เจ้าสาวที่มาใช้บริการ บ่อยครั้งที่เสน่ห์ของเขา เกือบทำให้งานวิวาห์ล่ม แต่เสน่ห์ของเข้มใช้ไม่ได้ผล กับแจง เพราะทุกอย่างที่เข้มทำ กลับดูขัดหูขัดตาแจงมาก โดยเฉพาะก็พูดจาจิ๊จ๊ะ แบบหมาหยอกไก่ของ เข้ม และ แอนนี่ (เป้ย ปานวาด) สาวเปรี้ยว ขี้หลง ขี้ลืม ตำแหน่ง Sale ขายแพ็กเกจ นิสัยกล้าได้กล้าเสีย การบริหารเสน่ห์ไม่เลือกที่ของแอนนี่ มักจะนำพาปัญหามาสู่การทำงานบ่อย ๆ แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยการแก้ไขของแจงทุกครั้ง ด้วยนิสัยเจ้ากี้เจ้าการของแจง จัดให้ โจ๊ก (หมู ธีรภัทร์) น้องชายแท้ ๆ ที่เพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัย แต่ยังหางานไม่ได้ มาฝึกงานที่ Marry Me บังคับให้แต่งตัวเนี้ยบ ดูภูมิฐานน่านับถือ ขัดกับบุคลิกจริง ๆ ของโจ๊ก เพราะแจงหวังดี อยากให้น้องได้ทำงานดีดีมีอนาคต แบบที่ตนเองกำลังทำอยู่ ด้วยความที่รักพี่ โจ๊กจึงไม่เคยขัด แต่มักเฝ้ามอง เข้ม และ ขิง (นินิว กัญญารัตน์) น้องสาวที่เข้มเอามาฝึกงานเป็นผู้ช่วยช่างภาพด้วยความชื่นชม ในความสนิทสนม สนุกสนาน เฮฮาประสาพี่น้อง ดูแล้วอบอุ่นดี ขณะที่ขิงกลับมองโจ๊กเป็นไอ้ขี้เก็ก เนี้ยบตั้งแต่หัว จรดเท้า แต่กลับประทับใจในความเป็นหญิงเก่ง ทำงานคล่องของแจง แถมยังแอบลุ้น อยากให้แจงมาเป็นพี่สะใภ้ แต่ดูจะไม่มีหวัง เพราะทั้งคู่ กัดกันเหลือเกิน นอกจากจะต้องรับมือกับงบประมาณสุดหินที่พี่ปุ๊กกี้ จำกัดจำเขี่ยมาให้ในการทำงานแต่ละครั้ง ต้องคอยแก้ปัญหารับงานมั่วซั่ว ของแอนนี่ Sale สุดเซ็กซี่แล้ว อีกหนึ่งปัญหาคาหัวใจของ แจง คือ คุณพลอย (ครีม เปรมสินี) สาวสวย รวยเสน่ห์ อ่อนหวาน ดูดีไปหมด ทุกอย่าง เป็นประเด็นที่เข้มมักจะเอามาเปรียบเทียบกับเธอ คุณพลอยเป็นลูกสาวเจ้าของ สวนดอกแก้ว สถานที่จัดงานแนวใหม่ในสวนสวย ที่กำลังเป็นที่นิยมของบ่าวสาวยุคนี้ คุณพลอยจบเมืองนอก กำลังฝึกงานเพื่อรับช่วงกิจการต่อจากที่บ้าน ทำให้ต้องเข้ามาติดต่อประสานงานที่ Marry Me บ่อย ๆ คุณพลอยแอบมีใจให้เข้ม เข้มเองก็ดูจะปลาบปลื้มเธอเหมือนกัน นั่นทำให้แจงรู้สึกคัน ๆ ที่หัวใจ ใน Marry Me ยังมีทีมงานที่ช่วยกันสร้างสรรค์ความฝันให้กับบ่าว-สาว อีกหลายคน อาทิเช่น คุณยศ (อั๋น ศราวุธ) นักจัด ดอกไม้มือหนึ่ง ซึ่งมีบุคลิกคุณชายมาก เจ้ายศเจ้าอย่างจนน่าหมั่นไส้ ชิกกี้ ดั๊กกี้ (เอ,บี) หรือคู่แฝด เป็ดกับไก่ ช่างแต่งหน้า-ทำผม ฝาแฝด จอมป่วน ที่รักการเม้าท์ และเอาอารมณ์ตัวเองเป็นที่ตั้ง จนเกือบทำเละ มาหลายครั้ง ป้าติ๊ก (ติ๊ก-ชาญณรงค์) สาวใหญ่ในชุดผ้าไหม สไตล์เมียผู้ว่า แต่ทำชุดเจ้าสาวได้สวย ทันสมัย และหวานหยดเกินใคร ส้มซ่า (คิตตี้-กัจนฐานียา) อดีตเด็กดอยที่ปุ๊กกี้ไปเก็บมาเป็นแม่บ้าน และสอนให้ทำงาน จนได้มาเป็นธุรการประจำออฟฟิต และ กึ๋น (กัสเบล-ชวนภ) เด็กแว๊นม้าเร็วประจำ Marry Me ที่มักถูกเรียกใช้งาน ในช่วงวินาทีสุดท้าย..!! และ ละเมียด (แม่ยุ้ย วันทนา) แม่บ้าน ผู้เรียบร้อย ทำตัวเหมือนจิ้งจก เราจะไม่ทันสังเกต ว่ามีแกอยู่ตรงนั้น แกไม่ค่อยพูด แต่ถ้าพูดที…ปรัชญาล้วน ๆ ความแปลก แตกต่างของทุกคน จะถูกนำมาคลุกเคล้าเป็นเรื่องราวที่น่าสนุกสนาน ชวนติดตามพร้อมด้วย ตัวละคร และ คู่รัก อีกมากมาย ที่จะแวะเวียนเปลี่ยนกันมาสร้างสีสัน ความหรรษาให้งาน วิวาห์ฮาเฮ อย่างไร้ขีดจำกัด ติดตามชมละครวิวาห์ฮาเฮ ได้ทุกวันเสาร์ เวลา 13.00 น. ทางช่อง 7 สี

อภินิหารคุณยายทองคำ 2554

เรื่องย่อ : อภินิหารคุณยายทองคำ (2554/2011) เมื่อยอดมนุษย์คนใหม่ ดูคล้ายคุณยายของเรา “แก้ว” ตำรวจหนุ่มยศเล็กๆ คนหนึ่ง ใฝ่ฝันอยากจะเติบโตในหน้าที่การงานอย่างใครๆ กลับมาหลงรัก “นับดาว” หญิงสาวผู้เป็นรักแรกในวัยเด็ก ซึ่งกลายเป็นนางฟ้าผู้ทำหน้าที่ประกาศข่าวทางทีวี ที่มี “ปกรณ์” นักธุรกิจหนุ่มเนื้อหอมผู้เพียบพร้อม มาเป็นคู่แข่งทางความรัก ก่อน ที่แก้วจะล้มเลิกความหวังใหม่อย่างรวดเร็ว “ขวัญ” น้องสาวแก้วผู้เป็นนักข่าวอาชญากรรมได้พา “คุณยายทองคำ” คุณยายแก่ๆ คนหนึ่งมาที่บ้านเพื่อขออาศัยอยู่ด้วย คุณยายไม่มีอะไรดูแตกต่างจากคุณยายที่เห็นทั่วๆ ไป เว้นแต่ คุณยายมีพลังกายสิทธิ์ แก้วและคุณยายต้องออกไปสืบสวนในสถานที่ต่างๆ แล้วแต่คดีไป แม้จะไม่ประสบความสำเร็จทุกครั้งแต่ก็พอเอาตัวรอดมาได้ด้วยอภินิหารคุณยาย

Placeholder