วงศาคณาญาติ 2533
สังข์ศิลป์ชัย 2533
กายเพชร กายสุวรรณ 2533
มนต์นาคราช 2532
กนกลายโบตั๋น 2533

เรื่องย่อ : กนกลายโบตั๋น (2533/1990) เขาและเธอแตกต่างกันทั้งเชื้อชาติและฐานะ อยู่ในประเทศที่มีระบอบการปกครองคนละขั้ว แต่โชคชะตาก็บันดาลให้ทั้งคู่ได้มาพบกัน

อุ้มบุญ 2533

เรื่องย่อ : อุ้มบุญ (2533/1990) เป็นเรื่องราวของหนุ่มสาว 2 คู่ที่เข้ามาเกี่ยวข้องพัวพันกัน ศิวา น้ำผึ้ง เบญจ์ และ อรชา ความปรารถนาของชีวิตคู่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได­้คือทายาทสืบสกุล แต่เมื่อ อรชา และเบญจ์ไม่สามารถมีลูกด้วยกันได้ อรชาจึงอยากให้น้ำผึ้งมาอุ้มท้องแทนเธอ เรื่องราวจึงเกิดขึ้นเมื่อน้ำผึ้งไม่ยอมทำ­ตามที่ตกลงไว้

ดวงตาสวรรค์ 2533

เรื่องย่อ : ดวงตาสวรรค์ (2533/1990) แพน หรือ พันพร เทพประทาน หญิงสาวนาฏศิลป์สาวผู้มากด้วยฝีมือ แสดงละครรำได้อย่างประทับใจผู้ชม ขนาดเพื่อนชาวต่างประเทศของ ม.ร.ว. ราชาณัต เทวพันธุ์ขอสั่งภาพจิตรกรรมรูปแพนใส่เครื่องรำขนาดเท่าตัวจริง ชายใหญ่ปลาบปลื้มไปกับแพนจนถึงกับหลงรักและขอแต่งงานกับแพนในที่สุด โดยท่านชายผู้เป็นบิดาของชายใหญ่ก็ยินยอม อันที่จริงชายใหญ่เคยรู้จักแพนมาตั้งแต่ทั้งคู่ยังเป็นเด็กครั้งที่ชายใหญ่ได้อพยพหนีภัยสงครามโลกไปอยู่ที่ผักไห่ แต่เมื่อสงครามยุติ กลุ่มเด็กชาวกรุงฯ ได้แก่ ชายใหญ่ หญิงออนและหลานในไส้ คือ เอียดและเล็ก ลูกของราศี พี่สาวของประภากับพลตรี โภคา พากันกลับกรุงเทพฯ วันนั้นเองแพนได้ลอบขึ้นเรือมาจนกระทั่งเล็กมาสังเกตเห็น แพนได้ขอติดตามไปเรียนที่กรุงเทพฯ ประภายินยอมรับอุปถัมภ์แพน และราศีก็ช่วยฝากแพนเข้าเรียนนาฏศิลป์พร้อมกับตั้งชื่อให้ใหม่ว่า พันพร เทพประทาน การที่แพนตกลงใจยอมแต่งงานกับชายใหญ่ทำให้เทิน หนุ่มจากผักไห่ ซึ่งเป็นเพื่อนของแพนมาตั้งแต่เด็ก หัวใจแตกสลาย แพนทำท่าทีเหมือนว่าไม่ได้เคยรักเขามาก่อน เทินพ่ายแพ้แก่ชีวิตและหนีเตลิดไป ระหว่างทางน่านและหทัยได้พบกับเทินที่กำลังป่วยทั้งทางใจและกาย ทั้งสองจึงพาเทินมารักษาตัวที่บ้านพักตากอากาศของตระกูลที่ห้วยทราย ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านพักตากอากาศของโภคา ที่นั้นเทินได้พบภาพถ่ายของตนสมัยเด็กจึงได้รู้ว่า น่านก็คือหนึ่งในเด็กชาวกรุงที่เคยอพยพหนีสงครามมาอยู่ที่ผักไห่ ทั้งน่าน และ หทัยต่างดีใจและอนุญาตให้เทินอาศัยอยู่ที่บ้านได้โดยไม่มีกำหนด ผู้ที่เดือดร้อนที่สุดต่อการหายไปของเทินคือเอียด พี่สาวของเล็ก หญิงออน เริ่มจะสงสัยว่าเอียดจะแอบรักเทิน เพราะเทินเข้ามาสนิทสนมกับครอบครัวตั้งแต่ที่ผักไห่ เมื่อเข้ามาศึกษาต่อในกรุงเทพฯ ทั้งเทินและเล็กก็ยังได้เรียนอยู่ด้วยกันอีก เล็กและหญิงออนกลัดกลุ้มใจ เพราะเอียดไม่เปิดปากบอกใครในเรื่องของความรัก แต่อาการของเอียดก็แย่ลงจนถึงขั้นล้มป่วย แพนเข้าไปมีบทบาทอยู่ในวังสวนทิพย์ ท่ามกลางความไม่พอใจของเหล่าคนเก่าแก่ ในขณะเดียวกัน หทัยซึ่งได้เคยเห็นแพนมาก่อน ก็หมายมั่นว่าจะเชิญแพนมาเป็นนางเอกหนังเรื่องใหม่ ลมลวง หทัยได้ติดตามไปทำความรู้จักกับแพน โดยมี น่าน พาไปพบ และได้รื้อฟื้นความหลังที่เคยรู้จักกันมาก่อนกับหญิงออนด้วย อาการป่วยของเอียดไม่ดีขึ้น ประภาจึงพาเอียดไปพักผ่อนที่ห้วยทรายโดยมีเล็กและหญิงออนไปส่ง ที่นั่นเอียดได้พบกับเทินโดยบังเอิญและทั้งสองได้แสดงมิตรภาพที่ดีต่อกัน ความสุขของคู่อื่น ๆทำให้แพนเดือดร้อนอยู่ในใจ และยิ่งแพนรู้ว่าชายใหญ่ ซึ่งโหมทำงานหนักล้มป่วยลง ด้วยวัณโรคปอด แพนยิ่งร้อนใจ แต่ก็ต้องพยายามรักษาหน้าของตนเองโดยการทำหน้าที่ของสะใภ้วังสวนทิพย์ที่ดี แต่มันขัดกับความรู้สึกที่แท้จริงของตน ในที่สุด แพนจึงติดต่อไปยังหัสดินทร์ภาพยนตร์ เพื่อตกลงยอมแสดงหนังเรื่องลมลวง ทำให้ชายใหญ่ไม่มีความสุขและเกิดปัญหาครอบครัวอย่างแรง ลมลวงประสบความสำเร็จอย่างสูงกลายเป็นหนังยอดนิยมเงินล้านและแพนเองก็ได้มีชื่อเสียงเป็นดาราดวงใหม่ แพนอยากจะหย่ากับชายใหญ่แต่ชายใหญ่ไม่ยอม จึงกลับไปอยู่กับประภา ในวันที่เล็กกลับจากงานเลี้ยงและแพนเป็นคนคอยเฝ้าปิดประตูให้ แพนวางแผนทำเป็นถูกเล็กปลุกปล้ำ เล็กจำเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ แต่ก็เล่าให้หญิงออนฟัง ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเล็กกับหญิงออนมีปัญหากัน แพนรีบวางแผนที่จะกำจัดหญิงออนออกจากเล็กตลอดไป เมื่อหญิงออนกลับเข้าบ้านสะอึ้งบอกว่าอาจารย์วีระโทรมาว่าชายใหญ่ป่วยอยู่ที่บ้านอาจารย์วีระ และจะให้รถมารับที่วังพาหญิงออนไปบ้านอาจารย์วีระ เล็กได้ทราบข่าวจึงโทรศัพท์ไปเช็คที่บ้านอาจารย์วีระ พบว่ายังไม่กลับจากต่างจังหวัด และชายใหญ่ไม่ได้เป็นอะไร เล็กรีบไปที่วังสวนทิพย์ และออกไปตามหา ระหว่างนั้นเอียดกับหญิงออนกำลังต่อรองกับเชนเพื่อจะให้หลุดพ้นออกมา จนในที่สุดเชนยอมปล่อยตัวทั้งสองคนและขอให้สัญญาว่าจะไม่เอาความ หญิงออนและเอียดกลับมาแล้ว เล็กจึงรีบออกจากบ้านไปรับขวัญ พบแพนยืนขวางอยู่หน้าบ้าน และเล็งปืนขู่จะฆ่าเล็กด้วยปืนของเทินที่แพนแอบขโมยไป ระหว่างนั้นนักข่าวมาที่บ้าน พร้อมตำรวจ ตามที่ราศีแจ้งไป เรื่องหญิงออนและเอียดหายตัวไป แพนจึงตัดสินใจยิงเล็ก แพนรู้สึกผิดมากเกิดกลัวนักข่าว จึงวิ่งหนีออกไปจากบ้านและฆ่าตัวตายตาย ขณะที่โภคารีบพาเล็กไปส่งโรงพยาบาล ก่อนหน้านั้นแล้ว เทินมีหน้าที่ต้องนำกระดูกของแพนกลับไปลอยน้ำที่บ้านเกิด สถานที่ๆ แพนทอดทิ้งไปเพราะคิดว่า ที่นี่ไม่ดีพอ แพนได้ก้าวไปสู่จุดสูงสุดสวยงามด้วยความสามารถของเธอเอง แต่ความที่แพนไม่หยุดที่จะไขว่คว้า และไม่เคยพอเพียง ไม่พอใจกับสิ่งที่ตนมี ทำให้แพนต้องจบชีวิตลงในที่สุด

คู่กรรม 2533

เรื่องย่อ : คู่กรรม (2533/1990) อังศุมาลิน ชลาสินธุ์ (กวาง กมลชนก โกมลฐิติ) นิสิตสาวคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกิดและเติบโตมาท่ามกลางความรักและความอบอุ่นของ แม่อร และยาย ที่บ้านริมคลองบางกอกน้อย พ่อของอังศุมาลินเป็นอดีตทหารเรือ ชื่อ หลวงชลาสินธุราช อังศุมาลินมีเพื่อนชายที่รู้ใจและสนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็ก ชื่อ วนัส นิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเดียวกัน ที่ในใจลึก ๆ ของเขาแอบรักอังมากกว่าน้องสาว แต่เธอคิดว่ายังไม่พร้อมที่จะมีความรัก จนวนัสเดินทางไปเรียนต่อที่อังกฤษ อังศุมาลินกับครอบครัวมีโอกาสได้รู้จักสนิทสนมกับ หมอโยชิ หมอทหารชาวญี่ปุ่นผู้แสนใจดีและเป็นมิตร หมอโยชิเอ็นดูอังศุมาลินจนเสนอตัวสอนภาษาญี่ปุ่นให้เธอด้วยความเต็มใจ แล้วอังศุมาลินก็ได้พบกับ โกโบริ (เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ ) ขณะที่เธอว่ายน้ำไป แอบดูอู่เรือของทหารญี่ปุ่นที่มาตั้งรกรากอยู่ใกล้ ๆ สวนบ้านเธอ โกโบริเป็นนายช่างใหญ่ประจำอู่ เขากล่าวทักทายอังศุมาลินอย่างเป็นมิตร แต่อังศุมาลินไม่พูดด้วย เพราะอคติกับคนญี่ปุ่น โดยเฉพาะทหารโกโบริก็เริ่มแสดงไมตรีกับครอบครัวอังศุมาลิน โดยใช้ให้ทหารลูกน้องส่งข้าวของผลไม้สำหรับ คนป่วยมาให้ยายของอังศุมาลิน พาหมอมาดูอาการยาย จนทำให้ทั้งแม่กับยายเริ่มเอ็นดูและมองเห็นถึงน้ำใจไมตรีของโกโบริ และเรียกโกโบริว่า “พ่อดอกมะลิ” ขณะที่อังศุมาลิน ก็ยังอคติกับเขาอย่างเดิม สัญญาณระเบิดดังขึ้น ในคืนที่อังศุมาลินอยู่บ้านคนเดียว โกโบริซึ่งแวะมาหาพอดี เลยมีโอกาสได้ช่วยเหลือพาอังศุมาลินไปหลบภัยที่ท้ายสวน ทั้งคู่วิ่งฝ่ากระสุน โกโบริกอดอังศุมาลินวิ่งเอาตัวเป็นกำบังให้ และพาอังศุมาลินไปหลบในท้องร่องและกอดอังไว้แน่น ระเบิดก็ลงใกล้ ๆ จุดนั้น โกโบริยอมเสี่ยงชีวิตเจ็บตัวแทนอังศุมาลิน และก่อนที่เขาจะหมดสติไป โกโบริก็บอกรักอังศุมาลิน แม้ลึก ๆ แล้วเธอจะรัก แต่เพราะโกโบริเป็นชาวญี่ปุ่น เป็นศัตรูที่เข้ามากร้ำกรายบ้านเกิดเมืองนอนของเธอ อังศุมาลิน จึงปฏิเสธโกโบริอย่างไม่ใยดี โกโบริมาขอโทษอังศุมาลิน ที่เรื่องของเขากับเธอกลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต และมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ทุกอย่างบีบคั้น จนในที่สุด อังศุมาลิน ก็จำต้องจำยอมแต่งงานกับ โกโบริด้วยเหตุผลทางการเมือง ความสุภาพแสนดีของโกโบริ เริ่มทำให้อังศุมาลิน เริ่มมองเขาในแง่ดีมากขึ้นทีละนิด จนคืนหนึ่งขณะที่เธอมายืนนึกถึงสัญญาที่เคยให้ไว้กับวนัสที่ใต้ต้นลำพู โกโบริก็มาเจอ อังศุมาลินจึงสารภาพกับโกโบริว่าเธอมีคนที่เธอรออยู่แล้ว คือ วนัส โกโบริเสียใจแต่ไม่แสดงออก แต่อังศุมาลินกลับเป็นฝ่ายรู้สึกว่าตัวเองได้ทำร้ายจิตใจของโกโบริ เธอเห็นใจและสงสารโกโบริจับใจโกโบริมุงานหนัก นอนที่อู่เรือไม่ยอมกลับบ้าน พร้อมกับทำเรื่องขอย้ายไปประจำที่พม่า เพราะสถานการณ์ที่พม่ากำลังวุ่นวาย เขาไม่ต้องการได้ชื่อว่าเป็นทหารที่เลือกแต่งานสบาย แต่หมอโยชิรู้ดีว่าโกโบริมีเหตุผลมากกว่านั้น เพราะสังเกตเห็นว่าโกโบริกับอังศุมาลินมีปัญหาไม่เข้าใจกัน หมอโยชิจึงพยายามเข้ามาประสานความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แต่ก็ไม่เป็นผลแล้วคืนหนึ่ง วนัสก็แอบมาพบกับอังศุมาลิน วนัสเปิดเผยว่าตนเป็นเสรีไทย วนัสรู้เรื่องอังศุมาลินดีทุกอย่าง เขารู้ดีว่าอังศุมาลิน กำลังสับสนใจระหว่างโกโบริกับเขา จึงให้อิสระอังศุมาลิน ได้เลือกคนที่เธอรัก พร้อมกับฝากให้อังศุมาลินบอกโกโบริด้วยว่า อย่าไปสถานีรถไฟบางกอกน้อยตอน มีระเบิดลง อังศุมาลินซึ้งใจกับความเป็นสุภาพบุรุษของวนัส เมื่อระเบิดลงชุดใหญ่ทำให้อังศุมาลินกลัวว่าโกโบริจะเป็นอันตราย จึงรีบตามไปบางกอกน้อยโดยไม่สนคำทัดทานของใครเมื่อไปถึงปรากฏว่าสถานีรถไฟ บางกอกน้อยโดนถล่ม ทหารนอนตาย บาดเจ็บมากมาย อังศุมาลินเจอหมอโยชิ ซึ่งก็กำลังตามหาโกโบริอยู่เหมือนกัน อังศุมาลินขอพรลูกในท้องให้ช่วยคุ้มครองโกโบริ อังศุมาลินเดินตามหาโกโบริอย่างรุ่มร้อนใจ จนในที่สุดอังศุมาลินก็พบโกโบรินอนบาดเจ็บ อาการสาหัส อังศุมาลิน ไม่ยอมให้โกโบริจากเธอไป แต่โกโบริรู้ตัวดีว่าเขาคงไม่รอด จึงฝากให้อังศุมาลินช่วยดูแลลูกแทนเขาด้วย อังศุมาลินบอกรักโกโบริก่อนที่เขาจะสิ้นลมบนตักอังศุมาลิน นั่นเอง จบที่งานศพของ โกโบริ ทุกคนร่ำไห้เสียใจ อังศุมาลินให้สัญญาต่อหน้าศพโกโบริว่า เธอจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อลูก และจะดูแลลูกให้ดีที่สุดเพื่อ โกโบริ ชายที่เธอรักสุดหัวใจ

อุบัติเหตุ 2533

เรื่องย่อ : อุบัติเหตุ (2533/1990) อุบัติเหตุ การพบกัน ไม่ว่าเพื่อรักหรือเพื่อชัง ไม่ว่าบทเลวหรือดี ที่มีให้แก่กันและกัน มันเป็นบุพเพ เป็นอุบัติเหตุ ดั่งเขาและเธอ…วิศนี…อารุม เหตุการณ์ไม่คาดคิดที่เกิดกับวิศนี เป็นสิ่งที่พบได้เสมอในชีวิต และหากอุบัติเหตุนั้น มันแยกแยะถูกผิด ต่างความเห็นกันออกไป คุณจะพบว่า จริงแท้แล้ว ไม่มีสิ่งใดจากภายนอก จำทำให้มนุษย์เป็นมลทินได้ แต่สิ่งที่ออกมาจากภายในต่างหาก ที่ทำให้มนุษย์ทุกข์และเป็นมลทิน

มณีร้าว 2533

มณีร้าว (2533/1990) การที่เด็กสาวคนหนึ่งสูญเสียความสาวไป ทำให้เธอคิดว่าเธอเสียทุกอย่างในชีวิต ก็ไม่ใช่ความผิดของเธอหรอกที่คิดเช่นนั้น คงจะเป็นเพราะพ่อแม่หรือสังคมแวดล้อมปลูกฝังเธอว่าคุณค่าของผู้หญิงอยู่ที่พรหมจารี หากว่าลูกสาวเสียไปอย่างไม่ถูกต้อง ก็เท่ากับหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง...ความร้าวรานครั้งนี้ เหมือนรอยร้าวในเนื้อแก้ว ถึงอย่างไรก็ไม่มีวันจางหาย...มีแต่ทำให้แก้วนั้นแตกเป็นเสี่ยงในวันข้างหน้า...

หงส์ทอง 2533

หงส์ทอง (2533/1990) เรื่องราวของหนุ่มไทยที่ พบรัก กับสาวฮ่องกง อุปสรรคของความรักของคนทั้งสองจะเป็นอย่างไรติดตามได้ในละครชุดนี้นะคะ

ปีศาจแสนกล 2533

ปีศาจแสนกล (2533/1990) เมื่อ "พรต" ชายหนุ่มแสนดีผู้ต่ำต้อย คิดที่จะรักกับ ผู้หญิงสูงศักดิ์อย่าง "ชัชรี" ย่อมมีอุปสรรคมากมายขวางกั้น แต่แล้ววันหนึ่ง ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไป โชคเหมือนจะเข้าข้างเขาทุกอย่างจนไม่น่าเชื่อ อะไรหนอที่ทำให้เป็นเช่นนั้น? ความปรารถนาของเขาจะมีวันเป็นจริงหรือไม่? เอาใจช่วยได้แล้วในเล่ม

เศรษฐีตีนเปล่า 2533

เศรษฐีตีนเปล่า (2533/1990) คุณ นายลำไย เศรษฐีนีแห่งตำบลบ้านนางแมว พานัจ ลูกสาวซึ่งเป็นลูกบุญธรรมมาเที่ยวยุโรป ที่จริงต้องบอกว่า นัจพามา เพราะคุณนายลำไยได้ฟังคุณนายต่างๆที่หมู่บ้าน ทั้งคุณนายศึกษา คุณนายผู้กอง ฯลฯ พูดถึงเมืองนอกกันอย่างชื่นชม ลำไยซึ่งไม่ยอมน้อยหน้าใครอยู่แล้ว จึงต้องให้นัจพามาทัวร์ เพราะนัจ "รู้ภาษาฝรั่ง" มากกว่าใคร ก่อนไปก็ต้องมีการ "เตรียมตัว" กันเป็นโกลาหล เริ่มตั้งแต่เสื้อผ้า แม้ว่าจะเลือกเดินทางในช่วงหน้าร้อนของยุโรป แต่สภาพอากาศก็ยังหนาวเย็นเกินไปสำหรับคนไทยอยู่ดี ต่อจากเสื้อผ้าก็เป็นรองเท้า สำหรับนัจไม่ค่อยเดือดร้อนนัก คนที่วุ่นวายและลำบากใจที่สุดคือคุณนายลำไย เนื่องจากตั้งแต่เด็กจนถึงเป็นย่าเป็นยายแล้ว นางชินกับเดินด้วยเท้าเปล่า หรืออย่างดีที่สุดก็ไม่เกินรองเท้าแตะ ดังนั้นการจะต้องมาทนใส่ รองเท้าหุ้มส้น แถมยังถุงน่องเข้าไปอีก จึงเป็นเรื่องทรมานของนางเหลือเกิน นอก จากนั้นนัจยังต้องมีการ "ติวเข้ม" เรื่องการพูดของคุณนายอีก เพราะคุณนายเป็นคนไทยแท้ๆ ที่อยู่ชนบทมาตลอดชีวิต คำพูด คำจาของนางจึงใช้แต่คำศัพท์สมัยพ่อขุน แล้วแถมด้วยสบถสาบานอีกนิดหน่อย แม้จะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับชาวบ้าน ทว่าการเดินทางเป็นคณะใหญ่ที่ต้องร่วมเดินทางกับผู้ลากมากดีชาวกรุง จะทำตัวตามสบายอย่างนั้นไม่ได้ นี่ยังไม่รวมถึงการสอนให้คุณนายรับประทานอาหารด้วยมีดและส้อมอีกด้วย กว่าจะเดินทางได้ นัจก็ทั้งสนุกและเหนื่อยใจ เมืองนอกไม่ได้สวยงามน่าอยู่อย่างที่คุณนายนึก ที่ลอนดอนไม่มีตึกระฟ้าที่ทันสมัยอย่างที่ใครต่อใครพูดกัน อาคารเก่าทึมๆ กับบรรยากาศที่มัวซัว ทำให้คุณนายคิดถึงบ้าน ยิ่งต้องเดินกันทั้งวี่ทั้งวัน คุณนายก็รู้สึกลำบากลำบนกับเสื้อผ้าหนาเตอะ ถุงน่องที่คันตัวยิบๆ แล้วยังรองเท้าที่ทั้งบีบทั้งกัด ยัง ดีว่านัจเตรียมข้าวสวยกึ่งสำเร็จรูปที่เติมน้ำร้อนอย่างเดียวก็พร้อมรับ ประทาน กับน้ำพริกสารพัดชนิดมาด้วย ไม่งั้นกว่าจะเดินทางกลับ นัจคงต้องประคับประคองคุณนายลำไยซึ่งรับประทานอาหารฝรั่งไม่ได้เลย กลับบ้านแน่นอน ในคณะทัวร์มีสาวสวย เก๋ ท่าทางปราดเปรียว ร่วมเดินทางมาด้วย เธอชื่อเทวิกา แต่ชอบให้ใครๆ เรียกว่า "วิว" วิวจบปริญญาตรีจากอเมริกา และเดินทางมาร่วมกับคณะทัวร์ยุโรปก่อนกลับบ้าน คุณนายลำไยบอกว่าวิวอยู่ในกลุ่มของพวก "ผู้ดีมีเงิน" คำพูดและกิริยาท่าทางของเธอที่ชอบโอ้อวด ข่มคนอื่นอย่างไม่เกรงใจ ชอบฉีกหน้าคนอื่นเสมอ ทำให้เธอไม่ค่อยมีเพื่อนในคณะทัวร์เลย นัจมองวิวแล้วนึกขยาด เธอไม่อยากร่วมสังคมกับ "ผู้ดีมีเงิน" เหล่านี้เลย สายตาของวิวที่มองเธอกับแม่อย่างสมเพชปนดูถูก ทำให้นัจกลัวและเบื่อ "ผู้ดีมีเงิน" ขึ้นมาทันที เธอคิดว่าถ้าเหล่าผู้ดีมีเงินเป็นแบบนี้กันหมด เธอขออยู่อย่างสาวบ้านนอกอย่างนี้จะดีกว่า วันหนึ่งนัจกับคุณนายงดไปทัวร์ลอนดอน 1 วัน เพราะนัจตั้งใจจะซื้อของตามที่อาจารย์สุวิมล อาจารย์ของเธอที่มหาวิทยาลัยฝากมา นัจพาคุณนายเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน เมื่อถึงบริเวณซึ่งเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าใหญ่ นัจมองหาร้านที่ระบุมา ก็หาไม่เจอ คุณนายเดินจนเหนื่อยบ่นแล้วบ่นอีก นัจก็ยิ่งกังวลจนคุณนายตัดสินใจเดินไปถามชายคนหนึ่งที่ยืนรอรถประจำทางอยู่ หน้าตาท่าทางของเขาไม่เหมือนคนไทยเลยสักนิด ขณะ ที่คุณนายยืนยันว่าเป็นคนไทยแน่นอน คุณนายลำไยเดินจ้ำไปหาชายหนุ่มผู้นั้นอย่างรวดเร็ว นัจยืนงงว่าทำไมคุณนายจึงแน่ใจนักว่าเป็นคนไทย กว่าจะหายงงคุณนายก็ไปเจรจากับเขาเสียแล้ว นัจวิ่งตามไปทันที แล้วเธอก็ต้องนิ่งอีกครั้ง เมื่อได้ยินเขาตอบคุณนายลำไยเป็นภาษาไทยชัดเจน คุณนายจัดการแนะนำตัวเอง และนัจเสร็จเรียบร้อย เขาจึงบอกว่าเขาชื่อ สันติธร มาเรียนอยู่ที่ลอนดอนนี้ 10 ปีแล้ว ตลอดเวลาที่คุยกัน แม้หลายสิ่งหลายอย่างจะบอกว่าเขาเป็นพวก "ผู้ดีมีเงิน" แต่นัจก็ยังไม่เห็นว่าเขาจะมีกิริยาอย่างเทวิกาเลยสักนิด เขาสุภาพ พูดจาดี แถมยังใจดีโดยจะพาเธอกับคุณนายเดินไปร้านหนังสือที่ต้องการเสียอีก หลังจากได้ของที่ต้องการแล้ว นัจกับคุณนายลำไยก็ลาสันติธร และตามเคย ตามนิสัยของคุณนาย นางก็บอกที่อยู่กับเขาอีก โดยบอกให้ไปถามหานางได้ที่ตำบลบ้านนางแมว นครปฐม รับรองว่าใครๆก็รู้จักนาง แล้วนางจะดูแลเขาอย่างดี นัจอายมาก แต่สิ่งที่เธอเห็นก็คือ สันติธรไม่ได้มีท่าทางว่าจะดูถูกอย่างไร ไม่มีแม้สีหน้ารำคาญ ทั้งที่เขาเสียสละกับนัจและแม่ค่อนข้างจะนาน เธอเห็นเขายิ้มอย่างเต็มใจ สีหน้าพอใจกับท่าทางจริงใจของคุณนายลำไยมากกว่า ทั้งคู่แยกกันไม่นาน ก็ต้องมาเจอกันอีกในร้านอาหารจีนใกล้ๆ กันนั่นเอง เนื่องจากเป็นตอนเที่ยงพอดี คนจึงเต็มทุกโต๊ะ สันติธรซึ่งมาก่อนและได้ที่นั่งแล้ว จึงชวนคุณนายกับนัจนั่งร่วมโต๊ะด้วยกัน สันติธรมองหน้าสาวน้อยหน้าใสอย่างนัจอย่างเอ็นดู นัจเป็นคนสวยที่สวยโดยเนื้อแท้จริงๆ เธอแทบไม่ต้องแต่งหน้าเลย จากร้านอาหาร คราวนี้ได้แยกกันจริงๆเสียที นัจ พาคุณนายกลับโรงแรม นัจเห็นเทวิกานั่งคุยแจ๋วๆกับผู้ชายคนหนึ่ง แม้เธอจะเห็นเพียงด้านหลังของเขาแต่เธอก็จำได้ว่าเป็นสันติธร และราวกับเขามีตาหลัง เพราะเขาหันมามองเธอ แล้วลุกขึ้นเดินมาหาเธอกับคุณนายโดยไม่ลืมจะขอโทษเทวิกาเสียก่อน คุณนายทักสันติธรอย่างคนรู้จักคุ้นเคยมานาน จนเทวิกาหน้าบึ้ง คอแข็ง เมื่อเห็นสันติธรสนใจกับ "พวกบ้านนอก" มากกว่าเธอ เมื่อถึงเวลาเดินทาง สันติธรก็ยังมายืนส่งที่ฟุตบาทหน้าโรงแรม นัจไม่แน่ใจว่าเขามาส่งเธอกับแม่หรือส่งเทวิกากันแน่ เพราะสายตาของเขาที่มองสบตาเธอนั้น ไม่ได้เหลียวมองเทวิกาเลยสักนิด แม้เจ้าหล่อนจะเดินขึ้นรถบัสคันใหญ่ตามหลังเธอมานั่นเอง เทวิกาเดินเชิดคอปั้นปึ่งไปนั่งอย่างกับเจ้าหญิง เธอเมินหน้าหนีสันติธรอย่างตั้งใจ แต่เขากลับไม่สนใจ สันติธรโบกมือให้นัจราวกับเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน ที่ตำบลบ้านนางแมว นัจกับคุณนายลำไยกลับมามีชีวิตที่ปกติเหมือนเดิม นัจจบการศึกษาชั้น ปวส. เป็นครูสอนอยู่ที่โรงเรียนเทศบาล แล้วขณะนี้นัจกำลังเรียนภาคค่ำที่วิทยาลัยครูในจังหวัด เพื่อจะได้สำเร็จปริญญาตรี นัจใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะประจำตัวเหมือนสาวๆทั่วไปแถบนี้ แต่นัจก็คล่องตัว เธอขี่จักรยานและขับรถได้ด้วย

ขมิ้นกับปูน 2533

ขมิ้นกับปูน (2533/1990) เมื่อปี พ.ศ.2486 ความเปลี่ยนแปลงด้านการเมืองและสังคมเกิดขึ้นในเมืองไทย แต่ยังคงมีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาเลย คือความเกลียดชังระหว่างตระกูล พระยาอภิบาลบำรุง และตระกูลหลวงวิจิตร ศิลปาการ สาเหตุเนื่องมาจากคุณแม่ของพระยาอภิบาลบำรุง ได้หนีตามคุณพ่อของหลวงวิจิตรไป ซึ่งนำความเสื่อมเสียมายังตระกูลของพระยาอภิบาลอย่างยิ่ง พระยาอภิบาลมีบุตรชาย 1 คน คือพระนิติรักษ์ธรรมสถิต (ปรุง) และธิดา 3 คน คือ คุณปริก คุณจำปา และคุณปีบ ซึ่งครองความเป็นสาวจนกระทั่งปัจจุบัน ในรุ่นหลานของตระกูล ซึ่งเป็นลูกของพระนิติรักษ์ ได้แก่สามสาวปัทมา ปวีณา และปารมี เมื่อทางราชการเปลี่ยนแปลงไม่ให้มีการใช้ยศถาบรรดาศักดิ์อีก พระนิติรักษ์ ทนไม่ได้จึงลาออกจากราชการ ฝ่ายพระยาอภิบาลก็เกษียณแล้ว ทำให้ตระกูลอภิบาลบำรุงเริ่มเสื่อมถอย เงินทองร่อยหรอ ผิดกับตระกูลของหลวงวิจิตร ที่เจริญมั่งคั่งขึ้นทุกวัน ปวีณา เป็นเด็กสาวช่างฟ้อง อิจฉาปัทมาพี่สาว จึงฟ้องพระยาอภิบาลว่าปัทมาแอบคบกับทานตะวันและธนา หลานและลูกของหลวงวิจิตร ปัทมาจึงถูกเฆี่ยนตีอย่างหนัก จนเริ่มเก็บกด แข็งกระด้างและเจ้าทิฐิโดยไม่รู้ตัว ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พระนิติรักษ์ทำการค้า และถูกโกง ยิ่งทำให้พระยาอภิบาลกลุ้มใจหนัก ในระหว่างนั้นเอง ปัทมาขออนุญาตไปเรียนต่อที่ศรีราชา กับเพื่อนรัก ทานตะวัน ที่นั่นเอง ปัทมาพบรักกับคุณธนา น้าของทานตะวัน เมื่อพระยาอภิบาลทราบเรื่อง ปัทมาถูกตบตีอย่างรุนแรง หลังจากนั้นปัทมาถูกจับไปบวชชี ทานตะวันและธนาช่วยปัทมาหนีออกจากวัดได้ ปัทมาได้แต่งงานกับธนาในที่สุด พระยาอภิบาลโกรธแค้นมาก ตัดปัทมาออกจากตระกูลเวลาผ่านไป ปวีณา และปารมีเริ่มเป็นสาว ปวีณา แอบอิจฉาปารมีที่สวยกว่าตน แต่ปวีณาเป็นที่โปรดปรานของคุณปู่และคุณพ่อ จึงได้รับอนุญาตให้เรียนต่อมหาวิทยาลัย ส่วนปารมีให้เรียนถึงมัธยมแปดเท่านั้น ปวีณา ได้พบกับแทนพงศ์ หลานของหลวงวิจิตรที่เพิ่งจบการศึกษาจากเมืองนอก และมาเป็นอาจารย์พิเศษของปวีณา ปวีณาได้ที่อยู่ของปัทมา เธอจึงไปเยี่ยมพี่สาว และนำความไปบอกเจ้าคุณปู่กับคุณพ่อ พระนิติรักษ์จึงมาพาตัวปัทมากลับไป ปัทมาเสียใจที่ถูกพรากจากสามี เธอตรอมใจจนผูกคอฆ่าตัวตาย แต่คุณปีบมาช่วยไว้ทัน วันหนึ่งปัทมาเห็นรูปถ่ายของธนากับทานตะวัน เพื่อนรัก ปัทมาเข้าใจว่าเพื่อนรักแย่งสามีตน เธอจึงกินยาฆ่าตัวตายอีกครั้ง แต่ทุกคนช่วยไว้ได้ทัน สภาพจิตใจของปัทมาแย่ลงทุกที ทันพันธุ์ หลานอีกคนหนึ่งของตระกูลหลวงวิจิตร แอบชอบปารมีอยู่ ทันพันธุ์มาร่วมงานทำบุญเลี้ยงพระ เพื่อเปิดร้านอาหารของคุณทั้ง 3 นาง และมีโอกาสพูดคุยกับพระยาอภิบาล พระยาอภิบาลไม่ทราบว่าทันพันธุ์เป็น หลานศัตรู ทั้งคู่พูดคุยกันถูกคอ เมื่อพระยาอภิบาลรู้ความจริงว่าทันพันธุ์เป็นใคร ก็มิได้จงเกลียดจงชังมากนัก ธนาส่งจดหมายหย่าให้ปัทมา เป็นเหตุให้ปัทมาช็อค กลายเป็นคนบ้า ทันพันธุ์ทนไม่ได้จึงเขียนจดหมายไปต่อว่าธนากับทานตะวัน ทานตะวันสำนึกได้ และขอให้ธนากลับไปหาปัทมา แต่พระยาอภิบาลยอมรับธนาไม่ได้ จึงขับไล่ธนากลับไปทันพันธุ์ขอปารมีแต่งงาน พระยาอภิบาลมีข้อแม้อยู่ว่าทันพันธุ์ต้องเปลี่ยนมาใช้นามสกุลของท่าน และวันแต่งงาน รดน้ำสังข์ ห้ามไม่ให้ญาติทันพันธุ์มาร่วมงาน ทันพันธุ์ยอมรับข้อเสนอทุกประการ วันฉลองงานแต่งงานมาถึง ญาติพี่น้องของทันพันธุ์ไปจัดงานกันที่อื่น ที่บ้านของพระยาอภิบาลช่างเงียบเหงาเหลือเพียงแต่ปัทมา ที่เป็นคนวิกลจริตไปแล้ว โดยที่ท่านไม่ยอมรับรู้เลยว่า ปัทมาต้องมาเป็นเช่นนี้ เพราะความอาฆาต พยาบาทที่ท่านมีต่อตระกูลหลวงวิจิตร ที่เป็นเสมือนขมิ้นกับปูนนั่นเอง

ผู้หญิงแถวหน้า 2533
บัวแล้งน้ำ 2533

บัวแล้งน้ำ (2533/1990) บัวแล้งน้ำ เป็นเรื่องของผู้หญิง 5 คน ที่มีปมชีวิตแตกต่างกัน แต่ได้รับการอุปการะจาก”คุณท่าน”ให้เติบโต ปมชีวิตที่แตกต่างกันของแต่ละคนทำให้ทางเดินของชีวิตไม่เหมือนกัน บางคนดีขึ้น บางคนแย่ลง แต่นั่นขึ้นอยู่กับว่า ยอมรับทางชีวิตของตัวเองได้แค่ไหน