2533
เรื่องย่อ : วิมานไฟ (2533/1990) วิมายไฟเป็นเรื่องราวของสามพี่น้อง ทาทอง,โรยทองและรินทอง สามพี่น้องตระกูลวรทิพย์ที่เคยปรองดองรักใคร่กัน ต้องมาห่ำหันกันเองเพื่อครอบครองผู้ชายคนเดียวนั้นก็คือภุมเรศ เพราะความร้าวฉานที่เกิดขึ้นภายในบ้านวรทิพย์ได้เปลี่ยนวิมานที่แสนสุขของ บ้านวรทิพย์ให้แปรเปลี่ยนเป็นวิมานไฟ เพราะชายหนุ่มเพียงคนเดียวนั้นคือ “ภุมเรศ” ภุมเรศ ภมรชัย ชายหนุ่มหน้าตาดี มีเสน่ห์อย่างร้ายกาจ ทายาทของนายพงศ์ ภมรชัย เป็นศัตรูเก่าทางธุรกิจของนายสุวรรณ วรทิพย์ เคยพ่ายแพ้ในการฟ้องร้องคดีจนทำให้ครอบครัวภมรชัยต้องล้มละลาย ถึงแม้เหตุการณ์นั้นนายพงศ์จะเป็นฝ่ายผิด แต่ก็ไม่สำนึกกลับเสี้ยมสอนลูกชายให้ผูกพยาบาทตระกูลวรวิทย์ ส่วนแม่ของภุมเรศเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ และเมื่อข่าวการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของนายสุวรรณแพร่สะพัด นายพงศ์จึงสั่งภุมเรศให้ทำหน้าที่ลูกกตัญญู เป้าหมายคือเพื่อทำลายตระกูลวรวิทย์ และทวงความมั่งคั่งกลับคืนมา และแล้วบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ได้เปลี่ยนมือผู้บริหารหลังจากการ เสียชีวิตของประธานบริหาร สุวรรณ วรทิพย์ ต่อมาภุมเรศ ได้รู้จักกับนฤชา ชายหนุ่มที่ดีทั้งหน้าตาและฐานะ เป็นคนอารมณ์สนุกช่างคุย เดินทางมาทำธุรกิจที่หาดใหญ่กำลังจะเข้ามากรุงเทพฯ เพื่อมาร่วมงานศพนายสุวรรณ วรทิพย์ โดยเฉพาะเป็นเพื่อนบ้านของครอบครัววรทิพย์ และมีใจรักใคร่ผูกพันอยู่กับลูกสาวคนเล็กของบ้านเป็นที่สุด นายสุวรรณ วรทิพย์ มีลูกสาว 3 คน ได้แก่ทาทอง วรทิพย์ พี่สาวคนอายุเกือบ 30 ปี ที่มีนิสัยจริงจัง เอาการเอางานและเด็ดขาดเหมือนพ่อ และต้องเป็นประธานบริหารต่อจากพ่อ โดยมี โรยทอง วรทิพย์ บุตรสาวคนรอง เป็นมือขวาในการบริหาร ทั้งสองคนมีศูนย์รวมจิตใจอยู่ที่ รินทอง วรทิพย์ น้องสาวคนเล็กอายุเพิ่ง 20 ปี ที่เรียบร้อย อ่อนไหวและเป็นแม่บ้านแม่เรือน ความปรองดองของสามพี่น้องเป็นที่ชื่นชมและรับรู้กันดีในวงสังคม เขาได้เดินทางเข้ามากรุงเทพฯ เพื่อแก้แค้น ซึ่งภุมเรศปรากฏตัวในฐานะลูกชายของเพื่อนเก่าพ่อ ภุมเรศได้ก้าวเข้ามาสู่บ้านศัตรูของพ่อได้อย่างสะดวกง่ายดายเพราะการชักนำ ของนฤชา แรงพยาบาทของพ่อก็ตามที่สามพี่น้อง เกิดสนใจในอัธยาศัยและเสน่ห์ในตัวภุมเรศจนทำให้รับเขาเข้ามาทำงานในบริษัท ภายหลังงานศพเสร็จสิ้นไป และแล้วสามพี่น้อง ทาทอง, โรยทองและรินทอง ตกหลุมรักและต้องมาห่ำหันกันเองเพื่อครอบครองผู้ชายคนเดียวนั้นก็คือภุมเรศ ภุมเรศใช้ความรักทำให้ทาทองตาบอดสนิทอย่างง่ายดาย ทาทองยกให้ภุมเรศเป็ที่ปรึกษาของบริษัทมีโต๊ะทำงานอยู่ในห้องเดียวกัน เพื่อจะได้เห็นหน้ากันตลอดเวลา ทาทองทุ่มเทให้ภุมเรศยอมพลีทุกอย่างแก่เขาโดยไม่สนใจเสียงคัดค้านของนายชม ทนายความเก่าแก่ที่รู้จักตระกูลภมรชัยดี โรยทองเป็นคนที่เฉลียวใจในสิ่งที่นายชมพูดมากที่สุด จากการที่เธอพบปะผู้คนมามากมาย ทำให้เธอนึกระแวงถึงเหตุผลในการมาของภุมเรศ ภุมเรศมักถือโอกาสเอาเวลาว่างที่ทาทองงานยุ่งและโรยทองไม่อยู่บ้านเพื่อ ที่ภุมเรศแวะเข้าไปหารินทอง เธอจึงเคลิบเคลิ้มและเชื่อภุมเรศสนิทใจ ทำให้เขากล่อมเสียจนรินทองหมดความเคารพนับถือพี่สาวและยอมเป็นเมียเขาอย่าง เต็มใจอย่างเงียบๆ ก่อนที่ภุมเรศจะแต่งงานกับทาทองด้วยซ้ำ ต่อมาโรยทอง วรทิพย์ จึงเป็นบ้า แต่เนื่องจากโรยทองนั้นเคยอกหักผู้ชายมามากแล้ว เธอเพียงแอบศึกษาพฤติกรรมของภุมเรศอย่างเงียบๆ ตลอกเวลา โรยทองมักจะเ็ป็นขมิ้นกับปูนกับภุมเรศ หลายครั้งที่เขาสารภาพรักกับเธอ ขณะนี้เขาจึงหลงรักโรยทองเพียงคนเดียว ต่อมา 2 พี่น้องนักธุรกิจ สมานและสนิท เพื่อนของทาทอง สนิท นักเรียนนอกจากอเมริกาเกิดหลงรักโรยทอง และสมานเกิดรักรินทองซึ่งทาทองเห็นด้วย ภุมเรศเกิดหึงอย่างหนัก จนกระทั่งวันแต่งงาน ภุมเรศจึงไปสารภาพรักกับโรยทอง โรยทองจึงตบหน้าแล้วจากไปด้วยความเสียใจ ทำให้ภุมเรศเมาอย่างหนัก ทาทองนั้นน้อยใจต่อภุมเรศมาก หลังพิธีแต่งงานผ่านไป รินทองเกิดแพ้ทอง เธอจึงอ้างว่าพี่สาวแย่งผัวของตนจึงอ้างเอาทะเบียนสมรสเป็นพยาน ทาทองจึงโกธรต่อมา 2 พี่น้องนักธุรกิจ สมานและสนิท เพื่อนของทาทอง สนิท นักเรียนนอกจากอเมริกาเกิดหลงรักโรยทอง และสมานเกิดรักรินทองซึ่งทาทองเห็นด้วย ภุมเรศเกิดหึงอย่างหนัก จนกระทั่งวันแต่งงาน ภุมเรศจึงไปสารภาพรักกับโรยทอง โรยทองจึงตบหน้าแล้วจากไปด้วยความเสียใจ ทำให้ภุมเรศเมาอย่างหนัก ทาทองนั้นน้อยใจต่อภุมเรศมาก จึงคว้าปืนมาไล่ยิงภุมเรศแต่ภุมเรศแย่งปืนไว้ทัน จัดแจงพารินทองจะหนีออกจากบ้านก็พอดีทาทองเห็นมีมีดแหลมอยู่ข้างผนังตึกจึง หยิบและวิ่งไล่แท่งรินทองเสียอย่างไม่นับ และหันกลับมาจะฆ่าภุมเรศตายตามบ้าง แต่เธอทำไม่ลง เธอจึงเอาแต่ร้องไห้แล้วก็หัวเราะ และวิ่งออกนอกบ้านไปอย่างเป็นคนเสียสติ ตำรวจจึงมาถึงบ้านแล้วพร้อมเก็บศพของรินทอง ภุมเรศได้รู้สำนึกตัวเองว่าตัวเองได้สังหารคนไปแล้วถึงสามคน ทาทองเป็นคนบ้า รินทองเสียชีวิต และโรยทองเป็นโรคเบื่อผู้ชายไปตลอดชาติ แต่กฏหมายไม่สามารถเอาผิดภุมเรศได้ ภุมเรศได้จากไปอยู่จังหวัดสงขลากับพ่อตนเองด้วยความเสียใจ
ขิงก็รา ข่าก็แรง (2533/1990) เป็นเรื่องของนักข่าวสาวณิช กับนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงปวีร์ ณิชมีพี่สาวชื่อ ภรณี ซึ่งเป็นเมียน้อยของไพรุต พ่อของเพียงเพ็ญ พ่อของปวีร์คือสารนาถ แม่ของปวีร์ ป่วยเป็นโรคจิตต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะทนความเจ้าชู้ของสารนาถไม่ไหว แต่เธอเปิดใจกับแม่ชีศรีสุดา เรื่องที่ทำให้ณิช ต้องมาผัวพันกับสารนาถและปวีร์ เพราะเธอทำข่าวผิด เธอต้องการที่จะขอโทษ สารนาถแค่ถูกขัดขวางโดย ปวีร์เธอมีความมุ่งมั่น ทำให้ในที่สุดเธอก็ได้ขอโทษสารนาถสมใจแล้วเธอก็ลาจากไป แต่เธอได้มาพบกับสองพ่อลูกอีกครั้งเพราะ เธอเข้าไปเยี่ยมรุ่งทิพย์และรุ่งทิพย์ก็ชอบในความใสซื่อของณิช เพราะณิชมาเยี่ยมรุ่งทิพย์บ่อยๆมำให้อาการของรุ่งทิพย์ดีขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้รุ่งทิพย์สามารถกลับมาอยู่บ้านได้ เมื่อสารนาถและปวีร์มารับเธอไม่ยอมกับบ้าน แต่ยอมไปอยู่บ้านณิชแทน เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป ปวีร์จะยอมรับรักณิชเพราะอะไร ติดตามชมใน "ขิงก็รา ข่าก็แรง"
เรื่องย่อ : ใครกำหนด (2533/1990) เรื่องราวชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ถูกชะตาลิขิตไว้ ราวกับว่าเธอเป็นผู้หญิงกินผัว ทั้งที่ผู้ชายเหล่านั้นยังไม่เคยได้พร่าพรหมจรรย์ของเธอเลยแม้แต่คนเดียว แต่ผู้ชายที่เข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิตของเธอต้องมีอันเป็นไป .... ใครเล่าคือผู้กระทำ หรือว่าเป็นเพราะพรหมลิขิต........
เมื่อรักร้าว (2533/1990) เรื่องราวความรักที่เป็นบทเรียนสอนใจ คนที่มีความรักจากรากฐานแน่นหนาของความเชื่อมั่นศรัทธาที่คนสองคนมีต่อกัน
เรื่องย่อ : วนาลี (2533/1990) พันตำรวจโท วิชาติ หรือพี่ใหญ่ ของ วิชชุดา หรือ วิช น้องสาวคนเล็ก หญิงสาวผู้แก่นแก้ว โลดโผน เก่งกาจทุกเรื่อง ทั้งยิงนกตกปลา วิชชุดา เป็นที่หมายปองของ พ.ต.ต.โสรัตน์ ตำรวจหนุ่ม เพื่อนของพี่ชาย ซึ่งหลงรักจนหัวปักหัวปำ แต่กลับไม่กล้าสานสัมพันธ์ พี่ใหญ่ต้องการให้วิชแต่งงานกับ โสรัตน์ เพื่อนนายตำรวจ แต่วิชชุดาไม่ยอมรับในการตัดสินใจของพี่ใหญ่ จึงหลบไปพักกับพีกลาง พี่ใหญ่จึงวางแผนกับโสรัตน์ เพื่อทำให้น้องสาวใจอ่อนยอมแต่งงานกับโสรัตน์ โสรัตน์ได้ขอร้องแกมบังคับกับร้อยตำรวจเอกศยาม น้องชายของตน ให้ปลอมเป็นเสือมืดจับตัววิชไปกักขังไว้สักพัก แล้วตนเองกับพี่ใหญ่จะตามไปช่วยกลับมาเพื่อให้เป็นวีรบุรุษในใจของวิชชุดา วันลงมือ ศยามได้ปลอมตัวเป็นเสือมืด ประกอบกับคืนนั้น บังเอิญมีโจรขี้นบ้านจริงๆ วิชชุดาจึงเข้าใจสนิทว่า ศยามเป็นเสือมืด เสือมืดพาวิชชุดาเข้าไปอยู่กระท่อมในป่าลึก และมีให้แม่นมคอยดูแลวิชชุดาโดยโกหกกับวิชชุดาว่า เป็นแม่ของเสือมืด วิชชุดาพยายามหาทางที่จะหนีอยู่ตลอดเวลา ศยามจึงต้องคอยระวังอย่างใกล้ชิด เพราะการเดินในป่าคนเดียวอันตรายอย่างยิ่ง นานวัน วิชชุดา ก็ได้เห็นความเป็นสุภาพบุรุษในตัวของศยาม จึงเริ่มมีความไว้ใจ และเกิดความผูกพันกัน ความผูกพันที่เกิดขึ้นท่ามกลางเสียงขับกล่อมของธรรมชาติและการประจักษ์แจ้งถึงความปรารถนาที่แท้จริง กลับทำให้เขาไม่อาจถอนตัวถอนใจจากเธอได้ ในขณะที่แผนการต่างๆ ดำเนินไปอย่างสวยงาม ศยามเอง ก็เห็นว่านานเกินไปแล้ว จึงติดต่อ โสรัตน์ วิชาติ ว่าให้หยุดการแสดงครั้งนี้เสียที เมือการแสดงต้องปิดฉากลง วิชชุดาจะยอมอภัยศยามหรือไม่
เศรษฐีตีนเปล่า (2533/1990) คุณ นายลำไย เศรษฐีนีแห่งตำบลบ้านนางแมว พานัจ ลูกสาวซึ่งเป็นลูกบุญธรรมมาเที่ยวยุโรป ที่จริงต้องบอกว่า นัจพามา เพราะคุณนายลำไยได้ฟังคุณนายต่างๆที่หมู่บ้าน ทั้งคุณนายศึกษา คุณนายผู้กอง ฯลฯ พูดถึงเมืองนอกกันอย่างชื่นชม ลำไยซึ่งไม่ยอมน้อยหน้าใครอยู่แล้ว จึงต้องให้นัจพามาทัวร์ เพราะนัจ "รู้ภาษาฝรั่ง" มากกว่าใคร ก่อนไปก็ต้องมีการ "เตรียมตัว" กันเป็นโกลาหล เริ่มตั้งแต่เสื้อผ้า แม้ว่าจะเลือกเดินทางในช่วงหน้าร้อนของยุโรป แต่สภาพอากาศก็ยังหนาวเย็นเกินไปสำหรับคนไทยอยู่ดี ต่อจากเสื้อผ้าก็เป็นรองเท้า สำหรับนัจไม่ค่อยเดือดร้อนนัก คนที่วุ่นวายและลำบากใจที่สุดคือคุณนายลำไย เนื่องจากตั้งแต่เด็กจนถึงเป็นย่าเป็นยายแล้ว นางชินกับเดินด้วยเท้าเปล่า หรืออย่างดีที่สุดก็ไม่เกินรองเท้าแตะ ดังนั้นการจะต้องมาทนใส่ รองเท้าหุ้มส้น แถมยังถุงน่องเข้าไปอีก จึงเป็นเรื่องทรมานของนางเหลือเกิน นอก จากนั้นนัจยังต้องมีการ "ติวเข้ม" เรื่องการพูดของคุณนายอีก เพราะคุณนายเป็นคนไทยแท้ๆ ที่อยู่ชนบทมาตลอดชีวิต คำพูด คำจาของนางจึงใช้แต่คำศัพท์สมัยพ่อขุน แล้วแถมด้วยสบถสาบานอีกนิดหน่อย แม้จะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับชาวบ้าน ทว่าการเดินทางเป็นคณะใหญ่ที่ต้องร่วมเดินทางกับผู้ลากมากดีชาวกรุง จะทำตัวตามสบายอย่างนั้นไม่ได้ นี่ยังไม่รวมถึงการสอนให้คุณนายรับประทานอาหารด้วยมีดและส้อมอีกด้วย กว่าจะเดินทางได้ นัจก็ทั้งสนุกและเหนื่อยใจ เมืองนอกไม่ได้สวยงามน่าอยู่อย่างที่คุณนายนึก ที่ลอนดอนไม่มีตึกระฟ้าที่ทันสมัยอย่างที่ใครต่อใครพูดกัน อาคารเก่าทึมๆ กับบรรยากาศที่มัวซัว ทำให้คุณนายคิดถึงบ้าน ยิ่งต้องเดินกันทั้งวี่ทั้งวัน คุณนายก็รู้สึกลำบากลำบนกับเสื้อผ้าหนาเตอะ ถุงน่องที่คันตัวยิบๆ แล้วยังรองเท้าที่ทั้งบีบทั้งกัด ยัง ดีว่านัจเตรียมข้าวสวยกึ่งสำเร็จรูปที่เติมน้ำร้อนอย่างเดียวก็พร้อมรับ ประทาน กับน้ำพริกสารพัดชนิดมาด้วย ไม่งั้นกว่าจะเดินทางกลับ นัจคงต้องประคับประคองคุณนายลำไยซึ่งรับประทานอาหารฝรั่งไม่ได้เลย กลับบ้านแน่นอน ในคณะทัวร์มีสาวสวย เก๋ ท่าทางปราดเปรียว ร่วมเดินทางมาด้วย เธอชื่อเทวิกา แต่ชอบให้ใครๆ เรียกว่า "วิว" วิวจบปริญญาตรีจากอเมริกา และเดินทางมาร่วมกับคณะทัวร์ยุโรปก่อนกลับบ้าน คุณนายลำไยบอกว่าวิวอยู่ในกลุ่มของพวก "ผู้ดีมีเงิน" คำพูดและกิริยาท่าทางของเธอที่ชอบโอ้อวด ข่มคนอื่นอย่างไม่เกรงใจ ชอบฉีกหน้าคนอื่นเสมอ ทำให้เธอไม่ค่อยมีเพื่อนในคณะทัวร์เลย นัจมองวิวแล้วนึกขยาด เธอไม่อยากร่วมสังคมกับ "ผู้ดีมีเงิน" เหล่านี้เลย สายตาของวิวที่มองเธอกับแม่อย่างสมเพชปนดูถูก ทำให้นัจกลัวและเบื่อ "ผู้ดีมีเงิน" ขึ้นมาทันที เธอคิดว่าถ้าเหล่าผู้ดีมีเงินเป็นแบบนี้กันหมด เธอขออยู่อย่างสาวบ้านนอกอย่างนี้จะดีกว่า วันหนึ่งนัจกับคุณนายงดไปทัวร์ลอนดอน 1 วัน เพราะนัจตั้งใจจะซื้อของตามที่อาจารย์สุวิมล อาจารย์ของเธอที่มหาวิทยาลัยฝากมา นัจพาคุณนายเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน เมื่อถึงบริเวณซึ่งเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าใหญ่ นัจมองหาร้านที่ระบุมา ก็หาไม่เจอ คุณนายเดินจนเหนื่อยบ่นแล้วบ่นอีก นัจก็ยิ่งกังวลจนคุณนายตัดสินใจเดินไปถามชายคนหนึ่งที่ยืนรอรถประจำทางอยู่ หน้าตาท่าทางของเขาไม่เหมือนคนไทยเลยสักนิด ขณะ ที่คุณนายยืนยันว่าเป็นคนไทยแน่นอน คุณนายลำไยเดินจ้ำไปหาชายหนุ่มผู้นั้นอย่างรวดเร็ว นัจยืนงงว่าทำไมคุณนายจึงแน่ใจนักว่าเป็นคนไทย กว่าจะหายงงคุณนายก็ไปเจรจากับเขาเสียแล้ว นัจวิ่งตามไปทันที แล้วเธอก็ต้องนิ่งอีกครั้ง เมื่อได้ยินเขาตอบคุณนายลำไยเป็นภาษาไทยชัดเจน คุณนายจัดการแนะนำตัวเอง และนัจเสร็จเรียบร้อย เขาจึงบอกว่าเขาชื่อ สันติธร มาเรียนอยู่ที่ลอนดอนนี้ 10 ปีแล้ว ตลอดเวลาที่คุยกัน แม้หลายสิ่งหลายอย่างจะบอกว่าเขาเป็นพวก "ผู้ดีมีเงิน" แต่นัจก็ยังไม่เห็นว่าเขาจะมีกิริยาอย่างเทวิกาเลยสักนิด เขาสุภาพ พูดจาดี แถมยังใจดีโดยจะพาเธอกับคุณนายเดินไปร้านหนังสือที่ต้องการเสียอีก หลังจากได้ของที่ต้องการแล้ว นัจกับคุณนายลำไยก็ลาสันติธร และตามเคย ตามนิสัยของคุณนาย นางก็บอกที่อยู่กับเขาอีก โดยบอกให้ไปถามหานางได้ที่ตำบลบ้านนางแมว นครปฐม รับรองว่าใครๆก็รู้จักนาง แล้วนางจะดูแลเขาอย่างดี นัจอายมาก แต่สิ่งที่เธอเห็นก็คือ สันติธรไม่ได้มีท่าทางว่าจะดูถูกอย่างไร ไม่มีแม้สีหน้ารำคาญ ทั้งที่เขาเสียสละกับนัจและแม่ค่อนข้างจะนาน เธอเห็นเขายิ้มอย่างเต็มใจ สีหน้าพอใจกับท่าทางจริงใจของคุณนายลำไยมากกว่า ทั้งคู่แยกกันไม่นาน ก็ต้องมาเจอกันอีกในร้านอาหารจีนใกล้ๆ กันนั่นเอง เนื่องจากเป็นตอนเที่ยงพอดี คนจึงเต็มทุกโต๊ะ สันติธรซึ่งมาก่อนและได้ที่นั่งแล้ว จึงชวนคุณนายกับนัจนั่งร่วมโต๊ะด้วยกัน สันติธรมองหน้าสาวน้อยหน้าใสอย่างนัจอย่างเอ็นดู นัจเป็นคนสวยที่สวยโดยเนื้อแท้จริงๆ เธอแทบไม่ต้องแต่งหน้าเลย จากร้านอาหาร คราวนี้ได้แยกกันจริงๆเสียที นัจ พาคุณนายกลับโรงแรม นัจเห็นเทวิกานั่งคุยแจ๋วๆกับผู้ชายคนหนึ่ง แม้เธอจะเห็นเพียงด้านหลังของเขาแต่เธอก็จำได้ว่าเป็นสันติธร และราวกับเขามีตาหลัง เพราะเขาหันมามองเธอ แล้วลุกขึ้นเดินมาหาเธอกับคุณนายโดยไม่ลืมจะขอโทษเทวิกาเสียก่อน คุณนายทักสันติธรอย่างคนรู้จักคุ้นเคยมานาน จนเทวิกาหน้าบึ้ง คอแข็ง เมื่อเห็นสันติธรสนใจกับ "พวกบ้านนอก" มากกว่าเธอ เมื่อถึงเวลาเดินทาง สันติธรก็ยังมายืนส่งที่ฟุตบาทหน้าโรงแรม นัจไม่แน่ใจว่าเขามาส่งเธอกับแม่หรือส่งเทวิกากันแน่ เพราะสายตาของเขาที่มองสบตาเธอนั้น ไม่ได้เหลียวมองเทวิกาเลยสักนิด แม้เจ้าหล่อนจะเดินขึ้นรถบัสคันใหญ่ตามหลังเธอมานั่นเอง เทวิกาเดินเชิดคอปั้นปึ่งไปนั่งอย่างกับเจ้าหญิง เธอเมินหน้าหนีสันติธรอย่างตั้งใจ แต่เขากลับไม่สนใจ สันติธรโบกมือให้นัจราวกับเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน ที่ตำบลบ้านนางแมว นัจกับคุณนายลำไยกลับมามีชีวิตที่ปกติเหมือนเดิม นัจจบการศึกษาชั้น ปวส. เป็นครูสอนอยู่ที่โรงเรียนเทศบาล แล้วขณะนี้นัจกำลังเรียนภาคค่ำที่วิทยาลัยครูในจังหวัด เพื่อจะได้สำเร็จปริญญาตรี นัจใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะประจำตัวเหมือนสาวๆทั่วไปแถบนี้ แต่นัจก็คล่องตัว เธอขี่จักรยานและขับรถได้ด้วย
เรื่องย่อ : แรงรัก (2533/1990) เพราะความต้องการของผู้ใหญ่ทำให้อาทิตย์ และนุดีต้องแต่งงานกัน โดยปราศจากความรัก อีกทั้งอาทิตย์ยังมีคนรัก คือ เคธีแล้วด้วย หลังจากที่ผู้ใหญ่เสีย อาทิตย์ต้องการกลับไปหาแฟนสาวจึงตกลงกับนุดี ว่าจะเลิกกัน ทั้งๆที่ นุดี ท้องกับอาทิตย์ แต่นุดีก็ยอมตกลงที่จะหย่้าโดยไม่บอกอาทิตย์ว่า ตัวเองท้องแล้ว และให้เซนต์สัญญาว่า ห้ามยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินใดๆก็ตามที่เกิดจากนางเอก (นั่นก็คือลูก) และแบ่งที่ดินที่ปลูกเป็นเรือนหอ พระเอก ก็แบ่งเป็นสองส่วน ให้นางเอกครึ่งนึง ก็กลายเป็นบ้าน2หลัง รั้วติดกัน อีกหลังให้พี่สาวตัวเองอยู่ หลังจากหย่า อาทิตย์ก็ย้ายตัวเองไปอยู่อเมริกากับเคธี่ ส่วนนุดีก็ครองตัวเป็นโสดเลี้ยงลูกคนเดียวนับตั้งแต่นั้น เวลาผ่านไป อาทิตย์ต้องการลูกแต่ภรรยาไม่สามารถมีบุตรได้ และเบื่อเมืองนอกจึงคิดย้ายกลับมาอยู่เมืองไทย ประจวบกับพี่สาวเขียนจดหมายไปเล่าถึง ลูกชายของนุดีชื่อลูกหมู อาทิตย์ตัดสินใจกลับเมืองไทย แต่เคธียังไม่ยอมกลับมาด้วย ก็เลยตัดสินใจห่างกันสักพัก เมื่ออาทิตย์กลับมาอยู่ที่บ้าน เมื่ออาทิตย์พบลูก ก็หลงเลย แล้วก็เหมือนตกหลุมรักนุดีอีกครั้ง แต่นางเอกจะใจแข็งมากๆ แต่ก็ลูกหมูนี่แหละ ตัวเชื่อมสัมพันธภาพ เคธีทนคิดถึงอาทิตย์ไม่ไหวก็กลับมาเมืองไทย แต่ก็พอรู้ๆอยู่แล้วว่าอาทิตย์รักกับนุดีและมีลูกหมูเป็นโซ่ทองคล้องใจ เลยตัดสินใจหย่า สุดท้าย ครอบครัวของลูกหมู จึงกลับมาเติมเต็มอีกครั้ง
เรื่องย่อ : อุ้มบุญ (2533/1990) เป็นเรื่องราวของหนุ่มสาว 2 คู่ที่เข้ามาเกี่ยวข้องพัวพันกัน ศิวา น้ำผึ้ง เบญจ์ และ อรชา ความปรารถนาของชีวิตคู่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือทายาทสืบสกุล แต่เมื่อ อรชา และเบญจ์ไม่สามารถมีลูกด้วยกันได้ อรชาจึงอยากให้น้ำผึ้งมาอุ้มท้องแทนเธอ เรื่องราวจึงเกิดขึ้นเมื่อน้ำผึ้งไม่ยอมทำตามที่ตกลงไว้
เรื่องย่อ : รอยมาร (2533/1990) บ้านสวนชานเมืองเป็นสมบัติเก่าแก่ของคุณปู่ผู้ล่วงลับของสไบนาง คุณหญิงรุจาผู้เป็นย่า รักและเอ็นดูหลานสาวจอมแก่นคนนี้เป็นพิเศษ บ้านสวนหลังนี้เป็นบ้านที่สไบนางรักมาก แต่ในสายตาของวิจิตราป้าสะใภ้กลับเห็นว่า สไบนางคือแกะดำที่รังแต่จะสร้างรอยด่างให้กับอัครราช ซึ่งเป็นตระกูลในสังคมชั้นสูง ต่างกับเมธาวีลูกสาวที่นางภาคภูมิใจเพราะเมธาวีสวยสง่า กริยามารยาทงดงาม ตำแหน่งการงานมั่นคง ส่วนสไบนางดื้อรั้น รักสนุกเอาแต่ใจและไม่ยอมลงให้ใครง่ายๆ ดังนั้น การที่สไบนางจะได้สมบัติและยิ่งกว่านั้นการที่ประมุขผู้เป็นสามีให้ความรักสไบนางเสมอเมธาวีลูกสาวแท้ๆ จึงทำให้วิจิตราไม่พอใจมากยิ่งขึ้น โดยวิจิตราไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว สไบนางคือลูกของประมุขที่เกิดจากศรีอำไพน้องสะใภ้ประมุขเอง นิสัยรักการพนันของประมุขคือต้นเหตุโศกนาฎกรรม เขาเสียพนันจนต้องลอบนำโฉนดที่ดินของอัครราชไปจำนอง เมื่อถึงเวลาที่ต้องไถ่จำนองประมุขไม่มีแม้ค่าดอกเบี้ย กระทั่งโอกาสล้างหนี้มาถึงอย่างไม่คาดคิด บารมีพี่ชายของศรีอำไพตกอยู่ในฐานะผู้ร่วมก่อการกบฏเมื่อปฏิวัติไม่สำเร็จ ประมุขได้รับคำสั่งให้ค้นบ้านและจับบารมีเขาจึงได้ถือโอกาสทำลายหลักฐานการกู้เงิน ส่วนบารมีนั้นหลบหนีออกนอกประเทศ เมธาวีได้พบกับชายในผันคือ อุปมา ในขณะที่เมธาวีคบอุปมาด้วยไมตรีที่ดีส่วนสไบนางก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากับอุปมาแต่แรกพบ ความสัมพันธ์ของอุปมาและเมธาวีก้าวหน้าไปตามลำดับ ในที่สุดอุปมาก็ขอหมั้นกับเมธาวี เมธาวีตกลงเพราะอุปมามีพร้อมทุกอย่าง ประมุขหมดตัวที่บ่อนการพนันซึ่งบารมีเป็นเจ้าของบ่อน ทรัพย์สินของอัครราชและเมธาวีคือข้อเสนอที่ประมุขชดใช้ให้บารมี บารมีกลับเมืองไทยอย่างผู้ชนะ เขาได้พบกับคุณหญิงรุจาและสไบนาง บารมีเอ็นดูสไบนางและเข้าใจว่าเป็นหลานสาวที่เกิดจากน้องสาวกับประจักษ์จึงคิดจะยกทรัพย์สินของประมุขให้ การแต่งงานของอุปมาและเมธาวีถูกจัดขึ้น แต่เจ้าสาวกลับถูกชันษาซึ่งหลงรัหเมธาวีอยู่ลักพาตัวไปขณะเดินทางทั้งคู่ประสบอุบัติเหตุ ชันษาตายในที่เกิดเหตุส่วนเมธาวีบาดเจ็บสาหัส ประมุขรู้ว่าบารมีไม่เคยรู้เรื่องที่สไบนางเป็นลูกของตน จึงเปิดเผยชาติกำเนิดให้สไบนางรับรู้และขอร้องให้แต่งงานแทนเมธาวี สไบนางเห็นแก่ประมุขและการขอร้องของบารมีกับคุณหญิงรุจาที่อยากจบสิ้นการแก้แค้นจึงยอมรับคำเข้าพิธีแต่งงาน ประมุขซึ่งป่วยเรื้อรังมานานได้เสียชีวิตลง สไบนางตัดสินใจหนีออกจากบ้านโดยมีผู้กองอาทิตย์ช่วยหาที่อยู่ให้ อุปมาพยายามงอนง้อแต่สไบนางต้องการเพียงใบหย่า ทำให้อุปมาต้องยอมหย่าทั้งที่รู้ว่าตัวเองรักสไบนางมาก สไบนางขอตามบารมีไปอยู่ที่อเมริกา ส่วนอุปมาขอเมธาวีแต่งงานประชดชีวิต เมธาวีรับคำของอุปมาโดยมีแผนในใจ เมธาวีส่งข่าวให้สไบนางมาร่วมงานแต่งงาน สไบนางยอมกลับมาร่วมงาน และทุกคนต้องแปลกใจเมื่อพบว่าเจ้าสาวได้หายไปทิ้งจดหมายถึงสไบนางขอร้องให้แต่งงานกับอุปมา เพราะว่าคนที่อุปมารักไม่ใช่ตนแต่เป็นสไบนาง สไบนางซึ่งผ่านเรื่องราวชีวิตมามากมายและเติบโตมากขึ้นจึงยอมเข้าพิธีในที่สุดแต่หาใช่เพื่อลบรอยมารที่รุ่นพ่อได้สร้างไว้หากเป็นด้วยรอยรักที่ค่อยๆ เริ่มก่อตัวมาจากรอยร้าวอย่างไม่รู้ตัวของทั้งสองนั่นเอง
เรื่องย่อ : คู่กรรม (2533/1990) อังศุมาลิน ชลาสินธุ์ (กวาง กมลชนก โกมลฐิติ) นิสิตสาวคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกิดและเติบโตมาท่ามกลางความรักและความอบอุ่นของ แม่อร และยาย ที่บ้านริมคลองบางกอกน้อย พ่อของอังศุมาลินเป็นอดีตทหารเรือ ชื่อ หลวงชลาสินธุราช อังศุมาลินมีเพื่อนชายที่รู้ใจและสนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็ก ชื่อ วนัส นิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเดียวกัน ที่ในใจลึก ๆ ของเขาแอบรักอังมากกว่าน้องสาว แต่เธอคิดว่ายังไม่พร้อมที่จะมีความรัก จนวนัสเดินทางไปเรียนต่อที่อังกฤษ อังศุมาลินกับครอบครัวมีโอกาสได้รู้จักสนิทสนมกับ หมอโยชิ หมอทหารชาวญี่ปุ่นผู้แสนใจดีและเป็นมิตร หมอโยชิเอ็นดูอังศุมาลินจนเสนอตัวสอนภาษาญี่ปุ่นให้เธอด้วยความเต็มใจ แล้วอังศุมาลินก็ได้พบกับ โกโบริ (เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ ) ขณะที่เธอว่ายน้ำไป แอบดูอู่เรือของทหารญี่ปุ่นที่มาตั้งรกรากอยู่ใกล้ ๆ สวนบ้านเธอ โกโบริเป็นนายช่างใหญ่ประจำอู่ เขากล่าวทักทายอังศุมาลินอย่างเป็นมิตร แต่อังศุมาลินไม่พูดด้วย เพราะอคติกับคนญี่ปุ่น โดยเฉพาะทหารโกโบริก็เริ่มแสดงไมตรีกับครอบครัวอังศุมาลิน โดยใช้ให้ทหารลูกน้องส่งข้าวของผลไม้สำหรับ คนป่วยมาให้ยายของอังศุมาลิน พาหมอมาดูอาการยาย จนทำให้ทั้งแม่กับยายเริ่มเอ็นดูและมองเห็นถึงน้ำใจไมตรีของโกโบริ และเรียกโกโบริว่า “พ่อดอกมะลิ” ขณะที่อังศุมาลิน ก็ยังอคติกับเขาอย่างเดิม สัญญาณระเบิดดังขึ้น ในคืนที่อังศุมาลินอยู่บ้านคนเดียว โกโบริซึ่งแวะมาหาพอดี เลยมีโอกาสได้ช่วยเหลือพาอังศุมาลินไปหลบภัยที่ท้ายสวน ทั้งคู่วิ่งฝ่ากระสุน โกโบริกอดอังศุมาลินวิ่งเอาตัวเป็นกำบังให้ และพาอังศุมาลินไปหลบในท้องร่องและกอดอังไว้แน่น ระเบิดก็ลงใกล้ ๆ จุดนั้น โกโบริยอมเสี่ยงชีวิตเจ็บตัวแทนอังศุมาลิน และก่อนที่เขาจะหมดสติไป โกโบริก็บอกรักอังศุมาลิน แม้ลึก ๆ แล้วเธอจะรัก แต่เพราะโกโบริเป็นชาวญี่ปุ่น เป็นศัตรูที่เข้ามากร้ำกรายบ้านเกิดเมืองนอนของเธอ อังศุมาลิน จึงปฏิเสธโกโบริอย่างไม่ใยดี โกโบริมาขอโทษอังศุมาลิน ที่เรื่องของเขากับเธอกลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต และมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ทุกอย่างบีบคั้น จนในที่สุด อังศุมาลิน ก็จำต้องจำยอมแต่งงานกับ โกโบริด้วยเหตุผลทางการเมือง ความสุภาพแสนดีของโกโบริ เริ่มทำให้อังศุมาลิน เริ่มมองเขาในแง่ดีมากขึ้นทีละนิด จนคืนหนึ่งขณะที่เธอมายืนนึกถึงสัญญาที่เคยให้ไว้กับวนัสที่ใต้ต้นลำพู โกโบริก็มาเจอ อังศุมาลินจึงสารภาพกับโกโบริว่าเธอมีคนที่เธอรออยู่แล้ว คือ วนัส โกโบริเสียใจแต่ไม่แสดงออก แต่อังศุมาลินกลับเป็นฝ่ายรู้สึกว่าตัวเองได้ทำร้ายจิตใจของโกโบริ เธอเห็นใจและสงสารโกโบริจับใจโกโบริมุงานหนัก นอนที่อู่เรือไม่ยอมกลับบ้าน พร้อมกับทำเรื่องขอย้ายไปประจำที่พม่า เพราะสถานการณ์ที่พม่ากำลังวุ่นวาย เขาไม่ต้องการได้ชื่อว่าเป็นทหารที่เลือกแต่งานสบาย แต่หมอโยชิรู้ดีว่าโกโบริมีเหตุผลมากกว่านั้น เพราะสังเกตเห็นว่าโกโบริกับอังศุมาลินมีปัญหาไม่เข้าใจกัน หมอโยชิจึงพยายามเข้ามาประสานความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แต่ก็ไม่เป็นผลแล้วคืนหนึ่ง วนัสก็แอบมาพบกับอังศุมาลิน วนัสเปิดเผยว่าตนเป็นเสรีไทย วนัสรู้เรื่องอังศุมาลินดีทุกอย่าง เขารู้ดีว่าอังศุมาลิน กำลังสับสนใจระหว่างโกโบริกับเขา จึงให้อิสระอังศุมาลิน ได้เลือกคนที่เธอรัก พร้อมกับฝากให้อังศุมาลินบอกโกโบริด้วยว่า อย่าไปสถานีรถไฟบางกอกน้อยตอน มีระเบิดลง อังศุมาลินซึ้งใจกับความเป็นสุภาพบุรุษของวนัส เมื่อระเบิดลงชุดใหญ่ทำให้อังศุมาลินกลัวว่าโกโบริจะเป็นอันตราย จึงรีบตามไปบางกอกน้อยโดยไม่สนคำทัดทานของใครเมื่อไปถึงปรากฏว่าสถานีรถไฟ บางกอกน้อยโดนถล่ม ทหารนอนตาย บาดเจ็บมากมาย อังศุมาลินเจอหมอโยชิ ซึ่งก็กำลังตามหาโกโบริอยู่เหมือนกัน อังศุมาลินขอพรลูกในท้องให้ช่วยคุ้มครองโกโบริ อังศุมาลินเดินตามหาโกโบริอย่างรุ่มร้อนใจ จนในที่สุดอังศุมาลินก็พบโกโบรินอนบาดเจ็บ อาการสาหัส อังศุมาลิน ไม่ยอมให้โกโบริจากเธอไป แต่โกโบริรู้ตัวดีว่าเขาคงไม่รอด จึงฝากให้อังศุมาลินช่วยดูแลลูกแทนเขาด้วย อังศุมาลินบอกรักโกโบริก่อนที่เขาจะสิ้นลมบนตักอังศุมาลิน นั่นเอง จบที่งานศพของ โกโบริ ทุกคนร่ำไห้เสียใจ อังศุมาลินให้สัญญาต่อหน้าศพโกโบริว่า เธอจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อลูก และจะดูแลลูกให้ดีที่สุดเพื่อ โกโบริ ชายที่เธอรักสุดหัวใจ
เรื่องย่อ : อุบัติเหตุ (2533/1990) อุบัติเหตุ การพบกัน ไม่ว่าเพื่อรักหรือเพื่อชัง ไม่ว่าบทเลวหรือดี ที่มีให้แก่กันและกัน มันเป็นบุพเพ เป็นอุบัติเหตุ ดั่งเขาและเธอ…วิศนี…อารุม เหตุการณ์ไม่คาดคิดที่เกิดกับวิศนี เป็นสิ่งที่พบได้เสมอในชีวิต และหากอุบัติเหตุนั้น มันแยกแยะถูกผิด ต่างความเห็นกันออกไป คุณจะพบว่า จริงแท้แล้ว ไม่มีสิ่งใดจากภายนอก จำทำให้มนุษย์เป็นมลทินได้ แต่สิ่งที่ออกมาจากภายในต่างหาก ที่ทำให้มนุษย์ทุกข์และเป็นมลทิน