2532
เขยบ้านนอก (2532/1989) โฉมโสภา หรือ คุณหนู ลูกสาวคนเดียวของ รมต. สุพจน์ และคุณหญิงสิรี เพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ เธอเป็นสาวน้อยน่ารัก สดใสปราดเปรียว และมั่นใจในตนเอง ดังนั้น จึงมีหนุ่มมากมายมาติดพันเธอ แต่ในบรรดาหนุ่มๆ ทั้งหลาย "หัสดี" ถูกใจคุณหญิงสิรีมากที่สุด เพราะเขารูปหล่อและกิริยามารยาทเรียบร้อย คุณหญิงสิรีอยากจะให้หัสดี แต่งงานกับโฉมโสภา โดยได้นัดให้ทั้งคู่ได้รู้จักกันแต่ก็เกิดผิดพลาดขึ้น คุณหญิงสิรีจึงวางแผนใหม่ โดยให้ทั้งคู่ไปเจอกันที่ไร่ต่างจังหวัด การมาที่ไร่ของโฉมโสภาในครั้งนี้ ทำให้เธอได้เจอกับ "นวณ" ลูกชายผู้ใหญ่นาคและมีไร่ติดกับไร่ของคุณหญิงสิรี โฉมโสภาตั้งใจจะให้ นวณเป็นพระเอกในนวนิยายที่ตัวเองกำลังเขียนอยู่โดยที่นวณไม่รู้ตัว โฉมโสภาจึงพยายามเข้าไปใกล้ชิด นวณ เพื่อเก็บข้อมูลรายละเอียดจนทำให้ทั้งคู่สนิทสนมกันขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางความไม่พอใจของ คุณหญิงสิรีจึงคิดที่จะพาโฉมโสภากลับกรุงเทพ ก่อนกลับโฉมไปเที่ยวกับนวณ พอดีเกิดพายุฝนและ ใกล้พลบค่ำแล้วทั้งสองยังไม่กลับ ทำให้ทุกคนเป็นห่วงและออกตามหา จนกระทั่งพบทั้งคู่นอนกอดกัน อยู่ในโรงนา ผู้ใหญ่เกรงว่านวณจะถูกท่านรมต.สุพจน์ ทำร้าย จึงลงมือซ้อมนวณด้วยตนเอง โฉมโสภา เข้าปกป้องและบอกเธอตามนวณมาเอง นวณจึงขอรับผิดชอบทุกอย่าง โดยยินดีจะแต่งงานกับ โฉมโสภา เพื่อไม่ให้เธอเสียชื่อเสียงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คุณหญิงสิรีด่าว่านวณอย่างรุนแรงจน โฉมโสภาทนไม่ไหว และพูดว่าจะแต่งงานกับนวณ คุณหญิงสิรีโกรธมากประกาศตัดแม่ตัดลูกกับ ลูกสาวและกลับบ้านทันที ก่อนที่จะแต่งงานกันโฉมโสภาขอร้องนวณว่าขอให้การแต่งงานครั้งนี้เป็น เพียงในนามเท่านั้นเพราะทั้งคู่ยังไม่รู้จักกันมากพอและไม่ได้รักกันด้วย หลังจากการแต่งงาน คุณหญิง สิรีก็ออกอุบายโดยให้คนมาส่งข่าวกับโฉมโสภาว่าป่วยหนัก นวณและโฉมโสภาเข้ากรุงเทพเพื่อเยี่ยม คุณหญิง คุณหญิงขอให้โฉมโสภาอยู่พยาบาลก่อนจนกว่าจะหาย นวณเห็นคุณหญิงสิรีไม่ได้เป็นอะไร นอกจากใช้มารยา จึงเริ่มออกฤทธิ์ทำตัวขวางหูขวางตาคุณหญิงสิรีด้วยการแต่งตัวและทำท่าทางอย่าง บ้านนอกเต็มที่ ทำให้คุณหญิงอับอาย และขายหน้าอยู่เสมอๆ จึงคิดหาทางแยกลูกสาวกับลูกเขยออก จากกันโดยการชักนำหนุ่มๆ ทั้งหลายเข้ามา ทำให้นวณและโฉมโสภามีเรื่องขัดใจกันอยู่เรื่อยๆ แต่ด้วย ความใกล้ชิดกันทำให้ทั้งคู่เป็นของกันและกัน เมื่อโฉมโสภารู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์จึงบอกนวณและชวน นวณไปเช่าบ้านอยู่ตามลำพัง แต่แล้วทั้งคู่ก็ต้องผิดใจกันเมื่อแม่วันร่วมมือกับคุณหญิงใส่ไฟนวณเรื่อง ทรงสม ทำให้โฉมโสภาโกรธคิดว่านวณปันใจจึงย้ายกลับไปอยู่บ้านแม่จนกระทั่งคลอด นวณมาเยี่ยม แต่โดนคุณหญิงกีดกัน วันหนึ่งท่านรัฐมนตรีสุพจน์ได้ไปเป็น ประธานในพิธีมอบรางวัลผลงานวิจัย เกษตรธรรมชาติดีเด่น ก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าผู้ได้รับรางวัลคือ นายคำนวณ เหล่าพนา ข้าราชการ กระทรวงเกษตรฯ ระดับ 6 ผู้ซึ่งเป็นลูกเขยของตน ความเศร้าหมองของโฉมโสภาทำให้แม่วรรณทนไม่ได้ ยอมสารภาพความจริง โฉมโสภาจึงตามนวณไปที่บ้านไร่ เพื่อปรับความเข้าใจกับนวณและนวณก็ทำให้ คุณหญิงยอมรับเขยบ้านนอกคนนี้ในที่สุด.................
เรื่องย่อ : รัตติกาลยอดรัก (2532/1989) ดร.จักรกฤษณ์ อิสราลักษณ์ ทายาทคนเดียวของมหาเศรษฐินีแห่งเมืองไทย ผู้จบปริญญาดุษฎีบัณฑิตทางด้านปรัชญา ได้ล้มเจ็บคล้ายบุคคลสติฟั่นเฟือนอยู่ที่สหรัฐอเมริกา หลังจากกลับจากการเดินทางบุกบั่นไปศึกษาเรื่องลี้ลับทางจิตวิญญา ไสยศาสตร์ จากโยคีในระเทศอินเดีย เมื่อได้รับการผ่าตัดสมองจนหาย จักรกฤษณ์ กลับมาพักผ่อนอยู่ที่ประเทศไทย ภายใต้การดูแลของหมอกำพล เพื่อนผู้เชี่ยวชาญทางจิตเวช และการรอคอยของเจิดลักษณ์ ผู้เป็นสาวสังคม ญาติ คู่หมั้น บุตรสาวของรัฐมนตรีฯ ที่เขายอมหมั้นเพื่อตามใจมารดาเท่านั้น บุคคลรอบข้างยังคงเข้าใจว่า จักรกฤษณ์มีสติไม่สมประกอบดีนัก โดยเฉพาะหมอกำพล แต่ยังมีข้อกังขาว่า จักรกฤษณ์สามารถรู้อะไรเหนือมนุษย์บางอย่าง จริงๆแล้ว จักรกฤษณ์ได้รับสิ่งพิเศษจากการผ่าตัดคือสามารถมองเห็นสื่งที่ไม่ใช่มนุษย์ หรือ ผี นอกจากนี้ เขายังเจริญภาวนาจนได้ฌานชั้นที่ 6 สูงสุดของโลกียะ (สูงจากนี้คือ โลกุตตระ ขั้นโสดาบัน) คืนหนึ่ง จักรกฤษณ์นั่งเขียนตำรากี่ยวกับวิญญาณเพื่ออวดชาวโลกที่วังสนธยา สถานที่ซึ่งมารดาได้ซื้อไว้ สาวสวย ซุกซนได้มาแหย่เย้า โดยเขานึกเพียงว่า เธอคือคนที่มารดาจ้างมาเพื่อให้เข้าเสียสมาธิและกลับบ้าน เรื่องราวความผูกพันระหว่าง เขา และ หล่อน แม่ภูติสีชมพู นามว่า รัตติกาล จึงได้เกิดขึ้น จักรกฤษณ์ พยายามที่จะพิสูจน์ให้หมอกำพล และหมอลิขิต ผู้ช่วย ได้รับรู้ถึงสิ่งผิดปกติที่ปรากฏเป็นสาวสวยที่มาปรนนิบัติมารดาตนในนาม พยาบาลรัตติ ว่าไม่ใช่มนุษย์ รวมทั้งมี ไอ้จุก หรือ หิรัญญะ บุตรของท้าวกุเวร ที่หนีมาเที่ยวเล่นในโลกมนุษย์ มาร่วมผสมโรง ให้เกิดความโกลาหล ในที่สุด รัตติ หรือ รัตติกาล ได้เปิดเผยออกมาว่า หล่อน คือ เทวนารี รัตติกัลยา ราชธิดาของพญาปรมินมิตวสวัสตึ พญามารผู้ครองเทวภูมิชั้นที่ 6 ผู้ทำหน้าที่ขวางทางสัตบุรุษผู้มุ่งสู่นิพพาน ด้วยสัญญาสุดท้าย เขาและเธอ ได้สัญญาไว้ รัตติกัลยาจะจุติลงมาเพื่อเป็นคู่ครองของเขาในอีก 20 ปีข้างหน้า
เรื่องย่อ : อุทัยเทวี (2532/1989) ณ เมืองบาดาล ธิดาพญานาคหนีมาเที่ยวเมืองมนุษย์และพบรักกับรุกขเทวดาที่สิงสถิตอยู่ใน ต้นไม้ริมสระน้ำ ธิดาพญานาคตั้งครรภ์รอจนคลอดเป็นไข่ฟองหนึ่ง จึงใช้สไบห่อไข่และพ่นพิษคุ้มครองไว้ก่อนแล้วลงกลับไปเมืองบาดาล บังเอิญมีนางคางคกผ่านมาเห็นจึง กินไข่และตายด้วยพิษพญานาค พอดีกับไข่ฟักเป็นเด็กหญิงซึ่งคิดว่านางคางคกเป็นแม่ของตน จึงอาศัยอยู่ในซากคางคกเน่าๆ ตายายสองผัวเมียมาตกปลาพายเรือผ่านมาเห็นเข้าก็ช่วยเลี้ยงดูจนโต ตั้งชื่อให้ว่าอุทัยเทวี และอุทัยเทวีได้แต่งงานกับเจ้าชายสุทธราช ซึ่งก่อนแต่งตากับยาก็ได้มีข้อกำหนดว่า ต้องสร้างสะพานทองตั้งแต่วัง จนถึงบ้านตายยายแต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี อุทัยเทวีจึงเป็นสะใภ้แห่งเมืองหลวง มารดาของเจ้าชายไม่ค่อยชอบอุทัยเทวีนัก จึงหาทางให้ลูกของตนเป็นของคนอื่นไป ซึ่งนั่นคือ เจ้าชายต้องไปแต่งงานกับเจ้าหญิงฉันทนา ซึ่งอุทัยเทวีก็ตามไปด้วยตามสัญญา เจ้าหญิงฉันทนาคิดกำจัดอุทัยเทวีโดยฆ่านางอุทัยเทวี แต่พ่อของอุทัยเทวี ช่วยไว้ จึงบอกว่าให้รอแก้แค้นนางฉันทนาอยู่นอกวัง ต่อมาไม่นานนางฉันทนากลุ้มใจเรื่องผีนางอุทัยเทวีจะมาหลอก หัวจึงหงอก ผมที่เคนดำกลับขาวไปทุกเส้น จึงเอาผ้าพันศีรษะไว้ตลอดเวลา ต่อมานางอุทัยเทวีแปลงกายเป็นแม่ค้าขายขนมแก่ๆผ่านมา ซึ่งผมดำยาวสลวยผิดกับนางฉันทนา นางฉันทนาเห็นเข้าจึง คิดว่ายายแก่คนนี้ก็มีเคร็ดลับในการบำรุงรักษาผมอย่างแน่นอน จึงให้ยายแก่เข้าไปในวัง และให้รักษาผมของตนเองให้ แต่นางอุทัยเทวีก็จะรักษาให้ แต่ต้องยอมให้ทำทุกอย่างห้ามถามอะไรทั้งสิ้น นางฉันทนาตกลง จึงนอนลงแล้วนางอุทัยเทวี ก็เอามีดโกนโกนผมนางฉันทนา ออกจนหมด แล้วกรีดศีรษะนางฉันทนาแล้วเอาปลาร้าให้หม้อครอบหัวนางฉันทนาไว้ และห้ามเอาหม้อออกก่อนวันที่ 7 แต่ไม่ถึงคืนนางฉันทนาทนพิษบาดแผลไม่ไหว จึงสิ้นใจตาย เจ้าชายสิทธิราช รู้ดังนั้นจึงกลับไปเมืองของตน ซึ่งก็ยังเห็นอุทัยเทวีอยู่ที่เมืองอยู่ก็ทรงโล่งใจ อุทัยเทวี ได้ครองรักกับเจ้าชายอย่างมีความสุขตราบนานเท่านาน
เรื่องย่อ : เมียหลวง (2532/1989) ดร.วิกันดา พันธ์ภากร (ปรียานุช) แต่งงานกับ ดร.อนิรุทธิ์ ศัลวิทย์ (ยุรนันท์) มีลูกด้วยกัน 2 คน คือ โหน่ง ลูกชายคนโต กับ นุ่น ลูกสาวคนเล็ก วิกันดา มีเพื่อนสนิท 2 คน คือ อนงค์นารถ (ศิรินันท์) และ ฉวีเพ็ญ (กาญจนาพร) ซึ่งต่างก็มีครอบครัวกันหมดแล้ว ซึ่งทั้งคู่มีปัญหาเรื่องสามี อย่าง อนงค์นารถมีสามีคือพลเวทย์ (อภิชาติ) ชื่นชอบในการอ่านหนังสือธรรมะเป็นอย่างมาก จนอนงค์นารถเบื่อ ส่วนฉวีเพ็ญดูเหมือนจะหนักสุด เพราะสีหนาท สามีของเธอติดการพนันทุกอย่าง แต่เธอก็สามารถยิ้มได้เมื่ออยู่กับเพื่อน แล้ววันหนึ่งฉวีเพ็ญเห็นอนิรุทธิ์อยู่กับผู้หญิงที่ร้านอาหาร จึงมาบอกวิกันดา แต่อนิรุทธิ์โกหกวิกันดาว่าไปกับสิทธิชัย เมื่อถามอีกครั้ง อนิรุทธิ์เลยบอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นสาวเสิร์ฟ ชื่อ นงคราญ วิกันดารับไม่ได้ พยายามระวังตัวมากขึ้นแต่ก็ไม่สามารถตามอนิรุทธิ์ได้ทัน
เรื่องย่อ : ตำรับรัก (2532/1989) เป็นเรื่องราวของหนุ่มสาวสองคู่ คือ บังอรสุวรรณี กับประณต และ ประภาส กับฉมชบา ซึ่งกว่าความรักของทั้งสองคู่จะลงเอยกันได้ ต้องฝ่าฟันอุปสรรคและความพยายามมากมาย จนในที่สุดก็สมหวัง นอกจากจุดเด่นจะอยู่ที่คนทั้งสี่คนแล้ว ยังมีการแสดงให้เห็นถึงความรักของบรรดาพี่น้องของบังอรสุวรรณี ซึ่งแต่ละคนเมื่อมีความรักก็ประสบปัญาหาแตกต่างกันไป นอกจากนี้ละครยังแสดงให้เห็นด้านความรักเป็นประการสำคัญ ยังให้ข้อคิดและการแก้ปัญหาเมื่ออยู่ร่วมกันในครอบครัวใหญ่ย่อมเกิดปัญหา การเห็นอกเห็นใจกันของคนในครอบครัว และการกตัญญูต่อบิดามารดาอีกด้วย
เรื่องย่อ : เคหาสน์สีแดง (2532/1989) บ้านรุจิโรจน์ หรือที่ชาวสมุทรปราการเรียกว่า “เคหาสน์สีแดง” ของพลตรีพลแสนเสนีณรงค์ได้ต้อนรับ ผู้อาศัยรายใหม่ คือ คุณอัมพากับทารกหญิงผู้เพิ่งกำพร้าบิดาต่อมาคุณอัมพาได้กลายเป็นภรรยาของ ท่านพลตรี ยังความไม่พอใจอย่างยิ่งกับทายาทของท่านพลตรี ด้วยเด็กชายรุจถือว่าผู้หญิงคนนี้ใช้มารยาเข้ามาสวมบทแทนมารดาของเขา ส่วนลูกน้อยของเธอนั้นก็มาแย่งความสนใจไป รุจจึงขอไปอยู่โรงเรียนประจำและเมื่อจบก็ไปเรียนต่อต่างประเทศ โดยไม่กลับมาเป็นเวลานานจนกระทั่งท่านพลตรีและคุณอัมพาล้วนแต่เสียชีวิตลง แล้ว รุจซึ่งปัจจุบันเป็นนายแพทย์ฝีมือดี จึงได้กลับสู่เคหาสน์สีแดงอีกครั้ง ท่ามกลางความยินดีของข้ารับใช้เก่าแก่ และความหวาดระแวงของอารยาหรือ คุณน้อย ซึ่งรู้ดีว่ารุจชิงชังแม่ของเธอ และยิ่งน่าจะชังมากขึ้นเมื่อพบว่าเครื่องเพชรทั้งหมดหายไปจากตู้เซฟ แม้ว่าเขาจะปิดไว้ด้วยท่าทีเมินเฉยเงียบขรึมก็ตามสิ่งที่อารยาไม่รู้คือท่าน พลตรีฯ ได้แสดงเจตจำนงไว้กับทนายประจำตระกูลเพื่อถ่ายทอดบอกต่อทายาทของท่านว่าท่าน ปรารถนาจะได้อารยามาเป็นบุตรสะใภ้ ทว่ารุจกลับแสดงความไม่สนใจต่อคำสั่งเสียนี้ เพราะมีเหตุบางอย่างให้เขาเคลือบแคลงเชื้อสายของแม่เลี้ยง
คนเหนือดวง (2532/1989) ดวงจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อใครก็ตามที่รู้อนาคตก็เปลี่ยนไปได้ตามที่เขาต้องการ โพนไม่อยากได้ยินคำถามเช่นนี้เลย เพราะได้ยินทีไรก็ยิ่งคิดถึงน้าโหน แกเคยเป็นคนให้คำตอบที่โพนจำได้แม่นยำนัก “น้าโหนแกถึงบอกว่า คนอยู่เหนือดวงไงครับ เปลี่ยนดวงตัวเองได้เพราะการกระทำ หากว่าเข้มแข็งพอ แล้วการกระทำนั้นแหละคือกรรม แกย้ำผมว่าสิ่งที่แรงกว่าดวงคือกรรม แต่คนส่วนใหญ่จะปล่อยตัวเองไปตามดวง ไม่คิดแก้ไขก็เหมือนปล่อยตัวไปตามกระแสน้ำ...”
แต่งกับงาน (2532/1989) แต่งกับงาน เป็นเรื่องราวการเริ่มต้นชีวิตครอบครัวของสองคนหนุ่มสาว ชลธิศและ ดาววัน คนหนุ่มสาวทำงานประจำ มีเงินเดือนเงินดาว ต้องตื่นแต่ไก่ยัง ไม่โห่ ชีวิตคู่ที่เร่งรีบ เริ่มต้นด้วยกันใน “บ้านแถว” ตามสำนวนของสถาปัตย์เกียรตินิยมอย่างชลธิศ แม้จะคับแคบก็เพียงแต่คับที่คับทาง เพราะหัวใจพอง โตของสองคนกว้างขวางและคล้องสมานเป็นดวงเดียวกัน “แต่งกับงาน” จึงสนุกกับรสพ่อแง่แม่งอนยุคไฮเทค ความวุ่นยุ่งอลเวงของครอบครัวใหม่ ที่ “ความเป็นครอบครัว” ยังไม่สมบูรณ์ในตัวเอง เมื่อต่างคนต่างมีภาระ มีหน้าที่ในงาน… งาน ที่จะทำให้ “วิมานห้องแถวที่เช่าอยู่” เป็น “บ้านอบอุ่น ของครอบครัว
แววมยุรา (2532/1989) แวว มยุรา สาวสวย หยิ่ง ทระนง ฐานะยากจน ต้องออกจากมหาวิทยาลัยมาทำงานดูแลแม่ที่ป่วยและส่งเสียน้องสาวเรียน ความสวยทำให้แววหางานง่าย แต่มักจะพบเจ้านายเข้ามาจีบอยู่เสมอจึงทำให้แววเบื่อมากและเปลี่ยนงานเป็นว่าเล่น แววได้รู้จักกับนายจักร กังวานไกล หนุ่มบ๊องๆ อารมณ์ดี โดยพบกันในวันฝนตกหนักและจักรอาสาไปส่งแววถึงบ้านด้วยรถเก่าๆ ที่จวนจะพัง ในเวลาไล่เลี่ยกัน สยุมภูว์ ทศพล อภิมหาเศรษฐีลึกลับก้องโลกที่ไม่มีใครเคยพบเห็นหน้าตามาก่อนได้ให้ท่านขุนซึ่งเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ของเขาติดต่อเข้ามาเพื่อว่าจ้างแววด้วยสัญญาจ้างงานที่พิลึกกึกกือ คือ ไม่ต้องทำงาน มีรถหรูประจำตำแหน่งให้ ด้วยเงินเดือนที่สูงลิบ สัญญาไม่มีที่สิ้นสุดนอกจากแววจะเปลี่ยนใจไปทำงานที่อื่นหรือแต่งงานไป แววตกลงเป็นลูกจ้างของสยุมภูว์เพราะต้องการเงินมาเลี้ยงดูแม่และน้องและจะได้ไม่ต้องทนกับนายจ้างที่มาจีบอีกต่อไป ในขณะที่แววและครอบครัวมีชีวิตที่สบายขึ้นเพราะสยุมภูว์ได้ให้การช่วยเหลือด้านการเงินและความสะดวกสบายทุกอย่าง แววยังสงสัยในเหตุผลแปลกประหลาดของสัญญาจ้าง และพยายามขอพบกับเจ้านายผู้ลึกลับมาโดยตลอด แต่ไม่เคยสำเร็จครั้งแล้วครั้งเล่า จักรได้เข้ามาสนิทสนมกับครอบครัวของแววมากขึ้น ทำให้แววรู้ว่าจักรแม้จะฐานะยากจน แต่ก็เป็นคนดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น มีอะไรคล้ายๆ กับแววหลายอย่าง ความสัมพันธ์ระหว่างแววกับจักรพัฒนาขึ้น แต่กับสยุมภูว์แววก็ยังไม่สามารถเข้าพบตัวจริงของเขาได้จนแววผิดหวังมากจนเดินไร้สติทำให้รถเกือบชน คืนนั้นจักรนั่นเองที่ได้ช่วยแววไว้ได้ ทั้งคู่เริ่มมีความรู้สึกดีๆ ให้กัน จักรเริ่มแสดงให้เห็นด้านที่จริงจังให้แววประจักษ์ โดยขอสัญญาจากแววว่าจะเป็นกำลังใจให้เขาในการสร้างฐานะและเมื่อสร้างเนื้อสร้างตัวได้สำเร็จวันใด แววจะแต่งงานกับเขา เวลาผ่านไปจักรหายหน้าไปสร้างตัวอยู่ต่างประเทศ ในขณะเดียวกัน สยุมภูว์ ซึ่งติดต่อกับแววผ่านทางโทรศัพท์มาตลอดก็ได้โทรมาขอแววแต่งงาน เช่นเดียวกับจักรที่กลับมาเมืองไทยได้ขอแววแต่งงานเช่นกัน สุดท้าย แววจะตัดสินใจเลือกใคร ระหว่าง จักร กังวานไกล หนุ่มนักสร้างอนาคตนิสัยดี กับ สยุมภูว์ ทศพล อภิมหาเศรษฐีผู้ลึกลับ
สงครามเงิน (2532/1989) "ทุกอย่างที่ ""เอริณ"" กระโจนลงไปสู้อย่างทรหดในชีวิตไม่ว่าจะเป็นความรัก การงาน อนาคตหรือความใฝ่ฝัน มันคือสงคราม ที่ต้องเผชิญหน้าเพื่อให้ได้มา แล้วในที่สุดอะไรต่อมิอะไรก็หนีไม่พ้น เงิน...เงิน...เงิน...สำหรับเอริณแล้ว เธอเรียกสงครามชนิดนี้ว่า...""สงครามเงิน""
จ้าวพ่อกรรมกร (2532/1989) จ้าวพ่อกรรมกร เรื่องราวการต่อสู้ของผู้ใช้แรงงาน