สาปอสูร 2527
Placeholder
Placeholder
ความรักสีดำ 2527
คุณหญิงนอกทำเนียบ 2527

คุณหญิงนอกทำเนียบ (2527/1984) ความสมหวังในความรัก ย่อมทำให้ผู้ได้รับมีความพอใจ ความริษยาชิงชังย่อม ทำให้ผู้ติดอยู่ในมันปราศจากซึ่งความสุข และเธอก็เริ่มเข้าใจถ่องแท้ถึงคำพูดของคุณหญิงอรุณวตี คุณหญิงผู้ฟูมฟักเธอ คุณหญิงผู้สอนให้เธอ เป็น 'คุณหญิง' ทุกกระเบียดนิ้ว ที่ว่า ศักดิ์ศรีนั้นสำคัญ ทว่า 'เกียรติยศ' ทั้งของตนที่ต้องสร้างสม 'บารมี' ให้มากขึ้น และของคนอื่น หากก็นยังพยายาม...พยายามบนความสับสน ว่า "จริงแล้ว 'ชีวิตของเธอ' ต้องการอะไรกันแน่!" แน่นอน ศจีได้มาเกือบครบแล้ว ยกเว้นสิ่งเดียว คือความนอบน้อมอย่างใจจริง! และมีหรือที่คนคนหนึ่งจะดำรงตนอยู่และทะเยอทะยานได้ โดยปราศจากความรัก สิ่งนี้...ศจีจะหาคำตอบจากผู้ใด

เก้าอี้ขาวในห้องแดง 2527

เรื่องย่อ : เก้าอี้ขาวในห้องแดง (2527/1984) เรื่องราวรักสามเส้าของสามเพื่อนรัก ละเวง บูรพา และ สาวิตรี มีการสอดแทรกเนื้อหาของการดำเนินชีวิต ความเติบโตทางด้านอารมณ์ตามวัยของตัวละครแต่ละตัวอย่างละเอียดอ่อน โดยมี ตะวันฉาย อินทร จิตดี สามชายหนุ่มที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวพันกับชีวิตละเวงต่างวาระกัน แต่มีเพียง อินทร เท่านั้น ที่เปรียบเสมือนคนที่เป็นดั่งคนช่วยพยุงวันเวลาที่ละเวงเหนื่อยล้า พบกับความสูญเสียและเสียใจ ทั้งการจากไปของตะวันฉาย และความรักระหว่าง บูรพา กับ สาวิตรี แม้ว่าในเริ่มแรก ละเวงจะมองอินทร เป็นคนที่ปากร้ายและดูเย็นชา แต่ความนิ่งงันและสายตาที่อ่อนโยนของเขา กลับกุมหัวใจเธอได้

มงกุฏฟาง 2527
Placeholder
วิหคโสภา 2527
บ้านสอยดาว 2527

เรื่องย่อ : บ้านสอยดาว (2527/1984) บ้านสอยดาว เป็นเรื่องราวของครอบครัวเจ้าทางเหนือ ที่รับเด็กชายชื่อ วุฒิ มาอุปการะ ซึ่งวุฒิ เป็นที่จงเกลียดจงชัง ของเด็กๆ ในบ้านนั้น ทั้งเจ้าตะวัน ลูกชายเจ้าของบ้าน โดยเฉพาะเจ้าจันทร์ ที่จะคอยดูถูกวุฒิทุกครั้งที่มีโอกาส ทำให้วุฒิเติบโตมาในบ้านอย่างเคียดแค้น มีเพียง รุ้ง ลูกสาวของคนงานในบ้าน ที่เขารักอย่างจริงใจ เมื่อเติบโตขึ้นมา เขาจึงต้องการยึดครองทุกอย่างในบ้านหลังนี้ ด้วยการเข้าไปทำงานเป็นผู้ช่วยพ่อของเจ้าตะวันและเจ้าจันทร์ โดยมีความสัมพันธ์ลับๆ กับเจ้าจันทร์ไปด้วย

ตราไว้ในดวงจิต 2527
นางแมวป่า 2527
ชลธีพิศวาส 2527
เหรียญมรดก 2527
ไชยเชษฐ์ 2527

ไชยเชษฐ์ (2527/1984) "ท้าวอภัยนุราช" เจ้าเมืองเวสาลี มีพระธิดาองค์หนึ่ง พระนามว่า "นางจำปาทอง" เพราะเมื่อนางร้องไห้จะมีดอกจำปาทองร่วงลงมา ครั้นนางจำปาทองเจริญวัยขึ้น นางได้นำไข่จระเข้จากสระในสวนมาฟักจนเป็นตัวและเลี้ยงจระเข้ไว้ในวัง ครั้นจระเข้เติบใหญ่ขึ้น ก็ดุร้ายตามวิสัยของมัน มันเที่ยวไล่กัดชาวเมืองจนชาวเมืองเดือดร้อนไปทั่ว ท้าวอภัยนุราชทรงขัดเคือง จึงขับไล่นางจำปาทองออกจากเมืองเวสาลี "นางแมว" ซึ่งเป็นแมวที่นางจำปาทองเลี้ยงไว้ได้ติดตามนางไปด้วย นางจำปาทองกับนางแมวเดินซัดเซพเนจรอยู่ในป่า ไปพบยักษ์ตนหนึ่งชื่อ "นนทยักษ์" ซึ่งกำลังจะไปเฝ้า "ท้าวสิงหล" นางตกใจกลัวจึงวิ่งหนีไปพบ "พระฤๅษี" พระฤๅษีช่วยนางไว้ นางจำปาทองกับนางแมวจึงขออาศัยอยู่รับใช้พระฤๅษีในป่านั้น ท้าวสิงหลเป็นยักษ์ครองเมืองสิงหล ไม่มีพระโอรสและพระธิดา คืนหนึ่งท้าวสิงหลบรรเทาหลับและทรงพระสุบินว่า มียักษ์ตนหนึ่งมาจากป่านำดอกจำปามาถวาย ดอกจำปามีสีเหลืองเหมือนทองคำงามยิ่งนัก ท้าวสิงหลจึงทรงให้โหรทำนายพระสุบิน โหรทำนายว่าท้าวสิงหลจะได้พระธิดา วันนั้นนนทยักษ์เข้าเฝ้าท้าวสิงหลและทูลว่าพบหญิงสาวอาศัยอยู่กับพระฤๅษีที่ในป่า ท้าวสิงหลจึงเสด็จไปหาพระฤๅษี และขอนางจำปาทองมาเป็นธิดา ประทานนามว่า "นางสุวิญชา" ฝ่าย "พระไชยเชษฐ์" เป็นโอรสเจ้าเมืองเหมันต์ พระไชยเชษฐ์มีพระสนมอยู่ 7 คน วันหนึ่งพระองค์เสด็จประพาสป่า และหลงทางเข้าไปในสวนเมืองสิงหล นางสุวิญชามาเที่ยวชมสวนพบพระไชยเชษฐ์ จึงนำความทูลให้ท้าวสิงหลทราบ ท้าวสิงหลให้พระไชยเชษฐ์เข้าเฝ้า พระไชยเชษฐ์จึงทูลขอรับราชการในเมืองสิงหล ต่อมามีข้าศึกยกทัพมาตีเมืองสิงหล พระไชยเชษฐ์อาสาสู้ศึกจนชนะ ท้าวสิงหลจึงทรงยกนางสุวิญชาให้เป็นชายาพระไชยเชษฐ์ พระไชยเชษฐ์จึงพานางสุวิญชากลับเมืองเหมันต์ ฝ่ายนางสนมทั้ง 7 คนริษยานางสุวิญชาที่พระไชยเชษฐ์รักนางสุวิญชามากกว่า ครั้นนางสุวิญชาทรงครรภ์จวนจะถึงกำหนดคลอดนางสนมทั้ง 7 คน ก็ออกอุบายว่ามีช้างเผือกอยู่ในป่า พระไชยเชษฐ์จึงออกไปคล้องช้างเผือก ฝ่ายนางสุวิญชาคลอดลูกเป็นกุมารมีศรกับพระขรรค์ติดตัวมาด้วย นางสนมทั้ง 7 คน นำพระกุมารใส่หีบไปฝังที่ใต้ต้นไทรในป่า เทวดาประจำต้นไม้ช่วยชีวิตพระกุมารไว้ เมื่อพระไชยเชษฐ์เสด็จกลับจากคล้องช้างเผือก นางสนมทั้ง 7 คน ทูลว่านางสุวิญชาคลอดลูกเป็นท่อนไม้ พระไชยเชษฐ์จึงขับไล่นางสุวิญชาออกจากเมือง ขณะที่นางสุวิญชาคลอดกุมารนั้น นางแมวแอบเห็นการกระทำของนางสนมทั้ง 7 คน จึงพานางสุวิญชาไปขุดหีบที่ใต้ต้นไทร แล้วพาพระกุมารกลับไปเมืองสิงหล ท้าวสิงหลตั้งชื่อพระกุมารว่า "พระนารายณ์ธิเบศร์" ต่อมาพระไชยเชษฐ์ทรงรู้ความจริงว่านางสุวิญชาถูกใส่ร้าย จึงออกติดตามนางสุวิญชาไปเมืองสิงหลและได้พบพระนารายณ์ธิเบศร์ ซึ่งกำลังประพาศป่ากับพระพี่เลี้ยง พระไชยเชษฐ์เห็นพระนารายณ์ธิเบศร์เป็นเด็กน่ารัก มีหน้าตาคล้ายพระองค์ก็มั่นใจว่าเป็นพระโอรส จึงเข้าไปขออุ้มและเอาขนมนมเนยให้ พระนารายณ์ธิเบศร์โกรธว่าเป็นคนแปลกหน้า จึงไม่ให้จับต้องและไม่ยอมเสวยขนม พระนารายณ์ธิเบศร์โกรธพระไชยเชษฐ์ที่มาจับต้องตัวและจับหัวของพระพี่เลี้ยงของตนจึงใช้ศรธนูหมายจะฆ่าให้ตาย แต่ธนูที่ยิงออกไปนั้นกลับกลายเป็นดอกไม้กระจายเติมพื้นดิน จึงทำให้พระไชยเชษฐ์เกิดความประหลาดใจยิ่งนัก จึงอธิษฐานจิตว่าถ้ากุมารองค์นี้เป็นลูกของตนที่เกิดกับนางสุวิญชาขอให้ธนูที่ยิงออกไปนั้นกลายเป็นอาหาร ทันใดนั้นพระไชยเชษฐ์ก็แผลงศรออกไปและศรธนูที่ยิงออกไปนั้นก็กลายเป็นอาหารมากมายเต็มพื้น จึงทำให้พระไชยเชษฐ์มั่นใจเป็นแน่แท้ว่าเป็นบุตรของตนจริงจัง พระไชยเชษฐ์ทรงไต่ถามพระนารายณ์ธิเบศร์เกี่ยวกับมารดา เพราะทรงจำแหวนที่พระนารายณ์ธิเบศร์สวมได้ พระนารายณ์ธิเบศร์บอกว่านางสุวิญชาเป็นแม่และท้าวสิงหลเป็นพ่อ พระไชยเชษฐ์จึงทรงเล่าเรื่องเดิมให้พระนารายณ์ธิเบศร์ฟัง ทั้ง 2 จึงทราบว่าเป็นพ่อลูกกัน พระนารายณ์ธิเบศร์พาพระไชยเชษฐ์เข้าเฝ้าท้าวสิงหล พระไชยเชษฐ์ขอโทษนางสุวิญชา พระนารายณ์ธิเบศร์ช่วยทูลนางสุวิญชาให้หายโกรธพ่อ นางสุวิญชายกโทษให้ พระไชยเชษฐ์ นางสุวิญชาและพระนารายณ์ธิเบศร์ 3 คนพ่อแม่ลูกจึงอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข

Placeholder