2524
เมียหลวง (2524/1981) ดร.วิกันดา พันธ์ภากร แต่งงานกับดร.อนิรุทธิ์ ศัลวิทย์ ทุก คนต่างชื่นชมว่าทั้งคู่โชคดีที่เป็นคู่กัน เพราะมีพร้อมทั้งหน้าตา สมบัติและความรู้ ตอนที่ทั้งคู่ไปฮันนีมูนที่ปีนัง อนิรุทธิ์ได้ย้ำกับวิกันดาเสมอว่ารักและบูชาวิกันดามาก วิกันดา มีเพื่อนสนิทสองคน คือ อนงค์นารถและฉวีเพ็ญ ทั้งหมดต่างมีครอบครัวแล้ว แต่ละคนพบเจอปัญหาที่แตกต่างกัน อนงค์นารถมีสามีคือ พลเวทย์ ซึ่งชื่นชอบในการอ่านหนังสือมาก เหมือนไม่มีปัญหา แต่ทำให้อนงค์นารถเบื่อ ส่วนฉวีเพ็ญดูเหมือนจะหนักสุด เพราะสีหนาทสามีของเธอนั้น เสพติดทุกอย่างที่เป็นการพนัน แต่ฉวีเพ็ญสามารถยิ้มได้เมื่ออยู่ต่อหน้าเพื่อน เพราะมีความอดทนสูง แม้จะจนก็ตาม (เรื่องย่อจากนิยายเมียหลวง : ookbee.com)
เรื่องย่อ : ทองประกายแสด (2524/1981) เรื่องราวของ "ทองดี" หรือ ทองประกาย ที่มีความใฝ่ฝันถึงชื่อเสียง เงินตรา เกียรติยศ มีจุดกำเนิดจากเด็กสาวในร้านขายของชำ มุ่งสู่เมืองหลวง ที่เธอคิดว่ามีสิ่งดีๆ รออยู่ จากเสน่ห์และความสวยงามที่มี จึงมีผู้ชายมากมายเข้ามาในชีวิต เธอใช้พวกเขาเหล่านั้นเพื่อเป็นบันไดแห่งชีวิตสู่การเป็นคุณทองประกายที่เลิศหรูและร่ำรวย
อย่าลืมฉัน (2524/1981) เป็นเรื่องราวของ "สุริยาวดี" กับ "เขมชาติ" ซึ่งรักกันขณะเรียนมหาวิทยาลัย โดยให้สัญญากันว่าจะแต่งงานกันหลังเรียนจบ และเขมชาติได้มอบแหวน "ฟอร์เกต มี น็อต" สวมนิ้วของสุริยาวดีเพื่อแทนความรักของเขา แต่มีเหตุการณ์พลิกผันเมื่อสุริยาวดีต้องลาออกจากมหาวิทยาลัยกะทันหันเพื่อไปแต่งงานกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเพราะจำเป็นชดใช้หนี้ให้กับครอบครัวโดยไม่ได้บอกเขมชาติ ทำให้เขาเสียใจและเจ็บแค้นเธอมาก เขาจึงตั้งใจเรียนจนจบและทำงานสร้างฐานะจนเร่ำรวยป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง แต่ยังไม่ลืมความหลังและไม่คิดรักใครอีก ต่อมาสุริยาวดีได้กลับเข้ามาในชีวิตของเขาด้วยการหางานทำเพื่อเลี้ยงลูกชาย 2 คนแต่เปลี่ยนชื่อเป็น "นางสุริยง" ทำให้เขมชาติเริ่มต้นวางแผนแก้แค้นเธอ โดยไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของสุริยาวดีว่าจำเป็นต้องแต่งงานเพื่อช่วยเหลือครอบครัวและแต่งเพียงในนาม และครั้งนี้กลับมาตามหัวใจตนเองโดยไม่ทราบแต่แรกว่าเขมชาติโกรธแค้นเธอด้วยสาเหตุนี้ ในที่สุดเหตุการณ์และผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร สถานการณ์ความรักและความแค้นจะดีขึ้นหรือไม่ อาจจะพลัดพรากหรือจะเข้าใจกันก็เป็นได้
ข้างหลังภาพ (2524/1981) นพพร และ หม่อมราชวงศ์กีรติ พบกันครั้งแรกที่สถานีรถไฟโตเกียว นพพรมีอายุ 22 ปี เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยริคเคียว ขณะที่หม่อมราชวงศ์กีรติ หญิงวัย 35 มาฮันนีมูนกับพระยาอธิการบดีผู้เป็นสามีที่แก่คราวพ่อ ทั้งยังเป็นเพื่อนสนิทกับพ่อของนพพร จึงขอร้องให้นพพรพาหม่อมราชวงศ์กีรติเที่ยวญี่ปุ่น เพราะตัวท่านเองแก่เกินกว่าจะไปไหนต่อไหนได้สะดวก แต่ก็ยังอยากให้หม่อมราชวงศ์กีรติสนุกกับการอยู่ญี่ปุ่น และนั่นเป็นโอกาสให้นพพร เด็กหนุ่มที่ไม่เคยรู้จักความรักมาก่อนได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้หญิงที่สวยสง่า กิริยาวาจาแช่มช้อยเป็นผู้ดี แม้เธอจะสูงวัยกว่า แต่เมื่อยิ่งได้ใกล้ชิด นพพรก็ยิ่งหลงรักเทอดทูนหม่อมราชวงศ์กีรติ ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าเธอแต่งงานแล้ว นพพรเฝ้าถามหม่อมราชวงศ์กีรติว่าทำไมเธอจึงแต่งงานกับ ชายรุ่นพ่อ ทั้ง ๆ ที่เธอทั้งสวยสง่า ฉลาด และฐานะเดิมก็ดีอยู่ก่อนแล้ว ทั้งไม่ได้ถูกใครบังคับและไม่ได้รักท่านเจ้าคุณด้วย ทุกครั้งที่นพพรถาม หม่อมราชวงศ์กีรติเลี่ยงที่จะตอบ จนวันหนึ่ง เขาพาเธอไปเที่ยวมิตาเกะ หม่อมราชวงศ์กีรติที่ตามปกติจะ วางตัวสง่างาม กลับกลายเป็นสาวน้อย ผู้ร่าเริงท่ามกลางแมกไม้ สายลม และความหลังที่เป็นควมลับของหม่อมราชวงศ์กีรติจึงถูกเปิด และทุกครั้งที่นพพร ถามว่าหม่อมราชวงศ์กีรติรักเขาไหม คุณหญิงกีรติไม่เคยตอบตรงคำถามเลย ส่วนนพพรยืนยันว่า “ผมจะรักคุณหญิง ตราบชั่วฟ้าดินสลาย” 6 ปีล่วงไป นพพรสำเร็จการศึกษาและฝึกหัดงานที่ญี่ปุ่นพอสมควรแก่การแล้วก็กลับสยาม ในขณะนี้หม่อมราชวงศ์กีรติเป็นหม้ายแล้ว และบำเพ็ญชีวิตอยู่อย่างสงบ เขาทั้งสองคนได้พบกันอีกครั้งหนึ่ง แต่เป็นการพบที่นพพรรู้สึกเหมือนพบพี่สาวที่ดีคนหนึ่งเท่านั้น เวลา 6 ปีในญี่ปุ่นได้เปลี่ยนจิตใจของนพพรเด็กหนุ่มผู้อ่อนแก่ความรักให้เป็นชายหนุ่มญี่ปุ่นที่ไม่ใคร่จะคิดถึงใครจะคิดถึงอะไรนอกจากงานและการตั้งตัวเท่านั้น ครั้นแล้วนพพรก็แต่งงานกับคู่หมั้นที่บิดาหาไว้ให้เมื่อครั้งก่อนไปศึกษาอยู่ที่ญี่ปุ่น เมื่อแต่งงานแล้วได้สองเดือน นพพรได้ทราบว่าหม่อมราชวงศ์กีรติได้เจ็บหนักด้วยวัณโรค และอยากพบเขา จนแพทย์และพยาบาลรู้สึกว่าควรจะมาตามเขาให้ไปพบเพื่อให้คนไข้ได้สงบจิตใจในวาระสุดท้าย นพพรก็ไปเยี่ยมและหม่อมราชวงศ์กีรติก็ให้ภาพเขียนที่ระลึกถึงสถานที่ให้กำเนิดความรักแก่เขาทั้งสอง ซึ่งเป็นภาพวาดโดยฝีมือของเธอเอง พร้อมด้วยคำตัดพ้อบางประโยคเป็นที่สะกิดใจนพพรให้ระลึกถึงความหลังและหวนคิดเสียดายอาลัยคนรักคนแรกของตน ครั้นแล้วหม่อมราชวงศ์กีรติสตรีผู้อาภัพในเรื่องรักก็ถึงแก่กรรมใน 7 วันต่อมาจนถึงวันนี้
เรื่องย่อ : นางทาส (2524/1981) เย็น ถูกพ่อยิ่งกับแม่ล้วนนำมาขายเป็นทาสบ้านพระยาสีหโยธิน ตั้งแต่อายุ 15 ปี ตกอยู่ในความปกครองของทาสหญิงชราชื่อ นางฟัก ดูแลฝึกหัดให้สันทัดงานผู้ลากมากดี ภายหลังคุณหญิงแย้ม ภรรยาเอกของท่านเจ้าคุณ ก็เรียกให้ไปรับใช้บนเรือน เพราะเย็นผิวพรรณหมดจดหน้าตาสะสวย
พระยาสีหโยธินเจ้าของเรือนเป็นคนหล่อเหลาเจ้าชู้ ทำให้สาลี่ ภรรยาคนที่สองของท่านเจ้าคุณ กลัวว่าท่านเจ้าคุณจะขอเย็นจากคุณหญิงเป็นภรรยาอีกคน เพราะทั้งตนและคุณหญิง ยังไม่มีใครตั้งครรภ์กับท่านเจ้าคุณทั้งสิ้น สาลี่จึงตัดไฟแต่ต้นลม โดยการพาบุญมี ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องให้เป็นภรรยาท่านเจ้าคุณอีกคน แต่บุญมีก็ไม่สามารถตั้งครรภ์ให้ท่านเจ้าคุณได้ จนคุณสาลี่ได้สมคบกับคุณบุญมีหลอกท่านเจ้าคุณเรื่องแกล้งตั้งท้องสองครั้งเพื่อให้ท่านเจ้าคุณมาหาที่เรือนบ่อยๆและได้แกล้งแท้งโดยครั้งที่สองคุณสาลี่ได้ถีบคุณบุญมีตกบันได้เพื่อแกล้งแท้งเนื่องจากกลัวกลัวท่านเจ้าคุณจับได้
เมื่อเวลาผ่านไป ภรรยาทั้งสามคนของพระยาสีหโยธินไม่มีใครตั้งครรภ์ทั้งสิ้น ท่านเจ้าคุณขอเย็นจากคุณหญิงแย้ม เป็นภรรยาอีกคนหนึ่ง เย็นไม่ลืมว่าตัวตกเป็นของบุรุษผู้มีอายุคราวบิดามารดา เพราะความกลัวเกรงบุญบารมีหาใช่เพราะสมัครรักใคร่ไม่ กระนั้นเย็นก็ตั้งหน้าสามิภักดิ์โดยสุจริต เจ้าคุณเมตตาเป็นพิเศษ จึงก่อให้เกิดริษยาในหมู่เมียน้อยด้วยกัน
เย็นอายุน้อยกว่าเขาทั้งนั้น ซ้ำมีชื่อว่าเป็นทาสมาแต่เดิมก็สงบเสงี่ยมเจียมตัว คุณหญิงจึงเอ็นดูกว่าอนุภรรยาคนอื่นๆ แปลกแสนแปลกด้วยเมื่อปีหนึ่งล่วงไป คุณหญิงและเย็นก็มีครรภ์ในเวลาไล่เลี่ยกัน เจ้าคุณตื่นเต้นดีใจเท่าไหร่ เย็นก็ถูกริษยาจากเพื่อนเมียน้อยเท่านั้น เย็นรู้ว่าถ้าเย็นเป็นมารดาลูกของเจ้าคุณ ก็อาจถูกใส่ความว่าประพฤติชั่วกับชายอื่น มันหมายถึงอันตรายยิ่งใหญ่ทีเดียว แต่โชคดีที่คุณหญิงตั้งครรภ์ด้วย หลังจากแต่งงานมานาน เมื่อเวลาใกล้กำหนดคลอด ท่านเจ้าคุณมีราชการต้องไปค้างอยู่ต่างจังหวัดมีกำหนดสามสิบวัน
และก่อนหน้าที่จะกลับสิบสองวัน คุณหญิงแย้มก็ได้คลอดลูกชายแต่ทารกเสียชีวิตในวันรุ่งขึ้น ซึ่งพร้อมกับเย็นให้กำเนิดเด็กหญิง โดยมิคาดฝัน นางฟักก็มาบอกว่า คุณหญิงขอเปลี่ยนเอาลูกของเย็นไปเป็นลูกของท่าน ให้เย็นรักษาเป็นความลับไว้ตลอดอายุและจะให้รางวัลอย่างงาม เย็นบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร ใจหนึ่งนั้นหวงแหนเลือดในอก ปรารถนาจะได้โอบอุ้มเลี้ยงดูเองให้สมกับอุ้มท้องมาเกือบเต็มขวบปี แต่อีกใจหนึ่งนั้นหวั่นกลัวอำนาจอันยิ่งใหญ่ของภรรยาหลวง ไม่แน่ว่าการปฏิเสธจะเกิดผลร้ายแก่ตัวสักแค่ไหน แต่นางฟักชักแม่น้ำทั้งห้าหว่านล้อม อ้างว่าเพื่ออนาคตอันสดใสของลูก เป็นลูกคุณหญิงต้องดีกว่าเป็นลูกของนางทาสแน่นอน แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นลูกเจ้าคุณก็ตาม เย็นจึงยอม ค่ำวันนั้นคนในบ้านก็รู้ทั่วกันว่าลูกของเย็นตาย ส่วนลูกของคุณหญิงรอดชีวิตเป็นผู้หญิง มีชื่อว่าอุ่นเรือน
เจ้าคุณกลับมาบ้านตามกำหนด ครั้นทราบว่าลูกของเย็นเป็นชายแต่ตายเสียก็บ่นเสียดาย ส่วนคุณหญิงได้รับการเอาใจใส่อย่างดีเลิศ ทารกซึ่งได้ตำแหน่งธิดาคุณหญิงแย้ม เติบโตรวดเร็ว ผิวพรรณผ่องใส เป็นที่รักของเจ้าคุณและคุณหญิงผู้ตั้งตนเป็นมารดาอย่างยิ่ง
เย็นได้ให้น้ำนมได้อุ้มชูเลี้ยงดูโดยคำสั่งของคุณหญิงเป็นบางครั้ง ซึ่งทำให้เย็นเก็บความชื่นชมเสน่หาบุตรสาวอยู่กลายเป็นของคนอื่นไว้คนเดียว ท่านเจ้าคุณยังคงรักและเมตตาเย็น พร้อมทั้งมีความหวังว่าเย็นอาจจะมีลูกให้ท่านอีก เพราะอนุภรรยาอื่นๆ ไม่ปรากฏว่าใครจะตั้งครรภ์เลย
จนในวันหนึ่ง ยืน พี่ชายของเย็นมาบอกเย็นว่าพ่อยิ่งป่วยหนัก แม่ล้วนให้มาขอขึ้นค่าตัวเย็นไปรักษาพ่อยิ่ง เย็นไม่กล้าให้พี่ชายเอ่ยปากกับท่านเจ้าคุณ จึงให้สร้อยทองพร้อมตะกรุดทองซึ่งเจ้าคุณให้ผูกตอนตั้งท้องไปแทน แต่การณ์กลับเป็นผลร้ายแก่เย็น ด้วยบุญมี อนุภรรยาของเจ้าคุณที่ริษยาเย็นอยู่ บังเอิญมาเห็นเหตุการณ์เข้า จึงกล่าวโทษฟ้องว่าเย็นคบผู้ชายถึงให้เป็นสิ่งของกัน เย็นจึงโดนหวายเฆี่ยนเจียนตาย และถูกถอดลงมาเป็นนางทาสตามเดิม เย็นต้องมาเป็นลูกมือนางในคนครัว ตำน้ำพริก ปอกมะพร้าว ขูดมะพร้าว หุงข้าว ผ่าฟืน ล้างถ้วยชามรามไห แล้วแต่นางในจะใช้ เหนื่อยสายตัวแทบขาด ที่ร้ายที่สุดคือห่างเหินลูกรักชนิดสุดเอื้อม กระนั้นก็ตามเย็นก็คอยหาโอกาสแอบเข้าไปใกล้ชิด อุ่นเรือนอยู่เสมอ
จนวันหนึ่ง วันที่เย็นเข้าไปหา นางพุ่ม พี่เลี้ยงคุณแดง อุ้มคุณแดงเชยชม ก็ปรากฏว่าสร้อยข้อเท้าคุณแดงหายไป นางพุ่มระบุว่าเย็นมาอุ้มคุณแดง เย็นจึงถูกเฆี่ยนเป็นครั้งที่สอง จนคุณหญิงสงสารหยิบสร้อยเส้นใหม่ออกมาและบอกว่าหาพบแล้ว เย็นจึงรอดพ้นจากอาญาไปได้ ตั้งแต่นั้นมาเจ้าคุณก็สั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้เย็นเข้าใกล้อุ่นเรือน เวลาผ่านไปตามลำดับอุ่นเรือนโตเป็นสาวแรกรุ่นจำเริญตา ในขณะที่เย็นร่างกายเสื่อมโทรมไปเพราะงานหนัก ผิวพรรณด้านหลังงองุ้ม ผมหงอกเกือบทั่วศีรษะ
วันหนึ่งขณะที่เย็นกำลังพักผ่อน หลังจากทำงานในครัวอย่างหนัก ก็ได้ยินเสียงสาลี่ อนุภรรยารุ่นเก่าคนหนึ่งของเจ้าคุณ และอีแอบ นัดแนะกันจะล่ออุ่นเรือนมาให้ คล้อย ซึ่งอดีตเป็นพระนักเทศน์ตัวลือข่มขืน เย็นตกใจแทบสิ้นชีวิต เฝ้าตรึกตรองหาทางป้องกันอุ่นเรือนจนกระทั่งถึงวันนัด เย็นไปดัก ณ ที่นัดพบเพื่อห้ามอุ่นเรือน อุ่นเรือนโกรธจัดถึงกับตบหน้าเย็น แต่เย็นไม่ฟังเสียงเฝ้าวิงวอนจนถึงกับต้องยื่นคำขาดว่า จะขัดขวางถึงตายก็ยอม เมื่อสาลี่มาถึงรู้ว่าความแตก ก็กรีดร้องขึ้นเต็มเสียงว่า เย็นพยายามแย่งกำไลจากอุ่นเรือน อุ่นเรือนวิ่งหนีไป สาลี่จึงขู่เย็นว่าถ้านำเรื่องไปบอกท่านเจ้าคุณ จะกุเรื่องให้อุ่นเรือนถูกโบย ทำให้ท่านเจ้าคุณเข้าใจผิดว่าเย็นขโมยกำไลอุ่นเรือน จึงสั่งโบยเย็น อุ่นเรือนทนไม่ไหวที่เห็นเย็นถูกโบย จึงสารภาพความจริงว่าถูกสาลี่แนะนำให้รู้จักและนัดพบกับคล้อย ท่านเจ้าคุณโกรธมากจึงไปเฆี่ยนสาลี่ที่เรือนจนสลบคาหวาย
คุณหญิงพาอุ่นเรือนมาขอโทษเย็นถึงเรือนพัก อุ่นเรือนร้องไห้จนตัวโยน จับมือเหี่ยวแห้งมากำไว้ขณะที่กล่าวคำขอโทษ เย็นจูบปลายเท้าลูกน้ำตาไหลพรากเมื่อตอบว่า ถึงบ่าวจะตายเพราะช่วยคุณก็ไม่เสียดายชีวิต เพราะบ่าวรักคุณเหลือเกิน
จากนั้นสาลี่ถูกขังไว้ในห้องอยู่หลายวัน สาลี่โกรธแค้นท่านเจ้าคุณมาก จึงสั่งให้คล้อยฉุดอุ่นเรือนอีกครั้ง แต่คราวนี้ท่านเจ้าคุณจับได้ และทราบความจริงจากคล้อยว่าถูกบงการโดยสาลี่ ท่านเจ้าคุณจึงไล่สาลี่ออกจากบ้าน สาลี่ย้ายไปอยู่บ้านของอีแอบซึ่งเป็นกระท่อมหลังเล็กๆ ขาดข้าวขาดน้ำ จนป่วยหนักและตรอมใจตายในที่สุด
หลังจากนั้นไม่นานด้วยเดชะพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่แห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงคุณธรรมอันประเสริฐ ซึ่งมีต่อพสกนิกรแห่งพระองค์ ได้ทรงออกพระราชบัญญัติประกาศให้เลิกทาสทั่วพระราชอาณาจักร ปวงประชาราษฎร์ทั้งหลายต่างชื่นชมโสมนัส สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณนี้เป็นล้นพ้น แซ่ซ้องสรรเสริญทั่วทุกหลังคาเรือน พระอารามทั่วไปเคาะระฆังแสดงความปลื้มปิติ และเป็นความหมายให้สำเนียงนี้อุโฆษขึ้นไปถึงเทพยดาเจ้าเบี้องบนฟากฟ้าโน่น
ตามเคหะสถานท่านผู้มีทาสใช้สอย บางรายก็เสียดายอำนาจซึ่งหลุดลอยไป บางแห่งก็ยินดี โดยเฉพาะพระยาสีหโยธิน เจ้าคุณโสมนัสชื่นชมเป็นที่ยิ่ง ประกาศให้ทุกคนในบ้านมีการรื่นเริงได้เต็มที่ ปัจจุบัน เย็นไม่ต้องทำงานหนักตรากตรำแล้ว คุณหญิงให้นั่งดูแลหอนั่ง เย็นค่อยแจ่มใสอ้วนท้วนนุ่งห่มสะอาดนัยน์ตา มีโอกาสได้พบปะใกล้ชิดลูกโดยไม่มีใครรังเกียจ แม้ฝ่ายอุ่นเรือนเองจะไม่รู้จักว่าเป็นแม่ ตามวิสัยของมารดากับบุตร ย่อมมีสัมพันธ์ทางสายโลหิตใกล้ชิดอยู่เสมอ อุ่นเรือนจึงรักเย็นมาก
วันที่ความจริงปรากฏขึ้นก็มาถึง เมื่อล้วนกับยืนเดินทางมาหาเย็น หวังจะนำเงินมาไถ่ตัวเย็น พร้อมทั้งนำตะกรุดทองมาคืนท่านเจ้าคุณ ความจริงเปิดเผยว่าผู้ที่เจ้าคุณคิดว่าเป็นชู้ของเย็นเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อนนั้นคือพี่ชาย เจ้าคุณอึ้งไปด้วยสำนึกในความผิด ทั้งเสียใจและเสียดายความหลังเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีทางใดจะแก้ไขให้เหมือนเดิมได้ ได้แต่ขออโหสิต่อเย็นอยู่ในใจ และบุญมี มีความผิดฐานใส่ร้ายเย็นจึงถูกถอดลงจากอนุภรรยามาเป็นบ่าว ทำงานรับใช้ท่านเจ้าคุณ เย็นมีชีวิตเป็นสุขขึ้นมาก ความดีทุกอย่างปรากฏขึ้นแล้ว แต่ความจริงที่อุ่นเรือนคือบุตรสาวที่แท้จริงของเย็นยังไม่ปรากฏ
ไฟโชนแสง (2524/1981) วันทกานต์แฝดผู้น้อง กลับมาจากอเมริกาเมื่อรู้ข่าวการตายของวสุ ผู้เป็นพ่อ เธอเชื่อว่าการตายของพ่อมีเงื่อนงำ และต้องการจะขุดคุ้ยหาผู้อยู่เบื้องหลัง เทียนวรรณแฝดผู้พี่ไม่สบายใจ ปรึกษาเรื่องนี้กับณฐินคนรัก ซึ่งเป็นลูกชายของนายณัฐ เพื่อนสนิทของพ่อ ณฐินรู้ดีว่าพ่อของตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของวสุ อุบัติเหตุไม่นึกฝันทำให้วันทกานต์ได้รู้จักกับชาติชาย ช่างภาพอิสระ ต่างฝ่ายต่างจำกันไม่ได้ว่าเคยเป็นเพื่อนเล่นในวัยเด็กกันมาก่อน เขมรัฐ คนรักของวันทกานต์ มีอาชีพทนายความ เขาต้องการช่วยเธอแก้แค้น จึงทำความสนิทสนมกับศิริวดี พี่สาวของชาติชาย ครอบครัวของชาติชายเป็นเจ้าของบริษัทชาติคอนสตรัคชั่น ซึ่งนายณัฐมีหุ้นอยู่ วันทกานต์เริ่มงานเป็นนายหน้า พยายามใกล้ชิดคนใหญ่คนโต จนได้รับฉายาว่า ”แม่เล้าระดับชาติ” เพื่อหาเบาะแสการทุจริตของนายณัฐ ตรีประดับลูกสาวคนเดียวของนายอนันต์ แค้นใจที่เทียนวรรณรักใคร่ชอบพอกับณฐิน ตรีประดับบุกไปที่ร้านดอกไม้ของเทียนวรรณ ทำร้ายเทียนวรรณได้รับบาดเจ็บ วันทกานต์โกรธแทนพี่สาวตามไปอาละวาดตรีประดับที่บริษัท แต่ถูกนายอนันต์ให้ลูกน้องจับตัวโยนออกมา เขมรัฐใช้อุบายลวงเอาเอกสารการทำธุรกิจของนายณัฐมาจากศิริวดี วันทกานต์จึงได้หลักฐานการทุจริต เธอส่งหลักฐานให้ท่านรองวินัย ส่งผลให้นายณัฐถูกปลดออกจากราชการและถูกยึดทรัพย์ จงกลภรรยาของนายณัฐ และณัฐพรลูกสาว คร่ำครวญถึงชะตากรรมที่เกิดกับครอบครัวของตน เทียนวรรณพยายามให้กำลังใจณฐินซึ่งกลัดกลุ้มกับเรื่องในบ้าน ตรงข้ามกับพี่สาว วันทกานต์เอาพวงหรีดไปเยาะเย้ยนายณัฐถึงบ้าน จึงถูกสองแม่ลูกรุมตบ แต่ณฐินมาห้ามไว้ ศิริวดีโกรธที่เขมรัฐเอาเอกสารไปให้วันทกานต์ ต่อว่าเขมรัฐที่หลอกใช้เธอ ชาติชายตามไปพบ เกิดเรื่องชกต่อยกัน ชาติชายบอกพี่สาวให้เลิกยุ่งกับเขมรัฐ นายณัฐขอร้องลูกชายให้แต่งงานกับตรีประดับเพื่อช่วยเหลือครอบครัว แต่ณฐินไม่ยอม นายณัฐเครียดต้องเข้าโรงพยาบาล เทียนวรรณรู้ตัวว่าท้อง ตามไปบอกณฐินที่โรงพยาบาล ทว่าคลาดกัน จงกลและณัฐพรรุมทำร้ายเทียนวรรณด้วยเข้าใจผิดว่าเป็นวันทกานต์ แต่เทียนวรรณหนีพ้นออกมา จนได้พบกับหมอปฐพี
เรื่องย่อ : ดอกโศก (2524/1981) ดอกโศก เป็นเรื่องราวของ ดอกโศก เด็กผู้หญิงลูกครึ่งผมแดง ที่ต้องออกมาเร่ร่อนขายหนังสือพิมพ์ตามท้องถนน ดอกโศกได้รับความช่วยเหลือจากบาทหลวง อันโตนิโย เจ้าคุณรัตนาภิบาลได้พบกับดอกโศกตอนเป็นลม เมื่อมาส่งบ้านจึงได้พบ สมใจ ยายของดอกโศก พบว่ายายสมใจคืออดีตภรรยาน้อยของท่าน ดอกโศกจึงกลายเป็นหลานสาวเจ้าคุณ เจ้าคุณจึงรับดอกโศกไปอยู่ด้วย ท่ามกลางไม่พอใจของคนในบ้าน