2523
ผู้ชนะสิบทิศ (2523/1980) มหาราชพม่าพระองค์หนึ่งมีพื้นตระกูลกำเนิดสามัญชน "จะเด็ด" เป็นลูกพระนมหลวง จึงพลอยได้สมาคมกับพระราชวงศ์นับแต่ร่วมน้ำนมกับมังตราราชบุตร และตะละแม่จันทรา ต่อมาเป็นดั่งดวงใจ จะเด็ด ฉากของเรื่องมีสามเมืองใหญ่ที่เหตุการณ์เกี่ยวเนื่องกันด้วยการเมือง การรบ ความแค้น และความรัก คือตองอู เมืองพม่าอันมีจะเด็ดเป็นหนึ่งในตองอู กับเมืองแปร และเมืองหงสาวดี อันเป็นเมืองมอญ ตองอูนั้นสร้างด้วยสามเกลอร่วมใจกัน คือ มังสินธุ ขุนพลผู้ออกบวช ภายหลังเป็นมหาเถรกุโสดออาจารย์ของจะเด็ด, ทะกะยอดิน ขุนพลผู้พอใจเป็นขุนวัง และเมงกะยินโย ขุนพลผู้เป็นกษัตริย์เมืองตองอู มีพระราชธิดาเกิดแต่พระอัครมเหสีนามว่า ตะละแม่จันทรา มีพระราชโอรสเกิดด้วยพระมหาเทวีเป็นรัชทายาทนามว่า มังตรา ส่วนจะเด็ดเป็นลูกคนปาดตาลที่แม่ชื่อ นางเลาชี ซึ่งมหาเถรกุโสดอถวายคำแนะนำกษัตริย์ตองอู รับเป็นพระนมของมังตราและจันทรา ฝ่ายเมืองแปร หญิงผู้เป็นแสนรักของจะเด็ดอีกคนเกิดที่นี่ นามตะละแม่กุสุมา พระธิดาพระเจ้าเมืองแปรหรือพระเจ้านรบดี พระเจ้าแปรเป็นพระอนุชาของผู้ครองหงสาวดีคือพระยาราม มีราชบุตรชื่อสอพินยา ซึ่งมีบริวารนามว่าไขลู ตัวละครนี้ยาขอบรักที่สุด เพราะจะสร้างพระเอกอย่างจะเด็ดสร้างได้ไม่ยากนัก แต่จะสร้างคนชั่วช้าแบบไขลูสร้างได้ยากยิ่ง ตัวละครในผู้ชนะสิบทิศมีมากและกินเวลายาว กระนั้นการที่คนอ่านไม่เพียงตราตรึงบทของตัวละครเอก แต่ยังแผ่ใจจดจำตัวประกอบรองๆ ไม่สับสนหลงลืม เพราะผู้ประพันธ์กำหนดบทบาทและบุคลิกภาพของตัวละครชัดเจน เป็นกระพี้ที่สำคัญต่อการประสมประสานเป็นองค์เอกภาพเดียวกัน จะเด็ดเจ้าชู้และเป็นชายชาตรีลูกคนธรรมดา เกือบจะพิมพ์เดียวกับขุนแผน ขณะที่ขุนแผนใช้เวทมนตร์และวิ่งหาความรัก ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตรักโดยเฉพาะชีวิตครอบครัว ส่วนบทบาทของขุนแผนในทางสังคมก็เพียงขุนนางชาวบ้านผู้จงรักภักดี แต่จะเด็ดหนุ่มรูปงามคารมดี มิได้ใช้เวทมนตร์ใด หากกิริยาวาจานั้นกำใจทั้งสาวๆ ในตัวละครและทั้งคนอ่าน แม้ผู้หญิงตามปกติไม่เห็นใจชายเจ้าชู้ ทว่าจะเด็ดดูว่าเป็นข้อยกเว้น เพราะด้วยความเคลิ้มอยากเป็นตะละแม่สักนางหนึ่ง เมื่อจะเด็ดอ้อนรำพัน "ข้าพเจ้ารักจันทราด้วยใจภักดิ์ แต่รักกุสุมาด้วยใจปอง" ซึ่งหัวใจจะเด็ดยังกว้างเหมือนมหาสมุทรที่ไม่เลือกเรือสำหรับหญิงอื่นๆ อีกด้วย ในความเป็นสามัญชนของจะเด็ดยังแตกต่างจากขุนแผน ที่เป็นเพียงข้าผู้ภักดีในฐานะขุนนาง ทว่าจะเด็ดไม่เพียงเด็ดดอกฟ้าโดยเป็นสวามีพระพี่นางของมังตรา หลังสิ้นมังตรายังขึ้นเป็นกษัตริย์ของคนทั้งแผ่นดิน
คุณหญิงนอกทำเนียบ (2523/1980) ความสมหวังในความรัก ย่อมทำให้ผู้ได้รับมีความพอใจ ความริษยาชิงชังย่อม ทำให้ผู้ติดอยู่ในมันปราศจากซึ่งความสุข และเธอก็เริ่มเข้าใจถ่องแท้ถึงคำพูดของคุณหญิงอรุณวตี คุณหญิงผู้ฟูมฟักเธอ คุณหญิงผู้สอนให้เธอ เป็น 'คุณหญิง' ทุกกระเบียดนิ้ว ที่ว่า ศักดิ์ศรีนั้นสำคัญ ทว่า 'เกียรติยศ' ทั้งของตนที่ต้องสร้างสม 'บารมี' ให้มากขึ้น และของคนอื่น หากก็นยังพยายาม...พยายามบนความสับสน ว่า "จริงแล้ว 'ชีวิตของเธอ' ต้องการอะไรกันแน่!" แน่นอน ศจีได้มาเกือบครบแล้ว ยกเว้นสิ่งเดียว คือความนอบน้อมอย่างใจจริง! และมีหรือที่คนคนหนึ่งจะดำรงตนอยู่และทะเยอทะยานได้ โดยปราศจากความรัก สิ่งนี้...ศจีจะหาคำตอบจากผู้ใด
เจ้าหญิงแตงอ่อน (2523/1980) เป็นละครโทรทัศน์จักรๆวงศ์ๆ ของไทย โดยดัดแปลงบทประพันธ์จากเทพนิยายวัดเกาะ เรื่อง "เจ้าหญิงแตงอ่อน" ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2523 ออกอากาศตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2523 - 28 เมษายน พ.ศ. 2524
เรื่องย่อ : น้ำผึ้งขม (2523/1980) ปุริม พิษณุการ (ปุ๊) ((นาท ภูวนัย)) นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ ที่ฝังใจเจ็บกับความรักครั้งก่อน ที่ทำให้ชีวิตแทบพังทลายเพราะโรส (อมรา อัศวนนท์) ลูกครึ่งสาวสวยไทย-เยอรมัน ปุริมจึงกลายเป็นคนที่มองผู้หญิงเพียงของเล่นเท่านั้น
โรสกลับมาพบกับปุริมอีกครั้ง เธอกลายเป็นแม่หม้าย ลูกติด เมียเก็บของข้าราชการระดับล่าง แถมด้วยอาการติดสุราขนาดหนักและกำลังขัดสนถึงขนาดยอมขายกังสดาล (หทัยรัตน์ อมตวณิชย์) ลูกสาว ให้เป็นเมียของปุริม กังสดาลมาอาศัยกับปุริม โดยที่จวงจันทร์ (สุพรรณ บูรณะพิมพ์) แม่หม้ายสาวใหญ่ ญาติของเขาไม่เห็นด้วย และตอกย้ำว่ากังสดาลเป็นแค่นางบำเรอของปุริมเท่านั้น
กังสดาลไม่มีทางเลือกจึงจำต้องทนอยู่ เวลาผ่านไป ปุริมพบว่ากังสดาลไม่มีอะไรเหมือนโรสแม่ของเธอเลย ความพยาบาทจึงเริ่มเสื่อมคลายลง
ขณะเดียวกัน เจน หลานชายของปุริมลูก ชายแท้ ๆ ของจวงจันทร์ก็แอบรักกังสดาล ทำให้ปุริมไม่พอใจ จนไล่เจนออกจากบ้าน แต่กังสดาลคอยไกล่เกลี่ยปัญหา จวงจันทร์ใช้ข้ออ้างที่เธอป่วยเป็นโรคหัวใจ ขอร้องให้กังสดาลยอมไปจากชีวิตของปุริม กังสดาลจึงหลบไปพักอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัด ปุริมแอบมาดักพบกังสดาล และเข้าใจผิดว่าเธอกำลังมีรักใหม่กับกรกิตผู้เป็นอา เขายังได้พบกับแสงดาว (สุมาลี ชาญภูมิดล) หญิงสาวผู้เชื่อมั่นในความรัก ผู้เปรียบเสมือน อาของกังสดาล ทั้งสองคบกันอย่างเปิดเผย แต่ปุริมยังหาโอกาสพบกับกังสดาล จนเธอไม่อาจห้ามใจตัวเองได้อีกและยอมอยู่กับปุริม อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ
เมื่อความลับเปิดเผย ทุกคนต่างโกรธเคืองกังสดาล แต่แสงดาวกลับระงับอารมณ์ได้จนน่าแปลกใจ อีกทั้งยังพากังสดาลไปช่วยเตรียมการแต่งงานที่ทุกคนเข้าใจว่าเป็นพิธีระหว่างปุริมกับแสงดาว แต่ในการ์ดเชิญกลับเป็นชื่อกังสดาล ตามแผนของทั้งคู่ที่แกล้งคบกันเพื่อให้กังสดาลแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา จวงจันทร์ทราบข่าวนี้ถึงกับโรคหัวใจกำเริบและเสียชีวิตในที่สุด ปุริมและกังสดาลเริ่มต้นชีวิตคู่อีกครั้งหนึ่ง ด้วยความรักและบริสุทธิ์ใจของทั้งสองฝ่าย
เรื่องย่อ : ดาวพระศุกร์ (2523/1980) ดาวพระศุกร์เป็นเด็กที่นางวิภา วงศ์สะอาด มาคลอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ทางโรงพยาบาลเลี้ยงดูดาวพระศุกร์จนอายุได้ 9 เดือน ก็มีคนมาขอไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ชีวิตในบ้านพ่อเลี้ยงที่เกรงใจภรรยาและแม่เลี้ยงใจร้าย ในตอนแรกจนกระทั่ง 4 ขวบกว่า ดาวพระศุกร์มีพิกุลเป็นพี่เลี้ยงคอยปกป้อง ช่วยเหลือ ให้รอดจากคุณนายมารศรี แม่เลี้ยงตีบ่อย ๆ จนวันหนึ่งคุณนายไล่พิกุลออก ดาวพระศุกร์จึงต้องทนเลี้ยงน้องที่เกิดมาคล้ายเป็นลูกอิจฉาของคุณนายถึง 4 คน ซึ่งคุณนายรักดั่งแก้วตาตลอดเวลา ดาวพระศุกร์มีหน้าที่ทำงานบ้าน ทำกับข้าวดูแลทุกคนในบ้านอย่างดี ถ้าทำผิดแม้เพียงนิดเดียวก็จะถูกคุณนายทุบตีอย่างทารุณ คุณนายดุด่าและบอกความจริงว่า คุณนายและท่านนายพันไม่ใช่พ่อแม่ที่แท้จริง และบอกว่าแม่จริงชื่อ วิภา วงศ์สะอาด ดาวเสียใจมาก พ่อเลี้ยงปลอบว่าวันหนึ่งแม่จริงของดาวก็จะมารับดาวจึงทนรอคอยความหวัง วัน หนึ่งดาวไปตลาด พบเด็กชายขอทานซึ่งแกอดข้าวมา 2 วันจนแทบเป็นลม ดาวนึกสงสารจึงให้มาที่บ้าน หาข้าวให้กินด้วยใจบริสุทธิ์ และเล่าให้ฟังว่าชีวิตตัวเองเป็นอย่างไร แก่รับฟังด้วยความสงสารและเห็นใจ แต่ช่วยอะไรไม่ได้ คนข้างบ้านคนหนึ่งเห็นดาวคุยกับแก่ ก็ไปฟ้องคุณนายว่าดาวริอ่านคบผู้ชาย คุณนายโกรธมาก ตบตีดาวอย่างหนักที่สุด หาว่าคบผู้ชาย เผลอหลุดปากบอกความจริงเรื่องแม่ของดาวทิ้งดาวไว้ที่โรงพยาบาลและไม่มีวัน ที่จะมารับกลับ ดาวจึงหมดความอดทนและสิ้นหวังในการรอคอย ดาวตัดสินใจหนีออกจากบ้านตั้งแต่วันนั้น ( อายุ 11 ขวบ ) ขณะที่ศศิ ประภา แม่ที่จริงของดาวพระศุกร์ ซึ่งต่อมาแต่งงานใหม่กับพลตรีพีรยุทธ มีลูกชายใหม่ 1 คน ชื่อแดง ตลอดเวลาไม่มีใครรู้ความลับของศศิประภานอกจากนมแม้นคนเดียว ศศิประภาไม่เคยลืมลูกสาวที่ตัวเองตั้งชื่อให้ว่าดาวพระศุกร์ ไม่เคยลืมแววตาของลูก และปานแดงรูปหัวใจเหนืออกซ้ายของดาว ศศิประภาทุกข์ทรมานใจทุกครั้งที่คิดถึงลูกคนแรก ขณะที่แก่เดินขอ ทานอยู่นั้น บังเอิญได้พบกับภาคย์ ภาคย์สงสารให้เงินถึง 2 ครั้ง แต่ด้วยความซื่อแก่เผลอเล่าเรื่องของดาวพระศุกร์ให้ศศิประภาฟัง ศศิประภารู้ทันทีว่าดาวคือลูกศศิประภาตามไปหาดาวที่บ้านคุณนายมารศรี จึงรู้ว่าดาวหนีออกจากบ้านไปแล้ว ดาวเร่ร่อนขอทานอยู่กับเกรียงและ อู๊ด เด็กขอทานข้างถนนอยู่ 2 – 3 ปี หลังจากขอทานดาวก็ริอ่านเป็นขโมยโดยมีนายชุมเด็กวัยรุ่นเป็นหัวหน้า ชีวิตของดาวต้องต่อสู้ดิ้นรนไปจนกระทั่งพบกิ่งแก้วโสเภณีชั้นสูงคนหนึ่ง บอกว่าดาวหน้าตาดี จึงชวนไปอยู่ด้วยกันที่บ้านซึ่งเป็นของฉวีแม่เล้าของตัวเอง บ้านของฉวีเป็นบ้านชั้นดี รับเฉพาะแขกที่มีสตางค์เท่านั้น ขณะนั้น ดาวอายุได้ประมาณ 14 ปี ต้องเติบโตในบ้านนั้น พบเห็นเรื่องราวของชีวิตผู้หญิงเหล่านั้นจนชิน กิ่งแก้วพยายามสอนหนังสือให้ดาว จนดาวมีความรู้เทียบได้เท่ากับมัธยม 6 สมัยนั้น พอดาวโตขึ้นอายุได้ 16 – 18 ปี ฉวีก็เริ่มให้ดาวออกทำงาน ดาวเคยรู้รสชาติของความจนความลำบากมาก่อนจึงไม่กล้าขัดขืน แต่กลับหาวิธีเอาตัวรอดด้วยการมอมเหล้าแขกบ้าง หาคนมาแทนบ้าง เมื่อดับไฟแล้วบ้าง สารพัด เพื่อรักษาพรหมจารีย์ไว้อย่างเหนียวแน่น ดาวใช้วิธีเหล่านี้เอาตัวรอดได้ตลอดมาจนได้ฉายาว่า แม่ดาวจอมกะล่อน และ เพราะวิธีสับตัวเองเอาคนอื่นมาแทนนี่เอง แขกคนหนึ่งเกิดติดโรคจึงเข้าใจว่าติดมาจากดาว เจ้าสำนักจึงให้พยาบาลมาตรวจโรค ดาว บังเอิญพยาบาลคนนั้นคือ อรทัย พยาบาลที่เป็นคนทำคลอดดาว จำดาวได้เพราะปานแดงรูปหัวใจ และชื่อดาว ดาวถามอรทัยจนใจอ่อนยอมเล่าเรื่องของดาวให้รับรู้จนหมด เพื่อน ๆ ของภาคย์ 2-3 คน เคยโดนลูกไม้ของดาวมาแล้วก็ไปเล่าให้ภาคย์ฟัง ภาคย์สนใจจึงมาทดลองบ้าง ภาคย์หลบเลี่ยงลูกไม้ของดาวทุกชนิด เช่น ไม่ดื่ม ไม่ดับไฟ ไม่อมทอฟฟี่ แต่ดาวก็เล่นไม้ตายโดยใช้ยาสลบ จนกระทั่งภาคย์หมดสติทั้งคืนจนเช้า พอภาคย์รู้สึกตัว แทนที่จะโกรธ ภาคย์เกิดสนใจดาวและขอซื้อจากเจ้าสำนักในราคา 1 แสนบาททันที แล้วรับตัวดาวไปอยู่ที่บ้าน ดาวจำต้องไปเพราะถึงอย่างไรก็ยังดีกว่าต้องอยู่บ้านนี้ตลอดไป ดาวตั้งใจว่าจะหาทางหาเงินมาใช้กับภาคย์เพื่อแลกกับอิสระภาพให้จนได้ ภาคย์พาดาวไปอยู่บ้านเลี้ยงดูอย่างดีในฐานะกึ่งน้องกึ่งญาติ ภาคย์ให้ดาวเรียนการบ้านการเรือนกับนมเชื่อม และเรียนคณิตศาสตร์กับตัวเองให้ศศิประภาญาติของภาคซึ่งเป็นแม่แท้ ๆ ขอดาวมาสอนภาษาอังกฤษ และมาหยารัศมี สาวสังคมที่มาติดภาคย์ช่วยสอนดนตรีให้ด้วย ดาวต้องอดทนเรียนทั้ง ๆ ที่ใจไม่ชอบสักอย่างดาวเริ่มหลงรักภาคย์ ขณะเดียวกันก็นึกรู้ว่าศศิประภาคือแม่ที่แท้จริงของตัวเอง ด้วยแรงน้อยใจที่แม่ไม่ยอมรับเป็นลูกดาวทำฤทธิ์กับศศิประภาทุกอย่าง ศศิประภาก็ได้แต่เสียใจอยู่คนเดียวบอกใครไม่ได้ เมื่อใดที่ศศิประภาเผลอแสดงความรัก ความห่วงใย ดาวจะย้อนกลับอย่างเจ็บแสบเสมอ ทำให้ศศิประภายิ่งช้ำใจหนักขึ้น นอกจากดาวจะน้อยใจ ในตัวแม่บังเกิดเกล้าแล้วยังต้องต่อสู้กับมาหยารัศมีทุกรูปแบบเพราะมาหยา รัศมีกลัวว่าดาวจะมาแย่งภาคย์ไปจากตน จึงหาทางกลั่นแกล้งใส่ความดาวตลอดเวลา ซึ่งภาคย์เองก็เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง แต่ก็ทำให้ดาวต้องเสียใจทุกครั้ง เหตุการณ์ผ่านไปภาคย์เริ่มรักดาวและดาวเองก็รักภาคย์มากเช่นกัน แต่ต่างคนก็สงวนท่าที วันหนึ่งในงานราตรีสโมสร ดาวจงใจแต่งตัวค่อนข้างโป๊เพื่อประชดภาคย์ ทำให้มีหนุ่ม ๆ 2 คนมาตามติดดาว คนหนึ่งคือ เศกสรรค์ เพื่อนของภาคย์ และอีกคนหนึ่งคือผู้พิพากษา อรรถ ซึ่งติดใจดาวมากจนศศิประภาผู้กำความลับอย่างแน่นอยู่ตกใจแทบเป็นลม มาหยารัศมีขัดขวางอรรถกับดาวจนเกิดเรื่อง ภาคย์ต้องลากตัวดาวกลับทันทีขณะที่ขับรถกลับบ้านอย่างหัวเสีย ภาคย์แกล้งขับเร็ว ๆ ไปทางอื่นอยู่นานกว่าภาคย์จะพาดาวกลับบ้าน ดาวก็เริ่มจับไข้แต่ไม่ยอมบอก รุ่งขึ้นดาวก็เป็นไข้ตัวร้อนไม่ได้สติเพ้อร้องหาแม่อย่างน่าสงสาร ภาคย์ เฝ้าดูแลดาวทุกอย่างจนเด็กรับใช้ในบ้านเริ่มซุบซิบว่าภาคย์รักดาว ระหว่างที่ดาวป่วยท่านผู้พิพากษาอรรถส่งดอกไม้มาเยี่ยมดาวทุกวัน ภาคย์หึงแต่ไม่ยอมรับ ได้แต่หาเรื่องทะเลาะกับดาวไม่เว้นแต่ละวัน ท่านผู้พิพากษาสงสารดาวมาก ถึงกับให้เงินดาว 1 แสนบาทเป็นค่าไถ่ตัว และจะรับไปอยู่ด้วยกัน แต่พอดาวเอาเงินให้ภาคย์ ภาคย์โกรธมากประกอบกับเมาจึงลืมตัว เข้าปล้ำดาวจนดาวต้องตกเป็นของภาคย์ รุ่งเช้าภาคย์เสียใจในการกระทำของตัวเองมาก แต่ก็คิดไม่ตกว่าจะทำ อย่างไรดี เพราะถ้าแต่งงานกับดาว ก็เป็นปัญหาหลายอย่าง หนึ่งดาวยังไม่บรรลุนิติภาวะ คุณนายมารศรีซึ่งเป็นแม่ตามกฎหมายคงไม่ยอม สองภาคย์เองก็ไม่แน่ใจว่า ดาวจะปรับตัวเป็นภรรยาได้สมกับฐานะหรือยัง และสามมาหยารัศมีก็คอยหาเรื่องวุ่น ๆ จนได้ ระหว่างที่ภาคย์ลังเลจะทำอย่างไรดี ดาวซึ่งสูญสิ้นทุกอย่างในชีวิต ผิดหวังทั้งแม่ตัวเอง แม่เลี้ยง แล้วยังคนรักซึ่งยังคงคบหามาหยารัศมีอยู่ ดาวท้อแท้มาก มีแต่ผู้พิพากษาอรรถเท่านั้นที่คอยช่วยเหลือให้กำลังใจดาวจนดาวใจอ่อนยอม ตกลงจะแต่งงานกับอรรถ ศศิประภาหมดความอดทนจึงต้องยอมบอกความจริงว่า ที่แท้อรรถคือพ่อแท้ ๆ ของดาวนั่นเอง ท้ายที่สุดดาวคิดสรุปเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นว่าเป็นความผิดของตนเอง เพราะฉะนั้นถ้าไม่มีตนซักคน มาหยารัศมีก็คงได้แต่งงานกับภาคย์ ศศิประภาก็จะได้คืนดีกับท่านนายพลฯเพราะตอนที่นายพลฯ พีรยุทธ สามีของศศิประภารู้ว่าศศิประภา มีลูกมาก่อนก็โกรธถึงกับขอแยกทาง ดาวจึงตัดสินใจหนีทุก ๆ คนไป ภาคย์ขับรถตามดาวจนประสบอุบัติเหตุ แต่ไม่เป็นอะไรมากนักต้องพักรักษาตัวระยะหนึ่ง ดาวหนีมาอยู่ที่ราชบุรีซึ่งดาวแอบซื้อที่ดินเอาไว้ไม่บอกใครแต่เพราะที่ดิน ข้าง ๆ กับของดาวเป็นของพิกุลพี่เลี้ยงคนแรกของดาว พิกุลจึงเป็นคนนำข่าวไปบอกกับทุก ๆ คน ภาคย์รีบตามมาหาดาวทันที ทิ้งให้มาหยารัศมีกับอรรถทำความรู้จักให้ดีขึ้น เพราะทั้งสองมีท่าทางพอใจซึ่งกันและกันอยู่แล้ว ภาคย์ตามมาพบดาว งอนง้อขอคืนดี จนดาวใจอ่อน เรื่องราวทั้งหลายจึงจบลงด้วยความสุข
สางเขียว (2523/1980) สางเขียว เป็นเรื่องเกี่ยวกับต้นไม้ผี ที่มีพลังบางอย่าง และต้องหาเลือดคนกินเป็นอาหาร เวลาออกหากินจะมีแสงสีเขียว ๆ ลอยไปตามที่ต่าง ๆ แล้วกลายร่างเป็นผู้หญิงตัวสีเขียวมีเขี้ยว พอเจอเหยื่อก็จะกัดคอดูดเลือด