Encore 100 Million Views ลมเปลี่ยนทิศไตรภาค ตอน The Last Winter (2559/2016) เมื่อลมหนาวพัดพาความโรแมนติกเข้ามาในชีวิต ลมหนาวเชิญชวนให้คนรักกันสร้างความอบอุ่นให้กันและกัน แต่ไม่ใช่กับคู่รักนักร้องที่รักกันมานานอย่างหนุ่มนักดนตรีมาดเซอร์ บูม และเปียโน นักร้องเสียงใสอารมณ์ติสต์ กลับต้องหงุดหงิดทะเลาะกันทุกฤดูหนาว เพราะทั้งคู่รับงานร้องเพลงเยอะมากจนเหน็ดเหนื่อยและพาลทะเลาะใส่กันเสมอ ฤดูหนาวปีนี้หนาวกว่าครั้งไหนๆ ขณะที่บูมกับเปียโนเดินทางไปร้องเพลงตามงานจ้าง ทั้งงานเซอร์ไพรส์วันเกิด งานหมั้นหวานซึ้ง งานฉลอง Anniversary สุดประทับใจ งานแต่งงานสุดโรแมนติก และงานเคาท์ดาวน์ที่เปี่ยมไปด้วยความหวังและการเริ่มต้นใหม่ แต่การเดินทางของชีวิตและความรู้สึกของ “บูม” กับ “เปียโน” กลับรู้สึกสวนทางความรักที่ทั้งสองเคยมีให้กันและกันเปลี่ยนไปแล้วอย่างไม่มีวันหวนคืน หรือ ทั้งสองไม่ควรหยุดและยอมแพ้

สาวน้อยร้อยล้าน 2559

สาวน้อยร้อยล้าน (2559/2016) น้อย..เด็กสาวบ้านนา หน้าตาคมขำ ผู้มีความฝันอยากจะเป็นนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ต้องพบวิกฤตชีวิตที่ ทำให้เธอต้องออกเดินทางจากบ้านทุ่ง สู่เมืองกรุงด้วยเหตุจำเป็นบางอย่าง แต่ใครจะเชื่อ ว่าด้วยเหตุจำเป็นเหตุนั้น กลับทำให้โชคชะตาของเธอต้องพลิกผลันจากก้อนดินที่ไร้ค่า กลายเป็นดาวเจิดจรัสดังที่เธอเคยฝันใฝ่ ซึ่งแน่นอนว่าหนทางสู่ดวงดาวดวงนี้นอกจากจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแล้ว ก็ยังรายล้อมไปด้วยการแก่งแย่ง ชิงดี ความโลภ ความอิจฉาริษยา ที่พร้อมจะฉุดรั้งเธอให้ต่ำลงเรื่อยๆ จะมีก็แต่เพียงความมุ่งมั่น มานะบากบั่น และกำลังใจจากคนที่เธอรักเท่านั้น ที่จะเป็นเกราะ ป้องกันให้เธอรอดพ้นจากอุปสรรคทั้งปวง เธอจะทำอย่างไร ถึงจะรักษาไว้ทั้งเกียรติยศชื่อเสียงเงินทอง และรักแท้อันมั่นคงของผู้ชายที่เธอรัก ให้ดำรงควบคู่กันไปด้วยกันได้ น้อยจำใจทิ้งร้านส้มตำ ป้าใจร้าย ญาติผู้พี่ที่จ้องจะกลั่นแกล้ง และยายคำผู้เป็นที่รักเข้าสู่เมืองกรุง พร้อมนะโม หนุ่มหน้ามนที่คอยเคียงข้างเธอเสมอมา ซึ่งก็ต้องทิ้งพลายกุดจี่ ช้างเพื่อนยากของเขามาเช่นกัน เพราะบังเอิญไปมีเรื่องกับผู้มีอิทธิพลในบ้านเกิดที่จ้องจะทำร้ายน้อย น้อยจึงถือโอกาสที่ต้องหนีในครั้งนี้ มาล่าฝันในคราวเดียวกัน ชีวิตในเมืองกรุงของน้อยและนะโมไม่ง่ายเลย โชคดีที่ยังมีเด๋อและเขียว เพื่อนสุดฮาที่คอยให้ ความช่วยเหลือทั้งคู่อยู่ตลอดเวลา เส้นทางสู่การเป็นนักร้องอย่างที่น้อยใฝ่ฝันว่าอยากจะดังอย่างดวงยิหวา นักร้องลูกทุ่งซุปตาร์ ก็ไม่ง่ายเช่นกัน น้อยต้องผ่านงานอย่างการร้องเพลงเปิดหมวก เป็นเด็กปั๊ม ล้างจาน และงานที่ยากลำบากอีก สารพัด กว่าจะหาช่องทางเข้าไปทำงานอยู่ในค่ายเพลงลูกทุ่งได้ ซึ่งก็ยังเป็นได้เพียงแดนเซอร์ แถมยังถูกดวงยิหวา กลั่นแกล้งและกดขี่ทุกครั้งที่มีโอกาส เพราะดวงยิหวาหวั่นว่าเจ๊พร เจ้าของค่ายเพลงจะปั้นน้อยขึ้นมาแทนที่ตน ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะเจ๊พรเบื่อในความอหังการของดวงยิหวาจนเกินทนแล้ว แม้ว่าคัมภีร์ ลูกชายคนเดียว ของเจ๊พรจะคอยกำราบและเกลี้ยกล่อมดวงยิหวาในฐานะเมียลับแล้วก็ตาม ดวงยิหวาก็ยังเหิมเกริมอยู่ดี ยิ่งรู้ว่าคัมภีร์หวังจะเคลมน้อยแล้ว เธอก็ยิ่งเกลียดน้อย เมื่อถึงวันที่น้อยมีโอกาสได้ก้าวขึ้นเวทีร้องเพลง จนมีชื่อเสียงโด่งดัง ก็กลับต้องมีปัญหากับนะโมอีก เพราะถูกคัมภีร์วางแผนยุยงให้ทั้งคู่ต้องห่างเหินกัน ด้วยการให้เหตุผลกับนะโมว่า สถานะของน้อยกับนะโม แตกต่างกันมากขึ้นทุกวัน นะโมอย่าฉุดน้อยให้ลงต่ำเลย นะโมจึงตีตัวออกห่างไปอย่างเศร้าใจ ดวงยิหวาหาทางทำร้ายน้อยทุกวิถีทาง ถึงขั้นจะเอาชีวิต ด้วยการตัดสายเบรครถยนต์ ทำให้น้อยประสบ อุบัติเหตุจนตาบอด และคนที่ยังคงอยู่เคียงข้างน้อยแม้ในยามทุกข์ยากเช่นนี้ ก็ยังคงเป็นนะโมคนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง น้อยกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง เพราะยายคำที่กำลังจะตาบอด สละสิทธิ์รับดวงตาที่มีผู้ บริจาคให้ หลังการผ่าตัด น้อยขอให้นะโมเป็นผู้เปิดตาให้ เพราะอยากเห็นคนรักเป็นคนแรก ทันทีที่น้อยลืมตา น้อยก็ได้เห็นน้ำตาของนะโมที่ไหลออกมาอย่างตื้นตันดีใจ น้อยและนะโมสัญญาต่อกันว่าจะไม่จากกันไปไหนอีก โดยน้อยก็ยังคงตระเวนแสดงดนตรี ต่อไปในฐานะดาวค้างฟ้า เฉกเช่นเดียวกับดวงยี่หวาพาฝัน ที่ยังคงเป็นนักร้องชื่อก้องและดาวเด่นดัง... ในทัณฑสถานหญิง

ฉันทนาสามช่า 2559

เรื่องย่อ : ฉันทนาสามช่า (2559/2016) “ไข่มุก” สาวน้อยบ้านนา ที่ชีวิตติดลบ แต่เธอไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรค ด้วยถาคาวิเศษ ขยัน อดทน และยึดมั่นในความดี ! เธอใช้เสียงเพลงบรรเลงขับกล่อมชีวิต ให้ก้าวไปข้างหน้า สร้างฝันสร้างสุขให้ตัวเอง ด้วยบทเพลงสามช่า.... ร่วมวงหรรษากับเรื่องราวชีวิตสาวๆ ฉันทนาที่รัก....ชะชาช่า!!!!!

ไข่มุก (มุก) (อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) สาวบ้านนาหน้าตาสะสวย กำลังร้องเพลงเกี่ยวข้าวกับ อำภา (พาเมล่า เบาว์เด้น) แม่ของไข่มุก ที่ขยันทำทุกอย่างเพื่อเลี้ยงครอบครัว และ ยายจันทร์ (ศิรินทรา นิยากร) ยายของไข่มุก ที่ตาบอดเป็นต้อกระจก..อดีตแม่เพลงพื้นบ้านประจำอยุธยา ที่เป็นกำลังใจและไอดอลการร้องเพลงของไข่มุก.. ไข่มุกร้องเพลงด้วยความสุขที่จะได้นำข้าวไปขายเอาเงินส่วนหนึ่งไปสมัครเรียนต่อระดับมัธยมปลายแล้วเข้ามหาวิทยาลัย เพื่อชีวิตที่ดีกว่าสาวชาวนา แต่แล้วเพื่อนบ้านมาบอกข่าวร้ายว่าพ่อของไข่มุกโดนทำร้าย ไข่มุกกลับไปบ้านเห็นภาพ พยุง (ปราบ ยุทธพิชัย) พ่อขี้เมาโดนลูกน้องเสี่ยเหมา รุมประชาทัณฑ์ ไข่มุกเข้าไปปกป้องพ่อจะเอาเรื่อง เสี่ยเหมา (ไชยกร สิทธาไชย) เสี่ยเหมา หยิบสัญญาจำนองบ้านและที่นาทั้งหมดมาขู่จะยึดทรัพย์สินทั้งหมด แมน (พัฒนะ พันธุ์เทวะ) ลูกชายอันธพาลของเสี่ยเหมา ต่อรองให้ไข่มุกยอมเป็นเมีย แล้วจะยกบ้านและที่ดินให้ ไข่มุกยืนกรานไม่ยอมแต่งงานกับคนโกง

เสี่ยเหมาจึงประกาศให้ไข่มุก หาเงินมาจ่ายคืน ไม่เช่นนั้นก็จะยึดบ้านและที่นา!!

ไข่มุก ร้องไห้เสียใจที่พ่อเอาทรัพย์สินของยายและครอบครัวไปจำนอง พยุงระบายความในใจว่าหนี้สินทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะไปกู้มาทำนาหลังเหตุการณ์น้ำท่วม เมื่อหมุนเงินไม่ทันก็ทบต้นทบดอก ยิ่งทำให้เครียดต้องกินเหล้า พยุงเสนอให้ไข่มุกไปทำงานโรงงานแถวนวนคร อาสาหาบ้านเช่าใกล้โรงงาน อำภาคิดจะขายข้าวแกงหารายได้เพิ่ม ยายจันทร์ไม่เห็นด้วยที่ทุกคนต้องไปเผชิญชีวิตใหม่ แต่ไม่สามารถคัดค้านได้เพราะไม่มีทางออกนอกจากหาเงินมาจ่ายหนี้ ยายจันทร์จะไปสานตั๊กแตน ปลาตะเพียนขายชาวโรงงานช่วยเหลือครอบครัวอีกแรง ไข่มุกมีความสุขที่จะได้อยู่กันพร้อมหน้าและสู้เพื่อชีวิตที่ดีกว่าเดิม...

ไข่มุกเข้าไปสมัครงานที่โรงงาน “แสงทองตัดเย็บ” พบเห็นแก๊งนางฟ้า แอน (สิริลภัส กองตระการ) กิ๊บ (มณฑิรา เปี่ยมรัตนวงศ์) และลำไย (แรกขวัญ จิระกุล) ใส่ร้ายว่า นารี (อัปสรสิริ อินทรคูสิน) ขโมยเสื้อผ้าในโรงงาน แก้วตา (รุ้งลาวัลย์ โทนะหงษา) ติ๊งโหน่ง (เฉลิมศักดิ์ แย้มขะมัง) เพื่อนสนิทของนารี มาช่วยปกป้อง..แต่พวกแอน ก็ค้นเจอเสื้อผ้าในกระเป๋านารี...ไข่มุกเข้ามาเป็นพยานว่าเห็นพวกแอนเป็นคนเอาของใส่กระเป๋านารี แก๊งนางฟ้าไม่พอใจเปิดศึกทะเลาะตบตีกันอลหม่านโรงอาหาร แม่บ้านตุ่ม (วนิดา แสงสุข) คว้าไม้ถูพื้นเข้าไปห้ามก็เป็นอันต้องกระเด็นกระดอนออกมา..วิ่งไปขอความช่วยเหลือจากชายหนุ่มหน้าตาดีที่กำลังกรอกใบสมัครงาน ชาตรี (โตนนท์ วงบุญ) จำต้องรีบเข้าไปห้าม โดยมี เหี่ยว (ณทรรศชัย จรัสมาส) พนักงานช่างผู้ซื่อใส และ ยามประสิทธิ์ (เทวินธวิ์ คุณารัตนวัฒน์) เป็นกองหนุนไปยุติความชุลมุนวุ่นวาย!

แอน ร้องเรียน ธีรดล (ภูษณะ บัวงาม) ทายาทคนเดียวของโรงงาน โดยสร้างเรื่องใส่ร้ายไข่มุกและพวก ธีรดลสนใจในตัวไข่มุก แต่ขัดแอนไม่ได้เพราะเขาอ่อยแอนไว้นานแล้ว ธีรดลจึงเข้าข้างแอน ชาตรีทนดูความอยุติธรรมไม่ได้ เสนอให้เอากล้องวงจรปิดมาเปิดก็จะรู้ความจริงทั้งหมด ธีรดลไม่พอใจที่ชาตรีมาสอนเขาและเขาก็ไม่ชอบหน้าชาตรีตั้งแต่แรกเห็น สั่งให้ยามประสิทธิ์ ลากตัวชาตรีออกไปจากโรงงาน

ทวีป (สามารถ พยัคฆ์อรุณ) ผู้จัดการอาวุโส รู้เรื่องสั่งให้ยามประสิทธิ์ นำเทปวงจรปิดมาเปิดดู ก็รู้ว่าต้นเหตุคือ พวกแอน ทวีปสั่งลงโทษพวกแอน ทำให้พวกแอนผูกใจเจ็บแค้นไข่มุกและพวกนารี!!

ไข่มุกขอบคุณชาตรีที่ช่วยเหลือ และเสียใจที่ทำให้ชาตรีตกงาน ไข่มุกคิดว่าทางโรงงานก็คงไม่รับเธอที่สร้างเรื่องวุ่นวาย ไข่มุกอาสาจะช่วยหางานให้ชาตรี ชาตรีนึกยิ้มในใจที่ไข่มุกไม่มีงานทำยังมีน้ำใจช่วยเหลือเขา.....เหี่ยวและยามประสิทธิ์ มาตามตัวชาตรีให้กลับไป เพราะทวีปรับชาตรีทำงานในฝ่ายช่าง แก้วตา, ติ๊งโหน่ง มาตามตัวไข่มุกไปทำงานฝ่ายตัดเย็บ....

ไข่มุกดีใจที่ได้งานทำ แก้วตาและติ๊งโหน่ง รับไข่มุกเข้ามาร่วมก๊วน แต่นารีไม่เห็นด้วย เพราะในอดีตเคยสนิทสนมกับแอน แต่แอนกลับหักหลังตั้งตัวเป็นศัตรู...นารีเชื่อว่าทุกคนอยู่เพื่อผลประโยชน์ ไม่มีมิตรแท้...ยกเว้นแก้วตาและติ๊งโหน่ง ที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นเพื่อนตาย... ไข่มุกจึงประกาศจะให้นารีเห็นว่าเธอพร้อมจะเป็นเพื่อนรักเพื่อนตายกับนารี

วิกานดา (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) โวยวายลั่นบ้าน เมื่อรู้ว่า เสี่ยกวง (สุรวุฑ ไหมกัน) อนุมัติรับชาตรีเข้าทำงาน ทั้งๆ ที่ชาตรีหักหน้าธีรดล เสี่ยกวงให้เหตุผลเพียงว่าชาตรี เป็นคนตรงไปตรงมา เขาต้องการคนแบบนี้เพื่อพัฒนางานในบริษัท แต่ทรงยศ (รวิช ไรวินท์) หัวหน้าฝ่ายช่าง ลูกน้องคนสนิทของธีรดล แอบมารายงานวิกานดาและธีรดลว่าชาตรี คือ ลูกของเมียน้อยเสี่ยกวงนั่นเอง... วิกานดารู้เรื่องนี้ก็แทบกรี๊ดบ้านแตก เพราะในอดีตนั้น.....เสี่ยกวง เคยรักกับสาวฉันทนา พิมพ์พร (น้ำทิพย์ เสียมทอง) จนตั้งท้อง พ่อแม่ของเสี่ยกวงไม่พอใจ บังคับให้เสี่ยกวงแต่งงานกับวิกานดาทันที แต่เสี่ยกวงไม่ยอมทอดทิ้งพิมพ์พร เลี้ยงดูเป็นอย่างดี จนชาตรีมีอายุ 7 ปี วิกานดากลัวชาตรีแย่งชิงสมบัติของธีรดลลูกชายตัวเองที่เกิดหลังชาตรี.. จึงหาเรื่องกลั่นแกล้งพิมพ์พร ใส่ร้ายว่าพิมพ์พรเป็นชู้กับทวีป.. พิมพ์พรไม่อยากทำให้เสี่ยกวงมีปัญหา ตัดสินใจหอบชาตรีหนีไปอยู่ที่เชียงใหม่ ตัดขาดการติดต่อเสี่ยกวง...แต่วันนี้ ชาตรีกลับเข้ามาในโรงงาน วิกานดากังวลใจว่าชาตรีตั้งใจมาทวงสมบัติในฐานะลูกชายคนโต.. วิกานดาและธีรดล จึงคิดหาทางกำจัดชาตรีออกไปจากโรงงานแห่งนี้!!

เหี่ยว และยามประสิทธิ์ ชวนชาตรี มาแชร์ค่าเช่าห้องพักด้วยกัน เหี่ยวสงสัยในความคิดอ่านของชาตรีที่ฉลาดและผิวพรรณดูดีกว่าหนุ่มเหนือบ้านไร่ ชาตรีสร้างเรื่องโกหกกลบเกลื่อน เขาไม่อยากให้ใครรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาคือ ลูกชายคนแรกของเสี่ยกวง ชาตรียอมกลับมาที่นี่เพื่อคำขอของแม่ และเขาก็อยากคอยช่วยเหลือเสี่ยกวง โดยไม่เคยหวังสิ่งใดนอกจากตอบแทนพระคุณของพ่อ....ฝ่ายเสี่ยกวงรู้ข่าวว่าพิมพ์พรเสียชีวิตก็เศร้าใจ เพราะเขารักพิมพ์พรมาก หวังว่าจะใช้เวลาที่เหลือดูแลชาตรีให้ดีที่สุด สั่งให้ชาตรีมาพักที่บ้านใหญ่ และพร้อมเปิดเผยกับทุกคนว่าชาตรีเป็นทายาทโรงงาน แต่ชาตรีขอร้องให้เขาใช้ชีวิตเหมือนคนงานทั่วไป..เพื่อเรียนรู้งาน.. ซึ่งเข้าทางวิกานดา ที่แสดงท่าทีรักและเอ็นดูชาตรี แต่แอบกดดันและกดขี่ไม่ให้ชาตรีอยู่เหนือธีรดล!

ไข่มุกเริ่มต้นชีวิตสาวโรงงานด้วยความมุ่งมั่นที่จะเก็บเงินไปให้หนี้ให้พ่อ ส่วนยายจันทร์นั่งสานตุ๊กตาขาย ร้องเพลงพื้นบ้านสร้างความสุขให้ชีวิต.. อำภาขายข้าวแกงที่ชุมชน แต่ชีวิตใหม่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ วันเพ็ญ แม่ค้าส้มตำประจำซอย ซึ่งเป็นป้าของแอน ไม่พอใจที่อำภามาแย่งลูกค้าคอยขัดขวางกลั่นแกล้งอำภา โดยมีแก๊งนางฟ้าแอน กิ๊บ ลำไยเป็นดรีมทีม ไข่มุกต้องออกโรงปกป้องแม่ แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ ไข่มุกโดนพวกแอนเล่นงานอย่างหนัก ชาตรี เหี่ยว เข้ามาช่วยไข่มุก ยิ่งทำให้พวกแอนเกลียดไข่มุก เพราะกิ๊บและลำไยหมายปองชาตรีและเหี่ยว!

ชาตรีเป็นห่วงไข่มุก อาสาเป็นบอดี้การ์ดประจำตัวไข่มุก พร้อมต่อรองขอกินข้าวฟรีทุกมื้อ.. ไข่มุกชวนแก้วตา ติ๊งโหน่ง ทำอาหารเลี้ยงพวกชาตรี...และร่วมร้องเพลงสนุกสนาน... แมนเห็นไข่มุกอยู่กับชาตรีก็โวยวายว่าชาตรีมาแย่งไข่มุก แก้วตารีบออกตัวว่าชาตรีไม่ได้จีบไข่มุก ชาตรีมาจีบเธอ (แก้วตาคิดอย่างนั้นจริงๆ) แมนจึงเข้าแทะโลมไข่มุก โดยมี ช่อน (บุญชู อิมโพรไวซ์) และอ๊อด (ปรเมศ สามารถ) ลูกน้องของแมนคอยกันท่าไม่ให้ไข่มุกหนีไปไหน....ชาตรี เหี่ยว และยามประสิทธิ์ จึงร่วมมือกับพวกแก้วตา...บาทาชุมนุมใส่พวกแมน..วิ่งแจ้นหนีไปฟ้องเสี่ยเหมา!!

เสี่ยเหมาบุกมาต่อว่าพยุง ที่ผิดสัญญาจะเปิดทางให้แมนจับไข่มุกเป็นเมีย อำภา ยายจันทร์ จึงรู้ความจริงว่าพยุง ย้ายครอบครัวมาอยู่ที่นี่เพราะวางแผนร่วมกับเสี่ยเหมา..ไข่มุกเสียใจที่พ่อทำร้ายความรู้สึกเธอ จะกลับไปอยู่อยุธยา แต่อำภาห้ามไว้ และขอให้โอกาสพ่อได้แก้ตัวและเร่งหาเงินไปใช้หนี้.. ไข่มุกจึงขู่แมน หากมายุ่งกับเธออีก ไข่มุกจะแจ้งความว่าแมนข่มขืน เสี่ยเหมากลัวลูกติดคุกสั่งให้แมนอยู่ห่างๆ ไข่มุกไว้ก่อน!

ไข่มุกเข้าไปทำงานที่โรงงาน ก็โดนพวกแอนกลั่นแกล้ง แก้วตาและติ๊งโหน่งคอยช่วย และมีแม่บ้านตุ่มร่วมเป็นพันธมิตร แต่นารียังไม่เปิดใจรับนารีเป็นเพื่อน..จนกระทั่งไข่มุกเห็น นิคม (เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์) พ่อเลี้ยงวัยหนุ่มเสเพลของนารีทำร้าย ประไพ (นาตยา จันทร์รุ่ง) แม่ของนารี ที่รักนิคมหักปักหัวปำ ไข่มุกเข้าไปช่วย และร่วมหาทางออกแก้ปัญหาให้นารี.. นารีจึงเปิดใจรับไข่มุกเป็นเพื่อน....ทุกคนสัญญาจะช่วยเหลือกัน ทำมาหากิน เพื่อสร้างชีวิตใหม่ให้ดีกว่านี้!!

ไข่มุกจะหาเงินไปใช้หนี้ เอาบ้านและที่นาคืน! พาครอบครัวกลับไปใช้ชีวิตที่อยุธยา!! นารีจะหาเงินก้อนให้นิคมออกไปจากชีวิตประไพ!! แก้วจะหาเงินก้อนส่งเสียน้องให้เรียนสูงๆ!! ส่วนติ๊งโหน่งอยากหาเงินเลี้ยงดูพ่อ...ทำให้พ่อภูมิใจในตัวเธอ ทุกคนร่วมกันดื่มน้ำสาบานจะเป็นเพื่อนรัก ช่วยกันชะชาช่าให้ชีวิตดีกว่านี้....และตั้งชื่อแก๊งนี้ว่า แก๊งฉันทนาสามช่า!

ธีรดล ยังคงลายเจ้าชู้หว่านเสน่ห์ไปทั่วโรงงาน รวมทั้งนารี...นารีเคลิ้มฝันว่าธีรดลจริงใจกับเธอ เขาจะทำให้ชีวิตเธอสุขสบาย... เหี่ยวคอยเตือนสติ แต่นารีไม่เชื่อ คิดว่าเหี่ยวกีดกันเพราะเหี่ยวชอบเธอ ไข่มุกก็ไม่ไว้ใจธีรดล เพราะบ่อยครั้งที่ธีรดลแอบขายขนมจีบไข่มุกด้วย..ไข่มุกและเพื่อนๆ คอยปรามนารี นารียิ้มรับคำแต่ก็ยังคบหาลับๆ กับธีรดล....

พวกแอนอยากทำลายแก๊งฉันทนาสามช่าให้แตกคอกัน จึงหยิบเรื่องธีรดลมาทำลายความสัมพันธ์ของเพื่อน..สร้างสถานการณ์ใส่ร้ายไข่มุกจะแย่งธีรดล นารีโกรธไข่มุกมาก ประกาศตัดขาดความเป็นเพื่อน..แล้วไปร่วมแก๊งนางฟ้ากับแอน....พวกแอนพอใจที่แผนแรกสำเร็จ และคิดใช้แผน 2 กำจัดนารีเป็นรายต่อไป!!

เหี่ยวทนเห็นกลุ่มเพื่อนรักแตกคอกันไม่ได้ ขอร้องให้ชาตรีร่วมแผนเคลียร์ใจ ให้ชาตรี นัดหมายไข่มุก ส่วนเหี่ยวไปหานารีแล้วพาทั้ง 2 มาเคลียร์ แต่ระหว่างนั้นมีชายฉกรรจ์จะขืนใจนารี พวกไข่มุกเข้าไปช่วยไว้ได้ เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้เพื่อนรักกลับมากอดคอกันได้อีกครั้ง และสาบานต่อหน้าครกตำมั่ว...จะรักกันประหนึ่งน้ำปลาร้าอยู่คู่ส้มตำ! โดยไม่มีใครรู้ว่าแอนเป็นคนจ้างชายโฉดไปขืนใจนารี หวังกำจัดนารีออกห่างธีรดล!!

ไข่มุกทำงานอย่างหนัก เก็บเงินได้มากขึ้น.. อำภาก็ข้าวแกงได้ดี ยายจันทร์ก็เป็นขวัญใจชาวโรงงานที่มักยกขบวนมาฟังยายจันทร์ร้องเพลงฉ่อยเพลงแหล่....พร้อมอุดหนุนตุ๊กตาใบลาน ไข่มุกรวบรวมเงินไปจ่ายเสี่ยเหมาก้อนแรกได้ แมนกลัวจะเสียไข่มุกสั่งให้เสี่ยเหมากดดันพยุง พยุงจึงรับปากจะจัดฉากให้แมนเข้าหาไข่มุก โดยพยุงพาอำภาและยายจันทร์ออกไปกินข้าวนอกบ้าน แต่ยายจันทร์แปลกใจในพฤติกรรมของพยุง บอกให้ชาตรีมาอยู่เป็นเพื่อนไข่มุก คืนนั้นพวกแมนบุกเข้าหาไข่มุก ก็โดนเหี่ยว ยามประสิทธิ์ ซ้อนแผน ชาตรีช่วยไข่มุกไว้ได้

ยายจันทร์สืบรู้ความจริงว่าพยุง วางแผนร่วมกับเสี่ยเหมา ก็ทะเลาะกับพยุง ...พยุงเมาเหล้าพลั้งมือผลักยายจันทร์ล้มลงหัวกระแทกพื้นอย่างแรง ยายจันทร์เจ็บหนักต้องนอนรักษาตัว...ในขณะที่ไข่มุกเก็บตัวอยู่โรงงานฝึกซ้อมร้องเพลงประกวด ฉันทนาเสียงทอง! อำภาคิดจะไปบอกไข่มุกให้ถอนตัวการประกวดกลับมาดูแลยายจันทร์ แต่ยายจันทร์ขอร้อง เพราะรู้ดีว่าไข่มุกฝันจะเป็นนักร้อง....พยุงเห็นสภาพยายจันทร์ที่ทรุดหนักก็สำนึกผิด...แอบไปบอกไข่มุก ไข่มุกตัดสินใจทิ้งการประกวดกลับไปดูใจยายจันทร์ ยายจันทร์ยังคงยิ้มให้ไข่มุก และร้องเพลงชีวิตคือ บทเพลง ชีวิตที่ต้องเดินไปตามเสียงดนตรี แล้วยายจันทร์ ก็ตายในอ้อมกอดของไข่มุก....

ไข่มุกเสียใจอย่างหนักหมดกำลังใจที่จะใช้ชีวิตต่อ เพราะไม่สามารถเอาบ้านและที่นามาให้ยายได้ ชาตรีและเพื่อนๆ คอยให้กำลังใจ ให้นึกถึงคำพูดของยาย ชีวิตต้องสู้ต่อไป....จิตวิญญาณของยายอยู่ในตัวไข่มุก ไข่มุกได้สติเดินหน้าประกวดนักร้องฉันทนาเสียงทองต่อไป

ช่วงเวลานี้เองที่ไข่มุกและชาตรีได้ใกล้ชิดและคอยช่วยเหลือกัน ชาตรีแต่งเพลง “ฉันจะสู้ตรงนี้” เพื่อให้ไข่มุกใช้ประกวดในรอบตัดสิน และชาตรีก็ตั้งใจจะบอกความจริงว่าเขาเป็นใคร แต่ก็ไม่มีโอกาส..ธีรดลไม่พอใจที่เห็นชาตรีใกล้ชิดไข่มุก สั่งลูกน้องทำระบบไฟฟ้าภายในโรงงานล่ม ความเสียหายที่เกิดขึ้นอยู่ในความรับผิดชอบของชาตรี...วิกานดาจึงไล่ชาตรีออก พนักงานทุกคนเสียใจ เพราะรู้ดีว่าชาตรีเป็นคนขยันและไม่เคยคิดทำลายโรงงาน แต่ยามประสิทธิ์และเหี่ยวนำหลักฐานมาแฉว่าทรงยศเป็นคนทำลายระบบไฟฟ้า...และผู้อยู่เบื้องหลังคือ ธีรดล..

เสี่ยกวงโกรธมากสั่งลดตำแหน่งของธีรดล แล้วบอกทุกคนว่าชาตรีเป็นลูกชายจะให้ชาตรีมาบริหารงาน แต่ชาตรีประกาศลาออก ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับโรงงานนี้อีก เพราะน้อยใจคิดว่าเสี่ยกวงไม่ได้รักเขา เสี่ยกวงทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง...

ไข่มุกช๊อคมากที่รู้ว่าชาตรีเป็นลูกชายเจ้าของโรงงาน บุกไปด่าชาตรีที่บ้านพักไม่พอใจที่ปิดบังเพื่อนสนิท ชาตรีขอโทษและออกตัวว่าพยายามจะบอกหลายครั้งแล้ว แต่ไข่มุกก็คิดว่าเขาพูดเล่น... ไข่มุกขอร้องให้ชาตรีกลับไปดูแลเสี่ยกวง เสี่ยงกวงเสียใจป่วยหนัก และทวีปมาเฉลยความจริงว่าเสี่ยกวงรักชาตรีมาก ตามหาชาตรีนานแล้วแต่โดนวิกานดากีดกัน... ชาตรีจึงยอมกลับไปกราบเท้าขอโทษเสี่ยกวง..เสี่ยกวงน้ำตาคลอยอมรับความผิดพลาดทั้งหมดและไม่ทำให้ใครต้องเสียใจอีก....

วิกานดาไม่เห็นด้วยที่จะยกงานให้ชาตรีบริหาร ขอให้ธีรดลได้แก้ตัวอีกครั้ง เสี่ยกวงจึงมีคำสั่งให้ชาตรีและธีรดลคิดแผนงานพัฒนาโรงงาน หากผลงานของใครดีกว่าก็จะได้เป็นผู้บริหาร ไข่มุกและแก๊งฉันทนาสามช่า เชียร์ชาตรี ส่วนพวกแก๊งนางฟ้าก็เชียร์ธีรดล..

ธีรดลวางนโยบายควบคุมการทำงานที่เข้มงวด หวังให้พนักงานสร้างผลงานให้คุ้มค่าทุกวินาที ในขณะที่ชาตรีเสนอแผนงานพัฒนายกระดับจิตใจชาวโรงงาน พาฉันทนาไปทำกิจกรรมสัมพันธ์ชุมชน โดยเลือกพื้นที่บ้านเกิดของไข่มุกที่อยุธยา...เพราะชาตรีเชื่อว่าหากชาวฉันทนามีความสุขกับชีวิต ก็จะทำให้มีพลังในผลิตงานได้มากขึ้น....ซึ่งแผนงานของชาตรี ทำให้ชาวฉันทนามีความสุขและตั้งใจทำงานมากขึ้น ทุกคนมีใจรักโรงงานพร้อมจะเสียสละ โดยไม่มีเงื่อนไข.....เสี่ยกวงชื่นชมผลงานของชาตรี ทำให้ธีรดล และวิกานดา ผิดหวัง...คิดแก้แค้นชาตรี!!

แมนเห็นไข่มุกสนิทสนมกับชาตรีมากขึ้น ตัดสินใจจะไปฉุดไข่มุก พยุงรู้แผนการเข้าไปห้ามและขัดขวาง ไม่ยอมให้พวกแมนมาทำร้ายลูกอีกแล้ว และจะไปแจ้งความจับเสี่ยเหมาที่เปิดบ่อนพนัน ทำสัญญาโกงชาวบ้าน เสี่ยเหมาและแมนจึงจับพยุงกดน้ำตาย แล้วให้การว่าพยุงเมาเหล้าตกน้ำตาย!!

ไข่มุกรู้ว่าพ่อพยายามจะกลับตัวกลับใจมาทำมาหากินแต่ก็ต้องมาตาย ทำให้ไข่มุกท้อใจไม่อยากทำงานไม่อยากประกวดอีกแล้ว...อำภาเข้ามาไล่ให้ไข่มุกออกไปจากบ้าน ถ้าไม่ประกวดก็ไม่ใช่ลูกแม่ อำภาบอกให้ไข่มุกนึกถึงคำพูดของยายจันทร์ ตราบใดที่ยังมีลมหายใจชีวิตไม่เคยไร้ความหวัง..ไข่มุกจึงยอมไปประกวดร้องเพลง ชาตรีมอบเพลงที่แต่งขึ้นให้ไข่มุกร้องในรอบสุดท้าย!

แอนลงสมัครหวังชิงเงินรางวัลหลายแสนบาท....กลัวจะแพ้ไข่มุกเสนอตัวตกเป็นของธีรดล เพื่อให้ธีรดลตัดชื่อไข่มุกออกจากการแข่งขัน แต่ชาตรีเสนอชื่อไข่มุกขึ้นประกวด เพราะเขาเป็นผู้บริหารโรงงานมีสิทธิ์เสนอชื่อผู้แข่งขัน แอนใช้แผน 2 ให้กิ๊บและลำไยทำให้ไข่มุกบาดเจ็บขึ้นไปร้องเพลงไม่ได้ กิ๊บและลำไยเห็นว่าแอนทำรุนแรงเกินไป ยอมไปบอกความจริงกับนารี แก้วตา ติ๊งโหน่ง ทุกคนจึงซ้อนแผนทำให้แอนเป็นฝ่ายตกเวทีบาดเจ็บเสียเอง..แอนผิดหวังที่ไม่ได้เงินแสน... แสดงตัวเป็นเมียของธีรดล ธีรดลปฎิเสธเสียงแข็งไม่ยอมรับ โบ้ยว่าชาตรีเป็นสามีของแอน แอนยอมเล่นตามน้ำเพราะอย่างน้อยชาตรีก็เป็นทายาทเจ้าของโรงงาน...ทำให้ไข่มุกผิดหวังในตัวชาตรี.....ไม่นานนัก...ชาตรีหาหลักฐานมายืนยันความบริสุทธิ์ใจได้.. ทุกคนจึงรู้ความจริงว่าแอนตกเป็นของธีรดล... วิกานดาต้องใช้เงินปิดปากแอน แล้วไล่แอนออกไปจากโรงงาน แอนจึงไปทำงานโรงงานเสี่ยชัท (เวนช์ ฟอลโคเนอร์) คู่แข่งของเสี่ยกวง!

วิกานดาผิดหวังในตัวธีรดล ล้มป่วยหนัก ชาตรีคอยเข้าไปดูแล ทำให้วิกานดาน้ำตาตก ซึ้งในความดีของชาตรี ที่ชาตรีไม่เอาเรื่องธีรดล แล้วยังมีน้ำใจมาดูแลเธอ ชาตรีสารภาพว่าเขาห่วงใยเพราะแม่พิมพ์พร สอนให้เขากตัญญูต่อวิกานดาที่เป็นภรรยาของพ่อ และธีรดลก็มีศักดิ์เป็นน้องชาย....วิกานดา สำนึกผิดเปิดใจรับชาตรีเป็นลูกอย่างสนิทใจ.. ทำให้ธีรดลยิ่งเกลียดชาตรีหาทางกำจัดชาตรี!!

ไข่มุกได้เป็นตัวแทนโรงงานไปประกวดร้องเพลงระดับประเทศ เจอกับแอนในฐานะคู่แข่ง ไข่มุกรู้ว่าแอนกำลังตั้งท้อง ชีวิตลำบากมาก ไข่มุกตัดสินใจถอนตัวจากการประกวดทำให้แอนซึ้งน้ำใจ เสียใจที่เคยทำร้ายไข่มุก ไข่มุกให้ข้อคิดให้แอนสู้เพื่อลูก..... แม้ว่าไข่มุกจะไม่ได้รางวัลชนะเลิศ แต่ระหว่างการประกวดไข่มุกได้ไปออกรายการวิทยุของ ดีเจทองคำ (ปิยะ ตระกูลราษฎร์) และ ดีเจอ้อยควั่น (อุบลวรรณ บุญรอด) เจ้าของรายการลำนำเพลง ไข่มุกเล่าชีวิตของเธอที่จะทำงานหาเงินไปปลดหนี้ไถ่บ้านและที่นา.....ทำให้ประชาชนที่ได้ฟังต่างร่วมกันบริจาคเงิน เพื่อช่วยเหลือชาวฉันทนาที่ลำบาก เกิดกองทุนฉันทนา เพื่อช่วยเหลือชาวฉันทนาในการปลดหนี้เพื่อครอบครัว!!

ไข่มุกนำเงินที่ได้จากการทำงานและเงินที่ชาวโรงงานร่วมแรงร่วมใจลงขันให้ไข่มุก เอาไปจ่ายเสี่ยเหมา เสี่ยเหมาโกงสัญญาเปลี่ยนตัวเลขเงิน พวกชาตรีหาหลักฐานมายืนยันว่าเสี่ยเหมาโกงจะแจ้งความเอาเรื่อง เสี่ยเหมากลัวติดคุกจึงต้องยอมขายคืนไข่มุกในราคาที่ไข่มุกพึงพอใจ! ไข่มุกพาแม่กลับไปอยู่บ้าน และชวนเพื่อนๆ ร่วมหว่านกล้าข้าวเริ่มต้นชีวิตใหม่..ธีรดลวางแผนกับแมนจับตัวไข่มุกมาทำเมีย....แต่ธีรดลก็หักหลัง ทำให้แมนโดนพวกชาตรีเล่นงาน ส่วนธีรดลจับตัวไข่มุกหนีไป ชาตรีและแก๊งฉันทนารวมทั้งกิ๊บและลำไยที่มาเป็นพวกเดียวกับไข่มุก ขี่รถอีแต๋นไล่ล่าธีรดล ธีรดลจะทำร้ายไข่มุก แอนเข้ามาช่วยไข่มุก เพราะสำนึกในความดีของไข่มุก แอนขอร้องให้ธีรดลกลับใจมาเลี้ยงดูลูกในท้อง แต่ธีรดลไม่ยอมมอบตัว...ยิงต่อสู้ ธีรดลจึงโดนตำรวจยิงบาดเจ็บและจับเข้าคุก!!!

วิกานดาเสียใจที่ธีรดลหลงผิด แต่ก็รอคอยให้ธีรดลออกจากคุก หวังว่าธีรดลจะกลับตัวกลับใจมาเป็นพ่อที่ดีของลูกที่เกิดร่วมกับแอน..เสี่ยกวง ยกงานบริหารทั้งหมดให้ชาตรีดูแล....ชาตรีแต่งตั้งเหี่ยวเป็นเลขา..จะแต่งตั้งยามประสิทธิ์เป็นหัวหน้าคนงาน แต่ยามประสิทธิ์ปฎิเสธ ขอทำหน้าที่ยาม...ทำในสิ่งที่รัก!

ไข่มุกขอลาออกจากโรงงาน เพื่อกลับไปทำนา ชาตรียอมให้ลาออก โดยมีข้อแม้ว่าต้องมาสมัครเป็นภรรยาของชาตรี ไข่มุกจึงยื่นใบลาออกจากโรงงานทันที เป็นศรีภรรยาของชาตรี.......

นารีได้ค้นพบรักแท้ คือ เหี่ยว...ผู้ชายที่รักเธอเสมอต้นเสมอปลาย...และช่วยกำจัดพ่อเลี้ยงเลวๆ ออกไปจากชีวิตแม่ประไพ

แก้วตารอคอยที่จะถ่ายรูปวันรับปริญญาของน้องอย่างมีความสุข...

ส่วนติ๊งโหน่งสามารถทำให้พ่อภูมิใจ และยอมรับในเพศที่ 3 ของติ๊งโหน่ง

ชาวฉันทนายังคงดำเนินชีวิตต่อไป... เพื่อไปสู่เป้าหมายในชีวิต.....ด้วยบทเพลง...แห่งความขยัน อดทน และยึดมั่นในความดี.... ฉันทนา...ชะชาช่า!!!!!

เรื่องย่อ : สวัสดีความสุข (2566/2023) เมื่อกลุ่มแฟนคลับทั้ง 6 บัญชี แพตตี้ (นันท์นภัส เลิศนามเชิตสกุล) นักเขียนวายตัวแม่ เจ๊หุย (จรรยา ธนาสว่างกุล) คุณป้าหัวหน้าบ้านที่ตามถ่ายภาพศิลปินตามงานต่างๆ ปอปอ (กรภัทร์ ลำน้อย) นักเต้นเลียนแบบศิลปินในตำนาน และ เลม่อนเนด (วรินทร์ธร) พาหุยุทธ์) ติ่งสายงานผลิตชื่อดัง มารวมตัวกันในโลกทวิตเตอร์ หลังมีข่าวลือว่า นะนาย (ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์) น้องเล็กสุดน่ารัก สดใส ร่าเริงของวง ซีเครตดรีม ศิลปินกลุ่มชายชื่อดังของเมืองไทย เคยกลั่นแกล้งรังแกผู้อื่นทั้งทางวาจาและร่างกายคนอื่นสมัยมัธยม ซึ่งทั้ง 6 เชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะนอกจากน้องจะขยันขันแข็ง แถมความสามารถยังรอบด้าน ร้องเล่นเต้นละครได้หมด นะนายยังเป็นเด็กจิตใจดีที่ไม่มีวันออกนอกลู่นอกทางเด็ดขาด วันหนึ่ง @NongNinN9 1 ใน 6 บัญชีออกมาทวิตว่าเธอป่วยเป็น โรคมะเร็ง และอยากเจอกับนะนายอีกซักครั้งก่อนตาย สมาชิกกลุ่มที่เหลือก็อดรนทนไม่ได้ ทั้งหมดลองอีเมลล์ติดต่อกับบริษัทเรื่องก็เงียบหาย คิดคำนวณยังไงก็เหลืออยู่แค่วิธีการเดียว คือกลุ่มแฟนคลับต้องลักพาตัวศิลปินไปหาแฟนคลับด้วยตัวเอง ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากแผนการทุกอย่าง พร้อม รถตู้ย้อมแมวจอดหน้าหอพักศิลปิน พร้อม แต่แก๊งติ่งทั้ง 4 คน ไม่พร้อม นอกจากแอคเคาท์ @RealNa9Official สมาชิกคนสุดท้ายจะไม่โผล่หัวมาตามนัดแล้ว พวกเขาและเธอยังเพิ่งได้ตระหนักได้ว่า ทุกสิ่งที่ทำอยู่ทั้งโลกสวยและคิดตื้นเกินไป แต่ขี่หลังเสือแล้วคงถอยหลังกลับไปไม่ได้ เมื่อนะนาย-ตัวจริงเสียงจริงมายืนตาแป๋วอยู่หน้ารถตู้ พวกเขาจึงเลือกเอ่ยถามตรงๆ ขอความสมัครใจ รถตู้คันนี้จะลักพาตัวคุณไปหาแฟนคลับที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย คุณจะไปด้วยไหม นะนายพยักหน้าตอบรับและยอมขึ้นรถแต่โดยดี และแล้วการเดินทางสุดอลหม่านก็เริ่มต้นขึ้น

เพลิงดาว (2558/2015) เมื่อคนเราถูกเกียรติยศ ชื่อเสียง ไฟปรารถนา ความริษยา ครอบงำชีวิต ทำให้แต่ละครต้องมีบทสรุปจากการกระทำที่แตกต่างกันไป ในม่านของวงการมายา มณฑิกา (รับบทโดย แตงโม-ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์) เด็กสาวที่มีความฝัน อยากจะทำงานเลี้ยงครอบครัว ได้เข้ามาคลุกคลีอยู่เบื้องหลังวงการบันเทิง และมีวุฒิชัย (รับบทโดย บอม-ธนา เอี่ยมนิยม) ผู้ใฝ่ฝันจะเป็นนักเขียนบท อย่างมุ่งมั่น เพื่อจะได้ดูแล มณฑิกา โดย มณฑิกา แอบปลื้ม รดา (รับบทโดย พิม-ซอนย่า คูลลิ่ง) นักแสดงในดวงใจอยู่แล้ว พอได้มาเจอรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ได้เข้ามาช่วยงานเบื้องหลังกองถ่ายจนได้มีโอกาสใกล้ชิดกับรดา ดาราคนโปรดของเธอ แต่แล้วก็ต้องผิดหวัง เมื่อเธอ ถูกรดา ดาราในดวงใจที่วาดฝันเป็นนางฟ้าในใจมาโดยตลอด ได้ต่อว่าดูถูกดูแคลน เพียงเพราะความซุ่มซ่ามเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำให้ทัศนคติที่มีต่อดาราคนโปรดและวงการบันเทิงได้เปลี่ยนไป ต่อมาจึงพยายามหาหนทางเข้าสู่วงการบันเทิง โดยการแคสงาน ผ่านการเวลาประกวดต่าง ๆ แต่ก็ถูกรดากีดกันออกไป จนมณฑิกา ได้พบกับ อุ้ยอ้าย (รับบทโดย ม้า-อรนภา กฤษฎี) นักปั้นมือทองของวงการบันเทิงที่เคยเป็นเพื่อนสนิทกับรดา แต่ถูกหักหลัง จึงทำให้อุ้ยอ้ายและมณฑิกา มีเป้าหมายเดียวกันคือการล้มบัลลังก์ดาวของนางเอกค้างฟ้าอย่างรดาลงให้ได้ อุ้ยอ้ายจึงได้ปลุกปั้นมณฑิกา เข้าสู่วงการบันเทิงจนมีชื่อเสียง โดยต้องยอมแลกศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงเพื่อให้ได้บทนางเอกมาครอบครองจนมีชื่อเสียงโด่งดัง ส่วนรดาแสดงซีรีส์ข้ามฟ้ามารักคู่กับพระเอกใหม่ ชายชาญ ลูกชายนักการเมืองชื่อดังและเกิดการชอบพอกันกลางกองถ่ายโดยไม่มีใครรู้ หลังจากซีรีส์ข้ามฟ้ามารักปิดกล้องรดาก็ควงกับชายชาญอยู่พักหนึ่งก่อนที่ชายชาญจะกลับไปเรียนต่อ โดยที่เขาบอกให้เธอรู้ความจริงว่าเขามีภาระที่ต้องรับผิดชอบรออยู่ที่อเมริกานั่นคือภรรยาและลูกชายวัยสองขวบ สองเดือนต่อมารดาก็พบว่าเธอท้องกับชายชาญ เธอหยิ่งเกินกว่าที่จะเรียกร้องขอความรับผิดชอบจากเขาเธอจึงตัดสินใจจะแก้ปัญหาเอง รดาปรึกษากับ อรอนงค์ เพื่อนนักแสดงหญิงที่เธอสนิทที่สุด อรอนงค์ห้ามไม่ให้รดาเอาเด็กออก รดาบอกว่าเธอก็ไม่คิดจะทำแบบนั้นเหมือนกัน อรอนงค์แนะนำว่ารดาควรจะออกข่าวว่าเธอเหนื่อยกับงานแสดงและอยากจะพักสักระยะนึง หลังจากนั้นรดาจะหลบไปคลอดลูกที่เมืองนอกหรือว่าจะอยู่เมืองไทยก็ตามใจ รดาจึงตัดสินใจบินไปเมืองนอกไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษกับพ่อและแม่ของเธอที่ทำธุรกิจอยู่ที่นั่น เพราะเธอไม่อยากให้คนไทยแม้แต่คนเดียวเห็นตอนที่เธออุ้มท้อง รดาคลอดลูกเป็นผู้ชายและก็ตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่อังกฤษได้ปีเศษกับลูกชายและพ่อแม่ของเธอ แต่ความสุขก็อยู่กับเธอไม่นานเมื่อเธอต้องสูญเสีย พอล ลูกชายวัยเกือบสองขวบไปด้วยอุบัติเหตุ ทำให้รดาไม่สามารถที่จะอยู่ที่อังกฤษอีกต่อไปได้ เธอจึงเดินทางกลับประเทศไทยทันทีที่เสร็จสิ้นงานศพลูกชาย และเมื่อกลับมาถึงเมืองไทยเธอก็พบว่าตัวเธอนั้นกลายเป็นแค่อดีตนางเอกชื่อดังของวงการบันเทิงไปเสียแล้วและนางเอกเบอร์หนึ่งของวงการก็คือมณฑิกา รดานัดพบกับศศิลป์ บอกว่าเธอจะออกเงินสร้างหนัง ให้ศศิลป์เป็นผู้กำกับฯ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องเอามณฑิกามาเล่นประกบกับเธอ ศศิลป์แปลกใจมากเขาถามเธอว่าจะทำอะไรตั้งใจจะฆ่ามณฑิกาใช่มั้ยเพราะยังไงฝีมือการแสดงของมณฑิกาก็ยังห่างจากรดามากนัก รดาตอบว่าถ้ามณฑิกาจะถูกฆ่าก็เป็นเพราะว่าฝีมือไม่ถึงเอง รดาปรึกษากับอรอนงค์เรื่องสร้างหนังและขอให้อรอนงค์บอกธัญเทพช่วยติดต่อคนเขียนบทมือดีให้ ธัญเทพเลยพาวุฒิชัยไปพบรดา เมื่อแรกพบรดารู้สึกว่าวุฒิชัยช่างมีลักษณะละม้ายกับชายชาญเหลือเกินทำให้เธอรู้สึกชื่นชอบเขาอยู่ลึก ๆ และเมื่อได้อ่านงานของวุฒิชัยเธอก็พอใจมาก รดามีข้อแม้ในการเขียนงานว่าวุฒิชัยจะต้องเข้ามาอยู่ในบ้านของเธอในระหว่างการเขียนงานเพราะเธอต้องการรู้ความเคลื่อนไหวทุกขั้นตอนของงาน และห้ามวุฒิชัยรับงานอื่นในขณะที่เขียนงานให้เธอซึ่งเธอจะจ่ายค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวนมากพอดู วุฒิชัยรับข้อเสนอของเธอทุกอย่างเขาคิดเพียงแต่ว่าถ้าเขาเขียนงานนี้ได้สำเร็จเขาก็จะมีชื่อเสียงทันที รดาบอกว่าให้วุฒิชัยคิดเรื่องขึ้นมาเองแต่ต้องมีการเชือดเฉือนอารมณ์กันระหว่างเธอกับมณฑิกา วันหนึ่งรดาขับรถกลับจากข้างนอกและถูกคนร้ายดักจี้ที่หน้าทางเข้าบ้าน วุฒิชัยกลับมาพอดีและมาช่วยเอาไว้ คนร้ายทำปืนลั่นใส่รดาก่อนที่จะหนีไปได้ วุฒิชัยรีบพารดาส่งโรงพยาบาล หมอบอกรดาเสียเลือดมากต้องการเลือดด่วนแต่ว่าทางโรงพยาบาลไม่มีเลือดสำรองบังเอิญเป็นเลือดกรุ๊ปเดียวกับวุฒิชัยชายหนุ่มเลยถ่ายเลือดให้รดาจนตัวเองเป็นลมไป รดาฟื้นขึ้นมาในห้องพักฟื้นของโรงพยาบาล พอเธอรู้ว่าวุฒิชัยช่วยชีวิตเธอเอาไว้ด้วยการถ่ายเลือดให้จนเขาเป็นลมไปเธอก็รู้สึกดีกับวุฒิชัยมากขึ้นไปอีก วุฒิชัยทำให้รดาเปลี่ยนแปลงไป เธออ่อนโยนขึ้นและมีความรัก เธอรักวุฒิชัยและคิดว่าวุฒิชัยก็รักเธอเช่นกัน มณฑิกาขอเลิกความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับศศิลป์ เธอบอกว่าเธอรักกับวุฒิชัยและคิดว่าจะแสดงหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้าย ศศิลป์บอกว่าเขารู้ดีว่าความจริงเป็นอย่างไร มณฑิกาอย่ามาโกหกเลย ศศิลป์เตือนมณฑิกาว่าอย่าทำตัวเป็นหมาล่าเนื้อให้บ่อยนัก สักวันจะไม่เหลือเนื้อซักก้อนแม้แต่ก้อนเล็ก ๆ ศศิลป์ยอมเลิกกับมณฑิกาทั้ง ๆ ที่รักเธอมาก เขาบอกว่านี่อาจจะเป็นหนังเรื่องสุดท้ายสำหรับเขาเหมือนกัน รดาถามวุฒิชัยถึงเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับมณฑิกา วุฒิชัยยอมรับความจริงรดาจึงขอเลิกความสัมพันธ์แบบนั้นกับวุฒิชัยแม้ว่าเธอจะเจ็บปวดมากก็ตาม ในหนังที่กำลังเล่นนั้นรดาเป็นผู้ชนะได้ครอบครองพระเอกแต่ในชีวิตจริงเธอคือผู้พ่ายแพ้ แต่บทสรุปของเหล่าผู้คนในม่านมายายังมิได้สิ้นสุด หากแต่มีบทสรุปที่ต่างไม่มีใครสามารถมีความสุขเช่นเคยได้อีกต่อไป ติดตามการประชันบทบาทของสงครามดาวได้ใน ละครเพลิงดาว

เพลงรักเพลงลำ 2558

เรื่องย่อ : เพลงรักเพลงลำ (2558/2015) เพลงลำ สาวสวยเข้มดุเป็นลูกสาวคนเดียวของ บัวสาย แม่เพลงลำตัดคนดังของบ้านบางลำสุพรรณบุรี ตั้งแต่จำความได้เพลงลำมีเพียงแม่บัวสายกับ น้าบัวเผื่อน ที่เลี้ยงดูเธอมา เธอไม่รู้จักพ่อ หรือที่จริงแล้วไม่มีใครรู้ว่าพ่อของเธอเป็นใคร นอกจากแม่บัวสายซึ่งไม่ยอมพูดถึงสักครั้ง วันหนึ่งเมื่อเพลงลำยังเด็กบัวสายกลับจากเล่นลำตัด พบเด็กหญิงวัยแบเบาะคนหนึ่งถูกทิ้งไว้ที่พุ่มไม้หน้าบ้าน บัวสายสงสารจึงอุปการะเลี้ยงดูเรื่อยมา เธอตั้งชื่อให้ว่า ไข่กา เด็กทั้งคู่เติบโตมาด้วยกันเป็นทั้งเพื่อนทั้งพี่และน้อง เพลงลำสวย มีสง่าเสียงดีเหมาะที่จะหัดเล่นลำตัด แต่เธอไม่ยอม ไม่ว่าบัวสายจะบังคับอย่างไรก็ตาม

เพลงลำกลับชอบที่จะหัดชกมวยไทยกับน้าบัวเผื่อนมากกว่าและทำได้ดีเสียด้วย นอกจากนั้นยังเก่งเรื่องเครื่องยนต์รถ ไถนาและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพราะเป็นลูกมือให้น้ามาตั้งแต่เด็ก ๆ ตรงข้ามกับไข่กาที่อยากจะเป็นลำตัดเหลือเกินทั้งที่ไม่สวยและเสียงไม่ดี บัวสายมีคณะลำตัดที่มีชื่อเสียงมาก ครอบครัวนี้และชาวบ้านใกล้เคียงทำนาด้วยวิธีดั้งเดิมไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ไม่ใช้รถไถ ไม่ใช้รถเกี่ยวข้าว ทำให้ กำนันฝอย กับลูกคือ ฝาจีบ และ ฝาจุก ลูกชายและลูกสาวไม่ค่อยพอใจนัก เพราะครอบครัวกำนัยฝอยทำกิจการค้าปุ๋ยเคมี และมีรถเกี่ยวข้าวให้เช่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ของบางลำมีหนี้สินกับครอบครัวนี้มากจนถูกยึดนาไปหลายราย

เพราะเชื่อใจกำนันฝอยที่ทำเหมือนใจดีให้พวกเขาซื้อปุ๋ยในราคาเงินเชื่อ ตกลงว่าขายข้าวได้แล้วจะเอามาคืน จากแค่ซื้อปุ๋ยก็จะโดนบังคับให้เช่ารถเกี่ยวข้าวในราคาสูงลิบจนต้องหมดตัวไปตาม ๆ กัน แต่ไม่ใช่ครอบครัวของบัวสาย และชาวบ้านใกล้เคียงทำให้ ครอบครัวกำนันฝอยไม่พอใจนัก ที่จริงแล้วกำนันฝอยเคยหลงรักบัวสายตั้งแต่เริ่มเป็นสาวรุ่น แต่เมื่อบัวสายไปเล่นลำตัดที่กรุงเทพฯ แล้วท้องกลับมาโดยที่ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อทำให้กำนันฝอยอกหักกินเหล้าจนพ่อกับแม่ต้องจับให้แต่งงานกับแม่เพลงลำตัดสาวสวยคู่ปรับกับบัวสายจนมีลูกสองคน กำนันฝอยเป็นม่ายเพราะเมียตายมาหลายปีแล้ว ทั้งฝาจีบและฝาจุกทำตัวเป็นนักเลงประจำหมู่บ้านมาตั้งแต่เด็กจึงเป็นคู่ปรับกับเพลงลำ และไข่กาตลอดมา แม้ฝาจุกจะเป็นผู้หญิงแต่ก็เจ้าเล่ห์ไม่ต่างจากฝาจีบซึ่งเป็นพี่ชายสักนิดอาจจะร้ายกว่าเสียด้วยซ้ำ จะอย่างไรก็ตามครอบครัวกำนันฝอยทำอะไรครอบครัวบัวสายไม่ได้มากนัก

เพราะครอบครัวนี้เป็นที่รักของชาวบ้านมากกว่า ทั้งเรื่องของการฝึกลำตัดให้เด็ก ๆ ที่สนใจหรือจะฝึกมวยกับเพลงลำในหน้าแล้งเป็นการสอนให้เด็กใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ยิ่งไปกว่านั้นคือ เพลงลำเป็นคนฉลาด กล้า ไม่กลัวใครเมื่อโดนแกล้งจึงตอบโต้จนกำนันฝอยต้องเสียเงินมากมายในคณะฯ ของบัวสายมี เจิด เป็นพ่อเพลงที่เก่งมากอยู่ด้วยเจิดมาฝึกกับบัวสายตั้งแต่เด็กเขาเป็นกำลังสำคัญของคณะฯ บัวสายเลี้ยงเจิด และคนอื่น ๆ เหมือนลูกหลาน บ้านนี้มีกฎระเบียบและข้อห้ามหลายอย่างเพราะมีคนมาก แต่ก็อยู่กันมาได้ เจิดนั้นรักเพลงลำมาตั้งแต่เป็นหนุ่ม เขาอายุมากกว่าเพลงลำไม่กี่ปี แต่สำหรับเธอแล้วเจิดเป็นพี่ชายที่แสนดีเท่านั้น

ปกรณ์พล นักศึกษาปริญญาโท ตั้งใจจะทำวิทยานิพนธ์ เรื่องลำตัดเพลงพื้นบ้านของไทย จึงต้องลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูล เมื่อลำตัดคณะแม่บัวสายมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศเขาจึงต้องไปบางลำ ปกรณ์พลเป็นลูกชายคนเดียวของ อรรถ และ โฉมตรู พ่อของเขาเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงด้านการสื่อสารในระดับนานาชาติ ร่ำรวยมาก แต่ปกรณ์พลไม่เคยสนใจกิจการของพ่อเขาเลยชายหนุ่มชอบดนตรี และงานศิลปวัฒนธรรมทุกประเภทเขาเหมือนกับโฉมตรูมากกว่า ชายหนุ่มมีเพื่อนสนิทชื่อ กุชงค์ ซึ่งเข้ามาช่วย อรรถทำงานมากกว่าปกรณ์พลเสียอีก เมื่อกุชงค์รู้ว่าเพื่อนจะต้องไปอยู่บางลำเขาก็อดห่วงไม่ได้ เขากังวลว่าปกรณ์พลจะหาข้อมูลได้ไม่ดีนัก

เพราะงามไฉไลไฮโซสาวสวยคงไม่ยอมง่าย ๆ งามไฉไลเป็นลูกสาวคนเดียวของ โพยมยง นักธุรกิจม่ายสาวที่รวยมาก ครอบครัวนี้รวยจากการค้าเพชรและเล่นหุ้น ครอบครัวอรรถกับโฉมตรูสนิทสนมกับโพยมยงและสามีมานานจนกระทั่งสามีเธอตายจากไป ทั้งสองครอบครัวก็ยังเป็นมิตรที่ดีต่อกัน โดยเฉพาะงามไฉไลที่ติดปกรณ์พลมาตั้งแต่เด็ก เพราะเขาเป็นคนเดียวในกลุ่มเพื่อนวัยเดียวกันที่ตามใจเธอ ชายหนุ่มเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาว แต่งามไฉไลไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น เธอรักเขา และพยายามประกาศตัวว่าเป็นคู่รักของเขาเสมอ เธอไม่ยอมรับว่าเธอกับปกรณ์พลไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลย ขณะที่ชายหนุ่มชอบศิลปวัฒนธรรมไทย ชอบมีชีวิตที่เรียบง่าย งามไฉไลกลับชอบความหรูหรา ฟุ่มเฟือย วางอำนาจ อวดรวย เธอจึงไม่ค่อยน่ารักอีกแล้วในสายตาของปกรณ์พล

ดังนั้นคนในบ้านจึงไม่แปลกใจนักเมื่อเขารีบออกไปบางลำแต่เช้าก่อนที่งามไฉไลจะมาขอตามไปด้วย ปกรณ์พลขับรถไปเกือบถึงบ้านบัวสายแต่แล้วรถเสียกลางทาง เขาโชคดีที่เพลงลำขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาพอดีเธอจึงพาเขาไปส่งที่อู่รถของ ช่างเอื้อง เมื่อย้อนกลับมายังรถที่จอดอยู่ ปกรณ์พลหนักใจเมื่อรู้ว่าต้องรออะไหล่หลายวันเขาไม่กลับกรุงเทพฯ แต่เลือกที่จะไปนอนค้างที่วัดตามที่ช่างเอื้องแนะนำมากกว่า ค่ำแล้วเมื่อปกรณ์พลเดินเกือบถึงวัด เขาเห็นเพลงลำถูกรุมทำร้าย แม้จะเก่งเรื่องต่อสู้ป้องกันตัวแต่การที่เธอถูกรุมจากฝาจีบและลูกน้องก็ไม่ง่ายที่เธอจะจัดการพวกมันได้ ปกรณ์พลมาช่วยทันเวลาเขาใช้ไม้ท่อนใหญ่ตีจนพวกนั้นหนีกระเจิง เจ็บกันหลายคนโดยเฉพาะฝาจีบกับนายแสบคนสนิทที่ถูกฟาดหัวอย่างแรง เพลงลำจึงพาเขาไปพักที่ค่ายมวยของน้าบัวเผื่อน เธอไม่กล้าปล่อยเขาไว้ตามลำพังเพราะรู้ดีว่าฝาจีบคงพาพวกมาล้างแค้นแน่นอน

เช้าวันต่อมาปกรณ์พลต้องตอบคำถามมากมายเรื่องการมาทำวิทยานิพนธ์ของเขา ชายหนุ่มแปลกใจที่บัวเผื่อนแนะนำให้เขาไปที่อื่นรวมทั้งเพลงลำกับไข่กาด้วย แต่เมื่อเขายืนยันว่าเขาต้องการมาเป็นลูกศิษย์แม่บัวสายต้องการข้อมูลของที่นี่จริง ๆ เพลงลำจึงยอมพาไปพบบัวสาย แต่เขากลับต้องวิ่งหนีออกจากบ้านแทบไม่ทันเมื่อ บัวสายปล่อยหมาเฝ้าบ้านนับสิบตัวออกมาไล่เขา แม้กระนั้นปกรณ์พลก็ไม่ยอมแพ้ เพลงลำนึกชอบที่เขา ใจสู้ เธอกับไข่กาจึงพาเขาไปหาเจิดให้ช่วยพูดกับบัวสายอีกครั้ง เจิดเป็นลูกศิษย์คนโปรดของบัวสาย เขามีวิธีพูดให้บัวสายใจอ่อนยอมรับปกรณ์พลให้อยู่เรียนรู้เรื่องลำตัดได้ แต่เขาต้องผ่านบททดสอบของเธอก่อน ปกรณ์พลดีใจขณะที่เพลงลำกับไข่กากลุ้มใจแทนเพราะรู้ว่าบททดสอบของบัวสายนั้นคืออะไร

วันรุ่งขึ้น ปกรณ์พลถูกปลุกตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เขาต้องออกไปช่วยทำนาตามบททดสอบของบัวสาย ครอบครัวนี้จะทำนาในหน้านา และจะรับงานลำตัดเมื่อหลังการเก็บเกี่ยว เพลงลำคอยช่วยอยู่ใกล้ ๆ ชายหนุ่มเต็มใจทำงานแม้จะเงอะงะบ้าง แต่ความตั้งใจจริงของเขาก็ทำให้เพลงลำพอใจ แต่ลึกลงไปในใจแล้วเพลงลำรู้สึกว่าเขามีบุญคุณที่มาช่วยเธอจากพวกฝาจีบได้ทันเวลา มิฉะนั้นเธออาจพลาดถูกพวกมันฉุดไปแล้ว พฤติกรรมที่เลวร้ายของฝาจีบอีกอย่างคือชอบฉุดสาว ๆ ที่พอใจไปปล้ำแล้วยังถ่ายคลิปเก็บไว้แบล็คเมล์ ขู่ไม่ให้แจ้งความเสียอีก เพลงลำจึงนึกขอบใจปกรณ์พลที่ช่วยเธอไว้ อะไรที่เธอพอจะช่วยเขาได้เธอก็อยากช่วย ความใกล้ชิดทำให้ทั้งสองคนเริ่มมีความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน ทว่าความที่ไม่เคยชินกับงานหนักกลางแดดจัด ๆ ปกรณ์พลหมดแรงเป็นลมไปตั้งแต่ก่อนเที่ยง เพลงลำ เจิด และไข่กาต้องช่วยกันพาเขากลับไปพักกับบัวเผื่อนโดยไม่ให้บัวสายรู้ ชายหนุ่มไข้ขึ้นสูงทั้งคืนเพลงลำเป็นทุกข์เป็นร้อนห่วงใยเขามากจนไข่กาผิดสังเกต เธอบอกไข่กาว่ากลัวปกรณ์พลจะมาตายที่นี่แล้จะเกิดเรื่องใหญ่ แต่ไข่กากับเจิดไม่ค่อยเชื่อนัก อย่างไรก็ตามเพลงลำตัดสินใจค้นโทรศัพท์มือถือของเขามาเปิดเพื่อหาหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อทางบ้าน ทันทีที่เปิดเครื่องเสียงเรียกก็ดังขึ้น เพลงลำรับสายจึงต้องฟังงามไฉไลโวยวายต่อว่าอยู่หลายคำกว่าจะพูดกันรู้เรื่องว่าให้ไปรับปกรณ์พลที่โรงพยาบาลในอำเภอ

เมื่อถึงโรงพยาบาล ไข่กาแยกกลับบ้านกับเจิดก่อนที่บัวสายจะสงสัย เพลงลำอยู่กับปกรณ์พลตลอดเวลาจนกระทั่งงามไฉไลกับโพยมยงซึ่งเป็นแม่มาถึงโรงพยาบาล เธอประกาศตัวเป็นแฟนของ ปกรณ์พลอย่างชัดเจน เมื่อชายหนุ่มเพ้อถึงเพลงลำทำให้งามไฉไลนั่งไม่ติดเธอตามไปอาละวาดกับเพลงลำอีก ประกาศตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของจนเพลงลำเข้าใจผิด งามไฉไลพาปกรณ์พลกลับกรุงเทพฯ เธอพยายามอาสามาดูแลชายหนุ่มแต่เขาก็หลบเลี่ยงตลอดเวลา ในช่วงเวลาเดียวกันที่บางลำ กำนันฝอยจัดงานเปิดตัว ฝาจีบลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้าน คนใหม่แทนคนเก่าที่แกบีบจนลาออกไปเอง เพลงลำรู้ทันจึงเสนอ ชื่อเจิดลงสมัครแข่งขันด้วย ฝาจีบจึงเปิดศึกตัดกำลังบ้านเสียงของเจิด เริ่มต้นด้วยการใช้รถเกี่ยวข้าวแอบไปขโมยเกี่ยวข้าวที่ออกรวงงาม ๆ ของนา นางสำอาง เพื่อนบ้านของบัวสายจนหมดเพียงชั่วข้ามคืน เพลงลำระแวงอยู่แล้วจึงชวน ไข่กา เจิด และคนอื่น ๆ ไปค้นเหล็กท่อนใหญ่ ๆ จากอู่ช่างเอื้องตัดเป็นท่อนให้มีความยาวประมาณต้นข้าว เธอกับพวกนำท่อนเหล็กเหล่านั้นไปปักเป็นแนวตั้งแทรกปนไปกับต้นข้าวรอบแนวคันนาที่รถเกี่ยวจะลงได้

กลางดึกคืนนั้น เพลงลำ เจิด ไข่กา ไปเฝ้าดูเหตุการณ์อย่างมั่นใจว่าต้องได้ตัวคนร้ายแน่ ๆ ดึกมากแล้วเมื่อเสียงรถเกี่ยวข้าวดังขึ้นแต่ไกล ไม่นานนักก็เห็นเงารถเลื่อนลงนา เสียงดังกระทบกันของโลหะ และเสียงฝาจีบกับพวกโวยวายลั่น เมื่อรถเกี่ยวเกี่ยวเหล็กท่อนเข้าไปจนพังหมด รถเกี่ยวพัง ทำให้กำนันฝอยโกรธพวกเพลงลำมากขึ้นไปอีก ส่วนปกรณ์พลเมื่อฟื้นไข้เขาก็หนีกลับไปบางลำอีก คราวนี้ไม่ใช่เพื่องานวิจัยอย่างเดียว แต่เพื่อหัวใจด้วยเขารักเพลงลำ และรู้ดีว่าต้องพิสูจน์ตัวเองกับบัวสายมากเพียงใดแต่เขาก็พร้อมจะสู้ เพลงลำดีใจมากเมื่อพบปกรณ์พลอีกครั้ง เธอไม่อยากหลอกตัวเองอีกต่อไป เพลงลำเองก็รักเขามากเช่นกัน ทว่าความรักของทั้งคู่มีอุปสรรคมากมาย เริ่มจากงามไฉไลที่มาตามเขาไม่เลิกรา แต่ที่ร้ายกว่านั้นคือ อรรถพ่อของปกรณ์พลเมื่อเขารู้ว่าลูกชายมาบางลำมาอยู่กับคณะลำตัดบัวสาย อรรถก็อยู่ไม่ติดออกมาตามปกรณ์พลกลับไปด้วยตัวเอง

ที่บ้านบัวสายเธอต้อนรับอรรถด้วยปืนลูกซองมาดเข้มดุ ไม่ทำให้อรรถกลัวแต่แววตาที่หมางเมิน เกลียดชังทำให้อรรถต้องยอมถอยกลับไป เพลงลำงงที่เห็นบัวสายโกรธแค้นอรรถมากขนาดนั้น คนที่เข้าใจสถานการณ์ดีที่สุดคือบัวเผื่อน เขาจำอรรถได้ว่าเคยไปเฝ้าดูบัวสายเล่นลำตัดที่กรุงเทพฯ เมื่อก่อนที่เธอจะท้องกลับมา บัวเผื่อนนึกรู้ทันทีว่าอรรถเป็นพ่อของปกรณ์พล เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้บัวสายยื่นคำขาดห้ามเพลงลำติดต่อกับปกรณ์พลโดยไม่บอกเหตุผลที่เธอรู้แก่ใจว่าพี่กับน้องจะแต่งงานกันได้อย่างไร

เพลงลำเป็นลูกของอรรถเหมือนกับปกรณ์พล งามไฉไลตามรังควานเพลงลำกับบัวสายอย่างน่ารำคาญ ลำพังเพลงลำเธอทนได้ แต่เธอทนให้ใครมาดูถูกแม่ไม่ได้ หญิงสาวจึงขอร้องให้ปกรณ์พลกลับไป ทั้งเธอและเขาต่างก็มีหน้าที่ที่ต้องทำ หน้าที่ของลูกที่ดี ปกรณ์พลยอมกลับกรุงเทพฯ และยอมหมั้นกับงามไฉไลตามความต้องการของอรรถ เขากลับมาคราวนี้เหมือนคนที่ไม่มีหัวใจ โฉมตรูเห็นลูกแล้วสงสารจับใจ เธอแปลกใจที่อรรถเคี่ยวเข็ญลูกชายอย่างไม่เคยทำมาก่อน ส่วนเพลงลำยอมหัดลำตัดเพื่อประชันในงาน สืบสานศิลปวัฒนธรรมงานใหญ่ของจังหวัดโดยมีฝาจีบเป็นคู่ประชัน กำนันฝอยยอมเสียเงินมากมายเพื่อให้ลูกชายชนะ แม้จะต้องโกงคะแนนก็ตาม คนที่เข้ามาเพิ่มความวุ่นวายคืองามไฉไลกับโพยมยงที่ตามมาช่วยสบทบเงินค่าจ้างหน้าม้ามาโห่ฮาเพลงลำ

เช้าวันงาน บัวสายป่วยต้องผ่าตัดไส้ติ่งกระทันหัน เพลงลำไม่มั่นใจในการขึ้นเวที แต่เจิดช่วยเป็นกำลังใจให้ ส่วนปกรณ์พลแปลกใจเมื่องามไฉไลกุลีกุจอพาเขามาดูการประชันลำตัด เขาไม่รู้ว่าอรรถตามมาดูด้วย เมื่อผลการประชันออกมาว่าเพลงลำชนะฝาจีบอย่างงดงาม เขาหายสงสัยทันทีเมื่องามไฉไลกับโพยมยงตามไปต่อว่ากำนันฝอยกับลูกที่ทำงานไม่สำเร็จ เพลงลำกับคณะไม่แพ้และโดนฉีกหน้าให้อายอย่างที่ตกลงกันไว้ ตัวตนของว่าที่คู่หมั้นกับแม่ทำให้ปกรณ์พลกลุ้มใจมาก ส่วนอรรถตามมาเยี่ยมบัวสายที่โรงพยาบาล เขาถามบัวสายว่าเพลงลำเป็นลูกของเขาใช่หรือไม่ แต่เธอไม่ตอบ บัวสายเมินหนีทั้งที่น้ำตากลบตา

แต่ไม่นานนักก็อดใจไม่ได้เธอเหน็บแนมต่อว่าเขาเรื่องศักดิ์ศรีผู้ดี และความต่ำต้อยของการเป็นแม่เพลงลำตัดของเธอ เพียงเท่านี้อรรถก็เข้าใจ เขาได้แต่ขอโทษที่ปล่อยให้เธอต้องอุ้มท้องกลับบางลำ และเลี้ยงลูกคนเดียว ทั้งสองคนไม่รู้ว่าเพลงลำกลับมาจากงานประชันแล้วและยืนอยู่ที่หน้าห้องนั้นเอง เธอได้ยินทุกอย่าง หญิงสาวรีบหลบไปก่อนที่อรรถจะออกมาพบเธอเข้า หญิงสาวเข้าไปพบบัวสายเมื่อเห็นว่าอรรถกลับไปแล้ว เพลงลำตั้งใจว่าจะทำให้แม่มีความสุขที่สุดจึงไม่พูดถึงพ่ออรรถสักคำ เธอตั้งใจจะเป็นแม่เพลงลำตัดที่ดีให้ได้ ที่กรุงเทพฯ โฉมตรูได้ต้อนรับ ดัสกร เพื่อนเก่าเมื่อครั้งที่เธอไปเรียนที่สวิสเซอร์แลนด์ ที่จริงดัสกรคือคนรักของเธอก่อนจะแต่งงานกับอรรถ ดัสกรมาพบเธอเพื่อลาเพราะเขาป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายที่เหนือกว่าอะไรทั้งหมดคือเขาอยากพบลูกโฉมตรูปฏิเสธไม่ยอมให้พบปกรณ์พล แต่ดัสกรก็พบกับปกรณ์พลจนได้ในวันหนึ่ง แม่ ปริก คนรับใช้เก่าแก่ที่ตามโฉมตรูไปสวิสด้วยรู้ความจริงดีว่าปกรณ์พลเป็นลูกดัสกรกับโฉมตรู เป็นความจริงที่เป็นความลับบอกใครไม่ได้

ก่อนงานหมั้นงามไฉไลกับโพยมยงไปพบกำนันฝอยที่บ้านเธอต้องการทำลายเพลงลำกับแม่ให้ถึงที่สุด หญิงสาวจ้างฝาจีบให้ไปเผาบ้านของบัวสาย ฝาจีบนั้นเมื่อพบงามไฉไลเขาหลงรักเธอทันที และตั้งใจจะต้องแต่งงานกับเธอให้ได้ บ้านบัวสายถูกเผาตามแผน ในช่วงเวลาเดียวกันงามไฉไลติดต่อจ้างคณะลำตัดบัวสายไปแสดงในงานหมั้นของเธอกับปกรณ์พล เธอต้องการประจานเพลงลำกับแม่ให้ได้อายกลางงาน บัวสายไม่อยากให้เพลงลำรับงาน แต่เพลงลำยอมรับ

งานนี้โดยบอกว่า "แม่สอนอยู่เสมอว่าเราต้องทำหน้าที่ของศิลปินพื้นบ้านให้ดีที่สุด สง่างามที่สุด เพื่อจะสืบสานมรดกชิ้นนี้ไว้ให้กับลูกหลานสืบไป" งานคราวนี้ก็เป็นงานแสดงครั้งหนึ่งเท่านั้น หลังจากงานนี้เพลงลำบอกบัวสายว่าเธอจะแต่งงานกับเจิดเพื่อช่วยกันทำงานรักษาศิลปวัฒนธรรมเพลงพื้นบ้านต่อไป บัวสายสงสารลูกสาวมากเพลงลำทำทุกอย่างเหมือนเป็นหน้าที่เท่านั้น เพลงลำมีชีวิต มีวิญญาณ แต่ไม่มีจิตใจ งานครั้งนี้เพลงลำเรียกค่าจ้างหนึ่งล้านบาท โพยมยงกับ

งามไฉไลยอมตกลง ข่าวงานหมั้นของปกรณ์พลและงามไฉไลทำให้ฝาจีบ กับฝาจุกกลุ้มใจ ร้อนใจมากที่สุด ฝาจีบรักงามไฉไล ส่วนฝาจุกรักปกรณ์พล สองพี่น้องวางแผนจับตัวทั้งสองคนกลางงานหมั้นเพื่อจัดงานแต่งงานของตนแทน ที่วุ่นวายคือสองพี่น้องยุให้กำนันฝอยจับโพยมยง และรวบรัดเป็นเมียด้วยเสียอีกคน ที่โรงแรมหรูกลางกรุงเทพฯ งานหมั้นจัดอย่างหรูหรา งามไฉไลรอเวลาแสดงลำตัดอย่างตื่นเต้น ส่วน เพลงลำข่มใจให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดทั้งที่เธอเจ็บปวดเหลือเกิน

บัวสายสงสารลูกสาวแต่ก็ดีใจที่เพลงลำเข้มแข็งเหมือนเธอ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน งามไฉไลฉวยโอกาสขึ้นเวทีขณะกำลังแสดง เธอประจานเพลงลำเสีย ๆ หาย แต่การที่เธอลามดูถูกไปถึงการเป็น "คนลำตัด" กลับทำให้เพลงลำกับบัวสายได้รับความเห็นใจจากแขกในงานมากขึ้น ก่อนเหตุการณ์จะลุกลามต่อไป ฝาจีบกับพวกจัดการดับไฟความโกลาหลวุ่นวายเกิดขึ้นทันที เพลงลำโดนปกรณ์พลฉุดลงจากเวทีให้ไปหลบใต้โต๊ะด้วยกัน เจิดกับบัวเผื่อนช่วยบัวสายหลบไปหลังเวที เวลาผ่านไปครู่ใหญ่กว่าไฟจะเปิดอีกครั้ง โพยมยงตกใจแทบสิ้นสติเมื่อรู้ว่างามไฉไลหายไป ส่วนฝาจีบอารามรีบร้อนเขาจึงทิ้งกำนันฝอย และฝาจุกอยู่ที่โรงแรมนั่นเอง งามไฉไลตกใจมากเมื่อรู้ว่าฝาจีบจับตัวเธอมา หญิงสาวพยายามต่อรองให้เขาปล่อยเธอไปโดยเสนอเงินจำนวนมากให้แต่ฝาจีบไม่สนใจเขาพูดชัดเจนว่าเขาต้องการตัวเธอเท่านั้น

ดึกมากแล้วเมื่อกุชงค์กับปกรณ์พลพาเพลงลำกลับบ้านที่บางลำอย่างปลอดภัย ทั้งสองคนสงสัย ฝาจีบว่าจะอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ พวกเขาไปรับบัวเผื่อนให้ไปตามฝาจีบด้วยกัน บัวเผื่อนนึกรู้ว่าฝาจีบต้องไปที่กระท่อมร้างกลางนาไม่ไกลนักแน่ ๆ ที่นาแห่งนี้กำนันฝอยยึดมาจากลูกหนี้คนหนึ่ง เกือบเช้าแล้วเมื่อปกรณ์พลกับกุชงค์และน้าบัวเผื่อนตามไปช่วยงามไฉไล ทั้งสามคนแปลกใจที่ไม่พบหญิงสาวที่นั่นมีเพียงฝาจีบกับพวกเท่านั้น ทว่าระหว่างทางที่ย้อนกลับไป ทั้งสามคนก็พบงามไฉไลนอนสิ้นสติอยู่บนคันนา สภาพของเธอบอกได้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น ปกรณ์พลกับกุชงค์รีบพาเธอส่งโรงพยาบาลเขาบอกกุชงค์ว่า ที่เขาช่วยงามไฉไลก็เพราะเธอเป็นเหมือนน้องสาวของเขามากกว่า

งามไฉไลรักษาตัวอยู่หลายวันโดยไม่ยอมบอกว่าเกิดอะไรขึ้น เธออ้างว่าจำไม่ได้อย่างเดียว ปกรณ์พลได้พบดัสกรบ่อยครั้งขึ้น ความสนใจในเรื่องดนตรีเหมือนกันทำให้ทั้งสองคนมีความสุขทุกครั้งที่ได้พบกัน ดัสกรรู้ทันทีว่าปกรณ์พลคือลูกชายของเขาแน่ ๆ ดังนั้นเขาจึงนำกีตาร์ตัวโปรดไปฝากไว้ที่โฉมตรูโดยบอกว่าฝากให้ลูกชายของเขาด้วย ดัสกรกำลังจะจากไป แต่งามไฉไลกลับย้อนมาวุ่นวายกับปกรณ์พลอีกครั้ง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามชมกันต่อได้ใน ละครเพลงรักเพลงลำ ที่ออกอากาศทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี ละครเพลงรักเพลงลำ เริ่มตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน 2558

พล นิกร กิมหงวน เดอะ มิวสิคัล (2557/2014) หัสนิยายเรื่อง พลนิกรกิมหงวน หรือ สามเกลอ ประพันธ์โดย ป.อินทรปาลิต ถือเป็นบทประพันธ์ขึ้นหิ้ง 1 ในหนังสือดี 100 เล่มที่คนไทยควรอ่าน และถือเป็นรวมชุดหัสนิยายที่เขียนต่อเนื่องยาวนาน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2481-2511 มีทั้งหมดกว่า 1,000 ตอน แทบจะเรียกว่าเป็นเรื่องที่มีผู้อ่านติดตามเป็นแฟนพันธุ์แท้มากมายที่สุดของเมืองไทย แม้ว่าแต่ละเล่มจะเป็นเรื่องชุดจบในตอน ทว่า ตัวละครเหล่านี้กลับโลดแล่นอยู่ในบรรณพิภพยาวนานจนเสมือนเป็นคนคุ้นเคยของนักอ่าน เรื่องราวผจญภัยในแต่ละตอนของบรรดาหนุ่มเนื้อหอมลูกชายคหบดีเศรษฐีที่มีบุคลิกเฉพาะตัวทั้งเจ้าเสน่ห์ทะเล้นทะลึ่งแปลกประหลาดยังกลายเป็นบันทึกประวัติศาสตร์สภาพสังคมวิถีชีวิตคนไทยสมัยก่อนได้อย่างดี เนื้อหาความสนุกขบขันและคลาสสิคของหัสนิยายเรื่องนี้เคยนํามาสร้างเป็นละครทีวีอยู่หลายครั้ง และนี่เป็นครั้งแรกที่ตัวละครชุดเหล่านี้จะมีชีวิตเลือดเนื้อขึ้นจริงบนเวทีละครในรูปแบบละครเพลง เหตุการณ์ที่นํามาประมวลขึ้นสําหรับละครเพลงครั้งนี้ เป็นเรื่องราวในช่วงวัยหนุ่มของ พล นิกร กิมหงวน และ ดร.ดิเรก ที่ได้เข้ามาเกี่ยวดองอยู่ในก๊วนเดียวกัน อันเนื่องจากได้รู้จักพบรักกับแม่เสือสาวทั้งสี่...นันทา ประไพ นวลละออ และประภา ที่ต่างก็แสบพอกับความเจ้าชู้กะล่อนของฝ่ายชาย แถมยังมีท่านเจ้าคุณปัจจนึกพินาศ มาร่วมสร้างความสนุกสนานให้กับเรื่องราวเป็นอย่างดี โดยมีฉากหลังเป็นบรรยากาศรื่นรมย์ของกรุงเทพในอดีตเมื่อ 60 กว่าปีที่แล้ว สิ่งที่ทําให้ละครโทรทัศน์เรื่องนี้มีความโดดเด่น นั่นคือบรรดาเพลงต่างๆที่ใช้ในเรื่องที่ล้วนแต่เป็นเพลงเก่าทั้งสิ้น ที่มีทั้งที่ยังเป็นที่ติดหู และบางเพลงก็เป็นเพลงที่หาฟังได้ยาก แต่ทว่า ถึงแม้เพลงจะถูกประพันธ์ขึ้นเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว ทั้งเนื้อร้องและทํานองที่หลากหลายยังคงสามารถเข้ากับเนื้อเรื่องได้อย่างกลมก ล่อม จะหวานก็หวาน จะขําก็ขํา ถือได้ว่าเป็นมนต์สเน่ห์อีกอย่างของเพลงไทย ที่จะถูกนํามาเรียบเรียงใหม่เพื่อให้ติดหูผู้ชมได้มากขึ้น

หมัดเด็ดเสียงทอง (2557/2014) เริ่มต้นที่ชีวิตของ พัดลม (ไผ่ พงศธร) หนุ่มยโสธรแสนเชยที่ถูกฟ้าลิขิตให้เข้ามาสร้างฝันการเป็นนักร้องลูกทุ่งชื่อดังให้เป็นจริง เฮียปอ (โกไข่) ตัดสินใจรับพัดลมเข้าค่ายป.ฮุกทอง คือเจ้าของค่ายมวย ป.ฮุคทอง ฮุคที่สะกดค้วย ค.ควาย ส่วนค่ายเพลง ป.ฮุกทอง ที่สะกดด้วย ก.ไก่ คือค่ายเพลงของ ปอนด์ (อ๊อฟ ศุภณัฐ) ลูกชายคนโตและ ปอง (ลิซ่า) ลูกสาวคนเล็กของเฮียปอต่างหาก !! ความซื่อทำให้พัดลมไม่รู้ตัวว่าเซ็นสัญญาผิดค่าย ณดา (ตั๊กแตน ชลดา) โปรโมเตอร์สาวประจำค่ายยืนยันว่าพัดลมไม่เหมาะที่จะเป็นนักร้อง นอกจาก พู่กัน (เจมส์ ชินกฤช) ว่าที่นักร้องเบอร์หนึ่งของค่าย แต่อุปสรรคความไม่มั่นใจ ปองเองยังหาทางแก้ไม่ได้ ส่วนหญิงยี (หญิงลี ศรีจุมพล) นักร้องสาวประจำค่าย ก็แอบหลงรักปอนด์ข้างเดียว ณดาและไอรินจะดันพัดลมให้เป็นทั้งนักร้องและนักมวยเบอร์ 1 ของค่าย จึงจ้าง 3 หมัด เขาทราย สามารถ และสมรักษ์ มาเป็นครูฝึกให้พัดลม พัดลมจึงสอนปองกับพู่กันร้องเพลง ทั้งสามคนตั้งใจซ้อมร้องเต้นอย่างเต็มที่จน ณดามั่นใจว่าทั้งสามคนพร้อมที่จะเปิดตัวกับสื่อมวลชนแล้ว แต่อยู่ ๆ ก็มีหมายท้าปะลองจากค่ายมวยอื่น ๆ โดยระบุตัวพัดลมเป็นตัวแทนค่าย พัดลมโดนต่อยจนหมดสติ วันเปิดตัวนักร้องลูกทุ่งหน้าใหม่จึงมีแค่ปองและพู่กันเท่านั้น เฮียอู๋ (สน เดอะสตาร์) เจ้าของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด เพราะไม่ต้องการมีคู่แข่งทางสายเพลงลูกทุ่ง พัดลมตัดสินใจเลือกไปทัวร์ชิงแชมป์มวยทั่วประเทศ ปองทั้งโกรธทั้งเสียใจจนคิดจะปิดค่ายเพลง เฮียอู๋รู้ข่าวก็ยกเลิกการเปิดตัวพู่กันเช่นกัน พู่กันเสียใจมากที่โดนเฮียอู๋หลอกใช้จนคิดจะเลิกร้องเพลง เพชรพลอยดาวไปตามตัวพู่กันกลับมาที่ค่ายป.ฮุกทองได้สำเร็จ ทั้งหมดวางแผนจะตลบหลังเฮียอู๋ด้วยการปล่อยข่าวว่าค่ายป.ฮุกทองปิดตัวแล้ว เรื่องราวชีวิตของทุกคนจะสนุกสนานวุ่นวายแค่ไหน ความฝันจะเป็นจริงหรือไม่ ต้องติดตามชมและให้กำลังใจพวกเขาได้ใน ละครหมัดเด็ดเสียงทอง

เพลงรักผาปืนแตก

เรื่องย่อ : เพลงรักผาปืนแตก (2557/2014) ปี 2514 ท่ามกลางสมรภูมิรบอันดุเดือดตามแนวตะเข็บชายแดน เชน เชิงพระกาฬ ตชด.หนุ่มเลือดร้อน ฝ่าฝืนคำสั่งของหัวหน้ากองร้อยบุกเดี่ยวตลุยเข้าไปดงข้าศึกของพวกกอง กำลังค้าอาวุธสงครามเถื่อน หลังจากที่กองร้อยตัวเองถูกซุ่มโจมตีเพื่อนร่วมกองร้อยบาดเจ็บ และติดกับดักจนมุมยากจะรอดไปได้ เหตุที่เชนตัดสินใจลุยดะอย่างไม่คิดชีวิตเพราะหวังสละ ชีวิตในสนามรบหลังจากได้อ่านจดหมายของคนรักที่ส่งมาถึง ใจความนั้นสร้างความเจ็บปวด รวดร้าวแสนสาหัส เพราะ เนื้อทอง หญิงอันเป็นที่รักที่เชนมีเหตุจำเป็นต้องจากเธอมานั้นกำลังจะเข้าพิธีวิวาห์กับศัตรูผู้เป็นต้นเหตุทำให้เชนต้องหนีจากบ้านเกิดเมืองนอนมาเป็นตชด. เสี่ยงชีวิตอยู่ที่ชายแดน เชนเดินหน้าลุยเดี่ยวพร้อมเอ็ม 16 และน้ำตาอันเจ็บปวดพร้อมคำกล่าว ลาหัวหน้ากองร้อยว่า "ขอไปตายเยี่ยงวีรบุรุษในสนามรบ ดีกว่าต้องกลับไปตายอย่างผู้แพ้ที่บ้านเกิด" แต่ความตายที่เชนพยายามวิ่งเข้าหา กลับวิ่งหนีห่างจากเชนเหมือนไม่ต้องการให้เขามา จบชีวิตในสนามรบ เมื่อเชนบุกตะลุยเข้าไปถึงค่ายของ ฟ้าลั่น คำรามศึก หัวหน้ากองกำลังค้า อาวุธสงครามเถื่อนลูกชายวัยหนุ่มของ ลายเสือ คำลือ ราชาค้ายาเสพติดผู้โหดเหี้ยม เชนสู้ตัว ต่อตัวกับฟ้าลั่นแต่พลาดท่าเสียทีและถูกปืนจ่อยิง แต่กระสุนปืนขัดลำกล้องยิงยังไงก็ไม่ออก จนกระทั่งกำลังเสริมยกพลมาช่วยเหลือ ฟ้าลั่นจึงถูกเชนจับกุมเอาไว้ได้ส่วนกองกำลังก็ถูกตี แตกจนพ่ายยับ ที่รอดตายก็หนีข้ามชายแดนกลับไปสมทบกับลายเสือ คำลือ เชนได้รับความดี ความชอบจากต้นสังกัด หัวหน้ากองร้อยที่เชนเคารพนับถือที่บาดเจ็บสาหัสและกำลังจะตายได้ กล่าวคำสุดท้ายกับเชนขณะที่ช่วยติดเหรียญกล้าหาญให้กับเขา "เมื่อเป็นวีรบุรุษในสนามรบ แล้ว ก็จงกลับไปเป็นวีรบุรุษที่บ้านเกิด"

โทน 2556

เรื่องย่อ : โทน (2556/2013) โทน หนุ่มลูกกำพร้า โทนเติบโตมาพร้อมกับ เก่ง หนุ่มใจนักเลง สังข์ หนุ่มตลกและจิตใจดี และคนสุดท้าย มอส เด็กน้อยวัย 7 ขวบ ที่พูดมาก และมีโทนเป็นไอดอลในดวงใจ ทั้งสี่คนเป็นเด็กวัดที่ หลวงตาแคน อดีตนักร้องลูกทุ่งชื่อดังเลี้ยงมาตั้งแต่ตัวเท่าฝาหอย ถึงแม้ทั้งสี่คนจะเป็นเด็กวัด แต่ก็เป็นนักสู้ตัวยง ที่มักจะก่อเรื่องยุ่ง ๆ ให้หลวงตาปวดหัวอยู่เสมอ แต่หลวงตาก็รักทั้งสี่คนมาก จึงถ่ายทอดวิชาในการร้องเพลง แต่งเพลง เล่นดนตรีเพื่อให้ทุกคนได้ใช้ในการทำมาหากิน โรส ลูกสาวคนเดียวของ ผู้ใหญ่ณรงค์ แห่งทุ่งบางเพลง มีพรสวรรค์ในร้องและเต้น แต่ณรงค์ไม่ส่งเสริม โรสแอบชอบโทน แต่โทนเจียมตัวไม่กล้ายุ่งด้วย ผิดกับเก่งที่หลงรักโรส แต่โรสคิดกับเก่งเป็นพี่ชายที่แสนดีเท่านั้น วัดทุ่งบางเพลงจะจัดงานวัดประจำปี มีการแข่งขันบั้งไฟ เก่งไปท้าพนันกับกลุ่มของบารมี ลูกชายอำนาจ นายก อบต. คนดัง โดยเดิมพันว่าถ้าบารมีแพ้จะต้องยอมบริจาคเงินเข้าวัดหนึ่งแสนบาท แต่ถ้าบั้งไฟของตัวเองแพ้ บารมีขอหอมแก้มโรส คณะของประจิน เจ้าของค่ายเพลงลูกทุ่ง อ๊อด ลูกชายคนโต กับหนูแดง ลูกสาวคนเล็กเดินทางมาร่วมงานนี้ด้วย เพราะอดีตหลวงตาแคนคือนักร้องลูกทุ่งที่อยู่วงเดียวประจินและณรงค์ ทั้งสามคนจึงเป็นเพื่อนที่สนิทมาก ทีมของบารมีกับทีมของโทนเตรียมการจุดบั้งไฟประชันกัน มีการเดิมพันทั้งสองข้างอย่างคึกคัก บารมีเป็นคนจุดบั้งไฟเป็นทีมแรก บั้งไฟวิ่งไปได้แค่ยอดไม้ก็ตกลงมา ทำให้ฝ่ายของโทนดีใจ เพราะเพียงแต่บั้งไฟของพวกตัววิ่งเลยยอดไม้ไปนิดเดียวก็จะชนะแล้ว แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คาดไว้ บั้งไฟของโทน ซึ่งถูกพวกบารมีมาแอบดัดแปลงไว้ก่อน แทนที่จะวิ่งขึ้นฟ้ากลับวิ่งไปรอบงานวัด จนทำให้เกิดความวุ่นวายไปทั้งงาน มันยังวิ่งไปตกที่ข้างรถของประจินซึ่งมีหนูแดงนั่งอยู่ หน้าของหนูแดงดำปี๋ไปด้วยเขม่าดินปืน หนูแดงแทบคลั่ง และหาว่าใครเป็นเจ้าของบั้งไฟอันนี้ แล้วความซวยก็มาเยือน เมื่อโทนตามมาเก็บบั้งไฟ โทนเจอกับหนูแดง สองคนเลยทะเลาะกันอย่างรุนแรง เธอจะเอาเรื่องโทนให้ได้ หนูแดงประกาศให้โทนเป็นคนรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ด้วยจำนวนเงินมหาศาล ทำให้โทนตกใจมากเพราะไม่มีปัญญาที่จะหาเงินมาจ่าย เมื่อฝ่ายของโทนแพ้ โรสจำต้องทำตามคำสัญญายอมให้บารมีหอมแก้ม แต่เก่งไม่ยอมจึงเกิดการต่อสู้ ทำให้โทนกับสังข์ต้องเข้าไปร่วมด้วย หลวงตาแคนต้องเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยกับประจิน โดยขอเปลี่ยนค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับหนูแดง เป็นการให้โทนทำงานทดแทน โดยหวังว่าจะให้โทนไปทำงานที่บริษัทเพลงของประจิน แต่หนูแดงไม่ยอมบอกว่าโทนต้องไปเป็นคนรับใช้ที่บ้านแทน โดยทำงานชดใช้ความผิดเป็นเวลา 1 ปี เก่งก่อเรื่องกับบารมีอีกจนได้ คราวนี้หนักถึงขั้นบารมีบาดเจ็บ ทำให้อำนาจโมโหมาก หมายจะเด็ดหัวเก่งมาให้ได้ หลวงตาเป็นห่วงความปลอดภัยของเก่ง จึงตัดสินใจให้เก่ง สังข์ และมอสเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปพร้อมกับโทน โดยมีประจินช่วยเก็บเป็นความลับไม่ให้หนูแดงรู้ ทางด้านณรงค์เองก็เป็นห่วงโรส กลัวบารมีจะกลับมาทำมิดีมิร้าย จึงให้โรสไปอยู่กับป้าสมใจ ซึ่งเป็นป้าแท้ ๆ ที่กรุงเทพฯ หนูแดงใช้งานโทนสารพัด โทนถูกคุณหนูแดง กลั่นแกลงทุกวิถีทาง แต่โทนก็ยอมทำตามทุกอย่าง แต่เพราะความเป็นคนซื่อของโทน ทำให้โทนทำผิด ๆ ถูก ๆ โทนเอาเสื้อผ้าแพง ๆ ในตู้ที่ซักรีดแล้วมาซักจนหมดตู้ แถมยังทำชุดราคาพัง ทำให้โทนเป็นหนี้หนูแดงเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ด้านเก่งเทียวไล้เทียวขื่อไปหาโรสบ่อยครั้ง แต่ก็จะเจอป้าสมใจกับลูกสาว ต้อยติ่ง ที่สกัดดาวรุ่งทุกครั้ง เก่งกับต้อยติ่ง สองคนจึงเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน ณรงค์ฝากให้โรสมาทำงานที่ค่ายเพลงของประจิน โรสได้งานเป็นคนดูแลศิลปินในค่าย คนในค่ายเพลงชื่นชมโรสกันมาก เพราะโรสเป็นคนนิสัยดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น รวมถึงอ๊อดด้วย ทำให้อ๊อดประทับใจในตัวโรส การที่อ๊อดไปดูแลเอาใจใส่โรส ทำให้หนูแดงอิจฉาหาทางกลั่นแกล้งทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ทำให้โทนไม่พอใจเลยมีปากเสียงกับหนูแดงอีก หนูแดงเข้าใจว่าโทนกับโรสมีบางอย่างที่พิเศษต่อกันเลยเตือนอ๊อด แต่อ๊อดไม่เชื่อ ประจินเห็นหนูแดงชอบใช้งานโทนก็อดสงสารไม่ได้ เลยให้โทน เก่ง และสังข์ ไปทำงานในค่ายเพลง ทั้งสามคนทำงานทุกอย่างตั้งแต่ขัดห้องน้ำยันจัดฉากบนเวที หนูแดงโกรธที่พ่อเข้าข้างพวกโทน เลยขอพ่อมาทำงานด้วย โดยโกหกว่าอยากช่วยพ่อบ้าง ประจินรู้ไม่เท่าทันลูกเลยให้หนูแดงมาทำงานกับอ๊อด ระหว่างนั้นที่ทุ่งบางเพลง บารมีรู้ข่าวจากเด็กวัดว่าโทนไปได้ดีในกรุงเทพฯ ก็เกิดความอิจฉาเลยขอพ่อมากรุงเทพฯ อำนาจให้บารมีไปอยู่กับบัญชา ผู้ใหญ่ที่ตนนับถือ แต่เบื้องหลังของเขาคือมาเฟียรายใหญ่ ทางด้านโทน ยังถูกหนูแดงตามรังควานไม่เลิก หนูแดงสั่งให้โทนเป็นคนขับรถให้เธอ ทำให้สองคนต้องไปไหนมาไหนด้วยกันและใกล้ชิดกันมากขึ้น โทนพยายามดัดนิสัยเอาแต่ใจและเจ้ายศเจ้าอย่างของหนูแดง โดยการพาหนูแดงไปกินร้านข้างถนน หรือไม่ก็พาหนูแดงไปช่วยงานสังคม พอหนูแดงไม่ยอมทำ โทนก็จะดูถูกและท้าทาย ทำให้หนูแดงต้องยอม หนูแดงเริ่มนิสัยดีขึ้นโดยที่ตัวเองไม่รู้ตัว ทำให้โทนพอใจมาก ครั้งหนึ่งโทนพาหนูแดงไปต่างจังหวัด ขากลับกรุงเทพฯ เจอพายุฝนกระหน่ำ แถมรถยังเสีย หนูแดงโวยวายด้วยความตื่นกลัว โทนแสดงความเป็นสุภาพบุรุษโดยการให้หนูแดงนั่งอยู่ในรถ ในขณะที่เขาออกไปเข็นรถ หนูแดงแอบประทับใจในความดีของโทน แต่เมื่อหนูแดงเห็นโทนไปสนใจดูแลโรสมากว่าตัวเอง ก็ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับหนูแดงมากยิ่งขึ้นอย่างไม่รู้สาเหตุ ในขณะเดียวกันอ๊อดก็เข้าข้างโทนตลอดเวลา และขอให้โทนช่วยเป็นพ่อสื่อให้เขากับโรส โทนลำบากใจมาก เพราะรู้ว่าเก่งแอบชอบโรสอยู่ โทนจำต้องช่วยอ๊อด เพราะอ๊อดเป็นผู้มีพระคุณ แต่โรสดันเข้าใจว่าโทนชอบเธอ ทำให้เก่งเข้าใจผิด เรื่องราวเลยบานปลายไปกันใหญ่โต เก่งมีเรื่องชกต่อยกับโทน หนูแดงเกลียดโรสเข้าไปอีก ทางด้านจินตนา แม่ของคุณหนูแดง อยากจะให้สามีปั้นลูกสาวให้เป็นนักร้องลูกทุ่งที่โด่งดัง ประจินจึงให้โทนเป็นคนสอนร้องเพลงให้ แต่หนูแดงบอกว่าไม่ชอบเพลงลูกทุ่ง ที่พูดไปแบบนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงที่จะได้อยู่ใกล้กับโทน เพราะตอนนี้หนูแดงเริ่มรู้ใจตัวเองว่าชอบโทนแล้ว ประจินจึงให้หนูแดงเรียนร้องเพลงสตริงกับครูหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อ คีตะ ซึ่งเป็นหนุ่มนักดนตรีขี้หลี ทำให้โทนต้องคอยแอบดูพฤติกรรมของคีตะกับหนูแดงอยู่เงียบ ๆ เพราะรู้สึกได้ว่าเขาเป็นคนไม่ดีแน่นอน เขาบอกให้หนูแดงระวังตัว แต่เธอกลับว่าเขามองโลกในแง่ร้าย แท้ที่จริงแล้วคีตะเป็นกิ๊กอยู่กับปูเป้ นักร้องลูกทุ่งสาวสุดเซ็กซี่ ที่แอบมีใจให้โทน อ๊อดเห็นแววนักร้องในตัวโรสจึงอาสาเสนอให้พ่อปั้นโรสอีกคน โทนเสนอให้สังข์เขียนเพลงให้โรสเพื่อเอาไปเสนอค่ายเพลงอื่น แต่ก็โดนหนูแดงสั่งห้ามอีก คีตะเริ่มแสดงตัวตนที่แท้จริงพยายามลวนลาม หนูแดงเกือบจะเสียท่า ดีที่โทนมาช่วยไว้ทัน หนูแดงซึ้งใจ แต่ยังทำเป็นฟอร์มจัดตามเดิม แต่ยอมลดวันที่โทนจะต้องรับใช้จาก 1 ปี เหลือแค่ 11 เดือน โทนเลยต้องมาสอนหนูแดงแทน ครั้งนี้หนูแดงไม่ปฏิเสธ และแอบสุขใจที่ได้ใกล้ชิดกับโทน การเรียนการสอนเริ่มต้นขึ้นอย่างวุ่นวาย อ๊อดบอกให้โทนอดทนกับหนูแดง โทนตั้งใจอย่างมาก จริง ๆ แล้วหนูแดงร้องเพลงลูกทุ่งได้ แต่แกล้งร้องไม่ได้ เพราะโทนจะได้สอนเธอไปนาน ๆ ด้านบัญชาต้องการขยายธุรกิจเพิ่มเลยชวนประจินลงทุนเปิดค่ายเพลงเพิ่มอีกหนึ่งค่าย นั่นคือค่ายเพลงเด็ก และมีศิลปินเบอร์แรกก็คือ มอส บารมีได้เข้ามาดูแลงานที่นี่แทนบัญชา และทำให้เจอกับพวกโทน อีกทั้งบารมียังเบนความสนใจมาที่หนูแดงแทนโรส เพราะหนูแดงรวยกว่า บารมีเดินหน้าจีบหนูแดง แต่ก็จะเจอหนูแดงทำเชิดใส่ บารมีอยากเอาชนะหนูแดงให้ได้ เก่งเริ่มหมดหวังในตัวโรส เลยพยายามตัดใจ ช่วงเวลาที่เก่งเศร้า กลับได้ต้อยติ่งคอยดูแล จากที่เคยเป็นคู่กัดก็กลายเป็นคู่ซี้กันในเวลาต่อมา โรสเห็นโทนสนิทสนมกับหนูแดงก็เริ่มทำใจว่าเธอคงไม่ใช่เนื้อคู่ของโทน อ๊อดเห็นโรสเศร้าซึมเลยชวนโรสไปสอนเด็ก ๆ ในสลัม เพื่อฝึกให้มาเป็นหางเครื่องให้กับมอส จนเป็นที่สุนกสนานไปทั้งชุมชน มอสมาปรากฎตัวที่ชุมชน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างกรี๊ดกร๊าดชอบใจ แล้วมอสก็มาปิ๊งกับต้นอ้อ ลูกสาวผู้นำชุมชน ที่มีอายุมากกว่ามอส 5 ปี แต่มอสยึดคติ อายุเป็นเพียงตัวเลข ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจ สังข์เลยแต่งเพลงที่มีเนื้อหาประมาณนี้ขึ้นมาเพื่อให้เป็นเพลงใหม่ของมอส และมันก็ดังไปทั่วบ้านทั่วเมือง บารมีเริ่มคิดการใหญ่เลยชวนอำนาจให้มาอยู่ด้วยกันในกรุงเทพฯ โดยเปิดบริษัทจำหน่ายแผ่นซีดีเพลงและหนังที่ถูกกฎหมายบังหน้า แต่เบื้องหลังกลับเอาแผ่นเพลงของค่ายต่าง ๆ ไปก๊อบปี้ออกขาย โดยเฉพาะของค่ายประจิน และบารมีก็ยังแอบได้เสียกับปูเป้อีกต่างหาก บารมีแกล้งทำดีกับบัญชาจนบัญชาเซ็นรับบารมีเป็นบุตรบุญธรรมถูกต้องตามกฎหมาย หลังจากนั้นบารมีก็โกงเงินของบัญชาจนทำให้ตัวเองร่ำรวยผิดหูผิดตา บัญชาจับได้ จะกำจัดบารมี แต่เจอบารมีกำจัดก่อน บารมีก็ตั้งตัวเองขึ้นมาเป็นมาเฟียคนใหม่ เข้าหุบกิจการทั้งหมดของบัญชา และทำเรื่องผิดกฎหมายทุกรูปแบบ ความสัมพันธ์ของโทนกับหนูแดงเป็นไปในทางที่ดีขึ้น โทนเองก็เริ่มชอบหนูแดงมากขึ้นทีละเล็กทีละน้อย แต่ถึงอย่างนั้นสองคนก็ยังทำเก๊กใส่กัน รวมถึงคู่ของเก่งกับต้อยติ่ง อ๊อดกับโรส กลายเป็นสามคู่ชู้ชื่น จะมีก็แต่สังข์ที่ไร้คู่ แต่สังข์ไม่สน เพราะคารมที่เป็นต่อ รูปหล่อที่เป็นรอง ทำให้มีสาว ๆ มาติดพันสังข์มากมาย โดยเฉพาะแมวกับหมู แฝดคนละฝา ใกล้ถึงวันฉลองครบรอบ 20 ปีของค่ายเพลงประจิน ประจินมีโครงการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ และจะใช้งานนี้เปิดตัวหนูแดง หนูแดงตื่นเต้นมาก ดีที่ได้โทนช่วยซักซ้อมให้ โทนตัดสินใจว่าหลังงานคอนเสิร์ต เขาจะสารภาพรักหนูแดง ขณะที่บารมีขอให้อำนาจเป็นเถ้าแก่มาสู่ขอหนูแดงกับประจิน ประจินยินดีเพราะบารมีทั้งรูปหล่อและมีฐานะ แต่หนูแดงปฏิเสธและตามไปด่าบารมีถึงที่บ้าน ทำให้บารมีแค้นใจ ตั้งใจว่าต้องเอาหนูแดงเป็นเมียให้ได้!! บารมีวางแผนชั่วร้าย ทำให้ประจินเข้าใจว่าโทน เก่ง สังข์ ปั๊มแผ่นซีดีในค่ายไปวางขายใต้ดิน ประจินโกรธมากไล่ทั้งสามคนออกจากบ้าน หนูแดง อ๊อด โรส มอส ไม่เชื่อ แต่ประจินไม่ฟัง และสั่งไม่ให้โทน เก่ง สังข์กลับมาเหยียบที่บ้านหลังนี้อีก โทนกับหนูแดงจำต้องจากกัน โดยที่โทนยังไม่ทันได้บอกความในใจกับหนูแดง หนูแดงโดนประจินบังคับให้แต่งงานกับบารมี หนูแดงปฏิเสธ ประจินสั่งกักบริเวณหนูแดง ไม่ให้ออกไปไหนมาไหนได้อีกต่อไป โทน สังข์ และเก่ง ไปอาศัยอยู่บ้านป้าสมใจ ทั้งสามคนตกงาน โทนเลยเสนอให้สังข์แต่งเพลง ไปเสนอตามค่ายเพลงต่าง ๆ ทั้งสามคนคอยช่วยเหลือกัน โดยมีอ๊อดแอบสนับสนุน และคอยส่งข่าวให้หนูแดงได้รู้เรื่องโทน โทนกับหนูแดงทนคิดถึงกันไม่ไหว อ๊อดแอบพาโทนมาเจอหนูแดง โทนสารภาพรักหนูแดง หนูแดงดีใจมาก และรับรักโทน แต่ ยง คนสนิทของบารมีมาเห็นเข้า บารมีโมโหมาก ส่งคนไปจัดการโทน แต่เจอโทน เก่ง สังข์เล่นงานกลับไป ด้านประจินเห็นธาตุแท้ของบารมี และรู้มาว่าบารมีเป็นเอเย่นต์รายใหญ่ในการปั๊มแผ่นผีขาย ประจินไปขอให้ สารวัตรไตรภูมิ มาช่วย ประจินตามมาขอโทษโทน และขอร้องให้โทนกลับมาทำงานที่ค่ายเพลงตามเดิม โทน เก่ง สังข์ มอสกลับมา หนูแดง อ๊อด โรสดีใจมาก โทนกับหนูแดงจับมือไปสารภาพต่อหน้าประจินกับจินตนาว่าเขารักกัน ประจินกับจินตนาไม่ขัดขวาง อีกทั้งยังยินดีมาก ถึงวันคอนเสิร์ตครบรอบ 20 ปี ก่อนที่คอนเสิร์ตจะเริ่ม บารมีปะปนเข้ามากับฝูงชน แล้วลอบเข้ามาจับตัวหนูแดงไปเรียกค่าไถ่ แต่โรสดันมาเห็นเข้าเลยถูกจับไปด้วยอีกคน บารมีติดต่อประจินให้เอาเงินมาไถ่ตัวหนูแดงกับโรส โดยให้โทนเป็นคนถือเงินมาให้ คอนเสิร์ตต้องยกเลิกกะทันหัน ด้านโทนก็หิ้วกระเป๋าใส่เงินมาตามที่บารมีนัด โดยมีเก่งกับสังข์แอบมาห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ บารมีออกมา โทนขอเจอหนูแดงกับโรสก่อน แล้วถึงจะให้เงิน แต่ยงที่ซุ่มอยู่ในความมืด ดันเห็นเก่งกับสังข์เลยส่งสัญญาณบอกบารมี ทำให้เกิดการต่อสู้เกิดขึ้น แล้วสังข์ก็โดนบารมียิงเพราะช่วยปกป้องโทนกับเก่ง สังข์ถูกพามาส่งโรงพยาบาลแต่ไม่รอด สังข์เรียกโทน เก่งและมอสเข้าไปหา และบอกให้เพื่อนสนุกกับชีวิตต่อไป เพื่อเป็นการทำให้เขานอนตายตาหลับ อีกทั้งยังขอให้ทั้งสามคนช่วยร้องเพลงที่เขาแต่ง โทน เก่ง มอสรับปาก แล้วสังข์ก็จากไปอย่างสงบ โทน เก่ง มอส นำร่างไร้วิญญาณของสังข์กลับไปทำพิธีที่ทุ่งบางเพลง ทุกคนเศร้ากับการจากไปของสังข์มาก ประจินตัดสินใจจัดคอนเสิร์ตอีกครั้งที่ทุ่งบางเพลง โทน เก่ง มอส ร้องเพลงที่สังข์แต่งขึ้น จนทำให้เพลงนี้ดังชั่วข้ามคืน หลังจากผ่านไป 11 เดือน ครบสัญญาทาสของโทน โทนที่ตอนนี้กลายเป็นนักแต่งเพลงชื่อดังก็ขอหนูแดงแต่งงาน หนูแดงตกลง จึงจัดงานแต่งงานพร้อมกับอ๊อดและโรส ด้านเก่งกับต้อยติ่งที่แต่งงานกันก่อนหน้านั้นก็มีลูกด้วยกันหนึ่งคน ส่วนมอสกลายเป็นนักร้องลูกทุ่งเด็กร้อยล้าน ที่มีงานโชว์ตัวไปอีก 10 ปี ติดตามชม ละครโทน ได้ทุกวัน เวลา 18.40 น. ทางช่อง 7 สี ละครโทน เริ่มตอนแรกวันพุธที่ 19 มิถุนายน 2556

สายฟ้ากับสมหวัง (2555/2012) สมหวัง (เปา-เปาวลี) สาวน้อยช่างเย็บผ้าฝีมือดี อาศัยอยู่กับ ป้าชวน (พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา) เจ้าของร้านตัดชุด ชวนชมภูษา หลังจากเรียนจบเธอก็มาช่วยงานที่ร้านชวนชมภูษา จนกระทั่งวันหนึ่ง คุณนายศรีสมร (หมู-พิมพ์ผกา) ได้มาตัดชุดที่ร้าน และพา ยอดชาย (หลุยส์-พงษ์พันธ์) สามีเด็กของเธอมาด้วย สมหวังตกหลุมรักยอดชายเข้าอย่างจัง และคิดว่ายอดชายเป็นลูกชายของคุณนายศรีสมร ส่วนยอดชายเห็นสมหวังสนใจตนก็ยิ่งหว่านเสน่ห์ใส่ ด้วยความอยากเจอยอดชายมาก ในวันที่ตัดชุดเสร็จสมหวังเลยอาสาเป็นคนเอาชุดไปส่งให้คุณนายศรีสมร แต่แทนที่สมหวังจะเจอยอดชาย กลับเห็น แดน (เอเอ-พีรวัชร) กำลังฆ่าคุณนายศรีสมร ซึ่งยอดชายเป็นคนจ้างวานฆ่า เพื่อหวังฮุบสมบัติ แดนพยายามตามฆ่าปิดปากสมหวังแต่ไม่สำเร็จ หมวดวันชาติ (ตั้น-พิเชษฐ์ไชย) รู้ว่าสมหวังเห็นหน้าคนร้ายอย่างชัดเจน จึงกันสมหวังไว้เป็นพยานคดีนี้ จนกว่าจะจับคนร้ายได้ และเพื่อความปลอดภัยจึงพาสมหวังไปฝากในวงดนตรีลูกทุ่ง ชูชนะ วทัญญู (สุรชัย สมบัติเจริญ) พร้อมให้จ่ากุหลาบ (ชะเอม-ศิริพิชยา) มาคอยคุ้มกันอีกแรง สมหวังแอบดีใจที่ได้มาอยู่ในวงดนตรีลูกทุ่ง แต่ สายฟ้า (กัปตัน-ภูธเนศ) ลูกชายเจ้าของวงกลับไม่ชอบใจ ผิดกลับ บาส (เม้าส์-ณัฐชา) ครูสอนเต้นที่เห็นสมหวังครั้งแรกก็ตกหลุมรักทันที สมหวังรู้ว่าสายฟ้าพยายามกลั่นแกล้งบีบให้เธอออกจากวง แต่ในที่สุดสมหวังก็แสดงความสามารถให้ทุกคนในวงยอมรับเธอได้สำเร็จ ทั้ง เจ๊เนาว์ (ยิ่งยง ยอดบัวงาม) กะเทยเลขาประจำวง , เจ๊จุ๊ (อาภาพร นครสวรรค์) แม่ครัวและช่างแต่งหน้า รวมทั้ง ปอยฝ้าย (ไท ธนาวุฒิ) , สำลี (จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม) สองตลกจอมวุ่นประจำวง ในขณะที่ปัญหาการเงินของวงเริ่มแย่ จอมขวัญ วทัญญู (ชาม-ไอยวริญท์) นักร้องประจำวง ก็ยังสร้างความเดือดร้อนต่าง ๆ นานา แต่สมหวังก็ช่วยแก้ปัญหาได้ทุกครั้ง ทำให้สายฟ้าเริ่มรู้สึกดีกับสมหวัง วันหนึ่งจอมขวัญแอบไปเซ็นสัญญากับ เฮียตี๋ (บ๊วย-เชษฐวุฒิ) เจ้าของค่ายเพลงดัง ทำให้จอมขวัญมาขึ้นคอนเสิร์ตไม่ทัน สายฟ้าเห็นสมหวังเคยร้องเพลงในบ้านและเสียงดี จึงแก้ปัญหาด้วยการประกาศเปิดตัวสมหวังด้วยการเป็นนักร้องคนใหม่ของวง ในนาม สมหวัง วทัญญู เพียงแค่ชั่วข้ามคืนสมหวังก็ดังในพริบตา ทำให้จอมขวัญแค้นมาก เปิดศึกหาเรื่องสมหวังทุกเวที ด้านยอดชายกลัวตำรวจจะสาวมาถึงตัว เรื่องคดีฆาตกรรมคุณนายศรีสมร จึงสั่งให้แดนตามล่าพยานที่เห็นเหตุการณ์มาให้ได้ ในที่สุดยอดชายก็รู้ว่าคนที่ตนกำลังตามหามาตลอดที่แท้คือสมหวังนั่นเอง ยอดชายจึงหลอกล่อให้สมหวังออกมาติดกับเพื่อฆ่าปิดปาก แต่สมหวังกลับหลงดีใจ นึกว่าคนที่ตนตกหลุมรักอยากจะเจอ สมหวังจึงหลงกลออกมาเจอยอดชายตามที่นัดหมาย แต่เดชะบุญสมหวังกลับรอดพ้นเงื้อมมือของแดนไปได้อีกครั้ง แต่สุดท้ายความโด่งดังของสมหวังที่เพิ่มทวีมากขึ้น ก็ยิ่งเป็นตัวทำให้สมหวังต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงต่อการถูกตามล่า... เรื่องราวความรักและชีวิตที่ตกอยู่ในอันตรายของสมหวังจะเป็นอย่างไร???

ต้มยำลำซิ่ง 2555

ต้มยำลำซิ่ง (2555/2012) ทูนอินทร์ เจ้าของ ไร่อินสรวง ที่สระบุรี มีความรู้ความสามารถในการแต่งเพลง และร้องลูกทุ่งในระดับอาชีพ แต่ด้วยความเป็นคนขี้อาย เพราะเคยมีประสบการณ์เลวร้ายมาตั้งแต่วัยเด็ก 12 ขวบเมื่อต้องออกไปร้องเพลงในการประกวดลูกทุ่งเยาวชน ทูนถูกเด็กหญิงวัยห้าขวบหน้าฝรั่งที่เป็นคู่แข่งในงาน แกล้งใส่ตุ๊กแกยางลงไปในกางเกง ทูนช็อค กลางเวที ร้องไม่ได้ และฉี่ราดกางเกง กลายเป็นตัวตลกของงาน นับแต่นั้นทูนไม่กล้าร้องเพลงให้ใครฟังอีก จนเมื่อเขามีความรักกับนักร้องสาวที่เขากำลังปลุกปั้นอย่าง ฟ้าใส ทูนแต่งเพลงให้ฟ้าใสหลายเพลง และฟ้าใสเยียวยาให้ทูนหายประหม่า และช่วยให้เขาออกมาร้องเพลงในผับคู่กับเธอได้ ทั้งสองตกลงจะออกเพลงลูกทุ่งโดยร้องร่วมกัน แต่แล้วเมื่อโครงการใกล้เสร็จสมบูรณ์ ฟ้าใสก็ทิ้งทูนไปซบกับค่ายเพลงใหญ่ของ เสี่ยดำรง แถมยังขโมยทำนองบางท่อนของทูนไปด้วย แถมยังรู้ว่าฟ้าใสเป็นเมียน้อยของเสี่ยเข้าอีก ยิ่งทำให้ทูนจิตตกและป่วยใจอยู่เป็นปี เขาไม่สามารถออกมาร้องเพลงต่อหน้าผู้คนได้อีกเลยเป็นการถาวร ร้องทีไรก็สะอื้นไห้เมื่อนึกถึงฟ้าใส ด้วยความรักในเสียงเพลงไม่เสื่อมคลาย ทำให้ทูนลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง เมื่อ พี่เมธ นักร้องนักดนตรีระดับครู และเคยร่วมกันทำบริษัทผลิตรายการมาก่อน มาเปิดร้านอาหารกึ่งผับที่สระบุรี และชักชวนทูนมาเล่นดนตรีให้ที่ร้าน ทูนตั้งวงดนตรีขึ้นโดยมีสมาชิกคือ อินทร น้องชาย และสมุนสองนาย หนวนอู้ และ หนานอิน ชื่อวงว่า “ต้มแซ่บ” งานนี้พี่เมธยังช่วยทูนแต่งเพลงอยู่หลายเพลงแล้วร้องเล่นกันเองในร้าน ทูนหวังว่าสักวันนึงเพลงและวงของเขาจะออกไปฮิตเหมือนวงดังๆทั้งหลายและเขาจะต้องดังสู้กับฟ้าใสให้ได้ แล้ววันหนึ่งทูนก็ติดใจเสียงร้องของสาว รุ้งระวี ศรีแอลเอ สาวลูกครึ่งไทยอเมริกันอยู่ที่แอลเอ กำลังดังจากเพลง “ฝากจิ้มแจ่วไปแอลเอ” ทูนได้เห็นมิวสิคของเธอ และหลงไหลกิริยาอ่อนช้อย แต่ทูนจับพิรุธได้ว่ารุ้งโกหกประชาชน เพราะทูนบังเอิญเจอเธอเดินเล่นอยู่ที่ตลาดน้ำ ทั้งๆ ที่ค่ายเพลงประกาศว่ารุ้งยังเดินทางมาไม่ถึงเมืองไทย ทูนอยากรู้ความจริงถึงกับปลอมตัวไปรับรุ้งที่สุวรรณภูมิพร้อมกับทร และจับได้ในที่สุดว่ารุ้งโกหกจริง เขาช่วยรุ้งพ้นจากการแฉความจริงของนักร้องร่วมค่ายขี้อิจฉาอย่าง จุ๊บแจง แตงร่มใบ, ขวัญข้าว สาวอีสาน กับหนุ่มหน้ามนรูปงาม อาชา อาชาไนย ที่เป็นเกย์ในคราบหนุ่มหล่อล่ำ โดยมีพี่เลี้ยงรุ้งอย่าง จี่หอย และ มะปราง เป็นกำลังสนับสนุน ทูนไม่รู้ว่าที่รุ้งมาเมืองไทยก่อน เพราะเธอคิดถึงเมืองไทยมาก และเธออยากมาตามหาแม่ที่ไม่เคยเจอเธออีกเลยนับสิบปี แม้จะรู้ว่ารุ้งโกหกแต่เพราะหลงเสน่ห์สาวรุ้งเข้าแล้ว ทูนประกาศว่ารุ้งนี่แหละจะเป็นคนที่ร้องเพลงของเขาสู่สาธารณะ ซึ่งพี่เมธและอินทรเห็นว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะรุ้งสังกัดอยู่กับค่ายเพลงยักษ์อิทธิซาวนด์ของ นายอิทธิ พลกำแหง มาเฟียใหญ่ของวงการเพลงลูกทุ่ง และรุ้งเป็นหวานใจคนใหม่ของนายอิทธิเสียด้วย แต่ทูนไม่สนเขาพร้อมจะเสี่ยง และก่อนอื่นเขาจะสืบประวัติรุ้งให้ถ่องแท้ เพราะเขาเชื่อว่ารุ้งปลอมแปลงอดีตตัวเองทั้งหมด ด้านนายอิทธิสั่งให้โปรโมทรุ้งในฐานะหลานสาวไฮโซเด็กนอก แต่ด้วยเลือดความเป็นไทยทำให้เธอหัดพูดแล้วร้องเพลงจากชุมชนคนไทยที่นั่น จนร้องเพลงลูกทุ่งระดับอาชีพ รุ้งกลายเป็นดาวดังในทันที แต่ในความจริงแล้วเธอคือสาวลูกครึ่งจนๆในย่านสลัมของโคราช แม่เป็นนักร้องบาร์ชื่อ นางแสงหล้า ได้เสียกับชายอเมริกันแล้วทิ้งเธอกับลูกไป แสงหล้าสอนลูกสาวร้องเพลงและพาตระเวนประกวดเกือบทุกเวที จนกระทั่งนางได้สามีใหม่จึงส่งลูกสาวไปอเมริกาเมื่อเธอได้เก้าขวบและขาดการติดต่อนับแต่นั้น ทูนได้โอกาสใกล้ชิดกับรุ้งอีก เมื่อบริษัทผลิตรายการของพี่เมธรับโปรเจคท์ถ่ายทำมิวสิค และสารคดีบันทึกเบื้องหลังการแสดงของรุ้งและศิลปินในค่ายของอิทธิ ทูนเสนอตัวเป็นตากล้องให้ โดยมีอินทรเป็นผู้ช่วยกล้อง ทั้งสองเข้ามาในทีมถ่ายทำ ทูนได้ใกล้ชิดรุ้งเต็มที่ และเริ่มสงสัยว่ารุ้งเป็นฝรั่งดองอย่างที่เป็นข่าวลือรึเปล่า เพราะบางครั้งรุ้งก็หลุดบท ทานส้มตำปลาร้าเผ็ดจัดหน้าตาเฉย เมื่อเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน ทูนต้องช่วยรุ้งจากการกลั่นแกล้งของกลุ่มจุ๊บแจง โดยเฉพาะตัวจุ๊บแจงเองที่เคยเป็นเมียลับๆ ของอิทธิ และเกลียดรุ้งที่มาแย่งทั้งความรักและเพลงดังๆ ไปจากเธอ งานนี้พี่เลี้ยงอย่าง เจ๊จวงใจ สาวใหญ่หน้าเหี้ยมคอยเสี้ยมอยู่ตลอดเวลา ทั้งทูน อินทร พี่จี่หอย และน้องปราง ต้องคอยปกป้องรุ้ง ในการออกทัวร์คอนเสิร์ทสี่ภาค รุ้งไปร้องเพลงที่โคราช ทูนแอบตามรุ้งและจี่หอยที่ออกไปเที่ยวย่านสลัมกลางเมืองและรู้ว่าที่แท้รุ้งมาตามหาแม่แต่ไม่พบ ทูนแน่ใจแล้วว่าเธอเป็นแหม่มตัวปลอม ไม่ได้ไปอยู่แอลเอตั้งแต่สามขวบแน่ๆ ระหว่างที่รุ้งและกลุ่มนักร้องของค่ายไปโชว์ตัวแจกลายเซ็นและซีดีเพลงที่ตลาด รุ้งพบหญิงชราเข้ามาขอลายเซ็น นางขอร้องให้รุ้งร้องเพลงเพลงหนึ่งที่รุ้งเคยร้องประกวดสมัยเด็ก รุ้งร้องให้ฟัง นางร่ำไห้จนรุ้งสงสัยว่านางเป็นใคร แต่นางก็หลบออกไปเสียก่อน ทูนเองก็สงสัยเช่นกัน เพราะเขาจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าสมัยเด็กที่แข่งประกวดกับเด็กแหม่มคนนั้น เขาก็เคยได้ยินแม่ของเด็กร้องเพลงนี้ให้ได้ยิน ทำให้ทูนเริ่มสงสัยว่าเด็กแหม่มตัวร้ายนั้นจะคือรุ้งนั่นเอง และเขาจะต้องสืบความจริงจากรุ้งให้ได้ รุ้งไม่รู้เลยว่าหญิงชราคนนั้นคือนางแสงหล้า แม่แท้ๆ ของรุ้งนั่นเอง ที่นางต้องส่งรุ้งไปอยู่เมืองนอกก็เพราะ นายคำรณ สามีใหม่ที่เป็นนักเลงคุมบ่อนและซ่อง ที่ทั้งซ้อมและรีดไถนางอยู่ตลอด ทำท่าว่าจะล่วงเกินรุ้งถึงขั้นขู่จะส่งรุ้งไปขายตัวที่ชายแดน นางจึงรีบส่งรุ้งไปอยู่กับญาติที่กำลังไปทำงานที่แอลเอ ทูนสนิทกับรุ้งมากขึ้นและพยายามล้วงความลับของรุ้ง รุ้งปรับทุกข์แต่เรื่องที่อิทธิบังคับให้เธอแต่งงานกับเขาโดยที่เธอไม่ได้รัก รุ้งสารภาพประวัติแท้จริงทั้งหมด แต่สิ่งที่รุ้งยังไม่รู้ก็คือทำไมแม่ต้องทิ้งเธอ รุ้งเข้าใจว่าเพราะแม่รักชายชู้คนใหม่ จึงคิดกำจัดเธอเสีย …ทูนเห็นใจ และเริ่มมีความหวังว่ารุ้งอาจจะรักเขาบ้าง รุ้งโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ และคนที่จำรุ้งได้ก็คือนายคำรณพ่อเลี้ยงนั่นเอง ในคอนเสิร์ทครั้งหนึ่ง แสงหล้าตามมาแอบดูรุ้งร้องเพลง แสงหล้าตกใจที่เห็นนายคำรณเข้ามาแสดงตัวกับรุ้ง คำรณขู่รุ้งว่าถ้าไม่จ่ายเงินหลักล้านให้ตน ตนจะเปิดโปงเรื่องการปลอมประวัติของรุ้ง ทั้งเรื่องแม่ที่เป็นหญิงบาร์และขายตัวอยู่ที่โคราช ทูนเข้าปกป้องรุ้ง และขู่กลับนายคำรณไม่ให้มายุ่งกับรุ้งอีก งานนี้ทูนจ่ายนายคำรณไปเยอะ แต่หารู้ไม่ว่าจุ๊บแจงและเจ๊จวงเห็นเหตุการณ์ และเรียกนายคำรณไปซักฟอก และเริ่มแผนการทำลายรุ้งอย่างต่อเนื่อง ด้วยความที่อยากอยู่ใกล้และปกป้องลูกสาว แสงหล้าเสนอตัวมาเป็นแม่ครัวของทีมงานเวลาออกคอนเสิร์ท อิทธิ จวง จุ๊บแจง ขวัญข้าว และอาชาแสดงท่าทางรังเกียจแสงหล้า มีแต่รุ้งเท่านั้นที่ขอให้อิทธิรับแสงหล้าเข้าทำงาน อิทธิเร่งรัดเรื่องการแต่งงานกับรุ้งเพราะเห็นรุ้งสนิทกับทูนเกินเหตุ แต่รุ้งยังไม่พร้อม เธอต้องตาม หาแม่ให้เจอ อิทธิเลยสร้างหลักฐานปลอมว่าแม่ของรุ้งตายแล้ว รุ้งเสียใจมากจนเกิดภาวะซึมเศร้า ร้องเพลงไม่ได้ ทูนช่วยปลอบจนรุ้งคลายใจ อิทธิยิ่งไม่พอใจจะเลิกจ้างทูนแต่ติดขัดที่เซ็นสัญญาไว้แล้ว อิทธิวางแผนจะให้รุ้งเข้าใจผิดทูนและเลิกคบกับทูน จังหวะนั้นฟ้าใสและจุ๊บแจงเข้ามาเสนอแผนกับอิทธิ อิทธิร่วมมือด้วยเพราะเป็นแผนที่แยบยลที่สุด ส่วนความรักระหว่าง ทูน กับ รุ้ง กลับต้องมาผิดใจกันเมื่อฟ้าใสมาหาทูนถึงที่ไร่อินสรวง ฟ้าใสแกล้งให้ทูนดูรอยแผล อ้างว่าเกิดจากการซ้อมของเสี่ยดำรง และตอนนี้เธอกำลังท้องอ่อนๆ ฟ้าใสกลัวว่าจะแท้งลูก เธอทำท่าจะเป็นลม จนทูนต้องเข้ามาประคองกอด และอุ้มฟ้าใสไปนอนในห้องด้านใน รุ้งเห็นภาพในระยะห่าง เธอใจคอไม่ดี ไม่แน่ใจว่าทูนพูดความจริงกับเธอรึเปล่า เพราะเมื่อรุ้งถามทูนว่านัดพบใครวันนี้ ทูนกลับปฏิเสธ รุ้งยิ่งแคลงใจมากขึ้น ความรักระหว่าง ทูน กับ รุ้ง จะเป็นเช่นไร และทั้ง สอง จะล่วงรู้แพ้ร้ายของอิทธิ ได้อย่างไร รุ้งจะได้พบแม่ หรือไม่ ต้องติดตามใน “ต้มยำลำซิ่ง”

สวนอาหารบานใจ 2555

เรื่องย่อ : สวนอาหารบานใจ (2555/2012) “สนุกสนานครื้นเครง อลเวงอลหม่าน กับสวนอาหารสุดสำราญบานตะไท” กำนันบุรุษชาติ (โน๊ต-วัชรบูลย์ ลี้สุวรรณ) กำนันหนุ่มรุ่นใหม่นักพัฒนา แห่งตำบลทางเสือผ่าน ผู้ที่มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาท้องถิ่นตามอุดมการณ์เดียวกับบิดา ซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้ว และได้ทิ้งมรดกไว้ให้บุรุษชาติมากมาย ทำให้กำนันบุรุษชาติตกเป็นที่หมายปองของบรรดาสาวน้อย สาวใหญ่ ลามไปจนถึงบรรดาแม่หม้ายทั้งหลายในตำบล บุรุษชาติมีเพื่อนร่วมงานอย่าง นายขลุ่ย (เหม-เหมวรรษ นิตยารส) สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยคนสนิทของกำนันบุรุษชาติ เป็นผู้ที่มีความรู้เรื่องการเกษตรเป็นอย่างดี นายขลุ่ยแอบหลงรัก หนูหวานแหว๋ว (มะนาว-ศรศิลป์ มณีวรรณ) ลูกสาวนายอำเภอแสวง (ปรินทร์ วิกรานต์) หวานแหว๋วเป็นหญิงสาวที่หลงใหลในวัฒนธรรมเกาหลีมาก ทั้งดนตรี เสื้อผ้า หน้า ผม รวมถึงอาหาร หวานแหว๋วหลงรักกำนันบุรุษชาติ โดยมี คุณนายรื่นวจี (กบ-ปภัสรา เตชะไพบูลย์) ผู้เป็นแม่ที่คอยวางแผนให้ลูกสาวได้มีโอกาสใกล้ชิดกับกำนัน เพราะคิดอยู่เสมอว่าลูกสาวของตนจะต้องได้คนที่ดี ร่ำรวย มีชื่อเสียงในสังคมเท่านั้น ถึงจะเหมาะสม บานใจ (ทับทิม-อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) สาวแก่นแก้ว ก๋ากั่นวัย มีบุคลิกห้าวหาญคล้ายผู้ชาย จบการศึกษาจากสถาบันอาชีวศึกษา ด้านเครื่องยนต์ มีความใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถไถนา มีเบื๊อก (โบกัส- ธีระธันญ์ ขจรชัยเดชาวัฒน์) น้องชายตัวแสบที่คอยช่วยเหลือ และตามร่วมวีรกรรมพิทักษ์ความถูกต้องให้เกิดขึ้นในตำบลทางเสือผ่าน บานใจไม่ถูกกับ นายดั้ง (เขต-ธาราเขต เพ็ชรสุกใส) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ ผู้ใหญ่บ้านยมโดย (หมู-กลศ อัทธเสรี) นายดั้งชอบตั้งตัวเป็นนักเลงใหญ่ประจำท้องถิ่น บานใจกับนายดั้ง ไปบังเอิญเจอกันที่ร้านอาหารสร้อยสวรรค์ โดยมี สร้อยสวรรค์ (เมษ์- บัณฑิตา ฐานวิเศษ) เป็นเจ้าของ ทั้งสองเผชิญหน้ากันแบบไม่มีใครยอมใคร เวลาไม่นานทั้งบานใจและนายดั้งได้สร้างความพังพินาศให้แก่ร้านอาหารสร้อยสวรรค์ สร้อยสวรรค์โมโหมาก สั่งให้ นายแหว่ง (ปราบ ยุทธพิชัย) ตามไปเรียกเก็บค่าเสียหาย จากนางเบิก (ต้อม รัชนีกรณ์ พันธ์มณี) ผู้เป็นแม่และ นายห้อย (จิ๊บ เฉลิมพร) ผู้เป็นพ่อ ประเมินค่าความเสียหายนับแสน พ่อแม่ของบานใจแทบเป็นลมเมื่อรู้เรื่องวีรกรรมที่เบื๊อกกับบานใจไปก่อขึ้น ร้านอาหารสร้อยสวรรค์ที่ตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับสำนักนางชีด้วยความเงียบสงัด เพราะเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างนายเบื๊อกและนายดั้ง ทำแขกกลัวโดนลูกหลงจนไม่กล้าเดินผ่าน การทำร้านอาหารถ้าไม่เคยทำ ไม่รู้หรอกว่าปัญหามันมีมากมายขนาดไหน เด็กเสิร์ฟทำหน้าหงิกเพราะหึงแขก นักร้องท้องแล้วท้องอีก เผลอไม่ได้เผลอเป็นท้องกับนักดนตรี แม่ครัวที่คิดว่าตัวเองหล่นมาจากฟากฟ้าทำอาหารรสชาติแล้วแต่อารมณ์ ปัญหาต่างๆ มากมายที่มีอยู่ตลอดเวลา.....สร้อยสวรรค์จึงท้าให้บานใจมาบริหารงานสวนอาหาร ภายในเวลาสามเดือนบานใจจะต้องบริหารสวนอาหารให้ได้ โดยไม่เจ๊งและนำเงินมาชดใช้ค่าเสียหาย.....แต่ถ้าบานใจไม่สามารถบริหารร้านอาหารได้ ที่นาครอบครัวนางเบิกจะถูกยึดและตกเป็นของสร้อยสวรรค์ทันที และ “สวนอาหารบานใจ” ถูกเนรมิตขึ้นภายในสามวัน พร้อมทีมงานที่ประกอบไปด้วย...พ่อที่เคยแต่ต้อนควายเข้าคอก มาทำหน้าที่พนักงานต้อนรับ..แม่ที่เคยแต่ตำน้ำพริก ผักต้ม ต้องมาเป็นแม่ครัวใหญ่…น้องชายจอมซนอีกคน มารับตำแหน่งเด็กเสิร์ฟ พี่แรมจันทร์ (อ้อม- ประถมาภรณ์ รัตนภักดี) อดีตนักร้อนลูกทุ่งสาวเสียงดี เซ๊กซี่ ที่ตัดสินใจวางไมค์ไปแล้ว กับ นายเชิด (เอเอ- ปัญญาพล เดชสงค์) อดีตนักดนตรีหนุ่ม มาดเซอร์ สายตาเจ้าชู้ แฟนเก่าของแรมจันทร์ ถูกบานใจตามตัวมา เพื่อหวนกลับขึ้นบรรเลงดนตรีในสวนอาหารอีกครั้ง และ จ่าดับ (กล้วย เชิญยิ้ม) มาคอยดูแลความปลอดภัยให้กับสวนอาหารบานใจ “สวนอาหารบานใจ” จึงเปิดขึ้นอย่างทุลักทุเลและดำเนินกิจการไปอย่างสับสนอลเวง ภายใต้เสียงวิพากษ์โจษจันของชาวบ้านทั้งตำบลว่าบานใจนั้นหาเรื่องหมดตัว หนูหวานแหววสนใจในตัวกำนันบุรุษชาติเป็นอย่างมาก หากกำนันหนุ่มนั้นเพียงแค่ให้เกียรติหญิงสาวในฐานะลูกสาวท่านนายอำเภอเท่านั้น ท่าทางสุขุมฉลาดล้ำของบุรุษชาติจึงทำให้หนูหวานแหววและคุณนายรื่นวจีให้ความสนใจอยู่ไม่น้อย ขณะเดี๋ยวกันสร้อยสวรรค์ก็หลงใหลในตัวกำนันบุรุษชาติเช่นกัน....นายขลุ่ยเองได้ตกหลุมรักหนูหวานแหว๋วอย่างถอนตัวไม่ขึ้น แต่สำหรับหนูหวานแหว๋วกลับมองนายขลุ่ยเป็นเพียงหนุ่มข้าราชการต๊อกต๋อย บ้านนอกเท่านั้น แต่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจจริงของบานใจ อีกทั้งแนวคิดด้านการปรุงอาหารไทยอันเลิศรส เสริมด้วยสมุนไพรที่ถือเป็นองค์ประกอบในการปรุงอาหาร เพื่อสุขภาพอย่างหลากหลาย จนเป็นที่รู้จักโด่งดังไปทั่ว ทั้งแนวการบริหารสวนอาหารที่แปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร ทำให้กำนันบุรุษชาติ ได้กลายมาเป็นแขกประจำของสวนอาหารอย่างไม่รู้ตัว กำนันหนุ่มนักพัฒนาผู้มีแบบแผนในการทำงานและการใช้ชีวิต ที่พร้อมอุทิศให้กับลูกบ้านเพื่อมุ่งพัฒนาตำบลของตนให้มีความเจริญ มีอาชีพทำมาหากินไม่เป็นหนี้ และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างพอเพียง แต่ชีวิตทุกย่างก้าวไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หรือเพราะเหตุผลใดที่เกินจะคาดเดา เมื่อได้มาพบกับเจ้าของสวนอาหารบานใจ ทำให้กำนันบุรุษชาติที่เป็นนักวางแผนชั้นยอด ต้องมาคิดวางแผนเรื่องหัวใจของตัวเองเพื่อพิชิตหัวใจหญิงสาวอย่างบานใจ และตัวบานใจเองผู้รับหน้าที่เป็นผู้บริหารสวนอาหารจะสามารถบริหารหัวใจตัวเองได้หรือไม่ !? ต้องติดตามชม..

ดวงตาในดวงใจ 2554

ดวงตาในดวงใจ (2554/2011) เพลงพิณ (หยาดทิพย์ ราชปาล) สาวอุบลฯ สุดสวยแต่แซ่บไม่หยอก หัวหน้าวงโปงลางแห่งชมรมศิลป์อีสาน วงโปงลางสามช่า ม่วน-แซ่บ-ซ่าส์ อีหลีเด้อ แม้เธอจะเป็นเด็กต่างจังหวัดบ้านๆ แต่สวยใสระดับมิสไทยแลนด์เวิลด์! เธอเคยบนบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองอุบลฯ ไว้ว่า ถ้าเอ็นทรานซ์ติดจะไม่ขอมีแฟนเป็นเวลาสี่ปีเต็มและนั่นก็หมายความว่าเธอจะเผลอรักใครไม่ได้เด็ดขาด แล้วคนที่ใกล้เคียงจะทำให้เธอผิดคำสาบานก็คือ ศาสตร์ วรรณวิจักษ์ (เอกพงศ์ จงเกษกรณ์) ไฮโซหนุ่มคนดังโปรไฟล์หรูหล่อรวยไร้ที่ติ ผู้บริหารใหญ่ที่มีตาสวยสุด ๆ ของวรรณวิจักษ์กรุ๊ป บริษัทนำเข้าส่งออกสินค้ารายใหญ่ของประเทศที่เธอมาฝึกงานก่อนจะจบการศึกษา ศาสตร์ เป็นหลานชายสุดที่รักของ สิทธิเทพ (สุพจน์ จันทร์เจริญ) ผีคุณปู่ผู้อยากได้เพลงพิณเป็นหลานสะใภ้ใจแทบขาด และความฝันก็มีที่ท่าว่าจะสมหวัง…เพราะเพลงพิณเพิ่งทำงานผิดพลาดจนบริษัทสูญเงินไปกว่าร้อยล้าน ศาสตร์ยื่นข้อเสนอให้เพลงพิณเป็นแฟนถ้าไม่อย่างนั้นก็เตรียมไปติดคุกได้เลยศาสตร์อยากได้เพลงพิณเป็นแฟนเพราะจะใช้เธอเป็นเครื่องมือผลักไสไล่ส่ง มุกดารัศมิ์ (ศุภักษร ไชยมงคล) ม่ายสาวไฮโซสุดเซ็กซี่ให้ออกไปจากชีวิต ปู่สิทธิเทพช่วยให้รักปลอม ๆ ของทั้งสองกลายเป็นรักจริงถึงขั้นวิวาห์ แต่ทั้งสองก็หารู้ไม่ว่านี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวยุ่งเหยิงที่กำลังจะตามมา

เสน่ห์บางกอก 2554

เรื่องย่อ : เสน่ห์บางกอก (2554/2011) เสน่ห์บางกอก มนต์ขลังแห่งมหานคร ที่ใครต่อใครต่างพากันใฝ่ฝันที่ได้มาสัมผัสชีวิตในเมืองกรุง บ้างก็พบกับความสำเร็จบ้างก็พบกับความล้มเหลวถูกหลอกลวง กรุงเทพฯ เป็นทั้งสรวงสวรรค์และขุมนรกได้ในเวลาเดียวกันขึ้นอยู่ที่ใครจะเลือกเส้นทางเดิน แต่ไม่ว่าจะอย่างไร บางกอก ก็ยังคงมีมนต์เสน่ห์ชวนให้ใคร ๆ เข้ามาสัมผัส...มิเสื่อมคลาย บนเวทีคอนเสิร์ตยิ่งใหญ่ แก้วทิพย์ นักร้องลูกทุ่งสาวดาวรุ่งมาแรงกำลังร้องเพลงอย่างสนุกสุดเหวี่ยง คนดูล้นหลาม หลังเวที แพร พนมพร นักร้องหน้าใหม่ และเพิ่งจะได้ขึ้นเวทีคอนเสิร์ตเป็นครั้งแรกเตรียมตัวจะขึ้นร้องเป็นคนต่อไป แพรตื่นเต้นมากจนเดินสะดุดพื้นเวทีล้มลง พร้อมกับเสียงปลุกของ ผึ่ง เพื่อนรัก ที่แท้แพรกำลังฝันนั่นเอง เขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อจะได้ไปถึงฝัน เมื่อมีงานประกวดร้องเพลงที่หมู่บ้านข้าง ๆ แต่เหมือนฟ้าไม่เป็นใจไม่ทันที่แพรจะออกไปจากบ้าน กำนันปลั่งก็กลับมาเสียก่อน แพรจึงต้องออกอุบายว่าไม่สบาย แล้วเปลี่ยนตัวกับผึ่งเพื่อนรักของเขาให้มานอนคลุมโปงแทน ส่วนตัวแพรก็กระโดดหน้าต่างหนีไป ระหว่างทางที่เขาขี่รถมอเตอร์ไซค์เพื่อไปที่งานวัด รถของเขาก็เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวเข้ากับรถมอเตอร์ไซค์ของสไบ สาวจอมแก่นเซี้ยวห้าวราว เมื่อรถของแพรมาเฉี่ยวทำให้ข้าวของตกแตกเสียหายหมด สไบจึงโวยวายใส่แพร แต่ด้วยความรีบแพรไม่มีเวลาคุยจึงขี่รถจะไปงานวัดสไบจึงถีบแพรตกท้องร่อง ทำให้แพรเลอะโคลนเต็มตัว แพรโกรธสไบมาก สายสุนีย์ ลูกสาวเจ้าของโรงสีในหมู่บ้านขับรถกระบะผ่านมาพอดีจึงรับแพรขึ้นรถและพาไปส่ง สไบจึงไปฟ้องกำนันปลั่งที่บ้าน ทำให้กำนันรู้ว่าแพรไม่ได้นอนอยู่ในห้องแต่เป็นผึ่ง กำนันโกรธมากเมื่อรู้ว่าแพรหนีไปร้องเพลง แพรโกรธแค้นสไบมากที่มาทำลายโอกาสของเขา แพรจะไม่มีวันญาติดีกับสไบอย่างเด็ดขาด เมื่อไม่ได้ประกวดร้องเพลงที่งานวัด แพรจึงแกล้งทำเป็นไม่สนใจร้องเพลงและโกหกพ่อแม่ว่าสอบเอ็นต์ติดต้องใช้เงินลงทะเบียนถึงเงิน2แสน สไบแอบรู้เรื่องที่แพรโกหกนี้จึงบอกให้แพรพูดความจริง ถ้าแพรไม่พูดสไบจะพูดเอง กำนันปลั่งกับแม่ช้อยเข้ามาได้ยินพอดีความจึงแตก เมื่อกำนันกับแม่ช้อยรู้ความจริงว่าแพรไม่ได้เอ็นต์ติด จึงบังคับแพรให้แต่งงานกับสไบทันที แม่ช้อยไปดูดวงให้แพรมาหมอดูบอกว่าแพรจะพ้นเคราะห์ได้และได้เป็นปลัดอำเภอสมใจก็ต้องบวชเสียก่อน กำนันจึงจัดงานบวชแพร และว่าจ้างวงดนตรีลูกทุ่งชื่อดังมาแสดงในงาน ซึ่งก็คือวงของแก้วทิพย์นั่นเอง แก้วทิพย์มากับศักดิ์ชายผู้เป็นทั้งพ่อและผู้จัดการ แพรดีใจมากพยายามตีสนิทแก้วทิพย์ แพรจึงตัดสินใจหนีเข้ากรุงเทพฯ พร้อมขบวนของวงลูกทุ่งแก้วทิพย์โดยขโมยพระสมเด็จของพ่อไปด้วยเพื่อเอาไปขายเอาเงินมาเป็นทุนในการทำเดโมเทปเสนอค่ายเพลง เมื่อมาถึงกรุงเทพฯ แพรมาขออยู่กับแก้วทิพย์แต่แก้วทิพย์ไม่อยากรับไว้เพราะสำหรับกรุงเทพฯ แล้วแพรนับว่าบ้านนอกมาก แก้วทิพย์มีเสี่ยมาติดพันหลายคนจึงไม่อยากให้ใครเห็นว่าเธอคบหากับเด็กบ้านนอกอย่างแพร แต่ศักดิ์ชายเห็นพระสมเด็จของแพรก็อยากได้จึงยอมรับไว้ให้อยู่ด้วย แพรบอกศักดิ์ชายว่าถ้าอยากได้พระของเขาก็ต้องให้เขาเป็นนักร้องออกอัลบั้มก่อนเขาจึงจะยกพระให้ศักดิ์ชาย ศักดิ์ชายวางแผนปล้นพระจากแพร แต่ปรากฏว่า พระที่แพรขโมยมาเป็นของปลอมคนละองค์กับที่กำนันให้ศักดิ์ชายดู แพรจึงถูกซ้อมแล้วโยนทิ้งข้างถนน เมื่อกำนันรู้ว่าแพรขโมยพระหนีมากรุงเทพฯ ก็เป็นห่วงมากชวนผึ่ง ลั่นทม แม่ช้อย ตาเอี่ยม เข้ากรุงเทพฯ เพื่อตามหาแพรเมื่อแพรถูกซ้อมแล้วโยนออกมาจากบ้านแก้วทิพย์ ขณะที่แพรสะบักสะบอมนั้น ศศิมาก็มาพบเข้าจึงช่วยเหลือแพร พาแพรไปรักษาตัวที่บ้านเธอ ศศิมาเป็นนักร้องคาเฟ่และเป็นเมียน้อยของสมพลเสี่ยเจ้าของค่ายมวยซึ่งเมื่อเธอตั้งท้องสมพรรู้ก็ไล่เธอออกจากบ้าน แพรรู้เรื่องก็สงสารช่วยดูแลศศิมาอยู่ด้วยกันอย่างพี่น้องคอยพาไปฝากท้องและพาไปหาหมอ แพรออกหางานทำ ไปรับจ้างขับรถแท็กซี่ เจอคนจี้รถแท็กซี่ แต่โชคดีที่ชัยอดีตนักมวยชื่อดังมาช่วยไว้ได้ทัน ชัยจึงชวนแพรมาทำงานที่ค่ายมวยและเห็นแววของแพรที่จะเป็นนักมวยได้ ชัยแยกจากค่ายเดิมมาเปิดค่ายใหม่ของตัวเอง นักมวยตามชัยมาเยอะทำให้ สมพลเจ้าของค่ายเดิมไม่พอใจ ในวันขึ้นชกที่สนามมวย นักมวยของชัยถูกทำร้ายขึ้นชกไม่ได้ เหลือแค่แพรยังไม่พร้อมขึ้นชก แต่เมื่อได้เจอสไบที่มาดูมวยตามความชอบของเธอ สไบพูดยั่วแพรว่าไม่เป็นลูกผู้ชายไม่สู้คน ด่าว่าแพรต่าง ๆ นา ๆ จนแพรโกรธฮึดสู้และเอาชนะได้ในที่สุด ทำให้แพรดังในชั่วพริบตา มีนักข่าวมาสัมภาษณ์ แพรบอกว่าเขาอยากเป็นนักร้อง กำนันและทุกคนที่มาด้วยเห็นแพรทางทีวีในรายการมวยจึงรีบไปหาที่สนามมวย ทั้งหมดจึงได้พบกันต่างดีใจ ทุกคนจึงย้ายไปอยู่ที่ค่ายมวยของชัย แต่ความดีใจของสไบก็ต้องชะงักเมื่อเห็นศศิมาที่กำลังท้องเข้ามาดูแลแพรราวกับเป็นเมียแพรสไบเข้าใจผิดว่าศศิมาเป็นเมียแพร ทำให้เกิดอาการงอนเศร้าอยากกลับศาลาเกวียน เมื่อนักมวยของสมพลขอย้ายมาอยู่ค่ายของชัยเพิ่มมากขึ้นจากการที่แพรชนะ สมพลจึงยกพวกบุกมาที่ค่ายของชัยและได้เจอศศิมาอยู่กับแพรจึงโกรธคิดว่าแพรเป็นชู้กับเมียน้อยตนเอง ศศิมาเสียใจต่อว่าสมพลเรื่องลูกในท้องทำให้ทุกคนรู้ความจริงว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของแพร สไบจึงยอมเข้าใจและไม่หนีกลับศาลาเกวียน ชัยสงสารศศิมา และแอบชอบศศิมาตั้งแต่แรก แต่เพราะคิดว่าเป็นเมียของแพรจึงไม่กล้าแสดงออก แต่ในเมื่อไม่ใช่ ชัยจึงแสดงความรักต่อศศิมาและขอดูแลเธอกับลูก เขาจะรับเป็นพ่อของเด็กเอง ก้านหนีคดีเผาบ้านเบิ้ม ที่ศาลาเกวียนเข้ามากรุงเทพฯ ก็มาอยู่กับสมพล เป็นนักเลงหัวไม้ประจำค่ายมวย เมื่อเห็นแพรก็ตามมาเล่นงานแพรเพราะแค้นที่สไบหนีจากศาลาเกวียนมาตามหาแพร และได้รู้ว่า สมพลไม่ถูกกับชัย ก้านจึงคิดแผนชั่วทำร้ายทั้งแพรและชัย ตามความฝันของแพรคืนการเป็นนักร้อง สไบก็เห็นดีด้วยจึงเข้าไปสมัครเป็นคนรับใช้ในวงแดนเซอร์ คอยช่วยจัดชุดแดนเซอร์รับใช้คนในวงดนตรี ทำทุกอย่างเพื่อหวังจะใกล้ชิดกับการร้องเพลง วันหนึ่งเมื่อถึงเวลาแสดงดนตรี นักร้องคั่นเวลาที่ร้องอยู่มาไม่ได้ แพรจึงเสนอตัวร้องแทน เมื่อแพรร้องเพลงจบได้รับเสียงปรบมือจากคนดูอย่างที่ทุกคนคาดไม่ถึง แถมรับพวงมาลัยหน้าเวทีคล้องคอจนล้น สไบยืนดูอยู่หลังเวทีดีใจน้ำตาคลอคิดว่าฝันของแพรต้องเป็นจริงแน่ ๆ หัวหน้าแดนเซอร์เข้ามาชื่นชมบอกแพรอย่าหยุดตัวเองแค่นี้หาหนทางเข้าไปสู่การเป็นดาวให้ได้ แพรจึงไปสมัครประกวดในรายการชุมทางเสียงทอง แต่ก็ตกรอบแรกซุ่มซ้อมกลับเข้าไปประกวดรายการชุมทางเสียงทองใหม่ได้รับรางวัลชนะเลิศ มีค่ายเพลงสนใจอยากออกเทปให้แพร กำนันคัดค้าน จะลากแพรกลับบ้านศาลาเกวียน แพรไม่ยอมกลับ เขาร้องให้กำนันเห็นแก่ความฝันของเขา ชีวิตนี้เขาอยากเป็นนักร้อง สไบเองก็ช่วยพูดกับกำนันให้ยอมใจอ่อน อนุญาติให้แพรได้เป็นนักร้อง กำนันจึงขอสัญญาแลกเปลี่ยนว่า หลังจากเป็นนักร้องแล้ว แพรกับสไบต้องแต่งงานกัน ทั้งสองยอมรับปาก ความดังของแพรไปถึงหูแก้วทิพย์กับศักดิ์ชาย แก้วทิพย์จึงมาออดอ้อนแพรต่าง ๆ นานาให้ยอมมาเป็นนักร้องในค่ายของเธอ และสร้างสถานการณ์ให้เกิดการเข้าใจผิดกับสไบและกำนัน จนแพรยอมยกเลิกสัญญากับค่ายเดิมไปอยู่กับแก้วทิพย์ สไบเสียใจมาก ตอนนี้แพรไม่เชื่อใครแล้วนอกจากแก้วทิพย์เพราะเธอทำให้แพรเป็นนักร้องดังได้มากกว่านี้เธอสัญญากับเขาว่า จะจัดคอนเสิร์ตใหญ่พร้อมกับเปิดอัลบั้มเพลงใหม่ที่จะส่งให้แพรดังสุด ๆ มันเป็นความฝันของแพร ศักดิ์ชายทำเพลงให้แพรอย่างจริงจัง เพื่อหลอกล่อให้แพรอยู่กับเขาและจะให้แพรแจ้งเกิดเป็นนักร้องลูกทุ่งระดับอินเตอร์ในคอนเสิร์ตครั้งนี้ ศักดิ์ชายขู่กำนันถ้าไม่เอาพระมาให้เขาจะทำลายความฝันของแพรล้มเลิกการแสดงคอนเสิร์ตซึ่งจะทำให้แพรเสียชื่อเสียง เพราะจากยอดขายบัตรล่วงหน้าหลายหมื่นใบแสดงว่าคนดูกำลังรอชมคอนเสิร์ตของแพร กำนันกลัวว่าแพรจะเสียชื่อเสียงจึงยอมเอาพระไปแลก สไบสงสารกำนันจึงแอบไปหาแพรเตือนสติให้แพรตาสว่าง แต่กลับถูกแพรด่าว่าสไบขัดขวางความฝันของเขาและไล่สไบกลับศาลาเกวียน สไบเสียใจมาก แก้วทิพย์รู้ว่าสไบมาหาแพรก็ไม่พอใจสั่งก้านสั่งสอนสไบโดยจับสไบมาข่มขืน ขณะที่แพรรอเวลาจะขึ้นคอนเสิร์ตเขาได้ยินแก้วทิพย์คุยกับก้านเรื่องให้ไปจับสไบ แพรตกใจจึงรีบออกจากหลังเวทีเพื่อที่จะไปช่วยสไบ ก้านกับพวกฉุดสไบมาที่โกดังร้างแพรกับชัยตามมาพบเกิดการต่อสู้กันแพรพลาดท่าถูกก้านแทง แต่ชัยช่วยแพรไว้ได้ก้านกับพวกถูกชัยอัดสะบักสะบอมหนีไปได้ แพรเขาปกปิดบาดแผลของตัวเองไว้แล้วขึ้นเวทีร้องเพลงบนเวทีคอนเสิร์ต เขาจนจบเพลงพร้อมกับร่างกายของเขาค่อย ๆ ล้มลงกองบนเวที สไบตกใจรีบเข้ามาดูก็พบว่าแพรบาดเจ็บทุกคนจึงรีบนำแพรส่งโรงพยาบาล แก้วทิพย์และก้านถูกตำรวจจับข้อหาจ้างวานให้ทำร้ายสไบและทำร้ายร่างกายแพรจนบาดเจ็บสาหัส แพรต้องนอนโรงพยาบาลอยู่หลายวันโดยมีสไบคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เมื่อเรื่องทุกอย่างคลี่คลาย แพรก็ได้รู้ความจริงว่าใครที่รักและหวังดีต่อเขาจริง ๆ แพรตัดสินใจกลับศาลาเกวียนกับกำนันและสไบ เขาขอสไบแต่งงาน กำนันยอมไปง้องอนนายเบิ้มเพื่อขอสไบให้กับแพร นายเบิ้มกลั่นแกล้งกำนันต่าง ๆ กำนันยอมทำตามนายเบิ้มทุกอย่าง จนนายเบิ้มใจอ่อนยอมยกโทษให้ และยกสไบให้แต่งงานกับแพร กำนันเมื่อหมดหวังที่จะมีลูกชายเป็นปลัดอำเภอ ก็หันมาทุ่มเทให้ลูกสะใภ้แทน กำนันส่งสไบไปเรียนมหาวิทยาลัยจนจบรัฐศาสตร์และกลายเป็นปลัดอำเภอหญิงคนแรกของศาลาเกวียนเป็นที่ภาคภูมิใจของทุกคน แพรกลายเป็นนักร้องลูกทุ่งชื่อดังที่ประกาศตนว่าแต่งงานแล้ว ไม่ว่าไปไหนเขาก็ต้องแนะนำให้ใคร ๆ รู้จักว่าสไบเป็นเมียของเขาเสมอจนเป็นที่ชื่นชมของวงการ ติดตามชม ละครเสน่ห์บางกอก ได้ทุกวัน เวลา 18.45 น. ทางช่อง 7 สี