อาหาร
เรื่องย่อ : รักซ่อนรส (2567/2024) ฟ้าใส (เสฏฐนันท์ ทองสมบุญ) สาวน้อยไฮโซจอมเชิด นักรีวิวอาหารตัวท็อปในวงการโซเชียล ฉายา “ปลายลิ้นนางฟ้า” ที่สามารถแยกรสอาหารได้เพียงปลายลิ้นสัมผัส แต่ไม่เคยได้รู้จักรสชาติชีวิตที่แท้จริง ทุกครั้งที่มีงานเปิดร้านอาหาร หรือแฟชั่นโชว์ เธอจะเป็นเอลิสต์แถวหน้าทุกครั้ง แต่เธอก็มีคู่แข่งนั่นคือ ชฎาฉัตร (เลลาณี ทศพร) อีกหนึ่งสาวสังคม ลูกสาวของ อำนาจ (ตฤณ เศรษฐโชค) หุ้นส่วนธุรกิจเครื่องเทศของพ่อฟ้าใส ซึ่งอิจฉาในความที่มีคนนิยมในตัวฟ้าใสมากกว่า ทั้งคู่จึงแขวะกันทุกครั้งที่เจอหน้า แต่ฟ้าใสไม่สนใจ เพราะระดับชฎาฉัตร ก็เป็นได้เพียงธุลีดาวที่ไม่อาจเทียบรัศมีเธอได้
ในงานเปิดตัวร้านอาหารไทยฟิวชันสุดหรูของ คุณตั้ม (ชนะพล สัตยา) ทายาทสุดหล่อดีกรีนักเรียนนอก ลูกชายของ จักริน (ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์) เจ้าของธุรกิจร้านอาหารแฟรนไชส์เลิศรสที่ขยายกิจการไปทั่วประเทศ จักรินอยากเปิดตลาดลูกค้าระดับบน เจาะกลุ่มไฮโซรุ่นใหม่ จึงให้คุณตั้มมาบริหารงานเองเป็นครั้งแรก ซึ่งงานนี้ก็มีคนมาร่วมงานกันคับคั่ง และมีฟ้าใสกับชฎาฉัตร ได้รับเชิญมางานนี้ด้วย ชฎาฉัตรแอบมีใจให้กับคุณตั้มมานานแล้ว พอได้มาเจอตัวจริงก็ตกหลุมรักในความหล่อเท่ของคุณตั้มเข้าอย่างจัง แต่เมื่อถึงเวลารีวิวอาหาร ความเห็นของฟ้าใสวิจารณ์ว่าอาหารร้านเลิศรสน่าผิดหวัง ลดคุณภาพวัตถุดิบ ไม่ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ทำให้ สุชิน (จุลศักดิ์ หาญคุณะเศรษฐ์) หัวหน้าพ่อครัวต้องออกมาแก้ตัวกับฟ้าใส ว่าเป็นความสะเพร่าของพ่อครัว ยันผู้จัดการร้านที่ไม่ดูให้ดี นั่นหมายถึงคุณตั้มก็โดนหางเลขไปด้วย การรีวิวของฟ้าใสทำให้ร้านแทบเจ๊ง จากเหตุการณ์ครั้งนี้ กลายเป็นโอกาสของ พฤกษ์ (พสธร ทรงถาวรทวี) ลูกชายของ ปภาดา (กชกร นิมากรณ์) ซึ่งเป็นภรรยาอีกคนของจักรินที่แอบคบกันอย่างลับ ๆ ปภาดาจึงถือโอกาสนี้ ดันลูกตัวเองให้จักรินพิจารณาขึ้นเป็นผู้บริหารอาณาจักรเครือเลิศรสทั้งหมดแทน
แต่แล้วฟ้าใสผู้รู้จักแต่ความหอมหวานของชีวิต ก็ถึงเวลาที่ต้องรู้จักกับรสชาติชีวิตที่หลากรสบ้าง เริ่มจากรสขม เมื่อนายอำนาจใช้เล่ห์กลโกงฮุบบริษัทพ่อของฟ้าใส รวมทั้งทรัพย์สินทั้งหมด จากทายาทหมื่นล้านจึงกลายเป็นยาจกชั่วข้ามคืน จนต้องย้ายจากคฤหาสน์สุดหรู หนีเจ้าหนี้ไปซ่อนตัวที่บ้านไม้ริมน้ำ ขณะเดียวกันคุณตั้ม อยากแก้ตัวในการทำธุรกิจอีกครั้ง จึงไปตามหาเครื่องแกง และวัตถุดิบปรุงรสอาหารต้นตำรับที่บริษัทของพ่อฟ้าใส แต่พบว่าบริษัทล้มละลายไปแล้ว คฤหาสน์เดิมก็ถูกยึด จึงสืบจนพบว่าครอบครัวของฟ้าใส หนีไปกบดานที่ต่างจังหวัด เขาเลยอยากไปขอสูตรนี้จาก คุณย่าอรุณ (วิยะดา โกมารกุล ณ นคร) เจ้าของสูตรด้วยตนเอง โดยไม่รู้มาก่อนว่านั่นคือคุณย่าของฟ้าใส แต่การไปตามหาสูตรอาหารที่ต่างจังหวัดครั้งนี้ เข้าทางปภาดา เธอใช้วิธีเดิม ๆ ที่เคยกำจัดแม่ของคุณตั้มให้พ้นทาง ด้วยการนำสมุนไพรที่มีฤทธิ์ทำให้อ่อนเพลีย และง่วงนอนมาผสมในอาหาร และเครื่องดื่มให้คุณตั้มทาน ทำให้คุณตั้มขับรถเกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง และปภาดายังส่งมือปืนประกบอีกด้วย โชคดีที่ฟ้าใสกับ อธิป (อัครพรรฒ บุนนาค) เพื่อนเก่าสมัยเด็กของเธอ ผ่านมาช่วยไว้ทัน และพาคุณตั้มหนีมามารักษาตัวที่บ้านสวน แต่เมื่อคุณตั้มฟื้นขึ้นมาเขากลับจำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่ชื่อตัวเอง
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามได้ในละคร “รักซ่อนรส” ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 18.00 น. เริ่มตอนแรก วันพุธที่ 4 กันยายนนี้ ทาง ช่อง 7HD ดูทีวีกด 35 สดออนไลน์ BUGABOO.TV และช่องทางออนไลน์ Facebook, IG, X, TikTok, YouTube: Ch7HD เว็บไซต์: www.ch7.com
เรื่องย่อ : ตำรับแม่ (2567/2024) เรื่องราวของเฉิงตู ช่างภาพฟรีแลนซ์กับศรีญาดา อินฟลูเอนเซอร์ด้านความงามที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิตแต่งงาน แต่ศรีญาดาทำอาหารไม่เป็น ถึงแม้ว่าเฉิงตูจะไม่ได้คาดหวังให้ภรรยาต้องคอยทำกับข้าวให้กิน แต่ศรีญาดาก็อยากมัดใจสามีด้วยการทำอาหารอยู่ดี ศรีญาดาจึงพยายามเรียนรู้เคล็ดลับและวิธีปรุงอาหารจากผู้คนรอบข้างที่แวะเวียนเข้ามาในชีวิต อาหารและเรื่องราวที่พวกเขาพบเจอจะส่งผลต่อชีวิตคู่ที่เพิ่งเริ่มต้นและความสัมพันธ์ต่อผู้คนรอบข้างอย่างไร ติดตามชมได้ในตำรับแม่
เรื่องย่อ : รักนี้ไม่มีถั่วฝักยาว This Love Doesn't Have Long Beans (2567/2024) "ปลาวาฬ" หนุ่มนายแบบที่เริ่มหุ่นย้วยได้รับภารกิจจากเอเจนซี่โมเดลลิ่งให้ได้รับงานแปลกประหลาดแลกกับเงินก้อนโต เพื่อเป็นผู้เซ้งร้านผัดกะเพรา โดยมีจุดประสงค์ลับคือต้องการขายตึกหลังจากเซ้งได้ ภารกิจเริ่มขึ้นการแข่งขันเป็นไปอย่างเข้มข้น จนมีหลาย ๆ คนเริ่มถอนตัว แต่ความสัมพันธ์ของปลาวาฬกับเชฟโอบกลับเหนียวแน่นขึ้น มีทั้งหวานและขมปนกันไป เมื่อเดินทางมาถึงสิ้นสุดการแข่งขันเชฟโอบก็ทิ้งร้านที่เขารักไว้ให้กับปลาวาฬ โดยที่เฉลยว่าเขารู้จุดประสงค์ลับที่ปลาวาฬเข้ามาในการแข่งขันนี้ ปลาวาฬรู้สึกผิดมากและตามหาเชฟโอบโดยเปิดร้านชื่อเดิม ในที่สุดเชฟโอบก็กลับมา แต่ดันมาในรูปแบบคู่แข่ง เปิดร้านข้างๆร้านของปลาวาฬ ทำให้ร้านปลาวาฬกลายเป็นร้านเลียนแบบ แต่ในที่สุดทั้งสองคนก็ได้โอกาสเปิดเผยความรู้สึกจริงๆที่มีต่อกัน และรู้ว่าที่ผ่านมารักกันแค่ไหน เลยเกิดเป็นร้านผัดกะเพราร้านนี้ไม่มีถั่วฝักยาวที่อิ่มไปด้วยความรัก
เรื่องย่อ : Sweet Sensory เรื่องรัก หลากรส ซีซัน 2 (2567/2024) การเดินทางครั้งใหม่ของ “คราม” และ “แตม” กำลังจะเริ่มขึ้น เมื่อครามตัดสินใจรับงานเซตเมนูให้กับร้านอาหารที่จะเปิดใหม่ ทำให้พวกเขาต้องเดินทางไปยังสมุทรสงคราม เพื่อค้นหาเมนูพื้นบ้านย่านแม่กลอง แม้ครามจะยังไม่สามารถรับรสได้อย่างปกติ แต่เมื่อมีแตม เขาก็เชื่อว่าจะยังคงทำอาหารได้ ทั้งสองคนมาพักที่โฮมสเตย์ของ “ชล” เพื่อนสนิทของครามสมัยมัธยม อดีตสถาปนิกดาวรุ่ง ที่ผันตัวกลับมาเป็นชาวสวนที่บ้านเกิด โดยมี “ลุงโต” เพื่อนบ้านที่ผูกพันกันเหมือนญาติคอยช่วยดูแลโฮมสเตย์อีกแรง
“แพรว” เพื่อนรักของแตมได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าแผนก ส่วนมอสก็สอบตั๋วทนายผ่าน รวมถึง “เบิ้ม” กับ “นุช” ที่ค่อย ๆ ปรับตัวกับหน้าที่ของพ่อแม่มือใหม่ ในขณะที่นุชตั้งใจกลับไปเรียนต่อให้จบเพื่อทำตามความฝัน ส่วนเบิ้มก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานหาเลี้ยงครอบครัวอย่างขยันขันแข็ง
ท่ามกลางการเริ่มต้นใหม่ของทุกคน “เอิร์ธ” นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ทายาทบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ได้รับมอบหมายให้ดูแลโปรเจกต์เจรจาซื้อที่ดินของชลเพื่อขยายโครงการรีสอร์ตริมน้ำแม่กลอง เอิร์ธจึงตัดสินใจใช้เวลาอยู่ที่นี่เพื่อศึกษาทั้งชุมชนและตัวชล แต่แล้วเขาก็ได้ค้นพบคำตอบของความสุขและรสชาติของชีวิตที่หลากหลาย
ปลายจวัก (2562/2019) “อันรสทิพย์สํารับตํารับลักษณ์ มรดกควรค่าจักสานสืบไว้ สมคุณค่าเสริมส่งดํารงไทย อุดมไว้ด้วยรสชาติแห่งชาติพันธุ์” ละครที่นําเสนอวัฒนธรรมอาหารไทยที่มีอัตลักษณ์อันวิจิตร สะท้อนวิถีชีวิตในยุคสมัยตามประวัติศาสตร์สอดแทรกความสนุกที่เล่าผ่านชะตาชีวิตของตัวละครและบริบทสังคมในสมัยรัชกาลที่ ๕ เรือนคุณหลวงพิชัยธานี ริมคุ้งน้ำคลองอัมพวา พ.ศ.๒๔๑๘ ภายในครัว คุณช้อย ภรรยาเอกผู้ดีอัมพวากําลัง กํากับการครัวรอรับคุณหลวงชลธารพฤฒิไกร สามีที่กําลังเดินทางกลับทางเรือจากการทําราชการที่นครศรีธรรมราชอย่างสุดฝีมือ โดยมี คุณกล้า บุตรชายคนโตวัย ๑๐ ขวบ และนางพัด บ่าวที่เคยทํางานในวังมาด้วยกันช่วยสุดฝีมือ แต่แล้วก็ต้องอึ้ง เมื่อคุณหลวงชลธารพฤฒิไกร ไม่ได้กลับพร้อมวัตถุดิบจากทางปักษ์ใต้เท่านั้น แต่ยังพานางทองสําลี บุตรีคุณพระสันต์ฯ หัวหน้าโปลิสคนสําคัญของเมืองนครศรีธรรมราชกลับมาเป็นอนุภรรยาพร้อมบ่าวติดตามชื่อหนุ่ย ทําให้คุณช้อยที่มีเอกลักษณ์การ ทําอาหารรสชาติกลมกล่อมตามตํารับชาววัง และเป็นหนึ่งในเรือนคุณหลวงมาตลอดเริ่มรู้สึกถูกรุกล้ำพื้นที่ในครัวผ่านอาหารรสชาติจัดจ้านร้อนแรงแบบปักษ์ใต้ของนางทองสําลี ทําให้ทั้งคุณช้อยและนางทองสําลีต่างพยายามสรรหาวัตถุดิบและรังสรรค์เมนูอาหารเลิศรสผ่านปลายจวักเพื่อมัดใจสามี ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๑๙ นางทองสําลีตั้งท้อง และคุณช้อยก็ท้องตามมาเช่นกัน ทองสําลีคลอดลูกสาวในครัวท่ามกลางบรรยากาศเผ็ดร้อนขณะตําพริกแกงชื่อวาด ในขณะที่คุณช้อยเกิดปวดท้องคลอดขณะคุมบ่าวกวนน้ำตาลมะพร้าวท่ามกลางบรรยากาศทั้งหอมและหวานชื่ออ่อน แต่เสียเลือดมากจนเสียชีวิต ทําให้คุณหลวงเศร้ามาก และพาลโกรธอ่อนว่าเป็นตัวกาลกิณีทําให้ภรรยาสุดที่รักตาย เมื่อสิ้นคุณช้อย นางทองสําลีจึงต้องขึ้นมาเป็นหลักในการดูแลกิจการงานบ้านงานครัวทุกอย่างในเรือนคุณหลวง จนกระทั่ง พ.ศ. ๒๔๓๑ ทั้งอ่อนและวาด เติบใหญ่จนอายุได้ ๑๑ ย่าง ๑๒ ขวบ วาด ผู้ที่สวยคมขําตามแบบชาวใต้ มีนิสัยซุกซน ชอบพูดจาโผงผาง ไม่ค่อยสนใจงานครัว ต่างกับอ่อน น้องสาวที่อายุเท่ากัน แต่มีนิสัยเรียบร้อย ผิวขาว ค่อนข้างขี้อาย ชอบเรียนรู้การทํากับข้าว และการบ้านการเรือนโดยมีนางพัดดูแลอย่างใกล้ชิด อ่อนรับรู้ได้ว่าคุณพ่อซึ่งขณะนั้น เป็นคุณพระชลธารพฤฒิไกร ไม่รักและรังเกียจตน อ่อนจึงได้แต่สงบเสงี่ยมเจียมตัวและอยู่อย่างผู้อาศัย แต่สองพี่น้องทั้งวาดและอ่อนก็รักใคร่กันดี ส่วนคุณกล้า เมื่ออายุได้ ๑๙ ปี ได้เรียนเป็นทหารเรือกับบิดา พ.ศ.๒๔๓๔ ในขณะนั้นประเทศไทยถูกคุกคามดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงแรงขึ้นเรื่อยๆ คุณกล้าจําเป็นต้องไปทําภารกิจที่ลาว พ่อทั้งกลุ้มทั้งห่วงลูก แต่ก็ภูมิใจที่ลูกจะได้รับใช้กรมหลวงพิชิตปรีชากร มณฑลลาวกาว นางทองสําลี อ่อน และบ่าวไพร่ในบ้านจึงช่วยกันคิดเมนูอาหารสําหรับเดินทางไกลและออกรบเพื่อให้คุณกล้าและเพื่อนๆ ได้กินระหว่างเดินทาง แต่คุณกล้าไปได้เพียงครึ่งทางก็เป็นไข้ป่าเจียนตายจนต้องถูกส่งตัวกลับ ระหว่างคุณกล้าป่วยมีเพื่อนมาเยี่ยม เป็นชายหนุ่มที่กําลังฝึกเป็นมหาดเล็กหลวง ชื่อคุณเลิศ คุณกรุ่น ญาติของคุณช้อย ตัวแทนจากพระอัครชายาเธอพระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ฯ มาคุยกับคุณพระและมาขอตัวอ่อนไปอยู่ในวัง แต่ในขณะเดียวกันนางทองสําลีก็ขออนุญาตคุณพระให้พาวาดเข้าวังไปด้วย ในที่สุดสองพี่น้อง อ่อนและวาดจึงได้เดินทางเข้าวังไปกับคุณกรุ่น และได้ฝึกและเรียนรู้การทําอาหารในวัง ทั้งอ่อนและวาดได้พบกับสิน ชายหนุ่มเชื้อ สายจีนวัย ๑๘ ปี ระหว่างการออกไปหาซื้อวัตถุดิบการทําอาหารเข้าวัง จนกระทั้งวาดและสินมีปากเสียงและพาลไม่ชอบหน้ากัน ในพิธีโกนจุกของอ่อนกับวาด คุณเลิศมากับคุณกล้า อ่อนสวยมาก คุณเลิศเก็บดอกลําเจียกมาให้ถูกวาดแกล้งหักจนดอกไม้ปี้ป่น พ.ศ. ๒๔๓๕ วาดและอ่อนได้รู้จักคุณปราง ข้าหลวงจากตําหนักเจ้าจอมกรกฎ กล้าและเลิศมารอพบน้องๆ และลาไปราชการที่เมืองลาว จึงได้รู้ว่าปรางเป็นน้องคุณเลิศ พ.ศ.๒๔๓๖ มีการจัดตั้งสภาอุณาโลมแดง ในห้องเครื่องตื่นตัวมาก มีการบรรจุหีบห่อของกินและเวชภัณฑ์ของใช้สําหรับส่งไปให้ทหารสยามในลาว สินเป็นอาสาในทีมขนของจากสภาอุณาโลมแดงไปลาว และอาสาขอร่วมรบด้วยโดยเป็นล่ามฝรั่งเศส หลังจากแพ้สงครามให้ฝรั่งเศส ในหลวงเศร้าไม่เสวย ห้องเครื่องจึงพยายามทําของรสเลิศต่างๆ ถวาย ซึ่งอ่อนกับวาดก็เป็นกําลังสําคัญในการสร้างสรรค์เมนูอาหาร ในปี พ.ศ.๒๔๓๘ เจ้าคุณมหินทร์พ่อของเลิศที่เป็นเจ้าคุณมาขอลูกสาวของคุณพระ พวกชาววังลือไปทั่วว่าเลิศไปสู่ขอลูกสาวคุณพระ สถานการณ์หลายอย่างทําให้วาดนึกว่า คุณเลิศมาขอตนทําให้วาดวิมานไปมากมาย คุณกรุ่นมาพูดกับอ่อน ว่าเลิศชอบพออ่อน วาดได้ยินก็รู้สึก อกหัก วาดได้คุยกับอ่อนไม่ต้องกังวลอาจจะเสียใจที่อกหัก แต่กลายเป็นเศร้ามากกว่าที่ต้องพรากจากพี่น้อง ก่อนถึงงานแต่งงานคุณพระขอโทษที่มีอคติกับอ่อนมาตลอด ในที่สุดสองพ่อลูกก็ได้ปรับความเข้าใจกัน เมื่อครั้งคุณเลิศได้ตามเสด็จประพาสยุโรป อ่อนต้องดูแลบ้านลําพังและอ่อนก็เริ่มตั้งท้อง ส่วนฝ่ายสินให้ผู้ใหญ่มาติดต่อขอวาด แต่วาดปฏิเสธเพราะตั้งใจถวายงานราชการ หลังจากคุณเลิศกลับจากยุโรป อ่อนคลอดลูกแฝดชายหญิง ในขณะเดียวกันเจ้าคุณล้มและเจ็บหนัก อ่อนหอบลูกไปเยี่ยม วาดลามาจากในวังและสองคนได้ดูใจจนคุณพ่อเสีย ในงานศพคุณพระ สินมาช่วยงานคุณกล้าเต็มตัวทําให้ได้ใกล้ชิดกับวาดมากขึ้น และขอโอกาสที่จะแต่งงานกับวาดอีกครั้ง แต่วาดไม่อยากออกจากวังเพราะชอบห้องเครื่องเสียแล้ว แต่สินก็ไม่ลดละ พยายามขอวาดแต่งงานอีกหลายครั้ง แต่วาดก็ปฏิเสธทุกครั้งไป จนกระทั่ง 5 ปีต่อมา สินได้เจอกับหญิงสาวและชอบพอกันทําให้วาดเสียใจมาก ส่วนกล้าได้คบกับหญิงฝรั่ง ลูกครูสอนศาสนา ชาวฝรั่งเศส ชื่อกัทรีน คุณเลิศตามประพาสยุโรปครั้งที่ ๒ วาดจึงมาช่วยอ่อนเลี้ยงลูก และพูดถึงเรื่องในหลวงรัชกาลที่ ๕ ทรงป่วยไปรักษาตัว ในวังเป็นห่วงกันมาก ส่วนเลิศคิดถึงเมียจึงเขียนจดหมายเล่าถึงพระอาการของในหลวงร.๕ วาดเริ่มสอนข้าหลวงเด็กๆ ในวังเริ่มวิตกเพราะทรงเป็นโรคไต จึงคิดอาหารจืดๆ กลมกล่อม ซึ่งมักจะเป็นอาหารฝรั่ง เพราะอาหารไทยรสจัดมาก มีการทําอาหารที่รสเป็นธรรมชาติมากๆ ไม่หวาน ไม่มัน ไม่เค็ม ตามที่แพทย์ฝรั่งมาแนะนํา กลางเดือนตุลาคม พ.ศ.๒๔๕๓ ในห้องเครื่องทําอาหารกันไปเช็ดน้ำตาไปเพราะท่าไม่ดีแล้ว ในที่สุดอ่อนก็ได้รู้ข่าวการสวรรคตของในหลวงร.๕ จากเลิศ เมืองทั้งเมืองเศร้ารันทด ในวัง ห้องเครื่องทําอาหารดับเศร้าเลี้ยงแขก อ่อนและวาดได้เรียนรู้ชีวิตทั้งดีและร้ายผ่านการทําอาหารที่พวกเธอได้ตั้งใจสร้างสรรค์ขึ้น ผ่านช่วงชีวิตและเหตุการณ์สําคัญของบ้านเมือง อาหารจึงเปรียบเสมือนสิ่งสําคัญในการขับเคลื่อนให้ผู้คนมีพลังกายพลังใจที่แข็งแรงผ่านปลายจวักของพวกเธอ
Baker Boys รักของผม ขนมของคุณ (2564/2021) เมื่อ เวียร์ (สิงโต ปราชญา เรืองโรจน์) เชฟหนุ่มทำขนมหวานเจ้าเสน่ห์ ที่หล่อจนทําให้ลูกค้ายันเจ้าของร้านเป็นอันตบตีแย่งชิงเขาอยู่เสมอ ต้องตกงานเพราะเสน่ห์ของตัวเองอีกครั้ง จึงได้มาสมัครงานที่ร้าน Sweet Day ร้านขนมหวานเปิดใหม่สุดหรูของ ปุณ (ลี ฐานัฐพ์ โลห์คุณสมบัติ) หนุ่มหล่อสุดกวน ทายาทเศรษฐีระดับท็อป ที่ตัวเองมีความหลังฝังใจจนกินขนมหวานไม่ได้ แต่ดันมาเปิดร้านขนมหวานแค่เพราะอยากใกล้ชิดสาว ๆ ที่มาใช้บริการเท่านั้น เมื่อปุณเห็นโปรไฟล์ของเวียร์ก็รับเข้าทํางานทันที แต่เวียร์กลับมีปัญหาใหญ่ เพราะเขาดันเป็นโรคกลัวผู้หญิง ทําให้ปุณจําใจต้องรับ กระทิง (ปลื้ม ปุริม รัตนเรืองวัฒนา) อดีตนักมวยดาวรุ่งที่แขวนนวมเพราะโรคประจําตัว เข้ามาช่วยทำงาน แม้ปุณจะไม่ถูกใจกระทิงสักเท่าไหร่เพราะชอบกวนอยู่เสมอ แต่ก็ต้องยอม เพราะกระทิงมีต่อมรับรสขนมหวานขั้นเทพตามแบบที่เวียร์ต้องการ ร้าน Sweet Day เริ่มมีลูกค้าเข้ามามากขึ้น แต่ทว่ากลับมีข่าวเด็กถูกลักพาตัว ซึ่งหลักฐานชิ้นเดียวที่คนร้ายทิ้งไว้ก็คือ ห่อขนมจากร้าน Sweet Day ทําให้ โมเน่ (เจมี่ จุฑาพิชญ์ อินทร์จันทร์) นักข่าวออนไลน์ผู้โด่งดัง แอบมาตามสืบข่าวที่ร้าน ซึ่งเธอมั่นใจว่าคนร้ายจะต้องอยู่ที่ร้านนี้อย่างแน่นอน จนโมเน่ได้พบผู้ต้องสงสัย เป็นชายสวมแว่นดําที่คอยด้อม ๆ มอง ๆ อยู่หน้าร้าน แต่ชายคนนั้นกลับเป็น พูห์ (เฟย ภัทร เอกแสงกุล) บอดี้การ์ดหน้าโหดแต่นิสัยขี้อายของปุณ ที่มาคอยสังเกตการณ์และดูแลนายน้อยของเขา ทําให้สุดท้ายปุณก็ต้องรับพูห์เข้ามาเป็นเด็กเสิร์ฟในร้าน เพื่อไม่ให้มีใครเข้าใจผิดอีก ชีวิตสุดวุ่นวายในการเปิดร้านขนมหวานพร้อมกับการตามสืบหาคนร้ายจึงเริ่มต้นขึ้น พวกเขาต้องประสบปัญหามากมาย ทั้งเรื่องงาน หรือแม้แต่เรื่องหัวใจสุดมะรุมมะตุ้ม จนไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วความรักวุ่น ๆ เหล่านี้จะลงเอยอย่างไร ? ติดตามความสนุกกันต่อได้ใน Baker Boys รักของผม...ขนมของคุณ
เรื่องย่อ : Cooking Crush อาหารเป็นยังไงครับหมอ (2566/2023) ในวันที่ความมั่นใจของ “เปรม” นักศึกษาปี 3 ว่าที่เชฟ หล่นลงไปเหลือศูนย์เพราะอาหารที่ทำโดนอาจารย์เมิน แต่กลับมีว่าที่คุณหมออย่าง “เท็น” ที่กำลังจะเป็นลมตายเพราะไม่ได้กินข้าวตามกลิ่นมาเจอ! จากจะเอาไปเทให้หมาดันกลายมาเป็นให้หมอซะงั้น
ปฏิบัติการสอนหมอทำอาหารจึงเริ่มขึ้น สอนกันไปสอนกันมาเลยพากันคิดไกล แถมมีเรื่องให้วุ่นวายหัวใจไม่หยุด! อาหารจานนี้จะทำเขาใจสั่นจนเสียอาการขนาดไหน ติดตามได้ใน “Cooking Crush อาหารเป็นยังไงครับหมอ” ทุกวันอาทิตย์ 20:30 น. ทางช่อง GMM25 ดูย้อนหลังแบบ Uncut ได้ที่ WeTV เวลา 22:30 น. เริ่ม 26 พฤศจิกายนนี้ (ที่มา : GMMTV OFFICIAL)
ส่งร้อนเสิร์ฟรัก Bite Me (2564/2021) เมื่อ เอก (มาร์ค ศิวัช จำลองกุล) เด็กเหนือในวัย 21 ปี เติบและโตที่จังหวัดน่าน มีโอกาสได้เข้ามาเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ คณะบัญชี เอกหาเงินส่งตัวเองเรียนหนังสือด้วยการส่งไลน์แมน และมีความฝันอยากเป็นเชฟระดับโลก ส่วน เชฟเอื้อ (ซุง กิดาการ ฉัตรแก้วมณี) เชฟวัย 30 ปี เจ้าของร้านอาหาร อิ่มเอื้อ ที่เปิดขึ้นมาเพื่อเติมเต็มความฝันของตัวเอง เพราะสิ่งที่เชฟเอื้อขาด ไม่สามารถมีอะไรมาเติมเต็มได้นอกจากพรสวรรค์ โดยเชฟเอื้อไม่เคยคาดคิดเลยว่าสิ่งที่เขาขาดหายไปจะถูกค้นพบในตัวของเอก เด็กส่งอาหาร เมื่อหนึ่งคนผู้มีความฝันแต่ขาดโอกาส กับหนึ่งคนผู้มือความเชี่ยวชาญและความสามารถแต่ขาดรสมือ เมื่อทั้งสองคนมาพบกัน ... ความมหัศจรรย์ของอาหารชวนให้ท้องหิวจึงเริ่มขึ้น เคลียร์ท้องให้ว่าง เกาะจอให้แน่น ได้ในซีรีส์ ส่งร้อนเสิร์ฟรัก Bite Me
นายยิ้มมะยมหวาน (2562/2019) ภัสดา ภัทรราชย์ ชายหนุ่มวัย 30 ปี ผู้เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติ คุณสมบัติ และทรัพย์สมบัติ ขาดเพียงอย่างเดียวคือศรีภรรยา ทำให้ หม่อมสุภางค์ ผู้เป็นป้ากลัวว่า ราชสกุลภัทรราชย์ของตนจะสูญสิ้น จึงพยายามสรรหาสาวๆ ในแวดวงไฮโซ ที่มีฐานะทัดเทียมกันมาให้หลานชายเลือก โดยอาศัยงานเปิดตัวโรงแรมเทวฤทธิ์ ซึ่งดัดแปลงมาจากวังเก่าแก่ของตระกูลเป็นสถานที่เลือกคู่ ภัสดารู้ทันแผนการของหม่อมสุภางค์ ดังนั้นวันงานเขาจึงดับฝันผู้เป็นป้า ด้วยการไม่ไปร่วมงาน แต่ส่งบุรินทร์ เพื่อนสนิท ซึ่งเป็นมือขวาในการบริหารโรงแรมไปเป็นตัวแทน
ในงานเดียวกัน...เบญจแขไข เจ้าของร้านขนมไทยประยุกต์วัย 22 ปี ได้รับการว่าจ้างให้มาสาธิตการทำขนมไทยแบบร่วมสมัย โดยใช้มะยมเป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำขนม ซึ่งเป็นไฮไลท์ของงาน ในระหว่างการสาธิตทำขนมมีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นจากบรรดาสาวๆ ที่หม่อมสุภางค์เชิญมาร่วมงาน ที่เข้าใจผิดคิดว่า หากใครทำขนมได้เด็ดถูกใจหม่อมป้าจะได้รับเลือกให้เป็นหลานสะใภ้ สาวๆ เหล่านั้นจึงพากันปั่นป่วนการสาธิตทำขนมของเบญจแขไข หนึ่งในนั้นก็คือ จตุชไม (สี่) พี่สาวแท้ๆ ของเบญจแขไข ที่ไม่ยอมรับเบญจแขไขเป็นน้อง และสั่งห้ามไม่ให้บอกใครว่าเป็นพี่น้องกัน เพราะอายที่ไฮโซอย่างตนมีน้องเป็นแม่ค้าขายขนม จตุชไมถือว่าตนเป็นลูกรักของพ่อแม่ ส่วนเบญจแขไขเป็นลูกชัง ซึ่งถูกเนรเทศไปให้ ย่าพิศ เลี้ยงที่บ้านสวนตั้งแต่แบเบาะ จตุชไมเกลียดขี้หน้าเบญจแขไขมาก เพราะเบญจแขไขสวยกว่า เก่งกว่าทั้งงานบ้าน งานครัว แถมยังช่วยดูแลกิจการร้านขนมไทยของย่าพิศ จนมีชื่อเสียงโด่งดังอีกด้วยความโกลาหลที่เกิดขึ้น ทำให้งานของเบญจแขไขเกือบจะพังไม่เป็นท่า แต่ก็โชคดีที่ นายยิ้ม มะยมหวาน ผู้ชายมอซอ ดูแล้วไม่มีออร่าของผู้ดีเลยสักนิด มาช่วยกู้สถานการณ์ไว้ได้ทัน ทุกอย่างจึงผ่านไปด้วยดี เบญจแขไขกล่าวขอบคุณนายยิ้มอย่างจริงใจ ในขณะที่จตุชไมด่านายยิ้มยกใหญ่ ที่มาช่วยเบญจแขไข และขู่ว่าจะไปฟ้องภัสดาเจ้าของโรงแรมให้ไล่นายยิ้มออก นอกจากนี้ยังดูถูกว่านายยิ้มเป็นคนจนต่ำต้อย น่ารังเกียจอีกด้วย เบญจแขไขสงสารนายยิ้มที่ทำดีแต่กลับถูกด่าฟรี จึงออกหน้าปกป้องนายยิ้ม โดยการต่อว่าจตุชไมกลับไปแรงๆ ทำให้นายยิ้มรู้สึกประทับใจเบญจแขไขมาก ที่ยอมมีเรื่องกับจตุชไมเพื่อคนต่ำต้อยด้อยค่าอย่างตนหลังจากความโกลาหลผ่านพ้นไป บุรินทร์ก็ได้รับโทรศัพท์จากภัสดาเพื่อถามเรื่องการสาธิตการทำขนมของเบญจแขไข ว่าไปจ้างใคร มาจากไหน พิมพา อาของเบญจแขไขก็เดินผ่านมาได้ยินและเข้าใจผิด คิดว่าภัสดาโทร. มาต่อว่า ที่เบญจแขไขทำให้งานเกือบล่ม พิมพากลัวว่าหลานสาวจะมีความผิด จึงรีบไปบอกหลาน แต่จังหวะนั้นก็เกิดซุ่มซ่ามเดินชนกับพนักงานที่ถือถาดแก้วน้ำที่เดินมาทางเดียวกัน จนเลอะเทอะไปทั้งตัว บุรินทร์เห็นก็รีบเดินเข้าไปตำหนิพนักงานที่ทำงานไม่ระวัง พิมพาบอกไม่ใช่ความผิดของพนักงาน ตนซุ่มซ่ามเองแล้วรีบเดินหนี ส่วนบุรินทร์มองตามยิ้มๆ ถูกใจความสวยของพิมพา โดยไม่รู้เลยว่าพิมพาอายุมากกว่าตนเองถึง 5 ปีพิมพานำเรื่องมาบอกเบญจแขไข พร้อมกันนั้น ธงทิว (ทิว) ชายหนุ่มที่เป็นเพื่อนชายคนพิเศษของเบญจแขไข เจ้าของบริษัทออแกนไนเซอร์ ซึ่งเป็นคนจ้างเบญจแขไขมาทำงานนี้ ก็เอาเงินค่าจ้างมาให้ แต่แอบหักหัวคิวไป 50% มากกว่าทุกครั้ง ธงทิวมักจะเอาเปรียบและกอบโกยผลประโยชน์จากเบญจแขไขมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และครั้งนี้ธงทิวก็หลอกเบญจแขไขว่า ภัสดา เจ้าของโรงแรมโกรธมาก ที่เบญจแขไขก่อความวุ่นวาย จนภาพลักษณ์ของโรงแรมเสียหาย จึงจ่ายค่าจ้างเพียงครึ่งเดียว ทำให้เบญจแขไขรู้สึกโกรธภัสดามาก เพราะคิดว่าภัสดาเป็นนักธุรกิจหน้าเลือด เห็นแก่ชื่อเสียงและผลประโยชน์ของตัวเอง แถมยังด่วนตัดสินว่าเธอผิด โดยไม่ให้โอกาสอธิบาย ทั้งๆ ที่เรื่องวุ่นวายทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นจากผู้หญิงที่จ้องจะจับเขาทั้งสิ้น!!!หลังจากจบงาน จตุชไมก็กลับไปฟ้อง คุณนายสายสวาท ผู้เป็นมารดาว่าตนไม่เจอตัวภัสดาในงานเลี้ยงเพราะเบญจแขไขก่อเหตุวุ่นวาย แถมยังใส่สีตีไข่เกินความจริงอีกมาก ทำให้คุณนายสายสวาทโกรธสุดๆ และด่าเบญจแขไขว่าเป็นตัวซวยตั้งแต่เกิด เกิดมาก็ทำให้แม่เกือบตาย ทำให้ นายพนัส ผู้เป็นพ่อพลาดโอกาสได้เป็นพระเอกหนัง แถมยังมาขัดขวางการจับผู้ชายของพี่สาวอีก คุณนายสายสวาทปลอบใจลูกสาวคนโปรดว่า ไม่ต้องเสียใจเดี๋ยวตนจะพาไปจับภัสดาใหม่อีกรอบ คราวนี้จะเข้าให้ถึงตัว บุกให้ถึงวังเลยทางด้านหม่อมสุภางค์ก็ร้อนใจที่ภัสดาหายตัวไป ตั้งแต่วันงานเปิดตัวโรงแรม จึงเรียกบุรินทร์เข้าไปถามที่วัง แต่บุรินทร์ก็ให้คำตอบไม่ได้ เพราะเขาก็ไม่เจอตัวภัสดาตั้งแต่วันนั้นเช่นกัน หม่อมสุภางค์ ออกคำสั่งแบบเด็ดขาดให้บุรินทร์ตามหาตัวภัสดาให้เจอภายใน 3 วัน ไม่เช่นนั้นจะหักเงินเดือน จะไล่ออกจากงาน จะยึดบ้าน ยึดรถคืน และขู่อีกสารพัด จนบุรินทร์เครียดหนักบุรินทร์พยายามติดต่อภัสดาทุกเครื่องมือการสื่อสารที่มีในโลก แต่ก็ติดต่อไม่ได้ และในที่สุดภัสดาก็เป็นฝ่ายโทร. มาบอกบุรินทร์เองว่า เขาจะหายตัวไปสักระยะ เพราะต้องการหนีการจับคู่ของหม่อมสุภางค์ ให้บุรินทร์ประจำการดูแลงานที่โรงแรมแทน บุรินทร์พยายามถามว่าภัสดาจะหลบไปอยู่ที่ไหน แต่ภัสดาไม่ยอมบอก และสั่งห้ามไม่ให้บอกหม่อมสุภางค์ว่าเขาติดต่อมา บุรินทร์เครียดยิ่งกว่าเดิม เพราะรู้ว่าต้องโดนหม่อมสุภางค์เล่นงานหนักแน่นอน หากครบกำหนดแล้วไม่มีคำตอบไปรายงานนายยิ้ม มาด้อมๆมองๆอยู่หน้าร้านขายขนมของเบญจแขไข เด็กชายไข่ วัยประมาณ 8 ปี ลูกสมุนของเบญจแขไขเห็นเข้าก็กลัวว่าจะเป็นโจร จึงไปตามเบญจแขไขมาดู นายยิ้มถามทางไปส่งพิซซ่า เบญจแขไขบอกทางให้แต่โดยดี แต่นายยิ้มกลับโดนวัยรุ่นชายดักตีและแย่งชิงรถมอเตอร์ไซด์ไปนายยิ้มบอกเบญจแขไขว่าถูกภัสดาไล่ออกจากงาน เพราะช่วยเบญจแขไขเมื่อวันก่อน ไปสมัครงานที่ใหม่มาแล้วหลายที่แต่ก็ไม่มีคนรับ เบญจแขไขสงสาร ประกอบกับคิดว่าเป็นความผิดของตนด้วยส่วนหนึ่งที่ทำให้นายยิ้มตกงาน เลยบอกว่าจะไปขอให้ย่าพิศรับนายยิ้มเข้าทำงานที่ร้าน ทำให้นายยิ้มรู้สึกซาบซึ้งในความมีน้ำใจของเบญจแขไขมากยิ่งขึ้นเบญจแขไขเล่าเรื่องที่นายยิ้มถูกภัสดาไล่ออกจากงานให้ย่าพิศฟังด้วยความโกรธเคือง ที่ภัสดาไม่เห็นใจพนักงานระดับรากหญ้าอย่างนายยิ้ม ย่าพิศรับฟังแล้วก็สอนให้เบญจแขไขรู้จักใจเย็น อย่าด่วนตัดสินภัสดาจากคำพูดที่คนอื่นพูดถึงเขา รอให้เจอตัวจริงก่อนค่อยตัดสินว่าเขาเป็นคนดีหรือไม่ดี แต่เบญจแขไขก็บอกว่าตนตัดสินภัสดา เหมือนที่ภัสดาเคยตัดสินว่าตนผิด โดยไม่ฟังเหตุผลเช่นกัน พิมพาที่นั่งฟังอยู่ด้วยจึงสอนหลานว่า ให้เอาชนะความโกรธด้วยความไม่โกรธ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร แต่เบญจแขไขบอกว่าโกรธแล้วโกรธเลย และจะไม่มีวันญาติดีกับภัสดาเด็ดขาด!!!ย่าพิศอนุญาตให้นายยิ้มทำงานที่ร้านขนม แต่ระหว่างที่ทำงานนายยิ้มก็ถูกจับตามองจากคนงานทุกคน โดยเฉพาะเด็กชายไข่ ที่เฝ้าระวังไม่ให้นายยิ้มเข้าใกล้เบญจแขไขง่ายๆ เพราะนายยิ้มดูลึกลับ และไม่ยอมให้บัตรประชาชนมาตอนสมัครงาน แต่เบญจแขไขก็เชื่อมั่นในความรู้สึกของตัวเอง ว่านายยิ้มต้องเป็นคนดี และยังบอกอีกว่าเราควรมองคนที่ปัจจุบัน ต่อให้นายยิ้มเคยทำผิดหรือเป็นโจรมาก่อน แต่เราก็ควรให้โอกาสเขาได้แก้ตัว ถ้าสังคมไม่ให้โอกาสคน โลกเราก็คงไม่มีใครอยากกลับตัวเป็นคนดี ทำให้นายยิ้มยิ่งปลื้มและสัญญาว่าจะรักและภักดีต่อเบญจแขไขตลอดไประหว่างที่ช่วยงานในร้านขนม...นายยิ้มก็ได้เห็นว่า เบญจแขไขเป็นผู้หญิงที่ทำงานเก่ง และมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสูตรขนมไทยให้มีความแปลกใหม่ เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป โดยไม่ทิ้งรากความเป็นไทย นายยิ้มชื่นชมแนวคิดของเบญจแขไข จึงเสนอตัวเป็นผู้ช่วยหมายเลขหนึ่ง และช่วยคิดชื่อขนมว่า มะยมยิ้ม เพราะเห็นว่าในสวนของย่าพิศมีต้นมะยมเยอะ น่าจะนำมาแปรรูปได้หลายอย่าง นอกจากนี้นายยิ้มยังให้คำแนะนำที่มีหลักการ มากเกินความรู้แค่ ป. 6 อย่างที่เขาเคยบอกไว้ จนเบญจแขไขสงสัย แต่นายยิ้มก็อ้างว่าตัวเองเป็นคนชอบอ่านหนังสือเลยรู้เยอะธงทิวพยายามเข้ามาทำคะแนนกับเบญจแขไขและย่าพิศ ด้วยการนำลูกค้าใหม่ที่ทำธุรกิจส่งออกอาหารไปต่างประเทศ ครอบครัวเบญจแขไขดีใจเพราะรายได้จากการทำขนมส่งเป็นเงินก้อนโต แต่กลับมีเรื่องวุ่นย้อนกลับมาเมื่อตำรวจตรวจพบยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ในขนมซึ่งลูกค้าลักลอบนำออกไปต่างประเทศ เบญจแขไขตกเป็นจำเลยขึ้นโรงพัก ในขณะที่ธงทิวหนีหายไปไม่รับผิดชอบ ร้อนถึงยิ้มต้องสั่งให้บุรินทร์ช่วยติดต่อนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ให้เร่งติดตามหาคนร้ายตัวจริงเบญจแขไขตกเป็นข่าวเสียหายไปทั่ว ลูกค้าประจำส่งคืนขนม ทั้งโดนสายสวาทต่อว่าที่สร้างความอับอาย แต่ยิ้มให้กำลังใจเบญจแขไขและนำขนมไปตั้งแผงขายเพื่อหารายได้ประทังครอบครัว แต่เมื่อวันหนึ่ง ธงทิวรู้ข่าวว่าจะมีทางด่วนตัดผ่านที่ดินแถบบ้านสวนของย่าพิศ และราคาที่ดินแถบนั้นก็จะต้องพุ่งปรี๊ดสูงขึ้นอีกหลายสิบเท่า ดังนั้นธงทิวจึงรบเร้าเบญจแขไขเรื่องการแต่งงานหนักขึ้น เพื่อหวังฮุบที่ดินและสมบัติทั้งหมด แต่เบญจแขไขก็บ่ายเบี่ยงเพราะยังไม่แน่ใจตัวเองว่ารักธงทิวจริงหรือไม่ ทั้งที่เธอคบหาดูใจกับธงทิวมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยฉากหน้าที่ทุกคนในสังคมเห็นว่าธงทิวเป็นนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง เจ้าของบริษัทออกาไนเซอร์อนาคตไกลนั้น เบญจแขไขรู้ดีว่าเขามาจากครอบครัวชนชั้นกลางที่สร้างฐานะมาจากการทำงานหนัก พ่อแม่ของธงทิวเลี้ยงลูกชายคนเดียวแบบไข่ในหิน ประเคนข้าวของเครื่องใช้อย่างดีให้ทุกอย่างจนธงทิวเสียนิสัย เมื่อโตขึ้น เขาจึงกลายเป็นคนเอาแต่ใจ เห็นตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล มีเสน่ห์ที่หน้าตาและคารม เจ้าชู้ และใช้เงินเป็นเบี้ย โชคดีที่ธงทิวเป็นคนหัวดี จึงเรียนเก่ง ได้เกรดสูงๆมาตลอดต่อมาเมื่อเศรษฐกิจตกต่ำ ฟองสบู่แตก ครอบครัวของธงทิวเข้าสู่สภาวะล้มละลาย พ่อของธงทิวติดหนี้สินมากมายหลายสิบล้าน บังเกิดความเครียดจนผูกคอตาย แม่ของธงทิวรับสภาพไม่ไหว ล้มป่วยจนต้องส่งเข้ารับการรักษาทางจิตอยู่พักใหญ่ ก่อนจะออกไปปฏิบัติธรรมอยู่ที่สำนักวิปัสสนาในชนบทธงทิว เหมือนตกลงจากหอคอยงาช้าง บ้านช่องที่ดินทรัพย์สมบัติต่างๆถูกขายเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ ธงทิวสัญญากับตัวเองว่าเขาจะต้องทำทุกอย่างเพื่อวันหนึ่งเขาจะกลับไปร่ำรวยเหมือนเดิมเมื่อเปิดบริษัทออกาไนซ์ของตัวเอง แรกๆกิจการทำท่าจะไปได้สวยเพราะความเก่งและคารมดีของธงทิว ฐานะเงินทองของธงทิวกลับมาเฟื่องฟู แต่นิสัยใช้จ่ายฟุ่มเฟือยของเขาพาตัวเองเข้าไปอยู่ในวังวนหนี้สิน ธงทิวติดหนี้เสี่ยหลักชัยที่กู้ยืมมาหมุนเวียนใช้ในบริษัทหลายล้านบาทเบญจแขไขเห็นอกเห็นใจธงทิว เธอทราบดีถึงความทะเยอทะยานของธงทิว จึงคอยเป็นกำลังใจและช่วยเหลือธงทิวอยู่เสมอ ธงทิวซาบซึ้งใจดี แม้ความเห็นแก่ตัวของเขาทำให้คอยเอาเปรียบเบญจแขไขทุกครั้งที่มีโอกาส แต่ลึกๆแล้วเขามีความรักให้เบญจแขไข ธงทิวมาหาเบญจแขไขที่ร้านบ่อยๆ พร้อมทั้งมีของกำนัลมากมายมาฝากย่าพิศและพิมพาเพื่อเอาใจ แต่ก็ถูกนายยิ้มกับเด็กชายไข่ที่หันมาร่วมมือกันปกป้องเบญจแขไขเล่นงานสะบักสะบอมกลับไปทุกครั้งธงทิวเริ่มสังเกตเห็นว่าเบญจแขไขกับนายยิ้มสนิทกันมากเกินเจ้านายกับลูกน้องก็เกิดอาการหึงหวง จึงต่อว่าเบญจแขไขที่ลดตัวลงไปคลุกคลีกับคนงานระดับล่าง เบญจแขไขบอกว่าตนไม่ได้เลือกคบคนที่ฐานะ แต่เลือกคบคนที่จิตใจ และบอกอีกด้วยว่าตนแค่สงสารนายยิ้มที่ถูกคนรวยๆ อย่างภัสดารังแกจนไม่มีที่ไป แต่ไม่ได้รักเขาอย่างที่ธงทิวกล่าวหา นายยิ้มที่แอบฟังอยู่รู้สึกปลื้มที่เบญจแขไขไม่รังเกียจคนจน ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเศร้าที่เบญจแขไขบอกว่าไม่ได้รักเขา เพราะตอนนี้นายยิ้มรักเบญจแขไขเต็มหัวใจแล้วเวลาผ่านไป บุรินทร์เริ่มทนไม่ได้ที่ภัสดาหายตัวไป เพราะตอนนี้เขาต้องรับศึกหนักหลายด้าน ทั้งหม่อมป้าสุภางค์ ทั้งจตุชไม ที่พอตามหาภัสดาไม่เจอก็พากันมารุมเขา และที่สำคัญ ทางโรงแรมกำลังจะจัดงานเทศกาลขนมนานาชาติ ซึ่งเป็นงานใหญ่ระดับเอเชียอาคเนย์ และครั้งนี้ภัสดาจะต้องมาคุมงานด้วยตัวเอง ดังนั้นบุรินทร์จึงร่วมมือกับหม่อมสุภางค์วางแผนล่อให้ภัสดาออกจากถ้ำ ทั้งปล่อยข่าวหลอกว่าหม่อมสุภางค์ป่วยหนัก จ้างนักสืบออกตามหา และอีกสารพัดวิธีแต่ภัสดาก็ไม่หลงกล และแผนเด็ดก๊อกสุดท้ายที่บุรินทร์งัดออกมาใช้ก็คือ ปล่อยข่าวฉาวเรื่องผู้หญิงของภัสดา!!!หนังสือพิมพ์และนิตยสารแทบทุกฉบับก็พร้อมใจกันลงข่าวซุบซิบว่า เสน่ห์ไฮโซหนุ่มสุดฮ็อต ภ. แรง!! จนทำงานเปิดตัวโรงแรมเกือบล่ม เหตุทำชีกอใส่เจ้าของร้านขนมสาวสวยนิรนาม จนสาวอื่นอิจฉารุมทึ้งสาวนิรนาม จนเกือบเอาตัวไม่รอดภัสดาเห็นข่าวก็โทร. มาด่าบุรินทร์ทันที และสั่งให้บุรินทร์แก้ข่าวให้เร็วที่สุด เพราะข่าวนี้มีผลกระทบต่อชื่อเสียงร้านขนมของเบญจแขไข รวมถึงตัวเบญจแขไขมากด้วย และที่สำคัญภัสดากลัวว่าเบญจแขไขจะมองเขาไม่ดี บุรินทร์เริ่มเอะใจที่ภัสดาแคร์เบญจแขไขมากเป็นพิเศษ และรู้ความเคลื่อนไหวของร้านขนมเป็นอย่างดีอีกด้วยบุรินทร์สงสัยจึงไปที่ร้านขนมของเบญจแขไข แล้วก็ได้เห็นภัสดาอยู่ที่นั่นในฐานะนายยิ้ม มะยมหวาน ลูกจ้างร้านขนม บุรินทร์ ดีใจที่ตามหาภัสดาเจอ สองคนหลบออกไปคุยกันในที่ลับตาคน ภัสดาเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้บุรินทร์ฟังโดยไม่ปิดบังอีก และสารภาพว่าเขาคิดจะจีบเบญจแขไขอย่างจริงจัง บุรินทร์ฟันธงว่า เบญจแขไขไม่มีทางหลงรักนายยิ้ม มะยมหวาน ลูกจ้างร้านขนมแน่นอน แต่ภัสดาก็มั่นใจว่าสามารถทำได้ บุรินทร์จึงท้าให้ภัสดาให้จีบเบญจแขไขให้สำเร็จภายใน 3 เดือน ถ้าทำได้บุรินทร์จะยอมกินมะยมจนหมดสวนย่าพิศ ภัสดารับคำท้า เพราะมั่นใจว่ามองคนไม่ผิดบุรินทร์ใช้เรื่องนี้มาเป็นข้อต่อรองให้ภัสดากลับไปดูแลงานเทศกาลขนมนานาชาติ ภัสดากลัวความลับเรื่องที่เขาโกหกเบญจแขไขว่าเป็นนายยิ้ม มะยมหวานแตก จึงต้องยอมกลับไปทำงานที่โรงแรมตามเดิม แต่ก็ยื่นเงื่อนไขให้บุรินทร์ติดต่อเบญจแขไขไปเปิดซุ้มขนมไทย ในฐานะตัวแทนของโรงแรมในงานนี้ด้วย บุรินทร์ตอบตกลงทันทีเบญจแขไขรู้สึกเหงาแปลกๆ เมื่อไม่มีนายยิ้มมาคอยวนเวียนรอบตัว ชวนคุย ชวนหัวเราะเหมือนเคย และในขณะที่เบญจแขไขกำลังคิดถึงนายยิ้มอยู่นั้น บุรินทร์ก็โผล่มาที่ร้าน เพื่อติดต่อให้เบญจแขไขไปช่วยงานเทศกาลขนมนานาชาติที่โรงแรมเทวฤทธิ์ โดยให้โจทย์ที่ภัสดาเป็นคนคิดให้เข้ากับตัวเองว่า ต้องเป็นขนมที่ทำจากมะยม และจะให้ขนมของเบญจแขไขเป็นไฮไลต์ของงาน เบญจแขไขไม่อยากรับงานนี้ เพราะเกลียดภัสดา แต่บุรินทร์ก็หว่านล้อมว่าการทำงานนี้จะช่วยโปรโมทร้านของเบญจแขไขให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติได้ ในที่สุดเบญจแขไขก็ยอมตกลงระหว่างที่คุยงานกับเบญจแขไขอยู่นั้น บุรินทร์ก็สมาธิหลุดเมื่อเห็นพิมพาเดินเข้ามาในร้าน และก็ต้องอึ้งกิมกี่ เมื่อรู้ว่าพิมพาเป็นอาของเบญจแขไข วูบแรกบุรินทร์คิดว่าต้องอายุมากกว่าเขาแน่ๆ แต่เพราะพิมพาเป็นคนหน้าเด็ก บุรินทร์จึงเดาไม่ออกว่าพิมพาอายุเท่าไรกันแน่ แต่ถึงอย่างไรอายุก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับบุรินทร์ถ้าเขาคิดจะรัก บุรินทร์ฉวยโอกาสคะยั้นคะยอให้พิมพาไปช่วยงานเบญจแขไขที่โรงแรมด้วย พิมพางงว่าทำไมบุรินทร์ต้องอยากให้ตนไป แต่ก็ตอบว่าถึงบุรินทร์ไม่ชวนตนก็ต้องไปช่วยงานเบญจแขไขเป็นปกติอยู่แล้ว บุรินทร์ดีใจหน้าบานจนเก็บอาการไม่อยู่ ที่จะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับพิมพาธงทิวรู้ข่าวว่าเบญจแขไขจะไปออกซุ้มขนมในงานใหญ่ก็ตาลุกวาว หวังจะเบียดเบียนผลประโยชน์จากเบญจแขไขเหมือนเคย ดังนั้นเขาจึงเสนอตัวเป็นออแกนไนเซอร์ช่วยจัดงาน เบญจแขไขปฏิเสธเพราะมีทีมงานของโรงแรมช่วยอยู่แล้วส่วนหนึ่ง แต่ธงทิวก็ยกเอาเหตุความวุ่นวายจากงานเปิดตัวโรงแรมคราวก่อนมาเป็นข้ออ้าง จนเบญจแขไขขาดความมั่นใจ กลัวงานเละเหมือนคราวก่อนอีก จึงยอมให้ธงทิวมาช่วยงาน เมื่อภัสดารู้ก็ไม่พอใจ อารมณ์หึงพุ่งสูงปรี๊ด แต่ก็พยายามข่มจิตภัสดาทนคิดถึงเบญจแขไขไม่ไหว จึงขับรถมาแอบดูเบญจแขไขที่หน้าร้านบ้างในวันที่มีเวลาน้อย แวะมาเยี่ยมในคราบของนายยิ้ม มะยมหวานบ้างในวันที่มีเวลาว่างมากๆ โดยอ้างว่าเป็นวันหยุดเลยอยากมาช่วยงานเบญจแขไข ภัสดาทำตัวไม่ต่างกับพวกโรคจิตที่คอยติดตามว่าวันๆ เบญจแขไขไปทำอะไร อย่างไร ที่ไหน กับใคร และยิ่งเห็นเบญจแขไขอยู่กับธงทิวก็ยิ่งร้อนรนแทบทนไม่ไหว ภัสดาเร่งวันเร่งคืนอยากให้ถึงงานเทศกาลขนมนานาชาติเร็วๆ เพราะเบญจแขไขจะต้องไปเตรียมงานล่วงหน้า รวมกับระยะเวลาจัดงาน เขาก็จะได้มีโอกาสเจอเบญจแขไขทุกวันเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือนเต็ม ภัสดาไม่รู้ตัวเลยว่างานที่เขาหยิบยื่นให้เบญจแขไขทำนั้นกำลังจะนำภัยมาสู่ตัวเองและแล้ว วันที่ภัสดารอคอยก็มาถึง เบญจแขไขต้องมาเตรียมงานล่วงหน้าที่โรงแรมเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ภัสดาจึงแอบมาช่วยงานเบญจแขไขในฐานะนายยิ้ม ภัสดาสวมบทนายยิ้มใส่ร้ายบุรินทร์ในทางเสียๆ หายๆ ด้วยความหมั่นไส้เพื่อน ว่าเป็นเจ้านายจอมโหด ร้อนถึงบุรินทร์ที่กลัวว่าพิมพาจะมองตนไม่ดี จึงเอาคืนโดยการใส่ไฟว่าที่ตนเป็นอย่างนี้เพราะ ภัสดาเจ้าชู้ ขี้งก เป็นเจ้าของโรงแรมมหาโหด ไม่มีอะไรดีสักอย่าง ภัสดาที่อยู่ในฐานะนายยิ้มกับบุรินทร์ใส่ไฟกันไปมา แต่แล้วภัสดาก็ชิ่งหนีไปดื้อๆ เมื่อเห็นหม่อมสุภางค์เดินมากับจตุชไม บุรินทร์แนะนำให้เบญจแขไขและพิมพารู้จักกับหม่อมสุภางค์อย่างเป็นทางการ หม่อมสุภางค์รู้สึกถูกชะตาและเอ็นดูเบญจแขไขมากเป็นพิเศษ เพราะไม่บ่อยนักที่ท่านจะได้พบกับเด็กรุ่นใหม่ที่มีกิริยาเรียบร้อยงดงามเช่นนี้ จตุชไมแกล้งทำเป็นไม่รู้จักเบญจแขไขกับพิมพา แต่ก็แอบส่งสายตาอาฆาตให้เบญจแขไขที่ได้คะแนนนิยมจากหม่อมสุภางค์มากกว่าตนทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรเลย ในขณะที่ตัวเองต้องประจบเอาใจหม่อมสุภางค์สารพัด แต่ท่าทางหม่อมสุภางค์ก็ปลื้มเบญจแขไขมากกว่าในระหว่างเทศกาลขนมนานาชาติ ภัสดาต้องคอยสับรางตัวเองไม่ให้พวกของเบญจแขไขและหม่อมสุภางค์มาเจอเขาพร้อมกัน จึงทำให้ดูเหมือนเป็นคนลุกลี้ลุกลน จนเบญจแขไขผิดสังเกต โดยเฉพาะตอนที่หม่อมสุภางค์เดินมาที่ซุ้มของเบญจแขไขพร้อมกับจตุชไม นายยิ้มก็รีบชิ่งหลบทันทีภัสดาสงสัยว่าจตุชไมเป็นใคร ทำไมถึงได้อยู่กับหม่อมสุภางค์ตลอดเวลา บุรินทร์จึงเล่าให้ฟังว่า จตุชไมเป็นผู้เข้าชิงตำแหน่งหลานสะใภ้ของหม่อมสุภางค์หมายเลขหนึ่ง และบอกอีกว่าจตุชไมเป็นลูกสาวบ้าน เปรียบทอง ที่ขึ้นชื่อเรื่องการจับผู้ชายรวยๆ ไปทำสามี โดยมีคุณนายสายสวาทผู้เห็นเงินเป็นพระเจ้าคอยยุยงส่งเสริม และคุณนายสายสวาทก็ขายลูกสาวให้เศรษฐีสำเร็จไปแล้วสองคนคือ หนึ่งฤทัย และตรีวิลัย และเหยื่อรายต่อไปก็คือภัสดาภัสดารู้สึกรังเกียจนิสัยมองคนแต่เปลือกของคนบ้านเปรียบทอง และอยากจะให้บทเรียนแก่จตุชไมบ้าง จึงวางแผนสั่งสอนโดยการแกล้งพูดจาให้ความหวังต่างๆ นานา จนจตุชไมคิดว่าภัสดามีใจให้ แต่ที่จตุชไมขัดใจมากก็คือ ภัสดามักจะนัดไปพบในสถานที่แปลกๆ บรรยากาศแปลกๆ และแต่ละครั้งจตุชไมก็จะไม่เคยได้พบภัสดาเลยสักครั้ง เพราะภัสดาสร้างสถานการณ์ให้คลาดกันตลอดจตุชไมเกือบจะเจอตัวภัสดาจังๆ ในงานเทศกาลขนมฯ อยู่หลายครั้ง แต่ก็ถูกบุรินทร์สกัดดาวรุ่ง จนต้องล่าถอยกลับไป แต่จังหวะที่กำลังจะออกจากโรงแรมก็เจอกับธงทิวที่มาช่วยงานเบญจแขไข ต่างฝ่ายต่างจ้องกันตาเป็นมัน เพราะบุคลิกภายนอกของทั้งคู่ดูเป็นคนรวยมากๆ ธงทิวรีบปราดเข้าไปทำความรู้จักหวังจะคบเพื่อหลอกเอาเงินทอง ส่วนจตุชไมก็อ่อยเหยื่อให้ท่าธงทิว หวังเก็บไว้เป็นผู้ชายเบอร์สอง คบไว้คั่นเวลาระหว่างที่ยังจับภัสดาไม่ติด โดยหารู้ไม่ว่าตอนนี้ธงทิวมีแต่เปลือก เงินในบัญชีติดลบ บริษัทก็กำลังจะเจ๊ง พวกที่มีแต่เปลือกเหมือนกันก็เลยได้มีโอกาสได้จ้องจับกันเองในที่สุดงานเทศกาลขนมนานาชาติก็ผ่านไปด้วยดี เบญจแขไขหน้าบานยิ้มไม่หุบ เพราะขนมสูตรมะยมยิ้ม ที่มีแรงบันดาลใจมาจากนายยิ้ม มะยมหวาน ได้รับความสนใจจากลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จนมีออเดอร์เข้ามากมายจนแทบทำไม่ทัน เป็นเหตุให้ ลุงเผือก เจ้าของร้านขนมคู่แข่งเกิดความอิจฉา จ้องจะทำลายล้างร้านของเบญจแขไขให้ได้ในขณะที่ชีวิตของเบญจแขไขกำลังไปได้สวย คุณนายสายสวาทก็เป็นหนี้การพนัน เสี่ยหลักชัย จำนวน 10 ล้านบาท และเมื่อถูกทวงมากๆ แล้วไม่มีเงินใช้หนี้ คุณนายสายสวาทก็โบ้ยให้เสี่ยหลักชัยไปทวงกับย่าพิศและเบญจแขไขที่บ้านสวน โดยอ้างความเป็นแม่กับเบญจแขไขทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยสนใจลูกคนนี้เลยเสี่ยหลักชัยรู้มาว่าที่ดินบริเวณนั้นกำลังจะมีทางด่วนตัดผ่าน และราคาจะสูงมากในอนาคต เสี่ยหลักชัยจึงบุกไปทวงหนี้ถึงที่บ้านสวน และขู่บังคับให้ย่าพิศยกที่ดินผืนนี้ให้ตน เพื่อล้างหนี้ให้คุณนายสายสวาท แต่ย่าพิศก็ไม่ยอมง่ายๆ เสี่ยหลักชัยจึงส่งลูกน้องไปคุกคามย่าพิศ เบญจแขไข และพิมพาต่างๆ นานา ทั้งขู่ว่าจะมาเผาบ้านบ้าง จะจับเบญจแขไขไปขายบ้าง หากไม่มีเงินมาใช้หนี้ภายใน 7 วันนายพนัสถูกคุณนายสายสวาทบังคับให้ไปขโมยโฉนดที่ดินบ้านสวนของย่าพิศมาให้หลักชัย เพราะหลักชัยได้ทำสัญญาซื้อขายเตรียมไว้แล้ว คุณพนัสรู้ว่าคุณย่ารักบ้านสวนนี้มาก จึงขอต่อรองเป็นสัญญาจำนองที่ดิน หากตนไม่สามารถหาเงิน 10 ล้านมาคืนได้ภายใน 30 วัน โฉนดที่ดินก็จะตกเป็นของหลักชัย หลักชัยเห็นว่านายพนัสไม่มีทางหาเงินมาทันจึงตอบตกลง และบังคับให้ย่าพิศเซ็นสัญญา ย่าพิศไม่ยอมเซ็นดีๆ หลักชัยจึงบังคับพิมพ์ลายนิ้วมือไปจนได้ย่าพิศต่อสู้จนตกบันได ต้องเข้าห้อง ICU อาการหนักมาก หมอสั่งให้ญาติทำใจ ระหว่างที่อยู่ในห้อง ICU ย่าพิศก็เพ้อบอกให้เบญจแขไขเอาที่ดินคืนมาให้ได้เบญจแขไขกลุ้มใจมาก เพราะทุกอย่างรุมเร้าเข้ามาพร้อมๆ กันจนตั้งรับแทบไม่ทัน ทั้งย่าป่วย ถูกเจ้าหนี้คุกคาม ร้านขนมก็ถูกคู่แข่งทางธุรกิจกลั่นแกล้ง โดยการปลอมขนมมะยมยิ้ม พอลูกค้าซื้อไปกินก็เกิดท้องร่วงอย่างรุนแรง จนสินค้าถูกตีกลับมาหมด รวมถึงออเดอร์ต่างประเทศก็ถูกยกเลิกทั้งหมด เพราะลูกค้าไม่มั่นใจคุณภาพของขนมลุงเผือกเจ้าของร้านคู่แข่ง ได้ทีจึงติดต่อธงทิวให้เป็นนายหน้าไปเจรจาขอซื้อที่ดินบ้านสวนจากเบญจแขไข เพราะที่ดินของคุณย่าพิศทำเลดี แถมวัตถุดิบในการทำขนมก็อุดมสมบูรณ์เต็มสวน ถ้าได้ที่ดินของคุณย่ามาก็เหมือนได้ทั้งแหล่งผลิต แหล่งขาย แถมได้จัดการตัดแขนตัดขาร้านคู่แข่งอีก ถือเป็นการยิ่งปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว ลุงเผือกเสนอค่านายหน้าให้ธงทิวสูงกว่าปกติ แต่มีข้อแม้ว่าไม่ให้บอกว่าลุงเผือกเป็นคนมาขอซื้อ เพราะที่ผ่านมาลุงเผือกเป็นเพื่อนที่ดีของย่าพิศมาตลอด ธงทิวก็ตกปากรับทำงานนี้ทันทีเพราะเห็นแก่เงิน ธงทิวพยายามหว่านล้อมเบญจแขไขให้ขายที่สุดฤทธิ์ บอกว่านายทุนคนนี้ให้ค่าที่สูงถึง 15 ล้าน เอาเงินใช้หนี้ 10 ล้าน แล้วยังเหลือเงินไปใช้รักษาย่าพิศอีกตั้ง 5 ล้าน ดีกว่ายกโฉนดที่ดินให้เจ้าหนี้ไปเปล่าๆ เบญจแขไขไม่สนใจ แล้วบอกธงทิวว่าตนยอมทำงานเหนื่อย ยอมทำอะไรก็ได้เพื่อแลกเงิน ยอมขายสมบัติอื่นๆ ทุกอย่างที่มี แต่จะไม่มีวันขายหรือยกที่ดินบ้านสวนของย่าพิศให้ใครเด็ดขาดธงทิวรู้ว่าเบญจแขไขเป็นคนดื้อ พูดคำไหนคำนั้น และคิดว่างานนี้เบญจแขไขคงยอมขายทุกอย่างจนเหลือแต่ตัว แต่ก็คงจะรักษาที่ดินของย่าพิศไว้ไม่ได้ ธงทิวเลยคิดจะชิ่ง เพราะเบญจแขไขคงไม่เหลือสมบัติอะไรให้ปอกลอกอีกต่อไป ประกอบกับเสี่ยหลักชัยทวงหนี้ธงทิวอย่างหนักเพื่อบีบให้ธงทิวพยายามตื้อเบญจแขไขให้ได้ธงทิวหลบหน้าเบญจแขไขและเสี่ยหลักชัยไปต่างจังหวัด พอดีกับแม่ของธงทิวซึ่งปฏิบัติธรรมอยู่สำนักวิปัสสนาต่างจังหวัดล้มป่วย ธงทิวจึงไปเยี่ยม และรู้สึกหดหู่ใจเมื่อเห็นแม่ที่เคยเป็นเศรษฐีนีมีหน้าตาในสังคม นุ่งขาวห่มขาวใช้ชีวิตสมถะ สอนธรรมะและวิปัสสนาให้แก่ผู้คน แม่ของธงทิวพยายามชี้ให้ธงทิวเห็นถึงความสุขที่แท้จริงของชีวิต คือความสงบและพอเพียง แต่ธงทิวกลับไม่เชื่อ เขาเชื่อว่าเงินเท่านั้นที่จะนำความสุขมาให้เขาได้ เขาจึงต้องมองหาบ่อเงินบ่อทองแห่งใหม่...นั่นคือ จตุชไม ที่เขาหลงเข้าใจว่าเป็นลูกเศรษฐีผู้ดีเก่าในช่วงเวลาที่แย่ที่สุดของชีวิต ธงทิวก็หายไปจากชีวิตของเบญจแขไขเพราะมีเป้าหมายใหม่คือจตุชไม ส่วนนายยิ้ม มะยมหวานก็กลับเข้ามาในชีวิตของเบญจแขไขอีกครั้งหนึ่ง นายยิ้มมาอยู่ช่วยงานและเป็นกำลังใจให้ทุกอย่าง จนเบญจแขไขเข้มแข็งขึ้นและมีแรงฮึดสู้อีกครั้ง ในขณะเดียวกัน เบญจแขไขก็รู้สึกหวั่นไหวและเริ่มหลงรักนายยิ้มอย่างไม่รู้ตัวนายยิ้มเป็นห่วงกลัวว่าเบญจแขไขจะได้รับอันตรายจากเสี่ยหลักชัย จึงบอกเบญจแขไขว่าภัสดายินดีจะช่วยเหลือเบญจแขไข โดยจะจ้างเบญจแขไขไปเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษ มีหน้าที่คิดสูตรขนมไทยแปลกใหม่ ให้กับโรงแรมเทวฤทธิ์ ถ้าภัสดาถูกใจก็จะให้สูตรละ 1 ล้านบาท แต่มีเงื่อนไขว่าเบญจแขไขต้องพักอยู่ในโรงแรม ห้ามออกไปไหน เพื่อป้องกันสูตรขนมรั่วไหล และภัสดาก็จะส่งบุรินทร์ไปคอยดูแลพิมพาให้ด้วย แม้จะแปลกใจที่ภัสดาให้ค่าจ้างสูงผิดปกติและมีเงื่อนไขแปลกๆ แต่เบญจแขไขก็ไม่มีเวลาคิด เพราะต้องเร่งคิดสูตรขนมเพื่อเอาเงินไปซื้อที่คืนมาให้ย่าพิศเบญจแขไขทุ่มเทเวลาในการทำงานแบบไม่ยอมพักผ่อน โดยมีนายยิ้มแอบมาเป็นลูกมือและให้กำลังใจอยู่เสมอ จนเบญจแขไขต้องไล่ให้ไปทำงาน เพราะกลัวว่านายยิ้มจะถูกภัสดาเล่นงานอีกธงทิวรู้ว่าเบญจแขไขไปทำงานที่โรงแรมเทวฤทธิ์และได้เงินค่าจ้างสูง และมีแนวโน้มว่าจะรักษาบ้านสวนไว้ได้ ก็หันกลับมาทำดีกับเบญจแขไขอีกครั้ง แต่เบญจแขไขไม่ดีด้วยและบอกเลิกเป็นแฟนกับธงทิว เพราะรู้แล้วว่าธงทิวไม่จริงใจ ธงทิวรู้สึกโกรธที่เบญจแขไขคิดจะตีจาก และคิดว่าเบญจแขไขปฏิเสธตนเพราะจะไปคบกับนายยิ้ม จึงคิดหาทางรวบหัวรวบหางเบญจแขไขภัสดาไม่ไว้ใจธงทิว จึงสั่งย้ายเบญจแขไขให้มาอยู่ที่บ้านพักของตนแทน เบญจแขไขเองก็อยากจะหลบหน้าธงทิวที่ตามตอแยไม่เลิกอยู่แล้ว จึงยอมย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านของภัสดา ที่นายยิ้มบอกว่าเป็นเซฟเฮาส์ของโรงแรม โดยมีนายยิ้มช่วยอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง แต่นายยิ้มก็กำชับเบญจแขไขว่า ถ้าบังเอิญเดินไปเจอภัสดาก็ให้รีบหลบ รีบก้มหน้า ห้ามมองหน้าภัสดาเด็ดขาด เพราะภัสดาเป็นคนแปลกถือว่าตนเองมีศักดิ์มีตระกูลไม่ชอบให้ใครมองหน้า เหมือนสมัยก่อนที่ใครมองแล้วจะโดยประหาร ถ้าเบญจแขไขเผลอไปมองหน้า ภัสดาอาจจะโกรธและไล่ออกจากงานได้แล้วก็เป็นจริงอย่างที่นายยิ้มบอก เพราะหลายครั้งที่เบญจแขไขบังเอิญเจอภัสดาที่โรงแรมหรือที่บ้านพัก เขาก็มักจะสั่งให้ก้มหน้าบ้าง หันหลังให้เขาบ้าง บางครั้งก็คุยกันผ่านห้องกระจกฝ้า ผ่านม่านกั้น ไม่ยอมให้เห็นหน้าเขาสักครั้ง จนเบญจแขไขหมั่นไส้ปนสงสัยพฤติกรรมแปลกๆ ของภัสดาเมื่อนายธงทิวตามหาเบญจแขไขไม่เจอก็เครียด ธงทิวจึงนัดจตุชไมมากินเหล้าที่ผับแห่งหนึ่ง สองคนเมาหนักเพราะต่างฝ่ายต่างก็มีเรื่องกลุ้มใจ ธงทิวหัวเสียเรื่องที่เบญจแขไขกำลังจะตีจากไปหานายยิ้ม ส่วนจตุชไมก็อารมณ์เสียที่จับภัสดาไม่ติดสักที ยิ่งระยะหลังภัสดาก็หายเงียบไป ติดต่อไม่ได้เลย และแล้วพิษแอลกอฮอล์ก็ทำให้ธงทิวและจตุชไมตกเป็นของกันและกันอย่างไม่ตั้งใจ แต่จตุชไมก็ไม่ได้เรียกร้องให้ธงทิวรับผิดชอบ เพราะถือว่าธงทิวเป็นแค่ทางผ่าน ส่วนเป้าหมายใหญ่ของจตุชไมอยู่ที่ภัสดาจตุชไมบุกไปหาภัสดาที่โรงแรมอีกครั้ง แต่ก็ถูกบุรินทร์กันไว้อีกตามเคย และครั้งนี้จตุชไมก็ได้เจอกับเบญจแขไขด้วย จตุชไมพูดจาประชดเสียดสีว่าเบญจแขไขตกต่ำถึงขนาดต้องมาเป็นพนักงานโรงแรม ระดับล่าง จตุชไมแสดงท่าทางรังเกียจเบญจแขไข พร้อมทั้งสั่งกำชับว่าอย่าได้เที่ยวไปบอกใครๆ ว่าเป็นน้องสาวของตน เพราะว่าที่ภรรยาเจ้าของโรงแรมเทวฤทธิ์ไม่นับญาติกับคนจนภัสดาบังเอิญผ่านมาได้ยินว่าเบญจแขไขและจตุชไมเป็นพี่น้องกัน แต่ก็ยังไม่เข้าใจอะไรมากรักล้นพุง (2564/2021) ทอย ธนากร นักขายประกัน เจ้าของอินสตาแกรมรีวิวอาหารที่มีชื่อเสียง ต้องย้ายไปประจำที่สำนักงานหัวหินอย่างกะทันหัน และได้พบกับ ธงชัย ซึ่งเป็นญาติของเขา ทั้งคู่ทำงานที่เดียวกัน และที่สำคัญ ทอยเข้าพักที่ ผาสุกวิลล่า เขาได้พบกับ เหมียว สุกัญญา หรือ สุกร เพื่อนตั้งแต่วัยเด็กด้วย ที่ผาสุกวิลล่า ทอยพยายามผูกมิตรกับเจ๊รัน กันดั้ม และอาม่า ด้วยการชวนไปรับประทานอาหารด้วยกัน แต่ว่าเหมียวกลับตั้งป้อมเป็นศัตรูเกลียดชังเขาอย่างเห็นได้ชัด ทอยต้องเอาชนะใจเหมียวให้ได้ เพราะเธอคือสะพานที่จะพาเขาไปรู้จักกับผู้คนอีกมากมายที่บริษัทของเหมียวเพื่อขายประกัน เหมียวหลงรัก ปานเทพ ชายหนุ่มโปรไฟล์ดี หัวหน้าฝ่ายวางแผนและนโยบาย เจ้าหน้าที่บริหารที่ทํางานร่วมกัน แต่ปานเทพยังจําแม้แต่ชื่อของเธอไม่ได้ เหมียวยื่นเงื่อนไขกับทอย ว่าถ้าอยากให้เธอแนะนำเพื่อนที่ทำงานให้ทอยรู้จักเพื่อขายประกัน ทอยจะต้องทําให้เธอได้คบกับปานเทพเสียก่อน ทอยทําตัวเนียนเข้าไปตีซี้ และได้พบความลับของปานเทพว่า ภายใต้บุคลิกอันเงียบขรึมสุภาพนั้น ปานเทพเป็นชายหนุ่มสายนักกีฬา ชอบออกกำลังกาย และไม่มีเพื่อนมากเท่าใดนัก เมื่อนานวันเข้า ทอยกับปานเทพจึงเริ่มกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ทอยใช้อาหารหลากหลายเมนูเชื่อมความสัมพันธ์และสร้างความสุขให้เกิดขึ้นกับคนรอบ ๆ ตัว ทั้งเจ๊รัน เจ้าของอพาร์ตเมนต์สุดเค็ม, อาม่ากิมฮวย ผู้เช่าชั้นหนึ่งที่แสบซ่าและอินเทรนด์, โจ้ เด็กหนุ่มที่เต็มไปด้วยปริศนา, แอริน สาวมินิมาร์ทจอมอ่อย, ธงชัย หลานชายวัยลุงของทอย และเอมอร เลขาของปานเทพ ขาเมาท์และชอบโม้ เมนูแสนอร่อยที่จะทําให้พวกเขาเรียนรู้ที่จะเปิดใจมองความสุขที่อยู่ตรงหน้า โดยเฉพาะมิตรภาพของคนที่ชอบกินอย่างเหมียวและทอย ที่เริ่มเข้ากันได้ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อม ๆ กับที่ปานเทพหันมาสนใจเหมียว เอมอรพยายามจับคู่ปานเทพกับอิ้งค์ ญาติของเธอที่เพิ่งเรียนจบมาจากเมืองนอก เมื่อเหมียวได้รู้จักกับอิ้งค์ จึงรู้ว่าเธอนั้นไม่มีความเหมาะสมกับปานเทพเลยสักนิด ทอยรู้สึกสงสารเหมียว จึงบอกความจริงกับปานเทพว่าเหมียวแอบหลงรักปานเทพมาเป็นเวลานานแล้ว ส่วนเหมียวก็ดื่มเหล้าจนเมา เห็นหน้าปานเทพเป็นทอย จึงสารภาพความในใจอย่างหมดเปลือกไปกับปานเทพ ปานเทพรู้สึกถึงความรักอันแท้จริงที่เหมียวมีต่อเขา ปานเทพประทับใจมาก จึงขอเหมียวเป็นแฟนในที่สุด เมื่อความรักของเหมียวและปานเทพเริ่มดำเนินไปได้ด้วยดี ทอยจึงปลีกตัวออกมา แต่กลายเป็นว่าเขาแอบรักเหมียวโดยไม่รู้ตัว เขาเริ่มหงุดหงิดเมื่อเหมียวคอยมาเล่าเรื่องของปานเทพให้ฟัง จนทอยต้องโกหกเหมียวว่ามีแฟนแล้ว และไม่อยากจะมายุ่งเรื่องของเหมียวอีก ทั้งคู่ห่างเหินกัน เหมียวรู้สึกเสียใจอย่างบอกไม่ถูก ทุกครั้งที่เหมียวอยู่กับปานเทพจะอดพูดเรื่องของทอยไม่ได้ โจ้พักอาศัยอยู่ที่ชั้นบนดาดฟ้าของผาสุกวิลล่า และเขาแอบหลงรักแอริน โจ้พยายามปิดบังตัวตนที่แท้จริงว่าเขาเป็นใครมาจากไหน ซึ่งธงชัยก็นึกสงสัยพฤติกรรมของโจ้ไม่น้อย จึงแอบให้เพื่อนซึ่งเป็นตำรวจสืบหาข้อมูลของโจ้ จนความผิดครั้งในอดีตที่โจ้เคยก่อถูกเปิดเผยในที่สุด โจ้ถูกตำรวจจับ และหลังจากที่หมดเคราะห์ เขาก็กลับมาอยู่ที่ผาสุกวิลล่าอย่างมีความสุข เหมียวได้พบกับความจริงที่ว่า เอมอรนั้นมีชีวิตครอบครัวที่ไม่มีความสุขนัก เอมอรได้รู้จักกับธงชัย ญาติผู้น้องของทอย ความบังเอิญในหลาย ๆ ครั้งที่ทั้งสองพบกัน ทำให้คนทั้งคู่ได้ปรับทุกข์ พูดคุยกัน และเกิดเป็นความรักในที่สุด ความลับที่เหมียวกับปานเทพเป็นแฟนกันถูกเปิดเผย ทําให้เกิดข่าวซุบซิบในที่ทํางานในแง่ลบ เหมียวพยายามปรับตัวให้เข้ากับปานเทพ แต่ยิ่งทําให้เธอรู้สึกอึดอัดไม่เป็นตัวของตัวเอง เวลาผ่านไป เหมียวเริ่มเข้าใจตัวเองว่าแท้จริงแล้วเธอชอบทอย เหมียวตัดสินใจบอกเลิกปานเทพในที่สุด ปานเทพเข้าใจความรู้สึกของเหมียวและทอย ไม่อยากให้ทั้งสองต้องห่างเหินกัน จึงพยายามเป็นกาวใจให้เหมียวและทอยได้กลับมาคบหากัน และตัวเขาเองก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันทั้งกับเหมียวและทอย ติดตามชมความสนุกของซีรีส์ รักล้นพุง
ฉันชื่อบุษบา (2563/2020) ฉันชื่อบุษบา ผู้หญิงธรรมด๊าธรรมดา แถมโชคชะตายังมาเล่นตลก ทั้งหักอก และตกงาน แต่ฉันก็ดันโชคดีที่เจอเจ้าชายขี่ม้าขาวมาเปลี่ยนชีวิต !! เมื่อ สรัล (ฟิล์ม ธนภัทร) เทพบุตรสุดหล่อดีกรีทายาทคนเดียวของโรงแรม ต้องมาวางแผนปฏิบัติเป็นแฟนหลอก ๆ กับ บุษบา (บี น้ำทิพย์) เชฟสาวที่ดูแล้วไม่น่ามีทางที่จะมาลงเอยกันได้ โดยงานนี้ต้องหลอกให้เนียน ปฏิบัติแฟนหลอก ๆ ของเขาและเธอ จะเนียนขนาดไหน ? เตรียมสัมผัสกับทุกรสชาติชีวิต และฝีมือทำอาหารที่ไม่ธรรมดา !! ของผู้หญิงที่ชื่อ บุษบา พร้อมกันได้ในละคร ฉันชื่อบุษบา
สูตรรักแซ่บอีหลี (2563/2020) เรื่องราวของโรงงานผลิตน้ำปลาร้าแซ่บไมค์ ของ นำพล (ไมค์ ภิรมย์พร) ที่กำลังประสบปัญหาวิกฤตโควิด 19 เล่นงาน จนทำให้โรงงานขาดทุนย่อยยับ แถมยังถูกคู่แข่ง อนวัช (ต๊อก ศุภกร) เจ้าของน้ำปลาร้าแซ่บปากเว่อร์ ซึ่งอดีตเคยเป็นลูกน้องคนสนิทที่ขโมยสูตรน้ำปลาร้าไป คอยโจมตีเพื่อหวังจะฮุบกิจการของนำพล ทำให้ คิริน (ตงตง กฤษกร) ลูกชายของนำพลต้องรีบเดินทางกลับจากเมืองนอกเพื่อมากอบกู้กิจการของพ่อ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ ทำให้น้ำปลาร้าแซ่บไมค์ เป็นที่ 1 ในตลาดน้ำปลาร้าให้ได้ ในขณะที่ธุรกิจน้ำปลาร้าแซ่บไมค์ และน้ำปลาร้าแซ่บปากเว่อร์ กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด คิรินจำเป็นต้องตัดงบบริจาคให้กับบ้านเติมฝัน บ้านเด็กด้อยโอกาสที่นำพลเคยบริจาคเงินให้เป็นประจำทุกปี เพื่อพยุงกิจการให้ดำเนินต่อไป เป็นเหตุให้ พลอยใส (มุก ณปภัช) ผู้ดูแลบ้านเติมฝันไม่พอใจ จึงตั้งตนเป็นคู่ปรับกับคิริน งานนี้เมื่อน้ำปลาร้ากลายเป็นชนวนความขัดแย้งทางธุรกิจ จนนำไปสู่ความรักระหว่างเขาและเธอ เรื่องราวชุลมุนวุ่นรักที่แซ่บนัวจึงเกิดขึ้น ห้ามพลาดชมละคร สูตรรักแซ่บอีหลี
ฟากฟ้าคีรีดาว (2563/2020) ราชิสา (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) หนีการตามล่าของกลุ่มมาเฟีย จากหิมาลัยมาซ่อนตัวอยู่ที่เชียงใหม่ สันธรากาศ (ณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์ ) หนุ่มหล่อหัวดื้อ ลูกชายมหาเศรษฐีอินเดีย ได้พบกับ ดานิกา (ภูริตา สุปินชุมภู) เจ้าของร้านอาหารที่เชิดใส่ความรวยของเขา สันธรากาศพยายามเอาชนะใจจนรู้ว่า ดานิกาชอบดูดาว แสงดาวงดงามยามฟ้ามืดเชื่อมหัวใจ สันธรากาศได้ใกล้ดานิกา แต่สันธรากาศกลับกลายเป็นคนแพ้ เมื่อดานิกาเลือกเด็กเสิร์ฟผู้อ่อนโยนอย่าง คิรี (สาริน รณเกียรติ) ดานิกาช่วยเหลือคิรีที่มีชีวิตลำบากเพราะแม่ขี้เมาอย่าง พรรำไพ (สินจัย เปล่งพานิช) จนเกิดเป็นความผูกพัน กิเลสที่อยากครอบครองดานิกา ต้องการอยู่เหนือสันธรากาศ และเอาชนะคำดูถูกของแม่ดานิกา ดารารัตน์ (เก็จมณี พิชัยรณรงค์สงคราม) ทำให้ขุนเขาต่ำต้อยอย่างคิรี ยอมทำทุกอย่างเพื่อผลักตัวเองขึ้นไปแข่งกับฟ้ากว้างอย่างสันธรากาศ คิรีถลำลึกทำงานนอกกฎหมายกับ ศิขริน (จอนนี แอนโฟเน) พ่อเลี้ยงดานิกา จนผงาดขึ้นมาร่ำรวยและสู้กับสันธรากาศทุกทาง สันธรากาศสืบรู้ว่าคิรีกำลังเลือกเส้นทางชีวิตผิด ถึงจะไม่เคยดีต่อกัน แต่เมื่อดานิกาขอร้องให้ช่วยคิรี สันธรากาศก็วางแผนดึงคิรีออกจากคนบาปอย่างศิขริน แต่กลับกลายเป็นปมที่มัดให้ดานิกา ต้องแต่งงานกับคิรี ยิ่งเมื่อสันธรากาศได้พบหน้าพรรำไพ เขากลับยอมปล่อยมือจากคนรักเพราะรู้ความจริงว่าคิรีคือน้องชาย ดานิกายอมแต่งงานกับคิรีทั้งน้ำตา เพื่อรักษาชีวิตแม่ ฟ้ากว้างอย่างสันธรากาศเจ็บปวด ที่ไม่อาจโอบอุ้มดวงดาวอย่างดานิกาได้อีก คิรีไม่รู้ตัวว่า ศิขรินต้องการฆ่าปิดปาก และเมื่อรู้ว่าลูกชายถูกทำร้าย ราชิสาก็สั่งฆ่าคิรีทันที สันธรากาศต้องสละทุกอย่างแม้ชีวิตเพื่อปกป้องน้องชายและคนรัก ฟากฟ้าจะโอบกอดดวงดาวและขุนเขาไว้ได้นานแค่ไหน ติดตามชมได้ใน " ฟากฟ้าคีรีดาว "
ผัดไทย สูตรลับลิขิตฝัน (2564/2021) เมื่อเชฟมือใหม่ตัดสินใจลงแข่งศึกทำอาหารรายการ Final Chef จึงงัดจานเด็ดอย่าง "ผัดไทย" หวังคว้าแชมป์ ทว่าแม่กลับไม่ปลื้มเพราะความหลังที่ฝังใจ แต่แล้วปาฏิหาริย์บางอย่างได้พาเธอย้อนเวลาหาอดีตเพื่อค้นพบสูตรลับและความหมายของรสชาติเหนือกาลเวลา
OMG ผีป่วนชวนมารัก (2561/2018) เป็นเรื่องราวของ สาวน้อยที่มีผีมาสิงร่างของเธอกับทำงานร่วมกับเชฟหนุ่มหล่อที่ไม่เชื่อเรื่องผี สาวน้อยที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองและยังเป็นคนที่ขี้อายมาก จนทำให้เธอนั้นไม่มีเพื่อนสนิทเลย แต่เธอนั้นก็มีความสามารถพิเศษที่ใครๆ ไม่มีก็คือ การเห็นสิ่งลี้ลับ พวกผี วิญญาณ ซึ่งในชีวิตจริงของเธอนั้นหมกมุ่นแต่กับการเป็นผู้ช่วยเชฟในห้องครัว และเมื่อเธอนั้นได้เจอผีสาวที่เวอร์จิ้น ซึ่งเป็นผีสาวที่แอบหลงรักเชฟหนุ่มและหวังว่าสักวันนั้นเธอจะพิชิตหนุ่มเชฟให้ได้ ทำให้เธอนั้นได้ยืมร่างของสาวน้อยที่เป็นลูกมือของเชฟ ทำให้เรื่องราววุ่นๆ นั้นเกิดขึ้น เมื่อสาวที่สุดเหนียมอายมาเป็นสาวสุดเซ็กซี่ ขณะที่เชฟหนุ่มหล่อทำอาหารยังไม่ลืมแฟนเก่าของตัวเอง เมื่อมาเจอลุคใหม่ของสาวน้อยที่เป็นลูกมือมานาน เรื่องราวความรักของทั้งสองคน กับ อีกหนึ่งผี จึงเกิดขึ้น เชฟหนุ่มจะเลือก หญิงสาวหรือผีสาวกันแน่
พ่อครัวหัวป่าก์ (2549/2006) คุณนาย ทองม้วน พร้อมกระติกคนรับใช้คนสนิท มักจะไปเดินตรวจตราตลาดที่เป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษของแก จนได้ชื่อว่าเป็นเศรษฐีนีที่รวยและเขี้ยวลากดินที่สุดในย่านนี้ เพราะแม้แต่อาหารในบ้านแต่ละวันที่ตกถึงท้องก็จำกัดจำเขี่ยเหลือเกิน แม่ครัวคนแล้วคนเล่าต่างพากันลาออก เพราะคุณนายให้ค่าจ่ายตลาดแค่วันละ100 บาทสำหรับ 4 ชีวิตให้ครบทั้งคาวหวาน ใน 3 มื้อ วิกฤต ในบ้านมาถึงจุดแตกหักเมื่อ ทองตรา ลูกสาวสุดที่รักสำเร็จการศึกษากลับมาจากเมืองนอก เงิน 100 บาทถูกสั่งเพิ่มปริมาณและคุณภาพอาหารให้เทียบเท่าภัตตาคาร ขนาดแม่ครัวคนล่าสุดก็มีอันต้องลาออกไป คุณมหาเปรื่อง สามีเลยปิ๊งไอเดียว่า…ในเมื่อหาแม่ครัวไม่ได้ ก็ให้หาพ่อครัวมาแทน ไม่นานก็มีพ่อครัวนับร้อยต่างทยอยมาสอบสัมภาษณ์และสอบปฏิบัติชนิดหัวกระได บ้านไม่แห้ง แต่จนแล้วจนรอด ก็ไม่มีใครผ่านมาตรฐาน ISO 9000 ของคุณนายมาเป็นพ่อครัวสักคนเดียว ติดตามต่อได้ใน พ่อครัวหัวป่าก์
Ingredients ส่วนผสมที่ลงตัว (2563/2020) เมื่อวินโดน cancel งาน วันนี้อะไรๆของวินจึงดูแย่ไปหมด งานนี้ท็อปส์เลยคิดเมนูคลายเครียด ที่ผสมผสานความน่ารักลงไปด้วย และหลอกวินมาทำด้วยกัน เพื่อให้เขาลืมเรื่องแย่ๆไป
เรื่องย่อ : ทายาททองหยิบ (2561/2018) เสือ พ่อค้าออนไลน์หนุ่มผู้มีชื่อเสียงในโลกโซเชียลกับการหยิบจับสิ่งต่างๆ ตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ มาขายผ่านทั้งทางเพจหรือการไลฟ์สด การค้าของเขาไปได้ดีขึ้นทุกวันจนเขาคิดการณ์ใหญ่จะกู้เงินเพื่อนำสินค้าล็อตใหญ่จากเมืองจีนเข้ามาขาย ซึ่งถ้าทำสำเร็จ เขาวางแผนไว้ว่าจะขอน้อง หมวยลี่ แฟนสาวเน็ตไอดอลของเขาแต่งงาน ทุกอย่างเหมือนจะไปได้ด้วยดี จนกระทั่งถึงเวลาต้องไปจ่ายเงินค่าของ แต่เงินที่เตรียมไว้กลับอันตรธานหายไปพร้อม ๆ กับน้องหมวยลี่และหนุ่มล่ำขี่บิ๊กไบค์...คนนั้น...คนที่เธอเคยบอกว่าเป็นแค่เพื่อนค่ะ พี่เสือ... จากที่เคยมีทุกอย่าง กลับกลายเป็นไม่เหลืออะไรเลย แถมติดหนี้แบบสุดๆ เสือต้องหนีเจ้าหนี้หัวซุกหัวซุนเปลี่ยนที่นอนไปเรื่อย จนไปขออาศัยอยู่ที่คอนโดของ ศักดา พนักงานธนาคารสุดเนิร์ดผู้ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขาตั้งแต่สมัยเรียน กระทั่งวันหนึ่งเสือได้รับโทรศัพท์เบอร์แปลก ตอนแรกก็นึกว่าเป็นเจ้าหนี้ว่าจะไม่รับ แต่อีกฝั่งก็กระหน่ำโทรจนเขากดรับสายจนได้ กลายเป็นว่าปลายสายนั้นไม่ใช่เจ้าหนี้ แต่เป็นทนายความของยายสารภี ญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวของเขาซึ่งเพิ่งเสียชีวิตไป ความทรงจำที่เสือมีต่อยายนั้นลางเลือน จำได้เพียงว่ายายทำขนมทองหยิบอร่อยมากเท่านั้นเอง โดยทนายบอกว่าเขาเป็นผู้ได้รับมรดกเป็นตึกแถวร้านขนมที่อยู่ชานเมืองพร้อมทั้งทรัพย์สินเป็น เงินสดในบัญชีอีกกว่าสิบล้าน เขาดีใจมากและตั้งใจจะขายร้านเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ให้ได้ ต่อไปนี้จะได้ ไม่ต้องหนีเจ้าหนี้อีกต่อไป ความหวังของเขาลุกโชนขึ้นทันที แต่เรื่องของเรื่องมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เมื่อเขาไปถึงร้านขนมของยาย กลับได้พบ หนูพุก ซึ่งเป็น คนสนิทของยายดูแลร้านอยู่ ทั้งสองกัดกันทันทีตั้งแต่แรกพบ ด้วยหนูพุกเข้าใจผิดว่าเขาเป็นคนที่พวกนายหน้าค้าที่ส่งมาป่วนเพื่อหวังจะกว้านซื้อที่แถวนี้ ส่วนเขาก็เข้าใจผิดว่าเธอเป็นเด็กในร้านที่คิดจะฮุบร้านเอาไว้เอง ทั้งสองเถียงกันอยู่นานจนทนายโทรมาแจ้งความจริงกับหนูพุก เธอตกใจมากที่รู้ว่าคนหน้าเงินอย่างเสือเป็นทายาทของคุณยายจริงๆ แต่ที่ร้ายไปกว่านั้นคือเขามีแผนจะขายร้านทิ้งด้วย! หนูพุกพยายามเกลี้ยกล่อมให้เขาสืบทอดกิจการต่อไปเพราะขนมทองหยิบทองหยอดของคุณยายนั้นเป็นสูตรโบราณ ใส่ใจทุกรายละเอียดขั้นตอน แต่เขาไม่ฟังยืนยันจะขายร้านให้ได้พร้อมทั้งไล่เธอกับ จุ๋มจิ๋มและต๊อกแต๊ก ลูกจ้างสองคนให้รีบไปหาที่อยู่ใหม่ หนูพุกสะเทือนใจมากที่ทายาทของยายสารภีไม่ใส่ใจสืบทอดร้านแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเก็บข้าวของแล้วย้ายออก เสือดีใจที่กำจัดเสี้ยนหนามไปให้พ้นหูพ้นตาได้ แต่ก็ต้องช็อคอีกระลอก เมื่อทนายความเปิดพินัยกรรมของคุณยายสารภีของเขาและบอกเอาไว้ชัดเจนว่า ต้องให้เสือรับช่วงต่อกิจการร้านขนมให้ครบหนึ่งปีถึงจะได้กรรมสิทธิ์ขาด รวมถึงมีเงื่อนไขต้องทำให้ร้านไม่ขาดทุนติดต่อกันสามเดือนอีกด้วย ถ้าเสือทำไม่ได้ เขาจะไม่ได้อะไรเลยสักแดงเดียว! เจอแบบนี้เสือเลยต้องกลายเป็นแมวหงอยคอยตามตื้อ หนูพุก ให้กลับมาช่วยงานที่ร้าน ส่วนหนูพุกได้ทีเล่นตัวไม่ยอมช่วย เสือง้อแล้วก็ง้ออีกแต่ก็ไม่เป็นผลจนโมโหบอกว่าไม่ง้อก็ได้ เสือกลับมาที่ร้านลองทำขนมด้วยตัวเองโดยดูวิธีการจากยูทูป และผลลัพธ์ก็เป็นที่น่าประทับใจมาก แม้แต่สุนัขยังไม่รับประทาน เสือจึงต้องกลับไปง้อหนูพุกอีกครั้ง ร้องขอความเห็นใจสงสารว่าถ้าเขาไม่ได้ร้านและทรัพย์สินมรดกจะต้องโดนเจ้าหนี้เล่นงานแน่ หนูพุกเริ่มใจอ่อน แต่ก็ยื่นเงื่อนไขว่าจะให้เธอกลับไปช่วยก็ได้ เมื่อครบหนึ่งปีแล้วเขาต้องยกแบรนด์ขนมและสูตรขนมให้กับเธอทั้งหมดเพราะไม่อยากให้แบรนด์คุณยายสูญหายไป ส่วนระหว่างนี้เขาต้องมาเป็นลูกมือของเธอ เสือไม่มีทางเลือกนอกจากตอบตกลง ร้านขนมกลับมาเปิดบริการอีกครั้ง โดยมีหนูพุกเป็นคนทำขนม ส่วนเสือก็กลายเป็นลูกมือของเธออีกคนนอกจากจุ๋มจิ๋มและต๊อกแต๊ก โดยเสือโดนหนูพุกโขกสับเป็นพิเศษ ด้วยความหมั่นไส้และเสือก็ทำอะไรไม่ได้เสียด้วย ส่วนคนในชุมชนเมื่อได้ยินว่า หลานยายสารภีมารับช่วงต่อร้านขนม ก็แวะเวียนกันมาเยี่ยมเยียน ทั้ง เจ๊แหม่ม สาวใหญ่สุดเปรี้ยวเจ้าของร้านชำ ซึ่งเป็นร้านที่ขายวัตถุดิบทำขนมให้ด้วย ลุงผวนและไมเคิล คู่ลุงหลานต่างวัยซึ่งเป็นวินมอเตอร์ไซค์เพียงสองคันที่ชุมชนมี เฮียอ๋าเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวขี้งก กับ เบลล่าลูกสาวสุดเอ็กซ์ที่เกิดมาติดใจเสือเข้าเสียอย่างนั้น อย่างไรก็ตามการที่มีสาวเอ็กซ์อย่างเบลล่ามาทอดสะพาน ก็ไม่ทำให้เสือหวั่นไหว เพราะเขาเห็นเธอเป็นแค่น้องสาว และที่สำคัญเขายังไม่ลืมหมวยลี่ คนรักเก่าที่เขายังทั้งรักทั้งแค้นอยู่ แต่การที่เบลล่ามาชอบเขานั้นทำให้ ไมเคิล หนุ่มวินมอเตอร์ไซค์ผู้บูชาเธอดั่งนางฟ้าเกิดเขม่นเสือขึ้นมา เห็นเป็นศัตรูหัวใจ แถมเพื่อนรักของเสืออย่างศักดา ยังมาแสดงทีท่าขายขนมจีบเบลล่าอีกคน แต่ไมเคิลก็เขม่นเสือแค่เรื่อง เบลล่าเท่านั้น เพราะลึกๆ แล้วไมเคิลนับถือที่เสือเป็นคนที่มีความคิดอ่านหลักแหลม และมีความสามารถ เวลามีปัญหาเกิดขึ้นในชุมชนทั้งคู่จึงมองข้ามเรื่องผู้หญิงและจับมือกันแก้ปัญหาได้อยู่เรื่อย กิจการร้านขนมไปได้ดี พร้อมๆ กับการที่เสือได้โอกาสทำความรู้จักกับคุณยายที่เสียไปมากขึ้น หนูพุกเล่าให้ฟังว่าแต่เดิมคุณยายเป็นเจ้าของที่ดินส่วนใหญ่แถวนี้ แต่ก็ขายให้ชาวบ้านไปหมดในราคาถูกๆเพื่ออยู่อาศัยและทำมาหากิน คนในชุมชนแถวนี้จึงรักและเคารพคุณยายสารภีมาก และมักจะมาอุดหนุนขนมของคุณยายเสมอ แต่ไม่ใช่กับกำนันหมู และ ผู้ใหญ่มา สองพี่น้องซึ่งเป็นผู้ทรงอิทธิพลประจำชุมชนที่มักจะปรากฏตัวพร้อมลูกน้องอีกสองคนคือ กา และ ไก่ จนชาวบ้านมักแอบเรียกลับหลังว่า แก๊งหมูหมากาไก่ กำนันหมูและผู้ใหญ่มาหวังจะกว้านซื้อที่ดินแถวนี้ไปขายนายทุน ทั้งสองทั้งเกลี้ยกล่อมทั้งข่มขู่ชาวบ้านให้ยอมขายที่ แต่ก็ได้ผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเพราะชาวบ้านยังคงหวงแหนในที่ทำกินตัวเองอยู่มาก เสือได้ฟังดังนั้นก็แอบคิดว่าเมื่อถึงเวลาครบหนึ่งปี เขาจะเอาร้านไปประเคนขายให้ทันที แต่เหมือนหนูพุกจะรู้ทันแอบดักคอเสือว่า ที่ดินตกทอดจากบรรพบุรุษคงมีแต่ลูกหลานเนรคุณเท่านั้นที่จะขาย เสือสะอึกเพราะรู้ว่าโดนหลอกด่า แต่ไปๆ มาๆ เขาก็เริ่มรู้สึกว่าหนูพุกเป็นผู้หญิงน่ารักอยู่เหมือนกัน ถึงจะดูแข็งๆ แต่จริงๆ เป็นคนอ่อนโยน แถมยังมีดีกรีไม่ธรรมดา เพราะจบคณะคหกรรมศาสตร์ และกำลังต่อโทด้านวิทยาศาสตร์อาหารด้วย เธอเข้ามาอยู่กับคุณยายเพราะอยากเรียนการทำขนม ซึ่งยายก็ยินดีรับไว้และถ่ายทอดวิชาให้เธออย่างหมดเปลือก ถึงแม้ว่าเสือจะไม่เอาอ่าวกับการทำขนมเอาเสียเลย แต่เขาก็มีสกิลทางด้านโซเชียลพอสมควรจนจับจุดได้ว่าถ้าลองโปรโมทร้านผ่านช่องทางนี้น่าจะดี เขาจึงลองไลฟ์ช่วงที่หนูพุกทำขนม ทั้งลีลาและวัตถุดิบที่สวยงามขึ้นกล้อง บวกกับความเก๋าเกมทางโซเชียลของเสือ ทำให้ผู้คนเริ่มหลั่งไหลมาอุดหนุน ยอดขายพุ่งกระฉูดเสียจนทำขนมแทบไม่ทัน แต่ทว่าการเปิดหน้าของเขาลงสื่อออนไลน์ไม่ได้ดึงดูดแค่ลูกค้าอย่างเดียว ยังดึงดูดเจ้าหนี้เก่ามาด้วย เมื่อหนีไปไหนไม่รอด เสือจึงต้องขอต่อรองผ่อนจ่ายหนี้เป็นเดือนๆ โดยหักจากรายได้ของร้านขนม หนูพุกหัวเสียมากที่จู่ๆ ก็ต้องมาหักรายได้ใช้หนี้แทนที่จะได้มาปรับปรุงร้าน แต่อีกด้านหนึ่งเธอก็เริ่มเห็นด้านดีๆ ของเสือมากขึ้นว่าอย่างน้อยเขาก็ไม่ได้เหลวไหลไปวันๆ กลับพยายามใช้ความสามารถตัวเองเพื่อช่วยเหลือร้านให้ดีขึ้น ความสัมพันธ์ของเสือกับหนูพุกค่อยๆ ดีขึ้นในลักษณะคู่กัดคู่หยอก เขาเริ่มพัฒนาฝีมือการทำขนมจนพอทำได้บ้างแล้ว แต่ในขณะที่ทุกอย่างไปได้ดี วันหนึ่งน้องหมวยลี่ตัวดีก็กลับมาหาเขา เพราะแอบสืบรู้ว่าเขาได้มรดกก้อนโต หมวยลี่ทั้งมาออดอ้อนขอให้เสือให้อภัย บอกว่าเธอไม่ได้ตั้งใจเชิดเงินเขาไปแต่ไอ้หนุ่มบิ๊กไบค์คนนั้นต่างหาก ที่หลอกลวงเธอให้ทำแบบนั้น นอกจากเรื่องรักเก่าวุ่นๆ จะกลับมาป่วนใจอีกรอบ แผนการฮุบที่ดินส่งนายทุนของ กำนันหมูกับผู้ใหญ่มา สองพี่น้องผู้ชั่วช้าก็ทวีความรุนแรงขึ้น ขนแผนสกปรกทุกวิถีทางมาบีบให้ชาวบ้าน รวมทั้งเสือขายที่ให้เพราะนายทุนเร่งมาแล้วว่าให้จัดการให้เสร็จโดยไว ชะตากรรมของร้านและชุมชนนี้จะเป็นอย่างไร?
เรื่องย่อ : รักซ่อนรส (2553/2010) ณ ร้านอาหารไทยแห่งหนึ่ง แกงป่าถูกวางตรงหน้าฟ้าใส เธอตักแกงขึ้นดมและรู้ได้ทันทีว่าพ่อครัวลืมใส่กระชาย ฟ้าใสหวังดีเพียงแค่อยากเตือนพนักงานเสิร์ฟให้บอกพ่อครัว แต่สุชินพ่อครัวเผอิญออกมาได้ยิน และโกรธจัดที่ถูกเด็กสอน โวยวายตะเพิดใส่ฟ้าใส บังเอิญเจ้าของร้านมาตรวจเยี่ยมร้านพอดีรู้ว่าพ่อครัวสะเพร่าจึงไล่พ่อครัวออกจากงาน ฟ้าใสรู้สึกผิดที่ตัวเองเป็นสาเหตุแต่ไม่มีเวลาไล่ตามไปขอโทษสุชินเพราะต้องรีบไปเข้าเรียนทำอาหารวันแรก ทำให้สุชินผูกใจเจ็บกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ฟ้าใสมีความใฝ่ฝันอยากเป็นเชฟอาหารไทย ด้วยพรสวรรค์ที่ติดตัวมาประกอบกับคลุกคลีอยู่กับธุรกิจการส่งออกวัตถุดิบและเครื่องเทศอาหารไทยของอาทิตย์ซึ่งเป็นบิดา ทำให้ฟ้าใสรอบรู้ด้านเครื่องเทศ แต่อรุณผู้เป็นย่าต่อต้านความฝันของฟ้าใสชนิดสุดลิ่มทิ่มประตู เพราะย่าอรุณเจ็บช้ำกับอดีตสมัยที่เคยเป็นต้นห้องทำครัวอยู่ในวัง แต่โดนใส่ร้ายว่าใส่สมุนไพรบางตัวที่เป็นอันตรายทำให้เจ้านายในวังล้มป่วย ย่าอรุณถูกไล่ออกจากวังจึงเสียใจอย่างหนักเลิกทำอาหารตั้งแต่บัดนั้น แต่ฟ้าใสก็ยังดื้อรั้นแอบมาสมัครเรียนจนได้
ความหวังของฟ้าใสล้มเหลวเพราะย่าอรุณตามมาลากหลานสาวกลับบ้าน ขณะกำลังโดนย่าลงโทษ ทั้งคู่ก็ได้รับข่าวร้ายว่า บริษัทส่งออกของอาทิตย์ถูกบริษัทหลักทรัพย์ของอมราใช้เล่ห์กลเข้าฮุบกิจการ จนอาทิตย์บิดาของฟ้าใสรับสภาพล้มละลายไม่ได้ตัดสินใจแขวนคอตาย การตายของอาทิตย์เปลี่ยนแปลงชีวิตฟ้าใสจากคนมีอันจะกินกลายเป็นยาจกไปในพริบตา แถมย่าอรุณยังล้มป่วยเพราะสูญเสียลูกชายสุดที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ ฟ้าใสต้องพาย่าไปเช่าบ้านถูก ๆ อยู่ และรับภาระเป็นหัวหน้าครอบครัวเลี้ยงดูย่า กับน้องอีกสองคน คือฝนทิพย์และด.ช.เมฆ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองมีอายุเพียงแค่ 17 ปีเท่านั้น เธอจึงต้องไปรับจ้างปอกมะพร้าวกะทิในตลาด ฟ้าใสกัดฟันสู้อย่างไม่ยอมแพ้
นายอำนาจ มหาเศรษฐี เจ้าของธุรกิจไฟแนนซ์ ประกาศวางมือทางธุรกิจ แล้วยกกิจการให้อยู่ในความดูแลของอมรากับอุไร หลานสาว ซึ่งอยู่ในวัยสาวใหญ่ ยังไม่ได้แต่งงานเพราะอำนาจกีดกัน เนื่องจากคิดว่าผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตของหลานสาว มีแต่หวังปลอกลอกเอาสมบัติมากกว่าจะรักด้วยความจริงใจ สาเหตุอีกประการหนึ่งก็คืออารีย์ หลานสาวอีกคนหนึ่งของอำนาจ เคยถูกผู้ชายทิ้งกระทั่งอารีย์ต้องเลี้ยงลูกแต่เพียงลำพัง
ลูกสาวของอารีย์ชื่อชฎาฉัตร เรียนอยู่ที่ต่างประเทศ ขณะที่อยู่ต่างประเทศชฎาฉัตรเคยผูกพันกับพรวุฒิหรือคุณตั้มทายาทนักธุรกิจร้อยล้าน แต่คุณตั้มสำเร็จการศึกษาก่อน และต้องรีบกลับมาช่วยกอบกู้บริษัทเลิศรส ซึ่งประกอบธุรกิจร้านอาหารแบบเฟรนไชน์ของครอบครัว ที่กำลังประสบกับภาวะวิกฤตเพราะคนไทยหันไปนิยมกินอาหารต่างชาติ โดยมีพรฤดีพี่สาวคอยช่วยอีกแรง
พนักงานของร้านอาหารเลิศรสหลายสาขาพากันลาออกไปสมัครงานกับร้านอาหารทั้งญี่ปุ่นและอิตาเลี่ยน ทำให้คุณตั้มต้องรีบประกาศรับคนด่วน เหมือนพรหมลิขิตชักพาให้คุณตั้มกับฟ้าใสต้องโคจรมาพบกัน เมื่อเกิดปัญหามะพร้าวขาดตลาด พ่อค้าที่คอยจัดส่งกะทิให้กับร้านอาหารเลิศรสต้องไปตระเวนซื้อกะทิจากตลาดทั่วไป ร้านขายกะทิที่ฟ้าใสรับจ้างทำงานอยู่จึงให้ฟ้าใสนำกะทิไปส่งที่ร้านอาหารเลิศรสสาขาหนึ่ง ทำให้ฟ้าใสรู้ข่าวการรับสมัครงานของบริษัทเลิศรส จึงรีบสมัครเป็นพนักงานในตำแหน่งผู้ช่วยเชฟ ซึ่งจะต้องเข้าไปฝึกงานในบริษัทแม่ แต่โชคร้ายเมื่อเธอได้เข้าไปทำงาน กลับต้องไปเจอกับสุชินที่เคยถูกไล่ออกจากงานเพราะฟ้าใส สุชินมีหน้าที่ดูแลเด็กฝึกงาน เขาจำฟ้าใสได้อย่างแม่นยำ จึงคอยกลั่นแกล้งฟ้าใสให้ทำงานปัดกวาดเช็ดถู ล้างห้องน้ำ ไม่ให้ฟ้าใสได้มีโอกาสฝึกทำอาหารเลย
ด้านชฎาฉัตรทนอยู่ที่ต่างประเทศคนเดียวไม่ได้ จึงเดินทางกลับมาเงียบ ๆ โดยไม่มีปริญญาติดตัวมาเลย อำนาจโกรธมาก กดดันชฎาฉัตรไปช่วยงานที่บริษัท เพราะวิตกว่าชฎาฉัตรจะพลาดพลั้งอย่างมารดาและอาจเสียคน ชฎาฉัตรแม้จะยอมไปทำงาน แต่ก็ไปวางท่าหยิ่งผยองถือตัวว่าเป็นผู้ดีมีระดับเหนือพนักงาน
คุณตั้มต้องการปรับปรุงด้านรสชาติอาหารโดยการคัดเลือกเครื่องเทศที่มีคุณภาพมากขึ้น ทำให้เขานึกถึงอาทิตย์เพื่อนสนิทของบิดาที่เคยมีบุญคุณช่วยเหลือบิดาของคุณตั้มในสมัยเริ่มทำธุรกิจร้านอาหาร คุณตั้มอยากติดต่อซื้อเครื่องเทศจากอาทิตย์ แต่พรฤดีบอกว่าอาทิตย์เสียชีวิตไปแล้ว คุณตั้มเป็นห่วงครอบครัวของอาทิตย์ จึงแวะไปที่บ้านเดิมของฟ้าใส ปรากฏว่าบ้านหลังนั้นตกเป็นของครอบครัวอมราเสียแล้ว คุณตั้มออกตามหาครอบครัวฟ้าใสโดยไม่รู้เลยว่าเด็กสาวที่ทำขยะหกใส่หัวเขาในบริษัทโดยไม่ตั้งใจ ที่แท้ก็คือฟ้าใสคนที่เขาตามหานั่นเอง
พนักงานฝึกงานหลายคนถูกส่งตัวไปทำงานที่ร้านอาหารตามสาขาต่าง ๆ เหลือเพียงฟ้าใสที่สุชินไม่ให้ผ่านงาน ฟ้าใสถูกให้ออก ก่อนไปฟ้าใสแอบทำข้าวผัดสูตรชาววังที่ย่าเคยทำให้กินตอนเด็กที่ตัวเองแอบจำสูตรมา จัดใส่กล่องสวยงามให้แม่บ้านเป็นการตอบแทนน้ำใจที่คอยช่วยเหลือฟ้าใสมาตลอดที่ฝึกงาน ข้าวผัดกล่องนั้นได้ถูกแม่บ้านนำไปเสิร์ฟให้คุณตั้มกิน คุณตั้มรู้สึกคุ้นรสชาติข้าวผัดที่ย่าอรุณเคยทำให้กิน รีบให้คนตามหาคนทำ จนได้พบกับฟ้าใสในที่สุด
คุณตั้มให้การช่วยเหลือครอบครัวของฟ้าใสด้วยการให้มาอยู่ตึกแถวริมถนนที่ตนซื้อทิ้งไว้ ย่าอรุณห่วงหลานทั้งสามเลยออกไปรับจ้างทำงานหนักจนป่วยหนัก ฟ้าใสจึงอุบายบอกย่าอรุณว่าเธอจะแต่งงานกับเศรษฐี จะได้ไม่ลำบากเพื่อให้ย่าสบายใจ แต่อรุณไม่เชื่อให้ฟ้าใสพาคนรักมาพบ ฟ้าใสตัดสินใจบากหน้าไปหาคุณตั้ม เพื่อขอร้องให้มาช่วยเล่นละครรับปากกับย่าที่กำลังเจ็บหนักใกล้ตาย เพื่อให้ย่าตายอย่างสงบ
ฟ้าใสเข้าไปพบคุณตั้มในคฤหาสน์ ขณะที่เขากำลังจัดงานปาร์ตี้ มีเพื่อนฝูงทั้งหญิงชายล้วนแต่เป็นผู้ลากมากดีมีฐานะ รวมทั้งคุณชฎาฉัตร ฟ้าใสโดนหัวเราะเยาะ ถูกมองว่าเป็นผู้หญิงชั้นต่ำไม่มีความละอาย ถึงขนาดมาขอให้ผู้ชายที่ไม่เคยรักกันมาก่อนให้มาแต่งงานด้วย ฟ้าใสอธิบายว่าเธอทำเพียงเพื่อจะให้ย่าที่เจ็บป่วยสบายใจ ชั่วคราวเท่านั้น และเธอก็คิดว่าไม่ช้าย่าก็จะตาย และทุกอย่างก็จะสิ้นสุดลง แต่ชฎาฉัตรไม่ยอม ซ้ำยังประณามและดูถูกฟ้าใส รวมทั้งเพื่อนคนอื่น ๆ เช่นเทียนสีหรืออำพลกลับนึกสนุกล้อเลียนฟ้าใสเป็นที่สนุกสนาน ฟ้าใสรู้สึกละอายและผิดหวัง จึงกลับไปหาย่า ตั้งใจจะบอกความจริง แต่คุณตั้มกลับบอกฟ้าใสว่าเขาจะไปพบย่าของฟ้าใส และไปบอกย่าตามที่ฟ้าใสขอร้อง เพราะเขาเห็นใจฟ้าใสและสงสารย่า อยากให้กำลังใจคนแก่ที่ใกล้ตาย ทำให้ชฎาฉัตรโกรธมาก เธอคิดว่าฟ้าใสวางแผนกับย่าเพื่อหลอกลวงคุณตั้มให้แต่งงานด้วย จึงขอตามไปดูว่าสิ่งที่ฟ้าใสพูดมาเป็นความจริงหรือไม่ แต่คุณตั้มไม่อนุญาต และขู่ชฎาฉัตรกับเพื่อน ๆ ว่าหากทุกคนไปวุ่นวายขัดขวางเรื่องนี้ เขาจะเลิกคบทันที
ย่ามีความสุขขึ้นเมื่อเห็นกับตาว่าคุณตั้ม ชายหนุ่มที่ย่าเคยเห็นว่าเป็นลูกชายคนเดียวของเศรษฐีใกล้บ้านของย่ามารักหลานสาวจริง ๆ จากนั้นย่าอรุณก็แข็งแรงขึ้นอย่างกับปาฏิหาริย์และคุณตั้มกับฟ้าใสก็เลยต้องเล่นละครเป็นคนรักกันต่อมาอย่างไม่มีกำหนด ทำให้ชฎาฉัตรยิ่งเชื่อว่า ทั้งหมดเป็นแผนของฟ้าใส และพยายามโน้มน้าวให้คุณตั้มเชื่อว่าฟ้าใสเป็น 18 มงกุฎ แต่คุณตั้มไม่สนใจแถมยังรับปากที่จะส่งเสียฝนทิพย์และดช.เมฆให้เรียนจนจบอีกด้วย แต่ได้รับการปฏิเสธจากฟ้าใส เพราะเธอไม่ต้องการสูญเสียศักดิ์ศรีที่เป็นสิ่งเดียวที่เธอมีอยู่ในตอนนี้
คุณตั้มจึงให้ฟ้าใสไปเป็นผู้ช่วยเชฟในร้านอาหารเลิศรสในห้างใหญ่ พรฤดีขัดขวางเพราะกลัวว่าน้องชายจะไปหลงรักฟ้าใสซึ่งต่างฐานะกัน การได้ชฎาฉัตรมาเป็นน้องสะใภ้น่าจะเกิดประโยชน์ต่อธุรกิจมากกว่า แต่พรฤดีก็ไม่อยากหักหาญน้องชายเสียทีเดียว จึงเสนอให้ฟ้าใสเป็นแค่เด็กเสิร์ฟแล้วค่อยไต่เต้าไปเป็นผู้ช่วยเชฟ ชฎาฉัตรรู้ข่าวโกรธมากตามไปราวีฟ้าใสแต่ก็ทำอะไรฟ้าใสไม่ได้ จึงพาลไปอาละวาดกับคนในบ้านตัวเองแทน
เริ่มต้นจากการทวงสิทธิ์ของอารีย์ในกองมรดก จนอมรากับอุไรต้องแบ่งบริษัทที่ยึดมาจากพ่อของฟ้าใสให้ชฎาฉัตรดูแล แต่ชฎาฉัตรเอาแต่ตามหึงหวงฟ้าใส จนกิจการขาดทุน เมื่อถูกอำนาจตำหนิ ชฎาฉัตรก็หันไปหาเรื่องกับสาริกา ลูกของสำรวยคนใช้ในบ้าน ทำให้สาริกาไม่พอใจ คิดเอาชนะชฎาฉัตรด้วยการตั้งใจเรียนหนังสือและทำงานปรนนิบัติอำนาจ เพื่อให้อำนาจเอ็นดูและให้เห็นว่าเธอนั้นมีความรู้เหนือกว่าชฎาฉัตร จนอำนาจเอ็นดูถึงกับจะยกสมบัติส่วนหนึ่งให้สาริกา
ที่เลิศรสพนักงานเสิร์ฟไม่ค่อยใส่ใจงานด้านบริการทำให้ยอดขายตก แต่ฟ้าใสช่วยกู้สถานการณ์ตั้งใจเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้าพร้อมแนะนำคุณประโยชน์ของอาหารไทยแต่ละประเภทให้ลูกค้าฟัง จนลูกค้าพากันชื่นชอบเรียกหาแต่ฟ้าใส ฟ้าใสจึงโดนเพื่อนพนักงานหมั่นไส้ลากไปรุมตบตี อธิป เพื่อนสมัยเรียนที่หลงรักฟ้าใสอยู่ ตามมาช่วยได้ทันเวลาพาฟ้าใสส่งโรงพยาบาล คุณตั้มรู้เรื่องโกรธมากจะไล่พนักงานพวกนั้นออกและจับส่งตำรวจ แต่ฟ้าใสกลับบอกว่าตัวเองถูกอันธพาลทำร้ายไม่เกี่ยวกับเพื่อนพนักงานเลย ทำให้เพื่อนพนักงานสำนึกผิดหันมาทำดีกับฟ้าใส ชฎาฉัตรยังคอยตามราวีกลั่นแกล้งฟ้าใสไม่เลิกรา ด้านพรฤดีเริ่มรู้สึกเห็นใจและมองเห็นความดีงามในตัวของฟ้าใส เด็กสาวที่เธอมองว่าฐานะต่ำชั้น แต่กลับมีนิสัยดีกว่าชฎาฉัตรที่ถือตัวเป็นผู้ดีหลายเท่านัก
พยัคฆ์ หุ้นส่วนบริษัทคุณตั้ม เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ แสดงท่าทีว่าชอบพรฤดี แต่เธอทำเป็นไม่สนใจ ขณะที่คุณตั้มต้องการให้พี่สาวมีครอบครัว จึงเปิดทางให้พยัคฆ์ได้เข้ามาใกล้ชิดกับพรฤดีตลอดเวลา พรฤดีเริ่มใจอ่อน แต่ก็ยังไว้ฟอร์มไม่ยอมรับปากแต่งงานกับพยัคฆ์
ธุรกิจร้านอาหารของคุณตั้มประสบปัญหาใหญ่อีกครั้ง เพราะสุชินขโมยสูตรอาหารไทยเมนูใหม่ ซึ่งเป็นสูตรผสมระหว่างอาหารไทยกับอาหารฝรั่งไปขายให้กับบริษัทเฟรนไชน์เปิดใหม่ ซึ่งคุณตั้มไม่รู้เจ้าของบริษัทที่ชิงสูตรไปนั้นก็คือพยัคฆ์นั่นเอง ลูกค้าของเลิศรสโดนแย่งไปหมดสถานการณ์จวนเจียนเจ๊ง แต่ฟ้าใสอ้อนวอนให้ย่าอรุณช่วยสอนสูตรการทำอาหารตำรับชาววังขนานแท้ให้เพื่อช่วยเหลือคุณตั้ม ย่าอรุณทนเห็นความทุกข์ใจของหลานไม่ไหว จึงยอมสอนฟ้าใส คุณตั้มกับฟ้าใสช่วยกันพลิกฟื้นฐานะของบริษัทจนเพิ่มยอดขายถล่มทลาย ฟ้าใสกลายเป็นที่ยอมรับของเชฟทุกคนได้เลื่อนตำแหน่งให้เป็นเชฟที่มีอายุน้อยที่สุดของบริษัท แถมยังได้รับรางวัลเชฟหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากสถาบันอาหารไทยสู่ครัวโลก
ชฎาฉัตรริษยาฟ้าใสหนักขึ้น ด้วยความกลุ้มใจจึงไปหาเทียนสีกับอำพล ซึ่งเป็นคู่รักกัน ชฎาฉัตรลักลอบได้เสียกับอำพล ขณะเดียวกันก็ยังเฟลิตกับผู้ชายมากหน้าหลายตา ชฎาฉัตร ออกเที่ยวกลางคืนทุกวัน จนพบกับพยัคฆ์ที่ไปนั่งกินเหล้ากับลูกค้าในบาร์แห่งหนึ่ง ทั้งคู่สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว พยัคฆ์ช่วยชฎาฉัตรแก้ปัญหาเรื่องบริษัท ที่สุดชฎาฉัตรก็ได้เสียกับพยัคฆ์ และตั้งท้องขณะเดียวกันพรฤดีก็ตัดสินใจรับปากแต่งงานกับพยัคฆ์ พยัคฆ์จึงขอให้ชฎาฉัตรไปทำแท้งเสีย ประจวบกับอำนาจประกาศยอมรับสาริกาเป็นบุตรบุญธรรม
ชฎาฉัตรเสียหน้าอย่างที่สุด เธอคิดกลับมาหาคุณตั้ม และเริ่มดำเนินแผนการที่จะทำให้คุณตั้มแตกกับฟ้าใส โดยใช้อธิปเป็นเครื่องมือ แผนของชฎาฉัตรสำเร็จ คุณตั้มหึงฟ้าใสกับอธิปจนทะเลาะกันรุนแรง และมีท่าทีว่าจะกลับมาสนิทกับชฎาฉัตรเป็นการประชด ชฎาฉัตรเห็นว่าได้ที่พึ่ง จึงปฏิเสธเงินของพยัคฆ์ โชคร้ายที่การพบกันครั้งสุดท้ายของพยัคฆ์และชฎาฉัตรรู้ถึงหูพรฤดี พรฤดีเสียใจมากยื่นคำขาดล้มเลิกการแต่งงาน
พยัคฆ์โกรธมาก เพราะการที่เขาแต่งงานกับพรฤดีครั้งนี้ เพราะต้องการจะเข้าฮุบกิจการของพรฤดี พยัคฆ์จึงโทรแบล็คเมล์อำนาจให้ขายหุ้นให้ตัวเองในราคาถูก ไม่งั้นจะแฉเรื่องที่ชฎาฉัตรท้องกับตน อำนาจเสียใจมากจนหัวใจวายตาย สาริกาบุกไปตามชฎาฉัตรขณะกำลังจะมอมยาคุณตั้ม และประณามว่าชฎาฉัตรเป็นคนทำให้ทวดตาย คุณตั้มตกใจมากที่รู้ความจริงว่าพยัคฆ์เป็นคนเลว และคิดร้ายกับครอบครัวตนเองมาตั้งแต่ต้น ส่วนชฎาฉัตรก็ตามไปเอาเรื่องพยัคฆ์ แต่ถูกพยัคฆ์ทำร้ายจนตกบันไดแท้งลูก พยัคฆ์นึกว่าชฎาฉัตรเสียชีวิต จึงให้คนเอาร่างของชฎาฉัตรไปทิ้งที่ชานเมือง
ฟ้าใสโดนย่าบังคับให้ลาออกจากร้านอาหารเลิศรสเพราะรู้ความจริงว่าฟ้าใสกับคุณตั้มร่วมกันโกหกเรื่องเป็นแฟนกัน ย่าอรุณโกรธคุณตั้มมาก พาหลาน ๆ ย้ายไปอยู่ชานเมือง เปิดร้านขายข้าวแกงเล็ก ๆ พออยู่พอกิน ฟ้าใสได้พบชฎาฉัตรโดยบังเอิญจึงช่วยชฎาฉัตรไว้ ที่บ้านของฟ้าใสนี่เองที่ทำให้ชฎาฉัตรรู้ตัวว่าคนจนที่ตัวเองรังเกียจ กลับมีจิตใจอันงดงาม ไม่เหมือนกับตัวเองที่หลงคิดว่าสูงส่งมาตลอดแต่กลับทำเรื่องน่าละอายสารพัด ชฎาฉัตรขอโทษฟ้าใสและรับปากว่าจะคืนบริษัทที่อมรายึดมาคืนให้แก่ฟ้าใส
ส่วนฟ้าใสนั้นสงสารและเห็นใจชฎาฉัตรมาก เมื่อคุณตั้มตามมาปรับความเข้าใจ จึงแกล้งโกหกคุณตั้มว่าตนแต่งงานกับอธิปแล้ว ทั้ง ๆ ที่ความจริงอธิปย้ายมาอยู่บ้านฟ้าใสเพราะแต่งงานกับฝนทิพย์ ฟ้าใสต้องการให้คุณตั้มลงเอยกับชฎาฉัตร แต่ชฎาฉัตรสำนึกตัวแล้ว จึงไม่คิดจะกลับไปหาคุณตั้มอีก คิดแต่ว่าจะกลับมาแก้แค้นพยัคฆ์แทน
ชฎาฉัตรนัดพยัคฆ์เจรจาโอนหุ้นของอำนาจคืนให้ตน ไม่งั้นจะแฉเรื่องที่พยัคฆ์พยายามฆ่าตนกับตำรวจ พยัคฆ์แกล้งตกลงพาชฎาฉัตรไปเอาเอกสารและจะฆ่าปิดปาก แต่คุณตั้มพาตำรวจตามมาช่วยไว้ได้ทัน เพราะฟ้าใสแอบรู้ว่าชฎาฉัตรนัดกับพยัคฆ์ จึงบอกให้คุณตั้มรู้ พยัคฆ์ถูกจับ
คุณตั้มซื้อหุ้นของอำนาจคืนให้ชฎาฉัตร และรีบกลับไปหาฟ้าใส แต่ปรากฏว่าฟ้าใสพาครอบครัวย้ายหนีไปแล้ว คุณตั้มออกตามฟ้าใสจนพบและขอฟ้าใสแต่งงาน เพราะเขาตระหนักแล้วว่าฟ้าใสคือผู้ดีที่ถูกตีตราด้วยความดีงาม คุณตั้มขอหมั้นฟ้าใสด้วยสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของฟ้าใส นั่นคือบ้านเก่าที่ถูกอมรายึดไป ซึ่งฟ้าใสไม่รู้เลยว่าคุณตั้มซื้อเก็บไว้นานแล้ว ฟ้าใสและทุกคนมีความสุขมากที่ได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง รักซ่อนรส
Moonlight Chicken พระจันทร์มันไก่ (2566/2023) "พระจันทร์มันไก่” ร้านข้าวมันไก่ที่เป็นทั้งจุดจบ และการเริ่มวันใหม่ของคนกลางคืน โดยมี “ลุงจิม” (เอิร์ท พิรพัฒน์) พ่อครัวหนุ่มใหญ่ใจดี “หลี่หมิง” (โฟร์ท ณัฐวรรธน์) หลานชายแท้ๆ และ “ไก่ป่า” (ข้าวตัง ธนวัฒน์) ลูกชายร้านขายไก่สดแวะเวียนมาช่วยบ่อยๆ คืนหนึ่งลุงจิมได้พบกับ “เหวิน” (มิกซ์ สหภาพ) นักตกแต่งดิสเพลย์ ลูกค้าที่ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงอีกครั้ง แต่กลับมีอุปสรรคมากมายที่ทำให้ลุงจิมสับสนกับการเปิดใจกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ (ที่มา : GMMTV OFFICIAL)
You Never Eat Alone เมื่อความหิว และความเหงา ตัวเท่าบ้าน (2563/2020) เดี่ยว-ดนุสิทธิ ประวิทยาภัทร (พีค ภีมพล) ชายหนุ่มที่มีความแปลกเฉพาะตัว เนื่องจากเขาเป็นคนที่กินข้าวคนเดียวไม่ได้ ถ้าต้องกินข้าวคนเดียว เดี่ยวจะรู้สึกเศร้า เศร้าถึงขนาดที่ว่าต้องเปลี่ยนจากการกินข้าวมาเป็นน้ำตาแทน เขาเลยมีกฎว่า เขาจะไม่นั่งกินข้าวคนเดียวเลย แต่ถ้าเป็นการเดิน วิ่งในที่สาธารณะ เขาก็พอถูไถที่จะกินเพื่อหาอะไรลงท้อง ตั้งแต่จำความได้ เดี่ยวจะมีเพื่อนกินข้าวด้วยเสอมทุกมื้อ อาการกินข้าวคนเดียวไม่ได้ของเขา ไม่ได้สเป็นอุปสรรคกับการใช้ชีวิตมากนัก มื้อเช้า เดี่ยวจะกินข้าวกับครอบครัว กลางวันก็กินพร้อมกับเพื่อนที่โรงเรียน ส่วนมื้อเย็นก็กลับมากินพร้อมกันกับครอบครัว จนกระทั่งมีวันหนึ่งเดี่ยวพบว่า เขาจะต้องกินข้าวคนเดียว แบบนี้ไม่ดีต่อการใช้ชีวิตของเดี่ยวแน่ เขาจึงเริ่มภารกิจหาเพื่อนกินข้าว เรื่องราววุ่น ๆ ของการกินข้าวคนเดียวไม่ได้จึงบังเกิด เพราะเพื่อนกินนั้นหาง่าย แต่เพื่อนตายมันหายาก หลากหลายภารกิจที่วนเวียนใช้ หลายหลากความสัมพันธ์ที่พานมาพบ ทั้งคนที่เหมือนกัน คนที่คิดถึงผลประโยชน์ คนที่ต้องการในเวลาเหงา คนที่เข้าใจกันและกัน และคนที่ผูกพันกันมายาวนาน จะพาให้เดี่ยวผ่านพ้นมันไปได้หรือไม่ เขาต้องหาเพื่อนมากินข้าวด้วยทุกมื้อ หรือต้องหัดกินข้าวคนเดียวให้ได้ ตัวเขาเองเท่านั้นที่จะรู้คำตอบ ติดตามเรื่องราวของเขาได้ในซีรีส์ You Never Eat Alone
นางสาวก้นครัว (2562/2019) เรื่องราวกราฟชีวิตของสาวใช้ต่างจังหวัด จากนางก้นครัวมาสู่เส้นทางความฝันกับในการเป็นเชฟโรงแรมระดับ 5 ดาว ผ่านตำนานอาหารไทย เชน นักเขียนหนุ่มที่พยายามรั้งแฟนสาว เคลลี่ ด้วยการทำอาหารจานเด็ดจากสูตรของแม่พร้อมมัดใจเธอด้วยเรื่องราวชีวิตเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด แซ่บ ของแม่ แต๋ว จากสาวใช้จอมโก๊ะที่หนีออกจากบ้านเกิดจังหวัดอุทัยธานี มาเผชิญชีวิตในบางกอกยุค 80s-90s เพื่อตามหาความฝันของการเป็นเชฟในโรงแรมระดับ 5 ดาว และรัก 3 เส้าเคล้าน้ำพริกลงเรือ ระหว่างแม่กับ พล พ่อครัวรุ่นพี่สุดเย็นชาและ จอม ผู้ช่วยกุ๊กรุ่นน้องที่ยอมทำยอมโดนทุกอย่างเพื่อเธอ
Bangkok รัก Stories คนมีเสน่ห์ (2560/2017) แม่ค้าขนมไทย ขอดามใจหนุ่มไฮโซโดนเท เธอจะทำให้เขา #รักคนที่ไม่คิดจะรัก ได้หรือไม่ ซีรีส์หวานละมุนชุ่มฉ่ำใจของ “บัวลอย” (กิ้บซี่-วนิดา) หลานสาวแม่ค้าขายขนมไทยย่านเมืองเก่า เธอปากร้ายก๋ากั่นไม่ต่างจาก “ย่าสมร” (แม่แดง-ฉันทนา) เจ้าของสูตรลับขนมไทยร้านดัง เมื่อเธอโคจรมาเจอกับ “ภากร” (เจษ–เจษฏ์พิพัฒ) เศรษฐีหนุ่ม นุ่มนวลชวนฝันดีต่อใจ เป็นที่รักของแม่ “พิมพิลา” (ต่าย-เพ็ญพักตร์) หัวใจภากรพังพินาศกลางงานแต่งกับคู่หมั้น “เมย์” (เทีย-The Face 3) แต่เสน่ห์ต่างขั้วระหว่างเขา 2 คนนั้น กลับดึงดูดให้ทั้งคู่ตกหลุม #รักคนที่ไม่คิดจะรัก เข้าจนได้
เรื่องย่อ : Bake Me Please พิชิตใจ นายสายหวาน (2566/2023) เรื่องราวของ ชิน(โอห์ม ฐิติวัฒน์) เชฟเบเกอรี่หนุ่มชื่อดังสุดเย็นชา ที่ร่วมเปิดร้านเบเกอรี่ตามความฝันกับเพื่อนรักอีก2คนคือ กาย(ภูมิ ภูริพันธ์) เชฟขนมพายที่หาตัวจับยาก และ โอบ(เปรม ณพนัช) ผู้รับหน้าที่บริหารจัดการร้าน โดยโอบเป็นแกนนำขอเงินทุนจากแม่ตนเองมาลงทุนเปิดร้านร่วมกัน
แต่การทำร้านเบเกอรี่ไม่ง่ายอย่างที่คิด ด้วยความที่ชินเป็นคนอารมณ์ร้าย ไม่เอาใคร ปิดกั้นตัวเองจากทุกอย่าง เพราะปมบาดแผลในใจจากวัยเด็กที่เติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวจากบ้านเด็กกำพร้า ทำให้ไม่มีใครทำงานที่ร้านได้นาน สร้างความหนักใจให้กายและโอบอย่างมาก จนกระทั่งวันหนึ่งแม่ของโอบบังคับให้ลากน้องชายตัวดี อะตอม(อะตอม ณฐาภพ) หนุ่มอารมณ์ดี ที่ยังไม่เป็นโล้เป็นพาย มาทำงานที่ร้านให้ได้ ซึ่งมันเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับอะตอม เพราะรู้กิตติศัพท์ความน่ากลัวของชินเป็นอย่างดี ด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอด อะตอมจึงไปลากเพื่อนรัก พีช(ไกด์ กันตพล) ชายหนุ่มโลกใส มองโลกในแง่ดี จิตใจดี ให้มาทำงานที่ร้านด้วยกัน เพื่อหวังลดการปะทะกับชิน ด้านพีชเอง ได้รับการเลี้ยงดูด้วยความรักความอบอุ่นอย่างดีจากคุณยายที่ทำขนมชิฟฟ่อนขายเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็ก ทำให้ตัวเขาเองก็แอบมีความฝันในการทำร้านเบเกอรี่ของตัวเองเช่นกัน จึงรับปากที่จะไปทำงานที่ร้านกับเพื่อน เรื่องราวความสัมพันธ์ของชายหนุ่มทั้ง5คนจึงเริ่มต้นขึ้น
ความรักความผูกพันของ เพื่อน คนรัก คนสนิท ที่แทบจะแยกกันไม่ออก มันทำให้เกิดเรื่องราวมากมาย ซึ่งพวกเขาต้องพยายามค้นหาคำตอบให้ได้ว่า ความรักและความฝันของพวกเขา จะเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร ติดตามได้ในBake Me Please พิชิตใจนายสายหวาน (ที่มา : entertainment.trueid.net)
Sweet Sensory เรื่องรัก หลากรส (2566/2023) คราม อดีตเชฟร้านอาหารหรูต้องมาเป็นครูในโรงเรียนสอนทำอาหารของเพื่อน เขาได้พบกับ แตม หญิงสาวตาบอดที่มีความสามารถพิเศษในการรับกลิ่นและรส และเรื่องราวชวนปวดหัวหลากรสชาติของบรรดานักเรียน (Source: thaipbs.or.th)
เรื่องย่อ : แตงสากับอาฉี (2547/2004) แตงสา(ศิริลักษณ์ ผ่องโชค) สาวสวยลูกอีสาน สู้ชีวิต ขยันอดทนช่วยแม่ขายส้มตำ หาเงินเลี้ยงพี่น้อง แตงสามีฝีมือในการทำส้มตำ มีลูกค้าอุดหนุนมากมาย แต่เมื่อถึงวันประกวดตำส้มตำประจำจังหวัด แตงสาก็โชว์ฝีมือเต็มที่เพราะหวังตำแหน่งชนะเลิศเพื่อจะได้แผงขายส้มตำในตลาดฟรี แต่แล้วฝันของเธอก็สลายเมื่อคณะกรรมการตัดสินให้ชบา ( สุวัจนี ไชยมุสิก ) แม่ค้าส้มตำคู่แข่งเป็นผู้ชนะ งานนี้ทำให้แตงสารุ้สึกโกรธอาฉี หรือ ฉัตรชนก ( อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล ) หนึ่งในคณะกรรมการเพราะความที่กินส้มตำไม่เป็น แล้วตัดสินส่งเดช ทำให้ชบาชนะเลิศไป พอเสร็จงานแตงสาก็เลยสั่งสอนด้วยการเอาปลาร้าสาดใส่ทั้งชบาและอาฉี แตงสา และ น้อง ๆ คือ บัวจันทร์ (มนชญา ศรีสวัสดิ์) และ คำหล้า ( สัจจากาจ จิตรพึงธรรม ) กลับบ้านอย่างอ่อนล้าไปเจอนางสาย ( (แอ๊ว อำภา ภูษิต) ) ผู้เป็นแม่นอนโทรมเจ็บปวดเพราะโดนนายคำ (สุเชาว์ พงษ์วิไล) พ่อเลี้ยงทุบตี หล้าออกไปตามหมอพอดีนายคำดื่มเหล้ากลับมา ตบตีแตงและแม่สายอีก ทั้งยังจะข่มขืนแตงสา นางสายจึงเอามีดแทงนายคำ แต่โดนนายคำแทงกลับจนเสียชีวิต ก่อนจะหนีเตลิดไปสิ้นแม่ไปคนแล้วแตงสาก็ตั้งใจทำมาหากินเพื่อส่งเสียน้อง ๆ ให้เล่าเรียนจนจบแต่นาง สำเรียง (ณ หทัย พิจิตรา) พี่สาวคนโตก็ยังทำร้ายน้อง ๆ อีกด้วยการขโมยเงินที่เก็บสะสมไว้ พร้อมเงินค่าเช่าบ้านหนีไปอยู่กรุงเทพ ฯ กับสามีคือ หาญ (โจโจ้ หลุยส์ ไมอ๊อกซี่) แตงสากับน้อง ๆ ไม่มีทางเลือก ก็เลยเก็บข้าวของไปหาสำเรียงที่บ้านหาญบังคับขออยู่ด้วยไม่อย่างนั้นจะตามเจ้าหนี้ของสำเรียงให้มาจับเข้าคุก สำเรียงจำยอม แต่ก็คิดแผนร้ายไว้ในใจ แตงสามาอยู่กรุงเทพ ฯ ตระเวณหหาร้านเช่าขายส้มตำ ก็ไปถูกใจร้านส้มตำของเฮียเป็ด (กฤตย์ อัธรเสรี) ซึ่งเอมี่ (กมล ภู่วัฒนวนิชย์) กับ น้ำพอ (พุทธชาด พงษ์สุชาติ) เช่าขายอยู่ ซึ่งติดกับรั้วบ้านของอาฉีต่อมาเอมี่มีเรื่องทะเลาะกับอาฉี อีกทั้งร้านไม่ค่อยมีลูกค้าจึงตัดสินใจไม่เช่าขายต่อ แตงสา จึงขอเช่าต่อ โดยให้หาญช่วยพูดให้ เพราะเป็นลูกน้องของเฮียเป็ดด้วย เฮียเป็ดยินยอมให้แตงสาเช่าร้าน ขณะเดียวกันก็หวังได้ตัวแตงสาด้วย แตงสาเช่าร้านเฮียเป็ด แต่ขายไม่ดีเหมือนเดิม ก็เลยตัดสินใจไปตั้งรถขายส้มตำหน้าโรงงานของอาฉี ขายดิบขายดีเพราะฝีมือแตงสาไม่เป็นรองใคร เหมยฮัว (ศนันท์ธร รักษ์อลงกต) น้องสาวอาฉี ก็เป็นลูกเจ้าประจำ สั่งไปกินที่บ้านบ่อยๆ อาม้า (ดวงใจ หทัยกาญจน์) ก็ชอบฝีมือแตงสาแตงสาขายดีจนมีลูกค้ามาอุดหนุนที่ร้านของเธอหนาแน่นขึ้น ไม่ต้องไปขายหน้าโรงงาน แต่อาฉีก็ทำท่าไม่พอใจ เพราะเคยโดนแตงสาแกล้ง ตำส้มตำรสจัดจนเขาท้องเสีย สุดท้ายด้วยความหมั่นไส้ อาฉีจึงสั่งไม่ให้คนในโรงงานไปกินส้มตำร้านแตง สาทำให้ ยอด (เกริก ชิลเลอร์) หัวหน้าคนงาน ซึ่งจีบแตงสาอยู่ ไม่พอใจมาก ทำการประท้วงเรียกค่าแรงเพิ่มอาฉีหัวหมุนต้องไกล่เกลี่ยจนม๊อบสลาย ข้อเสนอสุดท้ายของคนงานคือต้องยอมให้คนงานไปกินร้านแตงสาได้ ทำให้อาฉีรู้ว่าต้นเหตุคือแตงสานั่นเอง สำเรียงกับหาญ ร่วมมือวางแผนชั่วเอาแตงสาไปประเคนให้เฮียเป็ด แตงสาโดนมอมยาเกือบจะเสียทีเฮียเป็ดในคาราโอเกะ แต่อาฉีกับเพื่อนคือ ไกร (แดนนี่ ศรีภิญโญ) และภาคี (สุรพันธ์ ชาวปากน้ำ) ไปช่วยได้ทัน แตงสามองอาฉีในแง่ดีขึ้น เจ๊จวง (จรรยา ธนาสว่างกุล) เมียของเฮียเป็ดพาลูกน้องมาอาละวาดทำลายข้าวของที่ร้านแตงสาด้วยความหึงหวงเพราะเห็นเฮียเป็ดมาติดพันแตงสาอยู่ อาฉีมาช่วยและเล่าความจริงให้เฮียเป็ดฟัง เจ๊จวงจึงยอมพาลูกน้องกลับไปอาฉีกับแฟนสาว ยอดปรารถนา ( เมย์ เฟื่องอารมณ์) บางครั้งก็สวีทหวาน แต่บางครั้งก็มีความแตกต่าง และช่องว่างความคิดที่ไม่เหมือนกันยอดปรารถนาชอบออกงานสังคม ฟุ้งเฟ้อ แม่ของเธอคุณทูนหัว ( ดวงตา ตุงคะมณี ) มีธุรกิจเครื่องสำอางค์ มีงานเปิดตัวสินค้าบ่อยๆ อาฉีจำต้องไปงานสังคมอย่างเสียไม่ได้ ทั้งที่ไม่ชอบ สุดท้ายก็มีเรื่องทะเลาะกัน อาฉีกินเหล้าเมามาย แตงสาพูดจาให้ สติ ทำให้อาฉีได้คิดและกลับไปขอคืนดีกับยอดปรารถนา อาฉีกับแตงสาสนิทสนมกันมากขึ้น บางครั้งอาฉีถึงกับบอกเล่าปัญหาของเขากับยอดปรารถนาให้ฟัง แตงสาให้เหตุผลที่ดีจนอาฉีรู้สึกทึ่งในความคิดของแม่ค้าขายส้มตำ แต่ยอดปรารถนาเห็นอาฉีอยู่กับ แตงสาก็หึงหวง แตงสาจึงพยายามถอยห่างเพราะไม่อยากแย่งแฟนคนอื่น อีกทั้งกลัวใจตัวเองที่เริ่มแอบรักอาฉีเข้า แล้ว หล้ากับเหมย เรียนมหาวิทยาลัยที่เดียวกัน ทั้งคู่ต่างรู้สึกดีต่อกัน อาฉีไปเห็นทั้งคู่สนิทสนมกัน ก็สั่งห้ามไม่ให้เหมยติดต่อด้วยแต่เหมยดื้อรั้น ยังคงติดต่อหล้าตลอด ชบาย้ายเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นนักร้องอยู่ผับของเจ๊จวง มีเสี่ย ๆ สนใจรวมทั้งเฮียเป็ดด้วย ชบาหวังอาศัยเงินและบารมีเฮียเป็ด จึงยอมเป็นเมียเก็บ อีกทั้งยังมีสัมพันธ์กับหาญด้วย ส่วนแตงสาโดนเฮียเป็ดบีบเรื่องร้านส้มตำ แล้วยังพี่เขยกับพี่สาวคือหาญและสำเรียงยังคอยกลั่นแกล้งมาแย่งการค้ากันอีก จึงตัดสินใจเลิกเช่าร้านมาขอความช่วยเหลือจากอาฉี ขายของหน้าโรงงานอาฉี กิจการเป็นไปด้วยดี อาฉี สับสนในความรู้สึกตัวเอง ว่าระหว่างยอดปรารถนากับแตงสา เขารักใครกันแน่ อาฉียอมรับว่าตัวเองยังติดกับธรรมเนียนเก่าที่ต้องมีเมียเชื้อสายดี ตระกูลดี เพื่อหน้าของตระกูลสืบไป อาฉีสับสนไปหมด ขณะเดียวกันความรักที่มีต่อยอดปรารถนาก็ลดน้อยลงทุกวัน หาญกับสำเรียงวางแผนแกล้งแตงสาอีก ด้วยการผสมยาสมุนไพรให้แตงสากิน ทำให้หน้ามืดไม่สบาย ตำส้มตำผิดๆถูกๆ แล้วยังทำให้คนงานในโรงงานอาฉีท้องเสียอีก อาฉีจำต้องให้แตงสาไปขายส้มตำที่อื่นแตงสาไปหาเจ๊จวงขอขายส้มตำในผับ เจ๊จวงเห็นความตั้งใจจริงของแตงสาจึงยอมช่วยเหลือ แต่ชบา เอมี่ และน้ำพอ เห็นคู่แข่งอย่างแตงสาได้รับการยอมรับจากเจ๊จวงก็คอยกลั่นแกล้งหาเรื่องตลอด แต่ทำไรไม่ได้ อาฉีตัดสินใจแต่งงานกับยอดปรารถนาเพื่อความเหมาะสมและความเห็นชอบของผู้ใหญ่ สร้างความเสียใจให้แตงสามาก จึงไม่เป็นอันทำอะไร ความสัมพันธ์ของชบากับเฮียเป็ดถูกเจ๊จวงจับได้ ควงปืนไปยิง แต่สุดท้ายเจ๊จวงพลัดตกบันไดจนเป็นอัมพาต ชบาซึ่งท้องกับหาญ ก็เลยขอให้หาญรับผิดชอบ แต่หาญกลัวสำเรียงรู้เรื่อง จึงไม่ยอมจัดการอะไร ชบาจึงวางแผนจับหล้าให้เป็นแพะรับบาป หล้ามีความสัมพันธ์กับชบาหลายครั้ง พอชบาบอกว่าตั้งท้อง หล้าจึงปฏิเสธไม่ออก เหมยรู้เรื่องเสียใจมาก หล้าก็เสียใจเอาแต่กินเหล้า แต่ชบาไม่สนใจขนข้าวของมาอยู่บ้านเดียวกับแตงสา โดยแตงสาสังเกตเห็นว่าชบากับหาญสนิทสนมกันมาก และดูหาญห่วงใยลูกในท้องของชบายิ่งกว่าหล้าซึ่งเป็นพ่อเสียอีก ชบาคลอดลูก สำเรียงเห็นหาญพะเน้าพะนอดูแลชบา ได้รู้ความจริงว่าหาญ เป็นพ่อของเด็กในท้องก็เลยควงปืนไปขู่หาญและชบาให้สารภาพความจริงทั้งหมด หล้ารู้เรื่อง หาญแย่งสำเรียงและตัดสินใจหนีไปใช้ชีวิตกับชบาและลูก แตงสาคอยไปดูแลเจ๊จวงที่บ้านเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณ ส่วนอาฉีแต่งงานกับยอดปรารถนได้ไม่นานยอดปรารถนาก็มัวแต่ออกงานสังคม ไปช่วยธุรกิจทำเครื่องสำอางของแม่แล้วยังขอเงินอาฉีไปลงทุนหลายล้านบาท อาฉียังไปตามตอแยแตงสาที่ผับเจ๊จวง เฮียเป็ดโมโหที่อาฉีคอยขัดขวางเขาเรื่องแตงสา ก็เลยสั่งมือปืนไปยิงอาฉีที่หน้าผับ อาฉีโดนยิงที่ขาบาดเจ็บไม่มากแต่ต้องการลองใจยอดปรารถนาและแตงสา จึงร่วมมือกับภาคีหลอกทุกคนว่าตัวเองกลายเป็นคนพิการ ยอดปรารถนารู้เรื่องเริ่มตีตัวออกห่างไม่สนใจสามี ในขณะที่แตงสาคอยมาดูแลอาฉีอย่างดี สุดท้ายยอดปรารถนาทนไม่ไหวขอหย่ากับอาฉี ซึ่งอาฉีก็เต็มใจ เพราะรู้ใจตัวเองแล้วว่าคนที่เขารักที่สุด และเธอเองก็รักเขาด้วยเช่นกันก็คือแตงสา แต่แตงสาเมื่อรู้ความจริงว่าอาฉีหลอกเธอมาตลอด ก็ไม่ยอมพบหน้าอาฉีอีก ความรักของแตงสากับอาฉีจะลงเอยอย่างไร
แม่ครัวตัวยุ่ง (2543/2000) ภาพิต บวรพิสุทธิ์ สาวน้อยผู้สำเร็จการศึกษาโรงเรียนสอนทำอาหารจากฝรั่งเศส กำลังรีบเร่งหางานทำเป็นหลักแหล่งในเมืองไทย แต่ตามโรงแรมใหญ่ ๆ ส่วนมากมีกุ๊กใหญ่มีชื่อเสียงประจำอยู่มากมาย ทำให้ภาพิตต้องลงแข่งขันในงานมหกรรมอาหารนานาชาติ เพื่อสร้างชื่อเสียงเพื่อนำไปหางานทำได้ง่ายขึ้น หากหางานทำไม่ได้เธอต้องย้ายไปคูเวต ตามคำบัญชาของคุณก่อเกียรติ และ คุณประภา ผู้เป็นบิดาและมารดา ปรากฏว่าภาพิตพลาดไม่ได้ชนะเลิศ ภาพิตจำใจต้องย้ายตามครอบครัวไปอยู่ต่างประเทศ ทั้งที่ใจจริงอยากหางานทำในเมืองไทยมากกว่า แต่แล้ววินาทีสุดท้ายก่อนที่ภาพิตจะขึ้นเครื่อง ธันยา เพื่อนสนิทสมัยเรียนมาตามภาพิตถึงสนามบินเพื่อให้ไปช่วยงานที่ร้าน อาหาร ภาพิตดีใจอย่างที่สุด แต่ปรากฏว่าเธอต้องมาทำหน้าที่ดูแลการบริหารไม่ใช่กุ๊กอย่างที่ฝัน และพบว่าปัญหาของร้านที่ขาดทุนอยู่ สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดมาจากคุณกระวาน พ่อครัวใหญ่ ภาพิตจึงลงมือแก้ปัญหาด้วยตัวเอง จนทำให้คุณกระวานไม่พอใจ จนไม่ยอมไปทำอาหารให้ลูกค้าที่ธนาคารทองชาติ ภาพิตจึงแสดงฝีมือการทำอาหาเอง จนลูกค้าติดอกติดใจในฝีมือของเธอ มีเพียงคนเดียวที่ไม่รู้สึกดีด้วยคือ วินท์ เศรษฐ์บริบูรณ์ กรรมการผู้จัดการธนาคาร เพราะภาพิตซุ่มซ่ามทำอาหารทะเลที่วินท์แพ้อย่างหนักมาให้ รวมถึงทำอาหารรับรองลูกค้าของธนาคารผิดพลาดจนวินท์โกรธภาพิตมาก เป็นเพราะภาพิตได้รับข้อมูลผิดๆอยู่เป็นประจำ จนเลขาฯของวินท์เข้ามาแจ้งเรื่องราวของความผิดพลาดเป็นประจำ จนวินท์เริ่มมีความรู้สึกดี ๆ กับภาพิต ถึงขั้นว่าจ้างให้ภาพิตมาทำอาหารที่บ้านของตนเอง ในขณะที่ความรักเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างเงียบ ๆภายในใจของทั้งคู่ แต่เหมือนฟ้ากลั่นแกล้งเมื่อจู่ ๆ รสมาลิน คนรักเก่าของวินท์กลับมาขอคืนดีด้วย พร้อมกับ ทักษ์ดนัย หลานเจ้าของธนาคารที่วินท์ทำงานอยู่ เริ่มให้ความสนิทสนมกับภาพิตมากขึ้น ธันยาเพื่อนสนิทของภาพิตไม่สามารถบริหารธุรกิจที่มีอยู่หลายกิจการได้ลงตัว ก่อให้เกิดหนี้สินรุงรังไปทั่ว จึงมาขอร้องให้ภาพิตช่วยเหลือ โดยช่วยพูดกับวินท์ เพื่อกู้เงินจากธนาคาร แต่ภาพิตอึกอักไม่ยอมช่วย ธันยาหาทางออกไม่ได้พร้อมทั้งหมุนเงินมาจ่ายลูกน้องไม่ทัน ธันยาจึงคิดสั้นฆ่าตัวตาย โชคดีที่ภาพิตชวนทักษ์ดนัยไปช่วยไว้ทัน สัมพันธภาพของภาพิตกับวินท์ยิ่งเลวร้ายเรื่อย ๆ ด้วยความเข้าใจผิด ที่ภาพิตหายไปกับทักษ์ดนัยทั้งคืน ภาพิตเบื่อหน่ายสิ่งรอบตัว จึงตัดสินใจย้ายไปทำงานกับบริษัทใหม่ ภาพิตพยายามทุ่มเทให้กับงานเต็มที่เพื่อจะลืมวินท์ วันหนึ่งบริษัทจัดงานเลี้ยงต้อนรับลูกค้า ภาพิตบรรจงทำอาหารจานเด็ดสุดฝีมือ แต่ปรากฏว่าเมื่อลูกค้าคนสำคัญกินอาหารของเธอเข้าไปแล้วเกิดลมพิษขึ้นจนต้องหามส่งโรงพยาบาล ซึ่งเขาคนนั้นคือวินท์นั่นเอง ทุกอย่างจะลงเอยเช่นใด วินท์...จะรอดตายหรือไม่ ภาพิตจะลืมวินท์ได้จริงหรือ แล้วความสัมพันธ์ทักษ์ดนัยกับภาพิต...จะลงเอยแบบรักสามเส้าหรือ... เมื่อทุกอย่างเดินมาถึงทางตันเธอต้องเลือกทางออกที่ดีที่สุด ร่วมเอาใจช่วย ภาพิตสาวน้อยแสนสวย แม่ครัวคนเก่งของเราได้ต่อในละคร “แม่ครัวตัวยุ่ง”