โปรเจกต์ เอส เดอะซีรีส์ ตอน SOS Skate ซึม ซ่าส์ สเกตบอร์ด (2560/2017) ไม่รู้ว่าฟ้าบันดาลโชคดีหรือร้ายให้ "บู" หนุ่มเนิร์ดผู้ต่อสู้กับโรคซึมเศร้ามานานจนเกือบจะยอมแพ้ไปแล้ว ให้มาพบกับ “ไซม่อน” และ “ใบเฟิร์น” โปรสเก็ตจอมเจ้าเล่ห์ และน้องสาวสุดเปรี้ยวซ่าส์ที่มาพร้อมกับสเก็ตบอร์ด เมื่อสเก็ตบอร์ดกำลังเป็นเหมือนความหวังที่ช่วยให้บูรู้สึกดีขึ้นจากโรคซึมเศร้า "หมอเบลล์" จิตแพทย์ฝึกหัดจึงกระโจนลงมาเอาใจช่วยเขาอีกแรง ชีวิตของ บู จะเป็นยังไง? แล้วสเก็ตบอร์ดจะช่วย บู ได้จริงไหม???

Sleepless Society ตอน "ลวง ละเมอ รัก" (2563/2020) เคท (บี น้ำทิพย์) ไลฟ์โค้ชไฮโซ แต่กลับมีชีวิตคู่ที่ล้มเหลว คืนหนึ่งในปาร์ตี้ฉลองที่เธอตัดสินใจจะหย่ากับสามี ชัช (น๊อต วรฤทธิ์) เพื่อนของเธอ พลอย (แอนนิต้า ศรุชา) ได้จ้างเด็กเอนฯ อย่าง ท๊อป (เอส ชิษณุพงศ์) และ แบงค์กี้ เด็กหนุ่มหน้าตาดีกรีอดีตนายแบบมาร่วมงาน เคทเผลอตัวเผลอใจมี Sex กับท๊อปในค่ำคืนนั้น และรุ่งเช้าเมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็พบว่าแบงค์กี้ที่นอนอยู่ข้างเธอกลายเป็นศพ !! เธอจึงพยายามค้นหาความจริงว่า... #ใครฆ่าเด็กเอน เตรียมพบปรากฎการณ์ความหลอนกับซีรีส์เรื่องใหม่ #ลวง-ละเมอ-รัก เมื่อการละเมอ ลวงเธอไปสู่คดีฆาตกรรม การค้นหาความจริงจึงเกิดขึ้น ติดตามชมซีรีส์ ลวง ละเมอ รัก

เงามรณะ (2540/1997) พระเอก(เจ เจตริน) คบกับนางเอก(เต๋า สโรชา) แล้วตัวร้าย(ปู อนุวัฒน์) ซึ่งเป็นคนโรคจิต ที่ทำงานบริษัทเดียวกัน เกิดชอบและอยากครอบครองตัวนางเอก จึงทำทุกวิถีทางจะแย่งตัวนางเอกมาเป็นของตัวเอง จนเกิดเรื่องฆาตกรรมสยดสยองมากมายในเรื่อง

VOICE สัมผัสเสียงมรณะ (2562/2019) สามปีก่อน... เกิดเหตุฆาตกรรมสะเทือนขวัญ เมื่อมีฆาตกรโรคจิตได้สังหาร พิมพ์ดาว (อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) ภรรยาของตํารวจสายสืบ อารัญ (แอนดริว เกร้กสัน) ขณะที่เธอกําลังโทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือที่หน่วยรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ซึ่ง ไอริน (เขมนิจ จามิกรณ์) ที่เพิ่งได้รับหน้าที่นี้เป็นผู้รับสายได้ยินเสียงเหตุการณ์ทั้งหมด และในคืนเดียวกันพ่อของเธอ ซึ่งเป็นสายตรวจก็ถูกฆาตกรที่เธอเชื่อว่าเป็นคนเดียวกันกับที่ฆ่าพิมพ์ดาวฆ่า ภายหลังตํารวจได้จับตัว ไอ้บอม ที่คาดว่าเป็นฆาตกรเนื่องจากพยานหลักฐานที่มีอยู่ แต่ไอรินกลับขึ้นให้การต่อศาลยืนยันว่าเสียงของไอ้บอมกับผู้ร้ายตัวจริงนั้นต่างกัน เพราะเธอได้คุยกับฆาตกรก่อนที่มันจะลงมือฆ่าพ่อเธอ จนทําให้ไอ้บอมได้ประกันตัวและหลบหนี อารัญโกรธแค้นไอริน เพราะคิดว่าเธอรับเงินคนร้ายและให้การเท็จเพื่อช่วยเหลือคนร้าย แต่ยังมีเงื่อนปมลึกลับอีกหลายอย่าง เพราะเทปบันทึกเสียงบทสนทนาระหว่าง ไอริน กับ ฆาตกร มีบางส่วนขาดหายไป สามปีต่อมา... อารัญที่ใช้ชีวิตสํามะเลเทเมา จนถูกลดตําแหน่งลงเพราะเอาแต่โทษตัวเองว่า เป็นสาเหตุให้ภรรยาต้องตาย ส่วนไอรินที่ไปศึกษาต่อที่อเมริกา ด้านการแยกแยะเสียงและได้ไขคดีสําคัญ ๆ ร่วมกับ FBI ก็ได้กลับมาเป็นหัวหน้าศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน เพื่อช่วยเหลือเหยื่อและจับกุมคนร้ายให้ได้เร็วที่สุด และได้มีการเรียกตัวอารัญมาร่วมอยู่ในหน่วยของเธอด้วย หลังจากคดีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ทําให้อารัญเริ่มเชื่อว่าไอรินมีประสาทในการรับเสียงที่ดีมาก หลักจากการเปิดอกคุยกันไอรินก็ได้บอกว่า ฆาตกรที่ฆ่าพ่อของเธอก็คือคนเดียวกับที่ฆ่าภรรยาของอารัญ และตอนนี้คดีก็ได้ถูกปิดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่อารัญกับไอรินยังทำงานร่วมกันในศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ที่ทํางานภายในเวลาจํากัด เพื่อช่วยเหลือเหยื่อที่โทรศัพท์เข้ามาแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย ทั้งคู่ก็ยังคงตามสืบฆาตกรโรคจิตที่ฆ่าภรรยาและพ่อของเธอไปด้วย "ไม่ว่าเสียงนั้นจะเบาแค่ไหน ถ้าเชื่อว่ามันเป็นหนทางที่ถูกต้อง เราก็จะก้าวเดินไปยังหนทางนั้น" ติดตามชมซีรีส์ Voice สัมผัสเสียงมรณะ

Sleepless Society ตอน "คืนฝันลวง" (2562/2019) เรื่องราวของ ไอย่า (ชุติมณฑน์ จงเจริญสุขยิ่ง) นางแบบสาวดาวรุ่ง ที่มักมีอาการฝันเรื่องซ้ำ ๆ อยู่เสมอ นั่นคือ เธอมักจะฝันเห็นแม่ของเธอฆ่าคนตายในบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะกระยาหงัน ที่เธอเคยใช้ชีวิตในวัยเด็ก และเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เธอเริ่มเป็นโรคนอนไม่หลับ และส่งผลให้เธอนอนไม่หลับเรื้อรัง จนทำให้เธอมีความสับสนและเริ่มแยกความจริงกับความฝันไม่ออก อาการฝันร้ายซ้ำ ๆ นำไปสู่การค้นหาความจริงทั้งหมด ด้วยการกลับมายังเกาะกระยาหงัน เพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับความฝันของเธอ โดยมีเพื่อน ๆ ในวัยเด็กของเธอคอยช่วยตามหาความจริงทั้งหมด ชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ที่หายไปเริ่มปรากฏออกมา โดยที่หารู้ไม่ว่าการเดินทางกลับไปขุดคุ้ยอดีตในครั้งนี้ จะนำมาสู่โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ เตรียมสัมผัสซีรีส์เรื่องที่ 3 ใน Sleepless Society The Series ตอน คืนฝันลวง

เรื่องย่อ : วัยแสบสาแหรกขาด (2559/2016) “ทรายทิพย์” (แซนด์) นักจิตวิทยาให้การปรึกษาเกี่ยวกับเด็ก และครอบครัว (counseling phychology) หนอนหนังสือบ้าตำรา ก้มหน้าก้มตาเรียนรวดเดียวตั้งแต่อนุบาลจนถึงด๊อกเตอร์ ชีวิตไม่เคยทำอย่างอื่น นอกจากเรียน แซนด์หอบปริญญาทางด้านจิตวิทยากลับมาจากต่างประเทศ พร้อมกับไฟในการทำงานอันเต็มเปี่ยม แต่เมื่อมาเจอความเป็นจริงของสังคมไทย ความฝันของเธอถูกดับอย่างอนาท ไม่มีใครให้ความสำคัญกับการรับคำปรึกษาจากนักจิตวิทยา แซนด์กำลังจะสิ้นหวัง แต่แล้ว ... เหมือนฟ้ามีตา เธอได้รับการติดต่อมาจาก “เปรมมิกา” (ปาล์ม) เพื่อนสนิท ปาล์มทำงานอยู่ที่ “โรงเรียนเปี่ยมคุณศึกษา” (ป.ศ) แซนด์พุ่งเข้าไปรับงานพร้อมความมั่นใจ โดยไม่รู้เลยว่างานนี้ไม่ได้หมูอย่างที่เธอคิด!

โรงเรียนเปี่ยมคุณฯ ก่อตั้งโดย “นพลักษณ์” (ลักษณ์) ไฮโซ ผู้ดีเก่า ผู้มากความสามารถ มั่นใจ แม้แต่ “สมภพ” สามียังต้องขอเลิก และหนีไปทำนา (แบบเกษตรสมัยใหม่เน้นความพอเพียง) เพราะทนต่อการโดนข่มไม่ไหว ภาระแห่งการต่อสู้เพื่อเอาชนะอัตตาของนพลักษณ์จึงตกมาถึง “คุณชวนากร” (กร) ลูกชายคนเดียว ผู้ต้องสืบทอดกิจการโรงเรียนต่อไป หลายคนมองว่าเขาโชคดีมีแม่ปูทางธุรกิจไว้ให้อย่างเข้มแข็ง แต่ในความเป็นจริง .. กรต้องต่อสู้กับความเก่งของแม่ เขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้แม่ยอมรับ ในขณะเดียวกันต้องเร่งสร้างผลงานให้บรรดาครูใหญ่ และครูน้อยในโรงเรียนเห็นว่าเขาไม่ใช่คุณหนูที่ทำอะไรไม่เป็น กรกดดันตัวเองจนกลายเป็นเจ้านายสุดเขี้ยว อารมณ์ร้ายเข้ากับใครไม่ค่อยได้ โดยเฉพาะ “อำนาจ” ครูใหญ่ กรกับอำนาจมีเรื่องต้องขัดแข้ง ขัดขา ขัดใจ ปะทะคารมกันเป็นประจำ พนักงานเพียงคนเดียวที่พอคุยกับกรรู้เรื่องก็คือ “ปาล์ม” เลขาคนสนิท ผลงานแรกที่กรหมายมั่นปั้นมือต้องทำให้สำเร็จ คือ โครงการ “เด็กดีไม่มีปัญหา (Sweet broken home)” โครงการนี้เกิดขึ้นเพราะมี “เด็กแสบ” สร้างปัญหาจนถึงขั้นต้องไล่ออกพร้อมกันถึง 5 คน อำนาจยืนยันว่าเด็กกลุ่มนี้เกินเยียวยาต้องไล่ออกเท่านั้น ! แต่หลังจากดูประวัติกรเห็นว่าเด็กทั้ง 5 มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือ พ่อแม่แยกทางกัน เด็กแต่ละคนมีครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ กรจึงเกิดความคิดที่จะทำโครงการพิเศษนี้ขึ้น เพื่อแก้ปัญหาให้เด็กสามารถใช้ชีวิตกับคนอื่นได้ ไม่ใช่โยนเด็กที่มีปัญหาออกไปสู่สังคมภายนอกโดยไม่ทำอะไร ซึ่งความคิดนี้ตรงกันข้ามกับอำนาจอย่างสิ้นเชิง และนพลักษณ์ก็เลือกที่จะให้กรพิสูจน์ตัวเองทำให้อำนวจไม่พอใจอยู่ลึกๆ นพลักษณ์ยื่นคำขาด ถ้าโครงการนี้ลดความแสบของเด็กทั้ง 5 ลงได้ถือว่ากรสอบผ่าน เด็กได้เรียนต่อและอาจจะมีโครงการนี้ต่อไป แต่ถ้าล้มเหลว เด็กทั้ง 5 ต้องโดนไล่ออก กรยอมรับการพิสูจน์ครั้งนี้ และสั่งให้ปาล์มตามหานักจิตวิทยาเฉพาะทางที่จะมาเป็นหัวหน้าโครงการโดยด่วน และคนคนนั้นก็คือ “ทรายทิพย์” นั่นเอง !! ในการพบกันครั้งแรกของทรายทิพย์ และ กร ไม่ได้สวยหรูอย่างที่เธอคิดไว้ เขาไม่ได้ปลื้มกับใบปริญญาที่วางเรียงเป็นแผงและเกรดอันดีเยี่ยมของเธอแม้แต่น้อย แต่เขากลับไม่ไว้ใจเพราะเธอไม่เคยทำงานจริง และ อายุก็ยังน้อย แซนด์เลยสวนกลับไปว่า “คุณกำลังตีค่าฉัน เหมือนกับที่ครูในโรงเรียนตีค่าคุณ พวกเขาคิดว่าคุณทำงานแทนแม่คุณไม่ได้ เพราะไม่มีประสบการณ์และอายุน้อย ถ้าคุณไม่พอใจที่คนอื่นตัดสินคุณด้วยเหตุผลนี้ คุณเองก็ไม่ควรตัดสินฉันด้วยเหตุผลนี้เช่นกัน” .... คำพูดของแซนด์จี้ใจดำกรอย่างแรง กรตัดสินใจยอมรับเธอเข้ามาทำงานในตำแหน่ง “หัวหน้าโครงการเด็กดี ฯ” เมื่อ “นักจิตวิทยาบ้าตำรายังไม่เคยเจอของจริง” ต้องมาทำงานกับ “คนจริงสุดเขี้ยว” และยังต้องปะทะกับเด็กแสบอีก 5 คน ความปั่นป่วน ชวนเวียนหัวจึงได้เกิดขึ้น ความผูกพันอันสวยงามของกรและแซนด์ค่อยๆก่อตัวขึ้น พร้อมๆไปกับการทำงานที่ใกล้ชิดแบบตัวแทบจะติดกัน เด็กคนแรก “ด.ญ.ญาทิป” (น้องปิ๊กปิ๊ก) อยู่ชั้น ป. 4 เด็กน้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม แววตาใสซื่อ พ่อ (จักรินทร์) เป็นนักธุรกิจใหญ่ ร่ำรวย เจ้าชู้ จนต้องแยกทางกับ แม่ (ตรีทิพย์) ที่มีฐานะร่ำรวยไม่แพ้กัน แต่ปิ๊กปิ๊กกลับมีพฤติกรรม “ชอบขโมย” จนเพื่อนไม่อยากคบ แต่ปิ๊กปิ๊กกลับไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่หยุดพฤติกรรม “จอมฉก”” ปิ๊กปิ๊กจึงเป็น “เด็กดีหมายเลข 1” ที่ท้าทายความสามารถของกรและทรายทิพย์ เด็กดี No. 2 เป็นเด็กชายอยู่ชั้น ป. 6 ชื่อ “ด.ช. ดังใจ” (โชกุน) พ่อแม่แยกทางกัน “ดุจฤทัย” (ดุจ) เป็นผู้หญิงเก่งที่ทุกอย่างต้อง “เป๊ะ ๆๆๆ” จน “ภูทอง” (ภู) สามีขอหย่า และหันไปเปิดผับเล็กๆ ในขณะที่ดุจฤทัยเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทข้ามชาติ ความเนี้ยบของดุจทำให้ “โชกุน” มีปัญหา “ไม่กล้าบอกความจริง” และนำมาสู่การเป็น “เด็กเลี้ยงแกะ” จอมโกหกของโรงเรียน “เมษา” (ตังเม) เป็นเด็กคนที่สาม ที่กรและแซนด์คัดเข้ามาอยู่ในโครงการ ตังเมอยู่ ม. 3 มีปัญหา “หมกหมุ่นกับการฆ่าตัวตาย” พ่อตังเมชื่อ “ชัยภูมิ” (ภูมิ) เป็นเจ้าของโรงงานขนาดใหญ่มีครอบครัวแล้ว “นวลสราญ” (นวล) แม่ของเธอมีฐานะเป็นเมียน้อยอย่างไม่เต็มใจ นวลปล่อยตัวให้จมกับความทุกข์ ไม่ลุกขึ้นสู้กับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ทำให้ตังเมเป็นเด็กที่ไม่ได้รับความรัก การขู่ฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องให้พ่อ แม่หันมาสนใจ คนที่ 4 ที่สุดแสบ แสบทั้งแม่ทั้งลูก เรียกได้ว่า .. แสบสะท้านวงการ เพราะเธอเป็นลูกสาวของ “พีรดา” (รดา) อดีตซุปตาร์ ที่กำลังอยู่ในขาลง “มงกุฎแก้ว” (มินนี่) เป็นดาวโรงเรียน เป็นคนหลงตัวเองอย่างสุดขั้ว แม่ลูกคู่วีน เหวี่ยง เป็นจอมสร้างภาพอันดับต้นๆของประเทศไทย มินนี่วางตัวเป็นเจ้าแม่คอยควบคุมเพื่อน เผด็จการ เป็นตัวแทนของเด็กในยุค GEN Me อย่างแท้จริง ติดโซเชี่ยลมีเดีย จนถึงขั้นรับความจริงไม่ได้ พีรดา และมินนี่ เธอรับไม่ได้ที่ตัวเองถูกส่งมารวมกับไอ้เด็กปัญหา อาละวาดจนแซนต์และกรต้องปวดหัว ความปวดหัวสุดท้ายที่ทำให้กรและแซนด์ คือเด็กคนที่ 5 “ถวายชัย” (ลูกหวาย) เด็กชั้น ม. 6 หน้าตาดี ภายนอกดูสุภาพ เรียบร้อย พูดน้อย ทรายทิพย์แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าหวายจะเป็นเด็กที่ชอบใช้ความรุนแรง มีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนเป็นประจำ ไม่ให้ความร่วมมืออะไรทั้งสิ้น เธอรู้แค่ว่าพ่อของหวายชื่อ “ยอดยุทธ” เป็นเจ้าของโรงเหล็ก ส่วน “เป็นสุข” ผู้เป็นแม่ แยกทางกับพ่อได้สองสามปี หวายมีน้องสาวชื่อ “ถวายพร” (ลูกหว้า) อยู่กับแม่ หลังจากได้รู้จักเด็กทั้ง 5 คน ทรายทิพย์เครียดสุดๆ เพราะแต่ละปัญหาไม่ได้ง่ายอย่างที่เธอคิด ซ้ำร้ายยังไม่มีใครให้ความร่วมมือแม้แต่คนเดียว ทั้งตัวเด็ก พ่อ แม่ แต่สิ่งที่ทั้งสองคนได้โดยไม่คาดคิดคือ การได้เรียนรู้กันและกัน ทั้งกรและแซนด์ได้เก็บข้อมูลของกันและกันโดยไม่ตั้งใจ แซนด์ได้รู้ถึงความกดดันที่ทำให้กรเป็นคนดุ และจริงจังจนเกินไป กรเองก็ได้รู้ว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้แซนด์เป็นผู้หญิงคิดบวก ไม่ท้อแท้ ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ เป็นเพราะเธอมีครอบครัวที่แสนดี เป็นกองหนุนสำคัญ กรเองก็แอบมาขอกำลังกำลังใจจากพ่อแม่ของเธอเป็นประจำ เค้าคิดว่ากรเป็นลูกชายคนหนึ่งโดยไม่รู้ตัว แต่ถึงแม้แซนด์จะได้กำลังใจอย่างมากจากครอบครัว แต่ปัญหาสารพันที่รุมเร้าเข้ามา และฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้แซนด์สติขาดผึง เมื่อกรมาระบายความกดดันใส่ ด้วยการจิกเอาผลงาน การไล่บี้แบบไม่สนใจเหตุผลของกร ทำให้แซนด์ระเบิดอารมณ์อย่างกดดัน “ไม่ไหวแล้วเว้ยยยยยย....ฉันขอลาออก” !!!! แซนด์เก็บของและเดินออกไปเลย กร และ ปาล์ม ถึงกับอึ้ง ! การลาออกของแซนด์ทำให้อำนาจสะใจอย่างแรง อำนาจสรุปเลยว่าโครงการ “เด็กดี ฯ (จอมปลอม)” ล้มเหลว ไม่มีชิ้นดี ขณะนี้อำนาจหวังสูง เขาต้องการบีบขอซื้อหุ้นจากนพลักษณ์และยึดโรงเรียนมาเป็นของตัวเอง ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้กรหมดความน่าเชื่อถือ กรเองเมื่อไม่มีแซนด์ก็เริ่มรู้สึกเหมือนขาดคนรู้ใจ กรเร่งให้ปาล์มไปตามตัวแซนด์กลับมา ทางด้านแซนด์หลังจากลาออก เธอกลับรู้สึกว่างจนเหงา ด้วยทิฐิแซนด์พยายามไม่ยอมรับความรู้สึกที่แท้จริง ยืนยันกับปาล์มว่า ไม่กลับไปทำงานเด็ดขาด แต่แล้ว..ความตั้งใจของเธอก็ต้องเปลี่ยนไป .. เมื่อ “ลูกหว้า” น้องสาวของหวายมาหาเธอที่บ้าน พร้อมกับ “เป็นสุข” ผู้เป็นแม่ ทั้งสองคนมาเพื่อขอให้ช่วยลูกหวาย เพราะถ้าโดนไล่ออกจริงๆ จะโดนพ่อตีอย่างหนักแน่ๆ ยอดยุทธ (พ่อ) เป็นคนอารมณ์ร้ายมาก ทำให้เป็นสุขทนไม่ได้ ขอหย่า และแบ่งลูกกัน หวายจึงเป็นคนเดียวที่ต้องรองรับอารมณ์ของพ่อ ทำให้เขากลายเป็นเด็กก้าวร้าว และใช้กำลังตัดสินปัญหา ในระหว่างที่ลังเลอยู่นั้น กรก็พ่ายแพ้ต่อความรู้สึกของตัวเอง เขามาหาเธอที่บ้านเพื่อตามกลับไปทำงาน แต่ยังมีฟอร์มด้วยการเอาคลิปที่อำนาจพูดในที่ประชุมด้วยความสะใจที่เธอทิ้งงานกลางครัน แซนด์ฟังแล้วจี๊ดดดดดดดขึ้นมาทันที กรรีบท้าทายถ้าอยากจะลบคำประมาทก็ต้องกลับไปทำงาน ดีกว่าจะต้องเสียชื่อไปทั้งชีวิต แซนด์คิด..คิด..คิด และตัดสินใจ “ฉันกลับไปทำก็ได้ ..ถ้าต้องการให้เธอกลับไปทำงานครั้งนี้ กรจะต้องทำตัวเป็นทีมเดียวกับเธอ ไม่ใช่อยู่ฝ่ายตรงข้ามแล้วมาคอยไล่บี้แบบไม่มีเหตุผล และจะช่วยเธอทำงานนี้ให้สำเร็จในฐานะ “เพื่อนร่วมงาน” ไม่ใช่ “เจ้านาย” กรกลับไปต่อรองกับแม่ได้สำเร็จ นพลักษณ์ยืดระยะเวลาของโครงการนี้ไปอีกหนึ่งเทอม กรและแซนด์ได้กลับมาทำงานด้วยกันอีกครั้ง จากผูกพันที่เริ่มก่อตัว ได้รับการสานต่ออย่างเหนียวแน่น โดยมีปัญหารายล้อมเป็นตัวเร่ง แซนด์รวบรวมกำลังใจ และ ข้อมูลที่มีเพื่อเริ่มต้นสานต่อโครงการ “เด็กดี ฯ” อีกครั้ง โดยมีกรคอยประกบอยู่ไม่ห่าง ระหว่างปิดเทอมเด็กทั้ง 5 ต่างมีกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไป ทำให้แซนด์ได้รู้จักเด็กๆในอีกมุมที่เธอไม่เคยรู้ ระหว่างปิดเทอมที่ได้ทำงานด้วยกันทั้งกรและแซนด์ได้รู้จักกันมากขึ้น ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน เหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง โรงเรียนเปิดเทอม สิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ... เด็กทั้ง 5 คนกลับมาสร้างปัญหาเหมือนเดิมและรุนแรงมากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จากเหตุการณ์ร้ายแรงที่ประดังเข้ามาทำให้นพลักษณ์ตัดสินใจยุติโครงการ “เด็กดี ฯ ” ของกร และเรียกเด็กทั้ง 5 พร้อมกับผู้ปกครองมาชี้แจงเรื่องการขอเชิญให้ออกกลางเทอม ทุกคนถึงกับชอค และไม่ยอมออก ส่วนยอดยุทธเมื่อรู้เรื่องก็ตบหวายต่อหน้าทุกคนอย่างแรง ในจังหวะนั้นเอง แซนด์ก็พุ่งเข้าไปและเอาตัวเองกอดหวายไว้ยอมที่จะรับฝ่ามือ และกำปั้นของยอดยุทธแทนโดยไม่คำนึงถึงความเจ็บปวด กรเข้ามาเห็นพอดีรีบเข้ามาห้าม กว่าเหตุการณ์จะสงบทำเอาทุกคนอกสั่นขวัญหายและร่างกายของแซนด์ก็มีรอยฟกช้ำดำเขียวเต็มไปหมด กรปฐมพยาบาลให้แซนด์ด้วยความสงสาร วินาทีนี้เขาไม่กังขากับความทุ่มเทให้กับงานของเธออีกต่อไป เขาชื่นชมเธอ (เป็นครั้งแรก) แซนด์ดีใจและนึกไม่ถึงว่าเธอจะทำให้จอมเฮี้ยบอย่างกรเอ่ยปากชมได้ .. แต่สุดท้ายเธอก็ทำโครงการนี้ไม่สำเร็จ เด็กๆต้องโดนไล่ออก กรเสียเครดิต และตัวเธอเองก็ต้องตกงาน ความเห็นอกเห็นใจกันทำให้ทั้งสองคนใกล้ชิดกันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น .. เมื่อนพลักษณ์เรียกแซนด์เข้าพบ และบอกให้กลับมาทำโครงการเดิมให้สำเร็จ นพลักษณ์บอกว่า.. หลังจากเกิดเรื่องเหล่าบรรดาผู้ปกครองของเด็กมาขอเข้าพบ และขอร้องในเรื่องเดียวกัน นั่นคือ .. ขอโอกาสเพื่อเข้าโครงการ “เด็กดี ฯ” อีกครั้ง การกลับมาของเด็กทั้ง 5 คน สร้างความแปลกใจให้เพื่อนร่วมห้องเป็นอย่างมาก หลายคนแสดงอาการรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด แซนด์และกรต้องร่วมมือกันรีบแก้ปัญหา ก่อนที่เด็กจะโดนทำร้ายจิตใจจนยากจะแก้ไข แซนด์และกรร่วมมือกัน เริ่มต้นแก้ปัญหาจากทั้งสองด้านคือ แก้ที่เด็ก และ แก้ที่พ่อแม่ ในระหว่างที่แซนด์พยายามจะแก้ปัญหาอันแสนหนักหน่วงของเด็กทั้ง 5 เธอมีกรคอยเป็นผู้ช่วยและให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด ทำให้เธอได้เห็นมุมต่างๆของผู้ชายแสนเฮี้ยบหน้าขรึมคนนี้มากมาย กลายเป็นความผูกพันที่แสนงาม ท่ามกลางความชื่นมื่นของแซนด์และกร กับโครงการที่กำลังไปได้ดี ทั้งสองไม่รู้เลยว่าอำนาจได้แอบสร้างคลื่นไต้น้ำ พลังความคิดในด้านลบนี้ถูกก่อขึ้นและพร้อมระเบิดในวันประชุมผู้ปกครองประจำปี ในการประชุม ผู้ปกครองหลายคนที่โดนปั่นหัวเห็นด้วย ลามปามจนถึงขั้นต้องไล่เด็กออก ไล่แซนด์ออก และขู่ว่าถ้านพลักษณ์ให้กรมาดูแลโรงเรียนแทนจะพาลูกลาออกทั้งหมด !!! อำนาจยิ้มพอใจกับปฎิกริยาของผู้ปกครอง แต่แล้ว....สิ่งที่อำนาจวาดฝันไว้ก็ต้องพังทลาย เมื่อพีรดา นวลสราญ ตรีทิพย์ ดุจฤทัย และภูทอง รวมทั้งเป็นสุข และ ยอดยุทธ (ที่อาการเริ่มดีขึ้น แม้ยังไม่หายสนิท แต่นั่งวีลแชร์มาร่วมประชุม) ลุกขึ้นพูดถึงการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นหลังจากที่ได้ร่วมโครงการนี้ แต่ละคนพูดถึงสิ่งที่ได้รับ ได้เห็นปัญหา ได้เข้าใจปัญหาของลูก ของตัวเอง ได้รู้ว่าเราจะปรับปรุงตัวอย่างไร เพื่อทำให้ลูกและตัวเราเป็นคนที่มีคุณภาพมากขึ้น สุดท้ายจะไล่เด็กทั้ง 5 ออกจากโรงเรียนก็ได้ แต่ขอให้มีโครงการนี้ต่อไป เพราะคนที่จะได้ประโยชน์คือลูกๆ และตัวคุณเอง ทำให้ผู้ปกครองคนอื่นๆ อึ้ง จากหน้ามือ เป็นหลังมือ จนอำนาจไม่พอใจ เผลอหลุดโวยวายออกมา จนนพลักษณ์ต้องรีบปิดการประชุม นพลักษณ์ต่อว่าอำนาจ และบอกว่าเธอรู้ทันเกมของเขา ไม่มีวันที่เธอจะขายหุ้น และนับจากนี้ไปเธอจะให้กรขึ้นมาบริหารโรงเรียนแทน !! ถ้ารับไม่ได้ก็พร้อมจะให้ลาออก อำนาจตีหน้าซื่อ และไม่มีปัญหาที่กรขึ้นมาแทน เขาพร้อมที่จะทำงานกับทุกคนเพื่อโรงเรียนเพื่อเด็กๆ อำนาจแม้จะพลาดในครั้งนี้ แต่เขาเก็บความแค้นไว้จนแน่นอก พร้อมจะแก้แค้นทันทีที่มีโอกาส การประชุมผู้ปกครองที่ผ่านพ้นไป .. เหมือนพายุที่พัดพาความมืดมัวออกไปจากชีวิตของหลายๆคน ปิ๊กปิ๊กเลิกนิสัยขโมยของโดยเด็ดขาด และนำของที่เคยเอาไปซ่อนเพราะความอิจฉามาคืนเพื่อนๆ คืนโรงเรียน และคืนแซนด์ ตรีทิพย์เลิกไปยุ่งวุ่นวายกับเมียอื่นๆของจักรินทร์ ดูแลลูก ดูแลตัวเอง โชกุนกล้าที่จะพูดความจริง และยอมรับความผิด แม้ต้องโดนลงโทษก็ไม่กลัว ดุจฤทัยและภูทองกลับมาคืนดีกันอีกครั้ง ทั้งสองคนเริ่มต้นกลับมาอยู่ด้วยกันใหม่ โดยมีโชกุนเป็นกาวใจ นวลสราญกลับมาสวยเหมือนเดิม เธอเลิกกับชัยภูมิอย่างเด็ดขาดและตัดสินใจกลับไปต่างจังหวัด พร้อมกับนำเงินที่เก็บสะสมไว้มาลงทุนทำสวนในที่ของตัวเอง ตังเมยินดีลาออกจากโรงเรียน และย้ายไปเรียนที่ประจำจังหวัดเพื่อจะได้อยู่กับแม่ ตังเมใช้เวลาไปกับการสร้างสรรค์งานศิลปะที่น่าทึ่ง มินนี่กลับมาเป็นเด็กธรรมดา ลดการสื่อสารทางโซเชี่ยลมีเดีย กลับมาอยู่กับเพื่อนๆ อยู่กับโลกความเป็นจริง และหาเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดกับแม่มากขึ้น ทุ่มเทให้กับการเรียน หวายเอาดีทางด้านกีฬา จนได้เป็นนักฟุตบอลโรงเรียน เมื่อได้ปลดปล่อยพลังออกมา ความก้าวร้าวก็ลดลง อาการของพ่อก็เริ่มดีขึ้น ยอดยุทธขอร้องให้เป็นสุขและหว้ากลับมาอยู่บ้าน ยอดยุทธหันไปฟังธรรมะและละวางเรื่องงาน เรียนรู้เรื่องการควบคุมอารมณ์ เพื่อแลกกับครอบครัวที่เป็นสุข นพลักษณ์ชื่นชมแซนด์อย่างมากในความสำเร็จครั้งนี้ แต่แซนด์ไม่รับ เธอตัดสินใจเลื่อนตำแหน่งให้กรขึ้นมาดูแลโรงเรียนแทนเธอ ท่ามกลางการยอมรับของครู และผู้ปกครอง กรขอบคุณแซนด์ที่ช่วยเหลือมาตลอด เขาชวนเธอมาเป็นพนักงานประจำ ทำหน้าที่ดูแลเด็กที่มีปัญหาคนอื่นๆ ที่อาจจะมีมาอีก แต่แซนด์ปฎิเสธ เธอขออยู่อย่างอิสระ แต่ถ้ามีเด็กต้องการความช่วย เธอจะมาทันที .. กรยอมรับและในการตัดสินใจ และถือเป็นสัญญาใจระหว่างเขาและเธอ .... ทรายทิพย์ปิดจ๊อบแรกในชีวิตอย่างมีความสุข เธอได้เรียนรู้ว่า “ครอบครัว” เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์ ไม่ว่าครอบครัวเราจะรั่ว แตก แยก ผุ อยู่ในสภาพเลวร้ายขนาดไหนก็ตาม ความรัก ความใส่ใจ ความสนใจ คืออุปกรณ์สำคัญที่จะอุดรอยรั่ว รอยร้าวได้อย่างดีที่สุด

เด็กใหม่ Girl from Nowhere (2561/2018) แนนโนะ เด็กสาวลึกลับสุดฉลาดย้ายไปเรียนที่โรงเรียนแห่งใหม่ และเปิดโปงคำโกหกและการกระทำอันเลวร้ายของครูและนักเรียนในโรงเรียนแห่งนี้แบบไม่ลดละ

INSTINCT ซ่อน ล่า หน้าสัตว์ (2562/2019) “พราว” สาววัยรุ่นหนึ่งในสมาชิก “แก๊งหน้ากากสัตว์” ที่ระบายความเก็บกดของตัวเองโดยการออกตามล่าและพิพากษาเหล่าอาชญากรโรคจิตที่แฝงตัวอยู่ในสังคม ระหว่างการสืบคดีฆาตกรต่อเนื่องรายหนึ่ง พราวได้ตกเป็นเหยื่อทดลองยาชนิดใหม่ที่กลุ่มคนปริศนานำมาทดลองกับคนไร้บ้าน ทำให้ร่างกายของเธอค่อยๆเปลี่ยนแปลง มีสัญชาตญาณของสัตว์ป่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พราวจึงใช้มันเป็นความสามารถพิเศษนี้ในการสืบคดีและหาทางรักษาตัวเองก่อนที่ความเป็นมนุษย์ในตัวเธอจะหมดไป...

ล่า 2560

ล่า (2560/2017) มธุสร ถูก เกรียงไกร สามีอารมณ์รุนแรงและเจ้าชู้ ขู่กรรโชกเพื่อเอาเงินของ มธุกร หรือ ผึ้ง ลูกสาวเพียงคนเดียวไปเล่นการพนันและบำเรอเมียใหม่ หลังมธุสรจับได้ว่าสามีติดการพนันและติดหญิงคนใหม่ เธอจึงเดินหน้าฟ้องหย่าเพื่อป้องกันไม่ให้สามีเข้ามามีส่วนแบ่งในทรัพย์สินของเธอและตัวลูกสาว แต่เพราะเกรียงไกรเป็นคนมีหน้ามีตา และเกรียงไกรไม่ยอมเสียหน้าจากเรื่องเล็ก ๆ แบบนี้ เขาจึงขอให้มธุสรยกทรัพย์สินทั้งหมดให้เป็นของตนเพื่อแลกกับชีวิตของผึ้ง มธุรสรไม่มีทางเลือกจึงตัดสินใจยอมถอนฟ้องและหย่าแต่เพียงโดยดี หลังจากที่หย่ามธุสรและลูกก็เริ่มมีชีวิตลำบาก เยาวลักษณ์ เพื่อนเพียงคนเดียวของเธอจึงรับมธุสรและผึ้งไปอยู่ด้วย แต่เพราะมธุสรไม่ต้องการพึ่งพาใครไปมากกว่านี้ เธอจึงเดินหน้าหาเช่าคอนโดใกล้ ๆ โรงเรียนของผึ้งอยู่ และได้คอนโดใหม่ที่อยู่ในชุมชนร่วมอาสา หลังได้คอนโด มธุสรจึงหางานทำใหม่เป็นรองผู้จัดการฝ่ายบัญชี โดยมี กุลชาติ เจ้าของโรงแรมคอยยื่นมือเข้ามาช่วย เนื่องจากลูกสาวเขาเป็นเพื่อนผึ้ง และเขาก็สนใจในตัวเธอที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว (Single Mom) ในฐานะพ่อเลี้ยงเดี่ยว (Single Dad) ด้วยเช่นกัน วันหนึ่งมธุสรและผึ้งได้ไปพัวพันกับแก๊งนักเลงในย่านสลัมของ แป๊ว เพราะแป๊วคิดว่ามธุสรเป็นสายให้ตำรวจตั้งแต่ย้ายเข้ามา มธุสรพยายามเลี่ยงการปะทะกับแป๊วเพราะไม่อยากให้ผึ้งเข้ามายุ่ง แต่วันหนึ่งสายตำรวจวานให้เธอส่งข้อความลับให้ สารวัตรภาธร ว่าจะมีการส่งยาเสพติดกันและวันนั้นผึ้งติดร่างแหเข้าไปด้วย เพราะแป๊วยัดยาเสพติดล็อตใหญ่มูลค่ากว่า 16 ล้านบาทให้ผึ้ง แต่แป๊วกลับไม่คิดว่ามธุสรและผึ้งจะนำยาล็อตนั้นไปส่งให้ตำรวจ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้นายใหญ่ตัดหางปล่อยวัด และตำรวจยังออกตามล่าแป๊วและพวกลูกน้องในกลุ่มอีก 6 คนนั่นคือ ย้ง ชัย แมน เต๋า จั๊ว และ บิ๊ก จนไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างปกติสุข แป๊วและพวกโกรธแค้นมธุสรและผึ้งอย่างหนัก จึงวางแผนดักฉุดแม่ลูกไปข่มขืนและนำน้ำมันท่อรถกรอกปากกันจนถึงเช้า หลังจากเหตุการณ์นั้น แพทย์ต้องผ่าตัดเอาอวัยวะภายในของผึ้งออกเพื่อยื้อชีวิต และซ้ำร้ายผึ้งยังกลายเป็นคนเสียสติ จนต้องทำการรักษาด้วยวิธีการทำ ECT แม้การรักษาผ่านไปด้วยดีแต่แล้วผึ้งก็กลายเป็นคนไร้ความทรงจำ ไร้ความรู้สึก จึงทำให้มธุสรโกรธแค้นอย่างมาก เธอเดินหน้าขอความช่วยเหลือด้วยกระบวนการทางยุติธรรม สารวัตรภาธรสามารถจับกุมตัวแป๊วและพวกได้ทั้งหมด แต่เพราะกระบวนการทางยุติธรรมกลับไม่ให้ความยุติธรรมกับเธอ ด้วยทนายฝ่ายจำเลยได้ให้เกรียงไกรมาให้ความเท็จใส่ร้ายมธุสร และมธุสรจำเหตุการณ์คืนนั้นได้เพียงลำลาง ศาลจึงตัดสินให้ แป๊ว ย้ง และชัย ติดคุกแค่สามคน ส่วนที่เหลือศาลยกฟ้อง แต่ถึงแป๊วจะติดคุกก็ติดได้ไม่นาน เพราะ นพดล เป็นนักการเมืองที่มีอิทธิพล เขาใช้อิทธิพลช่วยให้แป๊วทำธุรกิจได้อย่างเปิดเผยในคุก ก่อนใช้อิทธิพลพาแป๊วออกมาจากคุก ทางผึ้งก็เรียกผู้หญิงทุกคนว่าแม่ มธุสรสิ้นหวังกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด วินาทีที่มธุสรคิดจะฆ่าตัวตาย มธุสรได้ปลุกให้จิตใต้สำนักอีกด้านตื่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว และจิตใต้สำนึกนั้นได้พาให้มธุสรไปรู้จักกับ ยูกิ ครูผู้หญิงสอนแต่งหน้าชาวญี่ปุ่นที่ทำให้เธอรู้จักกับการฆ่ากับการเปลี่ยนบุคคลิกใหม่เป็นอีกคน และยูกิยังทำให้เธอรู้จักคำว่า "ความพยาบาทเป็นของหวาน" และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้มธุสรตัดสินใจออกตาม ล่า เหล่าทรชนเดนมนุษย์ที่ทำให้เธอกับลูกต้องเป็นแบบนี้

Bad Guys ล่าล้างเมือง (2565/2022) หลังจากถูกพักงาน เจ้าหน้าสืบสวนพันธุ์ดุก็กลับมาก่อตั้งทีมสืบสวนพิเศษที่รวมคนแหกคอก เพื่อหาทางจับกุมฆาตกรต่อเนื่อง (Source: Netflix)

My Dear Warrior มหัศจรรย์รักข้ามกระดาษ (2562/2019) สกาย (ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) นักดาราศาสตร์สาวโสดแสนสวย ประจำท้องฟ้าจำลอง ได้รับของขวัญเป็นหนังสือปกไม้เล่มหนาและปากกาวิเศษจาก แวนด้า (คลาวเดีย จักรพันธุ์ ณ อยุธยา) ป้าที่ดูแลสกายมาตั้งแต่เด็ก ๆ และเป็นนักเขียนสุดเพี้ยนที่ป่วยเป็นโรคความจำเสื่อม ผู้เขียนการ์ตูนเรื่อง นักรบยอดรัก การ์ตูนเรื่องราวการต่อสู้ล้างแค้นของนักรบสองตระกูล สกาย คลั่งไคล้และหลงรักตัวการ์ตูนที่ชื่อ โฮชิ (โอบ-โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์) นักรบพระเอกสุดหล่อเก่งฉลาดและใจดี ในคืนที่พระจันทร์เต็มดวง ค่ำคืนวันที่ 29 กุมภาพันธ์ วันเกิดของสกาย คำอธิษฐานขอพรวันเกิดที่สกายเขียนขอให้ได้พบรักแท้จากผู้ชายอย่าง โฮชิ เกิดขึ้นจริงตามคำอธิษฐาน โฮชิและเจ้าหญิงแสนสวย ลูน่า (ปราง-ฉัตรา โบ๊ด) แฟนสาวของโฮชิ พร้อมด้วยคู่ปรับ ไคโร (อาร์ม-วรท มรรคดวงแก้ว) หลุดออกมาจาก หนังสือการ์ตูน โฮชิกับไคโรต่อสู้แย่งชิงลูน่า เพราะไคโรหลงรักลูน่า แต่ลูน่ากลับไม่สนใจ และความแค้นที่สั่งสมมายาวนานของสองตระกูลนักรบ ทำให้โฮชิและไคโรเป็นศัตรูกัน เรื่องราวความวุ่นวายและน่ารักสุดแสนโรแมนติกจึงเริ่มต้นขึ้น และจะมีปาฏิหาริย์อะไรทำให้พวกเหล่าการ์ตูนกลับเข้าไปในโลกของพวกเขาได้อีกครั้ง ? แล้วความรักที่เกิดขึ้นระหว่างมนุษย์และการ์ตูนจะเป็นไปได้หรือไม่ ? ร่วมลุ้นไปด้วยกัน กับ มหัศจรรย์รักข้ามกระดาษ My Dear Warrior

War of Y วอร์ออฟวาย (2565/2022) ทุกวงการ...มีแย่งชิง ทุกวงการ…มีแข่งขัน ทุกวงการ..ต้องฝ่าฟัน ทุกวงการ..มีสงคราม

คู่เวร 2565

คู่เวร (2565/2022) บีม เป็นสาวสตรอง อัธยาศัยดี เพื่อนเยอะ เป็นผู้นำ แต่มีนิสัยเสียคือใจร้อน พูดจาตรงไปตรงมา ไม่ชอบโลกสวย ความใจร้อนทำให้บีมมักทำอะไรขาดสติจนเกิดปัญหา ในขณะที่ หวาน เป็นสาวเรียบร้อย พูดจาเพราะ อ่อนโยน ทุกคนที่เห็นจึงมักตัดสินว่าหวานเป็นคนดี น่ารักน่าคบกว่าบีม ทั้งที่จริงแล้วหวานคือคนเจ้าวางแผนและชอบเอาชนะ บีมและหวานรู้จักกัน เพราะเกิดความวุ่นวายเรื่องชื่อที่เหมือนกัน มาลีวรรณ บำรุงนาคร และ มาลีวรรณ บำรุงนคร ทั้งคู่มีที่อยู่ใกล้กัน ชื่อเดียวกัน นามสกุลยังแตกต่างกันแค่นิดเดียว ความสับสนชื่อทำให้ทั้งสองสาวได้รับเอกสารผิดทางไปรษณีย์มาตั้งแต่เด็ก ทำให้หวานสนใจคนชื่อเหมือนตนมาตลอด มาลีวรรณ ทั้งคู่ และหนุ่มเนิร์ดปริญญากฎหมายและคอมพิวเตอร์ นิก ผ่านเข้าทำงาน ในสำนักงานทนาย บริษัท จี ลอเยอร์ส์ ที่แผนกคดีครอบครัว ภายใต้การดูแลของ ฉัตรทอง และ น้ำริน จุดเริ่มต้นของคู่เวรทั้งสาม นิก หวาน และบีม เริ่มขึ้นนับแต่นั้น คู่เวร บีมและหวานสนิทกันรวดเร็ว บีมคิดว่าหวานเป็นคนดี จริงใจ เมื่อเห็นหวานนั่งร้องไห้เพราะนิก บีมก็ลุยไปเอาเรื่องกับนิก เพราะนึกว่านิกพูดจาทำร้ายจิตใจหวาน ทั้งที่จริง ๆ แล้ว หวานนั่นแหล่ะ ขโมยเครดิตการทำงานของนิก ทั้ง ๆ ที่นิกเป็นคนทำ แต่หวานอวดอ้างผลงานนั้น จนนิกไม่พอใจ เวลานั้นบีมเริ่มเอะใจเล็กน้อย จะเชื่อหนุ่มนิ่ง เย็นชา ปากร้ายอย่างนิก หรือจะเชื่อสาวสวยน่าสงสารอย่างหวานดี มีแค่คนเดียวที่พูดความจริง ใครกันแน่ ?? บีมพบว่านิกแค่พูดจาตรงไปตรงมาแต่ไม่โกหก ตรงข้ามกับหวานที่พูดจาไพเราะแต่แอบแทงข้างหลัง แม่ของนิก ดาหวัน เป็นเพื่อนสนิทกับ เบ็ญ อาของบีมที่เลี้ยงดูบีมมา ทำให้ทั้งหมดได้พบกันทำกิจกรรมจิตอาสาด้วยกันบ่อย ๆ บีมสนิทกับนิกมากขึ้น และเริ่มถอยห่างจากหวาน แต่หวานไม่ยอมยังตามติดบีมหนึบ บีมและหวานได้รับมอบหมายให้ทำงานเป็นผู้ช่วยทนายฉัตรทอง ที่มี วายุ รุ่นพี่สุดหล่อเป็นพี่เลี้ยง และมี หน่อย เลขาคนเก่งของฉัตรทองเป็นผู้ประสานงาน วันหนึ่งวายุประทับใจความน่ารักสดใสของบีม ทั้งสองตกลงใจเริ่มคบกันเป็นแฟน หวานยึดบีมเป็นไอดอล ปกติเวลาบีมใส่รองเท้าผ้าใบหวานก็จะใส่ด้วย บีมทาเล็บดำหวานก็จะลบสีชมพูออกและทาสีดำด้วย แม้กระทั่งบางวันถึงกับใส่เสื้อผ้าเหมือนกันมาชนกัน และเมื่อวายุทะเลาะกับบีม หวานก็เข้าแทรก ทำเป็นเห็นอกเห็นใจ จนได้เสียกับวายุ สำหรับหวานแล้วบีมเป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิต เมื่อบีมมีแฟน หวานทั้งเสียใจและอิจฉาบีม วายุเองเป็นคนอ่อนไหวอยู่แล้ว จึงตกหลุมเสน่ห์ของหวาน ทั้งที่ยังรักบีม วันที่บีมรู้ความจริง บีมแบกข้าวของที่หวานให้กล่องใหญ่ เทใส่หัวหวาน พร้อมประกาศเลิกคบทั้งวายุและหวาน เมื่อความเป็นเพื่อนต้องยุติลง หลงเหลือแค่ความรังเกียจ และความแค้นที่มีต่อกัน แต่การจะสลัดออกจากคู่เวรอย่างหวานไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น ในเมื่อหวานยังวนเวียนอยู่ในชีวิตของบีมไม่ทางใด ก็ทางหนึ่งอยู่เสมอ และนั่นยิ่งทำให้บีมทนไม่ได้ตอบโต้หวานแบบดุ เด็ด เผ็ด มัน จองล้างจองผลาญกันอย่างไม่จบสิ้น เรื่องราวความเข้มข้นของคู่เวรจะจบสิ้นลงเมื่อใด และด้วยวิธีการใด ต้องติดตามชมกันต่อในละคร คู่เวร

ปริศนาล่าข้ามเวลา (2562/2019) ปริศนาล่าข้ามเวลา Tunnel เล่าเรื่องในปี 1986 เป็นชีวิตของ พีระ ตำรวจฝ่ายสืบสวน ที่เพิ่งแต่งงานกับภรรยาสาวชื่อ ปานวาด แต่ในวันหนึ่งเขาตามจับฆาตกรต่อเนื่องเข้ามาในอุโมงค์ และโดนลอบทำร้ายจนสลบ เมื่อเขาฟื้นขึ้นมาและเดินออกจากอุโมงค์ไป ก็พบว่าเขาได้ข้ามเวลามาในอนาคต 30 ปีข้างหน้า ทิ้งไว้แค่รอยเลือด ก้อนหินที่ถูกทุบหัวและนกหวีดที่ภรรยาให้ไว้ พีระ กลับมายังสถานีตำรวจที่เดิม ฟอร์มทีมสืบสวนร่วมกับ สุชาติ อดีตลูกน้องมือขวา และคู่หูใหม่ที่ไม่ถูกกันตั้งแต่แรกพบ อย่าง ร้อยตำรวจโท แทนไท เพื่อไขปริศนาคดีฆาตกรรม โดยมีอาจารย์สาวซึ่งเป็นนักวิเคราะห์อาชญวิทยา ปานระพี และ หมอชันสูตรพลิกศพชื่อ ศาสตราจารย์ธิติ เข้ามาเป็นผู้ช่วย โดยที่ไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของ พีระ ร่วมข้ามเวลาค้นหาคำตอบของปริศนาทั้งหมดไปด้วยกัน ใน ปริศนาล่าข้ามเวลา Tunnel

The Judgement Like… ได้เรื่อง (2561/2018) เรื่องราวของ ลูกแก้ว (มายด์) นิสิตสาววัย 18 ปีที่มีความเพียบพร้อมรอบด้านทั้งเรื่องหน้าตา ความสามารถทางด้านกิจกรรมและการเรียน แต่ชีวิตของเธอกลับต้องมาพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือเมื่อ อรรธ (ภีม MBO) เพื่อนสนิทผู้ชายที่กำลังตามจีบเธอ แอบมีเพศสัมพันธ์กับเธอในยามที่เธอเมามายไร้สติในงานเลี้ยงที่จัดขึ้นที่บ้านของอรรธ ด้วยความพลาดพลั้งเล็ก ๆ ในครั้งนั้นมันกลับกลายเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อรูปถ่ายที่อรรธแอบถ่ายลูกแก้วเอาไว้ขณะที่เขากำลังแอบลักหลับเธอนั้น ได้หลุดออกมาในโลกโซเชียลมีเดีย ลูกแก้วต้องเผชิญปัญหาอย่างโดดเดี่ยวทั้งการถูก Social Bully โดยคนในมหาวิทยาลัยซึ่งต่างซุบซิบนินทาว่าร้าย โดยนำรูปภาพไปส่งต่อและเอาไปวิจารณ์อย่างเสียหาย โดยไม่ได้มองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น เธอกำลังตกเป็นเหยื่อ และยิ่งไปกว่านั้นคือคนใกล้ตัวที่กลับตัดสินเธอแบบไม่ได้ฟังความจริงจากปากของเธอ ความผิดพลาดในครั้งนั้นได้เหวี่ยงให้ลูกแก้วพบเจอกับคนที่มีปัญหาคล้าย ๆ กับเธอ ในขณะที่ทุกอย่างดูเหมือนเลวร้าย ก็มีคนหนึ่งที่เข้ามายื่นมือช่วยเหลือและอยู่เคียงข้าง นั่นคือ อาชา (คชา) เพื่อนร่วมชั้นปีที่แอบชอบเธอ ลูกแก้วจะเรียกร้องความถูกต้องให้กับตัวเองได้หรือไม่ ? แน่นอนว่าหนทางการกลับไปสู่ชีวิตที่ปกติของลูกแก้วและพวกเขา ย่อมไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ต่างต้องแลกด้วยมิตรภาพ เพื่อน และ น้ำตา และเธอจะหาทางออกกับเรื่องนี้ได้อย่างไร ? คุณเท่านั้น คือผู้ตัดสิน ! ติดตามชม The Judgement (Like…ได้เรื่อง)

เดอะ เดบิวต์ อวสานไอดอล (2564/2021) เรื่องราวสร้างจากเนื้อหาที่แต่งและสมมติขึ้นใหม่ เพื่อความบันเทิง มิได้เกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ องค์กร หรือเหตุการณ์จริง เล่าเรื่องผ่านกลุ่มศิลปินไอดอล วง Newtype (นิวไทป์) จากจุดเริ่มต้นของการเสียชีวิตของหนึ่งในสมาชิกวง Newtype นำไปสู่การสืบหาสาเหตุการตายที่แท้จริง จาก 6 สมาชิกในวง หยก (เมโกะ-ชนนิกานต์ เนตรจุ้ย), สไมล์ (เชอรีน-ณัฐจารี หรเวชกุล), ยูอิ (นารา เทพนุภา), ไมเนอร์ (ปั๋น-ดริสา การพจน์), คิริน (แคท-นาเดียร์ มงก๊อด) และ มินนี่ (จ๋อมแจ๋ม-สุพิชชา สุบรรณพงษ์) เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ เฟม (พลอย-พลอยไพลิน ตั้งประภาพร) สมัครออดิชั่นเข้าเป็นสมาชิกในวง Newtype เพื่อสืบหาความจริงเกี่ยวกับการตายของ ฟาน (ฟิล์ม-รชานันท์ มหาวรรณ์) น้องสาวที่เป็นอดีตสมาชิกในวง เฟมต้องเปลี่ยนแปลงตัวตนเพื่อเข้าสู่โลกของ Newtype โดยมี กล้า (เบสท์-ณัฐสิทธิ์ โกฏิมนัสวนิชย์) เป็นผู้ช่วยในการสืบหาความจริง เมื่อเฟมได้เข้าไปสืบหาความจริง ก็ต้องพบว่าสมาชิกต่างก็ไม่ปฏิบัติไปตามกฎของวง Newtype และดูเหมือนว่ากฎนั้นจะกำลังย้อนมาทำลายการสืบหาความจริงของเฟม เมื่อความสัมพันธ์ของ เฟม กับ เบิ้ล (เก้า-จิรายุ ละอองมณี) แฟนหนุ่มที่คบหากันอยู่ เริ่มมีปัญหาสั่นคลอน เนื่องจากกฎข้อหนึ่งของวงที่ห้ามสมาชิกเปิดเผยตัวตนแฟน เฟมจะทำอย่างไร เมื่อต้องเลือกระหว่างสืบหาความจริงต่อไป แล้วต้องหยุดความสัมพันธ์ไว้เพียงเท่านี้ หรือเลือกความสัมพันธ์ แล้วยุติการสืบหาความจริงทั้งหมดลง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามชมกันต่อได้ในซีรีส์ เดอะ เดบิวต์..อวสานไอดอล (The Debut)

เพลิงนาง (2563/2020) เรื่องราวความรักร้อนแรงจนลุกเป็นไฟของผู้หญิงที่ชื่อว่า พลับพลา สาวสวยทันสมัยหัวนอก ผู้เติบโตมาจากครอบครัวที่มีปัญหา พ่อแม่อยู่ด้วยกันในรูปแบบสามคนผัวเมีย โดยมีแม่ใหญ่ พรรณอร เป็นผู้กำหนดชีวิตของเธอ เพราะเป็นคนที่เลี้ยงดูมากับ แม่เรียง แม่แท้ ๆ ผู้ให้กำเนิด ซึ่งมาจากคนสนิทที่ดูแลพรรณอรมา แม่เรียงจึงเป็นแค่แม่ผู้ต่ำต้อยและไม่เคยได้มีตัวตนในสายตาของลูก โดยมีพ่อ วิกรม คอยเป็นคนกลางที่ไม่ค่อยยอมตัดสินใจหรือจัดการอะไร นอกจากอยากจะให้ทุกคนอยู่รวมกันแบบนี้ หลังจาก พลับพลา กลับจากต่างประเทศ พรรณอรลงทุนเปิดบริษัทให้ และได้เจอกับ ดร.ล่องชาด หนุ่มนักวิชาการคนเก่งที่เพียบพร้อมไปทุกอย่าง เธอจึงสนใจในตัวเขาทันที ส่วนล่องชาดเองก็ประทับใจในตัวพลับพลาเช่นกัน แต่ทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่คิด เพราะล่องชาดมีสาวสวยคือ โมรี น้องสาวของเพื่อนสนิทอย่าง มนูญ ที่แอบหลงรักล่องชาดมานาน โมรีแอบรักข้างเดียว และคอยแสดงความเป็นเจ้าของกับผู้หญิงที่เข้าใกล้ดร.ล่องชาด ทุกคน โดยเฉพาะกับพลับพลา ที่เจอหน้ากันเมื่อไรต้องเกิดการปะทะคารมกันอยู่เสมอ ในขณะเดียวกัน นิวาส แฟนเก่าของพลับพลาตั้งแต่ตอนอยู่ต่างประเทศ ชายหนุ่มเสเพล ลูกนักการเมืองจอมฉาว ซึ่งไม่ยอมรับการถูกพลับพลาบอกเลิก จึงบินตามกลับมาเพื่อง้อขอคืนดี ซึ่งพลับพลากลับคิดว่านิวาสเป็นเพียงผู้ชายที่ผ่านมาในชีวิตคนหนึ่ง ทำให้นิวาสยิ่งโกรธมาก คอยตามทำลายชีวิตของพลับพลา ไม่เว้นแม้กระทั่งการตามฉีกหน้าต่อหน้าครอบครัวของพลับพลา และสร้างความเสื่อมเสียในแวดวงสังคม เพลิงนาง ขณะที่พลับพลาเองได้แต่รู้สึกดี และมีใจให้ดร.ล่องชาด จึงพยายามหาทางสลัดนิวาสให้ออกไปจากชีวิต โดยไม่รู้ตัวว่า ยังมีชายหนุ่มอีกคนที่เฝ้าเป็นห่วงใยและหลงใหลพลับพลาอย่างโง่หัวไม่ขึ้น นั่นคือ สุบรรณ ชายหนุ่มรุ่นน้องที่ทำงาน ที่เป็นผู้ช่วยของเธอ สุบรรณมีใจแอบหลงรักเจ้านายอย่างพลับพลา พร้อมเสียสละทุกอย่าง โดยสุบรรณเองก็ไม่รู้ตัวว่ายังมี กัณหา เลขาสาวผู้มองโลกสวย และชื่นชมพลับพลาว่าเป็นผู้หญิงเก่ง จนเธอยกให้เป็นไอดอลนั้น มีใจให้สุบรรณอยู่ พลับพลาได้พบกับผู้ชายอีกคนคือ ชุมสาย หนุ่มใหญ่ผู้มีภรรยาคือ ปรางทอง และลูก ชุมสายตกหลุมรักพลับพลาอย่างรุนแรง โดยทั้งคู่ใกล้ชิดกันเพราะเรื่องงาน ที่ชุมสายว่าจ้างบริษัทพลับพลาให้มาเป็นที่ปรึกษา และเมื่อล่องชาดได้รู้ว่าผู้หญิงที่ชุมสายซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติห่าง ๆ ของเขากำลังติดพันคือพลับพลา ยิ่งไปกว่านั้นชุมสายยังเล่าให้ล่องชาดฟังว่า มีอะไรเกินเลยกับพลับพลา ทั้ง ๆ ที่ในใจลึก ๆ แล้วนั้น พลับพลาไม่ได้คิดจะแย่งชุมสายมาจากปรางทอง แต่ผลที่ตามมาคือชุมสายหลงใหลเธออย่างมากมาย ด้วยเหตุนี้ทำให้ล่องชาดยิ่งผิดหวังในตัวพลับพลา ไม่เพียงแค่ชายหนุ่มที่คลั่งไคล้ในตัวพลับพลา อย่าง นิวาส ชุมสาย หรือ สุบรรณ เท่านั้น พลับพลายังเลือกใช้ ศุภฤกษ์ นักธุรกิจหนุ่มมาเฟีย เจ้าของธุรกิจสีเทาที่มีครอบครัวแล้ว มาพัวพันในชีวิตของเธออีก เพราะด้วยความร่ำรวยและอำนาจบารมีในสังคม ทำให้พลับพลาเลือกใช้ศุภฤกษ์เป็นเครื่องมือในการช่วยฟื้นฟูบริษัทที่กำลังประสบปัญหาการเงินให้กลับคืนมาอีกครั้ง เพลิงนาง ชุมสายพยายามทำทุกอย่างให้พลับพลาเลือกเขา ถึงขั้นยอมหย่าขาดกับปรางทอง จน เนม ลูกสาวของชุมสายกับปรางทองกลายเป็นเด็กมีปัญหา และเลือกเส้นทางผิดจากการประชดพ่อ ซึ่งการตัดสินใจของชุมสายในครั้งนี้ สร้างความผิดหวังให้กับล่องชาด ที่พยายามช่วยประคองชีวิตคู่ของพี่ชายและพี่สะใภ้มาตลอด และยิ่งรู้สึกผิดหวังกับพลับพลามากขึ้นไปอีก แต่แม้จะผิดหวังกับพลับพลา ล่องชาดก็ยังไม่คิดจะเปิดใจให้โมรี ทำให้โมรีเสียใจมาก ขณะเดียวกันล่องชาดก็ยืนยันกับพลับพลาว่า ผู้หญิงอย่างพลับพลาคงไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาจะหยุดชีวิตด้วย ความชัดเจนที่ล่องชาดแสดงออกมาทำให้พลับพลาเสียความมั่นใจในตัวเองอย่างมาก และยิ่งอยากจะเอาชนะให้ล่องชาดหันมามองเธอให้ได้ พลับพลากลับมาทบทวนตัวเองอีกครั้ง และรู้ว่าที่ผ่านมาเธอปล่อยให้ความคิดผิด ๆ ว่าการจะรู้จักใครต้องรู้จักให้ลึกซึ้ง และมองว่าเธอมีสิทธิ์ที่จะเลือกคนที่ดีที่สุดด้วยวิธีของเธอนั้นเป็นสิ่งที่ผิดพลาดมาโดยตลอด สุดท้ายคำตอบของหัวใจของเธอมีเพียงล่องชาดเพียงคนเดียวเท่านั้น และเธอจะไม่ยอมให้เขาหลุดมือเป็นอันขาด แต่เธอจะทำอย่างไรกับผู้ชายอีกหลายคนที่ยังอยู่ในชีวิต มาร่วมลุ้นเรื่องราวความรักของพลับพลา ผู้หญิงที่ใช้ความสวยงามภายนอกและร่างกายเพื่อค้นหาความรัก บทสรุปสุดท้ายความรักของเธอจะจบลงเช่นไร ? ติดตามชมละคร เพลิงนาง

วัยแสบสาแหรกขาด โครงการ 2 2562

วัยแสบสาแหรกขาด โครงการ 2 (2562/2019) 2 ปีต่อมา ... ครูกร (ผู้อำนวยการแห่งโรงเรียนเปี่ยมคุณ) เดินหน้าทำโครงการ “ผูกสาแหรก” ปรับพฤติกรรมและแก้ปัญหาเด็กที่มีพื้นฐานครอบครัวแตกแยก เป็นครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว ในการทำงานครั้งนี้ยังมีผู้ดำเนินโครงการคือ “ครูทรายทิพย์” ซึ่งตอนนี้เรียนจบปริญญาโทเป็นที่เรียบร้อย ท่านผ.อ. กร และ ครูทรายต้องจับมือกับค้นหาต้นตอของปัญหาของเด็กที่อยู่ในโครงการ และช่วยกันหาทางแก้ปัญหาท่ามกลางความไม่เข้าใจของคนในครอบครัวและสังคมรอบข้าง ... และในครั้งนี้ทั้งสองคนไม่ได้อยู่ในฐานะเจ้านายและลูกน้อง แต่ยังมีสถานะเป็น “สามี-ภรรยา” คู่รักที่เพิ่งแต่งงานกัน!!! ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คู่รักที่ทำงานด้วยกันจะดำเนินชีวิตคู่โดยไม่เอาปัญหาเรื่องงานเข้ามาในบ้าน หรือ แม้แต่ขึ้นมาถกเถียงกันบนเตียงนอน ทั้งกรและทรายต้องเจอปัญหาอันใหญ่หลวงทั้งที่โรงเรียน และการปรับตัวเข้าหากัน ความรักที่เติบโตมาอย่างหนักแน่น และ สวยงาม กำลังโดนสั่นคลอนด้วยการทำงานที่เต็มไปด้วยความท้าทายและโดนกดดันจากคนรอบข้าง ทรายทิพย์รับเด็กเข้าโครงการ ๕ คน คือ ด.ช.พีท (ลูกพีท) อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ , เด็กหญิงไออุ่น (อุ่น) อยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ , นายกายภัทร (ใบพัด) มัธยมศึกษาปีที่ ๔, นายมหาสมุทร (บุ๊ค) มัธยมศึกษาปีที่ ๕ และนางสาววีธารี (วีหนึ่ง) มัธยมศึกษาปีที่ ๖ ทั้ง ๕ คนมีปัญหาที่ทำให้ทรายและกรต้องกุมขมับอีกครั้ง ลูกพีท เป็นเด็กที่มีลักษณะ Temper Tantrum (เด็กกรี๊ด) “โม” แม่ของลูกพีท ทำงานเป็นผู้จัดการกองถ่ายละคร คุณพ่อเสียตั้งแต่พีทยังรู้ความ โมต้องออกกองไม่ค่อยมีเวลาเลี้ยงลูก ลูกพีทอยู่กับตาและยายที่เลี้ยงหลานตามใจยิ่งกว่า “หลานเทพ” อยากได้อะไรให้หมดทุกอย่าง สปอยล์ยิ่งกว่าสปอยล์ พอโมมีเวลาอยู่กับลูกทีก็เจอกับอาการเอาแต่ใจทำให้กลายเป็นแม่ที่เข้มงวด ลูกพีทก็แสดงอาการกรี๊ดใส่ ยิ่งกรี๊ดตายายก็ยิ่งตามใจ เด็กก็ยิ่งเรียกร้อง จนโมทนไม่ได้พาลูกมาเข้าโครงการ ทรายต้องทำการประสานการเลี้ยงดูปรับความเข้าใจให้โมและพ่อแม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากมากกกกก ปรับพฤติกรรมผู้ใหญ่ยากกว่าการปรับพฤติกรรมเด็กล้านเท่า !!! อุ่น มีปัญหาความหลากหลายในเพศของตัวเอง Gender Creative ชอบอยู่คนเดียว เก็บตัว พ่อแม่แยกทางกันเลยแบ่งกันดูแลอุ่น อุ่นอยู่กับแม่ (กวิตา – วิ) ๓ วัน และ พ่อ (เกริกฤทธิ์ – ฤทธิ์) ๔ วัน พ่อทำธุรกิจขนส่ง มีรถบรรทุกประมาณ ๑๐ กว่าคัน ฐานะค่อนข้างดี แม่ทำธุรกิจแล้วล้มเหลวหลายครั้ง ค่อนข้างจับจด รบกวนเงินพ่อเป็นประจำ อุ่นทำหน้าที่ไปขอเงินพ่อมาให้ แม่มักจะโดนต่อว่า ดูถูกอยู่เสมอ ทำให้อุ่นรู้สึกลึกๆว่าแม่อ่อนแอ และล้มเหลว ส่งผลให้อุ่นมีความไม่ภูมิใจและไม่พึงใจในเพศหญิงของตัวเอง โดยเฉพาะเวลาที่คนอื่นมาย้ำ หรือ มาจี้ว่าจะเป็นเหมือนแม่ยิ่งไม่ชอบ อุ่นที่เห็นความอ่อนแอของแม่ยิ่งเกลียดความเป็นผู้หญิงของตัวเอง ทรายต้องคิดหนักเพราะมันเป็นปัญหาที่แสนซับซ้อนและละเอียดอ่อนอย่างมาก .. อุ่นคือภาพสะท้อนของความหลากหลายทางเพศในยุคปัจจุบัน ความจริงที่เราต้องเปิดใจ และทำความเข้าใจก่อนที่จะสายเกินไป ใบพัด เป็นเด็กที่ความผิดปกติทางการเรียนรู้ พ่อแม่ของใบพัดเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ พ่อของใบพัดเป็นคนมีฐานะดี เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งในกรุงเทพ เมื่อเสียชีวิตทุกอย่างจึงตกเป็นของใบพัด พิณแก้วและนโรธทำพินัยกรรมให้ใบพัดทั้งหมด โดยแต่งตั้งให้กองพล (ลุง) เป็นผู้จัดการมรดก แต่กองพลเป็นคนที่ไม่เคยรับรู้เลยว่าใบพัดหลานชายคนเดียวมีอาการออทิสติก ทรายยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเพื่อทำให้ใบพัดเข้าใจคนปกติ และทำให้คนปกติเข้าใจสภาวะของเด็กออทิสติกเช่นกัน สิ่งเหล่านี้ทำให้ทรายกับกรต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อทำให้ใบพัดเข้าไปเรียนในโรงเรียนปกติให้ได้ บุ๊ค ... ชื่อแปลว่าหนังสือ แต่ในชีวิตจริงไม่ค่อยได้จับหนังสือ เพราะมัวแต่จับเม้า คีย์บอร์ด เล่นเกมอย่างบ้าคลั่ง บุ๊คมีอาการ Gaming Addiction ถึงขั้นไม่ยอมมาโรงเรียน ไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน เข้าสังคมไม่เป็น ครอบครัวของบุ๊คเป็นครอบครัวที่มีความห่างเหิน แม่ตัดสินใจไปทำงานร้านอาหารที่ต่างประเทศ บุ๊คอยู่กับพ่อที่วันๆ เอาแต่ทำงาน และเลี้ยงเค้าด้วยการซื้อคอมพิวเตอร์ให้เล่นเกม เลี้ยงลูกด้วยเกม จนลูกมีอาหาร Gaming Addiction ขั้นรุนแรง บุ๊คอยู่ชั้นม. ๕ ผลการเรียนแย่มาก จนเกือบจะตก แม่บินกลับมาพอเห็นสภาพลูกก็แทบช็อคที่ทิ้งลูกไป ลูกเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ทำให้แม่ทนไม่ได้บังคับให้บุ๊คมาเข้าโครงการกับครูทราย เพื่อรักษาอาการติดเกม ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะพ่อของเค้าคิดเสมอว่า “แค่เด็กติดเกม..ไม่เห็นจะเป็นปัญหา” เมียถึงกับกรอกตามองบน “เนี่ยนะไม่มีปัญหา ?” วีหนึ่ง ... (จริงๆชื่อ “วี” แต่ในห้องมีหลายวี .. เพื่อนๆตั้งชื่อว่า “วีหนึ่ง” เพราะสอบได้ที่หนึ่งตลอด) เป็นเด็กหญิงที่ดูเพียบพร้อม สมบูรณ์แบบทุกอย่าง เรียนเก่ง ครอบครัวดี มีผลการเรียนดีเยี่ยม ปัญหาเดียวที่วีหนึ่งมีคือ .... ต้องการเป็นที่หนึ่งตลอดเวลาและแพ้ใครไม่ได้ มีลักษณะของ Perfectionism ทำให้กดดันตัวเองตลอดเวลา ทั้งเรื่องการเรียน กีฬา ทำทุกอย่างต้องดีที่สุด ความกดดันตัวเองของวีหนึ่งทำให้เพื่อนๆในห้อง เพลินเพลิน คีต์ และโต๋เต๋ เอาชีวิตของวีหนึ่งไปเปรียบเทียบกับรุ่นพี่ในตำนาน “พี่ปุ่น” ที่มีเรื่องเล่าว่าพี่ปุ่นกระโดดตึกฆ่าตัวตาย ทรายกับกรต้องเข้ามาช่วยให้วีหนึ่งเข้าใจตัวเอง และลดความคาดหวังลงก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ..เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับปุ่น เด็ก ๕ คน กับ ๕ ปัญหา ที่แสนโหด ยังไม่พอกรและทรายยังต้องเผชิญกับ ครูพรรณี หัวหน้าฝ่ายวิชาการที่มีความมุ่งมั่นในการสอนและยึดติดกับการวัดผล เชื่อว่าผลคะแนนหรือสถิติต่างๆที่ได้จากการแข่งขันคือสิ่งสำคัญของเด็กนักเรียน ถ้าไม่มีคะแนนมาเป็นเครื่องชี้วัดจะรู้ได้อย่างไรว่าการสอนสำเร็จหรือไม่ พรรณีพยายามต่อสู้กับกรเพื่อคงไว้ซึ่งการเรียนการสอนแบบเดิมๆ เป็นการต่อสู้ที่ไม่มีใครผิดใครถูก แต่ต้องหาตรงกลางและรูปแบบที่เหมาะสมที่สุด ทั้งกรและทรายต้องเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตคู่ไปพร้อมกับการแก้ปัญหาให้คนอื่น และหลายครั้ง ที่ช่วยเค้าได้แต่เกือบเอาตัวเองไม่รอด ... แก้ปัญหาคนอื่นว่ายากแล้ว แต่ปัญหาตัวเองนี่แหละ....ยากที่สุด !!! ทั้ง ลูกพีท , อุ่น , ใบพัด, บุ๊ค และวีหนึ่ง และ คือ ๕ วัยแสบรุ่นต่อไป ที่ทรายกับกรจะต้องพาพวกเขาเดินผ่านอุโมงค์แห่งความมืดมิด เพื่อไปสู่แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

เด็กใหม่ ซีซั่น 2 (2564/2021) แนนโน๊ะ นักเรียนสาวสุดลึกลับผู้รู้เท่าทันและเห็นกิเลสของมนุษย์เป็นเรื่องสนุก ได้กลับมาเปิดโปงความชั่วร้าย ตีแผ่ความลับดำมืดที่ถูกซุกซ่อนอยู่ทั้งในและนอกรั้วโรงเรียน พร้อมลงโทษผู้กระทำผิดให้ได้ชดใช้กรรมอย่างสาสม แต่ครั้งนี้ ผู้ทวงคืนความยุติธรรมไม่ได้มีเพียงหนึ่งเดียว สาวปริศนาได้ปรากฏตัวขึ้นและคอยติดตามแนนโน๊ะเหมือนเงา ความลับที่น่าตกใจอย่างที่สุดจะถูกเปิดเผย และแนนโน๊ะจะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ ! และการกลับมาครั้งนี้จะเป็นที่จดจำมากกว่าเดิม หลังจากครั้งที่แล้วเธอปรากฏตัวขึ้นด้วยบทบาทของเด็กนักเรียนที่ย้ายเข้ามาใหม่เสมอ เธอเข้ามาราวกับแม่มดที่คอยยื่นแอปเปิลอาบยาพิษให้ผู้คน คอยเขี่ยสิ่งที่ซ่อนไว้อยู่ใต้พรมในใจของแต่ละคนให้แสดงด้านมืดออกมา และทุกที่ที่เธอไป คนทำผิดจะได้รับโทษทัณฑ์ ก่อนเธอจะจากไปอย่างลึกลับ และปรากฏตัวที่โรงเรียนใหม่เรื่อยไป ไม่ว่าแท้จริงแล้ว เธอจะเป็นซาตาน เป็นปีศาจ ผู้พิพากษาคนผิด หรือเหมือนตัวกรรมที่ไปเร่งปฏิกิริยาให้ทุกอย่างเกิดขึ้นได้รวดเร็วทันใจมากขึ้น….ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า...บางคน และ บางที่ ต้องการเธอ กลับมาครั้งนี้ แนนโน๊ะ ยังคงเป็นเด็กใหม่ที่ย้ายโรงเรียนไปเรื่อย ๆ ทว่าในแต่ละที่ที่เธอไป เรื่องราวและผู้คนที่เจอะเจอเข้มข้นและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น แต่ไม่ว่าจะเจอกับอะไร แนนโน๊ะ เตรียมเซอร์ไพรส์มาให้กับทุกคนเสมอ เซอร์ไพรส์ที่ว่านี้คืออะไร ? การลงทัณฑ์ที่แนนโน๊ะเตรียมจัดหนักจัดเต็มในซีซั่นนี้จะเป็นอย่างไร ? มีใครรอดเงื้อมมือและบทลงโทษของแนนโน๊ะได้หรือไม่ ?

โลกออนร้าย The Effect (2562/2019) เรื่องราวทั้งหมดถูกเล่าผ่านตัวละครที่ชื่อว่า ชิน กับ พี่เก่ง และ ไบร์ท กับ ปราโมทย์ ชินเด็กชายธรรมดาที่ไม่มีอะไรเด่น แถมยังเป็นคนไม่เก่งในเรื่องการเข้าสังคม ต่างจากพี่เก่งที่เป็นเหมือนหนุ่มในฝันของคนในมหาวิทยาลัย เหมือนกับไบร์ทที่มักมีรอยยิ้มประดับใบหน้า ต่างจากปราโมทย์ที่ไม่เคยมีรอยยิ้มให้ใครเห็น ความสนิทของความต่างถูกวิจารณ์ในโลกโซเชียลทำให้พี่เก่งได้รับผลกระทบโดยตรงกับกิจกรรมในมหาวิทยาลัยที่ร่วมอยู่ ชินคิดว่าตัวเองเป็นสาเหตุที่ทำให้พี่เก่งต้องมาเจอเรื่องทั้งหมดเลยตีตัวออกห่าง ความน้อยใจ ความโกรธ และความสูญเสียทำให้พี่เก่งขาดสติลงมือขืนใจและทำร้ายร่างกายชิน ปราโมทย์เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขาและไบร์ทที่ก้าวเข้ามาในชีวิตของปราโมทย์ก็ไม่เคยทิ้งเขาไปไหน มิตรภาพที่จริงใจจากเพื่อนทำให้ชินมีอาการดีขึ้นตามลำดับ แต่ไม่ว่าบาดแผลทางร่างกายจะหายสนิทแค่ไหน แต่หัวใจของชินไม่เคยลืมเรื่องเหตุการณ์เหล่านั้นที่ผ่านมาได้สักวัน ทำให้เมื่อวันที่เขาต้องโคจรมาพบกับพี่เก่งอีกครั้งด้วยความบังเอิญ เสียงโครมสุดท้ายครั้งนี้เป็นครั้งที่เขาได้เผยความอ่อนแอและได้จบความเจ็บปวดของตัวเองลง เหมือนกับพี่เก่งที่ได้จบความเจ็บปวดกับความเลวร้ายที่ตัวเองได้ก่อไว้ เรื่องราวทั้งหมดจะเข้มข้นแค่ไหน จะแตกต่างจากซีรีส์วายทั่วไปอย่างไร และความฟินจะปะทุร้อนแรงขนาดไหน ติดตามชม ได้ในซีรีส์ The effect โลกออนร้าย

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 21 รายการ