คนกล้าท้าชน (2567)

เรื่องย่อ : คนกล้าท้าชน (2567/2024) เรื่องราวของตำรวจน้ำดี “ส.ต.ท.ทองดี บุญนำ” (ยูโร ยศวรรธน์) ตำรวจสายห้าว มีฝีมือ ที่ยึดมั่นในความซื่อสัตย์ ซื่อตรง เป็นคนดี กับเพื่อนตำรวจร่วมอุดมการณ์ที่พร้อมทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ เพื่อปราบปรามคนร้าย ไม่ว่าจะเป็นมาเฟียสายแข็ง หรือกลุ่มอิทธิพลที่เปิดบ่อน ค้ายา โจรกรรมรถ ผูกขาดการซื้อ-ขายสินค้า ธุรกิจค้าน้ำมันเถื่อน ที่สำคัญยังมีคนใหญ่คนโตช่วยอยู่เบื้องหลัง หลังจากวีรกรรมช่วยตัวประกันเด็กจากโจรปล้นเงินธนาคารได้ เขาก็ได้รับคำสั่งย้ายไปอยู่บ้านห้วยจระเข้ แหล่งรวมของผู้มีอิทธิพลแก๊งใหญ่ที่ทำธุรกิจผิดกฎหมายทุกอย่าง สั่งฆ่าทุกคนที่ขวางทาง ที่นั่นทองดีได้พบกับ “พลอยสวย” (ชยิสรา วัฒนะนาวิน) อีกครั้ง หลังจากที่เคยพบกันโดยไม่ตั้งใจระหว่างที่ทองดีและทีมปฏิบัติการหักปีก กำลังไล่ล่าขบวนรถเถื่อนที่โจรกรรมมาเตรียมส่งไปชายแดน พลอยเป็นลูกสาวของ “ปรีชา” (ปรีชา เกตุคำ) เจ้าของปั๊มน้ำมันที่ทองดีสงสัยว่าจะทำธุรกิจผิดกฎหมาย ซึ่งทำให้พลอยสวยไม่พอใจ จากเดิมที่มีอคติกับตำรวจอยู่แล้ว พลอยสวยยิ่งไม่ชอบหน้าทองดีเข้าไปอีก เพราะเธอไม่เคยเชื่อในความสามารถของตำรวจ และไม่เชื่อว่าตำรวจดีจะมีในโลกนี้ พลอยสวยต้องการให้ห้วยจระเข้เป็นเมืองสะอาดน่าอยู่ ทุกคนช่วยเหลือเกื้อกูล ไม่เอาเปรียบกัน เธอจึงพยายามต่อสู้กับกลุ่มอิทธิพลโดยไม่กลัวเกรง ถึงแม้ว่าพ่อของเธอจะขอร้องก็ตาม นอกจากหมู่ทองดีแล้ว ยังมี “ร.ต.อ.มาวิน มโนการ” (ธนากร ศรีบรรจง) และ “ร.ต.ต.รัญชนา สุวรรณรุ่งเรือง” (พัชญา เพียรเสมอ) ที่เคยอยู่ทีมเดียวกัน ผู้กองมาวินถูกยัดข้อหายาเสพติดจนถูกไล่ออก เขาเปลี่ยนขั้วมารับใช้เป็นมือขวาให้กับ “เสี่ยก้องเกียรติ” (เอกพัน บรรลือฤทธิ์) ผู้มีอิทธิพลสายเทาเข้มที่ห้วยจระเข้ ส่วนหมวดรัญชนาก็ถูกย้ายมาประจำ สภ.ห้วยจระเข้ ที่มีทั้งตำรวจดีและตำรวจเทาปนกันอยู่ แต่ที่สำคัญคือ “พ.ต.อ.ไพศาล การสุจริต” (ดร.ปิยะวัฒน์ จุลล์จักรวงศา) ผู้บังคับบัญชารับสินบนทุกเรื่อง ทุกทาง ไม่ว่าจะจากเสี่ยก้องเกียรติ หรือ “กำนันเชิด” (ปราบ ยุทธพิชัย) หมู่ทองดีและทีมต้องเจอศึกสองด้าน ทั้งกลุ่มมาเฟียนอกกฎหมายและมาเฟียสีกากี แต่ถึงอย่างไรทองดีก็ยังคงเป็นทองเนื้อดีสมชื่อ จะโดนทุบ ถูกขยี้ โดนความร้อนหลอมละลายเพียงใด ทองก็ยังเป็นทองอยู่วันยังค่ำไม่มีวันเป็นอื่นได้ คนดีที่มุ่งมั่นทำดีโดยเนื้อแท้ ต่อให้พบเรื่องเลวร้าย โดนทำร้าย กลั่นแกล้งแค่ไหน สุดท้ายก็รอดปลอดภัย คนดีไม่มีวันตาย…ความดีไม่มีวันตาย ติดตามหาคำตอบได้ในละคร “คนกล้าท้าชน” ที่ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20:40 น. เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม 2567 ทางช่อง 7HD ดูทีวีกด 35 สดออนไลน์ BUGABOO.TV และช่องทางออนไลน์ Facebook, IG, X, TikTok, YouTube: Ch7HD

ปล้นเหนือเมฆ

เรื่องย่อ : ปล้นเหนือเมฆ (2567/2024) 15 ปีที่แล้ว... ใต้ (เอก รังสิโรจน์) พ่อของเหนือ เป็นช่างเซฟที่มีความเชี่ยวชาญมาก และได้รับการว่าจ้างจากกลุ่มธุรกิจสีเทาให้ปล้นบริษัทดูแลทรัพย์สิน เพื่อเปิดเซฟเอาของสำคัญที่อยู่ข้างในมาให้ เมื่อภารกิจสำเร็จใต้ถูกหักหลัง ถูกจับติดคุกในข้อหาร้ายแรงตั้งแต่นั้นมา ปัจจุบัน เหนือ (ชนะพล สัตยา) วิศวกรระบบรักษาความปลอดภัย ลูกชายคนเดียวของใต้ เขาเป็นผู้ออกแบบระบบนิรภัยให้กับบริษัทยูนิเวิร์สของ บรรทัด (สุรวุฑ ไหมกัน) ภายใต้การดูแลของ โอลีฟ (เกศรินทร์ น้อยผึ้ง) ลูกสาวของเขา นอกจากนี้บรรทัดได้สั่งตู้เซฟที่มีชื่อว่า เซฟนโปเลียน ที่ถือได้ว่าเป็นตู้เซฟเก่าแก่ที่มีกลไกซับซ้อน พร้อมทั้งจัดงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ โดยมี ธนิน (ณดล กณิณ) เป็นกรรมการบริหารบริษัท และเป็นลูกชายของ รัฐมนตรีอารีย์ (เอกพัน บรรลือฤทธิ์) นักการเมืองผู้ทรงอิทธิพล นอกจากนี้ธนินยังเป็นว่าที่คู่หมั้นของโอลีฟอีกด้วย เมื่อต้องมาทำงานด้วยกัน ความสัมพันธ์ของเหนือกับโอลีฟดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนัก เพราะต่างคนต่างมีทิฐิ และความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องงาน แต่สุดท้ายเหนือก็จะเป็นฝ่ายชนะทุกครั้งไป ด้วยเหตุที่ห้องนิรภัยและตู้เซฟนโปเลียนมีระบบที่แน่นหนาที่สุด จึงมีบรรดานักธุรกิจสีเทาต่าง ๆ นำเอกสารและของสำคัญมาฝากไว้ที่นี่ พิษณุ (ภูริวัจน์ บุญสุยา) เลขาธิการ ป.ป.ช. สืบทราบว่ามีของสำคัญของธุรกิจสีเทาอยู่ที่นี่ เขาจึงคิดแผนที่จะปล้นห้องนิรภัยแห่งนี้ โดยมอบให้ ดาบวัฒ (พีท ทองเจือ) เป็นคนควบคุมทีม ซึ่งดาบวัฒก็ไม่อาจปฏิเสธได้เพราะทาง ป.ป.ช. ยื่นข้อเสนอในการช่วยเหลือครอบครัวเขาไว้  พิษณุจัดหาทีมมาช่วย โดยเลือกเหนือ คนที่ออกแบบระบบรักษาความปลอดภัยของห้องนิรภัย มาเป็นหัวหอกในการวางแผนและปล้นในครั้งนี้ เรื่องราวที่เกี่ยวพันกับเหตุการณ์ปล้นในอดีตทำให้เหนือตัดสินใจร่วมภารกิจนี้ เพราะอยากรู้ความจริงเกี่ยวกับพ่อของเขา ฟาย (วรากร ศวัสกร) มือไว, ตี๋น้อย (วงศธร สมศรี) นักซิ่ง, หมวยเล็ก (ธนัชศลักษณ์ ฮัดสัน) ช่างเครื่อง และ สิตา (สิมิลัน เตมีวณิชย์) แฮกเกอร์มือดี ถูกดึงเข้าร่วมในทีมโดยบังเอิญ การปล้นถูกวางแผนอย่างแนบเนียน ในขณะเดียวกัน โอลีฟก็รู้ความจริงว่าธนินกำลังคิดจะฮุบกิจการของพ่อเธอ ซึ่งเธอได้เหนือเป็นที่ปรึกษา ทั้งสองคนสืบลึกลงไปพบว่าของที่จะปล้นเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ใต้ พ่อของเหนือ ได้ปล้นมาเมื่อ 15 ปีที่แล้ว คนที่เกี่ยวข้องก็มีอารีย์ บรรทัด และ อิทธิพล (ธนายง ว่องตระกูล) ซึ่งโอลีฟสงสัยเรื่องนี้มาก จึงตัดสินใจร่วมมือกับเหนือในการปล้นครั้งนี้ด้วย การปล้นเริ่มขึ้น ทุกคนทำหน้าที่ตามแผน จนกระทั่งเหนือได้เข้าไปถึงเซฟและเปิดเซฟ แต่พวกเขาก็ถูกทีมมือสังหารไล่ล่าจนต้องแยกย้ายกันหลบหนี ระหว่างนี้ทำให้เหนือกับโอลีฟเห็นอกเห็นใจกันจนก่อเกิดเป็นความรัก แต่สิ่งของที่ปล้นมามันไม่ใช่ของที่ ป.ป.ช. ต้องการ ที่แท้ธนินย้ายมันออกไปอยู่อีกเซฟหนึ่ง ที่มีชื่อว่า เซฟมารีอังตัวเนส ซึ่งเป็นเซฟที่สร้างคู่กันกับเซฟนโปเลียน แต่มีความสลับซับซ้อนกว่า เหนือ กับโอลีฟ และทีมงาน ออกสืบหาความจริง พบว่า อิทธิพล กับอารีย์ ร่วมมือกัน ให้ที่พักพิงและฟอกเงินให้กลุ่มอาชญากรที่ส่งผลมาถึงปัจจุบัน สิ่งที่พวกเขาต้องปล้นมาให้ได้คือรายชื่ออาชญากรที่เก็บอยู่ในนั้น ซึ่งในการตามหาความจริงครั้งนี้ ทำให้เหนือ โอลีฟ และทุกคน รวมทั้งบรรทัด ถูกตามล่าเอาชีวิตจากธนิน อารีย์ และอิทธิพล สิ่งเดียวที่ทุกคนจะรอดพ้นคือต้องปล้นอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้งานจะยากขึ้นเป็นสองเท่า ใต้รู้เรื่องที่ลูกชายและครอบครัวถูกตามล่าเอาชีวิต เขาจึงแหกคุกออกมาเพื่อมาช่วยเหนือ ภารกิจครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ มาติดตามความสนุกไปพร้อมกันในละคร ปล้นเหนือเมฆ (ที่มา: ช่อง 7)

ชาติพยัคฆ์ คมนักเลง

เรื่องย่อ : ชาติพยัคฆ์ คมนักเลง (2565/2022) เมื่ออวิชามนตร์ดำกลับเฟื่องฟู นักรบแห่งพุทธคุณสายขาวจึงต้องปรากฏตัว การต่อสู้ที่เต็มไปด้วยวิชาอาคม ความรัก ความตาย และวิญญาณที่รอวันแก้แค้น “พ.ต. ธำรงชาติ ชาติพยัคฆ์” (หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล) นายทหารผู้มีอาถาอาคมด้านสายขาวที่เก่งกล้า ถอดจิตต่อสู้กับ “อาจารย์เหิม” (ชาติชาย งามสรรพ์) จอมขมังเวทย์ด้านเดรัจฉานมนตร์ดำ อาจารย์เหิมมีนิสัยชั่วช้า ฆ่าคนเอาไปประกอบพิธีบูชายัญ เพื่อเพิ่มความคงกระพันชาตรี ทั้งสองต่อสู้อย่างไม่มีใครเพลี่ยงพล้ำ อาจารย์เหิมใช้ความเจ้าเล่ห์หนีการต่อสู้เอาจิตมาเข้าร่าง เพื่อจะทำลายร่างของธำรงชาติ แต่ “อุษา” (กมลรัตน์ ทานนท์) คู่หมั้นของธำรงชาติ ขัดขวาง จึงถูกอาจารย์เหิมฆ่าตาย ธำรงชาติเสียใจมาก โทษว่าเป็นความผิดของตัวเองที่ทำให้เธอต้องตาย หน่วยข่าวกรองของรัฐบาลและกรมตำรวจสืบได้ว่า “พ่อเลี้ยงสรรชัย” (ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) มาเฟียที่มีอิทธิพลที่สุดของบ้านผาฟ้าร้องที่ทำธุรกิจผิดกฎหมาย ไม่ว่ายาเสพติด หรือค้าอาวุธเถื่อน ต่อมาได้ร่วมมือกับ “ดร.คูดิคอฟ” (ปีเตอร์ สายใต้) นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซีย ผลิตอาวุธชีวภาพส่งขายในตลาดมืด ทำให้หลายชาติได้รับอันตราย ทางการพยายามส่งเจ้าหน้าที่ไปสืบเรื่องนี้ แต่ไม่ได้เบาะแสอะไรเลย จึงส่งธำรงชาติให้มาช่วยสืบคดีนี้ ชาติพยัคฆ์คมนักเลง ธำรงชาติปรากฏตัวที่บ้านผาฟ้าร้อง ในนามชื่อ “ชาติ พยัคฆ์” นักเลงพเนจร นอกจากนั้นทางกรมตำรวจยังได้ส่ง “ร.ต.อ. คมปราชญ์ ปราบไพรี” (ธนากร ศรีบรรจง) นายตำรวจไฮโซฝีมือดี รักคุณธรรม และความยุติธรรม เป็นสายลับหน่วยปราบปรามพิเศษ มาสืบคดีนี้ในคราบของนักเลงที่ชื่อ “คม นักเลง” โดยการส่งสองหนุ่มมาเป็นสายได้ทำขึ้นอย่างลับ ๆ แม้แต่นายตำรวจใหญ่อย่าง “พ.ต.อ. วิชา ศรีสมพงษ์” (วีรยุทธิ์ นานช้า) ก็ไม่รู้เรื่อง ส่วนทางบ้านผาฟ้าร้องยังมี “ร.ต.อ. คงกระพัน ศุภมิตร” (กุลธวัช บัวเจริญ) นายตำรวจหนุ่มไฟแรง มาประจำสถานีตำรวจ ที่ขัดขวางขบวนการมาเฟียท่ามกลางความไม่พอใจของ “พล.ต.ท. พัชระ จุลล์จักรวงศา” (ดร.ปิยะวัฒน์ จุลล์จักรวงศา) และ “จ่าอำนาจ” (สุริยะ แกล้วทนงค์) เมื่อสายลับสองคนได้พบกัน โดยต่างไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของอีกฝ่าย คม นักเลง ไม่ชอบท่าทางเคร่งขรึมของชาติ พยัคฆ์ ทำให้เขม่นไม่ชอบหน้า และเมื่อทั้งคู่ได้ต่อสู้กัน จึงได้รู้ว่าต่างคนต่างมีอาคม โดยเฉพาะคม นักเลง ที่พอดูออกว่าชาติ พยัคฆ์ มีฝีมือไม่ธรรมดาเลย “กำนันโชติ” (เอกพัน บรรลือฤทธิ์) พ่อหม้ายฐานะร่ำรวย แต่มีคุณธรรมช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อน และกำนันโชติมีลูกสาวสองคน คือ “จันทร์ฉาย” (ญาณิศา ธีราธร) และ “รุ้งรวี” (ฮาน่า ลีวิส) จันทร์ฉายเป็นครูชั้นประถม ด้วยนิสัยที่เรียบร้อย อ่อนหวาน จึงเป็นที่รักของลูกศิษย์และบรรดาครูด้วยกัน ในขณะที่รุ้งรวีทำงานช่วยกิจการของที่บ้าน ทำให้เธอมีนิสัยเข้มแข็ง เด็ดขาด นักเลง ไม่กลัวใคร ชาติพยัคฆ์คมนักเลง ชาติ พยัคฆ์ ได้เข้ามาทำงานกับกำนันโชติ หลังจากที่ช่วยเหลือชีวิตกำนันโชติ แต่รุ้งรวีสงสัยว่าชาติ พยัคฆ์ อาจเป็นคนที่พ่อเลี้ยงสรรชัยส่งมาเป็นสาย จึงคอยจับตาดูชาติ พยัคฆ์ ทางกำนันโชติไม่เชื่อ แต่เขาก็ดูออกว่าชาติ พยัคฆ์ ไม่น่าใช่คนพเนจรธรรมดา แต่จะมาบ้านผาฟ้าร้องเพราะเหตุใด คม นักเลง ก็สร้างสถานการณ์เพื่อเข้าไปเป็นสายทางพ่อเลี้ยงสรรชัย พ่อเลี้ยงสรรชัยพอใจในฝีมือการต่อสู้จึงรับเข้าทำงาน ด้วยความฉลาดและใจถึงจึงเป็นที่โปรดปรานของพ่อเลี้ยง ทำให้ “สกรรจ์” (พูลภัทร อัตถปัญญาพล) ลูกชายของพ่อเลี้ยงสรรชัย หมั่นไส้และอิจฉา อีกทั้งคม นักเลง ยังเป็นมารหัวใจ เพราะจันทร์ฉายดูมีใจให้เขา และคม นักเลง ก็หลงรักจันทร์ฉายตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น แต่ไม่กล้าแสดงออก เขาคอยแอบปกป้องจันทร์ฉายจากสกรรจ์ และเข้าใจผิดคิดว่าจันทร์ฉายสนใจชาติ พยัคฆ์ และเมื่อชาติ พยัคฆ์ พบจันทร์ฉายทำให้นึกถึงอุษา เพราะมีนิสัยหลายอย่างคล้ายกัน รุ้งรวีจึงเข้าใจผิดคิดว่าชาติ พยัคฆ์ สนใจจันทร์ฉาย แต่ชาติ พยัคฆ์ กลับรู้สึกมีกำลังใจและรู้สึกดีเมื่อได้อยู่กับรุ้งรวี แต่เธอกลับตั้งท่าแง่งอน หาเรื่องเขาตลอด ชาติ พยัคฆ์ พบว่ามีป่าอาถรรพ์ที่บ้านผาฟ้าร้อง ที่ลือกันว่ามีภูตผีปีศาจ ทำให้ไม่มีชาวบ้านคนไหนกล้าไปยุ่งด้วย ชาติ พยัคฆ์ พยายามเข้าไปสืบ แต่มีการวางกำลังคนแน่นหนามาก ชาติสงสัยว่านี่คงเป็นฐานลับที่ผลิตอาวุธชีวภาพ และเขายังได้เจอกับศัตรูเก่าอย่างอาจารย์เหิม ที่ร่วมมือกับพ่อเลี้ยงสรรชัย ชาติพยัคฆ์คมนักเลง รุ้งรวีเริ่มเห็นเงาของผู้หญิงตามเธอไปหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นยามฝันหรือตอนตื่น ชาติ พยัคฆ์ ได้แต่แปลกใจ และยิ่งตกใจเมื่อรู้ว่าผู้หญิงที่รุ้งรวีเห็นมีหลายอย่างที่คล้ายอุษา ด้านชาติ พยัคฆ์ ก็ฝันถึงอุษาบ่อยครั้ง จนเขานึกสงสัยว่ามีบางอย่างผิดปกติ และเขานึกไม่ถึงเมื่อได้พบวิญญาณอุษาที่อาจารย์เหิมส่งมาหลอกล่อ ชาติ พยัคฆ์ พยายามจะส่งเธอไปเพื่อเกิดใหม่ แต่วิญญาณอุษากลับหนีการช่วยเหลือ อาจารย์เหิมกลับมาต่อสู้กับชาติพยัคฆ์อีกครั้งเพื่อชิงความเป็นหนึ่ง ชาติ พยัคฆ์ จะสามารถปลดปล่อยวิญญาณอุษาให้เป็นอิสระได้หรือไม่ ภารกิจกำจัดมาเฟียและอาวุธชีวภาพครั้งนี้ ชาติ พยัคฆ์ และ คม นักเลง จะทำสำเร็จหรือไม่ มาร่วมลุ้นและติดตามชมกันต่อได้ในละคร ชาติพยัคฆ์คมนักเลง

พยัคฆ์ยี่เก (2565)

เรื่องย่อ : พยัคฆ์ยี่เก (2565/2022) เรื่องราวของศิลปินกลุ่มเล็ก ๆ ซึ่งยึดการแสดงลิเกเป็นอาชีพ แม้ความนิยมของคนดูจะลดน้อยถอยลง แต่พวกเขายังคงต่อสู้ ดิ้นรน เพื่อความอยู่รอดของคณะ แต่เมื่อคณะลิเกเข้าไปพัวพันกับการปล้นเพชรครั้งยิ่งใหญ่โดยไม่ตั้งใจ จึงนำเรื่องวุ่นวายและความตายมาสู่คนในคณะลิเก บุญเอก อัมรินทร์ (วิชญพงศ์ เอี่ยมสะอาด) หัวหน้าคณะลิเกพระเอกเสียงมนต์เสก บุญเอกได้นำเอาวิทยาการสมัยใหม่ รวมทั้งเพลงลูกทุ่งที่กำลังอยู่ในความนิยม เข้ามาผสมผสานในการแสดงบนเวที เพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจให้คนดู โดยมี อินทิรา อัมรินทร์ (ธนัชศลักษณ์ ฮัดสัน) น้องสาววัยใสของบุญเอก ซึ่งที่มีทั้งความสวยและความน่ารักเป็นนางเอกประจำ คณะลิเกไฮเทคของบุญเอกไปแสดงที่ไหนมักจะมีบรรดาแม่ยกแห่ตามกันมาดูขวัญใจของตน โดยเฉพาะ นวล (บัวผัน ทังโส) ภรรยาของ กำนันเทิด (เอกพัน บันลือฤทธิ์) ผู้มีอิทธิพล ถึงแม้กำนันเทิดจะไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเกรงใจ และกลัวเมีย จึงส่ง ทำนุ (สุทธิ์คุณ วันทานุ) ลูกชายวัยรุ่น ที่กำลังสร้างอิทธิพลแข่งกับพ่อตามไปก่อกวน แต่ทำนุกลับมาถูกใจอินทิราจนไม่กล้าป่วน แถม ทับทิม (มาริสา โชลล์) น้องสาวคนสวยของทำนุ กลับไปหลงใหลบุญเอกแข่งกับแม่ กำนันเทิดจึงชอกช้ำเป็นทวีคูณ บุญเอกยังมีลิเกคู่แข่งอีกคณะหนึ่งคือ อนุชิต ศิษย์สำราญ (ชลพิพรรธน์ ชูแสง) โดยมี น้ำอ้อย (จิตรเลขา พูลสวัสดิ์) ซึ่งสวยไม่น้อยหน้าใครเป็นนางเอก ทั้งสองคณะไม่มีใครยอมใคร ไปตั้งเวทีประชันกันที่ไหน เป็นต้องงัดไม้ตายออกมาสู้กัน แม้บางครั้งคณะอนุชิตจะมีแผนการร้าย ๆ แต่ก็ทำอะไรลิเกไฮเทคของบุญเอกที่ร้องเพราะกว่า รำสวยกว่าไม่ได้ และเป็นเรื่องธรรมชาติของคนขี้แพ้ชวนตี จึงทำให้ลิเกสองคณะยกพวกเข้าห้ำหั่นกันบ่อยครั้ง พยัคฆ์ยี่เก มีการจัดแสดงเพชรระดับโลกขึ้นที่กรุงเทพฯ หลายประเทศได้ส่งเพชรชั้นสุดยอดเข้ามาร่วมงานด้วย เดวิด (ชานนท์ จันทสะโร) นักธุรกิจจากต่างชาติผู้จัดงาน ได้วางแผนโจรกรรมเพชรที่ตัวเองจัดแสดงอย่างแยบยล แต่ เชิด (โอภาภูมิ ชิตาพัณณ์) เป็นตัวการปล้นซ้อนแผนของเดวิด โดยมี ดารา (ชมพูนุท พึ่งผล) เป็นคนวางแผน เมื่อปล้นได้ เชิดนัด รองมงคล (จิรายุ อึ้งวานิช) หลังโรงลิเกเพื่อขายเพชร ในขณะที่ลิเกกำลังเล่น เชิดเอาเพชรไปซ่อนไว้ที่รถบัสของคณะลิเกบุญเอก จุดเริ่มต้นของเรื่องร้าย ๆ จึงเกิดขึ้น เพราะบุญเอกเจอเพชรที่ซ่อนอยู่ในรถ ด้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่ง ร.ต.อ. เดชา (วงศธร สมศรี) และ ร.ต.ท.หญิง บังอร (ญาณิศา ธีราธร) มือปราบฝีมือดีแห่งยุค ติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด โดยเดชาตัดสินใจแฝงตัวเข้าไปอยู่ในคณะลิเกของบุญเอก เพื่อตามสืบความจริงของคดีเพชรที่หายไปในครั้งนี้ ความชุลมุน ชวนลุ้นระทึกไปกับการตามหาเพชรที่หายไป รวมถึงเรื่องหัวใจของหัวหน้าคณะลิเกหนุ่มสุดหล่อ ที่หวั่นไหวไปกับคุณตำรวจสาวคนสวยจะเป็นอย่างไร ติดตามความสนุกและลุ้นไปกับความเข้มข้นของละคร พยัคฆ์ยี่เก

 
เผาขน 2564

เรื่องย่อ : เผาขน (2564/2021) อำพล (หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล) นายหน้าค้ายาที่กำลังมองหาทางที่จะเข้าไปซื้อยาในแก๊งยาเสพติด ซึ่งมีอยู่สองแก๊งใหญ่ ๆ คือแก๊งของ โกเมศ (สุรวุฑ ไหมกัน) และ สันติ (เอกพัน บรรลือฤทธิ์) ที่พยายามแข่งกันเป็นใหญ่ในวงการนี้ อำพลรู้ว่า มาญ่า (อรณัชชา แสนสุวรรณ) อยู่ในเหตุการณ์ที่โกเมศยิงซื่อหยางราชายาเสพติดตาย แต่มาญ่ามีอาการทางประสาทเกิดจากการหวาดกลัวที่ถูกตามล่า อำพลช่วยมาญ่าไว้ เพราะรู้ว่ามาญ่าเป็นพยานคนสำคัญ ที่สามารถเอาผิดโกเมศได้ถ้าเธอหายดี วันที่อำพลพามาญ่าไปโรงพยาบาล เขาได้พบกับ อลิส (ณัฐฌา บุญปอง) อดีตตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษมือดีที่ลาออกมาดูแลอนันต์พ่อของเธอที่ป่วยเป็นโรคทางสมอง ทั้งคู่มีปากเสียงกันเพราะอลิสจอดรถขวางทางรถของอำพลไว้ จริง ๆ แล้วนอกจากการดูแลพ่อแล้ว อลิสยังใช้เวลาว่าง เป็นผู้ช่วย จีรเดช (อิทธิกร สาธุธรรม) ญาติผู้พี่เป็นทนายมือดีของนายโกเมศ ที่ว่าความหลุดทุกคดี การเข้าไปช่วยเหลือจีรเดช ของอลิสทำให้เธอได้เจอกับอำพล ผู้ชายที่เธอไม่ถูกชะตาบ่อย ๆ จนทั้งคู่กลายมาเป็นคู่กัด ปะทะฝีปากทุกครั้งที่พบหน้า โรมรัน (ชนะพล สัตยา) นายตำรวจตงฉินฝีมือดีได้รับมอบหมายให้มาทำคดีแก๊งยาเสพติดของโกเมศ และสันติ ภายใต้การบังคับบัญชาของ รองศิวะ (จิรายุ อึ้งวานิช) ซึ่ง โรมรันก็ไม่เคยทำให้ทางหน่วยผิดหวัง แต่ความลับจากหน่วยมักจะรั่วไหลไปถึงหูนายโกเมศ ทั้งเรื่องแผนการจับกุม หลักฐานที่ทางตำรวจมีเกี่ยวกับคดีโกเมศที่หายไป ฯลฯ ซึ่งโรมรันกำลังหาหนอนบ่อนไส้ตัวนี้ ความตั้งใจในการทำงานของโรมรัน ทำให้ หมวดมุทิตา (ญาณิศา ธีราธร) เพื่อนร่วมงานรู้สึกประทับใจในตัวโรมรันมาก ด้วยความบังเอิญที่อนันต์พ่อของอลิสที่ป่วยด้วยโรคทางสมองมีใบหน้าที่คล้ายนายสันติ นายสันติจึงให้ หมอผดุงศักดิ์ (ดร.ปิยะวัชร์ จุลจักวงค์ษา) วางแผนเปลี่ยนตัว โดยสันติศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าเล็กน้อย ให้หน้าเหมือนกับอนันต์ แล้วสังหารอนันต์พร้อมแฝงตัวไปอยู่ในบ้านกับอลิส และตัวสันติเองสร้างสถานการณ์ปลอมขึ้นมาว่าเขาถูกระเบิดรถไหม้เสียชีวิตคารถ พร้อมทั้งฆ่าปิดปากหมอผดุงศักดิ์เพื่อไม่ให้ความลับรั่วไหลด้วย สันติใช้เวลาที่อยู่ในบ้านของอลิสสั่งงานผ่าน สุรสีห์ (พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์ ) ลูกน้องคนสนิทให้ขยายฐานการจำหน่ายยาเสพติดเข้าไปในเขตของโกเมศ และขายยาเสพติดชนิดใหม่ที่ชื่อ “บลูฮาวาย” ซึ่งเป็นที่นิยมของตลาดมากขึ้น ด้านโรมรัน หลังจากจากเขาสืบทราบมาว่าเวลานี้ อำพล คือนายหน้าค้ายาเสพติดที่กำลังมาแรงเขาปักธงเริ่มออกล่าอำพลอย่างจริงจัง การหักเหลี่ยมเฉือนคม ในระยะเผาขนกำลังจะเริ่มต้นขึ้นนับจากนี้

ทะเลเดือด 2564

เรื่องย่อ : ทะเลเดือด (2564/2021) เหรียญทองโบราณครึ่งซีก ที่จะนำไปสู่ขุมทรัพย์มหาศาล และอันตรายที่เกินจะคาดคิด !! เพราะเหรียญทองเหรียญเดียว ทำให้ แดเนียล อดีตหน่วยซีล ต้องจบชีวิตลง แต่ก่อนตายเขาเขียนบางอย่างเป็นสัญลักษณ์ลงบนเหรียญ ก่อนผ่ามันออกเป็นสองส่วน คนร้ายได้เหรียญไปซีกหนึ่ง ส่วนอีกซีกหนึ่งจมหายไปใต้ทะเล ยังไม่มีใครพบ 7 ปีต่อมา (ปัจจุบัน) ท่าเรือสินค้าแห่งหนึ่งทางภาคใต้มีปฏิบัติการจู่โจมเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ จากเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ หน่วยซีล ที่นำทีมโดย ลุย แดเนียล (หลุยส์ เฮส) เรือลำนี้ถูกระบุว่ามีการซุกซ่อนยาเสพติดและของผิดกฎหมาย ลุยวางแผนการเพื่อจู่โจมอย่างดี แต่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน เพราะกลุ่มคนร้ายเหมือนรู้ตัวก่อนแล้ว และนั่นทำให้ทีมปฏิบัติการของลุยถูกโจมตี ลุยเสียใจและคิดว่ามันคือความผิดพลาดของเขาทั้งหมด เขาถูกตั้งกรรมการสอบสวน และถูกตัดสินว่ามีความผิด ส่งผลให้ลุยถูกพักราชการอย่างไม่มีกำหนด เขาตัดสินใจกลับมาบ้านหาแม่ ระหว่างทางลุยมาเจอเหตุการณ์รถหรูโดนถล่ม คนในรถถูกยิงบาดเจ็บสาหัส ลุยจึงบุกเข้าไปช่วยยิงพวกมือปืน แต่ก็พบว่าคนในรถที่กำลังจะตายคือ เสี่ยจั่ว เขายื่นเหรียญทองโบราณครึ่งซีกให้ลุย !! และบอกให้ลุยส่งต่อให้ลูกชายเขาที่อยู่ต่างประเทศ ลุยให้สัญญาก่อนเสี่ยจั่วจะสิ้นใจ ในขณะเดียวกัน ที่ปราสาทโบราณในป่าเขตชายแดนทางภาคเหนือ นิตยา (อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) เจ้าหน้าที่กรมศิลป์ผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบวัตถุโบราณ ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ ถูกนายตำรวจระดับสูง ผู้การพิชิต เสนองานบางอย่างให้ทำ นั่นคือสืบหาข้อมูลของเหรียญทองโบราณที่มีคนเอามาขายที่ร้านขายของเก่า ซึ่งมันคือเหรียญชนิดเดียวกับเหรียญทองในหีบสมบัติโบราณที่ถูกโจรกรรมมาจากพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่ง และสูญหายไปที่ฝั่งทะเลตะวันออกเมื่อ 7 ปีก่อน และไม่มีใครเจออีกเลย ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นความลับขั้นสูงสุดจะบอกใครไม่ได้ นิตยารับปาก เธอเดินทางกลับมาบ้านทะเลที่ชลบุรี นิตยาได้เจอ ไขแสง (พัชญา เพียรเสมอ) และไข่มุก (เมธาวี ธีรลีกุล) เพื่อนที่โตมาด้วยกัน ทุกคนช่วยกันดูแล เรไร แม่ของ ลม (รัฐธีร์ วรโรจน์โยธิน) และลุย แม่ของเพื่อนพวกเธอ นั่นเอง ในส่วนของเรื่องงานนั้น ลุยกับนิตยาดูเหมือนจะเข้าไปเกี่ยวพันกับเหรียญทองโบราณโดยไม่รู้ตัว ส่วนเรื่องของหัวใจก็วุ่นวายไม่แพ้กัน โดยเฉพาะความรักสี่เส้าของลุย ลม นิตยา และไขแสง เมื่อลุยกับนิตยาแอบรักกันแต่ไม่กล้าบอก ส่วนลมรักไขแสง แต่ไขแสงกลับมีใจให้ลุย เรื่องราวความรักจะจบลงอย่างไร เรื่องเหรียญทองโบราณและสมบัติมหาศาล ใครจะได้ครอบครอง !?! ติดตามลุ้นเรื่องราวเหล่านี้กันต่อได้ในละคร ทะเลเดือด ที่ออกอากาศทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35 ละคร ทะเลเดือด เริ่มตอนแรกวันเสาร์ที่ 3 เมษายน 2564

คนเหนือฅน (2563)

เรื่องย่อ : คนเหนือฅน (2563/2020) วันอันแสนสุขของครอบครัว “พ.ต.ท. องอาจ” (สุรวุฑ ไหมกัน) เริ่มขึ้นด้วยการมาพักผ่อนที่บ้านกลางป่าใหญ่ริมลำธารแถบตะเข็บชายแดน วิภา เมียแสนรักกำลังสาละวนอยู่กับการเลี้ยงลูกน้อย เจ้ากลาง วัย 2 ขวบกับ เจ้าเล็ก วัย 1 ขวบ ส่วนเจ้า คม วัย 9 ปี กำลังเพลิดเพลินอยู่กับการตกปลาที่ลำธาร แต่เวลาแห่งความสุขนั้นมันช่างสั้นเสียเหลือเกิน ชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งพร้อมอาวุธครบมือบุกเข้ามาสังหารครอบครัวของเขา คมพาเจ้ากลางน้องชายวิ่งหนีไปตามคำสั่งพ่อ ส่วนวิภาก็คว้าตัวเจ้าเล็ก อุ้มแนบอกแล้วหนีไปแต่วิภาไปได้ไม่ไกลก็ถูกสังหาร ลูกน้อยอายุ 1 ขวบถูกวิภาล้มทับเอาไว้ เด็กสลบไปผู้สังหารคิดว่าตายทั้งคู่ เด็กน้อยรอดตายคมลูกชายคนโต อุ้มเจ้ากลาง น้องชายกระเตงวิ่งหนีมาซ่อน แต่ก็ถูกตามล่าจากชายฉกรรจ์หลายคน เมื่อจวนตัวที่เจ้าคมกับน้องชายจะถูกจับได้ เขาจึงตัดสินใจบอกให้น้องแอบอยู่ในพงไม้เงียบๆ แล้วฉีกรูปถ่ายของเขากับเจ้ากลางที่ถ่ายไว้ก่อนหน้า 1 เดือน ส่วนที่เป็นรูปคมคมให้เจ้ากลางเก็บไว้โดยเขายัดใส่กระเป๋าน้องชายส่วนที่เป็นรูปเจ้ากลาง คมเก็บเอาไว้เผื่อวันหลังอาจได้พบกันจะได้มีรูปยืนยันแล้วคมก็ตัดสินใจวิ่งล่อกลุ่มชายฉกรรจ์พวกนั่นไปทางอื่น กลุ่มชายพวกนั้น วิ่งตามเขาไป มีเสียงปืนดังขึ้นสองสามนัดไม่รู้ว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นกับเด็กทั้ง 3 คน 10 กว่าปีผ่านไป…ยาเสพติดของกลางมูลค่ามหาศาลถูกปล้นหายไป ทางการจึงต้องส่งมือปราบลงพื้นที่ผู้ที่ทำภารกิจนี้ได้ มีเพียงคนเดียวเท่านั้นและเค้าคือ “ร.ต.อ. เมฆา สุวรรณวงศ์” (ยศวรรธน์ ทะวาปี) เขาได้ปลอมตัวเป็นพ่อค้าขายอุปกรณ์เกษตร ในนามเมฆา พารวย มาพบกับ “ร.ต.ท.หญิง เนตรดาว นิพัฒน์พงศ์” (ปภาดา กลิ่นสุมาลย์) ตำรวจสาวทอมบอยที่บางดงเสือและร่วมมือกันสืบหาของกลางที่หายไปด้วยการร่วมมือกันทำคดีของตำรวจ โดยมี “คิมหันต์” (ไพศาล ขุนหนู) นักข่าวฝีมือดีและคุณครู “แสงฉาย” (กมลรัตน์ ทานนท์) เป็นตัวช่วยทำให้เรื่องทุกอย่างคลี่คลาย ขณะที่หมวดเนตรดาวยังคงสงสัย ในตัวผู้กองเมฆาตลอดเวลาว่าเขาเป็นใครกันแน่ ในขณะที่ “คม ชาติเสือไทย” (เอก รังสิโรจน์) ต้องเข้าไปอยู่กับกลุ่มผู้มีอิทธิพล โดยเป้าหมายมีเพียงหนึ่งเดียวคือตามหาน้องชายร่วมสายเลือดของเขาและมีชีวิตอยู่เพื่อปกป้องน้องชายร่วมสายเลือดทั้ง 2 คน แม้จะต้องแลกมาด้วยชีวิต เพียงเพื่อให้น้องมีชีวิตรอด ปลอดภัย แต่เจ้ากรรมหัวใจดันไปตกหลุมรัก “พราวฟ้า” (ฉัตรดาว สิทธิผล ) ลูกสาวของ “เสี่ยเรืองเดช” (เอกพัน บรรลือฤทธิ์) ผู้มีอิทธิพลซึ่งยังมี “สิงขร” (วัชรบูล ลี้สุวรรณ) อีกหนึ่งตัวการสำคัญที่คอยขัดขวาง คมในทุกเรื่อง ปฎิบัติการตามล่าหาฆาตรกรตัวจริง ผู้สังหารพ.ต.ท. องอาจ พ่อของ 3 พี่น้อง ฆาตกรตัวจริงก็ถูกเปิดเผยตัวอย่างพลิกความคาดหมาย เกิดโศกนาฏกรรมและสูญเสียชีวิต โดยมีเรื่องราวของยาเสพติดล็อตใหญ่เป็นเดิมพัน ใครคือฆาตกรตัวจริง ติดตามหาคำตอบได้ใน ละคร “คนเหนือฅน” พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น.

เรื่องย่อ : ตะกรุดโทน (2562/2019) เมื่ออานุภาพของตะกรุดโทน และเหล็กไหล รวมไปถึงทองคำเถื่อน นำมาซึ่งความโลภและการตามล่าเพื่อครอบครอง ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เช่นเขา จึงต้องร่วมมือกับอดีตนักโทษหนุ่มเพื่อกำจัดเหล่าร้าย โดยมีชีวิตและหัวใจเป็นเดิมพัน กรุงเทพฯ พ.ศ.2505 มีการขนย้ายนักโทษจากเรือนจำที่กรุงเทพ ไปยังเรือนจำที่นครราชสีมาซึ่งเป็นเรือนจำที่มีความปลอดภัยสูงสุด มีนักโทษคดีอุกฉกรรจ์ถูกขนย้ายไปหลายคน “มะฮาแว มะเก็ง” (ไพศาล ขุนหนู), “จอมโจรอุสมาน” (วีรยุทธิ์ นานช้า), และ “ไข่นุ้ย” (อธิบดี พันตาวงษ์) เป็นกลุ่มนักโทษปล้นฆ่าพื้นเพมาจากพัทลุง “สยุมภู” (หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล) นักโทษฆ่าเจ้าหน้าที่รัฐหลายคดี และยังมี “แทน ปากน้ำโพ” (ธนากร ศรีบรรจง) นักโทษคดีลักเล็กขโมยน้อยที่ฝากไปขึ้นศาลที่นคราชสีมากับเที่ยวนี้ด้วย แต่เมื่อขบวนรถขนนักโทษมาถึงดงพญาไฟ มีกลุ่มชายฉกรรจ์ปิดบังใบหน้าเข้ามาโจมตี เพื่อชิงตัวมะฮาแว จอมโจรอุสมาน และไข่นุ้ย เกิดการจลาจลและยิงต่อสู้กัน สยุมภูแสดงตัวว่าเป็นตำรวจ เขาปลอมเป็นนักโทษปะปนเข้ามาเพื่อรักษาความปลอดภัย เขาตามล่ามะฮาแว แล้วลั่นกระสุนใส่มะฮาแว ปรากฏว่ามะฮาแวหนังเหนียว เขาอาบน้ำว่านเป็นไสยเวทย์ สายพัทลุง และอย่างทันที มะฮาแวยิงเข้าใส่สยุมภู กระสุนทะลุอกตกลงไปในหุบเหว แทนใช้จังหวะชุลมุนหนีเข้าป่าไปได้ เขตป่าดงพญาไฟเป็นป่าที่รกทึบ มีอันตรายทั้งจากสัตว์ร้ายและไข้ป่า ยากที่ใครจะดำรงชีวิตอยู่ได้ นอกจาก “เสือสัก” (บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์) และกลุ่มโจรในชุมเสือ อันได้แก่ “เสือฝ้าย” (ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง) ผู้คงกระพันจากเขี้ยวเสือ และหนังหน้าผากเสือ “เสือเคียว” (ฉัตรมงคล บำเพ็ญ) และ “เสือแคน” (จรัญ งามดี) หลังจากเกิดเหตุแหกคุกหนึ่งวัน “เนตรทราย” (ปภาดา กลิ่นสุมาลย์) ลูกสาวของเสือสัก ไปพบสยุมภูนอนบาดเจ็บสาหัสอยู่ จึงช่วยนำตัวมารักษา โดยมี “บุญรอด” (อรรครัฐ ฉั่วศิริสุขสกุล), “มะไฟ” (ญาณิศา คำเนียม) และ “ตาชื้น” (วัชรชัย สุนทรศิริ) ดูแล เสือสักยอมให้สยุมภูอยู่ที่ชุมเสือเพราะคิดว่าสยุมภูเป็นนักโทษแหกคุก “ผู้การประเสริฐ” (ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) “หมวดสยุมภู” และ “หมวดประชา” (สุริยะ แกล้วทนงค์) รีบเดินทางมาตั้งหน่วยเฉพาะกิจไล่ล่าพวกมะฮาแว นอกจากนี้ยังไล่ล่าเสือสักด้วย เสือสักเป็นโจรที่ทางการตามล่ามาเกือบ 20 ปี แต่ยังจับไม่ได้ เพราะจริง ๆ แล้วเสือสักเป็นคนดีปล้นคนรวยช่วยคนจนปราบคนโกง ชาวบ้านถึงรักใคร่กันทุกคน ครั้งนี้ “นวลพรรณ” (กมลรัตน์ ทานนท์) ลูกสาวของผู้การประเสริฐ และ “นวลผ่อง” (น้ำทิพย์ เสียมทอง) ภรรยาเดินทางมาเที่ยวพักผ่อนด้วย โดยมี “เบญจรงค์” (อิทธิกร สาธุธรรม) ลูกชายของ “นายตัน” (สุรวุฑ ไหมกัน) นายธนาคารใหญ่ซึ่งรักใคร่ชอบพอกับนวลพรรณ กับนายตัน และลูกน้อง คือ “สำอาง” (สุทธิ์คุณ วันทานุ) ผู้ที่คงกระพันด้วยยันต์มหาอุตม์ และ “อาจารย์ไพรวัลย์” (วินัย ไกรบุตร) จอมขมังเวทย์ที่สะสมเดียรัจฉานวิชาไว้เต็มร่างกาย จุดประสงค์คือต้องการล่าเอาเหล็กไหลและตะกรุดโทน มาไว้ในครอบครองเพื่อความคงกระพัน แทนหนีมาตามป่าเจอกับพระธุดงค์ และ “กร กระบือบิน” (วัชรบูล ลี้สุวรรณ) เขาเกือบเอาชีวิตไม่รอดจากไข้ป่า และช่วยชีวิตพระธุดงค์ไว้ พระธุดงค์จึงมอบมีดเทพศาสตราและงากำจัด ให้ทำให้แทนเป็นคนคงกระพัน และมีมีดศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถทะลวงฟันเรียกเลือดจากคนที่คงกระพันหนังเหนียวได้ แทนมาทำงานกับ “ซุนเซ็ง” (ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) ซึ่งป็นบริษัทรับขนส่งสินค้า แล้วได้พบกับ “หมวยลี่” (รัญดภา มันตะลัมพะ) ลูกสาวของซุนเซ็ง หมวยลี่ชอบแทนและพยายามจีบแทน แต่แทนทำเป็นหยิ่ง ซึ่งในที่สุดทั้งคู่ก็รักกัน สยุมภูอยู่ในชุมเสือสักในฐานะนักโทษแหกคุก ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นตำรวจ และที่เองเขาได้พบตะกรุดโทน ศรีสุทโธโสฬส ที่ว่ากันว่าเป็นของขลังที่มีอาคมสูงสุด สยุมภูจึงคงกระพันขึ้นมา มะฮาแว, จอมโจรอุสมาน และไข่นุ้ย หนีมากบดานกับ “สิน สมานจิตร” (พิภัชพงศ์ มากลั่น) เพื่อนนักโทษด้วยกันที่แก่งคอย จริง ๆ แล้วเขากับพวกถูกนายตันใส่ร้าย ในวันที่นายตันจ้างพวกเขามารับขนของที่เป็นทองเถื่อนลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน นายตันสั่งให้ผู้การประเสริฐกับตำรวจล้อมจับ แต่หลังจากจับกุมได้ ทองครึ่งหนึ่งหายไป นายตันคิดว่ามะฮาแวไปซ่อน จึงพยายามจับกุมตัวมาคาดคั้นเอาความจริงเพื่อตามหาทองชุดนั้นคืน ความรักระหว่างสยุมภูกับเนตรทรายเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในชุมเสือ แต่ในที่สุดสยุมภูก็ต้องทำตามหน้าที่ โดยเป็นสายให้ผู้การประเสริฐกับ “สารวัตรดำเกิง” (สันติราษฎร์ กุลนพเกียรติ) นำกำลังตำรวจมาบุกชุมเสือ นอกจากนี้ เสือฝ้าย, เสือเคียว และเสือแคน ก็แปรพักตร์มาอยุ่กับนายตันเพื่อผลประโยชน์หลายอย่างรวมทั้งส่วนแบ่งจากทองเถื่อนที่ค้นหาได้ด้วย เมื่อเสือสักถูกจับ ความรักของเนตรทรายที่มีให้สยุมภูจึงกลายเป็นความแค้น เนตรทรายรวบรวมผู้คนในชุมเสือไล่ล่าสยุมภูและช่วยเสือสัก, แทน, กร, ซุนเซ็ง และหมวยลี่ กลายเป็นผู้ต้องหาคดีปล้นรถขนเงินของธนาคารนายตัน เพราะถูกซ้อนแผนปล้นโดยที่ไม่รู้เรื่อง มะฮาแว, จอมโจรอุสมาน และไข่นุ้ย ตัดสินใจเดินสู้ทวงความเป็นธรรมคืน สยุมภูช่วยเสือสักจากการถูกสังหารได้ และนำเหล็กไหลที่นายตันเอาไปคืนมาได้ ทั้งหมดมารวมตัวกันเพื่อทำสงครามมหากาพ์แห่งคงกระพัน นายตัน, อาจารย์ไพรวัลย์, สำอาง, “ชัย กริชเงิน” (ธนายง ว่องตระกูล), เบญจรงค์ และเสือฝ้าย ผู้คงกระพันสายอำมหิตฝ่ายอธรรม บุกเข้าโรมรันต้อสู้กับพวกเสือสัก จนในที่สุดความจริงก็เปิดเผย นายตันเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการหักเหลี่ยมปล้นทองในคราวนั้น ผู้การประเสริฐจำใจต้องเป็นพวกนายตันเพราะถูกนายตันแบล็คเมล์ การต่อสู้ในสงครามคงกระพันเริ่มต้นขึ้น ของขลัง เครื่องราง ความเชื่อ ความศรัทธา ความกล้าบ้าบิ่น โหมเข้าใส่กันอย่างบ้าคลั่ง ฟ้าทะลาย ดินกระจาย และในที่สุดธรรมะก็ชนะอธรรม ความดีฆ่าไม่ตาย ความดีคือความคงกระพัน แม้ร่างกายสลาย ความดีก็ยังยืนหยัดอยู่ เฉกเช่นตะกรุดโทน มะฮาแวกับพวกพิสูจน์ความจริงได้และกลับมาบริสุทธิ์อีกครั้ง เขาพบกรักแท้กับนวลพรรณ แทนได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม เขาไม่มีความผิดเพราะเขาเป็นแพะในคดีนี้ แทนกลับไปอยู่ปากน้ำโพกับหมวยลี่ เปิดบริษัทรับขนส่งสินค้า ทั้งทางน้ำและทางบก สยุมภูได้กลับเข้ารับราชการอีกครั้งหลังจากที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกเสือสัก เสือสักพ้นมลทิน และยกเนตรทรายให้สยุมภูดูแล ตัวเองออกบวชและธุดงค์ไปทั่วเขตแดนอีสาน

จ้าวสมิง

เรื่องย่อ : จ้าวสมิง (2561/2018) ย้อนอดีตชาติไปเมื่อ 25 ปีก่อน เม้ยเจิง (อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) ลูกสาวคนเดียวของ จอปา (ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) เป็นนางรำคนสวยประจำหมู่บ้านเมืองเย ติดชายแดนไทยด้านสังขละบุรี แต่เม้ยเจิงต้องมาเสียชีวิตก่อนวัยอันควร พร้อมกับ อองที (หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล) หนุ่มคนรัก ด้วยพิษรักที่ไม่สมหวังของ อูซาน (พูลภัทร อัตถปัญญาพล) ลูกชายที่ไม่ค่อยสู้คนของ อากาพะโย (ชาติชาย งามสรรพ์) จอมขมังเวทย์ประจำหมู่บ้าน แต่เมื่ออูซานได้ขโมยเอาน้ำมันพรายเสือสมิงของอากาพะโยมาชุบร่างกาย จึงทำให้เขากลายเป็นหนุ่มอมตะที่มีพลังมาก เพราะถูกวิญญาณเสือสมิงเข้าสิง อูซานจึงสามารถฆ่า ตะละเกล็บ (อติรุจ สิงหอำพล) นักเลงประจำหมู่บ้านที่ชอบรังแกเขาและยังหลงรักเม้ยเจิงเช่นกัน ในภพชาติปัจจุบัน เม้ยเจิงมาเกิดใหม่ชื่อ พิมพ์สาย เป็นลูกสาวของ สวัสดิ์ (เอกพัน บรรลือฤทธิ์) เสี่ยทำปางไม้ โดยมี ยองตะมุ (เอก รังสิโรจน์) เป็นลูกน้องคนสนิท ยองตะมุมีลูกชายกับ ถวิล (ณัทธมนกาญจน์ ศรีนิกรโชติ) ชื่อ ตะวัน ซึ่งคืออองทีที่กลับชาติมาเกิดใหม่ ตะละเกล็บมาเกิดใหม่ชื่ออรรถ เป็นปลัดหนุ่มลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ ส.ส.อาคม (สุเชาว์ พงษ์วิไล) ที่ทำปางไม้ร่วมกับเสี่ยสวัสดิ์ แต่มีเบื้องหลังแอบแฝงด้วยการขายยาเสพติด อรรถกับพิมพ์สายจึงเป็นว่าที่คู่หมั้นของกันและกัน ด้วยความเห็นดีเห็นงามของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ตอนวัยเด็กตะวันได้เข้าช่วยเหลือพิมพ์สายจากการที่จะถูกเสือสมิงกัด จึงทำให้ตะวันรับเคราะห์แทนและถูกวิญญาณเสือสมิงเข้าสิง ยองตะมุจึงจำเป็นต้องพาครอบครัวย้ายไปอยู่ที่หมู่บ้านอื่น เพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าตะวันเป็นเสือ และออกตามล่าเอาหัวใจเสือสมิงมาให้ตะวันกินล้างอาถรรพ์ เพราะแต่ละคนมีกรรมร่วมกันมาก่อน จึงทำให้มีโอกาสมาเจอกันอีกครั้ง และเรื่องราวที่ร้ายแรงในอดีตชาติก็ได้หวนกลับมา เพราะพิมพ์สายมีใจให้กับตะวัน จึงทำให้อรรถไม่พอใจและเร่งรัดการแต่งงานกับพิมพ์สายให้เร็วขึ้น ส่วนอูซานยังมีชีวิตที่เป็นอมตะ เมื่อได้เจอพิมพ์สายจึงดีใจ และคิดที่จะเอาเธอมาเป็นคนรักของตัวเองให้ได้ ตะวันคิดว่าตัวเองไม่มีทางที่จะกลับมาเป็นคนปกติได้อีก จึงยอมสร้างเรื่องว่าชอบพอกับ ซาเง (ซาน่า สิมิลัน) เพื่อให้พิมพ์สายเข้าใจผิดและไปแต่งงานกับอรรถ จึงทำให้ ร.ต.อ. กำพล (ไพศาล ขุนหนู) คนรักของซาเง เกิดความเข้าใจผิดกันไปด้วย ในขณะที่เรื่องราวจะลงเอยด้วยดี โดยที่ทุกคนคิดว่าตะวันไม่ต้องเป็นเสือสมิงไปตลอดชีวิต เพราะมีผ้ายันต์ศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อช่วยได้อีกทางหนึ่ง แต่ เสือคล้อย (ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง) และ เสือแคล้ว (สุทธิ์คุณ วันทานุ) ลูกชาย ได้พากันมาปล้นเอาผ้ายันต์ที่ป้องกันการเป็นเสือสมิงไปได้อีก ชีวิตของตะวันจะกลับมาเป็นคนปกติได้อีกต่อไปหรือไม่ ? ความแค้นในอดีตที่อูซานเข้าใจผิดอองทีจะจบลงอย่างไร ? เพราะเขาใช้อองทีเป็นพ่อสื่อกับเม้ยเจิง !! ความรักระหว่าง ร.ต.อ. กำพล และ ซาเง จะกลับมาเหมือนเดิมหรือไม่ ? ติดตามหาคำตอบกันได้ในละครแอ็คชั่น แฟนตาซี ลี้ลับ เรื่อง จ้าวสมิง ที่ออกอากาศทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางช่อง 7 ละคร จ้าวสมิง เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม 2561

ชาติลำชี (2561)

เรื่องย่อ : ชาติลำชี (2561/2018) “ชาติ ลำชี” (หลุยส์ เฮส) กับ “ป๋อง” (ธีรภัทร์ สุวรรณดี) สองเพื่อนซี้มาดกวนแต่เท่ห์ เป็นทหารเฉพาะกิจ กับภารกิจที่ต้องแฝงตัวมาเป็นหมอนวดพเนจร ป๋องได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับ “เต็งกี่” (ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) ที่โรงพยาบาล ทำให้ชาติได้รู้จักกับ “แพทย์หญิง สาลินี” (อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) แพทย์สาวคนสวย ที่กำลังเศร้าเสียใจ เมื่อ “หมอเอกพงษ์” (ภูริวัชร์ ธีระชาติ) คนรักของเขาจะแต่งงาน สาลินีเจ็บปวด จำต้องหนีทุกอย่างไปเป็นหมออาสา โดยที่สาลินีไม่รู้ตัวเลยว่า เป็นทีมจัดตั้งของ “พันเอก นภา” (ฐปนัท สัตยานุรักษ์) เพื่อสืบหาแหล่งที่ตั้งของพวกไตรพยัคฆ์ พวกมันคือแก๊งค์ค้ายาเสพติดที่ลึกลับที่สุด มีนายใหญ่ ซึ่งไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นใคร มีลูกน้องตัวร้ายคือเต็งกี่, “เจิด” (เบคิม ฤทธิ์), “เจ๊หมา” (ณัทธมนกาญจน์ ศรีนิกรโชติ), และ “จ่าเทพ” (วินรวีร์ ใหญ่เสมอ) พื้นที่อิทธิพลอยู่ที่อำเภอหนึ่งในอุบลราชธานี ที่ๆคนตงฉินอย่าง “กำนันบุญ” (เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์) ถูกลวงไปฆ่าและส่งคนมาสวมรอย คือ “เสือโบก” ถึงจะเป็นคู่แฝด แต่จิตใจต่ำช้าเลวทราม หน้าที่คอยเป็นหูเป็นตาให้ไตรพยัคฆ์ ที่นี้มี “เสือพราน มีดบิน” (พัฒนศักดิ์ พงษ์พันธุ์) อดีตครูที่ถูกเผาบ้านและฆ่าลูกเมีย จึงกลายเป็นเสือพราน จัดการกับพวกนายทุนด้วยวิชามีดบินของเขา ปล้นเอาเงินไปแจกคนจน มีน้องชายชื่อ “ไพร คนเพลง” (ธนากร ศรีบรรจง) ไพรมีอุดมการณ์คือร้องเพลงเรียกร้องให้จัดตั้งสหกรณ์สู้กับนายทุน ขณะที่เสือพรานใช้มีดบิน ไพรเลือกใช้เพลง จน “บัวหลวง” (พัชญา เพียรเสมอ) ลูกสาวคนสวยของกำนันบุญได้ฟังไพรร้องเพลง บัวหลวงเป็นคนชอบร้องเพลงอยู่แล้วได้มาร่วมร้องเพลงกับไพร จึงประทับใจและรักในตัวของไพร ชาติ หมอนวดแผนโบราณ กับ สาลินีหมออาสายุคใหม่ ทั้งสองมักเป็นคู่กัด แง่งอนกันตลอด จนถึงกับต้องแบ่งเขตกันทำงาน ชาติใช้เล่ห์เหลี่ยมได้เป็นเอเย่นต์ขายยาเสพติดสูตรใหม่ จนเป็นที่ไว้ใจ ถ้ำเสือบังคับให้ชาติ พาตัวสาลินีเข้ามารักษาโรคร้ายในค่าย แต่พวกไตรพยัคฆ์กลับไม่ยอมปล่อยตัวเธอออกไป เต็งกี่พลาดถูกสาลินีทำร้ายจนตาบอด ชาติฆ่าจ่าเทพ เต็งกี่ใช้เล่ห์เหลี่ยม เอาชนะนภาได้ นายใหญ่สั่งให้เสือโบกวางระเบิด ชาติรู้เรื่องนี้ จึงตัดสินใจพาป๋องกับสาลินีหนีออกจากรังเสือ “พลตรี สุริยันต์” (นึกคิด บุญทอง) นำกำลังทหารเคลื่อนเข้าสู้พื้นที่ พวกไตรพยัคฆ์กำลังจะกดระเบิด แต่ชาติกับไพรมาหยุดยั้งได้ทัน ชาติเกลี้ยกล่อมชาวบ้านที่ถูกหลอกให้กลับใจมาสู้กับพวกไตรพยัคฆ์ ทำให้ทหารสามารถเข้าทำลายฐานที่ตั้งของไตรพยัคฆ์ได้ ชาติเอาชนะเต็งกี่และพาสาลินีหนีออกมาได้และระเบิดถ้ำเสือจนป่นปี้ ชาติและป๋องทำภารกิจของพวกเขาเพื่อแผ่นดินต่อไป สาลินีกลับมากรุงเทพ ได้แต่คิดถึงชาติ พวกเต็งกี่ เจิด เจ๊หมาแท้จริงยังไม่ตาย พวกมันกลับมาลอบลงมือรุมฆ่าชาติ ชาติตกลงไปในลำน้ำชี แต่มีคนพบร่างชาติ จึงนำไปส่งสถานีอนามัย ซึ่งสาลินีทำงานอยู่ที่นี่โดยบังเอิญ สาลินีพยายามกู้ชีวิตชาติทุกวิถีทาง “โพธิ์แก้ว” (เกวลี ศรีกาญ) ลูกสาวกำนันบุญอีกคน แจ้งเบาะแสการก่อวินาศกรรม แต่มีข้อแม้คือชาติต้องเป็นคู่รักเธอ ชาติจะปฏิเสธ แต่เมื่อคิดถึงบุคคลคนหนึ่ง ซึ่งชาติยึดเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต ชาติจึงตกลง ยอมเป็นคนรักของโพธิ์แก้ว โพธิ์แก้วจึงยอมบอกเรื่องที่ “เสี่ยปั๋ง” (เจจินตัย แวนดิว) ว่าจะมีการวางระเบิดในงานประจำปีของจังหวัด ขณะที่สาลินีมาออกบู๊ธตรวจสุขภาพ ชาติบอกให้สาลินีหนีไป โพธิ์แก้วมาเย้ยสาลินีว่าชาติคือคนรักของเธอ ชาติได้แต่ยอมรับสาลินีเสียใจมาก พวกไตรพยัคฆ์จับ “แม่พลอย” (ปนัดดา โกมารทัต) แม่ของไพรเป็นตัวประกัน บังคับให้ไพรฆ่าชาติ ไพรกับเสือพรานร่วมมือกันสู้กับชาติด้วยความเข้าใจผิด ชาติมาช่วยป๋องจัดการกับเต็งกี่และกู้ระเบิดลูกแรกได้ สาลินีเจอเจ๊หมาที่กำลังวางระเบิด สองสาวสู้กันสาลินีใช้ไหวพริบเอาชนะเจ๊หมาได้และกู้ระเบิดลูกที่สองได้ ระเบิดลูกที่สามอยู่ที่ “เสี่ยประทวน” (เล็ก ไอศูรย์) พอรู้ว่าเสี่ยปั๋งลูกชายของเขาตายแล้ว เสี่ยประทวนคลุ้มคลั่งเสียสติฆ่าตัวตาย ชาติรู้ความจริงว่าเสี่ยประทวนคือใคร ทำให้ไม่มีใครสามารถหยุดระเบิดลูกสุดท้ายนี้ได้ ชาติตัดสินใจอุ้มระเบิดลงเรือ ตั้งใจจะขับไปกลางน้ำ เพราะยอมตายพร้อมระเบิดเพียงคนเดียว ความสงบสุขของลำน้ำชีแห่งนี้กลับมา สาลินีเหม่อมองดูลำน้ำชีที่ทอดยาวไกล นึกถึงวีรชนที่สละชีวิตเพื่อชาติ กับเสียงเพลง พร้อมกับคำมั่นสัญญาที่เราจะไม่พรากจากกัน เฉกเช่นความสวยใสของสายน้ำชีที่มิเคยหลับใหล

เรื่องย่อ : มหาหิน (2560/2017) หลังจากที่ “หิน” (จิณณะ นวรัตน์) นักเลงประจำถิ่นถูกกล่าวหาว่ายิง “พายุ” (จตุรงค์ โกลิมาศ) ลูกชายของ “กำนันลอย” (เอกพัน บันลือฤทธิ์) แต่เขาได้ต่อสู้จนพ้นผิดเพราะไม่ได้เป็นคนยิง “ครูช่วง” (สามารถ พยัคฆ์อรุณ) จึงขอให้หินไปบวชในที่ห่างไกล เพื่อที่คนพวกนี้จะได้ตามหาไม่เจอ แต่กำนันลอยและ “ลม” (ไพศาล ขุนหนู) น้องชายของพายุไม่ยอมเลิกรา ทั้งคู่ยังฝังใจว่าหินเป็นคนยิงพายุตาย

5 ปีต่อมา … “ดิน” (สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์) พี่ชายของหินถูกยิงตายยกครัว เนื่องจากไปขัดผลประโยชน์การเลือกตั้ง นายกเทศมนตรีของ “เรือง” (วินัย ไกรบุตร) น้องชายของกำนันลอย ซึ่งมี “เสี่ยสมเกียรติ” (ศักราช ฤกษ์ธำรง) เจ้าของห้างสรรพสินค้าใหญ่ในตัวจังหวัดให้การสนับสนุน ซึ่งคนที่หนุนหลังเสี่ยสมเกียรติตัวจริงคือ “ท่านตะวัน” เป็นบอสซึ่งไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริง ท่านตะวันส่ง “เคร่ง” (สุทธิ์คุณ วันทานุ) พร้อมลูกน้อง “สัก” (จักริน กฤตย์สิริ), “มืด” (ธิติวัฒน์ ธนวัฒน์ภัทร์กุล) และ “เสือ” (วิษณุ ภู่ประสงค์) มาฆ่าดินยกครัว แต่ “หนึ่ง” (ด.ช.วีรวงศ์ ขันจำนงค์) ลูกชายของดินกับ “ทราย” (นริศรา ชูกุล) น้องสาวรอดตายอย่างหวุดหวิด

เหตุการณ์นี้ทำให้หินต้องสึกจากพระเพื่อมาดูแลหลานและน้องสาว โดยไม่คิดที่จะแก้แค้นและจองเวรกันอีกต่อไป “อ่าง” (อรรครัฐ ฉั่วศิริสุขสกุล) คนขับรถสองแถว และ “หล้า” (รัตติกร ขุนโสม) น้องสาว เป็นเพื่อนรุ่นน้องที่คอยให้ความช่วยเหลือตลอด หินได้พบกับ “ฝน” (พิมพ์ปวีณ์ โคกระบินทร์) ลูกสาวคนเล็กของกำนันลอยบนรถไฟโดยบังเอิญ หินรู้สึกประทับใจ แต่พอรู้ว่าเป็นลูกสาวกำนันลอยจึงไม่อยากยุ่ง

“ปลัดชัย” (นวพล ภูวดล) และ “ผู้ใหญ่แสง” (ธนายง ว่องตระกูล) คือผู้ใหญ่อีกสองคนที่คอยช่วยเหลือหินในเรื่องต่างๆ และหินก็ให้ความนับถือมาก ลมเป็นคนสำมะเลเทเมาไม่เอาไหนจนกำนันลอยระอา เรืองจึงให้ลมไปทำงานกับเสี่ยสมเกียรติ โดยมีหน้าที่ขับรถให้ “ชาดา” (รัญดภา มันตะลัมพะ) ลูกสาวคนเดียวของเสี่ยสมเกียรติ ชาดาเป็นคนเอาแต่ใจ ลมก็เอาแต่ใจ จึงเป็นไม่เบื่อไม้เมากันตลอดเวลา “ทิม” (วาทิต โสภา) กลับมาบ้านเกิดพร้อม “ประดับ” (พิภัชพงศ์ มากลั่น) เพื่อมาขายของเร่แบบพวกเล่นกลอับดุล พอดีมาเจอ “ร.ต.ต.หญิง เกศรา” หรือว่า “เกด” (จิลล์ โรเจอร์) ตำรวจหญิงที่ปลอมตัวเป็นหญิงค้าประเวณี กำลังถูกกวาดต้อนขึ้นรถเพื่อส่งไปขายซ่อง ทิมรีบเข้าไปช่วยทำให้เกศราไม่พอใจ เพราะทิมทำให้แผนเสีย ทาง “สารวัตรชัช” (วีรยุทธิ์ นานช้า) ซึ่งเป็นหัวหน้า ได้ขอร้องให้ทิมกับประดับมาช่วยงาน เพราะทั้งหมดสืบทราบมาว่า เสี่ยสมเกียรติกับกำนันลอยและเรือง กำลังร่วมกันขายชาติและแบ่งแยกดินแดนทางตะวันตก โดยมี “นายพลเก้ายอด” (ปราบต์ปฎล สุวรรณบาง) เป็นผู้สนับสนุน

วันหนึ่ง “ผาด” (ฉัตรมงคล บำเพ็ญ) ลูกน้องกำนันลอยได้จับทรายและหล้าไป หวังจะเอาไปขายให้ประเทศเพื่อนบ้าน ผาดเกิดชอบทรายจึงข่มขืน และยังให้ลูกน้องข่มขืนหล้าด้วย ทรายใช้โซ่ที่ล่ามเธอผูกคอตาย ส่วนหล้ากลายเป็นคนเสียสติ กว่าหินกับตำรวจจะตามไปช่วยทันมันก็สายไปแล้ว เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้หินแค้นและกลับมาจับปืนอีกครั้ง อ่างยอมขายรถสองแถวไปซื้อปืนเพื่อล้างแค้นให้หล้า โดยมีเป้าหมายคือกำนันลอย เพราะอ่างคิดว่ากำนันลอยอยู่เบื้องหลังทั้งหมด ความรักของหินกับฝนจึงกลายเป็นความแค้น หินจับฝนไปขังในป่าเพื่อล้างแค้นกำนันลอย

บุรุษลึกลับสวมหน้ากาก เป็นใครมาจากไหนไม่มีใครรู้ แต่มักจะโผล่มาช่วยหินทุกครั้งที่หินเข้าตาจน รวมทั้งช่วยเหลือกำนันลอยด้วย เคร่งและลูกน้องถูกสั่งให้ตามล่าบรุษลึกลับและตามฆ่าหินโดยไม่มีใครรู้สาเหตุว่าทำไมต้องฆ่าหินและครอบครัว แต่รู้ว่าเป็นคำสั่งจากท่านตะวัน หลังการสืบทราบของหิน ทิม และบุรุษลึกลับ รวมทั้ง “ผู้กำกับพงษ์” (ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) เจ้านาย “จ่าเหล็ก” (พ.ต.ต.เอกพงษ์ ผูกพัน) พ่อของหิน พบว่าในอดีตจ่าเหล็กได้รับคำสั่งจากกรมตำรวจ ให้มาสืบเรื่องรายชื่อผู้ก่อการแบ่งแยกดินแดน โดยมีแม่ของชาดาร่วมมือด้วย ภายหลังทั้งคู่ถูกฆ่าตาย และสมุดรายชื่อเล่มนั้นก็สาบสูญไป ทุกคนคิดว่าคนในครอบครัวหินต้องรู้ จึงหมายจะฆ่าปิดปากทั้งหมด

กำนันลอยไม่ใช่เป็นคนเลวอย่างที่ทุกคนเข้าใจ เขาจำใจเป็นลูกน้องของเสี่ยสมเกียรติ แต่เขาจะไม่ยอมขายชาติจึงถูกท่านตะวันสั่งเก็บ ทำให้ฝนกับหินต้องร่วมมือกันสืบหาความจริง รวมทั้ง เกศรา, ทิม, ลม และชาดา ก็ร่วมมือกันปฎิบัติงานในครั้งนี้ สาเหตุที่ลมหายจากบ้านไป 5-6 ปี เพื่อไปเรียนจนจบนักเรียนนายร้อยทหารบก ส่วนทิมเป็นนายตำรวจยศร้อยตำรวจเอก แต่ปลอมตัวมากับจ่าประดับ เพื่อมาปฏิบัติการครั้งนี้

การบุกทลายรังของท่านตะวันจึงเริ่มขึ้น ในที่สุดก็พบว่าผู้ใหญ่แสงและผู้กำกับพงษ์ คือคนประสานงานการทำงานทั้งหมด เสี่ยสมเกียรติและเรืองเป็นเบี้ยตัวเล็กๆ ที่ถูกหลอกใช้ สุดท้ายเสี่ยสมเกียรติยอมมอบตัว ทางราชการได้รายชื่อพวกแบ่งแยกดินแดน ที่จ่าเหล็กเอาไปซ่อนไว้ และนำไปขยายผลในการจับกุมต่อไป ใคร…??? คือผู้บงการตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังเรื่องเลวร้ายทั้งหมด ใคร…??? คือบุรุษลึกลับภายใต้หน้ากาก ติดตามหาคำตอบได้ในละคร มหาหิน ที่ออกอากาศทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.20 น. ทางช่อง 7 สี ละคร มหาหิน เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม 2560

เจ้าพายุ 2559

เรื่องย่อ : เจ้าพายุ (2559/2016) หลังจากที่ พายุ (บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ บุตรพรม) ติดคุกในเรือนจำนานถึง 5 ปี เพราะถูกข้อหาปล้นรถขนเงินของธนาคารที่เขาเป็นพนักงานคุมเงินสด เมื่อได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระเขาจึงต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง เพราะเขาคาใจมาตลอดว่าไม่ได้เป็นคนปล้นเงินแต่ถูกจัดฉากให้เป็นแพะรับบาป พายุไปรายงานตัวที่คุมประพฤติโดยมี วีนัส (จิลล์ โรเจอร์) เป็นคนดูแลในเรื่องนี้ พายุบอกว่าเขาต้องการรื้อคดีขึ้นมาใหม่ ทีแรกวีนัสก็เชื่อว่าพายุเป็นคนปล้น แต่พอได้ดูหลักฐาน และเอกสารที่สั่งฟ้องแล้ว เธอจึงมั่นใจ และว่าพายุเป็นแพะในคดีนี้ เธอจึงรับปากที่จะช่วยพายุ เพราะในใจลึก ๆ เธอแอบชอบพายุ มาศจันทร์ (ฮาน่า ลีวิส) ลูกสาวคนเดียวของ นายวิวัฒน์ (สุรวุฑ ไหมกัน) เจ้าของสัมปทานเหมืองทองที่นครสวรรค์ มาเบิกเงินที่ธนาคารแล้วถูกดักปล้น พายุผ่านมาพบเข้าพอดีจึงได้ช่วยเหลือเอาไว้ และจากไปโดยไม่ได้แนะนำตัวว่าเป็นใคร สารวัตรกอบคุณ (อติรุจ สิงหอำพล) เป็นคนทำคดีนี้ เขารู้สึกหลงรักมาศจันทร์ตั้งแต่แรกเห็นทันที ทางด้านนายวิวัฒน์กำลังมีเรื่องกับนายมงคล (ตฤน เศรษฐโชค) นายกเทศมนตรี กับ โตมร (สุทธิคุณ วันทานุ) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน เพราะมงคลต้องการจะฮุบสัมปทานเหมืองทองของวิวัฒน์ มงคลจึงทำได้ทุกอย่างเพื่อแย่งชิงมา ถึงแม้จะต้องฆ่าวิวัฒน์กับลูกสาวก็ตาม ภูผา (จิณณะ นวรัตน์) ติดคุกในฐานะฆ่าคนตาย เพื่อปกป้อง กำนันไผ่ (เอกพัน บรรลือฤทธิ์) พ่อของตัวเอง ภูผาสู้คดีแต่แพ้จึงติดคุกเกือบ 5 ปี ในขณะที่อยู่ในคุกเขาพยายามทำดี และทำงานลดโทษ วันหนึ่งในขณะที่ภูผาออกไปทำงานลอกท่อ เขาพบเงินประมาณ 15 ล้านดอลล่าห์ที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้โดยบังเอิญ หลังจากนั้นอีก 7 วันเมื่อเขาพ้นโทษอกมาจึงได้มาเอาเงินจำนวนนั้นไป พายุกลับมาหา สุพจน์ (ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) ที่บ้าน แต่สุพจน์ไม่ต้อนรับและไม่นับว่าเขาเป็นลูก เพราะเขามีปมในอดีตเกี่ยวกับ นิ่ม (สุธิตา เกตานนท์) แม่ของพายุที่ท้องก่อนที่จะมาอยู่กับเขา ซึ่งตอนนี้นิ่มก็ได้หนีกลับไปอยู่กับกำนันไผ่สามีเก่า ที่กลายเป็นผู้ต้องหาหนีคดีปล้นหลายคดี อิ่มจิต (ณหทัย พิจิตรา) ภรรยาใหม่ของสุพจน์เอ็นดูพายุเหมือนลูกคนหนึ่ง เพราะอิ่มจิต มี เอื้อมพร (ชัชฎาภรณ์ ธนันทา) ลูกสาววัยเดียวกับพายุด้วย แต่เป็นลูกติดก่อนที่จะมาอยู่กินกับสุพจน์ เอื้อมพรกับพายุโตมาด้วยกัน และเธอก็รักพายุมาตั้งแต่เริ่มเป็นสาว แต่พายุคิดกับเอื้อมพรเป็นเหมือนน้องสาวเท่านั้น นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่สุพจน์เกลียดพายุ เพราะเขาต้องการที่จะเคลมเอื้อมพรเช่นกัน พายุไม่มีที่ไปจึงกลับไปพักอยู่กับ หมู่รงค์ (วัชรบูล ลี้สุวรรณ) เพื่อนรักที่เคยเป็นทหารมาด้วยกันที่ปากน้ำโพ พอดีกับที่สุพจน์มาเปิดบริษัทขนส่งทางน้ำที่นี่ โดยให้เอื้อมพรมาดูแลกิจการ พายุกับเอื้อมพรจึงได้พบกัน แต่ความสัมพันธิ์ยังเป็นแค่พี่น้องเช่นเดิม วิวัฒน์ไม่กลัวอิทธิพลของมงคล จึงทำให้มงคลส่ง จ่านนท์ (ปราบต์ปฎล สุวรรณบาง) อดีตทหารหน่วยรบพิเศษที่ตั้งตัวเป็นซุ้มมือปืน มาดักยิงวิวัฒน์กับมาศจันทร์ แต่พายุกับหมู่รงค์มาช่วยไว้ได้ทัน เพราะพายุช่วยมาศจันทร์ไว้ถึงสองครั้งวิวัฒน์จึงรับเข้ามาทำงานที่เหมือง พายุรู้ตัวว่าแอบรักมาศจันทร์แต่ก็ต้องเจียมตัว พอดีกอบคุณย้ายมาประจำที่ปากน้ำโพ จึงเกิดความไม่พอใจที่เห็นพายุสนิทสนมกับมาศจันทร์ เขาจึงบอกความจริงกับวิวัฒน์ว่าพายุเคยเป็นคนที่ติดคุกมาก่อน พายุจึงตัดสินใจลาออกจากงานไป หลังจากนั้นอีกไม่กี่วันเหมืองของวิวัฒน์ก็ถูกปิด เพราะถูกร้องเรียนว่าปล่อยมลพิษลงแม่น้ำ ซึ่งที่จริงเป็นแผนร้ายของมงคล สุพจน์กับมงคล และโตมร ร่วมมือกันขนของผิดกฎหมายจากทางภาคเหนือ เรื่องนี้เอื้อมพรแอบได้ยิน ทางด้านโตมรรู้สึกชอบเอื้อมพร แต่เอื้อมพรไม่ชอบโตมรจึงให้พายุเข้ามาช่วยกัน แต่ก็ทำได้แค่เพียงบางเวลาเท่านั้น และเธอก็รู้สึกว่าพายุชอบมาศจันทร์ แต่เธอก็ยังรักพายุไม่เสื่อมคลาย ภูผาเอาเงินที่พบบางส่วนมาฟอกที่ปากน้ำโพ จ่านนท์รู้ทีมาของเงินดีจึงพยายามจับภูผาเพื่อคาดคั้นหาเงินที่เหลือ แต่ภูผาหนีรอดไปได้ วีนัสพบหลักฐานที่ส่งฟ้องพายุเป็นหลักฐานเท็จ อีกทั้งยังมีกล้องวงจรปิดอีกหลายมุมที่ไม่ได้นำไปใส่ในสำนวนฟ้อง และคนที่ทำสำนวนฟ้องในขณะนั้นคือกอบคุณซึ่งมียศเป็นร้อยตำรวจเอก วีนัสนำเรื่องนี้ไปบอกกับพายุแล้วยังรู้ว่าจ่านนท์คือหนึ่งในคนที่ปล้นเงิน และยังสืบจนรู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดคือมงคลกับโตมร พายุจึงต้องตามล่าภูผาเพื่อติดตามหาเงินที่เหลือ ภูผาหนีไปหากำนันไผ่เพราะเขาเป็นลูกของกำนันไผ่กับนิ่ม ขณะเดียวกันพายุก็ตามไปแต่ตำรวจได้ล้อมจับกำนันไผ่ จ่านนท์ตามไปสังเกตการณ์แล้วยิงนิ่มตาย เพราะพุ่งตัวเข้ามาช่วยพายุลูกชาย ทำให้ภูผาแค้นพายุมาก วิวัฒน์ตัดสินใจให้มาศจันทร์แต่งงานกับกอบคุณ มาศจันทร์จำยอมเพราะในใจต้องการช่วยพายุ เนื่องจากวีนัสบอกกับเธอว่าสงสัยกอบคุณจะเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังการปล้น เงินด้วย มาศจันทร์ยอมให้พายุเข้าใจผิด ก่อนที่มาศจันทร์เกือบเสียตัวให้กอบคุณ เพื่อหาหลักฐานช่วยพายุ แต่พายุก็มาช่วยเธอไว้ทัน เอื้อมพรแต่งงานกับโตมรด้วยความเต็มใจ และด้วยความแค้นที่ถูกสุพจน์ข่มขืน เมื่อเธอแต่งงานกับโตมรแล้ว เธอก็ได้ไปหาหลักฐานที่โตมรกับมงคลบงการปล้นเงินเพื่อช่วยพายุ จนตัวเองถูกจับได้และถูกฆ่าปิดปาก สุพจน์มาพบเข้าจึงถูกโตมรฆ่าอีกคนโดยที่พายุมาช่วยไม่ทัน กำนันเปิดเผยความจริงให้พายุกับภูผารู้ว่าทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน ทั้งสองคนจึงเลิกบาดหมางกันและหันมาจับมือกันเพื่อจบเรื่องทั้งหมด มาศจันทร์กำลังจะแต่งงานกับกอบคุณ พายุ และภูผาพร้อมทั้งเพื่อน ๆ ได้บุกเข้ามาชิงตัวมาศจันทร์กลางงาน นอกจากนี้ความจริงยังได้ถูกเปิดเผยว่า ที่แท้กอบคุณเป็นลูกชายของมงคลแต่คนละแม่กับโตมร ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการปล้นทั้งหมดคือมงคล ในที่สุด มงคล โดมร กอบคุณ และจ่านนท์ ก็จบชีวิตลงหลังจากต่อสู้กับตำรวจ พายุล้างมลทินให้กับตัวเองได้สำเร็จ และได้ครองคู่กับมาศจันทร์ ส่วนภูผาก็ตัดสินใจคบหากับวีนัส และทุกคนก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไป ติดตามชม ละครเจ้าพายุ ได้ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.20 น. ทางช่อง 7 สี ละครเจ้าพายุ เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน 2559

ข้ามากับพระ 2558

เรื่องย่อ : ข้ามากับพระ (2558/2015) ชีวิตนักเลงพเนจรของ ศักดิ์ ประกาศิต ถึงจุดหักเหเมื่อมาพบกับหลวงพ่อเสือ ด้วยความเข้าใจผิดคิดว่าหลวงพ่อมีอาคม จึงออกติดตามเพื่อหวังวิชา ระหว่างทางได้พบกับแก้วตา ลูกสาวเสี่ยกิจ ซึ่งมีอิทธิพลจากเงินที่ได้จากธุรกิจมืดและการทำไม้เถื่อน ด้วยการสนับสนุนของ ส.ส.เกริก แต่ทั้งคู่ก็ถูกเสือไพรและเพลิงลูกบุญธรรมลูบคมด้วยการปล้นเงินไป แม้ว่า สารวัตรพนากับจ่าโชค จะคุ้มกันเต็มที่แล้ว ด้วยความโมโหเกริกจึงตาม เสือทอง ให้มาปลอมเป็นเสือไพร เพื่อลอบสังหารตำรวจกลุ่มนี้แล้วโยนความผิดให้ มะนาวกับมะขวิดนิมนต์หลวงพ่อเสือไปที่บ้าน และได้พบกับตาชู ชายชราตาบอด ทั้งคู่รู้สึกคุ้นกันมาก ภูได้ยินกิตติศัพท์ในอาคมจึงมาหา หลวงพ่อเลยเทศนาให้ฟัง ภูเข้าใจ แต่ศักดิ์กลับไปบอกชาวบ้านว่าหลวงพ่อให้หวยแม่น ปรากฏว่าชาวบ้านเอาคำสั่งสอนไปตีหวยจนถูกรางวัล หลวงพ่อเสือจึงดังไปทั้งอำเภอ มะนาวพาศักดิ์มาสมัครงานที่โรงไม้เสี่ยกิจ เขาไปพบไม้เถื่อนโดยบังเอิญ จนหวิดถูกฆ่าปิดปากดีที่แก้วตามาช่วยไว้ทัน ทั้งยังรับเข้าทำงาน โดยให้ภูซึ่งเป็นหัวหน้าคนงานที่นี่ช่วยดูแล แก้วตากับศักดิ์มีโอกาสสานความสัมพันธ์กันอีกครั้งจากอุบัติเหตุ ท่ามกลางความไม่พอใจของเกริก และยังแอบไปได้เสียกับแพรวพรรณ แม่เลี้ยงของแก้วตา เสือทองกับภูที่แท้เป็นศิษย์อาจารย์เดียวกัน เสือทองข่มขืนและฆ่าแวว หญิงที่ภูหลงรัก ทำให้เขาโกรธแค้นมาก ภูพลาดท่าเกือบถูกสังหารโชคดีที่เสือไพรมาช่วยไว้ทัน พงษ์กับจ่าโชค มีเรื่องกับพวกของเกริก เพราะปกป้องมะนาวจนถูกแกล้งให้ติดคุก ตาชูจึงแอบเอาทองคำแท่งที่ซ่อนไว้ให้มะนาวไปขายเพื่อเอาเงินมาประกันตัว เกริกรู้เรื่องทองคำจึงส่งเสือทองไปคาดคั้นกับตาชู แต่กลับพลั้งมือฆ่าตาชูตาย ก่อนสิ้นลมหลวงพ่อเสือมาพบเข้าพอดี ทั้งคู่จึงจำได้ว่าเคยรู้จักกันมาก่อน และยังมีความสัมพันธ์เกี่ยวโยงกับเสือไพรอีกด้วย พงษ์และเกริกรู้ว่าทองเหล่านี้ถูกปล้นมาโดยตาชูและเสือไพร เกริกจึงพยายามโยนความผิดต่าง ๆ ให้เสือไพร เพื่อจะได้มีคนมาช่วยจับ เสือไพรประกาศปล้นครั้งใหญ่ ทั้ง เกริก, เสี่ยกิจ และสารวัตรพนาเตรียมรับมือ สุดท้ายเสือไพรก็ถูกจับเพราะถูกเพลิงหักหลังหวังจะได้เป็นใหญ่ นับเป็นครั้งที่สองที่เสือไพรพลาด เพราะเมื่อยี่สิบปีที่แล้วเขาก็เคยโดน พ.ต.ท.ชาติเสือ จับกุมมาแล้ว หลังจากเกริกคาดคั้นเอาที่ซ่อนทองจากเสือไพร ทั้งหมดจึงดั้นด้นไปค้นพบทองที่เหมืองของเสี่ยกิจ ซึ่งความจริงก็ปรากฏว่า ชาติเสือ, เสือไพร, เกริก เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก และหมายปองหญิงคนเดียวกันคือชบา เธอรักกับเสือไพรแต่ต้องมาแต่งงานกับชาติเสือ โดยมีลูกติดท้องของเสือไพรมาด้วย ในระหว่างการจับกุมชาติเสือยิงใส่เสือไพร พอดีชบาจะมาช่วยเสือไพรเธอจึงรับกระสุนแทนจนเสียชีวิต ชาติเสือเสียใจที่ฆ่าคนรัก จึงตัดสินใจบวชตลอดชีวิต พร้อมนำลูกของชบาไปฝากให้พระสมชายช่วยเลี้ยงดู เพราะเสือไพรได้หลบหนีไปก่อน ในที่สุดความสัมพันธ์ทั้งหมดก็ถูกคลี่คลายและจบลงด้วยดี แพรวพรรณคือน้าสาวของแก้วตา ที่เธอยอมเสียตัวให้เกริกก็เพื่อล้างแค้นแทนแม่ของแก้วตา ชาติเสือก็คือหลวงพ่อเสือ ส่วนลูกของเสือไพรที่ชาติเสือส่งเสียมาตลอดก็คือศักดิ์ เกริกและเสือทองตาย ส่วนเสี่ยกิจ สารวัตรพนา ถูกพงษ์จับกุมตัวดำเนินคดี แก้วตาได้แต่งงานกับศักดิ์ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายอำเภอมือปราบคนใหม่ของอำเภอ ส่วนพงษ์ก็ลงเอยกับมะนาว หลวงพ่อเสือออกธุดงค์ต่อไปโดยมีเสือไพรคอยติดตามเพื่อนรักไปทุกหนทุกแห่ง ติดตามชม ละครข้ามากับพระ ได้ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.20 น. ทางช่อง 7 สี ละครข้ามากับพระ เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2558

เรื่องย่อ : โก๊ะ ๘ ตะลุยแดนมหัศจรรย์ (2557/2014) หลังจากที่ทุกคนรู้ว่า พรานแดน (ธันญ์ ธนากร) คือ “โก๊ะ” ที่กลับชาติมาเกิดใหม่ การผจญภัยครั้งใหม่ก็ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งเมื่อองค์หญิงม่านฟ้าคนรักของ บุญชู (อานัส ฬาพานิช) ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทำให้บุญชูต้องข้ามมิติกลับสู่โลกอดีต เพื่อติดตามไปเพียงลำพัง แต่บุญชูเกิดพลัดตกเขา และได้รับการช่วยเหลือจาก ปลายฟ้า (ปุณยาพร พูลพิพัฒน์) นักชีววิทยาสาว ที่ถูกลมตรีทูตพัดข้ามมิติมาพร้อมกับ มังกะโบ (ค่อม ชวนชื่น) มะเจย (โป้งเหน่ง เชิญยิ้ม) อาเจ (คม ชุปเปอร์โจ๊ก) ลูกหาบจอมกะล่อน พร้อมทั้ง อาซาน (ชูษี เชิญยิ้ม) และ สังวร (เหลือเฟือ มกจ๊ก) ชาวกระเหรี่ยงที่มีนิสัยคล้ายกัน บุญชูเดินทางกลับไปที่ปุระนคร แต่พบว่าเวลาได้ผ่านมาเกือบ 100 ปีแล้ว เขาได้พบกับ คำแก้ว นางกำนัลคนสนิทของม่านฟ้า ที่มีอายุล่วงเลยมาเกือบ 80 ปี แต่ไม่มีใครได้พบเห็นม่านฟ้าอีกเลย บุญชูยังคงติดตามหาม่านฟ้าต่อไปจนกระทั่งได้พบกับ จิ๊บ (จิลล์ โรเจอร์) ใบเตย (นาฎชนก ศรีสุราช) บัวตอง (ณธษา เวชประสิทธิ์) และ สันต์ (กณิณ ปัทมนนถ์) ที่ออกตามบุญชูมาด้วยความเป็นห่วง ทั้งหมดได้ประสบกับเรื่องราวตื่นเต้นพิสดารเหนือธรรมชาติมากมายในระหว่างเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นเสือสมิงที่แปลงร่างเป็นคน แฝงตัวมาในกลุ่มของลูกหาบและลอบฆ่าคนไปทีละคน ทำให้ อาโป (สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์) หนุ่มชาวป่าผู้มีบุคลิกเงียบขรึมและดูลึกลับ ที่อาสาเป็นคนนำทางให้ ถูกสันต์สงสัยว่าจะเป็นเสือสมิงเพราะทุกครั้งที่มีคนตายอาโปจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเสมอก่อนที่จะกลับมาในเช้าของอีกวัน นอกจากนี้ทุกคนยังได้เจอกับกองทัพซอมบี้ทหารญี่ปุ่นที่ตายในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ถูกปลุกให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาเป็นผีดิบ การข้ามมิติไปเยือนวิมานฉิมพลีได้พบเห็นพญาครุฑ พญานาค กินนร กินรีและมักกะลีผล และยังได้เพื่อนใหม่เป็นคิงคองยักษ์นามว่า “เจ้าปุย” (พีรพงศ์ วรรณเผือก) เพิ่มมาอีกตัว แถมยังถูก อเล็กซ์ (เจจินตัย อันติมานนท์) กับทีมสังหารตามล่ามาทวงลายแทงสมบัติคืน แทบจะเอาชีวิตไม่รอดหลายครั้ง การค้นหาม่านฟ้ายังคงลางเลือนไร้ความหวัง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างบุญชูกับปลายฟ้า กลับงอกงามขึ้นทุกวันจนกลายเป็นความรักโดยไม่รู้ตัว แต่ความรักของทั้งคู่กลับต้องสะดุดลงอีกครั้งเมื่อ นนท์ (พศิน ศรีธรรม) หนุ่มไฮโซว่าที่คู่หมั้นของปลายฟ้าเดินทางมาพบกัน บุญชูจึงจำต้องหักห้ามใจตัวเองและถอยห่างจากปลายฟ้า ในที่สุดนนท์ก็เผยธาตุแท้ออกมาว่าไม่ใช่สุภาพบุรุษ อย่างที่สร้างภาพให้ใครๆเห็น ปลายฟ้าจึงขอตัดความสัมพันธ์กับนนท์ แต่นนท์ไม่พอใจจึงวางแผนกับอเล็กซ์ จัดฉากให้บุญชูกับ เคท (รฐกร สถิรบุตร) น้องสาวของอเล็กซ์ ดูเหมือนมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งจนปลายฟ้าเข้าใจผิด การผจญภัยอันน่าตื่นเต้นยังไม่จบเพียงเท่านั้น ทั้งหมดยังได้ย้อนเวลากลับไปในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกครั้ง ได้พบกับเหล่าเสรีไทยและยุวชนทหารผู้ร่วมกันต่อต้านญี่ปุ่น และพบว่าอเล็กซ์กับพวกได้ปล้นทองคำ ของกองทัพญี่ปุ่นไปเป็นจำนวนมากแล้วข้ามมิติกลับกลับมา แต่สุดท้ายบุญชูและคณะก็สามารถชิงทองคำทั้งหมดกลับไปคืนให้กับรัฐบาลญี่ปุ่นได้สำเร็จ การผจญภัยสุดตื่นเต้นระทึกใจเกินคาดเดาของคณะเดินทางอีกมากมาย ติดตามชมความสนุกสนาน “โก๊ะ ๘ ตะลุยแดนมหัศจรรย์” ได้ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 18.30 น. ทางช่อง 7 สี เริ่ม 28 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป

เสือสมิง 2555

เรื่องย่อ : เสือสมิง (2555/2012) ภราดร (กันตพงศ์ บำรุงรักษ์) หมอหนุ่มถูกย้ายมาประจำอนามัยเล็กๆ ที่ชายแดนภาคเหนือ อนามัยแห่งนี้มี ระริน (อมีนา พินิจ) กับ เดือน (ตั้งโอ๋ เพ็งพารา) เป็นพยาบาล และมี ประเดิม (อิทธิกร สาธุธรรม) คนพื้นเพป็นคนขับรถ วันหนึ่งภราดรออกพื้นที่และผ่านหมู่บ้านสาง ขณะนั้นมีพิธีกลืนบาปหรือการรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วย ตามความเชื่อของชาวบ้าน โดยมีแม่ผีฟ้าหน้าทองเป็นผู้ประกอบพิธี แต่ภายใต้หน้ากากทอง คือใบหน้าที่สวยงามของ กินรี (อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) ผู้สืบทอดการรักษามาจากบรรพบุรุษ โดยมี แม่หมอ (ปนัดดา โกมารทัต) กับ พะอู (ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม) น้องชายผู้มีใบหน้าอัปลักษณ์ และ มะค่า (อรวิสา ทิวไผ่งาม) เด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกันเป็นผู้ช่วย ภราดรแวะเข้าไปดูพิธีกลืนบาป ประเดิมจึงแนะนำให้รู้จัก ผู้ใหญ่สน (อมต อินทานนท์) พร้อมทั้ง หมวดสมรักษ์ (ธันน์ ธนากร) และ จ่าชิต (ชาติชาย งามสรรพ์) ซึ่งนำกำลังเข้ามาในพื้นที่ เพราะสืบทราบมาว่าพวก เสือใจ (เอก รังสิโรจน์) กำลังจะผ่านมาทางนี้ เวลานั้นเสือใจกับ เสือทศ (ธนายง ว่องตระกูล) ลูกเลี้ยงได้พา เสือเข้ม (ธิติวัฒน์ ธนวัฒน์ภัทร์กุล)ลูกน้องที่ถูกพิษจากลูกดอกปลอมตัวมารักษาด้วย การรักษาเป็นไปอย่างน่าอัศจรรย์ เพราะทุกคนหายจากอาการป่วยเป็นปลิดทิ้ง จนภราดรไม่อยากเชื่อว่าเป็นไปได้ กินรีเสียพลังในการรักษาไปมากจนเป็นลมล้มพับ ภราดรรีบเข้าไปช่วยด้วยสัญชาตญาณของหมอ แล้วถอดหน้ากากของกินรีออกโดยพลการ ใบหน้าใต้หน้ากากทำให้ภราดรหลงรักกินรีทันที แต่ภราดรกลับทำสิ่งที่ผิดมหันต์คือทำหน้ากากตกลงพื้น แม่หมอตกใจมาก เพราะมีคำทำนายมาแต่ครั้งโบราณว่า หากหน้ากากทองตกลงพื้นดิน จะเกิดอาเพศครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อ 800 ปีก่อน บาเยงโบ (ภราดรในปัจจุบัน) เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่มีมเหสีชื่อ ชะเวมะรัต (กินรีในปัจจุบัน) และมีพระสนมชื่อ อิรวดี (ธาราทิพย์ ดรุณพัฒน์) ชะเวมะรัตเป็นลูกสาวของมหาราชครู...

เรื่องย่อ : โก๊ะ ๗ (2554/2011) “บุญชู” (อานัส ฬาพานิช) ลูกชายของพรานโก๊ะนายบ้านท่าแพ ได้มาอยู่ในโลกปัจจุบัน เป็นนักโบราณคดีหนุ่มที่ศึกษาค้นคว้า และตามเก็บสมบัติแห่งชาติไม่ให้ตกไปส่งมือโจร ชื่อเสียงของบุญโด่งดังในการค้นหาวัตถุลับค่ามากมาย จนทำให้ “อเล็กซ์” (ดนัย สมุทรโคจร) มาจ้างบุญชูตามหาหลุมฝั่งศพปู่เขาสมัยสงครามโลกครั้ง 2 บุญชูคิดมากเรื่องการเดินทางเพราะเสี่ยงอันตรายมาก และตัวเขาเองยังมีปัญหาที่ฝันถึง “ม่านฟ้า” (กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า) เจ้าหญิงแห่งปุระนครอยู่ตลอดเวลา

ในที่สุดบุญชูก็ยอมรับงานเพราะขาดเงินสนับสนุนงานวิจัย “จิ๊บ” (จิลล์ โรเจอร์), “สันต์” (อติรุจ สิงหอำพล) และ “ใบเตย” (ธิชาชา บุญเรืองขาว) ลูกทีมบุญชูเห็นชอบในการเดินทางครั้งนี้ บุญชูพาทุกคนเดินทางไปหา “พรานบุญ” (คมกฤช ยุตติยงค์) พรานคู่ใจ แต่เขาได้ตายจากแล้วผู้ใหญ่บ้านแนะนำ “พรานแดน” (ธัญญ์ ธนากร) เป็นผู้นำทาง พรานแดนแม้จะดูกะล่อนแต่บุญชูก็รู้สึกผูกพันทำให้ตกลงจ้างพรานแดนนำทาง แต่ไม่มีชาวบ้านยอมเป็นลูกหาบ “มังกะโบ” (ค่อม ชวนชื่น), “มะเจย” (โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม) และ “อาเจ” (คม ซุปเปอร์โจ๊ก) 3 กระเหรี่ยงที่หนีเข้าเมืองยอมรับอาสาเพราะรู้ความลับว่าอเล็กซ์จะไปหาสมบัติ ไม่ใช่ไปตามหลุมศพ

พรานแดน นำทางแบบมั่ว ๆ เข้าป่ามรณะ ทั้งคณะต้องเจอกับผีพรายจากการปากเสียของสันต์แต่ก็หนีรอดมาได้เพราะลม ตรีทูต ทำให้ทุกคนข้ามผ่านกาลเวลาหลงไปในยุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เจอกับ “ทามาดะ” (เอกพงษ์ ผูกพัน), “ฮาโตริ” (หยอง ลูกหยี) และ “ซึบะ” (จเร เชิญยิ้ม) ทหารญี่ปุ่นและได้เข้าไปช่วยเหลือ “กล้า” (โปรย ซุปเปอร์โจ๊ก) หัวหน้ากลุ่มเสรีไทยที่ถูก “หนานคำ” (อมตะ อินทานนท์) หักหลัง “บัวตอง” (ตั้งโอ๋ อรวรา) น้องสาวของกล้ารู้สึกผูกพันธ์กับแดนจนทำให้พัดหลงมาด้วยลมตรีทูตพาย้อนยุคเข้า สู่ยุดกรุงศรีอยุธยา และในยุคนี้ บุญชูได้พบกับ “รำเพย” (กุลธิดา พรพิชยานุรักษ์) เชลยสาวชาวไทยบุญชูและพรรคพวกได้ช่วยเหลือชาวบ้านให้รอดพ้นจากการเป็นเชลยจน ทำให้ “แม่ทัพใหญ่” (ถั่วแระ เชิญยิ้ม) และ “เล่าอู” (ชูษี เชิญยิ้ม) ตายเป็นผีตามหลอกหลอน มังกะโบ, มะเจย และ อาเจ

พรานแดนพยายามจะพาทุกคนกลับโลกปัจจุบันแบบมั่ว ๆ โก๊ะ แต่แล้วจิ๊บถูก พญานาคศิงขร ดึงไปใต้น้ำ พรานแดนรีบลงไปช่วยเพราะได้ความช่วยเหลือจาก “กุมารทอง” (ด.ช.กริชษฎาพณ ชูพินิจ) บุญชู พยายามจะไปช่วยจิ๊บแต่ถูก “หลวงพ่อณาณ” (นงค์ เชิญยิ้ม) ห้ามไว้และส่งบุญชูข้ามมิติไปช่วยเหลือเจ้าหญิงม่านฟ้าสร้างกองกำลังต่อสู้กับพวกกบฏ แต่งานยังไม่สำเร็จก็ถูกพรานแดนดึงกลับมาสู่โลกปัจจุบันเสียก่อนบุญชูคิดมาก เรื่องเจ้าหญิงม่านฟ้า

บุญชูอยากไปปุระนครจริง ๆ เพื่อช่วยเจ้าหญิงม่านฟ้า แต่ระหว่างพวกเขาต้องฝ่าการผจญภัยกับ “จอมเมฆินทร์” (กวี วงศ์จันทรา) ผีดูดเลือดเมื่อผ่านมาได้ต้องมาเจอกับ 2 กลุ่มคนป่าก็คือ “ท่านแหม่มบา” (อ่าง เถิดเทิง) หัวหน้าผ่ากาดำ และ “ท่านวาซู” (โยกเยก เชิญยิ้ม) หัวหน้าผ่ากาขาว แต่ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหญิงม่านฟ้า ที่ปลอมมาเป็นสาวชาวบ้าน ในที่สุดทุกคนได้ผ่านพ้นเรื่องวุ่น ๆ ไปช่วย เจ้าหญิงม่านฟ้า และ “เจ้าภูพิงค์” (กันต์ รัตนาภรณ์) พี่ชายของเจ้าหญิงม่านฟ้าจาก “อำมาตย์คำปัน” (นาท ภูวนัย) และ “คำลือ” (ธนายง ว่องตระกูล) 2 พ่อลูกที่คิดกบฏ โดยมี “สางลี” (ดามพ์ ดัสกร) ผู้ไม่มีวันตายจอมเวชมนต์ค่อยช่วยเหลือ แต่เพราะบารมีหลวงพ่อณาณทุกคนจึงรอดมาได้ แต่ไม่อาจช่วยเหลือ “เจ้าภูหลวง” (ยอดชาย เมฆสุวรรณ) เจ้าหลวงแห่งปุระนครไว้ทัน แม้จะปราบกบฏได้แต่ต้องสูญเสียพ่อทำให้เจ้าหญิงม่านฟ้าเสียใจมาก เจ้าภูพิงค์รับรู้ว่าน้องสาวรักผูกพันกับบุญชู จึงยอมปล่อยเจ้าหญิงม่านฟ้าให้ไปผจญภัยกับบุญชูแม้อาจจะไม่ได้เจอกันอีกก็ตาม

ทั้งคณะถูกลมตรีทูตพัดย้อนกลับไปสงครามโลกครั้งที่ 2 บัวตองได้กลับไปช่วยเหลือกล้าพี่ชาย และเปิดโปร่งหนานคำที่ทำทุกอย่างเพราะอยากได้สมบัติญี่ปุ่น ทำให้ทามาดะต้องสละชีพเพื่อช่วยเหลือทุกคนเพราะเขาหลงรักจิ๊บ บุญชูรู้ความลับว่าอเล็กซ์หวังสมบัติจึงขอยกเลิกข้อตกลงทั้งหมดและพร้อมจะพา ทุกคนกลับบ้าน แต่ลมตรีทูตพาทุกคนหลงเข้ามาในยุคอยุธยาอีกครั้ง และได้เจอกับ “พนา” (เกวลี เณรจิ๋ว) เด็กที่มีความสามรถคุยกับสัตว์ได้ เธอเป็นลูกสาวของ “ก้าน” (ฉัตร มงคลชัย) นายบ้านอำพันทั้งหมดต้องต่อสู้กับเสือสมิงที่แสนจะโหดร้าย แถมยังต้องมาเจอกับ “ตองสู” (ถั่วแระ เชิญยิ้ม) และ “อาซาน” (ชูษี เชิญยิ้ม) ผีแม่ทัพใหญ่กับเล่าอูกลับชาติมาเกิดที่คอยตามราวี มังกะโบ, มะเจย และ อาเจ ที่คอยสร้างเรื่องปวดหัวให้บุญชู และพรานแดนตามแก้ให้ กว่าจะผ่านพ้นไปได้ทุกคนก็สะบักสะบอม

ทั้งคณะผ่านเหตุการณ์ร้าย ๆ จนทำให้จิ๊บกับพรานแดนเริ่มผูกพันธ์กันมากขึ้น ส่วนบุญชู และเจ้าหญิงม่านฟ้า ต่างก็เห็นอกเห็นใจกันจนกลายเป็นความรัก ในยุคอยุธยานี้ ทุกคนได้เจอกับ “แผน” (จรัญ งามดี), ทองดี, ทองใบ และ สีนวล ต่อสู้กับพม่า ทั้งหมดจึงเข้าช่วยเหลือ แต่กว่าจะผ่านเหตุการณ์นี้มาได้ทั้งหมดต้องผจญกับความรักความแค้น ของ “จอระเด” (ปราบต์ปฎล สุวรรณบาง) นายกองผู้โหดเหี้ยมและ “นายกองสุระเน” (ธิติวัฒน์ ธนวัฒน์ภัทร์กุล) ผู้อารีย์ ภายใต้การนำทัพของ “มังกะยอ” (สกล มงคลเกตุ) แต่ “เมยานี” (ธาราทิพย์ สุขดรุณพัฒน์) ลูกสาวของแม่ทัพกลับมีใจให้เชลยไทย “ซอเรยา” (รุ่งระวี บริจินดากุล) นางกำนัลคนสนิทคอย ช่วยเหลือ เจ้าหญิงม่านฟ้าเองก็เข้าใจผิดคิดว่าบุญชูมีใจให้สีนวล เจ้าหญิงม่านฟ้าน้อยใจจนถูกจับไปค่ายพม่า บุญชูลอบเข้าไปช่วยเจ้าหญิงม่านฟ้า จอระเด ให้ “มหาอิน” (ศุภคุณ สุรทวีคุณ) คนไทยที่ทรยศพวกเดียวกันไปสืบว่าใครมาช่วยเหลือเชลย พอรู้ว่าเป็นกลุ่มบุญชู และพรานแดน จอระเดจึงเข้าถล่ม ทั้งหมดเข้าต่อสู้ ใบเตยใช้ความชำนาญในการดัดแปลงอาวุธเข้าลุยกับข้าศึก โดยมีกำลังเสริม “ทวน” (อิทธิกร สาธุธรรม) ทหารพระเจ้าตากที่มาช่วยเหลือ “แก่น” (เกษหทัย เกษโกศล) น้องสาวที่ถูกจับเป็นเชลย ในที่สุดทั้งหมดก็ผ่านพ้นเรื่องร้าย ๆ ไปได้และกลับสู่โลกปัจจุบัน

พรานแดนระลึกได้ว่าเขาคือพรานโก๊ะกลับชาติมาเกิด และได้เจอกับบุญเรือนที่ต่างวัยกันมากแล้ว บุญเรือนขอให้พรานแดนเริ่มต้นใหม่กับจิ๊บ เพราะเธอคืออดีตไปแล้ว บุญชู กับเจ้าหญิงม่านฟ้าก็เข้าใจกัน เจ้าหญิงม่านฟ้าพร้อมจะอยู่กับบุญชูเพื่อผจญภัยค้นหาสมบัติแห่งชาติเพื่อเก็บรักษา เป็นทรัพย์แผ่นดินต่อไป….. ติดตามหาคำตอบได้ใน ละคร “โก๊ะ ๗” ที่ออกอากาศทุกวัน เวลา 18:45 น. เริ่มตอนแรก วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม 2554 ทาง ช่อง 7

กองร้อย 501 ตอน แผ่นดินข้าใครอย่าแตะ 2544

เรื่องย่อ : กองร้อย 501 ตอน แผ่นดินข้าใครอย่าแตะ (2544/2001) ความรัก ความสนุกสนาน และเรื่องราววุ่นๆ เกิดขึ้นที่นี่

เรื่องย่อ : โก๊ะซ่า ท้ามิติ (2552/2009) เปิดเรื่องต่อจากภาคสอง เมื่อพรานโก๊ะ (วุธ-อัษฏาวุธ เหลืองสุนทร) และเหล่านักศึกษาช่วยให้ชาวท่าแพชนะศึก และเหล่านักศึกษาพากันเดินทางกลับไปยังมิติเวลาของตัวเอง ทำให้บ้านท่าแพกลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง แต่นายกองจอระแน (ค่อม ชวนชื่น) และทหารข้าศึก รวมทั้งเล่าอู (ชูษี เชิญยิ้ม) ที่พ่ายแพ้กลับไปได้ถูกแม่ทัพใหญ่ (ถั่วแระ เชิญยิ้ม) สั่งลงโทษและสืบสวนหาความจริงว่าทำไมถึงสู้ชาวบ้านที่มีเพียงหยิบมือเดียวไม่ได้ เมื่อรู้ว่าทหารต้องพ่ายแพ้กับกลุ่มหนุ่มสาวที่เรียกตัวเองว่านักศึกษา และยังได้เห็นรูปถ่ายของจ๋อมหรือจอมขวัญ (จิลล์ โรเจอร์) ที่เล่าอูนำติดตัวมา แม่ทัพก็เกิดความสนใจเพราะจ๋อมมีหน้าตาคล้ายกับภรรยาของตัวเองที่เสียชีวิตไปแล้ว จึงสั่งให้นายกองจอระแนทำการแก้ตัวใหม่ยกทัพมาพร้อมกับมังสอยู (จุ๊บ-อิทธิกร สาธุธรรม) ผู้เป็นบุตรชาย ไปบุกบ้านท่าแพอีกครั้ง ซึ่งพรานโก๊ะกับชาวบ้านไม่มีพวกนักศึกษาคอยช่วยเหลือก็สู้ไม่ได้ บ้านท่าแพจึงถูกตีทำลายแหลก และทำให้บุญหลายกับดาวเรืองถูกทหารฆ่าศึกฆ่าตาย ส่วนพรานโก๊ะก็ถูกทำร้ายจนสลบไป ส่วนเฒ่าหอม (ชุมพร เทพพิทักษ์) กับบุญชู (นราธิษณ์ ภรธนเดช) หนีไปได้ และได้กลับมาช่วยพรานโก๊ะให้ฟื้น แต่ปรากฏว่าพรานโก๊ะความจำเสื่อม จำใครไม่ได้ทั้งนั้น สองตาหลานจึงพยายามหาทางรักษาและได้ขอความช่วยเหลือจากดอกรัก (ยิ่งยง ยอดบัวงาม) กับ รานี (ฮาย อาภาพร นครสวรรค์) ที่กลับไปยังดินแดนของตัวเอง รวมทั้งไปหาหาญที่บ้านท่าสร้าง แต่กลับพบ เหิน (ปราบปฏล สุวรรณบาง) ที่เป็นน้องชาย แต่ไม่มีใครรักษาพรายโก๊ะได้ ทุกคนจึงตัดสินใจพาพรานโก๊ะทะลุมิติสู่เวลาปัจจุบันด้วยหวังว่าพวกนักศึกษา หรือหลวงตามั่น (นงค์ เชิญยิ้ม) อาจหาทางรักษาพรานโก๊ะได้ ส่วนพวกนายกองจอระแนและเล่าอูแม้จะมีชัยแต่ก็ไม่ได้อะไรมานอกจากมือเปล่า แม่ทัพใหญ่จึงสั่งให้ทุกคนติดตามพวกนักศึกษามาให้ได้ เพราะเล่าอูเสนอว่าพวกเขาอาจจะหาทางไปยังโลกของนักศึกษาได้ จึงติดตามขบวนพวกพรานโก๊ะมา เฒ่าหอมและบุญชูพาพรานโก๊ะทะลุมิติเวลามาพบกับบุญเรือน (เมย์ อรวรรษา ฐานวิเศษ) พรานสาวชาวกระเหรี่ยงที่มีใบหน้าเหมือนบุญหลาย แต่นิสัยขี้โมโหคล้ายกับพรานโก๊ะ บุญเรือนไม่ยอมเชื่อว่ามีอะไรเกี่ยวข้องกับบุญหลาย และรู้สึกตลกเมื่อถูกเด็กหนุ่มอย่างบุญชูมาเรียกว่าแม่ แต่ก็จับพลัดจับผลูตามทุกคนเข้ากรุงเทพฯ เช่นเดียวกับพวกนายกองจอระแนและเล่าอูที่เดินทางเข้ากรุงอย่างทุลักทุเล เพราะไม่ค่อยรู้เรื่องในกรุงเทพปัจจุบันสักเท่าไหร่ จึงสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับทุกคนที่พบเห็นรวมทั้งพวกของตนเองด้วย โดยเฉพาะเมื่อเหล่านายกองจอระแนและพวกข้าศึกไปเห็นปืนใหญ่ที่หน้ากระทรวงกลาโหม และพยายามจะเอาไปเป็นอาวุธสำคัญ ทุกคนที่เห็นเลยนึกว่าพวกนี้เป็นคนบ้าหรือไม่ก็เมายาจนเพี้ยนไป ขบวนของพรานโก๊ะตามมาจนพบ โอสถ (เอ๊าะ กีรติ เทพธัญญ์) ก็ทราบว่าโอสถเรียนจบแล้ว และได้เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย แต่ด้วยความจนของโอสถ จึงเป็นเหตุให้พ่อแม่ของจอมขวัญสาวคนรักกีดกันความรัก และบังคับให้จอมขวัญหมั้นหมายไปกับเทพวิมาน (นัท อติรุจ สิงหอำพล) หนุ่มหล่อพ่อรวย ที่ตนเองไม่เต็มใจและจู้จี้ (โยโย่ ศิมลมาศ) น้องสาวก็ไม่ชอบหน้าเทพวิมานเหมือนกัน โอสถพยายามรักษาพรานโก๊ะแต่ก็ยังไม่ได้ผล ซึ่งพอดีกับพวกของนายกองจอระแนและเล่าอูได้บังเอิญพบกับจอมขวัญและจู้จี้ จึงจับตัวทั้งสองและหาทางกลับไปสู่มิติเวลาของตนเอง โอสถจึงตัดสินใจชวนพรรคพวกออกตามหา เพราะพ่อแม่ของจอมขวัญให้คำมั่นว่า ถ้าใครพาจอมขวัญกลับมาได้ ย่อมเหมาะที่จะดูแลชีวิตจอมขวัญตลอดไป ส่วนอีกทางหนึ่งก็เพื่อรักษาความจำของพรานโก๊ะ เพราะคิดว่าถ้าได้เห็นบรรยากาศเก่า ๆ ความจำของพรานโก๊ะอาจกลับมา ขบวนการตามล่าตามรักจึงเกิดขึ้น โอสถจะช่วยสาวคนรักได้หรือไม่ จอมขวัญในเงื้อมือของแม่ทัพใหญ่ที่คิดว่าภรรยาของตนกลับชาติมาเกิดจะเป็น อย่างไร และพรานโก๊ะจะหายจากความจำเสื่อมได้หหรือไม่ และเมื่อหายจะทำอย่างไรเมื่อรู้ว่าบุญหลายเมียรักเสียชีวิตไปแล้ว พบความตื่นเต้นสนุกสนานนี้ได้ ในละครโก๊ะซ่า ท้ามิติ เริ่มวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2552 เวลา 18.45 น. ทุกวัน ทางช่อง 7 สี

พยัคฆ์ยี่เก (2552)

เรื่องย่อ : พยัคฆ์ยี่เก (2552/2009)  พยัคฆ์ยี่เก เป็นเรื่องราวของศิลปินกลุ่มเล็ก ๆ ซึ่งยึดการแสดง…ลิเก เป็นอาชีพ แม้ความนิยมของคนดูจะลดน้อยถอยลง แต่พวกเขายังคงต่อสู้ ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด “บุญเอก อมรินทร์” (อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร) พระเอกลิเกหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าคณะ ได้นำเอาวิทยาการสมัยใหม่ รวมทั้งเพลงลูกทุ่งที่กำลังอยู่ในความนิยม เข้ามาผสมผสานในการแสดงบนเวที เพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจ ให้คนดู บางครั้ง บางเรื่อง…เทวดาเหาะลงมาจากฟากฟ้าท่ามกลางหมอกควัน บางครั้ง บางเรื่อง…พระฤษีขี่ช็อปเปอร์ใส่หมวกกันน็อกขึ้นบนเวทีโดยมี “อินทิรา อมรินทร์” (ปุณยาพร พูลพิพัฒน์) น้องสาวของตนเป็นนางเอก “เด็ดดวง” (ยิ่งยง ยอดบัวงาม) เป็นตัวโกงประจำคณะและมี “น้ำหวาน” (รุ่งระวี บริจินดากุล) เป็นดาวยั่วหรือตัวร้าย “บุญโอบ อมรินทร์” (นงค์ เชิญยิ้ม) ผู้เป็นอาของบุญเอก คือ ครูฝึกสอน และ ที่ปรึกษา “น้านง อมรินทร์” (วันทนา บุญบันเทิง) ภรรยาของบุญโอบเป็นผู้ดูแลความเป็นอยู่ของทุกคนในคณะ ลิเกไฮเทคของบุญเอกไปแสดงที่ไหน บรรดา แม่ยก ก็จะแห่ตามมาดูขวัญใจของตน โดยเฉพาะ “นวล” (นาตยา จันทร์รุ่ง) ภรรยาของ “กำนันเทิด” (เอกพัน บรรลือฤทธิ์) ผู้มีอิทธิพล แม้ไม่พอใจ กำนันเทิด ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเกรงใจเมีย กำนันเทิด ได้ส่ง “ทำนุ” (แจ็ค เชิญยิ้ม) ลูกชายวัยรุ่นที่กำลังสร้างอิทธิพลแข่งกับพ่อตามไปก่อกวนทำนุกลับมาถูกใจอินทิราจนไม่กล้าป่วน แถม “ทับทิม” (ภัคชัญญา เพ็งพารา) น้องสาวคนสวยของทำนุ ซึ่งกล้าแก่นไม่กลัวคนที่ตามมาด้วย กลับไปหลงใหลบุญเอกแข่งกับแม่ กำนันเทิดจึงต้องชอกช้ำทวีคุณ บุญเอก ยังมีลิเกคู่แข่งอีกคณะหนึ่งคือ “อนุชิต ศิษย์สำราญ” (เอกราช สุวรรณภูมิ) โดยมี “น้ำอ้อย” (ณิชชนันทน์ แจ่มดวง) ซึ่งสวยไม่น้อยหน้าใครเป็นนางเอก ทั้งสองคณะนี้ไม่มีใครยอมใคร ไปตั้งเวทีประชันกันที่ไหน เป็นต้องงัดไม้ตายออกมาสู้กัน แม้บางครั้งคณะอนุชิต ศิษย์สำราญจะมีแผนการร้ายๆ แต่ทำอะไรลิเกไฮเทคของ บุญเอกที่ร้องเพราะรำสวยไม่ได้ เป็นธรรมชาติ คนแพ้ต่อย ย่อมชวนตี ลิเกสองคณะจึงยกพวกเข้าห้ำหั่นกันบ่อยครั้งกำนันเทิดว่าจ้างลิเกทั้งสองคณะไปเล่นประชันกัน เพื่อฉลองงานวันเกิดให้นวลลิเกคณะอนุชิตเดินทางไปก่อน แล้ววางแผนแกล้งลิเกคณะบุญเอกโดยโรยตะปูเรือใบไว้เต็มถนน รถของบุญเอก คันที่นำหน้ายางแตกทั้งสองเส้น จนต้องใช้รถคันหลังช่วยขนถ่ายอุปกรณ์ฉาก ทางด้าน คน ก็พากันเดินไปเรื่อย ๆ ต้องถือเป็นโชคร้ายที่ฝนลงมาอย่างไม่มีเค้า ทุกคนต้องวิ่งเข้าไปหลบในถ้ำบุญโอบไปพบเป้บรรจุเพชรซุกซ่อนอยู่ จึงเอามาใส่ให้อินทิราออกแสดงจนวูบวาบไปทั้งเวที ลิเกคณะบุญเอก จึงชนะคณะอนุชิต รับเงินเดิมพันมาทั้งหมด บุญโอบเองก็ไม่รู้ว่า…เพชร ในเป้ลูกนั้นมาจากไหน ต้นทางของเพชรในเป้นั้นคือ ประเทศไทย ได้จัดให้มีการแสดงเพชรระดับโลกขึ้นที่กรุงเทพฯ หลายประเทศได้ส่งเพชรชั้นสุดยอดเข้ามาร่วมงานด้วย “เดวิด” (โอลิเวอร์ บีเวอร์) นักธุรกิจจากต่างชาติผู้จัดแสดง ได้วางแผนโจรกรรมเพชรที่ตัวเองจัดแสดงอย่างแยบยล ทว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือกว่าแผนการปล้น ยังมีการปล้นซ้อนปล้น “เชิด” (อิทธิกร สาธุธรรม) เป็นตัวการปล้นซ้อนแผนของเดวิดโดยมีผู้วางแผนให้ แต่เมื่อปล้นได้เชิดกลับเปลี่ยนใจไม่ยอมนำเพชรไปให้ผู้ว่าจ้าง เพราะราคาจ้างกับราคาเพชรผิดกันมาก เชิดเอาเพชรไปซุกซ่อนไว้ในถ้ำแล้วฆ่าผู้ร่วมงานทุกคน เชิดจึงเป็นคนเดียวที่รู้ว่าเพชรอยู่ที่ไหน เชิดติดต่อจะขายเพชรให้กับ “เสี่ยอ่าง” (สุเทพ ประยูรพิทักษ์) เจ้าพ่อแห่งวงการเพชรเมืองไทย เมื่อตกลงกันได้ เชิดก็ย้อนกลับมาเอาเพชรในถ้ำ ปรากฏว่าเพชรทั้งหมดหายไป เดวิดส่งบอดี้การ์ดสาวสามคน สืบหาจนรู้ว่าเพชรตกไปอยู่กับคณะลิเก…เสี่ยอ่าง ก็ส่ง “เหว่ย” (เมธี อมรวุฒิกุล), “เซียะ” (โปรย ซุปเปอร์โจ๊ก) และ “กัง” (หยอง ลูกหยี) สามมือพิฆาตของตน ออกติดตามเส้นทางของเพชรเช่นกัน ที่เหนือกว่านั้น…สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งสองนายตำรวจมือปราบแห่งยุค ติดตามคดีอย่างใกล้ชิด เดวิด, เสี่ยอ่าง และเชิด ต่างก็รู้ว่าเพชรไปตกอยู่กับคณะลิเก แต่ยังไม่แน่ใจว่า เป็นลิเกคณะไหน สามบอดี้การ์ดสาวของเดวิด ก็บุกเข้าค้นบ้านของลิเกคณะอนุชิต ศิษย์สำราญ เพื่อจะหาเพชร เหว่ยและเซียะบุกเข้าจับคนในคณะลิเกของบุญเอกเพื่อจะเอาตัวไปซักถาม แต่..ต้องหน้าหงายกลับไป เพราะทุกคนในคณะร่วมมือร่วมใจกันต่อสู้ ที่รุนแรงยิ่งไปกว่านั้น…เชิด นำลูกน้องเข้าปล้นบ้านของบุญเอก อมรินทร์ เพราะต้องการเอาเพชรคืน ทุกฝ่ายทำไม่สำเร็จเนื่องจาก สองตำรวจมือปราบคือ “ร.ต.อ. เดชา ชาญณรงค์” (สุธิราช วงศ์เทวัญ) และ “ร.ต.ท.หญิง บังอร รุจิเรข” (จิลล์ โรเจอร์) ได้วางแผนป้องกันอย่างรัดกุมเดชาปลอมตัวไปขอหัดลิเกอยู่กับคณะของบุญเอก แม้ไม่เต็มใจต้อนรับแต่บุญเอก ไม่อยากขัดใจ อินทิราน้องสาวผู้มีใจให้เดชา สำหรับบุญเอกกับบังอรต้องถือเป็นคู่อริตลอดกาลแม้จะมีจิตใจให้กัน แต่ทั้งคู่ต่างก็ซุกซ่อนไม่ยอมเปิดให้อีกฝ่ายรู้เห็น กลุ่มเหล่าร้ายเปลี่ยนแผนการใหม่ โดยหันมาร่วมมือร่วมใจกัน เสี่ยอ่างทุ่มเงินจ้างลิเกทั้งสองคณะมาเล่นประชัน..ล้มเงินรางวัลกัน แถมมีเงินรางวัลล่อใจ สำหรับลิเกคณะที่มีเครื่องประดับสวยงาม เพราะคาดหวังว่า..ลิเกคณะใดที่ครอบครองเครื่องเพชรอยู่ จะนำออกมาแต่งโชว์ และก็เป็นไปตามคาดหมาย เมื่อถึงวันงาน บุญโอบงัดเครื่องเพชรออกมาให้อินทิราสวมใส่อีกครั้ง เสี่ยอ่าง…วางแผนให้เหว่ยและเซียะลักพาตัวอินทิราพร้อมเครื่องเพชรทันที เดวิด…สั่งสามบอดี้การ์ดสาวตามประกบไม่ยอมให้คลาดสายตา เชิด…และลูกน้องเตรียมพร้อมที่จะปล้นซ้อนแผนอีกครั้ง เดชาและ “หมู่ชื่น” (ชูษี เชิญยิ้ม) ตามอินทิรา ชนิดก้าวต่อก้าว บังอร…และตำรวจสายสืบ ประกบรอบนอกไว้อีกชั้นหนึ่ง ทว่า…เหตุร้ายก็เกิดขึ้นจนได้ หมอลำซิ่ง ซึ่งเดวิดจัดมาให้ความครึกครื้นในงานเล่นเสียงดังเกินเหตุ จนลิเกทั้งสองคณะเล่นกันไม่รู้เรื่อง “ตุ๊” (โจอี้ เชิญยิ้ม) ตัวโกงของคณะอนุชิต จึงร้องกลอนถามเด็ดดวงตัวโกงของคณะบุญเอก ว่าจะเอายังไงดี เด็ดดวงก็ร้องกลอนตอบเป็นทำนองว่า รวมตีนซะเลย หมอลำซิ่ง กลับถามมาว่า..เก่งแต่ปากหรือเปล่า ลิเกทั้งสองคณะจึงยกพวกเข้าตะลุมบอนกับหมอลำซิ่ง ที่พร้อมจะมีเรื่องอยู่แล้วเดชาจำต้องโดดเข้าช่วยพวกลิเก เหว่ยและเซียะได้โอกาสก็ตรงฉุดอินทิราจากหน้าเวทีหมู่ชื่นปราดเข้าขวางก็ถูกยิงทรุดบุญโอบเข้าช่วยจึงโดนยิงอีกคน เหว่ยและเซียะเอาตัวอินทิราที่แต่งเครื่องเพชรหนีไปได้ ทว่า เหว่ยและเซียะไปได้แค่ครึ่งทางทำนุผู้ซึ่งหลงใหลอินทิราและชำนาญเส้นทางกว่าก็มาดักหน้าแย่งชิงตัวอินทิราไปได้ แต่ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ทำนุกลับนำตัวอินทิราไปส่งมอบให้กับเดวิดรางวัลที่ทำนุได้รับคือถูกบอดี้การ์ดสาวยิงจนทรุดเดวิดพาอินทิรา มาได้อีกครึ่งทางก็พบกับด่านสำคัญ นั่นคือ “หมอมนตรี” (ชุมพร เทพพิทักษ์) หมอที่คนทั้งตำบลรู้จักคือ..หมอใจบุญที่รับรักษาให้ทุกคน ทุกโรค จะได้เงินหรือไม่ได้เงินไม่เคยสนใจ แต่เบื้องหลังที่ไม่มีใครรู้คือ เขาเป็นผู้วางแผนการปล้นเพชรให้กับเดวิดเป็นตัวการใหญ่ผู้ค้าอาวุธสงครามข้ามชาติ เป็นผู้วางแผน ยัดยาเสพติดใส่กล่องสินค้าของโอทอป เมื่อเรื่องทำท่าจะเปิดเผยก็หลอก “ใหญ่” (อติรุจ สิงหอำพล) มาเป็นแพะ เพื่อให้ตัวเองพ้นผิด บุคคลที่คอยช่วยสานงานของหมอมนตรีให้ลุล่วงตามเป้าหมายคือ “พ.ต.ท. มงคล สาธุธรรม” หรือ “รองมงคล” (ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง) มือปราบที่ย้ายไปประจำอำเภอชายแดน จ.สระแก้วเพื่อร่วมมือกับหมอมนตรี อย่างใกล้ชิดรองมงคลกล้าได้กล้าเสีย กล้าทำในสั่งที่คนอื่นคาดไม่ถึงอยู่เสมอรองมงคลและหมอมนตรี รู้ดีว่า ทุกคนมาชุมนุมกันที่วัดหลังถ้ำเพราะ เครื่องเพชรรองมงคลและหมอมนตรี จึงไปดักรอในจุดที่ทุกคนต้องผ่านคือปากทางถนนเข้าวัด เมื่อเดวิดนำตัวอินทิราขึ้นรถหนีเขาก็ไปติดอยู่ที่ปากทางนี้เองหมอมนตรีได้สอนวิธีปล้นซ้อนให้เดวิดรู้จักโดยการฉกตัวอินทิราที่ยังใส่ชุดเครื่องเพชรไปอย่างง่ายดายรองมงคลและมนตรีนำตัวอินทิรามาขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ ซึ่งสถานีปลายทางจัดส่งตู้สินค้าและตู้โดยสารที่หมดสภาพเข้าโรงงานซ่อมรองมงคล จึงใช้รถขบวนนี้ขนยาเสพติดและอาวุธสงครามในคราวเดียวกัน..เมื่อขบวนรถเคลื่อนออกจากสถานีรองมงคลและหมอมนตรีช่วยกันปลดเครื่องเพชรจากอินทิรา จนไม่รู้ว่า..บุญเอกและเดชาขึ้นมาบนขบวนรถรวมทั้งเชิดและ “ดารา” (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) เป็นเลขาของเดวิด ขณะที่ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันเชิดคว้ากระเป๋าเครื่องเพชรจะโดดลงจากรถไฟดาราก็เข้าขวางไว้ จึงเป็นที่เปิดเผยว่า…ดารา คือคนที่วางแผนให้เชิดปล้นซ้อนปล้นบังอร บินพารามอเตอร์ลงบนตู้รถไฟเพื่อบังคับให้ขบวนรถหยุด ทว่า รองมงคลและหมอมนตรีวางแผนไว้หลายชั้นลูกน้องที่ขึ้นมาบนขบวนรถตามรายทางระหว่างรถวิ่ง เป็นตัวช่วยที่คอยยิงสกัดกั้นเปิดทางให้รองมงคลและหมอมนตรี นำอินทิราและเครื่องเพชรทั้งหมดหนีรอดไปอย่างไร้ร่องรอยรวมทั้งดาราและเชิด บังอร, บุญเอก และ เดชา รวมทั้งตำรวจที่ติดตามขบวนรถมา ต่างพากันมึนตึบ ไม่รู้จะไปตามกลุ่มวายร้ายได้ที่ไหน “จ่าแม้น” (โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม) บอกมีคนเดียวที่น่าจะรู้คือกำนันเทิดโกรธแค้นเพราะทำนุถูกยิงรับอาสาพาลุยทันทีเพราะรู้ดีว่าหมอมนตรีมีโรงโม่หินทิ้งร้างอยู่ ทว่า..ก่อนที่กำนันเทิด จะนำทุกคนไปถึงเชิด ได้นำหน้าพาลูกน้องลุยไปก่อนแล้วเชิดและลูกน้องอีกหลายคนตายในการต่อสู้ แต่..รองมงคลและมนตรี ก็ใช่ว่าจะหนีรอดไปได้บุญเอกและเดชาถล่มอย่างไม่ยั้งมือ จะมีที่โชคร้ายก็คืออินทิราถูกลูกหลงเข้าที่ท้องฟุบจมกองเลือด และเมื่อเคลียร์พื้นที่แล้วจึงรู้ว่าดาราและกระเป๋าใส่เพชรหายไปพารามอเตอร์ถูกส่งขึ้นบินทั่วพื้นที่ อ.ชายแดน พอได้รับแจ้งทางวิทยุบังอรก็โดดขึ้นรถขับอย่างลืมถอนคันเร่ง เพียงไม่นานนักก็แซงรถของดาราที่กำลังจะถึงด่านชายแดน..และแล้วดาราก็ได้รับชะตากรรมเช่นเดียวกับ บัลลังก์อินทิราหายป่วยเธอประกาศเลิกเล่นลิเกเพื่อแต่งงานกับเดชา บุญเอกต้องเสาะหานางเอกคนใหม่ บุญเอกจะได้ ใครเป็นนางเอกลิเก?

สิบตำรวจโทบุญถึง 2546

เรื่องย่อ : สิบตำรวจโทบุญถึง (2546/2003) สิบตำรวจโทบุญถึง เรื่องราวของตำรวจฝีมือดีที่ทุ่มเทฝีมือสุดความสามารถในการปราบปรามเหล่าร้ายโดยเฉพาะแก็งค์ค้ายาเสพติดและลักลอบขโมยรถยนต์ที่เป็นมาเฟียระดับประเทศ

เรื่องย่อ : เรื่องย่อ : เจาะเวลาหาโก๊ะ (2551/2008) หลังจากที่นักศึกษาชายหญิงทุกคน สามารถเดินทางผ่านเวลากลับจากโลกอดีตในสมัยเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 กลับมาสู่ในโลกปัจจุบันได้ แต่พรานโก๊ะกลับขอใช้ชีวิตต่อไปอยู่ที่บ้านแพ ซึ่งเป็นหมู่บ้านชายแดนเมืองกาญจนบุรีแห่งนั้น เพราะนอกจากจะมีเลือกรักชาติรักแผ่นดินอันเข้มข้นแล้ว ที่สำคัญคือความรักที่โก๊ะมีต่อ บุญหลาย ลูกสาวของ เฒ่าหอม ซึ่งเป็นจอมใจของเขา โก๊ะจึงตัดสินใจอยู่ใช้ชีวิตคู่กับบุญหลายและช่วยชาวบ้านปกป้องหมู่บ้านท่าแพให้อยู่รอดปลอดภัยจากข้าศึก

ส่วนนักศึกษาที่กลับมาไม่สามารถที่จะเล่าเรื่องที่พวกตนไปผจญภัยให้กับใครฟังได้ เพราะอยากที่จะมีคนเชื่อนอกจากคิดว่าเป็นเรื่องเพ้อฝันเหลวไหล หรือพวกเขาเพ้อเจ้อกันไปเองเพราะพิษไข้ป่า เรื่องราวของพรานโก๊ะกับชาวท่าแพจึงเป็นแค่ความทรงจำอันงดงามและอยู่ในความคิดถึงของทุกคนเท่านั้น ยกเว้น โอสถ ที่ความทรงจำของตัวเองเจือความเจ็บปวดจากความผิดหวังเพราะเมื่อกลับมาไม่นาน จำนรรจ์ ก็ลาออกจากมหาวิทยาลัยและไปเรียนต่อที่อเมริกา

ไม่นานนักก็มีนักข่าวว่าเธอมีคนรู้ใจใหม่ ทิ้งให้โอสถเศร้าซึมอยู่เดียวดาย และทางแก้ไขด้วยการเล่าเรื่องการต่อสู้ของตนเองกับทหารข้าศึกให้เป็นที่สนุกสนานกับพวกนักศึกษารุ่นน้อง แต่ก็มักจะถูกมองว่าพูดโม้หรือเพ้อเจ้อ โดยเฉพาะนักศึกษาปีหนึ่งที่ชื่อ จอมขวัญ หรือ จ๋อม ที่มักจะคอยขัดคออยู่เสมอโดยไม่เกรงกลัวรุ่นพี่ เธอมีดีกรีเป็นนักแม่นปืนระดับแชมป์แถมยังมี เอกสิทธิ์นักศึกษาหนุ่มรูปหล่อพ่อรวยมาคอยติดพัน

หนึ่งเทอมผ่านไป เมื่อนักศึกษาสอบเสร็จและใกล้จะปิดภาคการศึกษา ในวันหนึ่งก็มีเสียงโฟนเรียกหาโอสถไปพบญาติที่ตึกอำนวยการในมหาวิทยาลัยทำให้โอสถแปลกใจคิดว่าใครอำเล่น เพราะตัวเองเป็นเด็กกำพร้าอาศัยวัดอยู่ ไม่มีญาติที่ไหน และพอหันมาโอสถก็ต้องตกใจและดีใจตื่นเต้นสลับกันไป เพราะชายคนนั้นคือ โก๊ะ หรือ พรานโก๊ะของทุกคนนั่นเอง โอสถดีใจที่ได้พบกับโก๊ะ แต่ก็ต้องแปลกใจที่ดูเหมือนโก๊ะจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

โก๊ะบอกว่า เป็นเพราะเวลาได้ผ่านไปเกือบสิบปี เขาเองยังไม่หวังว่าจะพบกับโอสถหรือเพื่อนๆ ของโอสถที่มหาวิทยาลัยนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปตามหาที่ไหนจึงลองเสี่ยงมาหา แต่โอสถยืนยันว่าพวกตนเพิ่งกลับมาได้แค่สี่เดือนเท่านั้น ทั้งสองเถียงกันเรื่องเวลาเพราะโก๊ะก็ยืนยันว่า บุญชู ลูกชายของตนกับบุญหลายอายุได้ 9 ขวบแล้ว นั่นแสดงว่า เวลาของโลกอดีตกับปัจจุบันมีความเคลื่อนไปไม่ตรงกัน

โก๊ะเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่พวกนักศึกษากลับไป เหตุการณ์ทางชายแดนค่อนข้างสงบลง แต่ก็ยังมีข้าศึกเข้ามาบ้างประปราย เฒ่าหอมจึงผูกข้อมือแต่งงานให้โก๊ะกับบุญหลาย บุญหลาย ขอให้โก๊ะรับดาวเรืองเป็นเมียอยู่ร่วมเรือนอีกคนด้วยความสงสาร และเห็นว่าดาวเรืองก็เคยปลื้มโก๊ะมาก่อน ดอกรักทนทรมานด้วยความผิดหวังแต่ไม่ยอมมีเมียหรือสนใจผู้หญิงคนไหน และลั่นคำพูดไว้ว่า ถ้าโก๊ะกับบุญหลายมีลูกสาวเมื่อไหร่ จะทนรอเพื่อจีบเอามาเป็นเมียของตนให้ได้ แต่ ดอกรักก็ต้องผิดหวังอีกหนเพราะบุญหลายคลอดลูกออกมาเป็นผู้ชาย

ซึ่งโก๊ะตั้งชื่อว่า บุญชู พอ บุญชูเติบโตขึ้นมาก็มีนิสัยขี้โม้และอีกหลายๆ อย่างไม่ต่างจากโก๊ะผู้เป็นพ่อซักเท่าไหร่ แต่ที่มากกว่าคือ การเอาตัวรอด เล่ห์เหลี่ยมและซุกซนจนเป็นหัวใจของเด็กๆ ในหมู่บ้าน และไม่เกรงกลัวใครแม้แต่ดอกรักที่ยังตัดใจจากบุญหลายไม่ได้ จึงมักจะคอยยุให้ดาวเรืองพยายามชิงโก๊ะจากบุญหลายเพื่อให้ชีวิตคู่ของทั้งสองมีปัญหา แต่ดาวเรืองไม่ยอมเล่นด้วย จนกระทั่งในเวลาต่อมาก็เริ่มมีข้าศึกเข้ามารุกราน โก๊ะกับดอกรักและพวกชาวบ้านก็ยังต่อสู้ขัดขวางและขับไล่พวกข้าศึกออกไปได้ด้วยความสามัคคี แต่ก็เริ่มมีปัญหาเมื่อดินปืนร่อยหรอลง โก๊ะจึงไปเก็บขี้ค้างคาวในถ้ำเพื่อเอามาทำดินปืนตามตำราที่กำจัดเขียนให้ไว้ ดาวเรืองตามไปคอยช่วยเหลือแต่ทนกลิ่นเหม็นอับในถ้ำไม่ไหว โก๊ะจึงให้ออกไปตักน้ำข้างนอก ทันใดนั้นก็เกิดแผ่นดินไหว และประตูเวลาเปิดออก ดึงเอาโก๊ะกลับมายังโลกปัจจุบัน

ดาวเรืองตกใจเมื่อโก๊หายไปจึงพยายามตามหา และกลับมาเล่าให้ทุกคนรู้ บุญหลายกับบุญชูเข้ามาตามในถ้ำแต่ก็ไม่พบอะไร ดอกรักดีใจและพยายามบอกกับบุญหลายว่า ไม่มีวันที่โก๊ะจะกลับมาได้อีกเพราะโก๊ะไม่ใช่คนของที่นี่ แต่บุญหลายกับบุญชูไม่ยอมเชื่อ และคอยภาวนาให้โก๊ะกลับมา แม้ว่าดอกรักจะใช้ความพยายามอย่างไร บุญหลายก็ไม่ใจอ่อนแถมยังถูกขัดขวางจากดาวเรืองและบุญชูอยู่ตลอดเวลา

ส่วนโก๊ะเมื่อรู้สึกตัวขึ้นมาก็ออกมานอกถ้ำแต่กลับได้พบกับโจรสองพ่อลูกคือ เล่าหยาง กับ เล่าอู ที่หนี การคุมขังของเจ้าหน้าที่ออกมาได้ ทำให้โก๊ะรู้ว่าตนเองกลับมาสู่เวลาในโลกปัจจุบัน โก๊ะหนีพวกโจรเข้าไปในถ้ำเพื่อรอให้เกิดแผ่นดินไหว และตนจะได้ย้อนเวลากลับไป แต่ก็ไม่เกิดซักทีจนนึกถึงครั้งทีกำจัดและนักศึกษาสามารถทำระเบิดและทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้ จึงตัดสินใจออกจากถ้ำกลับเข้าเขตแดนไทยพบกับทองใบและเดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อตามหาบรรดานักศึกษา และได้มาพบกับโอสถที่มหาวิทยาลัยนี่

โอสถพาโก๊ะไปพักที่วัดที่เขาอาศัยอยู่ โก๊ะได้กราบหลวงตามิ่งที่ซึ่งอวยพรให้โก๊ะประสบความสำเร็จและสวัสดีมีชัย วันรุ่งขึ้น โอสถพยายามนัดพวกเพื่อนๆ และรุ่นน้องให้มาพบกับ โก๊ะ แต่กลับไม่มีใครมาเพราะติดธุระหรือภาระของตนเอง จะมีก็แต่จัตวาและน้ำผึ้งเท่านั้นที่มาหาโก๊ะ รวมทั้งนักศึกษาปี 1 เช่น จอมขวัญ และเพื่อนๆ ได้แก่ ยิหวา ลักษมี อนุชา กำจร ซึ่งเป็นน้องชายของกำจัดและกำจัดบอกว่า มีความสามารถไม่แพ้ตนเอง และเอกสิทธิ์ที่ตามจอมขวัญมาด้วย กำจรยินดีช่วยโก๊ะถ้าเขาสามารถทำได้

บรรดานักศึกษาทุกคนสนใจที่จะตามไปดูการส่งตัวโก๊ะกลับเพื่อพิสูจน์ความจริงอันเหลือเชื่อ จอมขวัญยังพา จู้จี้ น้องสาวของตัวเองที่เป็นแค่เด็กหญิงตัวเล็กๆ ไปด้วยแม้จะถูกทัดทานจากทุกคนว่าอาจจะลำบากและมีอันตราย แต่จู้จี้ก็ดื้อตามมาจนได้ เอกสิทธิ์แม้จะไม่อยากมาเท่าไหร่แต่เมื่อจอมขวัญไม่เปลี่ยนใจจึงจำใจต้องตามมาด้วย

ทุกคนมาถึงท่าแพและพบกับทองใบ ทองใบไม่อยากให้จู้จี้ไปด้วย แต่โอสถสงสารจู้จี้จึงบอกกับทางทองใบว่าจะดูแลจู้จี้เอง ทำให้จู้จี้รู้สึกดีกับโอสถมากกว่าใครๆ แต่โอสถกับจอมขวัญก็ยังมีปัญหาเข้ากันไม่ได้ และมักจะกระทบกระทั่งกันด้วยคำพูดตลอดเวลาอยู่ดี เพราะจอมขวัญมักจะแซวโอสถเรื่องของจำนรรค์ โดยไม่รู้ตัวว่าเป็นเพราะอะไรนอกจากรู้สึกหมั่นไส้ และก็ถูกโอสถย้อนให้เจ็บๆ เพราะเป็นคนปากไวไม่ยอมแพ้ใครง่ายๆ โก๊ะรู้สึกห่วงเมียและลูกว่าจะเป็นอย่างไร เพราะรู้ว่าเวลาจะผ่านไปไว

ทางด้านในอดีต จอระแน นายกองคนใหม่ที่เป็นน้องชายฝาแฝดของนายกองคนเดิมที่ติดคุกเพราะพ่ายแพ้แก่พวกชาวบ้าน ได้อาสายกไพร่พลมาปราบชาวบ้านท่าแพเป็นการแก้ตัวให้กับพี่ชาย โดยมีเมืองประทุน หัวหมู่ทหารคนเดิมนำทางมาและ เม็งรายอ หัวหมู่คนใหม่ยกไพร่พลเดินทางมา ดอกรักพาพวกชาวบ้านเข้าซุ่มโจมตีแต่ต้องถอยหนีแตกพ่าย เพราะมีกำลังน้อยกว่า เมื่อจอระแนยกกำลังมาถึงหน้าหมู่บ้านก็วางแผนการณ์เข้าโจมตีโดยไม่ใช้กำลังให้เสียเลือดเนื้อแบบเดียวกับแผนการณ์ของสุกี้พระนายกองที่ใช้ศึกต่อสู้กับชาวบ้านบางระจันนั่นก็คือ ใช้ปืนใหญ่ระดมยิงเข้าไป จนชาวบ้านพากันได้รับบาดเจ็บล้มตาย และระส่ำระสายไปตามๆ กัน ดอกรักจึงคิดจะพาพวกชาวบ้านเข้าตีค่ายข้าศึกที่วางกับดักรอไว้อยู่แล้ว

ในวันรุ่งขึ้น โก๊ะก็พาทองใบและพวกนักศึกษาเข้าป่าเพื่อเดินทางไปยังถ้ำที่เป็นประตูแห่งกาลเวลา และด้วยธรรมชาติของพรานใหญ่อย่างโก๊ะก็พาทุกคนหลงทางและวิ่งหนีเสือกันกระเจิดกระเจิงอีกจนได้ ขณะที่โก๊ะออกมาปรึกษาโอสถและทองใบ เล่าหยางกับเล่าอูก็มาพบกับนักศึกษาจึงใช้ปืนขู่และจับพวกผู้ชายมัดไว้ ส่วนผู้หญิงจะพาไปบังคับขืนใจเป็นเมียของพวกตน แต่จู้จี้วิ่งหนีพ้นไปได้ และตามพวกโก๊ะมาช่วยไว้ทันท่วงที ทุกคนจึงจับเล่าหยางกับเล่าอูมัดติดกันไว้บ้าง และทิ้งไว้ในป่าจนพบกับเสือตัวใหญ่ ทำให้สองโจรพ่อลูกต้องเอาตัวรอดกันอย่างทุลักทุเลเต็มที

ส่วนโก๊ะพาทุกคนมาถึงถ้ำจนได้ พวกนักศึกษาขอตามเข้าไปในถ้ำเพื่อพิสูจน์ว่าโก๊ะหายไปต่อหน้าต่อตาจริงๆ กำจรกำลังจะทดลองวางระเบิดเพื่อให้ถ้ำเกิดความสั่นสะเทือนแต่ปรากฏว่าเกิดแผ่นดินไหวจริง และทุกคนก็ถูกดูดเข้าอุโมงแห่งกาลเวลา เมื่อทุกคนรู้สึกตัวว่าได้เดินทางมาสู่เวลาใหม่ก็ตกใจ โดยเฉพาะเอกสิทธิ์ที่โวยวายจะกลับไป จัตวากับน้ำผึ้งไม่กลัวอะไรมากนักเพราะตนเองเคยผ่านเหตุการณ์นี้มาแล้ว ทองใบก็ดีใจที่ได้มา เพราะคิดว่าวิชามวยไทยของตนเองอาจจะมีประโยชน์อะไรกับโก๊ะและชาวบ้านบ้าง โอสถไม่ตื่นเต้น เพราะคิดตั้งแต่แรกแล้วว่าจะตามมา และตนเองไม่มีห่วงอะไรในโลกปัจจุบันอีกต่อไป

ส่วนพวกจอมขวัญ ยิหวา ลักษมี อนุชา และกำจร แม้จะตื่นเต้นและกังวลบ้างแต่ก็พอระงับอารมณ์ได้ และยังมีหวังว่ากำจรจะพาทุกคนกลับได้เช่นกัน จู้จี้ร้องไห้ตกใจตามประสาเด็กแต่โอสถคอยปลอบให้กำลังใจ จอมขวัญรู้สึกดีกับโอสถขึ้นบ้างแต่พอถูกโอสถถากถางก็กลับหมั่นไส้ใหม่ ทุกคนตัดสินใจตามโก๊ะออกจากถ้ำ โก๊ะเริ่มกังวลและไม่ค่อยสบายใจเมื่อเห็นนอกถ้ำมีความเปลี่ยนแปลงไป เพราะหน้าถ้ำไม่เหมือนกับหน้าถ้ำสมัยที่เขาอยู่ในหมู่บ้านท่าแพ และทุกคนก็รู้ว่าถูกจับตามองอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งโก๊ะตัดสินใจยิงปืนขู่ก็ได้ยินเสียงร้องของผู้หญิงและเสียงวิ่งเกรียวกราวหนีไป

โก๊ะพาทุกคนเข้ามาที่หมู่บ้านและเห็นความแตกต่างของสิ่งก่อสร้างหลายอย่าง ไม่ทันที่จะตั้งตัวก็มีทหารหญิงกรูเข้ามาใช้หอกและดาบควบคุมพวกโก๊ะไว้ พวกผู้หญิงพาพวกโก๊ะไปหานายบ้านซึ่งเป็นหญิงชื่อ รานี ทุกคนจึงรู้ว่าที่นี่เป็นเหมือนเมืองลับแลที่อยู่ในความปกครองของผู้หญิง และผู้ชายเป็นได้แค่ทาสกับบริวารเท่านั้น เอกสิทธิ์โวยวายแต่ถูกทหารหญิงตบจนเงียบเสียงไป

รานีรู้สึกพอใจในตัวโก๊ะจึงจะรับไว้เป็นทาสรักแต่โก๊ะไม่ตกลง รานีจึงคิดจะยกพวกนักศึกษาหญิงให้กับองครักษ์ของตนที่ไม่มีใครยอมเป็นคู่ด้วย พวกผู้ชายไม่ยอม รานีบอกว่า ถ้าเช่นนั้นต้องต่อสู้กับองครักษ์ของตนที่ชื่อว่า จิ๋ว หลายคนอาสาแต่พอจิ๋วก้าวเข้ามาก็ต้องตกใจเพราะจิ๋วเป็นชายร่างยักษ์สูงกว่ามนุษย์ธรรมดาทั่วไป จิ๋วชี้จะเอาจอมขวัญไปเป็นเมีย ทุกคนมองเอกสิทธิ์ที่ถอดใจไม่กล้าสู้ จอมขวัญบอกว่ายอมตายดีกว่าและทำท่าล้วงเป้เพื่อหยิบอะไรบางอย่าง จู้จี้ร้องไห้ โอสถตัดสินใจรับอาสาต่อสู้ จิ๋วว่าตัวแค่นี้ไม่ครณามือและท้าให้เข้ามาได้สองคน โก๊ะเข้าช่วยโอสถอีกคนและร่วมมือกันโค่นจิ๋วลงได้

จอมขวัญยิบชิ้นส่วนของปืนออกมาจากเป้และประกอบเป็นปืนยาวแล้วเข้าจี้ตัวรานี ขณะที่เหตุการณ์กำลังตึงเครียดก็มีพวกโจรป่าเข้ามาโจมตีหมู่บ้านหรือเมืองของรานี พวกโก๊ะตัดสินใจเข้าร่วมการต่อสู้และปราบพวกโจรลงได้ รานีจึงยอมปล่อยตัวทุกคนและเดินทางมาส่งที่ถ้ำด้วยความอาลัย กำจรทดลองวางระเบิดในถ้ำจนสั่นสะเทือนและเกิดแผ่นดินไหว ทุกคนถูกดูดเข้าสู่ห้วงเวลา และมารู้สึกตัวในถ้ำอีกหน แต่เป็นเวลาของบ้านท่าแพและเมื่อออกมาที่หน้าถ้ำ โก๊ะก็เห็นกระบอกน้ำที่ดาวเรืองทิ้งเอาไว้จึงรีบพาทุกคนเข้าไปในหมู่บ้าน แต่สิ่งที่พบก็คือ ซากปลักหักพังของกระท่อมและหมู่บ้านท่าแพที่ยับเยินด้วยปืนใหญ่และไฟไหม้ โก๊ะตกใจวิ่งร้องหาบุญชูและบุญหลายกับดาวเรือง

ในขณะที่กำลังจะหมดหวัง บุญชูก็โผล่เข้ามาทำให้โก๊ะดีใจมาก และบุญชูเล่าให้ทุกคนฟังว่า ทหารข้าศึกยิงปืนใหญ่เข้ามาทุกวันจนชาวบ้านบอบช้ำเต็มที่แล้วจึงเข้าโจมตี ดอกรักต้านไม่ไหวจึงตัดสินใจพาทุกคนถอยหนีไปอยู่ที่หมู่บ้านท่าสร้างและอาศัยอยู่ที่นั่น แต่ก็เกิดปัญหาเมื่อ หาญ นายบ้านหนุ่มใหญ่เกิดความพอใจในตัวของบุญหลายและดาวเรือง แต่ทั้งสองไม่ยินยอมพร้อมใจ ดอกรักเองก็คอยขัดขวางเกิดการปะทะกัน พอดีจอระแนยกกำลังตามไปและเกิดการต่อสู้ ส่วนบุญชูหนีมาเพราะยังแอบหวังว่าโก๊ะจะกลับมาหาและได้พบกับโก๊ะจริงๆ

โก๊ะจึงพาทุกคนเดินทางไปที่ท่าสร้างทันที และหาทางฝ่าทัพของจอระแนเข้าไปในหมู่บ้านในขณะที่หาญกำลังทำความตกลงกับดอกรักได้ด้วยการยกบุญหลายให้ดอกรักและตนเองยอมรับดาวเรืองคนเดียว แต่พวกโก๊ะเข้ามา ทั้งสองก็ต้องผิดหวัง เพราะบุญหลายกับดาวเรืองต่างโผเข้าหาโก๊ะทั้งคู่ หาญแสดงฝีมือขู่โก๊ะ แต่ทองใบแสดงฝีมือและชั้นเชิงมวยไทยจนปราบหาญกับดอกรักได้ ทองใบรับชาวบ้านเข้ามาเป็นศิษย์เพื่อฝึกสอนมวยไทยไว้ต่อสู้กับข้าศึก ส่วนพวกนักศึกษาก็เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ที่ตนเองมีมา กำจรมีดินปืนจำนวนมากสำหรับทำระเบิด จัตวา และอนุชาก็มีปืนของเล่าหยางกับเล่าอู โอสถมีเครื่องมือช่าง ส่วนพวกจอมขวัญมีเสบียงอาหารและยารักษาโรคกับเครื่องเวชภัณฑ์ ทำให้โก๊ะสงสัยว่าทุกคนตั้งใจจะตามเขามาที่นี่

จู้จี้ เริ่มบ่นตามประสาเด็กหญิงที่เคยชินกับความสะดวกสบาย และชักคิดถึงบ้าน เลยถูกบุญชูคอยยั่วแหย่ให้โมโหหุนหัน แต่ก็ทำให้หายเหงาไปได้ เอกสิทธิ์พยายามประกาศตัวว่าเป็นแฟนกับจอมขวัญจนทุกคนหมั่นไส้เพราะไม่ค่อยช่วยทำอะไร และจอมขวัญก็อึดอัดใจ โอสถพาชาวบ้านตัดไม้สร้างเป็นรั้วหรือป้อมค่ายล้อมหมู่บ้านเอาไว้ พวกนักศึกษาชายช่วยกันทำระเบิดบั้งไฟ หาญท้วงว่าอานุภาพอาจสู้ปืนใหญ่จริงๆ ไม่ได้ อนุชาเสนอให้เปลี่ยนจากรับเป็นรุกดูก่อนและทำสงครามกองโจรกับข้าศึกเพื่อทำลายขวัญและกำลังใจ และอาสาเป็นทัพหน้าไปกับโอสถ เพราะถูกต่อว่าจากพวกผู้หญิง

โดยเฉพาะจอมขวัญแต่พอโอสถจะไปจริงๆ จอมขวัญก็เกิดเป็นห่วงขึ้นมาและภาวนาให้โอสถกลับมาด้วยความปลอดภัย แต่พอแสดงความเป็นห่วงเมื่ออยู่กันตามลำพัง ก็ถูกโอสถเย้าแหย่จนอดโมโหอีกไม่ได้ ยิหวาสงสัยว่าเพื่อนจะมีใจให้โอสถ แต่จอมขวัญคิดว่าในใจของโอสถมีแต่จำนรรค์เท่านั้น และมีเอกสิทธิ์เป็นเจ้าของหัวใจอยู่แล้ว

เอกสิทธิ์รู้สึกดีใจลึกๆ ที่โอสถไปเสี่ยงอันตราย และอดแช่งขออย่าให้โอสถกลับมา แต่เผลอพูดดังไปจนจู้จี้ได้ยิน จู้จี้ไม่พอใจจึงเข้ามาต่อว่าจนเอกสิทธิ์ไม่พอใจและเกิดการเถียงกับจู้จี้ที่รู้สึกว่าน่าจะภาวนาให้พวกเดียวกันปลอดภัย บุญชูมาได้ยินทำให้เห็นว่าจู้จี้เป็นเด็กที่มีความคิดและอะไรในตัวดีเหมือนกัน จึงคิดและเลิกแกล้งจู้จี้และทำดีด้วยแต่กลับถูกจู้จี้เล่นงานกลับคืนจนย่ำแย่

พวกโอสถเข้ามาในป่าเพื่อดักทัพของข้าศึก จอระแนสั่งให้เม็งรายอที่ชอบคุยทับถมเมืองประทุน เป็นกองหน้ายกพลล่วงหน้ามาก่อนเพื่อดูลาดเลา โอสถคิดจะดักซุ่มโจมตีแต่อนุชาเสนอแผนการที่ดีกว่านั้นคือ วิธีของพลายงามที่เสกใบมะขามเป็นผึ้งตัวต่อเล่นงานทัพของแสนตรีเพชรกล้าในวรรณคดีไทย และขอให้ชาวบ้านที่มีความสามารถในการจับผึ้งป่ามาขังไว้ในหม้อดินและปิดฝาขังไว้

เมื่อพวกของเม็งรายอเดินทางมาและเตะถูกเชือกที่ขึงดักอยู่ เชือกดึงหม้อดินตกลงมา ฝูงผึ้งป่าที่กำลังโกรธจัดเพราถูกจับขังก็กรูกันออกมาต่อยพวกเม็งรายออุตลุด จนเม็งรายอและทหารพากันแตกหนีไม่เป็นขบวน พวกชาวบ้านเลยพากันเข้าไปเก็บอาวุธที่ข้าศึกทิ้งไว้และขนกลับไปหมู่บ้านด้วยความดีใจ แต่ดอกรักบอกว่าแค่ข้าศึกที่เป็นกองหน้าแตกหนีไปเท่านั้น แถมยังไม่มีใครตาย อีกไม่ช้าก็คงจะมากันใหม่ และใช้วิธีสู้อย่างเก่าไมได้ อนุชากับกำจรและโอสถบอกพวกตนก็ยังไม่หมดมุขแค่นี้เหมือนกัน

เม็งรายอ และทหารหนีมาหน้าตาหัวหูบวมปูดไปตามๆ กัน จอระแนคิดว่าพวกชาวบ้านที่ท่าแพอาจจะมีวิชาอาคมเสกพวกสัตว์พิษได้ แต่ทุกคน ก็ต้องแปลกใจเมื่อเหล่าหยางกับเล่าอูเข้ามาหาและบอกว่าพวกตนเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างที่พวกนักศึกษาวางแผนกัน เมืองประทุนบอกกับจอระแนว่าเล่าอูเป็นใคร เล่าอูกับเล่าหยางเอาของขวัญแปลกๆ ให้และบอกว่าจะช่วยจอระแนจัดการกับนักศึกษาและชาวบ้านท่าสร้าง จอระแนจึงรับสองคนพ่อลูกไว้และตั้งให้เป็นที่ปรึกษา สั่งให้หมอยาช่วยกันพิษเหล็กในผึ้งให้พวกเม็งรายอและทหารกองหน้าก่อนที่จะเคลื่อนพลต่อมา

ขณะที่ทุกคนกำลังปรึกากัน รานีกับจิ๋วก็เข้ามาหา ชาวบ้านตกใจนึกว่ายักษ์หรือเปรตที่ไหน รานีบอกว่าเป็นห่วงโก๊ะจึงตามมา บุญหลายกับดาวเรืองชักไม่ชอบใจด้วยความหึงหวงและเกิดปะทะคารมกัน โก๊ะเลยหนีไป โจมตีข้าศึกด้วยความรำคาญใจ จิ๋วขอตามไปด้วย จอมขวัญกับยิหวาและลักษมีก็ขอตามไปสังเกตการณ์ เมืองประทุนส่งทหารออกมาหาข่าว ยิหวาแต่งชุดเชียร์ออกมาเต้นยั่วให้พวกทหารตามจนถูกพวกโก๊ะจับได้ และสอบถามจนรู้ว่าเมืองประทุนคุมกองหน้ามา

โก๊ะจำได้ว่าเมืองประทุนค่อนข้างขลาดและกลัวผี ยิหวา กับลักษมีจึงช่วยกันแต่งหน้าให้จิ๋วจนมองดูเหมือนผีเปรตตัวสูงใหญ่ ขณะที่เมืองประทุนกับทหารกำลังจะพักก็ต้องตกใจเมื่อเห็นจิ๋วบุกเข้ามา ทุกคนวิ่งหนีและถูกจอมขวัญกับโก๊ะสุ่มยิงจนล้มกลิ้งไปตามๆ กัน จอระแนชักหนักใจที่พวกโก๊ะมีฝีมือและวิชาอาคมแปลกๆ เหมือนกับขุนแผนเจ้าเมืองกาญจน์สมัยก่อน แต่เล่าหยางกับเล่าอูบอกว่าเรื่องคนตัวสูงไม่มีอะไรแปลกตรงไหนเพราะพวกตนเคยเห็น โยกเยก เชิญยิ้ม เป็นนักแสดงตลกรูปร่างสูงใหญ่มาแล้ว พวกโก๊ะอาจจะมีคนตัวสูงปลอมเป็นผีมาหลอกก็ได้ จอระแน จึงสั่งให้เล่าหยางกับเล่าอูลองเป็นศึกกองหน้าดูบ้าง

พวกชาวบ้านพากันดีใจที่ได้ชัยชนะข้าศึก โดยไม่เสียเลือดเนื้ออีก แต่ดอกรักกับหาญก็ค้านว่าพวกข้าศึกก็ไม่เสียเลือดเนื้อเช่นกัน และพวกมันคงไม่ยอมถอยไปง่ายๆ แค่นี้ และเมื่อกำลังข้าศึกใกล้เข้ามา หาญจึงอาสาหาคนของตนยกออกไปรับข้าศึกดูบ้าง เอกสิทธิ์รู้สึกเสียหน้าจึงขอตามไปด้วยเพราะคิดว่าคงไม่น่ากลัวซักเท่าไหร่ แต่พอจะปะทะกันจริงๆ และถูกพวก เล่าหยางซุ่มยิงใส่ เอกสิทธิ์ก็ถอดใจวิ่งหนีให้ชาวบ้านใจเสีย และพอเข้าปะทะกันจึงสู้พวกทหารไม่ได้ทำให้หาญได้รับบาดเจ็บ ต้องพ่ายกลับมาอย่างบอบช้ำยับเยิน จอระแนชื่นชมเล่าหยางกับเล่าอูจนเมืองประทุนและเม็งรายอไม่ค่อยพอใจ

หาญเห็นชาวบ้านเสียขวัญจึงประกาศสละตำแหน่งนายบ้านให้เลือกหัวหน้าใหม่ เฒ่าหอมขอสละสิทธิ์เพราะคิดว่าตนแก่เกินไป ดอกรักสนใจอยากได้ตำแหน่งนี้เพื่อจะได้ดูดีมีความหมาย โอสถเสนอให้ใช้วิธีเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยโดยใช้เสียข้างมาก มีคนเสนอให้โก๊ะรับตำแหน่งนายบ้านแข่งกับดอกรัก และเมื่อมีการเลือกตั้งคะแนนเสียงส่วนใหญ่ก็เป็นของโก๊ะทำให้โก๊ะได้เป็นนายบ้านคนใหม่แทนหาญ ดอกรักรู้สึกผิดหวังจนเตลิดออกจากหมู่บ้านอย่างคลุ้มคลั่ง และในที่สุดก็ถูกทหารของจอระแนจับตัวมาได้ จอระแนคิดจะฆ่าให้ตาย แต่เล่าอูคิดจะใช้ประโยชน์จากดอกรักจึงเข้ามาเกลี้ยกล่อมและเสนอผลประโยชน์จนดอกรักเริ่มหวั่นไหว

บุญชู พาลูกลิงแสนรู้ของตนเองไปเที่ยวในป่าและลิงหนีขึ้นต้นไม้ไม่ยอมลงมา บุญชูปีนตามขึ้นไปจึงรู้ว่าลิงหนีโขลงช้างป่าที่เข้ามาหากินใกล้ๆ บุญชูพาลิงกลับเข้าหมู่บ้านและมาเล่าให้โก๊ะฟัง โก๊ะจึงตัดสินใจออกไปล่อโขลงช้างป่าให้ตามมาและวิ่งเข้ากลางทัพข้าศึกจนจอระแนแทบจะถูกช้างป่าเหยียบตาย แต่พอตั้งหลักได้ก็ถูกพวกชาวบ้านมาตั้งค่ายบังเอาไว้

ทหารข้าศึกพยายามจะบุกเข้ามาให้ได้ แต่ถูกพวกโก๊ะและชาวบ้านยันเอาไว้อย่างเหนียวแน่น เล่าอูแอบมาพบกับดอกรักและเอายาเบื่อมาให้ดอกรักวางยาพวกโก๊ะและนักศึกษา แต่ทุกอย่างอยู่ในสายตาของบุญหลายกับดาวเรือง ดาวเรืองเสียใจแต่บุญหลายพูดปลอบว่าคนเราอาจจะผิดพลาดกันได้ ทั้งสองไปปรึกษากับโก๊ะเพื่อให้จับตัวดอกรักไว้ โก๊ะมาขอให้โอสถกับจัตวาช่วยแก้ปัญหา โอสถเล่าให้ทุกคนฟังถึงการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 1 ของไทยว่าเป็นเพราะความแตกความสามัคคีและมีไส้ศึกที่ทรยศต่อชาติต่อแผ่นดินเกิดของตนเอง โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว และในที่สุดข้าศึกก็ไม่เคยคิดจะเลี้ยงคนทรยศไว้ ดอกรักเริ่มคิดหนักและเมื่อได้ยินบุญหลายกับดาวเรืองเล่าให้บุญชูและจู้จี้ฟังถึงวีรกรรมต่างๆ ของตนเอง และดาวเรืองก็บอกว่าภูมิใจในพี่ชายที่ชื่อดอกรักคนนี้

เล่าอูบอกกับจอระแนว่า ได้รับการนัดหมายจากดอกรักเรื่องวางยาพวกนักศึกษาและชาวบ้าน จอระแนไม่แน่ใจเพราะเคยได้รับการบอกเล่าจากพี่ชายจึงให้เม็งรายอพาทหารบุกเข้าไป เม็งรายอเห็นทุกคนนอนหลับก็คิดจะฆ่าฟัน แต่พวกโก๊ะลุกขึ้นมาเล่นงานทหารข้าศึกและเม็งรายอจนจับเยิน ชาวบ้านเริ่มระส่ำระส่าย พวกกำจรแก้เกมด้วยการตัดต้นตาลมาทาสีให้ดูเหมือนปืนใหญ่นับสิบกระบอกแล้วลากออกมาประจันหน้า แล้วยิงด้วยบั้งไฟจนทหารข้าศึกนึกว่าถูกระดมยิงจากปืนใหญ่จำนวนมาก

พอเห็นว่าข้าศึกเสียขวัญ พวกโก๊ะกับทุกคนก็เข้าประจัญบานทันที จอระแน เมืองประทุน และเม็งรายอ รวมทั้งทหารข้าศึกต่างบาดเจ็บล้มตายแตกพ่ายหนี แม้จะเป็นฝ่ายมีชัย แต่โก๊ะก็ต้องสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่เมื่อบุญหลายกับดาวเรืองเข้าป้องกันบุญชูและจู้จี้จนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในอ้อมกอดของโก๊ะ ก่อนที่จะสัญญาว่าจะขอตามไปรักโก๊ะในทุกชาติไป

โก๊ะไม่สนใจรานีที่คิดว่าตนเองอาจจะมีหวังเมื่อโก๊ะกลับมาเป็นโสดอีกครั้ง ดอกรักปลอบใจและมองว่าตนเองกับรานีหัวอกเดียวกัน แต่หาญก็เข้ายืนยันว่าตนเองก็ผิดหวังเหมือนกัน และถามว่ารานีจะเลือกใคร โก๊ะกับบุญชูพากันมาส่งพวกนักศึกษาที่ถ้ำขณะที่กำจรจะทำระเบิดก็เกิดแผ่นดินไหวทุกคนกลับสู่โลกปัจจุบัน ทันใดนั้นเล่าหยางกับเล่าอู ก็โผล่เข้ามาดูถูกพวกจอมขวัญ ยิหวา ลักษมีจับเอาไว้ได้ และช่วยกันมัดทั้งสองพ่อลูกไว้ ทุกคนออกจากถ้ำไปแต่ที่สวนเข้ามาคือเสือตัวใหญ่ที่ท่าทางหิวกระหาย ทำให้สองโจรถึงกับร้องลั่นอย่างหมดหวัง

พวกโก๊ะกลับมาพักที่บ้านของทองใบ โก๊ะกับบุญชูยังไม่หายโศกเศร้าในขณะที่มีเสียงขบวนแห่ขันหมากเข้ามา จู้จี้ชวนบุญชูออกไป ดูแต่พอเห็นเจ้าบ่าวบุญชูก็หน้าตื่นกลับเข้ามาเพราะเจ้าบ่าวหน้าตาเหมือนดอกรักราวกับพิมพ์เดียวกัน ทองใบมาส่งข่าวว่าเจ้าบ่ายชื่อ ดอกดิน กำลังจะแต่งงานกับเจ้าสาวชื่อ บุญเรือน โก๊ะรู้สึกสังหรณ์ใจ จึงวิ่งไปดูพร้อมกับบุญชู พอเจ้าสาวเห็นหน้าโก๊ะกับบุญชูก็ตกใจ เช่นเดียวกับบุญชูที่ร้องตะโกนเรียกแม่ เพราะเจ้าสาวหน้าเหมือนบุญหลายราวกับพิมพ์เดียวกัน แล้วเจ้าสาวหรือบุญเรือนก็ทิ้งทุกอย่างวิ่งเข้ามาหาและบอกว่า โก๊ะ กับ บุญชู คือ คนที่เธอฝันถึงตลอดมา ทำเอาเจ้าบ่าวหรือดอกดินแทบจะเป็นบ้าด้วยความเสียใจ แต่ดาวที่เป็นน้องสาวเข้ามาปลอบใจและชวนไปดูการแสดงของนักร้องลูกทุ่งที่ดอกดินติดใจคือ อาภาพร นครสวรรค์

จอมขวัญ ยังคงเถียงกับโอสถ แต่ทั้งคู่รู้ดีว่าเป็นการเถียงเพื่อได้ใกล้ชิดกัน ส่วนกำจรกับยิหวา และอนุชากับลักษมีก็ตัดสินใจว่าจะทดลองคบกันเพื่อศึกษา จู้จี้สัญญาว่าจะไม่ลืมเพื่อนที่ชื่อ บุญชู และทุกคนก็ร่ำลากันและเดินทางไปตามครรลองชีวิตของตน

สิบสามปีต่อมา มีกลุ่มนักศึกษามาเที่ยวป่าและพบกับพรานนำทางหนุ่มหน้าตาดีแต่พูดคล่องท่าทางกะล่อนเต็มที่ พร้อมกับแนะนำตัวว่าชื่อพรานโก๊ะ มีเสียงท้วงว่าพรานโก๊ะน่าจะแก่กว่านี้ พรานโก๊ะหนุ่มจึงบอกผมเป็นลูกชายชื่อ โก๊ะจูเนียร์ และสงสัยว่ามีคนรู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่ใช่พรานโกะ นักศึกษาสาวสวยจึงบอกว่าเธอรู้ดีว่าเขาไม่ใช่และยังรู้ว่าชื่อจริงของเขาน่าจะชื่อ บุญชู ซะมากกว่า ทำให้โก๊ะจูเนียร์มองเด็กสาวอย่างพิจารณาก่อนจะร้องเรียกว่า ยายจู้จี้

โก๊ะจ๋าป่านะโก๊ะ 2549

เรื่องย่อ : โก๊ะจ๋าป่านะโก๊ะ (2549/2006) ป่าเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถจะเข้าใจได้ง่ายๆ นัก หลายครั้งการผจญภัยจึงเกิดขึ้นในป่า และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน เรื่องสนุกนี้เริ่มต้นขึ้น เมื่อกลุ่มนักศึกษาชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติ วางแผนที่จะออกเดินทางสำรวจป่า ซึ่งในกลุ่มนักศึกษาที่ร่วมเดินทางไปในครั้งนั้นก็มี “กำจัด” (นักรบ ไตรโพธิ์) หนุ่มนักประดิษฐ์ ที่มีความสามารถประมาณ แมกไกเวอร์ สามารถทำสิ่งที่ทุกคนไม่คิดว่าเขาจะทำได้ แต่เหตุจริงๆ ที่เขาร่วมเดินทางนั้นไม่ได้เริ่มมาจาก เพราะรักธรรมชาติอย่างสุดซึ้งหรอก แต่เพราะเขาหลงรัก “มยุรี” (กิ๊ฟ อัญชิสา เลี่ยวไพโรจน์) คนรักของ “วิทยา” (ณรงค์ศักดิ์ ขุนทอง) ซึ่งเป็นที่หมายปองของชายทุกคนอย่างสุดหัวใจต่างหาก จึงได้ขอเดินทางไปด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มยุรี กลับไม่เคยรู้ตัวว่า กำจัด ชอบเธอเลย

มาถึงนาย “โอสถ” (กีรติ เทพธัญญ์) คนที่จะขาดไม่ได้เลยสำหรับการเดินทางในครั้งนี้ เพราะเขาคือชายหนุ่มอารมณ์ดี ผู้มีทุกอย่างเพียบพร้อมไปหมด เสียบอยู่อย่างเดียว คือ ปากหมา เป็นคู่กัดกับ “จำนรรค์” (ปาลิตา โกศลศักดิ์) สาวน้อยที่ต้องการพิสูจน์ตัวเองว่า สามารถทำได้ทุกอย่างไม่แพ้ผู้ชาย

ก่อนที่กลุ่มนักศึกษาจะเดินทางเข้าป่า ก็ต้องมี พรานนำทาง แต่จนแล้วจนรอดก็หาไม่ได้ สุดท้ายจึงมาลงที่ “โก๊ะ” (อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร) พรานกำมะลอ ผู้หลงใหลในป่า และเพชรพระอุมา นิยายผจญภัยที่เขารัก โก๊ะ แนะนำตัวเองให้ทุกคนรู้จัก แล้วพยายามสร้างความเสื่อมใสให้เกิดขึ้น และก็ได้ผล เมื่อทุกคนทึ่งกับสิ่งที่โก๊ะเล่าให้ฟัง เว้นแต่โอสถที่ไม่ค่อยจะเชื่อใจโก๊ะ จึงขัดคออยู่เรื่อยๆ

ในวันเดินทางกลุ่มนักศึกษาแยกออกเป็น 2 กลุ่ม เพื่อลงแพ ด้วยความอวดเก่งของโก๊ะ กลุ่มนักศึกษาจึงพลัดหลงกัน และกลุ่มของโก๊ะเกิดหลงเข้าไปในเขตพม่า โก๊ะยังอวดเก่ง และนำทางอย่างมั่วๆ ต่อไป จนทำให้ถูกะเหรี่ยงจับได้ โอสถและโก๊ะ ถูกบังคับให้กลับไปเอาเงินค่าไถ่มา ทั้ง 2 คน จึงจำใจต้องไป

ขณะเดียวกันนั้น หัวหน้ากะเหรี่ยง พอใจมยุรี และอยากได้เป็นเมีย จึงสั่งให้ลูกน้องไปพาตัวมา กำจัดทนไม่ได้คิดแผนที่จะช่วยมยุรี โดยการเบี่ยงเบนความสนใจด้วยระเบิดที่ทำขึ้นเอง กะเหรี่ยงวุ่นวาย กลุ่มนักศึกษาหนีจากห้องขัง โดยกำจัดเข้าไปช่วยมยุรี และพากันหนีรอดออกมาได้

ฝ่ายโก๊ะ กับโอสถ เดินทางกันจนเหนื่อยอ่อน แต่ทหารกะเหรี่ยงที่คุมตัวทั้งคู่มา เกิดปะทะของทางการพม่าทั้ง 2 คนเกือบหนีออกมาได้ แต่ต้องมาเจอทหารพม่าจับตัวมาสอบสวนที่ค่าย ขณะนั้นได้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ด้วยเหตุนี้ทำให้ทั้งคู่หนีรอดมาได้

ทางด้านกลุ่มนักศึกษาที่นำโดยกำจัด ทุกคนออกเดินป่าอย่างหมดหวัง เพราะคิดว่าหลงป่า แต่เหมือนปาฏิหาริย์ที่ทั้งหมดมาเจอ โก๊ะ และโอสถจนได้

ทุกคนไม่เชื่อโก๊ะอีกแล้ว แต่ก็คล้อยตามให้โก๊ะนำทางต่อไปจนเจอถ้ำ จึงพักกันที่นี่ ตกดึกทุกคนต้องสะดุ้ง เพราะเสียงร้องของ “สวัสดี” (ชยพล หอมเกษร) ที่เข้าไปพบกระดูกในถ้ำ ทุกคนเริ่มกลัว แต่ไม่มีทางเลือกจึงต้องพักในถ้ำต่อไป จากนั้นก็เกิดแผ่นดินไหว

พอรุ่งเช้าทั้งหมดออกเดินสำรวจ และพบหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ดูแปลกตา นั่นก็เพราะทุกคนหลุดเข้ามาอยู่ในสมัยพระเจ้าตากสินเสียแล้ว

แต่แล้วทุกคนก็ถูกทหารพม่าที่นำโดย “ท่านนายกอง” (ค่อม ชวนชื่น) จับไปที่ค่าย กำจัดใช้ระเบิดที่ทำเองอีกครั้ง ทั้งหมดหนีออกมาได้ ทหารพม่าก็ไล่ตามมา แต่โชคเข้าข้างกลุ่มนักศึกษา เพราะกองกำลังชาวไทยที่นำโดย “ดอกรัก” (ยิ่งยง ยอดบัวงาม) เข้ามาช่วยทุกคนไว้ได้ และพากลับหมู่บ้าน

โก๊ะเดินสำรวจหมู่บ้านจนไปถึงลานหลังหมู่บ้าน โก๊ะได้พบกับ “บุญหลาย” (อรวรรษา ฐานวิเศษ) และตกหลุมรักทันที ตกเย็นทุกคนเข้ามารวมตัวที่ลานหมู่บ้าน “เฒ่าหอม” (ชุมพร เทพพิทักษ์) หัวหน้าหมู่บ้านกำลังเตรียมการรบกับพม่า นักศึกษาเริ่มสงสัยสิ่งที่เกิดขึ้นและในที่สุดก็รู้ว่าตัวเองหลุดเข้ามาในประตูกาลเวลา มาที่ปี 2420

นักศึกษาทุกคน ร่วมกันเสนอแผนการรบ ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันเข้ามาช่วย ในระหว่างที่ทุกคนสร้างอุปกรณ์ในการรบ ความรักของหลายๆ คู่ก็ค่อยๆ งอกเงยขึ้น อย่าง “ชัยชนะ” (สัจจา ปุผาลา) กับ “ดาวเรือง” (มาเจตตา วิเศษสมบัติ) น้องสาวของดอกรักและมยุรี ที่เปลี่ยนใจมาชอบกำจัด เพราะความเป็นห่วงเป็นใยของเขา ส่วนคู่ของ
จำนรรค์ กับโอสถ ยังไม่มีการแสดงออก นอกจากจะเก็บไว้ในใจ แต่ทุกคนก็รู้ว่าทั้งสองคนมีใจให้กัน

กลุ่มชาวบ้านบุกไปปล้นเสบียงของพวกพม่าถึง 2 ครั้ง แต่ในครั้งที่ 2 หลายคนได้รับบาดเจ็บ ต่อมาเสบียงเริ่มร่อยหรอ เฒ่าหอมจึงขอให้นักศึกษาช่วยปล้นเสบียงอีกครั้ง ด้วยความเมา จำนรรค์จึงอาสาเข้าปล้นเอง ทุกคนจึงตกกระไดพลอยโจร ในการร่วมปล้นเสบียงอย่างทุลักทุเล แต่สุดท้ายก็สามารถทำสำเร็จ

อยู่มาวันหนึ่ง บุญหลายได้พูดถึงของสิ่งหนึ่งที่เธอเก็บได้ ซึ่งก็คือ วิทยุสื่อสารของ กำจัด ที่ตกไว้เมื่อครั้งหลุดเข้ามาในยุคนี้ใหม่ๆ เลยเอามาให้กำจัดดู กำจัดดีใจมากที่วิทยุใช้งานได้ เพราะนั่นหมายความว่า มีทางที่จะติดต่อกับเพื่อนในยุคปัจจุบัน

กำจัดลองวิทยุสื่อสาร โดยไปที่ถ้ำ เพราะคิดว่าคลื่นน่าจะชัด จึงไปกับมยุรี และจำนรรค์ ระหว่างทางทั้ง 3 คนเจอเสือ กำจัด กับมยุรีหนีได้ ส่วนจำนรรค์วิ่งหนีไปอีกทาง พอหนีพ้น กำจัดจึงกลับไปบอกทุกคนให้ช่วยตามหาจำนรรค์ที่วิ่งเตลิดไป “อัศวิน” (พรวิษณุ สุวรส) ขี่จักรยานตามหาแต่ไม่พบ กลับไปเจอกับทหารพม่าที่แอบมาตั้งค่ายอยู่ใกล้จึงรีบมาบอกทุกคน ทั้งหมดเตรียมการที่จะต่อสู้ กำจัดนำเครื่องดักฟังมาใช้ ทำให้รู้ว่าทหารพม่ากำลังตักน้ำดื่มเป็นเสบียง โอสถวางแผนโดยการวางยาลงไปที่น้ำดื่มของพม่า เมื่อถึงเวลาประจัญบานทหารพม่าต่างอ่อนแรงเพราะท้องเสีย กองกำลังชาวไทยจึงชนะอย่างง่ายดาย ทหารพม่าที่หนีไปได้เจอกับจำนรรค์เข้าพอดี จำนรรค์อาศัยความกล้าเอาไม้ตีหัว และปลอมตัวเป็นทหารพม่า ทางนายกองพม่าโกรธมากที่เสียทั้งทหาร เสบียง และอาวุธ จึงเตรียมการบุกใหญ่อีกครั้งหนึ่ง

ทางฝ่ายดอกรักที่กำลังหาวิธีที่จะถอนฟัน จึงใช้คานยิงลูกหินที่กำจัดประดิษฐ์ขึ้นงัด แทนที่ฟันจะหลุดกลับเป็นตัวดอกรักที่กระเด็นไปตกที่ค่ายทหารพม่า และโดนจับในที่สุด ทุกคนหาทางช่วยดอกรัก เมื่อถึงเวลาประจัญบาน ทหารพม่าปรับวิธีรบ ด้วยการตีโอบด้านหลังจึงจับทุกคนไว้ได้ แต่
จำนรรค์ที่ปลอมเป็นทหารพม่าก็หาทางที่จะช่วยเพื่อนๆ โดยลอบตียาม และช่วยทุกคนออกมาได้

กำจัดใช้วิทยุติดต่อกับ “จ่าทองก้อน” (รัญ เมืองลพ) ได้ และเล่าเรื่องราวให้ฟัง จากนั้นก็บอกว่าจะกลับไปและให้ จ่าทองก้อนมารอรับออกจากป่า ทางกำจัดคิดได้ว่าวิธีที่จะกลับไปได้ ต้องทำให้ถ้ำเกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอีกครั้ง ซึ่งต้องใช้ดินปืนจำนวนมาก นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่มี

กลุ่มชาวบ้านและนักศึกษาทุกคน ใช้วิธีการซุ่มโจมตีอันเหนือชั้น และพบดินปืนจำนวนมากในค่ายทหารพม่า นักศึกษาดีใจมากและเตรียมระเบิดถ้ำ เพื่อจะกลับบ้านแต่คนที่ไม่อยากกลับ คือ โก๊ะ นั่นเอง เพราะเขาอยากอยู่กับบุญหลายคนที่เขารัก และคิดว่าตัวเองเหมาะกับที่นี่ ทุกคนเลยไม่ผืนใจ โก๊ะฝากบอกคนที่บ้านด้วยว่าเขาอยู่ที่นี่กับคนที่เขารัก กำจัดเริ่มนับถอยหลัง เสียงระเบิดดังขึ้น ทุกคนได้กลับมาในยุคปัจจุบัน และการผจญภัยอันแสนมหัศจรรย์ก็จบลงด้วยดี ติดตามชมได้ทุกวัน เวลา 18:45 น. ทางช่อง 7 สี

ตำรวจเหล็ก 2553

เรื่องย่อ : ตำรวจเหล็ก (2553/2010) พ.ต.ท.เอกภาพ (อัครา อมาตยกุล) นายตำรวจหนุ่มมือดีจากค่ายนเรศวร ถูก พล.ต.ท.วิชัย เรียกตัวมาช่วยงานราชการ ให้เป็นหัวหน้าหน่วยนปพ.ฉก. โดยปฏิบัติการพิเศษปราบผู้ก่อการร้ายข้ามชาติขบวนการแอตแลนด์ติส ที่ใช้เมืองไทยเป็นฐานกำลังในการทำงานผิดกฎหมายทุกประเภท โดยอาศัยแก๊งอิทธิพล 2 แก๊งใหญ่ที่มีธุรกิจถูกกฎหมายบังหน้าอย่างแก๊งนายภูมิชาติ และแก๊งนายวิโรจน์ และที่สำคัญ ขบวนการแอตแลนด์ติสกำลังจะแลกซื้ออาวุธสงครามล็อตใหญ่ที่หากทำสำเร็จประเทศ ทั่วภาคพื้นเอเชียจะวุ่ยวายจากการก่อการร้ายแน่นอน พ.ต.ท.เอกภาพ ขอมือดีมาช่วยอีก4นาย พ.ต.ต.ธัญญะ (โอลิเวอร์ บีเวอร์) หน่วยอรินทร์ราช ร.ต.อ.วีระชัย (เอกพงศ์ ผูกพันธุ์) กรมสรรพาวุธ ร.ต.ท.วรัญญา (รฐกร สถิรบุตร) เชี่ยวชาญนิติวิทยาศาสตร์ จ.ส.อ.ทองใบ เชี่ยวชาญคอมพิวเตอร์

ห้าว เล็กเล็ก 2543
กองร้อย 501 2542

เรื่องย่อ : กองร้อย 501 (2542/1999) เรื่องราวสุดป่วนของเหล่านายทหารในกองร้อย 501 ที่อบอวลไปด้วยความตลก ซึ้ง มัน ฮา ครบรส

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 25 รายการ