จุด•นัด•ฝัน 2558

จุด•นัด•ฝัน (2558/2015) เรื่องราวของกลุ่มเพื่อนร่วมรั้วมหาวิทยาลัย อดีตดาว-เดือนผู้โด่งดังที่อยากจะออกมาโลดแล่นในชีวิตจริงให้สมกับที่เคยฝันไว้ แต่เมื่อวันนั้นมาถึง...พวกเขาได้พบว่าความจริงโหดร้ายกว่าในตำรามากนัก!! เขาและเธอต้องต่อสู้แข่งขันเพื่อการมีตัวตนในสังคม ความมั่นใจที่เคยคิดว่ามี ความเก่งกล้าที่เคยคิดว่าแน่เริ่มไม่เพียงพอที่จะพาพวกเขาก้าวไปถึงความฝัน แล้วอะไรที่จะทำให้ความฝันของพวกเขาเป็นจริงได้? 4 ปีหลังจบการศึกษา กลุ่มเพื่อนที่สนิทจากชมรมการแสดง อันได้แก่... เอิร์ธ อดีตประธานรุ่น เกียรตินิยมอันดับ1 ไอดอลของรุ่นน้อง ปัจจุบันได้ทำงานเป็นวิศวกรในบริษัทพลังงานแห่งชาติ ที่โรงกลั่นน้ำมันจังหวัดระยอง เต้ย แฟนเก่าของเอิร์ธที่คบกันสมัยเรียน อดีตเจ้าแม่กิจกรรมสุดติสต์ ปัจจุบันเป็นผู้ช่วยผู้กำกับหนัง เฌอแตม สาวฮอตของกลุ่ม ปัจจุบันมีดีกรีเป็นถึง PR Corporate ของบริษัทเครือข่ายมือถือชั้นนำ นิก อดีตนักร้องนำวงดนตรีของมหาวิทยาลัย ปัจจุบันเป็นนักร้องประจำในผับชื่อดัง เจษ Hair Stylish สุดฮิป ลูกชายเสี่ยเจ้าของร้านทองที่มีฝีมืออย่างหาตัวจับได้ยาก ทั้งหมดนัดแนะมาเจอกัน ณ ร้าน ตั้งหลัก ที่สิงสถิตย์ประจำของกลุ่ม เพราะอยู่ดี ๆ เอิร์ธก็ขอย้ายกลับมาประจำที่สำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพ พี่โขม เจ้าของร้านปากจัดสุดแสบสังเกตเห็นว่าเอิร์ธมีแนวคิดบางอย่างเปลี่ยนไป แถมยังช่วยจุดไฟให้เพื่อนทุกคนรีบทำความฝันให้สำเร็จก่อนที่จะสาย ซึ่งทำให้เพื่อนทุกคนระบายอุปสรรคที่กำลังเผชิญอยู่ออกมา

หัวใจมีเงา 2558

หัวใจมีเงา (2558/2015) ละเวง อินทรักษ์ (ก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ) นักข่าวสาวคนเก่งแห่งสถานีข่าว KTV และเป็นคนรักของ กวี วงศ์เกียรติอนันต์ (โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์) หัวหน้าทีมข่าวเฉพาะกิจ ทั้งการงานและความรักของละเวงกำลังรุ่งโรจน์เต็มที่ วันหนึ่งมีชายลึกลับติดต่อละเวงว่าต้องการส่งข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตระดับชาติ แต่หลังได้รับข้อมูล ละเวงก็รู้สึกว่าถูกสะกดรอยตาม เธอจึงพยายามขับรถหนีจนรถเสียหลักพลิกคว่ำ ทำให้ละเวงเสียชีวิตทันที แต่จิตของละเวงไม่แตกดับ เธอรู้สึกตัวอีกครั้งในร่างของ อมาวสี ราชเดชา (โดนัท-มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล) หญิงสาวบอบบางที่หัวใจวายและถูกส่งมาที่โรงพยาบาลในเวลาเดียวกัน ละเวงจำอะไรไม่ได้แม้แต่ชื่อของตัวเอง ในขณะที่จิตใต้สำนึกของเธอทำให้เธอปฏิเสธร่างใหม่ ละเวงพยายามบอกทุกคนว่าเธอไม่ใช่อมาวสีแต่ไม่มีใครเชื่อ เมื่อ เทิดพงษ์ (ศานติ สันติเวชกุล) กับ ระริน (อุทุมพร ศิลาพันธ์) พ่อแม่ของอมาวสี พาเธอกลับบ้าน ทำให้เธอได้พบกับ โยธา สิทธิ์พิทักษ์ (แฟร์-กันต์ดนย์ อะคาซาน) คู่หมั้นซึ่งกำลังจะแต่งงานกันในไม่ช้า อมาวสีขอยกเลิกการแต่งงานแต่โยธาไม่ยอม เธอจึงไปขอร้อง กรองทอง (เอ้ก-บุษกร ตันติภนา) คนรักเก่าของโยธา ให้กลับมาคบกับเขา ทำให้ พิมพา (เจนสุดา ปานโต) พี่สาวต่างสายเลือดของอมาวสีที่แอบหลงรักโยธามานาน บอกทุกคนว่าอมาวสีเป็นบ้า จน สุรางค์ (กาญจนา จินดาวัฒน์) ญาติผู้ใหญ่ของโยธา ต้องการให้ยกเลิกการแต่งงาน แต่เมื่อ หมอประสพ (อาเธอร์ เบญจกุล) เพื่อนสนิทของโยธาและแพทย์ประจำตัวของอมาวสี ยืนยันว่าเธอไม่ได้บ้า ทั้งพิมพาและสุรางค์จึงไม่มีเหตุผลมาขัดใจโยธาได้อีก วันหนึ่งอมาวสีรู้ข่าวการตายของละเวง ทำให้เธอสะดุดใจอย่างจัง อมาวสีพยายามค้นเรื่องราวทุกอย่างจนได้เห็นซากรถของละเวง ความทรงจำบางส่วนจึงกลับคืนมา อมาวสีมั่นใจว่าเธอคือละเวงและรู้ว่ามีเรื่องสำคัญบางอย่างที่ต้องทำให้สำเร็จ แต่ครอบครัวใหม่ของเธอกลับเป็นอุปสรรค ด้วยเหตุนี้โยธาจึงเป็นทางออกเดียวของเธอ อมาวสีจึงยอมแต่งงานกับโยธาโดยมีเงื่อนไขว่าโยธาจะต้องไม่ล่วงเกินเธอและยอมให้เธอทำทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ว่าเธอคือละเวงเป็นเวลาหนึ่งปี หากเธอทำไม่ได้ก็จะยอมเป็นอมาวสีและจะยอมเป็นภรรยาที่ดีของเขา โยธายอมรับเงื่อนไขนั้น โยธาตัดสินใจย้ายไปอยู่ที่กรุงเทพฯ เพื่อหนีเรื่องยุ่งยาก แต่กลับทำให้อมาวสีได้พบสังคมเก่าที่คุ้นเคย อมาวสีจำกวีรวมทั้งเพื่อนร่วมงานทุกคนได้ทันที เธอจึงหาทางกลับไปทำงานใน KTV อีกครั้ง โยธาเริ่มน้อยใจที่อมาวสีทำตัวเหมือนไม่ต้องการเขา จึงประชดด้วยการให้ความสนิทสนมกับพิมพาและกรองทองมากขึ้น ซึ่งอมาวสีก็ทำเป็นไม่แคร์แม้บางทีเธอจะรู้สึกไม่พอใจอย่างบอกไม่ถูก แม้ทั้งคู่จะขัดแย้งกันตลอดเวลา แต่การใช้ชีวิตร่วมกันได้ก่อความผูกพันใหม่ที่ลึกซึ้งขึ้นในหัวใจของทั้งคู่โดยไม่รู้ตัว ขณะเดียวกันกวีรู้สึกว่าอมาวสีมีบางอย่างที่เหมือนกับผู้หญิงที่เขารักและเริ่มใกล้ชิดกับอมาวสีมากขึ้น แต่แล้วอมาวสีก็ต้องโยนความสับสนในใจทิ้งไปก่อน เมื่อเธอหาทัมป์ไดรฟ์ที่ได้จากชายลึกลับก่อนเกิดอุบัติเหตุพบ ข้อมูลในทัมป์ไดรฟ์เปิดเผยเรื่องราวของนักธุรกิจใหญ่คนหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังการคอรัปชันมากมาย ทว่าการเปิดโปงชายคนนี้กลับสร้างความสะเทือนใจให้อมาวสีอย่างรุนแรง แล้วใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการทุจริตที่ละเวงค้นพบ ? สุดท้ายแล้วรักสามเส้าของ ละเวงในร่างอมาวสี โยธา และกวีจะลงเอยอย่างไร ? ติดตามชมและร่วมลุ้นได้ใน ละครหัวใจมีเงา

จัดรัก..วิวาห์ลวง 2558

จัดรัก..วิวาห์ลวง (2558/2015) จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อคู่รักเซเลบที่เลิกรากันไปแล้วอย่างโน๊ต (บี้-สุกฤษฎิ์) หนุ่มนักวาดการ์ตูนมือทอง กับแพต (แป้ง-อรจิรา) ดาราสาวสุดฮอต แต่ยังต้องสร้างภาพเป็นคู่รักหวานชื่น และมีแผนจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้ เพราะกลัวผิดสัญญาโฆษณามูลค่าหลายสิบล้านที่เซ็นไว้ตั้งแต่ยังคบกัน โดยมี ฮันนี่ (นก-ศิขรินธาร) ผู้จัดการส่วนตัวของแพต ช่วยเก็บความลับพร้อมจัดฉากให้ทั้งคู่ยังดูรักกันดีอยู่เสมอ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ทั้งคู่เลิกรากันเป็นเพราะแพตแอบไปคบกับ เมฆ (ณัฎฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา) ไฮโซตระกูลดัง ซึ่งโน๊ตไม่เคยรู้มาก่อน แม้จะยังไม่มีใครรู้ความจริงเรื่องรักกำมะลอครั้งนี้ แต่เรื่องวุ่น ๆ ก็เกิดขึ้น เมื่อกิ่งแก้ว (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) ไฮโซผู้มีอิทธิพลในวงการ เจ้าของสินค้าที่มีสัญญาผูกมัดโน๊ตและแพตอยู่หลายตัว ได้ชวนทั้งคู่ไปเที่ยวรีสอร์ทหรูบนเกาะเป็นเวลา 1 สัปดาห์เต็ม เพื่อร่วมงานปาร์ตี้วันเกิดของตน โดยมีเซเลบชื่อดัง อย่างดีเจ.ป๊อป (เกริก ซิลเลอร์) กะเทยฝีปากกล้าผู้รู้ลึกรู้จริง และพร้อมแฉทุกข่าวคาวในวงการ กับ วิภาวี (อ๋อม-สกาวใจ) ไฮโซรุ่นใหญ่เจ้าของนิตยสารแฟชั่นผู้กว้างขวางในวงการแม็กกาซีนร่วมทริปอยู่ด้วย การมาปาร์ตี้ครั้งนี้ทำให้โน๊ตได้เจอกับ จูน (หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ) คู่ปรับเก่าที่เคยมีเรื่องเข้าใจผิดกันมาก่อน แถมจูนยังเป็นโปรเจคท์เมเนเจอร์ ที่รับผิดชอบการจัดงานแต่งงานให้โน๊ตกับแพต ในอีก 2 เดือนข้างหน้าอีกด้วย งานนี้หนุ่มวาดการ์ตูนผู้ช้ำรัก กับ สาวออร์แกไนซ์ที่เพิ่งอกหัก จึงได้มาเป็นคู่ปรับกันต่อบนเกาะแห่งนี้ แต่โน๊ตและจูนกลับไม่เคยรู้ตัวว่า ทุกครั้งที่เค้าและเธอทะเลาะกัน ความผูกพันธ์ และความรู้สึกดี ๆ กำลังก่อตัวขึ้นในใจ แต่จู่ ๆ แพตกลับงานเข้า เมื่อเมฆเกิดอาการหึงที่แพตต้องมาสร้างภาพอยู่กับโน๊ตหลายวัน จึงตามมาวุ่นวายกับแพตที่รีสอร์ท สร้างความสงสัยให้กิ่งแก้วและแก็งค์เซเลบช่างเม้าท์มากขึ้น ในขณะเดียวกัน คิม (อั๊ต-อัษฎา พานิชกุล) ลูกชายเจ้าของบริษัทที่จูนทำงานอยู่ และแอบหลงรักจูนมานาน ก็ตามมาดามใจจูนด้วยอีกคน ในคืนปาร์ตี้วันเกิด โน๊ตเห็นจูนสนิทสนมกับคิม ด้วยความหมั่นไส้และแอบหึง โน๊ตจึงเข้าไปแกล้งจนทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น บวกกับการที่โน๊ตได้รู้ความจริงว่า แพตแอบคบกับเมฆมานานแล้ว โน๊ตเสียใจที่ตนเองถูกหลอกมาโดยตลอด เค้าจึงสารภาพถึงความรู้สึกที่ตัวเองมีให้กับจูน ซึ่งสิ่งที่อยู่ในใจของจูนก็ไม่ต่างกันจากโน๊ต โน๊ตตัดสินใจว่าจะยกเลิกงานแต่งงานกับแพตเพื่อมาคบกับจูน แต่เรื่องราวไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อแพตได้รับรู้เรื่องราวอีกด้านของเมฆ ว่าแท้จริงแล้วเมฆกำลังจะล้มละลาย และทำทุกอย่างเพื่อหลอกเอาเงินจากเธอ ต่างจากบริษัทอนิเมชั่นของโน๊ตที่กำลังรุ่งเรือง แพตจึงวางแผนดึงตัวโน๊ตกลับมา แม้เธอจะรู้ว่าตอนนี้โน๊ตกำลังคบกับจูนอยู่ก็ตาม เมื่อกลับมาถึงกรุงเทพฯ แพตจึงเริ่มแผนการด้วยการรับงานอีเว้นท์ และถ่ายแบบนิตยสารคู่กับโน๊ตหลายฉบับ เพื่อตอกย้ำความสัมพันธ์หวานซึ้งของเธอให้ประชาชนเห็น ในขณะที่จูนรอคอยให้โน๊ตเคลียร์เรื่องรักสร้างภาพกับแพตให้เสร็จ แต่จู่ ๆ โน๊ตก็กลับยืนยันว่าเค้ายังคงต้องแต่งงานกับแพต โดยไม่ยอมบอกถึงเหตุผลที่แท้จริงที่อยู่ในใจ ซึ่งหมายความว่าเธอจะต้องเป็นคนจัดการเรื่องงานแต่งงานให้โน๊ตกับแพตด้วยหัวใจที่บอบช้ำ สุดท้าย...เรื่องราว ความรักที่ไม่ให้ใครรู้ ไม่เจ็บสู้..การที่ต้องแกล้งรัก ของเขาและเธอ..จะลงเอยอย่างไร? ตามลุ้นกันต่อได้ในละครโรแมนติกดราม่าเข้มข้น ละครจัดรักวิวาห์ลวง

ร้อยเล่ห์เสน่ห์ร้าย 2558

ร้อยเล่ห์เสน่ห์ร้าย (2558/2015) เกษมราช (ดิลก ทองวัฒนา) เศรษฐีพันล้านเจ้าของธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ชื่อดังป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย เขาต้องการตามหาครอบครัวที่เหลืออยู่ของ จักรพจน์ (รอน บรรจงสร้าง) เพื่อนสนิทผู้ล่วงลับที่เขาเคยหักหลังแล้วฮุบกิจการที่สร้างร่วมกันมา เพื่อชดใช้ในสิ่งที่ตนเคยทำ เกษมราชให้คนตามสืบจนพบกับ น้ำหนึ่ง (ภัณฑิลา วิน ปานสิริธนาโชติ) ลูกสาวคนเดียวของจักรพจน์ น้ำหนึ่งอาศัยอยู่กับ แม่พิมพิศ (ปวีณา ชารีฟสกุล) ทั้งคู่เปิดร้านทำผมเล็ก ๆ ใช้ชีวิตอยู่อย่างพอมีพอกิน เกษมราช ขอให้พิมพิศยกโทษให้ตน แต่พิมพิศกลับใจแข็ง เขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนพินัยกรรมยกสมบัติครึ่งหนึ่งให้กับน้ำหนึ่งเพื่อเป็นการ ไถ่โทษ หลังเกษมราชเสียชีวิต ก้องภพ (พุฒิชัย เกษตรสิน) ลูกชายคนเดียวของเกษมราชก็สั่ง ทนายเทียนชัย (พลวัฒน์ มนูประเสริฐ) ให้เปิดพินัยกรรม แต่ก้องภพก็ต้องผิดหวังและโกรธจัดเมื่อรู้ว่าพ่อแบ่งสมบัติครึ่งหนึ่งให้กับผู้หญิงที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า ก้องภพบังคับให้เทียนชัยเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ก้องภพกลายเป็นทายาทพันล้านที่เนื้อหอมที่สุดในวงสังคม มีหญิงสาวมากมายเข้ามารุมล้อม คนแรกคือ พรฟ้า (มาลินี โคทส์) คุณหนูไฮโซหลานสาวของ รัตนา (ปณิตา ธรรมวัฒนะ) น้าสะใภ้ของก้องภพ คนที่สองคือ แพรวรุ่ง (สิตางศุ์ ปุณภพ) ดาวเด่นอันดับหนึ่งใน The Harem Member Club กิจการของครอบครัวก้องภพ และคนที่สามคือ เจนนี่ (แอริน ยุกตะทัต) ดีเจสาวสุดเซ็กซี่ประจำ The Harem Disco Theque ก้องภพต้องรับมือสาว ๆ ทั้ง 3 ในขณะเดียวกัน ก็ต้องจัดการกับเสี้ยนหนามอย่างน้ำหนึ่งด้วย แต่ความแข็งกร้าวของน้ำหนึ่งทำให้ก้องภพรู้ว่าการเอาชนะใจเธอไม่ใช่เรื่องง่าย เขาจึงต้องทำให้เธอรักเขาให้ได้ ก้องภพสามารถเอาชนะใจพิมพิศจนเป็นที่ไว้วางใจ ในระหว่างที่ก้องภพมาหาน้ำหนึ่งที่บ้านเป็นประจำ เขาก็ได้เจอกับ ต่อ (ชินวุฒ อินทรคูสิน) เพื่อนสนิทที่แอบรักน้ำหนึ่ง ก้องภพจึงชวนน้ำหนึ่งมาทำงานที่คอมเพล็กซ์เพื่อให้เธออยู่ห่างจากต่อ นับตั้งแต่วันแรกที่น้ำหนึ่งเข้ามาทำงานเป็นช่างเสริมสวยของร้านที่คอมเพล็กซ์ บรรดาสาว ๆ ของก้องภพก็เข้ามาวุ่นวายกับน้ำหนึ่งไม่เว้นแต่ละวัน แต่ก้องภพก็ทำทุกอย่างให้น้ำหนึ่งประทับใจด้วยการปกป้องและให้เกียรติ จนในที่สุดความพยายามของก้องภพก็สำเร็จ น้ำหนึ่งหลงรักก้องภพจนก้องภพรับรู้ได้ เขาจึงขอน้ำหนึ่งแต่งงานทันทีและเธอก็ตอบตกลง แต่แล้วความสุขของเธอก็พังทลายหลังจากเซ็นต์ใบทะเบียนสมรสเพียงไม่กี่วินาที เมื่อเธอได้รู้ความจริงเรื่องพินัยกรรม และก้องภพ ก็ยอมรับว่าที่ตนทำไปทั้งหมดก็เพื่อสมบัติ พิมพิศจึงตัดสินใจเล่าเรื่องระหว่างเกษมราชและจักรพจน์ให้น้ำหนึ่งฟัง น้ำหนึ่งจึงคิดแก้แค้นและเอาคืนก้องภพด้วยการไม่ยอมหย่า ทำให้ก้องภพแค้นมากที่น้ำหนึ่งไม่ว่าง่ายอย่างที่คิด ก้องภพเริ่มไม่พอใจและหึงหวงเมื่อเห็นความสนิทสนมมากผิดปกติของต่อและน้ำหนึ่ง เขาจึงเอาชนะน้ำหนึ่งด้วยการ ปลุกปล้ำเธอ หลังจากคืนนั้นก้องภพเริ่มรู้ตัวว่าตนหลงรักน้ำหนึ่ง ซึ่งน้ำหนึ่งเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน พรฟ้าสังเกตเห็นความรู้สึกที่ ก้องภพมีต่อน้ำหนึ่ง จึงไปบอกก้องภพว่าน้ำหนึ่งให้ต่อยืมเงิน 5 ล้านบาทเพื่อใช้หนี้ ทำให้ก้องภพทั้งเสียใจและผิดหวังเพราะคิดว่าน้ำหนึ่งให้ต่อยืมเงินด้วยความรัก ก้องภพจึงตัดสินใจขอหย่ากับน้ำหนึ่งทันที โดยไม่ต้องการสมบัติของเธอคืน ส่วนน้ำหนึ่งเอง ก็เสียใจมากที่ก้องภพเข้าใจผิด เธอจึงตัดสินใจหย่าให้ก้องภพ และจากไปโดยที่ไม่ยอมเอาทรัพย์สมบัติไปด้วยแม้แต่แดงเดียว ความรักที่เริ่มต้นจากการหลอกลวงจะลงเอยอย่างไร? ติดตามชมและร่วมลุ้นไปกับ ผู้ชายเสน่ห์เหลือร้าย ก้องภพ และ ผู้หญิงหัวดื้อ น้ำหนึ่ง ได้ใน ละครร้อยเล่ห์เสน่ห์ร้าย

2 รัก 2 วิญญาณ 2558

2 รัก 2 วิญญาณ (2558/2015) ปี พ.ศ.2505 กระแสอันธพาลครองเมืองและเพลงร็อคแอนด์โรลยังคงครอบครองหัวใจหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ บรรดา หนุ่มสาวที่รักสนุกต่างพากันเที่ยวเตร่ตามไนท์คลับต่าง ๆ รวมไปถึงหนุ่มเจ้าสำราญอย่าง สัญญา (แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) ที่ใช้ชีวิตประหนึ่งว่าเป็นหนุ่มโสด โดยลืมไปว่าตนได้แต่งงานอยู่กินกับรัชนี (แคท-แคทรียา อิงลิช) มานานแล้ว และแม้จะรู้อยู่เต็มอกว่ารัชนีดุแค่ไหนแต่เขาก็ยังกระล่อนหนีรัชนีไปเสเพลตามบ่อนและไนท์คลับอยู่เป็นประจำ จน กระทั่วคืนหนึ่ง... ณ บ้านอมตวงศ์ เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งใหญ่ เมื่อรัชนีจับได้ว่าสัญญาแอบนอกใจไปมีกิ๊กเป็น ชนิดา (อุ้ม-ลักขนา วัธนวงส์ศิริ) และ เยาวเรศ (ชาม โอสถานนท์) สองสาวดาวเต้นดาวเด่นประจำไนท์คลับ ทั้งคู่หลอก สัญญาว่าเธอคนหนึ่งตั้งท้องลูกของสัญญา เพราะหวังจะจับสัญญาและปลอกลอกเอาเงิน สัญญาที่พยายามมีลูกกับ รัชนีมานานจึงดีใจมากที่จะได้เป็นพ่อคน แต่เมื่อรัชนีจับได้คาหนังคาเขาว่าสามีนอกใจ ด้วยพิษรักแรงหึงรัชนียันดาล โทสะยิงสัญญา แม้กระสุนจะไม่เข้าเป้าแต่เสียงก็ทำให้สัญญาตกใจจนพลัดตกบันไดลงมาคอหักตาย ฝ่ายรัชนีก็ ตกใจจนหัวใจวายตายตามสามีไป ฝากชนิดาและเยาวเรศก็ขับรถหนีหัวซุกหัวซุน ทั้งคู่โทษกันไปมาถึงเรื่องราวที่ เกิดขึ้น จนทำให้รถเกิดอุบัติเหตุและสองสาวเสียชีวิตทันที หลังจากนั้น ความเฮี้ยนของผีสัญญาและรัชนี ทำให้น้องสาวของรัชนีตัดสินใจเชิญหมอผีมาทำพิธีสะกดวิญญาณลง ในรูปวาดสีน้ำมันก่อนจะปิดตายบ้านไว้จนกลายเป็นบ้านร้างในที่สุด....52 ปีต่อมา อนวัช (บีม-กวี ตันจรารักษ์) ได้พา นุชวรา (พีค-ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ) ภรรยาที่พึ่งแต่งงานกันย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านอมตวงศ์ วัช กับ นุช ใช้ชีวิตถูก ทำนองคลองธรรมมาตั้งแต่เรียน พอเรียนจบวัชได้งานเป็นพนักงานบัญชีของบริษัทขายเครื่องถ่ายเอกสาร วัชไม่ได้ ร่ำรวยแต่ก็พยายามเก็บเงินขอนุชแต่งงาน แม้ว่าแม่ของนุชจะไม่เห็นด้วย หลังแต่งงานนุชกลายเป็นแม่บ้าน ทำเค้ก ทำขนมส่งให้ร้านกาแฟ ทั้งคู่ใฝ่ฝันจะสร้างครอบครัวมีบ้านที่อบอุ่น แต่ทว่าเงินเดือนพนักงานบัญชีของวัชไม่สามารถ หาบ้านที่เป็ยรังรักอันแสนอบอุ่นให้กับนุชได้ เมื่อวัชมาเจอบ้านอมตวงศ์ วัชและนุชแปลกใจที่ราคาเช่าถูกเหลือเชื่อ เมื่อเทียบกับขนาดเนื้อที่ของบ้าน วัชและนุชจึงตกลงย้ายเข้าอยู่ทันที โดยที่ไม่ฟังเสียงล่ำลือของชาวบ้านถึงตำนาน ความเฮี้ยนของบ้านหลังนี้ ศักดา (ดีเจเอกกี้-เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ) หลานแท้ ๆ ของรัชนี ได้รับบ้านอมตวงศ์เป็นมรดกตามกฏหมาย ศักดารู้ เรื่องความเฮี้ยนของบ้านนี้ผ่านการเล่าของพ่อแม่ แต่ศักดาปิดปากเงียบไม่อยากให้เรื่องนี้รู้ไปถึงหูวัชและนุช นุชได้ พบภาพวาดสีน้ำมันที่ถูกซ่อนไว้อย่างมิดชิด ด้วยความไม่รู้ นุชได้ปลดปล่อยวิญญาณของสัญญาให้เป็นอิสระ โดยที่ รัชนียังถูกสะกดวิญญาณอยู่ในรูป สัญญาดีใจมากที่ได้ออกมาลัลลาในยุคปัจจุบัน แต่ก็ดี๊ด๊าอยู่ได้ไม่นาน วิญญาณ ของรัชนีก็ถูก เริง (เจี๊ยบ เชิญยิ้ม) และเพ็ญ (จอย ชวนชื่น) คนใช้ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ปลดปล่อยวิญญาณออกมาเช่นกัน จนกระทั่งวันหนึ่ง สัญญาพบว่าตนสามารถเข้าสิงร่างของวัชได้ จึงคิดจะอาศัยใช้ร่างของวัชออกไปตามหาชนิดาและ เยาวเรศ ส่วนรัชนีที่ถูกปลดปล่อยออกมา ก็คิดจะหลอกวัชและนุชให้กระเจิงที่บังอาจเข้ามาอยู่ในบ้านของเธอ แต่ เมื่อรัชนีเห็นถึงความรักที่วัชและนุชมีต่อกันก็รู้สึกประทับใจ นึกถึงชีวิตของตัวเอง ถ้าสามีเธอไม่เจ้าชู้ และถ้าวันนั้น เธอไม่โมโหจนหน้ามืด เธอกับสัญญาคงอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข มีลูก มีหลานเต็มบ้านอมตวงศ์ ไม่ต้องเป็นผีล่อง ลอยอยู่เช่นนี้ เมื่อคิดได้เธอจึงยอมให้วัชและนุชอยู่ในบ้านของเธอ วัชไปเริ่มงานในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบัญชี ภาย ใต้การควบคุมของ คุณสมศรี (บุ๋ม-รัญญา ศิยานนท์) หัวหน้าจอมเนี๊ยบ สัญญายังคงสิงร่างของอนวัชออกตามหา ชนิดาและเยาวเรศ แต่สัญญาก็ต้องเสียใจ เมื่อพบว่าทั้งสาวก็ตายไปในวันเดียวกับเขา สัญญากินเหล้าเข้าบ่อน ระบายความเศร้า แต่ร่างของวัชมีเงินติดตัวมาไม่มาก สัญญาเลยทุ่มเงินที่มีทั้งหมดเล่นการพนัน และด้วยความเป็นผี เขาโกงจนชนะได้เงินเป็นสิบล้าน ขณะที่กำลังพาร่างวัชกลับ สัญญาก้ได้พบกับชนิดาและเยาเรศที่ตอนนี้กลับชาติมา เกิดเป็น อ๋อมแอ๋ม โคโยตี้สาวเบอร์หนึ่ง และ เจนนี่ พริตตี้ขายเหล้าหน้าผับหรู สัญญาดีใจมีหวังอีกครั้ง แต่ก็ต้อง ผ่านด่าน พิชาญ (บีม-ศรัญยู ประชากริช) แฟนหนุ่มนักเลงทวงหนี้ของเจนนี่ และ ตุ๊ (นิกกี้-ณฉัตร จันทพันธ์) หัวหน้าการ์ดที่มาติดพันอ๋อมแอ๋ม สัญญาที่สิงร่างวัชอยู่ไม่อยากให้อ๋อมแอ๋มและเจนนี่ตกใจกลัวที่ตนเป็นผีสิงร่างคน จึงบอกว่าตนระลึกชาติได้และ ชาติที่แล้วพวกเขาทั้งสามคนรักกันมาก ชาตินี้จึงคิดจะสานต่อความรัก ตอนแรกทั้งอ๋อมแอ๋มและเจนนี่ต่างก็คิดว่าวัช เสียสติ แต่เมื่อรู้ว่าวัชมีเงินเยอะ ทั้งคู่จึงเปลี่ยนใจเพราะหวังจะหลอกเอาเงินจากวัช นับจากนั้นมาชีวิตสามีที่อยู่ในกรอบของในระเบียบของวัชก็มีอันต้องบิดเบี้ยวไป อรพิน (น้ำหวาน-พิมรา เจริญภัคดี) เพื่อนสนิทของนุช ก็มักจะเจอวัชไปเที่ยวตามสถานบันเทิงอยู่บ่อย ๆ ก็เตือนนุชหลายครั้ง แต่นุชก็ยังหนักแน่นและ เชื่อมั่นในตัววัชสามีที่แสนดีของเธอ สัญญาใช้ร่างวัชไปหาอ๋อมแอ๋มและเจนนี่เกือบทุกคืน ทำให้รัชนีสงสัยว่าสามี หายไปไหน ประกอบกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของวัชก็ยิ่งทำให้รัชนีสงสัย เพราะมันช่างเหมือนกับสัญญาทุกอย่าง รัชนีตัดสินใจจะพิสูจน์ด้วยตัวเองว่าพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของวัช เป็นเพราะตัววัชเองหรือเป็นฝีมือของสัญญากันแน่ เพราะถ้าเป็นอย่างหลัง รัชนีคงต้องลุกมาจัดการกับสัญญาให้ตายกันไปข้าง รัชนีจะยอมให้ความเจ้าชู้ของสัญญา ทำลายชีวิตครอบครัววัชและนุชไม่ได้ งานนี้รัชนีจะรู้ความจริงว่าสัญญาเข้าสิงร่างอนวัช เพื่อกลับไปหาชนิดาและเยาวเรศเมื่อไร? จะทันเวลาก่อนที่ครอบครัวของอนวัชและนุชวราจะพังทลายลงหรือไม่? ติดตามความสนุกสนานยียวน กวนประสาทในละครโรแมนติกคอมเมดี้ ละครสองรักสองวิญญาณ

เล่ห์รตี 2558

เล่ห์รตี (2558/2015) ชีวิตที่สดใสของเคท (เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา) สาวน้อยผู้มีจิตใจงดงามต้องมืดมนลง เมื่อพัทธพล (พลวัฒน์ มนูประเสริฐ) พ่อเลี้ยงของเธอ แอบยักยอกเงินของบริษัทมาริสา (จารุณี สุขสวัสดิ์) มหาเศรษฐีแห่งตระกูลสุทธกานต์ จำนวนเงินถึง 32 ล้านบาท นันทินี (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) แม่ของเคท เธอแต่งงานกับฝรั่งตั้งแต่ยังเด็ก แต่แล้วชีวิตคู่ก็ไปไม่รอด นันทินีกลายเป็นแม่ม่ายลูกติด และแต่งงานใหม่อีกครั้งกับพัทธพลชายผู้ซึ่งติดการพนันเป็นชีวิตจิตใจ มีลูกสาวกับลูกชายด้วยกันสองคนคือแพท (อัญชสา มงคลสมัย) และ พีท (ชวิน ลิขิตเจริญพงษ์) พัทธพลสืบทราบมาว่าสิ่งที่คุณหญิงมาริสาต้องการมากที่สุดในขณะนี้ คือทายาทสืบสกุลสุทธกานต์ พัทธพลจึงเสนอตัวเคทให้แก่ เสกข์ (ฌอห์ณ จินดาโชติ) ลูกชายคนเดียวของมาริสา โดยมีข้อตกลงว่าถ้าเคทสามารถให้กำเนิดทายาทได้หนี้ทั้งหมดเป็นอันลบล้างไป ทั้งมาริสาและภาคินี (คีรติ มหาพฤษ์พงศ์) ยอมรับข้อเสนอขอพัทธพล เพราะต้องการใช้เคทเป็นเครื่องมือกันอิษยา (พิชญา เชาวลิต) ภรรยาของพี่ชายให้ออกไปให้พ้น ทว่าเสกข์กลับเข้าใจผิดคิดว่าเคทเต็มใจจะมีทายาทให้สุทธกานต์ ด้วยการยอมเข้ามาเป็นนางบำเรอ เสกข์จึงพลอยรังเกียจและดูถูกเคทไปด้วย ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากการใช้หนี้ด้วยวิธีพิสดารนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นแค่เฉพาะครอบครัวของเคทเท่านั้น แม้แต่ ศตายุหรือปุ๊ (เจษฏ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์) สถาปนิกหนุ่มใจร้อน แฟนหนุ่มของเคทที่รู้ว่าเคทต้องเป็นแม่อุ้มบุญให้ลูกของเสกข์ก็พลอยเจ็บปวดไปด้วย ศตายุอาศัยอยู่บ้านข้าง ๆ เคท เขาสนิทกับเคทมาตั้งแต่เด็ก แต่ด้วยความกตัญญูเคทจึงจำใจยอมเดินเข้าสู่บ้านสุทธกานต์ เพื่อชดใช้หนี้ให้กับพ่อเลี้ยง เธอต้องถูกกลั่นแกล้งจากคนในบ้านต่าง ๆ นานา โดยเฉพาะจากเสกข์ผู้เข็ดขยาดเรื่องความรัก เพราะเขาเคยถูกภรรยาเก่าหลอกลวงมาก่อน แต่แล้วความสดใสร่าเริงและจริงใจของเคท ทำให้คนในบ้านสุทธกานต์ยอมรับ และชื่นชมในตัวเธอมากขึ้นรวมทั้งเสกข์ด้วย ส่วนศตายุก็มีความรู้สึกดีกับภาคินีมากยิ่งขึ้น แต่แล้วทั้ง เคทและเสกข์ต้องเผชิญกับสถานการณ์เลวร้าย เมื่ออิษยาซึ่งแค้นเสกข์ กับ มาริสาเป็นอย่างยิ่งร่วมมือกับ อรรถ (สุพจน์ จันทร์เจริญ) นักการเมืองผู้มีอิทธิพลเล่นงานเสกข์อย่างจริงจัง เคทตัดสินใจเสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยเสกข์ เคทจะช่วยเสกข์ได้หรือไม่? ความรักของเคทและเสกข์จะลงเอยอย่างไร? หาคำตอบได้ใน ละครเล่ห์รตี

เคหาสน์ดาว 2558

เคหาสน์ดาว (2558/2015) เขียว (นิว-ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ท) สถาปนิกหนุ่มอารมณ์ดี เขียวเป็นพนักงานตรวจสอบอาคารของรัฐ เงินเดือนไม่มากมาย ชอบใช้ชีวิตเรียบง่าย เขียวคบกับแฟนที่ชื่อ แสนเสน่ห์ (ยิปซี-คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์) ตั้งแต่ตอนเรียนที่ศิลปากร แสนเสน่ห์เป็นดาราดังระดับเอลิสต์ ลูกคุณหนูมหาเศรษฐี ใช้ชีวิตอย่างหรูหรามาตลอด ทำให้สังคมของทั้งคู่แตกต่างกันอย่างมาก เขียวได้มาเจอกับ จ๋อม (แป้งโกะ-จินตนัดดา ลัมะกานนท์) สาวออฟฟิศที่รักการใช้ชีวิตเรียบง่าย ทั้งคู่มีทัศนคติที่ตรงกัน แม้จะรู้จักกันไม่นานความสัมพันธ์กลับค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นในทางที่ดีกว่า แต่ทว่าจ๋อมมีแฟนอยู่แล้วชื่อ ปูชนีย์ (โย่ง อาร์มแชร์) หนุ่มนักเรียนนอกเจ้าของโรงแรมสุดหรู ปูชนีย์ใช้ชีวิตเมืองนอกมาแต่เด็กจึงมีความเป็นตัวเองสูง เขาชอบให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่ต้องการ ไม่ว่าปัญหาอะไรปูสามารถแก้ได้ทุกอย่าง ซึ่งมีเรื่องเดียวที่ปูชนีย์แก้ปัญหาไม่ได้คือเรื่องของเขากับความรักครอบครัวของจ๋อม เรื่องราวความรักของคน 2 คู่ 4 คนนี้จึงเริ่มพัวพันกัน ยิ่งนานวันพ่อแม่ของแสนยิ่งกีดกันแสนกับเขียวเพราะคิดว่าถ้าคบกันจริง ๆ ก็ไปไม่รอดเพราะรู้จักลูกตัวเองดี ตรงกันข้ามกับแสนที่จะพยายามเอาชนะพ่อแม่ให้ยอมรับเขียวให้ได้ แม้แสนจะพยายามทำทุกวิธีเพื่อยืนยันความรักของเธอแล้วก็ตาม แสนไม่สามารถใช้ชีวิตเรียบง่ายแบบเขียวได้ ส่วนเขียวก็ไม่สามารถใช้ชีวิตหรูหราแบบแสนได้เช่นกัน ฝ่ายจ๋อมเริ่มมีปัญหาบ้านจะถูกไล่ที่เพื่อสร้างคอนโด จึงต้องมองหาที่อยู่ใหม่ ปูชนีย์อยากซื้อบ้านที่เป็นเรือนหอให้เขากับจ๋อมจะได้อยู่กัน 2 คน แต่จ๋อมอยากให้แม่กับน้องสาวที่พิการมาอยู่ในบ้านด้วยเพื่อจะได้ดูแลกัน ความขัดแย้งของจ๋อมกับปูเริ่มสูงขึ้น เมื่อเขียวเสนอตัวที่จะเขียนแบบบ้านให้จ๋อมและด้วยความที่ทั้งคู่เหมือนถูกสร้างมาเพื่อกันและกันความสัมพันธ์ของเขียวกับจ๋อมกลับดีวันดีคืน แต่การที่ต่างฝ่ายต่างมีคู่อยู่แล้วนั้นทำให้ความรักของทั้งคู่เหมือนจะเบ่งบานไม่ได้ เหมือนมาพบกันเมื่อสายไปเสียแล้ว ความรักของทั้ง 4 ดูเหมือนจะอึมครึม แต่ในที่สุดก็คลี่คลายได้ เพราะปูชนีย์กับแสนเสน่ห์ที่มารู้จักกันในตอนแรกนั้น ต่างคนต่างมาปรึกษาเรื่องปัญหาความรัก ช่วยกันหาวิธีกระชับความสัมพันธ์ของตนกับแฟน และร่วมกันหาทางให้แฟนของแต่ละฝ่ายออกห่างจากแฟนตัวเอง แต่เมื่อเจอกันบ่อยขึ้นพอสนิทกันมากขึ้น ด้วยความที่ทั้งคู่มีอะไรเหมือนกันทั้งฐานะ สังคม ค่านิยม ทัศนคติ ที่ตรงกัน ก็กลายเป็นว่าทั้งคู่กลับเริ่มรู้ใจตัวเอง จึงเปิดโอกาสให้เขียวและจ๋อมได้เปิดใจที่ทั้งคู่มีต่อกันมานานได้ กลายเป็นความสัมพันธ์วุ่น ๆ ของ เขียว แสน จ๋อม และปู ที่ความรักสลับคู่เหมือนบ้านที่สร้างผิดแบบ รอวันที่ใครสักคนจะรู้หัวใจตัวเองแล้วแก้ไขให้รักครั้งนี้ถูกต้องเสียที นอกจากนั้นยังมีความรักสุดยียวนของ เข้ม (แดน-วรเวช ดานุวงศ์) สถาปนิกหนุ่มเพื่อนรุ่นพี่ศิลปากรของเขียว กับ เจน (แป้ง-อรจิรา แหลมวิไล) Single mom สาวสวยตกงาน ที่ถูกเขียนเพิ่มขึ้นมาเป็นตัวแทนของคู่รัก คู่กัด คู่ตรงข้าม ที่ไม่มีอะไรเหมือนกันเลย อย่างเข้มเป็นชายหนุ่มสุขนิยมที่ประกาศตัวกับเพื่อนอย่างหนักแน่นว่าขอปฏิญาณตนว่าชาตินี้จะไม่แต่งงานเด็ดขาด! สมรสคือภาระ! ส่วนเจนก็เป็นสาวสมัยใหม่ ที่เรียนจบมาก็แต่งงานกับชายที่เธอรัก เมื่อมีลูกด้วยกัน กลับมีเหตุให้ต้องเลิกรากับสามีกันไป ทำให้เจนต้องกลายเป็นคุณแม่ใบเลี้ยงเดี่ยว สามีที่รับปากว่าจะส่งเสียลูกแม้ว่าแยกทางกันกลับผิดสัญญา เธอปฏิญาณตนว่าจะเลี้ยง ก้อนหิน (ด.ช.อันดา อินทฤทธิ์) ลูกคนเดียว ไม่ของ้อผู้ชายอีกต่อไป! ทั้ง 2 คนไม่มีอะไรเหมือนกันแม้แต่นิดเดียว ถ้าจะเหมือนกันก็คือทั้งคู่ ไม่ต้องการชีวิตคู่ โชคชะตาฟ้าลิขิตให้เจนกับเข้มต้องมาอยู่ในบ้านติดกัน เมื่อเจนเลิกกับสามีต้องพาลูกมาเช่าบ้านเพื่อนสนิทที่อยู่ติดกับบ้านเข้ม เมื่อเริ่มแรกเจอกันความต่างทำให้ทั้งคู่ปะทะกัน อย่างดุเดือดสนุกสนาน แต่นานไปบ้านเจนมีเรื่องวุ่นวายให้เข้มต้องเข้าไปช่วยเหลือทั้ง ๆ ที่เจนไม่ต้องการอยู่บ่อย ๆ ทำให้ทั้งคู่ได้รู้จักกันมากขึ้น และกลายเป็นความรักความเข้าใจ แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นตรงที่ว่าเข้มเคยประกาศหนักแน่นว่าจะไม่มีชีวิตคู่ เขาจึงยังไม่กล้าแสดงออกเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับเจน ทำให้ความรักนี้ดูจะไม่ลงเอยง่าย ๆ และสุดท้ายคือ เหมียว (แกรนด์-พรรณวรท ด้วยเศียรเกล้า) เพื่อนของจ๋อม กับ ทวนธน (อัค-อัครัฐ นิมิตรชัย) เพื่อนของเขียว เป็นเรื่องของคู่รักที่ตัดสินใจแต่งงานกันเร็ว จนมีปัญหากัน เนื่องจากศึกษากันไม่ดีพอ เริ่มจากปัญหาเล็ก ๆ เช่นการตกแต่งเรือนหอ ที่ต่างคนต่างมีรสนิยมที่ต่างกัน จนลามไปถึงปัญหาอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้จ๋อมกับเขียวเพื่อนสนิทของทั้งคู่ ต้องมาร่วมมือกันเพื่อแก้ปัญหาอยู่ทุกครั้งไป แต่สุดท้ายด้วยความรักของคนทั้งคู่ ทำให้เข้าใจได้ว่าบ้านไม่ใช่แค่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นบ้านที่พวกเขาจะอยู่ด้วยกัน ดังนั้นทั้งคู่จึงปรับตัวเข้าหากัน และช่วยกันสร้างเรือนหอที่ทั้งคู่พอใจและมีความสุขที่จะอยู่ร่วมกัน สุดท้ายแล้ว ความรักวุ่น ๆ อบอวลความอบอุ่นของทั้ง 8 คน 4 คู่ จะลงเอยเช่นไร ติดตามได้ใน ละครเคหาสน์ดาว

ผู้หญิงคนนั้นชื่อบุญรอด 2558

ผู้หญิงคนนั้นชื่อบุญรอด (2558/2015) ด้วยฐานะที่ยากจนประกอบกับมีลูกถึง 6 คน นางบุญหลาย (อภิรดี ภวภูตานนท์) จึงให้บุญรอด (ศิรพันธ์ วัฒนจินดา) ออกจากโรงเรียนเพื่อไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัวเหมือนกับบุญล้ำ (กุลณัฐ กุลปรียาวัฒน์) ผู้เป็นพี่สาว บุญรอดในวัย 16 ถูกเถ้าแก่ผู้เป็นนายจ้างลวนลาม จึงหนีมาอยู่กับครูอรพิน (สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ) โดยทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงของหนูจี๊ด ลูกสาวคนเล็กของครู ครั้งนั้นบุญรอดได้พบกับ จินต์ (สหรัฐต์ หิรัญญ์ธนภูวดล) ลูกชายคนโตของครูซึ่งอายุอ่อนกว่าเธอ จินต์ดูแคลนบุญรอดอยู่เสมอ บุญรอดอยู่รับใช้ครูอรพินกับคุณปลัด (ยุทธพิชัย ชาญเลขา) มาหลายปี ความใกล้ชิดทำให้บุญรอดรู้สึกว่าจินต์เป็นผู้ชายคนแรกที่เธอรัก และเมื่อจินต์พบรักกับวิชชุดา (ลัลณ์ลลิน เตจะสา) ลูกสาวของคุณวัฒน์ (สถาพร นาควิไลโรจน์) กับคุณนายกรแก้ว (อัญษนา บุรานันท์) ผู้ว่าฯ กับภรรยาซึ่งเหมาะสมกัน ทำให้บุญรอดรู้สึกเหมือนคนอกหัก เธอจึงตัดสินใจลาครูอรพิน ผู้เปรียบเสมือนแม่คนที่สอง เพื่อไปตามทางของเธอนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ปี พ.ศ. 2515 สนามบินอู่ตะเภา เต็มไปด้วยทหารอเมริกันที่เข้ามาประจำการในประเทศไทยในสงครามเวียดนาม บุญรอดทำงานอยู่ที่ร้านอาหารคุณป้อม (เกริก ชิลเลอร์) หน้าสนามบินอู่ตะเภา ด้วยฝีปากอันจัดจ้านและการแต่งเนื้อแต่งตัวที่ฉูดฉาด ทำให้ชื่อเสียงของบุญรอดเป็นที่เลื่องลือไปทั่วอู่ตะเภา เจ๊เพ็ญ (พิมพ์ผกา เสียงสมบูรณ์) กะหรี่รุ่นป้าพา สุณี (ลภัสรดา ช่วยเกื้อ) เขียว (เบญจศิริ วัฒนา) จูลี่ (ธงธง มกจ๊ก) และมวลหมู่กะหรี่รุ่นน้องมาจากซ่องในกรุงเทพฯ เพื่อมาเป็นเมียเช่า การพบกันครั้งแรกระหว่างบุญรอดกับสุณี ก็คือไม่ถูกชะตาต่อกัน ทำให้ทั้งสองมีปากเสียงกันอยู่เสมอ เพราะสุณีรู้สึกว่าบุญรอด คือคู่ปรับในชีวิตของเธอ บุญรอดประกาศว่าคนอย่างเธอจะไม่มีวันขายตัวกิน บุญรอดได้พบบ็อบ (วิลลี่ แมคอินทอช) โดยที่ วิล (เดวิด อัศวนนท์) เพื่อนของบ็อบ คิดว่าบุญรอดเป็นผู้หญิงขายบริการ หลังจากวันนั้น บ็อบก็แวะมาที่ร้านประจำเพื่อหาโอกาสใกล้ชิดบุญรอด บ็อบชื่นชมที่บุญรอดทำมาหากินด้วยลำแข้งของตัวเอง บุญรอดลางานไปเยี่ยมครูอรพินเหมือนเช่นทุกครั้ง ครูอรพินเล่าเรื่องจินต์กับวิชชุดาที่พลาดท่าตั้งท้องในขณะที่กำลังเรียนอยู่ บุญรอดถึงกับใจหาย รู้สึกทั้งเสียดายอนาคตของคนทั้งคู่ ที่อีกฝ่ายหนึ่งต้องหยุดเรียน อีกใจก็รู้สึกเหมือนว่า จินต์ผู้เป็นผู้ชายในฝันของเธอ เดินห่างไกลเธอออกไปทุกที การที่นางบุญหลายรักแต่ลูกชายทั้งสี่คนคือ บุญโต (ศิระ แพทย์รัตน์), บุญทำ (ธนบดี ใจเย็น), บุญสิน (กรกฎ ตุ่นแก้ว) และบุญทิ้ง (นินท์วริศ กิตติชัยวรางค์กูร) และคอยแต่ไถเงินลูกสาวไปเล่นการพนัน ทำให้ทั้งบุญล้ำซึ่งเป็นผู้หญิงหากินอยู่ที่พัทยา กับบุญรอดเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ บุญทิ้งได้เมียเป็นเด็กสาววัยเรียนจนพ่อแม่ฝ่ายหญิงแจ้งจับ บุญรอดกลัวว่าบุญสินและบุญทำจะเสียคนไปอีก จึงพาไปอยู่ด้วย โดยเธอให้บุญสินสมัครเรียนวิชาชีพต่อ และให้บุญทำไปเรียนมัธยมปลายต่อให้จบ บุญรอดพาบุญสินไปฝึกงานกับเถ้าแก่โรงกลึง (ศานติ สันติเวชกุล) ที่นั่นบุญสินได้พบเหมย (ญดา สุวรรณปัฏนะ) ลูกสาวคนสวยของเถ้าแก่ บุญสินแอบมองดอกฟ้านับตั้งแต่วันนั้น จินต์กับวิชชุดาพ่อแม่มือใหม่ปรับตัวเข้าหากันไม่ได้ ทำให้มีปากเสียงกันเสมอมา และทุกอย่างยิ่งเลวร้ายเมื่อลูกของทั้งสองเกิดอาการป่วยหนักจนเสียชีวิต หลังจากที่ลืมตาดูโลกได้เพียงไม่กี่เดือน ทั้งสองต่างก็โทษกัน ในที่สุดก็ถึงขั้นแตกหัก จึงตัดสินใจแยกกันอยู่ บุญรอดจึงพาวิชชุดากลับไปอยู่กับครูอรพิน เมื่อบ็อบอาสามาส่งบุญรอดที่ร้าน สุณีได้โอกาสใส่ไฟจนทำให้คุณป้อมเข้าใจผิด จึงเกิดเรื่องทะเลาะกันใหญ่โต บุญรอดประกาศลาออกจากร้าน ทันทีที่บ็อบรู้เรื่องเขาก็ร้อนใจมาก เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองเป็นต้นเหตุ และเมื่อรู้ว่าบุญรอดกำลังคิดหาอาชีพอบขนมขาย บ็อบจึงไม่รีรอที่จะทำทุกอย่างเพื่อลบล้าง ขณะเดียวกันบ็อบก็เสนอให้บุญสินมาทำงานกับเขาที่ฐานทัพ บุญรอดเห็นด้วยเพราะเธอไม่ต้องการให้บุญสินต้องผิดหวัง ถ้าเขายังใกล้ชิดกับเหมยต่อไป กิจการทำขนมและขายอาหารตามสั่งของบุญรอดไปได้สวย เธอได้รับการสนับสนุนจากครูมวลซึ่งเป็นคนสอนภาษาอังกฤษให้คราวมาอู่ตะเภาใหม่ ๆ ขณะเดียวกันความสนิทสนมของบ็อบกับบุญรอดก็ค่อย ๆ พัฒนาจากเพื่อนจนกลายเป็นความรัก บุญรอดนำเงินเก็บออมไปซื้อตึกแถวสร้างโรงกลึง เพื่อลบคำปรามาสของคนรอบข้าง วิชชุดาเห็นว่าบุญรอดมีความก้าวหน้าจึงคิดเริ่มต้นชีวิตใหม่ บุญรอดบอกว่าเธอต้องเริ่มจากการเอาชนะใจตัวเอง กลับไปขอโอกาสพ่อแม่ได้แก้ตัวอีกครั้ง วิชชุดาจึงตัดสินใจลาครูอรพินกลับไปบ้าน เมื่อจินต์รู้ว่าวิชชุดากลับไปอยู่ที่บ้านเขาก็รู้สึกใจหาย วิชชุดาลงเรียนที่รามคำแหงเพราะอยากให้พ่อแม่ภูมิใจว่าเธอมีปริญญา โดยคุณกรแก้วได้ให้มนตรี ลูกชายของเพื่อนรัก มาคอยดูแลวิชชุดา เพื่อหวังที่จะให้ลูกสาวของเธอเริ่มต้นชีวิตใหม่ จินต์ไปหาบุญรอดเพื่อบอกข่าวดีว่าสอบบรรจุครูได้ การมาของจินต์ทำให้ความรักของบุญรอดกับบ็อบเริ่มหวั่นไหว เมื่อสุณีรู้ว่าบุญรอดกำลังมีปัญหากับบ็อบ จึงคิดจะชิงตัวบ็อบกลับมาเป็นของเธอให้ได้ เมื่อบุญรอดรู้ว่าบ็อบไปพบสุณี บุญรอดจึงตามไป สุณีใช้มารยาหญิงกับบ็อบทำให้บุญรอดทนไม่ได้ บ็อบตามไปง้อบุญรอด ทั้งสองพรั่งพรูความรู้สึกที่มีต่อกัน บุญล้ำยอมมาพักที่โรงกลึงโดยขอทำหน้าที่เป็นแม่บ้านแลกกับที่อยู่ที่กิน อย่างน้อยก็ยังได้รู้ว่าตัวเองยังมีคุณค่า บุญรอดบอกว่าบุญล้ำมีคุณค่ากับทุกคน ขณะเดียวกันที่นาซึ่งโตนำไปจำนองถูกยึดเพราะไม่เอาเงินไปส่ง นางบุญหลายเองก็ยังคงหมดเงินอย่างไร้สาระเหมือนเดิม บุญรอดตัดสินใจขายบ้านเดิมทิ้ง ให้แม่เข้ามาอาศัยอยู่ด้วย นั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มของปัญหาภายในครอบครัว แต่บุญรอดก็ต้องแข็งใจทำตามสิ่งที่เธอคิด เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าสิ่งที่ทำนั้น คือความหวังดีกับคนในครอบครัว และอยากให้ทุกคนในครอบครัวได้อยู่กันอย่างสุขสบาย ชะตากรรมของบุญรอดมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เมื่อบ็อบมีกำหนดย้ายไปอินโดนีเซีย บุญรอดคิดหนักยิ่งขึ้นเมื่อบุญสินบอกว่าจะแต่งงานกับเหมยเพราะเถ้าแก่อนุญาต แต่มีข้อแม้ว่าบุญสินจะต้องมาช่วยดูแลกิจการ ชะตาชีวิตของบุญรอดจะดำเนินต่อไปทางใด ? ตามเอาใจช่วยได้ใน ละครผู้หญิงคนนั้นชื่อบุญรอด

ตะวันตัดบูรพา 2558

ตะวันตัดบูรพา (2558/2015) ตะวันฉาย (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) และ บูรพา (ยุกต์ ส่งไพศาล) สองพี่น้องเติบโตในครอบครัวตำรวจ ซึ่งมีจ่าเวศ (สรพงศ์ ชาตรี) เป็นหัวหน้าครอบครัว พวกเขาทั้งสองคนแตกต่างกันทั้งอุปนิสัยความคิด ตะวันฉายนั้นเถรตรง ยึดมั่นในกฎเกณฑ์ความถูกต้อง เช่นเดียวกับพ่อ แต่บูรพานั้นเป็นคนช่างฝันเหมือนกับ ผกา (สุปราณี เจริญผล) ผู้เป็นแม่ ในที่สุดจุดเปลี่ยนของครอบครัวก็เกิดขึ้น เมื่อตะวันฉายเกิดไปรู้เห็นการฆาตกรรมของผู้มีอิทธิพล และได้เป็นพยานชี้ตัวคนร้าย โดยไม่สนใจคำเตือนของบูรพา ทำให้พรรคพวกของผู้ต้องหาผูกใจเจ็บ หวนมาแก้แค้นตะวันฉายในวันเกิดของ จ่าเวศ จนทำให้จ่าเวศต้องกลายเป็นคนพิการ ในขณะที่ผกาเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที ด้วยความโกรธแค้น บูรพาจึงบุกไปล้างแค้นกลุ่มผู้มีอิทธิพล กระทั่งพลั้งมือสังหารหัวโจกตาย เพราะกลัวจะต้องรับโทษ บูรพาจึงขอร้องให้ตะวันฉายพาเขาหลบหนี แต่ตะวันฉายกลับบอกให้บูรพายอมมอบตัว เพราะเขาคิดว่ากฎหมายจะต้องให้ความยุติธรรม แต่รูปคดีกลับไม่เป็นไปตามคาด เมื่อมีการใช้เส้นสาย เลยเป็นเหตุทำให้บูรพาถูกจำคุก เพราะแรงกดดันต่าง ๆ บีบให้บูรพาชิงชังในตัวพี่ชาย จนกลายเป็นความแค้นและจุดแตกหักระหว่างพี่น้องไปในที่สุด วันเวลาผ่านไป ตะวันฉายมุ่งมั่นที่จะรื้อฟื้นความยุติธรรมของกฎหมาย จึงตัดสินใจสอบเป็นนายตำรวจ ส่วนชีวิตบูรพาที่อยู่ในคุกแตกต่างกับตะวันฉายอย่างสิ้นเชิง ที่นี่ทำให้บูรพาได้รู้จักกับเคี้ยง (บิลลี่ โอแกน) หนึ่งในสมาชิกแก๊งมังกรแดง เป็นผู้ที่ถ่ายทอดวิชาป้องกันตัวให้กับบูรพา เมื่อถึงวันพ้นโทษบูรพาเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยตัดสินใจทำงานในผับของ เสี่ยเจริญ (สันติสุข พรหมศิริ) เจ้าพ่อแก๊งมังกรแดง บูรพาถูกข่มเหงจาก ชัชชัย (อาณัตพล ศิริชุมแสง) หลานชายของเสี่ยเจริญ ซึ่งไม่ถูกชะตากับบูรพาตั้งแต่แรกเห็น แต่สิ่งดี ๆ เพียงสิ่งเดียวที่บูรพาได้เจอนับตั้งแต่ออกจากคุกคือการได้รู้จัก ธิชา (จินตนัดดา ลัมะกานนท์) จิตรกรสาวสวย ตะวันฉายรู้ว่าธิชาสนิทสนมกับบูรพา ตะวันฉายจึงต้องถามข่าวคราวของบูรพาจากเธอ จนตะวันฉายสนิทกับธิชาและเริ่มรู้สึกหลงรักเธอ ซึ่งในเวลาเดียวกัน โจ (มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) เด็กส่งยาที่ทำหน้าที่เป็นสายตำรวจก็เริ่มรู้สึกชอบพอตะวันฉายมากขึ้นทีละนิด ด้านบูรพาความซื่อตรงและไม่สอพลอของเขา ทำให้เสี่ยเจริญวางใจเลื่อนชั้นขึ้นมาเรื่อย ๆ ชัชชัยไม่พอใจที่เสี่ยเจริญให้บูรพาทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ด เลยคิดวางแผนกำจัดบูรพา จังหวะนั้นเอง ทัศน์ (ภูริ หิรัญพฤกษ์) มือขวาของท่านรอง บารมี (เล็ก ไอศูรย์) รองหัวหน้าพรรคการเมือง และอีกด้านหนึ่งเป็นเอเย่นค้ายาอันดับหนึ่งที่ต้องการกำจัดเสี่ยเจริญเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจค้ายา ทัศน์ได้บอกเบาะแสกับตะวันฉายว่าเสี่ยเจริญมีการนำเข้ายาครั้งใหญ่ แต่การบอกเบาะแสของทัศน์ครั้งนี้ เพราะหวังยืมมือตะวันฉายสกัดกั้นการขยายอำนาจของเสี่ยเจริญ ตะวันฉายรีบไปเตือนบูรพาให้ทราบถึงการบุกจับผู้ค้ายาที่จุดนัดพบของเสี่ยเจริญ เพราะไม่ต้องการให้บูรพาเข้าร่วมวง แต่บูรพายืนยันจะไป เสี่ยเจริญรู้เรื่องที่ตำรวจวางแผนบุกจับกุมจึงเปลี่ยนสถานที่ใหม่ แต่ก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการซุ่มยิงของฝ่ายทัศน์ และครั้งนั้นเองทำให้หัวจักรเอเย่นค้ายารายใหญ่สิ้นอำนาจลง หลังจากเหตุการณ์นี้จบลงทำให้บูรพาได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นมือขวาของ เสี่ยเจริญ และ หมู่เสือ (อัครัฐ นิมิตรชัย) ก็ได้รู้ความจริงเกี่ยวกับสายสัมพันธ์พี่น้องของตะวันฉายกับบูรพา หลังจากนั้นตะวันฉายกับบูรพาก็ต้องเผชิญหน้ากันหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งการเผชิญหน้ากันแต่ละครั้งได้สร้างบาดแผลรอยร้าวในใจระหว่างพี่น้องเพิ่มขึ้น ทั้งเรื่องงานและเรื่องความรักซึ่งทั้งคู่ต่างหลงรักธิชาเหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตาม ฝ่ายตะวันฉายเองก็ไม่กล้าทำร้ายน้องชาย ส่วนบูรพาที่มีโอกาสฆ่าพี่ชายหลายครั้ง ก็ปล่อยโอกาสให้หลุดมือ และแอบช่วยเหลือตะวันฉายให้รอดจากความตายตลอด เลยทำให้เสี่ยเจริญสงสัยว่าบูรพาจะเป็นสายตำรวจ ขณะที่ชัชชัยก็จ้องจับผิดบูรพามาโดยตลอด ส่วนตะวันฉายก็ถูก สารวัตรเมธา (ปรเมศร์ น้อยอ่ำ) ตำหนิอยู่บ่อย ๆ และเร่งให้ปิดคดีของเสี่ยเจริญโดยเร็ว เมื่อเสี่ยเจริญรู้ถึงความเคลื่อนไหวของรองบารมีที่วางแผนกำจัดตน ก็ยิ่งคิดจะขยายอำนาจโดยการผลิตยาขายเองผ่านนายทุนชาวญี่ปุ่น แต่แล้วทัศน์ก็รู้ความลับว่าตะวันฉายกับบูรพาว่าทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน จึงปล่อยข่าวจนเป็นเหตุทำให้ตะวันฉายถูกถอดจากกองปราบและย้ายไปเป็นตำรวจท้องที่ ในขณะที่บูรพาก็ถูกชัชชัยจับไปพร้อมกับธิชาเพื่อฆ่าทิ้ง แต่วันนั้นเองเคี้ยงได้รับนิรโทษกรรมออกมาจากคุก ตามมาช่วยชีวิตบูรพาไว้ทัน ในที่สุดอำนาจของชัชชัยก็เริ่มหมดไป เมื่อไม่มีอำนาจในมือชัชชัยจึงวางแผนหักหลังเสี่ยเจริญโดยร่วมมือกับทัศน์และ เจิมฉัตร (พิชญ์นาฏ สาขากร) ภรรยาเก็บของเสี่ยเจริญ ผู้มีนิสัยเหมือนงูพิษลิ้นสองแฉก จากนั้นชัชชัยก็ลงมือฆ่าเสี่ยเจริญจนสำเร็จ ชัชชัยพยายามหนีการตามล่าของเคี้ยงกับบูรพา แต่เพราะชัชชัยกุมความลับเรื่องการทำธุรกิจค้ายาไว้ทั้งหมด เลยทำให้รองบารมีต้องสั่งทัศน์ตามเก็บ ชัชชัยเพราะกลัวความลับจะรั่วไหลจากปากของชัชชัย ทัศน์จึงตามเก็บชัชชัย แต่ชัชชัยไม่ตาย จึงหาทางเอาชีวิตรอดด้วยการยอมเป็นพยานให้ตำรวจ และต่อรองกับกองปราบฯ ให้ตะวันฉายกลับไปทำงานได้อีกครั้ง เหตุการณ์นี้เองทำให้ทัศน์และ บูรพาต้องตามล่าชัชชัย แต่ชัชชัยหนีการตามล่าของบูรพาและพวกได้ ชัชชัยถูกทัศน์และเจิมฉัตรที่ร่วมมือกันตามล่าตัว อีกทาง ก่อนจะหายตัวไปชัชชัยแอบทิ้งเบาะแสหลักฐานเอาผิดรองบารมีไว้ ทำให้บูรพาได้รู้เห็นหลักฐานที่กุมความลับการค้ายาเสพติดของรองบารมี ทัศน์ตามล่าบูรพาเพื่อกำจัดและแย่งหลักฐานชิ้นสำคัญคืนมา แต่สุดท้ายเสี้ยนหนามอย่างบูรพาก็ยังไม่ตาย เป็นเพราะตะวันฉายเข้ามาช่วยชีวิตบูรพาไว้ได้ทัน บูรพาหวังจะหนีไปต่างประเทศพร้อมธิชา แต่ไม่ทันการณ์ ทัศน์ยกพวกตามมาทันก่อนที่บูรพากับธิชาจะหนีออกนอกประเทศ ซึ่งในขณะเดียวกันฝ่ายตำรวจก็สั่งจับตายบูรพา ความแค้นครั้งนี้ใกล้ถึงจุดจบ บูรพาจะอยู่หรือตาย? ตะวันฉายจะเลือกน้องหรือความถูกต้อง? ติดตามชมเรื่องราวความรักและความแค้นที่เป็นจุดแตกหักระหว่างพี่น้อง ได้ใน ละครตะวันตัดบูรพา

บัลลังก์เมฆ 2558

บัลลังก์เมฆ (2558/2015) ปานรุ้ง สมุทรเทวา บุตรสาวคนเดียวของนางคมขวัญเจ้าของกิจการบริษัทสมุทรเทวาเดินเรือ จบการ ศึกษาจากต่างประเทศ คมขวัญ วาดหวังไว้ว่าบุตรสาวคนนี้จะมารับช่วงดูแลกิจการเดินเรือต่อจากเธอ ในวันเลี้ยงต้อนรับการกลับมา ของปานรุ้ง เธอได้มีโอกาสพบ กติยา เพื่อนสนิทสมัยนักเรียนและเรือโทวาสุเทพ นทีพิทักษ์ คู่หมั้นของกติยา วาสุเทพ หลงรักปานรุ้งจนยอมถอนหมั้นจากกติยามาหมั้นกับปานรุ้งแทน กติยาโกรธแค้นมาก แต่แล้วเมื่อปานรุ้งได้พบกับชูนาม ดิเรกวิทยา เพลย์บอยหนุ่มนักเรียนนอก ที่น่าสนใจและมีชีวิตชีวากว่าวาสุเทพ ปานรุ้งตัดสินใจถอนหมั้นวาสุเทพส่งคืนให้กติยา และแต่งงานกับชูนาม โดยไม่ฟังคำคัดค้านจากคมขวัญ ผู้เป็นแม่เลย กิจการเดินเรือของคมขวัญเสียหายหนักขึ้น ประกอบกับปานรุ้งให้ชูนามได้เข้ามามีส่วนบริหารงานโดย ไม่รู้ว่าเบื้องหลังชองชูนามนั้นคือนักพนันตัวยง เขาเริ่มเอาเงินมาหมุน หนักเข้าก็ลอบส่งของเถื่อนเพื่อให้หนี้พนัน แต่โชคไม่เข้าข้าง ชูนามกับพรรคพวกถูกจับได้ เพราะเกิดการฆาตกรรมนายช่างฝรั่งขึ้น เมื่อหลักฐานมัดตัวแน่นหนา ชูนามโดนจับและถูกตัดสินจำคุก 20 ปี ปานรุ้งเสียใจที่ถูกหลอกโดยสามีที่ตนรัก เธอสำนึกผิดที่ไม่เชื่อแม่ตั้งแต่ต้น แต่ทุกอย่างก็สายเกินไปเสียแล้ว ตระกูลสมุทรเทวาล้มละลาย ปานเทพ ดิเรกวิทยาบุตรคนแรกของเธอถือกำเนิดขึ้น หากแต่คมขวัญผู้เป็นแม่ ตรอมใจ และเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ ปานรุ้งล้มละลาย บ้านสมุทรเทวาที่เธออยู่มาตั้งแต่เกิดถูกยึด ปานรุ้งและลูกชายของเธอถูกไล่ออกจากบ้านหลังเสร็จงานศพแม่ ปานรุ้งสัญญากับตัวเองว่าลูกของเธอ จะต้องได้รับสิ่งที่ดีที่สุดและจะต้องไม่มีชีวิตตกต่ำเช่นเธอ เกื้อ รุประมาณ ลูกชายคนขับรถที่ซื่อสัตย์ของคมขวัญ ผู้ซึ่งหลงรักปานรุ้งตั้งแต่เด็ก พาปานรุ้งกับปานเทพมา อยู่ที่บ้าน แต่ด้วยความเย่อหยิ่งของปานรุ้งทำให้แม่ของเกื้อไม่ค่อยชอบนัก และมักจะมีปากเสียงกันอยู่บ่อย ๆ ปานรุ้งอยู่กับเกื้อ จนมีลูกชายด้วยกันอีกคนชื่อ ปรก ปานรุ้งส่งลูกทั้งสองของเธอเข้าโรงเรียนที่มีชื่อเสียง ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายมากกว่าปกติ เกื้อต้องรับจ้างขับรถรับจ้างเพิ่มเติม ส่วนปานรุ้งก็ตัดสินใจหางานทำทั้ง ๆ ที่เธอไม่เคยต้องลำบากเลยในชีวิต เธอเริ่มทนความลำบากยากจนไม่ไหว ขณะนั้นเองวาสุเทพผู้ที่ยังรักปานรุ้ง อย่างไม่เปลี่ยน แปลงก็เข้ามาในชีวิตของเธออีกครั้ง เขายอมทิ้งกติยาและโดมลูกชายคนเดียวของเขา มาอยู่กับปานรุ้งและลูก ๆ ของเธอ เกื้อรู้ตัวดีว่าตัวเองต่ำต้อยแค่ไหน จึงจำต้องปล่อยปานรุ้งไปสู่สิ่งที่ดีกว่า วาสุเทพสัญญาว่าจะดูแลเด็ก ๆ เป็นอย่างดี ช่วงสงครามเวียดนาม ปานรุ้งอาศัยบารมีของวาสุเทพช่วยให้มีเส้นสายในวงการทหารอเมริกัน ปานรุ้งจึง เริ่มมีฐานะขึ้นอีกครั้ง เธอยังมีลูกกับวาสุเทพอีก 2 คน คือ ปานวาดและ ปกรณ์ ด้วยความเป็นลูกชายคนเล็ก และเกิดมาพร้อมกับโชคที่ทำให้ชีวิตเธอดีขึ้น ปานรุ้งจึงรักปกรณ์มาก ขณะที่ชูนามอยู่ในเรือนจำ ปานเทพแอบมาพบพ่ออยู่บ่อย ๆ เมื่อปานรุ้งรู้เรื่องจึงส่งปานเทพ ไปศึกษาต่อที่อเมริกาทันที 14 ปีผ่านไป ลูก ๆ ของปานรุ้งโตเป็นหนุ่มสาว ปานรุ้งตั้งใจจะให้ปานเทพที่เรียนจบบริหารธุรกิจจากอเมริกากลับมาดูแลกิจการทั้งหมดของเธอ ปานรุ้งวางแผนขยายธุรกิจของเธอโดยให้ปรก ลูกชายของเธอและนิชา ลูกสาวคุณนายนิรมลนักธุรกิจชื่อดังหมั้นกัน แต่เมื่อคุณนายนิรมลถูกฟ้องล้มละลาย ปานรุ้งจึงยกเลิก การแต่งงานทั้งหมด ปรกและนิชาช่วยกันหาทางออกทั้งคู่ตัดสินใจไปขอความช่วยเหลือ จากเกื้อผู้เป็นพ่อ ซึ่งบัดนี้ได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ทำให้ปานรุ้งไม่พอใจเป็นอย่างมาก ปานเทพดูแลกิจการทุกอย่างแทนปานรุ้งและได้ปรับปรุงกิจการไปในทิศทางของตน หากแต่ปานรุ้งไม่เห็นด้วย จึงมีปากเสียงกัน ปานเทพตัดสินใจออกจากบ้านไปทำธุรกิจกับชูนามซึ่งพ้นโทษออกมาจากคุกแล้ว ปานวาดพบรักกับโดมดีเจหนุ่ม ทั้งสองมีความรักให้กันและกันอย่างมากมาย โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ว่าความรัก ของเขาทั้งสองนั้น ดำเนินอยู่บนเส้นทางของความเกลียดชัง เพราะโดมที่แท้จริงนั้นคือลูกชายของกติยา และวาสุเทพ และการที่ทั้งสองได้มีโอกาสพบรักกันนั้น ทั้งหมดเป็นแผนของกติยาที่ต้องการแก้แค้นปานรุ้ง โดยหวังให้โดมทำลายปานวาดและยิ่งกว่านั้น ทั้งคู่เป็นพี่น้องพ่อเดียวกัน สิ่งเลวร้ายนี้จะทำให้ทั้งปานรุ้ง และวาสุเทพต้องเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสเช่นเดียวกับที่เธอเป็น ส่วนปกรณ์ ได้พบรักกับ วิรินทร์ เพื่อนที่มหาวิทยาลัย ปกรณ์เองกังวลใจมาก เพราะรู้ว่าแม่คาดหวังในตัวเขามาก และจะไม่มีวันอนุญาตให้เขากับวิรินทร์ได้รักกันอย่างแน่นอน เพราะวิรินทร์เป็นเด็กสลัมที่ยากจน ปานรุ้งโกรธมากที่ปรกและนิชาแอบไปแต่งงานกัน เธอจึงลงโทษโดยไล่ทั้งสองคนไปอยู่เรือนเล็ก และต่อว่าเกื้ออย่างหนัก และเธอก็ต้องโกรธมากขึ้น เมื่อรู้ว่าปานเทพไปอยู่กับชูนามผู้เป็นพ่อ ยิ่งไปกว่านั้นปานวาดลูกสาวคนเดียวของเธอ ยังถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัย เธอจึงต้องกักบริเวณปานวาดไม่ให้ออกไปไหน ปานเทพร่วมกับชูนามทำกิจการแชร์ผิดกฎหมาย แต่ถูกจับได้ หุ้นส่วนหักหลังกันเอง ทั้งคู่โดนเจ้าหนี้ตามล่า ชูนามให้ปานเทพกลับมาขอความช่วยเหลือจากแม่ แต่ถูกปฏิเสธ ด้วยความวู่วามปานเทพเผลอทำร้ายปานรุ้ง จนบาดเจ็บ แล้วหนีไป ชูนามถูกฆ่าตายเพราะปกป้องปานเทพรุ้งช่วยปานเทพหนีออกนอกประเทศก่อนถูกจับ ทำให้ปานเทพได้รู้ถึงความรักและการให้อภัยจากผู้ที่เป็นแม่แม้ว่าเขาจะทำผิดต่อแม่มากก็ตาม ปานวาดตัดสินใจหนีออกจากบ้านไปกับโดม ทั้งคู่ติดยาเสพติดและตกระกำลำบากายทรัพย์สินติดตัวที่มีอยู่จนหมด โดมลงแดงต้องการยา ด้วยความรักของปานวาด เธอจึงยอมเป็นผู้หญิงหากิน เพื่อหาเงินมาซื้อยาเสพติดให้โดม เธอไม่กล้ากลับไปหาแม่ เพราะคิดว่าตนเป็นลูกที่ไม่ดี ทำลายความฝันของแม่ วาสุเทพมาตามหาปานวาด ที่บ้านกติยา และได้รู้ความจริงทั้งหมดว่าเป็นแผนการของกติยา วาสุเทพตกใจมาก ทำให้อาการโรคหัวใจกำเริบ จนเสียชีวิต ทางด้านปกรณ์นั้น นับวันก็รักวิรินทร์มากยิ่งขึ้น และสับสนเมื่อรู้ว่าแม่ยิ่งคาดหวังกับตัวเขามาก เพราะผิดหวังจาก พวกพี่ ๆ แต่ในที่สุดปกรณ์ตัดสินใจยืนยันความรักของตนกับวิรินทร์ ปานรุ้งจำใจต้องจัดงานแต่งงานให้ทั้งคู่ แต่ต่อมาด้วยความที่ปกรณ์ยังไม่เป็นผู้ใหญ่พอจึงเกิดเข้าใจผิด ปกรณ์ระแวงว่าลูกในท้องวิรินทร์ไม่ใช่ลูกเขา วิรินทร์เสียใจและทิ้งปกรณ์ไป ปกรณ์ยอมรับไม่ได้ และโทษว่าเป็นความผิดของแม่ จึงก่อโศกนาฏกรรม ครั้งใหญ่ขึ้นเพื่อให้แม่รู้ว่าความรู้สึกของการที่ต้อง เสียคนที่รักที่สุดไปเป็นอย่างไร ส่วนเกื้อตามหาปานวาดจนพบและพากลับมาหาปานรุ้งด้วยสภาพไม่ปกติ ปานรุ้งรับปานวาดกลับบ้านและรักษาเธอจนอาการค่อยดีขึ้น ตำนานความรักอันยิ่งใหญ่ของปานรุ้ง ปิดฉากลงพร้อมกับบทสุดท้ายของชีวิตเธอ ความรักเช่นไรที่จะถูกต้องงดงาม คำถามนี้ยังคงไร้คำตอบ มีทางเลือกอีกมากมายให้ได้ทดลอง และเรียนรู้ ขอเพียงแต่อย่าหยุดที่จะค้นหา และเดินทางไปพร้อมกับหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ติดตามชม ละครบัลลังก์เมฆ

สื่อริษยา 2558

สื่อริษยา (2558/2015) ปัญชลี (ปิยธิดา วรมุกสิก) พิธีกรและผู้ประกาศข่าวหญิงเบอร์หนึ่งในวงการโทรทัศน์ ถูกลูบคมโดย ดาว (เฌอเบลล์-ลัลณ์ลลิน เตจะสาเวศซ์) พนักงานคนใหม่ของสถานี ดาวอยากขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งแทนปัญชลี และดาวต้องการแย่ง ภาสกร (วิลลี่ แมคอินทอช) คนรักของปัญชลีและลูกชายเจ้าของสถานีโทรทัศน์ เพราะภาสกรทั้งหล่อและรวย มีอำนาจหน้าที่ส่งเสริมดาวได้ ภาสกรคือผู้ชายที่สามารถสนองความทะเยอทะยานของดาว ดาวหาทางใกล้ชิดภาสกรโดยผ่าน ภาสุรี (ศศิกานต์ อภิชาตวรศิลป์) น้องสาวภาสกรที่เป็นหัวหน้าฝ่ายรายการ ศินีนาฏ (พิตต้า ณ พัทลุง) พิธีกรและผู้ประกาศข่าวที่เป็นคู่ปรับกับปัญชลี และ เจ๊ตุ่น (ดีเจอ๋อง-เขมรัชต์ สุนทรนนท์) ฝ่ายคอสตูมของสถานี เจ๊ตุ่นอยู่กลุ่มปั่นจักรยานเดียวกันกับภาสกร วันหยุดดาวจึงตามเจ๊ตุ่นไปปั่นจักรยานด้วย เจ๊ตุ่นดูเจตนาของดาวออกจึงพยายามช่วยดาวเพราะเกลียดนิสัยเอาแต่ใจชอบใช้อำนาจของปัญชลีเป็นทุนเดิม ปัญชลีเห็นดาวใกล้ชิดสนิทสนมกับภาสกร จึงด่าดาวว่าจ้องจับคนรักของตน ดาวตีหน้าใสซื่อ ในขณะที่ภาสกรก็รู้ไม่ทันมารยาหญิงหาว่าปัญชลีหึงไม่เข้าเรื่อง ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างภาสกรกับปัญชลีเริ่มมีปัญหา เก้ (หลุยส์-พงษ์พันธ์ เพชรบัณฑูร) สไตลิสต์รุ่นน้องคนสนิทของปัญชลีเตือนสติปัญชลีให้แก้ปัญหาแบบเอาน้ำเย็นเข้าลูบ แต่ปัญชลีไม่ฟัง จนวันหนึ่งเรื่องบานปลาย เพราะดาวจงใจยั่วให้ปัญชลีถึงจุดเดือด ปัญชลีตบหน้าดาวกลางงานเลี้ยงของสถานี ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคนโดยเฉพาะภาสกร ภาสกรเหนื่อยหน่ายปัญชลีมากขึ้นทุกวัน จนอดเปรียบเทียบระหว่างดาวกับปัญชลีไม่ได้ ดาวนิสัยอ่อนหวาน น่ารัก ช่างเอาใจ ตรงกันข้ามกับปัญชลีที่แข็งกระด้าง ก้าวร้าว เอาใจใครไม่เป็น แต่ไม่ว่าปัญชลีจะโวยวายแข็งกระด้างแค่ไหน ภาสกรก็ยังอดทนเพราะ…รัก เบื้องหลังชีวิตดาวไม่ได้ใสสะอาดเหมือนที่ดาวบอกใครต่อใคร ดาวอยู่กินกับ ศรัณ (โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์) แฟนหนุ่มมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ศรัณต้องแอบขโมยเงินของครอบครัวมาปรนเปรอดาว เพราะดาวหลอกทุกคนที่สถานีว่าเป็นลูกคุณหนู ศรัณจึงต้องซื้อข้าวของแพง ๆ ให้ดาวเอาไปใช้อวดทุกคน วันหนึ่งศรัณรู้เรื่องนอกใจของดาวจาก แพรพรรณ (ซี-หทัยภัทร สมรรถวิทยาเวช) รุ่นน้องสมัยมหาวิทยาลัยที่ทำงานที่เดียวกับดาว แพรพรรณบอกศรัณว่าดาวกำลังพยายามจับภาสกร ศรัณหวงดาวจึงตามมาเฝ้าที่สถานี แต่ดาวก็สามารถหลอกล่อให้ศรัณเชื่อใจและไม่ตามมาเฝ้าดาวได้ ปัญชลีเริ่มมีปากเสียงกับภาสกรรุนแรงขึ้นทุกที และยิ่งถูกดาวยั่วอารมณ์ ปัญชลีก็ฟิวส์ขาดตบหน้าดาวขณะรายการออกอากาศสด ทำเอาคนดูช็อคกันทั้งประเทศ ภาสกรจำใจต้องสั่งปลดปัญชลีออกจากรายการ ภาสุรีซ้ำเติมปัญชลีด้วยการดันดาวขึ้นเป็นพิธีกรคู่ ศินีนาฏพิธีกรคู่คนเก่าของปัญชลี ไม่มีพนักงานคนไหนเห็นใจปัญชลี นอกจากแพรพรรณกับ ภานุ (พ้อยท์-ชลวิทย์ มีทองคำ) น้องชาย ภาสกรที่ทำงานอยู่ฝ่ายรายการ ภานุปกปิดสถานะตัวเองว่าเป็นลูกชายเจ้าของช่อง เพื่อจะได้เรียนรู้งานจากรุ่นพี่ ดาวไม่รู้ว่าภานุเป็นใคร จึงแสดงนิสัยไม่ดีให้ภานุเห็น ภานุเตือนภาสกรว่าดาวไม่ได้ใสซื่ออย่างที่เห็น ชีวิตปัญชลีตกต่ำอย่างหนัก ความสัมพันธ์กับภาสกรก็ห่างเหินขึ้นทุกวัน ดาวต้องการทำลายคู่นี้ จึงหลอกล่อภาสกรมาหาที่คอนโด แล้วหลอกปัญชลีให้มาเห็นเพื่อจะได้เข้าใจผิด ปัญชลีเข้าใจว่าภาสกรแอบคบกับดาว จึงบอกเลิกภาสกรทันที ในที่สุดดาวก็ทำสำเร็จ ทั้งได้ขึ้นเป็นพิธีกรแทนปัญชลี และทำให้ปัญชลีกับภาสกรเลิกกัน เหลือเพียงแค่อย่างเดียวที่ดาวต้องการ คือ ทำให้ภาสกรรักดาว ดาวจะได้หัวใจของภาสกรมาครอบครองหรือไม่? ปัญชลีจะทวงคืนทั้งงานและคนรักของตนกลับมาได้อย่างไร? ติดตามชมและร่วมลุ้นได้ใน ละครสื่อริษยา

เงาใจ 2558

เงาใจ (2558/2015) วาทิต (ยุทธนา เปื้องกลาง) ลูกชายเพียงคนดียวของ พ่อเลี้ยงวิทย์ (พิศาล อัครเศรณี) ผู้มีฐานะร่ำรวยมากในภาคเหนือ ซึ่งเป็นทั้งเจ้าของไร่ส้มและไร่ชา ด้วยความที่สุขภาพของวาทิตไม่ดีมาตั้งแต่เด็กและยังมีโรคประจำตัวเป็นโรคหัวใจ วาทิตจึงได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากพ่อเลี้ยงวิทย์และคำเอื้อง (อำภา ภูษิต) แม่นมที่รักวาทิตเหมือนลูกแท้ ๆ ของตัวเอง และยังมีกินรี (อริสรา ทองบริสุทธิ์) ลูกสาวของกิจจา (ดิลก ทองวัฒนา) คอยดูแลอีกด้วย เมทินี (วรรณรท สนธิไชย) คือหญิงสาวที่วาทิตหลงรักมาตั้งแต่เด็ก แต่หญิงสาวกับรู้สึกกับวาทิตเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น หญิงสาวอยู่กับมณี (สาวิตรี สามิภักดิ์) ผู้เป็นแม่และไมตรี (ณัฐชา จันทพันธ์) น้องชาย มีอาชีพรับจัดส่งดอกไม้ ซึ่งครอบครัวของหญิงสาวรู้จักและสนิทสนมกับครอบครัวของวาทิตเป็นอย่างดี อังกูร (นาวิน เยาวพลกุล) ลูกพี่ลูกน้องกับวาทิต ชายหนุ่มเป็นหลานชายแท้ ๆ ของพ่อเลี้ยงวิทย์ อังกูรรักเมทินีเช่นเดียวกันกับวาทิต แต่มีความมั่นใจมากกว่าว่าเมทินีรักเขา ไม่ได้รักวาทิต และคิดที่จะขอเมทินีแต่งงาน แต่เมทินียังไม่รับปากเพราะเธอเองก็ไม่แน่ใจว่ารักอังกูร รุทร (ยุทธนา เปื้องกลาง) พี่น้องฝาแฝดกับวาทิต ลูกชายของแรม (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) แต่ชายหนุ่มไม่รู้ว่าเขามีพี่น้องฝาแฝด เพราะแรมไม่ได้บอก ถึงแม้จะยังติดต่อและส่งข่าวคราวถึงพ่อเลี้ยงวิทย์อยู่ก็ตาม รุทรยังเก็บเอาความช้ำจาก แพร (เจนสุดา ปานโต) คนรักเก่าตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมมาด้วยกันที่ชิงหนีไปแต่งงาน ทำให้รุทรหมดศรัทธาในความรัก และถึงแม้จะมีบุษบัน (สกาวใจ พูนสวัสดิ์) แม่ม่ายสาวสวยมาติดพันชอบพอก็ไม่ทำให้รุทรสนใจ แต่กลับเป็นอนุวัตร (ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์) เพื่อนสนิทของรุทรเสียมากกว่าที่รู้สึกชอบบุษบัน แต่ก็ทำเป็นยียวนกวนประสาทใส่เธออยู่เสมอ รุทรให้อนุวัตรมาส่งดอกเสี้ยนให้กับเมทินีแทนเขา ทำให้อนุวัตรได้ปะทะคารมกับทิปปี้ (วิชญาณี เปียกลิ่น) เพื่อนสนิทของเมทินี ส่วนรุทรเดินดูงานโดยรอบจนได้มาเจอกับเมทินีที่จัดดอกไม้อยู่ รุทรชอบในความน่ารักสดใสของเมทินี จึงถ่ายรูปเก็บเอาไว้หลายอิริยาบทโดยที่เมทินีไม่รู้ตัว ไมตรีเจอกับวาริน (ณัฐจารี หรเวชกุล) น้องสาวของรุทรทีไรมักมีเรื่องด้วยกันทุกที จนวันหนึ่งไมตรีมีเรื่องกับพวกเด็กช่างกลและไมตรีพลั้งทำปืนปากกาของเด็กช่างกลลั่นโดนเจ้าของปืนเอง ตำรวจพาตัวทุกคนไปที่โรงพัก พ่อแม่ของเด็กช่างกลเรียกค่าเสียหายยี่สิบล้านบาท มณีและเมทินีกลุ้มใจมากเป็นทุกข์อย่างหนัก คิดขายบ้านขายร้านแต่เงินยังไม่พอ อังกูรจึงยื่นมือเข้ามาอาสาช่วยเหลืออีกแรงแต่ก็ยังไม่ถึงยี่สิบล้าน พ่อเลี้ยงวิทย์เห็นว่าครอบครัวของเมทินีกำลังลำบากจึงเข้ามาช่วยเหลือ โดยมีข้อแม้ให้เมทินีแต่งงานกับวาทิต เพราะรู้ว่าวาทิตรักเมทินีมากและยังเป็นการสร้างความสุข ช่วยต่อชีวิตให้กับวาทิต อีกด้วย ซึ่งเมทินีจำยอมแต่งงานกับวาทิตเพื่อต้องการนำเงินไปช่วยไมตรี งานแต่งงานของวาทิตกับเมทินีถูกจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ วาทิตดูจะมีความสุขมากในขณะที่อังกูรเต็มไปด้วยความเจ็บช้ำ ส่วนกินรีไม่ได้สนใจวาทิตที่ได้แต่งงานกับเมทินีเท่าไหร่นักเพราะเธอหลงรักอังกูรและจะทำให้อังกูรลืมเมทินีให้ได้ ผิดกับกิจจาผู้เป็นพ่อที่รู้สึกไม่พอใจที่แผนการล้มเหลวเพราะอยากให้ลูกสาวแต่งงานกับวาทิตเพื่อครอบครองทรัพย์สมบัติทั้งหมด อนุวัติเอารูปงานแต่งงานของวาทิตมาให้รุทรดูด้วยความสงสัย เพราะว่าวาทิตกับรุทรนั้นหน้าเหมือนกันยังกับแกะ รุทรเลยเอาเรื่องไปถามแรม ผู้เป็นแม่ก็ได้ความจริงว่ารุทรนั้นมีน้องชายฝาแฝดคือวาทิต แต่แรมได้ยกวาทิตให้เป็นลูกบุญธรรมของพ่อเลี้ยงวิทย์เจ้านายเก่าของเธอหลังจากที่คลอดได้ไม่นานเพราะวาทิตเป็นโรคหัวใจและแรมเองก็ลำบากเรื่องค่าใช้จ่าย ที่ผ่านมาแรมกับพ่อเลี้ยงวิทย์ส่งข่าวให้กันตลอด แต่แรมขอเอาไว้ว่าไม่อยากไปเจอวาทิตเพราะพ่อเลี้ยงวิทย์ก็เลี้ยงดูวาทิตไม่ผิดไปจากลูกของเขาเอง อังกูรแกล้งป่วยให้เมทินีมาหาและคิดจะปลุกปล้ำจนวาทิตเข้ามาเห็น วาทิตโกรธจัดและขอเคลียร์กับอังกูร อังกูรพูดจาเป็นนัยให้รู้ว่าเขากับเมทินีมีอะไรกันแล้วก่อนที่จะมาแต่งงาน วาทิตโกรธมากจนหอบหนักแต่ก็ยังหยิบปืนขึ้นมาเล็งอังกูร ทำเอาอังกูรผงะที่เห็นวาทิตเอาจริง แต่ยังไม่ทันเหนี่ยวไกวาทิตก็เกิดเจ็บหน้าอกทรุดตัวลงนั่งหอบ จะหยิบยาพ่นออกมาแต่กระเด็นไปที่อังกูร วาทิตร้องขอยาแต่อังกูรไม่ให้แถมเตะให้ห่างออกไป วาทิตกลั้นใจครั้งสุดท้ายฝืนยิงอังกูรและตัวเองก็สลบไป พ่อเลี้ยงวิทย์พาวาทิตมาที่บ้านของแรมเพื่อให้แรมดูแล และให้รุทรปลอมตัวเป็นวาทิตเพื่อเข้าไปสืบหาว่าใครเป็นคนทำร้ายวาทิต และคอยขัดขวางอังกูรกับเมทินีไม่ให้ได้ใกล้ชิดกัน พ่อเลี้ยงวิทย์ให้เวลารุทรได้เรียนรู้การเป็นวาทิต แต่ด้วยคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกัน ทำให้รุทรมีปัญหากับการเป็นวาทิตไม่ใช่น้อยทซึ่งพ่อเลี้ยงวิทย์ได้หาทางแก้โดยการบอกกับทุกคนว่าวาทิตความจำเสื่อมเป็นช่วง ๆ ถึงแม้ว่ารุทรจะพยายามทำตัวเองให้เหมือนกับวาทิตมากแค่ไหน แต่ยังไงก็ไม่เหมือนกับวาทิตที่เมทินีเคยรู้จัก เมทินีจึงคิดทดสอบรุทรในคราบของวาทิตในหลายๆอย่างแต่ถึงแม้จะเห็นถึงความแตกต่างแต่ก็ไม่สามารถให้คำตอบกับตัวเองได้ว่า วาทิตที่เห็นอยู่ตอนนี้ถ้าไม่ใช่วาทิตแล้วจะเป็นใคร เช่นเดียวกับกินรีที่สงสัยในความต่างแต่ก็ยังหาคำตอบไม่ได้และไม่ได้ระแคะระคายเลยว่าวาทิตจะมีพี่น้องฝาแฝด ทุกสิ่งทุกอย่างเต็มไปด้วยความวุ่นวายต่างฝ่ายต่างจับผิดกันและกัน รุทรพยายามจับผิดเมทินีกับอังกูร ในขณะที่เมทินีเองก็หาเรื่องจับผิดรุทร เพราะเธอมั่นใจว่ายังไงรุทรก็ไม่ใช่วาทิต แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นโดยที่เจ้าตัวไม่ทันได้สังเกตนั่นคือความรู้สึกดีดีที่ทั้งรุทรและเมทินีมีให้แก่กันมากขึ้นทุก ๆ วัน อังกูรและกิจจาร่วมมือกันกำจัดพ่อเลี้ยงวิทย์ โดยการจ้างมือปืนมาทำร้ายและใส่ความรุทร แต่ที่จริงแล้วพ่อเลี้ยงวิทย์ยังไม่ตายโดยรุทรพาไปหลบซ่อนตัว และเขาก็ยอมโดนปรักปรำเพื่อหาหลักฐานมัดตัวอังกูรให้แน่นจนดิ้นไม่หลุด เมทินีเสียใจมากที่รุทรกลายเป็นคนร้ายและเธอมั่นใจแล้วว่ารุทรไม่ใช่ว่าทิต รุทรขอให้เมทินีเชื่อใจเขาและพามาหาแรมที่บ้านพร้อมกลับพาไปเจอวาทิต เมทินีร้องไห้ด้วยความสงสารวาทิตและรู้สึกผิดเพราะที่ผ่านมาเธอรู้ตัวดีว่าเขาพยายามทำให้เธอทุกอย่างแต่เธอไม่ได้สนใจมันมากนักเพราะเมทินีไม่ได้รักวาทิตแบบชู้สาวและไม่อยากทำอะไรตอบกลับจนทำให้วาทิตรู้สึกมากกับเธอไปกว่าที่เป็นอยู่ เพราะมันก็มากเกินพอแล้ว อังกูรเห็นว่าทรัพย์สมบัติทุกอย่างกำลังจะตกเป็นของเขา ชายหนุ่มจึงคิดกำจัดกิจจาทิ้งและกินรีเป็นรายต่อไป กินรีมาได้ยินทั้งหมดจึงรู้ตัวว่าถูกหลอกใช้จึงมาหารุทรและสารภาพความจริงทุกอย่างด้วยความสำนึกผิดพร้อมจะเป็นพยานเอาผิดอังกูร ความจริงทุกอย่างจะเปิดเผยอย่างไร บทสรุปของคนชั่วอย่างอังกูรจะเป็นแบบไหน? และความรักที่วุ่นวายระหว่างเมทินีและวาทิตตัวปลอมจะเป็นอย่างไร? จะเป็นเพียงเงาในใจหรือจะกลายเป็นคนในหัวใจได้จริง ๆ ติดตามชมกันต่อได้ใน ละครเงาใจ

สงครามนางงาม 2557

สงครามนางงาม (2557/2014) ของรางวัลมากมาย มูลค่ากว่า 14 ล้านบาท ถ้าคุณมั่นใจว่าคุณมีมากกว่าความสวย เชิญที่ เวที Miss Beauty And Talent Thailand ด้วยคำพูดจากโฆษณาการประกวด Miss Beauty And Talent Thailand ของ นัสริน (เมทินี กิ่งโพยม) ผู้จัดการกองประกวดคนเก่ง ทำให้ ซัมเมอร์ (พิมพ์จิรา เจริญลักษณ์) สาวลูกครึ่งจาก L.A. ที่บังเอิญมาเที่ยวเมืองไทยแล้วเงินหมด ตัดสินใจเข้าประกวดเพื่อหาเงินเที่ยวต่อ ตอนแรกนั้นเธอคิดเพียงว่าจะประกวดสนุก ๆ ไม่จริงจังอะไร แต่หารู้ไม่ว่าเธอกำลังก้าวเข้าสู่โลกใบใหม่ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตและมุมมองต่อโลกของเธอไปตลอดกาล ที่กองประกวดซัมเมอร์ได้พบกับ เพียงฟ้า (ภคกัญญา เจริญยศ) เด็กสาวแสนเพอร์เฟค ลูกนางงามเก่าที่ถูก รัศมี (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) ผู้เป็นแม่ฝึกฝนให้เป็นนางงามมาตั้งแต่เด็ก ด้วยความจริงใจสนุกสนานของซัมเมอร์ ทำให้ทั้งคู่สนิทสนมผูกพันกันอย่างรวดเร็ว ยิ่งซัมเมอร์ทำหน้าที่เป็นแม่สื่อให้ฟ้ากับ คิว (เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์) ผู้กำกับฯ หนุ่มหล่อประจำกองประกวด ยิ่งทำให้ฟ้ารักและไว้ใจซัมเมอร์มากขึ้น โดยที่ไม่รู้เลยว่าความเป็นไปทั้งหมดอยู่ในสายตาของ ริบบิ้น (เปรมินทร์ ทับแก้ว) เน็ตไอดอล เจ้าแม่โซเชียลแคม ที่ภายใต้ภาพลักษณ์สวยใสไร้สติของริบบิ้น คือสายตาอันแหลมคมที่เก็บข้อมูลฉาว ๆ ของผู้เข้าประกวดทุกคน และ ลูกโซ่ (เรวิญานันท์ ทาเกิด) สาวหน้าสวยที่หนีต้น (ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา) แฟนหนุ่มมาประกวด ลูกโซ่ที่สวยสงบ แต่ภายในใจพร้อมที่จะฟาดฟันผู้เข้าประกวดคนอื่นที่กล้ามาขวางทาง ก้องเกียรติ (ยุกต์ ส่งไพศาล) กรรมการหนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์ ให้ความสนใจกับ ไวน์ (ศรุชา เพชรโรจน์) สาวงามคนหนึ่งเป็นพิเศษ แต่ที่เขาสนใจเธอไม่ใช่เพราะความสวย ความมีเสน่ห์อย่างที่เคยสนใจผู้หญิงคนอื่น แต่กลับเป็นความลับอันมืดดำที่ไวน์ปกปิดไว้ ทำให้ก้องเกียรติต้องทำทุกอย่างเพื่อที่จะรู้ความลับนั้นให้ได้ ซึ่งผู้ที่รู้ความลับเรื่องของไวน์มีเพียง ใบข้าว (จุฑารัตน์ อนุศิลป์) นางงามบ้านนาหน้าซื่อเด็กปั้น ป้าสไบ (ณหทัย พิจิตรา) เจ้าของค่ายนางงามรุ่นลายคราม ที่นอกจากใบข้าวจะชอบสะสมมงกุฏและสายสะพาย ยังชื่นชอบการสะสมแต้มผู้ชายเป็นพิเศษ และ หมอเอย (ดาริน แฮนเซน) แพทย์หญิงที่ลงประกวดเพราะอยากจะพิสูจน์ว่าผู้หญิงสวย ๆ ก็มีสมองเหมือนกัน ถึงแม้ทั้งใบข้าวและหมอเอยจะต้องร่วมมือกันช่วยไวน์ปกปิดความลับ แต่ด้วยทัศนคติ ปูมหลังที่ต่างกันของทั้งคู่ ทำให้ใบข้าวและเอยต้องมาฟาดฝีปากกันทุกครั้งที่เจอ ก้องเกียรติสนใจไวน์เพราะความลับ ต่างจาก ชยุต (โอลิเวอร์ พูพาร์ท) กรรมการหนุ่มใหญ่อีกคนหนึ่งที่เผลอใจมีความสัมพันธ์กับ บีบี (วราไพรินทร์ ลภัสนิธิโรจน์) สาวงามที่สวยด้วยมีดหมอ ทำให้ชยุตต้องแอบให้ความช่วยเหลือบีบีอยู่ตลอดเวลา แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ล่วงรู้ไปถึง เดียร์ (พรพรรณ ฤกษ์อัตการ) สาวห้าว ปากกล้า และลูกหว้า (รัตนาภรณ์ กลิ่นกุหลาบหิรัญ) สาวสวย หัวอ่อน คู่หูพริตตี้ตะกายดาว เดียร์และลูกหว้าจึงพยายามหาทางเปิดโปงบีบี ในขณะที่บีบีก็หาทางเขี่ยทั้งคู่ให้ตกรอบไป ขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายใดจะเพลี่ยงพล้ำก่อน การฟาดฟันของบรรดาสาวงามในกองประกวด Miss Beauty And Talent Thailand ว่าร้อนแรงแล้ว การแข่งขันระหว่างเวทีก็ดุเดือดไม่แพ้กัน เมื่อคุณไก่ (อรนภา กฤษฎี) เจ้าของเวที Miss Thailand Elegant เวทีประกวดสาวงามคู่แข่ง คิดจะทำลายเวที Miss Beauty And Talent Thailand เพื่อที่ว่าเวทีประกวดของตนเองจะขึ้นเป็นอันดับหนึ่งแทนที่ จึงได้ใช้ให้ อลิส (ราศี วัชราพลเมฆ) ผู้ช่วยของนัสรินคอยเป็นคนสร้างข่าวฉาวทำลายเวทีจากภายใน โลกของผู้หญิงสวยและการฟาดฟันเชือดเฉือน โลกของเวทีขาอ่อนที่ซ่อนเขี้ยวเล็บไว้ ใครจะอยู่ใครจะไป ติดตามได้ใน ละครสงครามนางงาม

เสือ 2557

เสือ (2557/2014) ในคืนพระจันทร์เต็มดวง ณจันทร์ (เทย่า โรเจอร์) ในวัยเด็ก ต้องคำสาปและหนีคำแปง (ยุวดี เรืองฉาย) ไปที่กรงเสือ จนเกือบถูกเสือสมิงฆ่า โชคดีที่พรานคำสูรย์ (สมชาย เข็มกลัด) และจรัส (โอลิเวอร์ พูพาร์ท) พ่อของณจันทร์ตามมาช่วยทัน เสืออาละวาดจนสุดแรงก่อนสิ้นใจตาย ณจันทร์ได้เลือดจากรอยเล็บของเสือร้าย แต่จรัสพ่อของเธอเสียชีวิตด้วยกรงเล็บเสือในคืนนั้น ณจันทร์เติบโตมาเป็นเออีสาวสวย ทำงานที่บริษัทโฆษณาแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แต่เหตุการณ์ในวัยเด็กกลายเป็นฝันร้าย ที่ติดตัวมาอยู่เสมอ ทุกวันครบรอบวันตายของพ่อ ณจันทร์กับป้านวล (อำภา ภูษิต) ญาติผู้ใหญ่คนเดียวที่เหลืออยู่จะขึ้นไปทำบุญให้พ่อที่เชียงใหม่ แต่ปีนี้ คำสูรย์ที่ดูสติไม่สมประกอบหลังจากเหตุการณ์ในอดีต ก็มาอะละวาดว่าใครที่แลกเลือดกับเสือสมิงในคืนวันเพ็ญ ถ้าผ่านไป 20ปี แล้วยังไม่ตายและยังไม่สามารถสะกดวิญญาณเสือได้ ผู้นั้นจะกลายเป็นเสือสมิงแทน คำแปงกลัวว่าคำสาบจะเป็นจริง ส่วนป้านวลบอกเป็นเรื่องเหลวไหล ทั้ง ๆ ที่ลึก ๆ ก็อดหวั่นใจไม่ได้ เมื่อณจันทร์กลับมาทำงานที่กรุงเทพฯ เธอได้รับงานให้ดูแลสินค้าอาหารสัตว์แทนวิฬาร์ (จรีนา สิริสิงห์) ที่ไม่ค่อยถูกชะตากับ ณจันทร์ ทำให้ณจันทร์ได้รู้จักกับปักษะ (นิธิดล ป้อมสุวรรณ) เจ้าของบริษัทหนุ่มที่ไม่สนใจงานบริหาร แต่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและมักไปอยู่ที่มูลนิธิสัตว์ป่ามากกว่า สร้างความไม่พอใจให้ปฏิมา(ชรัส เฟื่องอารมณ์) ผู้เป็นพ่อที่อยากให้เขาสืบทอดกิจการต่อ ในวันเกิดอายุครบ 25 ปี ณจันทร์ ลูกปลา(พิมพ์ลดา ไชยปรีชาวิทย์) และสมชัย (ธนวัฒน์ ประสิทธิสมพร) 3 เพื่อนซี้ ชวนกันไปที่ร้านอาหารประจำ ทำให้เจอกับหมอดูเทพนิมิตร (สุภาพร คำนวลศิลป์) เมื่อหมอดูเทพนิมิตรมาขอดูดวงให้ณจันทร์ ก็ตกตะลึงและหวาดกลัว เมื่อเปิดไพ่และเห็นดวงชะตาของณจันทร์ทั้งหมด เทพนิมิตรเดินจากไปทันที ทิ้งไว้เพียงปริศนาให้กับณจันทร์ หลังจากวันนั้น ณจันทร์เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของตัวเอง จากที่กินมังสวิรัต ก็เริ่มกระหายอยากกินเนื้อสัตว์และของสดดิบ วันหนึ่ง กำแหง (เพ็ญเพชร เพ็ญกุล) ลูกค้าที่ติดต่องานและตามตื๊อณจันทร์มาตลอด ก็มาหลอกพาณจันทร์ไปข่มขืน แต่ณจันทร์ ไม่ยอมและต่อสู้จนหมดสติไป พอฟื้นขึ้นมาก็จำไม่ได้ว่ากลับมาที่คอนโดได้อย่างไร และยิ่งตกใจเมื่อเห็นข่าวการตายของกำแหงในทีวี อาชา (รัชชานนท์ สุประกอบ) ตำรวจหนุ่มผู้รับผิดชอบคดีนี้และเป็นเพื่อนสนิทของปักษะ มุ่งประเด็นไปที่การฆาตกรรม เพราะพบรอยเท้าเสือปรากฏอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อ จนวิฬาร์ให้เบาะแสว่าเห็นณจันทร์ไปกับกำแหงในคืนเกิดเหตุ อาชาจึงเริ่มสงสัยณจันทร์ พอปักษะทราบเรื่องก็รีบออกมาปกป้องณจันทร์อย่างออกหน้า ขณะเดียวกันพรหมพยัคฆ์ (ปรีติ บารมีอนันต์) ชายลึกลับเจ้าของบริษัทผลิตวิสกี้เบงกอล ก็เข้ามาใช้บริการบริษัทโฆษณา และระบุว่าผู้รับผิดชอบงานของเขาต้องเป็นณจันทร์เท่านั้น เมื่อณจันทร์ได้พบกับพรหมพยัคฆ์ เธอสัมผัสได้ถึงแรงดึงดูดบางอย่าง พรหมพยัคฆ์เปิดเผยกับเธอว่าเขาและเธอคือเสือสมิง เขาตามหาเธอเพื่อทำพิธีสมสู่สืบทอดเผ่าพันธ์ในคืนวันเพ็ญเดือน 8 ที่จะมาถึง ณจันทร์ไม่เชื่อ แม้ว่าพรหมพยัตฆ์จะยืนยันหนักแน่น จนกระทั่งคืนวันเพ็ญมาถึง ซึ่งเป็นวันที่บริษัทจัดงานปาร์ตี้ ณจันทร์หวาดกลัวคำพูดของพรหมพยัคฆ์จึงหนีกลับก่อน แต่ก็ถูกวิฬาร์ตามออกมาหาเรื่อง ณจันทร์โกรธจนตาเริ่มเปลี่ยนสีและควบคุมตัวเองไม่ได้ จึงรีบวิ่งหนี วิฬาร์พยายามตามไปหาเรื่องต่อ ก็ต้องช็อคสุดขีดเมื่อพบเสือออกมาจากสวนที่ณจันทร์หายเข้าไป แต่ก่อนที่จะถูกเสือตะปบ ยามที่ได้ยินเสียงร้องของวิฬาร์ก็เข้ามาทำให้เสือเปลี่ยนความสนใจไปที่ยาม พอรุ่งเช้าก็มีข่าวการตายของยาม ณจันทร์ตกใจกลัวมาก แต่ก็พยายามบอกตัวเองว่าไม่ใช่เธอ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปักษะพยายามหาหลักฐานมาเพื่อยืนยันว่าทุกอย่างเป็นฝีมือของเสือ แม้ว่าอาชาจะสงสัยว่า ณจันทร์อาจจะเลี้ยงเสือ และยิ่งสองหนุ่มพยายามหาหลักฐานเท่าไหร่ ณจันทร์ก็ยิ่งแน่ใจว่าตนเองเป็นอะไร เธอจึงตัดสินใจหนีทุกคนขึ้นไปเชียงใหม่เพื่อหาทางแก้คำสาป เรื่องราวต่อไปจะเป็นอย่างไร ใครจะเป็นผู้แก้คำสาปให้ณจันทร์ และณจันทร์จะสามารถล้างคำสาปชั่วร้ายก่อนคืนวันเพ็ญเดือนแปดได้หรือไม่? ติดตามชมกันต่อได้ใน ละครเสือ

ฝันเฟื่อง 2557

ฝันเฟื่อง (2557/2014) อาทิตย์ (ธนทัต ชัยอรรถ) คนขับรถสุดชิลล์ของ รัฐรวี (พุฒิชัย เกษตรสิน) ทายาทเจ้าของธุรกิจจิวเวลรี่เกิดไปตกหลุมรัก วิไลลักษณ์ (มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) สาวใช้คนโปรดของ มณฑิรา (วรัทยา นิลคูหา) สาวสวยรวยทั้งสมองและทรัพย์สมบัติ ความรักครั้งนี้มันควรจะลงตัวเพราะทั้งคู่ดูจะเสมอและเหมาะสมกัน แต่มันไม่เป็นแบบนั้นเพราะอาทิตย์แอบอ้างว่าตัวเองเป็นคนรวย และวิไลลักษณ์ก็แอบอ้างตัวเองว่าเป็นคุณหนูไฮโซกำมะลอเช่นเดียวกัน เมื่อรัฐรวีรู้เรื่องก็ยื่นคำขาดให้อาทิตย์ยุติเรื่องโกหก แต่อาทิตย์ก็ขอร้อง อ้อนวอน จนรัฐรวีคิดหนักยอมช่วยโดยติดตามไปในฐานะคนขับรถของอาทิตย์ที่ชื่อ นายวี ฝ่ายมณฑิราเมื่อจับได้ว่าวิไลลักษณ์แอบเอาเสื้อผ้าของเธอไปหลอกหนุ่ม ๆ ก็เป็นห่วงกลัวว่าวิไลลักษณ์จะโดนหลอก มณฑิราที่เคยแต่ใช้ชีวิตตามประสาคนรวยที่แสนน่าเบื่อจึงนึกสนุกให้วิไลลักษณ์เชิญอาทิตย์มาที่บ้าน โดยมณฑิราจะปลอมตัวเป็นคนใช้ของวิไลลักษณ์ที่ชื่อ มณฑา แล้วพรหมลิขิตก็เล่นตลกอีกครั้งเมื่อนายวีปิ๊งรักมณฑาทันทีตั้งแต่แรกเห็น จากที่รัฐรวีเคยขัดขวางอาทิตย์ก็กลับกลายเป็นติดสอยห้อยตามไปจีบมณฑา พออาทิตย์รู้ว่าเจ้านายเกิดไปตกหลุมรักคนใช้ก็ขัดขวางสุดตัวเพราะกลัวถูก รัฐ (เกรียงไกร อุณหะนันทน์) กับ ภัสสร (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) พ่อแม่ของรัฐรวีและ แม่ชื่น (ปรารถนา บรรจงสร้าง) แม่นมของรัฐรวี ซึ่งเป็นแม่บังเกิดเกล้าของตนแหกอก รัฐรวีไม่ยอมแพ้แอบหนีไปจีบมณฑาด้วยตัวเอง ด้านภัสสรก็เป็นห่วงกลัวลูกชายคนเดียวจะไปคว้าคนไม่เหมาะสมมาเป็นลูกสะใภ้เลยพยายามหาคู่ให้รัฐรวี จับพลัดจับผลูภัสสรดันไปถูกใจมณฑิราหลานสาว คุณหญิงหิรัญญิการ์ (จารุณี สุขสวัสดิ์) จึงจัดการให้รัฐรวีได้เจอกับมณฑิราในงานปาร์ตี้แฟนซีหน้ากากวันเกิดคุณหญิง ซึ่งนั่นทำให้มณฑิราได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว นายวี ก็คือ รัฐรวี ทายาทเจ้าของธุรกิจจิวเวลรี่ชื่อดัง! โชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้ที่มณฑิราดันเข้าใจว่า อาทิตย์ คือ เพื่อนคนรวยของรัฐรวีไปด้วย มณฑิราจึงอยากพิสูจน์รักของนายวี เธอตั้งใจแกล้งคบกับรัฐรวีในฐานะมณฑิราพร้อม ๆ กับคบนายวีในฐานะมณฑาไปพร้อม ๆ กัน โดยขอร้องให้วิไลลักษณ์ช่วยเก็บความลับนี้ วิไลลักษณ์ไม่สบายใจที่ต้องดึงมณฑิราเข้ามาร่วมวงโกหกด้วย เพราะนอกจากจะทำให้มณฑิราเดือดร้อน ยังทำให้ แม่เมียด(ดารัณ ฐิตะกวิน) นายวง(อนันต์ บุนนาค) และ เวก (วราวุธ โพธิ์ยิ้ม) พ่อ แม่ พี่ชายที่ทำงานอยู่บ้านมณฑิราต้องพลอยถูก คุณต๋อย (นรินทร ณ บางช้าง) กุ๊กกิ๊ก (โสรญา ฐิตะวชิร) สมจิตร คนใช้ร่วมบ้านคอยตำหนิไปด้วย อุปสรรคความรักของอาทิตย์ยังไม่จบเพียงแค่นั้น เมื่อ อิงอร (แอริน ยุกตะทัต) สาวไฮโซลูกสาวหุ้นส่วนธุรกิจจิวเวลรี่ของรัฐรวีตกหลุมเสน่ห์ของอาทิตย์เข้าอย่างจังโดยคิดว่าอาทิตย์เป็นคนรวย อิงอรตั้งใจจะจับอาทิตย์ให้ได้ ทำให้วิไลลักษณ์ยิ่งน้อยใจว่าตนไม่เหมาะสมกับอาทิตย์เท่าอิงอร วิไลลักษณ์ตั้งใจจะเลิกกับอาทิตย์ แต่อาทิตย์ไม่ยอม เค้าทำทุกวิถีทางเพื่อจะพิสูจน์รักแท้ที่มีต่อวิไลลักษณ์ แต่กับอิงอรเขาก็ไม่กล้าปฏิเสธ เพราะกลัวว่าจะกระทบกับธุรกิจของรัฐรวี ส่วนมณฑิราก็ต้องวิ่งหนีการตามตื้อของ ภูวเดช (พงษ์พันธ์ เพชรบัณฑูร) เพลย์บอยเจ้าของธุรกิจซูเปอร์คาร์ที่หวังจะใช้สมบัติของมณฑิรา และคุณหญิงหิรัญญิการ์ช่วยค้ำจุนธุรกิจที่กำลังร่อแร่ กระทั่งวันหนึ่งที่อาทิตย์ รัฐรวี วิไลลักษณ์ มณฑาได้ไปพักผ่อนต่างจังหวัดด้วยกัน รัฐรวีทนไม่ไหวสารภาพความจริงกับมณฑาว่าแท้จริงแล้วเขาไม่ใช่คนขับรถของอาทิตย์ แต่เป็นเจ้านายและลูกชายเจ้าของธุรกิจที่ร่ำรวย มณฑิราในคราบสาวใช้มณฑาแกล้งทำเป็นน้อยใจว่ารัฐรวีรังเกียจที่ตนเป็นแค่คนใช้ รัฐรวียืนยันว่าทันทีที่กลับไปถึงกรุงเทพเค้าจะพามณฑาไปแนะนำกับพ่อแม่ แต่เมื่อทั้งคู่กลับมาที่พักก็พบว่าอาทิตย์กับวิไลลักษณ์เก็บข้าวของหนีตามกันไปแล้ว!! อาทิตย์พาวิไลลักษณ์หนีมาจดทะเบียนสมรสและอยู่ด้วยกันในอพาร์ทเมนท์เล็ก ๆ โดยต่างก็ยังไม่กล้าสารภาพฐานะที่แท้จริงของตัวเอง อิงอรที่ถูกอาทิตย์ปฏิเสธความสัมพันธ์ไปก่อนหน้านี้คิดจะแก้แค้นจึงพยายามตามสืบเรื่องของอาทิตย์จนไปรู้จาก หมอฉบัง (กรกันต์ สุทธิโกเศศ(อาร์ม KPN)) เพื่อนรักของรัฐรวีว่าอาทิตย์เป็นแค่คนขับรถ อิงอรโกรธทั้งอาทิตย์และรัฐรวีจึงคิดจะแก้เผ็ดทั้งคู่ ภูวเดชที่ถูกมณฑิราปฏิเสธโดยอ้างว่ากำลังคบหากับรัฐรวีก็ไม่ยอมแพ้ เค้าแอบตามจับผิดรัฐรวีจนไปรู้ว่ามณฑิราก็คือมณฑา สาวใช้ที่รัฐรวีหลงรัก! อิงอรจึงรวมหัวกับภูวเดชวางแผนทำลายความรักของรัฐรวีกับมณฑิราในงานหมั้นที่รัฐรวีกำลังจะจัดขึ้นกับสาวใช้ที่ชื่อมณฑา! มณฑิราจะล่วงรู้แผนการของภูวเดชแล้วชิงสารภาพความจริงกับรัฐรวีได้ก่อนหรือไม่? รัฐรวีจะทำอย่างไรเมื่อรู้ว่าตนถูกคนรักพิสูจน์รักแท้ด้วยการโกหกมาตลอด? อาทิตย์กับวิไลลักษณ์จะทำอย่างไรเมื่อรู้ว่าคู่ชีวิตที่ตนเลือกไม่ได้เป็นคนร่ำรวยอย่างที่ตนฝันเฟื่องไว้ตั้งแต่แรก? แล้วอาทิตย์จะกลับมาช่วยเจ้านายสุดที่รักแก้ปัญหาความรักได้ทันหรือไม่? ความวุ่นวายที่เริ่มต้นจากความฝันเฟื่องของคนขับรถสุดพิเรน แต่กลับทำให้ทั้งเจ้านายและลูกน้องต่างก็ได้พบรักแท้ที่รอคอยครั้งนี้จะผ่านพ้นไปได้อย่างไร? ติดตามกันต่อได้ใน ละครฝันเฟื่อง

ลิเก๊..ลิเก (2557/2014) ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วทุกหัวระแหง ธุรกิจห้างร้านต่าง ๆ ล้วนประสบภาวะขาดทุน รวมทั้งธุรกิจ SME ของ พงศ์เทพ กับ พร้อมพงศ์ สองพ่อลูก ถึงขนาดที่พร้อมพงศ์ต้องใช้บริการเงินกู้นอกระบบที่เป็นลูกค้าเก่าแก่กันมานาน เสี่ยเต๊ก อาเสี่ยหน้าเลือดปล่อยเงินกู้คิดดอกมหาโหด ใครเบี้ยวหนี้ เสี่ยเต๊กส่งลูกน้องไปรุมยำซะเละเทะอย่างกับหน้าเค้กโดนกระทืบ จนลูกหนี้ต่างพากันหวาดกลัว สิริรวมเลขมงคลที่พร้อมพงศ์ติดหนี้เสี่ยเต๊ก ทั้งต้นทั้งดอกรวมเป็นเงินหลายล้านบาท พร้อมพงศ์ไม่มีเงินใช้หนี้ขอผัดผ่อนเรื่อยมา เสี่ยเต๊กฮึ่ม ๆ ขู่จะส่งลูกน้องมาสกรัมพร้อมพงศ์ พงศ์เทพเป็นแฟนคลับยาแก้ไอชวนป๋วยปี๋แป่ก่อ ตราลูกกตัญญูผุด ๆ เร่ขายของในโรงงาน ตรากตรำหาลูกค้าทุกวันไม่มีวันหยุด เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ให้พ่อ แต่ยอดขายไม่กระเตื้อง เหมยฮัว ลูกสาวเสี่ยเต๊กเกิดตั้งท้อง ทั้งที่ไม่มีแฟน เหมยฮัวกลัวพ่อด่า เลยให้พงศ์เทพพาหนีออกจากบ้าน เสี่ยเต๊กเลยพาลเข้าใจผิดว่า พงศ์เทพ ทำเหมยฮัวท้อง เสี่ยเต๊กโกรธมาก จะกระทืบพงศ์เทพให้ตายคาเกี๊ยะ เหลียนฮัว เมียเสี่ยเต๊กห้ามไว้ อาตี๋นี่เป็นพ่อของหลานเรานะเสี่ย เสี่ยเต๊กให้พงศ์เทพแต่งงานกับเหมยฮัวเพื่อรับผิดชอบ พร้อมพงศ์ พ่อของพงศ์เทพดีใจประหนึ่งถูกหวย ไชโย จะได้ดองกับเสี่ยเต๊กแล้วโว้ยยยย "ไม่แต่งโว้ย..." พงศ์เทพประกาศลั่น เค้าไม่ได้แตะต้องเหมยฮัวแม้แต่ปลายเล็บเท้า "มึงต้องแต่ง...!!!" เสี่ยเต๊กออกประกาศิต "ไม่แต่ง พ่อมึงตายยยย..." วันแต่งงานมาถึงอย่างรวดเร็ว พงศ์เทพพยายามขอให้พ่อเชื่อคำพูดเค้า เค้าไม่ได้มีอะไรกับเหมยฮัว พร้อมพงศ์ไม่รู้ ไม่สน เอ็งจะมีหรือไม่มี พ่อไม่เกี่ยว พ่ออยากเกี่ยวดองกับเสี่ยเต๊กเท่านั้น จะได้ ปลดหนี้ พงศ์เทพน้อยใจมากพ่อมาก ที่พ่อเห็นเงินสำคัญกว่าลูก ถึงเวลาที่พงศ์เทพต้องไปสู่ขอเหมยฮัวตามธรรมเนียม พงศ์เทพทนรับสภาพผัวจำเป็นไม่ได้ จึงตัดสินใจหนีดีกว่าเว้ย พงศ์เทพแหวกม่านประเพณีหนีการแต่งงาน โดนพ่อไล่ตามจับ พงศ์เทพโซซัดโซเซไปโดนรถเฉี่ยว เจ้าของรถกลัวความผิด ชิ่งหนี พงศ์เทพไม่ได้ตาย เจ็บนิดหน่อยประมาณมดตะนอยกัด พงศ์เทพกระโดดขึ้นท้ายรถกระบะคันที่เฉี่ยวชน หวังไปตายเอาดาบหน้า รถกระบะคันก่อเหตุพาพงศ์เทพมาบ้านคณะลิเก พงศ์เทพเกิดรักแรกพบอย่างจังกับสาวสวยนางหนึ่ง โอ้โหแฮะ.. สาวบางไทร สวยจริงอะไรจริงเว้ยเฮ้ย จอมนาง นางเอกลิเกคนสวย เห็นหนุ่มแปลกหน้าทำตาเจ้าชู้ใส่ ก็หมั่นไส้ผุด ๆ พงศ์เทพโกหก ครูเทียม หัวหน้าคณะลิเกเทียมฟ้าสุวรรณศิลป์ ว่าความจำเสื่อมตอนโดนรถกระบะของคณะครูเทียมเฉี่ยวชน นี่ยังงงอยู่ กระโดดขึ้นรถมาได้ยังไง เหตุผลที่พงศ์เทพโกหกไปก็เพราะไม่อยากกลับไปแต่งงานที่กรุงเทพฯ และดันไปปิ๊งปั๊งจอมนาง หลานสาวครูเทียมเข้าให้ ครูเทียมพินิจพิเคราะห์พงศ์เทพ หน้าตาสะอาดสะอ้าน ผิวพรรณดี ไม่น่าเป็นพม่าหนีเข้าเมืองหรือโจรใจโหด เลยให้พงศ์เทพอยู่เสียด้วยกัน จอมนางโวยปู่ ใจดีเกิ๊น อะไรหลงมา รับเลี้ยงหมด พงศ์เทพตงิด ๆ ใจ นี่แม่คนสวยพูดถึงคน หรือ หมา ?? พงศ์เทพทำฟอร์ม จำชื่อเสียงเรียงนามตัวเองไม่ได้ เมื่อเช้าได้แปรงฟันเหรอเปล่า ยังลืมไปแล้วจอมนางตั้งชื่อให้พงศ์เทพใหม่ว่า...หลง พงศ์เทพทำทะเล้นใส่จอมนาง หลงที่ว่าเนี่ย หลงรักใช่มั้ยฮ้าบบ..จอมนางหันไปมองหมา ตั้งชื่อตามหมาน่ะ พงศ์เทพชะอุ๊ย... ถูกใจจุงเบย ผู้หญิงอะไรทั้งสวยทั้งปากเก่ง ชอบ ๆ ๆ ๆ จอมนางทำเหม็นหน้าหลงไปงั้น ๆ แหละ อันที่จริงปิ๊งหลงอย่างจัง จอมนางเป็นสาวตจว. แพ้หนุ่มกรุงเทพฯ พี่ป้างเค้าภูมิแพ้กรุงเทพฯ แต่จอมนางแพ้ทางหนุ่มกรุงเทพฯ ค่า มาดของหลงมันหนุ่มกรุงเต้ปปปป ชัด ๆ ช่างดูดี มีมาด แม้จะกะล่อนไปมากกกก..ก็เหอะ จัดได้ว่า นายหลงคนนี้ตรงสเป็คจอมนางแบบเป๊ะเว่อร์ คณะลิเกเทียมฟ้าของครูเทียมก่อตั้งมาหลายสิบปี ตั้งแต่ครูเทียมยังรุ่นหนุ่ม ลิเกยุคเดียวกับครูเทียมล้มหายตายจากไปหลายคณะ ก็เหลือแต่คณะของครูยังอยู่ยงคงกระพัน ลิเกของครูเทียมไม่ใช่ลิเกที่หาดูได้ทั่วไป เป็น..ลิเกทรงเครื่อง ตัวแสดงรำอ่อยช้อยแบบนาฏศิลป์ บทร้องบทพูดสละสลวยสวยงามเป็นบทกวี การแต่งหน้าแต่งกายก็ไม่จัดจ้านเหมือนลิเกวิกทั่วไป ลิเกทรงเครื่องเป็นลิเกที่อ่อนช้อย งดงามในทางวรรณศิลป์ ครูเทียมตั้งใจจะอนุรักษ์ลิเกทรงเครื่องให้อยู่สืบไปจนชั่วลูกชั่วหลาน หลงอยู่คณะลิเก มีหน้าที่ช่วยงานจิปาถะหรือพูดภาษาบ้าน ๆ ก็คือ เป็นเบ้นั่นเอง หลงเลยสนิทกับ ไอ้ โก๊ะ เบ้รุ่นแรกรุ่นดั้งเดิมของคณะ หลงชอบแกล้งโก๊ะเล่นขำ ๆ โก๊ะเป็นคนซื่อ หลอกหรืออำอะไร โก๊ะเชื่อหมด จอมนางวางแผนสารพัดจับผิดพี่หลง โกหกเรื่องความจำเสื่อมหรือเปล่า หลงรู้ทัน เอาตัวรอดได้ทุกครั้ง กระแต ลูกพี่ลูกน้องจอมนาง กระซิบบอกหลง จอมนางเป็นผู้มีอิทธิพลท้องพระโรง (ลิเก) คล้าย ๆ กับผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น หลงถูกอกถูกใจจอมนางมาก ผู้หญิงอะไร้ สวย แสบ ซ่า โดนใจเว้ยเฮ้ย หลงรู้ตัวว่า ความเจ้าเสน่ห์ของตนไปสร้างไม่พอใจให้ ฟ้าประทาน พระเอกลิเกรูปหล่อของคณะเทียมฟ้า หลงโดนฟ้าประทานเขม่นตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน โทษฐาน...หล่อ... แต่ไหนแต่ไร ฟ้าประทานเป็น The Special One สาว ๆ ในคณะล้อมหน้าล้อมหลัง วันนี้มาถูกหลงลูบคมแย่งความสนใจ หล่อล้นหลวงระดับฟ้าประทานต้องเป็นที่หนึ่งเท่านั้น เทพบุตรสุดหล่อสองตน อยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้โว้ย หลงถูกฟ้าประทานหาเรื่องกลั่นแกล้งต่าง ๆ นา ๆ หมายให้หลงทนไม่ไหว อเปหิตัวเองออกจากคณะ ทว่า..หลงหน้าด้านหน้าทน มึงแกล้งได้แกล้งไป กูทนด้ายยยย ฟ้าประทานเจ็บใจ ไอ้หลงมันสุดอึด แกล้งยังไงมันก็ไม่ไป หากพี่เจน ญาณทิพย์ หรือ คุณริว จิตสัมผัส มาจ้องหน้าฟ้าประทาน พี่เจนกับพี่ริวจะอ่านแววตาฟ้าประทานออกว่า เจ้าของแววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความ เคียดแค้น ในชีวิตฟ้าประทานไม่เคยรักใคร แม้แต่ครูเทียมที่เลี้ยงดูมา ฟ้าประทานนึกถึงแต่ตัวเอง ฟ้าประทานตั้งใจว่า เมื่อดังกว่านี้ ฟ้าประทานจะออกไปตั้งคณะลิเกของตัวเอง ให้ดังอย่างไชยา มิตรชัย แล้วฟ้าประทานก็จะร่ำรวยเงินทอง มีบ้านหลังใหญ่ มีรถคันหรู ไม่ต้องอาศัยบ้านครูเทียมอยู่ ไม่ต้องนั่งรถเก่า ๆ ของคณะไปเล่นลิเก มันโลโซว่ะ ครูเทียมเฝ้ามองความไม่ลงรอยกันระหว่างหลงกับฟ้าประทาน เห็นว่าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย มันก็แค่หนุ่ม ๆ เหม็นขี้หน้ากัน ความเป็นห่วงพ่อ ทำให้หลงคอยสืบข่าวคราวทางบ้าน พ่อโดนเจ้าหนี้ฆ่าหมกป่าไปเหรอยัง หลงขอยืมโทรศัพท์มือถือคนในคณะโทรหาพ่อ พ่อรับสาย หลงโล่งใจ วางสาย พ่อยังมีลมหายใจอยู่ พร้อมพงศ์ร้อนรนตามหาพงศ์เทพ ไอ้ลูกเวร หายหัวไปไหนวะ พ่อโดนเสี่ยเต๊กขู่ทุกวัน ไม่เจอตัวลูกชายจะจับเผานั่งยางไม่ให้เหลือกซาก พร้อมพงศ์กับไอ้เจ๋งปฎิบัติการมิสชั่นอิมพอสสิเบิ้ล ปูพรมตามหาพงศ์เทพ ขับรถวนไปดูทุกตรอกซอยแถวบ้าน ไม่มีวี่แววพงศ์เทพ หรือมันหนีไปต่างจังหวัด พร้อมพงศ์ไม่มีญาติพี่น้องที่ต่างจังหวัด หลังเรียนจบ พงศ์เทพไม่ได้ติดต่อเพื่อน ๆ วัน ๆ ทำแต่งาน แล้วมันไปมุดหัวอยู่กับใครที่ไหววะ ฝ่ายเสี่ยเต๊กก็สั่งลูกน้อง คือไอ้เบิ้มไอ้พล ให้ตามล่าหาพงศ์เทพ เจอมันที่ไหน ลากมาให้อั๊วกระทืบ หน็อย ทำลูกสาวอั๊วท้องแล้วทิ้ง การตามหาพงศ์เทพเป็นไปอย่างเข้มข้นคลั่ก ฝ่ายพร้อมพงศ์กับเจ๋งก็ตามหาไม่ลดละ ฝ่ายเสี่ยเต๊กกับเหลียฮัวก็ให้ลูกน้องตามหา ต่อให้ไปมุดหัวอยู่ในบ้านเอสกิโม ก็ต้องหามันให้เจอ หลงแอบชะแว้บบบ ๆ กลับไปดูลาดเลาที่กรุงเทพฯ พบว่าเสี่ยเต๊กยังหมายมาดจะจับหลงแต่งงานกับเหมยฮัว ลูกสาวเสี่ยให้จงได้ พ่อหลงเองก็ไล่ล่าหลงอยู่เช่นกัน หลงน้อยใจพ่อมาก พ่อไม่เชื่อคำพูดลูกตัวเอง ไปฟังคนอื่น หลงไม่ได้มีอะไรกับเหมยฮัวซะหน่อย เมื่อรู้ว่าพ่อตัว กับครอบครัวเสี่ยเต๊กยังตามล่าให้หลงกลับไปแต่งงาน หลงจึงกบดานอยู่บางไทรต่อไปไม่มีกำหนดกลับ อีกทั้งอยู่ต่างจังหวัดก็อากาศดี ผู้คนจริงใจ ไม่เหมือนคนกรุงเทพฯ ส่งยิ้มมาพร้อมกับซ่อนดาบในมือ วันหนึ่งหลงจับผลัดจับผลูขึ้นเล่นลิเกแทนชาวคณะด้วยเหตุจำเป็น ครูเทียมเห็นแววหลง จึงปั้นเป็นพระเอกลิเก ครูเทียมจะลองเจียระไนเพชรในตม ที่ชะตาส่งมาให้เจอกัน ลิเกรึ หลงเคยร้องลิเกซะที่ไหน แต่ความที่ชอบร้องเพลงเป็นทุนเดิม เอาวะ ร้องลิเกก็ร้อง มันก็ไม่ต่างจากร้องเพลงซักเท่าไหร่หรอกมั๊ง หลงเริ่มหัดรำก่อน โดยน้ากำจายเป็นครูสอน หลงรำไม่เก่งซักเท่าไหร่ มีดีที่เสียงร้อง ทำให้ครูเทียมพอใจได้ในระดับหนึ่ง ส่วนเรื่องรำ ค่อย ๆ ฝึกไป เดี๋ยวก็รำสวย ฟ้าประทานเห็นครูเทียมเอาใจใส่หลง อย่างกับจะปั้นหลงเป็นพระเอกลิเก ฟ้าประทานเริ่มทำตัวงี่เง่า เรียกร้องความสนใจจากครู ฟ้าประทานตื่นสาย มาซ้อมช้า ซ้อมแป๊บ ๆ หยุดพัก มีประชดประชันครูเทียม ลืมฟ้าประทานแล้ว ครูเทียมรักลูกคณะในวงทุกคนเท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นพระเอก นางเอก นางร้าย ตัวโกง นักดนตรี แม้แต่ลูกจ้างตำแหน่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ในคณะ ครูก็ให้ความเมตตาเสมอกัน ครูเทียมเรียกฟ้าประทานมาคุย ครูไม่ได้รักไอ้เจ้าหลงมันมากกว่าฟ้าประทาน ที่เอาใจใส่มันมากกว่าเพราะมันเพิ่งหัดเล่นลิเก ส่วนฟ้าประทานน่ะ เก่งแล้ว คำอธิบายของครูเทียมไม่ทำให้ฟ้าประทานพอใจ ฟ้าประทานอยากเป็นลูกศิษย์ที่รักที่สุดของครู เป็นพระเอกลิเกที่หล่อที่สุด เป็นผู้ชายที่เพอร์เฟคเลิศเลอที่สุด และวันหน้าฟ้าประทานจะต้องมีชื่อเสียง ร่ำรวยเงินทองที่สุด ครูเทียมรู้จักฟ้าประทานดี เพราะเลี้ยงมันมากับมือ ไอ้เด็กคนนี้ใฝ่สูง อยากได้อยากมี ไม่รู้จักพอ ครูเทียมเตรียมใจไว้ ซักวันหนึ่ง ฟ้าประทานอาจทิ้งคณะลิเกของครูไป พร้อมพงศ์ตามมาเจอลูกชายที่บางไทร บังคับให้หลงกลับกรุงเทพฯ ไปแต่งงานกับเหมยฮัว เป็นตายยังไงหลงก็ไม่กลับ พร้อมพงศ์เลยเช่าบ้านอยู่ใกล้บ้านลิเก คอยไปป่วนลูกชาย บีบให้หลงทนอยู่ไม่ได้ ยอมกลับกรุงเทพฯเอง จอมนางและคนบ้านลิเกไม่รู้ว่าพร้อมพงศ์เป็นพ่อหลง ฟ้าประทานหลอกแดกเจ๊ทรงงามมาหลายปี ไอโฟน ไอแพด ที่เอามาอวดชาวคณะ ก็ล้วนเป็นอภินันทนาการจากเจ๊ทรงงาม ฟ้าประทานมีชั้นเชิงแพรวพราวหลอกล่อผู้หญิง ตราบใดที่ฟ้าประทานยังไม่ได้เสียกับเจ๊ทรงงาม เจ๊ก็ต้องทุ่มแหลก วันนี้เจ๊ทรงงามจัดหนัก ซื้อรถยนต์มือสองให้ฟ้าประทาน 1 คัน เอาไว้ขับไปเล่นลิเก ไม่ต้องนั่งเบียดเสียดไปกับรถของคณะ ชาวคณะอู้หู ในรถมีเครื่องเล่นซีดีด้วย ฟ้าประทานหวงรถมาก ไม่ค่อยยอมให้ใครนั่ง จอมนางชิงชังฟ้าประทานเหลือกำลัง ครูเทียมเลี้ยงมันมา ให้ข้าวให้น้ำ ให้ที่กินที่นอน มันไม่เคยคิดตอบแทนบุณคุณ ค่าตัวที่เล่นลิเกก็เอาเงินเดือนแพงกว่าคนอื่น ครูเทียมปลงใจ ความกตัญญูเป็นเรื่องที่บังคับใครไม่ได้ แล้วครูเองก็ไม่เคยหวังจะได้อะไรคืนมาจากคนที่ชุบเลี้ยงมา จอมนางกอดครูเทียม จอมนางโชคดีที่สุด มีปู่แสนดีอย่างครูเทียม ครูเทียมเริ่มให้จอมนางซ้อมบทเข้าพระเข้านางกับหลง หลงดีใจวี้ดวิ้วววว ได้ทีเกี้ยวจอมนางเจอจอมนางเล่นงานกลับ เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับสาวซ่าบางไทร ครูเทียมยังเงียบไว้ ไม่ว่ากระไรที่หลงเกี้ยวหลานสาว แต่หากลามปามกว่านี้ เจอส้นทีนครูแน่ ที่กรุงเทพฯ เหมยฮัวแพ้ท้องหนัก อ้วกทั้งวัน เสี่ยเต๊กเห็นว่าชักช้าไม่ได้ ญาติสนิทมิตรสหายเริ่มเม้าท์มอยด์ เหมยฮัวท้อง เสี่ยเต๊กสั่งลูกน้อง กูให้เวลามึง 3 วัน มึงตามหาไอ้พงศ์เทพไม่เจอ พวกมึงไม่ต้องกลับมา พงษ์เทพหรือหลง ถูกเบิ้มกับพลแกะรอยมาถึงบางไทร หลงต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ และขอร้องให้พ่ออย่าชี้เป้าเค้า พร้อมพงศ์เริ่มผูกพันกับบ้านลิเก เลยไม่จับลูกชายไปสังเวยเสี่ยเต๊ก ฟ้าประทานกังวลกับสถานะการเงินของคณะลิเกเทียมฟ้า ลาออกจากคณะเทียมฟ้า ไปตั้งคณะลิเกของตัวเอง ตุ้มตามไปอยู่กับฟ้าประทาน ความลับของทั้งคู่แตกโพละ ฟ้าประทานกับตุ้มได้แอบกระทำการฟิลเจอร์ริ่งกันมานานแล้ว ตุ้มหลงรักฟ้าประทานมากขนาดยอมเป็นเมียเก็บ ฟ้าประทานไปอาศัยอยู่กับเจ๊ทรงงาม โดยเจ๊ทรงงามลงทุนตั้งคณะลิเกให้ ตุ้มย้ายมาอยู่ด้วยกัน กลายเป็นรักสามเส้าในบ้าน อลวนอลเวง ครื้นเครงดีแท้ หลังฟ้าประทานลาออกจากคณะ หลงถูกดันขึ้นเป็นพระเอกลิเกแทนฟ้าประทาน ครูเทียมตั้งชื่อในวงการลิเกให้หลงว่า เทพทอง สุวรรณศิลป์ คณะลิเกของครูเทียมปิดวิกประชันกับคณะของฟ้าประทาน ผลออกมาคณะเทียมฟ้าแพ้ยับ คนดูไปกองที่วิกฟ้าประทานหมด เทียมฟ้าเล่นลิเกทรงเครื่อง ที่เดินเรื่องช้า ไม่ทันใจคนดู ขณะที่คณะฟ้าประทานเล่นลิเกลูกบท เดินเรื่องกระชับฉับไว หลงหาทางกอบกู้คณะเทียมฟ้า เมื่อชาวบ้านไม่นิยมลิเกทรงเครื่องแล้ว เทียมฟ้าก็ต้องเล่นเป็น ลิเกโชว์ ลิเกทรงเครื่องเป็นศิลปะการแสดงที่หาดูยาก ใกล้สูญหาย คนที่สนใจศิลปวัฒนธรรมจึงสนใจ หลงหางานให้คณะ รำโชว์นักท่องเที่ยวต่างชาติในโรงแรม ชาวต่างชาตินิยมชมชอบลิเกทรงเครื่องมาก คณะเทียมฟ้าเริ่มมีงานเข้ามา ส่วนใหญ่เป็นงานโชว์ตามโรงแรม ชาวคณะที่ลำบากขัดสนมาหลายปี กลายเป็นอยู่ดีกินดีขึ้น ทุกคนยกความดีความชอบให้หลง จอมนางชื่นชมพี่หลงมาก พี่หลงฉลาด หล่อ นิสัยดี อู้ยยย หาที่ติไม่เจอ ชีวิตหลงช่วงนี้ งานก็รุ่ง รักก็ฟรุ้งฟริ้ง จอมนางมีใจให้พี่หลง สองคนชอบทำตาหวานใส่กันจนโดนชาวคณะแซว คณะฟ้าประทานเจ๊งไม่เป็นท่า เจ๊ทรงงามจับได้ว่าฟ้าประทานอมเงิน เจ๊ไล่ฟ้าประทานกับตุ้มออกจากบ้าน ครูเทียมรับทั้งคู่กลับเข้าคณะ หลงยินดีคืนบทพระเอกให้ฟ้าประทาน อีกไม่นานจะประกวดลิเกชิงแชมป์ประเทศไทยแล้ว ฟ้าประทานควรเล่นเป็นพระเอก ครูเทียมกับจอมนางมอบตำแหน่งผู้จัดการคณะให้หลง มีหน้าที่คุยเรื่องเงินทอง หางาน หาเงินเข้าคณะ ซึ่งเป็นงานที่หลงถัด เสี่ยเต๊กรู้ว่าหลงอยู่บ้านลิเก ก็มาจับตัว ชาวคณะเทียมฟ้าช่วยไว้ หลงบอกบ้านลิเกว่าเสี่ยมาตามล่าเพราะหนี้สิน โดยปิดทุกคนเรื่องเค้าถูกกล่าวหาว่าทำผู้หญิงท้อง เนื่องด้วยกลัวจอมนางโกรธ อยู่ ๆ เหลียนฮัวพาเหมยฮัวที่ท้องโต 7 เดือนมาบ้านลิเก ชี้หน้าด่าหลง ทำเหมยฮัวท้องแล้วทิ้ง จอมนางเสียใจมาก ขณะที่ครูเทียมไม่ปักใจเชื่อคำพูดเหลียนฮัวนัก หลงถูกจับไปขังในบ้านเสี่ยเต๊กเพื่อรอวันแต่งงาน วันแต่งงานของหลงตรงกับวันประกวดลิเกชิงแชมป์ประเทศไทย จอมนางไหว้ขอพรพ่อแก่ ให้พ่อแก่ดลจิตดลใจจอมนางให้เข้มแข็ง มีกำลังใจประกวดลิเก พร้อมพงศ์รู้จากหลงว่าแฟนตัวจริงเหมยฮัว คือ นักร้องดังชื่อพีท จึงไปลากคอพีทมาแต่งงานกับเหมยฮัว เสี่ยเต๊กอึ้งรับประทาน เข้าใจผิดว่าหลงทำลูกสาวท้อง ตามล่าหลงอยู่หลายเดือน เสี่ยเต๊กสำนึกผิด ขอโทษขอโพยหลง หลงให้อภัยเสี่ยเต๊ก เราเลิกแล้วต่อกันเท่านี้ คณะเทียมฟ้าขึ้นประกวด หลงมาทันดูจอมนางเล่นลิเก เหมยฮัวพาแฟนหนุ่มตัวจริงมาชี้แจง ผู้ชายคนนี้ทำเหมยฮัวท้อง ไม่ใช่หลง ครูเทียมและชาวคณะเชื่อ หลงขึ้นเวที ยืนยันความรักของเค้าที่มีต่อจอมนาง หลงขอจอมนางแต่งงาน คนดูทั้งโรงละครส่งเสียงเชียร์ให้จอมนางรับคำแต่งงาน จอมนางตกลงแต่งงานกับพี่หลง แต่ให้พี่หลงรออีก 3 ปี ขอดูใจอีกซักหน่อย หลงรักจริง รอได้ ครูเทียมดีใจที่ได้หลงเป็นว่าที่หลานเขย ที่ผ่านหลงพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นคนดี และที่สำคัญหลงซึมซับความรักในลิเกทรงเครื่องจากครู เชื่อได้ว่า วันหน้าหลงจะช่วยจอมนางสืบสานลิเกทรงเครื่องต่อไป ติดตามชม ละครลิเก๊ลิเก