นางทาสหัวทอง 2567

นางทาสหัวทอง (2567/2024) แม่ค้าออนไลน์ผมทอง ที่จับพลัดจับผลูย้อนเวลาไปเป็นทาสในอดีตสมัย ร.๕ พร้อมกับมือถือ 1 เครื่อง งานนี้เธอต้องใช้ 5G และความรู้จากกูเกิ้ล เพื่อทำงานหาเงินไถ่ตัวเอง พร้อมทาสหนุ่ม ให้เป็นไท แต่เธอจะทำสำเร็จหรือไม่?? และจะหาสัญญาณ 5G จากที่ไหน??? มาลุ้นกับ "นางทาสหัวทอง" ได้ในช่วง "เวลาความสุข เวลาแฮปปี้ เวลาแฟมิลี่ 1 ทุ่มตรง" ทุกวันจันทร์ - พุธ ในละครเวิร์คพอยท์ เร็ว ๆ นี้... (ที่มา : WorkpointOfficial)

ผู้ใหญ่ลี ศรีบานเย็น

เรื่องย่อ : ผู้ใหญ่ลี ศรีบานเย็น (2566/2023) ณ หมู่บ้านศรีบานเย็น เมื่อ ข้าวใหม่ (ญดา นริลญา) ถูก ผู้ใหญ่สมบูรณ์ (โย่ง เชิญยิ้ม) ผู้เป็นพ่อ บังคับให้ลงสมัครเลือกตั้งชิงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านต่อจากเขา ข้าวใหม่เลยออกอุบายให้พ่อไปบังคับ ข้าวสาลี (รัศมีแข) พี่ชายคนโต มาลงสมัครแทน โดยที่พ่อไม่รู้เลยว่า ตอนนี้ไอ้ข้าวสาลี ลูกชายผู้บึกบึน ได้กลายเป็น ลีน่า กะเทยช่างแต่งหน้าที่กรุงเทพฯ ไปแล้ว และหลังจากที่ทะเลาะกันอย่างหนัก เรื่องที่พ่อจับได้ว่าลีน่าเป็นกะเทย และไม่อยากเป็นผู้ใหญ่บ้าน ลีน่าก็หนีออกจากบ้านไป กระทั่งพบกับเรื่องราวบางอย่างที่ทำให้เปลี่ยนใจ และกลับมามุ่งมั่นในการลงสมัครเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้านอีกครั้ง การเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน การเดินหน้าหาเสียงชิงตำแหน่งกับคู่แข่งตัวจริง จึงออก Start !!! ลีน่า ลงสมัครชิงตำแหน่งแข่งกับ แบงค์ (จี๋ สุทธิรักษ์) ลูกชายของ เจ๊นวล (ส้มเช้ง สามช่า) เศรษฐีเจ้าของร้านขายปุ๋ยประจำหมู่บ้าน ครอบครัวคู่แข่งที่ขัดแย้งกันมาตลอด เพราะผู้ใหญ่สมบูรณ์มีใจฝ่ายอนุรักษนิยม ในขณะที่เจ๊นวลเป็นทุนนิยมขั้นสุด ทั้งคู่จึงพยายามผลักดันลูกชายของตนขึ้นเป็นผู้ใหญ่บ้านศรีบานเย็นให้ได้ เพื่อให้หมู่บ้านเป็นไปในแบบที่ต้องการ ลีน่ากับแบงค์จึงต้องแข่งกันหาเสียงเลือกตั้งทุกวิถีทาง ขณะที่ลีน่าต้องแอ๊บแมนตามคำสั่งของพ่อ เจ๊นวลก็มี ผักกาด (ซอจียอน) เจ้าของร้านหมูกระทะ ที่ชื่นชอบแบงค์เป็นพวก แต่ใครกันล่ะที่จะเป็นผู้ชนะ และพาชุมชนศรีบานเย็นไปต่อ มารอติดตามชมพร้อมกันในละคร ผู้ใหญ่ลี ศรีบานเย็น ที่ออกอากาศทุกวันจันทร์-พุธ เวลา 19.00 น. ทางช่องเวิร์คพอยท์ 23 ละคร ผู้ใหญ่ลี ศรีบานเย็น เริ่มตอนแรกวันอังคารที่ 18 กรกฎาคม 2566 (ที่มา : ช่องเวิร์คพอยท์)

เจ๊ไฝยอดนักสืบ (2566/2023) "เจ๊ไฝ ยอดนักสืบ" เรื่องราวการปลอมตัว เพื่อแฝงตัวเข้าไปสืบหาบ่อนการพนันผิดกฏหมายในตลาดประชาเปรม ภารกิจจะสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายหรือไม่!? ห้ามพลาด!

โอมเพี้ยง อาจารย์คง (2565/2022) ถึงเวลาเปิดตำหนักไปกับ #โอมเพี้ยงอาจารย์คง รวมเรื่องราว "สุดป่วน" ที่มาพร้อมกับ "ความเชื่อ" สุดท้าย! จะศรัทธาหรือฮาก่อนดี? งานนี้มีขนลุก!!! พบกับ #โอมเพี้ยงอาจารย์คง ทุกวันเสาร์ 12.00 น ทาง ช่องเวิร์คพอยท์ หมายเลข 23

โรงงานบรรจุรัก (2565/2022) เรื่องราวของ โรงงานบรรจุรัก เผยให้เห็นถึงความรักและความวุ่นวาย มัน ฮา ผ่านมุมมองของคู่รักและเพื่อนร่วมงาน โดย คุณวิสุท (ก้อง สหรัถ) ผู้จัดการโรงงาน และ กวาง (แคท แคทรียา) ที่เป็นทั้งภรรยาและเจ้าของโรงงาน ซึ่งทั้งคู่แต่งงานกันมา 10 ปี แค่มองตาก็รู้ไส้รู้พุง และบ้านนี้ภรรยาต้องเป็นใหญ่เสมอ นอกจากนี้ในซิตคอมยังมีอีก 1 คู่ ที่เผยให้เห็นอีกมุมของคู่รักที่อยู่ก่อนแต่ง นั้นคือ เอ็ม (อุล ภาคภูมิ) หัวหน้าแผนกในโรงงาน และ เยลลี่ (แกรนด์ กรณ์ภัสสร) แม่ค้าออนไลน์ กับบทพิสูจน์รัก 7 ปีแล้วต้องเลิกกันจริงหรือไม่ ? มาร่วมเปิดโรงงานผลิตเสียงหัวเราะไปด้วยกัน กับหนุ่มสาวชาวโรงงานสุดน่ารัก แถมสวยหล่อจนต้องบอกต่อด้วย งานนี้รับประกันคุณภาพสินค้าความสนุกที่คุณผู้ชมจะต้องพึงพอใจอย่างแน่นอน พร้อมเปิดโรงงานตอกบัตรกันแล้ว

โฮะ แฟมิลี่ (2562/2019) เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่ หมูป่า (จิรายุ ละอองมณี) ลูกชายคนเล็กของบ้านเห็ดเจริญดี ต้องแบกรับความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ คือการสืบทอดกิจการเห็ดของพ่อ รวมถึงดูแลพี่ ๆ ต่างแม่ต่างเชื้อชาติ ที่ดูไม่ปกติสักคน พี่ชายคนโตลูกครึ่งอเมริกาใต้ จีซุน (ธงชัย ทองกันทม) เรียกได้ว่าเป็นยีนส์เด่นของบ้าน ดูจากหน้าตาและขนาดตัว นอกจากหน้าตาดีแล้วไอคิวยังพุ่งกระฉูด ความสามารถพิเศษเอาขยะมาทำเป็นอาหารให้น้อง ๆ กินได้ และพี่สาวอีกคน ทรัฟเฟิล (คารีสา สปริงเกตต์) ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ดีกรีซุปตาร์นางแบบ Import มาจากลอนดอน เป็นคนใช้เงินเกินตัว เสพติดของแบรนด์เนม ผู้ชายที่คิดจะจีบเธอบอกก่อนต้องพร้อมเพย์ก่อนเสมอ หมูป่าเป็นโรคเกลียดเห็ดเข้ากระดูกเลยขอยื่นข้อเสนอกับพ่อว่าจะหาเงินให้ได้ 10 ล้านบาทก่อนอายุ 25 เพื่อมาแลกกับอิสระภาพ แต่ดันพกคำว่าเจ๊ง เรื่องมันพีคตรงการมาของ หลินจือ (สุทัตตา อุดมศิลป์) สมาชิกคนที่ 4 พี่สาวต่างแม่ที่มาจากจีน และที่สำคัญจะมาทำให้ความลับสุดยอดของตระกูลต้องถูกเปิดเผย แถมทำให้ชีวิตของหมูป่าปั่นป่วนหนักกว่าเดิม และเรื่องราวของ 4 พี่น้องกับความวุ่นวาย X 4 ในบ้าน โฮะ แฟมิลี่ จึงเริ่มต้นขึ้น หากคุณกำลังมองหาความสุขจากการรับชมซิทคอมสุดฮา เข้าใจง่าย ดูแล้วสบายใจ สบายตา โฮะ แฟมิลี่ คือคำตอบสำหรับคุณ.... ติดตามชม โฮะ แฟมิลี่

บางกอกลืมบอกแม่ (2562/2019) เรื่องราวของแหล่งชุมชนของผู้มีรายได้น้อยที่เหมือนกับหลาย ๆ ชุมชน ที่กระจายอยู่มากมายรอบ ๆ กรุงเทพฯ ผู้คนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นคนฐานะปานกลางจนถึงระดับล่าง มีทั้งคนกรุงเทพฯ และมาจากต่างจังหวัด บ้างมาทำงาน บ้างมาเรียนหนังสือ บ้างมาเผชิญโชค ในซิทคอมเรื่องนี้จึงเป็นเหมือนแอ่งกระทะที่รวบรวมคนจากทั่วทุกภาคของประเทศว้ด้วยกัน หลากหลายเพศ วัย อาชีพ ฐานะ และที่สำคัญ คือทุกคนล้วนมีความลับที่ไม่สามารถบอกแม่ตัวเองได้ โดยงานนี้การันตีความสนุกและเสียงฮาไม่แพ้เรื่องไหน เพราะได้ทีมนักแสดงที่พร้อมมาปล่อยมุกกันแบบพรั่งพรูไม่มียั้งกันอย่างเต็มที่ นำทัพความฮาด้วยนักร้องหนุ่มสูงโปร่ง อารมณ์ดี นนท์-ธนนท์ จำเริญ รับบทเป็น ลัน เด็กหนุ่มใต้ที่เพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัย เข้ามากรุงเทพฯ เพื่อหางานทำเพราะความฝันของเขาคือการเป็นเจ้าของร้านซูชิ เข้าจึงเดินทางเข้ามาตามหาความฝัน และลงมือทำมันให้เป็นจริง แต่การที่เขามากรุงเทฯ ครั้งนี้ เขาแอบแม่มา และเขาได้มีโอกาสมาเจอกับพี่สาวของตัวเอง ที่รับบทโดย พลอย-วรางคนาง วุฑฒยากร แถมยังจับได้ว่าเรื่องที่พี่สาวบอกทางบ้านเป็นโกหก แต่ในความวุ่นวายสับสน ยังมีเรื่องให้ชุ่มฉ่ำหัวใจ เพราะเขาไปตกหลุมรักสาวสวยมีเสน่ห์ที่อายุมากกว่าตัวเอง รับบทโดย หลิว-อาจารียา พรหมพฤกษ์ ซึ่งสาวคนนี้กลับมีชายหนุ่มรูปหล่ออยู่ในหัวใจของเธอแล้ว เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต้องมาติดตามกัน นอกจากนี้ยังมีนักแสดงแท็กทีมมาสร้างเสียงหัวเราะอีกมากมาย ได้แก่ เสนาลิง-สมเกียรติ จันทร์พราหมณ์, ดีเจแมน-พัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา, U-Rius TheRapper, อี๊ด โปงลาง, หนูเล็ก ก่าก๊า, คิง ก่อนบ่าย, แจ๊ค-เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์ และนาย เดอะคอมเมเดี้ยน งานนี้คุณผู้ชมทางบ้านจะได้รู้ว่าแม้ภายนอกดูเหมือนจะแตกต่าง แต่ภายในของพวกเขาเหล่านั้นล้วนถวิลหาสิ่งเดียวกัน คือการมีเงิน มีชีวิตที่ดี มีความสุข และสุดท้าย คือการทำให้เรื่องโกหกที่บอกแม่ไป กลายเป็นเรื่องจริงให้ได้ ห้ามพลาดเรื่องราววุ่น ๆ มาพร้อมเสียงฮา ได้ในซิทคอม บางกอกลืมบอกแม่

คาราบาว เดอะซีรีส์ (2556/2013) คาราบาว เดอะซีรีส์ เป็นละครโทรทัศน์แบบจบในตอน ที่สร้างมาจากบทเพลงแต่ละบทเพลงในแต่ละอัลบั้มของคาราบาว ผลิตโดย บริษัท แฟล็กชิป เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด ของกฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์

อภินิหารคุณยายทองคำ 2554

เรื่องย่อ : อภินิหารคุณยายทองคำ (2554/2011) เมื่อยอดมนุษย์คนใหม่ ดูคล้ายคุณยายของเรา “แก้ว” ตำรวจหนุ่มยศเล็กๆ คนหนึ่ง ใฝ่ฝันอยากจะเติบโตในหน้าที่การงานอย่างใครๆ กลับมาหลงรัก “นับดาว” หญิงสาวผู้เป็นรักแรกในวัยเด็ก ซึ่งกลายเป็นนางฟ้าผู้ทำหน้าที่ประกาศข่าวทางทีวี ที่มี “ปกรณ์” นักธุรกิจหนุ่มเนื้อหอมผู้เพียบพร้อม มาเป็นคู่แข่งทางความรัก ก่อน ที่แก้วจะล้มเลิกความหวังใหม่อย่างรวดเร็ว “ขวัญ” น้องสาวแก้วผู้เป็นนักข่าวอาชญากรรมได้พา “คุณยายทองคำ” คุณยายแก่ๆ คนหนึ่งมาที่บ้านเพื่อขออาศัยอยู่ด้วย คุณยายไม่มีอะไรดูแตกต่างจากคุณยายที่เห็นทั่วๆ ไป เว้นแต่ คุณยายมีพลังกายสิทธิ์ แก้วและคุณยายต้องออกไปสืบสวนในสถานที่ต่างๆ แล้วแต่คดีไป แม้จะไม่ประสบความสำเร็จทุกครั้งแต่ก็พอเอาตัวรอดมาได้ด้วยอภินิหารคุณยาย

รักกระหน่ำซัมเมอร์เซล 2553

เรื่องย่อ : รักกระหน่ำซัมเมอร์เซล (2553/2010) เรื่องราววุ่นๆมากมายเกิดขึ้นเมื่อดีไซเนอร์คนเก่าของบริษัทเสื้อผ้าชื่อดังลาออก “มัดหมี่”รับบทโดย“เบเบ้ – ธันย์ชนก ฤทธินาคา พนักงานรับโทรศัพท์ผู้มีความฝันอยากเป็นดีไซเนอร์ และมีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเองจึงเสนอตัวแทนตำแหน่งที่ว่างอยู่ แต่“เจนีส”รับบทโดย“แจง – วราพรรณ หงุ่ยตระกูล” เจ้านายผู้ชอบคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลและไม่ยอมให้มัดหมี่ได้เลื่อนขึ้นเป็นดีไซเนอร์ เพราะมีนโยบายว่า “ดีไซเนอร์ของบริษัทจะต้องเรียนจบจากสถาบันศิลปะชั้นสูงจากต่างประเทศเท่านั้น” มัดหมี่ จึงต้องทำความฝันใช้เวลาหลังเลิกงานมาเปิดร้านขายเสื้อผ้าของตนเองที่“ตลาดสุขสำราญ”โดยมี“แพรวา”รับบทโดย“น้ำหวาน–กรรณาภรณ์ พวงทอง”เพื่อน สาวสุดที่รักที่เรียนด้วยกันตั้งแต่ชั้นประถมศึกษามีฐานะการเงินทางบ้านดี มากเป็นผู้ออกทุนให้ทั้งหมด เริ่มแรกแพรวาไม่อยากร่วมหุ้นด้วยเพราะกลัวความลำบากและห่วงว่าหากต้องนอน ดึกดวงตาและใบหน้าจะหมองคล้ำ แต่เมื่อพบว่าร้านที่จะเช่าถูกขนาบด้วยร้านของชายหนุ่มน้าตาดีทั้งซ้ายและ ขวาความลังเลทั้งหมดจึงหมดไปอย่างง่ายดายและยอมควักกระเป๋าจ่ายเงินค่าเช่า ที่แสนแพงให้ทันที ร้านด้านซ้ายเป็นร้านของ “ตุ๊กแก”รับบทโดย “เต็งหนึ่ง – กฤษณกันท์ มณีผกาพันธ์” หนุ่ม หล่อเซอร์มาดศิลปินทายาทตระกูลไฮโซที่ไม่ชอบความเป็นอภิสิทธิ์ชน โกหกที่บ้านว่าไปเรียนต่อต่างประเทศแต่แท้ที่จริงแอบบออกมาเปิดร้านขายของ แต่งบ้านและงานศิลปะที่เขาออกแบบเอง ร้านด้านขวาเป็นร้านของ “ก้องภพ”รับบทโดย“น้ำ – รพีภัทร เอกพันธ์กุล” หนุ่มหล่อจอมกะล่อนผู้ขายของเครื่องใช้สัพเพเหระหรือเรียกว่าขายทุกอย่างที่คนอยากได้ มุ่งเน้นแต่กำไรเป็นสำคัญไม่เคยคิดเรื่องอื่น มัดหมี่ตั้งใจและพยายามขายของปรับปรุงดูแลร้านให้ดูดีสวยงามตลอดเวลาเพื่อทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง ต่างกับแพรวาที่ไม่สนใจเรื่องอะไรเลยนอกจากเรื่องความรัก แต่แพรวาเข้าตำรา“รักพี่ เสียดายน้อง” ตัดสินใจเลือกไม่ถูกว่าจะเลือกใครดีระหว่างตุ๊กแกกับก้องภพ ด้านชายหนุ่มทั้ง 2 กลับมีโอกาสใกล้ชิดมัดหมี่มากกว่าแพรวา เพราะหลังจากเปิดร้านได้ไม่นานก้องภพ ก็เข้ามาทำงานที่เดียวกับมัดหมี่ในตอนกลางวัน และตุ๊กแกก็บังเอิญย้ายที่พักมาพักอยู่ที่เดียวกับมัดหมี่ มัดหมี่รู้ดีว่าแพรวาโหดร้ายกับศัตรูหัวใจของตัวเองขนาดไหน มัดหมี่จึงต้องปิดบังเรื่องนี้เป็นความลับ เพราะถ้าแพรวารู้เรื่องนี้จะต้องถอนหุ้นเป็นแน่ และความฝันที่จะมีแบรนด์เสื้อผ้าของมัดหมี่ก็คงต้องพังทลายลง เรื่องราววุ่น ๆ ได้เกิดขึ้นทั้งที่ทำงาน ตลาดสุขสำราญ หอพัก และจากผู้คนในชุมชนที่รายล้อมรอบตัวมากมาย อาทิ “ลุงชวน” รับบทโดย “เด๋อ ดอกสะเดา” ที่กลางวันทำอาชีพรปภ.บริษัทของมัดหมี่ ส่วนกลางคืนหลังออกเวรมาขายข้าวหมูแดงที่ตลาดเป็นรายได้เสริมต่อ“ป้าชื่น”รับบทโดย“เหมี่ยว–ปวันรัตน์ นาคสุริยะ” กลางวันมีหน้าที่ดูแลหอพัก กลางคืนเปิดร้านขายน้ำปั่นที่ตลาด “วิลเลียม” รับบทโดย“น้องโก๊ะ”หลานลุงชวนกับป้าชื่น เด็กเก็บเงินค่าเข้าห้องน้ำที่ตลาด “วิชัย” รับบทโดย “เอก – วิชัย จงประสิทธิ์พร” คนเก็บเงินค่าเช่าแผงจอมเบ่ง ที่คอยเป็นไม้เบื่อไม้เมากับป้าชื่นและลุงชวนเป็นประจำ ติดตามชมเรื่องราวมิตรภาพ ความฝัน และความสัมพันธ์ อันอลวนของทั้ง 4 หนุ่มสาว ว่าจะดำเนินไปในทิศทางใด โดยเฉพาะเรื่องความรักของ“มัดหมี่ , แพรววา , ตุ๊กแก และก้องภพ”นั้นว่าจะลงเอยกันหรือไม่อย่างไร ร่วมติดตามและเป็นกำลังใจให้กับพวกเขาทั้งหมดได้ใน “รักกระหน่ำ ซัมเมอร์เซล”

โรบอทยอดรัก 2553

เรื่องย่อ : โรบอทยอดรัก (2553/2010) เมื่อหุ่นยนต์ที่เป็นผลงานชิ้นโบแดงสัญชาติเกาหลีดันเครื่องรวนก่อนวันที่จะ มาเมืองไทยเพียงวันเดียว หนุ่มน้อยผู้เป็นรองประธานบริษัทจึงต้องปลอมตัวเป็นหุ่นยนต์ แต่ปัญหาไม่จบแค่นั้นเพราะพ่อหุ่นจำแลงของเราต้องมาอยู่กับครูสาวที่เกลียด เทคโนโลยียิ่งกว่าอะไร เรื่องวุ่นๆ ก็เลยเกิดเมื่อหัวใจของเธอดันไปรักกับหุ่นยนต์จำแลงเข้าเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

นิจชิตา (ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์) ...ครูสาว จากโรงเรียนหัวหินวิทยาผู้มีอุดมการณ์และรักความเป็นไทยอย่างแรงกล้า จนได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนจากประเทศไทยมาที่เกาหลี เพื่อดูงานและเทคโนโลยีจากการร่วมทุนระหว่างรัฐบาลไทยกับบริษัท LE ผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในเกาหลี ณ.ขณะนี้ นิจชิตาไม่เห็นด้วยเพราะเธอรู้สึกว่ามันคือการรุกคืบทางวัฒนธรรม และเป็นวิธีการล่าอาณานิคมแบบใหม่ของผู้ที่คิดว่าเจริญกว่าเท่านั้นเอง แม้ว่าเธอจะพยายามคัดค้านเท่าไหร่แต่สำหรับตำแหน่งครูเล็กๆ จากโรงเรียนต่างจังหวัดคงทำอะไรมากไม่ได้นอกจากแกล้งไม่สบายขอนอนเฉยๆ อยู่ที่โรงแรมเล็กๆ ในกรุงโซลแทนที่จะออกไปเดินชมสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงโซลอย่างเช่นครูท่าน อื่นที่มาจากเมืองไทยด้วยเหมือนกัน

แต่ก็เกิดเรื่องจนได้เมื่อนิจชิตาเกิดหิวเลยคิดจะต้มบะหมี่ โดยไม่รู้เลยว่าควันที่เกิดจากการต้มน้ำดันไปทำให้สัญญาณเตือนอัคคีภัยภายใน ห้องดังขึ้น ทำให้ทั้งโรงแรมต้องตกอยู่ในสภาพเมืองบาดาลเพราะสายน้ำที่พวยพุ่งออกจาก สปริงเกอร์ นิจชิตารีบชิ่งออกจากโรงแรมทันทีเพราะกลัวว่าต้องติดคุกในข้อหาวางเพลิง แต่ระหว่างที่นิชจิตาวิ่งออกมาทางด้านหลังของโรงแรมเธอก็ได้พบกับชายหญิงชาว เกาหลีคู่หนึ่งกำลังขนกระเป๋าเสื้อผ้าใบเขื่องขึ้นท้ายรถ แต่ทันใดนั้นกระเป๋าเจ้ากรรมดันหลุดตกกระแทกกับพื้นจนเผยให้เห็นว่าสิ่งที่ อยู่ภายในกระเป๋าเสื้อผ้านั่นก็คือ หนังของมนุษย์ !!!

นิจชิตาถึงกับหน้าซีดเผือดนี่เธอต้องมาเจอกับเหตุการณ์วุ่นวายอะไรอย่างนี้ ทำไมเธอต้องมาเจอกับไอ้ฆาตกรหั่นศพในเกาหลีด้วย นิจชิตาพยายามค่อยๆ ย่องออกมาอย่างเงียบกริบแต่ทันใดนั้นชายหนุ่มก็หันมาเห็นนิจชิตาเข้าให้ เร็วเท่าความคิดนิจชิตารีบวิ่งหนีทันทีพร้อมร้องให้คนช่วยอย่างไม่คิดชีวิต การไล่ล่าระหว่างเธอกับเจ้าฆาตกรผัวเมียโรคจิต (ที่เธอคิดไปเอง) จึงเริ่มขึ้น แต่โชคยังดีที่ตำรวจและนักดับเพลิงที่มาดับ เพลิงเพราะเหตุไฟไหม้โรงแรมช่วยไว้ได้ทัน นิจชิตาจึงรอดพ้นจากเจ้าฆาตกรโรคจิตได้อย่างหวุดหวิด นิจชิตารีบบอกกับตำรวจว่าในกระเป๋าเสื้อผ้าใบนั้นมีหนังสดๆ ของมนุษย์อยู่ และนั้นทำให้ชายต้องสงสัยจึงถูกจับทันที

นิจชิตากำลังเล่าวีรกรรมให้กับพวกครูๆ ที่มาจากเมืองไทยด้วยกันอย่างภาคภูมิใจ โดยไม่รู้เลยว่าเรื่องวุ่นๆ กำลังเกิดขึ้นเพราะชายต้องสงสัยที่เธอคิดว่าเป็นฆาตกรโรคจิตนั่น แท้ที่จริงเขาคือ คิมมินโฮ (คณิน บัดติยา) ...ลูกชายหัว แก้วหัวแหวน ของ คิมยองมิน (กฤตย์ อัธเสรี) ...ประธานบริษัท LE ซึ่งเป็นบริษัทขายเครื่องไฟฟ้าและเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในเกาหลีนั่นเอง คิมมินโฮมีอีกชื่อว่าคิมหันต์ เพราะแท้ที่จริงแล้วเขาเป็นลูกครึ่งไทย – เกาหลี นั่นเอง และหนังมนุษย์ที่อยู่ในกระเป๋านั่นก็คือ หนังเทียมที่หล่อขึ้นจากสารเคมีพิเศษที่ให้ความใกล้เคียงกับหนังของมนุษย์ มากที่สุด คิมมินโฮต้องการนำหนังมนุษย์นั่นมาใส่ให้กับ ME 1 (เอ็ม-อี วัน) ...หุ่นยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่ใช้เวลาในการค้นคว้าและประดิษฐ์ร่วม สิบปี คิมมินโฮเจ็บใจที่อยู่ๆ ตัวเองก็กลายเป็นฆาตกรโรคจิตไปซะงั้น ดีที่ ยุ นอา (ฐิตินันท์ สุวรรณถาวร) ...เลขาสาวสวยประจำตัวมาประกันตัวและบอกความจริงให้กับทางตำรวจฟัง แต่ยังไง๊ยังไงคิมมินโฮก็หมายแค้นนิจชิตาเอาไว้แล้วว่าชาตินี้อย่าได้เจอกับ ผู้หญิงสติไม่ดีคนนี้อีกเลย

แต่เขาว่าเกลียดอะไรก็เจออย่างนั้นเมื่อวันรุ่งขึ้นที่นิจชิตาต้องไปงาน สัมมนาที่บริษัท LE เพื่อไปดูหุ่นยนต์ที่ทางบริษัทนี้คุยนักคุยหนาว่าเป็นเทคโนโลยีที่โลกต้อง ตะลึง แต่แล้วนิจชิตาก็ต้องตะลึงจริงๆ เมื่อพบกับคิมมินโฮที่เธอคิดว่าเป็นฆาตกรโรคจิตภายในลิฟต์สองต่อสอง นิจชิตาต่อสู้อย่างสุดชีวิตโดยไม่รู้เลยว่าที่เธอกำลังเตะต่อยอยู่นั่นคือ เจ้าหุ่นต้นแบบ ME 1 ที่ถอดแบบทุกอย่างมาจากคิมมินโฮนั่นเอง แต่คนที่ต้องตะลึงที่สุดเห็นจะเป็นคิมมินโฮ เพราะทันทีที่เขาเห็นลิฟต์เปิดออกสิ่งที่เขาเห็นก็คือนิจชิตากำลังทำลายสิ่ง ประดิษฐ์ที่มีค่าที่สุดในชีวิตของเขา นิจชิตาเองก็ตกใจไม่น้อยเมื่อรู้ว่าชายที่เธอคิดว่าเป็นฆาตกรโรคจิตนั้นแท้ จริงแล้วเป็นรองประธานบริษัทนั่นเอง นิจชิตากำลังจะขอโทษในสิ่งที่เธอทำ แต่คิมมินโฮที่กำลังโมโหกลับดูถูกเธอว่าเป็นพวกป่าเถื่อนไร้วัฒนธรรม ไม่รู้จักเทคโนโลยี นิจชิตากลับประเทศไทยพร้อมกับประกาศเลิกกินกิมจิ และทุกอย่างที่เป็นของเกาหลีตลอดชีวิต

แม้ว่านิจชิตาจะกลับประเทศไทยไปแล้ว แต่ปัญหาไม่ได้กลับไปกับเธอด้วย เพราะสิ่งที่เธอทิ้งไว้ก็คือความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเจ้าME 1จนต้องใช้เวลาในการแก้ไขอีกหลายเดือน แต่จะทำยังไงในเมื่อคิมมินโฮ มีสัญญาที่จะต้องมอบเจ้าหุ่น ME 1 ให้กับรัฐบาลไทยตามโครงการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและสารสนเทศภายในอาทิตย์นี้ คิมมินโฮผู้ถือคติว่าเสียเงินไม่ว่าแต่เสียหน้าไม่ได้จึงต้องคิดหาวิธีแก้ไข สถานการณ์นี้ให้ได้!

ทางด้านนิจชิตาก็กำลังระบายอารมณ์ใส่ ภูชิต (สุพจน์ จันทร์เจริญ) ...ปลัด หนุ่มอนาคตไกล ที่หมายปองนิจชิตาไว้ตั้งแต่เห็นเธอเพียงครั้งแรก และการที่นิจชิตาได้เป็นตัวแทนจากประเทศไทยไปเกาหลีก็เพราะภูชิตมีส่วนในการ ผลักดันนั่นเอง โดยมี ลุงปุ่น (กล้วย เชิญยิ้ม)...พ่อผู้ บังเกิดเกล้าของนิจชิตาคอยสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะลุงปุ่นมีความใฝ่ฝันว่าอยากเป็นคนในเครื่องแบบตั้งแต่เด็ก แต่ในเมื่อชีวิตมันเลือกไม่ได้ งั้นขอมีลูกเขยเป็นคนในเครื่องแบบแทนก็ยังดี ภูชิตชักชวนนิจชิตาไปทำเนียบเพื่อพบกับท่านนายกรัฐมนตรี แต่นิจชิตากลับไม่สนใจเพราะเวลาที่เสียไปเธอเอาไปสอนหนังสือให้กับเด็กๆ ยังเป็นประโยชน์กว่า

วันรุ่งขึ้นนิจชิตาไปโรงเรียนตามปกติ แต่แล้วเธอก็ต้องตกใจแทบตกมอเตอร์ไซค์เมื่อพบว่าคิมมินโฮมาปรากฏกายที่ โรงเรียนเธอได้อย่างไร ภูชิตรีบเข้ามาห้ามแล้วบอกว่าคิมมินโฮที่นิจชิตาเห็นนั่นก็คือ หุ่นต้นแบบ ME 1 นั่นเอง และที่เขาชวนนิจชิตาไปพบท่านนายกก็เพราะมีพิธีมอบหุ่นต้นแบบให้กับทาง โรงเรียนของเรามาดูแล นิจชิตาค้านหัวชนฝาที่จะเป็นคนดูแลหุ่นสัญชาติเกาหลีนี้เพราะสิ่งที่เกิด ขึ้นที่เกาหลีทำให้นิจชิตาไม่อยากแม้แต่จะมองหน้า แม้จะรู้ว่าเป็นแค่หุ่นยนต์ก็ตาม แต่ภูชิตกลับบอกว่านิจชิตาปฏิเสธไม่ได้เพราะเรื่องนี้มันเกี่ยวกับความ สัมพันธ์ระหว่างประเทศเลยทีเดียว แล้วอีกอย่างเด็กๆ ก็เป็นปลื้มทันทีเมื่อรู้ว่าจะมีหุ่นยนต์เสมือนคนมาช่วยสอน แต่คนที่ไม่ปลื้มและอยากจะกลับเกาหลีทันทีที่เห็นหน้านิจชิ ตาก็คือคิมมินโฮนั่นเอง เพราะแท้ที่จริงแล้วเจ้าหุ่น ME 1 ที่ทุกคนเห็นอยู่นั่นก็คือ คิมมินโฮตัวจริงเสียงจริง !!! ที่ตกกระไดพลอยโจนปลอมตัวเป็นหุ่นยนต์ของตัวเอง เพราะยุนอาเลขาสาวสุดสวยให้คำแนะนำว่าระหว่างที่หุ่นต้นแบบ ME 1 ส่งซ่อมนั่นคิมมินโฮต้องปลอมตัวมาเมืองไทยเพื่อรักษาชื่อเสียงของบริษัทเอา ไว้ ตอนแรกที่คิมมินโฮรับปากก็เพราะไม่รู้ว่าตัวเองต้องมาอยู่ในโรงเรียนของนิจ ชิตา แต่เมื่อเห็นเธอเข้าคิมมินโฮก็รู้ได้ทันทีว่านิจชิตาจะต้องหาทางแกล้งเขา อย่างแน่นอน

แล้วมันก็เป็นอย่างที่คิมมินโฮกลัว เพราะนิจชิตานึกออกว่านี่เป็นทางเดียวที่เธอจะได้แก้แค้นคิมมินโฮให้รู้ว่า ที่จริงแล้วคนไทยก็มีดีเหมือนกัน ยุนอาเองก็กลัวว่านิจชิตาจะแกล้งคิมมินโฮจนความลับแตกจึงได้อ้างว่าเป็น ศาสตราจารย์ที่ตามมาดูแลที่เมืองไทยด้วย โดยดัดแปลงรถบ้านให้เป็นศูนย์บัญชาการเพื่อคอยช่วยเหลือคุณคิมอยู่ห่างๆ ก่อนที่เธอจะบอกเงื่อนไขกับนิจชิตาว่าหุ่น ME 1 ต้องส่งกลับมาที่ศูนย์เคลื่อนที่ทุกอาทิตย์เพื่อเช็คความผิดปกติต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ เรื่องวุ่นๆ จึงเกิดขึ้นเมื่อคิมมินโฮต้องเล่นเป็นหุ่นยนต์ที่ทำงานใกล้เคียงกับมนุษย์ ที่สุด โห...ทำไมมันถึงได้ซับซ้อนเช่นนี้ แต่คนที่ดีใจไม่ใช่เฉพาะเด็กๆ ยังมี ชุมพล (นนทพันธ์ ใจกันหา)...อาจารย์พละบ้าพลัง เป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกันกับนิจชิตา เพราะทันทีที่ชุมพลเห็นยุนอาหรือตอนนี้ต้องเรียกว่าศาสตราจารย์ยุนอา ชุมพลก็ตกอยู่ในห้องภวังค์แห่งรักทันที แต่ก็ติดตรงที่ภาษาและเชื้อชาติที่เป็นอุปสรรครัก

ชีวิตในร่างหุ่นยนต์ของคิมมินโฮจึงเริ่มต้นขึ้น โดยเริ่มจากนิจชิตาเปลี่ยนชื่อจากคิมมินโฮให้เป็นนายคอห่าน คิมมินโฮฉุนกึกทันทีคิดว่าเขาไม่รู้ภาษาไทยหรือไง นิจชิตาถึงกับงงที่รู้ว่านายคอห่านพูดภาษาไทยได้ คิมมินโฮจึงรีบเฉไปเพราะกลัวความลับแตกว่า เขามีชื่อภาษาไทยว่า คิมหันต์ แล้วที่เขาพูดภาษาไทยได้ก็เพราะถูกใส่โปรแกรมภาษาไทยมาให้ พ่อหุ่นจำแลงนามคิมหันต์ของเราถูกนิจชิตาแกล้งต่างๆ นานา ไม่ว่าจะใช้ให้เขาเดินข้ามตำบลราวกับคนส่งเอกสาร หรือจะให้เขาทำงานภายในโรงเรียนแทนภารโรงทุกคน แม้คิมมินโฮจะไม่พอใจแต่เขาก็ต้องอดทนผ่านสถานการณ์นี้ให้ได้ คิมมินโฮหรือที่นิจชิตาตั้งชื่อให้ใหม่ว่านายคอห่านนั่นรู้สึกว่ากว่าชีวิต จะผ่านไปแต่ละวันช่างยาวนานเหลือเกิน ทุกวันเขาลุ้นให้ถึงเวลาเลิกเรียนให้เร็วที่สุดเพราะนิจชิตาจะปล่อยเขาไว้ ที่โรงเรียน และนั่นก็คือเวลาที่เขาจะได้เป็นอิสระซะที แต่แล้วก็เริ่มมีเสียงเล่าขานจากบรรดาเด็กๆว่าที่โรงเรียนแห่งนี้มักจะมี วิญญาณออกมาตอนกลางคืน นิจชิตาไม่เชื่อเรื่องอย่างนี้เด็ดขาด จึงได้ชักชวนชุมพลเพื่อมาพิสูจน์ข้อเท็จจริงจนกระทั่งทั้งสองได้รู้ความจริง ว่า เงาที่เด็กๆ เห็นเมื่อยามค่ำคืนนั่นก็คือคิมมินโฮที่แอบออกมากินข้าวที่ยุนอาเอามาส่งที่ โรงเรียนให้ทุกคืนนั่นเอง เอาละซิคิมมินโฮจะแก้ตัวจะสถานการณ์นี้ยังไงในเมื่อเป็นหุ่นยนต์แล้วจะกิน ข้าวได้ยังไง

โชคยังดีที่ยุนอาช่วยแก้ไขสถานการณ์ได้ทันโดยเธออ้างว่าหุ่นยนต์ ME 1 คือหุ่นที่ใกล้เคียงกับมนุษย์ที่สุดแม้แต่อวัยวะภายในก็แทบจะเหมือนกัน เพราะฉะนั้นหุ่น ME 1 จึงต้องการพลังงานเหมือนคนทั่วไป คิมหันต์กับยุนอาถึงกับปาดเหงื่อที่เอาตัวรอดได้ทัน แต่ยังไงยุนอาก็คิดว่าขืนปล่อยให้เจ้านายของเธอต้องตากยุงในตอนกลางคืนอยู่ อย่างนี้ คิมหันต์อาจจะเป็นไข้เลือดออกตายเสียก่อน คิมหันต์กับยุนอาจึงช่วยกันคิดแผนที่จะทำให้คิมหันต์ได้ไปนอนบนเตียงนุ่มๆ ที่บ้านของนิจชิตาได้อย่างแนบเนียน แล้วแผนนั่นก็คือ...!

การจ้างคนไปปล้นบ้านของนิจชิตาเพื่อให้นิจชิตารู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตและ ทรัพย์สิน เพื่อที่ยุนอาจะได้บอกกับนิจชิตาว่าคิมหันต์มีระบบการป้องกันตัวจะได้นำ คิมหันต์กลับไปบ้านด้วย แต่เกิดผิดแผนเมื่อคิมหันต์ได้เจอกับผู้ร้ายตัวจริงที่ซ่อนตัวอยู่ในบ้าน แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะคิมหันต์เองก็เป็นนักกีฬาเทควันโดอยู่แล้ว ไอ้โจรจึงหมอบราบคาบด้วยฝีมือของคิมหันต์ทันที แต่คิมหันต์ก็ต้องอึ้งไปเมื่อนิจชิตากลับมาแล้วเปิดไฟจึงพบว่าผู้ชายที่ คิมหันต์คิดว่าเป็นโจรตัวจริง ที่แท้ก็คือปลัดภูชิตที่เข้าไปอยู่ในบ้านของนิจชิตาเพื่อต้องการเซอร์ไพรส์ เธอเนื่องในวันเกิดเธอนั่นเอง

ยุนอารีบแก้ตัวให้คิมหันต์ ว่าคิมหันต์มีระบบเซ็นเซอร์ที่รู้ว่ามีคนแอบอยู่ในบ้านของนิจชิตาจึงตามมา เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นก่อนที่ยุนอาจะบอกให้นิจชิตานำคิมหันต์ กลับมาที่บ้านเพราะจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราไม่ควรประมาท ลุงปุ่นหัวหมอพอรู้ว่าคิมหันต์เป็นหุ่นยนต์ก็เห็นด้วยทันที รวมถึงปลัดภูชิตที่จำต้องยอมเห็นด้วยอีกคนก็ดีครับ...เพราะถ้าได้หุ่นยนต์ ที่มีฝีมือทัดเทียมกับผมจะได้สบายใจ (ทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายโดนอัดแท้ๆ) ตั้งแต่นั้นคิมหันต์จึงต้องเดินกลับบ้านพร้อมกับนิจชิตาเพื่อเป็นองครักษ์ ให้กับเธอที่บ้านด้วย

แต่ก็มีปัญหาขึ้นมาอีกเมื่อชาวบ้านละแวกบ้านของเธอโจษจันกันหนาหูว่านิจชิตา พาผู้ชายเข้าบ้าน แม้ว่าลุงปุ่นจะพยายามอธิบายให้ชาวบ้านฟังว่าไอ้คอห่านนั่นเป็นหุ่นยนต์ แต่จะมีใครเชื่อเล่าก็ในเมื่อหุ่นยนต์เหมือนคนจริงๆ ซะอย่างนั้น แล้วคนที่ไม่พอใจอีกคนก็คือ ภูชิตเพราะพูดกันอย่างนี้คนรักของเขาก็เสียหายหมดซิ แล้วไหนจะความแค้นส่วนตัวที่คิมหันต์เคยอัดภูชิตหมอบราบมาแล้ว ภูชิตจึงนึกแผนแก้เผ็ดไอ้หุ่นยนต์คอห่านขึ้นมาได้ว่าถ้าทุกคนไม่เชื่อเราก็ ให้นายคิมหันต์ของเราไปอยู่กับชาวบ้านคนละวัน ลุงปุ่นเห็นดีด้วยทันทีเพราะเขาจะได้คิดค่าเช่าจากการที่ชาวบ้านเอาคิมหันต์ ไปทำงาน

ตั้งแต่นั้นคิมหันต์ของเราก็กลายเป็นคนใช้ประจำหมู่บ้านไปโดยปริยาย คิมหันต์ทำทุกอย่างตั้งแต่ไถนาแทนควาย จับปลา ทำนา จนคิมหันต์ทนไม่ไหวจะหนีกลับเกาหลีให้ได้ แต่ยุนอาได้ยั้งสติของเจ้านายเธอเอาไว้ก่อนจะช่วยกันคิดว่าทำยังไงถึงจะให้ คิมหันต์ไม่ต้องทำงานพวกนั้นอีก แล้วทั้งคู่ก็นึกออกว่าที่ชาวบ้านทุกคนทำงานก็เพราะอยากมีรายได้มีเงินเพื่อ ใช้จ่าย ถ้าอย่างนั้นเราก็ต้องหาเงินให้พวกเขา

คิมหันต์จึงได้คลุกคิดค้นเครื่องประดิษฐ์ภายในรถตู้อเนกประสงค์ หรือที่เรียกว่าศูนย์บัญชาการของเขาเพื่อจะคิดเครื่องประมวลเลขเด็ดแจกจ่าย ชาวบ้าน แล้วก็ได้ผลเมื่อเลขเด็ดที่คิมหันต์ให้กับชาวบ้านถูกกันเกือบทุกคน จนสร้างความประหลาดใจให้กับนิจชิตาที่มาเห็นการฉลองใหญ่ภายในตำบลของเธอก่อน จะรู้ว่าที่ชาวบ้านฉลองกันอยู่เพราะถูกหวยที่คิมหันต์ใบ้ให้มา

นิจชิตาถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก เมื่อเห็นหุ่นยนต์คิมหันต์แต่งตัวเป็นเจ้าพ่อนั่งใต้ต้นตะเคียนกำลังนั่งใบ้ หวยงวดต่อไปให้กับชาวบ้าน นิจชิตาถึงกับโมโหจนควันออกหูเข้าไปต่อว่าคิมหันต์ว่าการที่คิมหันต์ทำอย่าง นี้เป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด นอกจากเป็นการผิดกฏหมายแล้วยังทำให้ชาวบ้านไม่รู้จักทำมาหากิน ถ้าเกิดวันนึงคิมหันต์ต้องกลับเกาหลีแล้วชาวบ้านจะทำยังไง ทุกคนไม่ต้องขวนขวายหาที่พึ่งงมงายอย่างนี้ไปจนตายหรือไง วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้องคือการให้เกษตกรทำงานโดยไม่พึ่งกระดาษแผ่นบางๆ ที่เรียกว่าเงินต่างหาก

คิมหันต์ไม่เข้าใจในสิ่งที่นิจชิตาพูด จะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อทุกวันนี้สิ่งที่ทุกคนต้องใช้ก็คือเงิน จนกระทั่งนิจชิตาได้พาคิมหันต์ลงพื้นที่ให้ความรู้กับชาวบ้านเรื่องเศรษฐกิจ พอเพียงกับการทำเกษตรยั้งยืนเสียใหม่ คิมหันต์ถึงกับอึ้งไปเพราะเข้าพึ่งเข้าใจในสิ่งที่นิจชิตาสอน และเริ่มมองนิจชิตาและคนไทยเสียใหม่

แม้ว่าคิมหันต์กับนิจชิตาจะเริ่มพูดจาดีๆ ต่อกัน แต่จากการที่คิมหันต์ทำให้ชาวบ้านทุกคนถูกหวย ทำให้ เสี่ยฉั่ว ...ผู้ทรงอิทธิพลในพื้นที่ไม่พอใจอย่างยิ่ง เพราะคิมหันต์ เกือบทำให้เขาล่มจมภายในวันเดียว เสี่ยฉั่วคิดว่าถ้าขืนปล่อยให้คิมหันต์อยู่ต่อไปก็เท่ากับขัดขวางการทำมาหา กินของเขา เสี่ยฉั่วจึงได้ใช้ให้มือปืนในซุ้มไปจัดการทำลายไอ้หุ่นกระป๋องนั่นทิ้งซะ เสียฉั่วรู้ว่าอาทิตย์หน้าที่โรงเรียนของนิจชิตาจะมีการพานักเรียนไปตั้ง แค้มป์ทัศนศึกษาที่ปราณบุรี เขาจึงโอกาสนั่นคิดจะทำลายคิมหันต์ทิ้งทะเลซะ แต่เพราะความไฮเทคต่างๆ ภายในรถศูนย์บัญชาการของยุนอาทำให้เธอแอบดักคลื่นโทรศัพท์ของเสี่ยฉั่วก่อน จะได้ยินแผนที่จะปองร้ายคิมหันต์ ยุนอารีบขอให้ชุมพลพาเธอไปที่ปราณบุรีอย่างเร่งด่วน เพื่อไปเตือนว่าตอนนี้ชีวิตของคิมหันต์กับนิจชิตากำลังตกอยู่ในอันตราย

แต่ก็ไม่ทันการเมื่อกลุ่มมือของเสี่ยฉั่วเข้ามาลอบทำร้ายคิมหันต์ คิมหันต์ใช้เทควันโด้ศิลปะการต่อสู้ประจำชาติเกาหลีผสมกับแม่ไม้มวยไทย จัดการกับพวกมันก่อนจะรีบพานิจชิตาหนีออกทะเลไปทันที ทั้งสองไปติดเกาะด้วยกันแห่งหนึ่ง ค่ำคืนที่เปลี่ยวเหงา และลมทะเลที่หนาวเหน็บแต่นิจชิตากลับไม่รู้สึกหนาวเลยเมื่อเธอหลับไปไม่รู้ ตัวบนอกของคิมหันต์ ไม่รู้ว่าเพราะความเหนื่อยหรือว่าเธอคิดไปเองว่าอกของเจ้าหุ่นยนต์นี้ทำไม ถึงได้อุ่นใจอย่างประหลาด จนกระทั่งรุ่งเช้านิจชิตาสะดุ้งตื่นเพราะรู้สึกว่าคิมหันต์นั่นหนาวสั่นก่อน ที่เธอจะตกใจเมื่อรู้ว่าเจ้าหุ่นยนต์บาดเจ็บจากการไล่ล่าเมื่อคืน คิมหันต์ถูกลอบทำร้ายจนบาดเจ็บ นิจชิตาแปลกใจเมื่อเห็นเลือดออกจากตัวของคิมหันต์ ทันใดนั้นยุนอากับชุมพลที่ออกตามหาทั้งสองกันข้ามคืนก็เข้ามาพบพอดี ยังดีที่ยุนอาแก้ตัวได้ทันว่าเป็นน้ำมันเครื่องที่ใช้หล่อลื่นภายใน คิมหันต์รอดจากคมกระสุนมาได้และในช่วงเวลาที่พักฟื้นทำให้เขาและนิจชิตา เริ่มรู้สึกแปลกๆ ต่อกันตั้งแต่คืนนั้นที่ทั้งสองอยู่กันตามลำพังที่เกาะร้าง นิจชิตาเองเริ่มรู้สึกว่าคิมหันต์ไม่ใช่หุ่นยนต์หรือว่านั่นคือความต้องการ ของเธอกันแน่

ปลัดภูชิตสั่งควานหาตัวคนที่ลอบทำร้ายคิมหันต์กับนิจชิตาให้ได้ จนกระทั่งเขาได้รู้ว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของเสี่ยฉั่วนั่นเอง แต่แล้วกลับมีเหตุการณ์ที่ทำให้ภูชิตสังหรณ์ใจว่านิจชิตาอาจจะกำลังหลงรัก เจ้าหุ่นยนต์กระป๋องนั่นก็ได้ เพราะระยะหลังๆ นิจชิตาเริ่มมีอะไรที่แปลกๆ ออกไป และปลัดภูชิตจึงยอมไม่ได้ที่จะให้เรื่องบัดสีอย่างนี้เกิดขึ้น

ความลับไม่มีในโลก...เมื่อปลัดภูชิตได้ไปบังเอิญได้ยินที่ยุนอาคุยกับชุมพล ภายในรถบัญชาการว่าที่จริงแล้วคิมหันต์นั่นไม่ใช่หุ่นยนต์แต่เป็นรองประธาน บริษัทตัวจริงที่ปลอมตัวมาเป็นหุ่นยนต์ ปลัดภูชิตจึงต้องการกระชากหน้ากากไอ้เกาหลีคนนี้ออกมาจึงได้ร่วมมือกับเสี่ย ฉั่วเพื่อลักพาตัวนิจชิตา

คิมหันต์ตกใจเมื่อได้รู้ว่านิจชิตาถูกลักพาตัวไป เขารีบถอดสายน้ำเกลือทิ้งเพื่อไปช่วยเธอทันที โดยที่คิมหันต์ไม่รู้เลยว่าทั้งหมดเป็นแผนของปลัดภูชิตนั่นเอง นิจชิตาถูกพาขึ้นไปที่แก่งกระจานโดยที่นิจชิตาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนที่ จับเธอมาเป็นใคร จนกระทั่งคิมหันต์โผล่มาช่วย ปลัดภูชิตผู้อยู่ในเงามืดจึงได้ยื่นข้อเสนอเป็นเงินสิบหลักเพื่อแลกกับตัว ของนิจชิตา คิมหันต์หลงกลปลัดภูชิตและยอมรับว่าตัวเองมีเงินเพราะตัวเองเป็นรองประธาน บริษัท LE และพร้อมจะส่งเงินมาให้ แต่ขออย่างเดียวว่าอย่าทำอะไรนิจชิตาเลย นิจชิตาถึงกับอึ้งก่อนที่ปลัดภูชิตจะเผยตัวและบอกความจริงทั้งหมดที่เขาทำก็ เพื่อต้องการให้นิจชิตาตาสว่าง ว่าไอ้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้านิจชิตาคือคนที่หลอกลวงเธอ หลอกลวงชาวบ้านมาตลอด ทันใดนั้นตำรวจที่คิมหันต์ซ้อนแผนให้ยุนอาไปแจ้งตำรวจก็บุกเข้ามาในโรงนา ก่อนจะรวบตัวปลัดภูชิตเอาไว้ ปลัดภูชิตซัดทอดเสี่ยฉั่วเป็นผู้ร่วมขบวนการอีกคน ทำให้ทั้งสองต้องเข้าไปชดใช้กรรมในคุก

คิมหันต์พยายามจะอธิบายให้ฟัง แต่นิจชิตารับไม่ได้กับสิ่งที่คิมหันต์ทำไว้กับเธอเพราะเธอเคยบอกแล้วว่าเธอ เกลียดคนโกหกที่สุด ถ้าจะมีคำพูดสุดท้ายที่จะพูดกับคิมหันต์ เธอขอให้เขากลับเกาหลีไปซะ

คิมหันต์จากเมืองไทยไปด้วยความเจ็บปวดที่ทำให้คนที่ตัวเองรักต้องเสียใจ เช่นเดียวกับนิจชิตาที่แม้ว่าเธอจะบอกว่าเกลียดเขาและเป็นคนไล่เขาไปเอง แต่หัวใจเธอกลับไม่ได้บอกเช่นนั้น ชีวิตที่ไม่มีเจ้าหุ่นยนต์จอมยุ่งอย่างคิมหันต์ เธอรู้สึกเหมือนว่าสีสันที่อยู่รอบๆ ตัวเธอกลับซีดจางไร้ชีวิตชีวา ชุมพลเองก็ทิ้งเธอไปเกาหลีพร้อมกับยุนอา แม้ว่านิจชิตาจะพยายามห้ามเพราะยุนอาเองก็ดูเหมือนไม่ได้มีใจให้กับชุมพล ทำไมชุมพลถึงได้ยอมทิ้งทุกอย่างไปจากเมืองไทย ชุมพลจึงบอกนิจชิตาก่อนจะจากกันว่า ตอนนี้เขารู้ว่าหัวใจต้องการอะไร และถ้าเขาไม่พยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อมันแล้วละก็ เขาจะเสียใจไปจนตาย

สามเดือนผ่านไป...นิจชิตายังเป็นครูที่สอนอยู่ในโรงเรียนเล็กๆ ที่หัวหินตามเดิม แล้วนิจชิตาก็ต้องแปลกใจเมื่อเธอได้รับการ์ดแต่งงานของชุมพลกับยุนอาที่ส่ง มาจากเกาหลี พร้อมกับตั๋วเครื่องบินให้นิจชิตาไปร่วมงานให้ได้ นิจชิตาสองจิตสองใจเพราะรู้ว่าถ้าเธอไปก็ต้องเจอกับคิมหันต์อีก แต่ถ้าเธอไม่ไปก็เท่ากับเธอจะวิ่งหนีความรู้สึกนี้ไปตลอดชีวิตอย่างนั้น หรือ..?

ในที่สุดนิจชิตาก็ปรากฏกายที่งานแต่งงานของชุมพลที่เข้าพิธีวิวาห์กับยุนอา แบบเกาหลีโบราณ แล้วหัวใจของนิจชิตาก็ต้องสั่นไหวอีกครั้งเมื่อได้พบกับคิมหันต์ เธอหวังในใจลึกๆ ว่าคิมหันต์จะมาง้อเธอ แต่นิจชิตาก็ต้องเสียใจเมื่อพบท่าทางเย็นชาของคิมหันต์ราวกับว่าเธอและเขา ไม่เคยพบกันมาก่อน นิจชิตาตัดสินใจที่จะกลับประเทศไทยทันที ชุมพลโมโหคิมหันต์แทนนิจชิตาเพราะนิจชิตาอุตส่าห์มาหานายถึงที่แต่คิมหันต์ กลับเย็นชาใส่นิจชิตา ชุมพลทนไม่ไหวจนมีเรื่องกับคิมหันต์ ยุนอารีบเข้ามาห้ามเพราะทุกคนกำลังเข้าใจผิด คิมหันต์ที่ทุกคนเห็นนั่นไม่ใช่คิมหันต์ แต่เป็น...?

นิจชิตาพาหัวใจที่บอบช้ำกลับมายังหัวหินบ้านเกิดตามเดิม แต่ทันใดนั้นเธอก็ต้องสับสนเมื่อเห็นคิมหันต์มาปรากฏกายต่อหน้าเธอ จะเป็นไปได้ยังไงก็ในเมื่อเขาอยู่เกาหลีตอนที่เธอมา ก่อนที่คิมหันต์จะเล่าความจริงทั้งหมดให้นิจชิตาฟังว่า ตลอดเวลาที่เขากลับเกาหลีไปไม่มีซักวันที่เขาไม่คิดถึงนิจชิตา และนั่นทำให้ทั้งวันทั้งคืนเขาคลุกอยู่แต่ในห้องทดลองเพื่อต้องการซ่อมเจ้า หุ่น ME 1 ให้เสร็จ คิมหันต์สารภาพกับนิจชิตาว่าเขาจะมาอยู่เมืองไทยกับเธอเพราะเขารู้แล้วว่า ไม่ว่าจะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพียงใดเขาก็ไม่สามารถสร้างหุ่นยนต์ที่มีความ รักเหมือนมนุษย์ได้ นิจชิตาสงสัยว่าแล้วคิมหันต์ที่อยู่เกาหลีเป็นใคร คิมหันต์สารภาพกับเธอว่าคิมหันต์ที่อยู่ที่เกาหลีตอนนี้คือ ME 1 ที่ซ่อมเสร็จแล้ว และเขาก็พร้อมที่จะทิ้งทุกอย่างเพื่อนิจชิตาเพียงคนเดียว...

ศึกวันชูใจ 2552

เรื่องย่อ : ศึกวันชูใจ (2552/2009) ศึกวันชูใจ เป็นเรื่องราวสุดฮาของ 2 ครอบครัวที่ไม่ถูกกันคือครอบครัวของ ตุ่ม นักเขียนบทภาพยนตร์ที่มีลูกสาวอยู่ 2 คนคือ วรรณ และ ใจ กับ นวม เจ้าของค่ายมวยปากจัดที่มีลูกชายอยู่ 2 คนคือ ศึก และ ชู แต่แล้วพรหมลิขิตก็บันดาลให้ทั้ง 2 บ้านต้องมาอยู่ร่วมกันเมื่อตุ่นถูก ต้อม ศิษย์เอกของเขาทรยศหักหลังและยังหลอกให้เขาเซ็นสัญญาเงินกู้ในฐานะผู้ค้ำและเมื่อต้อมได้หนีหายไปโดยไม่ยอมจ่ายเงินให้กับธนาคารทางธนาคารจึงได้เข้ามายึดบ้านของตุ่นเขาและครอบครัวจึงต้องมาอาศัยอยู่กับนวมด้วยความจำใจ ส่วนเจ้าของบ้านคนใหม่คือ เจ้าขุนทอง คุณตาของ ศึก และ ชู โดยวรรณนั้นแอบชอบศึกอยู่แต่เขาไม่รู้จนเมื่อศึกได้รับบาดเจ็บขั้นรุนแรงที่ตาหลังจากชกมวยทำให้วรรณต้องเข้ามาดูแลศึกและได้เปิดเผยความในใจต่อศึกว่าเธอแอบชอบเขาอยู่ทำให้หลังจากที่ศึกอาการที่ตาดีจนเป็นปกติทั้งคู่จึงเริ่มคบกัน ต่อมา ศึก และ วรรณ ตกลงปลงใจแต่งงานจนมีลูก ส่วน ชู กับ ใจ คบและเป็นแฟนกันแล้วทำให้ 2 ครอบครัวกลับมามีความสุขอีกเช่นเดิมทั้ง 2 บ้านทำลายกำแพงที่เคยมีเรื่องกันอยู่กันตลอดเรื่อยมา

นางกรี๊ด 2552

เรื่องย่อ : นางกรี๊ด (2552/2009) จิระวาตี หรือ แจ๋ม เด็กสาวที่อยู่ในสลัมแห่งหนึ่ง เธออาศัยอยู่กับ จันทรา แม่บุญธรรมตาบอดและ จิราภา หรือ จุ๋ม ลูกสาวจันทราที่เป็นใบ้ จิระวาตีรักจันทรากับจิราภามาก ตั้งแต่จันทราตาบอด นางก็ติดเหล้าและมักด่าทอจิระวาตีเป็นประจำ ส่วนจิราภารักจิระวาตีเหมือนพี่สาวแท้ๆ จิระวาตีหาเงินเลี้ยงดูทั้งสอง โดยการอยู่ในคณะรวมดาวชาวกรี๊ด ของ จรัญ และ ขวัญจิต ซึ่งรับจ้างกรี๊ดทุกงาน จิระวาตีมีเพื่อนในคณะมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แม็กซ์ สาวประเภทสองชาวเหนือ นุ่ม ทอมบอยจากอีสาน ปุ๊กกี้ อ้น โดยจิระวาตีเป็นหัวหน้ากลุ่ม

วันนี้ จิระวาตีและเพื่อนต้องไปกรี๊ดที่คอนเสิร์ตนักร้องสาวคนดัง หลังจากนั้น ทั้งหมดก็ไปรับจ้างร้องไห้คร่ำครวญในงานศพเจ้าสัวเจ้าของร้านเพชร สามีของ กิมลั้ง จิระวาตีได้เจอ ปัญธร ลูกชายคนเล็กของ ทัศวรรณ และ ชัยวัฒน์ ซึ่งมางานศพแทนพ่อแม่ด้วย ปัญธรเข้าใจว่าจิระวาตีเป็นญาติเจ้าสัว ปัญธรจึงเดินเข้าไปปลอบใจจิระวาตี จนจิระวาตีไม่ได้บอกความจริง

ปัญธรเป็นเพลย์บอย ไม่ยอมทำงาน เอาแต่เที่ยว กิ๊กของเขาคือ ศยามล หรือ หม่อน สาวเปรี้ยวที่คิดจะจับปัญธร เพราะความรวยของปัญธร แต่ที่ทำให้ชัยวัฒน์กับทัศวรรณหนักใจก็คือการที่ปัญธรยืนยันว่าจะไม่ยอมสืบทอดกิจการผลิตยาดมของครอบครัว แต่เลือกที่จะเข้าวงการบันเทิงเป็นนักร้อง ชัยวัฒน์โกรธ แต่ก็ยอมให้เวลาปัญธรสามเดือนเพื่อทำตามฝัน แต่หลังจากนั้น ถ้าไม่สำเร็จปัญธรจะต้องกลับมาสืบทอดกิจการ ปัญธรตอบตกลง ชัยวัฒน์จึงต้องให้ ปรีติ น้องชายปัญธรที่เป็นคนทำงานเก่ง ช่วยครอบครัวแบ่งเบาภาระที่บริษัท ปัญธรมักไปเที่ยวกับศยามลเสมอ และหลงคารมหวานของศยามลจนถอนตัวไม่ขึ้น ศยามลจึงยิ่งได้ใจ ทำให้ทัศวรรณยิ่งไม่ถูกชะตาในตัวศยามลมากขึ้น

วันหนึ่งทัศวรรณไปเยี่ยม สะอิ้งทิพย์ เจ้าแม่แห่งวงการนางงาม และได้เจอกับโยษิตา หลานสาวของสะอิ้งทิพย์ โยษิตาเป็นคนเรียบร้อย ใจเย็น แต่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับหัวใจ ทำให้ไม่ค่อยแข็งแรง ทัศวรรณคิดจะให้ปัญธรแต่งงานกับโยษิตา ดังนั้น ในช่วงที่สะอิ้งทิพย์กับโยษิตายุ่งกับการประกวดนางงาม “หนึ่งในสี่ภาค” นี้ ทัศวรรณจึงตัดสินใจส่งปัญธรมาเป็นผู้ช่วยโยษิตา ซึ่งปัญธรตอนแรกก็ปฏิเสธ แต่พอได้พบกับโยษิตา ก็รู้สึกชอบ จึงรีบตอบตกลง

ปัญธรพาศยามลไปดูคอนเสิร์ต บี ยาง ชาง ซึ่งพวกจิระวาตีต้องไปกรี๊ดในงานนี้ด้วย ศยามลไม่พอใจที่พวกจิระวาตียืนกรี๊ดอยู่หน้าเวที จึงขอให้ปัญธรไปต่อว่า แต่ปัญธรกลับไปคุยกับจิระวาตี ศยามลไปพูดเอง จิระวาตีไม่อยากมีเรื่องจึงพาเพื่อนถอยออกมา แต่สุดท้ายก็มีคนอื่นมายืนหน้าเวทีเหมือนเดิม หลังเลิกงานจิระวาตีซื้อกับข้าวไปฝากแม่กับน้อง แต่จันทราก็โวยวายหาว่าจิระวาตีใช้เงินสิ้นเปลือง จิราภามาห้าม แม่จันทราก็ไม่ฟัง จิระวาตีได้แต่ทน

ในคอนเสิร์ต ปัญธรถูกศิลปินเกาหลีเรียกขึ้นบนเวที แล้วขอให้สอนตนร้องเพลงไทยซักประโยคหนึ่งเพื่ออ้อนแฟนๆ ชาวไทย ปัญธรเลยร้องซะเต็มที่ และมี พี่โต้ ยืนปะปนกับคณะชาวกรี๊ด พี่โต้ เป็นอดีตนักร้องขวัญใจวัยรุ่นเมื่อ 20 ปีก่อน ที่สภาพตอนนี้ค่อนข้างตกอับ แต่ยังมีความหวังจะหวนคืนสู่วงการอย่างสง่าผ่าเผย โดยการปั้นใครซักคนขึ้นมาด้วยผลงานการแต่งเพลงและโปรดิวซ์ของตน ในความคิดเขา เขาเชื่อมั่นว่าเขาไม่แพ้ บอยด์ โกสิยพงศ์ เหมือนกัน

พี่โต้จึงรีบแนะนำตัว พร้อมทาบทามปัญธรให้เป็นศิลปินคนแรกที่ตนจะปั้นให้ดังสุดๆ แต่เมื่อพี่โต้พาไปสตูดิโอ หรือห้องอัด ปัญธรก็ได้รู้ว่าสภาพของห้องอัดที่ว่าเป็นบ้านในสลัมรูหนู อุปกรณ์กันเสียงก็เป็นรังไข่ ร้องๆ มีมอเตอร์ไซค์มาบิด มีเด็กร้องไห้ข้างหน้า ดูยากจนมากๆ แต่พี่โต้ก็ตื๊อจนปัญธรใจอ่อน ด้วยการเปิดเพลงที่ตนแต่งไว้ จนปัญธรที่เดินออกไปแล้ว ต้องย้อนกลับมา ใจอ่อนเซ็นสัญญากับพี่โต้

ที่สลัม จิระวาตีมีเพื่อนขาพิการ คือ บูม ที่ใช้ชีวิตไปวันๆ ไม่ยอมขวนขวายหางานทำ อ้างแต่ว่าเพราะตนพิการ จิระวาตีจึงต้องอดทนพูดปลุกปลอบให้กำลังใจ แต่ก็พูดแบบแรงๆ แสบๆ คันๆ ให้บูมได้คิดว่าเกิดมาทั้งที ก็ต้องสู้กับชีวิตให้ดีที่สุด อย่ายอมจำนนกับชะตากรรมหรือความพิการ และเพื่อนที่เรียนจบปวช.มาด้วยกันคือ ปุ๊กกี้ ที่เรียบร้อยขี้อาย และยังหางานทำไม่ได้ จิระวาตีจึงชวนปุ๊กกี้มาอยู่คณะชาวกรี๊ดด้วย และนอกจากนี้ยังทำงานรับจ้างสารพัด ทั้งซัก รีด ส่งของ ต่อทะเบียนรถยนต์ก็ทำ เรียกว่าอะไรที่เป็นเงิน จิระวาตีเอาด้วยทุกอย่าง

กิมลั้งโทรหาจิระวาตีให้ช่วยมาทำความสะอาดที่บ้าน ทำให้จิระวาตีเจอปัญธรกับโยษิตาที่มาติดต่อเรื่องเครื่องเพชรสำหรับใช้ในการประกวด โยษิตาถูกชะตากับจิระวาตีผิดกับปัญธรที่ตั้งท่ารังเกียจจิระวาตี เพรารู้ความจริงที่รู้ว่าจิระวาตีเป็นเด็กสลัม จึงคิดว่าจิระวาตีโกหกและหาเงินไปเที่ยว จิระวาตีไม่ชอบปัญธรเช่นกัน ทั้งคู่เริ่มเป็นคู่กัดและมีปากเสียงกัน ยิ่งเมื่อจิระวาตีรู้ว่าปัญธรกำลังจะออกอัลบั้ม ก็หัวเราะเยาะ ดูถูกสารพัด จนปัญธรประกาศก้องว่าจะพิสูจน์ให้เห็นว่าตนสามารถเป็นนักร้องซูเปอร์สตาร์ได้

ปัญธรเข้ามาช่วยโยษิตาดูแล น้องเอ๋ ผู้เข้าประกวดในนามภาคใต้ซึ่งสะอิ้งทิพย์ไปเจอที่ร้านส้มตำในสลัม โดยน้องเอ๋อยู่กับ นุ่ม เพื่อนทอมบอยที่ขายส้มตำอยู่ด้วยกัน สะอิ้งทิพย์ชอบใจ เสนอตัวเป็นผู้ส่งน้องเอ๋เข้าประกวด ปัญธรเห็นความแปลกในตัวน้องเอ๋ แต่ไม่ได้พูดมันออกมา สะอิ้งทิพย์กังวลว่า น้องเอ๋จะไม่ได้ตำแหน่ง จึงปรึกษาโยษิตา โยษิตาเสนอให้จ้างหน้าม้ามาเชียร์น้องเอ๋ สะอิ้งทิพย์เห็นด้วย โยษิตาจึงติดต่อ จรัญกับขวัญจิต พวกของจิระวาตีจึงรับงานนี้ โยษิตาดีใจมากที่ได้ทำงานกับจิระวาตี แต่ปัญธรไม่ชอบใจ

ปรีติก็ติดสอยห้อยตามทัศวรรณมา ทำให้ได้พบโยษิตา ปรีติปิ๊ง แต่ไม่กล้าทำอะไรตามประสาผู้ชายที่ไม่ประสาเรื่องผู้หญิงอย่างตน ต่อมาพอทราบว่าทัศวรรณผู้เป็นเป็นแม่ พยายามจับคู่โยษิตา กับปัญธรพี่ชายตน ปรีติจึงต้องแอบซ่อนความรู้สึก โดยคุยกับโยษิตาเป็นเพื่อน ไม่สามารถคิดเกินเลยกว่านั้นกับว่าที่พี่สะใภ้ในอนาคตได้

ในการทำงานครั้งนี้ พวกจิระวาตีต้องมาซ้อมเชียร์ที่บ้านสะอิ้งทิพย์ก่อน ซึ่งทุกคนจะได้เบี้ยเลี้ยงในวันซ้อมด้วย ปัญธรเป็นคนขับรถรับส่งพวกจิระวาตีตามที่โยษิตาขอร้อง ปัญธรเข้าไปเหยียบสลัมเป็นครั้งแรกด้วยความขยะแขยง บูมอาละวาดเมื่อรู้ว่า จิระวาตีต้องไปสุราษฎร์ แม้จิระวาตีจะใช้เหตุผล แต่บูมก็ไม่ฟัง เพื่อนๆ จึงพาจิระวาตีไปทันที

เพลงของปัญธรทำเสร็จออกมา และจะประเดิมร้องครั้งแรกบนเวทีประกวดนางงามนั่นเอง พี่โต้พาปัญธรไปขอสปอนเซอร์เพื่อหาทุนโปรโมตอัลบั้ม จาก เสี่ยดิเรก ซึ่งเสี่ยดิเรกเห็นหน้าปัญธรเข้าก็รู้สึกถูกชะตาอย่างแรง จึงยอมช่วยเป็นสปอนเซอร์ให้ เพราะภารกิจล่าฝันของปัญธร ทำให้เขามีเวลาให้โยษิตาน้อยลงไปมากๆ จนโยษิตาเริ่มมาสนิทสนมกับปรีติน้องชายของตน

ก่อนวันประกวด ทุกคนเดินทางไปบูทีค โฮเทลหรูริมชายหาดเพื่อเตรียมความพร้อม ศยามลไม่พอใจที่ ปัญธรทำงานจนไม่สนใจตัวเอง จึงตามไปสุราษฎร์พร้อมกับ คมเดช (อัมรินทร์ สิมะโรจน์) คู่ขาเก่าที่ค้ายาเสพติด และนำยามาปล่อยในสลัม ศยามลต้องการกำจัดโยษิตา ว่าที่คู่หมั้นของปัญธร ส่วนปัญธรเริ่มเบื่อกับงานนี้ ทั้งยังไม่รู้สึกชอบโยษิตาเลย เพราะโยษิตาเรียบร้อยเกินไป ปัญธรตามไปช่วยงานที่สุราษฎร์ตามที่ทัศวรรณต้องการ สะอิ้งทิพย์กังวลเรื่องที่น้องเอ๋พูดน้อยผิดปกติ เอาแต่ยิ้มอย่างเดียว อาจทำให้แพ้เพราะตอบคำถามได้น้อย

จิระวาตีดีใจมากที่ได้มาทะเล จึงออกไปเดินเล่น แต่ก็ต้องอารมณ์เสียเพราะปัญธรเข้ามาหาเรื่อง จิระวาตีขู่จะนำเรื่องศยามลไปบอกโยษิตา ปัญธรจึงเงียบ เพราะกลัวโยษิตาไม่สบายใจ ก๊วนชาวสลัม พอได้มาพักที่หรูหรา ก็เฮฮากันป่วน จนสะอิ้งทิพย์กุมขมับปวดหัว

วันงานประกวดรอบแรก พวกจิระวาตีตื่นเต้นมากแต่ก็ทำได้ดี คมเดชมากับศยามล เขามองออกว่าน้องเอ๋เป็นสาวประเภทสอง นุ่มที่สนิทกับน้องเอ๋ ก็หลุดมีพิรุธ ศยามลจึงไปบอกพี่เลี้ยงตัวแทนภาคเหนือเรื่องน้องเอ๋ เกิดการประท้วงในวันตัดสินรอบสุดท้าย ทำให้สะอิ้งทิพย์เสียหน้ามาก แต่นางไม่ยอมแพ้ เพราะกรรมการให้โอกาสหาคนใหม่มาแทน สะอิ้งทิพย์เลือกจิระวาตี แล้วแปลงโฉมเป็นสาวใต้ โดยจิระวาตีเลือกเต้นฮาวายโชว์ ไม่มีใครเชื่อว่าจิระวาตีจะทำได้ดี พริ้วไหว

โดยเฉพาะปัญธร โยษิตาให้กำลังใจจิระวาตีตลอดเวลา ในที่สุดความจริงใจของจิระวาตีก็ชนะใจกรรมการในรอบสัมภาษณ์จนได้รับตำแหน่งนางงาม “หนึ่งเดียวในสี่ภาค” อย่างไม่คาดคิด สะอิ้งทิพย์ดีใจมาก แต่ก่อนลงจากเวที จิระวาตีเกิดอุบัติเหตุตกบันไดเพราะปัญธรที่เดินร้องเพลงบนเวทีดันไปชนจิระวาตีที่เดินโบกมือรับตำแหน่งอยู่ริมเวที ทำให้จิระวาตี ตกเวที ขาเดี้ยง ต้องกลับไปพักรักษาตัวที่บ้านก่อนที่จะปฏิบัติภารกิจของนางงามต่อไป

จิระวาตีโกรธปัญธรมาก เพราะคิดว่าปัญธรแกล้ง ปัญธรต้องรับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงจำเป็นของนางงามคนใหม่ไปโดยปริยาย เพราะโยษิตามีงานอื่นอีกมากมาย ศยามลเจ็บใจที่เหตุการณ์พลิก แต่คมเดชก็คอยปลอบใจ ทั้งคู่มีสัมพันธ์กันลึกซึ้งโดยปัญธรไม่รู้ ศยามลขอให้คมเดชจัดการโยษิตา

นอกจากภารกิจดูแลจิระวาตี ปัญธรยังจะต้องทำภารกิจการเป็นนักร้องหน้าใหม่ของตน ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องจ้างทีมกรี๊ดของพวกจิระวาตี มาช่วยกรี๊ดในงานแถลงข่าวเปิดอัลบั้ม

ปัญธรไม่ชอบมาที่สลัม แต่ก็ยอมมาดูแลจิระวาตี เขาเห็นจิระวาตีดูแลเด็กๆ ก็หมั่นไส้ จิระวาตีหาว่าปัญธรไม่เคยคิดทำบุญ ปัญธรจึงกลับมาอีกครั้งพร้อมขนมถุงก๊อปแก๊ปมากมาย ปัญธรเชื่อว่าเงินซื้อได้ทุกอย่าง แต่ไม่มีเด็กคนใดรับน้ำใจเขาเลย ปัญธรยังไม่ยอมแพ้ เขาพยายามหาซื้อของเล่น ของกินมาให้ โดยปราศจากความจริงใจ เด็กๆ ไม่ยอมรับ จิระวาตีดีใจที่เด็กๆ เชื่อฟังคำสอนของตน ปัญธรปรึกษาปรีติ ปรีติยืนยันเหมือนจิระวาตีว่า เงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะใจปรีติพิสูจน์ให้ปัญธรเห็นด้วยการเข้าไปคุยดี หาหนังสือที่มีประโยชน์ให้อ่าน พาวิทยากรมาบรรยายเรื่องที่เป็นประโยชน์ จนจิระวาตี เด็กและคนในสลัมต่างยอมรับปรีติ

ที่บริษัทสะอิ้งทิพย์ มีงานด่วนเข้ามาให้นางงาม ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ โยษิตาจึงพาสะอิ้งทิพย์ไปหาจิระวาตีที่บ้าน สะอิ้งทิพย์ได้เจอจันทราก็ตกใจ จึงรีบติดต่อเสี่ยดิเรกทันที เพราะสะอิ้งทิพย์มั่นใจว่า จิระวาตีจะต้องเป็นลูกของ ดวงใจ นางงามคนหนึ่งของสะอิ้งทิพย์ กับเสี่ยดิเรกแน่นอน เสี่ยดิเรกตกใจมากเมื่อได้เจอจิระวาตีด้วยตัวเอง ก็ยิ่งมั่นใจว่าจิระวาตีเป็นลูก แต่เสี่ยดิเรกยังไม่กล้าบอกจิระวาตี จึงได้แต่ตามดูผลงานจิระวาตีอยู่ห่างๆ ปัญธรแอบไปหาศยามลอยู่เรื่อยๆ แต่ศยามลยังกลัวปัญธรหลุดมือ

ความสัมพันธ์ของปรีติกับโยษิตา เริ่มพัฒนาขึ้นไปในทางที่ดี ถึงเวลานี้ปรีติได้เห็นความดีทั้งกริยา วาจา ใจของโยษิตา ทำให้เขาตกหลุมรักโยษิตาเข้าให้แล้ว

เมื่อจิระวาตีหายขาเจ็บ ก็เริ่มทำหน้าที่ของตนเองในฐานะนางงาม ซึ่งถูกควบคุมหลายอย่าง จิระวาตีเบื่อจึงมาบ่นให้เพื่อนฟัง จันทราได้ยินเข้าก็ด่าจิระวาตี หาว่าเรื่องมาก เลือกงาน จิระวาตีเสียใจแต่ก็ไม่เถียงและตั้งใจจะไม่เกี่ยงงานอีก จิราภาสงสารพี่สาวจับใจ ถึงแม้จะเป็นใบ้ ทำได้แค่เขียนข้อความสั้นๆ ให้กำลังใจ แต่ก็ทำให้น้ำตาของจิระวาตีไหลรินออกมาด้วยความปลาบปลื้ม

ปัญธรรู้สึกเฟล ที่อัลบั้มเพลงของตนไม่ฮิตติดชาร์ตอย่างที่คิด ตรงกันข้าม งบประมาณที่ทุ่มให้กับการโปรโมตก็หมดลงไปโดยที่เพลงเขาไม่ฮิตสักเพลง ชัยวัฒน์ผู้เป็นพ่อ ดีใจที่จะได้ลูกชายผู้สืบทอดกิจการของครอบครัวกลับมา ปัญธรจึงบอกกลับพ่อว่า ขอเคลียร์ทุกอย่างหนึ่งเดือน แล้วจะกลับไปช่วยปรีติ ผู้เป็นน้องชาย ดูแลกิจการผลิตยาดมของครอบครัว

ปัญธรต้องพาจิระวาตีไปหา คุณเหม่า เจ้าของบริษัทปลาร้าแปรรูป ซึ่งปัญธรต้องพา ใบเตย หลานของเขาไปด้วย ใบเตยเป็นลูกของ สิทธา กับ มยุรี สิทธาเป็นน้องชัยวัฒน์ พ่อของปัญธร สิทธามีปัญหากับมยุรีบ่อย มยุรีเอาแต่ทำงาน สิทธาไปมีผู้หญิงนอกบ้าน จนใบเตยกลายเป็นโรคประสาท สิทธากับมยุรีมักพามาฝากที่บ้านชัยวัฒน์เสมอ เพราะต่างอ้างว่ามีธุระ ปัญธรทะเลาะกับจิระวาตีบนรถ จนใบเตยทนไม่ได้กรีดร้องร่ำไห้ออกมา ทั้งสองคนจึงต้องช่วยกันปลอบใบเตย

ปัญธร จิระวาตี และใบเตย เข้าไปในบริษัท คุณเหม่า โดยส่วนตัว คุณเหม่าไม่ยอมรับความเป็นอีสานของตัวเอง แต่ทำดัดจริตพูดไทยคำฝรั่งคำ นอกจากนี้ คุณเหม่ายังจะเกิดอารมณ์โกรธรุนแรงหากใครพูดถึงหรือใช้ภาษาอีสาน จิระวาตีไม่รู้เรื่องนี้ จึงส่งภาษาอีสานตามแบบที่นุ่มเคยสอนไว้ คุณเหม่าโมโหมากจึงไม่จ้างจิระวาตีเป็นพรีเซ็นเตอร์ จิระวาตีไม่เข้าใจ สะอิ้งทิพย์กับโยษิตารู้เรื่อง จึงเล่าเรื่องคุณเหม่าให้ฟัง แต่จระวาตีไม่ยอม เพราะเห็นว่าคุณเหม่าไม่มีเหตุผล แม้เพื่อนๆ จะห้ามแต่จิระวาตีก็ไม่ฟัง ปัญธรเล่าเรื่องให้ปรีติฟัง ปรีติชื่นชอบจิระวาตี แต่ปัญธรไม่สนใจ

จิระวาตีบุกไปบริษัทคุณเหม่าอีกครั้ง ซึ่งกำลังมีงานเปิดตัวสินค้าอยู่ จิระวาตีจึงไปพูดภาษาอีสาน ตำส้มตำ จนทุกคนชื่นชอบ แต่คุณเหม่าโกรธมาก รีบโทรบอกสะอิ้งทิพย์กับโยษิตา โยษิตาขอร้องปัญธรให้ช่วย ในที่สุดปัญธรก็ลากจิระวาตีออกจากงาน และเตือนสติจิระวาตีด้วยคำพูดรุนแรง จิระวาตีนิ่งเงียบ แต่ในใจไม่ยอมแพ้ ใบเตยเอาแต่เก็บตัวในห้อง และอาละวาดทำลายข้าวของ ทำให้ปัญธรปวดหัวมาก ศยามลโทรมาตามหลายครั้ง ปัญธรจึงยิ่งเครียด ปรีติบอกให้ปัญธรใจเย็น สักพัก คุณเหม่าโทรหาปัญธร เพื่อขอให้จิระวาตีมาเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้า เพราะลูกค้าชื่นชอบ

ปัญธรขอให้ปรีติช่วยพูดกับจิระวาตี แต่ปรีติไม่รับปาก เพราะมีงานมากมาย ปัญธรจึงต้องไปพูดกับจิระวาตีเอง ระหว่างนั้นปรีติไปเยี่ยมจิระวาตีกับเด็กๆ ที่สลัม และเกริ่นเรื่องการเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้คุณเหม่า ทั้งยังแนะนำเรื่องการเรียกค่าตัวด้วย จิระวาตีดีใจที่ได้งาน เพราะจะได้นำเงินมาปลูกบ้านใหม่ให้จันทรากับจิราภา ปัญธรดูถูกจิระวาตีด้วยความหมั่นไส้ แต่ยังตามประกบเธอตามหน้าที่ บูมไม่พอใจที่จิระวาตีทำงานมากจนไม่มีเวลาสนใจตนเอง จิระวาตีเหนื่อยใจกับเรื่อง

บูมมาก ส่วนศยามลเบื่อปัญธรที่ไม่มาหา จึงอยู่กับคมเดชบ่อยขึ้นและให้คมเดชสืบประวัติของจิระวาตีด้วย เพราะศยามลเริ่มระแวงจิระวาตีมากกว่าโยษิตา

จิระวาตีเตรียมงานทุกอย่างเป็นแบบอีสาน แม้คุณเหม่าจะไม่ชอบ แต่ก็ไม่ว่าอะไร จิระวาตีให้เพื่อนๆ มาช่วย จนงานออกมาสำเร็จไปได้ด้วยดี เสี่ยดิเรกมาร่วมงานด้วย และได้พูดคุยกับจิระวาตี เสี่ยดิเรกเอ็นดูจิระวาตีมาก ส่วนปัญธรกับทัศวรรณพาใบเตยมาด้วย ใบเตยมีความสุขมากขึ้นเมื่อได้ร่วมงานนี้ ใบเตยติดจิระวาตีมาก เพราะจิระวาตีเข้าใจใบเตยมากกว่าคนอื่น จนปัญธรแปลกใจที่ทั้งคู่เข้ากันได้ดี

ปัญธรนำซีดีอัลบั้มของตนที่เหลือเป็นลังๆ มาแจกที่สลัม อย่างน้อยเขาก็ดีใจที่เห็นชาวสลัมกลุ่มเพื่อนจิระวาตีมารุมยื้อแย่งกัน แต่ก็ทราบภายหลังว่า ชาวสลัมเอาแผ่นซีดีของเขาไปร้อยเชือกแขวนไล่แมลง บ้างก็ห้อยท้ายรถจักรยาน ปัญธรถอนใจ คิดว่าดีแล้วที่ตนล้มเลิกความฝันที่จะเป็นนักร้องซูเปอร์สตาร์

จากงานที่ผ่านมา ทำให้มีคนสนใจปลาร้าแปรรูปมากขึ้น มีการสั่งของมากจนโรงงานผลิตเกือบไม่ทัน นอกจากนี้ จิระวาตียังพยามยามทำให้คุณเหม่า มองเห็นคุณค่าความเป็นอีสานด้วย จนคุณเหม่าเริ่มเปลี่ยนใจ จิราภาดีใจที่จิระวาตีได้เงินเยอะ แต่จันทรากลับพูดจาทวงบุญคุณเหมือนเคย จิระวาตีโด่งดังมากขึ้น จนมีงานเข้ามากมาย ขณะที่นายไว ลูกน้องคมเดชสืบเรื่องจิระวาตี นายไว เอาเหล้ามาฝากจันทรา และหลอกถามจนได้ประวัติจิระวาตี ขณะนั้นไฟไหม้แถวสลัมพอดี ทุกคนจึงขนของหนี โชคดีที่ปัญธรตามมาด้วย เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อย จิระวาตีก็ขอบคุณปัญธรที่อยู่เป็นเพื่อน ศยามลได้ประวัติของจิระวาตีก็ดีใจมาก และรอคอยวันที่จะเปิดโปงจิระวาตี

ปัญธรเล่าเรื่องไฟไหม้ให้พ่อกับแม่ฟัง ครอบครับปัญธร เสี่ยดิเรก ต่างพากันช่วยเหลือชุมชนที่ถูกไฟไหม้ จิระวาตีอยากนำเงินที่ทำงานได้ไปช่วยซ่อมบ้านให้เพื่อนบ้าน จนจันทราด่าหาว่าไม่ดูแลคนในบ้าน ทำให้จิระวาตีกลุ้มใจมาก โยษิตาเห็นความจริงใจของจิระวาตี จึงแนะให้จิระวาตีใช้ตำแหน่งนางงามขอความช่วยเหลือจากที่ต่างๆ นอกจากนี้ โยษิตายังพาจิระวาตีไปเปิดบัญชีที่ธนาคารอีกด้วย แต่โยษิตาเริ่มไม่สบาย ทำให้จิระวาตีเป็นห่วง โยษิตาไม่อยากให้คนอื่นกังวลใจไปด้วย จึงไม่บอกความจริงเรื่องอาการป่วย

จิระวาตีทำตามที่โยษิตาแนะนำ แต่ติดที่พื้นที่เหล่านั้นมีเจ้าของที่ดิน ซึ่งอาจไม่ยอมให้ชาวบ้านอยู่ต่อ จิระวารีจึงไปขอความช่วยเหลือจากรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมที่เคยรู้จัก ซึ่งรัฐมนตรีรับปากจะช่วยเต็มที่ ในที่สุด ทุกคนก็สามารถสร้างบ้านอยู่ที่เดิมได้ จิระวาตีมีชื่อเสียงมากขึ้น แต่เธอกลับไม่ชอบเลย

วันหนึ่งปัญธรพาจิระวาตีไปอัดรายการ จิระวาตีระบายความอัดอั้นเรื่องเบื่อตำแหน่งขึ้นมาปัญธรจึงปลอบให้ใจเย็น เมื่อทั้งคู่ไปถึงสตูดิโอ ศยามลก็มาดักไว้ จิระวาตีหมั่นไส้จึงทำหวานใส่ปัญธร จนศยามลทนไม่ได้ ปัญธรต้องแยกศยามลออกมา ศยามลออดอ้อนจนปัญธรใจอ่อนยอมอยู่ด้วย

จิระวาตีตัดสินใจรับงานมอบโล่เกียรติบัตรของรัฐมนตรีวัฒนธรรมเป็นงานสุดท้าย เพราะเธออยากใช้ชีวิตที่สงบสุข โยษิตา ใบเตย ปรีติ และทัศวรรณ มาเที่ยวหาจิระวาตีที่บ้าน ทำให้จิระวาตีรู้ว่าปัญธรอ้างชื่อเธอแต่ไปอยู่กับศยามล จิระวาตีสงสารโยษิตาที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ขณะที่ปรีติไปถามปัญธรเองจนรู้ว่าชายหนุ่มไปอยู่กับศยามล ปรีติเตือนปัญธร ปัญธรรับปากจะหาทางจัดการ เพราะปัญธรก็เริ่มเบื่อศยามลแล้ว ปรีติได้คุยกับโยษิตาก็รู้สึกดีกับโยษิตามากขึ้น

ในงานมอบโล่เกียรติบัตร ผู้คนไปร่วมงานมากมาย รวมถึงศยามลด้วย ปัญธรคอยดูแลจิระวาตีอย่างใกล้ชิด สะอิ้งทิพย์ซื้อสร้อยคอเป็นของขวัญให้จิระวาตี เมื่อถึงเวลา จิระวาตีขึ้นไปรับโล่และกล่าวขอบคุณ ขณะนั้น มีคนแอบแจกใบปลิวบอกประวัติของจิระวาตีที่เป็นลูกโสเภณี และมีอาชีพรับจ้างกรี๊ด จิระวาตีอึ้ง เสี่ยดิเรกจึกออกหน้าแทน และบอกความจริงที่ตนเป็นพ่อของจิระวาตี เรื่องกลับตาลปัตร จิระวาตีดังกล่าวเดิม ศยามลเจ็บใจมาก จึงให้คมเดชจัดการขั้นเด็ดขาดกับจิระวาตี

จิระวาตีดีใจที่เจอพ่อ แต่เธออยากเจอแม่ เสี่ยดิเรกสัญญาว่าจะตามหาแม่ของจิระวาตีให้เจอ เสี่ยดิเรกปรึกษาสะอิ้งทิพย์ ทั้งคู่ขอร้อง ผกามาศ เพื่อนนางงามของดวงใจมาหลอกเป็นแม่ของจิระวาตี จิระวาตีดีใจมากที่เจอผกามาศ เธอขอให้เสี่ยดิเรกไปกับจิระวาตีสองคน เขาเล่าเรื่องที่ทอดทิ้งแม่ของจิระวาตีไปเพราะไม่อยากมีพันธะ และตอนนั้นเสี่ยดิเรกมีเมียแล้ว จึงไม่พาผู้หญิงอื่นเข้าบ้าน จิระวาตีขอร้องเสี่ยดิเรกไม่ให้บอกจันทรา เสี่ยดิเรกตกลง เพื่อนของจิระวาตีต่างดีใจที่จิระวาตีโชคดี ทั้งหมดออกไปทำงานต่างจังหวัดบ่อยขึ้น ทัศวรรณหนักใจเรื่องปัญธร ชัยวัฒน์จึงปลอบใจและปรึกษาเรื่องขอใบเตยมาเลี้ยง ทัศวรรณเห็นด้วย

จิระวาตีไปร่วมกิจกรรมในฐานะนางงามอีกครั้งกับปัญธร คุณเหม่าเข้ามาทักทายด้วยภาษาอีสาน จิระวาตีดีใจมากที่คุณเหม่าเปลี่ยนความคิดได้ คุณเหม่าขอให้จิระวาตีไปเป็นพรีเซ็นเตอร์อีก จิระวาตีตกลง ศยามลโทรหาปัญธร แต่ปัญธรปฏิเสธที่จะไปหาศยามล ทำให้ศยามลโกรธมาก

จิระวาตีไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้คุณเหม่า โดยมีปัญธรไปด้วย แต่เขาทำห่างเหินกับจิระวาตีจนเธอทนแทบไม่ได้ ศยามลมาเห็นสองคนอยู่ด้วยกันก็หาเรื่องทันที ปัญธรเบื่อทั้งคู่จึงไปขึ้นรถ จิระวาตีกับศยามลตามขึ้นรถไปด้วย ปัญธรขับรถเร็วมาก จนไปชนผู้หญิงคนหนึ่ง โชคดีที่ผู้หญิงคนนั้นไม่เป็นอะไร แต่ต้องนอนโรงพยาบาลสักพัก ปัญธรกับจิระวาตีได้รู้ว่า หญิงคนนั้นเป็นคนบ้าเอาแต่ร้องหาลูกที่เป็นตุ๊กตาเก่าๆ ตัวหนึ่ง จิระวาตีมองอย่างเศร้าใจ ส่วนปัญธรไปปรึกษาโยษิตา สะอิ้งทิพย์จึงรู้เรื่องด้วย ปัญธรพาโยษิตากับสะอิ้งทิพย์ไปดูคนป่วย สะอิ้งทิพย์เห็นก็จำได้ทันทีว่า คือ ดวงใจ แม่ของจิระวาตี สะอิ้งทิพย์รีบบอกเสี่ยดิเรก เสี่ยดิเรกทั้งดีใจและเศร้าใจที่ตนเป็นสาเหตุให้ดวงใจมีสภาพเป็นคนบ้าอย่างนี้

จันทรารู้เรื่องที่จิระวาตีเจอพ่อแล้ว จึงทำมึนตึงใส่ และไล่จิระวาตีออกจากบ้าน ส่วนบูมเอาแต่ตัดพ้อจิระวาตี จิระวาตีเสียใจจึงไปอยู่กับเพื่อน เพื่อนของจิระวาตีต่างปลอบใจ และชวนจิระวาตีไปทำงานกรี๊ดอีกครั้ง จิระวาตีตกลง แต่ยังขอให้เพื่อนไปดูแลจันทรากับจิราภา เพราะจิระวาตียังไม่อยากกลับบ้าน

ศยามลแค้นปัญธรจึงส่งภาพความสุขของตัวเองกับปัญธรให้โยษิตา และโทรไปตอกย้ำกับโยษิตา จนโยษิตาเข้าโรงพยาบาล ปัญธรมาเยี่ยมโยษิตาจึงรู้เรื่องศยามลทุกอย่าง ปรีติกับทัศวรรณมาเยี่ยมโยษิตา ปัญธรเล่าให้ปรีติฟัง ปรีติเตือนปัญธรอีกครั้ง ปรีติกลับไปปลอบใจโยษิตา ทำให้โยษิตาเริ่มดีขึ้น

จิระวาตีมาเยี่ยมดวงใจที่โรงพยาบาลจึงได้เจอกับสะอิ้งทิพย์และเสี่ยดิเรก เสี่ยดิเรกจะรับดวงใจไปดูแลที่บ้านสวนของตน จิระวาตีจึงดีใจมาก ในที่สุด ผลดีเอ็นเอก็ออกมา เสี่ยดิเรกกับจิราวะตีเป็นพ่อลูกกันจริงๆ ทั้งคู่ต่างดีใจ จิระวาตีขอไปเฝ้าไข้ดวงใจต่อ และอยากไปพักกับดวงใจที่บ้านสวน เพื่อลืมเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นสักพัก

ปัญธรไปคุยกับศยามล แต่ศยามลใช้มารยาหญิงจนปัญธรใจอ่อนอีกครั้ง ปรีติดูแลโยษิตาแทนปัญธร ทั้งคู่เริ่มมีใจให้กัน ปรีติอยากชวนโยษิตาไปพักผ่อนแต่ไม่กล้า จึงขอให้จิราวะตีช่วย พอดีจิราวะตีกับพวกจะไปกรี๊ดในคอนเสิร์ตที่หัวหิน จิราวะตีจึงไปชวนโยษิตา โยษิตาตอบตกลง ปรีติจึงชวนใบเตยไปด้วย ใบเตยดีใจมาก

ปัญธรจำใจไปหัวหินกับศยามล ศยามลเบื่อปัญธรที่เอาแต่เงียบขรึม จิราวะตีชวนใบเตยไปกรี๊ดด้วย ซึ่งปรีติไม่ขัดข้อง แต่เมื่อปัญธรมาเห็นก็ไม่ชอบใจ จึงเข้าไปต่อว่าจิระวาตี ศยามลเข้าไปหาเรื่องด้วย ใบเตยเห็นศยามลก็อาละวาดทันที เพราะศยามลคือเมียน้อยสิทธา ปัญธรพาศยามลกลับทันที ขณะที่โยษิตาเจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง ปัญธรพยายามถามศยามลเรื่องใบเตย แต่ไม่ได้คำตอบ ศยามลเจ็บใจใบเตย จึงให้คมเดชหาทางจัดการใบเตยอีกคน

สิทธากับมยุรีจะเลิกกัน แต่ยังทะเลาะกัน เพราะต่างก็จะแย่งใบเตยไปเลี้ยง ใบเตยทนฟังไม่ได้จึงวิ่งหนีออกจากบ้านไปหาจิราวะตีทันที จิราวะตีจึงให้ใบเตยอยู่ด้วย และโทรไปบอกปรีติ ปรีติให้สิทธากับมยุรีอยู่เฉยๆ ก่อน จิราวะตีปลอบใจใบเตย และถามเรื่องศยามลจึงรู้ว่า ศยามลเคยเป็นเมียน้อยสิทธา

เสี่ยดิเรกโทรบอกอาการของดวงใจดีขึ้น จิราวะตีจึงรีบไปเยี่ยมทันที โดยบอกให้ปรีติมาอยู่เป็นเพื่อนใบเตยที่บ้าน แต่เมื่อจิระวาตีกลับมาก็รู้จากปรีติว่า ใบเตยกับบูมหายไป ทั้งสองตกใจมากและไม่รู้จะไปตามหาที่ไหน

ศยามลสะใจที่คมเดช กับนายไวจับใบเตยมาได้ และจะเข้ามาตบใบเตยเพราะเคยถูกใบเตยทำร้ายที่หัวหิน แต่คมเดชห้ามไว้ คมเดชโทรบอกสิทธากับมยุรีเรื่องเงินสิบล้านแลกกับใบเตย จิระวาตีรู้เรื่องใบเตยกับบูมถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ เธอจึงคิดถึงศยามลก่อน แล้วรีบโทรหาปัญธรทันที เพื่อคุยเรื่องศยามล ปัญธรไม่อยากเชื่อว่าศยามลเป็นเมียน้อยสิทธา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ ปัญธรมาคุยกับสิทธาจึงรู้ว่าเรื่องที่จิระวาตีพูดเป็นเรื่องจริง ทั้งสิทธากับปัญธรต่างเสียใจที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด

ปัญธรกับสิทธาตัดสินใจถือเงินสิบล้านไป โดยปรีติประสานงานกับตำรวจในพื้นที่เพื่อติดตาม ทางด้านบูมกับใบเตยอึดอัดและอยากหนี แต่ก็ไม่สามารถหนีได้ จิราวะตีเป็นห่วงทั้งใบเตยและบูม ปัญธรจึงตัดสินใจปลอมตัวเป็นสาวกลางคืนนัดปรีติมาถามเรื่องการจับตัว เพราะกลัวว่าจะมีใครตามมา เมื่อรู้ว่าปัญธรเสี่ยงชีวิตเอาเงินไปก็ขอให้ปรีติพาไปช่วย ปรีติจำใจต้องพาจิระวาตีไป

ที่จุดนัดพบ ปัญธรถือเงินครึ่งหนึ่งมาก่อน เพื่อดูว่าใบเตยปลอดภัย จากนั้นสิทธาก็เอาเงินอีกครึ่งตามมาพร้อมกับตำรวจ ปรีติและจิระวาตีก็ตามมา เมื่อได้เงินคมเดช และนายไวไม่ยอมแบ่งให้ศยามล ตำรวจบุกเข้าจับตัวคนร้าย ศยามลกับคมเดชยังทะเลาะกัน คมเดชฆ่าศยามลตายและกำลังหนี จิราวะตีเห็นจึงเรียกตำรวจและขวางเอาไว้ จนเกือบเพลี่ยงพล้ำคมเดช แต่ปัญธรก็มาช่วยไว้ทัน ขณะที่ปัญธรได้รับบาดเจ็บและขอร้องให้จิระวาตีดูแลขณะส่งโรงพยาบาล จิระวาตีตกลง

หลังจากนั้น ปัญธรเริ่มหายดี แต่จิระวาตีไม่มาเยี่ยมเพราะไปหลบอยู่บ้านสวน ทำให้ปัญธรเศร้าใจ ปรีติมาเยี่ยมปัญธร และพูดเรื่องโยษิตากับปัญธร แต่ปัญธรบอกให้ปรีติดูแลโยษิตา เพราะรู้ว่าปรีติชอบโยษิตา

ผกามาศกับเสี่ยดิเรกคุยกันเรื่องดวงใจกับจิระวาตี เพราะผกามาศต้องไปต่างประเทศ ทำให้จิระวาตีที่แอบฟังอยู่รู้เรื่องทั้งหมด จิระวาตีเข้าไปกอดดวงใจและเรียกแม่ เสี่ยดิเรกขอโทษจิระวาตีที่หลอก แต่จิระวาตีไม่โกรธและขอให้เสี่ยดิเรกอย่าโกหกอีก เสี่ยดิเรกกับจิระวาตีจึงช่วยกันดูแลดวงใจอย่างดี

ปรีติชวนโยษิตาไปกินข้าวและขอความรักจากโยษิตา โยษิตาตกลง ขณะที่ปัญธรตั้งใจทำงานมากขึ้น จนทัศวรรณผู้เป็นแม่วางใจ จึงพูดเรื่องแต่งงานของโยษิตากับปัญธร ปัญธรตกลง แต่เมื่อไปคุยกับโยษิตา โยษิตาเตือนสติให้ปัญธรรู้ใจตัวเอง โยษิตาหมั้นกับปรีติท่ามกลางความดีใจของทุกคน สิทธากับมยุรีรับใบเตยไปดูแลและยอมอยู่ด้วยกันต่อไป ทำให้ใบเตยไม่ทุกข์ใจอีก

ชัยวัฒน์ปลื้มผลงานของปรีติที่คิดผลิตภัณฑ์ ยาดมทูทู ที่มีสองหลอดดม และยังดมได้สองข้างพร้อมกัน เพื่อคุณและคนที่คุณเรียกว่า...ที่รัก กลายเป็นสินค้าที่ขายดีจนขาดตลาด เพราะปล่อยออกมาวางขายช่วงวาเลนไทน์พอดี

ปัญธรสุดจะเซอร์ไพรส์ที่ได้ยินเพลงของตนเอง เป็นอันดับหนึ่งในการเคาท์ดาวน์อันดับทางรายการวิทยุ และเมื่อเดินผ่านร้านซีดี ต่างก็เปิดเพลงของเขา ปัญธรนึกว่าตนฝันไป จนได้ยินดีเจของรายการวิทยุอีกคลื่นบอกว่า ตนไปเจอแผ่นซีดีจากตอนไฟไหม้สลัม ถามคนแถวนั้นดู เค้าก็บอกว่าคนแถวนี้มีอัลบั้มนี้กันทุกคน ตนจึงคิดว่ามันต้องมีดีแน่ๆ เพราะเคยฟังเพลงโปรโมตแต่ไม่ชอบ เลยเอามาเปิดฟังให้เล่นๆ อีกที ไม่ได้คิดอะไร แต่กลับไปเจอเพลงหนึ่งในอัลบั้มที่ตนชอบมาก และยังถูกใจคุณผู้ฟังจนรีเควสต์กันเข้ามามากมาย

พี่โต้เองทราบข่าวก็น้ำตาไหลที่ฝันเป็นจริงในที่สุด บอกปัญธรว่าจะจัดคอนเสิร์ตโปรโมตอัลบั้มอีกครั้ง เพราะคราวก่อนดันโปรโมตเพลงผิดเลยไม่ดัง กลายเป็นอีกเพลงในอัลบั้มที่ดังพลุแตก ปัญธรรับปากว่าได้ มีข้อแม้เพียงข้อเดียวคือ ต้องจ้างรวมดาวชาวกรี๊ดมาเกาะขอบเวทีกรี๊ดคอนเสิร์ตตน

จิระวาตีสิ้นสุดภารกิจการเป็นนางงาม “หนึ่งในสี่ภาค” ด้วยการมอบตำแหน่งให้กับนางงามคนต่อไป แล้วจิระวาตีตัดสินใจกลับไปอยู่กับจันทราและจิราภา โดยเสี่ยดิเรกรับซื้อที่ดินตรงสลัมนั้นทั้งหมด จิระวาตีจึงปลูกบ้านหลังใหม่ให้จันทราและจิราภา ปัญธรแวะมางอนง้อ พูดคุย จิระวาตีไม่ได้ให้คำตอบอะไร เพราะคิดว่านาทีนี้ ตนสนใจที่จะช่วยเหลือเพื่อนๆ ในสลัม มากกว่าจะคิดเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ส่วนตัว

ในคอนเสิร์ต ปัญธรได้เป็นนักร้องซูเปอร์สตาร์สมใจ ท่ามกลางเสียงกรี๊ด หลังร้องเพลงฮิตติดชาร์ตจบไป เขาเล่าให้คนดูฟังถึงเรื่องตนกับจิระวาตี และเล่าว่าตนรักจิระวาตีแค่ไหน ก่อนจะดึงนางกรี๊ดมาขอคืนดีบนเวที ทั้งสองจึงร่วมกันสร้างความสัมพันธ์ครั้งใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง

แม่หญิง 2552

แม่หญิง (2552/2009) หม่อมเจ้าหญิงอุณาโลม รังษี หรือ ท่านหญิงใหญ่ ทรงทำให้เสด็จในกรมผู้เป็นบิดาทรงกริ้ว เพราะลอบหนีออกจากวังรังษี เพื่อยุติการแต่งงานที่เสด็จพ่อ และหม่อมวาปี ชายาเอกของบิดา ได้ให้เธอหมั้นหมายกับหม่อมเทวัญวิชัย แม้กระทั่งคุณนมจีบเองก็ไม่ทราบในการหายตัวของเธอ เธอไม่สามารถแต่งงานกับใครได้นอกจาก เอื้อ อิศรา นักร้องนักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียง คนที่เธอรักสุดหัวใจ อุณาโลม และ เอื้อ ตัดสินใจที่จะแต่งงานกัน แต่ต้องยอมยุติความรักครั้งนี้ เมื่อเธอได้รู้จากหม่อมเจ้าอุณหิศ น้องชายต่างมารดา ได้ยินเสด็จพ่อจะสั่งฆ่าเอื้อ ถ้าทั้งสองยังคงคบหากัน อุณาโลม จึงหนีไปอยู่บ้านป้าแก้ว ญาติของนมจีบ และเปลี่ยนชื่อเป็น อร อิศรา สาวชาวสวนรับจ้างจัดดอกไม้ โดยมี เพลิน จิ๋ว และโด่ง แฟนเพลินเป็นเพื่อนอยู่ที่บ้านสวน การหายตัวของอุณาโลม ทำให้เอื้อโดนทำร้าย อาการสาหัส รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล สุดท้ายเอื้อก็เสียชีวิต เงื่อนงำการตายทำให้ พราหมณ์ เทพราช สนใจ และต้องการไขปริศนาการตายของเพื่อนรัก และคนที่ ปารวตี พี่สาวของพราหมณ์ที่เชื่อว่าเอื้อรักเธอ พราหมณ์ได้ทราบจาก มาลา มนต์ทิพย์ ว่าก่อนเอื้อโดนทำร้าย มีผู้หญิงได้ฝากจดหมายไว้ให้เอื้อ พราหมณ์จึงคิดว่าหญิงสาวคนนี้น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเอื้อ หลังจากนั้น จักร ธรงค์เวทย์ ได้ลอบเข้าวังรังษี เพื่อทวงเงินกับหม่อมวาปี เรื่องที่เขากำจัดเอื้อให้เรียบร้อย หม่อมวาปีปฏิเสธว่าตนแค่เปรยๆ ไม่ได้ว่าจ้างจักร เลยขู่ว่าถ้าหม่อมวาปีไม่ให้เงิน จะแฉว่าหม่อมวาปี คือ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด ตั้งแต่แผนกำจัดหม่อมมาลาพรรณ อดีตชายาเอกของเสด็จ ให้ออกจากวังรังษี ด้วยข้อหาคบชู้กับจักร หม่อมวาปี จึงยอมมอบเครื่องเพชรที่อุณาโลมไม่ได้เอาติดตัวไปด้วยมอบให้แทนเงิน ที่บ้านสวน พราหมณ์ เจอ อร อิศรา ในวันที่เขาติดต่อให้เธอจัดช่อดอกไม้ให้ปารวตีพี่สาวตน ทั้งคู่เป็นคู่กัดตั้งแต่แรกพบ แต่มีจิ๋วเป็นผู้ไกล่เกลี่ยให้ พราหมณ์ สงสัยในตัว อร อิศรามาก ทั้งกริยาคำพูดที่ดูดีเกินสาวชาวสวน และยังใช้นามสกุล อิศรา เหมือนเอื้ออีก เขาได้เฝ้าคอยมอง และจับผิดอร ว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการตายของเอื้อ ที่โรงพิมพ์ พนัส เป็นคนดูแลสำนักพิมพ์แทนพราหมณ์ตลอด เขาอยากให้พราหมณ์มาทำงานจริงจังสักที แต่พราหมณ์ก็ปฏิเสธ พราหมณ์ได้เจอจักรที่สำนักพิมพ์ เพราะพนัสรับจักรเข้าทำงานเป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการบันเทิง ทั้งสองไม่ค่อยชอบหน้ากัน งานศพเอื้อ นักร้องยอดนิยม มาลา มากับ พราหมณ์ ทั้งสองใกล้ชิดกัน จนทำให้จักรพยายามหาโอกาสเข้าไปคุยกับมาลา แต่มาลาบ่ายเบี่ยง เพราะเธอรู้ดีว่าเธอเคยตัดสินใจพลาดมาครั้งหนึ่ง จนทำให้เธอทิ้งลูกสาวที่เธอรักไปใช้ชีวิตกับจักร แต่สุดท้ายเธอเองก็เป็นเครื่องมือของจักรกับหม่อมวาปีเท่านั้น พราหมณ์รับรู้เรื่องเธอจึงเห็นใจมาลาเป็นอย่างมาก ปารวตีชื่นชมฝีมือของอร จึงขอร้องให้พราหมณ์ไปตามอรมาสอน พราหมณ์ยินดีที่จะบอกให้ เขาเริ่มรู้สึกชอบอรโดยไม่รู้ตัว วันหนึ่งเขามีโอกาสไปงานวัดกับอร และจิ๋ว พราหมณ์บอกอรว่า เขาเป็นเพื่อนสนิทกับเอื้อ เขารู้จักเอื้อดี เอื้อไม่มีญาติที่ไหน นอกจากแม่ที่ต่างจังหวัด อรเลยยอมรับว่าเธอไม่ใช่น้องสาว แต่เธอไม่ได้มีเจตนาจะโกหกใคร เธอมีเหตุผลของเธอ วันหนึ่งมาลาได้เจออร เธอคุ้นหน้าหญิงสาวคนนี้มาก แต่อุณาโลมจำได้ดีว่า มาลาคือคนที่รับปากว่าจะส่งจดหมายบอกเลิกให้เอื้อ หม่อมเจ้าหญิงภาณุกา รังษี หรือ ท่านหญิงเล็ก ลูกสาวของหม่อมวาปีกลับจากเมืองนอก มาเป็นอาจารย์สอนมหาวิทยาลัยที่เดียวกับปารวตี พอทราบข่าวว่าท่านหญิงใหญ่หนีตามผู้ชายไปก็ตกใจ และไม่เชื่อที่หม่อมวาปีบอก ภาณุกาได้เจอกับพราหมณ์ก็ชื่นชม โดยหม่อมวาปีได้คอยสนับสนุน ภาณุกาไปเที่ยวบ้านพราหมณ์ และได้เจอกับหม่อมเจ้าหญิงอุณาโลมก็จำได้ทันทีว่าคือพี่สาวของตน แต่ไม่ได้บอกความจริงกับพราหมณ์ จักรตามตื้อมาลาไม่เลิก จน เรวัต เพื่อนสนิทของพราหมณ์ที่รู้เรื่องนี้มาตลอด บอกกับมาลาให้มาแต่งงานกับตน จักรจะได้เลิกตื้อสักที แต่มาลาพูดเรื่องอายุที่ค่อนข้างห่าง เรวัตจึงเงียบไป พราหมณ์ให้พนัสสืบเรื่องราวของจักรจากลูกน้องที่ทำงานให้จักร ว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเอื้อ พราหมณ์ตามตื้ออรเพื่อหาความจริงจากเธอ แต่เธอก็ไม่มีอะไรจะตอบเขา ทั้งสองใกล้ชิดกันมากขึ้นจนพราหมณ์เริ่มจะตกหลุมรักเธอเข้าแล้ว มาลาได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำ เธอได้รับข่าวร้ายที่จักรบอกเธอว่าได้จับลูกสาวเธอไป จักรต้องการให้เธอประกาศกับหนังสือพิมพ์ว่าเธอจะแต่งงานกับเขา แล้วจะปล่อยอุณาโลมไป พราหมณ์ตาม มาลาไปช่วยอุณาโลม หม่อมวาปีตามมาดูความสำเร็จที่กำจัดอุณาโลมได้ แต่กลับต้องเจอกับภาณุกา ลูกสาวของตนที่อยู่ด้วยกันกับอุณาโลม ภาณุกาบอกแม่ว่า จริงๆ แล้วที่จักรทำไปเพราะต้องการให้มาลาแต่งงานด้วย ไม่ได้ทำเพื่อวาปี จักรจึงยอมรับว่ารักมาลา วาปีโกรธเข้าไปแย่งปืน ปืนลั่น จักรยิงไปโดนหม่อมวาปี จนถึงเสียชีวิต จักรโดนตำรวจจับ พราหมณ์ช่วยชีวิตอุณาโลมไว้ พร้อมกับบอกรักอร อิศรา สาวชาวสวน เสด็จในกรมรับรู้เรื่องราวให้หม่อม เจ้าหญิงอุณาโลมกลับเข้าวัง หม่อมเจ้าหญิงภาณุกา กับหม่อมเจ้าอุณหิศต่างดีใจ หม่อมมาลาพรรณ ตัดสินใจไม่กลับเข้าวัง เธอมีความสุขกับการเป็นนักร้องที่ได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำ พราหมณ์หันกลับไปทำงานสำนักพิมพ์ของตัวเอง ทั้งเขาและอุณาโลมไม่ได้บอกกับปารวตีว่าคนที่เอื้อรักที่สุดไม่ใช่เธอ คนที่พราหมณ์รัก และเป็นแม่หญิงของเขาคือ หม่อมเจ้าหญิงอุณาโลม รังษี แม่หญิงคนเดียวในหัวใจของเขา

ศิลามณี 2551

เรื่องย่อ : ศิลามณี (2551/2008) เจ้าแสนฝาง เจ้าผู้ปกครองเชียงรัฐ ซึ่งเป็นนครรัฐอิสระที่อยู่ทางเหนือของประเทศไทยได้ หมั่นหมาย เจ้าหญิงแสนฝาง ธิดาเพียงคนเดียวของตนกับ ภรต ราชเสนา บุตรชายคนโตของตระกูลราชเสนา ซึ่งเป็นตระกูลนักการทูต โดยมี “ศิลามณี” ซึ่งเป็นอัญมณีล้ำค่าที่เป็นของคู่บ้านคู่เมืองของเชียงรัฐ เป็นของหมั้น โดยที่เจ้าแสนฝางได้มอบศิลามณีให้แก่ตระกูลราชเสนาไปเพื่อใช้ในการหมั้นหมาย ของบุตรทั้งคู่เมื่อเติบโตขึ้น เจ้าแสนฝางมีชายาซึ่งเป็นหญิงชาวไทยชื่อ อธิติ แต่เธออายุน้อยกว่าเจ้าแสนฝางถึงสองรอบ ความแตกต่างกันจึงทำให้เธอเมื่อคลอดเจ้าหญิงแสนฝางแล้ว เธอจึงหนีไปใช้ชีวิตใหม่ที่กรุงเทพพร้อมกับแต่งงานครั้งใหม่กับ นายทหารใหญ่ในกองทัพบกไทยชื่อ พลเอกจอมณรงค์ ซึ่ง พล.อ.จอมณรงค์ เองก็มีลูกสาวคนหนึ่งติดมาจากภรรยาเก่าที่เสียชีวิตไปแล้ว ชื่อ ศศิ หลายปีผ่านไป เจ้าแสนฝางเจ็บหนักใกล้ถึงชีวิต จึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้แก่ เจ้าหญิงแสนฝาง ธิดาเพียงคนเดียวที่ต่อไปจะเป็นผู้ปกครองเชียงรัฐฟัง เจ้าหญิงแสนฝางรู้สึกเจ็บแค้นตระกูลราชเสนานัก และหมายมั่นที่จะนำศิลามณีกลับสู่เชียงรัฐให้ได้ จึงเดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อเรียนหนังสือต่อ โดยปลอมตัวใช้ชื่อว่า งามแสนหลวง หรือ งาม เธอสืบทราบจนมาพบกับ ภรต ราชเสนา นักการทูตหนุ่ม บุตรชายคนโตของตระกูลราชเสนา ซึ่งเป็นคู่หมั้นเธอโดยที่ภรตและคนอื่น ๆ เองก็ไม่รู้ตัว ปรากฏว่า ภรตแสดงอาการหยิ่งผยองต่อเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณหญิงเสมอใจ ซึ่งเป็นแม่ของภรต ซึ่งเป็นผู้ครอบครองศิลามณีอยู่ขณะนี้ รังเกียจทางเชียงรัฐยิ่งนัก แต่ทางตระกูลราชเสนายังมีบุตรชายคนเล็กซึ่งเป็นศิลปิน ชื่อ ชาลี ชาลีรู้สึกชอบพอกับงามแสนหลวง ทั้งคู่จึงสนิทสนมกันเป็นอย่างยิ่ง โดยที่ทางงามแสนหลวงหวังใช้ชาลีเป็นเครื่องมือนำไปสู่ศิลามณีเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่คนที่มีใจให้กับชาลีอย่างแท้จริง คือ ศศิ บุตรสาวเพียงคนเดียวของพล.อ.จอมณรงค์ ทางคุณหญิงอธิติ เมื่อทราบถึงการมาของงามแสนหลวง ก็สำนึกได้และรู้สึกผิดที่ได้กระทำไปในอดีต คุณหญิงอธิติพยายามขอคืนดีและแสดงความเป็นแม่แก่งามแสนหลวง แต่งามแสนหลวงก็ปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยทุกครั้งที่ได้พบกัน เมื่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ผ่านไป คุณหญิงเสมอใจรู้สึกไม่พอใจที่ชาลีที่คบหากับงามแสนหลวง จึงวางแผนให้ภรตสนิทสนมกับงามแสนหลวงแทน เพื่อให้ชาลีเลิกรา แต่ปรากฏว่าภรตกลับชอบงามแสนหลวงเข้าจริง ๆ โดยที่ไม่รู้มาเลยว่าแท้ที่จริงแล้วงามแสนหลวงคือ เจ้าหญิงแสนฝาง แห่งเชียงรัฐ ที่เป็นคู่หมั้นของตนมาตั้งแต่เด็ก

เรไร ลูกสาวป่า 2551

เรื่องย่อ : เรไร ลูกสาวป่า (2551/2008) เรื่องราวเกิดขึ้น ณ บ้านภูหมอก ผืนป่าอุทยานที่ปกคลุมไปด้วยไอหมอก และที่อยู่ของสัตว์น้อยใหญ่นานาชนิด ซึ่งกำลังถูกบุกรุกจากพวกนายทุน วันขึ้นปีใหม่ของทุกปีชาวบ้านป่าภูหมอกจะร่วมกับ หลวงพ่อใหญ่ (นภดล ดวงพร) แห่งวัดภูหมอกทำบุญและบวชป่าสืบชะตาน้ำ เพื่อสืบต่อวัฒนธรรม และอนุรักษ์ต้นไม้ ที่ลานวัดภูหมอก วงข้าวเหนียว ขึ้นแสดงบนเวที มี ไพรวัลย์ (น้ำ รพีภัทร) เจ้าหน้าที่อุทยานและหัวหน้าวง กำลังร้องเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการร่วมอนุรักษ์ต้นไม้และสัตว์ป่า ในขณะเดียวกัน ที่กลางป่าลูกช้างตัวหนึ่งกำลังฟาดงวงฟาดงาลั่นป่า ขาของมันติดบ่วงที่นายพรานมาดักไว้ ใกล้ๆ กัน เรไร (อเล็กซานดร้า ธิดาวัลย์ บุญช่วย) ปลอบลูกช้างจนสงบลง แล้วเอามีดพกติดตัวของเธอมาตัดบ่วงเชือก โดยข้างๆ กันนั้น หรีดหริ่ง (รุ้งลาวัลย์ โทนะหงษา) มากระซิบที่ข้างหูให้เรไรรีบเร่งมือ เพราะไอ้พรานละม้าย (เวนย์ ฟอลโคเนอร์) กำลังจะปรากฏตัว เรไรและหรีดหริ่ง วิ่งหนีละม้ายจนมาเจอกับคาราวานขนของเถื่อน โดยมีลูกน้องของ สหภพ (สุเชาว์ พงษ์วิไล) เป็นคนคุมขบวนมา เรไรและหรีดหริ่งเหมือนหนีเสือปะจระเข้ ขณะไม่รู้จะหนีไปทางไหนดี พวกตำรวจและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่นำโดยไพรวัลย์ก็แสดงตนเข้าจับกุม อีกด้านหนึ่งที่จุดตรวจบนทางหลวง รถบรรทุกไม้ของบริษัทสันติสุขกิจการค้า กำลังเดินทางมุ่งไปยังท่าเรือจังหวัดใกล้เคียง ตำรวจเห็นว่าเป็นไม้ของ สันติสุข ก็ปล่อยผ่านไปได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ระแคะระคายเลยว่าภายในรถเหล่านั้นได้แอบลักลอบขนของเถื่อนจากป่าซึ่งเป็นล็อตที่ใหญ่กว่าที่โดนจับได้ และแผนการครั้งนี้ก็เป็นที่รู้กันแค่ 2 คนระหว่าง สหภพ และ วจี (กรองทอง รัชตะวรรณ) ภรรยาของสันติสุข (อรรถชัย อนันตเมฆ) ในวัยเยาว์ มีสถานที่แห่งหนึ่งที่ไพรวัลย์และเรไรรวมทั้งหรีดหริ่งได้แอบมาให้คำมั่นสัญญาต่อกัน เมื่อเขาทั้ง 3 มาอยู่ที่นี้ พวกเขาจะไม่มีวันโกหกต่อกัน ที่แห่งนี้จึงได้ขึ้นชื่อว่า หน้าผาไม่โกหก ที่นัดพบของทั้ง 3 คน จากความสัมพันธ์เล็กๆ ไพรวัลย์ค่อยๆ พัฒนาความรู้สึกของตนเองต่อเรไรจนกลายเป็นความรัก คนทั้งหมู่บ้านภูหมอกต่างก็รับรู้ และชื่นชมในความรักของชายหนุ่ม แต่ว่าตัวเรไรเองกลับกลับรักษาระยะห่างระหว่างเธอและเขาเอาไว้ด้วยมิตรภาพของความเป็นเพื่อนมากกว่าคำว่า "คู่รัก" จนเมื่อตะวันได้เข้ามาเป็นหัวหน้าอุทยานภูหมอกคนใหม่ เรื่องราวความรักสามเส้าระหว่าง ตะวัน, เรไร และ ไพรวัลย์ ก็ก่อตัวขึ้น โดยที่เรไรต้องตัดสินใจว่าจะเลือกใคร ? ขณะเดียวกันเหตุการณ์ใหญ่ก็เกิดขึ้น เมื่อมีไม้เถื่อนจากป่าล็อตใหญ่ กำลังรอจัดส่ง ขณะกำลังเตรียมขนของอยู่ในป่า เรไรกับตะวันบังเอิญไปเจอกับกองคาราวานของสหภพ ที่กำลังทำการฆ่าปิดปากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เข้ามาขัดขวางการลักลอบขนไม้เถื่อนในครั้งนี้ และวันนี้เองที่เรไรได้รู้ความจริงว่าใครคือคนที่ฆ่าแม่ของเธอ สหภพป้ายความผิดเรื่องเจ้าหน้าที่ป่าไม้ถูกฆ่าตายให้กับตะวันและเรไร พวกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ และไพรวัลย์ได้ออกตามหาตะวันและเรไร อีกด้านพวกหรีดหริ่ง, พรานหวิน (ถนอม สามโทน) และพรานหวัง (กิ๊ฟ โคกคูน) ก็ออกตามหาเรไรเช่นกัน ไพรวัลย์รู้เส้นทางในป่าเป็นอย่างดีจึงได้พบกับตะวันและเรไร ไพรวัลย์คอยเป็นคนมาบอกข่าวตะวันและเรไรให้หลบรอดจากเงื้อมมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บาดแผลถูกยิงของเรไรเริ่มติดเชื้อ เธอเพ้อและเริ่มช็อคเพราะเสียเลือดไปมาก ตะวันยอมทุกอย่างเพื่อให้เรไรกลับมามีสติอีกครั้ง แม้ว่าเรไรจะทำร้ายเขาขนาดไหน ตะวันก็ยอมทุกอย่าง เช้าวันใหม่เรไรตื่นขึ้นมาในอ้อกอดของตะวัน เธอเห็นตามร่างกายของตะวันมีแต่ร่องรอยการทำร้าย ความรู้สึกของเรไรที่เคยคิดไม่ดีกับตะวันบัดนี้ได้สูญสลายไปหมดแล้ว ตะวันตัดสินใจพาเรไรเข้าไปรักษาในเมือง โดยเขาได้วางแผนกับไพรวัลย์เพื่อถอดหน้ากากของสหภพ สหภพโดนหลอกให้พูดความชั่วร้ายต่างๆ ของตนออกมา โดยมีไพรวัลย์เป็นคนอัดเทปไว้ สหภพจับได้ก็จะเล่นงานเขา ไพรวัลย์พลาดท่า ในขณะที่สหภพกำลังเล็งปืนขึ้นจะยิงไพรวัลย์ ตะวันที่ตามมาช่วยพอดีได้เอาตัวเข้ามาบังไว้ เขาจึงถูกกระสุนยิงเข้าที่ลำตัว หรีดหริ่ง พรานหวัง และพรานหวิน พาตำรวจมาช่วยไว้ได้ทันเวลาโดยที่ตะวันได้ถูกนำไปส่งโรงพยาบาลโดยเร่งด่วน ชะตากรรมของตะวันจะเป็นอย่างไร สำหรับเรื่องความรักของเรไรนั้น เหลือเพียงคำตอบจากหัวใจของเธอเท่านั้นที่จะเลือก ตะวัน หรือ ไพรวัลย์ ? ติดตามชมเรไรลูกสาวป่าได้ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7

หน้าที่