สัญญาแค้นแสนรัก (2562/2019) วงแหวน สาวโอเปอร์เรเตอร์ที่กำลังจะแต่งงานกับ เชิดชัย แฟนหนุ่มที่คบหาดูใจกันได้ไม่กี่เดือน เชิดชัยได้แสดงความกล้าหาญช่วยชีวิตวงแหวนจากโจรที่มาดักจี้ วงแหวนประทับใจมากโดยไม่รู้เลยว่าเชิดชัยเป็นนักต้มตุ๋น และทั้งหมดเป็นแผนของเชิดชัยที่หลอกให้ผู้หญิงตายใจมานักต่อนัก เชิดชัยสารภาพรักและขอวงแหวนแต่งงาน วงแหวนรับปากด้วยความดีใจสุดขีด วงแหวนเองก็พ่อกับแม่บังคับให้แต่งงานกับ สนธยา ลูกชายคนเดียวของ กำนันสุข ผู้ทรงอิทธิพลแถวบ้าน เชิดชัยอ้างว่ากลัวพ่อแม่ของวงแหวนที่ดูถูกที่เขาจน จึงต้องการที่จะจัดงานแต่งงานยิ่งใหญ่และขอให้วงแหวนช่วยสร้างภาพ ด้วยการหาเงินมาสำรองจ่ายค่างานแต่งงานและสินสอดไปก่อน วงแหวนหลงกลยอมโทร.ทางไกลไปหลอก วงศ์ ผู้เป็นพ่อว่าต้องการยืมเงิน 2 แสนไปลงทุนทำธุรกิจขายตรงกับเพื่อน วงศ์ส่งเงินมาให้วงแหวนตั้งใจว่าจะคืนเงินสินสอดให้พ่อหลังจบงาน และเอาเงินจากซองช่วยงานแต่งงานมาเป็นค่าจ้างบริษัทจัดงานที่เชิดชัยติดต่อมา โดยที่วงแหวนไม่รู้เลยว่าเงินนั้นไม่ใช่เงินของวงศ์ แต่เป็นเงินค่าสินสอดที่วงศ์ได้มาจากสนธยา เจษฎา เจ้าของบริษัทสร้างรักจำกัด คือบริษัทที่เชิดชัยได้จ้างมาจัดงานให้ บังเอิญว่าฐานะทางการเงินของเจษฎากำลังแย่จึงโก่งค่าตัวและเชิดชัยก็ตกลงทุกอย่าง วงแหวนจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ แต่ครอบครัวของวงแหวนกลับมาร่วมงานด้วยความไม่พอใจ วงแหวนยืนยันว่าเชิดชัยเป็นคนดี แต่สุดท้ายในวันงานเชิดชัยกลับหนีไปจากงาน พร้อมกับเงินสินสอดและซองเงินช่วย วงแหวนเพิ่งรู้ว่าถูกหลอก โกรธสุดขีดตัดสินใจออกจากงานไปทั้งชุดเจ้าสาวเพื่อตามล่าเชิดชัย เจษฎาเป็นห่วงเกรงหนี้จะสูญจึงตามเจ้าสาวไปที่แฟลตเชิดชัย ขณะเดียวกัน รมช.เดช รมช.กระทรวงการท่องเที่ยว พร้อมวงศาคณาญาติกำลังรอคอยการมาของเจษฎาแฟนหนุ่มที่ พิชชา นางแบบสาวสวยลูกสาวคนเดียวของตระกูลต้องการจะแต่งงานด้วย เดชไม่ชอบเจษฎาแต่ขัดลูกสาวไม่ได้ จึงเปิดโอกาสให้พิชชาพาเจษฎามาเปิดตัวกับญาติมิตรเป็นครั้งแรกในงานรวมญาติครั้งนี้ วงแหวนขับรถตามไปถึงบ้านเช่าของเชิดชัยพยายามจะทวงเงินคืน แต่เชิดชัยไม่ให้วงแหวนคว้าปืนของพ่อออกมาขู่ เชิดชัยกระโดดระเบียงหนีแถมก่อนจะไปยังพูดจาให้วงแหวนเจ็บใจ ทำให้วงแหวนแค้นมากเลยยิงใส่เชิดชัยไปหนึ่งนัด แต่คนที่โชคร้ายกลายเป็นเจษฎาที่ตามไป เจษฎาได้รับบาดเจ็บหมดสติไป ด้วยความกลัวความผิดวงแหวนจึงไม่ยอมแสดงตัว ได้แต่แอบดูเจษฎาที่ถูกพลเมืองดีผ่านมานำส่งโรงพยาบาล ส่วนทางบ้านพิชชารอเก้อ เดชโกรธมากสั่งให้ลูกสาวตัดขาดจากเจษฎา เมื่อเจษฎาฟื้นขึ้นมาก็พบว่าชีวิตกำลังย่ำแย่ เขาต้องใส่เฝือกที่แขน ตำรวจจับคนที่ยิงเขาไม่ได้ พิชชาไม่ยอมรับโทรศัพท์ เมื่อไปที่บริษัท กัญญา เลขาฯ ก็รายงานว่าเจ้าหนี้ทุกรายกำลังรุมล้อมเข้ามา เขาโทษวงแหวนเป็นตัวซวยที่ทำให้ชีวิตเขาเป็นแบบนี้ เจษฎาจึงสั่งให้กัญญาและ มะลิ พนักงานในบริษัทไปทวงหนี้วงแหวน ซึ่งวงแหวนกำลังจะหนีแต่ถูกจับได้ซะก่อนเธอสารภาพว่าไม่มีเงิน เจษฎาจึงบังคับให้เธอใช้แรงงานเพื่อเป็นไถ่หนี้ทั้งหมด 500,000 บาท นอกจากนั้นวงแหวนเพิ่งได้รู้จากวงศ์ว่าเงินที่เธอยืมมานั้นความจริงเป็นเงินค่าสินสอดที่สนธยามาสู่ขอเธอเอาไว้ เท่ากับว่าตอนนี้เธอเป็นหนี้ผู้ชายถึง 2 คนคือเจษฎาและสนธยา วงแหวนหมดทางหนีเลยยอมไปทำงานที่บริษัทของเจษฎา 6,360 บาทต่อเดือน เจษฎาจิกใช้งานวงแหวนสารพัดเพื่อล้างแค้น วงแหวนก็รู้ว่าเจษฎาแกล้งตัวเองก็เอาคืนบ้าง บริษัทสร้างรักเลยกลายเป็นสนามรบ เจษฎาทำงานหนักเลยไม่มีเวลาไปง้อพิชชาที่ตั้งตารอให้แฟนไปง้อ ในที่สุดพิชชาก็หมดความอดทน เธอไปหาเจษฎาที่ทำงานและพบกับวงแหวน สัญชาตญาณของพิชชาบอกได้ทันทีว่าวงแหวนคือตัวอันตรายสำหรับความรักของเธอ พิชชาเข้ามาวุ่นวายในบริษัทเพื่อกันท่าวงแหวน ทำให้เจษฎากับวงแหวนทะเลาะกันมากยิ่งขึ้น แต่ยิ่งทะเลาะก็ยิ่งเหมือนทำให้ทั้งสองเข้าใจกันและกันมากขึ้น พิชชาเสนอจะใช้หนี้แทนวงแหวนแต่เจษฎาไม่ต้องการเงินของพิชชา วงแหวนจึงต้องทำงานที่นี่ต่อไป ดรุณี เพื่อนสาวใหญ่ของวงแหวนต้องการจะจัดงานแต่งงาน วงแหวนอยากหมดหนี้เร็ว ๆ เลยอาสาเป็นคนคิดคอนเซ็ปต์งานทั้งหมด และตกลงกับเจษฎาจะทำงานชิ้นนี้เพื่อปลดหนี้แล้วเป็นอิสระจากเจษฎา ซึ่งเจษฎาตกลงแต่รู้สึกเหงา ๆ เหมือนว่าต่อไปจะไม่ได้เจอวงแหวนอีก สุดท้ายเรื่องราวชุลมุนวุ่นวายของเจ้าหนี้และลูกหนี้จะลงเอยกันแบบไหน ติดตามชมได้ในละคร สัญญาแค้นแสนรัก

ดาวหลงฟ้า 2562

ดาวหลงฟ้า (2562/2019) อัญมณี หรือ น้ำหวาน ( ปณาลี วรุณวงศ์ ) เด็กหญิงที่เกิดมามีพร้อมทุกอย่างยกเว้นความสุข เพราะครอบครัวแตกแยก เธอจึงเติบโตขึ้นมาท่ามกลางความเกลียดชังต่อพ่อ และการให้ท้ายของป้าๆ ทำให้กลายเป็นคนเอาแต่ใจอย่างรุนแรง ยิ่งโตน้ำหวานยิ่งสวยโดดเด่น แต่ฤทธิ์เดชของเธอก็ยิ่งเพิ่มขึ้นทุกวัน มีเพียงยายของเธอเท่านั้นที่จัดการได้ โดยเฉพาะ ดอม (มาสุ จรรยางค์ดีกุล) หลานชายของคนสนิทยายที่โตมาด้วยกันที่เธอไม่สามารถกำราบเขาได้ วัชรินทร์ (อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร) พ่อของน้ำหวานพา พยอม เมียใหม่มาหาน้ำหวาน มาพูดกับยายเพื่อที่จะขอให้ลูกไปอยู่กับตนเองบ้างในช่วงปิดเทอม มาลาตี โกรธมากหาว่าเขาจะพรากลูกไปจากเธอ ทั้งสองมีปากเสียงกัน น้ำหวานพลั้งมือทำร้ายพยอม วัชรินทร์ปกป้องพะยอมทำให้น้ำหวานเสียใจมาก ป้าแม้น (รัดเกล้า อามระดิษ) ถือโอกาสช่วงเวลาที่หลานสาวเสียใจใส่ไฟว่าพะยอมใช้มารยายั่วยวนพ่อของเธอ น้ำหวานทดลองใช้วิชา “มารยาหญิง” กับดอม ชายหนุ่มแปลกใจที่หญิงสาวมาทำดีด้วย นอกจากนี้น้ำหวานยังหลอกใช้ พิชา (วัทธิกร เพิ่มทรัพย์หิรัญ) เพื่อนที่เติบโตมาด้วยกันโปรยเสน่ห์จนติดกับ พิชาขอน้ำหวานเป็นแฟนแต่เธอปฏิเสธ พิชาเสียใจจนเกือบฆ่าตัวตาย ดอมที่รู้เห็นทุกอย่างรู้สึกเสียใจกับอนาคตที่สดใสของพิชาต้องพังเพราะน้ำหวาน น้ำหวานโกรธที่ดอมรู้ทันจึงหาโอกาสใส่ร้ายว่าดอมคิดไม่ดีกับเธอ ย่าของดอมตัดสินใจส่งหลานชายไปอยู่กับแม่และเรียนต่อที่อเมริกา น้ำหวานขอโทษและขอร้องให้ดอมไม่ไป แต่ดอมยังยืนยันที่จะไป เมื่อดอมไปอเมริกา ชีวิตของน้ำหวานเหมือนดิ่งลงเหว และเมื่อเธอไม่มีความสุข ก็ไม่มีใครควรมีความสุขเช่นกัน น้ำหวานขึ้นมาเป็นดาราอันดับต้นๆ ของวงการ แต่นิสัยของเธอไม่ได้สวยเหมือนหน้าตา เพราะเธอใช้มารยากับทุกคนจนก้าวนำอดีตเบอร์หนึ่งอย่าง ลิลลี่ ได้สำเร็จ ดอมกลับมาพร้อมใบปริญญาให้ย่าหงส์ชื่นใจ และกำลังจะเข้าทำงานในบริษัทของพ่อ วิรินทร์ สาวที่กำลังศึกษาดูใจกัน เมื่อเรื่องรู้ถึงน้ำหวานเธอรู้สึกจุก เมื่อคนที่อยู่ใต้เธอมาตลอดกำลังจะมีชีวิตที่ดี น้ำหวานจึงใช้มารยาวางแผนการให้ดอมกลับมาอยู่ภายใต้เธออีกครั้ง! เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามความเข้มข้นของละคร “ดาวหลงฟ้า”

ข้ามสีทันดร 2561

ข้ามสีทันดร (2561/2018) ยุพรา เพื่อนสนิทของ เดือนสิบ เห็นเธอเป็นทุกข์เรื่อง ดวล น้องชาย อีกทั้งปัญหาชีวิตมากมายรู้สึกสงสารอยากช่วยผ่อนคลาย จึงชวนเดือนสิบไปเที่ยว แอฟริกา กับคณะทัวร์ ที่มี ชีวาตม์ เป็นหัวหน้าคณะ ระหว่างเดินทางทุกคนในทัวร์ต่างตื่นเต้นกับการส่องสัตว์ ป่า นานาชนิด และ มหาสมุทรแอฟริกา จะมีเพียงแต่ เที่ยงวัน ชายหนุ่มซึ่งมีอดีตเคยติดเฮโรอีนมาเป็นเวลานาน 10 ปี เพียงคนเดียวที่มีทีท่าไม่แยแสต่อสิ่งที่พบเห็น ทำให้ นางสวาท ผู้เป็นแม่เฝ้าคอยดูด้วยความห่วงใยมากเกินปกติ จนเป็นที่ผิดสังเกตของเดือนสิบและทุกคน โดยเฉพาะ นางรื่นเริง ที่มักคอยจ้องจับผิดสองแม่ลูก เพราะนางรู้อดีตของเที่ยงวัน

ในระหว่างการเดินทางชีวาตม์ทำตัวเป็นหัวหน้าคณะที่ดี คอยดูแลลูกทัวร์ทุกคน โดยเฉพาะนางสวาทและเที่ยงวันที่มักจะแยกตัวไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร เที่ยงวันรู้สึกอึดอัดกับสายตาแปลก ๆ ของบางคนในคณะทัวร์ แต่ก็พยายามทำใจยอมรับสภาพความเป็นจริง เขาเริ่มสังเกตและทำความคุ้นเคยกับเดือนสิบ และหันมาเอาใจใส่มารดาที่คอยเฝ้าตามตัวเขาด้วยความห่วงใย ครั้งแรกเที่ยงวันรู้สึกหวาดระแวงเดือนสิบ เพราะคิดว่าเดือนสิบเป็นเหมือนคนอื่น ๆ ที่อยากรู้เรื่องการติดยาของเขา แต่เมื่อเห็นความร่าเริงสดใสและความเป็นกันเองของเดือนสิบและยุพรา เที่ยงวันรู้สึกสบายใจและคลายความอึดอัดลง แต่ในบางครั้งเที่ยงวันก็สังเกตเห็นว่าเดือนสิบมีนัยน์ตาที่เลื่อนลอย เคว้งคว้างเหมือนมีเรื่องอยู่ในใจ ยุพราพยายามบอกให้เดือนสิบลืมปัญหาที่บ้านและความกังวลในเรื่องของลำธารคนรักไปก่อน
ธิดาแดนซ์ 2557

ธิดาแดนซ์ (2557/2014) แจ่มจันทร์ ขวัญใจ (ฝน ธนสุนทร) อดีตราชินีลูกทุ่ง ที่หันมาเอาดีด้วยการตั้งวงเดินสายเล่นคอนเสิร์ตเอง จับเด็กรุ่นใหม่มาปั้นให้เป็นศิลปินนักร้องที่โด่งดัง รวมถึงสร้างหางเครื่องประจำวงขึ้นเอง จากการดูแลฝึกซ้อมของเจ๊แมว(โจโจ้ ไมออกซี่) เพื่อนเก่าเพื่อนแก่ที่ช่ำชองในการออกแบบท่าเต้นที่เรียกว่า ฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง ปัจจุบันแจ่มจันทร์มีนักร้องน้องใหม่ชื่อ หยาดฟ้า ธิดาจันทร์ (ครีม-ธิชาชา บุญเรืองขาว) นักร้องเสียงเจ้าเสน่ห์ที่เธอหมายมั่นปั้นมือไว้ว่าจะต้องโด่งดังแน่นอน รวมถึง 3 สาวดาวเต้นอย่าง ฝน(ยีน-เกวลิน ศรีวรรณา),บัว(เม-นิศาชล ต้วมสูงเนิน) และเพชร(เฟื้อง- รักชน พุทธรังสี)ลูกสาวนอกไส้ของเธอพกกลับที่เก็บตกบ้านมาจากการเดินสายเล่นคอนเสิร์ตตามจังหวัดต่างๆ ทั้ง 3 คนอยู่กับแจ่มจันทร์มาตั้งแต่ยังเล็ก โดยที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าตนเองเป็นลูกใคร ถึงแม้ว่าเด็กทั้ง 3 จะไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของเธอแต่แจ่มจันทร์ก็ทำหน้าที่แม่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แจ่มจันทร์มุ่งมั่นและตั้งใจกับการปั้นหยาดฟ้ามาก จึงขอให้ป๋าเขียว(นงค์ เชิญยิ้ม)นักแต่งเพลงคู่บุญช่วยแต่งเพลงทั้งอัลบั้มให้จนเธอดังเป็นพลุแตก มีงานคอนเสิร์ตยาวข้ามปี แจ่มจันทร์จึงถือโอกาสนี้ขอให้ป๋าเขียวแต่งเพลงเปิดตัวให้กับ 3 สาวแต่ยังไม่ทันที่จะเริ่มแต่ง อยู่ๆ ป๋าเขียวก็ตายอย่างปริศนา ทำให้วงของแจ่มจันทร์เริ่มสั่นคลอน เทิดไท(พ้อยท์-ชลวิทย์ มีทองคำ)นายตำรวจหนุ่มได้รับมอบหมายให้ติดตามคดีนี้ เพื่อหาสาเหตุการตายของป๋าเขียวให้ได้ เทิดไทจึงขอเข้ามาทำงานในวงตำแหน่งเด็กยกของซึ่งแจ่มจันทร์ก็ได้รับเขาเข้ามาทำงานโดยไม่รู้เลยว่าคือตำรวจแฝงตัวมา เทิดไทได้รู้จักกับดิน(นนท์ ภูดิส)นักดนตรีประจำวง ไม่นานนักเทิดไทกับดินก็เริ่มสนิทกัน เทิดไทพอจะได้ข้อมูลของป๋าเขียวจากดินบ้าง แม้จะนิดหน่อยแต่เขาก็ถือว่ามีประโยชน์กับการสืบคดีแจ่มจันทร์มองหานักแต่งเพลงคนใหม่ และเธอก็ได้วิทย์(อะตอม สัมพันธภาพ)นักแต่งเพลงอารมณ์ศิลปินมาช่วย แต่งเพลงให้ แจ่มจันทร์หมายมั่นปั้นมือว่าเมื่อถึงเวลาก็จะปั้นให้ 3 สาว ได้ขึ้นมาเป็นนักร้องเต็มตัวอย่างหยาดฟ้า วันหนึ่งเฮียยุทธ (ธนายง ว่องตระกูล)แอบนัดหยาดฟ้าคุย และได้ทาบทามซื้อตัวหยาดฟ้าให้ไปอยู่ค่ายเพลงของตน ด้วยเงินจำนวนมาก หยาดฟ้าตอบตกลงทันที ความดีหรือบุญคุณที่แจ่มจันทร์เคยปลุกปั้นเธอมา ไม่สามารถรั้งการตัดสินใจเธอได้เลย หยาดฟ้าเดินเข้าไปขอลาออกจากวง เพลิน(อ้อมใจ-ดวงรัตน์ คะชะสะ)รีบลาออกตาม และอ้อนวอนขอไปอยู่กับหยาดฟ้าด้วย แจ่มจันทร์แทบล้มทั้งยืนเมื่อเห็นหยาดฟ้าและเพลินออกไปอย่างไม่มีเยื่อใย หลังจากเหตุการณ์วันนั้น แจ่มจันทร์ ได้ให้วิทย์ช่วยแต่งเพลงให้กับ 3 สาว แม้ว่าวิทย์จะเป็นเด็กใหม่ด้อยประสบการณ์ แต่เขาก็แต่งออกมาได้ถูกใจแจ่มจันทร์อย่างมาก แต่ละเพลงช่างเหมาะและไพเราะเหมือน ป๋าเขียวแต่งให้ หลังจากเปิดตัวไปไม่นานก็ได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น ทางด้านเฮียยุทธ หลังจากที่ได้หยาดฟ้าไปเป็นนักร้องในค่ายไม่นานนัก หยาดฟ้าก็แอบมีความสัมพันธ์ลึกๆ กับเฮียยุทธ หลังจากนั้นหยาดฟ้าก็วางก้ามกับนักร้องคนอื่นๆ ในค่าย จนเป็นที่มาของข่าวลือ รวมถึงการวางตัวที่ไม่เหมาะสม จนเป็นเหตุให้งานหด ในขณะที่แจ่มจันทร์เริ่มกลับมา เฟื่องฟูอีกครั้ง หนำซ้ำ 3 สาวยังมีชื่อเสียงโด่งดังอีก ทำให้เฮียยุทธเริ่มร้อนรน หันมาเกรี้ยวกราดใส่หยาดฟ้า จะขอยกเลิกสัญญาและฟ้องร้องขอเงินคืน หยาดฟ้าไม่ยอมเพราะเงินที่ได้มาเธอถลุงใช้ไปจนจะหมดแล้ว เฮียยุทธจึงยื่นคำขาดให้หยาดฟ้าไปดึงนักร้องของค่ายแจ่มจันทร์มา หยาดฟ้ารับปากว่าจะทำให้ได้ ในขณะเดียวกันเฮียยุทธก็ได้นายทุนคนใหม่คือคุณลดา(ศิรินทรา นิยากร)เศรษฐีนีแม่หม้าย เข้ามาช่วยเรื่องการเงิน เธอตัดสินใจขอเป็นนายทุนให้กับค่ายเพลงของเฮียยุทธ โดยขอมีส่วนร่วมในการคัดเลือกนักร้องในค่ายด้วย หยาดฟ้าเริ่มแผนการฉกตัวนักร้องข้ามค่าย แล้วเหยื่อของเธอก็คือ สร้อยเพชรใช้เวลาคิดอยู่ 2 วันโดยไม่บอกใคร ก่อนที่จะตัดสินใจนัดเข้าไปทำสัญญากับเฮียยุทธ เมื่อไปถึงค่ายเพลง ในห้องประชุมมีเฮียยุทธและลดานั่งอยู่ ยังไม่ทันที่สร้อยเพชรจะร้องจบเพลง ลดาตัดสินใจบอกทันทีว่า เธอไม่เอาสร้อยเพชร นอกซะจากว่าสร้อยเพชร จะชักชวนพี่น้องอีก 2 คน อย่างฝนหลวงและชมบงกชมาด้วย สร้อยเพชรคิดหนัก แต่ด้วยความทะเยอทะยาน อยากมีรถขับ อยากมีชุดสวยแบบหยาดฟ้า เธอจะต้องทำภารกิจนี้ให้ได้ สร้อยเพชรขอคุยกับฝนและบัว และขอร้องให้ทั้ง 2 ไปอยู่ค่ายเฮียยุทธกับเธอ ทั้ง 2 หันมาต่อว่าสร้อยเพชรที่คิดจะตีจากผู้มีพระคุณอย่างแจ่มจันทร์ สร้อยเพชรทั้งโกรธ ทั้งผิดหวังที่ไม่มีแนวร่วม จึงยื่นคำขาดว่า ถ้า 2 คนไม่ย้ายค่ายไปกับเธอ ก็อย่าหวังว่าจะมีเธอขึ้นคอนเสิร์ตด้วยอีก ต่อไป...!!! เพชรเริ่มเข้าไปตีสนิทใกล้ชิดกับวิทย์ ขอให้วิทย์แต่งเพลงให้เธอ ในที่สุดสิ่งที่สร้อยเพชรต้องการก็สำเร็จ เธอขโมยเพลงที่วิทย์แต่งทั้งหมดไปให้ เฮียยุทธ และหมายมั่น ปั้นมือว่าเธอจะต้องได้เป็นเจ้าของอัลบั้มเพลงนี้แต่เพียงผู้เดียว แต่ปรากฏว่าผิดคาด เพราะเพลงแรกที่ปล่อยออกมาก็กลายเป็นเพลงของหยาดฟ้า วิทย์ได้ยินเพลงของค่ายคู่แข่งปล่อยออกมา แล้วถึงกับช็อค เพราะมันคือเพลงที่เขาแต่ง วิทย์แอบเข้าใจเองว่าแจ่มจันทร์ตกอับจนถึงขนาดเอาเพลงของเขาไปขาย วิทย์จะฟ้องร้องแจ่มจันทร์ที่เอาเพลงของเขาไปขายให้คนอื่น วันรุ่งขึ้น ทุกคนตกใจที่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมตัวแจ่มจันทร์ เธอก้มหน้ารับกรรมอย่างสิ้นหวัง โดยไม่ร้องขอหรือแก้ตัวใดๆ หนำซ้ำยังสั่งห้ามไม่ให้นำเงินมาประกัน ทำให้ทั้งฝน เพชร และบัวร้อนใจ ทั้ง 3 ตามไปที่สถานีตำรวจเพื่อเยี่ยมแจ่มจันทร์ เพชรร้องไห้สารภาพผิดว่าเธอเป็นคนเอาเพลงไปเอง แจ่มจันทร์ขอให้ เพชรหยุดพูด และ ลืมความผิดนี่ซะ....ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น แจ่มจันทร์ขอรับไว้เพียงคนเดียว ทั้งหมดกอดกันร้องไห้ เทิดไทในมาดเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินออกมา ทำให้ฝนหลวงผิดหวัง และน้อยใจที่ตลอดเวลาตนเหมือนถูกหลอก หนำซ้ำคนที่เธอรู้สึกดีด้วยคือคนที่จับแม่ของเธอเข้าคุก ความรู้สึกของบัวก็เหมือนกัน เธอเสียใจที่วิทย์ใจร้าย ถึงขนาดแจ้งตำรวจจับแม่ของเธอ ทั้ง 3 คนพี่น้องหันหน้ามาปรึกษากันอีกครั้ง เพชรสารภาพความจริงทั้งหมดให้ ฝนหลวงฟัง ฝนหลวงขอร้องให้บัวเปลี่ยนใจ และล้มเลิกการไปต่อยมวยที่ต่างประเทศซึ่งเป็นความฝันของเธอ แล้วทั้ง 3 ก็เดินทางไปพบเฮียยุทธกับลดา ลดายืนยันว่าเพลงทั้งหมดจะไม่มีการส่งให้ใครร้องอีก เพราะเพลงเหล่านั้นถูกแต่งขึ้นมาเพื่อพี่น้องทั้ง 3 คน โดยยื่นข้อเสนอว่าจะให้เงินก้อนใหญ่เพื่อไป ช่วยเหลือวงของแจ่มจันทร์ก่อน เพราะเธอมองว่าต่อให้ได้เนื้อเพลงกลับไป แจ่มจันทร์ก็ยังไม่พร้อมที่จะทำอัลบั้ม ให้กับ 3 สาวแน่นอน...ทั้ง 3 คน พร้อมใจกันเซ็นสัญญาทั้งน้ำตา หลังออกจากคุกได้ไม่นาน แจ่มจันทร์ก็ถูกจับตัวอีกครั้ง เพราะถูกเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคนฆ่าป๋าเขียว แจ่มจันทร์จะพ้นข้อกล่าวหานี้ได้หรือไม่ และชะตาชีวิตของเด็กสาวทั้ง 3 คน จะเป็นยังไง? ติดตามชมได้ " ธิดาแดนซ์ "

กองร้อยกระทะเหล็ก 2556

กองร้อยกระทะเหล็ก (2556/2013) ณ กองร้อยที่ 88 ในช่วงเวลาใกล้เที่ยง บรรยากาศในหน่วยประกอบเลี้ยงดูคึกคักวุ่นวาย พลสูทกรรม 5 นาย กำลังวุ่นกับการเตรียมเสบียงอาหารสำหรับมื้อเที่ยง ปราบ กำลังถกเถียงกับ จ่าโย่ง ผู้บังคับหน่วยหัวอนุรักษ์เรื่องขั้นตอนของการทำอาหาร โดยมี หนูยิ้ม ลูกสาวจ่าโย่งแอบเชียร์ปราบอยู่ในใจ ปีนี้หนูยิ้มเรียนจบแล้ว กำลังรอเรียกสัมภาษณ์งาน แต่ถึงยังไงจ่าโย่งก็ยังคงเป็นห่วงและหวงหนูยิ้มอยู่ดี และมักจะหนีบลูกสาวติดไปด้วยทุกที่ แม้แต่เวลาออกปฏิบัติงาน หนูยิ้มเลยกลายเป็นลูกมือของพ่อไปโดยปริยาย ครั้นหนูยิ้มจะสมัครเป็นทหารรับราชการให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย พ่อก็ไม่เห็นด้วย อีกด้านหนึ่ง พลทหารบาน กำลังสับหมู หั่นผักอย่างเมามันถึงขั้นเขียงแตก เพราะความบ้าพลัง ส่วน หมู่เลี้ยงกำลังละเมียดละไมกับการเด็ดพืชผักสมุนไพร และดมกลิ่นของมันไปด้วย ทำให้หนูยิ้มหงุดหงิดใจมาก ๆ กับความเชื่องช้าของเลี้ยง เพราะหนูยิ้มเป็นผู้หญิงที่คล่องแคล่วว่องไว กว่าอาหารจะเสร็จ ปราบกับจ่าโย่งต้องได้เถียงกันไปหลายยก เรื่องราวของหน่วยประกอบเลี้ยงแห่งนี้เป็นอยู่อย่างนี้ทุกเมื่อเชื่อวัน วันนี้เป็นเวรปราบที่จะต้องนำอาหารไปเสิร์ฟให้ทหารในห้องรับ-ส่งวิทยุสื่อสาร แล้วปราบก็ต้องแปลกใจเมื่อไม่พบใครในห้องนั้น ขณะที่ปราบกำลังจะหันหลังออกจากห้อง ก็บังเอิญได้ยินเสียงดังลอดออกมาจากวิทยุใจความสำคัญคือ ทหารฝ่ายตรงข้ามได้จับทหารฝ่ายเราไว้เป็นตัวประกัน ทุกคนอยู่ในอันตราย ปราบไม่รอช้ารีบจดพิกัดไว้ แล้วเสียงผู้แจ้งก็หายไปพร้อมเสียงปืนรัวกระหน่ำ ความเป็น ความตายเท่ากัน ปราบถือกระดาษที่จดพิกัดไว้ในมือวิ่งออกไปหมายจะแจ้งให้ทุกคนทราบ แต่แล้วก็พบว่าเพื่อนทหารได้หายไปหมด เหลือแต่เพื่อน ๆ พลสูทกรรม ซึ่งยืนรอเก้ออยู่ที่โรงประกอบเลี้ยง ปราบรีบเล่าเรื่องที่ได้ยินให้เพื่อน ๆ ฟัง ทุกคนตกใจมาก ปราบออกความเห็นว่านี่เป็นโอกาสที่จะได้แสดงฝีมือให้ทุกคนเห็นว่าหน่วยของเราก็มีฝีมือเชิงรบเหมือนกัน ไม่ได้หน่อมแน้มปวกเปียกอย่างที่โดนล้อเลียน ทุกคนเห็นด้วย โดยเฉพาะหนูยิ้มซึ่งรอมานานที่จะได้แสดงความสามารถเฉพาะตัวที่คล่องแคล่วว่องไวและเก่งในเชิงมวยและการต่อสู้ ส่วนบาน หนูยิ้มว่าไงบานว่างั้น บานมีสมองก็เหมือนไม่มีแต่พละกำลังเหลือเฟือ แม้จ่าโย่งจะค้านแต่ก็ไม่มีใครฟัง 4 หนุ่มสาวออกค้นหาอาวุธแต่ก็ไม่พบ จึงนำข้าวของที่ใช้ในครัวเท่าที่จะหาได้ติดตัวไป ปราบพกที่จุดเตาแก๊สกับขวดน้ำมันไป หนูยิ้มมือผัดเอากระทะกับตะหลิวติดตัวไป บานได้อีโต้ 2 อัน ส่วนเลี้ยงได้ขวดพริกไทยกับพริกป่นไป จ่าโย่งไม่รู้จะเครียดหรือจะขำกับภาพที่เห็น พยายามโน้มน้าวให้ทุกคนล้มเลิกความตั้งใจ แต่ไม่มีใครฟัง จ่าโย่งยื่นคำขาดไม่ให้หนูยิ้มไป แต่หนูยิ้มไม่ยอม ด้วยความที่อยากจะเอาใจหนูยิ้ม บานจึงฟาดหัวจ่าโย่งจนสลบไป ท่ามกลางความตกใจของทุกคน แต่ภารกิจก็ไม่อาจล้มเลิก ทุกคนมุ่งหน้าไปสู่พิกัดที่ได้รับแจ้งหมายจะให้ได้มาซึ่งคำว่า "ฮีโร่" ทั้ง 4 บุกมาถึงพิกัดข้าศึกได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายอย่างไม่น่าเชื่อ เบื้องหน้าเป็นข้าศึกที่อยู่ในชุดดำ ปกปิดหน้าตา ไม่ระบุสัญชาติ และทหารฝ่ายเราที่ตกเป็นเชลย หนึ่งในนั้นเป็นแพทย์ทหารนาม สายรุ้ง คุณหมอคนสวยลูกสาวนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่เลี้ยงหลงรัก แทบไม่น่าเชื่อใช้เวลาและเรี่ยวแรงไม่มาก ทั้ง 4 คน ก็สามารถใช้ตะหลิว มีด และไฟจัดการข้าศึกได้ไม่ยาก ท่ามกลางความตกใจระคนฉงนสนเท่ห์ของข้าศึก ทั้ง 4 เข้าประชิดตัวหัวหน้าข้าศึกจนจะสามารถช่วยสายรุ้งได้ หัวหน้าศัตรูซึ่งใช้ผ้าปิดหน้าปิดตาได้เข้ามาขวาง ทำให้มีการประมือกับปราบ ปราบอาศัยทีเผลอเล่นงานศัตรูด้วยไฟ แล้วแย่งปืนยิงใส่ศัตรูทันที หยุดเดี๋ยวนี้ !! เสียงตวาดอันแสนจะคุ้นเคยแผดขึ้นจนทุกคนตกใจและหยุดชะงัก ผบ.สุชาตินั่นเอง ผบ. เดินหน้าเครียดเข้ามาพร้อมกับเหล่าทหารและศัตรูที่ต่างถอดผ้าปิดหน้าออก ทั้ง 4 ตกตะลึงเมื่อพบว่าทหารศัตรูเหล่านั้น คือเพื่อน ๆ ทหารของเขานั่นเอง "มาทำบ้าอะไรกันเนี่ย เขาซ้อมรบกันอยู่โว้ย"

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ