Love Therapy บำบัดรัก บำรุงสุข (2554/2011) ภูมิ (บีม กวี) จิตแพทย์หนุ่ม เปิดคลินิก ให้คำปรึกษาแก่ผู้มีปัญหาทางจิตตลอดเวลาที่ให้คำปรึกษาแก่คนไข้ ภูมิก็พยายามค้นหารักแท้ เพื่อมาเติมเต็มความสุขให้แก่ตัวเอง ไลลา (กิ๊ฟซี่ วนิดา) ผู้มีปัญหาโดนแฟนทิ้งตลอดไม่ว่าจะมีแฟนกี่คนก็ตาม เธอไม่เข้าใจว่าตัวเองมีข้อบกพร้องอะไร ทุกครั้งที่เธอคบใครหรือเลิกกับใครก็จะมาปรึกษาภูมิตลอด ทั้งในฐานะของเพื่อนและคนไข้ของภูมิ โดยเธอไม่รู้ตัวเลยว่า ภูมิมีรักแท้รอมอบให้เธอเพียงผู้เดียว พัฒน์ (แบงค์ อธิกิตติ์) น้องชายต่างแม่กับภูมิที่มีปมอยู่ในใจตลอดว่า พ่อรักภูมิมากกว่าตนและแม่ ซึ่งแม่ของพัฒน์ได้เสียไปแล้ว พัฒน์อยู่กับภูมิและพ่อ (แม่ของภูมิเสียแล้วเช่นกัน พ่อของภูมิจึงแต่งงานใหม่กับแม่ของพัฒน์) พัฒน์เปิดร้านขายดอกไม้ และหลงรัก แก้ว (ฟาง ธนันต์ธรญ์) แต่แก้วหลงรักภูมิ ยิ่งเป็นปมในใจให้แก่พัฒน์ จุดเปลี่ยน สำคัญของเรื่องเกิดขึ้นเมื่อภูมิตัดสินใจสารภาพกับไลลาว่าเค้ารักเธอ ทำให้ไลลาหญิงสาวที่หวาดระแวงและไม่ไว้ใจผู้ชายในเรื่องความรักเป็นทุนเดิม อยู่แล้ว ไลลาจึงถอยห่างและไม่ไว้ใจภูมิเหมือนเช่นเดิม ในขณะเดียวกัน พัฒน์ก็ได้รู้ความจริงจากแก้วหญิงสาวที่ตนหลงรักว่าเธอนั้นรักภูมิ ภูมิจะมีวิธีบำบัดรักบำรุงสุขให้กับตัวเค้าเองและคนรอบข้างอย่างไร เรื่องราวความรักของพวกเค้าทั้ง 4 คน จะลงเอยอย่างไร ติดตามได้ใน ละครบำบัดรักบำรุงสุข

วุ่นนักรักข้างตลาด (2553/2010) นิ พัท (อธิกิตติ์ พริ้งพร้อม) ลูกชายของ คุณนายดุจดาว (เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์) เจ้าของตลาดที่ขึ้นชื่อในเรื่องความเค็ม เป็นที่หมายปองของสาว ๆ เพราะนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อนาคตไกล นิพัทหมั้นกับ มณีริสา(มนัญญา ลิ้มเสถียร) ลูกสาวเสี่ยเล้ง (จิรศักดิ์ ปิ่นสุวรรณ) นักธุรกิจห้างสรรพสินค้า ตามความต้องการของคุณนายดุจดาว ซึ่งมณีริสาเองก็มีใจให้นิพัท เธอเรียนบริหารธุรกิจปีสุดท้าย โดยมี สรกฤต (วิวิศน์ บวรกีรติขจร) เป็นเพื่อนสนิท แพรวา หรือแพร (ศุภรดา เต็มปรีชา) สาวน้อยนักฝัน ที่มักคิดเสมอว่าชีวิตคงจะเหมือนในละครหรือนิยาย และเฝ้ารอว่าจะมีชายในฝันผู้สูงศักดิ์มาพบรักกับสาวน้อยลูกแม่ค้าอย่างเธอ ติดตามต่อได้ใน วุ่นนักรักข้างตลาด

บริษัทสร้างสุข (2553/2010) แทน (เจ เจตริน) และ พิม(นิโคล เทริโอ) คู่สามีภรรยาที่แต่งงานกันมา 6 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คนคือ น้องนาเดีย (น้องลิซซี่) เด็กหญิงวัย 4 ขวบ ผู้น่ารักพอๆกับน่าหมั่นไส้ เนื่องจากนาเดียรู้ตัวว่าเรทติ้งดี จึงเอาแต่ใจพอประมาณ จากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ที่ถูกอิมพอร์ตตรงจากอเมริกามาสั่นสะเทือนเศรษฐกิจไทย กระหน่ำซ้ำด้วยการเล่นกีฬาสีในประเทศ ทำให้ปัญหาที่สาหัสอยู่แล้วกลายเป็นสาหัสมาก แทนถูกให้ออกจากงาน กลายเป็นคนตกงานโดยไม่ได้ตั้งใจ เนื่องมาจากการปรับโครงสร้างองค์กร ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายในบริษัท ส่วนพิมแม่บ้านมืออาชีพ ที่ฝันอยากเป็นนักเขียน แต่ความที่พิมไม่ค่อยมีเวลาให้กับการเขียนมากนัก เธอจึงเป็นได้แค่นักฝันหรือเป็นได้แค่นักอยากเขียนมาตลอด แต่ความฝันยังไม่จางหาย ถึงไม่ได้ตีพิมพ์หนังออกมาเป็นเล่มก็เขียนลงเว็บบล็อกแทน ตะวัน (ตี๋ วิวิศน์) น้องชายคนเดียวของแทน ที่เพิ่งเรียนจบได้ยุยงให้แทนตั้งบริษัทเป็นของตัวเอง เป็นเจ้านายของตัวเอง โดยตะวันอาสาลงแรงช่วยอย่างเต็มที่ (จริงๆคือตะวันหางานไม่ได้) ตะวันรู้ดีว่าพี่ชายมีความคิดสร้างสรรค์มาก มากขนาดที่หลายคนบอกว่าเพี้ยน สำหรับเขาแล้ว พี่ชายไม่ได้เพี้ยน แต่บ้า จึงสนับสนุนพี่ชายให้ทำธุรกิจที่แตกต่าง ด้วยการหันมาออกแบบสร้างความสุขให้กับคนในสังคม ความคิดเปิดบริษัทดังกล่าวได้รับการเห็นดีเห็นงามจากแทนและพิมอย่างง่าย ดาย แทนจึงเปิดบริษัท สร้างสุข ไม่จำกัด ขึ้น เขาหวังว่าบริษัทแห่งนี้จะสามารถสร้างรอยยิ้มให้เกิดขึ้นในสังคม แม้จะเป็นรอยยิ้มเล็กๆของคนไม่กี่คน พิมวาดหวังไว้ว่าคนไม่กี่คนที่ได้รับความสุขไปนั้นจะสามารถไปสร้างความสุข ให้กับคนรอบข้างต่อกันไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด

Daddy Duo คุณพ่อจอมเฟี้ยว (2552/2009) พัทธ์ (ฟิล์ม-รัฐภูมิ) หนุ่มไฮโซเนื้อหอม เพิ่งเรียนจบจากต่างประเทศ นิสัยใจร้อน เอาแต่ใจตัวเอง เพราะได้รับการเลี้ยงดูอย่างตามใจจากคุณพ่อ เจษฎา (ตฤณ เศรษฐโชค) มาตั้งแต่เด็ก จึงกลายเป็นคนจับจด รักสบาย และที่สำคัญใช้จ่ายเงินเป็นว่าเล่น จนกระทั่งพ่อบังเกิดเกล้ายังทนไม่ไหว ก็เลยจัดการดัดนิสัย ด้วยการไล่ให้ไปอยู่ที่คอนโด พร้อมทั้งระงับบัตรเครดิตทั้งหมด เพื่อสอนให้พัทธ์ ได้รู้จักทำงานหาเงินด้วยตนเอง พัทธ์เริ่มต้นยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง ด้วยการรับงานเป็นอินทีเรีย ดีไซน์ ตามที่ร่ำเรียนมา โดยมี จั๊ดจ้า (จั๊ด-ภีมะ) เพื่อนซี้ คอยให้ความช่วยเหลือ และได้ลูกค้าคนแรกเป็นสาวสวยสุดเซ็กซี่ ที่ชื่อ เคธี่ (เป้ย-ปานวาด) ทอย (แบงค์-อธิกิตติ์) หนุ่มสุดหล่อ ทายาทเพียงคนเดียวของ พิมประไพ แม่เลี้ยงเจ้าของไร่องุ่น (เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์) ด้วยความที่กำพร้าพ่อตั้งแต่เด็ก ทอยจึงได้รับการเลี้ยงดูจากพิมประไพ ผู้เป็นแม่อย่างใกล้ชิด ทอยจึงแลดูเป็นหนุ่มสุภาพ เรียบร้อย แถมแอบเก่งการบ้านการเรือนอีกต่างหาก เมื่อเรียนจบ พิมประไพ วางแผนให้ทอย ช่วยสานต่อกิจการไร่องุ่น แต่ทอย อยากที่จะลองหางานทำด้วยตนเองที่กรุงเทพฯ ก่อน พร้อมกับยกแม่น้ำทั้งห้ามาโน้มน้าวใจพิมประไพ จนในที่สุดผู้เป็นแม่ก็ยอมใจอ่อน แต่ก็มีข้อแม้ว่า เมื่อไปอยู่กรุงเทพฯ ต้องไปพักอยู่กับพัทธ์ พิน (โฟร์-ศกลรัตน์) สาวน้อยผู้มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักเขียน เมื่อเรียนจบ ก็ได้เริ่มต้นงานนักเขียนตามความฝัน ที่สำนักพิมพ์ของ นิวัตร (เอ็กซ์-ธิตินันท์) และได้รับการชักชวนจาก เป็ด ญาติผู้น้อง (ฟาง-วงเฟย์ ฟาง แก้ว) ซึ่งเป็นลูกเจ้าของธุรกิจคอนโดที่พัทธ์และทอยพัก ให้มาอาศัยอยู่ด้วยกัน เรื่องราวเริ่มโกลาหลขึ้น เมื่อพัทธ์กับทอย เข้าใจว่าพินและเป็ด เป็นคู่ทอมดี้ ในขณะที่พินกับเป็ดก็เข้าใจว่าสองหนุ่มสุดหล่อที่พักอยู่ห้องติดกัน เป็นคู่เกย์ แถมความอลหม่านล้านเจ็ดยังเข้ามาเยือนอีกระลอกใหญ่ เมื่อวันหนึ่งมีพัทธ์และทอย ต้องตกกระไดพลอยโจน รับหน้าที่ดูแลเด็กหลง หน้าแป้น ที่ชื่อหนมตาล ซึ่งบังเอิญมาประสบอุบัติเหตุอยู่หน้าคอนโด ทำให้ความจำหายไปชั่วคราว แต่อะไรไม่สำคัญเท่า หนมตาล ยืนยันว่าพัทธ์เป็นพ่อ เรียกว่างานเข้าอย่างจังเลยทีเดียว !!!! ทั้งพัทธ์ และทอย จำต้องรับหน้าที่ "คุณพ่อจอมเฟี้ยว" อย่างไม่มีทางเลือก โดยมี แม่พิน และ น้าเป็ด ช่วยด้วยอีกแรง โดยทั้ง 4 คน จะต้องช่วยกันตามหา และคลี่คลายปมปัญหาของครอบครัวที่น่าสงสารของเด็ก หนมตาล ให้ได้ แต่เรื่องไมได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะทั้ง 4 คน ต้องเผชิญหน้ากับบรรดาผู้ที่มาแอบอ้างเป็นพ่อแม่ของหนมตาลซ้ำแล้วซ้ำเล่า

คู่ปั่น คู่ป่วน 2551

เรื่องย่อ : คู่ปั่น คู่ป่วน (2551/2008) ทีมงานกองถ่ายยกกองมาปักหลักถ่ายทำในชุมชน ทำเอาชาวบ้านไม่เป็นอันทำมาหากิน ป๊อด ชายไทยใจซื่อ ทั้งมือและปากถือศีลห้า ป๊อดซึ่งมุ่งมั่นอยากเป็นดาราทั้งๆ ที่หน้าตาไม่ให้ มาจากต่างจังหวัดเพื่อมาอยู่กับ หวาน ลูกพี่ลูกน้องสาวซ่าประจำชุมชน ความเซ่อซ่าของป๊อดทำเอากองถ่ายพังยับเยิน อีกด้านหนึ่ง สมคิด หนุ่มกะล่อนสมองลื่นไหลราวกับมีสองหัว ขายทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่กลายเป็นฮีโร่ในสายตาของป๊อด พรหล้า และ ทองประสม 2 แม่ค้าส้มตำที่ยอมทิ้งร้านเพื่อหวังจะเข้ากล้องเป็นดารา พรหล้าเจอกับทองประสมทีไรก็ต้องปะทะคารมกัน ป๊อดชื่นชมสมคิดให้ยายต่วน ฟัง จนหวานชักอยากจะเจอตัว แต่พอรู้ว่าเป็นสมคิดก็ชักไม่แน่ใจเพราะรู้กิติศัพท์ความกะล่อน และเอาตัวรอดของสมคิดดี หวาน แอบชอบสมคิดแต่มักจะแสดงออกตรงข้ามเพราะความอาย แต่หมอดูมาทักว่าเป็นเนื้อคู่กัน ทำให้หวานตั้งใจว่าจะตามแก้นิสัยสมคิดให้ได้ อู๋ ลูกชายเสี่ยอ๋าผู้มีอิทธิพลในย่านนั้น และเป็นเจ้าหนี้ของทุกคนในชุมชน อู๋มักจะแวะเวียนมาร้องเพลงลูกกรุงยุคเก่าจีบหวานอยู่บ่อยๆ แต่หวานไม่สนใจ สมคิดเบื่อชีวิตที่เต็มไปด้วยหนี้สิน ทั้งของตัวเอง และที่แม่หนูดี ก่อไว้ สมคิดพยายามทำงานทุกอย่าง แต่นับวันก็ยิ่งมีปัญหา จนวันหนึ่งทนายประจำตัวของสมสุขพ่อของสมคิดก็มาหาเพื่อแจ้งข่าวการตายของสมสุข และมอบมรดกชิ้นสุดท้ายคือ ซันคาเฟ่ เพื่อชดเชยที่ไม่เคยเลี้ยงดูสมคิด สมคิดดีใจที่ชีวิตจะเป็นเศรษฐี แต่ยิ่งเศร้าเพราะซันคาเฟ่อยู่ในภาวะขาดทุน แม่หนูดีจึงคิดจะขายแล้วเอาเงินมาใช้หนี้ แต่ทนายบอกว่าสมคิดต้องบริหารที่ค่าเฟ่อย่างน้อย 1 ปี ถ้าไปไม่รอดก็จะพิจารณาให้ขาย สมคิดหัวใสต่อรองเสี่ยอ๋าขอผลัดหนี้ไปอีกปี โดยมีคาเฟ่เป็นตัวการันตีว่าเขามีสินทรัพย์เป็นทุนค้ำประกัน แต่เสี่ยหาเห็นทำเลของคาเฟ่ก็หวังจะฮุบเป็นของตัวเอง สมคิดบอกกับแม่หนูดีว่าเขาจะบริหารคาเฟ่เอง และจะทำให้เจ๊งมากขึ้น สมคิดรู้ว่าป๊อดอยากเป็นดาราจึงชวนป๊อดไปเล่นตลกที่ซันคาเฟ่ ป๊อดดีใจและบูชาสมคิดมากขึ้นที่ช่วยสานฝัน แต่หวานไม่แน่ใจจึงตามไปเป็นผู้จัดการส่วนตัวจะได้ไม่ถูกหลอก สมคิดเห็นว่าคนเดียวยังไม่พอต้องหาคนมาร่วมวงอีก พอสมคิดไปเจอพรหล้ากับทองประสมกำลังทะเลาะกัน สมคิดคิดว่าสองคนไปเล่นด้วยกันค่าเฟ่จะต้องพังแน่ จึงชวนให้มาร่วมทีม สุดท้ายทั้งสามคนก็ได้ร่วมทีมกันในนาม “ป่วนสามสลึง” ราตรี เมียน้อยของสมสุขซึ่งเลิกกันไปเมื่อสมสุขตกต่ำ ราตรีเจ็บใจที่สมสุขยกคาเฟ่ให้สมคิดลูกเมียหลวง ราตรีจึงวางแผนให้ มีมี่ แก้แค้นด้วยการทำให้สมคิดหลงเสน่ห์และแย่งคาเฟ่มาเป็นของตัวเอง อู๋แอบมาเฝ้าหวานที่คาเฟ่บ่อยๆ เสี่ยอ๋าจึงส่ง จ๊ะ ลูกน้องคนสนิทให้คอยตามอู๋ พอมีมี่รู้ว่าอู๋เป็นลูกชายเศรษฐีก็อยากจะจับ มีมี่ลองหว่านเสน่ห์แต่ผิดหวังเพราะอู๋รักหวานคนเดียว มีมี่จึงใช้สมคิดเป็นเครื่องมือ ป๊อด ไปหลงรัก สวย สาวเชียร์เบียร์ แฟนของโต หัวหน้าวินมอเตอร์ไซด์ สวยมักจะประชดตัวเองว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี ไม่อยากให้คนดีๆ อย่างป๊อดมายุ่งกับเธอ ซันคาเฟ่แย่ลงตามแผนที่สมคิดวางไว้ แต่ป๊อดก็ไม่ยอมแพ้ ส่วนพรหล้ากับทองประสมก็ทะเลาะแย่งความเด่นกันจนคนน้อยลงเรื่อยๆ เหลือเพียง เจ๊ม้า ลูกค้าผู้ซื่อสัตย์ ที่หลงชอบสมคิด และอุดหนุนสินค้าที่สมคิดขายมาตลอด หวานโกรธสมคิดมากจึงคิดหาทางจะทำให้คาเฟ่นี้ดังให้ได้ อันดับแรกต้องทำให้พรหล้ากับทองประสมเลิกทะเลาะกัน ในที่สุดทั้งสองคนก็ยอมสงบศึก ทุกคนประชุมว่าต้องหาการแสดงที่มีสีสัน หวานเกิดไอเดียวจะเอาละครโทรทัศน์มาสร้างเป็นเรื่องล้อเลียนให้ป่วนสามสลึงเล่น การแสดงคืนแรกมีอุปสรรคมาก แต่ทั้งสามก็พยายามจนเริ่มมีคนพูดกันปากต่อปากตามมาดูมากขึ้น ป๊อดขอบใจสวยที่ช่วยเชียร์แขกมาดูด้วย แต่สวยบอกเธอทำเพื่อตัวเอง เสี่ยอ๋าจีบมีมี่แต่สมคิดออกตัวว่ามีมี่เป็นแฟนเขาทำเอาเสี่ยอ๋าเจ็บใจ เสี่ยอ๋าส่งลูกน้องไปป่วนคาเฟ่ ให้โตพาพวกมอเตอร์ไซด์ไปคอยไล่แขก ไม่นานสมคิดก็ใช้หนี้เสี่ยอ๋าหมด คณะป่วนสามสลึงเริ่มมีงานเดินสายโชว์ตัว ความแรงของป่วนสามสลึงดังจนมีรายการติดต่อให้ไปออกโทรทัศน์ ป๊อด พรหล้า และทองประสม ดีใจมากที่จะได้ออกทีวี วันที่ไปอัดรายการ เสี่ยอ๋าขัดขวางจนป่วนสามสลึงไปไม่ถึงสตูดิโอ หวานถอนตัวไม่ร่วมงานกับสมคิดอีก ป๊อด พรหล้า ทองประสม ไม่รู้จะเข้าข้างใครดี หวานรู้จากยายต่วนว่าจริงๆ แล้ว สมคิดต้องการให้เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว ที่ผ่านมาสมคิดหลอกใช้พวกเขามาตลอด พรหล้าและทองประสมเสียใจมากประกาศถอนตัว สุดท้ายสมคิดตัดสินใจขายคาเฟ่ให้เสี่ยอ๋า สมคิดพาป่วนสามสลึงเดินสายไปแสดงตามที่ต่างๆ เพื่อสร้างคะแนนเสียง จนสามารถหาเงินมาสร้างคาเฟ่ใหม่อีกครั้ง เสี่ยอ๋าสั่งลูกน้องให้ไปจับตัวหวานเพื่อแลกกับที่ดิน ทุกคนบอก ถึงแม้จะไม่มีคาเฟ่ แต่ป่วนสามสลึงก็ยังคงอยู่ อู๋รับการกระทำของพ่อไม่ได้จึงพาหวานหนี เสี่ยอ๋าสั่งเก็บทุกคน ป๊อดเกือบถูกยิงแต่สวยมารับกระสุนแทน หวานขอบใจอู๋ที่ช่วยเธอไว้ และบอกความในใจว่าเธอรักอู๋ได้แค่เพื่อนเท่านั้น

รักของนายดอกไม้ 2548

รักของนายดอกไม้ (2548/2005) ราชพฤกษ์ ( นายดอกไม้ ) หนุ่มเจ้าของร้านดอกไม้ Mr.Flower และขณะที่เขากำลังออกตรวจอยู่ตามสาขาหนึ่ง เขาก็ได้พบกับ พวงชมพู ที่เข้ามาดูดอกไม้ในร้าน ด้วยความสวยของเธอทำให้ราชพฤกษ์ประทับใจมาก ในงานเลี้ยงงานหนึ่งพวงชมพูเข้าใจผิดคิดว่าราชพฤกษ์เป็นเด็กส่งดอกไม้ของ Mr.Flower เลยเข้าไปต่อว่าเรื่องดอกไม้มาช้า และฝากต่อว่าถึงผู้จัดการด้วย ราชพฤกษ์ยิ้มรับคำต่อว่าจากเธอโดยไม่ตอบโต้สักคำ ราชพฤกษ์ตัดสินใจที่จะจีบพวงชมพู และตั้งใจที่จะไม่บอกฐานะแท้จริง แต่จะขอจีบเธอในฐานะของนายดอกไม้ พนักงานส่งดอกไม้ตามที่เธอเข้าใจผิด เพราะต้องการพิสูจน์ว่าเธอรักที่ตัวตนของเขาไม่ใช่ที่ราชพฤกษ์เจ้าของกิจการ ร้านดอกไม้ ราชพฤกษ์ในคราบของนายดอกไม้เริ่มเข้าไปตีสนิทกับพวง ชมพู แต่ก็ยังมีก้างชิ้นใหญ่ที่เป็นอุปสรรคในการตีสนิทกับพวงชมพูของเขา นั่นก็คือ หมวดโกมุท นายทหารหนุ่มลูกชายคนเดียวของ เสธ.กาฬพฤกษ์ กับคุณหญิงกระดังงา ที่เทียวไล้เทียวขื่อตามจีบพวงชมพูอยู่เหมือนกัน โดยอาศัยแรงผลักดันจาก ผู้พันพู่นายพล พ่อของพวงชมพู เพื่ออาศัยเส้นสายพ่อของหมวดโกมุท เพื่อที่จะได้เลื่อนยศขึ้นเป็นนายพล เพราะยังติดอยู่ว่าที่นายพลมานานทั้งที่จบนายเรืออากาศมารุ่นเดียวกัน แต่ราชพฤกษ์หรือนายดอกไม้ก็ไม่ละทิ้งความพยายาม เพราะเขาสามารถเข้าตีสนิทกับพวงชมพูได้ในที่สุด โดยอาศัย คุณพลับพลึง แม่ของพวงชมพูนั่นเอง ในทางกลับกันผู้พันพู่นายพลกลับไม่ชอบหน้านายดอกไม้สักเท่าไหร่ หากแต่ว่าพวงชมพูกลับมีใจให้กับนายดอกไม้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้พันพู่นายพลยอมไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ว่าที่พ่อตากับว่าที่ลูกเขยเห็นพ้องต้องกันว่าจะต้องหาคนมา จัดการกับนายดอกไม้ให้ออกไปพ้นเส้นทางรักของหมวดโกมุทกับพวงชมพู เส้นทางความรักของ “นายดอกไม้” จะเป็นอย่างไรคงต้องติดตามและเอาใจช่วยนายดอกไม้กันต่อไปในละคร “รักของนายดอกไม้”

ฮอยอันฉันรักเธอ 2548

ฮอยอันฉันรักเธอ (2548/2005) คุณหญิงเหมือนมาศ แม่ของ เมืองแมน นักเขียนและช่างภาพชื่อดัง ร่วมมือกับคุณหญิงสุชาวดีแม่ของ วิกานดา จับคู่ให้กับลูกๆ ของตน เมืองแมนไม่ค่อยชอบนิสัยฟุ้งเฟ้อของวิกานดา จึงได้หนีงานหมั้นไปเที่ยวที่ฮานอย ประเทศเวียดนาม โดยได้ความช่วยเหลือจากลิลลี่ บก.จอมวีน และเพื่อนรุ่นพี่อย่าง เก่ง เมืองแมนได้พบและทะเลาะกับ เฮืองมาย สาวเวียดนามจอมกะล่อนที่มาตื๊อขายของ เมืองแมนซื้อผ้าปักรูปผู้หญิงที่ ตรัง แม่ของเฮืองมายปักให้เฮืองมายมาจาก ตวน น้องชายของเฮืองมาย เมื่อเฮืองมายรู้เข้าก็รีบตามไปขอซื้อคืน ติดตามต่อได้ใน ฮอยอัน ฉันรักเธอ

คู่กรรม 2 2547

คู่กรรม 2 (2547/2004) กลินท์ หรือ โยอิจิ เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของอังศุมาลินที่เกิดจากโกโบริ ที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 อังศุมาลินพยายามเลี้ยงดูกลินท์ด้วยความเข้มแข็ง แม้ วนัส เสรีไทยที่ชอบอังศุมาลินอยู่นานจะเปิดเผยความในใจและไม่รังเกียจที่จะอยู่กินกับอังศุมาลิน แต่อังศุมาลินก็ยังคงคบกับวนัสเพียงเป็นเพื่อนที่ดีเท่านั้น เพราะยังมั่นในรักที่มีต่อโกโบริ อังศุมาลินพยายามปลูกฝังความเป็นโกโบริให้ในตัวกลินท์ แต่กลินท์ไม่ยอมรับและรังเกียจ เมื่อโตขึ้น กลินท์เข้าทำงานเป็นอาจารย์ที่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขณะที่สถานการณ์บ้านเมืองกำลังผันผวนเพราะเป็นยุคเผด็จการทหาร กลินท์เป็นคนหนุ่มหัวสมัยใหม่ เขาเป็นผู้นำนักศึกษาร่วมการประท้วงสินค้าญี่ปุ่น โดยที่ไม่มีใครรู้ถึงประวัติของกลินท์ มีแต่เพียง ชิตาภา อาจารย์สาวร่วมคณะเท่านั้นที่คอยเตือนให้ระวังความปลอดภัย หนึ่งในนักศึกษาที่ร่วมการประท้วงนั้น ศราวณี นักศึกษาสาวปีสามคณะรัฐศาสตร์ เป็นคนที่โดดเด่นมาก กลินท์ประทับใจในตัวเธอ ต่อมาศราวณีรู้ว่ากลินท์ที่แท้ก็เป็นญาติผู้พี่ของเธอ ที่เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นที่เกิดจากอังศุมาลิน ที่ทางครอบครัวของเธอรังเกียจ เพราะอังศุมาลินยอมแต่งงานกับทหารญี่ปุ่นอย่างโกโบริ ศราวณีเลยพลอยรังเกียจกลินท์ไปด้วย(ทั้งๆที่เธอก็รู้ว่าคนในครอบครัวเธอเกลียดครอบครัวกลินท์) และบอกกล่าวประวัติของกลินท์ให้ทุกคนได้รู้หรือเรียกว่า​"social bullying" ในสมัยโบราณ​ ทำให้ทุกคนเริ่มถอยห่างและไม่ไว้วางใจให้กลินท์นำอีกต่อไป ซึ่งมีแต่เพียงชิตาภาซึ่งมีศักดิ์เป็นอาของศราวณีผู้โง่เขลาเท่านั้นที่เข้าใจกลินท์ ต่อมา ศราวณีถูกจับ กลินท์เข้าไปช่วยและได้รู้ถึงสาเหตุที่ทุกคนรังเกียจตน กลินท์พาศราวณีไปที่บ้านและได้พบกับอังศุมาลิน ศราวณีถึงได้รู้ว่าที่แท้อังศุมาลินรักในตัวโกโบริอย่างแท้จริง และไม่ใช่คนไม่ดีอย่างที่ครอบครัวเธอปลูกฝัง จึงเปลี่ยนทัศนคติและขอโทษ จากนั้นความผูกพันของทั้งคู่ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ การที่ศราวณีกลับไปคืนดีกับกลินท์ ทำให้ กบ ป้าของศราวณีไม่พอใจ จึงมีปากเสียงกัน ศราวณีหนีออกจากบ้าน ชิตาภาร้อนใจไปหากลินท์ที่บ้าน ขณะเดียวกันนั้นก็ได้เกิดเหตุการณ์วันมหาวิปโยคขึ้น กลินท์คิดว่าศราวณีคงจะไปร่วมชุมนุมด้วย จึงออกตามหาในที่ชุมนุม แต่กลับเจอศราวณีผู้น่าสงสารในสภาพที่บาดเจ็บสาหัสปางตายและเพ้อรำพันที่บ้านสวนอยู่ตลอดเวลาว่า ตนเป็นคนพาเพื่อน ๆ ไปตาย ชิตาภาโทรศัพท์ไปบอกอาการแก่กบ แต่กบไม่รับฟังและเอาแต่โทษชิตาภาต่าง ๆ นานา หลังจากนี้ รัฐบาลต้องทูลเกล้าลาออกเพราะมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บมากมาย ชิตาภาต้องไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศและพาศราวณีที่อาการปางตายไปรักษาอาการด้วย กลินท์เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองรักชิตาภาอย่างสุดหัวใจ แต่ไม่สามารถใช้ชีวิตร่วมกับเธอได้ เพราะชิตาภามีคู่หมั้นแล้วเป็นชาวต่างประเทศ ทั้งคู่ให้คำมั่นสัญญากันว่า จะเป็นกำลังใจให้แก่กันและกัน ต่อมา อังศุมาลินมีอาการป่วยและบ่นถึงชิตาภาอยู่บ่อย ๆ ว่าเมื่อไหร่จะกลับ เมื่ออาการของอังศุมาลินเจ็บหนัก อังศุมาลินขอให้กลินท์เล่นซามิเซ็งให้ฟัง กลินท์ก็เล่นโดยที่ไม่รู้ว่าโกโบริได้พาอังศุมาลินไปยังทางช้างเผือกแล้วตามสัญญาที่เคยให้ไว้ และกลินท์ต้องเล่นซามิเซ็งแต่เพียงลำพังคนเดียว

คู่กรรม (2547/2004) มีประโยชน์อะไรที่จะตั้งทิฐิเข้าหากัน ทิฐิมานะ ความใจแข็ง เป็นของดี ถ้าหากนำมาใช้ในทางที่ถูก แต่จะมีประโยชน์อะไรที่จะนำมาใช้กับคนที่เรารัก ชีวิตคนเรานั้นไม่ยืนยาวนักหรอก โดยเฉพาะเวลาสำหรับความรักมักผ่านไปเร็วเสมอ ผู้ผ่านเวลานั้นมาแล้ว ย่อมซึมซับในหัวใจ เวลา...ที่ไม่ว่าสิ่งแวดล้อมจะเป็นเช่นไร หัวใจจะยังอบอุ่นด้วยความหวัง แม้...ในยามที่เวลานั้นจะไม่ถอยกลับคืนมาอีก ผู้นั้นก็ยังมีความสุข ด้วยรำลึกถึงความสุขที่เคยผ่านมาแล้วเป็นเครื่องปลอบใจ จำไว้...ถ้าเราเข้าใจคนที่เรารัก ดวงไฟดวงนั้นจะอบอุ่นอยู่ในหัวใจเสมอ ชีวิตจะมีความหมายอะไร ถ้าในครั้งหนึ่งไม่เคยรู้จักความรักอันอ่อนโยน ไม่เคยสัมผัสแม้ความผูกพันอันดื่มด่ำ ที่จะยอมสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างได้หมด เพียงเพื่อคนที่เรารัก

ดาวมังกร (2546/2003) ต้อง บุญ คือ เด็กน้อยราศีมังกรผู้โชคร้ายคนนั้น ด้วยความที่ จอมจิต มารดาเชื่อในคำพยากรณ์ของหมอดูว่าเขาเกิดมาอยู่ในดวงล้างดวงผลาญ จะทำให้ครอบครัวพบความวิบัติ ประจวบกับเหตุการณ์ที่แม่กับพ่อต้องเลิกกัน ธุรกิจเต็นท์รถมือสองของแม่เจ๊ง และพ่อก็มาตายหลังจากเลิกกับแม่ได้ไม่นาน ทำให้แม่ยิ่งเชื่อคำพยากรณ์ แม่ดูแลต้องบุญเหมือนไม่ใช่ลูก ผิดกับ คทาทอง บุตรชายคนโตของบ้านที่แม่ปลื้มชื่นชมมาตลอด คทาทองได้รับอภิสิทธ์มากมายในบ้าน เขาไม่ต้องทำงานบ้าน แม้จะกินจะนอนก็มีต้องบุญคอยรับใช้ทำให้อยู่ตลอดเวลา งานที่ร้านคาร์แคร์ของแม่ คทาทองก็ไม่ต้องคอยช่วยดูแล ในวันหยุดเสาร์อาทิตย์จะมีรถเข้ามาร้านมาก คนที่ต้องออกไปช่วยลูกน้องสามสี่คนของแม่ ก็คือ ต้องบุญ ขณะที่คทาทองสามารถนั่งฟังเพลงอยู่ในห้องนอนได้อย่างสบายใจ ติดตามต่อได้ใน "ดาวมังกร"

กาเหว่าที่บางเพลง 2546

กาเหว่าที่บางเพลง (2546/2003) เมื่อ 40 ปีก่อน ณ บ้านบางเพลง ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนสิบสอง วันลอยกระทง ประพันธ์ขอแก้วแต่งงานบนฟากฟ้า เวลานั้นเกิดสิ่งผิดปกติขึ้น เมื่อพระจันทร์ทรงกลดทั่วบ้านบางเพลงทุกสิ่งที่บ้านบางเพลงได้ถูกสะกดจาก อำนาจลึกลับให้หยุดนิ่งเป็นเวลา 4 นาทียกเว้นนางประนอมแม่ของประพันธ์ที่บังเอิญอยู่นอกรัศมี และสังเกตเห็นส่งประหลาดนี้เมื่อทุกคนรู้สึกตัวอีกครั้งทุกสิ่งก็เหมือนปกติ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากนั้นหนึ่งเดือนประพันธ์ก็ไปทำงานที่พังงา สอง เดือนต่อมาผู้หญิงที่บ้านบางเพลงก็ตั้งท้องพร้อมกันสองร้อยกว่าคน ไม่เว้นแม้แต่เด็กสาว แม่ม่าย ยายชี รวมทั้งแก้วด้วย หลวงพ่อเติมเจ้าอาวาสวัดบางเพลงทราบว่ามหันตภัยกำลังเยือนเข้ามาใกล้พร้อม กับการกำเนิดของเหล่าทารกจากอเวจี ติดตามต่อได้ใน กาเหว่าที่บางเพลง

พุทธานุภาพ 2546

พุทธานุภาพ (2546/2003) พระกริสนัย พระสงฆ์ผู้เคร่งครัดในหลักธรรมพุทธศาสนา ขออนุญาตพระอาจารย์โพออกธุดงค์เพื่อศึกษาพระธรรมให้ลึกซึ้ง ซึ่งในอดีตพระกริสนัยคือ กริสนัย เด็กหนุ่มเลือดร้อนและ วู่วาม มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับนักศึกษาต่างสถาบันจนต้องขึ้นโรงพักอยู่บ่อย ๆ จนทำให้ สุรีย์ ผู้เป็นแม่กลุ้มใจอยู่เสมอ ซึ่งครั้งหนึ่งทะเลาะวิวาทจนได้รับบาดเจ็บ และไปทำแผลที่โรงพยาบาลทำให้กริสนัยได้พบกับ “จินตนา” พยาบาลฝึกหัด กริสนัยรู้สึกชอบจินตนาตั้งแต่แรกเห็น คืนหนึ่งคู่อริของกริสนัยมา ดักทำร้ายที่หน้าบ้าน สุรีย์เอาตัวเองเข้าบังและถูกมีดแทงแทน กริสนัยรีบพาสุรีย์ส่งโรงพยาบาลและเริ่มสำนึกได้ จึงคอยเอาใจใส่สุรีย์จนหายดี กริสนัยก็ตัดสินใจ บวช เพื่อทดแทนคุณมารดาส่วนจินตนาก็รู้สึกเป็นห่วงพระกริสนัยจึงขอสมัครเป็น พยาบาลอาสาในหน่วยแพทย์อาสาของโรงพยาบาล เพราะต้องการช่วยเหลือคนเจ็บตามชนบทและติดตามข่าวคราวของพระกริสนัย แล้วความหวังของจินตนาก็เป็นผล เธอได้พบกับพระกริสนัยที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในชนบท แต่พระกริสนัยไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวทางโลก หมออนุชิตมีทีท่าชอบจินตนา แต่ก็คอยให้กำลังใจจินตนาให้ได้พบกับพระกริสนัย พระกริสนัยเริ่มออก ธุดงค์ และ ได้พบกับเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมาย เช่นกลุ่มโจรที่ปั๊มน้ำมันได้จับเด็กผู้หญิงเป็นตัวประกัน พระกริสนัยเสนอตัวเองให้เป็นตัวประกันแทนระหว่างนั้นพระกริสนัยได้ใช้หลัก ธรรมสั่งสอนให้กลับตัวกลับใจยอมเข้ามอบตัวกับตำรวจ หลังจากนั้นพระกริสนัยก็ได้ออกเดินธุดงค์ต่อได้ไปปักกลดตามหมู่บ้านๆ และพระกริสนัยก็ได้ใช้หลักคำสอนของพระพุทธศาสนาช่วยขัดเกลาจิตใจให้กับผู้คน ตามหมู่บ้านๆ พระกริสนัยปรึกษาเรื่องที่ฝันถึงดินแดนแห่งหนึ่งกับพระอาจารย์โพและพระ อาจารย์โพบอกกับพระกริสนัยว่าดินแดนแห่งนี้อาจจะเป็นที่ที่รอให้พระกริสนัย ไปให้ถึง และพระกริสนัยก็ได้ธุดงค์มาถึงป่าลึกและปักกลดในถ้ำแห่งหนึ่ง ส่วน หมออนุชิตหลังจากเข้าไปช่วยทหาร หมออนุชิตก็กลับออกมาในสภาพที่บาดเจ็บสาหัส จินตนาจึงต้องคอยดูแลจนกระทั่งอาการดีขึ้นเรื่อย ๆ หมออนุชิตตัดสินใจขอจินตนาแต่งงาน แต่จินตนาไม่ให้คำตอบ จินตนากับสุรีย์ไปเยี่ยมอาจารย์โพเมื่อไปถึงก็พบว่าอาจารย์โพได้มรณภาพในท่า นั่งขัดสมาธิ ซึ่งระหว่างนั้นพระกริสนัยได้นั่งทำสมาธิอยู่เช่นกัน และพระอาจารย์โพก็ได้ปรากฎตัวพร้อมกับบอกว่าการเดินทางของพระอาจารย์สิ้นสุด ลงแล้ว ในขณะที่พระกริสนัยปักกลดอยู่ที่ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ แห้งแล้ง และกันดาร และกำลังเผชิญกับปัญหาโรคระบาดพระกริสนัยได้พบกับ”นางมงคล” ที่จะเพิ่งสูญเสียลูกชายไป ด้วยความไม่มีเงินพระกริสนัยจึงเป็นธุระทำศพให้ นาง มงคลจึงถวายที่ดินของตนให้พระกริสนัย พระกริสนัยได้ติดต่อให้สุรีย์และจินตนามาหา เมื่อทั้งคู่มาพบก็ได้เห็นพระกริสนัยกับพวกชาวบ้านกำลังพลิกผืนดินที่แห้ง แล้งให้กลายเป็นวัดบนผืนดินที่นางมงคลถวายให้ พระกริสนัยได้ตั้งปณิธานว่าจะขอเป็นพระอยู่ที่วัดนี้ตลอดชีวิตและขอโทษ สุรีย์ที่ไม่ได้ทำหน้าที่ของลูก และบอกให้จินตนาค้นหาความต้องการของตัวเองให้พบ จินตนาเก็บคำพูดของพระกริสนัยไปตรึกตรอง แล้วก็ได้รู้ว่าตนเองนั้นต้องการอะไร ดินแดนแห่งความฝันของพระกริสนัยจะมีจริงหรือไม่ พระกริสนัยสามารถค้นพบได้อย่างไร คอยติดตามในละครเรื่อง พุทธานุภาพ

ฝันกลางตะวัน 2545

เรื่องย่อ : ฝันกลางตะวัน (2546/2003) หลังจากเรียนจบสาขาเครื่องยนต์ และอยู่ระหว่างรอไปเรียนต่อเมืองนอก ปั้น เด็กหนุ่มที่มีใจรักเรื่องเครื่องยนต์เป็นพิเศษ จึงใช้เวลาหาประสบการณ์ด้วยการเป็นช่างประจำอยู่อู่ซ่อมรถของ น้าเชียร เจ้าของอู่ฯ ใกล้บ้านและรู้จักคุ้นเคยกับ ปั้น และครอบครัวมาตั้งแต่ ปั้น ยังเด็ก ปั้น มักใช้เวลาว่างหลังเลิกงานกับเศษชิ้นส่วนอะไหล่ในอู่ซ่อมแซมดัดแปลง 'บุเรงนอง' ( ซากรถที่น้าเชียรให้ปั้นเป็นรางวัลเมื่อเรียนจบ ) มานะ กับ ภาริณี (พ่อแม่ปั้น) แม้ฐานะจะแค่ปานกลาง แต่ทั้งคู่ก็พร้อมจะส่งเสียปั้น เรียนเมืองนอก ปั้น มีเพื่อนสนิท 2 คน ดุ่ย…เด็กหนุ่มวัยเดียวกันกับ ปั้น พ่อแม่ทิ้ง ดุ่ย ไปตั้งแต่เด้ก อยู่กับยายหอมตามมีตามเกิด ดุ่ย เลยสนิทกับ ปั้น มากที่สุด ส่วน เอ๋ย เป็นเพื่อนผู้หญิงคนเดียวที่ ปั้น สนิทสนมและไว้ใจ เอ๋ย อยู่กับ แม่ (ครูสาย) และ โอ๊ก พี่ชายที่เป็นตำรวจตามอย่างพ่อ และได้แต่งงานย้ายครอบครัวไปอยู่กินกับ เป้ย ปั้น และ เอ๋ย ต่างมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน ซึ่ง ดุ่ย ก็รู้ แต่คนที่คอยกีดขวางก็คือ โอ๊ก เพราะด้วยความรักน้องและอยากให้ เอ๋ย พบกับคนที่ดีที่สุดเพราะ โอ๊ก มอง ปั้น ว่าเป็นคนไม่มีอนาคต จึงไม่เห็นด้วยที่ เอ๋ย พบกับคนที่ดีที่สุดเพราะ โอ๊ก มอง ปั้น ว่าเป็นคนไม่มีอนาคต จึงไม่เห็นด้วยที่ เอ๋ย จะลงเอยกับ ปั้น เมื่อ ดุ่ย ตกงาน แต่ ดุ่ย ไม่กล้าบอก ปั้น และ ยายหอม จึงตัดสินใจทำงานเสี่ยงขึ้น โดยทำงานเป็นคนส่งยาให้กับ พี่เสริม เพราะอยากจะได้เงินมาให้ ยายหอม แต่ ดุ่ย ก็ฝืนคำสั่งของ พี่เสริม แอบไปขายยาข้ามถิ่น จนโดน เฮียคี๊ เจ้าของถิ่นคู่ปรับของ พี่เสริม สั่งลูกน้องจัดให้การ…ดุ่ยตาย!!! และเหตุการณ์นี้ ทำให้ โอ๊ก เข้าใจว่า ปั้น เป็นพวกเดียวกับ ดุ่ย จังขัดขวางทุกวิถีทางให้ เอ๋ย ห่างจาก ปั้น ชีวิต ปั้น เหมือนผีซ้ำด้ามพลอย พ่อ แม่ ปั้น ต้องมาเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ แถมชีวิตของ ปั้น ต้องถลำเข้าไปในวงโคจรของกลุ่มโจรอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้ ปั้น ไม่สามารถสานฝันตัวเองที่จะเปิดอู่ได้อย่างตั้งใจ แต่ ปั้น จะสามารถดึงชีวิตให้หลุดจากวงโคจรนี้ได้หรือไม่ และเรื่องราวความรักของ ปั้น กับ เอ๋ย จะเป็นอย่างไร

สวัสดีคุณนาย 2545

เรื่องย่อ : สวัสดีคุณนาย (2545/2002) หม่อมเจ้าอาทิตย์ได้หมั้นหมายลูกชาย หม่อมราชวงศ์ดวงตะวัน ไว้กับ ชิดชไม ลูกสาวของ คุณนายชม้อย ไว้เมื่อ 10 กว่าปีก่อน โดยที่ท่านชายดวงตะวันกับชิดชไม ยังไม่เคยเห็นหน้ากัน เมื่อคุณนายชม้อยรู้ว่าท่านชาย ดวงตะวันกำลังจะกลับมาจากอังกฤษหลังจากเรียนจบ คุณนายชม้อยก็มาทวงสัญญาหมั้นหมายกับหม่อม เจ้าอาทิตย์ หม่อมเจ้าอาทิตย์รับปากว่าจะจัดการเรื่องหมั้นหมายให้ทันทีเมื่อท่าน่ชายดวงตะวันกลับมา ท่าน ชายดวงตะวันกลับมาถึงเมืองไทย รู้สึกหนักใจที่ต้องแต่งงานกับชิดชไมทั้งที่ไม่เคยรู้จักกัน ท่านชายดวงตะวันอยากรู้ว่าชิดชไมเป็นคนอย่างไร จึงปลอมตัวเป็นคน ขับรถสองแถวในซอยบ้านคุณนานชม้อย เพื่อสืบดูนิสัยใจคอของชิดชไม ท่านชายดวงตะวันไปบ้านของชิดชไม ได้พบกับ แจ๋ว แก้วกระจาย คนรับ ใช้บ้านคุณนายชม้อย แจ๋วแอบชุดของชิดชไมมาใส่เล่น ท่านชายดวงตะวัน จึงเข้าใจผิดคิดว่าแจ๋วเป็นลูกสาวของ คุณนายชม้อยที่ต้องแต่งงานด้วย ท่านชายดวงตะวันพึงพอใจรูปร่าง หน้าตาของแจ๋วมาก หาทางทำความ รู้จักกับแจ๋วให้มากขึ้น ส่วนแจ๋วเองก็นึกสนุกสวมรอยหลอกว่าเป็นลูกสาว ของคุณนายชม้อย ชื่อว่า คุณนายแจ๋ว ท่านชายดวงตะวันหลงเชื่อ ท่าน ชายเองก็หลอกแจ๋วว่าเป็นคนขับรถสองแถว ชื่อนายผัดไท ซ้ำยังแกล้งพูด เหน่อด้วย ท่านชายดวงตะวันหรือนายผัดไท อยากรู้จักนิสัยใจคอของคุณนายแจ๋วก่อน จะตัดสินใจแต่งงาน ท่านชายชวนคุณนายแจ๋วไปเที่ยวบ่อย ๆ แจ๋วเองก็ถูก ชะตากับนายผัดไทหรือท่านชายดวงตะวัน จึงอออกไปเที่ยวกับนายผัดไท ท่าน ชายดวงตะวันเห็นคุณนายแจ๋วไม่ถือตัวนั่งกินอาหารข้างทางก็ได้ ซ้ำยังเป็นคน มีน้ำใจไม่พูดดูถูกท่านชายที่ปลอมตัวมาเป็นคนขับรถสองแถวจน ๆ ท่านชาย ดวงตะวันชื่นชมจิตใจที่ดีงามของคุณนายแจ๋วมาก ความรักกำมะลอของแจ๋ว กับท่านชายดวงตะวันงอกงามขึ้น โดยทั้งคู่ไม่รู้สถานะที่แท้จริงของกันและกัน ตุ้มเม้ง ลูกชายของ เฮีย หมง เจ้าของคิวรถสองแถวตามจีบแจ๋วมานานเพราะ แจ๋วหน้าตาสะสวย พอตุ้มเม้งเห็นแจ๋วสนิทสนมกับนายผัดไทก็ไม่พอใจ หา เรื่องนายผัดไทก็ไม่พอใจ หาเรื่อง นายผัดไท จะไล่ออกไม่ให้ขับรถสองแถว โชคดีที่เฮียหมงพ่อของตุ้มเม้งเป็นคนมีเหตุผล ไม่ตามใจลูกชาย ให้นานผัดไท ขับรถสองแถวต่อไปได้ตุ้มเม้งบังเอิญไปรู้ความลับที่แจ๋วปลอมตัวเป็นคุณนายแจ๋ง ตุ้มเม้งขู่แจ๋ว ถ้าไม่ยอมไปเที่ยวด้วย จะบอกความจริงกับนายผัดไทว่าแจ๋วเป็น คนรับใช้ เลยยอมไปไหนมาไหนกับตุ้มเม้งบ้าง ทำให้ท่านชายดวงตะวันหึง แต่ท่านชายดวงตะวันก็ยังไม่เปิดเผยฐานะที่แท้ จริงของตัวเอง เพราะยังอยากเห็นนิสัยใจคอที่แท้จริง ตุ้มเม้งกลัวแจ๋วจะรักกับ นายผัดไทจริง ๆ เลยให้เฮียหมงไปสู่ขอแจ๋วจากคุณนายชม้อย คุณนายชม้อยยก แจ๋วให้ตุ้มเม้ง แต่แจ๋วไม่ยอม บอกว่าไม่ได้รักตุ้มเม้ง ทำให้ตุ้มเม้งโกรธมาก พาล หาเรื่องนายผัดไท เฮียหมงไปต่างจังหวัดพอดี ตุ้มเม้งเลยได้ทีไล่นายผัด ไทออก จากงาน นายผัดไทไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้อง ต้องระหกระเหินออกไป แจ๋วสงสาร นายผัดไท เลยพามาแอบซ่อนอยู่ในบ้านคุณนายชม้อย โดยที่คุณ นายชม้อยและชิด ชไมไม่รู้ มีเพียงเพื่อน ๆ คนรับใช้ช่วยกันส่งข้าวส่งน้ำให้ นายผัดไท แถมยังช่วย กันหลอกนายผัดไทว่าแจ๋วเป็นลูกสาวคุณนายชม้อย ตามที่แจ๋วขอร้องไว้ แจ๋วอยากให้นายผัดไทมีงานทำ รับปากจะหาเงินมาลงทุนเปิดร้านขายผัด ไทให้ พอดีกับบริษัทแห่งหนึ่งจัดประกวดร้องเพลงชิงเงินรางวัล หลายหมื่น บาท แจ๋วเป็นคนชอบร้องเพลงอยู่แล้วเพื่อน ๆ คนรับใช้เลยยุให้แจ๋วเข้า ประกวด เพราะอยากช่วยนายผัดไท แจ๋วเลยตัดสินใจประกวดร้องเพลง ผล ออกมาแจ๋วชนะเลิศได้ที่ 1แจ๋วเอาเงินรางวัลทั้งหมดมาให้นายผัดไท เป็นทุน เปิดร้านขายผัดไท ท่านชายดวงตะวันทำผัดไทไม่เป็นเลยให้ มะเหงก คนรับ ใช้ของท่านชายมาช่วยทำ ส่วนแจ๋วหลังจากเสร็จงานบ้าน ก็จะไปช่วยนายผัด ไททุกวันซึ่งขายดีมาก ท่านชายดวงตะวันมั่นใจว่ารู้จักนิสัยใจคอ ของแจ๋ว เพียงเพอแล้ว และท่านชายดวงตะวันก็อยากจะแต่งงานร่วมชีวิตกับแจ๋วด้วย ท่านชายดวงตะวันสารภาพความจริงกับแจ๋วว่า ท่านคือหม่อมราชวงศ์ดวง ตะวัน ลูกชายคนเดียวของหม่อมเจ้าอาทิตย์ ที่หมั้นหมายไว้กับลูกสาวคุณนาย ชม้อยเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ซึ่งลูกสาวคุณนายก็คือแจ๋ว แจ๋วตกใจมากที่รู้ว่านาย ผัดไทคือท่านชายดวงตะวัน ลูกชายคนเดียวของหม่อมเจ้าอาทิตย์ของหม่อมเจ้าอาทิตย์ ที่หมั้นหมายไว้ กับลูกสาวคุณนายชม้อยเมื่อ 10กว่าปีก่อน ซึ่งลูกสาวคุณนายก็คือแจ๋ว แจ๋วตกใจ มากที่รู้ว่านายผัดไทคือท่านชายดวงตะวัน และเป็นถึงหม่อมราชวงศ์ แจ๋วเศร้า ใจรู้ว่าตัวเองไม่คู่ควร ขอร้องให้ท่านชายดวงตะวันไปจากชีวิตเธอเสีย โดยไม่ ยอมบอกความจริงว่าตนเป็นแค่คนรับใช้ แจ๋วไม่ไปช่วยท่านชายดวงตะวัน ขายผัดไทอีกเลย ท่านชายดวงตะวันไม่เข้าใจว่าทำไมแจ๋วถึงปฎิเสธ จึงปิด ร้านขายผัดไท กลับไปอยู่วังตามเดิม และพยายามจะลืมแจ๋วให้ได้ แต่ท่านชายดวงตะวันก็หยุดรักแจ๋วไม่ได้ ขอให้หม่อมเจ้าอาทิตย์ผู้เป็น พ่อไปสู่ขอแจ๋วที่บ้านคุณนายชม้อย ถึงได้รู้ความจริงว่า แจ๋วเป็นคนรับใช้ ไม่ได้เป็นลูกสาวคุณนายชม้อย ชิดชไมลูกสาวของคุณนายชม้อยแค้นแจ๋วมาก ที่สวมรอยเป็นลูกสาวชม้อย ไปยุ่งเกี่ยวกับท่านชายดวงตะวัน ชิดชไมรับ ปากจะทำงานกับท่านชายดวงตะวันเอง แต่ท่านชายดวงตะวันยืนยันจะแต่ง งานกับแจ๋ว ถึงแจ๋วจะเป็นคนรับใช้ก็ตาม หม่อมเจ้าอาทิตย์พ่อของท่าน ชายดวงตะวันเตือนสติลูกชายให้คิดให้ถี่ถ้วนถึงความเหมาะสม ท่านชาย ดวงตะวันสับสนว่าระหว่างความรัก กับความเหมาะสมว่าควรจะเลือกอะไร ชิดชไมได้โอกาส ทำตัวสนิทสนมกับท่านชายดวงตะวันให้แจ๋วช้ำใจ พอแจ๋วจากไป ท่านชายเพิ่งรู้ใจตัวเองว่ารักแจ๋วมาก ต้องการแต่งงานกับแจ๋ว ถึงแจ๋วจะเป็นคนรับใช้ก็ตาม ชิดชไมแทบคลั่งที่รุ้ว่าท่านชายดวงตะวัน เลือกแจ๋ว ท่านชายดวงตะวันตาม หาแจ๋วทุกที่แต่ก็ไม่พบ หลายเดือนผ่านไป คุณนายรัญจวน เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ หลังจากที่จากเมืองไทยไปตั้งรกรากอยู่ต่าง ประเทศนาน 20 กว่าปี คุณนายรัญจวนมอบหมายให้ชม้อย คนรับใช้คนสนิทดูแลบ้านที่เมืองไทย และหลานสาว ห่าง ๆ ที่คุณนายรัญจวนเดินทางกลับจากต่างประเทศ หลังจากที่จากเมืองไทยไปตั้งรกรากอยู่ต่างประเทศนาน 20กว่าปี คุณนายรัญจวนมอบหมายให้ชม้อย คนรับใช้คนสนิทดูแลบ้านที่เมืองไทย และหลานสาวห่าง ๆ ที่คุณนาย รัญจวนเอามาเลี้ยงไว้ ซึ่งหลานสาวของคุณนายรัญจวนก็คือแจ๋ว นั่นเอง คุณนายรัญจวนโกรธมากที่รู้ว่าชม้อยและ ชิดชไมยึดบ้านตั้งตัวเป็นคุณนาย ซ้ำยังให้แจ๋ว หลานของคุณนายรัญจวนเป็นคนรับใช้ ทั้ง ๆ ที่แจ๋เป็นเจ้าของบ้าน เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป

ผู้กองยอดรัก ยอดรักผู้กอง 2545

เรื่องย่อ : ผู้กองยอดรัก ยอดรักผู้กอง (2545/2002) พัน น้ำสุพรรณ ( ศรราม เทพพิทักษ์ ) หลังจากที่เรียนจบสาขานิติศาสตร์ ได้เข้าทำงานเป็นทนายฝึกหัด เมื่อหมดกำหนดการผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร จึงเดินทางกลับบ้านเกิด กำนันพูน ( ไพโรจน์ ใจสิงห์ ) กับนางจันทร์ ( อัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ ) เตรียมจัดงานต้อนรับการกลับมาของลูกชายอย่างใหญ่โต พันอยากเป็นทหาร แต่พ่อกำนันไม่ยอมเพราะกลัวลูกจะลำบาก จึงติดสินบนเจ้าหน้าที่สัสดี เพื่อไม่พันได้เป็นทหาร เมื่อพันรู้เรื่องจึงทะเลาะกับพ่อ และคิดวางแผนฆ่าตัวตาย ทำให้พ่อกับแม่จึงต้องตามใจ แต่พันจับได้ใบดำ จึงไปสมัครเป็นทหารเกณฑ์โดยใช้วุฒการศึกษาแค่ ป.4 วันแรกที่กรมพันได้พบเพื่อน และได้พบกับผู้กองฉวีผ่อง ( ติ๊ก กัญญารัตน์ จิรรัชชกิจ ) พันเกิดปิ๊งเธอตั้งแต่แรกเห็น แต่อ่ำ เตือนพันว่าให้ตัดใจเพราะเธอเป็นลูกสาวสุดหวงของพันโท ผวน ( มนตรี เจนอักษร ) กับคุณนายไฉววงศ์ ( ดวงตา ตุงคะมณี ) แต่กลับทำให้พันเกิดความรู้สึกท้าทาย พันคิดจะเด็ดดอกฟ้า โดยมีคู่แข่งคนสำคัญคือ พันตรี นายแพทย์ สุทธิสาร ( เกริก ชิลเลอร์ )  (ที่มา : ch3plus.com)

ศึกรบศึกรัก 2545

เรื่องย่อ : ศึกรบศึกรัก (2545/2002) เรื่อง ราวความรักระหว่างชนชั้นของ ม.ร.ว.เขมิกา บวรนพดล ( ทราย เจริญปุระ ) และ น.อ.ต.ธวินทร์ ศศิโยธิน ( โจ - นินนาท สินไชย ) ลูกชายของบ่าวในวัง ซึ่งถูกกีดกันจากพี่สาว ม.ร.ว.ทิพย์อาภา บวรนพดล ( กิ๊ก - มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ ) เพราะมีใจให้กับธวินทร์เหมือนกัน ธวินทร์โดนตำรวจตามล่า ข้อหาพยายามฆ่าม.ร.ว.ทิพย์อาภา จนต้อง หนีเข้าป่า ไปขอความช่วยเหลือจากพรานเฒ่าคำปัน

หน้าที่